คู่กัดฉบับรักเกินร้อย ตอนที่ 58 - END (19/10/2559)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: คู่กัดฉบับรักเกินร้อย ตอนที่ 58 - END (19/10/2559)  (อ่าน 115264 ครั้ง)

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
แรงดีพี่ชอบ

ออฟไลน์ matchty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
    • MATCHTY-แมตตี้
คู่กัดฉบับรักเกินร้อย

By matchty



กัดครั้งที่

- 21 -



“ไอ้พี่อาร์ตจอดรถ จอด!!” พีทเอามือฟาดที่หลังของอาร์ตเพื่อให้หยุดรถเมื่อมาถึงหน้าปากซอยของหอพักอาร์ต



“มีอะไรรึเปล่า” อาร์ตเอ่ยปากถามหลังจากชะลอรถเข้าไปจอดข้างทางตามที่พีทต้องการ มือก็ยื่นรับเอาหมวกกันน็อกที่เจ้าตัวถอดออกมาถือไว้ให้



“เซเว่น” พีทพยักเพยิดหน้าไปทางเซเว่นที่อยู่ไม่ไกล



“หิว...ยังไม่กินข้าวเหรอ” อาร์ตถามด้วยความเป็นห่วง



“เปล่า” พีทตอบหน้ามุ่ยแล้วเดินนำหน้าเข้าเซเว่นไป



“งานเข้าละกู” อาร์ตยกมือเกาท้ายทอยตัวเองเบาๆและถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ วางหมวกลงในตะกร้ารถแล้วรีบเดินตามพีทเข้าไปข้างใน ดูจากสีหน้าเมื่อกี้แล้วยังโกรธเขาไม่หายแน่ๆ ไม่รู้ง้อแล้วจะหายงอนง่ายๆรึเปล่าชักจะเริ่มกลุ้มใจ



ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศที่กระทบเข้าใบหน้าทันทีที่ประตูเปิดออก ทำให้อาร์ตเบ้หน้าเล็กน้อยกับอากาศที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน ก่อนจะหันไปส่งยิ้มบางๆกลับไปให้พนักงานร้านตามประสาคนอัธยาศัยดี ผลที่ได้คือสาวเจ้าที่อายม้วนต้วนหน้าแดงอย่างไม่คิดจะปิดบัง จนเจ้าของรอยยิ้มแบบอาร์ตเกิดอาการประหม่าไปไม่น้อยเหมือนกัน



อาร์ตเลิกสนใจพนักงานคนที่ว่าแล้วหันมองหาคนตัวเล็กที่เดินเข้ามาก่อนหน้าแทน ก่อนจะต้องยิ้มแหยๆส่งไปให้อีกฝ่ายเมื่อเจ้าตัวกำลังยืนมองมาเขม็ง ปลดปล่อยรังสีความไม่พอใจออกมาจนอาร์ตที่ยืนห่างเป็นเมตรสัมผัสได้ อ้าปากตั้งใจจะเรียกแต่อีกฝ่ายก็สะบัดหน้าหนีแล้วเดินไปทางอื่น ทิ้งให้อาร์ตมองตามแล้วถอนหายใจเบาๆด้วยความกลุ้ม



“ซื้ออะไรน่ะ” อาร์ตมองของในตะกร้าที่พีทหยิบใส่จนเกือบเต็มแถมยังไม่มีท่าทีว่าจะหยุดหยิบด้วยความสงสัย



“เป็นแผลเหรอ...ตรงไหน” อาร์ตหยิบของในตะกร้าขึ้นมาดูก่อนจะรีบวางกลับลงที่เดิม แล้วหันมาจับตัวพีทเพื่อสำรวจหาบาดแผลด้วยความตกใจ



“ปล่อย” พีทสะบัดตัวออกจากมืออาร์ตแล้วตั้งหน้าตั้งตาหยิบแอลกอฮอลล์ล้างแผล รวมทั้งน้ำเกลือที่ใช้สำหรับล้างแผลใส่ตะกร้าจนหมดชั้น ก่อนที่เจ้าตัวจะผละออกเดินตรงไปอีกชั้นใกล้ๆแล้วคว้าเอาน้ำยาเดทตอลใส่ลงตะกร้าตามไปอีกสองขวดใหญ่ๆ



อาร์ตมองการกระทำของพีทด้วยความสงสัยขนาดหนักแต่เลือกที่จะไม่ถามอะไรออกไป แล้วเดินตามพีทเงียบๆอย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัวเพราะความผิดที่ปักกลางหลังชิ้นเบอเร่อ ก่อนจะเหลือบไปเห็นบางอย่างที่อยู่ในตู้แช่แล้วหลุดยิ้มออกมาอย่างชอบใจ จัดการเปิดตู้แล้วคว้าเอามาถือไว้เท่าที่สองมือตัวเองจะถือได้ เขาไม่รู้หรอกว่าไอ้สิ่งที่เขาจะซื้อเนี่ยมันจะทำให้น้องหายงอนไหม แต่ก็หวังว่ามันจะทำให้น้องอารมณ์ดีขึ้นสักนิดก็พอ



“ไอ้พี่อาร์ต!! เร็วๆดิ๊ทำอะไรเนี่ย” เสียงเหวี่ยงๆที่ดังข้ามฝากกับใบหน้าหงิกงอของพีท ทำใหอาร์ตรู้สึกตัวแล้วรีบหอบหิ้วของในมือเดินไปหาอีกฝ่ายด้วยความเร็ว



“ทำอะไรอยู่...แล้วนั่นอะไร” พีทมองของในมืออาร์ตด้วยความสงสัยก่อนจะถึงบางอ้อ เมื่ออาร์ตค่อยๆวางทุกอย่างลงที่เคาท์เตอร์คิดเงิน



“พีทน่าจะชอบ” อาร์ตยิ้มกว้างแล้วหยิบขวดน้ำแร่ที่ทำรูปทรงเป็นคิตตี้แกว่งไปมาเบาๆตรงหน้าพีท



“ไม่ได้ช่วยหรอกนะ” พีทว่าอย่างรู้ทันความคิดของอาร์ตทำเอารอยยิ้มกว้างของเจ้าตัวถึงกับจ๋อยสนิท



“จ่ายตังด้วย” พีทพยายามกลั้นยิ้มให้กับท่าทางหงอยๆของอาร์ตแล้วรีบเดินเลี่ยงออกไปข้างนอก ก่อนที่จะหลุดฟอร์มของตัวเองให้อีกฝ่ายได้ใจ อาร์ตได้แต่มองตามแล้วก็ถอนหายใจเบาๆก่อนจะหันมาจ่ายเงินตามคำสั่ง



“เขาน่ารักดีนะคะ” ระหว่างคิดเงินพนักงานก็เอ่ยปากชวนคุยและมองตามหลังพีทเหมือนที่อาร์ตมอง



“ใช่ครับน่ารักแล้วก็ดื้อมากด้วย” อาร์ตเองก็ตอบกลับไปอย่างเป็นมิตร



“เหมือนเขาจะอารมณ์ไม่ค่อยดีนะคะ” หญิงสาวว่าแล้วก็มองออกไปทางหน้าร้าน



“ผมไปทำให้เขาโกรธนะครับ” อาร์ตยิ้มละไมอย่างเหนื่อยอ่อน



“น้องชายขี้งอนแบบนี้ลำบากแย่เลยนะคะ” หญิงสาวพูดต่ออย่างเห็นใจ



“ไม่ลำบากหรอกครับแล้วก็ไม่ใช่น้องชาย...แฟนผมเอง” คำตอบของอาร์ตเรียกสีหน้าตกใจจากหญิงสาวได้เป็นอย่างดี ก่อนจะมองหน้าอาร์ตสลับกับพีทที่อยู่นอกร้านไปมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ



“แฟนงั้นเหรอคะ” หญิงสาวลองถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ ก่อนจะได้รับรอยยิ้มและการพยักหน้ายืนยันจากอาร์ต



“ครับ...ทั้งหมดเท่าไหร่ครับ” อาร์ตไม่ได้ใส่ใจท่าทางของหญิงสาวเท่าไหร่ หยิบกระเปาคิดมาเพื่อจะจ่ายเงินเมื่อเห็นว่าใส่ถุงเรียบร้อย



“4xx ค่ะ” อาร์ตยื่นแบงค์ห้าร้อยให้อีกฝ่ายไปก่อนจะรับเงินทอนมา แล้วคว้าเอาถุงใส่ของหิ้วออกไปหาพีทที่รออยู่นอกร้าน ทิ้งให้พนักงานสาวมองตามอย่างเสียดายในความหล่อของทั้งคู่



“ช้า!! ยืนขายขนมจีบเขาอยู่รึไง” พีทกอดอกและทำหน้าบึ้งตึงใส่จนอาร์ตที่หิ้วของเดินมาส่ายหัวอย่างอ่อนใจ เขาจะทำไว้เลยว่าเวลาเด็กดื้อของเขางอนน้องพร้อมที่จะพาลและเหวี่ยงกับทุกสิ่ง



“ไม่กล้าจีบใครหรอก...เมียพี่ดุ” อาร์ตยักคิ้วส่งให้พีทกวนๆเลยโดนพีททุบเอาด้วยความหมั่นไส้ บอกเลยว่าไม่ได้เบาๆมุ้งมิ้งน่ารักเหมือนหนังรักวัยใส แต่แรงที่ใช้ทุบนี่เจ็บจนสะเทือนยันตับไตไส้พุงน้องควรจะเบามือกับเขาบ้าง



“เก็บของไปเลยไป” พีทว่าพร้อมใบหน้าแดงเพราะความเขินขนาดเขาโกรธอยู่ไอ้พี่อาร์ตมันยังกระล่อนใส่ได้ ยอมในความหน้ามึนของพี่มันจริงๆ



“ครับๆว่าแต่น้องพีทซื้อของพวกนี้ไปทำไมเนี่ย” อาร์ตหยิบหมวกกันน็อกในตะกร้าส่งให้พีทแล้วยัดถุงของลงไปแทนที่ ก่อนจะเดินมานั่งลงบนรถเพื่อเตรียมพาอีกฝ่ายกลับห้อง



“ไม่ถามสักเรื่องได้มะ...ครับรถไปเลยไปง่วง” พีทตอบรวนอาร์ตแล้วเร่งให้อีกฝ่ายพากลับห้อง อาร์ตเลยได้แต่เก็บความสงสัยของตัวเองไว้แล้วสตาร์ทรถพากลับตามที่เจ้าตัวต้องการ



...

...



“ให้พี่เอาของไว้ไหน” อาร์ตถามแล้วชูถุงของในมือขึ้นก่อนจะหันไปล็อกประตูห้องให้เรียบร้อย



“เอาวางไว้ที่โต๊ะเลย” พีทส่งเสียงตอบกลับมาส่วนตัวเองเดินหายไปที่ระเบียงห้อง




อาร์ตมองตามแต่ไม่คิดจะถามเซ้าซี้อะไรเดินเอาของไปวางไว้ตามที่อีกฝ่ายสั่ง แล้วหยิบเอาขวดน้ำที่ซื้อมาไปแช่ตู้เย็นให้เรียบร้อย หันกลับมาอกทีก็เจอพีทยืนอยู่พร้อมผ้าเช็ดตัวและกะละมังในมือ



“ถอดชุดออกมา” พีทยื่นผ้าเช็ดตัวให้อาร์ตแล้ววางกะละมังลงบนโต๊ะ



“ห๊ะ” อาร์ตทำหน้าเหวอด้วยความไม่เข้าใจ อยู่ดีๆก็สั่งให้เขาแก้ผ้าใครจะไปเข้าใจล่ะ



“เร็วๆ” พีทส่งเสียงเร่งด้วยใบหน้างอง้ำ อาร์ตเลยจำเป็นต้องคว้าผ้าเช็ดตัวมาแล้วถอดเสื้อผ้าตามที่อีกฝ่ายต้องการ




“เอามา...บ๊อกเซอร์กับกางเกงในด้วย” พีทยื่นมือไปรับเสื้อผ้าจากอาร์ตและสั่งต่อด้วยใบหน้าแดงก่ำ อาร์ตเองก็ถอดออกยื่นให้อีกฝ่ายด้วยความงง



“เฮ้ย!!!” อาร์ตถึงกับร้องเสียงหลงเมื่อเห็นสิ่งที่พีททำพร้อมกับคำถามในหัวที่ได้รับการเฉลยสักที ว่าของทั้งหมดพีทซื้อมันมาทำอะไร



พีทโยนเสื้อผ้าทุกอย่างของอาร์ตลงในกะละมันตรงหน้า จากนั้นก็คว้าเอาถุงมาเปิดหยิบแอลกอฮอลล์กับน้ำเกลือเทลงไปในกะละมังจนหมดทุกขวด ก่อนจะขย้ำให้ทุกอย่างเข้าไปในเสื้อผ้าทั้งหมดจนแน่ใจว่าไม่มีตรงไหนไม่โดนน้ำถึงหยุดมือ ใจจริงเขาอยากจะใช้แอลลกอฮอลล์ทั้งหมดเพื่อประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อแต่ติดที่ว่าเซเว่นมันมีไม่พอ คิดแล้วยิ่งโมโหนั่งนัวเนียกันอยู่ได้เขาต้องฆ่าเอาเชื้อโรคออกให้หมด ของๆเขาคนของเขาก็ต้องเป็นของเขาเขาสิจะให้มีกลิ่นใครไม่รู้มาติดไม่ได้



“ไปอาบน้ำ...แล้วก็ใช้นี่อาบออกมาดีๆนะ” พีทสั่งเสียงเข้มยัดขวดเดทตอลใส่มืออาร์ตทั้งสองขวด



“ต้องขนาดนี้เลยเหรอ” อาร์ตมองใบหน้าบึ้งตึงสลับกับขวดเดทตอลในมือด้วยความอึ้ง ไม่คิดเลยว่าน้องจะหึงได้รุนแรงขนาดนี้



“เออ!! ถ้าไม่ทำไม่ต้องมาจับ!!” พีทกระแทกเสียงใส่แล้วเดินหนีไปนั่งสงบสติอารมณ์ที่เตียงนอน ส่วนอาร์ตก็ได้แต่เดินคอตกเข้าไปอาบน้ำตามคำสั่งแต่โดยดี พร้อมกับอยากจะบอกน้องเหลือเกินว่าถ้าให้เทเดทตอลสองขวดผสมน้ำอาบ ผัวน้องคงจะตัวเปื่อยจนได้หามเข้าโรง’บาลมากกว่าที่จะสะอาดอย่างที่น้องต้องการ



...

...



อาร์ตกลับออกมาจากห้องน้ำอีกครั้งด้วยสภาพหัวเปียกลู่และผ่านการฆ่าเชื้อเรียบร้อย สายตาขี้เล่นสอดส่องไปทั่วห้องเพื่อมองหาอีกคน ก่อนจะสะดุดเข้ากับก้อนกลมๆที่นอนขุดคู้อยู่บนเตียงเจ้าตัวเลยเดินเข้าไปหาแล้วทรุดตัวลงนั่งข้างๆ



“เป็นอะไร” อาร์ตเอามือไปนวดตรงหว่างคิ้วของพีทเบาๆ เพราะเห็นอีกฝ่ายนอนขมวดคิ้วหน้าบึ้งเหมือนคนคิดหนัก



“พี่...” พีทเปล่งเสียงออกมาแผ่วเบาก่อนจะพลิกตัวนอนหงายหันมาเผชิญหน้ากับอาร์ต



“หืม” อาร์ตขานรับในลำคอเบาๆแล้วโน้มตัวเท้าแขนคร่อมพีทเอาไว้



“เลิกยุ่งกับผมเหอะว่ะ...ต่างคนต่างอยู่ได้ไหมกลับไปเป็นแบบเมื่อก่อน...ผมไหว้ก็ได้” พีทมองอาร์ตด้วยสายตาสั่นไหวอ้อนวอนเหมือนคนหมดหนทาง น้ำเสียงที่เปล่งออกไปก็ไม่มั่นคงมีแต่ความสับสนอยู่ในนั้นเต็มไปหมด




“เฮ้ย!! นี่โกรธพี่ขนาดนั้นเลยเหรอ” อาร์ตถึงกับตาเบิกโพรงตกใจกับคำพูดของพีท รับรู้ได้ถึงเส้นประสาททุกเส้นในร่างกายของตัวเองกำลังเครียดขึง สมองคิดไม่ตกว่าจะทำยังไงต่อไปดี




แต่ก่อนที่จะได้วิตกจริตไปกันใหญ่พีทก็ส่ายหน้าเบาๆส่งให้ เพื่อบอกให้รู้ว่าที่พูดไม่ใช่เพราะโกรธ อาร์ตเลยได้แต่ถอนหายใจโล่งอกแล้วเปลี่ยนเป็นขมวดคิ้วมุ่นด้วยความไม่เข้าใจ ถ้าไม่โกรธแล้วน้องจะอยากเลิกยุ่งกับเขาทำไม



“ทำไมถึงไม่อยากอยู่ใกล้พี่ล่ะ...พี่ทำให้เราอึดอัด” อาร์ตถามออกไปด้วยน้ำเสียงแฝงความเศร้าแบบไม่ได้เสแสร้งแกล้งหยอกเหมือนทุกครั้ง ใจมันโหวงๆหวิวๆปวดหนึบขึ้นมาทันที



“เปล่า...แต่กูไม่ชอบเลยว่ะพี่” พีทส่ายหัวปฏิเสธเป็นพัลวันจนผมกระจาย



“ไม่ชอบ?” เครื่องหมายคำถามลอยขึ้นเต็มหัวอาร์ตไปหมดยิ่งอีกฝ่ายพูดยิ่งทำให้เขาไม่เข้าใจ



“ไม่ใช่ไม่ชอบแบบนั้น...พี่มึงเข้าใจกูไหมเนี่ย” ใบหน้าของพีทงอง้ำใส่อาร์ตด้วยความไม่พอใจที่อีกฝ่ายไม่เข้าใจตัวเองสักที



“เดี๋ยวนะ...คืออะไรยังไง...ลุกขึ้นมาคุยกันดีๆสิ” อาร์ตดึงพีทให้ลุกขึ้นนั่งแล้วบังคับเจ้าตัวให้มองหน้ากันตรงๆ ขืนพูดวกไปวนมากันอยู่แบบนี้คืนนี้ทั้งคืนก็คงคุยกันไม่รู้เรื่อง



“ฮึ่ย...พี่มึงเข้าใจไหมเนี่ย...บอกว่าไม่ชอบไง ให้เลิกยุ่งไงแล้วจะมาจับทำไมวะ” พีทฟาดลงไปบนมือของอาร์ตไม่ยั้งเพื่อให้อีกฝ่ายปล่อย



“อย่างี่เง่าพีท...พูดดีๆ” อาร์ตว่าเสียงดุจนพีทหยุดการกระทำของตัวเองแล้วเม้มปากแน่น อาร์ตเลยจัดการอุ้มอีกฝ่ายขึ้นมานั่งบนตักโอบแขนกอดเอาไว้หลวมๆ



“ก็มันไม่ชอบไง...ไม่ชอบที่ตัวเองเป็นแบบนี้ ไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้มันเหมือนไม่ใช่ตัวเอง ทำไมต้องโมโหแล้วทำตัวเหมือนผู้หญิงด้วยวะ แม่ง!!!”  พีทกระแทกเสียงพูดออกมาอย่างหงุดหงิดใบหน้างอง้ำลงยิ่งกว่าเก่า บ่งบอกให้รู้ว่าไม่พอใจในสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่ตอนนี้จริงๆ



ในระหว่างที่พีทไล่อาร์ตให้ไปอาบน้ำเลยมีช่วงเวลาที่ทำให้ได้อยู่คนเดียว และนั่นเองที่ทำให้ได้คิดย้อนกลับไปเหตุการณ์ก่อนหน้าที่พึ่งเกิดขึ้นสดๆร้อนๆ ภาพการกระทำบ้าๆของตัวเองไหลย้อนกลับเข้ามาเหมือนเล่นวิดีโอ มันทำให้รู้สึกอายตัวเองที่ทำอะไรแบบนั้นลงไปและที่มากไปกว่านั้นคือความรู้สึกกลัว เขากลัวว่าตัวเองจะเปลี่ยนไปมากกว่านี้เพราะฉะนั้นทางที่ดีที่สุด เขาควรเลิกยุ่งกับไอ้พี่อาร์ตซะก่อนที่เขาจะเปลี่ยนไปจริงๆ



อาร์ตก้มลงมองใบหน้ายุ่งเหยิงสลับกับเขินอายของพีทด้วยความสุขในหัวใจแบบแทบจะล้นออกมา เรื่องที่เกิดขึ้นเรียกว่าได้ผลดีเกิดคาดทะลุเป้าหมายไปไกลลิบลับเลยล่ะ ถ้าเขาจับน้องกดและจัดหนักๆให้รางวัลความน่ารักของน้องสักสามวันสามคืน เขาจะดูเป็นคนหมกมุ่นหรือหื่นกามไหมวะไม่ไหวจริงๆกับความน่าฟัด



“เข้าใจที่พูดไหมเนี่ย” เสียงเหวี่ยงๆที่ดังมาจากพีทพร้อมกับใบหน้าหงุดของเจ้าตัว ทำให้อาร์ตต้องหยุดความคิดในหัวที่ตั้งใจจะทำเข้าสักวันลง ก่อนเจ้าตัวจะกอดคนบนตักแน่นจนกระดูกแทบหักแทน



“เข้าใจแต่พี่ไม่ทำตาม” คำพูดของอาร์ตทำเอาพีทถลึงตามองไม่พอใจทันที ถ้าเข้าใจแล้วทำไมไม่ยอมทำตามวะไอ้พี่เลว



“สิ่งที่พีทเป็นมันไม่ได้แย่หรอก...พี่ชอบจะตาย”




“ชอบบ้าอะไรวะ...ไม่เอา แล้วที่เป็นอยู่เนี่ยแหละที่เรียกว่าแย่”



“งั้นใครที่เขาหึงแฟนเขาก็แย่หมดนะสิ” คำพูดต่อมาและนัยน์ตาพราวระยับของอาร์ตที่ใช้มองมา ทำเอาพีทหยุดชะงักคำที่จะเถียงต่อก่อนใบหน้าจะค่อยๆเปลี่ยนสี ไล่ลามลงไปตามใบหูและลำคออย่างรวดเร็ว



“กะ...กะ...ก็นั่นเขาแฟนกัน อีกอย่างไม่ได้หึงสักหน่อยแค่หมั่นไส้เหอะ” พีทเถียงกลับด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักแล้วก้มหน้าหงุดไม่กล้าสบตากับอาร์ต



“หืม...ไม่หึงจริงอ่ะ ไอ้เราก็อุตส่าห์ดีใจจะได้มีคนตามหึงกับเขาบ้าง แบบนี้ไปยุ่งกับใครไปทั่วเหมือนเดิมก็ได้สินะ ไม่มีเจ้าของนี่นา” อาร์ตพูดด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์แล้วก็รอดูปฏิกิริยาอีกฝ่ายอย่างมีความสุข



“ไอ้พี่อาร์ต!!!” และก็เป็นอย่างที่คิดเพราะพีทหันมาตวาดแว๊ดใส่พร้อมกับมองมาอย่างเอาเรื่อง จนอาร์ตหลุดยิ้มออกมาอย่างพอใจ นี่ขนาดไม่หึงนะ



“หึงก็ยอมรับเหอะน่า” อาร์ตเอ่ยกระเซ้า



“บอกว่าไม่หึงไง” พีทก็เถียงกลับอย่างไม่ลดราวาศอก ไม่ยอมรับซะอย่างใครจะทำไม



“โอเคๆพี่ยอมแพ้ ไม่หึงก็ไม่หึง” อาร์ตยกสองมือขึ้นเพื่อบอกว่ายอมแพ้และไม่คิดจะเถียงต่อ เถียงให้ตายอีกฝ่ายก็คงไม่ยอมรับหรอก



“น้องพีท”




“อะไร”



“พี่รักน้องพีทนะ”



“................” น้ำเสียงจริงจังที่อาร์ตใช้พูดออกมาทำให้พีทนั่งเงียบและไม่ได้ตอบโต้อะไรออกไป มันไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้ยินคำบอกรักจากอาร์ต แต่มันเป็นครั้งแรกจริงๆที่อีกฝ่ายพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังแบบนี้



“แล้วพีทล่ะ...รู้สึกรักหรือชอบพี่บ้างรึยัง” อาร์ตลองถามออกไปตรงๆแบบวัดใจและวัดดวง เขาดึงดันวุ่นวายกับน้องอยู่ฝ่ายเดียวมาตลอดบางทีน้องอาจจะไม่ชอบเขาจริงๆก็ได้ แต่ที่ถามไม่ใช่คิดว่าจะตัดใจหรอกนะแค่ถ้ามันผิดแผนจะได้กลับลำปรับแผนใหม่



พีทคิดไม่ตกว่าจะตอบยังไงดีให้กับคำถามของอาร์ต คำตอบมันมีในหัวใจอยู่แล้วแต่ยังไม่กล้าพอที่จะยอมรับ เจ้าตัวเม้มปากตัวเองแน่นอย่างลังเลก่อนจะตัดสินใจหันกลับไปเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย



จุ๊บ



สัมผัสแผ่วเบานุ่มนวลที่แนบลงมาบนริมฝีปากและจางให้ไปอย่างรวดเร็วในเวลาต่อมา ทำเอาอาร์ตยิ้มกว้างออกมาเหมือนคนบ้า ก้มลงมองคนบนตักที่เอาหน้าซุกไหล่ตัวเองอย่างมีความสุข ยกมือขึ้นลูบหัวอีกฝ่ายเบาๆไม่ได้กระเซ้าเย้าแหย่ให้เจ้าตัวรู้สึกอายไปมากกว่านี้ เพราะแค่นี้ก็เกินพอแล้วสำหรับคำตอบ



“พี่คิดเข้าข้างตัวเองได้ไหมกับจูบนี้” อาร์ตกดจูบลงที่ข้างขมับอีกฝ่ายแผ่วเบา



“ไม่รู้เว้ย” พีทตอบเสียงอู้อี้ซ่อนใบหน้าแดงก่ำไว้กับซอกคอของอาร์ต



“เราเป็นแฟนกันแล้วนะ...ตกลงไหม” อาร์ตลูบหัวลูบหลังพีทไปเรื่อยๆแล้วรอคอยคำตอบ



“ทำไมต้องอยากได้คำนี้เป็นแบบนี้ต่อไปก็ได้นิ เป็นแฟนเดี๋ยวก็เลิก...พอเบื่อก็ทิ้ง” พีทพูดแผ่วเบาไม่ต่างจากกระซิบ น้ำเสียงแฝงไปด้วยความเศร้าและเหมือนมีอะไรบางอย่างข้างในใจ จนอาร์ตต้องขมวดคิ้วอย่างสงสัยกับสิ่งที่ได้ยิน



“ยิ่งผู้ชายด้วยกัน...มันสู้ผู้หญิงไม่ได้หรอก” เกิดความเงียบปกคลุมทั้งคู่ทันทีในประโยคต่อมาของพีท ต่างฝ่ายต่างเงียบไม่พูดอะไรออกมา คนนึงจมอยู่ในอดีตที่ฝังใจและเป็นแผลจนถึงทุกวันนี้ ส่วนอีกคนจมอยู่กับความสงสัยและอยากรู้เรื่องราวทั้งหมด



“ยังต้องเดินทางอีกแสนไกล ยังต้องเดียวดายอีกนาน เธอต้องการอ้อมกอดบ้างไหม

ยังต้องมีวันที่มืดหม่นที่ต้องทนทรมาน เธอต้องการรักไหม

ใครข้างบนคงต้องรู้ว่ามันโหดร้าย จึงกำหนดมาให้ต้องมีคนข้างกาย

ทำให้วันนี้เราได้เจอ...ก็ขอให้เธอมั่นใจ

...ที่เขาว่าความรักยิ่งมีมากเท่าไหร่ ยิ่งต้องเสียใจมาก

แต่ฉันว่าสิ่งนั้นที่ทำร้ายจิตใจ นั่นคือความไม่รัก

เธออย่าคิดมากเกินไป ให้ถามตัวเองอยู่ตรงไหนแล้วเป็นสุขใจ ก็พอ...

รักเหอะ ฉันจะมีชีวิตนี้เพื่อเธอ...รักเหอะ ฉันจะอยู่เคียงข้างเสมอ

ไม่ว่าจะดีเราก็พร้อมจะรับมา ไม่ว่าจะร้ายเราก็พร้อมจะฟันฝ่า

เธอเชื่อไหมรักแท้ยังมี อยู่ตรงนี้แค่ยื่นมือมา

จะสุขจะทุกข์เราก็พร้อมจะรับมา จะดีจะร้ายเราก็พร้อมไปฟันฝ่า

เธอเชื่อไหมรักแท้ยังมี อยู่ตรงนี้แค่ยื่นมือมา...รักเหอะ”



อาร์ตโยกตัวคนในอ้อมกอดเบาๆเพื่อปลอบประโลม เขาไม่รู้ว่าน้องไปเจออะไรมาถึงดูมีอะไรในใจแบบนั้น แต่เขาอยากให้น้องไม่มองโลกในแง่ร้ายอยากเป็นคนที่ทำให้น้องมองเห็นอะไรดีๆ เขาอาจจะไม่ใช่รักแท้หรือรักสุดท้ายของน้องเพราะอนาคตมันไม่มีใครบอกหรือกำหนดได้ แต่เขาอยากให้น้องรับรู้ว่าโลกนี้มันกว้างรักแท้และรักดีๆมันมีอยู่จริง เหมือนกับเขาที่เคยได้รับและโดนฉุดขึ้นมาจากความมืดด้วยมือเล็กๆของใครคนหนี่ง



เสียงทุ่มนุ่มที่ร้องเพลงออกมาอย่างไพเราะข้างหูพร้อมกับแรงโอบกอด ทำให้พีทน้ำตาไหลออกมาทั้งรอยยิ้มอย่างห้ามไม่อยู่ หัวใจมันอิ่มเอิบพองโตเหมือนต้นไม้ที่ได้รับการรดน้ำพรวนดินไม่มีผิด



“เลี่ยนว่ะ” แต่พีทก็ยังคงเป็นพีทจะให้เขินอายแบบปกติก็คงไม่ได้ เลยต้องแสดงออกในลักษณะนี้ทำท่าเหมือนไม่ชอบใจ ทั้งๆที่ใจเต้นเหมือนตีกลอง



“ยังขาดกีตาร์นะแค่นี้ไม่เลี่ยนหรอก” อาร์ตว่าเสียงกลั้วหัวเราะ



“ร้องเพลงให้เหมือนจีบสาว” พีทว่ากัดเบาๆแก้อาการเขินของตัวเอง



“แล้วจีบติดไหมล่ะ” อาร์ตถามกลับอย่างยียวน



“ห้ามเจ้าชู้”



“ห๊ะ!!” จู่พีทก็โพล่งขึ้นมาแบบไม่ให้สุ้มให้เสียงเล่นเอาอาร์ตถึงกับตามไม่ทัน แถมเจ้าตัวยังเงยหน้าขึ้นมาจ้องเขม็งอีก



“ตอบ!!!”




“อ่า...ครับ” อาร์ตที่เริ่มจะเข้าใจอะไรลางๆรีบตอบรับทันที



“ห้ามนอกใจ”



“สัญญา”



“ห้ามขัดใจ”



“อันนี้พี่ขอดูเป็นกรณีไปได้ไหม”



“ชิ...ห้ามดุด้วย”



“ปกติพี่ก็ไม่เคยดุพีทนะ” อาร์ตตอบโต้ทุกคำของพีทอย่างกวนประสาทจนพีทหน้างอง้ำขัดใจ มาขอเขาเป็นแฟนแต่เล่นพูดขัดได้ทุกคำมันน่าคบไหมเนี่ย



“แล้วพีทล่ะตกลงเป็นแฟนกันได้รึยัง” อาร์ตเอ่ยปากถามกลับบ้างด้วยแววตาพราวระยับ จนพีทอยากจะยกมือข่วนหน้าให้เสียโฉมซะให้เข็ด



“อยากเป็นก็เป็นแม่ง!!!” พีทว่าเสียงสะบัดแล้วทุบหลังอาร์ตแรงๆแก้เขิน ส่วนอาร์ตก็เจ็บไปตามระเบียบแต่สุขมากกว่า ในที่สุดก็ได้แฟนกับเขาสักทีปิดคณะฉลองเลยดีไหมพรุ่งนี้





2 Be Con...



+++++++++++++

งือ...เอาเฮียแพ็คใส่ถุงให้ที

เฮียอาร์ตของบ่าววววว

ใครอยากได้เฮียไม่ต้องดักตีหัวฉุดนะ

แนะนำให้คุยดีๆ...เฮียใจดี

แต่กับเมียเฮียเราไม่แน่ใจ...

รักคนอ่านจ้า ^^

ออฟไลน์ greensnake

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +920/-14
เขินกันน่ารักเชียว แต่สงสารพี่อาร์ต งอนทีเจ็บตัวไม่น้อย
รักก็บอกว่ารัก หึงก็บอกว่าหึงกันไป แต่แสดงออกขนาดนี้ไม่บอกก็รู้นะ :hao3:
พี่อาร์ตต้องทำงานอย่างหนักแล้วล่ะ พีทนี่คุณหนูตัวจริงเลย
จะโกรธจะงอนยังไงก็ยังยอมกลับด้วยกัน น่ารักไม่น้อย
ต่อไปอย่าได้ทดสอบความรู้สึกกันอย่างนี้อีกล่ะพี่อาร์ต
เพราะถ้าคนๆนั้นไม่ใช่เนยล่ะก็ คนที่ไปอาจจะเป็นน้องพีทก็ได้
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :กอด1:



ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ matchty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
    • MATCHTY-แมตตี้
คู่กัดฉบับรักเกินร้อย

By matchty



กัดครั้งที่

- 22 -



"น้องพีทครับทำหน้าให้มันดีๆหน่อยได้ไหม" อาร์ตก้มมองพีทที่กำลังนั่งหน้าหงิกหน้างออยู่บนเบาะมอเตอร์ไซด์ แล้วหยิกแก้มเจ้าตัวเบาๆอย่างเอ็นดู



"เรื่องของหน้ากูเหอะ...แล้วพี่มึงพามาที่นี่ทำไมเนี่ย" พีทว่าอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงเหวี่ยงตาก็มองไปยังรอบๆสถานที่ที่ถูกพามาด้วยการบังคับอย่างไม่พอใจ จะให้พอใจได้ยังไงละก็ดูที่ๆอีกฝ่ายพาเขามาสิ ต้อนรับสถานะการเป็นแฟนกันวันแรกด้วยการพามาออกเดตที่วัด...โรแมนติกไหมล่ะ



"เอาน่า...เดินแต่ห้างเที่ยวแต่ผับเข้าวัดเข้าวาบ้างเถอะชีวิตจะได้สงบขึ้น ไม่งั้นก็ถือซะว่าพี่พามาทำบุญผูกดวงชาติหน้าจะได้เป็นแฟนกันอีก" อาร์ตบอกกวนๆแล้วจัดการลากพีทเข้าไปในโบสถ์ที่เห็นอยู่ไม่ไกล



"ทำเหมือนพี่มึงไม่เป็นแบบกู...แล้วนี่จะจูงมือทำไมเดินเองได้...ปล่อย!!!" พีทพยายามสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมของอีกฝ่าย ปากก็ร้องโวยวายไปตลอดทางเดินเพราะเขินสายตาที่ผู้คนมองมา



"เลิกโวยวายแล้วเข้าไปไหว้พระในโบสถ์ได้ละ" อาร์ตปล่อยมือแล้วดันหลังพีทเบาๆให้เข้าไปข้างในก่อนจะเดินหายไปทางด้านนอก ทิ้งให้พีทมองค้อนตามหลังอย่างไม่พอใจที่โดนบังคับทุกอย่าง



"อะ...มองหน้าทำไมรับไปดิ" อาร์ตยื่นดอกไม้ธูปเทียนที่เดินไปซื้อมาให้พีท พร้อมกับอมยิ้มขำให้กับสายตาที่อีกฝ่ายมองมา ก็เจ้าตัวเล่นมองเหมือนเขาเป็นตัวประหลาดไม่มีผิด



พีทรับดอกไม้มาไว้ในมืออย่างงงๆไม่คิดว่าคนอย่างอาร์ตจะทำอะไรพวกนี้เป็น ก่อนจะนำไปถวายที่พระประธานองค์ใหญ่ภายในโบสถ์ แล้วกลับมาจุดธูปเทียนเพื่อไหว้พระหลับตาลงและก้มลงอธิษฐานขอพรในใจ จากนั้นก็คลานไปปักธูปลงบนกระถางด้านหน้า พอหันกลับมาก็เจออาร์ตกำลังนั่งมองตัวเองตาไม่กระพริบพร้อมรอยยิ้มจางๆที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน



"พี่มึงมองทำไมเนี่ย" พีทถามด้วยความสงสัยปนระแวงกับสายตาที่อีกฝ่ายใช้มองมา



"น้องพีทรู้ไหมว่าทำไมคนถึงต้องหลับตาเวลาอธิษฐานขอพร" อาร์ตเอ่ยปากถามพร้อมรอยยิ้ม



“ถามอะไรวะ” พีทมองอาร์ตด้วยความงุนงงไม่เข้าใจที่อีกฝ่ายจะสื่อ



“ที่เราต้องหลับตาอธิษฐานขอพรเพราะสิ่งสวยงามบนโลกที่แท้จริง เรามองมันไม่เห็นด้วยตาแต่มันจะรู้สึกได้ด้วยใจ” อาร์ตส่งยิ้มและบอกพีทด้วยท่าทางอ่อนโยน



“............”



“มันก็เหมือนกับความรักที่ต่อให้เราไม่เคยได้ยินคำว่ารัก แต่มันก็รู้สึกได้ว่ามันคือความรัก” อาร์ตหันมาสบตาพีทอย่างสื่อความหมายจนเจ้าตัวต้องหลบตาแล้วหันหน้าหนี พร้อมๆกับหัวใจที่มันเต้นระรัวจนเหมือนจะทะลุออกมาข้างนอกให้ได้เดี๋ยวนั้น



‘นี่จิตใจทำด้วยอะไรวะมานั่งหยอดอยู่ในโบสถ์ พี่มึงจะให้พระประธานที่ตั้งอยู่กลางโบสถ์เป็นพยานให้กับความหน้าด้านของตัวเองรึไง’ พีททำปากขมุบขมิบด่าอีกฝ่ายด้วยความไม่พอใจแต่ใบหน้าขาวกับแดงซ่านไปหมด พร้อมกับริมฝีปากที่พยายามกลั้นรอยยิ้มเอาไว้เต็มที่



ส่วนอาร์ตก็นั่งกลั้นขำชอบใจที่ทำให้พีทนั่งอายหน้าแดงได้ ก่อนจะหันไปกราบลาองค์พระที่ตั้งอยู่ภายในโบสถ์พร้อมทั้งขอโทษขอโพยท่านในใจ ที่มานั่งจีบแฟนตัวเองต่อหน้าท่านถึงท่านจะไม่มีชีวิตก็เถอะ รู้ว่าควรสำรวมรู้ว่ามันไม่ถูกและเสี่ยงต่อบาปจะกินกบาล แต่ว่านะเห็นน้องแล้วมันอยากแกล้งถ้าพระท่านเคยมีความรัก ท่านจะต้องเข้าใจและให้อภัย...ก็หวังว่านะ



อาร์ตยกมือขึ้นยีผมพีทจนยุ่งเลยโดนเจ้าตัวฟาดกลับมาพร้อมใบหน้าเหวี่ยงวีนอันเป็นเอกลักษณ์ ก่อนที่อาร์ตจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินนำพีทออกจากโบสถ์โดยไม่ลืมก้มลงกราบลาองค์พระอีกครั้ง



“กลับยัง” พีทถามหลังจากที่สวมรองเท้าเสร็จและคิดว่าอาร์ตคงไม่น่าจะมีธุระอะไรกับที่วัดแล้ว



“อีกเดี๋ยวนะ” อาร์ตว่าแล้วเดินเลี่ยงไปยังร้านดอกไม้ที่ขายในวัด ก่อนจะเลือกซื้อเอาพวงมาลัยพวงใหญ่หนึ่งพวง ออกเดินนำพีทไปทางด้านหลังของวัดโดยไม่พูดอะไร



พีทมองการกระทำของอาร์ตด้วยความไม่เข้าใจ อยากจะเอ่ยปากถามแต่บรรยากาศรอบตัวอีกฝ่ายบอกเขากลายๆว่าไม่ควร เลยตัดสินใจเดินตามหลังไปเงียบๆตาก็มองไปยังรอบอย่างสนใจ



ที่จริงแล้ววันนี้ทั้งอาร์ตและพีทต่างมีเรียนทั้งคู่ แต่เพราะเมื่อคืนกว่าจะเคลียร์กันเสร็จก็ล่วงเลยเกือบสว่าง ทำให้ตื่นสายไปเรียนไม่ทันกันตามระเบียบ ถึงอย่างนั้นต่อให้ไม่ตื่นสายอาร์ตก็หยุดเรียนวันนี้อยู่ดี



วัดที่อาร์ตพาพีทมาเป็นวัดขนาดกลางและตั้งห่างออกมาทางนอกเมืองเล็กน้อยและอาจจะเพราะวันนี้เป็นวันธรรมดาและวัดก็ไม่ใช่วัดที่เป็นที่รู้จักในคนหมู่มากเท่าไหร่ด้วยส่วนหนึ่ง บรรยากาศภายในเลยค่อนข้างเงียบสงบมีผู้คนให้เห็นแค่ประปรายเท่านั้น



เดินมาได้สักพักก็เจอโกฐเก็บกระดูกที่ตั้งอยู่เรียงราย พีทเดินตามหลังอาร์ตเข้าไปภายในที่ตั้งโกฐเหล่านั้นเรื่อยๆ พร้อมกับความสงสัยที่เกิดขึ้นเต็มไปหมด จนกระทั่งอีกฝ่ายหยุดลงที่หน้าโกฐอันหนึ่ง



พีทได้แต่ยืนมองเสี้ยวหน้าของคนรักที่ดูแปลกตาไป ใบหน้าขี้เล่นที่อีกฝ่ายแสดงให้เห็นเป็นประจำตอนนี้กลับเคร่งขรึมเหมือนไม่ใช่เจ้าตัว ก่อนจะเหลือบสายตาไปมองยังรูปภาพที่ติดอยู่ตรงหน้าโกฐ เป็นภาพของหญิงสาวที่ค่อนข้างจัดว่าสวยคนหนึ่ง จากที่เห็นคนในรูปอายุยังน้อยแต่ที้ชวนสงสัยคืออีกฝ่ายเกี่ยวข้องยังไงและเป็นอะไรกับอาร์ต



“ทำไมทำหน้างั้น” เสียงของอาร์ตทำให้พีทได้สติกลับมา ก่อนที่เจ้าตัวจะละสายตาจากรูปบนโกฐ เห็นพวงมาลัยถูกวางเอาไว้เรียบร้อยพร้อมอาร์ตที่กำลังยิ้มให้



“ปะ...กลับกันได้แล้ว” อาร์ตเอื้อมมือไปจับแขนพีทแล้วจูงออกไป ระหว่างทางไม่มีการพูดคุยอะไรทั้งนั้นระหว่างทั้งคู่ จนกระทั่งเดินมาถึงรถที่จอดอยู่และในจังหวะที่อาร์ตจะหันไปนั่งคร่อมบนรถ พีทก็กระตุกชายเสื้ออีกฝ่ายเบาๆจนเจ้าตัวต้องหันมามองด้วยความแปลกใจ



“พี่อาร์ต...คือ...ที่โกฐ” และเป็นพีทเองที่ทนความอยากรู้ของตัวเองไม่ไหว ตัดสินใจเอ่ยปากถามในที่สุดแต่ก็ถามออกไปด้วยเสียงแผ่วเบา เพราะไม่แน่ใจว่าตัวเองถามออกไปแบบนี้ดีแล้วรึเปล่า



“อ้อ...น้องสาวรุ่นพี่ที่รู้จักกันน่ะ พอดีแวะมาวัดนี้พี่เลยไปไหว้ไม่มีอะไรไรหรอก” อาร์ตตอบพร้อมรอยยิ้มและท่าทีปกติทำให้พีทถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก



“อะไร...อย่าบอกนะว่าคิดว่าเป็นแฟนเก่าพี่” อาร์ตถามพร้อมเสียงกลั้วหัวเราะ



“ปะ...เปล่าสักหน่อย...พี่มึงมั่วละ” พีทปฏิเสธตะกุกตะกักใบหน้าแดงก่ำด้วยความอายเพราะโดนรู้ทัน



“ฮ่าๆเพ้อเจ้อเหมือนกันนะเรา” อาร์ตหัวเราะลั่นอย่างชอบใจเลยโดนพีทมองค้อนด้วยความเคือง

“ไอ้พี่อาร์ต!! อ้าว...นั่นพี่ชาตินี่หว่า มาทำอะไรแถวนี้วะ” พีทที่เงื้อมือขึ้นสูงตั้งใจจะฟาดอาร์ตด้วยความหมั่นไส้ต้องชะงักมือลง และเปลี่ยนเป็นชี้ไปที่รุ่นพี่ของคณะแทน



“น่าจะมาซื้อล๊อตเตอร์รี่” อาร์ตตอบกวนๆพร้อมกับหันไปมองตามที่พีทบอก



“กวนตีน” พีทพึมพำด่าออกมากับความกวนของอาร์ต ไม่รู้ก็ตอบไม่รู้ดิวะจะกวนประสาททำไม ถึงวัดมันจะมีแผงล๊อตเตอร์รี่ขายอยู่จริงๆก็เหอะ



“ฮ่าๆปะๆเลิกหน้างอ” อาร์ตหัวเราะออกมาแล้วเดินไปที่รถเลิกสนใจรุ่นพี่ของตัวเอง ก่อนจะพากันขับรถออกจากวัดไป










“ที่ไหนเนี่ย” พีทมองบ้านไม้ขนาดกลางตรงหน้าด้วยความสงสัย ก่อนจะหันกลับมามองอาร์ตอย่างขอคำตอบ เพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายพาเขามาที่ไหนอีกแล้ว



“เข้าไปข้างในปะ” อาร์ตไม่ตอบคำถามแต่เดินนำพีทเข้าไปข้างในแทน ทิ้งให้พีทมองตามหน้ามุ่ยและเดินตามเข้าไปอย่างช่วยไม่ได้



“นี่ไอ้พี่อาร์ต…”




“พี่อาร์ต!!! แม่ครูพี่อาร์ตมา!!!” แต่ยังไม่ทันที่พีทจะได้ถามอะไรต่อ ก็มีเด็กๆทั้งที่โตแล้วและกำลังจะโตวิ่งออกมา ก่อนที่เด็กๆเหล่านั้นจะส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวดีใจที่ได้เจออาร์ต



“ฮ่าๆเบาๆ” อาร์ตยกมือกอดเด็กๆที่วิ่งเข้ามาหา ก่อนจะส่งรอยยิ้มทักทายพูดคุยอย่างสนุกสนาน ผิดกับพีทที่ยืนมองทุกอย่างด้วยความงงและตามสถานการณ์ไม่ทัน



“เดี๋ยวรอพี่อยู่นี่แป๊บนึงนะ” อาร์ตหันมาบอกพีทก่อนจะเดินหายเข้าไปข้างใน ส่วนพีทที่อ้าปากจะเรียกเอาไว้ก็ไม่ทันแล้ว



พีทยืนหันรีหันขวางทำตัวไม่ถูกท่ามกลางสายาของเด็กน้อยที่มองมาอย่างสนใจ ก่อนที่เจ้าตัวจะส่งยิ้มแหยๆไปให้เพื่อหวังให้บรรยากาศดีขึ้น และมันก็ได้ผลทันทีที่พีทยิ้มบรรดาเด็กๆก็วิ่งกรูกันเข้ามาหาจนเจ้าตัวถอยหลังล้มลงไปกองกับพีทบ้าน

“พี่ชื่อไรอ่ะ”



“เป็นเพื่อนพี่อาร์ตเหรอ”



“มาเล่นกัน”



“หยู๊ดดดดดด” คำถามสารพัดที่ถูกส่งมาให้อย่างต่อเนื่องทำเอาพีทที่โดนรุมถึงกับเวียนหัว ต้องยกทั้งมือและส่งเสียงห้ามให้เด็กหยุดพูดก่อนจะลุกขึ้นนั่งอย่างทุลักทุเล ในใจก็นึกเคืองไอ้คนที่พามาแล้วทิ้งเอาไว้ท่ามกลางเด็กนับสิบชีวิตไม่น้อย ไล่สายตามองไปทั่วก็เจอดวงตาใสแจ๋วที่มองกลับมาอย่างไร้เดียงสา แถมยังดูตื่นเต้นที่จะทำความรู้จักกับเขาซะเหลือเกิน



‘เอาไงดีวะ’ พีทได้แต่ส่งยิ้มแหยๆและยกมือเกาท้ายทอยตัวเองเบาๆ พร้อมกับคิดไม่ตกว่าจะรับมมือเด็กๆพวกนี้ยังไงดี



...

...



“จะกลับแล้วเหรอลูก” เสียงของหญิงสูงวัยเอ่ยถามอาร์ตอย่างอ่อนโยนพร้อมกับลูบหัวอีกฝ่ายเบาๆ



“ต้องกลับแล้วล่ะครับแม่ครู ผมไม่ได้ลางานไว้ ที่จริงอยากจะอยู่ด้วยนานๆใจจะขาด” อาร์ตส่งยิ้มให้กับหญิงสูงวัยที่ตัวเองเรียกว่าแม่ครูอย่างประจบ



“ไม่ต้องมาประจบ...มากี่ทีก็พูดคำนี้ตลอดพวกน้องๆก็บ่นคิดถึง น่าจะอยู่รอน้องกลับจากโรงเรียนก่อน” แม่ครูบ่นออกมาและมองค้อนให้กับจอมกระล่อนอย่างอาร์ตด้วยความหมั่นไส้



“ฮ่าๆเบื่อจังรู้ทันผมตลอด” อาร์ตว่าเสียงกลั้วหัวเราะแล้วช่วยพยุงแม่ครูให้ลุกขึ้นยืน



“แม่เลี้ยงของแม่มาแต่เล็กแต่น้อย มีอะไรบ้างที่แม่ไม่รู้ทันเราน่ะเจ้าอาร์ต” แม่ครูว่าพร้อมกับหยิกลงที่ต้นแขนอาร์ตเบาๆ



“ว่าแต่นั่นพาใครมาด้วยล่ะ” แม่ครูเอ่ยถามอย่างแปลกใจเมื่อเดินออกมาเจอเด็กหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง กำลังหยอกล้อกับเด็กๆที่ท่านอุปการะอยู่อย่างสนุกสนาน



“แม่ครูว่าเป็นไงบ้างครับ” อาร์ตไม่ตอบคำถามแต่เลือกที่จะถามแทน ก่อนจะหลุดขำออกมาเมื่อเห็นพีทกำลังโดนเด็กๆรุมทับ แต่ดูเหมือนเจ้าตัวก็รับมือได้เพราะในวินาทีต่อมา พีทก็จัดการอุ้มเด็กคนนั้นออกแล้วลงมือจั๊กจี๊ที่เอวจนเด็กน้อยดิ้นพล่าน เสียงหัวเราะสนุกสนานของทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ เลยดังก้องบ้านไม้หลังเล็กเต็มไปหมด



“อืม...แม่ก็ว่าน่ารักดี” แม่ครูมองพีทแล้วพูดออกมาตามที่คิดก่อนจะหันกลับมาหาอาร์ตที่ยืนยิ้มร่าอยู่



“แล้วแม่ครูชอบไหมครับ”




“ก็ชอบ…ว่าแต่ถามทำไม” แม่ครูถามด้วยความฉงน



“ก็เนี่ยผมพาลูกสะไภ้มาหาแม่ครู” อาร์ตบอกพร้อมกับยิ้มทะเล้นส่งให้



“ตาเถร!!!” แม่ครูถึงกับตาโตยกมือขึ้นทาบอกกับสิ่งที่ได้ยิน



“ตาเถรที่ไหนละครับมีแต่ผมเนี่ย...โอ๊ย!!” อาร์ตว่าอย่างยียวนเลยโดนแม่ครูฟาดเข้าให้ โทษฐานเล่นไม่รู้เวล่ำเวลา



“จริงๆเลยยังจะมากวนอีก...แต่นั่นผู้ชายนะลูก” แม่ครูยังคงตกใจไม่หายมองหน้าอาร์ตสลับกับเด็กหนุ่มอีกคนไปมา ผู้ชายมีคนรักเป็นผู้ชายฟ้าจะผ่าเอาไหมเล่า



“ก็ผู้ชายแหละครับ” อาร์ตยิ้มให้เหมือนว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดา ก็ธรรมดาในสังคมสมัยนี้ล่ะนะแต่คนสมัยก่อนคงจะไม่ชินเท่าไหร่



“แม่ล่ะตามเด็กสมัยนี้ไม่ทัน” แม่ครูส่ายหัวอย่างเหนื่อยอ่อนก่อนจะเดินตามแรงจูงของอาร์ต แล้วทรุดตัวลงนั่งที่โซฟาใกล้ๆ



“น้องพีท” อาร์ตส่งเสียงเรียกแล้วกวักมือให้อีกฝ่ายมาหา พีทชะงักไปเล็กน้อยแล้วชี้นิ้วมาที่ตัวเอง มองอาร์ตกับหญิงสูงวัยสลับกันไปมาก่อนจะเดินเข้าไปหาทั้งคู่แบบงงๆ



“นี่แม่ครู” อาร์ตแนะนำสั้นๆทันทีที่พีทเดินเข้ามาหา



“สวัสดีครับ” พีทเองก็ยกมือไหว้คนสูงวัยกว่าอย่างนอบน้อม ก่อนจะนั่งลงที่พื้นใกล้ๆกับอาร์ต



“ไหว้พระเถอะลูก” แม่ครูรับไหว้พีทแล้วยิ้มให้อย่างอ่อนโยน ก่อนจะเอ่ยปากถามต่ออย่างเป็นกันเอง



“ว่าแต่ชื่ออะไรนะเรา”



“ชื่อพีทครับ”




“เป็นแฟนตาอาร์ตเหรอ” คำถามต่อมาของแม่ครูเล่นเอาพีทตาเหลือกหันกลับไปมองอาร์ตทันที เห็นอีกฝ่ายยิ้มหน้าบานอย่างไม่สะทกสะท้านส่งให้พอหันกลับไปหาแม่ครู ตั้งใจจะปฏิเสธก็ไม่กล้าทำเมื่อเจอแววตาอ่อนโยนจริงใจที่มองมา



“คะ...ครับ” พีทก้มหน้าหงุดมองตักตัวเองด้วยความประหม่า ก่อนจะเอาศอกกระทุ้งเข้าไปที่ท้องอาร์ตอย่างหมั่นไส้ ที่อีกฝ่ายทำอะไรไม่ปรึกษากันเลยสักนิด



“โอ๊ย!!! แม่ครูดูซิครับผมโดนทำร้ายร่างกาย” อาร์ตส่งเสียงร้องโวยวายออกมาเกินจริงแล้วฟ้องแม่ครูอย่างประจบประแจง พีทเลยถลึงตามองจนตาแทบหลุดจากเบ้า ส่วนแม่ครูก็ยิ้มขำเอ็นดูพร้อมส่ายหัวน้อยๆ



“เข้ามาใกล้ๆแม่ซิ” แม่ครูกวักมือเรียกพีทให้เข้าไปหาซึ่งเจ้าตัวก็คลานเข้าไปอย่างว่าง่าย



“หน้าตาผิวพรรณดีดูเป็นคนมีชาติมีตระกูล” แม่ครูเอ่ยออกมาหลังจากได้ใช้สายตาสำรวจพีทใกล้ๆ ซึ่งอาร์ตก็พยักหน้าเห็นด้วยทุกคำเพราะพีทมองแค่แว๊บเดียวก็รูเลยว่าลูกคุณหนู ยิ่งนิสัยและการใช้ชีวิตของเจ้าตัวยิ่งบ่งบอกชัด



“ไปทำอีท่าไหนล่ะถึงได้โดนพี่เขาหลอกเอา” คำพูดต่อมาของแม่ครูทำเอาอาร์ตหน้าเหวอ ส่วนพีทหลุดขำออกมาอย่างชอบใจ



“ผมจีบน้องด้วยความพยายามนะครับแม่ครู” อาร์ตโอดครวญประท้วงออกมาเมื่อโดนหักหลังกันกลางอากาศ



“ใช่ครับแม่ครูพี่อาร์ตน่ะหลอกผม...แถมบังคับด้วยนะครับ” พีทได้ทีรีบฟ้องเข้าให้อย่างประจบ



“นั่นไง...แม่ว่าอยู่แล้วเชียว” แม่ครูตบเข่าตัวเองฉาดใหญ่รับมุกที่พีทส่งให้ ทำเอาอาร์ตไปไม่เป็นส่วนพีทก็หัวเราะไม่หยุด



หลังจากนั้นทั้งสามคนก็พูดคุยสอบถามกันอย่างถูกคอ โดยมีเด็กๆในบ้านเข้ามากวนเรียกเสียงหัวเราะอยู่เป็นระยะ จนเวลาล่วงเลยมาจนเกือบเย็นอาร์ตกับพีทถึงขอตัวกลับที่พัก



“ขับรถกันดีๆนะลูก” แม่ครูเอ่ยกำชับด้วยความเป็นห่วงหลังจากมายืนส่งอาร์ตกับพีทที่รถ



“พวกผมลาแล้วนะครับ” อาร์ตว่าแล้วเดินมากอดแม่ครูเบาๆก่อนจะียกมือไหว้อย่างนอบน้อม



“ผมกลับก่อนนะครับ” พีทเดินมากอดแม่ครูบ้างแล้วยกมือไหว้ลาก่อนจะเดินไปสมทบกับอาร์ตที่รถ



“ไหว้พระเถอะลูก...อย่าลืมแวะมากันอีกล่ะ” แม่ครูยิ้มให้อย่างอ่อนโยน



“อาร์ต” แต่ก่อนที่จะได้ไปไหนแม่ครูก็ส่งเสียงเรีนกเอาไว้ จนเจ้าของชื่อหันกลับมามองด้วยความแปลกใจ



“อดีตก็คืออดีตนะลูก” คำพูดของแม่ครูที่พูดให้ได้ยินกันสองคน ทำเอาดวงตาอ่อนโยนขี้เล่นของอาร์ตไหววูบเล็กน้อย ก่อนเจ้าตัวจะคลี่ยิ้มบางๆส่งให้คนที่ตัวเองเคารพ ก่อนจะหันกลับไปสตาร์ทรถแล้วขับออกไปโดยที่ไม่พูดอะไร










“ที่ไหนอีกเนี่ย” พีทมองตึกแถวตรงหน้าด้วยความสงสัย เพราะวันนี้ทั้งวันตัวเองโดนอีกฝ่ายลากไปนั่นมานี่จนหัวหมุนไปหมด



“ร้านข้าวไง...เข้าไปข้างในกัน” อาร์ตว่าแล้วจูงมือพีทเข้าไปนั่งที่โต๊ะด้านใน



“กินได้ไหม” อาร์ตถามเพื่อความแน่ใจเพราะไม่รู้ว่าคุณหนูแบบพีทจะเคยกินอาหารตามสั่งจากร้านข้าวข้างทางแบบนี้ไหม



“กินได้” พีทพยักหนัาเล็กน้อยพร้อมกับยกมือขึ้นปาดเหงื่อที่ไหลลงมาออกจากหน้า ปกติเขากินแต่ข้าวในห้างตามร้านดังๆก็จริงแต่ไม่ใช่ว่าไม่เคยกินข้าวข้างทางแบบนี้ แต่เลี่ยงได้เขาก็เลี่ยงล่ะนะก็ที่ร้านแบบนี้มันทั้งร้อนและดูไม่ค่อยจะสะอาดเท่าไหร่



“กินได้แน่นะ” อาร์ตถามอีกครั้งอย่างเป็นห่วงแล้วเอื้อมมือไปเหงื่อให้ เห็นนั่งร้อนแบบนี้แล้วสงสารเหมือนกันเขาพาน้องมาลำบากแท้ๆ



“กินได้น่า” พีทยืนยันด้วยน้ำเสียงจริงจังเพราะไม่อยากให้อาร์ตคิดมาก



“งั้นกินอะไรดี”




“อะไรก็ได้” พีทตอบปัดเพราะไม่อยากทำตัวเรื่องมาก



“อะไรก็ได้เขาไม่มีขายหรอกนะ” อาร์ตเอ่ยเย้าออกมาอย่างอดไม่อยู่เลยโดนพีทถลึงตาใส่ดุๆ ข้อหาที่เจ้าตัวกวนประสาท



“ฮ่าๆงั้นคะน้าหมูกรอบแล้วกันเนาะ” อาร์ตว่าซึ่งพีทก็พยักหน้ารับ จากนั้นอาร์ตเลยเรียกแม่ค้ามารับออเดอร์ แล้วลงมือสั่งอย่างคล่องแคล่ว



“หืม...มีอะไร” อาร์ตที่หันกลับมาเจอสายตาของพีท ที่จ้องเหมือนอยากจะพูดอะไรก็อดแปลกใจไม่ได้



“คือ...ไม่เห็นรู้มาก่อนเลยว่า...ที่บ้านนนั้นแบบ...พี่เป็น...เอ่อ…” พีทพยายามเรียบเรียงคำพูดเพื่อที่จะถามแต่สุดท้ายก็ไม่กล้าพูดออกไป จนสุดท้ายก็เลือกที่จะเงียบแทน



“เป็นเด็กกำพร้าน่ะเหรอ” อาร์ตที่พอจะเข้าใจในสิ่งที่พี่จะสื่อพูดขึ้นมาด้วยท่าทางสบายๆ



“อือ” พีทพยักหน้ารับเล็กน้อยแล้วเงียบลงเหมือนเดิม เขารู้เรื่องนี้ตอนที่อาร์ตทิ้งเขาไว้กับเด็กๆในบ้านหลังนั้นนั่นแหละ คุยกันไปคุยกันมาถึงได้รู้ว่าที่ๆอาร์ตพาไปคือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า และอาร์ตก็ถูกเลี้ยงดูมาจากที่นี่เป็นเด็กคนนึงในอุปการะของบ้านหลังนี้



“สงสารพี่เหรอ” อาร์ตถามพร้อมกับส่งยิ้มให้จางๆ



“ขอบคุณที่เป็นห่วงแต่พี่ไม่เป็นไรหรอกชินแล้ว”อาร์ตเอื้อมมือไปลูบหัวพีทอย่างอ่อนโยน แต่พีทกับรู้สึกได้ถึงความเศร้าที่แฝงมากับฝ่ามือ รอยยิ้มและคำพูดของอีกฝ่าย




“ไม่เป็นไรนะ...อาร์ตยังมีน้อง” พีทจับมือใหญ่ของอาร์ตมากุมไว้แล้วลูบเบาๆเพื่อส่งผ่านกำลังใจ เขาคิดว่าตัวเองพอจะเข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่ายอยู่บ้าง เพราะเขาเองก็ไม่มีแม่เหมือนกัน ความเหงาความอิจฉาเวลาเห็นครอบครัวคนอื่นอยู่กันพร้อมหน้าเป็นยังไงเขาเองก็เคยสัมผัส แต่อย่างน้อยเขาก็ยังมีพ่อและชีวิตก็ไม่ลำบากแถมไม่มีแม่เขาก็เคยเห็นรูปถ่าย แต่พี่อาร์ตไม่มีใครไม่เคยเห็นแม้กระทั่งรูปด้วยซ้ำ



อาร์ตมองใบหน้าที่แสดงความสงสารเสียใจอย่างไม่เสแสร้งของพีทแล้วยิ้มออกมาอย่างสุขใจ จะบอกว่าไม่เป็นไรไม่เหงาไม่อยากเห็นหน้าพ่อแม่ก็งจะโกหก แต่นั่นมันเป็นความรู้สึกที่ผ่านมานานแล้วจนถึงตอนนี้เวลานี้ จะเห็นหรือไม่เห็นก็มีค่าเท่ากันเพราะเขาชินแล้ว คิดดูอีกทีไม่ต้องรับรู้ไม่ต้องเจอไม่ต้องเห็นหน้ากันจะดีกว่า ในเมื่อชีวิตที่เป็นอยู่ตอนนี้ของเขาก็มีความสุขดีในแบบของมัน



“ขอบคุณนะครับ” อาร์ตยกมือไปกุมบนมือของพีทอีกชั้นแล้วบีบมันเบาๆ



‘ขอบคุณที่ช่วยพี่เป็นครั้งที่สอง’





2 Be Con...

++++++++++++++

มากันแบบมึนๆมีความเปลี่ยนฟิลลิ่งเบาๆ

ไร้สาระมาเยอะพาไปหาสาระกันบ้าง

รักคนอ่านจ้า ^^






 

 

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
จะดราม่าไหมครับเนี่ย รักกันนานๆ นะครับ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
พี่อาร์ตเป็นเด็กกำพร้า ในขณะที่พีทเป็นลูกคนรวย
ดราม่าเรื่องพ่อพีทมาเต็มๆ :ling3: :ling3:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ matchty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
    • MATCHTY-แมตตี้
คู่กัดฉบับรักเกินร้อย

By machty



กัดครั้งที่

- 23 -



หลังจากวันที่ได้รับรู้ชีวิตส่วนหนึ่งของอีกฝ่ายเวลาก็ผ่านเลยไปหลายวัน คนที่พีทคิดว่าน่าสงสารกลับไม่ได้ทำตัวให้น่าเห็นใจเลยสักนิด แถมยังทำตัวกวนประสาทยิ่งกว่าเดิมสำออยออดอ้อนยิ่งกว่าผู้หญิง จนบางทีเขาก็อยากถามที่ควรทำแบบนั้นน่าจะเป็นเขารึเปล่า



วันนี้เขามาเรียนตามปกติโดยปราศจากเงาของอีกคน เพราะเจ้าตัวไม่มีเรียนในขณะที่เขามีเรียนเช้าและประชุมรุ่นตอนบ่าย แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าตัวก็ยังอุตส่าห์ยอมตื่เช้ามาส่งเขา ทั้งๆที่ตัวเองก็นอนดึกมากแล้วและเขาก็บอกไปแล้วว่ามาเองได้ แถมบอกว่าเที่ยงจะโทรมาหาซึ่งตอนนี้เลยเวลามาสิบนาที เสียงโทรศัพท์ก็ยังไม่ดังพี่มันนอนไม่ตื่นหรือทำอะไร



“โทรศัพท์มันมีอะไรวะ” กั้มที่นั่งฝั่งตรงข้ามชะโงกหน้ามาดูโทรศัพท์ในมือพีทด้วยความสงสัย



“ก็ไม่เห็นมีอะไรนี่หว่า” กั้มถอยกลับไปนั่งตามเดิมพร้อมจ้องหน้าพีทอย่างแปลกใจปนสงสัย เพราะเห็นเจ้าตัวเอาแต่จ้องโทรศัพท์หน้านิ่วคิ้วขมวด



“จะมีอะไรล่ะมันกำลังรอโทรศัพท์ผัว...โทรไปเองก็สิ้นเรื่อง” นาวว่ากัดอย่างหมั่นไส้ในท่าทีของพีท



“ผัวเหี้ยไรล่ะ...มึงอย่ามั่ว” พีทปฏิเสธเสียงแข็งไม่ยอมรับแต่ใบหน้าขึ้นสีแดงเป็นริ้ว



“จ้าๆไม่ใช่ผัวแต่ตัวติดกันยิ่งกว่าแฝดสยาม ทุกวันนี้บ้านช่องก็ไม่กลับหอบผ้าหอบผ่อนไปนอนหอเขา แบบนี้เขาเรียกว่าเป็นอะไรกันวะกั้ม” นาวเหลือบตามองพีทอย่างเอือมระอาแล้วเอ่ยปากจิกกัดอย่างหมั่นไส้



“มีผัวแล้วก็ยอมรับดีๆไหนๆก็แรดขนาดหนีตามเขาแล้วอย่าอายเลย” กั้มเอื้อมมือไปตบไหล่พีทเบาๆอย่างเข้าอกเข้าใจ แต่แฝงไปด้วยความกวนประสาทและสะใจที่ได้แกล้งเพื่อน



“พวกมึงนี่แม่ง!! บอกว่าไม่ใช่ผัวไงวะ” พีททำเสียงแข็งท่าทางขึงขังเถียงเพื่อนหน้าดำหน้าแดง แต่ไม่ได้ทำให้เพื่อนเชื่อได้เลยสักนิด นอกจากจะไม่เชื่อทั้งนาวและกั้มยังส่งยิ้มล้อเลียนให้ด้วย



“พีทจะมีสามีได้ไง...พีทเป็นผู้ชายนะ” เอยเงยหน้าจากรูบิกในมือแล้วพูดขึ้นมาบ้าง หลังจากฟังเพื่อนที่เอาแต่เถียงกันมานาน ใบหน้าหวานแสดงความไม่เข้าใจออกมาอย่างไม่เสแสร้ง



“นี่กูชักสงสารพี่กิงเวรกรรมของพี่เขาจริงๆดันมาชอบเอ๋อๆแบบไอ้เอย” นาวมองหน้าเอยอย่างอ่อนใจแล้วถอนหายใจดังเฮือก



“ตอนนี้มันก็ยังไม่รู้เลยมั้งว่าโดนเขาจีบ” กั้มเองก็ส่ายหัวออกมาอย่างเหนื่อยใจ



“อ้าว” เอยทำมู่ทู่ใส่เพื่อนเล็กน้อยเพราะเคืองที่อยู่ๆก็โดนว่า



“โง่กว่าไอ้เลิฟก็ไอ้เอ๋อเอยเนี่ยแหละ” แม้แต่พีทที่เป็นฝ่ายโดนแซวยังอดพูดออกมาด้วยความเอือมไม่ได้ เขาไม่รู้ว่าเพื่อนสองคนของตัวเองรอดพ้นจากปากเหยี่ยวปากกามาจนถึงทุกวันนี้ได้ยังไง ถ้าเป็นคนปกติทั่วไปเขารู้กันตั้งนานละถ้าจะรุมแซวกันขนาดนี้



ไอ้เอยนี่ที่ตามคนไม่ค่อยทันเพราะเป็นเด็กอนามัย พ่อแม่เลี้ยงเหมือนไข่ในหินก็พอเข้าใจได้อยู่ แต่ไอ้เลิฟนี่สิแฟนก็เคยมีทำงานกลางคืนมาก่อน ชีวิตรันทดเหมือนนางเอกละครหลังข่าว ทำไมมันยังคงความโง่ความใสซื่อไว้กับตัวได้ประนึ่งเกลือรักษาความเค็ม หรือมันจะเป็นอย่างที่เขาว่ากันคนดีเจออะไรมามันก็ดีอยู่วันยังค่ำ คิดแล้วเหนื่อยใจเพราะดีแบบนี้ไงถึงได้ตามหลังพี่ปอต้อยๆ



ผัวะ!!!



“ด่าอะไรกูหมาพีท” เลิฟที่พึ่งตามมาทีหลังตบหัวพีทเบาๆ เพราะได้ยินว่าเพื่อนกำลังนินทาก่อนจะนั่งลงที่ว่างข้าง



“ด่าว่ามึงโง่ไง...แล้วนี่ไม่ไปกินข้าวกับผัว” พีทว่าและถามกลับด้วยความแปลกใจ เพราะเป็นอันรู้กันดีว่าเลิฟแทบจะไม่เคยห่างพี่ปอ ตัวติดกันยิ่งกว่าที่เขาตัวติดกับไอ้พี่อาร์ต เวลาที่เลิฟจะมานั่งรวมกลุ่มกับพวกเขาแบบนี้ไม่มีหรอก



“ปอกลับไปแล้วน่ะ” เลิฟตอบออกมาเสียงแผ่วเบาแล้วหลุบตามองตักตัวเอง



“อ้าว…พี่เขาไม่เข้าประชุมเหรอวะ” พีทหันไปถามตาโตเพราะบ่ายนี้มีประชุมจากพวกรุ่นพี่ ถ้าไม่เข้านี่ถือว่าไม่ผ่านรุ่นเลยนะ แต่คิดอีกทีใครจะกล้าทำอะไรพี่แกล่ะแค่ปรายตามองก็สยองแล้ว ขนาดพวกรุ่นพี่ที่ชอบกร่างใส่รุ่นน้องจะหาเรื่องพี่ปอเพราะเห็นอยู่ในมาดเด็กเรียน จนทุกวันนี้ยังไม่กล้าเดินเฉียดพี่เขาเลยไม่รู้ว่าไปโดนอะไรมา



“ไม่รู้สิ...นี่พวกมึงกินข้าวยัง” เลิฟหันมาถามเพื่อนเสียงร่าเริงพร้อมรอยยิ้ม แต่คนที่เป็นเพื่อนกันมานานก็มองออกว่าเจ้าตัวฝืนทำ



“ไม่เป็นไรนะเลิฟ” แม้แต่เอยที่ตามอะไรใครไม่ค่อยทันยังรู้สึกได้ และอดไม่ได้ที่จะกอดอีกฝ่ายเพื่อให้ปลอบโยน



“ให้กูไปด่าพี่ปอให้มะ” พีทว่าขึ้นมาบ้างอย่างหงุดหงิด



“เอาดิ...มึงกล้าด่าเหรอ” เลิฟว่ายิ้มๆแต่พีททำหน้าแหยงๆพร้อมส่ายหัวไปมา



“แล้วก็ปากดี” นาวส่งสายตามองพีทอย่างดูถูก



“ว่าแต่กูมึงกล้าไหมล่ะ” พีทเถียงกลับพร้อมถลึงตาใส่นาว



“ถึงเวลากูกล้าทำยิ่งกว่าด่าอีก” นาวว่าด้วยท่าทางจริงจัง



“เดี๋ยวกูจะรอดู” พีทมองนาวอย่างไม่เชื่อ



“พอๆแดกข้าวกัดกันอยู่ได้” กั้มรีบห้ามทัพก่อนที่เพื่อนจะเถียงกันไม่จบ



“เออ!!!” นาวกับพีทกระแทกเสียงตอบพร้อมกันและเปลี่ยนเป็นเถียงกันทางสายตาแทน จนเลิฟหลุดหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ที่ดีขึ้น ส่วนกั้มส่ายหัวไปมาอย่างเหนื่อยใจแล้วเลิกสนใจกินข้าวไปเงียบๆ และเอยที่พยายามห้ามพีทกับนาวอย่างสุดชีวิตเพราะคิดว่าทั้งคู่ทะเลาะกันจริงๆ



“ไอ้ป๊อดเอ้ย” นาวว่าออกมาลอยๆแต่กระทบพีทเต็มๆ



“นาวอย่าชวนพีททะเลาะสิ” เอยยังคงพยายามห้ามปราม ส่วนกั้มกับเลิฟเลิกสนใจไปนานแล้วเพราะสองคนนี้ปะทะฝีปากกันประจำ และเอยก็บ้าจี้ตามห้ามแบบนี้ทุกครั้ง



“ใครป๊อดวะ...เฮ้ย!!!” พีทที่ตั้งท่าจะเถียงต้องร้องออกมาดังลั่นด้วยความตกใจ เมื่อจู่ๆก็มีน้ำเย็นจัดราดลงมาใส่จนเปียกชุ่มทั้งตัว และไม่ใช่แต่พีทที่ตกใจแม้แต่เพื่อนและคนอื่นในโรงอาหารก็หันมามองเป็นตาเดียว



พีทลุกขึ้นยืนมองสภาพเปียกปอนของตัวเองอย่างหัวเสีย แล้วหันกลับไปหาคู่กรณีอย่างเอาเรื่องที่ซุ่มซ่ามทำน้ำหกใส่เขา แต่ก็ต้องชะงักไปเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นผู้หญิง ก่อนจะแปลกใจเล็กน้อยเมื่อเจอสายตาที่มองกลับมาแบบไม่เป็นมิตร



หญิงสาวปราสายตามองพีทตั้งแต่หัวจรดเท้าแสดงออกถึงความเป็นศัตรู ก่อนจะเหยียดยิ้มให้และเดินผ่านโดยกระแทกไหล่พีทแรงๆอย่างจงใจ และไม่คิดแม้แต่จะเอ่ยปากขอโทษอะไรทั้งนั้น



พีทมองตามหลังหญิงสาวไปด้วยความงุนงง หันกลับมาหากลุ่มเพื่อนเพื่อหาคำตอบทัังหมดก็แสดงอาการงงไม่ต่างกัน จนในที่สุดพีทก็ได้แต่ก้มมองสภาพของตัวเองและถอนหายใจออกม าก่อนจะทรุดตัวลงนั่งที่เดิม



“อะไรของมันวะ” นาวพูดเสียงแข็งมองตามหลังอีกฝ่ายอย่างไม่สบอารมณ์



“มึงไปฟันเขาและทิ้งป่าววะ” กั้มเองก็มองตามและพูดในสิ่งที่คิดว่าใกล้เคียงความจริงที่สุดออกมา



“ฟันเหี้ยไรล่ะ...หน้ากูยังไม่เคยเห็นเลยเหอะ ดีนะน้ำแม่งเป็นน้ำเปล่า ซวยฉิบ” พีทบ่นงึมงำค่อนข้างจะหัวเสียไม่น้อย แต่ก็ต้องอยู่เฉยๆเพราะทำอะไรไม่ได้



“หรือว่าเด็กเก่าผัวมึง” นาวว่าขึ้นมาบ้างและนั่นทำให้พีทหยุดคิดตาม



“ไม่หรอกมั้ง” พีทปฏิเสธออกมาำม่เต็มเสียงเท่าไหร่ มันอาจจะจริงอย่างที่นาวพูดเพราะไอ้พี่อาร์ตเป็นคนเจ้าชู้แถมหน้าตาดี คงจะไม่ได้มีแค่ไอ้แต๋วเนยคนเดียวที่เป็นคู่ขา แต่ถ้าใช่อย่างที่ว่าพวกนั้นรู้ได้ไงว่าเขาเป็นอะไรกับพี่อาร์ต ในเมื่อเขาเองไม่เคยไปพูดที่ไหนและมั่นใจว่าพี่อาร์ตเองก็ไม่น่าจะพูด



“งั้นมันจะทำแบบนี้กับมึงทำไม ในเมื่อมึงก็บอกว่าไม่ใช่เด็กมึง” นาวตั้งคำถามขึ้นมาอย่างสงสัย



“หรือกูจะได้เขาตอนเมาวะ” พีทพึมพำขึ้นมาอีกครั้งอย่างไม่แน่ใจ พอหันหลังกับไปมองก็เห็นสาวเจ้าจ้องมาที่ตัวเองอย่างกินเลือดกินเนื้อ



“มึงนี่…..” แต่ยังไม่ทันที่นาวจะได้เอ่ยปากให้พรอะไรพีทต่อ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นขัดจังหวะซะก่อน



Tru…Tru...Tru…



“ช้า!!!” พีทกระแทกเสียงใส่โทรศัพท์อย่างหงุดหงิด ก่อนใบหน้าจะเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะร่วนดังมาจากปลายสาย



“(ฮ่าๆๆโทษทีครับพี่พึ่งตื่น...รอพี่เหรอ)”



“ไม่ได้รอ...ใครจะรอวะ” พีทว่าเสียงสะบัดแล้วส่งสัญญาณบอกเพื่อนว่าจะไปคุยโทรศัพท์ข้างนอก พร้อมกับได้รับสายตาล้อเลียนจากนาวกับกั้ม ส่วนเลิฟกับเอยที่ไม่รู้อะไรก็ได้แต่มองตามงงๆ



“(กินข้าวรึยัง)”



“กินจนจะกินอีกรอบแล้ว พี่มึงเหอะกินอะไรยัง” พีทว่าพร้อมกับเดินตรงออกไปทางออกโรงอาหาร และเป็นความบังเอิญที่ทางเดินต้องผ่านโต๊ะของหญิงสาวที่ทำน้ำหกใส่เขาพอดี



“หน้าด้าน” จังหวะที่เดินผ่านหญิงสาวคนเดิมก็พูดขึ้นมาลอยๆแต่เหมือนจงใจให้พีทได้ยิน จนพีทต้องหยุดชะงักหันกลับมามองด้วยความฉงน แต่หญิงสาวกลับทำเหมือนว่าไม่ได้พูดอะไรสร้างความหงุดหงิดให้พีทไม่น้อย



“(น้องพีทได้ยินพี่ไหม)”




“ห๊ะ...อะไรนะ” เสียงเรียกของอาร์ตทำให้พีทเลิกสนใจผู้หญิงคนนั้น และเดินออกไปข้างนอกด้วยความเร็ว



“(พี่ถามว่าเลิกเรียนรึยังครับจะได้ไปรับ...เหม่ออะไรน่ะเรา)”




“ไม่ได้เหม่อพอดีเห็นสาวสวย” พีทตอบกลับกวนๆซึ่งไม่ได้โกหกสักนิด ผู้หญิงคนนั้นสวยจริงๆแต่ค่อนไปทางสวยสยองนะ



“(นี่พี่ควรจะหึงไหมครับ)”



“เรื่องของพี่มึงเหอะ...ขอถามอะไรอย่างดิ” พีทว่าอย่างไม่ใส่ใจเพราะฟังจากน้ำเสียงหัวเราะร่วนของปลายสาย เจ้าตัวก็ไม่น่าจะใส่ใจอะไรเหมือนกัน สิ่งที่เขาสนใจตอนนี้คือคำพูดของนาวต่างหาก



“(ถาม?)”



“นอกจากไอ้แต๋วเนยเด็กเก่าพี่...พี่เคยคั่วเด็กคนอื่นในมอบ้างป่ะ” พีทตัดสินใจถามออกไปตรงๆเพราะขี้เกียจจะอ้อมค้อมให้เสียเวลา



“(มีอะไรรึเปล่าพีท)”



“ตอบมาเหอะน่า”




“(ก็มีบ้างตามประสาแต่ไม่ได้แบบเนย...พีทแน่ใจนะว่าไม่มีอะไร)”



“ไม่มีหรอกแค่เห็นพี่มึงหน้าม่อเลยสงสัย” พีทตอบปัดเพราะไม่อยากให้มันเป็นเรื่องเป็นราวอะไร ยิ่งคนในสายทำเสียงนิ่งๆแบบที่ไม่ค่อยทำยิ่งไม่น่าเล่าอะไรเยอะ เดี๋ยวทะลึ่งมาตบผู้หญิงละงามไส้เลยทีนี้



“(โอเคไม่มีก็ไม่มีแต่ถ้ามีพีทต้องบอกพี่นะ)”



“อือ”



“(แล้วว่าไงให้พี่ไปรับไหม)”



“ไม่ต้องอ่ะเดี๋ยวประชุมต่อตอนบ่ายเนี่ยไม่รู้เลิกกี่โมง” พีททำหน้าเซ็งทันทีเมื่อนึกขึ้นมาได้



“(งั้นไว้เลิกโทรมาละกันพี่ออกไปรับ...ไปเข้าประชุมได้แล้วเดี๋ยวโดนทำโทษหรอก)”




“ลองใครด่าดูดิพ่อจะสั่งคนใหญ่กว่าไปตืบ...ให้รู้ซะบ้างเนี่ยใคร” พีทว่าด้วยน้ำเสียงแบบไม่กลัวเกรงจนอาร์ตหลุดหัวเราะออกมา



“(เล่นเส้นเหรอเราถามเขารึยังว่าจะช่วยไหม)”



“อาร์ตกล้าปล่อยให้น้องโดนทำโทษเหรอ” พีทส่งเสียงอ้อนไปตามสาย



“(โอเคพี่ยอม...ไปเขาประชุมได้แล้วครับ)”



“อือ...พี่มึงอย่าลืมกินข้าวนะ” พีทกำชับด้วยความเป็นห่วงก่อนจะกดวางสายมองเวลาในโทรศัพท์ก็เลยไปพอควรแล้ว นาวเองก็ส่งข้อความมาบอกว่าตัวเองไปเข้าประชุมก่อนพีทถึงได้รีบจ้ำอ้าวเดินไปที่คณะบ้าง ถึงจะบอกว่าเล่นเส้นเอาเข้าจริงๆก็ไม่กล้าหรอกแถมยังดูเอาเปรียบคนอื่นเกินไป




ส่วนเรื่องของผู้หญิงที่ดูเหมือนจงใจจะเข้ามาหาเรื่องคนนั้นก็คงต้องเอาไว้ก่อน เพราะเขาไม่รู้จุดประสงค์แน่ชัดของอีกฝ่ายบางทีอาจจะไม่ได้เป็นแบบที่นาวคิด แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงเขาก็ไม่รู้จะรับมือยังไงเหมือนกัน ในเมื่ออีกฝ่ายเป็นผู้หญิงยิ่งคิดยิ่งปวดหัว แต่ตอนนี้สิ่งที่เขาควรจะนึกถึงมากที่สุดคือภาวนาให้ตัวเองไปทันเข้าประชุมจะดีกว่า



...

...



แกร่ก…..



เสียงประตูห้องที่ถูกเปิดออกกว้างในช่วงเย็น พร้อมกับการปรากฎตัวของร่างบางในสภาพเหนื่อยอ่อน ทำเอาอาร์ตที่นั่งอ่านหนังสือเรียนอยู่ขมวดคิ้วมุ่น



“เหนื่อยแม่ง!!!” พีทโวยวายดังลั่นพร้อมกับถอดรองเท้าเหวี่ยงทิ้งอย่างหงุดหงิด ตามด้วยเนคไทด์เข็มขัดที่เหวี่ยงไปคนละทิศละทาง ก่อนเจ้าตัวจะโยนกระเป๋าเป้ไปกองที่โซฟา แล้วเดินไปนั่งหน้างออยู่บนเตียง



“ทำไมเลิกเร็วล่ะ” อาร์ตถามอย่างแปลกใจเพราะวางสายจากพีทไปประมาณบ่ายโมงตอนนี้ก็บ่ายสามเท่านั้นเอง



“ไม่รู้แม่ง...ไอ้พี่วินจำไว้เลยนะแม่ง” พีทตอบกลับอย่างใส่อารมณ์ปากก็บ่นพึมพำด่าวินไม่หยุด



“แล้วทำไมไม่โทรหาพี่ล่ะจะได้ไปรับ” อาร์ตว่าอย่างไม่ใส่ใจอาการพาลของอีกฝ่าย ก่อนจะลุกขึ้นไปเก็บข้าวของที่กระจัดกระจายของพีทให้เข้าที่



“ติดรถไอ้พี่วินมาเลยไม่โทร...อย่าให้เจอหน้าอีกนะมึงตายแน่” พีทยังคงหงุดหงิดไม่เลิกแถมยังแสดงความอาฆาตใส่วินไม่ลดละ จนอาร์ตอดแปลกใจไม่ได้เพราะว่ากันตามตรง วินนี้เหมือนเบ๊คนที่สองของน้องรองจากเขาเลยนะ แถมเข้ากันดีเป็นปี่เป็นขลุ่ยซ้อว่าไงวินว่าตาม ไม่รู้ไปทำอีท่าไหนเด็กดื้อของเขาถึงโมโหมันแบบนี้



“ไอ้วินมันทำอะไรให้” อาร์ตเดินมานั่งลงข้างๆแล้วจัดการอุ้มพีทขึ้นนั่งตัก จมูกโด่งก็คลอเคลียสูดความหอมของแก้มเนียนไปด้วย



“ก็แม่ง...ไอ้พี่วินมันสั่งวิ่งรอบสนามกลางแดดเปรี้ยงๆตั้งห้ารอบ” พีทว่าเสียงเขียวใบหน้าแสดงความโกรธแบบจริงจัง



“ทำไมล่ะ” อาร์ตถามอย่างแปลกใจ



“แค่เข้าสายนิดหน่อยทำไมต้องสั่งวิ่งวะ...อย่าให้เจอนะแค้นนี้ต้องชำระ” พีทว่าอย่างหมายมาดในหัวมีแผนฆาตกรรมวินเอาไว้เพียบ



“มันก็ทำตามหน้าที่” อาร์ตพยายามพูดแก้ตัวแทนรุ่นน้องคนสนิท ผลที่ได้คือตาเขียวปั๊ดจากพีทที่มองมา



“แล้วไงแต่นี่ซ้อไง...เข้าใจไหมว่าซ้ออ่ะ” พีทชี้นิ้วเข้าหาตัวเองแสดงอาการงอแงเหมือนเด็กโดนขัดใจ จนอาร์ตได้แต่ส่ายหัวอย่างอ่อนใจ ทั้งๆที่เจ้าตัวก็ไม่ได้อยากบอกให้ใครรู้แท้ๆ ทีแบบนี้มาทำโวยวาย



“งั้นก็บอกทุกคนไปว่าเราเป็นแฟนพี่” อาร์ตลองว่าแหย่ไปเพราะรู้ดีว่าพีทจะตอบยังไง



“ไม่เอาอ่ะไว้รับน้องจบก่อน” พีทส่ายหัวปฏิเสธทันทีเพราะไม่ชอบที่จะต้องเป็นจุดสนใจ และได้รับการปฏิบัติตัวด้วยเป็นพิเศษ ถ้าบอกไปว่าเป็นแฟนพี่อาร์ตยังไงพวกรุ่นพี่ก็คงไม่กล้าลงโทษอะไรเขามากมาย แต่แบบนั้นมันต้องแลกกับความเคารพจากทุกคนที่มีต่อพี่อาร์ตเหมือนกัน ซึ่งเขาไม่อยากให้เป็นแบบนั้น



“งั้นก็เลิกบ่นแล้วค่อยไปแกล้งไอ้วินทีหลัง”




“อย่าพูดชื่อพี่มันได้ป่ะคิดแล้วแค้นโคตรเมื่อยเลยเนี่ย แล้วพวกพี่แม่งโคตรลำเอียงรอบที่แล้วไอ้เลิฟสายไม่เห็นจะทำโทษอะไรเลย รอบนี้พี่ปอก็ไม่เข้าปะชุมถ้าพวกพี่ๆมันยังไม่ทำอะไรสองคนนี้นะกุจะประท้วง อำนาจมืดชัดๆ” พีทยังคงบ่นงึมงำด้วยใบหน้างอง้ำ เจ้าตัวคงจะโกรธจริงจังรอบนี้คิดๆไปแล้วก็สงสารวินที่ต้องรับกรรม



“โมโหขนาดนี้ทำไมน้องพีทไม่จัดการไอ้วินตั้งแต่แรกเลยล่ะปล่อยมันกลับห้องทำไม” อาร์ตว่าอย่างสงสัยก็กลับมาหอพร้อมกันทำไมไม่จัดการไปซะตั้งแต่แรก



“มึงดูสภาพกูดิพี่คิดว่ากูมีแรงไหมนี่ก็แทบคลานกลับห้องแล้วเหอะ” พีทหันมาทำหน้าเหวี่ยงใส่อาร์ต



“ฮ่าๆก็ตอนนี้พี่เห็นเราดูไม่เป็นไรเลย”




“ก็หายเหนื่อยแล้วไง โว๊ะ!!!” พีทส่งเสียงในลำคอเบาๆที่อาร์ตไม่ได้อย่างใจตัวเองสักอย่าง กรณีแบบนี้ที่เขากำลังโมโหอยู่พี่มันควรจะเข้าข้างเออออตามสิ ไม่ใช่มาพูดจากวนประสาททำตัวเป็นพระปางห้ามญาตให้เสียอารมณ์แบบนี้



“เด็กดื้อเอ้ย” อาร์ตอดที่จะว่าออกมาด้วยความเอ็นดูไม่ได้เลยเจอพีทหันกลับมามองหน้าทันควัน



“ใครเด็กวะ!! แล้วนี่พี่มึงจะเลิกลูบได้ยังเนี่ย” พีทโวยวายดังลั่นพร้อมกับจับมือซุกซนของอาร์ตที่ล้วงเข้ามาในเสื้อและลูบไล้บนลำตัวเขาไม่หยุด




“อ๊ะ...ไอ้พี่อาร์ต” พีทถึงกับร้องเสียงหลงเมื่ออาร์ตใช้ปลายนิ้วบดขยี้ลงไปที่ยอดอกแรงๆ



“หืม...เรียกทำไมครับ” อาร์ตตอบเสียงงึมงำในลำคอเพราะปากไม่ว่ากำลังขบเม้มที่ซอกคอขาวอยู่ ส่วนมือก็ยังคงหยอกล้อยอดอกเล็กอย่างต่อเนื่อง มืออีกข้างก็เลื้อยหายเข้าไปในกางเกงของพีท



“อื้อ...อ๊ะ....ไอ้พี่อาร์ตหื่นอะไรวะแม่ง!!!” พีทโวยวายออกมาเบาๆใบหน้าเริ่มแดงก่ำตามแรงอารมณ์ที่ได้รับการปลุกเร้า



“อย่าโวยวายสิน้องพีท” อาร์ตดุแกมหยอกพีทเบาๆมือและริมฝีปากยังคงทำหน้าที่ก่อกวนสร้างความปั่นป่วนให้อีกฝ่าย



“หยุด...อื้อ...อ๊ะ...หยุด...อืม...บอกให้หยุดไงวะ” พีทว่าเสียงเขียวและจับมือที่หยอกล้อแก่นกาตัวเองแน่น แล้วหันกลับมามองอาร์ตตาขวาง



“ใจร้าย” อาร์ตทำหน้าตาหงอยใส่พีทอย่างออดอ้อน



“ไม่ต้องมาอ้อนเลยไอ้หื่น” พีทเองก็พยายามใจแข็งไม่สนใจท่าทางของอาร์ตทั้งที่ใจอ่อนยวบไปหมด



“นะ...ไม่ได้เหรอ” อาร์ตสบตาพีทอย่างมีความหวังแล้วส่งเสียงอ้อนเข้าไปอีก ส่วนพีทก็ได้แต่สบตาเหมือนลูกแมวขี้อ้อนของอาร์ตโดยไม่พูดอะไร สุดท้ายก็ต้องเม้มปากตัวเองแน่นอย่างชั่งใจก่อนจะปล่อยมือที่จับอีกฝ่ายเอาไว้



“พี่มึงแม่งก็แบบนี้ทุกที” พีทพึมพำตอบออกมาเสียงแผ่วอย่างยอมแพ้ พร้อมกับที่อาร์ตยิ้มกว้างออกมาอย่างชอบใจ และจากนั้นลูกแมวตัวน้อยก็กลายร่างเป็นพ่อเสือตัวใหญ่



“น่ารักที่สุดเมียพี่” อาร์ตยิ้มทะเล้นแล้วดึงพีทเข้ามาประกบจูบในทันที





2 Be Con...

+++++++++++++++

ตอนหน้าเค้าต้องได้กันค่ะ 55

รักคนอ่านจ้า ^^



 

 

 

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
งานนี้มีตบ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
นาว เพื่อนพีทโดนหมั่นไส้ นาวตบคืนให้พีทหน่อยซิ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ greensnake

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +920/-14
พี่อาร์ตได้ทั้งแฟนได้ทั้งลูกสินะ พีทฮาเกินไปแล้ว :m20:
ไม่อยากให้ใครรู้เรื่องความสัมพันธ์ (ซึ่งเขารู้กันหมดแล้ว)
แต่มาโวยวายกับพี่มัน คืออยากให้พี่เขาจัดการให้ว่างั้น :hao3:
ให้มันรู้กันไปว่าเด็กใครเป็นเด็กใคร พีทมันน่ารักจริงๆ
แล้วพี่อาร์ตจะทำยังไงล่ะ ปลอบเด็กก่อนแล้วกันเนาะ
เรื่องอื่นค่อยว่ากัน :-[ ตอนหน้าๆ
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :กอด1:
+1และเป็ดค่ะ

ออฟไลน์ matchty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
    • MATCHTY-แมตตี้
คู่กัดฉบับรักเกินร้อย

By matchty



กัดครั้งที่

- 24 -



                “อ๊ะ...อืม…” พีทส่งเสียงครางอืออึงดังอยู่ในลำคอเป็นระยะ ริมฝีปากขบเม้มแลกเอนไซม์กับอาร์ตไม่ยอมห่าง เรียวลิ้นเองก็ผลัดกันเกี่ยวกระหวัดหยอกล้อไม่ยอมกัน



ฝ่ามือเล็กเอื้อมขึ้นไปขยุ้มเส้นผมอาร์ตจนเจ้าตัวรู้สึกเจ็บ แต่ถึงอย่างนั้นปลายนิ้วซุกซนก็ยังไม่หยุดสะกิดเขี่ยที่ยอดอกเล็ก ในขณะที่ปากยังคงทำหน้าที่บดจูบได้ดีไม่ขาดช่วง



อาร์ตเคลื่อนฝ่ามือออกจากแผ่นอกบางอย่างอ่อยอิ่ง แล้วค่อยปลดกระดุมเสื้อของอีกฝ่ายทีละเม็ด มืออีกข้างที่ว่างก็ปลดกระดุมกางเกง ส่วนริมฝีปากก็ผละออกมาดูดเม้มที่หลังคอเบาๆ



อาร์ตไล่ริมฝีปากดูดเม้มลงมาที่ลาดไหล่ ส่งปลายลิ้นไล่เลียลงมาตามแนวกระดูกสันหลัง พร้อมกับถอดเสื้อออกจากร่างบางแล้วเขวี้ยงทิ้งไม่ไยดี



“อ๊ะ…ซี้ดดด” พีทสะดุ้งเล็กน้อยและหลุดเสียงร้องเพราะความเจ็บออกมาเบาๆ เมื่ออาร์ตกัดลงมาที่ต้นคอเต็มแรงตามด้วยการเลียซ้ำให้แสบเล่นๆ จนพีทต้องหันมามองค้อนและหยิกลงบนท่อนแขนแกร่งแรงๆเป็นการเอาคืน



อาร์ตสบตาเอาเรื่องของอีกฝ่ายแล้วยิ้มกรุ้มกริ่ม ก่อนจะจับฝ่ามือเล็กนั้นขึ้นมาจูบแล้ววกกลับไปหอมแก้มใส ที่ตอนนี้ขึ้นสีแดงระเรื่อจนเห็นได้ชัด



“หอม” อาร์ตว่าพร้อมกับระดมหอมแก้มพีทไม่หยุดทั้งสองข้าง



“อือ...พอได้แล้ว...หอมอะไรล่ะมีแต่เหงื่อ” พีทเถียงกลับเสียงแผ่วเขินอายไม่น้อยกับคำหวานของอาร์ต ทั้งที่ควรจะชินเพราะเจ้าตัวสรรหาคำพูดหวานๆมาพูดใส่ตลอดแท้ๆ แต่มันไม่เคยชินเลยสักทีแถมยังเขินตามได้ทุกครั้ง



“เถียงเก่งจริงๆ” อาร์ตส่ายหัวอย่างอ่อนใจก่อนจะขบเม้มริมฝีปากลงที่ซอกคอ พร้อมๆกับฝ่ามือที่เลื้อยหายเข้าไปในกางเกงของอีกฝ่าย จากนั้นก็กอบกุมแก่นกายเล็กที่กำลังตื่นตัวไว้ในฝ่ามือ แล้วขยับมันเบาๆอย่างหยอกเย้า



“อ๊ะ...อืม...อื้อ” พีทหลุดเสียงครางออกมาผะแผ่วเมื่ออาร์ตนวดคลึงเบาๆที่แก่นกายและลูกบอลแฝด แผ่นหลังเล็กเอนผิงแนบชิดกับแผ่นอกกว้าง ใบหน้าแหงนเงยเพราะแรงอารมณ์ที่ถูกกระตุ้น



“อาร์ต...อื้อ...ระ...เร็ว” พีทร้องขอออกมาเสียงสั่นเพื่อให้อาร์ตขยับฝ่ามือเร็วขึ้น สะโพกบางขยับเล็กน้อยตามการนำของฝ่ามือ แก่นกายรู้สึกปวดหนึบไปหมดเพราะต้องการปลดปล่อย



อาร์ตเองก็ไม่ได้ใจร้ายจัดการขยับฝ่ามือระรัวเร็ว พร้อมทั้งส่งปลายนิ้วไปนวดคลึงตรงส่วนปลายยอดเพื่อเพิ่มความเสียวให้ มืออีกข้างก็ใช้ปลายนิ้วบดขยี้ที่ยอดอกเล็ก ส่วนริมฝีปากก็คลอเคลียดูดเม้มไปตามซอกคอและลาดไหล่



“อ๊ะ...อ๊าาาาาาา” ในที่สุดพีทก็ปลดปล่อยออกมาเต็มฝ่ามือหนา พร้อมกับเอนซบอาร์ตในสภาพหมดแรง



“อย่าพึ่งเหนื่อยสิ” อาร์ตกระซิบที่ข้างหูพร้อมกับกัดลงไปเบาๆที่ใบหูนิ่ม



“พีท...ยืนขึ้นหน่อย” อาร์ตบอกพร้อมกับพีทที่ลุกขึ้นยืนตามอย่างว่าง่ายด้วยขาที่สั่นระริก จากนั้นอาร์ตก็จับพีทให้หันกลับมาเผชิญหน้า แล้วจัดการดึงกางเกงลงมาตามขาเรียวก่อนจะตบเบาๆที่ต้นขาตัวเอง เป็นการเรียกให้พีทกลับมานั่งลงที่เดิม



พีทถกขาออกจากกางเกงที่ลงไปกองตรงข้อเท้า แล้วเดินเข้าไปนั่งคร่อมลงบนตักอาร์ตอย่างว่าง่าย ก่อนจะโดนอาร์ตกระชากต้นคอเข้าไปกดจูบบดขยี้อย่างเร้าร้อน



“อื้มมมมม” พีทส่งเสียงครางเป็นระยะในลำคอปลายลิ้นเกี่ยวกระหวัดหยอกล้อจนเกิดเสียงดัง พร้อมกับล้วงฝ่ามือเข้าไปในเสื้อของอาร์ตลูบไล้ไปมาทั่วแผ่นหลังกว้าง ก่อนจะจับที่ชายเสื้ออีกฝ่ายแล้วจัดการถอดออกให้โดยที่เจ้าตัวให้ความร่วมมืออย่างดี



อาร์ตผละริมฝีปากถอยห่างออกมาแล้วพรมจูบลงมาตามข้างแก้ม ปลายคาง วกกลับไปส่งปลายลิ้นหยอกเย้าใบหูนิ่ม ไล่ปลายลิ้นดูดดึงสร้างรอยเรื่อยมาถึงซอกคอขาว กดจูบลงมาจนถึงแผ่นอกบางขาวผ่อง จากนั้นก็ตวัดปลายลิ้นหยอกเอินยอดอกเล็ก ส่วนอีกข้างก็ส่งปลายนิ้วไปบดขยี้อย่างเท่าเทียม



อาร์ตอ้าปากงับลงไปดูดดึงยอดอกอย่างหื่นกระหาย ละเลงลิ้นเกี่ยวกระหวัดจนแข็งขึ้นเป็นไต ก่อนจะสลับมาหยอกเอินอีกข้างบ้าง ส่วนฝ่ามือหนาก็บีบเค้นไปตามลำตัวขาวผ่องจนขึ้นรอยมือ



“อ๊ะ...ซี๊ดดดด…อืม…” พีทสะดุ้งสุดตัวและส่งเสียงครางออกมา รู้สึกเจ็บไม่น้อยที่อาร์ตกัดลงบนจุกนมเต็มแรงอย่างจงใจ แต่มันก็มาพร้อมกับความเสียวอย่างถึงใจ



สะโพกบางของพีทส่ายร่อนบดเบียดลงบนท่อนลำโป้งนูนใต้ร่มผ้าของอาร์ตอย่างยั่วเย้า ยอดอกแอ่นเข้าหาริมฝีปากหนาอย่างเต็มใจ มือเล็กจิกลงที่ไหล่กว้างแน่นเพราะความสาดเสียวที่กำลังตีวนในช่องท้องไม่หยุด



“พีทครับ...คนดี...อ้าปากหน่อย” อาร์ตกระซิบบอกเสียงพร่ารู้สึกปวดหนึบไปหมดที่ช่วงล่าง จนต้องบีบเค้นที่สะโพกอีกฝ่ายแรงๆเพื่อระบายอารมณ์



“อ๊าาาาา” พีทหลุดเสียงครางออกมาอีกครั้งก่อนจะเผยอริมฝีปากขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็งับลงไปที่ปลายนิ้วของอีกฝ่ายเบาๆ ก่อนจะดูดดึงนิ้วทั้งสามจนชุ่มน้ำลาย แล้วเปลี่ยนเป็นประกบจูบกับอาร์ตต่อทันที



อาร์ตไล่ปลายนิ้วลงไปหยอกล้อตรงปากทางเข้า มืออีกข้างก็บีบแก้มก้นนิ่มจนแทบจะเละคามือ ก่อนจะดันนิ้วเข้าไปในช่องทางคับแคบขยับเข้าออกช้าๆ แล้วเพิ่มนิ้วที่สองที่สามเข้าไปตามลำดับ



“อ๊ะ...อึ่ก…ลึกกว่านี้อีกพี่อาร์ต” พีทร้องขอเสียงสั่นเมื่ออาร์ตขยับนิ้วรัวเร็วแถมด้วยการใช้นิ้วเปิดอ้าขยายช่องทาง จนพีทถึงกับดิ้นพล่านด้วยความต้องการท่วมท้น อยากได้อะไรที่ใหญ่กว่านิ้วอะไรที่คุ้นเคยดีเข้ามาเติมเต็ม



“นิ้วมันลึกได้แค่นี้แหละน้องพีท” อาร์ตเอ่ยเย้าพร้อมหัวเราะออกมาเบาๆ เลยโดนกำปั้นพิฆาตทุบเข้ากลางหลังเต็มรัก



ปึ่ก!!!!



“อุ่ก!!...ทำร้ายร่างกายกันตลอด” อาร์ตนิ่วหน้าเล็กน้อยก่อนจะขยับนิ้วเข้าออกรัวเร็วที่ช่องทางรักเป็นการเอาคืน



“อ๊ะ...ก็ใครชะ...อื้อ…ใช่...อ๊า...ให้กวนตีนล่ะ” พีทเถียงกลับอย่างไม่ลดลาวาศอก ช่องทางรักก็ตอดรัดนิ้วเรียวของอาร์ตถี่ยิบ



“ปากดี” อาร์ตกัดบนริมฝีปากของพีทอย่างหมั่นเขี้ยว พร้อมกับถอนนิ้วทั้งหมดออกมาเพื่อเปลี่ยนเป็นท่อนลำของตัวเองแทน



“อาร์ตไม่สดนะ” พีทบอกอาร์ตเสียงกระท่อนกระแท่น จนอาร์ตที่กำลังจะหยิบอาวุธออกมารบต้องชะงักและมองพีทด้วยความไม่เข้าใจ



“น้องยังไม่ได้เตรียมตัว” พีทว่าพร้อมใบหน้าแดงก่ำก่อนจะรีบซุกลงที่ซอกคอเพราะความอาย เขาเรียนรู้เรื่องพวกนี้จากการหลอกถามเลิฟ ซึ่งเจ้าตัวก็เล่าไปเขินไปและมันทำให้เขารู้ ว่าการมีผัวสักคนไม่ใช่เรื่องง่ายเลยต้องดูแลเตรียมตัวสารพัด



“เข้าใจแล้วครับ” อาร์ตหอมแก้มพีทแรงๆให้กับความน่ารัก ก่อนจะเอี้ยวตัวไปหยิบถุงยางที่ลิ้นชักหัวเตียงพร้อมกับเจลหล่อลื่น



“ใส่ให้หน่อย” อาร์ตยื่นถุงยางให้พีทซึ่งเจ้าตัวก็รับไว้ และลงไปนั่งตรงหว่างขาเพื่อทำตามสั่งอย่างไม่อิดออด แต่ก่อนที่พีทจะได้ลงมือทำอะไรอาร์ตก็ยื่นนิ้วลงมาแตะที่ริมฝีปาก แล้วนวดคลึงไปมาเบาๆอย่างยั่วเย้า



“ใช้ปากนะ” คำพูดของอาร์ตทำเอาพีทตาโตพร้อมใบหน้าแดงซ่าน ก่อนเจ้าตัวจะเม้มปากแน่นแล้วพยักหน้ารับคำเบาๆ



ทันทีที่ท่อนลำของอาร์ตได้รับการปลดปล่อยออกมาจากพันธนาการ มันก็ดีดผึงขึ้นชี้หน้าพีทในสภาพพร้อมรบโดยที่ไม่ต้องทำอะไรมาก พีทจับรวบท่อนลำใหญ่โตนั้นเอาไว้แล้วขยับขึ้นลงช้าๆ ก่อนจะโน้มตัวลงไปจุมพิตมันเบาๆที่ส่วยปลายอย่างรักใคร่แล้วอ้าปากครอบลงไป จัดการผงกหัวขึ้นลงเป็นจังหวะจากนั้นก็ผละออกมาเล็กน้อย



พีทเปลี่ยนเป้าหมายไปหาลูกบอลแฝดด้านล่างแล้วอ้าอมหยอกล้อไปมา จากนั้นก็ส่งปลายลิ้นไล่เลียไปตามความยาวของท่อนลำ หมุนวนเน้นปลายลิ้นที่ส่วนหัวอย่างหนักหน่วงแล้วถอยห่างออกมา



พีทหยิบถุงยางขึ้นมาแล้วแกะมันด้วยปากหยิบไปสวมลงบนส่วนหัวของท่อนลำตรงหน้า และเปลี่ยนไปใช้ริมฝีปากครอบทับดันลงไปจุดสุดความยาว สวมใส่ด้วยปากให้อีกฝ่ายตามคำขอ



“พอแล้วน้องพีทขึ้นมา” อาร์ตว่าเสียงพร่าแล้วกระชากตัวพีทขึ้นมาในทีเดียว แล้วจัดการจับตัวอีกฝ่ายให้มานั่งคร่อมทับที่หน้าตัก ท่อนลำตอนนี้ปวดหนึบไปหมดด้วยความทรมานที่อยากจะปลดปล่อย แทบจะกลั้นเอาไว้ไม่อยู่ตั้งแต่เด็กดื้อหยอกล้อกับอาวุธของตัวเอง



“ยกสะโพก” อาร์ตกระซิบบอกที่ข้างหูพร้อมทั้งส่งปลายลิ้นไปเลียวนอย่างหยอกเย้า จับอาวุธพร้อมรบของตัวเองให้ตั้งตรงช่องทางรัก แล้วอัดสวนกระแทกเข้าไปทีเดียวในจังหวะเดียวกันกับที่พีทกดตัวลงมา



“อ๊าาาาาาาา” พีทส่งเสียงครางออกมาดังลั่นพร้อมกับน้ำตาที่ซึมออกมาอย่างห้ามอยู่ ก่อนจะทรุดตัวซบลงไปที่ไหล่กว้างอย่างหมดแรง ช่องทางรักรู้สึกแสบและจุกไปหมดทั่วบริเวณท้องน้อย รับรู้ได้ดีถึงความใหญ่โตที่อยู่ภายในร่างกาย



“โอเคไหม” อาร์ตกดจูบลงที่ขมับชื้นเหงื่อของพีทและพยายามบังคับตัวเองให้อยู่นิ่งๆ เพื่อรออีกฝ่ายปรับสภาพให้ได้ซะก่อนทั้งที่อยากขยับใจจะขาด ยิ่งช่องทางรักตอดรัดถี่ยิบแบบนี้ยิ่งอยากกระแทกกระทั้นเข้าออกจนแทบบ้า



“โอเหี้ยไรล่ะทั้งเจ็บทั้งจุกบอกกี่รอบแล้วว่าอย่าเข้ามาแบบนี้ไอ้โรคจิต” พีทเงยหน้าขึ้นมามองอาร์ตตาเขียวปั๊ดและฟาดลงไปบนแผ่นอกอีกฝ่ายไม่ยั้งมือ



“ฮ่าๆไม่ชอบจริงดิ” อาร์ตทำหน้าล้อเลียนพร้อมกับกระแทกสะโพกเข้าหาเพื่อเอาคืน



“อ๊าาาาาาาา”




หลังจากนั้นก็ไร้เสียงตอบโต้ใดๆระหว่างคนทั้งคู่นอกจากเสียงครางระงมอันสุขสมของพีท และเสียงเนื้อกระทบเนื้อที่ดังประสานควบคู่กันไป พีทกับอาร์ตต่างสาดใส่ความต้องการอันเร่าร้อนใส่กันอย่างไม่มีออมแรง ยิ่งอาร์ตกระแทกกระทั้นด้วยแรงที่มากเท่าไหร่ พีทก็ขย่มสวนกลับด้วยแรงที่มากเท่ากันอย่างเท่าเทียม



พั่บ! พั่บ! พั่บ!



“อ๊ะๆๆๆ...อาร์ต...อ๊าาา” ร่างทั้งร่างของพีทโยกคลอนไปหมดตามแรงที่อัดกระแทกเข้ามา ใบหน้าแหงนเงยไปทางด้านหลังส่งเสียงครางเรียกชื่ออาร์ตไม่หยุด



อาร์ตตั้งหน้าตั้งตารัวกระแทกใส่เข้าไปไม่ยั้งและเน้นหนักในทุกจังหวะ มือหนาเอื้อมไปบีบเค้นแก้มก้นนิ่มทั้งสองข้างอย่างมันมือ ส่วนปากและลิ้นก็ละเลงหยอกล้อยอดอกชูชันตรงหน้าสลับไปมาไม่หยุด จนพีทได้แต่ดิ้นพล่านครางระงมขย่มสะโพกสวนเปิดรับทุกจังหวะการสอดใส่ และไม่นานพีทก็ปลดปล่อยทุกหยาดหยดออกมาเลอะเต็มหน้าท้องตัวเองและอาร์ต ก่อนจะซวนเซซบลงที่ไหล่กว้างอย่างหมดแรง



อาร์ตยกตัวพีทที่อ่อนแรงขึ้นจากตักแล้ววางร่างเล็กไว้บนเตียงกว้าง ก่อนจะตามมาคร่อมทับแล้วจับขาเรียวอ้าออกกว้างพร้อมทั้งดันขึ้นไปจนสะโพกบางลอยสูงจากที่นอน นัยน์ตาสีรัตติกาลที่ตอนดำสนิทกว่าทุกๆครั้งมองช่องทางรักบวมช้ำตรงหน้าอย่างหื่นกระหาย ก้มลงส่งปลายลิ้นเลียวนทักทายอย่างห้ามใจไม่อยู่แล้วเปลี่ยนเป็นจับท่อนลำบวมเป่งของตัวเองถูไถไปมา




“อาร์ต...อย่าแกล้ง...เข้ามา” พีทครางประท้วงเสียงสั่นพร้อมทั้งขมิบช่องทางรักรัวเร็วอย่างเชื้อเชิญ




อาร์ตถึงกับกลืนน้ำลายลงคอเสียงดังเมื่อเจอการยั่วยวนของพีท จัดการกระแทกตัวตนเข้าไปข้างในอย่างไม่รอช้าจากนั้นก็ถอดถอนออกมาจนเกือบหมดแล้วอัดกระแทกเสยกลับเข้าไปเต็มแรง ไม่เร่งเร้าจังหวะแต่เน้นหนักในทุกสัมผัสเข้าออก



“อ๊ะ...อาร์ต...อ๊ะ...ตรงนั้น” พีทแทบจะขาดใจตายให้ได้เดี๋ยวนั้นเมื่ออาร์ตกระแทกเข้ามาโดนจุดกระสันภายในปากทางรักรู้สึกระบบและแสบไปหมดจากการเสียดสที่หนักหน่วง ทั้งที่เมื่อก่อนกลัวแต่ตอนนี้เขากลับชอบและเสพติดเซ็กซ์ที่รุนแรง ยิ่งเวลาที่ความขรุขระของมุกขยับไปมาเสียดสีกับผนังนุ่มภายในเขายิ่งชอบ และหลงรักสัมผัสเร่าร้อนที่มาพร้อมกับความเจ็บปวด



ปึ่ก! ปึ่ก! ปึ่ก!



พั่บ! พั่บ! พั่บ!



เสียงหัวเตียงกระแทกกับผนังห้องสอดประสานเป็นจังหวะกับเนื้อที่กระทบกัน ช่องทางรักตอดรัดท่อนลำที่ผลุบเข้าออกของอาร์ตถี่ยิบ อาร์ตหมุนควงสะโพกและอัดเสยกระแทกเข้าไปอย่างหนักหน่วง ทุกแรงอัดกระแทกสร้างความจุกไปหมดทั่วช่องท้องของพีทแต่มันมาพร้อมความสาดเสียวจนแทบขาดใจ



“อ๊ะ...เจ็บ...อ๊าาาา” พีทครางออกมาเสียงสั่นรู้สึกแสบริเวณยอดอกไม่น้อย เมื่ออาร์ตกัดลงไปบนจุกนมเต็มแรงจนนึกว่าจะทำให้ขาด แล้วตามด้วยการพรมจูบไปทั่วแผ่นอกบางฝากรอยจูบรอยฟันนับไม่ถ้วน



“อ๊ะๆๆๆ...จุก...ช้าหน่อย...อ๊ะๆๆ...อาร์ต” พีทหลุดครางออกมาดังลั่นเมื่อจู่ๆอาร์ตก็เปลี่ยนจังหวะการขยับเป็นรัวเร็ว กระแทกกระทั้นเข้าออกอย่างรุนแรงถี่ยิบจนตัวพีทสั่นไหวโยกคลอนตามแรงอัดอย่างรุนแรง สะโพกบางถูกดันขึ้นสูงจนเหลือแค่ลำตัวท่อนบนที่ยังติดบนที่นอน



“อึ่ก...แน่นฉิบ” อาร์ตพึมพำเสียงพร่าแล้วตั้งหน้าตั้งตากดท่อนลำอัดกระแทกเข้าไปไม่ยั้ง ไม่สนใจฝ่ามือเล็กของพีทที่พยายามดันหน้าท้องแกร่งให้ผ่อนแรง ยิ่งได้เห็นใบหน้าที่บิดเบี้ยวไปด้วยความเจ็บปวดผสมสุขสมของอีกฝ่ายยิ่งกระตุ้นอารมณ์ให้ลุกหือ ซอยกระแทกรุนแรงถี่ยิบจนช่องทางรักแดงช้ำไปหมด



“อ๊ะๆๆๆๆๆ” พีทส่ายร่อนสะโพกรับการกระแทกรุนแรงของอาร์ตเป็นอย่างดี ช่องทางรักตอดรัดท่อนลำถี่ยิบทั้งเจ็บทั้งเสียวใจแทบขาด แขนสองข้างยกขึ้นโอบกอดกายแกร่งแน่นริมฝีปากประกบจูบแลกลิ้นกับอีกฝ่ายอย่างโหยหา ปลายเล็บจิกลงไปที่แผ่นหลังกว้างเพื่อระบายความซ่านเสียว



“อ๊าาาาาาา” พีทครางออกมาสุดเสียงพร้อมกลับปลดปล่อยออกมาอีกครั้งและทิ้งตัวลงนอนอย่างหมดแรง



อาร์ตจัดการเร่งเครื่องกระแทกรัวซอยเข้าออกถี่ยิบด้วยแรงทั้งหมดที่มี ก่อนจะเน้นหนักอีกสองสามครั้งและปลดปล่อยออกมาเต็มถุงยางในไม่ช้า อาร์ตยังคงแช่ตัวเองนิ่งอยู่แบบนั้นสักพักเพื่อปรับจังหวะการหายใจ แล้วค่อยๆดึงตัวเองออกมาและถอดถุงยางออกทิ้งลงที่ข้างเตียงอย่างไม่ใยดี



สายตามองร่างอ่อนระทวยของพีทด้วยความต้องการที่ยังไม่ลดลง หยิบถุงยางอีกชิ้นขึ้นมาสวมใส่แล้วจับร่างอ่อนแรงของพีทให้พลิกคว่ำ ดึงสะโพกบางให้ยกขึ้นสูงและสอดใส่ตัวตนเข้าไปข้างในอีกครั้ง



“อ๊าาา” พีทครางออกมาอีกครั้งรู้สึกแสบไปหมดที่ช่องทางรักเมื่ออาร์ตสอดใส่เข้ามาช้าๆ เหมือนจงใจให้รับรู้ถึงความขรุขระที่กำลังครูดไปทั่วผนังนุ่ม เป็นผลให้ภายในกลับมาตอดรัดตัวตนของอีกฝ่ายถี่ยิบในทันที



“อึ่ก...อื้อ...อ๊ะๆๆๆ”




หลังจากเข้าไปจนหมดอาร์ตก็กระชับสะโพกบางแน่นบีบแก้มก้นขาวจนขึ้นรอยมือ และอัดกระแทกเข้าใส่ไม่ยั้งรัวเร็วจนคนใต้ร่างสั่นสะเทือนไปทั้งตัว



พีทครางระงมดังลั่นห้องใบหน้าหวานส่ายไปมากับพื้นที่นอน มือเล็กขยุ้มที่ผ้าปูแน่นจนแทบจะขาดคามือ ลำตัวท่อนบนโยกคลอนถูกไถไปมากับเตียงอย่างรุนแรง ในขณะที่ช่องทางรักถูกอัดกระแทกเข้าหาด้วยจังหวะรักที่หนักหน่วง



อาร์ตอัดกระแทกรุนแรงจนสุดความยาวสลับกับหมุนควงไปมาชนิดไม่ผ่อนแรง เร่งเครื่องซอยเข้าหาสะโพกบางถี่ยิบยิ่งใกล้ปลดปล่อยยิ่งใส่ไม่ยั้ง ช่องทางรักของพีทเองก็ตอดรัดระรัวอย่างถึงใจจนแทบคลั่ง



“อ๊าาาาาา / อืม.....” เสียงครางแห่งความสุขสมดังออกมาจากปากของทั้งคู่พร้อมกับการปลดปล่อยอีกครั้ง พีททรุดตัวลงกับที่นอนทันทีอย่างหมดสภาพลมหายใจหอบเหนื่อยอย่างเห็นได้ชัด ส่วนอาร์ตเองก็ลมหายใจถี่กระชั้นไม่ต่างกันเท่าไหร่




อาร์ตดึงตัวเองออกมาช้าและถอดถุงยางลงไปกองไว้ที่เดียวกัน โน้มตัวลงจูบที่สะโพกบางไล่ขึ้นมาตามแนวกระดูกสันหลังจนถึงหลังคอแล้วดูดเม้มแรงๆจนขึ้นรอยแดง มือหนาลูบหัวชื้นเหงื่อของคนใต้ร่างเบาๆกดจูบลงที่หน้าผากเนียน แก้มใส และริมฝีปากแดงช้ำ ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนทับอีกฝ่ายทั้งตัว



“เหนื่อยเหรอ” อาร์ตถามพร้อมกับจมูกโด่งที่คลอเคลียไม่ห่าง



“อือ” พีทตอบเสียงเนือยๆและพยักหน้ารับอย่างหมดแรง



“เหนื่อยได้ไงนอนเฉยๆหรือเหนื่อยเพราะใช้เสียงเยอะ” อาร์ตล้อเลียนอีกฝ่ายพร้อมหัวเราะเบาๆในลำคอ



“ไอ้พี่อาร์ต!!!” พีทตวาดเสียงเขียวแต่แผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน พร้อมกับใช้หลังมือฟาดลงไปที่คนบนตัวแต่แรงที่ใช้ไม่ต่างกับสะกิดเท่าไหร่



“ฮ่าๆๆสงสัยจะเหนื่อยจริง” อาร์ตหัวเราะออกมาอย่างชอบใจแล้วกดจูบที่แก้มใสอย่างหมันเขี้ยว



“พี่แม่ง!! กวนตีน ลุกเลย...หนัก” พีทมองค้อนอาร์ตอย่างหมั่นไส้กับท่าทางระริกรี้ของอีกฝ่าย แล้วขยับตัวยุกยิกไปมาเพื่อให้อีกฝ่ายขยับออกไป ตัวไม่ใช่เล็กๆนอนทับลงมาจนเขาแทบจะจมหายไปกับที่นอน



“ไม่ลุก” อาร์ตว่าอย่างยียวนและนอนนิ่งไม่ยอมขยับ



“ไอ้พี่อาร์ต!!!” พีทโวยวายออกมาดังลั่นแล้วกระทุ้งข้อศอกเข้าใสท้องอาร์ตเต็มแรง



“อุ่ก!! หายเหนื่อยแล้วเหรอ” อาร์ตถึงกับจุกไปเมื่อเจอศอกพิฆาตจากพีทและมองอีกฝ่ายอย่างเหลือเชื่อ เมื่อกี้ยังไม่มีแรงอยู่เลยไปเอาแรงจากไหนมาทำร้ายร่างกายเขาอีกแล้วเนี่ย



“สม...ลุกได้แล้วมันหนัก” พีทว่าอย่างไม่ใส่ใจ



“ครับๆ” อาร์ตลุกออกตามคำสั่งแล้วเปลี่ยนเป็นตวัดตัวของพีทขึ้นมานอนทับตัวเองแทน



“รุนแรงตลอดทุบจนพี่จะช้ำในหมดแล้วเนี่ย” อาร์ตบ่นงึมงำออกมาเบาๆ



“ก็พี่มึงโรคจิตเองบอกดีๆก็ไม่ฟัง” พีทมองค้อนอีกฝ่ายและเอื้อมมือขึ้นไปบิดหูด้วยความหมั่นไส้



“เฮ้ย!! บิดหูเลยเหรอ” อาร์ตมองพีทด้วยความอึ้งนอกจากแม่ครูที่เลี้ยงมา ไม่เคยมีใครกล้าบิดหูแบบนี้เลยนะ



“แล้วจะทำไม” พีทถลึงตาใส่ดุๆที่เห็นอาร์ตโวยวายตามด้วยการบิดหูอีกข้างเป็นของแถม



“ไม่ทำไมครับ...ไม่กล้ามีปัญหากับเมียเลย” อาร์ตยกมือขึ้นสองข้างอย่างยอมแพ้



“ดีมาก” พีทผงกหัวขึ้นมองแล้วยิ้มออกมาอย่างพอใจแล้วหอมแก้มอีกฝ่ายเบาๆเป็นรางวัลที่ไม่หือ ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนซบที่แผ่นอกกว้างตามเดิม



“รางวัลดีแบบนี้ให้ยอมทั้งชีวิตยังได้เลย” อาร์ตว่าพร้อมมองคนบนตัวด้วยสายตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขและความรัก



“ให้ได้อย่างปากว่าเหอะ” พีทพึมพำเถียงออกมาเสียงแผ่ว



“ลองอยู่กับพี่จนแก่สิจะได้รู้ว่าจริงไหม” คำพูดของอาร์ตทำให้พีทผงกหัวขึ้นมามองหน้าอีกฝ่ายทันที เห็นอีกฝ่ายที่มองด้วยสายตาจริงจังพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน



“ไม่รับปากต้องดูความประพฤติ” พีทยักคิ้วส่งให้อย่างกวนๆ



“ฮ่าๆงั้นต้องทำตัวดีๆแล้วสิกลัวเด็กทิ้ง” อาร์ตหัวเราะชอบใจกับความกวนของพีทแล้วกดจูบที่ริมฝีปากพีทแรงๆอย่างหมันเขี้ยว



“ให้รู้ซะบ้างว่าไผเป็นไผ” พีทตบลงบนอกอาร์ตแปะๆแล้วยักคิ้วส่งให้ ก่อนจะโน้มตัวจุ๊บอีกฝ่ายคืนแล้วผละออกมาที่ซอกคอ



“อึ่ก...ทำอะไร” อาร์ตรู้สึกเจ็บที่ต้นคอจนต้องนิ่วหน้าและเอ่ยปากถามด้วยความสงสัย



“อยู่เฉยๆสิ” พีทเงยหน้าขึ้นมาว่าดุๆแล้วก้มลงไปที่ซอกคออีกครั้ง งับลงไปเบาที่ต้นคอแล้วดูดเม้มจนขึ้นรอยแดง



“ตกลงทำอะไร” อาร์ตขมวดคิ้วอมยิ้มให้กับท่าทางเจ้าเล่ห์ของพีท



“ทำให้รู้ว่ามีเจ้าของไง” พีทว่าแล้วจิ้มนิ้วลงไปบนรอยคิสมาร์กที่ตัวเองทำแรงๆ



“หวง?”



“ไม่หวงเหอะแต่นอกใจตาย” พีทว่าพร้อมถลึงตาใส่



“ฮ่าๆโอเคๆไม่หวงนะ” อาร์ตหัวเราะร่าอย่างชอบใจ



“เออ!! เข้าที่พูดใช่ไหม” พีทกระแทกเสียงตอบและจับหน้าอาร์ตให้หันมามองตัวเอง พร้อมทำตาดุข่มขู่ใส่อีกฝ่าย



“ครับ” อาร์ตยิ้มจนตาหยีแล้วลูบไล้แผ่นหลังบางไปมา



“ดีมาก...แล้วนี่พี่มึงไม่ไปทำงานเหรอ” พีทถามขึ้นมาอย่างนึกขึ้นได้เพราะพึ่งสังเกตว่าท้องฟ้าข้างน้องกำลังเปลี่ยนสี




“ขี้เกียจแล้ว...ไม่ไปได้ไหมอยากอยู่กับเมีย” อาร์ตว่าหน้างอทำตัวงอแงจนพีทหลุดขำออกมา



“คิดว่าน่ารักเหรอทำแบบนี้ ลุกได้แล้วไปอาบน้ำเดี๋ยวก็โดนพี่ตองด่า” พีทส่ายหัวเล็กน้อยแล้วดันตัวเองลุกขึ้นแต่ก็ต้องล้มลงไปอีกรอบ เมื่ออาร์ตดึงลงไปเหมือนเดิมแล้วบกแขนกอดไว้แน่น



“ช่างเฮียตองเหอะ” อาร์ตว่าอย่างไม่ใส่ใจแล้วระดมจูบไปทั่วหน้าพีทไม่หยุด



“คิกๆไอ้พี่อาร์ตมันจั๊กจี้หยุดเดี๋ยวนี้เลยแม่ง” พีทย่นหน้าหลบเป็นพัลวันแล้วใช้ฝ่ามือดันปลายคางของอาร์ตเอาไว้



“อยากหยุดก็หยุดแต่อยู่ห้องคนเดียวนะ” คำพูดของพีททำให้อาร์ตขมวดคิ้วมุ่นทันที



“หมายความว่าไง?”



“ต้องออกไปทำรายงานกลุ่มที่บ้านไอ้นาวเข้าใจไหม...ที่นี้ลุกไปอาบน้ำไปทำงานได้ยัง” พีทตอบแล้วบิดปลายจมูกโด่งไปมาอย่างหมันเขี้ยว



“เซ็งฉิบ” อาร์ตกรอกตาไปมาแล้วดันพีทให้ลงไปนอนข้างๆก่อนจะลุกขึ้นแต่โดยดี



“เก็บถุงยางไปทิ้งดีๆแล้วรีบอาบด้วย” พีทบอกแล้วพลิกตัวเองนอนคว่ำซุกหน้าลงที่หมอนใบโต



“จ้า” อาร์ตรับคำแล้วก้าวขาลงไปเก็บถุงยางทิ้งใส่ถังขยะ ก่อนจะเดินกลับมาที่เตียงอีกครั้งมองร่างขาวโพลนเปลือยเปล่าที่นอนคว่ำหน้าอย่างเอ็นดู ก่อนจะก้มลงกัดที่แก้มก้นขาวเต็มแรงด้วยความหมันเขี้ยว



“โอ๊ย!!!” พีทร้องออกมาดังลั่นด้วยความเจ็บก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองอย่างเอาเรื่อง



“ไอ้พี่อาร์ต!!!” พีทตวาดลั่นแล้วคว้าหมอนใบโตที่วางข้างๆเขวี้ยงไปใส่อาร์ตเต็มแรง



“ฮ่าๆๆ” อาร์ตหัวเราะลั่นที่แกล้งพีทได้แล้วรีบวิ่งหายเข้าไปในห้องน้ำอย่างรู้งาน ทิ้งให้พีทนั่งมองตามด้วยความขุ่นเคืองที่เอาคืนไม่สำเร็จ





2 Be Con...



++++++++++++++++

โอ๊ย!!!! มีความหมั่นไส้ มีความอิจเบอร์ใหญ่มาก

อยากได้เฮีย...แพ็คเฮียใส่ถุงให้ที

 หวานกันจนรถอ้อยคว่ำ บ้าบอที่สุด

ใครใช้ให้เขียนแบบนี้

ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยย

รักและขอบคุณคนอ่านจ้า

ปล.ขออภัยที่ช้า กราบบบบบบ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6

ออฟไลน์ greensnake

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +920/-14
แม้เราจะเป็นรองเรื่องบนเตียง แต่เรื่องอื่นๆเราต้องคุมเนาะพีท
ห้าวหาญสมกับเป็นซ้อใหญ่แห่งวิศวะ :laugh: ให้มันรู้กันไป
น่ารักอย่างนี้จะไม่ให้พี่อาร์ตทั้งรักทั้วหลงได้ยังไงกัน
ถึงขั้นไปหลอกถามเคล็ดลับการครองเรือนมาจากน้องเลิฟมาซะด้วย
พี่อาร์ตจะไปไหนเสีย ได้แต่ก้มหน้าทำงานเลี้ยงน้องไปสิ
แต่ไม่ว่าจะหนักแค่ไหนพี่อาร์ตก็พร้อมสู้แหละ
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
+1 และเป็ดค่ะ

ออฟไลน์ matchty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
    • MATCHTY-แมตตี้
คู่กัดฉบับรักเกินร้อย

By matchty



กัดครั้งที่

- 25 -



                “ให้พี่มารับกี่โมง” อาร์ตมองไปยังบ้านทาวน์เฮ้าส์ตรงหน้าที่เพิ่งจะได้มีโอกาสมาครั้งแรกอย่างสนใจ ก่อนจะหันกลับมาหาพีทที่ยืนถอดหมวกกันน๊อคอยู่ข้างรถ



                “ไม่รู้ว่างานจะเสร็จกี่โมงดิ...พี่มึงไม่ต้องมาก็ได้เผื่อมันดึก” พีทว่าออกมาด้วยความเป็นห่วงไม่อยากให้อีกฝ่ายขับรถมากลางค่ำกลางคืน




                “แล้วน้องพีทจะกลับยังไงล่ะ” อาร์ตถามพร้อมกับยื่นมือไปรับหมวกในมืออีกฝ่ายมาใส่ในตะกร้ารถ หมวกใบใหม่ที่เขาซื้อให้น้องสีชมพูหวานแหววติดสติกเกอร์ลายคิตตี้ จำได้ว่าเจ้าตัวโวยวายจนเขวี้ยงหมวกใส่ตอนที่เห็นมันครั้งแรก ส่วนเขาก็ทั้งเจ็บทั้งขำไปตามระเบียบจะว่าเขาจงใจกวนมันก็ใช่ ช่วยไม่ได้ใครใช้ให้เวลาน้องโมโหแล้วน่รักขนาดนั้น



                “แท็กซี่...ไม่งั้นก็นอนนี่”




                “ตามใจแต่ถ้าดึกมากก็นอนที่นี่เลย ถ้าจะกลับเดี๋ยวพี่มารับ” คำตอบย้อนแย้งของอาร์ตทำเอาพีทขมวดคิ้วมุ่นมองหน้าอาร์ตด้วยความเซ็ง บอกว่าตามใจแต่จะมารับตกลงเขากับพี่มันคุยกันรู้เรื่องไหม



                “ก็บอกว่าไม่ต้องมารับไงเดี๋ยวนั่งแท็กซี่กลับเอง” พีทว่าเสียงเนือยๆย้ำคำพูดของตัวเองอีกรอบ



                “น้องพีทอย่าดื้อสิเดี๋ยวพี่มารับ” อาร์ตเองก็ไม่ยอมเหมือนกันเขาห่วงของเขาถึงจะเป็นผู้ชายใช่ว่าจะไม่เกิดอันตราย ยิ่งดูออกว่าเป็นคนมีฐานะแบบเด็กดื้อของเขาเนี่ยยิ่งน่าห่วง แบรนเนมตั้งแต่หัวจรดเท้านาฬิกาเรือนเดียวก็หลายหมื่นแล้ว ถ้าเจอคนไม่ดีขึ้นมาเขาไม่อยากจะคิดเลย



                “ทำไมพี่มึงพูดไม่รู้เรื่องเนี่ย” พีทว่าด้วยใบหน้าบึ้งตึงและน้ำเสียงที่เริ่มจะหงุดหงิด



                “พี่พูดรู้เรื่องครับแต่พี่ห่วงของพี่ เป็นอะไรไปพี่จะไปหาแบบนี้คืนที่ไหน” อาร์ตเอื้อมมือไปดึงแขนพีทให้เขยิบเข้ามาใกล้ แล้วยกมือลูบลงไปที่หัวอีกฝ่ายพร้อมทั้งอธิบายอย่างใจเย็น ไม่ได้รู้สึกโกรธหรือโมโหอะไรกับท่าทางของพีท



                “ก็ได้...ถ้าดึกจะนอนนี่แต่ถ้าไม่ดึกเดี๋ยวกลับเอง ไม่งั้นก็จะแวะไปหาที่ร้าน” พีทอ้อมแอ้มตอบเสียงเบาอย่างเสียไม่ได้ ในใจก็แอบค้านคำพูดของอาร์ตไม่หยุด



“เถียงในใจใช่ไหมเนี่ย” อาร์ตหยิกแก้มพีทอย่างรู้ทันพร้อมกับส่ายหัวเหนื่อยใจให้กับความรั้นของอีกฝ่าย



“อะไร...พี่มึงอย่ามั่ว” พีททำตีมึนไม่ยอมรับทั้งที่แอบสะดุ้งเล็กน้อยที่โดนจับได้



“เถียงไปเถอะแค่ทำตามก็พอ” อาร์ตว่ายิ้มๆเลยได้ค้อนวงโตจากพีทเป็นรางวัล



“เออ...กลับไปได้แล้ว” พีทยู่หน้าใส่อย่างขัดใจแล้วยกมือดันอาร์ตเบาๆ



“หมดประโยชน์แล้วไล่เลยนะ” อาร์ตตัดพ้ออย่างไม่จริงจังและยังไม่ยอมปล่อยมือที่จับแขนพีทไว้



“ก็คุยรู้เรื่องแล้วไงกลับไปเร็ว” พีทพยายามแกะแขนตัวเองออกและดันตัวอาร์ตเบาๆ



“เร่งจังมีอะไรรึเปล่าหรือซ่อนกิ๊กไว้” อาร์ตถามเสียงดุและจ้องหน้าพีทเขม็ง



“กิ๊กบ้าอะไรล่ะ!! เดี๋ยวเพื่อนออกมาเห็น” พีทตวาดแว๊ดใส่และมองกลับอย่างเอาเรื่อง



“ก็ให้เห็นสิ...ทำไม? อาย?” อาร์ตยิ้มมุมปากยียวนใส่แถมด้วยการกระตุกแขนพีทเบาๆ จนอีกฝ่ายเซเข้าหาแล้วกอดเอวบางไว้หลวมๆ



“ปล่อยเลยไอ้พี่อาร์ตเดี๋ยวเพื่อนเห็น” พีทฟาดลงไปตามแขนของอาร์ตให้ปล่อยและพยายามสะบัดตัวให้หลุด อาร์ตเลยยิ่งกระชับอ้อมแขนกอดรัดแน่นขึ้นกว่าเก่า



“ถ้าเห็นแล้วมันทำไมล่ะ” อาร์ตยื่นหน้าเข้าไปใกล้กว่าเก่าแล้วมองพีทด้วยแววตาพราวระยับ



“อายดิพวกแม่งชอบแซว” พีทงึมงำตอบในลำคอแล้วทำหน้ายู่ใส่อาร์ต



“ฮ่าๆโอเคงั้นพี่ไปละ...แต่ก่อนไปมาให้หอมก่อน” ไม่พูดแค่ปากเพราะอาร์ตยื่นมือทั้งสองเข้าไปจับที่หน้าของพีท แล้วพยายามบังคับโน้มหน้าอีกฝ่ายลงมาหอม



“ไอ้พี่อาร์ต!! ไม่เล่นนะแม่ง!!” พีทโวยวายดังลั่นดวงตาเบิกโพรงด้วยความตกใจ ยกมือดันหน้าอาร์ตที่ยื่นเข้ามาใกล้เอาไว้อย่างสุดกำลัง



“อะแฮ่มๆ” เสียงกระแอมที่ดังแทรกขึ้นมาทำให้พีทหันกลับไปมองด้านหลังทันที ก่อนที่ใบหน้าขาวจะแดงก่ำไปหมดเมื่อเห็นว่าใครเป็นเจ้าของเสียง



ฟอดดดดดดดดด



“ชื่นใจ” ในช่วงที่พีทมัวแต่ยืนตะลึงอาร์ตก็อาศัยจังหวะนั้นหอมเข้าที่แก้มใสเต็มแรง




“อะ...ไอ้เหี้ยพี่อาร์ต!!!” พีทที่โดจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัวยกมือขึ้นจับแก้มตัวเองด้วยความตกใจ หันไปทุบกำปั้นลงบนตัวอาร์ตเต็มแรงแล้วหันกลับมาหาบุคคลที่สามอีกคนที่ยืนอยู่



“คือ...คือ...มันไม่ใช่แบบที่มึงคิดนะเว้ย” พีทปฏิเสธออกไปเสียงตะกุกตะกักแล้วก้มหน้าหลบสายตารู้ทันที่อีกฝ่ายมองมาเป็นพัลวัน



“มึงรู้ได้ไงว่ากูคิดอะไร” นาวจีบปากจีบคอทำเสียงเล็กเสียงน้อยใส่พีทพร้อมทั้งส่งสายตาล้อเลียนไปให้



“กะ...ก็มึง...กูรู้ก็แล้วกัน!! ฮึ่ย!! ไอ้พี่อาร์ตแม่ง!!!” พีทเมื่อไม่รู้จะเถียงเพื่อนว่ายังไงเลยหันไปทุบอาร์ตแรงๆด้วยความอายปนหงุดหงิด



“โอ๊ย!! เกี่ยวอะไรกับพี่เนี่ย” อาร์ตถามพร้อมหัวเราะในลำคอแล้วจับมือที่ทุบลงมาไม่ยั้งของพีทเอาไว้ เพราะขืนปล่อยให้เจ้าตัวทุบแก้เขินแบบนี้เห็นทีเขาได้ช้ำในตาย



“ว่าแต่มึงเหอะในบ้านไม่มีที่อยู่รึไงถึงมายืนอยู่หน้าบ้านเนี่ย” พีทหันไปถามนาวเสียงเหวี่ยงแสดงอาการพาลแบบเด็กไม่รู้จักโตใส่เพื่อนหลังจากทำร้ายร่างกายอาร์ตไม่ได้แล้ว จนทั้งนาวและอาร์ตต้องหันมาสบตากันแล้วส่ายหัวไปมาด้วยความหน่าย



“ก็นี่บ้านกูไหม? จะเดินไปไหนก็เรื่องของกู ไอ้คนที่มายืนอ้อนผัวมากกว่ามั้งที่มันผิดที่ผิดทาง” คำพูดของนาวทำเอาพีทใบหน้าแดงเถือกยิ่งกว่าเก่าลามไปทั่วทั้งลำคอและใบหู ส่วนนาวก็ยืนกระตุกยิ้มมุมปากชอบใจกับปฎิกิริยาของเพื่อน



“ใครผัวกู!!!” พีททำหน้าตาขึงขังและเถียงนาวเสียงแข็งแต่ไม่กล้าสบตา จนนาวหลุดหัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ แม้กระทั่งอาร์ตก็ยังผสมโรงหัวเราะไปกับความตีมึนของพีท ส่วนเจ้าตัวก็ได้แต่ยืนเม้มปากแน่นทำตัวไม่ถูกกับสิ่งที่เกิดขึ้น



“ฮึ่ย!! แม่ง!! กลับไปเลยไป!!!” สุดท้ายพีทก็ทนสายตาล้อเลียนของเพื่อนที่มองมาไม่ได้ ออกปากไล่อาร์ตอย่างเหลืออดแล้วสะบัดหน้าหนีเดินเข้าบ้านไปทั้งอย่างนั้น ทิ้งให้อีกสองชีวิตที่เหลือมองตามหลังไปแบบงงๆ



“เป็นเอามากแหะไอ้นี่” นาวพึมพำเสียงเบาแล้วส่ายหัวอย่างเหนื่อยใจ




“เวลามันอยู่กับพี่มันก็เป็นแบบนี้เหรอคะ” นาวหันกลับมาถามอาร์ตด้วยความแปลกใจ เพราะปกติเวลาพีทอยู่กับพวกเธอเจ้าตัวจะไม่เป็นแบบนี้ ถึงจะไม่ได้มาดแมนอะไรมากมายขนาดนั้นแต่รับรองว่าพีทไม่ดูนุ่มนิ่มแน่นอน มันเลยทำให้อดตกใจกับท่าทางสาวน้อยที่พึ่งเคยเห็นจากอีกฝ่ายเป็นครั้งแรกไม่ได้



“แบบไหนครับ” อาร์ตทำหน้างงใส่นาวเพราะไม่เข้าใจในคำถามของอีกฝ่าย




“ก็แบบ...เรียกว่าอะไรดีล่ะ สาวน้อย ขี้เหวี่ยงเหมือนผู้หญิงเวลาเป็นเมนส์” นาวอธิบายท่าทางของพีทด้วยใบหน้าแสดงอาการคิดหนัก



“พี่ก็เห็นเหวี่ยงๆแบบนี้มาตั้งนานแล้วนะ” อาร์ตตอบเสียงกลั้วหัวเราะส่วนนาวทำหน้าแหยรับไม่ได้ออกมาทันที



“แล้วนี่น้องไม่ถามเหรอเรื่องพี่กับ...” อาร์ตถามพร้อมทั้งชี้นิ้วเข้าไปในตัวบ้านเห็นพีทกำลังยืนมองมาทางนี้และหน้าบึ้งอยู่ เลยส่งยิ้มหวานพร้อมกับโบกมือให้เจ้าตัวเลยแยกเขี้ยวใส่และสะบัดหน้าหนี



“อ๋อ...เขารู้กันหมดทั้งคณะแล้วมั้งพี่แสดงออกขนาดนี้ มีแค่มันนั่นแหละที่คิดว่าชาวบ้านเขาไม่รู้...อ้อ ไอ้เลิฟด้วยอีกคนที่ไม่รู้” นาวว่าไปส่ายหัวไปด้วยความหน่ายถึงจะแปลกใจบ้างที่จู่ๆ คนที่เคยจีบเลิฟอย่างพี่อาร์ตไปเป็นแฟนพีทซะอย่างนั้น แต่ก็นั่นแหละเรื่องของคนสองคนเธอไม่มีสิทธิ์ยุ่งตราบใดที่เพื่อนเธอไม่ได้เสียใจ และไม่คิดจะถามเพราะรู้ไปก็เท่านั้นมันเปลี่ยนอะไรไม่ได้มีความสุขกันก็ดีแล้ว ถ้าให้ยุ่งเรื่องพีทเธอไปยุ่งเรื่องเลิฟยังจะดีกว่าเพราะพี่อาร์ตดูเป็นคนดีกว่าพี่ปอหลายขุม



“ฮ่าๆพี่ก็คิดว่างั้นแต่เจ้าตัวเขาไม่ให้พูด” อาร์ตหัวเราะออกมาเบาๆอย่างอารมณ์ดี รู้สึกถูกชะตากับรุ่นน้องผู้หญิงคนนี้เป็นพิเศษ เขาพอจะรู้จักน้องบ้างเพราะไปตามจีบน้องเลิฟนานสองนานแต่ไม่เคยได้คุยเป็นการส่วนตัวเท่าไหร่ ต้องเรียกว่านี่เป็นครั้งแรกที่ได้คุยกันเลยทำให้เห็นอะไรดีๆในตัวผู้หญิงคนนี้ การพูดคุยที่เหมือนไม่มีอะไรแต่ถ้าไม่โง่จะรู้เลยว่าน้องนาวเป็นผู้หญิงที่ฉลาด วางตัวก็ดีแถมน่ากลัวนิดๆใครได้ไปเป็นแฟนไม่รู้จะเรียกว่าโชคดีหรือโชคร้าย



“ก็มันบ้า” นาวพึมพำด่าพีทออกมาด้วยความหมั่นไส้



“ฮ่าๆงั้นพี่ไปก่อนนะครับ” อาร์ตเอ่ยปากขอตัวหลังจากมองเวลาบนหน้าปัดว่าใกล้จะสาย แล้วหันไปสตาร์ทรถเพื่อขับไปทำงานโดยมีนาวยกมือไหว้ลาและยืนส่ง



นาวมองมอเตอร์ไซค์สีชมพูที่เคลื่อนตัวออกไปจนลับสายตาถึงได้หันหลังกลับเข้าไปในบ้าน เดินพ้นรั้วบ้านมายังไม่ทันจะได้เปิดประตูสายตาก็เหลือบไปเห็นพีทยืนชะเง้อคอมองออกไปที่ถนน เลยตัดสินใจเปลี่ยนเป้าหมายเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายแทน



“ชะเง้อมองขนาดนั้นทำไมมึงไม่ไปส่งพี่เขาล่ะ” เสียงของนาวที่ดังขึ้นทางด้านหลังทำเอาพีทสะดุ้งไปเล็กน้อย แล้วหันกลับมามองนาวด้วยสีหน้าเหลอหลาก่อนจะรีบกลับมาทำท่าทางเหมือนไม่มีอะไร



“พอๆเลิกเก๊กกูรำคาญเข้าบ้านได้ละ” นาวยกมือขึ้นห้ามพีทที่กำลังอ้าปากจะพูดอะไรบางอย่าง ซึ่งคงไม่พ้นเรื่องปฏิเสธว่าไม่ได้สนใจพี่อาร์ต ทั้งๆที่ชะเง้อคอยาวมองตามเป็นกะเหรี่ยงนั่นแหละ



พีทถึงกับหุบปากลงทันควันพร้อมกับใบหน้าบึ้งตึงไม่พอใจที่โดนนาวขัด ก่อนจะเดินตามหลังอีกฝ่ายเข้าไปอย่างว่าง่ายแต่ปากขมุบขมิบว่านาวไม่หยุด จนกระทั่งเดินเข้ามาในตัวบ้านเห็นเลิฟนั่งอยู่เลยเปลี่ยนเป้าหมายไปหาอีกฝ่ายแทน




“หมาเลิฟมาทำรายงานผัวไม่ว่าเหรอ” พีทเอ่ยปากถามเพื่อนอย่างหาเรื่องกวนประสาทเพราะหาที่ลงไม่ได้ แต่สิ่งที่ได้กลับมาจากอีกฝ่ายคือการส่ายหัวเบาๆและการก้มหน้าก้มตาเขียนทั้งๆที่ไม่มีอะไรให้เขียน



“มันเป็นไร” พีทหันไปขมุบขมิบปากถามนาวแบบไม่ออกเสียงซึ่งนาวก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมา เพราะตั้งแต่มาถึงเลิฟก็นั่งเงียบแบบนี้



“กูไม่เป็นไรมาทำงานเหอะจะได้เสร็จๆ” เลิฟเงยหน้าขึ้นมาบอกเพื่อนแล้วส่งยิ้มให้ ก่อนจะตบมือลงที่พื้นเพื่อส่งสัญญาณให้เพื่อนนั่ง



“เออๆทำงาน...ไอ้พีทกูสั่งเคเอฟซีกับพิซซ่ามามึงจ่ายตังด้วยนะ” นาวเองก็นั่งลงโดยดีถึงแม้จะสงสัยในท่าทีของเลิฟก็ตาม ก่อนจะหันไปบอกพีทอย่างนึกขึ้นได้



“อ้าว...แล้วทำไมเป็นกูจ่ายวะ” พีทโวยวายออกมาดังลั่นเรียกเสียงหัวเราะชอบใจจากนาวกับเลิฟทันที



“น่าๆป๋าพีทไม่มีสาวต้องไปเปย์แล้วนี่หว่าเลี้ยงเพื่อนแค่นี้ไม่ตายหรอก” นาวยื่นมือไปตบไหล่พีทเบาๆอย่างไม่สนใจใบหน้าบึ้งตึงของอีกฝ่าย



“กูไม่...” พีทอ้าปากจะปฏิเสธก็ต้องหุบลงทันควันเมื่อเจอนาวยกนิ้วขึ้นมาชี้หน้า ก่อนจะตาโตเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ในหน้าจอโทรศัพท์ของอีกฝ่าย



“ถ้ามึงโวยวายกูจะปริ้นแจกคนทั้งคณะ” นาวยักคิ้วพร้อมกระตุกยิ้มส่งให้อย่างเป็นต่อ ส่วนพีทได้แต่ปากพะงาบๆช็ด้วยความช็อค



“อะไรอ่า...” เลิฟที่เห็นเพื่อนสองคนทำท่าทางมีความลับชะโงกหน้าเข้าไปใกล้บ้าง หวังจะดูสิ่งที่อยู่ในโทรศัพท์ของนาวว่าคืออะไร



“มึงเก็บเลย...กูจ่ายเองพอใจยัง” พีทตะโกนดังลั่นแล้วกระชากคอเสื้อเลิฟเอาไว้แทบไม่ทัน



“ก็แค่นั้น” นาวยักไหล่อย่างพอใจแล้วเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าทันที



“อะไรอ่า...กูก็อยากเห็นนะ” เลิฟว่าพร้อมทำแก้มป่องปากยื่นหน้างอง้ำที่ไม่รู้เรื่องอยู่คนเดียว



“มึงไม่ต้องยุ่งเลยหมาเลิฟ...จำไว้เลยนะมึงเชี่ยนาว” พีทผลักหัวเลิฟเบาๆแล้วหันชี้หน้าคาดโทษนาวด้วยความเคือง ซึ่งเจ้าตัวก็ยักไหล่ให้อย่างไม่ยี่หระ



พีทได้แต่นั่งเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันฮึดฮัดไปมาด้วยความไม่พอใจ ดีนะที่พ่อเขายกเลิกไอ้มาตรการเงินสดวันละสองร้อยนั่นไปแล้ว ไม่งั้นคงไม่มีปัญญามาจ่ายค่าอาหารที่นาวสั่งไป ถึงอย่างนั้นก็เถอะไอ้นาวมันไปแอบถ่ายรูปเขากับไอ้พี่อาร์ตตอนไหน จะไม่เดือดร้อนอะไรเลยถ้ารูปนั้นไม่ใช่รูปที่เขายืนจูบกับไอ้พี่อาร์ตอยู่ คิดแล้วอยากตายชะมัด



...

...



“สัส!! ที่คอมึงนี่ชัดไปนะ” ไมล์จิ้มนิ้วลงไปที่ต้นคอตัวเองและเอ่ยทักอาร์ตด้วยความหมั่นไส้



“อะไรวะ” อาร์ตชะงักมือที่กำลังจะยกแก้วขึ้นแล้วหันไปมองเพื่อนด้วยความงง



“คอมึงไง...กลัวคนไม่รู้ว่ามีเมีย” ไมล์ว่าอีกครั้งพร้อมกับยื่นมือมาจิ้มลงที่ต้นคอของอาร์ตแรงๆ



“อ้อ...งั้นมั้ง” อาร์ตยกมือขึ้นจับที่ต้นคอตัวเองแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ สร้างความหมั่นไส้ให้เพื่อนร่วมโต๊ะจนทุกคนพร้อมใจกันปาฝาขวดเหล้าขนมบนโต๊ะใส่ไม่ยั้ง



“เป็นเอามากนะมึงวันหลังพามาแนะนำบ้าง” ปิงที่นั่งเงียบๆมานานพูดขึ้นมาบ้างพร้อมกับยกแก้วขึ้นมาดื่ม



“เบาๆมึงเดี๋ยวเมา” อาร์ตยื่นมือมาดึงแก้วเหล้าออกจากมือปิงแล้วมองอีกฝ่ายดุๆ



“เมาก็แบกกูไปส่งห้องดิ” ปิงว่าอย่างไม่ใสใจก่อนจะแย่งแก้วจากมืออาร์ตมาดื่มต่อ



“ปล่อยมันช่วงนี้ทะเลาะกับเมีย” ไมล์ตบไหล่อาร์ตเบาๆเพื่อห้ามและปล่อยให้ปิงดื่มต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งอาร์ตก็ได้แต่ถอนหายใจและมองอย่างเป็นห่วง



“เลิกทำหน้าเหมือนแบกโลกได้แล้วสัส!! มันไม่มีอะไรหรอกแดกๆเข้าไป” ไมล์ส่ายหัวให้กับความคิดมากของอาร์ตเรื่องก็ผ่านมาหลายปีแล้วยังไม่ลืมอีก



“เออ” อาร์ตรับคำอย่างแกนๆแล้วพยายามไม่คิดอะไรมากก่อนจะหันไปยกแก้วชนกับคนอื่นๆ



วันนี้สุดท้ายอาร์ตก็ต้องหยุดงานอย่างปากว่าเพราะเป็นวันเกิดของ ‘ไมล์’ เพื่อนสนิทสมัยม.ปลายอีกคนนึงที่เรียนอยู่คณะบริหาร  กลุ่มเขามีทั้งหมด 5 คน เขา อ้น กลอนเรียนวิศวะ ส่วนไมล์กับปิงเรียนบริหาร ตอนเรียนจบม.6 ก็ไม่ได้นัดกันหรืออะไร แต่เพราะบังเอิญหรือกรรมก็ไม่รู้ดันสอบติดมาเรียนมหา’ลัยเดียวกันหมดซะอย่างนั้น เลยได้คบกันยาวมาเรื่อยจนทุกวันนี้แค่ไม่ได้เจอหน้ากันบ่อยๆเหมือนแต่ก่อน เพราะเรียนกันคนละคณะนานๆจะนัดมาสังสรรค์กันแบบนี้สักที



“ถ่านไฟเก่ามันคุรึไงวะถึงมานั่งแดกเหล้าด้วยกันแบบนี้” คำพูดชวนหาเรื่องที่ดังขึ้นเหนือหัวทำให้ทุกคนหันไปมองทันที ก่อนจะพากันถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายเมื่อเห็นว่าเป็นใคร



“หวัดดีพี่” เป็นปิงที่ได้สติก่อนเอ่ยทักทายชาติอย่างคนรู้จักกันดี เพราะอีกฝ่ายเคยเป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนเก่ามาก่อน



“ว่าไงมึงสองคนกลับมาเอากันแล้ว” ชาติที่ออกอาการมึนนิดๆมองหน้าปิงอย่างดูถูกแล้วยิ้มเยาะออกมา




“เมาแล้วพี่ก็กลับเหอะว่ะ” อ้นลุกขึ้นประจันหน้าอีกฝ่ายด้วยความโมโหแล้วเอ่ยปากไล่เสียงแข็ง



“มึงกล้าขึ้นเสียงใส่กูเหรอวะ” ชาติผลักอกอ้นแรงๆอย่างหาเรื่องก่อนจะหันกลับมามองอาร์ตด้วยแววตาโกรธเคือง กลอนเองก็ลุกขึ้นมาขวางระหว่างอ้นกับชาติเอาไว้แววตาวาวโรจน์ อยู่ในสภาพพร้อมมีเรื่องได้ทุกเมื่อถ้าเกิดอะไรขึ้น



“พอๆกลับๆพวกกูขอโทษแทนมันละกัน มันเมาพูดเหี้ยอะไรไปไม่ได้คิดหรอก” เพื่อนชาติรีบเข้ามาห้ามแล้วรีบลากอีกฝ่ายออกไปก่อนจะเกิดเรื่อง




“แม่งเหี้ย!! ตั้งหลายปีแล้วเสือกไม่จบ” อ้นกระแทกตัวลงนั่งด้วยท่าทางฮึดฮัดก่อนจะยกแก้วเทเหล้าเข้าปากไม่ยั้ง



“ช่างเขาเหอะ” อาร์ตว่ายิ้มๆ



“มึงแม่งก็พูดแบบนี้ทั้งปีกูบอกให้กระทืบมันมึงก็ไม่ทำ” อ้นยังคงพูดเสียงออกมาเสียงแข็งและไม่มีทีท่าว่าจะหายโมโหง่าย จนอาร์ตต้องส่ายหัวไปมาด้วยความเหนื่อยใจก่อนจะหันกลับไปมองปิง ที่นั่งหน้าเรียบสนิทไม่ยินดียินร้ายกับอะไร



“กูขอโทษนะเว้ย” อาร์ตยื่นมือไปตบที่หลังมือปิงเบาๆแล้วถอนหายใจออกมาหนักๆ



“เออ” ปิงตอบรับด้วยน้ำเสียงเนือยๆก่อนจะหันไปดวลเหล้ากับอ้นแทน ทิ้งให้อาร์ตนั่งจมอยู่กับความคิดตัวเองไปเงียบๆ



...

...



“ขอตรวจบัตรด้วยครับ” พนักงานหน้าเหี้ยมเอ่ยปากขึ้นถามพร้อมกับยื่นมือมาตรงหน้าพีททันทีที่เจ้าตัวจะเดินเข้าไปข้างใน



“ผมแค่เข้ามาหาพี่ชายข้างในอ่ะครับ” พีทส่งยิ้มแหยไปให้พร้อมชี้ไม้ชี้มือเข้าไปข้างในผับหรู แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือใบหน้าถมึงทึงจากอีกฝ่ายทำเอาพีทถอนหายใจด้วยความเซ็ง จะให้เขาเอาบัตรที่ไหนไปยื่นล่ะในเมื่ออายุยังไม่ถึงยี่สิบยื่นไปก็เท่านั้น



“ผมเป็นน้องชายพี่ไมล์เพื่อนสนิทลูกชายเจ้าของผับอ่ะ พี่ให้ผมเข้าไปได้ยัง” พีทต่อรองด้วยการใช้เส้นสายนิดหน่อยและมันก็ได้ผลเพราะแค่นั้นพนักงานพี่เหี้ยมก็เปิดทางให้ทันที พีทเลยเดินเข้าไปด้านในแบบสบายใจเส้นใหญ่มันก็ดีแบบเนี่ยแหละ ไม่งั้นไม่มีทางได้เข้าผับหรูแถมโคตรเข้มงวดของที่นี่ได้หรอก ส่วนตอนนี้สิ่งที่เขาต้องระวังอย่างเดียวในผับคือพี่ปอหวังว่าเจ้าตัวจะไม่อยู่ละกัน ไม่งั้นได้โดนโยนออกจากผับรอบสองในเวลาไม่กี่เดือนแน่ๆ



หลังจากที่ทำรายงานไปได้สักพักและดูท่าว่าคงจะไม่เสร็จในคืนนี้แน่ๆ พวกเขาเลยแยกย้ายกันกลับบ้านโดยที่พีทอาสาไปส่งเลิฟที่หอพักของเจ้าตัว ซึ่งก็แปลกใจไม่น้อยที่เห็นเพื่อนกลับหอและไร้เงาพี่ปอมารับ แต่เลิฟบอกว่าแวะมาเอาของเดี๋ยวพี่ปอตามมาเขาเลยไม่เซ้าซี้อะไร ส่วนตัวเขาก็แวะมาหาพี่อาร์ตที่นี่ตามที่ไอ้พี่วินรายงาน



แต่ว่าตอนนี้สิ่งที่พีทเห็นตรงหน้าทำเอาของขึ้นจากที่กะว่าจะหลีกเลี่ยงไม่ให้เจอ ก็ตัดสินใจเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายแล้วกระชากด้วยแรงทั้งหมดที่มี เพื่อนเขาอยู่คนเดียวที่หอแล้วพี่มันมานั่งให้สาวนัวเนียคืออะไรวะ ถึงพี่มันจะนั่งเฉยๆเป็นตอไม้ไม่ได้เล่นด้วยก็เหอะแต่มันควรไล่ดิเว้ย ไม่ใช่นั่งให้เขาลวนลามลูบไล้อยู่แบบนี้



“มีอะไร” ปอเงยหน้ามามองพีทดุๆหลังจากที่โดนอีกฝ่ายกระชากให้หันไปหา



“เพื่อนผมอยู่หอคนเดียว” พีทว่าเสียงเข้มแล้วกำหมัดแน่นมองหน้าปออย่างเอาเรื่อง



“แล้วไง...อีกอย่างกูบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าอายุไม่ถึงห้ามเข้า” ปอว่าด้วยใบหน้าเรียบนิ่งก่อนจะลุกขึ้นเดินหนีไปอีกทาง แต่พีทเองก็ไม่ยอมรีบไปเดินขวางหน้าเจ้าตัวเอาไว้เลยโดนปอผลักออกให้พ้นทาง



“เลิฟมันร้องไห้” พีทตัดสินใจตะโกนขึ้นตามหลังและเหมือนจะได้ผลเพราะปอถึงกับหยุดชะงักอยู่กับที่ เขาก็พูดไปงั้นแหละว่าไอ้เลิฟมันร้องไห้ อย่าว่าแต่ร้องเลยจะด่าพี่ปอให้ได้ยินสักแอะก็ไม่มี อะไรจะไปรักไปบูชาปกป้องกันขนาดนั้นพี่มันเลยทำตัวเป็นราชาอยู่แบบเนี่ย



“..............” ปอเหลือบสายตามามองพีทเล็กน้อยและเดินต่อพยายามทำตัวไม่สนใจกับสิ่งที่พีทพูด แต่พีทเองก็ตาไวมากพอที่จะเห็นปฏิกิริยาของเจ้าตัว



“บางทีผมก็คิดนะว่าควรหาคนเช็ดน้ำตาให้มัน” พีทลองหย่อนระเบิดลูกใหญ่ลงไปและภาวนาให้มันได้ผล




“อย่าเสือก” ปอหันกลับมาทำเสียงเข้มและจ้องพีทเหมือนจะขย้ำก่อนจะเดินออกไปทันที ทิ้งให้พีทกับผู้หญิงอีกคนยืนงงตามไม่ทันกับปฎิกิริยาของอีกฝ่าย ก่อนที่พีทจะหลุดหัวเราะออกมาเสียงดังด้วยความสะใจที่แกล้งปอได้ แบบนี้ไอ้พี่ปอมันรักเพื่อนเขาแล้วแน่ๆแต่ท่าเยอะ...เยอะจนอยากจะแบ่งความกะล่อนไอ้พี่อาร์ตไปให้ เพื่อนเขาจะได้เลิกเสียใจกับความบ้าของพี่มันสักที



“กูช่วยมึงได้เท่านี้นะเว้ยหมาเลิฟ” พีทพึมพำออกมาเสียงเบาแล้วเดินต่อเพื่อเข้าไปหาอาร์ตที่อยู่ข้างใน รู้สึกอารมณ์ดีเป็นพิเศษที่ได้กวนประสาทคน แถมเป็นคนที่ไม่ใช่ว่าจะมีโอกาสกวนได้ง่ายๆซะด้วย



พีทเดินผิวปากเดินเข้าไปข้างในเรื่อยๆอย่างคนอารมณ์ดีเป็นที่สุด ตาก็มองสาวๆที่ยักย้ายส่ายสะโพกด้วยความเสียดาย ถ้าไม่ติดว่ามีแฟนแล้วคงได้ควงกลับบ้านสักคนสองคน ติดที่ว่าตอนนี้เป็นได้แค่ฝันลมๆแล้งๆเขาไม่อยากมีปัญหาครอบครัวหรอกนะ




จากอารมณ์ชื่นมื่นของพีทเมื่อครู่ก็เปลี่ยนเป็นห่อเหี่ยวในทันใด ยังไงเขาก็เคยเป็นผัวคนอื่นมาก่อนมันเลยอดคิดถึงวันวานไม่ได้ เดินไปได้สักพักก็เห็นหน้าไอ้พี่อาร์ตอยู่ไม่ไกลอารมณ์เลยกลับมาแจ่มใสอีกครั้งอย่างรวดเร็ว ปากยกยิ้มกว้างและรีบสาวเท้าเข้าไปหาอีกฝ่ายด้วยความเร็ว แต่ก็ต้องมีอันให้หยุดชะงักเมื่อจู่ๆก็มีมือปริศนามาดึงเอาไว้



“น้องพีท” เสียงคุ้นหูที่ไม่ได้ยินมานานทำเอาพีทหันกลับไปมอง ก่อนจะตาโตแทบถลนเมื่อเห็นว่าเป็นใคร



“พี่หมอ” พีทเรียกชื่ออีกฝ่ายแผ่วเบาพร้อมกับหัวใจที่เต้นระทึก ไม่ใช่ว่าดีใจที่ได้เจอแต่กำลังคิดว่านี่มันวันซวยอะไรของตัวเองต่างหาก หรือมันจะเป็นกรรมที่เขาไปแกล้งพี่ปอเมื่อกี้แต่มันก็ตามเร็วเกินไปหน่อยมั้ง



2 Be Con...



+++++++++++++++++

เป็นอีกหนึ่งตอนที่มาหลายอารมณ์

และมาให้ทุกคนได้เดาทางเพิ่มมากขึ้น

หลายคนก็เดาถูกกันนะ 555

แว๊บเอาปอเลิฟมาให้หายคิดถึงด้วย

รักและขอบคุณคนอ่านจ้า ^^

ปล.นิยายเดินทางมาครึ่งเรื่องแล้ว

อีกไม่นานก็จบ เรื่องนี้เบาๆ ไม่เครียด

เน้นโรแมนติกคอมเมดี้นะจ๊ะ


 

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ greensnake

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +920/-14
หลากหลายอารมณ์จริงๆนั่นแหละ แต่ก็เป็นไปในทางที่ดี
น้องเลิฟกับพี่ปอยังแวบมาหน่อยนึง น้องเลิฟยังน่ารักเหมือนเดิม
พี่หมอหลังจากที่ห่างหายไปจากชีวิตพีทสักพัก ในที่สุดก็กลับมา
มาเยือนถึงถิ่นพี่ปอ แถมยังมีพี่อาร์ตอยู่ด้วยอย่างนี้นี่ยังไง
แต่ดีนะพี่อาร์ตจะได้รู้กันไป รอให้พีทบอกก็คงจะลืมกันไปอีก
กัดไม่ปล่อยอย่างนี้ต้องเอาให้เด็ดขาดกันไปเลย :m19:
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
สนุกๆ อ่านถึงตอนที่ 13 ล่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้อ่านต่อ




ชอบพี่อาร์ตน้องพีท จุงเบย

ออฟไลน์ matchty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
    • MATCHTY-แมตตี้
คู่กัดฉบับรักเกินร้อย

By matchty



กัดครั้งที่

- 26 -



“พี่มีอะไรก็ว่ามาดีกว่า” พีทว่าเสียงเรียบแล้วเขยิบตัวถอยห่างอีกฝ่าย พร้อมกับส่งสายตาไปไปมองด้วยความหวาดระแวง



“พี่ดีใจนะครับที่ได้เจอพีทที่นี่” คนตรงหน้าแสดงอาการดีใจออกมาอย่างเหลือล้น พร้อมทั้งขยับตัวเข้ามาใกล้จนพีทผงะถอยหนีแทบไม่ทัน



“รีบๆคุยธุระของพี่มาเถอะครับผมจะได้รีบไปหาเพื่อน” พีทตัดบทโดยไม่สนใจความรู้สึกของอีกฝ่ายเท่าไหร่ ที่ไม่กล้าเจอหน้าเมื่อก่อนเพราะกลัวตัวเองจะใจอ่อน แต่ตอนนี้ต่อให้คุกเข่าอ้อนวอนก็ไม่มีประโยชน์



“ยังโกรธพี่เหรอ” อีกฝ่ายอาศัยจังหวะที่พีทเผลอแล้วคว้าเอาแขนมาจับไว้แน่น พร้อมทั้งส่งน้ำเสียงออดอ้อนเหมือนที่เคยทำในอดีต



“ปล่อย” พีทว่าเสียงแข็งและมองอีกฝ่ายอย่างไม่พอใจ



“ยังโกรธพี่จริงๆด้วยสินะ” อีกฝ่ายพึมพำแผ่วเบาและมองพีทด้วยท่าทางสำนึกผิด จนพีทได้แต่ถอนหายใจออกมาด้วยความเซ็ง



“พี่บังคับผมออกมาข้างนอกเพื่อที่จะพูดแค่นี้ใช่ไหมครับ ถ้าใช่เอาเป็นว่าผมรับรู้และให้อภัย...ขอตัวนะครับ” พีทชักสีหน้าใส่ด้วยความเซ็ง เขาอุตส่าห์ตามออกมาง่ายๆเพราะคิดว่าอีกฝ่ายจะคุยอะไรที่มันสำคัญจริงๆ สุดท้ายก็พ้นคำพูดเดิมๆที่พูดตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้



“เปล่า...พี่อยากอธิบายและขอโอกาส” คำพูดของอีกฝ่ายทำให้ความโมโหของพีทแล่นขึ้นมาเป็นริ้วๆ ตวัดสายตากลับมาด้วยความโกรธเคืองอย่างไม่คิดจะปิดบัง อธิบาย...ขอโอกาสงั้นเหรอ ผู้ชายคนนี้คิดว่าเขาเป็นตัวอะไร



“ผมจะให้พี่อธิบายแต่โอกาสผมไม่มีให้พี่แล้ว” พีทหันกลับมาเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายอีกครั้งและใช้สายตาที่มีแต่ความเย็นชามองอีกฝ่าย



“ถ้าพีทยังโกรธพี่ก็ไม่เป็นไรไว้วันหลังเราคุยกันใหม่ก็ได้” พี่หมอถอนหายใจออกมาเบาๆและยอมถอยห่างจากพีทง่ายๆ เพราะคิดว่าสิ่งที่พีทแสดงออกตอนนี้คือการประชดจากอารมณ์โกรธที่ยังมีอยู่



“ถ้าพี่ไม่พูดวันนี้ก็ไม่ต้องพูดแล้วผมไม่อยากฟัง” พีทว่าแล้วเดินผ่านอีกฝ่ายไปอย่างไม่ใส่ใจ แต่เดินไปได้ไม่ไกลก็มีอันให้หยุดชะงักอีกครั้ง




พีทกรอกตาไปมาด้วยความเบื่อหน่ายแล้วถอนหายใจออกมาเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ตั้งแต่เจอหน้ากัน ก่อนจะตัดสินใจหันกลับมาเผชิญหน้าอีกครั้งด้วยความหงุดหงิดปนรำคาญ และนั้นเป็นเหมือนการส่งสัญญาณให้อีกฝ่ายรู้ว่าพีทไม่ได้ล้อเล่นหรือประชดประชันอย่างที่เจ้าตัวเข้าใจ



“พี่ขอโทษที่ทิ้งเราไปตอนนั้นแต่พี่เหตุผลนะ” พี่หมอตะโกนสวนขึ้นมาทันทีก่อนที่พีทจะได้พูดอะไร มือที่จับแขนพีทเอาไว้ถูกบีบเข้าหากันแน่นจนเจ้าตัวนิ่วหน้าออกมา




“ครับ...ผมรับรู้ทีนี้ก็ปล่อยผมได้แล้ว” น้ำเสียงราบเรียบและท่าทางเฉยเมยที่พีทแสดงออก ทำให้พี่หมอได้แต่ส่งสายตามาตัดพ้อกับการกระทำของเจ้าตัว




“ให้โอกาสพี่นะครับเรากลับมาเป็นเหมือนเดิมนะ” พี่หมอส่งเสียงอ้อนวอนและลูบฝ่ามือของพีทเบาๆ เหมือนสมัยก่อนเวลาที่พีทโกรธอีกฝ่ายจะง้อด้วยวิธีนี้ เป็นการบอกให้รู้ว่าถึงยังไงก็ยังจำเรื่องระหว่างทั้งสองคนได้ดี



“ผม...” แววตาของพีทไหววูบพร้อมกับความรู้สึกที่สั่นคลอน ความทรงจำในอดีตหวนคืนมาเหมือนเปิดวิดีโอซ้ำ พร้อมๆกับที่ได้รับรู้ว่าตัวเองยังมีเยื่อใยกับคนๆนี้ ความรู้สึกที่มันเรียกว่าตัดไม่ขาด



“ปล่อยเถอะครับ” แต่สุดท้ายพีทก็เลือกชักมือกลับออกมาด้วยความเร็ว เมื่อใบหน้าของใครบางคนลอยขึ้นมาในหัว เมื่อกี้ยอมรับเลยว่าเขาหวั่นไหวกับคนตรงหน้าทั้งที่พยายามใจแข็ง และตอนนี้มันทำให้เขารู้สึกผิดและเกลียดตัวเองเป็นที่สุด




“พีท...ฟังพี่ก่อนได้ไหม ตอนนั้นพี่จำเป็นต้องไปมันเป็นอนาคตของพี่ แต่ตอนนี้พี่กลับมาแล้วไงเรากลับมาเป็นเหมือนเดิมนะ” คำแก้ตัวโง่ๆที่หลุดออกมาจากปากของอีกฝ่าย ทำให้พีทกระตุกยิ้มเยาะขึ้นมาในทันที รู้สึกสมเพชตัวเองที่หวั่นไหวง่ายๆกับคำพูดไม่กี่คำกับการกระทำไม่กี่อย่าง



“แต่พี่เลือกอนาคตของพี่แล้วพี่ก็เลือกต่อไปเหอะ” พีทว่าเสียงแข็งภายในใจนึกถึงแต่หน้าอาร์ตเต็มไปหมด รู้สึกอยากได้อ้อมกอดจากอีกฝ่ายอยากขอโทษที่หวั่นไหวง่ายๆ ถึงจะแค่พริบตาเดียวแต่มันก็ไม่ควรเกิดขึ้นมา



การกระทำไวกว่าสมองขาสองข้างของพีทเดินตรงออกไปข้างหน้าทันที แต่ก็มีแรงปะทะโถมเข้าหาพร้อมแรงกอดรัดจากทางด้านหลัง สัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นที่ซึมผ่านเนื้อผ้าเข้ามา บ่งบอกว่าอีกฝ่ายกำลังร้องไห้



“ปล่อย...ให้เราจบกันแค่นี้เหอะพี่” พีทยืนนิ่งไม่ไหวติงและพูดกับอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง



“พี่ไม่ปล่อย...พี่รู้ว่าพี่ผิด พี่สัญญาว่าจะไม่ทำให้พีทเสียใจอีก เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมนะ” เสียงอู้อี้ที่หลุดออกมาเต็มไปด้วยการอ้อนวอนขอโอกาส จนคนได้ยินแบบพีทเกือบจะใจอ่อนอีกครั้ง ถ้าไม่ติดว่ามีใครคนนึงที่คอยฉุดรั้งความรู้สึกและหัวใจเอาไว้



“ผมมีแฟนแล้ว” คำพูดต่อมาของพีททำให้แรงกอดรัดหายไป แปรเปลี่ยนเป็นแรงกระชากที่จับให้หันกลับไปเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย ที่ตอนนี้ไม่เหลือเค้าความอ้อนวอนข้อร้องเหมือนก่อนหน้า



“ไม่จริง” พี่หมอบีบจ้องพีทด้วยแววตาแข็งกร้าวน้ำตาที่ไหลลงมาเมื่อครู่ หายไปจากใบหน้าอย่างรวดเร็วจนเหมือนเรื่องโกหก มือบีบที่ไหล่ทั้งสองข้างของพีทแน่นเหมือนจงใจให้เจ็บ



“พี่หมอ...พี่แทน ปล่อยผม” พีทพยายามแกะมือที่บีบแน่นยิ่งกว่าคีมของอีกฝ่ายออก ไหล่ทั้งสองข้างตอนนี้ปวดร้าวไปหมดเพราะแรงส่งจากอีกฝ่าย เริ่มหวาดระแวงขึ้นมากับท่าทางที่อีกฝ่ายแสดงออก



“ว่ายังไงพีทที่พูดเมื่อกี้โกหกพี่ใช่ไหม” แรงบีบจากอีกฝ่ายเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวพร้อมกับการเขย่าร่างกายพีทอย่างรุนแรงไม่หยุด



ปึ่ก!!!



“โอ๊ย!! พี่มันบ้าไปแล้ว” พีทส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บเมื่อแผ่นหลังถูกอัดกระแทกเข้ากับกำแพง จากการพยายามดิ้นรนให้หลุดพ้นจากน้ำมือของอีกฝ่าย



“พี่ขอโทษครับ...แต่พีทก็ไม่น่าทำให้พี่โมโห” แทนไทหรือพี่หมอรีบปล่อยมือออกจากแขนพีท แล้วละล่ำละลักเอ่ยปากขอโทษเสียงสั่น ส่วนพีทอาศัยจังหวะที่ตัวเองได้รับอิสระถอยห่างอีกฝ่ายทันที



“จะเชื่อหรือไม่เชื่อมันก็เรื่องของพี่...แต่ผมพูดเรื่องจริง” พีทว่าเสียงเข้มเน้นหนักทุกคำพูดให้อีกฝ่ายรับรู้ ก่อนจะหันหลังเดินกลับไปในทางที่มา รู้สึกโมโหจนไม่อยากเห็นหน้าหรือใช้อากาศหายใจร่วมกับคนๆนี้ต่อแม้แต่วินาทีเดียว



“ผู้ชายคนนั้น...มันรู้รึเปล่าว่าตัวเองเป็นเครื่องมือที่พีทใช้ประชดพี่” เสียงตะโกนถามดังไล่หลังไม่ได้ทำให้พีทสนใจเจ้าตัวยังคนเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ จนประโยคต่อมาที่ทำให้พีทต้องหยุดชะงักอยู่กับที่และหันกลับไปมองอีกฝ่ายทันที



“พูดบ้าอะไร” พีทขมวดคิ้วเป็นปมด้วยความสงสัยไม่เข้าใจในสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการจะสื่อ และที่มากยิ่งกว่านั้นทำไมแทนไทถึงรู้ว่าแฟนเขาเป็นผู้ชาย ทุกๆอย่างที่เกิดขึ้นตั้งแต่เริ่มแรกมันดูหลอกลวงสับสนจนเขาตามไม่ทัน



“ผู้ชายที่อยู่กับพีทตลอดเวลาช่วงนี้คือแฟนใหม่ที่ว่าใช่ไหม” แทนไทพูดออกมาด้วยท่าทางใจเย็น



“ถ้าใช่แล้วจะทำไม” พีทถามกลับเสียงแข็งถึงจะรู้สึกสับสนปนแปลกใจกับทุกๆอย่างที่เกิดขึ้นเพราะมันดูขัดแย้งกันไปหมด แต่ตอนนี้เขาแน่ใจอย่างนึงว่าสิ่งที่แทนไทแสดงออกตั้งแต่ต้นมันคือละครฉากใหญ่ที่ต้องการให้เขาใจอ่อน และอีกฝ่ายยังรู้แม้กระทั่งว่าเขามีแฟนแล้ว



“พีท...พี่ขอร้องอย่าทำร้ายคนอื่นเพื่อประชดพี่เลยนะ พี่ขอโทษพี่ยอมรับผิดแล้ว” แทนไทสาวเท้าเข้ามาใกล้พีทก่อนจะดึงเข้าไปกอด



“พี่พูดบ้าอะไรเนี่ย!!!” พีทผลักแทนไทที่กอดตัวเองออกเต็มแรงมองคนตรงหน้าด้วยความไม่เข้าใจ เขาไม่รู้จริงๆว่าจุดประสงค์ของอีกฝ่ายคืออะไรและต้องการอะไร




“ต้องให้มีอีกกี่คนกลายเป็นเครื่องมือที่พีทเอามาประชดพี่” แทนไทถอนหายใจออกมาแล้วยกมือขึ้นเสยผมตัวเอง ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้พีทแล้วกุมมือเจ้าตัวไว้



“ผมไม่ได้เอาเขาประชดพี่” พีทปฏิเสธเสียงแข็งแต่แววตาสั่นไหวอย่างรุนแรง



“แน่ใจเหรอพีท...งั้นพีทจะบอกว่าทุกคนที่ผ่านมารวมทั้งคนนี้พีทคบเขาเพราะรักงั้นเหรอ” คำถามของแทนไททำให้พีทมองอีกฝ่ายด้วยความตกใจ



“ตกใจเหรอที่พี่รู้…ไม่เป็นไรนะพี่เข้าใจ แค่พีทไปบอกเลิกเขาซะแล้วเราก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม...นะครับ” แทนไทบีบฝ่ามือพีทเบาๆก่อนจะกดปลายจมูกลงที่แก้มเนียน และถอยห่างออกมามองอย่างอ้อนวอน



“ผมไม่รู้ว่าพี่รู้ได้ยังไง...แต่เขาไม่เหมือนคนอื่น” พีทปรายตามองอีกฝ่ายแล้วดึงมือตัวเองออกมา ใช่...พี่อาร์ตไม่เหมือนคนอื่นๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเขา มีความหมายมากมายกว่าทุกๆคน



“พีทลืมพี่ได้จริงๆเหรอ เริ่มใหม่ได้จริงๆทั้งๆที่เรารักพี่จนไม่เคยรักใครตั้งแต่วันที่เราเลิกกันงั้นเหรอ” แทนไทถามเสียงเข้มและสบตากับพีทเพื่อหาคำตอบ



“............” พีทได้แต่ยืนเงียบไม่กล้าพูดอะไรออกไปเพราะส่วนลึกของหัวใจเขาลืมคนตรงหน้าไม่ได้จริงๆ ที่ไม่ลืมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเป็นเพราะความรู้สึกไหน โกรธ เกลียด ฝังใจ แต่มันไม่ใช่ความรักอีกแล้วแน่นอน



“ว่ายังไงล่ะพีทตอบพี่มาสิ” แทนไทยังคงรุกหนักพยายามกดดันให้พีทตอบคำถาม



“พี่ต้องการอะไรกันแน่” ในที่สุดพีทก็ตวาดถามออกไปเสียงดังลั่นด้วยความโมโห เพราะขี้เกียจจะเดาจุดประสงค์ของอีกฝ่ายเอง และไม่เข้าใจว่าทำไมต้องกดดันเขาด้วยคำพูดบ้าๆพวกนี้



“ที่พีททำอยู่ตอนนี้คือการประชดพี่ พีทไม่ได้รักเขาแค่คบเพราะอยากลืมพี่แค่นั้นเอง ไม่งั้นพีทก็ตอบพี่ได้แล้วสิว่าลืมพี่ไปแล้ว...เรื่องของพี่มันลืมไม่ได้ง่ายๆขนาดนั้นใช่ไหม”



“ผมถามว่าพี่ต้องการอะไรกันแน่!! พี่จะพูดวกไปวนมากับเรื่องนี้ทำไมวะ” พีทตวาดใส่ด้วยความหงุดเมื่ออีกฝ่ายไม่ตอบคำถาม แถมยังพูดจาวกไปวนมาเหมือนจงใจกวนประสาทมากกว่าเอาคำตอบ



“งั้นพีทก็ตอบพี่มาสิว่าไม่ได้รักมัน” แทนไทถามกลับเสียงเรียบและจ้องพีทเขม็งไม่วางตา



“เออ!! ผมไม่ได้รักเขาพอใจรึยัง!!” พีทตัดสินใจตะโกนตอบออกไปอย่างที่อีกฝ่ายต้องการเพื่อตัดรำคาญ ถ้าในเมื่ออยากฟังคำพูดโง่ๆแค่นี้เขาก็จะพูดให้ เรื่องระหว่างเขากับอีกฝ่ายจะได้จบสักที แค่นี้เขาก็รู้สึกว่าตัวเองเสียเวลามากพอแล้ว



ใบหน้าเรียบสนิทของแทนไทเปลี่ยนเป็นแสดงความพอใจในทันทีที่พีทพูดประโยคนั้นออกมา ก่อนที่เจ้าตัวจะกระตุกยิ้มมุมปากและเดินเข้าไปหาพีทอีกครั้ง เอื้อมมือไปดึงพีทเข้ามากอดไว้แน่นแล้วกดจูบลงที่ข้างขมับ



“ขอบคุณนะครับ” แทนไทกระซิบบอกที่ข้างหูก่อนจะถอยห่างและส่งยิ้มให้พีท ก่อนจะหันหลังแล้วเดินจากไปทางอีกด้านโดยไม่พูดอะไรอีก

พีทได้แต่มองตามแผ่นหลังของอีกฝ่ายด้วยความไม่เข้าใจ คำพูดที่กระซิบบอกแผ่วเบาการกระทำเมื่อครู่รวมทั้งรอยยิ้มแปลกๆของอีกฝ่ายในตอนท้าย มันทำให้พีทงุนงงและรู้สึกไม่ดีขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

หลังจากที่ยืนคิดหาคำตอบสักพักพีทก็ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน ยกข้อมือขึ้นมาดูนาฬิกาก็เห็นว่าใช้เวลาไปนานพอสมควร เลยตัดสินใจหันหลังกลับเพื่อเข้าไปข้างในผับอีกครั้ง ป่านนี้พี่อาร์ตคงรอเขาและกำลังเป้นห่วงอยู่แน่ๆ ก็อีกฝ่ายชอบทำเหมือนเขาเป็นเด็กอยู่เรื่อยอะไรนิดหน่อยก็ห่วงไปหมด

ในจังหวะที่พีทกำลังจะเดินพ้นหัวมุมตึกเพื่อไปยังจุดที่เป็นทางเข้าก็ต้องหยุดชะงักอยู่กับที่ ดวงตาเรียวเบิกโพรงด้วยความตกใจหัวใจเต้นระรัวเหมือนตีกลอง ฝ่ามือทั้งสองข้างเปียกชื้นชุ่มไปด้วยเหงื่อความกังวลมากมายมหาศาลแล่นเข้าใส่เหมือนห่าฝน

“พี่อาร์ต...” พีทครางเรียกชื่อคนตรงหน้าที่มองกลับมาด้วยสายว่างเปล่า เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมายืนอยู่ตรงนี้นานแค่ไหนและตั้งแต่เมื่อไหร่ สิ่งที่เขารู้ในตอนนี้ก็คือความหมายของการกระทำแปลกๆทั้งหมดของแทนไท คำพูดและรอยยิ้มสุดท้ายที่อีกฝ่ายส่งให้ก่อนจากไป เขาเข้าใจทั้งหมดเลยว่าอีกฝ่ายทำไปทำไม 

...
...

แทนไทเดินออกมาจากตรงนั้นพร้อมรอยยิ้มมุมปากแห่งความพอใจกับการกระทำของตัวเอง เขาไม่ใช่เพิ่งจะรู้เรื่องของพีทกับแฟนใหม่แต่รู้มาได้สักพักแล้ว แค่คิดไม่ถึงว่าเวลาไม่กี่เดือนผู้ชายคนนี้จะทำให้หัวใจของพีทเปลี่ยนไปจากเขาได้ และนั้นมันทำให้เขาร้อนรนอยู่ไม่สุขจนต้องลงมือทำอะไรบางอย่างทั้งๆที่คิดว่าไม่ต้องรีบพีทก็จะกลับมา

เขาพยายามวนเวียนหาโอกาสหลายครั้งที่จะเข้าใกล้เพื่อจะได้ปรับความเข้าใจกับอีกฝ่าย แต่ไม่ว่ายังไงก็ไม่เคยได้โอกาสมันมอันให้ต้องคลาดกันตลอด ไปหาที่บ้านก็จะต้องพบกับคำตอบที่ว่าพีทไม่อยู่ทุกครั้ง ไปหาที่มหา’ลัยก็ต้องโดนเพื่อนพีทขัดขวางตลอด จนมาวันนี้เหมือนเทพีแห่งโชคเปิดทางและเข้าข้างเขาทำให้มีดอกาสได้มาเจอน้องด้วยความบังเอิญ

และแน่นอนเขาไม่ยอมเสียเวลาอะไรทั้งนั้นจัดการลากพีทออกมาเพื่อหวังจะงอนง้อและให้ขอเราเป็นเหมือนเดิม แต่มันไม่ได้ง่ายเลยเมื่อท่าทีของพีทที่มีต่อเขาเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม ถึงมันจะความหวั่นไหวอยู่ในแววตาให้เห็นบ้างแต่เขามองออกว่ามันไม่ใช่ความรักอีกแล้ว

และในจังหวะที่กำลังคิดหาทางออกสายตาก็บังเอิญไปเห็นเงาของใครบางคนยืนหลบมุมอยู่ เมื่อเพ่งสายตาไปมองเขาถึงได้รู้ว่าเงานั่นเป็นของใครพร้อมกับแผนการบางอย่างที่ลอยขึ้นมาในหัว และเสียงกู่ก้องกรีดร้องยินดีที่ดังขึ้นไม่หยุด ทุกอย่างวันนี้มันดูเปิดทางและเป็นใจให้เขาไปแทบทุกอย่างหลังจากที่พลาดมาตลอด

เขาจงใจพูดจากวนประสาทวกไปวนมาเพื่อใช้กดดันให้พีทโมโห ลงทุนเล่นละครตบตาเพื่อบีบให้พีทอึดอัดและสุดท้ายก็เข้าแผน พีทตะโกนคำนั้นออกมาเพราะหวังจะตัดรำคาญตามนิสัย โดยที่ไม่รู้เลยว่ามีใครอีกคนนอกจากเขาได้ยิน

การทำให้คนรักกันแตกหักมันเป็นเรื่องง่ายนิดเดียว ยิ่งถ้าความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่เพิ่งเกิดได้ไม่นานมันยิ่งทำลายง่ายแค่ปลายนิ้วสะกิด เขาแค่หย่อนความระแวงลงไปในความสัมพันธ์บางเบานั่นและหลังจากนั้นก็รอผลลับ มันอาจจะไม่ได้ผลในทันทีแต่มันจะกลายเป็นแผลที่ร้าวลึกลงไปเรื่อยๆ สุดท้ายเขาก็คือคนชนะและพีทก็จะต้องกลับมาหาเขาอย่างไม่มีข้อแม้

เขาเคยโง่ทิ้งของสำคัญไปเพียงเพราะกลัวคำคน เพียงแค่อนาคตโง่ๆจนทำให้อีกฝ่ายเสียใจ จนวันนี้วันที่รู้ตัวเขาถึงได้กลับมาและเขาจะต้องไม่มือเปล่ากลับไป เขาจะทำทุกอย่างให้ได้น้องคืนและเขาสัญญาจากหัวใจเลยว่าครั้งนี้จะไม่มีทางปล่อยให้น้องหลุดมือไปอีกแล้ว

...
...

อาร์ตยืนมองใบหน้าซีดเผือดและดวงตาฉายแววความตกใจของคนตงหน้าโดยที่ไม่พูดอะไร ไม่คิดแม้แต่จะถามหรือแสดงอาการอะไรออกไปทั้งนั้นนอกจากนิ่งเฉย ก่อนจะตัดสินใจหันหลังแล้วเดินกลับไปข้างหน้าผับเพื่อไปสมทบกับเพื่อนๆที่รออยู่

ก่อนหน้านี้ในระหว่างที่เขากำลังรอพีทอยู่นั้นสายตาก็หันไปเจออีกฝ่ายยืนคุยกับใครบางคนอยู่ ก่อนที่เจ้าตัวจะโดนคนๆนั้นลากออกไปทำให้เขารับลุกขึ้นตามไปด้วยความตกใจปนเป็นห่วง ในจังหวะที่ตามไปจนจะถึงตัวทั้งคู่เขาก็เจอทั้งสองคนกำลังคุยกัน ถึงแม้พีทจะมีอาการไม่พอใจแต่มันก็แสดงออกให้เห็นชัดเจนว่าทั้งสองรู้จักและสนิทสนมกันพอสมควร และมันทำให้เขาแปลกใจเพราะไม่เคยได้ยินพีทพูดถึงคนๆนี้ ผู้ชายที่ดูภูมิฐาน สุขุม มีความรู้ ดูเป็นผู้ใหญ่ มันเลยทำให้เขาตัดสินใจเลือกที่จะแอบอยู่ตรงนั้นและไม่เดินเข้าไป

ด้วยระยะห่างจากจุดที่เขาอยู่กับคนทั้งคู่มันทำให้เขาไม่ได้ยินอะไรมากไปกว่าเสียงแว่วๆที่จับใจความอะไรไม่ได้ แต่สิ่งรับรู้และสัมผัสได้ด้วยตาคือภาพการกระทำทุกอย่างของทั้งสอง ความสนิทสนมที่มากเกินกว่าคนรู้จักมันทำให้เขายืนมองและกำหมัดแน่น

ภาพที่คนรักของตัวเองกำลังโดนคนอื่นทั้งกอดทั้งหอม โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือแสดงออกอะไรมันทำให้หัวใจเขาเจ็บหนึบไปหมด แต่มันก็ไม่ร้ายแรงเท่าประโยคสุดท้ายที่พีทตะโกนออกมา หัวใจที่ตอนนี้ว่าเจ็บมันยิ่งกว่าเจ็บจนไม่รู้จะหาคำไหนมาอธิบาย

ร่างกายชาดิกไปหมดขาสองข้างเหมือนถูกตรึงให้ยืนอยู่กับที่ไม่มีแรงแม้แต่จะขยับไปไหน ยิ่งเห็นสีหน้าตกใจของอีกฝ่ายตอนเดินมาเจอเขายิ่งจุกจนพูดไม่ออก มันเลยทำให้เขาเลือกที่จะเงียบหรือเอ่ยปากถามอะไรออกไป เพราะรู้ว่าตัวเองยังไม่พร้อมที่จะรับฟังอย่างใจเย็น หรือมีสมองมากพอที่จะคิดหาเหตุผลของการกระทำทั้งหมดของพีทในตอนนี้

“ตกลงเจอเมียมึงไหม” ไมล์ถามขึ้นทันทีเมื่อเห็นอาร์ตเดินกลับมา ก่อนจะมองไปรอบๆข้างเพื่อหาคนอื่น

“ไม่เจอ” อาร์ตตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบและยืนเงียบ จนไมล์และเพื่อนคนอื่นๆต้องมองด้วยความแปลกใจกับความผิดปกติที่เกิดขึ้น

“อ้าวพีท...ทำไมมาอยู่ที่นี่ล่ะ” เสียงไมล์ดังขึ้นอีกครั้งด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นพีทในสภาพหอบเหนื่อย เดินโผล่ออกมาจากทางเดียวกันกับที่อาร์ตเดินมาเมื่อครู่

“พี่ไมล์...” พีทครางชื่อพี่ชายตัวเองออกมาด้วยความแปลกใจที่เห็นอีกฝ่ายอยู่ที่นี่ ไม่ต่างจากอาร์ตที่มองไมล์สลับกับพีทด้วยความแปลกใจไม่ต่างกัน

ด้านกลอนกับอ้นก็หันมาสบตากันและส่งสายตาเป็นคำถามไปหาอาร์ตด้วยความสงสัย เพราะเมื่อกี้อาร์ตบอกเองว่าไม่เจอพีทแต่จู่ๆพีทก็โผล่มาแถมดูท่าทางไม่ปกติทั้งคู่ แต่ไม่ว่าจะสงสัยยังไงก็ไม่ได้คำตอบทั้งคู้เลยได้แต่ยืนรอดูท่าทีต่อไปเงียบๆ

“เออพี่เอง...ว่าแต่ทำไมเราโผล่มาท่นี่ล่ะหนีเที่ยวอีกแล้วใช่ไหม” ไมล์ที่ไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติอะไรเอ่ยหยอกเย้าพีทตามความเคยชิน ยกมือขึ้นขยี้หัวอีกฝ่ายจนฟูแล้วกอดคอพาพาพีทเดินเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าอาร์ต

“นี่พวกมึงน้องกูเองชื่อพีท” ไมล์แนะนำพีทกับเพื่อนอย่างอารมณ์ดี ในขณะที่พีทส่งสายตาไปหาอาร์ตอย่างอ้อนวอนแต่สิ่งที่ได้กลับมา คือสายตาจากอาร์ตที่มองกลับมาอย่างว่างเปล่าไม่แสดงอะไรในนั้น

“สวัสดีครับพี่ชื่อปิงนะน้องพีท” ปิงเป็นคนแรกที่เข้ามาทักทายพีทพร้อมกับส่งยิ้มให้อย่างใจดี ผิดกับพีทที่ยิ้มตอบกลับเจื่อนๆและพยายามส่งสายตาไปหาอาร์ตไม่หยุด

“เอ่อ...พี่ชื่ออ้นนะส่วนนี่ไอ้กลอน” อ้นที่พอจะจับบรรยากาศมาคุระหว่างอาร์ตกับพีทได้ตั้งแต่ทีแรก ก็แนะนำตัวเองกับกลอนไปแบบตามน้ำ ก่อนจะลอบมองทั้งคู่ไม่วางตาด้วยความเป็นห่วง

“ส่วนนี่ไอ้อาร์ตบอสใหญ่วิศวะ มีปัญหากับใครฟ้องมันได้เลย” ไมล์แนะนำอาร์ตให้พีทรู้จักพร้อมทั้งหัวเราะออกมาไม่หยุด ก่อนจะปล่อยตัวพีทแล้วยื่นมือไปตบไหล่อารืตเบาๆ

“นี่น้องกูที่เคยเล่าให้ฟังฝากด้วยนะมึง กวนตีนนิดหน่อยแต่ไม่มีอะไร” ไมล์ที่ได้โอกาสเอ่ยปากฝากฝังพีทกับอาร์ตทันทีเพราะไม่รู้ว่าทั้งคู่รู้จักกันมาก่อนแล้ว

“เออ” อาร์ตพยักหน้ารับคำไมล์เล็กน้อยก่อนจะปรายตามามองพีทอีกครั้ง ซึ่งตอนนี้อีกฝ่ายกำลังมองเขาด้วยสายตาเต็มไปด้วยความเสียใจ ก่อนเจ้าตัวจะเปลี่ยนเป็นก้มหน้ามองพื้นหลบสายตาเขาแทน

“มึงสองคนด้วยฝากน้องกูด้วยนะ” ไมล์หันมาพูดกับอ้นและกลอนบ้าง ซึ่งทั้งคู่ก็ได้แต่ยิ้มตอบรับแหยๆอยากบอกใจจะขาดว่าไม่ต้องฝากก็ดูแลกันดีอยู่แล้วโดยเฉพาะอาร์ต

“ถ้าไม่มีอะไรแล้วกูกลับก่อนนะ” อาร์ตบอกด้วยน้ำเสียงเนือยๆแล้วหันหลังเดินไปทันที ท่ามกลางความงุนงงและตกใจจากทุกคน

“อาร์ต...” พีทเรียกอาร์ตเสียงสั่นพร้อมกับน้ำตาที่ค่อยๆไหลลงมาอย่างห้ามไม่อยู่ หลังจากที่พยายามฝืนกลั้นมันเอาไว้มาสักพัก

“เฮ้ย!!!” อ้นกับกลอนร้องออกมาด้วยความตกใจกับเหตุการณ์ตรงหน้าเพราะไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ส่วนปิงได้แต่มองด้วยความแปลกใจ

                “พีท...ร้องไห้ทำไม” ไมล์เองก็ตกใจไม่น้อยพยายามดึงพีทเข้ามากอดปลอบเพราะไม่รู้ว่าน้องชายร้องไห้ทำไม

                “อาร์ต...” พีทดันตัวเองออกมาจากอ้อมกอดของไมล์และส่งเสียงเรียกอาร์ตที่เดินทิ้งห่างออกไปอีกครั้ง

                “แม่งเอ้ย!!” อาร์ตสบถออกมาเสียงดังพร้อมกับยกมือขึ้นเสยผมตัวเองและขยี้แรงๆด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะหันกลับมาเผชิญหน้ากับพีทที่ยืนร้องไห้จนตัวโยน

                “นี่มันเรื่องอะไรวะ” ไมล์ถามขึ้นและมองหน้าอาร์ตกับพีทสลับกันไปมาด้วยความงุนงง แต่ก็ไม่ได้คำตอบอะไรนอกจากความเงียบของอาร์ตและเสียงสะอึกสะอื้นที่ดังต่อเนื่องไม่หยุดจากพีท

2 Be Con...

++++++++++++++++++
นานๆไอ้พี่หมอมันถึงจะมีบท
เวลามาเขาก็ควรมาให้สมศักดิ์ศรี
ส่วนอาร์ตกับพีท ไม่มีอะไรหรอกจริงๆ
รักและขอบคุณคนอ่านจ้า ^^

 

 

ออฟไลน์ matchty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
    • MATCHTY-แมตตี้
คู่กัดฉบับรักเกินร้อย

By matchty



กัดครั้งที่

- 27 -


Part ต้น


“ตกลงจะมีใครอธิบายอะไรให้กูฟังได้บ้างไหม” ไมล์ตัดสินใจพูดขึ้นในที่สุดหลังจากอดทนยืนเงียบอยู่นาน เพื่อหวังจะให้มีใครสักคนตรงนี้ช่วยบอกหรือเล่าอะไรให้เขาฟังบ้าง แต่จนแล้วจนรอดนอกจากความเงียบกับเสียงสะอื้นจากพีทก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย



“ไว้วันหลังละกัน...กูกลับก่อนนะ” อาร์ตละสายตาจากการมองพีทแล้วหันกลับมาสบตากับไมล์แทน แววตาที่ใช้มองออกไปมีแต่ความเหนื่อยอ่อนจนไมล์รู้สึกได้



“เออ” ไมล์พยักหน้าตอบรับแล้วเดินอ้อมไปตรงหน้าพีท ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาออกจากแก้มใสให้อีกฝ่ายอย่างเบามือ ก่อนจะถอนหายใจออกมาเสียงดังด้วยความหนักใจผสมปนเปไปกับความสงสัยที่ลอยเต็มหัวไปหมด อยากคาดคั้นหาความจริงแต่ก็รู้ว่าไม่ควรเลยจำเป็นต้องเงียบและอึดอัดใจแบบนี้



“พีทกลับบ้านกับพี่นะ” ไมล์เลือกที่จะวางความสงสัยทั้งหมดเอาไว้แล้วเอ่ยปากชวนพีทกลับบ้านอย่างอ่อนโยน ในขณะที่เจ้าตัวไม่ได้ตอบโต้อะไรนอกจากสายตาที่มองไปหาอาร์ตตลอดเวลา




อาร์ตหันกลับมาสบตากับพีทอีกครั้งก่อนจะถอนหาใจออกมาไม่ต่างกับไมล์ เห็นดวงตาแดงช้ำและเสียงสะอึกสะอื้นจากการร้องไห้จนตัวโยนก็นึกสงสาร แต่ฑิฐิในใจที่มีมันมากเกินกว่าจะให้อภัยกับคำพูดและการกระทำของอีกฝ่ายได้ง่ายๆ เลยเลือกที่จะใจแข็งและหันหลังเดินกลับไปที่รถของตัวเองมากกว่าจะยืนรอคำอธิบายอะไร




เขาไม่ได้โกรธอีกฝ่ายจนถึงขั้นให้อภัยกันไม่ได้ อันที่จริงมันก็ไม่ใช่ความโกรธด้วยซ้ำแต่มันคือความน้อยใจ และรู้สึกเหนื่อยเกินกว่าจะตีหน้าทำตัวเป็นผู้ชายแสนดีได้ต่อได้ในสถานการณ์แบบนี้ เขาอยากให้ตัวเองได้มีเวลาปรับความรู้สึกและอารมณ์ตัวเองให้ดีกว่านี้ก่อนจะฟังคำอธิบายของน้อง เพราะไม่อย่างนั้นอาจจะเป็นตัวเขาเองเนี่ยแหละที่จะทำให้ทุกอย่างมันแย่ลงแทนที่จะดีขึ้น



อาร์ตหยิบหมวกกันน็อคขึ้นมาเตรียมจะใส่พยายามไม่มองย้อนกลับไปข้างหลัง และทำตัวเองให้นิ่งที่สุดเพราะกลัวว่าจะลืมตัวทำร้ายจิตใจของใครอีกคนไป แต่ในจังหวะที่อาร์ตกำลังจะก้าวขาขึ้นคร่อมบนมอเตอร์ไซค์คันเก่ง ก็มีแรงกระตุกเบาๆที่ชายเสื้อทำให้เขาต้องหันกลับไปมองพร้อมกับตกใจเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าพีทเดินมายืนอยู่ด้านหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้และกำลังกำเสื้อของเขาแน่น



“น้องกลับด้วย” พีทพึมพำบอกเสียงสั่นแล้วช้อนตาขึ้นมองอาร์ตอย่างขอร้อง จนอาร์ตต้องถอนหายใจออกมาอีกครั้งและหลบตาอีกฝ่าย พร้อมกับแกะมือเล็กที่กำชายเสื้อไม่ยอมปล่อยออก



“วันนี้กลับไปนอนบ้าน” คำพูดราบเรียบของอาร์ตที่ไม่ได้ต่างจากการไล่ทางอ้อม ทำเอามือที่กำเอาไว้แน่นของพีทถึงกับอ่อนแรงยอมปล่อยออกจากชายเสื้ออีกฝ่ายง่ายๆ




“ไม่เอา” พีทส่ายหัวไปมาไม่หยุดและเปลี่ยนไปจับที่ท่อนแขนของอาร์ตแน่น เริ่มร้องไห้ออกมาอีกครั้งจนได้ยินเสียงสะอื้นอย่างชัดเจน หัวใจมันสั่นไหวไปด้วยความเสียใจและความกลัวอย่างรุนแรง เพราะไม่เคยมีสักครั้งที่ตัวเองจะเป็นฝ่ายโดนโกรธหรือได้รับการปฏิบัติที่แสนจะเย็นชาจากอีกฝ่ายแบบนี้




“ไมล์...มึงพาน้องกลับไปก่อน” อาร์ตเลือกที่จะหันไปเลือกไมล์แทนการคุยกับพีทเพื่อตัดปัญหา



“พีทกลับบ้านกับพี่นะ...พรุ่งนี้คุณลุงกลับบ้านด้วยเราต้องไปเจอนะ” ไมล์เดินเข้ามากล่อมให้พีทกลับบ้านตามที่อาร์ตบอก และก็พยายามดึงมือของพีทออกจากแขนของเพื่อนไปด้วย



ไมล์พยักหน้าส่งให้อาร์ตเล็กน้อยและดึงพีทเข้าหาตัวเอง ส่วนอาร์ตก็พยักหน้ารับสบตากับเพื่อนอย่างเข้าใจกันแล้วปรายตามาทางพีทเล็กน้อย ก่อนจะหันหลังกลับไปหารถเพื่อจะได้ขับกลับห้องพัก แต่ยังไม่ทันที่จะได้ทำอะไรมากไปกว่านั้นก็มีแรงปะทะหนักๆพุ่งเข้าใส่พร้อมด้วยแรงกอดรัดจากทางด้านหลัง



“อาร์ต...ฮึก...อย่าทิ้งน้อง...พาน้องไปด้วย” พีทกอดอาร์ตเอาไว้แน่นเหมือนกลัวว่าอีกฝ่ายจะหายไป เอนหน้าซบกับแผ่นหลังกว้างและร้องไห้ออกมาสะอึกสะอื้นไม่หยุด ไม่สนใจแม้กระทั่งพี่ชายที่เกลี่ยกล่อมให้กลับบ้านด้วยกัน รู้แค่ว่าตอนนี้จะไม่ยอมปล่อยให้คนในอ้อมกอดห่างตัวเด็ดขาด เขากลัวว่าอีกฝ่ายจะหายไปกลัวว่าจะโดนทิ้ง



“พีท...ปล่อยพี่ก่อน” อาร์ตพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยอ่อน



“ไม่เอา...น้องขอโทษ...อาร์ต...น้องขอโทษ...อย่าเลิกกับน้องนะ...ไม่เอา” นอกจากพีทจะไม่ยอมปล่อยเจ้าตัวยังกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น




“พี่บอกให้ปล่อยก่อนไง” อาร์ตว่าพร้อมกับดึงแขนพีทออกจากเอวของตัวเอง ก่อนจะหันกลับไปเผชิญหน้าอีกฝ่ายอีกครั้ง



พีทมองแขนทั้งสองข้างของตัวเองที่ถูกผลักไสออกมาอย่างใจสลาย และปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาอยู่แบบนั้นโดยไม่คิดจะพูดอะไรอีก ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจเสียงดังหรือส่งเสียงสะอื้นออกไปเพราะคงทนไม่ไหวอีกแล้วแน่ๆ ถ้าจะต้องเจอสายตาท่าทางเย็นชาของอาร์ตอีกครั้ง



“พีท...” เสียงเรียกที่ดังเข้ามาในโสตประสาททำให้พีทสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะก้าวถอยหลัง มือสองข้างกำแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในเนื้อ ริมฝีปากเม้มเข้าหากันเพื่อไม่ให้เสียงสะอื้นเล็ดลอดออกมา ตาก็ก้มลงมองที่พื้นไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาสบตาใครทั้งนั้น




อาร์ตถอนหายใจออกมาอีกครั้งและไม่รู้ว่าเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วของวัน มองร่างเล็กตรงหน้าที่สะอื้นฮักหอบตัวโยนด้วยความสงสาร น้ำใสๆที่หยุดลงบนพื้นอย่างต่อเนื่องทำให้อาร์ตปวดใจไม่น้อยที่เห็นอีกฝ่ายเสียใจ



“พีทครับ” อาร์ตส่งเสียงเรียกออกไปอีกครั้งและครั้งนี้ได้ผลเพราะพีทเงยหน้าขึ้นมามองในทันที ดวงตาแดงช้ำจากการร้องไห้อย่างหนักสั่นระริกด้วยความรู้สึกเอ่อล้นภายใน เมื่อเสียงที่อาร์ตใช้เรียกมันกลับมาเป็นโทนเสียงเดิมที่คุ้นเคย เสียงของอบอุ่นอ่อนโยนแฝงความขี้เล่นเสียงของผู้ชายใจดี เสียงเดิมของไอ้พี่อาร์ตของเข้า



“เฮ้อ...มานี่มา” และแทบจะทันทีที่ประโยคคำพูดของอาร์ตสิ้นสุดร่างทั้งร่างของพีทก็โผเข้าหาอาร์ตเต็มแรง แขนทั้งสองข้างโอบกอดเอาไว้แน่นปล่อยเสียงโฮออกมาอย่างไม่มีกั๊กอะไรอีก



“ชู่...ไม่เอาไม่ร้องแล้ว” อาร์ตโยกคนตัวเล็กในอ้อมกอดไปมาเบาๆ มือหนายกขึ้นลูบหัวลูบหลังเพื่อปลอบโยน พร้อมทั้งกดจมูกหอมลงที่หน้าผากเนียนเป็นระยะ



“น้องขอโทษ...ขอโทษนะอาร์ต” พีทพึมพำขอโทษไม่หยุดและซุกหน้าลงบนอกของอาร์ตอยู่แบบนั้น



“ครับ...แต่พีทต้องอธิบายทุกอย่างให้พี่ฟังเข้าใจไหม” อาร์ตว่าและพีทก็พยักหน้ารับกับอกอย่าแข็งขัน จนอาร์ตอดยิ้มให้กับความน่ารักนั้นไม่ได้



“งั้นปะ...กลับห้องกัน” อาร์ตดันพีทออกห่างเล็กน้อยแล้วยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าเนียนให้ ก่อนจะส่งยิ้มอ่อนโยนไปให้เพื่อที่อีกฝ่ายจะไม่ต้องคิดมาก



“ไหน...ยิ้มให้พี่ก่อนเร็ว” อาร์ตว่าเสียงกลั้วหัวเราะแล้วยกนิ้วไปแตะที่ข้างริมฝีปากของพีท ก่อนจะดันมันขึ้นเบาๆเพื่อให้อีกฝ่ายยิ้มออกมา



“ฮึก...ฮือออ...พี่มึงแม่ง” พีทว่าเสียงอู้อี้น้ำตาที่หยุดไหลไปแล้วไหลลงมาอีกครั้ง แต่คราวนี้มันต่างกันเพราะน้ำตาที่ไหลมันคือน้ำตาแห่งความสุข




“อ้าวกรรม...ทำไมร้องไห้อีกแล้วล่ะ” อาร์ตหน้าเหวอไปไม่น้อยเมื่อเจอเข้าไปแบบนี้ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาให้พีทเป็นพัลวัน



“ฮะๆ...ปวดตาอ่ะ” พีทยิ้มและหัวเราะออกมาเบาๆ ความเสียใจจากเหตุการณ์ก่อนหน้าถูกพัดหายวับไปกับตาเหมือนเรื่องโกหก และตอนนี้มันกำลังถูกแทนที่ด้วยความสุข ถ้าใครมองหาเจ้าชายในชีวิตจริงสักคน เขากล้าพูดได้เต็มปากว่าคนตรงหน้าเขาเนี่ยแหละเจ้าชาย...ถึงจะเป็นเจ้าชายยาจกก็เถอะ



“ดีกันแล้วใช่ไหม” เสียงราบเรียบที่ดังขึ้นขัดจังหวะทำให้อาร์ตกับพีทหันไปมองพร้อมกัน สิ่งที่เจอคือใบหน้าฉีกยิ้มกว้างจากไมล์ก่อนที่อีกฝ่ายจะหุบยิ้มลงทันควัน



“กูว่าเราคงต้องมีอะไรคุยกันหน่อยจริงไหม...เพื่อน” ไมล์ว่าพร้อมกับจ้องหน้าอาร์ตเขม็ง



“ก็คงงั้น” อาร์ตตอบพร้อมกับยิ้มแหยๆส่งให้ สงสัยก่อนจะเคลียร์เรื่องทั้งหมดกับน้องเขาคงต้องเคลียร์กับพี่ชายน้องก่อน และไม่รู้คืนนี้ทั้งคืนจะเคลียร์จบไหมดูท่าทางเพื่อนเขาจะหวงน้องไม่น้อยเลย


ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
โชคดีนะพี่อาร์ต

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
ต้องเตรียมอุปกรณ์ทำแผลไว้รอพี่อาร์ตไหมหนอ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
เฮ้อ โล่งอก กังวลกลัวว่าจะงอนยาว

ออฟไลน์ matchty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
    • MATCHTY-แมตตี้
27

Part จบ

“ดูมึงคุ้นเคยกับบ้านกูดีนะ” ไมล์ทักขึ้นเสียงเรียบและมองอาร์ตด้วยสายตาไร้ความเป็นมิตร ส่งรังสีอำมหิตเข้าฟาดฟันตลอดเวลาตั้งแต่อยู่ที่ผับจนถึงบ้านไม่หยุด เหมือนว่าเป็นศัตรูคู่อาฆาตกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน



“ก็กูมาบ่อย” อาร์ตตอบตรงๆอย่างไม่ใส่ใจตั้งแต่คบกับน้องมาเขาก็ไปมาหาสู่บ้านนี้ตลอด จนสนิทกับคนงานในบ้านเหมือนรู้จักกันมาแรมปีโดยเฉพาะกับแม่บ้านใหญ่ชองที่นี่ ไม่เห็นจะน่าแปลกตรงไหนคนที่แปลกคือไอ้ไมล์ต่างหากเขามาจนนับครั้งไม่ถ้วน ทำไมไม่เคยเจอมันอยู่ในบ้านเลยทั้งๆที่เจอกันในมหา’ลัยแทบทุกวัน



“เต็มปากเต็มคำนะมึง” ไมล์ว่าออกมาเสียงลอดไรฟันมองหน้าเพื่อนด้วยความหมั่นไส้ ส้นเท้ามันคอยกระตุกตลอดเวลาจนต้องใช้ความพยายามข่มใจเต็มที่ ไม่ให้ยกขึ้นหวี่ยงไปฟาดหน้าหล่อๆที่กวนส้นเหลือเกินของมันซะก่อน



“พีทกลับไปรอที่ห้อง...พี่ขอคุยกับไอ้อาร์ตแป่บนึง” ไมล์สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆเพื่อระงับความหงุดหงิดในใจ แล้วหันไปเอ่ยปากไล่พีทให้ไปรอที่ห้องเพื่อที่ตัวเองจะได้เคลียร์กับเพื่อนสะดวกขึ้น



“ไม่!! ทำไมพีทต้องไปวะ จะเคลียร์ไรจะคุยไรก็พูดตอนนี้เลยดิ” พีทปฎิเสธทันควันแบบไม่ต้องคิดมากพร้อมกับชักสีหน้าแสดงความไม่พอใจใส่ไมล์



“เรื่องของผู้ใหญ่เด็กไม่เกี่ยว” ไมล์ว่าเสียงแข็งรู้สึกขัดใจที่พีทไม่ฟังคำสั่งตัวเอง



“ก็เรื่องที่คุยมันเรื่องพีทป่ะวะ...งั้นพีทก็มีสิทธิ์จะอยู่ด้วย” พีทเองก็ไม่ยอมยังคงยืนกรานเสียงแข็งที่จะอยู่ด้วย




“พีท!!!” ไมล์ขึ้นเสียงใส่พีทแล้วจ้องอีกฝ่ายดุๆ ส่วนพีทเองก็จ้องตากลับไม่ยอมแพ้เช่นกัน



“พีทครับ...ขึ้นไปรอบนห้องก่อนพี่คุยกับไอ้ไมล์แป๊บเดียวนะ” อาร์ตตัดสินใจพูดขึ้นขัดจังหวะส่งครามทางสายตาของสองพี่น้องเพื่อเป็นการจบปัญหา ผลที่ได้คือไมล์ตวัดสายตามามองเขียวปั๊ดและพีทที่ชักสีหน้าใส่อย่างไม่พอใจ



“มึงไม่ต้องมาสั่งน้องกู...กูสั่งของกูได้” ไมล์ว่าเสียงแข็ง



“ไม่ไป!! พี่ไมล์ไม่ต้องมาสั่ง” พีทว่าเสียงแข็งไม่ต่างกันแล้วหันไปทำสงครามสายตากับไมล์อีกรอบ จนอาร์ตต้องกรอกตาไปมาด้วยความเซ็ง



“เออ...งั้นก็คุยกันไปละกัน เสร็จแล้วเรียกนะจะไปนอน” อาร์ตบอกเสียงเนือยๆแล้วหันหลังเดินไปทางบันไดบ้านทันที




“เดี๋ยว!!!” และแทบจะทันทีที่อาร์ตหันหลังสองพี่น้องอย่างไมล์กับพีทก็ส่งเสียงเรียกเจ้าตัวเอาไว้ดังลั่น



“มึงไม่ต้องมาเนียนเลย” ไมล์เดินไปดักหน้าอาร์ตเอาไว้แล้วมองอย่างเอาเรื่อง ตามด้วยพีทที่เดินไปแทรกกลางระหว่างทั้งคู่แล้วถลึงตาใส่ไมล์อย่างเอาเรื่อง



“กลับขึ้นห้องไปเดี๋ยวนี้เลยนะพีท” ไมล์สั่งอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่ใครได้ยินก้ต้องรีบทำตามแต่มันใช้ไม่เคยได้ผลกับพีท เพราะนอกจากจะไม่ทำตามง่ายๆยังไม่ได้มีความเกรงกลัวอะไรด้วยซ้ำ



“ไม่!!!” พีทปฏิเสธออกมาอีกครั้งอย่างชัดถ้อยชัดคำจนไมล์ยกมือขึ้นกุมขมับด้วยความปวดหัว



“พีท...ไปรอพี่ที่ห้อง” น้ำเสียงจริงจังที่ดังขึ้นจากทางด้านหลังทำให้ทั้งไมล์และพีทหันไปมองพร้อมกัน ก็เห็นอาร์ตมองกลับมายังทั้งคู่ด้วยแววตาไร้ความล้อเล่น



“แต่ว่า...” พีทยังคงไม่ยอมง่ายๆส่งเสียงค้านออกมาเบาๆ แต่ก็ต้องเงียบลงเมื่ออาร์ตส่งสายตามองกลับมาดุๆ



“มึงจะทำให้น้องกูกลัวทำไมเนี่ย” ไมล์รีบแทรกขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นแบบนั้นแล้วรีบดึงพีทให้ถอยห่างออกมา ถึงจะทำเป็นขึงขังใส่น้องแค่ไหนไมล์ก็ไม่เคยดุน้องได้แบบจริงๆจังๆสักครั้ง แถมถ้าอีกฝ่ายได้อ้อนนิดอ้อนหน่อยก็ใจอ่อนโกรธไม่เคยลงสักที บ่อเกิดความเอาแต่ใจส่วนนึงของพีทก็มาจากเขาเนี่ยแหละที่ตามใจอีกฝ่ายจนเคยตัว อยากได้อะไรทำผิดอะไรมาก็เป็นเขาที่คอยช่วยตลอดเลยทำให้พีทไม่ค่อยจะกลัวเขาเท่าไหร่ พอมาเห็นน้องที่ตัวเองไม่เคยใจร้ายด้วยลงเลยสักครั้งกำลังโดนเพื่อนตัวเองดุ มันเลยอดห่วงน้องและโกรธเพื่อนไม่ได้



“มึงจะคุยกับกูไหม...ถ้าคุยก็หุบปาก” นอกจากจะส่งเสียงดุใส่พีทแล้วอาร์ตยังเผื่อแผ่ความดุไปให้เพื่อนอย่างไมล์ด้วยอีกคน และนั้นทำให้ไมล์ต้องยืนเงียบไปตามๆกันเพราะรู้นิสัยของอาร์ตดีว่าเป็นยังไง




“ขึ้นไปข้างบน” อาร์ตพูดอีกครั้งด้วยเสียงเรียบนิ่งไม่แสดงอารมณ์



“อือ” พีทอ้อมแอ้มตอบและพยักหน้ารับหงอยๆส่งสายตามองไปทางไมล์ละห้อยเพื่อให้ช่วย แต่ก็ไม่เป็นผลเพราะนอกจากไมล์จะไม่ช่วยยังหลบสายตาด้วยซ้ำ เพราะเจ้าตัวกลัวจะใจอ่อนกับน้องและที่สำคัญเขาอยากคุยกับอาร์ตให้รู้เรื่องแล้วเหมือนกัน



“เดี๋ยวพี่ตามขึ้นไป” อาร์ตส่งยิ้มให้พีทพร้อมทั้งก้มลงหอมแก้มอีกฝ่ายก่อนจะพยักหน้าให้อีกฝ่ายขึ้นไปข้างบน ส่วนไมล์ได้แต่มองภาพตรงหน้าตาโตจนแทบถลนออกนอกเบ้า อ้าปากพะงาบๆเหมือนคนขาดอากาศหายใจสีหน้าแสดงออกถึงความรับไม่ได้อย่างถึงที่สุด



“ไอ้สัส!! นั่นน้องกู” ไมล์กระแทกเสียงใส่อาร์ตอย่างเอาเรื่องทันทีที่คล้อยหลังพีทไป



“แล้วไงน้องมึงแต่เมียกู” อาร์ตว่าหน้าตายแล้วกระตุกยิ้มส่งให้อย่างเยาะเย้ย




“มึงบอกกูมาเดี๋ยวนี้เลยว่ามึงไปรู้จักกับน้องกูได้ยังไง ที่ไหนเมื่อไหร่” ไมล์ล็อกคออาร์ตแล้วลากให้เดินมาทางสนามหญ้าข้างบ้าน ก่อนจะหยุดยืนกอดอกถามอีกฝ่ายด้วยสีหน้าขึงขัง



“ก็เจอที่มอนั่นแหละรถน้องมึงที่พังก็ฝีมือกู” อาร์ตตอบด้วยท่าทางสบายๆแล้วเดินไปนั่งลงที่เก้าอี้ตัวยาวใกล้ๆ ตอนแรกก็แอบหวั่นใจกับท่าทางของไมล์อยู่เหมือนกัน แต่ดูท่าเขาจะคิดมากไปเพราะอีกฝ่ายก็ไม่ได้อะไรมากแค่มีอาการประสาทเสียหวงน้องแบบปกติธรรมดาทั่วไป ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องดีถ้าเกิดว่าเพื่อนเขางี่เง่าไร้เหตุผลขึ้นมาขี้เกียจวางมวยกับพี่เขยตัวเอง



“มึงเองน่ะเหรอไอ้เหี้ยที่น้องกูพูดถึง” ไมล์ถามออกมาอย่างเหลือเชื่อเพราะเมื่อหลายเดือนก่อนพีทเคยโทรมาด่าคนๆนึงที่ทำรถพังให้เขาฟัง ไม่คิดมาก่อนเลยจริงๆว่าจะเป็นเพื่อนตัวเองแต่ตอนนั้นก็เห็นพีทเกลียดไอ้คนนั้นเข้าไส้ แล้วไปพลาดท่าเสียทียังไงถึงไปเสร็จเพื่อนเขาได้ล่ะ



“อือ” อาร์ตพยักหน้าตอบเพื่อนเล็กน้อยพร้อมกับนึกสงสัยในใจว่าเมียเด็กตัวเองไปเล่าอะไรให้เพื่อนเขาฟังบ้าง ไอ้ไมล์มันถึงได้ทำหน้าตาพิลึกกึกกือแบบนี้ใส่



“มึงไปทำอีท่าไหนน้องกูถึงเสร็จมึงเนี่ย” ไมล์ถามออกไปตรงๆพร้อมกับมองตาอาร์ตเพื่อหาคำตอบไปในตัว



“ก็ทำทุกท่า” อาร์ตกระตุกยิ้มกวนประสาทพร้อมทำตาวิบวับใส่ไมล์จนอีกฝ่ายอ้าปากตะลึงกับสิ่งที่ได้รับรู้



“มึง...นี่มึง...ไอ้เพื่อนเหี้ย” ไมล์ชี้นิ้วด่าอาร์ตด้วยเสียงตะกุกตะกักสมองพยายามคิดหาคำมาด่า สุดท้ายก็ได้แต่ยืนฮึดฮัดเพราะนึกคำไม่ออก



“เรื่องนั้นช่างเหอะ...ที่กูอยากคุยกับมึงไม่ใช่เรื่องนี้” รักจากตั้งสติได้ไมล์ก็เปลี่ยนเข้าโหมดจริงจังจนอาร์ตต้องหันกลับมามองเพื่อนด้วยความจริงจังไม่ต่างกัน



“มึงคิดยังไงกับน้องกู...รัก หรือมึงแค่เล่นๆ” ไมล์หันมาสบตาอาร์ตด้วยแววตาสงบนิ่งรอคอยคำตอบอย่างใจเย็น ที่เขาต้องถามเพราะรู้นิสัยเพื่อนตัวเองดีว่าเป็นยังไง เหี้ยระดับไหนคือรู้ไส้รู้พุงกันหมด และนั้นมันเลยทำให้เขากลัวว่าพีทจะเสียใจ



“ถ้ามึงไม่จริงจังกูขอนะในฐานะเพื่อนเลิกยุ่งกับน้องกูไป” ไมล์เอ่ยปากขอร้องตรงๆเขาไม่รู้ว่าอาร์ตกับพีทผูกพันธ์กันไปแล้วระดับไหน แต่จากเรื่องที่เห็นน้องชายเขาแค่อาร์ตมากพอควรเลยล่ะ



“พูดเอาๆมึงคิดจะให้กูตอบบ้างไหม” อาร์ตทำกลับอย่างสบายอารมร์จนใบหน้านิ่งๆของไมล์เปลี่ยนเป็นบึ้งตึงทันควัน



“มึงกูตอบมาสิวะเหี้ยนิ” ไมล์ว่ากลับด้วยความหงุดหงิดที่เห็นอาร์ตทำเป็นเล่น



“งั้นมึงสบายใจได้เลยกูรักน้องมึงจริงๆ” อาร์ตเองก็ตอบตรงแบบไม่อ้อมค้อมจนไมล์ยกคิ้วขึ้นสูงมองเจ้าตัวอย่างไม่อยากจะเชื่อ



“มึงจะบอกว่ามึงรักน้องกูจริงๆทั้งที่น้องกูสันดานแบบนั้นเนี่ยนะ” ไมล์ถามเสียงสูงมองอารืตอย่างจับผิด



“ทำไม...สันดานเมียกูเป็นยังไง” อาร์ตถามกลับเสียงแข็ง



“ก็งี่เง่า เอาแต่ใจ เด็กไม่รู้จักโต ติดความสบาย แถมเหวี่ยงฉิบหาย” ไมล์ตอบกึ่งๆบ่นพีทไปในตัว



“เออ” อาร์ตว่าพร้อมกลั้วหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อสมองก็คิดภาพตามที่ไมล์ว่าไปด้วย



“มึงจะบอกว่ารักน้องกูทั้งๆที่ไอ้ปิงยังเอามึงไม่อยู่เนี่ยนะ” ไมล์ถามออกมาอีกครั้งอย่างเหลือเชื่อ



“กับไอ้ปิงมันคนละเรื่องกัน...แล้วจะพูดถึงทำเหี้ยอะไรวะ” อาร์ตว่าออกมาด้วยความหงุดหงิด



“เออๆกูขอโทษ...แล้วมึงคิดจะเล่าเรื่องนั้นให้น้องกูฟังไหม” ไมล์ที่รู้ว่าตัวเองพูดเรื่องที่จี้แผลเก่าของเพื่อนรีบเอ่ยปากขอโทษ พร้อมกับถามต่อทันทีเมื่อไหนๆก็ลากเข้าเรื่องนี้มาแล้ว



“เล่า...แต่อีกสักพัก” อาร์ตว่าเพราะไม่ได้คิดจะปิดบังอะไรแค่รอเวลาเท่านั้น รอให้ตัวเองพร้อมที่จะพูดและรอให้แน่ใจว่าน้องได้ฟังแล้วจะไม่มองเขาด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป เพราะเรื่องที่จะเล่าก็จัดว่าเป็นส่วนเหี้ยๆในชีวิตที่เขาทำเลยล่ะ



ไมล์สบตาอาร์ตอีกครั้งก่อนจะถอนหายใจออกมายาวๆ แล้วเดินไปนั่งลงที่ว่างข้างๆอาร์ตในสภาพหมดอาลัยตายอยาก จนอาร์ตมองด้วยความขำแกมสมเพช



“ถ้ากูจำไม่ผิดมึงเคยบอกว่าตัวเองเป็นลูกคนเดียวไม่ใช่เหรอ” อารืตถามขึ้นในสิ่งที่ตัวเองสงสัยเพราะเท่าที่จำได้ไมล์เคยบอกว่าเป็นลูกคนเดียว และพีทเองก็เป็นลูกคนเดียวทำไมกลายเป็นว่าทั้งคู่เป็นพี่น้องกันไปได้




“พีทไม่ใช่น้องแท้ๆกูแค่เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน พ่อพีทเป็นลุงกูเอง” ไมล์ตอบด้วยน้ำเสียงเนือย ส่วนอาร์ตก็หายข้องใจทันทีเพราะแค่นี้ก็รู้แล้วว่าทำไมไม่เคยเจอไมล์ที่บ้านหลังนี้เลย และอีกอย่างเขาก็เคยไปเที่ยวบ้านไมล์ไปนอนเลยด้วยซ้ำซึ่งมันคนละหลังกับที่นี่



“อืม...แล้วมึงรู้จักแฟนเก่าของพีทบ้างไหม” คำถามต่อมาของอาร์ตทำให้ไมล์หันกลับมามองด้วยความสงสัย แต่ก็ไม่เจอพิรุธอะไรจากอีกฝ่ายเลยไม่คิดอะไรมาก



“กูจำไม่ได้หรอก เห็นแบบนี้น้องกูก็มีเด็กในสต๊อกพอๆกับมึงกับกูเนี่ย กับเรื่องผู้หญิงน้องกูไม่ใช่เล่นๆหรอกนะระวังไว้ให้ดีเหอะมึง” ไมล์พูดขู่อาร์ตพร้อมกับกระตุกยิ้มส่งให้



“แล้วกับผู้ชายล่ะ” อาร์ตถามต่อเรื่อยๆเพราะที่เขาสงสัยและอยากรู้ไม่ใช่เรื่องผู้หญิง แต่เป็นเรื่องของผู้ชายคนนั้นต่างหาก



“อันนี้ไม่รู้ว่ะ...ว่าแต่มึงถามทำไม” ไมล์พยายามนึกแต่นึกไม่ออกเลยหันมาถามอาร์ตกลับ เพราะไม่เข้าใจว่าอาร์ตจะถามเรื่องนี้ไปทำไม



“ไม่มีอะไรแค่อยากรู้” อาร์ตตอบปัดๆไปเพราะไม่อยากพูดมาก ซึ่งไมล์เองก็ไม่เซ้าซี้ถามเอาคำตอบต่อ



“ว่าแต่ที่ผับมึงทะเลาะอะไรกับน้องกู” ไมล์ถามกลับไปบ้างเพราะความเป็นห่วง การที่พีทร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรขนาดนั้นไม่น่าจะใช่เรื่องเล่นๆ



“ไปถามน้องมึงสิ” อาร์ตว่ากวนๆแต่เป็นอันรู้กันว่าไม่ตอบคำถาม ไมล์เลยได้แต่กรอกตาไปมาด้วยความเซ็ง



“เออ!!!” ไมล์กระแทกเสียงใส่อย่างหงุดหงิดเพราะต่อให้ไปถามพีทจริง นั่นก็คงจะกวนประสาทเขามาไม่ต่างกันหรอก



“เฮ้อ!! กูไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเมียเด็กมึงที่ว่าคือน้องกู...โลกกลมแบบนี้โคตรทำร้ายจิตใจกูฉิบหาย” ไมล์โอดครวญออกมาอย่างเจ็บปวดจนอาร์ตได้แต่ส่ายหน้าให้ด้วยความหน่าย



“ถ้ากูรู้ว่าพีทเป็นน้องมึงกูจับทำเมียตั้งแต่สี่ปีก่อนแล้วเหมือนกัน” อาร์ตพึมพำออกมาเบาๆจนไมล์ต้องมองด้วยความไม่เข้าใจ



“หมายความว่าไงวะ...อย่าบอกนะว่า” ไมล์ขมวดคิ้วเป้นปมก่อนจะตาโตเบิกกว้างเมื่อนึกอะไรบางอย่างออก



“โลกกลมสัสๆ...กลมไปแล้วไอ้เหี้ย” ไมล์ถึงกับครางออกมาด้วยความอึ้งส่วนอาร์ตก็กระตุกยิ้มเล็กน้อย ก่อนที่เจ้าตัวจะลุกขึ้นยืนเพื่อที่จะได้กลับไปห้องนอนของพีท



“กูกลับห้องก่อนนะน้องมึงรอแล้วป่านนี้” อาร์ตว่าแล้วหันหลังเดินไปแบบไม่คิดจะรอคำตอบ



“เฮ้ย!! มึงห้ามทำอะไรน้องกูนะไอ้สัส!!” ไมล์ตะโกนไล่หลังด้วยความหวงน้องถึงจะรู้ว่ามันเลยเถิดไปถึงไหนต่อไหนแล้วก็เหอะ



“เออ...ไอ้ไมล์” อาร์ตที่เดินไปไกลพอสมควรหยุดชะงักแล้วหันกลับมาเรีกยไมล์เสียงดังเพราะนึกอะไรขึ้นได้ ส่วนไมล์ก็มองกลับไปด้วยความแปลกใจเพราะไม่รู้ว่าเพื่อนจะคุยอะไรด้วยอีก



“กูลืมบอกว่ะ...กูได้น้องมึงเป็นเมียครั้งแรกก็ที่นี่เนี่ยแหละ” อาร์ตกระตุกยิ้มเยาะเย้ยแล้วหันหลังเดินกลับเข้าบ้านทันทีที่พูดจบ ถึงให้ไมล์ยืนอ้าปากพะงาบๆเหมือนปลาขาดออกซิเจนอยู่ตรงนั้น




“ไอ้เพื่อนเหี้ย!!!” ไมล์ตะโกนไล่หลังด้วยความโมโหปนเจ็บใจก่อนจะยืนน้ำตาตกในกับสิ่งที่ได้ยิน ไม่เคยอยากจะกระทืบเพื่อตัวเองมาก่อนเลยในชีวิตจนมาวันนี้เนี่ยแหละ ถ้าน้องเขยที่มีศักดิ์เป็นเพื่อนมันจะกวนตีนขนาดนี้นะให้ตายเถอะ!! 



2 Be Con...



+++++++++++++++++++

เบาๆเรื่อยๆฮาๆ ไม่เน้นดราม่า

เราจะ Feel Good ไปด้วยกันนะจ๊ะ

เฮ้อ!!! อยากจะมีเจ้าชายยาจกแบบนี้บ้างในชีวิตจริง

เฮียอาร์ตของบ่าวววววววววว


รักและขอบคุณคนอ่านจ้า

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
พี่อาร์ตกวนทีน รีบไปหาเมียไป๊

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
พี่อาร์ตจะถามพีทเรื่องแฟนเก่าไหมหนอ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
พี่ไมล์น่าจะต่อยปากไปทีโทษฐานกวนตีนดีนัก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด