คู่กัดฉบับรักเกินร้อย ตอนที่ 58 - END (19/10/2559)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: คู่กัดฉบับรักเกินร้อย ตอนที่ 58 - END (19/10/2559)  (อ่าน 115500 ครั้ง)

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
อ่านแบบยาวๆ เลยค่ะ
อาร์ตไม่รอด 555
พีทคือเหวี่ยงได้ทุกสถานการณ์

สุดท้ายก็เคลียร์กันแล้ว เข้าใจกันแล้ว
ไม่ง่ายเลยนะกับการฟัง แต่ไม่พูดกัน คนง้อก็รอไป

นาวน่ารัก ช่วยเพื่อนได้เยอะ รู้ทันชาวบ้าน 555


ออฟไลน์ matchty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
    • MATCHTY-แมตตี้
คู่กัดฉบับรักเกินร้อย

By matchty



กัดครั้งที่

- 40 -



หลังจากจบเรื่องราววุ่นวายของเหตุการณ์ในอดีต พีทก็ต้องรับมืออาร์ตที่เอาคืนด้วยการจัดหนักจัดเต็มทุกวัน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นแค่อาทิตย์ละ 2-3 วัน กลายเป็นว่าอีกฝ่ายกวนเขาได้ทุกคืน ผลที่ตามมาคือการไปเรียนในสภาพซอมบี้ผ่านศึกทุกวัน และมันทำให้เขาขยาดที่จะลงโทษอีกฝ่ายด้วยวิธีแบบนี้อีก เพราะสุดท้ายผลของมันย้อนกลับมาหาเขาทั้งหมด ยังดีที่ช่วงสอบอีกฝ่ายยังมีสมองปล่อยให้เขาอ่านหนังสือ แต่ก็นั่นแหละพ้นช่วงสอบและตลอดปิดเทอมคือเขารับกรรม



แต่อย่างน้อยพอเปิดเทอมใหม่มาก็มีเรื่องดีๆ ต้อนรับพีทบ้าง นั่นก็คือผลสอบที่ออกมาได้ดีอย่างที่ตั้งใจสมกับที่อ่านหนังสือเกือบตาย และการรับน้องสุดนรกที่สิ้นสุดลงสักทีหลังจากตลอดเทอมแรกที่ผ่านมา เขาโดนรุ่นพี่แกล้งสารพัดใช้ให้ทำอะไรพิสดารตลอด ดีหน่อยที่ไม่ได้เหนื่อยเองทั้งหมด




“เห่ออะไรขนาดนั้นน้องพีท” อาร์ตเอยปากแซวและส่งสายตาล้อเลียนให้พีท เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายอมยิ้มมองของในมือไม่วางตา แถมด้วยการทำหน้าภูมิอกภูมิใจเหมือนได้รับเหรียญกล้าหาญ



“ก็กว่าจะได้มาเกือบตายเลยนี่หว่า” พีทหันมาค้อนอาร์ตตาคว่ำด้วยความเคืองที่โดนแซว ก่อนจะหันไปมองของในมือแล้วทำตาเคลิ้มอีกรอบ



พีทเพิ่งจะได้ไอ้ของในมือมาเมื่อเช้านี้เองมันเลยอดที่จะดีใจไม่ได้ ก็กว่าจะได้มามันไม่ง่ายเลยแค่ไอ้ของชิ้นเล็กๆ ที่คิดมาตลอดว่าทำไมต้องทนเพื่อให้ได้มันมา แต่ตอนนี้เขารู้เลยว่าได้มาแล้วมันรู้สึกดียังไง เท่านี้เขาก็เป็นเด็กวิศวะเต็มตัวแล้ว



“เกือบตายตรงไหนครับซ้อ ผมไม่เห็นซ้อจะได้ทำอะไรเลย” น้ำเสียงเนิบนาบโทนเดียวของวินที่แทรกขึ้นมา ทำให้พีทหุบยิ้มแทบไม่ทันและชักสีหน้าไม่พอใจทันที



“พูดงี้มึงหาเรื่องเหรอไอ้พี่วิน” พีทตวัดตามองวินอย่างเอาเรื่อง และทำท่าเหมือนจะพุ่งเข้าใส่ทันทีถ้าอีกฝ่ายตอบไม่เข้าหู



“ผมแค่พูดความจริงนะครับซ้อ” วินตอบด้วยใบหน้านิ่งสนิทและเสียงเนิบนาบเหมือนเดิมไม่มีผิด ซึ่งมันกวนประสาทในสายตาของพีทเป็นที่สุด



“กูให้โอกาสอีกรอบ มึงพูดใหม่เลยนะไอ้พี่วิน” พีทกดเสียงต่ำและทำท่าทางข่มขู่วิน



“ผมไม่ชอบโกหกครับ” วินปฏิเสธทันทีแบบไม่คิดเยอะ ทำเอาพีทแยกเขี้ยวและพุ่งเข้าใส่ทันที เดือดร้อนอาร์ตที่นั่งมองมานานต้องดึงตัวพีทเอาไว้



“ปล่อยเลยนะไอ้พี่อาร์ต วันนี้กูจะตบกะโหลกไอ้พี่วินให้ได้” พีทโวยวายดังลั่นและดิ้นไปมาไม่หยุด พยายามที่จะพุ่งเข้าหาวินให้ได้ เพราะหงุดหงิดที่อีกฝ่ายเถียงได้ทุกคำ



“อย่าเลยครับซ้อไม่ไหวหรอกผมสงสาร” วินออกปากห้ามและนั่งนิ่งทำหน้าตายกวนโอ๊ยใส่



“ไม่ไหวอะไร สงสารทำไม คิดว่าตัวใหญ่กว่าจะไม่กล้าสู้หรือไง” พีทถลึงตาใส่ด้วยความโมโหเพราะคิดว่าวินดูถูกตัวเอง



“เปล่าครับ...ผมสงสารตัวเองผมไม่ถนัดเรื่องใช้กำลังครับ” วินรีบก้มหัวยอมแพ้ให้พีทแบบไม่ลีลา



“เอาน่าน้องพีทไอ้วินมันก็ยอมแล้วปล่อยมันไปเถอะ อีกอย่างถ้าไม่ได้มันล่าลายเซนต์ให้ น้องพีทจะได้เกียร์ที่อยู่ในมือตอนนี้ไหมครับ” อาร์ตลูบหลังพีทให้ใจเย็นแล้วดึงอีกฝ่ายลงนั่งที่ตัก และมีวินคอยพยักหน้างึกงักเห็นด้วยกับคำพูดของอาร์ต



“บุญคุณมากไหม” พีทชักสีหน้าอย่างหงุดและมองวินเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ



“ถ้าคิดว่าเป็นบุญคุณขอบคุณผมก็ได้นะครับซ้อ” วินฉีกยิ้มกว้างใส่พีทอย่างประจบ ผลที่ได้คือพีทที่แทบจะลุกขึ้นไปบีบคอ



“ทะลึ่งละ ยังไม่ได้คิดบัญชีตอนรับน้องเลยนะ” พีทชีหน้าคาดโทษวินอย่างแค้นเคือง



“โธ่ซ้อ...ไอ้วินทำตามหน้าที่ทั้งนั้น” วินโคลงหัวเล็กน้อยพร้อมส่งยิ้มเจื่อนๆ ให้พีท



“ก็พี่บอกแล้วว่าให้บอกไปว่าเด็กพี่ก็ไม่เชื่อ” อาร์ตพูดแทรกขึ้นมาบ้างหลังจากที่ปล่อยให้พีทกับวินปะทะริมฝีปากกันนานพอควร




“ไม่เอา!! แล้วนี่มือพี่มึงอยู่นิ่งๆได้ไหมวะ” พีทปฏิเสธเสียงแข็งก่อนจะยิกลงบนหลังมือซุกซนของอาร์ต ที่ตอนนี้เอาแต่คอยลูบไล้ตามเนื้อตัวเขาไม่หยุด นี่ยังไม่นับที่จมูกอีกฝ่ายที่เอาแต่วนเวียนหอมแก้มนะ คนอะไรทำไมมันหาเศษหาเลยกับเขาได้ตลอดเวลา สมองมีแต่เรื่องใต้สะดือจริงๆ ให้ตายสิ



“โอ๊ย!! ทำไมน้องพีทชอบทำร้ายร่างกายพี่เนี่ย” อาร์ตสะบัดมือที่โดนพีทยิกไปมา ก่อนจะกดจมูกลงหอมแก้มอีกฝ่ายด้วยความมันเขี้ยว แขนสองข้างสอดเข้าไปที่เอวบางและกอดไว้แน่นพร้อมกับซบหน้าลงบนไหล่เล็ก



“ไม่อยากให้ทำก็หัดอยู่นิ่งๆ ดิวะ” พีททำเสียงดุใส่อาร์ตแต่ใบหน้าแดงก่ำด้วยความเขิน



“แบบนี้ต้องเอาคืน” อาร์ตกระซิบบอกพีทด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์



“เอาคืนอะไร” พีทถามกลับด้วยน้ำเสียงสะบัดแสดงความไม่พอใจแล้วจ้องหน้าอาร์ตเขม็ง



“ก็จะจับฉีดยาเอาให้ครางทั้งคืนเลยไง” อาร์ตว่าพร้อมกับยิ้มหื่นกามใส่พีท



“ไอ้เหี้ย!!!” พีทโวยวายดังลั่นด้วยใบหน้าที่แดงก่ำยิ่งกว่าเก่า และตอนนี้กำลังลามไปถึงลำคอและใบหู



“เอ่อ...” วินกำลังอ้าปากจะพูดแทรกตัดสินใจหุบปากและนั่งมองคนทั้งคู่หยอกล้อกันแทน อยากจะสะกิดบอกใจแทบขาดว่าให้สนใจไอ้วินที่นั่งตัวโตๆ ตรงนี้บ้าง แต่ก็ทำไม่ได้เพราะถ้าขัดอารมณ์สวีทของทั้งคู่ เขาอาจจะซวยโดนเตะขึ้นมาก็ได้ เพราะฉะนั้นไอ้วินนั่งมองอย่างอิจฉาได้...ไอ้วินไม่เป็นไร



...

...



พีทเดินเข้ามาในโรงยิมของมหา’ลัยหลังจากที่ซ้อมวิ่งเสร็จ เพราะโดนโยนหน้าที่นักกีฬาเจ้าลมกรดให้จากอาร์ต โดยที่อีกฝ่ายไม่ได้ถามความสมัครใจของเขาเลยสักนิด แถมยังเผด็จการลงชื่อจัดการทุกอย่างเสร็จสรรพ ทำให้เขาเลี่ยงไม่ได้ต้องก้มหน้าฝึกซ้อมไป เผื่อจะได้สักเหรียญมาฝากคณะในงานกีฬามหา’ลัยที่จะจัดขึ้นเร็วๆ นี้



“ซ้อ!!! ทางนี้ๆ” เสียงเรียกดังลั่นที่ดังขึ้นมาจากอีกฝากของโรงยิม ทำเอาพีทหันไปมองอย่างเร็วจนคอแทบหัก ก่อนจะรีบสาวเท้าเดินเข้าไปหาวินที่ยืนโบกมือเรียก ท่ามกลางสายตาคนนับสิบที่มองมาอย่างสนใจปนสงสัย กับสรรพนามที่วินตะโกนเรียกขานเมื่อกี้



“เรียกอะไรของมึงเนี่ยไอ้พี่วิน อายคนแม่ง!!” พีทกระซิบกระซาบด่าวินพร้อมใบหน้าแดงก่ำ ตาก็เหลือบมองรอบๆ ข้างตลอดเวลา



“อายทำไมอ่ะซ้อเรื่องจริงทั้งนั้น” วินถามกลับหน้าตายและบ่งบอกว่าไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรในสิ่งที่ตัวเองพูด



“จริงเหี้ยไรล่ะ” พีทกระซิบด่าลอดไรฟันถลึงตามองวินดุๆ



“อะไรตรงไหนที่ไม่จริงล่ะซ้อ” วินต่อปากต่อคำกับพีทไม่หยุดคิ้วขมวดพันกันยุ่ง ไม่เข้าใจว่าทำไมพีทจะต้องปฏิเสธความจริง



“ไปถามเฮียมึงสิ” พีทกระแทกเสียงตอบวินแล้วสะบัดตัวเดินหนีไปหาเลิฟ ที่นั่งอยู่บนม้านั่งตัวยาวข้างล่างอัฒจันทร์ ทิ้งให้วินยืนเกาหัวมองตามด้วยความไม่เข้าใจอยู่แบบนั้น




“ทำหน้าเป็นส้นตีนอีกแล้วหาเรื่องอะไรให้ผัวง้ออีกล่ะ” นาวเอ่ยทักทันทีเมื่อเห็นพีทเดินกระแทกเท้าปึงปัง ใบหน้าบูดบึ้งเข้ามาหา



“นี่มึงเห็นกูเป็นคนยังไงเนี่ย” พีทกระแทกตัวนั่งข้างๆ เลิฟแล้วมองค้อนนาวตาคว่ำอย่างไม่ยอมรับ ว่าตัวเองกำลังเกิดอาการงอนอาร์ตอย่างที่เพื่อทักจริงๆ



ถ้าถามว่าพีทงอนอะไรอาร์ตอีกคงต้องย้อนกลับไปที่ประโยคสนทนาของตัวเองกับวินเมื่อกี้ วินเข้าใจว่าที่เขาไม่ให้เรียกซ้อเพราะอายแต่ที่จริงเขากำลังไม่พอใจต่างหาก เพราะรับน้องจบมาจะเป็นเดือนแล้วอาร์ตยังไม่ทำอะไรให้ชัดเจนสักที ไม่ยอมบอกคนอื่นว่าเรากำลังคบกันอยู่ปล่อยให้ทุกคนเดากันไปเองอยู่ได้




ถึงแม้ว่าทีแรกจะเป็นเขาเองที่ห้ามไม่ให้พูดก็เถอะแต่ให้พูดแล้วทำไมไม่พูดล่ะ ไม่เข้าใจว่าลืมหรือจงใจแกล้งเขาให้หมดความอดทนแล้วพูดก่อน แต่ฝันไปเถอะในเมื่ออีกฝ่ายไม่พูดเขาก็ไม่พูด มาลองเล่นสงครามประสาทกันดูสักตั้ง เพราะเขาไม่ได้เดือดร้อนอะไรกับการที่คนจะรับรู้หรือไม่รับรู้อยู่แล้ว ในเมื่อเขากับอาร์ตเรารู้ดีอยู่แล้วว่าเรารักกันและผ่านอะไรมาพอสมควร เรื่องมือที่สามเขากล้าบอกเลยว่าสั่นคลอนความรู้สึกเขายาก ก็แค่รำคาญพวกผู้หญิงและผู้ชายบางคนที่เขามาเกาะแกะอีกฝ่ายไม่เลิกเท่านั้น เลยอยากแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของไอ้คนที่พวกนั้นอ่อยอยู่



“เห็นว่าตั้งแต่มึงมีผัวแล้วฮอร์โมนเพศเมียของมึงมันพลุ่งพล่าน ขยันสร้างเรื่องให้ผัวง้อตลอดเวลาไง” นาวฉีกยิ้มกว้างพร้อมกับยักคิ้วให้พีท เรียกเสียงหัวเราะคิกคักจากกลุ่มเพื่อนที่นั่งอยู่ตรงนั้นได้เป็นอย่างดี



“แหมชะนีอย่าแซวเพื่อสิคะแค่นี้ความแมนมันก็ไม่เหลือแล้ว ใช่ป่ะคะเพื่อนสาว” โดม หรือ โดมมี่ กระเทยสาวหน้าหล่อที่ดีกรีเป็นถึงเดือนคณะวิศวะปีนี้ เอ่ยปากแซวพีทอย่างสนุกสนาน



“เพื่อนสาวพ่อง!!! แล้วนี่มึงมานั่งเสนอหน้าอะไรตรงนี้ สืบราชการลับไปให้คณะมึงหรือไง” พีทแยกเขี้ยวใส่โดมพร้อมกับถลึงตาโตใส่ ก่อนจะหันไปหาเรื่องเอยที่นั่งเล่นรูบิคอยุ่ด้วยความพาล



“พี่กิงให้มาน่ะครับ” เอยตอบตรงๆ โดยที่ไม่ได้สนใจอาการพาลของพีท จะเรียกว่าไม่สนใจคงไม่ถูกต้องบอกว่าไม่รู้ตัวว่าโดนพาลใส่มากกว่า



“มาเฝ้าผัวก็บอก” พีทถามเอยด้วยน้ำเสียงกวนประสาทและส่งยิ้มยียวนให้ จนคนอื่นๆ ได้แต่ส่ายหัวให้กับความเด็กไม่รู้จักโตของเจ้าตัว




“พีทเข้าใจผิดแล้วครับพี่กิงไม่ใช่สามีผมหรอก สถานะตอนนี้ของเราคือแฟนกัน จะเป็นสามีภรรยากันได้เราต้องผ่านการแต่งงาน จด.....”



“พอๆ กูเข้าใจมึงแล้ว” พีทยกมือขึ้นห้ามเอยแทบไม่ทัน พร้อมกับกรอกตาไปมาด้วยความเซ็ง



“แต่พีทต้องให้ผมอธิบายก่อนนะครับเดี๋ยวเข้าใจผิดอีก” เอยวางรูบิคลงที่ตักแล้วจ้องพีทด้วยสีหน้าจริงจัง ตั้งท่าจะอธิบายสถานะของตัวเองให้พีทเข้าใจ



“ไม่ต้อง...กูเข้าใจ” พีทยกมือห้ามอีกครั้งและเริ่มรู้สึกปวดหัวขึ้นมาแบบไม่มีสาเหตุ



“แต่ว่า...” เอยที่เห็นสีหน้าของพีทก็ตั้งใจจะอธิบายให้ได้ เพราะคิดว่าพีทไม่น่าจะเข้าใจเท่าไหร่



“กูเข้าใจจริงๆ เอย...นาว...ช่วยกูด้วย” พีทเรียกหานาวอย่างต้องการความช่วยเหลือ เบ้หน้าเหมือนจะร้องไห้ออกมาอย่างจนปัญญา รู้สึกว่าตัวเองพลาดมหาศาลที่ไปพาลใส่เอย ทำไมไม่พาลใส่เลิฟอย่างที่เคยทำเป็นปกติก็ไม่รู้



“สมน้ำหน้า” นาวมองพีทอย่างสมเพชแล้วก็ไม่สนใจปล่อยให้เอยนั่งอธิบายกับพีทอยู่แบบนั้น ส่วนพีทก็ได้แต่นั่งน้ำตานองในใจฟังเอยอธิบายอะไรก็ไม่รู้วนไปวนมาไม่หยุด



ปัง!!!



แต่ในระหว่างที่พีทกำลังคิดหาวิธีทำให้เอยหยุดพูดก็เกิดเสียงดังสนั่นขึ้น จนคนทั้งโรงยิมและตัวเขาเองต้องมองไปทางต้นเสียงด้วยความตกใจ


สิ่งที่ทุกคนได้เห็นก็คือลูกบาสลูกนึงที่กระเด็นออกมาจากผนัง หลังจากที่ปะทะเข้ากับกำแพงด้วยแรงมหาศาล เฉียดใบหน้าของรุ่นพี่คนหนึ่งที่กำลังนั่งคุยกับเลิฟไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปด ก่อนที่ลูกบาสจะกลิ้งช้าๆ และหยุดนิ่งในที่สุด



“เฮ้ย!!! มึงทำเหี้ยไรวะปอ” กิงโวยวายดังลั่นและถามปอที่ยืนอยู่กลางสนามด้วยใบหน้าเรียบอย่างตกใจ ซึ่งก็ไม่ต่างจากคนอื่นๆ เท่าไหร่นัก เพราะทุกคนก็ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่แพ้กัน



“หลุดมือ” แต่ตัวต้นเหตุแบบปอกลับตอบทุกคนเสียงเรียบตาจ้องไปที่รุ่นพี่ที่นั่งข้างเลิฟไม่วางตา



พีทกลืนน้ำลายลงคอเสียงดังแล้วมองหน้าเพื่อนคนอื่นๆ ที่มีอาการไม่ต่างกันอย่างเลิ่กลั่ก ท่ามกลางบรรยากาศที่เริ่มกดดันซึ่งแผ่มาจากคนที่บอกว่าลูกบอลหลุดมือนั่นแหละ




“อ่า...ผมควรบอกพี่ปอดีไหมครับว่ามันไม่ได้เรียกว่าหลุดมือแต่เขาเรียกว่าปาใส่” เอยพูดขึ้นเสียงเบาแล้วมองหน้าปอที่ยืนอยู่กลางสนาม สลับไปมากับหน้าเลิฟที่กำลังตกใจไม่แพ้คนอื่นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น



“มึงก็เดินไปบอกเองสิ” พีทกระซิบกระซาบบอกเอยพร้อมกับกระแทกไหร่ให้เดินไป แต่เอยที่อ่านบรรยากาศรอบข้างไม่ค่อยออกยังส่ายหน้าจนผมกระจาย




“เลิฟ...ถือลูกบาสไปให้พี่ปอหน่อย” นาวบอกเลิฟที่นั่งข้างกันทันทีเพราะไม่อยากให้บรรยากาศกดดันไปมากกว่านี้ ซึ่งเจ้าตัวก็หยิบลูกบาสเดินไปหาปอที่ยืนอยู่กลางสนามอย่างว่าง่าย แม้จะไม่ค่อยเข้าใจอะไรเท่าไหร่นัก



“พี่ปอแม่งน่ากลัวเหี้ย” พีทพึมพำออกมาเสียงเบาพอให้ได้ยินกันในกลุ่ม ซึ่งทุกคนก็ต่างพากันพยักหน้าเห็นด้วยเป็นทิวแถว




“แต่กูกรี๊ดมาก...หึงโหดอ่ะมึง คนอะไรทำไมหล่อได้ขนาดนี้ ถ้ากูเอะใจเร็วกว่านี้ไม่ถึงมือไอ้เลิฟกูบอกเลย ก็คิดอยู่แล้วเชียวว่าขนาดใส่แว่นก็ยังหล่อเลย แต่กูไม่คิดว่าถอดแว่นแล้วจะหล่อขนาดนี้” โดมทำหน้าเคลิ้มฝันบิดตัวไปมาและบ่นเสียดายไม่หยุด จนพีทต้องส่ายหัวให้ด้วยความหน่ายในความบ้าของโดม




ต้องบอกว่าเรื่องที่ปอกับเลิฟเป็นแฟนกันสร้างความฮือฮาให้คนทั้งคณะไม่น้อย เป็นข่าวต้อนรับการเปิดเทอมใหม่ที่เรียกว่าโด่งดังไปทั่ว พร้อมกับที่ได้รับรู้ว่าหนุ่มหล่อที่ทุกคนเห็นว่าไปไหนมาไหนกับเลิฟบ่อยๆ แท้จริงแล้วก็คือมหาปอที่รู้จักกันดี ซึ่งตอนนี้ไม่เหลือเค้ามหาปอแต่กลายเป็นหนุ่มหล่อร้าย ที่หลายคนถึงกับบ่นด้วยความเสียดายในความตาถั่ว




“น้องพีท...เหนื่อย” เสียงเรียกคุ้นเคยดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงของอาร์ตที่เดินอ่อนแรงเข้ามาหา ทำให้พีทต้องหันหน้าไปมองอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนจะชักสีหน้ารำคาญไส้อย่างหมั่นไส้กับการแสดงเกินจริงของอีกฝ่าย



“สม” พีทกระแทกเสียงใส่แล้วหันไปหยิบน้ำมายื่นให้อีกฝ่าย



“ใจร้าย” อาร์ตทำเสียงกระเง้างอดใส่พีทแล้วรับน้ำมาดื่ม ส่วนพีทที่ทำเก็กหน้าขรึมใส่ก็หลุดหัวเราะอย่างห้ามไม่อยู่ เมื่อเห็นคนตัวโตๆ แบบอาร์ตทำสะดีดสะดิ้งแต๋วแตกใส่



“กวนตีน...แล้วนี่เลิกซ้อมแล้วเหรอ” พีทพึมพำด่าพร้อมหัวเราะเบาๆ มือก็หยิบผ้าเย็นเช็ดไปตามใบหน้าและลำคอให้อาร์ต ซึ่งทุกอย่างทำไปโดยอัตโนมัติแบบที่อาร์ตไม่ได้ขอ เรียกว่าทำไปตามความรู้สึกล้วนๆ แต่มันเรียกรอยยิ้มของคนที่มองเห็นได้เป็นอย่างดี



“อือ...ก็ไอ้ห่าปอทำขนาดนั้นใครจะมีอารมณ์ซ้อมต่อ” อาร์ตบ่นออกมาด้วยความเซ็งที่เลิกซ้อมก่อนเวลา



“งั้นพวกกูกลับก่อนนะ...กลับแล้วนะคะพี่อาร์ต” นาวบอกลาพีทพร้อมกับยกมือไหว้อาร์ต เมื่อเห็นว่าคนอื่นๆ เริ่มทยอยกลับกันแล้ว



“เออ...เจอกันพรุ่งนี้” พีทโบกมือลาเพื่อนแล้วหันกลับมาเช็ดหน้าให้อาร์ตต่อ



“นี่พี่มึงซ้อมหนักเลยเหนื่อยหรือว่าแก่วะ” พีทถามขึ้นอย่างกวนประสาทเมื่อเห็นว่าอาร์ตนั่งหอบหายใจด้วยความเหนื่อยเสียงดัง



“ให้พูดใหม่...ใครแก่” อาร์ตจับมือของพีทที่เช็ดหน้าตัวเองให้อยู่เฉยๆ แล้วจ้องตาพีทที่มองมาอย่างท้าทายเขม็ง



“คนแก่ไม่ค่อยยอมรับว่าตัวเองแก่หรอก” พีทว่ากลับอย่างไม่กลัวพร้อมกับยักคิ้วกวนประสาทใส่อีกฝ่าย



“งั้นเดี๋ยวคืนนี่มาพิสูจน์แรงคนแก่กัน” อาร์ตก้มลงกระซิบบอกที่ข้างหูก่อนจะขโมยหอมแก้มพีท



“พี่มึงเล่นอะไรวะ” พีทโวยวายออกมาทันทีด้วยความตกใจรีบมองรอบข้างด้วยความเลิ่กลั่ก แล้วก็เจอเข้ากับสายตาทุกคนที่มองมาแบบล้อเลียน ทำเอาใบหน้าขาวแดงก่ำด้วยความอายทันที ก้มหน้างุดมองตักตัวเองไม่กล้ามองรอบข้าง ถึงแม้ว่าคนที่เหลือในโรงยิมตอนนี้จะมีแค่คนที่สนิทกันก็ตาม



“แค่นี้ก็เขินเหรอดื้อ” อาร์ตถามด้วยน้ำเสียงทะเล้นปนล้อเลียน มือก็หยิกแก้มพีทไปมาอย่างเย้าแหย่



“ไม่ได้เขินเหอะ” พีทเถียงเสียงเบาอย่างไม่ยอมรับ ทั้งที่ตอนนี้ร้อนไปทั้งหน้าและแม้กระทั่งใบหูก็แดงก่ำแสดงหลักฐานอยู่ทนโท่



“เฮ้ยๆ ไปจีบกันที่บ้านไป” เสียงตะโกนไล่จากเพื่อนๆ ของอาร์ต ทำเอาพีทหน้าแดงยิ่งกว่าเก่าอย่างห้ามไม่อยู่ ส่วนอาร์ตก็เอาแต่ยิ้มชอบใจเหมือนคนบ้า



“เออๆ ขอโทษที่กูทำให้อิจฉา” อาร์ตตะโกนตอบเพื่อนเสียงดังแบบไม่อาย เลยโดนพีทหยิกเข้าให้ที่สีข้างด้วยความหมั่นไส้



“ซี๊ด!! มือนี่มันยังไงวะเดี๋ยวตีเดี๋ยวหยิก” อาร์ตบ่นงึมงำแล้วดึงมือพีทขึ้นมาจูบเพื่อเอาคืน



ฮิ้ววววววววว




ผลที่ได้คือใบหน้าแดงก่ำขั้นสูงสุดจากพีทและเสียงโห่แซวจากลุ่มเพื่อนที่ดังมาไม่หยุด จนพีทต้องซุกหน้าที่เห่อร้อนจนแทบใหม้ของตัวลงกับอกของอาร์ต



“พอๆ ไอ้สัด!! เมียกูเขิน” อาร์ตห้ามเพื่อนที่เอาแต่แซวไม่หยุดด้วยความชอบใจ ก่อนจะก้มลงจูบที่ข้างขมัยพีทด้วยความมันเขี้ยว



“แซวเหี้ยอะไรวะ” พีทบ่นพึมพำด่าพวกรุ่นพี่ไม่หยุดส่วนอาร์ตเองก็เอาแต่หัวเราะ จนพีทต้องทุบลงไปที่กลางหลังอาร์ตเต็มแรงด้วยความเคือง



“โอ๊ย!!! ฮ่าๆ” อาร์ตถึงกับเบ้หน้าออกมาด้วยความเจ็บ ก่อนจะส่ายหัวไปมาแต่ก็ยังไม่หยุดหัวเราะ



“จะหัวเราะอีกนานไหม” พีทดันตัวเองออกจากอกของอาร์ตแล้วมองด้วยตาวาววับ



“หึ...โอเคร...หยุดแล้วครับ...หึ” อาร์ตยกมือขึ้นสองข้างอย่างยอมแพ้ พยายามกลั้นเสียงหัวเราะของตัวเองสุดชีวิต



“ไอ้พี่อาร์ต!!” พีทตวาดดังลั่นด้วยความไม่พอใจก่อนจะสะบัดหน้าหนีไปอีกทาง




“อย่างอนสิใครใช้ให้น่ารักล่ะ...กลับห้องกัน” อาร์ตยีผมพีทจนยุ่งด้วยความเอ็นดู ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วคว้าเอาของทุกอย่างมาถือไว้เอง



“เฮ้ย!!! คิดว่าหนักไหมเนี่ย” แต่ยังไม่ทันที่จะเดินไปไหนอาร์ตก็ต้องร้องออกมาด้วยความตกใจ เมื่อจู่ๆ พีทก็กระโดดขึ้นมาเกาะหลังเอาไว้แน่น



“ไม่สน” พีทว่าและเกาะแน่นมากกว่าเดิม ส่วนอาร์ตก็ได้แต่ส่ายหัวด้วยความหน่าย ก่อนจะดันอีกฝ่ายให้ขึ้นมาขี้หลังดีๆ



“กอดแน่นๆ เดี๋ยวตก” อาร์ตบอกอีกครั้งก่อนจะออกเดินในสภาพที่หิ้วของเต็มสองมือ และมีลูกลิงตัวใหญ่เกาะบนหลังด้วยอีกหนึ่งตัว



พีทซุกหน้าลงกับไหล่ของอาร์ตโดยที่ไม่คิดจะเงยหน้าขึ้นมามองอะไรทั้งนั้น พร้อมกับเริ่มคิดว่าไม่อยากให้คนอื่นรู้แล้วว่าเป็นแฟนกับอาร์ต ก็ขนาดแค่เพื่อนๆ อาร์ตที่รู้ไม่กี่คนยังแซวเขาขนาดนี้ ถ้ารู้กันทั้งคณะเขาจะกล้ามาเรียนเรียนไหมเนี่ย





2 Be Con...



++++++++++++++++

เรื่อยๆมาเรียงๆ พักหัวใจกันบ้างนะทู้กโคนนนนน

รักและขอบคุณคนอ่านจ้า

ปล.

- ตอนหน้าไม่อังคารก็พุธเน้อ

- เน็ตบ้านทำคนเขียนเพลียใจมาก กว่าจะได้อัพ

ออฟไลน์ ป้ากิ่งkingkarn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ตอนนี้น่ารักมากค่ะ คือให้พักหัวใจก่อนม่าชามใหม่หรือเปล่าคะ^^
พี่วินกะน้องเอยมึนได้กวนปนน่ารักจริงๆ
เฮียของพีทก็หวานออกสื่อซะจนพีทไม่น่าจะต้องห่วงการเปิดตัวเป็นแฟนแล้วเนาะ
ปอเลิฟมาน้อยๆแต่รุนแรงเร้าใจไม่เคยทำให้ผิดหวัง
รักน้องนาวโดมมี่พี่กิงและตัวละครทั้งหมดในเรื่องนี้มากๆค่ะ
อยากอ่านเรื่องราวของทุกคนไปเรื่อยๆอีกนานๆเพราะแม่มณีเขียนได้สนุกน่าติดตามทุกคู่
ติดตามอยู่นะคะ เป็นกำลังใจให้เสมอและขอบคุณมากๆค่ะสำหรับนิยายสนุกๆ :กอด1:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6

ออฟไลน์ about

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 254
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ matchty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
    • MATCHTY-แมตตี้
คู่กัดฉบับรักเกินร้อย

By matchty



กัดครั้งที่

- 41 -



“จอดตรงหน้าร้านเลยพี่” พีทบอกวินมอเตอร์ไซค์ที่ตัวเองโดยสารมาให้จอด เมื่อเห็นว่าจุดหมายที่ต้องการอยู่ตรงหน้า และแทบจะทันทีที่บอกรถก็จอดสนิทตรงทางเข้าพอดิบพอดีเหมือนจับวาง



“อะพี่ไม่ต้องทอน” พีทยื่นเงินเป็นค่าโดยสารให้อีกฝ่ายพร้อมกับถอดหมากกันน๊อกคืน ก่อนจะรีบสาวเท้าเดินเข้าไปในร้านตรงหน้าเพราะตัวเองมาสาย



วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการแข่งกีฬามหา’ลัย และเพื่อฉลองสิ้นสุดการทำงานอันเหน็ดเหนื่อยตลอดระยะเวลาหลายเดือนของเด็กวิศวะ รวมทั้งเลี้ยงต้อนรับน้องใหม่กับการเป็นเด็กวิศวะเต็มตัว หลังจากได้รับเกียร์กันแล้วของเหล่าปีหนึ่ง บรรดารุ่นพี่เลยลงทุนปิดร้านเหล้าหลังมหา’ลัยฉลอง



โดยร้านที่ใช้จัดงานก็ไม่ใช่ร้านคนอื่นคนไกล ก็ร้าน ‘xyz’ ของตองกับฮิมนั่นแหละ ร้านที่เด็กวิศวะรู้จักและคุ้นเคยดี เรียกว่าเงินทองไม่รั่วไหลไปไหนไกล



พีทกึ่งเดินกึ่งวิ่งจนขาแทบจะขวิด ในใจก็นึกก่นด่าต้นเหตุที่ทำให้มาสายไม่หยุด เพราะมัวแต่นั่งรอไอ้บ้าบางตัวที่ห้องแท้ๆ เขาถึงสายขนาดนี้ แถมรอแล้วอีกฝ่ายก็ไม่โผล่หัวมาด้วยซ้ำ จนสุดท้ายเขาต้องถ่อสังขารมาที่งานเอง



“ไอ้พีทๆ ทางนี้” เสียงตะโกนเรียกดังขึ้นทันทีที่ก้าวขาเข้ามาในงาน เมื่อหันไปตามเสียงเรียกก็เห็นว่าเป็นโดมที่กำลังโบกไม้โบกมือเรียกอยู่ พีทเลยรีบสาวเท้าเข้าไปหาเพื่อด้วยความไว



“ทำอะไรอยู่วะงานจะเริ่มแล้วเนี่ย” โดมว่าแล้วเดินนำพีทไปยังโต๊ะที่เพื่อนคนอื่นๆ นั่งอยู่



“รอเหี้ย!!” พีทกระแทกเสียงตอบด้วยความหงุดหงิดก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้แรงๆ หายใจเข้าออกเสียงดังใบหน้าบึ้งตึงไม่สบอารมณ์




“ห๊ะ...พี่อาร์ตน่ะนะ” นาวถามออกไปด้วยความไม่แน่ใจ ผลที่ได้คือใบหน้าบูดสนิทของพีทที่แทนคำตอบได้ทุกอย่าง



“กูก็ว่าแล้วทำไมเห็นพี่เขาคนเดียวไม่เห็นมึง”




“เออ!! แล้วนี่มึงเห็นมันอยู่ไหน” พีทถามกลับพร้อมกับกวาดสายตามองไปรอบๆ งาน



“หลังเวทีมั้งเห็นบอกจะโชว์อะไรสักอย่าง” นาวว่าตามสิ่งที่ได้ยินคนเขาคุยกันในงาน



“โชว์? อะไรวะ” พีทถามกลับทันทีด้วยความแปลกใจ ว่าอีกฝ่ายจะจัดโชว์อะไรแล้วทำไมเขาไม่รู้



“มึงยังไม่รู้แล้วกูจะรู้ไหม” นาวปรายตามองพีทด้วยความเอือมระอา ก่อนจะเลิกสนใจเจ้าตัวแล้วนั่งกินอาหารบนโต๊ะไปเรื่อยๆ



พีทที่โดนเพื่อนเมินเต็มรูปแบบก็ชักสีหน้าด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะหันไปมองทางอื่นเพื่อหาใครบางคนแทน และก็เหมือนเป็นใจเพราะแค่หันไปก็เจอเข้ากับร่างสูงของอาร์ตทันที



พีทลุกขึ้นยืนทันควันตั้งใจจะเดินไปหาอาร์ต แต่อีกฝ่ายที่หันมาเจอเข้าพอดีกลับทำหน้าตกใจแล้วหันหลังเดินหนีไปทันที ทำเอาพีทได้แต่ยืนอ้าปากค้างด้วยความไม่เข้าใจ ว่าอีกฝ่ายจะตกใจแล้วหลบหน้าตัวเองทำไม แบบนี้มันทำตัวมีพิรุธชัดๆ



พีททรุดตัวลงนั่งที่เดิมพร้อมกับในสมองที่ครุ่นคิดไม่หยุด ทำไมเขาเพิ่งจะมาสังเกตุกันนะว่าอีกฝ่ายทำตัวประหลาด ทำตัวมีลับลมคมในกับเขา เหมือนกำลังแอบทำอะไรอยู่สักอย่าง



“กูว่าไอ้พี่อาร์ตมันต้องหาเรื่องแกล้งอะไรกูแน่ๆ” พีทหันไปคุยกับนาวด้วยสีหน้าหวาดระแวง



“ทำไมมึงคิดงั้น” นาวหันมาถามตาโต



“ก็พี่มันแปลกๆ มันต้องคิดแกล้งอะไรกูแน่ๆ” พีทสบตากับนาวด้วยสีหน้ามั่นใจในความคิดของตัวเอง เพราะมันเป็นเรื่องถนัดของอาร์ตอยู่แล้ว แถมเมื่อตอนเช้าเขาก็หนีไปมหา’ลัยคนเดียวพอตกเย็นเลยโดนทิ้งให้มาเองแบบนี้ไงล่ะ




“คิดมากว่ะมึง” นาวส่ายหัวเบาๆ ให้กับความช่างคิดของพีท



“กูว่ากูไม่ได้คิดมาก พี่มันไม่ค่อยปล่อยกูไปไหนมาไหนคนเดียว แต่วันนี้มันทิ้งกูมางานก่อน กูว่ามันต้องแอบทำอะไรไม่ดีแน่ๆ หรือว่าแม่งซุกกิ๊ก” พีททำเสียงจริงจังพร้อมกับใบหน้าที่ขึงขัง ทำเอานาวหลุดขำออกมาเสียงดัง



“ฮ่าๆ มึงก็คิดไปได้เนาะพี่เขารักมึงจะตาย” นาวส่ายหัวไปมาและหัวเราะออกมาไม่หยุด จนพีทได้แต่นั่งทำหน้าบึ้งมองค้อนนาวแบบเคืองๆ



“เอาน่าอีพีทอย่าฟุ้งซ่านนั่งสวยๆไปค่ะ” โดมที่นั่งฟังมานานพูดขึ้นมาบ้าง แล้วหันไปสบตากับนาวอย่างรู้กัน



“สวยพ่อง!!” พีทถลึงตาใส่โดมด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะสะบัดหน้าหันหนีไปทางอื่น เหม่อมองบรรยากาศรอบๆ ร้าน ที่ตอนนี้เหล่าเด็กวิศวะกำลังเดินไปมาให้ควั่ก บางคนก็กำลังยักย้ายส่ายสะโพกไปตามจังหวะเพลง



ในขณะที่รอบกายรายล้อมไปด้วยผู้คนท่ามกลางบรรยากาศสนุกสนาน ทั้งๆ ที่เพื่อนก็นั่งอยู่ตรงนี้เต็มไปหมด ทั้งที่ก็ไม่ได้อยู่คนเดียวเลยสักนิด แต่ไม่รู้ทำไมเหมือนกันถึงรู้สึกเหงาแบบแปลกๆ



“เฮ้อ!!!” พีทถอนหายใจออกมาเสียงดัง ตาก็กวาดมองหาใครบางคนที่ไม่รู้ว่าตอนนี้ไปอยู่ไหน รู้สึกหงุดหงิดใจไม่น้อยที่เหมือนว่าตัวเองจะติดอีกฝ่ายมากเกินไป ห่างแค่นี้ต้องมานั่งชะเง้อมองหาซะแล้ว



“ถอนหายใจทำไมน้องพีท” เสียงทุ้มนุ่มที่ดังขึ้นเหนือหัวทำให้พีทเงยหน้าขึ้นมองทันที ก่อนใบหน้าหงอยเหงาจะเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงเมื่อเห็นว่าเป็นใคร



“มาทำไม” พีทถามเสียงแข็งแสดงความงอนออกมาแบบไม่ปิดบัง



“แวะมาหาก่อนไงกลัวคนแถวนี้งอน” อาร์ตก้มลงประสานสายตากับพีทแล้วอมยิ้มน้อยๆ



“แล้วเมื่อกี้หลบทำไม” พีทหรี่ตามองอย่างจับผิดแต่อาร์ตกับส่งยิ้มให้แบบไม่สะทกสะท้าน



“ไม่บอก” อาร์ตกระตุกยิ้มมุมปากแล้วยกมือขึ้นบิดปลายจมูกของพีทเบาๆ



“พี่ไปแล้วนะ” อาร์ตกดจูบลงบนหน้าผากเนียนแล้วผละออกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะขยับถอยห่างออกมาเล็กน้อย



“ไอ้เหี้….” พีทลุกขึ้นยืนอ้าปากโวยวายใส่ทันทีด้วยใบหน้าแดงก่ำ แต่ก็พูดอะไรไม่ได้มากนักเพราะอาร์ตยกนิ้วขึ้นมาแตะตรงปากเป็นเชิงห้าม



“ชู่...คนมองนะน้องพีท” คำพูดของอาร์ตทำให้พีทต้องหันมองรอบข้างบ้าง และก็จริงอย่างที่อาร์ตบอกหลายคนกำลังมองมาที่พวกเขาอย่างสนใจ ซึ่งมันทำให้พีทยอมเงียบและยืนฮึดฮัดขัดใจอยู่แบบนั้น ผิดกับอาร์ตที่ดวงตาไหวระริกด้วยความสนุกที่แกล้งพีทได้



“ไปไหนก็ไปเลยแม่ง” พีทกัดฟันบอกอย่างข่มอารมณ์ ก่อนจะกระแทกตัวนั่งลงเหมือนเดิม



“เดี๋ยวกลับไปง้อที่ห้องนะดื้อ” อาร์ตฉวยโอกาสตอนที่พีทเผลอก้มลงหอมแก้มเนียนอีกครั้ง ก่อนจะสาวเท้าเดินหนีหายกลับเข้าไปในฝูงชนอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้พีทนั่งตาโตตัวแข็งทื่ออยู่แบบนั้น



“อาร์ตแม่ง!!” พีทพึมพำด่าอาร์ตแบบไม่เต็มเสียง ก่อนจะฟุบหน้าลงกับโต๊ะเพื่อกลบสายตาของทุกคนที่มองมาอย่างล้อเลียน



“แหม...เมื่อกี้นั่งเฉาเป็นหมาป่วย พอผัวโผล่มาหาแป๊บเดียวยิ้มหน้าบานไม่หุบเลยนะมึง” โดมดัดเสียงเล็กเสียงน้อยว่าพีทด้วยความหมั่นใส้ กับท่าทางกระดี๋กระด๋าเหมือนปลากระดี่ได้น้ำของเจ้าตัว



“เพื่อนกูแต๋วแตกโดยสมบูรณ์” นาวถอนหายใจออกมาแล้วมองพีทอย่างปลงๆ



“ใครแต๋ววะ กูเนี่ยแมนๆ เตะบอลเว้ย” พีทเงยหน้าขึ้นมาเถียงทันทีอย่างไม่ยอมแพ้



“จ้า...พ่อคนแมนนนนน” นาวลากเสียงยาวใส่และดึงแก้มพีทแรงๆ ด้วยความหมั่นไส้



“เหี้ย!! เจ็บนะเว้ย” พีทโวยวายแล้วยกมือขึ้นถูแก้มตัวเองไปมา ตาก็มองค้อนนาวประหลับประเหลือก




“มึงก็ไปแกล้งมันแค่นี้ก็สาวแตกกู่ไม่กลับละฮ่าๆ” โดมว่าแล้วหัวเราะดังลั่นก่อนจะยื่นมือไปไฮไฟว์กับนาวด้วยความสะใจ



“แน่จริงพวกมึงอย่ารุมดิวะ” พีทชี้หน้าคาดโทษเพื่อนทั้งสองอย่างแค้นเคือง




“น้อง!! น้องครับ!! น้องคนนั้นแหละ” แต่ยังไม่ทันที่จะได้ต่อล้อต่อเถียงอะไรกันไปมากกว่านี้ เสียงเรียกที่ดังออกมาจากลำโพงก็ดึงความสนใจของทั้งสามคนทันที ก่อนที่ทั้งหมดจะหันหาว่าใครกันที่โดนเรียก



“ไม่ต้องหันหรอกครับพี่เรียกน้องนั่นแหละ” ประโยคต่อมาที่ดังขึ้นทำให้พีทหยุดมองหาแล้วเปลี่ยนสายตาไปยังด้านในสุดของร้านแทน ก่อนที่คิ้วสองข้างจะขมวดจนแทบจะชนกันเมื่อเห็นว่าใครเป็นคนพูด




พีทชักสีหน้าใส่อาร์ตที่นั่งถือไมค์อยู่ไม่ไกล และกำลังมองมาที่ตัวเองด้วยสายตากวนประสาทอย่างหงุดหงิด เขาก็ว่าแล้วเชียวว่าทำไมเสียงมันคุ้นๆ หู แล้วนี่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังจะทำอะไรกันแน่ถึงเรียกเขาผ่านไมค์ขนาดนั้น แต่มันกำลังทำให้คนอื่นพากันหันมามองเขาเป็นตาเดียว



พีทถลึงตาใส่อาร์ตดุๆ เพื่อให้หยุดทำอะไรก็ตามที่กำลังคิดจะทำอยู่ เพราะตอนนี้ดูจากสีหน้าและแววตาของอาร์ตแล้วเขาไม่ไว้ใจเลยสักนิด ความรู้สึกมันกำลังฟ้องเขาว่าอีกฝ่ายจะต้องทำอะไรสักอย่างที่ทำให้เขาอายแน่ๆ



“อย่าเอาแต่คุย...ฟังรุ่นพี่ด้วยครับ” อาร์ตไม่ได้สนใจกับท่าทางข่มขู่ของพีทเลยสักนิด แถมยังพูดแหย่อีกฝ่ายผ่านไมค์ให้ได้ยินกันทั่วร้าน ทำเอาคนโดนว่าอย่างพีทถึงกับหน้าบูดบึ้งและจ้องอาร์ตเขม็งไม่วางตา



“ทำหน้าแบบนั้นใส่พี่ทำไมครับน้องหรือมีปัญหา” อาร์ตแกล้งทำเสียงดุใส่พีทและถามเจ้าตัวอย่างหาเรื่อง ทำเอาพีทออกอาการเหวอไม่น้อยเพราะตามไม่ทัน



“มีปัญหามากนักออกมานี้ดีกว่าครับ” คราวนี้อาร์ตถึงกับส่งเสียงเรียกพีทให้เดินไปหาอย่างดุดัน แววตาไร้ความล้อเล่นพร้อมกับใบหน้าที่เรียบสนิท ทำเอาบรรยากาศรอบข้างถึงกับกดดันทันทีพร้อมกับที่ทุกสายตาพุ่งไปทางพีท



พีทมองคนอื่นๆ เลิ่กลั่กด้วยความตกใจ ก่อนจะมองอาร์ตด้วยความไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายกำลังเล่นอะไรกันแน่ แต่ยังไม่ทันที่จะหายสงสัยกับสิ่งที่เกิดขึ้นปุ๊บปั๊บ จู่ๆ ไฟในร้านก็ดับลงไปท่ามกลางความตกใจของทุกคน ก่อนที่ไฟจะติดอีกครั้งพร้อมกับอาร์ตที่เดินมายืนอยู่ตรงหน้าพีท และเสียงกีตาร์ที่ดังคลอขึ้นมาเบาๆ

 

“เหม่อมองบนฟ้าไกล จ้องมองด้วยความสงสัย

ว่าใครกันนะใคร ที่พาให้เธอเดินหลงทางมาเจอกับฉัน

มีคนเป็นล้านคน ช่างไร้เหตุจริงๆ ที่เราเจอกัน
จากเป็นคนที่ไม่เชื่ออะไร สุดท้ายก็ได้แต่ถามตัวเองซ้ำๆ”



พีทถึงกับอ้าปากค้างทำตัวไม่ถูกมองอาร์ตที่ยืนร้องเพลงตรงหน้าด้วยความเหลือเชื่อ ก่อนใบหน้าขาวจะแดงก่ำด้วยความเขินอายเมื่อตอนนี้ทุกคนในร้าน ต่างพากันเดินมารุมล้อมและมองอย่างสนใจบางคนถึงกับส่งยิ้มล้อเลียนมาให้ แต่เหมือนว่าแค่นี้พีทจะยังอายไม่พอเพราะอาร์ตเอื้อมมือข้างที่ว่างไปจับมือพีทขึ้นมากุมไว้



“ตกลงคือพรหมลิขิตใช่ไหม ที่เขียนให้เป็นอย่างนั้น
ตกลงให้เรารักกันใช่มั้ย อย่างนั้นขอได้ หรือไม่
โปรดอย่าทำให้เราพลัดพราก
ให้เรารักกัน เนิ่นนานถึงจนวันตาย ฉันขอได้ไหม”



                อาร์ตร้องเพลงไปพร้อมกับรอยยิ้มแห่งความสุข มือที่กุมมือของพีทเอาไว้กระชับแน่นขึ้นและบีบเบาๆ ตาก็จ้องมองใบหน้าของพีทด้วยประกายวิบวับที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก



                ‘ปล่อย’ พีทขมุบปากเป็นคำแบบไม่ได้ยินเสียงและกระตุกมือตัวเองออกจากมือใหญ่ แต่ก็ทำไม่สำเร็จเพราะอีกฝ่ายบีบเอาไว้แน่น แถมยังส่งสายตามาดุพีทกลายๆ เพื่อบังคับให้อยู่นิ่งๆ



“เมื่อก่อนลมหายใจ ก็คิดว่าเป็นของฉัน
แต่พอได้พบเธอ เพิ่งรู้จริงๆ ลมหายใจคือเธอเท่านั้น
มีคนเป็นล้านคน ช่างไร้เหตุผลจริงๆ ที่เราเจอกัน
จากเป็นคนที่ไม่เชื่ออะไร สุดท้ายก็ได้แต่ถามตัวเองอีกครั้ง

ตกลงคือพรหมลิขิตใช่ไหม ที่เขียนให้เป็นอย่างนั้น
ตกลงให้เรารักกันใช่มั้ย อย่างนั้นขอได้ หรือไม่
โปรดอย่าทำให้เราพลัดพราก
ให้เรารักกัน เนิ่นนานถึงจนวันตาย ฉันขอได้ไหม”



                ฮิ้วววววววววววววว



                ทันทีที่เสียงร้องเพลงจบลงเสียงผิวปากโห่ร้องปรบมือก็ดังลั่น พร้อมกับใบหน้าของพีทที่เห่อร้อนจนแทบไหม้อายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนี ไม่กล้าที่จะเงยหน้ามองใครทั้งนั้นนอกจากก้มหน้ามองเท้าตัวเอง



                “ไอ้เหี้ย!!!” สุดท้ายพีทก็ทนยืนตกเป็นเป้าสายตาต่อไปไมไหว เงยหน้าขึ้นมาตะโกนด่าอาร์ตดังลั่นด้วยความอายปนโมโห ง้างมือขึ้นสูงแล้วฟาดลงไปบนตัวอาร์ตเต็มแรง ก่อนจะกระแทกเท้าปึงปังเดินออกไปนอกร้าน ท่ามกลางเสียงตะโกนแซวที่ดังไล่หลังไม่หยุด



                “ซี๊ด” อาร์ตถึงกับครางออกมาเบาๆ ด้วยความเจ็บเมื่อเจอฝ่ามือพิฆาตของพีท ก่อนที่จะอมยิ้มยืนมองตามแผ่นหลังเล็กที่ฝ่าวงล้อมออกไป



                “เดี๋ยวๆ อะไรยังไงเนี่ยเฮีย / ยังไงวะสัดอาร์ต” และเมื่อเป้าหมายในการถามเหลือแค่อาร์ตเพียงคนเดียว ทุกคนก็ต่างพากันเข้ามารุมถามอาร์ตกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกันจ้าละหวั่น เพราะเรียกว่าเป็นบิ๊กเซอร์ไพรซ์ที่ทุกคนคิดไม่ถึงจากรุ่นพี่จริงๆ อย่าว่าแต่รุ่นน้องปีหนึ่งเลย ปีสองหรือแม้แต่ปีสามเองก็ยังตกใจและต้องการความจริงจากปากอาร์ตไม่แพ้กัน



                “ก็พวกมึงอยากเจอไม่ใช่เหรอ กูก็พามาให้เจอแล้วไง” อาร์ตตอบด้วยน้ำเสียงยียวนและกระตุกยิ้มมุมปากส่งให้ทุกคน



                “ขอเคลียร์ๆดิ๊เฮีย / สัด” ทุกสายตายังคงจ้องเขม็งไปที่อาร์ตอย่างคาดคั้น เมื่อคำตอบที่อาร์ตให้ยังไม่ชัดพอในความรู้สึก



                “เมียกูเองพอใจหรือยัง ถ้าพอใจแล้วก็หลีก” อาร์ตว่าพร้อมกับพยายามแหวกทางเพื่อเดินไปหาพีท โดยที่ไม่สนสีหน้าตกใจและเสียงฮือฮาของทุกคนเลยสักนิด



                “มีเหี้ยไรไว้คุยพรุ่งนี้กูไปง้อเมียก่อน” อาร์ตตะโกนทิ้งท้ายอีกครั้งก่อนจะออกตัววิ่งด้วยความเร็ว ทิ้งให้คนจำนวนมากมึนงงจับต้นชนปลายเรื่องราวกันไปเอง



                ...

                ...



                ฟอดดดดดด



                อาร์ตสอดแขนเข้าไปกอดเอวของพีทที่นั่งหันหลังอยู่บนเบาะรถ พร้อมกับก้มลงหอมแก้มเนียนและใช้ปลายจมูกคลอเคลียอยู่แบบนั้น



                “งอนพี่เหรอครับ” อาร์ตชะโงกหน้าไปถามพีทที่นั่งหน้าตาบูดบึ้ง



                “อย่างอนพี่เลยทำเพราะรักล้วนๆ เลยนะ” อาร์ตกระพริบตาปริบๆ ใส่พีทพร้อมกับแกล้งทำหน้าสลด แต่พีทที่รู้ทันยกมือขึ้นตบลงไปเต็มๆ หน้าทันทีแบบไม่ออมแรง



                “โอ๊ย!! โหดไปแล้วเมีย” อาร์ตโวยออกมาเสียงดังก่อจะก้มลงหอมแก้มพีทเป็นการเอาคืน



                “พี่มึงแกล้งแรงไปแล้วนะอายคนนะเว้ย” พีทตัดพ้ออาร์ตด้วยใบหน้างอง้ำ เพราะสิ่งที่อาร์ตทำในร้านเมื่อกี้มันไม่ได้มีความโรแมนติกอะไรเลย นอกจากทำให้อายกับการประกาศบอกชาวบ้านว่าเราเป็นอะไรกัน ด้วยวิธีที่คนปกติเขาไม่ทำกันยกเว้นพวกไม่ปกติแบบอาร์ต



                “ไม่ได้แกล้งเลย ก็น้องพีทบอกเองว่าให้บอกทุกคนได้หลังรับน้องไง” อาร์ตเถียงกลับหน้าตายไร้วี่แววสำนึกผิดโดยสิ้นเชิง ผลที่ได้เลยโดนพีทตบเข้าที่หน้าไปอีกที



                “บอกวิธีอื่นก็ได้ไหมวะ”




                “ได้แต่ไม่ทำ...แบบนี้แหละดีแล้วคนรู้ทีเดียวทั้งคณะ” อาร์ตกระตุกยิ้มแล้วยักคิ้วส่งให้พีทแบบกวนโอ๊ย ที่เขาทำลงไปทั้งหมดก็เพื่อตัวน้องทั้งนั้น น้องจะได้เลิกอายสักทีเวลามีใครมาแซวส่วนเขาก็ได้อวดเมียให้คนรู้จักสักที ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย




                “แต่มันอายนะแม่ง” พีทโวยวายใส่อาร์ตด้วยความเคืองที่อีกฝ่ายทำอะไรแบบไม่ปรึกษา แค่คิดว่าพรุ่งนี้ตอนไปเรียนจะต้องเจอกับอะไรบ้าง พีทก็แทบอยากจะลาหยุดยาวทั้งเทอมเดี๋ยวนี้เลย



                “เอาน่า...พวกมันแซวแป๊บๆเดี๋ยวก็เบื่อ” อาร์ตเอ่ยปลอบไม่ให้พีทคิดมากแล้วเอาคางไปเกยที่ไหล่เล็กไว้ แขนก็โอบกระชับลำตัวอีกฝ่ายไว้แน่น ตาก็ลอบมองใบหน้าที่ดูคิดมากของพีทด้วยความขำ



                “น้องพีทครับ” อาร์ตส่งเสียงเรียกอีกครั้งหลังจากที่ยืนเงียบมานาน



                “อะไร” พีทถามกลับเสียงแข็งใบหน้ายังคงบึ้งตึงไม่เปลี่ยน



                “แบมือหน่อย” คำสั่งของอาร์ตทำเอาพีทขมวดคิ้วมุ่นด้วยความไม่เข้าใจ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยอมแบมือออกตามที่อีกฝ่ายต้องการโดยดี ก่อนที่ดวงตาจะเบิกกว้างเมื่อเห็นของที่อาร์ตวางลงบนมือ



                “นี่มัน...” พีทพึมพำแผ่วเบาพร้อมกับพยายามกลั้นยิ้มจนแก้มแทบแตก



                “จำได้ไหมว่ารุ่นพี่เขาบอกว่าเกียร์สำหรับเด็กวิศวะหมายถึงอะไร” อาร์ตถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย



                “เกียร์คือหัวใจของเด็กวิศวะ” พีทตอบคำถามของอาร์ตด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา หัวใจที่เงียบสงบมาตลอดตอนนี้กำลังเต้นระรัวอย่างห้ามไม่อยู่




                “สามปีเลยนะที่มันอยู่กับพี่มาตลอดและพี่ไม่เคยให้ใคร” อาร์ตยังคงพูดเรื่อยๆ เหมือนมันไม่ได้มีอะไรสำคัญ แต่ผิดกับคนฟังแบบพีทที่รู้ดีว่ามันมีความหมายมากมายแค่ไหน



                “เขาบอกว่าเกียร์เป็นหัวใจของเด็กวิศวะ” อาร์ตเดินอ้อมมายืนตรงหน้าพีทแล้วก้มลงสบตาอย่างสื่อความหมาย




                “และถ้าฝากเกียร์ไว้กับใครแสดงว่าฝากหัวใจไว้กับคนนั้น” อาร์ตหยิบเกียร์ของตัวเองที่ห้อยอยู่บนสร้อยข้อมือที่พีทถือไว้ขึ้นมา ก่อนจะบรรจงสวมลงไปบนข้อมือเล็กของอีกฝ่าย



                “ได้หัวใจพี่ไปแล้ว...ดูแลมันดีๆ นะดื้อ” อาร์ตเงยหน้าขึ้นมาสบตากับพีทอีกครั้งก่อนจะส่งยิ้มให้อย่างอ่อนโยน ยิ้มที่ทำให้พีทหัวใจเต้นแรงแต่เต็มไปด้วยความสุขจนแทบจะล้นออกมา




                “อือ” พีทพยักหน้ารับคำแล้วรีบก้มหลบสายตาของอาร์ต ก็สายตาของคนทั้งคณะที่มองมาอย่างล้อเลียนเมื่อกี้ ยังไม่ทำให้เขาเขินได้เท่ากับสายตาของอาร์ตที่มองมาตอนนี้เลยน่ะสิ





2 Be Con...



++++++++++++++++++

เปิดตัวซ้อกันไปแบบสวยงามสไตล์เฮีย

เปิดทีเดียวเอาให้รู้กันทั้งคณะ

เฮียนี่มันเฮียจริงๆ

รักและขอบคุณคนอ่านจ้า ^^

ปล.

- เป็นตอนที่ป่วงๆ งงๆ แก้แล้วก็ยังงง

สุดท้ายเลยต้องปล่อยไปแบบนี้ เหอ เหอ

- ไม่นัดวันอัพละ เพราะนัดไปก็เบี้ยวเฉย

รู้สึกผิดจริงจัง แต่มันสุดวิสัยพูดไปเหมือนแก้ตัว

ก็แก้ตัวแหละ 555

เอาเป็นว่า เก๊าขอโต๊ดดดดดดดดดดดดดด

^/\^


 

ออฟไลน์ ashbyipcet

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
เฮีย!! จะน่ารักไปละนะอิจแทนพีทจังม๊วกกก  :hao7: :hao5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
เปิดตัว ครั้งเดียวรู้กันทั่ว
สมเป็นพี่อาร์ตเจงเจง

ออฟไลน์ ตัวไหมอ้วนกลม

  • สาว Y ไม่ใช่โรคติดต่อ แต่เป็นแล้วรักษาไม่หายนะคะ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-2
 :o8:   :-[   :o8:   :-[  โอ๊ยยยยยยยยเฮียยยยยยยยยยยยยย  มดขึ้นจอ

ออฟไลน์ ป้ากิ่งkingkarn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
อ่านแล้วฟินยิ้มแก้มแตก

จากนั้นนึกเสียดายอยู่2ข้อ

1.เสียดายที่เป็นเพียงนิยาย เป็นเพียงตัวหนังสือ อยากเห็นของจริงๆแบบเรื่องจริงๆ
เบื่อคู่จิ้น อยากเกาะขอบเตียงฟินกะคู่เรียล  :hao6:
2.เสียดายที่เกิดมาเป็นผู้หญิงอ่ะ5555+ :hao5:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
หวานหยด

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
น้องพีชเขินรุนแรงมาก พี่อาร์ตน่วมทั้งตัวแน่ :laugh:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ matchty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
    • MATCHTY-แมตตี้
คู่กัดฉบับรักเกินร้อย

By matchty



กัดครั้งที่

- 42 -



แสงแดดในตอนสายของวันใหม่ที่ลอดผ่านผ้าม่านเข้ามาสาดกระทบภายในห้อง ทำให้ดวงตาที่ปิดสนิทหรี่ปรือขึ้นเล็กน้อย และกระพริบถี่ๆ เพื่อไล่ความง่วงงุน ก่อนที่มือหนาจะควานไปมาทั่วหัวเตียง



คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเป็นปมเมื่อเห็นเวลาที่โชว์หราอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ จัดการวางมันลงที่เดิมและลุกขึ้นนั่ง ยกมือขยี้หัวตัวเองจนฟูฟ่องไม่เป็นทรง



“พีท...ดื้อ...เมียครับ” อาร์ตเขย่าตัวคนที่นอนหลับตาพริ้มข้างๆ เล็กน้อย ปากก็ขานเรียกไม่หยุดเพื่อปลุกให้อีกฝ่ายตื่น



“อื้อ…” แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือเสียงครางประท้วงงึมงำในลำคอ ตามด้วยการพลิกตัวนอนคว่ำเอาหน้าซุกเข้ากับหมอนใบโต



อาร์ตนั่งมองภาพเหล่านั้นแล้วอมยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู อยากจะปล่อยให้อีกฝ่ายนอนเหมือนกัน แต่ติดตรงที่ว่าวันนี้เด็กดื้อของเขามีเรียนเช้า และถ้าเขาไม่ปลุกจนเจ้าตัวตื่นสายไปเข้าเรียนไม่ทัน เขาก็จะโดนงอนใส่ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ความผิดของเขาเลยสักนิด



“ดื้อ...ตื่นเร็ววันนี้เรียนเช้านะ” อาร์ตก้มลงเรียกชิดใบหูพร้อมกับขบเล่นเบาๆ แล้วฉวยโอกาสหอมแก้มอีกฝ่ายไปในตัว



“อื้อ...อาร์ตอย่ากวนง่วง!!” พีทส่งเสียงประท้วงออกมาแทบไม่เป็นคำ มือปัดปลายจมูกที่คลอเคลียไปมาไม่เลิกให้ออกห่างด้วยความรำคาญ



“ถ้าเข้าเรียนสายห้ามงอแงนะ” อาร์ตส่ายหัวไปมาพร้อมกับอมยิ้มขำ แล้วบิดปลายจมูกรั้นของพีทเบาๆ ด้วยความมันเขี้ยว



“วันนี้จารย์ยกคลาสเลิกกวนได้แล้ว” พีทปัดมืออาร์ตทิ้งอีกครั้งพร้อมกับหรี่ตามองด้วยสายตาเหวี่ยงๆ ก่อนจะหลับตาลงอีกครั้งเพราะความง่วง



“ถึงว่าสิ…” อาร์ตพึมพำกับตัวเองแผ่วเบาแล้วนึกย้อนไปถึงเมื่อคืน เขาก็ว่าแล้วว่าทำไมอีกฝ่ายให้เชาจัดหนักขนาดนั้น ที่แท้เจ้าตัวก็ไม่มีเรียนนี่เอง ส่วนเขาก็มีเรียนวิชาเดียวตอนบ่ายสาม



“ทำไมไม่บอกตั้งแต่เมื่อวาน พี่จะได้ไม่ต้องลุกมาปลุก” อาร์ตบ่นให้พีทอย่างไม่จริงจัง แล้วล้มตัวลงนอนทับอีกฝ่าย



“จะให้บอกตอนไหนวะ” พีทว่ากลับทั้งๆ ที่ยังหลับตา น้ำเสียงที่ใช้บ่งบอกความไม่พอใจ อย่าว่าแต่บอกเลยเมื่อคืนเขาได้ทำอะไรบ้างนอกจากนอนคราง



“นั่นสิ” อาร์ตกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา แล้วจูบซับหลังคอของพีทไม่หยุด



“อื้อ...อาร์ตอย่าทำรอย” พีทครางประท้วงเล็กน้อยเมื่อสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายกำลังดูดที่หลังคอ



“ทำไมล่ะ” อาร์ตถามด้วยความแปลกใจ เพราะปกติตัวเองทำรอยไว้ตรงไหนอีกฝ่ายก็ไม่เคยห้าม



“พวกที่คณะแม่งล้อ” พีทบอกด้วยใบหน้าที่ขึ้นสีเล็กน้อย นึกถึงช่วงสัปดาห์ก่อนที่โดนกระหน่ำแซวเพราะรอยแดงจ้ำที่หลังคอ ซึ่งแต่ละคนแซวจนเขาอยากกัดลิ้นตาย



ทั้งที่เขาอุตส่าห์ตีมึนไม่ยอมรับเรื่องผัวๆ เมียๆ ที่ทุกคนพยายามยกมาแซว แต่ต้องมาตกม้าตายทำมึนต่อไม่สำเร็จเพราะไอ้รอยจูบมหาประลัยนั่นแหละ อย่าคิดว่าแค่รอยจูบมันไม่สำคัญ จูบต้นคอมันก็ปกติแต่ถ้าจูบหลังคอเมื่อไหร่ มันตีความได้อย่างเดียวว่าอยู่ในตำแหน่งไหน รอยจูบผิดที่ชีวิตก็เปลี่ยน



“ฮ่าๆ แค่นั้นเอง” อาร์ตขำในลำคอเบาๆ ให้กับอดีตผลงานของตัวเองที่จงใจทำ ก่อนจะเลื่อนริมฝีปากมากดจูบที่ลาดไหล่เล็กแทน



“ไม่ต้องมาหัวเราะชอบใจเลยไอ้โรคจิต!!” พีทตวาดแหวขึ้นมาอย่างเหลืออด พร้อมกับเอื้อมมือไปด้านหลังแล้วทึ้งผมอาร์ตด้วยความหมั่นไส้ ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจงใจทำ เพราะเขาเอาคืนที่โดนทำให้อายในงานเลี้ยงด้วยการตีมึน พี่มันเลยเอาคืนเขาด้วยการประกาศความสัมพันธ์ซ้ำอีกรอบ ดูดหลังคอแดงเป็นจ้ำจนคนรุมแซวเขาหนักกว่าเก่า



“ใครโรคจิต” อาร์ตตีมึนไม่รับรู้แล้วกดจูบไปทั่วแผ่นหลังเปลือยเปล่า มือก็บีบเค้นลำตัวนุ่มนิ่มไม่หยุด ไล่ริมฝีปากมาเรื่อยจนถึงบั้นท้ายกลม อ้าปากออกกว้างแล้วงับลงไปเต็มแรงอย่างมันเขี้ยว



“โอ๊ย!! เจ็บนะแม่ง!!” พีทโวยวายดังลั่นด้วยความเคือง ก่อนร่างทั้งร่างจะถูกจับพลิกให้นอนหงาย พร้อมกับขาทั้งสองข้างที่โดนจับอ้าออกกว้าง และอาร์ตที่เข้ามาแทรกตรงกลางอย่างรวดเร็ว



“เมื่อคืนยังไม่พอหรือไง” พีทถามด้วยใบหน้าแดงก่ำไม่กล้าสบตาคนบนตัว ช่วงล่างสัมผัสได้ถึงความใหญ่โตของอีกฝ่ายที่ดุนดันไม่หยุด



“ไม่” อาร์ตยิ้มหื่นส่งให้คนใต้ร่าง แล้วจัดการส่งนิ้วเข้าไปทักทายข้างในช่องทางรัก



“อ๊ะ...รอบเดียวนะอาร์ต ตอนเย็นนัดติวหนังสือใต้คณะ” พีทบอกอาร์ตเสียงสั่น แก่นกายน่ารักตื่นตัวขึ้นทันทีที่นิ้วมือซุกซนสอดเข้ามาในร่างกาย โดยที่อีกฝ่ายไม่ได้แตะต้องอะไรมากไปกว่าการขยับนิ้วเข้าออกที่ด้านหลัง



เขายอมรับว่าร่างกายตัวเองเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนมาก เขาเรียนรู้และเคยชินไปแล้วว่าด้านหลังของตัวเองมีความสุขขนาดไหนเวลาถูกเติมเต็ม เรียกว่าถูกอีกฝ่ายจับเปลี่ยนเป็นฝ่ายรับโดยสมบูรณ์ ส่วนหนึ่งคงเพราะเขาเองก็ไม่ได้แมนแท้ 100% ไม่งั้นแฟนคนแรกคงไม่ใช่พี่หมอ อีกอย่างอยู่ในฐานะนี้ก็สะดวกดีมีคนตามใจ



“คิดอะไรอยู่” อาร์ตขมวดคิ้มมุ่นเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กเหมือนจะไม่ได้สนใจตัวเองเท่าไหร่ จัดการเพิ่มนิ้วเข้าไปในช่องทางรักทันทีอีกสองนิ้ว แล้วขยับเข้าออกรัวเร็วเพราะความหงุดหงิดที่โดนเมิน



“ตอบเร็วคิดอะไรอยู่” อาร์ตถามเสียงเข้มแล้วหยุดขยับนิ้ว เปลี่ยนเป็นแยกนิ้วมือออกกว้างเพื่อขยายช่องทางแทน



พีทช้อนตามองอาร์ตเล็กน้อยแล้วเม้มปากแน่นไม่ยอมตอบ เรื่องอะไรเขาจะบอกอีกฝ่ายว่ากำลังคิดถึงเจ้าตัวอยู่กันล่ะ แค่นี้อาร์ตก็ได้ใจจนกู่ไม่กลับแล้ว



“พีทครับ” อาร์ตเรียกเสียงหวานแล้วจ้องหน้าพีทเขม็ง แต่พีทก็ยังไม่ยอมตอบคำถามและเปลี่ยนเป็นขมิบช่องทางรัก ตอดรัดนิ้วเรียวของอาร์ตถี่รัวอย่างยั่วเย้า



“ดื้ออย่ายั่วนะ” อาร์ตดุเบาๆ ด้วยเสียงแหบพร่า แต่ยิ่งว่าเหมือนยิ่งยุเพราะพีทขมิบถี่ยิบ พร้อมกับยกฝ่ามือเล็กๆ ลูบแผ่นอกกว้างไปมา ตามด้วยการยกตัวขึ้นจูบปากอาร์ตแผ่วเบา



“โอเคพี่ยอม” อาร์ตถอนนิ้วทั้งหมดออกทันที เอื้อมมือไปหยิบเจลหล่อลื่นมาเทชโลมทั่วท่อนลำ ใช้มือสาวมันขึ้นลงเล็กน้อยแล้วจับไปจ่อที่ช่องทางบวมช้ำ จากนั้นจัดการดันเข้าไปในครั้งเดียวจนสุดความยาว



“อ๊าาาาาา” พีทครางเสียงสั่นผวาโอบกอดอาร์ตสุดตัว เล็บจิกลงไปบนแผ่นหลังอีกฝ่ายเต็มแรงเพื่อระบายความเสียวซ่าน ขาเรียวสองข้างยกขึ้นคล้องกับเอวสอบไว้อย่างรู้งาน



อาร์ตขยับสะโพกช้าๆ สาวเข้าออกเป็นจังหวะแต่หนักหน่วง มือหนาทั้งสองข้างบีบเค้นไปทั่วลำตัวขาวผ่อง ก่อนจะเลื่อนมาบดขยี้ที่ยอดอกเล็กทั้งสองข้าง




“อ๊ะๆๆ...อื้ม…” พีทส่งเสียงครางออกมาให้ได้ยินเป็นระยะ ลำตัวบิดเร่าไปมาด้วยความวาบหวาม ยอดอกสองข้างเจ็บไปหมดจากการถูกบดบี้ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังแข็งเป็นไตสู้นิ้วมือซุกซน ส่วนด่านล่างก็เสียวไม่แพ้กันจากการถูกกระแทกกระทั้น



“อ๊ะ...อ๊าาา...อื้อ…” พีทครางออกมาไม่หยุด ลำตัวโยกคลอนไปมาให้กับแรงกระแทกที่มากขึ้น จนต้องจิกเล็บลงที่ท่อนแขนแกร่งเพื่อระบายความรู้สึก



อาร์ตที่เห็นหน้าตาบิดเบี้ยวไปด้วยความสุขสมของพีทก็สติแทบขาด เกือบจะอัดสะโพกเข้าหาเอวบางแบบไม่ยั้งแรง แต่ก็จำเป็นต้องดึงรั้งสติตัวเองเอาไว้ ให้เคลื่อนตัวเข้าออกไม่รุนแรง เพราะไม่อยากให้คนตัวเล็กช้ำไปกว่านี้



อาร์ตก้มลงประกบจูบพีทที่ครางออกมาจนเสียงแหบตั้งแต่เมื่อคืน ส่งลิ้นเข้าไปเกี่ยวกระหวัดลิ้นเล็กในโพรงปากนุ่ม ก่อนจะผละออกไล่จูบลงมาที่แนวกรอบหน้า เรื่อยลงมาจนถึงซอกคอขาวดูดเม้มเพิ่มรอยแดงลงไปอย่างอดไม่อยู่ ส่วนนิ้วมือก็สะกิดเขี่ยจุกนมเล็กอยู่แบบนั้น สะโพกก็สาวเข้าออกไม่ได้หยุด



“อ๊ะ...อ๊าาาาา” พีทส่ายร่อนสะโพกไปมาและเด้งสวนรับจังหวะของอาร์ต พร้อมกับขมิบตอดรัดท่อนลำของอีกฝ่ายไม่หยุด จนสุดท้ายอาร์ตก็ทนไม่ไหวสติหลุด ผละตัวเองออกแล้วดันสะโพกมนขึ้นสูง มือกระชับที่เอวบางแน่นจากนั้นก็อัดกระแทกเข้าออกเต็มแรง



“อ๊ะๆๆๆๆ อาร์ตมันจุก...บะ...เบา...อ๊ะๆๆ อาร์ต...อ๊าาาาา” พีทตัวโยกไหวไปมาอย่างรุนแรงจากการกระแทกกระทั้นที่หนักหน่วงและถี่ยิบ ทั้งเจ็บทั้งเสียวไปหมดรวมทั้งจุกจนต้องเอ่ยปากออกห้าม แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่นำพาคนที่สติหลุดไปแล้วอย่างอาร์ตได้ เพราะแทนที่จะหยุดเจ้าตัวกลับซอยถี่ๆ เน้นหนักทุกจังหวะเข้าออก จนพีทได้แต่ครางระงมร้องเรียกไม่เป็นภาษา



“อ๊าาาาาาา” พีทครางออกมาดังลั่นพร้อมกับร่างกายที่กระตุกน้อยๆ ก่อนจะปลดปล่อยหยาดน้ำที่แทบจะไม่เหลือให้ไหลออกมาที่หน้าท้อง นอนหายใจรวยรินหอบเหนื่อยอย่างหมดแรง




อาร์ตกระชับฝ่ามือที่สะโพกบางแน่นขึ้นเมื่อส่งพีทจนถึงฝั่ง ก่อนตัวเองจะกระแทกเข้าออกถี่ยิบและเน้นหนักในสองสามครั้งสุดท้าย ปลดปล่อยทุกอย่างตามคนตัวเล็กไปติดๆ ส่วนพีทได้แต่ครางตอบรับเบาๆ ในลำคอ เพราะแทบจะไม่มีเสียงให้พูดอยู่แล้ว



“อ๊ะ” พีทนิ่วหน้าเล็กน้อยเมื่ออาร์ตดึงตัวเองออกไป ก่อนจะนอนหอบไม่พูดอะไรอยู่แบบนั้น



“กินน้ำไหม” อาร์ตถามพร้อมกับยกมือเช็ดเหงื่อบนหน้าผากของพีท พร้อมกับกดจูบลงไปที่แก้มนิ่ม



พีทไม่ตอบอะไรนอกจากพยักหน้ารับ รู้สึกว่าลำคอแห้งผากไปหมดและเหนื่อยเกินกว่าจะกระดิกตัวไปไหน ทั้งๆ ที่เช้านี้ไม่ได้รุนแรงออกจะอ่อนโยนเกินไปด้วยซ้ำสำหรับอาร์ต คงเป็นเพราะร่างกายแบกรับความเหนื่อยสะสมจากเมื่อคืน เขาถึงได้หมดสภาพเอาง่ายๆ แบบนี้



“งั้นรอก่อน” อาร์ตว่าแล้วลุกขึ้นเดินไปหยิบน้ำในตู้เย็นมาให้พีท



“ลุกไหวไหม” อาร์ตที่กลับมาพร้อมกับแก้วน้ำในมือ ทรุดตัวลงนั่งข้างๆ พีทและเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง ซึ่งเจ้าตัวก็ได้แต่ส่ายหัวไปมาเบาๆ อาร์ตวางแก้วน้ำในมือลงที่หัวเตียง แล้วพยุงพีทให้ลุกขึ้นนั่งก่อนจะหยิบน้ำมายื่นให้




“ไหวไหมดื้อ” อาร์ตยกมือขึ้นอังหน้าผากพีทเพื่อวัดไข้ มองใบหน้าซีดเซียวของอีกฝ่ายอย่างรู้สึกผิด เวลาหน้ามืดขึ้นมาทีไรเขาใส่คนตัวบางไม่ยั้งทุกที ยิ่งอีกฝ่ายตามใจไม่เคยขัดเขาก็ยิ่งได้ใจ



“ไหว” พีทตอบด้วยเสียงที่แหบเล็กน้อย รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวนืดหน่อย แต่อย่างอื่นก็ปกติดี



“งั้นอาบน้ำปะ จะได้ไปหาข้าวกินแล้วกินยา” อาร์ตว่าแค่นั้นแล้วจัดการช้อนตัวพีทขึ้น อุ้มเดินไปห้องน้ำทันทีอย่างไม่รอช้า









“ไหวไหมเนี่ย” อาร์ตถามพีทที่นั่งคอตกพร้อมจะหลับตลอดเวลาอยู่บนเตียง



“ง่วงอ่ะ” พีทงึมงำตอบแผ่วเบาแล้วคว้าเอามาห่มมาคลุมร่างเปลือเปล่าของตัวเอง ก่อนจะล้มตัวลงนอนไปทั้งอย่างนั้น



“เฮ้ย!! อย่านอนเดี๋ยวรอกินข้าวกินยาค่อยนอน” อาร์ตรีบเดินมาดึงคนที่ตั้งท่าจะหลับให้ลุกขึ้นมา และจับตัวอีกฝ่ายบังคับไม่ให้นอนลงไปอีก



“อาร์ตแม่ง!! ก็มันง่วงข้างหลังก็เจ็บเนี่ย” พีทโวยวายออกมาดังลั่นแล้วชักสีหน้าใส่อาร์ตอย่างหงุดหงิด ตาเรียวถลึงมองอีกฝ่ายดุๆ ที่โดนขัดใจ



“เจ็บมากไหมไหนพี่ดูดิ๊” อาร์ตถามด้วยสีหน้าเป็นกังวลเล็กน้อย และพยายามจะแยกขาเรียวออกเพื่อดูด้านหลัง



“เฮ้ย!!! ไม่ต้อง” พีทส่งเสียงห้ามด้วนความตกใจ มือเล็กพยายามผลักไสอีกฝ่ายให้ถอยห่าง แต่สุดท้ายก็แพ้แรงโดนผลักให้นอนราบกับที่นอน ขาสองข้างถูกจับแยกออกกว้างทันที



“พี่มึงแม่ง” พีทพึมพำด่าอีกฝ่ายพร้อมใบหน้าที่แดงก่ำ ก่อนจะยกมือขึ้นมาปิดหน้าที่เห่อร้อนของตัวเองทั้งสองข้าง รู้สึกอายจนตัวแทบไหม้เมื่อเห็นว่าอาร์ตจดๆ จ้องๆ ที่ด้านหลังของตัวเอง ถึงแม้อีกฝ่ายจะมองมันด้วยสายตาเป็นห่วงไม่เคลือบแฝงอะไร แต่การที่ต้องมาอ้าขาให้สำรวจแบบนี้ทั้งๆ ที่ไม่ได้จะทำอะไร มันก็ทำให้เขาอายได้เหมือนกัน



“เดี๋ยวพี่ทายาให้” อาร์ตว่าแล้วลุกขึ้นไปหยิบหลอดยาที่โต๊ะข้างเตียง หลังจากสำรวจเรียบร้อยแล้ว



“มะ...ไม่ต้องเดี๋ยวทาเอง” พีทเอ่ยห้ามเสียงสั่นด้วยความเขินอาย มือก็จับมือใหญ่ของอีกฝ่ายเอาไว้แน่น



“มองเห็นหรือไง พี่ทาให้น่ะดีแล้ว” อาร์ตว่าอย่างไม่สนใจกับท่าทางของพีท จับมือเล็กที่คอยห้ามให้ออกห่างพร้อมทั้งเปิดฝาหลอดยา



“กูอายแม่ง!!” พีทตวาดแหวด้วยใบหน้าแดงก่ำ ตวัดตามองอาร์ตด้วยความเคือง




“อายทำไมเห็นกันจนจะทะลุหมดละ” อาร์ตส่ายหัวให้พีทด้วยความหน่าย ก่อนจะดันเจ้าตัวให้นอนลงแล้วจับขาให้แยกออกกว้างอีกครั้ง



“บวมฉิบหายเลยว่ะน้องพีท” อาร์ตเอ่ยปากบอกพีทพร้อมกับมองปากทางบวมช้ำไม่วางตา



“แล้วพี่มึงจะบอกกูทำไมเนี่ย” พีทส่งเสียงว่าด้วยความเคืองปนอาย มือยื่นไปทุบไหล่ของอาร์ตที่ขยันแกล้งเต็มแรง



“โอ๊ย!! ฮ่าๆ ก็เผื่ออยากรู้ไง” อาร์ตหัวเราะร่วนอย่างชอบใจที่แกล้งพีทได้ ก่อนจะโน้มตัวลงไปจูบปากอีกฝ่ายที่นอนทำตาวาวใส่ด้วยความมันเขี้ยว



“แต่บวมขนาดนี้สงสัยพี่ต้องอดไปหลายวัน” อาร์ตพึมพำไม่หยุดด้วยสีหน้าที่บ่งบอกความเสียดาย จนพีทต้องทุบเข้าให้อีกครั้งด้วยความหมั่นไส้



“แค่นี้ก็พอไหมล่ะ” พีทว่าแล้วถลึงตาใส่อาร์ตดุๆ



“พอครับพอ” อาร์ตว่าอย่างยอมแพ้แล้วทายาให้



“พี่ว่าสอดยาด้วยดีกว่า” อาร์ตบอกออกมาอีกครั้งหลังจากพิจารณาความบอบช้ำของพีทอย่างถี่ถ้วน ตัดสินใจลุกขึ้นไปหยิบยาที่ซื้อมาเตรียมไว้อีกครั้ง



“รู้ดีเกินไปแล้วนะแม่ง!!” พีทตะโกนว่าด้วยความอายที่นับวันอาร์ตชักจะรู้มากเรื่องพวกนี้ขึ้นเรื่อยๆ ขยันจัดแจงหานั่นนี้มาไม่หยุดจนเขาตั้งใจไล่ให้ไปเรียนหมอแล้ว



“มีเมียก็ต้องศึกษาไหมครับ” อาร์ตตอบกลับด้วยท่าทางสบายๆ ก่อนจะบรรจงสอดเม็ดยาเข้าไปภายในช่องทางรัก




“ขมิบขนาดนี้เดี๋ยวเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นหรอก” อาร์ตว่าออกมาหลังจากที่สอดยาเข้าไปข้างใน แล้วเห็นพีทขมิบตอดรัดเม็ดยาถี่รัว



“โอ๊ย!! ไอ้เหี้ย!! พี่มึงหยุดพูดได้ไหมเนี่ย” พีทโวยวายดังลั่นอย่างเหลืออด ยกมือขึ้นปิดหน้าที่แดงซ่านของตัวเอง ตอนนี้เขารู้สึกอายจนไม่รู้ว่าจะอายยังไงแล้ว



“โอเคๆ ไม่แกล้งละลุกมาใส่เสื้อผ้าเร็วจะได้ไปหาข้าวกิน” อาร์ตบอกด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ ก่อนจะดึงพีทให้ลุกขึ้นนั่งอีกครั้ง



“จะให้ใส่ให้ไหม” อาร์ตว่าดุๆ เมื่อเห็นพีทยังคงนั่งนิ่งไม่ขยับ แต่ถึงอย่างนั้นพีทก็ยังคงนั่งนิ่งไม่ไหวติงมองอาร์ตอย่างท้าทาย



“โอเคพี่ใส่ให้” อาร์ตว่าแล้วเดินถือเสื้อผ้ามาใส่ให้อย่างปากว่า ส่วนพีทเองก็นั่งให้อาร์ตจับแต่งตัวเหมือนตุ๊กตาไม่มีผิด เพราะนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่อาร์ตใส่เสื้อผ้าให้



“งั้นปะไปหาข้าวกินกัน” อาร์ตว่าแล้วฉุดพีทให้ลุกขึ้นยืนหลังจากแต่งตัวให้อีกฝ่ายเสร็จ



“เออ...ชาบูชินะ” พีทบอกและยักคิ้วส่งให้อาร์ตกวนๆ



“กินแพงนะเรา” อาร์ตแกล้งบ่นให้อย่างไม่จริงจัง เพราะนานๆ ครั้งพีทถึงจะชวนไปกินข้าวในห้าง เรียกว่าน้องรับรู้สถานการณ์การเงินผัวเป็นอย่างดี เจ้าตัวเลยไม่เคยงอแงหรือเรียกร้องอะไรเลย



“เลี้ยงเมียได้ไหมล่ะ” พีทขยับเข้ามาใกล้อาร์ตแล้วกอดที่เอวหนาพร้อมกับช้อนตามองอ้อนๆ




“ไม่ได้ก็ได้แหละแบบนี้” อาร์ตว่าแล้วลูบหัวพีทเบาๆ ก่อนจะกอดคอพาคนตัวเล็กไปหาอะไรกินที่ห้างใกล้ๆ เพื่อจะได้กลับมาเข้าเรียนตอนบ่ายทัน



“กินติมด้วยนะ” พีทว่าต่ออย่างได้ที



“คร๊าบๆ รีบไปเร็วพี่ต้องมาเรียนอีก” อาร์ตเองก็ไม่ได้ขัดอะไรแต่เอ่ยปากเร่งแทน ส่วนพีทก็ใส่รองเท้าแล้วเดินนำหน้าออกไปด้วยความเร็วเหมือนลืมความเจ็บ จนอาร์ตต้องส่ายหน้าไปมาด้วยความหน่าย คว้าเอาของทุกอย่างมาถือไว้เช็คความเรียบร้อยในห้องอีกครั้ง ก่อนจะล็อกประตูแล้วสาวเท้าเดินตามหลังพีทไป





2 Be con...



+++++++++++++++++++++++

เรื่อยๆ มาเรียงๆ แปะ NC เบาๆ

รักและขอบคุณคนอ่านจ้า ^^


 

ออฟไลน์ ashbyipcet

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
เฮียคะใช้เมียเสร็จก็เลี้ยงดีๆเถอะคะเฮีย  :hao3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
หิวจนลืมเจ็บเลยนะพีท รีบซะ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
NC เบาๆ :m25: เฮียจัดหนักน้องพีชตลอด ทั้งคืนไม่พอต่อเช้าอีก เอาซะบวมเลยถนอมน้องนิดนึงเฮีย

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6

ออฟไลน์ matchty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
    • MATCHTY-แมตตี้
คู่กัดฉบับรักเกินร้อย

By matchty



กัดครั้งที่

- 43 -



รถยนต์คันสวยที่เคลื่อนตัวเข้ามาจอดแทนที่เจ้าสองล้อสีชมพู ซึ่งเคยจอดอยู่จรงนี้ที่เดิมเป็นประจำ ทำให้เหล่าเด็กวิศวะหลายคนที่เดินผ่านไปมาต่างมองด้วยความสนใจ และพยายามจะสอดส่องให้ทะลุเข้าไปในตัวรถ เพื่อมองว่าเจ้าของรถเป็นใครและทำไมถึงกล้าเอารถมาจอดตรงนี้



ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!



เสียงเคาะกระจกรถเบาๆ เป็นสัญญาณเรียก ไม่ได้ทำให้เจ้าของรถที่อยู่ด้านในสนใจนัก เจ้าตัวแค่เหลือบสายตามองผ่านฟิล์มดำๆ ที่ติดกระจกรถแค่นั้น ก่อนจะหันกลับมานั่งมองพวงมาลัยรถด้วยใบหน้าบูดบึ้งเช่นเดิม



“เฮ้ย!! เรียกไม่ได้ยินเหรอวะ” คนข้างนอกรถตะโกนเสียงดังจนเสียงลอดเข้ามาด้ายในให้ได้ยินแว่วๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ยินว่าพูดอะไรอยู่ดี และถึงแม้จะพอเดาออกว่าอีกฝ่ายพูดอะไร เจ้าของรถก็ไม่ได้สนใจแถมยังเมินเฉยเหมือนเดิม



ก๊อกๆๆๆ



แต่เสียงเคาะกระจกจากคนด้านนอกยังดังต่อเนื่องไม่หยุด สุดท้ายร่างบางที่นั่งในรถก็ทนรำคาฐไม่ไหว ตัดสินใจปลดล๊อกและผลักประตูเปิดออกไปเต้มแรง



ผลั่ก!!



“อุ่ก!! โอ๊ย!! ไอ้เหี้ย!! มึงจะกวนตีนใช่ไหมถึงเปิดประตูกวนส้น...อะ...อ้าว...ซ้อ” คำด่าที่ตะโกนออกมาไม่ยั้ง เนื่องจากโดนประตูรถเปิดอัดใส่ตัวเต็มแรง เปลี่ยนเป็นเสียงเรียกอ่อยๆ ในตอนท้ายเมื่อเห็นว่าเจ้าของรถเป็นใคร



“เออ!! กูเอง...ทีนี้มีปัญหาอะไรอีกไหม” พีทยืนกอดอกมองคนตรงหน้าเขม็ง พร้อมกับชักสีหน้าใส่ด้วยความหงุดหงิด จนอีกฝ่ายได้แต่ส่งยิ้มแหยกลับมาให้



“แฮ่ๆ ไม่มีปัญหาครับซ้อ ไม่กล้ามีเลย” อีกฝ่ายอ้อมแอ้ทตอบกลับไม่เต็มเสียง ท่าทางอ่อนน้อมถ่อมตนผิดกับก่อนหน้านี้ลิบลับ



“งั้นหลีกกูจะเดิน” พีทบอกเสียงแข็งหันไปคว้าเอากระเป๋าในรถ แล้วถอยออกมาล็อกรถก่อนจะเดินกระแทกไหล่คนตรงหน้าออกไป ทิ้งให้รุ่นพี่ที่มีฐานะน้อยกว่ายืนเาหัวด้วยความมึนงง



“ซ้อแกไปแดกรังแตนที่ไหนมาวะ” รุ่นพี่ผู้เกือบชะตาขาดหันไปถามเพื่อนที่อยู่ใกล้ๆ ด้วยความสงสัย



“สงสัยทะเลาะกับเฮีย” เพื่อนอีกคนไหวไหล่ส่งให้เพราะคิดไม่ออกเหมือนกัน แต่ถ้าให้เดาก็คงไม่พ้นเรื่องนี้นั่นแหละ ไม่งั้นหน้าซ้อคงไม่บูดเป็นตูดแบบนั้นหรอก



“ช่างเหอะว่ะ” สุดท้ายทั้งคู่ก็เลือกตัดบทสนทนาเรื่องนี้ เพราะคิดไปก็ปวดหัวเปล่าๆ ในเมื่อคู่นี้เขาทะเลาะกันเป็นเรื่องปกติ









“ดีครับซ้อ” เสียงทักทายจากทั้งรุ่นน้องและรุ่นพี่ดังมาเป็นระยะตลอดทางที่เดินผ่าน ซึ่งพีทก็พยักหน้าตอบรับหรือทักทายกลับไปบ้างเช่นกัน และไม่ได้รู้สึกแปลกๆ หรืออายอะไร กับการที่ทุกคนต่างพากันเรียกแบบนี้เหมือนเมื่อเกือบ 1 ปีก่อน ก็ทุกคนพร้อมใจกันแซวและเรียกซ้อกันทั้งคณะ แซวทุกวัน เรียกทุกวัน จากที่อายๆ ก็กลายเป็นชินไปโดยปริยาย แถมเป็นซ้อก็โคตรจะสะดวก แทบจะชี้นกเป็นกระรอก ชี้ไม้เป็นหอไอเฟลอยู่แล้ว ใหญ่กว่าบอสวิศวะก็เมียบอสอย่างพีทเนี่ยแหละ



“ไงซ้อ!!” โดมเอ่ยปากแซวทักทายพีทเสียงใสทันทีที่เห็นว่าอีกฝ่ายกำลังเดินเข้ามา




“เออ!!” พีทตอบกลับน้ำเสียงห้วนไม่สบอารมณ์ ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้ข้างเลิฟแรงๆ



“เป็นไรมึง” เลิฟถามพีทด้วยความแปลกใจ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายดูอารมณ์เสียตั้งแต่เช้า



“ทะเลาะกับผัวอีกสิมึง” โดมว่าอย่างรู้ทันและมองหน้าพีทนิ่งๆ



“เรื่องอะไรอีกล่ะ” เลิฟถามออกมาบ้างเพราะขี้เกียจเดา เนื่องจากพีทขยันทะเลาะกับคนรักเหลือเกิน ทะเลาะกันจนคนรอบข้างชินแต่ไม่เคยมีเรื่องใหญ่สักครั้ง ส่วนมากก็เป็นอีกคนที่แกล้งพีทและพีทก็จะงอนแบบนี้ทุกครั้ง



“ก็ไอ้เหี้ยพี่อาร์ตมัน…” พีทเปิดปากทันทีที่มีคนถาม เพราะอยากจะบ่นตั้งแต่ตอนที่ขับรถมามหา’ลัยแล้ว แค่ยังไม่สบโอกาสจะพูดก็เท่านั้น



“หยุด! ไม่ต้องเล่า...ผัวมึงมาง้อละ” โดมยกมือขึ้นห้ามเอาไว้ก่อนที่พี่จัได้พูดอะไรมากไปกว่านี้ แล้วพยักหน้าไปในทิศทางที่เจ้าของร่างสูง ผมสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์กำลังเดินเข้ามา



“หวัดดีค่ะพี่” โดมยกมือไหว้และทักทายอาร์ตด้วยรอยยิ้ม แต่ก็ต้องแปลกใจไม่น้อยที่อาร์ตแค่พยักหน้ารับ ไม่ได้พูดจาหยอกล้อหรือเอ่ยแซวตามปกติที่เคยทำ ใบหน้าหล่อเหลาที่เปื้อนรอยยิ้มอยู่เสมอของอีกฝ่าย ดูเคร่งขรึมจนโดมไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีก



“มาก่อนทำไมไม่บอกพี่” อาร์ตเดินไปหยุดตรงหน้าพีทแล้วเอ่ยถามเสียงเรียบ ตาก็จ้องมองอีกฝ่ายอย่างตำหนิ ผลที่ได้คือใบหน้างอง้ำจากอีกฝ่ายและสายตาขุ่นเคืองที่ตวัดมองมา



“บอกทำไมยังไงก็รถคนละคัน” พีทตอบกลับเสียงแข็งช้อนตามองอาร์ตด้วยความไม่พอใจ



“พีทจะทะเลาะพี่เรื่องนี้ให้ได้เลยใช่ไหม” อาร์ตเอ่ยปากถามอย่างอ่อนใจ



“พี่มึงนั่นแหละหาเรื่องทะเลาะว่ะ” พีทเถียงกลับอย่างไม่ยอมแพ้




“มันก็แค่เรื่องรถป่ะวะ พี่มึงจะอะไรนักหนา” พีทเอ่ยปากว่าอย่างต่อเนื่องเมื่อเห็นว่าอาร์ตเงียบ พยายามส่งสายตาไปกดดันให้อีกฝ่ายรู้สึกผิดและทำตาม




“พี่ตามใจเราทุกอย่างนะพีท แต่อะไรที่ไม่ได้ก็คือไม่ได้” อาร์ตว่าและมองพีทที่ออกอาการงอแงดุๆ



“ก็แค่รถ” พีทยังคงเถียงต่อด้วยใบหน้าบึ้งตึง ไม่เข้าใจในสิ่งที่อาร์ตพยายามจะบอกมาตลอดระยะเวลา 2 อาทิตย์



“พี่ยังยืนยันคำเดิม ถ้าพีทจะงอนพี่เพราะเรื่องนี้ นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่พี่จะง้อเรา” อาร์ตว่าด้วยน้ำเสียงจริงจังไร้วี่แววล้อเล่น จนพีทที่เป็นคนฟังได้แต่เม้มปากตัวเองแน่น



“พี่ไปเรียนล่ะ” อาร์ตตัดบทและหันหลังเดินจากไปทันที ทิ้งให้พีทมองตามด้วยแววตาตัดพ้อ และไม่เข้าใจว่าเรื่องแค่นี้ทำไมอีกฝ่ายจะต้องคิดอะไรเยอะ ก็แค่เรื่องรถเท่านั้น



“นี่ทะเลาะกันจริงจังเหรอวะ” โดมตัดสินใจเอ่ยปากถามหลังจากนั่งมองอยู่นาน ส่วนพีทได้แต่เบ้หน้าออกและมองโดมด้วยใบหน้าหงอยๆ ก่อนจะฟุบตัวลงกับโต๊ะเบื้องหน้า ส่วนปากก็ก่นด่าตัดพ้อคนที่เดินจากไปไม่หยุด



ถ้าจะถามว่าพีททะเลาะอะไรกับอาร์ตคงต้องเล่าย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 2 อาทิตย์ก่อน เป็นช่วงเปิดเทอมใหม่ที่เขาได้กลายเป็นเด็กปี 2 และอาร์ตเป็นรุ่นพี่ปี 4 ด้วยการประพฤติตัวดีรวมถึงผลการเรียนที่สวยงามตลอดระยะเวลาที่โดนลงโทษ สุดท้ายพ่อของเขาก็ใจอ่อนยอมยกโทษให้แถมด้วยการคืนทั้งรถและคอนโด จำได้ว่าตอนนั้นเขาดีใจจนเนื้อเต้นที่ได้ทุกอย่างคืน คนแรกที่เขาเลือกมาบอกข่าวดีก็คือไอ้คนที่บอกจะไม่ง้อเขาเมื่อกี้นั่นแหละ



ทุกๆ อย่างมันก็ดูโอเคดีอาร์ตก็ดูยินดีกับเขา แต่พอเขายัดกุญแจรถใส่มือให้พร้อมกับบอกให้ขับ รวมทั้งชวนให้เก็บของย้ายไปอยู่คอนโดด้วยกัน อีกฝ่ายก็ปฏิเสธความหวังดีแถมยังไม่ยอมรับกุญแจรถ สุดท้ายก็กลายเป็นเราทะเลาะกันเพราะเขาเองก็ไม่ยอม และไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายจะปฏิเสธความหวังดีของเขาทำไม ในเมื่อขับมอเตอร์ไซค์อันตรายจะตายแถมร้อนก็ร้อนฝนตกลงมาก็เปียกไปทั้งตัว กันแดดกันฝนอะไรไม่ได้เลย ห้องที่อยู่ตอนนี้ก็คับแคบไม่มีความสะดวกสบายอะไรเลยสักนิด



เขาก็แค่อยากให้คนที่ตัวเองรักสบายขึ้นอยู่ในสถานที่ๆ ดีกว่านี้ เพราะอีกฝ่ายทำงานทุกวันกลับมาก็เหนื่อย ก็แค่อยากช่วยแล้วเขาผิดอะไรล่ะ แค่หวังดีเท่านั้นเอง แต่ดูอีกฝ่ายสิจะอะไรกันนักกันหนาก็ไม่รู้ นั่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่เอา แถมยังมาบอกว่าเขาพูดไม่รู้เรื่อง ใครกันแน่ที่พูดไม่รู้เรื่องแล้วยังมีหน้ามาบอกว่าจะไม่ง้อเขา หงุดหงิดโว๊ย!!!! ไอ้ผัวเหี้ย!!!



“ถ้ามึงทำหน้าอึดอัดเหมือนอยากจะตะโกนด่าขนาดนั้น กูแนะนำให้มึงเดินไปแหกปากด่าที่หน้าห้องเรียนเลยค่ะ กูกลัวมึงจะอกแตกตาย” โดมเอ่ยแซวขึ้นมาอย่างขำๆ กับสีหน้าที่เปลี่ยนไปมาไม่หยุดของพีท เลยได้รับค้อนงามจากอีกฝ่ายที่ตวัดมาให้เป็นการตอบแทน



“กูจะโทรไปด่าไอ้เหี้ยพี่อาร์ตให้ไอ้นาวฟัง” พีทว่าออกมาด้วยน้ำเสียงติดโมโห ก่อนจะควักโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า เตรียมกดโทรไปหานาวที่อยู่ห่างไกลคนละทวีป



“นาวมันนอนไหมมึงจะไปกวนมันทำไม” เลิฟที่นั่งเงียบมานานพูดขึ้นมาบ้าง ก่อนจะคว้าเอาโทรศัพท์ออกจากมือพีทมาถือไว้ เจ้าตัวเลยได้แต่ชักสีหน้าหงิกงอที่โดนขัดใจ



“โทรไปหาเรื่องให้มันด่า” โดมพูดออกมาอย่างเหนื่อยใจกับความไม่รู้จักโตของพีท



“เออ!! กูอยากโดนด่า พอมันไม่อยู่ไม่มีใครบ่นคิดถึงว่ะแม่ง” พีทบ่นงึมงำออกมาพร้อมกับใบหน้าที่สลดลงอีกครั้ง ซึ่งไม่ต่างจากเลิฟที่ใบหน้าหงอยลงไม่ต่างกัน



“พวกมึงสองคนนี่เหมือนเด็กขาดแม่เลยเนาะ” โดมว่าด้วยความขำกับท่าทางของเพื่อทั้งสองคน ที่พอขาดนาวไปต่างพากันซึมเศร้านั่งหงอยไปตามๆ กัน



“อีกตั้งหลายปีกว่าจะกลับ” เลิฟพึมพำออกมาบ้างและฟุบหน้าลงกับโต๊ะข้างๆ พีท



“เฮ้อ!!!” พีทหันไปสบตากับเลิฟแล้วถอนหายใจออกมาพร้อมกัน ถึงตอนอยู่ด้วยกันเขาจะชอบบ่นว่านาวทำตัวเหมือนแม่ แต่พออีกฝ่ายหนีไปเรียนต่อเมืองน้องแบบนี้มันก็อดคิดถึงไม่ได้ เพราะเอาเข้าจริงๆ ก็อย่างที่โดมบอกนั่นแหละ นาวนี่เป็นเหมือนแม่ของพวกเขาเลยนะ



“พอๆ ค่ะเลิกซึมเศร้ากูมีครีมตัวใหม่มาแนะนำ ใช้แล้วผิวดีผิวสวยผัวรักผัวหลง” โดมชวนเปลี่ยนเรื่องด้วยความรำคาญ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อเปิดครีมที่ว่าให้เพื่อนทั้งสองคนดู และมันก็ดึงความสนใจจากทั้งพีทและเลิฟได้เป็นอย่างดี เพราะทั้งคู่เลิกซึมและต่างพากันชะโงกหน้ามามองอย่างสนใจ



“ครีมไรอ่ะ” พีทถามและดึงโทรศัพท์ในมือของโดมมาเปิดดูกับเลิฟ พร้อมกับทั้งอ่านสรรพคุณที่บรรยายเอาไว้ไปด้วย



“ครีมนี้พวกเซเลปดังๆ ใช้แล้วบอกกันปากต่อปากว่าดีมากเลยนะมึง” โดมจีบปากจีบคอบอกเพื่อนอย่างคนที่ไปรู้อะไรดีๆ มา เรียกตาของอีกสองคนให้โตแข่งกันอย่างสนใจ



และหลังจากนั้นก็เป็นการคุยแลกเปลี่ยนเรื่องความสวยความงามอย่างออกรสออกชาติ พร้อมๆ กับที่โดมขายครีมให้เพื่อนสนิททั้งสองได้ไปหลายกระปุก เรียกว่าตั้งแต่เพื่อนหน้าหวานของตัวเองต่างพากันมีสามีเป็นตัวเป็นตน ทั้งๆ ที่แหกปากบอกชาวบ้านปาวๆ ว่ามาดแมนสนใจแต่ผู้หญิง แถมบางคนยังเคยมีอะไรกับผู้หญิงมาแล้วด้วยซ้ำ โดมก็มีรายได้จากอาชีพเสริมพวกนี้เป็นกอบเป็นกำ แถมยังรู้สึกสนุกที่ได้มีเพื่อนสาวไว้คุยเรื่องความงาม นี่ยังไม่นับรวมเพื่อนสาวตัวเล็กนามว่าเอยอีกคนนะ แม้ว่าพวกมันจะไม่ยอมรับว่าตัวเองสาวก็ตามเถอะ



ตั้งแต่เปิดตัวว่ามีผัว...เอ้ย!! สามี เพื่อนของโดมทั้งสามคนนับวันก็ยิ่งฉายความน่ารัก น่าขย้ำ จนกระเทยบึกบึนอย่างโดมได้แต่มองด้วยความอิจฉา ไอ้ที่เกิดมาน่ารักสวยหวานเกินหญิงนับวันก็ยิ่งสวยขึ้น ส่วนไอ้ที่เพิ่งจะมาหัดสวยก็ดูแลตัวเองจนมีพัฒนาการก้าวกระโดดพรวดพราด ชนิดที่เก้งกวางแม้แต่กระเทยบางคน ที่รู้ตัวว่าเบี่ยงเบนกินพวกเดียวกันตั้งแต่เกิดยังตามไม่ทัน นี่ล่ะมั้งที่เขาบอกว่าความรักจะทำให้เราสวยขึ้น คิดแล้วโดมมี่ก็อยากมีคนมาทำให้สวยขึ้นบ้างเหมือนกันนะ แต่นี่อะไรยิ่งดูแลตัวเองก็ยิ่งหล่อแทนที่จะได้ผู้มาเป็นสามีเหมือนไอ้เตี้ยพวกนี้ ดันได้แต่ผู้ที่พร้อมจะมาเป็นเมียกับชะนีที่เสนอตัวเป็นแม่ของลูก กระเทยหล่อมีกรรมจริงๆ



...

...



แกร๊ก...



เสียงเปิดประตูพร้อมกับร่างสูงที่ก้าวเข้ามาภายในห้อง ทำให้มือเล็กที่กำลังบรรจงทาครีมลงบนหน้าหยุดชะงักลงเล็กน้อย ก่อนเจ้าของร่างบางที่ยืนอยู่หน้ากระจกจะหันไปมองคนที่เพิ่งเข้า แล้วก็เลิกสนใจหันกลับไปทาครีมต่อพ้อมกับเปลี่ยนเป็นลูบไล้โลชั่นไปตามแขนขาเรียว



อาร์ตที่เพิ่งกลับมาจากเลิกเรียนมองภาพของพีทที่ยืนทาครีมด้วยความแปลกใจ ก่อนจะวางกระเป๋าเป้ของตัวเองลงบนโต๊ะแล้วสาวเท้าเข้าไปหา สอดแขนสองข้างเข้าไปรอบเอวบางแล้วกอดเอาไว้หลวมๆ



“ทำอะไร” อาร์ตงึมงำถามที่ซอกคอหอมกรุ่นของพีท ปลายจมูกวนเวียนซุกไซร้สูดความหอมไม่หยุด



“ตาบอดเหรอก็เห็นว่าทาครีม” พีทอดที่จะว่าออกไปด้วยความหมั่นไส้ไม่ได้ ก็เห็นอยู่ว่ายืนทาครีมยังมีหน้ามาถาม



“ถึงว่าสิเดี๋ยวนี้ตัวหอมตัวนิ่มขึ้นตั้งเยอะ ทำไมครับกลัวพี่ไม่หลงไปมากกว่านี้หรือไง” อาร์ตว่าแล้วดูดเม้มลาดไหล่เนียนที่โผล่พ้นเนื้อผ้าออกมา มือก็ลูบไล้เข้าไปใต้เสื้อแล้วลากผ่านเบาๆ บริเวณหน้าท้อง สร้างความเสียวและปั่นป่วนอารมณ์ให้กับพีทจนขนลุกไม่น้อย



“พี่มึงอย่ามือไวได้ไหมเนี่ย ทาครีมยังไม่เสร็จเห็นไหม” พีททำเสียงดุใส่อาร์ตและออกแรงดิ้นเล็กน้อย เพื่อให้อีกฝ่ายเลิกลูบไปมาก่อกวนความรู้สึกสักที



“โอเคๆ เดี๋ยวพี่ทาให้ดีกว่า” อาร์ตหยุดมือซุกซนของตัวเองแล้วอุ้มพีทขึ้นพาเดินไปที่เตียง วางอีกฝ่ายลงแล้วคว้าเอาขวดโลชั่นใรมือมาถือไว้เอง จากนั้นก็บีบเนื้อครีมลงบนมือแล้วบรรจงลูบไล้ไปทั่วขาเนียนตามด้วยการจูบซับลงไป เรียกได้ว่าฝ่ามือลากเนื้อดครีมผ่านตรงไหรอาร์ตก็จูบตามลงไปตรงนั้น



“พี่มึงทาดีๆ ได้ไหมเนี่ย” พีทอ้อมแอ้มบอกด้วยความเขินอาย ใบหน้าหวานแดงก่ำมองการกระทำของอาร์ตอย่างทำตัวไม่ถูก




จุ๊บ!!



“พี่ก็ทาดีๆ นี่ครับ ตรงไหนที่ไม่ดีล่ะ” อาร์ตยืดตัวขึ้นมาจูบที่ปากของพีทและเอ่ยถามด้วยท่าทางทะเล้น เลยโดนพีทหวดกำปั้นลงไปบนตัวเป็นการแก้เขิน



“ไอ้หื่น” พีทว่าอาร์ตด้วยใบหน้างอง้ำแต่ขึ้นสีแดงระเรื่ออย่างเขินอาย จนอาร์ตอดใจไม่ไหวดึงพีทเข้ามาหอมซ้ายหอมขวาไม่หยุด



“อื้อ...พอได้แล้ว” พีทดิ้นขลุกขลักไปมาในอ้อมแขนของอาร์ต พร้อมกับยกมือดันหน้าอีกฝ่ายให้ถอยห่าง



“พี่หื่นกับดื้อคนเดียวนะไม่ดีหรือไง” อาร์ตว่าด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ และดึงพีทให้มานั่งลงบนตัก



“ลองพี่มึงไปหื่นกับคนอื่นดูซิ จะตอนแม่งให้สูญพันธ์” พีทหันมาถลึงตามองอาร์ตอย่างข่มขู่ เลยได้รับรอยยิ้มเอ็นดูพร้อมกับเสียงหัวเราะเบาๆ ส่งมาให้จากอีกฝ่าย



“ดุจริงตัวแค่นี้” อาร์ตว่าพร้อมกับขำน้อยๆ ให้กับตาวาวๆ ของพีท และก้มลงจูบปากอีกฝ่ายแรงๆ อย่างมันเขี้ยว ก่อนจะยกร่างบางลงจากตักแล้วหยิบขวดโลชั่นไปเก็บที่ให้



“นี่ครีมมันเยอะขึ้นป่ะเนี่ยน้องพีท” อาร์ตมองเหล่ากระปุกครีมที่วางอยู่บนโต๊ะด้วยความอึ้ง เพราะจำได้ว่าเมื่อไม่กี่วันก่อนมันยังไม่เยอะขนาดนี้



“ก็ซื้อมาเพิ่มไงเห็นมันหอมดี” พีทว่าเหมือนเป็นเรื่องปกติ ซึ่งก็ปกติจริงๆ สำหรับเจ้าตัว เพราะตั้งแต่รู้ตัวว่าคงหันหัวกลับไปเป็นผัวชาวบ้านเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว พีทก็ขยันดูแลตัวเองมากขึ้นกว่าแต่ก่อนเป็นเท่าตัว



ทั้งหมดที่ทำนอกจากเพื่อตัวเอง ก็เพื่อไอ้คนตัวสูงที่ตั้งคำถามอยู่เนี่ยแหละ เพราะเขาไม่ได้เกิดมาสวยแบบไอ้เลิฟหรือน่ารักแบบไอ้เอย เขาเลยต้องดูแลตัวเองมากหน่อย ยิ่งมีแฟนหล่อๆ แบบอาร์ตแถมยังเป็นผู้ชายเหมือนกัน คงไม่แปลกเท่าไหร่หรอกมั้งที่เขาจะรู้สึกกังวลว่าจะโดนเบื่อเข้าสักวัน มันเลยเป็นหนึ่งในเหตุผลที่เขาหันมาดูแลตัวเอง เพื่อมัดใจไม่ให้อีกฝ่ายวอกแวก มารยาชายมันก็มีไม่แพ้ผู้หญิงหรอก



“แต่ของเก่ายังไม่หมดเลยนะน้องพีท” อาร์ตอดที่จะเตือนอีกฝ่ายไม่ได้ เมื่อเห็นว่าเจ้าตัวใช้เงินในเรื่องที่ไม่สมควรเท่าไหร่ ถึงเขาจะชอบที่อีกฝ่ายดูน่าฟัดขึ้นกว่าเดิมเป็นกอง แต่เขาก็รักในแบบที่น้องเป็นอยู่แล้วเลยไม่อยากให้สิ้นเปลืองเรื่องพวกนี้เท่าไหร่



“บ่นว่ะอาร์ตที่เยอะๆ นั่นก็ซื้อมาให้ตัวเองด้วยเหอะ” พีทเถียงกลับด้วยใบหน้างอง้ำไม่พอใจที่โดนดุ



“ไม่ได้บ่นแค่บอก” อาร์ตบอกพีทอย่างอ่อนใจ เขารู้ว่าน้องน่ะเงินใช้เหลือเฟือผิดกับเขาลิบลับ แต่ในฐานะคนรักและโตกว่าเขาก็ไม่เห็นด้วยอยู่ดี



“แล้วก็ไม่ต้องซื้อมาให้พี่หรอก ทีหลังซื้อแค่ของตัวเองก็พอ” อาร์ตพูดต่อและหยิบกระปุกครีมบนโต๊ะขึ้นมาดู โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าคำพูดของตัวเองกำลังสร้างความไม่พอใจให้พีท



“ทำไมพี่มึงชอบขัดใจวะเงินแค่นี้เอง ถ้าไม่อยากได้ก็บอกดิคราวหลังจะได้ไม่ซื้ออะไรให้” พีทว่าออกไปด้วยความน้อยใจเพราะทุกที่ตัวเองซื้ออะไรให้ อีกฝ่ายจะต้องพูดออกมาทำนองนี้ทุกครั้ง ไม่เคยรับอะำรจากเขาเลยตั้งแงาปฏิเสธท่าเดียว



“งอนอะไรอีกเนี่ย” อาร์ตที่ตามอารมณ์ของพีทไม่ทันเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ ถ้าจะมีใครขี้เหวี่ยงกว่าผู้หญิงเวลาเป็นวันนั้นของเดือน ก็เมียเขาเนี่ยแกละคนหนึ่ง บทจะเหวี่ยงจะวีนน้องก็เหวี่ยงขึ้นมาเฉยๆ



“งอนอะไร ใครจะกล้างอน ก็พี่มึงบอกว่าจะไม่งอแล้วนิ” พีทสะบัดหน้าหนีไปอีกทางอย่างเคืองใจ ปล่อยอาการสะบัดสะบิ้งแต๋วแตกออกมาแบบไม่มีกั๊ก ทำเอาคนมองอย่างอาร์ตได้แต่ยืนโคลงหัวอย่างอ่อนใจ



“นี่กำลังเอาเรื่องที่มอมาพาลใช่ไหมเนี่ย” อาร์ตยืนพิงโต๊ะแล้วเอ่ยปากถาม โดยที่ไม่ได้เดินเข้าไปหาแต่อย่างใด



“ใครพาลพูดดีนะแม่ง พี่มึงแหละงี่เง่าบอกให้เอารถไปขับก็ไม่เอา ให้ย้ายออกไปอยู่คอนโดก็ไม่ไป” พีทได้ทีก็เอาเรื่องที่คาใจมาตลอด 2 อาทิตย์ออกมาพูด




“พี่ก็บอกเหตุผลไปแล้วไง เราเองต่างหากที่ไม่ยอม” อาร์ตบอกออกไปอย่างเหนื่อยหน่ายให้กับเรื่องเดิมๆ ที่เคยคุยกันไปแล้วแต่พีทไม่คิดจะทำความเข้าใจ



“เหตุผลแบบนั้นใครจะไปยอมรับได้วะ” พีทเถียงกลับด้วยความรู้สึกที่เริ่มจะโมโหขึ้นมาจริงๆ เพราะถึงอาร์ตจะเคยบอกแล้วว่าทำไม แต่เขาก็รับไม่ได้อยู่ดี ก็ในเมื่อของทุกอย่างมันเป็นของเขา ชีวิตเขา เขาจะทำอะไรก็เรื่องของเขาสิ



“เรากำลังจะทะเลาะกันนะพีท” อาร์ตเอ่ยเตือนขึ้นอย่างใจเย็น เมื่อเห็นพีทเริ่มจะใส่อารมณ์ลงไปในคำพูด



“เออ!! ให้มันทะเลาะไปเลย ทำอะไรให้ไม่เคยจะดีหรอก” พีทตะโกนใส่อย่างไม่สนคำเตือน เพราะความโกรธผสมกับความน้อยใจ ที่เห็นอาร์ตแคร์สายตาคนรอบข้างมากกว่าความรู้สึกของตัวเองที่ได้ชื่อว่าแฟน



“พี่ว่ารอพีทอารมณ์ดีเราค่อยคุยกันใหม่ พี่ไปทำงานก่อนแล้วกัน” อาร์ตยังคงแสดงท่าทีใจเย็นไม่ พยายามไม่ใส่ใจอาการพาลโมโหของพีท เพราะรู้ว่าตัวเองก็มีส่วนผิดที่เอาแต่ความคิดตัวเองเกินไป แต่อธิบายอะไรไปตอนนี้คนที่กำบังอารมณ์เสียแบบพีทคงไม่ฟัง



พีทยืนมองท่าทางใจเย็นไม่ทุกข์ร้อนของอาร์ตด้วยความหงุดหงิด ยิ่งเห็นอีกฝ่ายเปลี่ยนชุดออกไปทำงานโดยที่ไม่มีท่าทางสนใจตัวเอง ยิ่งเกิดอาการน้อยใจและพาลโมโหไปซะทุกอย่าง



“ถ้าพี่มึงไปทำงานเราเลิกกัน!!” พีทตวาดโพล่งออกไปด้วยความโมโหอย่างลืมตัว เมื่อเห็นว่าอาร์ตหยิบกีตาร์แล้วทำท่าจะเปิดประตูห้องออกไป



อาร์ตชะงักฝ่ามือที่กำลังจะเปิดประตูแล้วหันกลับมามองพีทด้วยใบหน้าที่เรียบสนิท ดวงตาคมที่อ่อนโยนขี้เล่นเสมอตอนนี้เปลี่ยนเป็นว่างเปล่าไร้ความรู้สึก จนพีทที่มองอยู่ต้องหลบสายตาและบีบมือตัวเองแน่นอย่างอึดอัด



“ไม่ต้องรอนอนก่อนได้เลย” เสียงราบเรียบที่เปล่งออกมาจากปากของร่างสูง ทำให้พีทบีบมือตัวเองเข้าหากันแน่นกว่าเก่า ขอบตารู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาในทันที ก่อนจะใจหายเมื่อได้ยินเสียงปิดประตูห้องที่ดังขึ้นแผ่วเบา และไร้เงาของใครอีกคนแล้วในตอนนี้




อาร์ตไม่ได้แสดงท่าทีรุนแรงหรือต่อว่าอะไรก็จริง เพราะอีกฝ่ายเป็นคนใจเย็นและโตกว่าอายุพอสมควร แต่พีทก็รู้ตัวดีว่าทำให้อีกฝ่ายโกรธ เขาอยากบอกว่าเขาแค่น้อยใจเลยพูดออกไปไม่คิด และเขาไม่ได้ตั้งใจจะพูดคำนั้นออกไปจริงๆ





2 Be Con...



++++++++++++

กลับมาแล้วจ้า กลังจากหายไปนานนน

ไม่เคยหายไปานขนาดนี้เลยนะเนี่ย

ไม่สบายจ้า เปื่อยมาก เลยพักฟื้น

ตอนนี้ดีขึ้นเลยมาอัพนิยายให้

คิดถึงคนอ่านอ่ะ ฮือออออออออ

ส่วนเฮียกับดื้อก็ให้เขาทะเลาะกันบ้างพอเป็นกระสัย

ชีวิตคนเรารักกันยังไงมันก็ต้องมีบ้างละเนาะ จะได้ไม่เลี่ยน

รักและขอบคุณคนอ่านจ้า

ปล.ทีมหนังสือ อีกสองเดือนนะที่รัก

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
............

ออฟไลน์ ashbyipcet

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
เฮียก็นะนังซ้อพีทก็อยากให้เฮียสบายขึ้นเฮียก็ยังปากอข็งโอยยยยรู้สึกปวดหัว  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
 :m16: :m16: :m16: พีทเอาแต่ใจเกินไปอะ

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
ไปกันไม่รอดละม้าง สงสัยจะมาม่า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด