+++จันทร์กระจ่างฟ้า+++(แนวจีนโบราณ)+++(บทที่ 21 (100%) : 12/07/60)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: +++จันทร์กระจ่างฟ้า+++(แนวจีนโบราณ)+++(บทที่ 21 (100%) : 12/07/60)  (อ่าน 84644 ครั้ง)

ออฟไลน์ Y_type

  • miKapleXD
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
    • Night dating, no obligations, one night only

บทที่ 6 คืนเดือนมืด

   เช้าวันนี้มู่อิงตื่นสายอย่างยิ่งเป็นเพราะกลางคืนเขามัวแต่ขบคิดเรื่องที่หลิวเฉินซางได้กำไรมากเกินไป คิดว่าจะลงมือกับคนผู้นั้นอย่างไรจึงจะสาแก่ใจ คิดไปคิดมาก็เผลอหลับไป ผิดกับหลิวเฉินซางเขาเอาแต่ครุ่นคิดถึงการกระทำของตนเอง เหตุใดเขาจึงควบคุมตนเองไม่ได้ปานนั้น เป็นเพราะมู่อิงนั้นดูยั่วยวนเกินไปใช่หรือไม่ แต่คนผู้นั้นไม่ได้ยั่วยวนเขาแม้แต่น้อย เวลานั้นสายตามู่อิงจับจ้องเพียงเส้นผมของเขา เพียงแต่เขานั้นกำลังจับจ้องเรือนร่างของผู้อื่น

   หลิวเฉินซางนั้นใช่ว่าจะไม่เคยเห็นคนงาม สาวงามมากมายทั้งในและนอกยุทธภพ ลูกสาวคหบดี บรรดาลูกสาวของผู้สูงศักดิ์ทั้งหลายนั้นต่างล้วนเคยทอดสะพานหยิบยื่นไมตรีให้ แต่เขาเป็นผู้ไม่สนใจผู้อื่นมาแต่ไหนแต่ไร จึงไม่เคยตกลงไปในวังวนดอกท้อเหล่านั้นเลยสักครั้ง ครั้งนี้เพราะเหตุใดกันแน่หนอเพียงแค่เห็นร่างเปลือยเปล่าของบุรุษผู้หนึ่งเขาถึงกับควบคุมตนเองไม่ได้

            หากจะนึกไปนึกมาเขากลับพบว่าสามารถจดจำทุกอากัปกิริยาของประมุขพรรคมารผู้นั้นได้ไม่มีตกหล่น ยิ่งคิดยิ่งเห็นว่ามู่อิงนั้นน่าเอ็นดู จะว่าไปแล้วหลิวเฉินซางนั้นนับว่ามองมารร้ายผู้นั้นผิดไปลิบลับ คนผู้นั้นไม่นับว่าโหดเหี้ยมอำมหิต หรืออันตรายราวกับพยัคฆ์อะไร เพียงแต่มีความนิยมชมชอบที่พิสดารไปหน่อยเท่านั้น ซึ่งโดยรวมแล้วล้วน ‘ไม่เลว’ เลยทีเดียว ที่สำคัญนั้นเวลาเมามายนั้นช่างทำให้ผู้อื่นใจเต้นโครมคราม ท่าทีที่แสดงต่อเส้นผมของเขานั้นก็น่าเอ็นดูอยู่ไม่น้อย ยิ่งบางคราวเขายังอยากปิดปากแดงระเรื่อนั้นด้วยปากตนเองดูสักครั้ง คิดๆดูแล้วก็ช่างขาดทุนนัก ผู้อื่นเพียงชื่นชอบ ‘เส้นผม’ ของเขาเท่านั้น แต่ตัวเขานั้นเล่ากลับชอบ ‘ทุกส่วน’ ของผู้อื่น ไม่ว่าจะรูปลักษณ์หรือนิสัยใจคอ เห็นทีเขาคงต้องหาผู้นำยุทธภพคนใหม่สำรองไว้เสียแล้ว เพราะตนเองคงจะกลายเป็น ‘ผู้หลงไหลคลั่งไคล้ ตามอกตามใจจอมมารไปเสียทุอย่าง’ ในสักวัน

            เมื่อคิดตกแล้วท่านผู้นำฝ่ายธรรมะจึงคลี่ยิ้มออกมาอย่างงดงามยิ่ง

            “เรียนท่านประมุขท่านเจ้าเมืองหวงซีเหลียนขอเข้าพบขอรับ”ผู้อาวุโสชิวเยี่ยนที่ร่วมเดินทางมาด้วย เป็นผู้เข้ามารายงาน นับว่ายังทันเห็นรอยยิ้มงดงามนั้นของหลิวเฉินซาง

รอยยิ้มเช่นนี้ถ้าบรรดาแม่นางทั้งหลายมาเห็นเป็นได้แย่งชิงท่านประมุขจนฆ่ากันตายแน่

“ไม่พบ”รอยยิ้มงดงามของหลิวเฉินซางนั้นหายไปทันทีที่ผู้อาวุโสชิวเยี่ยนปรากฏกาย คำปฏิเสธนั้นฟังดูทั้งจองหองทั้งเย่อหยิ่ง  ตลอดเวลาที่หลิวเฉินซางดำรงตนเป็นประมุขฝ่ายธรรมะนั้น ไม่ว่าขุนนางน้อยใหญ่จะขอเข้าพบสักกี่ครั้งก็โดนปฏิเสธอยู่ร่ำไป
เป็นเพราะเหล่าขุนนางต่างรู้ดีว่าฮ่องเต้โปรดปรานผู้มีฝีมือ ชื่อเสียงของท่านผู้นำฝ่ายธรรมะท่านนี้ขจรขจายเข้าไปถึงในวังหลวง กล่าวกันว่าเขามีคุณธรรมสูงส่ง รูปโฉมหล่อเหลา ทั้งฝีมือยังเยี่ยมยุทธ์ เป็นศิษย์เพียงคนเดียวของปรมาจารย์ว่านไห่ผู้เชี่ยวชาญศาสตร์หลายแขนงถึงขั้นหยังรู้ดินฟ้า  นับว่าหากเขายอมรับใช้ราชสำนักแคว้นเว่ยก็เปรียบเหมือนพยัคฆ์ติดปีกแล้ว

“แต่เขามารอตั้งแต่เช้าแล้วนะขอรับ”คนหนึ่งเป็นเจ้านายตน อีกคนก็เป็นผู้สูงศักดิ์ผู้อาวุโสชิวเยี่ยนลำบากใจยิ่งนัก

นับแต่โบราณมาแล้วที่ยุทธภพจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับราชสำนัก แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด ในคราของประมุขหลิวจึงมักมีขุนนางน้อยใหญ่แวะมาเยี่ยมเยียน ถึงแม้จะโดนปฏิเสธมากมายเพียงใด แต่คนพวกนั้นก็ไม่รู้จักหลาบจำ

“เช่นนั้นเขาคงรอจนเบื่อมากแล้ว เชิญเขากลับไป บอกว่ายุทธภพไม่ขอข้องเกี่ยวราชสำนัก ข้าหลิวเฉินซางยิ่งไม่อยากข้องแวะกับคนในราชสำนัก”เขาไม่อยากถูกลากลงน้ำในเรื่องไม่เป็นเรื่อง อยากได้ตัวเขาเพื่อประจบเอาใจฮ่องเต้ คนเช่นหลิวเฉินซางไม่เห็นอยู่ในสายตา

“ข้าจะไปเรียนตามนี้  ท่านประมุข...ตาแก่เช่นข้าขอบังอาจสอดปากขึ้นมาสักคำ ไม้ที่แข็งเกินไปย่อมมีวันหัก หากท่านประมุขยังคงปฏิเสธอยู่ร่ำไป จะเป็นการต่อต้านราชสำนักนะขอรับ”

“ผู้อาวุโสไม่ต้องห่วง ถึงเวลานั้นมาข้าย่อมมีวิธีรับมือ”

“แล้วประมุขพรรคมารผู้นั้น...”

“เรื่องนี้ยิ่งไม่ต้องยุ่ง  การรับมือคนผู้นี้ทำให้ข้าบันเทิงใจมาก”ออกจะทำให้เขาชื่นชอบมากเกินไปเสียด้วยซ้ำ





หลิวเฉินซางนั้นแท้จริงแทบจะไม่รู้ตัวเลยว่าเขาถูกมู่อิงดึงดูดใจตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นเพราะ ‘เป็นคนประเภทเดียวกัน’ เป็นเช่นใดนะหรือ ก็คือผู้ที่ไม่เคยให้สิ่งที่ต้องการหลุดมือไปอย่างไรเล่า ที่สำคัญยังชื่นชมอีกฝ่ายที่ฝีมือสูงส่งคู่ควรแล้วที่มาบุกสำนักผู้อื่นได้โดยไม่ต้องกลัวเกรง เพียงแต่วิธีจัดการของเขาและมู่อิงแตกต่างกันเพียงเท่านั้น ท่านผู้นำฝ่ายธรรมะนั้นมีวิธีจัดการผู้อื่น โดยที่ผู้คนยังคงเห็นว่าสิ่งที่เขาทำนั้นถูกต้องสมควรแล้ว หากแต่มู่อิงกลับตรงไปตรงมายิ่ง ไม่รู้จักปิดบังอารมณ์ความรู้สึกของตนเองบ้างเลย

ท่านผู้นำฝ่ายธรรมะที่คิดจะพาท่านจอมมารไปเที่ยวเล่น และไปดูเสียหน่อยว่าหลังเกิดเหตุการณ์ ‘เมื่อคืน’ ปฏิกิริยาของ ‘น้องมู่อิง’ จะเป็นเช่นไร เป็นอันต้องถูกล้มเลิกไปเหตุเพราะประมุขพรรคฝ่ายธรรมะและบรรดาแม่นางทั้งหลายที่รวมตัวกันมาหาเขาแต่เช้า ผู้ที่อยากให้มากลับไม่มา ส่วนผู้ที่ไม่อยากให้มานั้นเล่า...

หลิวเฉินซางเหลือบตาดูเหล่าผู้คนจากสำนักต่างๆ เปลือกตาหลุบลงครึ่งหนึ่ง เขานั่งอยู่ในศาลารับลมของโรงเตี๊ยมแวดล้อมด้วยสาวงามจำนวนมาก ที่ไม่อาจปฏิเสธได้เป็นเพราะเขาโดนกล่าวหาว่าสนิทสนมกับประมุขพรรคมารมากเกินไป ใช่ว่าเอาใจออกห่างฝ่ายธรรมะหรือไม่ เพตุใดจึงต้องดีต่อประมุขพรรคมารถึงเพียงนี้ หนึ่งคนหนึ่งคำถามที่อ้าปากก็ยังไม่ยอมหุบ ที่ยังไม่ได้อ้าปากพูดก็เตรียมพูด หลิวเฉินซางยังคงนิ่งเงียบท่าทางสูงส่งจนเหล่านกกระจิบนกกระจอกที่เอาแต่ส่งเสียงฝูงนั้นรู้สึกว่าสิ่งที่ตนเองทำลงไปนั้นเป็นการลบลู่ท่านผู้นำชนิดหนึ่ง การส่งเสียงอื้ออึงต่อหน้าเขาเป็นการไม่เคารพ  หลิวเฉินซางนั้นนับว่าเก่งกาจในด้านการทำให้ผู้อื่นรู้สึกผิดอย่างมาก

“พวกเจ้า! มีสิ่งใดก็พูดทีละคน คิดว่าท่านประมุขของเราเป็นเทวรูปที่ให้พวกเจ้ามาอธิฐานขอพรพร้อมกันหรืออย่างไร!!!”ผู้อาวุโสชิวเยี่ยนโมโหจนหนวดกระดิก หน้าดำคล้ำไปทั้งแถบ เจ้าพวกนี้ถึงกลับกล้าเสียมารยาทต่อหน้าท่านประมุข จะไม่ให้เขาโกรธได้อย่างไร 

“ประมุขหลิวใช่ว่าพวกเราอยากเสียมารยาทแต่เหตุใดท่านต้องให้จอมมารผู้นั้นพักที่พรรคของท่านแล้วยังให้การต้อนรับเขาอย่างดี”

หากจะวัดทางด้านฝีมือใช่ว่าท่านผู้นำจะสู้มู่อิงผู้นั้นไม่ได้ การจะขับไล่มู่อิงหากพวกเขาร่วมมือกันย่อมสำเร็จอย่างแน่นอน เว้นเสียแต่ว่าท่านผู้นำจะหลงใหลในรูปโฉมของจอมมารผู้นั้น แต่ถึงแม้จอมมารจะมีรูปโฉมที่งดงามยิ่งนัก  คนผู้นั้นก็ยังเป็นบุรุษทั้งยังเป็นบุรุษที่นิยมหญิงงามอย่างมากเสียด้วย

“พวกเจ้า...!!!”ผู้อาวุโสชิวเยี่ยนคิดไม่ถึงว่าจะมีคนบังอาจถามท่านประมุขเช่นนี้

“เพราะผู้ที่ทำผิดอยู่ในความดูแลของข้าอย่างไรเล่า  ที่น้องสาวของมู่อิงต้องจบชีวิตลงเรื่องนี้เกิดขึ้นภายในพรรคของข้า ข้าผู้เป็นประมุขพรรคเรือนเมฆาจะละทิ้งความรับผิดชอบในเรื่องนี้ไปไม่ได้ ยิ่งหลานแฝดคู่นั้นหากจะปฏิเสธว่าเขาไม่เกี่ยวข้องกับมู่อิงก็ไม่อาจทำได้อีก อย่างไรเสียพรรคเรือนเมฆาก็ยังแบกความผิดที่ดูแลคนได้ไม่ดี พวกเรานั้นทำผิดต่อมู่อิงข้อนี้คือความจริง” น้ำเสียงของหลิวเฉินซางนั้นสงบราบเรียบหากแต่แฝงความรู้สึกผิดอยู่หลายส่วน

ความมีคุณธรรมของท่านผู้นำนั้นสูงส่งอย่างยิ่งในสายตาชาวยุทธ์ฝ่ายธรรมะจึงไม่มีใครเอ่ยแย้งในสิ่งที่เขาพูดออกมา ส่วนหลิวเฉินซางนั้นกลับไม่ได้พูดถึงเรื่องที่มู่อิงบุกมาสังหารฉีฮ่าวและทำลายเรือนของพรรคไปหลายหลัง อย่างไรเสียเขาก็มีเงินซ่อมแซม  ที่ทำลายไปแล้วก็แค่ซ่อมเสียใช่ว่าจะมีผู้เสียชีวิต

“เช่นนั้นเหตุใดต้องพาเขามาเที่ยว ทำเช่นนี้ออกจะเกินไปหรือไม่”คนผู้นั้นถึงอย่างไรก็เป็นจอมมาร การรับรองเขาเช่นนี้นับว่าเกินไปจริงๆ

“หรือจะให้เขาเบื่อจนสังหารพวกท่านเล่า”น้ำเสียงของหลิวเฉินซางแข็งขึ้นเล็กน้อย “อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ แต่ละวันพวกท่านต่างแวะไปเยี่ยมเยียนจนมู่อิงรำคาญใจ หากข้าไม่ทำเช่นนี้เกรงว่าทุกท่านคงต้องทิ้งชีวิตไว้ที่เรือนของเขาแน่”สายตาคมกริบของหลิวเฉินซางกวาดจ้องไปที่เหล่าชาวยุทธ์ชายที่ต่างพากันหลบสายตา

จะให้ทำเช่นไรเล่า ตอนนั้นพวกเขาเพียงอยากเห็นหน้าคนงาม  เพียงแต่ตอนนี้มีเวลาขบคิดจึงได้รู้สึกตัวขึ้นมา อย่างไรเสียคนงามผู้นั้นก็เป็นบุรุษ ที่สำคัญยังเป็นบุรุษที่มีสาวงามอยู่ลายล้อม แม้แต่สาวงามฝ่ายธรรมะเขายังไม่อาจทนมองได้ แล้วบุรุษดังเช่นพวกตน...

ที่แท้เป็นเพราะบุรุษเหล่านี้ความหวังพังทลายลงแล้วนั่นเอง...จึงสำนึกได้ว่ามู่อิงนั้นเป็นจอมมารที่สังหารคนได้โดยไม่ต้องกระพริบตา

“เช่นนั้นเพราะเหตุใดท่านผู้นำจึงต้องอยู่กับเขาตลอดเวลา”ประโยคนี้เป็นของจอมยุทธ์หญิง มิใช่หยวนอี้เซียงหากแต่เป็นหานปี้ชิงศิษย์เอกสำนักป่าขาว

หานปี้ชิงนับว่าพูดได้ตรงใจบรรดาเหล่าหญิงสาวแต่ละคนจึงพยักหน้าตามในคำของนาง

   “นอกจากข้าแล้ว พวกท่านรับมือเขาได้หรือ”คำพูดของหลิวเฉินซางนั้นนับว่าปิดปากผู้คนได้ชะงัดนัก แต่ละคนล้วนก้มหน้าหลบสายตาเขา

   หากว่าจอมมารผู้นั้นคิดลงมือ นอกจากหลิวเฉินซางแล้วก็ไม่มีใครรับมือมู่อิงได้จริงๆ ต้องโทษที่ฝีมือพวกเขาอ่อนด้อย หากไร้ซึ่งประมุขหลิวเกรงว่าพวกเขาคงสิ้นชีพไปนานแล้ว

   “หากไม่มีอะไร ข้าขอตัว”หลิวเฉินซางลุกขึ้นเดินจากไป...

   “พวกเจ้า...วันนี้กินดีหมีหัวใจเสือกันมาหรือไร!”หลังจากหลิวเฉินซางจากไปแล้วผู้อาวุโสชิวเยี่ยนก็ตะคอกออกมาเสียงดัง เขาทนมานานแล้ว หากไม่ได้สั่งสอนคนหนุ่มเหล่านี้สักวันผู้อาวุโสเช่นเขาคงต้องโมโหจนตายแน่

   เหล่าชาวยุทธ์ฝ่ายธรรมะนั้นโดนท่านผู้อาวุโสชิวเยี่ยนกล่าวสั่งสอนถึงครึ่งวันเต็ม ถึงเป็นเหน็บชาก็ไม่อาจเปลี่ยนท่านั่ง  พวกเขามาครั้งนี้ นับว่าหาความลำบากใส่ตัวโดยแท้...





ในโรงเตี้ยมไม่ไกลจากโรงเตี๊ยมที่มู่อิงพักนัก บุรุษชุดดำพูดคุยกันอย่างมีลับลมคมใน

“วันนี้เป็นคืนเดือนมืดแล้วสินะ”

“นายท่านจะลงมือคืนนี้หรือขอรับ”

“ใช่! น้องมู่อิงจะอ่อนแอที่สุดในคืนเดือนมืด ปราณของเขาดูดซับมาจากดวงจันทร์ ในคืนเดือนมืดจึงมีแต่ท่าร่างไร้ซึ่งพลัง”

“สิ่งที่นายท่านหวังมานานก็จะเป็นจริงเสียที”

“ฮึ! น้องมู่อิง ข้าก็อยากจะรู้นักว่าครั้งนี้เจ้าจะรอดจากกำมือศิษย์พี่ใหญ่ไปได้ยังไง”...

“วะฮะฮ่า วะฮะฮ่า”

“เจ้าจะหัวเราะทำไม...หุบปาก!”






มู่อิงที่นอนตื่นสายนั้น เช้านี้เขามีความรู้สึกว่าไม่อาจทนมองหน้าหลิวเฉินซางได้ จึงไม่ได้มีความคิดจะไปหาคนผู้นั้น เพียงแต่ฟังพิณชมดอกไห่ถังอยู่ในเรือนของตน

“พี่มู่อิง! ข้างนอกมีเรื่องสนุกด้วยละ ช่วงนี้ชาวบ้านกำลังประกวดเทพธิดาไห่ถัง ข้าได้ยินข่าวว่าหญิงงามที่เป็นตัวเก็งนั้นงดงามมาก”หนานหมิงเยว่ที่หายไปทั้งคืนและพึ่งกลับมานั้น ใบหน้าแจ่มใส เห็นได้ชัดว่าเขาต้องแอบแต่งตัวเป็นบุรุษไปเที่ยวหอนางโลมมาเป็นแน่

บุรุษผู้หนึ่งจะแต่งตัวเป็นชายยังต้องทำอย่างหลบๆซ่อนๆ มู่อิงนั้นช่างเกิดมาเพื่อข่มเหงผู้อื่นเสียจริง

“งามกว่าเจ้าหรือเปล่า”มู่อิงละสายตาจากดอกไห่ถังมามองหนานหมองเยว่ มืองดงามข้างหนึ่งลูบลงบนร่างของฉางเอ๋อที่หนึ่ง  ที่กำลังนอนสยายอย่างเกียจคร้านที่ข้างกายมู่อิง

“ข้าไม่เคยเห็นนาง แต่ต้องงดงามมากแน่...พี่มู่อิง! เหตุใดปากของท่านจึงดูแปลกๆ”หนานหมิงเยว่จ้องริมฝีปากแดงระเรื่อของมู่อิง เหตุใดเขาจึงรู้สึกว่ามันบวมน้อยๆ

“แปลกหรือ...กลิ่นที่ติดตัวเจ้ามามากกว่าที่แปลก เยว่อเอ๋อ...เจ้าคงไม่ได้ไปแอบทำอะไรที่ข้าห้ามมาหรอกนะ”แววตาของมู่อิงนั้นดูชั่วร้ายอย่างมากจนหนานหยิงเยว่รู้สึกร้อนๆหนาวไปทั้งร่าง อยากตบปากตัวเองเสียจริงที่พ่นคำพูดผิดหูมู่อิงออกมา

ปกติพี่มู่อิงตามใจเขามาก หากเขาทำอะไรลับหลังก็มักปล่อยปละละเลยไม่สนใจ หากแต่ครั้งนี้ทำราวกับจะเอาเรื่องที่เขาแต่งตัวเป็นชาย เห็นได้ชัดว่าคำพูดที่เขากล่าวทำให้พี่มู่อิงไม่พอใจ

แต่เขาเพียงกล่าวว่าปากพี่มู่อิงแปลกเหตุใดจึงไม่พอใจ หรือเพราะเกิดอะไรขึ้นกับปากเขาจริงๆ หนานหมิงเยว่หวนคิดไปถึงบุคคลผู้ซึ่งสามารถรับมือกับมู่อิงได้

หรือว่าหลิวเฉินซางจะ....

“พี่มู่อิง...เราออกไปเดินเล่นข้างนอกดีหรือไม่”ใบหน้าของหนานหมิงเยว่นั้นแดงระเรื่อ ถึงเขาจะตระเวนเที่ยวหอนางโลมมาอย่างช่ำชอง หากแต่พี่มู่อิง...

พี่มู่อิงนั้นแม้แต่โดนผู้อื่นจับมือก็ยังไม่เคย

เขาจำได้ว่าตอนเด็กๆมีบุตรชายขุนนางคนหนึ่งจับเพียงชายเสื้อพี่มู่อิง อีกวันต่อมามือข้างที่จับชายเสื้อพี่มู่อิงของคนผู้นั้นก็หายไป นายน้อยมู่หรงนั้นหัวเราะร่า บอกว่าคนผู้นั้นคงโดนกรรมตามสนองแล้ว  กรรมสนองอันใดกัน! เหล่าพี่ชายคลั่งน้องเหล่านั้นพากันสนองละสิไม่ว่า เพราะเหตุนี้พี่มู่อิงจึงยังบริสุทธิ์พุดผ่องยิ่งกว่ามุสิกเสียอีก แต่ก็เฉพาะเรื่องแบบนี้เท่านั้น  หากแต่เป็นเรื่องข่มเหงรังแกผู้อื่นพี่มู่อิงนับว่าแตกฉานยิ่งแล้ว

พวกมู่อิงนั้นนับว่าโชคดีมาก เพราะช่วงที่พวกเขามาเที่ยวนั้นตรงกับงานเทศกาลชมดอกไห่ถัง ชาวบ้านต่างพากันจัดเทศงาน มีทั้งร้านขายของรวมทั้งการแสดงการละเล่นประจำถิ่นมากมาย หนานหมิงเยว่ผู้ชอบความคึกคักนั้นตื่นเต้นเป็นอย่างมาก มู่อิงเพียงแค่ชำเลืองมอง ชูปี้ฮวานั้นนับว่าได้มาเปิดหูเปิดตาแล้ว

“พรุ่งนี้ค่อยไป วันนี้ไม่ได้”หากแต่คำพูดของมู่อิงเป็นดังเช่นโซ่ที่โผล่มาล่ามคอหนานหมิงเยว่

   “ข้าน้อยเองก็ลืมไปว่าวันนี้ไม่เหมาะกับการออกไปข้างนอก”

   “ข้าเองก็ลืมไป เช่นนั้นพรุ่งนี้นะ พรุ่งนี้เราออกไปเที่ยวชมงานเทศกาลกัน แม่นางจี๋ฮัวบอกข้าว่างานครั้งนี้จัดขึ้นตั้งสามวัน พรุ่งนี้เป็นวันสุดท้ายพอดี”หนานหมิงเยว่พูดด้วยใบหน้ายิ้มแฉ่ง

   แม่นางจี๋ฮัวคือผู้ใด ก็คือยอดบุพฝาที่หอนางโลมเมื่อคืนอย่างไรเล่า

   “ฮึ! จะสนุกก็รู้จักพอดีเสียบ้างล่ะ”เป็นคำกล่าวตักเตือนธรรมดาแท้ๆ แต่หนานหมิงเยว่กลับรู้สึกราวกับถูกด่าว่าจนพรุนไปหมด

   “พี่มู่อิง...คราวหน้าข้าจะพาท่านไปด้วยนะ”

   “ข้าไม่ชอบสถานที่สกปรก”

   คำพูดของมู่อิงทำเอาหนานหมิงเยว่อ้าปากค้าง พี่มู่อิงกำลังด่าว่าเขาสกปรกใช่หรือไม่ เขาไม่เข้าใจหรือว่าผู้ชายทุกคนก็เป็นเช่นนี้ อ้อ...เขาไม่เข้าใจหรอก เรื่องเช่นนี้พี่มู่อิงถูกคนทั้งจวน ‘ร่วมมือกัน’ ปิดหูปิดตา




   ในคืนนี้ไร้ซึ่งแสงจันทร์มีเพียงดวงดาราที่ส่องสว่างพร่างพราวเต็มท้องฟ้า มู่อิงผู้ซึ้งไม่อยากทำสิ่งใดนั่งอยู่หน้าพิณเจ็ดสายคันหนึ่ง นิ้วเรียวยาวพร่างพรมลงบนสายพิณเปล่งท่วงทำนองที่ชวนลุ่มหลงมัวเมา ประเดี๋ยวสนุกสนาน ประเดี๋ยวดื้อรั้นเอาแต่ใจ แต่ละเสียงที่เปล่งออกมาราวกับจะช่วงชิงเอาหัวใจคน

   ชูปี้ฮวามองด้วยความชื่นชม ฝีมือบรรเลงพิณของท่านประมุขนั้นนับว่านางไม่อาจเทียบได้ ท่วงธรรมนองเหล่านนี้ล้วนเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ท่าทางที่เขาดีดพิณก็ล้วนชวนมอง

   ส่วนหนานหมิงเยว่นั้นราวกับหลุดเข้าไปโลกแห่งเสียงพิณนั้น เขารับฟังอย่างเคลิบเคลิ้ม พี่มู่อิงนั้นนานๆจะจับพิณสักครั้ง เขาใช่ว่าจะมีความหลังฝังใจอันใดกับพิณเพียงแต่ขี้เกียจเท่านั้น  นิสัยของพี่มู่อิงนั้นชอบเสพสุขแต่มิชอบสร้างความสุขให้ผู้อื่น!

   “มู่อิง! วันนี้ข้าต้องสังหารเจ้าให้ได้ แก้แค้นให้กับคนในตระกูล!”บุรุษชุดดำผู้หนึ่งพลิ้วกายลงมา ในมือเขามีดาบเล่มใหญ่ กระไอสังหารแผ่กระจายไปรอบด้าน

   เสียงพิณของมู่อิงนั้นหยุดลงแล้วเขาเพียงเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของดาบหากแต่ไม่ได้เอ่ยวาจา หนานหมิงเยว่นั้นตื่นตัวเต็มที่ เพราะเขามัวแต่เคลิบเคลิ้มกับเสียงพิณการป้องกันตัวจึงลดลง ทำให้คนร้ายเข้าใกล้พี่มู่อิงได้

   “เพ้ย! คิดสังหารพี่มู่อิง คิดว่าข้าหนานหมิงเยว่ตายไปแล้วหรือ”หนานหมิงเยว่นั้นตอนนี้โมโหแล้ว เจ้าบ้านี่กล้าดีอย่างไรใช้ดาบชี้หน้าพี่มู่อิง  ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่มีสิทธิ์บังอาจหลบหลู่ดูหมิ่นพี่มู่อิงต่อหน้าเขา

   “เยว่เอ๋ออย่าสบถมันไม่งาม”น้ำเสียงมู่อิงนั้นแฝงแววตำหนิติเตียน

   “แต่พี่มู่อิง...”

   มู่อิงเพียงยกมือห้ามไม่ให้เขาเอ่ยต่อ

   “ศิษย์พี่ใหญ่จะแอบดูอีกนานไหม ยังไม่รีบมาช่วยข้าอีก”

   “น้องมู่อิงอยากให้พี่ใหญ่ผู้นี้ช่วยหรือ”
   


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เรื่องนี้เขียนขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น
เพราะฉะนั้นอาจจะดูเว่อร์วังไปบ้างนะคะ
เรื่องนี้อัพอาทิตย์ละตอนนะคะ ไม่มาวันพฤหัสก็วันศุกร์


ออฟไลน์ harumi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +156/-33

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
แหม กำลังคิดถึงพอดี

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ขอบคุณที่มาต่อนะคะ
รอพี่หลิวแสดงฝีมือ.  โห. หลบหน้ากันซะงั้น. พี่หลิวน้องมู่

ออฟไลน์ lovewannabe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
เว่อวังระฆังทองดีค่ะ สนุก ชอบๆๆๆ พี่หลิว จะได้ เข้าฉากนี้กะเขาไหมนะ ลุ้นค่ะ

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
อยากให้ถึงวันศุกร์ไวๆ จัง  :-[


ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7
นัองมู่อิงกลับมาเร็วๆนะิ :กอด1:

ออฟไลน์ rubymoona

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-5
ขอสาปแช่งศิษย์พี่ใหญ่ไว้ก่อนเลย คิดจะทำอะไรมู่อิงฮะ?! ไม่เจียม!

ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1691
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
สนุกดีค่ะ น้องมู่อิงก็น่ารัก พี่หลิงก็ตลก 5555

ออฟไลน์ Chise

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ชอบมาก ภาษาดี มู่อิงเป็นอะไรที่โดดเด่นมีเอกลักษณ์จริงๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Y_type

  • miKapleXD
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
    • Night dating, no obligations, one night only
บทที่ 7 ศิษย์พี่ใหญ่

“น้องมู่อิงอยากให้พี่ใหญ่ผู้นี้ช่วยหรือ” บุรุษชุดดำรูปร่างสูงใหญ่ท่าทางองอาจพลิ้วกายลงมายืนข้างมู่อิง น้ำเสียงแฝงแววเจ้าชู้อยู่หลายส่วน  ใบหน้านั้นไม่ได้มีผ้าดำปิดไว้เช่นบุรุษผู้ถือดาบจึงมองเห็นใบหน้าหล่อเหลาคมคายได้อย่างชัดเจน ข้างกายเขามีองครักษ์หน้าตาธรรมดาตามมาด้วยอีกผู้หนึ่ง

“มาแล้วหลบๆ ซ่อนๆ กำลังทำเรื่องเลวทรามอยู่หรือไร”มู่อิงพูดกับหนานกงฉางฝูโดยไม่สนใจดาบที่ชี้หน้าตนเองอยู่ ทำเหมือนชายชุดดำที่มาสังหารตนนั้นไม่อยู่ในสายตา

“ศิษย์พี่ใหญ่แค่จะมาลักพาตัวเจ้าเท่านั้น  เรื่องเลวทรามอันไดกัน ทำเรื่องดีต่างหากเล่า”

“ท่านกล้าหรือ”มู่อิงมองหนานกงฉางฝูด้วยดวงตาเย็นเฉียบ แต่ศิษย์พี่ใหญ่ผู้มีวรยุทธ์สูงส่งผู้นี้เคยเกรงกลัวหรือไร

“พวกเจ้า! คิดว่าข้าล้อเล่นรึ! วันนี้ยังไงเจ้าก็ต้องตาย!”ชายชุดดำคำรามด้วยความโมโหเขาฟันดาบลงไปที่มู่อิงสุดกำลัง

“คิดเอาดาบทื่อๆ นี่มาทำร้ายน้องมู่อิงช่างโง่จริง”หนานกงฉางฝูหยุดดาบนั้นได้โดยนิ้วเดียว เขาแทบไม่มองชายชุดดำผู้นั้น
เอาแต่จ้องใบหน้ามู่อิงไม่วางตา

ไม่เจอน้องมู่อิงนานมากแล้ว งามยังไงก็ยังงามอยู่อย่างนั้น ดูไปดูมาเหมือนมีเสน่ห์เพิ่มมาอีกหลายส่วน

หนานกงฉางฝูหรือคุณชายใหญ่แห่งปราสาทร้อยกระบี่  คนผู้นี้ไม่นับว่ามีชื่อเสียง แต่ก็มิได้เป็นจอมยุทธ์ไร้ชื่อ เนื่องด้วยปราสาทร้อยกระบี่นั้นเป็นสำนักใหญ่โต ทำกิจการเหมืองแร่ซึ่งให้กำไรมากมายมหาศาล หากแต่มีบทบาทในยุทธภพน้อยมาก เรียกว่าหากไม่มีเหตุการณ์ใหญ่โตอันใดในยุทธภพคนปราสาทร้อยกระบี่แทบจะไม่ขยับตัวข้องเกี่ยว

“วันนี้แม้ต้องเอาชีวิตเข้าแลกข้าก็ต้องสังหารมู่อิงให้ได้!!!”ชายชุดดำบุกเข้ามาแบบไม่คำนึงถึงชีวิต หนานกงฉางฝูจึงต้องขยับกายรับมือ แต่ท่าร่างของเขาดูเกียจคร้านยิ่ง  ชวนให้ผู้คนโมโหอยู่ไม่น้อย

ในเวลานั้นไม่รู้ว่าสาวใช้หรือบ่าวในโรงเตี้ยมคนไหนมาเห็นเหตุการณ์เข้าจึงตกใจตะโกนเสียงดัง เสียงนั้นดังปากต่อปาก ผู้อื่นอาจไม่สนใจมาชมดูหรือช่วยเหลือ แต่กับท่านผู้นำฝ่ายธรรมะนั้นถึงกับลุกพรวดพราดรีบเร่งมาหาท่านจอมมาร

หากแต่ภาพที่หลิวเฉินซางมองเห็นเมื่อมาถึงคือท่านจอมมารเอามือเท้าคางนั่งดูผู้อื่นสู้กันอย่างสำราญใจ ส่วนผู้ที่สู้กันนั้น จะเรียกว่าสู้กันก็ไม่อาจนับได้ เรียกว่าทำราวกับแมวหยอกหนูจะถูกเสียกว่าเพราะชายที่ถือดาบอยู่นั้นเรียกว่าฟันอย่างไรก็ไม่โดน ส่วนผู้ที่ไม่มีดาบนั้นกลับใช้เพียงท่าร่างไม่ใช้กำลังภายในเลยสักส่วน

ในเมื่อมู่อิงไม่เป็นอันตรายหลิวเฉินซางจึงปรับลมหายใจที่เร่งรีบให้เป็นปกติ  แล้วก้าวเข้าไปหามู่อิงด้วยท่าทางสง่างามดังปกติ

“น้องมู่อิงเกิดอะไรขึ้นหรือ”เขาถือวิสาสะนั่งข้างมู่อิงโดยมิต้องมีผู้เชื้อเชิญ นั่งลงราวกับว่าพวกเขาสองคนชมดูความสนุกนี้ด้วยกันมาตั้งแต่ต้น

“คนผู้นั้นคิดมาสังหารข้า ส่วนศิษย์พี่ใหญ่คิดมาลักพาตัวข้า”มู่อิงชี้ไปที่บุคคลทั้งสองราวกับเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับตนเอง

“อ้อ...เช่นนั้นก็ปล่อยให้พวกเขาสู้กันจนตายเถิด”น้ำเสียงของหลิวเฉินซางนุ่มทุ้มน่าฟังอย่างยิ่งหากแต่คำพูดที่เปล่งออกมากลับไร้ซึ่งความปราณี

“ศิษย์พี่ใหญ่หนังเหนี่ยวมาก แม้แต่ข้ายังฆ่าเขาไม่ได้”มู่อิงถอนหายใจเบาๆ ถ้าไม่ติดว่าฝีมือเขาด้อยกว่าขั้นหนึ่งคง ‘พลั้งมือ’ สังหารศิษย์พี่ใหญ่ได้นานแล้ว

“เจ้าอยากให้เขาหายไปหรือไม่”น้ำเสียงของท่านผู้นำ ‘ฝ่ายธรรมะ’ ออกจะดูกระตือรือร้นเกินควรเล็กน้อย

“ท่านจะช่วยหรือ”

“หากเจ้าต้องการ”หลิวเฉินซางไม่รู้จักวิธีการเกี้ยวพาผู้อื่น หากแต่เป็นวิธีการ ‘ตามใจ’ มู่อิงเขาก็นับว่ามีความสามารถไม่เลว อย่างหนึ่งที่เขาสามารถรับรู้ได้ในระยะเวลาอันสั้นที่รู้จักกับมู่อิงคือการทำเหมือนตามใจเขา เช่นนี้น้องมู่อิงจึงจะสำราญใจ พอเขาพอใจจึงจะยอมอ่อนข้อให้

เขายังกังวลใจว่าหากพบหน้ากันน้องมู่อิงจะแสดงอาการต่อต้าน แต่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นเสียก่อนทำให้มู่อิงสนใจเรื่องอื่น ลืมเรื่องที่เขาเคยล่วงเกินได้ชั่วคราว เพราะหากน้องมู่อิงเกิดคิดตีตัวออกห่างเขาก็ไม่รู้เช่นกันว่าตนเองจะเผลอทำสิ่งใดลงไป 
เฮ้อ...เขายังต้องทำตัวเป็นคนดีให้ผู้อื่นกราบไหว้อยู่นี่นา

หนานหมิงเยว่ถลึงตาใส่มู่อิงและหลิวเฉินซาง คนหนึ่งเป็นศิษย์น้อง ส่วนอีกคนเป็นผู้นำฝ่ายธรรมะที่ขึ้นชื่อว่ามีคุณธรรมสูงส่ง ทำไม่จึงไม่มีผู้ใดลุกขึ้นห้ามปราม  หรือช่วยศิษย์พี่ใหญ่เลยเล่า

เขาเองก็เป็นศิษย์น้องเช่นกันและยังเป็นองค์รักษ์ของพี่มู่อิง  เช่นนั้นหนานหมิงเยว่จะเป็นผู้จัดการเอง

“เจ้าฆาตกรรับมือ!”หนานหมิงเยว่ตะโกนเสียงดัง  เขาถีบหนานกงฉางฝูไปหนึ่งโครมใหญ่  ก่อนจะใช้พียงไม่กี่กระบวนท่าก็จัดการคนร้ายได้ ชายชุดดำผู้นั้นลงไปคุกเข่ากับพื้น  มีดาบของหนานหมิงเยว่พาดอยู่ที่คอ

“ศิษย์น้องเล็ก เจ้าถีบข้าทำไม”หนานกงฉางฝูลูบก้นตนเองไปมา ใบหน้าบิดเบี้ยวราวกับเจ็บปวดอย่างมาก

“หากปล่อยให้ท่านจัดการอีกสิบวันก็ยังสู้ไม่เสร็จ!  ศิษย์พี่ใหญ่หากไม่คิดเอาจริงก็ไสหัวหลบไปดีกว่า”หนานหมิงเยว่ถลึงตาใส่หนานกงฉางฝู คนผู้นี้ฝีมือสูงส่ง แต่กลับขี้เกียจแม้แต่จะออกท่าร่าง ไอ้ท่าปวกเปียกราวกับคนไร้เรี่ยวแรงแม้แต่จะฆ่าไก่นั่นช่างทำให้ผู้คนเห็นแล้วรู้สึกโมโหโกรธา ที่เขาถีบศิษย์พี่ใหญ่ก็เพราะเห็นแล้วรำคาญตาส่วนหนึ่งเช่นกัน

“หึ! ข้าฝีมืออ่อนด้อย สังหารคนไม่สำเร็จ  แต่ถึงข้าต้องตายก็จะเอาเจ้าไปลงนรกด้วยให้ได้มู่อิง!”ชายชุดดำผู้ถูกเมินพูดขึ้น นัยน์ตาเขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้นพยาบาท  เขามาแก้แค้นแต่กลับกระทำการไม่สำเร็จ ถึงเป็นผีก็ไม่มีหน้าไปพบคนในตระกูล

“เช่นนั้นก็สังหาร”มู่อิงพูดขึ้นอย่างไม่อนาทรร้อนใจ หนานหมิงเยว่กระชับกระบี่เตรียมสังหารคน หากแต่ชายชุดดำกลับกัดยาพิษที่ซ่อนไว้ในปากตายเสียก่อน ใบหน้าก่อนตายนั้นแฝงแววสาสมใจ ก่อนที่ร่างกายจะเน่าเปื่อยลงอย่างรวดเร็ว กลิ่นที่โชยออกมายามร่างนั้นสูญสลายเหม็นเน่าจนคนแทบอยากอาเจียน

“คนผู้นี้เหตุใดไม่ตายดีๆ ช่างส่งกลิ่นให้ผู้อื่นเดือดร้อน...”

   “น้องมู่อิง!”เสียงของหลิวเฉินซางทำให้หนานหมิงเยว่หุบปากลงแล้วหันไปมอง ใบหน้าของมู่อิงซีดเผือด

   “พิษสลายแค้น! สกัดจุดน้องมู่อิงไว้”ในเวลาเดียวกันหนานกงฉางฝูที่ดูท่าทางเกียจคร้านปนเจ้าสำราญก็ทำหน้าตาเคร่งเครียดขึ้นมา

   พิษสลายแค้นเป็นพิษที่ผู้ที่กินเข้าไปจะร่างกายเน่าเปื่อยและสลายไปอย่างรวดเร็ว ยามที่ร่างสลายนั้นจะส่งกลิ่นเหม็นซึ่งเป็นพิษต่อผู้ที่ไร้ปรานดังเช่นมู่อิงตอนนี้

   หลิวเฉินซางรีบสกัดจุดบริเวณหน้าอกมู่อิงอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของเขาขาวซีดไม่ต่างจากมู่อิง ไม่ใช่เพราะโดนพิษเช่นกัน หากแต่เพราะเขานั่งอยู่ข้างๆมู่อิง

   เขานั่งอยู่ข้างๆ แท้ๆ!!!

   “ข้าไม่เป็นไร ยาถอนละ”ใบหน้าของมู่อิงซีดจนแทบไม่มีสีเลือด เพราะวันนี้เขาไร้ปรานจึงโดนพิษ หากเป็นยามปกติละก็พิษเพียงเท่านี้ย่อมไม่อาจทำอันตรายเขาได้

   “พิษชนิดนี้แค่ใช้ปรานขับออกก็ได้แล้ว”หนานกงฉางฝูกล่าวเสียงจริงจัง

   ฟังดูเหมือนง่ายแต่ความจริงนั้นยาก ปรานของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน หากจะใช้ปรานของผู้อื่นขับพิษของตนเอง จะต้องระวังอย่างมาก เพราะหากควบคุมได้ไม่ดีพอจะเป็นอันตรายทั้งต่อผู้ได้รับพิษและผู้ที่ช่วยเหลือ

   “เช่นนั้นน้องมู่อิงเจ้าขับพิษออกมาเร็ว”หลิวเฉินซางบอกด้วยความร้อนใจ ใบหน้าของเขาขาวซีดไม่ต่างจากมู่อิงนัก

   “เจ้าเป็นใคร ”หนานกงฉางฝูจ้องหน้าหลิวเฉินซางเขม็ง คนผู้นี้หล่อเหลาเกินไป แถมยังทำตัวใกล้ชิดกับน้องมู่อิง เขาไม่ถูกชะตา

   “หลิวเฉินซาง”

   “หนานกงฉางฝู”

   ชายหนุ่มสองคนต่างบอกชื่อตนเอง ช่างเป็นการแนะนำตัวที่สั้นกระชับ และได้ใจความอย่างแท้จริง

   “พวกท่าน! ใครจะขับพิษก็รับทำได้หรือไม่ หน้าพี่มู่อิงซีดไปหมดแล้ว”หนานหมิงเยว่ร้อนใจจนใบหน้างดงามดูร้อนรนไปหมด   

   “พวกท่านไม่ต้อง รอพรุ่งนี้พระจันทร์ขึ้นข้าจะขับพิษเอง”มู่อิงทำหน้าไม่ยินยอม เขาไม่ชอบให้ผู้อื่นช่วยชีวิต  พิษแค่นี้รอปรานเขาฟื้นคืนมาก็จัดการได้แล้ว

   “น้องมู่อิงตอนนี้เจ้าขับพิษไม่ได้หรือ”น้ำเสียงหลิวเฉินซางร้อนรนมากขึ้น จากที่เคยประมือกันปรานของน้องมู่อิงนั้นอยู่ในระดับดีเลิศ

   “เจ้าไม่รู้หรือว่าปรานของน้องมู่อิงจะหายไปเมื่อถึงคืนเดือนมืด เพราะเคล็ดวิชาที่เขาฝึก...”

   “ศิษย์พี่ใหญ่ท่านอย่าพูดมาก”น้ำเสียงมู่อิงอ่อนแรงเต็มทน

   “เช่นนั้นข้าขับพิษเอง ปรานของข้าเป็นปรานบริสุทธิ์”หลิวเฉินซางรีบยืนมือเข้าช่วย

   “ไม่ต้อง...อึก! เจ้า!”มู่อิงที่ปฏิเสธด้วยเสียงอ่อนแรงอีกครั้งโดนหลิวเฉินซางสกัดจุดเพิ่ม ทำให้เขาไม่มีแรงแม้แต่จะขยับตัว

   “น้องมู่อิงความเป็นความตายรอไม่ได้ ไว้ข้าขับพิษเสร็จเจ้าค่อยมาระบายโทสะ”หลิวเฉินซางอุ้มมู่อิงขึ้นอย่างไม่สนใจว่าผู้อื่นจะคิดเห็นเช่นไร เขาตัดสินใจอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

   หลังจากที่หลิวเฉินซางอุ้มมู่อิงจากไปแล้ว หนานกงฉางฝูจึงหันไปกล่าวกับหนานหมิงเยว่

   “คนผู้นั้นกล้าขัดใจน้องมู่อิง  หวังว่าน้องมู่อิงจะเกลียดเขาเข้ากระดูกดำ”หนานกงฉางฝูใบหน้าดำไปทั้งแถบ กล้าอุ้มน้องมู่อิงไปต่อหน้าเขา หากไม่ใช่เพราะช่วยชีวิตศิษย์น้อง เขาต้องตามไปสังหารคนผู้นี้เป็นแน่

   “ฮึ! หากประมุขหลิวโดนเกลียด ศิษย์พี่ใหญ่มิใช่โดนแค้นเข้ากระดูกดำเช่นกัน”เพราะศิษย์พี่ใหญ่ตามตื้อพี่มู่อิงราวกับแมลงรำคาญ

   “ศิษย์น้องเล็กเจ้าไม่ส่งเสริมศิษย์พี่ใหญ่ยังพอว่า เหตุใดต้องเข้าข้างผู้อื่น”หนานกงฉางฝูโอดครวญ

   “ข้าไม่ยุ่งด้วยแล้ว ฝากท่านดูแลพี่มู่อิง ดูแล้วมือสังหารผู้นี้วางแผนมาเป็นอย่างดี  ข้าจะไปสืบดูว่ามือสังหารรู้ได้อย่างไรว่าปรานของพี่มู่อิงจะหายไปในคืนเดือนมืด”น้ำเสียงหนานหมิงเยว่แฝงแววอำมหิต ไม่เหลือร่องรอยกระตือรือร้นเช่นยามอยู่ต่อหน้ามู่อิง

   หากสืบรู้แล้วเขาจะสังหารไม่มีละเว้น!





   หลิวเฉินซางช่วยขับพิษให้มู่อิงอยู่ครึ่งค่อนคืนจึงแล้วเสร็จ หนานกงฉางฝูให้ซูปี้ฮวายกยาบำรุงเข้ามาให้ทั้งสองคน คุณชายใหญ่ปราสาทร้อยกระบี่ผู้นี้ดูผิวเผินเหมือนพวกหยิบหย่งแต่ความจริงแล้วนับได้ว่าคือยอดคนผู้หนึ่ง ในบรรดาศิษย์พี่ศิษย์น้องของมู่อิงจึงยังครองตำแหน่งศิษย์พี่ใหญ่เรื่อยมา  แต่เนื่องด้วยเป็นคนเรื่อยเฉื่อยจึงไม่ดูโดดเด่น เพราะไม่ยอมขยับตัวทำสิ่งใดชื่อเสียงจึงไม่โด่งดัง  หากเขาทำสิ่งใดด้วยความกระตือรือร้นเช่นที่ทำกับมู่อิงคงคว้าหัวใจของบรรดาสตรีจนมีภรรยาสามอนุสี่ไปนานแล้ว

   เนื่องจากอาจารย์ของมู่อิงได้ตั้งกฎเอาไว้ข้อหนึ่งนั่นคือ ผู้ใดมีวรยุทธ์สูงสุดจึงเป็นพี่ หนานกงฉางฝูนั้นครองตำแหน่งศิษย์พี่ใหญ่มาอย่างยาวนานเรียกได้ว่าไม่มีใครมีความสามารถพอเบียดเขาตกจากที่นั่งได้ ส่วนมู่อิงนั้นเป็นศิษย์ลำดับที่สี่แต่ครองตำแหน่งศิษย์พี่รอง หนานหมิงเยว่อยู่ลำดับที่ห้าอย่างไรก็ยังอยู่เช่นนั้น พวกเขาศิษย์พี่ศิษย์น้องทุกหนึ่งปีสามารถท้าชิงตำแหน่งจากศิษย์พี่ได้หนึ่งครั้ง การประมือระหว่างศิษย์ร่วมอาจารย์จึงเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี และมีส่วนส่งเสริมให้วรยุทธ์ของแต่ละคนก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว

   เวลานี้มู่อิงผู้มีวรยุทธ์แข็งแกร่งถึงขั้นอยู่ในตำแหน่งศิษย์พี่รองนั้นหลังดื่มยาบำรุงเข้าไปร่างกายก็มีเรี่ยวแรงเพิ่มจากเดิมเล็กน้อย เขามองไปทางหลิวเฉินซางที่นั่งพิงขอบเตียงด้วยความไม่ชอบใจอย่างเห็นได้ชัด

   ผู้อื่นช่วยชีวิตเอาไว้แต่เขากลับไม่พอใจ อารมณ์ความรู้สึกของท่านจอมมารนั้นช่างทำให้คนร้องไห้ไม่ได้หัวเราะไม่ออก
 
   “อยากสังหารข้าตอนนี้เจ้ายังทำไม่ได้”หลิวเฉินซางลืมตาขึ้นมามองมู่อิงที่จ้องหน้าเขาไม่วางตา มู่อิงเม้มปากแน่นก่อนจะเอ่ยเสียงรอดไรฟันออกมา

   “ข้าจะสังหารคนที่ช่วยชีวิตได้อย่างไร”เขาไม่ชอบเป็นหนี้บุญคุณใครโดยเฉพาะหนี้ชีวิต เขามู่อิงไม่ชื่นชอบการตกเป็นรอง...

   “ข้าแค่อยากช่วย”

   “เช่นนั้นถือว่าท่านร้องขออยากช่วยข้า?”

   “เจ้าว่าอย่างไรก็อย่างนั้น”

   “เช่นนั้นข้าไม่ต้องตอบแทน”เขาชอบที่สุดคือการวางอำนาจบาดใหญ่หากติดหนี้บุญคุณผู้อื่นย่อมไม่อาจทำได้ ยิ่งหากเป็นหนี้หลิวเฉินซางเขาจะทำหน้าหนาไประรานเส้นผมคนผู้นี้ได้อย่างไร แล้วยังบัญชีเรื่องนั้น...

   พอคิดถึง ‘เรื่องนั้น’ สายตาของมู่อิงก็จับจ้องไปยังริมฝีปากของหลิวเฉินซาง มองไปมองมาก็ไม่นับว่าขาดทุ่นนัก ริมฝีปากคนผู้นี้ดูแล้วไม่ขัดตาแม้แต่น้อย ช่างมีน้ำมีนวลชวนสัมผัส  มองนานๆ เข้าก็นับว่าต้องตาอยู่เช่นกัน

   “เพื่อความสบายใจของตนเองข้าว่าเจ้าควรตอบแทน”หลิวเฉินซางเองก็จ้องมองมู่อิงไม่วางตาเช่นกัน เหตุการณ์คืนนี้ทำเอาเขาตกใจไม่น้อย อย่างไรเสียก็ควรได้รับ ‘ค่าทำขวัญ’ สักเล็กน้อย

   “ท่านต้องการสิ่งใดก็ว่ามา”มู่อิงเริ่มไม่พอใจอีกแล้ว หลิวเฉินซางช่างพลิกลิ้นเสียจริงคำพูดราวกับไม่ต้องการสิ่งตอบแทน แต่อีกนัยหนึ่งก็ยังเรียกร้องการตอบแทน

   “เจ้าอย่างไรเล่า”

   “บังอาจ!!!...อุ๊บ!”

   ตวาดยังไม่ทันจบ มู่อิงก็โดนริมฝีปากของหลิวเฉินซางทาบทับปากตนเองเข้าเสียก่อน แต่ครั้งนี้ไม่ได้ลึกซึ้งเช่นคราวก่อน ริมฝีปากของทั้งสองเพียงแตะกันเบาๆราวกับแมลงปอแตะผิวน้ำแล้วจึงผละออก

   “อย่าเอาแต่ตวาดควรพักผ่อนมากๆ พรุ่งนี้ข้าจะมาเยี่ยมแต่เช้า”ดวงตาของหลิวเฉินซางยามนี้ช่างพร่างพราวราวกับมีดวงดารามากมายอยู่ในนั้น ใบหน้าหล่อเหลาดูอ่อนโยนและผ่อนคลายอย่างแท้จริง ในน้ำเสียงยังแฝงแววหยอกเย้าชวนใจเต้น

   “เจ้า...”

   “เจ้าชอบเรียกข้าว่าพี่หลิวไม่ใช่หรือ...รีบนอนเถิดหน้าเจ้าแดงไปหมดแล้ว น้องมู่อิง...”น้ำเสียงของหลิวเฉินซางยามเอ่ยชื่อของมู่อิงน่าฟังจนคนใจสั่น ก่อนจากเขายังสัมผัสใบหน้าท่านจอมมารอย่างแผ่วเบา ไม่ลืมแม้กระทั้งห่มผ้าให้ ยามหนานกงฉางฝูเดินเข้ามาจึงพบเพียงมู่อิงที่ลืมตาโพล่งใบหน้าแดงระเรื่อ พอเขาเอ่ยปากพูดด้วย ‘ศิษย์น้อง’ ก็ห่มผ้ามิดศีรษะแล้วหันหลังให้

   หนานกงฉางฝูขมวดคิ้วเล็กน้อยเขาตามติดน้องมู่อิงมาตลอดสิบปีมีหรือจะไม่รู้ว่าศิษย์น้องแปลกไป  หลิวเฉินซางผู้นั้นสายตาที่จับจ้องน้องมู่อิงมีหรือที่เขาจะดูไม่ออก ถึงอย่างไรเสียในเมื่อเขาอยู่ตรงนี้แล้วพวกเห็บหมัดที่คิดเกาะติดน้องมู่อิงเขาจะดีดกระเด็นแล้วบี้ให้ตาย  ศิษย์พี่ใหญ่เกาะติดเจ้ามาสิบปีมีหรือจะยอมวางมือ! เช่นนั้นเพื่อความฮึกเหิมเขาควรจะได้นอนสักงีบ แล้วจึงตามติดน้องมู่อิงต่อในความฝัน เรื่องที่ต้องลงทุนลงแรงนั้นเขาอาจไม่ชื่นชอบ เช่นนั้นจึงต้องเกี้ยวพาน้องมู่อิงในนิทรา

   หนานกงฉางฝู...หากเขาขยันได้สักครึ่งของความขี้เกียจ...เกาะติดเพียงอย่างเดียวแต่ไม่ยอมลงมือทำสิ่งใดเลย ความเฉื่อยชาของคนผู้นี้เป็นหนึ่งในปฐพีอย่างแท้จริง


++++++++++++++++++++++++++++++++++

เรื่องนี้คนปกติน้อยจริงๆ หรือคนเขียนไม่ปกติซะเอง

ชื่อตอนสิ้นคิดมาก ไม่รู้จะตั้งชื่อตอนว่าอะไรจริงๆค่ะ

หากจะบอกว่ามู่อิงติสแตก ศิษย์พี่ใหญ่ก็เทพมากแต่ขี้เกียจที่สุด

ส่วนเฮียหลิวของน้อง นับวันก็เผยด้านมืดมากขึ้นทุกที

เหมือนสปอยไปนะ///
   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-04-2016 10:46:35 โดย Y_type »

ออฟไลน์ harumi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +156/-33

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ยินดีต้อนรับสู่ด้านมืด อิอิ
พี่ใหญ่หลบไปค่ะ เขาคืบหน้ากันไปเยอะแล้ว   :hao6:   :pig4:
ขอบคุณที่มาต่อค่ะ รอตลอดเลยนะน้องมู่อิง

ออฟไลน์ polkadot

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
ชอบนิยายแนวจีนโบราณ อ่านแล้วได้อรรถรสดีคะ ติดตามทั้งในเว็บนี้และเว็บเด็กดอยด้วยนะ คนเขียนสู้ๆ นะ เป็นกำลังใจให้คะ  :mew1:

ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7
รอด้านมืดของพี่หลิว  :hao3:

ออฟไลน์ Invisible girl

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 76
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
มู่อิงหวั่นไหวแล้วล่ะซิ~  :hao6: :hao7:

ออฟไลน์ ρℓuto

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
รอตอนต่อไปปปป

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
ทำเป็นวางท่า ตอนหน้ามู่อิงเริ่มเองแน่เลย 55555

ออฟไลน์ rubymoona

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-5
ชอบศิษย์พี่ใหญ่อะะะะ ทำไมคู่กับหนานหมิงเยว่แล้วน่ารักจังงงงง
ยังคงหมั่นไส้พี่หลิวอยู่ ชิชะ น้องมู่อิงเป็นของข้านะ!!!

ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1691
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
เฮียหลิวนี่จริงๆมืดกว่ามู่อิงอีกเราว่า 5555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
คนรอบตัวมู่อิงแต่ละคนนั้นช่าง  :z6: ด้วยความรักใครเสียจริง  :mew1:

ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
น้องมู่อิงงงงงงงงงงงง

โอยยยยยย น่ารักกก

ออฟไลน์ lovewannabe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ข้าจะเฝ้ารอชมด้านมืดของพี่หลิว ต่อปาาย

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1

ออฟไลน์ Y_type

  • miKapleXD
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
    • Night dating, no obligations, one night only

บทที่ 8

   หลังจากเหตุการณ์วุ่นวายชวนใจหายใจคว่ำ เช้านี้ท่านจอมมารตื่นมาท่ามกลางความวุ่นวายอย่างยิ่ง ถึงแม้สายมากแล้วแต่เขายังไม่อยากตื่นเมื่อคืนกว่าจะได้หลับก็เกือบรุ่งสาง  เหตุใดจึงมีคนกล้ามารบกวนการนอนหลับของเขาอีก!

   มู่อิงตื่นขึ้นมาเพราะเสียงโวยวายที่ดังขึ้น ใบหน้างดงามนั้นบูดบึ้งอย่างยิ่ง แต่ก็นับว่างามล้ำไปอีกแบบ พอลืมตาตื่นเขาก็เห็นหลิวเฉินซางนั่งอยู่ข้างเตียงกำลังจับชีพจรเขาอยู่ มีฉางเอ๋อที่สองยืนถืออ่างน้ำคอยปรนนิบัติตอนเขาตื่น ส่วนเสียงน่ารำคาญที่ทำเขาตื่นนั้นมาจากหนึ่งคนหนึ่งสิงโตที่กำลังคุมเชิงกันอยู่หน้าห้อง

   “ยังง่วงอยู่หรือ”หลิวเฉินซางเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ชวนให้ผู้คนเคลิบเคลิ้ม หากมู่อิงไม่ได้กำลังอารมณ์เสียหลังตื่นนอนคงพอจะอยากพูดคุยกับเขาอยู่บ้าง

   “...”คิ้วเรียวงามของมู่อิงขมวดเข้าหากัน เขาจ้องไปที่หน้าห้องด้วยสายตาอำมหิต

   “อ้อ!  ฉางเอ๋อที่หนึ่งกำลังบริการกงเล็บอยู่ หากเจ้ารำคาญข้าจะไล่พวกเขาไปเล่นที่อื่น”

   “หลิวเฉินซาง! เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาไล่คน!”หนานกงฉางฝูตะโกนเข้ามาจากหน้าห้อง

   ฉางเอ๋อที่หนึ่งไม่รู้เพราะเหตุใด แต่ไหนแต่ไรมามันไม่เคยชอบหน้าหนานกงฉางฝู พบเจอกันเมื่อไหร่เป็นได้พุ่งตรงไปลับคมเขี้ยว ทำราวกับหนานกงฉางฝูเคยมีหนี้แค้นกับมันมาก่อน ผิดกับหลิวเฉินซางที่มันแทบจะหมอบนั่งให้ลูบหัว ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสัญชาตญาณของสัตว์หรือเพราะทำตามความชื่นชอบของเจ้านาย

   “ยังจับชีพจรไม่เสร็จอีกหรือ”สายตาไม่สบอารมณ์ของท่านจอมมารเลื่อนจากการคุมเชิงหน้าห้องมาที่ตัวปัญหาในห้อง อันผมสีเงินนั้นก็ยังงดงามอยู่หรอก หากแต่พอมองหน้าเจ้าของเส้นผมเหล่านั้นไม่รู้เพราะเหตุใดท่านจอมมารถึงนึกอยากฟาดสักหลายๆฝ่ามือ

   “เสร็จนานแล้วแต่ยังไม่อยากปล่อย”หลิวเฉินซางเปลี่ยนจากจับชีพจรมาเป็นกุมข้อมือของมู่อิงไว้อย่างหน้าไม่อาย

   ท่านจอมมารหน้าเริ่มดำคล้ำไปทั้งแถบ คนผู้นี้หน้าหนากว่าเขาเสียอีก คนทั่วไปฟังแค่นี้ก็รู้แล้วว่าควรปล่อยมือ หากแต่หลิวเฉินซางกลับกำข้อมือเขาไว้แน่น ช่างน่าตายนัก

   “เจ้า! บังอาจแต๊ะอั๋งน้องมู่อิงของข้า  น้องมู่อิงเรียกสิงโตของเจ้าออกไปที ให้ศิษย์พี่ใหญ่เข้าไปดูอาการเจ้าหน่อย”ความจริงหากจะใช้กำลัง หรือใช้วรยุทธ์หลบฉางเอ๋อที่สองก็เข้ามาก็ได้แล้วแต่หนานกงฉางฝูกลับเอาแต่ยืนคุมเชิงอยู่หน้าห้อง ชาตินี้คงไม่มีวันได้อย่างเท้าเข้าห้องศิษย์น้องแน่แล้ว

   จอมขี้เกียจ อย่างไรก็ยังเป็นจอมขี้เกียจ...

   “หลิวเฉินซางเจ้าปล่อยข้อมมือข้าได้แล้ว”มู่อิงเมินหนานกงฉางฝูที่อยู่หน้าห้อง ทุ่มความไม่พอใจมาที่คนในห้องแทน  ศิษย์พี่ใหญ่นั้นยังนับว่ารับมือง่ายกว่าคนผู้นี้เยอะ

   “ไม่เรียกพี่หลิวแล้วหรือ”

   “...”มู่อิงได้แต่ถลึงตามองหลิวเฉินซาง เอ่ยวาจาไม่ออกแม้สักคำ

   “เช่นนั้นให้เจ้าทำธุระยามเช้าเสียก่อน ข้าให้คนเตรียมอาหารเช้าไว้แล้ว”หลิวเฉินซางยิ้มเล็กน้อยอย่างเอื้อเอ็นดู แต่ประกายตากลับคมกริบราวกับพยัคฆ์ล่าเหยื่อ

   เขาปล่อยมือมู่อิงก่อนจะเดินไปหน้าห้อง ฉางเอ๋อที่หนึ่งนั้นพอหลิวเฉินซางเดินไปหน้าห้องมันก็หันหลังสะบัดก้นใส่หนานกงฉางฝูแล้วเดินไปหามู่อิงที่เตียง ส่วนหนานกงฉางฝูนั้นเล่าโดนท่านผู้นำฝ่ายธรรมะลากคอออกไปพร้อมกัน

   หนานกงฉางฝูเอาแต่ส่งเสียงโวยวาย ต่างฝ่ายต่างไม่ชอบหน้ากันการประมือจึงเกิดขึ้น เพียงพริบตาเดียวผู้เยี่ยมยุทธสองคนก็หายไปจากสายตา

   มู่อิงนั้นมองออกไปด้วยความเสียดาย นานๆทีศิษย์พี่ใหญ่จะยอมออกแรงสักครั้ง แต่เขากลับไม่มีเรี่ยวแรงพอจะตามไปดู





   เมื่อมู่อิงเดินมาที่สวนเพื่อทานอาหารเช้าหลิวเฉินซางกับหนานกงฉางฝูก็กลับมาแล้ว ต่างคนต่างนั่งคนละมุม เสื้อผ้าสะอาดเรียบร้อยราวกับไม่เคยมีสิ่งใดเกิดขึ้น ใบหน้าหนานกงฉางฝูนั้นดูเคร่งขรึมมืดครึ้ม ส่วนหลิวเฉินซางกลับวางท่าสบายๆ ดูผ่อนคลายราวกับเซียนผู้หลุดพ้น มู่อิงผู้ไม่สนใจสถานการณ์สนเพียงความต้องการของตนจึงเอ่ยปากขึ้น

   “ใครชนะ”วาจาของท่านจอมมารนั้นทำเอาหนานกงฉางฝูที่หน้าตาดูไม่ได้อยู่แล้วยิ่งดูน่าเกลียดขึ้นอีกหลายส่วน ส่วนหลิวเฉินซางนั้นกลับระบายยิ้มจางๆ

   “ย่อมเป็นข้า”หลิวเฉินซางยิ้มให้มู่อิงด้วยประกายตาพราวระยับ

   หากจะว่าไปแล้วหลิวเฉินซางนั้นยิ้มให้มู่อิงราวกับเขาเป็นคนยิ้มง่าย แท้จริงแล้วหากในหนึ่งปีเขายิ้มสักครั้งท่านอาวุโสชิวเยี่ยนแทบจะจุดธูปกราบไหว้ขอบคุณฟ้าดิน  คนผู้นี้วางตัวสูงส่งหากต้องการให้เขายิ้มสักครั้ง ให้สุนัขคลอดลูกเป็นสุกรยังง่ายเสียกว่า

   “ศิษย์พี่ใหญ่ฝีมือตกหรือ”จำได้ว่าตอนที่มู่อิงสู้กับหลิวเฉินซางคราวก่อนฝีมือพวกเขาก็สูสีกัน เหตุใดศิษย์พี่ใหญ่จึงแพ้ได้ “ท่านเอาจริงหรือเปล่า มิใช่มัวแต่ขี้เกียจจนแพ้ผู้อื่น”มู่อิงมองหนานกงฉางฝูอย่างไม่ใคร่จะไว้ใจนัก

   พฤติกรรมศิษย์พี่ใหญ่ดูเหลาะแหละจนคนมิอาจวางใจ

   “น้องมู่อิง ศิษย์พี่ใหญ่ทุ่มสุดฝีมือแล้ว”ใบหน้าหนานกงฉางฝูยิ่งมองยิ่งดูไม่ได้  ใครจะคาดคิดว่าหลิวเฉินซางผู้นั้นแท้จริงซุกซ่อนฝีมือไว้มากเช่นนี้ เขาทุ่มสุดตัวแล้วยังไม่อาจเอาชนะ น้องมู่อิงไม่สังเกตหรือว่าเขาไปเปลี่ยนชุดใหม่มา ไม่บาดเจ็บภายในก็นับว่าดีมากแล้ว

   “อิงเอ๋อ เจ้าไม่เชื่อในฝีมือข้าหรือ”

   “เจ้าเรียกใครว่าอิงเอ๋อ!”

   เพล้ง!!!

   มู่อิงชัดโต๊ะทานอาหารจนแตกกระจายไม่เหลือชิ้นดี มองหน้าหลิวเฉินซางอย่างไม่สบอารมณ์ ตั้งแต่เกิดมาคนที่เรียกเขาเช่นนี้มีแต่คนในครอบครัวเท่านั้น แต่หลิวเฉินซางกลับบังอาจเรียก

   “สมน้ำหน้าเจ้าแล้ว น้องมู่อิงสังหารเขาเสียเลย”หลังจากเอ่ยยุยงคนเสร็จ หนานกงฉางฝูก็พลิ้วกายจากไป เขาไปหาอะไรกินที่อื่น ปล่อยให้ศิษย์น้องช่วยระบายโทสะ

   ชูปี้ฮวาเองก็ถอยออกไปอย่างรู้งาน นางไม่ลืมเรียกฉางเอ๋อที่หนึ่งไปหาอาหารเช้าที่อื่นเช่นกัน  ดูท่าท่านประมุขกับท่านประมุขหลิวคงไม่อาจหาเวลาว่างมาทานอาหารเช้าได้แล้ว

   “เช่นนั้นเจ้าเรียกข้าว่าพี่เฉินซาง”หลิวเฉินซางไม่หวั่นไหวต่ออารมณ์โกรธของมู่อิง เขาทำราวกับยื่นขนมหวานให้เด็กที่กำลังโกรธ

   “หลิวเฉินซาง! เจ้าหน้าหนาเกินไปแล้ว”

   “น้องมู่อิงเจ้าน่ารักเกินไปแล้ว”

   มู่อิงแทบอยากกรีดร้องราวอิสตรี บนหน้าผากเขาแทบจะปรากฏขีดดำขึ้นสามเส้น หลิวเฉินซางวันนี้นับว่ากล้าหาญนัก ยั่วอารมณ์โมโหเขาแต่เช้า หากไม่ได้ลงมือสั่งสอนคนผู้นี้อย่าเรียกเขาว่ามู่อิง!

   มู่อิงที่กำลังภายในฟื้นคืนมาบ้างแล้วจึงพุ่งเข้าประมือกับท่านผู้นำฝ่ายธรรมะ  สิ่งใดเรียกว่าการประมือ มู่อิงที่ยังอ่อนแอจะทำสิ่งใดได้ ยิ่งจู่โจมเขาก็ยิ่งโดนหยอกล้อทั้งจับเอว จับมือ หอมแก้ม เพียงไม่นานก็ตกอยู่ในอ้อมกอดของผู้อื่น ช่างทำการค้าขาดทุนยิ่งนัก

   “ข้าจะฆ่าเจ้า”มู่อิงหอบฮักอยู่ในอ้อมกอดหลิวเฉินซาง

   “ก็บอกแล้วว่าเจ้ายังไม่อาจทำได้ ที่สำคัญเจ้าสังหารข้าลงหรือ”

   “ข้าจะโกนหัวเจ้าแล้วเอาผมกลับไป”เขาน่าจะเชื่อเฉียนหลีโกนผมคนผู้นี้แล้วกลับพรรคจันทร์กระจ่างฟ้า

   “เอาไปทั้งตัวก็ยังได้”

   “เจ้าเกี้ยวข้ารึ”

   “ความรู้สึกช้าจริง...ก็ใช่นะสิ”ประโยคหลังหลิวเฉินซางกระซิบริมหูของมู่อิง

   มู่อิงหน้าแดงเถือก แต่ยังไม่วายเงยหน้าขึ้นมองหลิวเฉินซาง เพ่งพินิจใบหน้าของเขาอย่างจริงจังเป็นครั้งแรก คนผู้นี้ใบหน้าไม่งดงาม  เขาไม่เคยสะสมบุรุษมาก่อนเสียด้วย แต่หากมองดูดีๆแล้ว นัยน์ตาครบกริบคู่นี้ก็นับว่าน่ามองอยู่ จมูกโด่งเรียวนั้นก็นับว่าน่าดูไม่น้อย ริมฝีปากนั้นเล่า... ยิ่งพอมองรวมกันทั้งใบหน้า...

   “มาเป็นฉางเอ๋อที่สามดีหรือไม่”คำพูดของมู่อิงนั้นเบาหวิว เขาเพียงแต่รู้สึกว่าพอใจหลิวเฉินซางอยู่บ้างแต่ไม่เหมือนกับที่ชื่นชอบบรรดาฉางเอ๋อ ไม่รู้ว่าควรจะจัดการเช่นไรดี

   “ข้าอยากเป็นพี่เฉินซาง”ทั้งน้ำเสียงทั้งใบหน้าของหลิวเฉินซางทำราวกับล่อลวงคน  ราวกับจอมมารร้ายล่อลวงโฉมงาม หากผู้อื่นมาเห็นเข้าคงไม่อาจบอกได้ว่าคนไหนคือผู้นำฝ่ายธรรมะคนไหนคือจอมมาร เพราะตอนนี้เขาก็กำลังล่อลวงมู่อิงอยู่จริงๆ

   “พี่เฉินซาง...”ไม่รู้ว่าเป็นเพราะกำลังอ่อนแอสติจึงไม่ค่อยแจ่มใสนักหรือไม่ มู่อิงจึงถึงกับเอ่อยออกมาอย่างเลื่อนลอย

   “อิงเอ๋อ...”

   “เจ้าเรียกใครว่าอิงเอ๋อ!”

   เฮ้อ...นับว่าหลิวเฉินซางยังต้องล่อลวงคนอีกหลายครานัก



   กว่าหลิวเฉินซางและมู่อิงจะได้ทานข้าวก็เป็นเวลาอาหารกลางวัน มู่อิงนั้นยิ่งเวลาผ่านไปกำลังภายในก็ฟื้นคืนมาทีละนิด จนสามารถสลัดหลุดจากอ้อมกอดหลิวเฉินซางได้ เวลานี้จึงออกมานั่งชมดอกไหถังในศาลาไร้ซึ่งผู้คนมารบกวน แต่ก็ยังมีคนผู้หนึ่งตามมา จะเป็นใครไปได้นอกจากท่านผู้นำฝ่ายธรรมะ

   “เจ้าตามข้ามาทำไม”

   “ข้าแค่มาชมดอกไม้”หลิวเฉินซางพูดพรางนำขลุ่ยหยกเลาหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อ  มู่อิงแค่เห็นขลุ่ยตาก็พราวระยับ

   เป็นขลุ่ยที่งดงามนัก!

   “ขลุ่ยนั่น...”มู่อิงพูดไม่ทันจบประโยคเสียงขลุ่ยก็ดังขึ้นเสียก่อน ท่วงทำนองอันผ่อนคลายนั้นทำให้เขาต้องหยุดวาจาที่ต้องการซื้อขลุ่ยของตนเองลง สายตาที่มองหลิวเฉินซางลึกล้ำขึ้นขั้นหนึ่ง

   บุรุษหล่อเหลางามสง่าดูอยู่เหนือโลกีบุคลิกสูงส่งราวเทพเซียนท่านหนึ่งยืนเป่าขลุ่ยท่ามกลางสวนดอกไห่ถัง สายลมพัดชายเสื้อให้พลิ้วไหว  กับบุรุษรูปโฉมงดงามนั่งเท้าคางอย่างเกียจคร้านสายตามองไปยังดอกไหถังที่บานสะพรั่ง แต่มุมปากกลับแย้มยิ้มเล็กน้อยราวกับคิดถึงสิ่งใดอยู่ ชายเสื้อสีขาวและแดงยามโดนลมพัดคละเคล้าคลอเคลีย ดูเป็นสีสันที่แตกต่างแต่ราวกับภาพวาดที่งดงามเป็นหนึ่ง  คงไม่มีผู้ใดกล้าส่งเสียงรบกวนทำลายทัศนียภาพที่งดงามเช่นนี้....หากไม่มีธุระสำคัญ!

   “ท่าประมุขแย่แล้ว!  เรือนจำฝังกระดูกโดนปล้น!!!”ผู้อาวุโสชิวเยี่ยนเร่งรุดมาด้วยวิชาตัวเบาที่เค้นกำลังภายในออกมาเต็มที่

   “น้องมู่อิง! เสี่ยวอี้คาบสิ่งนี้มาหาข้า”หนานกงฉางฝูอุ้มอินทรีย์มาด้วยตัวหนึ่งถึงเป็นภาพที่ดูตลกขบขัน หากแต่ใบหน้านั้นดูกังวล ร้อนรนอย่างแท้จริง ในมือเขายังมือเศษผ้าสีเหลืองนวลเปื้อนโลหิตมาด้วยชิ้นหนึ่ง

   ภาพอันงดงามถูกทำลายลงด้วยเรื่องรีบร้อนอันไม่อาจทำให้ผู้ใดนั่งติดที่ เรือนจำฝังกระดูกเป็นสถานที่เช่นไรคนในยุทธภพต่างรู้ดี มาครานี้กับถูกปล้น ใบหน้าของมู่อิงและหลิวเฉินซางนั้นถึงกับเคร่งขรึมลงไม่ต่างกัน!


++++++++++++++++++++++++++
สั้นเน๊อะ ไม่งอแงนะ :mew3:
เดี๋ยวเคลิ้มเดี๋ยวฆ่า เริ่มสับสนกับนายเอกเรื่องนี้
ปล่อยนางติสแตกไปค่ะ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :laugh:     วันนี้ท่านจอมมารน้อยหน้าแดงเขียวดำสลับเชียว  น่าสงสารจริง
อิงเอ๋อที่สามก็ไม่เอาเนาะพี่หลิวคนเจ้าเล่ห์
ยังไม่ทันรักก็ต้องมารบกันอีกแล้ว เห้อ มาต่อไวๆนะค้าบ
รอๆๆๆ.  :pig4:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
มู่อิงน่ารัก... พี่หลิวเจ้าเล่ห์

ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7
อิงเอ๋อ น่ารัก   :o8: :-[

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
อิงเอ๋อ สักพักเจ้านั่นแหละจะไปหาเขาเอง  :hao3:

ศุกร์หน้าเลยเหรอ  :sad4:

ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:

คิดถึงมู่อิงง :katai5:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด