+++จันทร์กระจ่างฟ้า+++(แนวจีนโบราณ)+++(บทที่ 21 (100%) : 12/07/60)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: +++จันทร์กระจ่างฟ้า+++(แนวจีนโบราณ)+++(บทที่ 21 (100%) : 12/07/60)  (อ่าน 84842 ครั้ง)

ออฟไลน์ Goingunder

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 97
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-3
อย่าว่าแต่พี่หลง คนอ่านหลงเหมือนกัน

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
อยากอุ้มอิงเอ๋อร์ด้วยคนค่ะ. ชอบมาก. รอตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
อยากอุ้มด้วยยยยยยย :mew2: :mew2: :mew2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ช่างเป็นพ่อและพี่ ๆ ที่เห่อน้อง ๆ ผู้โมเอะเหลือเกินนะ ฮา

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1

ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2

ออฟไลน์ rubymoona

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-5
โอ้ย ชอบตอนพิเศษมากมาย ตั้งแต่ครั้งที่แล้วๆ ชอบมาก สปอยน้องมู่อิงต่อไป ดีงาม เลิศเลอ คู่ควรค่า~~~~

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ kinjikung

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2940
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
สนุก ๆ อิงเอ๋อ น่ารักก 55+

ออฟไลน์ Y_type

  • miKapleXD
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
    • Night dating, no obligations, one night only
บทที่ 11 แค้นเก่ามิเลือนหาย

                “หลิวเฉินซางเจ้ายั่วยวนข้ารึ!”มู่อิงเดินไปหาหลิวเฉินซางที่ยืนรออยู่หน้าเรือน ยิ่งเดินเข้าไปใกล้ยิ่งเห็นว่าคนผู้นี้น่ามอง ไม่รู้เพราะเหตุใดเขาจึงไม่อาจละสายตาจากหลิวเฉินซางไปได้

                “น้องมู่อิงเจ้าดื่มสุรามาหรือ”หลิวเฉินซางได้กลิ่นดอกกุ้ยฮวารวยรินมาจากมู่อิง อีกทั้งคำพูดที่ออกมาจากปากมู่อิงเมื่อสักครู่เขาไม่มีทางเอ่ยในเวลาปกติเป็นแน่ แล้วเช่นนี้เขาจะสามารถพูดเรื่องเชียกังได้อย่างไร

                “ข้าไม่เมา”มู่อิงเอ่ยปากขึ้นทันทีที่เห็นคิ้วของหลิวเฉินซางขมวดขึ้นเพียงเล็กน้อย “สุรากุ้ยฮวาเพียงจอกเดียวข้าจะเมาได้อย่างไร”เขามองหน้าหลิวเฉินซางอย่างดื้อดึงถึงอย่างไรก็ไม่ยอมรับว่าตนเองเมาทั้งที่จริงสติของตนเองนั้นเริ่มเลอะเลือนเต็มที

                หากเป็นยามปกติมู่อิงไม่มีทางบอกผู้อื่นเป็นแน่ว่าดื่มแค่เพียงจอกเดียว น่าขายหน้ามากเกินไปคนเช่นมู่อิงไม่มีทางให้คำพูดเช่นนี้หลุดออกจากปาก

                หลิวเฉินซางส่ายศรีษะเล็กน้อย เขาเรียนรู้แล้วว่าน้องมู่อิงยามเมามายเอาแต่ใจตนเองมากกว่าเดิมหลายส่วน เขาว่าอย่างไรก็ควรว่าตามเขา ส่วนเรื่องเชียกังเห็นทีเขาคงต้องเขียนหนังสือแนะนำตัวให้ทีหลัง น้องมู่อิงยามนี้ไม่มีทางคุยรู้เรื่อง ถึงคุยไปพอถึงพรุ่งนี้เช้าเขาก็จำไม่ได้อยู่ดี

                “เช่นนั้นข้าไม่รบกวนเจ้าแล้ว”หลิวเฉินซางคิดลากลับอย่างมีมารยาท

                “เจ้ากล้าไปหรือ วันนี้ข้าจะแก้แค้นเจ้า”

                “แก้แค้นข้า”เขาแน่ใจว่าไม่เคยทำสิ่งใดให้น้องมู่อิงถึงกับนึกแค้นเคือง

                “เจ้าล่วงเกินข้า”

                เมื่อได้ยินวาจาของมู่อิง ใบหน้าของหลิวเฉินซางปรากฏรอยยิ้มชั่วร้ายประการหนึ่ง ราวกับโจรร้ายขบคิดแผนการปล้นชิงผู้อื่น น้องมู่อิงเอ่ยวาจาเช่นนี้ยามเมามายเป็นไปได้ว่าเขาคับแค้นใจในเรื่องนี้อยู่หลายส่วน เช่นนี้เขาจะยอมให้ความร่วมมือ สลายความคับแค้นใจให้น้องมู่อิง

                “เจ้าจะล่วงเกินข้ากลับคืนก็ยังได้ ไม่ต้องต่อสู้ให้เปลืองแรงดีหรือไม่”น้ำเสียงหลิวเฉินซางนั้นราวกับสะกดใจคนทั้งนุ้มทุ้มทั้งน่าฟัง หากแต่นัยน์ตากลับคมกริบราวกับพ่อค้าหน้าเลือดที่วางแผนค้ากำไรเกินควร

                “...”มู่อิงเริ่มครุ่นคิด หากแต่เขาเมามายเช่นนี้จะคิดสิ่งใดได้

                “ข้ายอมให้เจ้าจับเส้นผมได้ตามใจชอบด้วยดีหรือไม่”หลิวเฉินซางบอกอย่างใจกว้าง

                “ดี!!!”

                คำตอบของมู่อิงทำให้ประกายตาคมกริบของเขาพราวระยับ มุมปากยกโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มเปี่ยมเสน่ห์ล่อลวงคนอีกครา เขาชอบน้องมู่อิงยามเมามายเสียจริง

                “เช่นนั้นเริ่มจากจูบก่อนหรือจับก่อนดี”น้ำเสียงของหลิวเฉินซางช่างเบิกบานใจ เขาเอ่ยกับมู่อิงด้วยความกระตือรือร้นเป็นอย่างมาก พร้อมให้ความร่วมมือในทุกสิ่ง

                “ข้าจะทำทั้งสองอย่าง! ข้าจะทำพร้อมกัน ทั้งยังจะจับเส้นผมของเจ้าด้วย หลิว-เฉิน-ซาง”มู่อิงก้าวเข้าหาหลิวเฉินซางอย่างมาดหมาย

                หลิวเฉินซางยืนอย่างสงบนิ่งพร้อมให้ความร่วมมือเต็มที่ หากแต่สิ่งที่มู่อิงกระทำต่อเขานั้นทำให้ท่านผู้นำฝ่ายธรรมะถึงกับนิ่งเป็นหุ่นไม้พูดสิ่งใดไม่ออก

                เพียงแตะริมฝีปากค้างไว้เท่านั้น?

                แค่ใช้มือจับตามเนื้อตัวเขาเท่านั้น?

                “น้องมู่อิงเพียงแค่นี้เจ้าก็พอใจแล้ว?”หลิวเฉินซางพูดขึ้นทั้งที่ริมฝีปากยังแตะกันอยู่ส่งผลให้มู่อิงหน้าแดงขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อยหากแต่ก็ยอมเอ่ยปากตอบ

                “เพียงแตะให้นานหน่อยเป็นใช้ได้”

                เช่นนี้ก็พอแล้วไม่ใช่หรือ มีสิ่งใดยากกัน

                “วันนั้นข้าไม่ได้ทำแค่นี้เสียหน่อย”น้ำเสียงของหลิวเฉินซางแฝงแววจนใจทั้งไม่รู้จะเอ่ยวาจาเช่นไร น้องมู่อิงช่างทำให้ความคาดหวังของเขาสูญเปล่าเสียจริง  หลังจากที่จูบน้องมู่อิงวันนั้นเขาก็พอรู้ว่าคนผู้นี้ไม่ประสีประสาเรื่องทางด้านนี้แต่ก็นับว่าเป็นผู้มีพรสวรรค์ท่านหนึ่ง แต่เหตุใดวันนี้จึง...อย่างน้อยก็ควรขยับริมฝีปากยามประกบกันเสียหน่อย มากกว่านั้นก็ควรสอดลิ้น...

                “ข้านึกออกเท่านี้ ท่านบอกจะยอมข้า คิดขัดขืนรึ!”วาจาเช่นโจรป่าข่มขู่สาวงามเช่นนี้ช่างไม่เหมาะกับการกระทำของท่านจอมมารเสียจริง  อันวาจานั้นก็น่าเกรงขามอยู่ไม่น้อยหากการกระทำใสซื่อเช่นนี้ ท่านผู้นำฝ่ายธรรมะหากยกมือขึ้นกุมขมับตนเองสักครั้งยังไม่นับว่ามากเกินไป

                “เช่นนั้นข้าจะทวนความจำให้ แล้วเจ้าค่อยมาแก้แค้นอีกครั้ง”พูดจบท่านผู้นำฝ่ายธรรมะก็เป็นฝ่ายแนบริมฝีปากให้แนบแน่นขึ้น ช่วงชิงสติของมู่อิงไปจนหมดสิ้น เป็นจูบอันร้อนแรงแต่ก็ชวนเคลิบเคลิ้มลุ่มหลงราวมอมเมาคนให้ตกสู่กับดักเสน่หา  พอมู่อิงเริ่มหายใจไม่ออกหลิวเฉินซางก็ถอนริมฝีปากออกให้เขาได้หายใจแล้วเริ่มจูบใหม่ ทำเช่นนี้จนรู้สึกว่าใกล้ถึงขีดจำกัดของตนจึงยอมปล่อยท่านจอมมารออกจากอ้อมกอด ถึงมิได้ครอบครองแต่ก็กระทำราวกับคนผู้นั้นเป็นคนของตน แน่แล้วว่าเขาไม่อาจปล่อยน้องมู่อิงไปได้

                หลิวเฉินซางจัดเสื้อผ้าของตนและมู่อิงให้เรียบร้อย เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกนับถือตนเองถึงเพียงนี้ เกิดเป็นลูกผู้ชายควรมีความสามารถยับยั้งชั่งใจ  ความยับยั้งชั่งใจของเขานับว่ามีมากกว่าผู้อื่นหลายร้อยเท่าราวน้ำในอ่างกับมหาสมุทรแล้วกระมัง

                ...รอให้น้องมู่อิงมอบใจให้เขาก่อนเถิดเขาจะกินไม่ให้เหลือกระดูก ความยับยั้งชั่งใจอันใดเขาจะไสหัวไปให้หมด จะสั่งสอนน้องมู่อิงให้ฝีมือกล้าแกร่งไม่แพ้วรยุทธ์ที่มีเลยที่เดียว

                ท่านจอมมารผู้สังหารคนได้ในพริบตาหากเขาได้สติคืนมาไม่รู้ว่าจะโกรธแค้นตนเองมากเพียงไรที่นอกจากแก้แค้นไม่สำเร็จยังโดนผู้อื่นเอารัดเอาเปรียบอีกครา สุรานั้นดื่มมากไม่ดี ดื่มน้อยก็ใช่ว่าจะดี ทางทีดีอย่าดื่มอีกเลยจึงจะไม่เสียเปรียบผู้อื่น

 

 

                เมื่อมู่อิงตื่นขึ้นมาในยามเช้าถึงแม้จำเรื่องราวโดยละเอียดไม่ได้แต่ก็รับรู้ได้ว่าตนแก้แค้นคนไม่สำเร็จอีกทั้งยังโดนเอารัดเอาเปรียบ แค้นเก่ายังไม่ได้สะสางกลับเพิ่มแค้นใหม่ขึ้นมา ไม่รู้ว่าความผิดพลาดอยู่ที่ใด เห็นทีเรื่องนี้เขาต้องปรึกษาเฉียนหลีสักครา  หากแต่ก่อนหน้านั้นไม่ได้อัดเจ้าผู้นำฝ่ายธรรมะให้หนำใจเขาคงไม่อาจสงบจิตใจลงได้

                เพียงแต่มู่อิงยังไม่ทันออกจากห้องก็ได้รับรายงานว่าหลิวเฉินซางจากไปแล้ว ในใจเขาไม่ทราบว่ามีความรู้สึกเช่นไร หากแต่ความรู้สึกเช่นนี้เขาไม่ชอบใจนัก ทั้งยังไม่รู้ว่าจะจัดการเช่นไร

                เพ้ย!!! ผู้นำฝ่ายธรรมะบ้าบออันใดกัน คนเช่นหลิวเฉินซางเรียกว่าจอมปีศาจกลับชาติมาเกิดยังน้อยไป ให้เขามู่อิงไปเป็นผู้นำฝ่ายธรรมะยังดูประเสริฐเสียกว่า เจ้าพวกจอมยุทธ์ฝ่ายธรรมะช่างโง่งมหลงเชื่อเจ้าปีศาจห่มจีวรนั่นเข้าไปได้

                “ท่านประมุขไม่สบายหรือเจ้าค่ะ”ชูปี้ฮวาสังเกตใบหน้าของท่านประมุขที่ประเดี๋ยวแดงประเดี๋ยวดำแล้วอดเป็นห่วงไม่ได้ ท่านประมุขคงมิได้กำลังธาตุไฟเข้าแทรกหรอกนะ

                มู่อิงหันไปมองซูปี้ฮวาก่อนจะนึกถึงหญิงอีกคนหนึ่งที่เขาไปพบมาเมื่อคืน  หากไม่เพราะดื่มสุราของกู่อิ๋งอิ๋งเข้าไปเขาจะมีสภาพเช่นนี้ได้หรือ หึ! เขาควรอบรมนางให้รู้จักมารยาทกุลสตรีสักครา

                “ศิษย์น้องสามอยู่ที่ไหน”น้ำเสียงมู่อิงเย็นเฉียบจนแทบแช่แข็งใจคน

                “ลานฝึกยุทธ์ในเรือนของนางเจ้าค่ะ”ชูปี้ฮวาตอบเสียงหวาดหวั่น นางแค่มารายงานว่าท่านประมุขหลิวจากไปแล้วเท่านั้นทำไมจึงต้องมาพบเจออารมณ์เช่นนี้ของท่านประมุขด้วย ฮื่อ...นางอยากร้องไห้ยิ่งนัก

                “ดี! ข้าจะไปฝึกซ้อมเป็นเพื่อนนางเสียหน่อย”พูดจบคนก็พลิ้วกายจากไป

                ชูปี้ฮวาได้แต่สงสารกู่อิ๋งอิ๋งในใจ นางต้องไปเรียกท่านหนานกงฉางฝูมาเพื่อห้ามปรามหรือไม่ หรือว่าควรไปเรียกเฉียนหลีให้มาเตรียมรักษาแม่นางกู่ จะทำสิ่งไหนก่อนดี ชูปี้ว่าลนลานทำสิ่งใดไม่ถูกแต่เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นจดมายที่หลิวเฉินซางฝากไว้ก็แทบหลั่งน้ำตาโลหิตออกมา

                นางลืมมอบจดหมายให้ท่านประมุข!

 

 

                เมื่อมู่อิงไปถึงลานฝึกยุทธ์ของกู่อ๋งอิ๋งก็ตรงเข้าจู่โจมทันที ระบายโทสะใส่ต้นเหตุมิได้เขาก็จะระบายใส่หนึ่งในผู้มีส่วนร่วมทำให้เขาต้องเสียหน้านี่แหละ กู่อิ๋งอิ๋งเองถึงแม้ไม่ทันตั้งตัวแต่เพราะผู้ลงมือไม่ได้จู่โจมถึงชีวิตนางจึงสามารถพลิกกระบวนท่ามารับมือได้

                “ศิษย์พี่รองข้าจำได้ว่านี่ยังไม่ถึงเวลาที่อาจารย์กำหนดให้พวกเราประมือกันได้”วาจาแม้ดูมีเหตุผลแต่สีหน้าผู้พูดกลับดูมิได้จริงจัง

                มู่อิงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยงดงามจนแทบขโมยใจคน ก่อนจะคลี่ยิ้มร้ายกาจสมเป็นผู้ครองตำแหน่งจอมมารออกมา ดูทั้งงดงามและชั่วร้าย กู่อิ๋งอิ๋งแม้เป็นสตรียังต้องยอมรับว่าคนผู้นี้งดงามจนนางยังต้องเคลิบเคลิ้มหลายครั้ง

                ชาติก่อนเจ้าศิษย์พี่ผู้นี้โดนสตรีทำร้ายมาหนักหนาสาหัสหรือไร ชาตินี้ถึงได้เกิดมามีหน้าตาที่เหยียบย่ำสตรีให้จมดิน

                “ศิษย์พี่รองแค่อยากชี้แนะเจ้าสักหลายกระบวนท่า”

                “ศิษย์พี่ช่างเมตตานัก”

                “เพราะศิษย์น้องช่างน่าเอ็นดูอย่างมาก ศิษย์พี่จึงอยากให้เจ้าได้ดี”

                “อิ๋งอิ๋งไม่บังอาจรับความหวังดีนี้ได้”

                “เจ้ากล่าววาจาเช่นนี้ช่างทำให้ศิษย์ปวดใจนัก”มู่อิงทำสีหน้าเจ็บปวดราวกับโดนกู่อิ๋งอิ๋งรังแกทั้งๆที่เขาเป็นคนรุกไล่นางจนต้องหนีแทบหัวซุกหัวซุน

                “มู่อิงเหตุใดต้องมารังแกข้าด้วย”การหนีเจ้าคนเอาแต่ใจผู้นี้ทำเอานางเหนื่อยแทบตายแล้ว ไม่ว่าจะพลิกสมองคิดสักกี่ตลบนางก็นึกไม่ออกว่าเผลอไปล่วงเกินเจ้าบุรุษหน้าตางดงามเกินสตรีผู้นี้ตั้งแต่เมื่อใด

                “หากเจ้าไม่เอาแต่ดื่มสุราจนฝีมืออ่อนด้อยจะถูกข้ารังแกได้หรือ ศิษย์น้องสามศิษย์พี่รองเอ็นดูเจ้ายิ่งนักจึงปวดใจทุกครั้งที่วรยุทธ์เจ้าไม่ก้าวหน้า”

                แม้คำพูดของมู่อิงจะทำให้กู่อิ๋งอิ๋งขนลุกซู่ นางก็ยังคงต้องมีสติมาคอยหลบกระบวนท่าและกำลังภายในของคนผู้นี้

                “ศิษย์พี่รองเมื่อคืนท่านกลับไปแล้วเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือ”นางจับได้ว่าตอนที่พูดมู่อิงเน้นคำว่าสุราเป็นพิเศษ มีเพียงเมื่อคืนที่เขาดื่มสุรากุ้ยฮวาของนางเข้าไป เต่เขาดื่มเข้าไปเองนางไม่ได้จับกรอกปากเขาเสียหน่อย แต่เพียงแค่สุราจอกเดียวทำไมต้องมาหาเรื่องนางด้วย

                “ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น”

                เช่นนี้แปลว่ามี ถ้าไม่มีนางจะโดนกระทำราวเป็นหุ่นไม้ที่ใช้ฝึกวิชายุทธ์เช่นนี้หรือ ต่างแค่หุ่นไม้พวกนั้นขยับหนีไม่ได้แต่นางทำได้เพียงเท่านั้น หากเรี่ยวแรงนางหมดลงเมื่อไร ยังมิรู้ว่าโทสะมู่อิงจะลงลงสักกี่ส่วน

                “ศิษย์พี่รองใครทำท่านคับแค้นใจก็ไประบายกับคนนั้นทำไมต้องมารังแกข้า”นอกเสียจากว่าคนผู้นั้นจะไม่อยู่แล้ว “ท่านประมุขหลิวหรือ”ปากของกู่อิ๋งอิ๋งโพล่งออกไปเร็วกว่าที่นางจะคิดทัน มีแต่หลิวเฉินซางผู้เดียวเท่านั้นที่เดินทางจากไป หากแต่มู่อิงกลับโดนชื่อของหลิวเฉินซางทำให้ชะงักงันไป

                เจ้าจอมปีศาจผู้นั้น!

                “มิใช่...”มู่อิงปฏิเสธได้ไม่เต็มเสียงนัก หากผู้อื่นรู้เข้าเขามิใช่ต้องเสียหน้ามากหรอกหรือ เขาคือจอมมารจะให้คนรู้ว่าฝีมืออ่อนด้วยกว่าผู้นำฝ่ายธรรมะได้อย่างไร ถึงจำสิ่งใดไม่ได้ แต่สีหน้าจนใจของหลิวเฉินซางที่ทำราวกับเขาเป็นเด็กน้อยไม่ประสานั้นเขายังจำได้ดี

                “เขาทำร้ายท่านหรือ ศิษย์พี่บอกมาเถอะศิษย์น้องจะช่วยท่านอย่างเต็มที่”น้ำเสียงกู่อิ๋งอิ๋งแฝงความกระตือรือร้นเต็มเปี่ยม นอกจากศิษย์พี่ใหญ่แล้วนางยังไม่เคยเห็นใครกล้าทำให้มู่อิงโมโห อีกทั้งท่านผู้นำฝ่ายธรรมะที่หล่อเหลางามสง่าราวกับเทพเซียนท่านนั้น แทบคิดไม่ออกเลยว่าเขาจะทำให้ผู้อื่นโมโหได้ พวกชาวยุทธ์แทบจะทำรูปเคารพเขาไว้กราบไหว้บูชาอยู่แล้ว

                “คิดทำร้ายข้าฝีมือเขาไม่สูงส่งพอ”น้ำเสียงมู่อิงนั้นเย่อหยิ่งจนคนหมั่นไส้

                “เช่นนั้นเขาทำสิ่งใด สิ่งที่ท่านคิดไม่ตกไม่แน่ว่าข้าอาจจะคิดได้”

                มู่อิงเหลือบตาดูกู่อิ๋งอิ๋ง หญิงผู้นี้ถึงอย่างไรก็เป็นศิษย์น้อง เรื่องเสียหน้าของเขาถึงบอกนางไปก็จะมีคนรับรู้เพียงศิษย์พี่น้องทั้งห้าคนรวมทั้งตัวเขา

                “เจ้าจอมปีศาจห่มจีวรนั่นทำเช่นนี้กับข้า”มู่อิงขยับหน้าไปใกล้กู่อิ๋งอิ๋งแต่ก่อนที่ริมฝีปากจะแตะกัน นางก็พริ้วกายห่างไปหลายก้าว

                “เขาจูบท่านหรือ”เกือบไปแล้ว นางเกือบโดนเจ้าคนอารมณ์แปรปรวนเช่นมู่อิงจุมพิต เจ้าคนไม่รู้ดีชั่ว ถึงกับคิดแนบริมฝีปากกับนางโดยไม่คำนึงสิ่งใด คนเช่นนี้ยังเติบโตมาเป็นคนได้นางก็ของคุณสวรรค์มากแล้ว กู่อิ๋งอิ๋งสั่นกลัวไม่หยุด

                เมื่อครั้งยังเด็กนางยังจำคำขู่ของ ‘พวกพี่ชายโรคจิต’เหล่านั้นได้ดี ครั้งนั้นพวกนางศิษย์พี่ศิษย์น้องลงจากเขาไปร่วมงานวันเกิดมู่อิง เพราะนางเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวจึงสนิทสนมกับมู่อิงเป็นพิเศษเนื่องจากพวกศิษย์ผู้ชายไม่สะดวกใจจะเล่นกับเขา งานครั้งนั้นนางโดนข่มขู่ว่าหากสนิทสนมกับมู่อิงเกินศิษย์พี่ศิษย์น้องพวกเขาจะตัดทุกช่องทางที่จะส่งสุรามายังเรือนจำฝังกระดูก แม้แต่วัตถุดิบบ่มสุราก็จะไม่ให้เล็ดลอดมาถึง นางที่อายุเพียงสิบห้าถึงขั้นเกือบหลั่งน้ำตา นางนั้นไม่กินอาหารนับว่ายังทำได้ หากไม่ให้ดื่มสุราคงต้องขาดใจตาย

                หากเป็นเรื่องทำนองชู้สาวนางก็พอจะคาดเดาได้ว่ามู่อิงโมโหเพราะสาเหตุใด เฮ้อ...เจ้าคนพวกนั้น เลี้ยงน้องให้กลายเป็นคนเช่นนี้ได้ ช่างน่านับถือเสียจริง...ถุ้ย!





          ช่วงนี้มู่อิงกับกู่อิ๋งอิ๋งสนิทสนมกันมากกว่าปกติ ไม่ว่าใครก็ดูออก ศิษย์พี่น้องสองคนนี้ทุกวันเอาแต่สุมหัวกันไม่รุ้ว่าพูดคุยสิ่งใด แต่ทุกคนต่างคาดว่าคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ มู่อิงเป็นคนเอาแต่ใจ ไม่พอใจขึ้นมาก็ใช้กำลัง หากเขาคิดวางแผนสักครั้งไม่ว่าฝ่ายตรงข้ามจะมีฝีมือสูงส่งเพียงใดก็ใช่ว่าเขาจะเอาชนะไม่ได้ หากแต่ว่าคนผู้นี้หากไม่ใช่เรื่องใหญ่โตพอในความเห็นของเขาแน่นอนว่าเรื่องขบคิดให้เปลืองสมองเขาจะไม่ทำ ส่วนกู่อิ๋งอิ๋งเป็นพวกมุทะลุ เรื่องใช้สมองอย่าได้ถามนาง หากถามว่าสุราอะไรมีรสล้ำเลิศแน่นอนว่าย่อมมีคำตอบให้เจ้า แต่หากถามว่าทำอย่างไรจึงจะสามารถหมักสุราได้ คิดจนศีรษะแทบแตกก็ไม่สามารถหาคำตอบให้ได้

           “ศิษย์พี่รองหนังสือเล่มนี้เรียกว่าอาทิตย์พิสุทธิ์ ส่วนเล่มนี้คือวสันต์รัญจวน เล่มนี้คือนวลนางในห้อง ท่านสามารถเลือกอ่านได้ตามแต่พึงพอใจ หากศึกษาจนกระจ่างรับรองประมุขหลิวต้องอยู่ในกำมือท่านอย่างแน่นอน”ใบหน้าของกู่อิ๋งอิ๋งราวกับตาเฒ่าลามกก็มิปาน หากบิดาที่อยู่ในปรโลกของนางมาเห็นหนังสือหลายสิบเล่มเหล่านี้เข้าท่านอาวุโสคงอยากฟื้นออกจากหลุมมาแทบไม่ทันเพื่อสั่งสอนบุตรสาวตัวดีสักหลายยก

           กุลสตรีดีๆ ที่ไหนจะมีหนังสือผิดธรรมนองคลองธรรมมากมายเพียงนี้ ช่างเป็นหญิงสาวที่ทำเรื่องไร้ยางอายได้อย่างมิรู้สึกรู้สาโดยแท้“ศิษย์พี่รองอย่าว่าอิ๋งอิ๋งบังอาจสอนท่าน หากท่านไม่ต้องการเสียเปรียบควรเป็นฝ่ายเริ่มก่อน”


           “เริ่มก่อน?”

          “เริ่มก่อนคงจะยากไป...ท่านควรเริ่มเกี้ยวพาราสีประมุขหลิวก่อน ใช้ความงามของท่านให้เป็นประโยชน์ จากนั้นยั่วยวนแล้วจับเขากิน...อะแฮ่ม! อันที่จริงข้าหมายความว่าควรจะให้เขาหลงใหลคลั่งไคล้รักใคร่แต่ท่านเพียงผู้เดียว”กู่อิ๋งอิ๋งพูดจนน้ำลายแตกฟอง

           “ทำไมข้าต้องทำเช่นนั้น”

          “ท่านไม่ชอบเขาหรือ”

          “ข้าชอบเส้นผมของเขา”

          “เวลาที่เขาล่วงเกินท่านท่านรังเกียจหรือไม่”

          มู่อิงขบคิดถึงครึ่งชั่วยามก่อนจะตอบได้ว่า

          “เวลานั้นในหัวของข้าว่างเปล่าจำไม่ได้แล้วว่ารังเกียจหรือไม่”จะว่าไปเขาก็รู้สึก...พึงพอใจ

          ต่ำช้า! คนผู้นี้ต่ำช้ายิ่งนัก เขาไม่เข้าใจคำถามของนางจริงๆ หรือว่าต้องการยั่วโมโหนางกันแน่! เห็นแก่ท่าทางตั้งอกตั้งใจตอบคำถามของเขานางจะไม่ถือโทษโกรธเคือง

          “แล้วตอนนี้เล่าท่านรังเกียจหรือไม่ แล้วรู้สึกเช่นไรบ้าง นอกจากเขินอายจนอยากสังหารคนแล้วยังอยากให้เขาทำต่อหรือไม่”

          “เรื่องนี้...กู่อิ๋งอิ๋งเจ้าชักจะสู่รู้เกินไปแล้ว ใครว่าข้ามู่อิงเขินอายจนอยากฆ่าคน”มู่อิงจิ้มศีรษะกู่อิ๋งอิ๋งไม่เบานัก สีหน้าทะเล้นเช่นนี้กุลสตรีที่ดีควรทำเสียที่ไหน บางครั้งเขาก็คิดอยากส่งศิษย์น้องหญิงผู้นี้ไปให้มารดาอบรมสั่งสอนสักครา แต่ก็กลัวว่านางจะทำให้มารดาเขาปวดหัวตายไปเสียก่อน

          “ข้าว่าตอนนี้ท่านคงเข้าใจบางอย่างแล้ว ท่านเป็นคนฉลาดเพียงแต่โดนพี่ชายประหลาดเลี้ยงดูมาผิดๆเท่านั้น”

          “พวกเขาเพียงแค่มีความคิดที่เหนือธรรมดา”

          “ข้าไม่เถียงเรื่องนี้กับท่าน จำไว้ว่าถ้าอยากเอาชนะประมุขหลิวท่านต้องเกี้ยวเขาก่อน อย่ายอมอยู่ด้านล่างโดยเด็ดขาด หมั่นศึกษาตำราที่ข้าให้ไป หากไม่เข้าใจตรงไหนก็สอบถามข้าได้”กู่อิ๋งอิ๋งตบอกตัวเองอย่างใจกว้าง

          มู่อิงเปิดดูหนังสือหลายเล่มนั้นด้วยความสนใจใคร่รู้

          “เหตุใดชายหญิงในหนังสือเล่มนี้จึงต้องเปลือยกาย แล้วเหตุใดในเล่มนี้จึงเป็นบุรุษสองคน คนเหล่านี้ทำท่าทางเหล่านี้ไปทำไม  แล้วเหตุใดจึง...”ยิ่งพลิกดูมากเท่าไหร่ใบหน้าของมู่อิงยิ่งแต้มสีแดงเพิ่มขึ้น

          แค่ผู้อื่นบังเอิญแตะโดนตัวเขา เขาก็อยากสังหารคนผู้นั้นทิ้งแล้ว

         คำถามของมู่อิงทำให้กู่อิ๋งอิ๋งแทบไม่ได้หลับได้นอน หากมิใช่เพราะดวงตาใสซื่อราวเด็กทารกนั่น นางจะต้องคิดว่ามู่อิงจงใจกลั่นแกล้งนางให้ตอบคำถามจนไม่ได้หลับได้นอนเป็นแน่  ศิษย์พี่รองผู้นี้เห็นได้ชัดว่าตัวเขาไม่ผิดแต่คนที่เลี้ยงดูเขามาจนเป็นเช่นนี้เหล่านั้นจึงจะผิด

         ก่อนมู่อิงกลับพรรคจันทร์กระจ่างฟ้ากู่อิ๋งอิ๋งยังมอบหนังสือให้ศิษย์พี่รองผู้นี้อีกหลายเล่ม  หนานกงฉางฝูผู้ถูกกันอยู่วงนอกไม่รู้เรื่องราวหากเขารู้เข้าไม่แน่ว่าอาจเสนอตัวให้มู่อิงลองทดสอบกับเขาอย่างกระตือรือร้นอย่างที่น้อยครั้งนักจะมี แต่น่าเสียดายยิ่งนักที่เขาไม่รู้ และหากผ่านพ้นช่วงนี้ไปคงไม่อาจมีใครเอาเปรียบมู่อิงได้อีก




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-12-2016 11:43:48 โดย Y_type »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
 :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:
อยากจะพาน้องมู่อิงไปดื่มสุราบ่อยๆเสียจริง

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :L2:  โอ๊ย ปริ่มมาก ! ดีใจจริงๆที่ได้อ่านต่อค่ะ กรี๊ดพี่หลิวอ่า จิ้งจอกห่มจีวร เด็ดดวงจริงๆ  :z2:
จุมพิตแก้แค้นจนถึงกับลืมจับเส้นผมเลยทีเดียว โธ่ แล้วจดหมายล่ะ นั่นจดหมายรักใช่หรือไม่ อิอิ
น้องมู่อิงคั่งแค้นพลุ่งพล่านมาก หุนหันออกไปรังแกตัวต้นเหตุ ฮ่า แล้วตลกอิ๋งๆ เรื่องของเรื่องคือนางกลัวไม่มีเหล้าดื่มจ้า
ดีนะที่ถอยออกมาถ้าปากแตะกันคงผิดผีน่าดู สรุปว่าโทษเจ้าพวกพี่ชายเถอะ!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-06-2016 16:29:58 โดย ❣☾月亮☽❣ »

ออฟไลน์ kong6336

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
มู๋อิงน่ารักเสมอที่อ่าน

ออฟไลน์ lovewannabe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
  :hao5: น่าสงสารน้องมู่อิง ถูกรังแกซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ออฟไลน์ rubymoona

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-5
ชูป้ายไฟเชียร์เหล่าพี่ชายโรคจิตค่า~~~

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
55555 ยิ่งอ่านยิ่งฮาเหล่าพี่ชายทั้งหลายนั่นเหลือเกิ๊นนนนนนนนนนนนนน  :m20: :m20: :m20:

ออฟไลน์ Momomimo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
อั๊ยๆๆๆๆๆๆๆๆ เค้าชอบสุดๆๆๆๆๆๆๆๆ
คนเขียนสำนวนดีอ่าแบบหนังจีนจริงๆๆๆๆ

พี่ชายทั้งสามท่านเลี้ยงน้องมู่มาอย่างไรกัน55555  สมัครเป็นfc บรรดาพี่ๆเลยค่า

พี่หลิวค่าาาาาาา  พี่เป็นถึงผู้นำพรรคธรรมทำไมพี่เจ้าเล่ห์เยี่ยงนี้ แถบฝีมือพี่นั้นย่อมไม่ธรรมดาเป็นอย่างมาจนสามารถชนะศิษย์พี่น้องมู่มาได้.        ข้าน้อยนับถือจริงๆๆๆๆ


รอตอนต่อไปอย่างจดจ่อ 55555555
แต่สงสัยเรื่องพี่สาวฝาแฝดของน้องมู่จริงๆว่าหายไปไหนต้องมีปม??????????
รอต่อปายยยยยยยยยยยยยยย

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ lovewannabe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
คิดถึง พี่หลิวกะจอมมารจังค่ะ

ออฟไลน์ Y_type

  • miKapleXD
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
    • Night dating, no obligations, one night only
   บทที่ 12 ประชุมใหญ่


       ข่าวการปล้นเรือนจำฝังกระดูกนั้นล่วงรู้กันทั่วทั้งยุทธภพ ถึงนักโทษที่หลบหนีออกมาได้จะมีเพียงคนเดียวแต่กลับสร้างความระส่ำระสายได้ไม่น้อยเลย ไม่รู้ว่ามีคนจำนวนมากมายเท่าไหร่ที่ไม่อาจหลับสนิทลงได้เพราะเหตุการณ์นี้ พรรคตำหนักจันทราที่ไม่เคยอยู่ในสายตาผู้ใดกลับทำให้สายตามากมายหันมาจับจ้องอย่างมิอาจวางใจได้ ทั้งที่รู้ว่าหากปล้นคนออกไปย่อมมีชาวยุทธ์มากมายที่ร่วมมือกันไปบุกชิงคนคืน ทวงถามถึงเหตุผลที่กระทำการ หนีไม่พ้นเหตุการณ์นองเลือดหากแต่ประมุขพรรคกลับหาญกล้าท้าทาย ราวกับไม่เห็นผู้อื่นอยู่ในสายตา มิกลัวว่าจะมีศึกนองเลือดเกิดขึ้นกับพรรคของตน


       เรื่องใหญ่โตถึงเพียงนี้ฝ่ายธรรมะที่ดูจะอยู่คนละฝั่งกับพรรคตำหนักจันทราอย่างแน่นอนจึงนั่งไม่ติดที่ หากไม่รู้อย่างกระจ่างแจ้งว่าเหตุใดจึงเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น คงไม่มีผู้ใดสามารถหลับสนิทลงได้ เช่นนี้จึงได้มีการประชุมพรรคฝ่ายธรรมะทั้งหลายขึ้นมา หากฟู่ซีชิวออกอาระวาดอีกครั้งผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นนับว่าไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย

       บัดนี้ที่พรรคเรือนเมฆาเต็มไปด้วยเจ้าสำนักใหญ่ทั้งสิบสองแห่ง รวมทั้งเจ้าสำนักเล็กๆอีกหลายแห่ง แต่ละท่านพาศิษย์เอกไปจนถึงศิษย์ผู้น้อยมาด้วยอย่างล้นหลาม หากว่าถึงคราต้องเปิดศึกก็เตรียมพร้อมกันอย่างเต็มที่

       ในห้องโถงรับรองแขกขนาดใหญ่ของพรรคเรือนเมฆามีหลิวเฉินซางนั่งอยู่ในตำแหน่งประมุขอันเป็นผู้นำสูงสุดเต็มไปด้วยอำนาจและความน่านับถือรัศมีแห่งอำนาจที่แผ่ออกมานั้นทำให้ผู้คนทั้งหลายต้องอยู่ในอาการสำรวม ยิ่งประกอบกับอาภรสีขาวที่เขาสวมใส่ยิ่งดูสูงส่งจนคนไม่กล้าอาจเอื้อมล่วงเกิน ที่อยู่ด้านข้างซ้ายขวาคือผู้อาวุโสชิวเยี่ยนและฉีฮ่าว จากนั้นทางฝั่งซ้ายและขวาเบื้องหน้าจึงนั่งด้วยเจ้าสำนักใหญ่และเล็กรวมถึงศิษย์คนสำคัญที่มีความสามารถมากพอจะมาเข้าร่วมรับฟังการประชุมครั้งนี้  ใบหน้าแต่ละคนล้วนเคร่งขรึมจริงจัง

       “ข้าคิดว่าเราควรบุกพรรคตำหนักจันทรา” ผู้พูดเป็นบุรุษวัยกลางคนรูปร่างสูงใหญ่ เค้าโครงหน้าแฝงความดุดันถึงเจ็ดส่วน เขาคือประมุขพรรคกระบี่ฟ้า พรรคกระบี่ฟ้าเชี่ยวชาญในด้านการใช้กระบี่ อีกทั้งเพลงกระบี่ยังดุดันเหี้ยมหาญ ตอนที่พรรคเรือนเมฆาจัดงานศพให้ลู่เจิน เขาติดธุระไม่ได้มางานศพด้วยตัวเองจึงนับว่ายังไม่เคยพบเจอประมุขพรรคมาร

     ส่วนประมุขพรรคสายนทีซึ่งเป็นหนึ่งในสิบสองพรรคใหญ่ฝ่ายธรรมะนั้นกลับสงบปากสงบคำอย่างยิ่ง เขาถึงกับกล้ำกลืนความแค้นลงท้องไม่เอ่ยปากพูดสิ่งใด ชีวิตน้อยๆ ของเขาที่เกือบก้าวข้ามประตูยมโลกมาครั้งหนึ่งแล้วย่อมต้องรักษาไว้ให้ดี จอมมารนั้นใช่ว่าใครก็ไปตอแยได้

     ถึงอย่างไรพรรคตำหนักจันทราก็ยังนับว่าเป็นพรรคในอาณัติของพรรคจันทร์กระจ่างฟ้า การที่คิดบุกโจมตีใช่ข้ามหน้าข้ามตาจอมมารไปหน่อยหรือไม่ เหล่าประมุขพรรคซึ่งเคยพบเจอมู่อิงมาแล้วต่างสงบปากสงบคำอย่างยิ่ง สายตาพวกเขาเพียงจับจ้องไปที่หลิวเฉินซาง ท่านผู้นำว่าอย่างไรพวกเขาก็ว่าเช่นนั้น

       “เรื่องที่ต้องไปทวงคนจากพรรคตำหนักจันทราแน่นอนว่าต้องทำ  ถึงอย่างไรก็ไม่อาจปล่อยให้ฟู่ซีซิวลอยนวลไปได้”น้ำเสียงของหลิวเฉินซางไม่ดังไม่เบาแต่หากทุกคนในที่นั้นต่างได้ยินกันทั่ว

       สิ้นคำพูดประโยคนี้เกิดเสียงดังระงมราวฝูงผึ้งแตกรังดังขึ้นทั่วห้องโถง แต่ละคนท่าทางขึงขังพร้อมสู้ราวกับรอเวลาเช่นนี้มานานมากแล้ว

       “แล้วจอมมารเล่า หากเขามาขัดขวางพวกเราจะทำอย่างไร”ผู้พูดเป็นผู้อาวุโสหยวนชิงจื่อแห่งพรรคร่มกล้า ท่าทางของเขาระมัดระวังสุขุมรอบคอบ มิได้เผยแววหวาดหวั่นให้ผู้ใดรับรู้ได้

       ด้วยตัวพรรคตำหนักจันทรานั้นย่อมไม่มีผู้ใดครั่นคร้าม หากแต่ถ้าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับมู่อิงนี่จึงจะเป็นสิ่งที่ผู้คนกังวลอย่างแท้จริง

      “เขาไม่ขัดขวางเราแน่”หลิวเฉินซางตอบอย่างมั่นใจ กลัวก็แต่คนจะถูกเขาสังหารไปเสียก่อนเท่านั้น ใครใช้ให้ปีศาจน้อยของเขาทั้งใจร้อนทั้งหุนหันพลันแล่นกันเล่า ช่างทำให้คนกังวลใจเมื่อไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเสียจริง

      “แต่ถึงอย่างไรพรรคตำหนักจันทราก็อยู่ใต้บัญชาของพรรคจันทร์กระจ่างฟ้า จะแน่ใจได้อย่างไรว่าจอมมารจะไม่ใช้โอกาสนี้บุกโจมตีพรรคฝ่ายธรรมะเรา”น้ำเสียงของประมุขพรรคเขาสงบนั้นเต็มไปด้วยความกังวล หากใครเคยพบเจอจอมมารผู้นั้นมาก่อนย่อมไม่อาจไม่กังวลได้ 

      “นั่นสิ หากเป็นแผนล่อเสื้อออกจากถ้ำจะทำเช่นไร”

       “เช่นนั้นก็สังหารพรรคมารให้สิ้น ถือเสียว่าเป็นการขจัดภัยให้ยุทธภพ”

       ยิ่งพูดก็ยิ่งกลายเป็นการกล่าวถึงบุญคุณความแค้นระหว่างฝ่ายธรรมะกับอธรรมในยุทธภพ  ท่านเจ้าสำนักแต่ละแห่งต่างแย่งกันเอ่ยปากจนหน้าดำหน้าแดง สุดท้ายการประชุมจึงจบลงที่หลิวเฉินซางเดินออกจากห้องโถงไปโดยไม่มีผู้ใดรับรู้

      หึ! ก็แค่พวกรักตัวกลัวตายกลุ่มหนึ่ง เช่นนี้จะจัดการกับพรรคตำหนักจันทราเช่นไรก็เอาตามที่เขาเห็นสมควรก็แล้วกัน


      หากเทียบกับสถานการณ์อันดุเดือดของพรรคฝ่ายธรรมะแล้ว ทางพรรคจันทร์กระจ่างฟ้าดูสงบนิ่งกว่ากันมากนัก  ถึงแม้ผู้ที่หนีหลุดลอดออกมาจากเรือนจำฝังกระดูกจะเป็นจอมมารคนก่อน แต่คนผู้นั้นมิได้เกี่ยวข้องอันใดกับทางพรรคที่สำคัญพวกเขามิใช่มีจอมมารคนใหม่แล้วหรอกหรือ  คนเก่าแล้วอย่างไรหากคิดชิงตำแหน่งจอมมารก็สมควรเอาชนะท่านประมุขให้ได้เสียก่อน 
ส่วนพรรคเล็กพรรคน้อยในสังกัดของพรรคจันทร์กระจ่างฟ้ายิ่งแล้วใหญ่พวกเขาทำเป็นไม่รู้เรื่องไม่สนใจ แต่ก่อนฟู่ซีซิวทำให้ผู้คนทั้งหวาดกลัวทั้งเกลียดชังมากแค่ไหนพวกเขารู้อยู่แก่ใจดี หากเอามาเทียบกับจอมมารคนปัจจุบันย่อมแตกต่างกันมากนัก  สมัยที่ฟู่ซีซิวเป็นจอมมารนั้นหากไม่ใช่เพราะผู้อื่นสู้เขาไม่ได้คิดหรือว่าจะมีคนยกย่องให้เขาเป็นผู้นำ  เรื่องนี้หากพรรคฝ่ายธรรมะคิดจะจัดการก็จัดการไป หากสังหารฟู่ซีซิวตายไปเสียได้ยิ่งดี

       ถึงคนพรรคมารส่วนใหญ่จะคิดเช่นนี้แต่ก็มีคนส่วนน้อยที่คิดตรงกันข้ามเช่นกัน ดังนั้นท่าทีของชาวยุทธ์ฝ่ายอธรรมจึงแบ่งออกเป็นสองฝักฝ่ายการแสดงออกของพวกเขาเห็นได้ชัดเจนอย่างยิ่ง คนที่อยู่ฝ่ายมู่อิงนั้นต่างมาร่วมประชุมที่จะมีขึ้น ณ พรรคจันทร์กระจ่างฟ้าทุกครึ่งปี เพื่อรายงานเรื่องราวน้อยใหญ่ในพรรค ส่วนผู้ที่คิดอยากเกาะแข้งเกาะขาฟู่ซีซิวต่างไปรวมตัวกันที่พรรคตำหนักจันทรา

       กลางห้องโถงที่ใหญ่โตหรูหราเทียบได้กับท้องพระโรงในวังหลวงของพรรคจันทร์กระจ่างฟ้านั้น มู่อิงนั่งอยู่ในตำแหน่งประมุขมือขาวผ่องข้างหนึ่งใช้เท้าคางอิงไปกับที่เท้าแขนอย่างเกลียดคร้าน ชุดสีแดงที่เขาสวมใส่ดูงดงามโดดเด่น เส้นผมสีดำสนิทดังน้ำหมึกถูกปล่อยยาวสยาย ท่าทางเกรียดคร้านแม้แต่จะรวบผมของเขานั้น ทั้งมอมเมาและยั่วยวนใจคน หากแต่ประกายตาคมกริบที่กวาดมองผู้คนกลับทำให้ผู้อื่นรักษาสติได้แจ่มใสยิ่ง

       บรรดาประมุขพรรคน้อยใหญ่เริ่มรายงานความเป็นไปในพรรคตั้งแต่รับศิษย์เพิ่มกี่คนไปจนถึงฆ่าคนไปแล้วกี่ศพ ทรัพย์สมบัติที่ปล้นชิงมาได้จากพวกโจรภูเขาและขุนนางโฉดมีจำนวนเท่าไหร่ จนกระทั้งรายงานครบก็ผ่านไปเกือบครึ่งค่อนวัน มู่อิงยังคงนั่งอยู่ในท่าเดิม ทำให้คนไม่รู้ว่าจะทำตัวเช่นไร

       “เรื่องพรรคตำหนักจันทรา  ข้าจะจัดการขั้นเด็ดขาด”น้ำเสียงทุ้มหวานนั้นช่างเย็นชาจนผู้คนพากันก้มหน้าลงต่ำ

        จัดการขั้นเด็ดขาดกระทำเช่นไรพวกเขาล้วนรู้ดี ความจริงเรื่องนี้จะว่าเล็กก็ไม่เล็ก จะว่าใหญ่ก็ไม่ใหญ่หากแต่ตราบใดที่ฟู่ซีซิวไม่คิดมาท้าทายอำนาจมู่อิง ประมุขพรรคฝ่ายอธรรมหลายท่านในที่นี้ไม่คิดว่ามู่อิงจะลงมือ การที่ท่านจอมมารเอ่ยขึ้นมาก่อนว่าจะจัดการกับพรรคตำหนักจันทรานั้นพวกเขาคาดไม่ถึง

       ...แน่นอนว่าความสัมพันธ์ของเขากับกู่อิ๋งอิ๋งแห่งเรือนจำฝังกระดูกนั้นไม่มีผู้ใดล่วงรู้

       “เรือนจำฝังกระดูกนั้นใครใช้ให้พวกมันบังอาจไปปล้นชิง ทำการใดโดยที่ข้ามู่อิงไม่ล่วงรู้ คิดว่าข้าเป็นเพียงเสือกระดาษหรืออย่างไร!”น้ำเสียงมู่อิงนั้นดังก้องเข้าไปในจิตใจของผู้คน

       “ท่านจอมมารโปรดระงับโทสะ”บรรดาผู้คนในห้องโถงต่างเอ่ยขึ้นพร้อมกัน  พวกเขาพากันคุกเข่าลงใบหน้าก้มต่ำไม่กล้ามองแม้แต่รองเท้าของมู่อิงราวกับว่าหากเงยหน้าขึ้นแม้แต่บรรพบุรุษเก้าชั่วโคตรก็จะโดนลากออกจากหลุมมาสังหารอีกครั้ง

       “ข้ามู่อิงเป็นคนจิตใจดียิ่งจะมีโทสะได้อย่างไร”
 
       เฉียนหลีที่ยืนอยู่ข้างๆมู่อิงถึงกับเกือบสำลักน้ำลายตัวเอง ท่านประมุขเอ่ยวาจาไม่มองหน้าผู้คนอีกแล้ว คนผู้นี้ชอบเอ่ยวาจาราวกับตนมีจิตใจดังนักบวชผู้สูงส่ง แต่ความจริงเป็นเช่นไรมีผู้ใดบ้างไม่ล่วงรู้ สมกับเป็นท่านจอมมารแค่เอ่ยปากก็ทำเอาคนตัวสั่นงันงกไม่หยุดสามารถรังแกผู้คนได้ในประโยคเดียว



       ในขณะที่ชาวพรรคมารกำลังจะเอ่ยวาจาสรรเสริญความมีคุณธรรมสูงส่งของท่านจอมมาร เหล่ยที่หนึ่งก็พรวดพราดเข้ามาคุกเข่ากลางห้องโถงที่บริเวณหัวไหล่มีบุปฝาโลหิตดอกใหญ่เบ่งบานอยู่

       “เรียนท่านประมุขพบตัวท่านหนานหมิงเยว่แล้วขอรับ”ถึงแม้ใบหน้าของเขาจะขาวซีดแต่น้ำเสียงกลับเคร่งขรึมเปี่ยมไปด้วยพลัง

       “เขาอยู่ที่ไหน”

       “เหล่ยที่สามพาเขาไปที่เรือนแล้ว ท่านประมุขโปรดอนุญาตให้ท่านเฉียนหลีไปตรวจดูอาการ”

       “เกิดอะไรขึ้น”มู่อิงเพียงโบกมือครั้งเดียวเฉียนหลีก็รีบเร่งจากไป คิ้วเรียวงามของเขาขมวดเข้าหากันอย่างน้อยครั้งนักที่จะเป็น เพราะหากไม่มีเรื่องถึงขั้นคอขาดบาดตายเหล่ยที่หนึ่งคงไม่กล้าเอ่ยวาจาเพื่อให้เขาทำตาม

       “ข้าน้อยพบตัวเขาที่พรรคตำหนักจันทรา ฟู่ซีซิวคิดจะขืนใจเขาจึงใช้พิษสามทิวากร่อนจิต อาการของท่านหนานตอนนี้นับว่าย่ำแย่นัก เรายังพบหว่างหยุนเซียนที่นั่นอีกด้วย น่าเสียดายที่ข้าไม่สามารถลงมือฆ่ามันได้”

      “หว่างหยุดเซียน...แล้วยังสามทิวากร่อนจิต  พรรคตำหนักจันทรานับว่ามีความสามารถในการยั่วโมโหข้าเสียจริง”สิ้นเสียงมู่อิงจิตสังหารก็แผ่ออกมาจากตัวเขาจนทำให้หลายคนถึงกับเกือบกระอักโลหิตออกมา

       “หว่างหยุนเซียน...ฮัวเหลียนเหลียน...ฟู่ซีซิว...ไม่ว่าพวกเจ้าคนไหนก็ช่างทำให้บิดาอยากนำศีรษะพวกเจ้ามาเตะเล่น นับว่ามีความสามารถ...มีความสามารถ...”

       เสียงของมู่อิงดังก้องห้องโถงบรรดาชาวยุทธ์ถึงแม้มีฝีมือสูงส่งมากเพียงไรก็อดสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัวจับใจไม่ได้


+++++++++++++++++++++++++


ออฟไลน์ Y_type

  • miKapleXD
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
    • Night dating, no obligations, one night only
บทที่ 13


       หลังการประชุมที่มู่อิงรวบรัดให้ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อบุกพรรคตำหนักจันทราภายในสามวัน จากนั้นจึงรีบเร่งมายังเรือนของหนานหมิงเยว่

       การกระทำของพรรคตำหนักจันทราครั้งนี้นับว่าทำให้ท่านจอมมารเดือดดาลเสียยิ่งกว่าการบุกเรือนจำฝังกระดูกหลายเท่านัก หนานหมิงเยว่คือผู้ใด เขาคือผู้ที่มู่อิงรักและเอ็นดูดังน้องชายแท้ๆ ด้วยความที่เติบใหญ่มาด้วยกันตั้งแต่เล็กอีกทั้งหนานหมิงเยว่แทบจะกลายเป็นเงาตามตัวของเขา  นั่นทำให้มิอาจเอาความสัมพันธ์นายบ่าวหรือศิษย์พี่ศิษย์น้องธรรมดามาวัดได้ สำหรับมู่อิงนั้นหนานหมิงเยว่มิต่างจากพี่น้องที่ถือกำเนิดจากบิดามารดาเดียวกัน ถึงแม้ว่าเขาจะรังแกหนานหมิงเยว่มากมายเพียงไรแต่ใช่ว่าผู้อื่นจะสามารถทำได้เช่นเดียวกัน  การแตะต้องคนในครอบครัวของเขาก็มิต่างจากแตะเกล็ดย้อนของคนผู้นี้

       หนานหมิงเยว่ที่นอนอยู่บนเตียงนั้นราวกับตุ๊กตาผ้าที่ไร้ชีวิต ใบหน้าหวานหยดปานอิสตรีมาบัดนี้ขาวซีดไร้ซึ่งสีโลหิต  ทำให้คนอดไม่ได้ที่จะสงสาร ดวงตาทั้งคู่หลับใหลหากแต่คิ้วกลับขมวดแน่น มู่อิงที่เพิ่งมาถึงเมื่อเห็นภาพเช่นนี้รู้สึกโมโหจนแทบทำลายเรือนทั้งหลัง หากไม่ติดว่าเรือนหลังนี้เป็นของหนานหมิงเยว่ไม่แน่ว่าตอนนี้เรือนทั้งหลังอาจกลายเป็นเศษฝุ่นกองใหญ่
เฉียนหลีพึ่งถอนเข็มเงินเล่มสุดท้ายออกไปพลางปาดเหงื่อ มู่อิงก็เข้ามาพอดี เขาเงยหน้ามองมู่อิงด้วยสีหน้าจนใจก่อนจะกล่าวขึ้น

       “เฉียนหลีไร้ความสามารถ พิษชนิดนี้ข้าถอนไม่ได้ ทำได้เพียงประคองอาการไม่ให้มันกำเริบเท่านั้น”เฉียนหลีกล่าวต่อมู่อิงด้วยความหนักใจ “หากต้องการถอนพิษจำเป็นต้องใช้ลมปราณขจัดพิษตามจุดชีพจรโดยไม่ให้ผิดพลาดแม้แต่น้อย เพราะหากโคจรลมปราณผิดไปแม้เพียงเล็กน้อยโชคดีอาจแค่พิการ แต่หากโชคร้ายจะหลับไหลไปชั่วชีวิต ทอดสายตามองทั้งแผ่นดินผู้ที่สามารถกำจัดพิษชนิดนี้ได้คงมีแต่เพียงท่านผู้อาวุโสจวิน ...แต่หากมียาถอนพิษก็มิใช่เรื่องยุ่งยากอันใด”

        “ยาถอนพิษ...”น้ำเสียงของมู่อิงฟังดูลุ่มลึกอย่างไม่น่าไว้วางใจ

       “มียาพิษก็ต้องมียาถอนพิษ ท่านประมุขท่านก็แค่อย่าสังหารผู้อื่นก่อนได้ยาถอนพิษเท่านั้น”แต่เรื่องนี้ไม่มีผู้ใดรับประกันได้ว่ามู่อิงจะยับยั้งตนเองได้  ยามท่านประมุขโกรธแค้นนั้นหากเขาไม่ได้ระบายความโกรธาออกมา เป็นไปได้ว่าอาจเกิดเหตุการณ์ธาตุไฟเข้าแทรก  ใครให้มู่อิงเป็นคนที่เอาแต่ใจตัวเองที่สุดในใต้หล้าเล่า

       ส่วนผู้อาวุโสจวิน...

       จวินจื่อหลันผู้เป็นอาจารย์ของมู่อิงและหนานหมิงเยว่นั้นถึงแม้ไร้ชื่อเสียงแต่กำลังภายในและวิชายุทธ์นั้นกลับร้ายกาจอย่างยิ่ง แม้แต่เหล่ายอดคนผู้มีชื่อเสียงในยุทธภพ หรือปรมาจารย์ผู้เก่งกาจหากนำมาเปรียบเทียบกับเขานับว่าเป็นการลบหลู่จวินจื่อหลัน  หากแต่คนผู้นี้อยู่ไม่เป็นหลักแหล่งมักไปมาตามอำเภอใจและน้อยคนนักที่จะได้พบเจอ

       สามทิวากร่อนจิตเป็นพิษที่ใช้ควบคุมจิตใจผู้คน การปรุงพิษชนิดนี้นอกจากวัตถุดิบหายากแล้วยังประกอบไปด้วยศาสตร์ลี้ลับชนิดหนึ่ง ซึ่งทำให้เกิดภาพมายาขึ้นในจิตใจของผู้ถูกพิษ ว่ากันว่าภาพมายาที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากความหวาดกลัวที่ฝังลึกอยู่ในจิตใจ  ทุกสามวันจิตใจจะถูกกัดกร่อนหนึ่งครั้งยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ผู้ได้รับพิษก็ยิ่งสูญเสียสติสัมปชัญญะมากขึ้นเท่านั้น หนานหมิงเยว่ฝืนทนมาได้เนิ่นนานเพียงนี้นับว่าน่าอัศจรรย์มากแล้ว

       “ติดต่อศิษย์พี่ใหญ่ที่เรือนจำฝังกระดูกให้เขาตามตัวอาจารย์มาถอนพิษ”เขาจะได้ยาถอนพิษมาหรือไม่ก็จำเป็นต้องตามตัวอาจารย์มาไว้ก่อน  เรื่องไม่ให้สังหารคนนั้นเขาไม่รับปาก มู่อิงนั้นเกลียดการเป็นรองผู้อื่นมาแต่ไหนแต่ไร การที่ให้ผู้อื่นมาตั้งเงื่อนไขกับตนเองนั้นเขาจะไม่ทำ

       เหลยที่หนึ่งรายงานเรื่องราวต่อเขาว่าได้ติดตามหาเบาะแสของหนานหมิงเยว่ไปจนถึงพรรคตำหนักจันทราพบว่าไม่เพียงพบหนานหมิงเยว่แม้แต่หว่างหยุนเซียนก็อยู่ที่นั่น...

       หว่างหยุนเซียนผู้นี้แต่ก่อนมีฐานะเป็นรองประมุขพรรคจันทร์กระจ่างฟ้า อันที่จริงแล้วคนผู้นี้ควรได้รับสืบทอดตำแหน่งประมุขพรรคจันทร์กระจ่างฟ้าคนต่อไป หากมู่อิงไม่เข้ามาที่พรรคจันทร์กระจ่างฟ้าเสียก่อน อำนาจที่หว่างหยุนเซียนรอคอยมาถึงสามสิบปีต้องล่องลอยหลุดมือไปมีใครบ้างไม่โมโห มีผู้ใดบ้างไม่โกรธแค้น  เพื่อระบายความไม่ยินยอมพร้อมใจหลังจากวันที่มู่อิงขึ้นรับตำแหน่งประมุขพรรคเพียงสิบวัน หว่างหยุนเซียนทำให้คนเกือบครึ่งพรรคกลายเป็นกองเลือดหลายกองด้วยยาพิษละลายกระดูกหวังลอบสังหารมู่อิง  เพียงแต่กระทำไม่สำเร็จจากนั้นจึงหลบหนีไป เรื่องนี้ทำให้พรรคจันทร์กระจ่างฟ้าที่แบ่งเป็นหลายฝักฝ่ายกลับมาปรองดอง ความโกรธแค้นที่มีต่อหว่างหยุนเซียนดังไฟลุกโชติช่วงไม่มีวันมอดดับ ความตะขวิดตะขวางใจที่มีต่อมู่อิงปาวนาการไปสิ้นท่านประมุขเพียงเข้าพรรคไม่ถึงปีแล้วอย่างไร  ยังดีกว่าคนที่อยู่ในพรรคมาสามสิบปีแต่คิดทำร้ายคนกันเอง

       ความโกรธแค้นของหว่างหยุนเซียนกลับกลายเป็นสร้างความโกรธแค้นให้แก่เพื่อนร่วมพรรค แต่ประมุขพรรคคนใหม่เช่นมู่อิงกลับไม่เพียงไม่เปลี่ยนสีหน้ายังได้รับผลประโยชน์ไปเพียงผู้เดียว เขาไม่ต้องเสียเวลาไปจัดการกับคนที่กระด่างกระเดื่อง อีกทั้งคนที่ตายไปก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา มู่อิงต้องการเพียงปราสาทหลังนี้ถ้าผู้ใดคิดขัดขืนเขา ถึงย่างไรเขาก็ต้องสังหารทิ้งอยู่ดี  เรื่องราวเหล่านี้สิ่งที่ทำให้มู่อิงไม่พอใจมีเพียงแต่หว่างหยุนเซียนบังอาจกล้าลอบสังหารเขาเท่านั้น...


       เรื่องราวต่อจากที่เหลยที่หนึ่งไปพบหว่างหยุนเซียนและหนานหมิงเยว่ที่โดนจับตัวไว้ ฟู่ซีซิวเป็นเฒ่าวิปลิตผู้หนึ่งนอกจากดูดพลังยุทธ์ผู้อื่นจนโดนคนทั้งยุทธภพสาปแช่งแล้ว เขายังชื่นชอบเสพสมกับชายหนุ่มรูปงาม หากผู้ใดคิดขัดขืนก็บีบบังคับให้ยอมจำนน  โชคดีที่หนานหมิงเยว่ยังไม่โดนทำมิดีมิร้ายแล้วยังมีเหลยที่สามคอยช่วยเหลือ พวกเขาทุ่มสุดฝีมือเพื่อช่วยหนานหมิงเยว่ออกมาแม้แต่ฉางเอ๋อที่หนึ่งยังยอมเป็นพาหนะให้หนานหมิงเยว่ขี่หลัง

       ภายในสามวันก่อนที่มู่อิงจะบุกทำลายพรรคตำหนักจันทราหนานหมิงเยว่ฟื้นขึ้นมาครั้งหนึ่งเขาไม่ยอมพูดจากับใครแต่พอเห็นมู่อิงกลับจับยึดชายแขนเสื้อเขาไว้แน่นบอกให้มู่อิงช่วยแก้แค้นให้แล้วจึงหลับไป..
   


   พรรคตำหนักจันทราเป็นหนึ่งในพรรคเก่าแก่ของฝ่ายอธรรม  ด้วยมีเคล็ดวิชาที่ชื่อว่า ‘กลืนโลหิต’ ซึ่งสามารถเพิ่มพลังยุทธ์ได้โดยการดื่มเลือดจากหัวใจของผู้อื่นจึงถือได้ว่าเป็นพรรคที่โหดเหี้ยมอำมหิตไม่มีผู้ใดอยากข้องแวะด้วย  ว่ากันว่าหากฝึกวิชากลืนโลหิตจนบรรลุขั้นสูงสุดจะไม่มีคมอาวุธใดที่สามารถทำอันตรายต่อผู้ฝึกวิชานี้ได้ ยังมีเรื่องที่เล่าสืบต่อกันในพรรคว่าเพียงบรรลุวิชากลืนโลหิตขั้นสูงก็สามารถคงรูปโฉมอันอ่อนเยาว์ ทว่าปัจจุบันเคล็ดวิชาที่ว่าไม่มีผู้ใดฝึกสำเร็จถึงขั้นสูงสุดอย่าว่าแต่เพียงขั้นสูงปัจจุบันมีเพียงธิดาเทพผู้ดำรงตำแหน่งประมุขพรรคฮัวเหลี่ยนเหลียนเพียงผู้เดียว

   ฮัวเหลียนเหลียนปัจจุบันบรรลุวิชากลืนโลหิตขั้นสูงและยังมีเคล็ดวิชาดูดพลังของเฒ่าวิปลิตฟู่ซีซิว เมื่อนำวิชาทั้งสองมาฝึกร่วมกันทำให้นางค้นพบความลับอันยิ่งใหญ่  หนึ่งในความลับเหล่านั้นคือการที่หน้าตาของนางเปลี่ยนแปลงไป และอีกความลับหนึ่งคือไม้ตายสังหารของนาง  แต่ถึงกระนั้นฮัวเหลียนเหลียนก็ยังไม่ไร้สติทะนงตนว่าไร้ผู้ต่อกร นางยังมีผู้คนที่ไม่อาจเป็นศัตรูด้วยอย่างผู้นำฝ่ายธรรมะหลิวเฉินซางและประมุขพรรคมารคนปัจจุบันอย่างมู่อิง

   เพื่อชิงความเป็นหนึ่งในยุทธภพนางจึงวางแผนชิงตัวฟู่ซีซิวจากเรือนจำฝังกระดูก ทั่วหล้ามีผู้ใดไม่รู้บ้างว่าพรรคมารไม่ว่าเล็กหรือใหญ่อยู่ภายใต้อำนาจของมู่อิง นางคาดว่าฝ่ายธรรมะคงต้องคาดการว่าเรื่องนี้เป็นคำสั่งของมู่อิง แต่มิได้คาดว่าหว่างหยุนเซียนซึ่งหลบซ่อนตัวอยู่ที่พรรคของนางจะแอบมอบยาพิษให้คนไปสังหารมู่อิงจนหนานหมิงเยว่สืบค้นจนเจอ

   เมื่อจะทำการฆ่าหนานหมิงเยว่ปิดปากกลับกลายเป็นว่าฟู่ซีซิวถูกตาต้องใจคนผู้นี้เข้า ไม่คาดว่าสุดท้ายคนจะโดนช่วยเหลือไป ส่วนฟู่ซีซิวได้รับบาดเจ็บ หากหว่างหยุนเซียนไม่ไปพบเข้ามีหรือเจ้าเฒ่าวิปลิตผู้นั่นจะมานั่งร่ำสุราสบายใจอยู่เช่นนี้ได้

   “เหลียนเหลียนเจ้าอย่ากังวลไป  มีท่านอาอยู่มู่อิงนับว่าเป็นตัวอะไรได้”น้ำเสียงฟู่ซีซิวนั้นทั้งหยามหยันและดูแคลน

   “นั่นเพราะท่านยังไม่รู้จักจอมมารดีพอ  ท่านอาท่านทำลายแผนข้าพังหมดแทนที่มู่อิงจะต่อสู้กับพวกฝ่ายธรรมะเรื่องที่พวกเราไปชิงตัวท่าน กลับกลายเป็นว่าเขาเบนเป้าสังหารมาที่เราแทน มู่อิงผู้นี้หากเรายังเป็นพวกเดียวกับเขาเขาย่อมปกป้องพวกเราโดยไม่สนถูกผิด แต่หากเป็นศัตรูกับคนผู้นี้แล้วเขาก็สังหารคนได้โดยไม่สนถูกผิดเช่นกัน” ฮัวเหลียนเหลียนถึงแม้ว่ายามนี้นางจะมีจอมมารคนก่อนเป็นพรรคพวกอีกทั้งยังมีผู้ชำนาญพิษอย่างหว่างหยุนเซียน หากสู้กันขึ้นมาจริงๆก็ยังไม่แน่ว่าฝ่ายใดจะได้ชัยชนะ แต่มิรู้เพราะเหตุใดนางจึงร้อนรนกระวนกระวายใจถึงเพียงนี้

   “ประมุขฮัวท่านอย่าได้กังวล ถึงมู่อิงจะสังหารผู้คนทั้งใต้หล้า แต่เขาเป็นผู้ชื่นชอบสาวงาม ด้วยความงามของท่านไม่แน่ว่าเขาจะใจอ่อนยอมแพ้ในชั่วพริบตา”หว่างหยุนเซียนทางหนึ่งประจบเอาใจฮัวเหลียนเหลียนอีกทางถึงเอ่ยถึงมู่อิงอย่างดูถูกเหยียดหยาม มิใช่เพื่อสาวใช้คนหนึ่งที่เพียงแค่หน้าตางดงามคนผู้นั้นถึงกับไปสังหารล้างตระกูลศัตรูของนางหรือไร

   “พวกท่านถึงอย่างไรก็อย่าลำพองใจมากนัก ถึงแม้ว่าหากพวกเราร่วมมือกันมีสิบมู่อิงก็ไม่แน่ว่าจะชนะ แต่ครั้งนี้เราปล่อยให้หนานหมิงเยว่มีชีวิตรอดกลับไป ยามนี้มู่อิงไม่มีทางปล่อยให้พวกเรามีชีวิตรอดเป็นแน่”

   เมื่อคิดถึงหนานหมิงเยว่ที่ถูกช่วยออกไปได้นั้น หากนางสังหารแล้วดื่มเลือดของคนผู้นั้นตั้งแต่แรกคงไม่เสียของโดยเปล่าประโยชน์เช่นนี้...

   มู่อิงหรือ...ด้วยความงามเช่นนี้ของนาง นางไม่เชื่อว่าจอมมารจะหักใจสังหารนางได้ แต่ถึงแม้เขาคิดสังหารนางนางก็ยังมีไม้ตายก้นหีบไว้เพื่อรับมือ!
 

ออฟไลน์ wnkth

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
ติดตามๆ ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
อื้อหือ

เรื่องราวเข้มข้นขึ้นทุกที

น้องมู่อิงก็ยังไม่ได้แก้แค้นท่านหลิวอยู่ดี

ลุ้นต่อไปว่า น้องมู่อิงจะ "เอาคืน" แบบไหน ได้เรียนรู้เทคนิคแพรวพราวจากปีศาจสุราหญิงก๋ากั่นเช่นนั้น

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ขอบคุณค่ะ รอน้องมู่อิงวาดลวดลาย

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3

ออฟไลน์ lovewannabe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
นึกว่า ตาฝาด ดีใจค่า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด