2.เพิ่งเคยมีความรู้สึกว่าไม่อยากกลับไปที่ห้อง ไม่นึกอยากกลับไปนั่งเล่นเกมส์หรือทำอะไรเหมือนอย่างเคยแบบนี้ก็ครั้งแรก ยอมรับเลยว่าผมกลัวที่จะต้องกลับไปเจอเขา ไม่ว่าจะเพียงแค่ตัวเขาคนเดียวหรือกับใครอื่นที่อาจจะกำลังเป็นแฟนกับเขาอยู่
ใช่ว่ากลัวจะร้องไห้เมื่อเจอ เพราะผมไม่ใช่คนขี้แยแบบนั้น ก็แค่ขี้เกียจปั้นหน้า แสร้งทำว่ามองไม่เห็นอย่างเมื่อเช้าก็เท่านั้น
“แล้วจะไปไหน”
มานึกดูแล้วนอกจากห้องของตัวเองผมก็ไม่เหลือที่ไหนจะให้ไปอีก ที่ผ่านมานอกจากมาเรียนผมก็แทบจะไม่ได้ไปไหนด้วยซ้ำ ข้าวของเครื่องใช้ก็หาซื้อได้แถว ๆ คอนโด เลยทำให้ไม่เคยไปที่ไหนเลย รถก็ไม่มี..แม่ไม่อนุญาตให้ใช้ สาเหตุก็เพราะเคยขับชนรั้วบ้านคนอื่นถึงสามครั้ง หลังจากนั้นเลยไม่เคยได้รับอนุญาตให้แตะมันอีกเลย
ตรงข้ามกับเขา รายนั้นรอบคอบสามารถทำได้ทุกอย่าง ที่ผ่านมาเลยมักถูกไหว้วานให้ช่วยดูแลผม นานวันเข้าผมเลยเสพติดการดูแลของมัน แต่จะว่าไปช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมาตั้งแต่เลิกกัน ถึงชีวิตผมจะดูรวน ๆ วุ่นวายไปสักหน่อย แต่ผมก็ยังอยู่รอดมาได้ เพราะอย่างนั้นคงจะยังไม่ถึงขั้นเรียกว่า
เสพติด หรอก
“ขอข้าวผัดปูครับ”
ผมสั่งทั้งที่เพิ่งอ่านเมนูอาหารไปได้เพียงสองบรรทัด หันซ้ายหันขวามอง ๆ ว่าโต๊ะอื่นเขากินน้ำอะไรกันเมื่อนึกไม่ออก สุดท้ายก็สั่งน้ำอัดลมสีดำที่เขาไม่เคยยอมให้ผมกินเลยมาขวดหนึ่งกับน้ำแข็ง นึก ๆ ไปว่าเขาเคยบ่นอะไรบ้างหากผมพูดออกมาว่าอยากจะกิน
“ชอบจริงนะของไม่มีประโยชน์”
“อยากปวดท้องแบบตอนนั้นอีกหรือไง”ปวดท้องเหรอ..
ตอนปิดเทอมชั้นประถมห้าสินะ..
อันที่จริงถ้าตอนนั้นผมกินข้าวหรืออะไรรองท้องก่อนก็คงไม่ต้องปวดท้องแบบนั้น แต่ตอนนั้นผมกลับคิดว่าดีแล้วที่ป่วย เพราะนั่นเป็นครั้งแรกที่ทำให้เขาพูดว่าอยากเรียนหมอ อยากเป็นหมอเพื่อจะได้รักษาผมทันทีที่เจ็บป่วย ไม่ใช่ทำได้แค่แบกผมขึ้นหลังแล้ววิ่งไปห้องพยาบาลอย่างนั้น
สุดท้ายเขาก็ได้เรียนหมอจริง ๆ อย่างที่พูด เพียงแต่ตอนนี้คนที่เขาอยากจะช่วยรักษาไม่ใช่ผมคนนี้แล้วก็เท่านั้นเอง
ผมเดินเตร็ดเตร่หาอะไรกินไปเรื่อยเปื่อย ก่อนจะกลับมานั่งคุยกับต้นไม้..บริจาคเลือดให้ยุงหน้าคอนโดเมื่อไม่เหลือที่จะให้ไปแล้ว ท้องก็อิ่มเสียจนเริ่มง่วง แต่ก็ยังไม่อยากขึ้นไปบนห้อง สุดท้ายเลยนั่งกอดเข่าตัวเอง หลับตานิ่ง ๆ ไปอย่างนั้น
“มาทำไรตรงนี้อะ เข้าห้องไม่ได้เหรอ” ผมลืมตาขึ้นมามองคนถาม ก่อนจะพยักหน้ารับไปส่ง ๆ “ทำกุญแจหายเหรอ”
“...” ผมไม่ตอบ
“ทำไมเงียบ หลับแล้วเหรอ”
ผมลืมตาขึ้นมาอีกรอบหลังจากแผนแกล้งหลับตาทำไม่สนใจไม่ได้ผล “เปล่า..”
“ทำไม..”
“อยากอยู่คนเดียว” ผมพูดไปตรง ๆ ก่อนจะฟุบหน้าลงกับเข่าตัวเอง
“พี่..”
ผมเงยหน้ามอง ก่อนจะถาม “ทำไมเรียกพี่”
“ก็พี่ปีสอง ผมเพิ่งปีหนึ่งเอง”
“...”
“นี่ก็เพิ่งรู้ว่าเป็นรุ่นพี่เหมือนกัน” ผมหันไปมองคนพูดแบบงง ๆ “ถามพี่จุ๊อะ”
จุ๊เหรอ..เพื่อนร่วมคณะที่เคยคุยด้วยสองสามครั้งคนนั้นเหรอ
“แปลกที่ไม่เคยเห็นพี่” มันยังคงจ้อต่อไป “ไปนั่งคุยกับพวกพี่จุ๊โคตรบ่อย”
ผมกระพริบตาไปมองมันไป คนอะไรพูดได้ไม่ยอมหยุด ทั้งที่คู่สนทนาอีกฝ่ายไม่ตอบกลับเลยแบบนี้
“พี่จุ๊บอกไม่ค่อยสนิท” มันว่าแล้วยกมือขึ้นมาตบยุงที่แขนผม “จริง ๆ เขาบอกพี่ไม่สนิทกับใครเลย”
“...”
“พวกรักสันโดษเหรอ”
“...”
“สรุปจะไม่ยอมตอบสักคำว่างั้น” ผมพยักหน้าตอบ ก่อนจะลุกขึ้นเตรียมจะออกไปเดินวนแถวนี้อีกรอบ “ไปไหนอะ”
“...”
“ไม่มีที่ไป จะไปห้องผมก่อนก็ได้นะ” ผมหันกลับไปมองหน้าน้องมัน “อยู่กับเพื่อนอีกคน แต่วันนี้มันคงไม่กลับอะ”
“...”
“ไปเหอะพี่ ดีกว่าเดินวนไปวนมาอย่างนี้”
สุดท้ายผมก็เดินตามมันขึ้นมาที่ห้อง อย่างที่รู้ ห้องน้องมันอยู่ต่ำกว่าผมไปสามชั้น เพราะงั้นเมื่อเช้าเราเลยเจอกัน แต่ก็ไม่นึกว่ามันจะตามไปถามชื่อถามแส้ผมกับเพื่อนร่วมชั้นอย่างนั้น
“ตามสบายเลยพี่ มีมาม่าอยู่ในครัว ถ้าหิวนะ”
“กินมาแล้ว”
ผมตอบสั้น ๆ ก่อนจะเดินไปนั่งที่พื้นตรงหน้าโซฟา หยิบมือถือขึ้นมากดเล่นเกมส์ ปล่อยเจ้าของห้องทำธุระทำอะไรไป
“เกมส์นี้ผมเคลียร์จบไปละเชื่อปะ” ผมเงยหน้าขึ้นไปมองคนขี้โม้ ที่ตอนนี้นั่งกัดแอปเปิ้ลกินอยู่บนโซฟาด้านหลังผม “จะดูปะ”
“ไม่อะ”
ผมเลิกสนใจมัน แล้วหันกลับมาเล่นเกมส์ของตัวเองต่อ ได้ยินเสียงมันเคี้ยวแอปเปิ้ลกัดแอปเปิ้ลเสียงดังอยู่ข้างหูสักพักใหญ่ก็เงียบไป พอเหลือบมองถึงเห็นว่ามันยกโน๊ตบุ๊คมานอนเหยียดเล่นเกมส์อยู่ข้างหลังผม
“สนใจอะดิ” มันหันมาถามยิ้ม ๆ “เคยเล่นปะ”
“อืม” อยากจะบอกว่าเกมส์นี้มันยังห่างชั้นจากผมเยอะ
“ผมเพิ่งเล่น” เห็นผมไม่สนใจจะตอบโต้อะไร มันเลยพูดต่อ “เมื่อคืนมีคนใจดีให้อาวุธมาด้วย”
ผมหรี่ตามองชื่อตัวละครในเกมส์มัน ก่อนจะนึกได้ว่าไอ้คนนี้แหละที่ส่งข้อความมาขออาวุธผมไปเมื่อคืน
“โคตรใจดี”
“กูเองแหละ”
มันหันมาทำตาโตใส่ผม ก่อนจะโวยวายเมื่อโดนคนฉวยโอกาสฆ่ามันทีเผลอในเกมส์
“อ่อน”
ผมพูดออกมาก่อนจะกลับมาเล่นเกมส์ของตัวเองต่อ ไม่สนใจอะไรมันอีก
“พี่เบลล์” มันลากเสียงเรียกผม “เป็นพี่จริงดิ”
“...”
“เฮ้ยพี่ ตอบหน่อย”
“...”
“พี่แม่งกวนตีน”
ผมหันกลับไปมองมันด้วยหางตา ก่อนจะหันกลับมาเล่นเกมส์ต่อ
“ทำไม่สนใจอีก”
“...”
“โลกส่วนตัวสูงขนาดนี้เคยมีแฟนเปล่า ถามจริง” ผมชะงักมือที่กำลังเล่น ก่อนจะกดปิดมันลง “เฮ้ยยยย ผมล้อเล่น”
“...”
“โทษทีพี่”
“อือ..” มานึก ๆ ดูก็ไม่รู้จะใส่ใจอะไรกับคนเพี้ยน ๆ อย่างมัน “ไปละ”
“เฮ้ยยยยย”
ผมไม่ได้สนใจเสียงเรียกหรืออะไรอีก ทำแค่เดินจ้ำ ๆ มาเข้าลิฟต์ ที่ก็บังเอิญเปิดมารอรับผมพอดี แต่ก่อนประตูลิฟต์จะปิดสนิท ผมยังทันได้เห็นหน้าตกใจแบบตลก ๆ ของมันอยู่
“หึ ๆ”
มนุษย์บางประเภทก็ดูฮา ๆ ดีเหมือนกัน
Ma-NuD_LaW
คนคุ้นหน้า (Yarkrak) 
ขอบคุณครับ คุณ treenature งั้นมาตรฐานเดิมนะครับ..มาสั้น ๆ วันละตอน 
ขอบคุณทุกความเห็นครับ