66.มีนดึงมือผมให้เดินตามลงไปนั่งที่ม้านั่งด้านหน้าห้องพัก ก่อนจะนั่งกุมมือผมมองทะเลผ่านความมืดไปอย่างนั้นเงียบ ๆ โดยไม่ปริปากพูดอะไรเลย ผมหันไปมองเขา..ก้มลงไปมองฝ่ามือของเขาที่กำลังกุมมือผมเอาไว้แน่นด้วยความรู้สึกหนัก ๆ ในใจ
ตอนนี้เราต่างรู้ดี ว่าหากไม่พูดกัน ทุกอย่างก็จะกลับไปเป็นอย่างเดิม ไม่มีวันจบสิ้น..
“เราต้องทำยังไง..อะไร ๆ มันถึงจะดีขึ้น” เขาออกแรงบีบที่มือผม บีบแล้วคลาย..บีบแล้วคลายอยู่อย่างนั้น ไม่ยอมปล่อย “เราไม่รู้จะทำยังไง..ให้เบลล์กลับมามั่นใจในตัวเราอีกครั้ง”
“เราไม่รู้..”
“เบลล์..”
“เพราะมีนไม่เคยพูด มันเลยทำให้เรารู้สึกเหมือน..ไม่เคยรู้จัก” ผมถอนหายใจออกมา ขณะพยายามคิดทบทวนทุกสิ่งทุกอย่าง “เราห้ามตัวเองไม่ให้คิดไม่ได้..และเพราะยิ่งคิด มันเลยทำให้เรายิ่งกลัว”
“...”
“เรากลัวว่ามันจะเป็นเหมือนเดิม”
แล้วมันก็เป็นอย่างที่ผมคิด เมื่อมีนเงียบ..
“ดึกแล้ว..รีบกลับเข้าไปนอนกันเถอะ” ผมบอกแล้วลุกขึ้นยืน แต่มีนกลับไม่ยอมปล่อย “มีน..”
“...”
“มีน..” ผมเรียกซ้ำอีก “เกิดน้องละเมอตกเตียง..”
“เรารู้สึกว่านี่มันจะเป็นโอกาสครั้งสุดท้าย..” เขาเงยหน้าขึ้นมามองผม “ขอเวลาเราสักพัก..ได้ไหม”
ผมก้มลงมองฝ่ามือที่กำลังกุมมือผมเอาไว้อีกครั้ง ก่อนจะทิ้งตัวลงไปนั่งที่เดิม “เรารอฟังอยู่..”
เรานั่งเงียบ ๆ อยู่ข้างกันไปอย่างนั้น แต่มีนก็ไม่มีทีท่าว่าจะพูดอะไรออกมาเลยสักคำ ผมนั่งหลับตา..พยายามข่มความรู้สึกหนัก ๆ ในใจที่กำลังก่อตัวกลับขึ้นมาอีกครั้ง แล้วบอกตัวเองซ้ำ ๆ ไปมาว่าให้อดทนรอ
คงจะจริงอย่างที่เขาพูด ว่านี่มันอาจเป็นโอกาสครั้งสุดท้ายระหว่างพวกเราแล้ว..
“จำได้ไหม ที่เบลล์เคยบอกเราว่าไม่ชอบเสียงฟ้าร้อง” ผมเงียบ..ตั้งใจฟังสิ่งที่เขากำลังจะพูด “แต่กลับนั่งฟังมันอย่างนั้น เพื่อที่จะได้ยินเสียงน้ำฝนตกลงมากระทบใบไม้และพื้นดินหลังจากนั้น”
“...”
“เบลล์บอกว่าชอบเสียงมัน..ชอบกระทั่งกลิ่นดินที่โชยขึ้นมาหลังจากโดนน้ำ” ผมหันไปมองเขา..เขาเองก็กำลังมองผมอยู่เช่นกัน “แล้วทำไมถึงไม่ลองทำแบบนั้นกับเราบ้าง..ให้โอกาสเราได้อย่างนั้นบ้าง”
“เราทำแล้ว..”
“ไม่ใช่การกระทำ” เขาพูดแทรกขึ้นมา “เราหมายถึงตรงนี้ต่างหาก”
เราสบตากัน ขณะที่ฝ่ามือเขาวางแนบอยู่บนอกด้านซ้ายของผม “ทำไมไม่ยอมเปิดใจให้เราจริง ๆ สักที”
ผมเม้มปากตัวเอง ขณะค่อย ๆ คิดตามสิ่งที่เขาพูด “เบลล์ไม่รู้เหรอว่าเรา..รัก”
ผมส่ายหน้า ก่อนจะตอบกลับไปด้วยคำพูด “เรารู้”
“แล้วรู้หรือเปล่าว่านอกจากเบลล์แล้ว เราไม่เคยรักใคร” ผมพยักหน้าอีกครั้ง “แล้วทำไมถึงยังไม่เชื่อ..ไม่มั่นใจในตัวเรา”
“...”
“บางอย่างเราก็ไม่สามารถอธิบายมันออกมาเป็นคำพูดได้ แต่เราก็เชื่อว่าเบลล์จะเข้าใจ”
“...”
“แค่เบลล์ยอมเปิดใจ” ผมจนด้วยคำพูด แต่ก็ยังแย้งเขาในใจ “เบลล์เคยถามว่าทำไมตอนนั้นเราถึงไม่พยายามรั้งเบลล์เอาไว้”
“...”
“จริง ๆ ตอนนั้นเราเองก็อยากจะถามเหมือนกัน..ว่าทำไมเบลล์ถึงได้มองข้ามคำว่ารักที่เราเคยพูดไป จนพูดคำว่าเลิกออกมาได้ง่าย ๆ ขนาดนั้น”
“เรา..”
“พูดไปก็เหมือนเรากำลังโยนความผิดให้กัน” เขาพ่นลมหายใจออกมา “สุดท้ายก็จบลงด้วยการทำร้ายกันไม่จบสิ้น”
“...”
“เพราะงั้นเราจะไม่ทำ..แล้วเลือกจะถามเบลล์แบบนี้มากกว่าว่า” เขาหันกลับมาหาผมทั้งตัว “กลับกันถ้าวันนั้นเราเป็นฝ่ายขอเลิกกับเบลล์..เบลล์คิดจะรั้งเราเอาไว้ไหม”
แล้วเขาก็ยิ้ม ก่อนจะเป็นฝ่ายตอบคำถามนั้นด้วยตัวเอง “คงไม่..เพราะเบลล์ก็คงจะเดินออกไปจากชีวิตเราง่าย ๆ ทันทีเหมือนกัน”
“...”
“มันแย่ที่พวกเราเป็นอย่างนั้น”
ผมก้มหัวลงไปพิงไหล่เขาเอาไว้ ก่อนจะพูดตามเขาเบา ๆ “มันแย่ที่พวกเราเป็นอย่างนั้นจริง ๆ”
ผมปล่อยให้ตัวเองอยู่ในอ้อมกอดของเขาอย่างนั้น กระทั่งถูกจูงมือเดินกลับเข้ามาในห้อง แล้วเสียจูบให้เขาเพิ่มไปอีก เรานอนกอดกันแน่นอยู่บนโซฟา ส่งผ่านความรู้สึกทุกสิ่งทุกอย่างในใจไปให้กันและกันผ่านอ้อมกอดนั่น ก่อนที่จะเผลอหลับตามกันไปทั้งอย่างนั้น
Ma-NuD_LaW
มีนพูดมาก
จริงๆ เราเพิ่มค่าตัวให้ .. แลกกะบทพูดที่เยอะกว่าปกติ บอกเลยฉากเดียวสองล้านห้า
นี่ขายวัวขายควายมาจ่ายมันหมดละ ตอนหน้าถ้าพระเอกตายต้องเข้าใจคนเขียนเลยนะ (หมดตัวละ )