SWEET SURRENDER 1/11/60 พิเศษ SWEET DREAM P.42
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: SWEET SURRENDER 1/11/60 พิเศษ SWEET DREAM P.42  (อ่าน 321766 ครั้ง)

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
Re: SWEET SURRENDER 11/5/59 CH.7 Walk&Ride P.2
«ตอบ #60 เมื่อ11-05-2016 23:38:13 »

พชร ในที่สุดก็ทนความเย้ายวนของเด็กม่อนแจ่มไม่ได้สินะ รู้สึกคราวนี้วิศวะจะเอาคืนปรัชญา

ออฟไลน์ treenature

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0
Re: SWEET SURRENDER 11/5/59 CH.7 Walk&Ride P.2
«ตอบ #61 เมื่อ12-05-2016 00:28:57 »

ฉากจูบ ละลายมากเลยค่ะ โอยยยย อ่านไปแล้วเรารู้สึกว่ามันเป็นนิยายลึกลับนะเนี่ย 55

ออฟไลน์ magic-moon

  • magKapleVE
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
    • Freedom of meetups, no obligations
Re: SWEET SURRENDER 11/5/59 CH.7 Walk&Ride P.2
«ตอบ #62 เมื่อ12-05-2016 02:33:13 »

ม่อนน่ารักกกกก

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: SWEET SURRENDER 11/5/59 CH.7 Walk&Ride P.2
«ตอบ #63 เมื่อ14-05-2016 14:08:54 »

ม่อนแจ่มน่ารักมาก...
ว่าแต่ที่แท้แล้วสองบ้านนั้นมีปัญหาหรือมีอะไรซุกไว้ใต้พรมกันนะ
ให้กำลังใจคุณเกรียน(ไม่ใช่)น้อยค่ะ

ออฟไลน์ benicezii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: SWEET SURRENDER 11/5/59 CH.7 Walk&Ride P.2
«ตอบ #64 เมื่อ14-05-2016 17:17:53 »

ม่อนเป็นคนตลก  :laugh:

ออฟไลน์ INDY-POET

  • อินดี้กวีเกรียน✍
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 320
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +918/-22
SWEET SURRENDER 15/5/59 CH.8 Most Scariest Thing Ever! P.3
«ตอบ #65 เมื่อ15-05-2016 21:25:26 »

CHAPTER 8: Most Scariest Thing Ever!

           “ไอ้ดิ้ล..”
ม่อนแจ่มเดินสั่นๆ มาหาเพื่อนซี๊ร่วมห้อง เอ่ยเรียกแผ่วๆอย่างสิ้นเรี่ยวแรง
เคยเจอครั้งแรกสมัยไปเข้าค่ายลูกเสือตอนม.ต้น และเจอกันน้อยครั้งนักตามวาระโอกาสที่ม่อนแจ่มพยายามหลีกเลี่ยง
ก็เคยคิดเหมือนกันว่ามาอยู่หอในแบบนี้.. อาจต้องเจอกันอีก ทว่า พอเจอเข้าจริงๆ เขาก็ไม่อาจทำใจ..

          “อะไรไอ้ม่อน?” ไอดิลเลิกคิ้ว เมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมพูดอะไรสักที
“มึง แบบว่า.. กลัว กลัวไอ้นั่นไหมวะ” ม่อนแจ่มกระซิบถามเสียงสั่น
“ไอ้นั่นน่ะอะไร?”
“ไอ้.. ที่มันแบบ..”
“หือ?" ไอดิลชักจะรำคาญ เมื่อเพื่อนไม่นิยามให้ชัดเจนสักที "อะไรของมึง”
ทว่า ม่อนแจ่มพูดไม่ออก ความกล้าที่จะเอ่ยชื่อก็ยังไม่มี ได้แต่แนบแขนเข้าหาลำตัว ผายมือออกไปสองข้าง โบกผั่บๆ แล้วชูนิ้วชี้ขึ้นสองข้าง เอามาแนบขมับและโบกไปมาอย่างกลัวๆ

          “อะไรวะ? ทำไมไม่พูด”
ไอดิลวางเอกสารระบบประปาที่อ่านอยู่ และหันมาสนใจรูมเมทเครื่องกลอย่างจริงจัง
ม่อนแจ่มยังคงไม่พูด ไม่ตอบ ได้แต่โบกนิ้วชี้แรงขึ้น แรงขึ้น
อะไร อะไรของมึงไอ้ม่อน มึงกางปีกเพื่อ? แล้วมึงโบกหนวดทำ..

“อ้อ!” ไอดิลเข้าใจในที่สุด “มึงหมายถึงแม- อุ๊บ!”
มือเล็กทาบปิดปากรูมเมทสิ่งแวดล้อมโดยพลัน
ไม่.. ม่อนแจ่มไม่คิดว่าจะทนได้ยินคำนั้นได้ มันหลอนเขาเกินไป

“มึง เอ่อม.. มึงกลัวเหรอ?”
ฮึ่ย ท่าทางกูดูเหมือนกลัวไหมล่ะ
มึงใช้ความฉลาดบ้างได้ไหมไอ้ดิ้ล อย่า.. อย่าให้ลูกผู้ชายอย่างกูต้องพูดตรงๆ!

“เอ่อ.. โอเค กูไม่ได้ชอบ แต่ก็ไม่ถึงกับกลัว” ไอดิลปรับสีหน้าให้เป็นปกติ “แล้ว.. มึงมีอะไรให้ช่วยไหม?”
“ฮื่อ” ม่อนแจ่มพยักหน้า “กูกำลังล้างมืออยู่ แล้ว.. แบบว่า มันมาจากไหนและมาทำอะไรไม่รู้ แต่.. แต่มันอยู่ที่พื้น”
“อ่า มันคง.. มาทักทายมั้ง” ไอดิลให้ความเห็น “แล้ว?”
“แล้ว.. กูก็วิ่งหนีมาเลยว่ะ!”
“ฮึ่ก” ไอดิลกลั้นอะไรบางอย่างไว้ในลำคอ แล้วกระแอมเบาๆ “อ่า.. ก็ดี ดีที่วิ่งทันนะ ไม่งั้นคง เอ่อ.. แย่เลยว่ะ”
..
“ไอ้ดิ้ล” ม่อนแจ่มเรียกอีกครั้ง “มึง..ช่วย..ไปปิดน้ำให้กูทีสิวะ กูแบบว่า เอ่อ.. รีบวิ่งน่ะ เลยไม่ได้ปิด”
ไอดิลมองรูมเมท กลั้นขำไม่ไหวต้องปล่อยออกมาก๊ากใหญ่ พร้อมๆกับรีบวิ่งไปปิดน้ำ

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

          หลังจากพบเจอกับ ‘เพื่อน’
ม่อนแจ่มระแวดระวังตัวมากขึ้นเป็นพิเศษเมื่อต้องไปเข้าห้องน้ำ
เขาหันซ้าย แลขวา.. ท่องคำมั่นของไอดิลที่ให้ไว้เมื่อวานนี้จนขึ้นใจ

         ‘มึงไม่ต้องกังวล ไอ้ม่อน ถ้าเจออีก รีบวิ่งมาบอกกูเลย
         กูจะไปจัดการให้ แบบเงียบๆ ไม่กระโตกกระตากให้ใครรู้เลยว่ามึงกลัว’


ม่อนแจ่มยิ้มออก..
จากที่สาปแช่งไอดิลมาหลายวัน วันนี้ เขาขออวยพรคู่ซี๊ให้ตกล่องปล่องชิ้นกับไอหมอกโดยเร็วด้วยความรักและปรารถนาดีอย่างสุดจิตสุดใจ

         ร่างเล็กค่อยๆก้าวเข้าไปในห้องน้ำ เลือกห้องกลางๆ เพื่อความอบอุ่นและไม่จนมุม แล้วจึงทำการถอดแว่น ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าและอาบน้ำลั้ลลาไปเรื่อยๆ ณ จุดนี้ เริ่มคุ้นชินกับน้ำเย็นและเลิกโหยหาอาวรณ์เครื่องทำน้ำอุ่นแล้ว
คราวนี้ ม่อนแจ่มใช้แฟซ่า เพราะอยากลองเปลี่ยนยี่ห้อดูบ้าง มือเรียวละเลงแชมพู ถูๆ ไถๆ..

         เอ๊ะ.. ว่าแต่นั่นมันอะไรดำๆเล็กๆ ดูท่าจะเคลื่อนไหวได้อยู่ที่ฝาผนัง?
อะไร.. มันคืออะไร? เมื่อกี้เข้ามา ม่อนแจ่มไม่ยักเห็น..
ม..มันเคลื่อนที่ด้วย
มือที่ละเลงแชมพูหยุดกึก  คว้าแว่นแดงมาสวม หวังให้เกิดอภินิหารไม่ใช่สิ่งที่เขาคิด

.

.

“อ๊ากกกกก!”
ม่อนแจ่มร้องลั่น คว้าผ้าขนหนูมาพันตัว และนั่นคือสิ่งเดียวที่ทำได้ ก่อนวิ่งป่าราบออกจากห้องน้ำ
ไอดิล.. ‘Idylle the Great!' เขาต้องไปหาไอดิล รูมเมทสิ่งแวดล้อมผู้ยิ่งใหญ่โดยเร็วที่สุด

        “ไอ้ดิ้ลลล!”
มือเรียวคว้าลูกบิดประตูห้อง 338 ตะโกนลั่นเข้าไป “ไอ้..ไอ้ดิ้ล ไอ้ดิ้ลช่วยกูด้วย!”
ห๊ะ?
อ..ไอดิลไม่อยู่
นี่คือความจริงที่โหดร้าย เมื่อม่อนแจ่มกวาดสายตามองเร็วๆไปรอบห้อง
มีเพียง.. พชรหน้านิ่งที่เงยมอง เลิกคิ้ว
ถ้าตามปกติ ร่างสูงนั้นคงไม่อยากจะสนใจ ทว่า ในเวลานี้ ..ไม่ปกติ
ไม่ปกติเพราะม่อนแจ่มอยู่ในสภาพพันผ้าขนหนูผืนเดียว หัวเต็มไปด้วยแชมพูและเนื้อตัวก็เปรอะสบู่ แถมยังยืนขาสั่นงั่กๆ
ร่างสูงจึงดีดตัวขึ้นจากเก้าอี้ “เป็นอะไร”
..
“มัน ก..เกิดขึ้นเพราะ ร..แรงโน้ม.. โน้มถ่วงของโลก อธิบายได้..ได้ง่ายๆด้วย ก..กฎทางฟิสิกส์”
“ห๊ะ?” พชรขมวดคิ้วกับเสียงพึมพำกระท่อนกระแท่นที่จับใจความแทบไม่ได้
“เป็นอะไร เครื่องกล?”
เป็นอะไร..
นั่นจึงทำให้ระลึกได้ว่าทำไมเครื่องกล เอ๊ย ทำไมม่อนแจ่มถึงมายืนอยู่ตรงนี้  ในสภาพนี้..
“ค..คือ” มันยากเกินจะอธิบาย ม่อนแจ่มได้เพียงชี้ไม้ชี้มือไปทางห้องน้ำ พร้อมเสียงคราง “ฮื่อ..”
พชรเลิกคิ้วงุนงง คว้าผ้าขนหนูของตัวเองมาจากราว โยนคลุมให้ร่างที่ยืนสั่นอยู่ แล้วก้าวยาวๆนำไปทางห้องน้ำ

         เมื่อมาถึงก็หันมาเลิกคิ้วให้อีกครั้ง ทำนองว่าอาบอยู่ห้องไหน
มือสั่นๆค่อยๆชี้ไปทางห้องหนึ่งที่ประตูเปิดอยู่ น้ำยังไหลซู่ ราวกับคนที่อาบน้ำอยู่รีบเร่งออกไปทันที
พชรเดินเข้าไปในห้องน้ำ มันอะไรกัน?
...
...
ต้องใช้เวลาหลายอึดใจกว่าที่ผู้มาใหม่จะตระหนักได้ว่าอะไรทำให้ม่อนแจ่มวิ่งป่าราบขนาดนั้น
หันไปเลิกคิ้วให้คนข้างหลังที่ยืนอยู่ห่างมากนิดหนึ่งอย่างขอคำยืนยัน และสีหน้าที่แดงจัดอย่างอับอายนั้นก็บ่งบอกได้ดี

          “ไปรอข้างนอกไป” ที่สุด.. พชรก็เอ่ยขึ้น
ม่อนแจ่มพยักหน้าอย่างนึกขอบคุณ แต่แล้วก็ค่อยๆเอ่ยออกมา “อ..อย่าฆ่ามันนะ แค่..ช่วย..ไล่..ไปที นะ ..พชร”
คนยิ้มยากถึงกับเผลอลอบยิ้มน้อยๆ ก่อนจะพยักหน้ารับให้อีกฝ่ายสบายใจ และทำการช่วยชีวิตม่อนแจ่มจาก ‘สิ่งที่คุณน่าจะรู้ว่าอะไร’

          ไม่กี่อึดใจ.. ร่างสูงโปร่งของพชรก็เดินออกมา หน้าเข้มสะบัดน้อยๆไปทางห้องน้ำ
ม่อนแจ่มพยักหน้ารับ แล้วจึงค่อยๆเดินเข้าไปภายในอย่างลังเล มองสำรวจทั่วห้อง
เมื่อเห็นว่าไม่มีสิ่งแปลกปลอมจึงถอนหายใจอย่างโล่งๆ
“พชร” เสียงเล็กเรียกค่อยๆ “ขอบคุณ..”
ไม่ตอบรับ..
ไม่ปฏิเสธ..
เหมือนเคย
แต่แค่นี้.. แค่นี้ก็ขอบคุณมาก ..มากๆแล้ว
ม่อนแจ่มรีบล้างเนื้อล้างตัวโดยเร็วเพื่อป้องกันการมาเยี่ยมเยือนจากเพื่อนที่เขาไม่สนิทที่สุดอีกครั้ง ก่อนที่เสียงเคาะประตูจะดังมา..

ก๊อก ก๊อก!

“เครื่องกล”
..
เรียกเขาด้วยคำนี้ ไม่มีทางจะเป็นคนอื่น
ม่อนแจ่มเม้มปากเบาๆ เปิดประตูห้องน้ำ โผล่แต่หน้าออกไป
คนหน้าห้องยื่นผ้าขนหนูมาให้ ทำเอานิ่งอึ้งอย่างไม่ใคร่เข้าใจความหมาย

“สองผืนนั้นมันโดนสบู่กับแชมพูแล้ว”
..
ห๊ะ?
ยังคงได้แต่ยืนจ้องหน้า
พชร..เดินกลับมา เอาผ้าขนหนู..ผืนใหม่ มาให้กู.. เหรอวะ?
นี่คือพชรหรือเพื่อนที่ไม่สนิทที่สุดของกูแปลงร่างเป็นพชรกันแน่?

เมื่อม่อนแจ่มยังยืนงง ไม่รับไปสักที พชรจึงโยนมันใส่หัวเปียกของอีกฝ่ายเสียเลย ชักช้านัก
แล้วขายาวๆ ก็ก้าวออกจากห้องน้ำ ทิ้งให้คนบางคนใจเต้นแรง เมื่อจู่ๆก็รู้สึกขัดเขินขึ้นมา..
มันไม่เหมือนตอนโดน เอ่อ.. ม่อนแจ่มหมายถึง 'เหตุการณ์แรงโน้มถ่วงของโลกซึ่งอธิบายได้ง่ายๆด้วยกฎทางฟิสิกส์' เมื่อวันก่อน
นั่นมันกะทันหัน.. นั่นมันทันที.. ไม่มีเวลาให้ไตร่ตรอง.. มันใกล้เคียงกับคำว่า ‘อุบัติเหตุ’
ทว่า วันนี้.. ตอนนี้.. มันเป็นความตั้งใจ เป็นความเอื้อเฟื้ออย่างมากเหลือเกินสำหรับเขา

“มันเป็น..วิทยาศาสตร์ล้วนๆ ไม่มีอะไรมากกว่านั้นเจือปน”
ม่อนแจ่มเตือนตัวเองอีกครั้ง พยายามหุบยิ้ม แล้วรีบเช็ดตัว

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

           “งง งง จนเกือบจะเดินเป็นปู มันอยากจะเดินลงรู ไปเข้าห้องไอ ซี ยู โอ้ว โอว!”
ห๊ะ?
เลิกคิ้ว ทำหน้างงๆ คือปฏิกิริยาของพชรเมื่อเข้าห้องมาและได้ยินเสียงร้องเพลงแปลกๆ พร้อมทั้ง..
ร่างเล็กของสองรูมเมทแทบจะเรียกได้ว่า ‘เต้นกิน รำกิน’ เพราะปากที่แหกร้อง แขนขาส่ายและลำตัวโยกย้ายไปมาพร้อมขนมคาปาก

“เอ่อ..”
พชรสตั๊นไปสามวิฯ

“ดิ้ล อยู่ไหม.. อ้าว พชร?”
ไอหมอกที่ในมือถือเครปญี่ปุ่นทักทายแผ่นหลังรูมเมทคนรักอย่างงงๆที่คนตรงหน้ายืนคาประตู “มีอะไรหรือเปล่า?”
..
..
ร่างสูงปรัชญาไม่มีคำตอบให้ เพียงขยับตัวออกจากกรอบประตู เผยให้ผู้มาใหม่เห็นเหตุการณ์ที่อยู่ภายใน
“ทำอะไรกันน่ะ!” ไอหมอกอุทาน
ไอดิลจึงตอบหน้าตาเฉย “ปาร์ตี้ขนมกับไอ้ม่อน!”
ป..ปาร์ตี้ขนม นี่มึงสองคนอายุเท่าไหร่กันเนี่ย!?
ไอหมอกส่ายหัวน้อยๆอย่างปลงแล้วปลงอีก ส่วนพชรกลั้นขำในลำคอ ไม่เอ่ยคำใด แยกวางข้าวของไว้ที่โต๊ะและเตรียมตัวอาบน้ำหลังจากเหงื่อซ่กเพราะไปช่วยเพื่อนขนซังข้าวโพดที่คณะเกษตรฯ

          “ปาร์ตี้ขนมเรียบร้อยแล้ว นี่ก็ไม่ต้องแล้วสิ ใช่ไหม?” ไอหมอกชูเครปขึ้นมา
“อ๊ากกก เอา เอาสิเอา!” ไอดิลวิ่งเข้ามาหมายจะคว้าเครปไปโดยเร็ว ทว่า โดนแกล้งโดยคนตัวสูงกว่าที่ชูขึ้นสูง
“หมอก อย่ามาแกล้ง!” ไอดิลโวยวาย สองมือชูขึ้นจะเอาขนม
“เอามาเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นกูไม่รับรองสวัสดิภาพชุดนักศึกษามึงนะ” มือเรียวละจากร่างสูง ไปเปิดตู้เสื้อผ้า คว้าชุดนักศึกษารีดเรียบร้อยที่ไม่ใช่ไซส์ตัวเองออกมาแนบไว้กับอก แล้วทำท่าจะฆาตกรรม
ไอหมอกหัวเราะลั่นกับพฤติกรรมเด็กน้อยนั้น จำต้องยื่นขนมให้
ไอดิลได้ขนมแล้วจึงหัวเราะร่า มือเรียวยื่นชุดนักศึกษาให้เจ้าของ “อ๊ะ แลกกันนะ”
ไอหมอกยิ้ม พลางรับมา “ขอบคุณครับ”
ขอบคุณ.. ขอบคุณทุกครั้งที่คนตรงหน้ารีดเสื้อผ้าให้ตลอดนับตั้งแต่เข้ามาหาวิทยาลัยมา มันรู้สึกอบอุ่นหัวใจอย่างบรรยายไม่ถูก
"อื้อ" ไอดิลพยักหน้า รีบเคี้ยวเครปและกลืนก่อนจะเอ่ยบ้าง "ขอบคุณเหมือนกัน"
คนเป็นคู่รักส่งยิ้มให้กันลึกซึ้ง ส่วนคนเป็นเพื่อนร่วมห้อง.. คนหนึ่งเอาผ้าขนหนูพาดบ่า เดินออกจากสถานการณ์ชวนฝัน และอีกหนึ่ง เบือนหน้าหนีไปทางอื่น แล้วเก็บซากขนมที่เหลือผูกหนังยางซุกซ่อนไว้กินทีหลังตามซอกตามมุมเหมือนเคย

           ไอดิลกับไอหมอกออกไปสวีทกันตามประสาวันศุกร์แล้ว พชรเองก็อาบน้ำตัวหอมฉุยมาแล้ว เหลือเพียงม่อนแจ่มที่เนื้อตัวยังเน่าหนอนอยู่ในห้อง จึงต้องจำลาคว้าตะกร้าสีฟ้าลายหัวใจ พร้อมชุดนอนทอม แอนด์ เจอร์รี่ไปอาบน้ำบ้าง (จะได้หอมเท่าพชร)

        ม่อนแจ่มก้าวอย่างระมัดระวังในห้องน้ำเหมือนเดิม และอาบน้ำด้วยความเร็วแสงเหมือนเดิม
หลายๆครั้งที่ไม่ต้องประสบพบเจอกับเพื่อนที่ไม่สนิทที่สุดทำให้เขาคลายความกังวลลงไปมากโข
กลับเข้าห้องมาอีกที พชรก็ยังคงนั่งอ่านนิตยาสารการเกษตรอยู่ในทีท่าเดิมเหมือนก่อนที่เขาจะออกจากห้องไป
ม่อนแจ่มยืนนิ่งมองด้วยความสงสัย ..วันๆพชรพูดอะไรสักกี่คำกันนะ?

          พ่นลมหายใจเบาๆ แล้วจึงก้าวเข้าไปใกล้เตียงล่างของตัวเอง ทำอารมณ์ให้ดีๆ เพราะอยากจะวาดภาพที่เริ่มไว้เมื่อวันก่อนต่อ ลั้ลลา ลั้ลลา ลั้ล..

“อ๊ากกกกก!”

คนอ่านหนังสือถึงกับสะดุ้ง ละจากสูตรน้ำหมักจืดขึ้นมองไปยังต้นเสียงทันที
“อะไร?”

อะไร..
อะไรหรือ?
อะไรที่ว่านั้นกำลังเคลื่อนไหวช้าๆอยู่ใต้โต๊ะ
ม่อนแจ่มไม่รู้จะบอกว่าอย่างไร เขาได้แต่ตะโกนคำเดียวเท่าที่คิดออกในยามฉุกเฉิน
“พชร!”

เอ่อ..
กูถามว่า ‘อะไร?’
แว่นแดงตอบ ‘พชร!’
นี่มันบ้าหรือกูบ๊อง?
เจ้าของชื่อเลิกคิ้ว จำต้องลุกขึ้นจากเก้าอี้ เมื่อร่างเล็กยืนขาสั่น ตั้งท่าจะวิ่ง

“พชร!”

เออ ได้ยินแล้ว..
ดวงตาคมเพ่งมองสิ่งที่ไม่ได้แปลกใจนักซึ่งทำให้รูมเมทเครื่องกลกลัวสุดขีด ‘สิ่งที่พชรรู้แล้วว่าอะไร’

“พชร..” ม่อนแจ่มยังคงเรียกเสียงสั่นราวกับถ้อยคำนั้นจะช่วยขับไล่สิ่งไม่ดีต่างๆออกไป
ร่างเล็กหันมาหาเจ้าของชื่อ พร้อมๆกับที่พชรเองก็เดินเข้าไปหาเจ้าตัวพอดี
ใบหน้าเนียนปะทะกับแผ่นอก ร่างสูงชะงักกึก ร่างเล็กก็ชะงัก แต่ไหวตัวเร็วกว่าเพราะกำลังถูกรุกราน สองมือเรียวเกาะไหล่แกร่งเอาไว้มั่น
“พชร ฮืออ.. มันจะไต่ จะไต่แล้ว!” ม่อนแจ่มกระโดดเหย็งๆ พลางร้อง
คนถูกเกาะไหล่ได้แต่ยืนนิ่งอึ้งอีกครั้ง “แล้ว.. จะให้ทำยังไง”
“อุ้มที”
เฮ้ย! อะไรนะ? อีกทีซิ..
แล้วเสียงสั่งก็ดังมา ขณะอะไรเล็กๆดำๆเคลื่อนเข้ามาใกล้ยิ่งขึ้น
“พชร อุ้มเร็ว!”
ไอ้เวร..
อยากจะด่า แต่คนตรงหน้าทำท่าจะร้องไห้อยู่รอมร่อ
แขนแข็งแรงข้างหนึ่งจึงช้อนไหล่ อีกข้างหนึ่งสอดใต้เข่า อุ้มร่างเล็กขึ้นมาแนบอก..

ตกใจ..
รู้สึกอย่างนี้ทั้งสองคน

ม่อนแจ่มตกใจ
เพราะ..
แค่พูดไปอย่างนั้น
พูดด้วยความกลัว
กลัวจนไม่รู้จะพูดยังไง
ก็เลยพูดออกไปโดยไม่คิดว่า.. พชรจะอุ้มเขาจริงๆ

พชรก็ตกใจ
เพราะ..
แค่ไม่อยากให้กลัวไปมากกว่านี้
แค่ไม่อยากให้ร้องไห้
ไม่อยากเห็นน้ำตา
ก็ไม่คิดเหมือนกันว่า.. เขาจะอุ้มม่อนแจ่มจริงๆ

        “ไอ้ม่อน พรุ่งนี้มึงจะปาร์ตี้-”
อีกหนึ่งเพื่อนร่วมห้องเปิดประตูผางเข้ามาโดยไร้การเคาะเช่นเคย
ทว่า ก็ได้เพียงหยุดยืนอยู่แค่นั้น คำพูดที่เหลือไม่หลุดรอดออกจากริมฝีปาก เพราะมัวตกตะลึงกับภาพเบื้องหน้า
พชร..อุ้ม..ไอ้ม่อน

จังงังกันไปประเดี๋ยวหนึ่งสำหรับไอดิลและพชรกับคนแคระในอ้อมแขน
แล้วร่างสูงจึงสำนึกได้ว่าตัวเองอุ้มม่อนแจ่มทำไม พชรค่อยๆวางร่างน้อยไว้บนเตียงเดี่ยวของตัวเอง
“ไม่เอา เดี๋ยวมันบิน อือ.. พชร พากูไปข้างนอก เร็ว..” ม่อนแจ่มกอดไหล่แน่น ซุกหน้าลงกับแผ่นอก ไม่ขอรับรู้อะไรทั้งนั้น
พชรชะงักนิ่งอีกครั้ง แล้วก็ได้แต่อุ้มร่างขาวกลับขึ้นมาอยู่ในอ้อมแขน ก้าวยาวๆเดินออกไปทางประตูที่เปิดค้างอยู่
“ไอดิล จัดการได้ใช่ไหม?”
“อ่าม.. ไม่มีปัญหา” ไอดิลตอบรับเสียงเข้ม ลอบยิ้มน้อยๆ
แหม กูรู้ว่ามึงกลัวจริง แต่อินเนอร์ที่ออกมานี่ ไม่ใช่เล่นๆเลยนะครับม่อน!

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

         “เอาล่ะ..”
เป็น พชร--คนไม่ค่อยพูดที่ยืดกอดอกอยู่หน้าเตียงคู่สองชั้น มองสองรูมเมทอย่างจริงจัง
“มันจะไม่เข้ามา ถ้าไม่มีอะไรให้กิน” เจ้าของเตียงเดี่ยวเปิดประเด็น
“เพราะฉะนั้น ห้ามเอาอะไรมากินในห้อง หรืออย่างน้อย กินเสร็จแล้ว ต้องรีบเก็บทิ้งให้เรียบร้อยทันที อย่าปล่อยให้มีเศษอาหารตกหล่น หรือมีกลิ่น”
นี่คือประโยคที่ยาวที่สุดเท่าที่ไอดิลเคยได้ยินจากปากรูมเมทปรัชญา

        “ไอดิล ถึงแม้จะไม่กลัว แต่ในฐานะที่เป็นเพื่อนกันก็ต้องช่วย” พชรมองร่างบนเตียงบน 
“เวลาหมอกซื้อเครปมาฝาก ออกไปกินข้างนอกได้ไหม?”
“เอ่อม.. โอเค” ไอดิลพยักหน้ารับ
“เตียงล่าง”
ฮึ่ย.. ม่อนแจ่มเม้มปากเมื่อถูกเรียก
“เอาขนมผูกหนังยางที่ซุกไว้ทิ้งให้หมด”
เฮ้ย!
"แต่-"
“ที่พูดนี่เข้าใจไหม?” พชรมองตา
อะ..
“อื้อ” ประสานสายตาตอบและจำต้องพยักหน้าทั้งเม้มปาก
“ดี”
ทิ้งท้ายแค่นั้น แล้วพชรก็ออกจากห้องไป สีหน้าเรียบเฉยเหมือนทุกที

         “แหมๆ..”
ไอดิลอดจะเอ่ยลอยๆ แต่จงใจให้เมทเตียงล่างได้ยินไม่ได้
“ไม่อาววว.. เดี๋ยวมันบิน พชรพากูออกไปข้างนอก โอ๊ย ฮ่ะๆ กูล่ะสงสัยว่าทำไมพชรมันไม่ถีบมึงออกไป แทนที่จะอุ้ม”
ม่อนแจ่มไม่ตอบโต้อะไร ได้แต่คว้าหมอนข้างหัวหมีพูห์มากอด ล้มตัวลงนอนหันหน้าเข้าผนัง แอบยิ้มกับตัวเอง
“กูรู้มึงกำลังยิ้ม”
ไอ้ดิ้ล! แม่ง แสนรู้ ปกติมึงโง่ อย่ามาทำเป็นอวดฉลาดตอนนี้เหอะ กูขอร้อง
ม่อนแจ่มเบ้หน้า แต่แล้วก็คิดอะไรออก..
“กูก็รู้.. หมอกยังไม่เคยอุ้มมึง”
สัด! แล้วมันใช่เรื่องที่มึงต้องพูดไหม? เป็นไอดิลบ้างที่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
“ฮ่ะๆ ใช่ไหมล่า..” ม่อนแจ่มได้ที หัวเราะน้อยๆ
ไอ้.. ม่อน.. ได้ครับได้..
“เดี๋ยวพรุ่งนี้กูขอให้หมอกอุ้ม แถมจะให้อุ้มแล้วเรียกไอดิลที่รักด้วย เข้าใจนะครับเตียงล่าง
อ๊ากกก!
ม่อนแจ่มได้แต่ยกเท้าถีบเตียงบนแรงๆ หวังให้มันเป็นตูดเมทสิ่งแวดล้อม
ไอดิลยังคงหัวเราะร่วนที่จี้ใจดำอีกฝ่ายได้ด้วยคำเรียกที่เจ้าตัวไม่ชอบ

เฮ้อ..
คนเตียงล่างได้แต่พ่นลมหายใจ
ไอ้ ‘ที่รัก’ อะไรนั่นไม่เคยจะหวังหรอก
..แค่ช่วยเรียกชื่อ
..ช่วยเรียกว่าม่อน
..เท่านั้นจะได้ไหม
..พชร..

        ร่างเล็กลุกขึ้นจากเตียง ควานหาถุงขนมใต้โต๊ะอย่างกลัวๆว่าจะมีเพื่อนอีก อย่างไรก็ตาม เขาไม่เจอ โล่งไปที
ดวงตาสีน้ำตาลมองเลย์ ปาปริก้า คอนเน่และก๊อบกอบอย่างแสนเสียดาย แล้วค่อยๆหย่อนทิ้งลงถัง ผูกปากถุงดำให้สนิท
ทำแล้ว.. ม่อนแจ่มเพิ่งจะทำตามที่พชร 'สั่ง' สั่งด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ทว่า ชัดเจนทุกถ้อยคำ ไม่ขัดไม่เขินราวกับปกติคุ้นเคยกับการออกคำสั่งอยู่แล้ว
ม่อนแจ่มสิ ที่ไม่คุ้นเคยกับการรับคำสั่ง แต่พชรมีลักษณะบางอย่างที่ทำให้ม่อนแจ่มรู้สึกว่า.. ถ้าผู้ชายคนนี้สั่ง เขาพร้อมจะทำตาม

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

         พชรถอนหายใจ.. เดินออกผ่านประตู ทิ้งห้อง 338 ไว้เบื้องหลัง
ชักจะเป็นระยะอันตรายเกินไป แทบจะอันตรายยิ่งกว่าจูบ
ขนาด ‘จูบทำไม’ ก็ยังไม่มีคำอธิบาย แล้วนี่เพิ่ม ‘อุ้มทำไม’ เข้าไปอีก
ร่างสูงทำท่าจะจนมุม ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มทำสิ่งที่ควรจะทำด้วยซ้ำไป
   
         'อุ้มที'
         'พชร อุ้มเร็ว!'


         พชรเพ่งมองมือหยาบกร้านของตัวเอง..
ไม่เคยรู้สึกว่ามัน ‘นอกเหนือการควบคุม’ เท่านี้มาก่อน
แต่ไหนแต่ไรมา เขาเป็นคนทำงาน เป็นเชื้อสายเกษตรกร
เขารู้จักร่างกาย.. รู้จักกำลังของตัวเองดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง.. สองมือนี้ และเขา.. ไม่เคยอุ้มใครมาก่อน
ยิ่งด้วยเหตุผลที่ค่อนข้างไม่สมเหตุสมผลแบบนี้ ยิ่งแค่เพราะความกลัวแบบเด็กๆของเปี๊ยกแว่นแดงคนหนึ่ง
ทว่า เปี๊ยกแว่นแดงคนนั้นมีลักษณะบางอย่างที่ทำให้พชรรู้สึกว่า.. ถ้าผู้ชายคนนี้ขอ เขาสามารถทำให้ได้

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

ขอบคุณทุกการติดตามเช่นเดิม เจอกันตอนต่อไปครับ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
Re: SWEET SURRENDER 15/5/59 CH.8 Most Scariest Thing Ever! P.3
«ตอบ #66 เมื่อ15-05-2016 22:10:20 »

หึหึหึ ต้องขอบคุณเพื่อนที่ไม่สนิทของม่อนแจ่มสินะ ทำให้มีโมเม้นท์เขย่าใจพชร

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
Re: SWEET SURRENDER 15/5/59 CH.8 Most Scariest Thing Ever! P.3
«ตอบ #67 เมื่อ15-05-2016 22:29:49 »

ปีเตอร์สื่อรักสินะ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: SWEET SURRENDER 15/5/59 CH.8 Most Scariest Thing Ever! P.3
«ตอบ #68 เมื่อ16-05-2016 01:29:40 »

เหมือนม่อนจะอ่อยพชรแบบไม่รู้ตัว ไอดิลมองแรงใส่ม่อนแน่ ๆ ฮา

ออฟไลน์ diltosscap

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
Re: SWEET SURRENDER 15/5/59 CH.8 Most Scariest Thing Ever! P.3
«ตอบ #69 เมื่อ16-05-2016 06:01:28 »

พชร มีปมอะไรกับม่อน อยากรู้จริงๆ คาดว่าคู่นี้ถ้าเคลียร์กันได้ ม่อนจะถูกพชร ตามใจอีกคน ม่อน ม่อนน่ารัก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: SWEET SURRENDER 15/5/59 CH.8 Most Scariest Thing Ever! P.3
« ตอบ #69 เมื่อ: 16-05-2016 06:01:28 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ rujaya

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +377/-1
Re: SWEET SURRENDER 15/5/59 CH.8 Most Scariest Thing Ever! P.3
«ตอบ #70 เมื่อ16-05-2016 07:02:01 »

ต้องขอบคุณ "สิ่งที่คุณน่าจะรู้ว่าอะไร" ที่ทำให้มีบรรยากาศมุ้งมิ้งแบบนี้เกิดขึ้น  :mew1:

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
Re: SWEET SURRENDER 15/5/59 CH.8 Most Scariest Thing Ever! P.3
«ตอบ #71 เมื่อ16-05-2016 07:20:24 »

พัฒนาการิีกสเต็ปของนู๋มีอนแจ่ม

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: SWEET SURRENDER 15/5/59 CH.8 Most Scariest Thing Ever! P.3
«ตอบ #72 เมื่อ16-05-2016 09:08:29 »

 :pigha2: โอ้ยยยยยยย นี่นั่งหัวเราะอยู่หน้าจอคนเดียวเหมือนบ้ากับตอนนี้ ไม่ไหวๆ เคะทั้งสองมันเกรียนได้น่ารักชมัด
แถมแลดูมีความก้าวหน้าแฮะ มีอุ้มมีความต่างอยากทำตามที่อีกคนบอก  :mew1:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: SWEET SURRENDER 15/5/59 CH.8 Most Scariest Thing Ever! P.3
«ตอบ #73 เมื่อ16-05-2016 09:57:40 »

โอย....น่ารัก มุ้งมิ้ง :mew1:
ม่อน ไอดิ้ล ร้องเพลงมีท่าเต้นประกอบ "ปาร์ตี้ขนม"
อยากเห็นสองหนุ่มน่ารัก เต้นส่ายเอว ส่ายแขน แถมปากคาบขนมด้วย :ling1:
พชร เริ่มสงสัยกับร่างกายตนเอง :mew2:
ที่ทำอะไรนอกเหนือความควบคุมของสมองกับม่อนแล้ว :katai2-1:
รอตอนใหม่  :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ magic-moon

  • magKapleVE
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
    • Freedom of meetups, no obligations
Re: SWEET SURRENDER 15/5/59 CH.8 Most Scariest Thing Ever! P.3
«ตอบ #74 เมื่อ16-05-2016 10:19:56 »

อ่านแล้วกิ๊วก๊าวจัง

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
Re: SWEET SURRENDER 15/5/59 CH.8 Most Scariest Thing Ever! P.3
«ตอบ #75 เมื่อ16-05-2016 23:00:30 »

มีความน่ารักกกก
น่ารักมากกกกก
มาต่ออีกเร็วๆนะคะ
อยากอ่านนนน ฮือออ

ออฟไลน์ monoo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1957
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4
Re: SWEET SURRENDER 15/5/59 CH.8 Most Scariest Thing Ever! P.3
«ตอบ #76 เมื่อ17-05-2016 00:49:43 »

 :-[

น่าร๊ากกกก

กลัวมาม่าจังเลยอ่ะ
 :katai1:

ออฟไลน์ cocoaharry

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
    • cocoaharry_Demmy Chan_Otaku Y Girl
Re: SWEET SURRENDER 15/5/59 CH.8 Most Scariest Thing Ever! P.3
«ตอบ #77 เมื่อ17-05-2016 08:27:44 »

เอร๊ย คนหนึ่งถ้าสั่งก็จะทำ อีกคนถ้าขอก็จะทำ เขินน

ออฟไลน์ beerby-witch

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
Re: SWEET SURRENDER 15/5/59 CH.8 Most Scariest Thing Ever! P.3
«ตอบ #78 เมื่อ18-05-2016 12:17:44 »

เห็นชื่อคนเขียนแล้วรีบกดเข้ามาเลย แต่เดี๋ยวมาอ่าน เข้ามาหวีดก่อน ฮือออออออออออ :mew1:

ออฟไลน์ treenature

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0
Re: SWEET SURRENDER 15/5/59 CH.8 Most Scariest Thing Ever! P.3
«ตอบ #79 เมื่อ18-05-2016 21:51:08 »

หวาน และมีสไตล์มาก ชอบมากค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: SWEET SURRENDER 15/5/59 CH.8 Most Scariest Thing Ever! P.3
« ตอบ #79 เมื่อ: 18-05-2016 21:51:08 »





ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
Re: SWEET SURRENDER 15/5/59 CH.8 Most Scariest Thing Ever! P.3
«ตอบ #80 เมื่อ18-05-2016 21:55:39 »

ม่อนแจ่มน่ารักขนาดนี้ขออะไรก็ต้องทำหมดนะพชร  :hao7:

ออฟไลน์ ceylon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: SWEET SURRENDER 15/5/59 CH.8 Most Scariest Thing Ever! P.3
«ตอบ #81 เมื่อ18-05-2016 23:48:04 »

มาต่อเร็วๆนะก๊ะ

ออฟไลน์ INDY-POET

  • อินดี้กวีเกรียน✍
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 320
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +918/-22
SWEET SURRENDER 21/5/59 CH.9 Lost & Won P.3
«ตอบ #82 เมื่อ21-05-2016 08:13:21 »

CHAPTER 9: Lost & Won

          ถนนสายที่คุ้นเคยยังคงเหมือนเดิม..
ไม่ว่าภายในหัวใจจะมีความเปลี่ยนแปลงอย่างไร พชรก็ยังคงเป็นพชร และ D-Tracker 250 ก็ยังเป็น D-Tracker 250
ร่างสูงซิ่งมอเตอร์ไซค์สีดำแถบเขียวคู่ใจ วิ่งสายเชียงใหม่-ลำพูนเพื่อกลับบ้านอีกครั้ง

          ‘ขอบคุณ.. พชร’
ถ้อยคำที่เสียงไพเราะนั้นเอ่ยออกมา หลังจากร่างเล็กกระโดดตุ๊บลงจากมอเตอร์ไซค์คันนี้ยังดังก้องอยู่ในใจ
เหมือนเคยที่ไม่มีคำตอบรับจากพชร ทว่า.. การที่เขาไม่พูด ก็ไม่ได้แปลว่าไม่รู้สึกอะไร..

          ‘สวนเพชรหละปูน’
ป้ายไม้สัก ตัวอักษรขาว โดดเด่นหน้าซอยถนนคอนกรีต
พชรเลี้ยวรถเข้าไปตามเส้นทางเข้าสวนและเข้าบ้านตัวเองที่คุ้นเคยมาตั้งแต่เป็นเด็กน้อย
สวนที่เคยเป็นของตายาย สวน..ที่เคยร้างไป ก่อนมารดา.. มารดาซึ่งอุ้มท้องเขาจะกลับมาฟื้นฟู
จากที่เคยมีแต่ลำไย แค่เพียงห้าสิบไร่ ตอนนี้ก็มีทั้งลิ้นจี่ สาลี่ แอปเปิ้ลและลูกพลับเพิ่มเข้ามา จากน้ำพักน้ำแรงของสองคนแม่-ลูกและคนงานที่เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆเกือบยี่สิบปีมาแล้ว

          ชะลอรถเข้าจอดไว้ใต้ถุน มือแกร่งถอดหมวกกันน็อคออก
ยามสายเช่นนี้ แม่คงยังอยู่ในสวน ช่วงนี้เป็นฤดูเก็บเกี่ยวสาลี่ และถัดจากนี้ไปอีกหนึ่งเดือนก็จะเป็นลำไย
พชรกลับมาบ้านมากเท่าที่จะบ่อยได้ ด้วยเป็นห่วงแม่และเป็นห่วงสวน

           “อ้าว คุณพชร อาทิตย์นี้กลับอีกหรือครับ”
พชรมองคนพูด ถอนใจน้อยๆ ความรู้สึกหนักอึ้งในใจดูจะเพิ่มมากขึ้น เขาพยักหน้าตอบรับ พลางยกมือไหว้
“สวัสดีครับลุงแสง แม่อยู่ในสวนหรือครับ”
“ดูคนงานเก็บสาลี่ครับ” ชายร่างเล็กตอบคำถามเจ้านายหนุ่ม สายตาในกรอบแว่นดำมองร่างสูงด้วยความเคารพนับถือเหมือนอย่างที่เคย แม้ตนเองจะอาวุโสมากกว่าก็ตาม

            พชรก้าวยาวๆขึ้นบันไดบ้าน เปิดกระเป๋าสตางค์หยิบกุญแจเตรียมไข
และในนั้นก็เผยให้เห็นเศษกระดาษแผ่นเล็กที่แนบอยู่
เศษกระดาษที่เขียนตัวเลขเอาไว้ไม่กี่ตัว 011153  011269   ตัวเลขที่เขียนด้วยลายมือเขาเอง

ตกตะลึง.. ที่คนซึ่งควรจะอยู่อีกฝั่งของมหาวิทยาลัย จู่ๆ ก็โผล่มาหน้าห้องสาขาวิชา แต่สีหน้าเรียบเฉยที่มีมาตลอดชีวิตทำให้ทำได้เพียงเลิกคิ้ว รอดูว่าคนที่นอนจ้องหน้าอย่างเอาเป็นเอาตายตอนกลางคืน จะมาไม้ไหนในตอนกลางวัน..

จะลงปรัชญาเป็นตัวฟรี เทอมหน้า?
พชรอยากจะขำ ..จะเอาเวลาที่ไหนมาเรียน แล้วจะเอาไปบูรนาการกับวิศวกรรมเครื่องกลอีท่าไหน
คิดอะไรอยู่.. พชรไม่อยากเข้าใจ
ทำแบบนี้ทำไม.. พชรก็ไม่แน่ใจว่าอยากรู้เหตุผล

‘คนที่มึงยื่นรหัสวิชาให้หน้าห้องภาคปรัชญาคือกูเอง เซอร์ไพร้ส์ไหม?’

เซอร์ไพร้ส์สิ แต่ไม่ได้เซอร์ไพร้ส์ที่คนคนนั้นเป็นแว่นแดง แต่กูเซอร์ไพร้ส์ว่ามึงกำลังทำบ้าอะไรของมึง..
พชรพ่นลมหายใจเมื่อนึกถึงรูมเมทเครื่องกล

‘มึงมันใจร้าย มึงจำกูไม่ได้ กูเดินไปนะสัด ไปคณะมึงน่ะกูเดินไป แล้วมึงก็จำกูไม่ได้..’

หน้าคมส่ายน้อยๆ..
คณะวิศวกรรมศาสตร์กับคณะมนุษยศาสตร์นั้นอยู่ไกลกัน
แล้วใคร.. คนประเภทไหนที่เดินมาตอนเที่ยง.. มาเพียงเพื่อ.. ถามว่าจะลงปรัชญาตัวไหนดี..
พชรถอนหายใจ.. ไม่อยากจะแปลความหมายของถ้อยคำและพฤติกรรมเหล่านั้น
ไม่ใช่คนโง่  ถึงจะไม่รู้อยู่แก่ใจ  ทว่า เขาไม่อาจปล่อยให้คำอธิบายกระจ่างชัดขึ้นมาได้มากไปกว่านี้
มิเช่นนั้น เหตุการณ์แบบเดียวกันกับเมื่อคืนนั้น คงได้เกิดขึ้นซ้ำ..
 
‘ไม่หยุด เรียกกูว่าม่อนก่อน เพราะกูชื่อม่.. อื้อ..’

ให้ตายสิ.. เกิดมายังไม่เคยฉวยโอกาส ข่มเหง หรือรังแกใคร
เขาอยากจะเตะตัวเองนักที่ทำแบบนั้นลงไป ..ทำไมแว่นแดงไม่ต่อยเขาสักหมัดนะ ไม่ต่อย แล้วสุดท้ายยัง..
พชรถอนหายใจยาวอีกครั้ง แล้วจึงลงมือไขกุญแจ มุ่งหน้าสู่ห้องนอนตนเองเพื่อผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเสียที

           ห้องนอนยังคงเหมือนเดิม..
แม้เขาไม่อยู่ แม่ที่เหน็ดเหนื่อยมาจากสวนก็ยังพอใจที่จะเข้ามาทำความสะอาดห้องเอาไว้ในระหว่างที่เขาพักอยู่หอของมหาวิทยาลัย
แม่ช่างแสนดีเหลือเกิน.. เป็นผู้หญิงที่มีน้ำอดน้ำทนและกล้าแกร่งที่สุดเท่าที่พชรเคยรู้จัก และเพราะแบบนั้น เขาจึงไม่อยากเห็นเธอมีความทุกข์  หากสิ่งใดจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของมารดา ..พชรก็อยากจะทำ

           ร่างสูงเปิดประตูระเบียงออกไปยืนมองสวนกว้างใหญ่ซึ่งฟากนี้มองเห็นต้นลำไยพันธุ์อีดอของตนเอง
บริเวณระเบียงไม้นั้นกว้างขวาง มีตู้เก็บเต้นท์ใหญ่แข็งแรงหลังหนึ่ง ซึ่งเป็นที่นอนของพชรในบางคืนที่อากาศดีและฟ้ากระจ่างพอที่จะมองเห็นดาว  ทั้งหมดที่นี่เป็นบ้านของเขา.. ต้นไม้ทุกต้น.. ดอกไม้ทุกดอก..
เป็นมาตั้งแต่ขนาดสวนเล็กกว่านี้กว่าสิบเท่า เป็นมาตั้งแต่ตัวบ้านยังเก่าทรุดโทรมและไม่มีเงินซ่อมแซม

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

            สาลี่ที่ปลูกในสวนคือพันธุ์ Yokoyama Wase ที่ไม่ได้ต้องการอากาศเย็นจัดมากเท่าพันธ์อื่นๆ และให้ผลผลิตดีที่สุดเท่าที่พชรทดลองปลูก
ร่างสูงก้าวยาวๆไปตามร่องสวน กิ่งสาลี่ที่ถูกโน้มลงมาขนานกับพื้นยึดไว้ด้วยคอกไม้ไผ่ทำให้ได้ผลผลิตมากกว่าที่จะปล่อยให้ต้นสูงขึ้นไปเรื่อยๆ
ตลอดตั้งแต่ช่วงสายที่ไปถึง พชรช่วยมารดาคุมคนงานเก็บสาลี่ เช่นเดียวกับที่ทำในสวนแอปเปิ้ลเมื่อคราวที่แล้ว และเช่นเดียวกับที่ทำในสวนลิ้นจี่เมื่อคราวที่แล้วก่อน..
ใบหน้าคมยิ้มพอใจน้อยๆ ขณะมองดูคนงานแกะถุงกระดาษห่อผลออก แล้วค่อยๆตัดขั้วผลออกจากต้น ก่อนจะนำไปแยกและบรรจุหีบห่ออย่างระมัดระวังเพื่อให้ผลผลิตปลอดสารพิษจากสวนนี้ถึงมือผู้บริโภคอย่างสมบูรณ์ที่สุด
สาลี่มีโรครบกวน โดยเฉพาะโรคราสนิม ทว่า พชรไม่อยากพ่นสารเคมี เขาเลือกหมักน้ำหมักจืดช่วยฆ่าเชื้อรา และให้ปุ๋ยอินทรีย์ เพื่อสร้างความแข็งแรงต้านทานโรคให้กับต้นไม้แทน
พชรไม่คิดว่าจะทนได้ หากต้องใช้สารเคมีที่ทำลายผืนดินอันเป็นมรดกจากตายาย และเป็นทรัพยากรหนึ่งของโลกใบนี้ซึ่งแท้จริงแล้ว เขาก็มิได้เป็นเจ้าของ..

           “เรียนมาเกือบสองเดือนแล้ว ปรัชญาเป็นยังไงบ้าง พชร?”
มารดาปาดเหงื่อออกพ้นหางคิ้ว นั่งลงพักเหนื่อยบ้างหลังจากวันอันยาวนาน
คนถูกถามพยักลำคอน้อยๆ แม้สีหน้ายังคงเรียบเฉย แต่ก็มีความผ่อนคลายในดวงตา
“ดีครับ เปลี่ยนจากใช้แรงกาย ไปใช้จิตวิญญาณบ้าง”
มารดาหัวเราะลั่นให้ลูกชาย “นึกว่าจะอึดอัดจนต้องหาเรื่องออกเหงื่อกลับมาบ้านทุกสองอาทิตย์”
พชรขำน้อยๆ “นอกจากนั้น ก็ไปช่วยพี่มิ่งที่คณะเกษตรฯบ่อยๆด้วยครับ”
มารดายิ่งขำใหญ่ “แล้วจะเรียนไหวหรือ ที่เรียนไปเข้าใจหรือเปล่า?”
“เข้าใจครับ พอใจด้วย ตรีให้ผมเรียนปรัชญาก่อนนะครับ เดี๋ยวโทผมค่อยเรียนเกษตรฯ”
มารดาพยักหน้า พชรเป็นผู้ใหญ่แล้ว การทำงานมาตั้งแต่เด็กทำให้เติบโตกว่าอายุ
ในเมื่อลูกชายตัดสินใจเลือกเสริมในสิ่งที่ตนเองขาด เธอก็เข้าใจและไม่คิดจะคัดค้านอะไร

          “แล้ว..” เสียงนุ่มค่อยๆเอ่ยขึ้น มองดวงตะวันคล้อยลงใกล้ลับเหลี่ยมเขา “พชรไปหาพ่อหรือยัง?”
คำถามนั้นทำให้ร่างสูงชะงัก สีหน้าไม่ได้สบายๆเหมือนตอนตอบเรื่องเรียน
“ยังเลยครับ”
ทั้งที่ก็ตั้งใจว่าจะไปตั้งแต่แรกถึงเชียงใหม่ แต่..
“แล้ว.. พชรคิดว่าจะไปหาพ่อเมื่อไหร่”
“ผม..” เสียงเข้มพยายามหาคำอธิบาย
“เพิ่งเข้ามหา’ลัย พชรต้องปรับตัว เรียนหนักด้วยสิใช่ไหม” มารดามองมาด้วยความอาทร

เรียนหนักไหม?
ไม่.. ไม่ได้หนัก
เป็นพชรเองต่างหากที่ขยันหาเรื่องหนักๆให้ตัวเองทำทุกวัน
หาเรื่องกลับหอค่ำๆ อยู่ในห้องก็เป็นต้องหยิบจับตำรับตำราอะไรสักอย่างมานั่งอ่าน นั่งศึกษา
ละความสนใจจากอะไร ..หรือใครที่อยู่ในห้องให้มากที่สุด

“ไม่เป็นไรหรอก” มือหยาบกร้านของเพชรลดาบีบไหล่ลูกชายเบาๆ
“เอาที่พชรสบายใจนะลูก อย่าให้-”
“ผมจะไปครับ” เสียงเข้มย้ำ
พชรไม่เคยผิดคำพูด ไม่เคยยอมแพ้กับอะไร และไม่คิดว่านี่จะเป็นข้อยกเว้น

ร่างสูงเมินมองไปทางอื่น ในใจคิดคำนึง
ความตั้งใจแรกทันทีที่ไปถึงเชียงใหม่ คือไปพบชายผู้นั้น..
แค่ไปพบ ไปแสดงตัว บอกว่าเป็นลูกใคร มารดาชื่ออะไร ..มันไม่ใช่เรื่องยากเย็น เมื่อเขาไม่ใช่บุรุษที่หวาดกลัวสิ่งใด
ทว่า พชรก็ไปหอพักก่อน หอพักซึ่งรายชื่อที่ติดอยู่ ณ โถงทางเข้าทำเอาแทบไม่เชื่อในโชคชะตา
เหนือชื่อตัวเองขึ้นไปหนึ่งชื่อ คือบุคคลที่ไม่อยากพบมากที่สุด

..หอพักชาย อาคาร ๓ ห้อง ๓๓๘..
ม่อนแจ่ม ประดิษฐาพงศ์
กวีกานต์ ทัศนศุภกฤษณ์
พชร เพชรหละปูน

และตั้งแต่วันนั้น.. เรื่องที่ควรจะง่ายก็กลับกลายเป็นยากขึ้นมาอย่างไม่รู้เหตุผล
ควรจะไปหาผู้ชาย ทว่า เขากลับไปหาผู้หญิง..

         “คุณคงเป็น.. คุณระมิงค์ ประดิษฐาพงศ์”
ไม่ถนัดหรอก การเล่นสงครามประสาทหรือการพยายามทำตัวเป็นผู้ร้าย
แต่ความจริงบางอย่างที่เพิ่งได้รู้ทำให้ตระหนักว่า ..คนบางควรสมควรได้รับ ..สมควรต้องตกใจบ้าง
ชดเชยหยาดน้ำตาและความทุกข์ยากของมารดาพชรตลอดเกือบยี่สิบปีมานี้

เด็กหนุ่มที่ดูไม่มีพิษภัย น่าสงสัยว่ามีธุระอะไรกัน
เพียงเพราะความประหลาดใจนั่นกระมัง จึงทำให้เธออนุญาตให้เข้าพบ 
ใบหน้าสวยชะงักนิดหนึ่ง เมื่อเห็นหน้า ทว่า ความประหลาดใจมีมากกว่า

“เราเป็นใคร แล้วมีธุระอะไรกับฉัน?”
“ผม.. ชื่อพชรครับ” ไม่ยกมือไหว้ เสียงเข้มเพียงแนะนำตัว
“ฉันรู้จักหรือ?”
พชรหัวเราะเสียงเย็นในลำคอ “ไม่หรอกครับ”
ระมิงค์ส่ายหน้างงๆ ตั้งท่าจะกดโทรศัพท์ให้เลขาฯพาตัวออกไป แต่เสียงเข้มจากคนอาวุโสน้อยกว่าดังสวนขึ้น
“คุณแม่ผมชื่อเพชรลดาครับ..”
เป็นมือขาวที่ถือโทรศัพท์ค้าง “เพชร พ..เพชรลดาไหน?”
พชรไม่ตอบคำถาม แต่กลับพูดเรื่องอื่น
“ใครๆก็ว่าผมหน้าไม่เหมือนแม่ ผมเองก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าผมเหมือนใคร เพราะตั้งแต่เกิดมา ผมก็รู้จักแต่แม่”
เสียงเข้มพยายามพูดยาวๆ ในแบบที่ไม่ใคร่จะถนัดนักหรอก ทว่า วันนี้ ดวงตาสีเข้มจ้องมองผู้หญิงตรงหน้าเขม็ง
พูดให้เธอได้ยินเขาอย่างชัดเจนทุกถ้อยคำ อยากให้ทราบ ว่าเขาไม่ชอบพูดอะไรยาวๆ  แต่เขา--พชร ยืนอยู่ที่นี่ ตรงนี้ กำลังพูดกับเธอ
“ว่าแต่.. ผมพอจะหน้าเหมือนใครที่คุณระมิงค์รู้จักหรือเปล่าครับ?”

ระมิงค์แทบทรุด ไม่ ..ไม่จริง
มือแกร่งของคนอาวุโสน้อยกว่าวางหนังสือพิมพ์คนเมืองนิวส์ลงบนโต๊ะ
ที่อยู่บนหน้าแรกคือตัวเธอขนาบด้วยสามีและลูกชายในงานแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
“ดูครอบครัวอบอุ่นดีนะครับ..” พชรให้ความเห็น
“ต้องการอะไร?” ระมิงค์กลืนน้ำลาย “เงินเหรอ?”
เงิน..
คำนั้นทำให้พชรแค่นหัวเราะเชือดเชือน มือแกร่งล้วงหยิบกระดาษแผ่นเล็กเก่าเก็บ เหลืองหม่นเพราะกาลเวลา ทว่า ยังอยู่ในสภาพดีขึ้นมาหนีบไว้ระหว่างนิ้วกลางและนิ้วชี้
“เศษเงินของคุณอีกหรือครับ?”

คราวนี้ ระมิงค์ทรุดจริงๆ
เช็ค.. เช็คเนื้อกระดาษสีครีมระบุตัวเลขหนึ่งแสนพร้อมลายเซ็นต์ของบิดาใบนั้น ทำไมถึงยังอยู่ ..มันไม่ถูกขึ้นเงินหรือ
ทำไมฝ่ายบัญชีไม่แจ้งเรื่องนี้..

“ผมให้โอกาสคุณ” ร่างสูงยืนตระหง่านอยู่ตรงหน้าสาวใหญ่
“สารภาพเองซะ ก่อนที่ผมจะเป็นคนไปบอกเขา”
ระมิงค์นิ่งอึ้ง นึกว่าเวลาผ่านจนกรรมจะจากไปตลอดกาล ทว่า ที่สุด มันก็ตามมาทันจนได้
ช้า.. แต่ก็มา และมาอยู่ตรงหน้าแล้วในตอนนี้ ..เด็กหนุ่มนาม ‘พชร’
เด็กหนุ่มที่เพียงแค่มองแววตา เธอก็รู้ว่าเขาเอาจริง..

“ฉ..ฉันไม่รู้เรื่อง..”
ระมิงค์พยายามหยัดตัวลุกขึ้น ไม่รู้.. เธอไม่ต้องการรู้เรื่อง
“คุณไม่รู้หรือครับ” เสียงเข้มนั้นถามซ้ำ
“ขับไล่ภรรยาที่อุ้มท้องลูกของคนที่คุณจะแต่งงานด้วย พูดจาดูถูก ใช้เศษเงินฟาดหัว ..เรื่องนี้คุณไม่รู้หรือครับ”
พชรเลิกคิ้ว
“ถ้าอย่างนั้น ผมขอบอกอีกเรื่องหนึ่ง บางทีเรื่องนี้ คุณอาจจะรู้บ้าง”
ดวงตาสีดำสนิทจ้องมองเธอตาไม่กระพริบ เอ่ยสั้นๆ แต่ชัดเจนเพียงคำเดียว “.........”


. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

           “เดี๋ยวช่วงรับปริญญามาช่วยอีกนะ แรงดีจริงๆ”
ลุงคนสวนแห่งหอสามชายหัวเราะหึหึ เอ่ยทีเล่นทีจริงกับเด็กหนุ่มรูปร่างกำยำที่กระวีกระวาดช่วยลงต้นไม้
“ถ้าว่างก็.. ด้วยความยินดีครับ” พชรตอบรับแบบไม่ผูกมัดตัวเอง สองมือแข็งแรงขุดดินและลงไม้ประดับอีกต้น ตามโครงการปรับสภาพภูมิทัศน์ของหอ เคยช่วยลงผลไม้มาไม่รู้กี่สิบไร่ แค่นี้เล็กน้อยมากสำหรับพชร

          “อ้าว พชร แปลงร่างไปอยู่คณะเกษตรฯแล้วหรือ?”
หน้าคมเงยขึ้นตามเสียงเรียก จึงเห็นว่าเป็นถ้อยคำที่มาจาก ‘ไอหมอก’ คนรักของรูมเมทสิ่งแวดล้อม
และที่เคียงมาก็ไม่ใช่ใครอื่น สองเกลอวิศวฯเจ้าเก่า ไอดิล และ.. ‘ม่อนแจ่มแห่งวิศวฯ เครื่องกล’ ผู้ซึ่งทำให้พชรอยากจะบ้าตายกับเจ้าตัวอยู่ทุกๆวัน

            “วันนี้พอแค่นี้ เสร็จแล้วล่ะ หนุ่มเอ๊ย ขอบใจมาก!”
เสร็จแล้วหรือครับ..
พชรไม่อยากให้เป็นแบบนั้น เขามองหน้าคุณลุงจ่อม อยากจะทำต่อไปอีกโซนและอีกสักโซน
ทำยังไงก็ได้ให้ไม่ต้องลุกขึ้นล้างไม้ล้างมือและไม่ต้องให้รูมเมทเดินมาหา   

           ร่างสูงนั่งลงพักเหนื่อยบนม้าหินอ่อนใต้หอ ไอหมอกนั่งลงบ้าง ตามด้วยไอดิลและเครื่องกล
สามสายตามองเขาเป็นตาเดียว มันทำให้พชรอึดอัด เขาไม่ค่อยสันทัดในการอยู่ร่วมกับคนหรือการถูกสายตาจับจ้องเช่นนี้
ทว่า ก็เป็นไอหมอกที่มองไปทางอื่นราวกับอ่านสถานการณ์ออก เอ่ยขึ้นเล่นๆ ชวนคุย ผูกมิตรทำให้รู้สึกผ่อนคลาย
“วันก่อนไปเรียนเคมีการเกษตร ยังเห็นพชรขนซังข้าวโพดอยู่ที่แปลงเลยนะ แต่รีบ ก็เลยไม่ทันไปทัก”
งั้นหรือ?
พชรพยักหน้ารับไอหมอก นึกถึงมิ่งเมือง เพื่อนรุ่นพี่จากลำพูนที่ชวนเข้าพวกเกษตรฯแทบตลอดเวลา

“ชอบเกษตร ทำไม่เรียนคณะเกษตรฯเสียเลยล่ะ พชร” ไอหมอกพยายามทำความรู้จัก
“อืม..” หนุ่มปรัชญาใคร่ครวญหาคำพูด
ไอหมอกเป็นคนที่น่าคบและน่าคุยด้วย พชรไม่ค่อยรู้สึกเช่นนี้กับใครนัก แต่คนรักของรูมเมทสิ่งแวดล้อมนั้นต่างออกไป
ไอดิลร่าเริงและเป็นมิตรก็จริง ทว่า รู้สึกจะร่าเริงเกินไปจนคุยด้วยลำบากในบางครั้ง
ส่วนเครื่องกล.. พชรไม่มีความเห็นอะไรให้ นอกเสียจากว่า ถ้าไม่ต้องพบเจอหรือไม่ต้องอยู่ห้องเดียวกัน จะดีกับเขากว่านี้มาก

“พอดี.. ที่บ้านเป็นสวน” เสียงเข้มพยายามเรียบเรียงคำพูด
“อยู่กับการเกษตรมาตั้งแต่เด็ก แม่ชอบบอกว่า อืม.. อยู่แต่กับต้นไม้ ไม่ค่อยคุยกับคน”
ไอหมอกถึงกับยิ้มเมื่อได้ฟัง พชรเองก็อดจะยิ้มน้อยๆตอบไม่ได้เมื่อนึกถึงตนเอง
“อืม.. ก็เลยลองเรียนปรัชญา เผื่อจะได้มองอะไรกว้างขึ้น เข้าใจตัวเองมากขึ้น และ..คุยกับคนอื่นรู้เรื่อง”

พชร..
ไอดิลมองรูมเมทหนุ่มอย่างพินิจพิจารณา
อะไรทำให้มึงคิดว่าการเรียนปรัชญาจะทำให้พูดกับชาวบ้านรู้เรื่อง?
กูขอแนะนำให้รู้จักกับ ‘พ่อน่ารัก’ ผู้ซึ่งเขียนเป็นอย่างเดียวเลย แต่พูดไม่รู้เรื่อง (ฟังคนอื่นก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกัน)
พ่อน่ารัก..ซึ่งถือหมอนข้างไปเฝ้ายามที่หน้าต่างห้องกูเพราะคิดว่าไอ้หมอกปีนเข้ามาปล้ำกู (กูพยายามบอกพ่อแล้ว ว่าหมอกแค่จูบ แต่พ่อไม่ฟังเลย)
กูขอย้ำอีกครั้งนะพชร พ่อกูถือหมอนข้างเป็นอาวุธ!

“เมื่อกี้บอกว่าที่บ้านทำสวนหรือ พชร?” ไอหมอกถามซ้ำ คนถูกถามจึงพยักหน้ารับ “อืม สวนผลไม้”
“ปลูกอะไรบ้างหรือ?” หนุ่มวิทยาฯ เคมีถามอีก พชรโคลงศีรษะนึก
“ก็.. ลำไย แอปเปิ้ล ลิ้นจี่ ..อืม สาลี่”
“อ่าฮะ”
“สามเดือนที่แล้วเพิ่งลงลูกพลับ”
“เยี่ยม!” ไอหมอกชื่นชม “ก็ช่วยพ่อแม่ทำสวนมาตั้งแต่เด็กเลยสิ”
คำถามนั้นทำให้ชะงักไปนิดหนึ่ง สีหน้าคนตอบเฉยชาลงทันที “ใช่ แต่.. แค่แม่”
อะไรบางอย่างในน้ำเสียงทำให้ไอหมอกไม่ถามต่อ แต่พูดเรื่องอื่นแทน
“มิน่า แข็งแรง กำยำเสียขนาดนี้” ขนาดไอหมอกเป็นนักกีฬา แต่เรื่องรูปร่างสูงใหญ่ต้องยกให้พชรจริงๆ

“เล่นงัดข้อกัน!”
จู่ๆ ไอดิลคนขี้เล่นก็เอ่ยชวน เมื่อคิดกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์ระหว่างตนแอนด์เดอะแก๊งค์กับพชรออกในที่สุด
“งัดข้อ?” พชรเลิกคิ้ว เหล่มองรูมเมทสิ่งแวดล้อม
“ใช่ไง ก็เนี่ย สลับกันทีละคู่ ดูว่าใครเป็นจ้าวแห่งการงัดข้อ” ไอดิลอธิบาย พลางจินตนาการไปเองว่าทุกคนเห็นชอบกับเขา
“เข้าใจแล้วนะ มาหมอก กูกับมึงเริ่มก่อน!”
ไอหมอกส่ายหัวน้อยๆ มองไอดิลยิ้มๆ
“ไม่ต้องมายิ้ม!” ไอดิลสวนทันควัน ประกาศเจตนารมณ์ดังลั่นไปทั้งโต๊ะ
“ไม่ต้องออมมือเด็ดขาดนะ ถ้าจะชนะ กูก็ต้องการชนะอย่างใสสะอาด ถ้าจะแพ้ กูก็ต้องการแพ้อย่างสมศักดิ์ศรี!”
เอ่อ.. โอเค ไอหมอกกลั้นหัวเราะ มึงก็คงได้แพ้อย่างสมศักดิ์ศรีนั่นแหละครับดิ้ล
สองคนมองหน้ากัน แล้วจึงวางศอกขวาข้างถนัดลงบนโต๊ะ ฝ่ามือทั้งสองประสานและกดนิ้วบีบมืออีกฝ่ายไว้
“สาม สอง..” ม่อนแจ่มให้สัญญาณ “หนึ่ง!”

“ฮึ่ม!” ไอดิลพ่นเสียงจากลำคอเพื่อเสริมสร้างกำลังให้ตนเอง
ไอหมอกขำน้อยๆ กับความพยายามดันมือเขาทั้งที่เรี่ยวแรงผิดกันลิบลับ
ไอดิลพยายามดันและไอหมอกก็เพียงเกร็งเล็กน้อยเพื่อต้านมือเล็กเอาไว้ด้วยทีท่าสบายๆ
ไม่ได้ดันกลับ แค่เพียงต้านไว้อย่างนั้น..

.

.

“หมอก!” คนที่ไม่มีวันชนะเอ่ยขึ้นอย่างอดรนทนไม่ไหว “จะทำอะไรก็ทำ กูเมื่อยแล้ว!”
ฮ่ะๆ สิ้นสุดประโยคอนุญาตนั้น ไอหมอกก็กดมือคนรักลงกับโต๊ะได้อย่างเบามือที่สุด 
ไอดิลหน้ามุ่ย หันไปเล่นงานคู่ซี๊ “ไอ้ม่อน มึงมาเลย มากับกูก่อน!”
คนแพ้ท้าทาย มั่นใจว่าในโต๊ะนี้ ถ้าจะชนะใครสักคนได้ คนนั้นก็คือม่อนแจ่มคนเดียวนั่นแหละ
“ฮึ่ย!” ร่างเล็กสุดถลึงตาใส่ ด้วยไม่เคยมีประวัติในชีวิตว่างัดข้อชนะใคร
แล้วก็เป็นเช่นนั้น.. ม่อนแจ่มแพ้ไอดิลภายในสิบวินาที
“โอ้ววว กูชนะไอ้ม่อน!” หนุ่มวิศวฯสิ่งแวดล้อมลั้ลลา “พชรมา กูกำลังฮึกเหิม!!”
พชรเหล่มองไอหมอกเป็นเชิงขออนุญาต อีกฝ่ายพยักหน้าสบายๆ
Whatever will be, will be ครับพชร

.

.

ไม่ได้ผิดคาด..
ไอดิลชนะได้เพียงคนเดียวคือม่อนแจ่ม เพราะแพ้เรียบร้อยแล้วทั้งไอหมอก ทั้งพชร
“ฮึ่ย” เขาเบ้หน้า “หมอกกับไอ้ม่อนก่อน เร็วๆ”
ไอหมอกถอนใจน้อยๆ กระซิบใส่หูคนรัก ด้วยรู้ทันฉากที่พยายามจัด “ทีตอนเรื่องตัวเอง ไม่เห็นฉลาดอย่างนี้”
ร่างเล็กยักไหล่ ลอบยิ้มน้อยๆ ก่อนที่ไม่กี่วินาทีให้หลัง ไอหมอกก็เอาชนะม่อนแจ่มได้ง่ายๆตามคาด..

“เอ้า ชนะต่อชนะ” ไอดิลมองสองร่างสูง “พชรกับหมอก เร็วๆ สาม สอง หนึ่ง!”
ให้สัญญาณ พลางกระซิบใส่หูรูมเมทเครื่องกล  “..เชียร์ใครครับม่อน?”
“กวนตีน”
“ตอบว่าเชียร์หมอกก่อนสิ แล้วกูจะเลิกกวน” ไอดิลยิ้มยั่ว ทำหน้าตาฉลาด
ไอหมอกเหล่มองขำๆ เพราะคนรักกระซิบแบบไม่ได้สนใจจะเบาเสียงหรือระวังไม่ให้ได้ยินเลยแม้แต่น้อย
พชรเองก็ทำหน้าไม่ถูก ด้วยไม่แน่ใจนัก ..ว่าอยากได้ยินคำตอบ
“ว่าไงม่อนนน..” ไอดิลลากเสียงยาว
“ไอ้ดิ้ล! กูหงุดหงิดมึงแล้วนะ” ม่อนแจ่มหน้าแดง ว้ากตอบเบาๆ “กูเชียร์พชร.. สัด..”

เจ้าของชื่อลอบถอนหายใจน้อยๆ
ไปหยิบมีดมาแทงกูให้ตายเลยไปแว่นแดง มึงพูด ..พูดอะไรของมึง?

แล้วก็เป็นพชรที่เอาชนะได้ไม่ยากเย็น..
ไอดิลหน้ามุ่ย แต่ไอหมอกยิ้มๆ ไม่ได้หงุดหงิดที่แพ้ พชรแข็งแรงกว่าเขา ไม่มีประโยชน์ที่จะปฏิเสธ
ถึงแม้เขาจะเป็นนักกีฬาแต่ก็ใช้เท้าเตะ ส่วนพชรนั้นใช้สองมือทำสวนมาตั้งแต่เด็ก ผิดกันไกล
และในที่สุด.. ไอดิลจึงลอบยิ้มชั่วร้าย

“พชร สุดท้ายละ”
ไอดิลกระแทกไหล่ม่อนแจ่มอีกครั้ง จัดการย้ายที่ ดันร่างเล็กเครื่องกลให้มานั่งตรงข้ามรูมเมทปรัชญา
“พร้อมนะครับม่อน”
“สัด!” ม่อนแจ่มตอบเพียงแค่นั้น หน้าขาวขึ้นสีจางๆ

สองมือที่ต่างขนาดอย่างมีนัยยะสำคัญค่อยๆสัมผัสกัน..
ฝ่ามือประกบ ปลายนิ้วบีบเข้ากับฝ่ามืออีกฝ่าย ศอกตั้งชิดโต๊ะม้าหินอ่อน ดวงตาสองคู่ประสานกัน
ม่อนแจ่มไม่หลบสายตาและเป็นพชรอีกเหมือนเคยที่เสมองไปทางอื่น
“สาม.. สอง..” ไอดิลให้สัญญาณ “หนึ่ง!”

พยายาม..
พชรพยายามแล้วที่จะบีบมือคู่แข่งเอาไว้ แล้วกดลงกับโต๊ะ เหมือนที่เคยทำมานับครั้งไม่ถ้วน
อย่างที่บอก ..พชรเป็นคนแข็งแรง เขารู้จักกำลัง รู้จักร่างกายของตัวเองดี โดยเฉพาะมือ ..เขาไม่เคยพ่ายแพ้ในการงัดข้อ
ทว่า..
พชรแพ้ม่อนแจ่ม

ไอดิลและไอหมอกเบิ่งตาค้าง เมื่อเป็นมือขาวเรียวเล็กที่กดมือสีน้ำตาลแกร่งลงกับโต๊ะ

ม่อนแจ่มเองก็ตกตะลึง ได้แต่มองมือตัวเอง..
สัมผัสสากด้านที่เต็มไปด้วยความนุ่มนวลจากฝ่ามืออีกคนยังอุ่นอวลอยู่
เขาชนะ.. ได้ยังไงไม่รู้ แต่ชนะ..
หลังสิ้นเสียงสัญญาณ เขาก็แค่พยายามกดมืออีกฝ่ายลง เหมือนตอนพยายามกดมือไอดิลและกดมือไอหมอก
แตกต่างกันที่.. มือของพชรไม่มีแรงต้านเลยแม้แต่น้อย ..นั่นทำให้นี่เป็นครั้งแรกที่ม่อนแจ่มเอาชนะใครสักคนได้ในการงัดข้อ

“ไว้เจอกันนะ อยากอาบน้ำเต็มทีแล้ว”
ร่างสูงละมือออก ลุกขึ้นยืน และเอ่ยลาเร็วๆ ความรู้สึกในใจจุกแน่นจนแทบจะแสดงออกมาทางสายตา

พชรไม่ได้ออมมือ ..เปล่าจริงๆ
ไม่เคยงัดข้อแพ้ใครมาก่อน แต่สัมผัสมือเรียว บอบบาง นุ่มเนียนคู่นั้นแล้ว แทบไม่อยากกำรุนแรง
ไม่อยากทำให้แดงช้ำ หรือเป็นริ้วรอยแม้แต่สักนิด

เขาทำไม่ได้..
บีบแน่นก็ไม่ได้ คว้าลงมากดทาบกับโต๊ะ ..ยิ่งไม่ได้
รู้แค่ว่าไม่ได้ และไม่ต้องการถามใจตัวเองด้วย ..ว่ามันเป็นเพราะอะไร

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

ขอบคุณทุกการติดตามเช่นเคย ขอบคุณทุกรีฯ ทุกการเปิด ทุกสิ่งอย่างครับ พบกันตอนหน้า ขอให้นี่เป็นเช้าที่ดีครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-05-2016 08:17:21 โดย INDY-POET »

ออฟไลน์ diltosscap

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
Re: SWEET SURRENDER 21/5/59 CH.9 Lost & Won P.3
«ตอบ #83 เมื่อ21-05-2016 08:51:40 »

สงสารพชรเรื่องพ่อ ไม่รู้สาเหตุ ไม่รู้เหตุผล ว่าทำไม

ชอบอ่านพาร์ทของพชร เพราะเป็นคนไม่พูดถ้าไม่มีพาร์ทพชร ก็ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ ตอนนี้พชรน่ารัก รู้สึกอบอุ่นไปกับม่อนด้วย ความสัมพันธ์ของพชรกับม่อนไม่ต้องรีบไปช้าๆ แบบนี้มันดี มันน่ารัก มันมีอมยิ้ม

ดีใจที่มาต่อให้นะคะ ความรู้สึกบางตอนอาจจะสั้นบ้าง(เนื่องจากมันสนุกให้ยาวแค่ไหนความรู้สึกก็สั้นอยู่ดี555) แค่มาต่อให้ก็ขอบคุณแล้วค่ะ รอตอนต่อไปนะคะ รอของรักของปรัชญากับเครื่องกลนะคะ

ออฟไลน์ rujaya

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +377/-1
Re: SWEET SURRENDER 21/5/59 CH.9 Lost & Won P.3
«ตอบ #84 เมื่อ21-05-2016 08:57:57 »

พชรกะม่อนเป็นพี่น้องคนละแม่กันหรอ o22

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
Re: SWEET SURRENDER 21/5/59 CH.9 Lost & Won P.3
«ตอบ #85 เมื่อ21-05-2016 09:02:47 »

น่ารักกกก

ออฟไลน์ Grey Twilight

  • Moderator
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 392
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-17
Re: SWEET SURRENDER 21/5/59 CH.9 Lost & Won P.3
«ตอบ #86 เมื่อ21-05-2016 11:50:32 »

อ่านบทนี้จบ ชัดแจ้งขึ้นมาในทันทีทันใดเลยครับ ว่าทำไมคุณคนแต่งถึงใช้ชื่อเรื่องว่า Sweet Surrender

มีแต่คำชมให้นะครับ แต่เดี๋ยวขอมาวิเคราะห์กันก่อน

พชร(หรือเพชร) น่าจะเป็นตัวดำเนินเรื่องหลักที่มีผลกระทบมากที่สุดครับ ผมคิดว่าพชรถูกความโกรธครอบงำนะ พชรคงรู้เรื่องมาตั้งแต่แรกแล้วสำหรับเรื่องของครอบครัวคุณพจน์ และคงจะฝังใจพอสมควรว่าคุณระมิงค์คือผู้ร้ายบริสุทธิ์ ดังนั้นลูกของเธอก็คงต้องหยิ่งผยอง เหลี่ยมจัด ร้ายไม่ต่างกับแม่ แต่เมื่อมาเจอกับม่อนแจ่ม ทุกอย่างมันตรงกันข้ามกันหมด ทำให้พชรประหลาดใจครับ และอย่างพชรที่อยู่กับความลำบากและหลุมในใจมานาน เขาเครียดกับตัวเองจนชิน พอมาเจอม่อนแจ่ม มันเหมือนเจอสิ่งที่ทำให้เขาผ่อนคลาย ทำให้เขาได้ปลดภาระหนักๆออก มันเหมือนสิ่งที่ทำให้เขาอ่อนไหวและอยากปกป้อง

แต่นั่นคงไม่ทำให้ส่วนลึกของพชรชอบใจมากนักครับ เขายึดติดกับความโกรธ เขายึดติดกับความลำบากของแม่(ซึ่งก็ไม่ได้ผิด) เขาคิดว่าทำไมคนที่ทิ้งแม่ของเขาไปถึงต้องมีชีวิตครอบครัวสุขสันต์ด้วย และด้วยความโกรธนี่เอง ทำให้เพชรตัดสินใจว่าจะบอกคุณแม่ของม่อนแจ่มแทนที่จะไปหาคุณพ่อของม่อนแจ่มครับ ซึ่งนี่ล่ะ แม้ว่ามันจะไม่ได้เป็นการกระทำที่ผิด แต่มันจะสร้างความแตกร้าวให้ความสัมพันธ์ของเขากับม่อนแจ่มในระดับหนึ่งเลยทีเดียวครับ

เมื่อพชรตัดสินใจไปหาคุณระมิงค์ มันทำให้สิ่งที่เธอทำในอดีตทั้งหมดตีกลับมา แล้วเท่าที่ผมวิเคราะห์ดู คุณหญิงระมิงค์ตอนนี้ก็ไม่ได้เลวร้ายนักนะครับ อาจจะเพราะความรักที่มีให้ม่อนแจ่ม และความน่ารักของม่อนแจ่ม ทำให้เธอดีขึ้นมา ดังนั้น เมื่อพชรเสนอทางเลือกให้เธอ ผมคิดว่าระมิงค์จะเลือกทางเลือกสารภาพนะครับ และเธอคงเตรียมรับผลลัพธ์ไว้ระดับนึงด้วย (กรณีที่นี่เป็นนิยายครอบครัว ไม่ใช่นิยายทั่วไปที่จะมีตัวดีกลายเป็นตัวร้ายสุดๆในภายหลังน่ะนะครับ)

ดังนั้น สิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อระมิงค์สารภาพมีสองอย่าง ซึ่งไม่ได้ดีต่อพชรเลยทั้งคู่

อย่างแรกเลยคือคุณพจน์ น่าจะไม่รีรอที่จะกลับไปหาภรรยาเก่า(ในทางพฤตินัย) อันนี้ผมเดาจากความไม่สนิทสนมกับลูกชาย เพราะเราสังเกตได้ว่าม่อนแจ่มไม่ค่อยกล้าที่จะคุยกับบิดาสักเท่าไหร่ ซึ่งตรงนี้ยังไม่รู้ว่าจะหัวก้อยยังไงต่อไปนะครับ แต่ที่รู้ๆคือ ถ้าคุณพจน์กลับไป มันจะส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของลูก(ม่อนแจ่ม) หนักกว่าพชรแน่นอน เพราะม่อนแจ่มรักพ่อมากกว่าพชร เขาเติบโตมาโดยมีพ่อเป็นไอดอล ดังนั้นการที่ไอดอลทรยศเขา มันจะทำให้สภาพจิตใจของม่อนแจ่มเลวร้ายลง และจากเท่าที่ผมสังเกต นิสัยแบบม่อนแจ่มจะเก็บครับ ถ้าเขาเสียใจและระบายไม่ได้ เขาจะเก็บ ซึ่งนี่เป็นสิ่งอันตราย เพราะมันเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิด 'อาการซึมเศร้า'

อย่างที่สอง คือเมื่อคุณระมิงค์สารภาพ แน่นอนว่ามันต้องเกิดการทะเลาะกันแน่นอน และคุณระมิงค์ก็คงจะเสียใจมาก ซึ่งถ้าม่อนแจ่มรู้ คราวนี้ละครับ ระเบิดลงแน่ ถึงม่อนแจ่มจะชอบพชรขนาดไหนก็เถอะครับ ความรักแบบวาบหวิววาบหวาม กับความรักกตัญญูมันเทียบกันไม่ได้ ยิ่งถ้าเกิดม่อนแจ่มรู้ว่าคนที่ตัวเองชอบเป็นคนที่ทำให้แม่ตัวเองต้องเสียใจ (ถึงเรื่องที่เกิด แม่เขาอาจจะผิดจริงๆ และเกิดในอดีตก็เถอะครับ) คงไม่แปลกที่ม่อนแจ่มจะกล้า 'ตัด' พชรออกไปจากชีวิต

ทำไม? เพราะว่าเด็กผู้ชายส่วนมากรักแม่ตัวเองครับ รักแบบฝังลึกมากเสียด้วย ยิ่งกับเด็กคาแรกเตอร์แบบม่อนแจ่ม นี่เป็นความสัมพันธ์เชิงจิตวิญญาณอันหนึ่งที่ผมยอมรับเลย และเป็นเรื่องที่แม้แต่วิทยาศาสตร์ก็อธิบายไม่ได้ แม้จะมีในบางเคสของแม่กระทำทำร้ายลูกตัวเอง แต่ลูกชายทุกคนส่วนมากก็จะยังคอยดูแลและมีความรักในใจให้แม่เสมอ ขณะที่เด็กที่เป็นลูกสาวจะมี reaction ที่ไม่รุนแรงเทียบเท่า(แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่รักนะครับ)

ในทางจิตวิทยา เปเปอร์ทางตะวันออกบางส่วนอ้างว่าเป็นเพราะความแตกต่างของเพศเป็นนัยยะสำคัญครับ คือ เมื่อผู้หญิงอุ้มท้องแล้วรู้ว่าลูกเป็นเด็กผู้ชาย เนื่องจากเป็นความแตกต่างของเพศที่ผู้หญิงไม่รู้จักการรับมือมาก่อน เพศหญิงจะงุนงงและพยายามดูแลให้มากที่สุด เพราะเค้าไม่รู้ว่าจะจัดการยังไง จึงคิดว่าต้องเข้าใจให้มากที่สุด ต้องให้ความรักให้มากที่สุด เพื่อที่เธอจะได้เข้าใจลูกได้ และสำหรับเด็กทารก action = reaction ครับ ยิ่งรักไปมากเท่าไหร่ เค้ายิ่งรักและผูกพันกับเราตอบมากเท่านั้น

ส่วนมากเด็กผู้ชายถ้ารู้ว่าใครทำให้แม่ตัวเองเสียใจล่ะก็ ผมเห็นกล้าบุกน้ำลุยไฟทุกราย

คาแรกเตอร์ของม่อนแจ่มคือเด็กที่ร่าเริง สดใส คุยสนุก และผมรับรู้ได้ว่าเค้ารักพ่อกับแม่ตัวเองพอสมควรครับ  ผมเห็นว่าเค้าเป็นคนกล้าทำอะไรทำจริง คือกล้าจริงและตัดจริง เช่น ยอมทิ้งชีวิตลูกคุณหนูเพื่อลองใช้ชีวิตธรรมดาๆที่มหาลัย ดังนั้นการที่แม้เขาจะชอบพชรมาก จนถึงขั้นอาจจะรัก แต่ถ้าเกิดเห็นว่าคุณระมิงค์เสียใจ ผมว่าเค้ากล้าได้กล้าเสียนะครับ แม้จะต้องควั่นหัวใจตัวเองออกก็เถอะ

ทีนี้ละ คนที่จะทรมานจะไม่ใช่ม่อนแจ่ม แต่เป็นพชรเอง เพราะการกระทำของพชรมันส่งผลกระทบต่อตัวเขาเองโดยตรง มันปฏิเสธไม่ได้ครับ มองในมุมของพชร การกระทำนี้อาจจะเป็นการ 'กตัญญู' ต่อมารดาของตัวเอง เพราะเขาคิดว่ามารดาคงจะรู้สึกดีด้วย แต่ผมคิดว่ามันไม่ใช่ครับ แม้จะปรากฏตัวมาสองสามบรรทัด แต่ผมรู้สึกว่าแม่ของพชรปล่อยเรื่องนี้ไปตั้งนานแล้ว

ดังนั้น การที่เราทำร้ายความรู้สึกคนอื่น แต่เพื่อความสะใจของตัวเอง ไม่ใช่เพื่อการ 'ปกป้อง' ความรู้สึกของคนสำคัญ มันไม่ใช่การกตัญญูครับ มันเป็นแค่ความเห็นแก่ตัว เพราะครอบครัวที่แตกสลายไปแล้ว กลับมารวมกันมันไม่ง่ายนัก และอาจเป็นไปไม่ได้ด้วยซ้ำ ซึ่งสำหรับเด็กอย่างม่อนแจ่ม การที่ครอบครัวแตกสลายไปในอายุเท่านี้ มันทำให้จิตใจเขา ที่ถูก 'ความอบอุ่น' หล่อหลอมมาตลอดตั้งแต่เด็ก ถูกปฏิเสธอย่างรุนแรงครับ ม่อนแจ่มจะคิดอัตโนมัติเลยว่า 'ความรัก' ไม่จีรัง 'ความอบอุ่น' ไม่มีอยู่แท้จริง เขาจะกลายเป็นคนที่ถูกโลกทำร้าย ...การเห็นเด็กเป็นแบบนี้นี่ไม่สนุกครับ

ต่อมาคือส่วนชม คุณคนเขียนเขียนได้ดีครับ ทุกบรรทัดเวิร์คมาก คุณพ่อคุณแม่ม่อนแจ่มโผล่มาสองพารากราฟ แต่ผมเก็ตอินเนอร์หมด คุณแม่พชรโผล่มาสองสามบรรทัดแต่ผมเก็ตเหมือนกัน แสดงว่าโดยรวมถือว่าทำได้ดีมากครับ ปูพล็อตได้ดีมาก ดึงอารมณ์ตัวละครออกมาได้ชัดเจน ตัวละครเริ่มจากมีปริศนา แล้วเฉลยให้ดูมีมิติ

สำหรับการบรรยาย มีตินิดหน่อยครับ คือ มันมีการบรรยายบางส่วนของไอดิลที่ผมเข้าใจว่าพยายามจะโยงให้ตัวละครมีมิติจากพล็อตเรื่องเก่า กับการพยายามแบ่งบทให้หมอกกับไอดิลเพื่อจะได้ตัวละครไม่ดูจม ซึ่งทั้งสองอย่าง พอมันมารวมกับเนื้อหาหนึ่งตอนที่มันไม่ยาว มันทำให้เหมือนบางครั้งอัดลงจนโทนเรื่องดูขาดๆไปหน่อยครับ

ที่น่าสนใจมากคือ เรื่องจะจบยังไงให้มันดูดี การที่ถ้าครอบครัวของม่อนแจ่มแตกลง สำหรับผมถือเป็น breakpoint หนึ่งของเรื่องเลยนะครับ ถ้าเกิดเรื่องนี้ขึ้น เราคงไม่ต้องมาพูดเรื่องการคบกันของม่อนแจ่มกับพชรแล้ว เพราะมันหวนคืนได้ยากมากๆ และพชรคงไม่มีปัญญาไปหาครอบครัวมาคืนม่อนแจ่มได้ แต่ถ้าไม่ให้ครอบครัวแตกสลาย แสดงว่าความสัมพันธ์ในครอบครัวคงจะแน่นแฟ้นพอสมควร (ซึ่งจากที่เห็น ผมว่าม่อนแจ่มยังไม่ถึงขั้นที่จะดึงพ่อกับแม่ให้กลับอยู่ด้วยกันได้นะ แต่อาจต้องรอดูต่อไปว่าพชรกับม่อนแจ่มนี่จะยังไงต่อไป)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-05-2016 11:54:35 โดย Grey Twilight »

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
Re: SWEET SURRENDER 21/5/59 CH.9 Lost & Won P.3
«ตอบ #87 เมื่อ21-05-2016 13:48:03 »

เจอปมแรกระหว่านหนูม่อนแว่นแดงกับพชรปรัชญา. หนักหน่วงมากจะมีปมอื่นแทรกมาอีกหรือเปล่าเนี้ย :mew5:

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
Re: SWEET SURRENDER 21/5/59 CH.9 Lost & Won P.3
«ตอบ #88 เมื่อ21-05-2016 14:43:29 »

ปมเรื่องที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็ซับซ้อนจนแกะไม่ออกอยู่แล้ว
งั้นขอเดาว่าทั้งคู่ไม่ได้เป็นพี่น้องกัน ไม่งั้นคงจบแบบสวยๆ ไม่ได้
ม่อนแจ่มน่าจะไม่ใช่ลูกของพ่อพชร แม่ของม่อนแจ่มคงท้องไม่มีพ่อจนต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ได้แต่งงานกับพ่อชองพชร ซึ่งรวมถึงการขับไล่แม่ของพชรที่กำลังท้องอยู่ไปด้วย
ถ้าเป็นอย่างนี้จริงก็น่าสงสารม่อนแจ่มนะครับ แต่มองถึงอนาคตสองคนนี้ยาวๆ ก็น่าจะดีกว่าการเป็นพี่น้องพ่อเดียวกัน

ออฟไลน์ ceylon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: SWEET SURRENDER 21/5/59 CH.9 Lost & Won P.3
«ตอบ #89 เมื่อ21-05-2016 17:15:36 »

กลับต้วก็ไม่ได้ ให้เดินต่อไปก็ไปไม่ถึงงงง :z3:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด