SWEET SURRENDER 1/11/60 พิเศษ SWEET DREAM P.42
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: SWEET SURRENDER 1/11/60 พิเศษ SWEET DREAM P.42  (อ่าน 322075 ครั้ง)

ออฟไลน์ sb_ng

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
Re: SWEET SURRENDER 15/11/59 CH.29 What Love Is Like P.24
«ตอบ #750 เมื่อ18-11-2016 19:17:50 »

สองพ่อผู้มาช่วยไอดิลจากภาวะอึมครึมของหอสามชาย 55555555555
พ่อพ่อน่ารักจังเลยค่าาา หมอกไอดิลก็น่ารักไม่ต่าง
ตอนที่หมอกดิ้ลคุยกันเรื่องพชรม่อน
ละไอดิลบอกว่า “แต่กูก็อยากเข้าใจด้วยคนไง” คือแบบ น่ารักกกกกก 5555555
การกระทำกับคำพูด มันก็สำคัญทั้งคู่แหละเนอะ
คนเราก็ต้องกระทำเพื่อพิสูจน์คำพูด แต่คำพูดก็ช่วยให้อะไรๆง่ายขึ้นได้ ถ้าเป็นคำพูดที่จริงใจหน่ะนะ
หลังจากนี้พชรคงจะมีแรงใจจะพูดอะไรๆมากขึ้นแล้วนะ โดนยุหลายทีละ 555555
พชรสู้ๆน้าาาา

ออฟไลน์ automaton

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
Re: SWEET SURRENDER 15/11/59 CH.29 What Love Is Like P.24
«ตอบ #751 เมื่อ18-11-2016 20:16:13 »

วันนี้ก็แอบมาดูเผื่อพชรจะมาบอกความในใจน้องม่อน
คิดถึงม่อนแจ่มจัง  :z12:

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0
Re: SWEET SURRENDER 15/11/59 CH.29 What Love Is Like P.24
«ตอบ #752 เมื่อ20-11-2016 16:05:13 »

 :pig4 :3123: :pig4:

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
Re: SWEET SURRENDER 22/11/59 CH.30 Words are Wonderful P.26
«ตอบ #753 เมื่อ22-11-2016 22:37:13 »

การมาของสองพ่อของไอดิลอาจจะทำให้พชรคิดไรได้บ้างเนอะ
บางเวลาคำพูดก็สำคัญ

รอลุ้นต่อไป

ออฟไลน์ minkey

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: SWEET SURRENDER 22/11/59 CH.30 Words are Wonderful P.26
«ตอบ #754 เมื่อ22-11-2016 22:45:14 »

 :ling2:
ไหนง่าาาาา

ออฟไลน์ graciej

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: SWEET SURRENDER 22/11/59 CH.30 Words are Wonderful P.26
«ตอบ #755 เมื่อ22-11-2016 22:45:58 »

มาแต่หัวข้ออ่า  :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
Re: SWEET SURRENDER 22/11/59 CH.30 Words are Wonderful P.26
«ตอบ #756 เมื่อ22-11-2016 22:48:07 »

 :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
Re: SWEET SURRENDER 22/11/59 CH.30 Words are Wonderful P.26
«ตอบ #757 เมื่อ22-11-2016 22:52:56 »

มานั่งรอค่า :mew1:

ออฟไลน์ Babelilong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 304
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
    • Facebook  เข้ามาขอเป็นเพือนได้เลย
Re: SWEET SURRENDER 22/11/59 CH.30 Words are Wonderful P.26
«ตอบ #758 เมื่อ22-11-2016 22:58:14 »

นึกว่าตาฝาด
เปลี่ยนหัวข้อแล้วว

มารอ :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ INDY-POET

  • อินดี้กวีเกรียน✍
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 320
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +918/-22
Re: SWEET SURRENDER 22/11/59 CH.30 Words are Wonderful P.26
«ตอบ #759 เมื่อ22-11-2016 23:03:37 »

CHAPTER 30: Words are Wonderful

          “ฮึก..”
เสียงสะอื้นไห้ดังเบาๆอย่างพยายามสะกดกลั้น    
ดวงตาพร่ามัวจ้องมองนาฬิกา ..ไม่ได้ดูเวลา ..แต่ดูนาฬิกา
นาฬิกาเรือนเก่า เรือนเดิม ที่ดูจะมีความหมายมากกว่าที่เคย

          “ใส่ไว้ ..จะได้ดูเวลาง่ายๆนะ”

ม่อนแจ่มรู้.. ว่ามันเป็นเพียงข้ออ้าง
ข้ออ้างชนิดไหน?
ก็อาจชนิดเดียวกับ..

         “ผม.. ผมอยากจะ คือ.. ผมอยากจะลงตัวฟรีของภาควิชาปรัชญาน่ะครับ เอ่อม.. สำหรับภาคเรียนถัดไป
          ผมอยากขอคำปรึกษาจากเด็กปีหนึ่งปรัชญา ว่า..ว่าผมควรจะลงตัวไหน”   

   
         “มาแอบอยู่ตรงนี้เอง..”
คนอยู่ก่อนสะดุ้งเฮือก หันมาด้านหลังเลิ่กลั่ก ..ผู้มาใหม่คือเพื่อนคู่ซี๊นั่นเอง
มือเรียวรีบยกขึ้นปาดน้ำตาออก ..นี่ว่าเขาหลบมาหลังอาคารแล้วนะ ไอดิลยังตามเจออีก

เพื่อนร่างเล็กทรุดนั่งลงข้างๆ ยื่นกระดาษทิชชู่ให้
“กูซื้อมาจากเซเว่น ถุงเป็นรูปหมีพูห์ด้วยนะ แพ็คเกจจิ้งมุ้งมิ้งแบบที่มึงชอบ เอาไป”
“ข..ขอบใจ”
ม่อนแจ่มกระพริบตาปริบๆ รับทิชชู่คลีเน็กซ์มาจากไอดิล แต่ก็ยังแอบใช้ข้อนิ้วชี้สอดใต้กรอบแว่นปาดน้ำตาออกเร็วๆ ทำเสมือนว่าตัวเองไม่ได้..
“อยากร้องก็ร้องไปเห๊อะ ไม่ต้องอาย” ไอดิลพึมพำ แต่ม่อนแจ่มส่ายหน้า เขาไม่ได้อยาก..
“กูเป็นลูกผู้ชาย ..ไม่ควรร้องไห้”
“จะผู้ชายหรือผู้หญิง เมื่อความรู้สึกมันเต็มที่ ก็ร้องไห้ได้ทั้งนั้นแหละวะ”
“กูไม่อยากอ่อนแอ กูอยากดูแมนๆ เข้มแข็งแบบ แบบ..” ม่อนแจ่มไม่อาจเอ่ยชื่อออกมาได้ แต่ไอดิลหัวเราะน้อยๆ
“แมนๆแบบพชรก็เคยร้องไห้ ไอ้ม่อน”
“ตอนเด็กๆก็คงร้องทุกคน แต่พอโต ..พชรไม่น่าจะร้องแล้วล่ะ”

หึ..
“ร้อง” ไอดิลยักไหล่
“ไม่มีทาง” ม่อนแจ่มไม่เชื่อ
“มี” ไอดิลยืนยัน
“ทำไมมึงแน่ใจ” ม่อนแจ่มฉงน
“ก็กูเห็น”

ห๊ะ..

“เห็น?”
“เต็มสองตา” ไอดิลเสริม “รวมของหมอกด้วย เป็นเต็มสี่ตา”
ม่อนแจ่มเบิ่งตามอง “เห็นตอนไหน..”
“ก็คืนนั้นแหละ ที่มึงมาเก็บของไป ..ตอนพชรกลับมาแล้วไม่เจอมึง”
..
“มันไม่ได้พูดอะไรหรอกนะ แต่กูเห็นน้ำตา ..มันเสียใจมาก”

ใช่จะไม่รู้ว่าพชรเสียใจ..
แต่การรับฟังคำบอกเล่าว่าพชรร้องไห้ จินตนาการใบหน้าคมที่มีหยดน้ำ มัน..

คุณแม่บอกว่าพชรไปพบท่านตั้งแต่หลายเดือนก่อน ก็ประมาณเดียวกับตอนที่เพิ่งเข้าเรียนมหาวิทยาลัย
แล้วนับจากวันนั้น.. จนถึงวันนี้.. มันนานเท่าไรมาแล้ว
สิ่งที่ม่อนแจ่มรู้สึกอยู่เทียบได้หรือกับสิ่งที่พชรเผชิญ
พชรต้องทนกับความรู้สึกแบบไหนตลอดเวลาที่ผ่านมา
แล้วตอนนี้.. ยังต้องเสียใจอีก ทั้งที่ตัวเองไม่ได้ทำผิดอะไรเลยสักนิด
นอกจากนั้น..
ดวงตาปริ่มน้ำมองนาฬิกาซึ่งบอกเวลาสี่โมง..
พชรก็ยังมีน้ำใจและห่วงใยเขามากเหลือเกิน
ม่อนแจ่มสิ.. เก็บข้าวเก็บของออกมา กล้าหาญไม่พอที่จะสู้หน้า แมนไม่พอที่จะเอ่ยคำขอโทษด้วยตัวเองด้วยซ้ำไป

เขาใช้เวลาร้องไห้นานพอหรือยัง?
เขาควรทำตัวให้สมเป็นลูกผู้ชายคนหนึ่งได้แล้วหรือเปล่า?

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

           แสงแดดยังแผดจ้าในเวลาบ่ายสามโมงสี่สิบห้า อาจารย์ที่ดูเหนื่อยล้ากับนักศึกษาที่ดูเหนื่อยกว่าบอกลากันในคาบสุดท้าย
พชรลากเท้าออกจากห้องเรียนปรัชญา ..วันนี้เป็นวันที่ยาวนาน เรียนตั้งแต่แปดโมงเช้า ซ้ำพักเที่ยงยังดูเหมือนไม่ได้พัก เพราะกิจกรรมของสาขาวิชาที่ต้องช่วยกันทำ ตามปกติ ภารกิจแค่นี้ไม่ยี่หระอะไรกับร่างกำยำหรอก แต่นี่มันวันที่เท่าไรแล้วก็ไม่แน่ใจที่กลางคืนไม่ยอมหลับยอมนอน จึงกลายเป็นว่าพอบ่ายคล้อย พชรก็ดูเหมือนคนพร้อมจะหลับอยู่ตลอดเวลา

         “เมื่อไหร่ซอมบี้จะออกจากร่าง ท่านธาเลส?” พรรคพวกเข้ามาตบไหล่
พชรสะบัดหัวน้อยๆขับไล่ความง่วงงุน ตอบกลับไปเรียบๆ “เมื่อไรก็คงเมื่อนั้น”

“ไอ้นี่ก็เสือกจริงวะ เรื่องคนอื่น”
..
พชรไม่ได้ตำหนิและไม่มีทางตำหนิใครเช่นนั้น เป็นเพื่อนอีกคนต่างหากเล่า

“มึงก็เลยมาเสือกเรื่องของคนที่เสือกเรื่องคนอื่นอีกที ว่างั้น?”

นั่น..
พชรขอไม่เกี่ยวแล้วกัน
เขาเดินทิ้งห่างออกมาแล้ว แต่มิวายจะได้ยินเสียงถกเถียงตามมาห่างๆ
ดูเหมือนสองคนนี้จะใช้เวลาหมดไปกับการต่อปากต่อคำกัน ..ซึ่งเป็นเรื่องที่พชรไม่ถนัดเอาเสียเลย

          วันนี้ ขายาวไม่ได้ก้าวขึ้นพาดเบาะมอเตอร์ไซค์คู่ใจเหมือนเคย เพราะวิชาแรกเรียนที่อาคารเรียนรวม ซึ่งเร็วกว่าที่จะเดินจากหอสามชาย อีกประการหนึ่ง เขาอยากใช้เวลาระหว่างเดินเท้าซึ่งเป็นระยะไม่ไกลนักคิดอะไรต่อมิอะไรบ้าง
ร่างสูงข้ามถนนออกจากตึกคณะ ผ่านหน้าภาควิชาธรณีวิทยา ตัดเข้าอาคารเรียนรวม ก่อนจะข้ามสะพานลอยเข้าสู่บริเวณอาคารกิจกรรมนักศึกษา ซึ่งดูเหมือนพอตกเย็น สภาพที่เคยวุ่นวายตอนเช้าและเที่ยงดูจะแตกต่างออกไป อย่างไรก็ตาม มีนักศึกษาจำนวนหนึ่งดูเหมือนจะติดรูป ติดบอร์ด จัดโชว์ภาพอะไรสักอย่าง แต่พชรก็ไม่ได้สนใจนัก ความคิดความสนใจเขาไปอยู่ที่อื่น..

        “ยังไงก็อย่าห่วงเรื่องผู้ใหญ่นักเลย มันไม่ใช่ความรับผิดชอบของเด็ก..
        ทำตามหัวใจตัวเองบ้างก็ได้ พชร”

..
          “เรื่องของหัวใจ.. ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม พชรต้องยอมรับให้ได้นะ
          ว่าถ้าไม่พูด ไม่ยืนยัน ..ทุกอย่างจบ”

..
 
         “ถ้าแน่ใจแล้ว ..ก็พูดๆบอกๆไปเถอะ
          ลองได้พูดสักครั้ง จากนั้นรับรอง สบ๊าย อยากพูด อยากบอกทุกวันเองนั่นแหละ”

..

         “งั้นวันนี้ พชรก็คงรู้แล้วสิ ..ว่าจะยืนยันด้วยคำพูดคำไหน”

พชรถอนหายใจ..
นึกถึงพ่อหล่อ พ่อน่ารัก ..และที่ยิ่งกว่านั้น พ่อแม่ของเขาเอง
รู้สึกได้ถึงความเมตตาปราณีที่ได้รับ ..พวกเขาเหล่านั้นรับรู้ความรู้สึกที่ตัวเองเคยผ่านมาก่อน และไม่ว่าจะผ่านผิดหรือผ่านถูก พวกเขาก็ส่งความปรารถนาดีผ่านมาทางคำพูดที่หวังให้คนอาวุโสน้อยกว่าเดินไปถูกทาง
แม้ว่าพชรไม่เคยสงสัยในความรู้สึกของตัวเอง แต่ก็ต้องยอมรับว่าเขาเพิ่งตระหนัก.. ว่าความรู้สึกเช่นนั้น ชาวบ้านชาวเมืองเขานิยามว่าอะไร เพิ่งรู้..ว่าควรพูดยังไง
ปัญหาตอนนี้มีเพียงอย่างเดียว..

ม่อนแจ่มพร้อมหรือยังเล่า ..ที่จะรับฟัง?

          “พชร?”
..
เจ้าของชื่อสะดุ้งน้อยๆ เลิกคิ้ว หันหลังกลับไปมอง
เพื่อนหนึ่งในสองคนเรียกชื่อ ..เรียกชื่อเขา แต่กลับไม่ได้มองมาทางเขาเลยสักนิด

“พชรมันอยู่นี่ มึงไปเรียกอะไรตรงนั้นวะน่ะ?”
..
“พชร” เพื่อนคนเดิมเรียกอีก
“อะไรของมึ๊ง?” อีกคนถามซ้ำ แล้วจึงเดินกลับไปมองดูสิ่งที่ถูกเรียกว่า‘พชร’
ก่อนจะเอ่ยขึ้นบ้าง..
“พชร”

เฮ้ย!
เจ้าของชื่อถึงกับเดินย้อนกลับไป
“มีอะไร?”

ดูเหมือนเพื่อนทั้งสองไม่มีคำตอบให้..
สองคนยืนอยู่ท่ามกลางภาพวาดหลายสิบภาพที่จัดโชว์อยู่ใต้อาคารกิจกรรมนักศึกษา

‘นิทรรศการสัญจร ชมรมอาร์ทติสท์’
‘Inspiring Portrait’
ร่วมค้นหาแรงบันดาลใจของเพื่อนๆ จากแรงบันดาลใจของภาพเหล่านี้

         ปกติพชรไม่ค่อยเดินผ่านอาคารกิจกรรมนักศึกษา
เขาไม่รู้หรอกเรื่องนิทรรศการอะไรนี่ ..ขายาวก้าวช้าๆไปยังต้นเหตุที่ทำให้เพื่อนทั้งสองเรียกชื่อเขาซ้ำๆ

ภาพลายเส้นดินสอ..
ภาพของบุรุษครึ่งตัวในเสื้อเชิ๊ตติดกระดุม ..แทบจะอนุมานได้ว่าเป็นเสื้อนักศึกษา
บุรุษผู้นั้นมีสีหน้าเรียบเฉย ..ในมือข้างหนึ่งผึ่งหนังสือเล่มหนาซึ่งหน้าปกเขียนว่า ‘Philosophy’
ลายเส้นแบบที่ไม่คุ้นตา ..แต่กลับมาจากลักษณะการวาดที่คุ้นเคย

“โคตรเหมือนพชร บังเอิญเหรอวะ?”
“ไม่มั้ง”
“ใครวาด มีชื่อไหม?”
“มีๆ นี่.. มุมข้างล่างตรงนี้”
..
..
“มน ชาม.. อ๊อฟ เมคคานิคอล เอ็นจิเนียร์ริ่ง เรอะ?”
เพื่อนพยายามอ่าน ขมวดคิ้วน้อยๆ ..อ่านชื่อศิลปินซึ่งเขียนว่า

‘Mon Cham of Mechanical Engineering’

พชรพิจมอง..
มือแกร่งทาบเบาๆบนกรอบกระจก ราวกับการทำเช่นนั้นจะได้สัมผัสมือเรียวที่ลงเส้นทั้งหมดในภาพนี้
ภาพวาดที่เขาดูรู้ ว่าคนวาดค่อยๆวาดทีละน้อย ค่อยๆวาดจากความรู้จัก.. วาดจากความรู้ใจ..

“วาดโคตรเหมือน..”
สองเพื่อนพึมพำ “รู้จักคนวาดไหมพชร?”
..
“รู้จัก” เสียงเข้มตอบรับหนักแน่น ก่อนก้าวยาวๆวิ่งแน่วตรงออกจากอาคาร
“เฮ้ย! แล้วนั่นจะรีบไปไหน?”เพื่อนตะโกนไล่หลัง และพชรก็มีคำตอบเรียบร้อยแล้วเช่นกัน
“คณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล”

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

         อาคารเก่าราวระเบียงสีม่วงยังตั้งอยู่ที่เดิม
ม่อนแจ่มย่างเท้าช้าๆ มาหยุดหน้าหอสามชาย ..Kawasaki D-Tracker จอดอยู่ในลาน
“ไม่ได้เห็นหน้า เห็นล้อรถก็ยังดีหรือไง?” เพื่อนรักแซว
ม่อนแจ่มไม่ตอบโต้ อึดใจหนึ่งจึงกัดปากน้อยๆ เอ่ยอย่างตัดสินใจ “วันนี้ กูจะขึ้นไปด้วย”
“อ่าม.. กูยังไปไม่ได้ ต้องรอไอ้พีก่อน มีเรื่องงานกลุ่มจะคุยกับมัน”
“อ้าว เหรอ ..แล้วมึงเดินมากับกูทำไมวะ”
“กูมาเป็นเพื่อน” ไอดิลยิ้ม
ตอนแรกคิดว่าม่อนแจ่มคงคิดถึงพชร แค่มาดูบริเวณหน้าหอก็ยังดี แต่นี่.. ถึงขนาดจะขึ้นไปข้างบน
“สู้ๆ ไอ้ม่อน!” ไอดิลให้กำลังใจ
คราบน้ำตายังเกาะอยู่บนใบหน้าคู่ซี๊ ถึงแม้จะไม่ได้สะอื้นแต่ก็เห็นชัดว่าร้องไห้มา ม่อนแจ่มไม่ได้ดูมีความมั่นใจมากนัก แต่ก็เอาเถอะ ไม่ว่าปัญหาจะมากน้อยแค่ไหน ข้างบนห้องมีพชรอยู่ และพชรก็เป็นคนสุดท้ายที่จะทำร้ายจิตใจเพื่อนของเขา

“กูไปได้ มึงกลับไปหาไอ้พีเหอะ” ม่อนแจ่มพยักเพยิดกลับไปทางคณะ
ไอดิลถอนหายใจนิดหนึ่ง “ไอ้ม่อน มึงไม่ต้องเคาะประตูนะ”
ม่อนแจ่มเลิกคิ้วอย่างฉงน ยังไง.. ไม่ต้องเคาะประตู..
“พชรหลับ” ไอดิลขยายความ
“หลับ..” เสียงเล็กทวนคำ
“ใช่ หลับ” ไอดิลย้ำและเสริม “กลางคืนมันไม่ค่อยนอน กูเลิกเรียนกลับมา ก็เห็นมันหลับอยู่ทุกที แล้วมึงก็รู้ พชรหลับลึกจะตาย เคาะไปก็ไม่รู้สึกตัวหรอก”

ม่อนแจ่มชะงักไป ..พชรไม่นอนอีกแล้ว

           มือเรียวยกขึ้นไหว้ทักทายป้ายามก่อนขึ้นบันได ก้าวช้าๆ..
ชั้นสอง.. ชั้นสาม.. เดินมาตามทางเดินที่คุ้นเคย จนหยุดหน้าประตูห้องสามสามแปด
มือยกขึ้นกำน้อยๆอย่างเคยชิน ก่อนจะนึกได้ ..ไม่ต้องเคาะ
ม่อนแจ่มไขกุญแจ.. แล้วจึงค่อยๆคว้าลูกบิดหมุน ผลักประตูเปิดเข้าไปเบาๆ

ทว่า.. ภายในว่างเปล่า
ไม่มีใคร..

ม่อนแจ่มยืนนิ่ง มองสำรวจเตียงเดี่ยวและเตียงล่างของตัวเอง
ใจหนึ่งก็รู้สึกโล่ง.. ใจหนึ่งก็รู้สึกหนัก..
เป้ใบเก่าถูกปล่อยลงพื้น ร่างเล็กทรุดนั่งพิงเตียงเดี่ยว ซึ่งเคยนั่งมาก่อนแล้ว
เขาเคยนั่งหลับตรงนี้เมื่อเทอมก่อน แล้วพชรก็เข้ามา เหมือนจะพึมพำให้เขาไปนอนที่เตียง
เขาวาดรูปการ์ตูนให้พชร ..หวังให้พชรไม่ลืมเขาตลอดปิดเทอม

ทุกอย่างแจ่มชัดเหลือเกินในความรู้สึก..
ดวงตาในกรอบแว่นมองขึ้นไปบนฝาผนัง ภาพวาดการ์ตูนสองภาพของเขาติดอยู่ที่เดิม
เขาสะอึกเมื่อเห็นประโยค ‘มึงจะต่อยกับกูไหม!?’ ที่เคยเขียน ..นึกโกรธ นึกละอายขึ้นมาอีกเป็นครั้งที่เท่าไรก็ไม่ได้นับ
ม่อนแจ่มอดตำหนิไม่ได้ที่ตัวเองเป็นเด็กน้อยเอาแต่ใจตลอดเวลาที่ผ่านมา

“กูขอโทษ..”
เสียงแผ่วพึมพำเบาๆ ..ซึ่งก็ไม่มีใครได้ยิน

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

          คณะที่กว้างขวางและบรรจุประชากรมากเป็นอันดับต้นๆ ‘คณะวิศวกรรมศาสตร์’
ในยามเย็นเช่นนี้ นักศึกษายังคงมากหน้าหลายตา พชรแทบจะหันมองทุกคนที่เดินผ่านไป
เขาอยากพบม่อนแจ่ม ..เดี๋ยวนี้..

และแล้ว มันก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่คือม่อนแจ่ม
ผู้ใหญ่อาจชี้ได้ว่าควรไปทางไหน อาจแนะนำได้ว่าให้ก้าวขาอย่างไร
ทว่า คนที่ทำให้เขายกเท้าเริ่มย่างไป ก็ต้องเป็นเจ้าของหัวใจคนเดียวเท่านั้น
ถ้าภาพวาดแทนได้เป็นล้านความรู้สึก.. พชรก็รับรู้ทุกความรู้สึกของม่อนแจ่มในคราเดียว
และพชรก็อยากให้ม่อนแจ่มรู้ ..ว่าเขาไม่ได้รู้สึกต่างกัน
แม้เขาจะไม่อาจวาดภาพได้สักภาพเดียว
แม้ว่า.. เขาจะมีแค่คำคำเดียว

ร่างกำยำจากคณะมนุษยศาสตร์พุ่งตรงไปตามทางสู่ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกลก่อน แต่ยังไม่ทันที่จะพ้นตึกแรกที่เข้ามา เขาก็ได้ยินเสียงเรียก

         “พ..พชร!?”
ไอดิลที่นั่งรอพีระศิลป์ยังม้าหินอ่อนเด้งตัวลุกขึ้นยืน ตกใจยิ่งกว่าเห็นโรเบิร์ต ดาวส์นี่ จูเนียร์ใส่เกราะเหล็กไอรอนแมนมาเดินกาดพะยอม
เจอหน้าพชรในหอทุกวัน ซึ่งก็เจอแค่ในหอเท่านั้น ไม่คิดเลยว่าจะมีโมเม้นท์เจอกันข้างนอก ..โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้างนอกที่ว่าคือคณะเขาเอง
ท่านพชรมาเยือนคณะวิศวกรรมศาสตร์ คุณพระ.. ไอดิลนึกว่าเขาจะไม่มีโอกาสได้เห็นเสียแล้วเชียว
นี่ถ้าไม่รู้จากเมษาและเมถุน-แฝดนรก ว่าพชรเคยมาหาม่อนแจ่มแล้ว ไอดิลต้องคิดว่าเพื่อนที่ไม่สนิทที่สุดของม่อนแจ่มปลอมตัวเป็นพชรแน่ๆ

        “ม่อนล่ะ?”
ผู้มาเยือนรีบถาม ไม่สนใจสายตาตกตะลึงของรูมเมทสิ่งแวดล้อม
“เดี๋ยว!” ไอดิลยกมือห้าม “กูขอเม็มใส่หมองไว้แป๊ปนึง นี่เป็นนาทีประวัติศาสตร์ ซึ่งต้องจารึกไว้ว่า-”
“ไอดิล” พชรตัดบท ถามซ้ำ “ม่อนอยู่ไหน?”
เออว่ะ.. ไอดิลระลึกได้ว่านี่ไม่ใช่เวลามาเกรียน แต่เป็นเวลาแห่งความสมานฉันท์
“ไอ้ม่อนไปหอ ไปหามึงแหละ กลับหลังหันเลยพชร!”

ไปหอ..
ไปหาเขา..


พชรหันหลังกลับ วิ่งแน่วกลับไปหอสามชายที่เพิ่งผ่านมา
ให้ตายเถอะ..
 
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-11-2016 23:44:56 โดย INDY-POET »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: SWEET SURRENDER 22/11/59 CH.30 Words are Wonderful P.26
« ตอบ #759 เมื่อ: 22-11-2016 23:03:37 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ INDY-POET

  • อินดี้กวีเกรียน✍
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 320
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +918/-22
Re: SWEET SURRENDER 22/11/59 CH.30 Words are Wonderful P.26
«ตอบ #760 เมื่อ22-11-2016 23:16:06 »

         นาฬิกาบอกเวลาสี่โมงครึ่งแล้ว ม่อนแจ่มยังคงนั่งอยู่ที่เดิม
ในใจรอคอยเสียงไขกุญแจเปิดประตู ..ความคิดเรียบเรียงสิ่งที่จะพูดหากคนที่ก้าวเข้ามาคือพชร

        ,,Use me as you will
        Pull my strings just for a thrill
        And I know I’ll be okay
        Though my skies are turning gray


เสียงเรียกเข้าดังขึ้นในความเงียบ ม่อนแจ่มสะดุ้งน้อยๆ ล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกง
แน่นอน.. หน้าจอแสดงชื่อ ‘คุณแม่’ ท่านคงเลิกงานและจะเข้ามอมารับแล้ว
ร่างเล็กถอนหายใจ มือปัดฝุ่นออกจากเตียงเดี่ยวซึ่งก่อนหน้านี้ใบหน้าตัวเองซบอยู่ ขาค่อยๆหยัดขึ้นยืน มองรอบๆห้องอีกครั้งอย่างคิดถึงและห่วงใยคนที่อาศัยอยู่ในนี้ ก่อนมือจะเอื้อมหมุนลูกบิดและดึงประตูเปิดออก

ทว่า.. การเปิดนั้นทำให้เสียการทรงตัว เพราะแรงผลักจากอีกด้านหนึ่งของประตูที่มากกว่า

        “เฮ้ย!”
เสียงเล็กสบถลั่นอย่างตกใจ เมื่อจู่ๆ เกือบล้มหงายหลัง
แต่ก็ไม่ล้ม.. เมื่อมือแข็งแรงข้างหนึ่งสอดรวบเอว อีกข้างคว้าไหล่เอาไว้ทันเวลา
ดวงหน้าขาวปะทะแผ่นอกแข็ง.. จมูกได้กลิ่นที่คุ้นเคย..
ดวงตาใต้กรอบแว่นแดงเบิ่งกว้างเมื่อเงยสบกับดวงตาสีเข้มที่ตกใจไม่แพ้กัน
ม่อนแจ่มชะงัก งุนงงชั่วขณะว่าเกิดอะไรขึ้น

ม่อนแจ่มดึงประตูเปิด..
พชรก็ผลักประตูเปิด..
ซึ่ง.. คงบอกได้ไม่ยากว่าใครจะเสียหลัก..
 
“อะ..” ม่อนแจ่มอ้าปากค้าง 
ใช่.. เขามาพบพชร แต่ไม่ได้คาดว่าจะพบหน้ากันจังๆ แถมยังใกล้ชิดจนแทบใจหายใจคว่ำแบบนี้
สัมผัสของมือหยาบที่แตะตัวทำให้ใจสั่น
ฟันเล็กกัดริมฝีปากเบาๆ ผละออกพร้อมๆกับที่อีกฝ่ายคลายมือ
สองคนภายในห้องสามสามแปดเงียบไปอึดใจเต็มๆ หัวใจยังเต้นแรงด้วยอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด
แล้วก็เป็นพชรที่ตั้งสติได้ก่อน..

“เจ็บหรือเปล่า”
..คำถามยอดฮิตของพชร
"ม..ไม่เจ็บ" ม่อนแจ่มส่ายหน้าประกอบคำตอบ

“ขอโทษ” เสียงเข้มเอ่ยก่อนจะเสริม “..ที่ไม่ได้เคาะประตู”
“ไม่เป็นไร” ม่อนแจ่มส่ายหน้าอีกที ..รู้สึกว่าเป็นอีกครั้งที่พชรขอโทษอย่างไม่จำเป็นเลย

ขอบคุณ..
ขอโทษ..
ไม่เป็นไร..


การสนทนาน้อยนักเมื่อเทียบกับระยะเวลาและความรู้สึกที่ให้กันระหว่างเขาสองคน น่าแปลกใจที่ม่อนแจ่มตระหนักได้ว่า.. สามคำนี้ถูกเอ่ยบ่อยมาก และเช่นเดียวกัน.. มันเป็นคำที่งดงามเหลือเกิน

“ตอนเข้ามาทีแรก กูก็.. ไม่ได้เคาะเหมือนกัน” ม่อนแจ่มบอกให้พชรสบายใจ
“คือ.. ไอ้ดิ้ลบอกว่ามึงหลับ”

ก็จริง..
พชรพยักหน้ารับ เขาหลับตอนเย็นติดกันมาหลายวันแล้วเพราะง่วงจนเกินขีดจำกัดร่างกาย

“ทำไม กลางคืนไม่ยอมนอน..” ม่อนแจ่มห้ามตัวเองไม่ทันที่จะถามออกไป
“นอนไม่หลับน่ะ” เสียงเข้มยอมรับตรงๆ ..แม้จะไม่ได้เสริมว่าเพราะอะไร
ม่อนแจ่มกัดริมฝีปาก ..ใต้ตาพชรมีรอยคล้ำอีกแล้ว เขาไม่อยากให้เป็นแบบนี้เลย
“กูเป็นห่วงมึง..”
พชรถึงกับยิ้ม หน้าคมพยักเล็กน้อย “กูรู้..”

บ้าจริง..
ม่อนแจ่มพูดบ้าอะไรอยู่ได้ จะมาปากตรงกับใจอะไรตอนนี้เล่า ..นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาคิดว่าจะมาพูดสักหน่อย

“กู..”
เสียงเล็กเรียบเรียงคำพูด พยายามเข้าสู่ประเด็นที่ตั้งใจ กระนั้น คนพูดมากกลับรู้สึกติดขัดในลำคอเหลือเกิน มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนอย่างยิ่งที่จะสื่อสาร
“กู.. คือคุณแม่บอกว่า.. มึงกับคุณน้าลดาไม่ยอมไปอยู่บ้าน”
รอยยิ้มที่แต้มริมฝีปากหนาจางไป “กูมีบ้านอยู่แล้ว”
..
..
ม่อนแจ่มนิ่ง ชะงัก ไม่รู้จะพูดให้ดูดีได้อย่างไร
“กูแค่.. กูหมายถึง..”
..
“มันควรจะ..”

พชรถอนหายใจ..
ตระหนักในความอึดอัดตึงเครียดของคนตรงหน้า รู้ดีในสิ่งที่พยายามพูดออกมา
ม่อนแจ่มรู้สึกผิด ม่อนแจ่มเสียใจในสิ่งที่เกิดกับเขาและมารดา ม่อนแจ่มถึงไม่อยากเผชิญหน้า ถึงได้เก็บของออกไป พชรเข้าใจ และไม่ได้พยายามจะยัดเยียดความรู้สึกใดๆของตัวเองให้ร่างเล็กต้องหนักใจเพิ่ม
ทว่า วันนี้ ในเมื่อม่อนแจ่มพูดออกมาแล้ว เขาก็อยากจะพูดให้ชัดเจนเหมือนกัน
พชรยกมือขึ้น อยากจะบอกว่าไม่เป็นไร และมันก็พอดีกันกับ..

“กูขอโทษ..”
มือเรียวเล็กสองข้างประนมขึ้นแนบอก ปลายนิ้วชี้อยู่ที่ปลายคางมน หน้าที่ขาวจนซีดก้มลงเล็กน้อย
ใจไม่ได้นึกถึงแค่คนตรงหน้าเท่านั้น แต่ระลึกถึงสาวใหญ่ใจดีที่มีดวงตาคล้ายคลึงกันด้วย

ขอโทษสำหรับความลำบากในชีวิต
ขอโทษสำหรับความไม่สมบูรณ์ของครอบครัว
ขอโทษที่เป็นสาเหตุให้พชรเป็นทุกข์และลำบากใจตลอดชีวิตการอยู่หอใน
ขอโทษที่แทนที่พชรมาตั้งแต่เกิด
มันสำคัญสำหรับม่อนแจ่มมาก ..สำคัญที่จะต้องขอโทษ

“พชร กูขอโทษ”
“ม่อน ทำบ้าอะไร!” เสียงเข้มว้ากลั่น มือใหญ่เข้ามาจับมือที่ประกบกันให้คลายออก
“กูบอกแล้วไงว่ามึงไม่ได้ทำอะไรผิด!”
“ในฐานะที่เป็นลูกคุณแม่ ก็ถือว่ากูผิดด้วยเหมือนกัน”

ให้ตายเถอะวะ!
“แล้วมึงคิดว่ากูยังจะสนอีกหรือว่าใครผิด”
ม่อนแจ่มกลืนน้ำลาย “ก็เพราะแบบนั้น ..กูถึงยิ่งต้องขอโทษ”
“ไม่ต้องขอโทษและไม่ต้องเสียใจ” พชรพูดชัดถ้อยชัดคำ จับมือบางทั้งสองข้างไว้
“ไม่ว่าจะเป็นความผิดของใครมันก็ไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว เพราะว่ากู..”

ถึงแม้บรรยากาศมันจะโคตรธรรมดา..
ถึงแม้เขาจะพูดด้วยโทนเสียงที่ไม่ได้มีความอ่อนโยนมากมายนัก..
แต่เขามีคำสำคัญต้องบอกไป ..และจะบอกเดี๋ยวนี้

“ม่อน ฟังให้ดี..” พชรให้โอกาสอีกฝ่ายเตรียมตัว
“กู-”

..
..

คำพูดหยุดอยู่เพียงแค่นั้น
ไม่ใช่เพราะไม่พูด ..แต่เพราะพูดไม่ได้
เป็นเท้าเรียวที่เขย่งขึ้น
เป็นมือเล็กที่ทาบปิดปากพชรเอาไว้ทันเวลา

ม่อนแจ่มมือสั่น แต่ก็ยังแน่วแน่ที่จะสกัดกั้นคำพูดที่จะออกมา
คำพูดที่ไม่ต้องการได้ยิน.. ไม่สมควรได้รับ..

“กูรู้ว่ามึงรู้สึกยังไงกับกู..”
ม่อนแจ่มรู้โดยไม่ต้องพยายาม.. รู้โดยไม่ต้องทวงถาม.. รู้โดยปราศจากข้อสงสัยใดๆทั้งสิ้น..

“แต่กู.. รับความรู้สึกมึงไว้ไม่ได้”
..
..
เหมือนใจจะขาดออก..
พชรมองม่อนแจ่มนิ่ง ลมหายใจชะงักชั่วคราว รู้สึกถึงสัมผัสนุ่มที่อยู่ใต้จมูก
เขายังไม่ทันได้บอกว่ารู้สึกอย่างไร แต่กลับถูกปฏิเสธไว้แล้วล่วงหน้า ด้วยคนที่ ..รู้ความรู้สึกเขาดี

“เพราะมึงรู้สึกกับกูแบบนี้ มึงถึงต้อง..” ม่อนแจ่มกลืนอะไรขมๆลงคออย่างยากลำบาก
“พชร ถ้ากูไม่บังเอิญรู้เอง กูจะไม่แปลกใจเลยถ้ามึงไม่มีวันบอก” มือบางยังทาบปิดปากหนาไว้ เอ่ยต่อทั้งทรมานใจ
“กูไม่อยากให้มึงทิ้งโอกาสที่จะได้อยู่กับคุณพ่อคุณแม่อย่างเป็นครอบครัว เพียงเพราะความรู้สึกที่มึงให้กู”
..
..
พชรยืนนิ่ง
ภายใต้ฝ่ามือที่ทาบปิด ปากหนาเม้มเข้าหากัน คลื่นความรู้สึกบางอย่างที่ไม่ใช่ด้านบวกโถมเข้ามาใส่
ดวงตาที่มีประกายคมกล้ามองดวงตาอีกคู่ภายใต้กรอบแว่นสีแดงโดยไม่กะพริบ
ม่อนแจ่มเองมองตอบ ทว่า ไม่อาจสู้กับสายตาคู่นี้ได้ ..จำต้องค่อยๆละมือออกอย่างเกรงๆ

พชรยังไม่ได้รีบพูดอะไร
แค่มอง แค่รอ ..ว่าม่อนแจ่มจะพูดอะไรต่ออีกหรือไม่ พร้อมๆกับที่พยายามข่มอารมณ์ตัวเองไปด้วย

“มึงคิดว่าชีวิตกูที่ผ่านมาแย่มากนักหรือ” พชรถามเรียบๆ
ม่อนแจ่มกลืนน้ำลาย เพ่งมองมือหยาบด้านที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับมือขาวบางของเขา ความละอายใจท่วมท้นอยู่ในอก

“ม่อน..”
พชรหยุด ..เรียบเรียงคำพูด
“กูลำบาก ..แต่ไม่ได้ยากแค้น กูเหนื่อย ..แต่ไม่ได้เป็นทุกข์ เพราะกูมีความสุข มีความภูมิใจกับงานที่ทำ 
กูพอใจกับทุกๆอย่างที่กูมี ..และไม่เคยเสียใจเลยที่เติบโตมาในแบบที่กูเป็น”
..
“มึงเป็นคนที่น่านับถือ..” ม่อนแจ่มยิ้มออกมา แม้ดวงตาจะเศร้า แต่เขาเอ่ยด้วยความจริงใจ
นับตั้งแต่ได้รู้จักใครๆในชีวิต พชรเป็นคนที่น่านับถือที่สุด
“กูดีใจที่มึงมีความสุขกับชีวิตมึงที่บ้าน ที่สวน แต่.. มันก็ไม่เสียหายนี่ใช่ไหม ที่จะ.. มีอีกสักที่ ..ที่เป็นที่ของมึงเหมือนกัน”
“หมายถึงที่บ้านมึงน่ะหรือ” พชรถามเสียงกระด้าง
“ไม่ใช่บ้านกู” ม่อนแจ่มปฏิเสธ พยายามห้ามเสียงไม่ให้สั่น
“ไม่ใช่บ้าน?” พชรย้อน
“แล้วมึงเรียกที่ที่มึงเกิด ที่ที่มึงเติบโต ที่ที่ปกป้องป้องดูแลมึงจากลมฟ้าอากาศ ที่ที่มีคนซึ่งมีความหมายต่อชีวิตของมึงอาศัยอยู่ว่าอะไร ม่อน”
ม่อนแจ่มกัดฟัน “กูไม่ควรจะอยู่ที่นั่นมาตั้งแต่ต้น กูไม่มีสิทธิ์เลย”
“สิทธิ์นั่นสำคัญกับมึงมากนักหรือ ขนาดกูยืนพูดอยู่ตรงนี้ มันยังไม่มีความหมายเท่าสิทธิ์อะไรนั่นเลยใช่ไหม!” เสียงเข้มระเบิดออกมา
..
..
“ตกลง ม่อน” พชรพยักหน้า สะกดกลั้นอารมณ์ไม่ไหวอีกต่อไป
“มึงเสียใจ มึงรู้สึกผิด มึงรับความรู้สึกกูไว้ไม่ได้ ตกลง ออกไปจากห้องนี้ซะ!”

ขาเรียวสั่น.. กัดฟันเอาไว้..
ม่อนแจ่มจะไม่ร้องไห้ ไม่ร้องไห้เด็ดขาด กระนั้น เขาก็ได้แต่ยืนนิ่ง ทบทวนถ้อยคำและเงยหน้ามองพชรอย่างขอคำยืนยัน
..ออกไปจากห้องนี้ซะ..

“สองวิฯ” พชรมองตอบกลับ เอ่ยสั้นๆ และนั่นทำให้ม่อนแจ่มขมวดคิ้ว
“ให้เวลาสองวินาที เดินออกไป ม่อน” พชรขยายความห้วนๆ
..
“ก่อนที่กูจะเข้าไปกอดมึงไว้ ทำอะไรที่กูอยากทำ แล้ววันนี้มึงจะไม่ได้ออกไปไหนเลย”

ม่อนแจ่มมองหน้า ดวงตาเบิ่งค้าง
พชรพูด.. พูดอะไรนะ..

“หนึ่ง..”
เสียงเข้มเริ่มต้นนับ ขายาวก้าวเข้ามาหา แววตาจริงจังนั้นทำให้ม่อนแจ่มรู้ว่าพชรทำตามที่พูดแน่นอน
และเขาก็ระลึกได้ว่าตัวเองยังไม่พร้อม..

“สอง”
..
ม่อนแจ่มก้าวถอยหลัง พยายามเอื้อมหมุนลูกบิดเพื่อเปิดประตู
ทว่า ไม่ทัน เมื่อเอวบางถูกรวบเข้ามาในอ้อมแขนแข็งแรงอย่างจงใจ

“พ..พชร ปล่อย" เสียงเล็กสั่นรัว สัมผัสเช่นที่เคยได้รับทำให้แข็งใจเอ่ยเช่นนี้ได้ลำบากนัก 
“ไม่” พชรปฏิเสธสั้นๆ “ครบสองวิฯแล้ว”
“แค่สองวิฯ กูจะไปออกทันได้ยังไงเล่า” ม่อนแจ่มพยายามเถียง
ดวงตาสองคู่มองกันอีกครั้ง ..มองจนเห็นกันและกันชัดเจนถึงข้างในใจ
ใบหน้าคมโน้มลง จมูกโด่งเคลียกับจมูกรั้นของคนตัวเตี้ยกว่าเบาๆ ริมฝีปากใกล้จนแทบจะแนบชิดกันเหมือนที่มันเคยเกิดขึ้นมาก่อน

ม่อนแจ่มตัวสั่นในอ้อมแขน ความสับสนแล่นปราดเข้ามาจนรู้สึกปวดร้าว..
เขาอยากอยู่ในอ้อมกอดนี้เหมือนกัน เต็มใจให้พชรทำอะไรก็ตามที่บอกว่าจะทำ แต่.. เขาไม่รู้เลยว่าแบบนั้นมันจะพาอะไรๆไปจบลงตรงไหน
ม่อนแจ่มไม่อยากทำตามความพอใจของตัวเองโดยลืมนึกถึงบาดแผลที่ได้สร้างไว้ให้กับพชรและคุณน้าเพชรลดา

          ,,Use me as you will
          Pull my strings just for a thrill
          And I know I’ll be okay
          Though my skies are turning gray


โทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง..
“พ..พชร กูต้องไปแล้ว” เสียงพร่าเอ่ยอย่างวอนขอ
รู้ดีว่าถ้าพชรไม่ยอมปล่อยเอง ม่อนแจ่มไม่มีทางต่อต้านได้แน่นอน
พชรถอนหายใจเบาๆ หน้าคมจำต้องเบี่ยงออก หักห้ามความต้องการของตัวเอง ค่อยๆปล่อยร่างเล็กออกจากวงแขน

“กูขอโทษ” พชรเอ่ยคำนี้อีกครั้ง เขาไม่ได้ตั้งใจบังคับหักหาญร่างน้อยนี้เลย ไม่อยากทำอะไรรุนแรงใส่เลยแม้แต่นิดเดียว
ทว่า ม่อนแจ่มก็รีบส่ายหน้า พชรต้องพูดคำนี้อย่างไม่จำเป็นอีกแล้ว
“ไม่เป็นไร คือ.. ไม่ใช่ว่ากู..”
อะไรล่ะ? ม่อนแจ่มกำลังจะบอกว่าอะไร

..ไม่ใช่ว่ากูไม่เต็มใจ..
..ไม่ใช่ว่ากูไม่ต้องการ..


แล้วมันควรพูดหรือยังไง?
ม่อนแจ่มได้แต่กัดปากไว้ ไม่กล้าพูดอะไรต่อ แต่.. พชรเข้าใจ
เขาค่อยๆจับข้อมือขวามากุมไว้หลวมๆ “ไปเถอะ”
“ไปไหน” ม่อนแจ่มงุนงง
“กูไปส่ง”

..ไปส่ง..

“ไม่เอา” ม่อนแจ่มส่ายหน้าดิกอย่างหวาดหวั่นใจเมื่อนึกถึงคนที่น่าจะรออยู่
“ไม่เป็นไรหรอก” เสียงเข้มยืนยัน “เชื่อใจกูเถอะ”

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

          สัมผัสของมือนุ่มชื้นเหงื่ออยู่ในมือใหญ่ เสียงหัวใจที่เต้นรัวดังมากจนพชรแทบจะได้ยินด้วย
แน่นอน.. ม่อนแจ่มคงหวาดกลัวการเผชิญหน้าระหว่างเขากับมารดาของเจ้าตัว กระนั้น พชรก็ยังคงจูงมือม่อนแจ่มเดินมาด้วยกัน

จนถึงเวลานี้.. มันไม่มีอะไรต้องกลัวแล้ว
ม่อนแจ่มเองก็ใช้เวลารู้สึกผิดจนน่าจะพอได้แล้ว พชรไม่อยากให้นานกว่านี้
ดีแล้วล่ะที่ระมิงค์มา ที่จริง.. เขาก็อยากเจอระมิงค์เหมือนกัน
อะไรที่อยากจะบอกม่อนแจ่ม ในเมื่ออีกฝ่ายไม่พร้อมรับฟัง เขาก็จะไม่บังคับ
ไม่บังคับ ไม่รังแก ไม่หักหาญจิตใจ มันเป็นปณิธานที่เขาไม่มีทางคลายยึดถือ

      ห   น้าคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาวใหญ่ในชุดสูท กระโปรงคลุมเข่าก้มลงมองโทรศัพท์ก่อนจะเอามาแนบหู และแน่นอน อึดใจเดียวให้หลัง ก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์คนข้างๆ..
ตาคมมองข้ามถนนไป ก่อนที่ใบหน้าขาวจะเงยขึ้นและมองเห็นเด็กหนุ่มสองคนที่ยืนฝั่งตรงข้าม
พชรกระชับมือม่อนแจ่ม พาข้ามถนน หย่อนฝีเท่าลงเมื่อพ้นทางม้าลาย

ดวงตาสีเข้มมองผู้ใหญ่ตรงหน้า ระมิงค์เองก็มองตอบกลับมา
การพบกันครั้งแรกยังตรึงอยู่ในใจ..

        “เราเป็นใคร แล้วมีธุระอะไรกับฉัน?”
        “ผม.. ชื่อพชรครับ”
        “ฉันรู้จักหรือ?”
        “ไม่หรอกครับ”
..
         “คุณแม่ผมชื่อเพชรลดา..”
 
         “ผมให้โอกาสคุณ สารภาพเองซะ ก่อนที่ผมจะเป็นคนไปบอกเขา”
         “ฉ..ฉันไม่รู้เรื่อง..”
         “คุณไม่รู้หรือครับ”
..
         “ขับไล่ภรรยาที่อุ้มท้องลูกของคนที่คุณจะแต่งงานด้วย พูดจาดูถูก ใช้เศษเงินฟาดหัว ..เรื่องนี้คุณไม่รู้หรือครับ”
..
         “ถ้าอย่างนั้น ผมขอบอกอีกเรื่องหนึ่ง บางทีเรื่องนี้ คุณอาจจะรู้บ้าง”
..
         “แสงรวี”


พชรมองระมิงค์แน่วแน่..
ใบหน้าเปื้อนหยาดน้ำตา มือที่ยื่นส่งดอกลิลลี่สีขาวให้มารดากลับมาปรากฏในห้วงคำนึง

         “ฉันขอโทษ..”

ระมิงค์มองเด็กหนุ่ม..
หลายครามาแล้วที่ได้พบกัน และแต่ละครั้ง.. ความรู้สึกที่เธอมีต่อเขามันก็เปลี่ยนไปเสมอ
พชรทำให้เธอแปลกใจ แปลกใจมากขึ้นทุกครั้ง แล้วตอนนี้ เธอก็รู้เหตุผลชัดแจ้งแล้วว่าทำไม และเมื่อดูจากมือที่เกาะกุมมือลูกชายอยู่ก็ดูเหมือนพชรไม่คิดจะปิดบังมันเอาไว้ด้วย

        ยากยิ่งที่จะละจากมือคู่นี้ที่สัมผัสมาหลายครา..
อย่างไรก็ตาม.. พชรปล่อย มือหยาบกร้านของเขายกขึ้น ทำสิ่งที่ไม่เคยทำ ..และไม่เคยคิดว่าจะทำ
พชรยกมือไหว้ระมิงค์ ทำความเคารพมารดาของคนสำคัญ
สาวใหญ่กลืนน้ำลายลงคอ ปากเม้มเข้าหากันอย่างสกัดกลั้นความรู้สึก มือเรียวยกขึ้นประนมกลางหน้าอก ..ทั้งรับไหว้ ..ทั้งไหว้ตอบเด็กหนุ่มอย่างสมควรยิ่ง

        “ผมมาส่งม่อน ..ครับ”
เสียงเข้มเอ่ยเรียบๆ และคนถูกเอ่ยถึงก็มองคนพูดสลับกับผู้เป็นมารดาอย่างแทบไม่เชื่อสิ่งที่เห็น
“และผม.. มีบางอย่างจะพูดกับคุณระมิงค์ด้วย”
พชรไม่ได้หันมองม่อนแจ่ม ระมิงค์เองก็เช่นเดียวกัน
เธอพยักหน้า พอเข้าใจว่าที่ไม่พูดออกมาเลยเพราะอยากพูดแค่กับเธอเท่านั้น ร่างระหงก้าวห่างออกไปเล็กน้อย นำให้พชรก้าวเดินตามไป

         “มีอะไรจะพูดกับฉันหรือ?” เสียงเนิบตั้งคำถาม เปิดโอกาสให้เด็กหนุ่มเอ่ยอะไรก็ตามที่อยู่ในใจออกมา
พชรมองผู้มีอาวุโสกว่าตรงหน้า ไม่ว่ามองในแง่มุมใด เขานั้นอายุยังน้อยและเรื่องใหญ่เช่นความรู้สึกที่เป็นอยู่ในขณะนี้ควรต้องค่อยเป็นค่อยไป
ทว่า.. พชรพาม่อนแจ่มข้ามขั้นนั้นไปแล้ว เขาสองคนมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกันแล้ว และมันไม่ใช่อุบัติเหตุ ไม่ได้ฉาบฉวย ไม่ใช่แค่ความสัมพันธ์ทางกาย มันจึงเป็นหน้าที่เขาที่ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำและยืนยันเหตุผลของมันให้ชัดเจนไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่

ม่อนแจ่มไม่พร้อมรับฟัง แต่พชรพร้อมจะพูด
และคนที่เขาควรจะพูดด้วย หากไม่ใช่ตัวม่อนแจ่ม ก็คือ.. คุณระมิงค์
เขาอยากพูดเพื่อให้เกียรติเธอในฐานะมารดาของคนที่เขาสัมผัสแตะต้อง
ให้เกียรติม่อนแจ่ม และที่สุดแล้ว.. ให้เกียรติตัวเขาเอง

“ผมไม่เคยเกลียดม่อน” พชรเริ่ม
“ฉันรู้..” ระมิงค์จำได้
“แล้วที่สำคัญ ผมก็รัก..”
พชรหยุด..

‘รัก’
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพูดคำนี้ พูดออกมาจากความรู้สึกตัวเอง ไม่ใช่เพียงทวนคำของพ่อน่ารักอย่างเมื่อวาน
การพูดออกมาจากความรู้สึกของตัวเอง นั่นก็หมายถึงการตระหนักและยอมรับพันธะของคำที่พูดไปพร้อมกันด้วย

        คำจะมีความหมายที่ประเมินค่าไม่ได้ เมื่อมันทำหน้าที่สะท้อนความรู้สึกแท้จริงที่อยู่ในใจเราออกมา
        เมื่อมันได้สอดรับกับการกระทำทั้งหมดทั้งมวลที่เราทำลงไป..


“ผมรักลูกชายคุณระมิงค์”

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-11-2016 23:48:36 โดย INDY-POET »

ออฟไลน์ INDY-POET

  • อินดี้กวีเกรียน✍
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 320
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +918/-22
Re: SWEET SURRENDER 22/11/59 CH.30 Words are Wonderful P.26
«ตอบ #761 เมื่อ22-11-2016 23:31:26 »

         “แม่ขับเองก็ได้นะ”
ระมิงค์เอ่ยออกมาจากที่นั่งข้างคนขับ ใบหน้าลูกชายขึ้นสีจัดขณะมือจับพวงมาลัยรถ
เธอมารับก็จริง แต่เมื่อมาถึง ม่อนแจ่มก็จะเป็นคนอาสาขับรถให้เธอนั่งเองทุกครั้งไป
“ไม่.. ไม่เป็นไรครับ ม่อนขับได้” ม่อนแจ่มตะกุกตะกัก พ่นลมหายใจน้อยๆ ตั้งสมาธิกับการมองถนน
“ได้ยินหรือ?” เสียงนุ่มของผู้เป็นมารดาถามตรงๆเมื่อเห็นอาการ
“ด..ได้ยินอะไรครับ”
“ก็.. ที่พชรพูดกับแม่”
..
“ไม่ได้ยินครับ”
ด้วยความสัตย์ ม่อนแจ่มไม่ได้ยิน แต่บ้าจริง.. เขากลับรู้ว่าพชรพูดอะไร
ใบหน้าขาวขึ้นสีจัดอีกครา.. แค่ที่พชรเดินลงมาส่งก็เกินความคาดหมายอยู่แล้ว นี่พชรขอพูดกับมารดา พูดว่า..
ม่อนแจ่มสะบัดหน้าไปมาอย่างลืมตัว ใจเต้นไม่ตรงจังหวะนัก
ใช่.. ที่พชรตั้งใจจะบอกเขา
แต่ว่า.. ไม่รู้ทำไม การที่พชรบอกกับมารดามันดูเป็นเรื่องจริงจังมากกว่า ..เหมือนพชรเพิ่งจะทลายกำแพงความรู้สึกผิดที่ม่อนแจ่มสร้าง ..เหมือนพชรทำเรื่องยากให้กลายเป็นเรื่องง่ายดาย

          ร่างเล็กเลี้ยวรถเข้าจอดในที่จอดรถ
คอนโดหน้าตาเป็นตึกสี่เหลี่ยมทรงสูงเหมือนทุกวัน เขาแตะคีย์การ์ดที่ลิฟต์เพื่อพาไปถึงชั้นที่พำนักอยู่ร่วมหนึ่งสัปดาห์
ถึงหน้าห้อง ม่อนแจ่มก็เปิดประตูค้างไว้ รอให้มารดาก้าวเข้าไปก่อน ..เหมือนเขาจะติดนิสัยแบบนี้มาจากใครบางคน

         “วันนี้จะทำอะไร วาดภาพเหมือนต่อหรือ?”
ม่อนแจ่มยังดูเขินอายอยู่เล็กน้อย ระมิงค์จึงอยากชวนคุยให้ลูกชายคลายประหม่า
ทว่า คนถูกพูดด้วยชะงัก ..ดูเหมือนจะขัดเขินมากขึ้นไปอีก
“เปล่าครับ เอ่อ.. ม่อนวาดเสร็จ ส่งชมรมไปแล้วครับ แต่.. ไม่แน่ใจว่าจะได้ติดโชว์กับเขาหรือเปล่า”
จริงสินะ.. ม่อนแจ่มไม่ได้ไปประชุมจัดนิทรรศการและพีระศิลป์ก็คงสาปแช่งเขาไว้แล้วด้วย
“วันนี้ ม่อนว่าจะ.. เอ่อ ทำกับข้าวให้คุณแม่ทานนะครับ”
ระมิงค์ยิ้มเล็กน้อย “ทำเป็นหรือ?”
ม่อนแจ่มยิ้มตอบแหยๆ “เดี๋ยวโทรถามป้าเพ็ญเอาครับ”
โทรถามเพ็ญมาศหรือ? อาจไม่ต้อง..

          เสียงกริ่งหน้าห้องดังขึ้น..
หลังจากม่อนแจ่มเพิ่งหอบของสดมาจากตลาดในซอยตรงข้ามคอนโด หน้าขาวเงยขึ้นจากผักกาดที่กำลังล้างและน้ำกระเด็นใส่ไปทั่วตัว
ใครมากัน? คุณพ่ออีกหรือ? ..ก็น่าจะมีท่านคนเดียว
“เดี๋ยวม่อนไปเปิดเองครับ” ม่อนแจ่มตะโกนบอกมารดา ถลันไปยังประตู ตามองผ่านช่องตาแมวออกไปข้างนอก
แน่นอน.. เขาเห็นคุณพ่อ ทว่า ท่านไม่ได้มาคนเดียว
“ป้าเพ็ญ!”
ม่อนแจ่มแหกปาก มือเรียวดึงคันโยกเปิดประตู ยกมือไหว้ละล่ำละลัก
“ป้าเพ็ญ สวัสดีครับ!”
“คุณม่อน ป้าคิดถึงหนักมาก!”
พจน์และระมิงค์หัวเราะออกมา สองผู้ใหญ่ยิ้มให้กันน้อยๆ เมื่อผู้อาวุโสมากสุดและน้อยสุดในที่นี้สวมกอดกันอย่างไม่อายใครอยู่นานเป็นนาที

          “คุณม่อน นี่ทำอะไรคะ?”
เพ็ญมาศร้องตกใจเมื่อเดินเข้ามาในส่วนที่กั้นไว้เป็นครัว วางกระปุกบัวลอยที่ทำมาฝากเด็กหนุ่มลงบนโต๊ะ
“เอ้อ ม่อน..” ม่อนแจ่มเกาหัว “ม่อนจะทำกับข้าวครับ”
“โธ่ เดี๋ยวป้าทำให้ค่ะ”
“ไม่เอาสิครับ ป้าเพ็ญสอนม่อนดีกว่า ม่อนอยากทำเป็น” ม่อนแจ่มขยับเข้าใกล้ นึกละอายที่ตลอดหลายปีที่อยู่บ้านประดิษฐาพงศ์ ลงไปหาแม่นมที่ครัวทีไร ก็ไปนั่งกินขนมตลอด ไม่ยักช่วยทำกับข้าวบ้าง ครานี้ล่ะ ม่อนแจ่มจะทำให้เป็น เผื่อจะได้ช่วยป้าเพ็ญเวลาที่อยู่บ้าน
..
..เวลาอยู่บ้าน
ม่อนแจ่มชะงัก ..ความคิดนี้ทำให้เขาอยากเตะตัวเอง
เขาเพิ่งคิดเหมือนว่าจะกลับไปอยู่บ้าน ..ที่ไม่ใช่บ้านเขา

         “ไม่ใช่บ้าน?”
..
          “แล้วมึงเรียกที่ที่มึงเกิด ที่ที่มึงเติบโต ที่ที่ปกป้องป้องดูแลมึงจากลมฟ้าอากาศ ที่ที่มีคนซึ่งมีความหมายต่อชีวิตของมึงอาศัยอยู่ว่าอะไร ม่อน”


หน้าขาวก้มลงเล็กน้อย ใจประหวัดถึงคำถามของพชร ก่อนรู้สึกถึงสัมผัสบริเวณหัวไหล่
“ม่อนสบายดีนะ”
คุณพ่อ..
ม่อนแจ่มเงยมอง
คุณพ่อรู้ไหมครับ ..ว่าลูกชายคุณพ่อเป็นคนน่านับถือแค่ไหน

          เป็นอันว่าอาหารเย็นมื้อนี้สำเร็จเรียบร้อยลงได้ด้วยฝีมือของคนถึงสี่คน..
เพ็ญมาศกับระมิงค์ (ทีมหมูหวาน) และนายพจน์กับม่อนแจ่ม (ทีมแกงจืด) โดยมีเพ็ญมาศคอยกำกับและบอกทุกขั้นตอน
ม่อนแจ่มมือเป็นระวิง แต่ก็ยังสามารถแว๊บจดสูตรพร้อมวาดรูปเอาไว้ทำวันหลังได้เสร็จสรรพ

ร่างเล็กสุดถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อได้กลิ่นหอมอ่อนๆของหมูสับในหม้อแกงจืดที่ปิดเตาแล้ว
คุณแม่นั่งอยู่กับป้าเพ็ญ จับไม้จับมือป้าเพ็ญ พูดคุยบางอย่างด้วยสีหน้าเปี่ยมความรักและขอบคุณ ส่วนคุณพ่อละไปเดินสำรวจรอบๆห้อง ก่อนจะนั่งลงที่โซฟา สายตามองออกไปภายนอกหน้าต่างที่เห็นตึกรามหลังอื่นๆอยู่ไม่ไกล อะไรบางอย่างทำให้รู้ได้ว่าท่านกำลังคิดถึงใคร..

ม่อนแจ่มค่อยๆก้าวเข้าไปใกล้ ทรุดนั่งลงที่พื้น
“อ้าว ม่อน ทำไมไม่ขึ้นมานั่งข้างบน?”
ม่อนแจ่มยิ้ม ไม่ตอบคำถาม “ขอบคุณนะครับคุณพ่อที่มาเยี่ยม แถมพาป้าเพ็ญมาด้วย”
“ป้าเพ็ญอุตส่าห์ทำบัวลอยจะฝากมาให้" นายพจน์ยิ้มกับเด็กหนุ่ม  "แต่พ่อว่าเอามาเองดีกว่า ม่อนคงคิดถึงแย่แล้วเหมือนกัน”

ปกติวิสัยของคุณพ่อแม้ไม่ค่อยพูด แต่ก็เป็นคนใจดีมากทีเดียว ..ม่อนแจ่มคิด
ไม่ค่อยพูด แต่ใจดี สำเนาถูกต้องเป๊ะเลย..
ม่อนแจ่มกลืนน้ำลายนิดหนึ่ง ไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นพูดอย่างไร อันที่จริง.. ไม่แน่ใจว่าจะพูดเรื่องอะไรด้วยซ้ำ

“เห็นว่าพบพชรแล้วหรือวันนี้?”
เอ้อ..
“ครับ คุณพ่อ” ม่อนแจ่มพยักหน้า ..ขอบคุณเหลือเกินที่ท่านเริ่มให้
“พชรสบายดีใช่ไหม” แม้นั่นจะเป็นเพียงคำถามตามปกติ ทว่า ก็มีกระแสความห่วงใยในนั้นอยู่ชัดเจน
ม่อนแจ่มอ้าปากจะบอกว่าสบายดี แต่ก็รู้อยู่แก่ใจว่าไม่เชิงนักหรอก ..พชรดูเหนื่อยล้าและใต้ดวงตาก็มีรอยคล้ำ

“คุณพ่อครับ ..” ม่อนแจ่มถอนหายใจ ก่อนจะพูดต่อช้าๆ
“พชรบอกว่า.. เขามีความสุข มีความพอใจกับชีวิต แล้ว.. พชรก็รักบ้าน รักสวนมาก ม่อนเกรงว่า.. พชรคงจะไม่..”

นายพจน์ยกมือใหญ่ขึ้นลูบหัวเล็กเบาๆ
“พ่อรู้..”
ม่อนแจ่มเงยหน้ามอง “แล้ว.. คุณพ่อเสียใจไหมครับ”

เสียใจสิ.. นายพจน์ตอบตัวเอง
แต่นี่เป็นบุญขนาดไหนแล้วที่ลูกชายคือพชรและม่อนแจ่ม ไม่เช่นนั้น เขาคงจะต้องเสียใจยิ่งกว่านี้แบบมหาศาลเลยทีเดียว
“พชรเป็นเด็กเข้มแข็งและตรงไปตรงมา เขาพูดสิ่งที่ตรงกับความรู้สึกเสมอนั่นแหละ”
นายพจน์ยิ้มออกมาเล็กน้อย อดที่จะรู้สึกชื่นชมในตัวเด็กหนุ่มที่เอ่ยถึงไม่ได้
“อะไรที่เราคิดว่าควร คิดว่าดีกว่า สบายกว่า มันไม่ใช่ชีวิตเขา เราคงไปบังคับเขาไม่ได้หรอกและไม่มีสิทธิ์เลยด้วย”
นายพจน์ยอมรับ “สิ่งที่พ่อต้องทำไม่ใช่ดึงพชรเข้ามาในชีวิตพ่อ แต่น่าจะเป็นการเดินเข้าไปในชีวิตพชรเอง ในระยะที่เขารับได้และไม่อึดอัดใจเสียมากกว่า”

นั่นสินะ..
คุณพ่อพูดถูก..

“ม่อนเองก็เหมือนกัน” นายพจน์ประทับน้ำหนักมือลงบนศีรษะเล็ก
“อย่าเสียใจให้มาก ยิ่งม่อนเสียใจ พชรก็ยิ่งเสียใจ นี่มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ ม่อนกับพชรไม่มีความผิดอะไรติดค้างกันเลย”

ใช่.. ม่อนแจ่มกับพชรไม่มีความผิดติดค้างกัน ที่มีก็คงเป็นเพียง..

“คุณพ่อครับ” ม่อนแจ่มรวบรวมความกล้า
“ม่อนมีอะไรอยากจะบอกคุณพ่อ และม่อนขอโทษคุณพ่อด้วย ถ้า.. ถ้ามันไม่สมควร”
“ลองพูดมาดูสิ” นายพจน์รอฟัง

ม่อนแจ่มขยับแว่น มองดวงตาสีเข้มของผู้ใหญ่บนโซฟาผ่านเลนส์ หวังให้ปรานีกับสิ่งที่เขาจะสื่อสาร
“ม่อนรัก..”
น้ำเสียงที่เอ่ยนั้นเบาหวิว หวั่นไหว ..แต่แล้วสัมผัสจากริมฝีปากที่ฝ่ามือเขาเพิ่งจะทาบปิดไว้เมื่อตอนเย็นก็ทำให้ย้ำคำชัดเจน
..
“ม่อนรักพชร ..รักลูกชายคุณพ่อ”

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ :3123:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-11-2016 23:51:21 โดย INDY-POET »

ออฟไลน์ treenature

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0
Re: SWEET SURRENDER 22/11/59 CH.30 Words are Wonderful P.26
«ตอบ #762 เมื่อ22-11-2016 23:32:02 »

ละลายแล้ว

ออฟไลน์ ceylon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: SWEET SURRENDER 22/11/59 CH.30 Words are Wonderful P.26
«ตอบ #763 เมื่อ22-11-2016 23:35:28 »

เป็นการรอคอยคำว่ารักที่ยาวนานแต่คุ้มค่ามากมาย

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
Re: SWEET SURRENDER 22/11/59 CH.30 Words are Wonderful P.26
«ตอบ #764 เมื่อ22-11-2016 23:36:25 »

 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ graciej

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: SWEET SURRENDER 22/11/59 CH.30 Words are Wonderful P.26
«ตอบ #765 เมื่อ22-11-2016 23:37:23 »

หลังจากที่เอาใจช่วยมานาน :heaven :heaven

ออฟไลน์ A_Narciso

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 879
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
Re: SWEET SURRENDER 22/11/59 CH.30 Words are Wonderful P.26
«ตอบ #766 เมื่อ22-11-2016 23:40:26 »

มันก็หวานนะ...แต่ทำไมเราน้ำตาไหล  :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
Re: SWEET SURRENDER 22/11/59 CH.30 Words are Wonderful P.26
«ตอบ #767 เมื่อ22-11-2016 23:43:15 »

ม่อนแจ่ม น่ารักน่าเอ็นดูแท้ ๆ
แบบนี้ดีจะตาย ลูกชายสองคนรักกัน ไม่มีเสีย มีแต่ได้

ออฟไลน์ Babelilong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 304
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
    • Facebook  เข้ามาขอเป็นเพือนได้เลย
Re: SWEET SURRENDER 22/11/59 CH.30 Words are Wonderful P.26
«ตอบ #768 เมื่อ22-11-2016 23:48:34 »

อ๊ายยย  เขินนนนน
ดหมือนพชรกับม่อนแจ่มมาบอกรักเรา
รอตอนต่อไป :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ toeyy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 34
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: SWEET SURRENDER 22/11/59 CH.30 Words are Wonderful P.26
«ตอบ #769 เมื่อ22-11-2016 23:49:10 »

 :impress2: :-[ :-[

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: SWEET SURRENDER 22/11/59 CH.30 Words are Wonderful P.26
« ตอบ #769 เมื่อ: 22-11-2016 23:49:10 »





ออฟไลน์ Starry[Blue]

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: SWEET SURRENDER 22/11/59 CH.30 Words are Wonderful P.26
«ตอบ #770 เมื่อ22-11-2016 23:50:40 »

บ...บอกรักกันแล้ว?! แต่บอกกับพ่อและแม่ของอีกฝ่ายก่อนเนาะ55 ก็สมเป็นทั้งคู่ดีค่ะ ทั้งสองคนอ่อนโยนและขลาดเขลาในเวลาเดียวกัน ถึงจะแสดงออกกันคนละขั้ว แต่เราว่าจุดนี้ทั้งสองคล้ายกันมากเลยทีเดียว ตอนนี้พชรเลือกที่จะบอกกับคุณระมิงค์เรื่องรักม่อนความคิดแรกของเราเลยคือดูเป็นผู้ชายจัง ในที่นี้คือ เราคิดว่าคำพูดว่ารักที่พชรกำลังจะพูดคือพูดต่อหน้าม่อนแจ่มและคุณระมิงค์พร้อมกัน ถ้าเช่นนั้นเราคงไม่ประทับใจในตัวพชรเท่าไหร่นัก มันดูเอาแต่ใจและดื้อดึงที่จะแสดงความรักของ'ฝ่ายชาย'ให้อีกฝ่ายจนกลายเป็นการยัดเยียดความรู้สึกรักอันเอาชายเป็นใหญ่สุดๆ แต่พออ่านความคิด และการแสดงออกที่เลือกจะพูดกับคุณระมิงค์เพียงสองคนแล้วเราดีใจมาก กดแต้มให้พชรรัวๆเลย น่าหลงรักจริงๆผู้ชายคนนี้ อุดมคติชัดๆ
ด้านม่อนแจ่มพอเห็นอากัปกิริยาที่พชรแสดงต่อคุณระมิงค์ก็ทำให้ความรู้สึกผิดของตัวเองทลายลงได้แล้วเลือกที่จะบอกคุณพ่อไปตรงๆ เราว่าทั้งคู่เรียนรู้กันและกันมามากเลยค่ะ ทั้งสองคนเรียนรู้ข้อดีของอีกฝ่าย รับรู้ข้อเสีย ให้อภัยแก่กันในความผิดพลาด มันดีมากๆเลยนะ เอาจริงๆทั้งคู่แทบจะเป็นideal coupleเลยอ่ะ ซึ่งเราไม่ค่อยเจอตัวละครคู่กันแล้วรู้สึกมันเป็นotpขนาดนี้ ความงดงามของการอ่านนิยายเลยนะ ดีใจที่ได้อ่านค่ะ  :กอด1:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: SWEET SURRENDER 22/11/59 CH.30 Words are Wonderful P.26
«ตอบ #771 เมื่อ23-11-2016 00:05:46 »

อ๊ากกก.....พชร บอกแม่ม่อนว่ารักม่อน
ม่อน ก็บอกพ่อพชรว่า ม่อนรักพชร
สุดๆๆ ชอบบบบ  :mew1: :mew1: :mew1:
รอ ม่อนพบพ่อแสงรวี  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ reverofjs

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: SWEET SURRENDER 22/11/59 CH.30 Words are Wonderful P.26
«ตอบ #772 เมื่อ23-11-2016 00:40:16 »

มาต่อเหอะ พลีสสสสสสสส
ค้างมากมาย  :mew2:

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
Re: SWEET SURRENDER 22/11/59 CH.30 Words are Wonderful P.26
«ตอบ #773 เมื่อ23-11-2016 01:01:29 »

เชรดดดดดด!!!ม่อนนนนนน คนจริง >//< ต่างก็บอกให้ผู้ใหญ่รับรู้แล้วววว! ไฟเขียววว //ปลดล็อกความรู้สึกอื้อๆอึงๆ ถึงแม้ช่วงแรก me : อะไรวะเนี้ยม่อน พล่ามอะไรของมันเยอะแยะว่ะ พยายามจะเข้าใจนะ แต่มันก็แบบคิดลึกซึ้งซับซ้อนเกินไปแล้ว อึดอัด //พอพชรตะโกนใส่หน้า "ออกไปจากห้องนี้ซะ" เท่านั้นละ หายใจโล่งเลย คืออยากพ่นใส่หน้าม่อนแบบนี้ตอนนั้นมากเหมือนกัน กระทึบไลค์ 555555 **ม่อน 5/10** //พชรไม่ยอมปล่อยแล้วไปสารภาพกับแม่ me : เออมันใช่คือตรูเกือบยุให้พชรไม่ต้องตามปล่อยไปก่อนไรงี้ เกือบไปแล้ว ดีที่พชรไม่ทำตามความคิดตรู 5555555 **พชร 10/10** //สุดท้ายม่อนสารภาพกับพ่อ คะแนนม่อนกลับมา **ม่อน 10/10** 555555555555 อารมณ์ขึ้นๆลงๆแล้วก็กลับมาปกติ มีความอิน 55555 เอ้าาาแล้วลุยเดินหน้า ชูป้าย #พชรม่อน ทางสะดวกมั้งนะ ใช่ไหมค่ะพ่อแม่ อิอิ //รออออออตอนต่อไปค่ะไฟท์ติ้ง~~~

ออฟไลน์ continued

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Re: SWEET SURRENDER 22/11/59 CH.30 Words are Wonderful P.26
«ตอบ #774 เมื่อ23-11-2016 01:10:20 »

ฮื่อออออออออออ ในที่สุดทั้งคู่ก็เปิดเผยใจตัวเองสักที

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0
Re: SWEET SURRENDER 22/11/59 CH.30 Words are Wonderful P.26
«ตอบ #775 เมื่อ23-11-2016 01:32:51 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Money11

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
Re: SWEET SURRENDER 22/11/59 CH.30 Words are Wonderful P.26
«ตอบ #776 เมื่อ23-11-2016 02:18:10 »

โอยยยยยย ลุ้นนน
บอกรักแล้วจ้า แต่บอกผ่านพ่อกับแม่ ฮืออออ ชอบแบบนี้ ทำไมเขียนดีงี้ตลอดเลยอ่ะ
รักๆๆๆ
คิดถึงนะ รอตอนต่อไปอย่างจดจ่อ :-[

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
Re: SWEET SURRENDER 22/11/59 CH.30 Words are Wonderful P.26
«ตอบ #777 เมื่อ23-11-2016 09:15:20 »

 :-[

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
Re: SWEET SURRENDER 22/11/59 CH.30 Words are Wonderful P.26
«ตอบ #778 เมื่อ23-11-2016 10:21:14 »

เค้าบอกรักกันแล้วแต่ไปบอกกับผู้ให้กำเนิดอีกฝ่ายแบบว่าขอให้รับทราบและยิยยอม แบบว่าแมน :mew4:

ออฟไลน์ automaton

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
Re: SWEET SURRENDER 22/11/59 CH.30 Words are Wonderful P.26
«ตอบ #779 เมื่อ23-11-2016 10:34:15 »

เป็นความรู้สึกที่ละมุ่นละไม ลึกซึ้งกินใจ อ่านแล้วเหมือนจะแฝงความเศร้าแต่ก็มีความอิ่มเอมใจ
เป็นนิยายที่ถ่ายทอดถ้อยคำได้สวยงามมาก
ทำหนังสือออกมาด้วยนะจ๊ะ ซื้อแน่นอน 100 %
 :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด