My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) ตอนที่43 END (จบแล้ว)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) ตอนที่43 END (จบแล้ว)  (อ่าน 60084 ครั้ง)

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
เอ๋า...งานเข้าซะแระ เขาบังเอิญเจอกันค่ะคู้นนนนน

ออฟไลน์ writerbeer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-3
ตอนที่36

"นี่อะไร"
อั๋นถาม
"กูไปซื้อของที่พารากอน เจออาร์ต..." ผมกำลังจะพูดต่อแต่โดนตัดบท
"ไหนหมอบอกว่าไปธุระกับพ่อ"
"จริงๆแล้วไม่ได้ไปกับพ่อ กู..."
"แต่ไปกับอาร์ต" อั๋นแทรกขึ้นมาอีก ไม่เปิดโอกาสให้อธิบาย ผมมองหน้าอั๋น เห็นแววตาดุดันจ้องตอบกลับมา
"กูบอกแล้วไงว่าไม่ได้ไปกับอาร์ต แต่ไปเจอกันที่นั่น"
"เหรอ นัดเจอคนที่ไม่ใช่แฟนในวันวาเลนไทน์เนี่ยนะ" อั๋นจับข้อมือผม
"มึงฟังกูก่อนได้มั้ย" ผมเริ่มจะหงุดหงิดขึ้นมาแล้ว อั๋นไม่ยอมหยุดและฟังผมเลย ประโยคล่าสุดที่ออกมาจากอั๋นว่าผมไปนัดเจอคนอื่นในวันนี้ทำให้ผมไม่ค่อยสบอารมณ์
"หมอจะโกหกอะไรอั๋นอีก" อั๋นพูดด้วยเสียงเบา ไม่โหวกเหวก แต่ผมรู้ว่าข้างในมันโกรธมาก
"ที่กูโดดเมื่อเช้าเพราะกูทำของขวัญวันวาเลนไทน์อยู่ แล้วก็ไปซื้อช็อคโกแลตมาให้มึง" ผมตอบเสียงเย็น ใช้มือข้างที่ไม่ได้ถูกจับ หยิบสมุดภาพทำมือที่ห่อกระดาษของขวัญไว้ และชูถุงใส่ช็อคโกแลตRoyceให้อั๋นดู
อั๋นผงะ
"จะ...จริงเหรอ"
ผมยัดของทั้งสองชิ้นใส่มืออั๋นก่อนจะเดินเข้าห้องเรียนไปโดยไม่พูดอะไรอีก
เพื่อนทั้งห้องมองตามผมจนนั่งลงที่เก้าอี้ ไม่ถึงนาทีอั๋นเดินตามเข้ามาพร้อมกับของที่ผมให้ สีหน้าเสียใจอย่างสุดซึ้ง
ผมรู้สึกว่างเปล่า เหมือนความรู้สึกดีเมื่อหลายชั่วโมงก่อนอันตรธานไปหมด ผมหวังจะได้เห็นว่าอั๋นดีใจแค่ไหนเมื่อได้ของขวัญ แต่นี่มันกลับเข้าใจผิดแล้วไม่ฟังผมแบบนี้
"หมอ กู..." ในที่สุดอั๋นก็เดินมาถึงโต๊ะตัวข้างๆผม
ตอนนั้นอาจารย์เดินเข้ามาสอนพอดี ผมหยิบสมุดเลกเชอร์ขึ้นมาจดเมื่ออาจารย์เริ่มบรรยายสไลด์ที่ฉายผ่านกระดาน
อั๋นไม่สนใจอาจารย์แม้แต่นิดเดียว ได้แต่มองมาที่ผมอย่างรู้สึกผิด

ตลอดทั้งคาบผมไม่ได้พูดอะไรสักคำ และอั๋นก็ยังคงมองผมอยู่ นั่งนิ่ง ไม่จดงาน
ผมเห็นจากหางตาว่าข้างโต๊ะเรียนของอั๋นมีดอกกุหลาบช่อใหญ่พร้อมทั้งกล่องของขวัญหนึ่งกล่องวางอยู่...
เมื่อเสียงกริ่งหมดเวลาเรียนดัง ผมลุกขึ้นเตรียมจะออกไปนอกห้อง
"เห้ย หมอ"
ไม่ใช่อั๋น แต่เป็นนนท์ที่เรียกผม
"อะไร"
"มึง...จะไปไหน"
"ห้องน้ำ"
ผมเดินออกไป เสียใจมากครับ เซอร์ไพร์สที่ผมตั้งใจให้อั๋นพังไม่มีชิ้นดี
อั๋นวิ่งออกมาจนทัน มันคว้าข้อมือผมไว้
"หมอ"
ผมพยายามสะบัดให้หลุดแต่ทำไม่ได้ สู้แรงอั๋นไม่ได้สักนิด
"ปล่อย"
"เดี๋ยวก่อน กูขอโทษ"
"บอกให้ปล่อย" ผมขึ้นเสียง อั๋นยอมปล่อยมือออก
ผมเดินหนี แต่อั๋นก็ตามมาอีก
"หมอ กูขอโทษ"
ผมยังเดินต่อไป เงียบ ไม่ยอมพูด เพราะรู้ว่าถ้าพูดออกไปจะต้องโมโหมากขึ้นอีกแน่ๆ
"หมอ"
อั๋นโผเข้ากอดผมจากด้านหลัง แขนสองข้างรัดผ่านลำตัวผมไว้แน่น
"ยกโทษให้กูนะ กูโง่เอง กูน่าจะฟังมึงพูดก่อน" เสียงของอั๋นสั่นและร้อนรน เหมือนกลัวว่าผมจะไม่ยุ่งกับมันอีก
"ปล่อยก่อน"
"ถ้าปล่อยแล้วมึงจะเดินหนีกูอีกมั้ย"
"ปล่อยกูก่อน" ผมย้ำคำเดิม
อั๋นลังเลพักหนึ่งก่อนจะคลายกอดช้าๆ
"กูจะไปล้างหน้า ไม่ได้เดินหนี...แล้วไม่ต้องตามมาด้วย"
ผมเดินต่อไปที่ห้องน้ำ สาเหตุที่ผมต้องออกมาก็เพราะเมื่อครู่ผมอยากอยู่คนเดียวและคิดว่าทนนั่งในห้องเรียนให้อั๋นมองมาแบบนั้นไม่ได้
แต่ตอนนี้ เป็นเพราะผมไม่อยากให้อั๋นเห็นน้ำตาที่รื้นขึ้นมา...
ผมกลั้นไว้ไม่อยู่จริงๆ ทั้งๆที่ไม่มีเรื่องไหนทำให้ผมรู้สึกเสียใจถึงขนาดเสียน้ำตามาได้ตั้งหลายปี ครั้งล่าสุดที่ร้องไห้เพราะเรื่องอะไรก็ไม่รู้ นานแค่ไหนก็จำไม่ได้
ทำไมอั๋นถึงคิดว่าผมนอกใจมันได้ ผมอยู่กับมันทุกวัน แทบจะตลอดเวลาด้วยซ้ำ แค่เห็นรูปๆเดียวก็คิดไปไกล ทำไมมันไม่เชื่อใจผม
ผมรีบเปิดน้ำล้างหน้าทันที ล้างคราบน้ำตาออกให้เร็วที่สุด ผมเงยหน้าขึ้นมา แม้รอยน้ำตาจะหมดไป แต่ตาผมยังเป็นสีแดงก่ำให้เห็น
อั๋นไม่ทำตามที่ผมขอ มันยืนรออยู่หน้าห้องน้ำ

อั๋นเดินตามผมกลับมาที่ห้องเรียนอีกครั้ง ต่างคนต่างไม่พูดอะไร
ต้าร์ นนท์ เอกและเพื่อนๆเกือบทั้งห้องมองมาที่เราสองคน ทุกคนดูกระอักกระอ่วน
"หมอ" ไอ้นนท์เรียกเสียงเบา
"ไรวะ" ผมพยายามทำสีหน้าให้ดูปกติ เหมือนไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น
"มึง...โอเคนะ"
"กูโอเค"
อะไรบางอย่างบนใบหน้าของมันบอกว่าไม่เชื่อสิ่งที่ผมพูด
อั๋นหันไปสบตากับต้าร์ นนท์ ผมเห็นต้าร์พยักหน้าให้อั๋น เหมือนจะให้มันเคลียร์กับผม
แต่อั๋นไม่ได้พูดอะไรและยังคงแอบมองผมอยู่เรื่อยๆ

อั๋นสะกิดแขนผมเบาๆเมื่ออาจารย์เอ่ยเสียงปล่อยนักเรียนกลับบ้าน
ผมหันไปหา
"ไปที่รถกัน"
ท่าทางอั๋นดูกลัวๆผมอยู่ไม่น้อย ผมไม่ตอบอะไร ได้แต่เก็บอุปกรณ์การเรียนทุกชิ้นใส่กระเป๋าแล้วสะพายขึ้นบ่าก่อนเดินนำออกจากห้องไปก่อน
อั๋นรีบเก็บสัมภาระของตัวเองตามอย่างรวดเร็วแล้ววิ่งตามผมมาแทบจะในทันที
"ไป...ไปกันเลยมั้ย"
อั๋นถามถึงที่เราจะไปฉลองวาเลนไทน์กันวันนี้สินะ
"อย่าเลย กูอยากกลับบ้าน"
ผมคิดว่าผมไม่มีอารมณ์จะไปกินข้าวหรือดูหนังตอนนี้เลยสักนิด
"อะ...เอ่อ..."
"..."
"หมอจะไม่ไปจริงเหรอ" อั๋นถามเสียงอ่อย
"อือ" ผมก้มหน้าตอบ
อั๋นเงียบไปพักหนึ่งก่อนพูดขึ้น
"งั้นเดี๋ยวไปส่งนะ"

"อยากกินอะไรมั้ย เดี๋ยวแวะซื้อของกัน อั๋นจะทำให้หมอกินที่บ้าน" อั๋นถามก่อนขึ้นรถมอเตอร์ไซด์
"ไม่อยากกินอะไรเลย" ผมรู้สึกอย่างที่ตอบจริงๆ
"งั้น เดี๋ยวค่อยว่ากัน" อั๋นไปต่อไม่ถูก เริ่มขับรถออกมาจากบริเวณโรงเรียน

ผมไขกุญแจบ้าน วันนี้แม่ไม่อยู่ครับ ออกไปเยี่ยมเพื่อนตั้งแต่เช้า
ผมตั้งท่าจะเดินเข้าไปในบ้าน ไม่ร่ำลาอั๋น
"กูขอเข้าไปข้างในได้มั้ย" อั๋นโพล่งขึ้นมา
"มึง...กลับไปก่อนดีกว่า" ผมไม่อยากพูดคำนี้เลย แต่ตอนนี้ผมรู้สึกไม่ดีจริงๆ
"..." อั๋นตกใจจนพูดไม่ออก
"ขอโทษนะ" ผมพึมพำก่อนหันหลังให้อั๋น

ผมไม่รู้ว่าอั๋นกลับไปตอนไหน ไม่ได้ยินเสียงสตาร์ทรถมอเตอร์ไซด์ที่หน้าบ้านด้วยซ้ำ
ผมกำลังร้องไห้อยู่เงียบๆคนเดียวในห้อง...

หกโมงเย็นแล้วเมื่อผมโทรสั่งอาหารตามสั่งร้านหน้าปากซอยให้มาส่งที่บ้าน ในใจคิดว่าถ้าผมกับอั๋นไม่ได้ทะเลาะกัน ป่านนี้เราคงกำลังกินข้าวอยู่ด้วยกันแน่ๆ
เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือดังขึ้น เรียกผมให้ออกจากวังวนความคิด
ต้าร์
"ฮัลโหล"
(ฮัลโหลหมอ มึงว่างอยู่มั้ย)
"ว่าง มีไรวะ" ผมสังหรณ์ใจว่าต้าร์โทรมาเพื่อจะพูดเรื่องอั๋น
(คือ...มึงยังไม่คืนดีกับไอ้อั๋นใช่มั้ย)
นั่นไง ตรงกับที่ผมคิดไว้จริงๆ
"อือ"
(เมื่อกี้กูโทรไปหามันมา มันร้องไห้กับกู แล้วก็บอกกูว่ามันกลัวจะเสียมึงไป)
...อั๋นร้องไห้เลยเหรอ
(กูรู้ว่าวันนี้ไอ้อั๋นมันผิด ผิดเต็มๆเลยด้วย ไม่ใช่เพราะมึงสักนิด...แต่มึงอย่าโกรธมันเลย มันทำไปก็เพราะมันรักมึงมาก ตอนที่เห็นรูป มันโกรธมากเลยนะ มันหวงมึงจริงๆ)
ผมรู้ครับ
(หมอ ยังอยู่มั้ย)
"อยู่"
(กูไม่อยากให้พวกมึงสองคนเป็นแบบนี้ ดีกันเถอะนะ)
"เอ่อ"
(มึงจะยอมคุยกับอั๋นแล้วใช่มั้ย)
"กู..." ผมคิดไม่ออกจริงๆ
(นะหมอ ยกโทษให้ไอ้อั๋นสักครั้งนะ ครั้งหน้ามันคงไม่ทำอะไรแบบนี้อีกแล้ว)
"อือ"
(มึงลองกลับไปคิดดูนะ)
"เออ...ขอบใจมากนะต้าร์" ผมบอกขอบคุณจากใจจริง ไม่รู้ว่ามันโทรหาผมเพราะสงสารอั๋นหรือเปล่า แต่ก็แสดงให้เห็นว่ามันไม่อยากให้เราสองคนมีปัญหากัน

พักเดียวแม่ก็กลับมา ซื้อขนมมาเต็มมือ
"อ้าว ไหนบอกว่าจะกลับดึกไงลูก ทำไมกลับมาเร็วล่ะ" แม่เอ่ยทักเมื่อเห็นผมออกมาเปิดประตูบ้านให้
"เอ่อ...เสร็จแล้วก็กลับเลยน่ะแม่"
"แม่ก็นึกว่ามีนัดกับสาวที่ไหนวันนี้ ไหนดูสิ หมอได้อะไรวันวาเลนไทน์หรือเปล่า เอ...หรือว่าเอาอะไรไปให้คนอื่น" แม่ถามเสียงใส
"ไม่มีน่าแม่" ผมตอบเลี่ยงๆ รับถุงใส่ของจากมือแม่แล้วเดินไปวางบนโต๊ะในห้องครัว
"แล้วกินข้าวรึยัง"
"กินแล้วครับ แม่อะ"
"แม่กินมาก่อนกลับแล้ว"
"งั้นหมอขึ้นไปข้างบนก่อนน" ผมบอก หนีขึ้นไปอยู่ในห้องตัวเองก่อนที่แม่จะสงสัยว่าทำไมผมถึงไม่ร่าเริงเลย

ผมนอนลงบนเตียง จ้องเพดานอยู่นาน
ไลน์แจ้งเตือนข้อความล่าสุด
จากอั๋น

ผมกดปุ่มล็อคหน้าจอ ยังไม่กล้ากดอ่าน
อั๋นส่งอะไรมานะ

หนึ่งชั่วโมงผ่านไป เสียงแม่เรียกผมดังมาจากข้างล่าง
"หมอ อั๋นมาหาน่ะลูก"
ผมสะดุ้ง เคลื่อนตัวจากเตียงช้าๆและลงบันไดไปชั้นล่าง

ผมเห็นสีหน้าเศร้าสลดของอั๋นมองมาเป็นอย่างแรก
แม่ยื่นถุงขนมให้อั๋น
"เอาไปกินกับหมอสิลูก แม่ซื้อมาเต็มเลย"
"ขอบคุณครับ" อั๋นรับมา มองมาที่ผมอย่างไม่แน่ใจ
"ตามสบายนะลูก" แม่ยิ้มให้อั๋นก่อนจะเดินกลับไปห้องนั่งเล่น
อั๋นยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ไม่ขยับไปไหน
"...ขึ้นมาข้างบนดิ" ผมเอ่ยชวนก่อนจะเดินนำขึ้นบันไดมาก่อน

ผมนั่งลงที่เตียง อั๋นนั่งเก้าอี้ที่โต๊ะคอมพิวเตอร์
ผมนึกถึงครั้งล่าสุดที่เราทะเลาะกัน ตอนนั้นอั๋นโกรธที่ผมคุยกับพี่ก้อง มันบอกว่ามันหวงผม...
ครั้งนี้ก็เพราะมันหึงผมเหมือนกันสินะ
เราต่างไม่มีใครพูดอะไรออกมา ผมเกลียดบรรยากาศชวนอึดอัดแบบนี้ชะมัด
เมื่ออั๋นเห็นว่าผมมองหน้ามันอยู่ มันก้มหน้าลงมองพื้น
ในที่สุดอั๋นก็หยิบของในกระเป๋าเป้ออกมา เป็นช่อดอกกุหลาบกับกล่องของขวัญที่ผมเห็นอยู่ข้างโต๊ะอั๋นตั้งแต่เมื่อตอนกลางวัน
"นี่...ของขวัญ"
อั๋นค่อยๆเดินมาหาผมและยื่นของให้
"อือ...ขอบใจนะ"
อั๋นยิ้มบางๆก่อนทำท่าจะเดินกลับไปนั่งที่เก้าอี้ตัวเดิม ผมเม้มริมฝีปากก่อนเรียก
"นั่งนี่ก็ได้"
อั๋นชะงักก่อนเดินกลับมานั่งลงข้างผม
"กู...ดูสมุดภาพแล้วนะ สวยมากๆเลย ขอบคุณนะ" อั๋นบอก ผมเงียบ อั๋นจึงพูดต่อพร้อมหันมาจ้องหน้าผมตรงๆ
"รู้มั้ย หมอเป็นของขวัญวันวาเลนไทน์ที่ดีที่สุดของอั๋นเลยนะ"
เป็นคราวของผมที่ต้องก้มหน้ามองพื้นบ้าง
"อั๋นโชคดีมาก...เคยคิดด้วยว่าหมออาจจะไม่ตอบตกลงเป็นแฟนอั๋นก็ได้ แต่หมอก็ตกลง..."
ผมเริ่มรู้สึกว่ามีน้ำร้อนๆรื้นขึ้นมาในดวงตา
"อั๋นรักหมอ อั๋นอยากให้หมอมีความสุข แต่...วันนี้..."
"ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว"
ผมเงยหน้าขึ้นมองอั๋นและเห็นว่ามันก็มีน้ำตาไหลออกมาเหมือนกัน
"อั๋นโง่เองที่ไม่เชื่อใจหมอ แค่รูปๆเดียวก็ทำอะไรโง่ๆลงไป อั๋นทำทุกอย่างพังหมดเลย..."
อั๋นเริ่มสะอึกสะอื้น ผมผงะ
"อั๋นขอโทษนะหมอ"
แล้วอั๋นก็โผเข้ากอดผม ซบหน้าร้องไห้ลงบนไหล่
ผมเองก็ร้องไห้เช่นเดียวกัน

-จบตอน-

ฮือออออ ตอนนี้เศร้ามาก เศร้าสุดตั้งแต่ที่เขียนเรื่องนี้มาเลยครับ ยังไงนี่ก็ถือเป็นอุปสรรคหนึ่งของสองคนนี้เนอะ
ตอนที่แล้วลืมให้ประวัติตัวละครหลักตัวสุดท้ายไป อาร์ตนั่นเองครับ

ประวัติของอาร์ต
ชื่อ : อาร์ต
สถานะ : มีแฟนแล้ว
ชั้นเรียน : มัธยม4/1 สายวิทย์-คณิต โรงเรียนชายล้วน
วิชาที่ถนัด : คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี คอมพิวเตอร์
สีที่ชอบ : ขาว
อาหารที่ชอบ : เนื้อย่าง
กีฬาที่ชอบ : กรีฑา บาสเกตบอล วอลเลย์บอล
เวลาว่าง : เรียนพิเศษ เล่นกีฬา เที่ยวแบบแบ็คแพ็ค
ลักษณะนิสัย : เรียบร้อย นิ่ง ขรึม อ่อนโยน เข้ากับคนอื่นได้ง่าย มีระเบียบวินัย
รูปร่างหน้าตา : สูงโปร่ง หน้าคม ผิวสีแทน เอกลักษณ์คือลักยิ้มที่สวยมาก

ติดตามตอนต่อไปด้วยนะครับ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
พูดไม่คิด ไม่ยอมฟังไม่ยอมถามสุดท้ายก็ต้องมานั่งเสียใจนะอั๋น :เฮ้อ: :เฮ้อ:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


ออฟไลน์ writerbeer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-3
ตอนที่37

"กูขอโทษนะหมอ" อั๋นเงยหน้าขึ้นจากไหล่ผม เสียงสั่นพร่า
"อือ" ผมตอบ มองสบตาคมของอีกฝ่ายที่เต็มไปด้วยร่องรอยความเศร้า และเข้าใจว่าอั๋นเสียใจมากแค่ไหนที่ทำผิดกับผม
"หมอหายโกรธแล้วใช่มั้ย"
"อือ" ผมยังพูดได้ไม่เต็มปากว่าหายโกรธ แต่ผมก็ทนเห็นอั๋นเป็นแบบนี้ไม่ได้อีกต่อไป
อั๋นดูสงบลง แต่น้ำตายังไม่หยุดไหล
"หยุดร้องไห้ได้แล้ว" ผมบอก

เราทั้งคู่นั่งอยู่อย่างนั้นอีกพักใหญ่ อั๋นจับมือผมไว้
ผมมาคิดได้ว่าเรื่องที่อั๋นทำวันนี้ก็เป็นแค่ข้อผิดพลาดครั้งหนึ่ง เทียบไม่ได้เลยกับสิ่งต่างๆที่มันทำให้ผมมาตลอด แล้วผมจะไม่ให้อภัยมันได้ยังไง
"อั๋น ฟังกูนะ"
"..." อั๋นเงียบ เงยหน้าขึ้นจากไหล่ผมและยกมือขึ้นปาดน้ำตา
"กูไม่โกรธมึงแล้ว แต่...ครั้งหน้า ถ้ามีเรื่องไม่เข้าใจ...ต้องคุยกันดีๆนะ..." ผมอยากให้อั๋นเข้าใจว่าผมไม่ได้โกรธมันแล้วจริงๆและไม่อยากให้เกิดเรื่องที่ทำให้เราทั้งคู่ต้องมาเสียใจแบบนี้อีก
อั๋นพยักหน้า
"คืนนี้กูขอนอนที่นี่ได้มั้ย"
"...เอาดิ" ผมเงียบไปนิดนึงก่อนตอบ
อั๋นดึงผมเข้ามากอดอีกครั้ง ผมกอดตอบ

ผมกับอั๋นแกะขนมที่แม่ซื้อออกมากินด้วยกัน อั๋นนั่งมองผมเงียบๆ เหมือนเด็กที่ไม่กล้าพูดอะไรขึ้นมาหลังจากโดนผู้ปกครองดุ
"อร่อยปะ"
"อือ"
"นี่ โทรบอกที่บ้านยังว่าจะนอนบ้านกูอะ"
"อ้อ ยังเลย..." อั๋นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทันที
ระหว่างที่อั๋นคุยกับที่บ้าน ผมก็หยิบมือถือตัวเองขึ้นมาเหมือนกัน ไลน์บอกไอ้ต้าร์ว่าผมดีกับอั๋นแล้ว
"หมอ กูยืมชุดนอนมึงนะ"
"เออ"
อั๋นหลบสายตาเมื่อเห็นว่าผมกำลังจ้องมันอยู่
"อั๋น" ผมเรียกและเอื้อมมือไปจับไหล่อีกฝ่าย "เลิกคิดมากได้แล้วน่า...เรื่องมันผ่านไปแล้ว"
อั๋นยิ้มบางๆ สีหน้ายังแสดงความรู้สึกผิดอยู่เล็กน้อย
"ไหนเอาของขวัญมาดูหน่อยดิ" ผมพยักเพยิดไปทางกล่องของขวัญที่อยู่บนเตียง อั๋นกระเถิบตัวไปหยิบมาให้
"ให้อะไรหว่า" ผมเริ่มแกะกระดาษห่อออก อั๋นไม่ตอบ "โหห"
อั๋นซื้อนาฬิกาข้อมือเรือนสีขาวล้วน รุ่นที่เคยไปดูด้วยกันเมื่อไม่นานนี้ให้ครับ
"ขอบคุณนะ"
อั๋นยิ้มกว้างเมื่อเห็นสีหน้าผม
"กูเอาสมุดภาพมาด้วยนะ" อั๋นขยับอีกครั้ง หยิบสมุดภาพจากกระเป๋าเป้ "ขอบคุณที่ทำให้นะครับ"
ผมยิ้มรับ
"หมอ"
"หือ"
"ถ้า...พรุ่งนี้..."
"ทำไมอ่อ"
"มึง...อยากไปฉลองวาเลนไทน์ย้อนหลังมั้ย"
ที่อั๋นเงียบไปนานคงเพราะคิดเรื่องนี้อยู่สินะ
"ไปดิ กินข้าวดูหนังเหมือนแผนเดิมใช่มั้ย"
อั๋นยิ้มกว้างกว่าเมื่อสักครู่นี้อีก

"แม่ครับ เดี๋ยวคืนนี้อั๋นนอนนี่นะ" เราเดินลงไปข้างล่าง
"ขอรบกวนด้วยนะครับ" อั๋นบอก
"ได้สิจ๊ะ"
พ่อยังไม่กลับมาอีกเหรอครับ
"ยังเลย เห็นบอกว่ามีกินข้าวกับลูกค้าน่ะ"
"อ้อ"
"นี่ หมอกับอั๋น แม่ขอถามอะไรหน่อยสิ"
ผมที่กำลังจะเดินกลับขึ้นไปข้างบนถึงกับชะงัก อั๋นหันมาสบตากับผม
"ครับ"
"มานั่งนี่ลูก" แม่นั่งลงที่โซฟาตัวสั้น สีหน้าแม่ผมอ่านไม่ออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่
ผมกับอั๋นเดินไปนั่งด้วยกันที่โซฟาตัวยาวตรงกลาง แม่มองตามปฏิกิริยาของเราสองคนตลอด นั่นทำให้ผมไม่กล้าหันไปมองหน้าอั๋นเลย
แม่จะถามอะไรเรานะ
"เราสองคนมีเรื่องทะเลาะกันเหรอ"
"เอ่อ..." ผมติดขัด "ใช่ครับ"
"แล้วนี่เคลียร์กันแล้วใช่มั้ย"
"ครับ"
"ทะเลาะอะไรกัน บอกแม่ได้หรือเปล่า"
"คือ..."
"ผมผิดเองครับแม่" ผมหันขวับไปมอง อั๋นพูดออกมาหลังจากเงียบไปหลายนาที
แม่ละสายตาจากผมไปหาอั๋น
จะให้แม่รู้ไม่ได้นะอั๋น
"ผม...เข้าใจผิดว่าหมอโกหก แล้วผมโวยวายใส่ครับ"
"อ้อ..." แม่มีสีหน้าครุ่นคิด ผมกลัวที่สุดถ้าแม่จะถามว่าเข้าใจผิดเรื่องอะไร
"ผมรู้สึกไม่ดีก็เลยมาขอโทษหมอน่ะครับ" อั๋นพูดต่ออย่างรวดเร็ว ผมเข้าใจทันทีว่ามันต้องการให้แม่ไม่ถามเรื่องเดิมต่อ
"ตอนอั๋นมากดกริ่งหน้าบ้าน แม่เห็นหน้าเราก็รู้เลยว่าต้องกำลังไม่สบายใจแน่ๆ...แถมวันนี้เจ้าหมอก็ดูหงอยแปลกๆ แม่ก็เลยสงสัยน่ะ"
แม่จับอาการผมได้ยังงั้นเหรอ
"ดีกันก็ดีแล้วลูก...ว่าแต่แม่พึ่งเห็นหมอกับอั๋นทะเลาะกันครั้งแรกเลยนะเนี่ย"
บรรยากาศการพูดคุยดูผ่อนคลายลง ผมคิดเอาเองว่าแม่คงไม่ถามเรื่องน่าสงสัยอีกแล้ว
"ก่อนหน้านี้ก็เคยทะเลาะครับ"
"อ่าวเหรอ แต่หมอคงเป็นคนผิดสินะ"
"แม่" ผมลากเสียง แม่หัวเราะ "อั๋นต่างหาก ไม่ใช่หมอ"
ผมหันไปเห็นอั๋นยิ้มแหยๆ
"ผมเองแหละครับ"
"หือ อั๋นเนี่ยนะ แม่ไม่อยากเชื่อเลย อั๋นทำอะไรผิดอีกเนี่ย...หรือว่าเจ้าหมองี่เง่า งอนนานเกินไป"
"แม่พูดเหมือนผมเป็นผู้หญิงอะ" ผมทำหน้ามุ่ย
"อ้าว ก็ดูอั๋นวันนี้สิ เดินหน้าเครียดเข้ามาเชียว แล้วก็บอกแม่ว่า 'ขอคุยกับหมอหน่อยครับ' อย่างกับมาง้อแฟนแน่ะ"
คำหลังสุดของแม่เล่นเอาเราทั้งคู่แทบเก็บอาการไว้ไม่อยู่ แม่ไม่ได้สังเกตเห็นความสัมพันธ์ที่เกินเพื่อนของเราหรอกใช่ไหม
"ถ้าผมทำผิด ผมก็ต้องไปง้อมันแบบนี้แหละน่า"
"ใช่ครับ" อั๋นสนับสนุน
"จ้ะ ทะเลาะกันบ้างไม่แปลกอะไร คนอยู่ด้วยกันก็ต้องมีปัญหาเป็นธรรมดา" แม่พูดราวกับว่ากำลังสอนคู่รักคู่ใหม่ยังไงยังงั้น
"คร้าบ..."

"แม่ไม่ได้สงสัยกูกับมึงใช่มั้ย" ผมขอความเห็นอั๋นทันทีที่กลับเข้ามาในห้อง
"ไม่รู้ว่ะ แต่เมื่อกี้ตกใจแทบแย่แน่ะ"
"เออดิ นึกว่าแม่รู้ซะแล้ว"
คำตอบในใจผมคือ ใช่ แม่ต้องกำลังสงสัยอยู่เล็กๆ แต่ผมไม่อยากให้เป็นแบบนั้นเลยสักนิด
เสียงโทรศัพท์มือถือผมดังขัดขึ้นมา
"ฮัลโหลต้าร์"
(ไอ้หมอ มึงดีกับไอ้อั๋นแล้วใช่ปะ) น้ำเสียงไอ้ต้าร์ร่าเริงเชียว โทรมาเพราะคงเห็นข้อความที่ผมส่งไปในไลน์
"เออ อั๋นอยู่ข้างๆกูเนี่ย"
(เปิดspeakerหน่อย)
"อะไรของมึงเนี่ย" ผมบ่น แต่ก็ทำตามที่มันบอก
(ไอ้อั๋น ไอ้ขี้แย) ผมหัวเราะ
"ไอ้สาดด" อั๋นด่า เขินจนหน้าเป็นสีแดง
(ผัวเมียคืนดีกันก็ดีแล้ว อย่าทะเลาะกันเลย กูเครียดแทน)
"ขอบใจนะเว้ยต้าร์" ผมยิ้ม
(เออ กูไม่กวนพวกมึงละ อั๋นมึงอย่าทำให้หมอโกรธอีกนะเว้ย)
"คร้าบบบ" อั๋นตอบเสียงอ่อน
(บายมึง)
"บาย" ผมกับอั๋นบอก
"นี่มันโทรมาแค่นี้เนี่ยนะ" ผมพูดกลั้วหัวเราะ
"ขอบใจนะหมอ" อั๋นโผเข้ากอดผม
"เออน่า กอดบ่อยไปแล้วนะวันนี้"
"แหะๆ"
"อะ ยอมให้กอดเยอะๆได้วันนี้วันเดียวนะ"
ผมกับอั๋นยิ้มให้กัน

คืนนั้น เมื่อผมแจ้งข่าวในไลน์กลุ่มเพื่อน ไม่มีใครเล่นใหญ่ดีใจได้เท่าไอ้นนท์อีกแล้ว แต่พอบอกว่าพรุ่งนี้ให้เลี้ยงฉลองหน่อยกลับหายตัวไปทันที
"ไอ้เชี่ยนนท์" ผมหัวเราะและพิมด่ามันเป็นชุด
ตอนนั้นเอง อาร์ตส่งข้อความมาหาทางfacebook
'หมอ วันนี้เราทำไม่สำเร็จว่ะ'
'แฟนเราบอกเลิก'
ผมอึ้ง พิมพ์ตอบอาร์ตไปทันที
ผมรู้สึกสงสารอาร์ตขึ้นมาจับใจ ตอนนี้มันกำลังทำอะไรอยู่นะ
อาร์ตไม่ตอบ
ผมเลี่ยงไม่พูดถึงอาร์ตเมื่ออั๋นเดินกลับมาจากห้องน้ำ ยังไม่อยากพูดถึงตอนนี้ครับ
อั๋นแต่งตัวเสร็จก็นั่งลงที่ปลายเตียง ผมดึงอั๋นให้ลงมานอนหนุนตัก อั๋นยิ้มและกุมมือผมไว้ข้างหนึ่ง

เช้าวันรุ่งขึ้น ผมกับอั๋นมาถึงโรงเรียนเร็วกว่าปกติเพราะตื่นเช้า(อั๋นตื่นก่อน ผมเลยตื่นตามไปด้วย- -)
เรานั่งกินข้าวเช้าที่เตรียมมาจากบ้านในโรงอาหาร
"แม่ยายน่ารักจริง มีแถมกับให้เพิ่มด้วย" อั๋นเลื่อนกล่องของตัวเองมาเทียบกับของผม เออ มีกับข้าวเยอะกว่ากล่องของผมจริงด้วย
"โห ไรวะ แม่ลำเอียงอะ รักมึงมากกว่ากูได้ไง"
"ได้มากกว่านิดเดียวน่า" อั๋นยักคิ้วกวน
"แบ่งมาเลยๆ"
"คร้าบ" อั๋นตักแบ่งมาให้จนกลายเป็นกล่องของผมมีกับข้าวเยอะกว่า
"เห้ย เยอะขนาดนี้กูกินไม่หมด ตักคืนไปๆ"
"ไม่เอา กูอยากให้มึงกินเยอะๆ"
อั๋นยิ้มแก้มตุ่ย เอาใจผมเต็มที่
"พี่อั๋นครับ"
เราสองคนหันไปตามเสียงเรียก เห็นเด็กมัธยมต้นคนหนึ่งยืนถือกล่องของขวัญอยู่ตรงหน้า ท่าทางกระสับกระส่าย แก้มเป็นสีแดงเรื่อ
น้องคนนี้เป็นใครกัน
"ครับ"
"คะ...คือ..."
"น้องมีอะไรกับพี่หรือเปล่าครับ" อั๋นถามอย่างสุภาพ
"คือผม...ผม..."
น้องเค้ามองมาทางผมอย่างไม่แน่ใจ
"ผมเอาของมาให้พี่อั๋นครับ"
"ให้พี่เหรอครับ" อั๋นเลิกคิ้วอย่างสงสัย ผมเองก็สงสัยเหมือนกัน
"ชะ...ใช่ครับ" น้องคนนั้นหน้าแดงไปจนถึงหู
"ให้พี่เพราะอะไรครับ ของน้องเองหรือว่าใครฝากมา"
"ของผมครับ...ผมชื่อแก้วครับ...ผม..." น้องแก้วตะกุกตะกักจนเริ่มจะฟังไม่รู้เรื่องแล้ว
"..."
"ผมชอบพี่อั๋นครับ...ชอบมาตั้งนานแล้ว"
น้องแก้วโพล่งออกมาทำเอาผมสะดุ้ง เดี๋ยวนะ...
อั๋นเองก็ดูตกใจมากเช่นกัน
"ผมรู้อยู่แล้วครับว่าพี่อั๋นมีพี่หมอเป็นแฟนแล้ว" น้องแก้วหันมามองผมแวบหนึ่งแล้วหันกลับไปหาอั๋นอย่างรวดเร็ว "แต่ผมชอบพี่จริงๆครับ ผมต้องบอก...ผมนึกว่า...เมื่อวาน"
"เมื่อวานทำไมหรือครับ" อั๋นหน้าบึ้งขึ้นมาทันที
"ปะ...ป่าวครับ ไปแล้วครับพี่" น้องแก้วชะงักเมื่อเห็นสายตาอั๋น วางกล่องของขวัญลงบนโต๊ะอาหาร ตั้งท่าจะเดินหนีไป
"เดี๋ยวก่อนน้อง" อั๋นเรียก
"คะ...ครับ"
"พี่รับไว้ไม่ได้จริงๆ ขอบคุณที่เอามาให้นะครับ" อั๋นหยิบกล่องใส่มือน้องแก้ว อีกฝ่ายดูเหมือนจะช็อคไปแล้ว
"แล้วก็ขอบคุณที่รู้สึกดีกับพี่ แต่พี่มีแฟนแล้ว และพี่ก็รักหมอมากด้วย" อั๋นพูดอย่างจริงจัง เอื้อมมาจับมือผม
ผมอดยิ้มออกมาไม่ได้ที่อั๋นพูดตรงๆแบบนี้ แม้จะไม่อยากยิ้มให้น้องแก้วเห็นตอนนี้เลยก็เถอะ
"ขะ...ขอโทษครับพี่" น้องแก้วหันหลังออกวิ่งอย่างรวดเร็ว

"นี่มันอะไรเนี่ย" อั๋นหันมาหาผม
"ไม่ใจร้ายไปหน่อยเหรอวะ"
ตอนแรกก็ว่าจะพูดปฏิเสธน้องเค้าดีๆ แต่น้องดันพูดถึงเรื่องเมื่อวาน...
ผมไม่ตอบ
"เค้าคิดว่าเราทะเลาะกัน แล้วก็เลยมาบอกชอบกูเนี่ยนะ"
"งั้นมั้ง" ผมเองก็ไม่เข้าใจการกระทำของน้องแก้วเช่นกัน มันแปลกมากที่มาสารภาพรักกับคนที่ชอบต่อหน้าแฟนเค้าด้วย "อั๋นไม่รู้จักน้องมาก่อนเลยดิ"
"อ่าฮะ พึ่งเห็นหน้าครั้งแรกด้วยซ้ำ...หมอ...ไม่หึงใช่มั้ย"
"บ้าน่า ไม่หึง แล้วมึงก็บอกน้องเค้าไปซะขนาดนั้น"
อั๋นหัวเราะเบาๆ

ปรากฏว่าพักเที่ยงวันนี้ไอ้นนท์เลี้ยงข้าวผมกับอั๋นจริงๆครับ มันบอกว่าให้เราสองคนซื้ออะไรก็ได้ เดี๋ยวมันจ่ายให้ เพื่อนดีๆอย่างผมก็เลยถือโอกาสถลุงมันเต็มที่
"ไอ้เชี่ยหมออออ มึงจะซื้อไปเปิดร้านขายแข่งกับเซเว่นหรอวะสาดดด" ไอ้นนท์ร้องเสียงหลงเมื่อผมหยิบขนมขบเคี้ยวมา8ถุงหลังจากที่กินข้าวไป2จาน อั๋นและทุกคนในห้องหัวเราะกันยกใหญ่
"ช่วยไม่ได้ไอ้นนท์ มึงบอกเองว่าจะเลี้ยงพวกกู" อั๋นโอบไหล่ผม
"มึงพลาดละเชี่ยนนท์" ไอ้ต้าร์ยังหัวเราะก๊าก
"มึงแม่งชั่วไอ้หมอ จำไว้ แค้นนี้ต้องชำระ" ผมยักไหล่อย่างไม่สะทกสะท้าน ส่งขนมแบ่งให้เพื่อนๆรอบโต๊ะ

เกือบหนึ่งทุ่มได้เมื่อผมกับอั๋นออกมาจากโรงหนัง เรื่องที่เรามาดูด้วยกันเป็นหนังรักที่กำลังถูกพูดถึงมากที่สุดในตอนนี้ครับ ผมประทับใจกับตอนจบมาก แต่คนข้างๆผมดูเหมือนจะรู้สึกตรงข้าม
"เซ็งว่ะหมอ ไม่หนุกเลย" อั๋นบ่น หน้าบูดเป็นตูดเป็ด
"ไรวะ หนุกจะตาย"
"ไม่หนุก ดูตอนจบดิ นางเอกทำยังงั้นได้ไง"
"จบแบบนั้นแหละดีแล้ว"
"แต่พระเอกรักนางเอกมากเลยนะ"
"ใช่ รักกันแต่ไม่ได้หมายความว่าต้องอยู่ด้วยกันนิ"
"โห่ ไม่ดีเลย"
ผมหัวเราะ
"ขำไร"
"ขำหน้ามึงอะ เซ็งขนาดนั้นเลยอ่อ"
"เออดิ ดีมาทั้งเรื่อง ตายตอนจบเฉย"
"เอาน่า ไปกินข้าวกันดีกว่า"
อั๋นจูงมือผมลงบันไดเลื่อน เตรียมเดินข้ามจาก siam paragon ไป siam center
"ไม่น่าชวนหมอมาดูเรื่องนี้เลย"
"เออ กูสนุก แต่มึงเฟล"
"ถ้าสมมติเราสองคนต้องแยกกันแบบในหนัง...กูทำใจไม่ได้หรอก"
"กูก็ทำใจไม่ได้เหมือนกัน"
ผมนึกภาพไม่ออกเลยว่าผมจะอยู่ได้อย่างไร
"งั้นอย่าทิ้งกันไปไหนนะ"
"ครับ" ผมตอบอั๋นด้วยรอยยิ้มกว้าง อั๋นเองก็ยิ้มจนตาหยี เรื่องเมื่อวานก็มีข้อดีอย่างหนึ่ง คือทำให้ผมรู้ว่าความสัมพันธ์ของเราสองคนมันเลยจุดเริ่มชอบกันมาไกลแล้ว ถึงแม้ว่าเราจะคบกันเป็นแฟนจริงจังได้ไม่นาน แต่เวลาทั้งหมดนับตั้งแต่ที่เรารู้จักกันก็นานพอที่จะยืนยันความรู้สึกของผม...
ว่าผมรักอั๋นเต็มหัวใจ
ผมมั่นใจว่านี่คือความรักอย่างแท้จริง

-จบตอน-

มาต่อแล้วคร้าบ ขอโทษด้วยที่หายไปนาน พอดีผมอยู่ในช่วงของการสอบfinalที่ม. สอบเสร็จแล้วจะมาลงให้จุใจไปเลยครับ
คุณผู้อ่านมาร่วมยินดีที่อั๋นกับหมอคืนดีกันได้แล้วด้วยนะ น้องแก้วนี่มปรากฏตัวซะงงเลย555
ติดตามตอนหน้าและ comment ให้กำลังใจอั๋นหมอหน่อยนะครับ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
ค่อยยังชั่ว นึกว่าจะทะเลาะกันแบบต่อไม่ติดซะแล้วคราวหน้ามีอะไรคุยกันดีๆนะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ writerbeer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-3
ตอนที่38

อั๋นให้ผมเป็นคนเลือกร้าน ผมเลยจูงมือมันมาที่บาร์บีคิวพลาซ่า จะกินหมูให้เต็มคราบเลยครับ
เราคุยเรื่องสัพเพเหระกันระหว่างที่พี่พนักงานมาตั้งเตาและรออาหารมาเสิร์ฟ
"หมอ อั๋น" เราหันไปตามเสียงเรียก อาร์ตนั่นเองครับ มันกำลังเดินตรงมาหา
อั๋นมีสีหน้าละอายใจขึ้นมาทันที
"หวัดดีอาร์ต มากินที่นี่เหมือนกันเหรอ" ผมเอ่ยทัก
"อือ เรามากับที่บ้าน" อาร์ตยังดูเศร้าอยู่ไม่หาย
"หวัดดีอาร์ต..." อั๋นทักบ้าง
"คือ...เราขอโทษอั๋นกับหมอด้วยนะ...เรื่องวันนั้น" อาร์ตเกาหัว
"เห้ย เราดิต้องเป็นฝ่ายขอโทษ เราเข้าใจผิดเอง" อั๋นพูดรัวเร็ว
"ไม่เป็นไรๆ" อาร์ตตอบ ทั้งอาร์ตและอั๋นหันมามองผมช้าๆ เหมือนจะสื่อว่าเรื่องนั้นน่าจะกระทบกับผมมากที่สุด
"ช่างมันเหอะน่า" ผมบอก ไม่อยากคิดถึงเรื่องนี้อีก "อาร์ต สรุปเรื่องนาย..." ผมเปลี่ยนไปถามเรื่องของอีกฝ่ายแทน มันยังไม่ได้ตอบที่ผมถามกลับไปใน facebook chat เลย
"เราเลิกกันแล้ว" อาร์ตยืนยันอีกครั้ง ผมรู้สึกว่าไม่น่าถามออกไปเลย
"เห้ย เรา..."
"เรากำลังทำใจอยู่ เดี๋ยวมันก็ผ่านไปแหละ" อาร์ตยิ้มอย่างขมขื่น
"สู้ๆนะเว้ย" ผมเอื้อมมือไปตบแขนอาร์ตเบาๆ
"ขอบใจนะหมอ งั้นเดี๋ยวเรากลับไปที่โต๊ะละ" อาร์ตโบกมือลาผมกับอั๋นก่อนเดินกลับไปที่นั่งด้านนอก
"อาร์ตทะเลาะกับแฟนน่ะ...ที่กูเจอวันนั้น มันไปซื้อของง้อแฟน นี่มันพึ่งโดนบอกเลิก" ผมอธิบาย
"อ่อ"
พี่พนักงานยกชุดอาหารมาเสิร์ฟ ผมย่างเนื้อหมูลงบนเตาโดยไม่รอช้า
"ป้อนหน่อยดิ" อั๋นส่งเสียงอ้อนมาจากที่นั่งฝั่งตรงข้าม แล้วอ้าปากรอ
ผมนึกอยากแกล้ง เอาตะเกียบคีบเนื้อหมูบนเตาจะส่งเข้าปากอั๋นเลย แต่มันรีบหุบลงซะก่อน
"เป่าก่อนดิคร้าบ จะให้กินร้อนๆเหรอ" มันพูดพร้อมนิ่วหน้า
ผมหัวเราะก่อนจะเป่าชิ้นหมูเบาๆ จุ่มน้ำจิ้มรสเด็ดที่เป็น signature ของร้าน แล้วบรรจงใส่ปากคนขี้อ้อน
"อือ...อร่อยจัง" อั๋นอมยิ้ม ผมกินบ้าง ฟินเลยครับ เนื้อนุ่มๆร้อนๆ
เราผลัดกันป้อนไปมา ชุดแรกหมดอย่างรวดเร็ว ผมสั่งชุดที่สองต่อทันที
"เดี๋ยวมื้อนี้อั๋นเลี้ยงนะ หมอสั่งเต็มที่เลย"
"เห้ย เลี้ยงทำไม หารกันดิ" ผมรีบปฏิเสธ
"กูเลี้ยงเอง อยากเลี้ยงขอโทษมึงอะ"
"ไม่ต้อง" ผมร้อง "ไม่เอา หารสอง จบนะ"
"ไม่ๆ งั้นคิดว่าแฟนเลี้ยงละกัน ผู้ชายต้องเป็นฝ่ายเลี้ยงผู้หญิงดิ"
"เดี๋ยวๆ กูไม่ใช่ผู้หญิง- -" อั๋นหัวเราะ
"แต่หมอเป็นเมีย ถือซะว่าผัวเลี้ยงละกัน นะๆ"
"ไม่ กูจะจ่ายตัง"
ผมไม่ยอมอั๋นง่ายๆแน่
"ครับๆ กินต่อดีกว่า ช้าระวังหมดนะมึง" อั๋นเลิกเถียง เราสองคนกลับมาสนใจอาหารกันต่อ

แน่นอนว่าตอนเรียกเก็บเงิน ผมคว้าใบเสร็จมาดูราคาแล้วเปิดแอพเครื่องคิดเลขในมือถือ จับหารสองทันที
"อั๋นบอกแล้วไงว่าเลี้ยงเอง" อั๋นส่งเสียงยานคาง
"หมอบอกแล้วไงคร้าบว่าหารกัน" ผมลากเสียงตาม
"ก็ได้ๆ ดื้อจริงนะเรา" อั๋นยอมแพ้ ผมยิ้มยิงฟันให้ก่อนเราจะหยิบเงินในกระเป๋ามารวมกันแล้วส่งให้พี่พนักงาน
"ไม่ต้องเลี้ยงกูหรอก ถ้าต่อไปนี้เรามากินข้าวข้างนอกด้วยกัน มึงไม่ต้องเป็นคนออกทุกครั้งเรอะ"
"ไม่ใช่ยังงั้น แค่วันนี้กูอยากเลี้ยง...ไม่รู้อะ คราวหน้ามึงต้องยอมให้กูเลี้ยง"
"ครับๆ" ผมตอบส่งๆ ยังไงก็ไม่ยอมให้อั๋นเลี้ยงผมฝ่ายเดียวแน่ๆ
พี่พนักงานกลับมาพร้อมเงินทอน
ขอบคุณนะคะลูกค้า
พี่เค้ายิ้มกว้างเมื่อเห็นอั๋นคว้ามือผมเดินออกมาจากร้าน

คืนนี้จนไปถึงวันสุดสัปดาห์ อั๋นขอมานอนบ้านผมครับ เมื่อออกจากสยามแล้วอั๋นมาส่งผม ก่อนย้อนกลับไปที่บ้านมันเองเพื่อเก็บของ แล้วกลับมาอีกครั้ง
"โห มึงจะมาอยู่เดือนนึงอ่อวะ หอบของมาเยอะขนาดนั้น" ผมเดินลงไปรับ เห็นอั๋นลากกระเป๋าเดินทางมา
"ก็เสื้อผ้าหลายชุดอะ มีพวกหนังสือด้วย"
"จริงๆมึงเอามาแค่หนังสือก็ได้นะ เสื้อผ้ามึงก็มีอยู่ที่นี่บ้าง ถ้าไม่พอก็ใส่ของกูก็ได้"
"ไม่เป็นไร ไหนๆกลับบ้านละก็เอามาเลย"
ตอนนี้ห้าทุ่ม พ่อกับแม่ผมขึ้นข้างบนไปแล้ว ผมจะเข้าไปช่วยอั๋นแบกกระเป๋า แต่มันกลับถือขึ้นบันไดเอง ดูเหมือนไม่ได้หนักอะไร
"หมอทำไรอยู่"
"เล่นเกมดิ ถามได้ ไม่ได้เล่นมาทั้งอาทิตย์"
"เล่นเกมอีกแล้วอ่อ ปิดเลยๆ"
"ทำไม- -"
จะให้แฟนเหงาอยู่คนเดียวรึไง
"ชู่วว" ผมเตือน กลัวพ่อกับแม่จะได้ยิน มาพูดตรงบันไดได้ไงฟะ
"ขอโทษ" อั๋นกระซิบ
เข้ามาในห้อง ผมเดินไปปิดเกมอย่างเชื่อฟัง
"ดีมาก"
"พรุ่งนี้มึงต้องให้กูเล่น"
"พรุ่งนี้ติวหนังสือ"
"มึงจะติวทั้งวันอ่อ ให้กูเล่นมั่งดิ"
"อะๆ ก็ได้ แต่ให้เล่นหลังติวเสร็จนะ"
"เออๆ เผด็จการชะมัด"
อั๋นหัวเราะที่ผมทำหน้ามุ่ย
"หมออาบน้ำยัง"
"ยัง จะไปอาบละเนี่ย"
"อาบด้วยดิ"
"ไอ้บ้า ไม่ต้องเลย" อั๋นยิ้มมุมปากทำเอาผมสยิว
"ไม่อาบพร้อมกันอ่อ" อั๋นยังทำหน้าระรื่น
"ไม่โว้ย มึงรอกูอาบก่อน" ผมคว้าผ้าเช็ดตัวแล้วรีบเดินออกไปจากห้อง ได้ยินเสียงหัวเราะถูกอกถูกใจของไอ้แฟนจอมหื่นตามมา ต่อให้อยู่กันในบ้านสองคนผมก็ไม่กล้าแน่ๆ

"หมอ" อั๋นสะกิดแขนผม ตอนนี้ผมนั่งอยู่บนตักมันแล้วให้กอดจากด้านหลัง เรากำลังดูโทรทัศน์กันอยู่
"หือ"
"นอนกัน"
"ง่วงแล้วอ่อ"
"อือ"
ผมรู้สึกง่วงนิดหน่อย แต่ถ้าตอนนี้อั๋นไม่ได้อยู่ด้วย ผมคงกำลังเล่นเกมอยู่แหงๆ
"แปบนึงดิ ใกล้จะจบแล้วเนี่ย"
"ครับ" อั๋นซบหน้าลงบนไหล่ผม
"ขี้อ้อนจังนะ"
เมื่อรายการฉายจบ ผมกดรีโมทปิดโทรทัศน์และลุกไปปิดไฟ
ล้มตัวลงนอนยังไม่ทันเรียบร้อยดี อั๋นก็พลิกตัวขึ้นมาคร่อมทับผม
ผมพึ่งรู้ตัวว่ามันชวนผมนอนทำไม
"ไอ้อั๋น"
"ครับ"
"ไหนบอกว่าง่วงไง"
อั๋นไม่ตอบ จากแสงไฟข้างนอกที่ส่องลอดผ่านเข้ามาทางหน้าต่าง ผมเห็นแววตาเป็นประกายกับรอยยิ้มอันตรายของมัน
ผมนึกถึงเมื่อสัปดาห์ก่อน ครั้งล่าสุดของเรา...
"หมอหน้าแดงอีกแล้วอะ"
"อะ ไอ้บ้า"
"พร้อมยัง"
"ถามไรเนี่ย" ผมทุบไหล่มัน
"โดนแน่"
"ดะ เดี๋ยว..."
อั๋นกดจูบผมอย่างหนักหน่วง บดริมฝีปากจนคิดว่าพรุ่งนี้เช้ามันต้องเจ่อแน่ๆ
"อือ" ผมครางอยู่ในลำคอ
"มึงยั่วกูอีกแล้วนะหมอ" อั๋นเงยหน้าขึ้น
"ยั่วไร กูไม่ได้ทำอะไรซะหน่อย" ผมตอบเขินๆ หันหน้าหนีคนข้างบน
อั๋นก้มลงมาจูบอีกครั้ง คราวนี้สอดลิ้นเข้ามาด้วย
อั๋นผละออกหลังจูบกันอยู่นาน แล้วถอดเสื้อผมโยนไปที่พื้น
"อะ อั๋น"
"ขา" มันพูดคะขากับผม- -
"ถ้าพ่อแม่กูได้ยินทำไง"
"ก็อย่าร้องดังนักสิ"
"บ้า" จะไม่ร้องได้ไง ครั้งที่แล้วจำได้ว่าตัวเองร้องระงม ผมคิดในใจ
"ไม่ดังไปถึงห้องพ่อแม่หมอหรอก มึงเคยบอกกูนี่ว่าห้องในบ้านค่อนข้างเก็บเสียง"
"จำแม่นนักนะ" จริงครับ แต่ละห้องในบ้านผมค่อนข้างเก็บเสียงอยู่ ยกเว้นห้องนั่งเล่นหน้าบ้านกับห้องครัวที่ไม่ว่าใครทำอะไรจะได้ยินเสียงชัดเจน

อั๋นคลึงหน้าอกและเขี่ยยอดอกผมก่อนจะโน้มตัวลงมาใช้ลิ้นสัมผัส ทั้งลากเลียวนรอบบริเวณนั้นสลับกับดูด
"อ๊ะ อ้า...อั๋น อือ..."
อั๋นถอดเสื้อตัวเองออกแล้วจู่โจมผมที่เดิมอีกครั้ง ตัวผมกระตุกอยู่หลายครั้งเพราะความเสียว
อั๋นเลื่อนกลับขึ้นมาไซร้ซอกคอผม ผมยกแขนขึ้นโอบรอบคอมัน
สักพักผมดึงอั๋นมาจูบปากอีกครั้ง มันจูบตอบอย่างกระตือรือร้น
ผมรู้สึกว่าอยากรุกบ้าง จึงเลื่อนมือลงไปจับที่เป้ากางเกงอั๋น
"หมอ..." อั๋นเรียกชื่อผมเสียงกระเส่า "ร้ายนะ อยากเจออั๋นน้อยแล้วอ่อ"
ผมเขินเลยปล่อยมือ แต่ไอ้คนหื่นก็จับมือผมกลับไปวางที่เป้ามันอีก
"ทำให้อั๋นหน่อยนะ"
"มะ หมายถึง..."
"นั่นแหละ" อั๋นยิ้มตาหยี
"ไอ้บ้าเอ๊ย" มันจะให้ผมทำจริงๆเหรอ
"นะครับ ทำให้อั๋นหน่อยนะ...ถ้าหมอไม่รังเกียจ" ผมกลืนน้ำลาย ครั้งที่แล้วอั๋นยังทำให้ผมเลย
ผมสลับขึ้นมานั่ง ในขณะที่อั๋นล้มตัวลงนอนราบไปกับเตียง ผมยิ่งเขินใหญ่เมื่ออั๋นมองมาอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง
ผมค่อยๆรูดกางเกงบ็อกเซอร์และกางเกงในของอั๋นออก แล้วอั๋นน้อยก็ผงาดขึ้นมาให้เห็น
ผมเริ่มจากรูดลำขึ้นลงช้าๆแล้วใช้นิ้วกดส่วนหัวเบาๆ
"อาาา"
ผมไม่ได้รังเกียจเลยสักนิด แค่ผมอายที่จะทำ เล้าโลมอั๋นน้อยด้วยมือเปล่าอยู่นาน
ในที่สุดผมก็ตัดสินใจครอบปากลงไป...
ผมค่อยๆดูด พยายามทำช้าๆ
"หมอ...ระวังฟัน"
ในตอนแรกผมยังจับจังหวะไม่ถูก ผ่านไปก็รู้สึกว่ามันเริ่มเข้าที่
"ซี้ดด" ได้ยินเสียงอั๋นกัดปากผมถึงกับต้องมอง มันกำลังเสียวจัด
"พะ...พอก่อน" เดี๋ยวนึงอั๋นก้จับไหล่ผมแล้วดึงขึ้นมาจูบอีก ผมจับท้ายทอยมันยึดไว้
แล้วอั๋นก็จับผมถอดกางเกงออกบ้าง ก่อนจะพลิกให้ผมนอนลงแล้วลุกจากเตียงไปที่กระเป๋า
"อะไร" ผมถามด้วยความสงสัย แล้วก็เห็นอั๋นหยิบหลอดเจลหล่อลื่นกับถุงยางออกมา
"ขอโทษที่คราวที่แล้วไม่ได้ใช้นะ...ตอนนั้นไม่รู้ว่าจะมีอะไรกัน เลยไม่ได้เตรียม..." อั๋นพูดอย่างเขินอาย
"แล้ว...แสดงว่ามึงคิดว่าวันนี้จะได้ใช้...ทะลึ่ง" ผมเบี่ยงหน้าหนีเมื่อเห็นอั๋นสวมถุงยาง
"ก็เตรียมไว้ก่อนน่ะ" อั๋นเกาหัวแก้เก้อ
"คิดมาก่อนแล้วว่าจะทำก็ยอมรับมาเถอะ"
"ก็ได้ อั๋นอยากทำนี่" เออ ยอมรับออกมาจนได้ "แล้วยอมให้ทำรึป่าว"
"ไม่"
"โกหก ไม่อยากให้ทำจริงเหรอคะ" พูดคะขาอีกแล้ว
"ไอ้หื่น"
"หมอก็หื่นน่า ไม่ใช่อั๋นคนเดียว" ว่าแล้วก็ใส่นิ้วตรงเข้ามาที่ช่องทางนั้นของผม
"อย่าเกร็งดิ"
อั๋นเพิ่มจำนวนนิ้วจนถึงสามก่อนจะสอดใส่ของจริงเข้ามาช้าๆ
"อึก...อือ..." ผมทั้งเจ็บทั้งเสียวจนจิกเล็บลงบนหลังอั๋นแน่น มันกัดปากหน่อยๆ ท่าจะเจ็บแต่ก็อดทน
อั๋นค่อยๆขยับเข้าออก ผมเด้งตัวรับสัมผัสจากมัน
อั๋นก้มลงมาเล่นกับยอดอกผมอีกแล้ว พร้อมๆกับเริ่มเพิ่มความเร็วที่ส่วนล่าง
"อ๊ะๆๆ อา..."
"อาา..."
เราสองคนแข่งกันคราง อั๋นจับขาผมอ้าออกให้กว้างขึ้น แล้วใส่แรงเข้ามามากกว่าครั้งก่อนๆ
"หมอ..."
พักใหญ่อั๋นก็ถอนอั๋นน้อยออกแล้วดึงถุงยางออกตาม น้ำรักออกมาเต็มหน้าท้องน้อยผม
ผมรู้สึกว่าหมอน้อยแข็งจนปวด เอื้อมมือลงไปจะทำให้ถึงที่หมาย
"เดี๋ยวอั๋นทำให้บ้างนะ"
อั๋นที่ยังหอบหายใจตัวโยนพอๆกับผม ก้มลงไปหาหมอน้อย
"อือ...ซี้ดด" ผมสูดปาก อั๋นทั้งดูดและโลมเลียส่วนนั้น เดี๋ยวเดียวผมก็รู้สึกว่ามันกำลังจะเสร็จ
"อั๋น จะ...จะมาแล้ว ออก...เร็ว" ผมเตือน พยายามจะผลักอั๋นออก แต่มันไม่ยอมคายหมอน้อยออกจากปาก
ในที่สุดผมก็ทนไม่ไหว เสร็จทั้งอย่างนั้น
"อะ...อั๋น กูขอโทษ..." ผมบอกทั้งๆที่หอบ
"ไม่เป็นไร" อั๋นเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้ม "อั๋นอยากทำเอง"
"มึง...กลืนหรอ"
"ครับ"
อั๋นลุกขึ้นทำความสะอาดบริเวณท้องน้อยของผม
"ไปล้างตัวกัน"
"อั๋นไปก่อนดิ"
"ไปพร้อมกันเลย"
"มึงจะบ้าเหรอ"
อั๋นหัวเราะเบาๆ ลุกขึ้นสวมเสื้อผ้าและเดินออกไป

ผมล้างตัวเสร็จเรียบร้อยก็กลับมาขึ้นเตียง ตอนนี้ตี1แล้ว
"เมียใครก็ไม่รู้ โคตรเด็ดเลย" อั๋นคว้าผมมากอดและหอมแก้ม
"ไอ้ลามก โรคจิต"
"ยอมรับครับ...ว่าแต่ ต่อมั้ย"
"บ้า"

-จบตอน-

คือผมเขียนเอ็นซีไม่ค่อยเก่ง แต่รู้สึกว่าตอนนี้ฟีลมันให้อะครับ555 แบบพึ่งคืนดีกันใหม่ๆ เลยจัดให้หนึ่งตอน อั๋นมีพูดคะขาด้วย55 ติดตามต่อตอนหน้าครับ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ writerbeer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-3
ตอนที่39

ตลอดสามคืนที่อั๋นมาอยู่ด้วย เอ่อ ผมกับมันมีอะไรกันทุกคืนเลยครับ เมื่อผมตื่นมาในเช้าวันจันทร์(อั๋นปลุก) และสำรวจสภาพตัวเองตอนอาบน้ำ ผมพบร่องรอยตามตัวหลายจุด
รอยที่หน้าอกเป็นสีแดงเข้มที่สุด เพราะว่า...อั๋นพึ่งสารภาพเมื่อคืน มันชอบดูดนมผม มิน่าล่ะ ผมถึงรู้สึกว่าโดนเล่นงานบริเวณนั้นบ่อยจัง หื่นโคตรเลยแฟนผม- -
แต่นั่นไม่เป็นไรหรอกครับ ยังไงก็อยู่ใต้ร่มผ้า แต่ไอ้รอยดูดที่คอที่เห็นได้ชัดเจนนี่สิ ผมจะทำยังไง แดงเป็นจ้ำซะ ต้องมีคนสังเกตเห็นแน่ๆ
และสิ่งที่น่าอายที่สุดก็คือ ผมเดินตรงไม่ได้ครับ พยายามเดินให้เป็นปกติแล้วแต่ก็ทำไม่ได้ มันจะรู้สึกเจ็บร้าวตั้งแต่ช่วงเอวลงไปจนถึงหัวเข่าเลยทีเดียว แถมร่างกายก็รู้สึกอ่อนเพลีย มันเหมือนๆกับจะเป็นไข้อะครับ
ไม่แปลกใจเลย ก็อั๋นมันจัดผมหนักขนาดนั้น
ผมชี้รอยที่หน้าอก คอ และรอยแดงอื่นๆที่อยู่ตามลำตัวให้อั๋นดูเมื่อออกจากห้องน้ำ
"เอ่อ" อั๋นมองตาผม
"รอยที่คอนี่เห็นโคตรชัดเลย กูว่าคนเห็นแล้วรู้แน่ๆ"
"มะ...ไม่หรอกมั้ง ถ้าไม่ได้สังเกตดีๆก็คง..."
"หรา" ผมตัดบท "แล้วกูก็เดินกะเผลกด้วยนะ"
"ห๊ะ"
"เออ ปวดช่วงล่างชิบ" ขณะที่พูดอยู่ก็กำลังรู้สึกเจ็บแปลบๆด้วยครับ
"หมอ...โกรธอั๋นเหรอ"
"หือ" ผมเลิกคิ้ว ทำไมอั๋นมันตีความแบบนั้นไปได้
"ก็...อั๋นเป็นคนทำนิ"
"ไม่ได้โกรธมึง กูแค่เซ็งผลข้างเคียง" ผมบอกหน้าตาย เห็นอั๋นกลั้นขำ "ไม่ขำ" เท่านั้นแหละหยุดเลย ให้มันรู้ซะบ้างว่าใครใหญ่
"มานี่มา อั๋นนวดให้" อั๋นดึงผมลงไปนั่งบนเตียง หยิบหลอดยานวดกล้ามเนื้อออกมาจากกล่องยาในห้อง
"เอ่อ กูยังไม่ได้ใส่กางเกงเลย" ผมห้าม ทั้งตัวมีผ้าขนหนูผืนเดียวห่อหุ้มส่วนล่าง อั๋นทำท่าจะเลิกผ้าขึ้นมาละทายาให้
"ไม่เห็นเป็นไร ทำยังกับอั๋นไม่เคยเห็นงั้นแหละ โอ๊ย..." อั๋นตอบก่อนจะถูกผมฟาดแขน
"ไอ้หื่นเอ๊ย"
อั๋นค่อยๆเปิดผ้าขนหนูออก ชะโลมยาลงไปที่ช่วงขาของผมและนวดเบาๆ
"เดี๋ยวเย็นนี้นวดให้อีก แล้วถ้าเจ็บขึ้นมาตอนไหนบอกกูนะ" อั๋นพูดอย่างอ่อนโยน
"อือ"
สัมผัสอั๋นกระตุ้นให้น้องชายผมตื่น โอย ขาอ่อนนะนั่น ใครมันจะไปทนไหว
"แข็งเชียวนะ" อั๋นบอกยิ้มๆ
ผมจิ๊ปากอย่างขัดใจ
"ทำไมกูเจ็บอยู่คนเดียววะ มึงไม่เป็นอะไรเลย ขี้โกงว่ะ" ผมทำเป็นโวยวาย
"อั๋นก็เจ็บเถอะ โดนหมอทึ้งผม จิกเล็บกลางหลังเป็นรอยเลยด้วย"
"เจ็บมากดิ กูปวดทั้งก้นทั้งขานี่ดูน้อยไปเลยเนอะ"
"ยอมแล้วครับ" อั๋นทำหน้าสลด ผมแอบยิ้มที่แกล้งว่ามัน

เราแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยก็ลงมาข้างล่าง วันนี้ต้องรีบออกเดินทางครับ เพราะอั๋นไม่ได้ขับมอเตอร์ไซด์มาตั้งแต่วันศุกร์ เราจะไปโรงเรียนด้วยรถไฟฟ้า
บอกลาแม่ผมแล้วก็เดินออกจากซอยบ้านผมไปขึ้นรถไฟฟ้า
"หมอ ถ้าเกิดเจ็บแผลหรือรู้สึกจะเป็นอะไรขึ้นมาต้องรีบบอกกูนะ" อั๋นบอกผมทันทีที่เดินออกมา
"คร้าบ" มันคอยเป็นห่วงเป็นใยผมอยู่ตลอดเวลาเลยนะ "แต่ถ้าวันนี้กูหลับในห้องก็เพราะมึงเลยนะครับ"
"โห่ ก็หมออะ"
"กูทำไม"
"มึงน่ารัก ยั่วยวน" พูดเหมือนผมเป็นผู้หญิงอีกแล้ว
"ไอ้สัส กูอยู่เฉยๆ"
"นั่นแหละ แค่เห็นมึงกูก็อดใจไม่ไหวละ" อั๋นพูดพร้อมมองผมด้วยสายตาหื่นๆ ผมผลักไหล่มัน
"เมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็ตี1 แล้วก็ปลุกกูตั้งแต่6โมง ยังงี้ต้องไปนอนชดเชยที่โรงเรียน" ผมนึกว่าเมื่อคืนอั๋นจะไม่ทำอะไรนะ แบบวันต่อมาต้องไปโรงเรียนไง แต่เปล่าเลย จัดผมตามปกติ
ไม่ใช่ว่าพวกผมจะทำแต่เรื่องนั้นอย่างเดียวนะครับ- - โครงการอ่านหนังสือเตรียมสอบปลายภาคของเราสองคนคืบหน้าไปเยอะแล้ว ระหว่างวันอั๋นจัดโปรแกรมให้ผมทบทวนบทเรียนได้เต็มที่ แบบที่ถ้าให้ผมอ่านด้วยตัวเองคงทำไม่ได้แน่ๆ
ผมชอบที่มันสอนอย่างใจเย็น แต่ในขณะเดียวกันก็จริงจัง เวลาอ่านคืออ่าน เวลาพักคือพัก อั๋นมันสุดยอดจริงๆครับ
"ข้ามถนนแล้วครับแฟน" อั๋นจูงมือผมข้ามทางม้าลายบนถนนใหญ่ขณะที่รถหยุดเคลื่อนเพราะสัญญาณไฟจราจร

รถไฟฟ้าคนเยอะมากครับ ผมกับอั๋นต้องยืนต่อแถวรอให้ผ่านไป3ขบวนก่อนถึงจะได้ขึ้น
เข้ามาก็ยืนเบียดเสียดกับคนอื่นๆ ทั้งนักเรียนทั้งคนทำงานเต็มแน่นขบวน
"หมอ เกาะอั๋นไว้" อั๋นเรียกเมื่อเห็นผมมองหาที่จับไม่เจอ เพราะผู้โดยสารคนอื่นใช้เต็มหมดแล้ว
อั๋นยกแขนข้างหนึ่งขึ้นจับราวของรถไฟฟ้า อีกข้างโอบรอบตัวผมให้เข้าไปชิดหน้าอกมัน
"ซบไหล่ได้นะ" มันพูดยิ้มๆ ผมหน้าแดง เรื่องอะไรจะทำอย่างที่มันบอกล่ะ คนมองเยอะแยะ แค่นี้ก็อายจะแย่อยู่แล้ว
อั๋นประคองผมไว้อย่างมั่นคง หลายคนในขบวนรถมองมาที่พวกเราสองคนอย่างโจ่งแจ้ง
ไม่กี่สถานีเราก็ลง ตอนนี้เจ็ดโมงครึ่งแล้วครับ เดินเข้าโรงเรียนก็คงถึงเวลาเข้าแถวเคารพธงชาติพอดี อดแดกข้าวเช้าเลย- -
"หิวอะ" ผมบอกอั๋น
"หลังเข้าแถวแวบไปโรงอาหารก่อนขึ้นห้องละกัน" ผมพยักหน้าตอบ

ระหว่างที่ผู้อำนวยการกำลังปราศัย ไอ้เชี่ยเอก (ขอเติมคำนำหน้าให้มันวันนี้- -) ดันเปิดประเด็นให้เพื่อนๆสังเกตท่าเดินกะเผลกๆของผม แถมยังชี้ให้ดูรอยแดงที่คออีก ช่างสังเกตจริงนะเพื่อนรัก
"อั๋นมึงทำอะไรหมอเนี่ย"
"เชี่ย แดงจริงๆด้วยว่ะ"
"สงสัยโดนหนัก มึงดูมันเดินดิ"
"ไอ้เหี้ยยยยย" ประโยคหลังสุดนั่นผมเองครับ แต่ไม่ได้ออกเสียง แค่ขยับปากใส่ไอ้พวกเพื่อนขี้เสือกทั้งหลาย ส่วนไอ้แฟนตัวดีก็ได้แต่ลูบหัวผมเบาๆและยิ้มรับคำชมหน้าบาน เรื่องว่ามันทำให้ผมเป็นหนักได้ขนาดนี้ เออ เอาเข้าไป

ในคาบแรก ระหว่างกำลังจดงานอยู่ ไอ้นนท์หันมาหาผมกับอั๋น
"เห้ย วีคก่อนกูได้ยินมาว่ามีเด็กมัธยม3มาบอกชอบมึงหรอวะไอ้อั๋น"
"เออ แล้วมึงไปรู้มาจากไหนเนี่ย" อั๋นถาม ดูตกใจเล็กน้อย
"เสือกมาไง ถามได้" ผมกวนตีน
"ปิดกูนะสาด กูมีแหล่งข่าวโว้ย เหยดดด ขนาดมีเมียเป็นตัวเป็นตนแล้วยังไม่ทิ้งลายนะครับไอ้อั๋น"
"ลายพ่อมึงดิ กูไม่ได้ไปยุ่งอะไรกับน้องเค้าซะหน่อย พูดงี้เดี๋ยวเมียกูเข้าใจผิดนะเว้ย" อั๋นหันมาทำหน้าแอ๊บแบ๊วใส่ผม
"ที่ได้ยินมาอีกนะ น้องเค้าเสียใจน่าดูเลยว่ะ วิ่งร้องไห้หลังโดนมึงปฏิเสธมา เพื่อนๆเข้ามาปลอบกันใหญ่"
"เห้ย" ผมร้อง
"จริงดิ" อั๋นถาม
"เออสิวะ กูจะโม้ทำไม โถๆ น่าสงสารชิบหาย ดันมาหลงรักคนมีเจ้าของแล้ว"
"สงสารนักก็ไปเป็นแฟนน้องเค้าดิ" อั๋นบอก
"ก็เหี้ยแล้ว"
"เออ ไหนๆมึงก็โสดไม่ใช่รึไง" ต้าร์เสริม
"อ้าว ไอ้เชี่ยต้าร์ กูนึกว่ามึงไม่สนใจพวกกูคุยกัน เห็นนั่งจดงาน ที่แท้ก็แอบฟัง ขี้เสือกเหมือนกันนะเราเนี่ย" นนท์กระแหนะกระแหน
"ติดเชื้อมาจากมึงอะ" ต้าร์ย้อน เท่านั้นแหละผมกับอั๋นขำก๊ากเลย
"สัส เดี๋ยวมึง"
"เฮ้ หนุ่มๆข้างหลังห้องอะ คุยให้น้อยแล้วจดให้เยอะหน่อยสิ" อาจารย์ส่งเสียงมาจากหน้าห้อง ปิดการสนทนาของพวกเราทันที
ผมลืมเรื่องน้องแก้วไปสนิทเลยถ้าไอ้นนท์ไม่พูดขึ้นมา น่าสงสารเค้าเหมือนกันนะครับ

เป็นไปอย่างที่คาด คาบเรียนต่อมา ผมฟุบหลับไปทันที ง่วงรุนแรงมากครับ มารู้สึกตัวอีกครั้งก็ถึงเวลาพักเที่ยงพอดี
ลืมตาขึ้นมาก็เห็นอั๋นกำลังนั่งจ้องหน้าผมอยู่พอดี
"ตื่นแล้วอ่อ" มันลูบหัวผม
"นี่กูหลับไป3คาบติดเลยหรอวะ" ผมอ้าปากหาว
"เออดิ หลับลึกด้วย กูลองสะกิดกับเรียกมึงแล้วไม่ขยับเลย"
"เพราะมึงเลย ทำกูไม่ได้หลับได้นอน" ผมทำปากยื่น
"ขอโทษคร้าบ" อั๋นยิ้มเจื่อนๆ
"คนอื่นไปไหนกันหมดวะ" ตอนนี้มีแค่ผมกับอั๋นที่อยู่ในห้อง
"ลงไปกินข้าวกันหมดแล้ว กูรอมึงตื่นอยู่ ไปกัน"
"เอ้า แล้วทำไมไม่ปลุก"
"รอได้น่า"
"ถ้าเกิดกูหลับยาวไปถึงคาบบ่ายล่ะ"
"ตอนนั้นกูคงโทรเรียกรถพยาบาลมาดูมึงละว่ายังมีชีวิตอยู่มั้ย"
ผมชูนิ้วกลางใส่อั๋น มันหัวเราะร่วน
อั๋นยกมือขึ้นแตะหน้าผากผม
"อุณหภูมิปกติ นึกว่ามึงจะไม่สบาย"
เราเดินลงจากอาคารเรียนไปยังโรงอาหาร ยังไม่ทันนั่งลงที่โต๊ะกับเพื่อนๆในห้อง เสียงแซวก็ดังมาถึงหู
เราหันไปเห็นน้องแก้วจ้องมองมาที่พวกเราอย่างเสียใจ แล้วก็หันหน้าหนีไปอย่างรวดเร็ว

เย็นนี้เรามาติวหนังสือกันที่บ้านผมและอั๋นจะกลับบ้านตอนกลางคืน กลับไปถึงแม่ก็ทำน้ำผลไม้และเค้กรอไว้ให้อยู่แล้ว
"อั๋นมาติวหนังสือให้หมอมันทุกวัน หมอก็ขยันๆให้คุ้มกับที่อั๋นเค้าทำให้หน่อยนะลูก"
"คร้าบ" ผมตอบเนือยๆเมื่อแม่เดินผ่านมาตอนที่กำลังนั่งทำแบบฝึกหัดภาษาอังกฤษอยู่ ส่วนคนโดนชมก็นั่งยิ้มปากกว้างไปถึงหู
"อั๋น คำนี้แปลว่าไรวะ" ผมเลื่อนหนังสือไปใกล้อั๋น
"advocate แปลว่าสนับสนุน"
"advocate สนับสนุน" ผมทวนก่อนจะจดลงในสมุดคำศัพท์ที่อั๋นบังคับให้จด
"ดีมาก" อั๋นขยับเข้ามาโอบไหล่ผม
เราสบตากัน อะไรบางอย่างในสายตาของเราทั้งคู่บ่งบอกถึงความรักที่มีให้กันโดยไม่ต้องพูดออกมา

วันนี้พ่อกลับเร็วกว่าปกติครับ เมื่อแม่เรียกให้มาทานข้าวพร้อมกัน ผมกับอั๋นวางหนังสือลงแล้วเดินไปที่โต๊ะอาหาร
"โหหหห" ผมร้อง วันนี้แม่ทำแต่ของโปรดผมทั้งนั้นเลย ปีกไก่ทอด กุ้งชุบแป้งทอด ต้มยำปลา และอีกหลายอย่าง ผมเห็นอั๋นยิ้มขำเลยกระซิบถาม "อะไร"
"เห็นคนตะกละแล้วมันตลกดี" ผมถลึงตาใส่
"มาๆ กินข้าวกันลูก" พ่อเรียก
"รบกวนด้วยนะครับ" อั๋นบอกก่อนจะนั่งลงข้างๆผม
"เต็มที่เลยลูก..."
เมื่อทุกคนใกล้อิ่ม ผมเห็นพ่อกับแม่สบตากัน สีหน้าดูไม่ค่อยสบายใจเท่าไร แล้วพ่อก็พยักหน้าให้แม่
"หมอ อั๋น" แม่พูดขึ้น
"ครับ" เราสองคนตอบพร้อมกัน ผมรู้สึกว่าต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ
"แม่ถามตรงๆนะลูก เราสองคนเป็นอะไรกัน"
...
ผมอึ้ง แม่รู้เรื่องเราได้อย่างไร
ผมไม่กล้าหันไปมองอั๋น แต่สัมผัสได้ว่ามันก็นั่งนิ่งอยู่ด้วยเหมือนกัน
พ่อไม่พูดอะไร ได้แต่มองหน้าผมด้วยสีหน้าที่ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
"ว่าไงลูก" แม่กระตุ้น
"ผม...คือ..."
ผมตะกุกตะกัก ช้าไปแล้ว
"เราเป็นเพื่อนกันครับ"
"จริงเหรอลูก" แม่ขมวดคิ้ว
จะ...จริงครับ
"อย่าโกหกแม่นะหมอ" แม่พูดอย่างจริงจัง จ้องตาผมเหมือนกับจะค้นหาความจริง
"เพื่อนกันครับ" ผมยังโกหก
"เท่าที่แม่กับพ่อสังเกต เราสองคนไม่เหมือนเพื่อนกันเลย แม่เห็นอั๋นกอดหมอบ่อยๆเวลามาส่งที่บ้านหลังกลับจากโรงเรียน แล้ว...แม่ก็เคยเห็นอั๋นหอมแก้มหมอครั้งนึงด้วย" ผมแทบช็อค นี่แม่เห็นทุกอย่างมาตั้งนานแล้วอย่างนั้นหรือ
"แม่พึ่งเล่าให้พ่อฟังเมื่อวันก่อนว่าวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมาหมอกับอั๋นทะเลาะกัน แล้วอั๋นก็ตามมาง้อที่บ้าน...เห็นช่อดอกกุหลาบกับกล่องของขวัญในห้องหมอด้วย" พ่อพูดขึ้นบ้าง
"หมอบอกว่าเป็นเพื่อนกัน นี่มันเกินที่เพื่อนเค้าทำกันแล้วนะลูก" แม่เริ่มเสียงดังขึ้นเล็กน้อย
ท่านรู้แล้วสินะ
อั๋นเอื้อมมือมากุมมือผมอยู่ใต้โต๊ะ

ในที่สุดผมก็ยอมรับ
"ผมกับอั๋น...เป็นแฟนกันครับ"

-จบตอน-

โอววว ขุ่นพ่อกับขุ่นแม่รู้ซะแล้วคร้าบ ถามตรงได้อีก
อั๋นหมอจะเป็นอะไรหรือเปล่าเนี่ย ติดตามกันด้วยครับ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
เอาล่ะซิพ่อกับแม่รู้เรื่องแล้วจะว่ายังไงยอมรับความรักของลูกได้ไหมนะ :katai1: :katai1: :katai1:



 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ตัวไหมอ้วนกลม

  • สาว Y ไม่ใช่โรคติดต่อ แต่เป็นแล้วรักษาไม่หายนะคะ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-2
พ่อกับแม่จะว่าไงบ้างนะ ต่อ ต่อ ต่อ   :katai1:  :katai1:  :katai1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ writerbeer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-3
ตอนที่40

'ผมกับอั๋น...เป็นแฟนกันครับ'

ประโยคนั้นตามมาด้วยความเงียบที่นานที่สุดที่ผมเคยเจอ
"แม่...อย่างที่คิดจริงๆสินะ...เราสองคนไม่ได้เป็นแค่เพื่อนกัน" แม่พูดช้าๆ สีหน้าทั้งตกใจและผิดหวัง ใจผมตกวูบ
"แม่" ผมเรียกเบาๆ
"ทำไม...หมอถึงทำแบบนี้"
"คุณครับ" พ่อขัดขึ้น ใบหน้าเครียดเขม็ง
ผมหันไปหาอั๋น เราจะทำอย่างไรดี
"ตอบแม่มาสิ ทำไมถึงทำแบบนี้"
"หมอ..." ผมพูดไม่ออก ก้มหน้าลงเพราะไม่กล้าสบตาแม่
"แม่เลี้ยงหมอ อยากให้เป็นเด็กดี...แต่นี่หมอกลับ..." เสียงแม่เริ่มสั่น
"คุณ" พ่อเรียกอีก
"แม่ครับ พ่อครับ ฟังผมก่อนนะครับ" อั๋นพูดขึ้นมาในที่สุด
พ่อหันไปมองอั๋น
"ผมขอโทษ เรื่องทั้งหมดผมผิดเองครับ หมอไม่ผิด"
"ไม่ใช่นะอั๋น..." ผมกำลังจะพูด แต่แม่ตัดบท
"อั๋นก็ด้วย ทำแบบนี้ที่บ้านอั๋นก็เสียใจเหมือนแม่นะลูก"
เหมือนมีดกรีดลงบนหัวใจผม แม่แสดงออกชัดเจนแล้วว่าไม่ยอมรับความสัมพันธ์ของเรา
"เราสองคนคิดว่ากำลังทำอะไรอยู่ คิดว่ามันถูกแล้วเหรอ" แม่ร้องไห้ออกมา
"แม่"
"ผู้ชายกับผู้ชายจะรักกันได้ยังไง...แม่ไม่รู้ว่ามันจะเกิดกับหมอ..." แม่ปิดหน้าร้องไห้กับฝ่ามือ พ่อลุกจากเก้าอี้มาประคอง
"หมอกับอั๋นขึ้นไปข้างบนก่อนไปลูก..."
น้ำตาผมไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว อั๋นดึงผมเบาๆแล้วพาขึ้นบันไดไป

"อั๋น...สิ่งที่เราทำ...มันผิดขนาดนั้นเลยเหรอ" คำถามแรกหลุดออกจากปากผมทันทีที่เราอยู่กันตามลำพังในห้อง
"มันไม่ผิดหรอก"
"แต่แม่กู...แม่รับเราสองคนไม่ได้" น้ำตาผมไหลออกมาอีก
อั๋นขยับเข้ามาใกล้และโอบไหล่ผมไว้
"กูควรทำไงดี"
"ตอนนี้คงได้แค่รอแม่ใจเย็นลง แล้วค่อยเข้าไปคุยกับแม่ดีๆ"
"แล้วถ้าแม่บอกให้เราเลิกกันล่ะ" ผมพูดสิ่งที่กลัวที่สุดออกไป
อั๋นหน้าเสีย
"ถ้าแม่บอกให้เราเลิกกัน เราจะทำยังไง"
"ไม่...อั๋นไม่มีวันยอมเลิกกับหมอเด็ดขาด"
ผมมองสบตาคนที่ผมรักที่สุด แววตาอั๋นมีความกังวลแฝงอยู่
ตั้งแต่ผมจำความได้ ครั้งนี้เป็นครั้งที่2ที่ผมเห็นแม่ร้องไห้ ครั้งแรกเพราะผมมีเรื่องชกต่อยกับเพื่อนตอนมัธยมต้น กลับบ้านมาด้วยแผลและรอยฟกช้ำเต็มหน้า แม่ทั้งโกรธและเสียใจมาก
ผมกำลังทำให้แม่รู้สึกแบบนั้นอีกแล้ว
แล้วถ้าพ่อแม่อั๋นก็ไม่ยอมให้เราคบกันล่ะ

ผมซบหน้าร้องไห้กับไหล่อั๋น มันกอดและลูบหลังผมเบาๆเพื่อปลอบโยน
"อย่าพึ่งคิดมากนะหมอ มันต้องมีทางออก...แต่เราจะไม่เลิกกันแน่ๆ" อั๋นบอกอย่างหนักแน่น แต่ความกังวลของผมไม่ได้ลดลงไปเลยแม้แต่น้อย
เราทั้งคู่คิดเหมือนกันว่าคืนนี้อั๋นควรกลับบ้านไปก่อน พักหนึ่งผมเดินมาส่งอั๋นให้เรียกรถแท็กซี่กลับ
"เดี๋ยวสักสี่ทุ่มกูโทรหานะ"
ผมพยักหน้า อั๋นเอื้อมมาจับมือผมบีบเบาๆก่อนจะขึ้นรถไป
ผมกลัวว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้จับมือกัน

"หมอ มาหาพ่อหน่อยลูก" พ่อเรียกเมื่อผมเดินกลับเข้าไปในบ้าน ผมเห็นพ่อนั่งอยู่คนเดียวบนโซฟาในห้องนั่งเล่น และนั่งลงตามอย่างกล้าๆกลัวๆ
"แล้ว...แม่ล่ะครับ"
"แม่อยู่ข้างบน"
ผมไม่กล้าถามว่าแม่หยุดร้องไห้หรือยัง
"หมอ ฟังพ่อนะ" พ่อเริ่มด้วยน้ำเสียงจริงจัง มีไม่กี่ครั้งในชีวิตที่พ่อจะเรียกผมมาสอนหรือตักเตือน "พ่อกับแม่คุยกันมานานแล้วเรื่องลูกกับอั๋น...แม่มาเล่าให้ฟังหลายเรื่อง ว่าเห็นเราสองคนแปลกๆ...พ่อก็ไม่อยากเชื่อ พ่อไม่คิดว่าหมอจะเป็นแบบนั้นไปได้..."
ผมกลืนน้ำลาย เพราะเห็นว่าพ่อพูดประโยคสุดท้ายออกมาอย่างยากลำบาก
พ่อเองก็คงรับไม่ได้เหมือนกันสินะ
"เมื่อคืนพ่อคุยกับแม่ว่าถึงเวลาต้องคุยกับหมอให้รู้เรื่องแล้ว วันนี้ก็เลยถามหมอตรงๆ...หมอ พ่อรู้ว่าตอนนี้ลูกเสียใจมาก แต่หมอก็ต้องรู้ไว้ว่าพ่อกับแม่ก็เสียใจเหมือนกัน..."
ผมมองพ่อ ความเสียใจและผิดหวังสะท้อนออกมาจากใบหน้าให้เห็นเต็มๆ
"พ่อสารภาพว่าพ่อก็ทำใจไม่ได้...พ่อไม่อยากให้หมอเป็นเกย์ จะ...จะมีทางที่หมอกลับไปเป็นเหมือนเดิมมั้ย"
ผมเงียบไปนาน น้ำตาไหลออกมาอีกครั้งโดยไม่รู้ตัว ส่ายหน้าเบาๆแทนคำตอบ
ผมจับได้จากแววตาของพ่อว่าท่านตกใจ
"...หมอกับอั๋นคบกันจริงจังใช่มั้ย ไม่ใช่เล่นกันใช่มั้ย"
"ครับ"
"แล้วหมอมั่นใจเหรอว่ารักอั๋นจริงๆ"
"ผมมั่นใจ"
"แล้วอั๋นล่ะ อั๋นคิดแบบเดียวกับหมอหรือเปล่า"
"ครับ อั๋นรักผม จริงจังกับผม"
แม้อยู่ในสถานการณ์ที่ตึงเครียด แต่ผมก็มั่นใจในคำตอบที่พ่อถาม ผมเชื่อว่าเราสองคนรักกันจริงๆ ไม่ใช่อารมณ์ชั่ววูบ หรือเพราะการที่เราอยู่ใกล้ชิดกันบ่อยๆแล้วหวั่นไหวอะไรทำนองนั้น

"ถ้าพ่อ...ขอให้เราเลิกกัน...หมอจะทำได้มั้ย" ผมตกใจ
"มะ...ไม่ครับ ผมทำไม่ได้"
พ่อเงียบไปพักใหญ่


"พ่อเข้าใจแล้ว...บอกตรงๆว่าพ่อไม่อยากให้หมอเป็นแฟนกับผู้ชาย...แต่ในเมื่อลูกยืนยันแบบนี้ พ่อคงต้องยอม..."

ผมเงยหน้าขึ้นมองพ่ออีกครั้ง
"พ่อจะพยายามเปิดใจก็แล้วกัน...แต่กับแม่ คงต้องใช้เวลาอีกหน่อยนะ แม่ยังทำใจไม่ได้หรอก"
คำพูดของพ่อเหมือนแสงไฟดวงเล็กๆที่จุดขึ้นมาท่ามกลางความมืดมิดในตัวของผมตอนนี้
"พ่อ...พ่อยอมให้หมอคบกับอั๋นใช่มั้ยครับ"
พ่อพยักหน้า
ผมโผเข้ากอดพ่อแล้วสะอื้น พ่อลูบหัวผมเบาๆ

"พรุ่งนี้เช้าลงมาจากห้องก็มาอ้อนแม่เค้าหน่อยก็แล้วกัน"
"ครับ"
"ยังไงพ่อจะช่วยพูดกับแม่ด้วย"
"ครับ"
"เอาน่า อย่าซึมไปเลย" พ่อยิ้มออกมา

ผมเล่าเรื่องพ่อให้อั๋นฟังทางโทรศัพท์ในคืนนั้น
(อย่าคิดมากนะเว้ย อย่างน้อยพ่อก็อนุญาตแล้ว)
"อือ"
(อั๋นรักหมอนะ เราจะผ่านมันไปให้ได้นะ)
"ครับ...พรุ่งนี้หลังเลิกเรียนไปบ้านมึงนะ"
(โอเค)

ผมลงมาข้างล่างตอนเจ็ดโมง เห็นแม่กำลังยืนปิ้งขนมปังอยู่ในครัว ผมเดินเข้าไป
"แม่ครับ...มีอะไรกินหรอครับ"
แม่สะดุ้ง หันมามองผมแวบหนึ่งแล้วหันกลับไปอย่างรวดเร็ว
"แม่ครับ" ผมเรียกซ้ำ
แม่ยังคงไม่ตอบ ใจผมกระตุก
แม่จะไม่ยอมพูดกับผมอย่างนั้นหรือ
"มีขนมปังปิ้งกับไส้กรอก ในจานนั่นไง แม่เค้าทำไว้ให้หมอแล้ว"
พ่อเดินจากห้องนั่งเล่นเข้ามาในห้องครัว ชี้ไปทางจานที่มีขนมปังปิ้งกับไส้กรอกวางไว้อยู่เต็ม ข้างจานมีน้ำส้มหนึ่งแก้ว
"เอ่อ ครับ" ผมเดินเข้าไปดื่มน้ำส้มและเทอาหารในจานใส่กล่องอาหารเตรียมไปโรงเรียน
"แล้ว...อั๋นใกล้ถึงรึยังลูก" พ่อถาม
"มันบอกว่าอีกไม่ถึงสิบนาทีนี้ครับ"
เมื่อพูดถึงอั๋น ผมกับพ่อแอบมองปฏิกิริยาของแม่ แต่แม่ไม่แสดงอาการอะไร
"คุณ ลูกจะไปโรงเรียนแล้วนะ"
แม่เงียบและไม่ยอมหันมามองผม
"หมอไปก่อนนะครับพ่อ แม่..."
ผมเดินออกมารออั๋นที่หน้าบ้าน ใจแป้วที่แม่ทำเหมือนผมไม่มีตัวตน
"เดินทางดีๆนะลูก" พ่อส่งเสียงตามหลังมา

"ไม่เป็นไรนะเว้ยมึง" นนท์ปลอบใจผมกับอั๋นเมื่อเราปรึกษาเรื่องที่พ่อแม่ผมรู้เรื่องเราคบกัน "ยังดีที่พ่อมึงโอเคนะหมอ กูว่าสักวันแม่มึงก็ต้องเข้าใจและยอมรับได้"
"เมื่อเช้าแม่ยังไม่ยอมพูดกับกูเลย" ผมบอก
"มึงก็เนียนๆเข้าไปกอด ไปง้อแม่ไรงี้ดิ เดี๋ยวเค้าก็ใจอ่อน"
"กูไม่กล้าว่ะ"
"แล้วนี่พ่อกับแม่มึงรู้ยังวะอั๋น" ต้าร์แทรก
"ยังไม่รู้"
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งความกังวลของทั้งผมและอั๋น ถ้าพ่อแม่อั๋นรู้ขึ้นมาบ้างจะเป็นอย่างไรนะ
"ตอนนี้ไม่มีประโยชน์ที่จะมากังวลเรื่องที่ยังไม่เกิดหรอก" ต้าร์พูดต่อไป "ถ้าพ่อแม่ไอ้อั๋นรู้เรื่องก็อาจจะรับได้ก็ได้...แต่ถึงรับไม่ได้ มันก็เหมือนกับที่พวกมึงกำลังเจออยู่ กูว่าสิ่งที่เราจะทำได้นะ...พวกมึงต้องพิสูจน์ให้เห็นว่ามึงสองคนรักกันจริงๆ ไม่ใช่เล่นกัน แล้วก็จะทำตัวดี ไม่สร้างปัญหาให้เค้าหนักใจ แบบคบกันแล้วพาไปทางที่ถูกน่ะ"
ผมอึ้งกับคำแนะนำของต้าร์ มันทั้งมีเหตุมีผลและเป็นความจริงเสียจนปฏิเสธไม่ได้
"เชี่ย นี่ใช่มึงจริงๆหรอวะต้าร์" นนท์จับหน้ากับตัวต้าร์
"เออ ให้กูมีสาระบ้างไม่ได้รึไง" นนท์หัวเราะเสียงลั่น
"จริงของมึง มานั่งห่วงเรื่องพ่อแม่กูจะรู้ไปก็ไม่ได้อะไร ตอนนี้ควรห่วงเรื่องแม่หมอก่อน" อั๋นเลื่อนมากุมมือผม
"แม่จะยอมเปิดใจแล้วให้โอกาสเราทำให้เห็นอย่างไอ้ต้าร์บอกมั้ย" ผมถามอย่างอับจนหนทาง
"กูจะพยายาม เราต้องทำให้ได้" อั๋นบอก

ที่ย้ายไปอ่านหนังสือสอบที่บ้านอั๋นแทนก็เพราะแม่ครับ ผมไม่แน่ใจว่าอะไรจะเกิดขึ้นถ้าไปที่บ้านผม
"แล้วบอกแม่รึยัง" อั๋นถามหลังขับมอเตอร์ไซด์ออกมาจากบริเวณโรงเรียน
"ยังอะ ตอนแรกว่าจะบอก แต่พอเห็นแม่เป็นแบบนั้นเลยไม่กล้า"
"เดี๋ยวตอนไปส่งมึงกูขอเข้าไปในบ้านนะ"
"เอ่อ จะดีเหรอ"
"ไม่มีไรหรอก"
"มึงจะทำอะไร"
อั๋นไม่ตอบ
เมื่อเรามาถึงบ้านอั๋น อั๋นเดินตรงเข้าไปในครัวทันที
"หิวมั้ยหมอ"
"นิดหน่อย"
"แต่กูหิวมากเลย"
"จะทำไรกินปะ เดี๋ยวกูช่วย"
"ไม่ๆ มีผลไม้อยู่ในตู้เย็น...กินนิดเดียวพอ เดี๋ยวกินข้าวละ" อั๋นเดินกลับออกมาพร้อมกล่องผลไม้ ข้างในมีส้มกับแอปเปิ้ลที่หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ
"มาๆ เริ่มกัน"
ผมตามไปนั่งลงที่โต๊ะตัวยาว หยิบส้มหนึ่งชิ้นเข้าปากแล้วก็ถูกตีมือ
"ไปล้างมือก่อนเลย"
ผมนิ่วหน้าก่อนจะทำตามที่อั๋นสั่ง
"อะ กินได้"
"ดุว่ะ"
อั๋นขยี้หัวผมจนยุ่ง ผมมองสบตามันแล้วเห็นอะไรหลายๆอย่างผ่านสายตาที่มองกลับมา
ผมขยับตัวเข้าไปหาอั๋น หยิบชิ้นแอปเปิ้ลในมือมันวางกลับไปไว้ในกล่อง และจูบมัน มันจูบตอบอย่างอ่อนโยน
"อ้อนอ่อ" อั๋นถาม ยิ้มน้อยๆหลังเราผละออกจากกัน
"ก็อยากจูบอะ" ผมรู้สึกเหมือนว่าเวลาที่ได้อยู่กับมันจะใช้ยังไงก็ไม่คุ้ม ผมไม่รู้ว่าเราจะมีความสุขแบบนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน
อั๋นดึงผมมานั่งบนตักและกอดเอว
"อยู่แบบนี้สักเดี๋ยวนึงนะ..." อั๋นกระซิบที่หู
ผมเข้าใจแล้วว่าเวลาที่เราลำบาก ท้อแท้ ผิดหวัง หรือรู้สึกไม่ดีกับเรื่องอะไรก็ตามในชีวิต กำลังใจจากคนรักเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เราก้าวต่อไปได้ แค่อั๋นปลอบประโลมผมด้วยสัมผัสก็ทำให้รู้สึกดีขึ้นได้
ผมชอบถูกมันกอด
"ป้อนส้มหน่อยดิ"
ผมหยิบชิ้นส้มอีกชิ้นใส่ปากอั๋น
"อือ...ชิ้นนี้ไม่หวานเท่าชิ้นเมื่อกี้เลย" อั๋นจิ้มเบาๆที่ตัวผม ผมยิ้ม
"แน่นอน"
อั๋นหัวเราะ
"ป้อนกูมั่งดิ" ผมให้อั๋นป้อนแอปเปิ้ลให้บ้าง

อั๋นมาส่งผม ถึงบ้านตอนสามทุ่มครึ่งพอดี เรามองหน้ากันอย่างกล้าๆกลัวๆก่อนจะเดินเข้าไปในบ้านช้าๆ
"คุณ ใจ..."
"หมอ"
แม่เรียกเสียงดังทันทีที่ผมเปิดประตูบ้าน ตัดบทพ่อ
"คะ...ครับ"
"ไปไหนมา"
"ไปบ้านอั๋นมาครับ" แม่จ้องผมตาดุ ผมหลบตาแม่
"แม่พึ่งบอกเมื่อวานไม่ใช่เหรอว่าแม่รับไม่ได้ แล้ววันนี้เรายังจะ..."
"แม่ครับ"
"หมอไม่ต้องพูด แล้วฟังแม่" แม่ตะคอก
แม่ไม่เคยตะคอกใส่ผมมาก่อนเลย
"คุณ ฟังลูกก่อน" พ่อขัด
ผมหันไปหาอั๋น อั๋นคว้ามือผมแล้วเดินเข้าไปหาแม่ ผมตกใจเบิกตากว้าง
"แม่ครับ เรารักกันจริงๆครับ...ขอโอกาสให้ผมกับหมอด้วยครับ"

-จบตอน-

โอย อั๋นมีความชัดเจนและกล้าหาญมาก ดีมากๆ ขุ่นพ่อไฟเขียวแล้ว แต่ขุ่นแม่นี่สิ ดราม่ามาอีกละค้าบ เป็นกำลังใจให้อั๋น-หมอต่อไปด้วยนะครับ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
 :mew6: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6:

คุณแม่ไม่สงสารลูกเหรอ คุณแม่น่าจะสังเกตดูบ้างว่าเวลาหมอกับอั๋นอยู่ด้วยกันแล้วเป็นยังไง
แล้วตอนที่คุณแม่รับไม่ได้หมอมีอาการเศร้าเสียใจแค่ไหน

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ไรท์ เขียนดีมาก ไหลลื่น  เรื่องชวนติดตาม :mew1: :mew1: :mew1:
อ่านแล้วเหมือนเรื่องเล่าเลย มีเสน่ห์ ชอบบบ :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
อั๋น หมอ  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
ทั้งคู่รักกัน ช่วยกันพยุงกันให้อีกฝ่ายดีขึ้น
จริงแล้ว อั๋น เป็นฝ่ายประคับประคอง
ฉุดให้หมอ กระเตื้องขึ้น ดีขึ้น
แม่ของหมอ รู้ทั้งรู้ว่าลูกตัวเอง
ปกติหมอ มีนิสัย การเรียนเป็นอย่างไร
คบกับอั๋น แล้วเป็นอย่างไร
กลับไปคิดแต่เรื่องรักเพศเดียวกัน
ควรให้เด็กพิสูจน์ตัวเองว่าคบกันแล้ว
พากันดีขึ้น หรือเลวลง
อย่าคิดแต่หน้าตา ความสุขของพ่อแม่ฝ่ายเดียว
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-12-2016 15:56:03 โดย ♥►MAGNOLIA◄♥ »

ออฟไลน์ writerbeer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-3
ตอนที่41

อั๋นจับมือผมไว้แน่น
"ผมกับหมอ...เรารักกันจริงๆนะครับ"
แม่มองมาที่เราสองคนอย่างผิดหวัง
"ยังไงแม่ก็คิดว่าสิ่งที่พวกเราทำมันไม่ถูก ไหนจะที่ปิดเรื่องคบกันกับแม่อีก...พ่อแม่อั๋นก็คงยังไม่รู้เรื่องใช่มั้ย"
"ครับ แต่ผมตั้งใจจะบอกอีกไม่นานนี้" อั๋นตอบอย่างหนักแน่น
"คงไม่ต้องบอกแล้วล่ะ...เพราะแม่ไม่ยอมให้หมอเป็นแฟนกับอั๋น แม่ไม่อนุญาต"
ผมแทบล้มทั้งยืนกับคำขาดของแม่
อั๋นกับพ่อผมมีสีหน้าตื่นตะลึง
"คุณ..."
"ได้ยินที่แม่พูดแล้วนะ หมอ อั๋น...ตั้งแต่นี้ไป แม่ขอสั่งห้ามไม่ให้สองคนไปไหนมาไหนด้วยกันอีก"
"แม่" ผมร้อง
"แม่ครับ ขอโอกาส..." อั๋นกำลังจะพูดต่อแต่ถูกเสียงแม่ผมกลบหมด
"ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว แม่บอกว่าไม่ให้คบกันก็คือไม่"
ผมน้ำตาร่วง และพูดคำต่อไปออกมาโดยไม่รู้ตัว
ไม่
"หมอ" แม่ตวาด
"ไม่ หมอไม่เลิกกับอั๋น ไม่มีทาง"
"หมอ ไม่เชื่อที่แม่บอกเหรอ" แม่ร้องไห้ออกมาอีกคน จะตรงเข้ามาหาผมแต่พ่อฉุดแขนไว้
"อั๋นกลับบ้านไปก่อนนะลูก"
"เอ่อ..."
"พ่อ" ผมร้องอีก
"เชื่อพ่อ อั๋นกลับไปก่อน" พ่อสั่งเสียงเข้ม
"คะ ครับ" อั๋นรับคำ ผมหันไปหามัน เห็นน้ำตารื้นขึ้นมาที่ดวงตาของอีกฝ่าย ไม่อยากให้มันกลับไปเลย มันพยักหน้าให้ผมและค่อยๆเดินออกไป
ผมมองตามอั๋นไปจนเห็นมันขับมอเตอร์ไซด์ผ่านหน้าบ้านไปด้วยใจที่แตกสลาย

หันกลับมาเห็นพ่อยังคงรั้งแม่ไว้อยู่เช่นเดิม แม่สะอึกสะอื้น
"ทำไม ทำไมหมอถึงทำแบบนี้...หมอไม่เคยไม่เชื่อฟังแม่"
"คุณ"
"แม่" ผมรู้สึกทั้งโกรธทั้งเสียใจ ตะโกนลั่นอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ "หมอไม่ยอมเลิกกับอั๋นเด็ดขาด ไม่ว่าแม่จะว่ายังไง"
"หมอ" ทั้งพ่อและแม่ร้อง
ผมวิ่งขึ้นไปข้างบนบ้าน ปิดประตูห้องแล้วล็อคกลอนทันที

ผมร้องไห้อย่างไม่อาย ปลดปล่อยความเศร้าโศกเสียใจที่มีอยู่ออกมาเต็มที่
ผมรู้และเข้าใจว่ารักร่วมเพศไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะยอมรับ เข้าใจความคาดหวังของคนเป็นพ่อแม่ที่อยากให้ลูกชายแต่งงานมีครอบครัวที่ดี เข้าใจว่าถ้าตัวเองมีโอกาสเป็นพ่อคนก็คงต้องการแบบนั้น
ผมเองก็อยากเป็นลูกที่ดี ทำให้พ่อแม่ภูมิใจ
แต่กับเรื่องนี้ ผมทำให้ไม่ได้จริงๆ
เพราะผมรักอั๋นไปแล้ว
ผมเองเคยนึกสงสัยสิ่งที่ตัวเองเป็น ผมก็เติบโตมาเป็นผู้ชายตามปกติ ชอบผู้หญิง ตอนนี้ก็ยังมองผู้หญิงที่สวยหุ่นดีอยู่ปกติ และไม่รู้สึกกับผู้ชายคนอื่นเลย
ยกเว้นแต่อั๋น

ผมร้องไห้จนหลับไป รู้สึกตัวตื่นขึ้นเองก็ตีหนึ่งกว่าๆเกือบจะตีสอง สำรวจตัวเองกับกระจกก็พบตาที่แดงก่ำและคราบน้ำตาเต็มใบหน้า
ผมคว้าผ้าเช็ดตัวขึ้นพาดไหล่ เดินออกจากห้องเตรียมจะอาบน้ำ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นพ่อกับแม่นั่งคุยกันอยู่ที่โต๊ะอาหาร
ไม่ต้องสงสัยเลย พวกท่านกำลังคุยเรื่องผมอยู่แน่ๆ
ผมลังเลอยู่นานว่าจะแอบฟังหรือไม่ ประเด็นคือกลัวสิ่งที่จะได้ยิน แต่สุดท้ายผมก็ยืนหลบอยู่ในมุมมืดบริเวณปลายบันไดชั้นบน
ด้วยเป็นเวลาดึกมากแล้ว ไม่มีเสียงอื่นใดนอกเหนือจากเสียงพวกท่านคุยกันที่ได้ยินชัดเจน
"ลูกเสียใจมากนะ คุณก็เห็นนี่" พ่อพูด หรี่ตาเล็กลง จากตรงนี้ผมมองเห็นแววตาที่แฝงไปด้วยความเครียดได้ชัดเจนด้วยซ้ำ
"ใช่ค่ะ แล้วคุณจะให้ฉันทำยังไง...ฉันพูดไปกี่รอบแล้วว่าฉันยอมรับไม่ได้"
"คุณต้องยอมรับให้ได้ เรื่องแบบนี้ไม่ใช่ว่าเกิดขึ้นแล้วจะหายหรือเลิกได้"
"ฉันถามคุณหน่อยนะ" แม่พูดเสียงเรียบ ดูใจเย็นขึ้นมากจากตอนที่ทะเลาะกับผมเมื่อหลายชั่วโมงก่อน แต่ยังอยู่ในท่าทางที่พร้อมจะคัดค้าน "คุณไม่อยากให้หมอคบกับผู้หญิง มีอนาคตดีๆ มีหลานให้เราเลี้ยง เหมือนคนทั่วๆไปเหรอ"
"อยากสิ" พ่อตอบทันที ไม่ลังเล "ผมฝันมาตลอดตั้งแต่เจ้าหมอมันโตว่าอยากเห็นภาพแบบนั้น"
"แล้วทำไม..."
"แต่ลูกเราเป็นแบบนั้นไม่ได้ หมอไม่ได้ชอบผู้หญิง และคุณจะไปบังคับให้หมอทำยังงั้นไม่ได้"
"งั้นแสดงว่าคุณรับได้แล้วเหรอ"
"ผมตอบไม่ได้เต็มปากหรอกนะว่ารับได้ แต่ผมกำลังพยายาม..."
มาถึงตรงนี้ แม้ผมจะดีใจที่พ่อให้โอกาส แต่ก็เสียใจที่รู้ว่าท่านต้องอดทนมากแค่ไหนเพื่อผม
"ผมเล่าให้คุณฟังไปแล้วว่าคุยกับหมอ ถามลูกว่าให้เลิกคบกันได้มั้ย ลูกบอกว่าไม่ แล้วก็ยืนยันว่ารักอั๋น...เมื่อเย็นอั๋นก็พูดว่ารักลูกเรา...ถ้าเรายังไปกีดกันเขา พวกเขาก็ไม่มีความสุขน่ะสิ"
"..."
"ที่เราสองคนทำอยู่ตอนนี้ก็เพื่อหมอ เพื่อความสุขของหมอไม่ใช่หรือ"
"..."
"แล้วที่คุณบอกว่าอยากให้ลูกมีอนาคตที่ดี ใช่ ทำไมผมจะไม่อยากให้ลูกเป็นแบบนั้นล่ะ แต่คบกับผู้ชายก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีอนาคตนี่...อั๋นก็ช่วยหมอเรื่องเรียน ไปรับส่ง ดูแลลูกเราอย่างดี...ที่สำคัญ ลูกอยู่กับอั๋นแล้วก็มีความสุขด้วย"
"คุณ" แม่เรียกพ่อเสียงเบา
"ผมเข้าใจคุณทุกอย่าง...คุณจำได้มั้ยว่าหมอแทบไม่เคยมีเรื่องหรือทำอะไรให้เราเสียใจ มาคิดดูให้ดี เรื่องนี้หมอก็ไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะ...จะผิดก็แค่ที่โกหกปิดบังเรื่องนี้พวกเรานั่นแหละ"
"..."
"คุณจะลองเปิดใจได้มั้ย เพื่อลูกเรา..."

ผมไม่รู้ว่าคำตอบของแม่คืออะไร เพราะเดินเข้าห้องน้ำไปเงียบๆ หัวใจผมพองโตขึ้นจากที่ฟังคำพูดของพ่อ

เช้าวันต่อมา ผมตื่นขึ้นอย่างง่วงงุนด้วยเสียงนาฬิกาปลุกและเสียงโทรศัพท์จากอั๋น เมื่อคืนผมไม่ได้รับสายอั๋นเพราะเผลอหลับไป แต่ไลน์ไปหาตอนดึกหลังฟังพ่อกับแม่คุยกัน
ผมยังไม่ทันลุกจากเตียง อั๋นก็โทรศัพท์มา
"ฮัลโหล"
(หมอ ตื่นแล้วใช่มั้ย เป็นไงมั่ง กูเป็นห่วงมึงแทบแย่) ปลายสายพูดรัวเร็ว
"พึ่งตื่นเลย หาววว" ผมหยุดพักกลางประโยคเพราะหาว "เมื่อคืนกูหลับไปตอนมึงโทรมา"
"แม่หมอ...ว่าไงบ้าง" เสียงอั๋นยังแสดงความกังวลชัดเจน
"กู...เดี๋ยวเล่าให้ฟังระหว่างทางไปโรงเรียนนะ"
"ครับ แต่หมอไม่เป็นอะไรใช่มั้ย"
"อือ อีกเดี๋ยวออกมารับกูได้เลยนะ กูอาบน้ำแปบ..."

ผมลงมาข้างล่างก็ต้องแปลกใจ เพราะเห็นพ่อกับแม่จ้องมองมา สีหน้าแม่บ่งบอกความไม่มั่นใจ ทั้งคู่นั่งอยู่ด้วยกันที่โต๊ะอาหาร
ผมรู้สึกผิดเรื่องที่ตะโกนใส่พวกท่านเมื่อวาน เท้าจึงชะงักอยู่กลางบันได
"ลงมาสิลูก" พ่อเอ่ย
ผมพยักหน้ารับก่อนจะค่อยๆไต่บันไดลงมา เม้มริมฝีปากด้วยความกังวล
"เช้านี้แม่เค้าทำข้าวผัดให้ มี2กล่อง...อีกกล่องเอาให้อั๋นนะลูก" พ่อชี้ไปที่กล่องข้าวและขวดนมจืดที่ใส่ถุงผ้าเตรียมรอไว้เรียบร้อยแล้ว
"ขะ ขอบคุณครับ" ผมก้มหน้าลง รีบคว้าถุงผ้าแล้วเดินออกไปหน้าบ้านทันที ไม่กล้าสบตาแม่ เพราะเห็นเหมือนแม่กำลังจะพูดอะไรขึ้นมา
แต่พ่อก็เดินตามมาแล้วส่งเสียงมาจากประตู
"เย็นนี้กลับบ้านเร็วหน่อยนะลูก พ่อกับแม่มีเรื่องอยากคุยด้วย...ชวนอั๋นมาด้วยล่ะ"
ผมนิ่งอึ้ง หันไปมองก็เห็นรอยยิ้มสดใสของพ่อ พ่อพยักหน้าเบาๆให้แล้วเดินกลับเข้าไป
จะคุยด้วยอย่างนั้นหรือ

แล้วผมก็เล่าให้อั๋นฟังตั้งแต่ที่ขึ้นนั่งมอเตอร์ไซด์ว่าผมตะโกนใส่พ่อกับแม่ว่าผมไม่ยอมเลิกกับมัน และเรื่องที่ผมได้ยินพ่อกับแม่คุยกันกลางดึกด้วย อั๋นรับฟังอย่างเดียวไม่พูดอะไร จนนั่งลงที่โรงอาหารของโรงเรียน
"ขอบคุณนะที่บอกกับพ่อแม่ยังงั้น" อั๋นยิ้ม ซึ้งใจที่ผมยืนยันว่ายังไงผมก็จะคบกับมัน "แต่ทำแบบนั้นก็ไม่ถูก...อย่าไปตะโกนใส่พวกเค้าอีกนะ" อั๋นเสริมเสียงอ่อนโยน ลูบหัวผมเบาๆ
"อือ" ผมตอบรับเสียงค่อย "กูยังรู้สึกผิดอยู่เลย"
"เดี๋ยวหมอต้องไปขอโทษพ่อแม่นะ" ผมพยักหน้า
"เออ...แล้วเย็นนี้ พ่อบอกว่าอยากคุยด้วย ให้มึงมาด้วยนะอั๋น"
อั๋นตกใจเล็กน้อย
"เหรอ...อือ ได้สิ ดีเหมือนกัน"
เมื่อเห็นว่าผมยังไม่หายเครียด อั๋นจับมือผมมากุม
"ไม่ต้องกลัวนะหมอ กูอยู่ด้วย ยังไงกูจะช่วยมึงเต็มที่"

ต้าร์ นนท์ เอก รวมถึงเพื่อนคนอื่นๆในห้องไม่มีใครมีแก่ใจแหย่หรือแกล้งผมเลย ผมรู้สึกว่าวันนี้ตัวเองถอนหายใจไปหลายสิบครั้งได้ อั๋นคอยให้กำลังใจผมอยู่ตลอดเวลา ไม่ดึงมือผมมากุมก็ลูบหัวผมเบาๆด้วยความอ่อนโยน
ผมตัดสินใจว่าจะกลับถึงบ้านสักหนึ่งทุ่ม กะเวลาให้พ่อกลับจากบริษัทมาแล้วเพราะไม่กล้าเผชิญหน้ากับแม่คนเดียว
"งั้นเย็นนี้ไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุดรอแล้วกัน หรือถ้าไม่อยากอ่านก็ได้นะ" อั๋นถามตอนเวลาพักสั้นๆช่วงบ่าย
"ได้ อ่านดิ" อ่านหนังสือเรียนผมจะได้เลิกคิดถึงเรื่องนี้บ้างสักที
"ถ้าวันนี้อยากพักก็บอกได้นะ ครูให้พักหนึ่งวัน" อั๋นยิ้มบางๆ ผมรู้ว่ามันเป็นห่วงความรู้สึกผม
"ไม่เป็นไร อ่านเถอะ"

หลังเสียงกริ่งหมดเวลาเรียนดัง ผมกับอั๋นร่ำลาเพื่อนพร้อมรับคำอวยพรให้โชคดีสำหรับเย็นนี้ แน่นอนว่าเราเล่าเรื่องทั้งหมดให้พวกมันรู้
เราสองคนตรงไปยังห้องสมุดและเลือกโต๊ะตัวยาวที่อยู่ด้านในสุดของห้อง ช่วงนี้คนมาใช้ห้องสมุดเยอะเนื่องจากใกล้สอบแล้ว แต่เดินไปถึงก็ต้องหยุดชะงัก
พี่ก้องที่กำลังอ่านหนังสืออยู่คนเดียวเงยหน้าขึ้นมาสบตาพวกเราพอดี อั๋นจ้องเขม็งไปทางพี่ก้องและขยับเข้ามาโอบไหล่ผม
ไม่ใช่เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของอย่างเดียว แต่เพื่อคุ้มกันผมด้วย
พี่ก้องก้มหน้าลงและเก็บของใส่กระเป๋าก่อนลุกขึ้นเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
อั๋นยกแขนออกจากไหล่และดึงผมนั่งฝั่งเดียวกัน
"จะว่าไป ไม่ได้เจอมันตั้งนานแน่ะ" ผมบอก
"ดีแล้ว เจอทีไรกูก็ยังอยากตะบันหน้ามันอยู่ดี ยังแค้นไม่หาย" อั๋นกัดฟันตอบและมองไปทางที่พี่ก้องเดินออกไป
"มาอ่านหนังสือกันดีกว่า" ผมหยิบหนังสือวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐานพร้อมสมุดโน้ตขึ้นมา เลิกสนใจพี่ก้อง เค้าไม่ได้มายุ่งอะไรกับผมอีกเลยตั้งแต่จบงานกีฬาสี ซึ่งดีกับผมที่สุด
ผมค้นพบวิชาที่ยากรองจากภาษาอังกฤษแล้ว ไม่เข้าใจว่าทำไมเด็กสายศิลป์-คำนวณอย่างผมต้องมาเรียนเรื่องตารางธาตุด้วย อั๋นอธิบายไปได้สักพักก็มีคนมานั่งลงที่โต๊ะอีกฝั่งหนึ่ง
น้องแก้ว
พอน้องเค้าเห็นว่าผมกับอั๋นนั่งอยู่ด้วยกัน น้องก็รีบลุกขึ้นแล้วย้ายไปนั่งที่โต๊ะตัวอื่นทันที หูน้องแก้วเป็นสีแดงจัด
"ทำไมวันนี้เจอแต่โจทก์ทั้งนั้นเลย" อั๋นกระซิบกับผม
"นั่นดิ" ผมกระซิบตอบกลับไปแล้วหันไปสนใจเนื้อหาต่อ
หรือว่าที่เจอทั้งพี่ก้องทั้งน้องแก้วจะเป็นลางบอกเหตุไม่ดีของเหตุการณ์เย็นนี้นะ
ผมต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ คิดได้ดังนั้นก็ไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกไปจากหัว
เราลุกขึ้นเตรียมออกจากห้องสมุดตอนหกโมงครึ่ง ขณะที่กำลังเก็บของ ผมเห็นว่าน้องแก้วกำลังจ้องมองมา เค้าสะดุ้งเล็กน้อยแล้วยกมือไหว้เรา
ผมกับอั๋นพยักหน้าให้เล็กน้อยแล้วเดินออกมา

เวลาที่ผมกลัวที่สุดมาถึง อั๋นจอดรถมอเตอร์ไซด์หน้าบ้าน ดับเครื่องแล้วเดินเข้าไปในบ้านพร้อมกัน
มันโอบแขนผมเดินไปด้วย
ผมไม่รู้ว่าพ่อกับแม่มีอะไรจะบอก แต่ผมรู้สึกว่าเรื่องทุกอย่างกำลังจะคลี่คลายลงวันนี้ ไม่ว่าจะในแง่ไหนก็ตาม
รอยยิ้มของพ่อตอนเช้าสร้างความหวังเล็กๆในใจผมหวังว่าแม่จะตัดสินใจและทำอย่างที่พ่อบอกเมื่อคืน
พ่อกับแม่นั่งรออยู่แล้วในห้องนั่งเล่น ผมกับอั๋นยกมือไหว้และนั่งลงเบียดกันที่โซฟาตัวเล็กสำหรับนั่งคนเดียวเพราะพวกท่านนั่งอยู่บนโซฟาตัวยาวตรงกลาง
"หมอ" พ่อเริ่ม "อั๋นด้วย แม่เค้ามีอะไรจะบอกน่ะลูก" พ่อหันไปพยักหน้าให้แม่
"แม่..." แม่ดูเหมือนจะพูดไม่ออก "คือ..."
ทั้งผมและอั๋นเงียบรอฟัง ผ่านไปหนึ่งนาทีเต็มๆจนแม่พูดออกมา

"แม่ขอโทษ...ที่แม่ทำไป มันไม่ดีเลย...แม่ไปขัดขวางความรักของเราสองคน"
ผมอ้าปากน้อยๆ ตกใจ พ่อส่งยิ้มมาให้
"แม่ไม่น่าทำแบบนั้นเลย แม่ขอโทษ...แม่อนุญาตให้หมอกับอั๋นคบกันแล้ว"

ผมน้ำตาไหลออกมาเป็นครั้งที่เท่าไรไม่รู้ในช่วงไม่กี่วันนี้ แม่ยอมให้เราคบกันแล้ว...
"แม่" เสียงที่ผมพูดออกมาแหบเหมือนไม่ใช่เสียงตัวเอง หลายความรู้สึกปนเปกันข้างในตอนนี้ ทั้งโล่งใจ ดีใจที่แม่อนุญาตและเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน
"แม่เข้าใจแล้วว่าเราสองคนรักกันจริงๆ และหมอมีความสุขเวลาอยู่กับอั๋น...แม่ขอโทษนะลูก"
ผมเดินเข้าไปกอดแม่ เราทั้งคู่ร้องไห้สะอึกสะอื้น
"หมอขอโทษนะครับ...เมื่อวาน..."
"จ้ะ" แม่ตอบเสียงสั่นเครือ
"อั๋นมานี่มา" พ่อยิ้มสดใส เรียกอั๋นให้เข้ามาหา
"แม่ขอโทษอั๋นด้วยนะลูก"
ผมพึ่งเข้าใจว่าร้องไห้เพราะดีใจมันเป็นยังไง
ตอนนี้ผมมีความสุขที่สุด

-จบตอน-

ในที่สุดขุ่นแม่ก็อนุญาตแล้วคร้าบ โอย กว่าจะมาถึงตรงนี้ เสียน้ำตากันไปมาก
ผมมองว่าปัญหาเรื่องครอบครัวไม่ยอมรับเป็นอุปสรรคใหญ่ที่สุดอย่างหนึ่งเลยล่ะ ในฐานะคนเขียนหวังเป็นอย่างยิ่งให้ทุกครอบครัวยอมรับความรักของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหนก็ตามครับ
ติดตามตอนหน้าด้วยครับ

ออฟไลน์ writerbeer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-3
ตอนที่42

"แม่ซื้อบัวลอยไข่หวานไว้ให้จ้ะ" แม่ยกชามขนมหวานมาให้ผมกับอั๋นหลังเราสองคนกลับจากโรงเรียนมาอ่านหนังสือในวันต่อมา
"ขอบคุณครับ" ผมกับอั๋นตอบพร้อมกัน หัวใจผมยังรู้สึกอุ่นจากที่แม่อนุญาตเราเมื่อวานอยู่
"ตั้งใจอ่านกันนะลูก แม่ไม่กวนละ"
ผมหันกลับไปหาอั๋นอีกทีก็เห็นยิ้มแก้มปริ
"ยิ้มไร" ผมถามกวนๆ
"ดีใจดิ แม่ยายปลื้ม" ผมส่ายหัวกับคำตอบ
"แม่ยายอะไร ยังไม่ได้แต่งงานสักหน่อย"
"อะๆ ว่าที่แม่ยายก็ได้ ไว้เราแต่งงานกันเมื่อไรค่อยเรียกแม่ยายเนอะ"
"เอาสินสอดมาให้ดูก่อนเหอะ ไม่ถูกใจกูไม่แต่งด้วยนะ"
"โห่ ถ้าหมอเรียกเยอะเกินแล้วอั๋นจ่ายไม่ไหวทำไง"
"ก็ไม่แต่งไง" ผมแกล้งยั่ว
"ไม่แต่งได้ไง" อั๋นยื่นหน้าเข้ามาใกล้แล้วพูดประโยคต่อมาด้วยเสียงกระซิบ "มึงเป็นของกูแล้วนะ"
ผมหน้าแดงเป็นลูกตำลึงขึ้นมาเดี๋ยวนั้น
"ไอ้บ้า"
"ไม่ต้องห่วงนะคะ เดี๋ยวอั๋นจะรับผิดชอบหมอเอง" ไอ้อั๋นแกล้งพูดต่อไปพร้อมลูบหัวผม
"พอเลย หยุดพูด...ว่าแต่ไปติดคำว่าคะขามาจากไหนเนี่ย"
"ไม่รู้อะ แค่อยากพูดกับมึงหวานๆ"
"หวานๆ"
"เกรียนแตกอีกละ" อั๋นโบกหัวผม
"เห็นกูเป็นผู้หญิงอ่อ"
"เออ"
"สัส ถึงกูจะเป็นเมียมึงแต่ก็เป็นผู้ชายนะเว้ย" ผมพูดออกไปแล้วก็ต้องหน้าแดงขึ้นไปอีก อั๋นเองก็จับสังเกตได้เพราะมันอึ้งไปแล้วตามด้วยหัวเราะชอบอกชอบใจ
ผมไม่เคยพูดออกมาตรงๆว่าเป็นเมียอั๋นน่ะสิ

"นี่ ถึงเวลาพักยังอะครับครู ผมเหนื่อยแล้วนะ" ผมอ้อนอั๋น มันให้ผมนั่งอ่านหนังสือและจดสรุปมาได้เกือบ2ชั่วโมงแล้ว
"หือ จะพักแล้วอ่อ ผ่านไปแปบเดียวเองนะ"
"แปบเดียวพ่อง จะทุ่มนึงแล้วโว้ย โอ๊ย" อั๋นตีแขนผม
"บอกว่าอย่าลามปามพ่อผัวไงครับ ทุ่มอะไร หกโมงครึ่ง"
"ก้ใกล้ทุ่มมั้ยล่ะ" ผมเถียง
"เออๆ พักก็ได้"
ผมกระโดดลุกขึ้นแล้วเดินไปห้องครัวทันที
"แหม่ หิวข้าวก็บอกมาตรงๆเหอะไอ้ตัวแสบ" อั๋นเดินตามเข้ามาขยี้หัวผม
"มีอะไรกินครับแม่" ผมถาม
"ผัดกะเพราหมูกรอบกับปลาหมึก แล้วก็ต้มยำกุ้งจ่ะ" แม่ที่กำลังยืนผัดกับข้าวอยู่หันมาตอบ
"โหแม่ นี่มันของโปรดไอ้อั๋นนี่ แล้วของผมล่ะ ไม่เห็นมีเลย" ผมแกล้งส่งเสียงโอดครวญ
"วันก่อนพึ่งทำไปเองไง วันนี้ทำให้อั๋นมั่งสิ"
"ขอบคุณนะครับแม่"
"โห่ย เอาใจไอ้อั๋น ลืมผมไปเลยนะแม่" อั๋นหัวเราะ
"เอ๊ะ มาน้อยใจอะไรเนี่ย...แม่อุตส่าห์ตั้งใจทำต้อนรับลูกเขยเลยนะ" คำหลังแม่หันมายิ้มล้อ
ผมก็หน้าแดงไปตามระเบียบสิครับ
ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงกับข้าวก็เสร็จ ผมกับอั๋นช่วยจัดจานและยกทุกอย่างมาวางที่โต๊ะอาหาร ตอนนั้นพ่อก็กลับมาพอดี
"หวัดดีลูก" พ่อรับไหว้ผมกับอั๋นและนั่งลงที่โต๊ะ "เป็นไง วันนี้เจ้าหมอยังขี้เกียจอยู่มั้ย"
ผมกระแอมเสียงดัง แต่อั๋นตอบไปว่า
"ตัวเป็นขนเลยครับพ่อ"
"ไอ้สัส"
พ่อหัวเราะลั่น ผมวิ่งไล่เตะอั๋นพร้อมโวยวายไปด้วย
"ไม่จริงนะพ่อ ตั้งแต่กลับมาหมอก็อ่านหนังสือตลอดเลย ไอ้อั๋นมันพึ่งให้พักเมื่อกี้เนี่ย มึงนะมึง"
"พ่อครับ แม่ครับ หมอจะทำอั๋นอีกแล้ว"
"บอกพ่อใหม่ดิ๊ว่ากูขยันแล้ว"
"ไม่บอก ก็มึงขี้เกียจนี่นา"
"หนอย..."
วิ่งให้ตายยังไงก็จับไอ้อั๋นไม่ได้ พ่อกับแม่หัวเราะที่เห็นผมกับอั๋นวิ่งไล่กันไปรอบบ้านเหมือนเด็กๆ สุดท้ายผมก็ยอมแพ้มานั่งลงที่โต๊ะอีกคน
"แม่ครับ คราวหน้าให้อั๋นมาช่วยตอนเข้าครัวสิ มันทำอาหารอร่อยมากเลยนะ"
"ดีเลย เอาไว้แม่จะเรียกมาทำนะลูก"
"ยินดีครับ" อั๋นยิ้มกว้าง
"หมอตักผัดกะเพราให้อั๋นสิลูก" พ่อบอก
ผมแกล้งตักแต่ใบกะเพรากับน้ำมันให้
"แน่ะ ไอ้ลูกคนนี้" พ่อเอ็ด
"เจ้าหมอนี่" แม่เอ็ด
"โหพ่อ แม่" ผมลากเสียงยาว "อั๋นมันชอบกินแต่ใบกะเพราครับ มันไม่ชอบเนื้อสัตว์" ต้องรีบแกล้งมันครับ มันไม่กล้าทำอะไรผมต่อหน้าพ่อกับแม่แน่นอน ถ้าอยู่กับมันสองคนผมคงโดนเอาคืนไปแล้ว- -
"ใจร้าย ใจคอจะให้กูกินแต่ผักเหรอ" อั๋นแอ๊บแบ๊วใส่
"เออ"
"ตักให้อั๋นใหม่เลยลูก" แม่บอก อั๋นยิ้มใหญ่
"ครับๆ" ผมตักให้มันเสร็จก็แลบลิ้นใส่
"ขึ้นข้างบนเมื่อไรมึงเสร็จแน่" อั๋นกระซิบกับผมตอนที่พ่อกับแม่หันไปคุยกัน
ผมสะดุ้ง คืนนี้มันจะทำอะไรผมล่ะเนี่ย

"หมอเป่าผมให้อั๋นหน่อยดิ" อั๋นอาบน้ำเสร็จก็หยิบไดร์ของผมพร้อมยื่นผ้าขนหนูผืนเล็กส่งให้
"เป่าเองไม่เป็นรึไง" ผมกวน
"อยากให้แฟนทำให้นี่ค้าบ" ถึงพูดอย่างนั้นแต่ก็นั่งลงข้างๆ เปิดไดร์เป่าและใช้ผ้าเช็ดผมอั๋นไปพร้อมกัน "บริการดีงี้ เดี๋ยวคืนนี้จัดหนักๆให้ตอบแทนนะ"
"ไอ้หื่น ใครขอมึง"
"แน่ะ ไม่อยากได้อ่อ"
"ไม่"
"ไม่อยากแต่เห็นร้องครางทุกทีเลย โอ๊ย" ผมทุบไหล่ไอ้อั๋นไป
"วันนี้ง่วงครับ จะนอน" ผมเฉไฉ
"ไม่ให้นอน"
"เป่าผมเองเลยไป"
"โอ๋ๆ ให้นอนๆ เดี๋ยวทำตอนนี้เลยมั้ย จะได้นอนเร็ว" อั๋นจับข้อมือผมแล้วมองมาด้วยสายตาหื่นกามสุดๆ
"เดี๋ยวก่อน" ผมรีบห้าม อั๋นหัวเราะ
เรานอนคุยเล่นกันพักใหญ่หลังจากนั้น และก่อนนอนผมก็โดนอั๋นเล่นงานจนหมดแรง- -

"ยินดีด้วยนะไอ้หมอ" ต้าร์ยิ้ม เมื่อผมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานให้ฟัง
"งี้พวกมึงจะร่อนการ์ดเมื่อไรครับ ไปดูฤกษ์มาแล้วรึยัง" นนท์ล้อเลียน
"เพ้อเจ้อ ยังไม่แต่งโว้ย" ผมด่า
"จะแต่งวันไหนก็อย่าลืมเชิญพวกกูด้วยแล้วกัน"
"กูไม่เชิญมึงหรอกเชี่ยนนท์ กูกลัวงานกูพัง"
"ต้าร์ มึงดูไอ้หมอดิ มันจะไม่ให้พวกเราเข้างานอะ" นนท์ทำเป็นเขย่าแขนต้าร์แล้วทำหน้าอ้อน(ตีน)สุดๆ
"ไอ้หมอมันไม่ได้ห้ามกูซะหน่อย มันหมายถึงมึงคนเดียว"
"เออ" ผมสนับสนุน
"เห้ย ไรวะ พวกเชี่ยนี่"
"แล้วแขนอะ เอาออกไปได้ละ กูขนลุก" ต้าร์พยายามแกะมือนนท์ที่กอดรัดมันไว้ ดูฝ่ายหลังจะเหนียวมากเพราะไม่ยอมปล่อย
"พี่ต้าร์รังเกียจน้องนนท์เหรอคร้าบ"
"ไม่รังเกียจ แค่ขยะแขยง"
"ไอ้สัส" ผมกับต้าร์หัวเราะที่ได้แกล้งนนท์
"เอาจริงๆมึงสองคนนี่ก็น่ารักดีนะ ถ้าไอ้ต้าร์ไม่มีเมย์ไปซะก่อน กูเชียร์ให้เป็นแฟนกับไอ้นนท์เลยว่ะ" ผมแกล้งแหย่ ไอ้นนท์มันชอบทำตัวติ๊งต๊อง แหย่ไอ้ต้าร์ทั้งวัน ส่วนไอ้ต้าร์มันก็นิ่งๆขรึมๆ ชอบทำหน้าเบื่อๆ นานๆทีจะทำตัวบ้าบอกับเค้าบ้าง มันเป็นพันธมิตรด่าไอ้นนท์กับผมตลอด
"เชี่ย ไม่เอา ใครเอาไอ้นนท์ก็บ้าแล้วไอ้หมอ"
"แหวะ กูอยากคู่กับมึงมากครับ" นนท์ประชดประชัน ปล่อยมือจากตัวต้าร์
"เออ กูเห็นด้วยกับหมอนะ" อั๋นพูดกลั้วหัวเราะ เดินกลับเข้ามาในห้องเรียนและมายืนข้างหลัง วางมือบนไหล่ผม
"ไม่ต้องมาจิ้นกูอีกคนเลยไอ้อั๋น มึงกับไอ้หมอสองคนพอ" ต้าร์ขัด
"เอ้า ไม่จิ้นได้ไงวะ ทีพวกมึงยังจิ้นกูกับหมอมาตั้งแต่ต้นเลย" อั๋นบอก
"ก็พวกมึงสองคนมันผัวเมียกลับชาติมาเกิดชัดๆ" นนท์ย้อน พวกเราที่เหลือหัวเราะ
"ห้องเราจะมีใครคู่กันเพิ่มอีกวะ" เอกพึ่งมาถึงห้องเรียน นั่งลงและเริ่มต้นลอกการบ้านของอั๋นทันที
"ไอ้ต้าร์กับไอ้นนท์" ผมตอบ
"เออ กูเชียร์ให้พวกมึงได้กัน" เอกหัวเราะ มือปั่นงานยิกๆ
"สาด ไม่เอา พอๆ" นนท์ร้องโหยหวน เรียกเสียงหัวเราะให้ทุกคนในห้องอีกครั้ง "เมื่อกี้เรากำลังคุยเรื่องงานแต่งไอ้อั๋นไอ้หมออยู่โว้ย" มันรีบเปลี่ยนเรื่องหนีทันที
"ก็บอกแล้วไงว่ากูไม่ให้มึงเข้างาน"
"เรื่องมึง กูขอไอ้อั๋นก็ได้ อั๋นนน"
"ไม่ได้ว่ะ หมอว่าไงกูก็ว่างั้น" ผมหัวเราะกับคำตอบของอั๋น
"ไอ้พวกเพื่อนชั่ว"
"ไม่เป็นไรนะเว้ยนนท์" ต้าร์ทำเป็นตบหลังปลอบใจเพื่อน

ตั้งแต่นั้นอั๋นกับผมก็อ่านหนังสือด้วยกันทุกวัน ไม่อยู่บ้านผมก็บ้านอั๋น ผมรู้สึกว่าตัวเองรู้อะไรขึ้นมากกว่าตลอดชีวิตการเป็นนักเรียนที่ผ่านมาเสียอีก และมั่นใจว่าผลการสอบปลายภาคนี้ต้องออกมาทำให้พ่อกับแม่ภูมิใจแน่ๆ

เมื่อการสอบปลายภาคสิ้นสุดลง ผม อั๋น และเพื่อนๆเกือบทั้งห้องก็จัดทริปไปเที่ยวที่เกาะสมุยกันครับ เดินทางด้วยรถตู้3คัน ไอ้ฟองเป็นคนหามาให้ เพราะที่บ้านมันทำธุรกิจนำเที่ยว ติดต่อกับบริษัทรถตู้เป็นปกติ
ส่วนที่พักก็ได้รีสอร์ทหรูและวิวดีที่สุด อภินันทนาการจากบ้านไอ้พีครับ พ่อมันเป็นเจ้าของ และแน่นอนว่าพวกผมได้พักฟรีตลอดทั้งทริปสี่วันสามคืน เป็นหัวหน้าห้องที่โคตรรับผิดชอบแถมยังโคตรรวยอีกเพื่อนผม
สองวันแรกหมดไปกับกิจกรรมที่รีสอร์ทจัดให้ครับ ไม่พ้นแนว adventure อยู่ที่ทะเล เกาะ ในที่พักก็มีครับ สนุกมาก
วันที่สามมาถึง แต่แพลนกิจกรรมของพวกเราจบไปเรียบร้อยแล้ว วันนี้เลยได้แต่นั่งๆนอนๆคุยเล่นกันครับ มาพร้อมกันทุกคนก็บ่ายโมงเข้าไปแล้ว เมื่อคืนก๊งเหล้ากัน ได้ยินว่าไอ้นนท์ที่อยู่เป็นคนสุดท้ายกับไอ้พริกเลิกวงกันตอนตีสี่ ผมนี่สยอง ขนาดคอทองคำที่สุดอย่างไอ้เอกยังอยู่ไม่ถึง
ส่วนผมน่ะเหรอ ห้าทุ่มกว่าก็โดนอั๋นสั่งให้กลับห้องแล้วล่ะครับ- -
คืนนี้พวกเราก็ออกมาตั้งวงกันหน้ารีสอร์ทอีกเช่นเคย บรรยากาศดีสุดๆเพราะอยู่ริมทะเล อากาศเย็นสบายด้วยแอร์ธรรมชาติ ไอ้เอกเอากีต้าร์ออกมาดีดเพลงโดนใจวัยว้าวุ่น เห็นเถื่อนๆดิบๆอย่างมันก็มีอารมณ์ศิลปินนะครับ เล่นเก่งด้วย แต่ยังหาคนร้องเพลงเพราะไม่ได้สักคนในห้องผม
"อั๋น ว่ากูกินเยอะ มึงก้กินไม่น้อยนะ" ผมเอ็ด ก็แฟนผมมันเติมแล้วก็ยกแก้วดื่มเอาๆ
"ก็หมอคออ่อน เลยไม่อยากให้กินเยอะ แต่อั๋นกินเยอะไม่เป็นไรไงครับ" อั๋นตอบอย่างใจดี โอบไหล่ผม
"ขี้โกง ทำไมกูคออ่อนอยู่คนเดียว"
"ดีแล้ว ถ้าอั๋นคออ่อนอีกคน ใครจะดูแลหมอล่ะคะ"
"เออ" ผมยอมรับ
"แหม่ พูดกับเมียนี่พูดเพราะจังนะ ทีกับกูนะไอ้อั๋น" เอกกระแนะกระแหนก่อนที่จะขึ้นเพลงใหม่
"เอ้า พูดเพราะกะเมียก็ผิดอีก จะเอาไงกะผมครับคุณเอก" อั๋นตอบพร้อมยิ้มขำ
ไอ้หมอมึงไม่เห็นพูดดีกับไอ้อั๋นมั่งเลย
"อั๋นจ๋า รินให้หมอหน่อย" ผมยกแก้วเปล่าของผมยื่นให้ อั๋นไม่ทันนึกจึงเทเหล้าใส่ลงไป ผมรีบเทชเวปส์ลงไปเป็น mixer อย่างรวดเร็ว
"เห้ย หมอ อีกแก้วแล้วอ่อ"
แต่ไม่ทันแล้วครับ อั๋นกำลังจะดึงแก้วไป แต่ผมดื่มไปเกือบครึ่ง
"โดนเมียต้มซะตุ๋นเลยนะไอ้อั๋น" นนท์ว่าก่อนทุกคนจะหัวเราะ
"ไอ้ตัวแสบ" อั๋นมองผมตาเขียว "แก้วสุดท้ายนะหมอ"
"ก็ได้" ผมทำปากยื่น
"ทำไมวันนี้ไอ้หมอเป็นฝ่ายยอมวะ กูเห็นปกติกดไอ้อั๋นเอาๆ" ต้าร์ถามผม แต่อั๋นเป็นคนตอบ
"เมียดื้อผัวก็ต้องปราบมั่งดิ"
แล้วเอกก็ขึ้นคอร์ดเพลงที่ผมคุ้นเคย แค่ intro ผมก็รู้ทันทีว่ามันกำลังจะเล่นเพลงอะไร
"เห้ยเอก เพลงนี้กูชอบ"
เอกยิ้ม เหมือนมันจงใจเลือกเพลงนี้ให้ผมกับอั๋น

'อาจจะดูเหมือนไม่มีอะไรที่แปรผัน อาจจะดูเหมือนทุกวันที่ผ่านมา...'

"เพลงไรวะหมอ" อั๋นถาม
"ชื่อเพลง 'เพื่อน' ไง"
"ไม่เห็นเคยฟัง"
"ฟังดิ ความหมายดีนะเว้ย" ผมกุมมืออั๋น สื่อความรู้สึกออกไป ผมคิดว่าเพลงนี้มันตรงกับเราสองคนที่สุดแล้ว

'...ใช่มันจะน้อยลง แปลกตรงที่มันดันเพิ่ม ก่อตัวเกินกว่าเพื่อนจะคิดกัน

หากเธอนั้นได้รู้อะไรบางอย่าง ว่าคนที่เคยเคียงข้าง บางอย่างได้เปลี่ยนไป
อยากจะรู้ว่าเธอรับได้หรือไม่ และฉันต้องทำอย่างไร เมื่อเพื่อนคนนี้เปลี่ยนไปเป็นรักเธอ...'

ผมร้องท่อนพรีฮุคและฮุคตามเอก เพื่อนอีกหลายคนที่รู้จักเพลงนี้ก็ร้องคลอไปด้วย
เสียงปรบมือดังเปาะแปะเมื่อเพลงจบ
"หมอ" อั๋นกำลังยิ้มกว้าง
"มึงชอบเพลงนี้มั้ย" ผมถาม หน้าแดงก่ำเพราะถูกอั๋นจ้องมองใกล้ๆ
"ชอบสิ ชอบเสียงหมอร้องเพลงด้วย"
"บ้าดิ กูร้องเพี้ยนด้วยเมื่อกี้" ผมหลบตา
"นิดเดียวเอง...ไปตรงนู้นกันแปบนึงดิครับ" อั๋นดึงแขนผมลุกขึ้น เพื่อนๆส่งเสียงโห่แซว
"ไปไหน" ผมรู้สึกว่าหน้าร้อนผ่าวจนใกล้จะระเบิดโดยไม่เกี่ยวกับฤทธิ์แอลกอฮอล์แต่อย่างใด
"มาเหอะน่า"
"ไปไหนวะพวกมึง" นนท์ร้องถาม
"ให้เวลาครอบครัวเค้าหน่อยน่า" ต้าร์แทรก อั๋นหันไปพยักหน้าเป็นการบอกขอบใจ
"เดี๋ยวพวกกูมา" อั๋นตอบก่อนจะพาผมตรงไปยังต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ไกลจากบริเวณที่เราตั้งวงกันพอสมควร

"ที่ร้องเมื่อกี้จะบอกอะไรกูอ่อ" อั๋นถามทันทีเมื่อเรามายืนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ จากตรงนี้มีแสงจากดวงจันทร์ส่องลงมาถึงน้อยๆ
"ป่าวนิ" ผมเขิน
"ไม่ต้องเขินน่า" อั๋นปล่อยมือผมแล้วยกขึ้นมาประคองแก้มทั้งสองข้างแทน "ไหนบอกมาดิ"
"กู...กูแค่จะบอกว่า...เพลงนี้มันตรงกับเราสองคนเท่านั้นแหละ"
"จริงๆมันตรงกับกูคนเดียวมากกว่านะ" อั๋นพูด
"ทำไมอะ"
"ก็กูแอบรักมึง กลัวว่ามึงจะคิดกับกูแค่เพื่อน กังวลทุกอย่าง"
"มึงคนเดียวที่ไหนล่ะ...กู...กูก็หวั่นไหวนะ..."
อั๋นตาโตกับคำพูดของผม
"กูถามตัวเองตลอดว่ากูคิดกับมึงเกินเพื่อนรึป่าว"
"จริงอ่อ...แอบรักเค้าแล้วก็ไม่บอกนะ" อั๋นยิ้มยั่ว
"บ้า ไม่ได้รักซะหน่อย ตอนนั้นแค่สงสัยเว้ย"
"ปากแข็งจริงนะแฟนอั๋น...แล้วตอนนี้ล่ะคะ รักรึยัง"
"ยัง" เรื่องอะไรผมจะพูดคำนั้นล่ะ กวนตีนมันซะเลย
"พูดใหม่ซิ"
"ยัง"
"งั้นทำไงให้หมอพูดดีน้า" อั๋นยื่นหน้าเข้ามาจะจูบ
"ดะ เดี๋ยว"
"ครับ"
"รักก็ได้"
"เอาคำว่าก็ได้ออกไปหน่อย เหมือนโดนบังคับไงไม่รู้" อั๋นกระเง้ากระงอด ผมหัวเราะ

"หมอรักอั๋น" ผมยื่นหน้าเข้าไปกระซิบที่หูมัน
"อั๋นก็รักหมอครับ" อั๋นขยับเข้ามาจะจูบอีก ผมดันไว้ "ทำไม"
"เดี๋ยวเพื่อนมาเห็น"
"ตรงนี้ไม่มีใครหรอกน่า เราเดินมาไกลแล้วนะ...นะครับ" ท้ายคำอั๋นส่งเสียงออดอ้อน
"ก็ได้"
แล้วอั๋นก็ประกบปากเข้ากับปากผมอย่างนุ่มนวล ผมรับสัมผัสนั้นอย่างอบอุ่น เราสองคนกอดกันอยู่ตรงนั้นโดยไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร

ผมไม่คิดเลยว่าในชีวิตจะมีโอกาสได้เจอเพื่อนดีๆแบบอั๋น และยิ่งไม่คิดเข้าไปใหญ่ว่าเพื่อนคนนี้จะกลายมาเป็นคนรัก คนที่ผมแน่ใจว่าต่อจากนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เขาจะอยู่เคียงข้างและดูแลผมไปตลอด
ผมให้สัญญากับตัวเองว่าผมก็จะทำอย่างนั้นเพื่ออั๋นเหมือนกัน

-จบตอน-

เรื่องราวดำเนินมาถึงโค้งสุดท้ายแล้วนะครับ ความรักที่สวยงามของอั๋นกับหมอ ติดตามตอนจบตอนหน้าด้วยนะครับ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
เหลือครอบครัวอั๋นจะว่ายังไง

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ writerbeer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-3
ตอนที่43(อั๋น)
ตอนอวสาน

4ปีต่อมา

ใครหลายคนคงไม่อยากจะลุกจากเตียงในเช้าวันเสาร์เท่าไรนัก ยิ่งเป็นเช้าที่อากาศเชื้อเชิญให้นอนหลับต่ออย่างสบาย แต่สำหรับผมตื่นเวลานี้ไปจนชินเสียแล้ว
แค่ลืมตาขึ้นมาเห็นคนที่นอนอยู่ในอ้อมกอดก็ทำให้วันใหม่ของผมเริ่มต้นด้วยความสดชื่น
หมอขยับตัวตามผมเล็กน้อย แต่ยังหลับปุ๋ยไม่รู้เรื่อง ผมเปิดผมที่ยาวลงมาปรกหน้าของหมอขึ้นแล้วจูบเบาๆลงไปที่หน้าผาก กลัวจะทำให้เจ้าตัวตื่น แต่ก็อดไม่ได้ที่จะทำทุกเช้า
ผมเคยทั้งหอมแก้ม ทั้งจูบปาก แต่ก็ทำให้คนขี้เซาอย่างมันตื่นได้ เลยลองเปลี่ยนมาประทับริมฝีปากที่หน้าผากแทน
ผมค่อยๆลุกขึ้นบิดตัวและเปลี่ยนจากเสื้อกล้ามกับกางเกงบ๊อกเซอร์เป็นเสื้อยืดตัวบางกับกางเกงกีฬาขาสั้น พร้อมสวมรองเท้าวิ่งคู่ใจ เตรียมตัวไปวิ่งออกกำลังกายข้างนอก
ลงจากคอนโดที่ผมกับหมออยู่ มีสวนสาธารณะอยู่ไม่ไกล ผมใช้ทางนี้ในการวิ่งไป-กลับเกือบทุกวัน

กลับมาถึงห้องอีกครั้งก็เกือบเก้าโมง แน่นอนว่าหมอยังคงไม่ตื่น ผมอาบน้ำและออกมาเตรียมอาหารเช้าก่อนจะไปปลุกมัน
"ตื่นได้แล้วๆ"  ผมพูดขึ้นพร้อมเขย่าตัวหมอเบาๆ
"..."
"ตื่นๆๆๆ"
"อือ... " หมอคราง ผมได้แต่ยิ้มกับท่าทางของคนขี้เซาตรงหน้า
"ไปอาบน้ำ วันนี้เรามีนัดสำคัญกันนะครับ"
"ขอนอนอีกหน่อยน่า"  หมอพูดเสียงงัวเงียแล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้า- - โคตรดื้อเลย
"จะตื่นไม่ตื่นครับ"
... เงียบ
แล้วผมก็นึกไปถึงวิธีปลุกที่ทำให้หมอตื่นชะงัดขึ้นมาได้อย่างแน่นอน
ผมมุดตัวเข้าไปในผ้าห่มแล้วขึ้นคร่อมทับตัวหมอไว้ มันสะดุ้งเต็มแรง
"เห้ย จะทำไร" หมอร้อง ผมใช้แขนทั้งสองข้างตรึงแขนหมอไว้กับเตียง
"บอกให้ตื่นดีๆไม่ตื่น" ผมถอยลงไปใช้ปากเลิกชายเสื้อยืดหมอขึ้น "แบบนี้ต้องทำโทษนะคะ"
"ทำโทษไร...เมื่อคืน...ก็เหนื่อยแล้วนะ"  หมอตอบอ้อมแอ้ม
"เมื่อคืนก็เมื่อคืนสิคะ ไม่เกี่ยวกับตอนนี้สักหน่อย"  อารมณ์ผมพลุ่งพล่าน อั๋นน้อยตื่นตัวเต็มที่เมื่อเห็นสภาพของหมอที่อยู่ใต้ตัวผม เสื้อถูกร่นขึ้นไปกองอยู่ที่คอ ร่างบางๆที่ผิวเป็นสีขาวเนียน ยอดอกสีชมพูชูชัน เอวคอดที่ผมยึดจับอยู่ประจำ กางเกงบ๊อกเซอร์ตัวสั้นจิ๋ว...
แบบนี้เป็นใครก็คงอดใจไม่ไหว
"ไหนบอกว่ารีบไม่ใช่เหรอ"
"ไม่เป็นไรหรอก ไหนๆก็มีคนตื่นสายแล้ว" ผมตอบแล้วถอดเสื้อผ้าตัวเองออก

"อ๊า...อือ..."
ผมซุกไซร้อยู่ที่คอและไหปลาร้าของหมอ เจ้าตัวครวญครางแล้วส่ายหน้าไปมา นั่นปลุกให้ผมยิ่งตอบสองความต้องการของเราทั้งคู่รุนแรงขึ้นไปอีก ผมเคยบอกหรือยังว่าเสียงร้องของหมอเป็นตัวกระตุ้นอารมณ์ มีหลายครั้งที่ผมได้ฟังเสียงนั้นเกือบทั้งคืน ท่าทางนั่นก็อีก ผมเห็นกี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อ
"อ๊ะๆ...อั๋น"
หมอหลุดเสียงครางชื่อผมออกมาจนได้ มือเล็กๆโน้มคอผมให้ลงมาจูบปากอย่างเร่าร้อน ลิ้นพันกันนัวเนีย
ละจากริมฝีปากอวบอิ่ม ผมก็ขยับเลื่อนไปเล่นกับยอดอก จุดที่ผมชอบที่สุด ใช้ลิ้นเลียวนรอบก่อนดูดส่วนนั้น
เล็บหมอจิกหลังผมจนเจ็บ
เล่นกับยอดอกสองข้างอยู่นาน ผมก็แทรกอั๋นน้อยที่แข็งจนปวดเข้าไปยังช่องทางนั้นช้าๆ มันตอดรัดอั๋นน้อยของผมจนต้องเงยหน้าร้องซี้ด
ผมเริ่มบรรเลงเพลงรัก ขยับสะโพกซอยเข้าออกเป็นจังหวะ
"อ๊ะๆ...อือ..."
"หมอ...อา..."
ผมก้มลงไปจู่โจมส่วนต่างๆของหมออีก เพิ่มความเร็วกับท่อนล่าง พักใหญ่ก็ปลดปล่อยออกมา
ผมก้มลงไปช่วยจัดการกับหมอน้อยต่อ นึกสนุกขึ้นมาจึงทำแล้วแกล้งหยุดเมื่อเห็นว่าหมอใกล้จะเสร็จ
"อื้ออ...ยะ...อย่าแกล้ง...ทำ...ต่อ"
ผมยิ้มร่าเมื่อเห็นแววตาฉ่ำเยิ้มกับสีหน้าอ้อนวอนของหมอ
"ให้ทำอะไรอ่อ"
"ไอ้...อั๋น..."  เสียงหมอแหบพร่าเหมือนกับกำลังจะขาดใจ
"ครับๆ ไม่แกล้งแล้ว"  ผมหัวเราะเบาๆแล้วกลับไปใช้ปากทำต่อจนหมอปล่อยตามมา

"ไปอาบน้ำได้แล้วครับ"
"ไม่ต้องเร่งเลย ใครเป็นคนทำให้เสียเวลาล่ะ"  หมอพูดหอบๆ ค้อนตาขวาง
"เดี๋ยวอาบอีกรอบดีกว่า ดูดิ เหงื่อออกเต็มเลย"  ผมชี้ตัวเองที่เปียกชุ่มด้วยเม็ดเหงื่อให้หมอดู
"รอกูอาบก่อนดิ"
"อาบพร้อมกันเนี่ยแหละ"
"จะ...ได้อาบเหรอ"  หมอตอบอายๆ
ผมหัวเราะลั่น
"อาบสิคะ เดี๋ยวสายไปกว่านี้อีก"
"เออๆ" หมอค่อยๆขยับตัวลุกขึ้นจากเตียง  "กูหิวข้าวแล้วด้วย"
"เตรียมให้เมียแล้วคร้าบ"
"ดีมากไอ้น้อง" หมอบอกแล้วยีหัวผมเล่น หยิบผ้าขนหนูพันรอบเอวแล้วเดินเข้าห้องน้ำ
"รอกูด้วยดิ"
ผมตามเข้าไปในห้องน้ำได้เดี๋ยวเดียว หมอก็ส่งเสียงออกมา
"ไหนบอกว่าอาบอย่างเดียวไงไอ้อั๋นนน"

ผมขับรถออกจากคอนโดก็11โมงเข้าไปแล้ว คนที่นั่งอยู่ข้างๆบ่นเป็นหมีกินผึ้งว่าช้าเพราะผม ผมไม่เถียงเพราะถือคติว่ายังไงเมียก็ถูกเสมอครับ (ที่ไม่เถียงเพราะเป็นคนทำให้ช้าเองจริงๆนั่นแหละ อิอิ)
"แวะบ้านมึงก่อนใช่ปะ"
"ครับ"  ก่อนจะไปนัดสำคัญของเราสองคน ผมอยากแวะที่บ้านก่อน เจ๊เอ๋กลับมาบ้านเมื่อวานและจะไปทำธุระตอนเย็น เลยอยากกินข้าวเที่ยงกันพร้อมหน้าทั้งครอบครัวสักมื้อ
ตั้งแต่เจ๊เอ๋เรียนจบก็ไปทำงานที่เชียงใหม่ได้2ปีแล้วครับ กลับมาบ้านเดือนละครั้ง เจ๊เอ๋บอกว่าอยากไปหาประสบการณ์และงานที่นั่นก็ตอบโจทย์ ตั้งใจจะอยู่ถึง5ปีแล้วจะกลับมาอยู่ที่กรุงเทพ
ผมเองก็เข้าเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว วิทยาเขตของที่นี่อยู่ไกลจากบ้านมาก แม้จะอยู่ในกรุงเทพเหมือนกัน แต่ผมจะต้องตื่นตีห้าหากวันไหนมีเรียนเช้า เดินทางไปกลับทุกวันไม่ไหวครับ เลยตัดสินใจซื้อคอนโดอยู่กับหมอ มันก็สอบเข้าเรียนได้ที่เดียวกัน เจ้าตัวพูดขอบคุณอยู่เสมอว่าเพราะผมที่ทำให้มันเรียนดีขึ้น ขยันขึ้นจนสอบเข้าได้ แต่จริงๆแล้วเป็นเพราะความพยายามของหมอเองต่างหาก
ผมเรียนนิติศาสตร์ ส่วนหมอมันเรียนบริหารธุรกิจ แม้เราจะเรียนคนละคณะกัน แต่ไม่มีอุปสรรคใดๆเลย เรากินข้าวเที่ยงด้วยกันทุกวัน ไม่หมอเดินมากินที่คณะผม ผมก็เดินไปกินที่คณะมัน หลังเลิกเรียนก็รอกลับพร้อมกันครับ ใครเห็นก็อิจฉาคู่พวกเราทั้งนั้น (ขอพื้นที่อวดหน่อย)
ตอนนี้เราก็ชินกับชีวิตมหาวิทยาลัยแล้วครับ เวลาผ่านไปเร็วจริงๆ รู้สึกว่ายังไม่ค่อยได้ทำอะไรเท่าไรก็เข้าสู่ปีที่2เสียแล้ว
"อยากกินกับข้าวฝีมือแม่อรเร็วๆแล้ว"  หมอพูดเสียงร่าเริง
"พึ่งกินข้าวก่อนออกมาเมื่อกี้พูดถึงอาหารแล้วอ่อ"  ผมบอกยิ้มๆ  "กูบอกแม่ให้ทำของทอดด้วย"
"แสนรู้ เอ้ย รู้ใจจังครับอั๋น" โดนเมียหาว่าเป็นหมาเฉยเลย
"เดี๋ยวจะโดน"  หมอหัวเราะ

"หวัดดีคร้าบบบ" หมอทักทายพ่อแม่ผมทันทีที่ไปถึง
"หวัดดีลูก เสียงหวานเชียว มีอะไรรึป่าว"  แม่ตอบขำๆ
"นั่นน่ะสิ รึว่าแกล้งอะไรลูกพ่อมา" พ่ออมยิ้ม
"ไม่ใช่นะครับ ดีใจจะได้กินอาหารฝีมือแม่ต่างหาก ไม่ได้กินตั้งนาน คิดถึ๊ง คิดถึง"
"นี่ จะอ้อนแม่เกินหน้าเกินตาลูกชายเค้าไปหน่อยแล้วมั้ง" ผมเดินตามเข้ามา แกล้งทำหน้าดุใส่หมอ แต่มันสนใจผมซะเมื่อไหร่ มีส่งยักคิ้วยียวนกลับมาอีกแน่ะ- -
"เจ๊เอ๋ล่ะครับ"  หมอถาม
"อยู่นี่จ้ะ" เจ๊เอ๋เดินถือกล่องขนมออกมาจากห้องครัว  "เจ๊ซื้อขนมมาฝากพวกแกด้วย"
"ขอบคุณครับ" หมอยิ้มหวาน
"เจ๊เอ๋อ้วนขึ้นปะเนี่ย"  ผมทัก พึ่งสังเกตว่าพี่สาวตัวเองมีน้ำมีนวลมากกว่าครั้งสุดท้ายที่เจอกัน
"นิดเดียวเองย่ะ แล้วใครให้แกมาทักผู้หญิงว่าอ้วนเนี่ย เดี๋ยวเถอะ" เจ๊เอ๋แหว ผมกับพ่อหัวเราะ
"ก่อนกินขนมมากินข้าวกับแม่ก่อน แม่ทำกุ้งชุบแป้งทอดกับไก่ทอดไว้ให้หมอด้วยลูก"
"แล้วของอั๋นไม่มีเหรอครับ" ผมทำตาปริบๆเดินเข้าไปหาแม่บ้าง เบียดคุณแฟนที่มาแย่งคะแนนนิยมจากแม่ผมไป
"มีสิจ๊ะ ก็ทำให้ทั้งสองคนนั่นแหละ ไม่ต้องมาแย่งกันอ้อนแม่หรอก"
ทุกคนหัวเราะ
ผมยืนมองภาพที่หมอเข้ากันได้ดีกับทุกคนในครอบครัวแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ นึกถึงช่วงเวลาที่ตัดสินใจจะมาบอกพ่อกับแม่ผมว่าเราคบกัน หมอมันกลัวมากกว่าผมเสียอีก เจ้าตัวแทบไม่กล้าสู้หน้ากับใครเลย แต่โชคดีมากครับที่พ่อแม่ผมยอมรับได้ แม้จะตกใจอยู่บ้าง จำได้ว่าตอนบ้านหมอรู้ความจริง กว่าจะเคลียร์ได้นี่เครียดไปหลายวัน

หลังมื้อเที่ยง ผมกับหมอรีบออกจากบ้านแล้วตรงไปยังสถานที่นัดที่เราตกลงกัน
"คิดถึงเนอะ ไม่ได้มาตั้งหลายเดือน"  ผมพูด
"นั่นดิ เป็นไง ไอเดียกูดีปะ"
"ดีคร้าบ" ผมหยิกแก้มหมอ
วันนี้เป็นวันครบรอบ4ปีที่เราเป็นแฟนกัน หมอเป็นคนเสนอให้ไปที่ๆเราพบกันครั้งแรก และเป็นที่ๆเต็มไปด้วยความทรงจำของเราสองคน

โรงเรียนมัธยมปลายของพวกเราครับ

แม้วันนี้จะเป็นวันหยุด แต่โรงเรียนของเราก็เปิดให้เข้าปกติ ใช้เวลาเดินทางไม่นานก็มาถึง
ผมคว้ามือหมอขึ้นมาจับ
"คุณพิสุทธ์อยากไปที่ไหนก่อนครับ"
"แล้วแต่คุณพงศกรเลยครับ" หมอยิ้มหวาน
"งั้น...ตามผมมาเลยครับ" ผมคิดนิดหนึ่งก่อนจูงมือมันมุ่งหน้าไปยังหอประชุมเป็นที่แรก
"จะไปไหนเนี่ย"
"เดี๋ยวก็รู้"
เดินอีกสักพัก หมอก็ตอบได้
"กูรู้ละ หอประชุมใช่ปะ"
"ถูกต้องนะคร้าบ"
หมอมีท่าทางเขินหน่อยๆ
"ทำไมต้องหอประชุมด้วย"
"หมอก็น่าจะรู้นิ เจอกันครั้งแรกก็มาซบไหล่เลย"  ผมนึกถึงความหลัง
"เพราะกูเผลอหลับต่างหาก"
"อยากซบกูก็บอกมาเหอะน่า" ผมยั่วแหย่
"หลงตัวเองชะมัด"
"วันนั้นเรานั่งตรงนี้" ผมลากหมอไปยังตำแหน่งที่ถูกต้อง
"โห มึงจำที่นั่งได้เลยอ่อ กูลืมไปแล้วนะเนี่ย"
"จำได้ดิครับ นั่งกับหมอทั้งคน"  ผมบีบจมูกหมออย่างมันเขี้ยว  "ไปนั่งด้วยกันอีกมั้ย"
หมอพยักหน้าเก้อๆก่อนจะถูกผมพาไปนั่ง
ภาพอดีตปรากฏขึ้นชัดเจนในใจ ผมเห็นเด็กนักเรียนชายคนหนึ่ง ผิวขาวใส ตัวสูงพอๆกับผมแต่ร่างผอมแห้ง ทำให้ดูตัวเล็ก ขอบตาคล้ำอย่างคนนอนน้อยเป็นปกติ ผมฟู วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาข้างในหอประชุมด้วยเสื้อที่เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ รู้ได้ทันทีว่าสาย
ผมมองนักเรียนคนนั้นโดยไม่รู้ตัวว่ากำลังยิ้มกว้าง
เมื่อมันนั่งลงข้างผม ผมจึงไม่พลาดที่จะทำความรู้จัก และตั้งแต่นั้นมา มันก็เป็นต้นเหตุที่ทำให้ผมยิ้มอยู่หลายครั้ง
"วันนั้นหมอหลับงี้เลย"  ผมเลียนท่านอนหลับคอพับคออ่อนบนเก้าอี้นวม แล้วก็โดนหมอฟาดแขน
"สัส ไม่ต้องมาเลียนแบบเลย"
"ไหนทำให้ดูหน่อยดิ"
"ไม่โว้ย"
"ถ้างั้นกูทำเองก็ได้"
ผมซบหัวลงที่ไหล่หมอ มือเรายังกุมกันอยู่
"วันนี้กูขอซบมึงคืนมั่งนะ" ผมหยอด แก้มหมอเป็นสีแดงเรื่อขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
เรานั่งอยู่ตรงนั้นกันอีกสักพัก ผมเห็นภาพอดีตอื่นๆระหว่างเราสองขึ้นอีก
และผมก็เชื่อว่าหมอกำลังเห็นแบบเดียวกันอยู่

"ไปที่อื่นกันต่อมั้ย" ผมชวน
"ไปดิ"
มีอีกหลายที่ที่ผมตั้งใจจะไป เพื่อบันทึกทุกอย่างลงในความทรงจำของเราทั้งคู่
"ไปที่ห้องเรียนพวกเรากัน" หมอบอก
"ครับ ห้องไหนอะ มัธยม4 5 หรือ6"
"ไปทุกห้องเลย" หมอตอบพร้อมรอยยิ้มสดใส
"จัดให้ครับคุณพิสุทธ์" ผมกับอั๋นเดินย้อนกลับไปทางที่เราเดินมาเพื่อจะไปอาคารเรียนของเด็กมัธยมปลาย
มือเราที่จับกันอยู่แน่นขึ้น
ผมไม่รู้หรอกว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร แต่รู้ว่าตอนนี้ผมมีความสุขมากแค่ไหนที่มีหมออยู่ข้างๆ และผมเองก็จะรักษาความสุขนั้นไว้ให้นานจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต

แด่เพื่อนรักและคนที่ผมรักที่สุด

-จบ-

ขอบคุณคุณผู้อ่านทุกคนที่เข้ามาอ่านและอยู่ติดตามกันจนถึงตอนสุดท้ายตอนนี้ครับ ทั้งคนที่ comment หรือเข้ามาอ่านอย่างเดียวก็ตาม ขอบคุณจริงๆจากใจเลยครับ

ทุกตัวละครในเรื่อง My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก แต่ละคนต่างก็มีเหตุผลของการกระทำและเรื่องราวเป็นของตนเองทั้งนั้น ผมรักทุกตัวละคร โดยเฉพาะอั๋น พระเอกของเรื่อง อั๋นเป็นตัวที่ผมรักที่สุด (ถึงแม้จะเขียนโดยให้หมอเป็นหลักในการเดินเรื่องก็ตาม555) เพราะอั๋นเป็นภาพแทนของคนที่อ่อนโยน ใจดี และเป็นคนที่ผมรักที่สุดครับ

ผมเองก็เป็นแค่คนธรรมดาๆคนหนึ่งที่อยากเขียนเรื่องราวความรัก อย่างที่บอกตั้งแต่ตอนเปิดเรื่องว่าผมเขียนเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก ถ้ามีอะไรที่ผิดพลาดก็ต้องขออภัยด้วย

สุดท้ายนี้ อยากขอให้ทุกคนเก็บเรื่องของอั๋นกับหมอเป็นความทรงจำที่สวยงามไว้ตลอดไปนะครับ เพราะผมเองก็จะทำเช่นเดียวกัน

พบกันอีกครั้งในโอกาสหน้าครับ
writerbeer

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2:  :pig4:

ขอบคุณมากๆเลยที่ลงให่อ่าน

ออฟไลน์ chaichan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
สนุกกกก ของคุณมากน้าาา อิอิ

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
   เพิ่งเข้ามาอ่านคับ ชอบมากๆ อ่านรวดเดียวจบเลย ประทับใจทั้งบุคคลิกตัวละครและเนื้อเรื่องคับ ประทับใจอีกเรื่องหนึ่ง
  ขอบคุณผู้แต่งคับ

ออฟไลน์ satiara

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อ่านจบแล้วว น่าร้ากก
ขอบคุณนะค้าา
#เป็นเรื่องที่มีบรรยากาศของความสบาย 5555

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
จบได้ยอดเยี่ยมมาก  :mew1: :mew1: :mew1:
อ้๋น หมอ  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
อั๋นอบอุ่น ใจเย็น  ดูแลปกป้องหมอได้ดีมาก
รักกันมั่นคง น่ารักมาก
ขอบคุณไรท์ เขียนเรื่องน่ารักๆ
คนอ่านมีความสุขมาก
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ somakimi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 :mew1: :katai2-1: เรืีองน่ารักค่ะสดใส่ดราม่าเล็กมีฉากหวานให้พอกรุบๆกรอบๆสะมูชกันดีค่ะ

ออฟไลน์ Azuryngel

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Aun and mau!!!! From friends to boyfriends. It's so cute seeing them ET closer and closer to each other while everyone around them already knew they would be good for each other.  :hao3:

ออฟไลน์ Persoulle

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ชอบมากๆเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับเรื่องที่แสนอบอุ่นของอั๋นดับหมอนะคะ ชอบทั้งการดำเนินเรื่องและความไม่ดราม่า ไม่มากไป และความมีเหตุผลของตัวละครค่ะ แบบมีสติและชอบน้องหมอที่สตรองมากค่ะ เมื่อมีปัญหาเรื่องเม้งน้องตัดสินใจไม่ทำอะไรลงไปเอง แต่บอกอั๋นเพื่อช่วยแก้ปัญหา ทำให้รู้สึกว่าสองคนนี้เข้าใจกันมากค่ะ เป็นทั้งเพื่อนทั้งคนรักและครอบครัว ช่วยดูแลกันได้ดีมากค่ะ รักกันไปนานๆนะคะ น้องอั๋น น้องหมอ

ป.ล. แอบอิจฉาอั๋น อยากให้หมอเป็นผู้ชายจริงในโลกจริงมากค่ะ แบบว่า ถ้าแฟนเรานิสัยเหมือนหมออ่ะ ฟินเลย...ชอบบ ชอบคนแบบหมอ... :hao7:

ออฟไลน์ $VAN$

  • Moderator
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-6
เรื่องน่ารักมาก ชอบอั๋นที่สุดนะ รักและดูแลหมออย่างดีตลอดเลย
เพื่อนๆก็รักกันช่วยเหลือกันดีจัง

ออฟไลน์ akeins

  • ชีวิตเรา Undo ไม่ได้
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0

ออฟไลน์ tear0313

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด