L&P 5♥2 : ยิ้มหวานของลิงเปี๊ยก“หล่อหรือยังลุง” ลิงเปี๊ยกหันมายิ้มแฉ่งให้ผม จัดทรงผมเสียเรียบแปล้ เสื้อเชิ้ตในกางเกงสแลคติดกระดุมถึงคอ มองแล้ว
เหมือนเด็กเพิ่งจบใหม่ไปสมัครงาน
“ที่บริษัทฉันยังไม่เปิดรับพนักงาน” ลิงเปี๊ยกหัวไวสมกับเป็นลิง รีบหันหน้ากลับไปมองกระจกสำรวจตัวเองตั้งแต่หัวจรดเท้า
ใหม่
“มันดูเรียบร้อยไปหรือครับ” ผมพยายามกลั้นขำเอาไว้ไม่อยากให้เจ้าตัวใจเสีย มันเลยคำว่าเรียบร้อยไปเยอะ ลิงเปี๊ยกแต่ง
แบบนี้ผมว่าไม่ใช่เด็กวัดแล้วน่าจะเป็นมหาเสียมากกว่า
“งานจัดที่โรงแรมก็จริงแต่ไม่เป็นทางการมากแต่งให้ดูดีก็พอ ถ้านายจะใส่ชุดนี้พับแขนเสื้อขึ้นหรือไม่ก็เปลี่ยนใส่กับยีนส์
แทน ปลดกระดุมลงมาอีกเม็ดก็ดูโอเคแล้ว”
“แบบนี้หรือครับ ลิงเปี๊ยกปลดกระดุมที่แขนพับแขนเสื้อขึ้นมาทั้งสองข้างก่อนปลดกระดุมเสื้อลงมาเพิ่มอีกหนึ่งเม็ด
ตามที่ผมบอก ผมจับลิงเปี๊ยกให้ขยับมาใกล้ๆ สอดมือเข้าไปในกลุ่มผมค่อยๆ สางจนมันตกลงมาด้านหน้า
“อืม ดูดีแล้ว”
“ขอบคุณครับ” ถึงลิงเปี๊ยกจะซ่าหรือกวนแค่ไหนแต่ไม่เคยลืมคำขอบคุณเมื่อผมทำอะไรให้เสมอ
“วันนี้ผมต้องทำอะไรบ้าง” ลิงเปี๊ยกทราบว่าผมต้องการให้ไปงานเลี้ยงแพรวาเป็นเพื่อน แต่ไม่ทราบว่าต้องทำอะไร
แค่ไหน
“ทำเหมือนที่นายเคยทำ คุณอัคราพ่อของแพรวาเป็นลูกค้ารายใหญ่ของบริษัทฉันคงหักหาญน้ำใจมากไม่ได้เอาแค่
พอเหมาะพอดีก็แล้วกัน อย่าให้ต้องผิดใจกัน”
“ทำไมลุงไม่ทำเป็นเฉยๆ ไปล่ะ ทำแบบนี้ข่าวออกไปเยอะๆ ลุงจะลำบากนา”
“เรื่องไหน”
“เรื่องลุงเป็นเกย์ไง”
“ผิด ข่าวจะออกว่าฉันเป็นไบเซ็กชวล เพราะประวัติเรื่องผู้หญิงฉันหนาหูมาตั้งแต่ไหนแต่ไร”
“ทำไมลุงพูดได้หน้าตาเฉยไม่กลัวจะหาเมียไม่ได้เหรอ เกิดลุงมีผู้หญิงที่ชอบขึ้นมาจริงๆ ระวังเขาจะรับไม่ได้”
“ถึงวันนั้นค่อยอธิบายให้ฟังถ้าฉันมีคนที่ฉันอยากแต่งงานด้วยอยู่จริงนะ”
“ลุงพูดเหมือนมันเป็นไปไม่ได้ ลุงไม่อยากแต่งงานเหรอ” ลิงเปี๊ยกยังซักไม่เลิกดูเหมือนจะสนใจเรื่องนี้จริงจัง
“ไม่อยากถูกผูกมัดมากกว่า ความโสดมาคู่กับอิสระและฉันก็รักมันที่สุด”
“ไม่เหมือนผม ผมอยากมีครอบครัวมีคนให้รักให้คอยห่วงคอยคิดถึง มันดีจะตายไปลุงแค่คิดก็ยิ้มได้แล้ว”
“ตัวเปี๊ยกแค่นี้ริอยากมีครอบครัว หัดมีเซ็กส์ให้เป็นก่อนไหม” ผมขำคนไม่เคยมีเซ็กส์สักครั้งแต่ดันคิดไกลไปถึงเรื่องแต่งงาน
มีครอบครัว
“ลุงนี่หัวงูชะมัด คำก็เซ็กส์สองคำก็เซ็กส์ ตาแก่ตัณหากลับ”
“อ้าวๆ ไอ้ลิงเปี๊ยกคุยกันดีๆ มาด่ากันหน้าตาเฉย ฉันไม่เคยมีอะไรกับเด็กจะได้เป็นตาแก่ตัณหากลับ”
“ไม่เชื่อ”
“เด็กอายุต่ำกว่ายี่สิบฉันยุ่งด้วยไม่ลงหรอกขี้เกียจไปเป็นพ่อให้”
“ดูถูกกันเข้าไปเถอะ คอยดูนะลุงลุงเผลอยุ่งกับเด็กเมื่อไหร่ผมจะล้อยันลุงอายุแปดสิบเลย”
“ตามสบาย แต่เอาวันนี้ก่อนไหมทำหน้าที่ให้ดี อย่าให้แพรวาเขมือบฉันได้ล่ะ”
“พูดจาน่าเกลียด ไปพูดถึงผู้หญิงแบบนั้นได้ยังไงลุงไม่เป็นสุภาพบุรุษสักนิด”
“เดี๋ยวนายก็รู้เอง อย่าลืมห้ามไปต่อล้อต่อเถียงมีปากเสียงกับเขา เอาแค่พอเหมาะพอดี” ถึงลิงเปี๊ยกจะดูโตเกินเด็ก
แต่จากการปะทะกันที่ผมเคยเห็นมาปากลิงเปี๊ยกใช่ย่อยเสียเมื่อไหร่ บางครั้งลิงเปี๊ยกก็ยังเป็นเด็กการระงับอารมณ์จึงทำได้
ไม่เต็มร้อยนัก
“ผมรู้น่า รับเงินแล้วไม่ทำให้ลุงเสียหรอก”
“พร้อมแล้วใช่ไหม ฉันจะพานายไปซื้อรองเท้าเมื่อวานก็ลืมนึกไป”
“หา ยังต้องซื้ออีกหรือลุง” ลิงเปี๊ยกทำหน้าเหมือนถูกบังคับให้กินยาเบื่อ พอกันทั้งพี่ทั้งน้อง วินบ่นให้ผมฟังเสมอเรื่องนิว
“แล้วรองเท้าผ้าใบนายมันใส่ไปได้ไหม หรือจะใส่รองเท้านักเรียนไป”
ลิงเปี๊ยกเลิกเถียง แต่แอบทำปากขมุบขมิบซึ่งผมเดาไม่ออกว่าพูดอะไรแต่คงไม่ใช่ชื่นชมผมแน่ๆ
“แล้วผมไม่ต้องลงไปทำให้หัวใจป้าของลุงเต้นแรงก่อนเหรอ” คราวนี้ผมหลุดหัวเราะออกมาเต็มๆ ลิงเปี๊ยกเลือกคำพูดเสีย
ผมเห็นภาพป้าตัวเองลอยมา
“ไม่ต้อง ฉันลืมไปว่าขืนป้าสิเห็นคงทำทุกวิถีทางไม่ให้นายไปด้วย ป้าสิห้ามฉันไม่ได้หรอกแต่มันจะเสียเวลา”
“เข้าใจแล้วครับ ผมพร้อมแล้ว” ลิงเปี๊ยกหยิบกระเป๋าเงินกับโทรศัพท์ขึ้นมาถือ มีอีกอย่างสินะที่ผมลืม โทรศัพท์มือถือ
เครื่องนั้นมันยังใช้ได้อยู่จริงหรือ
✪✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✪
“พี่ลมคะ” การพุ่งเข้ามาเกาะแขนแนบชิดของแพรวาทำเอาลิงเปี๊ยกถึงกับผงะ ผมอมยิ้มเมื่อเห็นลิงเปี๊ยกทำหน้าเหวอ
“ทำไมมาช้าคะ แพรรอพี่ลมอยู่คนเดียว”
“พี่ไปธุระมาครับ สุขสันต์วันเกิด” ผมพยักหน้าให้เปายื่นของขวัญให้กับแพรวา อีกฝ่ายรีบรับไปถือเอาไว้
“เปานี่คุณแพร แพรนี่เปาครับ” ผมถือโอกาสจับไหล่เปาให้เข้ามายืนชิดยิ่งขึ้น
“สวัสดีครับ” ลิงเปี๊ยกยกมือขึ้นไหว้ อายุน่าจะอ่อนกว่ากันสามถึงสี่ปี
“สวัสดีค่ะ พี่ลมไปหาคุณพ่อกันคะท่านบ่นถึงอยู่” แพรวาให้ความสนใจลิงเปี๊ยกน้อยมาก ยังดีที่ยังตอบรับคำทักทาย
“ไปสิครับ เปาเดี๋ยวพี่พาไปรู้จักคุณอัครา” ผมเอ่ยเพื่อบอกเป็นนัยๆ ว่าจะพาลิงเปี๊ยกไปด้วย
“ให้น้องรออยู่แถวนี้ก็ได้นะคะ เปาใช่ไหมหาอะไรทานตามสบายนะทางโน้น” แพรวาชี้มือยังโต๊ะวางอาหารที่ทางโรงแรมจัด
เตรียมไว้ให้
“ขอบคุณมากฮะคุณแพรวาแต่ผมยังไม่หิวเลย” ลิงเปี๊ยกไม่ใช่แค่พูดแต่ยกมือขึ้นกอดแขนผมอีกข้าง พื้นที่ในห้องบอลลูม
กว้างขวางแต่กลับยืนเบียดจนหน้าอกชิดทั้งสองคน
“เชิญครับแพร” ผมยิ้มบางๆ ให้แพรวา อีกฝ่ายจึงยอมออกเดิน
ผมพาลิงเปี๊ยกไปทำความรู้จักกับคุณอัคราและผู้ใหญ่อีกสี่ห้าท่าน มารยาทลิงเปี๊ยกในการเข้าหาผู้ใหญ่ถือว่าใช้ได้ สุภาพ
มีสัมมาคารวะอ่อนน้อมและรู้จักพูดจา
“พี่ลมไปทักทายเพื่อนแพรหน่อยสิคะมีแต่คนอยากเจอ” แพรวาทะลุกลางการสนทนาระหว่างผมกับผู้เป็นพ่อขึ้นมา
“แพรผู้ใหญ่คุยกันอยู่ลูก” ถึงจะดุลูกสาวแต่ฟังน้ำเสียงก็รู้ว่าคุณอัครารักและตามใจลูกสาวมากแค่ไหน
“นี่มันวันของแพรนะคะคุณพ่อ ธุรกิจเอาไว้คุยกันวันหลังสิคะ” เสียงกระเง้ากระงอดของผู้เป็นลูก มีหรือพ่ออย่างคุณอัครา
จะกล้าขัดใจ
“อย่ารบกวนพี่ลมเขามากน่ะ”
“ไปกันค่ะพี่ลมเพื่อนแพรนั่งอยู่ตรงนู้น มีแต่คนอิจฉาแพรรู้ไหมคะที่ได้ควงพี่ลม” คำพูดทึกทักนั้นทำให้ผมลำบากใจ แพรวา
เป็นเด็กสาวที่เอาแต่ใจผมเคยควงผู้หญิงคนอื่นมางานของคุณอัคราอยู่บ่อยครั้ง นอกจากกิริยาไม่พอใจที่แสดงออกชัดเจน
ต่อคู่ควงของผมแล้ว แพรวาไม่เคยใส่ใจยังยืนกรานอยากปลี่ยนสถานะกับผมเหมือนเดิม
แพรวาฉลาดในการใช้พ่อให้เป็นประโยชน์ หลายต่อหลายครั้งที่ผมไม่อาจปฏิเสธได้ ไม่ว่าจะเป็นการนัดทานข้าวส่วนตัว
กับคุณอัครา งานวันเกิดหรืองานเลี้ยงบริษัทแพรวาจะติดหนึบกับผมทันทีที่ก้าวเข้างานเหมือนเช่นวันนี้
“พี่ว่าแพรไปสนุกกับเพื่อนเถอะครับไม่ต้องเกรงใจ พี่กับเปาจะหาที่นั่งเอง”
“พี่ลมทำไมพูดแบบนี้คะแพรจะงอนแล้วนะ ไม่เอาค่ะวันนี้พี่ลมต้องอยู่กับแพรตลอดงานห้ามหนีไปไหน”
“โอ้ว” ลิงเปี๊ยกเผลอทำเสียงลอดออกมาเบาๆ ก่อนจะรีบเม้มปากกั้นเสียงเอาไว้
“มาค่ะ” มือที่ทาเล็บสีแสงสดดึงแขนผมให้เดินตามไปจนได้ ลิงเปี๊ยกก้าวตามมาติดๆ แถมแอบยักคิ้วให้ ผมชักไม่แน่ใจว่า
ควรกังวลกับแพรวาหรือกับลิงเปี๊ยกดี
“ทุกคนพี่ลมมาแล้ว” แพรวาพาผมไปหยุดที่โต๊ะด้านหน้าเวที เป็นกลุ่มวัยรุ่นทั้งชายและหญิง
“สวัสดีค่ะพี่ลม แหมพี่หล่อกว่าในรูปอีก” “สวัสดีครับ” เสียงทักทายดังมาจากเพื่อนๆ ของแพรวา ผมยิ้มรับคำทักทาย
ใช้มือดึงลิงเปี๊ยกให้ขึ้นมายืนข้างๆ
“พี่ลมนั่งก่อนค่ะ” ผมพยักหน้ารับ ดึงเก้าอี้ว่างตัวนึงออกให้ลิงเปี๊ยกนั่งก่อนถึงตามลงไปนั่งเก้าอี้ตัวข้างกัน และแน่นอน
แพรวานั่งติดกับผมอีกข้างนึงเช่นกัน
“นี่ แต กรีน ฤทธิ์ พอร์ช แล้วก็ทับทิมค่ะ” แพรวาแนะนำกลุ่มเพื่อนสนิทให้ผมรู้จัก บางคนผมเคยเจอหน้าบ้างแต่บอกตรงๆ
ว่าจำชื่อไม่ได้
“ส่วนนี่เปาน้องพี่ลม” แพรวากำหนดสถานะให้ลิงเปี๊ยกเสร็จสรรพโดยไม่ถามผมก่อน
“น้องชายหน้าตาน่ารักจังพี่ลม แต่หน้าไปคนละแนวนะคะหล่อคนละแบบ” ลิงเปี๊ยกยิ้มร่าคงชอบใจที่มีคนชมว่าหล่อ
เพราะผมไม่เคยชมเลย
“ไม่ใช่ พี่ลมมีน้องชายแค่สองคน พี่เฟิงกับวิน หล่อเหมือนกันทั้งสามคน”
“แหมรู้ดีนะยะจะไปเป็นลูกสะใภ้บ้านเขางั้นสิ”
“บ้า” คำพูดแสดงออกว่าเขินอายแต่แพรวากลับเอนตัวมาซบศีรษะลงบนต้นแขนผม ก้มหน้าลงมาแนบชิด
“ทำเป็นเขิน” เพื่อนของแพรวาแซวกันสนุกปาก เมื่อเจ้าของงานวันเกิดทำเหมือนซบหน้าหนี เป็นการเขินที่ถึงเนื้อถึงตัวดี
“พี่ลมโดนจองเสียแล้วถ้าอย่างนั้นน้องคนอื่นยังว่างไหมคะ คนไหนว่างทับทิมอยากรู้จักจัง”
“พี่เฟิงยังว่างฮะ พี่วินมีแฟนแล้วส่วนพี่ลมก็...” ลิงเปี๊ยกชะม้ายตามองผมทำหน้าเขิน ไม่เอนมาซบเหมือนแพรวาแต่ผลักไหล่ผม
เสียจนศีรษะของแพรวาที่ซบอยู่ผงะหงายออกไป ผมอาศัยจังหวะนี้เอนตัวไปทางลิงเปี๊ยกพาดมือไปบนพนักเก้าอี้กึ่งพักแขน
กึ่งโอบไหล่เพื่อไม่ให้ดูน่าเกลียดเกินไป
“น้องเปาพูดแบบนี้แปลว่าอะไรคะพี่ลม อย่าบอกว่าพี่ลมจะนอกใจเพื่อนแตนะคะ โดนแน่” เสียงพูดปนหัวเราะคล้ายต้องการให้
คิดว่าเป็นการแซวเล่นแต่ผมว่าเพื่อนแพรวาน่าจะอยากได้คำตอบจริงๆ
“ไม่นอกใจครับ แพรเป็นน้องสาวที่น่ารักเสมอไม่เปลี่ยนแน่นอน ยังไงพี่ก็เอ็นดูเหมือนเดิม” ผมได้โอกาสระบุสถานะเพื่อ
ความชัดเจน
“จริงฮะ พี่ลมพูดถึงพี่แพรให้ผมฟังบ่อยๆ บอกว่ามีแต่น้องชายอยากได้น้องสาวน่ารักๆ แบบพี่แพรสักคน ผมอิจฉาพี่แพรจะตาย
อยากเป็นน้องบ้าง แต่พี่ลมบอกอย่างผมไม่เหมาะกับเป็นน้องหรอก พูดอะไรก็ไม่รู้” ลิงเปี๊ยกบิดมือไปมาทำหน้าเขินหนัก
เจ้าตัวดีวางระเบิดลูกใหญ่แบบไม่ต้องตั้งเวลา จุดเลยระเบิดเลยทำเอาทั้งโต๊ะเละเป็นจุณ แต่ละคนทำหน้ากลืนไม่เข้าคลาย
ไม่ออก โดยเฉพาะแพรวาหน้าเสียอย่างเห็นได้ชัด
ผมไม่รู้ว่าแต่ละคนกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ สำหรับผมคิดอย่างเดียวคือหมั่นไส้ไอ้ตัวแสบเป็นบ้า ดูทำหน้าเข้าชมดชม้อยจนน่าเตะ
“ฮ่าๆ อันนี้แซวเล่นใช่ไหมคะน้องเปา” มีคนตั้งสติได้เพราะคิดว่าเปาพูดเล่นมากกว่าเรื่องจริง
“ฮะ แซวเล่น” ลิงเปี๊ยกตอบแบบนั้นแต่สายตาที่มองมายังผมกลับบอกต่างออกไป รอยยิ้มบางๆ จุดที่มุมปาก ดวงตาคู่นั้น
อ่อนหวานกว่าที่เคย สายตาของเปาแสดงออกถึงความรักและเทิดทูน มันหวานเสียจนผมไม่อาจละสายตาไปจากดวงตาคู่นั้นได้
ผมยกมือขึ้นช้าๆ ลูบลงไปบนผมนุ่มยิ้มตอบเปาด้วยประกายตาอ่อนโยน
“อะแฮ่ม” เสียงกระแอมของใครบางคนทำให้ผมรู้สึกตัว รีบลดมือที่ลูบผมลิงเปี๊ยกลง ขายหน้ากันพอดีดันย้ำนักย้ำหนากับ
ลิงเปี๊ยกว่าให้ทำอะไรแต่พอดีแต่ตัวเองดันเผลอแสดงออกเสียมากมาย กลับไปจะโดนเด็กมันแซวให้เสียการปกครองไหม
เล่นทำเหมือนกับอยู่กันแค่สองคนไม่เห็นหัวใครเลย
“พี่ลมทันสมัยดีนะคะ เข้ากับยุคนี้เลย” มีน้องคนนึงที่ผมลืมชื่อไปแล้วทักขึ้นมาอย่างใจกล้า ผมเพียงแต่ส่งยิ้มกว้างตอบ
ปล่อยให้ตีความหมายกันนเอาเอง
“แพรขอตัว จะไปช่วยคุณพ่อรับแขก” แพรวาลุกพรวดมองผมด้วยสายตาต่างออกไป ไม่แน่ใจว่าเสียใจหรือรังเกียจ
แต่แบบไหนผมไม่เกี่ยงขอแค่ให้รู้ว่าเลิกยุ่งกับผมเป็นพอ
“ตามสบายครับ” ผมยิ้มเมื่อแน่ใจว่าทุกอย่างเป็นไปตามต้องการ สังเกตได้จากกล่องของขวัญของผมที่แพรวาวางทิ้ง
เอาไว้โดยไม่สนใจมันอีก
“น้องเปาทานนี้ไหมครับ” เสียงทุ้มๆ ของหนึ่งในชายหนุ่มที่นั่งอยู่ดังขึ้นทำให้ผมหันไปมองโดยไม่ตั้งใจ แต่ต้องหรี่ตาลง
เมื่อเห็นสายตากรุ่มกริ่มที่มองมา
“อร่อยนะครับมาพี่ตักให้” มือที่เอื้อมมาวางจานให้เฉียดมือของลิงเปี๊ยกไปนิดเดียว คล้ายไม่ตั้งใจแต่ผมมั่นใจว่าไม่ใช่
“ขอบคุณครับ” ลิงเปี๊ยกพูดเพราะแถมยังส่งยิ้มน้อยๆ ไปให้ ไอ้หนุ่มนั่นยิ้มพราวทำสายตาเจ้าชู้ใส่ ดูจากอาการแล้วผมว่า
หมอนี่ต้องชอบผู้ชาย
“เปา” ผมเรียกลิงเปี๊ยก เจ้าตัวดีหันมามองหน้า
“ฮะพี่ลม”
“ไปตักอาหารกันพี่หิวแล้ว”
“ครับ”
“ขอตัวนะครับ” ผมเดินนำลิงเปี๊ยกออกจากโต๊ะ มีเจ้าตัวดีที่ขาสั้นกว่ากึ่งเดินกึ่งวิ่งตามมา
“ลุงรอผมด้วยสิ” ผมชะลอฝีเท้าให้ช้าลงเมื่อเดินห่างจากโต๊ะพอสมควร
“ตักได้ทุกอย่างใช่ไหมลุง น่ากินชะมัดผมอยากกินทุกอย่างเลย” ลิงเปี๊ยกไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นตอนนี้ในหัวคงมีแต่ของกิน
เท่านั้น ตาวาวราวกับเด็กได้เข้าสวนสนุก
“ตักได้”
“ลุงรอด้วยนะเดี๋ยวเดินกลับโต๊ะพร้อมกัน”
“อืม..เดี๋ยว” ผมเรียกลิงเปี๊ยกเอาไว้เมื่ออีกฝ่ายทำท่าจะแยกออกไปตักอาหาร
“ครับ?” ผมไม่พูดอะไรแต่ดึงตัวลิงเปี๊ยกเข้ามาใกล้ก่อนติดกระดุมเม็ดที่ถูกปลดเพิ่มให้กลับเข้าที่
“อ้าว ทำไมล่ะลุงไหนบอกว่าติดแล้วมันเรียบร้อยไป”
“แบบนี้ดูดีกว่า นายผอมไปไม่เหมาะกับปลดกระดุมหลายเม็ด ไปตักอาหารเถอะ” ผมดันหลังลิงเปี๊ยกให้ออกเดิน ดูเหมือน
เจ้าตัวดีไม่สงสัยอะไร ยิ้มหน้าบานสนใจแต่อาหารที่อยากกิน
ผมแค่ไม่อยากให้ลิงเปี๊ยกถูกมอง ไอ้หมอนั่นสายตามันเล้าโลมมองลอดเข้าไปถึงไหนๆ คนเป็นเสือด้วยกันย่อมรู้ดี
เห็นแล้วมันหงุดหงิดรำคาญใจ ผมเป็นพี่มีหน้าที่ต้องปกป้องน้องให้ดี
“ลุงไม่ต้องกลับไปนั่งโต๊ะโน้นเหรอ” ลิงเปี๊ยกพยักเพยิดไปทางโต๊ะของเพื่อนแพรวาเมื่อผมพาเดินไปทางโต๊ะตัวอื่นที่ว่างอยู่แทน
“เสร็จธุระของฉันแล้วไม่จำเป็นต้องไปนั่ง”
“อ้าวแล้วมันไม่เสียมารยาทเหรอลุง”
“แค่ทำตามไม่ต้องพูดมากได้ไหมลิงเปี๊ยก”
“ลุงหงุดหงิดอะไร ท่าจะโมโหหิว” ประโยคหลังลิงเปี๊ยกบ่นอุบอิบอยู่ในคอไม่กล้าพูดออกมาดังๆ หลังจากนั้นก็เงียบสนิท
คงกลัวโดนผมดุอีก
“อะลุงผมให้ กินเยอะๆ นะจะได้อารมณ์ดี” ลิงเปี๊ยกตักอาหารในจานแบ่งมาให้ผม ยิ้มเอาใจจนตาหยีผมเห็นแล้วอดยิ้ม
ตามไม่ได้ จัดการตักกุ้งที่เจ้าตัวแบ่งให้เข้าปาก
“อร่อย”
“ยิ้มแล้ว โมโหหิวจริงๆ ด้วย”
“เด็กบ๊อง” ผมผลักหัวเจ้าตัวดีที่ทำหน้าล้อเลียนผมเบาๆ ก่อนเริ่มทานอาหารในจานตัวเองบ้าง
“ทำงานกับลุงนี่ดีจัง ตังค์ก็ได้ท้องก็อิ่มคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม”
“ตอนเคี้ยวอย่าพูด”
“งะ..ครับ” ลิงเปี๊ยกก้มหน้าก้มตากิน ท่าทางเคี้ยวตุ้ยๆ ดูน่ารักน่ามอง
เห็นแล้วได้แต่หวังว่าเจ้าตัวดีจะยังไม่รู้จักความรักเร็วๆ นี้ อยู่เป็นน้องให้เล่นด้วยไปก่อน อย่าเพิ่งรีบโตล่ะลิงเปี๊ยก
"ลุงๆ"
"บอกว่าตอนเคี้ยวห้ามพูด"
"นิดเดียว ผมจะถามว่ายิ้มหวานผมเป็นไงบ้าง ละลายไหมลุง"
"ไปฝึกมาอีกสิบปีค่อยมาถาม"
"งะ..คอยดูคราวหน้าเลยลุงไม่ต้องรอให้ถึงสิบปีผมจะทำให้ได้คอยดู"
"หึหึ"
ผมผ่อนลมหายใจออกจากปาก ดีนะเจ้าตัวดีไม่รู้ตัวว่ารอยยิ้มนั้นมันไม่ใช่แค่หวานแต่มันละลายไปถึงหัวใจ
ทำให้ผมลืมผู้คนรอบข้างไปโดยไม่รู้ตัว แค่จะละสายตาจากความหวานนั้นยังทำไม่ได้เลย
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>TBC<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<
Darin ♥ FANPAGE