L&P 21 : วิถีเด็ก“รอนานไหม” ผมถามสามหนุ่มน้อยในชุดนักเรียน ผมนัดมารับลิงเปี๊ยกกลับบ้าน แต่เห็นว่าออกมาเดินซื้อหนังสือกับเพื่อน
จึงอาสาขอเป็นคนเลี้ยงมื้อเย็น
“สวัสดีครับพี่ลม” ภูมิกับกังฟูยกมือขึ้นไหว้
“รอไม่นานครับเพิ่งซื้อหนังสือเสร็จเมื่อกี้” ภูมิเป็นคนตอบคำถาม เด็กสองคนมีท่าทีแปลกๆ มองผมไม่เต็มตา ผมจึงเดาว่าทั้งคู่
รับรู้เรื่องราวจากลิงเปี๊ยกเป็นที่เรียบร้อย
“อยากทานอะไรกัน”
“อะไรก็ได้ครับแล้วแต่เจ้ามือ” กังฟูส่งยิ้มให้ผมแต่พอสบตากันกลับเบือนสายตาหนี ผมเริ่มกังวลเล็กน้อย ถ้าเพื่อนของลิง
เปี๊ยกรับไม่ได้จะมีผลกับความสัมพันธ์ของผมไหม ลิงเปี๊ยกยิ่งเป็นพวกรักเพื่อนยิ่งชีพอยู่ด้วย
“เลือกมาเถอะพี่ทานได้ทั้งนั้นไม่ต้องเกรงใจ”
“เลือกเลย” ลิงเปี๊ยกกระตุ้นเพื่อน
“เอาไงภูมิ” กังฟูเป็นเด็กหัวอ่อนที่สุดในกลุ่มเป็นคนอะไรก็ได้ตามใจเพื่อนเป็นหลัก เป็นเด็กใสๆ ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม ในขณะที่
ภูมิเป็นตัวของตัวเอง ช่างคิดช่างสงสัย เป็นเด็กหน้านิ่งแต่ระดับความกวนไม่น้อยหน้าลิงเปี๊ยก
“กินบุฟเฟ่ท์ได้ไหมครับ บุฟเฟ่ท์อะไรก็ได้”
“เอาสิ ถ้ายังพอหิ้วท้องกันไหวไปทานที่โรงแรมใกล้ๆ ไหม บุฟเฟ่ท์นานาชาติของเขาอร่อยใช้ได้”
“ไม่เป็นไรครับ ไม่เป็นไร” ภูมิรีบปฏิเสธทันที สีหน้าดูกังวลเหมือนกลัวผมเข้าใจผิด
“ผมไม่ได้อยากกินอะไรแพงๆ แบบนั้นหรอกครับ แค่คิดว่าถ้าเป็นบุฟเฟ่ท์จะได้กินสบายใจหน่อยใครอยากกินอะไรก็กิน”
ผมคิดอยู่เหมือนกันว่าภูมิเลือกกินบุฟเฟ่ท์เพราะสาเหตุนี้
“ไปเถอะ ไหนๆ จะเลี้ยงทั้งทีอยากให้ทานของอร่อยกัน ไม่ต้องรีบกลับใช่ไหม จะโทรไปบอกที่บ้านก่อนก็ได้นะทานเสร็จแล้ว
พี่ไปส่งเอง”
ภูมิหันไปมองหน้ากังฟู และทั้งสองคนก็หันไปมองหน้าลิงเปี๊ยก
“ลุง คือ..”
“ห้ามพูดเรื่องถูกแพง ปฏิเสธผู้ใหญ่เสียมารยาท ไปกันได้แล้วพี่ชักหิว” ผมต้องยกเรื่องหิวขึ้นมาอ้างๆ หนุ่มน้อยทั้งสามจึง
ยอมขยับตัวจากเก้าอี้
✪✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✪
ผมลอบสังเกตเพื่อนของเปา นอกจากอาการเขินๆ ไม่กล้าสบตาผม ก็ไม่มีปฏิกิริยาใดที่แสดงออกว่ารังเกียจเหมือนที่ผม
กังวลจึงสบายใจได้เปราะหนึ่ง เด็กมันคงเขินยังไม่ชินกัน
“อิ่มกันแล้ว?” ผมถามเมื่อเห็นว่าแต่ละคนเริ่มนิ่ง เน้นนั่งคุยเสียมากกว่า
“ครับ”
“ถ้าอย่างนั้นตัวเล็กเรียกเช็คบิลให้ที พี่ไปเข้ห้องน้ำเดี๋ยวมา” ผมส่งบัตรเครดิตให้ลิงเปี๊ยก กะเวลาคร่าวๆ ว่าน่าจะกลับมา
ทันพนักงานเอาสลิปมาให้เซ็น
ผมใช้เวลาทำธุระส่วนตัวครู่ใหญ่ แต่เมื่อเดินกลับมาที่โต๊ะกลับเห็นเด็กสามคนชะโงกหัวสุมกันอยู่กลางโต๊ะ กระซิบกระซาบ
อย่างออกรส
ผมชะลอความเร็วลงตัดสินใจเดินเข้าไปช้าๆ พยายามไม่ให้เกิดเสียงดังก่อนหยุดยืนหลังเก้าอี้ของลิงเปี๊ยก
“ไม่ลองไม่รู้ ของอย่างนี้มันต้องลอง”
“มันจะดีเหรอวะ”
ดีสิน่า”
“เปาสู้ๆ”
“สู้อะไรครับ” คำว่าสะดุ้งโหยงยังน้อยไปแต่ละคนเรียกว่าขวัญหนีดีฝ่อน่าจะเข้าท่ากว่า ลิงเปี๊ยกหน้าซีด ค่อยๆ หันมามอง
ผมทำหน้าเหมือนเจอผี
“ลุงมาแล้วเหรอ” ผมดึงเก้าอี้ออกนั่ง แอบขำลิงเปี๊ยกตกใจจนไม่รู้จะพูดอะไร เห็นๆ กันอยู่ว่าผมมาแล้ว
“พนักงานมาหรือยัง”
“ยังครับ” ภูมิเป็นคนเดียวที่ยิ้มสู้เสือ ส่วนกังฟูนั่งหน้าแดงซ่านมีพิรุธเหมือนคนทำผิดแล้วถูกจับได้ ผมคิดว่ามีบางอย่าง
ผิดปกติเกิดขึ้นแต่เลือกที่จะนิ่งไม่แสดงความสงสัยออกมา
“พนักงานมาแล้ว” ลิงเปี๊ยกดูโล่งอกเมื่อเห็นพนักงานเดินเข้ามาที่โต๊ะ
“เรียบร้อย กลับกันได้” ผมเก็บบัตรเครดิตเข้ากระเป๋า
“เดี๋ยวพี่ไปส่งภูมิกับกังฟูที่บ้าน”
“ไม่ต้องครับ ไม่ต้อง บ้านพวกผมอยู่ใกล้กันนั่งแท็กซี่กลับสะดวกกว่า ไปด้วยกันปลอดภัยแน่นอน บ้านพี่ลมอยู่คนละฝั่งกับ
บ้านผมจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปกลับ”
“ไม่เป็นไรพี่ไปส่งได้” ผมรู้ว่าภูมิพูดด้วยความเกรงใจจึงย้ำให้รู้ว่าเต็มใจ
“ขอบคุณครับแต่ไม่เป็นไรจริงๆ เปาช่วยพูดหน่อยสิ” ภูมิสะกิดแขนเพื่อน ผมแอบเห็นกังฟูขยิบหูขยิบตาให้ลิงเปี๊ยก
“อ่า..ใช่ๆ ให้กลับเองได้ลุงไม่ต้องเป็นห่วง นั่งแท็กซี่กลับสบายๆ “
“เอาอย่างนั้นหรือ”
“ครับ” เสียงตอบรับแทบเป็นเสียงเดียวกัน น้ำเสียงปนไปด้วยความโล่งอก
“ถ้าอย่างนั้นเอานี้ไปด้วย” ผมเปิดกระเป๋าตังค์หยิบธนบัตรใบละห้าร้อยส่งให้
“ถ้าไม่รับพี่จะไม่สบายใจที่ไม่ได้ไปส่งด้วยตัวเอง” ผมรีบสำทับเมื่อไม่มีใครยอมยื่นมือออกมารับ
“ก็ได้ครับ ขอบคุณครับพี่ลม” กังฟูเป็นตัดสินใจรับเงินไป
“ไว้เจอกันที่โรงเรียน”
“อืม” ภูมิจับมือลิงเปี๊ยกเขย่าเบาๆ ดูจากสายตาที่ทั้งคู่มองกันผมว่าไม่เหมือนคนกำลังล่ำลาเหมือนคนให้กำลังใจกันอยู่
มากกว่า
“กลับก่อนนะครับพี่ลม สวัสดีครับ”
“ไปเถอะเดินทางกันดีๆ”
“ครับผม”
✪✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✪
ผมพยายามจับสังเกตลิงเปี๊ยกตลอดทางกลับบ้าน เพราะรู้ว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล แต่นอกจากเจ้าตัวเล็กจะเอาแต่
ก้มหน้าก้มตาเล่นมือถือก็แทบไม่พูดอไรกับผมเลย
“ไม่น่าเปลี่ยนมือถือให้นาย”
“ทำไมครับ?” ในที่สุดลิงเปี๊ยกก็ยอมเงยหน้าขึ้นมาจากจอสี่เหลี่ยม
“ยังจะถามอีกขึ้นรถมาพูดกับพี่สักคำหรือยัง คนอุตส่าห์คิดถึง ทำงานมาเหนื่อยๆ หวังจะได้กำลังใจจากคนรักบ้าง นี่อะไร
เอาแต่ก้มหน้าก้มตา” ลิงเปี๊ยกหน้าแดงแป๊ดขึ้นมาทันตา เขินทุกครั้งที่ผมพูดคำว่าคนรัก
“ไม่ใช่คนรักสักหน่อย”
“ไม่ใช่จริงเหรอ”
“จริง” ลิงเปี๊ยกขึ้นเสียงสูงทำหน้าเชิด
“แล้วทำไมเพื่อนเราทำหน้าแปลกๆ ใส่พี่ ไม่ใช่ว่าไปบอกเพื่อนแล้วเหรอว่ามีแฟน” ผมค่อยๆ เข้าประเด็นทีละนิด
“คะ..ใครบอก ไม่ได้พูดเลย” คนโกหกออกอาการชัด ดูกระสับกระส่ายทำท่านั่งไม่ติด
“ถ้าอย่างไรเพื่อนตัวเล็กเป็นอะไรครับ ไม่มีใครยอมสบตาพี่สักคน”
“ลุงคิดมาก”
“ไม่มีอะไรทำให้ตัวเล็กไม่สบายใจอยู่ใช่ไหม” นี่เป็นเรื่องเดียวที่ผมกังวล
“มะ..ไม่มี” ถึงจะตอบตะกุกตะกักไปบ้าง แต่จากสีหน้าที่ผมเหลือบมองก็พอทำให้คลายใจได้ว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
“ไม่มีก็ดี แต่ถ้ามีอะไรไม่สบายใจสัญญาว่าต้องบอกพี่นะครับตัวเล็ก”
“ครับ” ลิงเปี๊ยกพยักหน้า
“ลุงผมขอคุยกับภูมิกับกังฟูต่ออีกแป๊บเดียวนะ”
“หือ? คุยกับสองคนนั่นเหรอ” ผมเลิกคิ้วด้วยความสงสัย ถึงจะสบายใจว่าไม่มีปัญหาอะไรแต่พฤติกรรมของลิงเปี๊ยกกับเพื่อน
ก็ทำให้ไม่กล้าวางใจ เพิ่งแยกกันมีเรื่องอะไรต้องคุยนักหนา
“เอาสิ” ผมเก็บความสงสัยไว้ในใจ เอ่ยปากอนุญาตให้ลิงเปี๊ยกคุยกับเพื่อนได้
“ขอบคุณครับ”
✪✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✪
“ลุง ผมลืมเอาผ้าขนหนูเข้ามาลุงหยิบให้หน่อยสิ” ลิงเปี๊ยกตะโกนอยู่หน้าห้องน้ำ ผมหันไปมองรีโมทโทรทัศน์ในมือแทบร่วง
ไอ้ตัวดียืนอวดร่างกายขาวผ่อง ใส่กางเกงในสีน้ำเงินตัวเดียวยืนกระมิดกระเมี้ยน
“ตู้ในห้องน้ำมี” ผมพยายามบังคับเสียงให้เป็นปกติแม้ว่าตาจะจ้องแทบไม่กระพริบ
“อ่า..ผม..ผมลืมไป” ลิงเปี๊ยกหน้าแดงยิ้มเขิน ก่อนผลุบกลับเข้าไปในห้องน้ำ ปล่อยให้ผมนั่งตาค้างไม่อาจละสายตาไปจาก
ประตูได้
ไอ้เด็กบ้านี่ทำอะไรไม่รู้จักคิด ออกมาสภาพนั้นไม่รู้ตัวเลยหรือว่ามันน่ามองแค่ไหน ผิวขาวๆ แขนขาเรียวเล็ก หน้าท้องแบนราบ....
หยุด!! อย่าคิด หายใจเข้าออกลึกๆ ไว้ลม ลิงเปี๊ยกมันยังเด็กนายต้องอดทนให้ได้
ผมสูดลมหายใจเข้าออกช้าๆ พยายามไม่นึกถึงภาพที่เห็น หันมาจดจ่ออยู่กับหน้าจอโทรทัศน์แต่มันช่วยอะไรไม่ได้เลย
ภาพลิงเปี๊ยกติดตา ตามหลอกหลอนจนไม่สามารถตั้งสมาธิได้
“ร้อนชะมัด” เสียงบ่นดังออกมาก่อนตัว ผมไม่ได้หันไปมองได้ยินแต่เสียงเดินเข้ามาใกล้
“ทำไมวันนี้มันร้อนแบบนี้ล่ะลุง” ที่นอนยุบตัวลงเมื่อมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น ผมหันไปมองกะจะบอกว่าผมไม่เห็นร้อนสักนิด
แต่กลับพูดอะไรออก
ลิงเปี๊ยกมีหยดน้ำเกาะพราวทั้งตัว หน้าอกเปลือยเปล่ามีเพียงผ้าขนหนูพันอยู่ที่สะโพก รอยแยกขยับไปมาจนมองเห็น
ขาอ่อนข้างในรำไร
“ว่าไหมลุง”
“หือ?” สมองผมหยุดทำงานไปชั่วคราวแม้แต่คำถามง่ายๆ ก็ตอบไม่ได้
“ผมถามว่าลุงร้อนไหม ขนาดผมอาบน้ำออกมายังร้อน” ลิงเปี๊ยกกระพือผ้าเช็ดตัวที่พันอยู่คล้ายกับร้อนจนอึดอัด ยิ่งทำ
ให้รอยแยกของผ้ากว้างขึ้นเรื่อยๆ
“ใช่ร้อน พี่ไปอาบน้ำดีกว่า” ผมก้าวพรวดลงจากเตียง เดินดุ่มเข้าห้องน้ำโดยไม่หยุดถอดเสื้อผ้าออกก่อนเช่นทุกครั้ง
อยู่ไม่ไหวจริงๆ ขืนอยู่นานกว่านี้ได้ตบะแตกแน่ เด็กบ้าอะไรหุ่นน่าฟัดขนาดนั้น เซ็กซี่เป็นบ้า
ผมก้าวไปยืนใต้เรนชาวเวอร์ ปล่อยให้สายน้ำไหลรดตั้งแต่ศีรษะลงมาเพื่อดับอารมณ์ร้อนรุ่มภายใน อยู่ใกล้แค่มือเอื้อมแต่
กลับแตะต้องไม่ได้ ใครจะมารับรู้ความอัดอั้นตันใจของผม
ผมรอจนอารมณ์คุกรุ่นภายในสงบจึงเริ่มอาบน้ำตามปกติ ต่อไปต้องระวังตัวมากกว่านี้ ไม่อย่างนั้นผมคงได้ผิดคำพูดที่
รับปากนิวไว้ในวันที่ผมพาลิงเปี๊ยกไปหา ว่าจะไม่รังแกน้องจนกว่าน้องจะโตพอ
ผมไม่รู้ว่าคำว่าโตของนิวหมายถึงอายุเท่าไหร่และไม่คิดอยากถาม เพราะกลัวว่าคำตอบที่ได้รับจะเป็นคนละอายุกับที่ผม
ตั้งใจเอาไว้
เฮ้อ นี่มันสีเดือนหรือสีปี่วะทำไมเวลามันเดินช้าอย่างนี้
✪✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✪
“ลุงเกมนี้สนุกดีลุงลองเล่นไหม” ลิงเปี๊ยกขยับตัวมานั่งชิด ยื่นโทรศัพท์ที่ถืออยู่มาตรงหน้า
“เล่นไปเถอะ” ผมยกมือขึ้นยีหัวเจ้าตัวยุ่ง ยุ่งจริงๆ ทำเอาผมปั่นป่วนไปหมด
“ไม่เอาอะอยากเล่นกับลุง” ลิงเปี๊ยกตะกายขึ้นมานั่งบนตักไม่ยอมให้ผมปฏิเสธ
“นี่เล่นอย่างนี้” เจ้าตัวดีเอนตัวพิงแผ่นหลังกับอกผม คล้ายกับต้องการให้ผมเห็นหน้าจอด้วย หัวเล็กๆ ซุกอยู่กับซอกคอ
กลิ่นชมพูอ่อนๆ ลอยคลุ้งเข้ามาแตะจมูก
“ตาลุงเล่นบ้าง” คนบอกให้ผมเล่นไม่ยอมลงไปจากตัก เพียงแค่จับมือผมขึ้นมาถือโทรศัพท์แทน
ผมนั่งพิงพนักหัวเตียงโดยมีหมอนรองไว้ด้านหลัง พอต้องยกมือขึ้นถือโทรศัพท์โดยมีลิงเปี๊ยกนั่งอยู่บนตัก จึงเหมือนกำลังกอด
เจ้าตัวเล็กไปด้วย ผมชอบกอดเจ้าตัวเล็กมากแต่ต้องไม่ใช่วันนี้
“อยากให้พี่เล่นลงไปนั่งข้างๆ พี่เล่นไม่ถนัด”
“ไม่เอาจะดูด้วย” ลิงเปี๊ยกดื้อแพ่งไม่ยอมลงจากตักผมง่ายๆ แถมขดตัวเข้ามาชิดยิ่งกว่าลูกลิงเกาะแม่
“ตัวเล็กวันนี้เป็นอะไรทำไมถึงดื้อนัก”
“เป็นเด็กขาดความอบอุ่น” ดูเจ้าตัวดีมันตอบ แล้วใครจะกล้าไล่ให้ลงไปนั่งข้างล่างได้ ผมเจอผู้หญิงอ้อน ผู้หญิงยั่วมาก็เยอะ
รับมือได้หมด แต่เจอแบบนี้เข้าไปกลับหาทางจัดการไม่ได้ แพ้ทางเด็กมันจริงๆ
“พี่แพ้แล้ว” ผมส่งโทรศัพท์คืนให้ลิงเปี๊ยก ตั้งใจกดพลาดเพราะอยากให้เกมจบเร็วๆ
“อะไรกันลุงไม่เอาจริงนี่นา” ลิงเปี๊ยกรับโทรศัพท์ไปถือก่อนลงจากตักผมไปนั่งขัดสมาธิอยู่ข้างๆ แทน ผมค่อยๆ ผ่อนลม
หายใจออก เกือบไม่รอดแล้ว เด็กอะไรนั่งไม่เป็นสุขขยุกขยิกไปมา ก้นเล็กๆ เบียดอยู่บนส่วนกลางลำตัวของผม ใครมีสมาธิ
เล่นเกมก็บ้าแล้ว
“เล่นเองก็ได้” ผมหายใจโล่งได้ไม่นาน จู่ๆ ไอ้ตัวดีก็ขยับขึ้นมานอนหงายพาดศีรษะลงบนตักผม หัวถุยวางในตำแหน่งเดียว
กับที่เคยนั่งทับ
“พี่ง่วงแล้ว” ผมเสียมารยาทผลักหัวตัวเล็กออก ขืนปล่อยไว้นานกว่านี้บางอย่างมันจะตื่นขึ้นมาแทน
“โห อะไรลุงยังไม่สามทุ่มจะรีบนอนไปไหน” เสียงบ่นกระปอดกระแปดมาพร้อมกับสีหน้าผิดหวัง
“ตัวเล็กไม่ง่วงก็หาอะไรทำไป พี่ประชุมมาทั้งวันเหนื่อย” ผมแก้ตัวไปน้ำขุ่นๆ รีบดึงหมอนลงก่อนลดตัวลงนอนราบ
กับเตียง
“นอนด้วย” เป็นวันที่ลิงเปี๊ยกไม่ให้ความร่วมมือใดๆ กับผมสักนิด ร่างเล็กๆ เบียดเข้ามาชิด เอาหน้าซุกอกผมเหมือนที่เคยทำ
ผมรู้ว่าเรานอนกอดกันทุกคืน รู้ว่าส่วนใหญ่ผมเป็นคนบังคับดึงตัวเล็กเข้ามากอด แต่ขอเว้นคืนนี้ไว้ได้ไหม ผมไม่ใช่พระอิฐพระปูน
จะได้ไม่รู้สึกอะไร
“ไหนบอกว่าร้อน” ผมยกเรื่องที่ลิงเปี๊ยกพูดขึ้นมาอ้าง
“ไม่ร้อนแล้วหนาว”
“หนาว?” เอากับไอ้ตัวดีสิเปลี่ยนคำตอบได้หน้าตาเฉย
“อืม ขอซุกหน่อยนะลุง” ถ้าเมื่อสักครู่ยังแนบสนิทไม่พอ ตอนนี้ก็เรียกว่าแทบไม่มีทีว่างให้อากาศผ่าน
ผมพยายามข่มตาให้หลับ ท่องหยุบหนอพองหนอได้ไม่เท่าไหร่ก็ต้องหยุดเพราะบางอย่างมันกำลังพองขึ้นมาจริงๆ
นึกอยากได้ยานนอนหลับสักเม็ดจะได้น็อคไปเลยทีเดียว
ต่อไปต้องเว้นระยะมากกว่านี้ นี่ขนาดผมไม่จูบตัวเล็กเลยตั้งแต่วันที่รับปากกับนิว เพราะเกรงว่าจะคุมตัวเองไม่ได้ก็ยังไม่
ช่วยอะไรสักนิด ทั้งที่ระวังตัวแล้วห้ามใจแล้ว ความปรารถนามันกลับมากขึ้นทุกวัน ขืนเป็นแบบนี้ต่อไปสภาวะอกแตกตาย
คงเกิดกับผมเข้าสักวัน
✪✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✪
“ไม่เห็นจะได้ผล” เสียงคุยเบาๆ ทำให้ผมสะดุ้งตื่น ลิงเปี๊ยกคุยกับใครทำไมยังไม่นอน
“ทำแล้ว ทำทุกอย่างที่ช่วยกันคิดนั่นแหละ” จากที่คิดจะขยับตัวขึ้นถาม ผมเปลี่ยนเป็นนอนฟังนิ่งๆ แทน ทำเหมือนตัวเอง
ยังหลับสนิทอยู่
“ไอ้บ้าภูมิใครจะกล้าดูวะ ไม่เอาไม่ดูวีดีโออย่างว่า”
“สงสัยไม่มีเสน่ห์มัดใจลุงพอจริงๆ ด้วยว่ะ ลุงไม่สนเลย”
“รู้แล้ว อีกตั้งนานกว่าจะถึงวันที่พี่นิวอนุญาต ขืนเป็นแบบนี้ลุงต้องเบื่อก่อนแน่ ผู้หญิงลุงมีเยอะแยะไม่ต้องง้อ”
“เออๆ พรุ่งนี้ค่อยคุยกัน ว่าจะเอาไงต่อดี แค่นี้นะ”
ผมรีบหลับตาลงเมื่อคนข้างๆ โน้มตัวมาหา จากลมหายใจที่เป่ารดทำให้ผมรู้ว่าใบหน้าของลิงเปี๊ยกอยู่ห่างหน้าผมไม่ถึงคืบ
“ลุงห้ามเบื่อผมนะ ห้ามถอดใจไปหาคนอื่นด้วย” เสียงบ่นพึมพำดังมาจากเด็กคิดมาก
“เหอะ ไม่ได้ผลไม่เป็นไร พรุ่งนี้จะเอาให้หนักกว่านี้ ลุงหนีผมไม่พ้นหรอก” เสียงลิงเปี๊ยกมาดมั่นจนผมขนลุก
“สู้ๆ” เจ้าตัวดีร้องออกมาก่อนล้มตัวลงนอน
ผ่านไปเกือบสิบนาที ผมรอจนแน่ใจว่าอีกฝ่ายหลับไปแล้วจึงลืมตาขึ้นมาในความมืด
โธ่เอ๊ยไอ้ตัวดีรู้ตัวไหมว่ากำลังทำอะไรอยู่ แค่นี้ผมยังเกือบตายขืนมากกว่านี้คงได้ปล้ำเด็กกันมั่งล่ะ ถ้าผิดคำพูดขึ้นมาโทษว่า
เด็กมันยั่วได้ไหมวะ
“หึหึ” ในความกลุ้มใจก็ยังมีเรื่องที่ทำให้ผมยิ้มและหัวเราะได้ เด็กหนอเด็กคิดกันไปถึงไหน ใครสั่งใครสอนให้คิดอะไรประหลาด
เบื่อเหรอไม่มีทางเกิดขึ้นหรอก ก็น่ารักแบบนี้ใครจะทิ้งเราลงฮะลิงเปี๊ยก
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>TBC<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<
**จุกไปเอาความคิดประหลาดมาจากไหน เกิดอะไรขึ้นตอนหน้าเฉลย
** เรื่องนี้สรุปอยู่ที่ 27 ตอนจบนะคะ
Darin ♥ FANPAGE