L&P 22♥2 : วัยรุ่น“ลุง”
“ครับตัวเล็ก” ลุงเงยหน้าจากเอกสารที่อ่านอยู่ขึ้นมามอง ผมเดินกระมิดกระเมี้ยนเข้าไปหา ตอนพูดมันก็ง่ายอยู่หรอก
แต่ตอนเริ่มนี่สิยากชะมัด
“ทำอะไรอยู่” คำถามโง่เง่าระดับสิบหลุดออกไปจากปากผมแบบห้ามไม่ทันจริงๆ เคยไหมเวลาตั้งใจทำอะไรสักอย่าง
แต่ดันปอดแหกขึ้นมาจึงแก้ขัดด้วยการพูดอะไรไม่คิดออกไปแทน
“อ่านเอกสารการประชุมของฝ่ายวางแผน” ดีที่ลุงยังตอบกลับมาแบบมีเนื้อหา ขืนตอบว่าอ่านเอกสารอยู่หรือ
ไม่เห็นเหรอ ผมคงได้อายกับความเสล่อของตัวเอง
“นั่งด้วยได้ไหม”
“หึหึ วันนี้ก็ขาดความอบอุ่นเหรอคะตัวเล็ก”
“อื้อ ขาดทุกวันแหละแฟนไม่ค่อยสนใจ” ผมเดินเข้าไปนั่งแปะลงบนตักของลุง แกล้งพลิกเอกสารบนโต๊ะไปมา ทำเหมือน
สนใจมันมาก ความจริงคือกล้าพูดแต่ไม่กล้าสู้หน้า
“เฮ้อ ยอมรับได้เสียทีว่ามีแฟนแล้ว” ลุงทำเป็นถอนใจใหญ่โตแต่หน้าเจ้าเล่ห์หูตาแพรวพราว
“แล้วให้เป็นหรือเปล่าล่ะ” ผมหันไปมองหน้า อย่าบอกว่าไม่ให้เป็นนะจะกระโดดกัดก้านคอให้
“เป็นมาตั้งนานยังไม่รู้ตัวอีกเด็กน้อย” สายตาลุงอ่อนแสงลง รอยยิ้มเต็มไปด้วยความอ่อนโยน มันทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ
แต่...ไม่เอาสายตาอย่างนี้สิ ผมอยากเห็นสายตาที่ทำให้ผมใจเต้นไม่เป็นส่ำ สายตาของเสือที่กำลังจ้องตะครุบเหยื่อ
สายตาที่บอกว่าลุงต้องการผม
ไม่ได้การขืนปล่อยไว้นานกว่านี้ ได้กลายเป็นน้องชายแทนแฟนแน่ กล้าๆ หน่อยเปา ฮึดเดียวทำๆ ไปเถอะ
“ลุงอาบน้ำด้วยกันไหม”
“หะ!!” เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นลุงเสียอาการเอกสารในมือร่วงผล่อย ทำให้มีกำลังใจขึ้นมาเป็นกอง
“ผมอยากแช่น้ำ คนเดียวมันไม่สนุก”
“ตัวเล็กเปิดเพลงฟังสิหรือเอาเกมเข้าไปเล่นด้วย พี่ต้องอ่านเอกสารให้จบ” ลุงหลบตาผมนั่นยิ่งทำให้ฮึกเหิมมากขึ้น
มาถูกทางแล้วโว้ยไอ้เปา
“ไม่เอา อยากให้ลุงอาบด้วย” ผมยังยืนยันคำเดิม โกยเอกสารลุงเข้าแฟ้มไม่ยอมให้อ่านต่อ
“ตัวเล็กอย่าดื้อสิคะ เป็นเด็กดีอย่ากวนพี่ทำงาน”
“เหอะ ไปก็ได้ “ผมดีดตัวลุกจากตักลุง ทำหน้างอน เดินปึงปังไปทางประตูใหญ่
ไม่ได้งอนหนีออกจากห้องหรอกครับ ผมแค่เดินไปดูให้แน่ใจว่ามันล็อคดีแล้ว โต๊ะทำงานลุงตั้งอยู่ในนอกห้องนอน ถึงจะมี
ประตูปิดอีกชั้น แต่เผื่อใครแวะมาหา ทะเร่อทะร่าเปิดเข้ามา ผมจบข่าวกันพอดี
เมื่อเห็นว่าประตูล็อคดีแล้ว ผมเดินผิวปากกลับมาที่หน้าโต๊ะทำงานลุง ทำไม่รู้ไม่ชี้เหมือนไม่มีอะไร ลุงดูโล่งอกที่ผมไม่ได้งอนจริงจัง
“ถ้าอย่างนั้นลุงทำงานไปนะ ผมไปอาบน้ำก่อน”
“ไปเถอะ” ลุงส่งยิ้มให้ผมก่อนหันกลับไปให้ความสนใจกับงานบนโต๊ะ ตอนนี้ใจผมเต้นรัวยิ่งกว่าตีกลอง พยายามสูดลม
หายใจลึกๆ อย่าคิดอะไรเปาเพราะถ้าคิดจะไม่กล้าทำ ลงมือเลย
เมื่อไม่มีเสียงเดินเข้าห้องนอนหลังจากผ่านไปหลายนาที ลุงจึงเงยหน้าขึ้นมามองด้วยความสงสัย ผมที่ยืนรอเวลานี้อยู่
รีบดำเนินตามแผนการทันที
ผมปลดกระดุมเสื้อนักเรียนออกช้าๆ มือไม้สั่นจนกลัวว่าลุงจะสังเกตเห็น ใบหน้าร้อนผ่าว ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองลุง
จึงไม่เห็นว่ามีปฏิกิริยาอย่างไร
เมื่อปลดกระดุมเสื้อออกหมด ผมปลดเข็มขัดนักเรียนเป็นชิ้นต่อไป ตั้งใจทำทุกอย่างช้าๆ ผมไม่รู้ว่ามันดูยั่วยวนพอหรือ
เปล่า นุ้ยบอกกังฟูว่าโป๊หมดไม่ทำให้เซ็กซี่หรอกต้องตอนค่อยๆ ถอด ยั่วยวนไปทีละนิดต่างหากที่เร้าอารณ์ ร้อยทั้งร้อย
ผู้ชายตายคาอก มันฟังดูก๋ากั๋นมากสำหรับเด็กมอห้า พวกผมจึงไม่คิดจะนำมาใช้ ได้แต่เลือกเดินโทงๆ อวดร่างเปลือย
แบบที่ผู้ชายทำกัน เพราะคิดไม่ออกว่าผู้ชายอย่างผมจะยั่วยวนเหมือนผู้หญิงได้อย่างไร แต่ในเมื่อเปลือยแล้วยังไม่ได้ผล
ถึงจะน่าอายไปหน่อยผมก็อยากจะลองดู
ห้องทั้งห้องเงียบกริบ ลุงไม่พูดไม่ทักอะไรขึ้นมาสักคำจนผมเริ่มใจคอไม่ดี หรือว่าลุงไม่ได้มอง ที่สุดแล้วความอยากรู้อยาก
เห็นทำให้ผมค่อยๆเงยหน้าขึ้น
ผมสบตากับลุงแต่เหมือนไม่ได้สบตา ลุงมองผมนิ่งคล้ายคนโดนสะกดจิต มันได้ผลใช่ไหม ต้องได้ผลแน่ๆ ผมรีบถอดเข็ม
ขัดออกจากเอว ก่อนค่อยๆ ปลดกระดุมกางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน รูดซิบลงแล้วปล่อยให้มันร่วงลงไปกองอยู่ที่ข้อเท้า
ผมก้าวขาออกช้าๆ ตอนนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวผมเหลือแต่เสื้อนักเรียนไม่ติดกระดุมกับกางเกงในสีดำหนึ่งตัว
ถอดเสื้อเลยได้ไหมวะ หรือต้องค่อยๆ ถอดทีละข้าง ผมชั่งใจหนักคิดแต่จะมายั่วลุงแต่ดันลืมศึกษามาให้ดีก่อนว่ามันต้อง
ลีลาประมาณไหน ตอนคิดกันก็ว่าไม่ยาก ถอดๆ ไปเน้นช้าหน่อยเป็นใช้ได้ เอาเข้าจริงขั้นตอนมันยุ่งยากกว่าที่คิดแฮะ
เอาวะ ไม่เคยเห็นผู้ชายยั่วสักทีเคยดูแต่วีดีโอผู้หญิงยั่ว เมื่อคิดไม่ออกก็ลอกมันซะเลย ผมถอดเสื้อออกที่ละข้าง แต่ยังไม่
ทันพ้นไหล่ดี คนที่เงียบมาตลอดก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงดุๆ
“ตัวเล็กทำอะไร!”
“จะอาบน้ำไงลุง อาบน้ำก็ต้องถอดเสื้อผ้า” ผมพยายามทำหน้าซื่อที่สุดเท่าที่ตัวเองจะทำได้
“มาถอดอะไรตรงนี้ไปถอดในห้อง”
“ถอดตรงไหนก็เหมือนกัน ตอนโน้น...” ผมลากเสียงยาวให้รู้ว่านานมาแล้ว
“ลุงยังบอกเองว่าผู้ชายเหมือนกันไม่เห็นต้องอาย เปลี่ยนเสื้อผ้าตรงไหนก็ได้”
“เรานี่มัน!!” ลุงทำท่าหัวเสียออกอาการหัวฟัดหัวเหวี่ยง หรือยังเซ็กซี่ไม่พอหว่า ผมกลัวว่าที่ลงทุนลงแรงไปจะเสียเปล่า
จึงเพิ่มดีกรีขึ้นอีกนิดตามแต่สมองน้อยๆ จะคิดได้
ถอดแม่งเลยแล้วกัน ว่าแล้วก็ดึงเสื้อนักเรียนที่ใส่อยู่ออกพรวดเดียวไปกองกับพื้น เอาไงกับกางเกงในดี ภาวนามาตลอด
ว่าขอให้ลุงตบะแตกก่อนจะถึงชิ้นสุดท้าย แต่ลุงไม่ยอมเล่นด้วย เอาเสียเดินมาสุดทาง ถอดไม่ถอด ถอดไม่ถอด
“ตัวเล็ก!!” ยังไม่ทันได้ตัดสินใจ ลุงลุกพรวดจากเก้าอี้ทำงาน หยิบเสื้อคลุมที่พาดอยู่หลังเก้าอี้มาคลุมลงบนบ่า คลุมไม่คลุม
เปล่าห่อผมอย่างกับหมูยอ
“อย่าเล่นแผลงๆ”
“ใครเล่น ผมไม่ได้เล่น” ผมเกือบตะโกนออกไปว่าผมเอาจริง ดีว่าสติยังพอมีอยู่บ้างจึงสวนไปตามที่วางแผนมา
“ผมจะอาบน้ำ” ผมเห็นลุงถอนใจออกมาเฮือกใหญ่ จ้องตาผมนิ่งก่อนทำหน้าเหมือนยอมแพ้
“เอาเถอะ ทำขนาดนี้ก็มาคุยกันให้รู้เรื่อง” ลุงจับมือผมลากให้เดินตามไปนั่งที่โซฟา
“คิดอะไรอยู่” ลุงจิ้มนิ้วเบาๆ ที่ขมับผม แต่ผมเลือกที่จะนิ่ง เรื่องอะไรจะบอก ที่คิดจะยั่วให้ตบะแตกอยู่นี่ไม่ใช่เพราะไม่
อยากพูดให้เสียฟอร์มเหรอ อยากให้ลุงเป็นคนเริ่มก่อนแล้วผมจะทำหน้าเนียนๆ เหมือนไม่รู้เรื่องไป
“ว่าไงครับตัวเล็ก คิดจะทำอะไรบอกพี่สิ”
“เปล่า” ผมเผลอขึ้นเสียงสูงจนลุงหัวเราะหึหึออกมา
“เปล่าแล้วทำไมต้องร้อนตัว”
“ลุงคิดมากไปเองไม่มีอะไรเสียหน่อย”
“ไม่ใช่พี่มั้งครับที่คิดมาก น่าจะเป็นลิงตัวเล็กๆ แถวนี้มากกว่า”
“คำก็ลิงสองคำก็ลิง ผมไม่ใช่ลิงเสียหน่อย ผมเป็นคน คนน่ารักด้วย” ผมสะบัดเสื้อที่ลุงคลุมอยู่ออก ให้มันรู้ซะบ้างว่าผมก็
น่ามองเหมือนกัน ไม่ใช่เป็นแค่เด็กหรือลิงเปี๊ยกอย่างที่ลุงพูด
“ไม่น่ารักเหรอ” ผมปฏิบัติการสิ้นคิดเพราะโมโหที่ทำอะไรลงไปแล้วไม่ได้ผลสักอย่าง ขยับตัวปีนขึ้นไปนั่งคร่อมตักโดยหัน
หน้าเข้าหาลุง ทั้งตัวมีแค่กางเกงในสีดำปิดร่ากาย
“.........”
“ว่าไงครับ ผมไม่น่ารักเหรอ” ผมเบียดตัวเข้าไปแนบชิดอีกนิด ยกมือขึ้นกอดคอลุงเอาไว้เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเงียบไม่ยอมตอบ
ผมทำใจกล้าสบตาลุง ทั้งที่ข้างในแทบจะเป็นบ้า มันตื่นเต้นมันใจสั่น ทั้งกล้าทั้งกลัวปะปนกันให้มั่วไปหมด
“ลุง” ผมเผยอปากออกนิดๆ เงยหน้าทำมุมสี่สิบห้าองศา ท่านี้ผ่านการฝึกฝนมาจากคลิปที่ภูมิหาส่งมาให้ เขาว่ามัน
ทำให้เซ็กซี่
“จะฆ่าพี่หรือตัวเล็ก” ผมยังไม่ทันตอบ ริมฝีปากหนาก็ประกบลงมาราวกับพายุ ปิดกั้นทุกเสียงที่จะลอดออกมา
“อื้อ” ผมได้แต่ครางอือ หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เมื่อจูบนั้นทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ มันต่างจากจูบครั้งก่อนๆ ที่ผมเคยได้
ลิ้มลอง มันเร่าร้อน ดุดัน และแปลกใหม่จนผมหัวหมุน
ผมเงอะงะ ได้แต่เผยอดปากและปล่อยให้ลุงเป็นผู้นำทาง ลิ้นร้อนไล่ต้อนไปทั่วโพรงปาก ดูดดื่มความหวานราวกับหิว
กระหายมานาน ทำให้เลือดในกายของผมพลุ่งพล่าน ลมหายติดขัด ผมถูกครอบงำจนไม่เหลือสติให้นึกคิดสิ่งใด
“ทำอะไรแบบนี้ ไม่รู้หรือว่ากำลังเล่นกับไฟ” ลุงถอนริมฝีปากออกแต่ยังคลอเคลียอยู่ไม่ห่าง ผมรีบหายใจเอาอากาศเข้า
ปอด รู้สึกเหมือนคนกำลังจะจมน้ำ ไม่มีสติพอจะช่วยเหลือตัวเองได้
“ถ้าพี่อดใจไม่ไหวมันจะเป็นยังไงรู้ไหม”
“อ่า..” ผมร้องครางออกมา เมื่อฝ่ามือหนาลูบไล้ไปทั่วแผ่นอก ก่อนนิ้วเรียวจะสะกิดเข้าที่ตุ่มไตสีแดงเข้ม มืออีกข้างกด
สะโพกผมลงให้บั้นท้ายบดเบียดกับช่วงกลางลำตัว
“อ๊ะ!” ผมนั่งตัวแข็ง ตาเบิกกว้างหัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ อะไรบางอย่างเต้นตุบๆ ทักทายก้นผมเบาๆ
“อ๊ากกก” คราวนี้สติผมหลุดกระเจิงของแท้ แหกปากร้องลั่นห้อง มันรู้สึกแปลกๆ มันจั๊กจี้ มันสยิว มันบรรยายไม่ถูก
“ลุง..ลุง..” ผมพูดออกมาได้เป็นคำ หน้าคอหูแดงจนรู้สึกได้ว่ามันร้อนเห่อขึ้นมา ผมรีบยันอกลุงออก ไม่ไหวแล้วขอ
หนีไปตั้งหลักไกลๆ ก่อนเถอะ
“จะไปไหน” ลุงเลื่อนมือมาจับเอวผมไว้ทั้งสองข้าง กดให้ท่อนล่างแนบชิดกันเหมือนเดิม ไม่ยอมให้ผมเผ่นหนีไปได้ง่าย
“ตัวเล็กอยากให้พี่ทำอะไรครับไหนบอกสิ”
“ไม่..ไม่ต้องแล้ว” ผมรีบสั่นหน้าจนผมสะบัดไปมา ไม่เอาแล้ว!!
“อยากให้พี่กอดเหรอ” ลุงเปลี่ยนมือมากอดรัดผมแน่น จนยอดอกถูไถไปกับเสื้อเชิ้ต มันเสียววูบจนผมเผลอครางออกมา
“หรืออยากให้พี่จูบ” ริมฝีปากได้รูปฉกลงมาบดเคล้า ฟันคมขบเม้มหยอกเย้ากับริมฝีปากสั่นระริกของผม มือหนาลูบไล้ลง
ไปเรื่อยๆ จากกลางแผ่นหลังสู่สะโพก บีบเคล้นอย่างเมามัน ก่อนที่จะ...
ผมตะปบมือลงบนมือของลุงที่เกี่ยวอยู่บนขอบกางเกงในตัวน้อยปราการชิ้นเดียวที่ผมใส่อยู่ ยึดเอาไว้แน่นไม่ให้ขยับไปไหนได้
“สะ..สองปีก็สะ..สองปี รอลุ้นเอาก็ได้ ผมไม่เอาแล้ววว” ผมละล่ำละลักจนเกือบไม่เป็นคำพูด
“สองปีอะไรครับตัวเล็ก” ดูเหมือนความสงสัยในคำพูดของผมจะหยุดความหื่นของลุงไว้ได้
“......”
“ตัวเล็ก” เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายตั้งท่าจะจู่โจมอีกครั้งเมื่อผมไม่ยอมตอบ คำพูดจึงหลั่งไหลออกมาราวกับน้ำป่าไหลหลาก
ผมสารภาพออกไปหมด ว่าผมกลัวลุงอดใจรอสองปีไม่ไหวไปมีคนอื่น กลัวลุงถอดใจเรื่องผมเสียก่อนจึงต้องทำแบบนี้
“ฮ่าๆๆ” ลุงหัวเราะขำ จนเผลอคลายมือออก ผมรีบดึงกางเกงในที่ถูกเกี่ยวลงมาถึงสะโพกขึ้น ค่อยหายใจหายคอได้คล่องหน่อย
“เด็กเอ๊ยเด็ก เพราะแบบนี้เหรอเลยคิดเลอะเทอะว่าพี่จะเบื่อ”
“เอ๋? ผมบอกว่าผมกลัวลุงไม่อยากรอแล้วไปหาผู้หญิงคนอื่น ไม่ได้พูดว่ากลัวลุงเบื่อนะ” ผมหรี่ตามองคนที่ส่งยิ้มพราว
มาให้ หน้าเจ้าเล่ห์แบบนี้ไม่น่าไว้ใจสักนิด
“พูด ตัวเล็กเป็นคนพูดให้พี่ฟัง”
“ผมไม่ได้พูด” ผ่านไปยังไม่ถึงห้านาทีทำไมผมจะจำไม่ได้ ไม่ได้สมองเท่าปลาทองเสียหน่อย
““ลุงห้ามเบื่อผมนะ ห้ามถอดใจไปหาคนอื่นด้วย” ผมชะงักกึกเมื่อลุงเจ้าเล่ห์พูดบางประโยคออกมา
นั่นมัน..นั่นมัน...
“พี่ไม่เบื่อตัวเล็กหรอกครับไม่มีวัน มีแต่จะรักมากขึ้นหวงมากขึ้น อย่ากังวลไปเลย “
“อ๊ากกก” ผมกลิ้งตัวลงกับโซฟา อยากจะมุดหน้าแทรกลงไป อายจนพูดไม่ออกบอกไม่ถูก ลุงไม่ได้หลับหรอกเหรอ
ลุงได้ยินผมพูดหมดเลยเหรอ โอ๊ย!! ใครก็ได้ฆ่าผมที
“ฮ่าๆ มานี่เลยตัวเล็ก” ลุงไม่ยอมให้ผมตายอย่างสงบ ลากผมขึ้นมานั่งจ้องหน้าจนได้
“อย่าคิดมากอีก ที่พี่ไม่ยุ่งไม่ยอมเข้าใกล้ไม่ใช่เพราะตัวเล็กไม่มีเสน่ห์ แต่เพราะมีเสน่ห์มากเกินไปต่างหาก มากจนพี่กลัว
ว่าตัวเองจะผิดคำพูดกับนิว ถึงต้องรักษาระยะห่างเอาไว้”
“แล้วถ้ามันนานๆ ไป ลุงจะทนได้จริงเหรอ สองปีไม่ใช่แป๊บๆ ลุงจะไม่ได้ทำเรื่องอย่างว่าสองปีเลยนะ”
“ทนได้สิ เพื่อให้ได้ตัวเล็กมาเป็นของพี่คนเดียวทำไมจะทนไม่ได้ อยากปล้ำอยู่คนเดียวนี่แหละ”
“ลุงอะ” ผมเขินหน้าแดงเมื่อสายตาลุงมองมาอย่างหื่นกระหาย นี่อย่างไรล่ะสายตาของเสือที่ผมตามหา
“อีกอย่าง...” ลุงพูดแล้วหยุดไป ยกยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก ทำให้ผมอดรู้สึกตะครั่นตะครอขึ้นมาไม่ได้
“อีกอย่างอะไรครับ”
“ใครว่าสองปีกว่าแค่สี่เดือนเท่านั้น ไม่ใช่สิไม่ถึงสี่เดือนแล้ว”
“สี่เดือน? สี่เดือนอะไร” คนเจ้าเล่ห์ไม่ยอมตอบเอาแต่มองผมยิ้มๆ
“อีกสี่เดือนผมก็..” ผมทำท่าคิด พยายามนึกว่ามีอะไรสำคัญ อีกสี่เดือนก็วันเกิดผม ผมจะอายุสิบแปดปี
“อ่า!” ม่านตาผมขยายกว้าง สิบแปด ลุงจะรอแค่ผมสิบแปดไม่ใช่ยี่สิบ
“ตะแต่..สิบแปดผมยังไม่บรรลุนิติภาวะเลยนะลุง”
“ใช่สิบแปดยังไม่บรรลุนิติภาวะ แต่หลุดจากข้อหาพรากผู้เยาว์”
“แต่พี่นิวบอกว่าให้โตก่อน”
“นิวไม่ได้บอกว่าโตคืออายุเท่าไหร่ สำหรับพี่สิบแปดกำลังโตพอดี”
“แต่..แต่..”
“จะแต่อะไรครับตัวเล็ก ใครกันอยากให้พี่พรากผู้เยาว์ตั้งแต่ตอนนี้ ยั่วพี่จนแทบทนไม่ไหวแล้วจะมาแต่กับพี่ทำไม”
“งื้อ” ผมพูดไม่ออก เพราะคำพูดขัดกับพฤติกรรมตัวเองอย่างรุนแรง โธ่ถ้ารู้ว่าลุงรอแค่สี่เดือน ผมจะลุกขึ้นมาทำอะไรบ้าบอ
แบบนี้ไหม
“ทีนี้เรามาต่อกันได้หรือยัง” มือที่ลูบไล้อยู่บนขาอ่อนทำเอาผมขนลุกซู่
“ผม..ผมจะไปอาบน้ำ”
“ได้ ไปอาบด้วยกันเดี๋ยวพี่แช่น้ำเป็นเพื่อน”
“ไม่แช่แล้ว ผมง่วง ฮ้าววว” ผมรีบยกมือปิดปาก หาวไปด้วยหรี่ตามองลุงด้วยความระแวงไปด้วย
“หึหึ”
“ลุงกลับไปทำงานได้แล้ว อย่าอู้”
“ไม่อู้คงไม่ได้ ต้องไปจัดการบางอย่างให้เรียบร้อยก่อน” ผมมองตามสายตาลุง ก่อนจะอ้าปากค้างเมื่อเห็นบางอย่างพอง
นูนขึ้นมาจนเห็นได้ชัด
“ละ..ลุง. ลุง.”
“ให้พี่ช่วยทำให้ตัวเล็กด้วยไหม” สายตาที่มองมา ทำให้ผมรีบยกมือสองข้างขึ้นปิดส่วนสงวน มันพองตัวขึ้นมานิดๆ
ให้เจ้าของได้ขายหน้าเล่น
“หึหึ ทีนี้จะซนอีกไหม” ผมรีบส่ายหน้า แต่อย่าหวังว่าจะยอมเอามือออก
“ไป ไปอาบน้ำได้แล้วก่อนที่พี่จะอดใจไม่ไหวขึ้นมาจริงๆ” ไม่ต้องรอให้ลุงบอกซ้ำ ผมโดดลงจากโซฟาวิ่งร้อยเมตร
เข้าห้องนอนปิดประตูตามหลังดังโครม
ไม่เอาอีกแล้ว ไม่เล่นกับไฟอีกแล้ว โดยเฉพาะไฟที่ชื่อวายุ ไม่น่าลืมเลยว่าไฟที่มาพร้อมลมมันลุกไหม้ได้รวดเร็วแค่ไหน
ไหม้จนผมเกือบละลายไปทั้งตัว
ผมยกมือขึ้นแตะปากตัวเอง ความรู้สึกเมื่อครู่จู่โจมกลับมาอีกครั้ง อีกสี่เดือน...
โอ๊ย!! ไอ้บ้าเปา ผมทุบมือลงบนหัวตัวเอง คิดอะไรของเอ็งอยู่วะ กลัวๆ อยากๆ ทำเหมือนผีเข้าผีออกไปได้
ต้องโทษลุงเลยเก่งเกินไปแล้ว ทำเอาเด็กวัยอยากรู้อยากเห็นอย่างผมใจแตกหมด ไอ้ลุงบ้า! ไอ้ลุงนิสัยไม่ดี!!
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>TBC<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<
Darin ♥ FANPAGE