L&P 23 : ความหึงหวงของเด็กน้อย“ลุงเราจะไปที่ไหนกัน” ลิงเปี๊ยกถามผมด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น สามแสบนั่งชะเง้อคอมองออกไปนอกหน้าต่างรถ
“ร้านfood&drinkของเพื่อนพี่” เนื่องจากลิงเปี๊ยกและผองเพื่อนยังอายุไม่ถึงยี่สิบ ผมจึงเลือกร้านที่เหมาะสมให้
พูดไปมันก็แทบไม่แตกต่างจากผับเพียงแต่ลุกขึ้นเต้นไม่ได้เท่านั้นเอง
วันนี้ลิงเปี๊ยกสอบเสร็จเป็นวันสุดท้าย ผมสัญญาไว้ว่าถ้าตั้งใจอ่านหนังสือจะพาไปเที่ยวกลางคืน ผมทำเหมือนที่พ่อเคยทำ
กับผมและน้องๆ คือหัดให้ด้วยตัวเอง ให้ลองดื่มลองเที่ยวในสายตาดีกว่าขึ้นมหา’ลัยแล้วถูกคนอื่นลากไป ไม่รู้ลิมิตตัวเอง
ไม่เคยไปมาก่อนจะดูแลตัวเองไม่รอด
“ไม่ใช่ร้านคนแก่ใช่ไหมลุง” ดูลิงเปี๊ยกถามผม ถ้าไม่ติดว่ามีเพื่อนมาด้วยอีกสองคือภูมิและกังฟู ผมจะลงโทษให้เข็ดหลาบ
คำก็ลุงสองคำก็แก่
“อยากรู้ก็ต้องไปดูเองว่าแต่แต่งตัวอะไรมา” ผมแอบขำแต่ไม่กล้าหัวเราะกลัวลิงเปี๊ยกงอน สามแสบพกเสื้อผ้าใส่กระเป๋า
ไปโรงเรียนด้วย จัดการเปลี่ยนหลังสอบเสร็จก่อนที่ผมจะแวะไปรับ
“หล่อหรือเปล่า” ลิงเปี๊ยกยืดอกให้ผมดู ท่าทางภูมิใจมากกับชุดที่เลือก นี่มันชุดเด็กน้อยชัดๆ ไม่ใช่ชุดหนุ่มนักเที่ยว
เสื้อยืดสีดำลายหุ่นยนต์ กางเกงยีนส์ทรงกระบอกสีเข้มไม่มีแม้แต่รอยแมวข่วน รองเท้าผ้าใบสีขาวสะอาดตา อีกสองคนก็ไม่ต่าง
ผมเดาว่าคงช่วยกันเลือก มันดูเด็กเกินไป ธรรมดาเกินไป แต่เอาเถอะผมจะไม่พูดปล่อยไว้แบบนี้ดีแล้ว
“หล่อ” ผมพยักหน้ารับ ถึงจะดูเป็นเด็กแต่ไม่ดูเชยแต่งออกมาเหมาะสมกับวัย ผมชอบให้ลิงเปี๊ยกเป็นแบบนี้
“เราไปกันแค่สามคนใช่ไหมครับ” ลิงเปี๊ยกถามให้แน่ใจเพราะผมยังไม่ได้บอกรายละเอียดอะไร นัดแต่ว่าจะพาไปเที่ยว
“เดี๋ยวพรตจะตามมาด้วย”
“อ๋อ พี่พรตเป็นเพื่อนของลุงเรียบจบมาจากที่เดียวกัน” ลิงเปี๊ยกหันไปอธิบายให้เพื่อนฟังคร่าวๆ
“อีกคนชื่อต้นเป็นเจ้าของร้าน อาจจะแวะมาทักบ้างแต่ไม่ได้นั่งร่วมโต๊ะ ไปถึงแล้วจะแนะนำให้รู้จักกันไว้”
“ครับ” สามแสบตอบรับอย่างพร้อมเพรียง เห็นหน้าแต่ละคนแล้วผมชักสงสัยว่ากำลังพาเด็กไปเที่ยวกลางคืนหรือกำลังพา
นักเรียนไปทัศนศึกษากันแน่
✪✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✪
“คุณต้นสั่งให้จองโต๊ะนี้ไว้ให้ค่ะ มุมดีเห็นเวทีชัดไม่หนวกหูเกินไป” พนักงานของร้านพาผมไปที่โต๊ะ
“ขอบคุณครับฝากบอกต้นด้วยว่าผมมาถึงแล้ว”
“ได้ค่ะคุณลม เครื่องดื่มเหมือนเดิมนะคะ”
“ครับแต่บอกคนชงด้วยว่าของน้องสามแก้วขอแบบอ่อนหน่อยอย่าเข้มมาก”
“ได้ค่ะ เดี๋ยวจะยกมาวางให้นะคะ” เพราะเป็นร้านของเพื่อนจึงมีพนักงานมาบริการชงเหล้าให้โดยไม่ต้องทำเอง
“ชอบกันไหม” ผมถามสามแสบที่พากันหันหน้าไปมองเวทีเป็นตาเดียว ช่วงเย็นที่ร้านยังเป็นวงอะลูสติก พอค่ำๆ หน่อยถึง
จะเปลี่ยนเป็นวงดนตรีเต็มวง
“ชอบครับ”
“มานานหรือยังวะ” ผมมัวแต่มองลิงเปี๊ยกจึงไม่เห็นพรตกับต้นที่เดินเข้ามาพร้อมกัน
“เพิ่งมา”
“ตัวเล็ก” ผมเรียกลิงเปี๊ยก หางตาเห็นต้นส่งยิ้มล้อเลียนมาให้
“นี่พี่พรต พี่ต้น”
“สวัสดีครับ”
“นี่เปา ภูมิกับกังฟู” ผมแนะนำให้ทั้งสองฝ่ายรู้จักกัน โต๊ะที่นั่งเป็นโต๊ะสำหรับหกที่ สามแสบนั่งฝั่งเดียวกัน พรตกับต้นจึงนั่งลง
ฝั่งเดียวกับผม
“อยากเจอตัวมาตั้งนาน” ต้นพูดลอยๆ ไม่ระบุว่าอยากเจอใคร
“น่ารักดีนี่หว่า”
“มันแน่อยู่แล้ว” ผมมองลิงเปี๊ยกยิ้มๆ ไม่มีกระดากอาย
“เครื่องดื่มค่ะ” พนักงานยกเครื่องดื่มเข้ามาเสิร์ฟ จึงทำให้การสนทนาหยุดลง
“คุณต้นรับเครื่องดื่มด้วยไหมคะ”
“ขอแก้วนึง บอกชินดูแลแขกแทนด้วย”
“แนะนำตัวเสร็จก็กลับไปทำงานทำการได้แล้ว” ผมไล่เจ้าของร้านเพราะเล่นมองไอ้ตัวเล็กตาเยิ้ม เพื่อนก็เพื่อนเถอะ
มองแฟนคนอื่นแบบนี้ก็หึงได้
“ทำงานต้อนรับแขกวีไอพีอยู่นี่ไม่เห็นเหรอวะ” ต้นชอบใจที่ยั่วยุผมได้ เจ้านี่เป็นเสือไบมาตั้งแต่สมัยเรียน ชื่อเสียงไม่ต้องพูดถึง
“เล่นแต่พอดีเถอะวะเอ็ง เดี๋ยวลมมันก็พังร้านเอา” พรตเตือนต้นขำๆ
“หวงนะมึง”
“เออ” ผมรับคำ รู้ว่าเพื่อนไม่ยุ่งแต่หวงก็คือหวง
“พูดอะไรกันดูหน้าน้องมันบ้างอึดอัดจนนั่งตัวลีบตัวแบน” พรตเตือนสติเมื่อการสนทนามีแต่พวกผมที่คุยกัน
“ขอโทษนะครับน้องๆ อย่าถือสาเลยนานๆ พวกพี่เจอกันทีเลยต้องขออัพเดทหน่อย” ต้นหันไปขอโทษขอโพย
โดยเฉพาะกับลิงเปี๊ยก
“ไม่เป็นไรครับ” ลิงเปี๊ยกรีบส่ายหน้าปฏิเสธแต่ก็เห็นชัดว่าเจ้าตัวทั้งเขินทั้งอึดอัด
“กูไปดีกว่า เดี๋ยวแวะมาหาเรื่อยๆ”
“ไปเถอะ” ผมไม่ได้รั้งต้นเอาไว้เพราะอยากให้ลิงเปี๊ยกกับเพื่อนๆ ได้สนุกกัน
✪✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✪
“แหวะ ไม่เห็นอร่อยเลยลุง” ลิงเปี๊ยกเกือบจะพ่นเหล้าออกจากปาก หลังจากยกเหล้าแก้วแรกที่พนักงานชงให้ขึ้นชิม
ทำหน้าเหมือนฝืนกินยาขมเข้าไป
“แล้วใครบอกว่ามันอร่อย” ผมกวักมือเรียกพนักงานสั่งให้เปลี่ยนเป็นผสมน้ำอัดลมทั้งสามแก้วเพราะดูหน้าอีกสองคนที่
เหลือถึงไม่ได้บ่นออกมาก็คงรู้สึกไม่ต่างกัน
“อืม อันนี้อร่อย” ลิงเปี๊ยกยกจิบๆ เมื่อเห็นว่าดื่มได้ก็ซดเข้าไปทีเดียวครึ่งแก้วจนผมต้องรีบปรามไว้
“ระวังมันอร่อยเพราะหวานน้ำอัดลม ดื่มเพลินจะเมาไม่รู้ตัว”
“ครับ” ลิงเปี๊ยกพยักหน้าแต่ก็ยับแอบดื่มทีละหลายอึก
“ลุงนี่ใครวะลม” พรตรอโอกาสนี้มานาน เมื่อเห็นผมแปลงร่างเป็นผู้ปกครองเด็กๆ เสร็จเรียบร้อยจึงรีบถามขึ้นมาทันที
“อุ๊บ!!” ไม่ต้องหันกลับไปมองผมก็รู้ว่าเสียงใครอุทาน วันนี้ลิงเปี๊ยกลืมเปลี่ยนสรรพนามเรียกผมต่อหน้าเพื่อน
“อยากเป็นลุงด้วยหรือเปล่าล่ะจะได้ให้เรียก” ผมไม่ตอบคำถามเพื่อนเพราะรู้ว่าเป็นคำหยอกเท่านั้นมีหรือพรตจะไม่รู้ว่าหมายถึงใคร
“ฮ่าๆ ไม่ล่ะ เป็นพี่หล่อดีแล้วเป็นลุงไม่ไหวเสียความมั่นใจหมด”
“คุณลมคะ โต๊ะโน้นฝากมาให้ค่ะ” ผมหยุดคุยเพื่อหันไปรับกระดาษโน้ตที่พนักงานเดินเข้ามาส่งให้
“โต๊ะไหนเหรอ” พรตเป็นคนถามขึ้นมา
“โต๊ะโน้นค่ะ” ผมหันไปมองตามมือของพนักงาน เห็นสาวๆ กลุ่มหนึ่งนั่งอยู่ ผู้หญิงในชุดรัดรูปสีดำยกแก้วเหล้าขึ้นเพื่อประกาศ
ว่าเป็นเธอเอง ผมยิ้มรับและโค้งศีรษะให้พอเป็นพิธีก่อนหันกลับมาตามเดิม
“ไม่เคยรอดเลยนะเอ็งมาเมื่อไหร่ได้เมื่อนั้น เห็นใจคนไม่มีแฟนบ้างสิวะ ไหนเอามานี่” ผมส่งแผ่นกระดาษให้พรต
“เบอร์โทรกับไลน์”
“ทิ้งไปเถอะ” ผมไม่ใส่ใจ ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็ไม่แน่แต่เดี๋ยวนี้ผมมีตัวจริงแล้ว
“ขอผมดูหน่อยครับ” ลิงเปี๊ยกยื่นมือมาขอ พรตจึงส่งให้ สามแสบก้มลงดูพร้อมกันจนหัวชน
“ลุงได้แบบนี้ตลอดเลยเหรอเวลามาเที่ยว” ลิงเปี๊ยกเงยหน้าขึ้นมาจ้องหน้าผม
“ใช่เปาไม่เคยขาด ไม่ใช่แค่ที่นี่นะไปร้านไหนลมมันก็ได้หมด” พรตไม่ปล่อยโอกาสแกล้งผมให้หลุดลอย
“สวยด้วยเปา” กังฟูสะกิดเพื่อนให้หันไปมอง ผมเลยเผลอมองตามสายตาลิงเปี๊ยกไป ถึงเห็นว่าผู้หญิงยังมองมา
“แต่งตัวโป๊เป็นบ้า กระโปรงจะปิดไม่มิดอยู่แล้วยังจะนั่งไขว่ห้างอีก” กังฟูบ่น ดูท่าจะไม่ชอบผู้หญิงสไตล์สวยเผ็ด
“เงียบก่อน ไปมองเขามากเขาเดินมาเลยเห็นไหม” ภูมิรีบบอกให้เพื่อนหยุดพูด เมื่อสาวชุดดำถือแก้วเหล้าเดินตรงมาหา
“ขอชนแก้วหน่อยนะคะ” แก้วเหล้าในมือขาวถูกยื่นมาข้างหน้าผม
“ได้ครับ” ผมยกแก้วเหล้าขึ้นชนตามมารยาท
“ตรงนี้ว่างไหมคะ ขอรีนนั่งด้วยได้ไหม” ตรงนี้คือเก้าอี้ว่างข้างผม ผมกำลังจะปฏิเสธโดยบอกว่าเก้าอี้มีเจ้าของแล้ว
แต่ไม่ทันเด็กบางคน
“นั่งตรงนี้ดีกว่าครับผมจะย้ายไปพอดี” ลิงเปี๊ยกลุกพรวดขึ้นยืนก่อนเดินดุ่มๆ เฉียดหน้าสาวชุดดำกระแทกตัวลงนั่งข้างผมเอาดื้อๆ
“เอ่อ..ตรงโน้นก็ได้ค่ะ” สาวชุดดำอึกอักแต่ยังไม่ละความพยายามเดินอ้อมโต๊ะไปนั่งข้างภูมิที่ขยับไปนั่งติดกังฟูแทน
“มาเฉพาะหนุ่มๆ ไม่เหงาหรือคะ ไปนั่งรวมกับกลุ่มรีนนะคะจะได้มีเพื่อนคุย” โต๊ะไม่ใช่อุปสรรคสำหรับบางคน สาวชุดดำโน้มตัว
ข้ามโต๊ะมาหาผม ก้มต่ำจนมองเห็นร่องอกลึกลงไป สายตาที่ส่งมายั่วยวนและเชิญชวนอย่างไม่คิดจะปิดบัง
“ป้ามากับเพื่อนเหรอครับ” เด็กน้อยข้างผมทำหน้าตาซื่อๆ ถามออกไปด้วยเสียงอันดัง เล่นเอาสาวสวยหน้าตึงขึ้นมาทันที
“น้องคะพี่ก็พอค่ะ ใช่ค่ะพี่มากับเพื่อนไปนั่งด้วยกันไหม” สาวชุดดำขยับกลับไปนั่งตัวตรงแต่ยังฝืนยิ้มออกมาได้
“ผมก็อยากไปครับ พี่สวยๆ กันทั้งนั้นเลยแต่ผมเกรงใจ”
“อุ๊ย ไม่ต้องเกรงใจค่ะไปได้ ไปกันนะคะ” สาวชุดดำอารมณ์ดีขึ้นมาทันทีเมื่อหย่อนเบ็ดสำเร็จ
“จะดีหรือครับ ผมกลัวไปนั่งแล้วพวกพี่จะถูกมองว่าพาลูกมาด้วย”
“หึ” ผมหลุดเสียงออกมาก่อนจะรีบกลั้นเอาไว้ทัน พยายามทำหน้าให้ปกติที่สุด แต่พรตถึงกับต้องเบือนหน้าหนีเพื่อซ่อน
รอยยิ้มเอาไว้
“อะไรนะ!!” หน้าที่ทาสีแดงเข้มอยู่แล้วตอนนี้ยิ่งดูแดงเข้าไปใหญ่
“ผมบอกว่าถ้าพวกผมไปนั่งด้วย จะไม่มีใครจีบพวกพี่นะครับเขาจะนึกว่าพาลูกมาเที่ยว ยิ่งอายุกับหน้าพี่ให้อยู่ด้วย เมื่อกี้
ผมถึงเรียกผิดไงนึกว่าเป็นป้า”
“ไอ้..อีเด็ก......” ผมรู้สึกเหมือนผู้หญิงชุดดำอยากพูดอะไรสักอย่างออกมาเพราะเห็นเผยอปากเป็นระยะ แต่สุดท้ายก็ทำได้แค่
สะบัดหน้าเดินกระแทกเท้ากลับไปโต๊ะตัวเอง
“เปาแสบดีจริงๆ ตบมือให้” พรตที่กลั้นหัวเราะเอาไว้ปล่อยก๊ากออกมาทันที
“แสบนักนะเรา” ผมยกมือขึ้นลูบหัวเจ้าเด็กแสบด้วยความเอ็นดู แต่สายตาที่ตวัดขึ้นมองเล่นเอาหนาวๆ ร้อนๆ
“พี่ไม่เกี่ยว” ใครจะว่าปอดแหกก็ยอมครับ ก็สายตาลิงเปี๊ยกเล่นจะกินเลือดกินเนื้อกันขนาดนั้น
“เจ้าชู้นักนะลุง”
“พี่เปล่า”
“เชื่อก็โง่แล้ว” ลิงเปี๊ยกดูเหมือนโกรธแต่กลับขยับเก้าอี้มาชิดเก้าอี้ผมแถมขยับตัวตามมานั่งเบียด
“พี่มีตัวเล็กคนเดียว” ผมส่งยิ้มเอาใจก่อนยกมือขึ้นพาดไปบนบ่าเล็กรวบเข้ามาชิดยิ่งขึ้น
“อะแฮ่ม” เกรงใจกันบ้างเถอะวะ ไม่เกรงใจฉันก็เกรงใจน้องๆ มัน ใจแตกหมดแล้ว เสียงของพรตทำให้ผมคืนสติ เกือบเข้าสู่
โลกส่วนตัวเสียแล้ว
“ไม่เป็นไรครับตามสบายพวกผมโตแล้ว” ภูมิเปิดทางให้
“ต่อไปอย่าปล่อยลุงไปเที่ยวไหนคนเดียวรู้ไหมเปา ผู้หญิงชอบมันเยอะต้องตามคุมเอาไว้” พรตเริ่มมาตรการชั่วร้าย
เสี้ยมลิงเปี๊ยกให้คุมผม แต่ผมไม่คิดห้ามดีเสียอีกเข้าทางลิงเปี๊ยกจะได้ตัวติดกับผมตลอดเวลา
““ผมไม่คุมหรอกครับถ้าคนมันจะเจ้าชู้ห้ามได้ที่ไหน” คนไม่คุมไม่ยักจะขยับตัวหนี ปกติผมแสดงออกต่อหน้าคนอื่นได้ที่ไหน
หนนี้นั่งเอามือกอดไหล่ไว้ตั้งนานไม่ห้ามผมสักคำ
“เปา” กังฟูเรียกเสียงเบาข้ามโต๊ะ
“อะไร”
“ฉันกับภูมิจะไปห้องน้ำไปไหม”
“ไม่ไป” ลิงเปี๊ยกไม่กตามเพื่อนไปเข้าห้องน้ำยังปักหลักนั่งเบียดอยู่กับผม
“พี่พาไปเองอยากเข้าด้วยเหมือนกัน” พรตลุกขึ้นยืนอาสาพาภูมิกับกังฟูไป
“สนุกไหม” ผมเอียงคอไปกระซิบใกล้ๆ
“ไม่เห็นสนุกเลยเที่ยวกลางคืนไม่เห็นจะดีตรงไหน” น้ำเสียงลิงเปี๊ยกใส่อารมณ์ ดูหงิดหงิดไม่ชอบใจจริงๆ
“หึหึ ไม่สนุกเพราะมัวแต่หึงพี่อยู่หรือเปล่าครับตัวเล็ก”
“..........”
“ว่ายังไงครับ หึงพี่ใช่ไหม”
“รู้แล้วจะถามทำไมเล่า” ลิงเปี๊ยกพูดเสียงสะบัดหน้าแดงไปถึงหูไม่ยอมเงยหน้าขึ้นสบตาผม
“รู้แล้วแต่อยากได้ยินกับหู อยากมีความสุขบ้างว่าตัวเล็กก็รักพี่มากเหมือนกัน”
“ผมไม่ได้พูดนะ ไม่ได้พูดสักหน่อยว่ารักลุง”
“จะเชื่อฟังเจ้าวินไปถึงไหน รู้ไหมว่าเจ้าคุณชายหมอทำไปเพราะอยากแกล้งพี่ที่ไปทำให้หวานใจมันปวดหัว”
“สมควรโดนแล้ว”
“ไม่เอาสิคะไม่สงสารพี่เหรอ ใจตรงกันมาตั้งนานไม่ยอมเป็นแฟนไม่ยอมบอกว่ารักพี่เสียที บอกนะตัวเล็ก“ ผมคะยั้นคะยอ
“มาถามอะไรตอนนี้เล่า ดูสถานที่กับใครเขาบ้างไหม”
“ถ้าอย่างนั้นกลับบ้านไปบอกพี่นะ”
“ไม่บอกจ้างให้ก็ไม่บอก” ลิงเปี๊ยกแลบลิ้นใส่ผม ได้แฟนเด็กมันลำบากแบบนี้นี่เองจะทำอะไรก็ไม่ได้ติดขัดไปหมด
ถ้าโตกว่านี้จะปล้ำให้ ดูสิจะดื้ออีกไหม
“มาแล้ว” กังฟูเดินนำหน้าภูมิกลับมานั่งที่โต๊ะ
“พรตล่ะ” ผมถามเมื่อไม่เห็นเพื่อนเดิมตามมาด้วย
“พี่พรตแวะคุยกับเพื่อนครับ ผมเห็นพี่ต้นก็นั่งอยู่ด้วย”
“อืม” ผมพยักหน้ารับรู้
“ขอโทษนะคะ” เสียงของสาวน้อยวัยแรกรุ่นใส่เสื้อเกาะอกสีขาวกับกางเกงยีนส์ขาสั้นเดินมาหยุดยืนอยู่ข้างโต๊ะ
ใกล้เก้าอี้ของลิงเปี๊ยก
“คือส้มโอพนันกับเพื่อนไว้ว่าจะพาพี่ไปที่โต๊ะได้สำเร็จ พี่ช่วยไปกับส้มโอหน่อยได้ไหมคะ ส้มโอไม่อยากเสียหน้ากับเพื่อน”
มุกนี้ผมเคยเจอมามากกว่าสามสี่ครั้งแปลกที่ยังมีคนนำมาใช้
“นะคะ ไปนะคะ” สาวน้อยวัยแรกรุ่นส่งทั้งสายตาออดอ้อนและน้ำเสียงออเซาะมาให้
“ขอโทษด้วยครับผมไม่สะดวกช่วย”
“ทำไมล่ะคะไปแป๊บเดียวเอง ถ้ายอมช่วยจะให้ส้มโอตอบแทนอะไรบอกได้เลยนะคะ ส้มโอทำให้ได้หมดเลย”
“ผมช่วยได้ครับ” ลิงเปี๊ยกพูดทะลุกลางปล้องขึ้นมา
“อุ๊ย!! ขอบคุณนะแต่ส้มโอพนันว่าเป็นพี่คนนี้คนเดียว คนอื่นไม่ได้ค่ะ”
“ผมไม่ได้หมายถึงผมจะไปแทนครับแต่ผมช่วยให้พี่ไม่เสียหน้าได้”
“ยังไงคะ” อย่าว่าแต่เด็กส้มโอจะแปลกใจเลยผมก็แปลกใจ คิดไม่ทันความคิดเจ้าตัวแสบมัน
“พี่ก็ไปบอกเพื่อนครับว่ารู้แล้วว่าทำไมคนนี้...” ลิงเปี๊ยกยกมือขึ้นจับมือผมไปกุมไว้
“ถึงไม่สนใจพี่ บอกเพื่อนไปว่าเขามีแฟนแล้ว แฟนมานั่งเฝ้าด้วย”
“เพื่อนส้มโอไม่โง่นะจะได้มองไม่เห็นว่าไม่มีผู้หญิงนั่งอยู่”
“นั่นไงครับ ยิ่งน่าเชื่อถือเข้าไปใหญ่ว่าทำไมเขาถึงไม่สนใจพี่ เพราะแฟนผู้ชายคนนี้คือผมเอง” ลิงเปี๊ยกพูดชัดถ้อยชัดคำ
เสียงดังฟังชัด
“หะ!!”
“ผมเองครับแฟนผู้ชายหล่อดูดีมีตังค์คนนี้ รู้แล้วพี่จะยังยืนจีบแฟนผมต่ออีกไหมครับ”
“อ่า..ส้ม..ส้มโอขอตัวก่อนนะคะ”
“เชิญตามสบายครับ” ลิงเปี๊ยกผายมือเชิญเหมือนมารยาทดีแต่ผมว่าเป็นการไล่เสียมากกว่า
“ถามจริงๆลุง เวลามาเที่ยวมันต้องถูกรบกวนอย่างนี้ตลอดเวลาเลยเหรอ” ลิงเปี๊ยกหันมาแยกเขี้ยวใส่ผมทันทีที่น้องส้มโอ
ลูกโตเดินพ้นโต๊ะ
“ยิ้มอะไรครับ” ลิงเปี๊ยกหัวเสียเข้าไปใหญ่เมื่อผมไม่ยอมตอบเอาแต่นั่งยิ้ม
“เมื่อกี้ตัวเล็กพูดว่าอะไรนะ”
“พูดว่าเวลามาเที่ยวมันต้องเจอเรื่องน่าเบื่อแบบนี้ตลอดเลยเหรอ”
“ไม่ใช่ ก่อนหน้านั้น”
“ก่อนนหน้านั้น? ไมมีผมถามลุงเรื่องนี้เรื่องเดียว”
“มีสิ ตัวเล็กบอกว่าเป็นอะไรกับพี่นะ”
ดูเหมือนลิงเปี๊ยกจะนึกออกแล้ว่าผมพูดถึงเรื่องอะไร หน้าที่แดงเพราะโมโหเปลี่ยนเป็นแดงซ่านเพราะสาเหตุอื่นแทน
“พูดอะไรเล่า ไม่ได้พูด”
“หึหึ เป็นแฟนกันแล้วนะ”
“.................”
“ถ้าไม่ตอบพี่จะถือว่าใช่ ขอบคุณนะครับคุณแฟน ต่อไปก็ฝากตัวด้วยนะ” ผมมัวแต่ต้อนไอ้ตัวเล็กให้จนมุมจนลืมไปว่า
ไม่ได้นั่งกันอยู่สองคน
“อ้าว!!” เสียงอุทานเบาๆ ของกังฟูทำให้ผมนึกได้ รีบขยับตัวออกห่างลิงเปี๊ยกนิดหนึ่งเพื่อไม่ให้น่าเกลียดเกินไป
“พี่ลมกับเปาไม่ได้เป็นแฟนกันนานแล้วเหรอครับ” กังฟูมองหน้าผมกับลิงเปี๊ยกสลับกันไปมา ทำท่าแปลกใจจริงๆ
“ไหนเปาบอกว่าเป็นแฟนกับพี่ลมตั้งแต่ตอนนู้น”
“กังฟู” ลิงเปี๊ยกตะโกนลั่นแทบจะโผนข้ามโต๊ะไปปิดปากเพื่อน ท่ามกลางเสียงหัวเราะของภูมิและรอยยิ้มของผม
เด็กน้อยอายหน้าแดงพาลพาโลงอนเพื่อนงอนผม ทำหน้าบึ้งจมูกปากเชิดคอตั้งบ่า เห็นแล้วอยากจับมาจูบให้หายมั่นเขี้ยว
ในที่สุดก็ยอมพูดว่าเป็นแฟนกันเสียที ต่อไปก็.....
ก็..เป็นแฟนกันไปก่อนสินะ เฮ้อ!!!!
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>TBC<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<
Darin ♥ FANPAGE