[นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] ปฐพีเคล้าเมฆา [แจ้งข่าวงานหนังสือ] เพียงดิน - เมฆา
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] ปฐพีเคล้าเมฆา [แจ้งข่าวงานหนังสือ] เพียงดิน - เมฆา  (อ่าน 99868 ครั้ง)

ออฟไลน์ oppapp

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ Speirmint28

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-1
บทที่ 5


และก็ถึงวันที่เมฆาต้องไปออกพื้นที่ คุณหมอออกจากบ้านแต่เช้าโดยไม่ลืมฝากฝังเก่งให้ดูแลบ้านดีๆอีกด้วย ไปคราวนี้น่าจะไปซักสามสี่วัน ก่อนไปเขาก็โทรบอกตะวันไว้เรียบร้อย เก็บของไม่มากก่อนจะให้เก่งไปส่งที่โรงพยาบาลอันเป็นจุดนัดรวมพล



ไปครั้งนี้มีหมอสี่คน คือเขา อาหมอชัย และก็พี่หมอนุ่นกับพี่หมอหนิง และพวกพี่ๆพยาบาลอีกสี่ห้าคน รวมทั้งสาธารณะสุขชุมชนอีกด้วย หมู่บ้านผมตะวันเป็นหมู่บ้านที่อยู่กลางเขาอันเดินทางขึ้นตรงไร่น้ำรินหรือไร่เพียงระพีก็ได้ ตัวหมู่บ้านอาจจะเล็กแต่เมื่อรอบๆบริเวณนั้นก็มีหมู่บ้านอื่นๆตั้งอยู่อีกมาก


เห็นพี่แพรบอกว่าไอ้คุณเพียงดินมันบอกชาวบ้านที่ลงมาทำงานในไร่มันแล้วว่าจะมีหมอเข้าไป อาจจะแยกย้ายกันไปแต่ละหมู่บ้านในสี่วันนี้ แต่ที่ตั้งหลักก็ยังคงเป็นหมู่บ้านผาตะวัน ป่านนี้ชาวบ้านเองก็คงทราบข่าวที่พวกเขาจะเข้าไปแล้ว


พูดถึงเพียงดิน เมฆาก็นึกคิดถึงเรื่องวันนั้นขึ้นมา หลังจากโดนกระทะบ้านไอ้พี่ตะวันของเขาฟาดไปหลายที ไอ้คุณเพียงดินก็ไม่โผล่หัวมาให้เห็นอีก ซึ่งนั่นก็ดีแล้ว ส่วนเรื่ององุ่นอะไรที่เพียงดินเอามาส่งดึกๆดื่นๆนั่นเมฆาก็ไม่ค่อยจะรู้เรื่องนักหรอก ก็คงให้ไอ้เก่งมันจัดการเอา


เมื่อมาถึงโรงพยาบาลเมฆาก็พบว่าทุกคนพร้อมอยู่แล้ว เขาจึงขอโทษเล็กน้อยที่มาสาย ซึ่งก็ไม่มีใครว่าอะไร แล้วรถของโรงพยาบาลก็มุ่งตรงขึ้นไปยังไร่เพียงระพี ซึ่งจะเข้าไปทางนั้นเพราะทศพรได้ติดต่อเพียงดินไว้แล้ว นั่นทำให้เมฆารู้สึกเซ็งเมื่อรู้ว่าต้องไปเจอเพียงดินอีกรอบ


แน่ล่ะ พี่แพรบอกเขาว่ารถของโรงพยาบาลขึ้นไปข้างบนไม่ได้ การจะเข้าหมู่บ้านต้องใช้รถคันใหญ่ ซึ่งพี่หมอทศอีกนั่นแหละที่เป็นคนบอกให้ไอ้คุณเพียงดินอะไรนี่เป็นคนจัดการ และคนของไร่เพียงระพีจะเป็นคนพาเข้าไปเอง เพราะฉะนั้นจะต้องไปแวะที่ไร่เพียงระพีก่อน ถึงจะขึ้นไปโดยที่มีไร่เพียงระพีเป็นคนพาไป


บางทีเมฆาก็คิดว่าเขาน่าจะพกกระทะมาซักหนึ่งอัน


ไร่เพียงระพีในตอนสายๆของวันดูจะวุ่นวายไม่น้อย รถสิบล้อคันใหญ่ตั้งอยู่กลางไร่พร้อมกับมีคนงานกำลังลำเลียงผลไม้ขึ้นไปอย่างขยันขันแข็ง รถของโรงพยาบาลประจำอำเภอมุ่งตรงมาที่ลานกว้างหน้าบ้านหลังใหญ่ ซึ่งมีรถกระบะยกสูงอยู่สามสี่คัน เมฆาเดาว่าคงเป็นจะเป็นรถที่พาเขาและคณะขึ้นไป


“สวัสดีครับหมอชัย” เพียงดินยกมือไหว้ผู้อาวุโสกว่าเมื่อลงมาจากรถ


หมอชัยพยักหน้ารับ เพียงดินยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเบนสายตามามองคนที่เพิ่งลงจากรถมา เขาลูบหัวตัวเองเล็กน้อย สะเก็ดแผลยังคงอยู่ สาเหตุก็มาจากคนที่เพิ่งลงจากรถด้วยใบหน้าบอกบุญไม่รับนั่นแหละ


ไอ้หมอเมฆตัวแสบ!


“ผมให้เด็กในไร่ไปลงพื้นที่ดูก่อน ผู้ใหญ่บ้านเค้าเตรียมการไว้หมดแล้วครับ และจะมีศาลาสำหรับการรักษาด้วย ผมเลยจะให้คนงานในไร่พร้อมกับเด็กมหาลัยที่มาออกค่ายช่วยสร้างสถานีอนามัยเล็กๆให้” เพียงดินพูดกับหมอชัยระหว่างที่คนงานกำลังช่วยกันขนของทั้งของไร่เพียงระพีและของโรงพยาบาลขึ้นรถ


“อย่างนั้นก็ดีเลยสิครับ ขอบคุณมากนะครับคุณดิน หมอหนิงก็คนหมู่บ้านผาตะวัน เธอบอกว่าที่นั่นการรักษาไม่ค่อยเข้าถึงเท่าไหร่ ถ้ามีอนามัยก็คงจะดี แต่คงต้องหาคนไปประจำที่นั่น ซึ่งผมคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร” หมอชัยพูด


เขาดีใจไม่น้อยกับข่าวใหม่ที่เพียงดินเป็นคนบอก อย่างน้อยถ้ามีสถานพยาบาลในหมู่บ้านก็น่าจะสะดวกกว่า คนในหมู่บ้านจะได้รับการรักษาที่ทันท่วงทีก่อนจะลงมาที่โรงพยาบาล ซึ่งมันไกลและเดินทางลำบาก


“เรื่องนั้นก็คงต้องคุยกันอีกทีครับ ตอนนี้เหมือนเด็กๆที่มหาลัยไปรออยู่ก่อนแล้ว เห็นบอกจะสร้างห้องสมุดให้เด็กๆที่นั่นก่อน แล้วจะมาช่วยเราสร้างอนามัยทีหลัง”


หลายวันก่อนมีเด็กมหาลัยติดต่อเขามาเพื่อจะขอขึ้นไปหมู่บ้านผาตะวัน เขากับไร่น้ำรินเองก็ยินดีช่วย ได้คุยนิดหน่อย เหมือนจะเป็นค่ายอาสามาออกค่อยสร้างห้องสมุด เพียงดินก็บอกว่าจะสร้างอนามัยพอดี เด็กๆพวกนั้นเลยตกลงจะมาช่วยถ้าสร้างห้องสมุดเสร็จ


หลังจากคุยเรื่องสร้างอนามัยกับหมอชัยเข้าใจ ไม่นานคนงานก็ขนของทั้งหมดขึ้นรถเสร็จพอดีพร้อมที่จะขึ้นผาตะวัน เพียงดินให้ทุกคนแยกย้ายกันขึ้นรถกระบะแต่ละคน โดยจะให้เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลและสาธารณสุขชุมชนนั่งข้างหน้ารถ และมีคนงานนั่งที่กระบะหลัง


เมฆาที่ขอปลีกตัวไปเข้าห้องน้ำหลังจากลงจากรถได้ไม่นานก็กลับมา พบว่าทุกคนขึ้นรถหมดแล้ว เขาเลยได้แต่ยืนงง ไม่รู้จะขึ้นคันไหน เลยเดินไปที่รถคันที่ใกล้ที่สุด


“ยืนเอ๋ออยู่ได้ จะไปมั้ย จะไปก็รีบๆขึ้นรถ” รถคันนั้นเพียงดินเป็นคนขับ เขาเปิดกระจกรถมาคุยกับเมฆาที่ยังยืนงงอยู่ เมฆาเองพอรู้ว่ารถคันที่เขาเดินมาใครเป็นคนขับก็คิ้วขมวดทันที


“ฉันไม่นั่งคันนี้” เมฆาว่า


“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องไป รถคันอื่นเต็มหมดแล้ว” เพียงดินว่าพร้อมกับเปรยสายตาไปมองรอบๆ


เมฆเองก็เช่นกัน เขาเจอกับสายตากดดันจากคนงานของเพียงดินที่มองมาเป็นเชิงว่าอย่างเรื่องมาก และสายตาของพวกพี่ๆหมอและพยาบาลที่บอกว่าควรไปกันได้ซักที นั่นทำให้เมฆาถอนหายใจก่อนจะหันไปมองหน้าเพียงดินที่ยักคิ้วอย่างผู้ชนะ


“ตกลงยังไง จะไปไม่ไป” เพียงดินถามอีกรอบ


“ไปก็ได้” เมฆาพูดกระแทกเสียงก่อนจะเปิดประตูรถฝั่งข้างคนขับแล้วเข้าไปนั่ง


“ก็แค่นี้” เพียงดินยิ้มเย้ยก่อนจะออกรถเป็นคันแรกเพื่อนำขบวนรถอีกสี่คันข้างหลัง


ทางขึ้นไปยังผาตะวันนั้นเป็นทางขรุขระพอสมควร แต่ทางขึ้นที่ไร่เพียงระพีนั้นก็ค่อนข้างจะสะดวกกว่าขึ้นทางไร่น้ำรินอยู่มาก ทางไร่น้ำรินเป็นทางที่ขึ้นไปตามทางน้ำตกไหล ทำให้ขรุขระมากกว่า เพราะฉะนั้นทางโรงพยาบาลเลยเลือกที่จะขึ้นทางไร่เพียงระพีแทน


เพียงดินเองเมื่อรู้ว่าทางโรงพยาบาลจะเข้าไปให้การรักษาเขาก็ได้เกณฑ์คนงานไปช่วยสร้างอนามัยขนาดเล็กให้ด้วย และติดต่อกับหมอทศพรให้ดำเนินการเรื่องส่งคนไปประจำที่นั่น หมู่บ้านผาตะวันนั้นเป็นหมู่บ้านของชาวเขา เด็กรุ่นหนุ่มสาวที่นั่นก็ลงมาทำงานที่ไร่ของเขาและไร่น้ำรินอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน ถือว่าพึ่งพาอาศัยกัน มีอะไรที่ช่วยได้เขาเองก็อยากจะช่วย


พลุบ! โป๊ก!


“โอ้ย!” เสียงที่ดังนั้นทำให้เพียงดินต้องหันไปมอง เมฆากำลังเอามือจับหัวตัวเองพร้อมกับทำหน้าเหยเก


“หึๆ” คนที่ขับรถอยู่หัวเราะน้อยๆเมื่อเห็นท่าทางของคุณหมอคนเก่ง เมื่อครู่เข้าขับรถตกหลุม ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วหากจะขึ้นผาตะวัน เพราะฉะนั้นรถที่จะขึ้นไปต้องสมบุกสมบันพอสมควร


“หัวเราะอะไร ขับรถให้มันดีๆหน่อย” เมฆาหันมาด่าเพียงดินพร้อมกับลูบหัวตัวเอง เขาฟาดกับกระจกประตูรถไปซะเต็มแรง


“ขับดีแล้วครับคุณชายครับ แต่ทางมันไม่ดี แล้วนายเองก็ไปนั่งซะชิดประตูขนาดนั้นมันก็ต้องปะทะประตูบ้างแหละ ขยับเข้ามามันจะตายรึไง ฉันไม่ได้พิศวาสนายขนาดนั้น” เพียงดินว่า


“นี่! ทำยังกับว่าฉันรักนายตายแหละ” เมฆาเริ่มจะมีน้ำโห เฮอะ... ไอ้พ่อเลี้ยงปากหมานี่มันน่าต่อยปากซักทีสองที


“ไม่ได้รักไม่ได้พิศวาสก็ขยับเข้ามา ถ้ายังไม่อยากหัวฟาดกระจกตาย” เพียงดินรู้สึกว่าตัวเองเริ่มจะหงุดหงิดที่คุยกับไอ้หมอเมฆทีไรไม่เคยจะรู้เรื่องซักที


“ไม่!” เมฆาปฏิเสธเสียงแข็ง เป็นตายร้ายดียังไงเขาก็จะนั่งชิดริมอย่างนี้แหละ


“ถ้าอย่างนั้นก็ตามใจ” เพียงดินเองก็ไม่สน ใครจะเจ็บตัว จะตายมันก็เรื่องของเค้า แน่ใจนะว่าไอ้เด็กนี่มันเรียนจบแล้วจริงๆ และเป็นถึงมดถึงหมอ ความคิดความอ่านนี่เด็กอนุบาลชัดๆ


พลุบ! โป๊ก!


“โอ้ย! ไอ้นี่!” เมฆาหัวกระแทกกระจกอีกรอบนั่นทำให้เขาหันมาแหวใส่เพียงดินที่หักเลี้ยวลงหลุมเหมือนตั้งใจจะแกล้งเขา


“อะไร อะไรห๊ะน้องหมอเมฆคนเก่งของโลกใบนี้” เพียงดินยกยิ้มอย่างอารมณ์ดีเมื่อได้แกล้งอีกคน


“นายแกล้งฉัน” เมฆากำมือแน่น พยายามนับหนึ่งถึงสิบไม่ให้ต่อยหน้าพ่อเลี้ยงเพียงดินก่อนถึงหมู่บ้านผาตะวัน


“แกล้งอะไร หลุมบ่อมันก็มีเยอะแยะ นายนั่นแหละ ไปนั่งชิดริมเอง” นายเหนือแห่งไร่เพียงระพีพูดหน้าตาย


เมฆาอ้าปากจะด่าแต่ก็ด่าไม่ออก โกหกหน้าด้านๆ เห็นอยู่ว่าตั้งใจเลี้ยวให้มันลุงหลุม ทั้งๆที่ทางดีๆก็มี หรือข้ามมันไปก็ได้ ไอ้พ่อเลี้ยงนี้กวนตีน เมฆาไม่อยากจะทนอีกแล้ว เลยซัดเปรี้ยงเข้าที่ใต้คางเพียงดินไปหนึ่งที


“โอ้ย!” เพียงดินตะโกนลั่นพร้อมกับเซไปตามแรงจนรถขับเอนไปเอนมา


“เหวอ!” เสียงคนงานหลังรถได้ยินดังมาถึงข้างหน้า ทุกคนพร้อมใจกันจับอะไรเท่าที่จับได้เป็นแรงยึดเหนี่ยว


“อุ๊ย! มือลั่น” เมฆายักคิ้วทีนึงก่อนจะหันหน้ากลับไปมองข้างหน้าเหมือนเดิม


“นี่ อยากตายรึไง ทางมันก็ใช่จะดี นี่มันทางขึ้นเขาด้วยนะ” เพียงดินว่า ถ้าไม่ติดว่าขับรถอยู่เขาก็อยากจะซัดกลับเหมือนกัน ไอ้เด็กนี่ทำร้ายร่างกายเขามากี่รอบแล้วเนี่ย


“นายก็ขับดีๆสิ” เมฆาหันมาเถียงอีกรอบ เมื่อไหร่จะถึงหมู่บ้านผาตะวันซักที เขาไม่อยากจะนั่งอยู่ตรงนี้กับไอ้บ้านี่นานๆ


“เหอะ จะเอาอย่างนั้นเหรอ” เพียงดินขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อนึกอะไรดีๆออก รอยยิ้มนั้นทำให้เมฆาเริ่มได้กลิ่นตุ ไอ้พ่อเลี้ยงนี่คิดจะทำอะไรอีก


“จะทำอะไร”


“ก็ขับรถดีๆไง เฮ้ย! ไอ้งอกบอกพวกเราจับแน่นๆนะโว้ย!” ประโยคหลังเพียงดินตะโกนบอกคนงานหลังรถก่อนจะหันมายกยิ้มให้เมฆาหนึ่งที แล้วกระชากตัวรถให้เพิ่มความเร็วมากยิ่งขึ้น


ทางขึ้นเขายิ่งสูงยิ่งขรุขระยิ่งคดเคี้ยว เพียงดินหักพวงมาลัยแบบไม่คิดว่าคนที่นั่งข้างๆจะรู้สึกยังไง ด้วยความเร็วและเลี้ยวไปเลี้ยวมานั้นทำให้เมฆานั่งหัวสั่นหัวคลอน คนงานข้างหลังดูเหมือนจะสนุกมากกว่า เพียงดินไม่ค่อยห่วงรถคันอื่นๆ เพราะเม้งเป็นคนขับคันที่ตามเขามา คงจะพาคันอื่นๆมาได้ แต่ตอนนี้ขอจัดการไอ้หมอเมฆนี่ให้หายซ่าก่อนเถอะ


บางทีเพียงดินก็คิดว่าตัวเองลดอายุไปเป็นเด็กเมื่ออยู่กับหมอเมฆคนนี้ เด็กที่จ้องการเอาชนะหมอเมฆทุกอย่าง


กว่าจะขึ้นมาถึงหมู่บ้านผาตะวันได้เพียงดินก็โดนเมฆาด่าไปสามสิบแปดล้านรอบ เมื่อใกล้ๆถึงทางเข้าหมู่บ้านเพียงดินจึงกลับมาขับแบบปกติ หันไปมองเมฆาก็นั่งนิ่งไม่ไหวติง ไม่พูดไม่จานั่นทำให้เพียงดินงงไม่น้อย


พอรถจอดเมฆาก็เปิดประตูอย่างเร็วพร้อมกับพุ่งตัวออกไป เพียงดินเห็นดังนั้นจึงเดินตามลงไปบ้าง เขาเจอไอ้เด็กแสบมันวิ่งไปโก่งคออ้วกอยู่อีกฝั่ง เท่านั้นแหละพ่อเลี้ยงแห่งไร่เพียงระพีก็หัวเราะลั่น









ยกนี้เพียงดินชนะ!







*********************************************************************************





มาต่อแล้วจ้า หายไปหลายวันเหมือนกัน ช่วงนี้เค้างานเยอะจริงๆนะตัว แม้จะปิดเทอมแล้วแต่ยังมีวิจัยอีกกองโตๆต้องส่ง  :ling1:  รอเค้าหน่อย หลังสิ้นเดือนนี้น่าจะว่างแล้ว ตอนนี้เอาเบาๆไปก่อน เพียงดินกับน้องเมฆยังไม่แฮปปี้ต่อกันนะจ้ะ  :katai4: ฝากติดตามด้วยค่ะ รักคนอ่านทุกท่านนะคะ  :mew1:

ออฟไลน์ cinnsin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
โถๆๆๆๆ... น้องเมฆของเค้าาาาา พี่ดินนี่นิสัยไม่ดีแกล้งน้องเมฆได้ไง มาหาเค้ามา---- //โดนพี่ดินไล่ยิง

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
5555. ไม่รู้จะสงสารเมฆาดีไหม อิอิ ปากดีพอกัน

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ chancha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
แน่ใจนะว่าแต่ละคนโตกันแล้วน่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
เด็กน้อยกันจริงๆนั้นแหละโตๆกันแล้ว

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
เล่นกันอันตรายจริงๆ คู่นี้

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ Speirmint28

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-1
บทที่ 6


“เป็นไงบ้างหมอเมฆ โอเครึยัง” หมอหนิงถามพร้อมกับนั่งลงข้างๆเมฆาที่กำลังนั่งพิงต้นไม้ใหญ่ ในมือก็ถือแอมโมเนีย สายตากำลังมองไปยังคนงานและชาวบ้านที่กำลังช่วยกันขนของลงจากรถกระบะของไร่เพียงระพี


“โอเคแล้วครับพี่หมอหนิง” เมฆายิ้มให้คุณหมอสาวสวย ก่อนจะเพ่งสายตาไปที่เพียงดินซึ่งกำลังยืนคุยกับชาวบ้านคนหนึ่งอยู่ เมฆาเดาว่าน่าจะเป็นผู้ใหญ่บ้าน


ไอ้เพียงดิน มันแกล้งเขาซะจนอ้วกแตกคนกรูมาดูทั้งหมู่บ้าน แถมเขายังโดนขำอีกที่เมารถ แน่ล่ะ ขับเลี้ยวไปเลี้ยวมาขนาดนั้น อย่าให้ได้เอาคืนนะ พ่อจะซัดไม่เลี้ยงเลย


เมฆามองหน้าเพียงดินอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอีกรอบก่อนจะปลีกตัวไปช่วยคนอื่นๆขนของลงจากรถ เขาเข้าไปช่วยหมอนุ่นที่กำลังขนเครื่องมือทางการแพทย์อยู่กับพี่ๆพยาบาลชาวบ้านไปไว้ในศาลาที่อยู่ไม่ไกล อันจะเป็นแหล่งที่ตั้งสำหรับสี่วันนี้


ถัดออกไปไม่ไกลจะเป็นพื้นที่โล่ง ซึ่งชาวบ้านถางหญ้าเอาไว้เรียบร้อยเพื่อให้ไร่เพียงระพีสร้างสถานพยาบาลขนาดย่อม ถัดไปอีกประมาณสองร้อยเมตรเป็นเด็กมหาลัยที่มาสร้างห้องสมุดให้โรงเรียน ซึ่งตอนนี้ก็รุดหน้าไปกว่าครึ่งแล้ว เมฆาเห็นดังนั้นก็ยิ้มออกมาที่ทุกคนพากันมาทำบุญเยอะขนาดนี้


ใช้เวลาไม่นานของทุกอย่างก็จัดเตรียมเรียบร้อย เมฆาถูกชาวบ้านพาไปกินข้าวกลางวันก่อนที่จะเริ่มงานในตอนบ่าย เป็นการออกพื้นที่ตรวจรักษาชาวบ้าน โดยมีชาวบ้านมาสมทบอีกหลายพื้นที่ หมอชัยแยกไปอีกที หมอนุ่นและหมอหนิงเองก็เช่นกัน พี่แพรและพี่กิ่ง คอยเป็นลูกมืออยู่ช่วยเมฆา


ตกเย็นก็พากันพัก คนงานของไร่เพียงระพียังไม่เริ่มงานก่อสร้าง แต่เมฆาเห็นไอ้เพียงดินยืนเก๊กคุยอะไรไม่รู้กับลุงคำปันผู้ใหญ่บ้าน แค่นั้นคุณหมอตัวเล็กก็เบ้ปากออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ ถ้าเขาเดินไปกระโดดถีบเพียงดินให้ตกเขาได้เขาคงทำไปแล้ว


“เป็นไงหมอเมฆ” หมอชัยถอดเสื้อคลุมชั้นนอกออกแล้วหันมาคุยกับเมฆาหลังจากเข้าที่พักเรียบร้อยแล้ว


ที่พักของเจ้าที่โรงพยาบาลจะเป็นห้องโล่งๆขนาดใหญ่ นอนรวมกันกับเด็กมหาลัยและคนงานจากไร่เพียงระพีที่เป็นผู้ชายโดยจะแบ่งโซนอย่างชัดเจน ส่วนพวกผู้หญิงจะอยู่อีกที่ ซึ่งไม่ห่างจากที่นี่มากนัก เมฆาไม่มีปัญหากับที่นอน เพราะเขาเองก็เคยออกพื้นที่และออกค่ายสมัยเรียนบ่อยครั้ง เลยค่อนข้างจะชิน


“ก็โอเคครับ ชาวบ้านที่นี่น่ารักดี” เมฆาตอบพร้อมกับเปิดกระเป๋าของตัวเองเพื่อเตรียมตัวไปอาบน้ำก่อนที่จะมืด ผู้ใหญ่บ้านบอกว่าหากจะอาบน้ำที่นี่ให้ไปอาบที่ฝายด้านหลังหมู่บ้าน ซึ่งคนของไร่น้ำรินมาช่วยสร้างไว้เมื่อปีก่อน


“ได้ยินอย่างนี้ผมก็ดีใจ พรุ่งนี้ผมว่าจะหมู่บ้านฝั่งนู้นไปด้วยกันมั้ย ที่นี่ให้สาวๆจัดการ” หมอชัยถาม ด้วยประสบการณ์ทำงานที่มีมาหลายสิบปีนั้นทำให้เขาเองก็รู้สึกสนุกกับการเข้ามาในหมู่บ้าน และเดินเท้าข้ามเขาเป็นลูกๆ แม้จะอายุมากขึ้น แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา


“ก็ดีนะครับ” เมฆาตอบ เขายังไม่เคยลองออกนอกพื้นที่ที่ประจำอยู่เวลาออกพื้นที่เลย เห็นหมอหนิงบอกว่าต้องเดินข้ามเขาเป็นลูกๆ ซึ่งแต่ละที่ก็จะมีหมู่บ้านอื่นตั้งอยู่


“ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้เจอกัน คงจะออกแต่เช้ามืด” หมอชัยบอกอีกครั้ง เมฆาพยักหน้ารับก่อนจะขอตัวไปอาบน้ำ


ทางเดินมานั้นไม่ค่อยรกเท่าไหร่ ระหว่างทางเมฆาก็ทักทายกับน้องๆมหาลัยที่เริ่มจะวางมือจากงานและบางกลุ่มก็พากันมาอาบน้ำบ้างแล้ว เห็นแล้วคิดถึงตัวเองสมัยเรียน


เมฆาคิดว่าชีวิตมหาลัยเป็นอะไรที่สนุกที่สุดแม้เขาจะเรียนเหนื่อยก็เถอะ แต่อย่างน้อยก็ได้เฮฮากับเพื่อนๆ แล้วดูตอนนี้สิ พอเริ่มทำงาน จะมาเล่นกับเพื่อนตอนเด็กอย่างภุมรินก็หนีหายไปทำงานกับพี่ชายของเขาอย่างตะวัน จะไปหาไอ้พี่รัชก็เกรงว่าคนแถวนี้จะหาว่าไปอ่อยอีก


ความจริงเขาไม่ค่อยว่างด้วยแหละ พอเสร็จงานนี้ว่าจะไปเที่ยวหาสิตางศุ์ซักหน่อย แต่ตอนนี้ก็คงเจอแต่ไอ้พ่อเลี้ยงไร่ข้างๆนี่แหละ เจอมันบ่อยกว่าหน้าพ่อแล้วตอนนี้ ยิ่งคิดเมฆาก็ยิ่งละเหี่ยใจ


เมื่อมาถึงฝายของหมู่บ้าน มันเป็นฝายขนาดใหญ่ มีหลายๆคนมาอาบน้ำอยู่ก่อนแล้ว เมฆารีบจัดการตัวเองโดยการถอดเสื้อผ้าออกเหลือแค่เสื้อกล้ามกับกางเกงบ๊อกเซอร์ เขาไม่ค่อยอายเท่าไหร่ เท่าที่เห็นก็มีแต่ผู้ชายทั้งนั้น


หลังจากนั้นคุณหมอตัวเล็กก็ลงไปอาบน้ำอย่างสบายอารมณ์ เมฆาเป็นคนชอบว่ายน้ำ เขาชอบไปเล่นน้ำตกที่ท้ายไร่น้ำรินบ่อยๆจนรัชพลบ่นแล้วบ่นอีก แต่ภุมรินก็ตามใจเขาทุกครั้ง ครั้งล่าสุดก็เพิ่งไปมากับสิตางศุ์


น้ำเย็นๆท่ามกลางธรรมชาตินี้มันชั่งดีเสียจริง เมฆาหลับตาลงก่อนจะกางแขนออกเพื่อให้ตัวเองลอยอยู่เหนือผิวน้ำ ระดับแค่ประมาณหน้าอกเขาเท่านั้น แต่ข้างบนฝายคงจะลึกมากน่าดู เมฆาคิดว่าไม่มีความจำเป็นอะไรที่เขาจะต้องขึ้นไป แต่เห็นเด็กๆที่มาออกค่ายไปกระโดดเล่นเยอะอยู่เหมือนกัน


“จ๊ะเอ๋!”


“เฮ้ย!”


เมฆาสะดุ้งโหยงก่อนจะพลิกตัวจมลงในน้ำเมื่อมีมือของใครมาแตะที่เอวพร้อมกับตะโกนข้างหู เขาพยายามดำผุดดำว่ายขึ้นมาจากน้ำก่อนจะโผล่มาอยู่ตรงหน้าของใครบางคน


“แค่กๆ แค่ก เหี้ยอะไรวะเนี่ย” เมฆาโวยลั่น สำลักน้ำจนหน้าดำหน้าแดง


“ขอโทษพี่ ผมไม่คิดว่าพี่จะตกใจขนาดนี้” เมฆาหันไปมองหน้าคนพูด ก็เจอไอ้เด็กที่ไหนไม่รู้ ให้เดาคงจะเป็นเด็กที่มาออกค่าย กำลังยืนยิ้มหน้าเจื่อนอยู่ตรงหน้าเขา น้ำที่ถึงประมาณอกของเขากับถึงแค่เอวของเด็กนี่ ไอ้ตี๋นี่ใคร


“ไม่เป็นไร” เมฆาตอบปัดๆก่อนจะว่ายน้ำหนี ในใจก็โมโหอยู่ไม่น้อย ไอ้เด็กบ้านี่มันเป็นใคร แล้วทำไมมาเล่นบ้าๆกับเขาแบบนี้ ถ้าเกิดแม่งตกใจจมน้ำตายห่ามาจะว่ายังไงล่ะ


“เฮ้ยๆ เดี๋ยวก่อนสิพี่ พี่โกรธผมเหรอ ผมขอโทษ ผมชื่อทีนะพี่ มาออกค่ายทำห้องสมุด พี่ชื่ออะไรอ่ะ” แล้วไอ้เด็กนี่ก็ว่ายตามเมฆามาอย่างไม่ลดละพร้อมกับว่ายแซงมาหยุดที่ข้างหน้าทำให้เมฆาต้องหยุดตาม


“พี่ชื่อเมฆ และน้องมีธุระอะไรกับพี่รึเปล่าครับ” เมฆาพูดอย่างเซ็งๆ อะไรของไอ้เด็กคนนี้


“เปล่า แค่อยากคุยด้วยเฉยๆ พี่เป็นหมอใช่ป่ะ ตอนมอปลายผมก็อยากเป็นหมอนะพี่ แต่พ่อบอกว่ามันยากโง่ๆอย่างผมสอบไม่ติดหรอก ผมเลยจะไปสอบนิติเห็นมันเท่ดี แต่ผมจำอะไรไม่ค่อยเก่ง เลยมาเรียนวิศวะนี่แหละ ตอนนี้ปีสามแล้วนะ” ไอ้เด็กทียังคงพล่ามต่อไป เมฆาคิ้วขมวด เขาอยากจะถามออกไปเสียจริง ว่าสิ่งที่เด็กนี่พูดมาเขาจำเป็นต้องรู้มั้ย


“อ่อ ดีเนอะ พี่ว่าพี่ต้องไปแล้วล่ะ” เมฆาไม่รู้จะตอบอะไรเลยชิ่งหนีซะก่อน ขืนคุยนานกว่านี้เขาคิดว่าเขาคงจะเป็นบ้าตามไอ้เด็กทีอะไรนี่


“เดี๋ยวก่อนสิพี่หมอเมฆ รอผมก่อน” แล้วไอ้เด็กนี่ก็ยังตามอยู่ เมฆากรอกตาขึ้นบนก่อนจะถอนหายใจ


“มีอะไรอีกครับน้อง”


“ให้ผมไปส่งดีกว่า เดินคนเดียวมันอันตราย” เด็กทียิ้มแฉ่ง


“ห๊ะ...” เดี๋ยวนะ เมฆาว่ามันไม่ใช่ละ มันอันตรายตรงไหน เขาก็เดินมาเองได้ปกติ และอีกอย่างเขาโตแล้ว อายุมากกว่าทีอีก จะไปส่งอะไรเล่า ชาวบ้านก็ออกจะเยอะแยะเต็มไปหมด และอีกอย่าง เพิ่งคุยกันไม่ถึงห้านาทีด้วยซ้ำ


“นะครับ” เด็กทีอ้อน แต่เมฆามองว่ามันอ้อนตีนมากกว่า


“ไม่ต้องครับ พี่กลับเองได้ น้องไปเล่นน้ำกับเพื่อนเถอะ” เมฆาปฏิเสธ เพิ่งรู้ว่ามีคนที่คุยไม่รู้เรื่องเหมือนเพียงดินอีกคน นี่คุยกับคนหรือคุยกับควายเนี่ย


“แต่พี่หมอเมฆครับ...”


“น้องครับ พี่ต้องไปแล้ว” เมฆาพูดย้ำอีกครั้งก่อนจะว่ายหนีไปจากตรงนั้น คนเริ่มบางตาลงบ้างแล้วเพราะใกล้จะมืดเต็มที หันไปมองเด็กทีอีกรอบก็เห็นมันหน้าหงอย อยากจะสงสารนะแต่สมน้ำหน้ามากกว่า


เมฆาว่ายออกไปไกลอีกหน่อยและคิดว่าเดี๋ยวค่อยขึ้นแล้วเดินไปเอาของ ซึ่งก็ไม่มีอะไรมากนอกจากเสื้อผ้าและพวกครีมอาบน้ำ คงไม่มีใครอยากจะได้มันหรอกมั้ง คงไม่หาย


ยิ่งว่ายมาไกลรู้สึกน้ำยิ่งลึก ตรงนี้น่าจะเป็นแอ่ง แต่นั่นก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาสำหรับคนที่ว่ายน้ำแข็งอย่างเมฆา พอขึ้นบกมาได้ปุ๊บ คุณหมอตัวเล็กก็เดินไปเอาของตัวเอง เห็นไอ้เด็กทีอยู่ไกลๆ หวังว่าคงไม่ต้องเจออีก


“เฮ้ย!” เมฆาสะดุ้งโหยงเมื่อหมุนตัวกลับมาเพื่อเดินกลับที่พักแต่ก็ต้องชนเข้าอย่างจังกับเนื้ออกแน่นๆของใครบางคน


“อะไรเนี่ย ยังเมารถไม่หายอีกเหรอ ถึงได้เดินเซๆมาชนคนอื่นแบบนี้” เสียงล้อเลียนนั้นมีเพียงคนเดียวบนโลกใบนี้ คู่กรณีเก่าของเมฆานั่นเอง เมฆาถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย ทำไมเขาต้องมาเจออะไรแบบนี้ไม่รู้จักจบจักสิ้น


เพียงดินในสภาพที่มีผ้าขาวม้าพันแค่ครึ่งล่างพร้อมกับผ้าขนหนูพาดบ่ากำลังยืนทำหน้ายิ้มกวนๆอยู่ตรงหน้าของเมฆา นั่นทำให้เมฆารู้สึกเซ็งอย่าหาที่เปรียบไม่ได้ เจอไอ้เด็กทีตัวลูกแล้วยังมาเจอไอ้เพียงดินตัวพ่ออีก


“หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก เจ็ด แปด เก้า สิบ” เมฆาหลับตาแน่นแล้วนับเลข เพียงดินมองหน้าอีกคนอย่างงงๆ


เมฆาพยายามหายใจเข้าหายใจออกเพื่อระงับสติอารมณ์ของตัวเอง เขายังไม่อยากจะมามีเรื่องกับเพียงดินตอนนี้เพราะเขาเหนื่อยมาก! และโคตรจะอยากพักผ่อน พรุ่งนี้เช้าต้องออกแต่เช้าอีก ไม่มีเวลามาทะเลาะกับใคร


“เรื่องเมื่อเช้าฉันยังไม่ได้คิดบัญชีกับนายเลยนะ” เมฆาว่าพร้อมกับชี้หน้าเพียงดิน


“งั้นก็คิดตอนนี้เลยสิ” เพียงดินยกยิ้ม วันนี้หมอเมฆมาแปลกๆ ปกติต้องแว้ดๆแล้ว ทำไมวันนี้ดูนิ่งๆ สงสัยยังเมารถไม่หาย คิดแล้วเพียงดินก็ขำอีกรอบ


“ฝากไว้ก่อนเถอะ วันนี้ไม่มีอารมณ์” เมฆาขมวดคิ้วอยากไม่สบอารมณ์


“ไม่รับฝาก ถ้าจะคราวหลังก็ไม่ให้เอาคืนแล้วนะเว้ยน้องหมอเมฆ” เพียงดินยังคงอารมณ์ดี การได้แกล้งเมฆาคืนนั้นมันทำให้เขาคิดว่าเริ่มสนุก ที่จะได้เห็นไอ้หมอเตี้ยๆมันแว้ดไปแว้ดหมาเหมือนชิวาว่าถูกน้ำร้อนลวก


เมฆาพยายามสงบสติอารมณ์อีกครั้ง แต่เมื่อมองหน้าเพียงดินที่กวนเบื้องล่างเขาเหลือเกินนั้นก็นึกอยากจะสนองให้ตามที่อีกคนขอมาเสียจริง เมฆาเบนสายตาไปมองผืนน้ำข้างหลังที่มันกระเพื่อมเพราะแรงสะเทือนของหลายๆคนที่เล่นน้ำอยู่แล้วก็ยกยิ้มเมื่อคิดอะไรดีๆออก


“งั้นคิดบัญชีแค้นวันนี้ก็ได้” คุณหมอหนุ่มยกยิ้มแล้วสะบัดผ้าขนหนูพาดบ่าตัวเองเตรียมรบ


“งั้นเอาเลยดิ ตัวแค่นี้จะทำอะไรได้” เพียงดินเองก็กล้าที่จะท้า อยากรู้จริงๆว่าหมอเมฆจะทำอะไรเขาได้


“ก็ทำแบบนี้ไง!” เมฆาง้างขาขึ้นก่อนจะถีบเข้าที่กลางอกของเพียงดินอย่างแรงจนร่างสูงเซ


“เหวอ!” เพียงดินสะดุ้งโหยงเมื่อเท้าของเขาเหมือนจะลื่นไถลลงไปในน้ำ สายตาเหลือไปเห็นขาขาวๆกำลังยกอยู่ข้างหน้า เท่านั้นแหละพ่อเลี้ยงหนุ่มก็จับขาอีกคนไว้แน่น


“เฮ้ย!”


ตู้ม!


เสียงกระทบน้ำดังลั่นก่อนที่น้ำจะกระเด็นไปทั่วบริเวณ ผ้าขนหนูของเมฆาปลิวว่อนเมื่อตัวเขาเองตกลงไปในน้ำกับเพียงดินด้วย


คุณหมอตัวเล็กพยายามกระเสือกกระสนขึ้นมาเหนือผิวน้ำแต่ก็เหมือนว่าจะไม่เป็นผลเมื่อตัวของเขาถูกรัดไว้แน่นจากอีกคน เพียงดินเองเมื่อตกมาในน้ำก็พยายามหาที่จับไว้แน่น มือใหญ่เลยกวาดเอาทุกอย่างรอบตัวมากอด แต่หนึ่งในนั้นก็คือเอวของเมฆา


“แค่กๆ ปล่อยโว้ย!” เมฆาพยายามดึงมือของเพียงดินออกเมื่อหัวโผล่พ้นน้ำ วันนี้มันวันอะไรกันเนี่ย



“แค่กๆ” เพียงดินโผล่หัวมาทีหลัง เขายังไอโขลกอยู่ ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำหูน้ำตา และยังแดงก่ำจากการสำลักน้ำ



“ปล่อยเอวฉันเดี๋ยวนี้!” เมฆาดึงมือใหญ่นั้นออกอีกครั้ง ตอนนี้ตัวของเขาอยู่ชิดกับเพียงดินแทบจะทุกส่วน แผ่นหลังแนบไปกับอกเปลือยเปล่าของอีกคน ท่ามันชั่งล่อแหลมเสียนี่กระไร


เพียงดินเองก็ปล่อยตามความต้องการของเมฆา เจ้าตัวยังคงมึนๆงงๆอยู่ พอรู้สึกตัวอีกทีก็ผลักอกจนตัวเซลงไปในน้ำอีกรอบ ส่วนคนทำก็เดินโมโหหน้าดำหน้าแดงขึ้นฝั่งไปเรียบร้อย


พ่อเลี้ยงใหญ่ยังคงจับใจความอะไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อครู่ไม่ได้ แต่ที่แน่ๆก็คือ






...เอวหมอเมฆเล็กซะจนเขาโอบแขนเดียวยังได้





*********************************************************************************





ตอนที่หกมาแล้ว หก หก หก หก อะไรหก  :laugh: ตอนนี้มีตัวละครใหม่เพิ่มมานิดนุง น้องทีอาจจะมีบทบาทในตอนต่อๆไปเล็กน้อย ซึ่งยังไม่ได้แต่ง แต่วางโครงไว้แล้ว 555555555555 สองคนนี้ยังเล่นกันแรงเหมือนเดิม จนเราคิดว่ามันน่าจะมีใครตายเข้าซักวัน หรือไม่ก็แขนขาหัก :katai1: อิพี่ดินก็โตแล้วยังจะไปเล่นเป็นเด็กๆอยู่ได้ ฝากติดตามด้วยนะคะ รักคนอ่านทุกท่านค่ะ  :katai3:

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
ตอนที่หก

น้ำลายหกบนอกแน่นๆ ของคุณดิน
 :haun5:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Dolamon

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 ดูไม่ออกเลยว่ามันจะลงเอยยังไง 555  :m20: :m20: :m20:

ออฟไลน์ oppapp

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1

ออฟไลน์ Speirmint28

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-1
บทที่ 7
เพียงดินเดินงงๆกลับเข้ามาที่พัก ตอนเขาตกน้ำมันกระแทกผิวน้ำซะจนน้ำเข้าหูเข้าตาไปหมด ตอนนี้น้ำที่ค้างในหูก็ยังออกไม่หมดจนเพียงดินยังหูอื้ออยู่เลย เสื้อผ้าที่เตรียมมาก็เปียกมะลอกโดยที่ยังไม่ได้เปลี่ยนด้วยซ้ำ ต้องใส่ผ้าขนหนูหอบเสื้อผ้ากลับมาเหมือนเดิม


เมื่อมาถึงตะวันก็ลับอบฟ้าไปซะแล้ว ที่พักเป็นห้องโถงใหญ่ทำจากไม้ เหมือนเป็นสถานที่อะไรซักอย่างของหมู่บ้าน มีไฟดวงเล็กๆที่พวกคนงานในหมู่บ้านต่อมาจากไร่น้ำรินเปิดสว่างโล่อยู่


เพียงดินเดินมึนเข้ามาสายตาก็ไปปะทะกับเมฆาที่นั่งหันหน้าไปอีกทาง แต่แผ่นหลังภายใต้เสื้อกล้ามสีขาวนั้นเพียงดินกลับจำไปได้ดี เมื่อมองต่ำไปที่เอวของเมฆาร่างกายของเขามาก็เหมือนมีไฟช๊อตขึ้นมาเสียดื้อๆ


เมื่อกี้เขาไม่ได้ตั้งใจจะกอดเอวเมฆาซักหน่อย มันเป็นอุบัติเหตุทั้งนั้น เพียงดินคว้าอะไรได้ก็คว้ามาให้หมดไม่คิดว่าจะเป็นเอวบางๆของอีกคนซะงั้น


“ผู้ชายมันจะเอวบางขนาดนี้เลยเหรอวะ” เพียงดินพึมพำคนเดียวพร้อมกับยกมือของตัวเองที่ไปวาดเอาเอวของเมฆามากอดขึ้นมาดู ไม่ใช่แค่บางเท่านั้น ยังนุ่มนิ่มลื่นมืออีก สงสัยพวกหมอก็คงเป็นอย่างนี้กันทั้งนั้นแหละมั้ง


“อ้าวพ่อเลี้ยง มายืนอะไรตรงนี้ครับ” งอกที่กำลังจะไปอาบน้ำหันมาถามเมฆาเมื่อพบว่าเจ้านายตัวเองยืนทำหน้างงอยู่ที่ประตูทางเข้า


เพียงดินหันไปตามเสียงเรียกนั้น เจองอกทำหน้าสงสัยอยู่ งอกถอดเสื้อ งอกโชว์เอว เอวไอ้งอกก็บางกว่าเขา แต่ไม่รู้ว่าจะบางกว่าคุณหมอตัวเล็กนั่นรึเปล่า เพียงดินประมวลผลในหัวอย่างรวดเร็ว


ถ้ากอดเอวผู้ชายคนอื่นแล้วมันจะเหมือนไฟฟ้าช๊อต มันจะบาง มันจะนุ่มนิ่มลื่นมือเหมือนเอวหมอเมฆมั้ยวะ แล้วก็เร็วเท่าความคิด พ่อเลี้ยงเพียงดินย่างสามขุมเข้าไปหาลูกน้องตัวเองก่อนจะคว้าเอาเอวไอ้งอกมากอดแน่น


“เฮ้ย! นายทำอะไรเนี่ย” งอกร้องจ้ากพร้อมกับดิ้นสุดตัวจนคนทั้งห้องหันมามองเป็นตาเดียว เพียงดินสะดุ้งโหยง เริ่มจะได้สติหลังจากสติหลุดไปนาน


“มึงจะร้องทำไมเนี่ยไอ้งอก กูแค่อยากรู้ว่ากล้ามหน้าท้องมึงสู้กูได้รึเปล่าก็แค่นั้น” เพียงดินปล่อยงอกให้เป็นอิสระก่อนจะพูดแก้เขิน สายตาก็มองไปยังคนที่ทำให้สติของเขาไม่อยู่กับเนื้อกับตัว


ทำไมนะทำไม ทำไมกอดไอ้งอกไม่เห็นจะมีไฟฟ้าช๊อตเลย แถมไอ้งอกยังเอวแข็งๆ ผิวก็สาก ไม่เห็นจะนุ่มนิ่มน่ากอดเหมือนหมอเมฆเลยซักนิด


น่ากอด?


“โถ พ่อเลี้ยงครับ คราวหลังจะเล่นอะไรบอกไอ้งอกก่อนนะครับ ตกอกตกใจหมด แหม่... ไอ้งอกจะไปมีกล้ามหน้าท้องสู้นายได้ยังไงล่ะครับ” งอกพูดพร้อมกับถอนหายใจ


ไอ้งอกก็ตกอกตกใจหมดว่าพ่อเลี้ยงเกิดอารมณ์เปลี่ยวอะไรขึ้นมาอยู่ๆถึงดึงไอ้งอกเข้าไปกอดแน่นซะขนาดนั้น ไอ้งอกยังอยากมีเมีย ไม่ได้อยากเป็นเมียเก็บพ่อเลี้ยงหรอกนะ


“พูดมากน่ามึง จะไปไหนก็ไป” เพียงดินบอกอย่างปัดรำคาญแล้วเดินไปที่นอนตัวเองซึ่งงอกได้ปูเสื่อไว้แล้ว แถมยังมีหมอนให้ด้วย คงจะเป็นชาวบ้านที่เอามาให้


อีกด้านหนึ่งเมฆาที่หันไปมองเพียงดินเพราะเสียงเอะอะโวยวายนั้นก็หันกลับมาอย่างไม่สบอารมณ์ คิดถึงเรื่องเมื่อครู่แล้วอยากจะเดินเข้าไปต่อยเพียงดินให้หงายหลัง มันเป็นอะไรที่ผะอืดผะอมเมื่อถูกผู้ชายด้วยกันกอดแน่นขนาดนั้น ถ้าเขาไม่โมโหและถ้าเขามีสติ คงจะได้ฆ่าเพียงดินตายตรงนั้น


จะว่าไปมันก็น่าหงุดหงิดไม่ใช่น้อย เขาต้องการจะแก้แค้นเรื่องเมื่อตอนกลางวัน ทำไมมันกลายเป็นว่าเขาต้องมาหงุดหงิดและคิดบัญชีกับไอ้พ่อเลี้ยงคอกวัวนี่เพิ่มก็ไม่รู้ อยากจะบ้าตาย กว่าจะครอบสองปีไม่ฆ่ากันตายก่อนรึไง


“จ๊ะเอ๋!”


“เฮ้ย!” เมฆาสะดุ้งโหยงพร้อมกับหันไปมองตามต้นเสียงและนิ้วที่จิ้มลงกับเอวของเขา


ไอ้เด็กทีนี่อีกแล้ว... เมฆาถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย นี่มันวันอะไรของเขากันแน่ที่ต้องมาพบมาเจอแต่คนกวนประสาทอย่างนี้


“พี่หมอเมฆ ผมเห็นพี่ตกน้ำ เป็นไงบ้างอ่ะ” ทีถามขึ้นพร้อมกับถือวิสาสะพาตัวเองมานั่งข้างๆเมฆา


ความจริงแล้วที่นอนของเขาอยู่อีกมุมหนึ่งที่ถูกจัดไว้สำหรับนักศึกษา ตอนนี้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆของเขาออกไปทำกิจกรรมรอบกองไฟกันหมดแล้ว แต่ทีไม่ไปเพราะเหลือบมาเห็นเมฆาก่อน นั่นทำให้เขาพุ่งตรงมาที่นี่


“ไม่ได้เป็นอะไรหรอก แล้วน้องล่ะมาทำไม” เมฆาถามอย่างเซ็งๆพร้อมกับขยี้ผมตัวเองให้มันแห้งเร็วๆ ที่นี่ไม่มีพัดลม ทำให้เมฆาต้องใช้ผ้าเช็ดตัวเช็ดให้แห้ง ความจริงผมเขาก็เริ่มยาวมาบ้างแล้ว กลัวเข้าเมืองคราวนี้คงต้องตัดเสียหน่อย


“มาหาพี่หมอเมฆไงครับถามได้ พี่เมฆกินข้าวเย็นยังอ่ะ ไปกินกับผมป่าว พวกผมทำอาหารเองนะ” ทียิ้มกว้าง เมฆากรอกตาบนอย่างนึกรำคาญ การที่จะไล่ให้เด็กทีนี่ไปไกลๆเพราะเขาอยากอยู่เงียบๆคนเดียวมันจะเป็นการเสียมารยาทเกินไปรึเปล่า


“เดี๋ยวพี่ว่าจะไปกินตรงที่ชาวบ้านจัดไว้ให้น่ะ น้องไปกินกับเพื่อนๆเถอะ” บอกปัดอย่างมีมารยาที่สุดแล้ว เมฆาคว้าเอากระเป๋าตังค์พร้อมโทรศัพท์มาใส่กระเป๋ากางเกงก่อนจะลุกขึ้นแล้วเตรียมเดินไปหากลุ่มของเจ้าที่โรงพยาบาล


“ไปกับผมดีกว่านะครับพี่หมอเมฆ ผมบอกกับเพื่อนผมไว้เลยนะว่าจะพาพี่ไปเจอ” ทีลุกตามแล้วเดินมายืนตรงหน้าเมฆา


“แล้วทำไมพี่ต้องไปเจอเพื่อน้องด้วย” เมฆาขมวดคิ้วถาม ไอ้เด็กนี่ชักจะมากเกินไปแล้วนะ


“อ้าว ก็ในอนาคตพี่ต้องเป็นแฟนผมไง”


“ห๊ะ!” เมฆาตะโกนลั่นจนทั้งห้องหันมามองอีกรอบ เดี๋ยวนะเดี๋ยว เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวๆ ไอ้เด็กนี่มันพูดอะไร


“นะครับพี่หมอเมฆ ไปทานข้าวกับผมเถอะนะครับ” ทีอ้อนด้วยสายตาปริบๆ เมฆายังไม่ทันจะตั้งตัวไอ้เด็กนี่ก็ถือวิสาสะโอบเอวเขาพร้อมกับพาเดินออกไปข้างนอก


“เดี๋ยวก่อน ปล่อยเอวพี่ก่อน” เมฆาดึงมือปลาหมึกของไอ้เด็กเวรนี่ออกพร้อมถอยออกห่าง เขามีความรู้สึกขนลุกขนพองอย่างบอกไม่ถูกที่อยู่ๆก็เจอผู้ชายด้วยกันมาพูดแบบนี้


“ทำไมล่ะครับ” ทีทำหน้าหงอย เมฆามองว่ามันเหมือนลูกหมาตัวโตตัวนึง แต่มันกลับไม่น่ารักในสายตาเมฆาเลยสักนิด


“เดี๋ยวนะน้อง คืออย่างนี้นะ คือพี่ว่าพี่ต้องไปหาเพื่อนพี่แล้วล่ะ พี่มีเรื่องงานต้องคุย ส่วนน้องก็ไปทานข้าวกับเพื่อนน้องนะ” เมฆาพูดโดยที่ไม่รอให้ทีตอบเจ้าตัวก็รีบชิ่งซะก่อน


คุณหมอตัวเล็กรีบเดินหนีไปอีกทางโดยที่ไม่สนใจเสียงเรียกจากเด็กทีที่ตะโกนตามหลังมา พอลับตาเขาก็รีบติดสปีดที่ขาแล้วใส่เกียร์หมาวิ่งไปที่ศาลาสำหรับรักษาทันทีเพราะชาวบ้านจัดอาหารไว้ให้กับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลและคนงานของไร่เพียงระพีไว้ที่นั่น


“อะไรเนี่ยหมอเมฆ วิ่งหน้าตั้งมาเชียว” หมอชัยถามขึ้นเมื่อเจอคุณหมอรุ่นน้องวิ่งมาแต่ไกลก่อนจะมาทิ้งตัวลงกับพื้นยกระดับของศาลา ชาวบ้านรวมทั้งคนอื่นๆแถวนั้นก็หันมามองเล็กน้อย


“ไม่มีอะไรครับ แค่อยากออกกำลังกาย ว่าแต่มีอะไรกินข้างครับ” เมฆาตอบยิ้มๆ จะพูดได้ไงล่ะว่าหนีเด็กมา


“มีแต่อาหารพื้นๆน่ะ หมอกินได้มั้ย” หมอหนิงตอบ เธอเป็นหนึ่งในแม่ครัววันนี้ เพราะเป็นคนในพื้นที่เลยเข้าไปช่วยชาวบ้านทำด้วย แม้จะเป็นอาหารพื้นๆแต่ก็ปรับรสชาติให้เข้ากับคนเมือง เพราะกลัวว่าจะกินลำบากกันเกินไป


“ได้ครับ” เมฆาตอบก่อนจะเดินไปหาหมอหนิงเพื่อกินอาหารเย็น


“อ้าวคุณดิน” เสียงของหมอชัยทำให้เมฆาต้องหันตามเมื่อได้ยินชื่อคนที่หมอชัยเรียกนั้น


แค่เห็นว่าเป็นใครเมฆาก็กรอกตาขึ้นฟ้าอีกรอบแล้วถอนหายใจก่อนที่เขาจะเดินเลาะไปตามศาลาแล้วอ้อมไปนั่งอีกฝั่งหนึ่ง ตอนนี้ยังไม่มีอารมณ์ที่จะไปทะเลาะกับใครทั้งนั้น เบื่อทั้งเพียงดิน เบื่อทั้งไอ้เด็กทีนั่น ทำไมชีวิตเขาต้องวุ่นวายขนาดนี้ด้วย


“นี่นาย เดินหนีทำไม” แต่คงจะเป็นกรรมของเมฆาที่ทำให้เพียงดินมายืนอยู่ตรงหน้าเขาพร้อมกับจานข้าว


“แล้วนายจะทำไม เดินหนีแล้วทำไม” เมฆาวางจานข้าวตัวเองลงก่อนจะหันมามองเพียงดิน


เพียงดินไม่ยอมพูดอะไรตอบกลับ นั่นทำให้เมฆาขมวดคิ้ว เมื่อมองตามสายตาก็พบว่าเพียงดินเอาแต่จ้องมาที่เอวของเขา


เมฆาใส่เพียงแค่เสื้อกล้ามสีขาวเท่านั้น แน่นอนว่าเวลามองใกล้ๆมันต้องเห็นทะลุอยู่แล้วเพราะเสื้อมันบางมาก อากาศที่นี่ไม่ได้เย็นเพราะไม่ใช่ฤดูหนาว แต่มันก็ไม่ได้ร้อนขนาดที่ต้องใส่เสื้อกล้าม


ทำยังไงได้ล่ะ ที่เขาต้องใส่ก็เพราะเสื้อยืดของเขามันเปียกน้ำไปแล้วน่ะสิ


แล้วไอ้พ่อเลี้ยงคอกวัวนี่มันจะเอาแต่จ้องเอวเขาทำไม เพียงดินจ้องเอาซะเมฆารู้สึกขนลุกวาบๆ สายตาแบบนั้นมันเหมือนโรคจิตหื่นกามไม่มีผิด


“นี่!” เมฆาตะโกนเรียก เพียงดินสะดุ้งโหยง จากแววตาเคลิ้มฝันถูกปรับมาเป็นสีหน้าปกติ


เพียงดินไม่ได้ตั้งใจจะจ้องเอวเมฆาขนาดนั้นซักหน่อย แค่เผลอคิดถึงตอนกอดก็เท่านั้น อยากจะรู้ว่าถ้ากอดอีกครั้งมันจะเหมือนเดิมมั้ย จะเหมือนกอดไอ้งอกรึเปล่า


แล้วเมื่อกี้ไอ้เด็กเวรที่มาทำห้องสมุดก็ดันไปกอดเอวหมอเมฆนี่เข้าเต็ม นั่นทำให้เพียงดินรู้สึกหงุดหงิด ไอ้เด็กนั่นมันต้องได้สัมผัสเอวบางๆ นุ่มนิ่มๆนี้แน่ๆ


เพียงดินไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรในตอนนี้ แค่คิดว่าเอวหมอเมฆก็น่ากอดดี


เมฆายืนมองหน้าอีกคนที่เอาแต่นิ่งเงียบแล้วรู้สึกหงุดหงิดเลยคว้าเอาจานข้าวของตัวเองเดินกลับไปที่เดิม ไอ้พ่อเลี้ยงคอกวัวนั่นท่าจะประสาทแดก ไม่พูดไม่จาเอาแต่ทำหน้าอะไรก็ไม่รู้ เขายิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่ด้วย


เพียงดินเองเมื่อเห็นว่าเมฆาเดินไปแล้วเลยเดินตามแบบงง งงว่าตัวเองจะเดินตามทำไม แต่ก็นั่นแหละ รู้ตัวอีกทีก็มายืนข้างเมฆาซะแล้ว


“อะไรกันสองคนนี้เดินไปเดินมา เออ... พรุ่งนี้ผมกับหมอเมฆว่าจะลงไปหมู่บ้านทางนู้น คุณดินไปด้วยกันมั้ยครับ” หมอชัยถามนั่นทำให้เพียงดินละสายตาจากเมฆา


“ไปข้างล่างเหรอครับ ก็น่าสนใจนะครับ ผมยังไม่เคยไปเลย” เพียงดินตอบกลับ หมู่บ้านผาตะวันอยู่กลางเขา และอีกหลายๆหมู่บ้านก็เป็นแบบนั้น จะมีหมู่บ้านกลางหุบเขาบ้าง ซึ่งแต่ละหมู่บ้านอาจจะเป็นคนละชนเผ่ากัน


“แต่ต้องออกหน่อยนะครับ ต้องเดินเท้าอีกไกลเลย” หมอชัยหัวเราะก่อนจะตักข้าวเข้าปาก


“เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับ ผมเดินได้อยู่แล้ว จะมีก็แต่คนกรุงแถวนี้แหละ ที่ไม่รู้จะเดินป่าเดินเขาได้มั้ย” ประโยคหลังไม่วายที่จะหันมากระแซะเมฆาที่นั่งหน้าบอกบุญไม่รับอยู่


“ได้ไม่ได้ก็ลองดูแล้วกัน” เมฆาขี้เกียจเถียงเลยตอบไปแบบนั้น เรื่องเดินป่าไม่ใช่เรื่องยาก เขาคิดว่าเขาทำได้ แต่ต้องร่วมทางกับเพียงดินนี่สิ เมฆาคิดว่าตัวเองคงทนไม่ได้ที่จะไม่เตะปากไอ้หมอนี่ซักครั้งสองครั้ง


“จะลองดูว่าเก่งแต่ปากรึเปล่า” เพียงดินแหย่ ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เพียงดินคิดว่าการแหย่เมฆาเป็นเรื่องสนุก ก็ไอ้หมอเตี้ยเนี่ย แหย่นิดแหย่หน่อยก็จะกัดเป็นหมาแล้ว ดีนะที่เพียงดินไม่ซื้อตะกร้อมาครอบปากให้


“ก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าคนที่พูดว่าเดินได้ไม่มีปัญหาน่ะจะซักกี่น้ำกันเชียว” เมฆาจ้องหน้าอีกคน หากเป็นเหมือนในการ์ตูนตอนนี้คงจะเห็นสายไฟวิบวับฟาดฟันกันระหว่างทั้งสองคนแน่ๆ


“โอ๊ะๆ ทำมาเป็นพูด หึๆ ก่อนอื่นนะฉันว่านายกินข้าวไปเยอะๆก่อนเถอะ จะได้โตไวๆ ไม่ใช่เตี้ยแคระแกรนแบบนี้” เพียงดินว่าพร้อมยักคิ้ว เหมือนกับว่ายกนี้เขาชนะอีกแล้ว


“นี่!” เมฆาถึงกับกระแทกจานข้าวจนคนแถวนั้นหันมามอง ลำบากหมอชัยที่ยืนดูอยู่ต้องห้ามศึกชั่วคราว


“เอาล่ะๆ อย่าเพิ่งเถียงกันเลยน่า ถ้าอย่างนั้นเจอกันพรุ่งนี้ประมาณหกโมงเช้านะ ทั้งคุณดินทั้งหมอเมฆนั่นแหละ เอาเสื้อคลุมไปด้วยก็ดี อากาศมันเย็น” หมอชัยว่าพร้อมกับส่วยหัวอย่างระอา


ปกติเพียงมาทะเลาะเป็นเด็กๆแบบนี้ที่ไหน ทำไมวันนี้ถึงได้มานั่งเถียงกับเมฆาต่อหน้าคนเป็นสิบแบบนี้ได้


เพียงดินและเมฆารับคำก่อนจะหันไปกินข้าวของตัวเองต่อ ไม่อยากจะพูดอะไรมากอีกเพราะเกรงใจหมอชัยที่อายุมากกว่า ในขณะที่เมฆาหน้านิ่วคิ้วขมวด เพียงดินกลับแอบยกยิ้มอย่างพอใจ บางทีการแกล้งเมฆาก็น่าจะทำให้ชีวิตอันวุ่นวายและน่าเบื่อจำเจของเขามีชีวิตชีวาขึ้นมาบ้างก็ได้





เนอะ





*********************************************************************************





มาต่อแล้วจ้า มีข่าวดีจะมาบอก ตอนนี้งานทั้งหมดเสร็จแล้ว ตอนหน้าอาจจะเริ่มอัพถี่ๆแล้วนะคะ ตื่นเต้นๆ ตอนนี้มาแบบเบาๆ ทะเลาะกันเบาๆ ยังไม่ตีกันตายค่ะ อะไรเพียงดินจะหลงเอวน้องหมอเมฆเบอร์นั้นนนนนน เอากลับไปเล่นที่บ้านมั้ย ฮ่าๆ ฝากติดตามด้วยนะคะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:   อีเพียงดินหลงเสน่ห์น้องเมฆาแล้วละสิ คริคริ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Dolamon

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
พ่อเลี้ยงค่ะถ้าช้ามาก  ระวังจะโดนเด็กตัดหน้าแย่งคุณหมอไปนะค่ะ

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ Speirmint28

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-1
บทที่ 8


เช้ามืดของวันต่อมา เมฆาตื่นแต่เช้าเมื่อหมอชัยเข้ามาปลุกเขา เมฆาอาบน้ำเตรียมตัวและสะพายกระเป๋าพวกอุปกรณ์รักษา เขาสวมเสื้อคลุมตัวไม่ใหญ่มากและกระชับมันให้แน่นขึ้นเมื่อออกมาจากที่พักแล้วเพราะอากาศข้างนอกตอนเช้าๆค่อนข้างจะหนาวเย็นไม่น้อย


เมื่อมองไปขอบฟ้าทางตะวันออกก็เห็นพระอาทิตย์กำลังขึ้น สีทองของแสงอาทิตย์นั้นค่อยๆทาบทับลงกับสวนกะหล่ำของชาวบ้าน นั่นเป็นภาพที่น่าดูไม่น้อยเลยทีเดียว


เมฆาเดินมารวมกลุ่มที่ยืนอยู่ไม่ไกล เห็นหมอชัยกำลังยืนคุยกับชาวบ้านคนหนึ่งอยู่ พี่พยาบาลที่จะไปด้วยเป็นคนบอกเมฆาว่าชาวบ้านคนนี้จะเป็นคนนำทางเราไปหมู่บ้านข้างล่าง


เมื่อเบนสายตาไปอีกไม่ไกลเมฆาก็เจอเพียงดินที่กำลังยืนมองออกไปอีกทางในมือมีแก้วกาแฟอยู่ แค่ท่ายืนก็ขี้เก๊กแล้ว ทำมาเป็นยืนเท้าสะเอว แล้วเสื้อหนังตัวหนาๆนั่นทำให้เมฆาอยากจะขำออกมา แต่ก็ยอมรับว่าไอ้พ่อเลี้ยงคอกวัวนี่ใส่ออกมาแล้วมันดูดีจริงๆ


เขาแอบเห็นสาวๆพยาบาลมองเพียงดินด้วยแววตาเคลิ้มฝัน นั่นทำให้เมฆาเบ้ปากออกมา เมฆาอยากจะเดินไปกระโดดถีบหมอนี่ตกเขาเสียจริง


“ป่ะ พร้อมแล้ว ออกเดินทางกันเถอะ” หมอชัยบอกทุกคน เมฆาขานรับก่อนจะเดินตามหมอชัยที่ออกตัวเดินนำไปพร้อมกับชาวบ้านที่นำทาง


ชาวบ้านที่นำทางแกชื่อลุงกือเลาะ แกบอกว่าหมู่บ้านข้างล่างชื่อหมู่บ้านสันติเป็นหมู่บ้านของชาวอาข่า เราต้องเดินเท้าเข้าไปราวๆหนึ่งกิโลเมตร เมฆาไม่มีปัญหากับการเดินอยู่แล้ว ดีเสียอีกเขาจะได้ซึมซับบรรยากาศบริสุทธิ์นี้ให้มากๆหลังจากอยู่แต่เมืองกรุงที่มีแต่หมอกควันมาทั้งชีวิต


ความจริงที่นี่ก็น่าอยู่ไม่น้อย เขาคิดว่าเขาชอบภูเขา ไม่อย่างนั้นคงไม่มาหาตะวันทุกปี และไม่แอบขอไปนอนกับภุมรินที่ไร่ บรรยากาศในไร่มันน่าอยู่จะตาย แต่ก็นะ เขาก็มีบ้านของเขา มีหน้าที่ที่ต้องทำ จะให้ไปเป็นคนงานในไร่น้ำรินก็คงจะไม่ไหว


“ถ้ากระเป๋ามันหนักให้ฉันช่วยถือก็ได้นะ เห็นแล้วสงสารว่ะ” แล้วบรรยากาศยามเช้าอันสดใสของเมฆาก็ต้องจบลงเมื่อคู่อริคนเดิมมาเดินข้างพร้อมกับพูดจากวนประสาท


“นี่นายเพียงดิน เลิกยุ่งกับฉันซักวันมันจะเป็นอะไรมั้ย” เมฆาหันไปว่า


พักหลังเขาเริ่มขี้เกียจเถียงเพียงดินแล้ว เพราะเขาคิดว่ามันไร้สาระ เหตุผลบ้าๆที่เพียงดินกล่าวหาว่าเขาไปชอบไอ้พี่รัชนั่นมันชั่งปัญญาอ่อนสิ้นดี เมฆาไม่สนใจแล้ว เพราะยังไงตอนนี้สิตางศุ์ก็เข้าใจเขาและไม่ระแวงเรื่องเขากับรัชพล และอีกอย่างเขากับรัชพลก็บริสุทธิ์ใจต่อกัน จะมีก็แต่ไอ้พ่อเลี้ยงคอกวัวนี่แหละ ที่เหมือนจะคิดไม่ซื่อกับสิตางศุ์


“อยากยุ่งด้วยตายล่ะ ไอ้เราก็แค่สงสาร เห็นตัวเท่าหมากระเป๋าต้องมาแบกกระเป๋าใบโตๆ กลัวจะตกเขาตายไปก่อน” เพียงดินว่า


ความจริงแล้วเขาคิดอยากจะช่วยเมฆาก็เท่านั้น แต่ปากมันดันพาหมาออกมาเดินเพ่นพ่านซะนี่เลยพูดออกไปแบบนั้น กระเป๋ามันใบไม่ใช่น้อยๆ เมฆาก็ตัวเท่าไหร่เองแบกขึ้นเขาลงเขาคงจะเหนื่อยอยู่เหมือนกัน เขาก็แค่อยากจะช่วย


เท่านั้นจริงๆ! ก็นะ ไอ้หมอเตี้ยเนี่ยวันๆเคยลำบากแบบนี้ที่ไหน เขานี่สิตากแดดในไร่ทั้งวัน เพียงดินคนนี้ก็มีน้ำใจพอที่จะช่วยหมากระเป๋าชื่อเมฆาถือกระเป๋ายาใบโต ไม่ได้มีอะไรนอกเหนือจากนั้น แม้ว่าเอวเมฆาจะน่ากอดก็เถอะ


เมฆาไม่ตอบอะไรเพราะขี้เกียจเถียงกับเพียงดิน เขาเลยเร่งฝีเท้าเดินนำหน้าเมฆาไปไกลไปเดินอยู่ข้างๆหมอชัย เพียงดินได้แต่มองตาม เพราะไม่อยากไปพูดจากวนประสาทเมฆาต่อหน้าหมอชัยอีก ทำให้ตลอดทางทั้งสองคนเดินแยกกันอยู่อย่างนั้น


ทางไปหมู่บ้านสันติเป็นทางลงเขาที่ค่อนข้างจะลาดชัน เมื่อลงไปข้างล่างแล้วก็ต้องเดินพื้นราบอีกครึ่งทาง เมฆาไม่คิดว่าการเดินเขาครั้งนี้มันเหนื่อยเพราะเขาคิดว่าเขาสนุกไปกับมัน ไร่กะกล่ำของชาวบ้านทอดยาวออกไป แสงแห่งเช้าวันใหม่กระทบจนมันกลายเป็นสีส้มจ้างๆ บริเวณรอบๆก็มีแต่ต้นไม้ เมื่อมองออกไปก็เจอหมู่บ้านสันติแล้ว


ใช้เวลาไม่นานทั้งหมดก็มาถึงที่ลานกว้างของหมู่บ้าน มีการกล่าวต้อนรับเล็กน้อยจากหัวหน้าหมู่บ้านก่อนทีคณะจากโรงพยาบาลจะไปจัดพื้นที่เพื่อตรวจสุขภาพ ชาวบ้านที่นี่ไม่เยอะเท่ากันที่หมู่บ้านผาตะวัน ทำให้เมฆาไม่เหนื่อยเท่าที่ควร


เพียงดินเองเมื่อลงมาข้างล่างแล้วก็เดินไปดูสวนกะหล่ำของชาวบ้าน เจออดีตคนงานไร่ของตัวเองที่ตอนนี้กลับมาทำไร่ที่บ้าน เขาเข้าไปทักทายนิดหน่อยพร้อมกับถามเรื่องการปลูกกะหล่ำ เพียงดินแค่สนใจแต่ถ้าให้มาปลูกเองคงไม่ไหว เขาคิดว่ากะหล่ำของชาวบ้านที่นี่ถ้าส่งขายน่าจะกำไรดี และชาวบ้านก็น่าจะมีรายได้ดีไม่น้อยเลยทีเดียว


พักกลางวันเป็นเวลาที่ได้หยุดพัก นั่นทำให้เพียงดินต้องมาเจอเมฆาอีกครั้ง จากเหงื่อที่ชื้นไรผมนั้นทำให้เพียงดินรู้ว่าคนตัวเล็กเหนื่อยมากแค่ไหน เขารู้ว่าอาชีพหมอมันเหนื่อยแค่ไหน แล้วยังจะต้องมาเดินเขาขึ้นๆลงๆอีก มองหน้าหมอเมฆ มองไปมองมาก็น่ารักไม่หยอก


ผมสีน้ำตาเข้มที่เกือบจะดำนั้นเข้ากับรูปหน้า ผิวดีๆของคนที่เคยอยู่ต่อในเมืองตอนนี้มันแดงระเรื่อจากไอแดดและการทำงาน จนหน้าหมอเมฆแดงเป็นมะเขือเทศสุกไปแล้ว ปากเล็กๆนั่นมันน่าจับมาบีบให้หายหมั่นเขี้ยว ชอบนักกับการด่าทอคนอื่นเนี่ย เด็กบ้าอะไรปากจัดชะมัด


มองไปมองมาเพียงดินก็แอบหัวเราะอยู่คนเดียว เขานี่ท่าจะบ้า บ้ามากๆด้วยที่มานั่งแจกแจงเมฆาถึงขนาดนี้ จนตอนนี้เขาเองก็ยังคิดว่าไอ้หมอเตี้ยนี่มันชอบคุณรัชอยู่


แน่นอนล่ะ การแสดงออกอย่างนั้นมันจะมีอะไรมากไปกว่าการแอบชอบซะอีก แต่บางทีนะ เพียงดินก็คิดอิจฉาคุณรัชที่มีคนชอบมากมาย แต่สุดท้ายคุณรัชเค้าก็เลือกคุณสิตางศุ์ อย่างไอ้หมอเตี้ยนี่ไม่เหมาะกับคุณรัชหรอก


“อะไรกันคุณดิน นั่งยิ้มอยู่คนเดียว” หอมชัยพูดขึ้นหลังจากเขากินข้าวกลางวันเสร็จแล้ว เพียงดินแอบสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะหันมายิ้มให้หมอชัย


“เปล่าหรอกครับ คิดอะไรไปเรื่อยน่ะ” เพียงดินตอบ


เมฆาที่กินข้าวอยู่หันไปมองเพียงดินที่เอาแต่ยิ้มกรุ้มกริ่ม เขารู้สึกได้ว่าเพียงดินแอบมองเขาอยู่ ไม่วายหมอนี่คงหัวเราะเยาะอะไรเขาอีกแน่ เมฆาไม่ได้พูดอะไรออกไป เพราะไม่อยากจะเถียงกับเพียงดิน เขาเหนื่อยมากแล้ว


“อ้อ เย็นนี้มีตลาดด้วยนะ ชาวบ้านแถวนี้เค้าจะมารวมกันที่นี่น่ะ พวกเราอยากไปมั้ย” หมอชัยพูดขึ้น เขาเพิ่งรู้จากลุงกือเลาะเมื่อครู่ว่าเย็นนี้มีตลาดของชาวเขาด้วย ก่อนกลับก็น่าจะแวะไปเสียหน่อย


“ไปค่ะ ทำงานทั้งวันน่าจะไปผ่อนคลายบ้าง” พยาบาลสาวพูดขึ้น


“ก็ดีเหมือนกันนะครับ ผมสนใจพวกผักที่ชาวบ้านปลูกมาก ในตลาดน่าจะมีสินค้าพวกนี้เยอะ ลองไปดูหน่อยก็ดี” เพียงดินเองก็สนใจ


“ถ้าอย่างนั้นก่อนกลับเราค่อยไปกัน แล้วหมอเมฆล่ะว่ายังไง” หมอชัยหันมาถามเมฆาที่เอาแต่นั่งนิ่งเงียบไม่ยอมพูดยอมจา


“ไปก็ไปครับ” เขาตอบเพียงเท่านั้น ความจริงเขาก็อยากลองไปเหมือนกัน ตลาดชาวเขาอย่างนั้นเหรอ มันก็น่าสนใจไม่น้อย แต่มันจะดีกว่านี้ถ้าไม่มีตัวกวนประสาทอย่างเพียงดินไปด้วย


แล้วเย็นวันนั้นก่อนกลับหมู่บ้านผาตะวัน ลุงกือเลาะก็พาทั้งหมดไปที่ตลาดซึ่งเป็นทางผ่านขึ้นกลับไปหมู่บ้านผาตะวัน


เมื่อถึงที่หมายพยาบาลสาวสองคนก็แยกกันไปอีกทางเพราะพวกเธอมีทีท่าสนใจชุดพื้นเมืองของชาวเขาเข้าแล้ว หมอชัยก็แยกไปเดินกับลุงกือเลาะทิ้งให้เมฆาเดินตามหา แต่เดินไปเดินมาทั้งสองคนก็ลับสายตาไปเสียแล้ว พอรู้ตัวอีกทีเพียงดินก็มาเดินด้วยข้างๆ นั่นทำให้เมฆาถอนหายใจอย่างปลงตก


เพียงดินที่เดินตามเมฆามาคว้าเอากระเป๋าเครื่องมือแพทย์มาถือโดยที่ไม่ถามเมฆาแม้แต่คำเดียว เขาก็แค่เห็นว่าเมฆาเหนื่อยมากแล้ว การเดินถือกระเป๋าหนักๆแบบนี้ก็กลัวว่าคุณหมอตัวเล็กจะเป็นลมล้มพับไปเสียก่อน



แต่ความหวังดีของเพียงดินนั้นเมฆากลับมองว่ามันเป็นการกวนประสาทของเพียงดินเสียมากกว่า คุณหมอตัวเล็กเลยตวัดสายตามาฟาดเพียงดินไปหนึ่งที


“นี่ วันนี้ฉันเหนื่อย หยุดกวนประสาทซักทีได้มั้ย เอากระเป๋าฉันคืนมา” เมฆาว่าพร้อมกับยื่นมือไปข้างหน้าเพื่อจะขอกระเป๋าของตัวเองคืน


“ถ้าอยากได้ก็เดินตามมาเอาเองแล้วกัน” เพียงดินพูดแค่นั้นก่อนจะเดินนำเมฆาไป ความจริงเขาแค่อยากจะช่วยเท่านั้นแหละ แต่ปากมันดันพูดดีๆไม่เป็นซะอย่างนั้นเมื่ออยู่ต่อหน้าเมฆา


ขายาวๆก้าวเดินนำมาเรื่อยๆ เมฆาก็เดินตามด้วยใบหน้าที่ไม่สบอารมณ์เท่าที่ควร เพียงดินพาเขาแยกเข้าไปในส่วนที่เป็นสินค้าพวกผักและผลไม้สด ซึ่งเรียงรายกันเป็นแถวยาว เมฆาคิดว่ามันจะเป็นเพียงแค่ตลาดเล็กๆเสียอีก แต่ที่ไหนได้ มันเป็นตลาดใหญ่ที่รวมสินค้าทั้งหมดไว้ต่างหาก


“อันนี้เค้าเรียกอะไรเหรอ” เมฆาหยุดเดินแล้วนั่งยองๆเมื่อเห็นว่ามีผลไม้หน้าตาประหลาดวางอยู่ เขาเลยถามเด็กหญิงคนหนึ่งที่แต่งตัวด้วยชุดพื้นเมือง


เด็กหญิงคนนั้นมองหน้าเมฆาแล้วเริ่มจะถอยหนี ไม่ยอมพูดยอมจาด้วย เมฆาถึงกับคิ้วขมวด ทำไมเด็กถึงทำท่าเหมือนกลัวเขาขนาดนั้นกัน


“หมอ” สำเนียงที่พูดไม่ชัดนั้นทำให้เมฆาเข้าใจถึงสิ่งที่เด็กขายของคนนี้คิด เขายังอยู่ในชุดที่ใครๆมองก็รู้ว่าทำอาชีพอะไร และแน่นอนว่าเด็กย่อมไม่ถูกกับคุณหมอ นั่นเป็นสิ่งที่เมฆาเจอตลอดตั้งแต่เริ่มรักษาคนไข้มา


“หึๆ อันนี้เค้าเรียกว่ามะหลอด เป็นผลไม้เมืองเหนือ ถ้าแก่แล้วมันจะลูกแดงๆ รสเปรี้ยวๆ” เมื่อแม่ค้าตัวน้อยไม่ยอมตอบเพียงดินที่ยืนดูอยู่ก็ตอบแทนพร้อมกับมานั่งอยู่ข้างๆเมฆา


“ใครถามกัน” เมฆาหันไปค้อน


“อ้าว ก็เห็นเด็กไม่ยอมตอบเพราะกลัวหมอ เกษตรกรดีเด่นอย่างผมก็ต้องตอบแทนสิครับ” เพียงดินพูดอย่างอารมณ์ดี


“นี่หนู ฉันอยากลองชิมน่ะ ขายยังไงเหรอ” เมฆาไม่สนใจคนที่นั่งข้างๆแล้วหันไปถามเด็กอีกรอบ


“ห่อละห้าบาทจ้า” แต่คราวนี้เป็นหญิงสาวคนหนึ่งที่ตอบแทน เธอเพิ่งเดินมานั่ง


เด็กหญิงโผเข้ากอดผู้หญิงคนนั้นอย่างแรก แอบหันมามองเมฆาบ้างแล้วก็มุดหน้าลงกับไหล่ของแม่ เมฆายิ้มน้อยๆให้กับความน่ารักนั้น ทำไมนะ ทำไมเด็กๆชอบกลัวหมอกันจัง


“อ่ะ” เพียงดินยื่นผลไม้สีแดงสดมาให้เมฆาที่มัวแต่นั่งยิ้ม


“อะไร” เมฆาถาม อะไรของเพียงดินอีก


“มะหลอดไง อยากลองไม่ใช่เหรอ ฉันซื้อมาแล้ว” เพียงดินว่า


คุณหมอเมฆเอาแต่นั่งแกล้งเด็กจนเขาซื้อมาแล้วถุงนึง ความจริงมะหลอดมันก็ออกได้ทั่วไป เพียงดินยังแปลกใจไม่น้อยที่มีขายด้วย แต่คนเมืองอย่างเมฆาคงยังไม่เคยกินผลไม้พื้นๆแบบนี้เท่าไหร่


“ฉันซื้อเองได้น่า” เมฆาหันไปเอ็ด เขาไม่ได้บอกให้ไอ้หมอนี่ซื้อให้ซะหน่อย เขาอยากกินเขาก็ต้องซื้อเองอยู่แล้ว ยุ่งไม่เข้าเรื่องจริงๆ


“ซื้อมาแล้วก็กินไปเถอะน่า อ่ะ” เพียงดินยื่นไปอีกรอบแต่เมฆาก็ยังนิ่ง นั่นทำให้พ่อเลี้ยงหนุ่มทนกับความดื้อของเมฆาไม่ไหวเลยยัดมะหลอดเข้าไปในปากเมฆาซะเลย


“อื้อ! ไอ้บ้า มันเปรี้ยว” เมฆาโวยลั่นเมื่อมะหลอดลูกแดงสุกเข้าไปในปาก


ทันทีที่รสเปรี้ยวๆนั้นแตะปลายลิ้นเขาก็แทบอยากจะคายทิ้ง มือเล็กนั้นพยายามจับมือของเพียงดินที่เอาแต่ยัดเจ้าผลไม้เปรี้ยวนั่นเข้าปากเขาอย่างพัลวัน เสียงหัวเราะของเพียงดินทำให้เมฆาเริ่มจะโมโห


“ฮ่าๆ ขอโทษๆ ไม่แกล้งแล้ว” เพียงดินหัวเราะลั่นเมื่อเมฆาทำหน้าเหยเก เด็กหญิงที่กลัวหมอเมฆเองก็หัวเราะตามไปด้วย


ความจริงมะหลอดมันไม่ได้มีแค่พันธ์ที่เป็นรสเปรี้ยว แต่พันธ์ที่เมฆากำลังกินคงจะเป็นพันธ์เปรี้ยว ซึ่งมันเปรี้ยวจี๊ดอย่าบอกใครเลย


“ยัดมาได้” เมฆาว่าเพียงดิน รสเปรี้ยวของไอ้ผลไม้นี่ยังคงติดลิ้นเขาอยู่เลย มันเปรี้ยวก็จริง แต่ถ้าลองเอาไปแช่น้ำปลาก็คงจะอร่อยไม่น้อยเหมือนกัน



“หึๆ” เพียงดินหัวเราะอย่างอารมณ์ดีเมื่อเห็นท่าทีของเมฆา


แล้วสายตาของเขาก็ไปกระทบกับมือของเมฆาที่ยังคงจับมือเขาไว้แน่น นายเหนือแห่งไร่เพียงระพีแอบยกยิ้มที่คุณหมอตัวเล็กยังคงจับมือเขาไว้อย่างนั้นโดยที่เมฆาไม่รู้ตัว


มือใหญ่ของเพียงดินแอบขยับแล้วสัมผัสมือของเมฆาให้มากกว่าเดิม มือเมฆาอาจจะไม่ได้นุ่มนิ่มเท่าผู้หญิง แต่แน่นอนว่ามันนุ่มน่าจับกว่ามือสากๆของชาวไร่ชาวสวนอย่างเพียงดินแน่นอน


เมฆาที่รับรู้ถึงแรงขยับที่มือก็หันมามอง พบว่าตัวเองยังคงจับมือเพียงดินอย่างนั้น คุณหมอตัวเล็กรีบสะบัดมือออกอย่างรวดเร็วแล้วลุกขึ้นยืน


เพียงดินหัวเราะเล็กน้อยแต่ก็ยังยิ้มไม่หยุด รอยยิ้มของเพียงดินนั้นมันชั่งกวนประสาทเมฆาเสียนี่กระไร คุณหมอเมฆตัวแสบเลยส่งค้อนวงงามไปให้เพียงดินหนึ่งทีแล้วรีบเดินหนีไปจากตรงนั้น เพียงดินก็ลุกขึ้นแล้วเดินตาม






ร่างเล็กๆที่เดินนำเขาไปนั้น ดูไปดูมาก็น่ารักไม่เบา






*********************************************************************************





ทำไมตอนนี้มันละมุนละไมผิดหลักกับพล๊อตเรื่องนิยายตีกันตายของพระนายคะ อิพี่ดินนี่มือไวใจเร็วมากแต่ปากหนักปากหมาไปหน่อย แล้วอย่างนี้พ่อพระเอกฉันจะได้แอ้มหมอเมฆเมื่อไหร่ล่ะยะ ฮ่าๆ เอาเป็นว่าฝากให้กำลังใจคุณพ่อเลี้ยงของเราด้วยนะคะ รักคนอ่านทุกท่านค่ะ
 :mew1:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
มีการแอบปลอยให้หมอจับมือนะ

ออฟไลน์ มะเขือม่วง

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 435
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด