บทที่ 42
เมฆานั่งนิ่ง เขามองผู้ชายร่างใหญ่ที่ขับรถอยู่ผ่านกระจกหน้ารถ ข้างๆมีอีกคนที่กำลังถือปืนในมือแน่น เขาและราตรีนั่งอยู่เบาะหลังโดยมีเขานั่งคั่นตรงกลางระหว่างราตรีและคนร้ายอีกคนหนึ่ง ทางที่รถกำลังแล่นไปนั้นเริ่มเป็นป่าลึกมากยิ่งขึ้น และทางก็ยิ่งเริ่มขรุขระมากขึ้นกว่าเดิม
ลำพังเมฆาเองเขาก็ถือว่าตกใจไม่น้อยเหมือนกัน แต่เขาเป็นห่วงราตรีมากกว่า เธอมีอาการเจ็บท้องอย่างหนักจนเกือบหมดสติไปหลายรอบ และสภาวะอย่างนี้แน่นอนว่าต้องเสี่ยงต่อการแท้งลูกอย่างแน่นอน แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้เมฆามั่นใจแล้วว่าราตรีอาจจะท้องกับพงศ์ ซึ่งอาจจะเป็นคนรักของเธอ
และเมื่อฟังจากที่พวกคนร้ายพูด พงศ์น่าจะไปติดหนี้อะไรซักอย่าง แล้วหนีไป พวกนี้เลยจับราตรีมาเป็นตัวประกันเพื่อนเรียกค่าไถ่จากนายอำเภอ
เมฆาประมวลผล ถ้าพอจับจุดได้อย่างนี้ก็น่าจะพอเจรจากันได้
รถคันโตแล่นขึ้นเขาลงเขาไม่นานก็มาจอดที่แคมป์กลางหุบเขา มีบ้านหลังไม่ใหญ่มากถูกสร้างด้วยไม้ตั้งอยู่เดี่ยวๆหลังเดียว โดยที่มีผู้ชายอีกสองสามคนยืนถือปืนคอยคุมอยู่รอบๆ
“ลงมา” เมื่อประตูรถถูกเปิดเมฆาก็ถูกกระชากออกมาพร้อมกับราตรีที่สภาพของเธอแทบจะยืนไม่ได้
“เบาๆสิ เธอเจ็บอยู่นะ” เมฆารีบไปประคองร่างบางนั้น เขาสังเกตเห็นรอยเลือดที่เริ่มไหลลงมาตามเรียวขาของราตรี ก่อนที่ร่างของเธอจะล้มฟุบลง
“เฮ้ย มันเป็นอะไรวะ” คนร้ายดูเหมือนจะตกใจไม่น้อยที่อยู่ๆราตรีก็ล้มลงไปอย่างนั้น
“เธอกำลังแย่ ผมบอกพวกคุณแล้วว่าให้พาเธอไปโรงพยาบาลก่อน” เมฆาหัวเสียไม่น้อย ทำไมเข้าต้องมาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ด้วย ตอนนี้เขาแทบไม่กลัวผู้ชายถือปืนตรงหน้า เขาโมโหมากกว่าที่ปล่อยให้คนไข้ของเขาต้องมาเจ็บแบบนี้
“เอาไงดีวะ แม่งจะตายห่าก่อนรึเปล่าก็ไม่รู้” ชายสองคนปรึกษากัน
“มึงน่ะ เป็นหมอไม่ใช่เหรอ รักษามันสิ” คนหนึ่งพูดขึ้น เมฆาหันมองตาขวาง
“เป็นหมอแต่ถ้าอุปกรณ์ไม่มี ก็ใช่ว่าจะรักษาได้นะ ถ้าไม่อยากให้เธอตาย ควรพาเธอไปที่โรงพยาบาล” เมฆาเถียงกลับอย่างไม่สบอารมณ์
“ถ้าอย่างนั้นก็ปล่อยมันตายอยู่นี่แหละ ยังไงพ่อมันก็ไม่รู้อยู่แล้ว พาตัวสองคนนี้เข้าไปในบ้าน จนกว่าพ่ออินี่จะติดต่อมา” เมื่อพูดจบร่างของเมฆาก็ลอยหวือไปตามแรงกระชาก ส่วนราตรีถูกอุ้มโดยผู้ชายอีกคน
เมฆากัดฟันกรอดอย่างโมโหและคิดไม่ตกว่าจะทำยังไงต่อไปดี และที่สำคัญตอนนี้ราตรีกำลังอาการแย่ ซึ่งเธอเหมือนจะแท้งลูกแล้วด้วยซ้ำไป
คนงานของไร่เพียงระพีวิ่งหน้าตื่นเข้ามาในบ้าน พอดีกับที่เพียงดินกลับเข้ามาในบ้านพอดี กว่าเขาจะสลัดพะพายได้ก็นานพอสมควร แต่เขาต้องรีบกับมาคุยกับคนที่ทำท่าเหมือนจะงอนก่อน เพราะไม่อยากให้เมฆาไม่พอใจไปมากกว่านี้
“มีอะไร ทำไมวิ่งหน้าตื่นมาขนาดนั้น” เพียงดินถาม
“แย่แล้วครับพ่อเลี้ยง มีคนจับตัวคุณหมอกับคุณหนูราตรีไปครับ” คนงานระล่ำระลักบอก
“อะไรนะ!” เพียงดินรู้สึกตัวชาก่อนจะเดินไปหาคนงานคนนั้น
“เมื่อกี้คุณหนูราตรีเธอเหมือนไม่สบายล้มลงไป คุณหมอเลยจะพาไปโรงพยาบาล ผมขับรถออกจากไร่ไปไม่เท่าไหร่ก็เจอรถอีกคันจอดดักทางไว้ แล้วเอาตัวทั้งสองคนไปเลยครับ” คนงานเล่า
“แล้วมึงปล่อยให้เมฆถูกจับตัวไปได้ยังไงวะ! พวกมันบอกอะไรบ้าง” เพียงดินตะโกนลั่นอย่างโมโห จนคนงานแถวนั้นพากันหันมามอง
“พะ... พวกมันบอกว่าให้นายอำเภอเอาเงินไปไถ่ตัวคุณราตรีครับ ตอนแรกจะจับแค่เธอไป แต่เธอดูอาการไม่ดี พวกมันเลยพาคุณหมอไปด้วย พวกมันพูดถึงคนชื่อพงศ์ด้วยครับ” คนงานตัวสั่นงก
เพียงดินเวลานี้ น่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก จนเขาต้องเอียงหน้า เผื่อพ่อเลี้ยงเกิดโมโหแล้วต่อยขึ้นมาจะได้ตั้งรับถูก
เพียงดินปล่อยคนงานลงอย่างโมโห ก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปข้างในบ้าน มือก็คว้าโทรศัพท์มาอย่างรวดเร็วพรอมกับกดโทรออก
“สวัสดีครับท่าน ตอนนี้มีเรื่องด่วนแล้ว” เพียงดินเล่ารายละเอียดให้นายอำเภอฟังก่อนที่เขาจะคว้ากุญแจรถออก แล้วตรงไปที่ไร่น้ำรินก่อนเป็นอันดับแรก
เมฆาและราตรีถูกนำมาขังไว้ที่ห้องอับๆห้องหนึ่ง พวกมันล๊อคไว้จากข้างนอก เมฆาแอบพยายามเปิดยังไงก็เปิดไม่ออก เขาเลยได้แต่แอบมองพวกมันผ่านรูเล็กๆระหว่างแผ่นไม้ ไม่นานเหมือนมีคุยเดินเข้ามาหาชายฉกรรจ์สองคนนั้นแล้วคุยกันด้วยภาษาที่เมฆาไม่เข้าใจ มันคล้ายภาษาของชนเผ่า เขาเลยกลับมาหาราตรีที่นอนนิ่งอยู่
“เจ็บ ฉันเจ็บ” เสียงดังแผ่วนั้นทำให้เมฆาต้องหันไปมองราตรี เธอค่อยๆลืมตาขึ้น ชุดสีสะอาดของเธอตอนนี้เปื้อนเลือดเต็มไปหมด ถ้าไม่รีบพาเธอไปที่โรงพยาบาลเร็วๆนี้ ราตรีต้องแย่แน่ๆ
“ทำใจดีๆก่อนนะครับคุณราตรี” เมฆาเข้าไปจับมือเธอไว้แน่น เพราะไม่อยากให้ราตรีต้องจิกเล็บตัวเองลงกับมือของเธออีก
“ที่นี่ที่ไหน” ราตรีตาลอยมองไปยังบริเวณรอบๆ
“เราถูกจับตัวมาเรียกค่าไถ่ครับ” เมฆาบอกตามตรง
“ห๊ะ!” ราตรีเบิกตาโพลง แล้วมองไปรอบๆอีกครั้งอย่างตกใจ จับตัวเรียกค่าไถ่เนี่ยนะ!
“พวกมันจับตัวคุณมาเพื่อเรียกค่าไถ่จากพ่อคุณ และมันพูดถึงคนชื่อพงศ์ คุณรู้จักเค้าใช่มั้ยครับ” เมฆาถามอย่างจริงจัง
“พะ... พงศ์” ราตรีหน้าซีดลงเล็กน้อย เธอเบือนหน้าหนี เหมือนไม่อยากพูดถึง
“คุณต้องบอกผมเรื่องของคนชื่อพงศ์ เพราะมันเกี่ยวกับทั้งคุณและผม พวกนั้นบอกว่าคนชื่อพงศ์ไปติดหนี้พวกมันไว้สามล้านแล้วหนีไป เลยต้องมาจับตัวคุณเรียกค่าไถ่จากพ่อคุณ ถ้าผมเดาไม่ผิด คนชื่อพงศ์คือพ่อของเด็กในท้องคุณใช่มั้ยครับ” เมฆาถามตรงๆ เพราะตอนนี้ไม่มีเวลามาพิรี้พิไรมากนัก ทั้งอาการของราตรีเอง และความเสี่ยงของเขาเอง ขึ้นอยู่กับเรื่องนี้
“นายรู้” ราตรีหันมามอง เมฆารู้ว่าเธอท้องอย่างนั้นเหรอ
“ครับ และตอนนี้ผมอยากจะบอกคุณว่า คุณอาจจะแท้งลูกแล้วด้วย ผมเสียใจด้วยครับ” เมฆายอมบอกเรื่องนี้กับเธอ มันอาจจะกระทบกระเทือนจิตใจเธอไปบ้าง แต่มันต้องบอก
“ทะ... แท้ง” ราตรีหน้าซีดลงแล้วก้มมองคราบเลือดที่เต็มเรียวขาของเธอ เธอมองอยู่อย่างนั้นก่อนที่น้ำตาจะไหลลงมาอย่างไม่รู้ตัว
“ผมช่วยคุณไว้ไม่ได้จริงๆ ขอโทษด้วยครับ” เมฆาเองก็หดหู่ไม่น้อยเหมือนกันที่ต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ เขาเพิ่งจบมาไม่เท่าไหร่ ประสบการณ์ที่พบเจอกับการสูญเสียย่อมมีไม่มาก
“ฮึก... พงศ์ ฮือ” ราตรีร้องไห้ออกมา
เด็กในท้องคือลูกของพงศ์จริงๆ คนที่เมฆาเจอวันนั้น วันงานเกษตร เรื่องนี้มีไม่กี่คนที่รู้ถึงความสัมพันธ์ของเธอและพงศ์ รวมไปถึงเรื่องที่เธอท้องด้วย
ราตรีเหมือนจะรักเพียงดินก็จริง แต่นั้นคือสิ่งที่เธอหลอกตัวเองเสมอมา เพราะจริงๆแล้วนั้น คนเดียวที่อยู่ในหัวใจของเธอ คือพงศ์ พ่อของเด็กในท้อง
“มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไง” รัชพลดูจะตกใจไม่น้อยเหมือนกันที่อยู่ๆเพียงดินก็เข้ามาบอกว่าเมฆาถูกจับตัวไป
สิตางศุ์หน้าซีดเผือด เขาเคยพบเจอกับกลุ่มแบบนี้มาเหมือนกัน พวกผู้มีอิทธิพลท้องถิ่นทำอะไรไม่ค่อยจะกลัวเกรงอำนาจรัฐเท่าไหร่ ยังไม่พอ ตำรวจที่นี่ยังซักทอดตามจับยากเข้าไปอีก
“คนงานของผมบอกว่ามันพูดถึงคนชื่อพงศ์ ผมอยากให้คุณรัชช่วยเรื่องนี้หน่อยครับ เพราะผมเองก็ไม่รู้จะไปหาเมฆาเจอได้ที่ไหน” เพียงดินพูดด้วยสีหน้าที่เครียด
“คุณติดต่อนายอำเภอรึยังคะ ถ้าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับคุณราตรีด้วย ท่านน่าจะรู้” รัชพลว่า
“เดี๋ยวผมโทรหารินกับคุณตะวันก่อนก็แล้วกันครับ” สิตางศุ์ที่เงียบมานานเสนอขึ้น เรื่องนี้ยังไงแล้วตะวันก็ต้องรู้ เพราะเกี่ยวข้องกับเมฆาเต็มๆ อยู่น้องตัวเองหายไปแบบนั้น จะไม่บอกให้พี่เค้ารู้ก็กะไรอยู่
รัชพลพยักหน้าเล็กน้อยแล้วหันมามองเพียงดินต่อ เพียงดินนั้นดูหงุดหงิดไม่น้อย เขาใช้มือขยี้หัวตัวเอง
ครืด
เสียงโทรศัพท์ของเพียงดินดังขึ้น เขารีบกดรับเมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์ของใคร นายอำเภอติดต่อกลับมาแล้วหลังจากเขาให้จัดการเรื่องของคนชื่อพงศ์
“ลูกน้องผมไปสืบมาแล้ว คนชื่อพงศ์เป็นลูกตาแหวงที่เพิ่งตายไปเมื่อสองสามเดือนก่อน ผมเพิ่งรู้ว่าเค้ามีความเกี่ยวข้องกับลูกสาวผม คนอื่นบอกว่าตอนนี้มันหนีข้ามชายแดนไปแล้ว แต่พอจะรู้ที่อยู่ของมัน ตอนนี้ผมติดราชการอยู่ต่างจังหวัด คงกลับอีกทีตอนเย็น ผมฝากพ่อเลี้ยงจัดการได้มั้ยครับ ช่วยราตรีด้วย” สียงนายอำเภอดูจะเป็นวิตกไม่น้อยไปกว่าเขาเท่าไหร่ เพียงดินให้ท่านจัดการเรื่องการหาตัวนายพงศ์ ซึ่งน่าจะเป็นกุญแจตัวสำคัญที่ทำให้หาราตรีและเมฆาเจอ
“ท่านไม่ต้องห่วงครับ ผมจะช่วยทั้งเมฆาและราตรีออกมาให้ได้ เดี๋ยวท่านให้คนของท่านมาที่ไร่น้ำรินเลยนะครับ ผมอยู่ที่นี่” เพียงดินใจชื้นขึ้นมาหน่อย เมื่อพอจะมองเห็นความหวังลางๆ
“ขอบใจมากพ่อเลี้ยง เดี๋ยวผมจะให้คนของผมไปที่นั่น”
หลังจากวางสายไป เพียงดินก็นั่งรอคนของนายอำเภออย่างใจจดใจจ่อ ตะวันกับภุมรินเมื่อได้รับสายจากสิตางศุ์แล้วก็รีบมาที่ไร่น้ำรินเช่นกัน คงต้องเริ่มที่คนชื่อพงศ์
ราตรีเลิกร้องไห้ไปนานแล้ว แต่เธอก็ยังคงอาการแย่อยู่เหมือนเดิม นัยน์ตานั้นแดงก่ำหลังจากผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักหน่วง
“คุณโอเครึยัง” เมฆาถามอย่างเป็นห่วง สภาพจิตใจของราตรีตอนนี้คงจะบอบช้ำมาก
“ฉันกับเค้า เราเคยรักกันมาก แต่ฉันผิดเอง ฮึก” ราตรีเริ่มน้ำตาไหลอีกครั้ง
“ใครเหรอครับ คุณหมายถึงคนชื่อพงศ์ใช่มั้ย” เมฆาขยับเข้าไปใกล้
“ฉันตกลงคบกับดิน เพราะเค้ารวยกว่า พงศ์มันก็แค่คนไม่มีอนาคตคนนึงเท่านั้น แต่เพียงดินก็เห็นฉันเป็นแค่ตัวแทนของนังพะพาย! แล้วพงศ์ก็ดันไปหลงเชื่อพวกสารเลวนี่ เค้าเริ่มติดยาและโกรธฉันมากกว่าเดิม ที่ฉันบอกเลิกเค้าไปคบกับดิน พงศ์มาขอเงินฉันไปซื้อยาบ่อยมาก ฉันต้องให้เพราะไม่อยากให้ทุกคนรู้ว่าฉันเคยเป็นเมียเค้า แต่ถึงเลิกกัน เราก็ยังคงมีอะไรกันเรื่อยๆ ไม่เว้นแม้แต่ตอนคบกับดิน
พอฉันเลิกกับดิน ฉันก็คิดว่าฉันกลับไปรักพงศ์ไม่ได้อีกแล้ว เขาติดยาเกินกว่าที่จะกลับมาเป็นพงศ์คนเดิม ยานรกนั่นทำพงศ์เปลี่ยนไป แล้วพอฉันท้อง ฉันก็คิดว่าดินคือคำตอบ เค้าจะเป็นพ่อของลูกฉันได้ เพราะฉันไม่อยากให้พ่อขายหน้าที่มีลูกอย่างฉัน”
เมฆานั่งฟังสิ่งที่ราตรีเล่า เรื่องมันซับซ้อนกว่าที่เขาคิดไว้เยอะเช่นกัน พงศ์คนนี้เอาเข้าจริงๆก็น่าสงสารไม่น้อยที่อยู่ๆก็โดนคนรักหักหลัง จนไปพึ่งยานรกนั่น ส่วนตัวราตรีเองก็ผิดที่ทำลายความเชื่อใจของคนรัก ตัวเพียงดินผิดที่ใช้ราตรีเป็นตัวแทนของพะพาย
ทำไมความรักมันถึงสร้างห่วงผูกรั้งอะไรได้มากมายขนาดนี้นะ
“ฉันจะพอแล้วล่ะ ลูกของฉันเค้าไปแล้ว พงศ์คนเดิมก็ตายจากฉันไปแล้ว ฉันเหนื่อย” ราตรีน้ำตาไหลอาบแก้ม เธอเริ่มนิ่วหน้าอีกรอบ พร้อมกับยกมือบีบท้องแน่นด้วยอาการเจ็บปวด
“เป็นอะไรครับคุณราตรี เจ็บอีกแล้วเหรอครับ” เมฆาผวาเข้าไปหาเธอ ราตรีกัดปากแน่นเพื่อระงับความเจ็บปวด
“ฮือออ ฉันไม่ไหวแล้ว” ราตรีพูดก่อนที่เธอจะตะกายคว้าเอาแขนของเมฆามาจิกแน่นเพื่อระบายความเจ็บปวด เมฆาเห็นท่าไม่ดี เขายิ่งกระวนกระวาย
ราตรีจะไม่ไหวแล้วนะ!
แล้วเขาก็นึกอะไรขึ้นได้
“ผมลืมไปว่าผมเอาโทรศัพท์ติดตัวมาด้วย ถ้าเราโทรหาใครซักคน พวกนั้นอาจจะรู้ว่าเราอยู่ไหน” เมฆาบอกราตรีก่อนที่จะควานหาเครื่องมือสื่อสารของตนเอง นิ้วเรียวรีบกดโทรออกอย่างรวดเร็ว
“เพียงดิน”
***************************************************************************************
หายไปนานมากกกกกกกกก นานแบบสามชาติเศษ เรามาต่อเรื่องนี้แล้วนะคะ น่าจะใกล้จบแล้ว ไม่เกินห้าถึงสิบตอนค่ะ
ก่อนอื่นต้องบอกว่าขอโทษมากที่หายไปนานมาก เรามีภารกิจทางด้านการเรียนที่ต้องทำค่ะ พอดีใกล้เรียนจบแล้ว ธีสิสกับวิจัยรุมสะกรำมากขอรับครับโผ้มมมม
หวังว่ายังจะไม่ลืมเรื่องนี้กันนะคะ ฝากติดตามพี่ดินกับน้องเมฆของเราด้วยค่ะ รักคนอ่านทุกท่านนะคะ