[นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] ปฐพีเคล้าเมฆา [แจ้งข่าวงานหนังสือ] เพียงดิน - เมฆา
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] ปฐพีเคล้าเมฆา [แจ้งข่าวงานหนังสือ] เพียงดิน - เมฆา  (อ่าน 99779 ครั้ง)

ออฟไลน์ oppapp

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1

ออฟไลน์ kinjikung

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
กำลังสนุกเลย เพียงดินนี่มันพระเอกละครไทยจริง ๆ ดีนะคุณหมอฉลาดสุด ๆ ตามเกมส์ทันอีก

ออฟไลน์ Speirmint28

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-1
บทที่ 42




เมฆานั่งนิ่ง เขามองผู้ชายร่างใหญ่ที่ขับรถอยู่ผ่านกระจกหน้ารถ ข้างๆมีอีกคนที่กำลังถือปืนในมือแน่น เขาและราตรีนั่งอยู่เบาะหลังโดยมีเขานั่งคั่นตรงกลางระหว่างราตรีและคนร้ายอีกคนหนึ่ง ทางที่รถกำลังแล่นไปนั้นเริ่มเป็นป่าลึกมากยิ่งขึ้น และทางก็ยิ่งเริ่มขรุขระมากขึ้นกว่าเดิม

ลำพังเมฆาเองเขาก็ถือว่าตกใจไม่น้อยเหมือนกัน แต่เขาเป็นห่วงราตรีมากกว่า เธอมีอาการเจ็บท้องอย่างหนักจนเกือบหมดสติไปหลายรอบ และสภาวะอย่างนี้แน่นอนว่าต้องเสี่ยงต่อการแท้งลูกอย่างแน่นอน แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้เมฆามั่นใจแล้วว่าราตรีอาจจะท้องกับพงศ์ ซึ่งอาจจะเป็นคนรักของเธอ

และเมื่อฟังจากที่พวกคนร้ายพูด พงศ์น่าจะไปติดหนี้อะไรซักอย่าง แล้วหนีไป พวกนี้เลยจับราตรีมาเป็นตัวประกันเพื่อนเรียกค่าไถ่จากนายอำเภอ

เมฆาประมวลผล ถ้าพอจับจุดได้อย่างนี้ก็น่าจะพอเจรจากันได้

รถคันโตแล่นขึ้นเขาลงเขาไม่นานก็มาจอดที่แคมป์กลางหุบเขา มีบ้านหลังไม่ใหญ่มากถูกสร้างด้วยไม้ตั้งอยู่เดี่ยวๆหลังเดียว โดยที่มีผู้ชายอีกสองสามคนยืนถือปืนคอยคุมอยู่รอบๆ

“ลงมา” เมื่อประตูรถถูกเปิดเมฆาก็ถูกกระชากออกมาพร้อมกับราตรีที่สภาพของเธอแทบจะยืนไม่ได้

“เบาๆสิ เธอเจ็บอยู่นะ” เมฆารีบไปประคองร่างบางนั้น เขาสังเกตเห็นรอยเลือดที่เริ่มไหลลงมาตามเรียวขาของราตรี ก่อนที่ร่างของเธอจะล้มฟุบลง

“เฮ้ย มันเป็นอะไรวะ” คนร้ายดูเหมือนจะตกใจไม่น้อยที่อยู่ๆราตรีก็ล้มลงไปอย่างนั้น

“เธอกำลังแย่ ผมบอกพวกคุณแล้วว่าให้พาเธอไปโรงพยาบาลก่อน” เมฆาหัวเสียไม่น้อย ทำไมเข้าต้องมาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ด้วย ตอนนี้เขาแทบไม่กลัวผู้ชายถือปืนตรงหน้า เขาโมโหมากกว่าที่ปล่อยให้คนไข้ของเขาต้องมาเจ็บแบบนี้

“เอาไงดีวะ แม่งจะตายห่าก่อนรึเปล่าก็ไม่รู้”  ชายสองคนปรึกษากัน

“มึงน่ะ เป็นหมอไม่ใช่เหรอ รักษามันสิ” คนหนึ่งพูดขึ้น เมฆาหันมองตาขวาง

“เป็นหมอแต่ถ้าอุปกรณ์ไม่มี ก็ใช่ว่าจะรักษาได้นะ ถ้าไม่อยากให้เธอตาย ควรพาเธอไปที่โรงพยาบาล” เมฆาเถียงกลับอย่างไม่สบอารมณ์

“ถ้าอย่างนั้นก็ปล่อยมันตายอยู่นี่แหละ ยังไงพ่อมันก็ไม่รู้อยู่แล้ว พาตัวสองคนนี้เข้าไปในบ้าน จนกว่าพ่ออินี่จะติดต่อมา” เมื่อพูดจบร่างของเมฆาก็ลอยหวือไปตามแรงกระชาก ส่วนราตรีถูกอุ้มโดยผู้ชายอีกคน

เมฆากัดฟันกรอดอย่างโมโหและคิดไม่ตกว่าจะทำยังไงต่อไปดี และที่สำคัญตอนนี้ราตรีกำลังอาการแย่ ซึ่งเธอเหมือนจะแท้งลูกแล้วด้วยซ้ำไป



คนงานของไร่เพียงระพีวิ่งหน้าตื่นเข้ามาในบ้าน พอดีกับที่เพียงดินกลับเข้ามาในบ้านพอดี กว่าเขาจะสลัดพะพายได้ก็นานพอสมควร แต่เขาต้องรีบกับมาคุยกับคนที่ทำท่าเหมือนจะงอนก่อน เพราะไม่อยากให้เมฆาไม่พอใจไปมากกว่านี้

“มีอะไร ทำไมวิ่งหน้าตื่นมาขนาดนั้น” เพียงดินถาม

“แย่แล้วครับพ่อเลี้ยง มีคนจับตัวคุณหมอกับคุณหนูราตรีไปครับ” คนงานระล่ำระลักบอก

“อะไรนะ!” เพียงดินรู้สึกตัวชาก่อนจะเดินไปหาคนงานคนนั้น

“เมื่อกี้คุณหนูราตรีเธอเหมือนไม่สบายล้มลงไป คุณหมอเลยจะพาไปโรงพยาบาล ผมขับรถออกจากไร่ไปไม่เท่าไหร่ก็เจอรถอีกคันจอดดักทางไว้ แล้วเอาตัวทั้งสองคนไปเลยครับ” คนงานเล่า

“แล้วมึงปล่อยให้เมฆถูกจับตัวไปได้ยังไงวะ! พวกมันบอกอะไรบ้าง” เพียงดินตะโกนลั่นอย่างโมโห จนคนงานแถวนั้นพากันหันมามอง

“พะ... พวกมันบอกว่าให้นายอำเภอเอาเงินไปไถ่ตัวคุณราตรีครับ ตอนแรกจะจับแค่เธอไป แต่เธอดูอาการไม่ดี พวกมันเลยพาคุณหมอไปด้วย พวกมันพูดถึงคนชื่อพงศ์ด้วยครับ” คนงานตัวสั่นงก

เพียงดินเวลานี้ น่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก จนเขาต้องเอียงหน้า เผื่อพ่อเลี้ยงเกิดโมโหแล้วต่อยขึ้นมาจะได้ตั้งรับถูก

เพียงดินปล่อยคนงานลงอย่างโมโห ก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปข้างในบ้าน มือก็คว้าโทรศัพท์มาอย่างรวดเร็วพรอมกับกดโทรออก

“สวัสดีครับท่าน ตอนนี้มีเรื่องด่วนแล้ว” เพียงดินเล่ารายละเอียดให้นายอำเภอฟังก่อนที่เขาจะคว้ากุญแจรถออก แล้วตรงไปที่ไร่น้ำรินก่อนเป็นอันดับแรก



เมฆาและราตรีถูกนำมาขังไว้ที่ห้องอับๆห้องหนึ่ง พวกมันล๊อคไว้จากข้างนอก เมฆาแอบพยายามเปิดยังไงก็เปิดไม่ออก เขาเลยได้แต่แอบมองพวกมันผ่านรูเล็กๆระหว่างแผ่นไม้ ไม่นานเหมือนมีคุยเดินเข้ามาหาชายฉกรรจ์สองคนนั้นแล้วคุยกันด้วยภาษาที่เมฆาไม่เข้าใจ มันคล้ายภาษาของชนเผ่า เขาเลยกลับมาหาราตรีที่นอนนิ่งอยู่

“เจ็บ ฉันเจ็บ” เสียงดังแผ่วนั้นทำให้เมฆาต้องหันไปมองราตรี เธอค่อยๆลืมตาขึ้น ชุดสีสะอาดของเธอตอนนี้เปื้อนเลือดเต็มไปหมด ถ้าไม่รีบพาเธอไปที่โรงพยาบาลเร็วๆนี้ ราตรีต้องแย่แน่ๆ

“ทำใจดีๆก่อนนะครับคุณราตรี” เมฆาเข้าไปจับมือเธอไว้แน่น เพราะไม่อยากให้ราตรีต้องจิกเล็บตัวเองลงกับมือของเธออีก

“ที่นี่ที่ไหน” ราตรีตาลอยมองไปยังบริเวณรอบๆ

“เราถูกจับตัวมาเรียกค่าไถ่ครับ” เมฆาบอกตามตรง

“ห๊ะ!” ราตรีเบิกตาโพลง แล้วมองไปรอบๆอีกครั้งอย่างตกใจ จับตัวเรียกค่าไถ่เนี่ยนะ!

“พวกมันจับตัวคุณมาเพื่อเรียกค่าไถ่จากพ่อคุณ และมันพูดถึงคนชื่อพงศ์ คุณรู้จักเค้าใช่มั้ยครับ” เมฆาถามอย่างจริงจัง

“พะ... พงศ์” ราตรีหน้าซีดลงเล็กน้อย เธอเบือนหน้าหนี เหมือนไม่อยากพูดถึง

“คุณต้องบอกผมเรื่องของคนชื่อพงศ์ เพราะมันเกี่ยวกับทั้งคุณและผม พวกนั้นบอกว่าคนชื่อพงศ์ไปติดหนี้พวกมันไว้สามล้านแล้วหนีไป เลยต้องมาจับตัวคุณเรียกค่าไถ่จากพ่อคุณ ถ้าผมเดาไม่ผิด คนชื่อพงศ์คือพ่อของเด็กในท้องคุณใช่มั้ยครับ” เมฆาถามตรงๆ เพราะตอนนี้ไม่มีเวลามาพิรี้พิไรมากนัก ทั้งอาการของราตรีเอง และความเสี่ยงของเขาเอง ขึ้นอยู่กับเรื่องนี้

“นายรู้” ราตรีหันมามอง เมฆารู้ว่าเธอท้องอย่างนั้นเหรอ

“ครับ และตอนนี้ผมอยากจะบอกคุณว่า คุณอาจจะแท้งลูกแล้วด้วย ผมเสียใจด้วยครับ” เมฆายอมบอกเรื่องนี้กับเธอ มันอาจจะกระทบกระเทือนจิตใจเธอไปบ้าง แต่มันต้องบอก

“ทะ... แท้ง” ราตรีหน้าซีดลงแล้วก้มมองคราบเลือดที่เต็มเรียวขาของเธอ เธอมองอยู่อย่างนั้นก่อนที่น้ำตาจะไหลลงมาอย่างไม่รู้ตัว

“ผมช่วยคุณไว้ไม่ได้จริงๆ ขอโทษด้วยครับ” เมฆาเองก็หดหู่ไม่น้อยเหมือนกันที่ต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ เขาเพิ่งจบมาไม่เท่าไหร่ ประสบการณ์ที่พบเจอกับการสูญเสียย่อมมีไม่มาก

“ฮึก... พงศ์ ฮือ” ราตรีร้องไห้ออกมา

เด็กในท้องคือลูกของพงศ์จริงๆ คนที่เมฆาเจอวันนั้น วันงานเกษตร เรื่องนี้มีไม่กี่คนที่รู้ถึงความสัมพันธ์ของเธอและพงศ์ รวมไปถึงเรื่องที่เธอท้องด้วย

ราตรีเหมือนจะรักเพียงดินก็จริง แต่นั้นคือสิ่งที่เธอหลอกตัวเองเสมอมา เพราะจริงๆแล้วนั้น คนเดียวที่อยู่ในหัวใจของเธอ คือพงศ์ พ่อของเด็กในท้อง





“มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไง” รัชพลดูจะตกใจไม่น้อยเหมือนกันที่อยู่ๆเพียงดินก็เข้ามาบอกว่าเมฆาถูกจับตัวไป

สิตางศุ์หน้าซีดเผือด เขาเคยพบเจอกับกลุ่มแบบนี้มาเหมือนกัน พวกผู้มีอิทธิพลท้องถิ่นทำอะไรไม่ค่อยจะกลัวเกรงอำนาจรัฐเท่าไหร่ ยังไม่พอ ตำรวจที่นี่ยังซักทอดตามจับยากเข้าไปอีก

“คนงานของผมบอกว่ามันพูดถึงคนชื่อพงศ์ ผมอยากให้คุณรัชช่วยเรื่องนี้หน่อยครับ เพราะผมเองก็ไม่รู้จะไปหาเมฆาเจอได้ที่ไหน” เพียงดินพูดด้วยสีหน้าที่เครียด

“คุณติดต่อนายอำเภอรึยังคะ ถ้าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับคุณราตรีด้วย ท่านน่าจะรู้” รัชพลว่า

“เดี๋ยวผมโทรหารินกับคุณตะวันก่อนก็แล้วกันครับ” สิตางศุ์ที่เงียบมานานเสนอขึ้น เรื่องนี้ยังไงแล้วตะวันก็ต้องรู้ เพราะเกี่ยวข้องกับเมฆาเต็มๆ อยู่น้องตัวเองหายไปแบบนั้น จะไม่บอกให้พี่เค้ารู้ก็กะไรอยู่

รัชพลพยักหน้าเล็กน้อยแล้วหันมามองเพียงดินต่อ เพียงดินนั้นดูหงุดหงิดไม่น้อย เขาใช้มือขยี้หัวตัวเอง

ครืด

เสียงโทรศัพท์ของเพียงดินดังขึ้น เขารีบกดรับเมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์ของใคร นายอำเภอติดต่อกลับมาแล้วหลังจากเขาให้จัดการเรื่องของคนชื่อพงศ์

“ลูกน้องผมไปสืบมาแล้ว คนชื่อพงศ์เป็นลูกตาแหวงที่เพิ่งตายไปเมื่อสองสามเดือนก่อน ผมเพิ่งรู้ว่าเค้ามีความเกี่ยวข้องกับลูกสาวผม คนอื่นบอกว่าตอนนี้มันหนีข้ามชายแดนไปแล้ว แต่พอจะรู้ที่อยู่ของมัน ตอนนี้ผมติดราชการอยู่ต่างจังหวัด คงกลับอีกทีตอนเย็น ผมฝากพ่อเลี้ยงจัดการได้มั้ยครับ ช่วยราตรีด้วย” สียงนายอำเภอดูจะเป็นวิตกไม่น้อยไปกว่าเขาเท่าไหร่ เพียงดินให้ท่านจัดการเรื่องการหาตัวนายพงศ์ ซึ่งน่าจะเป็นกุญแจตัวสำคัญที่ทำให้หาราตรีและเมฆาเจอ

“ท่านไม่ต้องห่วงครับ ผมจะช่วยทั้งเมฆาและราตรีออกมาให้ได้ เดี๋ยวท่านให้คนของท่านมาที่ไร่น้ำรินเลยนะครับ ผมอยู่ที่นี่” เพียงดินใจชื้นขึ้นมาหน่อย เมื่อพอจะมองเห็นความหวังลางๆ

“ขอบใจมากพ่อเลี้ยง เดี๋ยวผมจะให้คนของผมไปที่นั่น”

หลังจากวางสายไป เพียงดินก็นั่งรอคนของนายอำเภออย่างใจจดใจจ่อ ตะวันกับภุมรินเมื่อได้รับสายจากสิตางศุ์แล้วก็รีบมาที่ไร่น้ำรินเช่นกัน คงต้องเริ่มที่คนชื่อพงศ์





ราตรีเลิกร้องไห้ไปนานแล้ว แต่เธอก็ยังคงอาการแย่อยู่เหมือนเดิม นัยน์ตานั้นแดงก่ำหลังจากผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักหน่วง

“คุณโอเครึยัง” เมฆาถามอย่างเป็นห่วง สภาพจิตใจของราตรีตอนนี้คงจะบอบช้ำมาก

“ฉันกับเค้า  เราเคยรักกันมาก แต่ฉันผิดเอง ฮึก” ราตรีเริ่มน้ำตาไหลอีกครั้ง

“ใครเหรอครับ คุณหมายถึงคนชื่อพงศ์ใช่มั้ย” เมฆาขยับเข้าไปใกล้

“ฉันตกลงคบกับดิน เพราะเค้ารวยกว่า พงศ์มันก็แค่คนไม่มีอนาคตคนนึงเท่านั้น แต่เพียงดินก็เห็นฉันเป็นแค่ตัวแทนของนังพะพาย! แล้วพงศ์ก็ดันไปหลงเชื่อพวกสารเลวนี่ เค้าเริ่มติดยาและโกรธฉันมากกว่าเดิม ที่ฉันบอกเลิกเค้าไปคบกับดิน พงศ์มาขอเงินฉันไปซื้อยาบ่อยมาก ฉันต้องให้เพราะไม่อยากให้ทุกคนรู้ว่าฉันเคยเป็นเมียเค้า แต่ถึงเลิกกัน เราก็ยังคงมีอะไรกันเรื่อยๆ ไม่เว้นแม้แต่ตอนคบกับดิน
พอฉันเลิกกับดิน ฉันก็คิดว่าฉันกลับไปรักพงศ์ไม่ได้อีกแล้ว เขาติดยาเกินกว่าที่จะกลับมาเป็นพงศ์คนเดิม ยานรกนั่นทำพงศ์เปลี่ยนไป แล้วพอฉันท้อง ฉันก็คิดว่าดินคือคำตอบ เค้าจะเป็นพ่อของลูกฉันได้ เพราะฉันไม่อยากให้พ่อขายหน้าที่มีลูกอย่างฉัน”

เมฆานั่งฟังสิ่งที่ราตรีเล่า เรื่องมันซับซ้อนกว่าที่เขาคิดไว้เยอะเช่นกัน พงศ์คนนี้เอาเข้าจริงๆก็น่าสงสารไม่น้อยที่อยู่ๆก็โดนคนรักหักหลัง จนไปพึ่งยานรกนั่น ส่วนตัวราตรีเองก็ผิดที่ทำลายความเชื่อใจของคนรัก ตัวเพียงดินผิดที่ใช้ราตรีเป็นตัวแทนของพะพาย

ทำไมความรักมันถึงสร้างห่วงผูกรั้งอะไรได้มากมายขนาดนี้นะ

“ฉันจะพอแล้วล่ะ ลูกของฉันเค้าไปแล้ว พงศ์คนเดิมก็ตายจากฉันไปแล้ว ฉันเหนื่อย” ราตรีน้ำตาไหลอาบแก้ม เธอเริ่มนิ่วหน้าอีกรอบ พร้อมกับยกมือบีบท้องแน่นด้วยอาการเจ็บปวด

“เป็นอะไรครับคุณราตรี เจ็บอีกแล้วเหรอครับ” เมฆาผวาเข้าไปหาเธอ ราตรีกัดปากแน่นเพื่อระงับความเจ็บปวด

“ฮือออ ฉันไม่ไหวแล้ว” ราตรีพูดก่อนที่เธอจะตะกายคว้าเอาแขนของเมฆามาจิกแน่นเพื่อระบายความเจ็บปวด เมฆาเห็นท่าไม่ดี เขายิ่งกระวนกระวาย

ราตรีจะไม่ไหวแล้วนะ!

แล้วเขาก็นึกอะไรขึ้นได้

“ผมลืมไปว่าผมเอาโทรศัพท์ติดตัวมาด้วย ถ้าเราโทรหาใครซักคน พวกนั้นอาจจะรู้ว่าเราอยู่ไหน” เมฆาบอกราตรีก่อนที่จะควานหาเครื่องมือสื่อสารของตนเอง นิ้วเรียวรีบกดโทรออกอย่างรวดเร็ว

“เพียงดิน”







***************************************************************************************


หายไปนานมากกกกกกกกก นานแบบสามชาติเศษ เรามาต่อเรื่องนี้แล้วนะคะ น่าจะใกล้จบแล้ว ไม่เกินห้าถึงสิบตอนค่ะ

ก่อนอื่นต้องบอกว่าขอโทษมากที่หายไปนานมาก เรามีภารกิจทางด้านการเรียนที่ต้องทำค่ะ พอดีใกล้เรียนจบแล้ว ธีสิสกับวิจัยรุมสะกรำมากขอรับครับโผ้มมมม

หวังว่ายังจะไม่ลืมเรื่องนี้กันนะคะ ฝากติดตามพี่ดินกับน้องเมฆของเราด้วยค่ะ รักคนอ่านทุกท่านนะคะ

 :katai5:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
ต้องกลับไปอ่านตอนก่อนหน้าหลายตอนอยู่แอบลืมไปแล้ว 55555

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ ตั้งโอ๋

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
คิดถึงมากกกก เข้่ามาดูตลอดในที่สุดเธอก็กลับมาาาาา

ออฟไลน์ Speirmint28

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-1
บทที่ 43

เพียงดิน ตะวัน รัชพล และคนของไร่น้ำรินกับไร่เพียงระพีอีกสี่ห้าคน กำลังมุ่งที่บ้านของเพื่อนนายพงศ์พร้อมกับคนของนายอำเภอที่ส่งมาสมทบอีกห้าหกคน ส่วนภุมรินถูกสั่งให้อยู่เป็นเพื่อนสิตางศุ์ที่ไร่น้ำริน เพราะรัชพลไม่อนุญาตให้ตามมาด้วย แม้น้องชายจะพูดหว่านล้อมยังไงก็ตาม

ซึ่งไม่นานรถคันโตก็มาถึงบ้านหลังเก่าๆที่สภาพดูไม่ค่อยจะได้เท่าไหร่ เพียงดินรีบกระโดดลงจากรถก่อนจะตรงเข้าไปในตัวบ้านหลังนั้น ภาพแรกที่เขาเห็นคือเด็กสภาพตัวผอมกะหร่องสองสามคนกำลังนอนอยู่บนฟูกเก่าๆที่ดูไม่ได้ ข้างๆมีอุปกรณ์เสพยาไอซ์วางเกลื่อนเต็มไปหมด

“เฮ้ย! ลุก!” คนของนายอำเภอตรงเข้ามาล๊อคทั้งสามคนที่เพิ่งจะรู้สึกตัว

“เหี้ย!” เด็กหนุ่มตะโกนร้องอย่างตกใจเมื่อตื่นมาก็พบว่าตัวเองถูกจับเข้าแล้ว

“แอบมาซ่องสุมกันอยู่ที่นี่เอง ได้ไปกินข้าวแดงในคุกแน่” คนของนายอำเภอคว้าอะไรที่พอทำเชือกได้มามัดไว้

“พวกแกรู้จักคนชื่อพงศ์มั้ย” เพียงดินถามเข้าประเด็น เด็กติดยาหันมองหน้ากันเลิกลัก

“ถามหามันทำไม” หนึ่งในนั้นตอบ พร้อมกับจ้องหน้าเพียงดินไม่วางตา

“ตอนนี้มันหนีไปพม่านู่นแล้ว ถามหามันตอนนี้ก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอก” อีกคนพูดต่อ เพียงดินหัวเสียเล็กน้อย

“แล้วรู้มั้ยมันไปติดหนี้ใครไว้” เพียงดินพยายามควบคุมสติเพราะไม่อยากให้เสียเรื่อง เด็กติดยามองหน้ากันอีกครั้ง เพราะไม่แน่ใจว่าจะพูดดีรึเปล่า

“ถึงไม่บอกตอนนี้ก็ต้องไปให้ปากคำในโรงพักอยู่ดี ไหนๆก็โดนจับแล้วก็บอกเค้าไป” คนของงนายอำเภอคาดคั้นด้วยน้ำเสียงที่เริ่มหัวเสียพอกัน

“มันติดหนี้พวกอาเสะ มันไปขอยาเค้ามาเรื่อยๆ พอไม่มีเงินให้ก็หนีข้ามชายแดนไป” เด็กหนุ่มว่า

“แล้วรู้มั้ยว่ารังพวกอาเสะอยู่ไหน” คราวนี้คนของนายอำเภอกรูเข้ามาถาม

“ผมเคยไปกับไอ้พงศ์ครั้งนึง อยู่หลังผาตะวัน” พอได้คำตอบเพียงดินก็รีบเดินออกมาจากบ้านหลังนั้นอย่างรวดเร็ว เพราะจะรีบไปหาเมฆา

“เดี๋ยวก่อนครับพ่อเลี้ยง” เสียงคนของนายอำเภอดังขึ้น พร้อมกับคนอื่นๆที่ลากเด็กติดยาสามคนไปไว้ที่ท้ายกระบะเพื่อนำตัวโรงพัก

“มีอะไรเหรอครับ” เพียงดินถามกลับ

“ผมว่าเรื่องนี้แจ้งสารวัตรไกรดีกว่านะครับ” คนของนายอำเภอว่า เรื่องนี้ค่อนข้างใหญ่

เพียงดินทำหน้าเครียด เขามองรัชพลกับตะวันสลับไปมาอย่างต้องการคำตอบ รัชพลพยักหน้าเห็นด้วย อย่างน้อยเรื่องนี้ถึงตำรวจน่าจะปลอดภัยกว่า

“กลุ่มของอาเสะเป็นกลุ่มค้ายาของพวกม้ง ทางการพยายามตามจับมานานแล้วครับ อย่างน้อยการซักทอดครั้งนี้ก็น่าจะพอมีประโยชน์ ผมว่าให้สารวัตรไกรเข้ามาช่วยจะดีกว่า” คนของนายอำเภอพูดต่อ

กลุ่มอาเสะนั้นเป็นกลุ่มค้ายาขนาดใหญ่ของแถบภาคเหนือตอนบน ฐานที่ตั้งเปลี่ยนไปเรื่อยๆ และเมื่อได้พยานมาแบบนี้ย่อมเป็นเรื่องที่จะซักทอดไปยังตัวการใหญ่ได้

ครืด

เพียงดินยังไม่ทันได้ตอบอะไรโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น ร่างสูงรีบกดรับเมื่อเห็นว่าเป็นใครที่โทรเข้ามา

“เมฆ!” น้ำเสียงตื่นตระหนกนั้นทำให้ทุกคนต้องหันไปมองเพียงดินเป็นจุดเดียว

“ดิน ตอนนี้ฉันกับคุณราตรีถูกจับตัวมา คุณราตรีเธอแท้งลูก และตอนนี้เธอกำลังแย่ คุณช่วยทำยังไงก็ได้ พาคนมาช่วยเราออกไปที มาตามพิกัดโทรศัพท์นี้เลย” เมฆาระล่ำระลักพูด

“นายโอเคใช่มั้ยเมฆา ไม่ได้เป็นอะไรนะ” เพียงดินโล่งใจขึ้นมาเปราะหนึ่งเมื่อเห็นว่าเมฆายังไม่ได้รับอันตรายใดๆ เพราะไม่อย่างนั้นคงโทรมาหาเขาไม่ได้

“ฉันไม่เป็นไร แต่ตอนนี้ต้องวางแล้ว เดี๋ยวพวกนั้นจะสงสัย” พูดจบเมฆาก็ตัดสายไป

“เมฆาโทรมาเหรอคุณเพียงดิน” ตะวันถาม

“ใช่ครับ เมฆาบอกให้ตามสัญญาณโทรศัพท์ไป ตอนนี้ราตรีอาการสาหัสมาก แต่เมฆไม่เป็นอะไร ผมอยากให้แบ่งคนไปบอกเรื่องสารวัตรไกร แล้วผมจะไปหาเมฆก่อน” เพียงดินสรุป เรื่องบอกตำรวจนั้นเขาไม่ขัดอยู่แล้ว แต่เขาเองก็จะไม่รอ เพราะเมฆากำลังรอเขาอยู่

“ถ้าอย่างนั้นพวกผมจัดการเรื่องตำรวจเองครับ ยังไงก็จะพาพวกนี้ไปโรงพักอยู่แล้ว แต่พวกคุณไปกันเองจะดีเหรอ” คนของนายอำเภอพูด

“ไม่ต้องเป็นห่วงครับ พวกเราจะไม่ทำอะไรบุ่มบ่ามจนกว่าสารวัตรไกรจะมา” เพียงดินรับปาก

“ถ้าอย่างนั้นก็ตามนี้เลย พวกผมจะล่วงหน้าไปก่อน” รัชพลพูดจบทุกคนก็แยกย้าย

คนของไร่น้ำรินและไร่เพียงระพีแยกกันไปขึ้นรถของแต่ละไร่ ส่วนคนของนายอำเภอนั้นแยกไปที่โรงพัก เพียงดินให้ตะวันจัดการเรื่องหาพิกัดของเมฆา ก่อนที่รถคันใหญ่ของทั้งสองไร่จะมุ่งตรงไปที่หลังผาตะวัน





เมฆาปิดเสียงและเปิดระบบสั่นไว้เมื่อโทรหาเพียงดินเสร็จ ร่างเล็กแอบมองดูกลุ่มคนร้ายผ่านรูเล็กๆรูเดิม ซึ่งพวกมันตอนนี้กำลังนั่งดื่มกันอยู่ไม่ไกล เมฆาคาดว่าไม่น่าจะมีเกินสิบคน

เมฆาหันไปมองราตรีที่ตอนนี้หายใจแผ่ว เขาไม่รู้ว่าเพียงดินจะพาคนอื่นมาทันเวลามั้ย ตอนนี้เขาเป็นห่วงราตรีมากกว่า เพราอาการเธอแย่ลงตลอดเวลา

“ทำใจดีๆไว้ก่อนนะครับคุณราตรี” เมฆาว่า สิ่งเดียวที่เขาทำได้ตอนนี้คือรอคนมาช่วย

“เฮ้ย มึงน่ะ ออกมานี่ซิ” เสียงเปิดประตูพร้อมกับร่างสูงใหญ่ของคนร้ายเข้ามากระชากเมฆาให้ออกไปข้างนอก ก่อนจะปิดประตูที่ขังราตตรีไว้อย่างหลวมๆ เพราะรู้ว่าเธอคงไม่มีทางหนีออกมาได้

“ทำไมพ่ออิคุณหนูนั่นมันไม่ติดต่อมาซักทีวะ ไหนบอกห่วงลูกนักหนาไง” คนร้ายถามเมฆา

“ฉันจะไปรู้ได้ยังไง” เมฆาเถียงกลับ เขามองไปรอบๆ พบว่าคนร้ายพวกนี้มีคนไม่มากอย่างที่เขาคาดการณ์ไว้ ซึ่งที่นี่อาจจะเป็นแค่แหล่งกบดานที่ไม่ใหญ่มากก็เป็นได้ ถ้ามันเป็นพวกค้ายาจริง

“มึงโทรหาพ่อมันซิ” ชายคนหนึ่งยื่นโทรศัพท์ให้เมฆา

“ฉันจะไปรู้เบอร์ส่วนตัวเค้าได้ยังไงล่ะ” ความจริงเบอร์โทรของท่านนายอำเภอนั้นพอจะมีติดเครื่องเมฆาบ้าง แต่แน่นอนว่าเขาไม่มีทางบอกให้พวกนี้รู้แน่ๆ

“งั้นโทรหาใครก็ได้ แล้วบอกว่ามึงกับอินั่นถูกจับตัวมา เดี๋ยวก็มีคนไปบอกพ่อมันเองแหละ” อีกคนว่าพร้อมกับยื่นโทรศัพท์ให้เมฆา

“ฉันจำเบอร์ใครไม่ได้ซักคน” เมฆาโกหกออกไป เขาโทรหาเพียงดินเรียบร้อยแล้ว เพราะฉะนั้นการโทรหาใครซักคนอีกรอบนั้น อาจจะทำให้เกิดความไขว้เขวได้

“มึงนี่ไร้ประโยชน์จริง” ผู้ชายที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าพูดด้วยความโมโหก่อนจะกระชากเมฆาเพื่อเอาไปไว้ในห้องเหมือนเดิม

ตุบ!

แต่เสียงของหล่นนั้นทำให้ทุกสายตาจ้องมาที่เมฆาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเป็นโทรศัพท์เครื่องเล็กหล่นตุบอยู่บนพื้น

“นี่มึงแอบเอาโทรศัพท์มาด้วยเหรอ” ร่างสูงใหญ่ย่างสามขุมเข้าหาเมฆาพร้อมกับก้มลงหยิบโทรศัพท์ของคนตัวเล็ก

เมฆาเริ่มหน้าเสียเมื่อถูกสายตาของคนร้ายมองมา

เพี๊ยะ!

หน้าของเมฆาหันไปตามแรงตบ พร้อมกับเลือดสีแดงที่ไหลออกมาตามมุมปาก ร่างเล็กเซเล็กน้อย เพราะน้ำหนักมือนั้นมันไม่ได้ออมแรงเลยแม้แต่น้อย

“ร้ายนักนะมึง” ความโมโหก่อตัวขึ้น เมฆายังตั้งสติไม่ค่อยจะได้เพราะยังคงมึนอยู่

“ยิงทิ้งเลยมั้ย อยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์” ปืนกระบอกยาวถูกยกขึ้นมาเล็งที่เมฆา ร่างเล็กหันไปมองพร้อมกับหน้าที่ซีดเผือด

เขาจะมาตายง่ายๆอย่างนี้ไม่ได้นะ!

ปัง!

เสียงปืนดังขึ้นพร้อมกับเมฆาที่หลับตาแน่น ร่างของเขาทรุดลงอย่างตกใจ ปืนที่จ่ออยู่กระเด็นไปไกล พร้อมกับร่างของคนร้ายที่ทรุดลงตาม

“อะไรวะ!” ความโกลาหลเกิดขึ้นเมื่อเสียงปืนนัดนั้นดังออกมา คนร้ายทั้งหมดหันไปมองบริเวณรอบๆ แล้วก็พบกับคนของไร่น้ำรินและไร่เพียงระพีที่กรูเข้ามา

เป็นรัชพลที่ยิงปืนใส่มือของคนร้ายเอง ความแม่นปืนของรัชพลนั้นเป็นที่เลื่องลืออยู่แล้ว และเมื่อเห็นว่าเมฆาโดนปืนจ่อขนาดนั้น เขาที่จะไม่ทำอะไรบุ่มบ่ามก็ทนไม่ไหว เพราะปล่อยไว้เมฆานั่นแหละที่จะได้รับอันตราย

“ไอ้หมอนี่มันโทรให้พวกมาช่วย แม่ง ฆ่าพวกมันให้หมด!” ตะโกนด้วยความโมโห

เสียงปืนดังขึ้นหลายนัด เมฆาหันไปมองรอบๆอย่างตกใจก่อนที่เขาจะวิ่งเข้าไปในห้องที่มีราตรีอยู่ เพียงดินมองตามแผ่นหลังเล็กของเมฆา แล้วพยายามฝ่าไปหาอีกคน รัชพล ตะวันและคนของไร่ทั้งสองที่มาด้วยหลบอยู่หลังต้นไม้พร้อมกับรัวปืนใส่กลุ่มคนร้าย เพียงดินแอบหลบมุมตามต้นไม้ก่อนจะอาศัยจังหวะที่ชุลมุนวิ่งทะลุเข้าหาเมฆาในบ้านหลังนั้น

“เมฆ” เรียกคนรัก

“ดิน ช่วยคุณราตรีด้วย ชีพจรเธออ่อนมาก” เมฆาบอก เขาไม่มีเวลาแล้ว ขืนปล่อยไว้แบบนี้ราตรีไม่รอดแน่นอน

“ใจเย็นๆ เรายังออกไปตอนนี้ไม่ได้” เพียงดินเข้าไปกอดเมฆา เขามองใบหน้าที่ช้ำเลือดและมีแผลมุมปากอย่างโมโห เมฆาต้องมาเจ็บตัวแบบนี้ เขารู้สึกไม่ดีเลย

“แต่คุณราตรีเธอ...”

“ตอนนี้ทุกคนเองก็กำลังแย่นะเมฆา ฉันก็อยากจะช่วยราตรี แต่รอให้สารวัตรไกรมาถึงก่อน” เพียงดินว่า เขาคว้าปืนที่พกมาอีกกระบอกให้เมฆา

“อะไร” เมฆาทำหน้างงเล็กน้อย

“หวังว่านายจะเคยใช้ปืน รอฉันอยู่ตรงนี้ก่อน อย่าออกไปไหน” เพียงดินสั่งก่อนจะลุกพรึบเพื่อออกไปข้างนอกอีกครั้ง

“จะไปไหนดิน” เมฆาท้วง อยู่ในนี้ปลอดภัยที่สุดแล้ว จะออกไปอีกทำไม

“คุณรัชกับคุณตะวันกำลังรับมือกับพวกนั้นอยู่ ฉันต้องออกไปช่วย อยู่ตรงนี้ รอฉันหรือถ้าตำรวจมาถึงก่อนก็ออกไปพร้อมเค้าเลย” เพียงดินหันไปบอกคนรักก่อนจะพุ่งตัวออกไปจากบ้าน เมฆาวิ่งตามแล้วไปหยุดชะงักอยู่ที่หน้าประตู

“ระวังตัวนะดิน” เมฆาตะโกนตามหลังอย่างเป็นห่วง เขาอยากออกไป แต่ก็กลัวจะไปเป็นภาระให้อีกคน เลยเลือกที่จะวิ่งเข้าไปหาราตรีที่นอนโรยรินอยู่

เพียงดินออกมาข้างนอก พบว่าตอนนี้ฝั่งของเขาเหมือนกำลังจะเพลี่ยงพล้ำด้วยอาวุธที่น้อยกว่า แต่สายตาของเขาก็มองเห็นรถตำรวจที่แล่นเข้ามาก่อนที่สารวัตรไกรจะนำทีมตำรวจกรูเข้ามาช่วย

“หยุด นี่คือเจ้าหน้าที่ตำรวจ วางปืนลงซะ” เสียงนั้นทำให้คนร้ายหยุดชะงัก พวกมันมองเห็นตำรวจที่พากันมาเยอะก็เริ่มจะกลัว

“เฮ้ย! ถอยก่อนโว้ย” เสียงคำสั่งจากหัวหน้ามันนั้นทำให้คนที่เหลือหันหลังเพื่อจะวิ่งหนี ตำรวจเลยกรูเข้าไปจัดการ พร้อมกับวิ่งไล่เข้าไปในป่า

ตะวันกับรัชพลโผล่ออกมาจากหลังต้นไม้พร้อมคนงานอื่นๆ ซึ่งมีคนได้รับบาดเจ็บไม่น้อยเหมือนกัน

“เมฆอยู่ไหนครับ” ตะวันถามหาน้องชายอย่างเป็นห่วง

“พี่ตะวัน” เมฆาตะโกนเรียก พร้อมกับอุ้มราตรีออกมา ทั้งสามคนรีบเข้าไปหา รัชพลอาสาอุ้มราตรีไปที่รถเอง ทั้งหมดมองสภาพของเธอแล้วได้แต่ถอนหายใจ ราตรีดูอาการไม่ดีเลย

“เป็นไรมั้ยเมฆ” ตะวันถามพร้อมกับดึงน้องมากอด เมฆากอดตอบ พอรู้สึกว่าตัวเองปลอดภัยและได้มาอยู่ในอ้อมกอดของตะวันแบบนี้แล้วความเข้มแข็งที่เคยมีก็พังทลายลง เมฆาร้องไห้ซบกับอกพี่ชาย

เกิดมาเขายังไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เลย มันยากมากที่พยายามจะมีสติและทำตัวเข้มแข็ง เพราะไม่อย่างนั้นทั้งเขาและราตรีจะแย่ทั้งคู่

“ไม่เป็นไร กลับบ้านเรานะเมฆ” ตะวันลูบหัวน้อง เมฆาเติบโตที่เมืองหลวงเสมอมา แวะเวียนมาที่นี่ก็แค่ปีละไม่กี่ครั้ง การที่ต้องมาเจอสภาพแบบนี้อาจจะทำให้เมฆารู้สึกตกใจไม่น้อย ต่างกับพวกเขาที่พอจะชินและรับรู้ว่าในพื้นที่ใกล้ชายแดนพวกนี้มันเสี่ยงแค่ไหน

เพียงดินมองเมฆาอย่างรู้สึกโล่งอกที่อีกคนไม่เป็นอะไร มฆาคงตกใจมาก และเป็นความผิดของเขาเองที่ทิ้งเมฆาไว้ จนเมฆาต้องมาเสี่ยงอันตรายแบบนี้

“ขอโทษนะเมฆที่ทำให้ต้องเสี่ยงอันตรายแบบนี้” เพียงดินพูดด้วยความรู้สึกผิด เมฆาหันมามองหน้าอีกคนก่อนจะผละออกจากอกตะวัน

“ฉันเองแหละที่ผิด แต่ฉันก็ทิ้งคุณราตรีไม่ได้ ใช่สิ... เราต้องรีบพาเธอไปโรงพยาบาล” เมฆาเหมือนเพิ่งได้สติ

“ถ้าอย่างนั้นก็รีบไปกันเถอะ ตรงนี้ให้ตำรวจจัดการ” ตะวันพูดก่อนที่จะพาทุกคนไปที่รถ แล้วมุ่งหน้าไปโรงพยาบาล






“เธอแท้งลูกแล้วครับ และคงต้องพักรักษาตัวอีกยาวเลย” ทศพรรายงานอาการของราตรีให้นายอำเภอฟัง

ท่านรีบกลับมาจากราชการเพื่อมาหาลูกสาว และได้ความว่ากลุ่มที่อยู่เบื้องหลังคือกลุ่มของอาเสะจริงๆ ตอนนี้ตำรวจกำลังซักทอด และรู้ที่อยู่ของรังอาเสะแล้ว

“ขอบคุณมากครับคุณหมอ” ชายวัยห้าสิบกว่ายิ้มให้ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเป็นเคร่งเครียดเหมือนเดิม

ที่ราตรีต้องเป็นแบบนี้ก็เพราะเขาเอง เขาปล่อยให้ราตรีอยู่กับแม่ของเธอตั้งแต่ยังเด็ก ด้วยความที่เขาและภรรยาแยกทางกัน ทำให้กว่าจะได้เลี้ยงราตรีจริงๆ เธอก็โตแล้ว และนั่นทำให้เธอฝังใจอะไรหลายๆอย่าง จากทั้งเขาและแม่ของเธอ จนกลายเป็นเด็กมีปัญหาแบบนี้

“ขอโทษทุกคนด้วยที่ราตรีไปสร้างปัญหา ถ้าราตรีหายดีแล้ว ผมคงต้องให้เธอไปอยู่กับญาติที่ต่างจังหวัดซักพัก” นายอำเภอหันมาพูดกับพวกของเพียงดิน

ตลอดเวลาที่ผ่านมาลูกสาวของเขาสร้างปัญหาเอาไว้มาก ถึงเวลาแล้วที่จะส่งราตรีไปอยู่ที่อื่นซักพัก อย่างน้อยก็เว้นระยะให้ลูกสาวของเขาได้คิดบ้าง

“ไม่เป็นไรครับ” เพียงดินตอบ เขาเองก็ไม่อยากจะเอาความอะไรหรือยุ่งเกี่ยวกับราตรีอีกแล้ว เพราะเขาเองก็ผิด ที่ใช้เธอเพื่อลืมพะพาย ราตรีเป็นคนน่าสงสาร และเรื่องทุกอย่างก็ขอให้แล้วต่อกันไป

“ถ้าอย่างนั้นเรากลับบ้านกันเถอะ เมฆคงอยากพักผ่อน” สิตางศุ์ว่า เขากับภุมรินตามมาที่โรงพยาบาลทีหลัง ส่วนคนงานของไร่เพียงระพีกับไร่น้ำริน เพียงดินเป็นคนจัดการค่ารักษาพยาบาลให้ทั้งหมด พร้อมกับให้เงินช่วยเหลืออีกคนละก้อน เพราะพาพวกเขาไปเสี่ยงตาย

“ถ้าอย่างนั้นขอตัวก่อนนะครับ” ทั้งหมดออกจากโรงพยาบาล

รัชพลกับสิตางศุ์แยกกลับไร่น้ำริน ตะวันกับภุมรินก็จะแยกกลับตลาดประสิทธานนท์ เมฆาไม่รู้ว่าตัวเองจะไปไหนดี เลยหันไปสบตากับตะวันเล็กน้อย

“ไปไร่เพียงระพีก็ได้ พี่ไม่ว่าอะไรหรอก” ตะวันยกมือขึ้นลูบหัวเมฆาเบาๆแล้วยิ้มอ่อนให้ “ฝากด้วยนะครับคุณเพียงดิน” ก่อนจะหันไปมองเพียงดิน

“ไม่ต้องห่วงครับ” เพียงดินโอบไหล่คนตัวเล็กแล้วรับปากตะวัน

“หมอทศบอกพรุ่งนี้พักได้นะเมฆ” ภุมรินบอกเพื่อน เมฆาพยักหน้า แล้วเดินตามเพียงดินไปที่รถ

วันนี้เป็นอีกวันที่เมฆาเหนื่อยที่สุด พอขึ้นมาบนรถได้ไม่นานเจ้าตัวก็ผล็อยหลับไป ลำบากเพียงดินต้องอุ้มคนรักที่นอนไม่รู้ตัวขึ้นไปข้างบนบ้าน ก่อนจะจูบที่มุมปากเบาๆ

ต่อจากนี้ เพียงดินจะไม่ปล่อยให้เมฆาต้องเจ็บตัวอีกแล้ว





*********************************************************************




มีความสร้างสารพัดปัญหาไว้ให้ตัวละคร ต่อจากนี้จะเป็นช่วงคลี่คลายประเด็นต่างๆแล้วขอรับ 555555

ในสามเรื่องหมอเมฆน่าจะเป็นนายเอกที่ฉลาดที่สุด สมกับเป็นคุณหอมตัวแสบประจำทั้งสามเรื่อง เรื่องราตรีเคลียร์แล้ว เหลือพะพายที่ต้องไปสู้รบปรบมือกับเธอต่อ ไหนจะที่บ้านน้องหมอเมฆอีกล่ะคะ ใครคิดถึงพี่แมคบ้าง เค้ากำลังจะกลับมา ฮัดช่า! 5555

ฝากติดตามจนจบด้วยนะคะ รักคนอ่านทุกท่านค่ะ

ปล. เรื่องภมรอ้อนตะวัน มีขายแล้วเป็นหนังสือแล้วเด้อจ้า และทั้งสามเรื่องจะมีออกเป็นบ๊อกเซตด้วยค่ะ เผื่อใครสนใจและอยากสะสม ติดตามเร็วๆนี้

ออฟไลน์ ตั้งโอ๋

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1789
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
เค้าคิดถึงพี่แมค
//ยกมือเสนอหน้า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Speirmint28

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-1
บทที่ 44




เมฆาที่เพิ่งตื่นทำหน้างุนงงเมื่อเขาต้องมาอยู่ท่ามกลางพี่ชายทั้งสามคนของเขาในบ้านของเพียงดิน เขาตื่นแต่เช้า พอลงมาข้างล่างก็พบว่าตะวันพาโมกและแมคมาที่บ้านของเพียงดินเรียบร้อยแล้ว

เดี๋ยวนะ เดี๋ยว พี่ชายเขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน

“พี่โมก พี่แมค มาได้ไงอ่ะ” เมฆาถามอย่างงงๆ พวกพี่วาร์ปมาหรือยังไงกัน นี่เชียงรายนะไม่ใช่เซเว่นหน้าปากซอย

“พี่โทรบอกพี่โมกกับพี่แมคเองแหละ เค้าเป็นห่วงน่ะก็เลยมาหาเมฆถึงนี่ เพิ่งถึงเมื่อกี้นี่เลย พี่ไปรับแล้วพามานี่” ตะวันพูด เขาเป็นคนโทรบอกที่บ้านของเมฆาเองแหละ เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ไม่บอกก็ยังไงอยู่ เลยเป็นอย่างที่เห็น โมกกับแมคขึ้นมาถึงเชียงราย

“เป็นไรมากรึเปล่าตัวเล็ก” โมกเดินเข้ามาหาน้องชายก่อนจะจับหัวเมฆาแล้วลูบ

โมกเป็นพี่ชายคนโตของบ้านที่ค่อนข้างจะทำตัวสบายๆ ไม่เครียดเหมือนพี่คนโตบ้านอื่น ออกแนวเป็นที่ปรึกษาที่ดีให้น้องๆ คนที่ทำตัวเป็นพี่ชายคนโต เป็นแมคมากกว่าโมกซะอีก แต่ถึงอย่างนั้น โมกก็พึ่งพาได้เสมอ

“ไม่เป็นอะไรครับพี่โมก ไม่เห็นต้องมาเลย” เมฆาว่าเสียงแผ่ว

“ไม่เป็นอะไรที่ไหน หน้าช้ำขนาดนั้น พี่ไม่เคยปล่อยให้เมฆเจ็บตัวขนาดนี้เลยนะ” แมคเริ่มโวย เมื่อเขาสังเกตเห็นแผลที่มุมปากของเมฆา

“ใจเย็นๆก่อนแมค นี่ไม่ใช่บ้านเรานะ” โมกปรามน้อง แล้วดึงให้เมฆานั่งลงข้างๆเขา

“เมฆนี่แหละเสี่ยงไปเอง มีคนไข้เจ็บหนักถูกจับตัวไปอย่างนั้น เมฆปล่อยเธอไปคนเดียวไม่ได้หรอก” เมฆาสารภาพผิด ถึงเขาไม่ใช่หมอก็ตามที เขาก็ยังยืนยันว่าจะตามราตรีไป อย่างน้อยไปสองคนยังดีกว่าปล่อยเธอไปคนเดียว

“เป็นคนดีไม่เข้าเรื่องอีกแล้ว” แมคบ่นอุบ จนโดนสายตาของโมกหันไปมองอย่างนิ่งๆ เจ้าตัวเลยยอมเงียบ

“เจ็บมากมั้ยครับ” โมกแตะเบาๆที่แผลของเมฆา เขามองอย่างสงสารน้อง เมฆาค่อนข้างเอาตัวรอดเก่งก็จริง แต่ถึงขั้นโดนพวกค้ายาจับไปเสี่ยงตายขนาดนั้น เขาก็ทนไม่ไหว อยากจะมาหาน้องซะตั้งแต่เมื่อวาน

“ไม่เจ็บแล้วครับ พวกพี่ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก เมฆดูแลตัวเองได้ ดินกับพี่ตะวันก็อยู่” เมฆาว่า เขาไม่อยากให้ทุกคนเป็นห่วงไปมากกว่านี้ แค่นี้เรื่องก็วุ่นวายมากพอแล้ว

“อยู่แล้วช่วยอะไรเมฆได้มั้ยล่ะ ไม่รู้ล่ะ เตรียมเก็บของเลย พี่โมกจัดการเรื่องให้เมฆกลับไปที่บ้านเราได้แล้ว ใช้ทงใช้ทุนอะไรไม่ต้องแล้ว พี่ให้คนจัดการให้แล้ว” แมคพูด วันนี้เขาค่อนข้างสติหลุดไปมาก ระงับสติและควบคุมตัวเองเหมือนทุกครั้งไม่ได้ น้องเขาเกือบตายเชียวนะ และเขาเองก็เป็นแรงสนับสนุนเรื่องที่โมกจัดการใช้ทุนคืนให้เมฆาเรียบร้อย แค่นี้เมฆาก็ได้กลับไปอยู่ที่บ้านกับพวกเขา ซึ่งมันจะปลอดภัยกว่า

“อะไรนะ” เมฆาทำหน้างง อะไร เขายังอยู่ใช้ทุนไม่ครบเลย แล้วอยู่ๆจะให้กลับบ้านได้ยังไง

“พี่ให้คนจัดการใช้ทุนให้แล้ว อยู่ที่นี่มันอันตราย กลับบ้านเราดีกว่านะเมฆ ที่นู่นมีโรงพยาบาลดีๆเยอะที่เมฆจะทำงานได้ เงินเดือนก็เยอะกว่า แล้วยังปลอดภัยอีก” โมกพูดด้วยน้ำเสียงที่เหมือนจะจริงจังขึ้น นั่นทำให้เมฆาหน้าซีดลง

“พี่โมก พี่ทำแบบนี้ได้ยังไง พี่ไม่ถามเมฆเลย” เมฆาโวยวาย ได้ยังไง ทำแบบนี้ได้ยังไง พวกพี่ๆไม่ถามเขาซักคำ อยู่ๆก็มาจัดการนู่นนี่นั่นให้แล้วจะพาตัวเขากลับเนี่ยนะ

“อยู่ที่นี่มันอันตรายนะเมฆ ติดชายแดน แล้วพวกค้ายาก็เกลื่อน ไหนจะความลำบากอย่างอื่นอีกล่ะ คราวนี้ถือว่าพี่ขอร้อง” โมกปรับสีหน้าให้เคร่งขึ้น

แมคคอยจัดการนู่นนี่นั่นให้ทุกคนในบ้านก็จริง แต่โมกเองเวลาทำหน้าที่พี่คนโตก็ทำได้ไม่ขาดตกบกพร่องเช่นกัน ปัญหาทุกอย่างของน้องๆเขาจัดการได้หากเขาต้องการทำ และตอนนี้เขาจะพาน้องกลับบ้าน

“พี่โมก”

“น้องเมฆครับ”

ทั้งสองคนมองหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมให้ ตะวันหันไปมองเพียงดินเล็กน้อย เพียงดินเหมือนทำท่าว่าจะพูดแทรกหลายครั้งแต่ก็ไม่ทำ แมคดูจะมีความสุขที่สุด เพราะการดึงเมฆากลับกรุงเทพฯคือการที่น้องจะมาอยู่ในปกครองเขาอีกครั้ง โมกที่เห็นเงียบๆใจดียิ้มแย้ม เวลาดื้อขึ้นมาก็ไม่มีใครเอาอยู่เหมือนกัน

บ้านตระกูลมอม้านี่หัวแข็งทั้งบ้าน ตะวันเองก็อยากรู้นักว่าระหว่างโมกกับเมฆาใครจะดื้อได้มากกว่ากัน

แต่เพียงดินนี่สิ เหมือนเพียงดินกับเมฆายังจะคบกันได้ไม่นานเท่าไหร่ และทั้งสองคนเองก็ยังอยู่ในช่วงพัฒนาความสัมพันธ์ให้คืบหน้าไปมากกว่านี้ ช่วงระยะเวลาที่ผ่านมามีเรื่องมากมาย และหลายๆเรื่องก็ยังไม่เคลียร์ ตะวันเห็นว่าเพียงดินเองก็เป็นคนดีเลยไม่ได้ห้ามให้ทั้งสองคนคบหากัน แต่ต่อจากนี้เป็นเรื่องของครอบครัวเมฆา ซึ่งทั้งเมฆาและเพียงดินก็ต้องหาทางจัดการกันเอาเอง

“แล้วแต่พี่โมกเลย ยังไงเมฆก็จะอยู่ที่นี่ ต่อให้พี่เอาคนมาลากเมฆกลับไป เมฆก็ยังจะกลับมาที่นี่อีก เมฆโตแล้วนะ แล้วอีกอย่างเมฆก็เบื่อกรุงเทพฯจะแย่แล้ว” เมฆารั้นใส่พี่ชาย เมฆาบทจะดื้อแมคยังเอาไม่อยู่เลย ทุกครั้งเป็นเมฆาที่ยอมโอนอ่อนผ่อนตามตลอด แต่พอจะดื้อใส่ มีหรือใครจะห้ามได้

“เมฆ เถียงพี่โมกแบบนั้นได้ไง” แมคเอ็ดน้อง

“พี่ก็เหมือนกันนะพี่แมค ทำไมทุกคนไม่เข้าใจเมฆ เมฆโตแล้วนะ ดูแลตัวเองได้” เมฆาทำสีหน้าจริงจัง

“เมฆจะว่ายังไงก็ตาม แต่พี่จะพาเมฆกลับ และตอนนี้ก็ต้องกลับไปบ้านตะวันด้วย มานอนบ้านคนอื่นแบบนี้ได้ยังไง” คราวนี้เป็นโมกที่หันไปมองเพียงดิน สายตาที่ผ่านโลกมาพอๆกันของทั้งสองคนสบกัน โมกพอจะเดาออกว่าอะไรเป็นอะไร และเขาก็ไม่ต้องการให้เมฆามาเสี่ยงตายอยู่ที่นี่ 





“ผมไม่ใช่คนอื่นสำหรับเมฆ” เพียงดินที่นิ่งมานานพูดขึ้น ไหนก็ไหนๆแล้ว เขาเองก็อยากจะบอกเรื่องของเขากับเมฆาให้ที่บ้านของเมฆารับรู้ไว้ เพราะเขาเองก็ต้องการที่จะจริงจังกับเมฆา

“แต่คุณคือคนอื่นสำหรับผม ขอโทษที่รบกวนนะครับ ผมคงต้องพาน้องชายผมกลับแล้ว” โมกพูดจบก็ลุกขึ้นพร้อมกับดึงแขนของเมฆาให้ลุกตาม

“เดี๋ยวก่อนครับ” เพียงดินคว้ามืออีกข้างของเมฆามากำไว้แน่นนั่นทำให้ทุกคนหันไปมอง

“มีอะเหรอครับ” โมกมองเพียงดินที่คว้ามือของเมฆาไว้ด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจ แมคอยากจะเข้าไปโวยแต่ก็โดนพี่ชายยกมือห้ามไว้ก่อน

“ตอนนี้ผมอาจจะเป็นคนอื่นสำหรับพวกคุณก็จริง แต่อีกหน่อยคงไม่ ตอนนี้ผมกับเมฆเรากำลังคบกันอยู่ และการที่เมฆอยู่ที่บ้านของผม มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร และผมก็อยากให้เมฆอยู่ที่นี่ต่อ” เพียงดินพูด เขาไม่ยอมให้เมฆากลับกรุงเทพฯแน่นอน เพราะเขามั่นใจว่าเขาดูและเมฆาได้ ยิ่งไปกว่านั้นเมฆาเองก็เต็มใจจะอยู่ที่นี่

“ผมว่าผมพูดชัดแล้วนะครับ ว่าเมฆต้องกลับ และเรื่องที่คุณคบกับน้องผมนั้น ผมคงต้องบอกให้คุณเลิก” โมกพูดด้วยเสียงนิ่งๆ

“ไม่นะพี่โมก เมฆไม่เลิก พี่จะมาบังคับเมฆทำไม เมฆโตแล้วนะ” เมฆาสะบัดแขนตัวเองออกจากโมกอย่างไม่พอใจ

“แมค พาน้องกลับ” โมกสั่ง แมคเองก็รอเวลานี้มานาน เขาเข้าไปดึงมือของเมฆาออกจากเพียงดินแล้วลากเมฆาออกไปจากบ้าน

“ปล่อยนะพี่แมค ไม่ เมฆไม่กลับ” เมฆายังคงดื้อจนแมคต้องจับน้องอุ้มพาดบ่าแล้วพาออกไป เมฆาโวยวายตามทาง

“คุณทำแบบนี้มันไม่ถูกต้อง!” เพียงดินโมโหพร้อมกับจะเดินตามไปหาเมฆา

“ความถูกต้องกับชีวิตของเมฆ ผมต้องเลือกอย่างหลังมากกว่า” โมกเดินมาขวางหน้าพร้อมกับพูด ก่อนที่เขาจะหันหลังตามแมคและเมฆาไป เพียงดินจะเดินตามแต่ก็โดนตะวันห้ามไว้

“วันนี้พอแค่นี้ก่อนเถอะครับคุณเพียงดิน พวกนั้นหัวดื้อจะตาย เดี๋ยวผมจัดการเอง” ตะวันบอกอีกคนแล้วรีบวิ่งออกไปตามสามพี่น้อง

เพียงดินเลยต้องจำยอมปล่อยให้เมฆาไป เขาทิ้งตัวลงบนเก้าอี้อย่างหัวเสีย ทำไมมีเรื่องไม่จบไม่สิ้นซักทีนะ






“พี่แมค พี่โมก มันจะมากเกินไปแล้วนะ” เมฆาโวยลั่นเมื่อถูกพี่ชายจับมาขังไว้ในห้องนอนที่บ้านของตะวัน

“น้อยเกินไปด้วยซ้ำ ดี กลับบ้านจะได้เลิกกับไอ้พ่อเลี้ยงนั่น ไม่รู้คบไปได้ยังไง” แมคว่าอย่างเหนื่อยๆ เมฆาดิ้นตลอดทาง ไอ้เด็กนี่มันดื้อยิ่งกว่าใครในบ้านซะอีก

“อย่ามาว่าแฟนเมฆนะพี่แมค ทีตัวเองล่ะ อยากทำอะไรก็ทำได้หมด แล้วจะมาบังคับคนอื่นแบบนี้ได้ไง” เมฆาเถียงพี่ชายคอเป็นเอ็น ไม่รู้ล่ะ เรื่องนี้ยังไงเขาก็ต้องตัดสินใจเอง

“เลิกเถียงกันได้แล้ว พรุ่งนี้พี่จะพากลับกรุงเทพฯ แล้วก็อยู่แต่ในนี้ อย่าให้พี่รู้ว่าออกไปไหน” โมกยกนิ้วขึ้นสั่งน้อง

“ทำไม พี่โมกจะทำอะไรเมฆได้ ไม่มีทางหรอก พวกพี่ไม่มีทางห้ามเมฆได้หรอก” เมฆชักสีหน้าใส่พี่ชายทั้งสองก่อนจะหันหลังให้แล้วเอาผ้าห่มมาคลุมไว้ทั้งตัว เป็นการแสดงถึงความโมโหอย่างรุนแรง

“ดื้อ ดื้อเหมือนใครวะเนี่ย” โมกพูดออกมาอย่างหัวเสีย น้อยครั้งนักที่เขาจะโมโหใส่น้องๆ

เอาเข้าจริงๆ โมกก็ดื้อไม่ต่างจากเมฆาเท่าไหร่ แต่เป็นแนวดื้อเงียบเสียมากกว่า

เสียงประตูที่ปิดลงทำให้เมฆาโผล่หัวออกมาอีกครั้ง โมกกับแมคออกไปแล้ว เมฆาทำท่าฮึดฮัดอย่างหงุดหงิด ปัญญาอ่อนบ้าบอที่สุด มาจัดการยังกับว่าเมฆายังเป็นเด็ก

“ใครเชื่อพวกพี่ก็บ้าแล้ว เมฆไม่ยอมหรอก” เมฆาบ่นคนเดียวก่อนจะรีบเก็บของที่จำเป็นของตัวเองยัดใส่กระเป๋าไว้

ในเมื่อพี่ๆของเขาไม่มีเหตุผล เขาก็จะไม่มีเหตุผลเหมือนกัน







“ดื่มเยอะไปแล้วนะคะดิน” พะพายคว้าแก้วในมือของเพียงดินมาถือไว้

เพียงดินเข้ามาดื่มไวน์คนเดียวในโรงบ่ม อยู่ๆพะพายก็โผล่เข้ามา บอกว่าถ่ายละครเสร็จแล้วเลยแวะมาหาเพียงดิน เพียงดินที่กำลังเมากรึ่มๆได้ที่ก็ไม่ได้คัดค้านอะไร เพราะไม่มีอารมณ์อยากจะคุยกับใคร

“ไปนอนดีกว่านะคะดิน” พะพายว่า ตอนนี้ก็มืดแล้ว อยู่ในโรงบ่มอับชื้นๆแบบนี้เธอเองก็ไม่ค่อยจะชอบเท่าไหร่ แต่ก็ยังอยากจะอยู่กับเพียงดินต่อ

“พายอยากกลับก็กลับไป” เพียงดินว่าแล้วคว้าแก้วไวน์กลับมา

“ดินคะ ดินไล่พายเหรอ” พะพายไม่พอใจ เพียงดินเหมือนจะยังรักเธออยู่ แต่ก็ไม่ หลายครั้งที่เธอพยายามดึงเพียงดินกลับมา แต่เพียงดินก็ไม่เล่นด้วย เธอเองก็เริ่มจะเซ็งเพียงดินแล้วเหมือนกัน

“พะพาย ผมอยากอยู่คนเดียว” เพียงดินหันมามองหน้าเธออย่างจริงจัง พะพายทำให้เขาหงุดหงิดมากกว่าเดิม เขาอยากนั่งคิดเรื่องของเมฆาแค่คนเดียว

“ให้พายอยู่เป็นเพื่อนเถอะค่ะ พายจะไม่กวนดินแล้วก็ได้” พะพายยอมอยู่นิ่งๆ ดินนะดิน ฝังใจอะไรกับไอ้หมอเกย์นั่นนักหนา แม้แต่เธอเพียงดินยังทำเมิน ไม่รู้จะหลงอะไรมันนักหนา

เพียงดินไม่ตอบแต่กลับเทไวน์เพื่อดื่มอีกครั้ง เวลาเขามีเรื่องคิดหนักๆเขามักจะดื่มไวน์ให้พอมึนๆ มันทั้งได้พักและได้คิดอะไรด้วย เผื่อมันจะทำให้อะไรๆมันแล่นเข้ามาในหัว ความจริงเขาไปเอาตัวเมฆาออกมาตอนนี้ยังได้ แต่เขาไม่อยากให้เรื่องมันบานปลายไปมากกว่านี้ เพราะดูท่าแล้วพี่ชายของเมฆก็ดูท่าทางหัวร้อนอยู่ไม่เบาเลย






เมฆายังคงนอนไม่หลับ เขาคิดวิธีที่จะอยู่ที่นี่ต่อ ทำไมพวกพี่ๆเขาชอบวุ่นวายจริงนะ เมฆาดูแลตัวเองได้แล้ว เขาโตแล้วนะ ยังชอบทำเหมือนเขาเป็นเด็กๆอยู่ได้

ครืด ครืด

เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้เมฆาต้องมุดออกจากผ้าห่มมาคว้าโทรศัพท์ไปรับ เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นเป็นเบอร์บ้านของเพียงดิน

“สวัสดีครับ” เมฆากดรับอย่างงงๆ

“คุณหมอเหรอครับ นี่ไอ้งอกเองนะครับ” เสียงปลายสายนั้นทำให้เมฆายิ่งขมวดคิ้วเข้าไปอีก

“งอกเหรอ มีอะไรทำไมถึงโทรมาเอาป่านนี้” เมฆาเงยหน้ามองนาฬิกา ตอนนี้เกือบๆจะเที่ยงคืนแล้ว

“คุณหมอมาที่ไร่ได้มั้ยครับ ตอนนี้พ่อเลี้ยงกำลังแย่เลย ผมกับไอ้เม้งเอาไม่อยู่แล้ว” งอกทำเสียงเหมือนจะร้องไห้ลอดตามสายมา นั่นทำให้เมฆาลุกพรึบ

“ดินเป็นอะไร”




*********************************************************************




มาต่อแล้วค่ะ แหะๆ สุขสันต์วันสงกรานต์นะคะ ฝากติดตามด้วยค่ะ รักคนอ่านทุกท่าน  :mew1:

ออฟไลน์ kinjikung

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
พะพายคงไม่ได้สวมรอยตอนดินเมานะ

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ Speirmint28

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-1
บทที่ 45

หลังจากวางสายงอกไปเมฆาก็ลุกพรวดพร้อมกับเปิดประตูเดินไปลงชั้นล่างที่มืดสนิท เขาพยายามเดินให้เบาที่สุด เพราะตอนนี้ทุกคนเหมือนจะหลับหมดแล้ว ก่อนจะเดินไปคว้าเอากุญแจรถยนต์ของตะวันที่ห้อยไว้ที่ประจำ แล้วค่อยๆย่องเบาเปิดประตูออกไป

การไปไร่เพียงระพีช่วงเวลาเที่ยงคืนแบบนี้ทำให้เมฆาแอบเสียงสันหลังอยู่ไม่น้อย เพราะไม่ได้ชินทางขนาดนั้น นั่นทำให้เขาเลือกเอารถยนต์มากกว่ามอเตอร์ไซค์ไป แม้มันจะทำให้คนทั้งบ้านตื่นก็เถอะ แต่แค่ออกไปได้ก็พอแล้ว

เมฆาเดินไปเปิดประตูหน้าบ้านก่อนจะกลับเข้ามาสตาร์ทรถ แล้วก็เป็นอย่างที่เขาคาดการณ์ไว้ ไฟทั้งบ้านถูกเปิดสว่างจ้าพร้อมกับคนทั้งบ้านเปิดประตูออกโดยมีโมกนำทีม

“เมฆ!” เสียงของพี่ชายตะโกนลั่น

เมฆาไม่รู้จะทำยังไงเลยรีบถอยรถออกจากบ้านไป โมกและแมคเดินตามน้องแต่มีตะวันช่วยรั้งไว้ก่อนที่จะวิ่งตามเมฆาออกนอกถนน

“ไม่ต้องห่วงนะพี่ตะวัน เดี๋ยวเมฆให้คนเอารถมาคืน ส่วนพวกพี่ เมฆบอกแล้วไงว่าเมฆไม่ทำตามที่พวกพี่สั่งหรอก” เมฆาตะโกนออกมาก่อนจะปิดกระจกแล้วขับรถออกไปกลางดึก

“ตะวัน ไปเอารถออก พี่จะตามเมฆไป” โมกสั่งตะวันที่ยืนขวางหน้าเขาและแมคเอาไว้ การที่เมฆาออกไปกลางดึกแบบนี้มันทั้งอันตราย และที่สำคัญเมฆาหนีพวกเขา

“ปล่อยน้องมันไปเถอะครับ ตามตอนนี้ก็ได้แต่เตลิดไปไกล ถ้าใจเย็นๆแล้วค่อยคุยกัน” ตะวันพยายามหว่านล้อม เมฆาน่ะหัวดื้อ  เขารู้ว่าทั้งโมกและแมคห้ามเมฆาได้ไม่นานหรอก

“นี่ตะวันก็เอากับเค้าอีกคนเหรอเนี่ย”

“ผมว่าเราต้องคุยกันหน่อยแล้วนะครับพี่โมกพี่แมค” ตะวันว่าพร้อมกับถอนหายใจ เห็นแก่ที่เมฆาเคยช่วยเรื่องเขากับภุมรินไว้ คราวนี้เสี่ยตะวันก็จะลงสนามช่วยไอ้ตัวแสบด้วยก็แล้วกัน





เมฆาขับรถมาถึงไร่เพียงระพีโดยใช้เวลาไม่นาน รถคันโตแล่นมาจอดหน้าบ้านหลังใหญ่ของพ่อเลี้ยงเพียงดิน ร่างเล็กของคุณหมอหนุ่มเดินเข้าไปในบ้านที่เปิดไฟไว้ก็ไม่เห็นเจอใคร พอมองไปที่โรงบ่มของไร่ก็เจอว่าไฟยังสว่างอยู่เลยรีบเดินไปตรงนั้น
พอไปถึงก็เจอเพียงดินนั่งนิ่งพร้อมกับเม้ง งอกและคนงานอื่นๆอีกสองสามคนที่ทำท่าเหนื่อยๆ ก่อนที่งอกจะสังเกตเห็นเขา

“คุณหมอมาแล้ว ขอบคุณพ่อแก้วแม่แก้ว” งอกทำหน้าเหมือนจะร้องไห้เมื่อกี้กับยิ้มกว้างพร้อมกับพุ่งตรงมาหาเมฆา

“มีเรื่องอะไรกันเหรองอก” เมฆาถามอย่างงงๆแล้วมองไปที่เพียงดิน
“พ่อเลี้ยงน่ะสิครับ เมาแล้วเป็นแบบนี้ตลอดเลย นั่งนิ่งไม่ไหวติง ออกมาตากยุงตากน้ำค้าง พวกผมเพิ่งมาเจอเมื่อกี้นี้ ไม่รู้ว่านั่งนานรึยัง พอจะให้ไปนอนในบ้านก็ไม่ไป ถามหาคุณหมอตลอดเลย ไอ้ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง เลยต้องรบกวนคุณหมอดึกๆแบบนี้” งอกว่า นั่นทำให้เมฆาเดินเข้าไปหาเพียงดิน

พ่อเลี้ยงเพียงดินตอนนี้สภาพดูไม่ได้ หน้าแดงก่ำและนั่งนิ่งเหมือนจิตจะหลุด เมฆาเพิ่งเคยเจอคนที่เมาแล้วนิ่งแบบนี้ เลยแอบอมยิ้มออกมาเล็กน้อย

“ดิน ดินครับ” เมฆาเรียกคนตัวโตเบาๆ เพียงดินหันมามองนิ่งๆ

“เตี้ย” เพียงดินยังคงมึนๆ เขามั่นใจว่าเขาไม่ได้เมาแต่อย่างใด เพราะเขาค่อนข้างควบคุมการดื่มของตัวเองได้ แต่ทำไมมันมึนๆก็ไม่รู้เหมือนกัน

“ไปนอนในบ้านนะครับ นะ มานั่งตรงนี้เดี๋ยวก็โดนยุงกัดตายหรอก” เมฆาพยายามกล่อมเหมือนที่กล่อมให้คนไข้ยอมฉีดยาหลายๆครั้ง

“เมฆจะนอนด้วยมั้ยล่ะ” เพียงดินทำหน้าเยิ้มแล้วเบ้ปากทำหน้าเหมือนเด็ก เมฆาแทบจะหลุดขำออกมาเมื่อเห็นคนหน้าโหดๆตัวโตๆทำอะไรแบบนี้

“นอนสิครับ ไปนะ เดี๋ยวเมฆพาไป” เมฆาเอื้อมมือไปจับมือของเพียงดินพร้อมกับกระตุกเบาๆให้เพียงดินลุกตาม คนตัวโตก็ทำตามอย่างว่าง่าย นั่นทำให้เมฆายิ้มอย่างพอใจ

“ทีคุณหมอนี่ว่าง่ายเลยนะครับพ่อเลี้ยง” งอกเอ่ยแซว

เขาพยายามพาเพียงดินกลับไปนอนที่บ้านหลายรอบแล้ว แต่พ่อเลี้ยงก็ยังคงไม่ตอบสนอง พอคุณหมอมานิดเดียว ยอมว่าง่ายซะงั้น

คำพูดของงอกนั้นทำให้เพียงดินหันมามองเด็กในไร่ของตัวเองตาขวางทั้งๆที่เมาอยู่ งอกยกมือไหว้ขอโทษที่แซวแทบจะไม่ทัน

“ไปกันนะ เดี๋ยวเมฆนอนเป็นเพื่อน” เมฆาว่าแล้วเดินนำพาคนตัวโตกว่ากลับไปที่บ้าน คนงานแถวนั้นเลยพากันแยกย้ายกลับโดยที่ยังคงเปิดไฟหน้าโรงบ่มไว้

ร่างสูงของพ่อเลี้ยงหนุ่มถูกคนรักพาเข้ามาในห้อง เมฆาจัดการถอดรองเท้าให้เพียงดินเรียบร้อย พอถามว่าอาบน้ำไหวมั้ย เพียงดินก็พยักหน้าก่อนจะเข้าไปอาบน้ำ ไม่ถึงห้านาทีก็ออกมาด้วยสภาพตัวหอมฟุ้งพร้อมกับเปียกโชกจนเมฆาต้องเป็นคนจัดการเช็ดตัวให้

ดันร่างสูงนอนลงไปกับเตียงก่อนที่เมฆาจะนอนลงตาม ร่างเล็กของคุณหมอหนุ่มถูกเพียงดินดึงเข้าไปกอดแน่น เมฆาหันไปมองหน้าอีกคน เพียงดินมองคนตรงหน้าด้วยแววตาที่เมฆาคาดเดาไม่ออกแต่คิ้วขมวดอย่างเห็นได้ชัด เมฆาเลยยกมือขึ้นนวดเบาๆที่หัวคิ้วนั้น

เพียงดินยกมือขึ้นจับมือเรียวนั้นก่อนจะกระชับอ้อมกอดของตัวเองเข้ามาอีก ร่างสูงโน้มตัวลงไปจูบเบาๆที่เปลือกตาของเมฆาก่อนจะเลื่อนมาจูบที่ริมฝีปาก

สัมผัสที่ดูดดื่มและหนักหน่วงขึ้นนั้นทำให้เมฆาเผลอปล่อยใจไปกับเพียงดินอีกครั้ง








“ไหน ไม่เห็นมีใครเลย นี่เธอพาฉันมาถูกที่แน่นะ” เสียงของพระเอกหนุ่มดังขึ้นเมื่อมองไปทั่วบริเวณแล้วไม่เจอใคร

“ก็เมื่อกี้ดินก็นั่งตรงนี้นิ แล้วอยู่ๆหายไปไหน” พะพายมองไปทั่วบริเวณก็ไม่เจอเพียงดิน

เธอเห็นเพียงดินเมาได้ที่เลยไปเรียกแมนมาช่วย เธอคิดอะไรดีๆออก เพียงดินกำลังเมา เธออยากจะใช้โอกาสนี้สร้างข่าวของเธอกับเพียงดินขึ้นมา โดยให้แมนมาเป็นตัวช่วยถ่ายคลิปไว้ให้

ดาราสาวกับพ่อเลี้ยงหนุ่มแห่งไร่เพียงระพี อดีตคู่รักหวังรีเทริ์น คงจะดังไม่น้อย แต่กลับมาอยู่ๆเพียงดินก็หายไป

“เธอหลอกฉันมารึเปล่าพะพาย พรุ่งนี้ฉันมีถ่ายละครแต่เช้านะ” แมนพูดอย่างหัวเสีย ทำไมไม่ไปเรียกคนอื่น ผู้จัดการของยัยนี่ก็มี ทำไมต้องลากเขาออกมากลางดึกด้วยก็ไม่รู้

“เมื่อกี้ดินอยู่ตรงนี้จริงๆ ถ้าบ่นมากก็กลับไปเลยไป ฉันจัดการเอง” พะพายโวยบ้าง แล้วเพียงดินจะหายไปไหน เมาขนาดนั้น แผนเธอพังหมด

“ไม่ต้องไล่ฉันก็ไปอยู่แล้ว” แมนพูดอย่างโมโหเช่นกัน

พะพายมองพระเอกคู่ขวัญอย่างไม่แยแสก่อนจะหันไปหาเพียงดินต่อ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่มาเกาะขาของเธอ

เดี๋ยวนะ...

“แมน! นังแมน!” พะพายตะโกนลั่น นั่นทำให้แมนที่กำลังเดินไปหันมามอง

“อะไรอีก” แมนโวย แต่ก็ต้องทำหน้างงๆเมื่อเห็นสีหน้าของพะพายไม่ดี

“อะไรไม่รู้เกาะขาฉัน มาดูให้หน่อย” เธอทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ แมนเองก็ยอมเดินไปดูให้

“ไม่เห็นมีอะไรเลย” แมนก้มดูตรงขาของพะพายแต่ก็ไม่เห็นมีอะไร

“ไม่มีบ้าอะไรล่ะ มันเกาะขาฉันอยู่ ว้าย! ไอ้บ้า มันไต่มาแล้ว!” พะพายกรี๊ดลั่นก่อนจะกระโจนเข้ากอดแมน แมนเองก็ตกใจพร้อมกับผลักพะพายออกอย่างรวดเร็ว

“ทำอะไรของเธอ ขนลุกชะมัด” เขาทำท่าขนลุกก่อนจะเดินหนีพะพาย สาวเจ้าวิ่งตามอย่างรวดเร็วพร้อมกับกรี๊ดลั่น

“อิแมน รอฉันด้วย” พะพายวิ่งปรู๊ด



ในมุมหนึ่งของต้นไม้หน้าโรงบ่มหน้าจอโทรศัพท์ที่สว่างจ้าถูกปิดลงพร้อมกับรอยยิ้มร้ายของใครบางคน



“เสร็จฉันแน่นังพะพาย ดังนักใช่มั้ย ได้ดับก็คราวนี้แหละ”





























 :katai4: :katai5: :hao7:  :กอด1:

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
โดนแน่ๆนังพะพายโดนตบล่วงแน่

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ดีใจพะพายจะได้หลุดไปจากดินสักที

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ lovejinjunno

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
อ่านรวดเดียวจนไม่ได้หลับไม่ได้นอนเลยนะเนี่ย
สนุกมากกกกกกกกกกกกกกกพ
เรื่องของพี่ตะวันกับน้องรินว่าสนุกมากๆแล้วนะ
เรื่องนี้สนุกกว่าอีก สนุกตรงที่คุณดินกับหมอเมฆกัดกันจนแทบจะฆ่ากันตายนี่แหละ
แถมกว่าจะรักกันก็ปาเข้าไปกี่ตอนแล้วไม่รู้
เรื่องนี้จัดมาเต็มทุกรสชาติจริงๆ
แล้วก็ยังได้เห็นถึงพัฒนาการของตัวละครทุกตัวอีกต่างหาก

ตื่นเต้นอ่ะ
ส่วนสองสาวแฟนเก่าคุณดิน
หลังจากที่ราตรีบอกเมฆว่ายัยพะแพงมันตอแหลแล้ว ก็คิดได้ว่า เออเนอะ เป็นไปได้อยู่นะ แบบว่าราตรีร้ายแบบมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ส่วนยัยพะแพงก็คงจะร้ายแบบน้ำนิ่งไหลลึกแน่ๆเลย
สุดท้ายก็ใช่จริงๆ 555

แต่ตอนที่ราตรีเจ็บท้อง แล้วก็โดนลักพาตัวไปอ่ะ
ตอนนั้นคือแบบ ทีมหมอเมฆมากมาย
ยอมรับว่าก็อดเป็นห่วงราตรีตามไปด้วยไม่ได้เหมือนกันนะ
แล้วยิ่งตอนที่เมฆอุ้มราตรีออกจากบ้านไปขึ้นรถ กับตอนที่เมฆอุ้มราตรีออกมาหลังจากที่พี่รัช พี่ตะวัน แล้สก็คุณดินมาช่วยได้แล้วอ่ะ
ตอนนั้นน้องหมอเมฆเท่มากกกกกกกกกกกกอ่าาาา แอบกรี๊ดกร๊าดน่าดู

เรื่องของราตรีจบไปและ ก็เหลือยัยพะแพง
มันจะโดนแฉว่ายังไงนะ
แอบสงสัยว่าเป็นฝีมือใคร
จะว่าราตรี จะใช่หรอ ไหนหมอทศบอกว่าต้องพักยาว

เรื่องบ้านเมฆ อยากรู้จริงๆ
คนดื้อกับคนดื้อมาเจอกัน
ใครจะดื้อได้มากกว่ากัน
เหอเหอ
เอาใจช่วยคุณดินกับน้องหมอเมฆต่อไป
อีกไม่กี่ตอนก็จบแล้ว~~~~~
คิดแล้วก็แอบใจหายเหมือนกันนะ 555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Speirmint28

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-1
บทที่ 46

‘นางเอกสาวหน้าสวยอักษรย่อ พ. แอบกิ๊กกั๊กกับพระเอก ม. ในกองถ่าย’

“อิบ้า ข่าวบ้าอะไรเนี่ย!” พะพายฟาดหนังสือพิมพ์ลงกับโต๊ะอย่างแรงแล้วหันไปโวยใส่ผู้จัดการอย่างหัวเสีย ข่าวบ้าข่าวบออะไรกัน

เช้านี้เธอเห็นหน้าตัวเองเด่นหราอยู่หน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์พร้อมกับแมนและรูปทีเธอกระโดดกอดแมนอยู่หน้าโรงบ่มของไร่เพียงระพี แล้วมีคนใส่สีตีไข่ว่าเธอและแมนไปทำอะไรกันบัดสีในนั้น

จะบ้ารึไง นังแมนมันเป็นเกย์!

“ข่าวอะไรเหรอคะน้องพะพาย พี่ขอดูหน่อยสิ” เสียงแหลมๆนั้นดังขึ้นพร้อมกับมือเรียวของดาราสาวอีกคนหยิบไปอ่านพร้อมกับยิ้มเยาะ

“อย่ามายุ่งได้มั้ย” พะพายดึงหนังสือพิมพ์ออกจากมือของเมย์ นางร้ายหน้าเก่าที่เล่นละครเรื่องเดียวกันกับเธอ

เมย์ไม่ชอบเธอเท่าไหร่ เพราะเคยมีเรื่องกันตอนกองละครเรื่องเก่า เกือบจะตบกันตายคากองถ่ายยังมีมาแล้วเลย ไม่คิดว่าจะโคจรมาเจอกันที่นี่อีก

“อะไรกันเนี่ย มีข่าวกับนังแมนเหรอ ไหนเห็นจะจับเจ้าของไร่ไงยะ” เมย์เหยียดยิ้มมุมปากอย่างถือไพ่เหนือกว่า

“หรือว่าเป็นแก ที่ปล่อยข่าวบ้าๆนี่” พะพายลุกพรึบแล้วจ้องเมย์อย่างโมโห

เมย์เป็นคนที่มีเรื่องกับเธอมาตลอด และรูปพวกนี้มันก็ต้องถ่ายจากคนในกองละครอยู่แล้ว เพราะคนในไร่ไม่มีใครรู้เรื่องพวกนี้ และเมย์คือคนที่น่าสงสัยมากที่สุด

“อย่ามากล่าวหากันแบบนี้สิคะน้องพะพายคนสวย อ้อ วีนแบบนี้ไม่ดีนะคะ ช่วยคีพลุคนางเอกสาวแสนดีด้วย” เมย์พูดเยาะก่อนจะยิ้มเหยียดๆให้แล้วเดินหันหลังกลับไป ทิ้งพะพายทำเสียอยู่ตรงนั้น

“ดูมันนะ อิป้านี่ ต้องเป็นมันแน่ๆ มันนั่นแหละที่เป็นคนปล่อยรูปบ้าๆพวกนี้” พะพายโวยวาย คนทั้งกองหันมามองเธออย่างระอา

เป็นเรื่องปกติที่คนในกองถ่ายเห็นอยู่เป็นประจำ ใครทำงานกับเธอต้องเตรียมตัวรับมือกับอะไรแบบนี้อยู่แล้ว ถ้าไม่ดังมีเหรอใครจะจ้างคนอย่างพะพาย ตอนแรกๆก็ดีอยู่หรอก นานเข้าๆตัวตนของเธอก็ยิ่งเปิดเผย

“นี่มันเรื่องอะไรกันพะพาย ข่าวบ้านี่มาได้ยังไง” แมนเดินมาอย่างอารมณ์ไม่ดีเช่นกัน ภาพลักษณ์ของเขาเองก็เป็นพระเอกสุดฮอต ตอนนี้แฟนคลับสาวๆของเขาก็ไม่พอใจเป็นอย่างมาก

“จะไปรู้ได้ยังไงล่ะ คิดว่าฉันอยากมีข่าวกับแกมากรึยังไง” พะพายว่าอย่างไม่สบอารมณ์

“อ้าว ไหงมาพูดแบบนี้ เธอคิดว่าฉันเองก็อยากจะมีข่าวกับเธอมากนักรึไงกัน เป็นเพราะเธอนั่นแหละที่พาฉันไปที่นั่น เลยต้องมาซวยด้วย” แมนหัวร้อน ยิ่งมาเจอพะพายพูดแบบนี้เขาก็ยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่

“หยุดพูดได้มั้ย รำคาญ ถ้านักข่าวรู้ว่าแกเป็นเกย์คงไม่เขียนข่าวแบบนี้หรอก บอกๆเค้าไปสิว่าไม่มีทางพิศวาสผู้หญิง” พะพายตะโกนลั่น ทำให้คนทั้งกองถ่ายยิ่งหันมามอง กล้องโทรศัพท์หลายเครื่องได้บันทึกภาพไว้ ไม่เว้นแม้แต่เมย์ที่ยืนหัวเราะอยู่

“พะพาย!” แมนชี้หน้าหญิงสาวอย่างโมโห

“ทำไม หรือว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง” เธอเหยียดยิ้มใส่พระเอกหนุ่ม พะพายสติหลุดจนผู้จัดการต้องรีบมาดึงตัวไว้

“พะพาย หยุดพูดได้แล้ว”

“แล้วเธอล่ะ เรียกฉันไปดึกๆดื่นๆเพื่อที่จะให้ไปช่วยลากพ่อเลี้ยงเพียงดินที่เมาไม่รู้เรื่อง คิดเหรอว่าฉันไม่รู้ว่าเธอคิดจะทำอะไร นี่น่ะเหรอนางเอกสาวแสนดี ที่แท้ก็ร่านผู้ชาย” แมนตะโกนอย่างหัวเสียบ้าง เหอะ ถ้าเขาจะพังพะพายก็ต้องพังด้วยเหมือนกัน เรื่องทั้งหมดพะพายนั่นแหละเป็นต้นเหตุ แล้วเขาต้องมาซวยไปด้วย

“หูย” เสียงอุทานดังไปทั่วกองถ่ายพร้อมกับมองหน้าพะพายแล้วซุบซิบ

“อิแมน!” พะพายตรงเข้าไปตบแมนดังลั่น แมนเงื้อมือจะตบกลับแต่ก็ระงับสติได้ทัน

“พะพายหยุดเดี๋ยวนี้ พอได้แล้ว” ผู้จัดการรีบลากพะพายออกจากตรงนั้นก่อนที่เรื่องมันจะบานปลายไปกันใหญ่

“ว้าย พระนางดับคู่” เมย์ที่ยืนยิ้มอยู่พูดขึ้นก่อนจะเก็บโทรศัพท์ มองไปทั่วกองตอนนี้มีแต่คนพูดคุยกัน วันนี้ผู้กำกับไม่อยู่ รวมทั้งผู้จัดด้วย ในกองเลยค่อยข้างจะฟรี เรื่องสนุกๆเกิดขึ้นแบบนี้ ผู้จัดไม่อยู่ควบคุม คงสนุกพิลึก

แต่คนที่สนุกที่สุดก็คงไม่พ้นเธอ

“หึ นังพะพาย”








เมฆารู้สึกตัวเมื่อสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่มาวุ่นวายอยู่ตรงหัวไหล่จนไล่มาถึงลำคอของเขา ร่างเล็กปรือตาขึ้นแล้วหันไปมอง พบเพียงดินที่กำลังมองมาด้วยแววตายิ้มๆ

“มอนิ่งคิสครับ” เพียงดินว่าแล้วจุ๊บเบาๆที่ริมฝีปากของเมฆา ร่างเล็กเอียงหน้าหนีอย่างเขินอาย เมื่อรู้ว่าตอนนี้ทั้งสองคนอยู่ในสภาพไหน

เพียงดินหัวเราะน้อยๆให้กับท่าทางนั้นแล้วรวบเอาเมฆามากอดแน่นกว่าเดิมก่อนจะลุกขึ้นนั่งโดยดึงคนตัวเล็กให้ลุกขึ้นตาม เมื่อคืนนี้ใช่ว่าเขาจะไม่รู้สึกตัวทั้งหมด เพียงดินรู้ว่าตัวเองเมาแล้วนิ่ง เมาแล้วมึน เมาแล้วดื้อ แต่พอเจอลูกอ้อนของเมฆาเข้าไปหน่อยเดียวก็ระทวยอ่อนเป็นขี้ผึ้งรนไฟ

แถมเจ้าตัวเล็กยังยอมให้เขารังแกทั้งคืนอีก แค่นี้เพียงดินก็หลงหัวปักหัวปำอยู่แล้ว

“ขยับออกไปก่อน มันอึดอัด” เมฆาพูดด้วยน้ำเสียงที่เขินอาย พร้อมกับใบหน้าที่แดงก่ำ เมื่อคืนเขาดันเคลิ้มไปกับเพียงดินเสียนี่ คนตัวโตก็เหมือนจะเมา ที่ไหนได้ ยังคงเหมือนคราวนั้นไม่มีผิด

“เมื่อคืนยังบอกให้กอดแน่นๆอยู่เลย” เพียงดินแกล้งกระซิบที่ข้างหู ทำเอาเมฆาหน้าร้อนเห่อกว่าเดิม

“ไอ้บ้า ปล่อยเลยนะ จะไปอาบน้ำ” เมฆาไสตัวออกจากอกของเพียงดิน พ่อเลี้ยงหนุ่มก็ยอมปล่อยแต่โดยดีพร้อมกับหัวเราะร่วน

“เดี๋ยวไปช่วยอาบ” เพียงดินลุกพรึบด้วยสภาพเปลือยเปล่าก่อนจะก้มลงช้อนตัวเมฆาขึ้น

“เฮ้ย! ทำอะไร ปล่อยเลยนะ” เมฆาดิ้นสุดแรงแต่ก็ไม่เป็นผล โดนเจ้าของบ้านพาเข้าไปในห้องน้ำเรียบร้อย

กว่าทั้งสองคนจะออกมาจากห้องน้ำก็เกือบสองชั่วโมง

หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จทั้งเพียงดินและเมฆาก็ออกมาจากห้องน้ำ เพียงดินยิ้มหน้าบานจนเมฆาอดจะหมั่นไส้ไม่ได้ อยากกระโดดถีบซักรอบสองรอบ ทำมาเป็นยิ้ม เมื่อคืนใครเมาแล้วทำหน้าเป็นหมาหงอยทั้งคืนกัน

ครืด ครืด

เสียงโทรศัพท์ของเมฆาดังขึ้น คนตัวเล็กสะดุ้งโหยงพร้อมกับคว้ามาเปิดดู พบว่าเป็นพ่อของตัวเอง ร่างเล็กถึงสีหน้าสลดลง ปกติแม่ของเขาจะเป็นคนโทรหาเสียมากกว่า แต่ตอนนี้พ่อกลับเป็นคนโทรมาเสียนี่ ถ้าให้เดาเรื่องของเขาคงถึงหูคนที่บ้านแล้ว

“สวัสดีครับพ่อ” เมฆากดรับพร้อมกับหันไปมองหน้าเพียงดิน

“น้องเมฆเหรอลูก เป็นไงบ้าง สบายดีมั้ย” น้ำเสียงอบอุ่นนั้นดังมาจากปลายสาย

พ่อของเมฆาน่ารักเสมอและเข้าใจลูกๆทุกคน เขาไม่ค่อยจะยุ่งเกี่ยวและบังคับลูกเท่าไหร่ เพียงแต่คอยมองดูว่าลูกๆนั้นทำอะไรเกินเลยจนสร้างปัญหารึเปล่าแค่นั้น

“สบายดีครับ พ่อโทรมามีอะไรรึเปล่า” เมฆาถามเสียงแผ่ว เขาไม่กล้าเดาอะไรจากพ่อเลย อย่างที่รู้ว่าพวกเขาดื้อทุกคน ซึ่งแน่นอนว่าพ่อของเขาก็ไม่ต่างกัน

“แค่คิดถึงลูกชายเฉยๆ เห็นพี่ตะวันบอกว่าช่วงนี้น้องเมฆมีปัญหาจนต้องเลือดตกยางออก พ่อก็เป็นห่วง พี่ๆเขาไปหาแล้วใช่มั้ย” เสียงนั้นยังคงอยู่ในโทนปกติที่ไม่น่ากลัวแต่อย่างใด แต่เมฆาก็ยังหวั่นไม่หาย

“พ่อคงรู้แล้วสินะครับ” เมฆายื่นมือไปกุมมือของเพียงดินแน่น เพียงดินเองก็บีบมือนั้นตอบอย่างให้กำลังใจ

“พามาเจอพ่อหน่อยสิ พี่โมกกับพี่แมคคุยไม่รู้เรื่องเลย พ่อแค่อยากสัมผัสด้วยตัวพ่อเอง ใครนะทำน้องเมฆดื้อกับพี่โมกได้ ปกติตามใจพี่ๆตลอดนี่นา” เสียงหัวเราะเบาๆนั้นดังมาจากปลายสาย

เมฆาโล่งใจเล็กน้อย อย่างที่บอกว่าคนที่เจ้าบงการที่สุดในบ้านคือแมค พ่อกับแม่ของเขาปล่อยให้ลูกๆคิดและทำอะไรตามใจตัวเองตลอด คนที่ต้องก้าวผ่านไม่ใช่พ่อและแม่ แต่คือพี่ชาย ถึงอย่างนั้นก็เถอะ คนที่เมฆาแคร์ที่สุดก็คือพ่อและแม่อยู่ดี

“ไว้เมฆาคุยกับพวกพี่ๆก่อนนะครับ แล้วจะพาไปหา พ่อสบายดีนะ” เมฆาเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงปกติ ไม่ตึงเครียดเหมือนตอนแรก

“สบายดีลูก ว่าจะหาเวลาพักร้อนไปเที่ยวบ้านลุงภูของน้องเมฆซักหน่อย”

“รีบๆมานะครับพ่อ มาช่วยเมฆคุยกับพี่โมกพี่แมคได้ยิ่งดี”

“โอเคครับคุณลูก เอาไว้เจอกัน พ่อไปทำงานก่อนละ รักลูกนะครับ” จบบทสนทนาสายก็ถูกตัดไป เมฆาถอนหายใจออกมาก่อนจะล้มตัวลงบนเตียงพร้อมกับหันไปมองเพียงดินที่นั่งลงมาตาม

“ว่าไงบ้าง” เพียงดินถาม

“พ่อน่ะไม่น่าห่วงเท่ายักษ์วัดแจ้งสองคนนั้นหรอกนะดิน” เมฆาว่าแล้วเอนหัวไปซบที่อกของเพียงดินก่อนจะพาดแขนไปกอดเอวเอาไว้ เวลาเขาอยากอยู่ใกล้ใคร เมฆาชอบสัมผัสตัว ยิ่งรักมากยิ่งอยากกอดมาก เขามักอ้อนแบบนี้เสมอ และพี่โมกพี่แมคก็คือคนที่เมฆาอ้อนประจำ

“ฉันไม่ยอมพี่นายหรอกนะเมฆ บอกไว้เลย” เพียงดินกระชับอีกคนเข้ามากอด เขาชอบตอนเมฆาอ้อนที่สุด เมฆาเหมือนตัวแมวหรือกระต่ายที่น่าขย้ำ ยิ่งคลอเคลียยิ่งอยากฟัดให้หายหมั่นเขี้ยว

“ลองยอมดูสิ จะตามมาเผาไร่ให้วอดเลย ว่าแต่... จะยอมปล่อยเมฆจริงๆเหรอ” เมฆาช้อนสายตามอง มือเล็กขยับจากเอวแล้วลูบไปตามหน้าท้อง แล้วไล่ไปตามแผงอก ก่อนจะหยุดตัวที่หน้าอกข้างซ้ายของเพียงดิน

หัวใจพ่อเลี้ยงหนุ่มเต้นระรัวเมื่อแววตาที่เหมือนยั่วยวนนั้นมองมา พร้อมกับมือนิ่มๆที่เริ่มจะอยู่ไม่สุข ภาพการสอดประสานที่เร่าร้อนเมื่อคืนผุดขึ้นในหัวของเพียงดิน

ทำไมเมฆาถึงได้ยั่วเก่งขนาดนี้

“อย่าทิ้งเมฆเลยนะ” เมฆาพลิกตัวคร่อมอีกคนไว้แล้วเอามือคล้องคอ ก่อนจะก้มลงกระซิบที่ข้างหูของเพียงดิน

อายชะมัด!

ปกติเมฆาไม่ใช่คนแบบนี้ แต่ด้วยอะไรหลายๆอย่างเขากลัวว่าเพียงดินจะเบื่อเขา จะไม่ทนกับเขาอีกแล้ว ทั้งพะพายรักแรกและรักฝังใจของเพียงดินที่ยังไม่เคลียร์ ไหนจะเรื่องครอบครัวที่ไม่รู้ว่าเพียงดินอยากจะสู้ต่อมั้ย หลายคนที่เข้ามาในชีวิตเขาต้องยอมเลิกราไปเพราะทนพี่ชายของเขาไม่ไหว เมฆากลัวว่าเพียงดินจะเป็นแบบนั้น ปกติเขาเคยแต่อ้อน ไม่รู้ว่าที่ทำอยู่นี้ มันเรียกว่าการยั่วรึเปล่า แค่อยากให้เพียงดินรักเขามากๆก็เท่านั้น

เพียงดินใจเต้นระรัว พร้อมกับความปวดหนึบจากส่วนล่าง ร่างสูงพลิกเมฆาให้นอนลงไปกับเตียงอีกครั้ง ชุดคลุมอาบน้ำนั้นถูกดึงเชือกออก เผยให้เห็นผิวสีขาวที่แดงเป็นจุดด้วยฝีมือของเขาเอง เพียงดินมองแววตาที่หวานเยิ้มของเมฆาแล้วอดไม่ได้ที่จะก้มลงจูบอีกคน มือสากลูบไล้ไปทั่ว เสียงครางผะแผ่วดังขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่พ่อเลี้ยงของไร่น้ำรินจะหมกตัวอยู่กับคุณหมอหนุ่มในห้องจนถึงเที่ยง

เพียงดินคิดว่าเขากำลังเสพติดเมฆา



*********************************************************************


ทำไมตอนนี้มีความโซอิโรติก - :-[ ช่วงนี้อัพช้านะคะ แต่จะพยายามอัพเรื่อยๆจนจบ เราจะสอบไฟนอลแล้ว อาจจะมีหายๆบ้าง แต่ไม่หายยาวแบบคราวทีแล้วแน่นอนค่ะ ฝากน้องเมฆไว้ด้วย กำลังคิดอยู่ว่าจะแต่งฉากอิโรติกเพิ่มมั้ย แต่มันขัดต่อธีมหลักของซีรี่ย์ที่ใสใสฟิลกู๊ด 5555 เอาแค่นี้ไปก่อนดีกว่าเนอะ อาจจะเพิ่มเป็นตอนพิเศษในเล่มดีกว่า กิกิ

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
น้องเมฆยั่วแบบนี้ พี่ดินจะไปไหนรอด

ออฟไลน์ pearlypear

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ดับสนิทแน่พะพายงานนี้
ส่วนหมอเมฆรีบพาพ่อเลี้ยงไปให้คุณพ่อดูตัวเร็ว 55555

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
แค่นี้ดินมันก็หลงจนโงหัวไม่ขึ้นขึนแล้วยั่วแบบนี้เดี๋ยวคงกลายเป็นทาสเลยมั้ง

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ lovejinjunno

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
เอิ่มๆๆๆๆ
น้องเมฆ~~~~~
ทำไมขี้ยั่วงี้เนี่ย~
ยั่วได้น่ารักน่าฟัดมากมายอ่ะ
แสดงว่าใกล้จบแล้วเข้าไปทุกทีๆ
ถ้าพ่อออกโรง เรื่องคงจบง่ายขึ้นอ่ะนะ
ได้แต่หวัง ฮ่าา

เรื่องสอบขอให้โชคAนะค้า~
สู้ๆค่ะ

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1789
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
หวานอะไรขนาดนั้นนนนน
 :-[

ออฟไลน์ aom2529

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 886
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด