[นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] ปฐพีเคล้าเมฆา [แจ้งข่าวงานหนังสือ] เพียงดิน - เมฆา
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] ปฐพีเคล้าเมฆา [แจ้งข่าวงานหนังสือ] เพียงดิน - เมฆา  (อ่าน 99870 ครั้ง)

ออฟไลน์ Speirmint28

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-1
บทที่ 13


“ห๊ะ! เบอร์หมอเมฆ ฉันฟังไม่ผิดใช่มั้ยเนี่ย” เสียงปลายสายถามอย่างงงๆ


หลังจากเพียงดินกลับมาที่บ้านแล้วเขาก็โทรหาทศพรทันที ก็จะถามเรื่องเบอร์ของเมฆานั่นแหละ ในเมื่อเอาจากเจ้าตัวตรงๆไม่ได้ก็เอามันจากคนใกล้ตัวนี่แหละ ก็นะ ทีไอ้เดกเวรนั่นยังขอหมอนิงได้เลย แล้วเขาเป็นเพื่อนกับทศพรจะขอเบอร์จากทศพรมันจะยากอะไรล่ะ


“เออน่า ฟังไม่ผิดหรอก เอามาเร็วๆ อย่าเรื่องมากไอ้หมอ” เพียงดินว่าพร้อมกับเดินเข้าไปที่โรงบ่ม ซึ่งวันนี้เขามีงานที่ต้องทำที่นี่เพราใกล้ถึงวันที่จะมีงานเกษตรของจังหวัดแล้ว เพียงดินจะต้องส่งไวน์เข้าร่วมแข่งด้วย ซึ่งเขาก็กวาดรางวัลชนะเลิศมาทุกปี อาจจะเป็นเพราะขาถนัดเรื่องไวน์ที่สุดก็เป็นได้ คู่แข่งคนสำคัญก็ไม่ใช่ใครที่ไหน รัชพลนั่นแหละ


“แล้วแกจะเอาไปทำไม ถ้าเอาไปโทรหาเรื่องหรือเอาไมทำไม่ดีฉันไม่ให้หรอกนะ เดี๋ยวหมอเมฆจะมาว่าฉันเอาได้ ฉันยังไม่อยากจะเสียชื่อเพราะแกหรอกนะไอ้ดิน โตขนาดนี้แล้วยังจะไปหาเรื่องเป็นเด็กๆไปได้” ทศพรว่าตามสายมา เพียงดินทิ้งตัวลงเก้าอี้ในโรงบ่มแล้วกรอกตาอย่างเบื่อหน่าย ทศพรแปลงร่างเป็นพ่อเขาอีกคนเข้าแล้ว


“นี่เพื่อนหรือพ่อวะเนี่ย อย่าบ่นน่า ฉันไม่เอาไม่ทำอะไรเสียๆหายๆหรอก เอามาเหอะ” เพียงดินเริ่มหน่ายใจกับทศพร อะไรจะให้ยากเย็นขนาดนั้น ก็แค่เบอร์หมอเมฆเนี่ย


“เออๆ อย่าให้รู้นะว่าโทรไปด่าเค้าน่ะ” สุดท้ายทศพรก็จำยอมให้เบอร์ของเมฆากับเพียงดินอยู่ดี


พ่อเลี้ยงเพียงดินพอได้เบอร์ของเมฆาก็ยิ้มร่าแล้วหมุนตัวไปทำงานของตัวเองต่ออย่างอารมณ์ดีแม้ว่าตอนนี้ฟ้าจะมืดแล้วก็ตาม หึหึ ไอ้เด็กเวร มึงมีได้กูก็มีได้เหมือนกัน แล้วอีกอย่างเจอไอ้หมอเตี้ยนั่นบ่อยกว่าด้วย เหอะ!











เมฆาหลังจากกลับมาที่บ้านก็อาบน้ำแต่งตัวอีกรอบแล้วล้างแผลของตัวเอง มันเป็นแผลไม่ลึก แต่มันยาวมาก คงจะเป็นตอนที่เขาขยับจะไปหาสิตางศุ์นั่นแหละ เจ็บที่เท้าแบบนี้เขาเกรงว่าจะมีปัญหากระทบกับงาน เพราในโรงพยาบาลเขาต้องเดินเดินมาทั้งวันแม้ว่าจะมีนั่งประจำที่เพื่อตรวจคนไข้ก็เถอะ แต่แน่นอนว่าต้องลำบากอยู่แล้ว อะไรจะซวยขนาดนี้


เมฆาถอนหายใจก่อนจะทิ้งตัวลงกับเตียง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นอินเตอร์เนตเพื่อเช็คข่าวสารในแต่ละวัน เมื่อเปิดมาแอพลิเคชั่นยอดฮิตอย่างไลน์ก็แจ้งเตือนขึ้น ทีได้เป็นเพื่อนกับเขาจากเบอร์โทรพร้อมกับยังส่งข้อความมาหาแบบรัวๆ อันนี้เขาไม่แปลกใจเท่าไหร่ แต่กับอีกคนนี่สิทำให้เมฆต้องขมวดคิ้วงง


Peangdin ได้เพิ่มคุณเป็นเพื่อนจากหมายเลขโทรศัพท์!


“ห๊ะ!” เมฆร้องออกมาอย่างไม่เข้าใจ


เดี๋ยวๆ เดี๋ยวก่อน มันใช่เหรอ เขาเข้าใจนะว่าปกติแล้วไลน์มันจะเพิ่มเพื่อนอัตโนมัติให้เองหลังจากมีเบอร์โทรกันแล้ว คำถามก็คือเพียงดินมีเบอร์โทรเขาหรือไง...


เมฆาคิดว่าไม่น่าจะใช่ เพราะคนอย่างเพียงดินจะต้องการเบอร์โทรของเขาไปทำไม มันอาจจะผิดพลาดก็ได้ เพราะไลน์มันก็ชอบขึ้นมั่วหลายครั้งอยู่แล้ว


แต่ก็นะ มันก็น่าแปลกใจไม่น้อยเหมือนกัน


เมฆากลับเข้ามาที่หน้าแชท เลื่อนหาตะวันก็พบว่าตะวันออนไลน์อยู่ เมฆาจึงทักไปหาพี่ชายที่ไม่รู้ว่าชาตินี้จะกลับบ้านมั้ย ถ้าตะวันอยู่ที่ต่างประเทศนานอีกหน่อยเขาคงต้องลาออกจากงานแล้วมายึดตลาดประสิทธานนท์เป็นของตัวเองแล้วแน่ๆ


แต่ยังไม่ทันจะได้คำตอบจากตะวันเสียงข้อความเข้าจากคนอื่นก็ดังขึ้นมาซะก่อน แน่นอนว่าต้องเป็นเด็กทีที่พยายามตามตื้อเขาอยู่ตอนนี้ เมฆาอยากจะบ้าตายเสียจริงๆ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองต้องไปดึงดูดผ้ายด้วยกันอย่างทีมาด้วย เพื่อนของเขามีแฟนเป็นผู้ชายด้วยกันนั้นตอนสมัยเรียนเขาก็ว่ามันไม่แปลก ตะวันเอง รัชพลเองก็ยังใช่ แต่พอมาเป็นตัวเองแล้วมันขนลุกพิลึก ยิ่งเป็นเด็กอย่างทีแล้วด้วยเขาว่ามันไม่ใช่


ทีมันเป็นเด็กที่เขาว่าเกรียนๆคนนึง ชอบอ้อนทั้งที่ตัวใหญ่อย่างกับหมีป่า เมฆานึกสภาพไม่ออกเลยจริงๆว่าถ้าวันหนึ่งเขาคบกับทีขึ้นมาจริงๆจะเป็นยังไง แค่ยังไม่ได้คบทีก็ตามตื้อไม่เลิกอย่างนี้ พูดจริงๆคือเขาลำบากใจ ตอนนี้ก็คงพยายามหลีกเลี่ยงและหาทางบอกน้องมันว่าให้เลิกพยายามเถอะ เพราะยังไงเขาคงคิดกับทีแบบนั้นไม่ได้


ทำไมชีวิตไอ้เมฆต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยเนี่ย รู้สึกว่าตั้งแต่เรียนจบ มาทำงาน ชีวิตพลิกผันไปเยอะมาก จะมามัวเล่นๆเหมือนแต่ก่อนก็ไม่ได้ ดูอย่างภุมรินสิ ตอนนี้ก็มีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบมากมาย เขาเองก็ต้องมีเช่นกัน และแน่นอนว่าอนาคตเรื่องคู่ครองอะไรเทือกๆนั้นเขาก็อยากจะมีครอบครัวที่อบอุ่น มีภรรยาแสนดีและลูกน่ารักๆ ไม่ใช่ผู้ชายกล้ามโตแบบนั้น เมฆาคิดว่ามันไม่ใช่สำรับเขาแม้ว่ารอบตัวจะรายล้อมไปด้วยคู่รักเพศเดียวกันก็เถอะ


เขาไม่อยากจะบอกเด็กทีหรอก ว่าแห้วแล้วไอ้หนู


สุดท้ายเมฆาก็ตัดสินใจปิดเนตจะดีกว่าเพราะรำคาญไลน์ที่เด้งมาไม่หยุดเพราะที ส่วนตะวันเองก็ยังไม่ตอบทั้งๆที่ออนไลน์อยู่แท้ๆ ไอ้พี่เวร แต่ชั่งเถอะ เขาว่าตะวันคงไม่กลับมาเร็วๆนี้หรอก


วันนี้มันวันวิปโยคอะไรสำหรับเขากันแน่เนี่ย











“สวัสดีจ้ะน้องหมอเมฆ” พยาบาลสาวทักเมฆาที่เดินเข้ามาโรงพยาบาลอย่างทุลักทุเล


อีกตั้งหลายวันกว่าจะถึงวันหยุดของเขา นี่แหละนะชีวิตทำงาน แล้วยังเป็นหมออีก เจ็บตัวทีก็ขาดงานไม่ได้ ความรันทดนี้ เอาเข้าจริงๆแผลที่เท้ามันก็น่าจะหายเร็วถ้าดูแลดีๆ นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับหมออย่างเขาอยู่แล้ว มันก็แค่เจ็บเวลาเดินเท่านั้น นั่งเฉยๆในห้องตรวจคงไม่เป็นไร อีกไม่กี่วันก็คงหาย เรื่องนี้ต้องโทษตัวเองล้วนๆเลย


“อ้าวหมอเมฆ เห็นว่าเท้าเจ็บ เป็นยังไงบ้างครับ” ทศเดินเข้ามาทักทายแต่เช้า เมฆาเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มให้รุ่นพี่


“อีกไม่กี่วันก็คงหายครับ วันนี้วันหยุดหมอทศไม่ใช่เหรอครับ” เมฆาถามงงๆ เพราะวันนี้เป็นวันหยุดของหมอทศเค้าล่ะ แล้วหมอทศมาทำอะไรที่โรงพยาบาลแต่เช้ากัน


“ก็สารวัตรไกรน่ะสิครับ โดนยิงเมื่อวาน เลยแวะมาเยี่ยมก่อนจะเข้าไปในตัวจังหวัด” ทศพรตอบพร้อมกับชูกระเช้าผลไม้ให้เมฆาดู


“สารวัตรไกรโดนยิงเหรอครับ ทำไมผมเพิ่งรู้เนี่ย แล้วอาการเป็นยังไงบ้างครับ” เมฆาถามอย่างตื่นๆ แน่นอนอยู่แล้วว่าอาชีพตำรวจมันต้องเสี่ยงเจ็บตัวอย่างนี้ เผลอๆอันตรายถึงชีวิตเลยก็มี


“ยิงเฉียดไหล่ไป ไม่เป็นอะไรมากหรอกครับ ว่าแต่หมอเมฆเถอะเมื่อคืนดินมันโทรไปป่วนอะไรมั้ย” ทศพรลากเก้าอี้มานั่งข้างๆเมฆาที่ทำหน้างงหลังจากถูกถามแบบนั้น


“ทำไมต้องโทรมาป่วนอะไรด้วยล่ะครับ” อะไรกัน เพียงดินมีเบอร์โทรเขาที่ไหนกันเล่า


“อ้าว ก็เมื่อคืนดินมันโทรมาคะยั้นคะยอให้ผมเอาเบอร์ของหมอเมฆให้มันไง ผมเลยกลัวว่าจะเอาเบอร์หมอเมฆไปทำอะไรไม่ดีเข้า แต่หมอเมฆพูดอย่างนี้ก็ค่อยสบายใจหน่อย” ทศพรว่า เมฆายิ่งขมวดคิ้วแน่น


“เดี๋ยวก่อนนะครับ เอ่อ... นายเพียงดินเนี่ยนะมาขอเบอร์ผมจากหมอทศ” ถ้าอย่างนั้นไอ้ที่เด้งมาในไลน์ก็เป็นเพราะเพียงดินมีเบอร์เขาจริงๆน่ะสิ แล้วเพียงดินจะเอาเบอร์โทรของเขาไปทำไมกัน คิดจะเล่นอะไรอีก


“ก็ใช่น่ะสิ เรื่องนี้คุยกันเอาเองแล้วกัน ผมขอตัวก่อนนะครับ เดี๋ยวไปสายแล้วรถจะติดเอา” พูดจบทศพรก็เดินออกไปทิ้งให้เมฆาทำหน้างงอยู่และยังไม่เข้าใจว่าเพียงดินต้องการเบอร์ของเขาไปทำไมกัน


“น้องหมอเมฆ มาดูตรงนี้หน่อยค่ะ มีเด็กไข้ขึ้นสูงมาเลย” เสียงพยาบาลเรียกที่หน้าห้องทำให้เมฆาต้องสลัดความคิดเรื่องเพียงดินทิ้งไปแล้วหันไปทำงานของตัวเองต่อ


“ครับ ไปแล้วครับ” เมฆาขานรับพร้อมกับเดินกระเผลกไปหน้าห้อง เรื่องเพียงดินเอาไว้เคลียร์ทีหลังก็แล้วกัน












“มึงขนให้มันเร็วๆไอ้งอก อีกสองชั่วโมงต้องถึงตัวจังหวัดนะโว้ย” เช้านี้ไร่เพียงระพีค่อนข้างจะวุ่นวายเพราะต้องส่งนมสดลอตแรกของปีนี้ไปที่ตัวจังหวัดเพราะฉะนั้นคนในไร่เลยวิ่งวุ่นกันขนาดนี้ แม้แต่เพียงดินเองก็แทบจะไม่ว่างเลยด้วยซ้ำ


“เสร็จแล้วครับนาย” งอกตะโกนลงมาจากรถสิบล้อคันใหญ่ที่ตอนนี้เต็มไปด้วยถังนมหลายร้อยถัง เพียงดินเดินเข้าไปตรวจเช็คแล้วรีบจดบิลอะไรซักอย่างแล้วยื่นให้งอก


 “ฝากด้วย อย่าให้พลาดนะมึง” งานนี้งอกจะเป็นคนควบคุมเอานมสดไปที่ตัวจังหวัดเอง ส่วนเพียงดินมีหน้าที่ต้องทำต่อ


เขามีไวน์ที่ต้องเตรียมในงานที่จะถึง ไหนจะผลไม้อย่างอื่นที่ต้องส่งตลาดอื่นอีก ไร่เพียงระพีค่อนข้างจะงานล้นมือเพราะเป็นไร่ใหญ่ แถมยังทำการเกษตรหลายอย่าง นั่นทำให้ช่วงฤดูกาลทีไรพวกคนงานแทบจะไมว่าง ดีที่องุ่นเก็บเกี่ยวไปหมดแล้ว งานเลยเบามือขึ้นมาหน่อย


หลังจากให้งอกไปส่งของเรียบร้อยเพียงดินก็เข้ามาอาบน้ำหลังไม่ได้อาบมาตั้งแต่เมื่อวาน ไปส่งเมฆากลับมาก็พุ่งเข้าโรงบ่ม กลับเข้าบ้านตอนเช้าก็ต้องรีบออกมาเพราะวันนี้มีส่งนม ตอนนี้ก็เริ่มจะเที่ยงแล้ว ตอนบ่ายเขาต้องเข้าไปในตัวอำเภออีกเพราะต้องไปคุยกับเก่งเรื่องผลไม้นี่แหละ แล้วก็ว่าจะเลยเข้าไปหาสารวัตรไกลที่โรงพยาบาลเสียหน่อย ทศพรเพิ่งบอกเมื่อคืนว่าโดนยิงจนต้องนอนโรงพยาบาล แค่คิดว่าต้องไปโรงพยาบาลก็แอบยกยิ้มเล็กน้อยเมื่อนึกถึงหน้าของคนที่เขาเพิ่งขอเบอร์จากทศพรมา


ว่าแต่เมฆาเจ็บตัวแบบนั้นจะไปทำงานรึเปล่านะ


เพียงดินอาบน้ำแต่งตัวแล้วเข้ามาในตัวเมืองตอนบ่าย เข้าไปคุยกับเก่งเรื่องงาน ตะวันต่อสายจากต่างประเทศมาคุยด้วย ตอนนี้ไร่เพียงระพีกับตลาดประสิทธานนท์ได้ตกลงเซ็นสัญญาที่จะทำงานร่วมกันแล้ว เพราะผลไม้ที่ต้องส่งออกลำพังแค่ไร่น้ำรินนั้นไม่เพียงพอ เพราะไร่น้ำรินส่วนใหญ่ปลูกแต่องุ่น ตลาดประสิทธานนท์ยังขาดแคลนผลไม้อย่างอื่นที่ตลาดต่างประเทศต้องการ นั่นถือว่าเป็นเรื่องที่ดีกับทั้งสองฝ่ายไม่น้อย


เพียงดินแวะซื้อของเยี่ยมไข้ที่ตลาดสดของตลาดประสิทธานนท์ที่อยู่ข้างๆกันแล้วค่อยขับรถเข้าไปในโรงพยาบาลในช่วงบ่ายแก่ๆ เมื่อเข้าไปในห้องของสารวัตรไกรก็เจอคนที่เขาอยากเจอนั่งอยู่ก่อนแล้ว เมฆา


“สวัสดีครับสารวัตรไกร อาการเป็นยังไงบ้าง” เพียงดินทักทายก่อนจะวางถุงผลไม้ไว้ที่โต๊ะอีกฝั่งหนึ่ง


“พรุ่งนี้คงออกจากโรงพยาบาลแล้วล่ะครับ ขอบคุณพ่อเลี้ยงมากที่มาเยี่ยม” สารวัตรไกรตอบรับแล้วยิ้มมาให้


เพียงดินลากเก้าอี้มานั่งข้างๆเมฆาที่มาเยี่ยมเกรียงไกรก่อนหน้า เมฆาไม่สนใจมองอีกคนเมื่อนึกถึงเรื่องที่ทศพรพูดเมื่อเช้า เพียงดินมาขอเบอร์เขาจากทศพร เอาไปทำไมกัน หรือหมอนี่คิดเรื่องไม่ดีอีกแล้ว ต้องเอาเบอร์ของเขาไปทำอะไรไม่ดีแน่ๆ


“ถ้าอย่างนั้นผมไปทำงานต่อก่อนนะครับสารวัตรไกร นายเพียงดิน ก่อนกลับไปเจอหน่อยได้มั้ย พอดีมีเรื่องจะคุยด้วย” ประโยคหลังเขาหันมาบอกคนที่เพิ่งมาถึง ถ้าเพียงดินคิดจะเอาเบอร์โทรของเขาไปทำอะไรไม่ดีมันก็ต้องรีบสกัดไว้ก่อน แค่นี้เขาก็มีเรื่องปวดหัวมากมายพออยู่แล้ว ไม่อยากจะมีปัญหาเพิ่มหรอกนะ เพียงดินคิดยังไงกับเขาก็รู้อยู่ หมอนั่นน่ะไม่ชอบขี้หน้าเขา และยังชอบกวนประสาท ทำไมเมฆาต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยเนี่ย


เพียงดินยักคิ้วอย่างงงๆแล้วมองตามแผ่นหลังในชุดกราวน์สีขาวที่เดินออกไป เมฆาเนี่ยนะอยากจะคุยกับเขา คุยเรื่องอะไรกัน พอคิดว่าเมฆาอยากจะคุยด้วยเลยคุยกับเกรียงไกรอีกไม่นานแล้วขอตัวออกไปหาคนตัวเล็ก


เพียงดินเดินเข้าไปหาเมฆาที่ตอนนี้กำลังเก็บของเพราะใกล้เวลาเลิกงานแล้ว เขาไม่ได้เข้าเวรเพราะเพิ่งสลับเวรหมอคนอื่น เท้าเจ็บแบบนี้ไม่สะดวกที่จะอยู่ตอนดึกๆ เมฆาเลยจะเข้าเวรแทนวันหลังซึ่งคงรอเขาหายก่อน


“มีอะไรจะคุยกับผมเหรอครับคุณหมอ” เพียงดินเข้ามาทำหน้าทะเล้นมองเมฆาที่ทำหน้านิ่งเดาอารมณ์ไม่ถูก


“มาก็ดีแล้ว ฉันอยากมีเรื่องจะคุยพอดี นายคิดจะทำอะไรกันแน่” เมฆาจ้องเพียงดินตรงๆ เขาไม่อยากจะปัญหาและไม่อยากจะเล่นกับเพียงดินอีกแล้ว เพราะคิดว่ามันไร้สาระและเขาเองก็เหนื่อยมากด้วย


“อะไร ทำอะไร” เพียงดินถามอย่างงงๆ อะไรของเมฆา


“ก็ที่นายไปขอเบอร์ฉันจากหมอทศไง นี่คิดจะทำอะไรไม่ดีอีกใช่มั้ย” เมฆาชี้หน้าคนตัวโตกว่า เพียงดินคว้านิ้วมือที่จะจิ้มตาเขาไว้นั้นมาจับแน่น


“นี่รู้แล้วเหรอ ใครบอก ไอ้หมอมันบอกนายเหรอ” เพียงดินถามกลับ ทศพรเล่นเขาแล้วไง ไปบอกเมฆาทำไมว่าเขาขอเบอร์ โอ้ย ว่าจะเก็บไว้เป็นความลับเสียหน่อย


แต่คิดอีกที เขาอยากได้เบอร์เมฆาทำไมกัน


“จะใครอีกล่ะถ้าไม่ใช่หมอทศ นี่บอกไว้ก่อนเลยนะว่าถ้าจะทำอะไรไม่ดีฉันไม่ปล่อยนายไว้แน่ และอย่ามายุ่งกับฉันอีก ขี้เกียจทะเลาะด้วยแล้ว” เมฆาดึงนิ้วตัวเองออกมาจากมือเพียงดินแล้วว่าต่อ


“ทำไม ไม่อยากให้ยุ่งนี่จะได้มีเวลาไปจู๋จี๋กับเด็กเวรนั่นรึไง” เพียงดินเท้าสะเอวเถียงกลับ ทำมาเป็นบอกให้เขาเลิกยุ่งเพราะอยากจะไปอี๋อ๋อกับเด็กเวรนั่นล่ะสิ เหอะ ไม่มีทางหรอก


“นั่นมันก็เรื่องของฉัน” เมฆารวบเอากระเป๋าของตัวเองเข้ามากอดแล้วเดินออกมาข้างนอกห้อง เพียงดินเดินตามมาด้วยอย่างหัวเสีย


“นี่ ฉันไม่ได้ทำอะไรไม่ดีกับเบอร์นายหรอก บอกให้ฉันเลิกยุ่งกับนาย เพราะนายอยากไปยุ่งกับเด็กนั่นแหละ” เพียงดินพูด เมฆาสายหน้าอย่างเซ็งๆ เพียงดินพูดอะไรเขาไม่เข้าใจ ไอ้บ้านี่หัดไปเรียบเรียงคำพูดมาก่อนเถอะ แล้วเด็กทีนั่นมาเกี่ยวอะไรด้วย


“นั่นมันไม่ใช่ธุระกงการอะไรของนาย” เมฆาตะโกนด่าลั่น


“แล้วทำไมนายต้องห้ามฉันวุ่นวายนาย แล้วนายก็ไปอยู่ใกล้ไอ้เด็กทีนั่น แล้วยังไปชอบคุณรัชอีก ทำไมไม่ใช่ฉันล่ะ” เพียงดินว่ากลับอย่างลืมตัว เมฆาหันขวับมามองอย่างตะลึงกับคำพูดนั้น


“หะ..ห๊ะ!” เมฆาทำหน้างง เพียงดินถึงกับเหวอไปเมื่อคิดได้ว่าตัวเองพูดอะไรออกไป


“ปะ.. ป๊าว! กลับแล้ว” พูดจบก็เดินดุ่มๆออกจากห้องมา แล้วเพียงดินก็ต้องผงะอีกรอบเมื่อมีสายตาของคนไข้ทั้งหัวหงอกหัวดำกำลังพุ่งสายตามาที่เขาทั้งหมด


แน่ล่ะ ผนังห้องมันบางแค่ไหน ป่านนี้ได้ยินทั้งโรงบาลแล้วมั้งเนี่ย   







**************************************************************



ตอนนี้ป่วงมาก แบบมากๆ แบบงงมาก แต่งแบบงงๆ โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยย  :sad4: คำผิดยังไม่ได้ตรวจนะคะ งานรีบงานเร่งมากเลยก่ายกอง  :hao5: ความสัมพันธ์เริ่มขยับ แต่อิเพียงดินมันยังคงงงๆความรู้สึกตัวเองอยู่ หมอเมฆหัว่นไหวบ้างรึเปล่าอันนี้ยังไม่รู้  :katai5: ฝากติดตามด้วยนะคะ รักคนอ่านทุกท่านค่ะ  :impress2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-06-2016 08:36:13 โดย Speirmint28 »

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ oppapp

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
เดินหน้าจีบอย่างเป็นทางการไปเลยพี่ดิน  :z1:

ออฟไลน์ Speirmint28

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-1
บทที่ 14


เมฆามองคนที่เดินออกไปอย่างงงๆ ในหัวยังคงตีกันให้วุ่นไปหมด เดี๋ยวก่อนจะ เดี๋ยวๆ เมื่อกี้หมอนั่นพูดว่าอะไรนะ เหมือนเขาจุหูฝาดไปหรือยังไง เขาไม่แน่ใจ


“หมอเมฆ เกิดอะไรขึ้น เสียงดังไปถึงนู่น นี่มันโรงพยาบาลนะ” หมอนุ่นเดินมาหาพร้อมกับตำหนิเล็กน้อย


เมฆาก้มหัวให้เป็นเชิงขอโทษก่อนจะรวบเอาของตัวเองมากอดแน่นแล้วเดินออกมา เขาเจอสายตาคนทั้งโรงพยาบาลจ้องมองมาเป็นเชิงถาม เขาหลบสายตาพวกนั้นก่อนจะเดินไปรอเก่งที่หน้าโรงพยาบาลเพราะวันนี้เขาไม่ได้เอารถมาเอง อยากจะเดินหนีให้เร็วๆ แต่เท้าที่เจ็บอยู่นี่สิมันเป็นอุปสรรคกับเขาเสียจริง


นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันของนายเพียงดินกันเนี่ย อยู่ก็มาพูดอะไรประหลาดๆแบบนั้น โรงพยาบาลที่นี่ก็เล็กแค่ไหน ผนังห้องมันก็บางซะได้ยินไปทั่ว แล้วจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนเนี่ย


เมฆาเดินมารอที่ข้างหน้า แล้วสายตาก็ไปปะทะกับเพียงดินที่กำลังจะขึ้นรถ เพียงดินพอเห็นเมฆาเท่านั้นแหละก็รีบพุ่งตัวเข้าไปในรถอย่างรวดเร็วเหมือนกลัวอะไรเมฆาอย่างนั้นแหละ เมฆาเองก็เบือนหน้าหนี แค่คิดถึงสีหน้าจริงจังของเพียงดินกับคำพูดพิลึกๆนั่นมันก็ทำให้เขาขนลุกแทบบ้า


เพียงดินที่เอาตัวเองเข้ามาในรถได้สำเร็จเขาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกและพยายามหายใจเข้าออกอีกหลายรอบ บ้าไปแล้วแน่ๆ เขาต้องบ้าไปแล้วแน่นอนที่ไปพูดแบบนั้นกับไอ้หมอเตี้ยนั่น ก็ตอนนั้นมันไม่ได้คิดอะไรนี่ อยากจะพูดอะไรตอนนั้นก็พูดไปเลย แล้วมันก็เป็นอย่างที่เห็น


เขายังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าทำไมต้องพูดแบบนั้นออกไป แต่ตอนนี้มันรู้สึกอายมาก อยากจะบ้าตาย แล้วอย่างนี้หมอเมฆจะมองเขายังไงล่ะเนี่ย แต่ก่อนอื่นต้องไปให้ไกลๆจากหมอเมฆก่อนตอนนี้ เกิดไอ้หมอเตี้ยนั่นอยากถามอะไรต่อขึ้นมาเขาคงไม่กล้าสู้หน้าตอบแน่ๆ


คิดได้ดังนั้นพ่อเลี้ยงเพียงดินก็รีบออกรถทันที พอดีกับเก่งมารับหมอเมฆ เก่งกำลังจะทักทายแต่เพียงดินก็รีบบึ่งรถออกไปซะก่อน


เพียงดินขับรถกลับมาที่ไร่อย่างมึนๆและงงๆในพฤติกรรมของตัวเองในวันนี้ รู้สึกเสียหมายังไงพิลึก อายุก็ปูนนี้แล้ว เขาไม่เคยเซและซ๊อตขนาดนี้มาก่อน ซ๊อตชนิดที่ว่าไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรลงไป และต่อจากนี้จะทำยังไงต่อ


เอาจริงๆนะ ไอ้ที่เขาบอกว่าทำไมหมอเมฆไม่สนใจเขาเหมือนไอ้เด็กทีนั่นหรือเหมือนคุณรัช ช่วงนี้เขาก็แอบคิดแบบนั้นบ่อยๆ มันเป็นเพราะอะไรไม่รู้ เขาอาจจะแค่รู้สึกว่า หมอเมฆเบนความสนใจหลายอย่างไปให้คนอื่น มากกว่าจะมาสนใจทะเลาะกับเขาเหมือนเมื่อก่อน


ความคิดเด็กอนุบาลชัดๆ


เพียงดินสลัดความคิดของตัวเองทิ้งแล้วตรงไปยังห้องตัวเอง อาบน้ำให้สบายตัวเผื่อจะทำให้ความคิดในหัวมันโล่งขึ้นมาก็ได้ ก่อนอื่นต้องจัดการความรู้สึกและความคิดตัวเองที่มันพันกันยุงเหยิงนี่ซะก่อน ก่อนจะไปเจอหน้าเมฆาอีกรอบ ทางที่ดีช่วงนี้อย่าไปใกล้โรงพยาบาลอีกดีกว่า











เมฆากลับมาที่บ้าน อาบน้ำล้างแผลตัวเองเรียบร้อย ตอนนี้ช่วงหัวค่ำแล้วแต่ที่ตลาดก็ยังคงมีเสียงดังมาเป็นระยะเพราะยังคงมีงานที่ต้องทำกันอยู่ แม่บ้านที่ตะวันจ้างมาดูแลทำอาหารเย็นให้เขาเรียบร้อยแล้ว นั่นทำให้คนเจ็บไม่ต้องลำบากเข้าครัวเองแต่อย่างใด เมื่อมีเวลามาตั้งสติและมานั่งคิดแบบดีๆแล้ว เมฆาก็คิดถึงเรื่องเมื่อตอนเย็น


“แล้วทำไมนายต้องห้ามฉันวุ่นวายนาย แล้วนายก็ไปอยู่ใกล้ไอ้เด็กทีนั่น แล้วยังไปชอบคุณรัชอีก ทำไมไม่ใช่ฉันล่ะ”


คำพูดลิเกชะมัด ผีตัวไหนเข้าสิงให้เพียงดินพูดแบบนั้น พูดเหมือนกับว่าน้อยใจที่เขาไปให้ความสำคัญกับคนอื่นมากกว่าตัวเอง


ไม่มีทาง!


เพียงดินไม่มีทางคิดแบบนั้นแน่นอน เมฆาไม่ต้องเดา เพราะฉะนั้นตัวเลือกที่โน้มเอียงไปในทางที่สนับสนุนว่าเพียงดินพิศวาสเขาจนอยากจะให้สนใจเนี่ยตัดทิ้งไปให้หมด เขาว่าเพียงดินต้องการที่อยากจะให้เขาเลิกยุ่งกับรัชพลต่างหาก หมอนั่นยังไม่เลิกคิดว่าเขาชอบรัชพลอีกหรือไงเนี่ย!


แล้วถ้าพูดถึงเด็กที เพียงดินก็คงแค่อยากจะแกล้ง เพราะเพียงดินก็รู้ว่าเด็กทีนั่นคิดยังไงกับเขา คงอยากจะให้เขาเลิกสนใจเด็กนั่นล่ะมั้ง เอาจริงๆคือเขาก็ไม่ได้สนใจเด็กทีตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เห็นเป็นแค่เด็กรุ่นน้องคนนึงเท่านั้นเอง


เพราะฉะนั้น สรุปได้ว่า เพียงดินเองก็ยังคงไม่ชอบขี้หน้าเขาเหมือนเดิม อย่างหมอนั่นจะมาพิศวาสอะไรเขา เหมือนกับที่เมฆาเองก็ไม่ได้คิดจะไปญาติดีกับคนแบบนั้น อายุมากกว่าซะเปล่า แต่ความคิดความอ่านยังกับเด็กประถม คิดแต่จะเอาชนะไปวันๆ ไร้สาระชะมัด


ครืด...


เมฆาเลิกสนใจเพียงดินแล้วหันมาสนใจโทรศัพท์ของตัวเองที่ส่งเสียงเรียก เป็นตะวันนั่นเองที่โทรมา กว่าจะติดต่อน้องมาได้นะไอ้พี่ตะวัน ไม่ลืมไปเลยล่ะ












“เดี๋ยวนะ ไอ้ที่ดินพูดมาทั้งหมดนี่แน่ใจแล้วใช่มั้ยว่าพูดออกมาจากความรู้สึกจริงๆน่ะ หึๆ”


“ก็เออน่ะสิวะไอ้หมอ แล้วจะหัวเราะทำไมเนี่ย มีอะไรน่าขำ” เพียงดินทิ้งตัวลงบนเตียงของตัวเองอย่างไม่สบอารมณ์


เขาโทรไปปรึกษาทศพรเรื่องความรู้สึกและอาการแปลกๆที่ช่วงนี้มันวูบวาบๆ จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวซึ่งสาเหตุทั้งหมดมันมาจากหมอเมฆทั้งนั้น แต่พอโทรไปคุยกับคุณหมอคนเก่ง ฝ่ายนั้นกลับหัวเราะกลับมาเสี่ยนี่


“นี่แกจะสามสิบแล้วนะดิน เรื่องแบบนี้ยังต้องมาปรึกษาหมออย่างฉันอีกเหรอ” คนปลายสายพูดไปด้วยหัวเราะไปด้วยไม่หยุด นั่นทำให้เพียงดินต้องหงุดหงิดเพิ่มมากขึ้น


“ก็ฉันไม่ใช่หมอนี่จะได้รู้เรื่องแบบนี้ได้ง่ายๆน่ะ” เขาคิดดีรึเปล่าถึงโทรมาปรึกษาทศพร ดูเหมือนเพื่อนหมอของเขาไม่ได้ช่วยอะไรเลย


“เรื่องแบบนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นหมอหรอกนะ มันไม่ใช่ไข้หวัดที่ตรวจๆแล้วจะได้จ่ายยาให้หายน่ะ ถ้าดินอยากจะรู้ว่าดินเป็นอะไรก็ลองถามหัวใจตรงๆสิ” ทศพรยังพูดประโยคที่เพียงดินฟังยังไงก็ไม่เข้าใจอยู่ดี แล้วตกลงเขาเป็นอะไรล่ะ


“แล้วมันยังไงล่ะ”


“โอ้ย นี่ฉันมีเพื่อนซื่อบื้อแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันเนี่ย นี่ดิน ตอนนี้แกกำลังวูบวาบๆเวลาเจอหมอเมฆ และไม่ชอบให้หมอเมฆไปยุ่งกับคนอื่น แถมยังเป็นห่วงเค้าอีก ความรู้สึกแบบนี้มันมีอย่างเดียวนั่นแหละ คิดเอาเองแล้วกันนะ” พูดจบทศพรก็วางสายไปเสียดื้อๆซะอย่างนั้น ทิ้งให้เพียงดินสับสนต่อไป


“ตกลงไอ้หมอมันจะสื่ออะไรกันแน่วะเนี่ย” ตกลงเขาได้อะไรจากการปรึกษาทศพรบ้าง


ความรู้สึกแบบนี้มีอย่างเดียวเท่านั้นน่ะเหรอ...


“หรือว่า... ไอ้เหี้ย!” เพียงดินลุกพรึบพร้อมกับจับหัวตัวเอง เดี๋ยวนะ ทศพรกำลังจะสื่อว่าเขารู้สึกดีๆ หรือกำลังชอบไอ้หมอเตี้ยนั่นน่ะเหรอ


ไม่ใช่ละ เพียงดินว่ามันไม่ใช่!


เขาเป็นชายไทยอายุยี่สิบเจ็ดและแน่นอนว่าในอนาคตต้องมีหญิงสาวที่เพียบพร้อมที่จะมาเป็นภรรยาและเป็นแม่ของลูก พร้อมทั้งนายหญิงของไร่เพียงระพี ซึ่งแน่นอนว่าเขาไม่มีทางไปคิดอะไรพิลึกพิลั่นโดยการเอาผู้ชายมาทำเมีย โดยเฉพาะหมอเตี้ย ปากจัด อย่างเมฆาแน่นอน


เขาไม่มีทางไปรักไปชอบคนอย่างเมฆาหรอก ไอ้หมอนั่นมันก็แค่น่ารัก ตัวเล็ก เอวน่ากอด แค่นั้นเอง


เออ! แค่นั้นแหละ


แต่มานั่งคิดดีๆ เขาก็เริ่มมองว่าเมฆาน่ารักมาซักพักแล้วนะ น่ารักในที่นี้คือมันมีเสน่ห์ในตัวเองอย่างบอกไม่ถูก เมฆาเวลายิ้มโลกสดใสจะตาย แต่ก็ชอบทำหน้าบึ่งตึงใส่เขา แล้วหมอเมฆน่ะนะแม้จะแก่นแก้วแต่เอาเข้าจริงๆเขามองว่ายังเป็นเด็กดูแลตัวเองไม่ได้อยู่ดี ดูอย่างเรื่องที่ไร่น้ำรินสิ แม้จะว่ายน้ำเก่งแค่ไหน สุดท้ายยังไงก็เอาตัวเองเกือบไม่รอดอยู่ดี เขาว่าเมฆาบางทีก็ดูน่าปกป้องไม่น้อย


ผู้ชายบางคนน่ะ ไม่เหมาะกับการจะปกป้องใครหรอก แต่เหมาะจะให้คนอื่นปกป้องมากกว่า และหนึ่งในนั้นก็มีเมฆาแล้วแน่ๆคนนึง และเขาเองบางครั้งก็คิดว่าอยากจะเป็นคนปกป้องเมฆานะ


เหี้ย!


คิดอะไรโคตรลิเกอ่ะ พอ! เลิก! เลิกคิดเรื่องเมฆาได้แล้ว ยังไงก็ไม่มีทาง ไม่มีวันที่เขาจะชอบคนอย่างเมฆาได้หรอก แล้วอีกอย่างนะ เมฆาก็ชอบรัชพล!


เพียงดินทึ้งหัวตัวเองอีกรอบก่อนจะลุกออกจากเตียงแล้วคว้าเอาเสื้อคลุมมาคุลมไว้ เขาคงต้องไปนอนโรงบ่มซะแล้วคืนนี้ อย่างน้อยงานก็น่าจะทำให้เลิกคิดฟุ้งซ่านได้













“สวัสดีครับหมอเมฆ” ทศพรทักขึ้นเมื่อเห็นเมฆามาทำงานแต่เช้า ชายหนุ่มเห็นหมอรุ่นน้องคนนี้แล้วทีไรก็แอบคิดถึงเพียงดินที่โทรมาปรึกษาเมื่อคืนแล้วยิ้มหัวเราะอยู่คนเดียว


“ครับ สวัสดีครับ” เมฆาเลิกคิ้วอย่างสงสัยที่ทศพรเหมือนจะขำอะไรซักอย่าง หรือหน้าเขามีอะไรติดอยู่รึเปล่า แต่ก่อนออกมาก็ส่องกระจกแล้วนะ


“หึๆ หมอเมฆว่าดินเค้าเป็นคนยังไงเหรอ” ทศพรเดินตามเมฆาเข้ามาข้างในห้องที่ตอนนี้ยังไม่มีคนไข้เพราะยังเช้ามาก


“ห๊ะ...” เมฆาทำหน้างงๆที่อยู่ๆทศพรก็มาถามแบบนี้


“ก็ถามเฉยๆน่ะครับ เห็นทั้งสองคนเถียงกันมาตั้งนาน เลยอยากรู้ว่าคุณหมอคิดว่าดินเพื่อนผมน่ะเป็นคนยังไง” ทศพรถามต่อ เมฆายิ่งงงหนัก แล้วอยู่ๆมาถามเขาแบบนี้เพื่ออะไร การที่เขาจะคิดว่าเพียงดินเป็นคนยังไงเนี่ยมันน่าสนใจด้วยเหรอ


“เอ่อ...” เมฆาไม่แน่ใจวว่าจะตอบยังไง ทศพรเป็นเพื่อนเพียงดิน ขืนเขาด่าเพียงดินให้ทศพรฟัง ทศพรไม่โกรธเขาตายเหรอ


“เถอะน่าครับ เอาแบบมาจากใจจริงๆ ไม่ต้องเกรงใจผม”


“ถ้าอย่างนั้นก็.... ผมว่าเค้าเป็นคนแปลกๆ จะยังไงล่ะ ชอบพูดว่าผมชอบพี่รัช ทั้งที่จริงมันไม่ใช่ แล้วชอบกวนประสาท ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าเค้าทำแบบนั้นไปทำไม หมอทศก็เป็นเพื่อนเขา ผมว่าหมอทศน่าจะช่วยคุยกับเค้าให้เลิกยุ่งกับผมได้นะครับ ถ้าไม่รบกวนเกินไป” เมฆาใช้โอกาสนี้พูดกับทศพรเรื่องเพียงดิน สองคนนี้น่าจะเป็นเพื่อนกันมานาน ทศพรน่าจะพอคุยกับเพียงดินได้ เพราะเขาบอกหมอนั่นรอบที่ล้านแล้วก็ยังไม่เลิกยุ่งกับเขาอีก


“เรื่องนั้นมันก็... เฮ้อ... หมอไม่รู้สึกอะไรอย่างอื่นนอกจากไม่ชอบขี้หน้าเลยเหรอครับ” ทศพรแอบใจแป้วแทนเพียงดินเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำตอบแบบนั้นออกมาจากปากของเมฆา


“อะไรคือความรู้สึกอย่างอื่นเหรอครับ” เมฆาทำหน้างง เขาก็คิดอย่างนั้นกับเพียงดินล่ะ จะให้คิดว่าพ่อเลี้ยงเพียงดินดีเลิศนั่นน่ะคงเป็นไปไม่ได้เพราะเพียงดินตรงข้าม


“แบบ อยากอยู่ใกล้ หรืออะไรประมาณว่าใจสั่น” ทศพรถามอย่างมีความหวัง บางทีนะเมฆาอาจจะเป็นคนไม่รุ้ใจตัวเองอย่างเพียงดินก็ได้


“สั่นสิครับ มือนะครับสั่น อยากจะตั้นหน้าซักทีสองที ผมว่าหมอทศเลิกถามเรื่องนี้เถอะครับ และถ้าไม่รบกวนเกินไปช่วยคุยกับเค้าให้หน่อย เพราะผมคุยกับเค้ามาหลายรอบแต่หมอนั่นก็ไม่ฟังซักที” เมฆาบอกแล้วไปทำงานของตัวเองเพราะตอนนี้เริ่มมีคนไข้เข้ามาบ้างแล้ว


ทศพรถอนหายใจอย่างปลงๆแล้วออกจากห้องของเมฆา ดูท่าทางเมฆาแล้วคงยังไม่มีทีท่าจะสนใจเพียงดินเลยด้วยซ้ำและยิ่งไปกว่านั้นคะแนนเพียงดินยังติดลบซะด้วย ไอ้พ่อเลี้ยงเพียงดินดูท่าทางจะแย่ซะแล้ว ก็นะ ทำตัวเองทั้งนั้น








เพื่อนอย่างเขาก็ทำได้แค่เอาใจช่วยเท่านั้นแหละนะ














*******************************************************************************




ตอนนี้มาแล้วจ้า เมฆยังคงหินแข็งโป๊ก  :katai5: อิดินเริ่มหายซึนมาบ้างแล้ว ฮ่าๆ แต่หนทางท่าทางจะอีกยาวไกล หมอเมฆยังใจไม่สั่นไหวเป็นกลองเหมือนแกเลยไอ้พ่อเลี้ยงคอกวัวเอ๋ย  :katai1: ฝากเรื่องนี้ด้วยนะคะ ช่วงนี้คนเขียนอึนๆไปบ้าง ภาษาอาจเพี้ยนๆหน่อย  :hao7: ติชมได้นะคะ รักคนอ่านทุกท่านค่ะ  :impress2:

ออฟไลน์ jessiblossom

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
 :z10:


พ่อเลี้ยงดิน เจอหินล่ะ งานนี้

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
งานยากละอีเพียงดิน หมอเมฆไม่สนใจเลย อิอิ

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ oppapp

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1

ออฟไลน์ Speirmint28

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-1
บทที่ 15


“เมฆา ประสิทธานนท์ ปลายปีนี้จะอายุครบยี่สิบห้า เป็นหลานชายของคุณภูผา ประสิทธานนท์ เจ้าของตลาดประสิทธานนท์ เกิดและโต รวมทั้งเรียนที่กรุงเทพมาตั้งแต่เด็ก มาที่เชียงรายทุกปี ปีละหลายๆครั้ง พอเข้ามหาลัยก็มาแค่ช่วงปิดเทอม สนิทกับภุมริน รักษ์นที ลูกชายคนเล็กของคุณบุรินทร์ รักษ์นที และยังสนิทกับรัชพล รักษ์นทีอีกด้วย ส่วนเรื่องความรักก็โสดมาตลอด ไม่เคยมีแฟน อาจจะเป็นเพราะเรียนหนัก เป็นคนปากจัดแต่น่าเอ็นดู นิสัยค่อนข้างจะสุดโต่งในหลายๆเรื่อง แต่เอาเข้าจริงๆอ่อนไหวง่าย ที่หามาได้ก็แค่นี้แหละ นอกนั้นดินก็รู้ๆอยู่แล้ว”


กระดาษขาดเอสี่ที่มีข้อมูลและรูปของเมฆาชูสองนิ้วถูกวางลงข้างหน้าเพียงดิน นายเหนือแห่งไร่เพียงระพีหยิบขึ้นมาดูแล้วอ่านอีกรอบ ก่อนจะวางลงแล้วมองคนตรงหน้า


“ไปหามาได้ไงวะไอ้หมอ แล้วเอามาให้ฉันทำไม” เพียงดินถามทศพรที่อยู่ๆก็มาหาเขาพร้อมกับรูปของเมฆาเป็นปึกๆ ไหนจะข้อมูลอะไรพวกนี้อีก ทำยังไงกับเป็นนักสืบ ไม่คิดว่าพวกหมอจะว่างมากขนาดนี้


“น้องเมฆเรียนที่เดียวกับเพื่อนฉันน่ะ  เลยถามๆดู นี่ดิน หมอเมฆยังไม่เคยมีแฟนนะ ซึ่งต่างกับแกมาก ที่เอามาให้เนี่ยก็เผื่อดินอยากจะทำความรู้จักนู่นี่นั่นกับหมอเมฆมากขึ้นไง โตจนป่านนี้แล้ว มีแฟนมาแล้วก็ตั้งกี่คน ทำไมเรื่องแค่นี้ต้องเข้าใจยาก เราว่าดินไมยอมรับมากกว่าว่าชอบหมอเมฆ เพราะเคยทะเลาะกันมาก่อนใช่มั้ยล่ะ ลองลืมๆเรื่องพวกนั้นไปบ้างก็ดีนะ” ทศพรบอก

เขาอุตส่าห์ลงทุนไปหาข้อมูลกับปริ้นรูปหมอเมฆมาให้เพื่อนรักของเขาเลยนะเนี่ย พ่อเลี้ยงเพียงดินก็โสดมาหลายปีแล้ว ถึงเวลาที่จะต้องมีคนรักใหม่ซักที


“บ้าน่า ฉันว่าฉันไม่ได้ชอบมันหรอกไอ้หมอเตี้ยนั่นน่ะ นี่ไอ้หมอ ถ้าแกว่างมากก็ไปช่วยไอ้งอกขุดดินนู่นไป หมอเตี้ยนั่นไม่เห็นมีดีตรงไหน นมก็ไม่มี แถมมีไอ้นั่นเหมือนกันอีก ถ้าจะให้ไปจีบคงพิลึกพิลั่น” เพียงดินทำท่าขยะแขยง


เขาไม่เคยคิดเรื่องที่จะไปชอบหรือไปจีบผู้ชายอะไรแบบนั้น ไม่ได้ต่อต้านอะไร แต่ถ้าเป็นตัวเองมันก็ยังไงๆอยู่ เขาเคยคบแต่ผู้หญิงทั้งนั้น เขาว่านะ ไอ้เรื่องเขามีความรู้สึกแปลกๆหลายๆอย่างเกี่ยวกับหมอเมฆช่วงนี้ อาจจะเป็นแค่การยอมรับและยอมเป็นมิตรด้วย ไม่มีอะไรมากไปกวานั้นแน่นอน


“ถ้าอย่างนั้นก็ตามใจแล้วกัน แต่รู้ไว้วะด้วยนะ มีคนโทรมาหาหมอเมฆบ่อยมาก รู้สึกว่าจะชื่อทีอะไรนี่แหละ ถ้าดินยังยืนยันว่าไม่ได้ชอบหมอเมฆก็แล้วแต่เลย” ทศพรถอนหายใจแรงๆอย่างหน่ายเหนื่อยใจกับเพียงดิน ปากแข็ง ใจแข็ง ปิดกั้นตัวเอง แล้วแต่เลย ยังไงเรื่องนี้เขาก็ช่วยได้แค่นี้ นอกนั้นก็จัดการเอาเองเถอะ


“นี่ไอ้หมอฉันไม่มีทางคิดแบบนั้นกับไอ้หมอเตี้ยนั่นหรอกนะ ว่าแต่แกเถอะ มายุ่งแต่เรื่องคนอื่น สารวัตรไกรล่ะ เป็นยังไงบ้าง เห็นช่วงนี้เค้าตามแกอยู่ไม่ใช่เหรอ” เพียงดินยื่นหน้าเข้าไปใกล้ทศพรพร้อมกับยิ้มล้อๆ คุณหมอเพื่อนรักถึงกับอ้าปากค้างและทำหน้าไม่ถูก


“อะ... ไอ้เพื่อนบ้า! ฉันกลับแล้ว!” ทศพรลุกพรึบก่อนจะเดินออกจากบ้านของเพียงดินไปด้วยใบหน้าที่แดงเถือกทิ้งให้เพียงดินหัวเราะลั่นอยู่คนเดียว


เรื่องของสองคนนั้นน่ะ เขามีเส้นสายเยอะ หึๆ คงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของเค้าสองคนไป แต่ทีแน่ๆทศพรตั้งใจปิดเขามาได้ตั้งนานขนาดนี้คงเป็นเพราะไม่กล้าบอกเขาตรงๆแน่ๆ ว่าแต่คนอื่น ตัวเองก็เหมือนกันแหละ


“ไม่เคยมีแฟนมาก่อนเหรอ” เพียงดินหยิบกระดาษที่ทศพรเอามาให้ขึ้นมาดูแล้วจ้องไปที่รูปของเมฆา


หมอเตี้ยที่ยืนชูสองนิ้วอยู่นี่นะเขาจะชอบได้ลง เพียงดินว่าความรู้สึกของเขามันไม่ใช่แบบนั้นแน่นอน เขาไม่ได้ชอบเมฆา เขาคิดว่าเมฆาชอบรัชพลนะดูจากอะไรหลายๆอย่าง

แต่คิดไปคิดมาเค้าสองคนอาจจะสนิทกันมากแค่นั้นก็ได้เพราะรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ เรื่องนี้เพียงดินเดายากแฮะ แต่กลับไอ้เด็กทีนั่นลองพิจารณาดูแล้วเมฆาไม่น่าจะสนใจอะไรเพราะตัดรอนตลอด คนอื่นก็ไม่เห็นมีใครมาวุ่นวายอะไรแต่อย่างใด จะมีก็แต่เขา...


เออ! มีแต่เขานี่แหละที่ไปวุ่นวายกับเมฆา ก็แค่บังเอิญเจอเหอะ ไม่ได้ตั้งใจอยากจะไปอยู่ใกล้และอยากเจอซักนิด ที่อยากได้เบอร์ก็แค่ขอเผื่อๆไว้แค่นั้นเอง ทีคนอื่นยังมีเบอร์เมฆาได้เลย


มันก็แค่นั้น... จริงๆนะ


แต่มาลองคิดๆดูแล้ว ช่วงนี้เวลาเขาเจอเมฆมันก็ตื่นเต้นแปลกๆ บางครั้งก็อยากจะดูดีในสายตาเมฆาบ้างไรบ้าง แต่เจอกันส่วนใหญ่เขาก็อยู่ในชุดเปื้อนฝุ่นเปื้อนโคลนทั้งนั้น เมฆาเป็นหมออาจจะชอบอะไรที่สะอาดๆ เมฆาอาจจะไม่ชอบเขาเพราะเหตุนี้ด้วยก็ได้ และยิ่งไปกว่านั้นนะ


ช่วงนี้เขามองเมฆาแล้วรู้สึกอาจจะเข้าไปคุยใกล้ๆ ทะเลาะกันก็ได้แค่ขอได้คุยก็พอ เวลาเมฆาโกรธน่ะมันดูดีอย่างบอกไม่ถูก เนื้อตัวก็สะอาด ผิวก็นุ่มตามประสาพวกหมอทั่วไปนั่นแหละ คนไม่ได้ออกแดดออกไร่อย่างเขานี่นา สรุปก็คือ ช่วงนี้เมฆาน่ามองมากขึ้นอย่างน่าประหลาด บางทีก็อยากเข้าไปกอดเมื่อนึกถึงตอนที่เขาเผลอกอดเอวเมฆาตอนที่อยู่ที่ผาตะวัน


หรือเขาจะชอบหมอเตี่ยนั่นจริงๆ!


“นายครับ!”


“เหี้ย!” เพียงดินสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินเสียงเรียกจากข้างหลัง


“ขอโทษครับนาย เห็นนั่งเหม่อตั้งนาน พอดีจะเรียกไปดูที่ฟาร์มหน่อยน่ะครับ ไอ้แดงมันไม่ยอมกินอะไรเลย” เม้งเข้ามาเรียก เพียงดินถอนหายใจแรงๆ อยากจะตบหัวไอ้ลูกน้องคนนี้ซะจริง


“มึงเรียกกูเบาๆก็ได้ ไม่ต้องตะโกน ตกใจหมด”


“ขอโทษครับ ก็เห็นนายนั่งเหม่อคิดอะไรไม่รู้ ว่าแต่นั่น...” เม้งชี้ไปที่โต๊ะซึ่งมีรูปของเมฆาวางอยู่ เขาเพ่งมองไปที่รูปแล้วขมวดคิ้ว นั่นมันรูปหมอเมฆนิ แล้ว...


“มึงไม่ต้องยุ่งน่า ไปที่ฟาร์มก่อนเลย เดี๋ยวกูตามไป” เพียงดินรวบเอารูปของเมฆามาซ้อนๆทับกันก่อนที่จะคว่ำลงกับโต๊ะ   


“ครับๆ” เม้งรับคำแล้วเดินออกจากบ้านไป


หลังจากลูกน้องออกไปแล้วเพียงดินก็หยิบรูปของเมฆามาดูอีกครั้งแล้วเอาไปไว้ที่ในห้องทำงานแล้วตามเม้งออกไปที่ฟาร์ม

















เช้าวันต่อมาเมฆาตื่นสายนิดหน่อยเพราะวันนี้เป็นวันหยุดของเขา เมฆามาที่ตลาดเพราะจะมาดูคนงานเอาของลง ตะวันบอกว่าถ้าว่างก็ให้เขาเข้ามาดูหน่อยเพราะอีกสองอาทิตย์กว่าตะวันกับภุมรินจะกลับ เขาเลยแวะไปหาพิมพ์ดาวในสำนักงานและแวะไปคุยกับเก่งเล็กน้อยแล้วก็ออกมานั่งที่ม้าหินอ่อนข้างๆสำนักงาน


ตอนบ่ายเมฆามีแฟนจะไปห้างแถวนี้เพราะของใช้ส่วนตัวเริ่มจะหมดแล้ว อยากไปหาสิตางศุ์อีก แต่นึกถึงเรื่องวันนั้นแล้วก็ทำให้เขาไม่อยากจะไปรบกวนอะไรสิตางศุ์มากนัก เกรงจะไปสร้างความเดือดร้อนเปล่าๆ เรื่องแผลที่เท้าของเขาก็หายแล้ว เหลือแค่เป็นรอยตกสะเก็ดเล็กน้อยแค่นั้น


แต่ว่าก็ว่าเถอะนะ ตั้งแต่มาเชียงรายรอบนี้ยังไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลย เอาแต่ทำงาน วันหยุดก็อยู่บ้าน จะไปเที่ยวไปคนเดียวมันก็น่าเบื่อจะตาย เมื่อก่อนยังมีภุมรินที่ไปด้วย แต่ตอนนี้ภุมรินเองก็ไม่ว่างเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เขาเองก็เวลาว่างน้อยลง วันหยุดทั้งทีก็อยากไปเที่ยวบ้าง อยู่แต่บ้าน อยู่แต่ตลาด และโรงพยาบาล น่าเบื่อไม่น้อยเลย


เมฆานั่งจิบน้ำแตงโมเย็นๆพร้อมกับอ่านหนังสืออยู่ข้างๆสำนักงานจนตอนนี้ใกล้เที่ยง เขาว่าจะออกไปหาอะไรกินข้างนอกทีเดียวเลย มองดูคนงานเอาของลงก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ความจริงเขาก็ทำอะไรไม่เป็นอยู่แล้ว แค่มานั่งมองๆแค่นั้น ไม่รู้ตะวันคิดยังไงฝากฝังงานไว้กับเขาแทนที่จะฝากกับเก่งมากกว่า


“ถอยหน่อยๆ” เสียงคนงานตะโกนเมื่อรถคันใหญ่เข้ามาในตลาด มีชื่อของไร่เพียงระพีแปะเด่นหราอยู่ข้างๆรถ แค่เห็นชื่อไร่เมฆาก็เบ้ปากใส่


เมฆาเดินเข้าไปหาเก่งที่กำลังเคลียร์พื้นที่พร้อมเอาของลง ของส่วนใหญ่ที่ตลาดประสิทธานนท์ส่งออกนั้นมาจากไร่น้ำรินและคู่ค้าใหม่ล่าสุดก็ไร่เพียงระพีนี่แหละ องุ่นมากพอแล้วจากทั้งสองไร่ แต่ผลไม้อย่างอื่นไร่น้ำรินปลูกไม่เยอะก็อาศัยเอาที่ไร่เพียงระพีกับไร่เล็กๆของชาวบ้าน เหมือนช่วงนี้จะมีปัญหาเพราะของไม่พอทำให้ต้องไปกว้านซื้อที่อื่นบ้าง


“ถอยนิดนึงครับหมอ” เก่งบอกเมฆาที่กำลังยืนขวางทางคนงานถือลังผลไม้ลงมา เมฆาขยับถอยหลังตามที่เก่งบอก แล้วไปยืนดูอยู่ห่างๆ ของรอบนี้เหมือนจะเยอะมาก เมฆาก็ไม่ค่อยเข้าใจนักหรอก แต่เหมือนช่วงนี้ตลาดของตะวันมีคนเอาผลไม้มาส่งวันละหลายๆรอบ จากเมื่อก่อนแค่วันละสองรอบเท่านั้น


“หลบหน่อยๆ” เสียงตะโกนดังมาจากหลังรถ ลังผลไม้ไหลลงมาตามสายพาน เมฆาถอยอีกรอบ เขาก้มมองที่เท้าเพื่อไม่ให้ตัวเองไปสะดุดอะไรเข้า แต่พอเงยหน้ามองอีกทีก็เจอลังไม้ลังนึงไหลเอียงลงมาไม่ไหลตามเหมือนลังอื่นๆ เมฆาต้องขยับตัวหนีอีกรอบแล้วตัวของเขาก็ถูกกระชากให้ออกห่าง


ตุบ!


ลังผลไม้หล่นลงดังตุบ เมฆาอ้าปากค้างอย่างตกใจ


“ระวังๆหน่อยสิวะ!” เสียงจากข้างหลังตะโกนต่อว่าคนงานข้างบนก่อนที่เมฆาจะถูกดึงให้ออกห่างจากตรงนั้นอีกครั้ง

“แล้วไปยืนทำไมตรงนั้น ไม่มีใครบอกนายรึไงว่ามันอันตราย เป็นถึงมดถึงหมอหัดคิดซะบ้างสิ” แล้วก็หันมาด่าเมฆาต่อ


เมฆาหันไปมองก็เจอเพียงดินกำลังคิ้วขมวดจ้องเขาด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจอย่างมาก เมฆาถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อเขาได้สติแล้ว เมื่อกี้มันอะไรกันเนี่ย ใจเขาหายวาบ


“นี่! ที่พูดอยู่นี่รู้เรื่องมั้ยเนี่ย” เพียงดินจับแขนเมฆาแน่นแล้วจ้องอีกคนอย่างไม่พอใจ

ไอ้หมอเตี้ยนี่คิดยังไงไปยืนอยู่ตรงนั้นตอนเค้าเอาของลง อุบัติเหตุมันเกิดขึ้นได้ตลอด ขนาดเก่งหรือคนงานอื่นๆยังยืนห่างๆเลย แล้วคนแถวนั้นไม่มีใครบอกเลยรึไง ปล่อยให้เมฆาไปยืนเอ๋ออยู่ตรงนั้น


“ก็ใครมันจะไปรู้เล่า! ไม่เคยทำอะไรอย่างนี้ซักหน่อย” เมฆาว่า


“ถ้าอย่างนั้นก็รู้ไว้ซะตรงนี้เลย” เพียงดินชี้หน้าแล้วสั่งสอน ยังต้องให้สอนอีกเหรอเรื่องความปลอดภัยของตัวเองเนี่ย ชอบทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลัง สุดท้ายก็เป็นอันตรายอย่างนี้ จะให้เขาคอยดูแลอย่างนี้ไปตลอดรึไง


“แล้วมายุ่งอะไรด้วย ปล่อย!” เมฆาสะลัดมือของตัวเองออกจากมือของเพียงดินก่อนจะเดินเข้าบ้าน ความจริงก็อยากจะขอบคุณหรอกนะ แต่ปากแบบนี้ไม่พูดน่ะดีแล้ว ก็ใครมันจะไปรู้ล่ะ


เมฆาเดินเข้าบ้านแล้วไปหยิบเสื้อคลุมออกมาก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าตังค์ เขาออกมานอกบ้านก็เจอเพียงดินยืนจ้องอยู่ไม่ไกล ร่างเล็กไปสตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์ของตัวเองเพื่อที่จะออกไปข้างนอก แต่ดูเหมือนว่ารถจะสตาร์ทไม่ติดซะอย่างนั้น


“อะไรอีกวะเนี่ย” เมฆาอารมณ์เสีย นี่มันวันซวยอะไรของเขากันแน่เนี่ย


เพียงดินเห็นเมฆาทำหน้าบูดสตาร์ทรถไม่ติดก็เดินเข้าไปหา ร่างสูงดึงกุญแจออกมาแล้วโยนเข้าไปในบ้านก่อนจะดึงตัวเมฆาให้ออกมา


“จะไปไหน” เพียงดินถาม


“มันเรื่องของฉัน” เมฆาอารมณ์เสียกว่าเดิม


เพียงดินไม่พูดอะไรต่อเพราะรู้ว่ายังไงเมฆาก็ต้องเถียงเขากลับมาด้วยคำพูดที่ไม่เป็นมิตรอีกแน่ มือหนานั้นลากเมฆาไปที่รถของตัวเองแล้วเปิดประตูก่อนจะดันให้เมฆาเข้าไปในรถนั้น


“นี่! ทำบ้าอะไรของนาย” เมฆาโวยลั่น อยากจะออกไปแต่รถก็ล๊อกเรียบร้อยก่อนที่เพียงดินจะออกรถ


“จะไปไหน” เขาถามอีกรอบ


“นี่นายเพียงดิน...”


“ฉันถามว่าจะไปไหน ถ้าไม่ตอบฉันพากลับไร่จริงๆด้วย อยากไปมั้ยไร่เพียงระพีน่ะ” เพียงดินหันมายักคิ้วให้เมฆา เมฆาทำหน้าไม่สบอารมณ์ก่อนจะชั่งใจคิด


“ไปห้าง!” เขาตอบแล้วสะบัดหน้าออกนอกรถ ไม่เข้าใจเพียงดิน เป็นบ้าอะไรของหมอนี่อีก


“ก็แค่นี้แหละ” เพียงดินว่าแล้วยกยิ้มก่อนจะเลี้ยวรถเพื่อเข้าไปในตัวเมือง


ที่อยู่ๆลากเมฆามาอย่างนี้ก็แค่อยากจะพิสูจน์อะไรหลายๆอย่างที่มันตีวนอยู่ในหัวเขาตอนนี้ ตอนเมฆาจะโดนลังไม้นั่นหล่นลงมาใส่เขาตกใจมากแค่ไหน แค่คิดว่าเมฆาจะเจ็บตัวเขาก็นึกโกรธตัวเองไว้ก่อนแล้วถ้าช่วยเมฆาไว้ไม่ทัน



บางทีนะ เขาอาจจะชอบเมฆาอย่างที่ทศพรว่าไว้ก็ได้




...ก็แค่บางที









*************************************************************************************




เพียงดินนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน แว้กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก   :m31: ชอบน้องเมฆแล้วใช่มั้ยล่า ผ่านมาสิบห้าตอนแล้วท่านผู้ชม สองเรื่องก่อนหน้าตอนที่สิบห้าเค้าแทบจะได้กันแล้ว แต่สองคนนี้ยังไม่ถึงไหน  :z6: ฝากด้วยนะคะ รักคนอ่านทุกท่านค่ะ

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
 :hao4:


เรื่อยเปื่อย .... รีบๆรู้ใจกันสักที

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4

ออฟไลน์ chancha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
เพียงดินมั่นใจซะที รีบรุกเลย

ออฟไลน์ scottoppa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-0
ชอบก็คือชอบอ่ะพี่ดิน
ไม่ต้องหาข้ออ้างให้ตัวเองเลย จีบน้องได้แล้ว
จีบเดี๋ยวนี้!! ถ้าไม่รีบจีบ แห้วไม่รู้ด้วยนะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ Kalamall

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 729
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Speirmint28

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-1
บทที่ 16


เพียงดินพาเมฆามาที่ห้างสรรพสินค้าใกล้ๆ เมฆาเหมือนจะไม่พอใจเขาเท่าไหร่ แต่นั่นมันก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเพียงดิน ก็นะ เมฆาเคยพอใจอะไรเขาบ้างล่ะ ในเมื่อคุยกันดีๆไม่ชอบเขาก็ต้องหักดิบโดยการลากตัวมาแบบนี้แหละ


เมฆาทำหน้าไม่สบอารมณ์ เพียงดินจะอะไรกับเขานักหนากัน ทุกวันนี้เขาเจอหน้าเพียงดินบ่อยกว่าพ่อตัวเองอีกมั้งน่ะ เพียงดินเองก็เถอะ ในเมื่อไม่ชอบขี้หน้าเขาเหมือนกันแล้วจะมายุ่งวุ่นวายกับเขาทำไมกัน


“มาที่นี่ทำไม” เพียงดินถามคนที่หน้าบึ้งตึงพร้อมกับเดินเข้าไปข้างใน


“มาซักผ้ามั้ง” เมฆาตอกกลับแล้วเดินนำอีกคนไป แต่เพียงดินก็เร่งความเร็วเข้ามาเดินข้างๆ


“นี่ ฉันถามดีๆนะ” เพียงดินว่า เมฆาไม่หันมามองกลับเดินไปโซนที่ตัวเองต้องการพร้อมกับคว้าเอาตะกร้าใส่ของติดมือมาด้วย


“คนอย่างนายเนี่ยนะคิดจะคุยดีๆกับฉัน” เมฆาบอกเพียงดินที่เดินเข้ามาหาอีกรอบ


“อ้าว แล้วที่พูดอยู่เนี่ยไม่ดีเหรอ ไม่ได้ตะโกนโหวกเหวกซะหน่อย นี่ ฉันว่านะ บางทีเราลองมาคุยกันดีๆบ้างมั้ย แบบที่คนปกติเค้าคุยกันน่ะ” เพียงดินแย่งตะกร้าในมือของเมฆามาถือแล้วยืนจังก้าต่อหน้าคุณหมอตัวเล็ก เมฆาทำหน้างงกับสิ่งที่เพียงดินพูด


“เกิดเพี้ยนอะไรขึ้นมา” เมฆามองคนตรงหน้าอย่างไม่ไว้ใจ วันนี้จะมาไม้ไหนของเขา


“เราลองมาคุยกันแบบคนปกติไง เหมือนนายคุยกับคุณรัช คุณสิตางศุ์ ไอ้หมอ อะไรพวกนี้ไง ทะเลาะกันทุกวันไม่เบื่อบ้างเหรอ”


“เรื่องนั้นบอกตัวเองดีกว่านะครับคุณพ่อเลี้ยง” เมฆาแย่งตะกร้าตัวเองคืนแล้วเดินหนีไป


เหอะ เรื่องคุยกันดีๆนั่นน่ะ เพียงดินควรบอกตัวเองมากกว่า ทุกวันนี้ที่มีปัญหากันก็เพราะใครกัน เพราะเพียงดินทั้งนั้นเหอะ ถ้าต่างคนต่างอยู่ตั้งแต่แรกมันก็จบแล้ว นี่อะไร ยังตามมากวน ตามมายุ่งกับเขาจนรำคาญ แล้วก็เถียงกันทุกวันเนี่ย


เมฆาเดินออกมาพยายามจะหลบเพียงดิน ขากลับเขากลับเองก็ได้ แต่เดินมาได้ไม่เท่าไหร่ก็ต้องหยุดกึก เมื่อสายตาไปปะทะกับร่างหนึ่งเข้า


“ที!” ชิบหายแล้ว!


เมฆาถอยหลังกลับแล้วหลบเข้าไปข้างในโซนเดิมที่ตัวเองเพิ่งออกมา วันนี้มันเป็นวันซวยที่แท้จริง หนีเพียงดินแล้วต้องมาเจอเด็กทีที่นี่ พวกนั้นคงจะกลับลงมาจากผาตะวันแล้ว เมฆากลัวจริงๆว่าทีจะมาหาเขาที่โรงพยาบาลอย่างที่พูดไว้ ทำไมชีวิตเขาต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยเนี่ย


เมฆาแอบชะเง้อมองไปที่เด็กทีนั่น เหมือนทียังไม่รู้ตัวว่าเขาอยู่ตรงนี้ นั่นมันเป็นการดี ทางที่ดีเขาควรรีบกลับก่อน ของพวกนี้เดี๋ยวค่อยมาซื้อก็ได้ วันหยุดทั้งทีเขาไม่อยากจะรับมือกับทีตอนนี้ แค่เพียงดินคนเดียวก็น่าปวดหัวจะแย่


“นี่! ทำอะไรลับๆล่อๆ” เพียงดินเดินเข้าไปตบไหล่เมฆาที่อยู่ๆก็ถอยมาแอบอยู่ตรงนี้ ทำเหมือนหลบใคร


“เงียบๆสิ” เมฆาหันมาเอ็ดแล้วลากเพียงดินออกจากตรงนั้น เขามุ่งตรงไปที่ประตูทางออก เพียงดินที่ยังงงๆอยู่ก็ยอมเดินตามคนตัวเล็กอย่างว่าง่าย


“เดี๋ยวๆ มีเรื่องอะไร” เพียงดินถามเมฆาอีกรอบเมื่อโดนเมฆาลากมาถึงที่รถแล้ว


“ฉันก็แค่อยากจะกลับแล้ว” เมฆาบอกปัด


เพียงดินยกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย ไอ้เรื่องที่อยากกลับแล้วเนี่ยไม่น่าจะใช่เพราะเมฆาตั้งใจจะหนีเขาอยู่ แต่เหมือนจะหนีใครมาอีกที แต่เขาก็ไม่สนใจ นั่นมันก็เป็นเรื่องดี พ่อเลี้ยงเพียงดินยกยิ้มมุมปากแล้วเปิดประตูรถ เมฆารีบเข้าไปแล้วปิดประตูอย่างรวดเร็ว


“โอเค กลับก็กลับ” เพียงดินพูดแล้วสตาร์ทรถออกไป


รถคันใหญ่แล่นออกจากห้างดังและผ่านหน้าตลาดประสิทธานนท์ไปอย่างหน้าตาเฉย เมฆาหันมามองคนขับเห็นเพียงดินทำหน้าไม่สะทกสะท้านอะไร


“นี่ มันเลยบ้านฉันมาแล้วนะ” เมฆาว่า เพียงดินคิดจะเล่นอะไรอีก


“ฉันรู้น่า ฉันอยู่ที่นี่มาก่อนนายอีกนะ เรื่องเส้นทางน่ะแม่นอยู่แล้ว” เพียงดินพูดเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น


“ในเมื่อรู้แล้วทำไมไม่ไปส่งฉันที่บ้าน คิดจะทำอะไรอีกนายเพียงดิน” เมฆาขมวดคิ้วให้วุ่น


“วันหยุดทั้งทีไปเที่ยวไร่เพียงระพีซักหน่อยน่า” เพียงดินหันมายักคิ้วให้


“ห๊ะ!” เดี๋ยวนะ อะไรคือไปไต่เพียงระพี อะไรของเพียงดิน เขายังไม่ได้บอกเลยว่าจะไปไร่เพียงระพี แล้วอยู่ๆเพียงดินจะพาเขาไปเนี่ยนะ


“มาหงมาห๊ะอะไรเล่า ไร่ฉันน่ะสวยไม่แพ้ไร่น้ำรินเลยนะ” เพียงดินอวดอ้าง


“มันไม่ได้อยู่ที่สวยไม่สวยโว้ย มันอยู่ที่ว่านายจะพาฉันไปทำไม” เมฆาเริ่มจะขึ้นเสียงใส่ นี่ไง ไหนบอกอยากจะคุยกันดีๆ แล้วดูเพียงดินทำเข้าสิ มันน่าคุยด้วยดีๆตรงไหนกัน


“เถอะน่า ถือว่าไปพักผ่อนแล้วกัน” เพียงดินไม่สนใจสีหน้าบึ้งตึงของเมฆา เจ้าตัวเร่งความเร็วของรถแล้วมุงหน้าสู่ไร่เพียงระพี


สุดท้ายเมฆาก็ต้องมาที่ไร่เพียงระพีอย่างงงๆ งงว่าเพียงดินพามาทำไม จะหลอกพาเขามาฆ่าทิ้งรึเปล่าก็ไม่รู้ ยิ่งไว้ใจไม่ได้อยู่ แล้ววันนี้เพียงดินก็ทำตัวค่อนข้างแปลกกว่าทุกวัน หมอนี่มีแผนอะไรรึเปล่า


“อ่ะนี่” มาถึงเพียงดินก็ยื่นหมวกให้โดยที่ยังไม่ได้พูดได้คุยอะไรเลย เขายังงงอยู่ด้วยซ้ำว่าตัวเองมาที่นี่ทำไม


“อะไร” เมฆาถามอย่างงงๆ


“ก็หมวกไง บ่ายอย่างนี้แดดมันแรงกว่าปกติ วันนี้เราจะเข้าฟาร์มกัน” เพียงดินพูดเองเออเองทั้งหมดแล้วถือวิสาสะสวมหมวกให้เมฆาเพราะเมฆาไม่ยอมรับหมวกไปซักที


“เข้าฟาร์ม? นี่นายฉันไม่ได้อยากจะ...”


“เราจะเอามอเตอร์ไซค์ไปนะ” เพียงดินไม่ฟังที่เมฆาจะพูดก่อนจะลากแขนเมฆาไปที่มอเตอร์ไซค์ซึ่งจอดไว้รวมๆกับรถคันอื่น เข้าฟาร์มเอารถคันเล็กไปจะดีกว่า รถยนต์เอาเข้าไม่ค่อยบ่อยเท่าไหร่ นอกซะจากจะมีเรื่องที่ต้องใช้จริงๆ


เมฆามองเพียงดินที่ทำตามใจตัวเองอย่างไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจว่าเพียงดินต้องการอะไรกันแน่ รอไม่นานเพียงดินก็สตาร์ทรถมาจอดอยู่ตรงหน้าเขา เมฆามัดสายหมวกให้แน่นก่อนจะขึ้นไปซ้อนเพียงดินอย่างเสียไม่ได้ มาถึงขนาดนี้แล้วจะขอกลับตอนนี้เพียงดินคงพากลับหรอก ไปเที่ยวซักหน่อยก็ไม่น่าจะเป็นอะไร เขายังไม่เคยสำรวจไร่เพียงระพีเลย มาคราวนั้นก็ไม่ได้มองอะไรมาก


เพียงดินยกยิ้มเมื่อเมฆาทำตามที่เขาต้องการอย่างว่าง่าย เขารู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ถ้าเมฆาเป็นอย่างนี้ทุกวันก็ดีสิน่า เขาว่าอย่างแรกคือการที่เขากับเมฆาต้องพูดคุยกันดีๆซะก่อน ไม่ใช่ว่าเจอหน้ากันแล้วเถียงกันอย่างเดียว


เพียงดินเข้าใจอะไรมากขึ้นแล้ว บางทีเขาควรจะเข้าหาเมฆามากกว่านี้


แหม... ก็นะ เอาเข้าจริงๆมันก็ยังไงๆอยู่ ที่จู่ๆเขาก็มาชอบเมฆาเสียอย่างนั้น


“นี่ ขับให้มันช้าๆหน่อยสิ” เมฆาตะโกนแข่งกับลมเมื่อเพียงดินพาซิ่ง เขาเผลอจับเสื้อของคนขับไว้แน่น เพียงดินนี่ขับรถเร็วทั้งรถยนต์ทั้งมอเตอร์ไซค์เลยหรือไง


“ห๊ะ อะไรนะ ไม่ได้ยิน” เสียงลมที่ตีมากลบเสียงของเมฆาเสียหมด เพียงดินเองก็ไม่ได้สนใจฟัง เขายังคงขับตามปกติของตัวเองไป


เพียงดินพาเมฆาขับมาถึงทางลงเข้าซึ่งเป็นทางที่จะเข้าฟาร์ม เมฆาจับเสื้อคนตรงหน้าแน่นกว่าเดิมเมื่อมองลงไป มันชันมากและสูงมาก แล้วเพียงดินขับเร็วแบบนี้ด้วย แค่คิดเมฆาก็สยองแล้ว เขาไม่ชอบอะไรแบบนี้


“นี่! ช้าหน่อยสิ!!” เมฆาตะโกนอีกรอบ แต่เพียงดินก็ไม่สนใจ


เพียงดินลดความเร็วลงแล้วผ่อนรถลงเขาไป เมฆาคว้าเอาเอวเพียงดินมากอดหมับแล้วตะโกนลั่น หลับตาแน่น


“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก” คุณหมอคนเก่งตะโกนลั่นไร่เมื่อมอเตอร์ไซค์หล่นวูบลงเนินไป เหมือนตับไตไส้พุงของเขามันหายออกไปเลย มันวูบๆโหวงๆทั้งท้อง


“ฮ่าๆๆๆ วู้วววววววว” เพียงดินหัวเราะลั่นแล้วเริ่มเร่งความเร็วอีกครั้งเมื่อรถพ้นเนินตรงนั้นมาแล้วและตอนนี้กำลังแล่นอยู่บนทางราบ


เขาลงตรงนี้เกือบทุกวันจนชินไปซะแล้ว เขามองว่ามันสนุกเสียมากกว่า แต่ก็นะ เมฆาอาจจะยังไม่ชินเท่าไหร่ คนตัวโตหัวเราะจนหยุดไม่ได้ และเขาก็ค้นพบในสิ่งที่เมฆากลัวอีกหนึ่งอย่าง เหมือนตอนที่ขึ้นผาตะวันตอนนั้นเลย เขาว่าเมฆาน่าจะเป็นคนกลัวเรื่องหวดเสียวแบบนี้ มันออกจะน่าตื่นเต้นและเร้าใจ แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นคือตอนนี้เมฆากำลังกอดเอวเขาแน่นเลยล่ะ


เมฆาเพิ่งจะตั้งสติได้ เขาเพิ่งจะได้หายใจหายคอสะดวกซักที ไอ้เพียงดินบ้า ถ้าเกิดรถล้มขึ้นมาจะว่ายังไง เขายังไม่อยากจะตายตอนนี้หรอกนะ


เพียงดินพาเมฆาเข้ามาในฟาร์ม ฟาร์มของไร่เพียงระพีนั้นส่วนใหญ่จะเลี้ยงโคนม นอกนั้นก็พวกแพะ มีม้าด้วย เขาจะมีพื้นที่สำหรับทุ่งหญ้าขนาดใหญ่เพื่อใช้เลี้ยงสัตว์เหล่านี้โดยเฉพาะ ฟาร์มนี้จะออกห่างจากไร่องุ่นและไร่ผลไม้ เมฆามาที่นี่บ่อยกว่าไร่องุ่นเพราะต้องควบคุมในหลายๆเรื่องมากกว่า แต่ส่วนใหญ่เขาอยู่โรงบ่มเพราะถนัดเรื่องไวน์มากกว่าเรื่องพวกนี้ จะมีก็แต่ช่วงนี้ที่ต้องไปวุ่นวายกับผลไม้เยอะหน่อย เพราะต้องเร่งส่งไร่ประสิทธานนท์


“โอเครึยัง” เพียงดินหันมาถามเมฆาที่แข้งขาเหมือนจะอ่อนเปลี้ยไปเสียดื้อๆ คุณหมอตัวเล็กยืนไม่ค่อยจะตรงเท่าไหร่ แล้วยังเซไปเซมา ผลมาจากทางลงเขาเมื่อกี้


“มะ.. ไม่ต้องมาหัวเราะเลย” เมฆาเอนไปจับขอบรั้วของคอกม้าไว้ เขาควานหายาดมที่พกติดตัวตลอดขึ้นมาสูดสองสามครั้ง เพียงดินมองภาพนั้นแล้วหัวเราะน้อยๆ


“พักให้หายมึนก่อนแล้วกัน เดี๋ยวฉันพาไปขี่ม้าเล่น” เพียงดินยักคิ้วให้ก่อนจะเดินเข้าไปหาคนงานที่กำลังทำความสะอาดคอกม้าอยู่ไม่ไกล


เมฆาพิงตัวเองกับคอกม้าไว้ หัวใจเกือบจะวายตาย คราวที่แล้วมาฟาร์มของไร่เพียงระพีไม่ได้มาทางนั้นซะหน่อย ทางดีๆก็มีทำไมไม่มา ไอพ่อเลี้ยงนั้นตั้งใจแกล้งเขาอีกแล้วแน่ๆ ฮึ่ย!


ห่างออกไปไม่ไกล เม้งกับงอกมองเพียงดินกับเมฆาที่มาด้วยกันอย่างงงๆและไม่เข้าใจว่าอยู่ๆเพียงดินพาเมฆามาที่นี่ทำไม


“พ่อเลี้ยงพาคุณหมอมาทำไมที่นี่วะไอ้งอก” เม้งถามงอกที่กำลังถือไม้กวาดไว้ในมือ พวกเขากำลังทำความสะอาดคอกวัวอยู่


“ไม่รู้ว่ะ เค้าทะเลาะกันไม่ใช่เหรอ” งอกตอบอย่างงงๆเหมือนกัน เพียงดินกับเมฆาเห็นเจอกันทีไรฉะกันตลอด แล้วไหงวันนี้มาด้วยกันได้


“แต่ว่านะ ช่วงนี้พ่อเลี้ยงแปลกๆว่ะ  ใจลอยบ่อยด้วย แล้วกูเห็นพ่อเลี้ยงมีรูปคุณหมอด้วย โคตรเยอะอ่ะ” เม้งหันไปคุยกับงอกและพูดถึงรูปของเมฆาที่ตัวเองเพิ่งเห็นมา


“ห๊ะ รูปคุณหมอเนี่ยนะ” งอกถามอย่างงงๆ


“ก็เออน่ะสิ พอกูเห็นนะ พ่อเลี้ยงเก็บแทบไม่ทัน” เม้งพูดด้วยสีหน้าจริงจัง


“หรือว่าพ่อเลี้ยงจะชอบคุณหมอวะ”


“เฮ้ย! คำพูดของงอกทำให้ทั้งสองคนต้องอุทานขึ้นมาพร้อมกัน พอหันไปมองก็เจอเพียงดินกำลังเอาน้ำมาให้เมฆาพอดี เท่านั้นแหละ ความคิดในสมองงอกๆของทั้งสองคนก็ไปไกล



เอาแล้วๆ ได้เรื่องแล้วมั้ยล่ะ   






*******************************************************************************************




แล่วๆๆๆๆๆๆๆ เอาแล้ววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว งิงิ พี่ดินเนียนๆ  :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ harumi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +156/-33

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
นักสืบเม้ง & นักสืบงอกเริ่มออกปฏิบัติการ 5555

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ Speirmint28

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-1
บทที่ 17


“ขี่ม้าเป็นใช่มั้ย” เพียงดินถามเมฆาหลังจากที่เมฆาหายจากอาการแข้งขาอ่อนเปลี้ยแล้ว กว่าจะหายตกใจก็นานโข เมฆาทั้งโกรธและทั้งอายเพียงดิน อย่าให้เขาได้เอาคืนบ้างนะ


“อืม” เมฆาตอบพร้อมกับสวมหมวกเข้าไปใหม่หลังจากถอดออกเพื่อพัดให้ตัวเอง


เมฆาขี่ม้าเป็นตั้งแต่อยู่มอปลายแล้ว รัชพลเป็นคนสอนเขาเอง ขี่เป็นแต่ก็ไม่ถึงกับเชี่ยวชาญนักเพราะไม่ค่อยได้ขี่บ่อย หลังจากรัชพลกับตะวันไปเรียนต่อต่างประเทศกิจกรรมของเขากับภุมรินที่ไร่น้ำรินส่วนใหญ่แล้วนั้นใช้แต่รถทั้งนั้น ไม่ได้สัมผัสม้านักหรอก


“เอาตัวนี้ไปก็แล้วกันนะ มันขี่ง่ายหน่อย” เพียงดินให้เมฆาไปขี่เจ้าม้าตัวสีน้ำตาลลักษณะดีตัวหนึ่งก่อนที่ตัวเองจะกระโดดและตวัดตัวขึ้นคร่อมม้าอีกตัวซึ่งเป็นสีดำ


ม้าที่นี่มีไม่มากเท่าวัวแต่ก็ถือว่าเยอะพอสมควรเหมือนกัน เพียงดินเองก็ไม่ค่อยได้ขี่ม้าเป็นประจำเท่าไหร่ แต่เขามักจะผ่อนคลายโดยการขี่ม้าไปเรื่อยๆในทุ่งหญ้าของไร่เพียงระพีนี่แหละ ตรงสุดทุ่งหญ้าโน้นจะเป็นทางขึ้นเขาอีกลูก ซึ่งจะเป็นส่วนของไร่อื่นไปแล้ว เพียงดินไม่ค่อยไปยุ่งเท่าไหร่


ไม่นานเมฆาก็อยู่บนม้าเรียบร้อย เมฆว่ามันค่อนข้างแปลกๆ ตัวเขานี่แหละที่ดูแปลก เขาใส่แค่กางเกงขายาวบางๆที่ใส่แล้วสบายตัวกับเสื้อยืดสีขาวและเสื้อคลุมผืนบางก็แค่นั้น ตอนแรกก็แค่จะไปห้างเฉยๆไม่คิดว่าต้องมาขี่ม้าที่ไร่เพียงระพีแบบนี้ การแต่งตัวของเขามันพิลึกกึกกือ แตกต่างกับคนในไร่ ไม่เข้ากับหมวกหนังที่เพียงดินเอาให้เขาใส่เลยสักนิด ไอ้พ่อเลี้ยงบ้า ให้เปลี่ยนชุดก่อนก็ไม่ได้


“ค่อยๆตามมาแล้วกันนะ” เพียงดินบอกพร้อมกับเตะที่ข้างตัวม้าก่อนที่มันจะทะยานออกไปข้างหน้า


เมฆาตามไปติดๆ ม้าสองตัวมุ่งหน้าสู่ทุ่งหญ้าสีเขียวข้างหน้าซึ่งเป็นแหล่งอาหารของสัตว์ต่างๆในไร่เพียงระพีนี้ เมฆายิ้มกว้างเมื่อสัมผัสได้ถึงบรรยากาศอันบริสุทธิ์ของที่นี่ อย่างที่บอกเขาเป็นคนชอบธรรมชาติ แต่ด้วยความที่เติบโตมาในเมืองที่มีแต่หมอกแต่ควันทำให้ไม่มีโอกาสมาสัมผัสธรรมชาติอย่างนี้บ่อยหนัก แค่ปีละครั้งสองครั้งเท่านั้นที่จะมาที่นี่ บางทีเมฆาก็คิดว่า หลังจากใช้ทุนเสร็จเขาอยากจะอยู่ที่นี่ต่อ


เรื่องครอบครัวของเขา แน่นอนว่าพ่อของเขาซึ่งเป็นน้องชายของลุงภูผาที่เป็นพ่อของตะวันนั้นต้องทำธุรกิจเหมือนกันอยู่แล้ว พ่อของเขาก็ทำเกี่ยวกับการส่งออกผลผลิตนี่เหมือนกัน แต่ค่อนข้างจะขยายตัวมากกว่าตะวัน เพราะเป็นการส่งออกสินค้าทั้งในเรื่องของสินค้าทางการเกษตรของภาคเหนือและยังลงไปถึงใต้อีก มีบริษัทที่ค่อนข้างใหญ่และดูแลครอบคลุมแบบครบวงจร จะพูดว่าค่อนข้างจะมีฐานะก็ว่าได้


แต่ก็นะ เมฆาไม่ค่อยอยากจะยุ่งกับกิจการของที่บ้านมากเท่าไหร่เขาเลยเลือกเรียนที่ตัวเองชอบและปลีกตัวมาหาตะวันที่เชียงรายบ่อยครั้ง ที่บ้านก็ไม่ได้ว่าอะไร กิจการของครอบครัวพี่ๆของเขาทั้งสามคนก็รับช่วงต่อกันหมดแล้ว



เมฆามีพี่อีกสามคน พี่ชายคนโตจะเป็นคนสานต่อกิจการที่บ้านเอง พี่สาวและพี่ชายอีกสองคนก็จบเกี่ยวกับการบริหารมาทั้งคู่ ทั้งหมดเข้าทำงานที่บริษัทของพ่อ มีแต่เมฆานี่แหละที่แปลกกว่าคนอื่น เมฆามองว่ามันวุ่นวายจะตายงานแบบนั้น อาชีพหมอที่ว่าเหนื่อยกว่าหนักยังไม่เท่านักธุรกิจเลย พลาดครั้งเดียวสิ่งที่สร้างมาทั้งหมดอาจจะหายไปในพริบตาก็ได้


เมฆาขี่ม้าตามเพียงดินมาเรื่อยๆ สัมผัสอากาศอันแสนสดชื่น ตอนนี้ก็เริ่มจะเข้าบ่ายแก่ๆแล้ว แดดเหมือนจะลดลงไปเยอะเหมือนกัน เพราะอยู่กลางหุบเขา เขาสูงข้างหน้าเลยบังแดดไว้ได้เยอะ


เพียงดินผ่อนฝีเท้าลงแล้วขี่เหยาะๆไปที่ต้นไม้ข้างหน้าซึ่งเป็นต้นมะขาม ปลูกเรียงๆกันไปไม่เยอะ แค่ปลูกไว้ให้คนงานที่มาเลี้ยงม้าเลี้ยงวัวเอาไว้บังแดดเท่านั้น มีแค่สิบกว่าต้น ซึ่งตอนนี้ก็กลายเป็นต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านออกไปเยอะเหมือนกัน


“เป็นยังไง พอไหวมั้ย” เพียงดินถามเมฆาที่กระโดดลงจากม้าหลังจากที่เพียงดินลงก่อนแล้ว


“ไม่ได้ขี่นาน แต่ก็สนุกดี” เมฆาว่ามันผ่อนคลายได้มากเลยทีเดียว มองออกไปก็เจอแต่ทุ่งหญ้าสุดลูกหูกตา


บางทีเมฆาก็นึกอิจฉาเพียงดินที่ได้อยู่กับธรรมชาติอย่างนี้ทุกวัน ที่ไร่เพียงระพีไม่เหมือนไร่น้ำริน ไร่น้ำรินไม่มีทุ่งหญ้ากว้างๆแบบนี้เพราะไม่ได้มีฟาร์มเหมือนที่นี่ เขาเริ่มอยากจะขี่ม้าทุกวันหยุดเพราะมันช่วยละลายความเครียดได้เยอะเหมือนกัน แต่ถ้าให้มาที่ไร่เพียงระพีบ่อยๆและมาขอขี่ม้าเขาอย่างนี้ เมฆาคงอายเพียงดินแย่


“สนุกก็มาบ่อยๆสิ” เพียงดินพูดลอยๆแล้วจูงม้าไปมัดกับต้นไม้ เมฆาหันไปมองคนตัวโต


“เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะ” เมฆาถามย้ำเพื่อที่เขาจะได้แน่ใจว่าตัวเองฟังไม่ผิด เพียงดินเนี่ยนะชวนเขามาที่นี่บ่อยๆ


“บอกว่าถ้าสนุกก็มาบ่อยๆ หูตึงรึไง” เพียงดินเดินมาหาเมฆาแล้วพูดย้ำอีกครั้ง เขายื่นหน้าไปใกล้เมฆาแล้วยิ้มกรุ้มกริ่มจนเมฆาทำตัวไม่ถูกขึ้นมาเสียดื้อๆ


คนตัวโตเอาแต่จ้องเมฆาอย่างนั้น แถมยังยิ้มแปลกๆอีกด้วย เมฆาหลบสายตาหลายครั้งแต่พอหันมามองหน้าเพียงดินก็เจอเพียงดินมองไม่ละสายตา


เมฆารู้สึกว่ามันเริ่มแปลกๆ ทำไมเพียงดินต้องทำสายตากรุ้มกริ่มอย่างนั้นเลยชิ่งหนีโดยการออกมาเดินเล่นที่ทุ่งหญ้าข้างนอกซะเลย เพียงดินหัวเราะน้อยๆแล้วเดินตามพร้อมรอยยิ้ม


ทำไมเมฆาน่ารักอย่างนี้กันนะ ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เขามองเมฆาเปลี่ยนไป เมฆาดูน่ารักน่าแกล้งสำหรับเขาไปซะแล้ว และตอนนี้กลับมองว่าตอนเมฆาโมโหหรือโวยวายนั้นมันน่าดูอย่าบอกใครเชียว หึหึ ท่าทางจะเป็นเอามากเหมือนกันนะเขาเนี่ย


“ว่าไง ที่นี่มาได้ตลอด อยู่ที่ว่าอยากจะมารึเปล่าแค่นั้น” เพียงดินเดินมายืนข้างๆเมฆา สายลมพัดเอื่อยๆเข้ามาปะทะ อากาศเย็นๆบนเขามันคือสิ่งที่เพียงดินสัมผัสมาตั้งแต่เด็ก และเขาเองก็คงจะอยู่ที่นี่ไม่ไปไหน และตอนนี้ก็อยากจะหาคนมาอยู่ด้วยเพิ่มซักคนเหมือนกัน


เมฆาไม่ตอบ จะให้บอกไปตรงๆได้ยังไงว่าเขาอยากจะมาบ่อยๆเหมือนกัน แต่ตอบตามตรงก็เสียฟอร์มแย่น่ะสิ ตั้งแง่กับเพียงดินไว้ตั้งแต่ต้น อยู่ๆจะมาบ้านเขาดื้อๆแบบนั้นมันคงแปลกพิลึก


“ไม่ต้องคิดมากหรอกน่า ถ้ามาเองไม่ได้เดี๋ยวฉันไปรับ” คำพูดนั้นของเพียงดินทำให้เมฆาต้องหันมามองคนข้างๆ


“ไปรับอะไรเล่า” เมฆาเฉมองไปทางอื่น ไม่กล้าสู้สายตาเพียงดินตอนนี้เพราะมันดูกรุ้มกริ่มมีเลศนัย


เป็นครั้งแรกที่เมฆาเหมือนทำตัวไม่ถูกที่อยู่ต่อหน้าเพียงดิน อาจจะเป็นเพราะเพียงดินทำตัวแปลกไปก็ว่าได้ อยู่ๆเปลี่ยนโหมดมาพูดดีๆกับเขาแล้วยังจะใจดีขึ้นอีก ผีเข้ารึเปล่า และตัวเขาเองก็ดันยอมตามน้ำเพียงดินซะอย่างนั้น บางทีก็งงตัวเองว่าทำไมไม่ขัดขืนเหมือนเมื่อก่อน



“มอเตอร์ไซค์น่ะมันขึ้นเขาลงเขาลำบาก ทางมาไร่เพียงระพีก็ใช่ว่าจะเป็นทางราบเสียหน่อย ฉันเองก็เข้าตัวเมืองอยู่แล้ว ถ้าจะอยากจะก็จะไปรับ ...แต่ถ้านายอยากรับคนไปดูแลหัวใจซักคนฉันก็ยินดีนะ” ประโยคหลังเพียงดินลดเสียงลงเหมือนพึมพำอยู่คนเดียว แต่เมฆาดันได้ยินเสียนี่ คุณหมอตัวเล็กอ้าปากค้างแล้วทำตัวไม่ถูกกับคำพูดนั้น


เดี๋ยวๆ เดี๋ยวววววววววว เมื่อกี้มันเรียกว่าการหยอดใช่มั้ย เมฆารู้สึกเหมือนตัวเองจะเซอีกรอบ แข้งขาเริ่มจะไม่มีแรงอีกแล้ว เพียงดินพูดอะไรของเขา! แล้วยังทำหน้าตาไม่รู้ร้อนรู้หนาวอย่างนั้นอีก


“ฉะ... ฉันไป ไป... ไปตรงนู้นก่อนนะ” เมฆาชี้ไปที่กลางทุ่ง ไม่ไกลนักมีกลุ่มดอกไม้สีเหลืองอยู่เต็มไปหมด มันคือดอกปอเทืองที่ไร่เพียงระพีปลูกไว้


เมฆาเดินหนีเสียดื้อ เดินไปขาก็พันกันไป เซแล้วเซอีก เหมือนร่างกายเสียสมดุลไปชั่วขณะ แล้วเลือดทั้งตัวเหมือนมากองรวมกันอยู่ที่หน้า มือน้อยยกขึ้นจับแก้มตัวเองที่ร้อนและแดงเห่อ


ไอ้เพียงดิน! ผีเข้ารึไง!


เพียงดินเองก็รู้สึกอายไม่น้อยที่ตัวเองพูดอะไรอย่างนั้นออกไป อารมณ์มันพาไปต่างหาก พ่อเลี้ยงหนุ่มยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองแรงๆเพื่อลดอาการประหม่า อายุก็จะสามสิบแล้ว ทำไมตัวเองตอนนี้เหมือนเด็กหนุ่มหัดรักเสียนี่ แล้วดูหมอเมฆสิ เดินขาขวิดไปนู่นแล้ว เพียงดินอยากจะคิดเข้าข้างตัวเองว่าเมฆาเขินเขา


ดอกปอเทืองสีเหลืองสดตอนนี้ปานสะพรุ่งอยู่กลางทุ่งหญ้า สีของมันตัดกับสีเขียวเป็นอย่างดี มองดูแล้วสวยสะดุดตา เมฆานึกเสียดายที่ตัวเองไม่ได้เอาโทรศัพท์ติดตัวมาไม่อย่างนั้นคงจะต้องอดใจไม่ไหวที่ต้องถ่ายรูปดอกปอเทืองพวกนี้เก็บไว้แน่ๆ


เขาชอบสีเหลืองนะ มันแสบตาดี ตอนสมัยเรียนเขาเคยย้อมผมสีเหลืองด้วย จำได้ว่าแม่ของเขาโวยลั่น ความจริงเขาก็เปลี่ยนสีผมบ่อยอยู่แล้ว และต้องเป็นสีที่มันสะดุดตาด้วย มาคราวก่อนโน้นก็ย้อมสีส้ม ตะวันแทบจะลากเขาไปย้อมกลับเป็นสีดำ ชีวิตวัยเรียนมันต้องเอาให้สุดสิ


“กี่โมงแล้ว” เมฆาถามเพียงดินโดยไม่ได้มองหน้าอีกคนแต่อย่างใดเพราะเขายังไม่กล้าสู้สายตาเพียงดินเท่าไหร่


“อีกสิบห้านาทีจะสี่โมงเย็น” เพียงดินตอบ พวกเขาอยู่ที่นี่นานพอสมควร แป๊บๆก็จะเย็นแล้ว และอีกอย่างตอนนี้เหมือนฝนก็เริ่มจะตั้งเค้าอีกแล้วด้วย เพียงดินก็คงต้องไปส่งเมฆากลับบ้านจริงๆแล้วล่ะ


“ถ้าอย่างนั้นกลับกันเถอะ” เมฆาว่าแล้วเดินนำไปที่ม้า เพียงดินก็ไม่ได้ว่าอะไร แล้วเดินตามเมฆาไป


ม้าสองตัววิ่งเข้ามาในฟาร์มอีกรอบ เพียงดินโยนภาระให้คนงานรับช่วงต่อม้าของเขาและเมฆา เมฆาถอดหมวกออกมาแล้วพัดให้ตัวเอง ผมของเขาชื้นเหงื่อเล็กน้อย


“จะกลับเลยหรือจะยังไง” เพียงดินถามอีกคน ตอนนี้ก็เกือบจะสี่โมงเย็นแล้ว ดูเหมือนฝนใกล้จะตกแล้ว ครึ้มฟ้าครึ้มฝนมาแต่ไกล คงต้องรีบลงไปก่อนที่มันจะตกลงมา


“กลับเลยสิ เดี๋ยวฝนตกก็ไม่ได้กลับพอดี” เมฆาตอบ เขาสวมหมวกอีกรอบแล้วมัดที่ปลายคางแน่นเพราะรู้ว่าเดี๋ยวเพียงดินก็คงพาเขาซิ่งมอเตอร์ไซค์กลับอีกแน่ๆ


“ถ้าอย่างนั้นก็รีบขึ้นมาเลยครับคุณชายครับ” เพียงดินเดินไปคร่อมมอเตอร์ไซค์คันเดิมไว้ เมฆาก็เดินไปซ้อนเหมือนตอนมา


“อย่าขับเร็วนะ” ไม่รู้อีกคนจะฟังรึเปล่า แต่ทุกครั้งที่นั่งรถกับเพียงดิน เมฆารู้สึกเหมือนตัวเองพร้อมตายทุกครั้ง จะเร็วไปไหน ขับรถอย่างนี้มีหวังได้ตายก่อนวัยอันควรแน่ๆ


“หึหึ” เพียงดินไม่ตอบเพียงแต่หัวเราะเท่านั้น เมฆาเลยฟาดลงกลางหลังคนตัวโตไปหนึ่งที หมอนี่คิดจะแกล้งเขาอีกแล้วแน่ๆ


มอเตอร์ไซค์คันเล็กแล่นผ่านออกนอกฟาร์มพร้อมกับที่คนงานเริ่มจะพากันแยกย้ายกลับบ้านเพราะตอนนี้ฝนใกล้จะลงแล้ว งอกกับเม้งเองก็ต้อนวัวเข้าไปข้างในเสร็จหมดแล้ว ทั้งสองคนมองเพียงดินกับเมฆาที่ซ้อนกันออกไปจากฟาร์มแล้วหันมามองหน้ากันเป็นเชิงว่ารู้ๆกัน


อยากรู้จริงๆว่าพ่อเลี้ยงจะทำยังไงต่อ


รอบนี้เพียงดินไม่ได้ขับรถเร็วแต่อย่างใด เขาเลือกใช้เส้นทางเดิมเพราะใกล้บ้านของเขามากกว่า ตอนแรกกะว่าจะพาเมฆาไปอีกทางซึ่งเป็นทางไม่ชันแล้วไปง่ายกว่าแต่มันไกลเลยต้องมาทางเดิม


รถมอเตอร์ไซค์คันกลางเก่ากลางใหม่กว่าจะบิดขึ้นเขามาใดเมฆาก็ต้องสวดมนต์ไปหลายรอบเพราะกลัวเพียงดินจะพาเขาไปไม่รอด เกิดรถดับกลางทางไม่ไถลตกเขาไปตายทั้งคู่รึไง สุดท้ายพ่อเลี้ยงเพียงดินก็พาเมฆาขึ้นมาจนได้ ประจวบเหมาะกับฝนลงเม็ดพอดี คงจะเป็นฝนหลงฤดู เมฆาจับหมวกตัวเองไว้แน่นแล้วเอาปีกหมวกบังหน้าไว้


เพียงดินยังคงขับไปต่อเพราะอีกไม่ไกลก็ใกล้จะถึงบ้านของเขาแล้วเลยเลือกที่จะขับลุยฝนมาทั้งอย่างนั้น ฝนเริ่มลงหนักและหนักขึ้นจนเกือบมองทางไม่เห็น มาถึงบ้านก็เปียกโชกทั้งสองคน เมฆาถอดหมวกตัวเองออกก็พบว่าน้ำไหลออกมาเป็นก๊อก เพียงดินรีบพาคุณหมอเมฆเข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็ว


“ฝนลงแรงขนาดนี้คงต้องรอให้ฝนหยุดก่อน” เพียงดินว่าแล้วเอาผ้าขนหนูยื่นให้เมฆา เมฆาถอดเสื้อคลุมของตัวเองออกจนเหลือแค่เสื่อยืดสีขาวและกางเกงขายาวผ้าบางซึ่งเวลามันเปียกน้ำแล้วมันแนบไปทั้งตัว


“ฮัดชิ้ว!” เมฆาจามอย่างแรงพร้อมกับสั่นงกๆ อากาศข้างบนเขามันเย็นอยู่แล้ว และนี่ก็เย็นแล้วด้วยอากาศยิ่งลดต่ำลง มาเจอฝนอย่างนี้แน่นอนว่ามันต้องหนาวอยู่แล้ว


“ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน ดูแล้วอีกนานกว่าจะหยุด” เพียงดินบอกอีกคนแล้วพาเมฆาขึ้นไปชั้นบนซึ่งเป็นห้องของเขา เขาให้เมฆาเข้าไปอาบน้ำก่อนแล้วตัวเองก็แยกตัวไปอาบอีกห้องซึ่งเป็นห้องของพ่อเขา นานๆจะขึ้นมาทีเพราะตอนนี้อยู่บ้านในตัวเมือง


เมฆาจำเป็นต้องอาบน้ำที่บ้านของเพียงดินเสียอย่างนั้น ร่างเล็กออกมาก็ไม่เจอเพียงดิน มีเพียงแค่เสื้อแขนบาวสีขาวตัวใหญ่กับกางเกงเลสีเข้มที่วางอยู่บนเตียง เมฆาเอามาใส่แล้วมันดูเหมือนเอาเสื้อพ่อมาใส่เสียอย่างนั้น แต่อย่างน้อยมันก็ช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น


เมฆาเป่าผมจนแห้งแล้วเดินลงชั้นล่างก็เจอเพียงดินกำลังยืนมองออกไปข้างนอกระเบียงที่ตอนนี้ฝนกำลังลงหนัก บ้านของเพียงดินชั้นบนจะอยู่ตรงกลางเขาพอดีและระเบียงจะยื่นลงไปตามไหล่เขา เวลามองจากระเบียงก็เห็นทั้งไร่ เสียดายที่วันนี้ฝนตก เมฆาเลยไม่ได้ไปสัมผัสบรรยากาศตรงนั้น


“เหมือนพายุจะเข้า คืนนี้คงตกทั้งคืน ยังลงเขาไม่ได้ ทางมันลื่น คืนนี้พักที่นี่ก่อน” เพียงดินหันมาบอกเมฆาที่เพิ่งจะลงมา


“พักที่นี่? จะบ้าเหรอ พรุ่งนี้ฉันต้องทำงาน” เมฆาทำหน้างง


“ก็ใช่น่ะสิ เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันค่อยไปส่งแต่เช้า” เพียงดินสรุปเองเสร็จสรรพ เมฆาได้แต่อ้าปากค้างอย่างไม่เข้าใจ แต่เมื่อมองไปที่ระเบียงก็ต้องถอนหายใจอย่างปลงๆเพราะฝนลงแรงมาก


นี่มันวันซวยของเขาจริงๆ






*****************************************************************************



เพียงดินไม่ได้หลอกน้องเมฆมานอนบ้านจริงนะ  :impress2:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด