ตอนที่ 7 เตี้ยเอ๊ย-สกาย-
ผมกำลังอยู่ในช่วง
จีบ แต่เป็นจีบที่หมายถึงการเทคแคร์ ดูแล เอาใจใส่ เป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ กับเด็กที่ผมดันไปชวนมันมาเล่นเกมส์ด้วย
ทั้งที่ไม่ได้สนิทกันเลยแม้แต่นิดเดียว
คู่จีบของผมชื่อข้าวเจ้า ผมเคยเจอเจ้าบ้างผ่านๆ เวลาที่อยู่กับแวนโก๊ะของไอ้เหนือ เจ้าดูเป็นผู้ชายเรียบๆ เงียบๆ
ออกแนวน่าเบื่อ ผมยังสงสัยว่าจะมีผู้หญิงชอบมันบ้างหรือเปล่า
“น้องเจ้าเดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ไปรับที่หอ บอกชื่อหอกับทางมา” ผมบอกเจ้าในคืนวันเกิดน้องลันหลังจากที่รู้ตัวว่าต้องจีบ
“ไม่ต้องครับ ผมมีรถ” เจ้าปฏิเสธผมเสียงเรียบ
“เฮ้ยไม่ได้ เล่นเกมส์แล้วก็ต้องเล่นให้จบ พี่ต้องเทคแคร์น้องเจ้าหนึ่งอาทิตย์”
“ผมบอกแล้วว่าให้เรียกน้องหรือเจ้า อย่าเรียกน้องเจ้าครับผมไม่ชอบ อีกอย่างถ้าพี่จะเทคผมจริงๆ
ซื้อขนมมาให้ก็พอครับ พวกผมชอบกิน”
หมายความว่าไงวะ ไอ้เด็กนี่เห็นขนมดีกว่าผม นี่นายสกายตัวเป็นๆ นะครับ ถึงไม่ใช่ผู้หญิงก็น่าจะเคยได้ยินชื่อกันบ้างสิ
อย่างน้อยไปไหนมาไหนกับผม สาวๆ ต้องมองมันมากขึ้นแน่ๆ ที่จริงมันควรจะชอบนะ
“อย่าดื้อ น้องเจ้าคงไม่อยากให้พี่โทรหาไปหาเพื่อนให้วุ่นวายใช่ไหม แค่ที่อยู่เราพี่หาไม่ยากหรอก
แต่ถ้ารุ่นพี่ของเจ้าถามพี่ว่าจะเอาไปทำไม พี่คงต้องตอบความจริงนะว่ากำลัง
จีบเจ้า อยู่”
ตาโตๆ หันขวับมาจ้องผมเขม็ง ถึงปากมันไม่ด่า แต่ตามันด่าไปถึงโครตเง้าผมแล้วมั้งครับ
“บอกมาเร็ว แล้วพี่จะยอมเรียกแค่ชื่อ ตกลงไหม”
“ถ้าผมไม่ตกลง พี่สกายจะยอมเชื่อเหรอครับ”
“ไม่”
“งั้นก็อย่าถามอะไรไร้สาระแบบนั้นครับ นี่ที่อยู่หอผม” เจ้าหยิบสมุดเล่มเล็กขึ้นมาเขียนที่อยู่ส่งให้ผม
“อยากได้มากก็เอาไปเถอะครับ”
ผมรับกระดาษมาแบบมึนๆ เหี้ย ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน ดูเหมือนตัวเองเป็นคนแย่ๆ เอาแต่ใจ นิสัยไม่ดี
มันพูดแค่ไม่กี่คำ ทำไมทำผมโครตจะเฟลเลยวะ
หึๆ แบบนี้สิถึงจะสนุก
“เลิกเรียนแล้วรอพี่ที่คณะนะ เดี๋ยวพี่ไปรับกลับ” ผมบอกขณะกำลังขับรถไปส่งเจ้ากับโต๊ะที่มหา'ลัย
ผมไปรับมาจากหอตั้งแต่แปดโมงเช้า
เสียงถอนใจยาวแบบตั้งใจให้เกิดเสียง เป็นคำตอบที่ผมได้รับ ไม่เป็นไรถือว่ามันรับรู้แล้ว
“เจ้า” ผมโยนโทรศัพท์ของตัวเองไปตกบนตักของคนที่นั่งอยู่ข้างๆ
“เมมเบอร์ของเจ้ากับแอดไลน์ให้พี่ที จะได้ติดต่อกันง่ายๆ”
เสียงถอนหายใจมาอีกครั้ง แต่เจ้าตัวก็ยอมกดๆ ไปบนโทรศัพท์ของผม
“นี่ครับ ผมให้เพราะไม่อยากเถียงกับคนพูดไม่รู้ฟัง” นั่นไงครับ คุณน้องเจ้าหาเรื่องด่าผมจนได้
“รู้ก็ดีแล้ว จะได้ไม่ดื้อกับพี่” ผมยื่นมือไปรับโทรศัพท์ เห็นหน้าคนพูดแว้บนึง เจ้าคงกำลังคิดว่าใครกันแน่ที่ดื้อ
ถูกต้องแล้ว ผมนี่แหล่ะดื้อที่สุด ยิ่งทำเป็นไม่สนใจกันแบบนี้ผมยิ่งไม่ปล่อย อยากรู้ฤทธ์น้องเจ้าเหมือนกันว่าจะมากสักแค่ไหน
“เย็นนี้ไม่ต้องมารับครับ...ทำไม?....จะกลับพร้อมเพื่อนครับ..เดี๋ยวพี่ไปส่งเอง...ไม่ต้องจะกลับแล้ว...
โดดเรียน?..ยุ่ง...รออยู่นั่นพี่ไปรับเอง...ไม่ต้องครับเรียนไปเถอะ..ผมกลับเดี๋ยวนี้แล้ว..”
ผมทำเสียงไม่สบอารมณ์อยู่ในคอ วันแรกก็เบี้ยวนัดผมแล้ว ให้มันได้อย่างนี้ จีบสาวยังไม่ยากเท่าจีบมันเลย
“อารมณ์เสียอะไรคะพี่สกาย” ของขวัญเพื่อนผู้หญิงในกลุ่มผมแซวขึ้น
“มีเด็กเกเรน่ะ” ผมตอบ พร้อมพิมพ์คำเดียวกับที่พูดลงไป
เกเร มันขึ้นว่าread แต่ไม่มีข้อความตอบกลับ เหมือนทางโน้นหมดธุระกับผมแล้ว
“ต๊าย น้องอะไรเหรอคะ ถึงกล้าขัดใจพี่สกาย น้องนานา น้องพริม หรือน้องชมพู่”
“น้องข้าวเจ้า” ผมตอบเสียงปกติ
“น้องข้าวเจ้าไหนวะ ข้าว..เจ้า เฮ้ยน้องเจ้าเพื่อนน้องโต๊ะช่างภาพเมื่อวานน่ะเหรอ”
ผมยักคิ้วให้ของขวัญแทนคำตอบ
“คนที่มึงต้องจีบใช่ไหมวะ”
“ใข่” ผมตอบคำถามฝนที่หยุดฟังอาจารย์ หันมาสุมหัวกับพวกผมเพิ่มอีกคน
“น้องเขาทำอะไรวะ ถึงบอกว่าเกเร”
“ผิดนัด บอกจะว่าไปรับกลับ นี่หนีกลับหอไปแล้ว”
“แค่เนี่ย!!”
“ใช่”
“ถามจริงค่ะคุณชายสกาย คุณจีบตามเกมส์หรือจะจีบจริงๆ คะ กรุณสารภาพมาค่ะ”
“หึๆ อยากรู้ก็ตามดูกันเอง”
“อ้าว พูดให้อยากนี่หว่า” ของขวัญโวยวายใส่ผมใหญ่
“น้องมันเป็นผู้ชายนะ แล้วก็ดูสุภาพเรียบร้อย ไม่ใช่สเปคสกายเลยนี่” ฝนถามด้วยความข้องใจ
เพราะรสนิยมผมเป็นที่รู้กันของเพื่อนๆ ว่าผมชอบสาวมั่น โดดเด่น เปรี้ยวนิดๆ ชีวิตดูมีสีสันดี
“ไม่ใช่สเปคเรื่องอย่างว่า แต่...” ผมเว้นไว้ แกล้งให้เพื่อนอยากรู้เล่นๆ
“แต่อะไร”
“แต่มันเป็นเด็กที่น่าแหย่มากที่สุด” ผมยังจำตาวับๆ ของเจ้าได้ เวลาผมบังเอิญไปจี้จุดเรื่องที่มันไม่ชอบเข้า
“ฝนจะคอยดู แหย่น้องมันมากๆ ไฟช็อตขึ้นมาอย่าว่าเพื่อนไม่เตือน”
“ยาก” ผมตอบด้วยความมั่นใจ ใครจะช็อตกับผู้ชายวะ
“จ้า พ่อคนมั่นใจในตัวเอง อย่าตกหลุมที่ขุดเอาไว้เองก็แล้วกัน”
“ไม่มีทาง”
“อ้วน” ผมเรียกคนที่เพิ่งไปรับมาจากหอ วันนี้โต๊ะไม่ได้มาด้วยเพราะมีเรียนสายกว่า
“เรียกแล้วมีอะไรก็พูดสิครับ” เจ้าหันมามองหน้าผม เมื่อเห็นผมเรียกแต่ไม่ยอมพูดอะไรต่อ
ทำไมมันไม่โกรธวะ ปกติคนอวบๆ จะไม่ชอบให้ล้อว่าอ้วนไม่ใช่เหรอ
( ข้าวเจ้าเป็นหนุ่มเจ้าเนื้อ แต่ไม่ได้อ้วนกลมนะครับ แค่อวบนิดๆ )
“กลางวันรอด้วยนะ เดี๋ยวพี่พาไปเลี้ยงข้าว บอกเพื่อนๆ ด้วย”
“ผมจะทานที่โรงอาหารคณะ บ่ายมีเรียนไม่อยากออกไปไหน”
“งั้นพี่ไปทานที่คณะด้วย”
“จะเทคแคร์ผมเหรอครับ”
“ก็รู้นี่ ดังนั้นห้ามปฏิเสธ พี่ต้องทำเต็มที่ไม่งั้นไอ้พวกนั้นมันจะแดกดันเอา” ผมหมายถึงเพื่อนๆ ที่เล่นเกมส์ด้วยกันวันนั้น
“งั้นก็....” เจ้าแบมือมาทางผม
“อะไร?”
“เงินครับ ให้ผมมาเลยก็ได้ พวกผมไปซื้อทานกันเอง ได้เลี้ยงเหมือนกันไม่ต้องเหนื่อยมาด้วย”
“ถามจริง!!”
“เอาจริงครับ ผมรับ ไม่ต้องกลัวจะปฏิเสธ เยอะๆ ก็ดีครับ โต๊ะมันกินจุ”
“เร็วๆ สิครับ บอกว่าจะเลี้ยงแล้วไม่เลี้ยงสาวๆ รู้เข้าอายนะครับ” เจ้ากระดิกนิ้วใส่ผม เร่งให้หยิบเงินให้
ผมก็คนจริงครับ ถึงจะยังเหวอๆ มันอยู่ก็เถอะ
“เอาไปหยิบเอง พี่ขับรถอยู่” ผมดึงกระเป๋าตังค์ออกจากกางเกง ก่อนโยนไปให้เจ้า
“ให้เท่าไหร่ครับ” เจ้าเปิดกระเป๋าตังค์ผม
“อยากหยิบเท่าไหร่ก็หยิบ พี่ไม่รู้ว่าทานกันแค่ไหน”
“งั้นผมหยิบไปห้าร้อยนะครับ ทานโรงอาหารแค่นี้สี่คนพอเหลือเฟือ” เจ้าหยิบแบงค์500ออกก่อนจะคืนกระเป๋าให้ผม
“สบายใจหรือยังครับ”
“เรื่อง?”
“ได้เลี้ยงข่าวกลางวันผมแล้วไง หรือจะเลี้ยงเย็นอีกก็บอกนะครับ ผมจะได้หยิบไปพันนึงเลย”
ดูมันนะครับ ใครบอกว่ามันเรียบร้อย มันพูดโครตเพราะน้ำเสียงก็นุ่มนวล แต่เจ็บกว่าเจ้าผมยังไม่เคยเจอ
“สนุกไหม” ผมถามมันกลับบ้าง ก็ผมรู้นี่ครับว่าเจ้ามันไม่ใช่คนงก เห็นแก่เงินหรอก ถึงจะรู้จักกันแค่ไม่กี่วันแต่ผมมั่นใจ
เจ้ามันแค่อยากเอาคืนผม กับตัดรำคาญไม่ให้ผมไปหาแค่นั้นเอง ทำไมผมจะรู้ไม่ทัน
“สนุกครับ”
จบ จะให้ผมพูดอะไรต่อ ข้าวเจ้ามันดันรับเสียอย่างนั้น ผมเดาทางมันไม่เคยถูก
แต่เอาเถอะ สกายซะอย่าง ต้องผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะบ้างล่ะ
“เตี้ย กลับกัน” ขวับ ข้าวเจ้าหันมามองผมตาวาววับ
อะหะ ผมจับจุดอ่อนมันได้แล้ว ฮ่าๆๆๆ อ้วนไม่กลัวแต่กลัวเตี้ย
“หิวไหมเตี้ย” ขวับ สองครั้งติดยังได้ผลดี
“ผมไม่เตี้ย” ข้าวเจ้ากัดฟันพูดทีละคำ มีเพื่อนมันทำหน้าเหมือนกำลังจะตายยืนอยู่ข้างๆ
“เอ่อ..พี่สกายครับ ผมว่าเรียกเจ้ามันว่าเจ้าเหมือนเดิมดีแล้วครับ” ผมเห็นโต๊ะกลืนน้ำลายลงคอเอือกใหญ่
ผมเดาว่าผมคงมาถูกทางแล้ว
“โต๊ะกลับด้วยกันหรือเปล่า”
“เปล่าครับพี่ ผมมีธุระต้องไปนิดหน่อย อ้อ แล้วก็ขอบคุณสำหรับอาหารกลางวันนะครับพี่สกาย อิ่มอร่อยมาก”
“ไม่มีปัญหา เดี๋ยววันหลังพี่พาไปเลี้ยงดีๆ”
“ขอบคุณครับ”
ผมเดินนำข้าวเจ้ามาที่รถ วันนี้เป็นวันที่สองของเกมส์
“แวะทานอะไรกันก่อนไหม” ผมถามเมื่อผ่านประตูมหา’ลัยออกมา
“ไม่ครับ ผมเตรียมไว้แล้ว”
“งั้นพี่ทานด้วยคน ถือว่าตอบแทนมื้อกลางวันที่พี่เลี้ยง” ผมพูดถึงขนาดนี้ มาดูกันว่าเจ้าจะปฏิเสธไหม
“ผมจะทานมาม่า”
“ดีเลย พี่ไม่ได้ทานตั้งนานแล้ว ขอสองซองนะ”
“ผมมีซองเดียว”
“งั้นเดี๋ยวแวะซื้อ จะได้ซื้อพวกลูกชิ้น ไส้กรอกไปใส่เพิ่มด้วย”
“ห้องผมมีพวกช้อนชามชุดเดียว”
“เซเว่นมีขายเดี๋ยวพี่ซื้อไปเพิ่มให้”
“ผมมีเก้าอี้ตัวเดียว”
“เดี๋ยวพี่นั่งพื้น”
“ผมไม่ชอบล้างจานหลายใบ”
“เดี๋ยวพี่ล้างให้เอง”
หึๆ อยากเถียงเป็นเด็กๆ ก็เอา เหตุผลข้างๆ คูๆ ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าจะไม่รู้ว่าพูดมาแบบนี้ผมตอบได้ทุกข้ออยู่แล้ว
มันคงโกรธจนไม่ทันคิด
“ดีครับ พี่พูดเองนะ”
รอยยิ้มที่ค่อยๆ คลี่ออก จนกลายเป็นยิ้มกว้างบนใบหน้าของเจ้า บอกให้ผมรู้ว่าใครกันแน่ที่พลาดในบทสนทนานี้
“ฮ่าๆๆๆๆๆ แสบนักนะ เตี้ยเอ๊ย” ผมยกมือข้างที่ว่างขึ้นจับหัวกลมๆ มันโยก ยอมรับว่าแพ้แต่โดยดี
“บอกว่าไม่ได้เตี้ย” เจ้าตวาดแว้ดใส่ผม ผมก็ยิ่งขำมันใหญ่
เอาน่าผมก็ไม่ได้แพ้เสียทีเดียวหรอก อย่างน้อยผมก็ชนะมันหนึ่งเรื่อง ดูหน้าบึ้งๆ ปากยื่นๆ นี่สิ ปกติเคยได้เห็นที่ไหน
รวมมิตรที่สุดแห่งความน่ารักของมันแล้ว
“ให้” คนหน้าเวทียื่นดอกกุหลาบมาให้ผมกำนึง ผมรีบเอื้อมมือไปรับ
“ค่าน้ำมันรถ” เสียงเพลงที่ต่อกำลังร้องดังกลบไปบ้างแต่ผมก็ยังได้ยิน
“ขอบคุณครับ” ผมยิ้มกริ่ม ยิ่งคนให้หน้าบูดผมก็ยิ่งยิ้ม
ผมขยับปากเป็นคำว่า รอด้วยนะ แต่เจ้าไม่ตอบไม่รู้ว่าอ่านปากผมไม่ออกหรือแกล้งทำเป็นไม่เห็น
สะบัดหน้าเดินกลับไปยังที่นั่งเหมือนเดิม
วงผมมีกันแค่สามคน คือเหนือ ต่อ และผม เราผลัดกันร้องคนละหนึ่งเพลง พอจบผมเดินลงมาหลังเวที
เก็บกีตาร์ลงกระเป๋า ได้ยินเสียงเตือนข้อความเข้าจึงหยิบมือถือขึ้นมาดู
กลับกับเพื่อนแล้วไม่ได้รอ
“อะไรวะ” ผมเผลอสบถออกมา
“มีอะไร” เหนือหันมาถามผม
“เจ้าน่ะสิกลับไปแล้ว”
“กลับไปแล้ว? ทั้งกลุ่มเลยเหรอ”
“เออ”
ตอนนี้ผมกับเหนือทำหน้าเซ็งพอๆ กัน ผมหาเก้าอี้นั่งก่อนพิมพ์ตอบเจ้าในแอฟไลน์
Sudkobfah: ทำไมถึงไม่รอ พี่บอกว่าให้รอก่อน
Sudkobfah: อยู่ไหน ถ้ายังไปไม่ไกลรอพี่ก่อน
Kaojao: มีธุระครับ
Sudkobfah: เมื่อกี้เรายังอยู่ พี่กำลังจะออกไปจะให้ไปรับที่ไหน
Kaojao: ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมก็ถึงแล้ว
Sudkobfah: เจ้า read
....
Sudkobfah: ข้าวเจ้า read
....
Sudkobfah: น้องเจ้า read
....
Sudkobfah: hello read
....
Sudkobfah: ที่รัก read
....
Sudkobfah: แฟนครับ read
...
Sudkobfah:
เตี้ย!!!! read
Kaojao: อะไรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรร
Sudkobfah: 55555 กลับบ้านดีๆ นะ read
Kaojao: ครับ
ผมวางโทรศัพท์ลง อารมณ์ค่อยดีขึ้นมาบ้าง เวลาเจ็ดวันใกล้จะหมดลงแล้ว แต่ทำไมผมยังไม่อยากให้มันจบ
ยังรู้สึกสนุก ยังอยากตามตอแย ยังอยากแกล้ง และที่สำคัญผมยังอยากเจอเด็กดื้อที่ชื่อข้าวเจ้าไปแบบนี้ ทุกวัน
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>TBC<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<
ขออภัยในความสั้น งานล้นมือจริงๆ ค่ะ^^
Darin ♥ FANPAGE