ตอนที่ 15 : STALKER กับ กับดัก-North-
“หล่อจริงๆ เลย พี่เรดของมึงเนี่ย กูเห็นแล้วอยากเปลี่ยนใจ ขอชอบด้วย”
“red devil" ผมมองตามหลังพี่ทัช รุ่นพี่ปีสี่ที่ใส่เสื้อสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเดินเข้าตึกคณะไป
“เหี้ย” โต๊ะตกใจจนหน้าซีด คงไม่คิดว่าผมจะเดินเข้ามาได้ยิน
"คิดอยู่เหมือนกันว่าใครมันจะชื่อเรด หมายถึงคนที่ชอบแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดนี่เอง”
“โต๊ะชอบพี่ทัชเหรอ” สกายเป็นคนเอ่ยปากถามให้ผม
“เรื่องนี้ไม่ตอบครับ ใช่ไหมโต๊ะ” เจ้าหันไปส่งซิกให้ไอ้ตัวดีที่ยังยืนทำหน้าเหวอจ้องผมตาไม่กระพริบ
“ครับๆ ไม่ตอบ” โต๊ะพยักหน้าตาม
“มาคณะพี่บ่อยๆ ก็เพราะแบบนี้สินะ”
โต๊ะไม่ตอบผมเพราะได้เดซี่ช่วยเปลี่ยนเรื่องคุย ยิ่งมีพิรุธผมก็ยิ่งมั่นใจว่าโต๊ะคงชอบพี่ทัชอยู่ไม่มากก็น้อย
จากที่ผมคิดว่าจะค่อยเป็นค่อยไป ให้เวลาทั้งตัวเองกับโต๊ะ คงต้องพับเก็บ เปลี่ยนแผนมารุกให้หนัก
ของอย่างนี้ใครดีใครได้ ในเมื่อพี่ทัชยังไม่รู้ตัว โอกาสผมถือว่ามีสูงมาก อย่างน้อยโต๊ะก็ไม่ได้รังเกียจที่ผมเข้าใกล้
พอคิดถึงตอนที่ผมหลอกจูบโต๊ะขึ้นมา ก็อดเผลอยิ้มไม่ได้ เด็กอะไรโครตน่ารัก หน้าตาตื่นไปหมด
“พี่ฝากจองที่นั่งให้ด้วยสามที่ เดี๋ยวมา”
ผมโยนกระเป๋าเป้ให้โต๊ะ วิธีจัดการเอาตัวเองไปนั่งกับน้องไม่ใช่เรื่องยากสำหรับผม ผมไม่ได้ปรึกษากับสกาย
ไม่จำเป็นต้องพูดกันให้เสียเวลา ของอย่างนี้พวกผมไวเสมอ
มันก็เหมือนกับการแยกโต๊ะออกจากเจ้า ไม่มีอะไรดีไปกว่าการใช้ความเป็นรุ่นพี่ให้เป็นประโยชน์
“โต๊ะ ลงมาช่วยพี่ขนน้ำหน่อย” ผมตะโกนเรียกโต๊ะที่ริมหน้าต่าง ข้างตัวมีน้ำวางอยู่ห้าแพ็ค ผมบอกน้องสวัสดิการว่า
ไม่ต้องยกไปขึ้นรถ ผมจะจัดการให้เอง
ไอ้ตัวดีมันก็ซื่อสมกับเป็นมัน กุลีกุจอช่วยผมยกไปอย่างดี เห็นมันค้อนพวกสวัสดิการแล้วก็ได้แต่ขอโทษน้องๆ ในใจ
ที่ต้องซวยโดนไอ้ตัวดีมันด่าโดยไม่รู้ตัว
“อ้าว”
โต๊ะมองสกายที่แย่งที่นั่งตัวเองไปเรียบร้อยแล้ว
“โต๊ะนั่งกับเหนือแทนพี่ที พี่ขี้เกียจลุก” สกายเปิดทางเพื่อให้ได้สิ่งที่พวกผมต้องการ
“งั้นโต๊ะนั่งกับพี่” ผมรวบรัดสานต่อให้จบ ท่ามกลางความงงงันของน้องๆ
ผมไม่เคยจีบผู้ชายแต่ไม่น่าจะยากเกินความสามารถ เว้นอย่างเดียว ผมว่าความซื่อของโต๊ะกำลังจะทำให้ผมมีปัญหา
สิ่งที่ผมสงสัยคือต่อให้โต๊ะตกลงมาในกับดักของผมจนดิ้นไม่หลุดแล้ว ไอ้ตัวดีมันจะรู้ตัวหรือเปล่าเถอะ
“ง่วง” ผมดึงแขนโต๊ะให้กลับลงมานั่งดีๆ เพราะเจ้าตัวเอาแต่หันไปสนใจข้างหลัง ไม่สนใจผมสักนิด
“ง่วงก็นอนครับ เดี๋ยวผมเบาเสียงให้”
“อืม นอนนะ”
“ครับ”
ผมเลื่อนตัวลงจนได้ระดับ ก่อนเอนหัวซบลงไปบนไหล่ ซุกหน้าเข้ากับซอกคอของโต๊ะ
“อืม ค่อยสบายหน่อย” ผมสูดเอากลิ่นแป้งอ่อนๆ เข้าจมูก
ต่อไปก็แค่หาทางให้ได้ที่นอนข้างๆ น้อง กับต้องกำจัดพี่ทัชให้พ้นทาง
ติดกับเร็วๆ นะโต๊ะ พี่ไม่รู้ว่าจะอดทนเป็นคนดีได้นานแค่ไหน
.................................................................................................
-Table-
“มึงถ้ากูจองที่นอนให้พี่มันข้างกู จะดูน่าเกลียดไปไหมวะ” ผมหันไปปรึกษาเพื่อนๆ ที่กำลังวางข้าวของ
เพื่อจับจองที่หลับที่นอน
ทางโรงเรียนจัดให้คณะอาสานอนในอาคารเรียน ทั้งหมด 5ห้อง เฉลี่ยห้องละแปดคน โชคดีที่ศัตรูหัวใจผมเป็นผู้หญิง
จึงถูกจับรวบไปนอนห้องผู้หญิงด้วยกัน ถึงแก๊งค์เบอรี่จะพยายามพูดเปรยๆ ว่ามาออกค่ายแบบนี้นอนที่ไหนก็ได้
ก็ยังถูกพี่ของขวัญกับพี่ฝนลากไปอยู่ดี
“มาค่ะ กูจัดการให้รับรองไมน่าเกลียด” เดซี่เริ่มสลับกระเป๋าที่ใช้วางจองที่นอน
“กู ส้ม เจ้า มึง พี่เหนือ พี่สกาย พี่ต่อ นอนเรียงแบบนี้ เหมือนมึงปิดท้ายกลุ่มพอดี เนียนๆ” เดซี่มองกระเป๋าที่วางไว้
ด้วยความพอใจ
“ว่าแต่ส้มมึงไม่ไปนอนห้องผู้หญิงเหรอวะ เดี๋ยวแก๊งค์เบอรี่มันมาโวยวาย ว่าทำไมมึงนอนท่ามกลางผู้ชายได้”
“เรื่องของมันดิ กลัวไรวะ ห้องนึงนอนได้แค่แปดเก้าคน ห้องเราปาเข้าไปเจ็ดแล้ว แก๊งค์มันสามเกินอัตรา”
“ว่าแต่โต๊ะโชคดีไปไหม เจ้าว่ามันดูเข้าทางไปหมด แปลกๆ” เจ้าทำคิ้วขมวด หน้ายุ่ง
ตั้งแต่ตอนที่พวกพี่ๆ ฝากให้เก็บกระเป๋าให้แล้ว
“มันทำบุญมาดีค่ะ ช่วงนี้ดวงความรักคงกำลังพุ่ง ตั้งแต่ใครก็ไม่รู้ส่งรูปที่มันถ่ายไปให้พี่เหนือดูแล้ว”
“กูก็ว่ามันราบรื่นไป แต่ไอ้โต๊ะได้ผลกำไรก็อย่าคิดอะไรมากเลยวะ” ส้มเห็นด้วยกับเจ้าแต่ไม่คิดมากเท่า
“ถูก กูไม่สนกระบวนการ ขอให้ผลลัพท์ถูกใจ กูแฮปปี้”
“เออ มึงก็อย่าออกอาการให้มาก อยากอยู่กับพี่มันนานๆ ก็หัดรู้จักเก็บๆ ไว้บ้าง”
“แต่พี่มันไม่ได้รังเกียจกูนี่ พี่มันจูบกูด้วย” ผมเถียงขาดใจครับ พี่เหนือเป็นไบ ไอ้พวกนี้ก็รู้ดีเพราะผมบอกแล้ว
ถึงพี่มันจะไม่รักก็ใช่ว่าจะจู้ฮุกกรูกันไม่ได้สักหน่อย เท่าที่ได้ข่าวมาก็ไม่เห็นพี่เหนือรับรักใคร ยังจุดจุดจุดด้วยกันได้เลย
“มึงนี่กะจะเอาให้ได้สักครั้งใช่ไหม ทำเป็นปากดีไป ถึงเวลานั้นตัดใจไม่ได้ขึ้นมา อย่ามาให้กูปลอบ”
“มึงจะไม่ปลอบ?” ผมถามส้มด้วยความข้องใจ
“ปลอบ แต่กูขี้เกียจไง เลี่ยงได้ก็ดี”
ฮ่าๆๆๆ มีเพื่อนดีก็แบบนี้แหละครับ ยังไงก็ไม่ทิ้งกัน
“ก๊อก ก๊อก คุยอะไรกัน”
เสียงเคาะโต๊ะ ทำเอาพวกผมหยุกกึ๊ก อย่างกับใครเอามือมาปิดปาก ต่อไปต้องระวังให้มากกว่านี้จับกลุ่มทีไรเผลอตัวทุกที
“คุยกันเรื่อยเปื่อยครับพี่” เจ้ารีบตอบคำถามพี่ของขวัญ
“พี่กับฝนจะย้ายมานอนด้วย เหลือที่หรือเปล่า”
“เหลือครับ แต่พี่ไม่นอนห้องเดียวกับสาวๆ เหรอครับ” ผมอดถามไม่ได้
ก็พี่ของขวัญกับพี่ฝนเป็นตัวตั้งตัวดีรวมกลุ่มสาวๆ เองนี่นา
“คนมันเกิน พี่เลยเสียสละให้น้องๆ” พี่ฝนเป็นคนไขข้อข้องใจของผม
“แบ่งนอนเป็นสองฝั่งดีไหม ที่จะได้พอ” พี่ของขวัญออกความคิดเห็น
“ได้ครับ” เป็นรุ่นน้องที่ดีก็ต้องตามใจพี่เขาล่ะครับ
“มาพี่จัดให้” พี่ของขวัญเริ่มวางกระเป๋าใหม่
“อันไหนกระเป๋าส้มกับเดซี่ อันนี้ใช่ไหม” พี่ของขวัญมองตามมือส้ม
“ฝั่งนี้เป็นผู้หญิงนอน เดซี่ ส้ม พี่ กับฝน”
“ฝั่งโน้นก็พวกผู้ชาย ต่อ สกาย เจ้า โต๊ะ เหนือ เรียบร้อย”
ผมมองผลงานพี่ของขวัญกับพี่ฝนงงๆ
“เอาพี่ๆ ปิดหัวท้ายจะได้ปลอดภัย มากับน้องก็ต้องดูแลให้ดี”
อ่า...ครับ ถึงจะดูแปลกๆ ไปนิด แต่ผมได้นอนข้างพี่เหนือเหมือนเดิม ผมโอเคดีไม่มีปัญหา ส้มกับเดซี่ก็ดูจะชอบใจ
เพราะพวกมันเชียร์พี่เหนือกับพี่สกายอยู่แล้ว แต่ไอ้เจ้าสิครับ ทำหน้าผะอืดผะอม กลืนไม่เข้าคายไม่ออก แต่ก็ไม่กล้าขัด
“ลงไปข้างล่างกันเถอะ เขานัดรวมกันในอีกสิบนาที” พี่ฝนมองนาฬิกา
เป็นอันยุติความคิดที่จะหาทางเปลี่ยนที่นอนของไอ้เจ้า พี่สองคนนี้เผด็จการใช้ได้เลยแหะ ผมชอบ
“เหนือนอนห้องไหนคะ” หัวหน้าเบอรี่เกาะติดพี่เหนือแจ ผมเลยได้แต่มองดูสถานการณ์อยู่ห่างๆ
“ไม่รู้ครับ ฝากน้องไปจองให้”
“พราวย้ายไปนอนห้องเดียวกับเหนือได้ไหมคะ ห้องพราวสาวๆ เสียงดังกันมากเลย พราวต้องนอนไม่หลับแน่ๆ”
“คือพราวรู้ว่ามันดูไม่ดี แต่พราวไม่ค่อยรู้จักใครในคณะวิศวะฯ สนิทก็แต่กับเหนือนี่แหละค่ะ”
“ผมอยากช่วยนะพราว แต่ผมมีคนที่ชอบแล้วไม่อยากให้เขาเข้าใจผิด”
“อะ..อะไรนะคะ!!” ไม่ใช่แค่พี่พราวหรอกครับที่ช็อคแทบจะตาค้าง ขนาดผมที่เคยได้ยินพี่ต่อพูดยังเจ็บจี๊ดขึ้นมา
“ผมมีคนที่ชอบแล้ว ขอโทษที่บอกกะทันหัน”
“เหนือ”
“ใคร..มัน..เป็นใคร”
“พราวมีสิทธิที่จะได้รู้ว่าผมมีคนที่ชอบแล้ว แต่ไม่จำเป็นต้องรู้ว่าเป็นใคร เพราะนั่นเป็นเรื่องส่วนตัวของผม”
“เหนือไม่ใจร้ายไปหน่อยหรือคะถึงมาบอกพราวตอนนี้ ที่นี่”
“ผมว่าผมคงใจร้ายมากกว่าถ้าไม่บอกพราว”
พี่เหนือพูดด้วยเสียงปกติ จึงทำให้ผมพลอยได้ยินไปด้วย ถึงจะยืนห่างกันพอสมควร ส่วนพี่พราวคงโกรธจนลืมตัว
เสียงเลยยิ่งดังขึ้นๆ โชคดีว่านอกจากพวกผมแล้ว ยังไม่มีใครลงมา
“พราวไม่เปลี่ยนใจแค่เพราะเหนือมีคนที่ชอบหรอกนะคะ สักวันเหนือจะรู้ค่าของพราว”
“พราวเป็นคนมีคุณค่า ไม่จำเป็นต้องรอวันไหนเพื่อให้รู้หรอก อย่าลดคุณค่าตัวเองเพื่อตามผม พราวก็รู้ว่าผมไม่ได้รักพราว”
ฉึก มีดที่พี่เหนือปักพี่พราวมันต้องมีอานุภาพสูงแน่ๆ เพราะมันกระเด้งมาปักผมเข้าให้ด้วยอีกคน
อยากหลบก็หลบไม่ทัน เจ็บยันหัวแม่เท้า
“พราวไม่สน พราวรักเหนือ พราวรู้แค่นั้น”
“ผมคงห้ามความคิดพราวไม่ได้ อะไรที่ผมควรพูดผมพูดไปหมดแล้ว” พี่เหนือตัดบทเพื่อไม่ให้บทสนทนายืดเยื้อไปมากกว่านี้
เฮ้อ ผมมองตามหลังพี่พราวที่สะบัดหน้าพรืดหนีไปตั้งหลัก
คิดแล้วไอ้โต๊ะก็ท้อแท้ใจ พี่พราวสวยขนาดนี้ยังถูกปฏิเสธไม่ใยดี แล้วอย่างผมจะเหลืออะไร
ไหนพี่พราวจะโชคดีกว่าผมตรงได้จู้ฮุกกรูกับพี่เหนือไปเรียบร้อยโรงเรียนเตียงแล้ว ผมสิสักครั้งยังมองไม่เห็นหนทาง
ไม่ได้ๆ อย่าท้อ ต้องพยายามให้มากกว่านี้ไอ้โต๊ะ ผมพยายามให้กำลังใจตัวเอง สู้โว้ย
“เหนือ อาบน้ำ”
พี่สกายเรียกพี่เหนือ ผมรีบรื้อของออกจากกระเป๋าทันที ไม่ชวนก็จะไปล่ะครับ ที่อาบน้ำมีสองแห่ง ผู้หญิงอาบในห้องน้ำนักเรียน
ผู้ชายส่วนใหญ่จะเดินไปอาบที่ลำธารเล็กๆ หลังโรงเรียนเพื่อความรวดเร็ว
ออกค่ายอาสาครั้งนี้ตรงกับวันหยุดพอดี เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์สองวันคือพุธ พฤหัสฯ วันศุกร์ราชการประกาศหยุดเพิ่ม
เท่ากับห้าวันติดกัน จึงไม่ต้องห่วงเรื่องการใช้สถานที่
วันนี้เป็นวันแรกที่มาถึง นอกจากเรียกประชุมเพื่อแบ่งงานกันแล้ว ยังไม่ได้ลงมือทำอะไร ตอนเย็นจะมีงานเลี้ยงต้อนรับเล็กๆ
พรุ่งนี้ถึงจะเริ่มงานกันจริงจัง เป็นการบูรณะอาคารเรียนของเด็กๆ ผมอยู่แผนกโต๊ะ ครับก็ตามชื่อนั่นแหล่ะ
ซ่อมแซมโต๊ะเก้าอี้นักเรียน ทาสีให้ใหม่ กลุ่มผมอยู่ด้วยกันหมด กลุ่มพี่เหนืออยู่ฝ่ายซ่อมแซมอาคาร ไม่รู้จะได้เจอหน้ากันบ่อยไหม
“โต๊ะจะไปพร้อมกันไหม”
“ไปครับ” ผมรีบพยักหน้า กลัวตอบอย่างเดียวพี่มันไม่ได้ยิน
ผมหันไปหาเพื่อนๆ
“กูผู้หญิงค่ะ จะอาบที่ห้องน้ำกับส้ม” เดซี่รีบออกตัวเมื่อผมกวาดสายตาไปเร่ง
“ผู้ชายทั้งนั้นมึงแน่ใจนะว่าไม่อยากไปเห็น กูยังอยากไปเลย” หญิงเดียวกลับไม่อยากอาบในห้องน้ำ
“พี่ก็อยากไป” พี่ฝนทำท่าจะเปลี่ยนใจไปอาบกับพวกผมเสียอย่างนั้น
“ไม่ต้อง กูไปอาบน้ำไม่ได้ไปเป็นอาหารให้แทะเล่น” พี่ต่อรีบสั่งห้าม คงกลัวเพื่อนรักของผมทั้งสองคน
“เออๆ ขัดลาภกูจริง” พี่ฝนยอมให้ ส้มกับเดซี่เลยต้องถอยทัพตาม
ผมเดินตามกลุ่มพี่เหนือไปจนถึงลำธารเล็กๆ มีคนที่มาถึงก่อนอาบน้ำอยู่หกเจ็ดคน
น้ำใสใช้ได้ เห็นแล้วอยากโดดลงไปแช่ ผมรีบวางของลง พี่เหนือมันจะใส่แค่ไหนอาบน้ำวะ แค่คิดก็ใจเต้นโครมคราม
ใส่บ๊อกเซอร์ทีเถอะ เพราะผมก็จะใส่เหมือนกัน
“โต๊ะ”
“ครับ” ผมรีบถอดเสื้อออกจากหัว มือกำลังจะดึงกางเกงลง หึหึ ผมจำไม่ลืมครับ ไม่มีการลังเลหรืออายอีกแล้ว
“อย่าถอด!!”
“หือ?” ผมหันไปมองหน้าพี่เหนืองงๆ
“กลับขึ้นไปอาบในห้องน้ำไป เจ้าด้วย” พี่เหนือสั่งพวกผม ไม่ใช่แนะนำนะครับ ขอย้ำว่าสั่ง
อะไรวะ แม่งรู้ตัวว่าผมจะลามกใส่เหรอ เซ้นส์แรงนะเรา
“อาบในห้องน้ำมันไม่สะดวก ผมอาบที่นี่แหล่ะ” ผมยังดื้อเพ่ง ไม่ยอมหรอกเรื่องอะไร
“ไปอาบข้างบนก็ดีนะโต๊ะ” เจ้าพยายามส่งสายตาชวนผม
“ไม่ อยากเล่นน้ำ” ผมดึงกางเกงรวดเดียวพ้นตัว วิ่งนำลิ่วลงไป คิดจะไล่ผมไม่ง่ายหรอก
“โต๊ะ” เสียงพี่เหนือเรียกตามหลังผม บ่งบอกได้ว่าพี่มันกำลังหงุดหงิดมากที่ผมไม่เชื่อฟัง
“โอ๊ะ”
ผมมัวแต่รีบ เลยวิ่งไถลลงไปในน้ำ ชนโครมเข้ากับพี่ที่ยืนอาบน้ำอยู่
ฮึบ ดีที่มีมือมาคว้าแขนผมไว้ได้ ไม่อย่างนั้นวันนี้ได้เป็นหัวข้อชวนหัวของพวกพี่ๆ มันแน่เลย
“ขอบคุณครับ” ผมเงยหน้าขึ้นส่งยิ้มให้ ก่อนจะต้องร้องโอ๊ะที่สอง เมื่อมีอีกมือมากระชากผมจากด้านหลัง
“ซุ่มซ่าม”
“เฮ้ย อย่าไปว่าน้องมันน่าเหนือ หน้าเสียแล้ว” พี่คนที่ช่วยผมไว้ออกโรงปกป้อง
“โทษทีพี่ทัช น้องมันไม่ทันระวัง”
“ไม่เป็นไรๆ”
พี่ทัช..พี่ทัช.. ทำไมชื่อมันคุ้นๆ วะ อ๋อ!! พี่red devil
“ขอโทษครับ” ผมรีบโค้งเก้าสิบองศาขอโทษรุ่นพี่ปีอาวุโสสุดของทริป
“ไม่เป็นไร ผอมๆ อย่างเราทำอะไรพี่ไม่ได้หรอก”
ผมหัวเราะแหะๆ กับคำแซวนั้น ยกมือเกาหัวแกร็กๆ อายหุ่นผอมแห้งแรงน้อยของตัวเอง
“ไปได้แล้ว” พี่เหนือออกแรงดึงผมมือจับเสียแน่น ลากไปทางต้นน้ำที่มีพี่สกาย พี่ต่อ เจ้ายืนอยู่
“ตั้งใจ?” พี่เหนือพูดเสียงลอดไรฟัน ผมต้องพยายามกางเรือใบเพื่อฟังให้ออก
“อะไรนะครับ”
“เมื่อกี้ตั้งใจใช่ไหม”
“ตั้งใจ?” ฉิบหายพี่มันรู้แน่เลยว่าผมตั้งใจรีบกระโดดลงน้ำ เพราะอยากอาบกับพี่มัน
“แหะๆ ก็ผมอยากอาบด้วย”
“โอ๊ะ” แรงบีบอย่างกับคีมเหล็ก จะโกรธอะไรไอ้โต๊ะนักหนา แค่มองเอาไปไม่ได้เสียหน่อย
“ผมหมายถึงอยากอาบด้วย ไม่ชอบไปอาบในห้องน้ำ”
“ไม่ต้องพูด”
อะไรของพี่มันวะครับ ไม่พูดก็ไม่พูด สงสัยจะแก้ตัวไม่ขึ้น
ผมรีบเดินไปหาเจ้าเมื่อพี่เหนือยอมปล่อยแขน ไอ้เจ้าทรงชุดเสื้อยืดกางเกงบ๊อกเซอร์ลงมาอาบน้ำ
“ใส่เสื้อทำไมวะ” ผมถามมันงงๆ
“เจ้าอ้วน” เจ้าทำท่าโกรธผม คงเพราะไม่ยอมขึ้นไปอาบน้ำข้างบนกับมัน ทำไมแค่อาบน้ำมีแต่คนไม่พอใจผมวะ
“ไม่อ้วนกำลังน่าฟัด”
“หืม” ผมมองคนพูดตาโตเท่าที่ไอ้โต๊ะจะทำได้
“เหมือนเด็กจ้ำม่ำ น่าจับฟัดชะมัด” พี่สกายส่งสายตาแปลกๆ ให้ไอ้เจ้า
“ผมไม่ใช่เด็กสามขวบ”
“ไม่ใช่เด็กสามขวบก็ฟัดได้”
โอ้ พี่สกายไม่ธรรมดาแล้วล่ะครับ ผมว่าพี่มันต่อโปรเองเรียบร้อย โดยไม่รอถามความสมัครใจของเพื่อนผม
“ไม่ตลกครับ”
“หรืออยากให้สาธิตว่าพูดจริง”
แรงกว่าคลื่นยักษ์ก็พี่สกายนี่แหล่ะครับ ซัดเอาซัดเอา ไอ้เจ้าคงเสียศูนย์ ดำมุดหายไปในน้ำเรียบร้อย
“หึหึ ไม่แน่จริง”
ครับพี่ ใครยังยืนอยู่ได้ก็แปลกแล้วล่ะครับ จีบผู้ชายยังขนาดนี้ไม่อยากคิดเลยว่าจีบผู้หญิงจะขนาดไหน
“มัวแต่ยืนฟังเขาคุยกัน รีบอาบน้ำได้แล้วจะได้รีบขึ้น”
โอ๊ย พี่เหนือโหมดโหดนี่มาจากไหนครับ กับคนอื่นก็ปกติดี กับผมโหดจริงๆ
ดีหน่อยที่ยังยอมเปลือยอก ใส่แค่บ๊อกเซอร์ลงมาอาบน้ำ ให้สมกับที่ผมตั้งความหวัง
ผมทำเป็นถูสบู่ช้าๆ ตรงโน้นก็ยังไม่สะอาด ตรงนี้ก็ยังไม่สะอาด อยากดูอย่างนี้ไปอีกนานๆ หุ่นพี่มันแม่งโครตน่ากิน
อาบไปก็ต้องกวักน้ำล้างหน้าไป กลบเกลื่อนน้ำลายเผื่อมันจะไหลออกมา
“ไงคะมึงเริ่ดไหม”
“อย่าให้กูบรรยาย ติดตาตรึงใจมาก” ผมบอกเดซี่ที่กระซิบถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“พรุ่งนี้กูไปอาบด้วย”
“เออ”
“อย่าดื่มกันจนเมานะครับน้องๆ พรุ่งนี้มีงานรอเราอยู่” เสียงประกาศของพี่ทีมงานมาช้าเกินไปหน่อย
ตอนนี้ผมชักมึนๆ กับเหล้าหมักของชาวบ้าน ดื่มไปไม่เท่าไหร่ทำไมฤทธิ์มันแรงขนาดนี้วะ
“พอเหอะโต๊ะ” เจ้าดึงชามออกจากมือผม
“ได้อีกนิ้ดดดด” ผมยังยื้อเอาไว้ ก็มันหวานๆ อร่อยดีนี่ครับ เหมือนข้าวหมักไม่ไช่สิผมว่ามันก็ข้าวหมักนั่นแหล่ะ
แต่แค่รสชาติร้อนแรงกว่าที่เคยกินมา
“พอแล้ว” คนที่วันนี้แปรสภาพเป็นพ่อผมตั้งแต่ตอนอาบน้ำ แย่งออกไปจากมือผมจนได้
“ผมยังไหว”
“นั่งให้ตรงก่อนค่อยพูด” ผมหันไปมองเพื่อนๆ ไม่มีใครออกตัวช่วยผมสักคน เงียบกันหมด
“เหนือ พราวขอคุยด้วยหน่อยสิคะ” แก๊งค์เบอรี่มากันครบทีม ยืนค้ำหัวผม ทำอย่างกับมองไม่เห็น
“เอาสิพราว”
“ขอคุยที่อื่นได้ไหมคะ”
“ที่นี่ก็ได้ เพื่อนกันทั้งนั้น”
“เหนือ พราวขอร้องค่ะ แค่ครั้งเดียว”
“ได้” พี่เหนือเอามือมาลูบหัวผม
“นั่งรอก่อนเดี๋ยวพี่มา ห้ามกินต่อ ห้ามไปไหนกับใคร เดี๋ยวพี่มาพากลับไปนอน”
ผมพยักหน้าหงึกๆ มองพี่เหนือจนเดินลับไปกับพี่พราว เบอรี่อีกสองนางกลับไปนั่งที่เดิมแล้ว
“มึง ตามไปดูกันเหอะ กูไม่ไว้ใจพี่พราว” ส้มเข้ามากระซิบกับผม
“จะดีเหรอวะ” ผมไม่ค่อยกล้าครับ กลัวพี่มันโกรธเอา
“ดีสิวะ แต่ก่อนมึงก็แอบตามพี่มันบ่อยๆ มากลัวอะไรตอนนี้”
“จะไปก็ไปเร็ว พี่สกายพี่ต่อเดินมาแล้ว” เดซี่รีบเร่งพวกผม
“เดี๋ยวเจ้ากับเดซี่รับหน้าให้เอง รีบๆ ไปเถอะ”
“อืม ขอบใจว่ะ” ผมกับส้มรีบเดินไปตามทางที่เห็นพี่เหนือหายไป ผมเดินได้ไม่ตรงดี ต้องให้ส้มช่วยกึ่งลากกึ่งประคองไปด้วยกัน
พวกผมหลบอยู่หลังต้นไม้ ไม่กล้าเข้าไปใกล้มาก แม่งทำไมต้องเลือกที่โล่งขนาดนี้วะ ที่แคบๆ ให้ไอ้โต๊ะมีที่แอบฟังบ้างก็ไม่ได้
“มึงว่าเขาคุยอะไรกันวะส้ม”
“กูจะรู้ได้ยังไงก็ยืนอยู่กับมึงตรงนี้” ไอ้ส้มทำเสียงจิ๊กจั๊กรำคาญผม
“แต่กูว่าคงไม่ค่อยดีหรอก พี่พราวเหมือนกำลังอาละวาดเลย ร้องไห้ด้วย สงสัยจะเมาแล้วว่ะ”
“นั่นสิ”
พวกผมยืนแอบดูอยู่อีกพักใหญ่ ก่อนพี่เหนือจะพูดอะไรบางอย่าง และเดินแยกออกมา
พวกผมรีบขยับหลบอีกนิดเพื่อไม่ให้พี่เหนือสังเกตเห็น
“เหนือ”
เสียงเรียกมาจากข้างหลังทำให้พี่เหนือชะงัก เมื่อหันกลับไปก็เจอพี่พราวจู่โจมเข้ากอด ปากเล็กๆ แนบชิดเข้ากับปากใหญ่
พี่พราวจูบกับพี่เหนือ!!ผมยืนอึ้งทำอะไรไม่ถูก ถึงมันจะแค่แป๊บเดียวก่อนที่พี่เหนือจะรีบดันพี่พราวออก
“อย่าทำแบบนี้พราว”
“ไม่ พราวรักเหนือ ได้ยินไหมคะ พราวรักเหนือ”
ผมเหมือนคนโดนสะกดจิต ไม่มีสติ ทุกอย่างดูเบลอไปหมด ในหัวขาวโพลน
“โต๊ะ”
“ไอ้โต๊ะ”
ผมได้ยินเสียงเรียกชื่อตัวเอง เหมือนเสียงของส้มแต่ผมไม่ได้สนใจ
“โต๊ะ!!”
เสียงพี่เหนือนี่ ทำไมต้องตกใจขนาดนั้น
ผมยังไม่ยอมหยุดเดิน เมื่อเข้าไปใกล้พอก็คว้าคอเป้าหมายลงมา แนบปากเข้าชิด
ผมไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่าปากแตะปาก ความนิ่มเป็นสิ่งเดียวที่ผมรู้สึกได้
เพี้ยะ!!!
หน้าผมหันไปตามมือ แรงตบเต็มๆ ทำให้เจ็บไม่น้อย บวกกับอาการเวียนหัวที่มากขึ้น
ทำให้ผมรู้สึกว่าตัวกำลังหมุนคว้าง ก่อนที่ใครบางคนจะคว้าผมเอาไว้ได้
“โต๊ะ”
ผมพยายามลืมตาขึ้นมอง พี่เหนือเองเหรอครับ
ผมคลี่ยิ้มส่งให้ ก่อนสติจะดับวูบ
ผมได้จูบของพี่เหนือคืนมาแล้ว“เหนือ!!”
“ ไอ้...ไอ้เด็กเวรนี่มันจูบพราว กรี๊ดดดดด”
เสียงอะไรน่ะ ฟังแล้วปวดหูชะมัด เงียบๆ หน่อย ไอ้โต๊ะจะนอน
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>TBC<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<
**โต๊ะจูบไม่ผิดคนนะคะ ตั้งใจจูบพราว
**อยากเขียนให้ได้หัวเราะกัน แต่พล็อตของตอนนี้มันทำไม่ได้ เลื่อนเสียงหัวเราะไปก่อนนะคะ^^
**ใครรอพาร์ทสกาย&เจ้า หลังกลับจากค่ายเจอกันค่ะ
Darin ♥ FANPAGE