ตอนที่ 25: STALKER กับวันสิ้นโลก“จำได้ครับ..อยู่มหาลัยครับ..ว่างครับ บ่ายพี่ไม่มีเรียน..เอ๋? มีอะไรหรือเปล่า..อ่า..ได้ครับ..ครับ”
“โต๊ะเป็นอะไร” ข้าวเจ้าถามผมทันทีหลังจากผมวางโทรศัพท์ลง ด้วยสีหน้างงงวย ช็อคและสับสน
“น้องสาวพี่เหนือโทรหากูว่ะ”
“จริงดิ เรื่องอะไรวะ” ส้มถึงกับเลิกสนใจหนังสือในมือ
“น้องลันบอกว่าแม่พี่เหนืออยากเจอให้เข้าไปหาที่บ้าน”
“เหี้ยโต๊ะ มึงโดนเรียกไปเชือดหรือเปล่าวะ หรือความลับจะแตกแล้ว มีใครเอาไปฟ้อง อีพี่น้องนรก พี่พราวน้องพีทหรือเปล่า
เรียกไปขอให้เลิกหรือเปล่าวะ หรือ..”
“พอๆ เดซี่ ให้โต๊ะมันเล่าเองดีกว่าไหม จะได้รู้เรื่องสักที” ข้าวเจ้าเบรคเดซี่ที่พูดไหลเป็นรถด่วน สารพัดคำถาม
“นั่นสิ ว่าไงโต๊ะ”
“กูก็ไม่รู้ น้องลันถามแต่ว่าว่างไหม อยากนัดเจอที่บ้าน แล้วพอกูถามว่ามีอะไรก็บอกแค่ว่าให้เข้ามาก่อน”
“เหี้ยโต๊ะ เรื่องสำคัญอย่างนี้ทำไมมึงไม่ถามเอาคำตอบมาให้ได้ จะได้เตรียมตัวถูก”
“ก็กูตกใจ น้องลันไม่เคยโทรหากูเลยตั้งแต่เจอกัน”
“กูว่าท่าจะไม่ดีว่ะ มึงรีบโทรบอกพี่เหนือเลย”
“เดี๋ยวกูไลน์บอกเอา พี่เหนือเรียนอยู่”
“พี่เหนือบอกว่าไม่รู้เหมือนกัน ไม่มีใครบอกอะไร แต่บอกให้กูเข้าไป เรียนเสร็จจะรีบตามไปว่ะ”
ผมอ่านตามที่พี่เหนือพิมพ์มา
“แม่งโคตรน่ากลัวเลยว่ะโต๊ะ” ส้มทำท่าสยอง
“เรามาเตี๊ยมกันก่อนไหม มากูเป็นแม่พี่เหนือเอง” เดซี่กระแอมกระไอ ก่อนดัดเสียงเป็นผู้หญิงได้น่าเกลียดที่สุด
เท่าที่ผมเคยได้ยินมา
“เธอคบกับลูกชายฉันเหรอ”
“กูว่าแม่พี่เหนือผู้ดีกว่านี้นะ” ผมอดพูดไม่ได้
“ห่าโต๊ะ กูช่วยมึงอยู่นะ เอาดีๆ”
“ได้ๆ อะแฮ่มๆ มาๆ เอาใหม่” ผมจำเป็นต้องเล่นไปด้วยเมื่อเพื่อนรักทำท่าเอาจริงเอาจัง
“ได้ข่าวว่าเธอคบกับลูกชายฉันเหรอ”
“ใช่ครับ”
“เอาตรงๆ งี้เลยเหรอวะ” ส้มขมวดคิ้ว ดูไม่ค่อยชอบคำตอบผมเท่าไหร่
“แล้วมึงจะให้พูดว่าอะไรวะ ก็แม่เขาถามว่าคบกันหรือเปล่า กูก็ตอบว่าใช่ไง”
“เจ้าช่วยมันคิดดิ กูก็คิดไม่ออกเหมือนกัน แต่ไม่ชอบคำตอบโต๊ะ มันห้วนๆ ไป”
คนทักโยนไปให้เพื่อนเพราะดูเหมือนจะจนปัญญาพอกัน
“โต๊ะก็พูดยาวๆ หน่อย เอาเป็น ครับ ผมคบกับพี่เหนืออยู่ หรือ ครับเราคบกัน แบบนี้ดีกว่าไหม”
“เฮ้อ มันฟังไม่เข้าท่าสักอย่าง แต่แบบนี้ก็ได้ โต๊ะคิดไม่ออกเหมือนกัน”
“ไหน มึงลองพูดสิ” เดซี่สั่งให้ผมซ้อมอีกครั้ง
“ครับ เราคบกันอยู่”
“เสียงห้วนไปหน่อย มึงต้องทำเสียงอ่อนโยนกว่านี้ ผู้ใหญ่เขาจะได้เอ็นดู” ส้มช่วยออกความคิดเห็น
“ครับ เราคบกันอยู่” ผมผ่อนเสียงให้อ่อนลง
“อย่าพูดหงอๆ สิโต๊ะ น้ำเสียงอ่อนโยนแต่ต้องมั่นคงมั่นใจ เอาใหม่” ครับๆ ไอ้คุณเจ้า
“ครับ เราคบกันอยู่”
“โอเคใช้ได้ ทีนี้ถ้าเกิดแม่พี่เหนือพูดว่า ฉันต้องการให้เธอเลิกกับลูกฉัน มึงจะตอบว่า”
“โห เดซี่ คำถามมึงทำร้ายจิตใจกูเกินไปไหม ทำไมมาว่าแม่พี่เหนือใจร้ายแบบนี้”
“ค่ะ คุณสุดยอดลูกสะใภ้ ใช่เวลามึงมาพิทักษ์แม่ผัวไหม กูหวังดีเสือกมาด่ากูอีก”
“คิดคำตอบมาเร็วมึง จะได้ช่วยๆ กันฟังว่าดีหรือเปล่า”
ผมใช้เวลาคิดแป๊บนึง ก่อนเลือกตอบตามที่รู้สึก
“ผมเข้าใจคุณแม่นะครับ แต่ผมรักพี่เหนือจริงๆ ผมขอเวลาคุยกับพี่เหนือก่อนแล้วจะให้คำตอบคุณแม่นะครับ”
“ก็โอเคนะกูว่า มึงคิดอะไรไม่ออกก็ยืนยันว่าขอคุยกับพี่เหนือไว้ก่อนก็แล้วกัน” ส้มเห็นด้วยกับสิ่งที่ผมพูด
“กูก็ว่าดี งั้นมึงก็พูดตามนี้แหละ”
“เจ้าว่ารีบไปเถอะ โต๊ะบอกน้องว่าว่างแล้วไม่ใช่เหรอ ให้ผู้ใหญ่รอไม่ดีนะ”
“นั่นสิ มีอะไรไปคุยกันในรถ ไปๆ”
“หือ? ส้มจะไปด้วยเหรอ”
“กูจะไปส่งเฉยๆ มึงไปคนเดียวเดี๋ยวได้นั่งสติแตกบนรถแท็กซี่”
“กูไปด้วย” “เจ้าไปด้วย”
“ขอบใจเว้ย รักพวกมึงจริงๆ”
“อย่าเพิ่งมาดราม่า มึงรีบเก็บของเลย”
“อืม” ผมรีบเก็บหนังสือ ข้าวของบนโต๊ะลงกระเป๋า เป็นไงเป็นกันวะ
“สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้แม่พี่เหนือ ที่นั่งรออยู่ในห้องรับแขก
“นั่งสิ”
“ขอบคุณครับ” ผมนั่งลงเก้าอี้ตัวถัดไป ตามที่แม่พี่เหนือชี้ให้นั่ง มีน้องลันนั่งอยู่อีกด้าน
“ทานน้ำทานท่าก่อน” ผมกล่าวขอบคุณ ก่อนยกน้ำขึ้นดื่ม
“ที่เรียกมาวันนี้ ป้ามีอะไรจะถามโต๊ะหน่อย”
“ครับ”
มาแล้วๆ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามาถึงก็จะโดนเลย
“ได้ข่าวว่าโต๊ะสนิทกับเหนือ”
“ครับ เราคบกันอยู่”“.......................”
“.........................”
เหี้ย!! ผมตะครุบปากตัวเองแทบไม่ทัน ตอนนี้ให้อุกกาบาตถล่มโลก ผมก็จะไม่บ่นสักคำ
ช่วยปลิดชีพไอ้โต๊ะเลยด้วยเถิดครับ ไม่อยากหายใจต่ออีกแม้แต่วินาทีเดียว
“อะไรนะ?”
“เราสะ..สนิทกันครับ” ผมเหงื่อแตกพลั่ก อยากจะหายตัวได้ ท้องไส้ปวดมวนไปหมด
“เมื่อกี้ป้าไม่ได้ยินแบบนี้นะ ใช่ไหมลัน” แม่พี่เหนือหันหน้าไปมองลูกสาว
“ใช่ค่ะ ลันได้ยินพี่โต๊ะบอกว่าเราคบกันอยู่”
“คือ ผมหมายถึง..เราสนิทกันครับ คบกันเป็นพี่เป็นน้องอยู่” รอดแล้วโว้ย ดีที่คิดได้ก็ไม่เลวนะ
“แต่ลันว่าเมื่อกี้มันไม่ได้หมายถึงแบบนี้นะคะ”
“พี่มัวตื่นเต้นเลยพูดสั้นไปนิด หมายถึงแบบนี้แหละครับน้องลัน”
ผมแถไปเรื่อยๆ สีข้างถึงกับเลือดอาบ แต่เจ็บแค่ไหนก็ต้องยอมทน
ผมเหลือบตามองแม่พี่เหนือ เห็นมองมานิ่งๆ คล้ายกับกำลังประเมินผมอยู่
ตอนนี้น้ำลายเหนียวไปหมดแล้วครับ ตัวเกร็งแข็ง ทำอะไรไม่ถูกสักอย่าง
“สนิทก็ดี ป้าเรียกมาวันนี้จะถามว่า วันศุกร์โต๊ะสนใจรับงานถ่ายรูปงานเลี้ยงที่บริษัทให้คุณลุงเขาไหม”
“สนใจครับ แต่ผมยังเป็นมือสมัครเล่น เกรงว่า..” คราวนี้ผมตั้งสติอย่างดี ตั้งใจฟัง ตั้งใจตอบ
“โต๊ะถ่ายแบบที่ถนัดได้เลยไม่ต้องเกร็ง เรามีช่างภาพที่ถ่ายงานทางการไว้แล้ว ทั้งภาพนิ่งทั้งวีดีโอ
โต๊ะเป็นส่วนเสริมช่วยเก็บรรยากาศ คล้ายๆ กับที่ถ่ายให้ลัน”
“ครับ”
“ตกลงว่ารับนะ ขอโทษที่บอกกะทันหัน ลุงเขาเพิ่งมาบอกป้าว่าอยากได้ภาพแบบนี้ด้วย”
“รับครับ ขอบคุณนะครับคุณป้า” ผมยกมือไหว้แม่พี่เหนือ ยังรู้สึกหายใจหายคอไม่โล่งดี
“ลัน” น้องลันยื่นซองเอกสารให้ผม
“ในนั้นมีรายละเอียดผู้บริหารที่สำคัญ กับลูกค้าวีไอพี โต๊ะจำๆ หน้ากับชื่อเอาไว้บ้าง วันงานจะได้รู้ว่าต้องโฟกัสที่ใคร”
“ครับ” ผมยื่นมือออกไปรับซองเอกสารมาเก็บเข้ากระเป๋า
“อยู่ทานข้าวเย็นด้วยกันก่อนนะพี่โต๊ะ เดี๋ยวพี่เหนือกลับมาลันให้ไปส่ง”
“เอ่อ..” ผมสับสนว่าควรตอบรับ หรือควรจะรีบเผ่นดี
“อยู่ก่อนเถอะ” คำประกาศิตมาจากแม่พี่เหนือ คราวนี้ผมยิ่งใจไม่ดีเข้าไปใหญ่
“ครับ”
“งั้นตอนนี้ว่างๆ พี่โต๊ะสอนลันเล่นกล้องหน่อยสิคะ ลันเพิ่งได้มาใหม่ยังไม่คล่องเลย”
“ได้ครับ” ผมค่อยหายใจโล่งหน่อย เมื่อน้องลันชวนผมออกจากห้องรับแขก ไม่อยากจะคิดเลยว่าตัวเองทำอะไรลงไป
“เป็นไงบ้าง” พี่เหนือลงมานั่งข้างๆ ผม
“ลันเก่งขึ้นเยอะเลยนะพี่เหนือ คราวนี้มาว่าลันว่าซื้อมาเสียของไม่ได้แล้วนะ” น้องลันรีบอวดพี่ชาย เปิดรูปจากล้องให้ดู
“นี่แค่ถ่ายเล่นที่สวนในบ้านนะ ยังสวยขนาดนี้เลย”
“เก่ง” พี่ชายยกมือลูบหัวน้องสาว ดูอบอุ่นมากครับ ผมเห็นแล้วอยากถ่ายรูปเก็บไว้เลย
“ไปเอาน้ำให้พี่หน่อยสิ”
“โห สั่งแม่บ้านเอาสิคะ มาสั่งน้องทำไม”
“เอาน่า แค่นี้ทำให้ไม่ได้เหรอ จะได้ออกกำลังกายด้วย เดินซะบ้างอ้วนขึ้นเยอะแล้วนะเรา”
“ใจร้ายว่าน้อง” น้องลันบ่นแต่ก็ยอมเดินออกไปแต่โดยดี
“เป็นอะไร หน้าแหยๆ ตั้งแต่พี่เข้ามาแล้วนะ” พี่เหนือขยับเข้ามานั่งข้างๆ ผม
“พี่เหนือ ผม..” ผมรีบเล่าให้พี่เหนือฟังโดยละเอียดทุกคำพูด
“ผมขอโทษนะครับ ไม่ได้เจตนาทำให้พี่เหนือลำบากเลย ผมซ้อมมามากเกิน มันหลุดปากออกไปได้ยังไงก็ไม่รู้”
พี่เหนือเงียบไปเลย แบบนี้ผมยิ่งรู้สึกผิดเข้าไปใหญ่
“โต๊ะ”
“ครับ”
“ไหนลองพูดให้พี่ฟังสิ ว่าพูดกับแม่ว่ายังไง”
“ผมบอกไปแล้วนี่”
“ขออีกที ชัดๆ ไม่ใช่เร็วเป็นรถไฟเหาะแบบเมื่อกี้” เอาครับ อยากฟังก็ตามใจ
“ครับ เราคบกันอยู่”
“เพราะดี”
“พี่เหนือออ” ผมเรียกอย่างอ่อนใจ ใช่เวลามาชมไหม
“พี่เหนือไม่กังวลเลยเหรอครับ”
“กังวลทำไม ถามมาก็ตอบ” พี่เหนือยักไหล่ ดูสนใจรูปในกล้องน้องลันมากกว่าเรื่องที่ผมพูด
“แล้วพี่เหนือจะตอบว่ายังไงครับ”
“ก็ตอบว่า..” พี่เหนือวางกล้องในมือ หันมาทำตาหวานใส่ผม
“ครับ เราคบกันอยู่”
อ๊ากกกกกกกกก
ตอนพูดเองมันไม่ได้คิดอะไรครับ กังวลเรื่องแม่พี่เหนือมากกว่า แต่พอพี่เหนือพูดแบบนี้ ผมเขินจนตัวบิด
“พี่เหนือคบกับพี่โต๊ะ!!!”
ความฟินยังไม่ทันหาย ความควายเข้ามาหาผมเสียแล้ว
“น้องลัน!!” ผมปรับอารมณ์แทบไม่ทัน ตะลึงตาค้าง มองน้องลันที่ถือน้ำส้ม ยืนค้างอยู่ตรงประตูห้องนั่งเล่น
“ใช่” คนที่ไม่ผิดปกติไปจากเดิมมีอยู่ครับ
“พี่เหนือกับพี่โต๊ะ” น้องลินชี้มือสลับไปมาระหว่างผมกับพี่เหนือ
“ตั้งแต่เมื่อไหร่”
“สักพักนึง”
“พี่โต๊ะเป็นแฟนพี่เหนือ”
“อ่า..ครับ” ก็คนพี่เล่นตอบออกไปแบบนั้น จะให้ผมตอบคนน้องว่ายังไงล่ะครับ
“พี่เหนือชอบผู้ชาย” ผมว่าน้องลันคงยังไม่หายช็อค ถามซ้ำไปซ้ำมา
“พี่ชอบโต๊ะ”
น้องลันเดินมานั่งที่เก้าอี้ เอาน้ำวางบนโต๊ะ แล้วก็นั่งทำตาปริบๆ อยู่แบบนั้น
“แม่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
ฉิบหายแล้วครับ ผมนึกว่าน้องลันสงบลงแล้ว อยู่ๆ ก็แผดเสียงแถมวิ่งจู้ดออกไป ห้ามก็ไม่ทัน
ผมหันไปมองหน้าพี่เหนือ คราวนี้เป็นผมบ้างที่ได้แต่ทำตาปริบๆ
“อยู่นี่แหละ เดี๋ยวพี่จัดการเอง” พี่เหนือตบบ่าผม ก่อนเดินตามน้องลันออกไป
เวลาผ่านไปช้ามาก ผมไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย เดินออกไปยืนชิดประตูก็แล้ว เดินวนไปวนมาก็แล้ว
จิกเล็บจนรอยแดงขึ้นไปทั้งมือก็แล้ว ไม่ได้ข่าวสารใดๆ เลย มีแต่ความเงียบกับความเงียบ
“คุณโต๊ะคะ คุณผู้หญิงให้มาเชิญไปทานอาหารค่ะ”
“ครับ ขอบคุณครับ”
อยู่ๆ ขาผมก็สั่นขึ้นมาพั่บๆ เดินเหมือนคนไม่มีแรง พี่เหนือหนอพี่เหนือไม่มาส่งข่าวบอกกันให้ตั้งตัวบ้างเลย
ผมเดินเข้าไปในห้องอาหาร แม่พี่เหนือ พี่เหนือ น้องลันนั่งรออยู่แล้ว
“โต๊ะมานั่งนี่” พี่เหนือพยักหน้ามาที่เก้าอี้ข้างตัว ผมรีบเดินเข้าไป ไม่อยากเงยหน้าขึ้นเลย แต่คิดว่านั่งก้มหน้าตลอดคงดูไม่ดี
“ทานข้าวเถอะ” แม่พี่เหนือไม่ได้พูดอะไรถึงเรื่องนั้น แต่ชวนทานข้าวตามปกติ
ระหว่างทาน สามคนแม่ลูกก็คุยกันเรื่องทั่วๆ ไป เยอะหน่อยก็เรื่องงานเลี้ยงที่จะมาถึง ผมก็ได้แต่นั่งฟัง
บอกตามตรงว่าฝืดคอมาก ผมทานข้าวแทบไม่ลง แต่ต้องฝืนทานเข้าไปเพราะไม่อยากให้ดูผิดปกติ
“ของหวานไหมโต๊ะ”
“ครับ” ผมรีบตอบรับแม่พี่เหนือ ทั้งที่ไม่อยากยัดอะไรเข้าไปแล้ว อยากอาเจียนออกมามากกว่า
“เดี๋ยวเหนือไปส่งน้องด้วยนะ”
“ครับ”
ผมพยายามส่งสัญญาณให้พี่เหนือ ขานั้นก็ไม่มองมาเลย ผมจ้องจนตาจะถลนออกมาจากเบ้าแล้ว
“โต๊ะ”
“ครับ”
“อิ่มหรือยัง”
“อิ่มแล้วครับ”
“ป้าคุยด้วยหน่อยสิ ในห้องรับแขกก็แล้วกัน”
“ได้ครับ” ผมรีบลุกตามแม่พี่เหนือออกไป ไม่มีเวลาแม้แต่จะหันไปขอคำปรึกษาจากพี่เหนือก่อน
“นั่งสิ”
“ครับ”
“ตกลงคบกับเหนือ?” ในที่สุดคำถามนี้ก็มาถึง แต่ดันมาเพราะผมเอง อนิจจังไอ้โต๊ะเอ๊ย
“ครับ เราคบกันอยู่”
ในที่สุดก็ได้พูดแล้วเพื่อนๆ พวกมึงจะดีใจไหมที่ไม่ได้ซ้อมให้กูเก้อ น้ำตาผมแทบจะหลั่งเป็นสายเลือด
“ที่พูดก่อนหน้านั้นก็ประโยคนี้สินะ”
“ครับ” ผมรับสารภาพแต่โดยดี
“ทำไมตอนป้าถามถึงตอบอีกอย่าง”
“ผม..ผม..” ผมควรตอบอย่างไรดี
“ที่โกหกเพราะผมกลัวคุณป้าจะรู้ครับ ผมไม่อยากทำให้ไม่สบายใจ ไม่อยากให้พี่เหนือมีปัญหา”
สุดท้ายก็เลือกตอบสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ
“แต่ก็คบกัน”
“ครับ”
“มันก็แปลกๆ อยู่นะ ถามว่าป้ารับได้ไหม มันก้ำกึ่ง ใจนึงไม่อยากเชื่อไม่อยากยอมรับ ใจนึงก็รู้ว่าของแบบนี้มันห้ามกันไม่ได้”
“ผมขอโทษครับ” ผมขอโทษเพราะรู้สึกผิดต่อพ่อกับแม่ของพี่เหนือจริงๆ
“เอาเถอะ มาพยายามไปด้วยกัน มันอาจอึดอัด ขัดๆ เขินๆ บ้าง ก็ให้เวลาป้าหน่อย”
“คุณป้า” ผมไม่อยากเชื่อหูตัวเองเลย
“ป้าก็เรื่องนึง พ่อของเหนือก็เรื่องนึง ไม่ใช่ว่าลุงเขาจะใจร้ายนะ แต่ป้าไม่เคยคิดถึงเรื่องพวกนี้มาก่อน ไม่เคยคุยกันไว้เลย
ก็อย่างที่รู้ที่ผ่านมาเหนือก็คบผู้หญิงมาตลอด”
“ผมทราบครับ”
“ป้าเลยไม่รู้ว่าลุงเขาคิดยังไง เอาไว้ป้าจะค่อยๆ บอก”
“ขอบคุณมากครับ ผม..ผมขอถามอะไรคุณป้าได้ไหมครับ”
“ถามมาสิ” ผมรีบยกมือขึ้นไหว้ก่อน กลัวว่าจะใช้คำที่ไม่ถูกต้อง ฟังแล้วไม่ดี
“คุณป้ายอมให้พี่เหนือคบกับผมใช่ไหมครับ” อาจจะดูใจกล้าบ้าบิ่นไปนิดที่ถามออกไป แต่มาถึงขั้นนี้แล้ว
ผมก็อยากรู้ให้แน่ชัดไปเลย
“การคบกันเป็นเรื่องของคนสองคน ผู้ใหญ่ไม่ควรเข้าไปยุ่ง หรือถ้าต้องยุ่งก็เพราะลูกชายคบกับคนไม่ดี
โต๊ะเป็นเด็กดีหรือเปล่าล่ะ”
“ดีครับ” ผมรีบตอบ ส่งยิ้มครบสามสิบสองซี่ไปประจบ
“เหนือบอกว่าเราบ๊อง”
“ครับ” ผมก้มหน้ายอมรับโดยดุษฎี
“ยังบอกอีกว่าเราขาดๆ เกินๆ”
“นิดหน่อยครับ” ผมทำมือนิดนึงให้แม่พี่เหนือดูประกอบคำพูด
“ไม่เต็ม”
“โห!! แต่ก็จริงครับ” ก็ต้องยอมรับอีกแหละ
“เป็นเด็กซื่ออย่างที่บอก”
ผมเห็นแม่พี่เหนือมองข้ามหัวผมไป ผมเลยหันกลับไปดูบ้าง เห็นพี่เหนือยืนกอดอกพิงกำแพงห้องอยู่ด้านหลังผม
“ตลกมากด้วยครับ แม่ต้องได้เห็นเหมือนที่เหนือเห็น”
โอ๊ย นี่เอาผมไปขายขนาดไหน ฟังแต่ละอย่างไม่เห็นมีข้อดีสักข้อ
“ชมผมดีๆ มั่งก็ได้ครับ” มันอดใจไม่ให้บ่นไม่ได้จริงๆ
“นี่ก็ชม ที่พูดนี่ข้อดีทั้งนั้น”
“บ๊อง ขาดๆ เกินๆ ไม่เต็ม ชมกันแบบนี้เหรอครับ”
“งั้นจะให้พี่ชมว่ายังไง ไหนบอกมาสิ”
“ผม.....” กรรม ผมหาข้อดีตัวเองไม่เจอ หน้าตาก็ธรรมดา การเรียนก็ธรรมดา ฐานะที่บ้านก็ธรรมดา
“สงสัยผมจะไม่มีข้อดีครับ นึกไม่ออก” ผมรับไปตามตรง หลังจากพยายามนึกอยู่หลาย(วิ)นาที
“พี่โต๊ะ ตลกอะ” น้องลันเดินเข้ามาร่วมวงเพิ่มอีกคน
“โม้ๆ ไปก็ได้นี่คะ เป็นลันจะบอก หล่อ นิสัยดี สปอร์ต หนุ่มฮอตประจำมหาลัยงี้”
“ที่น้องลันพูดคือพี่เหนือของน้องลันหมดเลยครับ”
“ลันก็เพิ่มคำว่าแฟนไว้ข้างหน้าสิ”
“แฟนของหนุ่มหล่อ นิสัยดี สปอร์ต หนุ่มฮอตประจำมหาลัย แบบนี้ใช่เปล่าคะพี่เหนือ”
“นั่นล่ะสรรพคุณของโต๊ะ”
“พอๆ เลิกแกล้งน้องซะที เหนือไปส่งน้องเถอะดึกแล้ว ไว้เจอกันวันงาน”
“ครับ สวัสดีครับคุณป้า” ผมยกมือขึ้นไหว้แม่พี่เหนือ ตอนนี้ใจกลับมาเต้นเป็นปกติแล้ว
“เรียกว่าแม่เถอะ เรียกเหมือนเหนือน่าจะดีกว่า”
ตึกตึก ตึกตึก ใจผมกลับมาเต้นรัวอีกครั้ง
“ครับคุณแม่”
“เดี๋ยวผมกลับมาครับ” พี่เหนือพยักหน้าให้ผมลุกตาม เราสองคนเดินออกไปเงียบๆ จนถึงรถ
“โล่งหรือยัง”
“มากครับ โอ๊ย อยู่ในนั้นผมเหมือนจะหายใจไม่ออก กลัวมาก”
“ไม่เห็นว่าโต๊ะกลัวเลย ก็ดูปกติดีนี่”
“ไม่กลัวอะไรล่ะครับ เหงื่อแตกพลั่กๆ กระเพาะก็มวนไปหมด ว่าแต่พี่เหนือบอกอะไรแม่บ้างครับ”
“ก็บอกไปตามความจริง”
“ไม่ได้โดนโกรธใช่ไหมครับ” ผมกลัวว่าแม่พี่เหนือจะรักษามารยาทต่อหน้าผม
“ไม่ แม่แค่ยังงงๆ คงต้องใช้เวลาอีกสักพัก”
“พี่เหนือ” ผมยกมือขึ้นแตะแขนพี่เหนือที่จับพวงมาลัยอยู่
“ครับ”
“ผมไม่ได้ทำให้พี่เหนือทุกข์ใจอยู่ใช่ไหมครับ ถ้าใช่บอกผมได้นะ”
“บอกแล้วจะทำไม”
“ผม..พี่เหนือเลิกกับผมก็ได้นะครับ” ผมไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลย แต่พอถึงเวลามันก็หลุดออกมาเอง
“นี่ในหัวคิดแต่จะเลิกกับพี่ใช่ไหม” เออแหะ งอนมาอีกล่ะ เสียงโทนนี้เหมือนคืนที่ไปดูหนังกันเลย
“ผมเปล่าสักหน่อย”
“เปล่าแล้วเมื่อกี้ใครพูดหะ”
“โกรธอะไรเนี่ย ผมทำเพื่อพี่เหนือนะครับ” ผมโอดครวญ คนทำดีต้องชมสิ ทำไมมาโมโหผมล่ะ
“ถ้าทำเพื่อพี่ก็ต้องอยู่กับพี่ ห้ามไปไหน ห้ามมองใคร รักพี่คนเดียวทำได้ไหม”
“ผมก็ทำแบบนั้นอยู่แล้ว” อยากจะซึ้งนะครับ ถ้าไม่หมั่นไส้เสียงหาเรื่องนี่เสียก่อน
“แล้วใครเที่ยวมองหน้าอกผู้หญิง โดนเบียดนิดเบียดหน่อยตาไม่กะพริบเลยนะ”
โห ยังจะติดใจเรื่องนี้อีก
“ก็แค่มองไงครับ ไม่ได้บอกว่าชอบเสียหน่อย อยู่ๆ เอามาเบียดมันก็ต้องมองว่าอะไรเบียดแขนเราอยู่”
“งั้นคืนนี้มองให้เต็มตาห้ามหลบ ว่าอะไรเบียดโต๊ะอยู่”
“เอ๋!!”
ผมหันไปมองข้างทาง นี่มันไม่ใช่ทางไปหอผมนี่ครับ
“พี่เหนือ”
“หือ?”
“พี่เหนือต้องกลับบ้านนะครับ แม่พี่รู้เรื่องแล้ว ออกมาส่งผมแล้วหายมาแบบนี้ ไม่ได้นะครับ”
“เพราะแม่พี่รู้เรื่องแล้วไงถึงหายได้ ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวพี่ไลน์ไปบอกเองว่าจะค้างที่คอนโด”
“โต๊ะนอนพักไปก่อนเถอะ เดี๋ยวคืนนี้จะไม่ได้พัก”
“พี่เหนือ” ผมอุทาน อ่อนใจกับคนตัวโตที่ขับรถอยู่นี่จริงๆ
“พี่แค่เตือนไว้ก่อน ก็ขึ้นอยู่กับโต๊ะว่าจะหลบไหม ถ้าหลบมีซ้ำจนกว่าจะมอง”
“พี่เหนือ!!”
“เอาน่า รับรองว่าพรุ่งนี้ไปเรียนไหว”
ผมที่เพิ่งผ่านวัน(เกือบ)สิ้นโลกมา ถึงกับลอบถอนใจเบาๆ
หวังว่าโลกใหม่ ฟ้าจะไม่ใช่สีเหลืองนะครับ
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>TBC<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<
ลงอีกทีวันเสาร์นะคะ สำหรับ fc พี่ทัชกับเดซี่ ^^
Darin ♥ FANPAGE