Play รักเล่น เล่นรัก (3P) : Chapter 21 : อ้อนหน่อยนะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Play รักเล่น เล่นรัก (3P) : Chapter 21 : อ้อนหน่อยนะ  (อ่าน 51617 ครั้ง)

ออฟไลน์ autopilot

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 67
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
นิทานนนนน โดนกินเรียบบบบ  :hao7:

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
รามิลน่ารักดี แต่เป็นคนที่มีความคิดโคตรแปลกแล้วก็แอบน่ากลัวด้วย 55555
คราวหน้าพร้อมกัน2คนนิทานจะไหวเหรอออออ :hao5:

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
นิทาน เอ้ยยยย หนีไม่รอดแล้วลูก

สงสารนางนะ แต่ก็แอบฟิน เหอ ๆ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ความรู้สึกสับสน ทั้งราวกับตกนรก กับ ราวกับขึ้นสวรรค์
นิทานได้สัมผัสกับตัวเอง
แต่คงหลีกหนีไปจากไอศูรย์ กับรามิลไม่ได้
รอ  :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
 :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
สงสัยต้องโดนขู่เรื่อยไป นิทานจะทำยังไงนะ

ออฟไลน์ nightsza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-1
ไม่น่ารอด

ออฟไลน์ targetsii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ใช้อำนาจเมียข่มบ้างเลยค่ะนิทาน  :katai3:

ออฟไลน์ angel_Z4

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
สู้ๆนะนิทาน สู้ๆนะคะคนเขียน เราขอตัวไปร้องไห้แป๊บ อะเฮือก :hao5:

ออฟไลน์ Akikoneko17

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-2
12

ไม่จบ

 

                นิทานหวาดกลัวกับคำกล่าวของรามิลและไอศูรย์ เขาก้มหน้า คิดไม่ตกกับเรื่องที่เกิดขึ้น เขาควรจะทำยังไง

                “ฉัน ฉันอยากกลับบ้านเดี๋ยวนี้”

                ในที่สุดเขาก็กล้าพูดออกไปจนได้

                “พวกเราคิดว่าคุณควรจะนอนพักอีกสักนิด”ไอศูรย์กล่าว

                “ฉันจะกลับ”

                ถ้าเขายังอยู่ที่นี่นานกว่านี้ สติของเขาคงได้เลือนหายไป เขาคงจะฟุ้งซ่านจนไม่รู้จะทำอย่างไรกับชีวิตตัวเอง เขาจะต้องรีบออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด เขาต้องหาวิธีพาทั้งสองคนให้หลุดไปจากที่นี่ให้ได้

                “ถ้าท่านประธานยอมพักผ่อน พวกเราจะไปส่งท่านประธานแน่นอนครับ”

                “ฉันอยากเข้าห้องน้ำ”

                นิทานคิดว่าเขาต้องหาลงจากเตียงนี้ให้ได้ อย่างน้อยก็ไปให้ไกลจากเตียง แล้วค่อยคิดต่อว่าควรจะทำอย่างไร

                “ได้สิครับ เดี๋ยวผมพาไป”ไอศูรย์เสนอตัว

                ชายหนุ่มประคองประธานบริษัทตัวเล็กให้เดินไปยังห้องน้ำ นิทานมองซ้ายมองขวา เขาต้องหาวิธีที่จะหนีไปให้ได้ กายเล็กโดนจับประคองมาถึงห้องน้ำ

                “อ๊ะ”

                คัตเตอร์ตัดกระดาษที่อยู่ไม่ไกลจากมือ  ถูกนิทานพุ่งเข้าไปหยิบหลังจากที่เขาผลักไอศูรย์                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                       

เขารีบดันใบมีดให้มันเลยออกมาจากตัวพลาสติก ชายหนุ่มยื่นคัตเตอร์ไปตรงหน้าราวกับต้องการขู่ให้ทั้งรามิลและไอศูรย์ได้หวาดกลัว ดวงตาคู่สวยจ้องมองทั้งคู่ด้วยสายตาที่ชิงชัง

คงไม่มีผู้ชายคนไหนชอบให้ผู้ชายมาข่มขืนตัวเอง….

“พาฉันกลับบ้านเดี๋ยวนี้”

“ท่านประธานคิดจะใช้คัตเตอร์แทงพวกเราเหรอครับ”

รามิลยังคงอารมณ์ดี เขาเดินเข้ามาใกล้นิทาน ท่านประธานตัวน้อยได้แต่หน้าซีด แล้วกลั้นใจตอบไปอย่างกล้าๆกลัวๆ

“ใช่!”

“งั้นคัตเตอร์แค่นั้น ก็คงสู้สิ่งนี้ไม่ได้”

ในมือของไอศูรย์มีมีดเล่มใหญ่อยู่ เดาได้ว่าเขาน่าจะไปหยิบมาจากในครัวระหว่างที่นิทานกำลังขู่ราวกับเป็นลูกแมวตัวน้อยขนฟูฟ่องเพราะกลัวเสือตัวใหญ่ทั้งสอง

“ไม่ต้องกลัวขนาดนั้นหรอกครับ ผมไม่คิดจะใช้มันทำร้ายคุณ เพราะผมไม่ใช่ฆาตกรโรคจิต”

ถึงจะบอกแบบนั้น แต่ใบหน้าที่นิ่งเฉยของไอศูรย์ก็ทำให้นิทานหวาดกลัวอยู่ลึกๆ เขามีแค่คัตเตอร์อันเล็ก จะไปสู้มีดเล่มใหญ่และกำลังของผู้ชายตัวใหญ่ได้อย่างไร ความคิดตื้นๆที่จะให้คัตเตอร์ขู่ให้ทั้งสองปล่อยเขาไป มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสักนิด

“ฉันอยากกลับบ้าน ให้ฉันกลับเถอะ”

คนตัวเล็กหมดแรงจะสู้ เขาลดระดับคัตเตอร์ลง ดวงตาคู่สวยสั่นไหว เขาเหนื่อยล้าทั้งกายทั้งใจ ผู้ชายสองคนนี้หลอกลวงเขา เล่นกับความเชื่อใจกับเขา ทำเหมือนทุกอย่างเป็นเรื่องล้อเล่น แล้วจะให้เขาอยากอยู่ที่นี่อย่างนั้นหรือ ไม่รู้ว่าชีวิตจะต้องเจออะไรบ้าง นิทานไม่อยากจะเสี่ยงอีกแล้ว เขาอยากจะไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้เลย

“พวกเราบอกแล้วไงครับ ว่าท่านประธานนอนพักจนดีขึ้นแล้ว พวกเราจะพากลับ”

รามิลพยายามอธิบาย แต่ดูเหมือนนิทานไม่คิดจะฟังใดๆทั้งนั้น เขาคงจะสติแตก หากยังคงอยู่ที่นี่ต่อไป

                “ไม่! ฉันจะกลับเดี๋ยวนี้ ให้ฉันกลับเดี๋ยวนี้!”

                ไอศูรย์และรามิลมองหน้ากัน นิทานยังคงยืนกรานว่าจะกลับให้ได้ เขาไม่อยากจะฟุ้งซ่าน เขาไม่อยากเห็นหน้าของทั้งคู่ ไอศูรย์วางมีดลง แล้วอาศัยจังหวะที่นิทานกำลังคุยกับรามิล เขาแอบเข้าไปทางด้านหลัง แล้วจับล็อกเข้าที่ข้อมือเล็ก บิดข้อมือนั้นจนนิทานต้องปล่อยคัตเตอร์ให้หลุดร่วงลงพื้นห้อง ก่อนจะจับมือเล็กทั้งสองให้ไพ่หลัง

                “ปล่อยฉัน! ปล่อยนะ ปล่อย”

                พอได้ทานข้าว กำลังที่หายไปก็เริ่มจะกลับมา นิทานดิ้นสุดแรง แต่เขาก็สู้แรงของไอศูรย์ไม่ได้ ท่าทางที่ดิ้นทุรนทุรายราวกับโดนน้ำร้อนสาด ทำให้ไอศูรย์ตัดสินใจช้อนร่างเล็กอุ้มขึ้นในท่าเจ้าสาว เดินตรงไปที่เตียง

                “ปล่อยฉันนะ คนสารเลว ไอ้ชั่ว ฉันจะฆ่าพวกแกทุกคน ฉันจะไล่พวกนายออก”

                คนตัวเล็กดิ้นไม่หยุด ทั้งทุบ ทั้งตี ใบหน้าหล่อก้มต่ำลง เสียงทุ้มเข้มเปล่งออกเพียงแค่คำเดียว แต่ก็ทำให้นิทานหยุดชะงัก

                “เงียบ!”

                คนตัวเล็กสั่นระริกราวกับลูกหมาตกน้ำ ทั้งสายตาและน้ำเสียงของไอศูรย์ดูน่ากลัวไม่ต่างจากยักษ์มารที่ใจคอโหดร้าย อีกฝ่ายคงพร้อมจะกลายร่างเป็นฆาตกรได้ทุกเมื่อถ้าเขาไม่ยอมเชื่อฟัง

                “มามะ มานอนเถอะครับท่านประธาน”

                รามิลฉีกยิ้มหวาน แต่นิทานไม่ได้รู้สึกสบายใจ เพราะมันเหมือนยิ้มร้ายของพวกโรคจิตเสียมากกว่า เขาได้แต่กลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบาก หวาดหวั่นความปลอดภัยของตัวเองเหลือเกิน

                “ฉะ ฉันอยากกลับบ้าน”

                คราวนี้ได้แต่พูดเสียงแผ่วเบา ใจยังโหยหาที่จะออกไปจากที่นี่ ไอศูรย์วางร่างของท่านประธานตัวน้อยลงบนเตียงกว้าง แล้วค่อยๆผละออก ทั้งซ้ายและขวา ที่ทั้งไอศูรย์และรามิลขนาบข้าง เป็นดังกำแพงที่ขวางกั้นไม่ยอมให้เขาหลุดออกไปไหนได้ นิทานอยากจะร้องไห้โฮ

                “ให้ฉันกลับบ้านเถอะนะ”

                เมื่อไม้แข็งต่อต้านใช้ไม่ได้ นิทานก็พยายามฝืนบอกเสียงอ่อน ทั้งที่น้ำเสียงนั่นสั่นเครือด้วยความกลัว ฝ่ามือร้อนผ่าวของไอศูรย์ที่ลูบบนศีรษะของเขาทำให้นิทานสะดุ้งเล็กน้อยอย่างตกใจ

                “นอนพักนะครับท่านประธาน”

                ไอศูรย์ในตอนนี้ไม่ต่างกับเลขานุการคนดีที่ทำงานให้เขาอย่างตั้งใจ มองเขาด้วยสายตาที่เป็นมิตร พลางลูบศีรษะเขาอย่างอ่อนโยน แต่นิทานไม่ลืมเลือนว่าเมื่อครู่ที่ผ่านมา ชายหนุ่มได้แปลงเป็นปีศาจร้ายไปเสียแล้ว

                “ตื่นมาแล้วจะพากลับนะครับ”

                รามิลบอกอีกเสียงแล้วก้มลงจูบแก้มนิ่มอย่างแผ่วเบา แต่นิทานก็ไม่อาจจะลืมลิ้นอุ่นร้อนที่เลยลากเลียที่แก้มของเขาได้

                “แต่ว่า…ฉัน”

                อยากจะพูดสิ่งที่ต้องการออกไป แต่ทั้งไอศูรย์และรามิลก็จับจ้องเขาราวกับเตือนว่า ถ้าไม่อยากเดือดร้อนไปมากกว่านี้ ก็นอนพักเสียเถอะ นิทานจึงต้องจำใจปิดเปลือกตาลง ทั้งที่คิดว่าตัวเองน่าจะนอนไม่หลับ เพราะมีผู้ชายตัวใหญ่แถมเป็นคนร้ายโรคจิตนั่งคุมอยู่ แต่สุดท้ายนิทานก็เผลอหลับโดยไม่รู้ตัว

                เขาลืมตาตื่นนอนมาอีกที ก็เกือบจะห้าโมงเย็น นาฬิกาที่วางอยู่ไม่ไกลจากตัวเขานั้นได้บอกเวลาไว้ นิทานค่อยๆขยับกายลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง ไม่มีเงาของชายทั้งสอง เขาตัดสินใจค่อยๆก้าวลงจากเตียงอย่างเชื่องช้า ความเจ็บปวดและความเหนื่อยล้าของร่างกายหายไปมากพอสมควร ถ้าไม่ติดว่ายังคงระบมที่บาดแผลเพราะโดนรุกรานจากความใหญ่โตและแข็งขืนนั้น นิทานคงไม่ลำบากในตอนเดินขนาดนี้

                “ตื่นแล้วเหรอครับ”

                คนตัวเล็กสะดุ้ง เมื่อกำลังจะไปเปิดตู้เสื้อผ้า เขาพบรามิลที่เดินออกมาจากห้องน้ำ นิทานหน้าเสียไปทันที

                “นั่งลงก่อนสิครับ หมอนั่นออกไปซื้อบะหมี่เกี๊ยว ท่านประธานชอบไหมครับ เจ้านี้น่ะ อร่อยสุดยอดเลยนะครับ”

                คนตัวเล็กแปลกใจ ที่รามิลยังพูดกับเขาได้หน้าตาเฉย ทั้งที่อีกฝ่ายก็กล้าทำเรื่องเลวร้ายกับเขาถึงเพียงนั้น

                รามิลเข้ามาประคองนิทานให้นั่งลงบนเก้าอี้ แล้วหยิบแก้วมารินน้ำเปล่าให้

                “รู้สึกดีขึ้นบ้างไหมครับ”

                “อืม”

                เพราะอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก นิทานเลยไม่รู้ควรจะทำอย่างไร ชีวิตจริงไม่ใช่ละคร ที่นางเอกพอโดนข่มขืนแล้วจะได้จบแบบสมหวังกับพระเอก เขาเป็นผู้ชาย แถมยังโดนผู้ชายที่รู้จักและไว้ใจทำแบบนี้ นิทานก็ไม่รู้ว่าเขาควรจะจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นแบบไหน

                “ดื่มสิครับ”

                นิทานเริ่มมองอย่างหวาดระแวง จะไม่ให้เขาระแวงได้อย่างไร ในเมื่อผู้ชายตรงหน้าเขา ถึงจะมีรอยยิ้ม แต่ก็ดูอันตรายเหลือเกิน

                “กลัวว่าผมจะใส่ยาเหรอครับ ถึงใส่จริงๆ ก็ไม่มีอันตรายต่อชีวิตหรอกครับ”

                ท่าทีพูดเล่นทีพูดจริงที ไม่ได้ทำให้นิทานสบายใจ แถมยังจ้องหน้ารามิลตาเขม็ง รามิลหัวเราะเบาๆอย่างอารมณ์ดี ดันเก้าอี้แล้วหย่อนกายนั่งใกล้ๆกับนิทาน

                “ท่านประธานคงจะกระหายน้ำ ดื่มได้ครับ ปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์เลย”

                หากรามิลจะวางยาเขาจริงๆ คงไม่จำเป็นต้องใส่ลงในน้ำให้เขาดื่ม อีกฝ่ายคงจะจับกรอกเข้าปากเขาได้อย่างสบาย

                นิทานรู้สึกกระหายจึงยกแก้วน้ำขึ้นจิบอย่างระมัดระวัง รามิลได้แต่ยิ้มอย่างเอ็นดูกับท่าทางเด็กกลัวผู้ใหญ่

                “ฉันจะถามตามตรงนะ”

                ด้วยความที่อายุของเขาก็ไม่ใช่น้อยๆ อีกไม่นานก็จะเบญจเพส เขาไม่ใช่ผู้หญิง ที่จะได้เสียความบริสุทธิ์ ถึงแม้เขาจะโดนข่มขืน แต่เขาก็เป็นผู้ชายอยู่ดี

                “ท่าทางจริงจังนะครับ”

                รอยยิ้มสวยประดับบนใบหน้าหล่อ นิทานหงุดหงิดเล็กน้อย ที่เห็นแบบนั้น เพราะมันเหมือนว่าอีกฝ่ายไม่ค่อยให้ความสำคัญกับสิ่งที่เขาจะพูด

                “นายต้องการอะไร”

                “เอ๊ะ”

                “นายทำกับฉันแบบนี้พวกนายต้องการอะไร วางแผนอะไรไว้กันแน่”

                หลังจากที่คิดไตร่ตรองทุกอย่าง ที่พอคิดออกแล้ว นิทานก็ถามออกไปตามที่คิดทันที เขาไม่ต้องการอ้อมค้อม เขารู้สึกเสียใจและสิ้นหวังเรื่องที่โดนข่มขืนก็จริงอยู่ แต่ชีวิตเขาก็ต้องก้าวเดินต่อไป เพราะอย่างไรเสีย เรื่องทุกอย่างมันก็จบไปแล้ว เขาจะคิดเสียว่ามันเป็นแค่ฝันร้าย

                “ผมไม่เข้าใจที่ท่านประธานถาม”

                “ฉันถามว่าพวกนายข่มขืนฉันทำไม!”

                “แน่ใจเหรอครับ ว่าโดนข่มขืนจริงๆ”

                เสียงทุ้มที่นิทานคุ้นเคยดังขึ้นจากด้านหลัง ไอศูรย์กลับมาแล้ว นิทานเม้มปากแน่น หัวใจเขากำลังเต้นผิดจังหวะ

                “เรื่องนั้นช่างมันเถอะ ฉันคงคุยกับพวกนายไม่รู้เรื่อง”

                พอไอศูรย์กลับมา เขาก็เริ่มจะหมดแรง ลำพังรามิลที่ส่งยิ้มมาให้ตลอด ยังทำให้เขาพอทำใจสู้ได้ แต่ถ้าต้องต่อกรกับใบหน้าเย็นชาและท่าทางที่ดุดันเพิ่มด้วยอีกคน นิทานคงจะไม่ไหว

                “งั้นก็ทานบะหมี่ก่อนนะครับ”

                เขาได้แต่มองไอศูรย์ที่เดินไปเทบะหมี่เกี๊ยวใส่ถ้วย สำหรับคนสามคน กินหอมลอยมาแตะจมูก จนเรียกน้ำย่อยให้กระเพาะให้ทำงานอย่างรุนแรง

                “ให้ฉันกลับบ้าน”

                “กินก่อนนะครับ ผมรู้ว่าท่านประธานเองก็หิว”

                รามิลดูเหมือนจะรู้ทัน เพราะนิทานไม่ได้ทานอะไรมาหลายชั่วโมง แน่นอนว่าที่กินไปก่อนหน้านี้ คงจะย่อยไปหมดแล้ว ถึงแม้นิทานจะไม่อยากทานอาหารของทั้งคู่มากแค่ไหน แต่สายคมกริบทั้งสองที่มองมา ก็ทำให้คนตัวเล็กต้องจำใจหยิบช้อนขึ้นมาตักน้ำซุบเข้าปากอย่างไม่อาจจะปฏิเสธได้

 

-------+++++-------

 

      ไอศูรย์และรามิลขับรถมาส่งนิทานที่บ้านตามสัญญา โดยไอศูรย์เป็นคนขับรถ นิทานนั่งอยู่เบาะหลัง เหมือนเจ้านายที่มีเลขาที่แสนดีคอยดูแล แต่นิทานไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น เพราะเขารู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังถูกจับกุมเสียมากกว่า

                หลังจากที่เขาทานบะหมี่เกี๊ยวเสร็จ ทั้งคู่ก็ให้เขาอาบน้ำ และเปลี่ยนเสื้อผ้ากลับมาอยู่ในชุดเดิมที่ใส่ไว้เมื่อคืน ยังดีที่ทั้งสองไม่ได้ตามเขาเข้ามาในห้องน้ำ ทั้งคู่ทำเหมือนเขาเป็นเจ้านายที่ทั้งสองต้องให้ความเคารพ ทั้งที่เมื่อคืนที่ผ่านมา การกระทำที่แสนเลวร้ายเพิ่งเกิดขึ้น

                นิทานโทรบอกคนในบ้านแล้ว ว่าเขาจะกลับมาในช่วงหัวค่ำ รถยนต์หยุดจอดหลังจากที่ขับผ่านประตูรั้วที่เลื่อนเปิดให้ขับเข้ามา

                “เชิญครับ”

                รามิลเป็นคนลงจากรถเปิดประตูรถให้กับนิทาน ร่างเล็กลงมาจากรถ เขามองมารดาที่เดินออกมาหา

                “กลับมาแล้วเหรอลูก แม่เป็นห่วงมากเลย นึกว่าคืนนี้ลูกจะไม่กลับบ้านเสียแล้ว งานเยอะเหรอลูก”

นิสาเอ่ยขึ้น เธอเดินเข้ามาโอบกอดลูกชาย เพราะนิทานเป็นบุตรคนเล็ก ย่อมได้รับการประคบประหงมจากครอบครัว

นิทานไม่รู้ว่าตัวเองจะตอบอย่างไร เขาไม่ได้ทำงาน แถมยังนอนอยู่บนเตียงที่คอนโดของรามิลเสียทั้งวัน

“อ๊ะ นั่นเลขาลูกใช่ไหม”

เมื่อเห็นทั้งรามิลและไอศูรย์ยกมือไหว้เธอ นิสาก็รับไหว้ เธอส่งยิ้ม

“ขอบใจนะจ๊ะ ที่ช่วยดูแลนิทานเป็นอย่างดี”

“ครับ ท่านประธานเป็นคนเก่งและใจดีครับ พวกเราเลยพยายามทำงานอย่างเต็มที่เพื่อท่านประธาน”

คำตอบนั้นดีเยี่ยม นิทานได้แต่นึกขุ่นเคืองไอศูรย์ ที่ช่างโกหกหลอกลวงได้หน้าตาเฉย รามิลเองก็ยิ้มอย่างเป็นมิตร

“ตอนแรกที่แม่ได้ยินว่าจะมีเลขาสองคน แม่ก็ตกใจอยู่เหมือนกัน แต่พอเห็นแบบนี้แล้ว แม่คิดว่าลูกมีเลขาสองคนก็ดีนะจ๊ะ แม่อยากให้มีคนช่วยลูก ลูกจะได้ไม่เหนื่อยมาก”

หัวอกคนเป็นแม่ ย่อมอยากให้ลูกสามารถผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆไปได้ โดยที่ไม่ต้องเจ็บปวด นิทานได้แต่ยิ้มรับความหวังดี เขายังไม่อยากจะให้มารดารู้เรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับเขา นิทานไม่อาจจะแสดงท่าทางรังเกียจไอศูรย์และรามิลต่อหน้าทั้งคู่ได้ แม้ในใจอยากจะขับไล่เลขาทั้งสองให้ออกจากบ้านไปมากแค่ไหนก็ตาม

“จริงสิ เข้ามาดื่มน้ำในบ้านก่อนดีไหม”

นิสาชวนชายร่างสูงทั้งสอง รามิลและไอศูรย์มองหน้ากันเพียงเล็กน้อย ท่าทางของนิทานดูก็รู้ว่าคงจะอึดอัดใจ วันนี้พวกเขาสองคนคงจะรุกท่านประธานตัวน้อยมามากพอสมควร ไม่อยากจะให้นิทานสติแตกไปก่อน

“ไม่เป็นไรครับ นี่ก็มืดมากแล้ว พวกผมขอตัวกลับก่อนเลยแล้วกันนะครับ”

รามิลเอ่ยบอกพร้อมกับรอยยิ้ม ชายทั้งสองยกมือไหว้เพื่อร่ำลา นิทานแต่แอบพรูลมหายใจอย่างโล่งอก

“ลูกดูเหนื่อยๆนะ เข้าบ้านเถอะลูก”

พอเห็นรถยนต์นั้นเคลื่อนที่ออกจากรั้วบ้านไปแล้ว นิทานก็รีบหมุนกายเข้าบ้านทันที

…จบสิ้นกันเสียที…

นิทานขึ้นมาพักผ่อนบนห้องนอนของตัวเอง เขายังอยู่ในช่วงจิตตกเกินกว่าที่คิดจะดำเนินการใดๆทั้งสิ้น ถึงแม้ทั้งสองจะท้าทายเขาเกี่ยวกับเรื่องไล่ออก แต่นิทานก็ไม่คิดจะหยุดความปรารถนาของตัวเอง

เขาจะต้องไล่เจ้าพวกเลขาสารเลวนั่นให้ออกไปให้ได้

เพียงครู่เขาก็รู้สึกเจ็บแปลบที่หน้าอก คงเป็นเกิดจากความรู้สึกเสียใจและผิดหวัง เพราะเขาไม่คิดเลยว่าคนที่เขาไว้ใจจะทรยศเขาได้อย่างเลือดเย็นแบบนี้ ไม่ใช่ว่าเขาไม่เสียใจเรื่องที่ถูกกระทำทางเพศ เขาทั้งเสียใจและเจ็บใจ แต่เขาก็เป็นลูกผู้ชายมากพอที่จะไม่ฟูมฟายหรือเสียน้ำตา ของที่เสียแล้วก็เสียไป เขาเอาคืนมาไม่ได้ สิ่งที่ทำได้ คือต้องสู้ให้ชนะ

นิทานไม่คิดจะยอมให้เจ้าคนเลวสองคนนั่นได้เสนอหน้าที่บริษัทเขาอีก

“เฮ้อ”

เขาเอนกายนอนบนเตียง ครุ่นคิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น ถึงเขาจะผ่านเหตุการณ์เลวร้าย แต่เขาก็ไม่ได้ทิ้งหลักฐานใดๆ ไว้ ถ้าสองคนนั้นไปป่าวประกาศ แล้วเขายืนกรานว่าถูกใส่ร้าย นั่นก็จะถือว่ามันเป็นแค่คำโกหก ไม่ใช่ความจริง

นิทานคลี่ยิ้มกับความคิดของตัวเอง

ครืด…

โทรศัพท์ของเขาสั่น นิทานหยิบขึ้นมาดู ในอีเมลล์ส่วนตัวของเขามีอีเมลล์ส่งเข้ามาหนึ่งฉบับ ตอนแรกเขาตั้งใจว่าจะไม่เปิดอ่าน แต่ก็กลัวว่าจะเป็นธุระสำคัญเกี่ยวกับงานของบริษัท ชายหนุ่มจึงเปิดดูทั้งที่ทั้งกายทั้งใจเหนื่อยล้าเต็มทน

“!!!”

ดวงตากลมเบิกกว้างอย่างตกใจ เมื่อเปิดเห็นไฟล์ภาพ แม้เพียงแค่สองภาพที่ส่งมา ถึงแม้จะไม่เห็นหน้าตาของบุคคลในภาพ แต่จากรูปร่างและเสื้อผ้าที่สวมใส่นั้น มันคือชุดเดียวกับที่เขาใส่ในตอนนี้

…หรือก็คือชุดเดียวกันกับคืนที่เกิดเรื่องเลวร้ายที่สุดในชีวิตของเขา…

ใจของนิทานเต้นแรงรัว จากมุมภาพ คงไม่ได้ถ่ายระยะใกล้แบบประชิดตัว แต่มันก็ชัดมากพอ ที่ถ้าสามารถเพิ่มเติมภาพขึ้นไป จนทำให้เห็นว่าเป็นใบหน้าของเขา

ร่างกายของเย็นวาบ ถ้าจำไม่ผิด จากในรูปน่าจะเป็นตอนที่เขาโดนไอศูรย์จับเอาไว้ก่อนที่จะรู้ความจริงว่าคนร้ายจริงๆแล้วคือเลขาแสนดีของเขาทั้งสองคน

ไม่จริง…ทำไมมีภาพนี้

                พอเลื่อนดูอีกภาพ ดวงตาของนิทานก็ร้อนผ่าว ร่างกายของผู้ชายตัวเล็กเปล่าเปลือย และกำลังอยู่ในท่าคลานเข่า  แม้ไม่เห็นใบหน้าที่ชัดเจน แต่สถานที่นั้น แน่นอนว่าคือห้องทำงานของเขา และคือตัวเขาเองที่อยู่ในภาพ

                ความอ่อนแอที่เก็บซ่อนไว้ใต้กำแพงที่พยายามสร้างพังทลายในที่สุด น้ำตาไหลรินออกจากดวงตาคู่สวยไหลลงแก้มนิ่ม ปากของเขาสั่นระริก เสียงสั่นเครือในลำคอ ยกมือขยุ้มเสื้อของตัวเอง

                “ไม่จริง ไม่จริง”

                จะมีภาพพวกนี้ได้ยังไง ในเมื่อทั้งไอศูรย์และรามิลไม่ได้ตั้งกล้องถ่ายเขาเอาไว้ มันหมายความว่ายังไงกันแน่

                ความร้อนใจทำให้นิทานไม่อาจจะทนรอโชคชะตากลั่นแกล้งต่อไปได้ เขาต้องรู้ว่าใครเป็นคนทำ เขาต้องรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น

                นิทานรีบกดโทรหารามิลทันที ในขณะที่ไอศูรย์กำลังขับรถ และรามิลกำลังระบายยิ้มแห่งความสุข เขากดรับโทรศัพท์อย่างใจเย็น

                “นายรู้เรื่องรูปที่ส่งมาในเมลล์ฉันหรือเปล่า เป็นฝีพวกนายใช่ไหม!”

                [ครับ ท่านประธานรู้ได้ยังไง]

                นิทานตัวสั่น หายใจไม่ออกในขณะที่กำลังนั่งกุมขมับอยู่ปลายเตียง เหงื่อไหลซึมเต็มใบหน้า

                “นายโกหกฉัน นายบอกว่าจะไม่ถ่ายฉันไง แล้วรูปพวกนั้นมันมาได้ยังไง”

                [ผมก็ไม่ได้เอามาจากกล้องที่จะถ่ายท่านประธานเสียหน่อย]

                รามิลตอบหน้าตาย ใบหน้ายิ้มแย้ม ไอศูรย์ระบายยิ้มตาม

                “มันหมายความว่ายังไง!!!”

                [มันเป็นรูปจากกล้องวงจรปิดน่ะครับ เผื่อท่านประธานอยากได้ ผมเลยส่งให้ แต่ถ้าท่านประธานอยากได้เป็นคลิป ผมก็ส่งให้ได้นะครับ ถือว่าเป็นประสบการณ์…ของพวกเราสามคน]

                สิ้นเสียงรามิล   นิทานก็เหมือนกับคนหูอื้อ น้ำตาไหลไม่หยุด หัวใจเขาเหมือนหยุดเต้น ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น สมองเหมือนว่าคิดอะไรไม่ออกอีกแล้ว นอกจากคำว่า จะทำอย่างไรดี เขาจะทำยังไง

                “พวกนายมันชั่วที่สุด พวกนายส่งรูปพวกนั้นให้ฉันได้ยังไง สารเลว เลวที่สุด”

                นิทานด่าเสียงสั่น เขายกมือเช็ดน้ำตา แต่รามิลกับหัวเราะเบาๆในลำคอ

                [ผมว่าท่านประธานน่าจะดีใจมากกว่านะครับ ที่มีผมเป็นคนส่งไป เพราะถ้าเป็นคนอื่นส่ง อาจจะเรื่องใหญ่โตมากกว่านี้ก็ได้ ยังไงซะ มันก็คือความลับระหว่างเราสามคนอยู่แล้ว…หรือว่าท่านประธานอยากให้คนอื่นรู้ด้วยครับ]

                “ไม่!!! ไม่ได้นะ ไม่ได้ นายจะทำแบบนั้นไม่ได้”

                เขาปล่อยโฮออกมาอย่างหวาดกลัว เขาจะให้ใครรู้เรื่องนี้ไม่ได้ นิทานยกมือปิดหน้าตัวเอง ทำไมเขาต้องมาพบเจอกับคนเลวๆแบบนี้ด้วย

                “พวกนายต้องการอะไร ก็บอกมาสิ ต้องการอะไรก็บอกมา เงินเหรอ หรือว่าอะไร ตำแหน่งงั้นเหรอ อะไรล่ะ บอกมาสิ! แต่อย่าทำกับฉันแบบนี้”

                [เปล่านี่ครับ]

                “หมายความว่ายังไง”

                [พวกเราก็แค่หวังว่าจากนี้ท่านประธานคงไม่ไล่พวกเราออก]

                ไม่…ยังไงนิทานก็ไม่อาจจะโง่พอเก็บคนเลวไว้ข้างตัว เขาไม่อาจจะเชื่อใจคนพวกนี้ได้อีกต่อไปแล้ว

                “ฉันขอร้องล่ะ เลิกยุ่งกับฉันเถอะ ถ้าพวกนายอยากได้เงิน ฉันจะให้ แต่ฉันให้นายทำงานกับฉันอีกไม่ได้ ฉันอยากให้พวกเราจบกันแค่นี้ ฉันจะไม่เอาเรื่องพวกนาย แต่พวกนายต้องลบคลิป และภาพทุกอย่างทิ้งให้หมด นะ…ฉันขอร้อง”

                นิทานพยายามกลั่นกรองคำพูด พร้อมกับคิดอย่างหนักอึ้งเมื่อกล่าวออกไป ในขณะที่รามิลยิ้มอ่อนโยน แต่ดวงตากลับฉายแววร้ายกาจอย่างเต็มที่

                [ขอโทษจริงๆนะครับประธาน แต่ผมกับไอศูรย์ไม่ได้ต้องการของพวกนั้นเลย]

                “แล้วพวกนายต้องการอะไร!”

นิทานถามกลับไปอย่างรวดเร็วและเสียงดัง ไอศูรย์และรามิลมองหน้ากัน ก่อนที่ทั้งคู่จะพูดออกมาพร้อมกันจนนิทานได้ยิน กับประโยคที่ว่า…

                [ต้องการคุณ]

 

 

 

 100%



รู้สึกสงสารนิทาน

แต่เรื่องราวยังต้องดำเนินต่อไป สู้ๆ กับเลขาทั้งสอง



ฝากเพจด้วยจ้า https://www.facebook.com/akikoneko17fiction/

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Play รักเล่น เล่นรัก (3P) : chapter 12 ไม่จบ
« ตอบ #99 เมื่อ: 18-07-2016 19:09:10 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
เรียกว่าไม่มีทางเลือกมากกว่านะนิทาน
ตอนนี้ก็รู้แล้วว่าใครเป็นคนกุมความลับของทั้งสามคนเอาไว้
ก็ใช่ทั้งสามคนแต่มันก้อดีที่มีแค่นี้อะนะท่านประธาน
นิทานสู้ๆสยบเสือสิงห์สองตัวให้จบได้นะ. เขาต้องการอะไรก้อตามใจไปก่อน  :hao6:

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
อ่านแล้วโมโหแทนนิทานจริงๆ  :ling1:

นิทานจะต้องหาวิธีการล้างแค้น2คนนั่นิน่างสาสม!! :katai1:

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
นิทานน่าสงสาร :hao5:

ออฟไลน์ oiruop

  • เ รื่ อ ง โ ง่ โ ง่ นี่ ฉ ล า ด นั ก ⊙﹏⊙∥
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 490
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
    • https://www.facebook.com/book.yaoi?fref=ts
 :call: :call: :call: :call: :call:

ออฟไลน์ puchi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 762
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-5
หลุดขำตอนที่เอามีดอันใหญ่มาขู่คัตเตอร์อันเล็ก 5555

เหมือนเด็กอยากเอาชนะเลย ประมาณว่ามีดเค้าใหญ่กว่านะ ^____^

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
ที่นิทานไม่แจ้งความ เพราะว่า นิทสนก็ชอบทั้งสองคนนี้อยู่ใช่มั้ย 5555

ออฟไลน์ Lemon_Tea

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
โดนคุกคามตลอด

ออฟไลน์ angel_Z4

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
นะจ้ะ... :mew5: :hao5:

ออฟไลน์ Jessiebier

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 357
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
 :3125:ท่านประธาน เฮ้!

ออฟไลน์ Paparazzi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1050
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-11
สงสารท่านประธาน อยากจิร้องไห้  :hao5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Play รักเล่น เล่นรัก (3P) : chapter 12 ไม่จบ
« ตอบ #109 เมื่อ: 19-07-2016 19:21:36 »





ออฟไลน์ sanri

  • เวลาไม่ใช่ตัวพิสูจน์ทุกสิ่งเสมอไป
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-9
 :sad11: โธ่ๆ แกล้งนิทานมากๆเข้า ระวังจะเตลิดไปไกลเน้อคุณท่านทั้งสอง

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:สงสารนิทาน
แล้วเรื่องจะเป็นแบบไหนต่อละหรือนิทานจะยอมๆไปแกล้งให้ทั้งสองคนรักแล้วหักอกซะเลยเลวดีนัก :ling1: :ling1: :ling1: :ling3:

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
 :katai1:

ต้องสตรองค่ะนิทาน รอเวลาเอาคืน

ออฟไลน์ noozzz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
เครียดดดดด

ออฟไลน์ Akikoneko17

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-2
13

เล่นสนุก

 

            ในเวลานี้ นิทานไม่ต่างกับคนสติแตก เขาหวาดระแวงที่จะต้องออกไปข้างนอก ชายหนุ่มนอนคิดมากอยู่บนเตียง นาฬิกาปลุกบอกเวลาให้เขาไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว แต่เจ้าตัวยังไม่ยอมลุกขึ้นมา

                …เขาจะทำยังไงดี…

                เมื่อคืนเขาร้องไห้จนเผลอหลับไป พอเข้าไปในห้องน้ำ ถึงได้เห็นว่าหน้าตาตัวเองช่างโทรมจนไม่น่ามอง วันนี้เขาคงไม่มีหน้าไปทำงานด้วยสภาพแบบนี้ เขาไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้น ชีวิตของเขาเหมือนกำลังตกอยู่ในความมืด จะมองไปทางไหนก็ไม่เห็นทางออกสักทาง

                ก๊อกๆๆ

                เขาหันไปมองประตู เสียงของแม่บ้านขึ้นมาตามให้เขาไปทานมื้อเช้า นิทานมองตัวเองที่หน้ากระจกห้องแต่งตัว หลังจากที่เขาอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว ใบหน้าของเขาอิดโรย ใต้ตาก็ดำคล้ำอย่างคนอดนอน

                “เดี๋ยวผมลงไปครับ”

                เมื่อเติบโตขึ้นย่อมมีหน้าที่เป็นของตัวเอง เขาไม่ใช่เด็กแล้วที่จะได้เอาแต่ใจ พอไม่สบายจะได้ไม่ต้องไปโรงเรียน อีกไม่นานเขาก็อายุยี่สิบห้าปี แค่อดนอนคืนเดียว ไม่ถึงกับตาย แต่เพราะร้องไห้ไปด้วย ดวงตาของเขาถึงได้บวมช้ำ

                “นิทาน เป็นอะไรหรือเปล่า”

                นิทัชพี่ชายของเขารีบเข้ามาดูน้องชายทันทีเมื่อเห็นน้องชายเดินเข้ามาในห้องอาหาร เพราะนิทานเป็นน้องเล็กของบ้านได้รับการดูแลเป็นอย่างดีมาโดยตลอด นิธาเองก็ตกใจที่น้องชายตัวเล็กของเธอมีสีหน้าที่อิดโรยแบบนั้น

                “พานิทานไปหาหมอดีไหมคะคุณแม่”

                “นั่นสิครับ ผมว่ารีบพาน้องไปตอนนี้เลย เดี๋ยวผมอุ้มไป”

                ทั้งที่พี่สาวและพี่ชายต่างกังวลจนเกินเหตุในสายตาของนิทาน เขาถูกอุ้มในท่าเจ้าสาวเพื่อจะตรงไปขึ้นรถไปหาหมอ แต่มือเล็กของนิทานก็กระชากเสื้อของพี่ชายเพื่อเตือนสติ

                “พี่นิทัช  พอได้แล้วผมไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่เลยนะ แค่นอนไม่ค่อยหลับเท่านั้นเอง”

                “ไม่ได้นะ อาจจะเป็นอาการของโรคร้ายแรงเบื้องต้นก็ได้”

                พี่สาวคนสวยยังห่วงน้องชายไม่เสื่อมคลาย นิทานลอบถอนหายใจ เขาไม่รู้จะสรรหาคำโกหกใดมาให้กับพี่ๆทั้งสอง

                “ผมแค่นอนดูหนังดึกไปหน่อยก็เท่านั้นเองครับ แล้วหนังมันก็ซึ้งมาก จนเผลอร้องไห้ ก็เลยมีสภาพแบบนี้”

                นี่คงเป็นคำโกหก ที่นิทานไม่รู้จะเลือกอะไรมาตอบ พี่สาวและพี่ชายมองหน้ากัน แต่ถึงกระนั้นก็ยังคงเต็มไปด้วยความกังวลและเป็นห่วงน้องชายจนสุดหัวใจ อยากจะพาไปหาหมออยู่ดี

                “ปล่อยผมลงเดี๋ยวนี้เลยนะครับ ผมหิวข้าวจะแย่ เดี๋ยวผมเป็นโรคกระเพาะนะ ถ้าไม่ได้กินข้าว”

                แม้จะรู้สึกผิดที่ต้องยกเรื่องโรคภัยมาให้พี่ๆ ได้ยอมปล่อยตัว แต่ก็คงดีกว่าโดนซักไซ้จนเขาไม่รู้จะตอบคำถามนั้นอย่างไรดี

                นิธาและนิทัชมองตามน้องชายที่เดินกลับไปในห้องอาหาร พวกเขาได้แต่หันมามองหน้ากัน แม้จะเป็นห่วงน้องชายยังไง แต่เมื่อน้องชายบอกว่าไม่เป็นไร ก็ไม่อยากจะเซ้าซี้มากนัก

                “แม่ว่านิทานสีหน้าไม่ค่อยดีเลยนะลูก ถ้าไม่ไหวก็นอนพักไม่ต้องไปทำงานก็ได้นะ”

                คนเป็นแม่ได้แต่เป็นห่วง ทั้งพี่ชายและพี่สาวเองก็พยักหน้าเป็นเชิงเห็นด้วย ถึงน้องชายของพวกเขาจะได้เป็นถึงประธานบริษัท แต่สุขภาพเป็นสิ่งสำคัญ

                “เอ่อ ไม่เป็นไรหรอกครับ เดี๋ยวตอนพัก ผมงีบหลับในห้องก็ได้”

                เขาพยายามโน้มน้าวมารดาและพี่ทั้งสองคน นิทานหันไปมองธานินทร์ผู้เป็นบิดา

                “พ่อว่าตามใจนิทานเถอะนะ นิทานก็โตแล้ว เอาตามที่น้องอยากทำดีกว่า”

                “ขอบคุณครับพ่อ”

                เพราะอยากจะเติบโตให้มากกว่านี้ อยากจะเข้มแข็งและดูแลตัวเองได้เหมือนพี่ชายและพี่สาว นิทานจึงไม่อยากให้ทั้งมารดาและเหล่าพี่ๆเป็นกังวล

                “ถ้ามีปัญหาอะไรก็บอกพี่ได้เลยนะ”

                หลังจากทานมื้อเช้าเสร็จ นิทัชก็เข้ามาคุยกับน้องชาย พลางลูบศีรษะเล็กอย่างเป็นห่วงและรักใคร่ตามประสาพี่น้อง

                “ใช่ อย่าเก็บปัญหาไว้คนเดียว พี่รู้ว่าเราน่ะโตแล้ว แต่ว่าถ้าอะไรมันหนักมากเกินไป ก็บอกพวกพี่ได้เลย”นิสาเอ่ยเสริม

                นิทานรู้สึกซึ้งใจกับความรักที่พี่สาวและพี่ชายได้มอบให้ เขาเข้าไปโอบกอดหาไออุ่นจากทั้งสองคน ขอแค่เวลาเพียงครู่เพื่อพักกายพักใจ แล้วเขาจะเข้มแข็งเพื่อต่อสู้กับปัญหาที่ต้องเผชิญ

 

-------+++++-------

 

                นิทานเข้ามาทำงานในบริษัท เขาแทบจะหยุดหายใจเมื่อลิฟต์กำลังขึ้นไปยังชั้นที่มีห้องทำงานของเขาอยู่

                เขาต้องพบเจอ…กับคนที่ไม่อยากเจอ

                เขาอยากไล่พวกนั้นออก แต่ก็ทำไม่ได้…

                หากเขาสติแตกไปมากกว่านี้ เรื่องราวคงเลวร้ายจนไม่อาจจะย้อนคืนกลับมา ทั้งรามิลและไอศูรย์ต่างก็เป็นคนเก่งและฉลาดย่อมรู้ดีว่าเรื่องที่ทำนั้นเป็นสิ่งที่ผิด แต่ทำไมถึงยังทำ แล้วคำพูดที่ไม่อาจจะสลัดไปได้หลังจากที่ได้ยินในโทรศัพท์เมื่อคืนนั้น มันหมายความว่ายังไงกันแน่

                นิทานพยายามคิดในแง่ดี แต่คิดเท่าไหร่ เขาก็ไม่อาจจะคิดออกได้เลย เขาออกมาจากลิฟต์ ขาเรียวหยุดชะงักทันทีเมื่อเห็นไอศูรย์นั่งทำงานอยู่

                “สวัสดีครับ ท่านประธาน”

                เขายังคงทักทายนิทานเหมือนเป็นเรื่องปกติ นิทานเม้มปากแน่น เดินผ่านหน้าไอศูรย์ไปด้วยความรู้สึกที่อึดอัด

นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสักนิด เพราะความสัมพันธ์ระหว่างเขากับไอศูรย์และรามิลเกินเลยกว่าคำว่าเจ้านายและลูกน้องไปเสียแล้ว นิทานรีบเดินเข้าไปในห้อง แล้วก็ต้องพบกับตัวปัญหาอีกคนที่รออยู่ นั่นคือรามิล

“อรุณสวัสดิ์ครับท่านประธาน เช้าวันนี้อากาศดีจังเลยนะครับ”

นิทานไม่ได้สนว่าอากาศจะดีหรือไม่ดี เขาสนแค่ว่าตอนนี้เขาจะจัดการกับปัญหาของทั้งคู่ได้อย่างไร

ประตูห้องเปิดออกด้วยฝีมือของไอศูรย์ ตอนนี้เขากำลังโดนเลขานุการทั้งสองคนล้อมหน้าล้อมหลังจนไม่อาจจะเดินหนีไปไหนได้

“ฉันต้องการคุยกับพวกนายให้รู้เรื่อง”

ไม่ใช่เรื่องง่ายที่นิทานจะสะกดความเครียดและความกลัว เขาร้องไห้มามากเกินพอแล้ว ถึงเขาจะมีรูปร่างเหมือนเด็กตัวเล็กๆ แต่เขาก็โตพอที่จะเป็นผู้ใหญ่ เขาต้องไม่อ่อนแอ ทั้งหน้าที่การงาน ทั้งอายุ ทุกอย่างมันค้ำคอไปหมด

“ฉันมีข้อเสนอ”

พอได้ยินแบบนั้น ทั้งรามิลและไอศูรย์ต่างก็คลี่ยิ้มอย่างเอ็นดูกับท่าทางของมนุษย์ตัวเล็กที่พยายามต่อสู้อย่างสุดความสามารถ

“ฉันจะไม่ไล่พวกนายออกก็ได้ นายจะได้ทำงานในบริษัทนี้ ฉันจะขึ้นเงินเดือนให้พวกนายสองเท่า แต่พวกนายต้องทำงานในตำแหน่งอื่น”

นิทานพูดรัวเร็ว และไม่มองหน้าทั้งคู่ เขารับรู้ถึงสายตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนา นิทานไม่อยากจะจินตนาการถึงความต้องการของทั้งสองหนุ่ม

“ท่านประธานพูดเหมือนว่าพวกเราเป็นพวกเห็นแก่เงินเลยนะครับ”ไอศูรย์เอ่ย

“ได้ยินแบบนี้แล้วรู้สึกสงสารตัวเองจังเลย”

รามิลตีหน้าเศร้า แต่แววตากลับยิ้ม นิทานอึดอัด แล้วเงยหน้าเผชิญหน้ากับทั้งคู่เพื่อหาข้อตกลง

“พวกนายจะตกลงไหม”

“พวกผมไม่เคยบอกว่าต้องการแบบนั้น”รามิลคลี่ยิ้ม

“ถ้าจำไม่ผิด พวกเราบอกไปแล้วว่าต้องการอะไร”

“ฉันให้พวกนายไม่ได้ ฉันอยู่ใกล้ๆกับคนที่ทำเรื่องทุเรศแบบนั้นกับฉันไม่ได้ ยังไงฉันก็ต้องพยายามไล่พวกนายออกไปจากชีวิตของฉันให้ได้ ได้โปรดเถอะ อย่าทำร้ายกันไปมากกว่านี้เลย ฉันไปทำอะไรให้พวกนายไม่พอใจหรือไง ถึงได้มาทำเรื่องเลวร้ายกับฉันแบบนี้ ฉันเป็นผู้ชาย แต่ต้องมาเจอเรื่องบ้าๆแบบนี้ นายจะให้ฉันยอมรับพวกนายให้เป็นเลขาของฉันอีกอย่างนั้นเหรอ!”

นิทานพูดรัวเร็วจนทั้งคู่อึ้งไป เป็นไอศูรย์ที่คลี่ยิ้มออกมาก่อน

“เพราะคุณเป็นแบบนี้ พวกเราถึงไปจากคุณไม่ได้”

“อย่ากังวลเลยนะครับ พวกเราจะอยู่เคียงข้างคุณตลอดไป”

รามิลเข้ามาจับมือของนิทาน คนตัวเล็กได้แต่อึ้ง ไม่เข้าใจทั้งคู่ว่าคิดอะไร หรือว่าทั้งสองคนนี้ได้สติแตกไปแล้วกันแน่

“พวกนายบ้าไปแล้ว”

ชายหนุ่มส่ายหน้าไปมาอย่างไม่ยอมรับ รามิลหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วเดินไปเปิดโทรทัศน์ที่ต่อเข้ากับเครื่องเล่น นิทานตาโตเมื่อเห็นคลิปที่เปิด

“นี่มัน!”

คลิปวิดีโอที่นิทานมีเซ็กกับรามิลและไอศูรย์กำลังเปิดฉายให้เขาเห็นเต็มตา ทั้งคู่ยืนมองด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย ในขณะที่นิทานวิ่งเข้าไปถอดปลั๊กโทรทัศน์อย่างไม่ต้องใช้ความคิด รีบเปิดเครื่องเล่นหยิบแผ่นซีดีจากเครื่องออก แล้วหักทำลายมันจนไม่เหลือสภาพเดิม

“สารเลว พวกนายมันเลวเกินคน แล้วแบบนี้จะให้ฉันอยากให้พวกนายอยู่กับฉันงั้นเหรอ”

“ผมไม่สนหรอกว่าคุณจะคิดว่าผมเลวแค่ไหน แต่ในคลิปก็ชัดเจนแล้วว่านั่นคือคุณ”ไอศูรย์กล่าวเสียงเรียบ

“ผมเป็นคนทำคลิปนั้นเอง ในคลิปเห็นท่านประธานชัดเจน แต่กลับไม่เห็นหน้าพวกเรา เพราะผมเซ็นเซอร์เอาไว้แล้ว”

“เลว…เลวที่สุด ฉันไปทำอะไรให้พวกแก! ”

นิทานไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่า นอกจากคำเดิมๆที่เขาคิดไม่ออก รามิลขยับเข้ามาใกล้

“ท่านประธานเองก็ดูมีความสุขตอนที่มีอะไรกับพวกเรา คุณอย่าโกหกตัวเองเลย คุณก็รู้อยู่แก่ใจ”

เหมือนเป็นคำจี้จุด นิทานกำมือแน่น เขาได้แต่กัดปากตัวเอง สะกดกลั้นความอดสูนี้ นี่เขาจะไม่มีทางต่อสู้กับพวกคนเลวพวกนี้ได้เลยหรือไงกัน

“นอกจากคลิปในแผ่นซีดีแล้ว พวกนายสำรองไฟล์ไว้ที่ไหนอีก เอามาให้ฉันให้หมด!”

“พวกเราไม่ทิ้งของสำคัญแบบนั้นไว้ในที่อันตรายหรอกครับ”ไอศูรย์ยิ้ม

“เอาเป็นว่า คลิปพวกนั้น ไม่ได้อยู่ทั้งในคอมพิวเตอร์ทั้งที่นี่ และที่บ้าน”รามิลเหมือนพูดให้นิทานสบายใจ

“งั้นแสดงว่า ที่ฉันทำลายแผ่นซีดีนั่นทิ้ง ก็คือจะไม่เหลือคลิปเอาไว้อีกแล้วใช่ไหม”

คนตัวเล็กเริ่มคลี่ยิ้มอย่างมีความหวัง แต่เสียงหัวเราะของรามิลก็ทำลายความหวังของนิทานจนพังทลาย

“ไม่ครับ มันยังมีอยู่อีก”

นิทานเบิกตากว้าง สายตาแสดงให้เห็นถึงความกังวล เขาจ้องมองรามิลอย่างคาดคั้น

“อยู่ไหน บอกมาเดี๋ยวนี้นะ บอกมา!”

“อยู่นี่”

ไอศูรย์เป็นคนตอบ แล้วหยิบสร้อยคอออกมา มันเป็นล็อกเกตวงรี เมื่อแกะออกถึงได้เห็นว่ามีเมมโมรี่การ์ดอันเล็กแทรกอยู่และถูกล็อกเอาไว้ในล็อกเกต

“ผมเองก็มีครับ”

“นี่พวกนายบ้าไปแล้วเหรอ!”

“มันคงดูตลก ที่พวกผมทำแบบนี้ แต่เพราะมันเป็นของสำคัญสำหรับท่านประธานใช่ไหมล่ะครับ ถ้าปล่อยให้อยู่ที่อื่น ก็อาจจะโดนเอาไปเผยแพร่ได้ง่ายๆ”

รามิลอธิบาย นิทานพุ่งเข้าไปจะกระชากล็อกเกตของทั้งสองคน แต่ไอศูรย์ก็เข้ามาขวางไว้แล้วจับแขนทั้งสองของนิทานไพล่หลัง

“ปล่อยนะ!”

“ถ้าท่านประธานเอาไปโดยที่พวกเราไม่ยกให้ คลิปที่อยู่ในเมล์ของผมกับไอศูรย์จะเผยแพร่ส่งให้ทุกคนในบริษัททันที”

“แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่เลวร้ายหรอกนะครับ ถ้าท่านประธานได้รหัสเมลล์ของพวกเราไปได้ คุณก็เข้าไปลบได้ทันทีเลย”

“งั้นพวกนายก็เอารหัสมาให้ฉันสิ แล้วก็ทำลายการ์ดพวกนี้ด้วย”

“ถ้าให้ง่ายๆ ทุกอย่างมันก็จบสิครับ”

“เอาเป็นว่า ท่านประธานก็ทำให้พวกเราอยากยกให้ท่านประธาน ทั้งการ์ด ทั้งพาสเวิร์ด แค่นั้นน่าจะดีกว่านะครับ”

รามิลยิ้มหวาน นิทานได้แต่กำมือแน่น เหมือนว่าตัวเองกำลังโดนบีบให้จนมุม แต่เขาก็ไม่มีทางเลือก ถึงได้ล็อกเกตมาได้ แต่ก็มีไฟล์พวกนั้นในเมลล์ของทั้งคู่อยู่ดี

“ฉันยอมให้คลิปพวกนี้หลุดออกไปไม่ได้ ฉันยอมไม่ได้”

“งั้นพวกผมจะไม่อ้อมค้อม”ไอศูรย์กล่าวเสียงเรียบ

“พวกเราต้องการเป็นคนรักของท่านประธาน”

รามิลเป็นคนบอกความต้องการ นิทานอึ้งไป เขามองหน้าทั้งคู่

“ต้องทำขนาดนี้เลยหรือไง”

นิทานไม่เข้าใจเลยสักนิด ว่าทำไมทั้งสองถึงต้องทำเรื่องน่ากลัวแบบนั้นกับเขา แล้วยังมาขอให้เป็นคนรักอีกต่างหาก ไม่มีคนรักกันที่ไหนเขาทำกันแบบนี้อย่างแน่นอน

“แต่ละคนก็มีวิธีการที่แตกต่างกันครับ”ไอศูรย์อธิบาย

“พวกนายมันโรคจิต มีคนรักสองคน บ้าไปแล้ว แถมยังเป็นผู้ชายด้วย”

ทั้งคู่ยังไม่ตอบ ได้แต่ปล่อยให้นิทานเครียดจนต้องทรุดกายนั่งกุมขมับ

“คิดเสียว่ากำลังเล่นสนุกกับพวกเราก็ได้”       

รามิลเข้าไปจับไหล่ทั้งสองของนิทานจากด้านหลัง แล้วกระซิบบอกเสียงพร่า นิทานยังคงจมอยู่ในความคิด

“มาเล่นด้วยกันนะครับ รับรองว่าท่านประธานต้องมีความสุขจนลืมโลกอย่างแน่นอน”รามิลบอกซ้ำ

“พวกเราจะเอ็นดูท่านประธานอย่างเต็มที่...ได้โปรดวางใจ”

ไอศูรย์เคลื่อนกายเข้ามาใกล้จากด้านหน้าแล้วเอ่ยบอก นิทานรู้สึกขนลุกซู่ เมื่อลมหายใจของไอศูรย์เป่ารดที่แก้มซ้าย ในขณะที่ลมหายใจของรามิลเป่ารดที่แก้มขวา

…เขาไม่ได้รู้สึกถึงว่าตัวเองจะสนุกกับการเล่นในครั้งนี้เลยแม้แต่นิดเดียว….

 

-------+++++-----

 

เล่นสนุก…นิทานรู้สึกเกลียดคำนี้ขึ้นมาทันที เพราะนั่น ทำให้เขาอยู่ในสภาพที่เหมือนกลายเป็นของเล่นให้เลขาทั้งสองได้สนุกเสียมากกว่า

“อ่า…นี่ครับ สินค้าตัวใหม่ที่ออกแบบมา”

คนตัวเล็กกำลังนั่งฟังการเสนอแบบสินค้าที่จะทำการผลิต พร้อมกับสินค้าที่ทำทดลองขึ้นมาเป็นตัวอย่าง ข้างๆกายเขาคือไอศูรย์ที่ยืนนิ่งอยู่ด้านหลัง เหมือนคอยสังเกตและควบคุมทุกอย่างให้อยู่ในสายตา

หากมองจากคนภายนอก คงคิดว่าดีไม่น้อยเลยทีเดียวที่มีเลขานุการเอาการเอางานเช่นนี้ แต่สำหรับนิทานนั้นไม่ใช่เลยสักนิด

“แล้วเลขาของท่านประธานอีกคนไปไหนล่ะครับ”

หัวหน้าที่ดูแลฝ่ายผลิตได้เข้ามาดูการนำเสนอในครั้งนี้ด้วย แต่นั่งอยู่ในมุมที่ห่างออกไป โต๊ะที่นิทานนั่งอยู่มีการปิดกั้นจากด้านหน้า ทำให้ไม่เห็นเลยว่าระหว่างช่วงขาของชายหนุ่ม มีร่างสูงใหญ่ของรามิลแทรกอยู่

…ร่างกายของเขาต่างหากที่กำลังโดนเล่นไม่ต่างจากของเล่นเลยสักนิดเดียว…

“อึก”

คนตัวเล็กสะดุ้ง เมื่อฝ่ามือร้อนเริ่มเคลื่อนสัมผัสไปตามเนื้อผ้า ไล่ขึ้นไปที่ต้นขาเล็ก ไอศูรย์ยังคงยืนนิ่ง ทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่เขาแอบเหลือบตามองเป็นระยะ และรอดูอาการของท่านประธานตัวน้อยว่าจะเป็นอย่างไร

“ท่านประธานคิดว่าอย่างไรบ้างครับ”

นิทานไม่ได้ฟังที่หัวหน้าฝ่ายผลิตถามสักนิด เขากำลังเหงื่อตก เพราะมือของรามิลเริ่มจะป้วนเปี้ยนไล่ขึ้นมาเรื่อยๆ จนนิทานหวั่นใจ

“ท่านประธานครับ”

ไอศูรย์ก้มลงมากระซิบ นิทานถึงได้รู้ตัว เขารีบจับมือรามิลให้หยุดคุกคามเขา ไอศูรย์คลี่ยิ้มให้กับหัวหน้าฝ่ายผลิต

“ท่านประธานคิดว่ายังไงครับ”

นิทานพยายามรวบรวมสมาธิ แต่เขาเองก็ไม่ค่อยถนัดพวกเรื่องของเล่นให้เด็กเสียด้วยถึงจะพยายามยังไง แต่ก็เหมือนรสนิยมและความคิดเขาอาจจะไม่เหมาะกับเรื่องพวกนี้

“ผมว่ามันก็ดีแล้วนะครับ”

เขาตอบเสียงไม่ดังมากนัก เพราะไม่ค่อยมั่นใจว่ามันดีจริงหรือเปล่า

“ท่านประธานคิดว่าเราน่าจะเปลี่ยนวัสดุบางส่วนให้สินค้าแข็งแรงและปลอดภัยมากขึ้นครับ”

ไอศูรย์ช่วยเอ่ยเสริม รามิลยกนิ้วโป้งให้กับเพื่อนร่วมงานตัวสูงเป็นเชิงชื่นชม นิทานเงยหน้ามองชายหนุ่ม อย่างน้อยภายใต้ความสนุกนั้น ก็ยังตั้งใจทำงานและช่วยเหลือเขาอย่างเต็มที่ในด้านการงาน

แต่เพียงครู่ดวงตากลมก็ต้องเบิกกว้าง เมื่อไอศูรย์เข้ามาแนบชิดจากด้านหลัง และรามิลก็รุกเข้ามาจากข้างล่างเช่นกัน ก่อนที่เสียงกระซิบของไอศูรย์จะทำให้นิทานใจเต้นรัว

“ถ้าได้ปลดปล่อยเวลาทำงาน อาจจะทำให้ท่านประธานได้สบายตัวมากขึ้นนะครับ”

 เอ่ยจบ เจ้าตัวก็ผละกายออกห่าง นิทานนั่งนิ่งตัวสั่นน้อยๆ เพราะเริ่มรู้ชะตากรรมต่อไป กังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้นใต้โต๊ะในระหว่างที่เขาประชุมงานเรื่องสินค้าตัวใหม่ในวันนี้ ถึงจะมีพนักงานไม่กี่คนที่มาอยู่ในห้อง แต่มันก็มากพอที่จะทำให้คนตัวเล็กตื่นเต้นจนหัวใจแทบจะระเบิดออกมาจากอก

…จะหนีก็ไม่ได้ ถ้าทำตัวผิดปกติก็ต้องมีคนสงสัย…แล้วเขาจะทำอย่างไรดี…

               

                   100%

ขอแจ้งข่าวเรื่องรวมเล่มนะคะ

นิยายเรื่องนี้ มีกำหนดการจะรวมเล่ม ประมาณกลางเดือน สิงหาคมค่ะ

ราคาหนังสือประมาณ 350 -390 ไม่รวมส่ง รายละเอียดจะมาแจ้งอีกทีเมื่อใกล้เปิดพรีค่ะ



ขอบคุณทุกการติดตาม ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ https://www.facebook.com/akikoneko17fiction/

                                                                               

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

     

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
ใจร้ายอ่าาาาา หวังว่านิทานจะไม่คิดมากจนคิดสั้น

ออฟไลน์ aommama

  • เป็ดมึน คนเซอร์
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-5
น่าสงสารอะ พวกนี้เล่นอะไรกัน

ออฟไลน์ puchi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 762
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-5
 :serius2: :serius2:

แล้วจะรักกันลงได้ยังไงเนี่ยยยยยย ทำกันเป็นของเล่นแบบนี้

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
ขัดใจนิทานอ่า การสมยอมไม่ใช่วิธีการที่ดีเลย

ทั้งๆที่มีครอบครัวค่อยช่วยเหลืออยู่ ก็น่าจะบอกที่บ้าน

งานนี้เราไม่เชียร์พระเอกนะ :katai1:

ออฟไลน์ buathongfin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1251
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
อื้อหือ ที่ประชุม!  :katai1: ผ่านไปได้ด้วยดีนะนิทานนะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด