METAL TERMINAL พยัคฆ์คว่ำกวาง , [หนังสือมาแล้วค่าา] 5 ต.ค. 60 {สนพ.Hermit} **จบแล้ว
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: METAL TERMINAL พยัคฆ์คว่ำกวาง , [หนังสือมาแล้วค่าา] 5 ต.ค. 60 {สนพ.Hermit} **จบแล้ว  (อ่าน 193853 ครั้ง)

ออฟไลน์ P.PIM

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
โคตรเสี่ยวเลยโว้ยยยยยยยยย  :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
จะตายเพราะเบาหวานสักวัน

ออฟไลน์ ohho99

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-1
แวะมาอ่านนิยายใหม่ ฮา+ชอบมากค่ะ
เสี่ยหาญคงเริ่มหลงรักความซาดิสของโซดาแล้ว
ว่าแต่เสี่ยชานนี่เพิ่มค่าตัวให้อีกหน่อยได้ไหมคะ บทน้อยจัง
ท่าทางแกจะมาเพิ่มความฮาให้กับเรื่องนี้ได้อีกเยอะ 555

+1 กดเป็ดให้กำลังใจคนเขียนค่ะ ^^

ออฟไลน์ Infinity 888

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-7
เก็บใส่ลิสต์ค่ะ^^

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
โซดา เสี่ยวขึ้นทุกวัน

 o13 o13

ออฟไลน์ ตั่วเจ้เจค

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-8
ยกที่ ๑๔
   

With a taste of your lips

I’m on a ride
You're toxic
I'm slipping under
With a taste of a poison paradise

I’m addicted to you

Don’t you know that you’re toxic

[ รสจูบของคุณทำให้ผมเหมือนกำลังซิ่งรถ
คุณเหมือนยาพิษ แล้วผมก็ดื่มเข้าไปเต็มแก้ว
มันคือรสชาติของยาพิษจากสรวงสวรรค์
ผมเสพติดคุณแล้วล่ะ
คุณไม่รู้หรือ...ว่าคุณมันก็ยาพิษดีๆ นี่เอง...]

(Toxic – Britney Spears :  แปลเพลงเป็นเวอร์ชัน หาญศักดิ์ในเรื่อง ‘METAL TERMINAL พยัคฆ์คว่ำกวาง' โดยเจค)


   
:::METAL TERMINAL:::

   “ไอ้นี่ชื่อโซดา พ่อมันเป็นลูกหนี้อั๊ว ต่อไปนี้มันจะมาเป็นหนึ่งในพรรคของเรา เป็นลูกน้องมือขวาคนใหม่ของอั๊ว คงแค่ชั่วคราวก่อน... เสี่ยชานกับอั๊วรับรองเรียบร้อยแล้ว มีใครมีคำถามอะไรไหม?”

   หาญศักดิ์ประกาศเสียงกึกก้องต่อหน้าคนทั้งพรรคขณะเรียกประชุม ไม่ว่าจะนักเลงกี่สาขา หรือพนักงานธรรมดาก็ล้วนมาร่วมอยู่ที่นี่ทั้งสิ้น เสี่ยชานที่ยังคงมีรอยฟกช้ำดำเขียวนั่งบนโซฟาหรูเป็นประธานอีกคนในพิธีอยู่ไม่ไกล ส่วนคนที่เพิ่งได้รับการสถาปนาเป็นลูกน้องคนใหม่ยืนอยู่บนเวทีใกล้ๆ หาญศักดิ์ ฉากหลังเวทีเป็นธงพื้นสีแดงสลับทองผืนใหญ่ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของพรรคพยัคฆ์ ไม่มีใครปริปากพูดอะไรแม้แต่คำเดียว หากแต่สีหน้าของหลายคนเต็มไปด้วยคำถามอย่างไม่ปิดบัง

   บริเวณต้นแขนข้างขวาของหาญศักดิ์มีปลอกแขนสีทองที่บนผ้าปักลวดลายพยัคฆ์เอาไว้สวมใส่อยู่ เสี่ยชานเองก็มีปลอกแขนสีทองแบบเดียวกันอยู่รอบต้นแขนที่ตำแหน่งเดียวกันเด๊ะๆ ส่วนของพวกนักเลงระดับทั่วไปนั้นจะเป็นปลอกแขนสีแดงที่ปักลายพยัคฆ์ ระดับสูงขึ้นมาอีกนิดหรือเรียกว่าหัวหน้าสาขาที่คุมนักเลงในสายของตัวเองอีกทีจะเป็นปลอกแขนสีเงิน และสำหรับเฉินกับพวกระดับสูงมากอีกบางคนจะเป็นสีดำ

   สำหรับพนักงานธรรมดาที่มีหน้าที่ทำงานตามปกติ ไม่เกี่ยวกับพวกธุรกิจสีเทาทั้งหลายแหล่ จะมีปลอกแขนประจำตัวเป็นสีขาวลายพยัคฆ์ (พวกผู้หญิงส่วนใหญ่สวมใส่สีนี้)

   สีขาว – พนักงานธรรมดา
   สีแดง – พวกนักเลงระดับล่าง
   สีเงิน – พวกหัวหน้านักเลงของสายต่างๆ หรือที่เรียกว่าหัวหน้าสาขา
   สีดำ – พวกมือซ้าย มือขวาของหัวหน้าพรรค, บอดีการ์ด, พวกที่คุมบ่อน คุมบาร์ และเป็นนักเลงระดับสูง
   สีทอง – หัวหน้าพรรคทั้งสอง หาญศักดิ์ และ ชาญชัย เท่านั้น

   ปลอกแขนประจำตัวอันเป็นสัญลักษณ์ของพรรคนั้นไม่ได้ใช้พร่ำเพรื่อ แต่จะสวมใส่เวลาที่มีเหตุสำคัญเท่านั้น หรือเวลาที่มีคำสั่งพิเศษจากชาญชัยและหาญศักดิ์โดยตรง ส่วนมากแล้วจะใช้เวลาทำงาน นอกเหนือเวลางานเมื่อไหร่ทุกคนต้องถอดออกและห้ามใส่ไปเดินเล่นเด็ดขาด หัวหน้าพรรคทั้งคู่ไม่ต้องการให้มันเป็นที่จับตาของตำรวจ ไม่ต้องการให้มีใครคอยจับตาดูเป็นพิเศษ ทั้งชาญชัยและหาญศักดิ์ต้องการใช้ระบบ Propaganda สร้างเอกลักษณ์เฉพาะ และใช้ปลอกแขนเป็นเชิงสัญลักษณ์ เพื่อปลูกฝังความรักพรรคและองค์กร รวมไปถึงความจงรักภักดีต่อผู้นำ

   “เอาล่ะ! อั๊วรู้ว่าพวกลื้อได้ยินข่าวลือมาว่าไอ้นี่เป็นคู่ขาของเสี่ยหาน”

   เสี่ยชานตัดสินใจลุกขึ้น เดินไปที่เวทีแล้วพูดเสียงทรงพลัง ปลอกแขนประจำพรรคสีทองวิบวับสะท้อนแสงไปทั่วห้องประชุม

   “แต่ทั้งหมดนั่นเป็นแค่การล้อเล่น ไม่มีใครในพรรคเราเป็นเกย์เป็นตุ๊ดทั้งนั้น และพวกลื้อทุกคนคงรู้ดีกว่าใครว่าไอ้เสี่ยหานไม่ได้เบี่ยงเบน” เสี่ยหนุ่มมีสีหน้าเหมือนถูกของเหม็นจ่อใต้จมูกตอนพูดประโยคดังกล่าวจบ ส่วนเสี่ยหานเงียบกริบ “ถึงไอ้เด็กนี่จะอายุแค่สิบเจ็ดแต่ก็มีศักยภาพทุกอย่างพร้อม ได้รับการทดสอบทั้งพละกำลังและสติปัญญาเป็นที่ประจักษ์แล้ว มีใครสงสัยอะไรอีกไหม ถามออกมาตรงๆ”

   มือของใครคนหนึ่งชูขึ้นกลางอากาศ เสี่ยชานชี้มือให้ถามได้ ชายคนนั้นเอ่ยเสียงสั่นเหมือนตื่นเต้นเต็มที่

   “เขาคือซ.โซดา พยัคฆ์เมืองหลวง ที่เป็นแชมป์เปี้ยนมวยราชดำเนินใช่รึเปล่าครับ”

   โซดายิ้มออกมาทันทีเมื่อมีคนจำตัวเองได้ เสี่ยหานยักไหล่ตอบ

   “ใช่”

   ผู้คนฮือฮาเมื่อเริ่มจำหน้าค่าตาของนักมวยคนดังได้ ชายคนเดิมรีบเอ่ยต่อ

   “ผม...ผมขอลายเซ็นได้ไหมครับ!”

   “ผมขอด้วยครับ!” อีกคนถือโอกาสแทรกด้วยความรวดเร็ว

   “ดิฉันขอเซล์ฟฟี่ได้ไหมคะ!?”

   “ตัวจริงล้อหล่อ!”

   “หน้าเหมือนเสี่ยหานเลยอ่ะ...นึกว่าพี่น้องกัน...”

   “ผมเคยดูเขาชกแทบทุกเวทีเลย! ว่าแต่หน้าเหมือนเสี่ยหานจริงๆ นะ... หล่อทั้งคู่เลย”

   อะแฮ่ม นายหาญศักดิ์รู้ตัวอยู่แล้วนะครับว่าหล่อ

   “แต่เสี่ยเตี้ยกว่าเยอะเลยอ่ะ ขาก็ป้อม”

   กรรม... ใครพูดวะ!??

   บางคนถึงกับน้ำตาคลอหน่วยเต็มเบ้า

   “ไอ้ปืนโตเพชรฆาต! ตัวเป็นๆ เลย!”

   เกิดเสียงอื้ออึงเซ็งแซ่ดังเหมือนตลาดแตกทันที หาญศักดิ์เลิกคิ้วประหลาดใจ ก่อนจะหันไปมองผัวเด็กด้วยสายตาสำรวจหัวจรดเท้าอย่างไม่อยากเชื่อ คือไม่คิดเลยว่ามันจะดังขนาดนี้ เพราะไม่เคยสนใจดูมวยมาก่อน ชีวิตนี้ดูแต่บอล เด็กผีอ่ะครับเด็กผี มวยเมยอะไรหลบไป...

   แล้วใคร...ใครมันบอกว่าไอ้เกย์นี่หน้าเหมือนเขา กูหล่อกว่ามันหลายขุมขอร้องอย่าเอามาเปรียบเทียบ!
   โซดายักคิ้วใส่เสี่ยหนุ่ม ประมาณว่า เจ๋งล่ะสิผัวพี่... หาญศักดิ์ทำหน้าตาแหยเบ้ปากใส่ ทั้งคู่เริ่มต่อสู้กันแบบไร้เสียงผ่านทางกล้ามเนื้อใบหน้า

   ป้าบ ป้าบ ป้าบ!!!

   “เงียบ! เงียบ!” เสี่ยชานผู้เกรียงไกรตบโพเดี้ยมบนเวทีเสียงดังสนั่น “จะไม่มีการติ่งแตกอะไรในเวลานี้ทั้งนั้น!!”

   วาจาเฉียบขาดของเสี่ยชานทำให้ทุกคนกลับมาอยู่ในความสงบ

   “เอาล่ะ เราจะเริ่มพิธีสาบานตนเข้ามาในพรรคตั้งแต่ตอนนี้ ทุกคนยืนตรง!”

   ทุกคนพากันยืนตรงหลังคำสั่งของชาญชัยผู้เป็นเจ้านายและมีตำแหน่งใหญ่ที่สุดคู่กับหาญศักดิ์ โซดาเดินไปตรงหน้าหิ้งพระขนาดกลางที่ถูกเซตเอาไว้ เขาคุกเข่าแล้วพนมมือ เริ่มพูดตามที่ถูกฝึกซ้อมมาช่วงเวลาสั้นๆ

   “กระผม นายศาสดา ขอให้สัตย์สาบานต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในที่แห่งนี้ ว่ากระผมจะซื่อตรงต่อพรรคพยัคฆ์ยิ่งชีพ จะไม่มีวันเปิดเผยความลับ จะซื่อสัตย์ต่อหน้าที่การงาน ให้เกียรติและปฏิบัติกับทุกคนดุจพี่น้องร่วมสายโลหิต” โซดาเว้นช่วงสูดลมหายใจ ทั้งห้องประชุมเงียบกริบ “แม้หากวันข้างหน้ามีเหตุอันใดก็แล้วแต่ที่ทำให้กระผมต้องออกจากพรรค ก็จะไม่มีวันแพร่งพรายข้อมูลใดๆ เด็ดขาด ถ้าหากกระผมผิดคำสาบาน ก็ขอให้ตายให้สามวันเจ็ดวันด้วยเทอญ!”

   เด็กหนุ่มเอื้อมมือไปหยิบถ้วยใบเล็กๆ เท่าถ้วยน้ำชาที่ข้างในบรรจุน้ำมนต์ในมือของเฉินมากระดกดื่มจนเกลี้ยงทันที
   “ศาสดาแห่งพรรคพยัคฆ์!” เสี่ยชานกับเสี่ยหานชูมือขวาขึ้นตะโกนก้องพร้อมเพรียง

   “ศาสดาแห่งพรรคพยัคฆ์!!!!”

   ลูกน้องข้างล่างทั้งหมดชูมือขวาแล้วตะโกนกึกก้องตามผู้เป็นนาย เฉินเดินเข้ามาใหม่อีกรอบพร้อมกับปลอกแขนสีดำที่ปักลวดลายพยัคฆ์ แล้วก่อนจะสวมมันรอบต้นแขนของโซดาอย่างชำนาญ ผู้คนข้างล่างต่างมีสีหน้าเลื่อมใสกับพิธีศักดิ์สิทธิ์ โซดาหันหน้าเข้าหาฝูงชน ชูแขนขวาที่มีปลอกแขนสีดำบ่งบอกถึงสถานะในพรรคแล้วตะเบ็งเสียงดังก้อง

   “ผม ศาสดา ขอเป็นพี่เป็นน้องกับทุกคนนับตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไปครับ!!”

   “ศาสดา!! ศาสดา!! ศาสดา!!”

   เสี่ยชานปล่อยให้ทุกคนตะโกนอยู่สักพักก็ยกสองมือขึ้นปรามเสียงของฝูงชน

   “เอาล่ะ! ในเมื่อรู้กันดีว่ามันเป็นใครก็คงจะเลิกกังขาในศักยภาพของเด็กใหม่ และไม่แปลกใจที่ได้รับสถานะสูงตั้งแต่เริ่มเข้าพรรค”

   ร่างสูงตะโกนกลบเสียงฮึกเหิมของบรรดาลูกน้อง ปัญหาที่ว่าโซดาไม่ได้เริ่มจากผ้าสีแดงเหมือนคนอื่นๆ ดูจะไม่มี

   “อั๊วถือว่าแจ้งข่าวให้รู้ทั่วกันเรียบร้อยแล้ว!! สำหรับวันนี้พิธีเสร็จสิ้นเรียบร้อย ทุกคนแยกย้ายไปทำงานได้”

   ผู้คนเริ่มทยอยออกไปจากห้อง ยังมีเสียงซุบซิบอื้ออึงไปตลอดทาง ในที่สุดผู้คนก็ออกไปจากห้องประชุมขนาดใหญ่จนหมด เสี่ยชานกับเสี่ยหานถอนหายใจพรูขณะที่เฉินอยู่เคลียร์เวทีต่อ

   ชายทั้งสามคนเดินไปที่ห้องเล็กซึ่งอยู่หลังห้องประชุม หรือจะเรียกกันว่าห้องหลังเวที เสี่ยชานหันขวับมาชี้หน้าเพื่อนรัก
   “ลากกูเข้าไปเอี่ยว กูก็จัดการให้แล้วถือว่าจบกัน ต่อไปนี้มึงดูแล...” เสี่ยชานตวัดสายตาไปมองโซดาก่อนจะกลับมามองหน้าหาญศักดิ์ “...ไอ้นี่เอง อย่าทำให้กูรำคาญใจหรือมีปัญหา”

   ควับ!

   โซดาก้าวเข้ามาจับมือของเสี่ยชานที่ชี้ใส่หน้าหาญศักดิ์ทำเอาเสี่ยชานสะดุ้งโหยง ก่อนเด็กหนุ่มจะล็อกจับมือนั่นไว้จนเสี่ยชานกระดุกกระดิกมือไม่ได้

   “พูดดีๆ กับพี่หานก็ได้ครับพี่” โซดายิ้มพิฆาตขณะพูด เสี่ยชานกลืนน้ำลายอึกใหญ่ “แล้วที่พี่ยอมเข้ามายื่นมือช่วยเหลือ ก็ไม่ได้เห็นแก่ผมหรือพี่หานอะไรหรอก แต่พี่กลัวว่าผมจะเอาไปแฉว่าพี่แพ้ผมหมดรูปต่างหาก”

   “...”

   “...”

   “อันที่จริงผมไม่สนหรอกว่าคนอื่นเขาจะรู้ไหมว่าผมเป็นเกย์ คนที่สนน่ะมันพี่สองคนต่างหาก” โซดาเว้นช่วง “ตอนนี้เราก็เป็นพันธมิตรกันแล้ว พี่พูดดีๆ กับผมมันจะดีกว่านะครับ ผมให้อภัยคนได้ง่าย... แล้วก็อย่าไปลงอารมณ์กับพี่หาน พี่เขาไม่ได้ทำอะไรผิด พี่หานทำทุกสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่พี่เขาจะทำได้แล้ว รวมไปถึงปกป้องเกียรติของเพื่อนรักอย่างพี่ด้วย พี่ชาน”

   “...”

   “...”

   เด็กหนุ่มปล่อยมือของเสี่ยชานที่ตัวเองจับล็อกไว้ในที่สุด

   “พี่หานครับ ผมไปหาพี่เฉินก่อนนะครับ พี่เขาบอกวันนี้จะเริ่มสอนงานในกาสิโน” โทนเสียงที่ใช้พูดกับหาญศักดิ์เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง น้ำเสียงนั้นอ่อนลงจนใครก็ฟังออก รวมไปถึงแววตาที่ดูมีอะไรบางอย่าง หาญศักดิ์รีบตอบ

   “อะ...เออ! ไปๆ มันคงเคลียร์เวทีเสร็จแล้วแหละ เดี๋ยวมันจะรอนาน”

   เด็กหนุ่มส่งยิ้มหวานจ๋อยให้หาญศักดิ์ทำเอาคนได้รับรอยยิ้มยืนไม่ติดที่ต้องเบี่ยงหน้าหลบ ส่วนเสี่ยชานเลิกคิ้วมองสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างสนใจไม่ยอก แล้วเด็กหนุ่มก็เดินออกไปจากห้องหลังเวที ทิ้งไว้แต่ความเงียบงันและเสี่ยอีกสองคนที่ยังอยู่ที่เดิม

   “เสี่ยหาน...” เสี่ยชานเรียกเพื่อนเสียงลอยๆ

   “...ไรมึง”

   “กูว่ามีคนเป็นห่วงมึงว่ะ...”

   “...อะไร ไม่มี!”

   หาญศักดิ์รีบร้องออกมาเมื่อได้ยินเพื่อนพูด ไม่มี! ไม่มีใครเป็นห่วงเขาทั้งนั้น เขาเป็นผู้ชายแมนๆ ชายฉกรรจ์ที่ใช้ชีวิตอย่างสมบุกสมบัน และอยู่คนเดียวมามากกว่าสิบปี...

   ฉะนั้น ไม่มีใครเป็นห่วงกูทั้งนั้นโว้ย!

   “ไม่สิ” เสี่ยชานยิ้มกรุ้มกริ่มลดศีรษะลงไปจ้องหน้าเพื่อนที่ตัวเตี้ยกว่า “กูว่า...มึงมีผัวหวงว่ะ!”



:::METAL TERMINAL:::


   ประวัติ
   ชื่อ: หาญศักดิ์
   วันเกิด: 20 เมษายน XXXX
   กรุ๊ปเลือด: O
   ลักษณะภายนอก: แมนมาก หล่อมาก และรวยมาก
   อุปนิสัย: เถื่อน โหดโคตรพ่อโคตรแม่ ลูกน้องทั่วทุกสารทิศเกรงในบารมี ลูกหนี้ทุกคนเป็นยอมสยบ เจ้าชู้หน้าหม้อใจดีกับสาวๆ
   สถานะ: มีผัวแล้ว


   “ไอ้ผีห่า!!!”

   เสี่ยหนุ่มเงยหน้าร้องคำรามดังสุดกล่องเสียงก่อนจะเข้าไปตะกุยทำลายล้างภาพป้ายโปสเตอร์ขนาดยักษ์ที่ปริ้นท์ติดแผ่นเบ้อเร่ออยู่ในห้องพักของเขาที่โรงแรมเมททอล มิหนำซ้ำข้างประวัติห่าๆ นี่ยังมีรูปหน้าเขายิ้มจนตีนกาขึ้นติดอยู่เป็นการประจานอย่างดี มึงเล่นกูขนาดนี้ทำไมไม่เอาตูดกูอีกคนเลยล่ะไอ้เสี่ยชาน!!!

   ป้ากก!

   หาญศักดิ์หักแผ่นป้ายเป็นสองท่อนแล้วกระทืบๆๆ มันจมดินจนหอบฮัก เขาหมุนตัวเดินกระแทกส้นเท้าออกนอกห้องไปยังห้องอีกฝั่งซึ่งเป็นของเสี่ยชานทันที เสี่ยหนุ่มล้วงคีย์การ์ดมาทาบอย่างเดือดปุด พลังความโกรธพวยพุ่งไปทั่วกายจนแทบจะแปรงร่างเป็นซูเปอร์ไซย่าขั้นสามได้

   ติ๊ด~

   “อุ๊ยๆๆๆ คนมีผัวกำลังเดินมา!”

   ไม่ทันได้ด่าให้สาแก่ใจเสี่ยชานก็ตะโกนลั่นทั้งที่กำลังตรวจเอกสารอยู่บนโต๊ะทำงานในห้องพักส่วนตัว เฉินที่กำลังตรวจเอกสารกับเจ้านายเงยหน้าขึ้นมารับมุกทันใด

   “ไม่ใช่แค่ผัวธรรมดานะครับเสี่ยชาน ผัวเด็กด้วย!”

   “พวกมึงมัน -- !!!”

   “พูดอะไรของลื้อไอ้เฉิน ไม่ใช่ผัวเด็กสักหน่อย” เสี่ยชานที่มีสีหน้าไม่เห็นด้วยเอ่ยขัด แล้วหันไปดุลูกน้องหลังเซ็นเอกสารไปหนึ่งแผ่น

   “...ผัวรักผัวหลงต่างหาก! ฮ่าๆๆๆๆ”

   “สัด!” หาญศักดิ์สบถด่า “ถูกเกย์อัดจนเพี้ยนไงมึงไอ้เสี่ยชาน”

   “ก็ดีกว่าถูกอัดถั่วดำแบบมึงแหละวะ” ชาญชัยสวนทันควัน

   “จริงครับเสี่ย ฮ่า~”

   “เป็นไงมึงเสี่ยหาน” เสี่ยชานฉีกยิ้มกว้างเห็นฟันครบทุกซี่ “ถูกใจป้ายประวัติที่กูกับเฉินอุตส่าห์ไปทำมาเป็นของขวัญให้มากสินะ ถึงกับต้องเดินมาขอบคุณ กูได้ยินเสียงมึงสรรเสริญกูอยู่ ไม่เป็นไรเว้ย เราเพื่อนกันอยู่แล้ว”

   “ไอ้เพื่อนเหี้ย!!!”

   แล้วชาญชัยกับเฉินก็หัวเราะลั่นแท็กมือกันดังสนั่น หาญศักดิ์ทั้งอายทั้งโกรธจนหน้าแดงเถือก อยู่กันสามคนเป็นไม่ได้ต้องถูกแซวตลอด เป็นอย่างนี้มาร่วมสัปดาห์แล้วนับตั้งแต่ความจริงเปิดเผย ตอนแรกเสี่ยชานทำท่ารับไม่ได้และสงสารเขาจับจิตจับใจ แต่ไปไงมาไงมันถึงได้มาเข้าคู่กับไอ้เฉินเห็นเป็นเรื่องบันเทิงเริงใจได้ก็ไม่รู้

   “หุบปากไปเลยทั้งคู่! กูไม่มีวันให้อภัยพวกมึงเรื่องไอ้ป้ายบ้าๆ นั่นแน่! ใหญ่อย่างกับป้ายหาเสียงของชูวิป! ถ้ามึงรักกูจริงๆ หยุดล้อกูเรื่องนี้ซะ!”

   “เสี่ยหาน... นี่มึงโกรธจริงเหรอวะ” เสี่ยชานมีสีหน้าซีเรียสขึ้นมาโดยฉับพลัน หาญศักดิ์ที่เบิ่งตาโตกระแทกเสียงตอบ

   “เออ!”

   “กูขอโทษ...” เพื่อนร่างสูงมีสีหน้ารู้สึกผิดขึ้นมาทันที “แต่กูแค่อยากจะบอกว่า...”

   บอกว่ามึงเสียใจและรักกูสินะ

   “กูทำเพราะกูรักตัวเอง กูไม่ได้ทำเพราะรักมึง! กูทำเพราะกูสนุกโว้ย! ฮ่าๆๆๆๆ!!!”

   “ก๊ากกกกกกกก!!!” <<< เฉิน

   “ไอ้พวกเวร!!!”

   ทั้งสองคนหัวเราะท้องคัดท้องแข็ง หาญศักดิ์ที่หน้าแดงเถือกได้แต่ยืนไม่ติดที่อย่างโมโหโทโส เขาชี้หน้าด่าทั้งคู่ชุดใหญ่แต่ก็ไม่มีใครสะทกสะท้าน เสียงหัวเราะยังคงดังลั่นไปถึงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ หาญศักดิ์ได้แต่รอให้ทั้งสองคนหยุดหัวเราะกันไปเองอย่างไร้หนทางต่อสู้ และสุดท้าย...ทั้งคู่ก็หยุดหัวเราะกันเองจนได้

   “ฮ่า...จี้ฉิบหาย” เสี่ยชานปาดน้ำตาที่ออกมาจากเบ้า กลั้นขำจนตัวสั่น “เอ้า มึงคงไม่ได้เข้ามาด่ากูอย่างเดียวหรอกกูรู้ มีอะไรก็ว่ามา”

   “เออ...” หาญศักดิ์กัดฟันตอบ สัด...กูนี่มันอาภัพแท้ สู้ผัวก็ไม่ได้ สู้เพื่อนก็ไม่ได้... นี่กูเป็นเจ้าพ่อเงินกู้จริงๆ รึเปล่าวะเนี่ย T-T “ที่กูเข้ามาแดนมึงก็เพราะว่ามีเรื่องงานด้วยนั่นแหละ วันนี้วันสำคัญ...”

   หาญศักดิ์จะเรียกแบ่งชั้น 68 ของเขากับชาญชัยเป็นแดน การเข้าไปในห้องซึ่งเป็นบ้านของอีกฝ่ายจะเรียกว่าบุกแดน

   ชาญชัยมีสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมาทันที

   “อ้อ กูพอรู้อยู่หรอก...เฉินลื้อออกไปก่อนไป”

   “ครับเสี่ย”

   ผู้จัดการหนุ่มกระพุ่มมือไหว้ทั้งคู่แล้วเดินออกไป เสี่ยชานเข้าสู่โหมดจริงจังพลางหันไปมองปฏิทิน

   “ไอ้เสี่ยพิชิตใช่ไหม วันนี้มึงต้องไปเก็บเงินมันนี่ ตอนหกโมงเย็น”

   หาญศักดิ์มีสีหน้าเคร่ง “ใช่ ไอ้นี่ค้างดอกมานานแรมปี พอๆ กับพ่อไอ้โซดาเลย... แต่มึงก็รู้ไอ้เสี่ยพิชิตมันไม่ธรรมดา จิตวิทยามัน ไหนจะลูกน้อง...บารมีมันก็มีพอๆ กับเรา”

   พูดจบหาญศักดิ์ก็คว้าขวดน้ำบนโต๊ะทำงานของชาญชัยมาดื่ม

   “แต่ธุรกิจมันเจ๊งไปไม่ไหวแล้วเว้ยไอ้เสี่ยหาน มันเหลือแต่เปลือก ข้างในน่ะกลวง ไม่งั้นมันไม่มากู้เงินเราหรอก บารมีมันน่ะเดี๋ยวก็เสื่อม แต่มึงก็พูดถูก มันไม่ใช่คนที่ง่ายจะจัดการจริงๆ”

   “...เอาเถอะ ยากแค่ไหนกูก็รับมือมาแล้ว กูจะจิกเอาทั้งต้นทั้งดอกมาให้ได้ นี่ก็แค่มาบอกไว้ก่อนเผื่อมีอะไร” เขาปิดฝาขวดน้ำที่ดื่มเสร็จแล้วไปด้วยขณะพูด ก่อนจะมันวางคืนไว้ที่เดิมบนโต๊ะ

   “กูตรวจดูบัญชีเมื่อกี้แล้ว รายอื่นๆ เรียบร้อยดี เหลือแต่ไอ้เสี่ยพิชิตนี่แหละ”

   “กูจะไปทำให้มันเรียบร้อยวันนี้แหละ”

   มือหนาของชาญชัยวางปากาที่ใช้เซ็นชื่อ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองหน้าเพื่อนรักเต็มตา หาญศักดิ์ที่กึ่งนั่งกึ่งยืนพิงโต๊ะทำงานของชาญชัยอยู่ขมวดคิ้ว

   “มึงมีอะไรว่ะเสี่ยชาน”

   ใบหน้าหล่อคมขมวดคิ้วมุ่น ดูคล้ายมีความกังวลที่สลัดไม่ออก

   “...กูสังหรณ์ใจยังไงไม่รู้ว่ะ กูรู้สึกแปลกๆ...รู้สึกไม่ดี”

   หาญศักดิ์เลิกคิ้วขึ้น “ที่กูจะไปเก็บเงินเสี่ยพิชิตน่ะเรอะ?”

   “เออ... ใช่ กูเซนส์แรงนะเสี่ยหาน มึงก็รู้นี่” พูดจบก็ล้วงเอาบุหรี่ออกมาสูบ ก่อนจะยื่นให้เพื่อนด้วยอันหนึ่ง หาญศักดิ์จุดไฟแช็กบ้าง เสี่ยชานพ่นควันออกจากจมูกแล้วพูดต่อ

   “...กูไปเป็นเพื่อนมึงดีไหมวะ? เออ ตกลงกูไปเป็นเพื่อนมึงแล้วกันวันนี้”

   “หยุดเลยมึง หยุดเลย” หาญศักดิ์รีบร้องห้าม “งานกู กูทำได้ มึงไปดูงานที่ร้านสักมึงไปเสี่ยชาน เห็นว่าเมื่อวานมีคนตีกันนี่ เรืื่องนี้กูจัดการเองได้ ลูกน้องก็ไปด้วยเยอะแยะ เป็นห่วงอะไรนักหนาว่ะ... มาแปลก” หาญศักดิ์ไม่เข้าใจ

   “มันเป็นแค่ลางสังหรณ์เว้ยเสี่ยหาน” เสี่ยชานลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วตบไหล่เพื่อนปุๆ “เอาเถอะ กูรู้ว่ามึงทำได้ เดี๋ยวกูต้องไปดูที่ร้านสักกูหน่อยก่อนค่ำ มึงมีอะไรก็โทรมาหากูทันทีเลยนะ”

   “ได้ ขอบใจมึงมาก กูไปล่ะ”

   หาญศักดิ์ดับบุหรี่ในมือแล้วออกไปจากห้องของเพื่อน เขาลงไปชั้นล่าง เรียกลูกน้องหน้าประจำให้ไปด้วยกันเหมือนเคย รวมถึงบอกคนขับรถให้เตรียมรถ เขาบรีฟงานสั้นๆ

   “ไอ้เสี่ยพิชิตเป็นตาแก่เหลี่ยมจัด ทวงเงินก็ยาก พูดไปพูดมาทำให้เราไว้ใจแล้วมันก็ชิ่งหนี นักเลงกี่คนต่อกี่คนที่ให้ไปทวงก่อนหน้าก็ทวงมาได้แค่ดอกเบี้ยสองงวด แล้วก็หาตัวไม่พบอีก อั๊วถึงต้องลงมือเอง” หาญศักดิ์เว้นช่วงหายใจ มองหน้าลูกน้องทุกคน “มิหนำซ้ำเสี่ยพิชิตยังหายหน้าไปจากแวดวงสังคม อั๊วคาดว่าคงหนีหนี้หัวซุกหัวซุนอยู่ เพราะคงไม่ได้ค้างหนี้แค่อั๊วกับเสี่ยชานเจ้าเดียว... แต่ตอนนี้สายสืบของพวกเราสืบมาได้แล้วว่ามันย้ายหนีไปอยู่ที่ไหน วันนี้แหละอั๊วจะไปบุกจัดปาร์ตีให้มันถึงถิ่น พวกลื้อทุกคนคอยดูหน้าดูหลังด้วย เข้าใจไหม”

   “ครับ!”

   หาญศักดิ์จุดบุหรี่อีกมวนสูบรอคนรถขับวนมารับ ขนไปกันทีก็ไปหลายคันเพราะเอาลูกน้องไปหลายคน เสี่ยหนุ่มตัดสินใจเดินกลับเข้าไปเข้าห้องน้ำในโรงแรมตรงชั้น G ให้เรียบร้อยก่อนออกไปทวงหนี้

   กำลังยืนหน้าเคร่งปัสสาวะอยู่ดีๆ ก็มีคนมายืนปัสสาวะโถข้างๆ กัน และมันก็คงเป็นธรรมดาที่จะอดหันไปมองไม่ได้ว่าเป็นใคร ใหญ่กว่ากูรึเปล่าไรงี้...

   สัด... มันอีกแล้ว...

   “แหม พอเห็นเป็นผมนี่รีบเชียวนะครับ คิดว่าผมจะแอบดูของพี่เหรอ”

   “อะไร กูฉี่เสร็จแล้ว จะไปล้างมือ ไม่ได้รึไง” หาญศักดิ์รีบพูดปาวๆ

   โซดาที่ยังยืนปัสสาวะยิ้มจนตาหรี่เล็ก “ไม่ต้องห่วง ผมไม่แอบดูหรอกครับ เห็นอยู่ทุกคืน...”

   “ไอ้บ้า!”

   หาญศักดิ์รีบนุ่งกางเกงให้เรียบร้อยแล้วเดินฟึดฟัดไปล้างมือ เขาล้างอย่างรวดเร็วเตรียมจรลีหนีด้วยความว่องไว

   “เฮ้ย!” เสี่ยหนุ่มร้องเมื่อหันมาก็พบว่าถูกกักขังเอาไว้ในอ้อมแขนกับเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า (ทำไมมันฉี่เร็วจังวะ!)

   “ทำอะไรของมึง! กูจะรีบไปทำงาน”

   “ไปไหนครับพี่...”

   “ไม่ใช่เรื่องของมึงเลย!”

   “ผัวมีสิทธิ์ได้รู้ว่าเมียตัวเองจะไปไหนนะครับ”

   “หุบปาก!” หาญศักดิ์หันรีหันขวางเลิกลั่ก เป็นโชคดีไปที่ห้องน้ำนี้ปลอดคน นอกจากพวกเขาแล้วก็ไม่มีใคร “ถอยไป ถอยไปเลยมึง แล้วไปช่วยไอ้เฉินคุมบ่อนไป”

   “พี่อ่ะ...ก็บอกผมก่อนสิครับว่าพี่จะไปไหน”

   ไม่พูดเปล่ายังยื่นหน้าแทบติดกับใบหน้าหวานๆ นั่น หาญศักดิ์หลับตาปี๋ตะโกนลั่น

   “ไปทวงหนี้! แถวๆ ชานเมือง ปล่อยกูได้รึยัง!”

   “ก็ได้...”

   โซดายอมคลายวงแขนออกในที่สุด หาญศักดิ์ถอนหายใจอย่างโล่งอกแล้วรีบสืบเท้าเดินหนีร่างล่ำๆ ของนักมวยแชมป์เปี้ยน

   “...ผมเปลี่ยนใจดีกว่า”

   ฟึ่บ! ป้าบ!

.
.
.

------------------------------------
50% METAL TERMINAL
เสี่ยชานเริ่มมีบทแล้วนะคะ นี่แฟนคลับเสี่ยชานค่ะจัดให้แน่นอน :L2:

เอ๋... เดี๋ยวนะทำไหมหนูโซดาเปลี่ยนใจเร็วจังเลยลูกกกกกกก หิหิหิ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ต้องตามไปคุมเมีย

ออฟไลน์ P.PIM

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
ไปคุมเมียสินะ 5555555

เสี่ยชานนี่ยยังไง ตอนแรกรับไม่ได้ ละดูตอนนี้รวมหัวกับเฉินแกล้งเสี่ยหาน  สรุปเรื่องนี้คนที่น่าสงสารสุดคือเสี่ยหาน 5555555

ออฟไลน์ namkang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :katai2-1: โซดาคุมเมีย 5555555

ออฟไลน์ ตั่วเจ้เจค

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-8
.
.

   ฟึ่บ! ป้าบ!

   หากแต่ไม่ทันได้สาวเท้าหนีอย่างที่ใจคิดได้สำเร็จ หาญศักดิ์ก็ถูกดึงแขนเข้าหาตัวเด็กหนุ่มแล้วกดร่างเข้ากับเคาน์เตอร์อ่างล้างมือหรู ก่อนเด็กหนุ่มจะฉกริมฝีปากวูบก้มลงจูบเขาอย่างดูดดื่มเหมือนสูบวิญญาณ จูบที่ตะกรุมตะกรามทำเอาเสี่ยหนุ่มมึนงง ร่างสูงถือโอกาสยกร่างของหาญศักดิ์ขึ้นไปนั่งบนเคาน์เตอร์นั่น แล้วเขย่งปลายเท้าบดจูบร้อนแรงต่อเนื่องจนหาญศักดิ์หายใจไม่ทัน

   “อื้อ...แฮ่ก...พอแล้ว... อื้ออ...”

   ทำเพียงได้แค่กอบโกยอากาศเข้าร่างเพียงนิดริมฝีปากร้อนก็บดขยี้ต่อ เรียวลิ้นตวัดรุกเร้าอย่างเอาแต่ใจจนหาญศักดิ์ตามไม่ทัน แขนแข็งแกร่งโอบกอดเอวสอบของอีกฝ่ายแนบแน่น แทรกกายลงระหว่างสองขาจนแนบชิดกันเสมือนเป็นหนึ่งร่าง

   “อะ...อื้อ!! อย่า...”

   หาญศักดิ์มัวเมาไปกับรสจูบที่เหมือนกับยาเสพติด โซดาเกี่ยวกระหวัดลิ้นเข้ากับลิ้นของเขา ไล่ต้อนมันไปทั่วโพรงปากจนจนมุมเหมือนตำรวจที่ไล่จับโจรร้าย... เสี่ยหนุ่มได้แต่ครางอื้ออึง เขายกสองมือขึ้นทุบร่างโปร่งเพื่อประท้วงเอาอากาศ

   “อ๊ะ...อื้อ! เชี่ย มึงทำอะไรอีกแล้วเนี่ย!!”

   หาญศักดิ์ร้องเมื่อโซดาเลิกคอเสื้อเขาลงมาแล้วฉกริมฝีปากลงดูดจนเกิดเสียงเนื้อปากกับเสียงผิวเนื้อ ขบกัดขยายรอยจนรู้สึกจี๊ดไปทั่วร่าง มันพาให้สั่นสะท้านจนหาญศักดิ์ต้องจิกเล็บทั้งสิบเข้าแผ่นหลังแกร่งของคนที่กำลังสร้างรอย

   “อึก...ฮ่า”

   ไม่เพียงแค่ขบกัด...โซดายังดูดเลียสร้างความวาบหวามจนหาญศักดิ์เกร็งวาบ เขารู้สึกเหมือนสติโบยบินไปไกลลิบเมื่อริมฝีปากเปียกๆ รุกเร้ากันอย่างไร้ปรานี...

   “พอแล้ว...โซดา...”

   ในที่สุดเด็กหนุ่มก็ยอมผละออกมาเมื่อหนำใจ เขาหลิ่วตาให้คนที่หอบหายใจเหมือนเพิ่งวิ่งมาพันกิโลเมตร ดวงตาคมก้มลงมองรอยจูบรอยใหญ่อย่างพึงพอใจ

   “เมียจะไปทำงาน...ผัวเป็นห่วง... เลยฝากรอยรักให้ เอาไว้คุ้มครองเป็นคาถาอาคม...”

   “...ไอ้เด็กเวร!!”

   หาญศักดิ์รวบรวมสติรีบปีนลงจากเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้ามาชี้มือใส่เด็กหนุ่มที่ยักคิ้วหลิ่วตาให้ ใบหน้าหล่อๆ นั่นกวนอารมณ์เป็นยิ่งนัก

   ปัง

   “เสี่ยครับ รถพร้อมแล้วนะครับ” ลูกน้องคนหนึ่งโผล่หน้าเข้ามาเห็นตอนผู้เป็นเจ้านายกำลังชี้หน้าโซดาพอดิบพอดี หาญศักดิ์รีบใช้มืออีกข้างตะครุบคอเสื้อแทบไม่ทัน เขาหันไปพยักหน้า

   “เออ อั๊วจะไปเดี๋ยวนี้แหละ ลื้อไปบอกคนอื่นๆ ได้เลย”

   “ครับ”

   พอลูกน้องออกไปพ้นหน้าหาญศักดิ์ก็หันไปเอาเรื่องเด็กหนุ่มทันที

   “เพราะกูติดงานหรอกนะ! อย่าคิดว่าจะรอดได้นานนะมึง!!”

   เด็กหนุ่มยิ้มกว้าง แล้วคว้ามือที่ชี้หน้ามาจูบหน้าตาเฉยทำเอาเจ้าของมือเหวอรุนแรง เขาจับมือนั่นแนบแก้ม

   “อย่าปล่อยให้ผมรอนานนะครับพี่...”

   น้ำเสียงของเด็กหนุ่มออดอ้อน มิหนำซ้ำหูตายังระยิบระยับวิบวับแพรวพราวยิ่งกว่าคาสโนว่าร้อยเล่ห์

   “ผัวคนนี้รอเมียกลับมาลงโทษอยู่นะ...”

   อ๊ากกกกกกกก อีช่อ!

   กูเกลียดสายตามึง

   กูเกลียดใบหน้ามึง

   กูเกลียดทุกอย่างที่เป็นมึง

   เกลียด! เกลียด! เกลียด!

   ไอ้ผัวเกย์ตัวเอ้อภินิหารบ้านบึ้มเอ๊ย!


   
:::METAL TERMINAL:::
   
   
   “ที่นี่แหละครับเสี่ยหาน”

   ลูกน้องคนที่นั่งอยู่เบาะหน้าแล้วเป็นคนสืบที่อยู่ของเสี่ยพิชิตแจ้งเจ้านาย หาญศักดิ์เปิดกระจกชะโงกหน้าออกไปดูตึกเก่าๆ ร้างๆ ที่ดูแล้วไม่น่าจะมีใครอยู่ได้

   “ลื้อแน่ใจเหรอวะ?”

   “ใช่ครับ ไอ้เสี่ยพิชิตหนีเจ้าหนี้ทุกคนมาอยู่ซุกหัวนอนที่ตึกนี่แหละ มันเปิดบ่อนเถื่อนด้วยนะครับ เอาไว้ให้พวกชาวบ้านมาเล่นไฮโล คงหวังจะเอาเงินตรงนี้ไปโปะหนี้”

   “คิดอะไรโง่ๆ แค่บ่อนไฮโลมันจะไปทำอะไรได้...” หาญศักดิ์ส่ายศีรษะ “เอ้าลงเว้ยพวกเรา ไปจัดการเอาเงินอั๊วคืนมากันได้แล้ว!”

   ชายฉกรรจ์จากทั้งสามคันรถลงกันมาเป็นหมู่คณะใหญ่ รวมๆ แล้วประมาณสิบห้าคนได้ หาญศักดิ์แหงนหน้ามองตึกร้างที่สูงตระหง่านก่อนจะกวักมือกลางอากาศให้ลูกน้องเดินตามตัวเองเข้าไปในตึก ทั้งปืนทั้งมีดทุกคนเอามากันครบ หาญศักดิ์เดินนำลูกน้องไปที่บันไดโทรมๆ แล้วขึ้นไปยังชั้นสี่ อันเป็นชั้นที่สายสืบของเขาบอกว่าเสี่ยพิชิตจัดทำเป็นบ่อนไฮโลผิดกฎหมาย อีกทั้งยังใช้กบดาน

   “ทำไมมันเงียบแบบนี้วะ”

   หาญศักดิ์เอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจเมื่อขึ้นมาจนถึงชั้นสี่ ถ้าเป็นบ่อนไฮโลมันก็ควรจะครึกครื้นและพลุ่กพล่านกว่านี้ แต่นี่มันทั้งเงียบทั้งสงบจนวังเวงไปหมด

   “...ก็เพราะว่าช่วงนี้หมาต๋าเขตนี้มันออกตรวจเข้ม ผมเลยงดทำบ่อนไปก่อนน่ะเสี่ย”

   แปะ...แปะ...แปะ

   ไม่ทันได้บุกค้นห้องร้างห้องไหนหาญศักดิ์กับลูกน้องก็ได้ยินเสียงปรบมือเย็นๆ ดังขึ้นพร้อมกับเสียงต่ำๆ ของมนุษย์คนหนึ่ง ทุกคนชักปืนขึ้นมาทันควันตามสัญชาตญาน บอดีการ์ดของเสี่ยหนุ่มรีบออกมาขวางหน้าทันที

   “ระวังตัวนะครับเสี่ย”

   ไม่ทันไรชายวัยกลางคนที่บนศีรษะมีผมเพียงหร็อมแหร็มก้าวออกมาพร้อมกับใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มใจดี หากหาญศักดิ์รู้จักชายผู้นี้ดีเกินกว่าจะเชื่อยิ้มจอมปลอมนั่น

   “...ไม่พบกันซะนานนะเสี่ยหาน เก่งนี่ แกะรอยตามมาเจอผมถึงที่เชียว”

   “เสี่ยพิชิต...” หาญศักดิ์พูดรอดไรฟัน

   “เอ้า วางปืนผาหน้าไม้ก่อนดีไหม” เสี่ยพิชิตยิ้มพลางผายมือดูอบอุ่น “แล้วมาเจรจากันอย่างสันติดีกว่า”

   หาญศักดิ์กวาดสายตาไปรอบๆ ...เขาไม่พบสิ่งมีชีวิตอื่นนอกจากเสี่ยพิชิต หากแต่ก็ยังวางใจไม่ได้... เจ้าพ่อเงินกู้เก็บปืนเหน็บที่กางเกงที่เดิม แต่ยังไม่ยอมส่งสัญญานให้ลูกน้องเก็บอาวุธ เขาก้าวเข้าใกล้เสี่ยวัยกลางคนตรงหน้าช้าๆ

   “ถ้าเสี่ยไม่หนีหนี้ผมกับเพื่อน ผมคงไม่ต้องขนลูกน้องมาบุกรุกถิ่นแบบนี้”

   “...เฮ้อ เสี่ยหาน คุณก็รู้ว่าธุรกิจช่วงนี้น่ะมันไม่ดี อะไรก็ผันผวนไปหมด”

   “แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เสี่ยจะทำร้ายลูกน้องผมที่ส่งมาทวงหนี้รอบก่อนๆ เสี่ยเบี้ยวหนี้ ถ้ามีคนเบี้ยวหนี้เสี่ย เสี่ยจะยอมได้รึ?”

   “...ผมนับถือเสี่ยกับเสี่ยชานนะ อายุยังไม่มากแต่ก็ก่อร่างสร้างตัวได้ดี”

   “เสี่ยพิชิต เสี่ยไม่ต้องพูดมากหรอกครับ” หาญศักดิ์ตัดบท ใบหน้าของชายวัยกลางคนไม่เปลี่ยนแม้แต่นิดเดียว อันที่จริง...เสี่ยพิชิตไม่กะพริบตาด้วยซ้ำ “สิบห้าต่อหนึ่ง อย่างไรเสี่ยก็เสียเปรียบ เสี่ยมีเท่าไหร่จากการเปิดบ่อนเถื่อน เสี่ยเอามาให้ผมดีกว่า แล้วก็หาที่อยู่เป็นหลักเป็นแหล่ง ทยอยใช้หนี้ให้ครบซะ”

   เสี่ยพิชิตนิ่งไปนิด ก่อนจะล้วงมือเข้ากระเป๋าอย่างรวดเร็ว ลูกน้องของหาญศักดิ์ขึ้นนกปืนทันทีจนเสียงดังกริ๊กดังลั่นชั้นสี่ของตึกร้าง

   “อะไรกันหนุ่มๆ” เสี่ยพิชิตหัวเราะในลำคอ ก่อนจะหยิบซองบุหรี่ออกมา “แค่คนแก่อยากจะดูดบุหรี่ทำใจก่อนเสียเงินก้อนใหญ่ไม่ได้รึ ถึงกับต้องขึ้นนกใส่กันทีเดียว”

   เสี่ยวัยกลางคนไม่ยี่หระแล้วยังจุดบุหรี่สูบ

   “เฮ้อเสี่ยหาน... ผมเองก็เบื่อต่อความยาวสาวความยืด เอาเป็นว่าเสี่ยกับลูกน้องตามผมไปเอาเงินก้อนใหญ่ก็แล้วกัน เอาไปสักกึ่งนึงก่อนดีไหม?”

   “เสี่ยมีงั้นหรือ?” หาญศักดิ์หรี่ตาถามอย่างไม่เชื่อรุนแรง คนที่สิ้นเนื้อประดาตัวอย่างเสี่ยพิชิตตอนนี้เนี่ยนะจะมีเงินก้อนให้เขา หากแต่ชายวัยกลางคนยักไหล่แบบไม่สะทกสะท้าน

   “ใช่ อย่าดูถูกบ่อนไฮโลนะเสี่ย มันทำกำไรงดงามดีเชียวล่ะ ตามมาทางนี้สิ”

   หาญศักดิ์ไม่ขยับเท้า เสี่ยพิชิตพ่นควันออกจากจมูกแล้วกระตุกยิ้ม

   “เอ้า ถ้ากลัวนักก็ไม่ต้องเอา ตึกกลวงๆ แบบนี้จะซ่อนอะไรได้ ใช้สมองหน่อยสิเสี่ยหาน”

   “ผมไม่ได้กลัว” หาญศักดิ์ตะคอกตอบกลับทันที “แต่พฤติกรรมของเสี่ยมันไม่น่าไว้ใจตั้งแต่ต้น เงินก็ตั้งยี่สิบเอ็ดล้าน แล้วเสี่ยบอกจะให้ผมก่อนครึ่งหนึ่ง มันหมายความว่าสิบล้านนะเสี่ย ผมคิดว่าผมตีความไม่ผิด”

   เสี่ยพิชิตเลิกคิ้ว หาญศักดิ์พูดต่อเสียงดังกึกก้อง

   “เงินสดสิบล้าน กับสภาพเสี่ยในเวลานี้... ผมว่ามันยากอยู่”

   เสี่ยพิชิตหัวเราะเหมือนฟังเรื่องขบขันเสียเต็มประดาดังลั่น

   “โธ่เสี่ยหาน ขนาดจะได้เงินยังกลัวจนไม่กล้าทำอะไร เด็กรุ่นใหม่นี่มันใจเล็กจริง” วาจาดูถูกของคนแก่วัยกว่าทำเอาหาญศักดิ์หน้ากระตุก “ถ้าเสี่ยปอดแหกนักก็ขนลูกน้องไปด้วยกันก็ได้ ขนไปทั้งก๊กนั่นนั่นแหละ”

   หาญศักดิ์มองเสี่ยพิชิตไม่วางตา ในหัวประเมินสถานการณ์อย่างถี่ถ้วน

   “เอ้า! ไม่เอาเงินก็ไสหัวกลับไปได้แล้วเสี่ยหาน ...น่ารำคาญกลัวกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง”

   แววตาของชายวัยกลางคนดูถูกดูแคลนสุดฤทธิ์ เขาทิ้งบุหรี่ลงบนพื้นแล้วขยี้เท้าดับ

   “...ปอดแหก”

   “คุณว่าไงนะเสี่ยพิชิต?”

   “หึๆ คุณได้ยินยังไงก็อย่างนั้นแหละเสี่ยหาน”

   นอกจากไม่ยี่หระแล้วเสี่ยพิชิตยังหัวเราะในลำคอชวนปั่นประสาท หาญศักดิ์เม้มปากอย่างใช้ความคิด ในที่สุดเขาก็เอ่ยปาก

   “เอาล่ะ ตกลง ผมจะตามไปเอาเงินที่เสี่ยบอก แต่ผมจะเอาลูกน้องไปด้วยห้าคน”

   เสี่ยพิชิตยักไหล่ “ตามใจเสี่ยเถอะ จะโทรเรียกมาทั้งพรรคพยัคฆ์ผมก็ไม่สนใจ”

   หาญศักดิ์สงบสติอารมณ์กับคำดูถูกแล้วหันไปเลือกลูกน้องฝีมือดีห้าคนให้ตามมา เสี่ยพิชิตเดินนำหน้าไปตามทางเมื่อหาญศักดิ์จัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย โถงทางเดินร้างเงียบสงัดมีแต่ฝีเท้าของเสี่ยพิชิตและหาญศักดิ์กับบรรดาลูกน้องทั้งห้าเท่านั้น

   “ห้องนี้แหละเสี่ย ตอนนี้ผมใช้ห้องนี้ซุกหัวนอนอยู่”

   พูดจบเสี่ยพิชิตก็เดินเข้าไปในห้องๆ หนึ่ง หาญศักดิ์ตามเข้าไปกับลูกน้อง แล้วก็พบว่ามันมีแค่เตียงเก่าๆ แคบๆ หนึ่งหลังกับตู้เซฟใบใหญ่ รวมไปถึงมีอุปกรณ์เล็กๆ น้อยๆ สำหรับใช้ทำบ่อนไฮโลเล่นพนัน

   “เข้ามาสิเสี่ยหาน”

   มองสำรวจจนถ้วนทั่วแล้วก็ไม่เห็นความผิดปกติอะไร หาญศักดิ์จึงยอมก้าวเข้าไปในแหล่งกบดานชั่วคราวของเสี่ยพิชิต บรรดาลูกน้องยังยืนออกันอยู่ตรงหน้าห้องเพื่อระวังความปลอดภัย

   เสี่ยพิชิตเปิดเซฟอ้าออก หาญศักดิ์อ้าปากค้าง

   ...เงินสดหลายล้านกระจุกรวมกันอยู่ในนั้นเป็นมัดๆ อีกทั้งยังมีทองคำแท่งหลายแท่ง...

   ถึงไม่ถึงร้อยล้าน... แต่หาญศักดิ์มั่นใจว่ามันไม่ต่ำกว่ายี่สิบล้านแน่ๆ...

   “เอ้า รอแป๊บหนึ่งนะเสี่ย” เสี่ยพิชิตส่งเสียงขณะหยิบเงินออกมาเป็นฟ่อน “ขอตรวจนับหน่อย”

   “โอ๊ย!!”

   “อ้าก!!”

   “เฮ้ย!” หาญศักดิ์ร้องเมื่อได้ยินเสียงจากด้านหลัง ก่อนจะพบว่ามีชายที่ไม่เคยเห็นหน้าราวยี่สิบคนกำลังกระทืบลูกน้องของเขาอย่างไม่ไยดี

   “หมาหมู่! ไอ้พวกหมาหมู่!!” หาญศักดิ์ตะโกนกร้าวแล้ววิ่งถลาจะออกไปดูสถานการณ์ หากทันทีทันใดผนังลูกกรงที่เหมือนมีคนคอยควบคุมอยู่แล้วหล่นลงมาตรงหน้ากระทบกับพื้นที่ฝุ่นเขรอะดังกึ้งใหญ่ มันแบ่งกั้นระหว่างหาญศักดิ์กับลูกน้องชนิดที่ไม่สามารถเข้ามาช่วยเหลือกันได้ และในลูกกรงนี้มีเพียงแค่เขากับเสี่ยพิชิตสองคนเท่านั้น หาญศักดิ์หยิบปืนขึ้นมาทันที

   “อะไรกันเสี่ยหาน... เล่นถึงอาวุธมันไม่ดีนะ”

   “หุบปาก!! เสี่ยเล่นอะไรของเสี่ยวะ! จ่ายหนี้ผมมาแล้วก็ให้มันจบกันไปเดี๋ยวนี้ ยังมีลูกน้องผมอีกเป็นสิบรอดูสถานการณ์ข้างนอก! เสี่ยไม่รอดแน่!!” เขาเล็งกระบอกปืนไปที่เสี่ยวัยกลางคนอย่างแม่นยำ

   “ฮ่าๆๆๆ! สะเพร่าจริงเอาลูกน้องมาแค่หยิบมือเดียว! ป่านนี้คงโดนเด็กๆ นับร้อยของผมยำจนเละหาอวัยวะไม่เจอแล้วล่ะมั้ง”

   หาญศักดิ์หน้าซีด “เป็นร้อยงั้นเรอะ!!?”

   “ใช่” เสี่ยพิชิตยิ้มในหน้า “ส่วนคุณน่ะเสี่ยหาน ผมต้องการจะจัดการด้วยตัวเอง”

   “อ้ากก!!!”

   เสี่ยพิชิตรวดเร็วอย่างเหลือเชื่อเข้ามาหักข้อของหาญศักดิ์ทวนเข็มนาฬิกาจนปืนกระเด็นออกไปไกลเป็นโยชน์ หาญศักดิ์สะบัดข้อมือหนีเสี่ยเฒ่าแล้วตั้งการ์ดมวยขึ้นมาทันที นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาต้องประลองยุทธกับคนอื่น ชีวิตบนเส้นทางนักเลงของหาญศักดิ์มาไกลจากจุดเริ่มต้นนัก หมัดมวยเขาเองก็ไม่ได้กระจอกงอกง่อยจนใช้งานไม่ได้ น็อกคนอื่นมาก็หลายราย...

   ยิ่งคนมีอายุอย่างเสี่ยพิชิต... อย่างไรเสียเขาก็ต้องเอาอยู่

   “เสี่ยอายุเท่าไหร่แล้วคิดจะมาสู้กับผม ยังไงเสี่ยก็ไม่มีวันชนะหรอก” หาญศักดิ์พูดข่มอีกฝ่าย เสี่ยพิชิตกระตุกยิ้มมุมปากจนเห็นรอยเหี่ยวย่น

   “เฮ้อ...นั่นสินะ... พละกำลังคนแก่มันจะไปสู้อะไรกับคนหนุ่ม”

   “รู้แล้วก็ดีแล้ว อย่าทำร้ายตัวเองเลยเสี่ยพิชิต อย่าทำให้มันเป็นเรื่องเป็นราวจะดีกว่า”

   “ปากดีจริิงๆ นะเสี่ยหาน ผมเองก็ลูกผู้ชายเหมือนกัน คงจะยอมเสี่ยง่ายๆ ไม่ได้หรอก”

   พลั่ก!!

   หาญศักดิ์ไม่รอช้าฮุกหมัดขวาเข้ากรามเสี่ยพิชิตเต็มเหนี่ยวจนผู้มีอายุหน้าสะเทือน ...เปิดก่อนได้เปรียบ... วลีนี้ยังคงได้ผลเสมอในวงการนักเลง เสี่ยพิชิตเอามือปาดเลือดที่ไหลออกมาจากจมูกแล้วหัวเราะดังลั่น

   “เล่นไม่เลี้ยงเลยนะเสี่ยหาน งั้นผมก็ไม่ปรานีล่ะ”

   พลั่ก! ผัวะ!!

   เสี่ยพิชิตวิ่งเข้าอัดโถมร่างใส่หาญศักดิ์จนติดกำแพงลูกกรงโครมใหญ่ ก่อนจะสวนหมัดใส่หน้าท้องของหาญศักดิ์เต็มๆ

   “อัวะะ!”

   หาญศักดิ์ร้องสบถเมื่อรู้สึกเหมือนจะอาเจียน ดวงตากลมโตเบิกโพลง พละกำลังของเสี่ยพิชิตไม่ได้หนักหนาขนาดนั้น หากแต่เทคนิคกลับแพรวพราวจนไม่น่าเชื่อ

   เสี่ยพิชิตหลบทุกหมัดของหาญศักดิ์ได้ทั้งหมด อีกทั้งยังรับกันท่าจนหาญศักดิ์สู้ต่อไม่ได้ หมัดของเขาถูกรับเอาไว้อย่างง่ายดายแล้วยังโดนจับไพล่หลัง เสี่ยพิชิตกดหาญศักดิ์ลงไปบนพื้นจนคนหนุ่มรู้สึกเหมือนไหล่จะหลุด รุนแรงยิ่งกว่าที่โซดาเคยทำเป็นเท่าตัว

   “คิดเหรอว่าคนแก่จัดการง่าย หึๆๆ มันไม่ง่ายแบบนั้นหรอกนะ”

   “อ๊า! อ้าก! อัวะะ!”

   ชายวัยกลางคนเข่าชายโครงของคนอ่อนกว่าวัยกว่าที่ถูกจับให้คุกเข่าซ้ำๆ แล้วต่อยหมัดเสยคางจนหาญศักดิ์ได้ยินเสียงกระดูกตัวเองลั่น ก่อนจะปล่อยแขนเขาแล้วเตะไม่ยั้งเข้าที่ลำตัว เสี่ยหนุ่มตัวงอหมดสภาพ หากแต่ดูเหมือนคนทำจะยังไม่สาแก่ใจ เขาหมุนตัวตวัดขากระโดดเตะซัดเข้าหน้าอกของชายหนุ่มเต็มแรง

   “โอ้กก!!”

   เสี่ยพิชิตแข็งแรงจนหาญศักดิ์ไม่อยากเชื่อ... แข็งแรงและทักษะดีจนเขาคิดว่าพอๆ กับโซดาเลยทีเดียว...

   และตอนนี้หาญศักดิ์รู้แล้ว


   ...เสี่ยพิชิตเป็นกังฟู...

   ใช่แน่ๆ... เขาเคยท่าแบบนี้จากป๊าสมัยเด็กๆ...

   มันไม่ผิดแน่นอน

   “อ้าวเฮ้ย! ไม่ปากดีแล้วเหรอเสี่ยหาน!! ฮะฮ่าๆ!!”

   เสี่ยวัยกลางคนอัดหาญศักดิ์จนลงไปนอนกองกับพื้นเป็นสุนัข เลือดออกจากปากและจมูกจนดูไม่ได้ หาญศักดิ์สำลักเลือดแค่กใหญ่ เสี่ยพิชิตเดินไปหยิบขวดน้ำตรงมุมห้องดื่มแล้วเทรดหัว เขาเดินไปคว้าปืนของหาญศักดิ์จากบนพื้น ก่อนจะกลับมายังร่างที่นอนพะงาบๆ หมดสภาพบนพื้น

   ผัวะ!!

   “อั่ก!”

   หาญศักดิ์ร้องเมื่อถูกชกหน้าอีกครั้งจนหน้าลงไปคลุกฝุ่น ดวงตาของชายหนุ่มพร่าเลือนไปหมด กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่วโพรงปาก...

   ไม่มีใครจะมาช่วยเขาได้... สถานที่นี้ถูกปิดล้อมด้วยลูกน้องของเสี่ยพิชิต... แล้วลูกน้องของเขาก็ถูกยำกันไปเละหมดแล้ว

   ความตายอยู่ใกล้หาญศักดิ์เพียงเงื้อมมือเท่านั้น

   ...ป๊าครับ...ม้าครับ...อั๊วกำลังจะไปหาพวกลื้อแล้วนะ...

   เสี่ยพิชิตก้มลงนั่งทับสะโพกของเจ้าหนี้ เขายิ้มใจดีแล้วขึ้นนกปืนในมือ

   กริ๊ก!

   “น่าเสียดายต้องมาตายตั้งแต่อายุยังน้อย...”

   ปลายกระบอกปืนนั่นจ่อหน้าผากของหาญศักดิ์จนผิวเนื้อถูกกดเป็นรอยวงกลมยับย่น หาญศักดิ์หลับตาปี๋

   “เอ้า แล้วเจอกันชาติหน้านะเสี่ยหาน”




------------------------------------
METAL TERMINAL 100%
ไม่นะเสี่ย เสี่ยยังตายไม่ได้นะ!

TBC

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ em1979

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
โซดามาช่วยเมียเร็วๆ สิ

ออฟไลน์ MissMay

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
โซดาอยู่ไหนนนนนน :katai4:

ออฟไลน์ dark-soleil

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
เราอ่านแล้วรู้สึกขัดแย้งกับหานมาก เป็นเจ้าพ่อบ่อนใหญ่ ลูกน้องก็มีเยอะขนาดนัั้น แต่สู้เด็กม.ปลายคนนึงไม่ได้...?

หานนี่ใช้เส้นพ่อแม่ขึ้นมาเป็นเจ้้าพ่อเหรอ ค่อดอ่อน

ออฟไลน์ namkang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
รอโซดามาช่วยอยู่ :z3: :z3:

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
โธ่เสี่ยหาน



เพิ่งจะมีผัวเด็กอยู่แหม็บๆ



จะมาด่วนตายจากซะแล้ว



ลาก่อยยยยยย

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
โซดามาช่วยเมียด้วย!!!!

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
มาช่วยเลยคุณสามีอภินิหาร

ออฟไลน์ ตั่วเจ้เจค

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-8
ยกที่ ๑๕


I knew I was in trouble from the moment I laid eyes on you
[ กูรู้ตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้สบตากับมึงและ
...ว่ามึงน่ะมันตัวปัญหา ! ]

(Too Young Too Die – Lindsey Lohan :  แปลเพลงเป็นเวอร์ชัน หาญศักดิ์ในเรื่อง ‘METAL TERMINAL พยัคฆ์คว่ำกวาง' โดยเจค)


:::METAL TERMINAL:::

   วี้หว่อ~ วี้หว่อ~ วี้หว่อ~

   “เสี่ยพิชิตครับ ฉิบหายแล้ว! ตำรวจมา!!”

   “เชี่ยเอ๊ย!!!!”

   ไม่ทันได้ยิงกระสุนเสียงไซเรนมรณะก็ดังขึ้นพร้อมๆ กับที่ลูกน้องคนหนึ่งตะโกนอย่างหวาดกลัว ชายวัยกลางคนสบถอย่างฉุนเฉียว ขืนลั่นปืนออกไปตอนนี้พวกตำรวจต้องตามมารวบตัวเขาไปอย่างไม่ต้องสงสัยแน่ ที่เก็บเสียงปืนก็ไม่มี ลูกน้องที่คอยชักสายลูกกรงควบคุมรีบนำลูกกรงขึ้นอย่างรู้งานและรวดเร็ว

   ผัวะ!!

   “โอ้ก!!”

   เสี่ยพิชิตปล่อยหมัดหนักๆ ใส่หน้าเจ้าพ่อเงินกู้อีกทีจนหาญศักดิ์เลือดออกหนักกว่าเดิม คราบเลือดเก่าแห้งเกรอะกรังติดตามใบหน้าหล่อหวาน สภาพของเสี่ยหนุ่มไม่มีชิ้นดี

   “ฝากไว้ก่อนนะเสี่ยหาน! โชคดีไปพ่อมึงมาได้จังหวะพอดี” เขาเอ่ยเยาะ ก่อนจะหันไปสั่งลูกน้อง “เฮ้ยพวกลื้อทุกคน เก็บของเก็บเงินให้หมด หนีเว้ย!!! อย่าให้หมาต๋าตามมาได้แม้แต่ตัวเดียว!”

   ทุกคนรีบขนของและเงินอย่างรวดเร็วปล่อยให้หาญศักดิ์นอนพะงาบอยู่ที่พื้นสกปรก วิสัยทัศน์การมองเห็นของหาญศักดิ์พร่าเบลอทีละน้อย เขาอ้าปากโกยอากาศหายใจ พยายามกะพริบตาของตัวเองถี่ๆ

   “เก็บของหมดแล้วครับเสี่ย แล้วไอ้นี่จะให้จัดการกับมันยังไงครับ”

   ลูกน้องคนหนึ่งพยัพเพยิดมาทางหาญศักดิ์ ทุกคนต่างลุกลี้ลุกลนไม่เป็นสุขเพราะตำรวจ เสี่ยพิชิตรีบร้อนเป็นอย่างมาก

   “ไม่มีเวลาแล้ว! ปล่อยมันนอนอยู่ตรงนั้นนั่นแหละ รีบหนีโว้ย!”

   เขาได้ยินเสียงโครมครามกุกกักก่อนจะเป็นเสียงฝีเท้าประมาณสิบกว่าเสียงวิ่งหนีออกไปจากห้อง หาญศักดิ์หายใจกระตุก เขาสำลักรสคาวเลือดที่คละคลุ้งในโพรงปาก ในที่สุดนัยน์ตาของเขาก็มัวจนไม่สามารถจับภาพออะไรได้อีกต่อไป

   “หยุด! นี่ตำรวจ! ยอมมอบตัวเดี๋ยวนี้!”

   หาญศักดิ์รู้สึกตัวหนักจนแม้กระทั่งหายใจยังยากลำบาก เขาเห็นภาพเบลอๆ ของชายในเครื่องแบบสีกากีหลายคนเข้ามาใกล้ ก่อนภาพทุกอย่างจะดำมืดลงอย่างรวดเร็วจนมองไม่เห็นอะไรอีก

   เจ้าพ่อเงินกู้สลบแน่นิ่งไปในที่สุด


:::METAL TERMINAL:::

   เฮือก!

   “โอ๊ยยย!!!”

   คนที่เพิ่งรู้สึกตัวลุกพรวดขึ้นมาจากเตียงก่อนจะต้องร้องดังลั่นเพราะความเจ็บปวดทางกายภาพ ร่างสูงร่างหนึ่งรีบรุดมาดูทันที

   “เสี่ยหาน! มึงเป็นไงบ้าง! มึงไหวไหม”

   “...ไอ้...เหี้ย...” หาญศักดิ์ยกมือขึ้นคลำใบหน้าของตัวเองทีละจุด “เจ็บฉิบหาย...”

   “มึง ดื่มน้ำก่อนเว้ย.... เอ้า” เสี่ยชานรีบรินน้ำจากขวดใส่แก้วให้เพื่อน หาญศักดิ์รับแก้วน้ำมา แต่ทันทีที่ขอบแก้วจรดริมฝีปากก็ต้องร้องโอยออกมาอีกครั้ง เสี่ยชานรีบกุลีกุจอหยิบหลอดที่วางไว้คู่กับแก้วน้ำที่ทางโรงพยาบาลเตรียมไว้ให้มาเสียบให้เพื่อน

   “ค่อยๆ ดูดเว้ย”

   “เออ...”

   เสี่ยหานดูดน้ำจากหลอดเป็นพักๆ ก่อนจะส่งแก้วคืนให้เพื่อน ชาญชัยพึมพำไม่ขาดปาก

   “เซนส์กูนี่แรงจริงๆ กูว่าแล้วว่ารู้สึกแปลกๆ ทั้งวัน มีเรื่องจนได้”

   หาญศักดิ์ยกมือขึ้นสัมผัสไปทั่วศีรษะและใบหน้าของตัวเองเมื่อดื่มเสร็จ

   “แม่ง...กูปวดหัวจังว่ะ...”

   “ก็มึงหัวโน ดีนะยังหัวไม่แตก” เสี่ยหนุ่มร่างสูงมีสีหน้าเคร่งเครียด “แต่ปากมึงฉีก บวมฉึ่งอย่างกับอึ่งอ่างเลย คิ้วซ้ายแตก แก้มก็เขียวช้ำ คางแตกอีกต่างหาก” ชาญชัยขบกราม อาการของหาญศักดิ์รุนแรงร้ายกาจอยู่เอาเรื่องทีเดียว “ดีนะดั้งไม่หักไปด้วย”

   ร่างสูงขบกรามแน่น

   “ไอ้เสี่ยพิชิต... มันหยามพวกเรามาก”

   ปัง!!

   ยิ่งคิดชาญชัยก็ยิ่งรู้สึกโกรธตาเฒ่าเจ้าเล่ห์ผู้เป็นต้นเหตุจนต้องตบตู้ที่อยู่ใกล้ๆ เพื่อระบายอารมณ์ พอได้รับแจ้งข่าวเขาก็รีบตามมาที่โรงพยาบาล และจัดการจ่ายค่ารักษาทั้งหมด อีกทั้งยังกำชับให้โรงพยาบาลดูแลเสี่ยคนดังผู้บาดเจ็บให้ดีที่สุด แพทย์เอกซเรย์แล้วว่าเจ้าพ่อเงินกู้เพื่อนรักของเขาปลอดภัยดี แต่ยังอยากให้อยู่ดูอาการสักคืนว่าจะมีความเจ็บปวดอย่างอื่น หรือสัญญาณอันตรายเกิดขึ้นไหม เพราะโดนซ้อมหนักขนาดนี้อาจจะกระทบกระเทือนสมองเอาได้

   “เมื่อก่อนพวกเราก็เคยโดนซ้อมแบบนี้...”

   “ไม่ต้องเมื่อกงเมื่อก่อนหรอกเสี่ยหาน เมื่อไม่นานมานี้กูเพิ่งถูกผัวมึงยำเละเป็นโจ๊กเลย เข้าโรงพยาบาลเหมือนกัน แต่ไม่หนักเท่ามึงในวันนี้เท่านั้นเอง เพราะโซดามันคงออมมืออยู่” เสี่ยชานเปิดเสื้อแล้วชี้ไปยังร่องรอยแผลบนตัวที่โซดาฝากเอาไว้เมื่อคราวก่อนโน้น คนเจ็บหนักมองแบบผ่านๆ

   “อือ...คิดถึงวันเก่าๆ ว่ะ” จู่ๆ หาญศักดิ์ก็เปรยขึ้นมาลอยๆ ถึงวันคืนที่พวกเขาร่วมกันก่อร่างสร้างตัวในอดีต ชาญชัยหน้าเคร่ง

   “มันไม่เหมือนกันโว้ยเสี่ยหาน เราไม่สมควรต้องถูกอัดแบบนี้แล้ว เรามาไกลกว่าจุดนั้นมาก”

   หาญศักดิ์พยักหน้ารับแกนๆ ก่อนจะตื่นตัวขึ้นมาทันทีเมื่อนึกอะไรได้ “แล้วไอ้เสี่ยพิชิตล่ะ? มันเป็นยังไงวะ มันถูกจับได้ใช่ไหม?”

   ชาญชัยถอนใจยาวเหยียด “พวกหมาต๋าคงรวบลูกน้องตัวเล็กๆ ของเสี่ยพิชิตได้บ้าง แต่พวกตัวใหญ่ๆ หนีรอดกันหมด ...ไอ้เหี้ยเอ๊ย! เจ็บใจนัก!”

   หาญศักดิ์ทิ้งศีรษะลงบนหมอนของโรงพยาบาลอย่างเคร่งเครียด ตราบใดที่เสี่ยพิชิตยังไม่ถูกจับเขาจะไม่มีวันสบายใจได้เลย และในเมื่อเป้าประสงค์ที่แท้จริงของมันคือการสังหารชีวิตเขา ฉะนั้น ตอนนี้หัวสมองของหาญศักดิ์จึงทำงานหนักดุจเครื่องจักรรถไฟเลยทีเดียว

   “โอย...!” พอใช้สมองคิดหนัก หาญศักดิ์ก็รู้สึกปวดหัวจนต้องร้องอุทานออกมาจนได้

   “เฮ้ย มึงยังไม่ต้องคิดมากเว้ย พักไปก่อน เดี๋ยวกูจัดการเอง ไหวเมื่อไหร่ก็ค่อยไปสน. ก็ต้องไปเป็นพิธีน่ะ กูเอาเงินไปอุดไว้หมดแล้ว ไม่มีใครกล้าทำอะไรมึงแน่”

   “แล้วลูกน้องพวกเราล่ะ? พวกมันทุกคนเป็นยังไงบ้าง”

   “ทุกคนรอดชีวิต มีบาดเจ็บสาหัสอยู่บ้าง แต่ไม่มีใครตาย ไม่มีใครที่มีแนวโน้มจะพิกลพิการด้วย”

   หาญศักดิ์รู้สึกโล่งอกไปเปลาะหนึ่ง

   “แม่งเอ๊ย... กูนึกว่าจะตายแล้วมึงรู้ไหมเสี่ยชาน ปืนจ่อหัวกูอยู่ตรงนี้” หาญศักดิ์จิ้มกลางหน้าผากตัวเอง “ปลายกระบอกแม่งเย็นเฉียบเลย...เย็นจนถึงหัวใจกูเลยมึงเอ๊ย”

   “คิดถึงวันคืนเก่าๆ เลยสิมึง แค่ฟังกูยังนึกถึงเลยแฮะ”

   “เออ ไม่ได้โดนเอาปืนจ่อกบาลแบบนั้นนานล่ะ หนาวดี” ไม่นับตอนโซดาในม่านรูดนะ

   “กูก็ยังไม่รู้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ได้แต่เดาเอาจากรูปการณ์...ถ้ามึงพอจะเล่าไหวก็ลองเล่ามาได้ไหมล่ะ”

   “ได้... ส่วนหนึ่งก็ต้องโทษที่กูประมาทเองด้วยแหละ”

   หาญศักดิ์เริ่มเล่าเรื่องราวทั้งหมดด้วยเสียงแหบๆ ให้เสี่ยชานฟังอย่างไม่ปิดบัง ต้องเว้นวรรคบ้างเพราะแผลบนใบหน้าทำให้เจ็บจนเล่ารวดเดียวไม่ได้

   “อะไรนะ!? ไอ้แก่นั่นมีวิชารึ?” เสี่ยชานเลิกคิ้วเมื่อหาญศักดิ์เล่ามาจนถึงตอนโดนซ้อม

   “ใช่ มันซัดกูจนมอบ เทคนิคเหลือร้ายมาก ไม่งั้นกูไม่มีทางแพ้แรงคนแก่หรอกมึงก็รู้”

   “...บรรลัยแล้วไง”

   “ใช่ กูก็คิดแบบนั้น” หาญศักดิ์ขมวดคิ้ว แล้วก็ต้องยกมือแตะหางคิ้วซ้ายเพราะปวดแผล “กูกับมึงเดี่ยวกับนักเลงด้วยกันมาทั้งชีวิตไม่เคยแพ้ ...มึงรู้ฝีมือกูดีกว่าใคร”

   เสี่ยชานพยักหน้า “ไม่นับไอ้ห่าโซดาเพราะไอ้นั่นเป็นนักมวย... กูก็ว่ามึงไม่น่าจะแพ้จริงๆ นั่นแหละเสี่ยหาน ที่แท้ไอ้แก่นั่นก็มีวิชาแต่ทำหงิมๆ ตอนมาขอกู้ตังค์”

   “เออสิวะ”

   ก๊อกๆ ...ครืด~

   “ขออนุญาตค่ะ”

   นางพยาบาลสาวเลื่อนบานประตูห้องคนไข้ออกแล้วนำถาดอาหารมาให้ สองหนุ่มเงียบความลับทางธุรกิจทันควัน สาวสวยร่างระหงทำเอาหาญศักดิ์ลืมเจ็บชั่วขณะ เขามองใบหน้าหวานๆ ที่กำลังจัดถาดอาหารให้ ยีนส์เจ้าชู้ในร่างกายของสองเสี่ยทำงานทันที ชาญชัยลอบมองเรียวขาสวยที่โผล่พ้นกระโปรงทรงสอบสีขาวของเครื่องแบบพยาบาล ก่อนจะไล่สายตาขึ้นมองสะโพกงามงอน

   “แหม... อาหารโรงพยาบาลนี้นี่น่าทานจังเลยนะครับ”

   หาญศักดิ์ป้อยอ พยาบาลสาวยิ้มหวานให้คนไข้ตามหน้าที่

   “คุณชาญชัยได้กำชับให้เราเตรียมอาหารให้คุณหาญศักดิ์ให้ดีที่สุดค่ะ” ชาญชัยยิ้มรับทันทีที่พยาบาลเอ่ยถึงตน “จะเป็นแบบที่ย่อยง่ายทานง่าย แล้วก็สารอาหารครบห้าหมู่...”

   “อ้าวเหรอครับ ผมนึกว่าเป็นเพราะคนที่เอาสำรับมาให้เสียอีก คนเอามาสวย...อาหารก็เลยดูน่าทานไปด้วย”

   พยาบาลสาวออกอาการขวยเขินเมื่อถูกหนุ่มคนไข้ส่งสายตาสัพยอกให้อย่างออกหน้าออกตา ชาญชัยที่นั่งอยู่กอดอกมองเพื่อนด้วยสายตาอิดหนาระอาใจ เขาไม่ใช่พวกปากไวแบบหาญศักดิ์ แล้วเขาก็จะไม่มีวันยิงมุกเสี่ยวหรือเล่นอะไรแพลงๆ แบบที่หาญศักดิ์ทำอยู่แน่ๆ

   เขาถนัดอยู่นิ่งๆ ส่งสายตานำไปก่อน แล้วรุกอย่างรวดเร็วเหมือนสายฟ้า ก่อนจะรวบหัวรวบหางเหมือนสายลม

   ...ก็ไม่เคยมีสาวคนไหนต้านทานเสี่ยชานได้แล้วกัน

   ชาญชัยไม่ชอบการผูกมัด และไม่มีความคิดที่จะลงหลักปักฐานกับผู้หญิงคนไหนทั้งนั้น ฉะนั้นเขาจึงไม่คิดจะหว่านเสน่ห์ป้อยอใครให้มีภาระพันผูก สำหรับเขาแล้วแค่ความสัมพันธ์ทางกายก็เพียงพอ

   พยาบาลสาวหันไปมองใบหน้าของคนเฝ้าไข้อย่างชาญชัยเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่กลับพบเพียงสายตานิ่งๆ หมายสั่นใจเปี่ยมไปด้วยความนัยน์ที่มองกลับมาเท่านั้น

   ...พอกันทั้งคู่...

   “เอ่อ ยังไงดิฉันขอตัวก่อนนะคะ” พยาบาลสาวรีบเอ่ยเมื่อทำตัวไม่ถูก เธอรู้สึกถูกคุกคามทางเพศจากสองเสี่ยหนุ่มขึ้นมาเสียอย่างนั้น สาวสวยหมุนตัวหันหลังจ้ำเท้าพรวดทันที

   “โอ๊ย!”

   “เป็นอะไรไปคะคนไข้! เจ็บตรงไหนหรือคะ!”

   เธอรีบหันหลังกลับมาเมื่อได้ยินคนไข้ร้อง เสี่ยชานวิ่งไปเกาะขอบเตียงที่เป็นกรงเหล็กทันที ชายร่างสูงใหญ่เอ่ยถามเพื่อนอย่างร้อนรน

   “มึงเป็นอะไรเสี่ยหาน!? มึงปวดหัวเหรอ? หรือมึงเจ็บแผลตรงไหน?”

   “...เปล่าครับ” เสี่ยหนุ่มที่นอนเจ็บอยู่บนเตียงลืมตาแป๋วแหวว ส่งสายตาคมซึ้งไปที่สาวสวยเพียงคนเดียวในห้อง “แต่ผมปวดใจที่คุณพยาบาลไม่สนใจผม”

   “...”

   เสี่ยชานเบ้ปากแรงมากกับความน้ำเน่าเจ้าชู้ของเพื่อน พยาบาลสาวสะดุ้งเฮือกหน้าเหลอเมื่อหาญศักดิ์ค่อยๆ เอื้อมมือมาจับมือเธอแบบที่เธอไม่ทันตั้งตัว เธอพยายามกระตุกมือออกแต่ก็ถูกยึดไว้

   “ไม่ทราบว่าคุณพยาบาลพอจะป้อนอาหารมื้อนี้ให้ผมได้ไหมครับ...” เขาใช้นิ้วโป้งเขี่ยหลังมือของเธออย่างถือวิสาสะ ดวงตาชายหนุ่มวิบวับ “แขนผมไม่ค่อยมีแรง จะให้เพื่อนผมป้อน...ก็จะดูไม่เหมาะ”

   “...เอ่อ แต่ เอ่อ...”

   “นะครับ...” หาญศักดิ์ออดอ้อนต่อ เอาให้รู้กันไปว่าเสี่ยหานสุดหล่อและสุดรวยจะเกี้ยวพยาบาลไม่ติด เขารู้ว่าไอ้เสี่ยชานก็เล็งเธอคนนี้อยู่ ดูสายตามันก็รู้แล้ว... ถ้าสาวเจ้าออกไปนอกห้องเมื่อไหร่ เสี่ยชานต้องรีบรุดไปทำคะแนนนำหน้าเขาแน่

   กูยอมไม่ได้โว้ย

   “ถ้าเกิดว่าเลยเวลาทานยา...เดี๋ยวผมจะไม่หายได้นะครับ เนี่ย...ผมเริ่มระบมแผลแล้วด้วย”

   “ไม่เป็นไรหรอกครับ”

   กึก!

   เสียงทุ้มต่ำเสียงหนึ่งดังขึ้นจากหน้าประตู โทนเสียงที่สุดแสนจะธรรมดาและคุ้นเคยนั่นทำเอาหาญศักดิ์ตัวแข็งทื่อ เสียงฝีเท้าก้าวเข้ามาใกล้เตียงเรื่อยๆ ทำเอาชายหญิงทั้งสามคนต้องหันไปจ้องผู้มาใหม่เป็นตาเดียว

   “ถ้าพี่ชานป้อนแล้วมันจะดูแปลก...”

   บริเวณบานประตูเผยให้เห็นร่างสูงโปร่งที่สะพายเป้กำลังก้าวเข้ามาช้าๆ รอยยิ้มพิฆาตบนใบหน้าหล่อๆ นั่นทำเอาหาญศักดิ์ขนลุกซู่ คิ้วเข้มข้างขวาของคนพูดเลิกขึ้นพร้อมๆ กับที่ขยับริมฝีปาก

   “เดี๋ยวผมป้อนให้เองก็ได้ครับพี่”


   เอื๊อกก!


   เอาแล้วไงกู...


   ผัวมาว่ะ!!!

:::METAL TERMINAL:::
   

   “อ้าวเฮ้ยเสี่ยหาน... กูว่ามึงคงไม่ต้องให้คุณพยาบาลเขาป้อนให้แล้วหรอกว่ะ” เสี่ยชานเอ่ยขึ้นท่ามกลางสีหน้าที่ช็อกจัดของเพื่อนรัก เขายิ้มล้อเลียนแบบสะใจสุดขีด “เดี๋ยวกูให้โซดาดูแลมึงนะ คืนนี้โซดาจะมานอนเฝ้ามึงด้วย กูจะกลับล่ะ คุณพยาบาล... เราออกไปพร้อมกันเลยดีกว่าครับ เดี๋ยวผมเปิดประตูให้...”

   “เอ่อ ค่ะ”

   เจ้าพ่อกาสิโนเอ่ยเสียงนุ่ม ส่งสายตาแพรวพราวให้พยาบาลสาวแล้วเดินไปเปิดประตูให้เธออย่างสุภาพบุรุษ มิวายเดินตามสาวเจ้าออกไปนอกห้องอีกต่างหาก ก่อนปิดประตูชาญชัยหันมายักคิ้วหลิ่วตาให้คนเจ็บที่นอนอยู่บนเตียง หาญศักดิ์ยิงฟันใส่เพื่อน

   ไอ้เลว! ถือโอกาส! ไอ้กร๊วก!!

   ทิ้งกูให้อยู่กับไอ้ผัวมหาประลัยสองต่อสองอีก โอ๊ยยยยยย แงงงงงง

   บรรยากาศในห้องวังเวงทันที หาญศักดิ์ที่นอนลืมตาดุ๊กดุ๋ยมองไปที่โซดาแบบหวาดๆ เด็กหนุ่มทิ้งเป้ที่สะพายเอาข้าวของสำหรับนอนเฝ้าคนเจ็บคืนนี้ลงบนโซฟา ยิ้มในหน้าก่อนจะลากเก้าอี้ตัวที่เสี่ยชานเคยนั่งให้มาติดกับริมเตียง เขาทรุดตัวนั่งลง

   “นี่ถ้าไม่เจ็บอยู่นะครับ ผมบอกเลยโดน”

   “แฮะ...แฮะ...”

   “สภาพดูไม่ได้ยังจะหน้าหม้อใส่สาว”

   “...มะ...ไม่ได้หม้อนะจ๊ะ” หาญศักดิ์พูดเสียงแผ่วๆ ...เจ็บขนาดนี้ต้องใช้ไม้อ่อนเท่านั้นครับ เกิดถูกซ้อมซ้ำอีกชีวิตจะหาไม่เอาได้ “เพียงแต่ว่าเจ็บอยู่อ่ะ มันกินเองไม่สะดวก”

   “เหรอ~?” โซดาลากหรี่ตาเสียงถามพลางเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง

   “ฮ่า...ใช่สิ”

   เด็กหนุ่มส่ายศีรษะ มุมปากกระตุก “เอาไปหลอกควายมันยังส่ายกบาลหนี ก่อนจะทำเจ้าชู้ไก่แจ้ผมถามหน่อยครับพี่เห็นสภาพตัวเองรึยัง”

   “ยังอ่ะ”

   “เอ้า เอาไป” เด็กหนุ่มเปิดลิ้นชักของโรงพยาบาลแล้วล้วงกระจกบานขนาดกลางออกมา “ส่องดูหนังหน้าตัวเองตามสะดวกเลยครับพี่”

   หาญศักดิ์รับกระจกมาแล้วตวัดสายตามอง เชื่อขนมกินเหอะว่าไอ้เด็กนี่มันโอเวอร์ สภาพเขาไม่มีทางจะแย่อย่างที่มันสาธยายหรอก...

   “อีช่อ!”

   หากทันทีที่เห็นสภาพตัวเองเต็มสองตาเสี่ยหนุ่มก็ตื่นตัวเต็มที่ สิ่งที่เสี่ยชานอธิบายกับโซดาผสมโรงด่ายังน้อยเกินไปด้วยซ้ำ ปากของเขาฉีกเป็นทางยาว ระบมบวมจนพองลมเหมือนลูกโป่งอัดก๊าซที่ใกล้แตกเต็มที่ หางคิ้วซ้ายถูกเย็บด้วยไหม ไหนจะยังคางที่บวมดุจลูกมะอึก เบ้าตาของเขาช้ำเขียวช้ำม่วงเป็นวงทั้งสองข้าง ตอนนี้มันเริ่มกลายเป็นสีแดงตามสภาพเวลา... ไม่นับรวมแผลที่จุดอื่นๆ ตามใบหน้าและลำคอ สภาพเขายิ่งกว่าเดอะฮัลค์ที่กลายร่างเป็นตัวเขียวๆ อีก

   หาญศักดิ์เผลออ้าปากค้างโดยอัตโนมัติจนเจ็บแผลที่ปาก

   “โอ๊ย!”

   โซดาเดินมาฉวยเอากระจกออกไปจากมือของเสี่ยหนุ่มแล้วเก็บที่เดิม เขายืนข้างเตียงยกมือขึ้นกอดอกพูดปาวๆ

   “ผมบอกแล้วพี่แล้ว พยาบาลคนเมื่อกี้คงจะกลัวสัตว์ประหลาดอย่างพี่น่าดู เห็นไหมครับ เธอรีบแจ้นหนีไปเลย”

   “โอย...หุบปากเถอะพ่อคู้น มึงมาเพื่อซ้ำเติมกูรึไงวะ”  หาญศักดิ์เอามือแตะแผลบนริมฝีปากเบาๆ “พูดแบบนี้มึงมาทางไหนไปทางนั้นเลย ทำให้กูปวดแผลเปล่าๆ กูไม่อยากเห็นหน้ามึง โน่น ประตู”

   พูดจบก็หันหลังไปอีกด้านแบบไม่สบอารมณ์เต็มที่ มาถึงโซดาก็ว่าเขาฉอดๆ  แถมหนักสุด...มาหาว่ากูหน้าอุบาทว์เป็นสัตว์ประหลาดอีก เป็นใครจะไม่โกรธวะ

   แก๊ง... ยวบ~

   จู่ๆ กรงเหล็กอีกด้านก็ถูกปลดออกลงไปห้อยอยู่ข้างล่าง ตามด้วยความรู้สึกที่ว่าฟูกที่ตัวเองกำลังนอนอยู่ยุบตัวลงไป หาญศักดิ์สะดุ้งเล็กๆ เมื่อมืออุ่นๆ ของใครคนหนึ่งทาบลงบนลำคอของเขาแผ่วเบา

   “ผมเป็นห่วงพี่มาก... พอรู้ข่าวจากพี่เฉินก็รีบมาเยี่ยม... อย่าไล่ผมเลยนะครับ...”

   “...”

   แววตาของคนพูดอ่อนลงจนหม่นแสง เขาเอื้อนเอ่ยคำพูดต่อ

   “นะครับ...ให้ผมอยู่นะครับ... พี่...”

   หาญศักดิ์ได้แต่กัดริมฝีปากกับน้ำเสียงออดอ้อนนั่น จะกลิ้งเกลือกหน้าหลบลงกับหมอนเป็นนางเอกนิยายก็ไม่ได้เพราะเจ็บแผล เขาข่มเสียงงุบงิบในลำคอออกมา

   “เออ... ตามใจ”

   โซดายิ้มจนดวงตาโค้งเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว เขาพลิกร่างเสี่ยหนุ่มให้หันมานอนหงายพลางจ้องหน้าอีกฝ่ายด้วยสายตาเป็นประกาย มันสุกสกาวเหมือนหมู่ดาวในคืนที่มืดสนิท ดึงดูดให้คนที่มองกลับต้องรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ อยู่ร่ำไป...

   แล้วโซดาก็หล่อมาก... หล่อมากจริงๆ...

   ทุกครั้งที่ได้เห็นหาญศักดิ์ก็ยังรู้สึกว่าลูกชายของลูกหนี้เขาหล่อมากเสมอ ทั้งเส้นผมสีดำสนิท...ไปจนถึงใบหน้าคมคายราวจิตรกรเอกเสกสรรค์...ยิ่งกอปรกับรูปร่างสูงโปร่งที่สมชายชาตรีนั่นแล้ว บางทีหาญศักดิ์ก็รู้สึกว่าเด็กหนุ่มดูโตเกินอายุไปมาก... ทั้งการกระทำทุกอย่าง และการพูดการจา ...อาจเพราะด้วยภาระหนักอึ้งอันเป็นหนี้ร้อยล้านของพ่อตัวเองที่ต้องแบกรับไว้ตั้งแต่ยังเด็ก ทำให้โซดาดูจะฉลาดทั้งความคิดและการกระทำเหลือเกิน

   หาญศักดิ์รู้สึกกระสับกระส่ายกับสายตานั่นจนต้องตะโกนออกมา

   “อะไรมึง จะเยาะเย้ยแผลบนใบหน้ากูรึไง เจ็บโคตรๆ...กูจะบอกไว้เลย”

   โซดาค่อยๆ เลื่อนไล่สายตาสำรวจดูแผลแต่ละรอยตามใบหน้าและลำตัวทันที หาญศักดิ์ยิ่งรู้สึกพลาดกว่าเดิม คนเจ็บที่นอนบนเตียงตัวสั่นสะท้านเมื่อสายตาของโซดามองราวกับเขาเปลือยเปล่าไปทั้งกาย มันชวนให้วูบวาบจนหาญศักดิ์ต้องรีบหยิบผ้าห่มมาคลุมทับร่างตัวเอง

   ดวงตาคมโค้งเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวอีกครั้งกับท่าทางของคนตรงหน้า

   “ถ้าผมไปด้วย... ไม่มีทางที่พี่จะเจ็บแบบนี้แน่...” มือหนาเลื่อนไปเลิกผ้าห่มลง แล้วแตะตรงบริเวณซอกคอของคนที่นอนอยู่

   “อาคมผมนี่ไม่ขลังเลยเนอะ...”

   สุ้มเสียงนั่นทำให้คนฟังต้องเกร็งตัวหันหน้าหลบ หาญศักดิ์ตัวแข็งเมื่อโซดาโน้มหน้าลงมาเป่าลมเบาๆ ที่รอยจูบนั่น ขนทั่วร่างของเขาลุกเกรียว

   “มันคุ้มครองพี่ไม่ได้เลย...”

   เด็กหนุ่มเผลอเอื้อมมือไปลูบเรือนผมของหาญศักดิ์อย่างอ่อนโยนแผ่วเบา

   “แต่แผลแค่นี้...เดี๋ยวก็หายสนิท...ไม่ตายหรอกครับพี่...”

   หาญศักดิ์ตาโต หดคอหลบวืดทันที โซดาเองก็เหมือนจะรู้ตัวว่าทำไม่เหมาะสมเกินเหตุกับการเล่นหัวผู้สูงอายุกว่าจึงรีบชักมือกลับมาล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วยักไหล่ ก่อนจะพูดเสียงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

   “ผมเคยโดนหนักกว่านี้อีกตอนขึ้นชกไทยไฟต์ โดนนักมวยปากีฯ อัดเกือบตาย แพ้เลยเวทีนั้น” น้ำเสียงของเด็กหนุ่มเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง มันกลายเป็นน้ำเสียงบอกเล่าแบบสบายๆ แทน

   “เออเนอะ...กูก็ลืมไปว่าอย่างมึงคงเจ็บตัวเจ็บหน้าจนชิน...”

   หาญศักดิ์เองก็พยายามทำลายบรรยากาศแปลกๆ ที่คละคลุ้งอยู่ในห้องให้หายไปเช่นกัน

   “ปากผมงี้ฉีกเป็นทางยาวกว่าพี่อีก” โซดาพยักหน้าแล้วทำท่าประกอบการเล่า “หน้าบวม... ช้ำเขียวช้ำเหลือง มึนมากครับ ผมเดินไม่ตรงไปเลยตั้งสองอาทิตย์”

   “ไหนมึงบอกชกมาร้อยเวทีไม่เคยแพ้ใครไง”

   โซดาทำหน้ามั่นใจแล้วกระดกคิ้วตอบ “ผมแพ้น้อยครับ น้อยมากก็แล้วกันไปเปิดประวัติดูในอินเทอร์เน็ตได้ อีกอย่าง นั่นมันก็สมัยหลายปีก่อนแล้ว”

   หาญศักดิ์เบ้ปาก “เออ”

   “ไม่เคยแพ้น็อกด้วยนะครับ แพ้แต้มอย่างเดียว”

   “จ้ะๆ พ่อคนเก่ง...”

   หาญศักดิ์ขี้เกียจจะต่อความยาวสาวความยืด มวยก็อันตรายจริงๆ นั่นแหละ... ไม่แปลกที่สันติจะอยากให้โซดาเพลาลง
   บรรยากาศประหลาดๆ เมื่อกี้ถูกขจัดไปอย่างง่ายดายเมื่อมีบทสนทนาเข้ามาคั่น หากแต่หาญศักดิ์รู้ดีว่ามันคงจะติดอยู่หัวเขาไปอีกหลายวันแน่ๆ

   เขาเป็นอะไรไปนะตอนนั้น... มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่...

   “พี่ครับ...กินข้าวนะครับ ยังอุ่นๆ อยู่เลย รอนานกว่านี้เดี๋ยวจะเย็น... พี่ต้องกินยาต่อด้วย”

   หาญศักดิ์พยักหน้าเมื่อโซดาพูดแทรกความคิด เขาเกือบลืมไปแล้วว่าต้องรับประทานอาหารเพื่อรับประทานยาต่อ เด็กหนุ่มเดินไปเลื่อนโต๊ะเข้าข้างเตียงที่ตั้งสำรับอาหารโรงพยาบาลมาให้ หาญศักดิ์เอื้อมมือไปหยิบช้อนในถาด

   “เอาไปทำไม กูจะกินข้าว!!”

   เขาโวยวายทันทีที่โซดาฉวยช้อนไปต่อหน้าต่อตาแล้วกระโดดขึ้นมานั่งบนเตียงด้วยกัน

   “ก็เมื่อกี้พี่บอกไม่ใช่เหรอครับว่าอยากให้พยาบาลป้อน... กินเองไม่ไหว”

   โซดาเอียงศีรษะพูด บนใบหน้าเคลือบไปด้วยรอยยิ้มกว้าง มันจ่อแทบติดใบหน้าของเสี่ยหนุ่มทำเอาหาญศักดิ์ได้แต่เงียบกริบ

   “...”

   “...มาครับพี่ เดี๋ยวผมป้อนเอง”

   คือกูแค่เต๊าะสาวเว้ยยยย TT_TT กูไม่ได้ต้องการให้มึงป้อนกูววววววว

   “ไม่ต้อง! กูกินเองได้น่า... ไม่ต้องลำบากมึงหรอก”

   หาญศักดิ์พยายามปฏิเสธโดยเอาความหวังดีมาบังหน้า หากแต่โซดาก็ส่ายหน้า “ไม่ได้หรอกครับพี่ ถ้าเกิดมีคนเห็น เขาจะนินทาลับหลังได้ว่าผมเป็นผัวที่ไม่ดี...”

   “เงียบนะ!!” หาญศักดิ์ตะโกนก้อง รีบเหลียวซ้ายแลขวาเพื่อดูว่ามีใครอยู่แถวนี้ไหม ความลับราชการนะมึงห้ามเผยแพร่... พูดออกมาในที่สาธารณะได้ยังง๊ายยย ภาพพจน์กู๊วววว

   โซดาแกะพลาสติกที่คลุมบรรดาถ้วยอาหารออกแล้วพูดไปด้วย

   “ไม่มีคนอยู่หรอกครับ มีแค่เราสองผัวเมีย...”

   “หุบปาก!!”

   เด็กหนุ่มยิ่งรู้สึกสนุกกว่าเดิมเมื่อเห็นท่าทางตื่นๆ ของคนตรงหน้า เขาเงยหน้าขึ้นจับจดใบหน้าที่มีรอยแผลไม่วางตา

   ...ทำไมพี่เขาน่ารักอย่างนี้นะ...

   น่ารัก... น่ารักแบบที่เป็นธรรมชาติมากๆ...

   ...แล้วโซดาก็รู้ ว่าพี่หานต้องไม่รู้ตัวแน่ๆ ว่าตัวเองน่ารักแค่ไหน...

   “พี่ครับ...กินข้าวนะ...”

   เด็กหนุ่มจ้วงช้อนตักข้าวต้มหมูสับขึ้นมาแล้วจ่อไปที่ริมฝีปากของคนเจ็บ หาญศักดิ์กลืนคำพูดทุกอย่างลงท้องเมื่อรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ขึ้นมาอีกแล้วกับสายตาที่ทรงพลังนั่น... เขาตัดสินใจหลับหูหลับตาอ้าปากรับข้าวต้มช้อนนั้นไปแต่โดยดีเพื่อตัดปัญหา

   “โอ๊ย! ร้อน!! แค่กก!”

   หาญศักดิ์พ่นข้าวต้มพรวดออกมาทันทีจนเลอะเสื้อโซดาแล้วแลบลิ้นออกมานอกปาก ร่างสูงทิ้งช้อนทันใด รีบกุลีกุจอวิ่งไปรินน้ำเสียบหลอดแล้วนำมาให้หาญศักดิ์อย่างรวดเร็ว

   “พี่หาน น้ำครับ”


   หาญศักดิ์คว้าน้ำไปดูดสองสามอึกใหญ่จนเกือบหมดแก้วแล้ววางลงบนโต๊ะเข้าข้างเตียง พอหายร้อนแล้วเสี่ยหนุ่มก็มองไปที่เสื้อโซดาอย่างเสียใจ

   “เอ่อ...กูขอโทษ”

   “ช่างมันเถอะครับ เรื่องเล็กน้อย”

   “...ตะ แต่”

   “พี่...ลองกินคำนี้นะครับ ไม่ร้อนแน่นอนผมรับประกัน...”

   โซดาเป่าลมบนช้อนอยู่อึดใจหนึ่งจนแน่ใจว่ามันหายร้อนแล้วจ่อไปที่ริมฝีปากของหาญศักดิ์อีกครั้ง หาญศักดิ์นิ่งอึ้ง... มองหน้าโซดาด้วยความรู้สึกประหลาดที่ตีกันเข้าเต็มร่าง

   “...กินสิครับพี่”

   “อะ...อือ”

   หาญศักดิ์รับข้าวต้มนั่นเข้าปาก มันไม่ร้อนจริงๆ ด้วย...และยังอุ่นกำลังพอเหมาะ

   “ยังร้อนไหมครับ?”

   หาญศักดิ์ที่กลืนข้าวต้มอยู่ส่ายหน้า โซดายิ้มกว้างออกมาอีกครั้ง ดวงตาของเด็กหนุ่มระยิบระยับ

   “...ดีจัง”

   ตึกตัก!! ตึกตัก!! ตึกตัก!!

   หาญศักดิ์สะดุ้งเฮือก ยกมือขึ้นจับหน้าอกตัวเองโดยอัตโนมัติ

   บ้าน่า... เขากำลังใจเต้นงั้นหรือ...

   ใจเต้นกับไอ้เด็กมากอภินิหารที่เคยซ้อมเขาเช้าเย็นคนนี้เนี่ยนะ...?

   หาญศักดิ์จ้องมองไปที่โซดาที่กำลังตั้งอกตั้งใจเป่าข้าวต้มช้อนต่อไปให้แล้วกะพริบตาตัวเองถี่ๆ

   บ้า... เป็นไปไม่ได้... เขาเป็นผู้ชายเต็มร้อย...อันที่จริงเกินร้อยเปอร์เซนต์เลยด้วย แถมเคยมีเมียเป็นผู้หญิงมานับไม่ถ้วน

   แล้วจะมาเสียดุลการค้าให้กับเกย์ได้ยังไง

   ...โอ้วโน้ววว!!

   แต่ทำไม... ทำไมโซดามันดีกับกูจังวะ... ทำเสื้อเลอะก็ไม่โกรธ...แถมหน้าตามันก็หล่อมากอีกด้วย...  ดวงตามันก็สวย...

   ยิ่งหุ่น ไม่ต้องพูดถึง...โคตรจะแฮ่ก

   ...เอาแล้วไงไอ้หาน...



   ...อ๊อต๊อเค๊!!!???




---------------------------------
50% METAL TERMINAL
ขำเสียหาน5555555555555555
เอาน้องโซดามาเสริฟให้แล้วนะคะ  :L1:


ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
เกือบซวยซ้ำนะเสี่ย

ออฟไลน์ namkang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ตั่วเจ้เจค

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-8
ต้องเป็นเพราะกูป่วยอยู่แน่ๆ ...เพิ่งโดนอัดมา ร่างกายเลยทำงานผิดปกติ

   ใช่ มันต้องเป็นแบบนั้นแน่น๊อน!!!

   “เป็นอะไรไปครับพี่ ทำไมหน้าขาวซีดเหมือนเห็นผีแบบนั้น” โซดาที่เป่าข้าวต้มเสร็จเงยหน้าถามอย่างไม่เข้าใจ หาญศักดิ์สะดุ้ง

   “อะ...อ๋อ! เปล่าๆ ไม่มีอะไรหรอก”

   เด็กหนุ่มขมวดคิ้วเข้าหากัน “แล้วทำไมพี่ต้องกุมหน้าอกแน่นอย่างนั้นด้วยครับ? เจ็บตามลำตัวเหรอ?”

   “หา? อ๋อ เปล่านี่” หาญศักดิ์รีบลดมือลงทันที “กูมึนๆ น่ะ”

   “...ผมก็ว่าพี่มึนจริงๆ นะครับ หรือไม่งั้น พี่ก็อาจจะเจ็บแผลจากข้างในตัว แบบ ช้ำในน่ะครับ” โซดาวิเคราะห์พูดจากประสบการณ์ หาญศักดิ์รีบตอบรับ

   “เออ ก็เป็นไปได้...”

   กูเลยใจเต้นแรงซีนะ! ที่แท้ก็เพราะช้ำในนี่เอง!

   พอหาเหตุผลแก้ต่างให้ตัวเองได้อย่างสบายใจเสี่ยหนุ่มก็รับประทานข้าวต้มที่โซดาป้อนช้อนต่อช้อนจนหมด...พอเสร็จแล้วร่างสูงก็เดินไปหยิบยามาให้ อีกทั้งยังกดน้ำร้อนมาผสมกับน้ำธรรมดาในแก้วให้กลายเป็นน้ำอุ่นอีกต่างหาก โซดาดูแลปรนนิบัติพัดวีเขาเป็นอย่างดียิ่งกว่าเมียเขาเสียอีก

   เออ แต่มันเป็นผัวเรานี่เนอะ... มันก็ต้องดูแลเราดีอยู่แล้วล่ะ

   ...กรรม! ทำไมกูต้องยอมรับว่ามีผัวด้วยเนี่ยยยยยยยย ทำมายยยยย

   “...โซดา ถามจริง กูอ่อนด๋อยมากเลยเหรอวะ?”

   จู่ๆ หาญศักดิ์ก็ถามออกมากลางปล้องหลังรับประทานยาเสร็จทำเอาโซดาที่กำลังทำเอาโซดาที่กำลังถอดเสื้อออกเพื่อเปลี่ยนเป็นเสื้อตัวใหม่ชะงักมือชั่วคราว

   “ยังไงครับพี่? ผมไม่เข้าใจคำถาม” เด็กหนุ่มเปลี่ยนเสื้อจนเสร็จแล้วเดินกลับมายืนข้างเตียง ใบหน้าหล่อเหลาเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งอย่างสับสน

   “ก็เรื่องต่อสู้อ่ะ...กูไม่เคยเอาชนะมึงได้เลย ขนาดไอ้เสี่ยพิชิตที่แก่แสนแก่ กูก็ยังเอาชนะไม่ได้แถมโดนเล่นซะเละ...”

   “...”

   “สมัยก่อนกูกับเสี่ยชานเป็นคู่หูที่ไม่เคยมีใครโค่นได้เลยนะ กูคลุกคลีอยู่ในวงการนี้ตั้งแต่อายุพอๆ กับมึงตอนนี้นั่นแหละ” หาญศักดิ์ถอนใจยาวเหยียด พิงศีรษะกับหมอนอย่างหมดแรง “...คราวก่อนเสี่ยชานก็แพ้มึงยับเยิน เข้าโรงพยาบาลเหมือนกันแต่ไม่หนักเท่านี้ หรือมันจะหมดยุคของพวกกูแล้ววะ”

   โซดาที่ยืนกอดอกพิงกำแพงฟังหาญศักดิ์ระบายต่อไปเรื่อยๆ ...เรื่องของลูกผู้ชายไม่ว่าวัยไหนก็คุยกันรู้เรื่อง

   “...แม่ง...ทำไมกูต้องโดนหนักขนาดนี้ด้วยวะ เจ็บฉิบหาย...แถมเกือบเอาชีวิตไม่รอด เสียศักดิ์ศรีอีกต่างหาก ไอ้เสี่ยพิชิตก็เสือกมีวิชากังฟู หน้าป๊ากูลอยมาเต็มเลยตอนมันสาดวิชาใส่ แต่ถึงยังไงมันก็แก่แล้วไม่น่าจะโหดได้ขนาดนั้น... อันที่จริงกูว่ากูก็พอใช้ได้อยู่นะ สมัยก่อนเดี่ยวกับใครก็ชนะหมด แต่ทำไมตอนนี้ถึงเป็นแบบนี้ไปได้วะ...”

   “ก็นั่นน่ะมวยมีครู ส่วนพี่น่ะมันมวยวัด แล้วพี่จะเอาชนะได้ยังไงเล่า”

   หาญศักดิ์นิ่งรับซึมคำพูดของโซดามาเต็มสมอง ที่โซดาพูดมาถูกต้องทุกประการ... ของบางอย่างไม่ต้องเรียนก็ทำได้...แต่เพราะไม่ได้เรียนนี่แหละทำให้ไม่มีพื้นฐาน ไม่สามารถพลิกแพลงหรือทำให้มันถูกต้องดีงามร้อยเปอร์เซนต์ได้เลย

   “...กูไปเรียนศิลปะการต่อสู้เพิ่มแบบเป็นเรื่องเป็นราวดีไหมวะ” หาญศักดิ์เปรยลอยๆ แต่โซดาก็ตอบรับคำพูดนั้นเป็นอย่างดี

   “ผมว่าก็ดีนะครับ ยังไงพี่ก็ยังจะอยู่วงการนี้ไปอีกนานไม่ใช่หรือ”

   “นั่นสินะ...” เสี่ยหนุ่มพยักหน้า ยังคงเหม่อมองไปเรื่อยอย่างไร้จุดหมายที่แท้จริง หาญศักดิ์ตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตัวเอง “กูจะได้แข็งแกร่งมากกว่านี้ บางทีขนลูกน้องไปก็ใช่ว่าจะช่วยอะไรได้ เกิดสถานการณ์คับขันยังไงก็ต้องดูแลตัวเองให้ได้ก่อน”

   “ถูกต้องครับ” โซดาทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้พลางพยักหน้ารับ “ชีวิตก็แบบนี้แหละ”

   “เรียนอะไรดีวะ... เทควันโด้ คาราเต้ ซีรัม กังฟู...ยูโด...?” หาญศักดิ์นิ่วหน้าขณะใช้ความคิด “แม่งมีให้เลือกเยอะจริง อันไหนถึงจะเหมาะกับกูวะเนี่ย”

   “มวยไทยไงครับพี่ ดีสุดๆ หมัดเท้าเข่าศอก ทุกอย่างเป็นอาวุธใช้ฆ่าคนได้ ของไทยเรานี่แหละเยี่ยมยอด”

   “เออเนอะ” หาญศักดิ์คล้อยตามโดยง่าย “มวยไทยก็ดี โหดดี... พอกูหายแล้วติดต่อจ้างโค้ชมาสอนเลยดีกว่า”

   “เฮ้ย จ้างคนอื่นทำไมครับ ให้ผัวสอนก็ได้มั้ง”

   “...”

   หาญศักดิ์ตัวแข็งทื่อ หลุดออกจากภวังค์ที่หมกหมุ่นครุ่นคิดในทันที เขาค่อยๆ เบนใบหน้าหันไปมองโซดาที่จ้องหน้ากลับมา แถมยังยักคิ้วจึ้กๆ แล้วส่งยิ้มมาให้ เจ้าพ่อเงินกู้อ้าปากหวอกินยุงได้สิบตัว

   ...เอาแล้วไง แม่งวนเข้ามาหาตัวเองได้ยังไวะเนี่ย ไม่เห็นรู้ตัวเลย...

   โซดาหลิ่วตาให้ทำเอาเสี่ยหนุ่มขนลุกขนพอง

   “ไม่เอา! ไม่ใช่มึงแน่ๆ ที่จะมาสอนกู! กูขอปฏิเสธ!!” หาญศักดิ์ร้องเสียงหลง

   มีหวังกูต้องถูกอัดกระเด็นไปไกลถึงปัตตานีแน่ถ้ามึงสอน! สภาพคงสะบักสะบอมกว่านี้อีก...

   มิหนำซ้ำ... เขาคงต้องกลายเป็นเบี้ยล่างแทบเท้าใต้เบื้องพระยุคลบาทของผัวอภินิหารอย่างถาวรโดยไม่ต้องสงสัย...
   ร่างสูงหรี่ตาสืบเท้าเข้าไปใกล้คนที่ตะโกนโหวกเหวกก่อนจะค้ำแขนข้างหนึ่งลงกับเตียง แล้วยื่นใบหน้าแทบติดกับใบหน้าของเสี่ยหนุ่ม

   “ทำไมครับ ผมนี่แหละตัวพ่อของวงการ ซ.โซดาตัวเป็นๆ อยู่ตรงหน้าพี่นี่ คิดว่าผมจะสอนใครง่ายๆ เหรอ ค่าตัวผมไม่ใช่ถูกๆ นะครับ”

   “งั้นมึงก็ไปรับจ้างสอนคนอื่นนู่น! กูไม่เรียนกับมึง!”

   “...”

   “...”

   เกิดความเงียบระหว่างทั้งสองอยู่ครู่ใหญ่ ทั้งคู่จ้องตากันอย่างเอาเป็นเอาตายจนกระแสไฟฟ้าแทบจะแล่นเปรี๊ยะออกมา ในที่สุด เด็กหนุ่มก็ยืดตัวขึ้นจากเตียงมายืนเต็มความสูงแล้วยกมือเสยผม

   “ปอดแหก”

   “...มึงว่าไงนะ?” สองพยางค์สั้นๆ ทำเอาเจ้าพ่อเงินกู้คิ้วกระตุก

   โซดายักไหล่ “ผมบอกว่าพี่ปอดแหก พี่กลัวผมล่ะสิ”

   “เปล่าโว้ย!” หาญศักดิ์ตะโกนสวนเสียงดังจนเจ็บแผลที่ปากฉีก เขายกมือขึ้นแตะแผลแล้วรีบพูดต่อ “กูไม่ได้กลัวมึงเล๊ย! สักกะติ๊ดก็ไม่มี! กูแค่ไม่อยากเรียนกับมึงต่างหาก!”

   “เหรอครับ” เด็กหนุ่มพูดเสียงนิ่งๆ ที่ฟังดูกวนอารมณ์เป็นอย่างมาก มิหนำซ้ำยังทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้แบบไม่สนใจอะไรอีก มือหนาควานหยิบรีโมทโทรทัศน์มากดเปิดดู ท่าทางนั้นดูดูถูกกันสุดกู่จนหาญศักดิ์อดไม่ได้ต้องแก้ต่างให้ตัวเอง

   “กูเคยเรียนมวยมาก่อนนะ!”

   “อ๋อ ครับ...”

   เด็กหนุ่มที่ดูโทรทัศน์ตอบรับแบบไม่ใส่ใจ ไม่แม้แต่เหลือบตามามองด้วยซ้ำ หาญศักดิ์ยิ่งร้อนรนตีโพยตีพาย

   “มึงไม่เชื่อกูล่ะสิ มึงคิดว่ากูอ่อนด๋อยใช่ไหม?”

   “เปล่าครับ ผมไม่ได้คิดอะไรเลย นอกจากคิดว่าพี่ปอดแหก แล้วก็...”

   โซดาหันหน้ามาไล่สายตามองหาญศักดิ์หัวจรดเท้า ก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปากพลางหันกลับไปสนใจหน้าจอโทรทัศน์ต่อ

   “...ไร้น้ำยา”

   ไร้-น้ำ-ยา!!!?

   “มึงว่ากูไร้น้ำยาเรอะ!!”

   โซดายกขาข้างขวาขึ้นมาวางพาดขาข้างซ้าย กระดิกเท้าดูโทรทัศน์อย่างสบายอารมณ์

   “ครับ”

   เจ้าพ่อเงินกู้อ้าปากค้าง แบบนี้มันดูถูกกันเกินไปแล้ว!

   เขาก็ลูกผู้ชายเหมือนกัน ผู้ชาย (แท้ๆ) ด้วย ...ใครๆ ก็รู้...

   เสี่ยหาน...ฆ่าได้...หยามไม่ได้โว้ย!

   ปัง!

   หาญศักดิ์ทุบฟูกที่ตัวเองนอนอยู่เสียงดังสนั่น ชี้นิ้วไปยังร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างเตียงอย่างฮึกเหิม

   “ตกลง! กูจะเรียนกับมึง! มึงคิดชั่วโมงละเท่าไหร่ว่ามาเลย!”

   โซดาหันขวับทันที เขายกมือขึ้นกอดอกพลางเอียงศีรษะ ถามด้วยน้ำเสียงประเมินปนดูถูก

   “แน่ใจ? พี่จะทำได้เหรอครับ”

   “ดูถูกกูมากไปแล้ว!” คนเจ็บตะเบ็งเสียง “เออ! กูแน่ใจ ค่าตัวแพงนี่มึง เท่าไหร่มึงว่ามาเลย ชั่วโมงละหมื่นกูก็จะเรียน! กูรวยมากจะบอกให้!”

   ฟึ่บ!

   หาญศักดิ์ใบ้กินเมื่อโซดาถือวิสาสะขึ้นมานั่งบนเตียงเดียวกันอีกแล้วแถมยังตวัดแขนนำหน้ามาซะน่ากลัวอย่างกับผีแม่นาคเก็บมะนาวใต้ถุนบ้าน เขารีบเบี่ยงตัวหลบ หากแต่ก็หนีไม่พ้นแขนยาวๆ นั่น

   โซดารัดช่วงบ่าคนที่ยังเจ็บไว้แน่นในอ้อมแขน รอยยิ้มกรุ้มกริ่มผุดขึ้นบนริมฝีปากหยักนั่นเหมือนสั่งได้ ก่อนร่างสูงจะซุกศีรษะลงบนไหล่ของเสี่ยหนุ่มแล้วถูไปถูมาเป็นเด็กๆ

   “มึงทำอะไรของมึงหา!” หาญศักดิ์แหกปากด่าทันที

   “...โอ๊ย สอนเมียรัก ไม่คิดตังค์หรอกครับ” พูดจบเด็กหนุ่มก็ยื่นหน้าไปหอมแก้มขวาของคนในอ้อมกอดตรงบริเวณที่ไม่มีบาดแผล หาญศักดิ์หลับตาปี๋ น้ำเสียงของโซดาฟังดูร่าเริงยิ่งกว่าปลากระดี่ได้น้ำขัดกับท่าทางไม่แยแสเมื่อกี้ลิบลับ

   “พี่พร้อมเมื่อไหร่ ผมเริ่มสอนเลยนะครับ”

   “...!!!”

   เจ้าพ่อเงินกู้สะดุ้งเฮือกเมื่อมือหนาข้างหนึ่งของโซดาไต่เลื่อนลงมากอดประคองเอวของเขา...หมิ่นเหม่ก้นเล็กๆ... เสี่ยหนุ่มตัวแข็งเด๊กเป็นหิน

   แววตาของแชมป์มวยระยิบระยับ

   “...พี่... ผมจะสอนพี่ดีๆ เลย”

   “...” <<< หาญศักดิ์


   เดี๋ยวนะ ทำไมกูถึงรู้สึกไม่ปลอดภัยเลยวะ...


   ...โดยเฉพาะช่วงประตูหลัง...



   แล้วกูก็รู้สึก...


   ...เหมือนกูตกหลุมพรางเกย์คิงไม่มีผิดเลยโว้ยยยยยยยย
   
   


มีต่อค่ะ...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-08-2016 12:08:54 โดย ไรเตอร์เจค »

ออฟไลน์ ตั่วเจ้เจค

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-8
:::METAL TERMINAL:::   
   
   
   “ที่นี่สอนได้เหรอวะ?”

   หาญศักดิ์พูดแล้วมองไปรอบๆ ห้องชมรมมวยไทยของโรงเรียนมัธยมศึกษาเหมศักดิ์อย่างคลางแคลงใจ มันเป็นห้องขนาดใหญ่พอสมควร มีเวทีมวยกลางเก่ากลางใหม่อยู่ตรงบริเวณหนึ่งของห้อง นอกไปจากนั้นยังมีกระสอบทราย พันชิ่งบอล เชือกกระโดด และอุปกรณ์เล่นเวทเทรนนิ่งอีกจำนวนหนึ่ง พื้นในห้องทั้งหมดปูด้วยเบาะจิ๊กซอว์สำหรับเล่นกีฬา เวลานี้ในห้องชมรมเงียบสงัดเพราะเป็นเวลาเกือบหนึ่งทุ่มแล้ว

   โซดาที่อยู่ในชุดนักเรียนแบบไม่เรียบร้อยนักพับถลกแขนเสื้อนักเรียนขณะเดินไปจับโน่นจับนี่ตามประสาประธานชมรมที่ต้องคอยเช็กของตลอดเวลาจนเป็นนิสัย ก็งบโรงเรียนนี่นะ...ถ้าเสียหายหรือสูญหายคนที่ต้องรับผิดชอบก็คือสมาชิกชมรมทั้งหมด

   และช่วงเวลาสี่โมงเย็นถึงหกโมงเย็นพวกสมาชิกในชมรมก็เพิ่งจะมาใช้ห้องกันไป ส่วนโซดานั้นไม่ได้ซ้อมเอาจริงเอาจังกับพวกสมาชิกในตอนนั้น แค่ช่วยไกด์และแนะนำนิดๆ หน่อยๆ เพราะเขาอยากเก็บแรงมาสอนหาญศักดิ์ให้ดีที่สุด เจ้าพ่อเงินกู้แจ้งผู้บังคับบัญชาของโซดาอย่างเฉินแล้วว่า ต่อไปนี้โซดาจะเว้นกะการทำงานช่วงเย็นที่กาสิโนสัปดาห์ละสองวันเพื่อมาสอนมวยไทยให้กับเขา และสาบานได้ว่าหาญศักดิ์เห็นไอ้โหนกนรกแตกนั่นยิ้มล้อเลียน

   “ซ้อมได้สิครับพี่ ผมเป็นประธานชมรมนะ แล้วช่วงนี้ก็ไม่ได้กลับบ้านเรากันเลย ที่โรงแรมพี่ก็มีแต่ฟิตเนส แต่ไม่มีพื้นที่กว้างๆ สำหรับเรียนศิลปะการต่อสู้”

   หาญศักดิ์กลอกตา ไม่รู้ว่าบ้านของเขาที่อยู่มาคนเดียวเกือบสิบปี มันกลายเป็นบ้านของเราไปตั้งแต่เมื่อไหร่... หาญศักดิ์ที่ยืนเก้ๆ กังๆ กระแอมกระไอ

   “แล้วถ้าเกิดว่าไม่เรียนมวยที่นี่อ่ะ เรียนที่ไหนได้บ้าง”

   โซดาที่ยังคงเช็กของไปเรื่อยยักไหล่ “ก็ที่ค่ายมวยที่ผมสังกัด...แต่ผมคงให้พี่ไปไม่ได้หรอก ทั้งนักกีฬาทั้งโค้ชทั้งครูมวยเยอะแยะ บางทีเขาก็เก็บตัวกัน อีกอย่าง ผมคิดว่ามันจะน่าขายหน้ามากถ้าพี่ไปเตะต่อยแบบสะเปะสะปะแล้วเจ้าพวกนั้นมารุมดู”

   เออ ก็จริงแหละ ก็ถูกของมัน...

   “แล้ว...กูต้องทำไงมั่ง”

   โซดาที่นั่งอยู่บนเบาะที่กองๆ กันเลิกสนใจหยิบจับสิ่งของก่อนจะหันมาหรี่ตามองสำรวจหาญศักดิ์หัวจรดเท้า เจ้าพ่อเงินกู้เม้มปากเมื่อถูกมองเหมือนเอ็กซเรย์

   แหม มองเฉยๆ ไม่ต้องทำหน้าเซ็กซี่ได้ไหมล่ะ

   โอ๊ย หรือกูหลงมันวะถึงได้มองว่าหน้าธรรมดาดูเซ็กซี่ไปได้

   โน้ว... ไม่เอาน่าหาญศักดิ์นนน

   อ๊อต๊อเค๊!????

   “เปลี่ยนชุดสิครับ พี่คงไม่ใส่กางเกงยีนส์นู้ดดี้เรียนมวยหรอกนะ ท่อนบนก็อะไรก็ได้ที่ใส่แล้วคล่องตัว...” โซดายกมือข้างหนึ่งขึ้นลูบคางขณะมองคนตรงหน้า หาญศักดิ์รู้สึกร้อนๆ หนาวๆ กับสายตาคมกริบนั่นจนต้องเบี่ยงหน้าหลบ

   “ผมว่าเสื้อกล้ามนี่ก็โอเคแล้วแหละครับ แต่ถอดเสื้อแจ็กเกตออกด้วยก็แล้วกัน”

   พูดจบโซดาก็ยักไหล่ ล้วงกุญแจออกมาจากกระเป๋ากางเกงนักเรียน แล้วหันหลังขวับเปิดล็อกเกอร์อันหนึ่งในห้องออกขณะที่หาญศักดิ์ถอดแจ็กเกตแล้ววางมันกองไว้บนพื้น ข้างในตู้ล็อกเกอร์นั้นมีกางเกงมวยผ้าร่มขาสั้นวางทับซ้อนกันอยู่หลายตัว มือหนาดึงออกมาสองตัวแล้วก็ยื่นให้เสี่ยหนุ่มตัวหนึ่ง

   “เปลี่ยนเป็นอันนี้ก็ได้ครับ เรามีแม่บ้านคอยซักให้ทุกๆ สองวัน สะอาดแน่นอน”

   หาญศักดิ์รับมาอย่างว่าง่าย “อืม ขอบใจ แล้วห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ที่ไหนเหรอ”

   โซดายิ้มขำ เขาเอามือข้างหนึ่งค้ำล็อกเกอร์แล้วหันขวับไปมองหน้าคนถามพลางเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง

   “พี่เป็นตุ๊ดเหรอครับ”

   หาญศักดิ์ถลึงตาแยกเขี้ยว “มึงสิตุ๊ด!”

   “เอ้า ผมไม่ได้เป็นตุ๊ดครับ” (แต่เป็นเกย์! -- หาญศักดิ์นึกในใจ)

   เด็กหนุ่มยิ้มตาหยีเหมือนหุ่นอาตี๋แป๊ะยิ้มในขบวนเชิดมังกร “เราแมนๆ อยู่ด้วยกันพี่ต้องกระมิดกระเมี้ยนไปเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยเหรอครับ แหมๆ...”

   มึงมันเป็นแมนๆ เหมือนกันที่อันตราย!

   ยังมีหน้ามาแหมๆ อีก...อีห่า

   “เปลี่ยนๆ ไปเถอะครับ เห็นแบบนี้ผมไม่ง่ายนะ”

   โซดาหลิ่วตาใส่เสี่ยหนุ่มแล้วก้มหน้าลงผิวปากขณะปลดตะขอกางเกงนักเรียนตัวเองเตรียมเปลี่ยนกางเกงบ้าง หาญศักดิ์เบ้ปาก หันหลังไปอีกทางแล้วบ่นพึมพำตอนถอดกางเกงยีนส์ออกจากช่วงล่าง

   “...ไม่ง่ายแต่กูก็ได้กับมึงมาทุกท่า แถมเป็นฝ่ายเริ่มอีก จ้ะ ไม่ง่ายเลยพ่อคุณ”

   โซดาหัวเราะในลำคอ พี่หานคิดว่าเขาจะไม่ได้ยินหรือยังไง เด็กหนุ่มเปลี่ยนกางเกงจนเสร็จก็ยืนพิงกับล็อกเกอร์มองแผ่นหลังของอีกฝ่ายที่ยังคงมีเสียงบ่นปอดแปดลอยมาตามลมไม่เลิก ในที่สุด เด็กหนุ่มก็เปรยขึ้นมาลอยๆ

   “ผมใจง่าย...แค่กับคนที่ผมชอบ”

   “...”

   เสียงตามสายลมทำให้หาญศักดิ์ที่กำลังใส่กางเกงมวยตัวแข็ง ขนาดจากด้านหลัง โซดายังเห็นเลยว่าร่างนั้นชะงักกึก ร่างสูงคลี่ยิ้ม ค่อยๆ สาวเท้าเข้าไปหาอีกฝ่ายช้าๆ อย่างเงียบเชียบ แล้วโน้มหน้าลงไปกระซิบเข้าที่หูขวาของหาญศักดิ์

   “แล้วพี่อยากรู้ไหมครับ...ว่าผมชอบใคร”

   “...!”

   หาญศักดิ์สะดุ้งเฮือกเมื่อพบว่าเสียงแหบพร่านั่นอยู่ใกล้จนแนบชิดมากแค่ไหน ใกล้จนเขารู้สึกได้ถึงรังสีไออุ่นจากร่างกายของคนข้างหลัง... โซดายิ้มเมื่ออีกฝ่ายตัวแข็งทื่อจนน่าขัน เขาพลิกหันร่างหาญศักดิ์ให้หันมาจ้องหน้าตัวเอง ดวงตากลมโตเหมือนกวางป่ากำลังเบิกโตสุดขีด ร่างสูงย่อตัวลงดึงกางเกงมวยขึ้นให้อีกฝ่ายให้มันเรียบร้อย ก่อนจะใช้สองมือจับบ่านั่น หาญศักดิ์ตัวเกร็งคล้ายเด็กสาวแรกรุ่นผวาเมื่อถูกจับไหล่ ใบหน้าของเด็กหนุ่มที่ก้มหน้าลงจนอยู่ระดับสายตาเดียวกันทำให้เขาต้องกลืนน้ำลายลงท้อง ดวงตาคู่คมกริบจ้องมองมาอย่างจริงจังแน่วแน่...

   “ผมชอบใคร...พี่อยากรู้ไหมครับพี่หาน”

   ...ใบหน้าหล่อๆ โน้มลงมาใกล้ทีละน้อย...ทีละน้อย... จนในที่สุดปลายจมูกโด่งนั่นก็แทบจะชนกับปลายจมูกของเขา หาญศักดิ์รู้สึกได้ลมหายใจอุ่นๆ ที่รินรดลงมาบนริมฝีปากตัวเองอย่างชัดเจน

   “พี่หาน ผมชอบ...”

   “กะ-กูไม่อยากรู้โว้ย!!!”

   ตะโกนเสร็จสองมือก็ผลักคนตรงหน้าออกไปอย่างรวดเร็ว หาญศักดิ์หลับตาปี๋เม้มปากแน่นหน้าแดงลามไปจนถึงใบหู โซดาที่ถูกผลักออกมารีบหาสมดุลในการยืน ทั้งห้องเงียบกริบมีเพียงแค่เสียงเข็มนาฬิกาบนฝาผนังเท่านั้นที่ยังคงเดินไปเรื่อยๆ
   ในที่สุดหาญศักดิ์ก็ลืมตาโพลง

   “มึงจะชอบใครก็เรื่องของมึง! เมื่อไหร่จะสอน เวลากูมีค่านะเว้ย!!”

   เสี่ยหนุ่มตะโกนสุดแรงเสียจนเหนื่อยหอบ หัวใจเต้นตึกตักไม่เป็นจังหวะกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เอาอีกแล้ว...มันมาอีกแล้ว... และหาญศักดิ์ก็ไม่อาจจะจัดการอะไรกับมันได้เลย

   โซดามองคนตรงหน้าที่ตอนนี้หน้าขึ้นสีจัด ก่อนริมฝีปากหยักจะขยับยกยิ้มขึ้น

   ...น่ารัก...

   ...น่าเอ็นดู...

   พี่หานเป็นอย่างนี้เสมอในสายตาของเขา...

   “เอ้า งั้นเราก็มาเริ่มกันเลยครับ มายืนนี่สิครับพี่”

   “โอเค”

   หาญศักดิ์ตอบรับแล้วเดินเกาหัวทั้งที่ไม่ได้คันไปยังตำแหน่งที่โซดาชี้ ทั้งสองหันหน้าเข้าหากระจกบานใหญ่ยักษ์ที่ติดเอาไว้ เด็กหนุ่มเริ่มยืนในท่ามาตรฐานให้หาญศักดิ์ดูก่อน

   “ผมจะข้ามการสอนไหว้ครูก็แล้วกัน อืม มาเริ่มกันตั้งแต่ท่ายืนเลยนะครับ”

   “มึงข้ามขั้นเลยก็ได้ กูบอกแล้วไงว่าเคยเรียนมาก่อน” หาญศักดิ์ส่องกระจกแล้วเอามือปัดผมด้านหน้า ทำท่าเหมือนเก่งมากมาย โซดาขมวดคิ้วเข้าหากัน

   “มวยเนี่ยเหรอครับ?”

   “เออสิวะ”

   เด็กหนุ่มทำสีหน้าเคลือบแคลงใจ เขาถามหยั่งเชิง “แล้วพี่เรียนที่ไหนมาครับ?”

   “ก็...” หาญศักดิ์ยักไหล่ “ก่อนจะสร้างยิมที่บ้าน กูเคยเป็นสมาชิกฟิตเนส เขาก็มีคลาสมวยอยู่...”

   ขวับ!

   หาญศักดิ์สะดุ้งเมื่อโซดาหันขวับมามองหน้า ในดวงตาคู่นั้นเหมือนมีไฟซีนอนลุกวาวอยู่ ก่อนเด็กหนุ่มจะเปล่งเสียงช้าๆ ชัดๆ

   “ผม...เกลียด...มวย...แบบ...นั้น...มาก...” ใบหน้าหล่อเหลาดูน่ากลัวราวกับถูกต่อยทีเผลอ หาญศักดิ์กลืนน้ำลายลงท้องเอื๊อกใหญ่

   “มันกากที่สุด...” เสียงของโซดาเย็นเยียบจนแช่แข็งคนฟังได้ “ในฐานะผู้สืบสานต่อวัฒนธรรมไทยมันเป็นอะไรที่ยอมรับไม่ได้ ทุกครั้งที่เห็นผมก็ได้แต่โมโหหงุดหงิด ครูมวยพวกนั้นไม่เคยสอนให้ถูกหลักการ แค่สอนแบบผ่านๆ หลอกคนเล่นให้เตะต่อยเสียแรงเสียเหงื่อแล้วก็เหนื่อยหอบ เพื่อเป็นการลดน้ำหนักหรือออกกำลังกาย...แค่นั้น”

   เอ่อ ก็จริงนะ...

   แต่ทำไมต้องทำท่าน่ากลัวใส่กูด้วยล่ะ T_T

   “...ถ้าพี่จะเรียนกับผม พี่ต้องลืมทั้งหมดนั่น ล้างไพ่เล่นใหม่ เราไม่ได้จะเรียนเพื่อฟิตหุ่น หรือลดน้ำหนัก เราเรียนเพื่อนำไปใช้ต่อสู้ป้องกันตัว พี่น่าจะรู้อยู่ว่าที่พี่เคยเรียนมามันไม่มีประโยชน์เลยพอเกิดอะไรขึ้นมา ตกลงไหมครับ”

   หน้าตาจริงจังของโซดาทำให้หาญศักดิ์ต้องพยักหน้ารับอย่างไม่มีเงื่อนไขเพราะอีกฝ่ายพูดถูกทุกอย่าง เด็กหนุ่มยิ้มแล้วชูนิ้วโป้งให้ ก่อนจะหันกลับหากระจกเหมือนเดิม

   “หลักการยืนของมวยไทยคือต้องยืนโดยคิดถึงความสมดุลของสรีระ ยืนให้ความกว้างของขาเท่ากับไหล่ หรือมากกว่าไหล่นิดหนึ่ง ลองคิดถึงท่าคร่อมมอเตอร์ไซค์น่ะครับ... ใช่แบบนั้นแหละ แล้วก็เอาขาข้างที่จะเป็นอาวุธไว้ด้านหลัง พี่กับผมถนัดขวาทั้งคู่ ฉะนั้นเราจะยืนแบบเอาขาขวาวางไว้ข้างหลังนิดหนึ่งก่อน”

   โซดาพูดแล้วก็เดินมาจัดท่ายืนให้เสี่ยหนุ่ม ก่อนจะกลับไปยืนสอนที่เดิม เด็กผู้ชายขี้เล่นคนที่อยู่กับหาญศักดิ์ทุกวันราวกับจมหายไปร่างของเจ้าตัวเอง

   “...แล้วลงน้ำหนักไว้ที่ส่วนปลายเท้านะครับ ลองคิดถึงท่านักมวยเวลาเคลื่อนไหวบนสังเวียน เรารวดเร็วกันมากแล้วก็จะขยับอยู่ตลอด... เวลาเตะ เท้าหลังจะเป็นอาวุธที่ใช้เตะออกไป ส่วนเท้าหน้า ในกรณีนี้คือเท้าซ้าย จะเป็นจุดหมุนตรึงอยู่กับพื้นได้ตามแรงเหวี่ยงที่พี่จะเตะ”

   หาญศักดิ์รับฟังอย่างจริงจังแล้วทำท่าตามที่ครูมวยส่วนตัวสอนทุกประการ โซดาสอนอย่างตั้งอกตั้งใจและเข้าใจง่าย แต่เนื่องจากหาญศักดิ์เป็นผู้ชายที่ทั้งชีวิตเตะต่อยต่อสู้แบบไร้หลักการมาโดยตลอด พอต้องมาทำตามแบบแผนที่ถูกที่ควรจึงรู้สึกได้ถึงความยุ่งยากมากมายที่บังเกิด เหมือนอยู่ๆ ก็มีคนมาสอนให้จับตะเกียบแบบถูกวิธีทั้งๆ ที่คีบตามแบบฉบับของตัวเองมาทั้งชีวิต เรื่องสำคัญคือมันทำให้รู้สึกไม่ถนัดอย่างมาก

   “อย่ายืนแบบนี้!!” โซดาตะโกนดังลั่นจนเสี่ยหนุ่มสะดุ้งโหยง “ถ้าพี่อยากยืนแบบสบายพี่ต้องไปเรียนเทควันโด! นั่นน่ะยืนขาตรง โดนเตะตัดขาก็จบ เอาไปทำประโยชน์ในชีวิตจริงไม่ได้ เข้าใจไหมครับ!”

   “โอเค! โอเค! ขอโทษ!”

   หาญศักดิ์หน้าตื่นละล่ำละลักพูดขอโทษขอโพย ทำไมต้องทำหน้าเครียดขนาดนั้นด้วยเล่า ก็คนมันยังไม่เก่งนี่หว่า เพิ่งเรียนครั้งแรกเอง นี่กลัวแล้วนะเว้ย

   ระหว่างสอนโซดาจะคอยเปรียบเปรยมวยไทยกับศิลปะการต่อสู้อื่นๆ ตลอด และอธิบายถึงประโยชน์ของการเรียนไปด้วย หาญศักดิ์เข้าใจดีว่าทุกคนก็ต้องมั่นใจว่าวิชาที่ตัวเองร่ำเรียนมาดีเลิศกว่าวิชาอื่น ฉะนั้นเขาจึงพยายามมองข้ามเวลาโซดาดูถูกศิลปะการต่อสู้เหล่านั้น และตั้งอกตั้งใจเรียนแทน

   “...เวลาต่อย...ให้ใช้สันหมัด” โซดาค่อยๆ ปล่อยหมัดออกกลางอากาศให้ดู ท่าสวยจนหาญศักดิ์ต้องกรี๊ดในใจ ความจริงแล้วเขาอยากจะหาธงมาโบกเพื่อเชิดชูซ.โซดาเสียด้วยซ้ำ ยิ่งเปรียบเทียบกับท่าของเขาในกระจกบานเดียวกันแล้ว โซดาอยู่เหนือกว่าสักสิบขุม แล้วยิ่งยามนี้เด็กหนุ่มถอดเสื้อออกไปเรียบร้อยเพราะร้อนและไม่ชิน (เจ้าตัวบอกแบบนั้น ความจริงจะอวดว่าหุ่นดีก็บอกมาเหอะแก๊!) เหงื่อที่อาบท่วมกายกำยำมันยิ่งทำให้เซ็กซี่เร้าใจเป็นเท่าตัว

   นี่แหละครับพี่น้อง หล่อโหดจนโฉดของแท้!

   เสียงทุ้มกล่าวต่อช้าๆ ขณะแสดงท่าทางประกอบ “...อย่าไปใช้ตรงข้อนิ้วแบบที่ชิน มันจะทำให้กระดูกแตกได้... ให้ใช้สันหมัด มันจะแข็งแล้วก็ต่อยได้เจ็บกว่า แล้วเวลาปล่อยหมัด ถ้ามีพื้นที่ เอาขาข้างเดียวกันออกไปข้างหน้าพร้อมหมัด แล้วส่งไหล่ออกไปด้วย”

   สอนจบก็ต่อยลมเท่ๆ เอ็กซ์ๆ ให้ดูเป็นบุญตาชุดหนึ่ง ทั้งหมัดตรงหมัดฮุกและอัปเปอร์คัทจัดกันให้นัวไปหมด โซดาสลับเท้าสลับมือซ้ายขวาไร้ที่ติ หาญศักดิ์ตาโต

   “...เอ้า พี่ลองทำดูนะครับ แค่หมัดขวาตรงหมัดเดียว เอาให้ท่าถูกก่อนแล้วเวลาต่อยจะมีพลังเพิ่มขึ้นมากเลย ทำแบบช้าๆ ไม่ต้องรีบนะครับ”

   หาญศักดิ์ลองทำท่าตามโซดาช้าๆ พยายามคัดลอกท่ามาตรฐานของเด็กหนุ่มให้ถูกต้องแบบเป๊ะๆ ให้ได้...
   “อีกมือต้องอยู่ที่ไหน!” จู่ๆ โซดาก็ตะเบ็งเสียงดังลั่นทำเอาหาญศักดิ์สะดุ้งเฮือก สมาธิแตกกระเจิง “ผมบอกแล้วใช่ไหมว่าถ้ามือไหนไม่ใช้ให้เอาปิดหู!! หูน่ะเป็นจุดอ่อนของคน ถ้าเกิดว่าถูกทำร้ายตรงนั้นก็จะหมดสติ ทำไมพี่ลืมอีกแล้วล่ะครับ!? ทำไมพี่จำไม่ได้สักที! นี่มันแค่พื้นฐานง่ายๆ เองนะ!”

   หาญศักดิ์รีบกระตุกมือซ้ายขึ้นมาปิดหูแทบไม่ทัน

   “หนีบข้อศอกเก็บเข้าไปด้วย!! แล้วแขนน่ะแขน ใครให้ออกหมัดแขนตรงเด๊ะแบบนั้น!” โซดาก้าวพรวดเข้ามาตั้งท่าแขนหาญศักดิ์อย่างรุนแรง กระชากมันประกอบเสียงตะโกน “มันต้องเกร็งตรงข้อศอกให้งอนิดนึงเอาไว้เป็นโช๊คเพื่อป้องกันการบาดเจ็บสิครับพี่!!”

   “ทำไมต้องดุกันขนาดนี้ด้วย! กูไม่รงไม่เรียนแล้ว!!”

   หาญศักดิ์ที่หมดความอดทนสะบัดตัวออกมาแล้วตะโกนสวนกลับ เขาทั้งเหนื่อยและยังต้องมาประสาทเสียกับเสียงตะโกนของโซดาอีก คนระดับเขาไม่ใช้ขี้ข้าใคร และก็ไม่เคยมีใครมาขึ้นเสียงแบบนี้กับเขาเลยนับตั้งแต่ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในเจ้าพ่อผู้ทรงอิทธิพลของประเทศ แม้จะไม่ได้เรียนจบสูงหรือดีเด่อะไรแต่เขาก็เรียนหนังสือมา พูดจาดีๆ ก็เข้าใจได้

   “มึงเข้าใจไหมว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แต่กูก็พยายาม แล้วมึงก็เอาแต่ตะคอกๆ ใส่กูอยู่ได้! กู...กูลนไปหมดแล้ว” หาญศักดิ์ยกสองมือขึ้นเสยผมตัวเอง “กูไม่ได้เป็นมืออาชีพเหมือนมึงนะ หรือที่ผ่านมากูดูไม่ตั้งใจ ถ้าเกิดมันเป็นเรื่องกล้วยๆ ที่กูจะทำได้ดีตั้งแต่ครั้งแรก กูก็คงเป็นล.หาญศักดิ์ขึ้นเวทีชกแข่งกับมึงไปแล้ว!!” เขาชี้หน้าอีกฝ่ายอย่างโมโหโทโส

   “ก็พี่ทำผิดนี่!!” โซดาตอบโต้ “ผมสอนแล้วพี่ก็ลืมเล็กลืมน้อยอยู่ตลอด มันก็แค่เรื่องง่ายๆ ผมไม่เข้าใจว่าทำไมพี่ทำไม่ได้ถูกต้องหมดสักที! มันไม่ได้ยากเลย!”

   “ก็มันง่ายสำหรับมึง แต่มันไม่ได้ง่ายสำหรับคนอื่นไงล่ะวะ!” หาญศักดิ์ตะเบ็งเสียง ยิ่งสาวเท้าเข้าใกล้โซดาเข้าไปอีก ตอนนี้เขาโมโหจนน็อตหลุด ต่อให้พูดจบแล้วจะโดนโซดาสอยร่วงลงไปกับพื้นเขาก็ไม่สน เขาทิ่มนิ้วไปตรงตำแหน่งจมูกของโซดา ทำให้ตอนนี้ดวงตาคู่คมเขเข้าหากันเพราะจับตาดูมัน ร่างสูงขบกรามแน่นขณะตวัดสายตาไปมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยอารมณ์ของหาญศักดิ์

   “มึงเรียนมาตั้งแต่เด็กมึงก็เลยรู้สึกว่ามันง่าย ไม่เข้าใจว่าทำไมคนอื่นทำไม่ได้ แต่ความจริงแล้วมันไม่ง่าย! ได้ยินที่กูแหกปากพูดอยู่ไหม? มัน-ไม่-ง่าย!!” ทรวงอกของหาญศักดิ์สะท้อนขึ้นลงเพราะแรงอารมณ์ “กูไม่ได้อยากลืมเก็บนิ้วโป้งเวลากำหมัดแต่มันเผลอ! กูไม่ได้อยากลืมบิดสะโพก ลืมเอี้ยวตัวเวลาเตะ แต่กูไม่ชิน หรือ...หรือ... เวลาที่ย่อตัวหลบอะไรก็ตาม... รวมไปถึงท่าทางอีกสารพัด แต่กูก็พยายามจำ!! แล้วก็พยายามทำ! กูพยายามอยู่!”

   ริมฝีปากของโซดาปิดเข้าหากันแนบสนิทเหมือนถูกเย็บ

   “ถ้าเกิดว่ากูห่วยแตก ทำอะไรก็ไม่ดี ดูแล้วขัดใจมึงมากล่ะก็... มึงก็ไม่ต้องมาสอนกูแล้ว แค่นั้นแหละ!”

   เกิดความเงียบอันน่าอึดอัดระหว่างทั้งคู่อยู่ราวครึ่งนาที มันเงียบเสียจนหาญศักดิ์คิดว่าถ้าเหงื่อของใครคนหนึ่งหยดลงไปบนพื้น เขาต้องได้ยินเสียงนั้นแน่ๆ ทั้งสองจ้องตากันอย่างไม่ยอมแพ้ ฟาดฟันกันทางสายตาเหมือนจะเอาชีวิตอีกฝ่ายให้ตายให้ได้

   และแล้ว...

   “...พี่หาน” ในที่สุดเสียงที่เบาแสนเบาจนแทบไม่ได้ยินก็ค่อยๆ เล็ดรอดออกมาจากริมฝีปากหยัก แต่หาญศักดิ์ก็ได้ยินเต็มสองหู

   “อะไร!!”

   “พี่...”

   ดวงตาของเด็กหนุ่มมองคนตรงหน้าตาไม่กะพริบ หาญศักดิ์ยกมืออีกข้างขึ้นปาดเหงื่อเปียกๆ บนใบหน้า ก่อนจะพบว่า

   ...มันไม่ได้มีแค่น้ำเหงื่อ

   แต่มันยังมีน้ำตาด้วย...

   “บ้าฉิบ!! เหี้ยเอ๊ย!”

   หาญศักดิ์สบถ รีบใช้มือปาดมันออกไปลวกๆ แล้วเดินไปใส่กางเกงยีนส์ที่กองเอาไว้ทับกางเกงมวย คว้าแจ็กเกตขึ้นมาจากพื้น ก่อนจะเดินเร็วๆ ไปที่ประตูห้องชมรม ฟาดปิดมันตามหลังตัวเองดังสนั่น






------------------------------------
100% METAL TERMINAL

อักษรมันเกิน 2000คำเลยต้องแบ่งเป็น2พาทเอานะคะ
อัพแบบจุใจให้จบตอนเลยนะค๊าา
โอ้ยยยเสี่ยร้องไห้หรอคะ แง้ๆน้องโซดาไปดูพี่หานต่อเร็ว


TBC

ออฟไลน์ em1979

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
เมียรักร้องไห้แล้ว ตามไปโอ๋เร็วๆ เลย

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
ง้อด่วนจ้า  เมียรักร้องไห้แล้ว  อิอิ

ออฟไลน์ namkang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เมียร้องไห้แล้วโซดาไปง้อเร็วววว

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4

ออฟไลน์ enjoy0189

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 119
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
โซดารีบตามไปง้อพี่หานเร็วว :katai4: :katai4:

รอตอนต่อไปค่ะ :L1:

ออฟไลน์ ตั่วเจ้เจค

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-8
ยกที่ ๑๖


บอกตรงๆ ว่าฉันก็เสียใจ

ที่ทำให้เราต้องทะเลาะกัน

ไม่ว่าด้วยเหตุผลนั้นคืออะไร



คนผิดคือฉันไม่ใช่เธอ

อย่าร้อง... อย่าร้องไห้เลยเธอ

หันหน้ามาคุยกันก่อน ดีไหม



ต้องทำอย่างไงเธอจึงจะยอมหายโกรธ

ต้องทำอย่างไงเธอจึงจะยกโทษให้ฉัน

อย่าทรมานโดยการไม่มองหน้ากัน

นึกว่าสงสาร คนรักกัน ฉันขอโทษ

[ I'm sorry : AB normal ]

:::METAL TERMINAL:::

   หาญศักดิ์กัดริมฝีปาก หายใจเข้าออกลุ่มลึกเพื่อพยายามสงบสติอารมณ์ เขาจะไม่ร้องไห้... มันเป็นวิถีของคนอ่อนแอแล้วก็ไร้สาระ อันที่จริง...หาญศักดิ์จำไม่ได้แล้วว่าครั้งสุดท้ายที่ตัวเองร้องไห้มันเมื่อไหร่... เขาไม่ได้ร้องไห้...นับตั้งแต่เหตุการณ์นั้นก็เกือบสิบปีแล้วกระมัง แล้วหลังจากนั้นเขาก็สัญญากับตัวเองว่าจะไม่ร้องไห้ง่ายๆ อีก แต่วันนี้เขากลับต้องมาน้ำตาไหลต่อหน้าเด็กที่อาวุโสน้อยกว่ากับเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง...

   โถงทางเดินของโรงเรียนมัธยมศึกษาเหมศักดิ์มืดสนิท เนื่องจากเป็นเวลาสองทุ่มกว่าแล้ว และก็ไม่ได้มีไฟเปิดไว้เลยสักดวง แต่เขาไม่ใช่คนกลัวผี อันที่จริงแล้วเขาไม่ค่อยจะกลัวอะไรทั้งนั้นเพราะผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก แต่กับโซดา... ก็เป็นข้อยกเว้นข้อหนึ่ง

   ฟึ่บ!

   เสี่ยหนุ่มร่างหวือเมื่อถูกคว้าข้อแขนเอาไว้ได้ ร่างสันทัดพลิกหันไปตามแรงกระชาก หาญศักดิ์ไม่เสียเวลาคิดว่าเป็นใครเพราะรู้แก่ใจว่าก็มีอยู่แค่คนเดียว เขาไม่ยอมมองหน้าอีกฝ่าย แล้วจ้องเป้งไปที่แผงอกล่ำของคนตรงหน้าแทน ตั้งใจแน่วแน่ที่จะไม่สบตาคนที่คว้าแขนของเขาเอาไว้

   “ปล่อย...”

   น้ำเสียงของเจ้าพ่อเงินกู้ไม่ได้ดุดันหรือเข้มงวด หากแต่มันก็ทำให้อีกฝ่ายต้องรู้สึกหนาวเหน็บ มันคือน้ำเสียงเรียบๆ ที่กดดันความรู้สึกคนฟังได้เป็นอย่างดี

   โซดายังยืนเม้มปากอยู่ที่เดิม เขามองลงไปยังใบหน้าของหาญศักดิ์ที่แข็งกระด้าง เจ้าพ่อเงินกู้ถอนหายใจอย่างรำคาญ

   “กูจะพูดอีกครั้งนะ... ปล่อยแขนกู”

   แต่โซดายังคงกำแขนเขาแน่นอยู่เหมือนเดิม

   “อะไรนักหนาวะ กูบอกให้ปล่อย!”

   หาญศักดิ์สะบัดแขนของตัวเองออกมาจากอุ้งมือหนานั่นอย่างแรงจนโซดาเซไปด้านหลังเล็กน้อย เขาหันหลังออกเดินไปในความมืดทันทีอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น

   “พี่ครับ...อย่าทำอย่างนี้ได้ไหมครับ”

   หากแต่จู่ๆ เพียงชั่วเสี้ยววินาทีแห่งความเย็นชา โซดากลับโถมกอดเขาจากด้านหลังทั้งตัว ร่างสูงโอบรัดเขาไว้แน่นจนขยับไปไหนไม่ได้ หาญศักดิ์ได้แต่เงียบ

   “พี่...ผมขอโทษ”

   น้ำเสียงของเด็กหนุ่มเจือความรู้สึกผิดเต็มสูบ หาญศักดิ์ที่ถูกกอดจากด้านหลังไม่อาจรับรู้ได้เลยว่าสายตาของโซดาเป็นอย่างไรกันแน่ เขาเองก็ยังคงนิ่งงันจนอีกฝ่ายไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่เช่นกัน โซดาค่อยๆ คลายอ้อมกอดแล้วเดินอ้อมไปดักหน้าหาญศักดิ์

   “ให้อภัยผมได้ไหม”

   ดวงตาคู่คมกริบเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด

   “ถ้าพี่ยังให้อภัยผมไม่ได้ เราคุยกันก่อนได้ไหมครับ”

   “...”

   “ยังไงก็ได้ แต่ อย่าเดินจากผมไปแบบนี้เลย”

   น้ำเสียงนั้นทั้งอ้อนวอนและเจ็บปวด ราวกับชายหนุ่มที่กำลังร้องขอความรักและความเห็นใจจากหญิงสาวอย่างไรอย่างนั้น หาญศักดิ์ที่กัดริมฝีปากมองโซดาเขม็งด้วยสายตาที่อ่านอารมณ์ไม่ออก มันเป็นสายตาที่เขามักจะใช้มองพวกศัตรูและลูกหนี้หัวขบถอยู่บ่อยๆ เพื่อปกปิดไม่ให้ใครอ่านความรู้สึกของเขาได้

   และในที่สุด ร่างสูงก็ไม่อาจทนสายตาของหาญศักดิ์ได้อีกต่อไป เขาก้มหน้าลงอย่างสำนึกผิด ใบหน้าคมหม่นหมอง เขารู้สึกแย่เหลือจะเอ่ย รู้สึกเสียใจมากจริงๆ

   “...สัด”

   คำสบถคำเดียวจากหาญศักดิ์ทำเอาเด็กหนุ่มใจเต้นผิดไปหนึ่งช่องจังหวะ เขารีบเงยหน้าขึ้นมาพบกับเสี่ยหนุ่มที่มีสีหน้ายุ่งๆ
   สีหน้ายุ่งๆ ที่เป็นปกติเหมือนทุกที

   “ง้อกูอย่างกับง้อแฟน ขนกูลุกเกรียวแล้วเนี่ย” หาญศักดิ์ชูแขนขึ้นมาทำเหมือนโชว์ให้คนตรงหน้าดู “ถ้ากูโกรธมึงนานกว่านี้ก็เป็นตุ๊ดแล้ว”

   ใบหน้าหล่อเหลาที่เคยอมทุกข์สว่างไสวขึ้นมาทันทีเหมือนได้รับแสงแดดบริสุทธิ์ ดวงตาคู่คมฉายแววแห่งความสุขแรงกล้าจนมันเปล่งประกายระยิบระยับ หาญศักดิ์รู้สึกตกใจจนเผยอปากค้างที่พบว่าตัวเองมีอิทธิพลกับคนตรงหน้ามากมายขนาดนี้ เขาไม่รู้จริงๆ ว่าควรจะดีใจหรือควรจะรู้สึกอะไรกันแน่ เสี่ยหนุ่มบิดมือไปมาสักพักทำเหมือนไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น แล้วกระแอมกระไอกลบเกลื่อนก่อนจะพูดเรื่องอื่น

   “ตกลงมึงจะสอนกูดีๆ หรือยังไงล่ะ”

   “พี่เป็นคนสำคัญของผม”

   แต่จู่ๆ โซดากลับพูดสิ่งที่หาญศักดิ์ไม่คาดคิดทำเอาเขาชะงักกึก

   “ตอนผมเห็นน้ำตาพี่เมื่อกี้” โซดามองจ้องเข้าไปในดวงตากลมโตราวกวางป่าของคนตรงหน้า “มันเหมือนจะตายเอาให้ได้เลย”

   หาญศักดิ์ลมหายใจสะดุด เขาได้แต่ตกตะลึงมองหน้าโซดาด้วยสายตาที่แม้แต่ตัวเองเขาก็ไม่รู้ว่ามันเป็นแบบไหน ที่จริงแล้วตอนนี้ หาญศักดิ์ไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว

   “ยิ่งตอนที่พี่หันหลังเดินออกไป...”

   ถ้อยคำจริงใจถูกพูดออกมาเรื่อยๆ อย่างซื่อสัตย์ โซดายกมือขึ้นทุบหน้าอกเปลือยเปล่าของตัวเองดังตุ้บใหญ่

   “ไม่รู้ทำไม แต่ผมเจ็บมาก...” เด็กหนุ่มพูดเสียงโหวงๆ “มันเหมือนใจจะขาด...”

   “...ฮะ...เฮ้ย! มึงก็พูดไปนั่น” หาญศักดิ์ที่ตั้งสติได้รีบพยายามทำให้มันเป็นเรื่องตลก

   “จริงๆ นะครับพี่” แต่เด็กหนุ่มก็ขัดเขาด้วยเสียงที่สั่นและแตกพร่า มันเบาหวิวและอัดล้นไปด้วยความรู้สึกอันบริสุทธิ์

   “ผมนึกว่าผมตายไปแล้ว...”

   หาญศักดิ์จ้องมองโซดาที่มองตาเขาอยู่ตาไม่กะพริบ เสี่ยหนุ่มไม่อาจหาปฏิกิริยาใดๆ มาตอบโต้ได้เลย นี่มันเรื่องอะไรกัน... แล้วทำไมความรู้สึกแปลกประหลาดถึงได้จู่โจมไปทั่วร่างกายของเขา มันเป็นความรู้สึกอุ่นๆ ที่โลดแล่นจนทำให้เลือดเดือดพล่าน ใจของเขาเต้นแรงจนดังคับก้องอกไปหมด ในที่สุดใบหน้าของเขาก็ร้อนวูบวาบ หาญศักดิ์คิดว่าตัวเองคงต้องมีควันพ่นออกมาจากสองรูหูเหมือนรถไฟไอน้ำแน่ๆ ฉับพลัน...เขานึกย้อนไปถึงตอนเป็นเด็กวัยประถมศึกษาที่ถูกเด็กหญิงเพื่อนร่วมห้องที่เขาแอบชอบหอมแก้ม

   ...ความรู้สึกมันเหมือนตอนนั้นไม่มีผิดเพี้ยน...

   เอาแล้วไงไอ้หาน...มันมาอีกแล้ว...แรงกว่าเดิมด้วยเว้ย...

   อ๊อต๊อเค๊...!??

   “ไมมมมมมมม่!!!!”

   โซดาสะดุ้งเฮือกเมื่ออยู่ๆ หาญศักดิ์ก็หลับหูหลับตาแหกปากร้องดังสนั่นแล้วยกสองมือขึ้นขยุ้มหัว ร่างสูงกระโดดโหยงถอยหลังไปด้วยความตกใจ

   “เป็นอะไรครับพี่!?” โซดาหน้าตื่นสุดขีด “เกิดอะไรขึ้นหรือ?”

   “ปะ-เปล่า คือ กูโดนยุงกัดน่ะ”

   อ๊อต๊อเค๊เหี้ยอะไรไอ้หาน! มึงเป็นนางเอกซีรียส์เกาหลีตุ้งติ้งสะบัดสะบิ้งพวกนั้นหรือไง เดี๋ยวนี้มึงจะอ๊อต๊อเค๊บ่อยไปแล้วนะ

   อ๊ากกกกก

   หาญศักดิ์รีบสร้างเรื่องมาตอบอย่างรัวเร็วเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายสงสัย ท้องไส้ของเขาตีลังกาหมุนติ้ว เขาตกใจกับความรู้สึกแปลกๆ ที่เกิดขึ้นแล้วหาทางจัดการกับมันไม่ได้จนต้องกู่ร้องออกมาเพื่อสงบความคิดตัวเอง

   แม่ง...ทุเรศสิ้นดี...

   โซดามีสีหน้าก่ำกึ่งอยู่ระหว่างความรู้สึกเคลือบแคลงกับความรู้สึกไม่เชื่ออย่างยิ่งกับคำตอบนั่น เขามองไปยังหาญศักดิ์ที่แสร้งทำเป็นตบไม้ตบมือไปตามร่างกายรัวเร็วเหมือนว่าโดนยุงรุม

   “ขนาดผมเปลือยท่อนบนอยู่ ยังไม่เห็นจะโดนยุงกัดสักตัว” โซดาขมวดคิ้ว

   “คือเลือดกูมันดูดยุงดีน่ะ ไปที่ไหนโดนกัดก่อนเพื่อนทุกที”

   โซดาหรี่ตามองคนตรงหน้า ทำท่าเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง แต่แล้วเขาก็ตัดสินใจไม่พูด เขาจ้องหาญศักดิ์อยู่เนิ่นนาน ในที่สุดเด็กหนุ่มตัดสินใจพูดเรื่องอื่นที่ติดค้างอยู่ในใจแทน

   “แล้วตกลง พี่ยังจะเรียนกับผมอยู่ใช่ไหมครับ”

   “เออ” หาญศักดิ์เงยหน้าขึ้นมาตอบ “มึงเป็นคนเก่ง มีฝีมือดี กูก็ยังอยากเรียนด้วยถ้ามึงจะสอนกูดีๆ แบบที่ไม่ทำเหมือนกูเป็นวัวเป็นควาย”

   โซดาพยักหน้ารับ “ตกลงครับ ผมจะสอนพี่ดีๆ ผมอาจจะไม่ชินกับวิธีการสอนแบบนั้น...ผมจะพยายาม”

   “มึงหมายความว่ายังไงที่บอกว่าไม่ชินกับวิธีการสอนพวกนั้น?”

   หาญศักดิ์ขมวดคิ้วถามกลับขณะที่ทั้งคู่กำลังเดินมุ่งหน้ากลับไปยังห้องชมรม แสงจันทร์นวลๆ ที่ส่องเข้ามาในโถงทางเดินของโรงเรียนแม้จะไม่มากแต่ก็สว่างพอที่จะทำให้เห็นรูปเห็นร่างของคนที่เดินเคียงคู่กัน เด็กหนุ่มยักไหล่

   “เวลาผมเรียน...ครูมวยส่วนใหญ่ ไม่สิครับ ทั้งหมดนั่นแหละ เขาจะตะคอกๆ ด่าๆ เราเป็นหลักเป็นเวลาสอน”

   “หือ จริงเรอะ?”

   โซดาพยักหน้ายืนยัน “ครับ แต่เขาไม่ได้ด่าเพราะเกลียดพวกเราหรอกนะ แต่ลักษณะครูมวยก็มักจะเป็นแบบนั้นแหละ กดดันน่ะครับเราจะได้ทำได้ดี” เด็กหนุ่มเล่าต่ออย่างไม่คิดมาก “แล้วถ้าสมมุติว่าสอนแล้วเราทำท่าผิดนะ ครูเขาจะเอาท่อนไม้ยาวๆ...” โซดาชูสองแขนขึ้นกลางอากาศแล้วอ้ามันออกกว้าง “...ประมาณนี้แหละครับ แล้วตรงปลายมันจะตอกตะปูเล็กๆ ไว้”

   “...แล้วยังไงอีก?” หาญศักดิ์รับฟังอย่างสนอกสนใจ

   “ก็ตีลงมาที่น่องขาเรา” เด็กหนุ่มทำท่าเหวี่ยงไม้ประกอบการเล่า

   “หา!?” หาญศักดิ์หน้าเหวอ “มึงโกหกกูล่ะสิ!”

   “ผมไม่ได้โกหกนะ” โซดาหรี่ตาหันไปมองหน้าเจ้าพ่อเงินกู้ เอ่ยเสียงจริงจัง “ครูเขาทำแบบนั้นจริงๆ แต่ไม่ได้ฟาดลงมาแรงๆ นะครับ” เขารีบเสริมเมื่อเห็นสีหน้าขนลุกขนพองของหาญศักดิ์ “แค่ตีๆ เฉยๆ พี่นึกออกใช่ไหมครับ แล้วเสียงตะโกนเวลาสอนนี่ดังไปสามบ้านแปดบ้านเลย เวลาผมสอนพวกน้องๆ ในชมรมผมซอฟต์กว่านั้นหน่อยนึง ใช้ท่อนไม้แบบนั้นไม่ได้หรอกครับ ไม่งั้นพวกผู้ปกครองคงมาแหกอกผม (ก็เออสิ -- หาญศักดิ์คิดในใจ) แต่มากับพี่...ผมอาจจะลืมตัวไปนิดหน่อย”

   “มึงไม่เจ็บกันเรอะ” หาญศักดิ์ยังคงมีสีหน้าสยดสยอง แม้ว่าเขาจะเคยผ่านการข่มขู่คนมามากมายเพราะสายงาน แต่การที่เที่ยวถือท่อนไม้ที่ตรงปลายมีตะปูเล็กๆ ไปไล่ตีขาตีแขนคนอื่นเพราะว่าคนคนนั้นทำท่าทางไม่สวยงาม เขาไม่เคยจะจินตนาการถึงเลยจริงๆ

   ไวความกว่าคิดทันใดนั้นหาญศักดิ์ก็เอี้ยวตัวเหลียวลงไปหรี่ตามองตรงบริเวณน่องของโซดาทั้งสองข้าง จริงๆ ด้วย... มันมีรอยตะปูเล็กๆ อยู่หลายรอย ถ้าไม่สังเกตก็แทบไม่เห็นเลย

   “แรกๆ ก็เจ็บ...หลังๆ ก็คันๆ ดี ไม่รู้สึกอะไรแล้วครับ” เด็กหนุ่มตอบ มีรอยยิ้มหล่อๆ แปลกๆ บนใบหน้า เขาเอื้อมมือขวาไปเกาไหล่ไหล่ซ้าย

   “ซาดิสม์ฉิบ!!” หาญศักดิ์ร้องอย่างไม่อยากเชื่อ มิน่าตอนที่โดนคริสตัลบาดโซดาถึงได้ดูเหมือนไม่รู้สึกรู้สึกอะไรทั้งนั้น ที่แท้ก็ถูกฝึกให้ถึกทนตั้งแต่อ้อนแต่ออดนี่เอง หาญศักดิ์โคลงศีรษะเบาๆ “ไม่อยากจะคิดว่าถ้ามึงมีไม้นั่น กูคงโดนจนตัวพรุนเป็นฟองน้ำ”

   โซดาหัวเราะขณะผลักประตูห้องชมรมแล้วให้หาญศักดิ์เดินเข้าไปก่อน เสี่ยหนุ่มแยกเขี้ยวใส่ใบหน้าหล่อๆ อย่างหมั่นไส้ แหม มาทำเป็นสุภาพบุรุษ... เจ้าพ่อเงินกู้ถอดกางเกงยีนส์กับเสื้อแจ็กเกตออกแล้ววางลงกองบนพื้นเหมือนเดิม แต่แล้วจู่ๆ เสียงแหบพร่าก็ดังขึ้นชิดใบหูของเขาโดยที่ไม่ทันตั้งตัว

   “ไม่หรอกครับ...ใครจะไปทำเมียรักได้ลง”

   “...”

   เด็กหนุ่มจงใจเป่าลมหายใจไปที่หลังคอของคนที่ยืนตัวแข็งอยู่ เขาคลี่ยิ้มพอใจที่เห็นขนอ่อนพวกนั้นลุกชันขึ้นจนกลายเป็นเกล็ด น้ำเสียงทรงเสน่ห์ค่อยๆ ทอดหางเสียงนุ่มๆ ให้ลุ้นเล่น

   “...เนอะ”

   ลมหายใจจากริมฝีปากหยักที่ถูกเป่าลงไปอย่างตั้งใจระลอกสองทำเอาหาญศักดิ์แข้งขาอ่อนแทบจะทรงตัวยืนไม่ไหว มือหนาค่อยๆ เอื้อมไปแตะข้อศอกของคนตรงหน้าช้าๆ...

   “นะเนอะเหี้ยอะไร!” หากทันใดนั้นหาญศักดิ์ก็หันขวับไปผลักแผงอกกำยำของนักมวยหนุ่มให้ออกห่างจากตัวทันที เสี่ยหนุ่มรีบพูดปาวๆ “จะสอนก็รีบสอน ดึกแล้ว สามทุ่มต้องกลับเมททอล! พรุ่งนี้มึงก็มีเรียนอีก มัวแต่เล่นบ้าๆ”

   โซดาที่ถูกผลักออกมายิ้มไม่หุบ

   “ครับ...” เสียงทุ้มเอ่ย ดวงตาคมแพรวพราวจนคนมองรู้สึกเขิน “งั้นก็มายืนตรงนี้นะครับคนดี...แล้วจะสอนให้ถึงใจเลย...”

   กึก...!

   ...มะม้า... อั๊วคิดไปเองใช่ไหมครับ...

   ทำไม...อั๊วถึงรู้สึกไม่ปลอดภัยอีกแล้ววะเนี่ย...

   มันเหมือน... มันเหมือนจะโดนผีห่าสิงร่างยังไงไม่รู้...

   ...อ๊อต๊อเค๊....!!!???? TTOTT


:::METAL TERMINAL:::


   หากแต่วันนั้นก็ไม่ได้มีอะไรอย่างที่หาญศักดิ์กังวลไว้เกิดขึ้น โซดาถอดวิญญาณครูมวยสุดโหดตามแบบฉบับโบราณออก เปลี่ยนมาเป็นศาสดาคนปกติแล้วสอนเขาดีๆ อันที่จริงโซดาก็ไม่ได้เป็นคนอารมณ์ร้ายโดยนิสัยอยู่แล้ว (เพียงแต่ถ้าเป็นเรื่องมวยไทยหรือเรื่องอะไรที่เจ้าตัวเห็นว่าจริงจังก็ว่ากันไปอีกเรื่อง) ตอนนี้หาญศักดิ์เองเพิ่งจะมาถึงโรงเรียนมัธยมเหมศักดิ์ วันนี้จะเป็นการเรียนมวยครั้งที่สามของเขา

   “อ้าว”

   หาญศักดิ์ร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อโผล่หน้าเข้าไปแล้วพบว่าเด็กนักเรียนในชมรมยังอยู่กันครบ เสียงเตะต่อยและเสียงร้องของเหล่านักเรียนดังไปทั่ว เขารีบก้มดูนาฬิกาบนหน้าจอมือถือ ก่อนจะพบว่าตัวเองมาเร็วไปตั้งเกือบหนึ่งชั่วโมง เป็นเพราะว่าวันนี้การจราจรไม่ติดเท่าไร หาญศักดิ์ค่อยๆ แง้มบานประตูปิดเตรียมจะออกไปรอข้างนอก แต่โซดาที่กำลังไกด์ไลน์เหล่ารุ่นน้องก็ตาไวเกินคาด เขาหยุดเรื่องที่กำลังทำอยู่แล้วโผล่พรวดมาตรงหน้าหาญศักดิ์อย่างรวดเร็ว

   “เฮ้ย มึงมาตั้งแต่เมื่อไหร่” เสี่ยหนุ่มสะดุ้งโหยง

   “วันนี้มาเร็วจังเลยครับพี่”

   ...ทำไมต้องยิ้มเวลาพูดด้วยวะ

   แววตาคมพราวหวาน “คิดถึงผัวคนนี้ใช่ไหมครับ...”

   “อ้วก!” หาญศักดิ์ร้องออกมาทันทีอย่างตกใจ ก่อนจะหันซ้ายหันขวาสำรวจให้แน่ใจว่าไม่มีใครได้ยิน เขากวาดตามองโซดาด้วยสายตารับไม่ได้ “ตลอดอ่ะมึง! หลงตัวเองตลอด!”

   โซดามองใบหูที่แดงก่ำของคนตรงหน้าแล้วยิ้ม มุมปากทั้งสองข้างยกขึ้นเป็นองศาที่พอเหมาะ...ไม่มากไป...ไม่น้อยไป... และยังส่งเสริมความหล่อเหลาให้นักเรียนหนุ่มเป็นเท่าตัว ดวงตาคู่คมวิบวับ

   “ก็ผัวรอเมียรักมาหลงอยู่นี่ไงครับ...”

   “หุบปาก!” หาญศักดิ์เลิ่กลั่กไปหมดเมื่ออีกฝ่ายพูดออกมาเต็มปากเต็มคำในที่สาธารณะ แต่เสียงของบรรดาสมาชิกชมรมมวยไทยไฟต์ที่ซ้อมมวยกันอยู่ก็กลบไปได้แทบทั้งหมด ปลอดภัยจนวางใจได้ว่าไม่มีใครได้ยินแน่นอน

   เด็กหนุ่มที่อยู่ในชุดเสื้อเชิตหลุดลุ่ยกับกางเกงมวยและเส้นผมเปียกเหงื่อยังคงยิ้มกว้าง มือหยาบกร้านเอื้อมมาคว้าแขนของหาญศักดิ์ให้เข้าไปในห้องชมรมด้วยกัน

   “เฮ้ย เอากูเข้ามาทำไม นี่มันยังไม่ถึงเวลาที่เรานัดกันนี่ เดี๋ยวพวกเพื่อนๆ มึงกับรุ่นน้องมึงก็ตกใจกันหรอก” หาญศักดิ์เอ็ดตะโรพลางมองซ้ายมองขวา สายตานักเรียนหลายคนมองมาที่เขาอย่างงุนงง แล้วก็ไม่ใช่สายตาชื่นชมหรอกนะ แต่เป็นสายตาสงสัยประมาณว่า...

   “พี่โซดาลากลุงเขาเข้ามาทำอะไรในห้องชมรมเราอ่ะ?” เด็กหญิงที่ใบหน้าเปียกเหงื่อสงสัยออกมาดังๆ

   “...คุณพ่อของพี่โซดาล่ะมั้ง หน้าคล้ายๆ กัน” เด็กชายคนหนึ่งซุบซิบกับเพื่อน

   ลุง!

   พ่อ!?

   ไอ้พวกเด็กเปรตตตตตตตต!!



.
.
.

-------------------------------------------
MEATAL TERMINAL 50%
5555555555555 เสี่ยหานไม่ได้หน้าแก่ขนาดนั้นสักหน่อยนะ!

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
หลงหนักกว่าเดิมอีก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด