METAL TERMINAL พยัคฆ์คว่ำกวาง , [หนังสือมาแล้วค่าา] 5 ต.ค. 60 {สนพ.Hermit} **จบแล้ว
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: METAL TERMINAL พยัคฆ์คว่ำกวาง , [หนังสือมาแล้วค่าา] 5 ต.ค. 60 {สนพ.Hermit} **จบแล้ว  (อ่าน 194141 ครั้ง)

ออฟไลน์ em1979

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
ชอบคู่นี้จริงๆ คนนึงก้อซึนมาก อีกคนก็หลงเมีย

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
เมีย!!! บอกเด็กมันไป

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
เผลอแป๊บเดียวอัพหลายตอนเลย

  :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ คนคิ้วท์คิ้วท์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 339
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
ตลกขำหรรษา5555555

ออฟไลน์ ohho99

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-1
กำลังซึ้งกับฉากโซดาขอโทษหาญอยู่ดีๆ
พี่หาญจะอ๊อต๊อเค๊!?? ทำไมคะ อารมณ์ตัดไปขำรุนแรงมาก 555
ชอบเรื่องนี้มากๆ เข้าเล้ามาเปิดเรื่องนี้ทุกวัน
จากที่ไม่ได้เข้าเล้ามานานเพราะยังไม่เจอเรื่องถูกใจ คนเขียนอัพบ่อยๆนะคะ

ปล...อ๊อต๊อเค๊ แปลว่าอะไรคะ (สงสัยจิงๆ 555)


+1 กดเป็ดให้กำลังใจคนเขียนค่ะ ^^

ออฟไลน์ namkang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ขำอ๊อต๊อเค๊ของเสี่ยหานแรงมาก555555555  :katai2-1:

ออฟไลน์ ตั่วเจ้เจค

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-8
.
.
กูรู้ครับเด็กๆ ว่ากูแก่แล้วถ้าเทียบกับพวกมึง แหม แต่กูก็แค่ยี่สิบเจ็ดเองป่ะวะ ไม่ต้องมองเหมือนกูเป็นอากงหรืออาเจ็กได้ไหม?

   “ไม่เป็นไรหรอกครับ” โซดาตอบง่ายๆ “พอดีวันนี้จะมีคนมาช่วยผมสอนพี่เพิ่ม แล้วเขาก็มาแล้ว ผมเลยอยากให้พี่รู้จักกับเขาไว้ก่อน”

   พูดจบโซดาก็จูงมือหาญศักดิ์ไปหาผู้ชายร่างสูงใหญ่ผิวคล้ำแดดคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนเก้าอี้สามขาตรงมุมห้อง ชายกล้ามโตคนนั้นกอดอกดูเหล่าเด็กนักเรียนซ้อมมวยไทยอย่างจริงจัง

   “พี่ขันครับ”

   ชายคนนั้นหันขวับมาเมื่อโซดาเรียก หาญศักดิ์รับรู้ได้ทันทีที่ว่าชายคนนี้อายุมากกว่าเขาแน่นอน

   “นี่เสี่ยหาน เจ้านายของผมเอง ที่ผมเล่าให้พี่ขันฟังน่ะครับ”

   “โอ้ สวัสดีครับเสี่ยหาน” ชายที่ชื่อขันรีบกระพุ่มมือไหว้เขาทันที หาญศักดิ์พนมมือระดับอกรับไหว้อย่างรวดเร็วพอกัน เขาชินเสียแล้วกับการที่คนอายุมากกว่าไหว้ก่อน ก็เขาเป็นหนึ่งในเศรษฐีผู้ทรงอิทธิพลของประเทศไทยนี่ (แต่ตอนนี้ตกอยู่ใต้อาณัติผัวเฉย)

   “อ้อ”

   หาญศักดิ์ยังคงไม่เข้าใจในสิ่งที่โซดานำเสนอ เขาหันไปมองหน้าเด็กหนุ่มอย่างขอคำอธิบาย ซึ่งโซดาก็เหมือนอ่านใจกันได้จึงรีบตอบทันควัน

   “พี่ขันเป็นพี่เลี้ยงของผม...”

   “อ๋อ” หาญศักดิ์กระจ่างแจ้งทันทีในคำเดียว โซดาว่าต่อ

   “เดี๋ยววันนี้พี่ขันจะมาช่วยผมล่อเป้าตอนสอนพี่ เพราะการสอนบางอย่างผมก็ทำคนเดียวไม่ได้ครับ”

   หาญศักดิ์ยิ้มนิดๆ “เอ้อ คุณขัน วันนี้รบกวนด้วยนะ”

   “ไม่รบกวนหรอกครับเสี่ย ไม่รบกวนเลย” ชายที่ชื่อขันโบกไม้โบกมือตอบรับอย่างนบนอบ เขาจ้องหน้าหาญศักดิ์แล้วหันไปพูดกับโซดา “เจ้านายเอ็งนี่หน้าเหมือนเอ็งเป๊ะเลยนะ ข้านึกว่าเป็นญาติกัน”

   “...งั้นหรือครับพี่?” เซฮุุนเลิกคิ้วถาม เขารู้สึกว่าจะเคยได้ยินอะไรทำนองนี้บ่อยอยู่ หาญศักดิ์เองก็เลิกคิ้วเช่นกัน นี่ไม่ใช่หนแรกที่มีคนบอกว่าเขาหน้าคล้ายโซดา ขันพยักหน้ายืนยัน

   “เออสิวะ นี่ถ้าใครคนใดคนนึงเป็นผู้หญิงนะ ข้าต้องบอกว่าเป็นเนื้อคู่แน่ๆ ว่ะ ฮ่าๆๆ!”

   ชายผิวคล้ำหัวเราะออกมาทำเอาหาญศักดิ์ขากรรไกรค้าง เขาหันหน้าไปสบตาโซดาที่ชำเลืองสายตามามองหน้าเขาเช่นกัน แล้วเด็กหนุ่มก็ถือโอกาสที่ไม่มีใครสังเกตส่งจูบลอยฟ้ากลางอากาศมาให้ หาญศักดิ์หน้าแหยทันที เขาตาเหลือกตาปลิ้นออกมาจากเบ้า เบี่ยงหน้าหลบวิถีของรอยจูบที่ส่งตรงนั่นทำเอาโซดายิ้มลอยหน้าลอยตาไม่หยุด

   ...ก็พี่เขาน่ารักนี่นา...

   ขันที่เพิ่งลืมตาขึ้นมาจาการหัวเราะเห็นสีหน้าของหาญศักดิ์รีบพูดรัวเร็ว

   “ผมล้อเล่นน่ะครับเสี่ย อย่าเพิ่งโกรธนะครับ” ขันเหงื่อตกรีบพูดอย่างนอบน้อม กลัวหาญศักดิ์จะสั่งลูกน้องมาจัดการตัวเองกับครอบครัวโทษฐานที่พูดอะไรไม่เข้าหู เขาเคยมีเพื่อนหลายคนเป็นลูกหนี้เสี่ยหาน ใครที่จะคิดจะหนีหนี้ล่ะก็...บอกเลยจบไม่สวย พรรค์นี้โหดจริงๆ

   “อ๋อ...ไม่โกรธร็อก!” หาญศักดิ์กัดฟันตอบ ก่อนจะปล่อยเสียงหัวเราะห้าวหาญออกมาดังลั่นพลางตบมือไปด้วย “ฮ่าๆ! ฮ่าๆๆ!”

   “เอ่อ...” ขันอึ้ง ก่อนจะรีบหัวเราะตามเป็นนายว่าขี้ข้าพลอย ทั้งที่ไม่รู้ว่าหาญศักดิ์หัวเราะอะไร “ฮ่าๆ! ฮ่าๆๆ!?”

   “ฮ่าๆ! ฮ่าๆๆ!”

   หาญศักดิ์ยังคงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งทั้งที่ไม่มีอะไรตลกสักอย่างแล้วตบมือเสียงดังอย่างไม่เข้าจังหวะไปด้วยทำเอาเด็กหันมามองกันทั้งห้อง

   ขันงงสุดขีด ชายหนุ่มหันไปมองหน้าโซดาอย่างขอคำอธิบาย หากแต่ใบหน้าหล่อๆ กลับเพียงแค่อมยิ้มให้ท่าทางไม่เต็มบาทของหาญศักดิ์เท่านั้น ดวงตาคมจับจ้องเสี่ยหนุ่มไม่วางตา แววตานั้นระยิบระยับสุกสกาวและยังพราวหวาน... แต่ในที่สุด โซดาก็ต้องถอนการมองออกมาจนได้แม้จะยากเพียงไร ร่างสูงแหงนหน้ามองนาฬิกาบนฝาผนังห้องชมรม

   “อีกไม่เกินยี่สิบนาทีชมรมก็จะเลิกแล้ว พวกพี่สองคนคุยกันไปก่อนนะครับ”

   “เออ เอ็งไปเถอะ” ชายที่ชื่อขันโบกมือไล่โซดาให้ไปดูเด็กในชมรม เด็กหนุ่มหันมามองหน้าหาญศักดิ์ที่หยุดหัวเราะแล้ว เขาเห็นเสี่ยหนุ่มพยักหน้าให้ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้สามขาซึ่งวางอยู่ข้างๆ เก้าอี้ของขันแบบว่าง่าย เขาจึงจากไปทำหน้าที่ประธานชมรม

   ขันกับหาญศักดิ์สนทนากันเรื่อยเปื่อยแบบไม่มีหัวข้อเจาะจงเพื่อทำความรู้จักกันเบื้องต้น ตอนแรกๆ ขันเกร็งเล็กน้อยกับผู้ทรงอิทธิพล แต่ไปๆ มาๆ หาญศักดิ์ก็ไม่ได้มีท่าทีอย่างที่เขานึกกลัวเลย... แต่ถึงกระนั้นขันก็รู้ตัวดีว่าระดับเขาไม่อาจไปเทียบเคียงกับราศีของเจ้าพ่อประเทศไทยได้ เขาจึงยังคงพูดคุยหาญศักดิ์ด้วยท่าทีอ่อนน้อมทุกถ้อยคำ

   และแล้วเมื่อถึงเวลาเลิกเด็กๆ ก็ทยอยออกไปจากห้องชมรมกันจนหมด โซดาถอดเสื้อเปียกเหงื่อออกวางกองไว้บนพื้นเมื่อเหลือกันสามคน หาญศักดิ์เปลี่ยนเป็นกางเกงมวย แล้วก็เปลี่ยนท่อนบนเป็นเสื้อกล้ามสีขาวง่ายๆ ความจริงเขาก็อยากจะเปลือยอกบ้างหรอก แต่เวลาเทียบหุ่นตัวเองกับหุ่นโซดาแล้วมันรู้สึกพ่ายแพ้จนน่าหงุดหงิดทุกที ยิ่งมีขันมาเป็นผู้ตัดสินแบบนี้...อย่าดีกว่า

   ทั้งหาญศักดิ์และโซดาเริ่มซ้อมมวยขั้นพื้นฐานกันตามที่เรียนไปเมื่อสองคราวก่อนโดยมีขันคอยไกด์ไลน์ ขันดูจะเข้มงวดกับโซดามากเพราะมันเข้าใกล้เวลาที่โซดาจะต้องขึ้นชกเพื่อรักษาตำแหน่งแชมป์เปี้ยนของเวทีมวยราชดำเนินทุกทีๆ อีกไม่นานเท่าไรเด็กหนุ่มคงต้องไปเก็บตัวกินนอนที่ค่าย พอเห็นคราบโหดของขันหาญศักดิ์ก็รู้สึกว่าที่โซดาตะเบ็งเสียงใส่เขาครั้งที่แล้วมันจิ๊บจ๊อยไปเลย และเพียงเวลาแค่ราวๆ ครึ่งชั่วโมง ทั้งโซดาและหาญศักดิ์ก็ตัวเปียกโชกไปด้วยเหงื่อเพราะความเข้มงวดของขัน

   “ผมจะลองเตะต่อยกับเป้าให้พี่ดูก่อนนะครับพี่หาน” โซดาพูดขณะเสยผมเปียกเหงื่อแบบลวกๆ ไปข้างหลัง สองขาแกร่งขยับไปมาเป็นจังหวะอย่างมืออาชีพ ไม่รู้ว่าจงใจหรือเปล่าแต่ประกอบกับแววตาจริงจังแบบนั้นมันดูโคตรเซ็กซี่ หาญศักดิ์เผลอเลียริมฝีปากตัวเองโดยไม่รู้ตัวก่อนจะรีบเก็บลิ้นเมื่อได้สติ

   “เออ...เอาเลย”

   ขันยกเป้าสองอันขึ้นมาสวมแขน และใส่เป้าท้องอันหนึ่งเพื่อล่อเป้าให้โซดา เสียงเอะอะ เสียงร้อง และเสียงเตะต่อยเป้าอย่างเร้าใจของทั้งสองที่ดังออกมาทำเอาหาญศักดิ์ที่นั่งดูเมามันไปด้วย อะดรีนาลีนในร่างกายของเขาสูบฉีด แต่แล้วจู่ๆ ระหว่างที่โซดากำลังซ้อมอยู่ ประตูห้องชมรมก็ถูกเปิดพรวด

   “พี่โซดาครับ พออาจารย์ลักษมีให้ผมมาเรียกพี่ไปพบครับ เห็นว่าเป็นเรื่องที่พี่ยังจ่ายเงินห้องให้เหรัญญิกห้องไม่ครบ...อาจารย์รอพี่ตั้งแต่สี่โมงเย็นแล้วครับ”

   “พี่ลืม!” โซดาดูตกใจมาก “ขอบใจมาก เดี๋ยวพี่ไปหาอาจารย์เดี๋ยวนี้แหละ”

   โซดารีบหยิบเสื้อเชิ้ตมาสวมทับร่างกายแบบลวกๆ ตามด้วยสวมกางเกงนักเรียนทับแล้ววิ่งตามเด็กรุ่นน้องออกไปอย่างรวดเร็ว ขันตะโกนไล่หลัง

   “ไอ้โซดา! เอ็งเร็วๆ นะเว้ย เดี๋ยวข้าต้องกลับแล้ว!!”

   ในห้องชมรมเหลือเพียงขันกับหาญศักดิ์สองคน ขันถอดบรรดาที่ล่อเป้าทั้งหมดออก แล้วเดินมาทิ้งตัวนั่งตัวลงข้างๆ เสี่ยหนุ่ม

   “อย่างไอ้โซดานี่เป็นเพชรในตมเลยสินะคุณขัน ผมดูมันเตะมันต่อยแต่ละทีนี่ทึ่งตลอด” หาญศักดิ์เปิดการสนทนา

   “ฮ่าๆ ใช่สิครับ เห็นโซดาบอกว่าเสี่ยไม่เคยดูมันชกมาก่อนเพราะเพิ่งจะมาสนใจมวยไทยได้ไม่นาน ถ้าเสี่ยได้ดูมันบนเวที เสี่ยจะละสายตาไปไม่ได้เลยล่ะ”

   ขันเล่าอย่างภูมิอกภูมิใจ หาญศักดิ์พยักหน้าแล้วหยิบขวดน้ำพลาสติกที่แช่เย็นเจี๊ยบมาเปิดดื่ม

   “ระดับไอ้โซดานี่คงขึ้นต่อยทีคงได้เงินหนานะ มันโด่งดังเสียขนาดนี้” หาญศักดิ์ปรารภ เพราะรับรู้แล้วว่ามันดังจริงๆ... แต่ทำไมถึงไม่มีเงินมาชดใช้หนี้เขาก็ไม่อาจรู้ได้ หาญศักดิ์รู้ว่านักมวยก็ต้องโดนหักเงินบ้าง แต่ไม่รู้กระบวนการว่าโดนหักมากมายขนาดไหน

   ขยันพยักหน้า

   “อ้อ ก็เยอะนะครับเสี่ย ถ้าชนะก็ได้สองหมื่นบาท”

   “พรวดด! แค่กกก!!”

   หาญศักดิ์สำลักน้ำเย็นที่ดื่มท่วมทะลักจนมันออกมาจากจมูกกับปาก ขันรีบหยิบทิชชู่มาให้เสี่ยหนุ่มเช็ดหน้าเช็ดตา เจ้าพ่อเงินกู้เงยหน้า

   “อะไรนะ? สองหมื่นบาท!?” หาญศักดิ์เสียงดัง “ถูกต่อยจนหน้าแหกแทบตายได้แค่สองหมื่นบาท!? นี่ผมฟังผิดหรือมันอะไรกัน”

   “ไม่ผิดหรอกครับเสี่ย... สองหมื่นบาทนั่นแหละ”

   “หา! ผมไม่ได้หมิ่นเงินน้อยนะคุณ แต่ระดับโซดา...มันเป็นแชมป์เปี้ยนนะ!” เสี่ยหนุ่มตกใจแทบสิ้นสติ ขันยิ้มในหน้า แต่มันดูเป็นรอยยิ้มที่ไม่มีความสุขเอาเสียเลย

   “ชีวิตนักมวยก็แบบนี้แหละครับเสี่ย มันไม่ใช่กีฬาตามกระแสอะไรแบบนั้นนี่ เด็กสมัยนี้น่ะไปเห่อของนอกกันหมดแล้ว”
   หาญศักดิ์ซึมซับคำพูดเข้ามาในสมอง ขันถอนหายใจแล้วพูดต่อ

   “จะให้ได้เป็นล้านแบบพวกนักกอล์ฟน่ะคงต้องฝันเอาชาติหน้า มากหน่อยก็ได้เป็นหลักเงินแสนนั้นแหละครับ แต่กว่าจะไต่ไปถึงระดับนั้นสมงสมองส่วนใหญ่ไปหมดล่ะเพราะโดนต่อยกันทุกวัน ขาขึ้นได้แป๊บเดียวก็ขาลง มีดาวจรัสแสงเกิดใหม่ขึ้นตลอดเวลา”

   ขันมองตรงไปข้างหน้าแล้วว่าต่อ

   “คนล่อเป้าอย่างผมก็ต้องกินต้องใช้... ไหนจะสมาคมนั่นนู่นนี่ ผู้หลักผู้ใหญ่อีกเป็นขบวน”

   “ประเดี๋ยวก่อน ผมขอละลาบละล้วงหน่อยนะ” เสี่ยผู้ทรงอิทธิพลแทรกด้วยเสียงดังกังวาล “แล้วปกติโซดาต้องจ่ายให้คุณขันเท่าไหร่กัน”

   “แค่ที่เจ้าโซดาต้องหักให้ผมก็ 25% จากค่าตัวแล้วครับเสี่ย” ขันยิ้มเครียด “ผมก็รักมันเหมือนลูกเหมือนหลาน แต่ผมก็มีลูกเมียต้องดูแลเหมือนกัน”

   หาญศักดิ์นิ่งเงียบ ปากท้องเป็นเรื่องสำคัญของทุกคนเขาเข้าใจดี จะไปโทษว่าขันคิดราคาแพงมันก็ไม่ถูก

   “ยิ่งตอนนี้พ่อไอ้เจ้าโซดาไม่อยากให้มันชกถี่รัวเหมือนเมื่อก่อนเพราะกลัวมันจะเป็นอัมพฤกษ์อัมพาต เงินลดไปเยอะจนติดลบล่ะ เฮ้อ...กำลังขาขึ้นแท้ๆ” ขันส่ายศีรษะ เขาไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่สันติตัดสินใจเลยจริงๆ “ที่จริงโซดาไม่ได้จ่ายค่าตัวผมมาห้าเดือนแล้ว ที่ยังอยู่กันนี่เพราะใจล้วนๆ แต่ผมก็บอกมันนะ ว่าถ้านานกว่านี้ผมก็ไม่ไหว นี่อยู่รอมันชกรักษาแชมป์”

   “...”

   “ยังดีหน่อยที่มันเป็นเด็กดี ไม่ติดเหล้าติดพนัน หรือติดยาติดหญิงแบบนักมวยส่วนใหญ่ ไม่อย่างนั้นผมไม่อยากจะคิดจริงๆ” ขันพูดจบก็หันมาทางหาญศักดิ์ด้วยสายตาอ้อนวอน ชายหนุ่มผิวคล้ำดูราวกับรวบรวมความกล้า แต่สุดท้ายเพื่อโซดาที่เขารักเหมือนลูกเขาก็ตัดสินใจพูดออกไป

   “เสี่ยเป็นเจ้าหนี้พ่อมันนี่ครับ ผมอยากจะให้เสี่ยเห็นใจมัน...มันเป็นคนกตัญญูรักพ่อรักแม่มาก ตั้งใจเรียนด้วย มันไม่ได้อยากเป็นแบบนี้หรอก”

   หาญศักดิ์ทอดมองไปข้างหน้าตรงจุดเดียวกับที่ขันเคยมอง ในหัวขบคิดอะไรไปเรื่อย เขารู้สึกสงสารครอบครัวของโซดาขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก คิดถึงตอนที่สันติถูกเขาตามล่าอาฆาตเอาดอกเบี้ยอย่างโหดเหี้ยม ตอนนั้นโซดาคงจะทุกข์ใจน่าดูที่ช่วยอะไรครอบครัวไม่ได้

   แต่นั่นมันก็เป็นงานของเขา

   โลกนี้ไม่มีอะไรยุติธรรมหรอก

   คนเราเลือกเกิดได้เสียที่ไหน

   “มันดีใจมากนะครับที่ได้ทำงานกับเสี่ย ดูดีใจมากจริงๆ...” ขันพูดในสิ่งที่ทำให้ท้องไส้ของหาญศักดิ์ปั่วนป่วน “ผมไม่รู้ว่าเสี่ยให้เงินมันเท่าไหร่ แต่มันดูมีความสุขมาก ผมคิดว่ามันคงไม่ทำให้เสี่ยผิดหวัง อย่างสอนมวยเสี่ยนี่ มันก็ตั้งใจสอนมาก”
   “ผมก็คิดว่ามันดูเป็นคนแบบนั้น”

   หาญศักดิ์ค้อมศีรษะรับคำพูดนั้น ทั้งคู่เงียบๆ กันไปหลังจากหาญศักดิ์พูดจบประโยค เจ้าพ่อเงินกู้รู้สึกหดหู่ขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ เขานึกถึงตัวเองในอดีตขึ้นมาอีกแล้ว

   เขาไม่ได้เป็นคนใจร้ายแต่ก็ไม่ได้เป็นคนใจดี ยิ่งด้วยอาชีพหน้าที่การงานที่ทำมันทำให้เขาต้องมีฉากหน้าและภาพลักษณ์ที่ดูแข็งแกร่งตลอดเวลา แล้วหาญศักดิ์เองก็รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ จนไม่ค่อยเห็นหัวคนอื่น แต่หลังจากที่มีโซดาเข้ามาในชีวิต เด็กหนุ่มก็ทำให้เขาห้วนถึงความรู้สึกเดิมๆ ที่เขาหลงลืมไปอยู่หลายหน ทั้งความยากจน ความลำบาก ความหิวโหย และชีวิตที่ต้องต่อสู้ ทั้งกลิ่นไอแดดและควันสกปรกกับเศษฝุ่นที่ตลบอบอวล การตีรันฟันแทงมากมาย ทุกอย่างลอยฟุ้งเป็นภาพความทรงจำสีจางๆ ในหัวของหาญศักดิ์ สลับกันแว่บไปแว่บมาเหมือนภาพยนตร์เก่าๆ

   แต่ลูกผู้ชายจะเป็นลูกผู้ชายเต็มตัวได้ก็ต้องฝ่าฟันกันทั้งนั้น...

   แต่ถึงกระนั้นมันก็ไม่ยุติธรรมกับโซดาเลยที่ต้องมาสิ้นเนื้อประดาตัวเพราะความโง่เง่าเต่าตุ่นของคนเป็นพ่อ ยากจนข้นแค้นตั้งแต่ตอนลืมตาเกิด แล้วมันใช่ความผิดของเจ้าตัวเสียที่ไหน

   “กลับมาแล้วครับ”

   โซดาที่ผลักประตูเข้ามาพูดเสียงใสทำเอาเสี่ยหนุ่มตื่นจากภวังค์ ขันนิ่วหน้าพลางมองนาฬิกาก่อนจะลุกขึ้นยืน

   “เอ็งกลับมาอะไรตอนนี้ฮึ? ข้าต้องไปแล้ว เอ็งอยู่สอนเสี่ยเขาคนเดียวได้ใช่ไหม”

   “ได้ครับพี่ขัน ขอบคุณมากนะครับที่มาช่วย” โซดายกมือไหว้พี่เลี้ยงตัวเอง ขันโบกมือ

   “เออๆ ไหว้พระเถอะเอ็ง แล้วเดี๋ยวเอ็งต้องไปเก็บตัวเมื่อไหร่ข้าจะมาแจ้งอีกที ข้าไปล่ะ” ขันค่อยๆ หันหน้าไปหาหาญศักดิ์แล้วยกมือไหว้เสี่ยหนุ่มด้วยท่าทีอ่อนน้อม “ผมไปแล้วนะครับเสี่ย ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ หวังว่าจะได้พบกันอีก”

   “ขอบคุณมากคุณขัน ไปดีมาดีนะ”

   หาญศักดิ์ยิ้มรับขันที่ส่งยิ้มมาให้ก่อน แล้วพี่เลี้ยงนักมวยผิวคล้ำก็เดินออกไปจากห้องชมรม โซดาถอดเสื้อผ้าออกอีกหนจนเหลือแต่กางเกงมวย แต่แล้วเมื่อเห็นสายตาของหาญศักดิ์ที่มองมา เขาก็ต้องผงะเล็กๆ

   “ทำไมพี่มองผมแบบนั้นครับ มีอะไรเหรอ”

   “สายตากูมันทำไมเหรอ”

   โซดาที่มองหน้าหาญศักดิ์กลับมีสีหน้าไม่เข้าใจผสมกับความงงงวย

   “ไม่รู้สิครับ แต่มันเหมือนสายตาที่มองขอทานบนสะพานลอยเลย”

   หาญศักดิ์รีบเบี่ยงใบหน้าหนีทันใด นี่เขาแสดงออกนอกหน้าไปมากขนาดนั้นเลยหรือนี่ เจ้าพ่อเงินกู้ทำเป็นมองไปรอบๆ ห้องก่อนจะหันไปมองหน้าโซดาอีกครั้ง

   “กูว่ามึงคิดไปเองว่ะ กูไม่ได้ทำหน้าแบบนั้นสักหน่อย”

   โซดายักไหล่ “ผมสายตาดีนะครับพี่ แต่ผมคิดไม่ออกจริงๆ ว่าพี่มองผมแบบนั้นทำไม”

   “แหม แล้วมึงคาดหวังให้กูมองมึงด้วยสายตาแบบไหนวะ”

   “ไม่รู้สิครับ สายตาเปี่ยมรักมั้ง”

   พูดลอยๆ จบใบหน้าหล่อเหลาก็หันไปมองจ้องใบหน้าที่่อ้าปากค้างไปอย่างตั้งตัวไม่ติดของหาญศักดิ์ เด็กหนุ่มกะพริบตาข้างเดียวส่งวิ้งค์ละลายใจให้อีกฝ่ายทันที

   เสี่ยหนุ่มอ้าปากพะงาบๆ หายใจติดขัดจนมีเสียงคร่อกเหมือนหมูดังออกมาจากปาก เขาแทบจะหวีดร้องออกมาแล้ววิ่งไปรอบห้องกับการโดนจู่โจมกะทันหัน

   ...ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้... นี่มึงกำลังทำอะไรกันแน่วะโซดา...

   มึงกล้า...มึงกล้าจีบกูเหรอไอ้เกย์ก้ามปู กูชักจะแน่ใจแล้วนะ

   นี่กูเป็นคนแมนนะเว้ย!

   กรี๊ดดดดดดดด

   “เปี่ยมรักอะไร! มึงคิดจะทำอะไรกับกู! มึงทำแบบนี้ไม่ได้นะ!” หาญศักดิ์ตะเบ็งเสียง สีของใบหน้าสลับกันระหว่างซีดเผือดกับแดงจัดจ้าน โซดามองหน้าอีกฝ่ายด้วยสายตาแพรวพราว

   “ทำอะไรครับ...หืม?”

   ไม่พูดเปล่าเด็กหนุ่มยังก้าวเข้าประชิดร่างของเขาภายในระยะเวลาสั้นๆ ในที่สุดใบหน้าคมคายนั่นก็อยู่ห่างจากใบหน้าของเขาเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น

   หืมอะไร? คิดว่าหล่อมากไหม!?

   กูตอบเลยนะ เออ หล่อ!

   “มึง...มึงทำแบบนี้กับกูไม่ได้” เสียของหาญศักดิ์แห้งผากเหมือนทะเลทรายที่แห้งแล้ง

   โซดาก้าวเข้าประชิดติดตัวเสี่ยหนุ่ม แล้วใช้นิ้วเรียวยาวเชยคางนั่นให้ขึ้นมาสบตาตัวเอง

   “อะไรครับ...ผมทำอะไรพี่...”

   เสียงแหบพร่าที่พูดออกมาจากใบหน้าที่แต้มไปด้วยรอยยิ้มเป็นต่อทำให้หาญศักดิ์แทบจะเป็นบ้า นี่มันจะเป็นแบบนี้จริงๆ หรือนี่...เขาจะกลายเป็น...

   ไม่! เขาจะไม่เป็นแบบนั้นหรอก!

   “บอกสิครับ...ผมทำอะไรพี่เหรอครับ...” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ยังคงประดับอยู่บนใบหน้าหล่อเหลา

   “มึงทะ-ทะ-ทำให้กู...”

   “หืม...?”

   รอยยิ้มนั้นสยายกว้างกว่าเดิม เด็กหนุ่มเอียงศีรษะไปด้านข้างเล็กน้อยอย่างรอคอยคำตอบ เส้นผมที่มีเหงื่อเกาะสะบัดนิดๆ เผยให้เห็นความเหล่อเหลาไร้ที่ติของผู้เป็นเจ้าของ ทั้งกรามรูปตัววีอันเร้าใจและริมฝีปากเย้ายวน ไหนจะดวงตาคมกริบอีก... ใบหน้าเซ็กซี่นั้นอยู่ใกล้หาญศักดิ์จนปลายจมูกแทบจะชนกัน

   “ทะ...ทำให้กู...”

   ...เขิน

   “ทำให้พี่ทำไมครับพี่หาน...” น้ำเสียงแหบพร่านั้นรุกเร้ากันอย่างร้ายกาจ เสน่ห์ของโซดาเหลือร้ายเหลือเกิน หาญศักดิ์รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นแค่นกตัวเล็กๆ ในกำมือของนักมวยหนุ่มเท่านั้น ใจของเขาเต้นตึกตักจนเขาคิดว่าอีกฝ่ายต้องได้ยินเสียงมันแน่ๆ

   คุณพระ...นี่กูจะเสียดุลให้เกย์ตอนอายุเกือบสามสิบจริงๆ หรือนี่...

   โอ้วโน้วววว...!!!!

   หาญศักดิ์หายใจฮืดฮาดประดุจเลือดลมจะขึ้น ลมหายใจอุ่นๆ ของเขาเป่ารดริมฝีปากของโซดาที่ยังยกยิ้มอยู่ มันห่างจากใบหน้าเขาไม่ถึงสามเซนติเมตรด้วยซ้ำ...

   “ผมยังรอคำตอบนะครับคนดี...”

   คนดีพ่อง!

   “ทำให้กูอยากจะอ้วกน่ะสิ!!”

   ป้าบ!

   หาญศักดิ์ถีบโซดาออกไปด้วยขาขวาอย่างแรงจนทำเอาคนที่ไม่ทันตั้งตัวกระเด็นออกไปไกลหลายหลา โซดาล้มก้นจ้ำเบ้าลงไปกองกับเบาะจิ๊กซอว์อย่างไม่คาดคิด ดวงใจของเสี่ยหนุ่มเต้นตุ้บตั้บดังคับโพรงอกจนหูอื้อ หาญศักดิ์รีบหันหลังกลับไปสงบจิตสงบใจตัวเอง เขาเป่าลมหายใจออกจากปากซ้ำแล้วซ้ำเล่าราวกับเพิ่งวิ่งพันกิโลเมตร พยายามควบคุมการหายใจให้เป็นปกติให้เร็วที่สุด

   เมื่อกี้กูคิดว่ากูหวั่นไหวกับมันงั้นเหรอ

   นี่กูจะกลายเป็นเกย์จริงๆ เหรอเนี่ย!

   อ๊ากกกกก

   เจ้าพ่อเงินกู้ตีอกชกหัวตัวเองเงียบๆ ขณะยืนหันหลังให้โซดาที่กำลังยันตัวขึ้นมาจากเบาะจิ๊กซอว์ บรรพบุรุษตระกูลลู่ทั้งโคตรเหง้าต้องไม่มีวันให้อภัยเขาแน่

   ...บ้า บ้าไปแล้ว! มันก็แค่เพราะซ.โซดาคนหล่อโหดจนโฉดดูเซ็กซี่มากในคราบนักมวย เขาก็เลยไพล่คิดบ้าๆ ไปชั่ววูบต่างหาก

   มันไม่จริงงงงง...!

   มันคือฝันนนนน...!

   ...แต่จะว่าไป...การได้ยันนักมวยที่เราเอาแต่เสียท่ามาตลอดนี่มันสะใจดีจังวุ้ย...

   เจ้าพ่อเงินกู้สูดลมหายใจเข้าปอดเติมเต็มร่างเฮือกใหญ่แล้วหันขวับไปเผชิญหน้ากับเด็กหนุ่มอีกครั้ง เขาพบโซดาที่ทำหน้าตาถมึงทึงนั่งขัดสมาธิอยู่บนเบาะตรงปลายเท้าตัวเอง เด็กหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นหนึ่งข้าง

   “เล่นทีเผลอเหรอครับ”

   น้ำเสียงของโซดาเย็นเยียบและเอาเรื่อง เด็กหนุ่มค่อยๆ ลุกขึ้นมาจากพื้น หาญศักดิ์รู้ตัวทันทีว่าพลาดไปอย่างใหญ่หลวง สันดานนักกีฬาแท้ๆ เกลียดการไม่มีน้ำใจนักกีฬาที่สุด หนึ่งในนั้นคือการเล่นทีเผลอ... อยู่ๆ ในหัวเสี่ยหนุ่มก็นึกถึงหนังสยองขวัญที่ฆาตกรไล่ต้อนเหยื่อจนสุดตรอกมืด

   “...ก็...ก็มึงเล่นอะไรบ้าๆ กับกูก่อนอ่ะ!” หาญศักดิ์ตะโกนเสียงสูง “กูก็แค่ป้องกันตัวเอง!”

   “อือฮึ...” ไอ้ปืนโตเพชรฆาตยิ้มเหี้ยม ดวงตาคมหรี่ลงจนดูคล้ายแป๊ะยิ้ม เขาสะบัดศีรษะไปด้านหลังแล้วเริ่มขยับมือขวากำถูหมัดซ้ายตัวเอง ก่อนจะสลับข้างทำอย่างเดียวกันเป็นท่าวอร์มของนักมวย หาญศักดิ์ยิ้มแห้งๆ รู้ได้ทันทีว่าจะเกิดอะไรขึ้น

   “วันนี้เราจะข้ามขั้นไปเรียนระดับแอดวานซ์นะครับ”

   “ฮะ เฮ้ย”

   ร่างสูงย่างสามขุมเข้าไปหาเสี่ยหนุ่มที่ก้าวถอยหลังช้าๆ รอยยิ้มนั้นทำให้หาญศักดิ์รู้สึกไม่สบายตัวและใจอย่างมาก

   “พี่จะเป็นคู่ซ้อมมวยของผม...”

   “ไม่เอา ไม่เอาโว้ย!”

   ซ้อมมวยหรือถูกมึงซ้อม!

   ฟึ่บ!

   โซดาโยนที่ล่อเป้าแบบยาวสองอันใส่หาญศักดิ์ขณะที่ยังคงยิ้มพิฆาต เอาแล้วครับกู... เรามาถึงจุดนี้ได้ยังไงวะเนี่ย... จุดที่ตอนแรกกูรู้สึกแปลกๆ แต่ตอนนี้กูรู้สึกกลัวมึงแล้วอ่ะ...

   หาญศักดิ์กลืนน้ำลายเอื๊อกใหญ่ รู้ได้ทันทีว่ากำลังจะถูกซ้อมจนเละตุ้มเป๊ะอย่างที่แล้วๆ มา ตอนนี้สิ่งที่ทำได้คงมีท่องพุทธังสังฆังให้แคล้วคลาด

   “เดี๋ยวมึง เจรจากันก๊อน” หาญศักดิ์พูดขณะที่มือสั่นๆ รีบใส่ที่ล่อเป้าอย่างรวดเร็วที่สุด โซดาตะโกนก้อง

   “เราจะเริ่มกันเดี๋ยวนี้ จับเวลา!”

   “โอ้กก”

   ทันทีทันใดหาญศักดิ์ก็รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นลูกบอลที่โดนเตะอัดไปรอบๆ ไม่ใช่แค่ฟุตบอลแต่รวมไปถึงแฮนด์บอลด้วย ทั้งหมัดเท้าเข่าศอกพ่อคุณแจกจ่ายมาให้เขาครบทุกกระบวนท่าจนรับแทบไม่ทัน หาญศักดิ์มือไม้เป็นระวิง แหกปากร้องลั่นเวลาที่โซดาสวนใส่มาอย่างหนักหน่วงจนสะเทือนไปทั้งกายา ถ้ารับพลาดนี่หมายถึงชีวิตของกูเลยนะเว้ย...แรงควายขนาดนี้... ยิ่งไพล่นึกไปถึงภาพที่เสี่ยชานเคยโดนโซดาอัดยับเยิน เขาก็ยิ่งหวาดผวายิ่งนัก ยังดีครั้งนี้มันมีอุปกรณ์ช่วยรับ ครั้งที่ผ่านๆ มาตัวกูนี่แหละรับเต็มๆ

   ในที่สุดโซดาก็หยุดแล้วยืนคูลดาวน์ร่างกายอยู่กับที่ หาญศักดิ์หอบฮักถอดอุปกรณ์ออกแล้วคลานสี่ขาลงไปสลบเหมือดบนเบาะจิ๊กซอว์ เป็นคนล่อเป้าแท้ๆ ทำไมถึงเหนื่อยได้วะเนี่ย คนเหนื่อยมันต้องเป็นคนที่เตะต่อยไม่ใช่หรือ
   ไม่ยุติธรรม!

   สักพักโซดาก็ทิ้งตัวลงนั่งบนเบาะจิ๊กซอว์เป็นเพื่อนหาญศักดิ์ ทั้งคู่ดื่มน้ำเย็นเข้าไปหลายอึก พักกันอยู่สักครู่โซดาก็ลุกขึ้นยืนอีกครั้ง

   “มาครับ เดี๋ยวยกต่อไปพี่เป็นคนต่อยนะ”

   หาญศักดิ์ดีดผึงขึ้นมาจากเบาะทันทีเหมือนระบบไฮดรอลิก ใบหน้าหล่อหวานฉายรังสีแห่งความเบิกบานสว่างไสวไปทั่ว โซดาเดินไปหยิบที่ล่อเป้าทั้งหลายมาสวมในขณะที่หาญศักดิ์กระดี๊กระด๊าไปใส่นวม เสี่ยหนุ่มหันมามองใบหน้าของโซดาด้วยรอยยิ้มที่บ่งบอกว่ารอคอยเวลานี้มานานแสนนาน เขายืนแยกขาในท่าที่ถูกต้อง แล้วชกกำปั้นนวมเข้าหากันเองปังใหญ่

   “มึงเสร็จกูแน่!”

   หาญศักดิ์กู่ก้องประกาศศักดา ในหัวคิดว่าจะแกล้งทำเป็นต่อยที่ล่อเป้าพลาดแล้วไปโดนตัวของโซดาให้ได้ ร่างสูงมองอาการของคนตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม เพราะเขารู้อยู่แล้วว่ามันจะต้องเป็นแบบนี้ ร่างสูงพูดเนิบๆ

   “ระวังเจ็บนะครับ”

   “เจ็บอะไร้ ไม่มีทาง!” เจ้าพ่อเงินกู้หัวเราะฮ่าๆ “กูพันหมัดแล้ว ใส่นวมแล้วด้วย คอยดูนะ กูจะอัดมึงให้จมดินเลย!”

   “เจ็บสิครับ”

   ดวงตาคู่คมกริบส่งสายตาชวนคันหัวใจให้อีกฝ่าย หาญศักดิ์หรี่ตาลงอย่างไม่เข้าใจ เซฟตี้ขนาดนี้มันจะเจ็บได้ยังไงวะ ถ้าปวดเมื่อยตามร่างกายก็อีกเรื่อง

   แต่แล้ว...เสียงนุ่มทุ้มก็เอ่ยออกมาจากเรียวปากหยักที่มีรอยยิ้มนั่น

   “ระวังเจ็บนะครับพี่...ทำร้ายหัวใจตัวเอง...”





----------------------------------------
METAL TERMINAL 100%
ทำไหมหลงโซดาขนาดนี้งือออออ เขินน55555


อ๊อต๊อเค๊ หรือ ออ-ต๊อค-เคเป็นภาษาเกาหลีที่สามารถได้ยินบ่อยในซีรีย์เกาหลีค่ะ
แปลว่า จะทำอย่างไรดี ทำไงดี อะไรประมาณนี้ค่าา ^^

ออฟไลน์ lovenadd

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-11
โซดาอ่อยแรงมากลูก

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
มุขเอ็งเสี่ยวมากกกกกก โซดา :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
มุกเสี่ยวแต่เสี่ยก็เขินได้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ em1979

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
เสี่ยเอ้ย.... ยังไม่รู้ตัวอีกหรอว่าหลงคารมเสี่ยวๆ ของโซดาไปหมดแล้ว

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4

ออฟไลน์ namkang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ ตั่วเจ้เจค

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-8
ยกที่ ๑๗
   
   
Looking back on when we first met,

I can not escape and I can not forget,

Baby, you are the one
You still turn me on,

You can make me whole again.

[ นึกย้อนกลับไปยังวันแรกที่เราพบกัน
ผมยังจำมันได้ดีเสมอ
พี่คือคนดีเพียงคนเดียวของผม...
พี่เป็นคนเดียวที่ทำให้ผมรู้สึกเร่าร้อนเสมอ...
ที่รัก...อยู่กับพี่แล้วผมเป็นตัวของตัวเอง... ]

(Whole again – Atomic Kitten :  แปลเพลงเป็นเวอร์ชัน ศาสดาในเรื่อง ‘METAL TERMINAL พยัคฆ์คว่ำกวาง' โดยเจค)

   
:::METAL TERMINAL:::   
   

   หาญศักดิ์จังงังไปในทันทีกับคำพูดนั้น ใบหน้าหวานของเขาขึ้นสีราวกับสั่งได้ ลิ้นในปากเหมือนถูกมัดเป็นปม

   “...อะไร...มึงพูดอะไร มึงหมายความว่ายังไงหา!”

   เจ้าพ่อเงินกู้กร่างกลบเกลื่อน วิถีคนแมนไม่มีคำว่าเขินโว้ย!

   โซดายังคงยิ้ม ดวงตาของเขาพราวระยับเหมือนหมู่ดาวบนท้องฟ้า มองช้อนสายตาจนหาญศักดิ์อยากจะเดินเข้าไปจิ้มสองตานั่นนัก

   เป็นแค่ลูกหนี้มีสิทธิ์อะไรมาทำให้กูรู้สึกแปลกๆ!

   ...แล้วทำไมแก้มกูร้อนแบบนี้วะเนี่ย...

   มึงไม่มีสิทธิ์ โอยยย มึงทำแบบนี้กับกูไม่ด๊ายยยย TTOTT

   อันเดวววววว๊!!!

   ...อันเดวเหี้ยอะไรอีก นี่ตกลงกูเป็นนางเอกซีรียส์เกาหลีติงต๊องพวกนั้นจริงๆ หรือวะ ฮือ!

   “ถ้าไม่เชื่อก็มาถามผมนี่...” เด็กหนุ่มเอาที่ล่อเป้าตบหน้าอก “เพราะผมนี่แหละคือคนที่รู้ดีที่สุด ว่าเวลาทำร้ายหัวใจตัวเองแล้วมันเจ็บขนาดไหน...”

   “อย่าอยู่เลยมึง!”

   หาญศักดิ์ปล่อยหมัดแรกจู่โจมเข้าที่กรามซ้ายของคนตรงหน้าทันที แต่ร่างสูงก็ยกมือรับไว้ได้อย่างสวยงามพอเหมาะพอเจาะ ที่ล่อเป้าทั้งสองอันล็อกมือที่ใส่นวมของเสี่ยหนุ่มเอาไว้

   “มันเจ็บใช่ไหมล่ะครับ” ดวงตาคมจ้องมองเข้ามาในดวงตาของเขาด้วยสายตาแพรวพราวแบบชายเจ้าชู้ “ทำร้ายหัวใจตัวเองแบบนี้”

   อ๊ากกก!

   “ไอ้บ้า! ไอ้บ้า! ไอ้บ้า!”   

   หาญศักดิ์รัวหมัดอย่างบ้าคลั่งเรียกรอยยิ้มบนใบหน้าของเด็กหนุ่ม เขาทั้งสะเปะสะปะออกหมัดมั่วไปหมดจนปวดแขน

   “เอ้าๆ...ต่อยแบบนี้ที่เรียนไปไม่ได้ผลหรอกครับ ผมจะจริงจังแล้วนะ”

   “เออสักทีเหอะ!”

   ในที่สุดก็กลับเข้าสู่การเรียนการสอนจนได้ โซดาเอ่ยตำแหน่งล่อเป้าให้หาญศักดิ์ต่อยเตะไปเรื่อยๆ ต่อเนื่อง และแล้วหาญศักดิ์ก็จดจ่อกับมันจนลืมเรื่องที่เกิดขึ้นจนหมด โซดายิ่งกระพือไฟในร่างเสี่ยหนุ่มให้ลุกโชน ร่างสูงช่างรู้ดีเหลือเกินว่าทำยังไงคนต่อยจะยิ่งใส่แรงและอารมณ์ได้มากขึ้น

   “โอ้โหเตะอย่างกับผู้หญิง!” เสียงห้าวตะเบ็งดังก้องขณะล่อเป้าให้หาญศักดิ์เตะปั่กๆ ทำเอาหาญศักดิ์เลือดเดือดพล่าน “แรงอีกครับพี่! เอ้า หมัดซ้าย! ซ้าย! ซ้าย!”

   หาญศักดิ์คำรามดังลั่นแล้วปล่อยหมัดเท้าเข่าศอกทุกกระบวนท่าเท่าที่ตัวเองจะทำเป็น เขารุดหน้าไปอย่างมากเป็นที่พออกพอใจของคนสอน ในที่สุดพอครบสี่ยกก็เป็นอันจบ ทั้งสองเหนื่อยอ่อนจนล้มลงไปนอนแผ่หลากับเบาะจิ๊กซอว์ หาญศักดิ์ที่หน้าแดงจัดหอบหายใจรุนแรงจนอกกระเพื่อมขึ้นลงรัวเร็ว ส่วนโซดาที่นอนอยู่ข้างๆ ก็หายใจถี่ๆ ไม่แพ้กัน ทั้งคู่นอนหันหน้าเข้าหากันแต่ชี้ขาไปคนละทิศ เท่ากับว่าต่างก็เห็นใบหน้าของกันและกันกลับหัว

   “พี่ดีขึ้นแล้วนะครับ แต่ว่ายังต้องฝึกอีกเยอะ มันยังไม่ดีพอจะเอาไปจัดการกับคนที่มีวิชาได้หรอก”

   “อือ แฮ่ก... กูก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องเก่งในชั่วพริบตาอยู่แล้ว”

   โซดาพยักหน้าแล้วมือขึ้นปาดเหงื่อบนหน้าผาก ต่างฝ่ายต่างก็นอนจ้องตากันทั้งที่ยังหอบฮัก อันที่จริงพวกเขาแทบไม่ค่อยได้เปิดปากคุยกันดีๆ เลย ส่วนใหญ่พูดจากันทีไรเป็นเลอะเทอะตลอด การสนทนาครั้งนี้จึงเป็นอะไรที่นับว่าน่าจดจำทีเดียว

   “พอพี่เก่งมากขึ้นกว่านี้ ผมจะสอนใช้มีด” โซดานิ่งคิดนิดหนึ่ง “สอนใช้ง้าวด้วยก็ได้นะครับถ้าพี่อยากเรียน”

   “มีดก็พอแล้ว ง้าวนี่กูไม่ได้จะไปเล่นงิ้วสักหน่อย ว่าแต่มึงใช้เป็นทุกอย่างเลยเหรอวะ”

   “ครับ ผมเรียนมวยไทยมานานมาก ครูเขาสอนหมดแหละ การป้องกันตัวด้วยอาวุธทุกแขนง เพราะมันรากฐานเหมือนกัน ปรับท่าทางนิดเดียวก็ได้แล้ว ยกเว้นพวกยิงปืน”

   หาญศักดิ์พยักหน้า งั้นถ้าเกิดวันหนึ่งโซดาบ้าดีเดือดฆ่าเขาขึ้นมา อะไรๆ ใกล้มือก็คงกลายเป็นอาวุธได้ แล้วเขาก็คงสู้มันไม่ได้ ต้องกลายเป็นศพสยองอย่างไม่ต้องสงสัย

   “เห็นคุณขันบอกว่า มึงใกล้ขึ้นชกรักษาแชมป์แล้วหรือ”

   “ครับ อีกสักพักหนึ่ง”

   หาญศักดิ์พยักหน้า จับจ้องใบหน้าของโซดาด้วยดวงตากลมโตของตัวเอง เขายกมือขึ้นปาดเหงื่อบ้างเพื่อไม่ให้มันเข้าตา ก่อนจะเอ่ยถามอย่างจริงจัง

   “นอกจากต่อยมวย มึงมีจุดมุ่งหมายอย่างอื่นในชีวิตไหมวะ หรือมึงอยากเป็นบัวขาว แบบจา พนมอะไรอย่างนั้นไหม”
   โซดาที่นอนอยู่โคลงศีรษะ “จุดมุ่งหมายของผมไม่ใกล้เคียงกับอะไรแบบนั้นเลยครับ ผมไม่ได้คิดจะต่อยมวยอาชีพไปจนตาย ผมมีแค่ความต้องการง่ายๆ  สองสามอย่างในชีวิตเท่านั้น”

   “อะไรล่ะ?”

   โซดาพลิกร่างเป็นท่านอนหงาย ปล่อยให้หาญศักดิ์จ้องเสี้ยวหน้าด้านข้างของตัวเอง เด็กหนุ่มนิ่งคิดสักพัก ในที่สุดก็ค่อยๆ เอ่ยปากตอบเบาๆ

   “ผม... แค่อยากให้พ่อแม่สุขสบาย ได้อยู่ในบ้านดีๆ ให้พวกท่านมีความสุข ผมคิดแค่นี้จริงๆ”

   ดวงตาของเด็กหนุ่มมองจ้องไปบนเพดานสีขาวว่างเปล่า คิดถึงสภาพบ้านเก่าๆ ของตัวเองที่ไม่มีปัญญาแม้แต่เงินจะหาเงินมาซ่อมแซ่มส่วนที่สึกหรอผุกร่อน คิดถึงแม่ที่ทุกข์ในอกแต่พยายามทำเป็นเข้มแข็ง นึกถึงพ่อผู้ที่จริงๆ แล้วเป็นคนดีก็เอาแต่โทษว่าปัญหาทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะตัวเอง

   แม้มันจะจริง แต่โซดาไม่เคยโกรธท่านเลยแม้แต่นิดเดียว คนเราผิดพลาดกันได้

   “พวกท่านเหนื่อยมามากแล้ว... ผมรู้ว่าดูจากสถานการณ์ตอนนี้มันก็คงจะยาก ผมจะสู้...ต่อให้จะลำบากแค่ไหน แต่ถ้ามันจะทำให้พ่อแม่สบายผมจะยอม แล้วผมก็สัญญากับตัวเองว่าผมจะต้องทำให้ได้ ต่อให้มันจะใช้เวลานานแค่ไหนก็ตาม”
   แววตาที่จับจ้องเพดานมุ่งมั่น ยังคงพูดต่อด้วยเสียงเรียบๆ

   “อย่างน้อย...มันคงไม่นานไปกว่าชั่วชีวิตหนึ่งหรอก”

   ฟึ่บ...

   เด็กหนุ่มหันไปมองมือของหาญศักดิ์ที่เอื้อมมาจับแก้มของเขา เพราะมันเป็นส่วนที่ใกล้ที่สุดที่อีกฝ่ายจะสามารถสัมผัสเขาได้ แววตาของเสี่ยหนุ่มสั่นไหวเบาๆ แต่เมื่อโซดากะพริบตาแล้วมองอีกที มันกลับไม่ได้สั่นเลยแม้แต่น้อย

   “กูรู้โซดา กูรู้ว่ามึงต้องทำได้แน่ๆ”

   เด็กหนุ่มยิ้มกว้าง เลื่อนมือของตัวเองไปทาบทับมือที่ประทับอยู่ก่อนจนแนบสนิท

   “ขอบคุณครับพี่...”

   ...สายตานั้นบอกว่าเชื่อในตัวเขา
   

:::METAL TERMINAL:::   
   
   
   “มาแล้วครับ!”

   โซดาที่นั่งอยู่ฝั่งคนขับตะโกนออกมาจากรถสปอร์ตเปิดประทุนคันงามของหาญศักดิ์ เล่นเอาแขกผู้หญิงที่อยู่บริเวณหน้าโรงแรมส่งเสียงฮือฮากันระลอกใหญ่

   หนุ่มหล่อกับรถสปอร์ต...

   สาวที่ไหนล่ะจะไม่กรี๊ด

   แต่ขอโทษที... พอดีนั่นไม่ใช่รถมัน รถเมียมัน! เจ้าของยืนหัวโด่อยู่นี่

   เจ้าพ่อเงินกู้ที่ยืนรออยู่ก่อนแล้วหน้าโรงแรมเมททอลผงกหัวก่อนจะเดินไปเปิดประตูรถแล้วเข้าไปนั่งเบาะด้านข้างคนขับ วันนี้เขาจะไปทำงานเก็บดอกเบี้ยเงินกู้พวกคนที่ไม่ได้มีความสลักสำคัญอะไร หรือที่หาญศักดิ์กับชาญชัยจะเรียกว่าพวกตัวเล็กๆ  จริงๆ งานนี้เสี่ยหานไม่ต้องลุยเองก็ได้ แต่เพราะต้องสอนงานโซดาเจ้าพ่อเงินกู้จึงต้องลงมือเอง และเนื่องจากไม่ได้ไปเก็บเงินพวกที่ฤทธิ์เยอะจึงไม่ต้องยกขโยงนำลูกน้องไปมากมาย แค่โซดากับเขาสองคนก็เพียงพอ

   “เดี๋ยวไปแถวซอยวัดม่วง มึงรู้จักไหม”

   โซดาส่ายหน้าหวือ

   “อยู่แถวๆ บางแคอ่ะ ไม่มีอะไรมากหรอกมึงวันนี้ พวกลูกหนี้พวกนี้ไม่ค่อยมีความรู้ ขู่นิดเดียวก็กลัวหัวหดแล้ว”

   โซดาพยักหน้าแล้วขับรถไปตามเส้นทาง ก่อนจะกดให้ประทุนเลื่อนคลุมปิด รถเปิดประทุนเป็นอะไรที่ไม่เหมาะกับประเทศไทยโดยเฉพาะกรุงเทพฯ อย่างรุนแรง ไหนจะแสงแดดแรงกล้าที่ร้อนฉ่าจนเหมือนจะเผาไหม้คนให้ดำเป็นตอตะโกได้ ไหนจะควันรถและมลพิษตลบอบอวล ซื้อมาก็ขับเปิดประทุนอวดได้แต่ตอนกลางคืนเท่านั้น

   จากใจกลางกรุงออกมาสู่ชานเมือง ในที่สุดรถสปอร์ตคันงามก็เลี้ยวเข้าไปในซอยเก่าๆ ที่ตรงปากซอยมีร้านเซเว่นอีเลฟเว่นเป็นจุดสังเกต ในซอยพลุกพล่านไปด้วยผู้คน บรรดาเด็กนักเรียนโรงเรียนวัดหลายโรงเรียนเดินกันอย่างไม่เกรงกลัวรถเต็มซอย ทำเอาโซดาต้องชะลอความเร็วแล้วขับแบบระแวดระวังสุดฤทธิ์ เครื่องแบบกระโปรงสีกรมท่าและกางเกงนักเรียนสีกากีกับสีดำละลานตาเต็มไปหมด เวลาเที่ยงๆ จนเกือบบ่ายของวันเสาร์แบบนี้โรงเรียนรัฐบาลคงจะเพิ่งเลิก โซดาเองเรียนโรงเรียนเอกชนจึงไม่มีเรียนวันเสาร์ เด็กหนุ่มรู้สึกว่าบรรยากาศช่างไม่เหมาะสมกับราศีของรถสปอร์ตคันหรูที่ขับอยู่สักนิด และดูเหมือนเจ้าพ่อเงินกู้ก็จะคิดแบบเดียวกัน

   “กูน่าจะเอาแค่ครูซหรือฟอร์ดมา ไอ้เหี้ย ซอยก็แคบ ถ้าเป็นรอยนี่พ่อจะร้องเลย” หาญศักดิ์ทำหน้าหวาดเสียวตลอดเวลาที่รถเคลื่อนที่ไปข้างหน้า

   “ผมก็คิดว่างั้นแหละ...”

   “เฮ้ยๆ เลี้ยวเข้าตรงนี้แล้วจอดเลย”

   หาญศักดิ์พูดแล้วชี้มือเข้าไปในตรอกๆ หนึ่ง โซดาทำตามคำสั่งก่อนจะจอดรถอย่างระมัดระวังที่สุด หาญศักดิ์เปิดเก๊ะหน้ารถแล้วหยิบเอาสมุดเล่มหนึ่งออกมาแล้วโยนไปให้โซดา หน้าปกมันเขียนว่า 'ฝั่งธนฯ' รวมถึงหยิบปืนออกมาเหน็บไว้ที่เอว

   “กูพกปืนไว้แค่อันเดียว จริงๆ ไม่น่าจะมีอะไรหรอกก็เผื่อไว้ก่อน สมุดบัญชีนั้นมึงต้องเป็นคนถือ ทำตัวเป็นมือขวาที่ดี เข้าใจ๊?”

   “ครับๆ”

   โซดาตอบเสียงประชดๆ แล้วทั้งคู่ก็เปิดประตูรถออกไปด้วยกัน หาญศักดิ์หยิบบุหรี่มาคาบแล้วจุดไฟสูบเข้าไปในปาก

   “พี่ยังแก่ใจสูบบุหรี่อีกเหรอครับ นี่พี่กำลังจะมาทวงเงินคนนะ” โซดาส่งเสียงขึ้นมาทันที

   “มันทำให้ดูมีมาดว้อย” หาญศักดิ์กระดิกมือที่คีบบุหรี่ใส่เด็กหนุ่ม “มึงนี่ไม่รู้อะไร เอ้า มึงเอาไปสูบด้วยเลยตัวนึง”

   พูดจบเขาก็ยื่นมาร์ลโบโรสีแดงให้คนที่ยืนอยู่ข้างตัวหนึ่งแท่ง โซดามองมันอย่างชั่งใจอยู่อึดใจใหญ่ราวกับมันเป็นวัตถุประหลาดจากนอกโลก คล้ายกับว่าความคิดของเด็กหนุ่มต่อสู่กันอย่างหนัก หาญศักดิ์รู้สึกงงมาก

   “อะไร มึงอายุสิบเจ็ดแล้วนะ มึงไม่เคยสูบบุหรี่เหรอ เป็นผู้ชายนะเว้ย”

   โซดามองหน้าหาญศักดิ์เหมือนอีกฝ่ายเบาปัญญา เสี่ยหนุ่มคิ้วกระตุก

   ”ผมสูบมันไม่ได้ครับ”

   ก่อนที่จะได้อ้าปากถามต่อ โซดาก็ตอบคำถามของเขาเข้าเสียก่อน

   “เพราะผมเป็นนักกีฬา”

   “เออ...วะ”

   หาญศักดิ์กระจ่างแจ้งขึ้นมาทันที สำหรับนักกีฬาแล้วร่างกายมีค่าดั่งทองคำบริสุทธิ์ ต้องดูแลให้ดีที่สุดชนิดริ้นมิให้ไต่ไรมิให้ตอม ถ้าบ่อนทำลายสุขภาพตัวเองก็ไม่อาจยืนหยัดอยู่ในวงการได้นาน มือหนาดึงมวนสีขาวออกมาจากปากหาญศักดิ์ แล้วถือปลายแต่ละด้านของมันไว้ด้วยนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ของทั้งสองมือ โซดายิ้มจนหน้ากลายเป็นแปะ

   “แล้วจริงๆ พี่ก็ควรจะเลิกสูบด้วยนะครับ มันไม่ดีต่อสุขภาพของพี่หรอก”

   เป๊าะ!

   เสียงหักแท่งบุหรี่ราวกับเสียงหักหัวใจของหาญศักดิ์ เขาอ้าปากค้างมองมวนบุหรี่ถูกหักออกจากกันเป็นสองท่อนซึ่งๆ หน้า เสี่ยหนุ่มไล่สายตาขึ้นไปมองใบหน้าหล่อเหลา รู้สึกอยากจะด่าโซดาแต่พอมองหน้าแล้วกลับด่าไม่ออก คำด่ามันติดคาอยู่ในคอจนไม่มีเสียง

   “มึง... มึง...” นิ้วของเขาสั่นระริก ทั้งโกรธทั้งอึ้งจนไม่รู้จะด่าคำไหน

   “อืม ต่อไปนี้ผมจะควบคุมไม่ให้พี่สูบบุหรี่ด้วยดีกว่า เราสองผัวเมียจะได้อยู่ด้วยกันไปนานแสนนาน...เนอะ”

   กวนตีน!

   “ไอ้ -- !!”

   “เราจะไปกันได้หรือยังครับพี่ เสียเวลาเหลือเกิน”

   ไม่มีอะไรในโลกนี้ที่หาญศักดิ์อยากจะทำไปมากว่าตั๊นหน้าโซดาอีกแล้ว เขามองอีกฝ่ายด้วยสายตาจะกินเลือดกินเนื้อ หากแต่เด็กหนุ่มก็เพียงแค่กระดกคิ้วรัวๆ ให้เท่านั้น เจ้าพ่อเงินกู้ฮึดฮัดแล้วออกเดินไปเบื้องหน้าอย่างไม่สบอารมณ์ ทันทีที่เสี่ยหนุ่มเดินผ่านหน้าบ้านหลังแรก โซดาสังเกตเห็นว่าชาวบ้านชาวช่องรีบปิดประตูลงกลอนกันด้วยความไวแสง การถูกทวงเงินยังไงก็เป็นสิ่งที่มนุษย์ไม่ชอบ แต่ทีตอนกู้ยืมล่ะไม่คิด...

   หาญศักดิ์ทุบประตูบ้านหลังหนึ่งเสียงดังสนั่น ชายวัยกลางคนเยี่ยมหน้าออกมามองแล้วก็ยิ้มแหยๆ ให้ผู้เป็นเจ้าหนี้

   “เปิดให้ผมเข้าไปเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นอย่าหาว่าไม่เตือน”

   เสียงของหาญศักดิ์ดุดันเอาเรื่อง เข้าไปถึงก็มุ่งประเด็นไล่ต้อนเอาดอกเบี้ยอย่างโหดร้าย เก็บบ้านนี้เสร็จก็ไปเก็บบ้านอื่นๆ ต่อ แถมยังเก็บได้ครบทุกหน่วยอย่างน่าชื่นชม ใครหมกเม็ดซุกซ่อนอะไรไว้หาญศักดิ์ก็รู้หมด เมื่อไรที่เสี่ยหนุ่มยื่นมือข้ามบ่ามาข้างหลัง หมายความว่าโซดาต้องรู้หน้าที่รีบเปิดสมุดบัญชีไล่รายชื่อแล้วเปิดหน้านั้นส่งให้เจ้าพ่อเงินกู้เขาแต่โดยดี ท่าทางหาญศักดิ์แข็งกร้าวและดุดันจนโซดาประทับใจมากมาย ถ้าหาญศักดิ์คิดว่าเขาเท่ตอนตอนต่อยมวย เขาก็คิดว่าหาญศักดิ์โคตรเท่ตอนทวงหนี้เหมือนกัน มันแมนและโหดมากจนไม่อยากเชื่อว่าคนคนนี้จะเป็นคนเดียวกันกับที่เขาจัดการรวบหัวรวบหางให้นอนครางใต้ร่างเป็นลูกแมวเชื่องๆ (อย่างไม่เต็มใจ) มาก่อน เขาชักจะเข้าใจเสียแล้วสิว่าทำไมบิดาของเขาถึงได้กลัวหาญศักดิ์นักหนา

   “เอ้า ครั้งนี้ผมอุตส่าห์ให้เกียรติมาเองก็รีบๆ จ่ายมา”

   วาจาของหาญศักดิ์เฉียบขาด หญิงสาววัยสี่สิบกลางๆ รูปร่างเจ้าเนื้อที่แต่งหน้าแต่งตัวจัดจ้านและเป็นเจ้าของร้านเสริมสวยขนาดกลางส่งเงินให้หาญศักดิ์ด้วยท่าทีที่มีพิธีรีตอง เธอรีบถอยกรูดจะขึ้นไปชั้นสองขณะเจ้าพ่อเงินกู้นับธนบัตรอย่างรวดเร็วจนโซดาตาพร่าเลือน

   “เดี๋ยวเจ๊!” หาญศักดิ์พูดเสียงดังเหมือนฟ้าผ่า “นี่มันขาดไปหมื่นเจ็ดนะ เจ๊คิดจะตุกติกกับผมเหรอ”

   “เจ๊เปล่านะ!” หากแต่สีหน้าของหล่อนไม่อาจปกปิดได้ เธอเสียงสูง “เสี่ยนับไม่ดีเองรึเปล่า”

   หาญศักดิ์คิ้วกระตุก เลื่อนสายตาน่ากลัวจากธนบัตรไปมองใบหน้าที่คลุมทับไปด้วยเครื่องสำอางมากมายของสาววัยกลางคน

   “เจ๊เห็นผมโง่เหรอ?” เจ้าพ่อเงินกู้ฟาดปึกเงินในมือลงที่โต๊ะข้างๆ ปังใหญ่ เขากระโชกโฮกฮาก “เอามาให้ครบ! จะจ่ายไม่จ่าย ไม่งั้นอย่าหาว่าไม่เตือน”

   “ฉันไม่มีให้แล้ว!” หญิงสาวส่งเสียงแจ๋นๆ อย่างน่าอัดก่อนจะวิ่งมาสไลด์บานเลื่อนกรงเหล็กสนิมเขรอะปิดกั้นส่วนระหว่างที่เป็นร้านกับบ้านขณะที่หาญศักดิ์ปรี่เข้ามาหา “ฉันมีแค่นั้นแหละ กลับไป! ไอ้พวกเบียดเบียนคนอื่น!”

   “เฮ้ยพูดงี้ได้ไงวะ!”

   ทั้งคู่ยื้อยุดบานเลื่อนเหล็กเก่าๆ หาญศักดิ์พยายามเปิดประมันออกแต่หญิงสาวที่มือไม้สั่นก็ล็อกมันไว้ได้เสียก่อน เธอรีบวิ่งแจ้นขึ้นไปชั้นสอง หาญศักดิ์โกรธจนกระแทกหัวเข้ากับกรงเหล็กนั่นดังตึงใหญ่

   “โซดา พังร้านมัน!!”

   “อย่านะ!” เธอกรีดร้องแล้ววิ่งลงมาทันทีทั้งๆ ที่เมื่อกี้กำลังไต่ขึ้นไปชั้นสองของบ้านอย่างเร่งรีบ โซดายืนตัวแข็งทื่อ เขาไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน ตอนคุมกาสิโนเนื้อหางานก็แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ส่วนมากเป็นการดูแลไม่ให้เกิดเรื่องทะเลาะวิวาทหรือใช้กลโกงใดๆ แต่นี่มันไม่ใช่เลย

   โครมมมม เพล้งงงง!!

   หากแต่ขณะที่โซดาไม่เข้าใจว่าควรจะต้องทำอะไรกันแน่ หาญศักดิ์ก็ผลักเครื่องอบไอน้ำลงพื้นอย่างแรงจนฝาครอบแก้วด้านบนแตกกระจุย

   “หูแตกเหรอวะ กูบอกให้พังร้านมันเดี๋ยวนี้!!”

   “กรี๊ดดด อย่า!”

   โซดาตกใจกับเสียงตะโกนนั่นจนทำอะไรไม่ถูก ขณะนั้นหาญศักดิ์ก็เอาฝ่ามือกวาดบรรดาสเปรย์ฉีดผมที่ตั้งเรียงรายบนเชลล์ทั้งหมดจนมันล้มระเนระนาด เสียงขวดทั้งหลายแหล่กระทบกันดังสนั่น เขาหันขวับไปมองโซดาตาวาววับ

   “มึงจะทำไม่ทำฮะ!”

   “ครับ...ครับ...!”

   โซดารีบคว้ามือสะเปะสะปะไปที่ไดร์เป่าผมแล้วเหวี่ยงมันลงกับพื้น พอเสร็จแล้วก็ไม่รู้ว่าควรจะทำอะไรต่อ เขามองไปที่หาญศักดิ์ซึ่งเดือดสุดขีดและกำลังทำลายข้าวของเท่าที่จะทำได้

   “อย่า! อย่า!”

   เจ๊เจ้าของร้านดูเหมือนจะร้องไห้ เธอรีบไขกุญแจนั่นแล้วถลาออกมาคว้าแขนของหาญศักดิ์

   “เอาไป เอาไปให้ครบ! ฮือ...ฮือ...”

   “เอามาตั้งแต่แรกก็สิ้นเรื่อง!!” หาญศักดิ์ตะโกนหลังรับเงินมาแล้วนับอย่างรวดเร็ว หญิงสาวร้องไห้รำพึงรำพัน หาญศักดิ์ชี้หน้าเจ้าหล่อน “ผมก็ไม่ใช่คนชั่วโดยสันดานหรอกนะ! แล้วจำเอาไว้ว่ามาลองดีกับพรรคพยัคฆ์อีก ไม่งั้นไอ้เงินห้าล้านที่เจ๊กู้มาตั้งร้านผมจะทำให้มันเหมือนตกนรกแน่!!”

   หญิงสาวร้องไห้สะอึกสะอื้น ดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธแค้นและหวาดกลัว

   “แล้วถ้าเจ๊ย้ายหนีนะ คงไม่ต้องบอกว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมยิงโป้งแน่!” เสียงของหาญศักดิ์ดังราวฟ้าผ่า “โซดา กลับเว้ย!”
   พูดจบหาญศักดิ์ก็ก้าวอาดๆ ผ่านร่างเด็กหนุ่มออกไปที่ประตู โซดารีบเดินตามหลังไปทันที ทั้งคู่ขึ้นไปบนรถสปอร์ตคันหรู หาญศักดิ์ที่ยังดูหงุดหงิดอยู่ยื่นพวกเงินที่เก็บมาได้ให้โซดา เด็กหนุ่มมองมันอย่างไม่เข้าใจว่าจะต้องทำอย่างไรต่อ

   “ล็อกรถเลย”

   โซดาล็อกรถทันที

   “เอ้า นับเงินสิวะ! นิ่งอะไรอยู่อีก” หาญศักดิ์ขมวดคิ้วตบประตูรถทำเอาโซดาสะดุ้งเฮือก “ดูว่ายอดตรงรึเปล่า แล้วก็บันทึกลงไปสมุดเป็นรอบๆ เรียนเก่งนี่มึง บวกลบคูณหารง่ายๆ น่าจะทำได้ เอ้า นี่เครื่องคิดเลข”

   หาญศักดิ์คว้าเครื่องคิดเลขออกมาจากเก๊ะหน้ารถอีกอย่างแล้วโยนให้เด็กหนุ่ม โซดารับไปแล้วทำตามอย่างรวดเร็ว เขาอ่านออกเสียงเงินทั้งหมดที่เก็บมาได้ในหาญศักดิ์ฟัง

   “เออ ถูกแล้ว เก็บได้ครบ มึงเขียนบันทึกเลย แล้วก็ใส่ไว้เก๊ะหน้ารถนี่แหละ เงินเอามาให้กู เดี๋ยวที่เหลือกูจัดการเอง แล้วต่อไปนี้เวลามึงไปทวงหนี้ที่ไหนมึงก็ทำประมาณนี้แหละ ถ้ากูไม่ไปด้วยมึงก็เป็นคนเก็บเงินค่อยเอามาให้กูตอนเจอหน้า เข้าใจไหม”

   “เข้าใจครับ” โซดาค้อมศีรษะ

   “แล้วที่ให้ขึ้นมาถึงล็อกรถทันทีเพราะเงินมันเยอะ เป็นเจ้าหนี้เนี่ยไม่มีใครชอบหน้าหรอกโว้ย เกิดโดนดักทำร้าย โดนขโมยเงินขึ้นมามันจะเป็นปัญหา”

   “ครับ”

   “กลับกันได้ วันนี้หมดแล้ว”

   โซดาออกรถทันทีตามคำสั่ง ออกรถมาได้ประมาณสิบนาทีหาญศักดิ์ก็รู้สึกว่ารถมันเงียบเกินเหตุ ผิดกับขามาที่ยังมีการสนทนาประปรายกันบ้าง

   “ทำไมมึงเงียบจังวะ หิวข้าวเหรอ”

   “แม่ง” โซดาก่นเสียงออกมาทันทีเหมือนรอคอยอยู่นานแสนนานที่จะได้พูด “พี่โคตรน่ากลัวเลย”

   หาญศักดิ์หันขวับไปมองหน้าคนที่ตั้งหน้าตั้งตาขับรถอยู่

   “นี่กูหูฝาดปะเนี่ย มึงเนี่ยนะบอกว่ากลัวกู (มึงน่ากลัวกว่าอีก – อันนี้คิดในใจ)”

   โซดาพยักหน้าแข็งขัน “จริงๆ นะครับ ผมไม่เคยเห็นพี่แบบนี้ล่ะมั้ง ผมพูดอะไรไม่ออกเลยคิดดูสิ”

   “เฮ้อ... มันเป็นงานกู จะทำหงอๆ ไปทวงหนี้กูคงไม่มีวันจะเก็บเงินคืนได้แม้แต่แดงเดียว”

   “ผมเห็นจากวันนี้แล้วก็รู้สึกว่าจริงมาก...” โซดายอมรับโดยไร้ข้อกังขา “พวกลูกหนี้พยายามหาทุกช่องทางที่จะบิดพลิ้วพี่”

   “ใช่” หาญศักดิ์ตอบ “ชีวิตมันก็แบบนี้แหละว่ะ”

   สองหนุ่มเงียบกันไปอีกพักใหญ่ พวกเขาใช้เวลาทวงหนี้ตั้งแต่บ่ายอ่อนๆ จนตอนนี้ก็สี่โมงเย็นแล้ว ผู้คนเริ่มเลิกงานออกมาหารถโดยสารประจำทางเพื่อกลับบ้าน บางโรงเรียนคงเลิกเย็นเหมือนเวลาปกติในวันเสาร์จึงมีนักเรียนให้เห็นประปรายด้วย พอเห็นนักเรียนชายระดับมัธยมฯ หัวเกรียนหลายต่อหลายคนหาญศักดิ์ก็นึกอะไรออก

   “กูว่าจะถามมึงอยู่แต่ลืมไปเลย มึงไม่เรียนรด. เหรอวะ”

   “ไม่ได้เรียนครับ”

   “เอ้า งั้นมึงต้องไปเกณฑ์ทหารนะเว้ย เกิดถูกส่งไปสามชายแดนภาคใต้ทำไงฮะ พ่อแม่มึงร้องไห้ตายห่าพอดี จะต่อยมวยก็ไม่ได้ต่อย หมดยุครุ่งแน่มึง”

   โซดาแย้มริมฝีปาก “ผมเคยบอกแล้วไงครับว่าผมไม่ได้อยากจะเป็นนักมวยอาชีพไปตลอดชีวิต ผมคิดด้วยซ้ำว่าอีกสักพักก็จะแขวนนวมแล้ว...”

   “แฟนๆ มึงคงผิดหวังน่าดู” หาญศักดิ์แทรก คิดไปถึงพวกคนที่รักชอบในลีลาการต่อยดุเดือดเข้มแข็งของซ.โซดา แล้วตามเชียร์กันอย่างบ้าคลั่ง

   “ผมต่อยมวยตลอดไปไม่ได้หรอกครับ...” โซดาลดเสียงลงจนมันแผ่วเบา “...มันเป็นอาชีพต้องคำสาป”

   “อะไรนะ?” หาญศักดิ์หันขวับไปมองหน้าคนขับรถทันที โซดาพยักหน้ายืนยัน

   “มวยไทยเป็นวิชาฆ่าคน...เหมือนที่ผมบอกพี่มาตลอดนั่นแหละครับ บรรพบุรุษเขาให้ส่งต่อวิชานี้ให้ทหารเอาไว้เพื่อปกป้องบ้านเมือง ไว้สู้กับข้าศึก ปกป้องแผ่นดินไทยและลูกหลาน ใครเอาไปใช้หากินในทางอื่น หรือหาเงินเข้าใส่ตัวเขาแช่งไว้ขอให้ฉิบหาย”

   “โอ้...”

   “พี่ไม่เห็นหรือครับว่าชีวิตนักมวยที่ดังๆ จบไม่ดีสักคน ไม่ติดเหล้าก็ติดหญิง ไม่ก็ติดพนันหรือติดยา” โซดาถอนใจ คิดไปถึงนักมวยรุ่นพี่ทั้งหลายแหล่ “ถึงไม่ติดอะไรบั้นปลายก็ตายไม่ดี...หรือไม่ก็พิกลพิการกันหมดเลย ใครเปิดค่ายมวยเป็นของตัวเองส่วนใหญ่ก็เจ๊ง”

   หาญศักดิ์คิดตาม ถึงเขาจะไม่ได้เป็นคอมวยและเป็นคอบอล แต่หน้าหนังสือพิมพ์ก็มีให้เห็นอยู่เป็นประจำ ที่โซดาพูดล้วนเป็นเรื่องจริงทั้งสิ้น

   นักมวยดังส่วนใหญ่จบชีวิตลงแบบนั้นกันจริงๆ...

   “...ผมอยากเป็นอย่างอื่น มีอาชีพในใจอยู่แล้วด้วย”

   “มึงอยากเป็นอะไรล่ะ” เสี่ยหนุ่มเอ่ยถาม แต่แล้วจู่ๆ เด็กหนุ่มก็ทำหน้าตามีลับลมคมในขึ้นมา

   “ผมไม่บอกพี่หรอกครับ ผมอยากเก็บไว้ในใจก่อน”

   “มึงอย่ามาเล่นลิ้นอย่างนี้นะ” หาญศักดิ์โวยวายทันที “กูเกลียดที่สุดอ่ะไอ้พวกอ่อยให้อยากแล้วจากไป”

   “ไม่เอาครับ ไม่บอกหรอก”

   เด็กหนุ่มทำเสียงลึกลับ ดูสุดแสนจะสนุกที่ได้หลอกล่อให้หาญศักดิ์อยากรู้อยากเห็น ซึ่งเจ้าพ่อเงินกู้ก็ซื่อเหลือเกิน ตกหลุมพรางเขาเข้าเต็มเปาราวกับเด็กน้อยไร้เล่ห์เหลี่ยม

   “บอกกูมาเดี๋ยวนี้นะ บอกๆๆๆ!”

   หาญศักดิ์เอื้อมสองมือไปคว้าคอคนที่ขับรถอยู่แล้วกระชากไปมา แต่โซดาก็เพียงแค่ลอยหน้าลอยตาอย่างกวนโมโห

   โอ๊ย เกลียด!  ดู๊...ดูมัน ทำจนกูอยากรู้อ่ะ แล้วมันก็ไม่ยอมบอก!

   “บอกมา!”

   หาญศักดิ์ตะโกนลั่นรถตอนติดไฟแดง โซดาที่เข้าเกียร์ว่างรถเรียบร้อยแล้วหันหน้าไปยักคิ้วให้เสี่ยหนุ่ม

   “ถ้าบอกแล้วจะได้อะไรล่ะครับ”

   “อ่ะ มึงอยากได้อะไรล่ะ” หาญศักดิ์ลองหยั่งเชิง เขาอยากรู้อยากเห็นจนอกจะระเบิดเอาเสียให้ได้ ถ้ามันขอรถสักคันก็คงต้องยอมล่ะวะ เขาอยากรู้จริงๆ หาญศักดิ์ไม่ชอบอะไรที่มันค้างคาเป็นที่สุด

   โซดาไล่สายตามองอีกฝ่ายตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าแล้วเลียริมฝีปาก เสี่ยหนุ่มสะดุ้งเฮือก สัญชาตญาณในร่างหวีดร้องเตือนอีกหน รู้สึกไม่ปลอดภัยขึ้นทันที เขารีบยกสองแขนขึ้นกอดตัวเองเหมือนผู้หญิง

   ไอ้เหี้ย... ทำไมกูตุ้งติ้งจังวะ นี่กูเป็นคนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่

   อันเดวววววว๊!

   “อยากได้พี่...” เด็กหนุ่มโน้มหน้าลงไปกระซิบเสียงแหบพร่าข้างกกหูของคนที่นั่งด้านข้าง เป่าลมหายใจจนขนอ่อนที่หลังต้นคอลุกชัน “...ออนท็อปอีกสักที แล้วผมจะบอกทุกอย่างเลย”

   “...!!!”

   หาญศักดิ์สะดุ้งเฮือก มือหนาละจากพวงมาลัยมาเลื้อยไชเข้าไปในกางเกงสามส่วนขากระบอกใหญ่ของเขา แล้วตะปบเนื้อขาอย่างรุนแรงเมื่อสัตว์หิวโหยล่าเหยื่อ เด็กหนุ่มกัดริมฝีปากตัวเองไปด้วยขณะบีบเคล้นมัน หาญศักดิ์หลับตาปี๋ ขนลุกไปทั้งตัว

   “พี่ตกลงไหมล่ะครับ”

   เสียงแหบพร่ากระซิบเย้าแหย่อีกครั้ง เรียวปากหยักมีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์เคลือบพราย เขาแลบปลายลิ้นออกไปเลียใบหูของเสี่ยหนุ่มเบาๆ

   “หืม...?”

   พรวด!!

   “ขับรถไป!!” หาญศักดิ์ยกมือขึ้นมาผลักหน้าของโซดาจนมันเสหันไปทางข้างหน้าทันที “ไม่บอกก็อย่าบอกโว้ย!”

   เสี่ยหนุ่มยกสองมือขึ้นขยุ้มผมเผ้าจนมันยุ่งเหยิง

   ไอ้เกย์สลาตัน!

   กูขอประณามมึง... กูขอเปลี่ยนชื่อมึงจากไอ้ผีห่าเป็นไอ้ผีหื่น

   ...ไอ้คนเลวววว!

   ถ้ามะม้ากูยังอยู่นะ กูจะฟ้องมะม้าแน่...
.
.
.

ออฟไลน์ ตั่วเจ้เจค

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-8
.
.

...ไอ้เหี้ย! ถ้าอย่างนั้นมะม้าก็จะรู้ว่ากูเสร็จเกย์น่ะสิ ไม่เอาโว้ยยยยย!

    เจ้าพ่อเงินกู้หน้าแดงเถือกขณะที่เด็กหนุ่มหัวเราะแล้วมองมาที่เขาด้วยสายตาพราวระยับ หาญศักดิ์อยากจะมุดตัวแทรกเข้าไปอยู่ในเก๊ะรวมกับปืนและสมุดบัญชีเหลือเกิน

   นี่เขากำลังเขินอีกแล้วเหรอเนี่ย...

   แล้วเขาควรจะทำยังไงกันแน่

   นี่มันบ้าชัดๆ...

   “อ่ะ ผมบอกก็ได้ครับ” โซดาพูดออกมาแล้วขับรถไปตามทางเมื่อไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียว หาญศักดิ์เงยหน้าขึ้นมาทันที เด็กหนุ่มส่งเสียงในลำคอแล้วตอบตรงๆ

   “อืม...ที่จริงแล้ว... ผมอยากเป็นตำรวจครับ”

   “หา!” หาญศักดิ์เสียงดังกว่าเมื่อครู่เสียอีก เขาลืมทุกสิ่งทุกอย่างในตอนก่อนหน้าทันที ข้อมูลใหม่ทำเอาเสี่ยหนุ่มตกใจเป็นอย่างมาก “มึงอยากเป็นตำรวจเรอะ?”

   โซดาที่มองทางแล้วขับรถอยู่ยักคิ้วตอบรับ

   “แม่ง...” หาญศักดิ์ครางอย่างไม่อยากเชื่อ “จริงเหรอเนี่ย”

   “จริงครับ...จริงๆ” โซดายืนยัน “ทำไมพี่ต้องทำท่าไม่ชอบใจแบบนั้นด้วย”

   หาญศักดิ์ยกมือขึ้นกอดอก แล้วพูดเรียบๆ “นักเลงกับหมาต๋าไม่ถูกกัน แล้วพอดีกูเป็นนักเลง”

   “ผมนึกว่าพี่เป็นเสี่ย เป็นเจ้าของโรงแรม เป็นเจ้าของผับ เจ้าของกาสิโนกับอาบ-อบ-นวดเสียอีก” โซดาว่า

   “ความเป็นนักเลงอยู่ในสายเลือดกู เหมือนที่ความเป็นนักมวยอยู่ในสายเลือดมึง ต่อให้อนาคตมึงไม่ขึ้นเวทีชกมวยแล้ว มึงก็ลืมเลือนมันไม่ได้หรอก มันจะเป็นตัวตนมึง เป็นส่วนหนึ่งของมึงไปตลอดกาล”

   โซดานิ่งคิดตามคำพูดนั้นขณะขับรถ สิ่งที่หาญศักดิ์พูดกระแทกเข้ากลางใจเขาเต็มเปา เป็นสัจธรรมที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลย

   “ถึงนักเลงกับตำรวจจะเป็นของแสลงกัน แต่ผมก็เห็นว่าหนีกันไม่พ้น...”

   “ใช่ เฮ้อ พูดอีกก็ถูกอีก”

   “อันที่จริง ผมอยากเป็นตำรวจก็เพราะพี่”

   “หา กูเหรอ กูเนี่ยนะ?” หาญศักดิ์ชี้นิ้วหาใบหน้าตัวเอง ก่อนจะขมวดคิ้วทันที “ทำไมล่ะ”

   “ผมไม่ได้อยากเป็นตำรวจธรรมดานี่ครับ” รอยยิ้มหล่อร้ายสยายทั่วใบหน้า ทำเอาใบหน้าคมคายดูเหมือนตัวโกงในละครแต่หล่อเหลาน่ามองเป็นเท่าตัว “พี่เคยดูแบทแมนไหมครับ เขามีตำรวจดีกับตำรวจเลว (Good cops, Bad cops) นั่นล่ะ... ผมอยากเป็นตำรวจเลว”

   คำตอบที่ซื่อตรงของโซดาทำเอาหาญศักดิ์หาคำพูดมาโต้ตอบไม่ได้

   “เวลาที่ผมเห็นพ่อโดนคนมีอิทธิพลข่มเหงแล้วทำอะไรไม่ได้ มันเจ็บใจมาก”

   มือหนาที่กำพวงมาลัยดูเหมือนจะบีบมันแน่นยิ่งขึ้น

   “ผมอยากมีอำนาจ อยากให้พวกคนประเภทนั้นต้องมาก้มหัวใต้รองเท้าผมให้หมดทุกคน”

   หาญศักดิ์เงียบกริบ คนประเภทนั้น ก็คือคนประเภทเขานี่แหละ

   “ตั้งแต่ที่พ่อเริ่มเป็นหนี้แล้วโดนคนของพรรคพยัคฆ์ตามระรานมาตลอด ผมก็คิดมาตั้งแต่ตอนนั้นแล้วว่าจะต้องเป็นตำรวจให้ได้” น้ำเสียงของเด็กหนุ่มเด็ดเดี่ยว “แล้วผมได้มาอยู่ตรงนี้ ผมได้เห็นพวกพี่ทำธุรกิจก่ำกึ่งผิดกฎหมายไปจนถึงธุรกิจต่างๆ ก็เห็นกับสองตาตัวเองว่าต้องมีเส้นสายแน่นๆ เอาไว้ใช้ทำเรื่อง ยิ่งเห็นบัญชีที่พี่เฉินทำว่าต้องอุดเงินให้พวกตำรวจยศใหญ่มากแค่ไหนเป็นค่าน้ำร้อนน้ำชา ผมก็ยิ่งอยากเป็นมาก”

เสียงทุ้มๆ พูดต่อ

   “คิดดูสิครับว่าขนาดระดับพี่กับพี่ชานที่อิทธิพลมากล้นฟ้ายังต้องนบนอบให้พวกตำรวจเลวๆ พวกนั้น ได้ทั้งเงินได้ทั้งหน้า แถมพวกนั้นยังยืมมือคนอย่างพวกพี่ทำงานสกปรกให้อีก ส่วนตัวเองก็ลอยตัว... แล้วในประเทศไทยไม่ได้มีแค่พวกพี่สองคนแน่ๆ มันยังมีคนรวยล้นฟ้าอีกหลายคนให้หาผลประโยชน์ด้วย ปีๆ หนึ่งจะได้สักเท่าไรกัน”

   หาญศักดิ์อึ้งไปอึดใจใหญ่หลังฟังจบ ก่อนจะเอ่ยเสียงแผ่วเบา

   “นี่มึงอยากเป็นตำรวจ... เพื่อมาหากินกับคนแบบพวกกู...เพื่อมาสยบคนแบบพวกกูหรือนี่”

   เด็กหนุ่มยิ้มกว้างเต็มใบหน้า แววตาเปล่งประกาย ดูหล่อเหลือร้ายเหมือนปีศาจ ราวกับไม่ใช่ใบหน้าของเด็กหนุ่มคนที่หาญศักดิ์เห็นอยู่ทุกวันเลย “พี่จะพูดแบบนั้นก็ได้ครับ ผมบอกตั้งแต่แรกแล้วว่าผมไม่ใช่คนดีนักหรอก”

   “โห...”

   “แล้วผมจะทะยานไปจุดนั้นให้ได้” เสียงของโซดาเต็มเปี่ยมไปด้วยความแน่วแน่ ดวงตาทั้งสองข้างทรงพลังแข็งกร้าว “คอยดูเถอะ”

   “...มึงก็เลยไม่เรียนรด. สินะ เพราะถ้าได้เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจก็ไม่ต้องเกณฑ์ทหาร...”

   สีหน้าของโซดากลับเป็นปกติ

   “ใช่ครับ” ดวงตานั้นหยีลงเมื่อยิ้ม “ผมคิดว่าจะไปสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร อายุผมสิบเจ็ดสอบได้ปีสุดท้ายแล้ว มีโอกาสเดียว ผมเพิ่งมารู้ตัวว่าอยากเป็นตำรวจก็ตอนต้นปีนี้ ไม่อย่างนั้นคงได้ไปสอบเข้าเรียนตั้งแต่ตอนจบม.ต้น”

   “ตอนนี้มึงม.5นี่นะ...” เสี่ยหนุ่มปรารถลอยๆ ก่อนจะหันหน้าเข้าหาอีกฝ่ายแล้วเลิกคิ้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “มึงคิดว่าการจะเป็นนักเรียนนายร้อยมันง่ายๆ หรือไง การแข่งขันมันโคตรสูง เข้ายากมากกูจะบอกให้ สอบปีล่ะเป็นหมื่นๆ คนแต่คัดเอาแค่ห้าร้อย มึงเตรียมใจกับความผิดหวังไว้รึเปล่า”

   หาญศักดิ์ยกมือชี้หน้าเด็กหนุ่มไปด้วยพลางพูด

   “แล้วก็อย่างที่มึงบอก อายุมึงจะเกินเกณฑ์แล้ว มึงมีแค่โอกาสเดียวนะ คุณสมบัติอะไรมึงแน่ใจว่ามีครบทุกข้อเรอะ”

    โซดากระตุกยิ้มมุมปาก “ไม่รู้สิครับ แต่ผมจะทำให้ได้”

   “...อืม...แต่กูก็แอบคิดว่ามึงอาจจะทำได้ก็ได้นะ...เรียนเก่งซะขนาดนั้น... อ่านหนังสือก็เยอะ...” เสียงของหาญศักดิ์โหวงๆ เขาหันหน้ากลับไปมองทางข้างหน้า มิน่าเล่าเขาถึงชอบเห็นโซดาอ่านหนังสือกฎหมายบ่อยๆ เวลาว่างจากการคุมกาสิโน ตอนแรกเขาก็คิดว่าเด็กหนุ่มศึกษามันเอาไว้เพื่อช่วยงานเขาเฉยๆ

   ที่แท้...ก็อยากเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์นี่เอง ถึงจุดประสงค์มันจะโคตรไม่ถูกไม่ควรก็ตาม

   “...เกรดเฉลี่ยมึง...คุณสมบัติ...เท่าที่ดูลักษณะภายนอกทุกอย่างผ่านเกณฑ์หมด ก็ต้องไปรอดูข้ออื่นๆ ว่ามีติดอะไรอีก”

   โซดายิ้มนิดๆ ไม่พูดอะไร เสี่ยหนุ่มยิงคำถามต่อ

   “แล้วถ้าเกิดมึงสอบโรงเรียนเตรียมทหารไม่ติดล่ะ?”

   “ผมก็จะรอจนจบม.6 แล้วไปสอบเข้าเรียนนายสิบ ไม่ว่าจะวิธีไหน ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ผมต้องเป็นตำรวจให้ได้” คนถูกถามตอบทันทีอย่างรวดเร็ว แววตาของเด็กหนุ่มแข็งกร้าว แสดงให้เห็นว่ามุ่งมั่นกับความต้องการนี้มากแค่ไหน

   “...เออ ตั้งใจขับรถไป เพราะถ้าเกิดว่าเราโดนจับเรื่องมึงขับรถทั้งที่ยังไม่มีใบขับขี่นี่ อนาคตตำรวจมึงจบเห่แน่”

   โซดากระตุกยิ้มมุมปาก “มากับเจ้าพ่ออย่างพี่ ผมไม่กลัวหรอกครับ”

   หาญศักดิ์นิ่งเงียบหลังจากเด็กหนุ่มพูดจบไปนาน เพราะสภาวะกดดันหลายอย่างก็ไม่แปลกที่จะหล่อหลอมให้โซดามีความคิดแบบนั้นในเรื่องอนาคต เขาเองก็ผ่านช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อแบบเดียวกันมาแล้ว เข้าใจความเก็บกดนี้อย่างสุดหัวใจ ตอนที่เป็นเหมือนแค่ตัวขยะในสังคมมันโหยหาเหลือเกินที่จะมีอำนาจบารมีและเงินทอง ต่อให้ต้องตะเกียกตะกายสุดตัวก็พร้อมที่จะทำเพราะอยากได้ คิดแต่อยากจะหนีจากความยากจนข้นแค้นไปสู่สิ่งที่ดีกว่า มุ่งมั่นพุ่งชนเป้าหมายอย่างไม่สะท้านต่อสิ่งใด

หาญศักดิ์รู้อยู่แก่ใจแต่แรกว่าที่จริงแล้วโซดาเป็นเด็กน่าสงสาร... ต้องมาใช้ชีวิตยากลำบากและเต็มไปด้วยความกดดันเพราะความผิดพลาดของผู้ใหญ่ แต่ถึงกระนั้นโซดาก็ยังรับผิดชอบดูแลตัวเองได้ดีจนน่าชื่นชม ทั้งเรียนทุน...ทั้งหาเงินใช้ชีวิตเอง...ไม่เคยเรียกร้องสิ่งของอะไรจากพ่อแม่...ไม่โกรธแค้นอาฆาตใครทั้งนั้น เนื้อแท้ของเด็กหนุ่มประเสริฐดุจทองเนื้อเก้า อันที่จริง หาญศักดิ์ไม่เคยพบเด็กวัยรุ่นคนไหนที่เป็นเหมือนโซดามาก่อนเลย คนที่โตกว่าวัยไปมากขนาดนี้ หาญศักดิ์รู้สึกตลอดเวลาว่าโซดาอายุยี่สิบปีกว่าๆ แล้ว สถาการณ์ทุกอย่างมันบีบคั้นให้เด็กหนุ่มต้องโตอย่างช่วยไม่ได้ แววตาคู่นั้นเต็มไปด้วยบาดแผลและร่องรอยจากการต่อสู้ หรือที่ผ่านมาเขาเคยชินกับการเปย์ให้พวกเด็กสาวกร้านโลกที่ต้องการเอาตัวเข้าแลกเงินเพื่อความสุขสบายก็ไม่รู้ ถึงได้รู้สึกว่าโซดามีความไม่เหมือนใครในตัวมากมายนัก

   โซดาน่าสงสาร ทั้งๆ ที่ไม่เคยทำตัวน่าสงสาร

   เสี่ยหนุ่มเปิดปากช้าๆ

   “...เดี๋ยวแวะพารากอนก่อนกลับโรงแรมหน่อยแล้วกัน กูมีธุระต้องไปทำนิดหน่อย”

   “ได้ครับพี่”

   สารถีจำเป็นรับคำแล้วมุ่งหน้าเข้าเมือง รถค่อนข้างติดเล็กน้อยแต่ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงห้างสรรพสินค้าสยามพารากอนก่อนฟ้าจะมืด โซดาเข้าถอยรถจอดตรงช่องวีไอพีสำหรับรถสปอร์ต หาญศักดิ์ก้าวขาลงจากรถเมื่อมันนิ่งสนิท

   “เอ้า ลงมาสิมึง นั่งนิ่งเป็นกิ้งก่าอะไรอยู่ในรถ”

   “อ้าว...” โซดามีสีหน้างุนงงเมื่อประตูคนขับถูกเสี่ยหนุ่มกระชากเปิดออก เขานึกว่าหาญศักดิ์จะไปทำธุระแล้วให้เขาเฝ้ารถให้เสียอีก แต่พอถูกดึงแขนออกมาโซดาก็เลยต้องก้าวลงไปแบงงๆ จนได้

   “ผมรอในรถก็ได้นะครับ”

   “มึงไม่หิวข้าวหรือไง นี่มันเย็นแล้วนะ มึงอยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม”

   โซดาหันไปมองหน้าหาญศักดิ์แบบทึ่งสุดขีด “ให้ผมเลือกเหรอครับพี่”

   “ถามมึงนี่ให้พี่รปภ. คนนี้เลือกมั้ง!” หาญศักดิ์บุ้ยใบ้ปากไปทางรปภ. ที่กำลังยืนเฝ้าอยู่ตรงประตู “ก็มึงนั่นแหละ เลือกมา”
   โซดานิ่งอึดใจหนึ่ง ก่อนจะพูดออกมา “ผม... อยากลองกินไก่ทอดบอนชอนสักครั้ง เห็นเพื่อนๆ ชอบพากันไปกิน แต่ผมไม่เคยไปกินกับเขาหรอก เพราะผม... เอ้อ นั่นแหละครับ” หูทั้งสองข้างของเด็กหนุ่มกลายเป็นสีแดง โซดาก้มหน้า

   หาญศักดิ์กัดริมฝีปาก อาหารวัยรุ่นแบบนั้นไม่ใช่อะไรที่เขาชอบเลย แต่...

   “งั้นก็ไปกิน อยู่กับกูต้องได้กิน มันมีอยู่ฝั่งสยามเซนเตอร์ เราจะไปกันเลย”

   หาญศักดิ์ลากแขนโซดาเดินพรวดๆ ข้ามฝั่งไปสยามเซนเตอร์ ทั้งคู่ต้องรอคิวที่ยาวเหยียดประดุจเส้นทางกรุงเทพฯ – สุไหลโกลก เสี่ยหนุ่มอ้าปากหาวแบบเซ็งๆ เขาเกลียดไอ้ร้านนี้ก็ตรงที่มาทีไรไม่เคยได้กินเลยต้องรอคิวนี่แหละ ตอนคนเห่อใหม่ๆ ทั้งเขาและเสี่ยชานอยากลอง แต่เมื่อมาถึงเสี่ยชานก็หงุดหงิดกับจำนวนคิวสี่สิบคิวที่ต้องรอจนแทบจะพังร้าน เล่นเอาเฉินสงบสติอารมณ์ผู้เป็นนายไม่ทัน หลังจากนั้นเขาก็ยังไม่เคยเยื้องกรายมากินบอนชอนอีกเลย แล้วก็คิดว่าจะไม่กินอีกแล้ว

   หาญศักดิ์ถดตัวลงนั่งรอกับพื้นหมดมาดเจ้าพ่อเงินกู้ผู้เกรียงไกร เขาคอตกหาวแล้วหาวอีกด้วยความเซ็ง วันนี้ก็มากันแค่สองคนด้วย จะให้ลูกน้องรอคิวให้ส่วนตัวเองไปนั่งรอสบายๆ ที่อื่นก็ไม่ได้

   โซดาย่อตัวลงนั่งตามลงมาด้วย เขาเอ่ยอย่างรู้สึกผิด

   “ถ้าพี่ไม่อยากรอ... เราไปกินอย่างอื่นกันก็ได้นะครับ”

   “เฮ้ย ไม่ได้ๆ” หาญศักดิ์รีบโงหัวขึ้นมา “มาแล้วต้องกินเว้ย นี่ก็รอมายี่สิบกว่าคิวแล้วนี่ เดี๋ยวก็ถึงตาเราล่ะ”

   “พี่หาน...”

   “ไม่ต้องมาทำหน้าตารู้สึกผิดใส่กู หลังทำงานสำเร็จลุล่วงกูก็เลี้ยงข้าวลูกน้องแบบนี้แหละ”

   หาญศักดิ์รีบพูดเมื่อเห็นสีหน้าของโซดา

   “นี่ไง ถึงคิวเราแล้ว!” หาญศักดิ์ร้องออกมาเมื่อในที่สุดตัวเลขบนบัตรคิวในเมื่อโซดาก็ถูกขานเรียก “ไปเว้ย กิน!”
   ทันทีที่เข้ามาพนักงานก็นำไปที่โต๊ะแล้วนำเมนูมาวางให้ โซดาเปิดดูเมนูแล้วจดจ้องกับมันเป็นอย่างมาก ส่วนหาญศักดิ์แค่มองผ่านๆ อย่างที่บอกมันเป็นอาหารวัยรุ่น...ผู้ใหญ่สักกี่คนกันเชียวจะชอบกินอะไรแบบนี้ เขาพยักหน้าบอกให้โซดาเป็นฝ่ายสั่งอาหารได้เลย เด็กหนุ่มดูกล้าๆ กลัวๆ

   “ผมเกรงใจ พี่อยากกินอะไรล่ะครับ”

   “เกรงใจเหี้ยอะไรล่ะ สั่งมาเถอะน่า! สั่งมาเยอะๆ ด้วย กูหิว”

   พอเริ่มเห็นหาญศักดิ์ไม่สบอารมณ์โซดาจึงหันไปสั่งปีกไก่ทอดชุดใหญ่กับอาหารอื่นๆ อีกสองสามอย่าง

   “...พี่เอาข้าวสวยหรือข้าวเหนียวครับ”

   “ข้าวเหนียวก็ได้... เอ้อน้อง เอาไอ้ซุปแดงๆ ร้อนๆ นั่นมาซดแก้เลี่ยนด้วยก็แล้วกัน เอาไอ้บอนชอนฟรายอะไรนั่นมาด้วย กูรู้มึงอยากกิน เห็นมองอยู่นานแล้วไม่สั่งสักที”

   โซดายิ้มแฉ่งให้หาญศักดิ์พลางปิดเมนู พนักงานทวนออเดอร์แล้วเก็บเมนูจากไป หาญศักดิ์กอดอกมองโซดากลับ

   “อะไรมึง อย่ามาเกย์ออกนอกหน้า ซึ้งในน้ำใจกูล่ะสิ”

   “ก็แหม...” โซดาเอ่ยเบาๆ ยังคงยิ้มไม่หุบ สายตาของเด็กหนุ่มเป็นประกาย อยากจะเอื้อมมือไปจับมือหาญศักดิ์มาจับสองแก้มของตัวเองแต่ก็ต้องฝืนไว้ เสี่ยเขาไม่อยากให้ใครรู้ต้องเข้าใจ เด็กหนุ่มหันไปมองรอบๆ ร้านแทน

   “นี่ถ้าโทรศัพท์ผมถ่ายรูปได้เหมือนคนอื่นๆ นะครับพี่ ผมจะถ่ายรูปแล้วเอาลงเฟสบุ๊กอวดเลย”

   “รออะไร ถ่ายดิ มือถือมึงถ่ายไม่ได้แต่มือถือกูถ่ายได้ เดี๋ยวกลับบ้านมึงก็เอารูปลงคอมพ์แล้วกัน” หาญศักดิ์ล้วงหยิบเอาสมาร์ทโฟนของตัวเองออกมาทันที โซดากะพริบตาอีกรอบ

   “พี่!” เขาหุบยิ้มไม่ได้เลย “วันนี้มันเกิดอะไรขึ้นกับพี่ครับเนี่ย?”

   หาญศักดิ์ไม่ตอบ “เอ้า ยิ้ม กูจะถ่ายแล้ว”

   “เดี๋ยวสิครับๆ รออาหารมาก่อนค่อยถ่าย”

   “ไอ้เด็กวัยรุ่นเห่อโซเชียลเอ๊ย” หาญศักดิ์ด่าอย่างไม่จริงจังนัก และแล้วบรรดาอาหารก็มาเสิร์ฟ โซดาจัดจานไก่ทอดน่ากินมาวางตรงหน้า แล้วเอามือเท้าบนโต๊ะ ก่อนจะยิ้มนิดๆ ท่าทางธรรมดาสามัญแต่กลับดูหล่อเหลาเกินบรรยาย เบ้าหน้าดีนี่มันทำอะไรก็ดีไปหมด ถ่ายเสร็จก็ขอยกจานขึ้นมาแล้วเก๊กถ่ายอีกรูป หาญศักดิ์ถ่ายโดยไม่บ่น พอเสร็จแล้วเด็กหนุ่มก็วางจานลงบนโต๊ะเหมือนเดิม

   “กูกินได้แล้วใช่ไหม ถ่ายเป็นสิบรูปแล้วเนี่ย”

   “พี่รู้ไหมครับ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ถ่ายรูปแบบนี้เลยนะ” เสียงของโซดาเต็มไปด้วยความสุขขณะเอื้อมมือไปหยิบปีกไก่มากิน “ผมไม่มีมือถือถ่ายรูปได้ตลอดเวลากับเขาหรอก เฟสบุ๊กผมร้างรูปมาก เดี๋ยวผมจะกลับไปอัพเลย”

   หาญศักดิ์โคลงศีรษะเบาๆ ยังไงเสียวัยรุ่นก็เป็นวัยรุ่น แม้แต่เด็กที่โตกว่าวัยแบบโซดาก็ยังมีมุมตามกระแสกับเขาในตัว ทั้งคู่กินกันเหมือนแร้งลงโต๊ะ (ลองคิดสภาพผู้ชายสองคนหิวซ่ก และเพิ่งใช้กำลังในการทวงหนี้เสร็จ)

   “นั่นมันไก่ของผมนะ”

   “เสียใจด้วย กูเห็นก่อน”

   หาญศักดิ์กัดปีกไก่อันโตต่อหน้าต่อตาโซดาอย่างร่าเริง โซดาฮึ่มฮั่มยู่ปากอย่างคาดโทษ ทั้งคู่แข่งกันกินราวกับขอทานหิวโซ พอกินกันจนเรียบหาญศักดิ์ก็ลากโซดากลับไปฝั่งสยามพารากอน แล้วมุ่งตรงไปยังชั้นสองซึ่งเป็นชั้นขายเสื้อผ้าบุรุษ พนักงานผู้ชายคนหนึ่งปรี่ออกมาจากเคาน์เตอร์ทันทีที่เห็นหน้าหาญศักดิ์

   “สวัสดีครับคุณหาน” เขายกมือไหว้อย่างน้อมนอบ “วันนี้ไม่ทราบคุณหานจะดูอะไรดีครับ”

   “ผมไม่ได้มาดูให้ตัวเองหรอกครับวันนี้” หาญศักดิ์ชำเลืองสายตาไปทางโซดาที่อยู่ข้างๆ ไหนๆ ใครๆ ก็บอกว่าเขากับมันหน้าคล้ายกัน เอาแบบนี้ก็ได้ว่ะ

   “...นี่น้องชายผม ชื่อโซดา” หาญศักดิ์พูดเรียบๆ

   “โอ้ มิน่า หน้าเหมือนกันเลยนะครับ หน้าตาดีทั้งคู่เลย” พนักงานยิ้มรับ

   “...ผมอยากจะหาซื้อเสื้อผ้าให้เขาหน่อยน่ะครับ คุณช่วยเลือกแบบที่เหมาะกับเขาให้หน่อยสิ ผมก็ไม่ค่อยรู้ เอาแบบไม่แก่ เอามาสำหรับหลายๆ โอกาส หลายๆ ชุดเลย”

   พนักงานค้อมศีรษะแล้วผายมือ “งั้นคุณโซดาเชิญทางด้านนี้เลยครับ ผมจะดูแลคุณเป็นอย่างดี”

   “พี่ นี่มันอะไรกันครับ?” โซดางงจนคิ้วแทบชนกันหันหน้าไปหาหาญศักดิ์ที่ทิ้งตัวลงนั่งบนเบาะ

   “เออ...ไปเหอะน่า...” หาญศักดิ์โบกมือไล่

   โซดาหรี่ตา “นี่พี่ไม่ได้มาทำธุระเหรอครับ”

   “มึงไปสักที เห็นไหมว่าคุณเขารอ”

   โซดาจ้องใบหน้าของหาญศักดิ์อย่างไม่เข้าใจ แต่เสี่ยหนุ่มก็เอาแต่บุ้ยใบ้ให้เขาไปเลือกเสื้อผ้า โซดาที่เกรงใจพนักงานจำต้องเดินไปอย่างเสียมิได้ พนักงานหยิบคอเลกชันต่างๆ มาให้เขาเลือก แต่โซดาไม่เคยซื้อเสื้อผ้าแพงๆ มาก่อนจึงไม่รู้จริงๆ ว่าควรจะหยิบชิ้นไหน ที่ผ่านมาตอนมาซื้อเล็กๆ น้อยๆ หาญศักดิ์ก็เป็นคนหยิบให้เขาไปลองแล้วจ่ายเงินเลย ไม่มีอะไรมากความไปกว่านั้น พนักงานเหมือนจะเห็นความลังเลในสีหน้าจึงจัดการสาธยายแนะนำให้เขาฟังจนหมดเปลือก เขาอธิบายถึงเฉดสีต่างๆ และแบบจีบของเสื้อ รวมไปถึงเนื้อผ้าหลายแหล่จนเกย์อย่างโซดาหัวหมุน ใครบอกว่าเกย์มักจะมีเซนส์พวกเสื้อผ้าหน้าผมวะ... มันไม่จริงเสมอไปหรอก ผีมักเห็นผีและเขารู้ดีว่าพี่พนักงานคนนี้ไม่ใช่พวกเดียวกัน สุดท้ายโซดาก็เข้าไปลองเสื้อผ้าทุกชุดที่พนักงานขายแนะนำ

   เขาเข้าไปลองชุดแรกแล้วออกมาให้พนักงานดู

   “นี่เป็นคอเลกชันใหม่ล่าสุดเลยนะครับ ยังไม่วางหน้าร้านเลย เราเอามาให้คุณโซดาลองเป็นคนแรก”

   เด็กหนุ่มขมวดคิ้ว “แล้วมันจะไม่ลำบากพี่เหรอครับถ้าเกิดผมซื้อไป”

   “มิได้ครับ” พนักงานยิ้มอย่างสุภาพ “คุณหานเป็นลูกค้ากิตติมศักดิ์ของเรา เราต้องดูแลน้องชายคุณหานให้ดีที่สุดอยู่แล้ว”
   โซดาพยักหน้าเบาๆ เงินคืออำนาจ...มีเงินนี้มันดีจริงๆ นะ พนักงานขอตัวเดินไปตามให้หาญศักดิ์มาดู เพียงครู่เดียวเสี่ยหนุ่มก็มาปรากฎตัว หาญศักดิ์ดูมีสีหน้าพอใจ

   “ดูดีนี่...” โซดายกมือขึ้นมาเกาแก้มเมื่อถูกชม เขาไม่อาจซ่อนรอยยิ้มได้ “มีอีกไหม ให้เขาลองให้หมดเลย”

   “ยินดีครับ” พนักงานค้อมศีรษะ ในหัวคงคิดถึงเงินยอดขายจำนวนมโหฬาร “น้องชายคุณหานสูงยาวเข่าดี ใส่อะไรก็หล่อ ผมจะไปหยิบมาให้ลองอีกนะครับ”

   โซดาลองเสื้อผ้ารวมกันไปทั้งหมดเกือบสามสิบชิ้น ไม่ใช่แค่ร้านนั้นร้านเดียวแต่หาญศักดิ์ลากเข้าไปลองอีกหลายร้าน รวมไปถึงซื้อกางเกงในใหม่เอี่ยมยี่ห้อหรูหราอย่าง Emporio Armani  ให้ด้วย หาญศักดิ์เก๊กหน้าวางท่าแมนสุดฤทธิ์ตอนไปบอกไซส์เป้าและขอบเอวของโซดาที่เคาน์เตอร์ การบอกว่าเป็นน้องชายป้องกันคำถามทุกอย่างได้เป็นอย่างดี แล้วสุดท้ายเสี่ยหนุ่มก็รูดเครดิตซื้อเสื้อผ้าทั้งหมดทำเอาโซดาตะลึงตะลานสุดขีดกับราคาบนสลิปใบเสร็จเมื่อมันออกมา

   “จะยืนอึ้งตรงนั้นอีกนานไหมมึง เราต้องไปซื้อรองเท้ากันอีก กระเป๋านักเรียนมึงด้วย”

   หาญศักดิ์ลงบันไดเลื่อนไปยังชั้นล่าง หลบเลี่ยงต่อเสียงของโซดาที่หิ้วถุงจำนวนมากแล้วถามเขาด้วยคำถามเดิมซ้ำๆ ทำนองว่า พี่ นี่มันอะไรกันครับ?

   เคยแต่เปย์สาว วันนี้ต้องมาเปย์ผู้ชายเฉย แปลกดีเหมือนกันเว้ย...

   แต่เอาเถอะ มันก็ไม่ได้แย่อะไรหรอก

   เด็กหนุ่มรีบวิ่งตามเจ้าพ่อเงินกู้ไป เมื่อลงไปถึงก็เจอหาญศักดิ์นั่งรออยู่ที่เบาะของร้านรองเท้าอยู่ก่อนแล้ว เขาที่หอบหิ้วถุงพะรุงพะรังลงไปนั่งข้างๆ กัน และเพียงแค่ครู่เดียว สารพัดรองเท้าหลายรูปแบบก็พุ่งตรงจี๋จากในมือพนักงานทั้งหลายรุมเข้ามาให้เขาลองไม่หยุดหย่อน โซดาที่หัวหมุนไปหมดได้แต่ลองแบบมึนๆ และแล้วโดยไม่ทันตั้งตัว เขาก็ได้รองเท้ามาอีกเจ็ดคู่ ทั้งรองเท้าแตะที่แพงอย่างไม่จำเป็นมาสองคู่ รองเท้าผ้าใบ รองเท้าหนัง และรองเท้าแฟชั่นใส่สบายๆ อีกหลายคู่ รวมรองเท้านักเรียนคู่ใหม่เอี่ยมอ่องไปด้วย เจ้าพ่อเงินกู้รูดเครดิตการ์ดอย่างไม่ยี่หระอีกปื้ดใหญ่ทำเอาโซดารู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ทันกับตัวเลขเหล่านั้น ร่างสูงต้องหอบหิ้วถุงเพิ่มอีกเป็นพะเรอเกวียนขณะเดินตามหาญศักดิ์ต้อยๆ ไม่ว่าจะถามอะไรมากเท่าไหร่คนที่แก่กว่าก็ไม่ตอบให้ชัดเจนสักอย่างจนโซดาเหนื่อยที่จะถาม

   “แวะร้านนี้แป๊บ”

   พูดจบหาญศักดิ์ก็หายแผล็วเข้าไปในร้านขายของและเสื้อผ้าแบบสตรีท โซดายืนเก้ออยู่หน้าร้าน แล้วสักพักเสี่ยหนุ่มก็โผล่ออกมาพร้อมสีหน้ายุ่งๆ

   “เข้ามากับกูสิวะ มึงจะยืนเป็นพระประทานอยู่ตรงนั้นทำมะเหงกอะไร”

   โซดาเลื่อนสายตาลงไปมองตัวเองที่มีสภาพเหมือนบ้าหอบฟางไม่ผิดเพี้ยน “แต่...ของ...”

ออฟไลน์ ตั่วเจ้เจค

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-8
“วางกองไว้ตรงนี้ก่อนก็ได้เอ้า! เข้ามา”

   หาญศักดิ์เดินไปหยิบบรรดาถุงในมือโซดาวางกองไว้หน้าร้าน โซดาอ้าปากค้างหายใจเอากลิ่นเดนิมเข้าไปฟอดใหญ่ขณะมองไปรอบๆ ร้านนี้ มันเป็นร้านขายเสื้อผ้า รองเท้า และของแบบแฟชันสตรีทที่ไม่ใหญ่มาก (ชื่อร้านว่า Pronto) ใจเด็กหนุ่มเต้นตึกตัก หาญศักดิ์กำลังคุยกับพนักงานขายอยู่ แล้วทั้งคู่ก็หันมามองเขาอย่างพร้อมเพรียงโดยมิได้นัดหมาย

   “มึงลองตัวนี้ซิ เพิ่งเข้ามาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ไซส์มึงยังเหลืออยู่”

   โซดามองกางเกงยีนส์ในมือพนักงานขายแล้วอ้าปากค้าง เขาเลื่อนสายตาขึ้นมามองหน้าหาญศักดิ์

   “นู้ดดี้...” เสียงของโซดาแห้งผาก มีแววไม่อยากเชื่อปนกับความตื่นเต้นสุดขีดปรากฎเต็มใบหน้า “พี่จะให้ผมลองกางเกงยีนส์นู้ดดี้รุ่นลิมิเต็ดงั้นหรือครับ”

   หาญศักดิ์หรี่ตา “แล้วมึงเห็นมันยี่ห้อแรงเลอร์รึไงล่ะ ไปลองอย่าพูดมาก”

   “นี่คะน้อง ถ้ามันหลวมไปมาบอกพี่ได้นะคะ กางเกง -- ”

   “ -- ยีนส์ผ้าดิบต้องใส่ให้คับหน่อย แล้วพอใส่ไปสักพักมันก็จะขยายตัวเอง ใช่ไหมครับ” โซดาถามเสียงแหบๆ มีแววไม่อยากจะเชื่อผสมกับแววโหยหาอยู่บนใบหน้าหล่อๆ พนักงานขายพยักหน้า โซดาเดินเข้าไปลองกางเกงยีนส์ราคาหลายหมื่น ข้างในของเด็กหนุ่มรู้สึกตื่นเต้นจนพูดไม่ออก

   ความรู้สึกที่ได้ยัดร่างเข้าไปกางเกงยีนส์ผ้าดิบแข็งๆ นี่ช่างวิเศษเกินบรรยาย กางเกงยีนส์นู้ดดี้ (Nudie Jeans)  สมญานามกางเกงยีนส์ราคาครึ่งแสน คือสุดยอดปรารถนาของชายหนุ่มและหญิงสาวที่ชื่นชอบยีนส์... มันหรูหราแต่ดิบเถื่อน เต็มไปด้วยสไตล์ที่คนในยุคนี้ล้วนปรารถนามาครอบครองอย่างน้อยสักตัว... และยิ่งเขาได้มาอยู่กับหาญศักดิ์ เห็นหาญศักดิ์สวมอยู่บ่อยๆ แถมมีเป็นสิบตัวเขาก็ยิ่งทั้งหมั่นไส้ทั้งอยากได้

   โซดามองกระจกหลังใส่เสร็จ...รู้สึกเหมือนน้ำตาจะไหลอย่างปลื้มปีติ นู้ดดี้ขาเดฟพอประมาณตัวนี้เหมาะกับเขาราวกับเกิดมาเพื่อเขาอย่างไรอย่างนั้น เด็กหนุ่มพยายามเก็บซ่อนรอยยิ้มขณะเดินออกไปให้หาญศักดิ์ที่ยืนพิงกำแพงเล่นโทรศัพท์รออยู่ เสี่ยหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองสำรวจ

   “สวยนี่มึง สะโพกมึงทรงดี ใส่แล้วสวยดีจริงๆ...”

   “ผมไม่ได้แค่สะโพกทรงดีนะครับ” นัยน์ตาของเด็กหนุ่มกรุ้มกริ่มเปี่ยมไปด้วยความสุข “แต่ผมเอวดีด้วย”

   หาญศักดิ์กัดริมฝีปาก แม้แต่ในไฟสลัวของร้านโซดายังเห็นเสี่ยหนุ่มหน้าแดงเป็นปื้น เขาอยากจะด่าโซดาเหลือเกินแต่ก็ระลึกได้ว่านี่มันที่สาธารณะ เสี่ยหนุ่มทำหน้าแบบที่ใครก็มองออกว่ากำลังกลืนคำด่าลงท้อง เขาหันไปส่งเสียงกับพนักงานแทน

   “น้อง...เอาอีกตัวที่ให้พี่ดูเมื่อกี้มาให้น้องชายพี่ลองหน่อย”

   โซดาเข้าไปลองกางเกงยีนส์นู้ดดี้อีกตัว ตัวนี้เป็นทรงขากระบอกเล็ก มันเหมาะกับเขาอีกแล้วให้ตายสิพับผ่า... เด็กหนุ่มเดินออกมาจากห้องลอง พยายามควบคุมสีหน้าให้นิ่งเรียบที่สุด หาญศักดิ์เงยหน้าขึ้นมาจากมือถือแล้วเก็บสมาร์ทโฟนลงในกระเป๋า

   “โอเค เราจะไปกันเลย”

   “อะไรนะครับ?” โซดาตกใจ

   “กูจ่ายเงินไปแล้ว ทั้งตัวเมื่อกี้แล้วก็ตัวนี้ พอรู้อยู่ว่ายังไงมึงก็คงจะใส่แล้วออกมาสวยอีก ...แล้วนี่” มืออีกข้างที่ไม่ได้ถือสมาร์ทโฟนแต่แรกหากแต่ถือสายกระเป๋าหนังแท้ยื่นมาให้โซดา เมื่อกี้เขาเห็นแต่ร่างด้านซ้ายของหาญศักดิ์ จึงไม่รู้เลยว่ามือขวาของเสี่ยหนุ่มถือของไว้ด้วย

   “กระเป๋ามึง กูให้น้องเขาเลือกให้ ไว้ใส่หนังสือหนังหาเวลาไปเรียน น่าจะเหมาะกับมึงอยู่ เลิกใช้ไอ้จาคอปเน่าๆ นั้นได้แล้ว เห็นแล้วกูรำคาญสายตา”

   พูดจบหาญศักดิ์ก็โยนกระเป๋าหนังใบเท่ในมือใส่เด็กหนุ่มทันทีแล้วเดินละลิ่วไปเลย พนักงานยื่นถุงที่ใส่กางเกงตัวเก่ากับนู้ดดี้อีกตัวที่พับแล้วใส่ถุงแล้วให้เขา โซดารีบตามหาญศักดิ์ออกไปจากร้าน นี่มันอะไรกันนี่ วันนี้เขารู้สึกยิ่งกว่าเล่นสลอตแล้วได้แจ็กพอตแตกเสียอีก พี่เฉินสอนเสมอว่าการพนันไม่เคยทำให้ใครรวยยกเว้นเจ้าของบ่อน และยังกำชับเตือนเขาทุกวันไม่ให้เผลอไผลกับแสงสีเสียงจนลงมือเล่นเอง ซึ่งวันนี้...โซดาเข้าใจแล้วว่าคนที่เขาเล่นพนันแล้วได้มันรู้สึกอย่างไร

   เสี่ยหนุ่มยังคงตีหน้าเฉยชาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นขณะที่เขากำลังมองอีกฝ่ายด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึก มันอาจเป็นแค่เศษเงินสำหรับหาญศักดิ์ แต่มันมีค่ากับโซดาเหมือนทองคำหรือเพชรสิบกะรัต

   หาญศักดิ์หมุนแล้วเดินไปข้างหน้า โซดารีบเบือนใบหน้าลงซบกับแขนเสื้อ พยายามกลั้นน้ำตาแห่งความซาบซึ้งให้กลับเข้าไปในเบ้า

   “ไอ้โซดา...”

   หากแต่จู่ๆ หาญศักดิ์ก็หยุดเดินแล้วเรียกชื่อเขากะทันหัน

   “ครับพี่”

   เด็กหนุ่มตีหน้านิ่งเรียบขัดกับความรู้สึกข้างในที่ล้นปรี่จนทะลัก เสี่ยหนุ่มหันหน้ามาหาเขาแล้วเอ่ยเรียบๆ

   “เดี๋ยวมึงเอาของไปเก็บที่รถก่อน แล้วรอกูที่รถเลย กูต้องไปทำธุระแล้วจริงๆ”

   “ได้ครับ”

   โซดาผงกหัวแล้วทั้งคู่ก็แยกกันตรงลิฟต์ เด็กหนุ่มนำของไปเก็บที่รถ ไม่อยากจะเชื่อว่าของทั้งหมดนี่จะเป็นของเขา...ผู้ที่แทบไม่เคยได้รับอะไรใหม่ๆ เลยในชีวิต... แม้โซดาจะไม่เคยเรียกร้องอะไรและเข้าใจสถานภาพของตัวเอง แต่เขาก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่มีกิเลสและอยากได้ข้าวของใหม่ทัดหน้าเทียมตาคนรุ่นเดียวกันบ้าง และเพียงแค่วันนี้วันเดียว หาญศักดิ์ก็เติมเต็มมันจนสมบูรณ์

   อึดใจใหญ่หาญศักดิ์ก็กลับมาที่รถ ทั้งคู่ออกจากห้างสรรพสินค้าตอนเวลาเกือบสองทุ่ม พวกเขาสนทนากันเรื่อยเปื่อยไปตลอดทาง หาญศักดิ์ลอบมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของเด็กหนุ่ม โซดาดูมีความสุขมากจนเขารู้สึกมีความสุขไปด้วย...

   “ผมคิดมาตลอดว่าต้องมีนู้ดดี้เป็นของตัวเองให้ได้สักตัว เป็นหนึ่งในความใฝ่ฝัน แต่ไม่คิดเลยว่ามันจะมาถึงเร็วขนาดนี้”

   เด็กหนุ่มหันมามองหน้าเขา ดวงตาคู่นั้นเปล่งประกายไปด้วยความสุข

   “ขอบคุณนะครับ”

   และให้ตายเถอะ

   หาญศักดิ์หยุดยิ้มไม่ได้เลยจริงๆ

   พอกลับมาถึงโรงแรมเมททอลหาญศักดิ์ก็เรียกเบลล์บอย (Bell boy) ให้มาช่วยขนของขึ้นไปยังชั้นหกสิบแปด ข้าวของเยอะมากเสียจนเขารู้สึกทึ่งที่โซดาสามารถแบกมันไปรอบๆ ห้างได้ด้วยตัวคนเดียว เพราะขนาดเบลล์บอยยังต้องใช้รถเข็น เขาให้ทิปเด็กหนุ่มคนนั้นไปร้อยบาท แล้วพอหันหน้ากลับมาในห้อง ก็เห็นโซดากำลังยืนมองหน้าเขาด้วยสายตาลึกซึ้งอยู่ก่อนแล้ว หาญศักดิ์สะดุ้ง

   “มึงมองมาแบบนี้มีอะไร”

   “พี่...”

   เจ้าพ่อเงินกู้เงียบกริบเมื่อเห็นดวงตาของโซดาดูฉ่ำๆ น้ำเสียงนั้นก็เหมือนพยายามสะกดกลั้นอารมณ์เอาไว้ หาญศักดิ์กะพริบตาแล้วยืนอยู่กลับที่ ไม่กล้าปริปากอะไรอีกแม้แต่คำเดียว

   โซดาคลายริมฝีปากออกช้าๆ

   “...ขอบคุณนะครับ ขอบคุณจริงๆ”

   รอยยิ้มครั้งนี้ของเด็กหนุ่มทำให้บรรยากาศในห้องนี้มันสดใสเกินคาด หาญศักดิ์รู้สึกเหมือนท้องฟ้ามันฟ้ากว่าที่เคยทั้งๆ ที่เป็นเวลาดึก เรียวปากของเขาขยับยกขึ้นเป็นรอยยิ้มอย่างช่วยไม่ได้

   “ก็ ค่าจ้างมึงที่สอนมวยไทยกู” เขายกมือขึ้นขยี้ผม “ไหนจะเรื่องที่มึงตั้งใจทำงานอีก ไอ้เฉินมันก็รายงานอยู่...”

   หากแต่คำพูดไม่ใส่ใจพวกนั้นไม่อาจลบรอยยิ้มบนใบหน้าของเด็กหนุ่มได้ โซดายังคงยิ้มแล้วมองหน้าเขาไม่ไปไหนจนหาญศักดิ์รู้สึกหน้าร้อน เขาต้องเป็นฝ่ายผลักร่างสูงนั้นให้หลบพ้นทางแล้วแกล้งนั่งลงบนพรมรื้อของดู

   “เอ้ามึงมาดูสิ ถ้าอันไหนเขาหยิบมาผิดจะได้รีบเอาไปเปลี่ยนภายในหนึ่งอาทิตย์”

   ทั้งคู่ช่วยกันตรวจดูของแล้วนำไปเก็บเข้าที่ หาญศักดิ์รู้สึกว่าพวกเขาทั้งคู่พูดคุยกันดีๆ ก็พูดได้ ไม่จำเป็นต้องด่ากันไปกวนกันมาอย่างทุกทีเสียหน่อย... ช่วงเวลาดีๆ เกิดขึ้นอย่างเรียบง่ายแบบไม่มีใครคาดคิด ในที่สุดพวกเขาก็เก็บของจำนวนมโหฬารหมด โซดาใช้ตู้เสื้อผ้าเดียวกับหาญศักดิ์แต่ตัดสินใจแบ่งอาณาเขตกันในตู้

   “ผัวเมียกันก็เหมือนคนๆ เดียวกัน...เราต้องใช้ของร่วมกันอยู่แล้วเนอะ”

   “เล่นไม่รู้เรื่องตลอดนะมึงน่ะ” หาญศักดิ์หูแดงเถือก “ทำคุณบูชาโทษจริงๆ เลยกูนี่ ไอ้เกย์ก้ามปู!”

   เด็กหนุ่มปล่อยเสียงหัวเราะร่าเริง หาญศักดิ์พ่นลมออกจากจมูกแรงๆ ขัดกับใบหน้าที่ขึ้นสี

   “เดี๋ยวกูต้องเอาบัญชีที่เก็บเงินกู้วันนี้ไปลงหน่อย หน้าที่ของมึงก็หมดล่ะวันนี้ หรือถ้าอยากจะไปช่วยงานไอ้เฉินที่ข้างล่างก็ไปได้”

   “ครับ... ผมว่าจะไปอยู่”

   โซดาตอบรับเสียงสดใสพลางเดินไปใส่รองเท้าคู่ใหม่ไฉไลตรงหน้าห้อง เด็กหนุ่มเอื้อมมือไปผลักประตู

   “เดี๋ยวก่อนโซดา มึงมานี่ก่อนซิ”

   โซดาชะงักทันทีก่อนจะเดินกลับไปหาหาญศักดิ์ที่ยืนพิงโต๊ะทำงานกอดอกอยู่ด้วยท่าทางมาดแมน

   “มีอะไรเหรอครับพี่”

   หาญศักดิ์จ้องหน้าเขาอยู่นานเป็นครู่ ก่อนจะล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงตัวเองแล้วหยิบวัตถุบางอย่างออกมา

   โซดาเบิกตากว้างมองของบนฝ่ามือนั้น เสียงของเขาสั่น

   “...ไอโฟน”

   “อืม ของมึง เอาไปสิ รุ่นเดียวกับกูแต่กูใช้สีทอง มึงใช้สีดำก็แล้วกัน” หาญศักดิ์พยายามพูดด้วยเสียงธรรมดาที่สุด เขาเก็บมันเอาไว้เพราะอยากเซอร์ไพร์สให้เด็กหนุ่มตื่นเต้น แล้วก็ดูเหมือนโซดาจะตื่นเต้นกับมันเกินคาด

   เด็กหนุ่มกะพริบตาถี่ๆ ขณะจ้องดูสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่เอี่ยม หาญศักดิ์รู้สึกเหมือนร่างกายของโซดาสั่นเทิ้ม เขาโบกไอโฟนโฉบผ่านหน้าเด็กหนุ่ม ดวงตาคู่คมมองตามทันทีเหมือนแม่เหล็กคนละขั้วที่ถูกดึงดูดกันเอาไว้

   “นี่ตกลงมึงจะเอาไม่เอาวะ กูเปิดเบอร์ใหม่ให้มึงด้วย โปรเน็ตโปรโทรครบ อ้อไม่ต้องห่วงนะ บริษัทกูจ่ายค่าโทรศัพท์ให้ลูกน้องทุกคน”

   โซดาค่อยๆ เอื้อมมือที่สั่นเทาออกไปช้าๆ ไม่แน่ใจว่าอยู่ในความฝันหรือความจริงกันแน่ นิ้วมือของเขากำลังจะแตะผิวสีดำมันลื่นของอุปกรณ์ทันสมัยอยู่ร่อมร่อ...

   ฉุบ

   หากแต่หาญศักดิ์ก็รวบมันไปต่อหน้าต่อตา สายตาคมกระโดดขึ้นไปมองบนใบหน้าของหาญศักดิ์ทันที

   “แต่ถ้ามึงได้ไปแล้วเล่นไม่รู้เวล่ำเวลา กูจะริบคืน เข้าใจไหม?”

   เสี่ยหนุ่มสั่งสอนก่อน เขาคิดว่าโซดาคงไม่เป็นเด็กวัยรุ่นงี่เง่าแบบนั้นแต่ก็พูดเผื่อเอาไว้ ร่างสูงพยักหน้าช้าๆ เสี่ยหนุ่มจึงยื่นมันออกไปตรงหน้าอีกครั้ง

   “งั้นก็เอาไป”

   เด็กหนุ่มเอื้อมมือสั่นเทามารับแล้วจ้องมันอย่างไม่อยากจะเชื่อ หาญศักดิ์ยิ้มนิดๆ เมื่อเห็นว่าโซดาตื่นเต้นมากแค่ไหน ไม่บอกก็รู้ว่าโซดาดีใจจนเนื้อเต้น หาญศักดิ์กระแอมก่อนจะแกล้งตีหน้าโหด

   “นั่นปะไร! ได้ไปไม่ถึงห้านาทีก็เอาแล้ว มึงจะไปทำงานไม่ใช่เหรอ ไปสิ!”

   “ครับ...ไปเดี๋ยวนี้ครับ...”

   มือถือเครื่องใหม่ถูกเก็บใส่กระเป๋ากางเกงอย่างทะนุถนอม ก่อนที่เจ้าของคนใหม่ของมันจะรีบเดินไปที่ประตูห้อง หาญศักดิ์หมุนตัวหันหลัง มองวิวของกรุงเทพฯ ยามค่ำคืนผ่านกระจกใสบานกว้างแล้วก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว เขาฮัมเพลงเบาๆ

   ฟึ่บ ตุ้บ!

   “โอ๊ยยย!”

   เสี่ยหนุ่มแหกปากดังลั่นเมื่อมีตัวอะไรก็ไม่รู้กระโดดมาขี่หลังเขาพรวดใหญ่แบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย

   “เล่นเหี้ยอะไรของมึงฮะโซดา!!”

   “ขอบคุณนะครับพี่่” โซดายิ้มกว้าง แขนยาวๆ กอดก่ายร่างสันทัด สองขาลอยจากพื้นขนาบไปตามสีข้างของหาญศักดิ์

   “ขอบคุณแล้วก็ลงไป! กูจะตายแล้วเนี่ยไอ้หอก!”

   เด็กหนุ่มขี่หลังเขาราวกับเล่นขี่ม้าส่งเมือง ตัวมันก็ไม่ได้เล็กสักนิด ถ้าเป็นผู้หญิงเขาคงทรุดกับน้ำหนักตัวนี้ไปแล้ว มีแค่คู่ชาย-ชายที่เล่นอะไรแบบนี้ได้เท่านั้นแหละ มันเป็นเรื่องแมนๆ ที่คู่ชาย-หญิงไม่อาจทำได้ ใบหน้าคมวางลงบนไหล่ข้างหนึ่งจนหาญศักดิ์รู้สึกได้ถึงลมหายใจที่รินรดตีนผมตัวเอง

   เสียงของเด็กหนุ่มดังกังวาล

   “ผมรักพี่”

   “...!!!!”

   โซดากอดรัดรอบร่างในอ้อมแขนแนบแน่นมากขึ้น จนกลายเป็นขย่มกายโถมลงบนหลังของเสี่ยหนุ่มคนแมนที่ตัวแข็งทื่อเป็นศิลา เด็กหนุ่มพรั่งพรูความในใจ

   “ผมรักพี่มาก...ผมอยากบอกพี่มานานแล้ว... ตั้งแต่ที่ผมได้รู้จักพี่ ความน่ารักของพี่ทำให้ผมรักพี่มากขึ้นทุกวันๆ ไม่มีวันไหน...เวลาไหน...ที่ผมจะไม่รักพี่เลย”

   ริมฝีปากหยักพรมจูบลงบนขมับของเสี่ยหนุ่ม

   “พี่เป็นของผมแล้วนะ...พี่ห้ามไปไหนนะครับ”

   “...”

   “ผมรักพี่...” สุ้มเสียงนั้นสั่นน้อยๆ เพราะความประหม่า ร่างสูงตัวสั่นเทาเสียจนทำเอาคนที่เขาขี่อยู่ตัวสั่นเทิ้มไปด้วยกัน แต่เขาอยากบอกเหลือเกิน...เขาทนไม่ไหวอีกแล้ว...เขาอยากระบายให้อีกฝ่ายได้รับรู้ความรู้สึกของเขาทั้งหมดทั้งมวล อยากให้รู้ว่าเขารู้สึกอย่างไร

   “ผมรักพี่จริงๆ นะครับ”




   ...จนได้ว่ะไอ้หาน...




   อ๊อต๊อเค๊...!!!!!!!!!!!!!!!????????????





--------------------------------
METAL TERMINAL
เอาเสี่ยหานกับน้องโซดาของทุกคนมาอัพ100%ให้แว้ววว
ช่วงนี้ยุ่งๆอาจจะไม่ได้อัพบ่อยแต่จะอัพเต็มบทให้นะคะ จุ๊บๆ

TBC

ออฟไลน์ milin03

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 481
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
มีความมุ้งมิ้งงง :hao6:

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
โซดาจงรักจงหลงเสี่ยให้มากกว่านี้ :hao7:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ em1979

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
 :heaven

ดีใจเหลือเกิน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ namkang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4

ออฟไลน์ ตั่วเจ้เจค

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-8
ยกที่ ๑๘

   
What would my mama do

(Uh Oh Uh Oh)

If she knew 'bout me and you?

(Uh Oh Uh Oh)

What would my daddy say

(Uh Oh Uh Oh)

If he saw me hurt this way?

(Uh Oh Uh Oh)

[ ม้ากูจะทำยังไง...
...ถ้าเขารู้เรื่องกูกับมึง
แล้วป๊ากูจะพูดอะไร...
ถ้าเขาเห็นกูเจ็บ (ประตูหลัง) แบบนี้
โอะ โอ่ โอะ โอ้ !  ]

(Mama do – Pixie Lott :  แปลเพลงเป็นเวอร์ชัน หาญศักดิ์ในเรื่อง ‘METAL TERMINAL พยัคฆ์คว่ำกวาง' โดยเจค)


:::METAL TERMINAL:::


   ไอ้เหี้ยเอ๊ย... ไอ้เหี้ยเอ๊ย...

   หาญศักดิ์จ้องใบหน้าของตัวเองในกระจกบานใหญ่ในห้องน้ำ นี่คงเป็นการเริ่มต้นวันด้วยถ้อยคำที่จัญไรที่สุดในชีวิต แต่หาญศักดิ์ไม่อาจยับยั้งตัวเองไม่ให้คิดอย่างนี้ได้จริงๆ

   เขาถูกผู้ชายสารภาพรัก...

   ย้ำนะครับ... กูถูกเกย์สารภาพรัก...

   โอ๊ย แค่คิดก็อยากจะกัดลิ้นตาย!

   เมื่อวานหลังจากที่โซดากระโดดมาขี่หลังแล้วบอกรักอย่างไม่ทันตั้งตัวจนทำให้เขาช็อกตาตั้ง เด็กหนุ่มก็ค่อยๆ ยันกายลงจากแผ่นหลังของเขาไปยืนบนพื้น แต่ยังคงกอดร่างเขาไว้หลวมๆ คนตัวสูงที่ยืนซ้อนด้านหลังพิงกระหม่อมกับท้ายทอยของหาญศักดิ์

   'ผมไม่เร่งเร้าเอาคำตอบอะไรจากพี่หรอกครับ ผมแค่อยากให้พี่รับรู้'

   โซดาประทับจุมพิตอ่อนหวานลงที่ต้นคอตรงหน้าแล้วพูดเสียงแผ่วเบา

   'ตั้งใจลงบัญชีนะครับ...ผมไปทำงานแล้ว'

   ...แล้วมันก็จากไป

   จากไปพร้อมกับทิ้งความรู้สึกเหมือนถูกผลักตกเหวไว้ให้กูครับพี่น้อง!

   หาญศักดิ์รู้สึกแปลกๆ เป็นอย่างมาก มันรู้สึกวิงเวียนเหมือนจะหน้ามืดเป็นลมเอาเสียให้ได้

   ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงต้องหันไปเตะโซดาแล้วสู้ตัวต่อตัวกันจนถึงตายแน่ ผู้ชายแมนๆ เถื่อนๆ อย่างเขามีเกย์เก้งมารักชอบ แต่ตอนนี้ หาญศักดิ์คงต้องยอมรับว่าความรู้สึกของเขามันตีกันในโพรงอกจนตัดสินใจไม่ได้

   หรือบางทีลึกๆ...เขาอาจจะรู้สึกดีอยู่...

   บ้า! นี่กูรู้สึกดีเหรอ กูรู้สึกดีที่มันมารักกูเหรอเนี่ย

   อ๊ากกกกก

   คิดจบเสี่ยหนุ่มก็เปิดก๊อกน้ำแล้ววักน้ำสาดใส่หน้าตัวเองอย่างบ้าคลั่งจนเคาน์เตอร์เปียกแฉะเลยมาจนถึงพื้น ตั้งแต่เมื่อวานที่ถูกสารภาพรัก หาญศักดิ์ก็พยายามหางานให้ตัวเองทำให้ดูวุ่นวายที่สุดเพื่อที่โซดาจะได้ไม่มาป้วนเปี้ยน พอทำบัญชีเสร็จก็ขับรถหลีกหนีไปดูงานที่คลับรอยัลตอนห้าทุ่มกว่าๆ รวมถึงเลยไปที่อื่น หากแต่ตอนนี้อีกฝ่ายได้รับตำแหน่งมือขวาของเขาแล้ว ฉะนั้นโซดาจึงติดร่างแหตามไปทุกหนทุกแห่งเหมือนผีหลอกวิญญาณหลอน ดึกดื่นแค่ไหนเด็กหนุ่มก็จะไป หาญศักดิ์คิดอยากจะหนีไปดูแลโรงแรมที่สาขาต่างจังหวัดด้วยซ้ำ แต่ความคิดนั้นก็ต้องเป็นอันพับเก็บ

   'ดีครับ' แววตาคู่คมของโซดาเป็นประกาย 'เราจะได้ไปนอนค้างต่างจังหวัดด้วยกันสองคน'

   อีช่อเอ๊ย!

   แล้วปกติโซดาแม่งก็โอเพ่นนิ่งอยู่แล้ว ตอนนี้แม่งโคตรแกรนด์แกรนด์แกรนด์แกรนด์โอเพ่นนิ่ง เจ้าพ่อเงินกู้พยายามตีหน้าเรียบเฉยนิ่งสงบสยบทุกความเคลื่อนไหวให้มากที่สุด แต่อีกฝ่ายแม่งก็คนจริงเหลือเกิน ออกนอกหน้านอกตาจนเขาไม่รู้จะทำยังไง ยังดีที่มันวางตัวเงียบเชียบเวลาที่มีลูกน้องคนอื่นๆ อยู่ ไม่งั้นเขาต้องไปมุดกาน้ำชาตายแน่ๆ

   เสี่ยหนุ่มมองใบหน้าที่มีริ้วรอยตามวัยของตัวเองในกระจก นี่กูเป็นสเป็กเกย์หรือนี่... มันถึงเวลาที่ต้องยอมรับแล้วใช่ไหม แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ง่ายเอาเสียเลยที่จะยอมรับได้ ในร่างของเขาเหมือนมีพายุทอร์นาโดหมุนติ้วจนปั่นป่วน จู่ๆ ก็รู้สึกอยากจะอาเจียนขึ้นมาเสียให้ได้ อีแม่เอ๊ย ทำไมมันสับสนแบบนี้...กูกำลังเบี่ยงเบนตอนแก่เหรอ แล้วกูควรจะทำต้องทำยังไงต่อไป! เสี่ยหนุ่มในชุดนอนคืบคลานไปหยิบมาสเตอร์คีย์ของตัวเองขึ้นมาถือในมือ ก่อนจะกระเสือกกระสนไปแตะคีย์การ์ดที่ห้องอีกห้องหนึ่งซึ่งอยู่ชั้นเดียวกัน ชายร่างสูงผู้เป็นเจ้าของห้องได้ยินเสียงคีย์การ์ดยามเช้าตรู่จึงตรงรี่ออกมาดู ก่อนจะพบตัวอะไรสักอย่างกองเป็นก้อนอยู่ตรงประตู และเมื่อเพ่งดูก็พบว่าเป็นชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งเขาคุ้นตามาทั้งชีวิต

   “เสี่ยหาน มึงเหรอ...ทำไมตื่นเช้าจัง เพิ่งกลับมาตอนตีสี่ไม่ใช่หรือ มึงมีธุระอะไร”

   มือหนาเดินไปพลิกร่างเพื่อนที่นั่งกอดเข่าตัวสั่นสะท้านบนพรม และเมื่อใบหน้านั้นเงยขึ้นมาเขาก็ต้องตกใจสุดขีด

   “เฮ้ย! ไอ้เหี้ยตัวไหนทำอะไรมึงวะเสี่ยหาน ทำไมมึงถึงร้องไห้ได้ นี่มันเกิดอะไรขึ้น!”

   “เสี่ยชาน...อึก”

   ใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาจ้องเขม็งไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเพื่อน ชาญชัยตัวแข็งทื่อเป็นหิน ไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว แล้วในที่สุด เจ้าพ่อเงินกู้ก็แผดเสียงร้องโหยหวน

   “กูถูกเกย์สารภาพรัก! ฮือ...ฮือ...ฮือ!! ทำยังไงดี!! โฮๆๆๆ!”

   
:::METAL TERMINAL:::
   

   ตกตะลึงกันไปครู่หนึ่งหลังคำพูดนั้นออกมาจากปากของหาญศักดิ์ ชาญชัยอ้าปากค้าง

   “มึง...มึงหมายความว่าไอ้โซดาบอกรักมึงรึ...”

   “เออดิ...ฮือ...ฮือ” เจ้าพ่อเงินกู้สะอึกสะอื้นจนหมดสง่าราศี “มึง...กูกลัวอ่ะ...นี่กูกำลังจะกลายเป็นเกย์ใช่ไหม ไอ้เหี้ย...ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าป๊ากูยังมีชีวิตอยู่ ป๊ากูจะมองหน้ากูด้วยสายตายังไง ฮือ...ฮือ”

   “มึง...ใจเย็นๆ นะ”

   ชาญชัยถึงกับพูดไม่ถูก อยากจะขำให้ฟันหักหมดปากก็ไม่กล้ากลัวเพื่อนจะหาว่าซ้ำเติม ก็ดูสภาพมันสิน่าสงสารน้อยซะที่ไหน จึงได้ตีหน้านิ่งเรียบปลอบใจกันไปตามเรื่อง

   เขาคิดว่าเขาพอจะเข้าใจหาญศักดิ์ อยู่ดีๆ ก็ต้องมาสับสนทางเพศตอนโตแน่นอนว่ามันเป็นเรื่องใหญ่ ยิ่งมาถูกเกย์ตามประกบทั้งวันแถมยังถูกบอกรัก ก็คงจะอึดอัดและไม่รู้ว่าควรจะแสดงออกยังไงกันแน่ รวมถึงทั้งไม่แน่ใจในความรู้สึกตัวเองที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ด้วย

   “เอ้า ดื่มชาก่อนมึง”

   เสี่ยชานยื่นถ้วยชาร้อนให้เพื่อนรับไปดื่มสงบสติอารมณ์ หาญศักดิ์ที่ตัวสั่นเทารับไปถือไว้ก่อนจะดื่มอึกใหญ่

   “แล้วนี่ไอ้เด็กนั่นไปไหนซะละ”

   หาญศักดิ์ลดถ้วยชาที่ดื่มอยู่ลง “มันยังนอนหลับอยู่ วันนี้วันหยุด ก็เมื่อคืนกลับกันมาตอนตีสี่กว่าๆ”

   “อ๋อ...”

   “เสี่ยชาน...กูรู้สึกแปลกๆ อ่ะ กูควรจะรู้สึกรังเกียจ แต่...แต่กูก็ไม่ได้รู้สึกรังเกียจ แต่ถามว่ากูรู้สึกดีไหม กูก็ไม่ได้รู้สึกดีเหมือนกัน”

   หาญศักดิ์พรั่งพรูอย่างจิตตกออกมามากมาย เจ้าพ่อกาสิโนนั่งฟังเรื่องทั้งหมดอย่างผู้ฟังที่ดี มิตรภาพอันเข้มแข็งของทั้งคู่ทำให้ชาญชัยไม่ได้หัวเราะออกมาเลย และเมื่ออีกฝ่ายระบายเสร็จ เขาจึงค่อยๆ พูดด้วยน้ำเสียงปลอบประโลม

   “เฮ้อ เพื่อนเอ๊ย...มึงจะคิดมากทำไมวะ”

   หาญศักดิ์ชะงัก แล้วเงยหน้าขึ้นมองสบตาร่างสูง “...มึงหมายความว่ายังไง?”

   “ฟังนะ กูเข้าใจถึงความสับสนของมึงดีเสี่ยหาน” มือหนายื่นไปตบไหล่เพื่อน มองจ้องเข้าไปในดวงตาชายหนุ่ม “แล้วกูก็ไม่ได้มองว่ามันเป็นเรื่องขำๆ แต่...มึงลองคิดสิ ไอ้โซดามันก็เป็นคนดี แล้วในเมื่อมันก็รักมึงซะขนาดนี้ มันดูแลช่วยงานมึงได้ทุกอย่าง ไอ้เฉินรายงานกูอยู่ทุกวี่ทุกวันว่ามันตั้งใจทำงานมาก ตั้งแต่มีมันงานเบาไปเยอะ เพื่อนร่วมงานก็รักใคร่ ไม่ได้มีข้อเสียอะไรเลย ในเมื่อมีคนดีๆ แบบนี้มารักมาชอบเรา มันก็ถือว่าดีไม่ใช่หรือวะ”

   “แต่...” หาญศักดิ์ยังมีสีหน้าไม่ใคร่ดีนัก “...มันเป็นเกย์นะ”

   “เกย์ก็เกย์ดิวะ เกย์แล้วทำไม มีคนรักก็ดีกว่ามีคนเกลียดไม่ใช่หรือ มึงมีสิทธิ์สติแตก มึงมีสิทธิ์สับสน แต่เราก็โตๆ กันแล้ว มึงจะคร่ำครวญนานไม่ได้หรอก”

   “...กูคิดว่ามึงเกลียดพวกตุ๊ดพวกเกย์มาตลอดเสียอีก”

   “ใช่ กูไม่ปฏิเสธ” ชาญชัยพยักหน้าหนักแน่น “แต่ก็ต้องแยกไปเป็นกรณีด้วย กูไม่ชอบตุ๊ดเพราะมันแรด เวลาเห็นแม่งโบกหน้าหนาเตอะสะดีดสะดิ้งกูกินข้าวไม่ลง กูไม่ชอบเกย์ตัวมะเมื่อมมันๆ แบบพวกเกย์กล้ามปีกควายในฟิตเนส เห็นแล้วอุบาทว์สายตา แต่ไอ้โซดาไม่ใช่ทั้งสองอย่าง อันที่จริงมันก็คือผู้ชายธรรมดาเหมือนพวกเรานี่แหละ แต่มันแค่ชอบผู้ชายด้วยกันเท่านั้นเอง”

   “กู...กูทำตัวไม่ถูกนี่ กูไม่รู้ว่ากูควรจะทำยังไง” เสียงของเจ้าพ่อเงินกู้เบาหวิว

   “มึงก็ทำตัวเฉยๆ นั่นแหละ” ชาญชัยพูดเหมือนมันเป็นเรื่องธรรมดามาก “ทำปกติเหมือนเดิม มันไม่ได้บังคับให้มึงต้องรักมันตอบซะหน่อยนี่ นานวันไปถ้ามึงไม่คิดอะไรจริงๆ กูคิดว่าแมนๆ อย่างมันรับได้”

   ชาญชัยพูดปลอบใจแม้ในใจจะไม่ได้คิดแบบนั้นเต็มร้อย จริงๆ เขาไม่ช็อกมากเพราะพอมองออกว่าโซดารู้สึกยังไงกับเพื่อนรักของตัวเอง ความลำบากก็อยู่ตรงที่เพื่อนของเขาไม่ได้ชอบไม้ป่าเดียวกันนี่แหละ (แต่ถึงกระนั้นมันก็เพลี่ยงพล้ำเสร็จเกย์นักมวยไปหลายหนแล้วอะนะ)

   ...แต่เขาเชื่อว่าถึงวันหนึ่งโซดาก็จะรู้เองว่าหัวใจเป็นเรื่องที่บังคับกันไม่ได้ ได้ร่างกายไม่ได้หมายความว่าได้หัวใจไปด้วย

   ถึงตอนนั้นถ้าคนเขาไม่รัก... จะยื้อยังไงก็ต้องปล่อยมือไป

   มันเป็นสัจธรรมของโลก

   ใบหน้ากลัดกลุ้มของหาญศักดิ์ค่อยๆ สว่างไสวขึ้นทีละน้อย ชาญชัยเลยรีบพูดเติมกำลังใจให้อีก

   “กูเชื่อว่ามันไม่ต่างไปจากเดิมมากหรอก ที่ผ่านมาแม่งก็ขี้หยอดขี้แกล้งอยู่แล้วกูสังเกตเห็น”

   “เออ...กูก็หวังว่าอย่างนั้นนะ”

   “พูดก็พูดเถอะนะ กูว่าจริงๆ แล้ว ลึกๆ ที่มึงกังวลไม่ได้มีแค่เรื่องที่มันเป็นผู้ชายเหมือนกัน แต่เป็นเรื่องที่มีคนมารักมึงใช่ไหม”

   เจ้าพ่อเงินกู้เม้มปาก เบือนหน้าหนีคำพูดที่ตีกระทบจุดไปด้านข้างทันที

   ชาญชัยถอนใจเบาๆ มองเพื่อนด้วยแววตาเห็นใจและเข้าใจ เขาค่อยๆ เอ่ยปาก

   “เสี่ยหาน... มันนานมากแล้วนะ บางทีมึงอาจ -- ”

   “...เราจะไม่พูดเรื่องนั้นกัน”

   เสียงที่เอ่ยแทรกเบาหวิว ทว่าหนักแน่นอยู่ในทุกถ้อยคำ

   “...”

   หาญศักดิ์หันไปจ้องหน้าเพื่อนตรงๆ ดวงตาของเขาวาววับ “ไม่พูดถึงมัน ไม่พูดเด็ดขาด... โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนนี้ มึงเข้าใจไหม”

   “...ไอ้หาน กูแค่ -- ”

   “มึงไม่เคยดิ่งไปในจุดที่กูเคยดิ่ง มึงไม่เคยรักใครด้วยซ้ำ มึงหุบปากเถอะวะเรื่องนี้”

   สองหนุ่มเงียบไปนานร่วมนาที ในที่สุดชาญชัยก็ระบายลมหายใจออกมาจากจมูกยาวๆ อย่างยอมจำนน แล้วพยักหน้า เขาเปลี่ยนหัวข้อ

   “กับไอ้โซดาน่ะ มึงแค่ระวังเพิ่มขึ้นก็พอ”

   “กูไม่มีอะไรต้องระวังแล้ว” หาญศักดิ์หน้าเคร่งขึ้นมาทันที “กูเสียทั้งเนื้อทั้งตัวไปหมดสิ้นแล้วโว้ย”

   “ไม่ใช่ ระวังหัวใจที่มีแผลเป็นของมึงน่ะ”

   เสียงทุ้มต่ำพูดอย่างเฉียบขาด

   “หัวใจอ่อนๆ ไม่ใช่ของเล่นๆ...แล้วให้เขามาเล่นมากๆ ระวังจะเสียให้เขาทั้งตัวทั้งใจก็แล้วกัน”


:::METAL TERMINAL:::


   หาญศักดิ์ ชาญชัย เฉิน และโซดา รวมไปถึงลูกน้องตัวใหญ่ๆ อีกจำนวนหนึ่งกำลังนั่งถกเถียงกันในห้องประชุมขนาดกลางถึงเรื่องธุรกิจต่างๆ นานา รวมถึงสรุปเรื่องผลประโยชน์และแผนงานต่างๆ คุยงานสักครู่ทุกคนก็ได้รับการปล่อยตัวให้ไปทำหน้าที่ จนเหลือหาญศักดิ์ ชาญชัย และโซดารั้งท้าย เสี่ยหนุ่มสองคนยังคงสนทนาหน้าเคร่งเกี่ยวกับเรื่องงานทั้งหลายแหล่ ในขณะที่โซดาในฐานะมือขวาของหาญศักดิ์นั่งอยู่เงียบๆ ไม่ขัดขวางการสนทนาอะไร เพียงแต่จดจ่ออยู่กับสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่เอี่ยมในมือตัวเอง และอย่างที่ชาญชัยกับหาญศักดิ์คุยกันไว้เมื่อตอนเช้า โซดาไม่ได้แสดงอาการผิดสำแดงใดๆ หรือดูเหมือนจะประกาศความรักที่ไม่มีวันเสื่อมคลายกับหาญศักดิ์ต่อสาธารณะชนให้เป็นที่สะพรึงกลัวเลย

   “สรุปว่ายังตามหาไอ้เสี่ยพิชิตไม่เจอใช่ไหม” หาญศักดิ์เอ่ยถามเสียงเป็นงานเป็นการอย่างเคร่งเครียด

   ชาญชัยพยักหน้า “ใช่ กูให้เด็กพยายามตามอยู่ แต่มันไม่ง่ายเลยว่ะเสี่ยหาน ไอ้แก่นั่นแม่งร้ายฉิบ” เขาพ่นลมออกจากจมูกอย่างฉุนเฉียว “เฮ้อ ไม่รู้แม่งจะกลับมาป้วนเปี้ยนอีกเมื่อไหร่ มึงต้องระวังตัวหน่อยล่ะ”

   สิ้นประโยคของเพื่อนหาญศักดิ์ก็อดไม่ได้ที่จะชำเลืองสายตาไปมองเด็กหนุ่มร่างสูงที่นั่งอยู่ใกล้ๆ เขายอมรับว่ารู้สึกปลอดภัยและอุ่นใจมากขึ้นเมื่อมีโซดาอยู่ข้างกาย แล้วตอนนี้พวกเขาก็ตกลงกันแล้วว่าจะให้โซดาติดตามเขาไปทุกหนทุกแห่งเพื่อป้องกันอันตรายทั้งหมดที่จะเกิดขึ้น

   'ผมจะปกป้องพี่ด้วยชีวิต'

   คำพูดสั้นๆ ของโซดากับสายตาที่แน่วแน่นั่นทำเอาหาญศักดิ์ได้แต่ก้มหน้าหลบ ลูกน้องคนอื่นๆ พากันชื่นชมในความจงรักภักดีของโซดา หากแต่เขากับชาญชัยรู้ว่ามันแฝงไปด้วยความนัยอย่างอื่น

   “แล้วเราสองคนได้บัตรเชิญไปงานแต่งงานของลูกสาวผู้กำกับมนตรีด้วย ท่านมาหากูด้วยตัวเองเลย คงต้องไปว่ะท่านก็ช่วยเหลือพวกเรามาตลอด ไม่ไปน่าเกลียดตาย ใส่ซองสักหมื่นก็แล้วกัน”

   “เฮ้ยไอ้บ้า” หาญศักดิ์ขัดเพื่อนตาโต “มึงบ้ารึเปล่าวะเสี่ยชานจะใส่ซองให้ลูกสาวท่านแค่นั้น ใส่ไปสักสามสี่หมื่นก็แล้วกัน”
   ทั้งคู่เริ่มคุยกันเรื่องที่สบายๆ มากขึ้น แล้วชาญชัยก็เอ่ยขึ้นมากลางปล้อง

   “กูไปเข้าห้องน้ำแป๊บ เดี๋ยวมา”

   “เออ ตามสบายเถอะ” หาญศักดิ์ว่า

   ชาญชัยก้าวอาดๆ ออกไปนอกห้องประชุม หาญศักดิ์กวาดสายตาไปมองโซดาที่สไลด์หน้าจอสมาร์ทโฟนในมือ แต่แล้วจู่ๆ เด็กหนุ่มก็เงยหน้าขึ้นมาอย่างไม่คาดฝันสบตาเข้ากับเขาจังๆ เสี่ยหนุ่มสะดุ้งเฮือกเมื่อโซดายิ้มกว้างแล้วเลื่อนเก้าอี้เข้ามาใกล้ๆ
   “พี่ครับๆ มาถ่ายรูปกัน”

   เด็กหนุ่มพูดอย่างกระตือรือร้น เขากดกลับด้านกล้องให้มันเป็นโหมดถ่ายตัวเองพลางชูสองนิ้ว หาญศักดิ์รีบเบี่ยงหน้าหลบออกไปจากเฟรมกล้องทันที

   “บ้า ไม่เอา”

   เจ้าพ่อเงินกู้ร้องเสียงหลง เรื่องอะไรเขาจะต้องมาถ่ายรูปเซล์ฟฟี่คู่กับไอ้นี่อย่างกับคู่รักหวานแหววด้วย

   เกย์ที่สุด!

   “พี่อ่ะ” โซดาหน้างอ “ถ่ายกันนะครับ นะครับๆๆ”

   เด็กหนุ่มกะพริบตาปริบๆ อ้อน แต่หาญศักดิ์ก็ไม่ยอมท่าเดียว วอแวล้งเล้งกันอยู่นานจนในที่สุดชาญชัยก็กลับเข้ามา

   “มีเรื่องอะไรกัน เสียงดังไปจนถึงหน้าห้องน้ำโน้น”

   “ก็พี่หานน่ะสิครับ ไม่ยอมถ่ายรูปคู่กับผม ไม่รู้เป็นอะไรของพี่เขา”

   โซดารายงานทันที หาญศักดิ์รีบพูดสวนพลางกอดอกอย่างวางท่า

   “กูไม่ได้เป็นอะไร ก็แค่ ไม่อยากจะถ่ายเฉยๆ”

   “ปอดแหกว่ะมึง” ชาญชัยแทรก พยายามกลั้นรอยยิ้มอย่างเต็มที่ ทำไมเขาจะไม่เข้าใจว่าทำไมหาญศักดิ์ไม่อยากถ่ายรูปกับโซดา แต่ถึงอย่างไรเสีย การแกล้งหาญศักดิ์ก็เป็นงานอดิเรกที่เขาโปรดปรานที่สุด และยิ่งมีโอกาสทองแบบนี้ จะพลาดไปได้อย่างไร “กะอีแค่ถ่ายรูปมึงจะอะไรนักหนาวะ ถ่ายกับเด็กมันหน่อยดิ”

   “นั่นน่ะสิครับ” โซดารีบพูด “แค่ถ่ายรูป ไม่ได้ขึ้นเวทีต่อยมวยกันสักหน่อย ทำเป็นเรื่องใหญ่ไปได้”

   “เฮอะ มันกลัวมึงแย่งความสนใจไงโซดา เกิดสมมุติมึงเอารูปไปลงที่ไหนคนเขาก็จะมาคอมเมนต์ว่ามึงหล่อ แต่เมินเฉยไอ้เสี่ยหาน มันก็ปอดแหกงี้แหละ มึงอย่าไปคิดมากเลย”

   หาญศักดิ์คิ้วกระตุก เงยหน้าขึ้นทันทีแต่ยังคงกอดอกแน่น

   “กูไม่ได้ปอดแหก ก็แค่ไม่มีอารมณ์จะถ่าย ไม่เคยเป็นกันรึไง”

   “ไม่เคย” ชาญชัยกับโซดาตอบพร้อมกันทันที แล้วชาญชัยก็เอ่ยเสริมขึ้นมาพลางตบบ่าเด็กหนุ่มไปด้วย “นี่แหละน้า มึงดูไว้นะโซดา ผู้ชายแมนๆ บางทีก็กลัวเรื่องไม่เป็นเรื่องได้ มึงดูไว้เป็นตัวอย่างแล้วก็อย่าทำเชียวล่ะ ตุ๊ดที่สุด”

   โซดาส่งสายตาน้อยใจผสมตัดพ้อไปมองเจ้าพ่อเงินกู้ที่มองเขาอยู่ก่อน

   “แค่ถ่ายรูปเองนะครับพี่” เสียงของโซดาเบาหวิว “ไหนบอกว่าไม่อายที่อยู่กับผม...แค่ถ่ายรูปก็ไม่ได้เหรอ”

   ชาญชัยกับหาญศักดิ์เงียบกริบ ท่าทางเศร้าๆ นั้นทำเอาหาญศักดิ์รู้สึกปวดหนึบในอกขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ เด็กหนุ่มหน้าหมองจนคนมองใจหาย ชาญชัยทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวเดิมพลางเอามือซ้ายเท้าคางจ้องหน้าหาญศักดิ์อย่างกดดัน ส่วนอีกข้างก็วางไว้บนโต๊ะ เขาส่งสายตาประมาณว่า 'มึงทำแบบนี้กับคนที่รักมึงได้ยังไง สงสารเด็กมันบ้าง'

   “เออ ไอ้เหี้ย ถ่ายก็ได้วะ! เอ้า ชูโทรศัพท์ขึ้นมาสิ เร็ว!” เจ้าพ่อเงินกู้หลับหูหลับตาตะโกน

   ใบหน้าของเด็กหนุ่มผ่องใสขึ้นมาทันควัน โซดายิ้มกว้าง ก่อนจะชูสองนิ้วขึ้นมาพลางเก๊กหน้าหล่อ หาญศักดิ์ผู้ซึ่งพยายามคิดคำนวณว่าจะสอดหน้าเข้าไปยังไงโดยไม่ให้มันดูเป็นรูปคู่รักจึงตัดสินใจโชว์หน้าด้านข้างให้กล้อง เด็กหนุ่มรีบกดชัตเตอร์ทันทีก่อนอีกฝ่ายเปลี่ยนใจ

   “เอ้า พอใจรึยังล่ะมึง”

   “เอ๊ะๆๆ เดี๋ยวสิเสี่ยหาน ไหนๆ ก็ไหนๆ ถ่ายรูปเต็มตัวไปด้วยดิ เนี่ย เดี๋ยวกูถ่ายให้”

   หาญศักดิ์ยิงฟันใส่ชาญชัยพลางชูมือทำสัญลักษณ์หยาบคายใส่ด้วยอีกดอก ตรงกันข้าม โซดารีบตอบรับความเอื้อเฟื้อนั้นอย่างรวดเร็ว

   “ดีเลยครับพี่ชาน ถ่ายเลยครับ”

   โซดาส่งสมาร์ทโฟนให้เสี่ยชานแล้วกระเถิบไปนั่งติดกับหาญศักดิ์ที่ทำหน้าเหม็นเบื่อทันที เด็กหนุ่มฉีกยิ้ม

   “ตรงนี้มันย้อนแสงวะ พวกมึงสองคนไปนั่งตรงโซฟาดิ๊”

   “ไอ้เหี้ย มึงแค่ถ่ายๆ ไปให้เสร็จๆ ไม่ได้หรือวะ หา!”

   “พี่หาน อย่าทำแบบนี้สิครับ ไหนๆ ก็ไหนๆ โซฟามันก็อยู่แค่ตรงนี้เอง ไปกันนะครับ”

   โซดาดึงมือหาญศักดิ์ให้ไปนั่งที่โซฟาตัวสีดำก่อนจะนั่งลงไปข้างๆ ชาญชัยเขยิบตามมาเล็งพิกัดทันที ร่างสูงกดชัตเตอร์หนึ่งแชะก่อนจะส่งคืนให้โซดา หาญศักดิ์รีบยื่นหน้ามาดูรูป

   “โอ๊ย อะไรของมึงเนี่ยเสี่ยชาน” เขาโวยวายเสียงดัง “ถ่ายกูกับโซดาออกมาอย่างกับพระประธาน ตัวแข็งทื่อไปหมด หน้าก็เหียก ไม่หล่อเลย ลบเว้ย! ถ่ายใหม่”

   “เรื่องมากจริงๆ มึงนี่”

   ชาญชัยบ่นแต่ก็หยิบมือถือเครื่องใหม่ของโซดามาไว้ในมืออีกที หาญศักดิ์เขยิบเข้าไปใกล้โซดาแล้วจัดท่าทาง จากตอนแรกที่ทำท่าไม่เต็มใจก็ความบ้ากล้องเข้าสิง เจ้าพ่อเงินกู้เก๊กหน้าปานนายแบบมืออาชีพ แอ๊คหล่อสุดฤทธิ์ใส่กล้อง

   ให้มันรู้ซะบ้างว่าไผเป็นไผ!

   นี่เสี่ยหาน เจ้าพ่อผู้ทรงอิทธิพลของประเทศไทย บอกเลย หล่อและรวยเท่านี้ไม่มีอีกแล้ว เข้าใจป่ะ!?

   โซดาเองก็ไม่น้อยหน้า เต๊ะท่าเท่มาดแมนสุดขีดสมเป็นนักมวยชื่อดัง สายตงสายตาทรงพลัง แถมยังเลียปากนิดๆ อย่างเซ็กซี่ หาญศักดิ์จิ๊ปากหมั่นไส้ คิดว่าหล่อมากไหมฮะมึง ไอ้ผัวขี้กลากเอ๊ย!

   เสี่ยหนุ่มทนไม่ได้ที่อีกฝ่ายบังอาจมาทำตัวหล่อเกินหน้าเกินตา เขาจึงยื่นลำตัวออกมาสกัดขัดขวาง ณ วินาทีนี้ไม่มีอะไรหยุดยั้งความบ้ากล้องของสองหนุ่มได้ ทั้งคู่ดูเหมือนจะขึ้นสังเวียนแล้วต่อยกันให้ตายเพื่อแย่งมุมที่ดีที่สุด

   “พี่หานครับ สลับที่ได้ป่ะครับ ตรงนั้นแสงสวยกว่า”

   “ไม่ได้โว้ย หน้าด้านขวากูดูดีกว่าด้านซ้าย เข้าใจ๊?”

   “งั้นเก็บแขนเลย ก้าวก่ายที่ผม ท่าที่พี่เก๊กแต่ละท่าก็โคตรโบราณ”

   “มึงก็เหมือนกันทำมาชูสองนิ้ว! ตกยุคไปนานแล้วไม่รู้รึไงไอ้ควาย!”

   “เก่งแต่ปากนะครับ ขาจะเกยผมอีกนานไหม ไม่มีท่าจะเก๊กแล้วเหรอถึงได้เหยียดขาออก สิ้นคิดมาก”

   “โธ่เอ๊ย เก๊กแมนจนเส้นเลือดขึ้น แต่ยังไงก็เกย์!” หาญศักดิ์คำราม

   จากที่จะถ่ายแค่รูปเดียวกลับกลายเป็นว่าทั้งเขาและโซดาถ่ายรูปคู่ไปเป็นสิบๆ รูป ทั้งหน้าทะเล้น หน้าหล่อ หาญศักดิ์จัดเต็มเม็ดเต็มหน่วย พากันแข่งแอ๊คท่าจนตากล้องจำเป็นเมื่อยมือ ไม่รวมชอตเผลอๆ อีกหลายชอตที่ชาญชัยกดชัตเตอร์โดยไม่ทันให้ทั้งคู่ได้ตั้งตัว ไหนจะต้องทนปวดหูเพราะเสียงที่ทั้งคู่ทุ่มเถียงกันอีก

   “เอ้า พอๆ หุบปากเก็บฟันทั้งคู่” ชาญชัยห้ามสงครามโลกครั้งที่สามที่ร่ำร่ำจะปะทุตรงหน้า บอกเลยนะว่ากูรักมึงน่ะเสี่ยหานไม่งั้นกูไม่ห้ามหรอก ปล่อยให้ตายคาตีนผัวแน่ “รูปสุดท้ายแล้ว! หนึ่ง – สอง – ซั่ม ! -- เรียบร้อย!”

   เสี่ยชานตะโกนบอกหลังกดถ่ายรูปที่หาญศักดิ์เอื้อมแขนซ้ายไปโอบโซดาแล้วชูนิ้วโป้ง ซึ่งเด็กหนุ่มก็ชูนิ้วแบบเดียวกัน ทั้งคู่เก๊กหน้าหล่อมาดแมนเนี้ยบนิ้งให้กล้อง

   “เอ้า เอาคืนไปไอ้เสือ” มือหนายื่นสมาร์ทโฟนให้ผู้เป็นเจ้าของ เด็กหนุ่มที่ยิ้มจนตาหยีกระพุ่มมือไหว้

   “ขอบคุณครับพี่”

   “กูไปทำงานล่ะ ไปแล้วนะ”

   พูดจบร่างสูงก็เดินแผล็วออกไปทันทีเหลือเพียงแต่หาญศักดิ์กับโซดาในห้องประชุม โซดาเอารูปเข้าแอปพลิเคชันแล้วกดแต่งสีอย่างมีความสุข พอเห็นแบบนี้หาญศักดิ์ก็อดยิ้มออกมาไม่ได้

   ให้อะไรกับใครแล้วคนคนนั้นตระหนักคุณค่า มันทำให้ผู้ให้รู้สึกดีอย่างมหาศาล

   เสี่ยหนุ่มรีบเก๊กเป็นสีหน้าวางเฉยทันทีที่โซดาเงยหน้าขึ้นมามอง เขาเลยควักเอามือถือของตัวเองขึ้นมาดูบ้าง และแล้วทันทีทันใดนั้นเสียงข้อความเข้าก็ร้องเตือน หาญศักดิ์จึงกดดูมัน

   ปัง!!!

   เสียงตบโต๊ะปังใหญ่ทำเอาโซดาสะดุ้งตัวลอย

   “โอ้เยสสสส!!!” เสี่ยหนุ่มลุกยืนขึ้นมาแล้ววางขาขึ้นหนึ่งไว้บนเก้าอี้ แววตาทั้งสองข้างเหมือนมีประกายไฟลุกโชน เขาชูกำปั้นขึ้นอากาศอย่างสะใจ “กูได้บัตรดูคอนเสิร์ตครบรอบ XX ปีของคาราบาวจนได้โว้ยยยย”

   น้ำเสียงนั้นร้องอย่างยินดีสุดขีด แถมยังมาเป็นแพ็คเกจกับท่าทางที่เหมือนได้ครอบครองโลกทั้งใบ แววตากวางบลิ๊งบลั๊งเหมือนมีกากเพชรตกใส่ลูกตาดำ หาญศักดิ์แทบจะระบำไปรอบห้อง เขากระดี๊กระด๊าติดต่อทางบริษัทขายตั๋วที่ส่ง SMS มาให้ทันที

   “สวัสดีครับ นี่เสี่ยหานนะครับ...อ้อ...ใช่ครับ บัตรยืนก็ได้ครับคุณกิตติ! อ๋อ อ้าว ได้แค่สองใบหรือครับ ไม่เป็นไรครับ! เอามาก่อนก็แล้วกัน ขอบคุณมากจริงๆ”

   คุยรวดเดียวแล้วก็วางสาย จากนั้นก็กอดอกทำท่ามีความสุขเต็มที่ แถมยังหัวเราะหึๆ ตลอดเวลา โซดาที่เมียงมองอยู่นานแล้วจึงถามออกไป

   “จะไปดูคอนเสิร์ตคาราบาวเหรอครับ”

   “อือ ใช่ คอนเสิร์ตครบรอบ XX ปีไง รู้ไหมว่าบัตรมันหายากแค่ไหน หึๆ” ไม่พูดเปล่ายังยกมือขวาขึ้นมาลูบเสยผมขึ้นทำท่าเท่ “อุตส่าห์ได้มาตั้งสองใบ ถึงจะขอไปสิบใบก็เหอะ ต้องเผื่อพวกลูกน้องอะนะ งานนี้ไอ้เฉิน ไอ้กาย ไอ้เทียน อด ฮ่าๆ”

   โซดาพยักหน้า “เหรอครับ ยังดีนะ บัตรพอดีมีให้เราสองคนเลย”

   เออะ

   เดี๋ยวนะ...

   ทวนรูปประโยคเมื่อกี้อีกทีนะครับ

   ‘เหรอครับ ยังดีนะ บัตรพอดีมีให้เราสองคนเลย’

   
.


.

.

ออฟไลน์ ตั่วเจ้เจค

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-8
.
.

...ใครชวนมึง?

   เคยดูซิทคอมไหมครับ... ที่ตัวละครกำลังนั่งคุยๆ ฟังๆ เมาท์ม้อยอะไรกันอยู่ดีๆ ก็เหวอเงิบจนตกเก้าอี้

   นั่นแหละครับ ท่ากูเลยครับ

   หาญศักดิ์หันไปมองหน้าโซดาที่ยิ้มแต้ใส่ตัวเองอยู่ พอทันทีที่เขาหันหน้าไปหา เด็กหนุ่มก็ยักคิ้วใส่จึ้กๆ

   “ปกติพี่ต้องไปกับลูกน้องเป็นสิบเลยสินะครับเพื่อรักษาความปลอดภัย ไม่เป็นไรนะครับ ผมไปด้วยเหมือนมีกองทัพทั้งกองทัพ”

   “ฮะ-เฮ้ย มึง... รู้จักคาราบาวรึเปล่า อายุมึงเท่าไหร่เอง ไม่รู้จักไปดูมันไม่สนุกนะ”

   ปัง!!!

   เสียงของมือหนาแบบนักมวยขั้นเทพที่ตบโต๊ะเสียงดังสนั่นทำเอาหาญศักดิ์สะดุ้งเฮือก คิ้วของเด็กหนุ่มกระตุก

   “ดูถูกกันเกินไปรึเปล่าครับ ผมรู้จัก”

   “กูไม่ได้ดูถูกนะ” หาญศักดิ์พูดเร็วปรื๋อ พยายามสกัดกั้นไม่ให้อีกฝ่ายหาทางติดร่างแหไปด้วยกัน “รู้จักแต่ไม่ชอบไปดูก็ไม่สนุกหรอก เดี๋ยวกูไปกับเสี่ยชานก็ได้ อย่าลำบากเลย”

   “พี่ชานไม่ไปหรอกครับ”

   หาญศักดิ์เลิกคิ้ว “ทำไมล่ะ?”

   “เพราะยังไงผมก็จะไป”

   กร๊อบ!

   เสียงหักข้อไม้ข้อมือดังขึ้นขณะที่ใบหน้ายังยิ้มๆ ...ไม่พอ โซดายังหมุนหัวไหล่และคอต่อจนได้ยินเสียงกระดูกลั่น ท่าทางคล้ายเตรียมออกแรงทำอะไรสักอย่าง

   “...” <<< หาญศักดิ์

   “แล้วพี่ก็จะให้ผมไปอยู่แล้ว...”

   “...”

   เด็กหนุ่มเอียงศีรษะปรับองศาการมอง ทอดหางเสียง

   “...เนอะ?”

   “...”

   “หืม?” ริมฝีปากหยักคลี่ยิ้มนิดๆ ยกมือขวาขึ้นเสยเข้าไปในเรือนผมตัวเองแบบสบายๆ “ทำหน้าแบบนี้ ไม่อยากให้ไปหรือครับ...”

   คือ ที่มึงยิ้มมาก็หล่อดีนะ... หล่อมากเลยแหละ

   แต่ทำไมมือที่ขึ้นไปเสยผมที่ปรกตาขวา ถึงค้างไว้เป็นท่าการ์ดของศอกพุ่งวะ...? T-T

   ตั้งศอกพุ่งไม่พอนะครับท่านผู้ชม หลับตาขวาใช้ตาซ้ายเล็งตรงเบ้าตากูเลยอ่ะ เตรียมพร้อมมาก แบบ คือจิกมาเมื่อไหร่นี่นอนนับดาวเพลินแน่ๆ อ่ะ แล้วไอ้ห่านี่ก็ศอกแหลมที่สุดในโลก

   “ยะ...อยากให้ไปสิจ๊ะ” หาญศักดิ์ยิ้มแหย “ยังไงกูก็ต้องเอามึงไปด้วยอยู่แล้ว... เนอะ”

   แล้วกูจะเนอะตามมันทำไมวะเนี่ย...

   ทำไมชีวิตกูต้องตกอยู่ใต้อภินิหารมึงด้วยไอ้ซ.โซดา ทำไมมมมม!!

   “จริงๆ นะครับ พี่เต็มใจใช่ไหม พี่ไม่ได้อึดอัดใช่ไหม ผมไม่ได้บังคับพี่นะครับ” น้ำเสียงของเด็กหนุ่มใสซื่อ แต่มืออีกข้างที่เอื้อมมาจับบ่าของหาญศักดิ์ดูไม่ยักกะใสซื่อตาม มันล็อกตำแหน่งเอาไว้ไม่ให้เป้าหมายเคลื่อนที่ บีบเสียจนผิวเนื้อขึ้นเป็นรอยแดง

   ...อีผัวเผด็จการ... อีเกย์ถึก... อี...อี...อีเหี้ย! บอกมานะ มึงเป็นญาติกับฮิตเลอร์ผู้ก่อสงครามโลกครั้งที่สองใช่ไหม แล้วมึงก็เลยมาเป็นนักมวยเพื่อปลดปล่อยอารมณ์ดาร์กในตัว

   อีโซเลอร์!

   “ตะ...เต็มใจมากเลยจ้ะ”

   “ใจดีจังเลยครับ” มือที่ตั้งการ์ดศอกพุ่งไว้ตวัดลงมาโอบแทน ส่วนอีกมือที่จับไหล่ก็ลากอีกฝ่ายบนเก้าอี้ล้อเลื่อนให้เข้าไปประชิดตัวเอง จมูกโด่งกดลงบนแก้มของเสี่ยหนุ่มที่มีไรเคราน้อยๆ “เราจะได้ไปเดทกันด้วย ไปดูคอนเสิร์ตคาราบาวนี่ต้องเตรียมตัวเหมือนดูคอนเสิร์ตเกาหลีไหมอ่ะครับ ต้องซื้อแท่งไฟรึเปล่า...”

   ซื้อสิ...

   ซื้อไว้ตีหัวมึงไง ไอ้ผีห่า!!


:::METAL TERMINAL:::

   ทำใจครับพี่น้อง...ทำใจเท่านั้น...

   ทำใจแรงงงงงงงงง!!!

   หาญศักดิ์ที่สวมเสื้อยืดกางเกงยีนส์กำลังนั่งอยู่ข้างเบาะคนขับโดยมีผัวอภินิหารหน้าเดิมขับรถให้ เสี่ยชานโวยวายบ้านแตกตอนที่รู้ว่าเขาหาบัตรได้สองใบแต่ไม่ยอมให้อีกใบกับเจ้าตัว จนเขาทนไม่ไหวจึงพรั่งพรูถึงสิ่งที่เกิดขึ้น บอกว่าถ้าอยากได้ก็ให้มันไปขอโซดาเอง แล้วผลก็อย่างที่เห็น...ไอ้เพื่อนบ้านั่นจับบ่าเขา ทำสีหน้าเข้าอกเข้าใจโลก ก่อนจะตอบว่า

   'อ๋อ งั้นก็ไม่เป็นไรหรอก... ไม่ไปก็ได้ กูเป็นผู้ใหญ่ต้องเสียสละให้เด็ก'

   แหม เหตุผลดีเนาะ คนดีจั๊งเพื่อนกู

   กลัวตีนมันก็บอกมาตรงๆ สิวะ! บอกมาแบบแมนๆ เล๊ย! (อย่าปล่อยให้กูดูติ๋มคนเดียวดิ T-T)


   ดูคอนเสิร์ตคาราบาวไม่เหมือนดูคอนเสิร์ตวงเกาหลี ไม่ต้องเตรียมแท่งไฟ ไม่ต้องอังกอร์ ไม่ต้องทำโปรเจ็กต์ ไปเพื่อเสพดนตรีล้วนๆ ฉะนั้นเขาก็ควรที่จะได้สนุกสนานครื้นเครงปล่อยผี โดยที่ไม่มีผีห่าตามไปสิงร่างอยู่ข้างๆ แบบนี้สิถูกไหม...

   เอาวะ มันก็มาแล้วอะนะ ปลงซะเถอะ

   อย่างที่บอก

   ทำใจแรงงงงงงง!!

   “นี่ กูสงสัยจริงๆ นะว่ามึงจะดูแล้วอินเหรอ ถ้ามาทำให้กูกร่อยนี่กูด่านะ กูนี่ฟังเพลงคาราบาวมากตั้งแต่สมัยยังเป็นม้วนเทป จริงจังมากขอบอก”

   โซดาที่ผิวปากอยู่ยักคิ้วหลายจึ้กทั้งที่ยังมองทางข้างหน้า

   “รู้สิครับ ผมรู้จักคาราบาวแน่นอน ถ้าไม่เชื่อพี่ก็ลองถามมาสิ”

   หาญศักดิ์ยกมือกอดอกแล้วเชิดหน้าขึ้น “...มึงจะให้กูลองภูมิมึงว่างั้น?”

   “ครับ”

   โซดายิ้มยักคิ้วท้าทาย หาญศักดิ์มองเสี้ยวหน้าหล่อเหลาอย่างหมั่นไส้แล้วลองถามคำถามแรกหยั่งเชิง

   “ใครเป็นหัวหน้าวงคาราบาว”

   “แอ๊ดไงครับ ยืนยง โอภากุล”

   อุ้ย รู้ชื่อจริงด้วยอ่ะ... ไม่ธรรมดาวะเฮ้ย

   โอเคๆ คำถามอาจจะง่ายไป ใครๆ ก็ตอบได้ทั้งนั้นแหละ

   “แล้วอัลบั้มไหนของคาราบาวพีคสุด เพลงไหน?” หาญศักดิ์หยั่งเชิงต่อ คำถามนี้ความยากเพิ่มเลเวลมาอีกหลายขั้นเลยทีเดียว ดูจากวัยแล้วยังไงโซดาก็ไม่ทันช่วงคาราบาวดังระเบิดเป็นพลุแตกหรอก...

   เด็กหนุ่มยิ้มมุมปาก “เมดอินไทยแลนด์ (Made in Thailand) อัลบั้มนั้นขายเทปได้ห้าล้านตลับครับ”

   เฮ้ย มันรู้ด้วยอ่ะ!

   หาญศักดิ์อึ้งไปในบัดดล แม่เจ้าโว้ยมันรู้จริงๆ ด้วย! รู้เยอะเกินกว่าที่คนปกติทั่วไปจะรู้ถ้าไม่ใช่แฟนเพลง โซดาที่ตอบเสร็จยักคิ้วรัวๆ มีรอยยิ้มเคลือบพรายบนใบหน้าขณะขับรถ

   “มีอะไรถามอีกไหมครับ ถามมาเลย ถามมา อ๋อ ชื่อวงคาราบาวนี่เป็นภาษาฟิลิปปินส์ครับ แปลว่าควาย ตอบไว้ก่อนเผื่อถาม”
   ชะเฮ้ย!

   ดิสอิส...ดิสอิสเดอะว๊อยยยยยยยยซ์ !??? (ไม่เกี่ยว)

   หาญศักดิ์เบิกตากว้าง พร้อมๆ กับที่เด็กหนุ่มผิวปากเพลงหนุ่มบาว-สาวปานออกมาอย่างอารมณ์ดี

   “มึง...มึงเป็นแฟนเพลงคาราบาวเหรอ”

   “อ่าฮะ...” โซดายักไหล่ ยังคงยิ้มกริ่ม “จะว่างั้นก็ได้ครับ”

   “แล้วทำไมไม่บอกกูล่ะหา!”

   เสี่ยหนุ่มตีเพียะไปที่ต้นแขนล่ำของคนขับรถจำเป็นทันที โซดาร้องโอยๆ เบี่ยงตัวหลบมือทำเอาอีกฝ่ายหมั่นไส้หนักกว่าเดิม

   โฮย ไอ้ผีห่านี่ ปล่อยให้กูเซ็งอยู่ได้ตั้งนาน

   “ก็พี่ถามแค่ว่าผมรู้จักไหมนี่ครับ ผมก็ตอบว่ารู้จัก พี่ไม่ได้ถามว่าชอบหรือเปล่า...”

   “ไอ้ผีห่า! มึงก็ควรจะบอกกู ไม่ใช่ให้กูนั่งคิดเองเออเอง”

   หาญศักดิ์ยังคงชกตีแขนเด็กหนุ่มไม่หยุด อีกฝ่ายก็ยังคงเบี่ยงตัวหลบร้องโอดโอยเหมือนเดิม แต่จะหลบไปไหนได้ในเมื่อพื้นที่รถมันก็มีแค่นี้ โซดาไม่อาจลบรอยยิ้มไปจากใบหน้าได้เลย

   “อย่าตีสิครับ โอย...เจ็บจังเลย ยอมแล้วครับ โอ๊ย...”

   “ไอ้ผีห่า!”

   “ผมยอมแล้ว...ยอมทุกอย่างแล้วครับพี่...โอย...เดี๋ยวคืนนี้ไม่สะกิดก็ได้”

   กึก!

   จริงเหรอ

   “...แต่ขึ้นคร่อมเลย”

   “กวนตีน!!!”

   หาญศักดิ์ด่าออกไปเต็มปากเต็มคำแล้วตีต่อทันทีทำเอาโซดาหัวเราะลั่น ชีวิตนักมวยเนี่ยนะจะไม่รู้จักเพลงเพื่อชีวิต โดยเฉพาะวงในตำนานอย่างคาราบาว... อันที่จริงพี่หานต่างหากที่ประเมินเขาต่ำไป เขาไม่เหมือนวัยรุ่นคนอื่นๆ เสียหน่อย

   หาญศักดิ์ที่แก้มทั้งสองข้างแดงร้อนยังคงระดมมือใส่แขนคนขับรถไม่หยุดยั้ง โซดาก็เอาแต่ยิ้มแล้วร้องโอดครวญไปเรื่อยๆ เขาก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงต้องยิ้มกว้างจนปวดโหนกแก้มขนาดนี้ ดวงตาคมหยีลงทั้งสองข้าง มีแววหวานเชื่อมอยู่ในนัยน์ตาเต็มเปี่ยม

   พี่หานตีน่ะไม่เจ็บหรอก...

   ...แต่รู้สึกดีมาก

   มากจริงๆ...

   ยิ่งตีเหมือนแฟนหยอกล้อกันแบบนี้ โซดาไม่รู้จะพูดยังไง

   ...แต่เขาชอบที่สุดเลย...

   “ก็ผมกลัวถูกหาว่าพูดมาก ตอบเกินที่ถูกถาม ผมเรียบร้อยนะครับพี่”

   “กวนตีน...กวนตีนมากอ่ะ!!”

   หาญศักดิ์สะบัดหน้าไปอีกทางอย่างหงุดหงิด โดนเด็กถอนหงอกตลอด ทำอะไรก็ไม่ได้!

   “โอ๋ๆ ไม่งอนนะครับ...นะครับ...น้า”

   โซดาเอียงศีรษะไปซบไหล่คนที่นั่งอยู่ข้างกัน แต่หาญศักดิ์ก็ดันหัวเขาออกอย่างรุนแรงและไร้ความปรานี

   “ไปไหนก็ไปเลยมึง!”

   “จะไปไหนได้ละครับ ตัวก็อยู่นี่ ใจก็อยู่ข้างๆ...ผมเป็นคนทำอะไรตามใจตัวเอง ไปไหนไม่ได้หรอก”

   อ๊ากกกกกกกก!

   หาญศักดิ์อ้าปากพะงาบ ช็อกจนขากรรไกรค้าง ใบหน้าแดงลามตั้งแต่หน้าผากไปถึงลำคอ จนมันตัดกับสีเสื้อสีดำชัดเจน

   มึง... มากเกินไปแล้วนะเว้ย...

   แล้วกู... กูเขินมากอ่ะอีเชี่ยเอ๊ยยยยยย!!!!

   โว้ยยยยยยย

   “ไอ้บ้า!!!”

   หาญศักดิ์ตะโกนลั่นรถ ก่อนจะซบหน้าเข้ากับฝ่ามือตัวเอง คือเขิน...คือเขินมาก... ไม่ทันตั้งตัว โอเค กูยอมรับแล้วนะว่าเขิน ฉะนั้น จบนะ อย่าแซวกู ขอร้อง คนอ่าน บอกแล้วไง อย่าแซวกู๊ววววว!

   มึงเปลี่ยนฉายาจากซ.โซดาเป็นส.เสี่ยวดาเหอะ

   แล้วทำไมกูต้องมาอายเพราะมุกเสี่ยวๆ ควายๆ แบบนี้ด้วย!

   น้ำตาจะไหลครับ...แต่มันก็ไม่ไหล...

   เพราะกูเขินอยู่!

   ฮือออออออออ

   หัวใจของเสี่ยหนุ่มเต้นดังคับโพรงอก ไม่อยากจะเชื่อแต่มันทั้งเขินทั้งรู้สึกดีมากจริงๆ เขาผ่อนลมหายใจเข้าออกในอุ้งมือ พยายามตีสีหน้านิ่งเรียบสุดชีวิต ก่อนจะค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมาจากฝ่ามือตัวเอง

   เพียงเพื่อที่จะได้ปะทะกับสายตากับโซดา...ที่มองมาด้วยสายตาวาวหวานอยู่ก่อนแล้ว

   หาญศักดิ์ผงะไปในทันใด รถติดไฟแดงตั้งแต่เมื่อไหร่...เขาไม่รู้ตัวเลย...

   “พี่ครับ...” น้ำเสียงของเด็กหนุ่มแหบพร่า สายตาที่จับจ้องเขาเอาไว้ราวกับตะปูที่ตอกตรึงไม่ให้ขยับไปไหนได้ “น่ารักจัง...”

   ตึกตัก... ตึกตัก... ตึกตัก...

   “ไม่ต้องน่ารักกว่านี้แล้วนะครับ” มือหนาเอื้อมไปสอดใต้กลุ่มผมสีดำ รั้งท้ายทอยอีกฝ่ายเบาๆ ให้ใบหน้าเขยิบเข้าใกล้ ปลายจมูกของทั้งคู่แตะกันอย่างแผ่วเบา

   ตึกตัก...!! ตึกตัก...!! ตึกตัก...!!

   “แค่นี้...ผมก็หลงพี่จนโงหัวไม่ขึ้นแล้ว...”

   ตู้มมมมมมมมมมมม!






--------------------------------
METAL TERMINAL
100%

ตู้มมมมเสี่ยหานตายแหล่วววว

TBC

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
จะได้ไปดูไหมเนี่ยกลัวจะระเบิดตัวเองตายก่อนนะซิ

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ namkang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ ตั่วเจ้เจค

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-8

ยกที่ ๑๙
   
   
Can I lay by your side?

Next to you, you

And make sure you're alright

I'll take care of you
I don't want to be here if
I can't be with you tonight

[ ผมขอทิ้งตัวลงนอนเคียงข้างพี่ได้ไหมครับ
ขอแค่อยู่ข้างๆ พี่... แล้วดูว่าพี่จะโอเคหรือเปล่า...
ผมจะดูแลพี่เองนะครับ
...และผมก็คงไม่อยากอยู่ตรงนี้เลยสักนิด ถ้าไม่มีพี่อยู่ด้วยข้างๆ กัน ]
   
(Lay me down – Sam Smith :  แปลเพลงเป็นเวอร์ชัน ศาสดาในเรื่อง ‘METAL TERMINAL พยัคฆ์คว่ำกวาง' โดยเจค)   
   
   
:::METAL TERMINAL:::

   อย่าได้ถามผมนะครับท่านผู้ชมว่าทำยังไงต่อหลังจากที่ตัวระเบิดกลางสี่แยกไฟแดงก่อนถึงโดมแสดงคอนเสิร์ต

   ก็ตวาดด่าไอ้ผีห่านั่นสุดกล่องเสียงน่ะสิ!

   ถามว่าหน้าแดงมากไหม

   ตอบเลย ไม่!

   ...ไม่เหลือสีเนื้อบนใบหน้ากูเลย...

   โซดาที่ถูกด่าเพียงแค่ส่งสายตาวิบวับมาให้ก่อนจะหันไปขับรถต่อ หาญศักดิ์บิดไม้บิดมือกัดริมฝีปากตัวเองซ้ำๆ เขากระแทกตัวพิงกับเบาะอย่างหมดแรง นี่มันแย่ชะมัด...แย่ตรงที่เขารู้สึกดีนี่แหละ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้นะ เขาเกลียดไอ้ผัวนักมวยสัดหมานี่จะตายไม่ใช่หรือไง

   โอ๊ย...ทำไม!

   ทำไมในใจมันถึงกู่ร้องออกมาว่าไม่ใช่วะ!

   คิดเสร็จก็ทึ้งหัวตัวเองด้วยสองมือขณะนั่งอยู่ที่เก้าอี้ม้านั่งยาวๆ ที่มีอยู่หลายจุดรอบๆ โดมคอนเสิร์ต บรรดาแฟนเพลงคาราบาวเดินกันให้ว่อน ทั้งเพนท์สัญลักษณ์คาราบาวบนหน้า รูปธงชาติบ้าง รวมไปถึงรูปควายต่างๆ หาญศักดิ์เองได้แต่นั่งรอระหว่างที่โซดาขอตัวไปเข้าห้องน้ำ

   เอาล่ะ สงบสติอารมณ์ซะไอ้หาน ...มึงคือเจ้าพ่อเงินกู้ผู้มาดแมนและเปี่ยมไปด้วยแสนยานุภาพฉกาจฉกรรจ์ ฉะนั้น จะปล่อยให้ผัวเกย์เบบี้บอยมาทำให้สั่นไหวแบบนี้ไม่ได้... จะหล่อจะเอ็กซ์จะแฮ่กแค่ไหนก็ต้องห้ามใจ รู้ไหม!

   แต่ผัวเกย์เบบี้บอย...

   ...แม่งแซ่บจริง

   หน้าก็หล่อ...เรียนก็เก่ง...เอาก็เก่ง...มวยก็เด็ด...

   “อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก!!! กรรม! กรรม!!”

   หาญศักดิ์ลุกขึ้นมาแหกปากร้องโวยวาย ยิ่งคิดว่าจะไม่คิดแม่งยิ่งคิด! ฮือ งงกันไหม เออ อย่างงเลยนะ เพราะกูก็งงตัวเองครับพี่น้อง!

   พรึ่บ!

   บรรดาแฟนเพลงคาราบาวต่างหันมามองที่หาญศักดิ์เป็นตาเดียว อย่างที่บอก นี่มันไม่ใช่คอนเสิร์ตวงเกาหลีหรือเลดี้กาก้า คนที่มาดูร้อยละเก้าสิบเปอร์เซนต์เป็นพวกผู้ชายหน้าเถื่อนอุดมการณ์จัด แต่ละคนมีรังสีที่แผ่ออกมาว่าพร้อมจะประเคนตีนใส่ใครก็ได้ที่ทำตัวอ้อนมืออ้อนเท้า และตอนนี้ การที่มีไอ้บ้าคนหนึ่งแหกปากออกมาดังลั่นก็เป็นเป้าหมายได้อย่างดี ผู้ชายคนหนึ่งถึบกับดับบุหรี่ที่สูบอยู่ในมือ หาญศักดิ์ชะงักกึก

   “กะ...กะ...กรรม...” ลิ้นของเสี่ยหนุ่มพันกันยุ่ง “กรรม... กำลังใจ จากใครหนอ ขอเป็นทาน ให้ฝันให้ใฝ่ !”

   หาญศักดิ์ยกกำปั้นข้างหนึ่งขึ้นชกอากาศเป็นจังหวะแล้วร้องเพลงเพื่อชีวิตเสียงดังลั่น ทุกคนเพ่งมาที่เขาเป็นตาเดียว ก่อนชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งจะค่อยๆ ก้าวเข้ามาช้าๆ...

   เชี่ย!

   ผัวกู...ผัวกูอยู่ไหนครับวินาทีนี้!!

   คัมทูมีนาวเบบี้บอย!!!

   ชายคนที่เดินนำมาก่อนใครเพื่อนเงื้อมือขึ้นสูง หาญศักดิ์ตาโต เขาเตรียมพร้อมกันรับทันที

   หากแต่...

   “ให้ดวงใจ ลุกโชนความหวัง...!”

   ชายหน้าเถื่อนคนนั้นกลับมาต่อท่อนที่หาญศักดิ์ร้องไว้ และยังชูมือขึ้นเป็นจังหวะในอากาศ คนที่เหลือพากันประสานเสียงร้องตามอีกเป็นคลื่นมหาชนอันน่าอัศจรรย์ ในที่สุดเสียงร้องเพลงกำลังใจก็ดังกระหึ่มไปทั่ว หาญศักดิ์ร้องคลออย่างเมามันฮึกเหิมไปกับชาวบ้าน ในที่สุดวิญญาณร็อกเกอร์ในตัวก็เข้าสิงร่าง (อีกแล้ว) หาญศักดิ์สวี้ดสว้าย เสียงดังกึกก้องกว่าใครเพื่อน

   “...ดั่งหยาดฝน บนฟากฟ้าไกล ที่หยาดรินสู่พื้นดินแห้งผาก !”

   จัดเต็มมากครับ บอกเลยว่างานนี้เต็มมาก เสี่ยหานคนแมนจะไม่ทนกับเรื่องร้องเพลง

   หาญศักดิ์ร้องเพลงเต็มเสียง ทั้งสีหน้าท่าทางใส่เต็มเหนี่ยว หน้าดำหน้าแดงร้องเพลงอย่างเข้าถึงอารมณ์จนคนล้อมเป็นวงยกให้เป็นเจ้าแห่งเวที จนในที่สุด เพลงก็จบลง

   “ขอบคุณมากครับ ขอบคุณครับ”

   ทุกคนหันมาจับไม้จับมือกอดกันราวกับเป็นพี่น้องกันมาตั้งแต่ชาติปางไหน หาญศักดิ์เองก็เป็นไปกับเขาด้วย ความปลาบปลื้มก่อเกิดไปทั่วร่างเมื่อได้ร่วมทำในสิ่งดีๆ (?) กับคนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน น้ำตาผมถึงกับจะไหลเลยนะครับ มันซาบซึ้ง!

   หาญศักดิ์กอดคนนั้นคนนี้ที จนกระทั่งทุกคนจากกลับไปยังที่ของตัวเอง และอย่างเชื่องช้าแต่นอน...ความจริงก็กระแทกเข้าร่างเขาเหมือนวัวบ้าคลั่ง

   เมื่อตะกี้...กู-ทำ-อะ-ไร-ลง-ไป !!

   เจ้าพ่อเงินกู้มองซ้ายมองขวา ค่อยๆ เฟดตัวถอยแบบเนียนๆ ไปนั่งที่ม้านั่งตัวเดิม ทำไมตอนนี้มันรู้สึกอายสายตาชาวบ้านขึ้นมาวะเนี่ย ทีเมื่อกี้มือไม้แข่งกันออกให้ยุ่งอย่างกับเล่นงิ้ว รำมวยจีนแบบที่ป๊าเคยสอนไปสิบกระบวนท่า เขามันก็เป็นแบบนี้ทุกที มิวสิคมาเป็นไม่ได้ หลุดตลอด

   “เจ้ย! มาแล้วเรอะ”

   ร่างสูงที่นั่งขรึมกอดอกอยู่บนม้านั่งอย่างควบคุมอารมณ์กัดมุมปาก ดูคล้ายพยายามสะกดกลั้นอะไรอยู่

   “อือ...”

   “มึง...มาตอนไหนน่ะ”

   ลำคอของหาญศักดิ์แห้งปาก โซดายังคงพยายามตีหน้าให้นิ่งที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่มุมปากของเด็กหนุ่มก็เอาแต่กระตุกยิบๆ จนคนมองสังเกตได้

   “ไม่นานหรอกครับ...”

   เอาแล้วครับ...สัญญาณอันตรายร้องเตือนกูดังมากครับ

   เด็กหนุ่มตอบเสียงแผ่วๆ เพราะพยายามสะกดกลั้นเสียงหัวเราะ

   “แต่ก็ทัน...ทันตั้งแต่ตอนที่พี่ร้องท่อนแรกเลยครับ”


   อร๊ากกกกกกกกก ไม่จริงงงงงงงงงงงงงงงงง!!
   
   
:::METAL TERMINAL:::   
   
   
   หาญศักดิ์วิ่งหนีอายเข้าไปในห้องน้ำของโดมแสดงคอนเสิร์ตก่อนจะปิดประตูห้องส้วมขังตัวเองอยู่ด้านใน โซดาที่วิ่งตามมาติดๆ ทุบประตูปังๆ

   “พี่ครับ อีกสิบนาทีเขาจะเปิดโดมแล้วนะครับ ออกมาเถอะ”

   “มึง...มึงออกไปก่อน...กูไม่พร้อม...” หาญศักดิ์ที่เสียงสั่นๆ ตะโกนมาจากอีกฟากของประตู

   “ทำไมล่ะครับ” เด็กหนุ่มมีรอยยิ้มบนใบหน้า “หรือพี่ต้องการกำลังใจก่อน... กำลังใจ จากใครหนอ~ ใช่ไหมครับ”

   “ไปให้พ้นหน้ากู!”

   อีห่า กูอายมึงนี่แหละ กูไม่ได้อายใครเลยโว้ย!!

   อาย...อายเหี้ยๆ... ชีวิตนี้ไม่มีลุคให้คีพอีกแล้วอ่ะ คือแบบ ทุกอย่างพินาศสันตะโรกาไปหมดด้วยน้ำมือตัวเอง... โครงการโลกสวยด้วยมือเราต้องเปลี่ยนชื่อเป็นโลกพังด้วยมือกูนี่แหละ...

   “อย่าคิดมากเลยครับพี่”

   เสียงนั้นดังมาจากข้างบนทำเอาหาญศักดิ์ต้องเงยหน้าขึ้นไป ก่อนจะพบคนตัวสูงที่ปีนประตูห้องน้ำแล้วเท้าตัวค้ำไว้ข้างบน หาญศักดิ์ตาเหลือก จะทรงตัวอยู่ท่านั้นได้ต้องแข็งแรงมาก

   ซึ่ง...โซดามันก็แข็งแรงจริงๆ

   รู้ได้ไงน่ะเหรอ

   ...ก็พิสูจน์อยู่บ่อยไป

   คิดแค่นี้ก็หน้าแดงขึ้นมาจนแทบจะกลายร่างเป็นกวนอูได้ หาญศักดิ์เม้มปากแน่นจนใบหน้าตึงเรียบขัดกับสีหน้าที่จัดจ้าน

   “เถอะน่า...ออกมาเถอะครับ ถ้าพี่ไม่ออกมาผมจะพังกลอนประตูนะครับ”

   “อือ...ออกแล้ว...”

   ในที่สุดหาญศักดิ์ก็ยอมตอบรับอย่างว่าง่ายเพราะไร้ทางเลือก โซดายิ้มพอใจ ก่อนจะกระโดดลงจากการเกาะบานประตู เสี่ยหนุ่มปลดล็อกแล้วก้าวออกมาจากห้องส้วม

   โซดายื่นมือขวาออกไปตรงหน้าตัวเอง

   “ไปกันเถอะครับพี่...ไปดูคอนเสิร์ตกัน...”

   หาญศักดิ์นิ่งอยู่กับที่ มองมือนั่นอย่างชั่งใจอยู่อึดใจใหญ่ ก่อนจะตวัดสายตาขึ้นไปมองใบหน้าหล่อเหลาของเด็กหนุ่ม แล้วตวัดสายตากลับไปมองซ้ำที่มือหนานั่นอีกครั้ง

   ดูก็รู้ว่าโซดากำลังลุ้น... ลุ้นใจแทบขาดว่าเขาจะแตะมือลงไปหรือไม่...

   แล้วเขาที่ยืนอยู่ตรงนี้ ก็รู้สึกว่าแทบจะได้ยินเสียงหัวใจของโซดาด้วยซ้ำ

   “อือ ไปสิ ไปดูกันสักที”


   ทั้งสองคนเดินออกจากห้องน้ำเป็นจังหวะพอดีตอนที่ได้ยินเสียงประกาศตามสายว่าโดมเปิดแล้ว หาญศักดิ์ยื่นตั๋วสองใบให้พนักงานตรวจสอบ แล้วทั้งคู่ก็ก้าวเข้าไปในโดมมืดๆ ด้วยกัน

   “ผมแอบตื่นเต้นนะครับพี่รู้ไหม” โซดาเสียงสั่นนิดๆ บ่งบอกว่าตื่นเต้นจริงๆ ดวงตาคมกวาดมองเวทีเบื้องหน้า “ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้มาดูคาราบาวเล่นสดๆ แบบนี้ แถมเป็นคอนเสิร์ตใหญ่อีก”

   “อีโธ่ ตอนครบรอบคราวที่แล้วกูก็มาดู มาดูตลอดอ่ะ กูไม่ตื่นเต้นแล้ว” หาญศักดิ์คุยโว

   “เหรอครับ...”

   “เออดิ!” เสี่ยหนุ่มยังคงเกทับ “บรรยากาศวันนี้แม่งก็งั้นๆ แหละ ครั้งที่แล้วยังเจ๋งกว่าอีก ไม่อยากจะบอก”

   โซดายิ้มมุมปาก

   “ก็มือพี่เหงื่อซ่กจนเหนียวขนาดนี้... ผมเลยนึกว่าตื่นเต้นเหมือนกันซะอีก”


:::METAL TERMINAL:::   

   “เขาไม่ได้หลอกเรากิน~ หลอกเรานั้นหลอกตัวเอง~ !”

   หาญศักดิ์กับโซดาแหกปากร้องเพลงคาราบาวกันเสียงดัง จากที่จับมือกันไว้ก็เปลี่ยนมาเป็นกอดคอแบบลูกผู้ชาย ทั้งคู่เมามันไปกับมนต์เพลงของคาราบาว ทั้งเต้นทั้งร้องกันสุดเหวี่ยง คนในหลุมบัตรยืนค่อนข้างแออัดมากเหมือนปลากระป๋อง แต่ถึงกระนั้นบรรดาสาวกคาราบาวก็ไม่ประหวั่น ต่างพากันเสพดนตรีจนหน้าแต่ละคนอย่างกับเมายาเสพติด เสียงในคอนเสิร์ตดังจนต้องตะโกนคุยกัน

   “มาแล้วครับ! บัวลอยมาแล้ว!!” โซดาแผดเสียง แต่ก็ไม่อาจดังไปกว่าเสียงเครื่องดนตรีในคอนเสิร์ต

   “เออ!!” หาญศักดิ์ตะโกนตอบ

   

   บัวลอยเจ้าเพื่อนยาก ทำไมจากข้าเร็วเกินไป บัวลอยไปอยู่ที่ไหน เคยรู้บ้างไหมโหนกคิดคำนึง ถึงบัวลอยยยยยย !!!!



   ทีนี้ก็ผีสิงกันทั้งหมดทั้งคอนเสิร์ต ทั้งกระโดด ทั้งโยกหัว ทั้งเต้น ทั้งร้อง โซดากับหาญศักดิ์ที่กอดคอกันเหงื่อเปียกเต็มตัว ทั้งคู่เมามันสุดขีด เสียงของแอ๊ด คาราบาวสดๆ ช่างทำให้คนฟังหลั่งอะดรีนาลีนได้ดีเหลือเกิน

   
   โลกนี้มีสักกี่คน เป็นบัวหลุดพ้นดังคนชื่อบัวลอยยยยย !!!


   “เฮ้ยไอ้เหี้ย! ใครเหยียบตีนกูวะ!”
   ชายคนหนึ่งคำรามขึ้นมาเสียงดังลั่น แต่ทั้งหาญศักดิ์และโซดาไม่สนใจ ยังคงแหกปาก กระโดดโลดเต้น ชูไม้ชูมือเป็นสัญลักษณ์คาราบาวกันอย่างสนุกสนาน ไม่รับรู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นรอบตัว


   บัวลอยยยยยยยยยยยย !!!!!


   “บัวลอยยยย เจ้าเพื่อนยากกก !!”

   หาญศักดิ์แหกปากดังมาก เสียงสูงของพี่แอ๊ด คาราบาวกรีดใจกูมากครับ โอ๊ย มันโว้ยยยยย นี่แหละชีวิต! แบบนี้แหละมีคอนเสิร์ตกี่ทีถึงต้องมาดู สุดยอด มันสุดยอด!!

   ฟึ่บ!

   กำลังเมามันอยู่ดีๆ หาญศักดิ์ก็ต้องงงเมื่อถูกผลักหัวอย่างแรงจากด้านหลังจนคว่ำไปข้างหน้าแบบไม่ทันตั้งตัว แขนของเขาที่กอดคออยู่กับโซดาหลุดพลัวะออกมา หาญศักดิ์รีบหมุนตัวหันหลังไปเผชิญหน้าทันที ใบหน้าที่ดำคล้ำเครียดอย่างโกรธสุดขีดของชายคนหนึ่งอยู่ห่างจากเขาไปไม่ถึงเมตร

   “มึงใช่ไหมที่เหยียบตีนกู! ไอ้สัดหมา!!”

   เปรี้ยงง!!

   “โอ๊ยยย!!”

   ไม่พูดไม่จาให้มากความชายหน้าเหี้ยมคนนั้นซัดหมัดใส่หาญศักดิ์ที่ยังงงๆ เต็มเหนี่ยวทันที หาญศักดิ์หน้าหงายร้องอุทานลั่นเซไปชนกลุ่มคนด้านหลังตัวเองที่รวมกันเป็นแพ เล่นเอาคนล้มทับกันระเนระนาด ฝูงชนแตกฮือ

   “เฮ้ยไอ้เหี้ย ล้มทับกูทำไมวะ!!”

   “ไอ้ควายที่ไหนเหยียบตีนกู!!”

   “มองหน้ากูมีปัญหาเหรอวะ!!!”

   “อย่าอยู่เลยมึง!!”

   ดนตรีเพลงบัวลอยยังคงเล่นอย่างกราดเกรี้ยวกระตุ้นความป่าเถื่อนในตัวคนฟัง เกิดการตีกันให้วุ่นวายในหลุม หาญศักดิ์ที่เดือดจัดกระโจนกลับไปฮุกหมัดขวาจังๆ ใส่กรามผู้ชายคนนั้น หลุมบัตรยืนชุนละมุนสุดขีด อย่างที่บอกมวยเขาเองก็ไม่เป็นรองใคร ถึงเขาจะไม่ได้สู้แบบมวยมีครู แต่เขาสู้แบบคนที่ต้องเอาชีวิตรอด ยิ่งประกอบกับการได้เรียนพื้นฐานมาบ้างแล้วทำให้หาญศักดิ์เคลื่อนไหวได้ดีขึ้น เขาซัลโวทั้งหมัดทั้งเท้าใส่คนที่มาหาเรื่องไม่ยั้ง อารมณ์หาญศักดิ์พวยพุ่งสุดฤทธิ์ โซดาถูกฝูงชนกลืนจนหายไปจากระยะสายตา หรือบางที เขาอาจจะแค่ไม่ได้สนใจมองหามัน

   “มึงสู้สิวะ! มีดีแค่นี้หรือวะ ไอ้ห่าเอ๊ย!!” เสี่ยหนุ่มแผดเสียง

   “ไอ้เหี้ย พวกมึงมาช่วยกูเดี๋ยวนี้!! ไอ้เตี้ยนี่รนหาที่ตายอยู่! กูอยู่ตรงนี้โว้ย!”

   ชายที่ถูกหาญศักดิ์อัดจนเริ่มพ่ายแพ้ตะโกนเรียกพวก ผู้ชายราวๆ เจ็ดคนตะเกียกตะกายฝ่าคลื่นมนุษย์เข้ามาทันที ความวินาสสันตะโรกาบังเกิดไปทั่ว แม้แต่พวกการ์ดที่ดูแลคอนเสิร์ตก็ยังคุมไม่ได้ พวกการ์ดแหกปาก พยายามแยกมวยคู่นั้นคู่นี้ แต่ก็ไม่เป็นผล และยังถูกกลืนจนหลุดหายไปในคลื่นมนุษย์

   “หมาหมู่!!” หาญศักดิ์คำรามลั่น ถ่มน้ำลายลงบนพื้น “แน่จริงมึงอย่ารุมสิวะ!!”



   บัวลอยยยยยยยยยยยย !!!!!


   “ยำมัน!! ยำมันเดี๋ยวนี้!!”

   “อั่กกกก!!”

   หาญศักดิ์ร้องเมื่อถูกใครคนหนึ่งเตะเข้าที่ซี่โครงอย่างไม่ทันตั้งตัว รู้ตัวอีกทีเขาก็กำลังนอนคลุกฝุ่นอยู่บนพื้น ไอ้เหียกคนหนึ่งง้างตีนแบบเห็นมาไกลตั้งแต่สุไหงโกลก หาญศักดิ์ขดตัวเข้าหากันเป็นไส้เดือนหลับตาปี๋

   “อ๊ากกกกกก!!!”


.
.
.
.


----------------------------------
METAL TERMINAL 50%

ออฟไลน์ lovenadd

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-11
คือมีความฮาน่ะเสี่ย

ออฟไลน์ em1979

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
ไอ้โซดา แกอยู่ไหน ขนาดเต้นๆ อยู่ด้วยกันยังปล่อยให้เมียหายได้
ชิ พึ่งไม่ได้เลย เพลีย ดีแต่ส่งมุกเสี่ยวๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด