METAL TERMINAL พยัคฆ์คว่ำกวาง , [หนังสือมาแล้วค่าา] 5 ต.ค. 60 {สนพ.Hermit} **จบแล้ว
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: METAL TERMINAL พยัคฆ์คว่ำกวาง , [หนังสือมาแล้วค่าา] 5 ต.ค. 60 {สนพ.Hermit} **จบแล้ว  (อ่าน 194128 ครั้ง)

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
โอ๊ยยยยยกูปวดท้องงงงงง ขำจนท้องแข็ง เสี่ยหาญโคตรเปิ่น บ้าบอ กูจี้ 555555 ตลกตอนอีกาบินผ่าน แป๊ก!! โซดาลั่นแรง 55555 //โหยยยน้ำตาลหยดเรี่ยราดตอนบอกคิดถึงกัน อื้ออออออ "คิดถึงเหมือนกัน" เจอโซดารุกไปออกปากไหมละ 5555555 //บทจะสวีทก็ทำยิ้มมแก้มปริ เขิน >///< แต่อย่าปล่อยเสี่ยหาญไว้คนเดียวเถอะว่ะ จะขำตาย คิดทำแต่ละอย่าง นี้เสี่ยเงินกู้ขาโหดหรอว่ะ 5555555555555 ชอบๆค่ะ สนุก รอๆตอนต่อไป

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
เสี่ยหาญนะเสี่ยหาญ ปากแข็งกะสามีเนาะ

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
เสี่ยหานจะฮาไปไหน  :hao7: :hao7:ตลกมากกกกก

ออฟไลน์ nevergoodbye

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
ขอให้โซดามั่นคงกับเสี่ยนานๆ
อย่าทำเสี่ยเสียใจนะ

เสี่ยคะ เสี่ยจะลืมเรื่องผัวเสี่ยเต๊าะสาวไม่ได้นะคะ
สู้ค่ะเสี่ย! o18

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
เสี่ยทำให้เราขำได้ตลอดเลย55555

ออฟไลน์ iaum

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
รอออ ทำไมเราอยากให้เสี่ยหานแกน้อยใจน้องบ้างนร้าา ชีวิตต้องการดราม่า555

ออฟไลน์ omuya

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2023
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-9
55555 โอ๊ยๆๆๆ เจ้าพ่อหาน!!!

ออฟไลน์ ohho99

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-1
พี่หาญจะฮาไปไหนคะ เล่นรัชดาลัยมาก เอาถ้วยนายเอกสุดฮาไปเลยค่ะ
คนเขียนหายไปนาน กลับมาเลยจัดชุดใหญ่ อ่านกันจุใจเลยค่ะ
ออกเล่มเมื่อไรบอกด้วยนะคะ จะเอามานอนกอดสักชุด

+1 กดเป็ดให้กำลังใจคนเขียนค่ะ ^^

ออฟไลน์ ตั่วเจ้เจค

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-8
ยกที่ ๒๘


หลายครั้งที่เธอทำเจ้าชู้ ทั้งๆ ที่เดินอยู่กับฉัน
ต้องหันมองคนอื่น ต้องยิ้มให้คนอื่นอย่างนั้น
มือเธอก็จับที่มือฉัน แต่ตาเธอแอบมองใครคนนั้น
ก็ฉันดูอยู่ ก็เดี๋ยวเธอต้องโดนสักครั้ง

คนอื่นน่ารัก ฉันก็รู้แต่อยากบอกเธอเอาไว้
ว่าคนที่เธอรัก อยู่ตรงนี้ แค่หันมาก็เจอ ไม่เห็นต้องไปมองที่ไหน

มีฉันแล้วยังจะมองหาใครอีก มีฉันแล้วเธอจะไปสนใครอีก
รู้ว่าเธอแค่มอง ก็พอจะเข้าใจ บางทีก็คิดมากไป
กลัวว่าฉันจะไม่ดีเหมือนใครๆ กลัวว่ารักเราที่มีนั้นจางไป
ถึงยังไงก็มีแต่เธอในหัวใจและฉันก็ไม่โกรธ แค่อารมณ์น้อยใจ

[ U got me – Inter Groove ]


:::METAL TERMINAL:::


   “สืบข่าวไปถึงไหนแล้ว...”
   พิชิตเอ่ยเสียงเย็นเยียบในโกดังร้างที่กบดาน รอฟังข้อมูลจากลูกน้องที่จงรักภักดี
   “ตอนนี้ไอ้เสี่ยหานไปดูงานที่ต่างจังหวัดครับเสี่ย แต่ผมมีเรื่องสำคัญมาบอก คนของเราที่แฝงตัวเข้าไปสืบในคฤหาสน์ของมันรู้ข้อมูลลับมาเพิ่ม”
   แววตาของลูกน้องเต้นระริกด้วยความสะอกสะใจ เสี่ยตกอับเลิกคิ้วขวาขึ้น
   “ข้อมูลอะไรของลื้อ?”
   มือหยาบของชายหนุ่มคนรายงานล้วงเอารูปใบหนึ่งออกมา ชายชรารับมาแล้วมองอย่างไม่เข้าใจ เสียงของลูกน้องหนุ่มสั่นเพราะความตื่นเต้นที่ได้รายงานเรื่องนี้
   “นี่คือเมียใหม่ของไอ้เสี่ยหานครับ”
   “ลื้ออย่ามาพูดเพ้อเจ้อ! นี่มันรูปเด็กผู้ชาย!” พิชิตตวาดเสียงกร้าวอย่างไม่สบอารมณ์ ไม่รับรู้สักนิดว่าคนในรูปเป็นใครเพราะกบดานอยู่ชั่วนาตาปี และปกติก็ไม่เคยสนใจข่าวแวดวงกีฬาอยู่แล้ว
   “ใช่ครับ” คนรายงานยังคงมีรอยยิ้มร้ายกาจเต็มใบหน้า “ผู้ชายนี่แหละ ไม่ผิดแน่นอน ผมสาบานได้ ตอนแรกพวกคนใช้ของมันก็ตกอกตกใจกันใหญ่ที่มันเอาเมียตุ๊ดเข้ามาอยู่ในบ้าน”
   “ลื้อมั่นใจแค่ไหน?” เขายังไม่ปักใจเชื่อ เพราะไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีเรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นกับศัตรูตัวฉกาจ ใครๆ ก็รู้กันว่าไอ้เสี่ยหานกับไอ้เสี่ยชานมันเป็นเสือผู้หญิง เจ้าชู้ประตูดินเปลี่ยนสาวกันไม่ซ้ำหน้า ดารานางแบบไฮโซพวกมันก็ควงกันมาแล้ว
   “มั่นใจล้านเปอร์เซนต์ครับ เสี่ยดูนี่” ชายคนพูดล้วงเอารูปออกมาอีกปึก “เป็นรูปจากกล้องวงจรปิดของม่านรูดแห่งหนึ่ง”
   รูปนั้นเป็นรูปที่เด็กหนุ่มในชุดนักเรียนยืนซ้อนติดกับข้างหลังเจ้าพ่อเงินกู้ ก่อนภาพใบถัดๆ มาที่เหลือจะแสดงให้เห็นว่าทั้งคู่เข้าไปในม่านรูดด้วยกัน แล้วก็มีรูปสุดท้าย เป็นรูปของหาญศักดิ์ที่ดูค่อนข้างอ่อนระโหยโรยแรงตอนออกมาจากห้องม่านรูดนั่น
   “ตุ๊ดเด็กนั่นคงเด็ดจนเสี่ยหานหมดแรง”
   “...”
   “เสี่ยดูเวลาบนภาพสิครับ วันนั้นมันเข้าไปกกกันในนั้นกันร่วมสามชั่วโมง ท่าทางจะกลัดมันระหว่างทางจนทนไม่ไหว”
   “...”
   “เห็นว่าตอนนี้ไอ้เสี่ยหานกำลังหลงเด็กคนนี้มาก พากันไประเริงรักที่โรงแรมเมททอลยังไม่กลับบ้านกลับช่องเลย”
   พิชิตหน้านิ่งไปอึดใหญ่ใจอย่างไม่อยากเชื่อ ก่อนจะแสยะยิ้มกว้าง ใบหน้าเหมือนหมูดูเจ้าเล่ห์
   “ไอ้เสี่ยหาน ที่แท้ก็เบี่ยงเบนทางเพศหรอกงั้นรึ ฮ่าๆๆๆๆๆ!! ทุเรศที่สุด! ฮ่าๆๆๆๆๆๆ”
   ลูกน้องทั้งก๊กพลันส่งเสียงหัวเราะร่วมไปกับเจ้านายตามประสานายว่าขี้ข้าพลอย โกดังร้างก้องไปด้วยเสียงแหบๆ ต่ำๆ พิชิตจ้องดูรูปในมือซ้าย มือขวาทุบลงกระป๋องดีบุกเก่าๆ อย่างสะใจจนมันบุบบี้
   “ดี... ถ้าอย่างนั้นทุกอย่างก็ไม่ยาก เราจะเปลี่ยนแผนใหม่ รอมันกลับมากรุงเทพฯ ก่อน ไอ้เสี่ยหาน...อีกไม่นานหรอก...หึๆ”

:::METAL TERMINAL:::


   หาญศักดิ์ที่ดึงฮู้ดคลุมหัวแล้วเม้มปากแน่นจนเป็นเส้นตรงถูกโซดาจูงมือให้เดินไปตรงที่พวกเด็กนักเรียนคนอื่นๆ กำลังสอนเด็กชาวเขาด้วยกัน เจ้าพ่อเงินกู้เดินตามไปอย่างว่าง่าย ไม่อยากจะดีดดิ้นอะไรเพราะกลัวถูกแซวจนต้องขุดพื้นแล้วลงไปนอนหนีอายตามด้วยเอาดินกลบหน้า
   “เฮ้ย เอาใครมาวะนั่น” อินน์ตะโกนเสียงดัง “จับมือด้วยอ่ะ! อะฮิ้วว นี่คือเมียคนที่ให้สัมภาษณ์ลงในคอสโมฯ ใช่ไหมมึง!!”
   ทุกคนตรงนั้นที่ได้ยินส่งเสียงโห่ฮิ้วดังสนั่นตามกันมาเป็นทอดๆ ทันที หาญศักดิ์หน้าม้าน ร้อนฉ่าไปทั้งใบหน้าจนถึงลำคอ
   “อ้าวเฮ้ย ผู้ชายนี่หว่า!!”
   อินน์ตะโกนเสียงดังเมื่อได้เห็นอีกฝ่ายชัดๆ เสียงแซวเงียบกริบทันทีราวกับสั่งได้
   “พี่กู ชื่อหาน” โซดาเสียงเข้ม เอื้อมมือข้างหนึ่งไปดึงฮู้ดที่คลุมศีรษะคนที่ยืนข้างๆ กันออก แต่อีกมือก็ยังคงกุมมือหาญศักดิ์ไม่ยอมปล่อย “คนที่เป็นเจ้าของโรงแรมอ่ะ พี่เขาอายุจะสามสิบแล้ว พวกมึงอย่ามาเล่นลามปาม ยกมือไหว้ขอโทษเลย”
   “ขอโทษ! ขอโทษครับพี่หาน” อินน์รีบยกมือไหว้แทบไม่ทัน หน้าจ๋อยลงไปสุดฤทธิ์ “เมื่อกี้เห็นแต่หน้าแว่บๆ หน้าพี่หวานมากผมเลยนึกว่าพี่เป็นผู้หญิง เล่นไม่รู้เรื่องเลยผม ขอโทษจริงๆ ครับ”
   จากนั้นเด็กหนุ่มทั้งกลุ่มก็พากันกระพุ่มมือไหว้ขอโทษหาญศักดิ์ตามอินน์มาติดๆ หาญศักดิ์จำต้องละมือออกมาจากมือหนาของโซดาเพื่อรับไหว้ทุกคน ร่างสูงตวัดหางตาขวับมามองแบบไม่พอใจทันใด
   เอ้า! ค้อนใส่อีก ไม่งั้นจะให้กูประกบตีนรับไหว้เพื่อนมึงรึไง!
   ดู๊ดู มามองแบบขุ่นเคืองไม่เลิก แถมยังทำปากบู้ คิดว่าน่ารักมากป่ะ? เดี๋ยวพ่อก็จิ้มตาแตก
   “เอ้อ ช่างมันเหอะน้อง อย่าไปซีเรียส” หาญศักดิ์เมินเฉยต่อสายตาเลเซอร์นั่นแล้วพูดกับเหล่าเด็กๆ
   ไม่ใช่ผู้หญิง... แต่ก็เป็นเมียมันจริงๆ แหละวะ...
   สรุป...กูหน้าหวานจริงๆ เหรอ กูว่ากูออกจะหล่อแมนสยบสาวทั่วแดนได้ด้วยหางตา
   “หน้าเหมือนมึงเลยอ่ะ...”
   โซดายักคิ้วรัวๆ พลางยิ้มแป้น โดนทักแบบนี้หลายรอบก็ยังชอบใจทุกรอบ
   ...ก็คนหน้าเหมือนกัน ถ้าไม่ใช่ญาติพี่น้อง ก็เป็นได้แค่...
   เนื้อคู่
   “ญาติมึงนี่ร๊วยรวย แต่มึงนี่จ๊นจน เป็นญาติกันได้ไงวะ” เพื่อนคนหนึ่งตั้งข้อสงสัย
   “เอ้า!” เด็กหนุ่มคิ้วกระตุก “พี่เขาไม่ใช่บ่อทองเคลื่อนที่ที่ญาติคนไหนจะไปตักตวงก็ได้นี่วะ เงินครอบครัวใครก็เงินครอบครัวมันสิ” โซดาพูดตามสัจธรรมของโลก คนเป็นเครือญาติกัน ครอบครัวหนึ่งรวย แต่ไม่ได้หมายความว่าอีกครอบครัวต้องรวยไปด้วยเสียหน่อย “แต่ตอนนี้กูก็อยู่กับพี่เขานี่ ญาติกันก็จริงแต่เพิ่งได้มารู้จักใกล้ชิดกันตอนโต”
   “อ้อ มิน่า มึงอู้ฟู่ขึ้นเยอะ”
   “อือ”
   “พอเริ่มมีกะตังค์ปุ๊บเลยมีเมียเก็บเลย พวกกูยังไม่เลิกสงสัยหรอกนะว่าเมียมึงเป็นใคร”
   “พี่หานครับ เมียมันเป็นใครครับ พวกผมอยากรู้มาก”
   อินน์หันไปถามเจ้าพ่อเงินกู้อย่างอดรนทนไม่ได้ ไหนๆ ก็ไหนๆ ได้เจอญาติโซดาแบบนี้ต้องเค้นให้รู้เรื่องเสียหน่อย ถามกี่ทีๆ ไอ้เพื่อนตัวดีก็เอาแต่ตอบปัดๆ เล่นให้สัมภาษณ์หวานหยดลงนิตยสารขนาดนั้นใครมันจะไม่อยากรู้เล่า
   หลังจากวันแรกที่หนังสือคอสโมโพลิแทนฉบับนั้นวางแผง วันรุ่งขึ้นทั้งโรงเรียนก็แซ่ดไปด้วยเรื่องสาวปริศนาผู้หญิงของศาสดา
   หาญศักดิ์สะดุ้งเฮือกเหมือนถูกน้ำร้อนลวก รู้สึกประดักประเดิดเป็นที่สุด เขาไม่มีวันยอมรับกับใครหน้าไหนแน่ๆ ว่าเป็นตกเป็นเมียผู้ชายด้วยกัน ยกเว้นแต่พวกที่มันดันมารู้กันเองอย่างเฉินกับเสี่ยชาน เสี่ยหนุ่มตาเหลือกตาปลิ้น ดูกลืนไม่เข้าคายไม่ออกชัดเจน แต่เหมือนพวกเด็กๆ จะไม่ทันได้สนใจ
   “พวกมึงถามอะไรวะ” โซดาหรี่ตา
   “นี่นะ ถ้ากูรู้ว่าเมียมึงเป็นใครแล้วได้เจอหน้านะ กูจะฟ้องว่ามึงหม้อบัว”
   “เฮ้ย! กูเปล่า” โซดาหน้าตื่น ตาเบิกโพลง ร้องเสียงดังลั่น
   “มึงอ่ะชอบแอบมองบัว” อินน์เสริมเพื่อนคนก่อนหน้า “มองตลอดอ่ะ”
   “มองไร! กูไม่ได้มองบัว ไม่เคยหม้อบัว กูไม่ได้คิดอะไรกับบัวแบบนั้นเลย!”
   เด็กหนุ่มเสียงหลงพูดปฏิเสธรัวเร็ว จะคิดได้ไงเล่าไม่ได้ชอบผู้หญิง... เขาชำเลืองสายตาไปมองหาญศักดิ์ ที่กำลังมองเขากลับมาด้วยสายตาที่นิ่งมาก โซดาคลี่ยิ้มแห้งๆ
   “เหรอ~ แล้วเมื่อวานที่เรียกเขามานั่งกินข้าวด้วยกันล่ะ โด่”
   “เพื่อนเว้ย เพื่อนจริงๆ” ร่างสูงยืนยันปฏิเสธหัวชนฝาแบบเอาเป็นเอาตาย แต่ในสายตาคนที่มอง มันดูเป็นอาการร้อนตัวอย่างที่สุด
   “แหม หน้าหม้อนะมึงอ่ะ หม้อแบบเลือกคนด้วย หม้อเฉพาะคนสวย โดนเฉพาะคนสวยที่ชื่อบัว~”
   “กูก็บอกว่ากูเปล่าไงวะไอ้สัดนี่!”
   “พี่หานครับฟ้องเมียมันให้ด้วยนะครับ” อินน์หันขวับไปพูดกับเจ้าพ่อเงินกู้ “เอาให้ตายเลยครับ อยู่ข้างนอกปลอดสายตาเมียนี่หม้อหญิงอื่นไม่หยุด เจ้าชู้มาก”
   หาญศักดิ์ยิ้มฝืดๆ รู้สึกน้ำท่วมปาก รู้อยู่เต็มอกหรอกว่าโซดาเป็นเกย์เต็มตัวชนิดไม่เหลียวแลหญิงสาว แต่พอมาได้ฟังแบบนี้มันก็ปั้นหน้าไม่ถูกเหมือนกันแหละวะ
   ฮึ...ว่าแต่สรุปโซดามันเจ้าชู้จริงๆ เหรอ...?
   “โอ้โห พูดไรวะอินน์ มึงคิดว่าเมียมันจะกล้าทำอะไรมันไหม เกิดมันซ้อมเมียขึ้นมาเมียมันจะทำไง ใครจะไปสู้มันได้”
   เออ ถูก... คิดว่ากูจะกล้าทำอะไรรึไง...
   “บ้า ไอ้โซดามันคงไม่ทำร้ายเมียตัวเองหรอก”
   น้อยไปสิ!! มันไม่ได้แค่ทำร้ายธรรมดานะครับสังโค้ม ทำทีทำปางตาย!!
   “เงียบ! เงียบ!” โซดาตะโกนปรามเพื่อนที่พูดคุยกันอย่างออกรสออกชาติราวกับเขาไม่ได้ยืนหัวโด่ตรงนี้ เด็กหนุ่มหรี่ตาอย่างไม่สบอารมณ์ ยกสองมือขึ้นกลางอากาศ พวกแม่งจะก่อปัญหาให้เขาไปถึงไหนนะ “พวกมึงเนี่ยนะ เสือกเรื่องของกูจริงๆ”
   “คุณหานค่ะ ยังไงมานั่งทางนี้ดีไหมคะ นี่พวกเธออย่าไปกวนคุณหานเขาสิ ให้มันรู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่หน่อย เดี๋ยวเขาจะหาว่าที่โรงเรียนไม่สั่งสอน”
   ครูสาวเดินมาเรียกหาญศักดิ์แล้วดุเด็กๆ ที่ลามปามผู้ใหญ่ หาญศักดิ์ยิ้มรับ
   “ขอบคุณครับ”
   “โซดา เธอพาพี่ชายไปนั่งตรงที่ๆ จัดไว้ไป”
   ร่างสูงพาหาญศักดิ์เดินแยกไปนั่งตรงบริเวณที่ปูเสื่อจัดไว้สำหรับให้พวกครูอาจารย์นั่งพัก พอหาญศักดิ์นั่งลงไปบนเสื่อ โซดาก็ทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ สาวชาวเขาหน้าตาจิ้มลิ้มกลุ่มหนึ่งเดินผ่านมา พวกเธอส่งยิ้มหวานจ๋อยให้บรรดานักท่องเที่ยวรวมไปถึงหาญศักดิ์กับโซดาด้วย ผิวพรรณของพวกเธอขาวละออนวลเนียนน่าสัมผัสยิ่งกว่าสาวกรุงเทพฯ คนไหนๆ หน้าตาสวยบริสุทธิ์ผุดผ่อง มีรอยแป้งประแต้มบนดวงหน้า น่ารักน่าพิศแบบไม่ต้องพึ่งเครื่องสำอางหนาเตอะให้คนมองรำคาญใจ หาญศักดิ์จ้องดูอย่างเพลินตา อดไม่ได้ที่จะคลี่ยิ้มหวานตอบกลับ พวกเธอพากันขวยเขินสายตากรุ้มกริ่มของหนุ่มใหญ่จากกรุงเทพฯ
   ฟุ่บ!
   “เหี้ย! ทำอะไรเนี่ย!” หาญศักดิ์อุทานเมื่อจู่ๆ โลกของเขาก็มืดลงเพราะโซดาเอื้อมสองมือมาปิดตาเขาแน่น
   “ห้ามมอง” เสียงของเด็กหนุ่มหงุดหงิด “ห้ามยิ้มกลับด้วย”
   “ไอ้บ้า! ปล่อย!”
   “ไม่ให้มอง อย่าทำแบบนี้สิครับพี่” โซดาฮึดฮัด
   “มึงนี่มันประสาทนะ!” หาญศักดิ์กระโชกโฮกฮากอย่างหงุดหงิดที่โดนปิดตา “ทีมึงหม้อหญิงกูไม่เห็นจะว่าอะไรเลย”
   “มันไม่เหมือนกัน!” เสียงห้าวตะเบ็งดังก้อง ยังคงไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก “แล้วผมก็ไม่เคยหม้อผู้หญิงคนไหนด้วย!”
   “โอ๊ย กูล่ะเพลียจะเถียงกับมึง!”
   ทำไมมันขี้หึงแบบนี้...
   ควับ!
   สองมือที่ปิดตาเสี่ยหนุ่มเลื่อนไปกุมสองแก้มแทน มือหนาล็อกใบหน้าหวานให้มองหน้าบูดๆ ของตัวเอง บีบแก้มนุ่มของเสี่ยหนุ่มเข้าหากัน
   “มองผมสิครับ มองผมนี่ ผมหล่อนะ”
   โอ้โห! สตรองมากครับสังโค้มมม มั่นหน้ากว่านี้มีอีกป่ะ!?
   “อูเอื่ออ้าอึง! (กูเบื่อหน้ามึง!)”
   โซดาหน้าบึ้งตึง “ไม่ให้เบื่อ เบื่อก็ต้องทน! ชีวิตพี่มองผมได้แค่คนเดียวเข้าใจไหม!”
   “อะอาด! (ประสาท!)”
   “เอาล่ะครับ! กิจกรรมของพวกเราในวันนี้ก็จบแล้วนะคร้าบ~” เสียงดังจากโทรโข่งตัวใหญ่ทำให้หาญศักดิ์กับโซดาหยุดทะเลาะกันชั่วคราว “แต่ก่อนจากกันวันนี้พี่อินน์สุดหล่อมีคนดังมานำเสนอเผื่อน้องๆ ทุกคนจะคุ้นหน้าคุ้นตากันด้วย เอ้า ขอเสียงปรบมือให้พี่โซดาหน่อยคร้าบ~”
   “กรี๊ดดดดดดดดดดดด”
   ไม่ใช่เสียงเด็กๆ ชาวไทยภูเขาที่กรี๊ดแต่เป็นเสียงเพื่อนนักเรียนสาวๆ ในโรงเรียนเดียวกันนี่แหละโหยหวนกันประดุจหมูถูกน้ำร้อนลวก หาญศักดิ์ที่นั่งอยู่ข้างๆ รู้สึกได้ในทันทีว่าโซดาตัวแข็งเด๊กเหมือนถูกแช่ช่องฟรีซ ใบหน้าที่เคยหน้านิ่วคิ้วขมวดเปลี่ยนเป็นสีหน้าเหลอหลา แปลว่านี่คืองานสดแหงๆ ไม่ได้เตี๊ยมอะไรกันไว้ก่อนสินะ นี่ถ้าเขาเป็นโซดา จะฆ่าอินน์ให้ตายคามือเลย อยู่ๆ มาขายกันกลางคันแบบนี้
   โดนแล้วจ้าผัวกู
   “ศาสดา~ ศาสดา~ ศาสดา~!”
   นักเรียนคนหนึ่งตีกลองที่แบกขึ้นมาทำกิจกรรมรัวๆ โหมโรงแล้วเริ่มตีเป็นจังหวะจะโคนต่อเนื่อง คนอื่นๆ ก็ร้องเรียกชื่อนักมวยคนดังระงมเป็นจังหวะไปกับเสียงกลอง และยังมองมาที่โซดากันเป็นตาเดียว แม้แต่พวกครูอาจารย์ยังปรบมือเรียกไปด้วย เด็กหนุ่มลุกขึ้นมาจากเสื่อแบบเก้ๆ กังๆ ยิ้มจนตาหยีเพราะไม่รู้จะทำอย่างไรต่อ ทุกคนร้องเฮขณะที่ร่างสูงโปร่งเดินไปข้างหน้าสุดตรงที่อินน์กำลังพูดใส่โทรโข่ง
   “เฮฮฮฮฮ~~ ในที่สุดคุณเพื่อนสุดหล่อก็มานะคร้าบ~ ไหนๆ ก็ไหนๆ วันก่อนเห็นแอบเปิดเพลงเต้นอยู่หน้าห้องที่โรงเรียน มามะ โชว์ให้ทุกคนดูหน่อยเร้ววววว”
   “กรี๊ดดดดดดดดดดด~”
   “ฮิ้ววววววววว~”
   “มึงนี่!”
   โซดาตะเบ็งเสียงง้างหมัดขึ้นทำท่าจะต่อยอินน์แบบคาดโทษแต่บนใบหน้ามีรอยยิ้มอยู่บ่งบอกว่าไม่ได้โกรธอะไรจริงจังนัก
   “โอ๊ะ โอ๊ะ โอ๊ะ ตอนนี้พี่โซดาเขากำลังมีความรักนะครับ โลกทั้งใบเป็นสีชมพูวววว รักเมียมาก เอ๊ย ไม่ใช่! รักแฟนมากกกกก อาจ๊าน...! อาจารย์อย่าเพิ่งโบกผม!” อินน์รีบแก้คำพูดเมื่ออาจารย์ผู้ชายที่ดูมีอายุคนหนึ่งลุกพรวดขึ้นมาแล้วทำท่าจะเข้ามาตบหัวเขาที่พูดทะลึ่งตึงตัง “อะแฮ่ม เปิดเพลงนี้ฟังท้างงงวัน~ ไม่รู้อะไรนักหนา สงสัยจะตรงฟีลลิ่งมากมาย เอ้า เรามาดูพี่เขาเต้นกันดีกว่า ฮิ้ววว~”
   พูดจบอินน์ก็คว้าไอโฟนของโซดาจากกระเป๋ากางเกงยีนส์เจ้าของไปเสียบต่อเข้ากับลำโพงที่ขนขึ้นมาด้วย มือหนาสไลด์ๆ จิ้มๆ เลือกเพลงแป๊บเดียวในลิสต์ อินโทรทำนองเพลงที่ถูกเลือกก็ดังออกมาจากลำโพง
   “นี่มึงเอาจริงเหรอเนี่ย!” โซดาหน้าตื่นหันไปหาเพื่อน อินน์ที่วางโทรโข่งไว้ที่พื้นตั้งแต่ก่อนเปิดเพลงพยักหน้า
   “เออ จริง ถ้ามึงเขินเดี๋ยวกูเต้นเป็นเพื่อน”
   “เออ งั้นมา!”


   รู้ตัวว่าหน้าใส ยังมาทำอมยิ้มทำไมนี่คิดอะไรรึเปล่า อย่ามาบอกว่าเหงาไม่ต้องเลย


   สองหนุ่มระเบิดตัวออกมาเต้นพร้อมกันทำเอาสาวกรี๊ดดังสนั่น โซดายกมือขึ้นชี้หน้าตัวเองแล้วแกล้งทำหน้าเหลอตอนเนื้อเพลงท่อนแรก เสร็จแล้วก็ยกสองมือขึ้นมาโบกตอนจบท่อน หาญศักดิ์อ้าปากค้าง
   พระสงฆ์องค์เจ้าเอ๊ยยย...
   โซดาเต้นเป็น!!
   เป็นจริงๆ แบบไม่ใช่กะหลั่วกะโหลกกะหลาไปวันๆ แล้วก็ไม่ใช่แกล้งเต้นทุเรศๆ เหมือนตอนอาละวาดในคลับรอยัลคราวก่อนโน้น
   ให้ตายเหอะ...นอกจากต่อยมวยเก่ง เรียนเก่ง แล้วยังเต้นเก่งอีก...
   อ๊ายยยยยยยยยยยยย (!?)


   ชอบทำเป็นอ่อนแอ ชอบมาทำตัวน่ารังแกก็น่ารังแกที่สุด แบบว่าใจชำรุดเมื่อใกล้เธอ โอ๊ะโอ


   โซดายกมือซ้ายขึ้นกุมหัวใจแล้วคุกเข่าลงพื้นบนดินทำเหมือนจะขาดใจตายมองมาทางเขาอย่างไม่ปิดบัง มืออีกข้างก็ทำท่าคว้าอะไรสักอย่างกลางอากาศมาในทิศทางเดียวกัน


   ไร้เดียงสาอย่างงี้นะ ต้องระวังแล้วล่ะ
   ไว้ใจเธออย่างงี้นะ คงต้องยอมแล้วล่ะ
   เข้าใกล้เธอมากก็ไม่ได้ เป็นของเธออีกก็ไม่ได้ เธอจะอย่างงี้จะอย่างงั้นให้เราตายใจ


   หาญศักดิ์หูแดงเถือก เต้นเฉยๆ ว่าเท่แล้ว แต่คอยส่งสายตามีความนัยแล้วทำหน้าทำตาอ้อล้อมองหน้ากันเป็นระยะๆ ไปด้วยแบบนี้มันยิ่งเขินเข้าไปใหญ่ ยิ่งฟังเนื้อเพลงประกอบไปด้วยหาญศักดิ์ก็ตัวร้อนวูบวาบได้แต่นั่งกัดริมฝีปากบิดไม้บิดมือเข้าหากันอยู่บนเสื่อ บรรดาคนที่ชมการเต้นของอินน์กับโซดาส่งเสียงร้องเชียร์ตบไม้ตบมือมีอารมณ์ร่วมไปกับการแสดงที่สนุกสนาน อินน์เองก็เต้นเก่งและเต้นดีมาก แต่...สายตาของหาญศักดิ์ในเวลานี้มันมีไว้มองคนอื่นที่ไหนเล่า...


   ทำหน้ามีเลศนัยตลอด นี่จะยอมถอยไปหรือให้ฉันกอด
   เธอมาทำอย่างนี้เดี๋ยวฉันก็รักให้เลย รักให้เข็ด
   ทำฉันจนหายใจไม่ออก ถ้าเธอทำฉันตายฉันตามไปหลอก
   เอาให้เธอได้รู้ว่าคนที่รักจนตาย เป็นยังไง


   สองหนุ่มเต้นเป็นท่าเดียวกันในท่อนฮุคอย่างเท่ตามที่เคยซ้อมเอาไว้เพราะกะจะเต้นเพลงนี้ในงานปีใหม่ประจำโรงเรียนอยู่แล้ว
   หากแต่สิ่งที่ไม่เคยซ้อม...ก็คือรอยยิ้มและสายตาแพรวพราวของโซดาที่กำลังมองหน้าคนที่ตัวเองรักอยู่
   เด็กหนุ่มยักคิ้วหล่อๆ ให้คนมองคนสำคัญที่ขบกัดริมฝีปากล่างแน่น เสียงเชียร์ยังคงดังต่อเนื่องอย่างไม่หยุดยั้ง และดูเหมือนจะยิ่งดังมากขึ้นทุก
   หาญศักดิ์ยกสองมือขึ้นมาจับหน้าที่ร้อนฉ่า นิ้วทั้งสิบนิ้วกางออกเหลือช่องให้ลูกตาเต็มๆ จนไม่รู้ว่าจะยกมือขึ้นมาปิดหน้าทำไม ใจหนึ่งก็อยากจะปิดตาไม่อยากดูต่อแล้ว แต่อีกใจหนึ่งมันก็อยากดูให้จบ
   แม่งเอ๊ย...
   ไม่อยากจะยอมรับว่าเขินแต่บอกเลยก็ได้ว่าโคตรเขิน
   สตรองสิไอ้ห๊านน สตรอง! สตรอง! สตร๊องงง!
   โอย...ต่อให้เป็นกำแพงก็สตรองไม่ไหวแล้วครับงานนี้
   อ๊ากกกกก
   หาญศักดิ์อยากจะตะกุยเล็บใส่ดินยิ่งนัก...ตรงกลางหน้าอกมันอุ่นๆ ร้อนๆ ไปหมด...เหมือนเพิ่งกลืนกาแฟร้อนๆ เข้าไปโดยไม่ยอมเป่าให้มันเย็นลงสักหน่อยเสียก่อน หากมันไม่ใช่ความร้อนที่ทรมาน แต่เป็นความอุ่นที่ทำให้หัวใจผลิบานราวกับดอกไม้แรกแย้ม
   ตึกตัก...ตึกตัก...ตึกตัก...
   เสียงหัวใจเต้นดังจนเจ้าของนึกรำคาญ ทั้งที่สั่งหนักสั่งหนาให้ตัวเองห้ามรู้สึกอะไร แต่หัวใจเจ้ากรรมกลับไม่ยอมทำตามสมองเอาเสียเลย
   บ้าชะมัด...


   ทำนองช่วงรอยต่อตรงกลางเพลงจบลง อินน์หมุนตัวมาบังหน้าโซดาแล้วลิปซิงค์ท่อนแรกของวรรคสอง


   เรื่องไรมาน่ารัก เจตนาเธอน่าระแวงก็ต้องระวังไว้ก่อน ยังไม่อยากเดือดร้อนที่หัวใจ

   
   ร่างสูงโปร่งผลักเพื่อนออกไปจนกระเด็นแล้วลิปซิงค์ท่อนต่อ


   ไม่ต้องมาแอบถาม...


   สายตาระยิบระยับแบบชายเจ้าชู้มองไปยังคนที่นั่งจับแก้มตัวเองอยู่บนเสื่อ


   จะไม่ยอมไม่พูดสักคำไม่ต้องมาอำกันหรอก...

   “ไม่มีบอกอยู่แล้วว่าชอบเธอ! โอ๊ะโอ!”
   “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!”
   หาญศักดิ์แทบจะมุดดินตายเมื่อโซดาป้องปากตะโกนเนื้อเพลงท่อนนั้นออกมาทางเขาเต็มๆ
   แม่เจ้าโว้ย
   เอาแล้วไง...โดนแอ็ทแท็คแล้วจ้า...
   ...อยากจะลงไปชักๆๆๆ กับพื้น...
   เขินโว้ยยยยยยยย!!!!
   ร่างสูงโปร่งเต้นไปด้วยมองคนที่ยกสองมือขึ้นมาปิดหน้าปิดตาแบบเก้ๆ กังๆ ไปด้วยจนจบเพลง หาญศักดิ์เม้มปากแน่น แก้มแดงก่ำเป็นสีเดียวกับลูกตำลึงสุก
   ดวงตาคมของโซดายามนี้ทอประกายวิบวับราวกับหมู่ดาวสุกสกาวบนท้องฟ้า เปี่ยมเสน่ห์จนชวนให้น่าหลงใหล
   และยิ่งมันมองตรงมาที่ตัวเองแบบนี้...ใครจะไปถอนสายตาได้กัน

   มือหนาของเด็กหนุ่มทั้งสองมือยกขึ้นมากุมหัวใจแน่นแล้วแสร้งทำหน้าเจ็บปวดแบบเท่ๆ

   
   เอาให้เธอได้รู้ว่าคนที่รักจนตาย เป็นยังไง


   จะรักกูจนตายเลยเหรอ...
   โอ๊ยยหัวร้อนนนนนนนน $%^&*(


   คนหล่อมากพะงาบปากแบบไร้เสียงมาในอากาศช้าๆ ชัดๆ...พลางยักคิ้วจึ้กๆ
   ‘ทีนี้จะมองผมคนเดียวได้รึยังครับ’


   ...ทำหน้ามีเลศนัยตลอด นี่จะยอมถอยไปหรือให้ฉันกอด... ❤


   ตึกตัก...ตึกตัก...ตึกตัก...





---------
เป็นอันแน่นอนแล้วนะคร้าบว่าเซ็นกับสนพ. เฮอร์มิท
รอรูปเล่มกันได้เยยยยยยยยย  :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ ตั่วเจ้เจค

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-8
ยกที่ ๒๙

No I didn't trust him
But he rushed me to feel
Tried me mesmerize to me
With his all sex appeal
[ เปล่านะ ผมไม่ได้วางใจในตัวเขา แต่เขาเร่งเร้ากระตุ้นผม
ทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะสะกดจิตผม
ด้วยเสน่ห์ทางเพศทั้งหมดของเขา ]


Told me everything
That I was longing to hear
Shine and handsome
My souvenir
[เขาบอกผมทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมปรารถนาจะได้ยิน
เปล่งประกายและหล่อเหลา
เป็นเหมือนของที่ระลึกของผม ]


And then all of sudden
I have fallen in love
He would put me down
But I'll still place him above
[ และในจังหวะที่ผมเริ่มตกหลุมรัก...
เขาก็ผลักผมลงในขณะที่ผมยังยันเขาไว้เหนือร่าง ]


Tired of searching for the love
That still lives in him
Given my everything
Like a souvenir
[ เหนื่อยหน่ายเหลือเกินกับการค้นหาความรักที่ยังคงอยู่ในตัวเขา
เพราะผมให้เขาไปหมดทุกสิ่งทุกอย่าง...เหมือนกับของที่ระลึก ]


Given up my heart
In the name of the memory
Fallen down like rain
He could feel every drop
Now I know I have
Have the courage to tell him
Tell him to stop...stop...Stop
[ ใจผมล้มเลิกต่อต้านแล้ว ปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปในนามของความทรงจำ
ให้มันปลดปล่อยมาเหมือนเม็ดฝน...
เขาจะได้สัมผัสลิ้มรสทุกหยาดหยดของผม
และตอนนี้ผมคิดว่าผมกล้าพอที่จะร้องบอกเขาที่อยู่บนร่างผมแล้วล่ะ
หยุด...หยุด...ช่วยหยุดที... ]


(Stop! Stop! Stop! – Nu Virgos :  แปลเพลงเป็นเวอร์ชัน หาญศักดิ์ในเรื่อง ‘METAL TERMINAL พยัคฆ์คว่ำกวาง' โดยเจค)


:::METAL TERMINAL:::

   หลังจากที่สองหนุ่มแสดงจบกิจกรรมของวันนี้ก็จบลงจริงๆ ทุกคนต้องเดินทางกลับตามกำหนดการ หาญศักดิ์เขินเสียจนเดินไม่ตรงขณะเดินกลับไปที่รถกระบะ โซดาไม่ได้รับอนุญาตให้กลับมากับเขาแม้ว่าจะขอครูมากแค่ไหนเพราะจำเป็นต้องนับจำนวนคน แถมทางโรงเรียนยังจะพานักเรียนไปทัศนศึกษาที่อื่นต่อในตอนบ่ายถึงเย็นอีกต่างหาก ซึ่งหาญศักดิ์ก็คิดว่าดีแล้วเพราะเขายังไม่พร้อมจะเผชิญหน้ากับโซดาแบบตัวต่อตัวในเวลานี้ มือสั่น...ใจสั่นไปหมด
   นี่สรุปคือ...ชีวิตกู = Officially เสียดุลเกย์สินะ...
   อ๊ากกกก
   หาญศักดิ์ตะกายน้ำในสระอย่างบ้าคลั่ง แล้วมุดทั้งตัวลงดำน้ำจนมิดหัว ก่อนจะแหวกว่ายตีแขนตีขาราวกับคนบ้า อากาศจะหนาวก็หนาวไปเหอะกูจะว่ายซะอย่าง กูจำเป็นต้องหาอะไรทำระบายอารมณ์ที่อัดอั้นนี้!
   ความจริงตอนเต้นโซดาก็เต้นกับเพื่อนสองคน และเต้นให้ทุกคนดูนั่นแหละ ถึงจะสังเกตสังเกาแค่ไหนคนนอกก็ไม่มีทางรู้หรอกว่าเจ้าเด็กตัวสูงนั่นจงใจหมายถึงเขาและโปรยเสน่ห์ใส่เขาโต้งๆ
   ที่เขินหน้าร้อนวูบขนาดนี้เป็นเพราะความนัยที่สื่อทั้งทางสายตาทางรอยยิ้มมาให้กันตลอดต่างหาก... มันทำให้หาญศักดิ์เข้าใจคำที่เขาเรียกกันว่า
   ...รู้กันอยู่สองคน...
   อร๊ากกกก!!! (ตะกุยน้ำ)
   ตอนนี้โรงแรมค่อนข้างเงียบสงบเพราะเป็นเวลาบ่ายแก่ๆ คนยังไม่กลับมาจากการท่องเที่ยวหรือทำธุระ ส่วนพวกนักเรียนก็ยังอยู่ระหว่างการทัศนศึกษา
   หาญศักดิ์ว่ายวนรอบสระเป็นยี่สิบกว่ารอบจนเหนื่อยซ่ก ในที่สุดคนก็เริ่มคลาคล่ำจนเต็มโรงแรม เสี่ยหนุ่มจึงขึ้นจากสระไปรับประทานอาหารเย็นให้หายหิว ก่อนจะขึ้นห้องไปอาบน้ำอาบท่า จากนั้นก็ทิ้งตัวลงนอนเพราะความเหนื่อยอ่อน วันนี้หาญศักดิ์ไม่คิดจะอยู่รอเจอใครหน้าไหนทั้งนั้นเพราะเพลียมาทั้งวัน ตอนเช้าก็ขับรถทางไกลขึ้นเขาลงเขา ตอนบ่ายก็ยังมาว่ายน้ำอีก
   หาญศักดิ์หลับสนิทเหมือนตายตั้งแต่หนึ่งทุ่ม แต่แล้วจู่ๆ ก็กลับฝันว่ามีคนมาถลกผ้านวมที่ห่มอยู่ออก แล้วทาบทับกายลงมาบนตัวเขาเสียจนเขาขยับตัวไม่ได้ จากนั้นมันก็คลุมผ้าห่มทับเราทั้งคู่อีกที เสี่ยหนุ่มใช้สมาธิทั้งหมดพยายามกระดุกกระดิกร่างกาย หากแต่กลับถูกตรึงแน่นไว้กับฟูก
   เหี้ย!
   คนนอนหลับเหงื่อแตกพลั่ก
   ...เอาแล้วไงนี่มันไม่ใช่ฝันแล้วโว้ย
   ผีอำ!
   หาญศักดิ์ที่หลับตาแน่นหอบหายใจฮักๆ อย่างหวาดกลัว ออกแรงดิ้นพล่านขยับกายต่อสู้กับผีพลางท่องนะโมสังโฆไปด้วย
   แต่แม่เจ้าโว้ย ผีตนนี้มันร้ายกาจมากกก มีการล็อกแขนล็อกขากูเอาไว้อีก! เดี๋ยวนี้ผีเขาพัฒนาสกิลการอำคนขนาดนี้แล้วเรอะ!
   หาญศักดิ์เม้มปากแน่นออกแรงต่อสู้สุดชีวิตเพื่อให้พ้นจากการถูกอำโดยผีร้าย แต่ดิ้นยังไงก็ดิ้นไม่หลุด มิหนำซ้ำผีตนนี้ยังออกแรงรวบแขนของเขาเอาไว้เหนือศีรษะด้วยมือข้างเดียว ส่วนอีกข้างลูบแผ่วเบามาตามลำคอ หาญศักดิ์ขนลุกซู่กับมือเย็นๆ นั่น เขาเหงื่อแตกซิกจนตัวเริ่มเหนียว แต่ขืนปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป เขาต้องถูกผีตนนี้ฆ่าหักคอจิ้มน้ำพริกกินแน่ เสี่ยหนุ่มตัดสินใจลืมตาขึ้นเพื่อปะทะกับผีร้ายทันใด!
   “แว้ก โซดา มึงเองเรอะ!!”
   ไม่ใช่ผีร้ายที่ไหนครับพี่น้อง แต่เป็นผีห่าตัวเดิม!
   “อย่าดิ้นสิ...อยู่เฉยๆ...” ไม่พูดเปล่าใบหน้าคมยังก้มลงซุกไซ้สูดดมซอกคอของคนที่นอนอยู่ใต้ร่าง หาญศักดิ์ตะเบ็งเสียงในความมืด
   “ออกไป! มาคร่อมกูทำไม แล้วมึงเข้ามาได้ยังไง!!”
   “อย่าตะโกนสิครับพี่...”
   “กลับไปนอน! นี่มัน...นี่มันจะห้าทุ่มแล้วนะเว้ย”
   “ผมหิว”
   “หิวก็ไปหาข้าวกิน!! รูมเซอร์วิสอะไรก็สั่งไปสิวะ!”
   พอรู้ว่าไม่ใช่สิ่งเหนือมนุษย์คราวนี้หาญศักดิ์ก็หมดความกลัวแล้วออกแรงสู้สุดชีวิต
   “ผมหิวเนื้อกวาง...ผมหิวเนื้อพี่...อดอยากปากแห้งจนจะตายอยู่แล้ว”
   สายตานั้นราวกับคนอดอาหารนานแรมเดือนที่ได้เจอบุฟเฟ่ต์ฟรีตรงหน้า โซดาดูไม่ปรารถนาสิ่งไหนนอกจากจะจัดการกลืนกินเขาเท่านั้น ร่างสูงล็อกแขนล็อกขาอีกฝ่ายหนาแน่น แล้วระดมจูบซอกคออย่างดุเดือดเหมือนกระทิงเปลี่ยว ในที่สุดหาญศักดิ์ก็เริ่มเหนื่อยกับการแผลงฤทธิ์จนหมดแรง โซดาผ่อนแรงที่ใช้บีบบังคับอีกฝ่าย แล้วดึงร่างหาญศักดิ์ให้ลุกพรวดขึ้นมานั่งแบบไม่ทันตั้งตัว ดวงตาคู่คมที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหิวกระหายจ้องลึกเข้าไปในดวงตากลมโตราวกวางป่า แล้วจับมือที่เล็กกว่ามือหนึ่งให้ทาบทับลงบนกลางกายของตัวเอง หาญศักดิ์สะดุ้งเฮือก
   “พี่เห็นไหม ว่ามันแข็งแค่ไหน”
   เสียงแผ่วพร่านั้นดังกรีดหัวใจในความมืด ไม่ได้จับมาให้จับเฉยๆ แต่ยังขยำมือทับมือของหาญศักดิ์ทำเอามือที่เล็กกว่านั้นต้องบีบกำเอ็นแข็งๆ อย่างเสียมิได้ โซดาใช้มือตัวเองที่วางทับบนมือหาญศักดิ์คลึงวนท่อนเนื้อใหญ่ยาวที่โป่งนูนขึ้นมาจากกางเกงเป็นวงกลม แล้วเขย่าๆ จนเจ้าของของมันซี้ดปาก หาญศักดิ์หน้าแดงก่ำที่ถูกรุกเร้ารุนแรงถึงเพียงนี้
   “แค่เห็นหน้าพี่ ผมก็แข็งจนทนไม่ไหว จะลงแดงตายอยู่แล้ว ”
   “ซ...โซดา”
   หาญศักดิ์หน้าขึ้นสีระเรื่อกับสายตาคมปลาบและเสียงแหบพร่า
   “อย่าปล่อยให้ผมทรมานอีกเลยนะครับ”
   ร่างสูงอุ้มร่างอีกฝ่ายให้ขึ้นมานั่งทับบนหน้าขาตัวเองแล้วฉกจูบเร่าร้อนลงบนซอกคอที่มีกลิ่นเหงื่อ เสื้อยืดใส่นอนของหาญศักดิ์ช่างเกะกะยิ่งนักในความรู้สึกตอนนี้ สองแขนแกร่งที่โอบรัดร่างบนตักจิกทึ้งเสื้อยืดนั่น ก่อนจะฉีกกระชากมันจนกลายเป็นเพียงแค่เศษผ้าขี้ริ้ว แล้วตะโบมขบจูบไปตามลาดไหล่ของอีกฝ่ายเหมือนสัตว์ป่าขย้ำเหยื่อ
   หาญศักดิ์ใจหายวาบกับรสสัมผัสเร่าร้อนรุนแรง เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกเคี้ยวกินอย่างตะกรุมตะกรามจนสิ้นเรี่ยวแรงทั้งหมด แขนทั้งสองข้างที่คล้องลำคอแกร่งอ่อนแรง ได้แต่หอบหายใจกับความดุเดือดของเลือดหนุ่ม ไม่แน่ใจว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในห้องนอน...หรือว่าอยู่ในท้องของศาสดากันแน่
   เสียงครางหวานเล็ดลอดออกจากปากเมื่อรู้สึกจี๊ดๆ ยามไรหนวดปัดผ่านทิ่มแทงผิวเนื้อ รู้ตัวอีกทีเขาก็ถูกกายสูงโปร่งทาบทับอยู่บนฟูกหนานุ่ม
   “น้องหานจ๋า... คนดีของพี่...พี่จะบ้าตายอยู่แล้ว”
   หาญศักดิ์วูบวาบไปทั้งตัวกับเสียงหื่นกระหายนั่น ก่อนจะต้องผวาเยือกเมื่อปากร้อนเลื่อนลงไปเชยชมที่ยอดอกทั้งสองข้าง เรียวลิ้นตวัดรอบเม็ดตุ่มไตสีน้ำตาลอย่างเอาแต่ใจทำเอาคนรับได้แต่แอ่นกายขึ้นหยัดโค้งไม่ติดกับพื้นเตียง สองมือจิกเข้าที่เรือนผมสีดำของเด็กหนุ่มตามสัญชาตญาณ ไรหนวดรกครึ้มสากๆ ที่ครูดไปตามผิวเนื้อยิ่งทำให้เสียวสะท้าน และดูเหมือนอีกฝ่ายจะรับรู้ดี ถึงได้ระดมจูบเลียร่างกายของเขาจนเขาได้แต่นอนหายใจรวยระรินอย่างหมดทางต่อสู้
   “อ๊ะ...อ๊ะ...”
   หนวดเคราที่ขึ้นรอบริมฝีปากหยักเสียดสีไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกายสร้างความกระสันเสียวที่ซาบซ่าแปลกใหม่นัก มือหนาดึงกางเกงนอนของเขาออกจนล่อนจ้อน แล้วถอดเสื้อผ้าตัวเองจนเปลือยเปล่าตามมาติดๆ ร่างสูงจับร่างบนเตียงพลิกคว่ำแล้วจัดท่าให้สะโพกลอยโด่ง ไม่รอเช้าเด็กหนุ่มเลียริมฝีปาก ฝังใบหน้าลงไปฟัดกับแก้มก้นที่ตั้งยั่วยวน
   “อ๊ะ...อา...”
   หาญศักดิ์เชิดหน้าครางเมื่อถูกไรหนวดถูเย้าหยอกไปตามผิวก้นและหลังขาอ่อน ลามไปจนถึงแผ่นหลังแล้วลงต่ำไปจนถึงข้อพับขาด้านในทั้งสองข้าง ไล่เลียดถูช้าๆ จนเขาขาสั่นพั่บๆ ...สัมผัสแปลกใหม่ที่เกิดขึ้นแปลบปลาบไปจนถึงก้านสมอง หาญศักดิ์รู้สึกทั้งเสียวทั้งจั๊กจี้ เขาส่ายขาและตัวดิ้นหนีตอหนวดนั่นไปมาอย่างไร้ทางสู้
   “อื้อ! อ้ะ”
   แต่คนได้ยินเสียงร้องขัดขืนเล็กๆ นั่นกลับยิ่งมีอารมณ์ มือหนาทั้งสองข้างบีบเค้นสะโพกที่ตั้งอยู่ตรงหน้าจนขึ้นรอยมือแดงๆ ก่อนจะเริ่มตะโบมรุกเร้าอย่างเร่าร้อนส่งเสียงหอบหื่น โซดาที่หยุดซุกหน้าฟัดอยู่กับแก้มก้นหอบหายใจหิวกระหาย หาญศักดิ์ยิ่งครางกระเส่ากับความกระสันเสียว
   “ฮะ...! อ้ะ...! อ๊ะ”
   และในที่สุดเด็กหนุ่มก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาใช้มือขวาชักรูดแก่นกายของตัวเองที่มีน้ำเยิ้มตรงส่วนหัว แล้วเสียบมันเข้าไปในช่องทางที่ยั่วเย้าตรงหน้าแทบสุดลำ
   “อ๊า...!!”
   หาญศักดิ์เบิกตาโพลง จิกทั้งสิบเล็บลงกับผ้าปูที่นอนเมื่อถูกรุกเข้ามาในพรวดเดียวแบบไม่ทันตั้งตัว โซดาควบสะโพกนั่นเหมือนควบม้า กัดริมฝีปากกับรสสัมผัสที่อดอยากมานานหลายวัน
   “อ๊ะ...อ๊า! อา...! อ้ะ...”
   เสียงครางยิ่งปลุกเร้าเขายิ่งกว่าเดิม ร่างสูงซี้ดปากเมื่อถูกดูดรัดท่อนเนื้อจนใจจะขาด ใบหน้าหวานซบลงกับฟูกเตียงแล้วพยายามอั้นเสียงกรีดร้อง ท่านี้เป็นท่าใหม่สำหรับหาญศักดิ์
   “ดังๆ...อา!”
   “อึก...อะ...อือ...”
   “อา! ดังอีก...”
   หาญศักดิ์ส่ายหน้า กลัวว่าจะมีคนผ่านมาผ่านไปแล้วได้ยินได้ โซดายิ้ม พูดปนหอบในความมืด
   “งั้นอย่าหาว่าพี่ใจร้ายนะจ๊ะ”
   ร่างสูงถอดแก่นกายออกมาจากร่างอีกฝ่าย จับหาญศักดิ์นอนหงายลงบนเตียงแล้วบังคับอ้าสองขานั่นออกกว้าง เด็กหนุ่มถ่มน้ำลายลงตรงช่องทางที่กำลังหุบตัวเข้าหากันช้าๆ เพราะเพิ่งถูกถอดอวัยวะแปลกปลอมออก ก่อนจะเป่าลมเย็นๆ ใส่แผ่วเบาจนอีกฝ่ายเกร็งกระตุกไม่มีชิ้นดี
   “อ๊ะ!! อ๊ะ!!!”
   หาญศักดิ์ตาเบิกโพลง วาบหวิวกับลมที่เป่าใส่ เกร็งจนเส้นเลือดขึ้น แต่ความหฤหรรษ์ไม่จบลงแค่นั้น ลิ้นยาวแลบออกมาช้าๆ ก่อนจะละเลงลงเลียอย่างถึงอกถึงใจในทันใด
   “อ๊ะ... อูย...อูย! อ๊า...! อ๊า...! อ๊า...!!”
   ร่างบางส่ายเร่า สองขาเกร็งหงิกพยายามหุบเข้าหากันอย่างสุดความสามารถ แต่โซดาร้ายกาจกว่านัก เด็กหนุ่มจับมันแหกออกกว้างกว่าเดิมแล้วยกลอยขึ้นจากเตียง ก่อนสอดลิ้นชักเข้าชักออกจนหาญศักดิ์ต้องดิ้นพล่านเป็นปลาถูกงัดขึ้นบก ยิ่งเสียวกระสันเป็นสองเท่าเมื่อไรหนวดสากๆ นั่นถูเข้าง่ามเนื้อตรงช่องทางเร้นลับควบคู่กัน
   “โซดา...! โซดา...! อ๊า!! โซดา... โซดา!!!”
   เสียงของหาญศักดิ์ที่ครางชื่อเขาเสียงดังลั่นมันไพเราะนัก สองมือของคนที่ดิ้นพล่านปัดป่ายตะเกียกตะกายผ้าปูที่นอนอย่างไร้หนทาง เด็กหนุ่มยักคิ้ว
   “เรียกพี่ด้วยสิจ๊ะ...” เสียงที่พูดเชิงออกคำสั่งอู้อี้เล็กๆ แล้วผ่อนจังหวะการดูดเลีย หาญศักดิ์แทบขาดใจ
   ให้มันรู้หน่อยว่าบนสนามนี้ใครเป็นใคร
   “อืออ...พี่โซดา...พี่โซดา...อูย...ทำไมเลียเก่งขนาดนี้ เก่งที่สุดในโลกเลย...จะตายอยู่แล้ว ช่วยด้วย...อย่าทำแบบนี้สิ...อืออ”
   คนที่นอนอยู่บนเตียงส่ายหน้าดิ้นพล่าน ตัวแดงก่ำไปหมด เก่งมาจากไหนก็สิ้นฤทธิ์เพราะโซดาทุกรอบ... เด็กหนุ่มคลี่ยิ้มพราย กดริมฝีปากจูบแก่นกายมนทู่ที่ตั้งชันเพราะแรงอารมณ์แล้วหยอกเย้ามันด้วยปลายลิ้น หาญศักดิ์ร่างสั่นหงึกๆ ร่างสูงหัวเราะเบาๆ ในลำคอ ก่อนจะครอบปากลงทันที
   “อูยยย...อ้ะ...อ๊า...อ๊า...อาา”
   หาญศักดิ์ครางระงมอย่างสุขสมอย่างที่สุด ร่างกายอ่อนปวกเปียกเป็นวุ้นใสๆ
   “พี่โซดาจ๋า...พี่โซดา... อา...อา...อืออ...”
   เสียงครางหวานหูที่ดังไม่หยุดหย่อนทำให้เด็กหนุ่มอดไม่ได้ที่จะคลี่ยิ้มร้าย เขาปรนเปรออีกฝ่ายด้วยทุกเทคนิคที่นึกออกในยามนี้
   น้องหานน่ะ...หนีพี่ซ.โซดาคนนี้ไม่พ้นหรอก...
   “ชอบไหมจ๊ะ...” เสียงแผ่วพร่าของร่างสูงอู้อี้
   “ชอบ...ชอบ...ชอบมากเลย...อืออ...อย่าหยุดนะ...อื้ออ”
   ...ต้องตกเป็นทาสเซ็กส์แบบนี้ไปจนชั่วชีวิตนั่นแหละ
   สองมือที่สอดเข้าเรือนผมอีกฝ่ายกดลงให้บำเรอตัวเองหนักกว่าเดิม ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับการรุกรานอันเชี่ยวชำนาญ ทั้งนิ้ว...ทั้งลิ้น...ทั้งหนวดของโซดา ทุกอย่างทำให้เขารู้สึกดีจนแทบบ้า กายของเขาบิดเร่า ยังคงครางอย่างมีความสุขไม่ขาดปาก เซ็กส์ของโซดาทำให้เขาติดงอมแงมยิ่งกว่ายาเสพติด จากที่เคยผลักไสก็กลายเป็นชอบจนรัก หรือจะพูดให้ถูก ลิ้นกับปากของโซดาต่างหากที่ทำให้เขาติดงอมแงม หาญศักดิ์มีอารมณ์จนตาพร่ามัว ร่างแทบจะระเบิดออกเหมือนสเก็ดของดวงดาว
   “ฮะ...อา...ฮ้ะ...อ้ะ....อ้ะ”
   โพรงปากของเด็กหนุ่มขยับดูดขึ้นดูดลงอย่างเชี่ยวชำนาญ พากระสันเสียวเสียจนคนถูกพะเน้าพะนอเกร็งไปทั้งตัวกับรสกามจนสั่นระริก สะโพกบางขยับตามจังหวะปากของเด็กหนุ่ม ที่ดูเหมือนจะมีความสุขเหลือเกินที่ได้ควบคุมเขาไว้อย่างนี้ หาญศักดิ์เชิดหน้าร้องปากคอสั่น จิกทึ้งผ้าปูที่นอนเมื่อมาจนถึงสุดขอบจนได้
   “สะ...สะ...สะ...เสร็จแล้ว!...เสร็จแล้ว! อ๊าาาา!!!”
   หาญศักดิ์กรีดร้องหลั่งรินหยาดหยดแห่งอารมณ์ใส่โพรงปากร้อน เด็กหนุ่มยกมือใหญ่ข้างหนึ่งของตัวเองขึ้นมาขยับเร็วๆ รีดน้ำไล่ตั้งแต่ตรงส่วนโคนของหาญศักดิ์จนหมดสิ้น ในที่สุดโซดาก็ละมือออกมา แล้วเลียรอบริมฝีปากตัวเองเมื่อรับกลืนหยดน้ำนั่นจนหมด สะโพกที่ยกสูงจนลอยกระแทกลงบนฟูกเมื่อเสร็จเสียยิ่งกว่าเสร็จ แต่นอนหอบอยู่เพียงแป๊บเดียวคนที่เพิ่งปลดปล่อยก็ยันตัวขึ้นจากฟูก
   เด็กหนุ่มเลิกคิ้วเมื่อหาญศักดิ์ถดกายลงไปนั่งบนพื้นแล้วดึงเขาให้มานั่งตรงริมเตียง ดวงตากลมโตมองอวัยวะที่กระตุกหงึกๆ อย่างเรียกร้องในความมืดทำเอาร่างสูงกลืนน้ำลายเอื๊อกใหญ่ เด็กหนุ่มจ้องไปที่คนบนพื้นอย่างรอคอย
   หาญศักดิ์แลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากตัวเอง ก่อนปากเล็กจะครอบทับแก่นกายขนาดยักษ์ตรงหน้าทันที
   “...ซี้ด... อา...ค่อยๆ กลืน...ค่อยๆ นะจ๊ะ...”
   โซดาเสียงสั่นขณะสอนหาญศักดิ์ที่ยังไม่ชำนาญเรื่องการใช้ปากช่วยผู้ชาย แล้วหาญศักดิ์ก็ปากเล็กเสียด้วย... แต่ของแบบนี้มันต้องค่อยเป็นค่อยไป อีกเดี๋ยวก็เก่ง...
   มือหนาสอดเข้าเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนขณะปากเล็กที่คับแน่นไปด้วยท่อนเนื้อแข็งชักรูดแก่นกายของตัวเองช้าๆ ก่อนจะเพิ่มเป็นจังหวะถี่เร็ว โซดาครางหอบกับสัมผัสชื้นๆ
   “ใช้มือด้วยจ้ะ...ใช้มือช่วยพี่ด้วย...” เสียงของเด็กหนุ่มแผ่วพร่าสอนเทคนิค “ใช่จ้ะ...รูดตรงโคน...แบบนั้นแหละ...อื้มม”
   คนที่นั่งคุกเข่าอยู่ยกสองมือขึ้นกำรอบส่วนโคน แล้วชักรูดมันอย่างไม่บิดพลิ้วตามคำสอน
   “อืม...เยี่ยม...เยี่ยม...”
   ร่างสูงครางกับรสสัมผัส ก่อนจะต้องจิกปลายเท้าจนต้นขาเส้นเลือดขึ้นเมื่อหาญศักดิ์ถอนริมฝีปากออกมาแล้วระบายลิ้นเลียตรงส่วนหัวให้บ้างจนเขาแข็งเสียยิ่งกว่าแข็ง เสียงเลียและน้ำลายที่เคลือบเป็นเมือกใสบนหัวท่อนเนื้อปลุกเร้าอารมณ์ให้เพิ่มขึ้นสูง โซดาสูดปาก กดศีรษะอีกฝ่ายให้บำเรอตัวเองจนหาญศักดิ์หน้าคว่ำ
   หาญศักดิ์ละลิ้นที่ละเลงเลียออกแล้วจับแก่นกายยาวใหญ่มาถูแนบที่แก้มตัวเอง ดวงตาและรอยยิ้มของหนุ่มตากวางหน้าหวานแพรวพราวลบภาพคนแมนไปจนหมดสิ้น โซดาหื่นขึ้นสุดขีดกับภาพที่เห็นตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ตบะแตกทนการยั่วไม่ไหวอีกต่อไป
   “อื้อ...!!”
   ร่างสูงกระโจนลงจากเตียงทาบทับร่างคนยั่วบนพื้นจนหาญศักดิ์ต้องร้องอุทานลั่น มือหนาจับยกสองขาของอีกฝ่ายขึ้นพาดบ่าด้วยความไวดุจพายุ แล้วเสียบแก่นกายเข้าอย่างรุนแรงกว่าหนแรกเป็นเท่าตัว
   “อ๊าาา...!”
   “อึก...อา...!...อา...อ๊า...!!!”
   “อูย...อ๊ะ...!! พี่โซดาจ๋า...เบาๆ เบาๆ หน่อย โอ๊ย...อ๊าา...!” หาญศักดิ์หลับตาตีมือเข้าที่ไหล่ของโซดาพลางร้องขอปากคอสั่น หากแต่อีกฝ่ายกลับไม่มีท่าทีจะอ่อนลงแม้แต่นิด
   “โอย...! ซี้ด...ซี้ด...โอย... อา... ไม่ไหวแล้ว...ไม่ไหวแล้ว...”
   โซดาในยามนี้ดุจเสือหิว แววตาของคนตัวสูงกระหายสุดขีด ปากหยักพร่ำครางซ้ำๆ แล้วกระแทกกระทันอย่างไร้ปราณี เส้นขนดำหยิกหย็อยขดกันเป็นวงที่ยาวลามตั้งแต่หน้าท้องไปจนถึงแก่นกายของเด็กหนุ่มเสียดสีเข้ากับหน้าท้องของเขา มันยิ่งชวนให้เสียวเสียจนผมทั้งหัวลุกชัน
   “เบาๆ...! อา...อ๊า!! อ๊ะ! เบาๆ!! เบาหน่อย...ได้โปรด...อึก...!”
   หาญศักดิ์จำต้องกลืนคำขอลงท้องเมื่อพยัคฆ์ดุก้มลงบดขยี้ริมฝีปากของเขาห้ามไม่ให้พูด
   “อย่าห้ามพี่เลยนะจ๊ะ...ซี้ด...อา...” เด็กหนุ่มครางกระเส่าเมื่อถอนจูบออก เขาจ้องตาคนด้านใต้ด้วยดวงตาคมดุดัน “พี่จะตายแล้ว...จะตายคาอกน้องหานแล้ว...”
   “อ้ะ...อา!!”
   หาญศักดิ์ตัวแอ่นหยัดโค้งจนหน้าท้องแนบติดกับผืนขนรกชัฏไร้ช่องว่าง มันครูดผิวเนื้อขึ้นลงตามทุกการขยับจนทำให้เสียวสะท้านมากกว่าเดิม เขาดิ้นพล่านพัลวันหวีดร้องไม่ขาดสาย ร่างสูงโถมฟัดยอดอกทั้งสองข้าง ดูดดึงมันจนเสียงดังจ๊วบจ๊าบเหมือนจะให้ติดปากร้อนๆ นั่นไปด้วย ไรหนวดยังคงทำหน้าที่เพิ่มความสยิวเป็นสองเท่าตัว ผิวกายที่คล้ำแดดสีตัดกับผิวขาวเชื้อสายจีน
   “อ๊าา...โซดา...อ๊าา...!...ฮือ” หาญศักดิ์เสียวจนน้ำหูน้ำตาไหลพราก ไม่เคยพบพานความสุขสมมากขนาดนี้ในการมีเซ็กส์มาก่อนเลย
   “ซี้ด...อา...ซี้ด...สุดยอด...อ๊า” โซดากัดฟันสลับกับครางอย่างเมามัน
   “อื้อ...! อื้อ...!”
   ช่องทางอ่อนนุ่มตอดแก่นกายยักษ์ตุ้บๆ จนคนถูกบีบรัดก็เสียวถึงปลายเท้า เขาจับสองขาให้กระชับมือและถนัดถนี่ก่อนจะตั้งเท้าตัวเองข้างหนึ่งยันกับพื้น แล้วกระแทกขึ้นใส่หาญศักดิ์ปั่บๆๆ จนคนถูกกระทำตัวสั่นตัวคลอน
   “อ๊ะ...! อ๊า...! อ๊า...!!”
   หาญศักดิ์ได้แต่ครางหนักกว่าเดิม น้ำหูน้ำตาไหลเพราะเสียวเกินเสียวจนใบหน้าเปียกปอน เขาจิกข่วนไปตามเนื้อหนังมังสาของเด็กหนุ่มเพื่อระบายอารมณ์
   “ซี้ด...อา...อา!”
   ร่างสูงหื่นกามจนหน้ามืดตามัวไม่มีสติ เขากัดฟันส่งเสียงครางในลำคอ โซดารู้ตัวเองดีว่าเป็นคนของขึ้นแล้วลงยาก และหาญศักดิ์กำลังทำให้เขาจะขาดใจ...
   เด็กหนุ่มหลับหูหลับตาโหมแรงทั้งหมดใส่การกระแทก ทั้งที่รู้ว่ามันไม่มีวันเข้าไปได้มิดลำแต่ก็ยังตะบี้ตะบันทำจนร่องก้นของคนใต้ร่างขึ้นรอยแดง โซดาคิดอะไรไม่ออกอีกแล้ว ช่องทางของหาญศักดิ์ดูดรัดแน่นขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกลีบดอกไม้ฮุบเหยื่อที่เป็นแมลง ไม่มีทางให้ออก มีแต่ให้ยิ่งเข้าไปลึกกว่าเดิม
   “อ๊ะ!! อ๊าา” กล้ามเนื้อของหาญศักดิ์หดรัดเข้าหากันทั้งตัวเมื่อองศาปลายแก่นกายเปลี่ยนจนแตะเข้ากับจุดๆ หนึ่ง มือไม้สองข้างหงิกงอราวกับเป็นอัมพาต ดวงตากลมโตเบิกโพลง เขากรีดร้องเสียงหลง “อ๊ะถึงแล้ว!! ถึงแล้ว!!! อ๊าาาาาาา!!”
   หาญศักดิ์หวีดร้องเกร็งกระตุกแอ่นร่างหยัดโค้งจากพื้น สองมือจิกแผ่นหลังกว้างจนเล็บบางใสไร้สีเลือด น้ำขาวขุ่นฉีดพ่นใส่หน้าท้องรกขนของอีกฝ่าย ในขณะที่โซดาเองก็อัดฉีดน้ำพันธุ์ข้นคลั่กจนล้นปรี่ออกมาจากช่องทางที่ร้าวระบม ทั้งคู่เอื้อมแตะปุยเมฆบนสวรรค์ไปตามๆ กันอย่างร้อนแรง
   โซดาซบร่างลงบนร่างของหาญศักดิ์แล้วหอบหายใจฮัก เขากะพริบตาถี่ๆ ขับไล่ความเบลอ มึนงงราวกับเพิ่งตื่นจากฝัน แล้วพอลงไปมองหาญศักดิ์ที่นอนสะท้านอยู่กับพื้น ถึงได้รู้ว่าวันนี้ตัวเองรุนแรงใช่เล่นเสียที่ไหน
   ก็อย่างที่บอกว่าพอของขึ้นแล้วมันลงยาก...
   แอบสงสารคนที่ต้องรองรับอารมณ์ของตัวเองไม่ใช่น้อย
   ร่างสูงโปร่งอุ้มช้อนร่างหาญศักดิ์ที่นอนหายใจรวยระรินไร้เรี่ยวแรงบนพื้นให้ขึ้นไปนอนบนเตียง ซึ่งหาญศักดิ์ก็ได้แต่ยินยอม เพราะแค่จะขยับตัวลุกขึ้นยังทำไม่ไหว เด็กหนุ่มนอนลงไปข้างๆ แล้วห่มผ้าทับร่างของพวกเขาทั้งคู่ หาญศักดิ์ดึงแขนของโซดาข้างหนึ่งให้กางออก ก่อนจะโผเข้านอนซบบนหน้าอกแกร่งตามความเคยชิน เด็กหนุ่มลูบไล้เรือนผมสีน้ำตาล กดจุมพิตลงบนกระหม่อมอย่างอ่อนโยน ทั้งคู่เข้าสู่ห้วงนิทรารมณ์โดยไม่พูดพร่ำทำเพลงไปพร้อมๆ กัน

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-11-2016 18:36:57 โดย ตั่วเจ้เจค »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ตั่วเจ้เจค

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-8

   หาญศักดิ์สะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก ควานมือไปข้างตัวก็เจอแต่ความว่างเปล่า และพอเหลียวมองนาฬิกาก็เห็นว่าเป็นเวลาตีหนึ่งนิดๆ เขาลุกขึ้นนั่งแล้วสำรวจร่างกายตัวเอง ก่อนจะพบว่าโซดาได้ทำความสะอาดร่างกายให้เขาจนเรียบร้อยทุกกระบวนการทุกอย่าง คนหน้าหวานโผเผไปหยิบเสื้อคลุมอาบน้ำของโรงแรมมาสวมทับกายเปลือยเปล่าโดยที่ไม่เปิดไฟ...
   “อ้าว ตื่นเหมือนกันหรือครับ”
   โซดาที่ใส่เพียงกางเกงนอนนั่งเหยียดขาตรงไปข้างหน้าบนพื้นหินขัดตรงระเบียงพูดยิ้มๆ ให้กับหาญศักดิ์ที่อยู่ในสภาพยุ่งเหยิงเพราะไม่ได้จัดการตัวเองให้เข้าที่เข้าทางนัก หาญศักดิ์ยกมือขึ้นขยี้ผมที่ยุ่งจนไม่เป็นทรงอยู่แล้วพลางตอบรับ
   “อือ แล้วนี่ทำอะไรอยู่”
   หาญศักดิ์ทิ้งตัวลงนั่งกอดเข่าข้างๆ เด็กหนุ่ม หลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงเซ็กส์อันเร้าใจก่อนหน้านี้เพราะอายจนพูดออกมาไม่ได้ โซดายังคงยิ้มขณะมองหน้าเขา
   “ผมดูดาวอยู่ สวยมากเลยนะครับ” โซดาเองก็ไม่พูดถึงมันเหมือนกันทำเอาหาญศักดิ์เบาใจ มีเพียงแววตากรุ้มกริ่มพราวหวานเท่านั้นที่ทำให้รู้ว่าเด็กหนุ่มก็คิดถึงมันเหมือนกันกับเขา แต่ถึงจะไม่พูด ทั้งคู่ก็รู้กันดีอยู่แล้วว่ามันเยี่ยมยอดมากขนาดไหน
   ...ดีจนอยากจะร้องขอครั้งต่อๆ ไปทันทีเลยล่ะ...
   ถึงจะรุนแรง แต่มันดีมาก...มากจนเกินคำว่ามากไปหลายโยชน์เลยจริงๆ
   หาญศักดิ์ที่โหนกแก้มขึ้นสีระเรื่อช้อนสายตามองเด็กหนุ่มกลับ ส่งสัญญาณให้รู้ว่าตัวเองก็ชอบมันมากเหมือนกันเพียงไร ร่างสูงคลี่ยิ้มแล้วพูดต่อ
   “...อยู่กรุงเทพฯ ไม่เคยได้เห็ฯดาวบนฟ้าชัดๆ แบบนี้กับเขาหรอก”
   “อ้อ...”
   พอได้ยินอย่างนั้นหาญศักดิ์จึงเงยหน้าขึ้นดูดาวบ้าง แล้วก็พบว่าดวงดาวสุกสกาวพร่างพราวสวยงามเหมือนอย่างที่เด็กหนุ่มบอกจริงๆ เขาเห็นหมู่ดาวหลากหลายทางทิศโน้นทิศนี้ ชนิดที่ถ้ายังงมอยู่กรุงเทพฯ ทั้งชาติก็ไม่มีวันได้เห็น
   “นี่ ไม่ดูดาวแล้วเรอะ” หาญศักดิ์แหวเมื่อดวงตาคู่คมยังคงมองจ้องเสี้ยวหน้าด้านข้างของเขาจนรู้สึกได้
   “ตอนแรกก็ดูดาวเพราะว่ามันสวย แต่ตอนนี้มีของที่สวยกว่าดาวมาให้ดู ผมเลยไม่รู้จะหันกลับไปดูดาวเพื่ออะไร”
   หาญศักดิ์เม้มปาก หน้าร้อนฉ่าขึ้นมาทันทีราวกับสั่งได้ สองมือเกะกะไปจับชายเสื้อคลุมเล่นแก้เก้อ
   “มานั่งนี่ดีกว่าครับพี่...อากาศเย็นๆ แบบนี้เดี๋ยวไม่สบาย”
   เด็กหนุ่มพูดเสียงหวานฉ่ำ ดึงร่างสันทัดให้มานั่งตรงกลางระหว่างขาตัวเองแล้ววางสองขาขนาบไว้ข้างๆ ร่างนั้น แขนแกร่งกอดเจ้าพ่อเงินกู้ให้ความอบอุ่น แผ่นหลังของหาญศักดิ์แนบติดกับแผ่นอกแกร่ง เด็กหนุ่มวางคางลงบนไหล่ขวาของคนในอ้อมแขน
   “ทำไมเดี๋ยวนี้ผอมจัง...” โซดาพูดเสียงพร่าขณะโอบอีกฝ่าย คิดเรื่องนี้ตั้งแต่ตอนมีเซ็กส์แล้ว หาญศักดิ์ผอมลงไปเยอะจนกอดแล้วผิดไม้ผิดมือเลยทีเดียว
   “ลดน้ำหนักเป็นเพื่อนมึงไง เปล่าหรอก... ก็เรียนมวยกับมึงนั่นแหละ...ออกกำลังกายเยอะเลยลองควบคุมอาหารลดน้ำหนักไปด้วยเลย”
   ดวงตาคมตวัดมองเรือนร่างในอ้อมกอดตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าราวกับเอกซเรย์
   “แห้งอ่ะ...ไม่ชอบ”
   สายตาคมๆ ของร่างสูงทำให้คนถูกมองสะเทิ้นอายไม่น้อย หาญศักดิ์ยกมือข้างหนึ่งขึ้นทัดปอยผมหลังใบหู
   “...เดี๋ยวตัวหนัก...มึงยกขึ้นตักไม่ไหวนะ” คนหน้าหวานแกล้งพูดเสไปเสียอย่างนั้น ความจริงที่เขาลดน้ำหนักก็เพื่อสุขภาพและรูปลักษณ์ มันไม่ได้ผอมลงมามากมายอะไรแค่น้ำหนักลดมาประมาณหกเจ็ดกิโลกรัมเท่านั้น
   แต่ประกอบกับช่วงที่กินไม่ได้นอนไม่หลับตอนอยู่กรุงเทพฯ เพราะคิดถึงโซดา...มันคงจะลดเพิ่มไปอีกตอนนั้นแน่ๆ รวมๆ แล้วอาจจะเกือบสิบกิโลกรัมก็ได้... พอมาคิดๆ ดู ก็ถือว่าลดไปเยอะเหมือนกันแฮะ
   โซดาส่ายหน้า
   “ตัวใหญ่แค่ไหนผมก็ยกขึ้นตักได้ ขาใหญ่แค่ไหนผมก็เอาพาดคอได้”
   พูดจบก็ยักคิ้วใส่คนฟัง มีรอยยิ้มหล่อๆ บางๆ อยู่บนใบหน้า หาญศักดิ์ชะงักไปนิดกับคำพูดสองแง่สามง่ามนั่น แต่ก็อมยิ้มกวนๆ ตอบกลับ
   “ก็ไม่รู้สิ...เดี๋ยวมึงทิ้งกูไปหาคนหุ่นเพรียวบาง”
   “โธ่ ผมดูเป็นคนแบบนั้นเหรอครับ ฮะ? หลงพี่ขนาดนี้เนี่ย” ฟันคมแกล้งขบกัดเนื้อไหล่ของคนในอ้อมกอดแล้วเสียงเสียงงั่มๆ ไรหนวดครูดผิวไปด้วย หาญศักดิ์หัวเราะ “กินๆ ไปเถอะครับ ไม่ต้องอดทนหรอก ผมยอมให้พี่อ้วนเป็นช้างแล้วมีความสุข ดีกว่าผอมแต่ต้องมาอดทนกินอาหารนก นับแคลอรี่ วุ่นวายทุกข์ใจกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง”
   คำพูดของโซดาช่างธรรมดายิ่งนัก หากแต่มันกลับมีอาณุภาพร้ายกาจทำให้หาญศักดิ์อบอุ่นไปทั้งตัวจนหน้าอุ่น
   มันนานแค่ไหนแล้วนะ ที่หาญศักดิ์ไม่ได้รับการเอาใจใส่จากใคร
   “...พี่ไม่ได้จะไปเป็นนักมวยสักหน่อย เป็นเมียนักมวยไม่ต้องคุมน้ำหนักเป็นเพื่อนหรอก”
   “อือ แล้วนี่มึงไม่หนาวเหรอ ท่อนบนไม่ใส่อะไรเลยเนี่ย เย็นจะตาย” เสี่ยคนแมนรีบเปลี่ยนเรื่องเพราะไม่อยากจะรู้สึกตุ๊ดแตกไปมากกว่านี้
   โซดาที่ยิ้มจนตาหยีส่ายศีรษะ “ผมขี้ร้อน แบบนี้เย็นกำลังดี”
   หาญศักดิ์ยิ้มบ้างแล้วเอื้อมมือขึ้นไปแตะสันกรามของเด็กหนุ่ม
   “สันกรามค๊มคม ปักมาอย่างกับมีด”
   “จริงเหรอครับ” ดวงตาคู่คมระยิบระยับ ยักคิ้วจึ้กๆ “คมพอจะบาดใจพี่ได้ไหมครับ...หืม...?”
   หาญศักดิ์หัวเราะเบาๆ
   “เสี่ยวโคตร”
   “ผมรู้ตัว” โซดาหัวเราะบ้าง
   เด็กหนุ่มโยกเยกคนในอ้อมแขน แล้วถูคางกับศีรษะออดอ้อนใส่หาญศักดิ์ ไถตั้งแต่บ่า...ซอกคอ...ไปยันข้างแก้ม
   “มึงทำอะไรเนี่ย?”
   “...ผมเป็นแมวน้อยของพี่ไง...เหมียว~ เหมียว~”
   โซดาทำเสียงเล็กเสียงน้อย คนตัวสูงหลับตาแล้วเอาแก้มสากของตัวเองถูๆ ต่อที่แผ่นหลังส่วนบนของหาญศักดิ์ เปลี่ยนที่ไปเรื่อยๆ ครวญครางเป็นลูกแมวเหมียวขี้อ้อนน่ารัก ทำตัวราวกับไร้กระดูก
   “โว๊ะ แมวยักษ์น่ะสิ”
   “เหมียว~”
   หาญศักดิ์หัวเราะหลังจากโดนถูโดนไถไม่เลิก เขายื่นมือไปยีกลุ่มผมของเด็กหนุ่ม
   “ขี้อ้อนจริง...”
   ขนาดสาวที่เขาเคยควงยังไม่มีใครจะอ้อนป๋าได้ขนาดนี้... นี่ถ้าเป็นผู้หญิง โซดาต้องได้ทิปจากป๋าหานอย่างงาม
   “แล้วเอ็นดูไหม... เอ็นดูบ้างไหม”
   โซดาส่งสายตาใสปิ๊งให้หาญศักดิ์ เสี่ยหนุ่มยิ้ม ไม่ตอบอะไรแต่ยีผมเด็กหนุ่มแรงกว่าเดิมอย่างหมั่นเขี้ยว
   “เออนี่... ว่าแต่ทำไมเต้นเก่งจังอ่ะ?”
   หาญศักดิ์เลี่ยงไปถามสิ่งที่สงสัยแทน จากที่เขาเห็นที่โซดาเต้นกับเพื่อน มันเท่...มันดูดี...มันดูฮอต เหมาะสมแก่การเป็นหนุ่มหล่อแห่งศตวรรษนี้ที่สุด แล้วก็อย่างที่บอก เจ้าเด็กนี่ไม่ได้เต้นสะเปะสะปะหรือเต้นตลกๆ เหมือนคนเต้นไม่เป็น แต่เต้นฮิปฮอป...เต้นเป็นเรื่องเป็นราว และเต้นเก่งมาก
   “อ๋อ... ก็...ไม่รู้สิครับ” คนตัวสูงยักไหล่ หยุดอ้อนไปเมื่อใช้ความคิด “คือร่างกายมันเป็นไปเอง มันทำได้เอง ไม่ต้องอะไรมากมันก็ทำได้ อื้ม จริงๆ ผมก็ชอบเต้นด้วย แต่ผมไม่ค่อยมีเวลาได้เต้นเท่าไหร่”
   หาญศักดิ์พยักหน้าเข้าใจ พรสวรรค์สินะ
   “นี่ๆ สมัยผมม.ต้นเลยมีแมวมองจากค่ายเกาหลีมาเรียกตัวบนถนนด้วยน้า ชื่อค่ายว่าเอสเอ็มอะไรสักอย่าง แต่ตอนนั้นผมบ้าต่อยมวยอยู่เขามาเรียกยังไงก็ไม่ไป แถมผมขู่เขาไปว่าถ้าไม่เลิกกวนใจจะต่อยให้ยับเลย ไอ้พวกเกาหลีนั่นเลยหนีหัวหดไปกันหมด ไม่งั้นนะป่านนี้ผมเป็นศาสดาวงเอ็กๆ โซ่ๆ อะไรนั่นแล้ว” โซดาคุยโว ยักคิ้วเข้มรัวๆ ใส่คนบนตัก หาญศักดิ์กลอกตา ทำหน้าเหลือจะเชื่อก่อนจะจิ้มหน้าผากเด็กหนุ่มจนคนถูกจิ้มหน้าหงาย เจ้าเด็กตัวสูงแกล้งร้องโอย แล้วส่งสายตาตัดพ้อเรียกร้องความสนใจสุดๆ
   แหม กูคงหลงกลมึงมั้ง ถึกแบบนี้เนี่ย
   “หลงตัวเองนี่ไม่มีใครเกินอ่ะ” หาญศักดิ์ตอกเข้าให้ “แล้วทำไมไม่โกนหนวด อาจารย์ไม่ว่าเรอะ”
   ร่างสูงยักไหล่ “ผมลืมเอามีดโกนมาน่ะครับ ไม่อยากยืมของคนอื่นมาใช้ มันแปลกๆ”
   “กูเอามา และกูไม่ใช่คนอื่นสำหรับมึง เพราะฉะนั้นเดี๋ยวมึงไปโกนด้วย”
   “อะไร้... ไม่ใช่ว่าพี่ชอบหรอกเหรอครับ”
   “...”
   ใบหน้าหล่อเหลายิ้มพราย กระซิบลงที่ข้างใบหูเล็ก “รู้นะจ๊ะว่าชอบ...”
   คนบ้า!
   หาญศักดิ์ฟาดมือลงบนท่อนแขนล่ำๆ สีแทน “เป็นนักเรียนโรงเรียนไหนเขาให้ไว้หนวด เออ มีนิดๆ ก็หล่อดี แต่รกครึ้มมากไปมันจะเหมือนโจร มึงเข้าใจไหม”
   เอาไว้เรียนจบ...แล้วอยากไว้หนวดนิดๆ ให้พอเซ็กซี่แบบถาวรก็ค่อยว่ากัน หาญศักดิ์รอได้...
   “ครับๆ” เด็กหนุ่มรับคำแล้วก้มลงจูบที่หัวไหล่ขวาของหาญศักดิ์ “เฮ้อ...ผมอยากอยู่แบบนี้ไปนานๆ จัง ไม่อยากกลับกรุงเทพฯ แล้ว”
   “ทำไม อยากสร้างเลิฟแอเรียอยู่กับน้องบัวสองคนใช่ไหมล่ะ”
   เสี่ยหนุ่มอดไม่ได้พูดโพล่งจิกกัดเรื่องที่มันค้างคาใจขึ้นมา โซดาชะงักทันที
   “พูดเรื่องอะไรครับพี่?”
   กว่าหาญศักดิ์รู้ตัวว่าเผลอหลุดปากจนเสียท่าก็สายไปเสียแล้ว ฉะนั้นเขาจึงเก๊กแทน
   “ก็...มึงชอบมองไม่ใช่เหรอ แต่น้องเขาก็สวยดีอะนะ หุ่นดีด้วย กูยังชอบมองเลย”
   “นี่ พี่คงไม่เชื่อไอ้พวกนั้นหรอกนะ ผมไม่ได้คิดอะไรกับบัวนะครับ”
   “ใครจะไปรู้ใจมึง ก็เห็นกะหนุงกะหนิงนั่งกินข้าวกันเมื่อวานนี้”
   “พี่เห็นด้วยเหรอครับ” โซดาดูตกใจขึ้นมาเล็กน้อย ท่าทางจะยังไม่รู้ว่าคนที่เอาข้าวผัดเทรดหัวมันทั้งจานก็คือเขาเอง หาญศักดิ์พูดต่อค้อนๆ
   “อือ ไม่ได้แค่เห็นอย่างเดียว แต่กูได้ยินด้วยโว้ยว่ามึงพูดอะไรกับบัว เล่นหยอกขนาดนั้น ถ้ากูเป็นผู้หญิงกูก็คิดอ่ะว่าจีบ”
   “ถ้าได้ยินที่ผมพูด แล้วทำไมพี่ยังพูดอย่างนี้ล่ะครับ”
   “...หมายความว่าไง?” หาญศักดิ์เลิกคิ้วหันไปจ้องหน้าเด็กหนุ่ม โซดาชักรู้สึกว่ามีอะไรทะแม่งๆ เสียแล้ว
   “เอาอย่างนี้ดีกว่าครับ พี่บอกผมมาว่าได้ยินถึงตรงไหน ฟังตั้งแต่ต้นจนจบหรือเปล่า”
   “ฟังตั้งแต่ต้น แต่ไม่จบ อยู่ถึงตอนที่มึงตักไข่พะโล้สื่อรักให้น้องบัวกิน แล้ว...กูก็ไม่ได้ฟังต่อแล้ว” ความจริงคือโกรธจนควันออกหู ฟังอะไรไม่รู้เรื่องอีกแม้แต่นิดเดียว...
   ก็รู้แหละว่าเขาแค่เพื่อนกัน แต่มันก็...อดรู้สึกนิดๆ ไม่ได้นี่นา
   ร่างสูงคลี่ยิ้มออกมาทันที มิน่าเล่า...
   “แล้วพี่รู้ไหมครับว่าผมพูดอะไรกับบัวต่อหลังจากนั้น”
   “ไม่รู้โว้ย หน้าอย่างมึงจะทำอะไรล่ะนอกจากหยอกเขาต่อ”
   “บัวบอกผม... ว่าบัวมีแฟนแล้ว”
   “...”


   ‘อะ...เออ! เราตกใจหมด คือเราก็ปลื้มโซดานะ แกนิสัยดีอ่ะ แต่เราไม่ได้คิดแบบนั้น เป็นเพื่อนกันดีแล้ว’
   ‘อ่ะๆๆ อย่าตกใจนะ เราแบ่งไข่พะโล้ให้กินลูกนึง เห็นไม่ได้ตักมา ลองชิมดูดิ อร่อยน้า’
   ‘นี่ ไม่ได้จีบเราจริงๆ ใช่ไหม?’
   ‘ไม่ได้จีบ ทำไม บัวอยากให้จีบเหรอ’
   ‘บ้า โซดาจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ เรามีแฟนแล้ว พี่เพชรที่จบม.6 ไปเมื่อสองปีที่แล้วอ่ะ เราคบกับพี่เพชรมาตั้งจะสามปีแล้ว’
   ‘ฮ่าๆ ถึงบัวอยากให้จีบเราก็จีบบัวไม่ได้หรอก เรามีเมียแล้ว รักเมียมากด้วย เมียเราน่ารักกว่าบัวห้าเท่า’ พูดอวดจบก็ยิ้มแป้น
   ‘แค่กๆ!!’ บัวตบหน้าอกที่เพิ่งกลืนไข่พะโล้เข้าไป สำลักหน้าเขียวหน้าแดง เธอยกน้ำเปล่าดื่มหมดแก้ว ‘โอ้โห! แรงจัง เมียเลยเหรอ’
   โซดายังคงยิ้มกว้างตาปิด “อืม ก็เขาไม่ยอมใช้คำว่าแฟนกับเรา เราเลยข้ามขั้นให้เลย’ เด็กหนุ่มยักคิ้วรัวๆ แล้วพูดต่อเสียงแผ่วค่อย ‘นี่ไม่รู้ป่านนี้จะนั่งเฉารอเราอยู่ที่กรุงเทพฯ บ้างรึเปล่า หรือจะหลั่นล้าออกไปหาคนอื่นข้างนอกก็ไม่รู้...’
   ‘อ้อ นึกออกล่ะ เราเคยอ่านบทสัมภาษณ์ของโซดาในคอสโมฯ โซดาดูรักแฟนมากจริงๆ จะมาจีบเราได้ไงละเนอะ ขอโทษที’
   ‘ไม่เป็นไรหรอก เฮ้อ...’ ร่างสูงถอนใจ มองไปยังอากาศว่างๆ ข้างตัว ‘หวังว่าเขาจะคิดถึงเรา...เหมือนที่เราคิดถึงเขาบ้างนะ...’
   ฟึ่บ!! <<< เสียงข้าวผัดเทรดหัว
   ‘เฮ้ย!!’


   “...จริงเหรอ” หาญศักดิ์ที่รับฟังเรื่องราวทั้งหมดอึ้งสนิท
   “จริงสิครับ ใครนั่งแถวนั้นได้ยินกันหมด ผมเปิดตัวจะตาย ถ้าพี่ไม่อายว่าเราเป็นผู้ชายเหมือนกัน ไม่มีหน้าตาทางสังคมต้องแบกรับ ผมจะทำป้ายแขวนคอไว้เลย ว่าผมมีเมียแล้วชื่อหาญศักดิ์ สกรีนรูปพี่ติดบนป้ายด้วย”
   “ไอ้บ้า!”
   “นั่นแน่...” เด็กหนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์ ถูไรหนวดตรงใต้คางตัวเองเข้ากับหัวไหล่ของคนในอ้อมแขนเป็นการกระเซ้า “แบบนี้เรียกหึงปะเนี่ย”
   “...”
   “แน่ะๆๆๆ แน้~” ใบหน้าคมคายมีรอยยิ้มระบายกว้าง “หึงผมใช่ไหม...หึงผมใช่ไหมล่ะ”
   “...”
   “เอ๊ะ จะว่าไป หรือว่าพี่...พี่คือคนนั้นใช่ไหมครับ คนที่เอาข้าวผัดเทรดหัวผม แล้วก็เอาจานฟาดต่อด้วย”
   หาญศักดิ์ไม่ตอบแต่สะดุ้งเฮือกในอ้อมแขนแข็งแรง อาการทุกอย่างฟ้องชัดเจนแจ่มแจ้ง โซดายิ้มพราย กระซิบเสียงหวาน
   “แบบนั้นเขาเรียกหึงขนาดหนักเลยนะจ๊ะ รู้ไหม...”
   หาญศักดิ์เม้มปากแน่น หันหน้าไปทุบแผงอกแกร่งตุ้บตั้บ
   “ไม่ได้หึงโว้ย! หลงตัวเองตลอด!!”
   โซดาหัวเราะเสียงดังเมื่อเห็นคำพูดของหาญศักดิ์ขัดกับใบหน้าที่แดงก่ำ
   “โอ๊ย พอแล้วครับ” เขาจับสองมือของหาญศักดิ์ให้อยู่กับที่ “นี่อีกหน่อยถ้าผมไปเรียนโรงเรียนเตรียมทหารจริงๆ ได้เจอกันแค่เสาร์อาทิตย์ เราสองคนจะทำยังไงเนี่ย”
   “กูก็จะได้เป็นไทจากมึง จะหนีไปมีเมียสวยๆ เอ็กซ์ๆ เลย”
   โซดาขบกัดริมฝีปากตัวเอง ดวงตาที่เคยพราวหวานแข็งกร้าวขึ้นมาทันที มือที่จับมือของหาญศักดิ์ไว้เฉยๆ เปลี่ยนเป็นล็อกแน่นจนหาญศักดิ์ร้องโอย เขากล่าวเสียงเรียบ แต่ไม่ใช่เรียบเฉยไร้อารมณ์ เป็นความสงบราบเรียบดุจทะเลก่อนพายุเข้า
   “ถ้าพี่จะออกไปจากวงเวียนชีวิตของผม ผมจะซ้อมพี่ให้ตายคามือเลย”
   “โหดจัง”
   มันพูดเล่นใช่ไหม...
   “แล้วผมก็จะฆ่าตัวตายตามไป”
   “...”
   “เพราะผมไม่อยากมีชีวิตอยู่โดยไม่มีพี่”
   “...”
   เด็กหนุ่มคลายมือที่จับล็อกมือของเจ้าพ่อเงินกู้
   “ฉะนั้นอย่าหนีไปจากผมนะครับ ถ้าไม่อยากตาย แล้วก็ไม่อยากให้ผมตาย”
   หาญศักดิ์หน้าแดงปลั่ง พิงหลังลงซบกับแผงอกของเด็กหนุ่มแล้วยกสองมือขึ้นปิดหน้า ซึมรับคำพูดนั้นมาเต็มร่าง โซดายิ้มมุมปาก สองแขนแกร่งเลื่อนไปโอบกอดอีกฝ่ายอีกครั้ง
   “แล้วตกลงมึงเข้าห้องกูมาได้ยังไง”
   รอยยิ้มกว้างเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ในเสี้ยววินาที
   “ผมก็บอกไปว่าเราเป็นญาติกันนั่นแหละครับ แล้วก็เอารูปที่เคยถ่ายเล่นกันในไอโฟนให้พนักงานพี่ดูเป็นหลักฐาน เขาก็ให้กุญแจมาเลย”
   “มึงก็เลยเข้ามาลักหลับกูเลยสินะ”
   โซดาระเบิดหัวเราะตากลายเป็นรูปสระอิ ก้มลงกัดหัวไหล่ของหาญศักดิ์อีกครัง ครูดไรหนวดตัวเองเข้ากับผิวตรงหัวไหล่นั่นไปด้วยขณะพูด
   “ก็พี่นอนน่ารักขนาดนั้น ใครมันจะไปอดใจไหวล่ะครับ ขี้ยั่วอีก”
   หาญศักดิ์กัดปากกลอกตาทั้งที่ยังหน้าเห่อร้อน
   ยั่วนิดเดียวเอง...
   “มึงมันหื่นที่สุดอยู่แล้ว ไม่ต้องมาพูดหรอกไอ้เวร”
   “เฮ้อ...พี่นี่...พูดเพราะๆ กับผมบ้างได้ไหมครับ คำก็เหี้ย สองคำก็ผีห่า เรียกก็จิกหัวมึงๆๆๆ ตลอด ไอ้เราเรอะออกจะรักจะเทิดทูน...หยาบคายใส่สักนิดก็ไม่มี”
   “บ้า!!” สิ่งที่หาญศักดิ์อายที่สุดได้ดำเนินมาถึงแล้ว “กะ...กู...กู...กูไม่รู้จะเรียกมึงว่าอะไรนี่!!”
   “ทีวันแรกที่เจอหน้ากันพี่ยังเรียกผมว่าน้องแล้วแทนตัวเองว่าพี่เลย”
   หาญศักดิ์แยกเขี้ยว คำรามดังลั่น “ก็ตอนนั้นกูไม่รู้ว่ามึงจะทะลวงประตูหลังกูขนาดนั้นนี่โว้ย!!”
   คดีมันพลิก!
   “อ้าว ผมไม่ผิดนะ พี่เล่นเสื้อไม่ใส่ เดินเข้ามายั่วกันแบบนั้น ผมก็มีอารมณ์สิครับ มีมากด้วย แถมยังมาจับมาจูบผมก่อนอีก ผมต้องอดกลั้นทำนิ่งๆ แทบตายรู้ไหม”
   “นั่นเพราะกูคิดว่ามึงบอบบางเป็นสาวน้อยหรอกดีออกกกกก!!”
   เพราะมึงทำนิ่งๆ กูถึงได้เสียเอกราชตราบจนทุกวันนี้ไง!
   “แน่ะ อีกแล้ว...” โซดายู่ปาก เคาะกระหม่อมตัวเองเข้ากับท้ายทอยของหาญศักดิ์ เขาก็ชินอยู่หรอกที่หาญศักดิ์พูดจามึงมาพาโวยใส่แบบนี้ จะพูดดีๆ เพราะๆ ก็ตอนอยู่บนเตียงเท่านั้น แต่บางทีเขาก็อยากฟังอะไรที่มันรื่นหูบ้าง
   “เอาเถอะครับ ผมก็คิดไม่ออกเหมือนกันว่าพี่จะหาสรรพนามอะไรมาเรียกแทนผมนอกจากแบบนี้”
   “...ที่จริง...จริงๆ...ก็มีแอบคิดไว้เหมือนกัน...” หาญศักดิ์อุบอิบ หน้าแดงจัดจนแผ่รังสีความร้อนออกมาได้ โซดาหูผึ่ง
   “ฮะ? อะไรนะครับ? ผมได้ยินอะไรผิดไปหรือเปล่า”
   หาญศักดิ์ส่ายหน้ายืนยันว่าอีกฝ่ายได้ยินไม่ผิด มือไม้เล่นชายเสื้อคลุมให้วุ่น
   “หือ...ไหน...จะเรียกว่าอะไรเอ่ย...ไหนลองบอกหน่อยสิครับคนดี”
   “...คิด...คิดไว้ว่าจะเรียกว่า...”
   “ว่า...?”
   “...”
   “...”
   หาญศักดิ์กัดริมฝีปากแล้วยกสองมือขึ้นขยุ้มหัวตัวเองจนยุ่งกว่าเดิม โซดาเงียบอย่างรอคอย และแล้วในที่สุด เสียงๆ หนึ่งก็เล็ดรอดออกมาจากริมฝีปากเล็กแผ่วเครือ
   “...ตัวเอง”
   พูดจบหาญศักดิ์ก็เลื่อนมือลงมาปิดหน้าที่แดงก่ำ โซดายิ้มหน้าแข็งหมือนหุ่นปั้นไมเคิล ดิแองเจลโล ต่อให้มีคนเอาเข็มมาทิ่มตอนนี้เขาก็คงไม่เจ็บปวด หาญศักดิ์คำรามลั่นแล้วสะบัดศีรษะไปมา
   ฮืออออ เรียกออกไปแล้วอ่า อ๊ากกกกกกกกก
   “ผมชอบนะครับ ชอบกว่าเรียกมึงเยอะเลย”
   “โอย...ฮือ...”
   หาญศักดิ์หัวร้อนจนทำอะไรไม่ถูก อยากเอาหน้าผากลงไปโขกๆๆๆ กับพื้นหินขัดให้ตายคาที่เสียเดี๋ยวนี้ โซดากระชับอ้อมกอดแน่น แล้วกระซิบข้างใบหูเล็ก
   “ตัวเอง...ตัวเองครับ...งั้นเค้าเรียกตัวเองว่าตัวเองด้วยนะครับ”
   “...ฮื้ออออ!”
   หาญศักดิ์ครางโวยวายในลำคออย่างว้าวุ่นใจ
   “ค่อยๆ ปรับไปก็ได้นะครับ เดี๋ยวตัวเองก็เรียกได้...”
   “อืออ...”
   “ไหน...ลองเรียกซิ”
   หาญศักดิ์กลืนน้ำลายลงท้องเอื๊อกใหญ่ สองมือยังคงปิดหน้าปิดตาที่แดงก่ำ ก่อนจะค่อยๆ อ้าปากพูด...
   “...ตะ...ตะ...ตะ...ตะ...ตัวเอง...”
   “ครับ” โซดายิ้ม ตอบเสียงหวาน “ว่าไงครับตัวเอง”
   “อันที่จริง...คะ...คะ...เค้า...เค้ามีอะไรอยากจะพูดกับตัวเองนานแล้ว” เสี่ยหนุ่มตะกุกตะกัก ค่อยๆ ลดมือลงจากใบหน้าตัวเองช้าๆ เสียงสั่นพร่าไปหมดแต่ก็พยายามจะพูดให้ได้
   “ครับ”
   โซดายังคงยิ้มจนตาทั้งสองข้างกลายเป็นรูปสระอิ หาญศักดิ์ถอนใจเฮือกใหญ่ รวมรวมสติแล้วเอ่ยปากออกไปตรงๆ
   “ตะ...ตัวเอง เค้าคงห้ามความคิดตัวเองไม่ได้ แต่เค้าไม่อยากให้ตัวเองคิดว่าอยากเป็นตำรวจเพราะเรื่องอย่างนั้น ถึงเค้าจะทำงานเลวๆ แต่เค้าก็อยากให้ตัวเองเป็นคนดี อยากให้ตัวเองเป็นตำรวจเพราะอยากพัฒนาประเทศ ช่วยเหลือประชาชน แต่ไม่ว่าตัวเองจะอยากเป็นตำรวจเพราะอะไร เค้าก็จะสนับสนุนมึง เอ๊ย สนับสนุนตัวเอง และอวยพรขอให้ตัวเองได้เป็นสมใจ ขอให้ตัวเองได้ในสิ่งที่หวังทุกประการ
   “อีกเรื่อง แล้วเค้าก็ไม่อยากให้ตัวเองแก้ปัญหาทุกอย่างด้วยการใช้กำลัง โดยเฉพาะการฆ่า เพราะเมื่อไหร่ที่เราฆ่าใคร ต่อให้จะมีเหตุผลสนับสนุนมากแค่ไหน แต่เราก็จะไม่ใช่เหยื่ออีกแล้ว เราจะกลายเป็นจำเลย เป็นคนผิดทันที แล้วสิ่งที่ตามมาหลังจากนั้น มันไม่ดีหรอกตัวเอง”
   หาญศักดิ์ที่เพิ่งเปลี่ยนสรรพนามพูดเร็วปรื๋อไปชุดใหญ่จบก็ซบหน้าลงกับฝ่ามืออีกรอบเพราะเขินสุดขีด โซดายิ้มกว้าง
   “ขอบคุณครับ เค้าจะจำไปคิดทุกคำพูดเลย ขอบคุณที่เป็นห่วงนะครับตัวเอง”
   “อืม....” หาญศักดิ์พยักหน้าทั้งที่ยังซบหน้ากับฝ่ามือ “ตะ...ตะ...ตะ...ตัว...ตัวเอง...”
   “ครับ...ว่าไงครับตัวเอง”
   เสียงที่เปล่งออกมาอู้อี้ “กูขอเรียกมึงเหมือนเดิมได้ไหม กูทนไม่ไหวแล้ว”
   “ฮ่าๆๆๆ โอเคครับ เอาที่พี่สบายใจนั่นแหละ”
   แค่นี้โซดาก็ยิ้มจนไม่รู้จะยิ้มยังไงแล้ว เด็กหนุ่มกอดร่างสันทัดที่ร้อนฉ่าไปหมดเพราะขวยเขิน เสียงจิ้งหรีดเรไรร้องระงมท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ ดวงดาวทั้งหลายยังคงทอประกายส่องแสงงดงามจากบนฟากฟ้า ลมหนาวพัดผ่านผิวเนื้อชวนให้สั่นสะท้าน
   “พี่หานครับ...”
   “อะไรมึง?”
   หาญศักดิ์หันหน้าไปหาโซดาเมื่อถูกเรียกด้วยน้ำเสียงจริงจัง ดวงตาคู่คมกริบจ้องสะกดตรึงเขาเอาไว้ให้อยู่กับที่ เด็กหนุ่มกลืนน้ำลายลงท้องคล้ายรวบรวมความกล้า ก่อนจะค่อยๆ เอ่ยปากพูด
   “รักผม...รักผมบ้างไหมครับ”
   “...”
   “พี่รักผมบ้างไหม”
   “...”
   หาญศักดิ์เงียบสนิท มองใบหน้าคาดหวังของโซดากลับด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก ทั้งคู่เงียบนานเป็นครู่ ช่วงเวลาราวกับผ่านไปนานชั่วกัปชั่วกัลป์ เสียงจิ้งหรีดยังคงร้องระงมแข่งกับเสียงหัวใจของเด็กหนุ่ม ในที่สุด เสี่ยหนุ่มก็เอ่ยปากช้าๆ และแผ่วเบา
   “กูไม่ได้เป็นเกย์นะโซดา...”
   ประโยคเดียวพังฝันของโซดาจนแตกสลายไม่มีชิ้นดี เด็กหนุ่มคอตกก้มหน้าลงมองพื้น สั่นไปทั้งตัว ร่างสูงเงียบสนิท มีเพียงเสียงหายใจอย่างเจ็บปวดดังออกมาให้ได้ยินเท่านั้น กระบอกตาของเขาแสบร้อนเหมือนไหม้
   เด็กหนุ่มที่ตัวสั่นอ้าปากหอบ ...เจ็บ...เจ็บเสียจนไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป...
   ศาสดาเหมือนถูกกระสุนยิงเข้าเป้าตรงหัวใจอย่างจัง มันทั้งเจ็บทั้งชา ได้แต่นอนตายอยู่บนพื้นเย็นเฉียบโดยไม่มีใครเหลียวแลแม้แต่ผู้เดียว
   หาญศักดิ์เอื้อมสองมือไปประคองสันกรามคมให้ขึ้นมาจ้องหน้าตัวเอง แก้มขาวๆ ขึ้นสีแดงจัด
   “แต่ถ้ากูบอกว่ากูไม่ได้รู้สึกอะไรเลยกับมึง ลูกผู้ชายแบบกูก็ต้องโกหกใจตัวเองอยู่แน่ๆ”


:::METAL TERMINAL:::

ออฟไลน์ ตั่วเจ้เจค

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-8

   พูดออกไปแบบนั้นแล้วจะทำอะไรได้ละครับนอกจาก...
   เขินโว้ยยยยยยยยยยยย!
   ...สั่น...สั่น...สั่น...แต่มันสั่นสู้...
   รู้จักป่ะ!!?
   โซดาที่น้ำตาคลอยิ้มกลับมาให้เขาเหมือนคนบ้า และท่ามกลางหมู่ดาว...สายลม...และเสียงจิ้งหรีดเรไรคืนนั้น
   โซดาหล่อเหลือเกิน...
   ขากลับกรุงเทพฯ หาญศักดิ์กับโซดานั่งเครื่องบินกลับมาด้วยกัน ทางโรงเรียนอนุญาตโดยไม่ขัดข้องเพราะกิจกรรมของค่ายหมดลงแล้ว ครูอาจารย์ทุกคนขอบคุณหาญศักดิ์ที่ทางโรงแรมเมททอลดูแลเป็นอย่างดี มีการให้หาญศักดิ์ไปร่วมทำพิธีปิดค่ายอีกต่างหาก
   ...อีกด้าน เด็กหนุ่มก็ไม่ได้เร่งรัดหรือเร้าหรือเค้นถามอะไรเขาอีก นอกจากคอยส่งสายตายุบยิบชวนคันหัวใจให้ พอหันหน้าไปมองทีไรก็เห็นโซดามองอยู่ก่อนแล้วทุกที
   “เดี๋ยวช่วยขนกระเป๋าให้นะครับ”
   อะไร...ทำเสียงพร่าส่งสายตาพราวหวานให้คืออะไร
   แล้วมือมึงอ่ะ แอบมาจับทับมือกูตรงที่หิ้วกระเป๋าทำไม
   ฮึ่ย คนบ้าาาา! คนฉวยโอกาสสสสสสส!
   หาญศักดิ์ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน พูดคุยอะไรก็โวยวายทำตัวปกติที่สุด ถึงจะร้อนๆ หนาวๆ กับสายตาของมันแต่จะไม่สะท้านให้รับรู้หรอกโว้ย นี่ใคร นี่เสี่ยหานยูโน้ว!
   คนขับรถที่ไม่ได้เจอหน้ากันนานเพราะหาญศักดิ์ไปอยู่โรงแรมขับรถมารับเจ้านายที่สนามบิน โซดากับหาญศักดิ์ขึ้นไปนั่งบนเบาะตอนหลัง พูดคุยกันเสียงเจี๊ยวจ๊าวไปตลอดทางโดยมีลุงคนขับรถร่วมคุยไปด้วย เขายอมรับว่าไม่ค่อยเข้าใจความสัมพันธ์ของคุณหานกับเมียเด็กผู้ชายคนนี้นักหรอก เพราะโซดาก็ดูไม่ได้ตุ้งติ้งเหมือนที่เคยพบหน้าตอนแรกๆ เลย ออกจะแมนมากด้วยซ้ำจนเขาไม่เข้าใจว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะเป็นเมียของเจ้านายตัวเองไปได้อย่างไร แต่เอาเถอะ แค่เจ้านายมีความสุขเขาก็พอใจแล้ว
   Rrrrr~ Rrrrr~
   หาญศักดิ์ที่กำลังหัวเราะๆ อยู่หยิบไอโฟนขึ้นมากดรับ
   “ฮัลโหล เสี่ยชานเรอะ ว่าไง เนี่ยกูถึงกรุงเทพฯ แล้ว แต่ว่าจะกลับไปนอนบ้าน”
   (ไม่ๆๆๆ มึงจะกลับบ้านไม่ได้นะเว้ยไอ้เสี่ยหาน มึงกลับมาอยู่เมททอลก่อนเหอะ) น้ำเสียงของเพื่อนรักคนเถื่อนร้อนรน
   “ฮะ? ทำไมวะ มีอะไรเหรอ”
   (คะ...คือ...คือ ไอ้เฉินอยู่บ้านมึงน่ะ มันเข้าไปดูความเรียบร้อยให้ตามปกตินั่นแหละ...)
   “อือ แล้วไงวะ?” หาญศักดิ์ไม่เข้าใจ
   (ก็...ก็มันบอกว่าบ้านมึงท่อแตก! เหม็นไปทั้งบ้านเลย)
   “เชี่ย!! แบบนี้กูยิ่งต้องรีบกลับไปดูเลย ลุง!” เจ้าพ่อเงินกู้ลดมือถือลงหันไปพูดกับคนขับรถ “ที่บ้านท่อแตกเหรอ ทำไมผมไม่รู้!”
   “ฮะ!? ตอนผมออกมาที่คฤหาสน์ไม่มีอะไรผิดปกตินะครับคุณหาน ทุกอย่างเรียบร้อยดี”
   “อ้าวจริงเหรอ สงสัยเพิ่งแตกสิเนี่ย ลุงเหยียบให้มิดเลย ผมจะรีบกลับไปดูบ้าน”
   เจ้าของคฤหาสน์ร้อนใจสุดขีดเพราะเป็นห่วงบ้านตัวเอง เสียงของเสี่ยชานลอดมาตามสาย
   (ฮัลโหล! ฮัลโหล! มึงยังอยู่ไหมเสี่ยหาน!)
   “อ้อๆ โทษที เนี่ยกูกำลังรีบกลับบ้านเนี่ย ใกล้ถึงล่ะ จะไปดูสักหน่อย”
   (เชี่ย!) เสียงของเจ้าพ่อกาสิโนฟังดูตกใจมาก (มึงไม่ต้องไปดูหรอก เลี้ยวรถกลับมาเลย เดี๋ยวไอ้เฉินมันดู-- ติ๊ดๆๆๆ)
   “เอ้า แบตหมดเฉย”
   หาญศักดิ์มองสมาร์ทโฟนของตัวองที่ดับวูบไปต่อหน้าต่อตาแล้วก็เก็บมันลงกระเป๋ากางเกง ถ้าที่คฤหาสน์มีปัญหาในฐานะเจ้าของบ้านแน่นอนว่าเขาต้องกลับไปดูอยู่แล้ว จะมาห้ามไม่ให้ไปเพราะกลิ่นเหม็นเนี่ยนะ ตลกสิ้นดี
   ลุงคนขับรถขับรถรวดเร็วทันใจ เพียงแค่อึดใจเดียวหาญศักดิ์กับโซดาก็มาถึงคฤหาสน์จนได้ เด็กหนุ่มลงจากรถแล้วเดินไปเปิดกระโปรงท้าย หยิบเอากระเป๋าของตัวเองกับหาญศักดิ์ออกมา เขาควานมือเข้าไปในกระเป๋าสัมภาระของตัวเองแล้วหยิบไอโฟนที่เก็บไว้ออกมาดู
   “โห สายไม่ได้รับตั้งสิบกว่าสาย พี่ชานกับพี่เฉินโทรหาผมไม่หยุดเลย พอดีวันนี้ผมเผลอยัดเก็บมือถือเข้าไปในกระเป๋าใบใหญ่ตั้งแต่ที่ค่ายแล้วด้วยสิ”
   “สงสัยเรื่องท่อแตกน่ะ แต่ก็ไม่เห็นมีกลิ่นอะไรนะ มึงได้กลิ่นอะไรไหม” หาญศักดิ์สูดจมูกฟุดฟิด มือหนึ่งหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าของตัวเองมาถือไว้เตรียมเดินเข้าบ้าน
   โซดาสูดจมูกบ้าง เขาส่ายหน้า “ผมไม่ได้กลิ่นนะครับพี่ บางทีอาจแตกตรงครัวหรือหลังบ้านกลิ่นเลยยังมาไม่ถึง ไปดูกันดีกว่า”
   “เสี่ยหาน! เสี่ยมาได้ยังไงครับ!”
   เฉินที่ในมือยังกำสมาร์ทโฟนของตัวเองไว้แน่นหน้าตื่นปรี่ออกมาจากตัวคฤหาสน์ ท่าทางเหมือนจะเป็นลม “โอ๊ย ลุง! พาเสี่ยมาบ้านทำไม ทำไมลุงไม่ขับพาเสี่ยไปนอนที่เมททอล!” เฉินหัวเสียหันไปไล่เบี้ยกับคนขับรถที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว
   “อ้าว...ก็คุณหานบอกว่าจะกลับบ้านนี่ครับ ไม่ได้บอกว่าจะไปโรงแรม”
   “แล้วโซดา ทำไมมึงไม่รับสายพี่วะ ฮะ!” เฉินขยุ้มศีรษะหันไปอาละวาดใส่เด็กหนุ่มแทน
   “ขอโทษครับพี่ พอดีผมใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อผ้าเลยไม่ได้ยินเสียง...”
   “ให้มันได้อย่างนี้สิว้อย!” เฉินตบหน้าผากตัวเอง “เสี่ยหาน เรากลับเมททอลกันเถอะครับ” ไม่พูดเปล่าผู้จัดการหนุ่มยังพยายามดันหลังหาญศักดิ์ให้กลับเข้าไปในรถ “บ้านเสี่ยตอนนี้ไม่ค่อยสะดวก ป้าคนใช้แกผัดผักแล้วทำไฟไหม้ตรงครัว รอให้ผมจัดการให้เรียบร้อยแล้วเสี่ยค่อยกลับมานอนบ้านดีกว่า”
   “ไฟไหม้!!?” เจ้าของบ้านตกใจมาก “ไหนไอ้เสี่ยชานบอกอั๊วว่าท่อแตกไง นี่ไฟไหม้บ้านอั๊วด้วยเหรอ!!”
   เฉินหน้าถอดสีเมื่อหาญศักดิ์ก้าวดุ่มๆ จะเข้าไปในตัวบ้านทันที เฉินรีบตามประกบติดๆ เดินเร็วจนขาจะไขว้กันเป็นเลขแปด โซดาที่สะพายกระเป๋าก้าวเท้าเดินตามหลังทั้งคู่ ไม่เข้าใจอาการของพี่เฉินสักนิด
   “เอ๊ะ ลื้อนี่อย่ามาเกะกะ ถ้าบ้านอั๊วเสียหายอั๊วก็ต้องไปดูให้เห็นกับตาสิวะ จะได้รู้ว่ามันหนักหนาแค่ไหน”
   “โอยย...ไม่ต้องไปดูหรอกครับเสี่ย” เสียงเฉินเหมือนจะร้องไห้ แทบจะกราบกรานให้หาญศักดิ์หันหลังกลับ “ไปนอนเมททอลเถอะครับ เดี๋ยวผมจัดการให้”
   หากแต่หาญศักดิ์ก็ไม่ยอมฟังเอาแต่จ้ำพรวดจะเข้าไปดูในบ้านให้ได้อย่างร้อนใจ เฉินเหงื่อแตกซิก ตัดสินใจกระโจนพรวดมากางแขนกางขาขว้างหน้ากั้นผู้เป็นเจ้าของบ้านทันที เสี่ยหนุ่มหัวเสียสุดขีด
   “ไอ้เฉิน ลื้ออย่ามาทำตัวประสาทกลับแถวนี้นะ หลีกไป!”
   “หาน...”
   กึก
   เสียงหวานๆ เสียงหนึ่งที่ดังขึ้นจากประตูไม้แกะสลักหรูหราทำเอาเฉินที่หันหลังใส่ประตูบ้านนั้นอยู่หลับตาปี๋
   เอาจนได้มึง...
   ผู้จัดการหนุ่มคิดในใจ ทั้งเฉินและหาญศักดิ์ตัวแข็งทื่อราวกับถูกสาปให้เป็นศิลา
   หญิงสาวเจ้าของเสียงที่อยู่ในชุดเดรสสวยสมวัยเดินออกมาจากตัวคฤหาสน์พันล้านช้าๆ เธอส่งยิ้มให้ผู้เป็นเจ้าของบ้านที่มองข้ามหัวเฉินมาตาค้าง
   “หาน... สบายดีไหม”
   ...หาญศักดิ์รู้สึกเหมือนเลือดจับตัวกันจนกลายเป็นน้ำแข็ง ราวกับที่ตรงนี้ไม่มีอะไรอีกแม้แต่ธาตุอากาศ...
   มันมีเพียงแค่เขา...กับเธอคนนั้น...
   “...เฉียนย่า”




----------------


DRAMA !!!!!!!!

กลิ่นมาม่าลอยหอมฟุ้งงงงง
จะรีบมาต่ออย่างเร็วรี่ แต่ขอฟีตแบ็กหน่อยนะเจ้าค่ะ  :katai2-1: :hao5:

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4

ออฟไลน์ it.the.world

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
มาต่อเลยค่าาา อย่าให้มีมาม่าเลยยย อีกนิดเดียวจะต้นเดือนแล้วนะ แฮร่

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
แหมะหวานๆ  :m25: กันตามภาษา อยู่ๆ ก็พายัยเจ๊นี้มาทำมายยยยยยยยยยยย  :z3:
ท่องไว้น้องหาน นู๋มีผัวแล้วอย่าได้ใจอ่อนกะชะนี เพราะมันอาจเป็นแผนของอิเสี่ยโรคจิตนั้นแน่ๆ  :beat:

ออฟไลน์ มะม่วงแรด

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
อ่านถึงตอนท้ายปุป
ลอยเต็มหัวเลยจร้า  กุว่าแล้วววววววว :katai1: :ling1:

ออฟไลน์ Peterpanmama

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ผัวเมียเค้ากำลังรักดี จะเสนอหน้ามาทัมมายยยยยยยย

ออฟไลน์ nevergoodbye

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
โว้ยย กำลังคิดอยุ่เลยว่านางจะโผล่มาตอนไหนน
ออกมาเร็วจนไม่ทันตั้งตัวเลยค่าา  :z3:

ออฟไลน์ Jupaeindy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 45
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
แรกๆมาอย่างเขิล ปิดท้ายมาม่าซะงั้น
อย่ามาม่านานนะจ๊ะ ลุ้นแทน >__<

ออฟไลน์ omuya

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2023
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-9
เฮ้ย!!! กลับมาทำไม

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
แสรดดดดดดด!! กลับมาเพื่อออออออ???? ฮึ่มมมมม!! แต่คิดอีกทีก็ดีคราวนี้โซดาอาจจะได้ยินคำว่ารักจากปากเสี่ยหาญ(???)กะดะ!!! เป็นตัวกระตุ้นไงจะได้ไม่สับสนแล้วรู้ใจตัวเองเป็นแน่แท้ว่ารักใครไปแล้ว ไม่ว่าจะมายังไงก็ไม่ ใช่ไหมเสี่ยหาญ //เสี่ยหาญยอมโซดาขนาดนั้น บอกให้ทำอะไรก็ทำ ชัดเจนแต่ปากแข็งไปงั้น น่ารักอ่ะเวลางุ้งงิงเขินโซดา หมดคราบเสี่ยโหดเจอโซดาลอกคราบไป 55555555 nc สุดยอดดดดซี้ดดดตามเร่าร้อนรุนแรงดีจั๊งงงงง เอาอี๊ก หื่นนน 5555555 //เอาเดะมาเล้ยยยยย เฉียนย่า อยากรู้เหมือนกันเสี่ยหาญจะทำไง เคยรักมากขนาดนั้น เยื่อไยยังเหลือไหม แล้วไหนจะคนใหม่  เอาบังไงดี จะได้ฟังไหมคำว่ารักจากปากเสี่ย หึหึ!! จะรั้งหรือจะถอยออกมาอ่ะโซดา อยากรู้วะ ไม่สามารถเดาใจพวกนี้ได้เลย มึงก็คิดไปนัั้นเผื่อเขามาเยี่ยมเฉยๆไม่ได้มาขอรีเทิร์นอะไร พอๆรอไรท์มาต่อดีกว่า 55รอๆ ตอนต่อไป สนุกๆชอบบบ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-11-2016 00:44:36 โดย blove »

ออฟไลน์ ตั่วเจ้เจค

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-8
ยกที่ ๓๐

      
มันเจ็บจะขาดใจอยู่ตรงหน้าเธอ
แต่ต้องเก็บเอาไว้ไม่แสดงว่าเสียใจ

[ ขาดใจ : Pancake ]



:::METAL TERMINAL:::



   “...เฉียนย่า”
   เสียงแผ่วพร่าหลุดออกมาจากริมฝีปากของเสี่ยหนุ่มที่อึ้งตะลึงจนตัวเย็นเฉียบ ร่างระหงที่ค่อยๆ เดินลงมาจากบันไดหินอ่อนที่หน้าบ้านราวกับภาพสโลว์โมชัน หาญศักดิ์อยากจะยกมือขึ้นมาตบหน้าตัวเองแรงๆ สักฉาด แต่ก็กลัวว่ามันจะไม่เจ็บ แล้วนี่จะเป็นเพียงแค่ความฝัน
   เฉียนย่าหยุดอยู่ตรงข้างหลังเฉิน ใกล้เขาเพียงแค่เอื้อม...
   เสี่ยหนุ่มผลักเฉินออกไปข้างๆ จ้องหญิงสาวตรงหน้าตาไม่กะพริบ
   “เฉียนย่า...มาได้ยังไง” เสียงของหาญศักดิ์แห้งผากราวกับมันไม่ใช่เสียงของเขาเลย หญิงสาวส่งยิ้มน้อยๆ
   “เราขอโทษนะที่มาหาโดยที่ไม่ได้บอกก่อน ตกลงหานเป็นยังไงบ้าง สบายดีไหม”
   หาญศักดิ์เม้มปากหลับตาลงครู่หนึ่ง กระบอกตาแสบร้อนเหมือนน้ำตาจะไหล
   นี่มันไม่ใช่ความฝัน...
   ...มันคือเรื่องจริง


   ...เมื่อเธอลาใจมันถูกทำร้าย เจ็บไม่หายที่เธอทำอย่างนี้
   เคยรักเธอทั้งหัวใจ บอกใจพอสักที จากนี้ต้องลืมเธอให้ลง...


   เขาเปิดเปลือกตาขึ้น “เรา...เราสบายดี เฉียนย่า...เฉียนย่าหิวน้ำไหม เดินทางมาเหนื่อยรึเปล่า เฮ้ย! เฮ้ย! คนใช้บ้านนี้มันหายไปไหนกันหมดวะ!” หาญศักดิ์ตะโกนดังลั่นทำเอาพวกสาวใช้รีบสลอนหน้ากันออกมาแทบไม่ทัน
   “ไปเอาน้ำเอาท่ามาให้คุณเฉียนย่าดื่มเดี๋ยวนี้ เอาขนมจัดจานมาด้วย” หาญศักดิ์ออกคำสั่ง คนใช้พยักหน้าแล้ววิ่งจู๊ดเข้าไปเตรียมของทันที เจ้าพ่อเงินกู้หันไปหาหญิงสาว “เฉียนย่า...เข้าไปนั่งในบ้านนะ รอเรานานไหม พอดีเราเพิ่งกลับมาจากไปดูงานที่ต่างจังหวัด ขอโทษด้วย...”
   “เราทำให้หานลำบากใช่ไหม” เธอหน้าหมองเมื่อเห็นผู้คนดูวุ่นวายกันไปหมด “เราขอโทษที่มาโดยพลการ เรา...เราแค่...”
   เธอเงยหน้าขึ้นมา ดวงตาทั้งของข้างชุ่มชื้น
   “เราแค่คิดถึงหาน”
   “...”
   หาญศักดิ์กลั้นน้ำตาจนปวดเบ้าตาไปหมด เขากัดริมฝีปากมองใบหน้าของหญิงสาวตรงหน้า ไหล่เล็กๆ ของเธอสั่นสะท้าน เสียงที่เอ่ยแตกระแหงเพราะแรงอารมณ์
   “...เราคิดถึงหานจริงๆ นะ”
   ฟึ่บ! ฟุ่บๆๆๆ...
   ร่างสันทัดทิ้งกระเป๋าเสื้อผ้าลงบนพื้น พุ่งเข้าไปกอดร่างหญิงสาวตรงหน้าเต็มอ้อมแขนโดยไม่สนใจสิ่งใดอีกต่อไป
   “เฉียนย่า...เฉียนย่ากลับมาหาเราแล้วใช่ไหม”


   ในวันนี้แค่ฉันเห็นเธอ ความเข้มแข็งมันก็ละลาย
   ยิ่งเธอบอกให้เราเป็นอย่างเดิมได้ไหม...
   เธอรู้ไหมว่าทั้งหัวใจ ยอมกลับไปเป็นของเธอ
   ...ตั้งแต่เจอเธอยืนหน้าประตู...


   ‘ถ้าเขากลับมา...กูจะกอดเขาให้เต็มสองแขน แล้วพูดว่า กลับมาหาเราแล้วใช่ไหม’

   “เรารอเฉียนย่ามาตลอดเลยนะ เรา...เราไม่เคยโกรธเฉียนย่าเลย”
   
   ‘เรารอเฉียนย่ามาตลอดเลยนะ...เราไม่เคยโกรธเฉียนย่าเลย...’

   “เฉียนย่า” สองแขนกอดกระชับร่างบาง เสียงที่พูดสั่นเครือ “ตอนนี้เรารวยแล้วนะ เรา...เรารวยมากเลย วันนี้เรามีพร้อมทุกอย่าง อยากได้อะไร...เรามีให้เฉียนย่าหมดเลย”

   ‘วันนี้เราพร้อมทุกอย่าง เรามีให้เฉียนย่าทุกอย่างเลยนะ’

   “เราคิดถึงเฉียนย่า” เสียงของเจ้าพ่อเงินกู้เจือสะอื้น หลับตาฝังใบหน้าสูดดมกลิ่นหอมของเส้นผมยาวสลวย

   ‘เราคิดถึงเฉียนย่า’

   หาญศักดิ์กอดรัดร่างหญิงสาวแน่นเหมือนจะบีบให้กระดูกของเธอแตก
   “เรารับได้ทุกอย่าง ขอแค่อย่า...อย่าทิ้งเราไปอีกนะ ได้โปรด...ได้โปรดเถอะ...”

   ‘...อย่าทิ้งเราไปไหนอีกนะ’

   “ฮือ...หาน...ฮือ...ฮือ...! เราขอโทษ...เราขอโทษนะ...ตอนนั้น...เรา...อึก...ที่ผ่านมา...เรา...ฮืออ”
   “ไม่เป็นไร...ไม่เป็นไรนะเฉียนย่า” เสี่ยหนุ่มส่ายหน้า น้ำตาทะลักไหลอาบสองแก้ม “กลับมาแล้วใช่ไหม บอกเราสิ ว่ากลับมาหาเราแล้ว”
   เธอยกสองแขนขึ้นโอบกอดร่างสันทัดตอบ พยักหน้าในแผงอกของหาญศักดิ์รัวๆ หญิงสาวร้องไห้หนักจนตัวสั่นสะท้าน
   “ฮือ...เรากลับมา...เรากลับมาหาหานแล้วนะ...อึก...ฮือ...เรา...อึก”


   ...ไม่ได้ยินที่เธอบอกกับฉัน คำเป็นพันมันไม่มีความหมาย
   ฉันได้ยินแค่หัวใจบอกว่ายังรักเธอ
   วันนี้ฉันแพ้ใจตัวเอง...


   “ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว” เสี่ยหนุ่มพรมจุมพิตข้างแก้มของหญิงสาวซ้ำๆ พูดปลอบประโลมทั้งตัวเองและคนในอ้อมแขน
   “หาน...ฮือ...”
   “ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ไม่เป็นไร...ไม่เป็นไร... เราอยู่ตรงนี้นะ” หาญศักดิ์เสียงแตกพร่า แนบหน้าผากตัวเองเข้ากับหน้าผากของหญิงสาว หลับตาซึมซับทุกความรู้สึก...ทุกสัมผัส...ทุกไออุ่น...และทุกหยาดน้ำตา
   มันเป็นของจริง...
   “เราให้อภัยทุกอย่าง เราอยู่ตรงนี้...เป็นคนเดิมของเฉียนย่า เราไม่เคยไปไหนเลย”
   “ฮือ...ฮือ...”
   “เรายังเหมือนเดิมเสมอนะ”

   
   เธอรู้ไหมว่าทั้งหัวใจ ยอมกลับไปกลายเป็นของเธอ
   ...ตั้งแต่เจอเธอยืนหน้าประตู...


:::METAL TERMINAL:::

   “โซดา...”
   เฉินเรียกชื่อใครอีกคนที่ยืนตัวแข็งทื่อด้วยเสียงแผ่วค่อย ดวงตาของโซดาว่างเปล่าดำมืดขณะจับจ้องภาพชายหญิงกอดกันตรงหน้า เฉินระบายลมหายใจออกมาทางจมูกแบบเครียดๆ โซดามีสีหน้าที่เวิ้งว้างอย่างน่าประหลาด คล้ายกับว่าเสียสูญสุดชีวิตจนตัวแข็งทื่อไปแล้ว และดูเหมือนว่าร่างสูงจะไม่ได้ยินเสียงของเขาเลยแม้แต่แอะเดียว
   “โซดา...มากับพี่...”
   เฉินลากเด็กหนุ่มให้เดินตามตัวเองมาช้าๆ โซดาเหมือนไม่มีสติเป็นของตัวเอง เขากะปลกกระเปลี้ยก้าวเท้าไปในทิศตามแต่ที่เฉินจะพาไป ในสายตาของเขาเห็นแต่ภาพพี่หานกำลังจูงมือผู้หญิงสวยๆ คนนั้นเข้าไปในคฤหาสน์ โดยที่คงจะลืมไปแล้วว่ามีเขาอยู่ตรงนี้...
   พี่หานไม่เห็นอะไรอื่นอีกนอกจากผู้หญิงที่ชื่อเฉียนย่า
   “พี่หาน...ทำไม...”
   “โซดา ใจเย็นๆ” เฉินกระซิบขณะลากร่างเด็กหนุ่มให้ขึ้นบันไดตามหลังชายหญิงคู่ข้างหน้า “ฟังพี่นะ ใจเย็นก่อน...ตั้งสติ...ตั้งสติ...”
   เฉินหย่อนก้นนั่งลงบนโซฟาสีครีมแล้วก็ดึงร่างโซดาให้นั่งลงมาข้างๆ ตัวเอง ฝั่งตรงข้ามเฉียนย่ากับหาญศักดิ์กำลังนั่งกุมมือกันอยู่ มีสำรับน้ำและขนมวางบนโต๊ะรับแขกคั่นกลางระหว่างพวกเขาทั้งสี่ หากแต่สองคนชายหญิงนั้นอยู่ในโลกของตัวเองจนไม่สนใจใคร
   “เกิดอะไรขึ้นกับเฉียนย่าบ้าง แล้วสามีของเฉียนย่าล่ะ” เจ้าของบ้านเอ่ยถามเข้าประเด็นเพราะทนไม่ไหว เฉียนย่าจะกลับมาอยู่กับเขาได้อย่างไรถ้าเธอยังมีสามีเป็นตัวตน เขาจำเป็นต้องได้คำตอบตอนนี้เดี๋ยวนี้
   ดวงตากลมหวานของหญิงสาวฉายแววไม่เข้าใจเจือปนกับความโศกเศร้า “...เขา...เขาตายเพราะโรคหัวใจกับความดันไปสองสามเดือนแล้วนะ ยังมีคนจากฝั่งหานไปร่วมงานศพเลย”
   “ทำไมเราไม่รู้...”
   หาญศักดิ์ชะงัก ข่าวของเสี่ยมงคลไม่น่าจะเล็ดรอดหูตาสับปะรดของเขาไปได้ เว้นเสียก็แต่ว่า...
   เจ้าพ่อเงินกู้ตวัดหางตาวาววับไปมองเฉินที่ส่งยิ้มแห้งๆ มาให้ทันใด
   “เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ทำไมลื้อไม่รายงานอั๊วฮะไอ้เฉิน” เสียงของหาญศักดิ์ราบเรียบ
   “คือ...คือเสี่ยชานเป็นตัวแทนพรรคพยัคฆ์ไปร่วมงานศพน่ะครับ แล้ว...แล้วเสี่ยชานก็บอกว่า เอ่อ คงดีกว่าถ้าจะไม่แจ้งให้เสี่ยรู้...”
   เฉินตอบตะกุกตะกัก เขากับเสี่ยชานทั้งเอาหนังสือพิมพ์ไปซ่อน แกล้งตัดสัญญาณ Wi-Fi ของโรงแรมเมททอลแล้วโวยวายว่ามันเสีย เปลี่ยนช่องโทรทัศน์หนี ทำทุกทางเพื่อไม่ให้หาญศักดิ์ต้องรับรู้ข่าวนี้ ชาญชัยเป็นห่วงเพื่อนเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก และไม่อยากให้หาญศักดิ์ต้องอ่อนไหวช้ำใจเจียนตายอีก
   หาญศักดิ์หน้ากระตุก ไม่ต้องถามให้มากความก็รู้ว่าเจตนาของเฉินกับชาญชัยคืออะไร
   เสี่ยหนุ่มหันหน้ากลับมามองใบหน้าสวยหวาน เขายื่นมือออกไปทัดปอยผมนุ่มหลังใบหูของหญิงสาว
   “แล้วลูกของเฉียนย่าล่ะ...เป็นยังไงบ้าง คงโตเป็นหนุ่มหล่อแล้วใช่ไหม สงสัยป่านนี้เรียนอยู่เมืองนอกเมืองนาตามพวกพี่ๆ”
   หาญศักดิ์ถามเสียงสบายๆ เสมือนไม่รู้สึกอะไรทั้งที่ความจริงแล้วรู้สึกไม่น้อย เขาจำได้ดีว่าเฉียนย่ามีลูกชายกับเสี่ยมงคลหนึ่งคน แล้วลูกทุกคนของเสี่ยมงคลไม่ว่าจะเกิดกับเมียคนไหน เสี่ยมงคลก็ส่งเสียให้เรียนดีๆ ที่ต่างประเทศกันหมด
   เฉียนย่ากัดริมฝีปาก น้ำตาที่หายไปแล้วเอ่อคลอขึ้นมาอีกรอบจนหาญศักดิ์ตกใจ
   “หาน...” เสียงของเธอแตกพร่า “ลูกเราตายตั้งแต่ตอนอายุสามขวบแล้วนะ”
   หาญศักดิ์ตกใจมาก
   “เรา...เราไม่รู้เลย เราขอโทษ” ลิ้นของเขาแข็ง
   “แก...แกไม่ค่อยแข็งแรงตั้งแต่ตอนเกิดแล้วล่ะ เพราะเฮียมงคลมามีลูกกับเราตอนอายุเยอะแล้ว พอพ้นสามขวบไม่ทันไร แกก็ตายที่โรงพยาบาลเพราะโรคประจำตัว แล้วเฮียก็แก่เกินกว่าที่จะมีลูกได้อีก”
   “ไม่ร้องนะเฉียนย่า เราขอโทษนะ...เราขอโทษ เราไม่ได้ตั้งใจจะสะกิดแผลของเฉียนย่า”
   หาญศักดิ์จับให้หญิงสาวที่ร้องไห้มาซบบนหน้าอกตัวเอง แล้วลูบผมลูบไหล่ปลอบประโลม เธอร้องไห้โฮ พยายามฝืนยิ้ม
   “ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ หานไม่ผิดนี่...ก็หานไม่รู้...”
   “แต่เราก็ไม่ควรพูดอยู่ดี”
   โซดาได้แต่มองภาพตรงหน้าด้วยสายตาปวดปร่า เขาไม่รู้จริงๆ ว่าตัวเองจะมีสิทธิ์ทำอะไรได้บ้างนอกจากนั่งโง่ๆ อยู่ตรงนี้ เขารู้สึกเหมือนชั้นบรรยากาศทั้งหมดรอบตัวดำมืด มีเขาอยู่โดดเดี่ยวในความหม่นหมองนี้คนเดียว ได้แต่มองคนตรงหน้าทั้งสองคนพลอดรักกัน โซฟาที่เขานั่งอยู่ห่างจากพี่หานแค่ไม่กี่คืบ หากแต่มันกลับไกลกันเหมือนคนละโลก...
   เขาอยากจะลุกขึ้นต่อยกำแพงแล้วก็อาละวาดโวยวาย แต่ทั้งขาทั้งแขนมันไม่มีเรี่ยวแรง เขาไม่รู้สึกถึงน้ำหนักมือของเฉินที่กำลังตบบ่าเขาด้วยซ้ำ
   “เอ้อ หาน ว่าแต่สองคนนี้เป็นลูกน้องของหานเหรอ”
   หญิงสาวเอ่ยถามขึ้นมาหลังจากที่ซับน้ำตาจนแห้งสนิท ตอนนี้เธอกำลังมองไปที่เฉินซึ่งส่งรีบยิ้มแห้งๆ มาให้และโซดาที่มีสีหน้านิ่ง
   เจ้าพ่อเงินกู้ละสายตาจากใบหน้าของหญิงสาวหนึ่งเดียวในใจไปมองหน้าทั้งคู่เพียงผ่านๆ เสียงที่ตอบออกมาเรียบแสนเรียบ
   “อือ คนที่ใส่สูทนี่ชื่อเฉิน เป็นหลงจู๊ของเรา มีตำแหน่งรองจากเรากับไอ้ชานเลยก็ว่าได้”
   “อ้อ ผู้จัดการคนเก่งนี่เอง” เธอยิ้มให้เฉิน ด้วยความที่เป็นลูกคนจีนเหมือนกันทำให้พูดศัพท์อะไรก็เข้าใจทันที ไม่จำเป็นต้องแปลซ้ำหรืออธิบายเพิ่มเติมเหมือนเวลาบอกกับโซดา
   อย่างเช่นคำว่าหลงจู๊ อันเป็นภาษาจีนแต้จิ๋วที่ยากจะใช้ภาษาไทยมาอธิบายแทนนัก เพราะหลงจู๊คือคนที่ทำหน้าที่ดูแลทุกอย่างของเจ้านาย ทั้งเรื่องงานครอบคลุมไปยังเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่ก็ไม่ได้เป็นลูกน้องที่ออกไปร่วมต่อสู้เวลามีปัญหาระหว่างพรรค ดังนั้นตำแหน่งของเฉินหากต้องระบุเป็นภาษาไทยจึงกลายเป็นผู้จัดการทั่วไปอย่างช่วยไม่ได้ แม้ว่าจะไม่ได้ทำหน้าที่แค่ดูแลเรื่องผลประโยชน์ของบริษัทก็ตามที
   หาญศักดิ์กล่าวต่อเสียงเรียบเฉย
   “...ส่วนเด็กคนนั้นชื่อโซดา มือขวาชั่วคราวของเรา”
   ...
   พี่หาน...
   ...ไม่มองหน้ากันด้วยซ้ำ
   ทำไม...
   โซดากัดริมฝีปาก ดวงตาสั่นไหวขณะที่เฉินยังคงยิ้มเหมือนเดิม เขายกมือไหว้หญิงสาว
   “สวัสดีครับคุณเฉียนย่า พบกันนานแล้วแต่ยังไม่มีโอกาสได้แนะนำตัว ผมชื่อเฉินครับ”
   “...”
   “โซดา ไหว้ผู้ใหญ่สิ” เฉินเอ่ยเสียงเข้มขึ้นมานิดหนึ่ง โซดาสะดุ้งเล็กๆ ก่อนจะยกมือที่สั่นเทาขึ้นมาไหว้หญิงสาวแบบเงอะๆ งะๆ โดยไม่ปริปากพูดใดๆ เธอรับไหว้กลับ
   “ยังดูเด็กๆ อยู่เลย ทำไมทำงานแล้วล่ะ ไม่เรียนหนังสือหรอกเหรอ”
   เธอยิ้มแย้มชวนโซดาพูดอย่างอัธยาศัยดี เด็กหนุ่มรู้สึกเหมือนขากรรไกรค้าง พยายามจะฝืนยิ้มให้เต็มปากแต่ก็ทำไม่ได้ มันจึงกลายเป็นเพียงแค่การกระตุกมุมปากน้อยๆ เท่านั้น ใบหน้าบิดเบี้ยวจนดูไม่ออกว่าจะยิ้มหรือจะทำอะไรกันแน่
   “...”
   เฉินแอบกระทืบเท้าเบาๆ ลงบนเท้าของเด็กหนุ่ม โซดารีบปั้นหน้า
   “...ผะ...ผม...ผม...พอดีอยากช่วยเหลือที่บ้านน่ะครับ หนังสือก็ยังไปเรียน...”
   “อ้อ ก็ดีนะ พี่ก็เรียนไม่สูงหรอก ทำงานตั้งแต่ยังวัยรุ่นเหมือนกัน”
   โซดาปั้นหน้ายิ้มรับคำพูดนั้นเหมือนพระพุทธรูป ในหัวสมองมันว่างเปล่าขาวโพลนไปหมด กลางอกของเขาแสบร้อนเหมือนมีใครเอาน้ำกรดมาราด
   “ว่าแต่ทำไมหานบอกว่าน้องเขาทำงานกับหานชั่วคราวล่ะ” เธอหันหน้าไปถามหาญศักดิ์
   “อ๋อ ก็โซดาเป็นลูกชายของลูกหนี้เรา เขาส่งให้ลูกมาทำงานช่วยเหลือระหว่างผ่อนจ่ายหนี้ พอผ่อนหนี้ครบก็คงไม่ได้เป็นเจ้านายลูกน้องกันแล้ว” เสี่ยหนุ่มตอบสาวเจ้าด้วยน้ำเสียงสบายๆ เสมือนโซดาไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับเขามากมายไปกว่านั้น เฉียนย่าพยักหน้า
   “อย่างนี้นี่เอง อื้ม...แต่เรารู้สึกเหมือนคุ้นหน้าโซดามากเลย เราบอกไม่ถูก แต่นึกไม่ออกอ่ะ มันติดอยู่ปลายจมูก”
   “...โซดาเป็นนักกีฬาชื่อดังน่ะครับ ช่วงนี้กำลังฮอตเลย ถ่ายโฆษณาหลายชิ้น” เฉินตอบแทน
   “อ๋อ!” เธอตบมือเข้าหากัน หันไปยิ้มกว้างให้โซดา “นึกออกแล้ว! แต่ที่เราเคยเห็นทางโทรทัศน์น่ะผมไม่ใช่สีดำแบบนี้นี่ ผมสีเงินใช่ไหม หล่อมากเลยแหละจ้ะ ยังนึกเลยน้าว่าลูกใครหลานใคร หน้าตาดีจริงๆ”
   โซดาเพียงแต่ฝืนยิ้มรับคำชมนั่น ไม่รู้จริงๆ ว่าควรจะทำตัวอย่างไรกันแน่ เด็กหนุ่มเลื่อนสายตาไปมองหาญศักดิ์ ซึ่งหลีกเลี่ยงที่จะมองหน้าเขาอย่างเห็นได้ชัด หรือบางที...สายตาพี่หานอาจจะมีแค่เฉียนย่าที่นั่งข้างๆ คนเดียวแบบนี้ก็ได้
   “แล้วตอนนี้เฉียนย่าอยู่ที่ไหน”
   “เราก็ยังอยู่บ้านที่เฮียมงคลซื้อให้นั่นแหละ”
   “อ๋อ...”
   “แต่มันเหงามากนะ...” สีหน้าของหญิงสาวหม่นหมอง ดวงตาเศร้าสร้อย “อันที่จริง...มันเหงาข้างในตั้งแต่วันที่เราตัดสินใจเก็บของออกมาจากห้องเช่าแล้วล่ะ”
   บรรยากาศเงียบกริบ ความเจ็บปวดแล่นริ้วขึ้นมาบนดวงตาของเจ้าพ่อเงินกู้ราวกับสั่งได้ หญิงสาวออกแรงบีบมือชายหนุ่มที่กุมกันไว้ พยายามถ่ายทอดอารมณ์ของตัวเองให้หาญศักดิ์รับรู้
   “ก็ถ้าเหงาขนาดนี้ตั้งแต่วันนั้น แล้วจะไปจากหานมันเพื่ออะไรล่ะ”
   “...!!”
   บุคคลทั้งสี่สะดุ้งเฮือกทันทีเมื่อได้ยินเสียงกัมปนาทของใครบ้างคน ทุกคนเงยหน้าหันขวับไปมองชายร่างสูงที่เดินเข้ามาพร้อมกับลูกน้องอีกเป็นโขยง
   ชาญชัยที่สวมเสื้อเชิ้ตสีดำและกางเกงยีนส์เข้ากับรูปร่างราวเทพเจ้าเสกสรรค์ก้าวเข้ามาโดยไม่ถอดรองเท้า มือหนาลูบรอยสักบนหลังคอของตัวเอง ไม่มีวี่แววล้อเล่นบนใบหน้าแม้แต่นิด มุมปากหยักกระตุกขึ้นเล็กน้อยข้างหนึ่งยามมองภาพชายหญิงที่กุมมือกันอย่างน่าอ้วกอยู่บนโซฟา เขาออกคำสั่ง
   “พวกลื้อทุกคน จับคุณผู้หญิงเอาไว้!”
   “ครับเสี่ย!”
   ชายฉกรรจ์ราวสิบห้าคนส่งเสียงตอบรับเจ้านายแล้วพุ่งเข้าไปหาหญิงสาวทันที คนทั้งสี่ที่นั่งอยู่ก่อนตกตะลึงสุดขีด เฉียนย่าถูกกระชากร่างขึ้นมาจากโซฟา หาญศักดิ์ร้องลั่น
   “เฮ้ย!”
   “จับไอ้เสี่ยหานด้วย!!”
   ชาญชัยออกคำสั่งอีกครั้งทันทีที่เห็นหาญศักดิ์ลุกขึ้น สถานการณ์อลหม่านสุดขีดเมื่อหาญศักดิ์ก็สู้สุดชีวิต แต่ถึงจะสู้ยังไงก็สู้คนที่มีจำนวนมากกว่าที่รุมเข้ามาไม่ได้
   “มึงทำอะไรของมึงวะไอ้เสี่ยชาน! ปล่อยกู! ปล่อยกูสิวะ! กูก็เป็นเจ้านายของพวกมึงนะเว้ย! ปล่อยเฉียนย่า!!”
   “ไม่ต้องฟังใครทั้งนั้นนอกจากอั๊ว!” ชาญชัยประกาศกร้าว
   “พี่ชานครับ อย่าทำพี่หาน!” โซดาหน้าตื่นพยายามเข้าไปขัดขวางการกระทำที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝัน หาญศักดิ์ตะโกนดังลั่น
   “อย่าแตะเฉียนย่า! ใครแตะเฉียนย่ากูจะตัดมือให้หมด!!”
   “อั๊วย้ำอีกครั้ง! วันนี้พวกลื้อมีหน้าที่แค่รับคำสั่งจากอั๊ว!!” ชาญชัยตะเบ็งเสียง แล้วหันไปมองหน้าเพื่อนรักที่จ้องเขาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ “แล้วมึง! ฟังกูนะ” เขาสาวเท้าเข้าไปใกล้หาญศักดิ์ “กูแค่ต้องการจะคุยเรื่องบางเรื่องกับเฉียนย่าเท่านั้น ไม่ได้คิดจะทำอะไรอื่นอีก”
   “ถ้าอย่างนั้นทำไมกูอยู่ฟังไม่ได้วะ ฮะ!! ปล่อยเฉียนย่า! เฉียนย่าไม่เกี่ยว!! เฉียนย่า!”
   หาญศักดิ์ยังคงแผดร้องอย่างเดือดดาล...เสียงตะโกนนั้นทำเอาโซดาหมดแรงที่จะช่วย ชาญชัยยกมือลูบหลังคออีกครั้ง เขาพ่นลมหายใจออกมาทางจมูกอย่างหมดความอดทน ก่อนจะยกมือขึ้นมาชี้หน้าเพื่อน
   “มึงน่ะมันหลงหม้อจนลืมทุกอย่าง!!” เสียงของชาญชัยดังราวฟ้าผ่า “พอวันนี้อีนี่กลับมามึงก็ริกๆๆ กลับไปหา โดยที่ลืมไปหมดว่าตัวเองเคยเสียใจเพราะมันมากแค่ไหน!”
   “เฮ้ย! พูดให้มันดีๆ นะเว้ย!!” คนถูกด่าเลือดขึ้นหน้า
   “ทำไมวะ? กับไอ้แค่หม้ออันเก่ามึงลืมไม่ได้รึไง ฝังใจอะไรหนักหนาหือ” เขาชำเลืองหางตาไปมองเฉียนย่า แล้วเหยีดยิ้มมุมปาก วาจาดูถูกเพศแม่ออกมาเลื้อยคลานเต็มพื้น “หม้ออันเก่ามันกลิ่นหอมนักรึไง มันเย้ายวนใจจนมึงลืมไม่ได้เลยเหรอ ชีวิตมึงน่ะสบายกว่าเยอะถ้าไม่มีอีนี่ เชื่อกูเถอะ!”
   “ไอ้เหี้ย! มึงจะมารู้อะไรล่ะ!” หาญศักดิ์โกรธจัด “ปล่อยกูนะเว้ย!! ปล่อยกู! ปล่อยสิวะ!!”
   “เออ ใช่สิ กูมันคนนอกสายตา! กูมันใครก็ไม่รู้ เอาให้รู้กันไปว่ากูที่ช่วยชีวิตมึงไว้ กับอีผู้หญิงคนนี้ที่ทิ้งมึงไปทำมึงปางตาย มึงจะเลือกมันมึงก็เอาเลย!!”
   “ปล่อยกู!!!”   
   “เฉิน ลื้อเอาไอ้เสี่ยหานไปสงบสติที่ห้องเก็บของ ล็อกขังมันไว้ด้วย!”
   “หาน!!”
   “เฉียนย่า! เฉียนย่า!”
   หาญศักดิ์แผดร้องตลอดทางขณะที่ถูกชายฉกรรจ์ลากตัวไปโดยมีเฉินเดินตามรั้งท้ายมาติดๆ เฉินเองก็ไม่กล้าขัดขืนคำสั่งของเสี่ยชาน เวลาเอาจริงเจ้านายทั้งคู่ของเขาน่ากลัวน้อยเสียที่ไหน ส่วนโซดาได้แต่ยืนขาแข็งอยู่ที่เดิม
   “เอาล่ะ ปล่อยตัวคุณผู้หญิง!”
   ชาญชัยตะโกนออกคำสั่งอีกครั้ง และบรรดาลูกน้องก็ปล่อยแขนทั้งสองข้างของเฉียนย่าทันที ชาญชัยเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยสายตาไม่เปิดเผยอารมณ์ เธอเองก็เพียงแต่มีสีหน้าที่กักเก็บความรู้สึกปรากฎอยู่ หญิงสาวประนมมือขึ้นมาไหว้ชาญชัย
   “สวัสดีค่ะเฮียชาน”
   ชาญชัยรับไหว้แบบเป็นพิธี แล้วเลิกคิ้วขึ้นสูงจ้องไปที่หญิงสาวตรงหน้า
   “ไม่พบกันเสียนาน ยังสวยเหมือนเดิมนะเฉียนย่า”
   “ขอบคุณที่ชมหนูค่ะ” เฉียนย่าตอบกลับเสียงเรียบเฉยไร้อารมณ์ ชาญชัยเริ่มเอ่ยปากเสียงเนิบ
   “เฮียต้องขอโทษด้วยที่ต้องใช้ความรุนแรง ทั้งๆ ที่เป็นการกลับมาเจอหน้ากันอย่างเป็นทางการของเราทั้งคู่แท้ๆ แต่ไม่งั้นเฮียเกรงว่า เราจะไม่ได้คุยกันอย่างที่ตั้งใจ เพราะไอ้หานคงจะต้องขัดตลอดเวลา”
   “...เฮียมีธุระอะไรก็ว่ามาเถอะค่ะ” เธอแทรกกลางปล้องอย่างไม่เกรงกลัวอิทธิพลของเจ้าพ่อกาสิโนแบบชาญชัย ด้วยความที่เป็นอนุภรรยาของเสี่ยมงคลมานานและผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมาย เธอไม่ใช่หญิงสาวหงอๆ คนเดิมอีกต่อไป
   ชาญชัยเอาลิ้นดุนกระพุงแก้ม
   “ก็ดี ตรงไปตรงมา งั้นเฮียจะไม่อ้อมค้อมละนะ”
   เฉียนย่าเพียงแต่จ้องไปที่คนพูด ไม่ปริปากสักคำ
   “กลับมาหาไอ้หานทำไม”
   “...”
   หญิงสาวยังคงนิ่งไม่โต้ตอบ ชาญชัยเพิ่มระดับเสียง
   “อย่ามาบอกเฮียนะ ว่าเกิดคิดถึงผัวเก่าขึ้นมา”
   “...”
   “รู้รึเปล่าว่ามันฆ่าตัวตายเพราะเฉียนย่า รู้รึเปล่าว่าตอนนั้นมันทุกข์ใจแค่ไหน” เสียงของคนเล่าพยายามคุมโทน แต่ก็ไม่อาจปกปิดความโกรธเคืองที่สุมเต็มพิกัดไว้ได้
   “...”
   “ถ้าวันนั้นเฮียไม่ได้อยู่กับมัน มันคงตายไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว”
   “...”
   ดวงตาของหญิงสาววาววับราวลูกแก้วใสกับคำพูดของชายตรงหน้า
   “วันนี้มันมีทุกอย่างแล้วถึงได้กลับมาใช่ไหม!! ตอบเฮียมาสิ!!”
   ในที่สุดร่างสูงก็พุ่งปรี่เข้าไปเขย่าร่างหญิงสาวเหมือนเธอกินยาไม่เขย่าขวด เฉียนย่าหัวสั่นหัวคลอน โซดาพูดอะไรไม่ออกกับสถานการณ์ตรงหน้า เขาได้แต่กลอกตามองตามทุกอย่างแต่ทำอะไรไม่ได้
   “เธอน่ะมันคนใฝ่สูง! อยากจะชูคอเผยอเป็นนางพญาด้วยทางลัด! พอผัวตายสมบัติหมดก็เลยคลานกลับมาหาไอ้หาน หัวใจเธอทำด้วยอะไรหา!!”
   น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาคู่สวยที่กรีดอายไลน์เนอร์ไว้อย่างงดงาม
   “กลับมาหาไอ้หานทำไม! อย่าคิดนะว่าคนเขาจะมองเจตนาเธอไม่ออก! คิดว่าไอ้หานมันง่ายใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นก็ผ่านศพเฮียไปก่อนเถอะ!!”
   “เออ ใช่! หนูมันคนชั่ว หนูทิ้งหานไปเพราะหนูอยากสบาย หนูอยากเป็นคุณฟ้าลดา อยากรวยทางลัด พอใจไหม!”
   เฉียนย่าแผดเสียงใส่หน้าชาญชัยทำเอาอีกฝ่ายนิ่งอึ้ง เธอยกหลังมือขึ้นปาดน้ำตา
   “แต่ที่วันนี้หนูกลับมาหาหาน เพราะเขาเป็นแค่คนเดียวในชีวิตที่หนูรักต่างหาก!!”
   ชาญชัยอึ้งสนิท พูดอะไรไม่ออก มือที่จับไหล่บอบบางไว้คลายเองโดยอัตโนมัติ
   “ต่อให้หานยังจนไม่รวยเหมือนทุกวันนี้ หนูก็จะกลับมา! เพราะหนูยังรักเขา!! หนูยังลืมเขาไม่ได้! ฮือ...ฮือ...!!”
   “...”
   “หนูไม่ได้อยากได้สมบัติหาน...แค่สมบัติที่เฮียมงคลทิ้งไว้ให้ก็เหลือกินเหลือใช้ไปทั้งชาติ หนูกลับมาเพราะหนูลืมหานไม่ได้ เพราะหนูคิดถึงหานอยู่ทุกคืนตลอดเวลาเกือบสิบปีมานี้...เพราะหาน...หานเป็นคนเดียวในใจหนู...”
   เธอทรุดตัวลงไปบนพื้นหินอ่อนของคฤหาสน์ ดูสุดแสนร้าวราน
   “เฮีย...เฮียจะคิดยังไงเกี่ยวกับหนูก็เรื่องของเฮีย” เธอสะอึกสะอื้น “หนูบากหน้ามาทั้งที่รู้ว่าหานอาจจะไล่หนูออกจากบ้านด้วยซ้ำ หนูยอมกลับมาให้ทุกคนประณามหยามเหยียด แต่...แต่อย่ามาห้ามหนู...ฮือ”
   สองมือปิดใบหน้าที่เลอะคราบเครื่องสำอางจนดูไม่ได้
   “อย่ามาห้ามไม่ให้หนูรักเพื่อนเฮีย...”
   ชาญชัยหลับตาเม้มปาก ไม่มีอะไรจะพูดอีกต่อไป
   “หนูรักหาน...ฮือ...ฮือ...วันนี้...วันนี้หนูไม่ต้องการอะไรจากหานอีกแล้ว...” เธอส่ายหน้าที่น้ำตานอง “แม้แต่ให้หานรักตอบ หนูก็ไม่ต้องการ หนูแค่อยากมาเจอหน้าหาน...แค่นั้น...แค่นั้นจริงๆ...ฮือ”
   “...เฉียนย่า”
   “หะ...หาน...!”
   หาญศักดิ์ที่น้ำตาคลอทรุดลงไปกอดประคองร่างหญิงสาวที่สั่นสะท้าน เฉินที่เดินตามมามีสีหน้านิ่งเรียบ สุดท้ายเขาก็ไม่สามารถขังหาญศักดิ์ตามคำสั่งของชาญชัยไว้ได้ แล้วพอเสี่ยชานไม่อยู่ ทุกคนก็กลัวคำสั่งของเสี่ยหานจนต้องยอมปล่อยตัวออกมาแบบนี้
   “อย่าร้องนะเฉียนย่า...อย่าร้องนะ”
   แล้วทุกคนก็ได้ยินทุกสิ่งที่เฉียนย่าพูด...
   ชาญชัยมองสถานการณ์ตรงหน้าด้วยสายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยหลากหลายอารมณ์ เพื่อนรักของเขากำลังกอดเฉียนย่าตอบและปลอบประโลมอย่างอ่อนโยน ทั้งคู่กอดรัดพันเกี่ยวกันแน่น ไม่มีที่ว่างแม้แต่ให้อากาศแทรกกลางระหว่างทั้งสอง
   “กลับ...กลับเมททอล...”
   เสียงที่ออกมาจากปากของเจ้าพ่อกาสิโนเบาหวิว เฉียนย่าที่สะอึกสะอื้นเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าชาญชัยอย่างไม่อยากเชื่อ เสี่ยหนุ่มร่างสูงหันหลังขวับเดินฝ่าผู้คนออกไปที่ประตู
   เขายอมแพ้แล้ว...
   หากแต่จู่ๆ เจ้าพ่อกาสิโนกลับหยุดฝีเท้ากึก
   “แต่ถ้าคราวนี้ทำเพื่อนเฮียเสียใจอีก”
   “...”
   “...”
   “เฮียเอาถึงขั้นเป็นศพแน่”
   “ไอ้ชาน!”
   “ทุกคนกลับ!”
   ...แต่ยังไม่ยอมวางใจหรอกนะ
   ชายฉกรรจ์ทุกคนโค้งให้หาญศักดิ์ก่อนจะทยอยเดินออกไปจากตัวบ้าน ชาญชัยเองก็กำลังจะไปเช่นกัน และแน่นอนว่าเขาไม่ลืม...
   “เฉิน เอาไอ้เสือกลับเมททอลไปด้วย”
   ...จะลืมไอ้เด็กที่กำลังยืนมองภาพชายหญิงบนพื้นด้วยสายตาร้าวรานได้อย่างไรเล่า
   “ครับเสี่ย”
   หากแต่โซดายังคงยืนนิ่งเงียบเหมือนเป็นศิลา...ราวกับว่ากลายเป็นส่วนหนึ่งของกำแพงคฤหาสน์นี้ไปแล้ว
   “ไอ้เสือ...วันนี้มึงกลับเมททอลกับกูก่อน”
   ชาญชัยเดินกลับมาพูดเบาๆ กับโซดาที่ยังคงดูไม่มีสติ และเฉินกระตุกแขนแค่ไหนก็ไม่ยอมก้าวขาไป
   “พี่หาน...”
   “มากับพวกพี่โซดา” เฉินพูดเนิบๆ คว้าแขนของเด็กหนุ่ม ออกแรงดึงเพิ่มขึ้น “เดี๋ยวก็ได้กลับมา”
   “แต่...ผม...แล้วพี่หาน...พี่...พี่หาน...”
   “กลับไปกับพวกกูก่อนโซดา” เสียงของชาญชัยจริงจัง ไม่บ่อยนักที่จะเรียกชื่อเสียงเรียกนามจริงๆ ของเด็กหนุ่มตรงหน้า เขาวางมือขวาบนบ่าโซดาแล้วจ้องลึกเข้าไปในดวงตาอีกฝ่าย “ฟังนะ กูจะพูดตรงๆ อย่าหาว่าใจร้าย แต่มึงอยู่ไปไอ้หานก็ไม่เห็นมึงในสายตาหรอก”
   โซดาลมหายใจสะดุด นัยน์ตาคู่คมหม่นแสงลงเหมือนสั่งได้ ราวกับเขาไปปลิดขั้วชีวิตของมันเข้า
   ...แต่เขาก็จำเป็นต้องทำ
   “โซดา วันนี้ ตอนนี้ มึงไม่ได้อยู่ในสายตามันเลย แม้แต่นิดเดียว”
   ...เด็กหนุ่มถูกเฉินลากตามหลังเขาออกมาจากคฤหาสน์เหมือนคนไม่มีวิญญาณ เฉินดันหลังโซดาให้ขึ้นไปนั่งเบาะหลัง แล้วตัวเองก็ขึ้นมานั่งตรงเบาะข้างคนขับรถ ชาญชัยที่ก้าวขึ้นไปประจำตำแหน่งคนขับของรถสปอร์ตคันหรูโคลงศีรษะเบาๆ มือหนาหยิบแว่นกันแดดมาสวมแล้วพุ่งทะยานออกไปจากคฤหาสน์หรูจนเสียงล้อบดครูดกับถนนเสียงดังลั่น

ออฟไลน์ ตั่วเจ้เจค

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-8
        นี่แหละความรัก...
   กี่คนที่สมหวังและมีความสุขกันล่ะ
   ...ดูสภาพไอ้เสือตอนนี้ซะก่อนเหอะ
   เพราะแบบนี้ไง...เขาถึงไม่คิดจะรักใครเด็ดขาด...
   “พี่ชาน...เลี้ยวรถกลับ...”
   “ฮะ? มึงพูดอะไรของมึงวะ?” ชาญชัยที่ขับรถและหมกหมุ่นอยู่กับความคิดของตัวเองขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเสียงแผ่วๆ จากเบาะหลัง
   “เลี้ยว...ช่วยเลี้ยวรถกลับด้วยครับ”
   “อย่าน่าไอ้เสือ...” เขาถอนใจเบาๆ “ปล่อยมันสองคนอยู่กันแบบนั้นไปก่อนนั่นแหละ มึงน่ะไปกับกู”
   “ไม่ได้...ผม...ผมต้องกลับไป”
   “โซดา...ฟังที่เสี่ยชานพูดซะนะ...”
   ปั่ก! เอี๊ยดดดดดดด!
   “เฮ้ยยยยยยย!!!”
   เฉินกับชาญชัยตะเบ็งเสียงดังลั่นเมื่อโซดากระชากประตูรถเปิดออกแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยทำเอารถที่กำลังขับด้วยความเร็วราวหนึ่งร้อยยี่สิบกิโลเมตรต่อชั่วโมงเสียหลักเหวี่ยงตัวไปยังข้างถนน รถที่ตามมาข้างหลังบีบแตรเสียงดังสนั่นติดกันเป็นสิบๆ คัน ชาญชัยกระทืบเบรกสุดเท้าหมุนพวงมาลัยมือเป็นระวิงเพื่อควบคุมรถที่หมุนคว้างเป็นวงกลม ทั้งรถโกลาหนไปด้วยเสียงโหวกเหวกปะปนกับเสียงสวดมนต์ของเฉิน
   เอี๊ยดดดดดดด.....
   ในที่สุดรถก็นิ่งสนิทตรงไหล่ทาง ชาญชัยกับเฉินหอบหายใจฮักๆ ก่อนจะถอนใจพรู
   เกือบไปนรกแล้วไหมล่ะ...
   “โอย พุทธังแคล้วคลาด...ธัมมังแคล้วคลาด หลวงพ่อโสธร ขอบพระคุณที่คุ้มครองลูกช้างขอรับ” เฉินยกมือธุหัวในขณะที่ชาญชัยตบอกตัวเองดังปั่บๆ อย่างขวัญเสีย เหตุการณ์เมื่อสักครู่ทำเอาใจหงายใจคว่ำกันสุดฤทธิ์และยังอันตรายมาก ไม่ทันจะได้หันไปตวาดด่าตัวการโซดาก็เปิดประตูรถผลัวะแล้ววิ่งออกไปบนทางเท้าทันที
   “เฮ้ย จะไปไหน กลับมา เฮ้ย!!”
   เฉินกับชาญชัยรีบโผลงจากรถวิ่งตามไปติดๆ ตะโกนเรียกโซดาไปด้วย แต่ฝีเท้าคนธรรมดาหรือจะไปสู้ฝีเท้านักกีฬา
   “เฉิน ลื้อขึ้นรถมากับอั๊ว!”
   “ครับๆ!”
   ทั้งคู่วิ่งกลับไปที่รถก่อนที่ชาญชัยจะกลับรถกลางถนนแบบไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมแล้วพุ่งทะยานไปดักหน้าเด็กหนุ่ม ทั้งสองปีนลงจากรถอีกครั้ง เฉินดักข้างหลังในขณะที่ชาญชัยประกบข้างหน้า
   “ปล่อย...ปล่อยผม! ผม...ผมต้องกลับไป!”
   “สงบสติหน่อยสิวะโซดาเอ๊ย!” เฉินตวาดขณะพยายามรวบตัวเด็กหนุ่ม
   “มึงจะกลับไปทำอะไรวะ กลับไปแล้วมึงจะทำอะไรได้!” ชาญชัยร่วมตะโกน
   “แต่ถ้าผมไม่กลับ...ถ้าผมไม่กลับไป...”
   น้ำเสียงที่ใช้พูดตะกุกตะกักเหมือนคนขาดสติ ดวงตาของโซดาวาวโรจน์ มีประกายดำมืดเรืองรองในลูกตาดำที่สั่นพร่า ชาญชัยชะงักไปในทันทีที่อ่านสีหน้านั้นออก
   เขารู้แล้วว่าโซดาคิดอะไร...
   “โซดา...ถ้ามันจะเกิด มึงก็ต้องให้มันเกิดนะ...” ชาญชัยพยายามพูดให้เด็กหนุ่มทำใจ “ของแบบนั้นน่ะ...มันเป็นเรื่องธรรมดา...”
   “ไม่ได้!!” โซดาตะโกนเสียงแตก “ผมจะกลับไป ต้องไป...ต้องไปเดี๋ยวนี้ด้วย”
   ชาญชัยกับเฉินถูกสะบัดไปคนละทาง สู้ยังไงพวกเขาก็คงสู้โซดาไม่ได้ ยิ่งมาทะเลาะกันอยู่กลางถนนแบบนี้ก็รั้งแต่จะเสียเวลาและเสียกำลังโดยใช่เหตุ
   “เอาล่ะๆ! กูยอมแพ้มึงแล้ว อยู่เฉยๆ กูจะพามึงไปส่งที่บ้านไอ้หานเอง ปล่อยมันเฉิน ลื้อกับอั๊วยังไงก็ห้ามมันไม่ได้หรอก ทุกคนไปขึ้นรถ”
   เฉินพยักหน้าอย่างเข้าใจแล้วดันตัวเด็กหนุ่มเข้าไปในเบาะตอนหลังเหมือนเดิม ทุกคนกลับขึ้นรถกันจนได้ ชาญชัยยกนิ้วกลางกับนิ้วโป้งขึ้นนวดขมับก่อนจะตีรถขับกลับไปยังคฤหาสน์ที่เพิ่งจากมา
   โซดาเหม่อลอยไปมองไปยังนอกกระจกรถ ในใจร้อนเหมือนมีไฟสุม
   “เฮ้อ...ผมคิดว่าผมเข้าใจโซดานะครับ...” เฉินปรารภเบาๆ
   “เข้าใจอะไรของลื้อวะ?” ชาญชัยถามกลับ
   เฉินยิ้มเครียด “ก็ถ้าน้องมินอยู่บ้านกับถ่านไฟเก่าสองต่อสอง ผมก็คงยอมไม่ได้ คงจะกลายเป็นบ้า กลัวว่าเขาจะมีอะไรกันเหมือนกันนั่นแหละครับเสี่ย”


:::METAL TERMINAL:::
   
   “กูไม่กลับขึ้นไปนะ”
   ชาญชัยพูดกับโซดาหลังขับรถกลับมาส่งถึงที่ เด็กหนุ่มพยักหน้าแล้วกระพุ่มมือไหว้ขอบคุณชาญชัย ก่อนจะไหว้ลาเฉินด้วย เจ้าพ่อกาสิโนถอนใจอย่างไม่ชอบใจนัก แล้วตีรถออกไปทันควัน
   โซดาก้าวขาที่หนักอึ้งทั้งสองข้างกลับขึ้นไปตัวคฤหาสน์ มันเงียบสนิทไม่มีวี่แววสิ่งมีชีวิต กระเป๋าเดินทางของเขากับหาญศักดิ์ยังวางอยู่บนพื้นจุดเดิม แสดงให้เห็นชัดว่ายังไม่มีคนใช้กล้ายุ่มย่ามเข้ามาและเจ้าของก็ไม่คิดจะเก็บมันให้เข้าที่
   ร่างสูงยืนละล้าละลังอยู่หน้าประตูห้องนอนของหาญศักดิ์ รู้สึกได้ถึงไอเย็นของเครื่องปรับอากาศที่เล็ดรอดออกมาจากช่องแคบๆ ข้างล่างบานประตู มือหนาเอื้อมไปจับลูกบิด แล้วตัดสินใจหมุนโดยไม่เคาะห้องทันที
   ...ประตูไม่ได้ล็อกไว้...
   อย่างน้อยนั่นก็ทำให้เขาเบาใจได้ระดับหนึ่ง
   “ชู่ว”
   หาญศักดิ์หันมาเอานิ้วชี้แตะริมฝีปากทำสัญญาณบอกให้คนที่เข้ามาใหม่เงียบ ก่อนจะตกใจเล็กๆ เมื่อพบว่าเป็นใครที่ก้าวเข้ามา
   ทั้งคู่นอนซุกตัวในผ้าห่มหืนหนาอยู่บนเตียงกว้างด้วยกัน ใบหน้าสวยหวานนอนซบอยู่บนหน้าอกของเสี่ยหนุ่ม แขนของหาญศักดิ์โอบรอบร่างบอบบางนั่น ดุจหญิงสาวเป็นตุ๊กตากระเบื้องเคลือบที่ต้องทะนุถนอมสุดชีวิตเพราะแตกหักได้ง่าย ชายบนเตียงขยับปากแบบไม่มีเสียงให้
   ‘เฉียนย่าหลับอยู่’
   ...เขาคงเป็นบ้าแน่ๆ ถ้าไม่เห็นว่าใส่เสื้อผ้ากันครบดี
   โซดากัดริมฝีปากพยักหน้าแกนๆ ตอบรับคำพูดนั่น หาญศักดิ์ค่อยๆ ขยับตัวอย่างเบาบางมากที่สุดในการออกมาจากเตียง เขาเดินเข้ามาหาร่างสูงโปร่ง
   “โซดา ไปคุยกันข้างนอกนะ...”
   โซดาเดินตามหาญศักดิ์ออกไปจากห้องนอนอย่างว่าง่าย แล้วในที่สุดพวกเขาก็ประจันหน้ากันอยู่ตรงโถงทางเดินของชั้นสอง บ้านทั้งหลังยังคงเงียบสงัด มันเป็นความเงียบที่แปลกประหลาด...หนักอึ้ง...และคุกรุ่นเสียจนคนที่เผลอเดินผ่านเข้ามาอาจจะสำลักอากาศเอาเสียก็ได้ หาญศักดิ์มองหน้าเขาตาไม่กะพริบ ดวงตากลมโตราวกวางป่าคู่นั้นอัดล้นไปความรู้สึก
   “พี่หาน...กินข้าวรึยังครับ...”
   เสียงแผ่วพร่าของโซดาทำให้สายตาเขาสั่นไหว หาญศักดิ์ตอบเสียงเครือไม่แพ้กัน
   “ยังหรอก...”
   เด็กหนุ่มถอนใจเบาหวิว ดวงตายังคงหม่นแสง รู้ว่าตัวเองเริ่มเปิดการสนทนาด้วยประโยคที่น่าหัวเราะเป็นอย่างมาก
   “แล้วพี่จะเอายังไง...”
   นัยน์ตาสวยของเจ้าพ่อเงินกู้สั่นไหวยิ่งกว่าเดิมเมื่อโดนเข้าเรื่อง เสียงถามของโซดาไม่ดังไปกว่าเสียงกระซิบ หากแต่กลับจู่โจมเขาราวกับขีปนาวุธที่มีอานุภาพร้ายกาจ
   “จะให้ผม...ผมทำยังไงได้บ้าง...”
   ความปวดร้าวแล่นริ้วชัดเจนในคำถาม และหาญศักดิ์ก็ทำได้เพียงแต่ก้มหน้าหนีมันเท่านั้น เขารู้ดีว่าทำตัวไม่สมกับเป็นลูกผู้ชาย หนีปัญหาได้อย่างน่าละอายและน่าทุเรศ แต่เขาก็ไม่รู้จริงๆ ว่าตัวเองจะพูดอะไรออกไปได้ ทุกอย่างมันกะทันหัน มันฉุกละหุก...
   “ตัวเองครับ”
   “...!”
   หาญศักดิ์สะดุ้งเงยหน้าขึ้นมองเด็กหนุ่มเต็มสายตากับสรรพนามนั่น ใบหน้าคมคายอ่อนเยาว์เต็มไปด้วยความเจ็บปวดสุดแสน สายตาที่มองเขา...ดูเหมือนจะขาดใจตายตรงนี้ให้ได้
   ในแก้วตาคมไม่ปรากฎภาพสะท้อนใดนอกจากภาพเขา...ภาพเขาคนเดียว
   “จะให้เค้าอยู่ตรงจุดไหน”
   “...”
   “แค่บอก...บอกเค้าหน่อยได้ไหม...”


--------------------------
#ฟิคพยัคฆ์คว่ำกวาง
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ em1979

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
โซดาเอ้ย... ชีวิตแกมันน่าสงสารจิงๆ
ก็ดี ถามกันตรงๆ ไปเลย จะได้จบๆ

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
 :m16: โกรธ หงุด งุ้นง้าน  :angry2: อัลไลเนี้ย :serius2:

ออฟไลน์ it.the.world

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :hao5: :hao5: :katai1: เฮือกกก จะตายแทนโซดาา เสี่ยหานน

ออฟไลน์ nevergoodbye

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
โซดาลูกแมม่ :hao5:
ถอยออกมาก่อนเถอะ ให้เสี่ยอยูกับตัวเองไปก่อน

มาต่ออีกด่วนค่าา จิขาดใจจ :katai4:

ออฟไลน์ Peterpanmama

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โถถถถถถถถถ
โซดาของพี่

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
โซดาาาา โฮรรรรรร TT เดินออกมาเลยโซดาถ้ารักเสี่ยหาญ อย่าทำให้เสี่ยหาญอึดอัดลำบากใจ ให้คิดว่าเสี่ยหาญไม่รัก ให้เขาอยู่กับเฉียนย่าที่เสี่ยบอกว่ารักนักหนาไป เชอะ!!!แล้วจะรู้ใจตัวเองจริงๆว่ารักใครขาดใครไปไม่ได้ โซดาถอยออกมา ยังไงตอนนี้ก็ถือว่าได้เดินกลับไปหาแล้ว ให้เสี่ยเลือก จะยังไงก็ต้องยอมรับ เราไปเตรียมทหารเท่ห์ผุดๆให้เสี่ยหาญคิดถึงใจขาดดู เห๊อะ!! เอาเล้ยยยยกลับมาอยู่ด้วยกันเล้ยยยยยย ชิส์ อิน55555555 มาต่อนะค่ะ ใจจิขาด

ออฟไลน์ pigarea

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
สงสารโซดาจับใจ ก็พอจะเข้าใจพี่นะ คนรักเก่ากลับมา รักแรกด้วย มันก็ต้องหน้ามืดไปบ้าง แต่อยากให้พี่ตั้งสติให้ดี มองอยู่กับปัจจุบัน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด