ยกที่ ๓๑
[/size]
Everybody's laughing in my mind
Rumors spreading 'bout this other guy
Do you do what you did when you
Did with me?
Does he love you the way I can?
Did you forget all the plans
That you made with me?
'cause baby I didn't
[ ทุกคนรอบตัวผมดูเหมือนจะส่งเสียงหัวเราะเยาะผมกันหมด
ข่าวลือปลิวว่อนไปทั่วเกี่ยวกับเธอคนนั้น
พี่ทำกับเธอคนนั้น...เหมือนที่ทำกับผมหรือ
เธอรักพี่...ได้เท่าที่ผมรักไหม
พี่คงลืมหมดแล้วว่าเราเคยมีความสุขกันแค่ไหน
แต่ผมยังลืมไม่ได้เลย...]
That should be me
Holdin' your hand
That should be me
Makin' you laugh
That should be me
This is so sad
That should be me
That should be me
That should be me
Feelin' your kiss
That should be me
Buyin' you gifts
This is so wrong,
I can't go on,
Till you believe that
That should be me
[ มันควรจะเป็นผม...ที่ได้กุมมือพี่
มันควรจะเป็นผม...ที่ได้ทำให้พี่หัวเราะสดใส
มันควรจะเป็นผม... ทำไมเรื่องมันเศร้าอย่างนี้นะ...
มันควรจะเป็นผมคนนี้สิ...มันควรจะเป็นผมไม่ใช่หรือไร
มันควรจะเป็นผม...ที่ได้สัมผัสถึงรสจูบของพี่
มันควรจะเป็นผม...ที่ได้ซื้อของขวัญให้พี่เซอร์ไพร์ส
นี่มันผิดที่ผิดทางไปหมด ผมจะมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ไหวแล้ว
...มันควรจะเป็นผม...มันควรจะเป็นผม...]
(That should be me – Justin Bieber : แปลเพลงเป็นเวอร์ชัน ศาสดาในเรื่อง ‘METAL TERMINAL พยัคฆ์คว่ำกวาง' โดยเจค)
:::METAL TERMINAL:::
“จะให้เค้าอยู่ตรงจุดไหน”
“...”
“แค่บอก...บอกเค้าหน่อยได้ไหม...”
น้ำเสียงนั้นแหบโหยเพราะสะกดกลั้นน้ำตา ไม่อยากต้องหลั่งออกมาให้คนตรงหน้าสมเพชหรือสงสาร เสี่ยหนุ่มไม่รู้เลยว่าตัวเองทำหน้าอย่างไรกลับไป เขาได้แต่ยืนนิ่งมองหน้าใบหน้าปวดร้าวนั้นอยู่ที่เดิม
“พี่หาน...”
ร่างสูงสาวเท้าเข้ามาหมายจะโอบกอด หากแต่ร่างกายของหาญศักดิ์ก็ขยับเท้าหนีไปติดกับกำแพงทันทีเพื่อปฏิเสธ เสียงเล็ดรอดออกมาจากลำคอในเวลาเดียวกัน
“โซดา...ไปอยู่เมททอลนะ”
ร่างสูงตัวแข็งยืนนิ่งหลับตา คำตอบนั้นไม่ต่างจากฟ้าผ่ากลางใจ
ทั้งการกระทำ...ทั้งคำพูด
ทุกอย่างมันชัดเจนมากพอ
“ที่เมททอล...มีหนังสือหนังหา...มีของทุกอย่างเท่าที่มึงต้องการ ใกล้ห้าง ใกล้โรงเรียนด้วย...”
“...”
“เดี๋ยวกูจะให้บัตรเครดิตมึงไว้ใบนึง ถ้ามีอะไรขาดเหลือ หรืออยากได้อะไรก็รูดได้เลยนะ... ไม่จำกัดวงเงิน”
หาญศักดิ์ยังคงพูดต่อ ใช้น้ำเสียงราวกับบอกเล่าว่าวันนี้ตัวเองไปเล่นน้ำทะเลมาอย่างไรอย่างนั้น เสี่ยหนุ่มทำเป็นเมินเฉยกับความรู้สึกที่ตีกันมั่วไปหมดในร่างกาย และทำราวกับไม่เห็นสายตาของเด็กหนุ่มที่มองมายังตัวเองเลย
“วันสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารใกล้เข้ามาทุกทีๆ แล้ว อ่านหนังสือเยอะๆ นะโซดา... จะได้สอบติด”
“แล้วพี่จะตามผมไปเมื่อไหร่ครับ”
“...”
“เมื่อไหร่ครับพี่หาน...”
หาญศักดิ์หันหน้าหนีสายตาคมปลาบไปด้านข้าง โซดารู้สึกเหมือนถูกธรณีสูบ อยู่ใกล้กันแค่เอื้อมมือ แต่เขารู้สึกเหมือนหาญศักดิ์อยู่ไกลออกไปร้อยโยชน์ ต่อให้วิ่งตามจนหมดแรงก็คงต้องเหนื่อยเปล่า
“โซดา...”
“...”
“กูขอโทษ...”
...เพราะมันไม่มีทางวิ่งไปถึงตัวหาญศักดิ์ได้เลย
“พี่หาน... ไม่เอา...”
“...กูขอโทษ”
“พี่...ไม่เอาอย่างนี้สิ...อย่าพูดแบบนี้สิครับ...”
น้ำเสียงปร่าของโซดาทำให้เขาแทบหลั่งน้ำตา อ้อมกอดที่โถมเข้าใส่ทั้งตัวทำให้เขารู้ว่าเด็กหนุ่มตัวสั่นแค่ไหน...
แต่เขาเลือกแล้ว
เสี่ยหนุ่มดันร่างสูงออกจากร่างกาย และมันก็ง่ายดายเกินคาดจนน่าขัน หากแต่เขาไม่ดีใจเลยแม้แต่นิดเดียว เด็กหนุ่มยืนมองเขาอยู่ตรงหน้า ดวงตาคมกริบที่ทอดมองหน้าเขาสั่นไหว
“กูขอโทษ...ขอโทษจริงๆ”
หาญศักดิ์ตัดสินใจหมุนตัวหนีความอึดอัดทับถม เอื้อมมือไปจับลูกบิดประตูเตรียมกลับเข้าห้องนอน
“ผมไม่ไป”
หาญศักดิ์ชะงัก ก่อนจะถอนใจเบาแสนเบา ขยับปากพูดโดยที่ไม่ยอมหันหน้าไปมองอีกฝ่าย
“โซดา มึงก็โตแล้ว อย่าดื้อเลย...”
ปัง!!
โซดาโผมาคร่อมทับจากข้างหลังแล้วตบประตูเสียงดังสนั่นจนเจ้าพ่อเงินกู้สะดุ้งเฮือก แผ่นหลังของเขาแนบติดกับแผงอกของเด็กหนุ่ม ใจเต้นโครมครามกับความรวดเร็วของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
“ผมไม่ไป ต่อให้พี่จะผลักไสผมยังไง แต่ตอนนี้ผมคือมือขวาของพี่” เสียงทุ้มต่ำที่เปล่งออกมาดังก้องอยู่ในหูของหาญศักดิ์
“พี่อยู่ที่ไหน ผมก็จะอยู่ที่นั่น
“...”
“เพราะผมเป็นคนที่ต้องคอยปกป้องพี่ และตามสัญญาที่พี่ทำกับพ่อ ผมอยู่กับพี่ได้แค่คนเดียวเท่านั้น”
“...”
“...ไม่ใช่คนอื่น”
หาญศักดิ์กัดริมฝีปากเมื่อโซดาค่อยๆ ผละออกไปจากตัว เกิดความเงียบงันขึ้นอีกหน
“...ถ้าอย่างนั้น มึงนอนห้องแขกนะ เดี๋ยวกูให้คนไปจัดห้องให้”
ทันทีที่พูดจบหาญศักดิ์ก็บิดลูกบิดประตูแล้วก้าวเข้าห้องไปในทันทีโดยไม่สนใจอะไรอีกต่อไป เขากดล็อกประตูห้อง กลืนความรู้สึกทั้งหมดในโพรงอกลงท้อง
ก็เลือกเองแล้วไม่ใช่หรือหาน...
ชายหนุ่มคิดเงียบๆ แล้วปั้นหน้าเดินไปที่เตียงที่หญิงสาวกำลังกะพริบเปิดเปลือกตาอย่างเชื่องช้า
“หาน...เมื่อกี้มีเสียงดังอะไรหรือเปล่า...”
เจ้าพ่อเงินกู้ยิ้มอบอุ่น คว้ามือข้างหนึ่งของร่างบางมาจับ กดจูบแผ่วเบาลงที่มือนวลเนียนนั่น
“ไม่มีอะไรหรอกเฉียนย่า หลับต่อให้สบายเถอะนะ...”
“แต่... หรือว่าเป็นเฮียชาน...” แก้วตาใสสั่นระริก
“ไม่ใช่หรอกครับ” หาญศักดิ์ยังคงยิ้ม เอื้อมมือข้างหนึ่งไปลูบศีรษะหญิงสาวเบาๆ “เราแค่ตกลงอะไรบางอย่างกับลูกน้อง ไม่ต้องกลัวนะ”
“มีหานอยู่ทั้งคน...เราไม่กลัวอยู่แล้ว...” เฉียนย่ายิ้มบางเบาให้ชายหนุ่ม แต่ยังไม่วายคลางแคลงใจ “แต่แค่คุยกับลูกน้องจริงๆ นะ ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านั้นใช่ไหม”
“จริงสิเฉียนย่า”
“...”
“...แค่ลูกน้องจริงๆ”
:::METAL TERMINAL:::
ร่างสูงตื่นขึ้นมาแต่เช้าตรู่ทั้งๆ ที่วันนี้เป็นวันหยุดโรงเรียนเพราะทุกคนเพิ่งกลับจากค่าย หากแต่มันคงยากสำหรับเขาที่จะข่มตาหลับให้สนิท เขาเองก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองควรจะทำอย่างไรต่อไป
หยิบสมาร์ทโฟนมาดูเวลาก็พบว่ามันแค่หกโมงครึ่งเท่านั้น แต่เขาทนนอนมองเพดานแบบนี้ต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว ร่างสูงลุกขึ้นไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำที่อยู่ในห้องนอน ถึงจะบอกว่าเป็นห้องนอนแขก แต่มันก็ใหญ่โตเอาการ อยู่สะดวกสบายไม่แพ้อยู่โรงแรมที่ไหน
ยกเว้นก็แต่ความสบายใจ...ที่ตอนนี้โซดาไม่มีเลยสักนิดเดียว
โซดาลงไปชั้นล่างของบ้าน บรรดาแม่บ้านหรือคนใช้ที่เขาเดินผ่านต่างก็ซุบซิบกันทันที ทั้งสงสัยถึงสถานะของโซดา เพราะคนที่นี่ต่างก็ยังคิดว่าเด็กหนุ่มเป็ยเมียขัดดอกของหาญศักดิ์อยู่ ไหนจะเรื่องคู่รักเก่าของเจ้าของบ้านที่กลับมาอย่างไม่คาดฝัน ซึ่งตอนนี้ โซดาไม่มีปัญญาที่จะสรรหาปั้นแต่งเรื่องราวมาเล่า ใครอยากคิดอย่างไรก็คิดกันไปเถอะ
ร่างสูงเดินเข้าไปในครัว พอตื่นเช้ามาท้องมันก็หิวโหวงเหวงไปหมด กะจะหาอะไรง่ายๆ กินพอให้อยู่ท้อง แต่ปรากฎว่าพอก้าวขาเข้าไปก็ต้องชะงัก
“อ้าว โซดา ตื่นเช้าจังเลย”
เฉียนย่าส่งยิ้มสดใสให้เด็กหนุ่มขณะที่เธอกำลังหั่นอะไรสักอย่างอยู่บนเขียง มีเด็กรับใช้ของคฤหาสน์สามคนเป็นลูกมือช่วย
“อ๋อ เอ่อ ครับ...”
โซดาพูดไม่ออก รู้สึกประดักประเดิดเป็นที่สุด เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะมาเผชิญหน้ากับเฉียนย่าตั้งแต่เช้าตรู่แบบนี้ ร่างบางหันไปล้างมือลวกๆ ตรงซิงค์แล้วหันมากวักมือเรียกเขา โซดาชี้หน้าตัวเอง
“เอ้อ เรานั่นแหละ มาช่วยหน่อยสิ”
เด็กหนุ่มค่อยๆ เดินเข้าไปแบบผิดที่ผิดทาง
“คุณ เอ่อ คุณเฉียนย่าจะให้ผมช่วยอะไรหรือครับ”
“คุณเคิ้นอะไรกันเล่าลูก” เฉียนย่าส่ายศีรษะ “ถ้าไม่รู้จะเรียกอะไรเรียกว่าเจ้ก็ได้นะ เรียกซะห่างเหินเชียว” เธอยิ้ม “เอ้า ช่วยเจ้หน่อย ไปหยิบหัวมันฝรั่งตรงนั้นมาปอกเปลือกเร็ว สักห้าลูกก็ได้ ช่วยกันๆ”
โซดาที่ได้รับคำสั่งเดินอย่างเชื่องช้าไปหยิบมีดปอกเปลือกแล้วเดินไปที่กองมันฝรั่งทั้งที่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก บรรดาเด็กรับใช้ในครัวยิงฟันใส่กัน ในใจรอดูฉากเด็ดประจำปี
“โห ปอกเก่งจัง แป๊บเดียวเสร็จไปหัวนึงแล้วเหรอ” เฉียนย่าที่เดินมาดูตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้เอ่ยชม โซดายิ้มรับ
“สมัยก่อนอยู่บ้านผมช่วยแม่ปอกบ่อยๆ น่ะครับเจ้”
“เอ๊ย ดีนี่ งั้นเราก็ทำอาหารเป็นน่ะสิ ทำได้เป็นเรื่องเป็นราวเลยไหม”
“ได้สิครับ อาจจะไม่อร่อยมาก แต่ก็ทำได้หลายอย่าง กินแล้วไม่ตายแน่นอน”
“ดีจัง หานนะทำกับข้าวไม่เป็นหรอก ผู้ช้ายผู้ชาย สมัยก่อนอยู่ด้วยกัน แค่ต้มน้ำให้เดือดจะเอามาทำมาม่ายังทำไม่ได้เลย”
เธอหัวเราะเบาๆ รำลึกความหลัง หากแต่มันกลับทำเอารอยยิ้มบนใบหน้าของโซดาแข็งทื่อ
“นี่ พวกเธอซุบซิบอะไรกันน่ะ” เฉียนย่าส่งเสียงถามคนรับใช้ที่ส่งสายตาให้กันแบบมีพิรุธ พวกหล่อนสะดุ้งเฮือก “มาช่วยตั้งนานยังสู้โซดาไม่ได้เลย ไปๆ จะไปทำอะไรก็ไปเถอะ เจ้มีคนช่วยแล้ว”
“ค่ะ”
คนรับใช้รับคำ รีบวิ่งจู๊ดออกไปจากห้องครัวทันทีโดยที่ไม่ต้องรอให้บอกซ้ำสอง พอทันทีที่ออกมาก็วิ่งไปรวมกับกลุ่มแม่บ้านกลุ่มใหญ่ คนนับสิบสุมหัวราวกับรอคอยเวลานี้มานาน
“ว้าย เพิ่งออกมาจากครัวใช่ไหมหล่อน เป็นไงๆ อัพเดตด่วนค่า”
“โอ๊ย เธอ เมื่อกี้นี้นะ หายใจจะไม่ออก นึกว่าเขาจะตบกันซะแล้ว!”
“บรรยากาศมาคุสุดๆ...”
“คุณโซดามาคุอยู่ฝั่งเดียวน่ะสิ อีกฝ่ายเขารู้ที่ไหนว่าคุณโซดาก็เป็นเมียคุณหานเหมือนกันน่ะ แล้วเสี่ยหานก็บอกห้ามเราแพร่งพรายเรื่องนี้ด้วย ไม่งั้นจะตัดเงินเดือน หรือไม่ก็ไล่ออกเลย” เธอทำหน้าสยอง ยิ่งยามเศรษฐกิจไม่ดีแบบนี้จะไปหางานใหม่ทำก็ลำบาก ใครที่มันกล้าก็ปล่อยให้มันทำก็แล้วกัน เพราะเธอไม่กล้า เผลอๆ เกิดเสี่ยหานเรียกคนในพรรคพยัคฆ์มายิงทิ้งโทษฐานทำให้ไม่พอใจจะทำอย่างไรเล่า
“จะว่าไปคุณโซดานี่ดูผู้ช้ายผู้ชายนะ จะท่านั่งท่าเดินท่าพูด ไม่เห็นจะดูสาวเหมือนตอนแรกๆ เลย” สาวใช้คนหนึ่งเมาท์อย่างออกรส อีกคนรีบพยักหน้าเห็นด้วย
“เออ จะว่าไปจริงๆ แกก็ดูแมนมาตั้งนานแล้วแหละ ตุ้งติ้งเป็นบางเวลาเฉยๆ เอง”
“เฮ้อ สงสารคุณโซดาอ่ะ อยู่กับคุณหานมาดีๆ พอคุณผู้หญิงกลับมา กลายเป็นหมาหัวเน่าเลย ตอนฉันไปจัดห้องแขกให้แกนอนเมื่อคืนนะ สงสาร”
“แต่คุณผู้หญิงแกดี๊ดีนะ นิสัยก็ดี พูดจาก็ดี นี่แกก็ตื่นมาตั้งแต่ตีห้าช่วยเราทำนั่นทำนี่ สวยอีกต่างหาก”
“อู๊ยย ยังไงฉันก็ #ทีมโซดา ย่ะ ใครอื่นหน้าไหนไม่สนทั้งนั้นแหละ” ป้าแม่บ้านผู้อาวุโสพูดสอดเด็กๆ กลางปล้อง
“นี่ ป้าสนับสนุนให้เจ้านายเราเป็นพวกลักเพศเหรอป้า ยังไงชายหญิงก็เกิดมาคู่กันนะ”
“แกรู้ได้ไง นี่แกไม่คิดกันบ้างเหรอว่าคุณโซดากับเสี่ยน่ะแปลกๆ บางทีฉันยังสงสัยเลยว่าคุณโซดากับเสี่ยใครเป็นผัวใครเป็นเมียกันแน่ เซนส์คนแก่น่ะแรงนะเว้ย”
ทุกคนตรงนั้นส่งเสียงหัวเราะกันฟันแทบหักหมดปาก
“โอ๊ยป้า คุณหานคงเป็นเกย์รับหรอกมั้งป้า! อยู่มาก็นานกว่าใครเขาป้าคิดงั้นกับเจ้านายจริงๆ เหรอ ดารานางแบบนักร้องเจ้านายเรายังควงมาแล้ว ที่มาลองตุ๊ดนี่แกแค่ลองของแปลกเฉยๆ”
ป้าหัวหน้าแม่บ้านส่งค้อนวงใหญ่ให้กับคำพูดนั้นเป็นนางเอกละคร
“แต่ป้าก็พูดมีเหตุผลนะ” คนหนึ่งแสดงความเห็นด้วย “อย่างที่บอกว่าคุณโซดาก็แมนจริงๆ ...แต่...เสี่ยหานก็แมนอ่ะ โอ๊ย ฉันไม่รู้”
“บางทีเขาอาจจะเป็นแค่เจ้านายลูกน้องกัน...”
“แต่ตอนนั้นเสี่ยก็บอกว่าคุณโซดาเป็นเมียนะ ภาพที่คุณโซดาร้องไห้ไปกอดขาเสี่ยยังติดตาฉันอยู่เลย” เธอยกสองมือขึ้นปิดตา “เฮ้อ ซับซ้อนจังเว้ยคู่นี้ ว่าแต่คุณเฉียนย่านี่คือผู้หญิงคนในกรอบรูปสีซีดๆ บนโต๊ะทำงานในห้องนอนเสี่ยใช่ป่ะ ใช่ไหมป้า”
“...เออ คนนั้นแหละ” ป้าตอบไม่เต็มเสียงเพราะไม่เชียร์
“โอ๊ย รักแรกมันพูดยาก~ ไม่รู้แหละ ฉันขอ #ทีมเฉียนย่า แล้วกัน เจ้เฉียนย่าแกก็ดีด้วย สนับสนุนชายหญิงตลอดเว”
“แกน่ะมันไม่รู้อะไร” ป้าพูดขัด “คุณชานน่ะเกลียดคุณเฉียนย่าอย่างกะอะไรดี แกว่าทิ้งเพื่อนแกไปเพราะจน กลับมาตอนรวยแกรับไม่ได้ ถ้าเขาได้ตบได้แต่งกันจริง งานแต่งคุณหานพังแน่ย่ะ อยู่ผิดฝั่งแล้ว”
“งั้นฉันอยู่ #ทีมโซดา กับป้าดีกว่า ใครจะเป็นผัวเป็นเมียไม่สนหรอก รักคุณโซดามีอะไรมะ?”
“เอออยู่ด้วยๆ”
เกิดการแบ่งพรรคแบ่งพวกขึ้นในหมู่คนรับใช้ให้เป็นที่สนุกสนาน ทุกคนยังคงเมาท์น้ำลายแตกฟองไม่เลิกจนเหมือนกลุ่มก้อนอุบาทว์อะไรสักอย่างที่จับกันแน่นกลางห้องรับแขก
“นี่ๆ คุยอะไรกันเหรอ ขอเสือกด้วยคนสิ” เสียงห้าวๆ เสียงหนึ่งดังขึ้นมากลางวง
“โอ๊ย ก็อย่างนี้ค่ะคุณหาน! คือพวกหนูกำลังคิดว่าคุณหานน่ะจะเลือกใครระหว่างคุณโซดากับคุณเฉียนย่า แล้วกับคุณโซดาน่ะมันก็น่าสงสัย ว่าตกลงใครเป็นผัวใครเป็นเมียกันแน่ นี่กำลังแบ่งทีมกันสนุกเชียวค่ะ”
“อ๋อ...เหรอ”
กึก!
ทั้งกลุ่มตัวแข็งทื่อเมื่อตั้งตัวได้ โดยเฉพาะสาวรับใช้วัยสิบเจ็ดที่เพิ่งพูดเจื้อยแจ้วเมื่อสักครู่ เหล่าคนรับใช้หน้าตาเหมือนเห็นผีกลางวันแสกๆ ดวงตาเหลือกหลานออกมาจากเบ้าในขณะที่ผู้เป็นเจ้านายกำลังส่งยิ้มพิฆาตมาให้อย่างทั่วถึง
“จะไปทำงาน...หรือจะให้เฮียไล่ออก”
เสียงของชายหนุ่มเจ้าของบ้านเนิบนาบน่ากลัว ขัดกับรอยยิ้มใจดีบนใบหน้าลิบลับ ทุกคนยิ้มแหยๆ เหงื่อแตกซิก พูดอะไรกันไม่ออกแม้แต่คำเดียว
“...”
“ไปทำงาน!!”
“ค่ะ!!”
ทุกคนแตกกระเจิงกันไปคนละทิศเมื่อหาญศักดิ์ตะเบ็งเสียง เห็นเจ้านายยิ่งกว่าเห็นผีวิ่งหนีสี่คูณร้อยกันป่าราบ หาญศักดิ์ยกนิ้วขึ้นมาบีบนวดขมับแบบเพลียจิตเพลียใจ
...ปัญหานี้กว่าจะแก้จบคงอีกนาน...
ว่าแต่เมื่อกี้... ทีมไหนมีคนอยู่เยอะกว่ากันวะ...? แล้วใครอยู่ทีมไหนบ้าง?
:::METAL TERMINAL:::
“ผมต้มหัวมันฝรั่งเลยนะครับเจ้”
“จ้ะ ต้มเลย” เธอตอบแล้วยกหลังมือเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก “ถ้าเหนื่อยแล้วก็ไปพักก็ได้นะ เดี๋ยวเจ้ทำต่อเอง”
“ไม่เป็นไรครับ ผมยังไม่เหนื่อยหรอก อยู่ว่างๆ ก็ฟุ้งซ่าน” โซดาว่า “เดี๋ยวผมช่วยเจ้หั่นแครอทแล้วกันนะครับ”
พูดจบเด็กหนุ่มก็เดินไปใช้เขียงข้างๆ เฉียนย่า หญิงสาวยิ้ม
“โซดานี่น่ารักจังนะ ถ้าเป็นลูกชายเจ้ เจ้คงจะปลื้มใจมาก”
โซดาเพียงแค่ยิ้มบางๆ รับคำพูดนั้นแล้วหั่นแครอทต่อเงียบๆ
“หานเขาเป็นยังไงเหรอ”
โซดาหั่นแครอทแฉลบผิดไปหนึ่งจังหวะกับคำถามนั่น ก่อนจะสะบัดศีรษะแล้วลงมือหั่นต่ออย่างตั้งอกตั้งใจ
“เจ้ไม่ได้พบหานนานมาก... นับจากวันนั้นก็แปดปีเลยสินะ...” หญิงสาวพูดคล้ายปรารถกับตัวเอง มีรอยยิ้มแต้มบนดวงหน้าสวยบางเบา “เจ้อยากรู้ว่าหานเขาเป็นยังไงบ้าง...เขาดีกับลูกน้องไหม... แปดปีนี้เขาทำอะไร เปลี่ยนไปมากแค่ไหน เจ้ไม่รู้เลย...”
ร่างสูงทำเหมือนไม่ได้ยิน มือหนาหั่นแครอทเสียงมีดกระทบเขียงดังฟั่บๆๆ
“โซดา...”
“...!!!”
เด็กหนุ่มสะดุ้งเฮือกเมื่อเฉียนย่าแตะที่ต้นแขนเขาเบาๆ
“เล่าให้เจ้ฟังหน่อยสิ เท่าที่โซดารู้ก็ได้...”
โซดากัดริมฝีปาก วางมีดลงบนเขียงแล้วกวาดแครอทที่หั่นจนเรียบร้อยใส่ชาม เด็กหนุ่มเหม่อมองไปยังกำแพงห้องครัวตรงหน้า เขารู้ดีว่าเธอกำลังจ้องหน้าของเขาอย่างรอคอย
“พี่หาน... เป็นคนน่ารักมากครับ...” ในที่สุดปากหยักก็เปิดออกเอ่ยเสียงแผ่วเบา หลังจากปล่อยให้ความเงียบงันดำเนินนานนับนาที
“จริงเหรอ? ยังไงเหรอ?”
โซดายิ้มบางเบา นัยน์ตาคมสั่นพร่า “พี่เขาเป็นคนมีน้ำใจมาก เป็นห่วงเป็นใยคนอื่นตลอด ไม่ว่าจะกับลูกน้อง กับใคร...”
“ใช่ หานเป็นคนใจกว้างตั้งแต่เด็กๆ แล้วล่ะ”
“พี่เขาอาจจะดูโหดเวลาทำงาน แต่นั่นเป็นเพราะหัวโขนเจ้าพ่อเงินกู้ที่เขาต้องสวม ใครๆ ก็เลยติดภาพว่าพี่เขาโหด แต่จริงๆ พี่เขานิสัยดีมาก โผงผางแต่ก็จริงใจ บางที ก็ออกจะโก๊ะๆ นิดหน่อยด้วยซ้ำ” หางตาคมโค้งลงเพราะยิ้มกว้างขึ้น
“นี่แก่จะสามสิบแล้ว หานยังไม่เลิกเปิ่นอีกเหรอ เป็นถึงเจ้าพ่อคนหนึ่งของประเทศเราเลยนะตอนนี้” เฉียนย่าหัวเราะเบาๆ แล้วเอาซี่โครงไก่ใส่ในหม้อน้ำซุป
“เปิ่นสิครับ... เปิ่นสุดๆ เลย”
ภาพตอนที่หาญศักดิ์ตะโกนโหวกเหวกโวยวายใส่เขาลอยเต็มหัวสมอง ตั้งแต่วันแรกที่หาญศักดิ์ต้องตกเป็นเมียเขาแล้วรับไม่ได้ ตอนที่ต่อสู้กันแต่อีกฝ่ายทำได้แค่เหมือนมดกัด ตอนที่เชียร์มวยเขาสุดเสียง ตอนที่ไปสะกดรอยตามเขาถึงแม่ฮ่องสอน ตอนที่หาญศักดิ์ตัวบิดไปหมดเพราะถูกเขากระเซ้าจีบ... เขินเหมือนร่างนั่นจะระเบิดได้จนต้องตะโกนแก้อาย ใบหน้าหวานขึ้นสีระเรื่อน่ามองน่าฟัด
ตอนที่พี่หานอยู่ในอ้อมกอดเขา นอนหนุนหน้าอกเขาแล้วหลับไปด้วยกันทุกคืน
ทุกอย่าง... พอนึกถึงก็ยิ้มได้เสมอ
“...ผมไม่รู้จะพูดยังไงนอกจากจะบอกว่าพี่หานเป็นคนมีเสน่ห์ ใครอยู่ใกล้ก็จะมักจะหลงรัก”
“เนอะ...”
“ขนาดผมยังรักเลย”
เฉียนย่าเลิกคิ้วประทับใจกับคำบอกเล่าจากปากเด็กหนุ่ม
“...ผมรักพี่หานมาก” เสียงของเด็กหนุ่มแผ่วพร่า “รักมากจริงๆ...”
“เจ้ดีใจแทนหานจังที่มีลูกน้องรักและเทิดทูนแบบนี้ ถ้าหานรู้นะหานต้องดีใจมาก” เฉียนย่าหยิบเครื่องปรุงมาปรุงรสน้ำซุปในหม้อ ก่อนใบหน้าสวยจะหมองเศร้าลง “ทั้งๆ ที่มีแฟนดีขนาดนี้...แต่ตอนนั้นเจ้กลับทิ้งหานไปไม่ไยดี...”
“...”
โซดาเงียบกริบ ไม่รู้จะตอบอะไรเฉียนย่า เขารับรู้ได้ว่าจริงๆ แล้วเธอก็ไม่ได้อยากทำแบบนั้น...จริงๆ เธอเองก็เสียใจกับมันมาก
“ทิ้งเขาไปหาคนที่รวยกว่า วิ่งโผเข้าหาเศษเงินคนรวยแบบไม่มีศักดิ์ศรี”
“...”
“เฮียชานจะเกลียดเจ้ก็ไม่ผิดหรอก...”
“...”
“เจ้...เจ้เลวมากเลยเนอะ...”
หยดน้ำตาผุดขึ้นมาบนดวงตาคู่สวย เธอพยายามฝืนยิ้มแต่ก็ไม่สำเร็จ มือบางยกขึ้นกรีดน้ำตาลวกๆ ก่อนจะลืมตาขึ้นมาพบกระดาษทิชชู่ที่ยื่นมาให้ตรงหน้า หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองคนให้อย่างประหลาดใจ
“ไม่หรอกครับ เจ้เป็นผู้หญิง มันไม่ผิดหรอก ที่เจ้จะเลือกความสบาย ใครจะอยากลำบากกัดก้อนเกลือกินในเมื่อมีทางเลือกที่ดีกว่า”
“...โซดา”
เด็กหนุ่มยิ้มบางเบา “ผมเข้าใจเจ้นะครับ”
“ขอบคุณนะ...ขอบคุณจริงๆ”
เฉียนย่ารับทิชชู่มาซับน้ำตา
“ลองคิดดูสิครับ ถ้าวันนั้นเจ้ไม่ทิ้งพี่หานไป พี่หานอาจจะไม่ได้ร่ำรวยเป็นเศรษฐีขึ้นมาแบบทุกวันนี้ก็ได้”
“...ฮึก”
“เจ้อาจจะยังอยู่กับพี่หานก็จริง แต่ทั้งคู่จะเป็นยังไงก็ไม่รู้ เพราะพี่หานก็คงไม่กระตือรือร้น ถีบตัวเองจนมาถึงจุดนี้”
เฉียนย่าที่หน้าแดงกัดริมฝีปาก โซดายังคงส่งยิ้มอาทรให้เธอ
“เรื่องมันผ่านไปแล้ว อย่าคิดมากเลยนะครับ”
“...โซดาดีกับเจ้จัง” หญิงสาวซาบซึ้งในน้ำใจของโซดาเกินกว่าจะอธิบายเป็นคำพูด สาวตาของเธอสื่อความหมายออกมาทั้งหมด เด็กหนุ่มเพียงยิ้มรับ
“อย่าร้องไห้เลยนะครับ เรามาทำอาหารกันต่อดีกว่า”
“จ้ะ รู้ตัวไหมว่าเราโตกว่าเด็กวัยเดียวกันมากเลย เพิ่งจะสิบเจ็ดเองไม่ใช่หรือไง”
โซดาเอาหัวมันฝรั่งที่ต้มสุกแล้วใส่ชามที่เติมน้ำเย็นเอาไว้
“ครับ อา... ร้อนฉิบ” เด็กหนุ่มสะบัดมือขวา หน้าเหยเก
“ก็แช่มันไว้สักพักก่อน... เฮ้อ ดีจังเลยที่ได้คุยกับโซดา เจ้รู้สึกโล่ง...รู้สึกดีขึ้น...”
“เจ้สบายใจขึ้นแล้วผมก็ดีใจ อย่าเครียดเลยนะครับ ถ้าเจ้เครียด พี่หานต้องไม่สบายใจมาก”
“...เรานี่รักหานเอามากๆ เลยนะ”
ใบหน้าคมคายปรากฎรอยยิ้มที่ยากจะตีความหมาย มือหนาหยิบหัวมันฝรั่งที่เย็นแล้วมาหั่น
“รักสิครับ...”
“...”
“ผมรักทุกสิ่งทุกอย่างของพี่หาน รักหมดหัวใจของผม...”
:::METAL TERMINAL:::