METAL TERMINAL พยัคฆ์คว่ำกวาง , [หนังสือมาแล้วค่าา] 5 ต.ค. 60 {สนพ.Hermit} **จบแล้ว
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: METAL TERMINAL พยัคฆ์คว่ำกวาง , [หนังสือมาแล้วค่าา] 5 ต.ค. 60 {สนพ.Hermit} **จบแล้ว  (อ่าน 194082 ครั้ง)

ออฟไลน์ ตั่วเจ้เจค

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-8
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
สงสารโซดาจับใจ ก็พอจะเข้าใจพี่นะ คนรักเก่ากลับมา รักแรกด้วย มันก็ต้องหน้ามืดไปบ้าง แต่อยากให้พี่ตั้งสติให้ดี มองอยู่กับปัจจุบัน

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
โซดาของแม่ยก โอ้ยฉันเจ็บปวดแทนเหลือเกิน :hao5:

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4

ออฟไลน์ omuya

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2023
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-9
หานใจร้ายว่ะ ไปเถอะโซดา ที่นี้ไม่มีที่ให้เรายืนหรอก

ออฟไลน์ rayaiji

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 817
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
    • ray's deviantart
โอ้ยยยยยยย เจ๊ป๊วดใจ๋ :katai4:

ออฟไลน์ naya-devil

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
สงสารโซดาอ่ะ   เฉียนย่าต้องมีแผนแน่ ดูมีลับลมคมใน  :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ Bk borz.

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
มาอัพต่อน่ะครับพึ่งเข้ามาอ่านแล้วก็ชอบมากด้วย

ออฟไลน์ ตั่วเจ้เจค

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-8
ยกที่ ๓๑
[/size]

Everybody's laughing in my mind
Rumors spreading 'bout this other guy
Do you do what you did when you
Did with me?
Does he love you the way I can?
Did you forget all the plans
That you made with me?
'cause baby I didn't
[ ทุกคนรอบตัวผมดูเหมือนจะส่งเสียงหัวเราะเยาะผมกันหมด
ข่าวลือปลิวว่อนไปทั่วเกี่ยวกับเธอคนนั้น
พี่ทำกับเธอคนนั้น...เหมือนที่ทำกับผมหรือ
เธอรักพี่...ได้เท่าที่ผมรักไหม
พี่คงลืมหมดแล้วว่าเราเคยมีความสุขกันแค่ไหน
แต่ผมยังลืมไม่ได้เลย...]
   
That should be me
Holdin' your hand
That should be me
Makin' you laugh
That should be me
This is so sad
That should be me
That should be me
That should be me
Feelin' your kiss
That should be me
Buyin' you gifts
This is so wrong,
I can't go on,
Till you believe that
That should be me
[ มันควรจะเป็นผม...ที่ได้กุมมือพี่
มันควรจะเป็นผม...ที่ได้ทำให้พี่หัวเราะสดใส
มันควรจะเป็นผม... ทำไมเรื่องมันเศร้าอย่างนี้นะ...
มันควรจะเป็นผมคนนี้สิ...มันควรจะเป็นผมไม่ใช่หรือไร
มันควรจะเป็นผม...ที่ได้สัมผัสถึงรสจูบของพี่
มันควรจะเป็นผม...ที่ได้ซื้อของขวัญให้พี่เซอร์ไพร์ส
นี่มันผิดที่ผิดทางไปหมด ผมจะมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ไหวแล้ว
...มันควรจะเป็นผม...มันควรจะเป็นผม...]

(That should be me – Justin Bieber :  แปลเพลงเป็นเวอร์ชัน ศาสดาในเรื่อง ‘METAL TERMINAL พยัคฆ์คว่ำกวาง' โดยเจค)

:::METAL TERMINAL:::
   
   “จะให้เค้าอยู่ตรงจุดไหน”
   “...”
   “แค่บอก...บอกเค้าหน่อยได้ไหม...”
   น้ำเสียงนั้นแหบโหยเพราะสะกดกลั้นน้ำตา ไม่อยากต้องหลั่งออกมาให้คนตรงหน้าสมเพชหรือสงสาร เสี่ยหนุ่มไม่รู้เลยว่าตัวเองทำหน้าอย่างไรกลับไป เขาได้แต่ยืนนิ่งมองหน้าใบหน้าปวดร้าวนั้นอยู่ที่เดิม
   “พี่หาน...”
   ร่างสูงสาวเท้าเข้ามาหมายจะโอบกอด หากแต่ร่างกายของหาญศักดิ์ก็ขยับเท้าหนีไปติดกับกำแพงทันทีเพื่อปฏิเสธ เสียงเล็ดรอดออกมาจากลำคอในเวลาเดียวกัน
   “โซดา...ไปอยู่เมททอลนะ”
   ร่างสูงตัวแข็งยืนนิ่งหลับตา คำตอบนั้นไม่ต่างจากฟ้าผ่ากลางใจ
   ทั้งการกระทำ...ทั้งคำพูด
   ทุกอย่างมันชัดเจนมากพอ
   “ที่เมททอล...มีหนังสือหนังหา...มีของทุกอย่างเท่าที่มึงต้องการ ใกล้ห้าง ใกล้โรงเรียนด้วย...”
   “...”
   “เดี๋ยวกูจะให้บัตรเครดิตมึงไว้ใบนึง ถ้ามีอะไรขาดเหลือ หรืออยากได้อะไรก็รูดได้เลยนะ... ไม่จำกัดวงเงิน”
   หาญศักดิ์ยังคงพูดต่อ ใช้น้ำเสียงราวกับบอกเล่าว่าวันนี้ตัวเองไปเล่นน้ำทะเลมาอย่างไรอย่างนั้น เสี่ยหนุ่มทำเป็นเมินเฉยกับความรู้สึกที่ตีกันมั่วไปหมดในร่างกาย และทำราวกับไม่เห็นสายตาของเด็กหนุ่มที่มองมายังตัวเองเลย
   “วันสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารใกล้เข้ามาทุกทีๆ แล้ว อ่านหนังสือเยอะๆ นะโซดา... จะได้สอบติด”
   “แล้วพี่จะตามผมไปเมื่อไหร่ครับ”
   “...”
   “เมื่อไหร่ครับพี่หาน...”
   หาญศักดิ์หันหน้าหนีสายตาคมปลาบไปด้านข้าง โซดารู้สึกเหมือนถูกธรณีสูบ อยู่ใกล้กันแค่เอื้อมมือ แต่เขารู้สึกเหมือนหาญศักดิ์อยู่ไกลออกไปร้อยโยชน์ ต่อให้วิ่งตามจนหมดแรงก็คงต้องเหนื่อยเปล่า
   “โซดา...”
   “...”
   “กูขอโทษ...”
   ...เพราะมันไม่มีทางวิ่งไปถึงตัวหาญศักดิ์ได้เลย
   “พี่หาน... ไม่เอา...”
   “...กูขอโทษ”
   “พี่...ไม่เอาอย่างนี้สิ...อย่าพูดแบบนี้สิครับ...”
   น้ำเสียงปร่าของโซดาทำให้เขาแทบหลั่งน้ำตา อ้อมกอดที่โถมเข้าใส่ทั้งตัวทำให้เขารู้ว่าเด็กหนุ่มตัวสั่นแค่ไหน...
   แต่เขาเลือกแล้ว
   เสี่ยหนุ่มดันร่างสูงออกจากร่างกาย และมันก็ง่ายดายเกินคาดจนน่าขัน หากแต่เขาไม่ดีใจเลยแม้แต่นิดเดียว เด็กหนุ่มยืนมองเขาอยู่ตรงหน้า ดวงตาคมกริบที่ทอดมองหน้าเขาสั่นไหว
   “กูขอโทษ...ขอโทษจริงๆ”
   หาญศักดิ์ตัดสินใจหมุนตัวหนีความอึดอัดทับถม เอื้อมมือไปจับลูกบิดประตูเตรียมกลับเข้าห้องนอน
   “ผมไม่ไป”
   หาญศักดิ์ชะงัก ก่อนจะถอนใจเบาแสนเบา ขยับปากพูดโดยที่ไม่ยอมหันหน้าไปมองอีกฝ่าย
   “โซดา มึงก็โตแล้ว อย่าดื้อเลย...”
   ปัง!!
   โซดาโผมาคร่อมทับจากข้างหลังแล้วตบประตูเสียงดังสนั่นจนเจ้าพ่อเงินกู้สะดุ้งเฮือก แผ่นหลังของเขาแนบติดกับแผงอกของเด็กหนุ่ม ใจเต้นโครมครามกับความรวดเร็วของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
   “ผมไม่ไป ต่อให้พี่จะผลักไสผมยังไง แต่ตอนนี้ผมคือมือขวาของพี่” เสียงทุ้มต่ำที่เปล่งออกมาดังก้องอยู่ในหูของหาญศักดิ์
   “พี่อยู่ที่ไหน ผมก็จะอยู่ที่นั่น
   “...”
   “เพราะผมเป็นคนที่ต้องคอยปกป้องพี่ และตามสัญญาที่พี่ทำกับพ่อ ผมอยู่กับพี่ได้แค่คนเดียวเท่านั้น”
   “...”
   “...ไม่ใช่คนอื่น”
   หาญศักดิ์กัดริมฝีปากเมื่อโซดาค่อยๆ ผละออกไปจากตัว เกิดความเงียบงันขึ้นอีกหน
   “...ถ้าอย่างนั้น มึงนอนห้องแขกนะ เดี๋ยวกูให้คนไปจัดห้องให้”
   ทันทีที่พูดจบหาญศักดิ์ก็บิดลูกบิดประตูแล้วก้าวเข้าห้องไปในทันทีโดยไม่สนใจอะไรอีกต่อไป เขากดล็อกประตูห้อง กลืนความรู้สึกทั้งหมดในโพรงอกลงท้อง
   ก็เลือกเองแล้วไม่ใช่หรือหาน...
   ชายหนุ่มคิดเงียบๆ แล้วปั้นหน้าเดินไปที่เตียงที่หญิงสาวกำลังกะพริบเปิดเปลือกตาอย่างเชื่องช้า
   “หาน...เมื่อกี้มีเสียงดังอะไรหรือเปล่า...”
   เจ้าพ่อเงินกู้ยิ้มอบอุ่น คว้ามือข้างหนึ่งของร่างบางมาจับ กดจูบแผ่วเบาลงที่มือนวลเนียนนั่น
   “ไม่มีอะไรหรอกเฉียนย่า หลับต่อให้สบายเถอะนะ...”
   “แต่... หรือว่าเป็นเฮียชาน...” แก้วตาใสสั่นระริก
   “ไม่ใช่หรอกครับ” หาญศักดิ์ยังคงยิ้ม เอื้อมมือข้างหนึ่งไปลูบศีรษะหญิงสาวเบาๆ “เราแค่ตกลงอะไรบางอย่างกับลูกน้อง ไม่ต้องกลัวนะ”
   “มีหานอยู่ทั้งคน...เราไม่กลัวอยู่แล้ว...” เฉียนย่ายิ้มบางเบาให้ชายหนุ่ม แต่ยังไม่วายคลางแคลงใจ “แต่แค่คุยกับลูกน้องจริงๆ นะ ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านั้นใช่ไหม”
   “จริงสิเฉียนย่า”
   “...”
   “...แค่ลูกน้องจริงๆ”

:::METAL TERMINAL:::   
   
   ร่างสูงตื่นขึ้นมาแต่เช้าตรู่ทั้งๆ ที่วันนี้เป็นวันหยุดโรงเรียนเพราะทุกคนเพิ่งกลับจากค่าย หากแต่มันคงยากสำหรับเขาที่จะข่มตาหลับให้สนิท เขาเองก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองควรจะทำอย่างไรต่อไป
   หยิบสมาร์ทโฟนมาดูเวลาก็พบว่ามันแค่หกโมงครึ่งเท่านั้น แต่เขาทนนอนมองเพดานแบบนี้ต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว ร่างสูงลุกขึ้นไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำที่อยู่ในห้องนอน ถึงจะบอกว่าเป็นห้องนอนแขก แต่มันก็ใหญ่โตเอาการ อยู่สะดวกสบายไม่แพ้อยู่โรงแรมที่ไหน
   ยกเว้นก็แต่ความสบายใจ...ที่ตอนนี้โซดาไม่มีเลยสักนิดเดียว
   โซดาลงไปชั้นล่างของบ้าน บรรดาแม่บ้านหรือคนใช้ที่เขาเดินผ่านต่างก็ซุบซิบกันทันที ทั้งสงสัยถึงสถานะของโซดา เพราะคนที่นี่ต่างก็ยังคิดว่าเด็กหนุ่มเป็ยเมียขัดดอกของหาญศักดิ์อยู่ ไหนจะเรื่องคู่รักเก่าของเจ้าของบ้านที่กลับมาอย่างไม่คาดฝัน ซึ่งตอนนี้ โซดาไม่มีปัญญาที่จะสรรหาปั้นแต่งเรื่องราวมาเล่า ใครอยากคิดอย่างไรก็คิดกันไปเถอะ
   ร่างสูงเดินเข้าไปในครัว พอตื่นเช้ามาท้องมันก็หิวโหวงเหวงไปหมด กะจะหาอะไรง่ายๆ กินพอให้อยู่ท้อง แต่ปรากฎว่าพอก้าวขาเข้าไปก็ต้องชะงัก
   “อ้าว โซดา ตื่นเช้าจังเลย”
   เฉียนย่าส่งยิ้มสดใสให้เด็กหนุ่มขณะที่เธอกำลังหั่นอะไรสักอย่างอยู่บนเขียง มีเด็กรับใช้ของคฤหาสน์สามคนเป็นลูกมือช่วย
   “อ๋อ เอ่อ ครับ...”
   โซดาพูดไม่ออก รู้สึกประดักประเดิดเป็นที่สุด เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะมาเผชิญหน้ากับเฉียนย่าตั้งแต่เช้าตรู่แบบนี้ ร่างบางหันไปล้างมือลวกๆ ตรงซิงค์แล้วหันมากวักมือเรียกเขา โซดาชี้หน้าตัวเอง
   “เอ้อ เรานั่นแหละ มาช่วยหน่อยสิ”
   เด็กหนุ่มค่อยๆ เดินเข้าไปแบบผิดที่ผิดทาง
   “คุณ เอ่อ คุณเฉียนย่าจะให้ผมช่วยอะไรหรือครับ”
   “คุณเคิ้นอะไรกันเล่าลูก” เฉียนย่าส่ายศีรษะ “ถ้าไม่รู้จะเรียกอะไรเรียกว่าเจ้ก็ได้นะ เรียกซะห่างเหินเชียว” เธอยิ้ม “เอ้า ช่วยเจ้หน่อย ไปหยิบหัวมันฝรั่งตรงนั้นมาปอกเปลือกเร็ว สักห้าลูกก็ได้ ช่วยกันๆ”
   โซดาที่ได้รับคำสั่งเดินอย่างเชื่องช้าไปหยิบมีดปอกเปลือกแล้วเดินไปที่กองมันฝรั่งทั้งที่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก บรรดาเด็กรับใช้ในครัวยิงฟันใส่กัน ในใจรอดูฉากเด็ดประจำปี
   “โห ปอกเก่งจัง แป๊บเดียวเสร็จไปหัวนึงแล้วเหรอ” เฉียนย่าที่เดินมาดูตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้เอ่ยชม โซดายิ้มรับ
   “สมัยก่อนอยู่บ้านผมช่วยแม่ปอกบ่อยๆ น่ะครับเจ้”
   “เอ๊ย ดีนี่ งั้นเราก็ทำอาหารเป็นน่ะสิ ทำได้เป็นเรื่องเป็นราวเลยไหม”
   “ได้สิครับ อาจจะไม่อร่อยมาก แต่ก็ทำได้หลายอย่าง กินแล้วไม่ตายแน่นอน”
   “ดีจัง หานนะทำกับข้าวไม่เป็นหรอก ผู้ช้ายผู้ชาย สมัยก่อนอยู่ด้วยกัน แค่ต้มน้ำให้เดือดจะเอามาทำมาม่ายังทำไม่ได้เลย”
   เธอหัวเราะเบาๆ รำลึกความหลัง หากแต่มันกลับทำเอารอยยิ้มบนใบหน้าของโซดาแข็งทื่อ
   “นี่ พวกเธอซุบซิบอะไรกันน่ะ” เฉียนย่าส่งเสียงถามคนรับใช้ที่ส่งสายตาให้กันแบบมีพิรุธ พวกหล่อนสะดุ้งเฮือก “มาช่วยตั้งนานยังสู้โซดาไม่ได้เลย ไปๆ จะไปทำอะไรก็ไปเถอะ เจ้มีคนช่วยแล้ว”
   “ค่ะ”
   คนรับใช้รับคำ รีบวิ่งจู๊ดออกไปจากห้องครัวทันทีโดยที่ไม่ต้องรอให้บอกซ้ำสอง พอทันทีที่ออกมาก็วิ่งไปรวมกับกลุ่มแม่บ้านกลุ่มใหญ่ คนนับสิบสุมหัวราวกับรอคอยเวลานี้มานาน
   “ว้าย เพิ่งออกมาจากครัวใช่ไหมหล่อน เป็นไงๆ อัพเดตด่วนค่า”
   “โอ๊ย เธอ เมื่อกี้นี้นะ หายใจจะไม่ออก นึกว่าเขาจะตบกันซะแล้ว!”
   “บรรยากาศมาคุสุดๆ...”
   “คุณโซดามาคุอยู่ฝั่งเดียวน่ะสิ อีกฝ่ายเขารู้ที่ไหนว่าคุณโซดาก็เป็นเมียคุณหานเหมือนกันน่ะ แล้วเสี่ยหานก็บอกห้ามเราแพร่งพรายเรื่องนี้ด้วย ไม่งั้นจะตัดเงินเดือน หรือไม่ก็ไล่ออกเลย” เธอทำหน้าสยอง ยิ่งยามเศรษฐกิจไม่ดีแบบนี้จะไปหางานใหม่ทำก็ลำบาก ใครที่มันกล้าก็ปล่อยให้มันทำก็แล้วกัน เพราะเธอไม่กล้า เผลอๆ เกิดเสี่ยหานเรียกคนในพรรคพยัคฆ์มายิงทิ้งโทษฐานทำให้ไม่พอใจจะทำอย่างไรเล่า
   “จะว่าไปคุณโซดานี่ดูผู้ช้ายผู้ชายนะ จะท่านั่งท่าเดินท่าพูด ไม่เห็นจะดูสาวเหมือนตอนแรกๆ เลย” สาวใช้คนหนึ่งเมาท์อย่างออกรส อีกคนรีบพยักหน้าเห็นด้วย
   “เออ จะว่าไปจริงๆ แกก็ดูแมนมาตั้งนานแล้วแหละ ตุ้งติ้งเป็นบางเวลาเฉยๆ เอง”
   “เฮ้อ สงสารคุณโซดาอ่ะ อยู่กับคุณหานมาดีๆ พอคุณผู้หญิงกลับมา กลายเป็นหมาหัวเน่าเลย ตอนฉันไปจัดห้องแขกให้แกนอนเมื่อคืนนะ สงสาร”
   “แต่คุณผู้หญิงแกดี๊ดีนะ นิสัยก็ดี พูดจาก็ดี นี่แกก็ตื่นมาตั้งแต่ตีห้าช่วยเราทำนั่นทำนี่ สวยอีกต่างหาก”
   “อู๊ยย ยังไงฉันก็ #ทีมโซดา ย่ะ ใครอื่นหน้าไหนไม่สนทั้งนั้นแหละ” ป้าแม่บ้านผู้อาวุโสพูดสอดเด็กๆ กลางปล้อง
   “นี่ ป้าสนับสนุนให้เจ้านายเราเป็นพวกลักเพศเหรอป้า ยังไงชายหญิงก็เกิดมาคู่กันนะ”
   “แกรู้ได้ไง นี่แกไม่คิดกันบ้างเหรอว่าคุณโซดากับเสี่ยน่ะแปลกๆ บางทีฉันยังสงสัยเลยว่าคุณโซดากับเสี่ยใครเป็นผัวใครเป็นเมียกันแน่ เซนส์คนแก่น่ะแรงนะเว้ย”
   ทุกคนตรงนั้นส่งเสียงหัวเราะกันฟันแทบหักหมดปาก
   “โอ๊ยป้า คุณหานคงเป็นเกย์รับหรอกมั้งป้า! อยู่มาก็นานกว่าใครเขาป้าคิดงั้นกับเจ้านายจริงๆ เหรอ ดารานางแบบนักร้องเจ้านายเรายังควงมาแล้ว ที่มาลองตุ๊ดนี่แกแค่ลองของแปลกเฉยๆ”
   ป้าหัวหน้าแม่บ้านส่งค้อนวงใหญ่ให้กับคำพูดนั้นเป็นนางเอกละคร
   “แต่ป้าก็พูดมีเหตุผลนะ” คนหนึ่งแสดงความเห็นด้วย “อย่างที่บอกว่าคุณโซดาก็แมนจริงๆ ...แต่...เสี่ยหานก็แมนอ่ะ โอ๊ย ฉันไม่รู้”
   “บางทีเขาอาจจะเป็นแค่เจ้านายลูกน้องกัน...”
   “แต่ตอนนั้นเสี่ยก็บอกว่าคุณโซดาเป็นเมียนะ ภาพที่คุณโซดาร้องไห้ไปกอดขาเสี่ยยังติดตาฉันอยู่เลย” เธอยกสองมือขึ้นปิดตา “เฮ้อ ซับซ้อนจังเว้ยคู่นี้ ว่าแต่คุณเฉียนย่านี่คือผู้หญิงคนในกรอบรูปสีซีดๆ บนโต๊ะทำงานในห้องนอนเสี่ยใช่ป่ะ ใช่ไหมป้า”
   “...เออ คนนั้นแหละ” ป้าตอบไม่เต็มเสียงเพราะไม่เชียร์
   “โอ๊ย รักแรกมันพูดยาก~ ไม่รู้แหละ ฉันขอ #ทีมเฉียนย่า แล้วกัน เจ้เฉียนย่าแกก็ดีด้วย สนับสนุนชายหญิงตลอดเว”
   “แกน่ะมันไม่รู้อะไร” ป้าพูดขัด “คุณชานน่ะเกลียดคุณเฉียนย่าอย่างกะอะไรดี แกว่าทิ้งเพื่อนแกไปเพราะจน กลับมาตอนรวยแกรับไม่ได้ ถ้าเขาได้ตบได้แต่งกันจริง งานแต่งคุณหานพังแน่ย่ะ อยู่ผิดฝั่งแล้ว”
   “งั้นฉันอยู่ #ทีมโซดา กับป้าดีกว่า ใครจะเป็นผัวเป็นเมียไม่สนหรอก รักคุณโซดามีอะไรมะ?”
   “เอออยู่ด้วยๆ”
   เกิดการแบ่งพรรคแบ่งพวกขึ้นในหมู่คนรับใช้ให้เป็นที่สนุกสนาน ทุกคนยังคงเมาท์น้ำลายแตกฟองไม่เลิกจนเหมือนกลุ่มก้อนอุบาทว์อะไรสักอย่างที่จับกันแน่นกลางห้องรับแขก
   “นี่ๆ คุยอะไรกันเหรอ ขอเสือกด้วยคนสิ” เสียงห้าวๆ เสียงหนึ่งดังขึ้นมากลางวง
   “โอ๊ย ก็อย่างนี้ค่ะคุณหาน! คือพวกหนูกำลังคิดว่าคุณหานน่ะจะเลือกใครระหว่างคุณโซดากับคุณเฉียนย่า แล้วกับคุณโซดาน่ะมันก็น่าสงสัย ว่าตกลงใครเป็นผัวใครเป็นเมียกันแน่ นี่กำลังแบ่งทีมกันสนุกเชียวค่ะ”
   “อ๋อ...เหรอ”
   กึก!
   ทั้งกลุ่มตัวแข็งทื่อเมื่อตั้งตัวได้ โดยเฉพาะสาวรับใช้วัยสิบเจ็ดที่เพิ่งพูดเจื้อยแจ้วเมื่อสักครู่ เหล่าคนรับใช้หน้าตาเหมือนเห็นผีกลางวันแสกๆ ดวงตาเหลือกหลานออกมาจากเบ้าในขณะที่ผู้เป็นเจ้านายกำลังส่งยิ้มพิฆาตมาให้อย่างทั่วถึง
   “จะไปทำงาน...หรือจะให้เฮียไล่ออก”
   เสียงของชายหนุ่มเจ้าของบ้านเนิบนาบน่ากลัว ขัดกับรอยยิ้มใจดีบนใบหน้าลิบลับ ทุกคนยิ้มแหยๆ เหงื่อแตกซิก พูดอะไรกันไม่ออกแม้แต่คำเดียว
   “...”
   “ไปทำงาน!!”
   “ค่ะ!!”
   ทุกคนแตกกระเจิงกันไปคนละทิศเมื่อหาญศักดิ์ตะเบ็งเสียง เห็นเจ้านายยิ่งกว่าเห็นผีวิ่งหนีสี่คูณร้อยกันป่าราบ หาญศักดิ์ยกนิ้วขึ้นมาบีบนวดขมับแบบเพลียจิตเพลียใจ
   ...ปัญหานี้กว่าจะแก้จบคงอีกนาน...
   ว่าแต่เมื่อกี้... ทีมไหนมีคนอยู่เยอะกว่ากันวะ...? แล้วใครอยู่ทีมไหนบ้าง?
   
:::METAL TERMINAL:::

   “ผมต้มหัวมันฝรั่งเลยนะครับเจ้”
   “จ้ะ ต้มเลย” เธอตอบแล้วยกหลังมือเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก “ถ้าเหนื่อยแล้วก็ไปพักก็ได้นะ เดี๋ยวเจ้ทำต่อเอง”
   “ไม่เป็นไรครับ ผมยังไม่เหนื่อยหรอก อยู่ว่างๆ ก็ฟุ้งซ่าน” โซดาว่า “เดี๋ยวผมช่วยเจ้หั่นแครอทแล้วกันนะครับ”
   พูดจบเด็กหนุ่มก็เดินไปใช้เขียงข้างๆ เฉียนย่า หญิงสาวยิ้ม
   “โซดานี่น่ารักจังนะ ถ้าเป็นลูกชายเจ้ เจ้คงจะปลื้มใจมาก”
   โซดาเพียงแค่ยิ้มบางๆ รับคำพูดนั้นแล้วหั่นแครอทต่อเงียบๆ
   “หานเขาเป็นยังไงเหรอ”
   โซดาหั่นแครอทแฉลบผิดไปหนึ่งจังหวะกับคำถามนั่น ก่อนจะสะบัดศีรษะแล้วลงมือหั่นต่ออย่างตั้งอกตั้งใจ
   “เจ้ไม่ได้พบหานนานมาก... นับจากวันนั้นก็แปดปีเลยสินะ...” หญิงสาวพูดคล้ายปรารถกับตัวเอง มีรอยยิ้มแต้มบนดวงหน้าสวยบางเบา “เจ้อยากรู้ว่าหานเขาเป็นยังไงบ้าง...เขาดีกับลูกน้องไหม... แปดปีนี้เขาทำอะไร เปลี่ยนไปมากแค่ไหน เจ้ไม่รู้เลย...”
   ร่างสูงทำเหมือนไม่ได้ยิน มือหนาหั่นแครอทเสียงมีดกระทบเขียงดังฟั่บๆๆ
   “โซดา...”
   “...!!!”
   เด็กหนุ่มสะดุ้งเฮือกเมื่อเฉียนย่าแตะที่ต้นแขนเขาเบาๆ
   “เล่าให้เจ้ฟังหน่อยสิ เท่าที่โซดารู้ก็ได้...”
   โซดากัดริมฝีปาก วางมีดลงบนเขียงแล้วกวาดแครอทที่หั่นจนเรียบร้อยใส่ชาม เด็กหนุ่มเหม่อมองไปยังกำแพงห้องครัวตรงหน้า เขารู้ดีว่าเธอกำลังจ้องหน้าของเขาอย่างรอคอย
   “พี่หาน... เป็นคนน่ารักมากครับ...” ในที่สุดปากหยักก็เปิดออกเอ่ยเสียงแผ่วเบา หลังจากปล่อยให้ความเงียบงันดำเนินนานนับนาที
   “จริงเหรอ? ยังไงเหรอ?”
   โซดายิ้มบางเบา นัยน์ตาคมสั่นพร่า “พี่เขาเป็นคนมีน้ำใจมาก เป็นห่วงเป็นใยคนอื่นตลอด ไม่ว่าจะกับลูกน้อง กับใคร...”
   “ใช่ หานเป็นคนใจกว้างตั้งแต่เด็กๆ แล้วล่ะ”
   “พี่เขาอาจจะดูโหดเวลาทำงาน แต่นั่นเป็นเพราะหัวโขนเจ้าพ่อเงินกู้ที่เขาต้องสวม ใครๆ ก็เลยติดภาพว่าพี่เขาโหด แต่จริงๆ พี่เขานิสัยดีมาก โผงผางแต่ก็จริงใจ บางที ก็ออกจะโก๊ะๆ นิดหน่อยด้วยซ้ำ” หางตาคมโค้งลงเพราะยิ้มกว้างขึ้น
   “นี่แก่จะสามสิบแล้ว หานยังไม่เลิกเปิ่นอีกเหรอ เป็นถึงเจ้าพ่อคนหนึ่งของประเทศเราเลยนะตอนนี้” เฉียนย่าหัวเราะเบาๆ แล้วเอาซี่โครงไก่ใส่ในหม้อน้ำซุป
   “เปิ่นสิครับ... เปิ่นสุดๆ เลย”
   ภาพตอนที่หาญศักดิ์ตะโกนโหวกเหวกโวยวายใส่เขาลอยเต็มหัวสมอง ตั้งแต่วันแรกที่หาญศักดิ์ต้องตกเป็นเมียเขาแล้วรับไม่ได้ ตอนที่ต่อสู้กันแต่อีกฝ่ายทำได้แค่เหมือนมดกัด ตอนที่เชียร์มวยเขาสุดเสียง ตอนที่ไปสะกดรอยตามเขาถึงแม่ฮ่องสอน ตอนที่หาญศักดิ์ตัวบิดไปหมดเพราะถูกเขากระเซ้าจีบ... เขินเหมือนร่างนั่นจะระเบิดได้จนต้องตะโกนแก้อาย ใบหน้าหวานขึ้นสีระเรื่อน่ามองน่าฟัด
   ตอนที่พี่หานอยู่ในอ้อมกอดเขา นอนหนุนหน้าอกเขาแล้วหลับไปด้วยกันทุกคืน
   ทุกอย่าง... พอนึกถึงก็ยิ้มได้เสมอ
   “...ผมไม่รู้จะพูดยังไงนอกจากจะบอกว่าพี่หานเป็นคนมีเสน่ห์ ใครอยู่ใกล้ก็จะมักจะหลงรัก”
   “เนอะ...”
   “ขนาดผมยังรักเลย”
   เฉียนย่าเลิกคิ้วประทับใจกับคำบอกเล่าจากปากเด็กหนุ่ม
   “...ผมรักพี่หานมาก” เสียงของเด็กหนุ่มแผ่วพร่า “รักมากจริงๆ...”
   “เจ้ดีใจแทนหานจังที่มีลูกน้องรักและเทิดทูนแบบนี้ ถ้าหานรู้นะหานต้องดีใจมาก” เฉียนย่าหยิบเครื่องปรุงมาปรุงรสน้ำซุปในหม้อ ก่อนใบหน้าสวยจะหมองเศร้าลง “ทั้งๆ ที่มีแฟนดีขนาดนี้...แต่ตอนนั้นเจ้กลับทิ้งหานไปไม่ไยดี...”
   “...”
   โซดาเงียบกริบ ไม่รู้จะตอบอะไรเฉียนย่า เขารับรู้ได้ว่าจริงๆ แล้วเธอก็ไม่ได้อยากทำแบบนั้น...จริงๆ เธอเองก็เสียใจกับมันมาก
   “ทิ้งเขาไปหาคนที่รวยกว่า วิ่งโผเข้าหาเศษเงินคนรวยแบบไม่มีศักดิ์ศรี”
   “...”
   “เฮียชานจะเกลียดเจ้ก็ไม่ผิดหรอก...”
   “...”
   “เจ้...เจ้เลวมากเลยเนอะ...”
   หยดน้ำตาผุดขึ้นมาบนดวงตาคู่สวย เธอพยายามฝืนยิ้มแต่ก็ไม่สำเร็จ มือบางยกขึ้นกรีดน้ำตาลวกๆ ก่อนจะลืมตาขึ้นมาพบกระดาษทิชชู่ที่ยื่นมาให้ตรงหน้า หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองคนให้อย่างประหลาดใจ
   “ไม่หรอกครับ เจ้เป็นผู้หญิง มันไม่ผิดหรอก ที่เจ้จะเลือกความสบาย ใครจะอยากลำบากกัดก้อนเกลือกินในเมื่อมีทางเลือกที่ดีกว่า”
   “...โซดา”
   เด็กหนุ่มยิ้มบางเบา “ผมเข้าใจเจ้นะครับ”
   “ขอบคุณนะ...ขอบคุณจริงๆ”
   เฉียนย่ารับทิชชู่มาซับน้ำตา
   “ลองคิดดูสิครับ ถ้าวันนั้นเจ้ไม่ทิ้งพี่หานไป พี่หานอาจจะไม่ได้ร่ำรวยเป็นเศรษฐีขึ้นมาแบบทุกวันนี้ก็ได้”
   “...ฮึก”
   “เจ้อาจจะยังอยู่กับพี่หานก็จริง แต่ทั้งคู่จะเป็นยังไงก็ไม่รู้ เพราะพี่หานก็คงไม่กระตือรือร้น ถีบตัวเองจนมาถึงจุดนี้”
   เฉียนย่าที่หน้าแดงกัดริมฝีปาก โซดายังคงส่งยิ้มอาทรให้เธอ
   “เรื่องมันผ่านไปแล้ว อย่าคิดมากเลยนะครับ”
   “...โซดาดีกับเจ้จัง” หญิงสาวซาบซึ้งในน้ำใจของโซดาเกินกว่าจะอธิบายเป็นคำพูด สาวตาของเธอสื่อความหมายออกมาทั้งหมด เด็กหนุ่มเพียงยิ้มรับ
   “อย่าร้องไห้เลยนะครับ เรามาทำอาหารกันต่อดีกว่า”
   “จ้ะ รู้ตัวไหมว่าเราโตกว่าเด็กวัยเดียวกันมากเลย เพิ่งจะสิบเจ็ดเองไม่ใช่หรือไง”
   โซดาเอาหัวมันฝรั่งที่ต้มสุกแล้วใส่ชามที่เติมน้ำเย็นเอาไว้
   “ครับ อา... ร้อนฉิบ” เด็กหนุ่มสะบัดมือขวา หน้าเหยเก
   “ก็แช่มันไว้สักพักก่อน... เฮ้อ ดีจังเลยที่ได้คุยกับโซดา เจ้รู้สึกโล่ง...รู้สึกดีขึ้น...”
   “เจ้สบายใจขึ้นแล้วผมก็ดีใจ อย่าเครียดเลยนะครับ ถ้าเจ้เครียด พี่หานต้องไม่สบายใจมาก”
   “...เรานี่รักหานเอามากๆ เลยนะ”
   ใบหน้าคมคายปรากฎรอยยิ้มที่ยากจะตีความหมาย มือหนาหยิบหัวมันฝรั่งที่เย็นแล้วมาหั่น
   “รักสิครับ...”
   “...”
   “ผมรักทุกสิ่งทุกอย่างของพี่หาน รักหมดหัวใจของผม...”

   
:::METAL TERMINAL:::

ออฟไลน์ ตั่วเจ้เจค

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-8
   เฉียนย่าไม่ใช่นางร้ายในละครหลังข่าวที่หวนกลับมาเพื่อทำให้ความสัมพันธ์ของนางเอกกับพระเอกร้าวฉาน
   เธอเป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่ง...ที่มีรัก โลภ โกรธ หลง มีความรู้สึกเหมือนคนทั่วไป และความจริงแล้ว เธอยังนิสัยดี และจิตใจดีมากอีกด้วย
   แน่นอนว่ามันคงเป็นไปไม่ได้ที่ใครสักคนจะดีงามขาวสะอาดหมดจด
   และยิ่งเธอดีมากเท่าไร... มันก็ยิ่งตอกย้ำให้เขารู้สึกด้อยค่ามากเท่านั้น...
   สามวันแล้วนับตั้งแต่หญิงสาวผู้นั้นย้ายมาอยู่คฤหาสน์หลังนี้ ข้าวของเธอกำลังทยอยตามมา ส่วนบ้านที่สามีเก่าซื้อให้ก็ประกาศขายเรียบร้อย ทุกอย่างเป็นรูปเป็นร่างเป็นเรื่องเป็นราวและรวดเร็วจนโซดาตั้งตัวไม่ติด
   เขาต้องอดทนดูสองคนนั้นกะหนุงกะหนิงกันไปรอบบ้าน
   ต้องอดทนกับบรรยากาศมึนตึงระหว่างเขากับหาญศักดิ์ ที่ไม่ได้สนทนากันเป็นเรื่องเป็นราวอีกเลยนับตั้งแต่วันที่ผู้เป็นเจ้าของบ้านบอกให้เขาไปนอนห้องแขก
   ...โซดาคิดว่าต่อให้มีใครเอาปืนมายิงกลางอกเขาตอนนี้เขาก็คงไม่รู้สึกอะไร
   เพราะมันด้านเสียจนแข็งกระด้าง มันเจ็บจนเลยคำว่าเจ็บ
   เจ็บจนชามันเป็นแบบนี้เองสินะ
   เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเพียงแค่สามวันก่อนหน้านี้...เขามีความสุขจนแทบจะสำลักความสุขตายได้
   แล้วดูตอนนี้สิ เขาทุกข์ระทมหมองหม่นอย่างถึงที่สุด
   เวลามันผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน
   ‘เมื่อไหร่มึงจะไปอยู่เมททอล...’
   ‘...’
   ‘มึงเป็นซาดิสม์เหรอไอ้เสือ แค่นี้ยังเจ็บไม่พอหรือไง’
   ‘พี่ชาน ผมซาบซึ้งมากที่พี่มีน้ำใจกับผม ขอบคุณมากจริงๆ นะครับ...’
   ‘...แต่มึงก็ไม่ไป’
   ‘ผมจะอยู่จนกว่าจะทนไม่ไหว... เอาให้ทุรนทุรายตายคาที่กันที่นี่’
   ชาญชัยที่สูบบุหรี่อยู่สวนหน้าบ้านของหาญศักดิ์ยกมือขึ้นขยี้ผมอย่างหงุดหงิดเต็มทน
   ‘เพื่ออะไรวะ? กูถามหน่อยมึงจะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร?’
   ‘เพราะไม่อย่างนั้นผมคงไม่มีวันตัดใจจากเพื่อนพี่ได้’
   ‘...’
   ‘...ถ้าผมจะรักจนตาย ก็ปล่อยให้มันตายๆ กันไปที่นี่แหละครับ’
   “โซดาาาา!!!”
   ร่างสูงที่ในมือมีหนังสือเตรียมสอบเข้าโรงเตรียมทหาร แต่จิตกลับเหม่อลอยอยู่ตรงห้องรับแขกสะดุ้งเฮือกกับเสียงใสที่เรียกชื่อตัวเองดังลั่น
   “ว่าไงครับเจ้เฉียนย่า”
   เขายิ้มบางๆ ให้คนเรียก เหล่สายตาไปมองชายหนุ่มที่เดินตามหลังมา ทั้งคู่ประสานสายตากันอย่างไม่คาดฝัน ก่อนเสี่ยหนุ่มก็เป็นฝ่ายเลื่อนสายตาไปมองเล็บมือของตัวเองแทน
   “เนี่ย เจ้กับหานจะไปเอเชียทีค ไปด้วยกันไหม”
   “...เอาจริงเหรอเฉียนย่า โซดาต้องท่องหนังสือสอบนะ ใกล้วันสอบของโซดาแล้ว”
   หาญศักดิ์พูดขัดขึ้นมาทันที ไม่อยากจะคิดว่ามันจะอึดอัดแค่ไหนถ้าต้องไปด้วยกันทั้งสามคน แต่สาวเจ้าที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ก็ยังตื๊อ
   “ทำไมล่ะ เราอยากให้โซดาไปด้วยกันนี่ นะ ไปกับเจ้นะโซดา เห็นพอกลับจากโรงเรียนก็หมกหมุ่นกับตำราแบบนี้ตลอดเลย เครียดมากไม่ดีนะจ๊ะอายุเราก็ยังน้อยๆ อยู่นะพ่อลูกชาย...”
   โซดายิ้มฝืนๆ ที่เขาหมกหมุ่นอยู่กับการอ่านหนังสือเตรียมสอบก็เพราะไม่อยากเห็นเฉียนย่ากับหาญศักดิ์พลอดรักใส่กันต่างหาก
   แล้วให้ไปเป็นกขค. เนี่ยนะ...เห็นใจคนช้ำรักหน่อยได้ไหม
   “ขอผ่านดีกว่าครับเจ้... อย่างที่พี่หานบอก ผมใกล้สอบแล้ว”
   “ไม่ใช่ว่าเราเป็นมือขวาของหาน หานไปไหน เราก็ต้องไปด้วยหรอกเหรอ”
   “...”
   “...”
   ชายหนุ่มสองคนเงียบกริบ ทั้งคู่จะจำใจต้องมองหน้ากันอย่างเสียมิได้ หาญศักดิ์ใบหน้าแดงอย่างอึดอัด ในขณะที่โซดาหวามไหวจนคราวนี้ต้องเป็นฝ่ายหลบตาแทน
   “ไปนะโซดา... โซดาไม่ไป เจ้ไม่วางใจเลย... กลัวมีคนทำอันตรายหาน... ศัตรูยิ่งเยอะอยู่”
   “ตกลงครับ... ผมจะไป...”
   “ดีมาก” เฉียนย่าหยิบหมอนสักใบบนโซฟามาฟาดไหล่เด็กหนุ่ม “ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า พวกเจ้รอตรงนี้นะจ๊ะ”
   “ครับ...”

:::METAl TERMINAL:::

   บนรถเก๋งคันหรูที่ขับมาเอเชียทีคบรรยากาศอึดอัดสิ้นดี คงจะมีแต่เฉียนย่าเท่านั้นที่ไม่รู้สึกอะไร ทั้งโซดาและหาญศักดิ์ต่างก็พูดน้อย จะตอบก็เวลาที่ถูกเอ่ยถามเท่านั้น วันนี้หาญศักดิ์เป็นคนขับรถโดยมีเฉียนย่านั่งตีคู่เบาะหน้า ส่วนโซดาจำต้องนั่งเบาะหลังเป็นตัวแถมอย่างอึดอัดใจ มีลูกน้องของหาญศักดิ์ขับตามมาอีกหนึ่งคันรถ วันนี้ขนกันมาไม่มากเท่าไหร่แต่ก็ถือว่าพอจะใช้รับมือได้ถ้าเกิดอะไรขึ้น ปกติถ้ามากับโซดาจะไม่มีการส่งลูกน้องคนอื่นมาประกบ เพราะทุกคนวางใจในตัวเด็กหนุ่มมาก แต่เฉินแจ้งเอาไว้ว่าช่วงนี้โซดามีปัญหาส่วนตัวนิดหน่อย ไม่อาจทำการอารักขาเสี่ยหานได้เต็มที่ ระบบป้องกันภัยอันตรายระบบเดิมจึงถูกนำกลับมาใช้อีกครั้ง
   มาถึงคู่รักที่เพิ่งได้กลับมารักกันก็ชี้ชวนกันดูนั่นดูนี่ โซดาสัมผัสได้ถึงความเป็นส่วนเกินจนแทบจะหันไปจูบพี่เทียน (บอดีการ์ดคนหนึ่งของหาญศักดิ์) แล้วเกาะเกี่ยวแขนกันเป็นคู่รักอีกคู่ประชดให้มันพังกันไปข้างหนึ่ง กูอยากจะเทแล้วโว้ยอารมณ์นี้ แต่ก็ได้แค่คิดเท่านั้นแหละ... พี่เทียนแกมีลูกมีเมียแล้ว เหลือแต่เขาเท่านั้นที่ต้องเดินตามหาญศักดิ์กับเฉียนย่าต้อยๆ อย่างทุกข์ระทม
   ตอนนี้บอดีการ์ดคนอื่นแยกกันไปสังเกตการณ์รอบเอเชียทีคเผื่อจะมีอะไรน่าสงสัย คนที่อยู่ตามหาญศักดิ์จึงมีแค่เขากับพี่เทียนเท่านั้น
   “เฮ้อ ไม่น่ามาตอนกลางวันเลยอ่ะ ร้านรวงอะไรยังไม่เปิดเลย”
   “เห็นไหมครับ ก็กระผมบอกคุณนายแล้ว” หาญศักดิ์ยื่นมือไปบีบดั้งจมูกหญิงสาวอย่างหมั่นเขี้ยว ภาพมันน่ารักจนความเจ็บปวดแล่นริ้วขึ้นมาในใจโซดาเหมือนมีใครเอาตะปูมาตอกหน้าอก
   มันควรจะเป็นเขาที่ได้หยอกพี่หานเล่นแบบนั้น...
   มันควรจะเป็นเราสองคนที่ได้มาเดินเล่นกัน
   มันควรจะเป็นเขาที่ได้เดินกุมมือเคียงข้างกับหาญศักดิ์... ประทับจุมพิตแผ่วเบาบนปากเล็กๆ นั่นตอนตะวันใกล้ตกดิน โดยมีฉากหลังโรแมนติกของเอเชียทีคเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา
   ไม่ใช่มาเดินตามหลังเป็นมือขวาจริงๆ แบบนี้
   ...ไม่ใช่หรือครับพี่หาน
   ก่อนที่ผู้หญิงคนนี้จะกลับมา...เราไม่เคยไปกันได้ดีขนาดนั้นเลย
   หรือหลายเดือนแห่งความสุขที่ผ่านมา มันเป็นเพียงฝันดีของเขาคนเดียว...
   ทุกความรู้สึก...ทุกสัมผัส...วันนี้มันห่างไกลเหลือเกิน
   โซดาก้มหน้าลง กดความรู้สึกทั้งหมดให้กลับไปในร่างในขณะที่เสียงของหาญศักดิ์ยังคงว่าต่อเจื้อยแจ้ว
   “เอเชียทีคน่ะต้องมาค่ำๆ มาตอนบ่ายแบบนี้ก็เมืองร้างดีๆ นี่แหละ ได้แค่ถ่ายรูปเก็บเท่านั้นเอง เราพูดแล้วก็ไม่ฟังเรา”
   “โอ๊ย ปล่อยจมูกเรานะ อ๋อ หาน นึกออกแล้ว! เราไปเล่นชิงช้าสวรรค์กันดีกว่า”
   “จะบ้าเหรอ!”
   หาญศักดิ์กับโซดาตะโกนออกมาพร้อมเพรียงกัน หาญศักดิ์หันหน้ามามองโซดาทันทีในขณะที่เด็กหนุ่มก็เงยหน้าขึ้นสบตาอีกฝ่ายโดยที่ไม่ได้นัดหมาย ราวกับกาลเวลาถูกหยุดนิ่งไว้ตรงนั้นเป็นครู่ เฉียนย่ากวาดตามองหน้าทั้งสองคนสลับไปสลับมา ร่างสูงอยากจะยกมือขึ้นมาทุบหน้าผากตัวเองเหลือเกินที่ปากไวไม่เข้าเรื่อง เขาตวัดสายตาไปมองหน้าหญิงสาวแทน
   “คือ...คือพี่หานเขา...กลัวความสูง...นะครับเจ้”
   หาญศักดิ์ใจสั่น หวั่นไหวอย่างรุนแรงจนน้ำตารื้นขึ้นมาบนขอบตาทั้งสองข้าง เขาจุกสะเทือนในโพรงอก แม้แต่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับเขา โซดาก็ยังจดจำได้...
   เขามันบาปนัก... จะชดใช้ให้อีกฝ่ายอย่างไรก็คงไม่มีวันหมด
   แต่ถ้าหากเขายังคงทำดีกับโซดาอยู่ มันก็เท่ากับว่าเขาหลอกให้ความหวังไปเรื่อยๆ แล้วแบบนั้น เมื่อไรกันที่โซดาจะตัดใจจากเขาได้
   ตัดบัวก็ต้องอย่าให้เหลือใย ตัดใจก็ต้องอย่าให้เหลือเธอ ความหวังลมๆ แล้งๆ ก็ไม่ต่างอะไรกับภาพวิมานในอากาศ มันสวยงาม มันหล่อเลี้ยงจิตใจให้ชุ่มชื้น
   ...แต่มันไม่ใช่ของจริง
   หาญศักดิ์มีลูกน้องในปกครองนับพัน ถ้าไม่ใช่ความเด็ดขาดในการทำงาน เขาคงไม่มีวันก้าวขายืนอยู่ที่จุดนี้ได้อย่างมั่นคงแน่นอน เขารู้ว่าในแต่ละสถานการณ์ เขาควรจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร
   เจ้าพ่อเงินกู้ก้มหน้าลงมองพื้น
   เค้าขอโทษ...
   ต่อให้ขอโทษร้อยพันครั้งก็ยังกลบลบความผิดของเขาไม่ได้...
   เขารู้ดีว่าตัวเองทำผิดกับโซดาเหลือเกิน...
   “ตายแล้ว! เราลืมไปเลย นี่ ว่าแต่คุณชายจะสามสิบแล้วนะคุณชาย ยังไม่เลิกกลัวความสูงอีกเหรอ”
   “...”
   “หาน ไม่สบายเหรอ? แดดมันแรงเหรอ ทำไมหน้าเป็นแบบนั้น ถ้าอย่างนั้นพวกเรากลับกันไหม” เฉียนย่าเอ่ยอย่างเป็นกังวลเมื่อเห็นสีหน้าคนข้างตัว
   “ปะ...เปล่าจ้ะ” หาญศักดิ์รีบกะพริบตาไล่หยดน้ำแล้วปรับสีหน้า “...แหม กลัวความสูงไม่ใช่ไข้หวัดนะครับคุณเฉียนย่า จะได้เป็นแล้วหายได้น่ะ”
   หาญศักดิ์ที่สะอึกไปอึดใจหนึ่งพยายามทำให้บรรยากาศอึดอัดครื้นเครงขึ้นมาด้วยมุกตลก ซึ่งหญิงสาวก็หัวเราะร่อทำให้มันคลี่คลายไปได้ด้วยดี
   “แต่เราอยากขึ้นมากอ่ะ ไปถ่ายรูปวิวแม่น้ำเจ้าพระยาก็ยังดี ไปโซดา ไปกับเจ้ซะดีๆ”
   “ขอผ่านดีกว่าครับเจ้ ผมเองก็กลัวความสูง”
   โซดาอ้างไปอย่างนั้นๆ ความจริงแล้วกลัวเสียที่ไหน เขาก็แค่ไม่อยากขึ้นไปเพราะกลัวจะเผลอบ้าบิ่นกระโดดฆ่าตัวตายขึ้นมาต่างหาก ช่วงนี้คนยิ่งอ่อนไหวง่ายอยู่...
   ยิ่งสูงยิ่งหนาวน่ะเคยได้ยินไหม
   “งั้นเทียนไปกับอั๊วนะ บึกบึนอย่างเทียนอั๊วรู้ไม่กลัวความสูงแน่นอน”
   “เอ่อ คุณผู้หญิงครับ”
   ไม่กลัวความสูงก็ไม่ได้แปลว่าจะอยากขึ้นไปนี่...
   “เออ ลื้อนั่นแหละ ฮิๆ ไปกับอั๊วเลย ไปเดี๋ยวนี้!”
   เฉียนย่าไม่ปล่อยให้เทียนปฏิเสธ เธอลากบอดีการ์ดหน้าเหี้ยมขึ้นกระเช้าไปกับตัวเองโดยไม่ฟังเสียงทัดทานใดๆ ทั้งสิ้น เทียนแผดร้องคอแทบแตกตอนขึ้นไปบนกระเช้า ทำเอาเฉียนย่า หาญศักดิ์ แล้วก็โซดาหัวเราะแทบตาย เสียงใสๆ ตะโกนลงมา
   “โซดาดูหานด้วยน้า~!! เดี๋ยวเจ้กับเทียนลงมา!!! แป๊บเดียว!”
   เงียบกริบ...
   เบื้องล่างเหลือเพียงเจ้าพ่อเงินกู้กับนักมวยคนดังผู้ประกาศลาวงการแล้วเท่านั้น ความอึดอัดทับถมที่ไม่เคยเกิดขึ้นระหว่างพวกเขาทั้งคู่มาก่อนแผ่กระจายไปทั่ว หาญศักดิ์อยากหันไปชวนโซดาคุย อยากด่าอยากหยอกล้อเล่นกันเหมือนเมื่อก่อน
   แต่อย่างที่บอก... การให้ความหวังมีแต่จะรั้งให้โซดาต้องเป็นคนเจ็บ
   แม้เขาคิดว่าโซดาโตพอที่จะแยกแยะได้ แต่กันไว้ย่อมดีกว่าแก้
   ...หรือไม่จริง?
   ร่างสูงเดินทอดลงไปยังบริเวณที่เป็นท่าน้ำทำไว้สำหรับให้คนชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาและถ่ายรูป เลยไปนิดก็จะมีท่าเรือให้ไปต่อคิวล่องกัน แต่เนื่องจากตอนนี้เป็นเพียงเวลาบ่ายแก่ๆ เท่านั้นคนจึงยังไม่พลุ่กพล่านเท่าไรนัก โซดาเดินไปจนชิดริมขอบ ก่อนจะย่อตัวลงนั่งกับพื้น แล้วยื่นขาสอดลูกกรงโดยไม่สนใจป้ายคำเตือน สองขาชี้ลงหาแม่น้ำเจ้าพระยา
   เขาเคยคิดว่าเวลาถูกไล่อัดตอนต่อยมวยเจ็บมากแล้ว แต่มันเล็กน้อยไปเลยพอเทียบกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น
   หาญศักดิ์ที่เดินตามมาอย่างเชื่องช้าหยุดหลังตรงแผ่นหลังของเด็กหนุ่ม เขาเองก็อึดอัดไม่น้อยไปกว่าอีกฝ่ายแน่นอน แต่จะทำให้อย่างไรมันก็ยังหาทางออกไม่ได้จริงๆ
   “พี่เอ่ยปากคุยกับผมสักหน่อย...ผมคงไม่คิดเข้าข้างตัวเองว่าพี่ตกลงเป็นแฟนผมหรอกครับ”
   “...”
   “คนพูดมากอย่างพี่...อดทนได้นานขนาดนี้ผมนับถือนะ”
   ร่างสูงพูดประโยคที่สอง ไม่ละสายตาจากแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยซ้ำ
   “...ถ้าขาติด...กูจะสมน้ำหน้าให้”
   หาญศักดิ์เอ่ยแผ่วเบาแล้วทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ เด็กหนุ่ม โซดายิ้มบางเบากับวิวตรงหน้า และมันไม่ใช่รอยยิ้มยินดีสักนิด ไม่มีทางที่จะตีความหมายให้เป็นอย่างนั้นได้เลย... อันที่จริงแล้ว มันออกจะเป็นรอยยิ้มที่ดูเหมือนปลงด้วยซ้ำ
   “แดดส่องไหมครับ ถ้าส่องขยับมานั่งตรงนี้ก็ได้ จะได้ไม่แสบตา”
   “...ไม่...ไม่ส่องเท่าไรหรอก”
   “ถ้าส่องมาก...แล้วไม่รังเกียจ นั่งข้างหลังผมก็ได้นะครับ เดี๋ยวผมบังให้พี่เอง...”
   คำพูดนั้นสร้างความปวดปร่าให้หาญศักดิ์มหาศาล
   “โซดา...กูไม่เคยรังเกียจนะ แต่ มันไม่ได้ส่องมากมายจริงๆ” เขาพยายามพูดสื่อเป็นนัยๆ ไม่อยากให้โซดาต้องรู้สึกแย่กว่าที่เป็นไปมากกว่านี้อีกแล้ว
   “ครับพี่”
   หาญศักดิ์กลืนก้อนแข็งๆ ลงท้อง ไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายเข้าใจในสิ่งที่ตัวเองพยายามสื่อบ้างหรือไม่ เขาข่มความรู้สึกทั้งหมดทั้งมวลสุดความสามารถไม่ให้ล้นทะลัก ความอ่อนโยนและความห่วงใยของโซดามีอาณุภาพร้ายแรงต่อเขาเสมอ... ทุกน้ำคำมันทำให้เขาอยากจะร้องไห้พร่ำขอโทษอีกฝ่ายแล้วกระโจนกลับเข้าไปในวงแขนแข็งแรงนั่นเสีย
   แต่เขาเลือกแล้ว...เขาทำแบบนั้นไม่ได้หรอก
   “พระอาทิตย์กำลังจะตกดิน...” เด็กหนุ่มปรารภ
   “อืม...” หาญศักดิ์สูดจมูก หวังว่าโซดาจะไม่รู้ว่าเขารู้สึกอะไรอยู่กันแน่ เขาพยายามควบคุมน้ำเสียงให้เป็นปกติที่สุด “สวยดีนะ...มึงว่าไหม”
   “สวยครับ... แต่ร้อนจัง”
   หาญศักดิ์ยิ้มบางๆ
   “มึงชอบดูดาวดูพระจันทร์มากกว่าสินะ...”
   “ครับ” โซดายิ้มบ้าง พวกเขาสนทนากัน แต่ไม่มองหน้ากันเลยสักนิดเดียว “เพราะครั้งล่าสุดที่ดูดาว ผมมีความสุขมาก...”
   แก้วตาใสที่กลมโตราวกวางป่าสั่นไหว หาญศักดิ์กัดริมฝีปาก ค่ำคืนแห่งความทรงจำที่เพิ่งเกิดขึ้นไปยังไม่ถึงสัปดาห์ผุดขึ้นมาให้เห็นเป็นภาพ
   ...ภาพที่เขานั่งอยู่ในอ้อมกอดของโซดา หยอกล้อกันและกัน พูดคุยทั้งเรื่องมีสาระและไม่มีสาระ มีร่างสูงเป็นเบาะให้เขาพิง มีวงแขนแข็งแรงกอดให้ความอบอุ่น และมีสายตาคมกริบมองหน้าเขานัยน์ตาหวานเชื่อมจนเขาสะเทิ้นอาย...
   “มีความสุข จนผมคิดว่า มันคงเป็นแค่ความฝัน”
   “...”
   โซดายังคงพูดต่อทั้งที่ยิ้ม “ผมคงจะฝันไปจริงๆ... ชีวิตผมน่ะเหรอจะมีความสุขขนาดนั้น ไม่หรอก... มันไม่จริงหรอก”
   น้ำเสียงสั่นสะท้านของเด็กหนุ่มทำให้หาญศักดิ์รู้สึกราวกับจะจมน้ำตาย เขาหันไปมองเสี้ยวหน้าของเด็กหนุ่มที่ว่างเปล่า
   ร่างสูงไม่ได้จะร้องไห้ ไม่ได้จะร้องโวยวาย ไม่ได้จะเป็นอะไรเลยด้วยซ้ำ...
   โซดาก็แค่เจ็บปวด
   “ทำไมผมต้องฝันดีขนาดนั้นด้วย สู้ให้ผมไม่เคยมีมันเลยจะดีกว่าที่ต้องมารู้ว่า ผมจะต้องสูญเสียมันไป เพราะมันเป็นแค่เรื่องไม่จริง...”
   “...โซดา”
   น้ำเสียงแปร่งปร่าของหาญศักดิ์มาพร้อมกับสัมผัสที่แตะลงบนต้นแขนล่ำ คนที่กำลังพูดๆ นิ่งขึงทันใดราวกับกลายเป็นหุ่นขี้ผึ้ง
   “วันนั้น...มึงไม่ได้ฝันไปนะ”
   “...”
   “มันเป็นเรื่องจริง เรื่องระหว่างเราทุกเรื่อง มันเป็นเรื่องจริง”
   ใบหน้าหล่อเหลาที่แข็งกระด้างหันมามองใบหน้าหวานช้าๆ ทุกส่วนของใบหน้าขัดกับดวงตาคู่คมที่กักเก็บซ่อนเร้นความเจ็บปวดเอาไว้
   หาญศักดิ์เอ่ยเสียงแผ่วเบา จ้องดวงตาคู่นั้นด้วยดวงตาสั่นไหวของตัวเอง เสียงแผ่วเบาแหบโหย
   “มัน...มันเป็นเรื่องจริง”
   “พี่หาน...”
   เด็กหนุ่มจ้องตาคนตรงหน้ากลับตาไม่กะพริบ ทั้งคู่ราวกับแม่เหล็กขั้วบวกขั้วลบที่คอยแต่ดึงดูดเข้าหากัน พลังงานและเคมีที่แรงกล้าระหว่างพวกเขาชี้นำทุกอย่างจนหมด ร่างสูงเอนตัวเข้าไปหาอีกฝ่ายอย่างเชื่องช้า...ช้าที่สุดแบบที่เขาไม่เคยทำมาก่อนในชีวิต...
   ฝ่ายตั้งรับปิดเปลือกตาลงโดยอัตโนมัติ รู้สึกได้ถึงลมหายใจร้อนฉ่าของเด็กหนุ่มที่รินรดลงบนริมฝีปากของตัวเอง ...หนึ่งเฮือก...สองเฮือก...สามเฮือก... ปลายจมูกโด่งแตะประทับลงมาตรงปลายจมูกรั้นของเขา ใบหน้าคมเอียงเป็นองศาที่พอเหมาะ ก่อนจะค่อยๆ หลับตาลงเช่นกัน ริมฝีปากเราสองอยู่ใกล้กันไม่ถึงหนึ่งเซนติเมตร...
   “พอ...พอเถอะนะโซดา...”
   เด็กหนุ่มชะงักค้างอยู่ที่เดิมราวสั่งได้
   เสียงนั้นเป็นเพียงเสียงแผ่วเบาเท่านั้น...แต่กลับมีอำนาจกับเขามากกว่าเสียตะโกนใดๆ บนโลก
   “ปล่อยให้เรื่องที่ผ่านมามันเป็นความทรงจำดีๆ ระหว่างเราทั้งสอง เพราะ...เพราะเราคงหวนกลับไปจุดนั้นไม่ได้อีกแล้ว”
   มือใหญ่กำหมัดแน่นทั้งสองข้างกับคำพูดที่กระทบเต็มสองหู พยายามระงับร่างกายที่สั่นสะท้านไปหมด
   “กูขอโทษจริงๆ...”
   “...”
   หาญศักดิ์เปิดเปลือกตาช้าๆ มองสำรวจไปทั่วใบหน้าหล่อเหลาตรงหน้าที่ยังคงหลับตาอยู่ เขาเอ่ยเสียงปร่า
   “แต่รักแรกและรักเดียวในใจ มันมีความหมายมาก”
   “...”
   “กูขอโทษโซดา...กูขอโทษ...”
   โซดากัดริมฝีปาก นิ่งค้างไปอึดใจใหญ่กับเสียงขอโทษขาดห้วงนั่น ก่อนที่เขาจะเป็นฝ่ายดึงหน้ากลับไปหาแม่น้ำเจ้าพระยาแล้วลืมตาขึ้นในที่สุดเสียเอง หาญศักดิ์ยกมือขึ้นเสยผม
   เพราะแบบนี้ไงเขาถึงไม่อยากจะให้ความหวัง
   ...เพราะมันไม่ใช่เพียงแค่ทำให้โซดาเจ็บ แต่มันก็ทำให้เขาเจ็บปวดเหมือนกันแบบนี้...
   “ยู้ฮู้!! หาน! โซดา! สองคนนั้นน่ะขึ้นมาได้แล้ว เราลงมาแล้วล่ะ นี่ใกล้จะค่ำแล้วนะ!!!”
   “จ้า ไปเดี๋ยวนี้จ้า!”
   หาญศักดิ์ป้องปากตะโกนตอบเฉียนย่าก่อนจะผุดลุกขึ้น โซดาเองก็ลุกในเวลาไล่เลี่ยขึ้นแล้วพากันขึ้นจากท่าน้ำ หญิงสาวตรงเข้าเกาะแขนเจ้าพ่อเงินกู้ทันทีเช่นทุกครั้ง
   “โอ๊ยวิวสวยมาก เสียดายนะหานกับโซดาไม่ได้ขึ้นไปด้วยกัน ตอนแรกเทียนก็ดูไม่ชอบใจ แต่พอเห็นวิวนะเงียบปากไปเลย”
   “เหรอ งั้นเชียวเหรอวะเทียน?”
   หาญศักดิ์หันไปมองหน้าเทียนซึ่งส่งยิ้มเผล่กลับมาให้เป็นคำตอบ และแน่นอนว่าเขาเป็นมนุษย์ที่มีเลนส์ตากว้างเท่ามนุษย์ทั่วไป ฉะนั้นจึงไม่อาจหลบหรือหลีกเลี่ยงสายตาไปจากร่างสูงโปร่งที่เดินอยู่ข้างเทียนได้
   เราสองคนห่างกันเพียงไม่ถึงหนึ่งคืบ แต่กลับห่างไกลกันราวสุดขอบฟ้า
   และเราทั้งคู่ก็รู้ดี...
   “จริงสิ เรากับเทียนถ่ายรูปคู่กันด้วยนะ อ่ะหานลองเปิดดูในมือถือเรา”
   “ไหนๆ มาโชว์ซิ”
   ...มันไม่มีวันเหมือนเดิมอีกแล้ว



----------------------
#ฟิคพยัคฆ์คว่ำกวาง

งื้อ ยังคงดราม่าอย่างต่อเนื่องค่ะ :katai4: :katai4:



ม่าซะจนเหมือนไม่ใช่เรื่องเดียวกับที่ฮาๆ มาตอนแรกเลย  :hao5: :hao5:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-12-2016 21:17:55 โดย ตั่วเจ้เจค »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
 :o12: กลับบ้านเถอะโซดา ช่างหัวหานเถอะเซ็ง  :hao5:  มาง้อที่หลังก็อย่าได้แคร์ :m15:

ออฟไลน์ CHESS.

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +228/-2
หัวร้อนหนักมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

ออฟไลน์ omuya

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2023
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-9
เกลียดคนที่เจ็บแล้วไม่จำว่ะ

ออฟไลน์ cheezett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
 จู่ๆดราม่าเฉยงงอ่ะ นึกว่าอ่านคนละเรื่องกัน เฮ้ยล่ะที่ผ่านมาอ่ะ อะไรจะขนาดนั้น กลับบ้านๆๆอย่าไปง้อมัน จำคำที่พูดไว้ด้วยนะคะเสี่ย จะรออ่านว่าจะเป็นควายทั้งพระเอกนายเอกมั้ย

ออฟไลน์ pigarea

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
เราว่ามันต้องมีเงื่อนงำ อยู่ดีๆ นางจะกลับมาทำไม
มันต้องเป็นแผน

ออฟไลน์ jumpza

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เบื่อเสี่ยยยย โลเลชิบ

ออฟไลน์ it.the.world

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :m15:  :m15:  สงสารโซดาที่เห็นคนที่รักอยู่กับคนอื่น ฮืออ โซดาปล้ำเสี่ยเลย ปล้ำเลยยย เอาเสี่ยกลับมาา :katai1: :z3:

ออฟไลน์ LETUS

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
 อ่านทันจนด้ายยยยยย ฮืออออ

เสี่ยหานนะเสี่ยหานนนน ยืมโซดามาปลอบแปบบ ไม่เป็นไรนะลูก //ลูบหลัง

เชื่อว่าเสี่ยหานต้องรักโซดาจริงๆเข้าสักวัน โซดาอย่าถอดใจน้าาา

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
โซดา!! ยังไม่เจ็บปวดทรมานมากพอใช่ไหม ต่อหน้าต่อตาตอกย้ำ ความรู้สึกจิตใจสมาธิตอนนี้ถามจริง อ่านหนังสือรู้เรื่องจะสอบติดหรอว่ะ // ละก็นะถึงแม้ว่านางจะกลับมามีแผนหรือไม่มี แต่เสี่ยหาญยินดีกลับไปเลือกแล้วแบบนั้น ถ้าเสี่ยจะเสียใจอีก ถึงตอนนั้นตรูก็จะฝึกทหารไม่กลับมาเลยแม่ง เสียใจไปคนเดียวเถอะ แต่ถ้ากลับกันเสี่ยมีความสุขกับนางดี ก็โอเค๊ ยินดีด้วย! ***เม้นท์ด้วยอารมณ์โมโหสุดๆ โมโหที่โซดามันทน ถึงรักแต่เขาไม่เอาก็ต้องไปป่าวว่ะ ปวดใจจนโมโหง่ะ 555555555*** มันก็จริงอย่างที่โซดาว่าเห็นให้เจ็บจนชินชาถึงจะตัดใจได้ เออตัดได้จริงๆเถอะ กลับไปตั้งใจเรียนสอบเตรียมทหารโน้น ปล่อยเสี่ยเขาไป อย่าได้แคร์ อย่ามาง้อ บอกเลยยาก!!!! อยากเห็นเสี่ยช้ำใจไปกว่าครึ่งมั้ง แม่ง อิอิ~~ ^^ //รออออออออออออออออตอนต่อไปค่ะ กำลังโมโหโซดาได้ที่ เสี่ยจำไว้เลยนะ จำไว้!! เสี่ยเป็นคนเลือกเอง แค้นฝังใจ 55555555555

ออฟไลน์ helpmeiiz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
โซดา น่าสงสาร หาคนปลอบด่วนน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
อย่าไปแคร์เสี่ยหานมากนักเลย ไปหาหนุ่มๆคนอื่นเถอะ โซดา

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
บีบหัวใจง่ะ รุสึกไม่โอเคกะเสี่ยละนะ

มามะโซดามาหาแม่ยกเด๋วแม่ยกซื้อขนมให้ :hao3:

ออฟไลน์ minneemint

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0
หานใจร้าย สงสารโซดามากมาย
เศร้าจุง

ออฟไลน์ Jupaeindy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 45
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โอ๊ยยยยย. สงสารน้องโซดาอ่ะ ใครรักก่อนคนนั้นเจ็บจริงๆ ด้วย

ออฟไลน์ minneemint

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0
รอตอนต่อไปไม่ไหวแล้ว

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
ทำไมพี่หานตัดน้องโซดาได้ง่ายดายปานนี้ ทั้งๆที่เพิ่งจะยอมรับความรู้สึกตัวเองไปยังไม่ทันข้ามวันเลย  :katai1:

ออฟไลน์ ตั่วเจ้เจค

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-8
ยกที่ ๓๒
   
รัก แม้รักยังไงก็รัก ได้เพียงหัวใจ
สุดท้ายต้องยอมปล่อยเธอไปกับเขา

[ เกิดมาแค่รักกัน – Big Ass ]   
   
   
:::METAL TERMINAL:::   
   
   ความเงียบคืออะไร

   ความเงียบคือเสียงๆ หนึ่งที่มนุษย์ไม่เคยหยุดฟัง

   เงียบ กับ เหงา หากนำมาวางต่อกัน...ก็จะกลายเป็นเงียบเหงา

   แต่บางที...ความเหงาก็อาจเกิดขึ้นได้แม้ในเวลาที่รอบกายเต็มไปด้วยเสียงอึกทึกครึกโครม

   และบางหน ความเงียบกับความเหงาก็บังเกิดพร้อมกัน และยังนำพาความอึดอัดปะปนมาอีกด้วย

   เฉกเช่นตอนนี้...

   ในรถเก๋งคันหรูเงียบสงัดราวกับป่าช้า เสียงเครื่องปรับอากาศดังแผ่วเบาให้ได้ยินกันไปทั่วทั้งรถ ทั้งโซดากับหาญศักดิ์จำต้องกลับด้วยกันเพียงสองคนอย่างไม่มีเงื่อนไขหลังจากที่แวะไปส่งเฉียนย่าที่บ้านของเธอซึ่งอยู่บริเวณชานเมือง เฉียนย่าได้รับการแจ้งเร่งด่วนจากคนที่ดูแลบ้านของเธออยู่ให้กลับไปให้เร็วที่สุด เธอจึงขอตัวกลับไปจัดการกับข้าวของในบ้านให้เบ็ดเสร็จเรียบร้อย รวมไปถึงธุระปะปังทั้งหลายแหล่ก่อนที่จะย้ายเข้ามาอยู่กับหาญศักดิ์ถาวร เทียนเองก็แยกตัวไปนั่งรถอีกคัน เหลือเพียงแต่โซดากับหาญศักดิ์ที่นั่งเงียบมาด้วยกันตลอดทาง

   โซดาหันออกไปมองนอกหน้าต่างขณะที่วันนี้หาญศักดิ์ขับรถเอง เขายังคงนั่งอยู่เบาะหลังแม้ว่าเฉียนย่าจะไม่ได้นั่งอยู่เบาะข้างคนขับแล้วก็ตาม วิวยามค่ำของกรุงเทพฯ ยังคงเป็นเหมือนเช่นทุกๆ วัน รถเคยติดมากอย่างไรก็ยังติดมากอย่างนั้น และพวกเขาก็ไม่มีอะไรให้สนทนากันแม้แต่คำเดียว

   ถามว่าอึดอัดไหม...ก็อึดอัด

   แต่โซดาคนนี้จะทำอะไรได้...

   พี่หานทำให้ทุกอย่างมันชัดเจนมานานแล้ว

   รถคันงามจอดเข้าซองอย่างเรียบร้อย ชายหนุ่มทั้งสองเปิดประตูลงมาในเวลาไล่เลี่ยกัน และหลังจากเสียงปิดประตูแล้วก็ไม่มีเสียงอะไรอีก หาญศักดิ์เดินนำเขาอยู่นิดหน่อยขณะมุ่งหน้าเข้าไปในตัวบ้าน หากทันทีที่ขาของหาญศักดิ์ก้าวแตะบันไดหินอ่อนหน้าคฤหาสน์ คุณป้าหัวหน้าแม่บ้านก็ปราดออกมาทันที เธอมีสีหน้าตื่นตัว

   “คุณหานคะ มีคนมารอพบค่ะ ตั้งแต่ช่วงสายแล้ว”

   เสี่ยหนุ่มขมวดคิ้ว เอ่ยเสียงค่อนข้างดุดัน “ใครกัน? ทำไมไม่บอกให้เขากลับไปก่อน ผมก็บอกก่อนออกจากบ้านแล้วนี่ว่าอาจจะกลับดึก”

   “คือ ป้าบอกเขาแล้วนะคะ แต่เขายืนกรานที่จะรอพบคุณหานให้ได้ อยู่ทางโน้นน่ะค่ะ”

   หาญศักดิ์หรี่ตามองภาพชายร่างสูงคนหนึ่งที่กำลังหันหลังให้กับประตูบ้าน ซึ่งก็เท่ากับว่าหันหลังให้กับเขาด้วย เสี่ยหนุ่มก้าวเท้าฉับๆ ขึ้นไปโดยมีโซดาเดินตามมาไม่ไกลนัก และยังมีคุณป้าแม่บ้านที่จ้ำพรวดราวกระต่ายซอยเท้าตามประกบเจ้านายไปด้วย หาญศักดิ์ยังคงหรี่ตาพินิจพิเคราะห์ ในที่สุดก็เอ่ยปาก

   “ถ้าอย่างนั้ -- ”

   “คุณหาน...สวัสดีครับ”

   โซดากับหาญศักดิ์ผงะไปกับชายที่หันหน้าโผล่มาในเวลาเกือบสามทุ่มอย่างไม่คาดฝันแบบนี้ ก่อนที่เด็กหนุ่มจะเป็นฝ่ายที่ตั้งสติได้ก่อนคนข้างตัว

   “พ่อ!!!”

   โซดามีสีหน้างุนงงผสมกับความประหลาดใจเต็มใบหน้า หาญศักดิ์เองก็งงมากเช่นกัน สองหนุ่มที่เพิ่งกลับมาจากข้างนอกมองไปที่ชายตรงหน้าด้วยสายตาเหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน โดยเฉพาะหาญศักดิ์ที่ไม่อาจเข้าใจได้เลยว่า สันติโผล่มาทำบ้าอะไรที่บ้านของเขาในยามวิกาลแบบนี้

   ป้าแม่บ้านหลบฉากออกไปจากบ้านเมื่อหน้าที่ของเธอเสร็จสิ้น ปล่อยให้พวกเจ้าของบ้านกับแขกสนทนากันไปโดยไม่มีคนรบกวน

   “โซดา...เป็นยังไงบ้างลูก” ชายวัยกลางคนเอ่ยถามบุตรอย่างอาทรและห่วงใย เดินเข้ามาดึงโซดาไปโอบกอดเร็วๆ แล้วตกบ่าเด็กหนุ่มเบาๆ

   “สะ...สบายดีครับ ว่าแต่พ่อ -- ”

   “คุณหาน ผมต้องขอโทษด้วยครับที่มารอพบตอนดึกๆ ดื่นๆ” สันติตัดบทลูกชายเสียอย่างนั้น มือหนาของเขายังคงวางอยู่บนไหล่โซดา

   “คุณมีอะไรล่ะ คิดถึงลูกหรือ”

   หาญศักดิ์เดาส่งเดช เพราะคิดไม่ออกแล้วจริงๆ ว่ามันจะมีเหตุผลอะไรที่ทำให้ชายวัยกลางคนตรงหน้านึกโผล่มาดื้อๆ แบบนี้นอกจากคิดถึงลูกชายจนทนไม่ไหว หากแต่สันติกลับคลี่ยิ้มกว้างอย่างเป็นสุข ซึ่งเป็นรอยยิ้มแบบที่หาญศักดิ์ไม่เคยเห็นเลยจากคนอมทุกข์เพราะหนี้ท่วมหัวคนนี้เลย

   “คุณหาน...” เสียงของสันติสั่นเพราะความปีติ “ที่ผมมาวันนี้ ก็เพื่อมาไถ่ตัวโซดาคืนครับ”

   “...!!!?”

   “...!!!”

   ทั้งโซดาและหาญศักดิ์อึ้งตะลึงกับคำพูดนั้นเหมือนสุนัขเห็นจานร่อน ต่างก็พากันตัวแข็งทื่อไปหมด ทั้งคู่ตกใจราวสายฟ้าฟาด และก็เป็นอีกครั้งที่โซดาตั้งสติได้ก่อนจึงเป็นฝ่ายเอ่ยทำลายความเงียบ

   “พ่อ...พ่อพูดอะไรครับ คือ...หนี้ของพ่อ...ตั้งหลักร้อยล้านบาทนะครับ”

   เงินจำนวนมหาศาลขนาดนั้นต่อให้ขายทรัพย์สินในบ้านทั้งหมด กระทั่งเอากางเกงในไปเร่ขายจนเหลือแต่ตัวเปล่าล่อนจ้อน บิดาของเขาก็ไม่มีทางหามันมาได้ภายในระยะเวลาสั้นๆ อย่างนี้แน่ มิหนำซ้ำคงต้องใช้เวลาทั้งชีวิต นี่ยังไม่นับรวมดอกเบี้ยอันเหี้ยมโหดทั้งหลายแหล่อันเป็นระบบที่หาญศักดิ์จัดตั้งไว้

   “พ่อไม่ได้เสียสตินะลูก” สันติพูดสิ่งที่อยู่ในความคิดของเด็กหนุ่มกับผู้เป็นเจ้าหนี้ออกมาตรงๆ เขาหันหน้าไปมองตาหาญศักดิ์ มือหนาล้วงเข้าไปในเสื้อสูทกลางเก่ากลางใหม่สีเทาแล้วหยิบเช็คเงินสดออกมา “นี่คือเช็คเงินสดร้อยหกสิบสองล้านบาทถ้วน อันเป็นเงินต้นที่ผมติดคุณหานเอาไว้ ส่วนส่วนอื่นๆ ผมจะนำเป็นเงินสดมาให้ภายในสองวัน”

   หาญศักดิ์กับโซดามองเช็คนั่นอย่างไม่เชื่อสายตา ทั้งคู่เพ่งมันราวกับว่ามันเป็นอวัยวะแปลกประหลาดที่เรืองแสงได้จากนอกโลก ก่อนที่หาญศักดิ์จะสั่นศีรษะประกาศลั่น

   “ผมไม่รับเด็ดขาด นี่มันประหลาดเกินไปแล้ว! เกิดเป็นเงินที่คุณได้มาจากการทำสิ่งผิดกฎหมายหรือค้ายา ผมไม่ถือว่ารับเงินฟอกติดคุกหัวโตไปด้วยเหรอ แล้วเช็คนี่มันของจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ ใครๆ เขาก็รู้กันว่าคุณน่ะล้มละลายคุณสันติ”

   “ท่านครับ นี่ไม่ใช่เงินไม่สุจริตนะครับ” สันติปล่อยบ่าโซดาแล้วก้าวขึ้นไปอธิบาย “เงินนี่เป็นเงินที่ผมได้มาโดยชอบธรรมจากการทำธุรกิจใหม่ อย่างที่คุณหานทราบ ที่ผ่านๆ มาผมก็ไม่ค้างดอกเบี้ยสักงวดแล้ว ธุรกิจใหม่ของผมไปได้สวย และเมื่อสามสัปดาห์ที่แล้วมันเกิดบูมขึ้นมาเป็นเทรนด์ ทำให้ยอดการผลิตเพิ่มขึ้นสูงอย่างไม่คาดฝัน ผมจึงได้มีเงินมาไถ่ตัวลูกชายและใช้หนี้ทั้งหมด”

   หาญศักดิ์ยังคงมีสีหน้าไม่เชื่อถือผสมกับอึ้งตะลึง

   “ถ้าคุณหานกังวลว่ามันจะเป็นเช็คเด้งหรือเช็คปลอม ระดับคุณหานแค่ติดต่อพรรคพวกที่ธนาคารหรือเส้นสายที่กรมตำรวจ ผมก็ไปไหนไม่ได้ต้องติดคุกกินข้าวแดงแน่ๆ ไหนจะพรรคพยัคฆ์ที่เหี้ยมโหด ผมไม่กล้าโกหกคุณหานหรอกครับ!”

   สันติยืนยันเสียงดัง หาญศักดิ์มองเช็คนั่นสลับกับมองหน้าของชายวัยกลางคนอยู่พักใหญ่ ในที่สุดก็เอื้อมมือไปรับมันมาพินิจพิเคราะห์

   “...ตกลง ผมจะโทรหาเพื่อนที่เป็นผู้บริหารของธนาคารที่ออกเช็คนี่เดี๋ยวนี้ แล้วถ้าเกิดนี่เป็นเรื่องตลกกลางดึกล่ะก็ คุณจบไม่สวยแน่”

   สันติมีสีหน้าจริงจังแรงกล้าขณะที่หาญศักดิ์กดโทรศัพท์มือถือ เสี่ยหนุ่มพูดคุยอะไรอยู่สักพักราวสิบนาที ก่อนจะต้องสะอึกไปเมื่อได้ยินสิ่งที่ปลายสายตรวจสอบแล้วตอบกลับมา เสี่ยหนุ่มวางสายด้วยหัวใจที่วูบโหวงอย่างน่าประหลาด แขนข้างที่ถือไอโฟนลดลงช้าๆ

   ...เช็คนี่เป็นของจริง

   และเงินทั้งหมดเป็นเงินสะอาดไร้ที่ติ

   นั่นหมายความว่า...สันติไถ่ตัวโซดาได้...

   “มันเป็นของจริงแน่นอนครับท่าน! คุณหานนำไปขึ้นเงินพรุ่งนี้ได้เลย ส่วนที่เหลืออีกเล็กๆ น้อยๆ ผมจะนำมาให้เป็นเงินสดไม่เกินสองวันนี้แน่นอน”

   หัวใจของหาญศักดิ์หนักอึ้ง คำพูดทั้งหมดที่สันติพูดไม่ซึมเข้ามาในสมองของเขาแม้แต่น้อย ดวงตาของเสี่ยหนุ่มว่างเปล่าเหมือนร่างกายที่ว่างหวิวไปด้วย เขามองตรงไปที่สันติ แต่เขากลับไม่เห็นเลยว่าชายผู้นั้นกำลังทำอะไร...

   แต่สุดสายตาของเขา...เขากลับเห็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ยืนเยื้องหลังบิดา กำลังยืนมองหน้าเขาอยู่ด้วยสายตาแบบเดียวกัน
   “ -- นั้นผมจะรับตัวลูกชายกลับไปเลย โซดาไปเก็บของนะลูก...”

   ดวงตาคมกริบกับดวงตากลมโตมองจ้องกันผ่านไหล่ของชายวัยกลางคนที่ยืนคั่นระหว่างพวกเขาทั้งสอง ไม่มีเสียงใดๆ ที่เล็ดรอดเข้าไปในโสตประสาทของพวกเขาได้ ต่อให้เสียงนั้นจะเล็กเพียงใดก็ตามที มือที่ถือเช็คอยู่ของหาญศักดิ์อ่อนแรงจนน่ากลัวว่ากระดาษมูลค่าหนึ่งร้อยหกสิบสองล้านบาทใบนี้จะปลิวไปกับสายลมจนกลายเป็นแค่เศษกระดาษไร้ค่า

   ทำไมทุกอย่างมันรวดเร็วแบบนี้...

   มันเร็วเสียจนชวนมึนงง...เร็วจนรู้สึกเหมือนเรื่องทั้งหมดเป็นแค่ความฝัน...เร็วจนตั้งตัวไม่ติดแล้ว...

   ...แล้วนี่มันคือเรื่องจริงหรือไม่จริง...

   “โซดา! โซดา!! ลูก!”

   “...”

   “ลูก!”

   “...คะ-ครับพ่อ”

   “ไปเก็บของสิลูก! กลับบ้านได้แล้วแม่รอเจอตั้งแต่ตอนสายแล้วนะรู้ไหม คุณหาน ตกลงว่าที่ผมขอนำตัวโซดากลับวันนี้เลยคุณหานตกลงใช่ไหมครับ”

   ดวงตาของชายหนุ่มสั่นไหว เขาเผยอปากอ้าแต่ไม่มีเสียงใดๆ หลุดออกมาจากลำคอ ทว่าท่าทางของเขาคงชี้ชัดถึงการขัดขืนและไม่เต็มใจ สันติหน้าเสีย

   “คุณหาน...คุณหานจะไม่ให้โซดากลับบ้านไม่ได้นะครับ ตามสัญญาที่เราเซ็นกันไว้...” ชายวัยกลางคนรีบดึงสำเนาเอกสารสัญญาออกมาอย่างร้อนใจ “ศาสดาจะเป็นอิสระจากคุณหานทุกประการถ้าผมใช้หนี้หมด คุณ...คุณหานไม่มีสิทธิ์รั้งเขาไว้นะครับ”

   ชายวัยกลางคนรู้สึกกลัวขึ้นมาในทันใด ถ้าเกิดหาญศักดิ์จะไม่ยอมให้เขานำตัวลูกชายกลับไปก็คงจะต้องตายแน่ๆ ลำพังแค่ตัวเขากับเมียหรือจะมาต่อกรกับพรรคพยัคฆ์ได้ หากแต่เจ้าพ่อเงินกู้ไม่เคยผิดสัญญาหรือสัจจะกับใคร และที่ผ่านมาหาญศักดิ์ก็เป็นลูกผู้ชายเต็มตัวที่ไม่เคยเล่นตุกติกสกปรกพลิกแพลงอะไรกับเขาเลย ฉะนั้น เขาจึงมีความมั่นใจมากว่าจะได้ตัวลูกชายกลับไปในวันนี้แน่ๆ หากแต่สัญญาณของเจ้าพ่อเงินกู้ดูจะไม่ได้แสดงออกเป็นใจแบบนั้น

   หาญศักดิ์ตัวสั่นเทิ้ม มองไปที่สำเนาเอกสารนั้นแล้วก็ได้แต่ยืนใบ้อยู่ที่เดิม

   เขาพูดอะไรไม่ออก...

   อย่าว่าแต่พูด...แค่นึก...ตอนนี้เขาก็นึกอะไรไม่ออกด้วยซ้ำ

   “...คุณหาน...ผม...ผมรู้ว่าคุณหานเป็นลูกผู้ชายมากพอ”

   “...”

   “ตอนนี้...โซดา...โซดาเป็นอิสระจากคุณหานแล้วนะครับ”

   ใช่

   ...ตอนนี้ศาสดาเป็นอิสระจากเขาแล้ว...

   เจ้าพ่อเงินกู้เลื่อนสายตาขึ้นไปมองใบหน้าเป็นกังวลของสันติอย่างเชื่องช้า ทุกสิ่งทุกอย่างที่สันติพูดและเอามาใช้มันค้ำคอเขาจนไม่มีทางเลือก

   เสี่ยหนุ่มกัดริมฝีปาก เลื่อนสายตาไปมองใบหน้าคมคายเต็มสองตาอีกครั้ง

   ...นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้มองหน้าโซดาแล้วใช่ไหม...

   โชคชะตาจะทำแบบนี้จริงๆ หรือ...

   ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย

   เส้นทางของเขากับโซดา ถูกกำหนดให้สะบั้นลงห้วนๆ...ไม่มีเยื่อใดๆ จะเชื่อมต่อได้เลย

   ที่สำคัญ เขาเองที่เป็นคนบั่นทางมันกับมือ

   น้ำลายเหนียวหนืดถูกกลืนลงท้อง ก่อนริมฝีปากนั่นจะเปิดอ้าช้าๆ เสียงแหบโหยที่แสนแผ่วเครือดังออกมาในที่สุด

   “...ตก...ลง”

   “เดี๋ยวก่อนครับพ่อ!!” หากแต่เป็นโซดาเสียเองที่ตะโกนขึ้นเสียงดังทันทีหลังเสียงเบาหวิวนั้นถูกเอ่ยออกมาจากปากของเจ้าพ่อเงินกู้หนุ่ม

   “ผม...ผมยังไปจากพี่หานไม่ได้ครับ!”

   สีหน้าที่ดีใจของสันติเปลี่ยนฉับพลัน

   “ทำไมล่ะลูก ต่อไปนี้ลูกไม่ต้องทำงานหนักเป็นลูกน้องใครแล้วนะ ไม่ต้องเหนื่อยต่อยมวย ไม่ต้องไปเจ็บตัว แค่ตั้งใจเรียนหนังสือเหมือนเด็กวัยเดียวกันเท่านั้นเองนะลูก”

   เด็กหนุ่มพูดเร็วๆ “พ่อครับ มันกะทันหันเกินไป ผมยังมีข้าวของมากมายที่คงจะใช้เวลาแป๊บเดียวเก็บไม่เสร็จ ผมอาจมาตัวเปล่า แต่พี่หานไม่ได้ให้ผมอยู่แบบตัวเปล่า”

   สันติชะงักไปนิดหนึ่งกับเหตุผลของลูกชาย เด็กหนุ่มเลียริมฝีปาก กำมือแน่น ก่อนจะพูดต่อ

   “อย่างน้อยผมขอเวลา...หนึ่งวัน...อีกแค่หนึ่งวันได้ไหมครับ ขอแค่ถึงพรุ่งนี้ให้ผมได้เก็บข้าวของทั้งหมดให้เรียบร้อย วันนี้มันก็ดึกมาแล้ว ผมเองออกไปข้างนอกมาทั้งวันก็เหนื่อย ยังไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น”

   “...แต่แม่คิดถึงลูกมากนะ บางทีถ้าพ่อช่วยลูกเก็บตั้งแต่ตอนนี้ เราอาจจะกลับบ้านกันคืนนี้เลยได้...”

   “แต่ของๆ ผมไม่ได้มีแค่ที่บ้านหลังนี้ บางส่วนก็ยังอยู่ที่โรงแรมเมททอลด้วย พ่อครับ พี่หานอาจเป็นเจ้าหนี้ที่โหดร้ายสำหรับพ่อ แต่พี่หานเป็นพี่ชายที่ดีมากของผม” เสียงของโซดาปร่าแปร่งทว่าหนักแน่นอยู่ในที น้ำเสียงที่ใช้พูดชัดถ้อยชัดคำ แสดงให้เห็นว่าจะไม่ยอมให้อะไรมาขัดขวางเด็ดขาด “พี่หานให้อะไรผมมาก อย่างน้อยให้คืนนี้ผมได้ล่ำลาพี่หาน และให้พรุ่งนี้ผมได้ไปล่ำลารุ่นพี่และเพื่อนๆ ที่ร่วมทำงานมาด้วยกันจะได้ไหมครับ พ่อสอนผมเองเสมอว่าเราต้องเป็นคนกตัญญูรู้คุณและมีมารยาท ผมไม่อยากจะเป็นลูกผู้ชายที่นึกอยากจะมาก็มา นึกอยากจะไปก็ไป ไม่เห็นหัวใครและไม่มีสัมมาคาระในสายตาคนอื่น”

   สันตินิ่งเงียบกับคำพูดของลูกชาย โซดารีบเอ่ยต่อ

   “แล้วผมค่อยกลับบ้านพรุ่งนี้ก็ยังไม่สาย แม่คงรอได้อีกแค่วันเดียว คืนนี้พ่อกลับไปก่อนเถอะนะครับ”

   “ตกลงลูก พ่อเองก็ลืมคิดไป แล้วตอนนี้มันก็เป็นเวลาพักผ่อนด้วย จะเรียกใครต่อใครมาช่วยก็เสียมารยาท รวมไปถึงเป็นการรบกวนคุณหาน...”

   ชายวัยกลางคนหันหน้าไปหาเจ้าพ่อเงินกู้ที่ยังยืนนิ่งเงียบอีกครั้ง เขายกมือไหว้

   “ผมต้องขอโทษคุณหานด้วยนะครับที่ไม่ทันได้คิด คนเราอยู่ด้วยกันมาก็ย่อมมีความผูกพันกันเป็นธรรมดา ถ้าอย่างนั้นคืนนี้ผมจะกลับไปก่อน แต่ผมคิดว่าเรื่องเอกสาร...เราดำเนินการให้เสร็จในคืนนี้เลยได้ ไม่เสียเวลามากมายแน่นอนครับ”

   หาญศักดิ์พยักหน้าอย่างเลื่อนลอย

   “โซดา...” เสียงของเสี่ยหนุ่มที่เรียกชื่ออีกฝ่ายล่องลอยเหมือนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

   “ครับ...”

   ร่างสูงตอบรับเสียงเครือด้วยน้ำเสียงที่อัดล้นไปด้วยความรู้สึกสั่นไหวไม่แพ้กัน

   “ขึ้นไปนอนได้แล้ว... เดี๋ยวกูจะตามขึ้นไป”

   “ครับ...พี่หาน”

    โซดาหันไปเอ่ยราตรีสวัสดิ์กับพ่อก่อนจะก้าวขาไปยังบันไดบ้านเพื่อขึ้นไปสู่ชั้นสอง หาญศักดิ์นั่งลงบนเก้าอี้ตัวหนึ่งโดยมีสันตินั่งลงที่เก้าอี้ตัวตรงข้ามกัน พวกเขาจัดการเคลียร์เอกสารอยู่ประมาณเกือบยี่สิบนาที จากนั้นสันติก็ขอตัวกลับ หาญศักดิ์ปิดล็อกบ้านจนเรียบร้อยหลังชายวัยกลางคนกลับไป เขาหอบพาร่างและหัวใจที่หนักอึ้งไต่ขึ้นบันไดบ้านช้าๆ เสี่ยหนุ่มยืนละล้าละลังอยู่หน้าห้องนอนของตัวเองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจผลักประตูเข้าไป

   เด็กหนุ่มที่นั่งก้มหน้าอยู่บนเตียงเงยหน้าขึ้นมา สายตาของทั้งคู่สบประสานกันอย่างไม่มีทางเลี่ยง ริมฝีปากของหาญศักดิ์แห้งผาก คอของเขาแห้งเป็นผง ราวกับอยู่กลางทะเลทรายที่ไร้แหล่งน้ำ

   “มันจบแล้วใช่ไหม”

   เสียงปร่าของโซดาที่เอ่ยแทรกขึ้นมาระหว่างความสงบทำให้ดวงตากลมโตราวกวางป่าสั่นไหว หากแต่เขาก็ไม่มีคำพูดใดที่จะมาตอบโต้มันได้ ความเงียบโรยตัวไปทั่วห้อง...เกาะกินเข้าไปในหัวใจของหาญศักดิ์จนมันดำมืด

   ใบหน้าเจ็บปวดของเด็กหนุ่มทำให้เขาปวดแปลบในอกมหาศาล

   “มันจะจบแบบนี้จริงๆ ใช่ไหม...”

   ดวงตากลมโตสั่นวูบกับประโยคคำถามที่ถามขึ้นมาอีกครั้ง

   “ผมถาม ว่าเราจบกันแล้วจริงๆ ใช่ไหม!!”

   โซดาลุกขึ้นตะเบ็งเสียงดังราวฟ้าผ่าจนหาญศักดิ์สะดุ้งสุดตัว แต่เขาก็ยังพูดอะไรไม่ออก แค่จะขยับกายหาญศักดิ์ยังทำไม่ได้ เด็กหนุ่มก้าวขาทำท่าจะพุ่งเข้ามาหาเขา หากแต่หาญศักดิ์คิดผิด โซดาตรงไปที่ตู้ ก่อนจะทั้งต่อยทั้งทุบทั้งโขกศีรษะกับมันอย่างรุนแรงหลายต่อหลายเที่ยว

   “ทำไมทำไมทำไม!! ทำไมมันต้องเป็นแบบนี้ด้วย!!”

   “โซดา อย่า! อย่าทำแบบนี้ อย่า!!”

   “ทำไม! ทำไม!!”

   หาญศักดิ์กระโจนเข้าประชิดตัวเด็กหนุ่มขัดขวางไม่ให้ซัดศีรษะใส่กำแพงไปมากกว่านี้ ทั้งคู่กอดปล้ำรัดกันเหมือนมวยปล้ำคู่เด็ด แต่โซดาเรี่ยวแรงมากมายกว่าเขานัก เด็กหนุ่มเอื้อมมือไปคว้าโคมไฟตั้งโต๊ะมาถือไว้ในมือทั้งที่หาญศักดิ์ยังพยายามควบคุมเขาอยู่ ก่อนจะจับมันฟาดเข้ากับหน้าผากตัวเองอย่างกราดเกรี้ยว ร่างสูงสะเปะสะเปะไปชนนู่นชนนี่ ทั้งห้องโกลาหนเหมือนพายุซัด

   “ทำไม! ทำไมต้องเป็นอย่างนี้ ทำไม!”

   “โซดา! โซดา ไม่เอานะ อย่าทำแบบนี้เลย!”

   แต่โซดาไม่ฟังเสียง เขาระเบิดอารมณ์ที่ต้องอดทนออกมาเหมือนปรมณูถล่ม ทั้งความเจ็บปวดและความเสียใจทุกอย่าง มันสุดขอบ...มันเกินกลั้น...มันทนไม่ไหวอีกแล้ว... ร่างสูงอยากจะต่อยอัดหน้าตัวเองด้วยมือของตัวเอง อยากจะทุรนทุรายดิ้นตายให้มันสาสมใจ

   โซดาฟาดสะเปะสะปะจนโคมไฟนั่นพลาดมาโดนแขนของหาญศักดิ์บ้าง แต่หาญศักดิ์กลับไม่รู้สึกเจ็บตัวเลยสักนิด คงจะมีแต่หัวใจของเขาที่เจ็บเสียยิ่งกว่าเจ็บจนสาธยายเป็นคำพูดไม่ได้

   “โซดา อย่าทำร้ายตัวเองเลยนะ ได้โปรด!” หาญศักดิ์พยายามรั้งโคมไฟที่โซดาเงื้อเอาไว้สุดความสามารถ กระบอกตาของเสี่ยหนุ่มแสบร้อน เสียงที่พูดปร่าแปร่ง “อย่าทำอย่างนี้เลย ทำกูเถอะ ทำร้ายกูแทน กูขอร้อง”

   “ออกไป! ออกไปจากผม!!”

   “ไม่ โซดา กูไม่ไป มึงอย่าทำอย่างนี้ กูไหว้ล่ะ ฮือ”

   ทั้งคู่ยื้อแย่งโคมไฟกันจนในที่สุดมันก็หล่นลงแตกเพล้งกระจายไปทั่วห้อง โซดารูดถอดเข็มขัดหนังเส้นที่ตัวเองใส่อยู่ออกมา ก่อนจะใช้มือขวาข้างถนัดฟาดมันใส่ร่างกายของตัวเองอย่างทารุณเพื่อระบายอารมณ์

   “อย่า!! อย่า!!”

   เสียงเข็มขัดหวดผ่านเสียงลมกระทบผิวเนื้อซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผิวเนื้อคล้ำแดดมีแนวแดงแล่นริ้วขึ้นตามแขนและตามตัวราวกับเล่นมายากล ร่างสูงหวดมันใส่ตัวเองเหมือนหวดแส้

   “อย่ามายุ่งกับผม! ออกไปห่างๆ!!”

ออฟไลน์ ตั่วเจ้เจค

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-8

   มือหนักข้างซ้ายผลักร่างหาญศักดิ์จนกระเด็นออกไปพ้นวิถี แต่หาญศักดิ์ก็กระโจนกลับเข้ามา

   “ไม่โซดา! หยุดเดี๋ยวนี้ หยุดสิ!!”

   หาญศักดิ์พยายามหยุดยั้งความบ้าบิ่น เข้ากอดรัดร่างสูงจนปลายเข็มขัดสะบัดพลาดมาโดนผิวกายเขาจนปวดแสบปวดร้อน แต่เขาก็ไม่อาจปล่อยโซดาได้ ทุกการฟาดทำร้ายตัวเองของเด็กหนุ่มไม่ต่างกับการฟาดมาที่ใจของเขาเอง มันเจ็บปวดสิ้นดี หาญศักดิ์ได้แต่พยายามสุดความสามารถที่จะหยุดเรื่องเลวร้ายนี่ เสี่ยหนุ่มตัดสินใจรับปลายเข็มขัดที่หวดลงมาอย่างแรงเอาไว้ด้วยมือขวา ความเจ็บสะท้านแล่นปราดขึ้นไปจนถึงก้านสมอง แต่เขาก็กัดฟันกระชากมันทิ้งลงไปบนพื้น

   หาญศักดิ์หอบหายใจทรวงอกสะท้อนขึ้นลงดวงตาแดงก่ำ สอดสองแขนกอดรัดโซดาเท่าที่ตัวเองจะมีแรงกอดไหว ส่วนเด็กหนุ่มยืนหอบฮักๆ เสื้อผ้ายับยู่ยี่ผมเผ้ายุ่งเหยิง ศีรษะและหน้าผากเต็มไปด้วยร่องรอยแห่งความรุนแรง มีหยดเลือดไหลออกมาจากไรผมบริเวณกรอบหน้าผากขวา รวมไปถึงร่องรอยเข็มขัดตามตัว แต่ฝันร้ายไม่จบแค่นั้น โซดาสลัดหาญศักดิ์ออก พุ่งไปที่ลิ้นชักข้างหัวเตียงก่อนจะหยิบมีดสั้นอันหนึ่งออกมา

   “อย่าาา!! โซดา อย่า!!!”

   หาญศักดิ์ร้องเสียงหลงเหมือนโลกจะแตก เขาพุ่งเข้าไปคว้าแขนยาวนั่นเอาไว้แล้วยื้อแย่งมีดสุดชีวิต

   “ออกไปให้พ้น!! ออกไปสิวะ! อย่ามายุ่งกับผม ถ้าจะทิ้งกันแล้วก็ทิ้งให้สุด! เอาให้มันตายห่ากันไปเลย ถ้าจะหันหลังหนีก็อย่าหันหน้ามามอง! อย่ามาสนใจอะไรผมอีก!!”

   “โซดา ได้โปรดเถอะ กูผิดไปแล้ว อย่าทำร้ายตัวเองเลยนะ ถ้าจะมีใครสักคนที่ต้องรับผิดชอบ ถ้ามึงอยากแทงใครสักคน มึงแทงกูเถอะนะ กูยอมทุกอย่างแล้ว แต่อย่าทำแบบนี้เลย”

   หาญศักดิ์เอื้อมไปจับด้ามคมของมีดอย่างบ้าบิ่น ออกแรงเฮือกสุดท้ายหักข้อมือเด็กหนุ่มให้ปลายแหลมหันเข้าหาท้องของตัวเอง น้ำตาคลอหน่วยเต็มเบ้า

   “แทงเลยโซดาแทงกูเลย แต่...แต่มึงอย่าทำร้ายตัวเองนะ กูขอร้อง อย่าทำร้ายตัวเอง...”

   โซดากัดริมฝีปาก เบ้าตาคมสั่นสะท้านขณะจับจ้องใบหน้าหวานที่เปี่ยมไปด้วยหลากหลายอารมณ์ตรงหน้า ดวงตาของหาญศักดิ์ไหววูบดุจเปลวเทียน มือใหญ่ที่เคยถือมีดด้วยพละกำลังช้างสารสั่นระริก และหาญศักดิ์ไม่ได้วัดใจ แต่หาญศักดิ์ยอมแล้ว ยอมทุกอย่างแล้วจริงๆ สำหรับโซดา

   กาลเวลาราวกับถูกหยุดนิ่งเอาไว้ตรงนั้น

   “แทงเลยโซดา แทงเลย” หาญศักดิ์เร่งเร้า “ถ้าจะมีใครที่ต้องเจ็บตัว ขอให้คนคนนั้นเป็นกูเถอะนะ...”

   ร่างสูงตัวสั่นสะท้าน จ้องคนตรงหน้าตาไม่กะพริบ

   “...ผม...ผม...”

   เสียงของโซดาแหบโหยเหมือนคนลงแดงยาเสพติด มันเล็ดรอดออกมาเบาแสนเบายิ่งกว่าเสียงยุง

   “ผมทำไม่ได้...!”

   แกร้งงง!!!

   ร่างสูงดึงมีดออกมาจากมือหาญศักดิ์ไม่ให้คมบาดอีกฝ่ายก่อนจะปามันไปที่มุมห้อง ขายาวทรุดลงกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง

   “ผมทำไม่ได้... ผมทำไม่ได้... ฮือ...ฮือ... ผมทำไม่ได้...”

   เด็กหนุ่มร้องไห้เหมือนใจจะขาด น้ำตาไหลทะลักท่วมใบหน้า สั่นเทาไปทั้งตัวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า หัวอกคนมองเจ็บแสบยิ่งกว่าถูกน้ำกรดรดใจ ทรมานข้างในไม่ผิดกับคนที่กำลังร้องไห้อยู่ตรงนั้น แขนทั้งสองข้างของโซดาค้ำกับพื้น หัวเข่าตั้งฉาก น้ำตาที่ไหลพรากเจิ่งนองเอ่อบนพื้น

   “ผมทำไม่ได้...ฮือ...ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย...ฮือ...ทำไม...ทำไม...ฮือ!”

   เด็กหนุ่มโขกศีรษะตัวเองลงกับพื้นดังลั่นจนเหมือนพื้นจะแตกร้าว โขกซ้ำๆ อยู่อย่างนั้นอย่างทุกข์ระทมใจและไร้ทางออก

   “อย่าทำร้ายตัวเอง! ฮึก อย่าทำร้ายตัวเองโซดา!!”

   หาญศักดิ์คุกเข่าลงกับพื้น กราบกรานร้องไห้อ้อนวอนเด็กหนุ่มจนไร้เรี่ยวแรง และมันก็ช่างไร้ประโยชน์... โซดายังคงจมปลักอยู่ในความขมปร่า เด็กหนุ่มทุบทั้งสองมือทั้งศีรษะลงกับพื้น ร้องไห้ทำร้ายตัวเองอยู่อย่างนั้นจนหาญศักดิ์ได้แต่ร้องไห้แทบตายกับภาพที่ต้องทนดู

   “อย่า...อย่า...! ฮือ...อย่าทำแบบนี้โซดา...อย่าทำอย่างนี้เลย...ฮืออ” สองมือของหาญศักดิ์พยายามกันไม่ให้หน้าผากของโซดาต้องกระทบกับพื้นแข็ง แต่ก็ถูกปัดทิ้งเบี่ยงหนีอย่างไม่ไยดี

   “ผมไม่โทษใครทั้งนั้น...ผมมันผิดเองที่เกิดมาทีหลัง...ผิดที่ผมเป็นผมไม่ใช่เจ้เฉียนย่า...” มือหนาทุบหน้าอกตัวเองซ้ำๆ เหมือนจะให้ช้ำในตายคาที่ให้ได้ “...ผมผิดเองที่เกิดมาเป็นผู้ชาย... ผิดที่ทำยังไงพี่ก็ไม่มีวันรัก ผิดที่รักพี่ทั้งหัวใจและทั้งชีวิตของผม ผิดที่รักจนจะตายอยู่แล้ว...ฮือ...ฮือ...”

   “โซดา! ฮือ...ฮือ! อย่าพูดอย่างนี้...อย่าพูดอย่างนี้...”

   “ฮือ...ฮือ...ทำไมผมต้องผิดขนาดนี้ด้วย...ทำไม...ฮือ” โซดาตีอกชกหัว ทุรนทุรายราวแมลงที่ถูกฉีดพ่นยาฆ่า

   “โซดา...อึก...ฮืออ” หาญศักดิ์คิดว่าตัวเองไม่มีน้ำตาจะเสียอีกแล้ว แต่โซดาก็ทำให้มันไหลทะลักซ้ำแล้วซ้ำเล่า

   “พี่...ทำไมมันเจ็บแบบนี้...ทำไม...ทำไมมันเจ็บแบบนี้...ฮึก...”

   ริมฝีปากหยักพร่ำพูดขณะทำร้ายตัวเองซ้ำๆ ไม่ได้เจ็บศีรษะเจ็บตัวแต่เจ็บหัวใจจนทนไม่ไหวอีกแล้ว ทั้งปวดแสบปวดร้อนเหมือนจะบ้า ความรู้สึกเจียนตายมันเป็นแบบนี้เองใช่ไหม แล้วเขาต้องทำอย่างไรมันถึงจะเบาบางลงได้บ้าง ต้องทำอย่างไรความเจ็บปวดจึงจะเจือจางลง เขาไม่อยากอยู่อีกแล้ว แต่เขาก็ยังต้องอยู่ ...ตายไม่ตาย เป็นไม่เป็น... แล้วนับจากคืนนี้ เขาจะมีชีวิตต่อไปได้อย่างไร

   “ฮือ... ฮือ...ฮือ... พี่หาน...ฮือ...”

   โซดาหมดแรงทรุดหน้าลงกับพื้นร้องไห้เหมือนเด็กๆ หาญศักดิ์เอื้อมกอดประคองศีรษะที่บอบช้ำของเด็กหนุ่มพลางร้องไห้ไปด้วย

   “โซดา...ฮือ...กูขอโทษ...ฮือ...กูผิดไปแล้ว...”

   หาญศักดิ์ร้องห่มร้องไห้ อยากจะบ้าไปกับโซดาอีกคนแต่เขาโตแล้วต้องคอยเตือนตัวเองให้มีสติ แล้วถ้าเขาเป็นบ้าเป็นบอไปอีกคน ใครจะคุมสถานการณ์ เกิดโซดาหยิบปืนมาลั่นไก แล้วจะทำอย่างไร

   “มึงจะให้กูทำยังไง...ฮือ...กูยอมทุกอย่างแล้ว...อึก...แต่อย่าทำร้ายตัวเองเลยนะ...ฮือ...ฮือ...”

   โซดาตัวสั่นสะท้าน ร้องไห้โฮอย่างเจ็บปวดเหลือแสน ไม่มีทางไหนที่จะดีกับใจเขาได้เลย

   “ถ้ามึงอยากทำร้ายใคร ได้โปรด ทำร้ายกูเถอะนะ ฮือ...อย่ามาเจ็บตัวเพราะกูอีกเลยนะ สัญญากับกูสิโซดา...สัญญาสิ...”
   โซดาที่ร้องไห้บดหน้าผากกับพื้นแล้วสั่นศีรษะ เขาทำไม่ได้...เขาทำร้ายหาญศักดิ์ไม่ได้อีกแล้ว...และเรื่องราวทั้งหมดเขาเป็นคนผิด...ผิดที่มาผิดที่ผิดทางผิดเวลา...ผิดที่รักหาญศักดิ์เหลือเกิน...ไม่มีอะไรที่เขาทำถูกต้องเลย

   “...ลุกขึ้นมาคุยกับกูก่อนนะ...เรามาคุยกันดีๆ ได้ไหม...ฮือ...คุยกับกูนะ...พูดกับกูหน่อย...”

   หาญศักดิ์พยายามทำทุกวิถีทางที่คิดออก แต่โซดาก็ยังสะอื้นฮักอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน

   “ลุกขึ้นมาเถอะนะโซดา...กูขอร้อง...ฮือ...”

   หาญศักดิ์ออกแรงยกร่างอ่อนแรงของเด็กหนุ่มให้ขึ้นมาจากพื้น ใบหน้าคมคายมีคราบน้ำตาเต็มไปทั่ว เขาออกแรงอีกครั้งให้โซดาลุกขึ้นมายืนทั้งตัว

   “พี่หาน...”

   ร่างสูงผลักหาญศักดิ์ลงไปบนเตียง ก่อนจะตามขึ้นคร่อมทั้งที่ยังตัวสั่นและซุกหน้าลงที่ลำคอของอีกฝ่าย หาญศักดิ์หลับตา ยอมรับกับทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นถ้ามันจะทำให้โซดาพอใจ เนื้อปากเปียกๆ ที่เย็นชืดเพราะหยดน้ำตาแตะไล่ไปทั่วไหปลาร้าของเขา จูบซับแผ่วเบาจนกระทั่งใบหน้าคมเลื่อนมาอยู่ที่กลางหน้าอก

   “โซดา...”

   หาญศักดิ์เอ่ยเสียงแผ่วเมื่อเด็กหนุ่มค้างอยู่นาน ก่อนที่ศีรษะนั่นจะส่ายช้าๆ

   “ผมทำไม่ได้...” กลางอกเสื้อของหาญศักดิ์เปียกเป็นดวงกว้าง เนื้อตัวของร่างสูงสั่นสะท้าน “ผมทำไม่ได้อีกแล้ว...ฮึก...ผมฝืนใจพี่ไม่ได้...ฮือ...ผมทำไม่ได้...ผมทำอะไรพี่ไม่ได้เลย...”

   “โธ่ โซดา...โธ่...”

   “...ผมทำไม่ได้...ฮือ...ผมทำไม่ได้...” ปากหยักพร่ำพูดซ้ำๆ ราวกับหุ่นยนต์ที่กลไกลเสีย น้ำตาที่แห้งเหือดไปเพียงชั่วครู่รื้นกลับขึ้นมาอีกครั้งบนกระบอกตาของเสี่ยหนุ่ม เขาเอื้อมสองแขนไปกอดร่างสูงที่คร่อมทับตัวเอง ออกแรงดึงให้โซดามานอนซบบนหน้าอก

   “พี่หาน...ฮือ...พี่หาน...”

   โซดากอดรัดเขาแน่นเหมือนปลาหมึกยักษ์ ราวกับต้องการจะตราตรึงเขาให้อยู่ด้วยชั่วนิจนิรันดร์ โซดาสั่นเทาเสียจนทำให้เขาสั่นเทิ้มไปด้วยทั้งตัว ร่างสูงซบหน้าบนหน้าอกของเจ้าพ่อเงินกู้ ร้องไห้ปิ่มใจจะขาด

   เพราะรัก...รักมาก...เพราะฉะนั้นถึงเจ็บปวดรวดร้าว...ร้าวระบมเหมือนตายทั้งเป็น

   “ไม่ไปกับเขาได้ไหม...เลือกผมได้ไหม...เป็นผมคนนี้ไม่ได้เหรอ...” เสียงทุ้มต่ำแหบแตก

   “...โซดา”

   “ได้โปรด...ไม่รักผม...ก็สงสารผมเถอะนะ...ผมจะยอมให้พี่สงสารถึงแม้ว่าพี่จะไม่รัก อะไรก็ได้ผมยอมหมดแล้ว ขอแค่พี่ไม่ไปไหนก็พอ...”

   หาญศักดิ์น้ำตาหยด ทำไมจะไม่เห็นใจ...ทำไมจะไม่สงสาร... แต่เรื่องราวมันมาไกลเกินกว่าจะย้อนกลับไปจุดนั้น เขาได้เลือกทุกอย่างแล้ว

   วงแขนแกร่งรัดร่างคนที่นอนอยู่ด้วยกันแน่นกว่าเดิมจนอีกฝ่ายแทบหายใจไม่ออก แต่หาญศักดิ์ก็ไม่ขัดขืนอะไรทั้งนั้น เขายอมโซดาหมดแล้ว เขาทำผิดกับโซดามากเหลือเกิน ต่อให้เขาจะต้องขาดอากาศตายคาวงแขนนี่ เขาก็จะยอม...

   “ผมต้องทำยังไงพี่ถึงจะเลือกผม...ผมทำอะไรได้บ้าง...บอกผมสิ...ผมจะทำทุกอย่าง”

   ทำนบน้ำตาที่พยายามกลั้นของหาญศักดิ์ไหลลงมาอย่างสุดกลั้น ภาพเก่าๆ ลอยย้อนมาเต็มหัวสมอง จะมีใครที่เข้าใจโซดาไปได้มากกว่าเขา เขาเองก็เคยสาหัสแบบนี้ เคยเจ็บปางตายตอนถูกเฉียนย่าทิ้ง เคยทำไม่แตกต่างกับที่โซดากำลังทำอยู่ ทั้งอ้อนวอน...ทั้งขอร้อง...ทั้งวิงวอน รู้สึกหายใจไม่ออกอีกต่อไปถ้าไม่มีเขาคนนั้น...รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบแตกสลายไปตรงหน้า

   “อย่าทิ้งผมเลยนะ...ฮือ...อย่าทิ้งผม...พี่อยากได้อะไร ผมจะหามาให้... ต่อให้เป็นดาวเป็นเดือน ผมก็จะเอามาให้พี่...บอกผมสิครับ...พี่หาน”

   เขารู้ว่ามันเจ็บแค่ไหน...

   มือเล็กสอดเข้าไปในเรือนผมสีดำของเด็กหนุ่ม ลูบมันอย่างอ่อนโยนที่สุดเท่าที่จะทำได้

   “อย่าทำแบบนี้เลยนะโซดา มึงมีค่ามากกว่านั้น อย่าตีค่าตัวเองต่ำแบบนี้เลย...”

   โซดาสะอื้นฮัก คำตอบของหาญศักดิ์ไม่ต่างอะไรกับการปฏิเสธอย่างนุ่มนวล

   “ดึกมากแล้วนะ...เราออกไปข้างนอกมาเหนื่อยๆ กันทั้งวัน อาบน้ำดีกว่า...แล้วค่อยมานอน นะ...ลุกขึ้นมาเร็ว...”

   แต่โซดาเหมือนร่างไร้วิญญาณ ร่างสูงนอนซังกะตายอยู่ที่เดิม หาญศักดิ์ปาดน้ำตาออกจากใบหน้า ใช้แรงทั้งหมดดึงเด็กหนุ่มแล้วพยุงเข้าไปในห้องน้ำ เขาพาโซดาไปนั่งในอ่าง ถอดเสื้อแจ็กเกตและเสื้อยืดออกให้ ตามด้วยถอดท่อนล่างทั้งสองชิ้น

   แววตาของเด็กหนุ่มว่างเปล่า ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหาญศักดิ์กำลังทำอะไรกับตัวเองอยู่ สายน้ำจากฝักบัวที่ซาดซัดเข้าหาเขาไม่ต่างอะไรกับอากาศปกติ เพราะเขาไม่รู้สึกอะไรอีกแล้ว

   มันข้ามจากเจ็บ...จนชา

   โซดาที่นั่งอยู่ในอ่างส่งเสียงสะอื้นตัวสั่นเทิ้ม ปล่อยให้หาญศักดิ์ล้างคราบเลือด อาบน้ำสระผมให้จนเสร็จราวกับตัวเองเป็นแค่ตุ๊กตาไร้ชีวิต หาญศักดิ์เป่าผมแต่งตัวให้เด็กหนุ่มจนเรียบร้อย ก่อนจะลงมือทำแผลที่ศีรษะให้อย่างเบามือแล้วจึงเอ่ยขอตัวไปอาบน้ำบ้าง และเมื่อออกมาอีกครั้ง โซดาก็ยังคงยืนอยู่ที่เดิม...จับจ้องเขาด้วยดวงตาที่แดงแห้งเพราะผ่านการร้องไห้

   “นอนนะโซดา...”

   หาญศักดิ์จูงมือหนาให้เดินไปที่เตียง กดร่างนั้นลงไปเบาๆ ให้นอนลงหนุนหมอนแล้วห่มผ้าทับให้ โซดาไม่พูดอะไรสักคำ เพียงแต่มองหน้าเขาอยู่อย่างนั้นอย่างเดิม

   “...ถ้า...ถ้ามึงอึดอัดใจ...กูจะออกไปนอนห้องแขกก็ได้”

   ดวงตาของเด็กหนุ่มวูบไหวแม้ไม่ได้ขยับตัว บ่งบอกให้รู้ว่าไม่ต้องการให้อีกฝ่ายทำอย่างนั้นเลย

   “ถ้าอย่างนั้น...ขอนอนด้วยได้ไหม”

   หาญศักดิ์เอ่ยเสียงเครือ และแล้วโซดาก็พยักหน้าช้าๆ หาญศักดิ์เดินไปปิดไฟจนมืด แล้วคลานขึ้นไปบนเตียงก่อนจะสอดตัวเข้าใต้ผ้านวม เขาโผหันไปกอดร่างสูงโปร่งหลวมๆ เนื้อกับเนื้อที่เย็นฉ่ำเพราะหยดน้ำแนบกัน

   “...คืนสุดท้ายแล้วใช่ไหม...”

   เสียงแผ่วพร่าของโซดาดังพร้อมๆ กับหยดน้ำตาที่ไหลออกมาอีกครั้งจากดวงตาของเจ้าตัว หาญศักดิ์พยักหน้าให้คำตอบแบบไร้เสียง ไม่อยากให้อีกคนรู้ว่าตัวเองก็กำลังร้องไห้

   ร่างสูงดันร่างสันทัดให้สูงขึ้น ก่อนจะนอนทับลงไปบนหน้าอกของอีกฝ่ายแล้วกกกอดแน่นเช่นทีแรกก่อนที่พวกเขาจะไปอาบน้ำ เขาอยากมีหาญศักดิ์ในอ้อมกอด...อยากให้หาญศักดิ์กอดเขา...อยากซึมซับความรู้สึกทุกอย่าง...อยากนอนให้หาญศักดิ์ลูบหัวแบบนี้ไปทุกคืนตลอดชีวิต...อยากมีคนนอนบนหน้าอกแล้วหลับไปด้วยกัน...

   แต่ทุกอย่างพังหมดแล้ว...

   คืนนี้คือคืนสุดท้าย

   “พี่บอกผม...ว่ารักแรกและรักเดียวในใจมันมีความหมายมาก...”

   เสียงของเด็กหนุ่มแตกพร่า น้ำตาหยดลงซ้ำแล้วซ้ำเล่าลงบนเสื้อนอนของหาญศักดิ์ คนฟังคำถามกลั้นเสียงสะอื้นให้กลับเข้าไปในอก ลูบเรือนผมสีดำของเด็กหนุ่มอย่างเบามือ

   “ใช่แล้วล่ะ...รักแรกมันมีความหมายมาก...”

   โซดาสูดจมูกในความมืด ไม่อาจห้ามน้ำตาตัวเองให้หยุดไหลได้แม้แต่นิดเดียว

   “แล้วพี่รู้ไหมครับ...”

   “...”

   “...ว่าพี่ก็เป็นรักแรกของผมเหมือนกัน...”

   หาญศักดิ์น้ำตาตก ถ้าหัวใจของเขาพูดได้...มันก็ต้องกำลังกรีดร้องโหยหวนอย่างเจ็บปวดสุดเสียง... หาญศักดิ์หมดพลังที่จะเสแสร้งทำเป็นไม่ร้องไห้อีกต่อไป เขากอดประคองเด็กหนุ่มบนตัวแน่น น้ำตาไหลพรากอาบสองแก้ม

   “โธ่...โซดา...ทำไมมึงต้องมารักกูด้วยนะ...” เสียงของคนพูดรวดร้าว สะอึกสะอื้นดังคลอไปกับเสียงร้องไห้ของคนในอ้อมกอด “ทำไมคนดีๆ แบบมึงต้องมาเจอกูด้วย... ทำไมชีวิตมันโหดร้ายแบบนี้...”







------------------------------
ตอนแต่งร้องไห้หนักมาก :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
ไม่เคยแต่งซีนเศร้าขนาดนี้เลยจริงๆ ค่ะ ฮือออออออ

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
เกลียดไอ้เสี่ยหานและบอกเลย

ฮึ่มยุให้โซดาจับเสี่ยทำเปนขันทีจะได้ไปฟันสาวที่ไหนมะได้อีก

โกรธแทนโซดาเว้ย

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
ชะนี กลับมาเพราะ ไอ้เสี่ยวายร้ายนั้นจ้างมาหรือเปล่า



โซดา น่าสงสาร

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด