หาญศักดิ์แข็งแรงปลอดภัยดี อยู่ดูอาการครบสัปดาห์ก็ได้ออกจากโรงพยาบาลแบบสวยๆ
ก็เล่นมีบุรุษพยาบาลหน้าหล่อหุ่นดีคอยอยู่ดูแลทุกวี่ทุกวันแบบนั้น เป็นใครก็ต้องฟื้นตัวเร็วอยู่แล้ว
ชาญชัยดีใจจนแทบจะปิดกรุงเทพฯ เลี้ยง พอรู้ว่าหาญศักดิ์ฟื้นก็ทำเอาหยดน้ำตาซึมออกมากันเลยทีเดียว
‘นี่กูไม่รู้เลยนะเนี่ยว่ามึงรักกูขนาดนี้’ หาญศักดิ์แซวเพื่อน เห็นชาญชัยปลายจมูกแดงเหมือนกวางเรนเดียร์อยู่ใกล้ๆ
‘อะไรไอ้เสี่ยหาน’ ชาญชัยฮึดฮัด ‘กูไม่ได้ร้องเว้ย แค่หาว!’
โอเค ทุกคนจะเชื่อเจ้าพ่อกาสิโนก็แล้วกันนะ
ชาญชัยกับโซดาไปแก้บนกับเจ้าพ่อเห้งเจียจนเรียบร้อย ส่วนองค์เจ้าพ่อเห้งเจียกำลังอยู่ในขั้นตอนกระบวนการทำ ชาญชัยเลือกให้หล่อองค์เทพด้วยทองเหลือง พอโรงหล่อทำชิ้นงานเสร็จเมื่อไรทั้งโซดากับชาญชัยก็จะเอาไปถวายให้วัดด้วยกันอีกที หาญศักดิ์ก็จะไปไหว้ท่านเช่นกัน แต่ต้องรอให้แข็งแรงกว่านี้ก่อน
เฉียนย่ากับเฉินช่วยกันจัดเตรียมที่คฤหาสน์พันล้านของหาญศักดิ์ให้เรียบร้อยเพียบพร้อมก่อนเจ้าตัวจะกลับไปอยู่บ้าน ทุกอย่างไปได้ด้วยดี ไม่มีความอึดอัดใดๆ ทั้งสิ้นระหว่างหาญศักดิ์กับเฉียนย่า หรือเฉียนย่ากับโซดา ทั้งหมดนั้นต้องขอบคุณความใจกว้างราวมหาสมุทรของเฉียนย่า ถ้าเธอไม่ได้เป็นอย่างที่เธอเป็นแบบทุกวันนี้ เรื่องราวคงจะไม่มีวันคลี่คลายไปได้สบายๆ แบบนี้แน่นอน
แม้แต่ชาญชัยที่กำแพงสูงตระหง่านยังพังทลายกับความจริงใจของหญิงสาว เธอกลายเป็นเพื่อนและพี่น้องที่ดีของทุกคน โซดากล้าพูดว่าเขาเคารพเธอเหมือนพี่สาวแท้ๆ คนหนึ่งเลยทีเดียว
โซดากลับมาอยู่กับหาญศักดิ์ โดยอ้างเหตุผลกับบิดาว่าอยากจะกลับมาทำงานเพราะชอบ และรู้สึกผูกพันกับพรรคพยัคฆ์ มารดาของเขาช่วยออกปากพูดอีกแรงจนสำเร็จ เธอรู้เหตุผลที่แท้จริงแล้วก็ไม่ห้ามปรามอะไรเลย ออกจะยินดีด้วยซ้ำที่เห็นลูกชายที่ซึมกะทื่อมาตั้งนานมีชีวิตชีวาขึ้นมาได้ แต่ก็ขอให้กลับมานอนที่บ้านบ้าง
“เอ้าคลิกสิวะ คลิก!”
ชาญชัยเร่ง ทั้งๆ ที่ใจเต้นตุ๊มๆ ต่อมๆ ตอนนี้ชายหนุ่มทั้งสี่คนอันประกอบไปด้วยหาญศักดิ์ โซดา ตัวชาญชัยเอง และเฉิน กำลังสุมหัวกันมุงเข้าใส่หน้าจอแล็ปท็อปเครื่องหนึ่ง โซดาเป็นคนเดียวที่นั่งบนเก้าอี้ ในขณะที่อีกสามคนยืนสอดหน้าอยู่ข้างหลัง ทั้งสี่คนกำลังลุ้นกับอะไรบางอย่างยิ่งกว่าลุ้นผลล็อตเตอรี่
“เดี๋ยวสิครับพี่...” เสียงของโซดาแหบต่ำ หางเสียงสั่นน้อยๆ “ขอทำใจอีกแป๊บ...”
“...เออวะ กูขอหายใจก่อน นี่ลุ้นจนจะเจ็บแผลที่โดนแทงอยู่แล้วเนี่ย” หาญศักดิ์เสริมเสียงหวาดๆ
“อะไร แผลมึงจะสามสัปดาห์แล้วไม่ใช่เรอะ ยังเจ็บอยู่อีกเหรอวะไอ้เสี่ยหาน”
“มันก็ยังมีแปล๊บๆ สิวะ”
“จะ-จะคลิกแล้วนะ!” เด็กหนุ่มประกาศกร้าวกลางปล้อง
“อย่าเพิ่ง!!!” หาญศักดิ์กับชาญชัยแผดร้องพร้อมกัน จู่ๆ ก็เกิดทำใจกันไม่ได้
“กูว่าขอต่อเวลาอีกนิดน่าจะดีวะโซดา” หาญศักดิ์พูดเสียงสั่น
“โอ๊ย เสี่ยครับ ถ้าเกิดจะไม่ดูกันตอนนี้งั้นผมกลับไปทำงานแล้วนะ-- โอ๊ะ...!”
“ไอ้เฉิน!!! / พี่เฉิน!!!”
สามหนุ่มที่เหลือประสานเสียงตะโกนกันลั่นเมื่อเฉินแขนลื่นจนไปกระแทกกับมือของโซดาที่จับเมาส์ ส่งผลให้ลิ้งที่ถูกจดๆ จ้องๆ แต่ไม่มีใครกล้าคลิกอยู่นานกระเด้งเปิดออกทันตา
“โอ๊ยยยยยยยยย กูเครียดดดดดดดด” หาญศักดิ์กระโดดถอยหลังเอาสองมือปิดลูกตา แต่ก็แอบเว้าเอาไว้ให้เห็นเป็นช่องๆ ใจเต้นรัวจนแทบจะกระเด้งออกมาจากช่องอก
“ยังไง...ผลเป็นยังไงไอ้เสือ” ชาญชัยที่ไม่กล้ามองหน้าจอคอมพิวเตอร์อีกคนเอ่ยถามเสียงขาดๆ เมื่อเห็นเด็กหนุ่มเงียบไปทันที
“เฮ้ย...โซดา...” เฉินกลืนน้ำลาย “พะ...พี่ขอโทษ”
“...”
ทั้งสามคนมองหน้ากันเมื่อโซดาเงียบกริบ ก่อนที่เสียงแผ่วๆ จะดังออกมาจากตัวของคนที่นั่งค้างอยู่หน้าจอแล็ปท็อป
“ให้...ตาย...”
“...”
“...”
“...”
“...ติด...”
“อะไร...” หาญศักดิ์ถามเสียงแหบห้าวอย่างหวาดผวากับท่าทางของแฟนหนุ่ม โซดาหมุนเก้าอี้ หันใบหน้าที่นิ่งขรึมมามองทุกคนทีละใบหน้า ก่อนจะมองทุกคนรวมๆ ...กาลเวลาราวกับหยุดนิ่งไปชั่วครู่
“ผมสอบติดเตรียมทหารรอบแรกแล้วโว้ย!!”
“เฮฮฮฮฮฮ้!!!!!!!!!!!”
“สุดยอดโว้ยยยยยย!!!”
“ปิดโรงแรมเลี้ยงแม่ง!!!”
เสียงเอะอะดังขึ้นไม่หยุดหย่อนจนแยกไม่ออกว่าเสียงใครเป็นเสียงใคร ก่อนที่ทั้งเฉินและชาญชัยจะโผเข้ากอดเด็กหนุ่มเต็มรัก หาญศักดิ์ไม่อาจเข้าไปคลุกวงในด้วยได้เพราะเดี๋ยวจะกระเทือนแผล ชาญชัยขยี้ผมโซดาจนฟู ส่วนเฉินที่ถอนอ้อมกอดแล้ววิ่งไปดูที่หน้าจอแล็ปท็อปอีกครั้ง
“รายชื่อผู้ผ่านการสอบคัดเลือกข้อเขียนโรงเรียนนายร้อยตำรวจ
นายศาสดา ผ่านการสอบรอบแรกภาควิชาการ ...ผ่าน! ผ่านจริงๆ ด้วยวะ!”
หาญศักดิ์ยิ้มกว้างปรบมือรัว ดวงตากวางสุกใสเป็นประกายอย่างปลื้มใจ เด็กหนุ่มวิ่งตรงเข้าไปกอดร่างคนรัก แล้วจูบปากกันจะๆ ต่อหน้าชาญชัยกับเฉิน ทำเอาหาญศักดิ์หน้าร้อนราวไฟลุก
“แหม...แหม...หลังจากแกรนด์โอเพ่นนิ่ง เดี๋ยวนี้เขาออกสื่อกันถี่ยิบจังเลยนะครับเสี่ยชาน” เฉินจอมเสนอหน้าพูดขึ้นมาทันที
“เขามีแต่รายการคนอวดผี แต่เพื่อนอั๊วนี่มันคนอวดผัวว่ะ ลื้อว่าไหม?” ชาญชัยรับมุก แซะเพื่อนอย่างหน้าชื่นตาบาน หาญศักดิ์แยกเขี้ยวใส่ทั้งคู่
“ไอ้พวกผีห่า!!”
“อย่ารังแกแฟนผมสิครับ ไม่งั้นผมจะศอกใส่ทุกคนเลยนะ” โซดาแสร้งพูดขู่ หลังจากพวกเขาเปิดตัวกันกับคนรอบข้างที่สนิทจริงๆ ก็หวานแหววกันอย่างไม่เกรงใจใคร โดยเฉพาะโซดาที่แสดงออกถึงความรักล้นใจตลอดเวลาอย่างชัดเจน
“โอ๊ย พี่ไม่สู้ครับน้อง สู้ไปยังไงก็แพ้” เฉินรีบโบกไม้โบกมือ “ไปทำงานดีกว่า เสี่ยชานครับเดี๋ยวผมไปรอข้างล่างนะครับ”
เนื่องจากตอนนี้หาญศักดิ์ไม่สามารถทำงานอะไรได้ หน้าที่ทวงหนี้จึงต้องตกเป็นของชาญชัยไปก่อนเป็นการชั่วคราว แม้ชาญชัยจะขี้หงุดหงิดไร้ความอดทนและไม่อยากทำหน้าที่นี้เลยแม้แต่น้อย แต่ในเมื่อมันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ก็จำใจต้องทำๆ ไป อย่างน้อยเขาก็พยายามทำให้มันดีล่ะ แม้มันจะไม่ดีเท่าที่หาญศักดิ์ทำมาตลอดก็ตาม
“ไม่ต้องไปรอหรอก เดี๋ยวอั๊วไปกับลื้อเลย” ชาญชัยพูดกับเฉิน ก่อนจะหันหน้ากลับมามองโซดา “ดีใจด้วยนะไอ้เสือ เดี๋ยวเย็นนี้กลับมากินเลี้ยงกัน ที่ห้องอาหารที่นี่นี้แหละ” ตอนนี้พวกเขาทั้งหมดอยู่ที่โรงแรมเมททอล
“เอาสิ เดี๋ยวกูโทรไปสั่งครัวเอง มึงกับไอ้เฉินไปทำงานเหอะ”
หาญศักดิ์บอกเพื่อน ชาญชัยจึงพยักหน้าแล้วจากไปพร้อมกับเฉิน โซดาประคองหาญศักดิ์ไปนั่งบนโซฟา ก่อนที่ตัวเองจะนอนลงบนตักแฟนหนุ่ม
“เหมือนฝันเลยนะครับ...ผมได้กลับมาอยู่กับพี่ แถมยังสอบติดอีกต่างหาก มีเรื่องเกิดขึ้นตั้งมากมาย ผมนึกว่าจะไม่มีวันนี้แล้วจริงๆ”
หาญศักดิ์ยิ้ม ลูบผมสีดำไปด้วย “มึงเป็นคนเก่ง ต้องทำได้อยู่แล้ว กูเชื่อในตัวมึงเสมอแหละ”
“...แต่นี่ก็เพิ่งติดแค่รอบแรก ยังมีรอบสองให้เสียวอีก” โซดาทำหน้ากลัวๆ
“ต้องผ่านอยู่แล้วแหละน่า”
หาญศักดิ์คิดอย่างนั้นจริงๆ เท่าที่เขารู้คือการสอบรอบต่อไปก็เป็นการสอบปฏิบัติ ซึ่งสอบติดกันประมาณสามวัน จะมีการตรวจร่างกายและตรวจชีวประวัติ ตามด้วยการทดสอบบุคลิกภาพ การสอบพลศึกษา ปิดท้ายด้วยการสอบสัมภาษณ์ ซึ่งในสายตาเขา โซดาล้วนมีคุณสมบัติครบถ้วนทุกอย่าง เผลอๆ ถ้าสอบทั้งสี่เหล่า จะติดทั้งสี่เหล่าเลยด้วยซ้ำ แต่นี่โซดาสอบแค่เหล่าตำรวจเหล่าเดียว (เหล่าทั้งสี่นั้นได้แก่ เหล่าทหารบก เหล่าทหารเรือ เหล่าทหารอากาศ และเหล่าตำรวจ)
สำหรับเหล่าตำรวจอันเป็นความฝันของโซดานั้นจะมีความพิเศษขึ้นมาหน่อย ตรงที่ในวันตรวจร่างกายจะทำการพิมพ์ลายนิ้วมือของผู้สมัคร เพื่อตรวจสอบประวัติไปยังกองทะเบียนประวัติอาชญากรสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และยังต้องตรวจสอบไปยังสถานีตำรวจท้องที่ที่ผู้สมัครมีภูมิลำเนาอยู่อีกทางหนึ่งด้วย หากผู้ใดมีประวัติเคยถูกลงโทษหรือความประพฤติไม่ดีตามที่กำหนดไว้ในเรื่องของคุณสมบัติ ก็จะถูกตัดสิทธิมิให้เป็นผู้สอบคัดเลือกได้ ซึ่งโซดาก็ไม่ได้มีประวัติอะไรด่างพร้อยเลย เรื่องหนี้ของสันติก็เคลียร์จนหมดเรียบร้อยไปแล้ว ถึงทุกปีทางโรงเรียนจะรับนักเรียนแค่ห้าร้อยคน ไหนจะพวกเด็กเส้นเด็กฝาก แต่หาญศักดิ์คิดว่าโซดาทำได้ อันที่จริง...เขาก็ควรไปเส้นไว้ให้โซดาเหมือนกัน เพราะโรงเรียนเตรียมทหารขึ้นชื่ออยู่แล้วว่าเก่งอย่างเดียวไม่ได้ ต้องเส้นสายแน่นด้วย
เอาเถอะ หาญศักดิ์กับชาญชัยรู้จักนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายคนเลยล่ะ ไม่ใช่เรื่องยาก ติดรอบแรกไปแล้ว รอบต่อไปก็สบายๆ อนาคตนักเรียนนายร้อยตำรวจของโซดาอยู่แค่เอื้อม
“โทรไปบอกพ่อกับแม่สิ พวกเขาจะได้ดีใจ ชวนมากินเลี้ยงวันนี้ด้วยก็ได้นะ คนเยอะๆ คึกคักดี”
“ครับพี่หาน”
โซดายิ้มแล้วลุกขึ้นกดโทรออกหามารดา ทันทีที่เธอรู้ข่าวดีก็กรี๊ดสุดเสียงจนโซดาต้องดึงมือถือออกจากหูกับเสียงแปดหลอด ส่วนสันตินั้นออกไปทำงาน เธอจึงรับปากว่าจะบอกให้ทันทีที่สันติกลับบ้าน โซดาคุยโทรศัพท์กับแม่อีกครู่ใหญ่ ส่วนมากก็เป็นการระบายความกังวลใจของการสอบรอบต่อไป แต่หญิงสาวก็พูดเหมือนที่หาญศักดิ์พูด นั่นก็คือให้กำลังใจมาเต็มเปี่ยม
ร่างสูงเดินกลับมานั่งข้างๆ หาญศักดิ์ที่กำลังเล่นเกมในไอโฟน
“อ้าว คุยเสร็จแล้วเหรอ”
“เสร็จแล้วครับ แม่ผมกรี๊ดลั่นเลย ปวดหูสุดๆ”
หาญศักดิ์หัวเราะเบาๆ “กูได้ยินอยู่ ...เออ! ลืมฝากสวัสดีคุณฟ้าลดาเลยว่ะ”
โซดาหรี่ตาอย่างอันตรายทันที
“ฝากสวัสดีได้อย่างเดียวนะครับ แต่ห้ามหม้อ อย่าลืมเด็ดขาดว่านั่นแม่ผัว”
“โอ๊ย ครับ ผมไม่กล้าแล้วครับคุณซ.โซด๊าา” หาญศักดิ์แทบจะยกมือไหว้อีกฝ่าย
สิ้นเสียงประชดนั้นทั้งคู่ก็หัวเราะร่วน โซดารวบกอดหาญศักดิ์มาไว้ในอ้อมแขนอีกครั้งแล้วหอมแก้มเสี่ยหนุ่มซ้ำๆ ดวงตาของเด็กหนุ่มพราวหวาน
“ชื่นใจจัง”
พูดจบก็ทั้งฟัดทั้งหอมต่อ หาญศักดิ์ปล่อยให้โซดาทำไปอย่างไม่ขัดขืน มันหมดช่วงหวงเนื้อหวงตัวกับผัวไปนานแล้ว... แต่เขาจะห้ามก็ต่อเมื่อโซดาเริ่มเลยเถิด เพราะตอนนี้แผลเขายังไม่เข้าที่เข้าทางเท่าไร เดินเหินก็ไม่สะดวกเท่าเมื่อก่อน ไม่สามารถทำกิจกรรมอะไรที่รุนแรงได้ และนั่นรวมไปถึง กิจกรรมอย่างว่า...
แม้หาญศักดิ์จะไม่ได้ปัดป้อง แต่ก็ไม่ได้ตอบสนองอะไรหวือหวา ถ้าเกิดหันไปจูบตอบหรือเป็นฝ่ายที่เริ่มก่อนคงไม่ใช่พี่หานตัวจริงของโซดาคนนี้แล้วล่ะ เคยแมนอย่างไรก็แมนอย่างนั้น หาญศักดิ์คงเส้นคงวาไม่มีเปลี่ยนแปลง
ร่างสูงถดตัวลงไปนั่งบนพื้นแทบเท้าคนรัก แววตาระยิบระยับแปลกๆ จนเสี่ยหนุ่มต้องขมวดคิ้วแล้วเอ่ยปากถาม
“นี่มึงเป็นอะไร?”
เด็กหนุ่มเพียงยิ้ม ดวงตาเปล่งประกายตาเยิ้มตาย้อย “เห็นไหมครับ...ผมอยู่แทบเท้าพี่ เป็นทาสรักของพี่ทั้งตัวและหัวใจ”
“ไอ้ประสาท ลุกขึ้นมา”
ด่าจบหาญศักดิ์ก็เตะขาขวาใส่เด็กหนุ่มที่นั่งทำตัวเพี้ยนอยู่บนพื้นอย่างเซ็งเหลือกำลัง แต่โซดาก็รับหมับจับข้อเท้านั้นเอาไว้ แล้วจูบลงบนหลังเท้านั่นทันใดทำเอาหาญศักดิ์สะดุ้งโหยง
ทุกอย่างดำเนินต่ออย่างรวดเร็วจนคนถูกจู่โจมปัดป้องไม่ทัน วันนี้เขาใส่กางเกงขาสามส่วนเผยให้เห็นขาส่วนล่างทั้งหมด... และเจ้าหนุ่มน้อยก็ไม่เพียงจูบเปล่า แต่กลับแลบลิ้นไล้เลียตั้งแต่หลังเท้านั่น...ลากขึ้นมาจนถึงหัวเข่าอย่างเชื่องช้า หาญศักดิ์ผวาเยือก คว้าจับที่เท้าแขนของโซฟาแน่น ลมหายใจของเขาปั่นป่วน เกร็งไปทั้งตัวเสียจนขนลุกเป็นเกล็ด แต่ก็พยายามตีหน้าให้นิ่งที่สุดยามที่อีกฝ่ายช้อนตาขึ้นมามองเป็นระยะ
“ผมรักพี่...ผมหลงพี่... คลั่งพี่ยิ่งกว่าอะไรดีพี่ก็รู้...”
เสียงของเด็กหนุ่มแหบพร่าและยังกระเส่านิดๆ ยามพูด ลิ้นเปียกชุ่มเลียวนตรงหัวเข่าของเสี่ยหนุ่มหลังพูดจบสร้างความเสียวสยิว ดวงตาคมฉายแววกระหายหิวโดยไม่พยายามซ่อนเร้นใดๆ มือหนาเริ่มซุกซนสอดเข้าไปลูบวนตรงขาอ่อนของคนที่นั่งอยู่บนโซฟา
“หยุด! หยุดเลยนะ”
หาญศักดิ์กดเสียงหนัก ถ้าไม่ห้ามปรามตอนนี้ก็ต้องเลยเถิดกันไปไกลแน่ๆ
“โธ่ คนดี... นิดนึงคงไม่เสียหาย... จะปล่อยให้อดยากปากแห้งไปถึงไหนกัน”
เสียงทุ้มอ่อนหวาน เด็กหนุ่มถกปลายกางเกงขาสามส่วนของหาญศักดิ์ให้สูงขึ้น แล้วจูบปะเหลาะไปตามหว่างขาทั้งสองข้างนั่น คนที่ถูกมอมเมาจากรสสัมผัสร่างสั่นสะท้านช้าๆ ก่อนจะปิดเปลือกตาตัวเองแน่นเมื่อถูกจูบซับไปตามผิวเนื้อไม่หยุดหย่อน
“...อือ”
มือใหญ่จับสองขาให้อ้าออกกว้างขึ้น วางพาดมันลงบนไหล่ตัวเองแล้วจับกระชับจนถนัดมือ ส่งสายตาระยิบระยับมองคนที่นั่งอยู่สูงกว่า
“พี่สัญญา...จะไม่ให้กระเทือนแผลเลยแม้แต่นิดเดียว...นะจ๊ะ...”
“...อ้ะ...โซดา...”
...เรียวปากเปราะเปลาะเนื้อไปตามส่วน
น้องจิกข่วนทั่วเนื้อหนังยันเกศา
พี่ไล้เล็มทั่วสรรพางค์ของกานดา
กระซิบพร่าปลอบโยนโอนอ่อนลง
ถึงปากถ้ำพี่แล่นนำส่งเข้าช่อง
เสียงดังก้องข้องคับดุจพายุหลง
ได้ครึ่งทางน้องครางเร่าให้เพลาลง
พี่โยกคงขยับน้อยคอยเวลา
พอถึงคราวลมแรงจัดพัดกรรโชก
จึงรีบโบกเข้าสุดลำไม่หน่ายหนา
สอดสั่งดั่งพยัคฆ์ดุสมจินดา
มินำพาต่อเสียงวอนหรือสิ่งใด
ยันฟ้าฟุ้งจึงพุ่งผุดดุจฝนหลั่ง
น้องถึงฝั่งกายโค้งหยัดเพราะหวามไหว
พี่ซานซบสยบทรวงแนบดวงใจ
สู่สวรรค์นคาลัยสมใจปอง...
:::METAL TERMINAL:::
“เค้ารู้ว่าเค้ารักตัวเองมากกว่าที่ตัวเองรักเค้า...”
โซดาพูดขณะที่ทั้งสองร่างเปลือยเปล่าอยู่ในผ้าห่ม แผ่นหลังบางแนบติดกับแผ่งอกแกร่งของอดีตนักมวยหนุ่ม หาญศักดิ์ยังคงหอบน้อยๆ จากกิจกรรมที่เพิ่งเสร็จสิ้น มือหนาทัดปอยผมของอีกฝ่ายหลังใบหูเล็กๆ นั่น ไล่ไต่นิ้วเรียวยาวเล่นไปตามเรือนกายของคนรักแผ่วเบา
“แต่เค้าก็ยอม...เพราะเค้ารักตัวเองมากจริงๆ”
เขากดจูบลงบนหัวไหล่ตรงหน้าอย่างอ่อนโยน พยายามไม่ให้มือไปสัมผัสโดนแผลของหาญศักดิ์ ร่างสันทัดค่อยๆ พลิกตัวอย่างระมัดระวังไปนอนมองหน้าเด็กหนุ่ม
“ไม่ค่อยได้บอกรัก ไม่ได้หมายความว่ารักน้อยกว่าสักหน่อยนะ”
“...เค้าระแวงตลอดเลย กลัวตัวเองจะทิ้งเค้าไปสักวัน” แววตาคมส่อแววกลัวและไม่มั่นคง
พี่หานเป็นคนมีเสน่ห์...ใครอยู่ใกล้ก็หลงรักได้ง่ายทั้งชายและหญิง
เขากลัวว่าวันหนึ่งพี่หานจะคิดว่าทนฝืนตัวเองไม่ไหวแล้ว จากเขาไปมีแฟนผู้หญิงเป็นตัวเป็นตน
กลัวพี่หานจะทอดทิ้งเขาเหมือนตอนที่เจ้เฉียนย่ากลับมาคราวนั้น
โซดาคนนี้คงต้องตายทั้งเป็นอีกรอบแน่ๆ
ฆ่ากันให้ตายไปเลยยังดีกว่า
สองมือของหาญศักดิ์เอื้อมไปประคองใบหน้าคมคายของคนตรงหน้า จ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่คมกริบด้วยสายตาที่เรียบนิ่งแต่จริงจังของตัวเอง
“โซดา สักวันเค้าจะทำให้ตัวเองรู้ ว่าเค้ารักตัวเองมากแค่ไหน จำไว้เลย”
ร่างสูงยิ้มจนดวงตากลายเป็นรูปสระอิทั้งสองข้าง
“เค้าจะรอวันนั้นนะครับ...”
------------------------------
ความบันเทิงของเสี่ยหานได้มาจากป๊ะป๊านั่นเองค่ะ 555555555555 พ่อลูกลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น
เป็นไงคะกับกลอนบทอัศจรรย์ T/////T
เก่งภาษาไทยกันไหม? ถ้าไม่สันทัดแปลไม่ออกเจคมีแปลไว้ให้เป็นร้อยแก้วแล้วนะคะ
https://docs.google.com/document/d/11N0QSIQOCiZJ2_X2PwrqxaIOQSPdfFqBSti3CYdHW3M/edit?usp=sharingอย่าลืมคอมเมนต์เป็นกำลังใจ สกรีมแท็กได้ที่เดิม #ฟิคพยัคฆ์คว่ำกวาง นะเจ้าค่ะ
ุ๊