ยกที่ ๔๐
Yellow diamonds in the light
Now we’re standing side by side
As your shadow crosses mine
What it takes to come alive
[ เพชรสีเหลืองอร่ามท่ามกลางแสงไฟ
และเราสองคนก็ยืนอยู่เคียงข้างกัน
เงาของคุณข้ามผ่านเงาผมมา
เราผ่านอะไรมามากมายจนรู้สึกเหมือนมีชีวิตใหม่อีกครั้ง ]
(We found love – Rihanna : แปลเพลงเป็นเวอร์ชัน หาญศักดิ์ในเรื่อง ‘METAL TERMINAL พยัคฆ์คว่ำกวาง' โดยเจค)
::: METAL TERMINAL:::
“อะไรนะ!?”
หาญศักดิ์ไม่เชื่อหูในสิ่งที่ได้ยิน แต่เฉินก็พยักหน้ายืนยัน
“ครับ มีหมายเรียกตัวโซดาจริงๆ ตามกำหนดการที่เขียนแจ้งมาก็คืออีกสามวันข้างหน้า เสี่ยพิชิตยอมรับทุกข้อกล่าวหา ยกเว้นแต่เรื่องที่เป็นคนแทงท้องเสี่ย เขายืนยันแจ้งกับทนายของตัวเองไปว่าไม่ได้เป็นคนทำ แล้วก็ยังระบุชื่อศาสดาว่าเป็นคนลงมือโดยที่ตัวเขาเองเป็นพยานยืนยันด้วย แล้วทนายคนนั้นก็ดำเนินการ ไปๆ มาๆ เรื่องไปถึงขั้นฟ้องศาล” เฉินหันไปมองหน้าเด็กหนุ่ม “ตอนนี้มึงถูกออกหมายเรียกตัวแล้ว”
“บ้าฉิบ! ไอ้แก่นั่น!” หาญศักดิ์ทุบตักตัวเองอย่างเหลืออด “ทำไมต้องทำให้เรื่องยุ่งยากทุกทีด้วยวะ!”
เจ้าพ่อเงินกู้ยกสองมือขึ้นกุมขมับ ปวดหัวจี๊ดขึ้นมาทันทีทันใด ก่อนที่เขาจะหมุนล้อวีลแชร์ตัวเองเข้าไปใกล้ร่างสูงที่ยืนนิ่ง เขาเอื้อมสองมือไปจับมือโซดา
“ฟังนะ เราสองคนจะไปให้การ บอกว่าไอ้พิชิตโกหก”
“...?” โซดามองหาญศักดิ์นิ่ง
“เราสองคนช่วยกันพูดได้นี่ว่ามันโกหก จริงๆ มันนั่นแหละที่เป็นคนแทงกู แต่พยายามจะผลักความผิดให้มึง ถ้าเรายืนยันตรงกัน ด้วยสภาพแวดล้อมต่างๆ มึงต้องหลุดคดีแน่นอน แค่ให้การตรงกันก็พอแล้ว”
“...แต่”
“เชื่อกูสิ” หาญศักดิ์ขัดขึ้นเสียงดัง เขย่ามืออีกฝ่ายไปด้วย “ทำตามที่กูพูดเนี่ยแหละคือทางออกที่ดีที่สุด”
ร่างสูงยิ้มบางๆ ค่อยๆ แกะสองมือของหาญศักดิ์ออกจากมือตัวเอง แล้วส่ายหน้า
“ไม่ได้หรอกครับ... ผมไม่อยากโกหกใครแล้ว”
“โซดา!” เฉินขึ้นเสียงทันที “ทำตามที่ผู้ใหญ่พูดนะ เสี่ยหานพูดถูกแล้ว นั่นคือทางออกที่ดีที่สุด ทุกคนต้องเชื่อมึงกับเสี่ยหานแน่”
“ผมบอกพี่กับพี่ชานตั้งแต่แรกแล้วว่าผมไม่อยากโกหก แต่พวกพี่ก็บอกให้ผมทำ แล้วเห็นไหมครับว่าในที่สุดเรื่องมันก็แดงขึ้นมา” โซดาพูดเต็มเสียง สบตาทุกคนเต็มสองตา “เราอาจจะปกปิดความจริงได้ แต่ยังไงเรื่องที่ผมเป็นคนแทงพี่หานจนพี่หานเกือบตายก็เป็นเรื่องจริง ถ้าผมหนีมันตอนนี้ ผมก็ต้องหนีไปทั้งชีวิต ผมไม่อยากทำตัวขี้ขลาดอีกแล้ว”
“แต่อนาคตตำรวจมึงจะจบเห่ตรงนี้เลยนะ!”
หาญศักดิ์ตะเบ็งเสียง น้ำตาทำท่าจะไหลลงมาอาบสองแก้ม ไม่ได้เสียใจแต่ว่ามันโมโห ทำไมโซดาถึงไม่เข้าใจความหวังดีของเขา ทำไมถึงไม่แค่ทำให้เรื่องมันง่าย...
เสี่ยหนุ่มพูดต่อรัวเร็วด้วยแรงอารมณ์จนทรวงอกสะท้อนขึ้นลง “มึงจะกลายเป็นคนมีดคีอาญาติดตัว เข้ารับราชการไม่ได้ตลอดชีวิต ที่จะไปสองรอบสองของโรงเรียนเตรียมทหารก็ต้องถูกถอดรายชื่อ ไม่มีสิทธิ์สอบ ไม่อยากเป็นแล้วเหรอตำรวจน่ะ! ทำไมจะทำลายอนาคตตัวเองแบบนี้วะ!”
“การเป็นตำรวจ... เป็นความฝันของผม...” เด็กหนุ่มเสียงสั่นเครือ ยิ้มแล้วก้มหน้าเสมือนกับเรื่องที่เกิดขึ้นมันตลกเสียเต็มประดา...แต่ความจริงแล้วโซดากำลังสมเพชและสงสารตัวเองอยู่
หาญศักดิ์กับเฉินพูดอะไรไม่ออก ในที่สุดร่างสูงก็เงยหน้าขึ้นอย่างเข้มแข็ง
“แต่ในเมื่อผมทำพลาดไปแล้ว จะแก้ไขอะไรได้ ผมก็ควรต้องยอมรับความผิดอย่างลูกผู้ชาย ดีกว่าที่จะต้องซุกซ่อนมันแล้วโกหกตัวเองไปทั้งชีวิต ซ้ำร้ายยิ่งกว่าคือป้ายสีให้เป็นความผิดของคนอื่น ถ้าทำแบบนั้นน่ะ ผมรับตัวเองไม่ได้”
“...ฮือ...โซดา...ทำไมวะ!”
หาญศักดิ์โกรธจัดจนพูดไม่ออก ได้แต่ซบหน้าร้องไห้โฮกับอุ้งมือของตัวเอง หยดน้ำตาร้อนไปหมดเพราะโทสะ เฉินกัดริมฝีปาก เขาเองก็ไม่มีอะไรจะพูดเหมือนกัน
โซดาพูดถูก
แต่สิ่งที่หาญศักดิ์กับเขาอยากให้โซดาทำ... มีใครคนไหนบอกได้ไหมว่ามันไม่ดีกับโซดายังไง
ร่างสูงย่อตัวลงโอบกอดแฟนหนุ่มของตัวเองที่ร้องไห้โฮ แต่หาญศักดิ์ก็ผลักไสออกไปอย่างโกรธเกรี้ยว
“อย่าโกรธผมเลยนะครับพี่หาน... ได้โปรด... ผมทำดีที่สุด เท่าที่ชีวิตผู้ชายคนนึงจะทำได้”
“มึง...ฮือ...มึงเลือกไม่ให้มันเป็นแบบนั้นได้ แต่มึงไม่เลือกเอง...”
ไม่ใช่ว่าหาญศักดิ์ไม่เข้าใจโซดา แต่เขาไม่อยากให้มันต้องเป็นอย่างนี้
ร่างสูงส่ายหน้า
“คนดีของผม ไม่ร้องนะครับ” โซดาเข้าโอบกอดร่างที่สะอื้นฮักจนตัวสั่นตัวโยนบนวีลแชร์อีกครั้ง “ชีวิตผม แค่ได้มารู้จักพี่ ได้รักพี่ แค่นี้ก็ถือเป็นโชคดีที่สุดแล้ว ผมไม่เสียใจอะไรอีกแล้วครับ พี่คือความสุขทุกอย่างของผม”
“ฮือ...โซดา...ฮือ...”
เฉินแอบปาดน้ำตาที่เล็ดออกมาเงียบๆ แล้วออกไปจากห้องปล่อยให้ทั้งสองคนอยู่ด้วยกันตามลำพัง ในห้องหาญศักดิ์ยังคงร้องไห้ เขาอยากจะผลักดันให้โซดาไปได้สุดฝั่งฝัน...อยากจะเห็นเด็กหนุ่มมีความสุขสมปรารถนา...ได้ใส่เครื่องแบบตำรวจ ติดยศอย่างภาคภูมิใจตามที่เจ้าตัวต้องการ
“อย่าร้องเลยนะครับคนดี ผมอยู่ตรงนี้นะครับ” โซดากดจูบเรือนผมนุ่มอย่างปลอบประโลม “อย่างน้อยผมก็จะภูมิใจในตัวเอง ผมขอร้องให้พี่ยอมรับการตัดสินใจของผมเถอะนะครับ นะ...”
หาญศักดิ์ส่ายหน้าบ้าคลั่งในอกอุ่น เขาทำใจไม่ได้...ไม่อาจยอมรับได้จริงๆ ที่ทุกอย่างที่กำลังดีขึ้นมาจะต้องจบลงแบบนี้
:::METAL TERMINAL:::
หาญศักดิ์ลืมตาในความมืด นอนไม่หลับแม้จะมีโซดานอนอยู่เคียงข้าง เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้อย่างไรเขาทำใจไม่ได้จริงๆ
โซดาของเขาจะจบอนาคตลงแบบนี้งั้นหรือ
ความฝันที่เคยเล่าเจื้อยแจ้วให้เขาฟัง...จะต้องสะบั้นลงแค่นี้หรือไร
เสี่ยหนุ่มมองใบหน้าหล่อเหลาของคนที่หลับสนิทอยู่นานนับชั่วโมง ก่อนจะค่อยๆ ตัดสินใจย่างเท้าลงไปบนพื้น เคลื่อนกายอย่างเชื่องช้าที่สุดไปที่ประตูห้องแล้วออกไปเคาะห้องของเพื่อนรัก
“เฮ้ย ไอ้เสี่ยหาน ทำไมเดินมาวะ ไม่ให้โซดามันเข็นมา เดี๋ยวแผลมึง -- ”
“หยุดเดี๋ยวนี้ ตอนนี้กูสบายดี ขอกูเข้าไปคุยด้วยหน่อย ช่วยประคองกูด้วย”
“เออๆ ได้”
หาญศักดิ์ทำหน้าเจ็บแผลเมื่อต้องออกแรงเดินเยอะ ร่างสูงใหญ่เข้าไปประคองเพื่อนรักให้เข้าไปนั่งที่โซฟาในห้องของตัวเอง หาญศักดิ์ไม่รอช้าเปิดปากพูดทันที
“มึงรู้เรื่องของโซดาแล้วใช่ไหม”
ชาญชัยพ่นลมหายใจออกจากจมูก “รู้แล้ว กูเครียดมาก และหงุดหงิดมากด้วย แต่ที่ไอ้เสือพูดมันก็ถูก ไม่รู้จะทำยังไงแล้ววะจริงๆ”
“เสี่ยชาน กูไม่อยากให้มันจบลงอย่างนี้”
“...นี่มึงคิดจะทำอะไร?”
ชาญชัยหรี่ตาถามกลับทันที เขารู้นิสัยเพื่อนดีถ้ามาแนวนี้ไม่มีทางมาเล่นๆ แน่
หาญศักดิ์หันไปสบตาเพื่อนเต็มสองตา ดวงตากลมโตงดงามราวกวางป่าฉายแววจริงจัง ก่อนจะเอ่ยปากบอกความต้องการของตัวเอง
:::METAL TERMINAL:::
“อ้าว มารอกันก่อนแล้วหรือ ขอโทษทีๆ พอดีช่วงนี้งานผมยุ่งมาก”
ชายร่างท้วมพูดเสียงดังกับเสี่ยหนุ่มทั้งสองที่รออยู่ก่อนในห้องอาหารหรู ชาญชัยกับหาญศักดิ์ยิ้มตอบ
“ไม่เป็นไรครับ เชิญท่านมนตรีนั่งก่อน พวกผมสั่งอาหารมาห้าหกอย่าง ถ้าท่านอยากจะสั่งอะไรเพิ่มก็เชิญได้เลย” ชาญชัยเอ่ย แล้วยืนขึ้นผายมือไปที่เก้าอี้ให้มนตรี ส่วนหาญศักดิ์นั้นลุกเดินเหินไม่สะดวกเพราะตอนนี้เขานั่งอยู่บนวีลแชร์
“โอ้ ไม่ต้องแล้วล่ะ” ผู้กำกับร่างท้วมโบกมือปฏิเสธเมนูที่พนักงานเสิร์ฟยื่นให้ทันทีที่เขานั่งลง “กินเท่าที่มีก่อนก็แล้วกัน จะสั่งเพิ่มก็ค่อยสั่ง”
เสี่ยหนุ่มที่ถือว่าค่อนข้างรุ่นเยาว์ทั้งสองยิ้มตอบ ทั้งสามลงมือรับประทานอาหารแกล้มไวน์ ยกเว้นแต่หาญศักดิ์ที่ยังดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้เพราะจะมีผลกระทบไปถึงแผล ต่างก็คุยกันสัพเพเหระถึงเรื่องต่างๆ หาญศักดิ์ไม่ลืมเอ่ยถามถึงลูกสาวของท่านที่เพิ่งแต่งงานไปไม่นานแล้วกำลังตั้งครรภ์ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจ
“เฮ้อ ได้มาผ่อนคลายดูวิวสวยๆ แบบนี้ดีจริงๆ” มนตรีเอ่ย ห้องอาหารนี้เฉินจองไว้แบบเป็นส่วนตัวมาก มีแค่พวกเขาสามคนเท่านั้นในห้อง และฝั่งหนึ่งก็เปิดโล่งให้เห็นวิวกรุงเทพฯ ยามค่ำสวยงามถนัดตา “ช่วงนี้งานมันยุ่งเหลือเกิน ปวดหัวไปหมด”
หาญศักดิ์ยิ้ม วางแก้วน้ำเปล่าลงในมือหลังจากจากยกขึ้นดื่ม “ก็คงหนีไม่พ้นคดีที่เกี่ยวกับผมสินะครับท่าน”
“อืม เฮ้อ ใช่แล้วล่ะ เจ้าหมอพิชิตอะไรนั่นร้ายกาจจริงเชียว” มนตรีส่ายศีรษะ “สร้างไว้หลายคดีเต็มไปหมด รื้อกันจนปวดหัว ทำเอาปั่นป่วนแทบตาย”
“ท่านครับ ความจริงที่พวกผมเชิญท่านมาท่านมื้อค่ำด้วยกันวันนี้ พวกผมมีเรื่องอยากขอความช่วยเหลือ” หาญศักดิ์เช็ดปากแล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้นมา แต่ก็ระมัดระวังไม่ให้เสียงแข็งมากเกินไป
“มีอะไรก็พูดมาเถิดคุณหาน เรามันคนกันเองอยู่แล้ว” มนตรีเคยช่วยเรื่องธุรกิจของทั้งหาญศักดิ์และชาญชัยหลายครั้งหลายครา ต่างก็ตอบแทนกันมาตลอด เพราะรู้ว่ายังต้องพึ่งกันและกันไปอีกนาน
“เรื่องคดีที่เกี่ยวพันกับผม มีคดีหนึ่ง...เรื่องที่ผมถูกแทงตรงท้อง”
“อ้อ คดีนั้นเองเรอะ เห็นว่าพิชิตยืนยันว่าไม่ได้ทำนี่ แล้วศาลก็เรียกคนที่แทงคุณไปสอบสวนแล้ว จำเลยคงโดนน่าดูเลยแหละ ถึงข้อหาพยายามฆ่าเลยนะนั่น”
“นั่นแหละครับท่าน” หาญศักดิ์รีบเอ่ยต่อ “ผมอยากให้ท่านช่วยให้จำเลยหลุดคดีได้ไหมครับ”
“อะไรนะ!?”
มนตรีไม่เชื่อหู ส้อมที่ถือในมือหล่นลงไปบนจานเสียงดังสนั่น เขาหันไปมองหน้าหาญศักดิ์เต็มสองตาราวกับไม่เคยเห็นหาญศักดิ์มาก่อนเลย เจ้าพ่อเงินกู้ไม่ปล่อยผ่านโอกาส
“ผมอยากให้คนที่ตกเป็นจำเลย นายศาสดา หลุดคดีครับ...ก็จะมีแต่บารมีของท่านเท่านั้นที่จะช่วยให้เขาหลุดพ้นไปได้ ผมกับเสี่ยชานเป็นแค่มดตัวเล็กๆ อยากให้ราชสีห์อย่างท่านช่วยเหลือเรา”
“อะไรกัน? ทำไมคุณถึงจะอยากให้คนที่แทงคุณหลุดคดีล่ะ!”
“มันเป็นอุบัติเหตุครับ เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะแทงผมเลย เราสองคนเป็นญาติกัน เขาคือน้องชายของผมเอง ผมไม่อยากให้เขาต้องมาเดือดร้อนเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่อง”
“มันไม่ใช่เรื่องไม่เป็นเรื่องเลยนะ แล้วถึงไม่ได้ตั้งใจที่จะแทงคุณ ก็แปลว่าเขาต้องตั้งใจที่จะแทงคนอื่นในที่นั้นน่ะสิ! แผลที่ท้องคุณใครๆ ก็รู้ว่ามีดปักลงไปแทบมิดด้าม แถมคนใช้มีดยังใช้มีดเป็นอีกต่างหากไม่ได้แค่จิ้มสั่วๆ ที่คุณรอดมาได้เป็นปาฏิหาริย์ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ชัดๆ แล้วเจ้าคนแทงจะไม่มีความผิดได้อย่างไรกัน ถึงจะบอกว่าพลั้งมือก็เถอะ ไม่มีเหตุผลอะไรฟังขึ้นหรอก!”
“ท่านครับ... แต่ผมไม่เอาเรื่องเขา เป็นไปไม่ได้เลยหรือครับที่ยกเลิกคดีนี้ ในเมื่อเหยื่ออย่างผมก็ไม่เรียกร้องอะไร”
“บ้าไปแล้ว!”
มนตรีผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้อย่างเกรี้ยวกราด ชาญชัยเอื้อมมือไปแตะแขนหาญศักดิ์ทันทีตามสัญชาตญาณปกป้องเพื่อนที่ตอนนี้อยู่ในสภาพอ่อนแอกว่า
“คุณหาน ถึงคุณจะไม่เอาเรื่องแต่การพยายามฆ่าเป็นคดีอุจฉกรรจ์! ยอมความไม่ได้! ที่เตะต่อยทำร้ายพิชิตน่ะยังอ้างได้ว่าป้องกันตัว แต่คดีของคุณน่ะมันต่างกันเลย! คุณก็รู้กฏหมายดีไม่ใช่รึ ยังไงเจ้าเด็กศาสดานั่นก็ต้องไปศาล แล้วเรื่องราวจะจ่าหรือหมู่ก็ค่อยว่ากันไป แต่นี่...คุณจะมาขอให้ผมลบคดีเขาตอนนี้ได้ยังไงกัน!”
มนตรีตวาดอย่างเกรี้ยวกราด มื้ออาหารหมดรสอร่อยไปในทันที หาญศักดิ์หลับตานิ่ง
“โซดา สักวันเค้าจะทำให้ตัวเองรู้ ว่าเค้ารักตัวเองมากแค่ไหน จำไว้เลย”
“เค้าจะรอวันนั้นนะครับ...” หาญศักดิ์ก้มหน้านิ่งระลึกถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมาในชีวิต เขาคิดว่า...
วันนั้นมาถึงแล้ว
“คุณหาน! / ไอ้หาน!”
ทั้งสองคนตกใจจนตัวแข็งเมื่อหาญศักดิ์ถดกายลงจากวีลแชร์ลงไปคุกเข่าแทบเท้าผู้กำกับมนตรี
“ขอร้องเถอะครับท่าน... ได้โปรดช่วยเหลือเขาเถอะนะครับ”
มือข้างหนึ่งกุมแผลที่ท้อง แม้การนั่งคุกเข่าแบบนี้จะเจ็บปวดสะเทือนแผล แต่หาญศักดิ์จะทน...
“...เขาเพิ่งสอบติดโรงเรียนเตรียมทหารรอบแรก มีความฝันอยากเป็นตำรวจที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกรเหมือนท่าน”
หาญศักดิ์ยกสองมือประนมไหว้ชายตรงหน้า ยอมเสียศักดิ์ศรีทุกอย่างที่แบกมาทั้งชีวิต
“อย่าให้อนาคตของเขาต้องพังทลายลงตรงนี้เลยนะครับ ได้โปรด... ช่วยเหลือเขาเถอะ ผมขอร้อง”
“...”
“ผมไม่ได้อยากให้ท่านทำเหมือนคดีนี้ไม่เคยเกิดขึ้น แต่เพียงแค่อยากให้ผ่อนหนักเป็นเบา เปลี่ยนจากคดีอุจฉกรรจ์เป็นคดีลหุโทษ จากแทงผมเป็นแค่พกพาอาวุธ...หรือกระทำไปโดยประมาทได้ไหมครับ เพียงแค่นี้เขาก็จะหลุดพ้นแล้ว ถือว่าช่วยเหลือลูกนกลูกกาตัวเล็กๆ”
แววตาของผู้กำกับตำรวจวัยกลางคนสั่นนิดๆ ขณะจ้องมองเสี่ยหนุ่ม ยังคงไม่มีคำพูดอะไรหลุดออกมาจากปากของเขา แต่หาญศักดิ์ก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ
“แล้วท่านอยากได้อะไร ถ้าผมคนนี้สรรหามาให้ได้ ผมจะเอามาให้ท่าน ไม่จะเป็นเงินอัดฉีด หรืออะไรก็ตามแต่ ขอเพียงท่านเอ่ยปากบอก ผมจะช่วยเหลือท่านทุกอย่าง แต่ได้โปรด ช่วยโซดาเถอะนะครับ”
เจ้าพ่อเงินกู้ก้มลงกราบเท้าผู้กำกับวัยกลางคนทันทีที่พูดจบ ไม่ปล่อยให้เสียเวลาไปแม้แต่วินาทีเดียว
“...!”
มนตรีช็อกพูดไม่ออก ได้แต่ตัวแข็งมองชายที่หมอบอยู่แทบเท้าตัวเอง สองมือนั่นประนมเฉียดกับหัวรองเท้าของเขา ชาญชัยถึงกับลืมวิธีการหายใจ ไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นว่าเป็นความจริง
“...ไอ้เสี่ยหาน! มึงบ้าไปแล้วเหรอ!!”
ชาญชัยรีบกระโจนมาดึงตัวเพื่อนรักให้ลุกขึ้นจากพื้นเมื่อตั้งสติได้ นี่มันเกินไปแล้ว... แต่หาญศักดิ์ก็ไม่ยอมขยับไปไหน
“ได้โปรดเถอะครับท่าน ช่วยเขาเถอะนะครับ”
เขาเคยปฏิญาณกับตัวเอง... ว่าเขาจะไม่มีวันก้มหัวให้ใครอีก
“เห็นแก่ความสัมพันธ์ทั้งหมดของเรา เห็นแก่ผมที่ยอมหมอบอยู่แทบเท้าท่าน ให้โซดาได้เป็นตำรวจตามความฝันเถอะนะครับ”
...แต่เพราะเป็นโซดา หาญศักดิ์จะยอมทำ
ทำทุกอย่างเพื่อให้โซดาได้สมปรารถนา...
กูรักมึงมากนะโซดา...
...กูรักมึงมากกว่าที่มึงคิด...มึงไม่มีวันรู้หรอก... มนตรีเบือนใบหน้าไปทางอื่นอย่างสะเทือนอารมณ์ ไม่อาจทนมองภาพตรงหน้าตัวเองได้อีกแม้แต่นาทีเดียว