ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง{ตอนพิเศษที่ 2 UP - 10.2.60}หน้า 42 (จบเรื่อง+รวมเล่ม)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง{ตอนพิเศษที่ 2 UP - 10.2.60}หน้า 42 (จบเรื่อง+รวมเล่ม)  (อ่าน 323483 ครั้ง)

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
 คุณคีย์ถ้ายังมัวแต่ไม่ยอมรับใจตัวเองเราจะแอบขโมยฟายมาครอบครองเองแล้วน่ะ เราชิอบเด็ก  อิอิ

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
ก็ชอบนั่นแหละ หวั่นไหวไปแล้วตั้งขนาดนี้
แต่ก็ยังขอปากแข็งอีกแป๊บนึงเนอะพี่คีย์เนอะ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
โอ้ยยยยย
แฟนเด็กมันดีนะคุณคีย์ๆๆๆๆ
อิอิ

รีบบอกฟานไปเร็ววว จะได้ฟินกว่านี้อีก อิอิ

ออฟไลน์ zombi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-5
น้องฟาน หลอกล่อคนแก่เก่งนะคะ

ยิ้มตามทั้งตอนเลย

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง
ตอนที่ 8
' โฮสคนแก่ '

“ ถ้าผมจะหันไปชอบคุณลิปคุณจะอนุญาติมั้ยครับ " ผมได้แต่นิ่งอึ้งกับคำพูดที่ร่างสูงตรงหน้าหันไปถามเพื่อนตัวเอง ที่ก็นั่งอยู่ข้างเดียวกัน ท่าทางอึกอักของอีกฝ่ายก่อนจะค่อยๆพูดสิ่งที่ตัวเองอึดอัดออกมาทั้งหมดนั้น มันไม่ใช่ง่ายๆเลยที่จะทำให้ใครสักคนเปิดเผยสิ่งที่ตัวเองเก็บไว้ออกมาได้หมดเปลือกขนาดนั้น คีย์ที่พูดออกมาเสียงดังคงสิ้นสุดความอดทนของตัวเองแล้ว " ฉันมันก็แค่คนหวงก้าง " พูดแค่นั้นก็รู้แล้วเพื่อนผมคงตกหลุมรักเด็กคนนั้นเข้าแล้วเต็มเปา แต่นิสัยแบบคีย์ ปากแข็งก็เท่านั้นไม่ยอมรับความจริงอะไรหรอก ทั้งๆที่ ทั้งสายตาที่มองทั้งการกระทำมันก็บอก ว่าทั้งชอบทั้งหวงเค้าออกขนาดนั้น แล้วนั่นก็ดีแล้วผมไม่ค่อยโอเคที่คีย์จะชอบหัวหน้าธีร์เท่าไหร่หรอก หมอนั้นดูก็รู้ว่าหวังเคลมชัดๆแต่ก็กลัวจะเสียหน้าเพราะไม่อยากให้คนอื่นคิดว่าตัวเองที่รสนิยมชอบเด็กผู้ชาย คบกันไปก็มีแต่ต้องหลบๆซ่อนๆแถมยังเป็นขี้ปากพนักงานสาวในบริษัทอีก ขอให้ฟานทำให้คีย์รักจนไม่หันกลับไปเหลียวไอ้หมอนั่นทีเถอะ คนอะไรน่ารังเกียจชะมัด

“ เก็บเงินด้วยครับ " ผมยกมือขึ้นตะโกนเรียกพนักงาน ของทอดร้านนี้กินคู่กับเบียร์แล้วอร่อยชะมัด สมแล้วที่คนชอบเบียร์อย่างคีย์แนะนำมา ถอนหายใจออกมาตอนที่คิดถึงเรื่องเพื่อนอีกครั้ง คืนนี้คงเป็นหมอนั่นแน่ๆที่ต้องแสดงบทรักทั้งคืน ฟานก็ดูจะแซ่บด้วย น่าอิจฉาชะมัดเลยน้า

“ นี่ค่ะ " พนักงานวางบิลลงบนโต๊ะ ค่าเสียหายไปเยอะเท่าไหร่น้อยกว่าเงินที่คีย์ให้ผมไว้เสียอีก
 
“ นี่ครับ " ยื่นสมุดบิลให้เค้า อีกคนก็รับไปนั่งอยู่สักพักเงินทอนก็ถูกนำมาให้ ผมเก็บทุกอย่างลงในกระเป๋า ก่อนจะหยิบถุงหนังที่ยืมมาแล้วเดินออกจากร้าน

   ถอนหายใจออกมาเซ็งๆทั้งๆที่ก็ไม่รู้ว่ากำลังเซ็งเรื่องอะไรอยู่ อิจฉาที่เพื่อนมีแฟนก็คงไม่ใช่ตัวเราก็มีแฟนอยู่แล้ว แต่คงกำลังอิจฉาที่ว่า ทั้งๆที่ไม่ชอบคนที่อายุน้อยกว่าแต่กลับได้แฟนที่แค่เห็นครั้งแรกก็รู้สึกว่าทั้งท่าทางแล้วก็ความคิดมีความเป็นผู้ใหญ่ แล้วก็ดูจริงจัง มากกว่าแฟนเด็กของเราอีกที่แม้กระทั้งตอนนี้ก็รู้ไม่เอาถ่านอะไรเลยสักอย่าง เมื่อไหร่จะเจอคนที่ใช่สักทีนะ ผมน่ะถ้าทำได้ก็อยากจะหยุดเรื่องรักๆแบบนั้นแล้ว โตแล้วอยากจะคบใครก็อยากจะคบไปนานๆ

   สัญญาณไฟแดงที่บอกให้หยุดนิ่งอยู่ที่หน้าถนนใหญ่ คว้าโทรศัพท์มือถือของตัวเองในกระเป๋าขึ้นมาตอนที่กดไปยังเบอร์โทรออกล่าสุด รอสายอยู่นานแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าปลายสายจะรับ ลดมือถือลงมากดวางสายมองดูชื่อ ' จิน ' แฟนตัวเองที่หน้าจอก่อนจะถอนหายใจออกมา

“ แบบนี้ทุกที ทีตัวเองจะมาหาละรีบให้ไปเจอ พอฉันจะหานายบ้าง ติดต่อยากทุกที " ถอนหายใจออกมาเบาๆ ตอนที่มองไปรอบๆ ไฟเขียวก็บอกเป็นสัญญาณให้เดินตรงไปข้างหน้าได้ ผมก้าวเดินตรงไปตอนที่กำลังรอขึ้นรถไฟฟ้า ตรงชานชาลาที่สถานีเดียวกันผมกลับผมคนที่คุ้นเคยเข้า

   แววตาของผมเบิกกว้าง ลมหายใจที่แทบหยุดเต้น ผมกลืนน้ำลายคงคอพลางมองภาพนั้นแบบไม่เชื่อสายตา แฟนของผม คนที่ผมกำลังโทรหาแต่กลับต้องรอสายเพราะไม่มีใครรับ กำลังยืนอยู่ใกล้ๆผมแค่นี้เอง เค้าที่กำลังกอดคอและพูดคุยสนุกสนานอยู่กับเพื่อนผู้หญิงที่ไม่ว่าจะดูยังไง ก็ไม่น่าจะเป็นแค่เพื่อน จมูกที่ก้มลงหอมแก้มเธอหลอกล้อกันแบบไม่อายสายตาของใครๆทั้งนั้น

“ จิน เมื่อกี้สายเข้านิ " เสียงผู้หญิงที่เอ่ยถาย " ยังไม่บอกเลยนะว่า ใครโทรมา "

“ คงเป็นกิ๊กสักคนของฉันแหละ "

“ เจ้าชู้จริงนะ " เธอบอก พลางยกมือขึ้นหยิกแก้มเค้า

“ ฉันนะ มีผู้ชายแก่ๆคนนึงมาจีบอยู่แหละ เป็นคนที่หลอกง่ายชะมัด พูดอะไรก็เชื่อ "

“ เหรอ แล้วนายไปหลอกเค้าทำไม ใจร้ายชะมัด "

“ สนใจอะไรละ ก็เหมือนเราแลกเปลี่ยนความต้องการกันนั่นแหละ ฉันให้ของที่เค้าชอบ เค้าก็ให้ของที่ฉันอยากได้แค่นี้ก็พอแล้วนิ คนที่มีรสนิยมแบบนั้นเค้าก็ต้องการแค่เรื่องอย่างว่าเท่านั้นแหละ " เค้าที่พูดเสียงเบาๆก่อนจะให้ไปยิ้มกับผู้หญิงคนนั้น
“ ก็จริงนะ "   

   ผมกำถุงที่ตัวเองถือมาแน่น อยากจะก้าวขาเดินไปหาช้าๆ ปรากฏตัวให้รู้ว่า ฉันเห็นเข้าแล้วนิสัยที่แท้จริงของนายตลอดมาที่เอาแต่หลอกลวงอ้อนอยากได้นู้นนี่แล้วให้ฉันซื้อให้ ฉันที่ซื้อให้เพราะคิดว่า รัก และ ชอบ ก็เลยซื้อให้ แต่นายกลับมาคิดแค่ว่าเพราะมีเซ็กส์กับฉัน ฉันก็จะซื้อให้ นายคิดว่าแค่ว่า ฉันต้องการแค่เซ็กส์อย่างงั้น คนอย่างฉันไม่มีหัวใจอย่างงั้นเหรอ ' ไอ้สวะเอ้ย '

   เสียงรถไฟบอกเทียบช้าชานชาลาในอีกไม่ช้า ผมสูดลมหายใจออกมา ตัดสินใจจบความรู้สึกตัวเองในตอนนั้นอย่างไม่อายใครเพราะไม่อยากจะเจอหน้าไอ้เหี้ยที่อีก ขาของผมก้าวออกไปมือที่กำถุงในมือแน่นผมเอ่ยเรียกเค้า " จิน "

“ ลิป " เสียงที่เอ่ยออกมาเบาๆ ด้วยสีหน้าตกใจนั้น ผมยิ้มออกมา ก่อนจะฟาดมือลงไปบนหน้าเค้าเสียเต็มแรง  ' เพี๊ยะ!! ' ใบหน้าคมหันไปตามแรงตบที่ปะทะเข้าใบหน้าเค้าที่หันขวับมามองเหมือนจะถามว่าทำไมถึงทำแบบนั้น

“ ฉันได้ยินหมดแล้วละเรื่องที่นายพูด " ผมเว้นเสียง " ไปตายซะเถอะ ไอ้สวะเอ้ย " ขาที่หันหลังเดินออกมาอดใจไม่ไหวที่จะหันกลับไปต่อยหน้ามันแรงๆอีกทีจนเซ ' ผั๊วะ ' “ แล้วอย่าไปให้ฉันเห็นหน้าอีกนะ " ผมพูดแค่นั้นนิ่งๆก่อนจะเดินขึ้นรถไฟที่จอดเทียบชานชาลาพอดี ผู้คนทั่วไปที่หันมองผม มีหลายคนที่อยากจะจับตัวไว้เหมือนข้อหาทำร้ายให้อีกฝ่ายบาดเจ็บ แต่ทว่าผมก็แค่หันไปบอกเค้า " แค่บอกเลิกแฟนที่นอกใจนะครับ "

   เดินไปยืนชิดริมประตู ผมมองออกไปนอกหน้าต่างก่อนจะหันมองป้ายที่บอกผมว่าอีกนานกว่าจะถึงสถานีของบ้านผม  ถอนหายใจออกมาอีกครั้งตอนที่กอดตัวเองไว้แน่น ในที่สุดน้ำตามันก็ไหลออกมาจริงๆทั้งที่เคยคิดมาตลอดว่า จะไม่จริงใจกับใครก็แค่คบไปเล่นๆ แต่พอเอาจริงๆ พอถูกทิ้ง ถูกหลอก ก็เป็นแบบนี้ืทุกครั้ง ร้องไห้ให้กับคนพวกนั้นแบบนี้อยู่ทุกครั้งไป

   ลำตัวของผมเริ่มงอลงเรื่อยๆน้ำตาที่ไหลออกมามากมายสมองคอยแต่คิดถึงคำพูดของเค้า  ' คนที่มีรสนิยมแบบนั้นเค้าก็ต้องการแค่เรื่องอย่างว่าเท่านั้นแหละ ' ไม่ใช่สักหน่อยฉันไม่ได้ต้องการแค่เรื่องอย่างงั้น ฉันยังคงต้องการความรัก แล้วก็ต้องการคนที่รักฉัน รักฉันจริงๆสักคน หันหน้าเข้ากับหน้าต่างกั้นเสียงที่กำลังร้องไห้อย่างหนักนั่นเอาไว้ยกมือขึ้นปิดปากตัวเองไว้แน่นเพื่อไม่ให้ส่งเสียงอะไรออกมา ผมเดินลงจากสถานีตอนที่มันบอกถึงที่หมายของตัวเอง คอนโดที่อยู่ใกล้ๆปลายทางออกรถไฟ ผมตอนเข้ามาในคอนโดตอนที่เดินขึ้นห้อง ผมก็หย่อนตัวเองลงนอนยาวกับตัวโซฟาหน้าทีวีตรงนั้น

“ ไหลลงมาอีกแล้ว " เผลอพูดกับตัวเองออกไปก่อนจะใช้หลังฝ่ามือปัดมันออกไปช้าๆ พลิกตัวเองมองดูโทรศัพท์ที่มีสายเข้ามากมายจากใครคนนั้น " จะโทรมาอีกทำไมวะ " พูดกับตัวเองก่อนจะหน้าจอแล้ววางมันไว้ให้ไกลตัว มองดูถุงหนังที่ไปยืมเพื่อนมาก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาอย่างไม่รู้จะทำยังไงกับมันดี โง่แล้วก็ยังโง่อีก โง่ที่ไปใส่ใจคนแบบนั้น โง่ที่ไปคิดถึงเค้า โง่ที่คอยแต่ทำนู้นทำนี้ให้ด้วยความรู้สึกชอบเสียมากมาย " โง่จริงๆ นายนี่มันโคตรโง่เลยลิป "

   หลับตาลงช้าๆ ผมผ่อนหายใจออกมาพร้อมน้ำตาที่ไหลลงมาอาบแก้ม คิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมาของเราก็ได้แต่เจ็บมันอยู่แบบนั้น เค้าที่เคยกอดแล้วพร่ำบอกว่ารักเราอยู่เสมอ คำพูดหวานๆที่ได้ฟัง ขอให้เป็นแค่คืนนี้ที่ฉันจะร้องไห้ให้นาย แล้วพอตื่นขึ้นมาฉันก็จะกลับไปเป็นคนเก่า  คนที่จะไม่คิดถึงนายอีกเลย

................................................

   เริ่มต้นทำงานหลังจากผ่านวันหยุดสองวันผ่านไปเร็วจนน่าใจหาย น่าแปลกหนึ่งอาทิตย์ 24 ชั่วโมงเท่ากันแท้ๆแต่ทำไมเวลาของวันหยุดถึงได้สั้นนัก เผลอนอนไปแค่แปปเดียวตื่นขึ้นมาอีกทีฟ้าก็มืดแล้ว ทีพอทำงานมองนาฬิกาแล้วมองนาฬิกาเวลาก็ยังเดินอยู่ตรงนั้น เดินช้าจริงอะไรจริง

“ อรุณสวัสดิ์ " ผมเอ่ยทักพนักงานคนอื่น ก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะของตัวเอง คีย์ยังไม่มาทำงานเลยสงสัยวันหยุดที่ผ่านมาคงจะเติมรักกันจนอิ่ม คิดในใจแบบนั้นปากก็เผลอแบะออกมาอย่างรู้สึกหมั่นไส้ อิจฉาจริงๆคนมีความรัก

“ ลิป อรุณสวัสดิ์ " หันไปมองต้นเสียงคุ้นๆที่นั่งลงที่โต๊ะข้างๆ คีย์เพื่อนผมมีสีหน้ามีความสุขดีแต่ทว่า เสียงกลับไม่สดใสเหมือนกับหน้า ซะงั้น

“ อ่า อรุณสวัสดิ์ " พยักหน้ารับช้าๆก่อนจะหลุดหัวเราะหน้าตาเกร็งๆของอีกฝ่าย " นายเป็นอะไร อมทุกข์เชียว ไม่เสร็จเหรอเมื่อคืนนะ "

“ ไม่ใช่เรื่องนั้นเว้ย! ไอ้บ้า " อีกคนโวย ผมก็ยิ่งขำ

“ แล้วทำไมทำหน้าแบบนั้น "

“ เรื่องฟานน่ะ คือฉันทำน่าเกลียดไว้กับนาย ขอโทษนะ ทั้งๆที่ว่าก็บอกไปแล้วว่าจะแนะนำให้แต่ว่า.." เค้าที่อึกอักไม่กล้าสบตาผม

“ แต่ว่านายก็ชอบเค้าไปแล้ว "

“ ฉัน " คีย์ที่กำลังจะเถียง แต่อยู่ๆก็เงียบลงก่อนจะก้มหน้าลงต่ำ เสียงเบาๆที่พูดออกมา " อื้อ ขอโทษนะ "

“ ไม่เป็นไร ฉันเข้าใจ ไม่ต้องคิดมากหรอก " ยื่นมือไปตบไหล่อีกคนที่ก็เงยหน้ามองผมแบบที่ยังไม่สบายใจเท่าไหร่นัก " ฉันเข้าใจจริงๆคีย์ เอาจริงๆฉันก็รู้ตั้งแต่เข้าไปนั่งในร้านอาหารแล้ว ฉันเป็นเพื่อนนายฉันย่อมดูเพื่อนตัวเองออกสิ ถ้านายไม่ชอบเค้าจริงๆคงให้ฉันนั่งใกล้เค้าแทนที่จะให้ไปนั่งตรงกันข้าม แล้วอีกอย่างฟานที่พูดออกมาชอบนายขนาดนั้น ฉันไม่กล้าจะเสียบหรอก เค้าคงไม่มีทางหันมาเหลียวฉันจริงๆอย่างที่ถามนายหรอก แม้นายจะตกลงให้มาก็เถอะ "

“ เหรอ "

“ เค้าดูชอบนายมากเลยนะ " ผมบอกอีกคนก็เหลือบตาไปทางอื่น ท่าทางเขินๆของเค้าคงกำลังคิดถึงหน้าของใครอีกคนอยู่แน่ๆ " ทั้งมั่นใจแล้วก็กล้า แบบว่าจับนายมาจูบต่อหน้าฉัน เป็นภาพที่ต่อให้อีกสิบปีก็คงลืมไม่ลงแน่ๆ อะไรแบบนี้ "

“ บ้า ไอ้เด็กนั่นก็แค่เด็กหื่นเท่านั้นแหละ " เค้าบอกปัดๆ ก่อนจะหันไปเปิดคอมพิวเตอร์ของตัวเองเพื่อทำงานแก้เขินคำพูดของผม

“ หื่นยังไงกันน้า แบบว่าแก้ผ้าทั้งวัน กินแล้วก็ทำกัน วนเวียนแบบนั้น แบบไม่หยุดหย่อน "

“ นั่นก็มากไป "

“ เล่าให้ฟังหน่อยสิ " ผมดึงเก้าอี้สำนักงานที่อีกคนนั่งอยู่ให้เข้ามาใกล้ คีย์ที่ถอนหายใจออกมาแก้มแดงๆของเค้าเหลือบซ้ายมองขวา " เล่าให้ฟังเลยนะ โทษฐานที่ฉันไม่ได้แอ้มแล้ว "

“ ก็มีอะไรกันนั่นแหละ จะพูดว่าไงดีละ หมอนี่มัน..ถ้ามีโอกาสถึงบอกว่าไม่ทำมันก็ทำละนะ "

“ แล้วเป็นไง ลีลาเด็ดปะ "

“ ก็ไม่แย่อะ แต่ฉันไม่ได้มีอะไรกับคนมามากมายจนบอกได้ว่า ลีลาเค้าเด็ดอะนะ "

“ แล้วเมื่อคืนกี่รอบ "

“ ต้องบอกเหรอ " อีกคนถามผมก็พยักหน้ารับ " สอง "

“ คืนก่อนที่แยกไปจากฉันละ "

“ ก็สอง "

“ แล้วนายเสร็จมั้ย "

“ นายถามอะไรเนี้ย " เค้าพูดอายๆ " ก็เสร็จสิ "

“ ก็แสดงว่าเด็ดอยู่นี่ทำให้เสร็จได้ด้วย ปกตินายเคยบอกว่านายเสร็จยากนิ "

“ ฉันเสร็จยากเฉพาะเวลาไม่อินกับคนที่อะไรด้วยก็เท่านั้นแหละ "

“ งั้นแสดงว่าคนนี้ก็อินมากเลยอะดิ " แซวเค้ายิ้มๆอีกคนก็อมยิ้มตาม " แล้วเป็นไง เค้าโอเคมั้ย นายตอนนี้คบกับเค้าแล้วเหรอ "

“ ก็ยังหรอก อื้ม เรียกว่าไงดีละ ก็ดูกันไปก่อน ลองคบกันแต่ไม่ผูกมัดอะไร ฉัน..” คีย์ที่เว้นเสียงไปก่อนจะหันมายิ้มให้ผม " ฉันชอบเค้านะ จะว่าไงดีละฉันก็ไม่เคยชอบคนอายุน้อยกว่ามาก่อน แต่ฟานน่ะไม่เหมือนคนอายุน้อยกว่าในแบบที่ฉันคิด เค้าทั้งมั่นใจแล้วก็มีนิสัยแล้วก็ความคิดเป็นผู้ใหญ่ อาจจะขี้อ้อนไปบ้างก็ตามประสาเด็ก แต่ชั้นเชิงการพูดตรงๆของเค้ามันทำให้ฉันรู้สึกว่า ชอบ ชอบเค้าจัง "

“ แต่ถึงแบบนั้นคนอย่างนายก็ยังไม่อยากจะยอมรับตัวเองใช่มั้ย หรือว่าจริงๆแล้ว ก็แค่จะเหลือพื้นที่ให้หมอนั่นกัน " ผมเชิดหน้าไปที่โต๊ะหัวหน้าอีกฝ่ายที่ส่ายหน้าไปมา

“ แค่กลัวจะผิดหวังกับการคาดหวังที่มากเกินไปตังหาก พอเรารักใครสักคน เราก็ย่อมคาดหวังว่าเค้าจะเป็นอย่างงั้น จะเป็นอย่างงี้ ฉันเลยอยากจะลองคบเค้าดูก่อน วันไหนที่รู้สึกว่าชอบมากจนต้องบอกเค้าออกไปว่าชอบแล้ว ก็คงบอกออกไป เพราะวันนั้นต่อให้เค้าไม่เป็นอย่างที่ฉันคาดหวัง ฉันคงยอมเจ็บแต่ก็คงปรับตัวเองเพื่ออยู่กับเค้าอยู่ดี ไม่รู้จะคิดถูกรึเปล่า แต่ก็คิดแบบนี้แหละ "

“ ก็ไม่แย่หรอก อย่างน้อยถ้าฟานโอเค นายโอเค ก็ไม่มีอะไรแย่ เพราะเรื่องนี้มันก็เป็นแค่เรื่องของนายสองคนเท่านั้น แต่ว่าคีย์ ฉันขอเตือนอะไรสักอย่าง การคบกันแบบไม่ผูกมัดอะ ถ้าเค้าไปมีคนอื่นนายก็จะมาโมโหไม่ได้หรอกนะ เพราะนายไม่ผูกมัดเค้าเอาไว้เอง "

“ อื้ม นั่นสินะ อย่างที่นายพูดมันก็ถูก ขอบคุณที่เตือนนะ  " สีหน้าเปลี่ยนไปของอีกคน คีย์ยิ้มออกมาจางๆก่อนจะเลื่อนตัวกลับไปทำงานที่โต๊ะของตัวเอง คนเราจะยอมรับว่าเราชอบในสิ่งที่เคยบอกว่าไม่ชอบมันคงเป็นอะไรยากมากเลยสินะ เหมือนผิดคำพูดในตัวเองอย่างงั้นเลย แต่ในความรักมันก็มีบ่อยไปไม่ใช่เหรอ พวกที่เกลียดอะไรจะได้อย่างงั้นน่ะ

   ผมหันหน้าเข้าจอคอมพิวเตอร์ ตอนที่เปิดงานที่ค้างออกมาทำต่อให้เสร็จ อยู่ๆคีย์ก็หันมาถาม " ลิปแล้ว หนังที่เอาไปเป็นไง จินเค้าชอบมั้ย "

“ เค้าไม่ได้ดูมันแล้วละ " ผมตอบอีกคนก็เอียงหน้ามาถาม

“ หมายความว่าไง ไม่ได้เจอกันเหรออาทิตย์ที่ผ่านมาน่ะ "

“ ฉันเลิกกับเค้าแล้ว "

“ ห๊ะ ! “ ใบหน้าหวานที่อ้าปากค้าง ผมสูดลมหายใจก่อนจะหันไปยิ้มให้เค้า

“ ได้ยินไม่ผิดหรอก ฉันเลิกกับเค้าแล้ว "

“ ทำไมล่ะ "

“ วันที่ฉันกลับจากร้านอาหารกับนาย ฉันบังเอิญเจอเค้านะ แล้วเค้าก็มากับผู้หญิงท่าทางก็คงเป็นแฟนกันนั่นแหละ แล้วเค้านะก็พูดถึงฉันให้ผู้หญิงคนนั้นฟัง เค้าบอกว่า คนอย่างฉันก็ต้องการแค่เซ็กส์เท่านั้นแหละเค้าตอบสนองให้เรา เราเองก็ตอบสนองของที่เค้าอยากได้ให้เค้า ฉันก็มีค่าแค่นั้นในความรู้สึกของเค้า อึก โทษทีนะ พอดีฉันจะเฮิร์ดอยู่นิดหน่อยอะ " น้ำตาที่ไหลออกมา ผมเช็ดมันอย่างรวดเร็วก่อนจะยิ้มให้เพื่อนที่ก็เอื้อมมือมาลูบหลังผมเบาๆ " ไม่เป็นไร ฉันไม่เป็นไร แต่อย่าปลอบเลยเดี๋ยวร้องไห้หนักกว่าเดิมนะ " ผมพูดติดหัวเราะตอนที่หยิบทิชชู่เช็ดหน้าตัวเองแล้วหันไปทำงานต่อ  น้ำตาบ้า ทำไมต้องไหลออกมาอีกแล้วละ น่าเบื่อจริงๆ ทั้งๆที่สองวันที่ผ่านมาก็ร้องไห้จนคิดว่าหมดแล้วไปแล้วแท้ๆ ผมถอนหายใจออกมาคลิกเม้าส์ทำงานไปเรื่อยๆ จนงานเสร็จเรียบร้อย ก่อนจะรวมไฟล์ทั้งหมด ส่งออกไปให้หัวหน้าแล้วตัวเองก็เปิดเฟสบุ๊คขึ้นดูสักหน่อย

“ ก่อนอื่นต้องบล๊อคไอ้นั่นก่อน " ผมกดบล๊อคเฟสของไอ้เด็กจินนั่น แล้วก็ไล่ดูข่าวมากมายในเฟสที่มีทั้งเพื่อนมัธยมแล้วก็เพื่อนมหาลัยแชร์มา โดยมีสเตตัสของเพื่อนคนนึงสมัยเรียนมหาลัยที่จะเยอะเป็นพิเศษ

   ' แอปเปิ้ล '  เป็นเพื่อนผู้หญิงของผมคนนึงที่ตอนนี้ยังโสดแล้วก็เป็นเพื่อนคลั่งใคล่ผู้ชายหล่อเหลาทุกชาติพันธุ์ " อะไรของมันอีกเนี้ย " ผมบ่นออกมาเบาๆ ตอนที่มันบ่นคลั่งไคล้ใครสักคนลงไปในเฟสบุ๊คของมัน ผมเข้าไปกดไลค์ ก่อนจะคอมเม้นท์ ' หาสามีตัวจริงให้ได้แล้วเลิกเพ้อถึงสามีในจินตนาการของมึงสักทีเถอะ ' แล้วในเสี้ยววินาทีนั้นมันก็กดไลค์ก่อนจะทักแชทผมเข้ามาอย่างทันท่วงที

“ ว่าไงค่ะ ไม่เจอกันนายสบายดีนะ "

“ สบายดีครับ แล้วแกเป็นยังไง เพ้อเจ้อถึงผู้ชายเหมือนเดิมเลยนะ "

“ แต่คนนี้ไม่ธรรมดาเว้ย คนนี้ไม่ธรรมดา " ถอนหายใจออกมาตอนที่อ่านข้อความนั้น

“ ยังไง "

“ แกรู้จัก โฮสคนแก่ปะ "

“ โฮสคนแก่ ? “

“ ตอนนี้อะนะ มันมีโฮสคนแก่ให้บริการปรึกษาปัญหาชีวิต คือฉันเนี้ยก็ไม่ได้มีปัญหาชีวิตอะไรหรอก แต่ตอนนั้นเครียดเรื่องงานก็เลยลองไปปรึกษาดู สรุปว่า เฮ้ย มันดีวะ "

“ ดียังไง " กูไม่เข้าใจตระกะอะไรแบบนี้อีกแล้วอะ โฮสเด็กวัยรุ่นยังพอเข้าใจ โฮสคนแก่นี่กูไปไม่เป็นเลย

“ ก็คนที่ฉันติดต่อไปเนี้ย อายุประมานสามสิบต้นๆ อื้ม ก็คุยกันแหละ เรามีปัญหาเราก็ไปปรึกษาเค้า เค้าก็ให้คำปรึกษาเรา มันทำให้ฉันคิดได้อะแก มีความรู้สึกว่าเราไม่ต้องแคร์ว่าเค้าจะรู้สึกยังไงกับเรา เพราะเค้าไม่รู้จักเราอยู่แล้ว เพราะบางทีเราปรึกษาเพื่อนมันก็พูดได้ไม่เต็มปากใช่มั้ยละ แต่ถ้าเป็นเค้าเราก็ปรึกษาได้เต็มที่เลย อย่างฉันแรกๆก็เรื่องงาน ต่อมาก็เรื่องเสื้อผ้า "

“ เรื่องเสื้อผ้าก็ได้ด้วย ปรึกษาเรื่องอะไรได้บ้างวะ "

“ เรื่องความรัก งาน ครอบครัว อะไรก็ได้ เหมือนเพื่อนชวนคุยอะแก "

“ แล้วที่บอกว่าเด็ดคือยังไง "

“ มันมีผู้ชายคนนึงเป็นหัวหน้าโฮสแหละ อารมณ์คงผู้ก่อตั้ง เค้าหล่อดีอะ สาวๆชอบซื้อเค้าไปช่วยเลือกเสื้อผ้าเพราะเค้าเลือกเสื้อผ้าเก่ง แล้วก็คุยกันเรื่องความรักอะไรแบบนั้น แต่นั่นแหละ เค้าฮอตอะ มันเลยแพง ฉันเลยเซ็งอยู่เนี้ย อยากจะได้เค้า "

“ ขนาดนั้นเลย "

“ แกลองดูมั้ย ช่วงนี้มีปัญหาอะไรรึเปล่า " เพื่อนผมบอกก่อนจะส่งลิงค์ข้อมูลมาให้

“ ขอบคุณนะ แต่ช่วงนี้คงยัง "

“ จะเก็บตังค์ไปแดกเด็กละสิ ไม่แดกคนแก่ แต่ลองเปลี่ยนรสชาติดูก็ดีนะเว้ย อาจจะติดใจ " ถอนหายใจออกมาตอนที่อ่านประโยคนั้น กูก็เพิ่งโดนเด็กทิ้งหัวมานี่ไง 

“ มันเอากันได้ด้วยรึไง "

“ เปล่าหรอก พูดไปงั้นอะ "

“ อ้าวอีนี่ "

“ ฮ่าๆ ไปทำงานละไว้คุยกันนะ "

" อื้ม ไว้คุยกันนะ " ผมกดปิดหน้าแชท ก่อนจะถอนหายใจออกมาอีกครั้ง " โฮสคนแก่เอาไว้ปรึกษาเรื่องชีวิตเหรอวะ หึ เดี๋ยวนี้มันก็มีอะไรแปลกๆเหมือนกันนะ " พูดกับตัวเองแบบนั้น มือมันก็เลื่อนเข้าไปในหน้าแชทอีกครั้ง ก่อนจะกดเปิดดูลิงค์นั้นอีก เว็บหน้าตาธรรมดา ที่มีกฏข้อบังคับมากมาย เช่น การจ่ายเงินที่ต้องมีค่าธรรมเนียมแรกเข้า บวกกับค่าชั่วโมงที่จะรับปรึกษา หนำซ้ำยังต้องจ่ายค่าอาหารในกรณีที่ไปนั่งคุยกันที่ร้านอาหาร จ่ายค่าเดินทางที่เค้าต้องเดินทางมาหาอีก " ก็แพงเหมือนกันนะเนี้ย เบ็ดเสร็จก็หลายตังค์อยู่ แต่ก็ยังน้อยกว่าไอ้เด็กดชี้ยนั่นปลอกลอกฉันละกัน " หน้าตาคุณลุงก็ไม่แย่หรอกแต่ก็ใส่สูทกันทุกคน ดูท่าทางน่าไว้วางใจใช่ย่อยเลยนะ แต่จะว่าไปพอดูอายุแล้วก็สเป็คคีย์เลยนะเนี้ย สามสิบอัพกันทั้งนั้น  " จะลองดูสักคนดีมั้ยนะ " มือที่คลิกไปเรื่อย ผมเข้าไปอ่านกฏเคร่งครัดของที่นี่นอกจากค่าใช้จ่ายแล้ว มันยังมีกฏที่ว่าคือ ไม่มีเซ็กส์กันแล้วก็จะปรึกษาในที่สาธารณะเท่านั้น " ก็ดีเหมือนกันนะ ถ้าผู้หญิงสวยๆไปปรึกษา ก็ไม่ต้องกลัวด้วย น่าสนใจๆ ลองดูสักคนดีกว่า " พอตัดสินใจได้แบบนั้น มือที่คลิกเลื่อนดูรูปไปมา ยอมรับว่าหัวหน้างานเป็นอะไรที่หล่อสุด หน้าตาก็ไม่ได้ดูแก่อะไรมากแถมยังดูลุควัยรุ่นต่างจากคนทั่วไปด้วย แต่ราคา.. แพงกว่าคนอื่นตั้งหลายเท่า " เอาธรรมดาก็พอ "

   ผมกดเลือกคุณลุงที่ดูใจดีหน่อย อายุใกล้จะสี่สิบแล้ว เค้าบอกว่าเป็นคนที่เก่งเรื่องการพูดคุยให้กำลังใจ เกียวกับการใช้ชีวิต ท่าทางจะได้ข้อคิดอะไรให้ชีวิตสักหน่อย  ผมกรอกข้อมูลตัวเอง สถานที่นัดพบ เลือกเป็นร้านอาหารใจกลางเมืองเพราะค่าเดินทางจะได้ไม่แพงมาก แค่นั่งรถไฟก็คงจะถึงแล้ว " โอเคเรียบร้อย เย็นนี้ห้าโมงมีนัดแล้ว "

“ ลิปทำอะไรอยู่ "

“ เปล่า กำลังดูตารางเวลาตัวเองอะ ว่าต้องทำอะไรบ้าง " ผมหันบอกคีย์ที่พยักหน้ารับ

“ ส่งงานหัวหน้าแล้วเหรอ "

“ เรียบร้อยครับ " ผมยิ้มบอกอีกคน " แล้วนายละ งานใหม่เป็นไง ยากมั้ย "

“ โคตรยาก ออกแบบกล่องนมแบบใหม่ที่ยังคงเอกลักษณ์เดิมไว้ แต่ก็อยากได้แปลกใหม่ มีความงุนงงสับสนในความต้องการนะว่ามั้ย "

“ ก็จริงนะ "

“ นี่ เย็นนี้เรากินข้าวกันก่อนกลับบ้านมั้ย "

“ เย็นนี้ฉันมีนัดแล้วอะ โทษที " ผมบอกอีกคนที่ก็ส่ายหน้าไปมา

“ ไม่เป็นไรหรอก พรุ่งนี้ก็ได้ "

“ งั้นพรุ่งนี้ไปกินเบียร์กันนะ "

“ อื้ม "

“ อย่าลืมพาฟานมาด้วยละ " อีกคนถอนหายใจออกมา ผมก็หันกลับไปทำงานต่อ หวงซะจริงๆ แล้วปากก็บอกว่าไม่ชอบ ซึนเดเระซะจริงนะ เพื่อนฉัน

..................................................


   เวลานัดห้าโมงเย็น ผมเดินเข้ามาถึงร้านอาหารที่นัดกับคุณลุงโฮสคนนั้นไว้ เลือกนั่งโต๊ะริมในสุด ผมสั่งน้ำเปล่าพร้อมกับอาหารของกินเล่นหนึ่งจานแต่ทว่า กินหมดไปแล้ว รอมานานกว่าสามสิบนาทีแล้ว แต่ก็ไม่เห็นมีใครมา

“ ไม่มาแล้วละมั้ง " ผมพูดกับตัวเองตอนที่ก้มดูนาฬิกา ก่อนจะยกมือขึ้นบอกให้พนักงานเก็บโต๊ะ

“ เอ่อ ขอโทษนะครับ คุณลิปรึเปล่า " หันไปมองหน้าเสียงทักหอบๆที่เอ่ยขึ้นมา ผมนิ่งไปสักพักก่อนจะพยักหน้ารับ

“ ใช่ครับผมเอง เอ่อ..คุณ หัวหน้าโฮสใช่มั้ย " จำหน้าได้จากโปรไฟล์ในเว็บที่ดูเมื่อเช้า แต่อยากจะบอกว่าตัวจริงดูหล่อกว่าในภาพถ่ายนั้นซะอีก  เค้าเป็นผู้ชายรูปร่างสูง ผิวเข้มหน่อย ใบหน้าหล่อคม แถมการแต่งตัวก็ดูดี ท่าทางมีเสน่ห์แบบนี้ ก็ไม่แปลกที่ราคาค่าเช่าโฮสของเค้าจะแพงหูฉี่

“ ใช่ครับ ผมเมษนะครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ "

“ แต่ว่าผมไม่ได้เลือก เอ่อ..คือ " จะบอกว่าไงดี คือกูไม่ได้เลือกมึง มึงแพง กูไม่มีตังค์จ่ายไง

“ คุณไม่ได้เลือกผม แต่ว่าคนที่คุณเลือกคือคุณมานพ เค้าป่วยกระทันหันเลยไม่สามารถมารับงานได้ครับ เพราะฉะนั้นผมเลยมาแทน ต้องขอโทษด้วยนะครับที่เกิดเหตุการณ์ขัดข้องแบบนี้ขึ้น "

“ อ๋อ ไม่เป็นไรครับ " ผมพยักหน้ารับ " ว่าแต่รายจ่ายก็ต้องเพิ่มขึ้นสินะครับ "

“ ไม่ต้องครับ คุณสามารถจ่ายในราคาเท่าเดิมได้เลย เพราะว่ามันเป็นความผิดพลาดที่เกิดจากทากเราที่ต้องรับผิดชอบน่ะครับ อีกอย่างผมมาสายไปสามสิบนาที ผมจะเพิ่มบริการให้ เดี๋ยวผมจะพาคุณไปเลี้ยงข้าวนะ อยากจะทานอหารประเภทไหนบอกมาได้เลย "

“ เหรอครับ เอ่อ.. งั้นอาหารอิตาเลี่ยนก็ได้ครับ "

“ งั้นก็ไปกันเลยครับ " เค้าที่เปิดทางให้ผมเดินออกไปก่อน หัวใจเต้นแรงขึ้นมาเสียอย่างงั้นแบบไม่ทราบสาเหตุ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคืนนี้จะได้อยู่กับผู้ชายหล่อๆสองต่อสอง แถมยังไม่ต้องเสียเงินค่าเลี้ยงอาหารอีก รู้แบบนี้ระบุความต้องการไปสักห้าชั่วโมงก็ยังดี นี่ระบุไปแค่สามชั่วโมงเอง น่าเสียดายชะมัด แต่ว่าที่น่าเสียดายกว่านั้นคือ ถ้าเค้าอายุน้อยกว่าเราหน่อยก็น่าจะดีนะ ก็เด็กกว่ามันชวนให้ใจเต้นมากกว่านี่น่า .. แต่ช่างเถอะ ยังไงก็แค่ปรึกษาปัญหาชีวิตนี่นะ

.................................................[/color]

มีคู่หลักก็ต้องมีคู่รอง
พักความน่ารักของน้องฟานไว้สักแปป
เรามาอ่านคู่รองกันดีกว่า
นี่แค่ อินโทร เดี๋ยวอาทิตย์หน้าจะเอามาลงแบบเต็มๆ
จริงๆได้ไอเดียโฮสคนแก่นี้มาจากบทความนึงในญี่ปุ่น เลยปิ๊งเรื่องราวขึ้นมา
ยังไง ฝากด้วยนะคะ
ใครมีทวิตฝากแท็ก #ฟานคีย์ ให้หนมด้วยนะค่าาา  หรือฝากแชร์ในเฟสก็ได้ค่าาา  :mew2:
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์ค่า  :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:

ออฟไลน์ me12inzy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
ไม่อยากได้อะไรก็ได้หมดนั่นแหละจ้าาา ยัยลิปยัยคีย์ แพ้คนแก่ กรี๊ด

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
น่ารัก...  กลายเป็นว่าสองเพื่อนซี้คู่นี้เลยได้อะไรที่เรียกว่าใช่มากกว่าสิางที่ชอบสิน่ะ

ออฟไลน์ EunSung87

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +142/-2
ลองเปลี่ยนมาสนคนแก่บ้างเปนไงลิป :L2: :L2:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
โอ้ววว. เอาละ ลิปคบคนแก่จะเปลืองเงินหรือเปลืิงตัวล่ะเนี่ย
แอบหวั่นๆน้ดนึงกับคุณโฮส. ขอแค่จริงใจก็พอเหอะคนเรา
บอกกันตรงๆว่าต้องการอะไรมาไม้ไหน. ความคาดหวังนี่ทำลายความสัมพันธ์มาเยอะแล้ว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ anntonies

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 847
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
สลับกัยแบบนี้ก็สนุกดี ลิปนี่ต้องได้แฟนแก่แน่ๆ
พอนึกถึงเรื่องบนเตียงแล้ว  :-[ :-[

ออฟไลน์ HanTwoH

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ลิปกับคีย์นี่คงได้แฟนที่ไม่ตรงสเปคทั้งคู่5555555

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
น่าสนใจนะลิป ผู้ใหญ่กว่า ดูมั่นคงกว่า

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
ลองเหอะลิป แบบคีย์ไง. อาจจะดีก็ได้นะ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
คบเด็กแล้วไม่รอด ก็มองผู้ใหญ่ดีกว่าเนาะ

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง
ตอนที่ 9
' คำถามสุดท้าย '

   ร้านอาหารอิตาเลี่ยนที่อีกคนพาผมมาเป็นร้านที่ไม่ได้หรูมากมายแต่ก็มีบริการดีแถมรสชาติอาหารยังอร่อย คนข้างๆบอกผมแบบนั้น ร้านที่เสิร์ฟไวน์คู่กับอาหารรสเลิศ แค่เรื่องอาหารก็ทำให้ลืมความทุกข์ที่เกิดขึ้นแล้ว ไม่ต้องรับปรึกษาอะไรหรอก โต๊ะที่มองเห็นวิววนอกระเบียงเป็นโต๊ะตัวที่พนักงานเดินนำเราไป ผมนั่งลงที่โต๊ะก่อนจะถอนหายใจมาพลางมองไปรอบๆ

“ อาหารที่นี้อร่อยมากเลยนะ โดยเฉพาะสเต๊กแล้วก็พวกสปาเก็ตตี้ "

“ เหรอครับ " ผมพยักหน้ารับตอนที่รับเมนูจากพนักงานมาอ่านชื่อเมนูต่างๆ ราคาอาหารก็ไม่แพงมากถือว่าเหมาะสมกับบรรยากาศแต่ไม่รู้รสชาติจะสมรึเปล่าเพราะยังไม่เลยได้ลอง  " งั้นของผมขอเป็นสเต็กเนื้อแล้วกันครับ " ปิดเมนูสั่งไปแค่นั้น ก็อยากจะกินนะสปาเก็ตตี้แต่ให้กินต่อหน้าผู้ชายนี่ไม่ไหววะ ฉากสูดเส้นเข้าปากคงไม่น่าดูชมเท่าไหร่

“ คุณลิป ทานไวน์มั้ย "

“ ก็ทานนะครับ " ผมตอบอีกคนก็สั่งไวน์แดงมาขวดนึง เป็นมื้อที่หรูหราดีจริงๆ " ว่าแต่ เลี้ยงจริงๆใช่มั้ยครับ "

“ จริงๆสิครับ เป็นการขอโทษที่ทางผมทั้งสายแล้วก็ไม่ได้บุคคลตามที่คุณต้องการด้วย "

“ จริงๆก็ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้น " ส่ายหน้าไปมาก่อนจะมองออกไปนอกหน้าต่าง

“ เรื่องที่ไม่สบายใจพูดยากนะครับ กว่าคุณจะตัดสินใจเลือกใครสักคนก็คิดแล้วคิดอีก ถึงจะบอกไม่ซีเรียสแต่คุณก็คงใช้เวลาเลือกอยู่นานนะ กว่าจะเจอคนที่คุณถูกใจที่อยากจะเปิดใจปรึกษาเค้าได้ "

“ ก็จริงครับ " ผมยิ้มยอมรับกับสิ่งที่อีกคนพูด " แล้วปกติ คนที่จ้างคุณเค้าจ้างคุณไปทำอะไรเหรอครับ "

“ ก็ส่วนใหญ่ก็มีหลายแบบครับ บางคนก็ชอบชวนผมไปซื้อเสื้อผ้า ผมเก่งเรื่องการแต่งตัวน่ะครับเค้าก็เลยชอบชวนไปเลือกเสื้อผ้าเพื่อใช้ในการเดท บางทีก็ซ้อมไปเดทบ้างก็มี หรือว่าปรึกษาเรื่องความรัก "

“ ผมไม่รู้จะเริ่มพูดยังไงดี " ก้มหน้าลงยิ้มๆให้อีกคนที่ก็ยิ้มกว้างออกมา

“ ไม่เป็นไรครับ ค่อยๆเล่าออกมาก็ได้ "

“ ผมเพิ่งอกหักน่ะ จากผู้ชายที่อายุน้อยกว่าผม " เริ่มพูดออกไปแบบนั้นก่อนจะถอนหายใจออกมา " ผมชอบคนอายุน้อยกว่าตลอดมาตั้งแต่มีความรักก็มักจะชอบคนอายุน้อยกว่า ผมเป็นนะครับ " หัวเราะฝืนๆกับอีกคนที่ก็พยักหน้ารับแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะรังเกียจอะไร " ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าทำไมถึงชอบเด็กผู้ชายนัก อาจเพราะเค้าช่างเอาใจแล้วก็คอยอ้อนอยู่ตลอดมั้ง ทั้งๆที่เจ็บมากี่ครั้งก็ไม่เคยจำสักที ทั้งๆที่ก็บอกกับตัวเองว่า อย่าไปจริงใจกับคนพวกนี้แต่ก็ยังจริงจังกับคนพวกนี้ทุกที " ขอบตาของผมเริ่มร้อนผ่าว ผมก้มหน้าลงต่ำพลางงอไหล่ตัวเองไว้ สองมือที่บีบเข้าหากัน " แล้วเมื่อสองวันก่อนผมก็เพิ่งอกหักมา ทั้งๆที่บอกกับตัวเองว่า คนนี้จะไม่จริงจัง แต่สุดท้ายก็นอนร้องไห้ตั้งสองวัน น่าตลกชะมัด "

“ บอกผมได้มั้ยว่าทำไมคุณถึงเลิกกับเค้าละ "

“ เพราะว่า ผมไปเจอเค้าโดยบังเอิญกับผู้หญิงคนนึงน่ะ ระหว่างที่กำลังกลับบ้านไปหาเค้าพร้อมกับหนังหลายเรื่องที่ของยืมเพื่อนเพื่อที่เราจะได้ใช้ช่วงเวลาที่ดีด้วยกัน ผมเจอเค้ายืนกอดจูบอยู่กับผู้หญิงคนอื่น หนำซ้ำเค้ายังพูดถึงผม เป็นประโยคที่ฟังแล้วก็รู้สึกเลยว่าผมน่ะ มันโง่จริงๆ เค้าบอกว่าผมกับเค้า ก็เหมือนคนที่แลกเปลี่ยนความต้องการกัน เค้าบอกว่าคนอย่างผมอยากจะได้แค่เซ็กส์เท่านั้น พูดว่า คนแบบนี้อยากจะได้แค่เซ็กส์เท่านั้นแหละ ทั้งๆที่ตลอดมา สิ่งที่อยากได้คือความจริงจังจากเค้าตังหาก และไม่เคยคิดเลยว่าของต่างๆที่ซื้อให้จะเป็นการแลกเปลี่ยนอะไร ผมแค่ซื้อเพราะผมอยากให้และเค้าอยากได้ มันก็เท่านั้น แต่คงเพราะความรู้สึกของเรามันไม่เท่ากัน แล้วความรักของเรามันไม่เหมือนกัน ทุกอย่างเลยเป็นแบบนี้ มองดูเพื่อนตัวเองที่ชอบคนอายุมากกว่าแต่กลับได้แฟนเด็กที่ทั้งน่ารักแล้วเอาใจ ก็รู้สึกเจ็บอยู่เหมือนกัน คนเรามันต้องเป็นแบบนี้สินะ  เราต้องได้ของที่เราไม่ชอบ คนเรามันเป็นแบบนี้ทุกคนเลยรึเปล่าก็รู้นะครับ  "

“ ไม่ทุกคนหรอกครับ " คนตรงหน้าของผมบอก " คุณแค่ไม่เจอของที่ชอบจนสามารถลืมสิ่งที่ไม่ชอบในตัวเค้าได้มันก็เท่านั้น อย่าเอาใครสักคนมาทำให้เราต้องจมปรักกับตัวเอง ว่าทำไมเราถึงเป็นแบบนั้น ทำไมเราถึงเป็นแบบนี้ ถ้าเค้าไม่รัก ถ้าเค้าไม่เห็นค่า เราก็อย่าไปให้ค่าเค้าเลยครับ แล้วก็อย่าเอาชีวิตของตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร เพราะถ้าวันไหนวันนึงคุณไปเป็นเค้า คุณอาจจะไม่อยากเป็น แล้วอยากจะกลับมาเป็นตัวคุณที่ตอนแรก คุณมองว่ามันไม่ดีก็ได้ " รอยยิ้มที่ยิ้มให้ผม เค้าหยิบทิชชูที่ตั่งอยู่บนโต๊ะยื่นให้ " เช็คน้ำตาเถอะครับ คนน่ารักแบบคุณ ไม่เหมาะกับคราบน้ำตาพวกนั้นหรอก ยิ้มดีกว่านะ "

“ ผมอยากจะหยุดความเสียใจได้ง่ายๆ เหมือนพอคุณพูดเสร็จแล้วผมก็หายเศร้า อยากทำแบบนั้นได้จังเลยครับ " แต่เพราะในความจริงแม้จะโดนปลอบดีแค่ไหน แต่ไม่ว่ายังไง ความเศร้าก็ยังคงอยู่ เหมือนกับเราที่ถูกลูบหัวแล้วบอกว่าไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวก็หาย แต่ใจในมันไม่ใช่อย่างงั้น เหมือนความเศร้าถูกพักทิ้งไว้สักพัก แล้วพออยู่คนเดียวมันก็ค่อยๆ กลับมาอีก กลับมาทำให้ร้องไห้อีก

“ ถ้าความเศร้ามันถูกทำให้หายไปง่ายๆได้ มันไม่ถูกเรียกว่า อกหักหรอก มันคงถูกเรียกว่าความเจ็บปวดทั่วไป  แต่เพราะมันไม่ได้่หายไปง่ายขนาดนั้น มันเลยมีคำเฉพาะที่บอกให้เรารู้ว่า เราเจ็บจริงๆ เจ็บจากใครคนอื่น แล้วมันก็ยิ่งกว่าคำว่าเสียใจธรรมดา "

“ นั่นสินะครับ " น้ำตาที่ไหลออกมามากมายหลังจากฟังประโยคนั้นไม่รู้ทำไมแต่อยู่ๆก็อยากจะร้องไห้ออกมาให้หมด ก็คงจะจริงอย่างที่เค้าพูด ถ้าความเศร้าหนนี้มันหายไปง่ายๆมันคงไม่ถูกเรียกว่าอกหักหรอก " แต่ผมไม่อยากจะร้องไห้ให้คนแบบนั้นเลย ทั้งๆที่บอกกับตัวเองไปแล้ว จะร้องไห้แค่สองวันเท่าไหร่ แล้วจะไม่ร้องแล้วดูสิ ตอนนี้ผมก็ต้องมานั่งร้องไห้อยู่แบบนี้ ตลกชะมัดเลย แล้วพอยิ่งห้าม น้ำตาก็ยิ่งไหล จะหยุดก็ไม่ได้ แย่ชะมัดเลย ขอโทษนะครับ ผมไม่รู้จะห้ามมันยังไงเหมือนกัน "

“ ไม่เป็นไรครับ เพราะถ้าการร้องไห้ทำให้คุณสบายใจขึ้น คุณก็ร้องออกมาเถอะ " คนตรงหน้ายื่นทิชชูให้ผมอีก ในตอนนั้นสเต๊กที่ดูท่าทางน่าอร่อยก็ถูกวางตรงหน้า มันที่ทั้งน่าอร่อยแล้วก็น่ากิน

“ อาหารน่าอร่อยขนาดนี้แล้วผมมาร้องไห้อะไรแบบนี้อยู่ คิดแล้วตลกนะครับ ก่อนอื่นต้องสูดน้ำมูกก่อน เช็ดน้ำตาแล้วก็เริ่มกินได้ "

“ ใช่ครับ " เค้ามองหน้าผมยิ้มๆ คงตลกในสิ่งที่ผมพูดอยู่เหมือนกัน " สเต๊กเนื้อที่นี่อร่อยนะครับ ลองดู "

“ แล้วคุณเมษสั่งอะไรไปเหรอครับ "

“ สเต๊กเนื้อแกะครับ " เค้าตอบ ก่อนวินาทีถัดมาสเต๊กหน้าตาน่ากินของเค้าจะถูกจัดเสิร์ฟ ผมก้มลงกินสเต๊กของตัวเอง เช็ดน้ำตาไปกินไป อร่อยมากครับแต่เสียดายที่ต้องมากินในความรู้สึกแบบนี้ จิบไวน์อย่างดีที่ถูกในแก้วไม่มีอาหารอะไรจะเฟอร์เฟ็คไปมากกว่านี้อีกแล้ว สเต๊กอร่อยๆกับไวน์แดง ผมถอนหายใจออกมาก่อนจะหันไปถามอีกคนที่มองหน้าผมอยู่ " มาคุยเรื่องทั่วไปคลายความเครียดกันมั้ยครับ "

“ ได้สิครับ " ผมพยักหน้ารับ " แล้วปกติคุณเมษทำงานอะไรเหรอครับ "

“ ผมเป็น ช่างถ่ายภาพของนิตรสารนะครับ "

“ งั้นคุณก็ต้องถ่ายรูปเก่งนะสิครับ " พอบอกแบบนั้นอีกคนก็ส่ายหน้าถ่มตัวเอง

“ ไม่หรอกครับ ธรรมดาๆน่ะ แล้วคุณลิปละครับ "

“ ฝ่ายออกแบบผลิตภัณฑ์ของบริษัทแห่งนึงครับ " ตอบเค้าไปยิ้มๆ อีกคนก็พยักหน้ารับ

“ ผมเคยได้ยินว่ามันเป็นบริษัทที่ดังมากเลยนะ คนที่ทำงานที่นั่นก็มีแต่คนเก่งๆ "

“ เหรอครับ งั้นเค้าคงไม่นับผมเข้าไปละมั้ง ฮ่าๆๆ " พูดติดหัวเราะอีกคนก็แซว

“ ถ่มตัวเองเหมือนกันนะครับ "

“ แล้วทำไม คุณถึงเลือกจะเปิดโอสแบบนี้ละ เอ่อ ผมไม่ได้มองว่ามันไม่ดีนะ แต่ผมมองว่าความคิดคุณน่ะ เจ๋งชะมัด มันไม่เหมือนใคร ทำไมคุณถึงคิดทำมันละครับ "

“ เหมือนกำลังให้สัมภาษณ์รายการทีวีเลยนะครับ " ผมหัวเราะออกมาตอนที่อีกคนพูดแบบนั้น " แล้วคุณล่ะ คิดว่ามันเป็นยังไง "

“ ให้ตอบตามตรงมั้ยครับ "

“ ตามสบายครับ "

“ ตอนแรกที่เพื่อนผมแนะนำมา ก็แปลกใจเหมือนกันว่ามันมีอะไรแบบนี้ด้วยเหรอ แต่พอคิดว่า คนเราน่ะมักมีเรื่องที่บางเรื่องบอกใครไม่ได้โฮสของคุณตรงนี้ก็เหมือนตอบสนองในจุดนั้นอะ เราไม่รู้จักกัน ไม่รู้จักคนที่ผมพูดถึง พูดอะไรไปคุณแนะนำในสิ่งที่คิดในมุมมองของคนอื่นที่เตือนสติเราได้ ในมุมมองของเพื่อน ก็ดีนะ ผมคิดว่ามันเป็นความคิดที่ดี "

“ นานๆทีจะได้ฟังทัศนคติที่ดีในสิ่งที่ผมทำนะ "

“ อย่างงั้นเหรอครับ " เค้าพยักหน้า

“ เวลาถามคำถามนี้ ลูกค้าหลายๆคนก็เหมือนคุณที่ชวนผมคุณแล้วก็หลุดคำถามแบบนี้ออกมาทุกครั้ง แต่ว่าคำตอบก็ต่างกันออกไป สารภาพครับว่าเพิ่งได้ฟังคำตอบดีๆแบบนี้ก็วันนี้แหละ "

“ ผมไม่ได้พูดเอาใจนะ พูดตามสิ่งที่คิด "

“ ผมทราบครับ " เค้ายิ้ม เราก้มกินอาหารตรงหน้าจนหมด รสชาติอาหารอร่อยจบลงแล้วผมเช็คปากของตัวเอง จิบไวน์จนหมดแก้วอีกคนก็ถาม " จะเช็คบิลเลยมั้ยครับ "

“ ก็ได้ครับ " บอกแบบนั้น มือที่ยกขึ้นเรียกบริกรให้มาเก็บเงิน เค้าก็บอก

" เหลือเวลาอีกนิดหน่อย ไปเดินเล่นกันมั้ยครับ ข้างๆร้านตรงนี้เดินไปไม่ไกลมีสวนเล็กๆอยู่ สวนที่ติดกับรถไฟนะครับ "

“ ก็ได้ครับ " ผมพยักหน้ารับ เราที่เดินออกจากร้านอาหาร ลมเย็นๆที่พัดมาผมสูดอากาศเข้าปอดก่อนที่อีกคนจะหันมามอง

“ รู้สึกดีขึ้นรึยังครับ "

“ ตอนนี้มีคุณเมษชวนพูดอยู่ ผมไม่รู้สึกอะไรหรอกครับ เหมือนมีเพื่อนชวนคุย เรื่องแบบนี้มันมักเศร้าตอนที่อยู่คนเดียวไม่ใช่เหรอ "
 
“ งั้นผมไปอยู่ด้วยตลอดเป็นไง คุณจะได้ไม่เศร้า "

“ ค่าเช่าโฮสของคุณแพงขนาดนั้น ไม่ดีกว่าครับ ผมจนพอดี " หันไปยิ้มให้เค้า อีกคนที่เลือกนั่งลงตรงเก้าอี้ในสวนตัวที่ว่าง ผมมองนาฬิกาข้อมือตัวเองเหมือนอีกแค่ สามสิบนาทีก็จะหมดเวลาแล้ว " วันนี้ขอบคุณนะครับ ที่รับฟังปัญหาของผม "

“ เหลือเวลาอีก สามสิบนาที อย่าเพิ่งรีบลากันสิครับ เบื่อผมแล้วเหรอ "

“ เปล่าสักหน่อย " อีกคนที่ยิ้มให้ สายตาที่มองมานั้นผมเผลอหลบตากับท่าทางที่ชวนให้ใจสั่นแบบนั้น " คุณเป็นโฮสรับฟังปัญหานะ ทำให้ลูกค้าใจเต้นแรงแบบนี้ก็ได้ด้วยเหรอ "

“ แล้วใจเต้นแรงเหรอครับ " เค้าที่หันมาถาม ผมก็ยิ้มแต่ก็ไม่ได้พยักหน้ารับอะไร " ผมแค่อยากจะให้คุณยิ้มได้นะครับ "

“ ขอบคุณนะครับ แต่ผมก็คงไม่เป็นไรแล้วละ เดี๋ยวทุกอย่างก็กลายเป็นความทรงจำ "

“ ขอให้มันกลายเป็นความทรงจำที่ดีของคุณนะ " เค้ายิ้มก่อนจะมองออกไปข้างหน้า " ผมหมายถึงว่าเวลาที่คุณย้อนกลับมามองมัน มันจะกลายเป็นความทรงจำที่จะทำให้คุณเข้มแข็งขึ้นถ้าเกิดว่าต้องอกหักอีก "

“ อยากจะให้เป็นแบบนั้นเหมือนกันครับ " ก้มลงดูนาฬิกาข้อมือตัวเองอีกครั้งเหลือเวลาอีกแค่ห้านาทีแล้ว " ขอบคุณสำหรับวันนี้นะครับ อาหารก็อร่อยแถมยังได้ข้อคิดด้วย "

“ ผมว่าผมไม่ค่อยให้ข้อคิดคุณเท่าไหร่เลยนะ "

“ คนอกหักน่ะ เค้าไม่ต้องการอะไรมากครับ แค่คนที่คอยรับฟังสิ่งที่กำลังเสียใจแล้วก็เป็นทุกข์มากกว่า ขอบคุณที่วันนี้รับฟังผมนะ "

“ ยินดีครับ " เค้าที่พูดแบบนั้น เสียงนาฬิกาข้อมือของเค้ามันก็ดังขึ้นผมมองนาฬิกาตัวเองหมดเวลาแล้ว ได้เวลาจากกันแล้ว เปิดกระเป๋าสะพายของตัวเองผมยื่นซองสีขาวที่เตรียมเงินใส่ไว้ในนั้นเรียบร้อยแล้ว

“ ขอบคุณอีกครั้งครับ " เค้าที่รับเงินไปใส่ลงในกระเป๋า " ผมกลับก่อนนะครับ หวังว่าเราจะได้เจอกันอีก ไว้ถ้าผมอกหักอีกผมจะโทรไปนะ คราวนี้จะนัดกับคุณเลย "

“ ค่าตัวผมแพงนะครับ "

“ ฮ่าๆ เรื่องนั้นผมไม่กลัวหรอก " พูดหยอกเหย้าอีกคนแบบนั้น ผมก้มหน้าลาเค้าก่อนจะหันหลังเดินกลับไปขึ้นรถไฟสายที่อยู่ใกล้ๆแต่ทว่าเค้ากลับทักผมขึ้นมาก่อน

“ ผมเองก็กลับบ้านด้วยรถไฟเหมือนกัน เดินกลับด้วยกันมั้ยครับ ยังไงก็ทางเดียวกัน " เค้าอมยิ้มนิดๆตอนที่เดินเข้ามาใกล้ " เพราะยังไงตอนนี้ก็เลิกงานแล้ว ผมก็เป็นแค่คนธรรมดา เดินไปที่สถานีรถไฟด้วยกันมั้ยครับ " พยักหน้ารับคำขอนั้น เราเดินข้างกันไปเรื่อยๆด้วยรอยยิ้มอย่างที่ไม่มีใครเริ่มพูดก่อน จนผมเองเป็นฝ่ายที่พูดขึ้น

“ ปกติคุณเมษ กลับบ้านกับลูกค้าเหรอครับ "

“ หมายความว่ายังไงครับ คำถามแบบนั้น " เค้าหันมามองหน้าผมยิ้มๆ สายตาที่เหมือนกำลังเข้าใจว่าผมคิดอะไร เกี่ยวกับเรื่องอย่างว่าอยู่ใช่มั้ย

“ ไม่ใช่แบบนั้น คุณคิดอะไรของคุณเนี้ย ผมไม่ได้หมายว่าคุณไปนอนกับเค้า หมายถึงกลับบ้านทางเดียวกันตังหาก "

“ จะว่าไปผมไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นเลยนะ " เค้าหันมาบอกผมที่ก็หยุดเดินก่อนจะถอนหายใจออกมา

“ คุณแกล้งกันนิ เดี๋ยวเถอะ!”

“ จะทำอะไรผมดีละครับ " ใบหน้าคมที่ก้มลงมาถาม อาจเพราะขนาดความสูงของเราที่ต่างกัน ผมเอียงหน้าก่อนยิ้ม

“ แสดงว่าก่อนหน้านี้ คุณคีฟลุคอบอุ่นนี่น่า จริงๆคุณไม่ใช่คนแบบนั้นใช่มั้ย "

“ แล้วคุณว่าผมเป็นคนแบบไหน " คำถามที่ชวนให้คิด เอียงหน้าซ้ายขวามองอีกคนก็่อนจะหลุดยิ้มออกมา " ยิ้มแบบนี้หมายความว่าไงอะ "

“ จริงๆ ผมว่าคุณเป็นกวนตีนนะ "

“ ใช้คำว่ากวนตีนเลยเหรอ " มือหนายื่นมือหมายจะตีผม เอียงตัวหลบเล็ดน้อยอีกคนก้ยกยิ้มพลางเปลี่ยนทิศทางมาบิดแก้มกันแบบนั้น แก้มกลมๆที่ถูกดึง ผมขมวดคิ้วอีกคนก็หัวเราะ " หน้าคุณตลกจัง "

“ เจ็บนะคุณ ดึงมาได้ เนื้อคนนะเว้ย " รอยยิ้มชอบใจแม้จะโดนผมทำหน้าไม่พอใจใส่ก็ตาม  " ถามจริงเถอะ คุณเป็นแบบนี้กับลูกค้าของทุกคนรึเปล่า "

“ ยังไงครับ "

“ แบบที่ว่า พอหมดเวลางานแล้วก็ชอบพูดคุยกวนตีนกับเค้านะ "

“ ก็ไม่นะครับ เพิ่งมีคุณนี่แหละ เป็นคนแรก " คำพูดธรรมดาแต่น่าแปลกหัวใจกลับเต้นแรงชะมัด อย่าลืมไปสิวะลิป เค้าเป็นโฮสนะเว้ยแน่นอนว่าต้องเก่งเรื่องพูดเอาใจอยู่แล้ว " ปกติผมก็เจอพูดคุยแล้วก็แยกกลับไปคนละทาง "

“ แม้จะต้องเดินกลับไปขึ้นรถไฟทางเดียวกับเค้าแบบผมนะเหรอ "

“ ครับ ผมจะกลับหลังจากที่เธอกลับไปหนึ่งชั่วโมง " เค้าบอกผมก็พยักหน้ารับ

“ แล้วก่อนหน้าจะมาทำงานแบบนี้ คุณเคยทำงานอะไรพวกนี้มาก่อนรึเปล่าครับ "

“ หมายถึงพวกโฮสนะเหรอ "

“ อื้ม " พยักหน้ารับอีกคนก็ยิ้ม

“ สมัยม.ปลายถึงมหาลัย ผมเคยเป็นโฮสมาก่อนด้วยละ "

“ หมายถึงโฮสแบบทั่วไป พวกโฮสบาร์นะเหรอ " ผมทวนความมั่นใจอีกคนก็พยักหน้า " ความเป็นโฮสยาวนานฝังในสายเลือดมากเลยนะคุณ "

“ ฮ่าๆ ผมว่ามันเป็นงานที่ดีนะ "

“ หมายถึงเงินดีรึเปล่า " เค้าก้มหน้าลงยิ้มตอนที่ผมบอก " คุณคงหมายถึงว่ามันช่วนบรรเทาความต้องการของใครบางคนได้ใช่มั้ย อย่างเช่น ผมที่อยากจะให้ใครสักคนรับฟังปัญหาของตัวเอง "

“ เมื่อก่อนตอนที่ทำงานแรกๆ ผมก็แค่อยากได้เงินเท่านั้นแหละ พอดี บ้านผมจนน่ะ " เค้าพูดพลางหัวเราะ " จนวันนึงเจอกับผู้หญิงคนนึงเป็นผู้หญิงอายุมากแล้วละ สามีเอาแต่ทำงานแต่เพราะวันเกิดในปีนั้นเค้าจะมีงานฉลองวันเกิดกัน ก็เลยมาจ้างโฮสแบบผมไปช่วยเลือกซื้อของขวัญให้สามี ตอนแรกผมคิดว่าอายุขนาดนี้แล้วมาชวนโฮสไปช่วยเลือกให้มันใช่เหรอ ข้ออ้างเปล่าวะ แต่ว่าทุกอย่างมันคือเรื่องจริง ที่เค้ามาชวนผมเพราะเป็นตัวแทนลูกชายที่เพิ่งเสียไปน่ะ ตั้งแต่นั้นเลยคิดว่า อาชีพนี้มันมีหลายมุมมองเหมือนกันนะ เหมือนค้นพบชีวิตว่าการที่เราทำให้คนอื่นมีความสุขแม้จะช่วงสั้นๆนั้นก็ดีแล้ว เพราะบางคนอาจจะเศร้ามามากแล้วก็ได้ "

“ แบบนั้นก็เลยมีความคิดที่จะเปิดโฮสคนวัยทำงานเพื่อปรึกษาปัญหาต่างๆสินะ "

“ จะพูดแบบนั้น มันก็ไม่ผิดหรอก " ผมที่ยิ้มออกมา รู้สึกว่าใครคนนี้อบอุ่นจัง มีความคิดที่อบอุ่นแม้จะทำงานในอาชีพแบบนั้น แบบที่ผมเคยมองว่ามันไม่ดีเหมือนแค่หลอกเงินไปวันๆ " ยิ้มอะไรครับ "

“ ต้องบอกเหรอ " หันไปถามเค้าที่มองจ้องมา ผมก็ยิ้มกว้างขึ้น

“ แค่คิดว่าคุณเป็นคนอบอุ่นจัง "

“ คนทุกคนมีข้อเสียทั้งนั้นแหละคุณ มันอยู่ที่ว่าคุณจะรับข้อเสียนั่นได้มากน้อยแค่ไหนก็เท่านั้นแหละ "

“ แล้วข้อเสียของคุณคืออะไรละ "

“ ไม่บอกครับ ต้องมาค้นหาเอง " หลบแก้มแดงๆไปทางอื่นตอนที่อีกคนพูดแบบนั้น เหมือนว่ากำลังโดนดึงดูดให้สนใจเค้าเรื่อยๆอย่างไม่มีเหตุผลเลย ผ่อนลมหายใจตัวเองออกมาช้าๆ ก็แค่ผู้ชายโฮสทั่วไปที่ต้องมีนิสัยขี้เต๊าะนั่นแหละ อีกอย่างที่เค้าทำให้เราติดใจก็เพราะอยากจะให้ซื้อเค้าในรอบหน้ามากกว่า คำพูดเอาใจที่พูดออกมานั่นก็คงมีความหมายแค่นั้นแหละ " คุณถามผมมาเยอะแล้ว ผมขอถามคุณบ้างได้มั้ย "

“ ได้สิครับ จะถามว่าอะไรเหรอ "

“ คุณชอบกินอาหารประเภทไหนเหรอ "

“ อื้ม ได้ทั้งนั้นแหละครับแต่หลังเลิกงานชอบไปกินเบียร์กับเพื่อน อาหารอิตาเลี่ยนแบบเมื่อกี้ก็ชอบนะครับ "

“ แล้วสีละครับ ชอบสีอะไร "

“ สีเหรอ อื้ม ขาวมั้ง จริงๆก็ชอบทุกสีนั้นแหละ "

“ แล้วคุณชอบอยู่บ้านหรือว่าไปเที่ยวมากกว่ากัน "

“ อื้ม แล้วแต่วันนะ ถ้าอยู่บ้านจนเบื่อแล้วก็คงอยากจะไปเที่ยว แต่ถ้ามีอะไรให้ทำที่บ้าน หรือขี้เกียจก็คงจะอยากรู้บ้านมากกว่า " ผมตอบก่อนจะถามเค้าด้วยความสงสัย  " คุณถามอะไรเนี้ย คำถามประหลาด "

“ ก็แค่คำถามทั่วไปเองครับ " เค้าบอกก่อนจะยิ้มขำๆ

“ เหมือนกำลังโดนแกล้งยังไงก็ไม่รู้ "

“ คุณชอบถ่ายรูปมั้ย "

“ ก็ชอบนะครับ " พยักหน้ารับเบาๆ เริ่มสงสัยแล้วว่าคำถามมันเริ่มแปลกขึ้นเรื่อยๆ แปลกแต่ก็ชวนใจเต้นแรง

“ คุณรังเกียจคนทำงานโฮสมั้ย "

“ ก็ไม่นะครับ "

“ แล้วคนที่อายุมากกว่าคุณล่ะ คุณชอบมั้ย "

“ ผมชอบคนที่อายุน้อยกว่า " ผมบอกอีกคนไปแบบนั้น

“ งั้นคงไม่ต้องถามคำถามสุดท้ายแล้วละครับ " เค้ายิ้มก่อนจะหันไปอีกทาง หัวใจของผมมันว่างเปล่าขึ้นทันทีตอนที่ได้ยินแบบนั้น แล้วคำถามสุดท้ายคืออะไรกันวะ

“ อย่างงั้นเหรอครับ " ถึงแม้ว่าอยากรู้ว่าคำถามสุดท้ายว่าคืออะไรแต่ใจก็ห้ามปากตัวเองให้ถามออกไป ก็ตอบไปตามความจริงนี่หว่าจะมานึกเสียดายที่ตอบแบบนั้นออกไปทำไมวะ ลิป ก็ไม่ชอบผู้ใหญ่นิ เบื่อความขี้บ่นแถมยังไม่ชอบอารมณ์บงการอะไรนั่นอีก
“ ถึงสถานีรถไฟแล้วครับ " ร่างสูงข้างๆหันมาบอก ผมที่เหมือนว่าเพิ่งรู้ตัวก็พยักหน้ารับเค้าช้าๆ ในสถานีที่แทบไม่ค่อยมีผู้คนเพราะอยู่ในช่วงเวลาที่ดึกมากแล้ว สายรถที่เหมือนไปคนละทางเค้าเดินมาส่งผมก่อน ล้วงบัตรรถไฟในกระเป๋ามาถือไว้ผมหันไปยิ้มให้เค้า " หวังว่าจะเจอกันอีกนะครับ "

“ หวังว่าแบบนั้นเหมือนกันครับ " ผมตอบอีกคนก็ยิ้ม " วันนี้ผมขอบคุณมากเลยนะครับ ทั้งที่เป็นที่รับฟังให้แล้วก็ชวนให้หัวเราะตลอดทางเดินที่เดินมาถึงสถานีรถไฟเลย "

“ ขอบคุณเหมือนกันครับ " เค้าบอก " ขอบคุณที่ทำให้ผมรู้สึกดีที่ได้เจอคุณ " เหลือบตามองเค้าที่เหมือนกำลังคิดคำพูดอะไรสักอย่าง " หมายความว่า ตอนที่เราคุยกันเกี่ยวกับเรื่องอาชีพของผม คุณทำให้ผมรู้สึกดีที่ยังมีคนที่คิดแบบนั้นอยู่ "
“ ไม่เป็นไรหรอกครับ ยังไงผมก็คิดแบบนั้นจริงๆนี่น่า แล้วผมก็รู้สึกจริงๆว่า คุณน่ะ อบอุ่นมากเลย ไปก่อนนะครับ " ก้มหน้าลาเค้าที่เดินเข้ามาใกล้ ผมกดบัตรผ่านประตูเข้าไปด้านในก่อนจะหันมายิ้มให้เค้าที่ก็เดินมาติดชิดกับแผงกั้น

“ คุณลิป "

“ ครับ "

“ เราจูบลากันได้มั้ย " เบิกตามองคนที่พูดออกมาแบบนั้นนิ่งๆ เค้าที่ยิ้มจางๆออกมา " ผมหมายถึงว่า เราแค่จูบกันเหมือนเพื่อนฝรั่งทั่วไปที่เค้าจูบลากันก็เท่านั้น "

“ งั้นผมขอถามคำถามอะไรสักอย่างก่อนหน้านั้นได้มั้ย " ผมเดินเข้าไปใกล้เค้ามากขึ้น สิ่งที่กั้นเราตอนนี้เหมือนมีแค่แผงกั้นของรถไฟฟ้าก็เท่านั้น

“ อะไรครับ "

“ คำถามสุดท้ายที่อยากจะถามผม แต่คุณบอกว่าคงไม่ต้องถามแล้ว มันคืออะไรเหรอครับ " สบสายตาคมที่จ้องมา เค้าเอียงหน้าลงมาใกล้ในขณะที่ผมหลับตาลงช้าๆ ริมฝีปากนั้นก็จูบเบาๆลงบนริมฝีปากของผม คงดีถ้าเราไม่ได้รู้สึกอะไรเกินไปกว่าคำว่าเพื่อนอย่างที่เอ่ยอ้างออกมา จูบบางเบาเพียงไม่นานผละออกข้าๆก่อนที่อีกคนจะพูดออกมา คำถามที่ผมอยากรู้

“ ' แล้วคุณชอบผมได้มั้ย ' นั่นคือคำถามที่ไม่ได้ถามคุณออกไปครับ  "

   หัวใจเต้นแรงในตอนที่เค้าเดินจากผมไป ราวกับลมแรงๆพัดเข้ามาใส่หน้า เม้มริมฝีปากตัวเองแน่นก่อนจะถอนหายใจออกมา เพราะว่าชอบคนอายุน้อยว่า นั่นคือ เหตุผลที่ว่าทำไมเค้าถึงไม่ถามต่อออกมาสินะ .. แต่กลับกัน ถ้าเกิดว่าคำถามนี้ถูกถามกลับมา..ตัวเราจะตอบว่าอะไรกันนะ ชอบ หรือว่า ไม่ชอบ กันแน่

 ............................................

" เคยมีคนบอกว่า ถ้าเราชอบใครแล้วคิดว่า คงไม่มีหนหน้าให้เจออีกแล้ว ก็ให้บอกออกไปเลย ว่าเราชอบเค้า "
#อยากรักก็ต้องเสี่ยง
ว่าแต่ถ้าเค้าถามกลับมาจริงๆ คำถามของพี่ลิปจะเป็นยังไง
ต้องติดตามตอนหน้า เวลาเดิม

วันนี้ขอจบทอล์คสั้นๆเพียงแค่นี้ พรุ่งนี้จะประกาศผลการเลือกตั้ง AKB48 ที่หนมติ่งอยู่
หนมจึงเครียดและกังวลนิดหน่อย ขอความกรุณาจบทอล์คเพียงเท่านี้ อย่าโกรธกันเลยนะเธอว์
แต่ยังไงซะ ช่วยติดแท็ก #ฟานคีย์ ด้วยนะคะที่รัก เพื่อเป็นกำลังใจให้คนแต่งคนนี้ สู้ต่อไป
หรือจะแชร์ในเฟสก็ได้นะคะ

รัก หนมมี่
ขอให้พรุ่งนี้เป็นวันดีๆด้วยเถอะ สาธุ  :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
งื้ออออออ.  :impress2:    ทำไมคุณโฮสเป็นบุคคลอันตรายต่อหัวใจแบบนี้ การเปิดเผยว่าคำถามสุดท้ายค่ออะไรนี่แหละการบ้านชิ้นสำคัญเลย.  มาแกล้งคนอกหักไม่ดีนะคะ หัวใจอ่อนแอ 
คุณลิปอ่า ไม่ต้องซีเรียสจ้า ถ้าคู่กันแล้วย่อมไม่แคล้วกันหรอกนะ
#อยากรักก็ต้องเสี่ยง ลุยเลย!
 :pig4:   Have a nice (next) day.

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ blanchet

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
คู่นี้น่ารักมากกกก แต่รุกเร็วจังนะคุณโฮส อิอิ
รอนะคะ  ชอบมากเลย

ออฟไลน์ HanTwoH

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ชอบคนแก่เถอะนุ้งลิป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ anntonies

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 847
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
ละมุนเกินไปแล้วววว สัมผัสได้ถึงความกิ๊วก๊าวในหัวใจแต่ละคน
มันดีต่อใจเหลือเกิน

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
แอบเชียร์คุณเมษอะ

เป็นคนนี้เหอะน้องลิป

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ toshika

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 819
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-4
เจอคุณโฮสแบบนร้อิชั้นก้หวั่นไหวล่ะค่ะ โอยยยยยยยงานดีเบอร์แรง

ออฟไลน์ zombi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-5
ผู้ใหญ่บางคนก็ไม่จู้จี้ขี้บ่น แถมยังอบอุ่นด้วยนะจ๊ะ

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง
ตอนที่ 10
' จงกล้าที่จะรัก '

“ ลิป ลิป  " เสียงเรียกที่ทำให้ผมหันหน้ามามองต้นเสียงช้าๆ หน้าตางงๆของตัวเองตอนที่สบสายตากับเพื่อนร่วมงาน คีย์ยิ้มจางๆก่อนจะดึงเก้าอี้ที่ตัวเองนั่งเข้ามาใกล้ผม " ไม่สบายรึเปล่า เหม่อตั้งแต่เช้าเลยนะนาย เรียกเท่าไหร่ก็ไม่ตอบ "

“ อรุณสวัสดิ์คีย์ "

“ อรุณสวัสดิ์ " เค้าตอบยิ้มๆแต่ก็ยังขมวดคิ้วสงสัยอยู่ " เป็นอะไรวะ เหม่ออะไรตั้งแต่เช้า "

“ ไม่มีอะไรหรอก ว่าแต่นายมาเช้าจังนะ "

“ เช้า ? “ อีกคนทวนเสียงตอนที่มองนาฬิกาที่ติดผนังมันบอกเวลากำลังจะเข้างานแค่ห้านาทีเอง " นายมากกว่ามั้งที่มาเช้า ฉันน่ะ สาย "

“ แล้วทำไมนายถึงสายละ " ผมถามอีกคนที่ถอนหายใจออกมา

“ หมาที่บ้านกวนประสาท "

“ กวนประสาทจนไม่ได้นอนใช่มั้ย " คีย์ขมวดคิ้วก่อนจะส่ายหน้า

“ มันบังคับให้ฉันกินอาหารเช้าที่มันทำ ทั้งๆที่ฉันตื่นสาย ไม่ให้หงุดหงิดได้ไงวะ ฉันจะมาทำงานเพราะไอ้ขนมปังแผ่นเดียว น่าหงุดหงิดชะมัด แล้วยังมายิ้มตอนที่ยัดขนมปังเข้าปากฉันได้สำเร็จอีก " ประโยคหลังที่บ่นออกมาเบาๆ ผมก็เอียงหน้าแซว

“ ยัดแบบไหนอะ ป้อนปากต่อปากรึเปล่า "

“ นายดูหนังที่ฉันให้ยืมไปมากไปรึเปล่าลิป " หน้าแดงๆที่เบือนไปอีกทาง ก็ถ้าปากแข็งแบบนี้มันต้องมีฉากหวานๆอะไรทำนองนี้แน่ๆ รับรองได้เลย " ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย "

“ แล้วแบบไหน " ผมถามอีกคนก็เงียบไปตอบ คีย์ที่จ้องผมให้ทายว่าต้องเปลี่ยนอีกแน่รายนี้

“ แล้วทำไมวันนี้นายมาเช้าจัง " หุบยิ้มทันทีสำหรับคำถามที่อีกคนถามผมออกมา จะบอกออกไปยังไงดี เมื่อคืนไปเจอเรื่องชวนใจเต้นที่ทำให้นอนไม่หลับจนถึงเช้า เรื่องใจเต้นที่มาจากผู้ชายอายุมากกว่าตัวเองทั้งๆที่ปกติก็ใจเต้นกับเด็กมาตลอดนี่อะนะ

“ เอ่อ.. ก็ไม่มีอะไรหรอก แค่นอนไม่หลับแล้วก็เห็นว่าใกล้เช้าแล้วก็เลยตื่นขึ้นมา จัดห้อง อาบน้ำแล้วก็ออกมาทำงานเลย "

“ นอนไม่หลับ ยังไงกันน่ะ เครียดเหรอ เรื่องนั้นน่ะ "

“ เรื่องไหน " ผมถามในสิ่งทีอีกคนกำลังคิดอยู่

“ ก็เรื่องของแฟนเก่านาย "

“ ไม่ใช่สักหน่อย ไม่ได้คิดถึงคนนั้นแล้ว " คีย์พยักหน้ารับ แม้จะยังสงสัยอยู่แต่ก็คงไม่พูดอะไรมาก เราแยกย้ายกันไปทำงาน วันนี้งานชิ้นใหม่จะถูกส่งมาในอีเมล์แล้ว แต่ผมก็ยังไม่มีกระจิตกระใจที่อยากจะทำเลยสักนิด นั่งมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ของตัวเองแล้วถอนหายใจออกมา ผมมองซ้ายดูขวาก่อนจะเลื่อนหน้าจอแรกของวันไปที่เฟสบุ๊คของตัวเองแทนที่จะเป็นอีเมล์งาน เมจเสจที่เพื่อนส่งมาให้เมื่อวานผมคลิกมันดูอีกครั้ง ' เว็บไซต์เช่าโฮสหนุ่มสูงวัย' ตอนที่เลื่อนขึ้นไปที่หน้าจอบนสุดเพื่อดูรายชื่อของทุกคน ผมหยุดอยู่ที่รายชื่อของคนคนนึง แม้จะเป็นการเจอกันแบบที่ไม่ค่อยอยากเจอ แต่ว่าตอนนี้ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ผมรู้สึก ' อยากเจออีกจัง '

“ ลิป นายช่วยดูหน่อยว่าสีไหนมันดีกว่ากัน " เสียงทักที่มาพร้อมกับร่างบางที่เลื่อนเก้าอี้เข้าหา ผมเหม่อจนคว้าเม้าส์มาคลิกปิดแทบไม่ทัน คีย์นิ่งอยู่ตรงนั้นตอนที่หันไปมองผมก็ถาม

“ เอ่อ คือ "

“ นี่นายจะเช่าโฮสเหรอ " คำถามที่ทำให้ผมหยุดนิ่ง อ้าปากอยากจะเถียงเพื่อนที่กำลังเข้าใจผิด หรือเข้าใจถูกกันแน่ก็ไม่รู้ แต่ว่าหมอนี้แน่นอนว่ามันต้องมองไปในแง่ลบแน่ๆ " ไปเช่าโฮสมาใช่มั้ย "

“ ก็ ราวๆนั้น แต่มันไม่ใช่แบบทั่วไปนะ "

“ แล้วมันเป็นแบบไหน "

“ โฮสแบบผู้ใหญ่ให้คำปรึกษา ปัญหาชีวิต " คีย์เงียบผมเองก็เงียบอีกคนที่ขมวดคิ้วพลางถอนหายใจออกมา

“ แล้วทำไมนายไม่ปรึกษาฉัน " กะแล้วว่าต้องพูดออกมาแบบนี้ " ฉันมันไม่น่าให้คำปรึกษารึไง "

“ คีย์ ไม่ใช่แบบที่นายกำลังคิด อย่าเพิ่งงอนสิ "

“ ไม่ได้งอน " คนปากแข็งบอก ก่อนจะพูดเชิงน้อยใจออกมา " ฉันแค่คิดว่า เราเป็นเพื่อนกันแล้วเราก็น่าจะพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง อย่างที่ฉันเองก็คุยกับนาย "

“ เราคุยกันได้ทุกเรื่องคีย์ "

“ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องนี้ใช่มั้ยละ "

“ ไม่ใช่ ฟังก่อนสิคือเมื่อวานเพื่อนฉันมันแนะนำฉันมา ฉันน่ะไม่มีความคิดจะไปหรอกจริงๆนะ ฉันน่ะลำพังปรึกษากับนายก็พอแล้วแต่เพื่อนฉันน่ะบอกว่าดีมาก คือได้ข้อคิดเกี่ยวกับชีวิตเหมือนเราได้ไปนั่งพูดกับคนที่มีวุติภาวะทางความคิดสูงกว่าเรา คนที่ประสบการณ์มากกว่า ฉันเลยคิดว่าอยากจะลองฟังทัศนคติเค้า ฉันเลยตัดสินใจไป " ผมบอกก่อนจะเอียงหน้ามองอีกคน " จริงๆนะคีย์ ไม่ได้คิดอะไรแบบที่ว่าไม่อยากจะเล่าเรื่องนั้นให้นายฟังเลย "

“ ฉันรู้สึกไม่ดีเพราะเวลาที่ฉันมีปัญหา นายอยู่ข้างฉันตลอด เพราะงั้นเวลาที่นายมีปัญหาฉันเลยอยากจะเป็นคนที่ข้างๆนายเหมือนกัน "

“ เลิกกับฟานแล้วมาคบกับฉันมั้ย "

“ ไอ้บ้า!! “ พอล้อออกไปแบบนั้นอีกคนก็เหวี่ยงกลับ ท่าทางน่ารักแสนงอนแบบนั้นฟานจะรับมือท่าไหนผมละอยากรู้ แต่นี่แหละเสน่ห์ของคีย์ละมั้ง จะมีใครเอาแต่ใจได้น่ารักเท่าเค้าละ ที่แม้ดูท่าทางไม่สนใจอะไรแต่ว่าจิตใจก็อ่อนไหวแถมยังแคร์ความรู้สึกใครๆเป็นที่หนึ่ง

“ ไหนบอกว่าไม่ชอบ ชวนเลิกกับฟานก็ไม่เลิกนะ "

“ ไม่ได้คบสักหน่อย จะเลิกได้ไง "

“ งั้นฟานฉันขอ ขอมาดามใจหน่อย " พอพูดออกไปตรงๆอีกคนก็เบือนหน้าหนี คีย์ที่ถอนหายใจออกมาเค้ากัดริมฝีปากล่างตัวเองเบาๆอย่างไม่รู้จะทำยังไง ก่อนจะพูดออกมาเสียงไม่เบานักด้วยแก้มแดงๆ

“ ไม่ให้ "

“ แล้วก็ยังปากแข็งไปยอมตอบรับว่าชอบเค้านะ "

“ ก็ฉันยังไม่อยากจะตอบนี่่ กลัวหมอนั้นได้ทีแล้วเปลี่ยนใจ " กลืนน้ำลายลงทำท่าทางไม่สนใจก่อนจะหันมาหาผม " อย่าพูดถึงไอ้ลูกหมานั่นเลย มาคุยเรื่องนายดีกว่า ตกลงว่ายังไง อะไรคือโอสให้คำปรึกษา แล้วนั่นที่เปิดหน้าเว็บไว้แบบนั้นจะไปอีกเหรอ "

“ ก็นะคิดว่างั้น "

“ นายติดใจคนรุ่นพ่อรึไง "

“ ก็มากไป ไม่ใช่รุ่นพ่อสักหน่อย " ผมเถียงก่อนจะเหลือบมองหัวหน้า " รุ่นหัวหน้าตังหาก "

“ เหรอ " เสียงสนใจของคีย์ ผมถอนหายใจ

“ นี่ นายมีฟานอยู่แล้วนะ "

“ แค่บอกว่าเหรอ เองไม่ได้อะไรสักหน่อย "

“ ก็ตอนแรกนัดคุณลุงอายุ สี่สิบไว้  "

“ เล่นของแรงนะนาย สี่สิบเลย "

“ ปรึกษาปัญหาชีวิตเว้ย " ผมย้ำอีกคนก็ยิ้มขำ " ก็นัดเค้าไปรอไปครึ่งชั่วโมงเค้ายังไม่มาก็เคยคิดว่าคงไม่มาแล้ว แต่พอจะกลับ หัวหน้าเค้าดันมาแทนน่ะ "

“ หัวหน้าเค้าอายุเท่าหัวหน้าเราเหรอ "

“ อื้ม " ผมพยักหน้ารับคีย์ก็ยิ้มจางๆ " นายอย่ายิ้มสิ "

“ ก็มันยิ้มเองนิ อะไรกันเล่า " อีกคนบอกปัด ผมก็ถอนหายใจออกมา " แล้วหน้าตาเค้าเป็นไง "

“ ก็หล่อ หล่อกว่าหัวหน้าอีก "

“ ไม่เชื่อละ " คีย์ส่ายหน้า

“ อะไรกันเล่าทีนายยังบอกว่าฟานหล่อกว่าหัวหน้าเลย "

“ ก็นั่นมันฟานนิ "

“ จะบอกว่า แฟนตัวเองหล่อมากเลยงั้นสิ " เค้าไม่ตอบผมก็ถอนหายใจด้วยความหมั่นไส้ " ก็หล่อนะ เค้าไม่ได้อยู่แบบหัวหน้าอะ แต่อยู่ไปทางแนว หล่อเข้มๆมากกว่า ก็สมชายเลยแหละ ตาเค้ามันมีเสน่ห์เวลามองแถมยังเป็นคนอบอุ่นสมเป็นผู้ใหญ่ "

“ ขนาดนั้นเลย "

“ แล้วคราวนี้เพราะว่าเค้ามาสายแถมไม่ใช่คนที่ฉันเลือกเค้าเลยปรับเวลาให้เท่าเดิม แถมยังพาไปเลี้ยงข้าวเป็นการขอโทษด้วย เราก็ไปกินข้าวกันแล้วก็คุยกันแหละ "

“ คุยเรื่องปัญหาชีวิต ? "

“ ตอนแรกก็จะปรึกษาปัญหาชีวิตอยู่นะ  แต่ไปๆมาๆ ฉันดันร้องไห้ใหญ่โตแล้วพูดเรื่องไอ้เด็กสวะนั่นให้เค้าฟังซะงั้น แต่ก็ดีนะแกเค้าก็ปลอบแหละ ได้อะไรเยอะเลย "

“ แค่นั้นแกเลย ติดใจเค้า "

“ ก็เปล่าหรอกนะ " ผมส่ายหน้าอีกคนก้ขมวดคิ้วงง

“ แล้วมันยังไง "

“ ก็ตอนที่หมดเวลาแยกกลับบ้านใครบ้านมัน อยู่ๆเค้าก็ขอกลับบ้านทางเดียวกับฉัน ทั้งๆที่ว่าตามกฏแล้วเราต้องกลับคนละทางกัน "

“ อ่าห๊ะ แล้วไงต่อ "

“ จะพูดยังไงดีเค้าเปลี่ยนไปจากโฮสคนที่ปลอบใจก่อนหน้านั้นเลย ทั้งตลกแล้วก็กวนตีน ชวนหงุดหงิดแต่ก็นะ.. “

“ ทำให้ใจนายมันเต้นแรงสินะ " ผมพยักหน้ารับ " นี่แหละเสน่ห์ของความเป็นผู้ใหญ่ คนที่อายุมากกว่าเราอะนะเวลาอยู่ด้วยก็รู้สึกอุ่นใจ การกระทำของเค้ามันจะไม่มาตรงๆแบบเด็กๆ แต่ว่าจะมาแบบอบอุ่นแต่มีชั้นเชิง "

“ จะว่าไปก็เป็นแบบนั้น เราคุยกันหลายเรื่องระหว่างทางจากร้านไปที่รถไฟ คุยไปเดินไปจนอยู่ๆเค้าก็หันมาถามฉันเรื่องของฉันเกี่ยวกับของที่ฉันชอบ จนเค้าถามว่า ฉันชอบคนอายุมากกว่ามั้ย "

“ แล้วนายตอบว่า "

“ ฉันตอบว่าฉันชอบคนอายุน้อยกว่า "

“ โธ่ ลิปปปปปปป ยืนอยู่ตรงหน้าแล้วนะ จะตอบแบบโกหกใจตัวเองหน่อยมันจะไม่ได้เลยรึไง "

“ ก็ฉันไม่รู้นิ ว่าคำถามต่อไปมันจะเป็นอะไร "

“ แล้วคำถามต่อไปมันคืออะไร " คำถามที่ทำให้ผมนิ่ง เม้มริมฝีปากตัวเองกับใจที่เต้นแรงก่อนจะตอบเพื่อนออกไป

“ แล้วคุณชอบผมได้มั้ย เป็นคำถามต่อไป "

“ อะไรนะ "

“ แต่ว่าเค้าไม่ได้ถามฉัน เพราะพอฉันบอกเค้าว่า ฉันไม่ชอบคนอายุมากกว่าเค้าก็บอกแค่ว่า งั้นคำถามต่อไปก็คงไม่ต้องถามแล้ว "

“ แล้วแบบนั้น นายรู้สึกยังไงเหรอ "

“ ฉันไม่รู้อะ ฉันรู้สึกไม่อยากจะทำงาน ฉันอยากจะคุยกับเค้าอีก คุยให้รู้เรื่องเพราะแค่บอกว่าไม่ชอบคนอายุมากกว่าแค่นั้นเค้าก็ตัดใจไปแล้วเหรอ "

“ นายชอบเค้าเหรอ "

“ ก็ประทับใจมากเลยแหละ " ผมพยักหน้ารับอย่างยอมรับ จะบอกว่าไงดีจะพูดว่าชอบก็คงไม่ได้แต่ประทับใจในตัวเค้า ถ้าเราได้ลองศึกษากันมันคงดี อยากรู้ว่าผมจะเปลี่ยนทัศนคติกับคนที่อายุมากกว่าที่ตัวเองไม่ชอบได้มั้ย แต่เค้าไม่ได้ให้โอกาสให้ผมทำแบบนั้นเลย แค่บอกว่าไม่ใช่สเป็ค เค้าก็ตีตัวออกห่างแล้ว " แต่เค้าไม่ให้โอกาสฉันเปลี่ยนความคิดแบบที่ ฟานให้นายเลยนะ "

“ อย่าเอาฟานไปเปรียบเทียบกับเค้าสิ หมอนั้นมันหน้าด้านบอกว่าไม่ชอบก็ยังตื้ออยู่ได้ "

“ แต่เพราะเป็นแบบนั้นไม่ใช่รึไง นายถึงชอบเค้า "

“ ก็นะ " คนตรงหน้าผมพยักหน้ารับก่อนจะถอนหายใจ " แล้วนายรู้สึกยังไงกับเค้า นอกจะประทับใจแล้ว อยากจะเจอเค้าอีกเหรอ "

“ อื้ม " ใช่ อยากจะเจอเค้าอีก ทั้งๆที่ว่าโอกาสที่เจอคงจะไม่มีแล้วแต่ว่าก็อยากจะเจอเค้าอีก ไม่รู้ทำไมทั้งๆที่ว่า ถ้าเจอปากก็คงไม่รู้จะพูดอะไร ไม่มีประโยคอะไรที่อยากจะพูดกับเค้าเป็นสำคัญเลย ความรู้สึกตอนนี้มันแค่อยากจะเจอ อยากจะเจอหน้าเค้า มันก็เท่านั้น

“ ลองซื้อเค้ามาเป็นโฮสของนายสิ "

“ ห๊า “ ผมสบถออกมาตอนที่มองอีกคนที่พยักหน้ารับ

“ ก็ถ้านายอยากจะเจอเค้า มันก็มีทางเดียวไม่ใช่เหรอ ก็คือซื้อตัวเค้ามาคุยด้วย "

“ แต่ฉันไม่รู้จะซื้อเค้ามาทำไม "

“ ก็ถ้าไม่รู้จะพูดอะไร ซื้อมาช่วยเดินเล่นเป็นเพื่อนที่ถนนตอนกลางคืนก็ได้นิ มันก็แล้วแต่เรารึเปล่า เราเป็นลูกค้านะ "

“ เอาอย่างงั้นเลย "

“ อย่างงั้นแหละ ไม่งั้นจะเจอกันได้ไงละ " คีย์ที่บอกออกมาแบบนั้น ก่อนจะหันไปมองที่หน้าจอตัวเองเพราะเหมือนมีอีเมล์ใหม่เข้ามา สีหน้างงของเค้าผมเองก็เอียงหน้าจอของเค้าแต่ทว่าก็ไม่เห็น

“ มีอะไรเหรอ ใครส่งเมล์มา "

“ หัวหน้าน่ะ " เค้าบอก " เรียกฉันไปพบที่ห้องประชุม "

“ แก้ไขงานอะไรเปล่า "

“ กำหนดส่งงานฉันมันอีกตั้งสามวันนะ "

“ งั้นก็ไม่รู้สิ " ผมยักไหล่ไหวๆอีกคนก็เอียงหน้างงไปมา " สารภาพรักละมั้ง "

“ บ้า "

“ ถามจริง ถ้าโดนสารภาพรักจะทำยังไง "

“ ไม่รู้สิ ต้องโดนสารภาพรักจริงๆถึงจะบอกได้ อีกอย่างฉันว่าคนอย่างหัวหน้าไม่บอกหย่าเมียง่ายขนาดนั้นหรอก " อีกคนว่าขำๆ " งั้นฉันไปก่อนนะเดี๋ยวมา "

“ โชคดีนะ "

“ นายเองก็รีบกดซื้อโฮสแล้วเตรียมตัวไปเดทเย็นนี้ได้แล้ว " พยักหน้ารับคำพูดนั้นตอนที่หันไปมองหน้าจอของตัวเองอีกครั้ง ผมสูดลมหายใจเข้าไปในปอด ก็อยากจะเจอนี่น่า ถึงไม่ได้พูดอะไร ยังไงก็ยังอยากจะเจอ เอาก็เอาวะ ตัดสินใจได้แบบนั้นมือก็กดคลิ๊กเข้าไปติดต่อ แต่ทุกอย่างก็ทำให้ต้องอึ้งอยู่ตรงนั้น " คิววันนี้เต็มแล้ว แล้วคิวอีกหลายๆถัดไปก็เต็มแล้ว ว่างอีกทีคือ สองเดือนหน้า นี่มันคืออะไรเนี้ย " มองหน้าตาโปรไฟล์ของเค้าแล้วถึงกับถอนหายใจออกมาแม้ราคาจะแพงหูฉี่แต่ถ้าคนที่ชอบเค้าก็คือชอบเค้านั่นแหละ ยังไงก็ยอมจ่ายอยู่แล้ว " แบบนั้นจะไปจองวันไหนได้อีกวะ " กดปิดหน้าจองอย่างไม่รู้จะทำยังไงดี ดวงมันจะไม่ได้เจอก็คงไม่ได้เจอนั่นแหละ " คงไม่มีดวงได้เจอแล้วละมั้ง " เมื่อคืนไม่น่าจะตอบออกไปแบบนั้นเลย อย่างที่คีย์บอก ' จะโกหกหน่อยก็ไม่ได้ '

   ผมเปิดอีเมล์ออกมาทำงานด้วยความรู้สึกเซ็งๆ มือที่วาดงานร่างไปเรื่อยๆ ก่อนที่เพื่อนที่นั่งข้างกันจะนั่งลงผมก็หันไปถาม " ตกลงว่าไง สารภาพรักมั้ย "

“ แค่ชวนไปกินข้าวตอนเย็นน่ะ " เค้าบอกผมก็เผลอแบะปากขึ้นมาซะงั้น บอกเลยว่าไม่เชียร์คนแบบนี้เท่าไหร่หรอก

“ แล้วนายตอบว่าไง คงไปสินะ ร้านไหนละฉันจะแอบบอกฟานให้ไปป่วน "

“ ฉันตอบปฎิเสธไปอะ " อีกคนที่หันมาถอนหายใจให้ผม เค้าเกาหัวตัวเองเหมือนว่า ก็ยัง งงๆ กับตัวเองเหมือนกัน  " พอดีนัดกับฟานไว้ว่าจะไปชอปปิ้งด้วยกัน ไอ้หมอนั่นพอฉันบอกว่าจะไปด้วยก็ เขียนรายการของที่จะซื้อยาวเป็นหางว่าว เพ้อฝันว่าจะได้ไปจนน่ารำคาญ บอกว่าจะกินนู้นกินนี่อีก ไม่อยากจะทำลายความฝันของเด็กอะนะ ก็เลยนั่นแหละ ก็ปฎิเสธเค้าไป "

“ ฉันว่านายไปกับฟาน นายคงมีความสุขมากกว่าไปกับเค้าแน่ เชื่อเถอะ อย่างงั้นก็ดีแล้ว "

“ แล้วนายละ ตกลงว่าซื้อโฮสได้มั้ย "

“ คิวเค้ายาว อีกสองเดือนหน้าถึงจะว่าง "

“ ห๊า " คีย์อ้าปากค้างงงๆ " ขนาดนั้นเลย "

“ อื้ม ก็คนชอบเค้าก็คงเยอะแหละ ช่างเถอะถึงตอนที่เค้าว่างตอนนั้น ฉันก็คงจะลืมเค้าไปแล้วละมั้ง นายก็รู้พอฉันเจอเด็กใหม่ๆ ฉันก็ลืม " ผมพูดยิ้มๆ " ทำงานดีกว่าจะได้เอาเงินไปเลี้ยงเด็กที่หน้าตาถูกใจอีก " ผมเลื่อนเก้าอี้กลับมานั่งทำงาน ถึงในใจจะรู้สึกแย่แค่ไหนแต่มันก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ทุกอย่างมันจบไปแล้ว เราเองก็เลือกที่จะพูดแบบนั้นเอง อีกคนอย่างเมื่อคืนตอนที่จูบกัน ถ้าเกิดว่าเราเป็นคนรั้งเค้าเอาไว้ ตอนนี้มันจะเป็นยังไงนะ

   ( ต่อ..)

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
ผมปิดคอมหลังจากทำงานเกินเวลามาเสียนาน มองดูเวลาตอนนี้ที่ใกล้จะสองทุ่มแล้วก็ต้องถอนหายใจพอได้ทำงานก็เผลอทำจนลืมเวลาไปทุกที หันมองไปที่โต๊ะข้างๆก็ออกไปจากออฟฟิศตั้งแต่ยังไม่ทุ่มแล้วทั้งๆที่ทุกครั้งจะกลับด้วยกันแท้ๆ แต่คนมีความรักมันก็พูดยาก แต่แบบนั้นก็ดีชีวิตคีย์ที่เอาแต่ติดบ้านไม่ออกไปไหนไม่ค่อยมีสังคมจะได้มีอะไรแปลกๆใหม่ๆเข้ามาบ้าง

“ วันนี้หาอะไรกินก่อนกลับดีกว่า " พูดกับตัวเองแบบนั้น ขามันก็เดินออกไปยังถนนอีกสายที่ติดกับห้างแล้วก็ร้านอาหาร เดินตรงไปเรื่อยๆมองดูเสื้อผ้าที่คิดว่าสวยแต่ขาก็เดินผ่านไป ก่อนที่จะหยุดชะงักลงเพราะเสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าที่ดังขึ้น ขมวดคิ้วมองเบอร์แปลกที่โทรเข้ามาด้วยความงง ก่อนจะกดรับ " สวัสดีครับ "

“ สวัสดีครับ คุณลิป "

“ คุณเมษ " เสียงที่จำได้ผมหยุดนิ่งอยู่ตรงนั้น ในใจที่เต้นแรงอยู่ๆหน้าก็แดงออกมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ ผมเม้มริมฝีปากของตัวเองอย่างควบคุมอารมณ์ตื่นเต้นของตัวเองไว้ไม่อยู่

“ ขอโทษนะครับที่ใช้เบอร์ที่คุณกรอกข้อมูลไว้โทรมาหา "

“ ไม่เป็นไรครับ " บอกเค้าแบบนั้นก่อนจะยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้ จะบอกว่าดีใจ ก็สารภาพออกไปตรงๆเลยว่า ดีใจมาก

“ แล้วนั่นจะไปไหนครับ "

“ เอ๋ ? พูดเหมือนรู้ว่าผมกำลังเดินอยู่เลยนะ “

“ ก็รู้นะสิครับว่าคุณกำลังเดินอยู่ แถมผมยังรู้ได้ด้วยนะว่า เมื่อกี้คุณแอบมองเสื้อตัวสีฟ้าตรงร้านสีแดงที่เดินผ่านมา "

“ รู้ได้ไงอะ " ผมถามอีกคนก็หัวเราะ " คุณอยู่แถวนี้เหรอ " ผมหันมองซ้ายขวาแต่ก็ดูเหมือนไม่มีเค้ายืนอยู่ตรงนี้เลย

“ วันที่เจอกันผมเอากล้องติดไว้ที่กระเป๋าคุณน่ะ ผมเลยรู้ "

“ ห๊าาา " ผมยกกระเป๋าของตัวเองขึ้นมาดู ปลายสายก็หัวเราะออกมาเสียงดังลั่น " นี่ โกหกกันใช่มั้ย "

“ แล้วคุณจะเชื่อด้วยนะ "

“ คุณนี่จริงๆเลยนะ " ผมทำหน้างอนตอนที่ถอนหายใจออกมา ปลายสายก็บอก

“  เวลาคุณทำหน้างอนๆแล้วน่ารักจัง อยากจะหยิกแก้ม "

“ คุณอยู่ไหนน่ะ บอกมาซะดีๆเลยนะ "

“ ถ้าเกิดว่าผมบอก ขอหยิกแก้มคุณหนึ่งทีได้มั้ยละ "

“ ก็ได้ บอกมาสิครับว่าอยู่ไหน "

“ แสดงว่าคุณอยากจะเจอผมอยู่ละสิ " เค้าแซว

“ ใครจะอยากเจอโฮสสุดฮอตที่มีค่าชั่วโมงแพงหูฉี่ แต่กลับมีคนจองล่วงหน้าตั้งสองเดือนแบบคุณละ "

“ แสดงว่าเข้าไปจองตัวผมสินะถึงได้รู้ ว่าคิวผมจะว่างอีกสองเดือน " ถอนหายใจสอดไปตามสาย เค้าที่หัวเราะๆออกมาเบา " แล้วตกลงว่าถ้าเจอกันหยิกแก้มได้มั้ยละครับ "

“ ก็ได้ อยู่ไหนละคุณ "

“ แล้วถ้าทำอย่างอื่นละครับ "

“ ทำอะไรครับ "

“ ก่อนอื่นก็ยืนตรงๆก่อนนะ นิ่งๆหันหน้าไปทางที่ยืนนั่นแหละตรงๆ " ยืนนิ่งตามที่อีกคนบอก " แล้วจากนั้นก็ค่อยๆเอียงหน้ามามองข้างหลัง ผมที่ทำตามที่อีกคนบอกตอนที่เอียงหน้าไปมองข้างหลังช้าๆอยู่ๆริมฝีปากหนาก็แนบสนิทลงบนริมฝีปากของผมทันที เบิกตากว้างกับใจที่เต้นแรงแทบไม่เป็นจังหวะ คนที่คิดถึงอยู่ๆก็มาเจอกันในระยะประชิดแบบนี้ ผมผละออกอีกคนก็พูด " ขอผมจูบคุณได้มั้ยครับ "

“ จูบไปแล้ว ยังมาขออะไรอีกละ " ดึงตัวเองออกห่างจากเค้า หลบหน้าแดงๆไปอีกทางเค้าก็ยื่นมือมาจับแก้มผมเบาๆก่อนจะบีบ
“ ขอบีบแก้มหน่อย " ผมทำหน้างอนพลางมองใส่เค้าอีกคนก็หัวเราะ " อะไร บีบแก้มนี่ผมขอคุณแล้วนะ "

“ แล้วคุณมาทำอะไรแถวนี้ "

“ มาทำงานครับ "

“ งานที่มีิคิวยาวจนถึงสองเดือนหน้านะเหรอ " ร่างสูงพยักหน้ารับ

“ ใช่แล้วครับ แล้วคุณละ "

“ ก็ทำงานอยู่แถวนี้ ตึกสูงๆตรงนั้นน่ะ " ผมชี้บอกเค้าอีกคนก็บอก

“ ก็ว่าทำไมอยู่ๆคนที่คิดถึงกลับเดินมาให้เห็นกันแถวนี้ได้ "

“ พูดอะไรของคุณน่ะ " ผมบอกอีกคนก็ยิ้มก่อนจะหันหน้าไปทางอื่น

“ ไปกินอะไรอร่อยๆกันมั้ยครับ อย่างเช่น น้ำ หรือว่าถ้าคุณหิวเป็นข้าวก็ได้นะ "

“ อื้ม งั้นขอไปน้ำอร่อยๆดีกว่า " ใบหน้าคมพยักหน้ารับเราก็เดินตรงไปยังร้านที่อยู่ตรงมุมถนน ร้านน้ำชื่อดังที่จัดร้านแบบที่มีระเบียงออกมาหน้าร้าน แม้จะอยู่ในมุมอับของถนนไปสักหน่อยแต่ว่าถ้าเป็นช่วงเช้ากับกลางวันคนก็เยอะใช่ย่อย แต่นี่ดึกแล้วคนทั่วไปเลยไม่ค่อยกินกันแล้วส่วนมากก็มีแค่เด็กที่มาติวหนังสือ

“ กินน้ำอะไรดีครับ "

“ น้ำส้มแล้วกันครับ " ผมบอกตอนที่จะยื่นเงินเงินอีกคนก็สั่งเบรคไว้

“ ผมเลี้ยงเอง " เค้าพูดแบบนั้นตอนที่เดินเข้าไปในร้านสักพักก่อนจะออกมาพร้อมกับแก้วน้ำส้มแก้วนึงแล้วก็ชาร้อนของตัวเองอีกแก้ว ผมเลือกนั่งตรงระเบียงข้างนอกเพราะดูเหมือนเป็นที่ที่เงียบและส่วนตัวมากกว่าจุดอื่น

“ ขอบคุณนะครับ " ผมยกแก้วน้ำส้มของตัวเองบอกเค้าที่ก็พยักหน้ารับ 

“ แล้วทำไมคุณถึงอยากเจอผมละ " คำถามที่ทำให้แทบสำลักน้ำที่กินอยู่

“ ทำไมถึงคิดว่าผมอยากจะเจอคุณละ "

“ ก็คุณบอกว่าคิวผมยาวเกือบสองเดือน แสดงว่าต้องเข้าไปจองตัวผมสิ ถึงจะรู้ เพราะงั้นถ้าเข้าไปจองก็คงเพราะอยากจะเจอ ทำไมถึงอยากจะเจอละครับ "

“ ก็แค่ไม่มีอะไรทำมันก็เท่านั้นเองละครับ ก็เลยนั่งคลิกดูหน้าเว็บเล่นๆ กดนู้นกดนี่ไปเรื่อยก็เลยรู้ " ก้มหน้าลงดูดน้ำในมือ อีกคนก็ยิ้มออกมาก่อนจะตอบรับแบบไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่

“ อ๋อ เหรอครับ "

“ ไม่เชื่อรึไงคุณ "

“ ก็ไม่เชื่อนะสิ คุณชินกับการคบเด็กแล้วคิดว่ามุกแค่นั้นจะหลอกผมได้เหรอ ผมไม่ใช่เด็กนะคุณ " เบือนหน้าหนีอีกฝ่าย เราที่ไม่รู้จะพูดอะไรกันออกมา ก็ได้แต่เงียบอยู่แบบนั้น เหลือบตามองเค้าที่ก็ก้มหน้ากินชาร้อนในมือของตัวเองก็ได้แต่ตั้งคำถามมากมายไปหมด คำถามที่เราเองก็สงสัยแต่ก็ไม่กล้าที่จะถามมันออกมา ' ทำไมถึงไม่ยอมตื้อต่อกันนะ ไม่ใช่พวกคนชอบตื้อเหรอ จะไม่ถามหน่อยเหรอ คำถามนั้นนะ คำถามที่ยังไม่ได้คำตอบนั่นน่ะ '

“ ลิป " สะดุ้งตัวเล็กน้อยตอนที่ถูกเรียก ผมยิ้มจางๆอีกคนก็หัวเราะ " เหม่อไปถึงไหนแล้ว หลับในรึไง "

“ ก็เปล่าสักหน่อย แค่คิดอะไรเพลินๆ " ผมบอกก่อนจะลุกขึ้น " ดึกแล้ว กลับบ้านกันเถอะครับ "

“ จะกลับแล้วเหรอ " พยักหน้ารับอีกคนที่ยกนาฬิกาขึ้นมาดูเวลา " ผมมีเวลาเหลืออีกชั่วโมงนะ เพราะว่าแยกกับลูกค้ายังกลับไม่ได้หรอกครับ "

“ อย่างงั้นเหรอครับ " ชะงักตัวเองนิดหน่อย ผมที่ไม่รู้จะทำยังไงในเมื่อยืนขึ้นแล้วจะนั่งลงก็คงดูว่า เราอยากจะอยู่กับเค้ามากเกินไปหน่อย " เอ่อ..”

“ ช่วยอยู่ต่ออีกสักหน่อยสิครับ " มือหนาที่คว้ามือผมไว้ เค้าเงยหน้าขึ้นมามองตอนที่ผมเองก็ก้มลงมองหน้าเค้า " ผมอยากจะนั่งอยู่กับคุณต่ออีกสักหน่อย " นั่งลงตรงเก้าอี้ตัวเดิมช้าๆ ใบหน้าคมที่ยิ้มออกมา ผมเม้มริมฝีปากปากก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมา
 
“ คุณเมษ "

“ ครับ " ใบหน้าที่หันมาสนใจผม ส่ายหน้าไปมาอยู่ๆก็เรียกเค้าแต่กลับไม่รู้จะถามอะไรซะงั้น " อะไรกันคุณมีอะไรก็พูดมาสิ ผมรอฟังอยู่นะ "

“ มีเรื่องเพื่อนที่อยากจะเล่าให้ฟังนะ " ผมบอกเค้า " ยังจำเพื่อนของผมที่เคยเล่าให้ฟังว่า เค้าไม่ชอบแฟนเด็กแต่กลับมาแฟนเด็กมั้ยครับ "

“ อื้ม จำได้ครับ ทำไมเหรอ "

“ รู้มั้ยครับ ทำไมเค้าถึงได้เป็นแฟนกัน ทั้งๆที่เพื่อนผมน่ะ ไม่ชอบคนที่อายุน้อยกว่าเลย "

“ ทำไมครับ "

“ เพราะผมคิดว่าเค้าเป็นคนช่างตื้อนะ ต่อให้เพื่อนผมไล่เค้ายังไงเค้าก็ยังตื้ออยู่นั่นละ แต่เพราแบบนั้นแหละเพื่อนผมก็เลยใจอ่อน " เค้าพยักหน้ารับยิ้มๆ ผมถอนหายใจออกมาก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองตาเค้า " ที่ผมพูดคืออยากจะถามคุณว่า คำถามนั้นจะไม่ถามออกมาจริงๆเหรอครับ จะไม่ลองถามผมหน่อยเหรอ "

“ ลิป " เค้าเรียกชื่อผมเบาๆ

“ วันนี้ทั้งวันเอาแต่นั่งดูหน้าเว็บของคุณ เพราะไม่มีกระจิตกระใจจะทำงานอะไร เมื่อคืนก็นอนไม่หลับ คิดวกไปวนมาอยู่แบบนั้นว่าถ้าคำถามนั้นถูกถามออกมาจะตอบว่าอะไรดี ทั้งๆที่ได้ไม่ถูกถามออกมาด้วยซ้ำ มัวแต่คิดว่าทำไมคุณถึงไม่ถามต่อ ถ้าคุณตื้อผมสักหน่อยก็คงดี ฮ่าๆ ขอโทษนะครับ เหมือนตัวผมกำลังพูดอะไรไม่รู้เรื่องอยู่เลย แต่ใจผมมันรู้สึกค้างคายังไงก็ไม่รู้ เหมือนตัวเองพลาดอะไรสักอย่าง จนต้องพูดกับตัวเองว่า ไม่น่าเลย "

“ ขอโทษนะครับ ที่ผมต้องทำให้คุณลำบากใจ " คนตรงหน้าของผมยิ้มจางๆออกมา " ตอนที่เจอคุณครั้งแรกผมไม่คิดว่าจะเป็นคุณเลยที่ผมต้องมารู้สึกแปลกๆด้วย ผมชอบมองตาคุณเวลาที่คุณพูด ชอบความคิดของคุณ รอยยิ้ม หรือแม้แต่ตอนที่กำลังร้องไห้ สามชั่วโมงที่ได้อยู่ด้วย ตอนที่ได้คุยกันมันเป็นความรู้สึกที่ดีมากจนรู้สึกว่า ไม่อยากจะให้หายไปเลย ตอนนั้นก็เลยตัดสินใจทำอย่างที่ไม่เคยทำแบบนั้นมาก่อน คือการเดินไปส่งลูกค้ากลับบ้าน แล้วพอเดินไปเรื่อยๆได้คุยกันมากขึ้นก็รู้สึกว่า ก็เลยลองเสี่ยงดู ผมขอโทษที่ผมไม่ใช่คนช่างตื้อ เพราะผมเองไม่อยากจะให้คุณรำคาญ เพราะตอนนั้นคุณก็ดูหนักใจมากพอแล้ว "

“ ก็นั่นเป็นครั้งแรกที่ถูกถามอะไรแบบนั้น ก็คิดว่าคุณจะถามแบบไม่จริงจัง ใครจะไปรู้ว่าคุณจะถามประโยคอีกประโยคออกมาละ "

“ ถ้าคุณรู้ คำตอบคุณจะเปลี่ยนไปเหรอครับ " เงยหน้ามองอีกคน หัวใจที่กำลังสั่นไหวของผม ใบหน้าคมที่กำลังมองมา

“ ผมจะไม่เปลี่ยนคำตอบที่บอกว่า ผมชอบคนอายุน้อยกว่าหรอกครับ แต่ผมแค่อยากจะพูดออกไปว่า ถ้าเป็นคุณ ก็อยากจะลองคบคนที่อายุมากกว่าดู คำตอบของผมมันก็คงจะเป็นแบบนั้น " และมันก็เป็นคำตอบที่ตรงใจที่สุดแล้ว

“ ขอแก้ตัวอีกครั้งได้มั้ย "  เค้าที่ยิ้มออกมาผมในตอนนั้นเผลอยิ้มตามเค้าก่อนจะเอียงหน้ามอง " แล้วคุณชอบผมได้มั้ย "

“ ก็อยากจะลองชอบดูนะ  เพราะว่ามันคือคุณ "

“ ผมถือว่าคุณตอบรับผมแล้วนะ " พยักหน้ารับรอยยิ้มของเค้า ผมที่ลุกขึ้นยืน อีกคนก็คว้ามือผมไว้ " จะไปไหนละคุณ "

“ กลับบ้านสิครับ หมดชั่วโมงนึงแล้วนะ "

“ เหรอ " เค้ามองดูนาฬิกาตัวเองก่อนจะลุกขึ้นมายืนข้างผม มือที่จับมือของผมไว้แน่น " เดี๋ยวไปส่ง "

“ หมดเวลาการเป็นโฮสแล้วว่างั้นเถอะ "

“ หมดเวลาเป็นโฮส แต่ผมก็เริ่มเวลาเป็นแฟนกับคุณ "

“ ทำให้ฉันชอบผู้ใหญ่แบบนายให้ได้ก่อนเถอะ แล้วค่อยมาบอกว่าเราเป็นแฟนกัน " เค้าหัวเราะ ตอนที่เดินจูงมือผมออกมาจากร้าน

“ มันไม่ยากหรอก ผมจะทำให้คุณใจเต้นแรงทุกสิบวิเลยคอยดู "

“ ขี้คุย มั่นใจไปมั้ง "

“ อย่าลืมสิครับว่าแฟนคุณมีอาชีพเป็นโฮสนะ " นั่นสินะ แล้วแบบนี้จะรอดพ้นเงื้อมมือเค้ามั้ยละ.. ปากที่บอกว่าชอบเด็ก แล้วเกลียดคนที่เป็นผู้ใหญ่แบบผม จะรอดพ้นไอ้หัวหน้าโฮสที่อยู่ๆก็เผลอตกลงปลงใจไปคบหาด้วย แล้วอาชีพที่เค้าต้องเจอผู้หญิงมากหน้าหลายตาแบบตลอด เราจะชอบเค้าได้จริงๆเหรอ จะไม่มีปัญหาเหรอ ผมที่ตั้งคำถามมากมายในสมอง ก่อนริมฝีปากจะถูกช่วงชิงด้วยริมฝีปากของอีกคนที่ก้มหน้าลงมาจูบในตอนที่ผมเผลอตัว " เรามาคบกันดูนะ "

“ อะ อื้ม " พยักหน้ารับเค้าออกไป ก็แค่ลองคบดู ถ้าไม่ใช่ก็ถอยออกมา แต่ว่านะ มันก็ไม่มีอะไรรับประกันใช่มั้ยว่าจะไม่เจ็บปวดอีก   มองใบหน้าคมที่ยิ้มมาให้ ผมที่สูดลมหายใจเข้าปอด

 ' ถ้าอยากจะรักก็แค่รัก ไม่ต้องกลัว เพราะถ้ากลัวเราจะไม่มีโอกาสแม้จะได้รักเลย '
.............................................

ในที่สุด นิยายก็ดำเนินมาถึงจำนวนตอนเลขสองหลักจนได้
สิบตอนแล้ว รู้สึกเป็นยังไงบ้างคะ
ชอบมั้ย ต่อจากนี้เนื้อเรื่องจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ
ทั้งคู่หลักคู่รอง ผสมปนๆกันไป
ยังไงฝากด้วยนะคะ
ใครมีทวิตกับเฟส ฝากแท็ก ฝากแชร์ #ฟานคีย์
ด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่าาาา  :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:

ออฟไลน์ honey_noii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
ชอบมากจ้า  ทั้งคู่หลักและคู่รองนะจ๊ะ
รอคอยอยู่ทุกวันนะคะ

ออฟไลน์ HanTwoH

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
อ้ายยยยยยยคบกันจนได้ :ling1: :ling1: :ling1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด