ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง{ตอนพิเศษที่ 2 UP - 10.2.60}หน้า 42 (จบเรื่อง+รวมเล่ม)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง{ตอนพิเศษที่ 2 UP - 10.2.60}หน้า 42 (จบเรื่อง+รวมเล่ม)  (อ่าน 323487 ครั้ง)

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
ดี ถ้าแบบนี้เรื่องพ่อแม่ฟานคงไม่มีปัญหา
ถ้ามายุ่งนะ จะด่าให้
ดีแล้ววว

คีย์ไม่ได้แค่สงสารหรอก แต่สงสารมาก เพราะรักมากใช่ไม๊ ยิ่งแคร์เขายิ่งเห็นใจ
ได้ยินแบบนี้แล้ว เลิกปากแข็งบ้างก้ได้นะ
แต่ฟานคงอ่านออกหมดแลหะ 55555

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ milin03

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 481
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
 :mew2: เรื่องมันเศร้า เพราะแบบนี้ฟานถึงเห็นว่าคีย์เศร้าตอนเจอครั้งแรก
ฟานเข้มแข็งมากเลย ทนมาได้ขนาดนี้ ตากับยายต้องรักมาก
พ่อแม่บ้าอะไร แย่

ตลกคีย์ ปากแข็งเสมอต้นเสมอปลาย แต่ก็ยอมตลอด

ชอบมากตอนคีย์อยากปลอบ มีการเอาขาเกี่ยวด้วย น่ารัก
ยอมรับซะเหอะคีย์ ว่ารักฟานมาก ขนาดฟานยังรู้เลย 5555

ออฟไลน์ ่jjay

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 454
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-0
อ่านทันแล้วววว ชีวิตน้องฟานน่าสงสารจัง  :o12: พี่คีย์กอดน้องเยอะๆนะ :กอด1:

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
โอ๋ๆๆๆๆ น้องฟานของเจ๊~~~~!!!
อย่างไปเสียใจกับพวกเค้าอีกเลย คิดซะว่าเค้าให้เราเกิดมา แต่ไม่ได้เลี้ยงเรา ก้อให้มันสิ้นเวนสิ้นกรรมกันไปนะ TT (แต่ถ้าที่บ้านฟานวนมาอีก นี่ด่ารัวคร้าาา)
พี่คีย์ก้อยังเปนพี่คีย์สุดซึน แระนางน่ารักอ่ะ!!!

ออฟไลน์ tkaekaa

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 329
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
 :o8: เรื่องนี้มันดีกะใจ อ่านแล้วบิดจริงๆ น้องฟานอ้อนมาก อ้อยมาก อร้ายยยยยย อิจฉาคีย์อะ

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
งื้ออออออออ...น้องฟานของพี่!!  อยากจะกอดปลอบละเกินแต่กลัวคีย์ดักตบ

ลอยแพน้องขนาดนี้แล้วหวังว่าต่อไปคงไม่มายุ่งกะน้องอีกนะ

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27

ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง
ตอนที่ 14
' ปัญหาแรกรัก '

   ขยับเม้าส์ไปตามแบบงานที่ร่างเอาไว้ หยิบนู้นเติมนี่ เปลี่ยนงานไปมาจนกระทั้งลงตัวในสิ่งที่ชอบ งานใหม่ของผมที่ต้องทำตอนนี้คือการออกแบบแพ็คเก็จอาหารเสริมตัวใหม่ที่มีคุณประโยชน์ล้านชนิดจากผลไม้หลากหลายมาไว้ในแคปซูลเดียว แต่เอาจริงๆยาก็คือยานั่นแหละนะ สู้กินผลไม้สดๆก็ไม่ได้หรอก เงยหน้ามองเวลาก็เกือบจะสองทุ่มแล้ว หันไปมองคีย์โต๊ะข้างๆที่หายไปตั้งเวลายังไม่ทุ่มดี ก่อนจะไปก็หันมาบอกผมด้วยเสียงอ้อมแอ้มแบบเกรงใจว่า " โทษทีนะขอกลับก่อน พอดีฉันมีนัดกินข้าวกับไอ้ลูกหมา " ไอ้ลูกหมาตัวโตสุดหล่อที่นับวันจะยิ่งเข้าทำให้คนปากแข็งเริ่มใจอ่อนขึ้นเรื่อยๆอย่างไม่ค่อยรู้ตัวเท่าไหร่

   ครืน ครืน ครืน

   เสียงโทรศัพท์ที่ทำให้ตัวผมหลุดออกจากความคิดนั้น หันไปมองหน้าจอก็พบว่าคนที่นัดเอาไว้ช่วงดึกก็โทรมาตรงเวลาพอดีเป๊ะ  " ฮัลโหล " กรอกเสียงไปตามสายอีกฝ่ายก็ตอบกลับมา

“ ขอหยิกแก้มหน่อยได้มั้ยครับ "

“ อะไรของคุณอีกละเนี้ย " เผลอยิ้มออกมากับคำทักทายของเค้า มือก็จับเม้าส์เลื่อนไปเซฟงานที่ทำไว้ก่อนจะปิดคอมพิวเตอร์ของตัวเองลง 

“ จะให้ไปรับที่ไหนดี "

“ เจอกันที่หน้าตึกที่ผมทำงานก็ได้ หรือว่าคุณจะรอผมในสถานีรถไฟก็ได้นะ "

“ ฉันคงถึงช้าหน่อย นายไปนั่งรอที่ร้านกาแฟก็ได้ " เค้าบอก ผมก็ถอนหายใจ

“ ทำไมไม่บอกให้เร็วกว่านี้นะคุณ ผมจะได้ไม่ต้องปิดคอม จะได้นั่งทำงานต่ออีกสักหน่อย "

“ ขยันเกินไปแล้วมั้ง นายคิดว่าจะฮุบบริษัทเค้ารึไง " อีกคนแซว

“ ผมต้องขยันทำงานสิ จะได้เอาเงินไปซื้อโฮสเด็กๆมาเป็นขวัญและกำลังใจ "

“ เดี๋ยวจะโดนโฮสแก่ๆคนนี้จัดการนะครับ " เค้าว่าผมก็หัวเราะออกมา

“ งั้นเจอกันนะ จะนั่งรออยู่ที่หน้าบริษัทแล้วกัน "

“ เจอกันครับ " ผมกดวางสายถอนหายใจออกมาตอนที่คว้ากระเป๋าตัวเองขึ้นมาสะพายแล้วเดินออกไปจากแผนกที่ทำงาน

   ตั้งแต่ที่บอกว่าจะคบแบบดูๆกันก่อน ชีวิตของผมก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเท่าไหร่หรอกจะมีก็แค่เหมือนว่าตัวเองต้องทำงานนานขึ้นเพียงเพราะว่ารอให้อีกฝ่ายเลิกงานพิเศษของตัวเองเสียก่อน งานพิเศษที่ผมบอกกับตัวเองแล้วว่าอย่าไปสนใจเด็ดขาดว่าวันนึงเค้าจะทำอะไรกับใครบ้าง ไม่อย่างงั้นต้องเป็นฝ่ายอกแตกตายไปก่อนแน่ๆ ในเมื่อมันคืองานจะไปหึงหวงการทำงานของเค้านั่นก็คงจะไม่ได้ แล้วอีกอย่างเราเองก็เป็นฝ่ายที่รู้อยู่แล้วเต็มอก ว่าเค้าทำงานอะไร แต่ก็ยังตกลงไปคบด้วยนั่นก็เท่ากับว่าเหมือนต้องรับสภาพนั้นกลายๆอยู่แล้ว

   นั่งลงที่เก้าอี้หน้าตึก สูดอากาศเย็นที่พัดเข้าหน้า ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาตอนที่เสียบหูฟังแล้วกดฟังเพลงสบายๆสักเพลงก่อนจะก้มหน้าอ่านข่าวของวันในหน้าเฟสบุ๊คของตัวเองฆ่าเวลา

“ อ๊ะ " เผลอสะดุ้งเล็กน้อยตอนที่ไอเย็นๆของกระป๋องอะไรสักอย่างจะกระทบหน้าตัวเองอย่างจัง

“ เบียร์หน่อยมั้ยครับ "

“ ตกใจหมด ดีนะไม่แช่งแม่ "

“ ถึงกับต้องแช่งแม่เลยเหรอ " ร่างสูงที่นั่งลงข้างหัวเราะ กระป๋องเบียร์ที่ถูกเปิดขึ้นเค้ายื่นอีกกระป๋องนึงให้ผม " สักหน่อยมั้ย "

“ อื้ม " พยักหน้ารับกระป๋องเบียร์ในถุงมาเปิดก่อนจะกินเข้าไป " แล้วคุณกินอะไรมารึยัง "

“ ก็กินแล้ว "

“ อ๋อ ผมลืมไป คงจะกินมากับแขกแล้วสินะ " พูดแบบนั้นคนที่นั่งข้างๆก็ลดกระป๋องเบียร์ที่กินอยู่ลงทันที " ทำไมอะ "

“ แขกเลยเหรอ เปลี่ยนคำว่าแขกเป็นแค่คำว่า ลูกค้าได้มั้ย "

“ ทำไมอะ "

“ ก็แขก ฟังดูแล้วเหมือนฉันไปขายตัวเลย " อีกคนบอกก่อนจะหัวเราะ " ผมแค่ไปช่วยเค้าเลือกเสื้อผ้านะครับ ไม่ได้เข้าไปช่วยเค้าลองเสื้อผ้าสักหน่อย "

“ เหรอ " ผมเหล่เค้า " ไม่ใช่ว่าอยากจะเข้าไปช่วยลองแต่ว่ามีกฏห้ามทำอะไรกับลูกค้าก็เลยอดเหรอ "

“ ก็ถ้าลูกค้าคนนั้นเป็นนายก็อยากจะเข้าไปดูอยู่นะ " เค้าพูดพลางหันมาเหล่มองผม

“ มองอะไร ลามกจริงคุณ "

“ อะไรกันแค่จินตนาการเอง ว่าข้างในจะเป็นยังไงบ้าง แค่นี้ก็ลามกแล้วเหรอ "

“ ใช่ แค่ความคิดมันก็ลามกแล้ว " ผมเบือนหน้าหนี " สงสัยจริงๆว่าคนที่เป็นลูกค้าคุณเค้าติดใจอะไรนักหนาถึงไหนจองตัวคุณติดกันจนคิวยาวเป็นเดือนขนาดนั้น "

“ ลองดูมั้ยละ "

“ ห๊ะ ? “ ผมหันไปมองอีกคนที่ยิ้มออกมาก่อนจะทวนประโยคที่ผมได้ยินให้เคลียร์มากกว่าเดิม

“ ลองดูมั้ยละ ไปซื้อเสื้อผ้ากันแล้วเดี๋ยวผมจะบริการคุณให้เหมือนเวลาที่ผมเป็นโฮสดูแลคนอื่นเลยเป็นไง  " คำชวนที่ทำให้ผมส่ายหน้า ตอนที่ลุกขึ้นจากที่นั่งผมเดินไปทิ้งกระป๋องเบียร์ที่กินหมดแล้วลงในถังก่อนจะเดินไปยืนอยู่ตรงหน้าเค้าที่ก็เงยหน้าขึ้นมามอง

“ ไม่เอาอะ ผมไม่อยากจะเป็นแค่ลูกค้าของคุณ ผมอยากจะเป็นแฟนคุณมากกว่า "

“ เอาอย่างงั้นก็ได้ "  มือหนาดึงเนคไทที่ผมใส่ให้ลำตัวก้มลงมาหาเค้าจนใบหน้าของเราใกล้กัน แล้ววินาทีต่อมาที่ยังไม่ทันตั้งตัวนั้น คุณเมษก็จูบลงบนริมฝีปากของผมเนิ่นนานจนกว่าจะผละออกแล้วหันมาสบตาผม " ถ้าเป็นแฟนเรื่องแบบนี้ก็ทำได้ใช่มั้ยละ "

“ ก็ได้ละมั้ง " ผมเบือนหน้าหนีเค้าที่ยืนขึ้นก็ลุกขึ้นก่อนจะขยี้หัวผมจนยุ่ง ฝ่ามืออุ่นที่จับอยู่เงยหน้ามองหน้าเค้ากับความรู้สึกแบบนั้นที่ไม่เคยเกิดขึ้น เม้มริมฝีปากของตัวเองอีกคนก็ยิ้มก่อนจะคว้ามือของผมไปจับก่อนจะดึงให้เดินไปด้วยกัน

   ต่างไปจากทุกทีที่เคยรู้สึกเลย ถ้าเป็นเด็กที่คบด้วยคงจะกอดคอแล้วเดินดึงให้เราไปนู้นนี่ แต่นี่ไม่ใช่ เพิ่งรู้สึกว่าการเดินจับมือแบบนี้บางทีก็อุ่นมากกว่าก่อนจะเดินกอดกันเสียอีก อะไรๆที่ผู้ใหญ่เค้าทำกันมันเป็นแบบนี้เองเหรอ มันอบอุ่นแบบนี้เองเหรอ

“ คิดอะไรอยู่ "

“ เปล่านี่ " ผมส่ายหน้า เราที่เดินข้างกันไปบนถนน  คนที่เดินข้างๆกระชับมือผมก่อนจะหยุดแล้วเดินเข้าไปในร้านเสื้อผ้า " เดี๋ยวๆ ไปไหน " นึกจะหยุดก็หยุดลากไปนู้นมานี่อะไรของเค้า

“ ไปซื้อเสื้อผ้ากันหน่อยมั้ย วันนี้ฉันไปเจอเสื้อตัวนึงอยากได้มากเลย "

“ ตอนที่ไปกับลูกค้านะเหรอ " ผมถามตอนที่เราเดินเข้าไปในร้านขายเสื้อผ้าแบรนด์ดัง คุณเมษพยักหน้ารับ " แล้วทำไมไม่ซื้อตอนนั้นละ เผื่อลูกค้าจะซื้อให้ไง "

“ ไม่เอาอะ ให้แฟนช่วยเลือกให้ดีกว่า " เค้าบอกตอนที่ปล่อยมือผมแล้วหยิบเสื้อตัวนึงขึ้นมา ทาบทับกับร่างตัวเองก่อนจะหันมาทางผม " สีนี้สวยมั้ย "  เสื้อยีนส์แบบยาวที่ทาบอยู่บนตัวของอีกคน อยู่ๆหน้าก็แดงขึ้นมาผมเบือนหน้าหนีไปจับเสื้อตัวอื่นอีกคนก็ถามซ้ำ " อ้าว ว่าไง เบือนหน้าทำไมอะ "

“ ก็สวยดี ซื้อสิ ก็เหมาะกับคุณนะ ถ้าใส่เสื้อเชิ้ตยาวข้างใน แล้วก็ทับด้วยยีนส์ยาวใส่กางเกงสีดำมันก็ดูดีนะคุณ " บอกเค้าแบบนั้นอีกคนก็พยักหน้ารับ

“ มีเซ็นส์เลือกเสื้อผ้าเหมือนกันนินายน่ะ "

“ คุณเถอะ ไหนบอกว่า เป็นโฮสที่เชี่ยวชาญเรื่องเสื้อผ้า ไหงพอซื้อผ้าตัวเองดันมาถามคนอื่น "

“ เรื่องแบบนี้ ฉันก็มีเหตุผลที่ต้องทำเป็นไม่รู้บ้างนะ "

“ เหตุผลอะไร "

“ อยากให้แฟนเลือกให้ เผื่อแฟนจะอยากถอดให้ " เค้าหันมายักคิ้วผมก็ขมวดคิ้วก่อนจะพูด

“ ลามก "

“ แค่ถอดเสื้อตัวเดียวก็ไม่ได้เหรอ อะไรกัน นายคิดเรื่องอะไรอยู่ " ใบหน้าคมที่ยิ้มแกล้งๆ ผมก็เอียงหน้ามองเค้า

“ เหรอ คุณคิดแค่จะตั้งใจให้ผมถอดแค่ตัวเดียวจริงๆอะ " เอื้อมมือไปจับเสื้อของเค้าตอนที่ไล่มือลงต่ำเรื่อยๆ จนถึงขอบกางเกง " ก็คิดว่า.. อยากจะให้ถอดอย่างอื่นด้วย "

“ นี่ .. “ ดึงมือตัวเองกลับตอนที่อีกคนเดินมาใกล้ผมกันไปทางอื่น " ระวังจะไม่ได้ลุกจากเตียงนะครับ "

“ ไม่กลัวหรอก คุณจะแรงมีแค่ไหนกันเชียว "

“ อย่าดูถูกกันสิ " เค้ายิ้มออกมา ก่อนจะหยิบเสื้ออีกสองสามตัวมาถือไว้ ก่อนจะหันมาจ้องหน้าผม" ฉันอาจจะเด็ดกว่าไอ้พวกเด็กๆในสต๊อกของนายที่เพิ่งหัดเอาก็ได้นะ " สายตาคมยกยิ้มก่อนจะดึงมือผมให้เดินไปที่ห้องลองเสื้อด้วยกัน

“ ดะ เดี่ยวจะไปไหนเนี้ยคุณ "

“ ไปช่วยเลือกเสื้อหน่อย ฉันจะลอง "

“ ก็ไปคนเดียวสิ แล้วก็ค่อยเดินออกมาให้ผมดู " ดึงแขนเค้าที่ลากผมไว้ แต่อีกคนก็ยังดึงดันให้ผมเข้าไปในห้องลองนั่นให้ได้ " คุณเดี๋ยวสิ นี่..” สิ้นคำพูดร่างของผมก็ถูกดันเข้าไปชิดห้องลองเสื้อเสียแล้ว

   ม่านที่ถูกปิดในห้องแคบๆร่างสูงแขวนเสื้อไว้ตรงที่แขวนก่อนจะหันมาค้ำมือกับกำแพงที่ผมยืน กั้นไม่ให้หนีไปไหน เงยหน้ามองเค้าที่ก้มลงมาจ้อง ใบหน้าคมก้มลงมาใกล้เค้าที่จูบผมโดยที่ไม่พูดจาอะไรทั้งนั้น ริมฝีปากที่แนบชิดสอดเกลียวลิ้นเข้าไปในปากตอนที่ผมเผลอจะพูดห้ามเค้า มือที่ไม่รู้จะเอาไปตั้งไว้ไหนดันหน้าอกเค้าที่ยังคงรุกล้ำเข้ามาหา สองแขนหนาลดลงกอดเอวผมเอาไว้แน่นตอนที่ผละริมฝีปากออกเค้าลดลงไปจูบที่ข้างแก้มก่อนจะไล่ลงมาที่ต้นคอ จูบดูดดื่มตรงนั้นเสียจนต้องเม้มปากตัวเองไว้แน่นเพราะเสียงครางที่กำลังจะเปล่งออกมาเพราะความเสียวซ่านที่อีกฝ่ายกำลังปลุกปั่น

“ นี่คุณ..” ผมผลักอกเค้าเบาๆ ในขณะที่อีกฝ่ายดึงเสื้อทำงานที่ผมใส่ให้หลุดออกจากขอบกางเกง สอดมือเข้าไปในเสื้อ แผ่นหลังที่ถูกลูบไล้ เค้าเลื่อนมาข้างหน้าก่อนจะใช้นิ้วสะกิดยอดอกของผมที่ก็ต้องหดตัวหนี " นี่คุณ ไม่เอา พอแล้ว " แม้จะรู้สึกดีแค่ไหนแต่ก็ต้องห้ามเค้าไว้ ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่เราจะมาทำอะไรแบบนี้ " นี่..” ปากที่ห้ามเค้าถูกปิดด้วยริมฝีปากของร่างสูงอีกครั้ง จูบหนักหน่วงที่แทบหายใจไม่ทัน เค้าผละริมฝีปากออกตอนที่จ้องหน้าผมคุณเมษก็ยกยิ้มขึ้นมา ราวกับพอใจในผลงานของตัวเองที่ทำเอาไว้
 
   ใบหน้าที่กำลังหอบแดงจัดของผม ไม่รวมซอกคอที่มีรอยแดงชัดเจน " อันนี้แค่น้ำจิ้มนะ ถ้านายบอกว่าฉันไม่มีเรี่ยวแรงอีกละก็..”

“ แค่นี้ก็ยั๊วะด้วยเหรอคุณ " 

“ ถ้าฉันบอกว่านายน่ารักสู้ลูกค้าฉันวันนี้ไม่ได้ นายจะยั๊วะมั้ยละ " คำถามสั้นๆที่เค้าถามผมก็ช้อนตามองเค้า " ไม่ต้องมามองอ้อนๆ"

“ ก็คงต้องยั๊วะละมั้ง "

“ ไว้วันหลังฉันทำ นายจะได้รู้ "

“ ไม่ต้องก็ได้ " ผมบอกก่อนจะดึงตัวเองไปใกล้ " ผมขอโทษ..ทีหลังจะไม่พูดอะไรแบบนั้นอีก เป็นคนแก่แล้วขี้น้อยใจชะมัด "

“ ไว้วันหลังฉันทำให้นายน้อยใจบ้าง "

“ คุณอะ " รู้สึกเหมือนอีกคนกำลังงอนเลย เค้าที่จ้องหน้าผมแบบไม่พอใจนั้น ผมหลบตาเค้า " ผมขอโทษ ลองเสื้อดีกว่านะ " หันไปบอกเสื้อที่แขวนอยู่ มือผมก็เอื้อมไปถอดเสื้อตัวนอกให้เค้า " อย่าหงุดหงิดกับคำพูดของผมเลย เดี๋ยวคิ้วขมวดเยอะๆ หน้าเหี่ยวนะคุณ "

“ นี่ "

“ อะไรกัน ก็เป็นห่วง " ผมเถียงตอนที่เค้าจะหงุดหงิดขึ้นมาอีก ถอดเสื้อตัวนอกให้ " ลองเสื้อนอกสิ "

“ ถอดเสื้อตัวในด้วย "

“ อ้าว จะซื้อเสื้อนอกไม่ใช่เหรอ "

“ อีกตัวมันเป็นเสื้อตัวใน " เค้าบอกผมก็หันไปมองเสื้อที่แขวนอยู่ แอบมีเสื้อตัวในอยู่จริงๆด้วย " ถอดเสื้อตัวในให้ผมด้วยครับ "

“ ไม่มีมือรึไงคุณ ถึงใช้คนอื่นอยู่ได้อะ "

“  เรื่องแบบนี้ใช้แฟนแล้วฟินกว่า " ถอนหายใจกับตระกะความคิดของอีกคน ผมเอื้อมมือไปถอดกระดุมของเค้าออกทีละเม็ด ตอนที่ดึงเสื้อออกให้ผมแอบเบือนหน้าหนีกล้ามอกของเค้า อีกคนก็หัวเราะ " เขินเหรอ "

“ ไม่ได้เขินสักหน่อย "

“ อ๋อเหรอ " คำพูดที่ดูไม่เชื่อกันอีกคนหยิบเสื้อที่จะลองมาใส่ เป็นเชิ้ตตัวยาวกับเสื้อคลุมยีนส์ที่ผมบอก มองตัวเองอยู่ที่หน้ากระจกก่อนจะหันมาถาม " คุณว่าเป็นไง โอเคมั้ย "

“ อื้ม ก็โอเคนะ " อยากจะบอกว่า มันมากกว่าคำว่าโอเคอีก แต่กลัวว่าอีกคนจะได้ใจ คนหล่อใส่อะไรมันก็หล่อ ถ้าพูดออกไปอย่างงี้มีหวังได้ลอยตัวขึ้นทะลุเพดานร้านแน่ๆ " ก็เหมาะกับคุณดี "

“ ดูแล้วน่าถอดมั้ย "

“ ไม่อะ " ตอบอีกคนทันที เค้าก็หัวเราะ

“ อะไรกัน ผมออกอยากจะถอดเสื้อผ้าทุกชิ้นของคุณแท้ๆ "

“ เลิกลามกสักทีเถอะน่า แล้วก็รีบถอดเสื้อผ้าแล้วใส่ชุดเดิมได้แล้วคุณ คนอื่นเค้าจะได้ใช้ห้องลองต่อ "

“ มันมีห้องเดียวที่ไหนละ " เค้าเถียง ก่อนจะถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกแล้วใส่ชุดเดิม " ตกลงก็เอาชุดนี้แหละนะ "

“ อื้ม " พยักหน้ารับตอนที่เดินออกมาจากห้องลองชุด พนักงานที่ยืนอยู่ก็ขมวดคิ้วงง ที่เห็นผู้ชายสองคนเดินออกมาจากห้องลองเสื้อผ้า ห้องเดียวกัน " เอ่อ.. พี่น้องกันนะครับ " ทั้งๆที่ไมไ่ด้ถาม ผมกลับตอบเค้าไปแบบนั้น คุณเมษคว้ามือผมให้เดินไปต่อคิวที่เค้าเตอร์ เค้าก็หลุดหัวเราะ

“ ฮ่าๆ "

“ หัวเราะอะไรคุณ มันน่าตลกมั้ยละ "

“ ก็หน้าตานายตอนเหวอๆ มันขำนิ " เค้าทำหน้าเลียนแบบผม ตาที่เปิดกว้าง ปากที่เผยอขึ้นนิดหน่อย " นายทำหน้าแบบนี้นะ รู้ตัวมั้ย "

“ ไม่ตลกเลยนะ เค้าจะคิดยังที่เห็นเราเดินออกมาจากห้องแต่งตัวเดียวกัน ทีหลังอย่าเที่ยวลากผมเข้าไปอีกนะ "

“ เค้าไม่คิดอะไรหรอก " อีกฝ่ายเถียง " เพราะถ้าคิด ก็คงคิดแค่ว่าเค้าสองคนนั้นคงเข้าไปทำอะไรกันมั้ง "

“ บ้า!! ไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นสักหน่อย “ เค้ายกยิ้มก่อนจะหันมากระซิบผม

“ ที่คอนายอะ มันแดงมากเลยนะ " ยกมือขึ้นปิดคอตัวเองตอนที่อีกคนบอก ลืมไปเลยว่าที่คอผมตอนนี้มันมีรอยแดงที่คนข้างๆทำเอาไว้ ขมวดคิ้วมองหน้าเค้าอีกคนที่หัวเราะก่อนจะถึงคิวจ่ายเงิน

“ จ่ายเงินเลยคุณ มัวหัวเราะอยู่ได้ " เสื้อผ้ามีราคา แอบตกใจราคาของมันนิดหน่อยตอนที่พนักงานบอกออกมา การ์ดที่ถูกยื่นจ่าย ไม่นานก็ได้เสื้อผ้าสองถุงมาถือเอาไว้

“ อยากจะกินอะไรก่อนจะกลับมั้ย "

“ กินอีกแล้วเหรอ ตั้งแต่รู้จักกันมาคุณชวนผมกินทุกวันเลยนะ ไม่เอาอะ เดี๋ยวอ้วน "

“ ตอนนี้ก็ไม่ผอม "

“ นี่!!!!!! “ ผมหันไปตะโกนใส่อีกคนที่ก็ยิ้มกว้าง ขาที่หยุดนิ่งของผม " ฉันไม่ได้อ้วน แค่เสื้อมันทำให้ดูอ้วนเฉยๆ "

“ ไปโทษเสื้อผ้าอีก "

“ ไม่ได้โทษ ก็มันเป็นแบบนั้นจริงๆอะ ก็แก้มเยอะมันเลยดูอ้วนๆ อวบๆอะ  " ใบหน้าคมยิ้มตอนที่หันมาพิจารณาหน้าตาของผม ที่ยกสองมือขึ้นบีบแก้มตัวเอง " จริงๆนะคุณ คุณไม่รู้สึกเหรอ "

“ ผมรู้สึก รู้สึกว่าคุณน่ารักจัง " มือหนายกมือขึ้นลูบหัว " อวบๆก็น่ารักดี มีเนื้อมีหนัง น่าจับออก "

“ ไม่ได้อ้วน แล้วก็ ไม่ได้อวบด้วย "

“ เฮ้ออ " คุณเมษถอนหายใจ " งั้นก็ตามใจ ผอมก็ผอม แล้วตกลงหิวมั้ยละ ผมจะพาไปกินอะไรก่อนคุณกลับ "

“ ไม่อะ ไม่หิว อื้มม " ท่าทางลังเลของผมตอนที่หันมองไปรอบๆ ก็ไม่ได้รู้สึกหิวนะ แต่อยากจะกินอะไรบางอย่าง " อยากจะกินช็อคโกเล็ตปั่นอะคุณ "

“ สามทุ่มแล้วนะ " เหลือบมองคนข้างๆ อีกคนก็ยิ้ม

“ ทีหลังก็ไม่ต้องมาชวนกินเลย แล้วก็บอกว่าคนอื่นอ้วน " ผมหันไปบอกอีกคน ใบหน้าที่กำลังปั้นหน้าโกรธ ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมอีกฝ่ายถึงได้อารมณ์ดีนัก ไม่ว่าจะทำอะไร ก็เอาแต่หัวเราะอยู่อย่างงั้น " แล้วก็ไม่ต้องหัวเราะเลย มันน่าหงุดหงิดเว้ย "

“ ทำไมอะ ก็ฉันมีความสุขที่ได้อยู่กับนายนิ " คำถามที่ชวนให้ผมเงียบ เงยหน้ามองเค้าอีกคนที่กำลังมองผมอยู่ เค้าก็ถอนหายใจออกมา " ที่ฉันหัวเราะ เพราะรู้สึกว่าไม่ว่าจะทำอะไรนายก็น่ารักไปหมด น่ารักจนฉันหยุดยิ้มไม่ได้เลย "

“ ประสาท " คำพูดกลบเกลื่อนของผม เบือนหน้าหนีอีกคนตอนที่เดินนำออกไปก่อน เค้าก็หัวเราะก่อนจะเดินตามมา

“ แล้วตกลงไม่กินอะไรเหรอ "

“ ไม่กินเล่า กลับบ้านดีกว่า "

“ ไม่ใช่กลับบ้านไป ไปฟาดมาม่าถ้วยโตนะนายน่ะ "

“ คุณที่ยังไงกันนะ กวนตีนกันจัง " ผมหันไปถามอีกคนก็เอื้อมมือมาคว้ามือผมไปจับไว้ " พรุ่งนี้เรานัดเจอกันอีกนะ "

“ ที่นี่นะเหรอ "

“ คุณอยากจะเปลี่ยนบรรยากาศเป็นห้องคุณ หรือว่า ห้องผม ก็ได้นะ ผมไม่เกี่ยงหรอก " ใบหน้าคมยักคิ้วก่อนจะพูดเค้าหยุดเดินก่อนจะก้มลงมากระซิบ " แต่คุณก็ต้องเตรียมตัวไว้ด้วยนะ "

“ เตรียมตัวอะไร "

“ ก็เตรียมตัวไว้ สำหรับที่ว่าผมอาจจะ.. " หันไปสบตาคนที่กำลังพูด ในแววตาที่แทบจะกลืนผมเข้าไปนั้น

“ ไอ้ลามก " 
 
“ อะไรอีก เตรียมตัวไว้ สำหรับที่ว่าฉันอาจจะทำอะไรอร่อยๆให้กิน "

“ ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง สายตาคุณมันบอกหมดทุกอย่างนั่นแหละ ไอ้เฒ่าหัวงู "

“ โห แรงจัง  นายใช้คำว่า เฒ่ากับคนที่อายุแค่ 32 นี่อะนะ "

“ ผมอายุยังแค่ 25 นะคุณ เจ็ดปีเลยนะ เฒ่าก็ถูกแล้ว " ใบหน้าคมที่กำลังยกมืออีกข้างขึ้นเขกหัวผม แต่ทุกอย่างก็ถูกหยุดอยู่ตรงนั้น เมื่อมีใครบางคนที่ผมไม่รู้จักเอ่ยทักคนตรงหน้าของผมขึ้นมา

“ อ้าว เมษ " ผมหันไปตามเสียงที่ได้ยิน ผู้หญิงในวัยทำงานที่ดูเหมือนแก่กว่าอีกคนสักหน่อย ผู้หญิงสวยที่อยู่ในชุดสูททำงานสีขาวดูดี ร่างสูงก็ก้มหน้าทัก

“ สวัสดีครับคุณมาเรีย " เค้ายิ้มให้เธอที่ก็มองลงมาตรงมือของเราสองคนที่กำลังจับกันอยู่ คนข้างๆผมปล่อยมือลงช้าๆ ในจังหวะนั้นราวกับทุกอย่างทุกอย่างถูกกระชากออกไปจากตัวผม อย่างไม่ทันได้ตั้งตัว  มองดูคนข้างๆที่ก้าวเดินไปหาอีกคนด้วยสายตาที่ไม่ค่อยเข้าใจ ก็ตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่จะมาทำงานโฮสไม่ใช่เหรอ ทำไมเราจะจับมือกันไม่ได้ละ ทำไมเราจะบอกใครๆไม่ได้ว่าเราเป็นอะไรกัน ในเมื่อตอนนี้คือชีวิตส่วนตัวของเค้าแท้ๆ " มาทำอะไรแถวนี้เหรอครับ "

“ ฉันมากินข้าวกับเพื่อนนะ  แล้วนายละ "

“ มาเดินเล่นซื้อของน่ะครับ "

“ กับ ? “ เธอถามพลางหันมามองที่ผม สายตาที่กำลังสงสัย อีกฝ่ายก็ยิ้ม

“ น้องชายนะครับ " คำพูดที่ทำให้ผมแค่นิ่งไป ' น้องชาย ? ' หัวใจที่ว่างเปล่าตอนนั้นอยากจะหันหลังเดินออกไปจากตรงนั้น แต่ก็ได้แต่ยืนนิ่งไว้ไม่รู้ทำไมแต่เหมือนว่ามันก้าวขาไม่ออกเสียแล้ว แฟนกันแท้ๆ แต่พอมาเจอใครอีกคนกลายถูกยัดเยียดอีกสถานะให้อย่างไม่เต็มใจ ผมไม่เข้าใจ ทำไมเค้าต้องพูดแบบนั้น ในเวลาแบบนี้โฮสก็ต้องอยู่กับความจริงไม่ได้เหรอ แต่อย่างว่า ถ้าโฮสมีแฟนความนิยมก็ต้องตกลงไปสินะ แล้วแบบนั้น ใครมันจะยอมพูดความจริงออกไปวะ  " ขอตัวก่อนนะครับ "

“ อื้ม ไว้เจอกันนะแล้วฉันจะโทรหา "

“ ครับผม " เธอที่เดินจากไป คุณเมษก็หันกลับมามองผม " เธอเป็นโฮสที่ซื้อตัวผมไปคุยด้วยบ่อยๆน่ะ "

“ คงไม่ได้แค่เลือกซื้อเสื้อผ้าใช่มั้ยละ คนนี้น่ะ แล้วก็ไม่ได้ดูเหมือนว่าจะแค่ปรึกษาปัญหาชีวิตด้วยสินะ เพราะดูเค้ารวย ไม่น่าจะมีเรื่องน่าปวดหัวเท่าไหร่หรอกมั้ง " ผมบอกเค้าก็เงียบ " ถ้าจับมือผมแล้วรู้สึกว่าต้องปล่อยแบบเมื่อกี้เวลาที่เจอลูกค้าของคุณล่ะก็ ทีหลังไม่ต้องจับมือผมนะ "

“ ลิป " เค้าที่ก้าวเข้ามาหา " ฉันอธิบายได้นะ มันไม่ใช่เรื่องอะไรแบบนั้น "

“ ถ้าอย่างงั้น ไหนลองอธิบายให้ฟังหน่อยสิครับ คุณเมษ ทั้งๆที่ตอนนี้มันเป็นเวลาเลิกงาน คุณไม่ได้เป็นทั้งช่างภาพ ไม่เป็นโฮสแล้วเหตุผลอะไรที่คุณต้องแคร์ลูกค้าของคุณด้วย ในเมื่อตอนนี้ก็ไม่ได้ทำงานอยู่สักหน่อย คุณปล่อยมือผมตอนที่เธอมา คุณบอกเธอว่า ผมเป็นแค่น้อง ขอโทษทีนะ แต่ผมไม่ได้เป็นน้องคุณสักหน่อย พ่อแม่เราไม่ได้รู้จักกันเลยนะ  "

“ เธอเป็นลูกค้าคนแรกๆของผม เธอทำงานในวงการสื่อ  การที่ผมได้ตั้งบริษัทโฮส ก็เพราะเธอช่วยแนะนำให้ว่าจะทำยังไงบ้าง ก็ใช่ จะว่าไปเธอก็ไม่ใช่ลูกค้าที่มาปรึกษาทั่วไปหรอก เพราะผมเจอเธอก่อนหน้านั้น ตั้งแต่ยังเป็นโฮส.. " เค้าเว้นเสียงก่อนจะถอนหายใจออกมา " ตั้งแต่เป็นโฮสที่ต้องมีเรื่องอย่างงั้นด้วย เธอเป็นทั้งลูกค้าแล้วก็ คนที่มีพระคุณ ผมเลยเกรงใจเธอ "

“ เกรงใจเธอ แล้วก็มาทำร้ายความรู้สึกของผมนะเหรอ "

“ มันไม่ใช่อย่างงั้น ฉันขอโทษ ฉันคิดเร็วไปหน่อย คือมัน.. ฉันไม่ได้ตั้งใจ  " อีกคนที่กำลังอธิบาย เหมือนว่าอยากจะให้ผมเข้าใจในเรื่องงานของเค้าแต่ไม่ว่ายังไงผมก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องที่จะมาเข้าใจกันอยู่ดี

" คุณอยากจะให้ผมเข้าใจเรื่องนั้นเหรอ เรื่องของคุณกับเธอให้ผมเข้าใจและไม่โกรธที่คุณจะสะบัดมือบอกว่าผมเป็นน้องชาย และต้องไม่โกรธทุกครั้งที่โดนคุณสะบัดมือออกห่างเวลาเจอผู้มีพระคุณคนอื่นของคุณอีกอย่างั้นเหรอ  "

" ลิป " เค้าที่เรียกชื่อผมเหมือนคนที่ไม่รู้จะพูดอะไรออกมาก็เท่านั้น เหมือนจะยอมรับว่า ' ใช่ อยากจะให้เข้าใจ ' แต่เค้าเองก็รู้สึกลึกๆว่ามันเป็นเรื่องที่สมควรทำความเข้าใจด้วยซ้ำ

" ผมต้องเข้าใจว่าคุณจะต้องรักษาน้ำใจของเธอ โดยที่ไม่ว่าเราจะจับมือกันอยู่ตรงไหน จะพลอตรักกันยังไง เราต้องผละออกจากกันตรงนั้น สะบัดมือผมบอก แล้วบอกกับเธอว่าเราเป็นแค่พี่น้อง อย่างงั้นเหรอ ที่ผมต้องเข้าใจ ที่ผมต้องทำมันคืออะไรแบบนั้นเหรอ "  คนตรงหน้าของผมเงียบ " คุณเมษ ผมเข้าใจนะการทำงานที่โฮสของคุณน่ะ  ทั้งๆที่เป็นคนอื่นเค้าจะไม่เข้าใจเลย ทำไมต้องยอมให้แฟนตัวเองออกไปเที่ยวไหนต่อไหนกับคนอื่น ผมที่นั่งมองนาฬิการอให้เวลาผ่านไปเจ็บปวดกับเวลาหลายชั่วโมงที่ต้องรู้สึกว่า แฟนตัวเองกำลังถูกใครบางคนออเซาะอยู่ข้างๆ โดยที่ ที่ข้างๆนั่น ก็คือที่ของผม แต่เพราะรู้ว่างานของคุณผมเลยไม่ยุ่ง ทำเป็นไม่สนใจ แต่นี่มันนอกเหนือเวลางานแต่ผมยังต้องมาเจออะไรแบบนี้อีกเหรอ ต้องมาแคร์คนที่เคยอุ้มชูคุณ นั่นเหรอที่คุณอยากจะให้ผมเข้าใจ ผมไม่ใช่ของตายนะคุณ คุณคิดว่าผมรักคุณจนต้องยอมเหรอ "  มือที่กำลังเอื้อมมาจับมือของผมที่เบี่ยงหลบออกไปนั้น  " ถ้าไม่พร้อมจะจับมือผม ก็อย่าจับเลยครับ เพราะเวลาที่มันโดนคุณสะบัดออก ผมรู้สึกเจ็บนะ แล้วอีกอย่างผมไม่ใช่พี่น้องของคุณแล้วก็ไม่อยากจะเป็นด้วย  ถ้าไม่พร้อมจะบอกใครว่าเป็นแฟนกัน ก็เลิกมายุ่งกับผมเถอะ ผมไม่ชอบเป็นของเก็บของใคร แล้วก็จะไม่ทนอยู่ในสภาวะนั้นด้วย ต่อให้รู้สึกชอบคุณมากแค่ไหนก็เถอะ ขอตัวนะครับ "


..................................................................

เดี๋ยวเค้าจะว่านิยายเราไม่มีดราม่า #คนอ่านเขวี้ยงรองเท้ามา
 :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:
เรามองว่าพี่ลิปนี่เหมือน คนเล่นกับไฟเลยอะ
คือรู้อยู่แล้วว่าพี่เมษน่ะ ร้อน คือ รู้อยู่แล้วแหละ รักแล้วต้องเจ็บ แต่ก็อยากลองไง
รักแล้วก็ต้องเลี่ยง.. ตอนหน้าดูกันว่า พี่เมษจะง้อน้องลิปยังไง

ฝากแท็ก #ฟานคีย์ ให้ทวิตด้วยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้า  :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:

ออฟไลน์ milin03

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 481
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
ชอบลิปอ่ะ  ตรงดี!!

เห็นด้วยทุกอย่าง คนเราถ้าไม่พอใจไม่เข้าใจ และไม่พร้อมก็อย่าคบกัน

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :hao7:   โอโหมะ.    ทางเรียบอยู่ดีๆเข้าโค้งหักศอกเมื่อสะบัดมือเลยค่ะ
โอ๊ยโดนมากทุกประโยคเลยอ่าลิป. คือเอาตรงๆนะ ลุงไม่น่าพูดไปว่าน้องชายเลยอะ ไม่ตอบก้อไม่เป็นจะเป็นไร
แล้วก้อทำรอยที่คอในห้องลองเสื้อเราว่ามันมากไปนะ. ล้ำเส้น คนอื่นมองเห็นได้แล้วมันก็ดูไม่ดีเลย

ง้อด่วน น้อยใจแล้วนะคนแก่.  :L2:    ถ้ายังยึดอาชีพนี้อยู่ก้อคงต้องโสดยาวๆไปนะลุง
ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
กำลังมีโมเมนท์หวาน ลิปนั่งรอมาตั้งนาน มาเจอสะบัดแบบนี้ เป็นใครก็โกรธป่าว
เมษสมควรโดนมาก ตอนรุกก็รุกหนักจัง ตอนทิ้งไม่คิดจะแคร์คนของตัวเองเลย

เมษทำใจนะถ้าลิปจะไม่ยอม

ลิปน่าสงสาร ยอมขนาดนี้แล้ว แต่ชอบที่ชัดเจน เคลียร์มากด้วย สมน้ำหน้าเมษ


ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
อื้อออออออ สงสารลิปอ่าาา

เหมือนหนีสถานะนี้ยังไงก็หนีไม่พ้นสักทีเนอะ เฮ้ออออ

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
เจ็บจิงๆแหะ เข้าใจมากกว่าลิปก้อพระอิฐพระปูนแล้วนะคะคุณเมษ
ยังไง ก้อรักษาน้ำใจคนเปนแฟนกันมากกว่าคนอื่นบ้าง ก้อน่าขะดีนะคะ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
จะเป็นยังไงต่อไปนะ

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
จริงเวอร์ น้องลิป ใจเเข็งไว้นะ

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
ตรงสุดๆอ่ะลิป ชอบลิปตรงนี้ล่ะ คิดไงพูดงั้นไม่ต้องมาเกรงใจหรืออ้อมค้อมอ่ะ

ออฟไลน์ LovEYouOnLy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 439
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
พี่เมษก้ทำเกินไปจริง
สมควรที่ลิปจะโกด

ถ้าไม่ง้อให้ยิ้มมากๆนะ จะไม่ให้ลิปให้อภัยเลย

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
พี่เมษก็คงจะไม่ได้ตั้งใจที่จะทำแบบนี้  :katai1:

ออฟไลน์ cheezett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
ปล่อยมือชั้นถ้าหากว่ามันลำบากใจจจ
ถ้ากลัวคนเดิมหวั่นไหวก็ อย่า ฝืนยืนใกล้ๆกัน// อ่านจบเพลงนี้ลอยมาเลย :ling3: :ling3:

ลิปสู้ๆ เป็นใคร ใครก็โกรธ เราไม่เข้าใจว่าบอกว่าเป็นแฟนแล้วผู้มีพระคุณจะเป็นอะไรอ่ะ เกรงใจอะไรเรางง ก็ไม่ได้เป็นอะไรกันไม่ใช่หรอคะ หรือมีอะไรมากกว่านั้น ฮึ่มม :heaven :heaven

ออฟไลน์ Sky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 933
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
หนูลิปของป้าาาาาา :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ oiruop

  • เ รื่ อ ง โ ง่ โ ง่ นี่ ฉ ล า ด นั ก ⊙﹏⊙∥
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 470
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
    • https://www.facebook.com/book.yaoi?fref=ts

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง
ตอนที่ 16
' รักเราจะรอดเหรอ ? '

“ ลิป ลิป  "

“ ห๊ะ หื้ม ? " ผมหันไปมองเสียงเรียกที่ได้ยินแว่วมา คนเรียกที่ยืนข้างๆทำเอาผมตาโตก่อนจะเด้งตัวถอยหนีทันทีด้วยความตกใจ " หัวหน้า!”

“ ก็ฉันนะสิ เป็นอะไร นายเหม่อไปถึงแล้ว เมื่อไหร่จะทำงาน จ้างมาทำงานนะครับไม่ได้จ้างให้มานั่งเหม่อ " เสียงทุ่มที่บอกก็ตอนแรกคิดว่าเป็นคีย์ก็เลยไม่สนใจอะไรที่ไหนได้เป็นหัวหน้ามายืนจ้องเค้าแล้วเรียกเค้าอยู่ตังหาก
 
“ ครับผม ขอโทษครับ " หันกลับไปจ้องงานของตัวเอง หัวหน้าก็หัวเราะก่อนจะหันไปสนใจคีย์ต่อ ร่างสูงที่ค่อมอีกฝ่ายอยู่ในตอนนั้น เค้าจับมือคีย์ให้ลากเม้าส์เป็นรูปร่างอะไรสักอย่างเพื่อสอนงาน ทำยังกับเพื่อนเค้าเพิ่งหัดทำงานอย่างงั้นละ แล้วหน้านี่จะแนบชิดไปไหนจะสิงเข้าไปอยู่แล้ว " อะ แฮ่ม " ผมกระแอมไอ ก่อนที่หัวหน้าจะหันมามอง " ใกล้ไปมั้งครับ เค้ามีเจ้าของแล้วนะคนนั้นน่ะ "

“ ผมไม่ถือหรอก " เค้าพูดสั้นๆ คีย์ก็มองเราสองคนแบบแบบสลับไปมา ผมขมวดคิ้วมองหัวหน้าเพราะคำพูดแปลกๆของเค้าจนต้องเปลี่ยนคำตอบ " ผมหมายถึงว่าผมแค่สอนงานลูกน้อง ผมไม่ถืออะไรแบบนั้นหรอก คีย์เองเค้าก็ไม่เห็นจะถือนี่ ใช่มั้ย ฉันแค่สอนนายเอง "

“ มั้งครับ " อีกคนตอบก่อนจะดึงตัวเองให้ออกห่างจากหัวหน้าที่เหมือนจะเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ผมมองดูหัวหน้าสอนงานเพื่อนตัวเองอยู่สักพัก โคตรอยากจะถ่ายภาพนี้ไปให้ฟานดูเลยจะได้ทำสัญลักษณ์ตีตราจองคีย์ไว้เยอะๆเอาชนิดที่ว่าไม่กล้าจะเข้าใกล้เพราะรู้สึกว่าไอ้หมอนี่คงโดนมาเยอะเกินไปจนไม่อยากจะทำเรื่องอะไรแบบนั้นด้วยแล้ว

“ ตั้งใจทำงานได้แล้วลิป " หัวหน้าบอกผม ตอนที่เค้าเดินกลับไปที่โต๊ะของตัวเอง คีย์ก็ถอนหายใจออกมาก่อนจะพิงตัวเองกับเก้าอี้เหมือนคนหมดแรง

“ เป็นอะไรไป หัวใจจะหยุดเต้นเลยรึไง คนที่ชอบเข้ามาใกล้ " ผมแซว อีกคนก็หันมาทำหน้าเบื่อโลกใส่ซะงั้น

“ มันเหมือนการคุกคามทางเพศเลยว่ามั้ย  "

“ ยังไง "

“ ไอ้ที่เค้ามาจับมือฉันแล้วบอกว่าสอนฉัน  ทั้งๆที่ฉันทำได้ดีกว่าเค้าซะอีก " คีย์บอก

“ เดี๋ยวนี้เค้าเข้าหานายจังนะ หย่ากับเมียแล้วเหรอ " สังเกตจากหลายๆอย่างปกติหัวหน้าจะอบอุ่นกับคีย์กว่านี้ เค้าจะแค่มองเฉยๆ แต่เดี๋ยวนี้เหมือนว่ามีจับเนื้อต้องตัวมากขึ้น สายตาก็เหมือนมองมาแบบมีความหมายมากขึ้น ราวกับอยากจะกลืนกินอีกคนเข้าไปทั้งตัวอย่างงั้นอะ

“ ยังอะ " ร่างบางส่ายหน้า " แต่คงเพราะฉันไปบอกเค้าว่า ฉันมีคนที่ฉันสนใจแล้วละมั้ง "

“ ก็คงอยากจะตะครุบเหยื่อให้เร็วขึ้นละมั้ง แบบเล็งมาตั้งนาน อยู่ๆ เหยื่อก็ถูกเด็กที่ไหนไม่รู้ฉกไปใครจะทนได้ " ผมแซว " แต่ฉันคิดว่าเค้าคงแค่อยากจะลองมีวันไนท์สแตนกับนายก็เท่านั้นแหละ แต่จะมากกว่านั้นก็ในกรณีที่นายแซ่บมากจนเค้าต้องการอีกนั่นก็อีกเรื่องนะ "

“ บ้า คิดอะไรอย่างงั้น "

“ คิดให้เยอะบ้างเถอะคีย์ คิดน้อยๆแบบนายระวังจะตกเป็นเหยื่อของเค้า จะมาเสียใจทีหลังไม่ได้นะ ทำอะไรก็คิดถึงฟานหน่อย "

“ ไอ้ลูกหมานั่นอีกแล้ว ทำไมฉันต้องไปคิดถึงไอ้ลูกหมานั่นด้วยล่ะ "

“ พูดแค่นี้ต้องยั๊วะด้วย " ร่างบางที่เสียงดังขึ้นมาพอผมพูดถึงฟานแค่หน่อยเดียวเอง ไม่รู้ทะเลาะอะไรกันมาอีก " ทะเลาะกันเหรอ "

“ เปล่า " เค้าตอบก่อนจะถอนหายใจออกมา " แต่อย่าพูดถึงชื่อนั่นได้มั้ย มันน่าหงุดหงิด "

“ อ่านะ " พยักหน้ารับก่อนจะหันมามองงานตัวเองอีกคนก็ถาม

“ ว่าแต่นายเถอะ เหม่ออะไรอยู่ คิดถึงแฟนเหรอ "

“ แฟน ? “ ผมทวนเสียงอีกคนก็ขมวดคิ้ว

“ ก็คุณเมษอะไรนั่นที่เล่าให้ฟังไง อะไร ทำมาเป็นไม่รู้จัก "

“ อ๋อออ คุณเมษ แค่คนที่กำลังคุยด้วย ไม่ได้เรียกว่าแฟนสักหน่อย " ใช่ว่าไม่รู้หรอกว่าอีกคนหมายถึงใคร จริงๆก็รู้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วแต่แค่ไม่อยากจะนึกถึง หรือให้ความสำคัญอะไรเค้าทั้งนั้น ผมไม่ได้ร้องไห้กับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแค่รู้สึกเจ็บนิดหน่อยเหมือนโดนตบหน้าแรงๆก็แค่นั้น เค้าเองไม่ได้ผิดอะไร เพราะเค้าก็ไม่ได้โกหก แถมยังสารภาพออกมาตรงๆด้วยซ้ำ แต่เป็นเรามากกว่าที่รับไม่ได้ที่จะคบกับเค้าแล้วต้องอยู่ในสถานะจำยอมมากมายแบบนั้น   " แล้วฉันก็คิดว่าเค้าไม่ใช่แฟนฉันด้วยนะ "

“ อ้าว ทำไมละ "

“ ก็ฉันคงคบกับหัวหน้าโฮสคลับอย่างเค้าไม่ได้หรอก นายทนได้เหรอที่ต้องเห็นแฟนตัวเองไปเที่ยวไหนมาไหนกับคนอื่น แล้วเราก็ต้องคอยรอเวลาจนกว่าเค้าจะเลิกงาน แถมตอนไปเที่ยวด้วยกันบางทีก็ถ้าเจอลูกค้าคนที่ใช้บริการเค้าบ่อยๆ ก็ต้องเกรงใจเค้า ถ้าจับมืออยู่ก็ต้องปล่อยมือ แล้วถ้าเค้าถามก็ต้องบอกว่า แค่พี่น้อง "

“ นายเพิ่งเจอเรื่องแบบนั้นมาสินะ " อีกคนถามผมก็พยักหน้ารับ

“ มันก็ดี เค้าก็เป็นคนที่ใช่นั่นแหละ นิสัยดี ตลก เข้ากันได้ แต่ว่าอาชีพของเค้ามากกว่าที่เข้ากับฉันไม่ได้ " ฝืนยิ้มออกมาตอนที่ได้แต่คิดถึงความสัมพันธ์ที่ดีของเรา เอื้อมมือจับรอยแดงจางๆที่คอ หัวใจมันก็เริ่มสั่นขึ้นเรื่อยๆ คิดถึงใบหน้าคมที่ก้มลงมาใกล้ คำพูดของเค้าหรือแม้ทุกสัมผัสที่ได้ใกล้ชิด มันคงดีถ้าเค้าจะเป็นแค่ช่างถ่ายภาพธรรมดา และคงดีกว่าถ้าเมื่อคืนเราไม่เจอเธอคนนั้น คนที่ทำให้เค้าต้องปล่อยมือจากผมไป

“ ตอนแรกฉันเห็นนายรอเค้าทุกวันก็คิดว่าจะไปด้วยกันได้ดีซะอีก "

“ มันก็ไปได้ดีอย่างที่นายคิดนั่นแหละคีย์ แต่ว่าเมื่อวานตอนที่กำลังจูงมือซื้อของด้วยกัน อยู่ๆก็ไปเจอผู้หญิงคนนั้นเข้ามาทักเค้า ตอนนั้นน่ะเค้าปล่อยมือฉัน เดินไปหาเธอที่พอถูกถามว่าเป็นอะไรกันเค้าก็บอกแค่สั้นๆว่า พี่น้อง " ผมยิ้มฝืนๆออกมาตอนที่เล่าอีกคน " จะว่ายังไงดีละ การที่เราบอกใครว่า เป็นพี่น้องกันมันมีหลายความหมายนะ  อย่างตอนที่เค้าลากฉันไปลองเสื้อผ้าในห้องเดียวกัน แล้วพนักงานเห็นเราเดินออกมา ฉันก็บอกเค้าไปว่า เราเป็นพี่น้องกัน ฉันพูดเพราะฉันเขินทั้งๆที่พนักงานเค้าไม่ได้ถามอะไรด้วยซ้ำ แต่ที่เค้าพูดว่าเราเป็นพี่น้องกัน มันเหมือนว่าเค้าไม่อยากให้ผู้หญิงคนนั้นเข้าใจผิด เหมือนเค้าเกรงใจเธอ กลัวเธอจะโกรธอย่างงั้นแหละ แล้วเค้าไม่รู้สึกเหรอวะ ว่าฉันเองก็เสียใจเป็นเหมือนกันที่โดนทำแบบนั้น "

“ ลิป " คีย์เอื้อมมือมาจับไหล่ผม

“ ฉันไม่รู้ว่าต้องรู้สึกยังไงวะ ถ้าฉันอยากจะคบต่อก็ต้องเข้าใจเค้าเหรอ เป็นนาย นายทนได้มั้ย ถ้าฟานทำแบบนั้นกับนาย นายจะทนคบกับใครสักคนที่ทำงานเป็นโฮสดูแลคนอื่น นายจะคบกับเค้าที่ทำงานแบบนั้นได้มั้ย "

“ ไม่ได้หรอก " อีกฝ่ายที่พูดสั้นๆออกมา " สำหรับฉัน ฉันไม่ใช่คนใจกว้างและสามารถทนอยู่ในสภาวะแบบนั้นได้ ฉันน่ะ แค่นายบอกว่าชอบฟานตอนนั้นก็ดิ้นเป็นไฟแล้ว เพราะงั้นถ้าถามฉัน ฉันคงตอบว่าไม่ แต่ลิป คิดดูให้ดีนะ นายชอบเค้ามากขนาดที่จะยอมเรื่องแบบนี้รึเปล่า ในอนาคตจะมีปัญหาอะไรอีกมั้ย แต่ฉันไม่คิดว่ามันจะหยุดแค่เรื่องนี้หรอก เค้าทำงานเป็นโฮสนะ ต่อไปถ้ารักกันมากขึ้น นายมั่นใจได้ไง ว่านายจะไม่หึงแฟนนาย ต่อให้แฟนนายจะไปบริการผู้หญิงกี่คนก็ตาม "

   ทัศนคติของเรามักเปลี่ยนไปเมื่อมีความรัก ก่อนหน้านี้ผมมองว่าความคิดการเป็นโฮสที่ให้คำปรึกษาเรื่องต่างๆ เป็นไอเดียที่โคตรเจ๋ง แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันกลับกันไปหมดแล้ว .. เค้าไม่ใช่แค่คนทำหน้าที่โฮสอีกแล้วแต่กำลังพ่วงด้วยตำแหน่งที่สำคัญต่อใจผม นั่นนะสิ.. เราจะมั่นใจได้ไงว่าถ้ารักกันมากขึ้นจะรับได้ ' ตัดใจตั้งแต่ตอนนี้ดีกว่ามั้ย ลิป '

   ถอนหายใจออกมา ก่อนจะก้มหน้าก้มตาทำงานของตัวเองต่อไป ผละหน้าออกจากมือถือที่ยังคงมีการติดต่อมาไม่หยุดจากคนเมื่อคืนที่เราจากกันแบบไม่ได้อธิบายอะไรสักอย่าง ทั้งข้อความ หรือแม้แต่สายเรียกเข้า ถ้าการตัดใจจากใครสักคนมันง่ายก็คงดี แต่น่าเสียดายที่ใจของเรานั้น มันทั้งอ่อนไหว และอ่อนแอ เมื่อนำความรู้สึกไปผูกกับอีกฝ่ายแล้ว ก็ยากที่จะตัดออก

“ วันนี้นายไม่รีบกลับบ้านไปหา ไอ้ลูกหมาของนายเหรอ " ผมหันไปถามคีย์ตอนที่เงยหน้าขึ้นมองเวลาที่ตอนนี้ใกล้จะสองทุ่มแล้วแต่เหมือนเพื่อนที่นั่งโต๊ะข้างๆยังไม่ลุกออกไปไหนเลย คีย์ยังคงทำงานอย่างตั้งใจอยู่แบบนั้นแม้ว่าคนจะออกไปแล้วตั้งครึ่งออฟฟิศ
 
“ ไม่อะ " เค้าตอบสั้นๆ ก่อนจะถอนหายใจออกมา " ไอ้หมอนั่นไม่อยู่ "

“ ไปไหนอะ "

“ ไปตายมั้ง " ผมเงียบกับคำตอบของใครอีกคน คีย์วางมือที่กำลังขีดเขียนอะไรบางอย่างเค้าผ่อนลมหายใจออกมาก่อนจะหันมามองหน้าผม " เค้าไม่อยู่น่ะ หายหัวไปเลย "

“ อ้าว แล้วเค้าบอกมั้ยว่าไปไหน "

“ ก็บอก " เค้าพยักหน้ารับ

“ แล้วนายจะหงุดหงิดทำไม ฉันก็คิดว่านายโดนทิ้งซะแล้วถึงได้มานั่งทำงานหน้าตาหงุดหงิดอยู่แบบนี้ "

“ ก็ เค้าไม่ยอมติดต่อมาเลย "

“ นายก็ติดต่อไปสิ " ใบหน้าหวานหันมามองหน้าผม สำหรับคำแนะนำที่เหมือนต้องยื่นมือออกไปก่อนแบบนั้นเป็นความรู้สึกที่จะไม่ถนัดเอาซะเลยสำหรับคีย์ " ท่าทางจะไม่กล้าละสิ "

“ ไม่ใช่สักหน่อย "

“ เหรอออออ " ผมลากเสียงยาวก่อนจะยิ้มออกมา ขอให้ได้เถียงจริงๆทั้งๆที่คำพูดทุกคำ หน้าตา ก็บอกออกมาหมดแล้วว่าที่หงุดหงิดก็แค่คิดถึงเค้ามากมันก็เท่านั้น " เป็นฉัน ฉันจะโทรไปแล้วบอกว่า ฉันน่ะคิดถึง ไม่สบายอยู่ไหน เมื่อไหร่กลับ กลับมาได้แล้วน้า เหงามากเลย อยากจะกอด จุ๊บๆ "

“ บ้า " คีย์เบือนหน้าหนี แก้มแดงๆของเค้าก้มหน้าลงช้าๆ " ฉันทำแบบนั้นเป็นที่ไหน "

“ ไม่เป็นก็หัดสิ ของแบบนี้มันต้องลอง "

“ คนเรานี่ก็แปลกนะว่ามั้ย " เสียงถอนหายใจที่ดังขึ้นมาหลังคำพูดนั้น  " ตอนที่ไม่มีก็อยู่ได้สบายดีนั่นแหละ แต่ทำไมพอมีแล้วขาดไปสักหน่อย ก็เหมือนจะอยู่ไม่ได้แล้ว ฉันน่ะควรดีใจมากตังหากไม่ใช่เหรอที่สะบัดไอ้ลูกหมานั่นออกไปได้ ควรจะดีใจว่าตัวเองจะได้นอนบนเตียงกว้างๆคนเดียวแบบไม่ต้องแบ่งใครตั้งหลายวัน แต่น่าแปลกตอนนี้ฉันกลับรู้สึกว่า เตียงของฉันใหญ่เกินกว่าจะนอนคนเดียวแล้ว "

“ คีย์ "

“ งี่เง่ามากเลยอะ ที่ฉันต้องมาเป็นแบบนี้ ต้องมาคิดถึงคนที่ไม่คิดจะโทรหาฉันด้วยซ้ำ "

“ ก็อาจจะยุ่งก็ได้ อย่าคิดมากเลย " ผมปลอบเค้า แต่มันก็จริงอย่างที่อีกคนพูด ตอนที่ไม่มีเราเองก็อยู่ได้ไม่เห็นต้องมีเลย แต่พอมีแล้วทำไมพอขาดไปกลับรู้สึกว่าจะอยู่ไม่ได้ก็ไม่รู้ ยังคิดถึงเสียงที่ได้ยินอยู่ข้างหู ความอบอุ่นทุกอย่างที่ได้ใกล้ชิด ความสุขทุกอย่างที่อยู่รอบตัวในคืนนั้น

“ ลิป " คีย์เอ่ยเรียกผม ตอนที่มองเค้าอีกคนก็กำลังมองหน้าผมอยู่

“ มีอะไรเหรอ "

“ นายเหม่ออีกแล้วอะ "

“ โทษที แค่กำลังคิดว่าคำพูดนายมันก็จริงอย่างที่นายพูดมันก็เท่านั้นอะ " ผมบอก " กลับบ้านกันมั้ย ไปหาเบียร์อร่อยๆกินกันก่อนกลับเถอะ "

“ อย่างงั้นก็ได้เอาสิ " พยักหน้ารับผม คีย์หันไปปิดคอมของตัวเอง ผมเองก็เหมือนกัน จัดของส่วนตัวใส่กระเป๋าตอนที่เปิดลิ้นชักที่ใส่มือถือไว้ ผมพบว่ามันดับไปซะแล้ว อีกฝ่ายคงโทรมาจนแบตหมดไปเลยละมั้งแต่ก็ดีเหมือนกันจะได้เลิกติดต่อมาสักที

“ ไปกันเถอะ ไม่มีแฟนมากวนใจก็ไปดื่มให้หนำใจไปเลยดีกว่า " รอยยิ้มที่ตอบรับผม เราเดินออกจากออฟฟิศไปที่ชั้นล่างของตึก ผู้คนที่ดูบางตาเพราะเลยเวลาเลิกงานมานานแล้ว

“ จะว่าไปก็อยากจะกินเบียร์อร่อยๆกับของทอดเหมือนกันนะ  ร้านที่ใกล้คอนโดนายที่เราไปกินวันนั้นมันอร่อยมากเลย "

“ ใช่มั้ยละ " คีย์พยักหน้ารับ " หรือว่าเราจะไปกินที่ร้านนั้นกันดี "

“ ก็ได้นะ เอาสิ " ตอบตกลงกันดิบดีแต่ทว่าขาที่กำลังเดินอยู่ๆก็ได้ยินเสียงนึงเรียกขึ้นมาเสียก่อน


ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
“ ลิป " ผมหันไปตามเสียงเรียกนั้นผู้ชายคุ้นหน้าที่เดินเข้ามาใกล้ ทำเอาหัวใจที่มีสั่นไปหมด ผมกลืนน้ำลายคงคอด้วยความตื่นเต้น ถอยหลังช้าๆตอนที่เค้าเดินเข้ามาใกล้มากขึ้น คุณเมษก็พูดขึ้น " ขอคุยด้วยหน่อยได้มั้ย "

“ วันนี้ไม่ว่าง พอดีนัดเพื่อนไปกินข้าวด้วยกันแล้ว " เชิดหน้าไปทางคีย์

“ สวัสดีครับ " คีย์ทัก " คุณคงเป็น คุณเมษสินะครับ "

“ ครับ ยินดีที่ได้รู้จัก "

“ เช่นกันครับ คุณ.."

“ คีย์ครับ " รอยยิ้มที่เพื่อนผมมอบให้เค้า เบือนหน้าหนีออกมาก่อนจะคว้ามือของคีย์แล้วเดินออกไปจากตรงนั้น

“ ไว้เจอกันนะครับ วันนี้ผมมีนัดแล้ว "

“ เดี๋ยวสิ " มือหนาดึงมืออีกข้างของผมไว้ " คุยกับฉันให้รู้เรื่องก่อน "

“ แต่วันนี้ฉันมีนัดแล้ว " ผมหันไปพูดกับเค้า " ไว้เราค่อยคุยกันก็ได้ "

“ ค่อยคุยกัน ? “ คุณเมษทวนคำพูดของผม " คุยตอนไหน ฉันโทรไปหานายก็ไม่รับสาย ส่งข้อความไปก็ไม่ตอบ ฉันโทรตลอดทั้งวัน จนมือถือนายแบตหมดไปแล้วมั้ง แต่นายก็ไม่ตอบ แล้วแบบนี้นะเหรอที่บอกว่า เราค่อยคุยกัน อย่ามาหลอกฉันหน่อยเลย "

“ แต่ฉันจะไปกับเพื่อนจริงๆ เรานัดกันแล้ว ใช่มั้ยคีย์ " ผมหันไปถามอีกคนที่ก็ทำหน้าตาเหรอหราแบบไม่รู้เรื่องเท่าไหร่ที่ผมจะโยนคำถามไปให้เค้าตอบเสียแบบนั้น

“ ก็ใช่ เรานัดกันแล้ว "

“ งั้นผมขอไปด้วยคนได้มั้ยครับ คุณคีย์ "

“ เอ่อ.. “ เค้าหันมามองผมตอนที่ร่างสูงถามคำถามนั้นกับเค้า " เรื่องนี้ผมว่า คุณถามลิปดีกว่านะครับ ผมได้ทั้งนั้นแหละ "

“ งั้นฉันไปด้วยนะ " สายตาคมที่หันมามองผม เบือนหน้าหนีอีกคน ในตอนนั้นคีย์ที่หันมองซ้ายขวาทำได้แต่ยิ้มแห้งๆออกมา

“ เอ่อ..ลิป  ฉันว่าฉันไม่ไปแล้วดีกว่า "

“ ได้ไง " ผมบอก " เรานัดกันแล้วนะ "

“ ฉันรู้สึกไม่ค่อยอยากจะกินแล้วอะ ขอกลับบ้านดีกว่า " 

“ คีย์ " เดินเข้าไปหาเค้าอีกคนก็มองคุณเมษก่อนจะกระซิบผม

“ นายไปเคลียร์กับเค้าให้รู้เรื่องเถอะ ปล่อยไว้คาราคาซังแบบนี้ไม่มีผลดีอะไรหรอก เคลียร์ไปดีกว่าจะเอาไงจะได้จบๆ เชื่อฉันสิ " คีย์พยักหน้าบอกผมในตอนนั้น ตัวผมเองก็ถอนหายใจออกมา " งั้นฉันกลับก่อนนะ ขอตัวก่อนนะครับคุณเมษ " ก้มหน้าลาอีกคนก่อนจะยิ้มให้ผม คีย์เดินออกไปเหลือไว้แค่เราที่มองหน้ากัน ผมที่ไม่รู้จะพูดอะไรหันหน้าไปมองทางอื่นก่อนจะถอนหายใจออกมา
 
“ ทำไมนายถึงไม่รับสายโทรศัพท์ฉันละ " คำถามแรกที่เค้าถามออกมา ผมหันไปจ้องหน้าเค้าที่เค้าเองก็กำลังจ้องผมเช่นกัน

“ แล้วทำไมต้องรับด้วยละ ผมทำงานนะคุณไม่มีเวลาว่างมารับสายหรอก งานยุ่งจะตายไป "

“ แม้แต่เวลาพักเที่ยงเค้าก็ไม่ได้เวลาพักเหรอ "

“ แล้วคุณจะโทรมาอีกทำไม " ถามเค้าออกไปตรงๆ " เรามีอะไรต้องพูดเหรอ ผมเองก็บอกคุณออกไปตรงๆแล้ว ว่าผมเองไม่อยากจะเป็นพี่น้องของคุณแล้ว แล้วก็ไม่อยากจะเกรงใจใครต่อใครเวลาเดินจับมือกับคุณด้วย เราคบกันไม่ได้หรอกคุณ ให้ผมเกรงใจผู้มีพระคุณของคุณแล้วทำเป็นไม่รู้สึกอะไรแบบนั้น ผมทำไม่ได้หรอก  ตอนที่มองเธอที่จ้องหน้าคุณเหมือนแสดงความเป็นเจ้าของ ผมเองที่ต้องทำเหมือนถูกซ่อนอยู่ข้างหลังต้องเกรงใจแล้วปล่อยให้คุณเดินไปแทคแคร์เธอที่เป็นผู้มีพระคุณของคุณ ผมที่ต้องเข้าใจ เรื่องอะไรแบบนั้นผมไม่เข้าใจหรอก และจะไม่มีทางเข้าใจด้วย เพราะเธอไม่ใช่ผู้มีพระคุณของผมจะพูดแบบนั้นก็ได้ แต่เรื่องแบบนี้ต่อให้ใครพูดว่ามันเป็นเรื่องที่แฟนต้องเข้าใจและอะรุ่มอะร่วยกัน แต่คุณ..ผมไม่ใช่คนโลกสวยและใจดีขนาดนั้น ถ้าไม่สบายใจที่จะคบก็เลิกยุ่งกันเถอะ แบบนั้นมันไม่ดีกว่าเหรอครับ คุณไปหาคนที่จะเข้าใจคุณ คนที่จะหลบอยู่หลังคุณเวลาที่เจอผู้มีพระคุณของคุณ คนที่เค้าใจดีทนให้คุณไปไหนมาไหนกับใครก็ได้ คุณไปหาแฟนแบบนั้นเถอะ "

" แต่ฉันอยากได้นายเป็นแฟน นายเท่านั้น " เหลือบตามองคำพูดเอาแต่ใจของคนตรงหน้า " ฉันยอมรับว่าฉันผิดที่ทำแบบนั้น ฉันขอโทษที่อยู่ๆก็ปล่อยมือนาย ขอโทษที่ทำให้นายเสียใจด้วยคำพูดที่สิ้นคิดของฉัน ฉันขอโทษ ฉันรู้ว่ามาพูดตอนนี้ มาแก้ไขตอนนี้ก็เหมือนไม่ทันเวลาแล้ว นายโกรธฉันแล้ว แล้วก็ไม่มีทีท่าจะหายโกรธด้วย แต่ช่วยฟังที่ฉันจะอธิบายหน่อยได้มั้ย ทุกอย่างมันแก้ไขได้หันหน้ามาคุยกับฉันหน่อย อย่าเพิ่งตัดสินใจอะไรด้วยตัวเองทุกอย่างสิ อย่าคิดว่ามันจะแก้ไขไม่ได้  เราจะคบกันไม่ได้เลยเหรอ ผมปรับได้นะ ผมจะเปลี่ยนเพื่อคุณ "

“ คุณจะเปลี่ยนมันทั้งๆที่มันเป็นอาชีพของคุณนะเหรอ คุณเมษ " ผมเอ่ยเรียกเค้า " คุณเปลี่ยนอดีตไม่ได้นะ คุณบอกว่าเธอเป็นผู้มีพระคุณของคุณ คุณเลยต้องเกรงใจเธอ ถามหน่อยคุณจะเปลี่ยนยังไง "

“  ทำไมนายถึงปิดกั้นทุกอย่างจากฉัน ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ที่เราจะคบกันนายก็บอกเองว่า มาลองคบกันดู มาลองเปลี่ยน มาลองพยายามกันดู ฉันที่ไม่กล้าแม้จะบอกว่าคบกับนายเพียงเพราะนายชอบคนที่เด็กกว่า แต่นายเป็นคนที่ยื่นมือออกมาแล้วบอกว่าให้ฉันกล้า แต่พอเกิดเรื่องนี้ขึ้น ทั้งๆที่ยังไม่ลองแก้อะไรทั้งนั้น ยังไม่ได้คิดจะทำอะไร นายก็สะบัดมือฉันออกแล้วบอกว่า พอเถอะ มันง่ายไปมั้ย กับคำพูดที่บอกว่า มาลองคบกัน มาพยายามกัน มันง่ายไปมั้ยที่นายจะมาบอกให้ฉันเลิกยุ่งกับนาย เพียงเพราะเรื่องนี้ที่ฉันยังไม่ได้แก้ไขอะไรมันเลยสักอย่าง " ร่างสูงคว้ามือของผมไปจับเอาไว้ เค้าที่ถอนหายใจออกมา " ช่วยฟังเหตุผลของฉัน ช่วยบอกฉันว่านายต้องการอะไร แล้วช่วยอยู่ดูฉันแก้ไขมันเพื่อนายก่อนไม่ได้เลยเหรอ ใจฉันที่ชอบนายมากไปแล้ว ขอโอกาสให้มันเปลี่ยนแปลงตัวเองสักนิดไม่ได้เหรอ ฉันขอโทษที่พูดไปโดยไม่คิด ฉันขอโทษที่ทำร้ายจิตใจของนาย จะโกรธฉันก็ได้ลิป แต่อย่าเพิ่งไล่ฉันออกไปไหนเลย ฉันชอบนายขนาดนี้ ฉันไปไหนไม่ได้แล้วละ "

“ แล้วไงอะคุณ คิดว่าพูดแค่นี้มันจะเปลี่ยนความรู้สึกอะไรได้รึไง " ผมเบือนหน้าหนีอย่างไม่กล้าจ้องคนตรงหน้าตรงๆ ก็จริงอย่างที่อีกคนพูดทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ก็บอกว่าจะค่อยๆศึกษากัน แต่ทำไมพอมีปัญหาแค่เรื่องเดียวผมถึงผลักเค้าออกไปแบบไม่ใยดีแบบนั้น " แล้วคุณจะทำยังไง บอกผมหน่อยเถอะ จะให้ผมลองคบคุณอีกครั้งแล้วคราวนี้ถ้าเจอใครที่เป็นผู้มีพระคุณของคุณอีก แล้วก็ต้องถอยไปอยู่ในที่ที่คุณบอกว่า เราเป็นแค่พี่น้องกัน ถูกต้องมั้ย "

“ ทำไมแค่คำพูดเดียวนายถึงเอามันมาใช้คิดแค้นโกรธฉันขนาดนั้น "

“ ในทางกลับกันถ้าเมื่อวานผมเจอกิ๊กเด็กของผม เค้าเดินตรงเข้ามาหา เราทักทายกัน แล้วผมก็บอกเค้าไปว่า เราเป็นแค่พี่น้องกัน คุณจะรู้สึกยังไงเหรอ มันเปลี่ยนไปใช่มั้ยละ ความรู้สึกของคุณ มันเปลี่ยนไปจากเดิมตอนที่ผมบอกกับพนักงานร้านเสื้อว่าเราเป็นพี่น้องกันถูกมั้ย นั่นแหละความรู้สึกของผม "

“ เมื่ออีกฝ่ายดูเหมือนว่าจะเป็นคนที่ดูมีใจ ความรู้สึกมันก็ถูกมองเปลี่ยนไปสินะ "

“ ไว้สักวัน คุณจะรู้สึกเข้าใจเองละ ว่าทำไมผมถึงรู้สึกโกรธเพราะมันเป็นความรู้สึกที่ทั้งเจ็บปวดแล้วก็เสียใจ เหมือนแค่เราคนเดียวเท่านั้นที่คิดไปเองว่าเราคือ แฟนกัน คล้ายๆคนถูกตบหน้าจนชา "

“ ฉันขอโทษ  " ถ้อยเสียงที่พูดออกมา มือหนาที่ดึงตัวผมเข้าไปกอด " ผมไม่ทันคิดว่ามันจะทำให้คุณเสียใจขนาดนั้น "

“ รู้อะไรมั้ย ถ้าคุณเปลี่ยนอะไรไม่ได้ทางที่ดีที่สุด คือปล่อยผมไปเถอะ "

“ พูดแบบนี้อีกแล้ว "

“ ใครมันจะไปทนเสียใจได้หลายๆครั้งว่ะคุณ ผมขอโทษที่พูดแบนนั้น แต่ผมคิดแบบนี้จริงๆนะ ต่อไปถ้าเราคบกันมันไม่ได้มีแค่เรื่องผู้มีพระคุณของคุณอย่างเดียวหรอก มันต้องมีอีกหลายๆเรื่องที่เข้ามา คุณทนง้อผมแล้วจะแก้ปัญหามันไปทั้งหมดได้จริงๆเหรอ "

“ ได้สิ " เค้าพยักหน้ารับ

“ แม้ว่าสักวันผมจะบอกว่าจะบอกว่าให้คุณเลิกเป็นโฮสเพียงเพราะผมหึงที่คุณไปไหนมาไหนกับผู้หญิงมากหน้าหลายตาน่ะเหรอ " ใบหน้าคมที่จ้องมองผม ผมยิ้มจางๆออกมาตอนที่ดึงตัวเองให้ออกห่างจากตัวเค้า " ความจริงเป็นสิ่งที่เราต้องยอมรับนะคุณเมษ เพราะสักวันผมอาจจะไม่ได้มองเห็นคุณเป็นแค่คุณเมษคนธรรมดา แต่ผมจะมองคุณเป็นคนที่ผมรัก เป็นของของผม ของที่ผมจะไม่มีวันให้ใคร "

“ แต่คุณก็เคยบอกว่า งานนี้เป็นงานที่ดี "

“ ตอนนั้นคือตอนที่ผมเป็นแค่ลูกค้าคนนึงครับ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ที่ผมเป็นแฟนคุณ " เรายืนเงียบให้กันและกันในตอนนั้น อีกฝ่ายที่คงกำลังใช้ความคิดอะไรสักอย่าง สายตาคมที่มองหน้าผมเค้าเอื้อมมือมาจับมือของผมเอาไว้แน่น

“ คุณบอกใช่มั้ย เมื่อวานน่ะ ว่าถ้าจับแล้วคิดจะปล่อยก็อย่าจับมือคุณ "

“ อื้ม " ผมพยักหน้ารับ

“ ตอนนี้ผมจับมือคุณอยู่นะ แล้วผมก็ไม่คิดจะปล่อยด้วย " เค้าพยักหน้ารับ " ผมจะไม่ถอยหลังเพียงเพราะคำพูดในอนาคตที่คุณเป็นคนพูดแล้วบอกว่ามันจะเป็นอย่างงั้นหรอก เพราะผมมั่นใจว่าจะไม่ปล่อยมือคุณแล้วไม่ว่าอะไรจะเกิดผมจะไม่กลัวด้วย จะไม่กลัวคำพูดของคุณเด็ดขาด "

“ คุณเมษ ทำไมถึงได้ดื้อแบบนี้  "

“ เพราะผมไม่รู้ว่าอนาคตเป็นยังไง ทำไมต้องกลัวด้วยละ ถ้ากลัวตั้งแต่วันนี้ เราจะได้รักกันมั้ยละ " ผมนิ่งไปตอนที่เค้าพูดคำนั้นขึ้นมา เหมือนครั้งแรกที่เราเจอกันเลย คำที่ผมบอกกับตัวเองว่าอย่ากลัวอนาคต อย่ากลัวที่จะเดินไป " ผมจะไม่ปล่อยมือคุณ จนกว่าคุณจะสะบัดมือออกไปจากผมก่อน "

“ ดื้อด้านชะมัด " ผมบ่นออกมา อีกคนก็ดึงตัวเองมากอดผมไว้

" ตอนที่ขอเป็นแฟนนายครั้งแรก นายบอกเองไม่ใช่เหรอว่าให้ลองเสี่ยงดู " อ้อมกอดที่ผละตัวเองออกจากผม อากาศเย็นๆที่พัดอยู่รอบตัวเราผู้คนรอบข้างที่เดินไปมาอยู่ที่นอกถนน แม้ตรงนี้จะเงียบไม่มีใครแต่ก็ได้ยินเสียงรถชัดเจน สบสายตาของกันและกันผมถอนหายใจออกมาตอนที่หลับตาลงช้าๆเค้าก็จูบลงบนริมฝีปากของผม ความเสี่ยงที่เอาหัวใจของตัวเองเป็นเดิมพัน ผมไม่รู้ว่าตัวเองกำลังโง่ หรือกำลังโง่มากๆกันแน่  " ลิป "

“ หื้ม ? “ เค้าผละตัวเองให้ออกห่าง

“ ช่วยไปที่ที่นึงกับฉันหน่อย "

“ ที่ที่นึง " ผมทวนคำพูดของเค้าอีกคนก็ยิ้มก่อนจะจับมือผมเดินไปตามทางกับเค้า มืออีกข้างของเค้ากดโทรศัพท์ของตัวเองด้วยความเคร่งเครียด " คุณเราจะไปไหนกันอะ "

“ ไปหาคนคนนึง " ความรู้สึกของผมบอกว่ามันคือคนเมื่อคืนกับที่เจอแน่ๆ มืออีกข้างที่จับมือของเค้าไว้

“ ถ้าเป็นคนนั้นเมื่อคืน ไม่ต้องก็ได้นะ "

“ ทำไมละ " คุณเมษหันมาถาม " วันนี้เค้ามาพบลูกค้าอยู่แถวนี้ แค่ร้านคาเฟ่ตรงนั้นเอง " ใบหน้าคมที่เชิดไปที่คาเฟ่ ผมก็ได้แต่มองตาม

“ ไปแล้วจะพูดว่าอะไร แสดงความมั่นใจว่า คุณกับเค้าไม่มีอะไรกันนอกเหนือจากเคารพเค้าที่เป็นผู้มีพระคุณน่ะเหรอ "

“ เรื่องที่เราเคยมีอะไรกัน เรื่องนั้นคุณไม่ติดใจจริงๆเหรอว่าตอนนี้ยังมีอะไรกันอยู่รึเปล่า " คำถามสั้นๆที่ชวนให้ผมนิ่ง เค้าที่ยกคิ้วขึ้นมา " เพื่อความสบายใจ ก็ไปกันเถอะ คุณจะได้เห็นกับตาไปเลยว่าผมไม่ได้รู้อะไรกับเธอมากกว่านั้น ไม่ได้แคร์เธออะไรขนาดนั้น ก็แค่เกรงใจแต่กลับสิ้นคิดทำร้ายความรู้สึกของคุณไปด้วย  "

" แล้วมันจะไม่เกิดผลเสียตามมารึไง.. " ยังไม่ทันจะห้ามอะไรเราสองคนก็มาหยุดอยู่ที่หน้าร้านนั้นแล้ว ผู้หญิงคุ้นตาที่วันนี้ใส่สูทสีดำตัวเนี๊ยบเดินออกมาจากร้านพอดี มือที่ถือโทรศัพท์ไว้คงจะนัดกันจากที่อีกฝ่ายคอยพิมพ์ข้อความส่งอยู่เมื่อครู่แน่ๆ

“ คุณมาเรีย สวัสดีครับ "

“ อ้าว ว่าไง ทำไมถึงเรียกฉันออกมาละ " เธอที่ตั้งคำถาม หันมองผมที่ถูกจับมืออยู่ข้างหลัง ก้มหน้าทักทายเธออีกฝ่ายก็ทักทายกลับ " มาเที่ยวกับน้องชายอีกแล้วเหรอ "

“ เปล่าหรอกครับ " อีกคนตอบ " คือเมื่อวานที่เราเจอกันน่ะ ผมบอกคุณว่าเราเป็นพี่น้องกัน แต่จริงๆผมโกหกน่ะ ทางนี้ก็งอนผมใหญ่โตว่าผมปล่อยมือเค้าแล้วบอกกับคุณว่าเราเป็นแค่พี่น้อง เค้าบอกว่าผมรักษาน้ำใจคุณ แต่ไม่รักษาน้ำใจเค้า จะขอเลิกกันให้ได้ วันนี้ก็เคยพาเค้ามาเจอคุณแล้วจะได้บอกกับคุณต่อหน้าไปเลย เด็กคนนี้ชื่อลิปครับ เป็นแฟนผม "

“ แฟน " เธอทวนเสียงตอนที่ผมเหลือบมองเธอ ที่ก็ยิ้มออกมา " ฉันรู้ตั้งแต่เมื่อวานแล้วละ "

“ ผมก็คิดว่างั้น "

“เธอก็ทำถูกแล้วละ เพราะเป็นฉัน ฉันก็โกรธนะ ถ้าคนที่ฉันรัก ไม่รักษาน้ำใจฉันน่ะ " เธอพูดออกมาสั้นๆ " เรื่องที่จะพบก็มีแค่นั้นใช่มั้ย "

“ ใช่ครับ " เค้าพยักหน้ารับ เธอเองก็ยิ้มก่อนจะมองหน้าผม

“ ขอให้มีความสุขละ " ทำไมถึงรู้สึกว่ามันไม่ใช่คำพูดที่จริงใจเอาซะเลย คุณมาเมียหันไปหาเมษก่อนจะยิ้มให้เค้าบ้าง " เธอเองก็โตแล้ว ฉันเองก็โตแล้วเหมือนกัน ความสัมพันธ์แบบนั้นของเราก็เหมือนทิ้งกันไปนานแล้ว หลงเหลือไว้เพียงแค่การช่วยเหลือที่ดีต่อกันในฐานะเพื่อนเก่า  ก็ดีเหมือนกันไว้เจอกันนะเมษ "

“ ครับ คุณมาเรีย " เค้าก้มหัวให้เธอที่ขึ้นรถยนต์ส่วนตัวแบบที่คนขับรถมารอรับตรงหน้าถนนตรงนั้น  ก่อนรถคันหรูจะแล่นออกไปอีกฝ่ายก็ถอนหายใจออกมา  " คราวนี้ก็ไม่ต้องทะเลาะกันเรื่องนี้แล้วนะ ต่อไปถ้าใครถามผมจะบอกว่าคุณเป็นเมียก็แล้วกัน เพราะคำว่าพี่น้องคุณรู้สึกไม่ดีเท่าไหร่ "

“ บ้า ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย " เบือนหน้าหนีอีกฝ่ายที่หัวเราะขึ้นมา น่าแปลกที่ผมรู้สึกไม่ค่อยดีเลย ผู้หญิงคนนั้นเหมือนจะจบง่ายเกินไปรึเปล่า ผู้หญิงที่มีอีโก้สูงจะจบเรื่องราวแบบที่ว่าคู่นอนเอาแฟนตัวจริงมาพูดต่อหน้าว่าเป็นแฟนแล้วตัวเองก็ยอมรับได้สนิทใจจริงๆนะเหรอ

“ ลิป คิดอะไรอยู่ "

“ เปล่า " ผมส่ายหน้าบอกเค้า ตอนที่หันไปมองใบหน้าคมที่กำลังยิ้ม อดเป็นห่วงไม่ได้เลยว่า ตัวเรากำลังทำให้เค้าลำบากรึเปล่า  อาชีพโฮสเป็นอาชีพที่เหมือนจะเหมาะกับคนเจ้าชู้ที่ไม่จริงจังกับใคร แล้วเค้าที่มาจริงจังกับเราแบบนี้ จะไปกันรอดจริงๆเหรอ เราเหมาะจะคบกันจริงๆนะเหรอ ความรักบนความเสี่ยงที่สูงแบบนี้ ผมไม่รู้เลยว่าจะรับมือกับความผิดหวังนั้นยังไง

................................................

คงมีคนสงสัยว่า เฮ้ยยยยย ทำไมลิปยอมวะ #โยนหม้อมา
ใจเย็นแกกก คนเราอะ มันต้องมีความปล่อยวางวางสะสม
แล้วพอถึงระเบิดมันจะได้ลูกใหญ่ๆ  จริงมั้ย ..
จะว่าไป ฟานคีย์ก็ยังไม่เคยมีดราม่าเลยเนอะ ...
เจอกันตอนหน้าค่าาาาา
โปรดให้อภัยชื่อตอนพี่ พี่คิดว่าครึ่งชั่วโมงแล้วก็ได้เท่านี้ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ

ฝากแท็ก #ฟานคีย์ ด้วยนะคะ
ขอบคุณมากค่าาาาา
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์  :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
โยนหม้อทิ้งค่ะ ไม่เอามาม่าไม่เอาหัวหน้าด้วย น่ารังเกียจ
เราชอบที่เคลียร์ๆกันไปเลยอย่าทิ้งไว้นาน ว่าแต่น้องฟานไปไหนอ่าคะ

ออฟไลน์ ssipra

  • นักอ่านมืออาชีพ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
มาม่ายังไม่หมดแค่นี้ใช่มั้ย ฮื่ออออออ

ออฟไลน์ LovEYouOnLy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 439
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด