ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง{ตอนพิเศษที่ 2 UP - 10.2.60}หน้า 42 (จบเรื่อง+รวมเล่ม)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง{ตอนพิเศษที่ 2 UP - 10.2.60}หน้า 42 (จบเรื่อง+รวมเล่ม)  (อ่าน 323450 ครั้ง)

ออฟไลน์ ่jjay

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 454
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-0
ไม่คิดถึงสักนิดเล๊ยยยย แค่มือลั่นเฉยเนาะคีย์  :laugh:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง
ตอนที่ 18
' ทนไม่ไหว '

   ' คืนนี้เวลาเที่ยงคืนครึ่ง ถึงตีสามครึ่งจะมีรังสีจักรวาล ( COSMO )  จากดาวอังคารส่งมายังโลก ฉะนั้นคืนนี้ให้ปิดโทรศัพท์มือถืออย่าเก็บไว้กับตัว ตอนหลับก็เอาไปไว้ไกลๆเพราะมันเป็นรังสีที่อันตรายมากๆ ( ข่าวจาก NASA BBC ) โปรดส่งต่อข่าวนี้ไปให้คนที่คุณรักทุกคน ถ้าไม่เชื่อเช็คจาก Google ' ผมกดส่งข้อความนี้ไปหาฟาน นี่ก็เข้าวันที่สี่แล้วที่เค้าไม่ติดต่อมา แล้วก็ไม่มีการกลับมาของเค้าที่คอนโดหรือกลับมาให้ผมเห็นหน้าใดๆทั้งสิ้น ส่วนตัวผมก็ได้แต่หาข้อความลูกโซ่พวกนั้นส่งไปหาอีกคน แม้แต่ภาพที่เขียนว่า สวัสดีวันพฤหัส ก็เคยส่งไปให้แล้ว

“ คุณคีย์ เชื่อเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอครับ " อีกคนที่ส่งข้อความตอบกลับมา

“ ไม่อะ ก็มือมันเผลอไปโดน แค่จะแคปไปให้ลิปขำๆเท่านั้นอะ "

“ คุณใช้มุกนี้ตั้งแต่ส่งภาพ สวัสดีวันพฤหัสมาให้ผมแล้วนะ สงสัยไลน์ของผมกับไลน์ของคุณลิปคงจะอยู่ใกล้กันมาก " ส่วนนายก็คงลบไลน์ของฉันออกไปแล้วใช่มั้ย ถึงไม่ได้ติดต่อมาเลยแบบนั้น ผมผ่อนลมหายใจออกมาตอนที่ปิดหน้าจอมือถือของตัวเองลงแล้วก็ตั้งไว้ข้างๆ ' ทำไมเราต้องคิดถึงคนที่ไม่คิดแม้จะส่งข้อความมาหาเราด้วยวะ ' ผมถามตัวเองแบบนั้นก่อนจะหลับตาลงแล้วลุกขึ้นไปอาบน้ำ วันนี้ต้องไปทำงาน พรุ่งนี้ก็วันหยุดแล้วจะซื้อขนมมาตุนไว้แล้วก็นั่งดูหนังทั้งวันทั้งคืนไปจนถึงวันอาทิตย์เลย แล้วนายจะไม่ได้เห็นข้อความของฉันอีก ไอ้ฟาน

   เปิดคอมพิวเตอร์ที่โต๊ะทำงานตอนที่หย่อนตัวลงนั่ง ลิปที่มาก่อนก็ทักก่อนจะยิ้มให้ " นี่ยังไม่หายหงุดหงิด เรื่องฟานที่ไม่ติดต่อมาอีกเหรอ "

“ ฉันไม่ได้สนใจไอ้ลูกหมานั่นสักหน่อย " ผมบอกอีกคนที่ก็พยักหน้ารับแต่กลับแสดงสีหน้าที่ไม่เชื่อออกมาเสียแบบนั้น

“ นายก็ส่งข้อความไปหาเค้าก่อนสิ อย่างที่ฉันบอกไง ฟานจ๋า คิดถึงนะ "

“ ฉันก็ส่งไปแล้ว " ผมบอก

“ ด้วยข้อความที่ฉันพูดอะนะ "

“ ก็เปล่าหรอก " แต่ถึงอย่างงั้นผมก็ทักไปก่อนรึเปล่าวะ " แต่ตั้งแต่วันนี้ฉันจะไม่ส่งข้อความไปหาไอ้ลูกหมานั่นอีกแล้ว พอกันที "

“ งอนอะไรเค้าอีกละ "

“ ส่งเหี้ยอะไรไป ก็ไม่เห็นมันจะเข้าใจสักอย่าง ส่งข้อความมาหาก่อนบ้างก็ไม่มี ต้องรอให้ฉันส่งไปก่อนเรื่อยเลย พอกันที ไม่ส่งแล้ว จะติดต่อเมื่อไหร่ก็ติดต่อมาละกัน จะกลับมาเมื่อไหร่ก็เรื่องของมันแล้วละ ฉันไม่สนแล้ว "

“ โกรธจริงๆนะเนี้ยนาย "

“ แล้วมันน่าโมโหมั้ยวะ " ผมหันไปเถียงอีกคน ก่อนจะถอนหายใจออกมา " เค้าไม่คิดถึงฉันเลยเหรอ ถึงไม่ส่งข้อความมาเลย เฟสทามก็มีจะอยากเห็นหน้ากันสักหน่อยไม่ได้เหรอ สติกเกอร์ไลน์สักอัน หรือแม้แต่ข้อความ ถ้าเขินฉัน ส่งข้อความลูกโซ่มาหาก็ได้นะ แต่นี่ เค้าเงียบไปเลย "

“ ก็อาจจะมีเหตุผลของเค้า "

“ เหตุผลอะไร เหตุผลที่ว่าไม่คิดถึงฉันนะเหรอ " ผมหันไปถามอีกคนที่เงียบลง ลิปส่ายหน้า

“ ก็ลองไปถามเค้าสิ "

“ ฉันจะไม่ติดต่อไอ้หมอนั่นไปก่อนอีกแล้ว พอกันที "

“ การที่นายบอกว่า ติดต่อเค้าไปก่อน ด้วยการส่งสติกเกอร์ไลน์ ข้อความลูกโซ่ หรือแม้แต่รูปภาพสวัสดีวันพฤหัสที่ขอไปจากฉันตอนที่แม่ส่งมาให้ฉันเนี้ย ไม่ได้เรียกว่าการติดต่อไปก่อนหรอกนะคีย์ "

“ ก็..” แต่นั่นก็ถือว่าเราทักเค้าไปก่อนรึเปล่าวะ

“ การยอมรับใจตัวเองว่านายคิดถึงเค้า มันยากมากขนาดนั้นเลยเหรอ " ลิปที่เอ่ยถามผม " แค่บอกว่า ฟานฉันคิดถึงนาย คำพูดตรงๆแค่นี้ มันพูดยากมากเลยเหรอ ฉันคิดว่าคนอย่างฟานถ้ารู้ว่านายคิดถึงก็คงทำอะไรสักอย่างแน่ๆ นายรออยู่แบบนี้ รอให้เค้าติดต่อมา ระวังเถอะ ตัวเองจะอกแตกตายเพราะความคิดถึงไปซะก่อน "

“ คนอย่างฉัน ไม่เป็นอะไรแบบนั้นหรอก " คำพูดที่ดูเชื่อมั่นแต่ใจจริงกลับไม่มั่นใจในสิ่งที่ตัวเองกำลังพูดเลยสักนิด ไม่มั่นใจเลย ว่าตัวผมจะทนคิดถึงเค้าได้

   กลับมาถึงคอนโดตัวเองในช่วงดึก เป็นอีกวันที่ต้องทำงานเสียจนดึกดื่นโดยที่ไม่รู้ว่าเป้าหมายของตัวเองคืออะไร เพียงเพราะว่าไม่อยากจะคิดถึงใครคนนั้นก็เลยจมตัวเองไปกับงานทำให้ทุกอย่างยุ่ง แต่ทว่าดูเหมือนว่าพอถึงเวลากลับบ้านเราเองก็ต้องกลับ แล้วโลกความจริงที่พยายามลืมมันก็หวนกลับมาอีกครั้ง คือ ' คิดถึงเค้า '
 
   มือของผมไม่หยิบโทรศัพท์ออกมาดูอีกแล้ว เพราะรู้ว่าเค้าคงไม่ติดต่อมา เดินไปที่ตู้เย็นของตัวเองผมหยิบเบียร์ขึ้นมากินก่อนจะกลับไปนั่งที่โซฟาตัวเดิม อยากจะรู้นักเหตุผลอะไรที่ทำให้เค้าไม่ติดต่อมา งานยุ่งมากเหรอ แต่มันยุ่งถึงขนาดที่ว่าแค่จับมือถือแล้วส่ง สติกเกอร์ไลน์สักตัวมาให้ผมก็ไม่ได้เหรอ ไม่มีเวลาพักเลยเหรอ ทำอะไรทำไมถึงยุ่งขนาดนั้น ความรู้สึกที่เหมือนกับคนวอแว ผมเบือนหน้าไปมองกองหนังสือบนชั้นที่ตั้งไว้แบบเป็นระเบียบ มันคือหนังสือของฟาน แถมยังมีทั้งสมุดแล้วก็อะไรมากมายที่อีกคนเอามาไว้ที่นี่ ผมลุกขึ้นเดินไปมองมัน ก่อนจะเขี่ยมันให้ตกลงบนพื้นหลายๆเล่ม คว้ามือถือตัวเองออกมาถ่ายภาพกองหนังสือพวกนั้น แล้วในที่สุด ผมก็ส่งภาพนั้นไปให้เค้าเหมือนพวกคนที่พ่ายแพ้ต่อความรู้สึกภายในจิตใจ

“ หนังสือนายหล่นลงมาจากชั้น มาเก็บด้วย " ผมส่งข้อความไป ฟานที่อ่านก็ส่งข้อความตอบกลับมา

“ มันหล่นลงมาได้ไงน่ะครับ " เค้าถาม

“ ฉันจะไปรู้รึไง มาเก็บด้วยละกัน "

“ ตอนนี้ผมยังไม่ว่างน่ะครับ คุณคีย์ช่วยหยิบมากองไว้บนโต๊ะก่อนก็ได้ เดี๋ยวอาทิตย์หน้าผมกลับไปเก็บเอง "

“ เรื่องของฉันรึไง " ผมตอบกลับไป " ของของนาย นายก็มาเก็บเองสิ "   

“ งั้นก็กองไว้ตรงนั้นก่อนก็แล้วกันครับ "

“ รก "

“ ขอโทษด้วยนะครับ ไว้คุยกันนะ " ข้อความที่เหมือนถูกตัดไป คงรำคาญที่จะตอบเค้าแล้วละมั้ง จะพูดอะไรตรงๆก็ไม่ได้ ต้องหาเรื่องนู้นนี่นั่นมาคอยพูดคอยถามอยู่แบบนั้น

   ผมปิดมือถือตอนที่ล้มตัวลงนอนยาวบนโซฟา ทั้งๆที่มันควรเป็นเสาร์อาทิตย์ที่ใฝ่ฝันว่าจะได้อยู่คนเดียวแบบไม่มีคนมาวุ่นวายแท้ๆ แต่ทำไมถึงไม่ดีใจที่ได้อยู่คนเดียวเลยสักนิด ยังมัวคิดถึงใครคนนั้นอยู่ได้

' แค่บอกว่าคิดถึง มันพูดยากขนาดนั้นเลยเหรอ '  คำพูดของเพื่อนที่แล่นเข้ามาในหัว ก่อนที่ผมจะลุกขึ้นจากโซฟาตัวที่นอนอยู่ คว้าเอากระเป๋าตังค์กับมือถือแล้วออกไปนอกห้องในวินาทีต่อมา

   ผมเป็นคนพูดความจริงจากใจไม่เก่ง แล้วก็ยังไม่กล้าพูดออกไปตรงๆด้วย แต่สิ่งที่ผมรู้สึกคือ ถ้าแววตาของผมสามารถบอกอะไรเค้าได้ก็คงจะดี แววตาที่บอกว่า กำลังคิดถึง แล้วก็กำลังคิดถึงมากแค่ไหน มันอาจจะดูงี่เง่า ทั้งๆที่ถ้าพูดออกไปก็คงไม่ต้องทำอะไรแบบนั้น แต่คำพูดถ้าพูดออกไปมันคงจบ แต่ความคิดถึงก็คงไม่ได้จบไปกับคำพูด ความคิดถึงที่ยังคงอยู่แล้วแบบนั้นจะพูดทำไม พูดไปก็ยิ่งคิดถึง สู้ไปหา แล้วทำให้หายคิดถึงไม่ดีกว่าเหรอ

   การเดินทางที่ค่อนข้างไกลผมถอนหายใจตอนที่รู้ตัวอีกที มือก็เผลอเรียกแท็กซี่แล้วให้เค้าขับออกไปยังมหาวิทยาลัยของอีกคน ฝนที่กำลังตกลงมาอย่างหนักในช่วงเวลานั้น ผมมองดูนอกหน้าต่างที่ที่มีผู้คนกำลังเดินกางร่มหลากหลายสีอยู่ในขณะนั้น ก่อนที่รถจะจอดลงที่หน้ามหาลัยใหญ่ ผมยื่นเงินจ่ายให้กับคนขับ สายฝนที่ตกลงมาอย่างหนักผมเดินออกจากรถก่อนจะวิ่งฝ่าฝนไปที่ป้ายรอรถเมล์ที่อยู่ใกล้ที่สุด คว้าโทรศัพท์มือถืออกมาผมกดส่งขอโทษไปหาเค้า

“ ฟาน ฉันอยู่ที่ป้ายรถเมล์ที่หน้ามหาลัยนาย ออกมาหาหน่อยได้มั้ย " ผมกดส่งข้อความไปหาเค้า ตัวเองที่ยืนอยู่ตรงนั้น สายฝนที่สาดเข้ามา ผมพยายามหลบไปยืนด้านในแต่ความแรงของมันที่สาดลงมาเหมือนพายุก็เหมือนจะไม่สามารถที่จะเป็นกำบังฝนที่ตกลงมาตอนนี้ได้เลย

   เสื้อเขิ้ตสีขาวที่เปียกปอนของผม เปียกไปจนถึงด้านในแล้ว มือที่กำมือถือเอาไว้รอให้เค้าตอบกลับ แต่ก็ไม่มีเสียงใดตอบกลับมาเลยสักนิด ผมจ้องอยู่ที่หน้าจอ โกรธที่บอกว่าจะไม่เก็บหนังสือให้รึเปล่า หรือคิดว่าฉันเป็นคนวอแวจนไม่อยากจะคุยด้วยแล้ว ผมถอนหายใจออกมา ตอนที่กำลังจะเปลี่ยนเป็นโทรออกไปหาเค้า  เสียงย่ำน้ำที่วิ่งเข้ามาใกล้ก็ชวนให้เงยหน้าขึ้นมาเสียก่อน ร่างสูงที่กำลังคิดถึงวิ่งเข้ามาพร้อมกับร่มคันใหญ่ที่ยื่นมันปกให้ผมทันทีทั้งๆที่ตัวเค้าในตอนนี้ก็เปียกไม่แพ้กัน

“ คุณคีย์ทำไมมายืนอยู่ตรงนี้ครับ แล้วทำไมเปียกแบบนี้ " เสียงหอบหายใจของเค้า มือหนายกขึ้นเช็ดน้ำฝนที่หยดลงบนหน้าของผม คำพูดที่อยากจะพูดกลืนหายไปแล้วตอนที่เห็นหน้าเค้า ผมเม้มริมฝีปากของตัวเองแน่นอยากจะพูดทุกคำแต่กลับพูดไม่ออกสักคำ คิดถึงใบหน้าแบบนี้ คิดถึงคนนี้ คิดถึงที่สุด  " ไปกันครับไปที่ห้องผม " ฟานดึงให้ผมเดินตามเค้า มือหนากอดไหล่ผมดึงเข้าไปใกล้เพื่อให้ผมถูกฝนน้อยที่สุด

   เราที่เบียดกันอยู่ในร่มคันนั้นผมสูดดมกลิ่นที่กำลังคิดถึงเข้าไปเต็มปอด ไม่รู้จะพูดอะไรออกมาดี ทุกอย่างมันอัดแน่นไปหมดแล้วในตอนนี้ ทั้งๆที่มีคำพูดมากมายที่จะพูดแท้ๆ แต่พอเห็นหน้าทุกอย่างกลับถูกกลืนไปหมด ' ฉันแค่ผ่านมา ' ความตั้งใจที่จะพูดกับเค้าตอนที่นั่งรถมาคือคำพูดนั้น ' มากินข้าวกับเพื่อนที่ทำงานแล้วก็แค่ผ่านมาเลยแวะมาหา เพราะเพื่อนเมาเลยไม่กล้ากลับด้วย ทางมันไกลก็เท่านั้น ไม่ได้คิดถึงนายเลยสักนิดอย่าเข้าใจผิด ' ข้ออ้างทั้งหมดที่ถูกคิดไว้ถูกกลืนหายลงไป พูดไม่ออกแล้ว

   หอพักที่เป็นตึกสูงที่อีกคนพาผมมา เราเข้ามาในห้องแต่ผมกลับยืนนิ่งอยู่ที่ประตูหน้าตรงนั้น ในขณะที่ฟานกลับวิ่งเข้าไปในห้องแล้วก็หาผ้าขนหนูผืนหนาๆมาห่มตัวผมไว้ก่อนจะหยิบผ้าอีกผืนขึ้นมาเช็ดเส้นผมที่กำลังเปียกให้ เค้าที่ก้มลงมาถาม " หนาวมั้ยครับ แล้วทำไมถึงมาที่นี่ละครับ "

" ฉัน.. " สบสายตาคมที่กำลังมองจ้องมาข้ออ้างที่เตรียมไว้ได้เวลาพูดออกไปแล้ว แต่ทว่าริมฝีปากนั้นกลับสั่น แววตานั่นก็กำลังสั่นพร้อมด้วยหยาดน้ำตาที่คลอหน่วยตาเต็มไปหมด น้ำตาที่กำลังไหลออกมาในตอนที่ผมมองแววตาของฟานที่กำลังมองผมอยู่ในตอนนั้นมันมีความรู้สึกนึงที่ล้นเอ่อออกมาจนผมต้องคว้าคอเค้าเข้ามาแล้วกอดไว้แน่น " ฟาน ฉัน..คิดถึงนาย " 

“ คุณคีย์ "

“ ฉันคิดถึงนาย " ผมย้ำความรู้สึกนั้นกับเค้า ทนไม่ไหวอีกแล้วแค่เห็นหน้าก็รู้แล้วว่าตัวเองกำลังคิดถึงเค้ามากแค่ไหน คิดถึงกลิ่น คิดถึงใบหน้าหล่อเหลานั่น คิดถึงเสียง คิดถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นเค้า คิดถึงจนทนไม่ไหวอีกแล้ว น้ำตาของผมไหลออกมาตอนที่ซบเค้าไว้แบบนั้นฟานก็กอดรัดผมไว้แน่นเช่นกัน

“ ผมเองก็คิดถึงคุณ " ฟานบอกก่อนจะผละตัวออกจากผม

   ใบหน้าคมที่ก้มลงมาใกล้เค้าจูบริมฝีปากหลับตาลงช้าๆรับรู้ความรู้สึกอบอุ่นที่คิดถึงแล้วกอดรัดกันและกันไว้แน่น เผยอปากรับลิ้นชื้นที่แทรกตัวเข้ามา จูบดูดดื่มที่เพิ่มอุณหภูมิความต้องการให้มากขึ้นเรื่อยๆ เสื้อเปียกปอนของผมถูกร่อนขึ้นช้าๆ ฝ่ามือหนาสอดมือเข้าไปสัมผัสรอบเอวเค้าลูบมันอยู่แบบนั้นก่อนจะปล่อยมือแล้วย้ายมาปลดกระดุมเสื้อทำงานร่อนลงจากไหล่ก่อนที่ฟานจะดันให้ลำตัวของผมชิดติดกำแพงแล้วก้มลงจูบลำคอขาวพลางไล่ลงมาต่ำถึงยอดอก

   เสียงจูบดูดดื่มที่กำลังขบเม้นยอดอกของผม เม้มริมฝีปากตัวเองแน่นตอนที่บิดเร้าไปตามความรู้สึกที่อีกคนมอบให้ ผมแอ่นหน้าอกของตัวเอง รับลิ้นที่กำลังไล่เลียอยู่ตรงนั้น เสื้อของผมถูกดึงออกก่อนจะปล่อยให้กองอยู่บนพื้น เค้าเปลี่ยนมาถอดเข็มขัดก่อนที่กางเกงจะลงไปกองที่ข้อขาเช่นกัน " คุณคีย์ " เสียงที่เอ่ยเรียก ร่างของผมถูกอุ้มมานอนบนเตียงกว้าง ขยับตัวนิดหน่อยตอนที่ก้มลงมาจูบอีกครั้ง มือผมก็เอื้อมไปปลดกระดุมเสื้อของอีกคนจนหมด  ฟานคว้ามือของผมไว้เค้าจับให้ยึดอยู่เหนือหัว ก่อนจูบริมฝีปากของผมอีกครั้งพลางไล่ลงต่ำมาเรื่อยๆ จากแก้ม ลงมาเป็นคอ ไล่ลงมาต่ำเรื่อยๆจนถึงหน้าท้องและส่วนที่น่าอาย

“ ฟาน " เสียงเบาๆที่เอ่ยเรียกเค้า ผมส่ายหน้าไปมาเพราะความเสียวซ่านที่อีกฝ่ายมอบให้ด้วยริมฝีปาก ที่จูบไปทั้งเรืยนกาย ขาของผมด้านนึงถูกยกขึ้นฟาดบ่าของเค้า นิ้วเรียวสอดเข้าไปในร่างของผม เค้ากดมันจนจมลึก ผมที่อ้าปากครางออกมา ร้องเรียกชื่อเค้าอย่างไม่เป็นภาษา " อะ  อ้าา ฟะ ฟาน อื้ออ " ยามที่นิ้วขยับไปเข้าออก ผมได้แต่ผ่อนลมหายใจแรงๆหลับตาแน่นกับความเสียวซ่านที่สอดเข้าออกตรงจุดนั้นพอดี เค้าที่ย้ำถี่ๆลงมา  ผมเม้มริมฝีปากแน่นก่อนจะเอ่ยบอกเค้าด้วยเสียงหอบเบาๆ " พอแล้ว อ๊าา พอแล้ว ไม่ไหว พอแล้วฟาน พอ ฉัน.. อ๊ะ ตรงนั้นอย่านะ  "

“ พอแล้วเหรอครับ " เค้าก้มลงมากระซิบแต่ก็ดัดนิ้วของตัวเองให้จมลึกลงไปที่จุดกระสันนั้นอีกครั้ง ผมอ้าปากค้างก่อนจะบรือขึ้นมองคนตรงหน้าที่ยิ้มกริ่มด้วยความพอใจสำหรับใบหน้าที่เต็มไปด้วยความต้องการของผม กัดลงบนเนื้อแก้มของเค้าเบาๆ เสียงหัวเราะที่ดังขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม ฟานดึงนิ้วของตัวเองออก ก่อนจะสอดส่วนกลางที่สวยถุงยางอนามัยแล้วสอดเข้าไปในร่างของผมจนมิดด้าม ผ่อนลมหายใจอยู่เพียงครู่ๆอยู่ๆร่างก็ถูกดึงขึ้นมาให้อยู่ยนตัวเค้า ฟานที่เงยหน้ามองผมที่อยู่สูงกว่า " โยกให้ผมดูหน่อยสิ "

“ นายนี่มัน..”

“ คุณคีย์เคยบอกผม ว่าคุณคีย์เก่ง "

“ ฉันไปบอกนายเมื่อไหร่ อ๊ะ " แค่ขยับส่วนกลางที่สอดในร่างก็เหมือนจะแตะลงจุดกระสันนั้นพอดี ผมเม้มริมฝีปากแบบจำยอมแต่ปากก็ยังเถียงออกไปอย่างไม่ยอมแพ้ " ไม่เคยบอกอะไรแบบนั้นสักหน่อย แค่บอกว่ายังโยกไหว "

“ งั้นก็โยกให้ดูหน่อยสิครับ " เสียงทุ้มที่กระซิบลงข้างหู ผมขยับตัวเองช้าๆ มือที่จับไหล่หนาของอีกคนไว้ ฟานใช้มือสองข้างสอดเข้าไปใต้ขาของผมก่อนจะยกตัวผมขึ้นลงเร่งจังหวะรักให้รุนแรงมากขึ้น ความลึกที่สอดลงจนมิดด้ามเร่งความรู้สึกต้องการให้มากขึ้นเป็นเท่าตัวมากกว่าท่าไหนๆ

“ อ๊าาาา อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ ฟาน อื้ออ " พยายามปิดเสียงร้องของตัวเองเอาไว้ ไม่เคยต้องร้องครางออกมาเสียงดังขนาดนี้เลย แต่ท่านี้ ความเสียวซ่านแบบนี้ มันมากเกินไปแล้ว มากเกินจนทนไหวแล้ว มันลึก ลึกเกินไป " อ๊ะ อ๊ะ อื้อ อ๊ะ อ๊ะ ฟาน ฟานลึก ลึกเกินไปแล้วนะ อ๊า " เสียงครางยาวๆของผม เผลอกัดปากตัวเองแน่นตอนที่เค้าเพิ่มความเสียวด้วยการจูบที่ยอดอกที่แข็งชันของผม ก่อนที่ลำตัวที่เด้งขึ้นลงจะยิ่งเร็วขึ้นและถี่ขึ้น " นี่ แรง แรงเกินไปแล้วนะ อ๊าา ฟาน " ในที่สุดก็ทนทานความรู้สึกทุกอย่างไม่ไหว ผมปลดปล่อยความต้องการนั้นออกมาพร้อมกับเค้าจนเลอะหน้าท้องไปหมด " ฟาน..” เอ่ยเรียกชื่อเค้าผ่อนลมหายใจหอบออกมา เค้าวางผมนอนราบกับเตียงอีกครั้ง ฟานดึงส่วนกลางออก ก่อนจะเปลี่ยนถุงยางแล้วสอดเข้ามาใหม่อีกครั้ง " อื้ออ " แรงขยับเบาๆเค้าก้มลงมาจูบ

“ คิดถึงคุณคีย์จังเลยครับ "

“ แล้วทำไมไม่โทรหากันบ้างละ " ผมเอ่ยถามเค้า ตอนที่เรากำลังมองหน้ากันพร้อมด้วยจังหวะสอดใส่ที่เชื่องช้าของเค้า " ที่บอกว่าคิดถึงกัน มันจริงเหรอ ถ้าคิดถึงกันทำไมนายต้องรอฉันติดต่อไปก่อน ทำไมนายไม่ติดต่อมาหาฉันบ้าง จะบอกว่าไม่มีเรื่องคุยงั้นเหรอ แค่ถามว่า วันนี้เป็นยังไงบ้าง กินข้าวรึยัง ก็ไม่ได้เหรอ "

“ ไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับ " เค้าที่พูดออกมาก่อนจะก้มลงมากอดผมไว้ ใบหน้าคมจูบอยู่ตรงซอกคอไม่ยอมผละออกไปไหน " แต่ผมเองก็ถามคุณแล้ว คุณก็บอกว่าคุณอยู่ได้ถ้าไม่มีผม "

“ ฉันบอกนายเมื่อไหร่ "

“ ตอนเดียวกันกับตอนที่ผมบอกคุณว่าผมจะไม่กลับไปที่คอนโดคุณสองอาทิตย์นั่นแหละครับ " เค้าบอกผมก็คิด จำไม่ได้แล้วว่าพูดประโยคทำร้ายจิตใจอีกคนไปแบบนั้น จำไม่ได้เลยว่าพูดอะไรแบบนั้นออกไป ผมถอนหายใจออกมาไม่รู้จะตอบอีกคนด้วยคำพูดไหนดี ฟานคงรู้สึกไม่ดีกับคำพูดที่ออกจากปากพล่อยๆของผมอีกแน่ๆ

“ นายงอนเหรอ "

“ นิดหน่อยครับ " เค้าบอก " แต่เพราะคุณส่งข้อความมาหาผมทุกวันเลยคิดว่า ไม่จริงอย่างที่พูดออกมาหรอก คุณคงคิดถึงผม ถึงได้เอานู้นเอานี่ส่งมาหากันอยู่เรื่อย "

“ แล้วถ้ารู้แบบนั้นทำไมไม่ส่งมาก่อนบ้างละ "

“ เพราะผมคิดถึงคุณครับ " สายตาคมที่เงยขึ้นมาสบตาผม " อยากจะโทรไปหา แต่ถ้าได้ยินเสียงต้องคิดถึงมากกว่าเก่าแน่ๆ อยากจะเห็นหน้า แต่ถ้าเฟสทามไปก็ต้องคิดถึงมากกว่าเก่าอีก แล้วถ้าส่งข้อความไปก็ต้องอยากคุยกันต่อจนไม่อยากจะทำอะไร เพราะแบบนั้นเลยไม่โทรไปครับ อยากจะทำงานให้เสร็จแล้วค่อยกลับไปกอดคุณทีเดียว ผมต้องรับผิดชอบงานที่ได้รับ คุณคีย์บอกว่าคนที่เป็นผู้ใหญ่เค้าจะมีความรับผิดชอบงานของตัวเองมาก่อนเสมอ แล้วคุณคีย์ก็บอกว่า คุณคีย์ชอบคนแบบนั้น ผมเลยอยากเป็นคนที่มีความรับผิดชอบ " คนแบบที่เราชอบอีกแล้ว ผมเบือนหน้าหนีเค้าตอนที่อีกคนให้เหตุผลออกมาแบบนั้น ไม่ใช่ว่าไม่คิดถึง แต่คิดถึงมากตังหากก็เคยไม่ติดต่อไป

" ทำไมถึงได้เป็นคนแบบนี้นะ " ผมที่เผลอพูดออกมา อีกคนก็เอียงหน้ามามอง

“ คุณคีย์ว่าอะไรนะครับ "

“ ทำไมนายถึงเป็นคนแบบนี้กันนะ " หันหน้ามาสบตาเค้าก่อนจะถอนหายใจออกมา " ทำไมถึงต้องคิดถึงแต่เรื่องของฉันด้วยก็ไม่รู้ ทำไมต้องเป็นคนที่ฉันชอบ บอกกี่ทีแล้วว่าให้เป็นตัวเอง ฉันจะชอบนายที่สุดก็ตอนที่นายเป็นตัวเอง นายมีความรับผิดชอบในงานนั่นก็ดีอยู่หรอก แต่ว่า ถ้าคิดถึงฉันสักหน่อยก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง สักชั่วโมงนึงให้เราได้คุยกันฉันว่าถึงมันจะทำให้เราคิดถึงกันมากขึ้น แต่มันก็ดีกว่าการที่เราไม่พูดกันเลยนะ เพราะการที่เราคิดถึงกันแต่เราไม่ได้พูดกันเลย มันไม่ใช่แค่ความคิดถึงหรอก แต่มันคือทรมานตังหาก แล้วฉันก็ทรมานมากเลย แล้วนายละ นายทรมานมั้ย ทรมานเหมือนกันกับฉันรึเปล่า "

" คุณคีย์ "

" แล้วถ้าเป็นแบบนั้น ทำไมเราต้องทนทรมานด้วยละ ถ้าคิดถึงฉันก็โทรมาบ้างสิ ฉันน่ะ รอสายฟานทุกวันเลยนะ "

“ คุณที่พูดออกมาตรงๆแบบนั้น น่ารักจังเลยนะครับ รู้มั้ย " เสียงทุ้มที่กระซิบลงมาข้างหู ผมเม้มริมฝีปากแน่นอีกคนก็ยิ้ม

“ อย่าบอกใครเรื่องนี้ละ เพราะฉันจะพูดแบบนี้กับนายคนเดียว " ใบหน้าคมที่ยิ้มกว้างเค้าที่กอดผมไว้แน่นก่อนจะจูบลงที่ข้างแก้ม

“ คุณน่ารักจัง ผมต้องรักคุณมากขึ้นอีกแล้ว " เสียงบ่นๆของอีกคน ผมเม้มริมฝีปากตัวเองแน่นเพราะความเขินดีจังนะ ที่นายพูดออกมาแบบนั้น เพราะฉันเองก็อยากจะให้มันเป็นแบบนั้นเหมือน คำพูดที่บอกว่า รักฉันมากขึ้นน่ะ ขอให้มากขึ้นนะว่านี้อีกนะ เพราะฉันก็จะชอบนายมากขึ้นเหมือนกัน

..........................................

   ลืมตาตื่นขึ้นมาในเช้าอีกวันที่ร่างกายรู้สึกเมื่อยล้า เตียงนอนสีดำที่ไม่ใช่แบบเตียงนอนในห้องผม ตอนที่ลุกขึ้นนั่งแล้วมองไปรอบๆก็เพิ่งนึกได้ว่า เมื่อคืนเรามาหาฟานที่นี่เพราะทนทานความคิดถึงอีกคนไม่ไหว แล้วสุดท้ายก็เหมือนว่าเราจะจบลงที่เตียงเป็นการพูดคุยกันให้หัวข้อที่เรียกว่า ' คิดถึง ' ได้ดีที่สุดแล้ว

“ ไปไหนของเค้าตั้งแต่เช้า " ผมบ่นออกมาตอนมองไปรอบๆ จะว่าไปเมื่อคืนไม่ได้สังเกตุเลยว่าห้องหมอนี่เรียบร้อยกว่าที่คิดไว้ตั้งแต่ทีแรกเสียอีก ห้องพักที่มีหันซ้ายก็เจอระเบียง หันขวาก็เป็นห้องน้ำแล้วก็ประตู ส่วนของใช้ที่จำเป็นก็กองอยู่ข้างหน้าทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นตู้เย็น ตู้เสื้อผ้า หรือว่าโต๊ะเขียนหนังสือที่ดูเหมือนว่าตรงนั้นจะเป็นส่วนที่รกที่สุดในห้องแล้ว ถอนหายใจออกมาก่อนจะล้มลงนอนบนเตียงอีกครั้ง มองหามือถือของตัวเองก่อนจะพบว่ามันตั้งอยู่บนหัวเตียงแล้วก็มีโพสอิสสีส้มติดไว้อยู่

' ตื่นนอนแล้วเหรอครับ ? วันนี้ผมมีงานโอเพ่นเฮ้าส์ที่มหาวิทยาลัยเลยต้องไปตั้งแต่เช้า ถ้าคุณคีย์ตื่นแล้ว อยากจะอาบน้ำเสื้อผ้าแขวนอยู่ในตู้เลือกได้เลยครับ ส่วนเสื้อผ้าของคุณ ผมแขวนไว้ที่ระเบียงหลังห้องแต่คิดว่าคงยังไม่แห้งหรอก ถ้าเกิดคุณหิวเดินเข้ามาให้มหาลัยนะครับ แล้วโทรมาหาผม ผมจะไปหาคุณเองครับ '

“ สั่งเป็นพ่อเลยเว้ย " ผมบ่นออกมาก่อนจะหลับตาลงอีกครั้ง ความคิดถึงที่มีเหมือนจะจางหายไปแล้ว น่าแปลกทั้งๆที่ทนทรมานอยู่ตั้งหลายวันแต่พอได้เจอ ก็เหมือนทุกอย่างที่ผ่านมานั้นเป็นแค่สิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ราวกับว่ามันเป็นแค่ความรู้สึกชั่ววูบ ณ ขณะนึงก็เท่านั้น

   ผมลุกขึ้นจากเตียงอาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดเสื้อยืดที่หาได้จากในตู้แม้มันจะดูตัวใหญ่ไปหน่อยก็เถอะ มองหากางเกงในส่วนถัดไปแต่ก็พบว่าไม่มีกางเกงตัวไหนที่ผมใส่ได้เลยสักตัว ตัดสินใจเดินออกไปนอกระเบียง เสื้อที่แขวนเอาไว้แห้งแล้ว กางเกงก็ด้วย " งั้นใส่กางเกงซ้ำก็แล้วกัน เสื้อเหม็น คงใส่ไม่ไหวแล้วละ " คว้ากางเกงของตัวเองมาใส่ผมหยิบของที่จำเป็นก่อนจะเดินลงมาด้านล่างหอพักของอีกคน

   เด็กมหาลัยในชุดมหาลัยและชุดอยู่บ้าน เดินขวักไขว่กันหน้าละอ่อนในซอยที่เหมือนว่า ทั้งซอยนี้จะมีแค่หอพักนักศึกษาและร้านค้าที่เปิดขึ้นเพื่อนักศึกษาก็เท่านั้น ผมเดินออกจากซอยไม่ไกลเท่าไหร่ก็เข้าสู่เขตมหาลัยที่วันนี้ดูคึกคักเป็นพิเศษ ป้ายใหญ่ๆของคณะต่างๆที่ถูกทำขึ้นตอนรับ ผมเดินเข้าไปเรื่อยๆแบบไม่มีจุดหมายอะไร ก่อนจะหยุดแล้วยกโทรศัพท์มือถือมาโทรหาอีกคนเพราะคิดว่ายิ่งเดินไกลแล้วคาดหวังว่าอยู่ๆจะเดินไปเจอฟานได้ด้วยตัวเองในสภาวะที่คนเยอะแบบนี้นั้น เป็นเรื่องยาก

“ คุณคีย์ ตื่นแล้วเหรอครับ "

“ ฉันอยู่ในมหาลัยนาย นายอยู่ไหนละ "

“ ผมอยู่ที่คณะครับ " เค้าตอบ " คุณอยู่ตรงไหนครับ ผมจะเดินไปรับ "

“ นายว่างรึไง "

“ ก็พอปลีกตัวได้สักสิบนาที "

“ อยู่ตึกแรกที่เดินเข้ามาน่ะ ตึกๆเก่าๆอ๋อ อื้มม " ผมพยายามมองหาสัญลักษณ์ที่เด่นชัดของมัน อ้อ อาคารหนึ่ง มันเขียนว่าอย่างงั้น "

“ งั้นเดี๋ยวผมเดินไปนะ รอผมแปปนะครับ " สายที่วางไปผมเก็บมือถือไว้ในกระเป๋าก่อนจะมองดูเหล่านักศึกษาที่กำลังเดินไปมา บ้างก็กำลังชวนน้องทำกิจกรรม น้องๆที่อยู่ในช่วงมัธยมผมยิ้มน้อยๆเพราะรู้สึกว่าการมายืนอยู่ในที่ตรงนี้ บ่งบอกความรู้สึกลึกๆของผมเลยว่า ตัวเรานั้นผ่านช่วงเวลานั้นมานานแค่ไหน

" ไอ้แก่เอ้ย "

“ คุณคีย์ " หันไปหาเสียงเรียก ฟานที่กำลังหอบเดินมาหยุดอยู่ข้างๆผม ก่อนจะถอนหายใจออกมา " รอนานมั้ยครับ "

“ ก็ไม่นานหรอก "

“ ใส่เสื้อของผมด้วย " อีกคนที่ทัก ก่อนจะก้มลงมองเสื้อสีขาวที่ตัวเองกำลังใส่ ใบหน้าคมที่แต้มสีแดงเขินๆตรงแก้ม

“ ทำไม ใส่ไม่ได้เหรอ "

“ ก็เปล่าหรอก แต่รู้สึกว่าเวลาคุณใส่เสื้อของผมเหมือนตัวผมกอดคุณไว้ตลอดเวลาเลย "

“ ไร้สาระ " ผมบอกปัดก่อนจะหันหน้าไปทางอื่น ไอ้เด็กบ้าตอนแรกที่ใส่ก็ไม่คิดอะไรหรอก แต่พอหมอนี่พูดออกมาทำไมดันไปคิดถึงเรื่องเมื่อคืนที่เรานอนกอดกันซะได้วะ " ฟาน หิวแล้ว พาไปกินอะไรอร่อยๆหน่อย "

“ อยากจะกินอะไรละครับ "

“ อะไรก็ได้ที่มันอร่อยน่ะ "

“ ข้าวหมูทอดที่นี่อร่อยครับ " ผมพยักหน้ารับ ท่าทางก็คงไม่เลวหรอกถ้าฟานบอกว่าอร่อยมันก็คงอร่อยจริงๆนั่นแหละ ร่างสูงเดินเข้ามาใกล้เค้าที่คว้ามือผมไปจับไว้ แต่ผมที่สะบัดออกรวดเร็วอีกคนก็มองหน้า

“ เอ่อ..นี่มันมหาลัยนะนาย ให้เกียรติสถานที่ด้วยสิ "

“ แค่จับมือเองครับ ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย "

“ ก็ไม่ได้ " ผมบอกปัดแต่เค้าก็ยังดึงดันจะคว้ามือผมไปจับอยู่ดี ทั้งๆที่ว่าในความเป็นจริงเค้าน่าจะได้จับมือคนที่คู่ควรกับเค้ามากกว่านี้ อาจจะเป็นคนอายุเท่ากันหรือว่าสาวสวยสักคนในมหาลัย ก็การเดินจับมือกันแบบนี้ในมหาลัยมันเหมือนการเดินโชว์แฟนกลายๆไม่ใช่เหรอ แล้วการที่ฟานมาจับมือเค้าแบบนี้

“ อายเหรอครับ ที่ต้องจับมือกับผม "

“ ทางนี้มากกว่าที่ต้องถามคำถามนั้นน่ะ "

“ คุณคีย์สวยขนาดนี้ ผมไม่อายหรอกดูสิมีแต่คนมอง " มองว่านายไปเอาไอ้แก่ที่ไหนมาควงรึเปล่า ผมถอนหายใจออกมาแต่ก็ช่างเค้าเถอะ ยังไงก็แค่จับมือละนะ ไม่ได้ทำอะไรเสียหายอย่างที่อีกคนว่าจริงๆนั่นแหละ

    ก็คิดว่า ลูกหลานมันให้จับเพราะขาแข้งไม่ค่อยดีก็แล้วกัน เผลอแอบยิ้มออกมาตอนที่ถอนหายใจแล้วคิดแค่ว่า อย่างน้อยก็ควรดีใจ ที่มีใครคนนึง มั่นใจที่จะเดินจับมือกับผมไม่ว่าจะเป็นที่ไหน ไม่ว่าจะเป็นเมื่อไหร่ก็ตาม

.........................................................

ในที่สุด...
ก็ต้องมีใครสักคนที่ทนไม่ไหว แล้วระเบิดความจริงออกมา
โกรธน้องฟานได้แต่อย่าแรง
อิจฉาพี่คีย์ได้แต่อย่าแรง เช่นกัน


เคยสงสัยมั้ย.. แสนดีขนาดนี้ น่ารักขนาดนี้ โกรธ จะแล้วเป็นไงวะ
ไม่รู้เหมือนกัน ติตดามต่อไปดีกว่า
เดินเข้ามหาลัยแล้วจะเป็นยังไงต่อไป

ฝากแท็ก #ฟานคีย์ ด้วยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านแล้วคอมเม้นท์จ้า
 :กอด1: :L2: :3123: :3123: :L1: :pig4:



ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
อิจพี่คีย์มากมายเลยค่า    :-[   น้องฟานอ่า. คิดถึงๆก็เลยจัดหนักเช่นเคย
ความรับผิดชอบนั้นก็ต้องเผื่อแฟนด้วยนะฟาน เรามีความรับผิดชอบหลายอย่าง
พี่คัย์ก็รู้แล้วสินะว่าต้องใส่ใจน้องด้วย น้องแอบน้อยใจน้า. งื้อน่ารัก เด็กทำไรไม่เคยผิด อวยสุดๆ ฮ่าา
ขอบคุณค่ะ  :katai2-1: 

ออฟไลน์ tkaekaa

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 329
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
 :-[ คือดีย์ใช่มั้ยคะคุณคีย์  น้องฟานน่ารักน่าใคร่จริงๆ

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
 :o8: สมใจคีย์เลยทีเดียว ต้องรอให้ระเบิดก่อนนะถึงยอมเริ่มก่อน
สงสารฟาน คิดถึงมากแต่ต้องทำนิ่งไว้ เพราะคีย์บอกว่าอยู่ได้
ต่อไปปากตรงกับใจหน่อยนะ ฟานหายไปอีกจะงานเข้าไม่รู้

ชอบค่ะ ที่คีย์ยอมมาหา ยอมบอกว่าคิดถึง บอกว่าชอบกัน น่ารักมุ้งมิ้งเลย

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
ฟานฟานงอลพี่คีย์สินะ ก้อดูพี่คีย์สิปากแข็งนได้เรื่องอ่ะ โถ่วโถ่วโถ่ว
แต่ก้อยังสงสัยฟานฟานหายไปทำกิจกรรมม.????

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
ฟานงอนซ่ะคนแก่ทนไม่ไหวต้องออกไปตามเด็ก!  5555  น่ารักได้อีก   รอดูการทัวร์มหาลัยของคุณคีย์

ออฟไลน์ HanTwoH

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
นุ้งคีย์ทนไม่ไหวแล้ว55555555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
'ก็คิดสะว่าลูกหลานมันให้จับ เพราะกลัวล้มแข้งขาไม่ดี' ถถถถถถถ พี่คี้ยยยยย์ พี่ก็คิดได้เนอะ 555555

ออฟไลน์ LovEYouOnLy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 439
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
สงสัยคงเป็นตอนที่ต้องไปแยกกับอีผู้จัดการหวังฟัน หรือป่าวนะ555

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
อร๊ายยยย ไปจับมือกันแถวมหาลัยไหนนะ จะตามไปส่อง ^^
เวลาเห็นผู้ชายเดินจับมือกัน มันฟินจริงๆนะ >///<

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
ในที่สุดคีย์ก็เลิกปากแข็งซะที
แต่เราชอบนะที่งอนแบบนี้ เพราะจะง้อกันทีนี่พาขึ้นเตียงอย่างเดียวเลย  555555  :hao7: :hao6:  :hao6:

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
และแล้วก็ทนคิดถึงไม่ไหว ..

ออฟไลน์ Baitaew

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 361
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
น่ารักอะ เด็กมันน่ารัก  :hao7:

ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
อ่านๆไป สองคนนี้ก้อขี้งอนพอกันเลยนะ
แต่ยังดีที่คนนึงงอน แล้วคนนึงง้อ แม้จะปากแข็งไปหน่อยก้อเถอะ แต่ว่าชอบคีย์ตอนหมดมาดจริงๆ รู้สึกยังไงก้อพูดไปซะหมด ฮ่าๆ

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง
ตอนที่ 19
' คำว่าชอบ '
[/size]

   โรงอาหารใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางมหาลัยที่ฟานพาผมมาร้านอาหารมากมายที่วันนี้ดูยุ่งวุ่นวายเป็นพิเศษอาจเพราะมันไม่ได้มีแค่เด็กมหาลัยแต่ยังรวมถึงเด็กๆม.ปลายที่มาดูงานวันนี้ด้วย ร้านอาหารที่มีอาหารหลายๆแบบ ก่อนที่ฟานจะหยุดอยู่ที่หน้าร้าน ร้านนึง " ร้านนี้ครับที่ผมบอก ข้าวหมูทอดพิเศษสองจานครับ "

“ พิเศษเลยเหรอ ฉันยัดไม่หมด นายกินแทนเลยนะ " ผมหันไปถามอีกคนฟานก็หันกลับมากระซิบ

“ เค้าให้น้อยครับ " ยิ้มแห้งๆออกมา อีกคนก็มองซ้ายขวา " อยากจะกินน้ำอะไรครับ เดี๋ยวผมไปซื้อให้ "

“ น้ำเปล่าก็แล้วกัน " เค้าที่พยักหน้ารับเดินออกไปซื้อน้ำเปล่าที่ร้านใกล้ๆมาขวดนึงพร้อมด้วยหลอดสองอัน เรายืนรอข้าวหมูทอดอยู่สักพัก ก่อนจานอาหารที่ดูน่ากินจะถูกยกมาวางข้างหน้า ฟานจ่ายเงินก่อนที่เราจะเดินมาหาโต๊ะที่ว่างนั่ง " น่ากินจังนะ " อดชมหน้าตาของมันไม่ได้เลย หมูทอดชิ้นใหญ่เคลือบแป้งกรอบๆไว้ข้างนอก ผมราดน้ำจิ้มของมันลงบนหมูทอดก่อนจะเริ่มกินคำแรกที่เข้าไปในปาก ก็สมกับที่ฟานบอกนั่นแหละ " อร่อยจริงๆด้วย "

“ ผมกินบ่อยมากเลยร้านนี่น่ะ "

“ แต่เค้าก็ให้น้อยอย่างที่นายบอกจริงๆ " ขนาดบอกว่าพิเศษยังเหมือนจานธรรมดาเลย เพิ่มมาแค่นิดหน่อยเท่านั้นเอง " ฟานแล้วไหนบอกว่าพักได้แค่สิบนาที นั่งกินข้าวแบบนี้คงมากกว่าสิบนาทีแล้วละมั้งนาย "

“ ผมบอกเพื่อนไว้แล้วละครับ ว่าผมจะไปกินข้าวก่อน " พยักหน้ารับอีกคนที่กินข้าวอยู่ๆ ผมก็เกิดความสงสัยขึ้นมา

“ แล้วที่นายไม่ได้กลับคอนโดก็เพราะว่า ต้องเตรียมงานโอเพ่นเฮ้าส์อะไรพวกนี้นะเหรอ "

“ ใช่ครับ "

“ แล้วทำอะไรบ้างละ "

“ ก็จัดซุ้มของคณะ ทำโมเดลงานให้น้องๆที่เค้าต้องเข้ามาดูว่าเรียนเครื่องกลต้องทำอะไรบ้าง ทำคำถามง่ายๆแบบ ทดสอบว่าน้องๆมีความสนใจที่จะเรียนคณะนี้มั้ย อะไรแบบนี้นะครับ ก็ช่วยกันทำในภาค อย่างของผมต้องออกแบบเครื่องกลง่ายๆให้น้องๆมาลองทำได้ วางกลไกนิดหน่อยนะครับ ทำร่วมกับอาจารย์ก็เลยปลีกตัวกลับไปหาคุณคีย์ไม่ได้ " ฟานบอกด้วยเสียงที่เริ่มจะเบาลงเรื่อยๆในประโยคท้ายๆ เค้าที่มองผ่านไปข้างหลังผมราวกับเจอใครสักคนที่รู้จัก

   หันไปมองตามเค้าก่อนจะเจอเค้ากับผู้ชายร่างสูงในชุดภูมิฐานที่ดูน่าจะเป็นอาจารย์มากกว่านักศึกษาที่เห็นโดยทั่วไป จานอาหารแบบเดียวกันกับที่เรากินอยู่ เค้าถือติดมือมาด้วย ก่อนจะนั่งลงข้างๆผมแล้วขอพูดอนุญาติสั้นๆ

" ฟาน ฉันนั่งด้วยคนสิ "

“ ได้สิครับ อาจารย์ " อีกคนบอกแบบนั้นก่อนจะแสดงสีหน้าที่ไม่ค่อยพอใจนิดหน่อย ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น เหลือบมองคนข้างๆให้ชัดอีกหน่อย เค้าเป็นผู้ชายรูปร่างสูงที่คงมีอายุมากกว่าผม หน้าตาหล่อเหลา ท่าทางก็ดูใจดี ผมหันกลับมาก้มกินข้าวในจานของตัวเองต่อก่อนที่คนข้างๆจะถามอีกฝ่ายขึ้น " ช่วงเวลาพักของนายเหรอฟาน "

" ใช่ครับ " อีกคนตอบฟานกินข้าวไปเรื่อยๆ แต่คนถามเค้ากลับหันมามองผมเหมือนบอกใบ้ให้อีกฝ่ายแนะนำ ฟานที่ทำเป็นไม่เห็นผมก็เลยต้องหันไปยิ้มแห้งๆให้เค้าแทน

" สวัสดีครับ คีย์ครับ เอ่อ..”

" ผมชื่อเพชรครับ เป็นอาจารย์สอนอยู่ในคณะวิศวะ " พยักหน้ารับอีกคนช้าๆ เค้าก็ถามต่อ " ขอโทษนะครับคุณคีย์เป็นพี่น้องกับฟานเหรอครับ "

“ ไม่..”

“ ใช่ครับ " สองเสียงที่แทรกขึ้นมาพร้อมกัน ผมหันไปมองฟานที่ก็ปั้นหน้าไม่พอใจอยู่ " เป็นพี่น้องกันน่ะครับ " ผมย้ำไอ้ลูกหมาที่นั่งอยู่ข้างหน้าถอนหายใจออกมาตอนที่ผมพูดออกไปแบบนั้น ก็จะให้บอกว่าอะไร เป็นแฟนกันเหรอ กับผู้หลักผู้ใหญ่ที่เป็นอาจารย์สอนนายเนี้ยอะไร บ้า จะตอบอย่างงั้นได้ไงก็ต้องเกรงใจกันหน่อยมั้ย

“ แล้ววันนี้มาหาฟานเหรอครับ เห็นเค้าบ่นว่าไม่ได้กลับบ้านหลายวัน คุณคงเป็นห่วงสินะครับ "

“ ก็ประมาณนั่นแหละครับ " ผมพยักหน้ารับอีกฝ่ายงงๆ ทำไมความจริงมันไม่มีเรื่องที่น่าให้ตอบเลยวะ จะบอกว่าอะไร  คิดถึงมากจนทนไม่ไหวก็เลยมากหาเค้าแบบนั้นดูเป็นพี่น้องที่มีความสัมพันธ์สวาทกันชัดๆเลย แต่ย้อนกลับไปคิดภาพเมื่อคืนก็ไม่ต่างอะไรจากคำพูดนั้นเท่าไหร่หรอกมากกว่าคำว่าสวาทอีกมั้ง เล่นเอากันตั้งหลายรอบ

    ผมหันกลับมากินข้าวต่อจนหมดตอนที่รวบช้อนฟานก็เก็บจานของผมกับของตัวเองไปไว้ที่ที่ให้เก็บ ผมหยิบน้ำขึ้นมากิน อีกฝ่ายก็พยักหน้าเหมือนบอกว่าให้ผมลุกขึ้น

“ ผมไปก่อนนะครับ อาจารย์ "

“ อ้าว แล้วคุณคีย์ต้องไปด้วยเหรอครับ นั่งเป็นเพื่อนผมก่อนสิเดี๋ยวเราไปพร้อมกันก็ได้ ให้ผมเป็นไกค์พาไปเดินดูรอบมหาลัยก็ได้นะครับ ฟานต้องทำกิจกรรมคงไม่ว่างหรอก " เค้าหันมาถามผมที่ตอนนั้นก็เหลือบมองฟานที่กำลังปั้นหน้าไม่พอใจอยู่ข้างๆเป็นครั้งแรกเลยที่เห็นเค้าทำหน้าแบบนั้น แล้วมันก็ดูไม่ค่อยน่ารักเท่าไหร่ด้วยเพราะอีกฝ่ายเป็นอาจารย์

“ เห็นทีจะไม่ได้นะครับอาจารย์ ก็เพราะว่าคุณคีย์มากับผม ก็ต้องไปกับผมสิครับ ขอตัวก่อนนะครับอาจารย์ " อีกคนตอบก่อนจะคว้ามือผมแล้วเดินออกไปด้วยอารมณ์ที่เรียกได้เลยว่า หงุดหงิดอยู่ไม่น้อยเลย

   ขาที่เดินเร่งออกมาจากโรงอาหาร มือที่จับแน่นอยู่ที่ข้อมือของผม แรงบีบที่เริ่มเจ็บทำให้ผมพยายามจะดึงออกจากการจับกุมนั้นแต่มันก็ยิ่งรัดแน่น ผมดึงแขนอีกคนให้หยุดแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าคนที่อยู่ในอารมณ์หงุดหงิดนั้นจะหยุดเดิน
“ ฟาน หยุดก่อน " ผมเรียกเค้าอีกคนก็ผ่อนขาที่รีบเร่งของตัวเองก่อนจะหยุดแล้วหันมามองผม " จะรีบไปไหนของนาย นายดึงฉันไปแบบนั้นฉันเจ็บนะ " เค้าที่ก้มลงมาดูข้อมือของผม " โกรธอะไร "

“ ผมไม่ใช่พี่น้องของคุณสักหน่อย " ปัญหาโลกแตกแบบนี้อีกแล้ว ผมถอนหายใจออกมาตอนที่มองอีกคนที่ก็หลบหน้าผม

“ แล้วจะให้ฉันบอกอาจารย์นายว่ายังไง " ผมถาม " บอกว่าเราเป็นแฟนกันนะเหรอ นายลองถามเพื่อนๆนายสิ ว่าถ้านั่งกินข้าวอยู่กับแฟนแล้วอาจารย์มาถามว่าเป็นอะไร เค้าจะตอบว่าแฟน หรือ ว่าเพื่อน ฉันคิดแค่ว่าเค้าเป็นอาจารย์ของนาย ฉันควรให้เกียรติเค้าโดยการบอกว่าเราเป็นแค่พี่น้อง มันก็เป็นคำที่สมควรจะพูดแล้ว อย่ามาง้องแง้งกับเรื่องแบบนี้จะได้มั้ย "

“  ถ้าอาจารย์แก่สักรุ่นปู่ผม ผมจะไม่หงุดหงิดให้คุณเห็นเลย " ฟานบอก " แต่ว่าอาจารย์เพชรน่ะ เป็นแบบที่คุณคีย์ชอบไม่ใช่เหรอ เป็นคนที่อายุมากกว่าคุณ แล้วนั่นแหละคือเหตุผลที่ว่าทำไมผมถึงไม่ชอบที่ต้องได้ยินคุณบอกว่า เราเป็นแค่พี่น้อง แล้วก็อยากจะให้คุณบอกว่าเราคือแฟนกัน เพราะว่านั่นคือคนในแบบที่คุณชอบ ไม่ใช่ผมที่เป็นคนในแบบที่คุณไม่ชอบ "

“ คิดอะไรแบบนั้น " ผมบอกปัดอย่างไม่รู้จะเถียงอะไรกับความรู้สึกของฟานที่พูดออกมาตรงๆ คงเหมือนอย่างที่ลิปบอกนั่นแหละ คำว่าพี่น้องที่พูดออกไป มันไม่ใช่คำที่ดูน่าเจ็บปวดอะไรหรอก แต่มันขึ้นอยู่กับว่าเราบอกใครตังหาก ถ้าคนนั้นคือคนในแบบที่เราชอบ แน่นอนว่าต้องสร้างบาดแผลให้อีกคนอยู่แล้ว " นายคิดมากเกินไปแล้ว "

“ รู้มั้ยทำไมผมถึงไม่อายที่จะบอกใครๆว่า คุณเป็นแฟนผม เพราะผมอยากจะให้มั่นใจไง ว่าไม่ว่าเมื่อไหร่ที่ไหนหรือกับใคร คุณก็คือคนที่ผมชอบ "

“ ฟาน "

“ แล้วผมละ " เค้าถาม " ก็ยังไม่ใช่คนที่คุณชอบใช่มั้ย "

“ ไม่ใช่ ฉันบอกแล้วไงว่านั่นอาจารย์ เราต้องพูดให้เกียรติเค้า "

“ ครับ ให้เกียรติเค้าแล้วถ้าเค้ามาจีบคุณเพราะคิดว่าคุณเป็นแค่พี่ผม แบบนั้นผมยังต้องให้เกียรติเค้าอยู่มั้ย "

“ คิดมากเกินไปแล้ว " ผมเถียงแต่ทว่ากลับมีเสียงของเด็กผู้หญิงคนนึงดังขัดเราขึ้นมาก่อน

“ ฟาน กลับมาแล้วเหรอ น้องๆเรียกหาใหญ่แล้วล่ะ " เด็กสาวหน้าตาน่ารักผมยาวตรงสีดำกับผิวขาวที่ดูเข้ากัน ฟานพยักหน้ารับคำพูดนั้น " ตอนนี้มีแค่ทามกับชินอะ ถ้านายพักเสร็จแล้วช่วยไปช่วยไอ้สองคนนั้นหน่อยนะ "

“ ได้สิ " เค้าตอบรับเธอ อีกฝ่ายก็ยิ้มให้ก่อนจะหันมายิ้มให้ผม

“ เอ่อ สวัสดีค่ะ หนูเป็นเพื่อนฟานค่ะ "

“ สวัสดีครับ " ผมตอบรับเธอ ร่างสูงข้างๆก็แนะนำผม

“ นี่คุณคีย์ พี่ชายฉัน " เหลือบมองเค้าที่ตอบเธอแบบนั้น ช่างประชดประชันกันเสียจริงนะพ่อคุณ

" อ่า สวัสดีค่ะ "  อีกฝ่ายที่ยิ้มรับก่อนจะขอตัวออกไปก่อน มองดูคนข้างกายที่หันมามองผม

“ ฟาน "

“ อยากจะทำเหมือนที่คุณทำบ้าง ให้คุณรู้สึกเหมือนที่ผมรู้สึกบ้าง แต่ลืมไปว่าคุณคงไม่รู้สึกอะไรหรอก เพราะคุณไม่ได้รู้สึกอะไรกับผมอย่างที่ผมรู้สึกกับคุณ " ขมวดคิ้วฟังคำพูดที่อีกคนพูด ฟานที่ถอนหายใจออกมา “ ผมต้องไปทำงานแล้วครับ " ยังไม่ทันได้ตอบรับอะไรอีกคนที่เดินออกไป ผมก็ถอนหายใจออกมา

“ ขี้งอน "

   ผมเดินตามเค้าไปที่ซุ้มคณะวิศวะที่กำลังจัดงาน ซุ้มที่ดูน่ารักและมีเด็กให้ความสนใจกันมากมาย เด็กผู้ชายสองคนที่คุ้นหน้าเหมือนว่าเคยเห็นตอนที่ฟานออกไปติวหนังสือให้เค้า กำลังพูดเป็นพิธีกรแนะนำอะไรสักอย่าง และดูท่าทางว่าจะตลกมากด้วยเพราะเด็กๆก็ให้ความสนใจกันเยอะ

“ ฉันรออยู่ตรงนี้นะ " บอกเค้าแบบนั้นตอนที่หยุดเดินที่ริมถนนอีกฝั่งตรงที่สามารถเห็นซุ้มของคณะได้ชัดเจน

“ ครับ " คนขี้งอนตอบก่อนจะเดินออกไป ผมถอนหายใจออกมากับความขี้งอนของเค้า ฟานที่บอกใครๆว่าเป็นแฟนผมแบบไม่อายแต่ผมกลับบอกกับอาจารย์ของเค้าว่าเราเป็นพี่น้องกันเพราะความเกรงใจในอาชีพ ผมว่ามันไม่มีใครผิดหรอกในเรื่องนี้ แต่เรียกว่าเป็นความคิดที่ต่างกันของคนที่อายุต่างกันมากกว่าละมั้ง

   ในขณะที่ฟานพยายามทุ่มเท แล้วบอกใครๆว่าเป็นแฟนผมด้วยความมั่นใจขนาดนั้นแต่กลับถูกผมที่มัวแต่คิดถึงเรื่องของความเกรงใจ อายุ มากกว่าการจะบอกออกไปตรงๆ พูดปัดไปว่าไม่ใช่แฟน เป็นใครใครก็ต้องไม่พอใจอยู่ ต่างคนก็ต่างมุมมอง ไหนใครบอกว่าคบคนที่เด็กกว่าจะไม่มีปัญหา นี่ไง ปัญหามันมาถึงผมแล้ว
 
“ ยืนถอนหายใจคนเดียว ท่าทางเซ็งๆแบบนั้น ไปร่วมกิจกรรมกันผมมั้ยละครับ " ผมหันไปตามเสียงที่เข้ามาทักก่อนจะพบกับอาจารย์เพชรที่เมื่อครู่เจอที่โรงอาหาร เค้าเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะยิ้ม

“ หมายถึงผมเหรอครับ ให้ไปเข้าร่วมกิจกรรมน่ะ " ถามอีกคนที่พยักหน้ารับผมก็หัวเราะ " ไม่ไหวมั้งครับ คงจะเรียนต่อไม่ไหวแล้วละ " พูดแบบนั้นตอนที่หันไปมองฟานที่กำลังอธิบายกิจกรรมอะไรสักอย่างให้เด็กม.ปลายผู้หญิงหน้าตาน่ารักฟัง ท่าทางดูเหมือนจะสนใจในตัวรุ่นพี่มากกว่าของที่เค้านำเสนอผมก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา

“ ฟานน้องชายคุณ บ๊อปมากในคณะของเราเลยนะครับรู้มั้ยละ "

“ เหรอครับ " ผมยิ้มจางๆออกมา อีกคนก็พยักหน้ารับ

“ สาวๆตามจีบกันเยอะแยะ ก็ทั้งเรียนเก่งแล้วก็หน้าตาดีนี่น้า สาวสมัยนี้น่ะ เค้าจีบผู้ชายแบบนี้แหละ "

“ ผมไม่ค่อยได้สนใจเรื่องอะไรของหมอนั่นเท่าไหร่หรอกครับ " แล้วก็จะพูดง่ายๆก็คือ มีแค่หมอนั่นเท่านั้นแหละที่สนใจในทุกเรื่องของผม

“ เค้าเรียนเก่งนะครับ ผมคิดว่าถ้าเค้ารักษาระดับไว้ได้แบบนี้ การสอบทุนไปเรียนต่อเมืองนอก หรือว่าการทำงานในต่างประเทศก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเค้าหรอกครับ "

“ งั้นเหรอครับ " ไม่เคยรู้เลยว่าอีกคนเรียนเก่งอะไรขนาดนั้น ผมรู้แค่ว่าฟานตั้งใจอ่านหนังสือตอนที่สอบทุกครั้งมันก็แค่นั้นแหละ " แล้วอาจารย์เพชรสอนที่นี่มานานแล้วเหรอครับ "

“ ก็ตั้งแต่เรียนจบโท.จากอเมริกามา ก็มาสอนเลยละครับ เพราะว่าผมได้ทุนจากมหาลัยไปเรียนต่อ "

“ ชอบการเป็นอาจารย์เหรอครับ " ผมหันไปถามอีกคนก็ส่ายหน้าก่อนจะยิ้ม

“ แค่อยากจะเอาความแค้นสมัยเป็นนักศึกษาไปลงกับนักศึกษาที่สอนเท่านั้นแหละ ไม่ชอบหรอกครับ " เค้าที่หลุดหัวเราะออกมา " เรียกว่าต้องชอบ เพราะต้องใช้หนี้ที่ก่อนหน้านี้ยืมเค้าเอาไปเรียนมากกว่าคุณ แต่มันก็ไม่แย่หรอก ยังไงก็เป็นเรื่องที่ชอบอยู่แล้วด้วยอะนะ แล้วคุณคีย์ทำงานอะไรครับ "

“ เป็นนักออกแบบผลิตภัณฑ์น่ะครับ "

“ เหรอ น่าสนใจจังครับ "

“ หมายถึงงานของผมใช่มั้ย " ผมถามขำๆอีกคนก็ยิ้ม

“ คุณก็น่าสนใจครับนะ ผมว่า " นั่นไง.. โดนเข้าแล้ว ทอดสะพานให้หน่อยไม่ได้หรอก ผมยิ้มแห้งๆออกมาก่อนจะหันไปมองฟานที่ก็ตอนนี้กำลังหันมามองผมอยู่เหมือนกัน ท่าทางที่ไม่พอใจของเค้าคิดถึงคำพูดที่ฟานพูดออกมาเมื่อครู่ ' ถ้าเค้าเข้ามาจีบคุณผมยังต้องให้เกียรติเค้าอยู่มั้ย ' ขยับตัวออกห่างอาจารย์เพชรเล็กน้อยผมรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่เลยกับท่าทางแบบนั้นของเค้า อารมณ์ที่ดูฉุนเฉียวแสดงออกทางสีหน้าแบบไม่เคยเห็น " แต่ดูเหมือนคุณเป็นโจทย์ที่ค่อนข้างยากนะ ท่าทางน้องชายจะหวงเอามา " หัวเราะแห้งๆออกมาตอนที่เห็นว่าอีกคนกำลังมองไปลูกศิษย์ตัวเอง " ตั้งแต่สอนหมอนั่นมา ยังไม่เคยโดนทำตาขวางใส่เลย จะโดนก็หนนี้แหละ โทษฐานมายืนจีบพี่ชายสุดสวยของเค้า แต่ว่าไม่แปลกหรอก เป็นผม ผมก็หวงนะ "  ผมยิ้มออกมาอย่างเสียไม่ได้ อยากจะเดินออกไปแหละแต่ว่ามันก็ดูเสียมารยาทเกินไป " คุณคีย์มีแฟนรึยังครับ "

“ เอ่อ.. ก็มีแล้วครับ มีคนที่คุยด้วยอยู่แล้ว " ผมสารภาพออกไป

“ เหรอครับ " เสียงที่เหมือนจะเสียดายของเค้า

“ ใช่ครับ "

“ งั้นรับผมเป็นตัวสำรองสักคนมั้ย ฮ่าๆ " เสียงหัวเราะของเค้าที่ดังขึ้นมาเหมือนกำลังแก้เก้อ ผมก็ส่ายหน้าไปมา

“ ผมอยากจะคุยกับคนแค่คนเดียวมากกว่าน่ะครับ "

“ งั้นเหรอ "

“ อีกอย่างที่ผมอยากจะบอกคุณก็คือ.. ฟานน่ะ แฟนผมครับ ไม่ใช่น้องชาย " ตอนที่ส่งยิ้มแห้งๆบอกเค้าไป อีกฝ่ายก็เงยหน้าขึ้นไปมองฟาน ก่อนจะหันหน้ามามองผมด้วยสายตาอึ้งๆ

“ คุณชอบเด็กเหรอ "

“ เปล่าหรอกครับ ผมไม่ได้ชอบเด็ก ไม่ชอบคนอายุน้อยกว่าด้วย  "

“ ขอโทษนะ งั้นแล้วทำไม "

“ ระวัง!!! “ เสียงดังที่ตะโกนมาลูกบอลที่ไม่รู้ลอยมาจากไหนกำลังถูกโยนมาทางเรา ในช่วงเวลาที่ผมกำลังยืนนิ่งแต่ทว่าคนข้างๆทีมี่สติมากกว่ากลับกอดผมไว้แล้วดันออกไปให้พ้นทางอย่างเฉียดฉิว " ขอโทษครับ " นักศึกษาที่วิ่งมาขอโทษเราที่ยังหายใจแรงๆกันแบบตกใจสุดๆ

“ เล่นอะไรกันตรงนี้วะ คนเยอะแยะ ไปเล่นตรงอื่นไป ถ้าหลบไม่ทันจะทำยังไง "

“ ขอโทษครับ อาจารย์ ขอโทษนะครับ " เด็กผู้ชายคนนั้นที่ขอโทษคนข้างๆก่อนจะหันมาก้มหน้าให้ผมที่ก็พยักหน้ารับแบบงงๆไป ท่อนแขนที่ยังคงกอดผมอยู่อาจารย์เพชรเอ่ยถาม

“ เป็นอะไรมั้ยครับ "

“ ไม่เป็นอะไรหรอกครับ ขอบคุณมากนะที่ช่วยผมไว้ "

“ ถ้าไม่เป็นอะไรแล้วก็ช่วยปล่อยด้วยครับ อาจารย์กำลังกอดแฟนผมอยู่นะ " ฟานที่มายืนอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้พูดขึ้น อาจารย์เพชรที่เหมือนได้สติปล่อยมือจากเอวผมทันที เราที่หันไปคนละทางอย่างไม่รู้จะพูดอะไรออกมายิ่งชวนให้ฟานหงุดหงิดสุดขีดเค้าที่คว้ามือของผมอย่างไม่ทันฟังอะไร  ร่างสูงก้าวขายาวๆออกไปจากตรงนั้นขึ้นไปที่ตึกสูงที่ผมไม่รู้ว่าเป็นคณะอะไรโดยไม่พูดอะไรสักคำ

“ ฟาน ฉันเจ็บนะ " คำพูดที่เหมือนพูดออกไปคนเดียวนั้น เค้ายังคงเดินตรงไปจนถึงห้องที่อยู่ตรงกลางของตึก ผมถูกผลักเข้าไปในห้องเรียนห้องนึงก่อนที่มันจะถูกปิดล๊อค

   

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
ร่างสูงหันกลับมามองผมในแววตาที่กำลังโกรธ มือหนาดึงผมเข้าไปใกล้ก่อนจะดันร่างของผมไว้กับประตู สองมือถูกตรึงไว้สูงเค้าที่จ้องลงมาในแววตานั้นก่อนจะจูบริมฝีปากผมด้วยความหนักหน่วง เกลียวลิ้นแทรกตัวเข้ามาตอนที่ผมพยายามจะเอ่ยปากห้ามเค้า

   ผ่อนมือที่จับกุมผมลงเหลือข้างเดียวก่อนจะสอดเข้าไปในเสื้อ มืออุ่นที่กำลังลูบไล้ไปตามผิว " ฟาน หยุดนะจะทำอะไร " ผละตัวเองออกถามอีกคนที่ยังคงไม่พูดอะไร เค้าก้มลงจูบที่ซอกคอขบเม้มไปทั่วก่อนจะไล่ลงต่ำมาที่หน้าอก เสื้อถูกร่อนขึ้นสูง ลิ้นที่ดูดกลืนและขมเม้มนั้นราวกับไม่ใช่ฟานคนที่ผมเคยรู้จัก " นี่ บอกว่าให้หยุดไง " ผมดิ้นหนีให้พ้นการจูบกอดของเค้าแต่มือที่กำลังไล่ลงต่ำเค้าปลดกางเกงของผมแล้วในตอนนั้นผมก็ผลักเค้าออกไปแล้วฟาดมือลงไปหน้าเค้าอย่างแรง “ เพี๊ยะ!!! ฉันบอกว่าให้หยุดไง “

   ทุกอย่างเงียบเค้าเองที่ก็นิ่งไปยืนหายใจหอบอยู่ข้างหน้าผมก่อนจะดึงตัวเองไปพิงกับโต๊ะ ฟานที่เอาแต่ก้มหน้าผมเพิ่งรู้สึกก็วันนี้เอง ว่านี่อีกด้านของเด็กผู้ชายคนนึงที่ผมรู้สึกว่าเค้าดูอบอุ่นมาตลอด อีกด้านของฟาน " เป็นอะไรของนาย เป็นบ้ารึไง จะปล้ำฉันเหรอ " ผมตะโกนถามเค้าอีกคนก็นิ่ง " แค่เห็นว่าฉันคุยกับอาจารย์ของนายแค่นั้นเหรอ แค่เห็นว่าเค้ากอดฉัน แล้วเห็นรึเปล่าว่าก่อนหน้านี้มันเกิดอะไรขึ้น เค้าช่วยชีวิตฉันไว้นะ ทำไมถึงดึงฉันออกมาแบบไม่มีมารยาทแบบนั้น แล้วยังมาทำอะไรแบบนี้อีก นายจะทำตัวเป็นเด็กไปถึงไหนห๊ะ ฟาน "

“ แล้วอะไรที่ผู้ใหญ่เค้าทำเวลาโมโหกันเหรอครับ " เค้าเงยหน้าถามผม " คำก็เด็ก สองคนก็เด็ก นั่นก็เด็ก นี่ก็เด็ก ทุกอย่างที่ผมทำดูเด็กไปหมดสำหรับคุณเลยสินะ ถามจริงๆเถอะ การกระทำของผมมันเด็กไม่รู้จักคิด หรือว่าจริงๆคุณแค่ไม่ชอบมันกันแน่เลยมองว่าอะไรๆที่ผมทำมันก็เด็กไปหมด " เค้าลุกขึ้นมาอีกครั้ง ขาที่ก้าวเข้ามาใกล้ผมมือหนาที่จับมือของผมไว้ทั้งสองข้างด้วยมือเดียวของเค้าก่อนจะหันหน้าผมให้หันหลังกลับแล้วตรึงมือไว้กับประตู " แล้วผู้ใหญ่ในความคิดคุณมันเป็นยังไง เวลาที่แฟนคุณโมโห โกรธ หรือว่าหึงเค้าทำยังไงกันครับ " ปลดกางเกงของผมถูกปลดลงไปกองอยู่ที่ข้อขา กางเกงในถูกเกี่ยวลงในอันดับต่อมาเค้าที่เลื่อนหน้าเข้ามาแนบกับหน้าของผม " บอกผมหน่อยสิว่าเค้าทำกันยังไง "

“ เค้าไม่ทำแบบที่นายกำลังทำกับฉันอยู่แน่ๆ "

“ งั้นผมจะทำในแบบของผู้ใหญ่ที่คุณชอบแล้วกันนะครับ " กระซิบบอกผมพลางขบเม้มใบหูก่อนจะเลื่อนลงมาจูบที่คอ " ผมจะพิพากษาความผิดของคุณที่ไปยืนคุยหน้าตามีความสุขกับคนอื่น กรุณาตอบคำถามผมตามความจริงนะครับ "

“ ทำไมฉันต้องทำอะไรแบบนั้นด้วย " มือที่จับส่วนกลางของผมอยู่ขยับเข้าออกก่อนจะเลื่อนนิ้วมาถูที่ส่วนปลายของมันเบาๆ " อ๊าา นี่จะทำอะไร ปล่อยฉันนะไอ้เด็กบ้า "

“ ผมไม่ปล่อยครับ เพราะจะต้องถามคำถามที่สงสัยกับคุณก่อน คุยกันด้วยเหตุผล อย่างที่คุณชอบไงครับ " จูบที่ซอกคออีกครั้งเค้าดูดมันเบาๆก่อนจะถาม

“ คุณคุยอะไรกับอาจารย์ของผมครับ "

“ ไม่ได้คุยอะไรทั้งนั้น อ๊าา นี่ " พอโกหกแล้วโดนจับได้นิ้วมือก็เลื่อนมาถูข้างหน้าจนทำให้มผได้แต่หดตัวเกร็ง " อื้ออ อย่าทำแบบนั้น ฟานไม่เอานะ "

“ ไม่เอาก็ตอบมาสิครับ ผู้ใหญ่โกหกมันไม่น่ารักนะ "  เค้าจูบลงที่ข้างแก้มผมที่ยังไม่ตอบอะไรอีกคนก็ขู่ " ถ้าขืนยังเงียบผมจะไม่หยุดแค่ทำให้คุณเสร็จด้วยมือของผมหรอกนะ " เค้าบอกก่อนจะปล่อยมือจากส่วนกลางแล้วลูบไปด้านหลัง มือที่ถูอยู่ตรงช่องทางหลังผมแอ่นก้นรับอย่างรู้สึกอายที่ควบคุมความต้องการของตัวเองไม่ได้ ไม่ชอบเลยการถูกสัมผัสแบบนั้นจากฟาน ก็ร่างกายมันแพ้ฝ่ามือคู่นั้นมาตลอดนี่น่า แค่จับก็รู้สึกต้องการมากแล้วอย่าถามถึงการแตะต้องส่วนที่อ่อนไหวเลย " แต่ดูเหมือนคุณจะชอบให้ผมเข้าไปทางนี้มากกว่านะ "

“ ไม่ ไม่ได้ชอบ "

“ ทำไมคุณถึงชอบปากแข็งนักนะครับ " เค้าถามก่อนจะจูบที่ข้างแก้ม " งั้นผมให้คุณเลือกดีกว่า ข้างหน้าหรือข้างหลังดี "

“ ไม่เอาตรงไหนทั้งนั้นแหละ " ผมบอก

“ งั้นทั้งสองดีมั้ยครับ "

“ ห๊า ? “ ยังไม่ทันจะพูดอะไรเค้าที่ปล่อยมือที่จับกุมผมอยู่ ดึงให้ตัวผมใช้มือค้ำกับโต๊ะนักเรียนตัวแรก ก่อนที่เค้าจะทั้งจับส่วนหน้าแล้วก็สอดนิ้วเข้าไปยังช่องทางหลัง " อย่า อย่างทำแบบนั้น อื้อออ มัน มากเกินไปแล้ว " ทั้งส่วนกลางที่ถูกขยับอยู่แถมส่วนหัวก็ยังถูกถูด้วยนิ้วเป็นระยะ ช่องทางหลังที่ก็มีนิ้วสอดเข้าไปแล้วกำลังหาจุดกระสันในนั้น " ฟาน.. อ๊าา อื้ออ "

“ คุณคีย์คุยอะไรกับอาจารย์ของผมเหรอ "

“ คุย อื้อ คุยเรื่องของนาย " ผมตอบเค้าสั้นๆ ไม่ไหวแล้วแบบนั้นมันทรมานเกินไป ไม่อยากจะตอบเลยแต่ก็ต้องยอมแพ้อีกแล้ว ยอมแพ้ให้กับความต้องการของตัวเองที่กำลังถูกปลุกปั่นด้วยสองมือของเค้า

“ คุยเรื่องของผมเหรอ ? เชื่อดีมั้ยละครับ "

“ จริงๆนะ อ๊า ก็คุยกัน อื้ออ ว่านายเป็นคนเรียนเก่ง ฟานตรงนั้น ไม่เอานะ อย่าย้ำสิ "

“ ตรงไหนครับ ข้างหน้าหรือข้างหลังละ "

“ ข้างหลัง " นิ้วที่สอดเข้ามาลึกกดย้ำเข้าในจุดกระสันเป็นจังหวะจนได้แต่หอบหายใจ " อื้ออ นี่ ก็บอกไปแล้วไง ปล่อยได้แล้ว "

“ คุยแค่เรื่องของผมเหรอ "

“ ก็ไม่ใช่แค่นั้น ก็คุยเรื่องของนาย อื้ออ แล้วจากนั้น นี่ พอก่อนฉันกำลังจะพูดไม่รู้เรื่อง "

“ แต่เสียงคุณเซ็กซี่มากเลย " ฟานก้มลงมาบอกก่อนจะจูบที่ต้นคอของผม  " พูดมาเถอะครับผมเข้าใจ "

“ ก็เค้าถาม ถามถึงงานของฉัน ก่อนจะ อื้ออ  ถามว่าฉันมีแฟนรึยัง "

“ ครับ แล้วคุณตอบว่าไง "

“ ก็ตอบว่ามีคนที่คุยด้วยอยู่แล้ว อ๊ะ ตรงนั้น อื้ออ " ผมเม้มริมฝีปากในตอนที่เรากำลังเงียบเพราะความต้องการที่เหมือนกำลังจะถึงขีดสุด อยู่ๆก็เสียงพูดคุยก็ดังขึ้นมา หัวใจที่เต้นแรงของผม ทุกอย่างหยุดนิ่งแต่ไม่ใช่มือของฟานที่มันยังขยับอยู่ไม่ปล่อย ผมเม้มริมฝีปากตัวเองตอนที่ใช้ฝ่ามือปิดเสียงตัวเองไว้แน่น เสียงพูดคุยดังเข้ามาใกล้เราเรื่อยๆ

“ นี่ เมื่อกี้เห็นคนที่คุยกับอาจารย์เพชรมั้ย "

“ เห็นๆ สวยมากเลย ยังกับผู้หญิงเหน่ะ แต่ว่าผู้ชายล่ะ " คำพูดที่เหมือนมีเด็กสองคนพูดกัน " ฉันว่าแฟนอาจารย์เพชรแน่เลย นายเห็นฉากที่เค้าเข้าไปกอดแฟนเค้าหลบบอลได้มั้ย อย่างเท่ห์อะ " คำพูดที่ทำให้ฝ่ามือคู่นั้นขยับมันแรงขึ้นมากกว่าเดิม ผมอ้าปากค้างพยายามปิดเสียงความทรมานของตัวเองไว้แน่น แรงสอดเข้าออกที่ทำให้ร่างของผมสะท้านไปหมดโชคดีที่โต๊ะที่กำลังค้ำอยู่เป็นโต๊ะที่ติดกับพื้นไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้มันเลยไม่มีเสียง

“ เหรอวะ แต่ไหงฉันได้ยินจากพวกไอ้ชินกับไอ้ทามบอกว่าเค้าเป็นแฟนไอ้ฟานวะ " เสียงที่เข้ามาใกล้เรา กลอนประตูที่ถูกบิดเหมือนจะเปิดทำเอาหัวใจผมหยุดเต้นแม้แต่ฟานเองก็หยุดมือไปชั่วขณะ " อ้าวล๊อควะ " ผ่อนลมหายใจออกมาตอนที่ได้ยินคำพูดนั้น สองทั้งสองก็ขยับต่อ

“ อื้อออ " เสียงที่ลอดออกมาผมเม้มปากตัวเองแน่น กลัวเหลือเกินว่าอีกฝ่ายจะได้ยิน

“ สงสัยอยู่อีกห้องละมั้ง หลงชั้นเปล่าเถอะ "

“ ลองขึ้นไปชั้นบนดูก่อนสิ "

“ ว่าแต่ แล้วแกรู้ได้ไงว่ามันเป็นแฟนไอ้ฟาน "

“ ก็คนสวยๆคนนั้นแหละบอกมา ว่าเค้าเป็นแฟนไอ้ฟาน อาจารย์เพชรจะจีบเค้าไง เค้าเลยบอก ว่าเค้ามีแฟนแล้ว " จังหวะที่ขยับเริ่มช้าลงผมผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆ ตอนที่ฟานโน้มตัวลงมาทับผมไว้ ก่อนจะกระซิบเบาๆ

' รวดเดียวให้เสร็จไปเลยนะครับ ' พยักหน้าตอบรับเค้าก็ขยับนิ้วตัวเองเป็นจังหวะที่ถี่รัวมากขึ้นทั้ง แรงสอดของนิ้วที่ย้ำจุดกระสันพร้อมทั้งมือของส่วนหน้าที่ขยับเข้าออกมา สองทางที่ทำให้ผมต้องแพ้แล้วปลดปล่อยความต้องการออกมาในที่สุด

“ อื้ออออ " ผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะหอบตัวโยแล้วทรุดลงใส่ร่างสูงที่คว้าผมเอาไว้ทัน ฟานอุ้มผมขึ้นมานั่งบนโต๊ะ เราที่มองกันเงียบๆ ฟังประโยคที่มีใครพูดถึงเราอยู่ที่หน้าห้อง

“ ก็ว่าทำไมมันไม่ชายตามองสาวที่ไหน แฟนมันสวยขนาดนี้นี่เอง "

“ แก่กว่าด้วยนะเว้ย ต้องเด็ดมากแน่เลยอะ "

“ ลามก ไอ้สัด " เสียงที่ห่างออกไปเรื่อยๆ ผมผ่อนลมหายใจออกมาก่อนจะเหลือบมองเค้าด้วยสายตาที่ไม่พอใจ

“ แล้วพออาจารย์เพชรถามว่าฉันมีแฟนรึยัง ฉันก็บอกเค้าไปว่าฉันมีคนที่คุยด้วยแล้ว แต่เค้าก็ยังถามถึงตัวสำรอง เค้าบอกว่าเค้าเป็นตัวสำรองได้มั้ย ฉันบอกว่าอยากจะคุยกับใคคคนนั้นแค่คนเดียว แล้วฉันก็บอกเค้าว่า ฟานน่ะ ไม่ใช่น้องชาย แต่นายคือแฟนฉัน คนที่ฉันกำลังคุยอยู่ คราวนี้พอใจรึยัง "

“ คุณคีย์ "

“ ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว " ผมบอกปัดอีกคนที่กำลังมีท่าทีสำนึกผิด ผมไม่ได้รู้สึกแย่กับสัมผัสของฟานยังไงซะ ถ้าเป็นเรื่องเซ็กส์สำหรับผมกับเค้าแล้ว มันมีแต่ความรู้สึกดีแบบที่ชอบแฝงอยู่

   เซ็กส์ในแบบที่ไม่เคยได้ทำเหมือนทำให้ตัวเองพูดได้เต็มปากเลยเลยว่า ชอบเรื่องอย่างงั้นที่ฟานทำให้อยู่แล้ว อีกอย่างมันไม่ใช่การขืนใจอะไรแต่สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ผมคิดว่ามันไม่ถูกไม่ควรสักหน่อยที่เราจะมาทำกันที่นี่ แล้วก็มีใช้วิธีแบบนั้นกับผม แค่อยากจะโกรธให้เค้ารู้สึกบ้างว่าอะไรที่ควรทำ อะไรที่ไม่ควรทำ

“ โกรธเหรอครับ " ผมไม่ตอบ แต่กลับเดินไปใส่กางเกงในแล้วก็กางเกงของตัวเองแต่งตัวให้เรียบร้อย ในตอนที่ยืนหันหลังเค้าก็เข้ามากอด " ผมขอโทษ ที่ไม่ได้ฟังอะไรคุณเลย ผมขอโทษที่เอาแต่หงุดหงิด แต่ผมหวงคุณนิครับ ผมไม่พอใจที่คนแบบที่คุณชอบอย่างอาจารย์เพชรจะเข้ามาใกล้คุณ ไม่ชอบที่เค้าไม่รู้ว่าเราเป็นอะไรกัน ไม่ชอบที่คุณบอกเค้าไปว่าเราเป็นแค่พี่น้อง "

“ ก็เลยทำแบบนั้นกับฉันน่ะเหรอ " ผมเอ่ยถามเค้าที่ก็เงียบไป " จะบอกอะไรให้นะ นี่แหละคือความห่างระหว่างอายุของเรา นายยังเป็นเด็ก ถึงนายจะไม่ชอบให้ฉันพูดคำนี้ แต่นายก็ยังคงเป็นเด็ก เด็กที่คิดว่าการเดินจูงมือกันสร้างความมั่นใจให้ฉันเป็นเรื่องที่ดี ใช่ฟาน มันดีนะ แต่นายต้องดูด้วยสิว่า เรื่องบางเรื่องมันสมควรมั้ย ฉันที่พูดออกไปแบบนั้นก็เพราะว่ามีความรู้สึกว่า มันไม่สมควรที่จะพูดกับอาจารย์ของนาย ส่วนนายกลับมองแค่ว่า กลัวเค้าจะมาจีบฉัน กลัวว่าฉันจะไปสนใจเค้า ถ้านายคิดแบบนั้น หมายความว่านายไม่เชื่อใจฉันเลยสิ ยังคิดใช่มั้ย ว่าฉันจะเปลี่ยนใจไปชอบผู้ใหญ่ "

“ ครับ " เค้าสารภาพออกมาตรงๆ " เพราะคุณไม่เคยบอกว่าชอบผม ต่อหน้าผมเลยสักครั้ง คุณบอกแค่ว่า วันไหนที่มั่นใจว่าชอบจะบอกเอง แต่ที่ไม่บอกเพราะยังไม่มั่นใจไม่ใช่เหรอครับ แล้วแบบนั้นจะให้ผมมั่นใจในตัวคุณคีย์ได้ยังไง สำหรับผมก็มีแค่ตัวเองที่เชื่อมั่นในตัวเองว่า เราจะต้องทำให้เค้าชอบเราให้ได้ ผมก็มีแค่นั้น ดีใจกับเรื่องที่คุณเขิน มีความสุขเวลาที่คุณมีท่าทางมีใจด้วย แต่ก็ไม่มั่นใจหรอกครับ เพราะงั้นเลยพยายามจะเป็นคนที่คุณชอบอยู่ในทุกวันไง "

“ ฟาน " กลายเป็นว่าผมที่กำลังโกรธเพื่อให้เค้าง้อ ตอนนี้ทุกอย่างมันกลับกันเสียแล้ว กลายเป็นผมเองแล้วที่ต้องโดนคำสารภาพในใจของอีกคน ตบหน้าอย่างแรงเข้าให้ เพราะอะไร คำตอบง่ายๆก็คือเรา เราที่ไม่กล้าพูดอะไรออกไปสักอย่าง มัวแต่เขินฐิทิสูงแล้วไม่กล้ายอมรับหัวใจตัวเอง คนที่ทำให้เค้ามีความสุขคือผม แต่ทว่าเช่นกันที่คนที่ทำให้เค้าต้องทุกข์ก็คือผมเหมือนกัน ผมที่ไม่สร้างความมั่นใจให้กับเค้าเลย " แล้วที่ฉันนั่งรถจากคอนโดมาหาเพราะว่าคิดถึง ฉันที่ทำแบบนั้นกับนายมันไม่ช่วยบอกอะไรนายเลยเหรอ "

“ อย่าเห็นเรื่องอย่างว่ามาสำคัญสิครับ สำหรับผม คุณคือทุกอย่าง คือความสุข คือสิ่งที่ผมมี ใช่ ผมอาจจะชอบเรื่องแบบนั้นกับคุณ แต่ไม่มีก็ได้นะ ขอแค่คุณบอกว่าไม่อยากทำ ผมก็จะไม่ทำ มันไม่ใช่เรื่องสำคัญและผมก็ไม่เอามาเป็นสำคัญด้วย สิ่งที่ผมมองว่าสำคัญคือความรู้สึกที่เราอยู่ด้วยกันตังหาก คือคำพูด คือการกระทำตังหากที่ผมมองว่าสำคัญ " เหมือนโดนเด็กตบหน้าเอาเสียงครั้งใหญ่ ผมที่เงียบไปถูกฟานดึงเข้าไปกอดอีกครั้ง " ผมรู้ครับ ว่าคุณรู้สึกยังไงกับผม แต่ไม่ว่ายังไงก็จะรอวันที่คุณพูดมันออกมาอยู่ดี อย่างที่ผมเคยสัญญากับคุณไว้ ผมจะไม่ถามคุณอีกว่าคุณชอบผมมั้ย แต่ผมจะรอวันที่คุณพร้อมแล้วคุณก็จะบอกผมเอง ไม่ว่ายังไงก็จะรอฟังครับ คำว่าชอบจากปากของคุณ " 

.............................................

รู้ตัวอีกที.. ก็มีฉากนี้เข้ามาในสมอง
ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน อารมณ์ที่รุนแรงของน้องฟาน
กับพี่คีย์ที่หลงใหลเซ็กส์ของน้องฟานอยู่ลึกๆ
มันต่างกันนะ ความรักที่เด็กคิด กับผู้ใหญ่เค้าคิดกัน เหมือนเรารักชอบกัน
แต่เรามีจุดประสงค์ในความรู้สึกต่างกัน
คำว่าชอบก็เช่นกัน .. ระวังคนที่รอฟังจะรอไม่ไหว แม้จะบอกว่า รู้อยู่แล้วว่ารู้สึกต่อกันยังไงก็เถอะ

ฝากแท็ก #ฟานคีย์ ไว้ในอ้อมใจ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านแล้วคอมเม้นท์
เจอกันตอนหน้าค่าา  :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
อืมม ทั้งสองคนก็ต่างโดนปมทำร้ายเนอะ ปมเด็กว่ากับปมปากแข็ง
ก็รู้สึกดีนะที่ไม่มีกล้องวงจรปิดหรือโดนแอบถ่าย แถมฟานก็ดูมีความอดทนอยู่บ้าง
ถ้าเสียบสุดทั้งๆที่โกรธกันคงรู้สึกแย่ฝังใจกันไปอีกนาน
น้องฟานโกรธงอนเป็นเด็กๆนะหึงแม้กระทั่งอาจารย์ก็ถือว่ายังเด็กน้อยอยู่แต่เข้าใจนะเพราะน้องมีปมพ่อแม่
กลัวถูกทิ้งเป็นทุนเดิม พี่คีย์รักหนูขนาดนี้แล้วเข้าใจเถอะลูกนะ   คนปากแข็งอ่อนลงเยอะแล้ว.  :L1: ขอบคุณค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ tkaekaa

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 329
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
เพราะความไม่แน่ใจ รักมาก หวงมาก หึงมากสินะฟานจ๋า

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
จะหน่วงหรือจะฟินดี พูดไม่ถูกคร๊าาาา 55555

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
อ่านแล้วจุกเบาๆ  คือแบบรู้สึกสงสารจนอยากจะขอฟฟานมากอดปลอบอ่ะ

เด็กเอ๋ยเด็กน้อยช่างน่าเอ็นดู งื้อออ...

ออฟไลน์ Krittapas

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-1
มาต่อวันนี้เลยค่ะ ชอบมาก อบอุ่นการใช้ภาษาเข้าใจง่าย

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
โอ๋ๆๆๆๆ ฟานนนนนน
มาๆมาพี่กอดดดนะ 5555
คีย์ก้อย่าปากหนักนักเลยยย
ชอบน้องก้บอกไปเถอะ สงสารรฟานนนน

ออฟไลน์ HanTwoH

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
เธอทำอะไรนุ้งคีย์ กิกิ :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
งอนคนแก่ปากแข็ง ชอบก็บอกว่าชอบไปก็สิ้นเรื่อง คำว่าคิดถึงยังพูดบอกไปแล้วเลย กะอีแค่บอกว่าคีย์ชอบฟานนะทำไมมันพูดยากเย็นนักฮะพี่คีย์  :serius2:

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ฟานชัดเจนแล้วนะ คีย์รู้ตัวไว้

ต่างคนต่างคิด พอวัยต่างเลยพูดให้ต่างได้อีก
เลยพาลน้อยใจไปด้วย

ฟานก็อยากให้คีย์พูดบ้างนะ อย่าอึนให้มาก
หึงแรง หวงแรง อีกมุมหนึ่งของคนขี้หวงนะคะ
ไม่อบอุ่นอย่างเดียวนะคีย์

แต่เข้าใจคีย์นะ เขินเลยไม่บอกออกมา แต่ทำให้เห็นว่าชอบ เลยคิดว่าฟานจะรู้ได้เอง

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
ค่อยๆปรับกันไปเนอะ ^^

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
ปรับความเข้าใจ ..

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด