ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง{ตอนพิเศษที่ 2 UP - 10.2.60}หน้า 42 (จบเรื่อง+รวมเล่ม)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง{ตอนพิเศษที่ 2 UP - 10.2.60}หน้า 42 (จบเรื่อง+รวมเล่ม)  (อ่าน 323443 ครั้ง)

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
 :hao5: สงสารเด็กน้อย

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
ความหึงหวงมันไม่จำกัดอายุหรอกนะ ว่าเด็กหวงได้ พอเป็นผู้ใหญ่ห้ามหวงอะไรแบบนั้น แต่เราต้องควบคุมอารมณ์ให้ได้ อย่าให้มากกว่าเหตุผลเท่านั้น 
ความรู้สึกก็เหมือนกันถึงจะบอกว่าคิดถึงแต่ในแบบไหนล่ะ ถ้าชอบควรพูดให้ชัดอย่ามัวมาทิฐิอยู่ ควรคิดถึงคนที่เขารอคอยเราบ้าง ว่าเขารอด้วยความรู้สึกแบบไหน

ออฟไลน์ ssipra

  • นักอ่านมืออาชีพ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
ค่อยๆปรับกันนะ

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง
ตอนที่  20
' คิดมาก '

   เดินลงมาจากตึกพร้อมกับฟานที่เดินลงมาด้วยกัน ผมที่เดินก้มหน้าลงมามีความคิดมากมายที่อยู่ในหัวของผมตอนนี้ ' ผมรู้ครับ ว่าคุณรู้สึกยังไงกับผม แต่ไม่ว่ายังไงก็จะรอวันที่คุณพูดมันออกมาอยู่ดี ' มันไม่ใช่คำพูดบีบบังคับเพราะเค้าไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้ยกเว้นครั้งนี้ที่พูดออกมา ทำไมทุกครั้งที่เค้าพูดความจริงออกมาจากใจตรงๆ ถึงเป็นผมทุกครั้งที่ต้องรู้สึกว่าตัวเองผิดตลอด เพราะความรู้สึกที่ไม่เท่ากันของเราน่ะเหรอ หรือเพราะความจริงแล้วเราเองก็เห็นว่ามันเป็นแบบนั้น เราเป็นอย่างที่เค้าพูดไม่มีผิดเลย ทั้งเรื่องที่ไม่เคยบอกว่าชอบเค้า แล้วก็เรื่องที่เค้าต้องพยายามอย่างหนักเพราะไม่มั่นใจว่าจะเป็นคนที่เราชอบรึเปล่า

   ใช่ เราเป็นแบบนั้น จะให้อีกคนมามั่นใจอะไรในตัวเรา ถ้าเรายังไม่คิดให้ความมั่นใจกับเค้าก่อน

“ คุณคีย์ "

“ หื้ม ? “ หันไปหาอีกคนที่เรียกผม ฟานยิ้มก่อนจะถาม

“ จะกลับบ้านเลยรึเปล่า แต่พรุ่งนี้ผมมีงานอีกวันนึง คงกลับไปพร้อมคุณไม่ได้ "

“ จะกลับอาทิตย์หน้างั้นเหรอ " ผมถามเค้าก็พยักหน้ารับ

" อาทิตย์หน้ามีงานสัปดาห์วิชาการของมหาลัยครับ ผมต้องอยู่ช่วยงานอาจารย์เพชร คงกลับอีกอาทิตย์นึงเลย "

“ เหรอ " ตอบรับเค้า ฟานก็คว้ามือผมไปจับก่อนจะดึงให้ผมหันมามองหน้าเค้า

“ ไม่โกรธนะครับ เดี๋ยวผมกลับไปนะ "

' อ่อนโยนกับฉันอีกแล้ว ไม่ต้องมาอ่อนโยนกับฉันเลย ' ผมพูดกับตัวเองในใจ ไม่ชอบเวลาแบบนี้เลยตอนที่มองสายตาคมที่กำลังมองผมมาด้วยความอบอุ่น คำพูดที่ดูห่วงใยอะไรพวกนั้น อ่อนไหวจนอยากจะดึงตัวเองเข้าไปกอดเค้าไว้ แล้วเอาแต่ใจให้ถึงที่สุด ' แวะกลับมาหน่อยก็ไม่ได้เหรอฟาน กินข้าวกันสักมื้อก็ได้นะ อาทิตย์นึงตั้งเจ็ดวันมันยาวเกินไปสำหรับฉัน ' ในใจที่คิดแบบนั้นแต่เอาเข้าจริงปากมันก็พูดออกไปอีกอย่าง " ใครจะไปโกรธเรื่องไร้สาระแบบนั้นกัน "

“ งั้นก็ดีแล้วละครับ " เราเดินลงมาถึงชั้นล่างของตึก กิจกรรมที่ดูเหมือนคนจะโล่งลงไปเยอะ คงเพราะเย็นแล้วด้วยเด็กๆก็คงทะยอยกลับไปแล้ว

“ เฮ้ย! ฟาน ทางนี้ " เสียงเรียกคนร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างๆผมดังมาจากโต๊ะนึง ที่มีเด็กผู้ชายรุ่นราวคราวเดียวกันนั่งอยู่เต็มโต๊ะ คนที่เรียกเป็นผู้ชายผอม เค้าที่ยิ้มกว้าง ฟานก็หันมาบอกผม

“ ขอเข้าไปหาเพื่อนหน่อยนะครับ "

“ ก็เข้าไปสิ มาถามฉันทำไมอะ "

“ ก็ผมจะพาคุณไปด้วย " เค้าบอกก่อนจะดึงมือผมให้เดินไปที่โต๊ะที่มีเพื่อนเค้านั่งอยู่ เด็กหนุ่มสองสามคนที่พอเห็นผมก็ยืนขึ้นแนะนำตัวกันทีละคน

“ สวัสดีครับ ผมชินครับ "

“ ผมทาม "

“ ส่วนผมเป็นรุ่นพี่ฟานปีนึงชื่อ คอม "

“ โฮมครับ " ผมพยักหน้ารับทุกคนก่อนจะแนะนำตัว

“ เอ่อ.. คีย์ ยินดีที่ได้รู้จักนะ " ไม่รู้จะแนะนำว่าอะไรดี แค่จะพูดว่า พี่คีย์นะทุกคน ยินดีที่ได้รู้จัก ก็รู้สึกกระดากปากชะมัดเลย

“ พี่คีย์แฟนฟานสินะครับ " คนที่ชื่อทามพูดขึ้นมาก่อนทั้งโต๊ะจะหัวเราะออกมาเสียงดัง ผมที่ยิ้มแห้งๆ ไม่รู้จะพูดอะไรก็ได้เลื่อนตัวเองไปยืนหลบอยู่หลังของอีกคน

“ มึงทำเค้าเขินใหญ่แล้ว ต้องไปหลบหลังแฟนเลยเห็นมั้ย "

“ ขอโทษนะครับ " ผมส่ายหน้าไปมาตอนที่อีกคนพูดออกมาแบบนั้น " แล้วนี่มึงจะพาแฟนไปไหน "

“ จะไปส่งเค้ากลับบ้าน " ฟานตอบ

“ แต่มึงมีงานต่ออีกนะ อย่าทิ้งพวกกูไว้กับอาจารย์เพชรนะเว้ย พวกกูทำไม่เป็น " ชินโวยวาย

“ กลัวอะไรวะ ไอ้โฮมก็อยู่ "

“ มีสองคนดีกว่ามีคนเดียวเปล่าวะ " ทามบอก อีกคนก็พยักหน้า

“ กูแค่ไปส่งเฉยๆ เดี๋ยวกลับมา " ฟานหันมายิ้มให้ผมก่อนจะหันไปบอกเพื่อน " งั้นเดี๋ยวกูมานะ "

“ แล้วเจอกันนะครับ พี่คีย์ "

“ อ่า เจอกัน " ผมยกมือบอกลาพวกเค้า ก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับฟานที่ก็ยิ้มอยู่แบบนั้น " ยิ้มอะไรของนาย "

“ คุณดูเกร็งๆ เวลาเจอเพื่อนผมนะ "

“ เหอะ " ไม่เกร็งได้ไงละ ดูหน้ามันแต่ละคน เหมือนพวกขี้แซวที่แบบว่าถ้าเกิดเผลอทำอะไรถูกใจลงไปสักอย่างต้องโห่ออกมาดังๆแน่นอน ไอ้เรื่องจุดเด่นพวกนั้น ผมไม่อยากเป็นครับ ไม่เอาเด็ดขาด แค่นี้ก็ถูกจ้องมองจะแย่อยู่แล้วเพราะมาเดินจูงมือกับหนุ่มบ๊อปของมหาลัย

 “ ไม่ชอบเหรอครับ "

“ ก็เปล่าหรอก แต่ดูท่าทางเพื่อนนายเป็นพวก จะว่ายังไงดีละ อื้มม คิดคำไม่ออก ขี้หลีเหรอ พวกที่ชอบแซวสาวเสียงดังๆ " ฟานยิ้มตอนที่ผมอธิบาย

“ พวกมันเป็นแบบนั้นแหละครับ "

“ ฉันไม่อยากให้มันแซวอะ ต้องเสียงดังมากแน่ๆ "

“ ก็แค่คนทั้งหมดที่อยู่ใกล้ๆอาจจะหันมามองคุณ "

“ นั่นแหละที่ไม่เอาเด็ดขาด " ฟานหัวเราะตอนที่ผมพูดออกมาแบบนั้น เราที่เดินข้างๆกันอยู่ๆเค้าห็หยุดเดินเหมือนจะคิดอะไรขึ้นมาได้ " มีอะไรเหรอ "

“ ผมลืมกระเป๋าไว้ที่ห้องในคณะน่ะ ขอไปเอาก่อนนะครับ "

“ อื้ม ไปสิ " ผมบอกอีกคนที่ก็ปล่อยมือผมก่อนวิ่งขึ้นตึกไป ถอนหายใจออกมากับความขี้ลืมของอีกคนก่อนจะหย่นตัวนั่งรอตรงโต๊ะว่างที่อยู่แถวนั้น

   อากาศเงียบๆที่มีลมพัดเบาๆ เผลอคิดถึงเรื่องที่เราคุยกันในห้องนั่นอีกแล้ว  ยิ่งเค้าดีกับเราเท่าไหร่เราก็ยิ่งแคร์เค้ามากแค่นั้น แววตาที่ฟานมองมาความเสียใจที่สื่อออกมาให้ผมรู้ ต่อให้ไม่พูดยังไง ต่อให้บอกว่าไม่รู้สึกอะไร ยังไงเค้าก็ยังเสียใจกับเรื่องนั้นอยู่ดีนะสินะ เรื่องปากแข็งไม่เข้าท่าของเรา เรื่องที่ไม่ยอมบอกว่าชอบทั้งๆที่ความจริงก็รู้อยู่แล้วว่า รู้สึกยังไง

   ถอนหายใจออกมาเซ็งๆผมหยิบมือถือมาเล่นฆ่าเวลาอย่างไม่รู้จะทำอะไรระหว่างรออีกคน “ เหมือนลุงแก่ๆ เลี้ยงลูกเลี้ยงหลานเลยอะ " เสียงที่ดังขึ้นผมหันไปมองต้นเสียงก็พบว่าเป็นกลุ่มเด็กสาวสองสามคนที่นั่งอยู่ไกลจากผมนัก จำได้คุ้นๆว่ามีคนนึงเป็นเด็กผู้หญิงที่ผมเจอตอนที่อยู่โรงอาหาร เธอทักผมแล้วฟานก็บอกว่าเราเป็นพี่น้องกัน " คนสมัยนี้ชอบซื้อเด็กหล่อๆไปกินเหรอวะ แบบนี้แหละนะ เค้าบอกว่าถ้าคิดว่าหาไม่ได้แล้วก็ให้ทำงานรวยๆแล้วซื้อกินเอา "

“ พูดอะไรแบบนั้น อาจจะเป็นความรัก " เสียงอีกเสียงที่แทรกขึ้น

“ ความรักแบบไหนกันวะ แบบที่ว่าถ้าไม่มีเงินก็ถูกทิ้งอะเปล่า "

“ แกเคยอ่านข่าวคนแก่อึ้บเด็กแล้วแม่ง หัวใจวายตายปะ " เสียงเม้าส์ที่เริ่มสนุกสนามมากขึ้นเพราะเสียงหัวเราะที่สอดแทรกเข้ามาตลอดเวลา 

“ เคยๆ "

“ แม่ง ไม่เจียมสังขารจะมาเอาเด็ก "

“ แกรู้อะไรมั้ย เด็กแบบพวกเราอะ ใช้เวลา 28 วันเซลล์ผิวถึงจะตาย แต่ว่าพวกป้าแก่ๆหรือว่าลุงแก่ๆอะ ต้องใช้เวลาตั้ง 45 วันเพื่อสร้างใหม่เลยนะ "

“ พูดหลักการแบบนี้หมายความว่าไงวะ "

“ ก็หมายความว่า หน้าที่เหี่ยวลงทุกวันต้องใช้เวลาตั้ง 45 วันกว่ามันจะสร้างใหม่นะสิ ฮ่าๆ " เสียงหัวเราะล้อเลียนที่ดังขึ้นมา ตอนที่ผมหันไปมองพวกเธอก็แค่จ้องมาแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจในสิ่งที่กำลังพูดอยู่ แสร้งทำเหมือนไม่ได้พูดอะไรเสียดสีผมเลยสักนิด

“ แค่คิดว่าต้องหอมแก้มหน้าเหี่ยวๆ ก็สุดจะทนแล้วอะ ไม่ใช่พ่อแม่เราสักหน่อย "

“ คิดไงไปคบคนรุ่นแม่วะ "

“ หน้าตาก็หล่อ ผู้หญิงสวยๆ ที่เข้ามาชอบก็เยอะแยะ สุดท้ายไปคว้าคนแบบนี้มาน่ะเหรอวะ สิ้นคิดมากเลยอะ " เสียงของผู้หญิงคนนึงที่พูดผมลุกขึ้นหันไปจ้องหน้าพวกเธอ ที่ก็ยกคิ้วขึ้นมองผม " มองอะไรเหรอค่ะ คุณลุง "

“ เปล่าหรอกครับ " ผมตอบ ก่อนจะมองไปรอบๆ " แค่สงสัยว่าทำไมมหาลัยนี้ถึงรับนักศึกษาที่มีวุฒิภาวะต่ำขนาดนี้เข้ามาเป็นนักศึกษาก็แค่นั้นเอง ไม่อยากจะเชื่อเลยว่่า นี่คือ ปัญญาชนคนมีความรู้ แต่ก็ไม่แปลกหรอก คนบางคนมีหัวแต่ไร้สมองก็เยอะแยะไป "

“ พูดแบบนี้หมายความว่าไง " ผู้หญิงคนนึงที่ลุกขึ้นถามผม หน้าตาเอาเรื่อง

“ ก็แค่พูดโดยรวมไม่ได้เจาะจงใครหรอกครับ เหมือนกับที่พวกเธอพูด ก็ไม่ได้เจาะจงจะว่าใครไม่ใช่เหรอ " ผมถามเธอที่ก็หน้านิ่งไปสักพักก่อนจะถอนหายใจออกมาแรงๆด้วยความหงุดหงิด " แต่ว่าถ้ามันไปตรงใจเธอ อันนี้ก็น่าเห็นใจนะ "

“ งั้นคำพูดของพวกฉันก็ต้องไปโดนใจคุณน่ะสินะ ถึงได้พูดออกมาแบบนั้น คงคิดว่าตัวเองแก่แล้วก็ไม่ได้เหมาะสมจะเป็นแฟนกับเด็กรุ่นลูกถูกมั้ยละ "

“ แต่ในความคิดของผม ถ้าแฟนรุ่นเดียวกันมีความคิดความอ่านแบบที่ได้ฟังคุณพูด ผมไม่คิดว่า ผมจะอยากคบคนรุ่นเดียวกันหรอกครับ เพราะดูไม่มีสมองเลย มีแค่ความอิจฉาเท่านั้น "   ผมยิ้มให้เธอ " แล้วลองคิดดูสิว่าเพราะอะไรกันนะ เค้าถึงไม่เอาเรา แล้วมาเอาคนแก่ๆแบบนี้ เพราะพวกเธอมีความคิดแบบนี้รึเปล่า "

“ เงียบปากไปเลยนะ " คำพูดที่หลุดพูดออกมา ผมเบือนหน้าหนีในตอนที่หันไปมองฟานก็เดินเข้ามาพอดี

“ ไปกันเถอะครับ " เค้าบอกก่อนจะกระชับกระเป๋าของตัวเองแล้วคว้ามือผมไปจับไว้

“ อื้ม ไปกันเถอะ ฉันก็ไม่อยากจะอยู่แถวนี้นานๆเหมือนกัน " หันไปบอกเค้า ฟานที่สงสัยไม่น้อยแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรเพียงแค่พยักหน้ารับก็เท่านั้นเราที่กำลังจะเดินผ่านโต๊ะของผู้หญิงกลุ่มนั้นผมก็หันไปถามเค้า  " จะว่าไปมหาลัยนายนี่ก็แปลกนะ "

“ ทำไมครับ "

" เค้ารับชะนีมาเรียนด้วยเหรอ " คนตรงหน้าขมวดคิ้วผมก็เลยแสร้งหัวเราะออกมา " ฉันแค่ได้ยินเสียงร้องเรียกว่า ผัวๆ ดังระงมเลยเมื่อกี้นะ ชะนีขี้อิจฉาน่ะรู้จักมั้ย  " แม้จะสงสัยในสิ่งที่ผมพูดแต่ฟานก็ไม่ถามอะไรทั้งนั้น เค้าแค่ยิ้มในตอนที่เดินผ่านกลุ่มของเด็กสาวนั่นไปช้าๆ ผมไม่ได้หันไปมองเธอแต่ก็คิดว่า คงจะแสดงทีท่าไม่พอใจอยู่แน่ๆเพราะไม่ได้สวนกลับคำพูดของผม

“ หิวมั้ยครับ อยากจะกินอะไรก่อนกลับรึเปล่า "

“ ยังไม่อยากกลับ " พูดออกมาเสียงเบาๆอีกคนก็หันมามอง

“ ว่าอะไรนะครับ "

“ บอกว่ายังไม่อยากกลับ ฉันพรุ่งนี้หยุดอีกวัน " เค้าถอนหายใจออกมาตอนที่ผมพูดแบบนั้น ก้มหน้าลงต่ำผมรู้ว่าไม่ควรจะพูดเอาแต่ใจแบบนั้น ฟานก็มีหน้าที่รับผิดชอบของตัวเอง แล้วผมเองก็เป็นคนบอกเค้าเองว่าต้องมีความรับผิดชอบในหน้าที่ของตัวเอง

“ พรุ่งนี้ผมมีงานต่อ ผมก็อยากจะให้คุณอยู่นะ แต่ผมคงไม่มีเวลาอยู่กับคุณ " เค้าที่อธิบายออกมา สองมือที่เอื้อมมาจับหน้าผมให้เงยหน้าขึ้นมองเค้า " อย่าทำหน้าแบบนั้นสิครับ ผมเองก็ลำบากใจนะ "

“ ฉันทำแบบไหนกัน " ผมถามก่อนจะเบือนหน้าหนีไปทางอื่น

“ หน้างอนๆที่กำลังบอกผมว่า ไม่อยากกลับ อยากจะอยู่ด้วยกัน หน้าตาที่บอกว่า ไปส่งที่บ้านหน่อยแล้วค่อยกลับมาทำงานต่อ หน้าตาคุณตอนนี้มันเป็นแบบนั้นแหละครับ "

“ เข้าข้างตัวเอง "

“ ก็ยังดีกว่าคนโกหกหัวใจตัวเองก็แล้วละครับ " ปล่อยมือจากหน้าผมที่ถอนหายใจออกมา ฟานเปลี่ยนมาเป็นจับมือเราที่เดินข้างกันไปเรื่อยๆถึงหน้ามหาลัยเค้าก็ถามผมอีก " สรุปว่าไม่กินอะไรนะครับ "

“ ยังไม่หิวอะ ถ้าอยากจะกินอะไรตอนนี้ สิ่งที่อยากจะกินที่สุดคงเป็นคอลลาเจนละ "

“ คอลลาเจน " เค้าทวนคำผมก็ยักคิ้วรับ

“ จะเอามาเติมเต็มส่วนที่เหี่ยวให้เต่งตึงยิ่งกว่าสาวอายุ 18 “

“ ทำไมอยู่ๆ คิดอยากจะเต่งตึงขึ้นมาละนั่น " เค้าพูดยิ้มๆ ผมก็หันไปมอง " อย่าบอกนะว่า โดนใครพูดสะกิดใจอะไรขึ้นมาอีก " พอฟานทักผมก็ทำหน้ามุ้ยลงเหมือนโดนตามทันเค้าก็หัวเราะ " ว่าแล้ว ไปโดนใครพูดอะไรมาอีกละครับ หื้ม ว่าไง "

“ ไม่ต้องมาพูดเสียงอ่อนเสียงหวานกับฉันเลย " ใจสั่นไปหมดแล้ว นายละชอบอ่อนโยนทุกทีทั้งๆที่ตัวเองก็มีด้านมืดดำแท้ๆ จริงๆนายควรดาร์กกับฉันในเวลานี้ฉันจะเข้มแข็งอยู่คนเดียวได้ครบอาทิตย์ ไม่ใช่มาอ่อนโยนแบบนี้ เพราะพอเป็นแบบนั้นแล้วฉันที่ต้องอยู่คนเดียวอีกเป็นอาทิตย์จะไม่คิดถึงนายได้ยังไง  ไอ้คนใจร้าย

“ อะไรอีกละครับ ผมก็แค่ถามเองนะ " ผมถอนหายใจออกมา ทำไมในสมองมันมีแต่เรื่องให้คิด ทั้งเรื่องฟาน เรื่องที่ต้องทนเหงาคนเดียว แล้วยังจะมีเรื่องคำพูดเหี้ยๆจากปากชะนีพวกนั้นอีก หงุดหงิดเว้ยยย " เค้าว่าอะไรคุณละ "

“ อยากรู้ไปทำไม จะไปจัดการให้ฉันรึไง "

“ ก็ต้องดูก่อนว่าเค้าพูดว่าอะไร "

“ เค้าบอกว่าฉันแก่ มาคบกับเด็กรุ่นหลาน เรียกฉันว่าคุณลุง หนำซ้ำยังบอกอีกว่า ฉันไม่กลัวหัวใจวายคาอกนายรึไง แล้วก็บอกด้วยว่า เราคบกันก็แค่เงิน พอฉันไม่มีเงินนายก็ไป " ถอนหายใจออกมา ฝ่ามือที่กุมกัน อยู่ๆผมก็จับมือเค้าไว้แน่น

“ ไปฟังอะไรเรื่องไร้สาระแบบนั้นละ "

“ เค้ายังบอกอีกนะว่าฉันน่ะต้องใช้เวลาสร้างเซลล์ผิวใหม่ตั้ง 45 วันแหน่ะถ้าหน้าฉันเหี่ยว "

“ ไม่มีอะไรจริงเลยที่เค้าพูด คุณหน้าเหี่ยวเหรอ ก็ไม่นะครับ แล้วเวลาเรามีอะไรกันเราก็ไม่เคยถึงขั้นจะหัวใจวายเลยสักครั้ง คุณยังทำอะไรๆกับผมในท่ายืนได้ผมไม่คิดว่าคุณแก่หรอกนะ แล้วเราคบกันที่เงินเหรอ ก็เปล่า ไม่มีอะไรจริงเลย ไปเครียดทำไมละ " เค้าที่พูดปลอบผมใบหน้าคมที่หันมามองฟานยิ้มอยู่ในตอนนั้น " คุณไม่แก่เลยสักนิดสำหรับผม เพราะในบางทีคุณก็อ้อนผมเหมือนเป็นเด็กน้อย บางทีก็ยิ้มมีความสุขกับเรื่องเด็กๆ แถมวิธีจัดการกับคุณก็ยังเป็นวิธีที่ใช้จัดการกับเด็กเท่านั้นด้วย คุณไม่แก่หรอก คุณเด็กจะตายไป "

“ ก็พวกเธออยากพูดให้ฉันคิด ฉันก็คิดสิ "

“ เราห่างกันแค่หกปีเอง มีคนที่อายุห่างมากกว่านี้อีกครับ จะไปแคร์ทำไม "

“ ก็ฉันไม่ได้เปิดใจคบนาย แบบแค่คบๆแล้วก็เลิกนี่ ฉันหวังจะคบกับนายไปตลอด " ผมริมฝีปากตัวเองตอนที่พูดคำนั้น " ถ้าคบกันได้ละก็นะ " นั่นคือสิ่งที่ผมคิด แล้วก็เป็นสิ่งที่ผมกังวล เราจะเข้ากันได้มั้ยสำหรับอายุที่ต่างกันของเรา สภาพสังคมที่ต่างกัน ความคิดก็ต่างกัน คนแบบผม คนแบบเค้า เราจะปรับเข้ากันได้มั้ย เพราะไม่ได้คิดถึงแค่วันนี้ แต่สำหรับผมคิดถึงวันพรุ่งนี้ คิดถึงอนาคต อนาคตของเราสองคน  เราเข้ามาใกล้กันเรื่อยๆ จนไม่รู้ว่าตอนนี้มันใกล้ชิดกันเท่าไหร่แล้ว แต่ที่รู้คือมันยากแล้วที่จะออกห่างจากกัน

“ คุณคีย์ " เสียงที่เรียกพร้อมกับท่อนแขนหนาที่ดึงผมเข้าไปกอด

“ ฟาน กอดทำไมคนเยอะแยะ " เพราะมันเป็นหน้ามหาลัย เค้าที่อยู่ๆดึงผมไปกอดแบบนั้น ใครๆก็ต้องมองอยู่แล้ว มือที่พยายามดันแต่อีกฝ่ายก็ยังดึงดันจะกอดไว้แน่น " นี่..”

“ ขอผมกอดคุณหน่อยเถอะครับ ก็ผมดีใจนี่น่าที่คุณพูดแบบนั้นออกมา " หยุดมือที่กำลังจะผลักเค้ากะทันหันตอนที่ผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆ ฟานก็บอก " ผมคิดว่ามีแค่ผมที่คิดไปคนเดียวซะอีกว่าอยากจะอยู่กับคุณไปตลอด ดีใจจัง ที่คุณเองก็คิดแบบผม "

“ ก็บอกแล้วไง ว่าถ้าอยู่ด้วยกันได้น่ะ "

“ ต้องอยู่ได้อยู่แล้ว "

“ มั่นใจอีกแล้วนะนาย " เค้าผละตัวออกจากตัวผม ที่ขมวดคิ้วมองอีกคนที่กำลังยิ้มกว้าง แล้วเห็นน่าหมั่นไส้จะมีความสุขอะไรเบอร์นั้น  ผมเบือนหน้าหนีเค้าอีกคนก็เอียงหน้ามามอง " อะไรของนาย "

“ ผมมีอะไรอยากจะถามคุณคีย์หน่อย "

“ อะไรละ "

“ ทำไมถึงอยากจะอยู่กับผมตลอดไปเหรอ " คำถามตอบยากที่ชวนให้ผมนิ่งไป จะตอบว่าะไรดีละ เพราะความอบอุ่นของเค้า ความใส่ใจ ความมั่นใจเวลาเราไปไหนด้วยกัน ความรู้สึกที่ว่าต่อให้วันข้างหน้าหน้าตาผมจะเหี่ยวลง ผมที่มีสีดำอาจจะกลายเป็นสีขาว อาจจะไม่มีได้มีฟันสวยๆแบบนี้ แต่ก็คิดว่าฟานก็คงยังอยู่ข้างผมแน่ๆ  คำตอบพวกนั้นที่จะตอบออกไปดูมั่นใจในตัวอีกคนเหลือเกิน มั่นใจเสียจนรู้สึกว่าถ้าผิดหวังขึ้นมาคงรู้สึกเจ็บไม่น้อย

“ นายทำข้าวปลาแซลมอนย่างเกลือที่ฉันชอบอร่อย ดีอะ " ฟานขมวดคิ้วก่อนจะจ้องหน้าผมงงๆ

“ แค่นั้นจริงๆเหรอครับ "

“ อื้ออ ถ้าฉันได้กินทุกวันมันคงดี ก็คิดแบบนั้นแหละเลยอยากให้ฟานอยู่ด้วยกันไปตลอด " ยักคิ้วบอกเค้าที่ถอนหายใจออกมาเซ็งๆ

“ ปากแข็งอีกตามเคย " ฟานว่า ก่อนจะเงียบไปสักพัก " แต่ข่างเถอะ สักวันคุณก็บอกความจริงผมมาเองแหละ เหมือนอย่างเรื่องที่จะบอกว่า ชอบผมก็เหมือนกัน "

“ นี่..ฟาน " หัวใจของผมเหมือนถูกสะกิดความรู้สึกแย่พวกนั้นกลับมาอีกครั้ง มองเค้าด้วยแววตาหนักใจที่สื่ออกไปอย่างปิดไม่มิด

“ ครับ "

“ เรื่องที่ฉันไม่เคยบอกว่า ชอบนายน่ะ จริงๆแล้ว ฉัน..”

“ กังวลเรื่องนี้อยู่อีกเหรอ " เค้าถามผมก็พยักหน้ารับช้าๆ " บอกแล้วไงครับ ว่าผมรู้ว่าคุณรู้สึกยังไงกับผม เรื่องที่คุณจะบอก จะบอกเมื่อไหร่ก็ได้ "

“ แต่นายไม่มั่นใจตัวฉันเพราะฉันไม่ยอมบอกไม่ใช่เหรอ วันนี้ที่เรามีปัญหากันก็เพราะเรื่องนี้ นายที่โกรธฉันก็เพราะเรื่องนี้ เพราะนายไม่มั่นใจในตัวฉัน  "

“ ถึงมันจะเป็นแบบนั้น ผมก็ไม่อยากให้คุณบอกเพียงเพราะว่าต้องบอกผมหรอกนะ ผมอยากจะให้คุณรู้สึกว่า ชอบผมมากจริงๆ ถึงจะพูดคำนั้นออกมา เหมือนที่ผมบอกคุณ เพราะรู้สึกว่าชอบจริงๆ ผมถึงพูดออกมา มันไม่มีค่าอะไรหรอก ถ้าคุณจะบอกว่าชอบผมเพียงเพราะอยากจะให้ผมมั่นใจในตัวคุณ คำว่าชอบที่บอก เพราะต้องบอก มันไม่มีค่าอะไรหรอก " เค้าพูดก่อนจะยิ้มจางๆ " ใช่ครับ มันอาจจะทำให้ผมเจ็บอยู่บ้างเวลาที่ไม่รู้ว่าตัวเองดีพอรึยังสำหรับคุณ ไม่รู้ว่าสิ่งทีทำไปคุณจะชอบ หรือว่าไม่ชอบ แต่ถึงจะเป็นอย่างงั้นก็ยังอยากจะรอฟังคำที่คุณพูดว่าชอบ ในตอนที่รู้สึกชอบผมจริงๆมากกว่า ก็อย่างบอกไงครับ ผมรู้อยู่แล้วว่าคุณรู้สึกยังไง "

“ รู้อยู่แล้วจริงๆนะ " เงยหน้าถามเค้า อีกคนก็พยักหน้ารับ

“ อย่าทำหน้าอ้อนผมแบบนั้นสิครับ "

“ ฉันไม่อยากให้นายรู้สึกว่าฉันไม่รู้สึกอะไร เพราะมันไม่จริง ฉันรู้สึกนะ รู้สึกกับนายเหมือนอย่างที่นายรู้สึกกับฉัน "

“ ผมรู้ครับ " ฟานยิ้มก่อนจะยกมือขึ้นขยี้หัวผม " ไม่งั้นคุณไม่มาหาผมหรอก "

“ อื้อ "  ตอบรับเค้าสั้นๆ เราที่เงียบให้กันและกัน ' คงต้องไปแล้ว ' ใจผมมันบอกตัวเองแบบนั้น แต่ว่าขาที่หยุดยืนอยู่ตรงนั้นนิ่งๆกับงอแงไม่อยากจะจากไหนเลย  " คงต้องกลับแล้วละมั้ง " ตัดสินใจพูดออกไปอีกคนก็พยักหน้ารับ

“ อาทิตย์หน้าเจอกันนะครับ "

“ จะโทรไปหารึเปล่า " ผมถามเค้า " ถ้าบอกว่าจะโทรฉันจะชาร์จแบตไว้รอนะ "

“ ผมจะโทรไปหาคุณทุกวันเลยครับ แล้วถ้าว่างก็จะไลน์หาด้วย "

“ จริงเหรอ " ผมถามย้ำ กลายเป็นคนงอแงไปเสียแล้ว งอแงที่กำลังจะจากไอ้ลูกหมาที่เคยบอกว่ารำคาญนักหนาเวลาที่มันอยู่ใกล้ๆ

“ จริงครับ จะไม่ปล่อยให้คิดถึงอีกแล้ว ไม่ทำหน้าแบบนี้สิ ผมรู้สึกผิดนะที่ไม่กลับบ้านน่ะ "

“ งั้นก็จ้องหน้าฉันแล้วรู้สึกผิดมากๆซะเดี๋ยวนี้เลยเราจะได้กลับไปด้วยกัน " พอบอกอีกคนแบบนั้นเค้าก็ดึงผมเข้าไปกอด "  ทั้งๆที่ฉันควรมีความสุขแท้ๆในเวลาที่นายไม่อยู่ แต่กลับกันเลยรู้มั้ย เวลาที่นายไม่อยู่ ในห้องมันเงียบมากเลยนายรู้มั้ย เงียบจนน่ากลัว "

“ คุณคีย์ " ผมเผลอแสดงความรู้สึกจริงๆออกไปซะแล้ว ความรู้สึกที่ต้องทำให้ฟานเป็นห่วงแล้วต้องกลับไปทำงานด้วยความรู้สึกแย่ๆหลังจากผมกลับไป " ผม.. "

“ เพราะงั้นกลับไปทำงานของนายได้แล้วไป " ผมผละตัวเองออกจากเค้า " ตั้งใจทำงานของนายให้ดี เสร็จแล้วก็รีบกลับละกัน "

“ ครับผม คุณก็ดูแลตัวเองดีๆนะ ผมจะโทรหา "

“ อื้ออ " ตอบรับเค้าสั้นๆ ผมเห็นแท็กซี่ที่กำลังจะเข้ามาจอด ในตอนนั้นมือที่กวักมือเรียกเป็นสัญญาณ รถที่กำลังเคลื่อนเข้ามาอยู่ๆผมก็หันไปหาเค้า ในตอนนั้นสมองมันอยากจะทำอะไรสักอย่างแบบชนิดที่ว่าลืมความเหมาะสมของสภาพแวดล้อมข้างๆ ลืมสายตาของใครๆที่กำลังจะมองมา " ฟาน " ผมเรียกเค้าก่อนจะเขย่งตัวแล้วดึงคอเสื้อของอีกคนลงมาจูบเสียเนิ่นนาน " คิดถึงฉันด้วยนะ " คำพูดที่มาพร้อมแก้มแดงๆของผม ที่ตอนนั้นก็รีบวิ่งขึ้นรถไปทันทีอย่างไม่ทันได้ฟังอะไรจากอีกคนทั้งนั้น

   ปิดประตูลงเสียงดัง พนักงานขับรถก็หันมามองหน้าผมที่กำลังหน้าแดงอยู่ในขณะนั้น เอ่ยบอกสถานที่ที่จะให้เค้าไปส่งแต่ทว่าเค้าก็พูดคำพูดบาดใจออกมาแค่สั้นๆ.. “ ส่งรถครับ "

“ ห๊า ? “

“ ส่งรถครับ ไปไม่ได้อะน้อง มันไกล ลงไปเถอะ " ให้กูลงไป ทั้งๆที่กูเขินเค้าแล้วเพิ่งกระโดดขึ้นรถมาอะนะ

“ เอ่อ..”

“ บอกว่าส่งรถไงครับ " เค้าย้ำ แล้วในตอนนั้นผมก็จำใจลงจากรถมาด้วยความรู้สึกเขินที่มีมากกว่า เพราะฟานยังคงยืนรออยู่ตรงนั้น

“ มีอะไรเหรอ " เค้าถามผมแบบกลั้นขำเอาไว้

“ ส่งรถ " ผมบอก อีกคนก็หลุดหัวเราะออกมาเสียงดัง

“ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ "

“ อายอะ ยังจะมาหัวเราะอีก " ผมบอกตอนที่เบือนหน้าหนีเค้าอีกคนก็หยุดขำก่อนจะพยักหน้ารับ

“ ไม่หัวเราะแล้วครับ ไม่หัวเราะแล้ว "

“ หยุดยิ้มเลยด้วย "

“ โอเค หยุดยิ้ม " แต่ก็ยังเห็นว่ายังยิ้มอยู่ดีนั่นแหละ ฟานที่เอื้อมมือมากอดผม " นี่แหละที่ทำให้ผมชอบคุณ ก็คุณน่ารักแบบนี้ไง "

“ ไม่ต้องมาพูดมาก เรียกเท็กซี่ให้เลย "

“ โอเคครับ เรียกก็เรียก " ฟานกวักมือเรียกเท็กซี่ให้ผม เค้าเปิดประตูถามคนขับก่อนจะหันมาพยักหน้าให้ผม " เค้าไปครับ เชิญเลย "

“ แล้วทำไมคันนี้ไม่มาเมื่อกี้ " ผมพูดบ่น ฟานก็ยิ้มกว้างพลางเปิดประตูให้ ก่อนที่เค้าจะเรียกผมไว้

“ คุณคีย์ "

“ หื้ม ? “ แล้วในตอนที่หันไปริมฝีปากก็ถูกช่วงชิงจูบไปเสียแบบไม่ทันตั้งตัว

“ คิดถึงผมด้วยนะ "

“ รู้แล้วละน่า พูดมาก " เข้าไปนั่งในรถผมที่ก้มหน้างุดอยู่ตอนนั้นก่อนที่รถจะเคลื่อนออกไป ผมมองฟานผ่านกระจกมองข้างที่อีกคนก็ยังยืนรออยู่ตรงนั้น

' คิดถึงฉันด้วยละ ' เพราะอยากให้เค้าคิดถึงผมเหมือนกัน เหมือนอย่างที่ผมก็คงต้องคิดถึงเค้าแน่ๆ

............................................

ไม่รู้จะคอมเม้นท์ตอนนี้ยังไง
มันเหมือนเป็นความรู้สึกกึ่งๆ เพราะงั้นเราจะรอให้คนอ่านแสดงความคิดเห็นแทน
ทางทวิตแท็ก #ฟานคีย์
ทางเฟส ใต้โพส
ทางเล้า เม้นท์ได้ตามสะดวก
แต่ส่วนตัวมองว่า ดีแล้วเหรอ ที่ปล่อยทุกอย่างไว้แบบนั้น
เค้าที่ไม่โกรธ เราก็ปล่อยผ่านไป เคยอ่านการ์ตูนเรื่องนึงมันมีคำพูดที่บอกว่า
" รักเรื่อยๆ มักเกิดปัญหา "

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์
ฝากแท็ก #ฟานคีย์ ด้วยนะคะ
เจอกันตอนหน้าค่าา  :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -

ออฟไลน์ tkaekaa

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 329
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
โอ้ยๆๆๆๆๆ คุณคีย์ อิจฉามากคร้า  :impress2:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :katai2-1:   สะใจ สมใจแม่ยกแท้ๆจ้าพี่คีย์น้องฟาน
ว่าแต่กลับไปคราวนี้จะมีไลน์หากันหวานแหววรึเปล่านะ
ลิปเป็นไงมั่งน้อ น่าห่วงนะคู่แฟนโฮสเนี่ย.  :ruready
 :pig4:

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

โอ้ยยย เขินนน ตัวจะแตกแล้ว

โอ้บบบ
คีย์เริ่มไม่ค่อยปากแข็งแล้วนะ
น่ารักมากกกกก

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
อ๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยย อย่างหวานนนนนน น่ารักอ่ะ :-[ :-[

อยากให้คีย์เลิกซึนปากแข็งซะที คิดอะไรควรบอกบ้างจะได้ไม่มีปัญหากันทีหลัง :hao3:

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
โอ้ยยยย...หลงๆๆๆๆ   หลงคนแก่ ทำไมถึงน่ารักขนาดนี้ มิน่าละเด็กมันถึงรักถึงชอบ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4:

การกระทำสำคัญที่สุด แต่
เราว่า ความรู้สึกพูดมาบ้างก็ดี
ดูเวลาที่เหมาะ มั้ง

ความรู้สึกดีๆ พูดมาบ้างก็ดีกับใจ

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
โอ๊ยยยยขำคีย์ไม่ไหวแล้ว "ส่งรถ"  ไม่แปลกที่ฟานจะลั่น 55 น่ารักอ่ะ //คนนึงก็ตรงดี อีกคนก่อนจะตรงหรือสารภาพต้องขอให้ได้แถก่อน  ลักษณะประจำตัวเขาเลย 55555 //ห่างกันอีกอาทิตย์  ไปเจอหัวหน้างานนั่น จะวุ่นยังไงรอตอนต่อไปค่าา  สนุกกกกกมากก ชอบๆค่ะ อารมณ์ความรู้สึกของคีย์ฟาน มันใช่นะ มันเป็นจริงๆที่เจอได้ แต่งออกมาดีค่ะ สู้ๆตอนต่อไปนะค่ะ

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
ถึงใครจะบอกว่าให้ดูที่การกระทำ แต่สำหรับเราคำพูดก็สำคัญนะ
ขอบคุณคนเขียน และรอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ LovEYouOnLy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 439
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
ปัญหาที่ว่าจะเป็นปัญหาเกี่ยวกับเรื่องครอบครัวหรือป่าวอ่ะ

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
อายุห่าง กับคนปากแข็ง ไม่แปลกหรอกจะทำให้คิดมาก จนต้องระเบิดกันแบบนี้
แต่ก็ดีแล้วนะ ทะเลาะแล้วเข้าใจ คีย์ก็ยอมฟัง ฟานก็เพราะรักอะนะ

น่ารักมากเลยค่ะ เค้าหวานกัน เค้าอ้อนด้วย
จะสงสารคีย์ ถ้าโดนเพื่อนฟานล้อ 5555
ฮาคีย์ ก็รีบไปนะ ลั่นเลย 5555

ฟานเอาใจมากเลย คีย์ต้องปากแข็งให้น้อยละนะ

น่ารัก ชอบๆ

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
คิดถึงเค้าด้วยนะ ..

ออฟไลน์ ssipra

  • นักอ่านมืออาชีพ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
หลงฟานมากมายยย

ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2

ออฟไลน์ i_Tipz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
น่ารัก อ่านสนุกคะ  o13 o13

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง
ตอนที่  21
' ความเชื่อใจ '

   ' ถึงห้องแล้วนะ ' ผมกดส่งข้อความไปหาเค้า ตอนที่ถอนหายใจออกไปเบาๆกับร่างที่แทบจะแตกสลายไปหลังจากกลับมาจากทำงาน เงยมองเวลาเกือบจะสองทุ่มแล้ว นี่ถ้าเป็นงานตัวเองคงจะรวยเป็นสิบล้านแล้วแน่ๆ หลับตาลงผ่อนคลายความเมื่อยล้าอยากจะให้ใครสักคนมานวดให้ชะมัด ตรงต้นคอที่เมื่อยขนาดนี้ถ้าฟานอยู่คงดี

   ครืน ครืน ครืน สายโทรศัพท์ที่ดังขึ้นมาผมหยิบมันมากดรับ ไม่ต้องมองหรอกว่าใคร โทรมาเวลานี้มีคนเดียวเท่านั้นแหละ

 "  ฮัลโหล "

“ เลิกงานแล้วเหรอครับ "

“ อื้อ " ผมตอบรับอีกคนก็ถามกลับมา

“ ช่วงนี้กลับบ้านดึกจังนะครับ งานยุ่งมากเหรอ "

“ แล้วจะให้ฉันกลับบ้านมาทำไม ที่บ้านมีคนคอยอยู่รึไง กลับเร็วก็มานั่งๆนอนๆ สู้ทำงานให้เสร็จๆไปเลยไม่ดีกว่าเหรอ "

“ งั้นหมายความว่าถ้าผมกลับไปอยู่คอนโน คุณจะกลับบ้านเร็วละสิ "

“ ไม่รู้ดูก่อน " วันนี้วันเป็นกลางสัปดาห์แล้ว ความเหงากัดกินผมอยู่แต่ก็ไม่ได้มากมายเหมือนอาทิตย์ก่อน อาจเพราะเราได้คุยด้วยกันทุกวัน ทั้งไลน์ช่วงกลางวัน แล้วก็โทรศัพท์ตอนกลางคืน ถึงมันจะไม่ได้ช่วยอะไรมากเหมือนการได้เจอตัวจริงๆของกันและกัน แต่การได้คุยกับเค้าบ้างก็ทำให้ ความคิดถึงมันก็บรรเทาเบาบางลง " ฟาน "

“ ครับ "

“ เมื่อไหร่กลับ "

“ ถ้างานเสร็จเร็วจะกลับวันศุกร์เลยครับ แต่ถ้าช้าหน่อยคงวันอาทิตย์ "

“ รีบทำให้เสร็จเร็วๆสินาย "

“ มันรีบได้ที่ไหนละครับ การทำงานเป็นทีมน่ะ ก็ต้องช่วยกันสิครับ ทนคิดถึงผมหน่อยนะ "

“ ไม่ได้คิดถึงอะไรขนาดนั้นสักหน่อย " ผมบอกปัดอีกคนก็ยิ้ม เป็นเสียงลมหายใจเวลายิ้มที่จะได้ยินเสมอ

“ แล้วคุณคีย์กินข้าวรึยัง "

“ ยัง "

“ ไดเอทเหรอครับ " เค้าถาม

“ ไม่มีใครทำให้กิน กับข้าวข้างนอกมันไม่อร่อย มันไม่ถูกปาก " ถึงจะเป็นคำพูดอ้างที่ใช้อ้อนให้เค้ารีบกลับมาก็เถอะ แต่ว่ามันก็รู้สึกแบบนั้นจริงๆนะ เวลาที่กินข้าวเช้าก็รู้สึกว่าของที่กินมันไม่เห็นอร่อยเลย คิดถึงข้าวปลาแซลม่อนย่างเกลือจะตายอยู่แล้ว กับแกงจืดหอมๆนั่นก็ด้วย

“ อ้อนผมอีกแล้วนะ "

“ ฉันอ้อนนายเมื่อไหร่ คำพูดแบบนี้แค่พูดปกติเท่านั้นไม่เห็นจะเรียกว่าอ้อนเลย ถ้าอ้อนมันต้องทำเสียงยานๆสิ "

“ เสียงยานๆยังไงละครับ " เค้าถาม ทำยังกับว่าฉันไม่รู้ นายจะให้ฉันพูดอ้อนนายก็บอกมาเถอะ ไอ้ลูกหมา

“ ก็แบบว่า ฟาน~ กลับมาได้แล้วน้าาา "

“ อ๋อ แบบนี้นี่เอง " เค้าพูดก่อนจะหัวเราะออกมา

“ หัวเราะอะไร ฉันไม่ได้พูดอ้อนนายสักหน่อย แค่ยกตัวอย่าง "

“ งั้นเหรอครับ โอเค ยกตัวอย่างก็ยกตัวเอง แล้วช่วงนี้ไม่ไปกินเบีนร์กับคุณลิปละ ห่างๆกันนะครับ "

“ คนเค้ามีแฟนให้ไปกินด้วย เค้าจะมากินเบียร์กับเพื่อนอย่างฉันทำไมละ " ไม่ต้องพูดถึงคนมีความรักที่มีแฟนมารับทุกวันให้ต้องอิจฉาในดวงตาร้อนผ่าวจะได้มั้ย ทั้งๆที่ออกจากที่ทำงานพร้อมกันแท้ๆ แต่ลิปกลับมีหนุ่มหล่อมายืนรับทุกวัน ส่วนผมก็เดินคอตกขึ้นรถไฟคนเดียวกลับบ้าน ทั้งๆที่มีแฟนแต่ดันติดทำการบ้านต้องอุทิศตัวช่วยงานที่มหาลัย ชีวิตแม่งแตกต่างกันสุดขั๋วไปเลย

“ คุณลิปมีแฟนแล้วเหรอ "

“ ก็..”

“ ฟาน ช่วยไปหยิบของเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ " เสียงแทรกที่ดังขัดเราขึ้นมา ผมที่เงียบไปฟังบทสนทนาที่กำลังพูดคุยกันอยู่ในตอนนั้น เสียงหวานๆที่เอ่ยเรียกฟาน

“ ของอะไรเหรอ "

“ มันอยู่ที่โกดังข้างหลังอะ ตอนนี้มืดแล้วด้วย ไม่กล้าไปคนเดียว แล้วก็ไม่มีใครไปเป็นเพื่อนฉันด้วย " ฉลาดดีจังนะแม่คุณ.. จะไปเอาของที่โกดัง แต่กลัวความมืดเลยมาชวนผู้ชายหล่อๆไปเป็นเพื่อน แล้วแบบนั้นทำไมถึงไม่ให้ผู้ชายไปเอาละ อ่อยเปล่าวะ ผมเผลอคิดอยู่ในใจก่อนจะถอนหายใจออกมาแล้วพูดผ่านสายออกไป

“ แล้วทำไมนายไม่ไปเอาให้เธอละ แล้วให้เธอรอนายอยู่ที่ห้อง ผู้ชายไปกับผู้หญิงเกิดอะไรขึ้นมาเพื่อนนายจะเสียหายนะฟาน " ที่เตือนนี่ไม่ได้ไม่เชื่อใจฟานหรอก แต่ผมไม่เชื่อใจผู้หญิงพวกนั้นตังหาก ดูท่าทางที่ด่าผมวันนั้นคงจะแรงใช่ย่อยละแต่ละคน

“ อื้มม จะเอาอะไรละ รออยู่นี่ละกันฉันจะไปเอากับไอ้ทามให้เอง " ฟานบอกก่อนจะหันไปเรียกเพื่อน " ทาม มึงไปเอาของเป็นเพื่อนกูหน่อย "

“ แล้วพวกนายจะรู้เหรอว่ามันอยู่ตรงไหน แต่ฉันรู้นะ "

“ งั้นเราก็ไปกันสามคน " ฟานบอก ' อย่างงั้นแหละฟาน อย่าไปไหนกับสาวสองคนเชียวนะ ไว้ใจไม่ได้ '

“ แต่ทามต้องอยู่ช่วยงานฉัน ไปไม่ได้หรอก " เสียงผู้หญิงอีกคนที่ดังขัดขึ้น ผมที่ฟังอยู่ก็ยกยิ้ม ' งานนี้แก้งชะนีต้องมีแผน '

“ แปปเดียวเอง ไปด้วยกันหน่อยไม่ได้รึไง "

“ ก็ได้ " เค้าที่ตอบรับ พอเห็นเพื่อนหงุดหงิดเข้าหน่อยก็ต้องเลยตามเลยไป ผมถอนหายใจออกมา ช่างไม่รู้เท่าทันงานอ่อยของผู้หญิงซะจริงๆนะนาย

   เสียงเดินที่ผมได้ยินตัดกับเสียงลมพัดผ่านมาเบาๆ ฟานคงจะใส่หูฟังบลููทูธคุยกับผมละมั้ง ? ผมถึงได้ยินเสียงรอบข้างชัดขนาดนั้น เสียงประตูที่ถูกเลื่อนออกฟานก็หันไปถามอีกคน " แล้วตกลงจะเอาอะไรละ "

“ เอ่อ..จะเอา " คำพูดขัดๆของเธอ ชวนให้ผมตั้งใจฟังในสิ่งที่เธอกำลังจะพูดไปด้วย " ฉันไม่ได้อยากจะมาเอาอะไรหรอก ฉันแค่มีเรื่องอยากจะคุยกับฟานก็แค่นั้น "

' นั่นไง ทายผิดซะที่ไหนละ ' ผมผ่อนลมหายใจออกมาตอนที่ฟังอีกคนพูดแบบนั้น หัวใจที่เริ่มเต้นเร็วไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเรื่องอะไรที่เธอจะพูด แล้วก็รู้ว่าฟานก็คงจะรู้เหมือนกัน

“ เรื่องอะไรเหรอ " เค้าถาม

“ ฟาน  ฟานชอบฉันได้มั้ย ฉันชอบฟานนะ " ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าเรื่องอะไร แต่ทำไมทุกอย่างถึงชวนให้หายใจลำบากขนาดนี้ " ตั้งแต่ที่เข้ามาเรียนที่นี่ ฉันก็แอบชอบฟานมาตลอด แต่ไม่กล้าบอกมันออกไป ฉันพยายามจะเข้าใกล้นายแต่ดูเหมือนว่า นายไม่มีทีท่าว่าจะสนใจฉันเลย "

“ ขอบคุณสำหรับความรู้สึกดีๆนะ " ฟานบอก " แต่ฉันมีแฟนแล้วละ ฉันมีคนที่ฉันชอบอยู่แล้ว " ผมเม้มริมฝีปากแน่นตอนที่ฟังคำพูดนั้นของเค้า อดยิ้มไม่ได้เลยที่ได้ฟังอะไรแบบนี้จากปากของอีกคน

“ ฉันรู้อยู่แล้วละ " คำพูดที่ชวนให้ขมวดคิ้วเปลี่ยนอารมณ์แทบจะทันที " เพราะรู้อยู่แล้วว่านายมีใครที่ชอบอยู่แล้วฉันเลยมาบอกว่า ฉันชอบนายไง "

“ งั้นก็ขอโทษด้วยนะ ที่ฉันตอบรับความรู้สึกของพลอยไม่ได้ "

“ เพราะฉันรู้ว่าคนที่นายชอบไม่คู่ควรพอที่นายจะชอบ แล้วฉันก็คิดว่าตัวฉันดีกว่าเค้าแน่ๆ ฉันเลยมาบอกชอบนาย " ทุกอย่างในตอนนั้นเงียบแม้แต่ผมที่ฟังอยู่ก็แทบจะนิ่งค้างไป " คนคนนั้นน่ะเหรอที่นายชอบ ผู้ชายอายุมากกว่าที่หน้าสวยๆคนนั้นนะเหรอ นายคิดว่าเค้าจะรักนายจริงๆรึไง คนแบบนั้นถ้าเจอคนที่ถูกใจมากกว่านายเค้าก็ไปแล้วละ เค้าไม่มาสนใจนายหรอกฟาน แล้วทำไมนายถึงไปสนใจคนแบบนั้นกัน ทั้งๆที่ฉันดีกว่าเค้าแท้ๆ ฉันชอบนายมาตั้งนาน  แล้วฉันก็พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อนาย แต่นี่อะไร คนที่นายไปชอบ คือคนแบบนั้นนะเหรอ คนที่เป็นเพศเดียวกับนาย แล้วก็แก่กว่านาย ท่าทางก็ดูเอาแต่ใจ แล้วทั้งๆที่ฉันที่เป็นผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงนี้ ชอบนายแท้ๆ แต่ทำไมนายถึงไม่มองมาบ้าง "

“ แต่ถึงอย่างงั้น ฉันก็ชอบเค้าอยู่ดี " คำพูดสั้นๆที่ฟานบอก " ภายนอกเธอมองเค้ายังไงฉันไม่รู้ แต่สำหรับฉันทุกอย่างที่เค้าเป็นมันโอเคสำหรับฉัน แล้วฉันคิดว่านั่นก็คงพอแล้ว เพราะเราก็คบกันแค่สองคนไม่มีคนอื่นมาเกี่ยวข้อง คนนอกจะมองเรายังไงอันนั้นฉันไม่สนใจหรอก จะมองว่าเค้ามีอายุมากกว่าแล้วฉันเด็กกว่า จะมองว่าเค้าเอาแต่ใจ ถ้าฉันรับได้นั่นคือฉันรับได้ แล้วฉันก็ไม่เปลี่ยนใจเพียงเพราะคนอื่นมองเรา ว่าเป็นอย่างงั้น อย่างงี้ ทั้งๆที่คนพวกนั้นไม่รู้จักเค้าด้วยซ้ำ แล้วพลอยที่พูดถึงแฟนฉันแบบนั้น บอกว่าแฟนฉันไม่ดี พลอยรู้เหรอว่าเค้าชื่ออะไร บ้านอยู่ที่ไหน ทำงานอะไร เบอร์โทรศัพท์เบอร์อะไร "

“ ก็..”

“ เธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับแฟนฉันเลยสักอย่าง แต่ฉันรู้ทุกๆอย่างที่ฉันถามเธอ แล้วฉันก็รู้มากกว่านั้นอีก ฉันรู้ว่าเค้าชอบกินอะไร ไม่ชอบกินอะไร ฉันรู้ทั้งหมดแล้วฉันก็ชอบทั้งหมดนั้น แต่เธอไม่รู้อะไรเลย แต่กลับมาบอกว่า ฉันไม่ควรชอบเค้าแบบนั้น มันใช่เหรอ " ฟานถามอีกฝ่าย " นี่คือชีวิตของฉัน ไม่ต้องมาบอกหรอก ว่าดีหรือไม่ดี ฉันตัดสินเองได้ ขอบคุณสำหรับความรู้สึกดีๆนะ แต่ฉันคงรับมันไม่ได้หรอก เพราะเธอบอกว่าเธอดีกว่าเค้า เพราะงั้นเธอคงดีเกินไปสำหรับฉันแล้วละ "

“ ฉันไม่ได้หมายความว่า ฉันดีกว่าแฟนแก่ๆของนายสักหน่อย แต่ฉัน..”

“ แต่เธอก็รู้สึกแบบนั้น " เค้าบอก " ประโยคที่เธอพูดทั้งหมด มันหมายความว่าอย่างงั้น "

“ ปกป้องเค้าจังนะ เพราะอะไรนายถึงชอบเค้านะ เพราะเซ็กส์นะเหรอ "

“ ไม่เกี่ยวกัน " ฟานตอบ

“ หรือเพราะว่าเค้ากำลังอยู่ในสายของนาย เค้ากำลังได้ยิน นายเลยต้องพูดเอาใจเค้า " คำถามที่ทำให้ใจของผมเริ่มเต้นเร็วขึ้นแล้วหวนคิดสิ่งในที่เธอพูดทั้งๆที่เมื่อกี้ยังมีความสุขกับคำพูดของร่างสูงที่ทั้งมั่นใจและมั่นคงอยู่เลย " งั้นมาลองดูมั้ยว่าเซ็กส์แบบชายหญิงวัยรุ่นอย่างฉัน กับคนรุ่นลุงอย่างแฟนนาย นายจะชอบแบบไหนมากกว่ากัน " คำพูดสุดท้ายที่ผมได้ฟังแล้วหลังจากนั้นสายของผมก็ถูกตัดไป

   ผมลดมือถือที่กำลังฟังอยู่ลง แล้วกดโทรศัพท์ออกไปหาเค้าอีกครั้งแต่ก็ไม่มีคนรับสายอีกแล้ว สองสามครั้งที่ผมกดโทรแต่ก็ไม่มีคนรับ ร่างกายของผมนิ่งค้างอยู่นาน อยากจะคิดในแง่ดีแต่คำพูดพวกนั้นก็ชวนให้รู้สึกอะไรแบบนั้นไม่ได้เลย ในจินตนาการของผมตอนนี้เธอคงย้ายตัวเข้ามากอดฟานเอาไว้ เอื้อมมือมาปลดบลูทูธหูฟังที่เรากำลังคุยอยู่นั้นลง แล้วหลังจากนั้น... ผมหลับตาลงอย่างไม่รู้ว่าตัวเองต้องรู้สึกยังไง เพราะไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ แล้วก็อยากจะไม่คาดเดาด้วยแม้สมองตอนนี้จะคิดไปในแง่ร้ายแล้วก็เถอะ 

   นึกถึงคำพูดของผู้หญิงคนนั้นก็จริงอย่างที่เธอบอก แก่ก็แก่กว่า นิสัยยังเอาแต่ใจ นี่ยังไม่รวมความปากแข็งอะไรนั่นอีก แต่ถ้าฟานจะทำเรื่องอย่างงั้นกับเธอที่เสนอมาให้มันก็ไม่แปลกหรอก เราเองก็ไม่ได้ผูกมัดเค้าไว้นี่ ชอบก็ไม่เคยพูด คำที่บอกว่าเค้าเป็นแฟนก็ไม่เคยบอก ไม่เคยแสดงความเป็นเจ้าของอะไรทั้งนั้น ถ้าฟานจะตอบรับก็คงไม่แปลก ความคิดย้ำๆที่ทำให้ น้ำตาผมมันไหลออกมา ทำไมถึงรู้สึกเจ็บขนาดนี้วะ ทั้งๆที่มันก็เป็นแค่ความคิดเท่านั้นเอง

“ ก็ไม่ยอมบอกเค้าเอง ก็ปากแข็งเอง วันนี้ถ้าเค้าจะใจอ่อนไปกับการยั่วยวนของใคร มันก็ไม่ผิดทั้งนั้น แล้ว จะร้องไห้ทำไมวะ " ผมถามตัวเองตอนที่ยิ้มแห้งๆออกมาแล้วปาดน้ำตานั่นทิ้งไป มองสายโทรศัพท์ตัวเองที่เงียบไปนานแล้ว ในเวลาแบบนี้ถ้ากลัวแฟนเข้าใจผิดเค้าต้องรีบกันผู้หญิงคนนั้นออกแล้วโทรมาหาแล้วรึเปล่า ต้องโทรมาหาแล้วบอกว่า เข้าใจผิด ไม่มีอะไรอย่างที่คิด อย่างที่กังวลไป แต่นี่กลับเงียบ ฟานกลับไม่โทรมาเลย เพราะสะบัดไม่ออกเหรอ หรือเพราะว่า สมยอมกับเค้าไปแล้ว

   ครืน ครืน ครืน  สายโทรเข้าที่ดังขึ้นมา ผมหันไปมองเบอร์ที่โทรเข้ามาเป็นเบอร์ของฟาน เอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ของตัวเองก่อนจะสูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆ แล้วกดรับ

“ คุณคีย์ "

“ เสร็จแล้วเหรอ " ผมถามเค้าสั้นๆ อีกคนก็ถอนหายใจ
 
“ ผมไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นกับ พลอยนะครับ " เค้ารีบบอก ไม่รู้สิ ให้เชื่อดีมั้ยละ ผ่านไปตั้งเกือบสี่สิบนาทีแล้วกว่าที่นายจะโทรมา " คุณคีย์ "

“ อื้ม ฟังอยู่ "

“ ผมไม่ได้ทำอะไรกับเธอเลยนะ เชื่อใจผมนะ " จะให้ตอบว่าอะไรดีละ ก็ใจมันยังหาคำตอบไม่ได้เลย " คุณคีย์ "

“ ฉันไม่รู้จะตอบอะไรนาย " ผมพูดไปตามตรงแบบนั้น " ฉันเชื่อในคำพูดของนายที่พูดกับเธอ เพราะนายก็พูดแบบนั้นกับฉันมาตลอดเหมือนกัน แต่ในทางกลับกันเพราะฉันไม่เห็น บางทีนายอาจจะพูดเอาใจฉันอย่างที่เธอคนนั้นพูดก็ได้ แล้วนายจะให้ฉันตอบอะไรละ ฉันที่แค่ได้ยิน แค่ได้ยินแต่กลับไม่เห็น มันมีเหรอฟานคนที่คิดเรื่องแบบนั้นไปในทางที่ดีน่ะ แฟนฉันดีมากๆเลยเค้าคงไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอก ร้อยเปอร์เซ็น คนเราน่ะ จะเชื่ออะไรแบบนั้นได้ร้อยเปอร์เซ็นจริงๆนะเหรอ  "

“ แล้วที่ผ่านมา คุณเห็นผมเป็นคนแบบนั้นเหรอ " เค้าถาม " คุณเห็นผมเป็นพวกชอบพูดเอาใจคุณน่ะเหรอ ผมเจ้าชู้ อย่างงั้นเหรอ " ส่ายหน้าไปมาตอนที่อีกคนถาม ผมก็ไม่ได้รู้สึกว่าเค้าเป็นคนแบบนั้นหรอก ตั้งแต่รู้จักกันมาไม่เคยเลยที่จะรู้สึกอะไรแบบนั้น แต่ว่าเรื่องนี้มันเกี่ยวกันด้วยเหรอ เพราะเค้าดีกับผมมาตลอดผมเลยต้องเชื่ออย่างหมดใจว่าเค้าต้องไม่ทำอะไรแน่ๆ อย่างงั้นเหรอ

“ ฉันเชื่อใจนาย " ผมบอก " แต่ฟานขอโทษนะ มันไม่ใช่ทั้งหมดหรอก มันมีบางส่วนที่ฉันก็ไม่เชื่อมัน " เค้าที่เงียบไปผมเองก็เม้มริมฝีปากของตัวเองไว้แน่น " มันก็ไม่ผิดที่นายจะไปรู้สึกดีกับใคร ฉันไม่เคยบอกว่าชอบนาย ไม่เคยผูกมัด นั่นคือสิ่งที่ทำให้ฉันเชื่อใจนายไม่ทั้งหมด "

“ เข้าใจแล้วครับ " เค้าบอก แต่ผมก็รู้ว่าเค้าคงไม่เข้าใจหรอก ฟานคงอยากให้ผมเชื่อใจเค้าทั้งหมด ทั้งหมดร้อยเปอร์เซ็นต์ที่มีแต่ผมเองก็ทำใจให้คิดแบบนั้นไม่ได้

“ ฟาน "

“ ผมไม่รู้จะพูดอะไร เพราะพูดอะไรออกไปตอนนี้คุณก็คงไม่เชื่อผม " เค้าที่เงียบไปหลังจากพูดคำนั้น ก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมา " เหมือนความมั่นใจที่ผมทำมาทั้งหมดมันไม่มีความหมายอะไรเลย แต่ผมเข้าใจนะ "

“ นายไม่เข้าใจหรอก " ผมบอก " อย่าพูดว่าเข้าใจทั้งๆที่ตัวเองกำลังไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจว่าทำไมฉันถึงเชื่อใจนายทั้งหมดไม่ได้ " อยากจะอธิบายให้ได้มากกว่านี้ ถ้าเราได้เจอกันก็คงดี การพูดอธิบายทางโทรศัพท์เป็นอะไรที่ไม่ได้เรื่องเลย ผมอยากจะมองตาเค้าตอนที่เค้ากำลังอธิบาย แล้วให้เค้ามองผมให้เค้าเข้าใจในสิ่งที่ผมคิด เรื่องแบบนี้มันพูดกันอย่างเดียวไม่เข้าใจหรอก ความเชื่อใจในเรื่องบางเรื่องมันไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ โดยเฉพาะเมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อใจก็เชื่อใจแต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด " ฟาน "

“ ผมขอตัวไปทำงานต่อก่อนนะครับ "

' โดยไม่คิดจะกลับมาหาฉันแล้วอธิบายเรื่องนี้เลยงั้นเหรอ ' ในใจของผมอยากจะถามเค้าแบบนั้นแต่ก็ได้แต่เงียบไว้อย่างไม่รู้จะรู้สึกยังไงดี ถ้าเป็นผม ผมจะรีบออกไปหาอธิบายเรื่องราวทีเกิดขึ้นแล้วก็อยากจะเข้าใจกันให้เร็วที่สุด แต่ในตอนนี้มันกลับกันฟานเหมือนกำลังรู้สึกไม่ชอบใจกับความรู้สึกของผม เหมือนเค้าพยายามทำให้ผมเชื่อใจเชื่อมั่นขนาดนั้นแล้ว ทำไมผมยังไม่เชื่อ แล้วพอตัวเองรู้สึกว่าผมไม่เชื่อ เค้าก็ไม่อยากจะพูดอะไรอีก ซึ่งในบางทีมันก็ไม่ใช่ เรื่องบางเรื่องมันไม่ได้จบลงง่ายๆแบบนั้น หรือเค้าสบายใจมากกว่ากับการที่ผมจะโกหกเค้าแต่ในใจก็หวาดระแวง " ตามใจนายแล้วกัน " ผมกดวางสายไป โดยที่ไม่ได้ฟังคำบอกลาอะไรทั้งนั้น

....................................................

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27

   สุดสัปดาห์ของการทำงานที่ผมได้แต่นั่งหมุนปากกาไปเรื่อยๆแบบไม่มีอารมณ์จะทำอะไร สมองคิดทบทวนแต่เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ใบหน้าที่หันมายิ้มให้ในตอนที่พูดอย่างมั่นใจว่าเราเป็นอะไรกัน เค้าที่แม้แต่ตอนที่อยู่กับผู้หญิงอื่นสองต่อสองก็ยังจะปกป้องผมจากคำพูดของเธอ '  หรือเพราะว่าเค้ากำลังอยู่ในสายของนาย นายเลยต้องพูดเอาใจเค้า ' แต่พอคำนี้ผุดขึ้นมาทีไรก็ชวนให้ความเชื่อใจที่มีลดลงมากขึ้นทันที ' คุณเห็นผมเป็นคนแบบนั้นเหรอ ' เสียงของฟานที่ถามผมเมื่อคืนทำให้ผมย้อนถามตัวเองว่าตลอดมาเรามองเค้าเป็นยังไงกันแน่

“ คีย์ " ผมหันไปมองเพื่อนที่นั่งโต๊ะข้างๆ ที่เอ่ยเรียกผม ลิปยิ้มจางๆก่อนจะถาม " เหม่อนานไปแล้วนะเป็นอะไร "

“ มีอะไรให้คิดนิดหน่อยนะ " บอกเค้าไปสั้นๆอีกคนก็พยักหน้ารับ

“ ถ้ามีอะไรที่ฉันช่วยได้ อยากจะเล่าก็เล่าได้นะ "

“ อื้ม ขอบใจมากนะ " พยักหน้ารับอีกคนก่อนจะหันไปมองมือถือตัวเอง ตั้งแต่เมื่อคืนก็ไม่มีสายมาจากฟานอีกเลย ไม่ว่าจะเป็นไลน์ ข้อความ หรือสายโทรเข้า ไม่รู้ว่าตัวผมพูดผิดอะไรไปรึเปล่า หรือว่าผมควรจะเชื่อใจเค้าเหรอ มันผิดเหรอที่พูดความจริงออกไปว่าเราคิดยังไง

   ผมนั่งทบทวนความรู้สึกของตัวเองอยู่นาน นานจนไม่รู้ว่าเวลามันผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว " คีย์ ไปกินข้าวกันมั้ย " ลิปที่ทักขึ้นมาแบบนั้นทำให้ผมเงยหน้าขึ้นดูนาฬิกาก่อนจะพบว่าตอนนี้ได้เวลาพักเที่ยงแล้ว พนักงานในออฟฟิศที่เหมือนจะเหลือแค่เราสองคนที่นั่งอยู่

“ ฉันไม่หิวน่ะ นายไปกินเถอะ "

“ นายเป็นอะไร นายเหม่อมาทั้งวันแล้วนะ ทะเลาะกับฟานเหรอ "

“ ฉันไม่รู้ว่าสิ่งที่ฉันทำมันถูกรึเปล่า " ผมบอกเค้า " ฉันคิดว่าคนเราควรจะพูดในสิ่งที่ตัวเองรู้สึกกับเรื่องที่เราเข้าใจผิดกัน แต่ว่ากลายเป็นว่าฉันไม่รักษาน้ำใจของเค้าเลยอย่างงั้นเหรอ "

“ แล้วมันมีเรื่องอะไรกันละ " เรื่องราวของผมที่เกิดขึ้นเมื่อคืนถูกเล่าให้อีกคนฟัง ลิปที่ถอนหายใจออกมาเหมือนเค้าเองก็พูดไม่ออกเหมือนกัน " พูดยากจังนะ เรื่องแบบนี้ แต่นายก็ไม่ผิดนะที่เลือกพูดความจริงกับเค้า เพราะถ้านายเลือกที่จะโกหกสักวันที่มีปัญหาขึ้นมาอีก สิ่งนี้แหละจะเป็นเหมือนมีดแหลมๆที่จะกลับมาแทงนาย สู้ทะเลาะกันตอนนี้แล้วเคลียร์กันไปดีกว่า "

“ ถ้าเป็นนาย ถ้านายทะเลาะกับแฟน นายจะไปง้อเค้ามั้ย "

“ ก็คงไป  " ลิปถอนหายใจออกมา " แต่คีย์ ฟานก็อาจจะไม่ว่างจริงๆ "

“ อื้ม " ผมพยักหน้ารับ " ฉันเองก็อยากจะคิดแบบนั้น คิดว่าเค้าไม่ว่าง ไม่ว่างแม้แต่มาง้อฉันมาอธิบายหรืออะไรทั้งนั้น รู้มั้ย บางทีมันทำให้คิดว่าหรือที่ฉันไม่เชื่อใจเค้าแบบนั้น  มันทำให้เค้าคิดว่าพูดไปก็เท่านั้น มันทำให้ฉันรู้สึกผิด ผิดที่ไม่เชื่อใจเค้าตั้งแต่แรก "

“ อย่าคิดแบบนั้นสิ นายก็ทำถูกแล้วที่พูดออกไปตามตรงว่ารู้สึกยังไง "

“ รู้มั้ยบางทีพอเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น มันทำให้ฉันรู้ว่า บางทีอะไรๆของเรามันก็ไม่เข้ากัน ทั้งอายุ นิสัย หรืออะไรก็ตาม ฉันที่ยิ่งพยายามปลงเท่าไหร่ ยิ่งไม่ฟังคนอื่นเท่าไหร่ พอเกิดเรื่องอะไรทีนึง ทั้งหมดที่เคยปลงก็ย้อนกลับมาให้คิดทั้งหมดเหมือนหนังที่ฉายซ้ำๆ" ผมถอนหายใจออกมา  " บางทีฉันเองก็เหมือนคนแก่ที่เอาแต่คิดมาก "

“ อย่าคิดมากเกินไปสิ เรื่องบางเรื่องนายไม่ต้องคิดมันก็ได้ ปล่อยๆมันไปบ้าง ช่างหัวมันบ้าง "

“ ฉันไม่เคยมีแฟนเด็กลิป ฉันไม่เคยโดนด่าว่าเป็นลุงแก่ๆกินเด็ก หรือไม่กลัวช็อคตายคาอกตอนเอากัน ฉันไม่เคยเจอเรื่องอะไรแบบนี้ ฉันมีความสุขก็จริงเวลาที่อยู่กับเค้า แต่ฉันก็มีความทุกข์นะในบางที เราจะคบกันไปได้จริงๆเหรอ ฉันอยากจะเลิกถามตัวเองแบบนั้น แต่ทุกครั้งที่เกิดปัญหาก็ถามตัวเองทุกที ถามตัวเองจนฉันไม่กล้าแม้จะบอกว่าเค้าว่าชอบ เพราะกลัวว่าจะเสียเค้าไป กลัวไปหมด "

“ นี่ยังไม่ได้บอกว่าชอบเค้าเหรอ " ผมส่ายหน้าไปมา " สิ่งที่ฉันอยากจะบอกนายก็คือ อย่ากลัวที่จะทำอะไรก็ตามถ้ามัวแต่กลัวนายก็จะเป็นอยู่แบบนี้ คิดอย่างที่อยากจะอยากจะคิด ซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเอง ไม่ต้องเอาเค้าไปเปรียบเทียบกับใคร อย่าคิดว่าแค่เด็ก คิดแค่ว่าเค้าเป็นผู้ชายคนนึง คนที่นายจะรัก คิดเท่านี้ก็พอแล้ว " ลิปบอก " แล้วถ้าเค้าไม่มาหาพรุ่งนี้วันหยุดก็ไปหาเค้าสิ ไปคุยกันให้รู้เรื่องจะด้วยวิธีบนเตียงหรือวิธีไหนก็ตาม ถ้ายังเป็นอย่างงี้ ถ้าปล่อยไว้มันแย่นะ ถ้าต่างฝ่ายก็ต่างไม่พูดกัน "

“ แล้วฉันต้องทำอะไรแบบนั้นเหรอ ทั้งๆที่ฉันไม่ใช่คนผิด "

“ ฟานเป็นคนที่นายชอบ เป็นแฟนของนาย ฉันพูดถูกมั้ย " เค้าถาม " แล้วแบบนั้นถ้านายกำลังเสียเค้าไปก็จะไม่คิดทำอะไรเลยเหรอ ไม่รู้สิแต่เป็นฉันถ้าฉันรักฉันจะรั้งเค้าไว้ทุกทาง จนหมดหนทางแล้ว ฉันถึงจะปล่อย มันดูไม่ใช่ตัวนายถูกมั้ย "

“ อื้ม ฉันไม่กล้าทำอะไรแบบนั้น "

“ แล้วเรื่องที่เกิดขึ้น สิ่งที่กำลังคิดมาก มันไม่ได้เกิดขึ้นเพราะว่า นายไม่กล้าหรอกเหรอ ไม่กล้าบอกว่าชอบกลัวว่าจะเสียเค้าไปแล้วจะเจ็บ คิดแค่ว่า ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะได้สะบัดเค้าออกง่ายๆเพราะไม่ได้บอกว่าชอบออกไป แล้วตอนนี้เป็นไง ไม่ใช่เพราะไม่ได้บอกเค้าหรอกเหรอว่าชอบ ถึงมานั่งคิดมากว่าเพราะเราไม่ได้ผูกมัดกัน เค้าจะทำอะไรกับใครก็ได้ เค้าจะชอบใครก็ได้ ไม่ใช่เพราะสิ่งที่นายบอกกับฉันว่านายไม่กล้าเหรอ ที่นายไม่เชื่อใจเค้า ถามจริงๆ มันเป็นเพราะตัวนายรึเปล่า ที่สร้างช่องว่างระหว่างความรู้สึกนั่นออกมาเอง คิดเอง แล้วก็เจ็บเอง ฉันเข้าใจที่นายจะไม่เชื่อเค้าทั้งหมด เป็นฉัน ฉันก็ไม่เชื่อจนกว่าจะได้มองตาเค้าแล้วพูดออกมาให้ฉันฟัง แต่มันดีแล้วเหรอ ที่เอาความรู้สึกที่ตัวเองบอกว่า เพราะฉันไม่ได้ผูดมัดเค้าไว้ เค้าเลยจะทำอะไรก็ได้ มาคิดทำร้ายความรู้สึกระหว่างนายกับเค้า ถ้าแค่พูดคำว่าชอบออกไป แล้วทุกอย่างดีขึ้น จะทำให้นายไม่ต้องมาคิดมากแบบนี้ พูดมันออกไปเถอะ จะกลัวอะไร "

“ เพราะฉัน ชอบเค้ามาก มากจน ไม่อยากจะเสียเค้าไปอีกแล้ว " ผมพูดออกไปเสียงสั่นๆ น้ำตาที่กลั้นไว้ไหลออกมา มันไม่ได้ยากที่จะพูดออกมา มากกว่าคำยาก คือคำว่ากลัว " กลัวว่า ถ้าพูดคำว่าชอบออกไป แล้วสุดท้ายฉันจะเป็นแค่ไอ้แก่คนนึงที่โดนทิ้ง "

“ คีย์ คิดมากเกินไปแล้ว "

“ เด็กอะมันจะมั่นคงแค่ไหนเหรอวะ ถ้าวันนึงที่ฉันไม่มีอะไรให้อย่างที่ฉันให้เค้าได้ เค้าจะยังอยู่กับฉันมั้ย ฉันคิดเรื่องอะไรพวกนี้ซ้ำไปซ้ำมาทุกวัน เพราะฉันไม่ได้อยากจะมีเค้าแค่วันพรุ่งนี้นี่ ฉันกลัวลิป ฉันเห็นความรักของใครๆแล้วฉันก็กลัว ฉันกลัวจริงๆนะ อึก " สูดน้ำมูกเข้าปอดผมหันไปหยิบทิชชู่ใกล้มือมาซับน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ความรู้สึกที่อัดแน่นอยู่ในใจ ทั้งชอบแล้วก็กลัว กลัวไปหมด ลิปถอนหายใจก่อนจะจับมือผมไว้แน่น

“ ฉันเข้าใจ ฉันเข้าใจนะ ไม่เป็นไร แต่นายอย่าคิดในแง่ลบสิ ความรักมันไม่ได้มีด้านเดียวสักหน่อย ดูอย่างฉันสิ ฉันมีแฟนเป็นโฮสนะ โฮสที่ทำงานกับผู้หญิงทุกคืน แล้วรู้มั้ยทำไมฉันถึงยังคบเค้า เหตุผลง่ายๆ เพราะฉันอยากจะคบกับเค้า เท่านั้นจริงๆ สิ่งอยากบอกคือ ปล่อยใจของนายออกไปบ้าง อยากจะทำอะไรก็ทำ พูดกับเค้าในสิ่งที่นายรู้สึกบ้าง ไม่ต้องเก็บมันไว้ทั้งวัน ฉันเชื่อว่าฟานต้องอยากฟัง แล้วต้องพยายามอย่างหนักที่จะลบความไม่สบายใจของนายแน่ๆ นะ ไม่ต้องร้อง ฟานต้องฆ่าฉันแน่ๆ ถ้าพูดจนแฟนมันร้องไห้ขนาดนี้ "

“ ไม่ถึงขนาดนั้นสักหน่อย " ผมถอนหายใจออกมา อีกคนก็ยิ้ม

“ แล้วไม่คิดจะบอกว่าชอบเค้าจริงๆเหรอ "

“ คิด " ผมสารภาพออกไป " แต่ยังไม่โอกาสดีๆที่จะพูดตังหาก อยากให้เค้ารู้สึกว่า ฉันชอบเค้าจริงๆ อยากจะให้เค้าได้ฟังสมกับที่ตั้งใจจะรอฟัง"

“ แค่คิดว่าจะพูดก็ดีแล้ว  หาโอกาสบอกไปก่อนที่คนรอฟัง จะไม่รอฟังไม่ไหว การที่เค้าบอกว่าจะรอฟัง ไม่ได้หมายความว่า จะรอได้นานตลอดไปหรอกนะ  "

“ อื้ม ฉันรู้ "

“ งั้นวันนี้ไปเมากันมั้ย ฉันรู้ว่านายคงยังไม่หายคิดมากหรอก เพราะงั้นสิ่งเดียวที่จะทำให้ลืมได้ ก็มีแต่เหล้ากับเบียร์เท่านั้นแหละ "

“ ไม่มีนัดเดทกับแฟนรึไง "

“ อย่าไปสนใจเรื่องแบบนั้นเลยน่า ฉันต้องเห็นเพื่อนของฉันอย่างนาย สำคัญกว่าตาแก่ของฉันอยู่แล้ว "

“ ตาแก่เลยเหรอ นายนี่ใจร้ายชะมัด "

“ จำไว้นะคีย์ นายโชคดีแค่ไหนที่ได้คนที่ตายหลังนายอย่างฟานมาเป็นแฟน ไม่ใช่ฉันที่จะตายก่อนเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ "

“ พูดอะไรของนาย " ผมหลุดหัวเราะออกมากับท่าทางจริงจังของอีกคน ลิปที่หันมายิ้มให้

“ ยิ้มแบบนี้ดีแล้วละ ทำอะไรที่อยากจะทำบ้างเถอะ สบายใจที่คิดยังไงก็คิด กดดันตัวเองทำไม ยังไงก็กลับไปเกิดให้เด็กกว่านี้ไม่ได้หรอกจริงมั้ย ฉันมั่นใจว่านายต้องสวยกว่าคนที่มาสารภาพรักกับฟานแน่นอน แล้วที่แน่กว่านั่นคือ นายมีคุณค่ามากกว่า "

“ พูดคุยอะไรกัน ท่าทางเคร่งเครียด " เสียงของหัวหน้าที่ขัดจังหวะการพูดของเรา พวกเราที่หันไปมองเค้าลิปก็ยิ้ม

“ ไม่มีอะไรหรอกครับ แค่เรากำลังนัดจะไปกินเบียร์กันสักหน่อย "

“ เหรอ ที่ก็สุดสัปดาห์แล้วสินะ งั้นผมขอไปด้วยสิ "

“ เอ่อ..” เราที่ได้แต่มองหน้ากัน อย่างไม่รู้จะตอบอะไรจนในที่สุดก็ต้องพูดออกไปแบบเกรงใจว่า " ได้สิครับ หัวหน้า "

" งั้นเจอกันตอนเย็นนะ " เค้าที่เดินไปที่โต๊ะเราสองคนก็หันมองหน้ากัน ลิปก็ยกยิ้ม

" คงเห็นว่านายน้ำตานองหน้าเลยอยากจะช่วยเช็ดน้ำตาให้ละมั้ง " อีกคนบอก " ถ้านายเมาคืนนี้ โดนคาบไปกินแน่ๆ "

" นายก็อย่าปล่อยฉันไว้สิ " ผมหันไปบอกอีกคน ที่ก็หัวเราะออกมา

" ฉันไม่ปล่อยนายหรอก ถ้าจะปล่อยก็ตอนที่ฟานมาเท่านั้นแหละ จะได้เหมือนครั้งแรกที่นายเมาแล้วนายกับเค้าก็ จุดจุดจุด กันไง คราวนี้จำให้ได้ก็แล้วว่าท่าไหนบ้าง "

“ ทำไมอะ จะให้เอามาเล่าแล้วนายจะได้ทำกับแฟนเหรอ "

“ บ้า ใครจะไปทำอะไรแบบนั้นกับตาแก่นั่นกัน "

“ วันก่อนยังเห็นรอยแดงๆที่คออยู่เลย "

“ เลิกพูดเถอะน่า " อีกคนที่บอกปัดผมก็หันกลับมามองหน้าจอคอมของตัวเอง เผลอคิดถึงอีกคนขึ้นมาอีกแล้ว เพียงเพราะแค่เรา ไม่ได้หันหน้ามาพูดกันตรงๆก็เท่านั้น เค้าที่เงียบหายไป ผมเองก็เงียบหายไป ไม่มีใครเริ่มติดต่อหากันก่อน

" อยากรู้จังว่าตอนนี้นายจะกำลังคิดมากเรื่องของเราเหมือนที่ฉันคิดมั้ย "

.........................................................

ถ้าเราเป็นฟาน เราคงเสียใจที่แฟนไม่เชื่อใจเรา
แต่ถ้าเป็นคีย์ เราเองก็ไม่เห็นว่า มันเกิดอะไรขึ้น
แม่ง... บอกไม่ถูก ไม่ว่าจะเป็นใคร ก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออกทั้งนั้น
แล้วอีหัวหน้าเมื่อไหร่จะปล่อยพี่คีย์ ตอแยเสียจริง
สุดท้ายนี้ พี่ลิปพูดถูก เอาพี่เมฆไปนอกกอดได้ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ

ฝากแท็ก #ฟานคีย์ ด้วยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้า

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
โอ้โหเพื่อนลิปดีงามจริงๆเลยนะคะ. พูดดีค่ะ  :hao6:
เราล่ะหมั่นไส้อีหัวหน้ากับยัยชะนีหน้าคอนกรีตสุดๆอะ
คือจะต้องมั่นหน้าเบอร์ไหนถึงได้คิดจะแย่งคนรักคนอื่นเนี่ย
เราเข้าข้างฟานนะ รู้จักเด็กคนนี้ดีขนาดนี้แต่ก็ไม่รักษาน้ำใจ
คนที่เขาตั้งใจจะมั่นคงถาวรนาดนั้นน่ะไปทำลายน้ำใจเขาทำไม

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
อีกคนก็ปากแข็ง อีกคนก็คิดมาก คนอ่านเครียดโว้ยยยยยยย :katai1:

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
ไม่รู้สิ เราก้อเข้าใจฟานนะ ว่าอยากให้เชื่อใจ
แต่ถ้าการกระทำมันๆม่สอดคล้อง มันไม่ชัดเจน อล้วจะให้เชื่อใจๆๆๆ แบบนั่นใครจะไปทำได้...
อย่างถ้าเห็นแฟนเราเดินเข้าโรงแรมกับคนอื่น แล้วแฟนก้อบอกว่าไม่ได้ทำไรกันนะ ไม่มีหลักฐานไม่มีคำอธิบาย ใครจะไปเชื่อลง!

ออฟไลน์ mareya.no7

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
กลัวว่าฟานจะยิ่งเข้าใจผิดไปมากกว่าเดิมล่ะซี่ ไม่ใช่ว่าตั้งใจกลับมาง้อแล้วมาเห็นฉากตึ้งตึ้งโป๊ะกับหัวหน้านะ เหอๆ จะสมน้ำหน้าคนปากแข็งให้

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
โ้อยย ลิปพูดถูกกกสุดๆๆๆๆๆ

คีย์ปล่อยไปตามหัวใจบ้างงง
และอีชะนีพลอยย อย่าให้เจอ แม่จะตบให้ ไม่ไหวไม่ไหว
อยากได้จนตัวสั่น

แต่ก้อยากรู้นะ ว่าฟานหายไปทำอะไรตั้ง 40 นาที เป็นเราความเชื่อใจมันคงหายไปตามนาทีที่รอให้โทรกลับมาอะ

กลัวววจังเลย ว่าฟานจะมาเห็นอะไรคืนนี้ที่ร้าน
แต่หวังว่าลิปจะปกป้องคีย์ไว้ให้ฟานได้นะ

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
บางทีก็รำคาญคีย์..มากๆ..เลยล่ะ :ruready :ruready

ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
คีย์คิดมากไปเปล่าเนี่ย คนเราไม่ต้องซีเรียสไปทุกเรื่องก็ได้

บางเรื่องปล่อยไปตามธรรมชาติบางก็ได้ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์นะ

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
ตาหัวหน้าหื่นกามมาอีกล่ะ
ฟานรีบมาเร็วๆหน่อยน๊าาาาา :katai1:

ออฟไลน์ เจเจจัง

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
ไม่รู้ดิ เราเข้าข้างคีย์นะ คือ ผู้หญิงขอมีเซ็กส์ แล้วฟานตัดสาย หายไป 40 นาทีถึงโทรกลับมา มันทำให้คิดได้นะ อย่าบอกนะว่าต้องเชื่อใจ

คราวก่อนที่คีย์ไปมหาลัยฟาน อาจารย์ฟานมาจีบ แค่มาจีบ ฟานก็เห็น ฟานยังโมโห อาละวาด ไม่เชื่อใจคีย์เลย ไม่ถามคีย์ก่อนด้วยซ้ำว่า คุยไรกัน

แล้วคีย์ ได้ยินแต่เสียง ไม่เห็นภาพ แล้วหายไปนานขนาดนั้น เป็นใครก็คิดได้ป่ะ ฟานควรอธิบาย ไม่ใช่โกรธแล้วทำแบบนี้อ่ะ คราวก่อนที่ฟานโกรธ คีย์ก็บอกตามตรงเลย ว่าคุยไรกะอาจารย์บ้าง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด