ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง{ตอนพิเศษที่ 2 UP - 10.2.60}หน้า 42 (จบเรื่อง+รวมเล่ม)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง{ตอนพิเศษที่ 2 UP - 10.2.60}หน้า 42 (จบเรื่อง+รวมเล่ม)  (อ่าน 323428 ครั้ง)

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4:

เป็นคำถามที่ดีจริงๆ 55

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
โถ่ คีย์จำไม่ได้จริงๆหรออ
ไม่น่าเลย น่าจะจำได้นะ
55555

แล้วเรื่องบอกชอบหละ ไม่เมาแล้วจะบอกไม๊

ออฟไลน์ MENTA

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 77
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
โหหหหหห ฟานนายชัดเจนมาก ชัดเจนสุดๆ ชัดเจนเรื่องหื่นๆเนี่ย สุดๆเลย :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4

ออฟไลน์ tkaekaa

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 329
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
 :-[ ฟานน่ารักมากกกกกกกก
คุณคีย์ต้ิองระวังต้องห่วงเวลาเมาจริมๆ อิอิ

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
ดีใจที่คุยกันเข้าใจแล้ว
แต่เราว่าเรื่องหัวหน้านี่คงยังไม่จบง่ายๆแน่

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
คีย์น่ารักเนาะ ตอนปกติทำไมไม่ได้แบบตอนเมาสักครึ่งนะ 555

คีย์ไปไหนไม่รอดหรอก ออกจะรักฟานขนาดนั้น
ฟานก็มีแต่คีย์นะ ออกจะชัดเจน


ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
คราวหน้าอัดวีดีโอตอนคุณคีย์เมาไว้เลยนะฟราน...อ้อนได้น่ารักมากกกก อยากให้เห็นตัวเองตอนนั้นจริงๆ

กร๊ากกกก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
อยากอัดคลิปตอนเมาไว้ให้คีย์ดู   หรือไม่ก็กินเหล้าแทนน้ำเปล่าไปเลย 555

ออฟไลน์ youuue

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง
ตอนที่ 24
' โฮส '

   พักหน้าจอโปรแกรมที่ต้องทำงานผมมองซ้ายขวาก่อนจะเปิดเฟสบุ๊คของตัวเองเล่น  ฆ่าเวลาเบื่อที่คิดงานไม่ออกมา เลื่อนเม้าส์ไถหน้าจออ่านข่าวที่ถูกแชร์มากมายในช่วงวันนี้จากเพื่อนที่อยู่ในเฟสบุ๊คของผม ก่อนจะขมวดคิ้วอมยิ้มกับสเตตัสเฟสบุ๊คของเพื่อนร่วมงานอย่างคีย์ที่ก็นานๆทีจะอัพขึ้นมา ' ไอ้ลูกหมาโรคจิต '

   ท่าทางว่าลูกหมาที่เค้าพูดถึงคงจะตัวใหญ่กว่าเค้าเกือบครึ่งแถมวันหยุดที่ผ่านมาก็เพิ่งคืนดีกันจากเรื่องเครียดๆ ไม่รู้ว่าโดนฟัดท่าไหนถึงต้องมาระบายผ่านโซเซี่ยลขนาดนี้แต่ที่รู้คือ ขนาดโทรไปหาตอนช่วงสายของวันเสาร์เค้ายังเล่นบทรักหนักๆกันอยู่เลย เสียงรับสายสั่นๆที่ชวนคุยไปเท่าไหร่แต่อีกฝ่ายก็แค่ตอบสั้นๆ ตามด้วยเสียงครางเบาๆที่ก็คงไม่อยากจะให้ผมได้ยินหรอก แต่เข้าใจว่ากลั้นไม่ไหว

“ เล่นกับหมาระวังหมาเลียตูดนะ " ผมยิ้มขำๆก่อนจะส่งข้อความตอบโพสต์เค้าไปพร้อมต้องกดไลค์ไปด้วย หมั่นไส้คนได้เติมรักจนเต็มจริงๆ คบแฟนเด็กมันก็ฟิตแบบนี้ละน้า

“ ลิป " ผมหันไปมองคีย์ที่เรียก อีกคนที่มองผมหน้านิ่งๆ " เฟสบุ๊คมันมีปุ่มไม่ชอบมั้ย ฉันจะได้กดความเห็นของนาย "

“ ฮ่าๆๆๆๆๆ " หลุดหัวเราะออกมา ตอนที่หันไปมองหน้าจอเฟสบุ๊คต่อผมก็เลื่อนดูอย่างอื่นไปเรื่อยๆ ก่อนจะเจอเข้ากับบทความที่น่าสนใจจนได้แต่ขมวดคิ้ว

   ' โฮสสูงวัย อาชีพแนวใหม่สำหรับเอาใจคุณผู้หญิง ' พอกดเข้าไปดูเนื้อหามันเป็นข่าวที่กล่าวถึงอาชีพโฮสในความหมายทั่วไปที่คนส่วนใหญ่มองนั่นคือ เด็กผู้ชายที่บริการสาวโสดที่ต้องการให้คนเอาใจ ก่อนจะวกกลับเข้ามาแนะนำโฮสสูงวัยที่ก็ไม่ใช่ของใครที่ไหน ก็บริษัทโฮสของคุณเมษนั่นแหละ ผมอ่านข้อมูลไปเรื่อยๆ ก็เขียนความจริงทุกอย่างแต่กลับลงท้ายด้วยประโยคที่ชวนให้เบิกตาน้อยๆราวกับข้อความนั่นจะชวนให้ปลุกปั่นดราม่ายังไงก็ไม่ทราบ ' อาชีพแนวใหม่ที่คุณผู้ชายต้องคอยระวังและเอาใจภรรยาของตัวเองให้มากขึ้นไม่เช่นนั้น เธออาจจะไปปรึกษาพักใจกับคนกลุ่มคนเหล่านี้ได้ ส่วนคุณผู้หญิงต้องคอยระวังไม่งั้นจะตกเป็นข้อกล่าวหาเป็นชู้ได้เหมือนกันนะ '

   ผมเลื่อนมาอ่านคอมเม้นท์ ที่โพสต์ต่อว่ากันอย่างดุเดือดแถมยังมีการพูดถึงต่างๆนานา ทั้งในเรื่องดีสำหรับคนที่เคยใช้บริการและเรื่องแย่ของคนที่ไม่เคยใช้และมองมันในแง่ลบแบบสุดๆ ข้อความอ่านชวนให้ผมกลืนน้ำลายกับความเห็นบางความเห็นที่ใช้ถ้อยคำรุนแรงขนาดที่ว่าถ้าเจ้าของโฮสมาเห็นคงต้องสะอึกกันบ้างละ " คุณจะได้อ่านมันรึยังไงนะ " ผมถอนหายใจออกมาก่อนจะหยิบโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าแล้วลุกขึ้นจากโต๊ะทำงานออกไปคุยโทรศัพท์หาอีกคน

   เสียงรอสายที่รอไม่นานอีกฝ่ายก็กดรับด้วยเสียงปกติของเค้า " ครับว่าไง คนสวย "

“ ยังมีหน้ามาเล่นลิ้นอีกนะคุณ " ผมถอนหายใจออกมาไอ้เราก็นึกเป็นห่วงกลัวว่าจะเครียดจนกระทบงานหลักแล้วทุกอย่างก็วุ่นวายไปหมดแต่พอรับสายแล้วพูดแบบนั้น ทางนี้แทบจะกดวางทันที

“ อ้าว พูดเล่นด้วยก็โดนด่า " คุณเมษหัวเราะ " โทรหาผมตั้งแต่ยังไม่พักกลางวันแบบนี้ ถ้าไม่โทรมายืมตังค์ ก็ต้องคิดผมมากจนทนรอคืนนี้ไม่ไหวแน่ๆ "

“ ให้มันน้อยๆหน่อยเถอะคุณ ยืมตังค์อะไร แล้วคิดถึงอะไรกัน อ่านข่าวรึยังละ ถึงได้มีความสุขขนาดนั้นน่ะ "

“ เรื่องบทความโฮสสูงวัยละสิท่า " พูดออกมาแบบนั้นก็คงจะรู้แล้วสินะ

“ อื้ม "

“ เป็นห่วงความรู้สึกของผมเหรอ แฟนน่ารักจังเลยอะ มีการห่วงใยกันด้วย เดี๋ยวคืนนี้เจอกันจะจัดจูบแบบดีพคิสแถมด้วยการหอมแก้มแบบไม่อั้น จัดบุฟเพ่ต์จูบเลยเป็นไง "

“ คุณโอเคนะ คุณเมษ " ผมพูดออกไปเสียงเรียบๆ ทำไมถึงรู้สึกว่าอีกคนเหมือนกำลังพูดกลบเกลื่อนสิ่งที่กำลังคิดในใจอยู่ก็ไม่รู้ ทั้งที่ปกติเค้าก็ขี้เล่นแหละแต่แค่รู้สึกว่า บางทีมันก็ไม่ได้ขี้เล่นขนาดนี้

“ ยิ่งกว่าโอเคอีกคุณ " ไม่เชื่อ ผมบอกตัวเองแบบนั้นแต่ก็ไม่ได้พูดออกไปหรอก เพราะยิ่งถามก็เหมือนไปซ้ำเติมความรู้สึกไม่ดีเสียเปล่าๆ " ว่าแต่วันนี้คุณเลิกงานเร็วหน่อยได้มั้ย ปกติคุณเลิกงานกี่โมง "

“ เลิกงานปกติคือ ห้าโมงครึ่งอะ "

“ วันนี้เลิกงานตรงเวลาได้มั้ย ผมจะไปคอยที่หน้าบริษัทเหมือนเดิมนะ "

“ แล้ววันนี้คุณไม่ไปพบลูกค้าเหรอ " ถามอีกคนไปแบบนั้นเค้าก็เงียบไปสักพักก่อนจะหัวเราะออกมาแล้วก็ตอบ

“ ลูกค้ายกเลิกนัดของวันนี้แล้วละ ฮ่าๆ เพราะงั้นวันดีแบบนี้ผมจะไปรับคุณเร็วๆเลยนะ " เผลอถอนหายใจออกมาเบาๆ กะแล้วว่าต้องเป็นแบบนั้น ใครจะไปรู้สึกดีกับไอ้บทความนั่นได้แถมยังมีคอมเม้นท์จากพวกที่พิมพ์เหี้ยๆไม่คิดอีก

“ งั้นเจอกันเย็นนี้นะคุณ " ผมบอก " อย่าสายละ "

“ ครับ เจอกันนะ "

“ เออนี่ " ผมเรียกเค้าไว้ก่อนที่อีกคนจะกดวางสาย " คุณเมษยังฟังอยู่รึเปล่า "

“ ครับว่าไง "

“ ยังไงผมก็อยู่ข้างๆคุณนะ " ไม่รู้ว่าทำไมต้องพูดคำนี้เหมือนกัน แต่ในใจของผมมันก็อยากจะพูดออกไปแบบนั้น เหมือนอยากจะให้เค้ารู้ว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมก็อยู่ข้างๆเค้าเสมอ

“ ขอบคุณครับ " เค้าที่ยิ้มก่อนจะวางสายไป เผลอถอนหายใจออกมาก่อนจะเก็บโทรศัพท์แล้วเดินกลับเข้าไปทำงานต่อ คีย์ที่หันมามองผมยิ้มๆ

“ มองอะไรไอ้คนมีแฟนเด็ก "

“ อะไรของนายมองก็ไม่ได้ " อีกคนพูดก่อนจะขมวดคิ้วตกใจกับคำทักของผม หน้าตาสวยที่กำลังสงสัย ดูตลกจนผมต้องยิ้มออกมา
 
“ ฮ่าๆ ฉันล้อเล่นน่ะ เออนี่ คีย์วันนี้ฉันจะกลับบ้านตรงเวลานะ "

“ เหรอ " เค้าที่พยักหน้ารับเข้าใจก่อนจะยิ้มออกมา " ทำไมอะ วันนี้ไม่รอคุณเมษเค้าเหรอ "

“ วันนี้ไอ้แก่ไม่มีงานตอนเย็นอะ เค้าก็เลยจะมารับเร็วหน่อย "

“ เหรอ " ผมพยักหน้ารับ " นายล่ะ ไม่กลับเร็วบ้างละ กลับไปดูแลไอ้ลูกหมาสุดหล่อของนายไง "

“ ไม่อะ ช่วงนี้ฟานสอบ อ่านหนังสือเป็นบ้าเป็นหลังทั้งวันเลย ฉันกลับไปเร็วก็เหมือนไปรบกวนเค้านั่นแหละ เพราะงั้นกลับเวลาเดิมก็ดีแล้ว "

“ งั้นก็ระวังตัวด้วยละ ถ้าคนกลับจะหมดออฟฟิสแล้วก็รีบกลับไปได้เลย อย่าเผลออยู่กับหัวหน้าสองต่อสองนะ "

“ ทำไม "

“ นายจะโดนเค้าปล้ำนะสิ ไม่กลัวเลยรึไง " ช่างไม่รู้จักระวังตัวอะไรซะบ้างเลย ไอ้หมอนั่นดูก็รู้ว่าทำได้ทุกอย่าง อย่างคีย์ถ้ามันเอาจริงขึ้นมาแค่ลากเข้าห้องประชุมจับปล้ำก็จบแล้วใครจะช่วยได้ไม่มีหรอก แถมเพื่อนผมคนนี้เวลาทำงานสมาธิยังจดจ่ออยู่กับงานอีกเค้าเข้ามาทางด้านหลังคงไม่รู้ตัวหรอก

“ รู้แล้วน่า ฉันจะระวังตัวและจะกลับไม่เกินหนึ่งทุ่มแน่นอน " เค้าบอกผมก็พยักหน้ารับ เป็นคนสวยนี่มันน่าลำบากใจจริงๆ ขนาดมีแฟนแล้วยังมีคนจ้องจะงาบอยู่ตลอดเวลาเลย " แต่งานรอบนี้ยากอะ ตั้งเวลาไว้ก่อนดีกว่าเผื่อทำเพลิน "

“ งานอะไรอะ " ผมถาม

“ ออกแบบผลิตภัณฑ์สินค้าใหม่ของบริษัทอาหารเสริม โจทย์บังคับสีด้วยอะแล้วก็ฮวงจุ้ยอะไรอีกเยอะแยะ " คีย์ถอนหายใจออกมาตอนที่อ่านรายละเอียดเค้าก็ทำหน้าเซ็งๆให้ผม ก็ต้องเข้าใจอะนะคีย์เป็นคนเก่งงานยากๆหัวหน้าจะให้เค้าทำตลอดเพราะเป็นคนที่รอบคอบเรื่องงานแล้วก็ทำงานได้ตรงตามโจทย์และตรงสเป็คหัวหน้าที่สุดแล้ว ทั้งเรื่องงานแล้วก็เรื่องรูปลักษณ์ของคนออกแบบด้วยอะนะ

“ สู้แล้วกันนะเพื่อน " ผมตบไหล่อีกคนที่ก็ยิ้มออกมาก่อนที่ผมจะดึงหันมาทำงานของตัวเองต่อ วันนี้เลิกงานเร็วคงต้องรีบทำงานให้เสร็จเร็วสักหน่อยแล้ว

   เงยหน้าขึ้นอีกทีตอนใกล้เวลาเลิกงาน จัดการเซฟงานทุกอย่างเรียบร้อยก่อนจะปิดคอมแล้วก็จัดกระเป๋าเตรียมเด้งออกจากที่ทำงาน ผมจับไหล่คีย์บอกลาเค้าที่พยักหน้ารับเข้าใจ ก่อนจะออกไปบริษัทไปเป็นคนแรก ลงลิฟต์ลงมาที่ชั้นล่างของตึกก่อนจะพบคนที่บอกว่าจะมารับกำลังนั่งรออยู่แล้วที่เก้าอี้ชั้นล่าง

“ มาเร็วจริงๆด้วย " ผมเอ่ยบอกคนที่กำลังอ่านอะไรสักอย่างในโทรศัพท์ก็เงยหน้าขึ้นมาก่อนเก็บมันแล้วยืนขึ้น

“ ก็บอกแล้วว่าวันนี้ไม่มีงาน "

“ ปกติเลิกงานเร็วเหรอคุณน่ะ "

“ ห้าโมงก็เลิกแล้ว อีกอย่างงานถ่ายภาพน่ะมันก็ไม่ได้มีงานให้ถ่ายทุกวันหรอก " เค้าบอกผมก็พยักหน้ารับ จะว่าไปผมก็ไม่เคยรู้เลยนะว่างานถ่ายของเค้าอยู่นิตยสารเล่มไหน จะถามทีไรแต่ก็ไม่ไม่โอกาสให้ถามสักที " ไปกินข้าวกันก่อนดีมั้ย "

“ หิวแล้วเหรอ " ผมถามเค้าอีกคนก็ส่ายหน้า " แล้วชวนไปกินข้าวทำไมละ "

“ ไม่รู้จะทำอะไรอะ "

“ ท่าทางคุณดูเบื่อๆนะ ไม่ได้หิวหรอก " เอื้อมมือไปจับหน้าเค้าที่ก็ยิ้มจางๆ หน้าตาที่ดูอิดโรยของร่างสูงตรงหน้าแตกต่างจากตอนที่เหนื่อยเพราะทำงานหนัก ตอนนี้มันเหมือนทั้งเครียดทั้งเหนื่อยผสมกันไปหมดมากกว่าความหนักใจที่แสดงออกมาทางสีแววตาคงไม่ใช่เรื่องเล่นๆอย่างที่อีกคนบอกกับผมตอนแรกว่าตัวเค้าไม่ได้เครียดอะไร

“ อื้ม เบื่อ " เค้าสารภาพออกมาตามตรง " แต่ก็ไม่รู้จะชวนนายไปไหนเหมือนกัน "

“ จริงๆก็น่าจะพักผ่อนหน่อย เราไม่ต้องเจอกันทุกวันก็ได้ "

“ แต่ฉันอยากเจอนาย " คุณเมษบอก " ถึงแม้ว่าไม่รู้ว่าพอเจอแล้วจะเป็นยังไงต่อก็เถอะ แต่ก็อยากจะเจออะ "
 
“ แล้วนอกจากที่อยากจะเจอผม อยากจะทำอะไรละ "

“ อยากจะอยู่เฉยๆ "

“ งั้นก็ไปอยู่เฉยๆสิ " ยิ้มให้เค้าอีกคนก็ขมวดคิ้ว ผมเหลือบมองไปทางอื่นก่อนจะก้มหน้าแล้วตัดสินใจพูดออกมา " ไปบ้านคุณกันมั้ยละ "

“ ถ้าไปบ้านฉันเกรงว่าจะไม่ได้อยู่เฉยๆนะสิ " เหลือบมองอีกคนที่ก้มลงมามองผม สายตาเจ้าเล่ห์ที่จ้องมาพอเรื่องแบบนี้ละก็เปลี่ยนอารมณ์ไวนักนะพ่อคุณ

“ ช่วยกลับไปทำหน้าให้มันสมกับที่เครียดเรื่องงานหน่อยได้มั้ยคุณ " คุณเมษหลุดหัวเราะตอนที่คว้ามือผมเอาไว้ แล้วเดินออกไปด้วยกัน มองหน้าคนข้างๆที่ยังคงยิ้มก็ชวนให้ผมยิ้มตามออกมา ผมไม่รู้ว่าปัญหาที่เค้าเจอมามันหนักหนาแค่ไหน ไม่รู้ว่ากระทบต่อเรื่องอะไรบ้างแต่สิ่งที่ผมรู้สึกคือมันคงดีถ้าเค้าจะยิ้มได้บ้างในช่วงนี้แม้จะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆก็เถอะ " แล้วคุณอยากจะกินอะไรมั้ย หรือเราแวะห้างซื้ออะไรเข้าไปทำกันดีมั้ย "

“ ในห้องฉันมี "

“ จริงอะ " ผมหันไปถามเค้าด้วยความแปลกใจ " คุณเป็นคนทำอาหารด้วยเหรอ "

“ ทำไม มันดูแปลกเหรอ " เค้าถาม " ฉันเป็นคนชอบทำอาหารนะ "

“ ดูจากหน้าตาท่าทางแล้ว คุณเหมือนไม่ใช่คนแบบนั้น " พูดออกไปตามที่ตัวเองคิด ก็คนข้างๆผมเค้าดูเหมือนผู้ชายวัยกลางคนที่ยังติดกับชีวิตสนุกสนาน ไม่ได้ดูมีลักษณะที่จะมายืนหน้าเตาแล้วจับตะหลิวอะไรพวกนั้น

“ อย่าตัดสินคนที่หน้าตาสิครับ " พยักหน้ารับคำพูดของอีกคนเราที่เดินขึ้นขบวนรถไฟที่เข้ามาจอดเทียบชานชาลา ผมผ่อนลมหายใจออกมากับความอึดอัดของผู้คนที่ค่อนข้างเบียดเสียดในช่วงเวลานั้น

   นี่แหละคือเหตุผลหลักเลยที่ชอบอยู่ทำงานจนดึกดื่น ไม่ได้ขยันอะไรหรอก แต่เพราะเวลาออกมาตรงเวลาแล้วมันต้องเบียดกับผู้คนขนาดนี้นะสิ มันเลยจำใจต้องอยู่จนดึก เพราะแค่ต้องทนเบียดกันในช่วงเช้าก็สุดจะทนอยู่แล้ว " หน้านิ่วเชียว " ผมเบือนหน้าหนีคนที่ก้มลงมาแซว " สถานีหน้าก็ถึงแล้ว "

“ อื้ม " พยักหน้าตอบเค้าสั้นๆ ก่อนที่รถไฟจะจอดลงที่สถานีที่ต้องลง ผมถอนหายใจออกมาตอนที่หลุดออกมาจากรถไฟปลากระป๋องนั่นได้ในที่สุด " อึดอัดมากจนแทบจะหายใจไม่ออกเลยคุณ "

“ แค่เห็นหน้านายงอขนาดนั้นฉันก็เข้าใจแล้วละ "

“ เข้าใจว่าอะไร "

“ เข้าใจว่าทำไมนายถึงต้องอยู่ทำงานจนดึกดื่น " ผมพยักหน้ารับอีกคนก็เอื้อมมือขึ้นกอดคอผมก่อนจะดึงเข้าไปใกล้เค้า " ทีหลังถ้าจะชวนนายมาคอนโด ไว้จะขับรถไปรับก็แล้วกัน "

“ ไม่ต้องลำบากหรอกคุณ ครั้งต่อไปเราก็ไม่ต้องกลับเวลานี้สิ " ยังไงสำหรับผมการนั่งรถไฟมันก็ยังเร็วกว่าการขับรถล่ะน่ะ เพราะขับรถถึงแม้ว่ามันจะไม่อึดอัดแถมยังเป็นส่วนตัวแต่ถ้าให้ไปนั่งนิ่งๆรอให้รถมันเคลื่อนไปช้าๆก็เป็นอะไรที่น่าหงุดหงิดพอๆกับตอนที่ต้องยืนอัดกันอยู่ในรถไฟนั่นแหละ

   เดินลงจากสถานีแค่ไม่กี่ก้าวก็ถึงคอนโดสูงสุดหรูของร่างสูงข้างๆแล้ว ผมชะงักขาตัวเองนิดหน่อยตอนที่เค้าเดินนำเข้าไปในคอนโด ก็ไม่ได้คิดว่าเค้าจะไม่มีฐานะเพราะดูจากการทำงานหลายๆอย่าง แต่ก็ไม่ได้คิดเหมือนกันว่าเค้าจะรวยขนาดที่ว่าสามารถซื้อคอนโดหรูๆแบบนี้ได้ เพราะสำหรับผมคอนโดเป็นเหมือนที่พักพิงชั่วคราวก็เลยเลือกที่จะซื้อคอนโดที่ไม่ต้องแพงมากแต่ครบครันไปด้วยความต้องการพื้นฐานของตัวเอง ยังไงในอนาคตก็อยากจะมีบ้านหลังเล็กๆสักหลังมากกว่าจะอยู่ในคอนโดห้องสี่เหลี่ยมๆละนะ

“ เชิญครับ " ประตูห้องอย่างดีถูกเปิดออกโดนเจ้าของห้องที่ก็เชิญให้ผมเดินเข้าไปก่อน ภายในห้องที่แยกสัดส่วนชัดเจนไม่ว่าจะเป็นห้องครัว ห้องนั่งเล่น โต๊ะทำงาน หรือแม้แต่ห้องนอนที่มีประตูปิดอีกชั้น ทุกอย่างถูกตกแต่งอย่างดีใช้สีสันเน้นไปในโทนมืดและจัดตกแต่งทุกอย่างให้โดนเด่นตามเหมาะสมแต่ก็ดูเข้ากันไปหมด

“ คุณเรียบร้อยกว่าที่ผมคิดนะเนี้ย " ไม่รู้จะพูดอะไรก็เลยหันไปพูดกับเค้าแบบนั้น เกิดมาทั้งชีวิตนี้ยังไม่เคยมีแฟนที่ฐานะดีขนาดนี้มาก่อนเลย ส่วนใหญ่ก็พวกเด็กกว่าที่ยังแบมือขอเงินพ่อแม่ ครั้งนี้เลยเป็นครั้งแรกที่ผมมาเที่ยวบ้านของคนที่ชื่อว่าเป็นแฟนตัวเอง

“ ฉันจ้างแม่บ้านที่คอนโดทำความสะอาดบ้านอาทิตย์ละครั้งน่ะ " ท่าทางเก้ๆกังๆของผม พาตัวเองเดินไปนั่งนิ่งๆที่โซฟาตัวสีแดงอีกฝ่ายก็หัวเราะ " ไม่ต้องเกร็งขนาดนั้นก็ได้ นี่บ้านแฟนนายน่ะ พ่อแม่ฉันก็ไม่มีจะเกร็งทำไมละ " เค้าบอกก่อนจะเดินส่ายหน้าเข้าไปในครัว

   

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
ผ่อนลมหายใจออกมาก่อนจะพิงตัวเองกับโซฟาอีกคนก็เดินเอาเบียร์มาให้กระป๋องนึง เค้าที่นั่งลงข้างๆก่อนจะมองหน้าผมแล้วหลุดหัวเราะออกมา " หัวเราอะไรละคุณ "

“ จะเกร็งทำไม เลิกเกร็งได้แล้ว " เค้าเอื้อมมือมาจับแก้มก่อนจะค้ำศอกกับผนักพิงของโซฟาแล้วหันมามองผม

“ ก็นี่เป็นครั้งแรกที่ได้มาบ้านแฟน แล้วก็ไม่คิดด้วยว่าต้องมาเห็นอะไรแบบนี้ " พูดออกไปเสียงเบาๆอีกคนก็ยิ้ม

“ ไม่คิดว่าต้องมาเห็นอะไรแบบนี้นี่คือยังไง บ้านผมมันแปลกเหรอ "

“ ก็คุณดูรวยอะ คือผมไม่ได้คิดว่าคุณจะจนนะ " รีบปฎิเสธอีกคนที่ยังคงมองผมยิ้มๆ " แต่ผมไม่คิดว่าคุณจะรวยขนาดนี้ แบบครั้งแรกเลยที่รู้สึกว่า อ้อ แฟนกูรวยนี่หว่า "

“ นี่!! ปกติฉันมันดูจนมากเลยรึไง " เค้าที่เถียงเสียงดัง คราวนี้เป็นผมที่หลุดหัวเราะออกมาบ้าง 

“ ฮ่าๆๆๆ พอดีเคยคบแต่แฟนเด็กที่ยังแบมือขอเงินพ่อแม่อะนะ ก็เลยไม่ค่อยชินเวลาเห็นอะไรแบบนี้เท่าไหร่ " เข้าใจความรู้สึกของคีย์ที่อยากจะมีแฟนเป็นผู้ใหญ่ได้มากขึ้นอีกหน่อยหลังจากมาที่นี่ คนรักที่อายุมากกว่าเราคงมีทั้งความมั่นคงและทำให้รู้สึกพึ่งพาได้ มันคงเป็นแบบนี้เองสินะ

“ งั้นก็ย้ายมาอยู่ที่นี่สิจะได้ชิน "

“ เรื่องอะไรละคุณบ้านผมก็มี " บอกอีกคนแบบนั้นก่อนจะส่ายหน้าไปมา " ยังไงซะสำหรับผมแล้วไม่มีที่ไหนมีความสุข แล้วก็อยู่สบายมากกว่าบ้านตัวเองหรอก  "

“ แม้แต่ที่ที่มีผมอยู่น่ะเหรอ " คำถามที่ชวนให้มือที่ถือเบียร์อยู่ชะงักไปเล็กน้อย สายตาที่จ้องมามันไม่ได้เศร้าแต่มันก็ไม่ใช่คำถามที่เค้าถามออกมาเล่นๆ " แต่สำหรับผมที่ที่มีคุณอยู่มันเป็นที่ที่ผมสบายใจนะ "

“ ผมไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น " มองแววตาเค้าที่กำลังฝืนยิ้มออกมาน้อยๆหลังจากที่ผมปฎิเสธออกมา " ผมก็สบายใจในที่ที่มีคุณอยู่เหมือนกัน แต่ถ้าลองคิดว่าตัวเองต้องอยู่ที่นี่ในวันที่ไม่มีคุณอยู่ ถ้าต้องอยู่คนเดียว ก็รู้สึกว่าบ้านตัวเองมันสบายใจมากกว่าก็เท่านั้นเอง ไม่ได้หมายความว่า ที่นี่มันอึดอัดนะ มันก็แค่..”

“ ฉันรู้  " เสียงทุ้มพูดแบบนั้นก่อนจะก้มลงมาจูบริมฝีปากของผมที่กำลังอธิบายทุกอย่างให้เค้าสบายใจ มือหนาข้างนึงยกขึ้นกดริมฝีปากล่างของผมให้เผยอรับลิ้นชื้นของเค้าที่มอบจูบดูดดื่มให้ เค้าที่กอดผมไว้เต็มอ้อมแขนก่อนจะผละออกแล้วจ้องลงมาในแววตา " ถ้านายไม่เคยมีแฟนเป็นผู้ใหญ่ ฉันเองก็ไม่เคยมีแฟนที่แคร์ความรู้สึกฉันเท่านายเหมือนกัน "

“ คุณเมษ "

“ เป็นครั้งแรกที่มีคนบอกกับฉันว่า เค้าจะอยู่ข้างๆฉัน เป็นครั้งแรกที่พอฉันพูดถามเชิงน้อยใจก็จะอธิบายทันทีเพราะไม่อยากให้ฉันต้องรู้สึกไม่ดีกับคำพูดนั้น เป็นครั้งแรกที่มีคนแคร์ฉันขนาดนี้ " เค้าบอกก่อนจะก้มลงจูบผมอีกครั้ง " ขอบคุณที่แคร์ความรู้สึกของฉันนะ "

“ แล้วจะไม่ให้แคร์ได้ไง " ผมก้มหน้าถาม ก่อนจะช้อนสายตาขึ้นมอง " คุณเป็นแฟนผมนะ "

“ นั่นสินะ ก็เราเป็นแฟนกัน " เค้าบอก " แต่ถึงอย่างงั้นผมก็รู้สึกดีกับมันจริงๆ รู้สึกดีทั้งๆที่มีเรื่องเหี้ยๆเข้ามา  แต่เป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึกว่า ช่างมันเถอะ ยังไงก็ยังมีนายอยู่ข้างๆ ไม่รู้เหมือนกันว่ามีความรู้สึกแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ " เค้าก้มลงจูบที่คอก่อนจะเอื้อมมือเข้าไปในเสื้อแล้วพูดมันออกมา  " ทั้งๆที่ทุกครั้งที่มีปัญหาฉันจะผ่านมันไปได้ด้วยตัวเอง แต่ครั้งนี้พอมีนายเข้ามา ก็รู้สึกอยากจะกอดนายไว้แบบนี้ " เค้ากอดผมแน่นขึ้น " จูบนาย " เค้าจูบผมก่อนจะผละออกแล้วจ้องมองลงมาในแววตา " มองตานายแล้วบอกว่าฉันรู้สึกแย่แค่ไหน อยากจะให้นายกอดฉัน ปลอบฉัน ฉันแค่อยากจะอ้อนนาย อ้อนเพื่อให้นายบอกว่า นายจะอยู่ข้างๆฉันแล้วมันจะผ่านไป "

“ ผมจะอยู่ข้างๆคุณ " พูดออกมาแบบนั้นตอนที่เอื้อมมือไปจับใบหน้าคมนั้น ผมจูบเค้าเป็นจูบดูดดื่มครั้งแรกที่ตัวผมเป็นคนเริ่มก่อน ดึงตัวเองขึ้นนั่งเค้าที่ตอบรับเกลียวลิ้นของเรากอดเกี่ยวกันอยู่นาน เสื้อของผมถูกร่อนให้สูงขึ้น

   ก่อนที่เค้าจะผละริมฝีปากออกแล้วไล่ลงจูบที่ต้นคอ ประทับรอยเป็นจุดแดงเล็กๆ มือหนาปลดกระดุมเสื้อไล่จูบลงมาถึงยอดอก เค้าขบเม้มมันเบาๆด้วยการเลียรอบข้างแล้วดูดดึงมันอยู่นาน พร้อมทั้งฝ่ามือที่ยกขึ้นบีบยอดอกของผมอีกข้างเพื่อความเท่าเทียม " คุณเมษ "

   มือหนาอีกข้างที่จับเอวเลื่อนลงไปในในกางเกงใน สัมผัสผิวเนียนของแก้มก้นเค้าบีบมันเบาๆเป็นจังหวะเดียวกันกับลิ้นที่กำลังดูดดึงตรงหน้าอก ผมผ่อนลมหายใจตัวเองช้าๆแอ่นตูดรับสัมผัสที่กำลังลุกล้ำเข้ามา นิ้วกลางเลื่อนมาถูเบาๆช่องทางหลังที่ขมิบถี่อย่างเรียกร้องสัมผัสที่มากกว่านี้

“ ลิป " เค้าเรียกผมตอนที่ก้มลงมองกัน ราวกับมีเสียงดึงดูดให้ผมต้องก้มลงไปจูบเค้าอีกครั้ง แต่จูบเนิ่นนานที่เร้าร้อนก้ต้องหยุดลงเมื่อมีเสียงโทรศัพท์ขัดเราขึ้นมาจนต้องจำใจผละออกจากกัน  " เหี้ยอะไรวะเนี้ย " คุณเมษสบถพลางถอนหายใจเซ็งๆก่อนจะคว้าเอามือถือที่ตั้งอยู่บนโต๊ะขึ้นมาดูรายชื่อที่โทรเข้ามา เค้าขมวดคิ้วสงสัยนิดหน่อยก่อนจะหันมาหาผม " ขอไปคุยโทรศัพท์แปปนึงนะ "

“ อื้ม " พยักหน้ารับอีกคนก็เดินไปคุยโทรศัพท์ที่โต๊ะทำงานที่อยู่ใกล้กัน ผมผ่อนลมหายใจออกมาแอบเซ็งเหมือนกันที่อยู่ๆก็มีคนโทรมาขัดจังหวะแบบนั้น ทั้งอารมณ์ทั้งความรู้สึกและความต้องการกำลังได้ที่แล้วเชียว เอื้อมมือจัดเสื้ออตัวเองให้เข้าที่ผมใส่กระดุมก่อนจะยกเบียร์ที่กินค้างอยู่ขึ้นมากินต่อ

“ เหรอครับ คิดดีๆก่อนมั้ย ผมเองก็อยากจะให้คุณใจเย็นๆ " เสียงของเค้าที่ดังขึ้นทำให้ผมหันไปมอง ท่าทางเคร่งเครียดแบบนั้นอดห่วงไม่ได้เลยว่า มันจะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นมาอีก " แต่ถ้ามันกระทบงานผมก็เข้าใจ ครับ เข้าใจแล้วครับ ขอบคุณมากครับ สวัสดีครับ " เค้าผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆก่อนจะวางสายโทรศัพท์แล้วโยนมันลงบนโต๊ะ ท่าทางหัวเสียของเค้า ผมชั่งใจอยู่เล็กน้อยก่อนจะเอ่ยถามไป

“ มีอะไรรึเปล่าครับ " 

“ แค่มีพนักงานมาขอลาออกเพิ่มน่ะ " เค้าพูดก่อนจะยักไหล่แบบไม่สนใจ แต่สองมือที่ผสานเข้าหากันก่อนจะก้มหน้าลงค้ำมันอยู่แบบนั้นราวกับคนคิดหนักก็ไม่ใช่ท่าทางที่บอกผมว่าเค้าไม่ใส่ใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น

“ ขอถามหน่อยได้มั้ย ว่าตอนนี้ธุรกิจโฮสของคุณมันเป็นยังไงบ้าง "

“ ก็แย่มากกว่าที่คิดล่ะนะ " คุณเมษบอกก่อนจะลุกขึ้นมานั่งบนโซฟาตัวเดียวตรงข้ามผม เค้าที่นั่งลงบนที่พักแขนก่อนจะก้มหน้าแล้วถอนหายใจออกมา " บทความพวกนั้นถูกแชร์ออกไปเยอะเกินไป ตอนนี้คนที่ทำงานเป็นโฮสกับผมก็เหมือนโดนทางบริษัทสั่งห้ามให้ทำงานพิเศษแบบนี้ เพราะมันทำให้ภาพลักษณ์ของบริษัทดูไม่ดี "

“ แต่บริษัทโฮสของคุณน่ะ มันก็เป็นแค่บริษัทที่ให้คำปรึกษานะ ไม่ได้ทำเรื่องอะไรไม่ดีสักหน่อย "

“ ขึ้นชื่อว่า โฮส คนก็มองไปในแง่ลบทั้งนั้นแหละไม่มีใครมองไปในแง่ดีในครั้งแรกที่ได้ยินคำนี้หรอก " ก็จริงอย่างที่อีกคนพูด แล้วในมุมมองของเจ้าของธุรกิจแล้วด้วยภาพลักษณ์ของบุคลากรก็ต้องดูน่าเชื่อถือแต่โฮสในความหมายของคนทั่วไปมักจะกล่าวถึง ผู้ชายที่บริการเรื่องแบบนั้น พวกเอาใจผู้หญิง หรือไม่ก็เด็กนั่งดื่ม ทุกความหมายมองคำพูดนี้ไปในแง่ที่ติดลบไปหมด

“ เพราะแบบนั้น โฮสในบริษัทก็เริ่มทะยอยลาออกกันสินะ "

“ อื้ม " เค้ายักคิ้วรับ " หนำซ้ำลูกค้าบางรายก็มาขอยกเลิกเพราะว่าอายที่รู้สึกเหมือนโดนสังคมต่อว่า อย่างบางคนเข้าไปอ่านคอมเม้นท์ในบทความพวกนั้นที่แสดงความคิดเห็นที่ดูมีเหตุผลแต่ติดลบ เค้ารู้สึกว่าเหมือนเค้าจะกำลังนอกใจสามี ก็เลยรู้สึกผิด แล้วก็มาขอยกเลิกไป ตอนนี้โฮสก็ลาออกไปสามคนแล้ว ยังไม่รวมลูกค้าที่ก็ยกเลิกไปเป็นสิบราย มันก็แบบนี้แหละคุณ ช่างมันเถอะเดี๋ยวเรื่องนี้เงียบไป คนก็กลับเข้ามาเอง "

“ อย่าคิดมากเลยนะ " ผมไม่รู้จะพูดอะไรก็เลยปลอบเค้าไปด้วยประโยคนี้ ลุกขึ้นเดินเข้าไปพิงตัวเองกับโต๊ะที่อีกคนนั่ง ส่งไปยิ้มให้คุณเมษก็ยิ้มกลับมาเช่นกัน

“ ฉันไม่คิดมากหรอก " เค้าบอก " คิดซะว่า ฉันจะมีเวลาว่างที่จะได้อยู่กับนายมากขึ้น จะได้เอาใจนายมากขึ้น ไม่มีงานก็ดูแลแฟนไงดีมั้ย " ถึงจะพูดออกมาแบบนั้นแต่ผมก็รู้ว่าเค้าไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นหรอก เค้ารักงานของเค้าแน่นอนว่าเป็นใคร ใครก็เครียดธุรกิจของตัวเองกำลังมีปัญหาขนาดนี้ทั้งๆที่มันกำลังรุ่งเรืองแท้ๆ

“ ที่พูดออกมาแบบนั้น ให้มันจริงเถอะคุณ " บอกเค้ายิ้มๆอีกคนก็เอื้อมมือหยิบบุหรี่ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาก่อนจะหันมาทางผม

“ ขอไปสูบบุหรี่หน่อยนะ "

“ ถ้าบอกว่าไม่ให้ไปจะได้มั้ยละ " ใบหน้าคมที่คาบบุหรี่เอาไว้หันหน้ามามองผมเค้าดึงบุหรี่ที่คาบออกเก็บไว้ในซองที่เดิม แล้วโยนมันลงบนโต๊ะก่อนจะตบตักตัวเองเหมือนบอกใบ้ให้ผมเดินไปหาแล้วนั่งลงตรงนั้น " ทำไมต้องเดินไปนั่งตรงนั้นด้วยไม่เอาหรอก " ผมขมวดคิ้วบอกอีกคนที่หัวเราะออกมา เรื่องอะไรต้องทำอะไรแบบนั้น ไม่เด็กสักหน่อยที่จะได้เดินไปนั่งตักกัน

“ แล้วทำไมนั่งไม่ได้ละ แค่นั่งตัก "

“ ไม่ใช่เด็กสิบสี่สิบห้าที่เพิ่งมีความรักนะคุณ ที่ทำแล้วมันจะดูมุ้งมิ้ง นี่ชีวิตใกล้เกษียณแล้วนะ "

“ แล้วนายเป็นอะไรทำไมชอบทำตัวแก่นัก ห๊ะ ? ใกล้เกษียณอะไร แค่ครึ่งนึงของวัยเกษียณก็เท่านั้นเอง " อีกคนบอกยิ้มๆก่อนจะลุกขึ้นยิ้มแล้วดึงตัวผมให้ล้มลงมานั่งบนตักเค้า

“ ไม่เอา ปล่อยนะคุณ " แต่ยิ่งพูดก็ดูเหมือนว่าอ้อมกอดนั่นจะยิ่งรัดผมแน่นขึ้น

“ ทำไมถึงไม่ยอมให้ผมสูบบุหรี่ละ เป็นห่วงเหรอ "

“ หลงตัวเองเกินไปแล้วมั้ง " ผมหันไปบอกอีกคนที่ยกยิ้มขึ้นมา ก่อนจะดึงตัวเองขึ้นเอาจมูกมาคลอเคลียแก้มผม ริมฝีปากที่จูบกันเบาๆ " ผมรู้สึกห่วงตัวเองมากกว่า "

“ นายแพ้บุหรี่เหรอ "

“ แพ้กลิ่นมันน่ะ ไม่ชอบ " สารภาพออกไปตามตรงอีกคนก็พยักหน้ารับ " เวลาได้กลิ่นคนสูบบุหรี่แล้วไม่ค่อยอยากจะอยู่ใกล้ "

“ งั้นต่อไปฉันจะไม่สูบ "

“ แล้วถ้าเวลาอยากจะสูบจะทำไง อย่างเวลาเครียดๆ "

“ ก็สูบนายแทนไง " คำตอบที่มาพร้อมกับริมฝีปากที่ตอบคำถามของผมให้หายสงสัยกันแบบเป็นรูปธรรม จูบดูดดื่มจากเค้าผมผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆตอนที่อีกคนผละริมฝีปากออกมา

“ คุณนี่นะ " ขมวดคิ้วมองอีกคนที่กำลังยิ้มมีความสุข ทั้งๆที่มีเรื่องเครียดมากมายอยู่ในสมอง " ถ้าอยากจะสูบก็สูบได้นะคุณ ถ้ามันจะทำให้หายเครียดน่ะ เพราะผมเองก็ไม่รู้ว่าจะทำให้คุณหายเครียดยังไงเหมือนกันแต่ผมเข้าใจคุณนะ  "

“ ช่วยกอดฉันแล้วพูดอย่างที่พูดให้ฟังในสายโทรศัพท์วันนี้ได้มั้ย "

“ พูดอะไร " ผมถามอีกคนก็ยิ้ม

“ ก่อนที่นายจะวางสายไปน่ะ " ผมนึกถึงคำพูดที่ตัวเองพูดก่อนจะหน้าแดงขึ้นมา ยามที่สบสายตาเจ้าเล่ห์ของเค้า

   บางทีในช่วงเวลาที่เค้าเศร้าก็ดูปลอมๆเพราะไอ้ความต้องการที่ชอบหาเศษหาเลยกับผมอยู่เรื่อยนี่แหละ ถอนหายใจออกมาผมกอดเค้าตามที่เค้าขอก่อนจะพูดกระซิบลงที่ข้างหูอีกคน

“ ยังไงผมก็อยู่ข้างๆคุณนะ คุณเมษ "

“ อย่าทิ้งฉันไปไหนนะ แต่ถึงแม้นายจะคิดทิ้งฉันไป ฉันก็จะไม่ให้นายไปไหนแล้วล่ะ "  คำพูดที่ผูกมัดผม รวมทั้งอ้อมกอดและจูบของเค้าที่ดึงตัวเองขึ้นยืนแล้วล้วงเข้าไปในเสื้อสัมผัสเรือนร่างของผมด้วยฝ่ามืออุ่น

   ร่างสูงดึงตัวเองขึ้นดันให้ตัวผมชิดริมกำแพง จูบของเราดูดดื่มอีกครั้ง กระดุมเสื้อของผมก็ถูกปลดออกใบหน้าคมก้มลงจูบที่ยอดอกก่อนจะเอ่ยขึ้นเสียงเบาๆ

“ มันมีทางไหนที่ผมจะช่วยคุณได้บ้างนะ "

“ แค่อยู่ข้างๆฉันก็พอ " เค้าตอบก่อนจะยึดสองแขนของผมขึ้นสูง มือหนาตรึงผมไว้กับมือเพียงข้างก่อนจะใช้มืออีกข้างลูบไล้ไปตามหน้าท้องจนต้องหดเกร็ง

“ อ๊าา " ผมเผลอส่งเสียงเบาๆออกมาตอนที่เค้าเริ่มดูดยอดอกของผมแรงขึ้น มือที่ไล้ไปมาตามหน้าท้องลูบลงไปในกางเกง " คุณเมษ  " เอ่ยเรียกชื่อเค้าด้วยเสียงหอบๆอีกคนก็ผ่อนลมหายใจออกมาก่อนจะเลื่อนหน้าขึ้นมาจูบที่ริมฝีปากของผมเค้าปล่อยมือที่ตรึงร่างเปลี่ยนเป็นกอดผมไว้เฉยๆ ทั้งๆที่อารมณ์ทุกอย่างนั้นกำลังถูกปลุกปั่นขึ้นมา รอยยิ้มของเค้าหอมแก้มผมที่กำลังงงกับการกระทำที่อยู่ๆก็หยุดลง

   คำถามมากมายผุดขึ้นมาในหัวของผม ' ทำไมไม่ต่อ ' ' ทำไมไม่ทำ ' ' ทำไมถึงหยุด '  แต่ไม่รู้จะถามมันออกไปยังไง คำถามที่ดูเชื้อเชิญและต้องการแบบนั้น ผมได้แต่ก้มหน้าแล้วเม้มริมฝีปากตัวเอง ริมฝีปากหนาจูบผมอีกครั้ง " เงยหน้ามองฉันหน่อยสิ "

“ มีอะไรรึเปล่า " ผมไม่รู้ว่าตัวเองถามเค้าด้วยแววตาแบบไหนแต่มือหนาที่ยกขึ้นทัดผมของผมไว้ข้างหูแล้วส่งยิ้มมาให้ ก่อนเค้าจะตอบความไม่เข้าใจของผมด้วยคำพูดอ่อนโยนเกินกว่าจะเข้าใจ

“ ฉันอยากจะรอให้เราพร้อมจริงๆ สำหรับเรื่องนั้น ไม่อยากให้ตัวผมรู้สึกว่า เพราะตัวเองเครียดเลยมีอะไรกับคุณแก้เครียดเพื่อระบาย ไม่อยากจะเป็นอย่างงั้น " ทั้งที่ผมเองไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นเลย แค่คิดว่าถึงเวลาที่ความต้องการมันมาเราก็แค่เดินไปตามความรู้สึกนั้น แต่เค้าที่อยู่ๆก็หยุดทุกอย่างราวกับว่าไม่อยากจะทำก็เป็นความรู้สึกที่ชวนให้เสียหน้าลึกๆ " อย่าเศร้าที่ไม่ได้มีอะไรกับฉันเลยนะ "

“ ไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นสักหน่อย " ผมบอกก่อนจะเบือนสายหนีไปมองขอบางอย่างที่ตั้งอยู่ยนโต๊ะของอีกคน ในตอนที่เค้ากำลังหอมแก้มอยู่ ผมก็ถามขึ้น " นั่นอะไรเหรอคุณ "

“ อะไรครับ " เค้าถามก่อนจะหันมองตามสายตาของผม " อ๋อ ใบสมัครโฮสน่ะ ฉันว่าจะประกาศรับสมัครโฮสเพิ่ม โฮสลาออกเยอะ คนมันขาดอะ"

“ รับสมัครโฮสเพิ่มเหรอ "

“ อื้ม " เค้าพยักหน้ารับผมก็หันไปถามด้วยความสนใจ
 
“ แล้วผมสมัครด้วยได้มั้ย "

“ ห๊ะ ? “ เค้าสบถขึ้นด้วยความตกใจผมก็พูดย้ำ

“ ผมอยากขอลองสมัครเป็นโฮสบริษัทคุณน่ะ ให้ผมทำนะ "

.............................................................

แล้วพี่เมษจะรับน้องลิปเข้าเป็นโฮสมั้ยคะ ..
ฝากติดตามตอนต่อไป
สำหรับใครติดตามเมษลิปอยู่ อัพให้อ่านแล้วนะค่าาาาาาาา
เด็กแบบน้องฟานก็ดี เผู้ใหญ่แบบพี่เมษก็เลิศ
เลือกไม่ถูก เลือกไม่ถูกเลย จะไม่ทน
ฝากติดตามต่อไปด้วยนะคะ

ฝากแท็ก #ฟานคีย์ ในทวิตด้วยสำหรับใครที่มีทวิตนะ
ขอบคุณสำหรับการเข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้า  :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
พี่เมษไม่น่ายอมนะ
แต่....ถ้าไม่ให้เป็นเพราะหึง
ลิปอาจจะเอาเหตผลเดียวกันมาพูดก้ได้
55555

สู้ต่อไปนะพี่เมษๆๆๆๆ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
เอ้าน้องลิปจะเปลี่ยนสายงานเหรอจ๊า. พี่เมษไม่ยอมแน่ ถนอมน้องขนาดนี้
จะกินยังไม่ยอมกินเลย อุ้ยไม่น่าเชื่อว่าคู่นี้เต่า คู่หลักกระต่ายสี่คูณร้อยไปแล้ว

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
แอบสงสารลิป นก2รอบเลยจ้าาาา รบแรกนี่ถ้าไม่มีโทรศัพท์มาขัดคงฟินนาเล่กันไปแล้ว 555555

ออฟไลน์ LovEYouOnLy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 439
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
ลิปน่ารักอ่ะ  เป็นกำลังใจให้คุณเมษตลอดไปนะจ๊ะลิป

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
เปิดมาก็งานเข้าเมษเลยค่ะ ไม่เครียดก็จะแปลกไป
แล้วคนบ้าอะไรเอาเรื่องคนอื่นไปเขียนให้เสียหาย
ไม้ได้รู้สิ่งที่เค้าทำเลย

ลิปน่ารัก เป็นห่วงน่าดู แฟนทั้งคนเนาะ
เจออุปสรรคแต่มีคนรัอยู่ข้างๆ มันดีกับใจ

แล้วเมษจะยอมไหมล่ะ คือถ้ายอมนี่มีคนหึงนะ 5555

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
ผมอยากขอลองสมัครเป็นโฮสบริษัทคุณน่ะ :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
งานนี้คุณเมษอาจจะอยากปิดบริษัทเพราะลิป

จะทนให้แฟนไปกับคนอื่นได้มั้ยเนี่ย 5555


ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
คำถาม คำสั่ง ที่น่ากลัว ..

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
โธ่ ลิปเฮียแกคงยอมหรอก อ่าาา แต่ถ้าอ้อนมากๆก็ไม่แน่น้าาาาาาาา :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง
ตอนที่ 25
' ผมอยากเป็นโฮส '

“ ผมอยากขอลองสมัครเป็นโฮสบริษัทคุณน่ะ ให้ผมทำนะ " นิ่งฟังแววตากลมๆที่จ้องมาทางผมด้วยความสนใจ ผ่อนลมหายใจออกมาขอทายเลยว่าถ้าบอกว่า 'ไม่' อีกฝ่ายต้องดื้อดึงจนถึงที่สุดแบบไม่ยอมแพ้แน่ๆ

“ ไม่ให้สมัคร "

“ ทำไมละ! ทำไมสมัครไม่ได้ " นั่นไง ผิดจากที่คิดซะที่ไหนละ เบือนหน้าหนีอีกคนที่ยังคงทำหน้างอนแบบไม่เข้าใจ ใบหน้าหวานของคนตัวเล็กข้างหน้าแก้มกลมๆที่เสริมให้ทุกอย่างดูน่ารัก รูปลักษณ์ของลูกค้าคนแรกที่ชวนให้ผมตกหลุมรักและยิ่งตกหลุมรักมากขึ้นกับความคิดของเค้าที่พูดออกมา ไม่รู้ว่าเพราะชอบคนหน้าตาแบบนั้นแล้วก็อวยไปเองรึเปล่าว่าเค้ามีความคิดที่ดีก็เลยตัดสินใจสารภาพคำว่าชอบออกไปตรงๆ ทั้งๆที่เป็นกฏเข้มงวดของงานโฮสอยู่แล้วว่าไม่ควรทำ " บอกเหตุผลผมมาหน่อยว่าทำไมไม่ได้ "

“ ไม่ได้ก็คือไม่ได้ "

“ นั่นไม่ใช่เหตุผล " เค้าที่เถียงออกมา ก็คิดไว้แล้วว่าอีกคนต้องดื้อ แต่ไม่คิดว่าจะดื้ออะไรขนาดนี้ " หวงเหรอครับ " คำพูดตรงๆที่ชวนให้ผมหันไปมองหน้าเค้า สบแววตาที่กำลังตั้งคำถามมันไม่มีคำอื่นที่จะต้องตอบหรอกยกเว้นแค่พยักหน้ารับอีกคนไปตรงๆอย่างที่เค้าเข้าใจ

“ ใช่ ฉันหวงนาย "

“ อะไรกันน่ะ ผมยังให้คุณทำได้เลย "

“ นั่นมันไม่เหมือนกัน "  จะอธิบายยังไงให้คนตรงหน้าเข้าใจดี คำพูดที่บอกว่าไม่อยากจะให้ใครมายุ่งกับเค้าเหมือนที่เราโดนบ่อยๆ ' ฉันโทรหานายเป็นการส่วนตัวได้มั้ย ' หรือไม่ก็ ' ถ้าหลังจากนี้เรามาเจอกันอีกในฐานะอื่นจะได้มั้ย ' หลากหลายคำชวนที่แค่คิดว่าถ้าคนตรงหน้าถูกชวนแล้วจะปฏิเสธยังไง ถึงมันจะมีกฏที่ระบุเอาไว้ว่าห้ามพูดคุยกันนอกเหนือเรื่องที่ปรึกษา หรือกฏที่ว่าห้ามสานต่อความสัมพันธ์ใดๆกับลูกค้า แต่คนเราบางทีถ้าถูกใจจริงๆก็ชอบแหกกฏข้อบังคับเหล่านั้น ไม่ต้องพูดถึงใครคนอื่นหรอก ดูอย่างเรามาเป็นแฟนกันได้ก็เพราะการแหกกฏนั่นแหละ แล้วแบบนั้นจะไม่ให้หวงได้ไง

“ มันไม่เหมือนกันยังไง จะบอกว่าเพราะว่าคุณเป็นเจ้าของแล้วก็ทำงานนี้มานานก่อนจะเจอผมเหรอ "

“ ก็ใช่ " ผมตอบอีกคนก็ยังดื้อไม่ฟังอะไรอยู่ดี " นี่ อย่าทำเลยน่า ทำงานของนายอย่างเดียวนั่นก็พอแล้ว นายทำไม่ได้หรอก "

“ ทำไมถึงจะทำไม่ได้ " พอพูดอะไรไม่เข้าหูสักหน่อยก็ดันยั๊วะขึ้นมาอีกผมที่ได้แต่ผ่อนลมหายใจออกมาไม่รู้จะพูดยังไงดีแล้วกับคนตรงหน้า " คุณยังไม่ได้สัมภาษณ์ผมเลยว่าผมจะทำได้รึเปล่า แต่ก็มาบอกว่าผมทำไม่ได้แล้ว ผมน่ะเก่งนะ "

“ เก่งยังไง " กอดอกถามเค้าตอนที่นั่งลงบนโซฟาอีกคนก็เดินมายืนตรงหน้าด้วยท่าทางที่เหมือนจะหาเรื่องกัน

“ ผมน่ะ ให้คำปรึกษาเพื่อนตัวเองเรื่องความรักอยู่บ่อยๆ " เบือนหน้าหนีอีกคนที่เอามือกอดอกตัวเองแล้วพยักหน้ารับด้วยความมั่นใจ เค้าจะรู้มั้ยว่ามันไม่เหมือนกัน การให้คำปรึกษาของเพื่อนกับการให้คำปรึกษาแบบโฮสน่ะ

“ มันไม่เหมือนกันหรอกนะครับ " บอกแบบนั้นตอนที่ดึงอีกคนเข้ามากอดแล้วล้มตัวลงนอนโซฟา เสียงโวยวายดังๆของลิปที่ทับอยู่บนตัวผม เค้าเม้มริมฝีปากด้วยความหงุดหงิด เสียงที่กำลังจะเถียงออกมาผมก้มลงจูบปิดริมฝีปากนั้นโอบกอดเค้าไว้แน่นก่อนจะลุกล้ำเข้าไปมากกว่านั้น  ผ่อนลมหายใจออกมาก่อนจะดึงให้เค้ามานอนเบียดใกล้ๆ

   ไม่ใช่ว่าไม่อยากจะทำอะไรมากกว่านี้ ก็อยากทำแต่ตอนนี้ยังทำไม่ได้มากกว่า ผมไม่ใช่คนดีอะไรในเรื่องแบบนั้น ซ้ำยังชอบอะไรที่มันดูไม่เหมือนกับคนอื่น กลัวว่าการมีอะไรกันในครั้งเดียวของเราจะทำให้เค้าตกใจแล้วเลิกที่จะคบหากัน ทั้งๆที่ตัวเองเป็นคนไม่เคยซีเรียสกับการคบใคร ไม่เคยสน ว่าจะเลิกหรือจะคบต่อ อาจเพราะตัวเองเป็นคนที่มีอาชีพแบบนี้เลยไม่คาดหวังความเข้าใจจากใครทั้งนั้น เราเลิกเป็นตัวเราไม่ได้นั่นคือสิ่งที่ผมคิดมาตลอด

   แต่ทุกอย่างมันก็ค่อยๆเปลี่ยนไป จากคนไม่สนอะไร ก็กลายเป็นว่าแคร์เค้าไปทุกเรื่อง จนเกิดความสงสัยว่า ตัวผม ใจผม มันจะเปลี่ยนไปเพื่อคนคนนี้ได้ถึงขนาดไหนนะ

“ คุณเมษ " ลิปเอ่ยเรียกผมตอนที่หันไปมองอีกคนที่นอนอยู่ข้างๆ เค้าก็พูดขึ้นเสียงเบาๆ " ผมอยากจะลองทำงานเป็นโฮสจริงๆนะ "

“ ทำไมถึงได้ดื้ออะไรขนาดนี้นะ " พอทำหน้าดุอีกคนก็ก้มหน้าหลบ ใบหน้าน่ารักที่เหลือบมองผมเป็นระยะ " บอกว่าไม่ได้ก็ไม่ได้ไง ฉันไม่อยากให้นายทำ "

“ ขอผมลองครั้งเดียวก็ไม่ได้เหรอคุณ " ยังจะมาต่อรองอีก

“ ต่อไปนี้ถ้านายพูดเรื่องจะมาเป็นโอสกับฉันอีก ฉันจะจูบปากนายจนกว่านายจะหยุดพูด "  ริมฝีปากสวยเม้มเข้าหากันอัตโนมัติผมผ่อนลมหายใจออกมา ให้มันได้แบบนี้สิ ถึงกับต้องขู่จะได้เข้าใจกัน

   นอนกอดกันอยู่บนโซฟาเงียบๆ ตอนที่หันไปมองอีกคนที่ยังคงจ้องผมตาปริบๆ เราเงียบกันมาได้สักพักแล้วอย่างไม่รู้จะพูดอะไร คงเพราะอีกฝ่ายหวังอยากจะพูดเรื่องนั้นอีกแต่พอบอกว่า ถ้าพูดจะจูบก็เลยหยุดที่จะพูดไป " อยากจะกินอะไรหน่อยมั้ย "

“ วันนี้ไม่ค่อยหิวน่ะ อยากจะกลับบ้านมากกว่า " ลิปลุกขึ้นมานั่งบนเค้าที่ผ่อนลมหายใจออกมา ผมมองนาฬิกาที่เผลอแปปเดียวก็จะทุ่มนึงแล้ว

“ โกรธฉันรึไง ที่ไม่ยอมให้นายเป็นโฮส " เค้าไม่ตอบแต่แสดงสีหน้าด้วยการเบือนหน้าหนีผมแทน " ลิป "

“ ก็ถ้าผมพูด คุณก็ต้องจูบผม แล้วจะให้ผมพูดยังไง " หลุดยิ้มออกมากับคำพูดของเค้า ทำไมถึงได้น่ารักขนาดนี้นะ

“ ก็นึกว่าอยากจะให้จูบนะ เห็นดื้อเถียงอยู่ได้ตั้งนาน "

“ ใช่ที่ไหนกันละ "

“ งั้นหนนี้ฉันจะไม่จูบนาย งั้นพูดมาสิ " มองตาเค้าที่ก็จ้องมองผม

“ ผมไม่ได้โกรธ แต่ที่อยากจะเป็นเพราะอยากรู้ว่างานของคุณมันเป็นยังไง อยากรู้ว่าคุณที่มารับผมสาย คืนคืนนึงต้องทำอะไรบ้าง ก็เท่านั้นเอง คุณให้ผมเป็นเถอะ แค่ครั้งสองครั้งก็ได้ " ฝ่ามือที่เอื้อมมาจับมือผม เค้าที่พยักหน้าน้อยๆอ้อนกัน

“ มันไม่ได้มีเรื่องอะไรที่น่ารู้หรอก เอาเป็นว่ายังไงก็ไม่ได้  เลิกหวังได้เลยครับ " ถอนหายใจออกมาเซ็งๆ ลิปที่เบือนหน้าหนีผมก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปที่ตู้เย็น " งอนกันอีก "

“ เปล่างอนสักหน่อย ก็แค่เซ็งๆ " เค้าพูดก่อนจะกดน้ำที่หน้าตู้เย็นขึ้นมากิน ผ่อนลมหายใจออกมาช้า " งั้นผมกลับบ้านก่อนนะ "

“ จะกลับแล้วเหรอ "

“ อื้ม คุณโอเคแล้วนี่น่า เรื่องที่เครียดอยู่น่ะ "

“ ถ้าบอกว่าไม่โอเค นายจะยังอยู่ต่อมั้ยละ " ผมถามพลางค้ำหน้ากับพนักพิงโซฟาเพื่ออ้อนเค้า

“ ยังมีอะไรที่ไม่โอเคอีกเหรอ " ร่างบางที่เดินมาหาก้มหน้าลงจูบริมฝีปากของผมก่อนจะยิ้มให้ " ถ้ามีอะไรโทรหาผมได้ตลอดนะ "

“ การโทรคุยกันมันไม่ได้เหมือนอยู่ด้วยกันนะคุณ นอนที่นี่ไม่ได้เหรอ " คำถามที่ชวนให้มือที่กำลังหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายหยุดชะงัก " ใส่เสื้อผ้าของผมไปทำงานก็ได้พรุ่งนี้น่ะ "

“ เสื้อผ้าของคุณ มันใช่ไซส์ผมซะที่ไหนละ " เค้าตอบก่อนจะถอนหายใจออกมา " คุณเมษ " มือบางจับแก้มของผม เค้าที่จ้องตามองมาไม่ต่างอะไรกับเด็กตัวเล็กๆที่กำลังอ้อนให้ใครสักคนให้อยู่ด้วย " แล้วตอนนี้อยากจะทำอะไรละครับ "

“ อยากจะให้นายอยู่กับฉัน "

“ งั้นผมทำอะไรให้กินมั้ย "

“ ฉันไม่หิว " บอกไปตามตรงอีกคนก็เอียงหน้าคิด

“ งั้นจะให้ทำอะไรละ แค่นั่งอยู่เฉยๆน่ะเหรอ " เค้าถาม " งั้นดูหนังมั้ยละ เปิดทีวีดูกัน "

“ ฉันอยากจะมีอะไรกับนาย " แม้จะพูดออกไปทีเล่นทีจริงแต่อีกคนที่เงียบไปนั้นก่อนดึงตัวเองยืนตรงก่อนจะมองซ้ายมองขวาราวกับคนเขินที่ทำตัวไม่ถูก

“ พูดอะไรแบบนั้นละคุณ "

“ ก็แค่พูดความจริงมันผิดรึไง " ผมบอก อีกคนก็ถอนหายใจออกมา

“ ทีเมื่อกี้อารมณ์กำลังพาไปแล้วหยุดทำไมละ หยุดเพื่อมาขอกันหน้าด้านๆแบบนี้น่ะเหรอ " ใบหน้าหวานขมวดคิ้วหน้าแดงผมก็หลุดขำ

“ เมื่อกี้มีอารมณ์แล้วเหรอ "

“ ก็ล้วงเข้ามาทำไมเล่า ลูบอยู่ได้ " เค้าเถียงแบบเอาแต่ใจ   ผมก็ลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินไปกอดเค้าไว้ ลำตัวบางที่แข็งทื่อไปผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆ " บางทีก็ไม่เข้าใจเลยว่าคุณเป็นคนยังไงกันแน่ "

“ ฉันก็ไม่เข้าใจนายเหมือนกัน " ผละตัวเองออกมองหน้าเค้าที่ก็เงยมองผม " บางทีนายก็น่ารัก มีเหตุผล บางทีก็ไม่มี บางทีก็ดื้อ บางทีก็เอาแต่ใจ บางทีก็น่าตี น่าจัดการเหลือเกิน " ถอนหายใจออกมาก่อนจะพูดต่อ " ฉันอยากมีอะไรกับนายนะ แต่มันยังไม่ใช่ตอนนี้  เพราะสำหรับฉันมันไม่ใช่แค่เรื่องเซ็กส์นะ "

“ ตามใจคุณก็แล้วกัน " ลิปพูดแบบบอกปัดก่อนจะหันหน้าไปมองทางอื่น " แล้วตอนนี้จะให้อยู่ด้วย แล้วจะชวนทำอะไรล่ะ ข้าวก็ไม่อยากจะกิน หนังก็ไม่อยากจะดู "

“ นั่งเฉยๆไม่ได้เหรอ แค่อยากจะอยู่ด้วยกันไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น " นั่นคือความรู้สึกของผม แค่อยากจะนั่งกอดเค้าเราไม่ต้องคุยกันเรื่องเครียดๆอะไรทั้งนั้นแค่นั่งเฉยๆ แค่กอดกัน กอดไว้เหมือนอย่างที่กอดไว้ตอนนี้

   ครืน ครืน ครืน 

   เสียงโทรศัพท์ของผมที่ดังขึ้นชวนให้จำใจผละมือออกจากอ้อมกอดของเค้า ก้มลงไปจูบปากอีกคนเบาๆก่อนจะเดินมารับสายโทรศัพท์ที่เพียงแค่มองชื่อก็ทำให้นิ่งคิดอยู่สักพัก ผมกดปิดเสียงก่อนจะวางมันไว้ที่เดิมอีกคนก็ถาม

“ ไม่รับสายล่ะครับ "

“ ไว้ค่อยรับก็แล้วกัน " พอพูดออกไปแบบนั้นลิปก็ยิ้มก่อนจะถอนหายใจออกมา เหมือนเค้าจะอ่านสถานการณ์ในตอนนั้นออก มือบางคว้าเอากระเป๋าของตัวเองขึ้นสะพายบ่าก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ผม

“ กลับก่อนดีกว่า คุณจะได้ทำงาน ดูเหมือนจะมีงานทำแล้วใช่มั้ยละ "

“ ลิป " เอ่ยเรียกเค้าไว้ อีกคนก็เดินมาหาก่อนจะจูบผมเบาๆที่ข้างแก้ม

“ ฝันดีนะครับ ไว้ถ้ามีอะไรก็โทรไปแล้วกัน "

“ อื้ม " ผมตอบรับสั้นๆอีกคนก็เดินออกไปจากคอนโดของผม ถอนหายใจออกมาตอนที่หันไปมองโทรศัพท์ของตัวเอง ถ้าเค้ารู้ใครโทรมาจะออกไปง่ายๆแบบนั้นมั้ยนะ

   คว้าเอาบุหรี่ที่เมื่อกี้ไม่ได้สูบก่อนจะเปิดประตูเดินออกไปข้างนอกก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ที่ระเบียง จุดบุหรี่สูบอยู่สักพักก่อนจะตัดสินใจโทรกลับหาผู้หญิงคนนั้น ' คุณมาเรีย ' คนที่เคยช่วยเหลือไว้ตลอด แต่ก็ตัดความสัมพันธ์ไปตั้งแต่ครั้งที่พาลิปไปเจอเค้า

“ ทำไมโทรกลับมาช้าจัง เธอก็รู้นี่ว่าฉันไม่ชอบคอย " คำพูดแรกที่เอ่ยออกมา ผมผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆเธอก็หลุดหัวเราะ " งานช่วงนี้เป็นยังไงบ้างละ ดีมั้ย "

“ ก็ดีตามสภาพของมันหลังจากที่โดนบทความของสื่อบางสำนักโจมตีไป "

“ เธอใช้คำว่าโจมตีเลยเหรอ " อีกฝ่ายหัวเราะ ผมก็ยกยิ้มออกมา

   ปัญหาที่เกิดขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ที่ก่อตั้งบริษัทโฮสนี้ขึ้นมา เพื่อนร่วมหุ้นอย่าง ' โท ' ที่โทรมาเล่าด้วยความกังวลใจ ผมก็รู้ได้ทันทีว่าเกิดขึ้นจากใคร พอได้อ่านเองก็ยิ่งเข้าใจแค่ชื่อเว็บไซต์ก็รู้แล้วว่าอยู่ในเครือของคนที่ผมรู้จักดี มันคงเป็นเธอที่พยายามบอกผมให้รู้ว่า เธอไม่พอใจกับการที่ผมพาลิปไปเจอและไปบอกว่า นั่นคือคนรัก ทั้งๆที่ความสัมพันธ์ของเราก็ไม่มีอะไรแต่แค่ ยังผูกมัดกันไว้ด้วยเซ็กส์ที่เธอชอบ " ใจร้ายจังนะ แต่เธอก็ใจร้ายกับฉันก่อน "

“ ผมใจร้ายยังไง "

“ เธอใจร้ายที่พาเค้ามาแนะนำกับฉัน ฉันบอกเธอแล้วไงว่าฉันน่ะจะโกรธนะถ้าคนที่ฉันรักไม่รักษาน้ำใจของฉัน " ถอนหายใจออกมาตอนที่ได้ฟังก็คิดไว้แล้วว่าอีกคนน่าจะไม่จบลงง่ายๆแต่แค่ไม่คิดว่าจะทำกันถึงขนาดนี้ เพราะยังคิดในแง่ดีถึงคำพูดที่อีกคนพูดว่า อย่างน้อยเราก็เป็น เพื่อนกันได้ แต่นั่นก็แค่คำพูดหรูหราที่อีกคนบอกเพื่อให้ตัวเองดูดี และน่าเกรงขามต่อหน้าเจ้าตัวเล็กที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างก็ลิปเท่านั้น

   ' คุณมาเรีย ' เป็นผู้หญิงที่เข้ามาใช้บริการผมมากที่สุดในสมัยที่ยังเป็นแค่นักศึกษามหาลัยที่ยังคงใช้ทุนเรียนและหางานพิเศษทำไปด้วย ทั้งค่าใช้จ่ายทุกอย่างแค่เงินจากงานพิเศษไม่พอใช้ ก็เลยต้องออกมาหางานพิเศษแบบนั้นกับเพื่อนสนิทอย่างไอ้โทที่ก็ไม่มีเงินเหมือนกัน

   เราเป็นแค่เด็กบ้านนอกสองคนที่ต้องปากกัดตีนถีบในเมืองหลวงโดยที่พ่อแม่ไม่ได้ใยดีอะไร แต่นั่นก็ถูกแล้ว ลำพังตัวเองยังไม่ค่อยจะมีกินจะเอาเงินที่ไหนส่งลูกมาเรียน แค่ค่าเดินทางกับค่าตั้งต้นที่ออกให้ก็เต็มกลืนจนต้องกู้หนี้ยืมสินแล้ว ในครั้งแรกที่ผมพบเธอ เธอขับรถมาชวนผมจากคำบอกเล่าของเพื่อนที่เคยใช้บริการ แล้วหลังจากนั้นผมก็ถูกผูกมัดแล้วให้บริการเธอมาตลอด เป็นทั้งเพื่อนเที่ยว เป็นทั้งคู่นอน เวลาที่มีคนอยากจะใช้บริการผม เธอจะจ่ายให้ผมมากเป็นสามเท่าเพื่อให้ผมตัดสินใจเลือกเธอ

   ผมบริการทุกอย่างอย่างดีในสิ่งที่เธอชอบโดยเฉพาะเรื่อง เซ็กส์ เพราะมันคือสิ่งที่เธอต้องการมากที่สุด เราเคยไปเที่ยวต่างประเทศนอนโรงแรมหรูหราแต่ขังตัวเองอยู่นั้นมีอะไรกันทั้งวันทั้งคืน สั่งอาหารจากข้างล่างมากิน กินแล้วแล้วทำ ทำเสร็จเหนื่อยก็กิน เป็นผู้หญิงที่มอบโอกาสหลายๆอย่างให้ด้วยเงินหนาๆของเธอ และโอกาสที่ดีที่สุดที่เธอมอบให้ก็คือ ' เมษนายไม่ลองอยากจะเป็นเจ้าของบริษัทโฮสดูบ้างละ '

   เธอเป็นคนหัวธุรกิจอะไรที่เธอจับต้องและเริ่มบริหารไม่มีคำว่าขาดทุน พอคิดแบบนั้นก็เคยคว้าเหยื่อชิ้นใหญ่นั่นไว้ทั้งๆที่เพื่อนสนิทอย่างโท  ก็ได้เตือนเอาไว้แล้วว่า ' คนที่ทำธุรกิจ เค้าไม่ทำธุรกิจให้คนอื่นฟรีๆเพื่อไม่หวังผลหรอกนะ ' สำหรับผมตอนนั้นก็แค่คิดว่า ถ้าจะมีเซ็กส์กับเธอไปตลอดนั่นไม่ใช่ปัญหาอะไร เพราะคนอย่างผมก็ไม่คิดจะมีใครเป็นจริงเป็นจังอยู่แล้ว ผมคว้าโอกาสนั้นโดยไม่รีรอ โอกาสที่สร้างรายได้ให้ผมต่อปีเป็นเงินมหาศาล เงินที่ต่อยอดทำอะไรได้มากมาย ไม่ว่าจะซื้อบ้านหลังใหม่ให้พ่อแม่ ซื้อคอนโดสุดหรู ซื้อบ้านให้ตัวเองอีกหลัง หรือแม้แต่รถราคาแพงสักคัน

“ ฉันเป็นคนที่ให้เธอทุกอย่าง แล้วสุดท้ายเธอก็ทำกับฉันแบบนี้นะเหรอ คิดดูสิ ว่าใครจะสนใจเธอ เด็กคนนั้นจะสนใจเธอเหรอ ถ้าเธอเป็นแค่เมษคนที่ฉันรู้จักครั้งแรก คนที่ยังไม่มีอะไร ไม่ใช่เจ้าของบริษัทโฮสที่มีรายได้มากขนาดนี้ ฉันที่ให้ทุกอย่างกับเธอในตอนที่เธอลำบาก สุดท้ายพอไปได้ดีก็มาตีตัวจากฉันไปเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันใช้ได้เหรอ "

“ แล้วทำไมไม่พูดคำพูดพวกนั้นตั้งแรกละ ทำไมไม่พูดกับลิปด้วยประโยคที่พูดกับผมล่ะ ก่อนหน้านี้คุณบอกกับผมว่า อยากจะให้ผมมีชีวิตของผม คุณคงไม่มีเวลามามีเที่ยวเล่นกับผมแล้ว คุณอยากจะใช้ชีวิตกับครอบครัวเพราะลูกสาว ไม่ใช่เหรอ " ยังจำได้ที่เธอบอก ตอนที่เรามีเซ็กส์กันครั้งล่าสุดเมื่อปีก่อน เธอบอกว่าจะหยุดการทำแบบนี้เพราะลูกสาวเริ่มจะเข้ามหาลัยแล้วอยากจะอยู่กับลูกมากๆ คำพูดสวยหรูที่บอกว่า ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆตลอดหลายปีที่ผ่านมา เธอไม่ต้องห่วงผมแล้วเพราะว่าผมจะมีชีวิตที่ดี เธอบอกแบบนั้น " สุดท้ายก็แค่หวงก้างผมพูดถูกใช่มั้ย "

“ แล้วทำไมฉันจะไม่มีสิทธิทำอะไรแบบนั้นละ เมื่อฉันเองก็ลงทุนให้กับเธอทุกอย่าง ที่มีวันนี้ได้ก็เพราะว่าเงินของฉันไม่ใช่เหรอ แล้วมันจะผิดอะไรล่ะ ในเมื่อวันนึงที่ฉันไม่อยากจะใช้บริการเธอแล้ว แต่ฉันก็ยังอยากจะเห็นเธอที่เป็นเหมือนเดิม และไม่เป็นของใคร "

“ คุณจะพูดว่า คุณลงทุนให้ผมทุกอย่างก็คงไม่ใช่ทั้งหมดหรอกมั้ง คุณคิดเข้าข้างตัวเองเกินไปนะ "

“ เมษ "

“ การทำงานโฮสคือการซื้อของแลกเปลี่ยน คุณให้เงิน ผมให้เซ็กส์ ผมให้การบริการที่ดี แต่คุณพูดเหมือนผมไม่ต้องให้อะไรคุณ แล้วคุณก็เอาเงินมาให้ผมฟรีๆ ผมถึงต้องฟังข้อเรียกร้องนู้นนี่นั่นของคุณ ทั้งๆที่ทุกอย่างมันก็แค่ คุณไม่อยากให้ผมมีใครผมพูดถูกมั้ยละ "

“ แต่ฉันก็ให้เธอมากกว่าใคร ฉันจ่ายให้เธอหลายเท่า "

“ เพราะคุณเสนอมาเอง แล้วผมก็ไม่เคยร้องขอว่า ต้องให้ผมมากกว่าคนอื่นสองสามเท่า คุณเสมอให้ผมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเรื่องอะไร แต่ผมว่า การบริการของผมมันก็ไม่ได้น้อยหน้ากว่าเงินที่คุณเสียให้นิครับ " คำพูดที่ทำให้อีกฝ่ายเงียบ " ผมขอบคุณสำหรับโอกาสที่หยิบยื่นมาให้ ขอบคุณที่คุณติดใจแล้วก็เลือกผมมาตลอด ขอบคุณที่สร้างงานแล้วก็คิดวางแผนระบบบริษัทเล็กๆให้ผม นั่นคือสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกว่าคุณคือผู้มีพระคุณของผมมาตลอด ผมคิดว่าตัวเองโชคดีที่เจอคนอย่างคุณ เพราะงั้นอย่างทำให้ตอนนี้ตัวผมต้องมาคิดว่า ผมโชคร้ายเลยนะ "

“ เธอดูท่าทางจะติดใจเด็กหนุ่มคนนั้นจังเลยนะ เค้ามีอะไรดีรึไง หรือว่า โฮสของเธอตอนนี้มันเปลี่ยนจากแค่ให้คำปรึกษาไปบริการเรื่องแบบนั้นด้วย "

“ ผมไม่ได้ติดใจเค้าในเรื่องแบบนั้น แล้วที่คุยกับคุณอยู่ตอนนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเค้าเลย ผมกำลังคุยเรื่องของเราอยู่ตังหาก เรื่องที่คุณลงทุนเขียนบทความงี่เง่าแบบนั้นโจมตีบริษัทของผม ใช้คำพูดที่ส่อถึงเรื่องเพศ การบริการเรื่องอย่างว่า ทั้งๆที่บริษัทของเราไม่ได้มีเรื่องแบบนั้นมาข้องเกี่ยว เพียงเพราะแค่ไม่พอใจที่ผม พาแฟนไปแนะนำ "

“ เหตุผลที่ฉันไม่พอใจ มันน้อยไปเหรอ " เธอถาม " ฉันต้องยิ้มรับความรักของเธอเหรอ ในเมื่อฉันเองไม่ได้เธอมาครอบครองทั้งๆที่ก็อยากจะได้ ฉันที่ต้องจำใจเลือกครอบครัวทางนี้ แล้วทิ้งเธอ ทำไมละ ?  ฉันเป็นเจ้าของเธอนะ นั่นคือสิ่งที่ฉันคิดแล้วฉันผิดรึไง ?  ฉันที่คอยอุ้มชู้เธอ จะพูดอะไรกับเธอก็ได้ไม่ถูกเหรอ แล้วมันแปลกอะไร ถ้าฉันจะไม่พอใจแล้วเลือกที่จะทำร้ายเธอ ในเมื่อเธอทำร้ายฉันก่อน "

“ เลิกคิดว่า ตัวคุณเป็นเจ้าของของผมเถอะ สำหรับเรา ไม่มีอะไรที่ติดค้างกันอีกแล้วนะ คุณให้เงิน ผมให้บริการ ทุกอย่างมันจบลงไปแล้ว เพราะครั้งหลังๆตั้งแต่ที่ผมเปิดบริษัทคุณไม่เคยให้เงินค่าบริการผมเลยด้วยซ้ำ คุณยังติดค้างหนี้ค่าบริการของผมด้วยซ้ำไปนะ แต่ก็คิดว่าเราเหมือนเพื่อนเก่าในตอนนั้นผมยังไม่มีใคร ทุกอย่างมันก็ได้แหละ แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว "

“ แล้วถ้าฉันจะนัดเธออีกล่ะ มามีอะไรกับฉันได้มั้ย "

“ ผมขอปฎิเสธครับ "

“ ถ้าฉันจ่ายให้เธอ สามล้านละ จะมามั้ย "

“ ขอปฎิเสธครับ " ผมบอกเธอสั้นๆอีกคนก็ถอนหายใจออกมา

“ คิดดีแล้วเหรอเมษ ที่จะมีชีวิตที่มีคนรักแบบจริงจังเหมือนคนอื่นๆ ทั้งๆที่ตัวเองก็ทำงานเป็นโฮสที่ต้องคอยบริการผู้หญิงคนอื่นมากมาย นายคิดว่าเค้าจะรับได้เหรอ ที่นายเป็นแบบนั้น ความรักน่ะ มันเป็นความรู้สึกที่เห็นแก่ตัวมากกว่าที่นายคิดนะ และการทำเพื่อใครสักคนนึงบางทีผลตอบแทนมันอาจจะไม่ได้มาอย่างที่คิดก็ได้ สักวันเธออาจจะเสียเค้าไปก็ได้ แล้วแบบนั้นสิ่งที่ทุ่มเทเพื่อเค้าไปมันจะคุ้มกันเหรอ "

“ ถึงจะเป้นอย่างงั้น ถ้าใจอยากจะทำอะไร ผมก็อยากจะลองทำตามใจตัวเองดูครับ "

“ แม้ว่าจะเสียรายได้ส่วนนี้ไปน่ะเหรอ "

“ ครับ " ผมตอบเธอเพียงสั้นๆ ก่อนที่สายนั้นจะถูกตัดไปวางมือถือลงบนโต๊ะ ถอนหายใจออกมากับคำเตือนบอกให้รู้ว่าเธอเองก็คงไม่ยอมให้เรื่องนี้มันจบง่ายๆ ส่วนผมเองก็ไม่ยอมจำนนเพียงแค่คำขู่ไร้สาระแบบนั้นเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน หรือเรื่องความรักก็ตาม

....................................................

   ครืน ครืน ครืน

   เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นจากโต๊ะทำงานให้ระหว่างกำลังเช็คภาพที่ถ่ายอยู่ตรงหน้าจอคอมพิวเตอร์ ผมละสายตาไปมองมันก่อนจะหยิบขึ้นมากดรับพลางเดินออกไปจากสตูดิโอถ่ายภาพที่กำลังเตรียมเซ็ตสถานที่เพื่อถ่ายแบบเซ็ตต่อไป " เดี๋ยวมานะ " ผมบอกกับรุ่นน้องที่พยักหน้ารับ ก่อนจะกดรับสาย " ว่าไงมึง "

“ ทำอะไรอยู่ว่ะ รับสายช้าชะมัด "

“ ทำมาหากินสิว่ะ มึงเห็นกูเป็นคนว่างงานที่จะว่างรับสายมึงมากเลยรึไง ไอ้หัวหน้าวิศวกร " ยกยิ้มออกมาตอนที่ตัวเองพูดไปแบบนั้น ปลายสายไม่ใช่ใครที่ไหนเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ที่ตั้งบริษัทโฮสมาด้วยกัน แถมยังเคยเป็นโฮสเหมือนๆกัน อย่างไอ้โท ที่ตอนนี้นอกจจะเป็นรองประธานบริษัทโฮสแล้วมันจะยังพ่วงด้วยตำแหน่งวิศวะกรในบริษัทผลิตรถยนต์แห่งหนึ่งด้วย " แล้วโทรมามีอะไร "

“ มีข่าวดี " มันบอก " มึงบอกให้กูเปิดรับสมัครโฮสคนใหม่ใช่มั้ยละ "

“ อ่าห๊ะ " พยักหน้ารับก่อนจะหยิบบุหรี่ในกระเป๋าขึ้นมาจุดสูบ ผมเดินไปที่ระเบียงข้างนอกอาคารก่อนจะนั่งยืนพิงกับระเบียงแล้วผ่อนควันออกมา " แล้วยังไง "

“ กูหาโฮสคนใหม่ให้มึงได้แล้วนะ "

“ เร็วจัง "

“ กูคิดว่ามันคงเป็นโชคชะตาว่ะ มึงลองคิดดูดิ แค่เปิดรับสมัครไปแปปเดียวอยู่ๆเค้าก็ส่งใบสมัครมา "

“ แล้วเป็นยังไง อาชีพ หน้าตา "

“ จัดว่าเหมาะสม ก็อย่างทุกที การงานดีนะ หน้าตาบุคคิคก็ดี น่ารัก "

“ น่ารัก ? “ ผมทวนเสียงอีกคนก็ขานรับเสียงยาวๆ

“ อื้มมมมมมม น่ารัก กูถูกใจเลยนัดสัมภาษณ์เค้าไปแล้วเมื่อตอนเที่ยงกูว่างพอดีเลยนัดเค้าสัมภาษณ์ที่ใต้ตึกบริษัทเค้า "

“ แล้วเป็นยังไง "

“ ทุกอย่างผ่านหมด ทุกอย่างดีมาก ทั้งความคิดที่ต่อการเป็นโฮส ทั้งคำพูดในเหตุการณ์สมมุติที่กูถามออกไปแล้วเค้าตอบ คือมันแบบ มึงคือมึงเข้าใจคำว่า หน้าตาเยียวยาจิตใจคนได้ปะ ซึ่งเค้าเป็นคนแบบนั้น เป็นคนที่แบบ แค่มึงเห็นเค้ายิ้ม เค้ามองมา ไม่ต้องปลอบอะไรหรอก ก็เหมือนจะหายแล้ว น่ารักมากจริงๆ "

“ ผู้หญิง ? “ คำพูดของมันที่กำลังบรรยายทำให้ผมเริ่มงง คำก็น่ารักสองคำก็น่ารัก แถมไอ้คำพูดที่บอกว่าหน้าตาเยียวยาจิตใจของคนได้อีก

“ ผู้ชายเว้ย ผู้หญิงบ้าอะไร "

“ ก็มึงพูดเหมือนเค้าเป็นผู้หญิง บรรยายซะเว่อร์ " ผมหลุดยิ้มออกมา " แล้วยังไงมึงจับเค้าเซ็นสัญญาแล้วใช่มั้ย "

“ ใช่ เป็นช่วงทดลองงานก็คือ ให้ลองพบลูกค้าก่อน ถ้าเกิดว่าผ่านได้สามคนก็จะถือเป็นพนักงาน "

“ ก็ขอให้ผ่านได้ก็แล้วกัน " เพราะส่วนใหญ่จะมาตายก็ตอนทำงานจริงๆนี่แหละ ในชีวิตจริงกับสิ่งที่เราสัมภาษณ์มันค่อนข้างแตกต่างกัน ความเป็นจริงลูกค้าบางคนก็ถึงกับร้องไห้ออกมา บางคนร้องเงียบๆ บางคนก็ร้องไห้โวยวาย หน้าที่ของเราก็คือทำให้เค้าสงบ แต่ก็ต้องทำให้เค้ารู้สึกดีกับการที่ได้รับคำปรึกษานั่นด้วย " แล้วมึงเขียนว่าเค้าถนัดให้ความปรึกษาเรื่องอะไร "

“ ความรัก " อีกคนตอบสั้นๆก่อนจะหัวเราะ " กูอยากจะไปเป็นลูกค้าเลยเนี้ย กูบอกตรงๆ ถ้ามึงเห็น มึงก็ต้องบอกว่าเค้าน่ารัก " ยกยิ้มขึ้นมากับคำพูดของเพื่อน ส่ายหน้าไป " เอาไว้เย็นนี้ กูนัดเค้าไว้มาถ่ายรูปกับมึงลงเว็บไซต์ ยังไงเย็นนี้เข้าบริษัทหน่อยนะ "

“ โอเค ยังไงไว้เจอกัน "

“ เดี๋ยวกูไปรับเค้าแล้ว จะตรงไปเลย "

“ ถึงขั้นต้องไปรับเลยเหรอวะ " ผมถามอีกคนก็หลุดหัวเราะ

“ นิดๆหน่อยๆ ปลาไม่ได้กิน ก็ขอให้ได้เชยชม " เสียงหัวเราะที่ดังตามมาก่อนที่สายนั้นจะถูกวางไป อยากจะเห็นนักพนักงานใหม่ที่ไอ้โทบอกว่าน่ารักนัก น่ารักหนา หน้าตาจะเป็นยังไง


............................................................................

แล้วตอนหน้า พี่เมษเห็นหน้าโฮสคนใหม่จะเป็นยังไงกันนะ  :ling3:
โปรดติดตามตอนต่อไป
จะว่าไป เมษลิปก็น่ารัก ดูมีอะไรดีเนอะ ลิปก็ซนนิดนึง ดื้อด้วย น่ารักกก #อวย ฮ่าๆ

ยังไงก็ฝากรี #ฟานคีย์ ด้วยนะคะ สำหรับคนมีทวิต
ฝากไลค์ ฝากแชร์ ในเพจหนมมี่ผู้ใสซื่อด้วย

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและ คอมเม้นท์ เจอกันตอนหน้าค่า  :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
เหย. หนูลิปใช่ไหมจ๊า. ตื่นเต้นอ่า อยากเห็นหน้าจัง อยากได้รับการเยียวยาบ้าง
ยัยมาเรียไปหว่านเงินของหล่อนไกลๆเลยไป
เงินซื้อชีวิตคนได้เหรอ ประสาทแล้วเจ๊

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด