ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง
ตอนที่ 30
' ผลการตรวจสุขภาพ '
“ อีกสองวันแล้ว " เสียงทุ้มที่พูดออกมาเบาๆ พลางขีดฆ่าวันบนปฎิทินแบบพับที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ ผมถอนหายใจออกมาตอนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดนั่นอยู่ในสายตามาตลอด ตั้งแต่บอกว่าผลตรวจจะได้อีกทีคือสองอาทิตย์หน้า ไอ้หมอนี่ก็ลงทุนไปซื้อปฎิทินตั้งโต๊ะแล้วมานั่งขีดวันนับมันทุกวันเหมือนว่ารอคอยมันอยู่อย่างใจจดจ่อ ทั้งๆที่ว่าวันนั้นไม่ได้ผลตรวจก็ยังมีอะไรกันเหมือนเดิมแท้ๆ แต่ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามันจะรอคอยอะไรขนาดนั้น
“ นี่ ถึงนายจะนับไปถ้าฉันได้ผลตรวจออกมาเป็นวันอังคารจริงๆ ฉันก็ไม่ให้นายทำอะไรกับฉันหรอกนะ "
“ ทำไมละครับ " สีหน้าเสียใจที่หันมาถาม ผมผ่อนลมหายใจออกมาอีกฝ่ายที่ยังคงไม่เข้าใจ " ทำไมคุณคีย์ถึงชอบแกล้งเด็กแบบนี้ "
“ นายพูดเหมือนนายตัวสูงสัก 140 แล้วฉันก็แย่งของเล่นนาย เพิ่งสามชวบรึไงไม่ทราบ "
“ ก็คุณพูดทำร้ายจิตใจคนรอคอย " มันต้องรอคอยอะไรวะ ปกติก็เอากันอยู่แล้วแค่ใส่ถุงยางก็เท่านั้น แล้วนี่จะเปลี่ยนจากใส่ถุงยางมาไม่ใส่ มันจะอะไรนักหนา
“ โถ่ เจ้าเด็กน้อยที่น่าสงสารของฉัน " เดินเข้าไปใกล้เค้าตอนที่ยกมือขึ้นลูบหัวแล้วเอนให้เข้ามาซบตรงอก อีกฝ่ายที่หันหน้ามาซบพลางงับเข้าที่ยอดอกของผมก่อนจะโดนฟาดเข้าไปที่หลังเสียเต็มแรง
“ โอ๊ย เจ็บนะครับ "
“ ไอ้หื่น ถูกเนื้อต้องตัวหน่อยไม่ได้เลยนะนาย " พอทำหน้าดุเข้าหน่อย ฟานก็ยิ้มแห้งๆออกมา ผมลุกกลับไปนั่งที่โต๊ะอาหารวันนี้เป็นผัดเส้นหมี่ดูน่ากินดีเหมือนกัน
“ ผมเองก็สอบเสร็จแล้วนะครับ ปิดเทอมแบบนี้ไม่มีอะไรทำมันน่าเบื่อนะ "
“ ก็ลองหาอะไรทำสิ " โชคดีจังเลยน้า เพราะเป็นมหาลัยยังมีช่วงปิดเทอมให้ได้พักผ่อนแล้วก็เที่ยวเล่น แต่พอเข้าสู่วัยทำงานแล้วแค่จะขอลาสักห้าวันกลับบ้านต่างจังหวัดก็จ้องตาเขม็งยิ่งกว่าไปฆ่าใครตายซะอีก ช่วงพักร้อนที่กว่าจะขอลางานได้สักทีต้องเล็งตั้งนานกว่าจะได้ ต้องเป็นช่วงที่คนลาไม่เยอะ แถมยังต้องไม่ติดกับวันลาของใคร " ทำงานพิเศษมั้ยละ "
“ ทำงานพิเศษเหรอครับ " อีกคนถาม
“ ก็อย่างเช่น สอนพิเศษเด็กม.ปลาย ไม่ก็ทำงานร้านกาแฟ ฉันว่าก็น่าสนใจนะ แต่ว่าปิดเทอมทั้งทีไม่พักผ่อนก่อนละ ไม่มีหนังหรือเรื่องที่อยากจะทำบ้างรึงไง " ผมถามอีกคนก็ทำท่าคิด
“ อยากไปเที่ยวต่างประเทศกับคุณคีย์ครับ "
“ ฉันไม่ได้ขอวันลาพักร้อนไว้ช่วงนี้น่ะสิ ต้องบอกก่อนนะ ถ้าจะไปน่ะ "
“ เหรอครับ " เสียงผิดหวังของเค้าก่อนจะก้มหน้าลงกินอาหารในจาน " งั้นผมก็ไม่มีอะไรที่อยากจะทำหรอก สิ่งที่ผมอยากจะทำ มันมีคุณอยู่ด้วยในนั้นทุกอย่างเลยนี่ ถ้าไม่มีคุณทำด้วยก็ไม่มีอะไรที่อยากจะทำแล้วละ "
“ ให้มันน้อยๆหน่อย ฉันเป็นหมีเน่าของนายรึไง ถึงได้ติดฉันขนาดนนั้นน่ะ ไม่ใช่ว่าต้องมีกิจกรรมร่วมกันทั้งหมดสักหน่อย "
“ แต่ว่ากิจกรรมบนเตียงเราต้องทำร่วมกันนะครับ " น้ำเสียงเจ้าเล่ห์ที่ส่งสายตากวนตีนมาให้ ผมจ้องหน้ามองอีกคนที่ถอนหายใจออกมา " ผมว่าจะหยุกพักสองอาทิตย์ครึ่งแล้วอาจจะหาร้านกาแฟ ไม่ก็สอนพิเศษเด็กอย่างที่คุณบอกแล้วกัน ไม่อยากจะอยู่ว่างๆ "
“ แต่เสาร์อาทิตย์นี้ว่าง หาอะไรทำกันมั้ยละ " ปิดเทอมทั้งทีละนะ สมัยตอนเป็นเด็กนอกจากจะนั่งๆนอนๆ ก็ช่วงเวลาที่พ่อแม่พาไปเที่ยวนี่แหละมีความสุขที่สุดเลย แม้มันจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆก็เถอะ แต่ว่านะ.. ที่กูกำลังทำตัวเป็นพ่อแม่ของแม่งอยู่รึเปล่าวะ
“ ไปชอปปิ้งกันมั้ยครับ วันอาทิตย์มันมีถนนคนเดินอยู่ "
“ ที่เคยไปกันครั้งก่อนน่ะเหรอ " ผมถามอีกคนก็ส่ายหน้า
“ ไม่ครับ หนนี้เราจะไปที่อื่น ผมดูรีวิวมา ของกินมันน่ากินมาก เราเที่ยวกันเถอะ "
“ ไว้ถึงวันแล้วจะบอก "
“ ไหนบอกว่า จะหาไรทำไงครับ พอบอกว่าออกไปเดินถนนคนเดินแล้วไหงเปลี่ยนอารมณ์ไปขนาดนั้นละ "
“ นายก็รู้ว่าฉันไม่ชอบที่ร้อนๆ ยังชวนออกไปตากแดดอยู่ได้ " ผมบ่นออกมาอีกคนก็หัวเราะ
“ คุณน่ะ ต้องรู้จักออกไปเจอแดดบ้างนะ ผิวจะได้ชินกับการโดนแดด คุณขาวไปแล้วนะจะบอกให้ "
“ ก็ฉันไม่ชอบให้เหงื่อออก เปลี่ยนไปเดินห้างธรรมดาไม่ได้รึไง " พูดออกไปแบบนั้นคนฟังก็หัวเราะ ผมเหลือบมองเวลาที่ใกล้เวลางานก่อนจะมองอาหารในจานที่ยังเหลืออีกครึ่ง " ตายแล้ว! มัวนั่งคุยกับนายสายเลย " รีบกินอาหารที่อู่ในจานในเสร็จ ยกน้ำขึ้นดื่มก่อนจะหยิบสตอเบอรี่ที่ตั้งอยู่ในตู้เย็นออกมากินลูกนึง คว้ากระเป๋าของตัวเอง ฟานที่รู้งานยืนขึ้นแล้วเดินเข้ามาใกล้ ผมที่เคี้ยวผมไม้รสเปรี้ยวอยู่เต็มปากในตอนนั้นดึงตัวเองเขย่งเท้าขึ้นจูบเค้าเสียเสียงดังก่อนจะยิ้ม " ฉันไปทำงานก่อนนะ เย็นนี้เจอกัน "
“ โชคดีครับคุณคีย์ "
นั่งรถไฟแบบที่เบียดเสียดกับผู้คนมาทำงานกันตามปกติ ตอนที่หลุดออกจากสถานีที่หมายผมผ่อนลมหายใจออกมาก่อนจะแปลกใจกับโทรศัพท์ที่มีสายเข้ามาตั้งแต่เช้า ยกมือถือขึ้นมาดู สายแปลกที่โทรเข้ามาผมขมวดคิ้วก่อนจะกดรับ
“ สวัสดีครับ "
“ สวัสดีค่ะ คุณคีย์ใช่มั้ยค่ะ โทรมาจากโรงพยาบาลนะคะ " ปลายสายที่ทำให้ผมพยักหน้ารับ
“ ครับ "
“ ผลตรวจของคุณออกมาแล้วค่ะ ถ้าสะดวกมารับก็เข้ามาได้เลยที่แผนกเดิม อย่าลืมนำใบรับผลตรวจมาด้วยนะคะ "
“ ครับ ขอบคุณครับ " วางสายจากทางโรงพยาบาลงผมหยุดยิ้มออกอย่างไม่รู้ว่าต้องรู้สึกยังไงดี เห็นทีวันอาทิตย์นี้คงมีกิจกรรมอื่นรับปิดเทอมให้ไอ้ลูกหมาตัวโตที่ห้องซะแล้วมั้ง
....................................................
“ จะว่าไป ผลตรวจที่นายไปตรวจวันก่อนยังไม่ได้รับผลอีกเหรอ " ลิปเอ่ยถามผมที่ตอนนั้นเรากำลังเดินลงไปหาแซนวิชกินข้างล่างเพื่อเป็นมื้อกลางวัน
“ ผลตรวจ ? "
“ อย่ามาทำเป็นลืมน่า ผมตรวจที่สองอาทิย์ก่อนนายบอกว่า นายไปตรวจสุขภาพมาเพราะปวดหัวไง " คำพูดที่อีกคนอธิบายออกมา จริงๆแล้วก็รู้แหละว่าเรื่องอะไรแต่ที่ประวิงเวลาทำเป็นไม่ใส่ใจเพราะคิดว่าอีกฝ่ายน่าจะลืมไปแล้วละ
“ อ๋อ จริงๆก็ออกมาแล้วละ "
“ เหรอ แล้วเป็นไง "
“ คือยังไงไม่รู้เลยเค้านัดให้ไปเอาวันนี้น่ะ "
“ ถามจริงๆเถอะ ที่ไปตรวจน่ะ ไปตรวจสุขภาพโรคทางเพศสัมพันธ์ใช่มั้ย " คำถามของอีกฝ่ายที่ทำให้ผมเบิกตากว้างออกมา ลิปก็หัวเราะ " ก็ถ้าแค่ปวดหัวมันไม่รอผลตรวจนานสองอาทิตย์หรอกน่า ไปตรวจตรงนั้นมาละสิ "
“ รู้ได้ไงน่ะ นายก็ตรวจเหรอ "
“ เห็นแบบนี้ ฉันก็รักตัวเองเหมือนกันนะ ฉันไปตรวจทุกปีแหละ " อีกคนว่าก่อนจะถอนหายใจออกมา " ก็นะ เรามันเป็นแบบนี้ก็ต้องรักตัวเองให้มาก สุขภาพเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด นายไปตรวจก็ดีแล้ว ว่าแต่คิดไงถึงไปตรวจล่ะ "
“ ก็.. “ จะบอกว่ายังไงดี ไปตรวจเพราะจะทำเรื่องแบบนั้นกับฟานน่ะเหรอ บ้าน่าใครจะพูด " แค่อยากไปตรวจอะ แบบว่าเหมือนต้องรักษาสุขภาพขึ้นมาซะแล้วละมั้ง ก็เลยตัดสินใจไป "
“ มีแฟนเด็กต้องมั่นตรวจเช็คร่างกายสินะ " ยกยิ้มออกมาตอนที่อีกคนพูดแบบนั้น เอาจริงๆคือที่ต้องหมั่นตรวจเช็คนี่คือเพราะกลัวมันจะชำรุดไปสักวันเพราะโดนไอ้แฟนเด็กบ้าพลังใส่ไม่หยุดใช่มั้ย
“ อ้าว น้องเนย์กินแซนวิชเหรอ "
“ อ้าวพี่ลิป พี่คีย์ ครับมากินแซนวิช " รุ่นน้องในออฟฟิศที่เดินมาซื้อแซนวิชในร้านที่ผมกำลังกินอยู่พอดี รอยยิ้มน่ารักที่ยิ้มมาให้อยู่ๆผมก็คิดถึงเรื่องราวที่เจอวันนั้นขึ้นมาได้พอดี
“ น่ารักจังน้า น้องเนย์น่ะ ตัวเล็กๆน่ารักมีลักยิ้มด้วย " ลิปพูดเสียงเบาๆ ตอนที่มองดูอีกคนที่กำลังซื้อแซนวิชอยู่ที่หน้าร้าน " น้องเนย์กินด้วยกันสิ "
“ ขอบคุณที่ชวนครับรุ่นพี่แต่ว่าผมต้องออกไปกินกับเพื่อนน่ะ " ผมมองดูแซนวิชที่อยู่ในถุงสองชิ้นของเค้าก่อนจะพยักรับ
“ อ๋อ อย่างงั้นเหรอ งั้นไว้โอกาสหน้านะ "
“ ครับ " ร่างเล็กที่เดินออกไปผมที่มองตามอีกคน ก่อนจะหันมาพูดกับลิปนั่งข้างๆ
“ ลิป สองอาทิตย์ก่อนฉันเห็นน้องเนย์ขึ้นรถหัวหน้าที่ห้างใกล้ๆตึกทำงานไปกินข้าวตอนพักเที่ยงด้วยแหละ "
“ อะไรนะ ? มองผิดเปล่า หัวหน้าจะมากินข้าวกับน้องเนย์ได้ไง "
“ ไม่รู้สิ แต่ฉันมองไม่ผิดนะ มั่นใจว่าใช่เค้าแน่ๆ "
“ นายมั่นใจได้ยังไง " คำถามที่ทำให้ผมต้องถอนหายใจออกมา
“ ลิปฉันชอบหัวหน้ามาตั้งนาน ฉันน่ะรู้เรื่องของเค้าตั้งเยอะ ฉันจำสีของรถ ยี่ห้อรถก็เคยค้นว่ารูปแบบภายในมันเป็นยังไง จำได้ว่าป้ายทะเบียนอะไรด้วยซ้ำ เรื่องของคนที่ชอบใครๆก็ใส่ใจทั้งนั้นจะจำผิดได้ไง "
“ รักที่เริ่มจากร้อยนี่มัน..สุดยอดจริงๆ " อีกคนว่าก่อนจะเอียงหน้าสงสัย " แล้วแบบนั้นน้องเค้าจะไปกับหัวหน้าทำไมอะ หรือว่า..จะแอบกินกันอยู่ "
“ ไม่รู้สิ "
“ หัวหน้าเนี้ยเป็นผู้ชายที่แปลกจังนะ " อีกคนบอกก่อนจะยิ้มออกมา " เค้าดูเหมือน คนที่ใส่หน้ากากสีขาวน่ะ ดูไม่รู้เลยว่าข้างในจริงๆคิดอะไรอยู่ เค้าเหมือนน้ำทะเลใสๆ ที่ยากจะหยั่งดูว่าลึกขนาดไหน กะด้วยสายตาภายนอกก็คิดว่าคงดี คงไม่จม แต่พอหย่นเท้าลงไปแล้วกลับทำให้เราจมลงไปด้วยความลึกของมัน ฉันว่าเค้าเป็นคนแบบนั้นเลย น่ากลัว "
“ ฉันก็คิดอย่างงั้น แต่คนบางคนก็หลงใหลกับความอันตรายนะ รู้ทั้งรู้ว่าเสี่ยงยังกล้าเข้าไปเลย คนบางคนอะ " จ้องหน้าคนบางคนที่ตรงหน้าที่กล่าวถึง ลิปถอนหายใจออกมาก่อนจะย่นหน้าแล้วยกกำปั้นคล้ายจะต่อยผม
“ เดี๋ยวเถอะนาย! ว่าฉันเหรอ "
“ ยังไม่ได้เอ่ยชื่อสักหน่อย "
“ เดี๋ยวฉันเลิกหลงใหลในอันตรายแล้วมาตีท้ายครัวนายเป็นไง ฟานจะได้เป็นของฉัน "
“ ได้ไม่ง่ายหรอกจ้า จะบอกให้ " หัวเราะออกมาด้วยความชอบใจไม่รู้เดี๋ยวพอเย็นนี้เจอกัน จะยื่นซองตรวจให้เค้ายังไงดี หรือว่าจะยังไม่ยื่นก่อน หรือว่าให้เลยดี ตื่นเต้นชะมัดทั้งๆที่เรื่องแบบนั้นไม่ใช่เรื่องทำกันครั้งแรกสักหน่อย
เลื่อนเก้าอี้เก็บเข้าที่โต๊ะทำงานมองดูนาฬิกาที่เลยเวลาเลิกงานมานิดหน่อย หันไปบอกลาเพื่อนตัวเองที่นั่งอยู่ข้างๆลิปยิ้มก่อนจะโบกมือลาผมเพราะตัวเค้าต้องรอแฟนมารับช่วงสองทุ่มก็เลยมีเวลาทำงานรับโอทีอีกสักหน่อย ส่วนผมเองก็ต้องไปเอาผลตรวจที่โรงพยาบาล " ไม่รู้จะเป็นยังไงบ้างนะ " ตอนที่เผลอพูดออกมาแบบนั้น มือมันก็โบกเรียกแท็กซี่ที่ขับผ่านไปยังโรงพยาบาลเอกชนที่เคยไปตรวจไว้
“ มารับผลตรวจครับ " ผลแจ้งพนักงานที่เค้าเตอร์ตรงชั้นที่มาตรวจ เธอรับกระดาษจากมือผมก่อนจะหันหลังไปหยิบเอกสารใส่ซองสีขาวมาให้ เปิดกระดาษออกมาดูเนื้อหามากมายที่ไม่เข้าใจเธอก็อธิบายอย่างละเอียด สรุปว่าเป็นผู้ชายอายุ 25 ที่ยังสุขภาพดีไม่มีโรคร้าย ไม่ได้เป็นมะเร็ง ก็ได้แต่ถอนหายใจโล่งอกออกมา
“ แนะนำว่าให้มาตรวจทุกหกเดือน หรือหนึ่งปีนะคะ " คำพูดกระชับของเธอผมพยักหน้ารับก่อนที่เธอก็ยิ้มกลับมาให้
“ ขอบคุณมากครับ " เดินออกจากโรงพยาบาลเดินเท้าออกมาไกลสักหน่อยกว่าจะถึงทางขึ้นรถไฟ เพราะไม่อยากจะเรียกแท็กซี่แล้วในสภาวะรถติดแบบนี้ นั่งไปก็ติดอยู่ในรถนั่นแหละเปลืองเงินเสียเปล่าๆ เดินดีกว่าถึงเร็วกว่าด้วย
กดกริ่งหน้าบ้านของตัวเอง ประตูที่เปิดออกเผยโฉมคนอยู่บ้านที่คงจะเอาแต่นอนทั้งวันด้วยสีหน้ามึนๆอึนๆของคนที่เพิ่งตื่น หัวยุ่งๆที่ยิ้มให้ผมก่อนจะถาม " กลับมาแล้วเหรอครับ "
“ ยังมั้ง นายคงฝันอะ " เดินเข้ามาในห้องถอดรองเท้าก่อนจะตั้งกระเป๋าไว้บนโต๊ะแล้วเดินไปหาอะไรเย็นๆมากิน ผมหยิบแก้วเปล่าตอนที่รินน้ำผลไม้ลงไปครึ่งแก้วอีกคนก็เดินมากอดไว้จากด้านหลัง ร่างสูงที่กำลังงัวเงียซบลงตรงไหล่ผมก่อนจะถอนหายใจ " ถ้าจะหลับก็ไปหลับดีๆ นายจะมากอดฉันทำไมเล่า "
“ คิดถึงอะ อยู่บ้านคนเดียวไม่มีคุณมันน่าเบื่อนะครับ "
“ ทำงานบ้านไปสิ นายชอบไม่ใช่เหรอ " ผมบอกอีกคนก็ถอนหายใจ
“ ผมทำจนครบทุกอย่างแล้วครับ วันนี้เอาเสื้อผ้าคุณไปส่งซักแล้วด้วย ทำจนไม่มีอะไรแล้วครับ "
“ หางานทำสิ จะได้ไม่เบื่อ "
“ อีกใจก็อยากจะหา แต่อีกใจก็อยากจะพัก สับสนมากคิดไม่ออก " หลุดยิ้มออกมาตอนที่วางแก้วในอ่างว่างๆ เปิดน้ำแล้วเขย่าแก้วไปมาก่อนจะหันไปหาอีกคน สบสายตาที่ก้มลงมาจูบผมอย่างรู้หน้าที่
“ เรื่องมาก "
ครืน ครืน ครืน เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นเราสองคนหันไปมองต้นเสียงพร้อมกัน ฟานที่ดึงตัวเองออกเดินไปที่กระเป๋าผมก่อนจะเปิดกระเป๋าแล้วคว้าเอาโทรศัพท์ออกมาให้ " คุณลิปโทรมานะครับ "
“ เหรอ " เดินไปหยิบมือถือมารับ ตอนที่หันหลังแล้วกดรับสาย ฟานยังคงสงสัยกับอะไรบางอย่างในกระเป๋าผมแต่ตอนนั้นผมเอง็้ยังไม่ได้เอะใจอะไร " ว่าไงลิป "
“ นายลืมปิดคอมนะคีย์ "
“ ห๊า ? จริงเหรอ "
“ อื้ม ไฟมันกระพริบน่ะฉันเลยเปิดดู นายจะเซฟงานที่ทำไว้ในไหน ฉันจะได้เซฟให้ถูก " ผมกำลังคิดว่างานที่ตัวเองทำไว้คืองานอะไรแต่ก็ดันลืมไปแล้ว
“ ที่หน้าจอแล้วกัน "
“ โอเค เซฟละ "
“ ขอบคุณมากนะ " ผมบอกอีกคนก็ตอบกลับแค่ว่าไม่เป็นไรแล้วก็วางสาย ผ่อนลมหายใจออกมากับความชี้ลืมของตัวเองก่อนจะหันกลับมาพูดกับฟาน แต่ทว่าตัวผมเองต้องเป็นฝ่ายที่นิ่งไป " นี่ฟานฉันน่ะ..”
“ คุณคีย์ " ซองจดหมายสีขาวที่อีกคนถือด้วยสองมือแล้วชูขึ้นที่หน้า ผ่อนลมหายใจออกมาก่อนจะมีคำพูดนึงที่ดังออกมาจากในสมอง ' ชิบหายแล้วมึง ' “ คุณได้ผลตรวจมาแล้ว "
“ ก็อื้มม " พยักหน้ารับก่อนจะเบือนหน้าหนีท่าทางดีใจของเค้าที่ยิ้มกว้างออกมาจนแทบจะกระโดดดีใจ " นี่ช่วยทำหน้าให้มันปกติจะได้มั้ย ดีใจอะไรนักหนาละ "
“ ก็มันดีใจนี่ครับ ผมน่ะ "
“ ถอยออกไปเลยเว้ย ไม่ต้องเข้ามาใกล้ " เดินถอยหลังจนชนเค้าเตอร์ที่ห้องครัวอีกคนก็ยังเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ แขนหนาที่กอดเอวผมก่อนจะดึงเข้าไปใกล้
“ ซองนี้นะ ให้ผมนะ "
“ ก็เอาไปสิ " พูดออกมาเสียงเบาๆ เค้าที่ปล่อยมือจากตัวผมก่อนจะเปิดมันออกมาดู
“ คุณสุขภาพดีจัง "
“ แน่นอน ฉันยังแข็งแรงอยู่แล้ว " ยักไหล่ไหวๆร่างสูงที่เข้ามาใกล้กอดเอวผมไว้ก่อนจะก้มลงมาจ้องหน้า " อะไร "
“ ถ้างั้นคืนนี้ เรามา "
“ ไม่ "
“ ทำไมละครับ "
“ นายอย่าทำเสียงเศร้าได้มั้ย มันฟังแล้วหงุดหงิดเว้ย "
“ ก็คุณทำร้ายความรู้สึกของเด็กที่กำลังรอคอยอีกแล้ว " อยากจะคว้าหัวมันแล้วทุ่มเข้ากับกำแพงจริงๆ ไอ้เด็กร้ายกาจพอเวลาโดนขัดใจก็อ้างบอกว่าตัวเองเป็นเด็กน้อย ไหนใครบอกอยากจะเป็นผู้ใหญ่กัน หมั่นไส้เว้ย “ คุณไม่อยากจะใกล้ชิดผมเหรอ " เสียงทุ้มที่ถามก่อนจะเอียงหน้ามาหอมแก้มอ้อนๆ ผมผ่อนลมหายใจเบาๆ ต้องหักจิตหักใจนะคีย์ นายจะตามใจไอ้หมอนี่มากเกินไปแล้ว " คุณคีย์ครับ " ฟานที่ยังคงเรียก เค้าหันมาหอมแก้มอ้อนๆอีกข้าง
“ ไม่ ฟาน "
“ คุณคีย์ " เสียงอ้อนๆที่เหมือนกำลังร้องไห้ เผลอดันไปสบสายตาที่กำลังอ้อนนั่นอีก " นะครับ "
“ ไม่ " หนักแน่นเข้าไว้คีย์ ต้องหนักแน่น
“ คุณคีย์ครับ นะ " เอียงหน้าอ้อนอีก เอาเข้าไป
“ มะ ไม่ " ทำไมเสียงเริ่มสั่น
“ คุณคีย์ครับ นะครับนะ "
“ ไม่ใช่ตอนนี้ นายหลบ ฉันจะไปอาบน้ำ " สองแขนที่คว้าตัวผมเข้าไปกอด เค้าที่หอมแก้มผมไปเสียเต็มฟอดก่อนจะร้องเสียงลั่นออกมาด้วยความดีใจ ในที่สุด หินผาก็ต้องพังทลายลงมากับลูกอ้อนของไอ้ลูกหมาหน้าหล่อที่ทำให้จิตใจต้องแพ้แบบย่อยยับ “ ช่วยทำเศร้าแบบเดิมจะได้มั้ย น่าหมั่นไส้เกินไปละ "
“ ก็ผมดีใจ "
“ ดีใจอะไรปัญญาอ่อน ฉันไม่เคยมีอะไรกับนายรึไง ไร้สาระ "
“ น่าดีใจจะตายครับ คุณจะให้ผมทำเป็นคนแรกไม่ใช่เหรอ การที่ได้เป็นคนแรกของคุณผมสมควรดีใจไม่ใช่เหรอครับ " รอยยิ้มมีความสุขของเค้าก้มลงมาจูบริมฝีปากของผมก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ แล้วปล่อยให้ผมยืนหัวใจเต้นแรงโครมครามอยู่ตรงนี้ เป็นครั้งแรกเลยละมั้ง ที่รู้สึกเห็นความสำคัญของครั้งแรกในเรื่องแบบนี้ ความสำคัญของครั้งแรกกับคนสำคัญคนแรก
จะว่าไป .. ก็น่าตื่นเต้นชะมัดเลย
อาบน้ำหลังจากฟานอาบเสร็จผมถูสบู่ทำความสะอาดร่างกายครั้งใหญ่ของตัวเองอย่างที่ต้องทำทุกครั้งก่อนจะมีเซ็กส์ยิ่งครั้งนี้ก็ยิ่งต้องสะอาด เดินออกจากห้องน้ำ เช็ดตัวจนแห้งแล้วมายืนเลือกชุดนอนสักตัวอยู่หน้าตู้ เป็นครั้งแรกที่ลังเลกับการใส่อะไรดี ทั้งๆที่มันก็แค่ชุดนอนที่ต้องถูกถอดออกอยู่แล้ว " เสื้อเชิ้ตละกันให้ความสำคัญกับคนที่กำลังตื่นเต้นหน่อย "
“ จะฆ่ากันตั้งแต่ชุดเลยใช่มั้ยครับ " คำถามของคนที่นั่งดูทีวีอยู่บนเตียงหันมาถามผม ยกยิ้มออกมาก็แค่เสื้อเขิ้ตตัวสั้นที่ไม่ใส่ชั้นในอะไรเลย ผมเดินเข้าไปใกล้ อีกฝ่ายก็ดึงให้ผมเข้าไปนั่งที่ตัก บรรยากาศโรติกแมนที่แสนยั่วยวนไม่มีอะไรจะวิเศษไปมากกว่านี้อีกแล้ว เอื้อมมือไปกอดคอเค้าไว้ก้มหน้าลงไปใกล้ไม่ได้พูดอะไรอีกฝ่ายก็เริ่มจูบที่ริมฝีปากสอดเกลียวลิ้นแลกจูบดูดดื่มมือหนาที่กอดเอวเลื่อนตัวเองลงต่ำมาที่ชายเสื้อสั้นๆ ไล้มือเข้าไปด้านในลูบไล้เรือนร่างของผมก่อนจะผละริมฝีปากที่กำลังจูบกันเอียงมาหอมแก้มแล้วย้ายลงต่ำมาที่ยอดอก จูบผ่านเสื้อตัวบางที่ใส่วาบวามจนทำได้แต่แอ่นตัวรับลิ้นร้อนๆที่ซึมเข้ามา
กระดุมเสื้อถูกปลดออก สาบเสื้อที่ถูกดึงเข้ามาจูบผิวกายของผมไปทั่วก่อนจะใช้ลิ้นละเลงไปทั่วบริเวนของยอดอกนั้น ขบเม้มมันเบาๆด้วยริมฝีปากก่อนจะดึงแล้วกัดมันด้วยฟันคมๆจนต้องสะดุ้ง เสื้อถูกถอดออกไป เค้าดันตัวผมให้ลงมานอนบนเตียงกว้างจูบจากอกไล้ลงมาถึงหน้าท้องที่หดเกร็ง มือหนาจับส่วนกลางจูบที่หัวผมก็ได้แต่หดตัวเสียว " ฟาน " เสียงเบาๆที่เรียกเค้าไว้ก่อนจะถูกพลิกร่างให้อยู่ในท่าคลานเค้าปลดกางเกงของเค้าออกเอาส่วนกลางมาถูเบาๆตรงช่องทางหลังที่ตอดถี่ด้วยความต้องการ เอื้อมมือมาคว้าส่วนกลางของผมไว้เค้าขยับมันเข้าออกเป็นการสัมผัสสองทางอีกแล้ว " อ๊า ฟาน ท่านี้มัน "
“ คุณชอบมั้ยครับ คืนนี้ร้องให้สุดเสียงไปเลยนะ ผมอยากจะได้ยินเสียงคุณ "
“ อื้อ " ตอบความต้องการของเค้า ตอนที่นิ้วเย็นถูกสอดเข้ามาในร่างเค้าย้ำกับจุดกระสันจนทำได้แต่กัดริมฝีปากล่างจนแน่น แรงสอดส่วนหลังกับแรงขยับส่วนหน้าค่อยๆเคลื่อนไหวด้วยความรู้สึกเชื่องช้าแต่นั่นที่ทำให้ความต้องการยิ่งทรมานมากขึ้น " ตรงนั้นฟาน อื้อ "
แอ่นก้นรับนิ้วที่กระแทรกลงมารู้สึกดีจนไม่อายที่จะทำอะไรแบบตามอำเภอใจแบบนั้น ความต้องการที่อีกฝ่ายสอดนิ้วออกมา ก่อนจะแทนที่ด้วยสวยกลางอุ่นๆที่สอดเข้ามาในร่างช้าๆ ผ่อนช่องทางหลังหลับตารับความรู้สึกที่ได้ทำอะไรแบบนี้เป็นครั้งแรก ส่วนกลางที่สอดเข้ามาจนสุดเค้าที่เริ่มขยับทุกอย่างช่างแตกต่างจากทุกครั้งที่เคยเป็น มันทั้งอุ่นและรู้สึกได้ถึงแสงสอดใส่ที่ชัดเจน ผมกำผ้าปูเตียงแน่นรับแรงสอดจังหวะช้าๆที่ค่อยๆขยับเข้าออก " ฟานแรงอีกสิ " คำพูดเอาแต่ใจที่อีกคนเริ่มขยับร่างเร็วขึ้น
มือหนาเอื้อมมาหัวนมของผมบิดขยี้มันพร้อมกับเร่งจังหวะมากขึ้นไปอีก เสียงเนื้อกระทบร่างผมอ้าปากค้างครางเสียงเบาๆตอนที่เค้าปล่อยมือจากยอดอกแล้วจับเอวผมไว้มั่น กระแทกส่วนกลางเข้ามาแรงมากขึ้นจนช่องหลังที่ถูกสอดเริ่มร้อนขึ้นตามแรง ร่างสั่นไปตามแรงสอดใส่ที่หนักหน่วง ผมผมเม้นริมฝีปากแต่ก็ทนไม่ไหวในความต้องการที่ต้องผ่อนหายใจออกมาแล้ว ครางออกมาจนดังลั่น " อ๊าาา ฟาน อ๊าห์ " แรงน้ำที่ฉีดเข้ามาในร่าง เป็นครั้งแรกที่รู้สึกดีขนาดนี้ทั้งของตัวเองที่ปลดปล่อยแต่น้ำที่ฉีดเข้ามาในร่างก็โดนจุดกระสันเสียเต็มแรง ผมล้มตัวลงนอนกับเตียงหอบหายใจเพราะมือที่หมดแรงค้ำ ส่วนกลางที่ถูกปลดออก คราบคาวพวกนั้นก็ไหลซึมออกมาจากช่องทางหลัง
“ คุณคีย์ " ร่างสูงล้มตัวลงมาจูบที่แก้มเค้าที่กอดผมไว้ ก่อนจะเริ่มจูบอีกครั้งแล้วหันไปกระซิบข้างแก้ม " ขอบคุณครับที่ให้ผมเป็นคนแรก " เอื้อมมือไปจับหน้าเค้าสบสายตาที่กำลังมีความสุข เผลอยิ้มออกมาจางๆผมพยักหน้ารับคำพูดของเค้าก่อนจะพลิกตัวนอนหงายเพราะรู้ดีว่ามันไม่ได้สิ้นสุดแค่รอบนี้ ขาที่ถูกดึงให้ฉีกออก เค้ายกร่างผมขึ้นมาค่อมส่วนกลางเอาไว้ สอดมือเข้าไปใต้ขาก่อนจะบรรเลงบทรักอีกครั้ง
“ อาทิตย์นี้ไปเที่ยวไหนกันดี อื้มม " ผมถามเค้าตอนที่ร่างกายถูกขยับให้สอดใส่กับส่วนกลาง มือที่กอดรอบคอของเค้าไว้จูบที่ดูดดื่มของเรา
“ อาทิตย์นี้เหรอครับ "
“ นายบอกว่าอยากจะไปเที่ยวถนนคนเดิน "
“ ผมเปลี่ยนใจแล้วละ ผมจะอยู่กับคุณแล้วทำกิจกรรมนี้สองวันติดเลย " ขมวดคิ้วก่อนจะยิ้มมองเค้าที่ก้มลงจูบยอดอกของผม สองแขนที่เอื้อมไปกอดคอเค้า ร่างกายที่ขยับขึ้นลงอยู่บนตัว
“ เอาแต่ใจกับร่างกายฉันอีกแล้ว "
“ ก็มันเป็นของผมทั้งหมดนิ " ใช่..แล้วฉันก็ยอมให้นายเป็นเจ้าของมันซะด้วย
...............................................
มีอะไรจะบอก หลังจากนี้ คิดว่าหลังจากนี้ เนื้อเรื่องจะเริ่มเข้มข้นค่ะ
ยังไงฝากติดตาม แล้วห้ามทิ้งกันไปไหนนะคะ
ใครมีทวิต ฝากแท็ก #ฟานคีย์ ในมีเฟส ฝากแชร์ด้วยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์ค่ะ