ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง{ตอนพิเศษที่ 2 UP - 10.2.60}หน้า 42 (จบเรื่อง+รวมเล่ม)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง{ตอนพิเศษที่ 2 UP - 10.2.60}หน้า 42 (จบเรื่อง+รวมเล่ม)  (อ่าน 323536 ครั้ง)

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
น่ารัก ยังไงก็ต้องยอมจนได้นะคีย์
แต่ถึงจะยังไม่ได้ผลตรวจ แต่ก็ต้องเจอฟานจัดหนักอยู่ดี 5555

คีย์น่ารัก ปากแข็งไม่เลิก แต่พอโดนอ้อนหน่อย ยอมเลยนะ
ฟานก็ทำดีค่ะ ต้องหงอยเข้าไว้ 5555

เค้าน่ารักกันดีเนาะ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
คุณคีย์ในโหมดอ้อนรึเปล่าเนี่ย

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
น่ารัก น่าหมั่นใส้ ..

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4

ออฟไลน์ loyal_mook

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ชอบเรื่องนี้จัง  :o8:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
แหม คู่นี้น่ารักจัง

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง
ตอนที่ 30
' ผลการตรวจสุขภาพ '

“ อีกสองวันแล้ว " เสียงทุ้มที่พูดออกมาเบาๆ พลางขีดฆ่าวันบนปฎิทินแบบพับที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ ผมถอนหายใจออกมาตอนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดนั่นอยู่ในสายตามาตลอด ตั้งแต่บอกว่าผลตรวจจะได้อีกทีคือสองอาทิตย์หน้า ไอ้หมอนี่ก็ลงทุนไปซื้อปฎิทินตั้งโต๊ะแล้วมานั่งขีดวันนับมันทุกวันเหมือนว่ารอคอยมันอยู่อย่างใจจดจ่อ ทั้งๆที่ว่าวันนั้นไม่ได้ผลตรวจก็ยังมีอะไรกันเหมือนเดิมแท้ๆ แต่ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามันจะรอคอยอะไรขนาดนั้น

“ นี่ ถึงนายจะนับไปถ้าฉันได้ผลตรวจออกมาเป็นวันอังคารจริงๆ ฉันก็ไม่ให้นายทำอะไรกับฉันหรอกนะ "

“ ทำไมละครับ " สีหน้าเสียใจที่หันมาถาม ผมผ่อนลมหายใจออกมาอีกฝ่ายที่ยังคงไม่เข้าใจ " ทำไมคุณคีย์ถึงชอบแกล้งเด็กแบบนี้ "

“ นายพูดเหมือนนายตัวสูงสัก 140 แล้วฉันก็แย่งของเล่นนาย เพิ่งสามชวบรึไงไม่ทราบ "

“ ก็คุณพูดทำร้ายจิตใจคนรอคอย " มันต้องรอคอยอะไรวะ ปกติก็เอากันอยู่แล้วแค่ใส่ถุงยางก็เท่านั้น แล้วนี่จะเปลี่ยนจากใส่ถุงยางมาไม่ใส่ มันจะอะไรนักหนา

“ โถ่ เจ้าเด็กน้อยที่น่าสงสารของฉัน " เดินเข้าไปใกล้เค้าตอนที่ยกมือขึ้นลูบหัวแล้วเอนให้เข้ามาซบตรงอก อีกฝ่ายที่หันหน้ามาซบพลางงับเข้าที่ยอดอกของผมก่อนจะโดนฟาดเข้าไปที่หลังเสียเต็มแรง

“ โอ๊ย เจ็บนะครับ "

“ ไอ้หื่น ถูกเนื้อต้องตัวหน่อยไม่ได้เลยนะนาย " พอทำหน้าดุเข้าหน่อย ฟานก็ยิ้มแห้งๆออกมา ผมลุกกลับไปนั่งที่โต๊ะอาหารวันนี้เป็นผัดเส้นหมี่ดูน่ากินดีเหมือนกัน

“ ผมเองก็สอบเสร็จแล้วนะครับ ปิดเทอมแบบนี้ไม่มีอะไรทำมันน่าเบื่อนะ "

“ ก็ลองหาอะไรทำสิ " โชคดีจังเลยน้า เพราะเป็นมหาลัยยังมีช่วงปิดเทอมให้ได้พักผ่อนแล้วก็เที่ยวเล่น แต่พอเข้าสู่วัยทำงานแล้วแค่จะขอลาสักห้าวันกลับบ้านต่างจังหวัดก็จ้องตาเขม็งยิ่งกว่าไปฆ่าใครตายซะอีก ช่วงพักร้อนที่กว่าจะขอลางานได้สักทีต้องเล็งตั้งนานกว่าจะได้ ต้องเป็นช่วงที่คนลาไม่เยอะ แถมยังต้องไม่ติดกับวันลาของใคร " ทำงานพิเศษมั้ยละ "

“ ทำงานพิเศษเหรอครับ " อีกคนถาม

“ ก็อย่างเช่น สอนพิเศษเด็กม.ปลาย ไม่ก็ทำงานร้านกาแฟ ฉันว่าก็น่าสนใจนะ  แต่ว่าปิดเทอมทั้งทีไม่พักผ่อนก่อนละ ไม่มีหนังหรือเรื่องที่อยากจะทำบ้างรึงไง " ผมถามอีกคนก็ทำท่าคิด

“ อยากไปเที่ยวต่างประเทศกับคุณคีย์ครับ "

“ ฉันไม่ได้ขอวันลาพักร้อนไว้ช่วงนี้น่ะสิ ต้องบอกก่อนนะ ถ้าจะไปน่ะ "

“ เหรอครับ " เสียงผิดหวังของเค้าก่อนจะก้มหน้าลงกินอาหารในจาน " งั้นผมก็ไม่มีอะไรที่อยากจะทำหรอก สิ่งที่ผมอยากจะทำ มันมีคุณอยู่ด้วยในนั้นทุกอย่างเลยนี่ ถ้าไม่มีคุณทำด้วยก็ไม่มีอะไรที่อยากจะทำแล้วละ "

“ ให้มันน้อยๆหน่อย ฉันเป็นหมีเน่าของนายรึไง ถึงได้ติดฉันขนาดนนั้นน่ะ ไม่ใช่ว่าต้องมีกิจกรรมร่วมกันทั้งหมดสักหน่อย "

“ แต่ว่ากิจกรรมบนเตียงเราต้องทำร่วมกันนะครับ " น้ำเสียงเจ้าเล่ห์ที่ส่งสายตากวนตีนมาให้ ผมจ้องหน้ามองอีกคนที่ถอนหายใจออกมา " ผมว่าจะหยุกพักสองอาทิตย์ครึ่งแล้วอาจจะหาร้านกาแฟ ไม่ก็สอนพิเศษเด็กอย่างที่คุณบอกแล้วกัน ไม่อยากจะอยู่ว่างๆ "

“ แต่เสาร์อาทิตย์นี้ว่าง หาอะไรทำกันมั้ยละ " ปิดเทอมทั้งทีละนะ สมัยตอนเป็นเด็กนอกจากจะนั่งๆนอนๆ ก็ช่วงเวลาที่พ่อแม่พาไปเที่ยวนี่แหละมีความสุขที่สุดเลย แม้มันจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆก็เถอะ แต่ว่านะ.. ที่กูกำลังทำตัวเป็นพ่อแม่ของแม่งอยู่รึเปล่าวะ
 
“ ไปชอปปิ้งกันมั้ยครับ วันอาทิตย์มันมีถนนคนเดินอยู่ "

“ ที่เคยไปกันครั้งก่อนน่ะเหรอ " ผมถามอีกคนก็ส่ายหน้า

“ ไม่ครับ หนนี้เราจะไปที่อื่น ผมดูรีวิวมา ของกินมันน่ากินมาก เราเที่ยวกันเถอะ "

“ ไว้ถึงวันแล้วจะบอก "

“ ไหนบอกว่า จะหาไรทำไงครับ พอบอกว่าออกไปเดินถนนคนเดินแล้วไหงเปลี่ยนอารมณ์ไปขนาดนั้นละ "

“ นายก็รู้ว่าฉันไม่ชอบที่ร้อนๆ ยังชวนออกไปตากแดดอยู่ได้ " ผมบ่นออกมาอีกคนก็หัวเราะ

“ คุณน่ะ ต้องรู้จักออกไปเจอแดดบ้างนะ ผิวจะได้ชินกับการโดนแดด คุณขาวไปแล้วนะจะบอกให้ "

“ ก็ฉันไม่ชอบให้เหงื่อออก เปลี่ยนไปเดินห้างธรรมดาไม่ได้รึไง " พูดออกไปแบบนั้นคนฟังก็หัวเราะ ผมเหลือบมองเวลาที่ใกล้เวลางานก่อนจะมองอาหารในจานที่ยังเหลืออีกครึ่ง " ตายแล้ว!  มัวนั่งคุยกับนายสายเลย " รีบกินอาหารที่อู่ในจานในเสร็จ ยกน้ำขึ้นดื่มก่อนจะหยิบสตอเบอรี่ที่ตั้งอยู่ในตู้เย็นออกมากินลูกนึง คว้ากระเป๋าของตัวเอง ฟานที่รู้งานยืนขึ้นแล้วเดินเข้ามาใกล้ ผมที่เคี้ยวผมไม้รสเปรี้ยวอยู่เต็มปากในตอนนั้นดึงตัวเองเขย่งเท้าขึ้นจูบเค้าเสียเสียงดังก่อนจะยิ้ม " ฉันไปทำงานก่อนนะ เย็นนี้เจอกัน "

“ โชคดีครับคุณคีย์ "

   นั่งรถไฟแบบที่เบียดเสียดกับผู้คนมาทำงานกันตามปกติ ตอนที่หลุดออกจากสถานีที่หมายผมผ่อนลมหายใจออกมาก่อนจะแปลกใจกับโทรศัพท์ที่มีสายเข้ามาตั้งแต่เช้า ยกมือถือขึ้นมาดู สายแปลกที่โทรเข้ามาผมขมวดคิ้วก่อนจะกดรับ

“ สวัสดีครับ "

“ สวัสดีค่ะ คุณคีย์ใช่มั้ยค่ะ โทรมาจากโรงพยาบาลนะคะ " ปลายสายที่ทำให้ผมพยักหน้ารับ

“ ครับ "

“ ผลตรวจของคุณออกมาแล้วค่ะ ถ้าสะดวกมารับก็เข้ามาได้เลยที่แผนกเดิม อย่าลืมนำใบรับผลตรวจมาด้วยนะคะ "

“ ครับ ขอบคุณครับ " วางสายจากทางโรงพยาบาลงผมหยุดยิ้มออกอย่างไม่รู้ว่าต้องรู้สึกยังไงดี เห็นทีวันอาทิตย์นี้คงมีกิจกรรมอื่นรับปิดเทอมให้ไอ้ลูกหมาตัวโตที่ห้องซะแล้วมั้ง

   ....................................................


“ จะว่าไป ผลตรวจที่นายไปตรวจวันก่อนยังไม่ได้รับผลอีกเหรอ " ลิปเอ่ยถามผมที่ตอนนั้นเรากำลังเดินลงไปหาแซนวิชกินข้างล่างเพื่อเป็นมื้อกลางวัน

“ ผลตรวจ ? "

“ อย่ามาทำเป็นลืมน่า ผมตรวจที่สองอาทิย์ก่อนนายบอกว่า นายไปตรวจสุขภาพมาเพราะปวดหัวไง " คำพูดที่อีกคนอธิบายออกมา จริงๆแล้วก็รู้แหละว่าเรื่องอะไรแต่ที่ประวิงเวลาทำเป็นไม่ใส่ใจเพราะคิดว่าอีกฝ่ายน่าจะลืมไปแล้วละ

“ อ๋อ จริงๆก็ออกมาแล้วละ "

“ เหรอ แล้วเป็นไง "

“ คือยังไงไม่รู้เลยเค้านัดให้ไปเอาวันนี้น่ะ "

“ ถามจริงๆเถอะ ที่ไปตรวจน่ะ ไปตรวจสุขภาพโรคทางเพศสัมพันธ์ใช่มั้ย " คำถามของอีกฝ่ายที่ทำให้ผมเบิกตากว้างออกมา ลิปก็หัวเราะ " ก็ถ้าแค่ปวดหัวมันไม่รอผลตรวจนานสองอาทิตย์หรอกน่า ไปตรวจตรงนั้นมาละสิ "

“ รู้ได้ไงน่ะ นายก็ตรวจเหรอ "

“ เห็นแบบนี้ ฉันก็รักตัวเองเหมือนกันนะ ฉันไปตรวจทุกปีแหละ " อีกคนว่าก่อนจะถอนหายใจออกมา " ก็นะ เรามันเป็นแบบนี้ก็ต้องรักตัวเองให้มาก สุขภาพเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด นายไปตรวจก็ดีแล้ว ว่าแต่คิดไงถึงไปตรวจล่ะ "

“ ก็.. “ จะบอกว่ายังไงดี ไปตรวจเพราะจะทำเรื่องแบบนั้นกับฟานน่ะเหรอ บ้าน่าใครจะพูด " แค่อยากไปตรวจอะ แบบว่าเหมือนต้องรักษาสุขภาพขึ้นมาซะแล้วละมั้ง ก็เลยตัดสินใจไป "

“ มีแฟนเด็กต้องมั่นตรวจเช็คร่างกายสินะ " ยกยิ้มออกมาตอนที่อีกคนพูดแบบนั้น เอาจริงๆคือที่ต้องหมั่นตรวจเช็คนี่คือเพราะกลัวมันจะชำรุดไปสักวันเพราะโดนไอ้แฟนเด็กบ้าพลังใส่ไม่หยุดใช่มั้ย

“ อ้าว น้องเนย์กินแซนวิชเหรอ "

“ อ้าวพี่ลิป พี่คีย์ ครับมากินแซนวิช " รุ่นน้องในออฟฟิศที่เดินมาซื้อแซนวิชในร้านที่ผมกำลังกินอยู่พอดี รอยยิ้มน่ารักที่ยิ้มมาให้อยู่ๆผมก็คิดถึงเรื่องราวที่เจอวันนั้นขึ้นมาได้พอดี

“ น่ารักจังน้า น้องเนย์น่ะ ตัวเล็กๆน่ารักมีลักยิ้มด้วย "  ลิปพูดเสียงเบาๆ ตอนที่มองดูอีกคนที่กำลังซื้อแซนวิชอยู่ที่หน้าร้าน " น้องเนย์กินด้วยกันสิ "

“ ขอบคุณที่ชวนครับรุ่นพี่แต่ว่าผมต้องออกไปกินกับเพื่อนน่ะ " ผมมองดูแซนวิชที่อยู่ในถุงสองชิ้นของเค้าก่อนจะพยักรับ

“ อ๋อ อย่างงั้นเหรอ งั้นไว้โอกาสหน้านะ "

“ ครับ " ร่างเล็กที่เดินออกไปผมที่มองตามอีกคน ก่อนจะหันมาพูดกับลิปนั่งข้างๆ

“ ลิป สองอาทิตย์ก่อนฉันเห็นน้องเนย์ขึ้นรถหัวหน้าที่ห้างใกล้ๆตึกทำงานไปกินข้าวตอนพักเที่ยงด้วยแหละ "

“ อะไรนะ ? มองผิดเปล่า หัวหน้าจะมากินข้าวกับน้องเนย์ได้ไง "

“ ไม่รู้สิ แต่ฉันมองไม่ผิดนะ มั่นใจว่าใช่เค้าแน่ๆ "

“ นายมั่นใจได้ยังไง " คำถามที่ทำให้ผมต้องถอนหายใจออกมา

“ ลิปฉันชอบหัวหน้ามาตั้งนาน ฉันน่ะรู้เรื่องของเค้าตั้งเยอะ ฉันจำสีของรถ ยี่ห้อรถก็เคยค้นว่ารูปแบบภายในมันเป็นยังไง จำได้ว่าป้ายทะเบียนอะไรด้วยซ้ำ เรื่องของคนที่ชอบใครๆก็ใส่ใจทั้งนั้นจะจำผิดได้ไง "

“ รักที่เริ่มจากร้อยนี่มัน..สุดยอดจริงๆ " อีกคนว่าก่อนจะเอียงหน้าสงสัย " แล้วแบบนั้นน้องเค้าจะไปกับหัวหน้าทำไมอะ หรือว่า..จะแอบกินกันอยู่ "

“ ไม่รู้สิ "

“ หัวหน้าเนี้ยเป็นผู้ชายที่แปลกจังนะ " อีกคนบอกก่อนจะยิ้มออกมา " เค้าดูเหมือน คนที่ใส่หน้ากากสีขาวน่ะ ดูไม่รู้เลยว่าข้างในจริงๆคิดอะไรอยู่ เค้าเหมือนน้ำทะเลใสๆ ที่ยากจะหยั่งดูว่าลึกขนาดไหน กะด้วยสายตาภายนอกก็คิดว่าคงดี คงไม่จม แต่พอหย่นเท้าลงไปแล้วกลับทำให้เราจมลงไปด้วยความลึกของมัน ฉันว่าเค้าเป็นคนแบบนั้นเลย น่ากลัว "

“ ฉันก็คิดอย่างงั้น  แต่คนบางคนก็หลงใหลกับความอันตรายนะ รู้ทั้งรู้ว่าเสี่ยงยังกล้าเข้าไปเลย คนบางคนอะ " จ้องหน้าคนบางคนที่ตรงหน้าที่กล่าวถึง ลิปถอนหายใจออกมาก่อนจะย่นหน้าแล้วยกกำปั้นคล้ายจะต่อยผม

“ เดี๋ยวเถอะนาย! ว่าฉันเหรอ "

“ ยังไม่ได้เอ่ยชื่อสักหน่อย "

“ เดี๋ยวฉันเลิกหลงใหลในอันตรายแล้วมาตีท้ายครัวนายเป็นไง ฟานจะได้เป็นของฉัน "

“ ได้ไม่ง่ายหรอกจ้า จะบอกให้ " หัวเราะออกมาด้วยความชอบใจไม่รู้เดี๋ยวพอเย็นนี้เจอกัน จะยื่นซองตรวจให้เค้ายังไงดี หรือว่าจะยังไม่ยื่นก่อน หรือว่าให้เลยดี ตื่นเต้นชะมัดทั้งๆที่เรื่องแบบนั้นไม่ใช่เรื่องทำกันครั้งแรกสักหน่อย

   เลื่อนเก้าอี้เก็บเข้าที่โต๊ะทำงานมองดูนาฬิกาที่เลยเวลาเลิกงานมานิดหน่อย หันไปบอกลาเพื่อนตัวเองที่นั่งอยู่ข้างๆลิปยิ้มก่อนจะโบกมือลาผมเพราะตัวเค้าต้องรอแฟนมารับช่วงสองทุ่มก็เลยมีเวลาทำงานรับโอทีอีกสักหน่อย ส่วนผมเองก็ต้องไปเอาผลตรวจที่โรงพยาบาล " ไม่รู้จะเป็นยังไงบ้างนะ " ตอนที่เผลอพูดออกมาแบบนั้น มือมันก็โบกเรียกแท็กซี่ที่ขับผ่านไปยังโรงพยาบาลเอกชนที่เคยไปตรวจไว้

“ มารับผลตรวจครับ " ผลแจ้งพนักงานที่เค้าเตอร์ตรงชั้นที่มาตรวจ เธอรับกระดาษจากมือผมก่อนจะหันหลังไปหยิบเอกสารใส่ซองสีขาวมาให้ เปิดกระดาษออกมาดูเนื้อหามากมายที่ไม่เข้าใจเธอก็อธิบายอย่างละเอียด สรุปว่าเป็นผู้ชายอายุ 25 ที่ยังสุขภาพดีไม่มีโรคร้าย ไม่ได้เป็นมะเร็ง ก็ได้แต่ถอนหายใจโล่งอกออกมา

“ แนะนำว่าให้มาตรวจทุกหกเดือน หรือหนึ่งปีนะคะ " คำพูดกระชับของเธอผมพยักหน้ารับก่อนที่เธอก็ยิ้มกลับมาให้
 
“ ขอบคุณมากครับ " เดินออกจากโรงพยาบาลเดินเท้าออกมาไกลสักหน่อยกว่าจะถึงทางขึ้นรถไฟ เพราะไม่อยากจะเรียกแท็กซี่แล้วในสภาวะรถติดแบบนี้ นั่งไปก็ติดอยู่ในรถนั่นแหละเปลืองเงินเสียเปล่าๆ เดินดีกว่าถึงเร็วกว่าด้วย

   กดกริ่งหน้าบ้านของตัวเอง ประตูที่เปิดออกเผยโฉมคนอยู่บ้านที่คงจะเอาแต่นอนทั้งวันด้วยสีหน้ามึนๆอึนๆของคนที่เพิ่งตื่น หัวยุ่งๆที่ยิ้มให้ผมก่อนจะถาม " กลับมาแล้วเหรอครับ "

“ ยังมั้ง นายคงฝันอะ " เดินเข้ามาในห้องถอดรองเท้าก่อนจะตั้งกระเป๋าไว้บนโต๊ะแล้วเดินไปหาอะไรเย็นๆมากิน ผมหยิบแก้วเปล่าตอนที่รินน้ำผลไม้ลงไปครึ่งแก้วอีกคนก็เดินมากอดไว้จากด้านหลัง ร่างสูงที่กำลังงัวเงียซบลงตรงไหล่ผมก่อนจะถอนหายใจ " ถ้าจะหลับก็ไปหลับดีๆ นายจะมากอดฉันทำไมเล่า "

“ คิดถึงอะ อยู่บ้านคนเดียวไม่มีคุณมันน่าเบื่อนะครับ "

“ ทำงานบ้านไปสิ นายชอบไม่ใช่เหรอ " ผมบอกอีกคนก็ถอนหายใจ

“ ผมทำจนครบทุกอย่างแล้วครับ วันนี้เอาเสื้อผ้าคุณไปส่งซักแล้วด้วย ทำจนไม่มีอะไรแล้วครับ "

“ หางานทำสิ จะได้ไม่เบื่อ "

“ อีกใจก็อยากจะหา แต่อีกใจก็อยากจะพัก สับสนมากคิดไม่ออก " หลุดยิ้มออกมาตอนที่วางแก้วในอ่างว่างๆ เปิดน้ำแล้วเขย่าแก้วไปมาก่อนจะหันไปหาอีกคน สบสายตาที่ก้มลงมาจูบผมอย่างรู้หน้าที่

“ เรื่องมาก "

   ครืน ครืน ครืน เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นเราสองคนหันไปมองต้นเสียงพร้อมกัน ฟานที่ดึงตัวเองออกเดินไปที่กระเป๋าผมก่อนจะเปิดกระเป๋าแล้วคว้าเอาโทรศัพท์ออกมาให้ " คุณลิปโทรมานะครับ "

“ เหรอ " เดินไปหยิบมือถือมารับ ตอนที่หันหลังแล้วกดรับสาย ฟานยังคงสงสัยกับอะไรบางอย่างในกระเป๋าผมแต่ตอนนั้นผมเอง็้ยังไม่ได้เอะใจอะไร " ว่าไงลิป "

“ นายลืมปิดคอมนะคีย์ "

“ ห๊า ? จริงเหรอ "

“ อื้ม ไฟมันกระพริบน่ะฉันเลยเปิดดู นายจะเซฟงานที่ทำไว้ในไหน ฉันจะได้เซฟให้ถูก " ผมกำลังคิดว่างานที่ตัวเองทำไว้คืองานอะไรแต่ก็ดันลืมไปแล้ว

“ ที่หน้าจอแล้วกัน "

“ โอเค เซฟละ "

“ ขอบคุณมากนะ " ผมบอกอีกคนก็ตอบกลับแค่ว่าไม่เป็นไรแล้วก็วางสาย ผ่อนลมหายใจออกมากับความชี้ลืมของตัวเองก่อนจะหันกลับมาพูดกับฟาน แต่ทว่าตัวผมเองต้องเป็นฝ่ายที่นิ่งไป " นี่ฟานฉันน่ะ..”

“ คุณคีย์ " ซองจดหมายสีขาวที่อีกคนถือด้วยสองมือแล้วชูขึ้นที่หน้า ผ่อนลมหายใจออกมาก่อนจะมีคำพูดนึงที่ดังออกมาจากในสมอง ' ชิบหายแล้วมึง ' “ คุณได้ผลตรวจมาแล้ว "

“ ก็อื้มม " พยักหน้ารับก่อนจะเบือนหน้าหนีท่าทางดีใจของเค้าที่ยิ้มกว้างออกมาจนแทบจะกระโดดดีใจ " นี่ช่วยทำหน้าให้มันปกติจะได้มั้ย ดีใจอะไรนักหนาละ "

“ ก็มันดีใจนี่ครับ ผมน่ะ "

“ ถอยออกไปเลยเว้ย ไม่ต้องเข้ามาใกล้ " เดินถอยหลังจนชนเค้าเตอร์ที่ห้องครัวอีกคนก็ยังเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ แขนหนาที่กอดเอวผมก่อนจะดึงเข้าไปใกล้

“ ซองนี้นะ ให้ผมนะ "

“ ก็เอาไปสิ " พูดออกมาเสียงเบาๆ เค้าที่ปล่อยมือจากตัวผมก่อนจะเปิดมันออกมาดู

“ คุณสุขภาพดีจัง "

“ แน่นอน ฉันยังแข็งแรงอยู่แล้ว " ยักไหล่ไหวๆร่างสูงที่เข้ามาใกล้กอดเอวผมไว้ก่อนจะก้มลงมาจ้องหน้า " อะไร "

“ ถ้างั้นคืนนี้ เรามา "

“ ไม่ "

“ ทำไมละครับ "

“ นายอย่าทำเสียงเศร้าได้มั้ย มันฟังแล้วหงุดหงิดเว้ย "

“ ก็คุณทำร้ายความรู้สึกของเด็กที่กำลังรอคอยอีกแล้ว " อยากจะคว้าหัวมันแล้วทุ่มเข้ากับกำแพงจริงๆ ไอ้เด็กร้ายกาจพอเวลาโดนขัดใจก็อ้างบอกว่าตัวเองเป็นเด็กน้อย ไหนใครบอกอยากจะเป็นผู้ใหญ่กัน หมั่นไส้เว้ย  “ คุณไม่อยากจะใกล้ชิดผมเหรอ "  เสียงทุ้มที่ถามก่อนจะเอียงหน้ามาหอมแก้มอ้อนๆ ผมผ่อนลมหายใจเบาๆ ต้องหักจิตหักใจนะคีย์ นายจะตามใจไอ้หมอนี่มากเกินไปแล้ว  " คุณคีย์ครับ " ฟานที่ยังคงเรียก เค้าหันมาหอมแก้มอ้อนๆอีกข้าง

“ ไม่ ฟาน "

“ คุณคีย์ " เสียงอ้อนๆที่เหมือนกำลังร้องไห้ เผลอดันไปสบสายตาที่กำลังอ้อนนั่นอีก " นะครับ "

“ ไม่ " หนักแน่นเข้าไว้คีย์ ต้องหนักแน่น

“ คุณคีย์ครับ นะ " เอียงหน้าอ้อนอีก เอาเข้าไป

“ มะ ไม่ " ทำไมเสียงเริ่มสั่น

“ คุณคีย์ครับ นะครับนะ "

“ ไม่ใช่ตอนนี้ นายหลบ ฉันจะไปอาบน้ำ " สองแขนที่คว้าตัวผมเข้าไปกอด เค้าที่หอมแก้มผมไปเสียเต็มฟอดก่อนจะร้องเสียงลั่นออกมาด้วยความดีใจ ในที่สุด หินผาก็ต้องพังทลายลงมากับลูกอ้อนของไอ้ลูกหมาหน้าหล่อที่ทำให้จิตใจต้องแพ้แบบย่อยยับ “ ช่วยทำเศร้าแบบเดิมจะได้มั้ย น่าหมั่นไส้เกินไปละ "

“ ก็ผมดีใจ "

“ ดีใจอะไรปัญญาอ่อน ฉันไม่เคยมีอะไรกับนายรึไง ไร้สาระ "

“ น่าดีใจจะตายครับ คุณจะให้ผมทำเป็นคนแรกไม่ใช่เหรอ การที่ได้เป็นคนแรกของคุณผมสมควรดีใจไม่ใช่เหรอครับ " รอยยิ้มมีความสุขของเค้าก้มลงมาจูบริมฝีปากของผมก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ แล้วปล่อยให้ผมยืนหัวใจเต้นแรงโครมครามอยู่ตรงนี้ เป็นครั้งแรกเลยละมั้ง ที่รู้สึกเห็นความสำคัญของครั้งแรกในเรื่องแบบนี้ ความสำคัญของครั้งแรกกับคนสำคัญคนแรก

จะว่าไป .. ก็น่าตื่นเต้นชะมัดเลย

   อาบน้ำหลังจากฟานอาบเสร็จผมถูสบู่ทำความสะอาดร่างกายครั้งใหญ่ของตัวเองอย่างที่ต้องทำทุกครั้งก่อนจะมีเซ็กส์ยิ่งครั้งนี้ก็ยิ่งต้องสะอาด เดินออกจากห้องน้ำ เช็ดตัวจนแห้งแล้วมายืนเลือกชุดนอนสักตัวอยู่หน้าตู้ เป็นครั้งแรกที่ลังเลกับการใส่อะไรดี ทั้งๆที่มันก็แค่ชุดนอนที่ต้องถูกถอดออกอยู่แล้ว " เสื้อเชิ้ตละกันให้ความสำคัญกับคนที่กำลังตื่นเต้นหน่อย "

“ จะฆ่ากันตั้งแต่ชุดเลยใช่มั้ยครับ " คำถามของคนที่นั่งดูทีวีอยู่บนเตียงหันมาถามผม ยกยิ้มออกมาก็แค่เสื้อเขิ้ตตัวสั้นที่ไม่ใส่ชั้นในอะไรเลย ผมเดินเข้าไปใกล้ อีกฝ่ายก็ดึงให้ผมเข้าไปนั่งที่ตัก บรรยากาศโรติกแมนที่แสนยั่วยวนไม่มีอะไรจะวิเศษไปมากกว่านี้อีกแล้ว เอื้อมมือไปกอดคอเค้าไว้ก้มหน้าลงไปใกล้ไม่ได้พูดอะไรอีกฝ่ายก็เริ่มจูบที่ริมฝีปากสอดเกลียวลิ้นแลกจูบดูดดื่มมือหนาที่กอดเอวเลื่อนตัวเองลงต่ำมาที่ชายเสื้อสั้นๆ ไล้มือเข้าไปด้านในลูบไล้เรือนร่างของผมก่อนจะผละริมฝีปากที่กำลังจูบกันเอียงมาหอมแก้มแล้วย้ายลงต่ำมาที่ยอดอก จูบผ่านเสื้อตัวบางที่ใส่วาบวามจนทำได้แต่แอ่นตัวรับลิ้นร้อนๆที่ซึมเข้ามา

   กระดุมเสื้อถูกปลดออก สาบเสื้อที่ถูกดึงเข้ามาจูบผิวกายของผมไปทั่วก่อนจะใช้ลิ้นละเลงไปทั่วบริเวนของยอดอกนั้น ขบเม้มมันเบาๆด้วยริมฝีปากก่อนจะดึงแล้วกัดมันด้วยฟันคมๆจนต้องสะดุ้ง เสื้อถูกถอดออกไป เค้าดันตัวผมให้ลงมานอนบนเตียงกว้างจูบจากอกไล้ลงมาถึงหน้าท้องที่หดเกร็ง มือหนาจับส่วนกลางจูบที่หัวผมก็ได้แต่หดตัวเสียว " ฟาน " เสียงเบาๆที่เรียกเค้าไว้ก่อนจะถูกพลิกร่างให้อยู่ในท่าคลานเค้าปลดกางเกงของเค้าออกเอาส่วนกลางมาถูเบาๆตรงช่องทางหลังที่ตอดถี่ด้วยความต้องการ เอื้อมมือมาคว้าส่วนกลางของผมไว้เค้าขยับมันเข้าออกเป็นการสัมผัสสองทางอีกแล้ว " อ๊า  ฟาน ท่านี้มัน "

“ คุณชอบมั้ยครับ คืนนี้ร้องให้สุดเสียงไปเลยนะ ผมอยากจะได้ยินเสียงคุณ "

“ อื้อ " ตอบความต้องการของเค้า ตอนที่นิ้วเย็นถูกสอดเข้ามาในร่างเค้าย้ำกับจุดกระสันจนทำได้แต่กัดริมฝีปากล่างจนแน่น แรงสอดส่วนหลังกับแรงขยับส่วนหน้าค่อยๆเคลื่อนไหวด้วยความรู้สึกเชื่องช้าแต่นั่นที่ทำให้ความต้องการยิ่งทรมานมากขึ้น " ตรงนั้นฟาน อื้อ "

   แอ่นก้นรับนิ้วที่กระแทรกลงมารู้สึกดีจนไม่อายที่จะทำอะไรแบบตามอำเภอใจแบบนั้น ความต้องการที่อีกฝ่ายสอดนิ้วออกมา ก่อนจะแทนที่ด้วยสวยกลางอุ่นๆที่สอดเข้ามาในร่างช้าๆ ผ่อนช่องทางหลังหลับตารับความรู้สึกที่ได้ทำอะไรแบบนี้เป็นครั้งแรก ส่วนกลางที่สอดเข้ามาจนสุดเค้าที่เริ่มขยับทุกอย่างช่างแตกต่างจากทุกครั้งที่เคยเป็น มันทั้งอุ่นและรู้สึกได้ถึงแสงสอดใส่ที่ชัดเจน ผมกำผ้าปูเตียงแน่นรับแรงสอดจังหวะช้าๆที่ค่อยๆขยับเข้าออก " ฟานแรงอีกสิ " คำพูดเอาแต่ใจที่อีกคนเริ่มขยับร่างเร็วขึ้น

    มือหนาเอื้อมมาหัวนมของผมบิดขยี้มันพร้อมกับเร่งจังหวะมากขึ้นไปอีก เสียงเนื้อกระทบร่างผมอ้าปากค้างครางเสียงเบาๆตอนที่เค้าปล่อยมือจากยอดอกแล้วจับเอวผมไว้มั่น กระแทกส่วนกลางเข้ามาแรงมากขึ้นจนช่องหลังที่ถูกสอดเริ่มร้อนขึ้นตามแรง ร่างสั่นไปตามแรงสอดใส่ที่หนักหน่วง ผมผมเม้นริมฝีปากแต่ก็ทนไม่ไหวในความต้องการที่ต้องผ่อนหายใจออกมาแล้ว ครางออกมาจนดังลั่น " อ๊าาา ฟาน อ๊าห์ " แรงน้ำที่ฉีดเข้ามาในร่าง เป็นครั้งแรกที่รู้สึกดีขนาดนี้ทั้งของตัวเองที่ปลดปล่อยแต่น้ำที่ฉีดเข้ามาในร่างก็โดนจุดกระสันเสียเต็มแรง ผมล้มตัวลงนอนกับเตียงหอบหายใจเพราะมือที่หมดแรงค้ำ ส่วนกลางที่ถูกปลดออก คราบคาวพวกนั้นก็ไหลซึมออกมาจากช่องทางหลัง

“ คุณคีย์ " ร่างสูงล้มตัวลงมาจูบที่แก้มเค้าที่กอดผมไว้ ก่อนจะเริ่มจูบอีกครั้งแล้วหันไปกระซิบข้างแก้ม " ขอบคุณครับที่ให้ผมเป็นคนแรก " เอื้อมมือไปจับหน้าเค้าสบสายตาที่กำลังมีความสุข  เผลอยิ้มออกมาจางๆผมพยักหน้ารับคำพูดของเค้าก่อนจะพลิกตัวนอนหงายเพราะรู้ดีว่ามันไม่ได้สิ้นสุดแค่รอบนี้ ขาที่ถูกดึงให้ฉีกออก เค้ายกร่างผมขึ้นมาค่อมส่วนกลางเอาไว้ สอดมือเข้าไปใต้ขาก่อนจะบรรเลงบทรักอีกครั้ง

“ อาทิตย์นี้ไปเที่ยวไหนกันดี  อื้มม " ผมถามเค้าตอนที่ร่างกายถูกขยับให้สอดใส่กับส่วนกลาง มือที่กอดรอบคอของเค้าไว้จูบที่ดูดดื่มของเรา

“ อาทิตย์นี้เหรอครับ "

“ นายบอกว่าอยากจะไปเที่ยวถนนคนเดิน "

“ ผมเปลี่ยนใจแล้วละ ผมจะอยู่กับคุณแล้วทำกิจกรรมนี้สองวันติดเลย " ขมวดคิ้วก่อนจะยิ้มมองเค้าที่ก้มลงจูบยอดอกของผม สองแขนที่เอื้อมไปกอดคอเค้า ร่างกายที่ขยับขึ้นลงอยู่บนตัว

“ เอาแต่ใจกับร่างกายฉันอีกแล้ว "

“ ก็มันเป็นของผมทั้งหมดนิ " ใช่..แล้วฉันก็ยอมให้นายเป็นเจ้าของมันซะด้วย

...............................................

มีอะไรจะบอก หลังจากนี้ คิดว่าหลังจากนี้ เนื้อเรื่องจะเริ่มเข้มข้นค่ะ
ยังไงฝากติดตาม แล้วห้ามทิ้งกันไปไหนนะคะ
ใครมีทวิต ฝากแท็ก #ฟานคีย์ ในมีเฟส ฝากแชร์ด้วยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์ค่ะ  :กอด1: :L2: :3123: :L1:

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
หย่นเท้าลงไป----->หย่อนเท้าลงไป

ติดตามอย่างใกล้ชิดจ้า 
ขอบคุณนะคะที่มาลงอย่างสม่ำเสมอ

ตอนหน้าขอคู่ลิปบ้างนะคะ 

ออฟไลน์ tkaekaa

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 329
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
 :impress2: ฟานหมาน้อยขี้หื่น

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :katai2-1:    กิจกรรมวันหยุดของคนสุขภาพดีที่มีสามีเด็ก(ปิดเทอม)ค่ะ อิจไม่ไหวแล้ว
คนเขียนจ๋าอย่าเพิ่มต้มน้ำค่ะต้นเดือนอยู่เลย
เข้มข้นได้แต่ไม่เอาดราม่านะคะ ไม่อยากให้ใครเสียน้ำตา.
 :katai2-1: 

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
หึหึ....นี่ไงปิดเทอมไม่เหงาละ มีกิจกรรมทำแล้ว

แหม....ร้อนแรงสุดๆไปเลยสินะคนแรกครั้งแรก

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
 :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:

แอร๊ยยยย
เขินนแรงงง

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
กิจกรรมวันหยุดของรุณสามีเด็ก :z1:

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
สองตอนล่าสุดนี่ฟินมากกกก
คนอ่านมีความสุข
ขอบคุณค่ะ ^^

ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
ชีวิตจริงจะเอาผัวแบบนี้ :hao7:

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
เด็กมันอ้อนต้องทำใจนะ คีย์  :hao6: :hao6: :hao6: :z1: :z1:

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
อยากรู้เรื่องราวของฟานมากกว่านี้จัง  :z2: :z2:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ beerby-witch

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2

ออฟไลน์ LovEYouOnLy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 439
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
มีสามีเด็กมันดีอย่างนี้จริงๆสินะ 2วันติดคงได้ตายกันไปข้าง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง
ตอนที่ 31
' ป่วย '

   ถอนหายใจออกมากับเช้าวันจันทร์ที่ไม่มีแรงขยับร่างตัวเองออกจากเตียงไปไหน เสาร์อาทิตย์ที่ไม่ได้ออกไปเห็นเดือนเห็นตะวันที่ไหนเลย ต้องขลุกอยู่แต่ในห้องแล้วทำเรื่องอย่างงั้นเหมือนเป็นตุ๊กตาให้ไอ้ลูกหมาตัวนึงมันกัดเล่นแบบที่ข้าวปลาก็แทบไม่ได้กินท่อนแขนหนาที่ดึงตัวเองผมเข้ากอดไว้ อิจฉาคนที่มันได้นอนทั้งวันแบบเต็มแรงไม่ต้องตื่นไปทำงานวันจันทร์เสียจริง ทำไมการทำงานไม่มีปิดเทอมบ้างนะ

   หลับตาลงช้าๆอีกครั้งปวดหัวจนแทบจะระเบิดแรงจะคว้าเอาโทรศัพท์ก็ยังจะไม่มี จนสุดท้ายก็ต้องหันไปพึ่งคนข้างตัว จับเข้าที่แขนหนาที่กอดผมอยู่ ถึงเวลาแล้วที่นายต้องรับผิดชอบที่ทำให้ฉันต้องเป็นแบบนี้

“ ฟาน " ผมเรียกอีกคน แต่อากาศเย็นๆที่ชวนให้หลับสนิทก็ทำให้เค้าไม่รู้สึกตัวใดๆทั้งนั้น ออกแรงหยิกที่ต้นแขนแรงขึ้นจนอีกคนสะดุ้งตื่น

“ อื้ออ เจ็บ " เสียงบ่นกระปอดกระแปดของเค้าผมถอนหายใจออกมา " คุณคีย์ อะไรกัดผมไม่รู้ " เค้าว่าก่อนจะดึงผมเข้าไปกอดแน่นขึ้น

“ ฉันนี่แหละที่หยิกนาย " พอบอกแบบนั้นอีกคนก็ขมวดคิ้วก่อนจะก้มลงมองหน้าผม

“ หยิกผมทำไมอ่าครับ หรือว่าอยากจะให้ผมหอมแก้มคุณกัน "

“ เลิกหลงตัวเอง แล้วหยิบโทรศัพท์ฉัน กดโทรออกหาลิปให้หน่อย " เค้าหันไปมองโทรศัพท์ที่ตั้งอยู่ที่หัวเตียงฝั่งที่ผมนอน ฟานหยิบให้อย่างว่าง่ายผมเอื้อมมือไปสแกนนิ้วตัวเองเปิดล๊อคหน้าจอ " หาเบอร์ลิปแล้วบอกเค้าว่าฉันจะไม่ไปทำงาน ฉันไม่สบาย "

“ คุณคีย์เป็นอะไรครับ " เค้าก้มหน้าลงมาถามด้วยความตกใจ มือหนาที่เอื้อมมือจับหน้าผากของผม " คุณตัวร้อนจัง "

“ อื้ม ลางานให้หน่อย "

“ เพราะผมเหรอ " เสียงเบาๆที่ถาม จะมีหน้ามารู้สึกผิดอะไรเอาตอนนี้ ถ้าจะรู้สึกผิดก็ช่วยรู้สึกกับเมื่อวานที่ฉันลุกขึ้นไปกินน้ำหน้าตู้เย็นหลังอาบน้ำเสร็จแล้วนายก็มาดึงกางเกงชั้นลงแล้วบี้หัวนมจากนั้นก็เอาไอ้ส่วนนั้นยัดเข้ามาแบบเอาแต่ใจน่าจะดีกว่า  แล้วยังไม่นับรวมที่หน้าทีวี หรือบนโซฟาอีก ข้าวปลาก็ไม่ได้กินเพราะกลัวจะถ่ายท้อง เราเองก็ไม่ได้ใส่ถุงยาง เป็นเซ็กส์ที่นัวเนียกันทั้งวันแม้จะมีความสุขแต่ก็ทุกข์พอๆกัน

“ โทรหาลิปแล้วอย่าพูดอะไรมากกว่านี้ได้มั้ย " ผมบอกอีกคนก่อนถอนหายใจออกมา ไม่มีแรงจะมาปลอบอะไรใครทั้งนั้นแล้วตอนนี้คืออยากนอน อยากจะพักผ่อนให้มากที่สุด

" ครับ " ฟานก้มลงมองจอโทรศัพท์กดเบอร์หาเพื่อนของผม ก่อนจะกดโทรออกเค้าที่รอสายอยู่สักพักก่อนจะพูดออกไป “ สวัสดีครับคุณลิป ผมจะโทรมาลางานให้คุณคีย์น่ะ วันนีคุณคีย์ไม่สบายเลยจะไม่ไปทำงานนะครับ ก็ปวดหัวครับลุกจากเตียงไม่ไหว ครับ ผมจะบอกให้ ขอบคุณมากครับ สวัสดีครับ " ฟานที่วางสายก่อนจะหันมาบอกผม " คุณลิปบอกว่าจะลางานให้ไม่ต้องเป็นห่วงครับ บอกให้คุณคีย์หายป่วยไวๆ "

“ อื้ม " ผมยักคิ้วรับก่อนจะหลับตาแล้วนอนต่อ ร่างสูงที่กำลังนั่งมองดูผมหลับ  ลืมตาขึ้นมองอีกครั้งเค้าก็พบว่าฟานก็ยังมองอยู่ " เป็นอะไร "

“ คุณป่วยก็เพราะผม ขอโทษครับ " เค้าที่ก้มหน้าลงเพราะกำลังรู้สึกผิด เหมือนเด็กตัวเล็กๆที่ทำให้คนที่รักบาดเจ็บเพราะความเล่นซนของตัวเอง

“ อื้มใช่ ฉันป่วยเพราะนาย " พยักหน้ารับก่อนจะยื่นสองมือไปจับแก้มของคนที่ยังก้มหน้าอยู่แบบนั้น " แต่นายช่วยดูแลฉันได้มั้ย มันดีกว่ามานั่งหน้าเศร้าแบบนี้นะ ฉันตามใจนายเองโทษนายฝ่ายเดียวก็คงไม่ได้หรอก เพราะงั้นช่วยดูแลฉันดีๆด้วยละกัน โทษฐานที่ทำให้ฉันต้องเป็นแบบนี้ กรุณารับผิดชอบผมด้วยนะครับ  " ลดมือที่จับอีกคนลงผมผ่อนลมหายใจก่อนจะพลิกตัวกลับไปหลับตาต่ออีกครั้ง

“ ผมต้องรับผิดชอบคุณอยู่แล้ว " เค้าที่ก้มลงมาหอมแก้ม ผมรู้สึกถึงแรงย้ายตัวที่ออกไปจากเตียง แต่สมองที่ค่อยๆหลับไปเพราะยังมีความง่วงอยู่มากก็พอทำให้สติขาดการรับรู้ไปชั่วขณะแล้วละว่าเค้าทำอะไรให้ผมบ้าง

.....................................................

“ คุณคีย์ คุณคีย์ครับ "  เหมือนจะได้ยินเสียงเรียกพร้อมกับกลิ่นหอมๆของอะไรสักอย่างที่ลอยเข้าจมูกมา ทั้งๆที่รู้สึกยังอยากจะนอนต่ออีกสักหน่อยแต่ตอนนั้นก็ได้แต่บรือตาขึ้นช้าๆแล้วมองภาพเลือนๆนั้น ใบหน้าคมหล่อเหลาที่อยู่ใกล้กันเพียงคืบผมถอนหายใจก่อนจะเบือนหน้าหนีไปอีกทาง

“ ฟาน "

“ ลุกขึ้นมากินข้าวหน่อยสิครับ " มือหนาลูบอยู่ที่หน้าผาก ก่อนความอุ่นของริมฝีปากจะจูบลงเบาๆตรงนั้น " กินข้าวกินยาแล้วจะได้นอนต่อ ผมทำข้าวต้มมาให้ "

“ อื้อ วางไว้ " ผมบอกปัดแต่อีกคนก็ยังดึงดันที่จะให้กินให้ได้

“ ไม่ได้ครับ ลุกขึ้นมากินยาก่อนเถอะนะ " เสียงที่ไม่ยอมแพ้ แต่ตอนนี้ผมเองก็ไม่มีแรงแม้จะลืมตาหรือขัดขืนอะไรทั้งนั้น

“ ฉันลืมตาไม่ไหวแล้ว "

“ คุณคีย์ " นิ้วหนายื่นมาฉีกตาผมให้กว้างออก " ผมช่วยครับ " ถามจริงใครสอนนายให้ทำอะไรแบบนี้กับผู้ป่วยที่ต้องการพักผ่อน

“ ฟาน " ปัดมือของเค้าออก ผมถอนหายใจออกมาก่อนจะลืมตาขึ้นมามองหน้าเค้าที่ก็ยิ้มให้ผม

“ กินข้าวหน่อยนะครับ กินเสร็จจะได้กินยา แล้วก็นอนพัก คราวนี้ผมสัญญา ผมจะไม่กวนคุณ จะให้คุณนอนจนกว่าคุณจะหายดีเลย นะครับนะ " อ้อนกันอีก แล้วทางนี้จะทำยังไงละ ก็คงได้แต่ลุกสังขารขึ้นมาจากเตียงแล้วพิงเค้ากับหัวเตียงมองอีกคนที่ก็ตักข้าวต้มหอมๆในถ้วยใบเล็ก ที่เบาเบาๆแล้วยื่นช้อนมาทางผม " กินสักหน่อยนะครับ สิบคำก็พอ "

“ เยอะ "

“ งั้นเก้า " เค้าผันผ่อนจำนวนลง

“ ลดลงน้อยจัง ห้าไม่ได้เหรอ " พอบอกแบบนั้นคนป้อนกลับไม่พูดอะไร ฟานแค่ยิ้มก่อนจะอ้าปากตัวเองออกเหมือนตอนที่แม่พยายามจะบอกให้ลูกกินข้าวเลย

“ อ้าาาา อั้ม " พอกินเข้าไปก็มีเสียงส่งท้ายอีก ผมเคี้ยวข้าวต้มรสชาติดีนั่นอยู่สักพักก่อนจะกลืนมันไป จะว่าไปก็ไม่ได้ป่วยหนักแบบขาแข้งพิการถือช้อนไม่ไหวหรอก แต่มันขี้เกียจมากกว่าถูกบริการแบบนี้ก็ดีแล้ว มองดูคนตรงหน้าเป่าข้าวต้มร้อนๆนั่นก่อนจะยื่นมาทางผมแล้วคิดถึงแม่ชะมัด จำได้ว่าโมเม้นต์อะไรแบบนี้เกิดขึ้นตอนอยู่ม.หนึ่งมั้ง แล้วหลังจากนั้นต่อให้ป่วยหนักแค่ไหนก็ต้องลากสังขารมากินเองตลอด

“ พอแล้วฟาน ไม่กินแล้ว " เบือนหน้าหนีช้อนที่ถูกป้อนอีกครั้ง ผมไม่รู้ว่ากินไปกี่คำแต่ตอนนี้ไม่อยากจะกินแล้วมันอยากจะนอนไม่อยากจะมาเคี้ยวอะไรทั้งนั้น

“ อีกสักสามคำนะครับ " เค้าบอกก่อนจะยื่นมือขึ้นมาเช็ดที่มุมปากของผม " นะครับคนเก่ง "

“ ฉันเป็นเด็กอนุบาลรึไง ถึงได้ต้องพูดคำนั้นน่ะ " หยุดยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้ จนสุดท้ายก็ต้องฝืนความง่วงยัดข้าวเข้าไปอีกสามคำตามที่อีกคนบอก สงสัยตัวเองชะมัดนี่ถ้าฟานบอกให้กินหมดถ้วยผมจะฝืนกินมันจนหมดมั้ย ก็ถ้าจะแพ้ลูกอ้อนเค้าขนาดนี้แล้วละก็ ..

“ ยาครับ แล้วก็น้ำ " ยาเม็ดทรงรีถูกยื่นมาให้พร้อมกับน้ำสะอาดหนึ่งแก้ว ผมกินมันอย่างว่าง่ายก่อนจะนั่งนิ่งๆอยู่สักพักแล้วล้มตัวลงนอน ผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆหลับตาสนิทแล้วหลังจากนั้นก็เป็นช่วงเวลาที่ได้พักผ่อนเต็มที่จนกว่าร่างกายจะหายดี

   ลืมตาตื่นขึ้นมาในห้องที่เงียบสนิท ม่านที่ปิดแสงไว้คาดเดาเวลาภายนอกไม่ได้เลยว่าตอนนี้เป็นเวลากี่โมงแล้ว พลิกตัวเองไปฝั่งคว้าเอาหมอนที่มีกลิ่นไออุ่นๆของอีกคนขึ้นมากอด อยากจะหลับต่อแต่คิดว่าคืนนี้คงหลับไม่ลงแน่ๆถ้าเป็นแบบนั้นพรุ่งนี้ก็คงต้องไปทำงานไม่ไหวอีกตามเคย ฝืนตื่นขึ้นมานั่งอยู่บนเตียงสักพักตอนที่สะบัดผ้าปูเตียงออกแล้วเดินออกไปจากห้อง ผมพบว่ามีใครบางคนกำลังขะมักเขม้นทำอะไรบางอย่างที่มีกลิ่นหอมฉุยมาจากในครัว 

" กรอด~ “ เสียงท้องของผมทักทายคนในครัวได้เร้วกว่าปากของผมซะอีก ฟานเงยหน้าขึ้นมาเค้าหลุดยิ้มออกมา ผมก็ก้มหน้างุด
“ ดีขึ้นแล้วเหรอครับ "

“ อื้อ " พยักหน้ารับเค้าตอนที่เดินเข้าไปครัวผมมองดูเมนูในหม้อที่เค้ากำลังทำ " นายทำอะไรอะ "

“ แกงจืดกับข้าวผัด ใกล้เสร็จแล้วละครับ รอก่อนนะ "  ทำไมแค่เมนูธรรมดาๆถึงได้มีกลิ่นหอมทรมานได้ร้ายกาจขนาดนั้น หิวแล้วสมองของผมมันโวยวายทำให้มันเร็วกว่านี้อีกไม่ได้รึไง คิดถึงแกงจืดหมูรสชาติดีที่พอตัดใส่ถ้วยแล้วเทพริกไทยลงไปเยอะๆจนมีรสชาติเผ็ดสักหน่อย กินคู่กับข้าวผัดกระเทียมร้อนๆ ไม่มีอะไรพิเศษไปมากกว่านี้แล้ว

“ ฟานฉันรอไม่ไหวแล้ว หิวมากเลย "

“ กินผลไม้รองท้องไปก่อนนะครับ " เค้าบอกก่อนจะเชิดหน้าไปที่ตู้เย็น ที่พอผมเอื้อมมือไปเปิดก็เจอกับผลไม้ที่ชอบแกะใส่กล่องไว้อย่างดี

“ นายไปห้างมาเหรอ "

“ ครับ " เค้าตอบรับตอนที่เปิดกล่องที่เขียนว่าส้มมาดู ส้มที่แกะเป็นกลีบๆที่ขนาดเม็ดยังเอาออกให้ ยังไม่รวมถึงสตอเบอรี่ แล้วก็เชอรี่ที่ผมชอบอีก เข้าใจความหมายของแม่ที่เคยพูดกับพี่ชายตัวเองก็วันนี้ ' การที่เราได้แฟนดีก็เหมือนเราถูกหวยรางวัลที่หนึ่งนั่นแหละ '

“ ฟานทำไมนายถึงใส่ใจคนเก่งขนาดนี้นะ " เอ่ยถามอีกคนตอนที่หยิบส้มในกล่องขึ้นมากิน เค้าไม่ใช่รูปแบบของผู้ชายที่เจอได้ตามท้องถนนจริงๆ สำหรับความใส่ใจระดับนี้ คนที่แกะแม้แต่ผลไม้ให้ คนที่ทำอาหารให้กินในทุกเช้า

“ คงเพราะอยู่กับคนแก่ๆมาตั้งแต่เด็กๆมั้งครับ "

“ จะบอกว่าฉันดูแลง่ายเหมือน ตากับยายนายรึไง " ทำไมฟังแล้วมันทะเม่งๆวะ

“ เปล่าสักหน่อย " เค้าบอกก่อนจะหันมายิ้ม " แค่ตอนเด็กๆผมเป็นลูกมื้อยายทำอาหารบ่อยๆ พอตาเริ่มป่วยยายก็เริ่มทำของพวกนี้มากขึ้น เธอเริ่มแกะผลไม้ไว้ ทำอาหารที่เหมาะกับคนป่วยทุกวัน แล้วพอยายป่วยมันก็กลายมาเป็นหน้าที่ผม ที่ต้องทำ จะว่ายังไงดีละครับ ถูกเลี้ยงมาแบบไหนก็ใส่ใจในแบบนั้น ผมก็คิดแบบนั้นแหละ "

“ งั้นฉันก็โชคดีนะสิ ที่เจอนาย "

“ คุณคิดอย่างงั้นเหรอ " เค้าที่หันมาถาม มือหนากอดเอวของผมดึงเข้าไปใกล้ก่อนจะจูบเบาๆที่ริมฝีปาก

“ ก็คิดว่ามีพ่อบ้านที่ดูแลดีขนาดนี้ก็คิดว่าโชคดีละนะ แต่ถ้าเป็นเรื่องอย่างว่า คิดว่าโชคร้ายนิดหน่อย " เพราะนอกจากได้แฟนเด็กที่ทั้งแรงเยอะแล้วยังบ้าพลัง ท่ามาก แถมยังชอบทำเรื่องหื่นๆเกินเลยกับร่างกายของเค้าตลอด แต่ถึงอย่างงั้นโดยรวมก็สุขมากกว่าทุกข์อยู่ดี ไม่สิ ต้องบอกว่าสุข 80% แล้วทุกข์แค่ 20% เองละมั้ง ถ้าไม่ทำตัวให้ทุกข์เองละก็นะ.. ฟานก้มลงมาจูบผมอีกครั้ง จูบดูดดื่มที่เนิ่นนาน เราผละออกในตอนที่เริ่มหายใจไม่ถนัดแล้วเริ่มจูบใหม่อีกครั้งวนเวียนอยู่แบบนั้นจนได้แต่มองหน้ากันยิ้มๆ ใบหน้าคมที่ก้มลงมาหอมแก้มผม

“ ผมรักคุณครับ คุณคีย์ " เอื้อมมือไปกอดเค้าไว้ตอนที่ได้ฟังคำนั้น แนบหน้ากับอกของเค้าที่กำลังเต้นแรง บรรยายกาศรอบข้างคือในครัวที่แกงจืดกำลังเดือดฟ่านได้ที่หน้าตาที่เพิ่งตื่นจากนอน ไม่มีอะไรที่ดูโรแมนติก แต่น่าแปลก ผมรู้สึกว่าตอนนี้แหละ ..โรแมนติกชะมัดเลย

“ มีความสุขจัง "
.................................................

   เช้าในวันทำงานของอาทิตย์นี้เริ่มต้นขึ้นอีกแล้ว ต่อให้อยากจะนอนต่อมากแค่ไหน แต่ก็ต้องตื่นขึ้นมารับผิดชอบต่อชีวิตและการงานของตัวเองอยู่ดี ลากเก้าอี้ที่โต๊ะทำงานออกก่อนจะหย่นตัวลงนั่ง เปิดคอมพิวเตอร์เรียบร้อยตอนที่กำลังนั่งคิดอะไรเพลินๆก็มีมือนึงมาตีเข้าที่ไหล่จนต้องหันไปมอง

“ สวัสดีตอนเช้า คีย์คนสวย "

“ สวัสดี " ผมตอบรับอีกคนที่ยิ้มกว้างด้วยสายตาที่เหมือนอยากรู้อยากถามเรื่องบางเรื่องที่ตัวเองสนใจ " หน้าตาสดใสดีแล้ว หายป่วยแล้วเหรอ "

“ อื้ม ก็ดีขึ้นแล้วละ แล้วเมื่อวานเป็นยังไงบ้าง "

“ ฉันก็ลางานให้นายเรียบร้อยอะนะ "

“ แล้วมีใครถามอะไรมั้ย "

“ ก็มีรองหัวหน้าอะที่ถามว่าแบบ ทำไมนายถึงป่วย ใบรับรองแพทย์ละ ฉันก็บอกไปอะนะว่าแบบ ฝากมาบอกแค่นี้ " พยักหน้ารับอีกคนก่อนผ่อนลมหายใจออกมา " แล้วนายเอาใบรับรองแพทย์มารึเปล่า "

“ ไม่อะ ฉันแค่นอนไม่พอเท่านั้นเอง ไม่ได้ป่วยอะไรมากมายหรอก ก็เลยไม่ได้ไปหาหมอ "

“ นอนไม่พอ ? “ ลิปขมวดคิ้วถาม " ทำไมถึงนอนไม่พอกันน้าา ทั้งที่เป็นวันหยุดแท้ๆ มัวทำอะไรกับใครเอ่ย "

“ นี่ ..”

“ เพิ่งได้ใบตรวจสุขภาพไปด้วย.. อย่าบอกนะว่า เริงรักกันจนไมไ่ด้กินไม่ได้นอน " รอยยิ้มล้อของอีกคน หน้าตาที่ดูมีความสุขที่ได้รับรู้เรื่องราวความรักของผมกับฟานเกี่ยวกับเรื่องบนเตียง " ว่าไง เป็นอย่างงั้นใช่มั้ย "

“ ไม่ใช่สักหน่อย " ผมบอกปัด " แค่ติดซีรี่ส์อะเลยแบบไม่ได้นอน "

“ ติดซีรี่ส์ ? “ ลิปทวนเสียงก่อนจะหัวเราะ " นี่นายช่วยอ้างอะไรที่มันเข้ากับไลฟ์สไตส์ตัวเองได้มั้ย "

“ ก็อะไรเล่าติดซีรี่ส์จริงๆ "

“ ซีรี่ส์อะไรอะ พวกใส่สด อะไรพวกนั้น "

“ ลิป..” ผมเอ่ยเรียกชื่อคนที่มัวแต่แซวให้แก้มแดงอีกคนก็หัวเราะ รู้แล้วยังจะแกล้งกันอีกไอ้เพื่อนคนนี้

“ ฉันรู้น่าว่านายไม่มีแรงเพราะอะไร เอาเป็นว่าขอถามสั้นๆว่า เด็ดมั้ย "

“ ไม่เคยลองเหรอ " ผมถามอีกคนก็ส่ายหน้า " จริงดิ "

“ ทำไม หน้าตาฉันมันไม่น่าเชื่อเลยรึไง "

“ จะว่าแบบนั้นก็ใช่อยู่ " หลุดหัวเราะออกมาตอนที่อีกคนทำหน้าเซ็งใส่ผม " ก็ดีอะนะ ดีกว่าใส่แหละ รู้สึกดีกว่าแล้วก็แตกง่ายกว่าแต่ข้อเสียก็คือตอนที่ทำกินอะไรก็ไม่ได้ เดี๋ยวอย่างอื่นจะแตกแทน ฮ่าๆ " หลุดหัวเราะออกอีกคนก็หัวเราะตาม " นายไม่ลองบ้างละ กับคุณเมษของนาย "

“ แค่ใส่ถุงยางยังเซ็กส์จัดขนาดนี้ ถ้าไม่ใส่จะเซ็กส์จัดขนาดไหนวะ ไม่เอาอะ ไม่กล้าเสี่ยงจริงๆกับผู้ชายคนนี้ ไม่เล่นกับไฟดีกว่า "

“ กลัวแล้วเหรอ วันก่อนยังชอบที่จะเสี่ยงอยู่เลย "

“ กลัวแล้วจ้า กลัวแล้ว " อีกคนว่าขำๆ เราที่แยกย้ายออกไปทำงานของตัวเอง วันนี้มีงานออกแบบชิ้นใหม่มาให้ผม เป็นงานที่ค่อนข้างง่ายคือออกแบบแพ็คเก็จของกล่องใส่กระเป๋าแบรนด์นึง ผมร่างงานทั้งหมดด้วยเม้าส์ปากกา ขีดๆเขียนๆออกแบบงานตัวเองอยู่สักพักก่อนรองหัวหน้าจะเดินเข้ามาหาแล้วเรียกผมด้วยเสียงที่ค่อนข้างตึงเครียดจากปกติ

“ คีย์ หัวหน้าเรียก "

“ ครับ " เซฟงานที่กำลังทำของตัวเองเรียบร้อย ก่อนจะเดินตามอีกคนไปในห้องประชุมที่มีหัวหน้ารออยู่ในห้องนั้นแล้ว " หัวหน้าเรียกผมมีอะไรเหรอ "

“ นั่งลงสิ " เค้าบอกด้วยสีหน้าตึงเครียดเหมือนไม่ใช่เวลาปกติ รองหัวหน้าที่เดินเข้ามาด้วย ผมหย่นตัวเองนั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้ามกับเค้าส่วนรองหัวหน้าก็นั่งลงข้างหัวหน้า ทำไมบรรยากาศมันดูแปลกๆ บรรยากาศที่บอกกับผมว่านี่ไม่ใช่ข่าวดีแน่นอน

“ คีย์ นี่งานของคีย์ที่ออกแบบกล่องผลิตภัณฑ์เสริมอาหารให้ลูกค้าใช่มั้ย " แฟ้มงานของผมถูกเปิดออกมา ผมพยักหน้ารับ จำได้ว่ามันเป็นงานที่ยากและเคี่ยวมากเพราะรายละเอียดความต้องการของลูกค้าเยอะแยะไปหมด แต่ทั้งๆที่เคี่ยวแบบนั้นตอนที่ส่งไปให้หัวหน้ามันกลับเป็นงานที่ผ่านตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ทั้งๆที่ปกติต้องโดนตีกลับมาแล้ว " แล้วเคยเห็นงานนี้มั้ย " แฟ้มอีกอันโดนกางออกมาหัวใจของผมแทบจะหยุดเต้นตอนที่เห็นภาพที่อยู่ในนั้น กล่องอาหารเสริมที่เรียกว่ามีความคล้ายคลึงกับของที่ผมออกแบบเอามากๆ

“ ไม่เคยเห็นครับ "

“ แน่ใจนะ " รองหัวหน้าบอกผมก็พยักหน้ารับ

“ ไม่เคยเห็นเลยจริงๆครับ ก่อนหน้านี้ที่ได้งานมาก็แค่อ่านรายละเอียดแล้วก็ออกแบบตามสิ่งที่คิดเอาไว้เลย ไม่เคยสนใจงานของคนอื่นเลย ผมยอมรับว่าผมศึกษางานจากต่างประเทศบ้างเพื่อพัฒนาฝีมือ แต่งานชิ้นนี้ผมไม่เคยเห็นเลยครับ "

“ แต่งานชิ้นนี้เค้าทำมาก่อนที่นายจะออกแบบนะ " หัวหน้าบอก

“ หัวหน้าจะบอกว่า ผมลอกงานคนอื่นเหรอครับ "

“ ไม่ใช่แบบนั้นคีย์ แต่ลูกค้าตังหากที่คิดว่าเราทำแบบนั้น " รองหัวหน้าพูดเสริมขึ้นมา " เมื่อกี้เราได้รับสายตรงจากผู้ว่าจ้างงานนี้ เค้าตำหนิเราถึงงานที่เหมือนกับคู่แข่งของเค้ามากเกินไป เหมือนจนดูเหมือนว่าคนออกแบบ ลอกเลียนแบบอีกฝ่ายมารึเปล่า "

“ แต่ผมไม่ได้ลอกนะ ผมคิดเองทั้งหมด มันเป็นไปตามรายละเอียดงาน ถ้าคุณได้อ่านคุณก็จะรู้ว่ามันต้องทำออกมาแบบนั้น "  ผมรู้สึกว่าผมไม่ใช่ฝ่ายผิด การที่มาบอกว่าความคิดของเราลอกเลียนแบบคนอื่นเหมือนการดูถูกกันในวงการการออกแบบอยู่แล้ว " อย่างในรายละเอียดมันก็บอกออกมาอยู่แล้วว่า โลโก้ต้องเป็นวงกลมสีส้ม ทับกับเหลือง แล้วส่วนที่เหมือนกันก็คือส่วนของโลโก้แบบนั้นผมจะถูกเรียกว่า คนลอกงานคนอื่นทั้งๆที่เป็นผู้ว่าจ้างเองตังหากที่มีความต้องการต้องการแบบนั้นอย่างงั้นเหรอครับ "

“ แต่คีย์ นั่นคือลูกค้า " รองหัวหน้าบอก " ต่อให้เป็นความผิดของเค้า แล้วเค้าโยนมาทางเรา เราก็ต้องรับผิดชอบนะ "

“ ไม่แฟร์เลย " ผมบอก หัวหน้าก็ถอนหายใจ

“ ฉันเข้าใจ ฉันเข้าใจความรู้สึกของนายดี แต่คีย์ฟังฉันหน่อยนะ การทำงานออกแบบถ้าต้องรู้ว่าคนที่ว่าจ้างต้องการให้นายออกแบบอะไร แล้วคู่แข่งของเค้ามีผลงานอะไรบ้าง นายถึงจะออกแบบผลงานนั้นของเค้าให้โดดเด่นกว่าใคร มันก็ไม่ผิดหรอกที่นายจะจะตามจุดประสงค์ของลูกค้า แต่การที่บอกว่า ก็ลูกค้าบอกว่าจะเอาแบบนี้ก็เลยทำให้น่ะ มันเป็นแค่ข้ออ้างนะ ข้ออ้างของคนที่ไม่ได้ใส่ใจที่จะดูงานในกลุ่มของลูกค้าเลย แล้วสักแต่ออกแบบตามความต้องการของลูกค้าเท่านั้น " เงยหน้ามองอีกคนที่ก็ถอนหายใจออกมา " ตอนนี้ยังโชคดีที่แพ็คเก็จนี้ยังไม่ถูกนำเสนอผ่านสื่อใดๆ มันเลยยังไม่มีผลเสียมากเท่าไหร่ แต่ว่า ลูกค้าก็โมโหมากเลยนะที่งานที่เค้าว่าจ้างออกมาแบบนี้ ลูกค้าคอมเพลนว่า ถ้าออกแบบให้เหมือนแบบนี้เค้าจะมาจ้างบริษัทออกแบบทำไม ลูกน้องเค้าที่มีก็ทำได้ "

“ แต่ว่าตอนที่นำเสนอลูกค้าผมก็เห็นเค้าไม่ขัดอะไร "

“ อาจเพราะตอนนั้นไม่ทันคิดน่ะว่าเหมือนกับของคู่แข่ง " รองหัวหน้าบอกก่อนจะถอนหายใจออกมา " ฉันเข้าใจนะว่านายทำงานดีมาตลอด แต่มันก็ต้องมีบ้างใช่มั้ยละที่เราเผลอคิดเหมือนคนอื่น "

“ ผมไม่ได้ลอกงานใคร แค่สะเพร่าที่ไม่ยอมดูว่าคู่แข่งของลูกค้าออกแบบแพ็คเก็จงานมาเป็นแบบไหนก็เท่านั้น ผมทำตามที่ลูกค้าบอก นั่นคือสิ่งที่ผมจะยืนยันไม่ว่าจะเป็นกับคุณทั้งสองคน หรือว่ากับตัวลูกค้าเอง ถ้าจะดุด่า ก็ขอให้ดุด่าถึงความสะเพร่าของผมที่ไม่ยอมดูงานของคนอื่น แต่กรุณาอย่าด่าผมว่าผมดูงานของคนอื่นแล้วมาทำเลยครับ เพราะผมมั่นใจอย่างที่สุดว่าตัวเองไม่ได้ลอกใคร "

“ ถ้านายมั่นใจว่าเป็นแบบนั้น ก็ขอให้พรุ่งนี้นายพูดกับลูกค้าด้วยประโยคนั้น ประโยคที่นายบอกว่านายไม่ได้ลอกใคร "

“ แต่หัวหน้าไหนเราคุยกันว่าจะให้คีย์ยอมรับไปไงว่าลอก ลูกค้าจะได้ไม่หาว่าเราน่ะ โทษเค้าว่าความต้องการของเค้าเหมือนกับคู่แข่งเอง เพราะมันยังมีอีกหลายงานนะที่เค้าจ้างเราทำอยู่ " รองหัวหน้าที่พูดกระซิบกับอีกคนด้วยเสียงไม่เบานัก นี่สินะที่เค้าเรียกว่าด้านมืดของของการทำงานคนตำแหน่งสุงกว่าก็ชอบใช้อำนาจบีบคั้นไอ้พวกที่ทำงานตำแหน่งน้อยกว่า ทั้งให้รับผิดแทนและอีกสารพัดไม่ต่างอะไรกับโถชักโครกเลยสักนิด

“ โดยการที่คุณจะให้ผม โยนความผิดให้ลูกน้องตัวเองที่ไม่ได้ลอกใครน่ะเหรอ ถ้าวันนึงคุณทำงานโดนที่ไม่ได้ลอกใครแล้วผมบอกว่าให้คุณรับผิด โดยที่ใครๆจะมองว่าคุณลอกงานคนอื่น คุณจะรู้สึกยังไงละ " รองหัวหน้าเงียบ " คุณจะรู้สึกดีมั้ย "  ใบหน้าคมถอนหายใจออกมาก่อนจะหันมามองหน้าผม " ฉันจะอยู่ข้างๆนายเอง "

“ หัวหน้า " สบสายตาคมที่ยิ้มให้ผมอย่างอบอุ่นและใจดี

“ พรุ่งนี้สิบเอ็ดโมงลูกค้าจะเข้ามาพบนาย ฉันไม่คิดว่าเค้าจะพูดจากับนายดีๆหรอก แต่สิ่งอยากจะบอกนายก็คือ ฉันอยากจะให้นายพูดตามที่นายคิด ถ้านายไม่ได้ทำจงมั่นใจในตัวเองว่าไม่ได้ทำ ยืดอกรับในสิ่งที่ผิดพลาดและละเลยส่วนที่เค้ากล่าวหาและโยนความผิดมาก็อธิบายให้เค้าเข้าใจว่าเราไม่ได้เป็นคนทำ พรุ่งนี้ฉันจะอยู่ข้างๆนายเอง ไม่เป็นไร ถ้านายมั่นใจว่าไม่ได้ลอกใครมา ฉันก็พร้อมจะเชื่อมั่นในตัวนาย "

   หัวใจที่กำลังสั่นไหวของผมด้วยความตึงเครียดราวกับมีใครสักคนยื่นมือมาปลอบประโลมมันไว้ ในช่วงเวลาคับขันแบบนั้น ผมเคยมองว่าเค้าเป็นพวกที่มุ้งเน้นถึงความสำเร็จของตัวเองแบบที่ไม่สนใจใคร เกลียดความผิดพลาด แต่ผมคิดว่าคงต้องมองเค้าใหม่ซะแล้ว อย่างน้อยคนที่กลัวความผิดพลาดคนนั้นก็กำลังกางปีกของเค้าปกป้องผมเอาไว้ทั้งๆที่ว่าจะทำตามที่รองหัวหน้าพูดก็ได้นั่นคือการโยนความผิดมาให้ผม ตอนนั้นรอยยิ้มจางๆที่มอบให้เค้าผมก้มหน้าลงขอบคุณเค้าจากหัวใจ

“ ขอบคุณครับหัวหน้าที่เชื่อผม " ตอนนี้แค่สักคนที่เชื่อในตัวเราก็ทำให้อุ่นใจอย่างบอกไม่ถูกแล้ว
 
........................................................

น่าจะตั้งชื่อตอนว่า " เชื่อในตัวเธอ " อะไรแบบนี้มากกว่า
ตอน ป่วย นี่เหมือนหลอกกัน มีป่วยอยู่แค่ไม่กี่บรรทัดแรก
เรื่องราวหลังจากนี้จะเป็นยังไงต่อ จะเข้มข้นแค่ไหน
โปรดติดตามอ่าน และอย่าทิ้งกันไปไหน
สัญญาว่าจะเขียนออกมาให้ถึงอรรถรสที่สุด
มีคนบอกว่า อยากอ่านความรู้สึกของฟานบ้าง เรื่องราวของฟาน
ได้อ่านแน่นอนค่ะ ไม่นานนี้
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น สัญญากับนะว่าจะอ่านจนจบ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์
เอ้ออ ฝากแท็ก #ฟานคีย์ ด้วยค่ะ
เจอกันตอนหน้าาาา  :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
โอ้ยยยยยยยย
คีย์ๆๆ อย่าาาาหวั่นไหววว กับหัวหน้านะ

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
หวังว่าคีย์คงไม่กลับไปเทใจเอนเอียงไปทางหัวหน้าอีกนะ

ออฟไลน์ loyal_mook

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราสัญญาว่าจะอ่านจนจบค่ะ แต่ใจไม่ดีไปแล้วนะ  :sad4:

รอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อค่าา  :กอด1:

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
คีย์เอนไปหาหัวหน้าอีกแล้วเหรอ  จะทำให้ฟานเสียใจจริงๆเหรอคีย์


ออฟไลน์ LovEYouOnLy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 439
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
เราสัญญาว่าจะอ่านจนจบ ถ้าไม่คิดจะทิ้งกันซะก่อน^^

ออฟไลน์ beerby-witch

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
คีย์ต้องห้ามหวั่นไหวนะ ฮืออออออ ไม่อยากกินมาม่าแล้ว

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
อย่าหวั่นไหวนะคีย์. ต่อให้ดูดีพึ่งได้ขนาดไหน คนที่เราควรเก็บไว้คือคนที่เราอยู่ด้วยแล้วมีความสุข
สงสารฟานล่วงหน้าได้ปะ. เด็กดี

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด