ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง{ตอนพิเศษที่ 2 UP - 10.2.60}หน้า 42 (จบเรื่อง+รวมเล่ม)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง{ตอนพิเศษที่ 2 UP - 10.2.60}หน้า 42 (จบเรื่อง+รวมเล่ม)  (อ่าน 323474 ครั้ง)

ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
อร๊ายยย อิจฉาคีย์ชีวิตดิ๊ดี

ออฟไลน์ Yukisho

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ทำไมอ่านช่วงทอล์กแล้วมีความกลัว...  :katai1:

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
ถ้าจะหวั่นไหวก็คงจนปัญญา
แฟนเด็กแบบฟานช่างเอาใจจริงๆ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
สำหรับคีย์เรารู้สึกว่าเราไม่ค่อยหวั่นใจนะ
เพราะตอนที่ผ่านๆมามันทำให้เรารู้ว่าคีย์ก็รักฟาน
แต่ทีีหวั่นก็คือหัวหน้าต่างหาก กลัวว่าจะมีแผนที่จะเคลมเด็กรึเปล่า
เพราะเด็กอย่าคีย์ดันไม่เล่นด้วย

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง
ตอนที่ 32
' เหตุผลที่ไม่ชอบเด็ก '

“ จะบ้าเหรอ ทั้งๆที่ไม่ใช่ความผิดของนายแต่จะให้นายรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น แบบนั้นมันใช่ได้ที่ไหน รองหัวหน้าบ้าคิดอะไรอยู่ " ลิปที่หันมาแสดงความคิดเห็นกับเรื่องราวที่ผมเล่า ถอนหายใจออกมาตอนที่ก้มหน้าลงต่ำกับแก้วกาแฟในช่วงเวลาพักเที่ยงที่ยังคงคิดกังวลถึงเรื่องของวันพรุ่งนี้ ถึงแม้จะมั่นใจยังไงว่าเราไม่ได้ลอก แต่ลูกค้าก็มีหลายประเภทจนเผลอคาดเดาไม่ได้เลยว่าจะเจอกับคนแบบไหน อาจจะเข้าใจง่าย หรืออาจจะเข้าใจยาก ไม่รู้ว่าผลลัพธ์ของปัญหาจะออกมาในรูปแบบไหน " แล้วหัวหน้าว่าไง "

“ เค้าเข้าข้างฉันแหละ "

“ ห๊ะ ? “ เพราะหัวหน้าในความรู้สึกของลิปนั่นแย่กว่าที่ผมคิดซะอีก จากหลายๆอย่างที่ลิปพูดถึงเค้าเหมือนทุกอย่างมันเป็นแง่ลบไปหมด

“ อื้ม เค้าบอกว่าเค้าจะอยู่ข้างๆฉัน แล้วก็จะเชื่อมั่นในตัวฉัน "

“ เหอะ เป็นไปได้ " อีกคนบอกก่อนจะหลุดหัวเราะออกมา " จะถือโอกาสทำคะแนนกับนายละสิไม่ว่า "

“ ทำไมนายมองเค้าเป็นแง่ลบไปหมด มันอาจจะไม่เป็นแบบนั้นก็ได้ หัวหน้าเค้าอาจจะอยากลองเชื่อฉันจริงๆ "

“ คีย์ หัวหน้าที่เราทุกคนรู้จักคือคนที่ทั้งเห็นแก่ตัวแล้วไร้ข้อบกพร่อง รู้อะไรมั้ย เหตุการณ์น่าแปลกที่มันมาเกิดขึ้นกับนายแค่คนเดียว ทั้งๆที่แค่ฉันออกแบบกล่องรองเท้ายังต้องแก้ตั้งสามรอบเพราะเค้าไม่พอใจแล้วคิดว่ามันไม่โอเค เอาจริงๆนะ ฉันคิดว่าเค้าเมคเรื่องนี้ขึ้นมาด้วยซ้ำ ตั้งใจไม่ตรวจงานแล้วให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นกับนาย  "

“ แล้วเค้าจะทำแบบนั้นไปทำไม "

“ ไม่รู้สิ เพื่อให้นายประทับใจเค้าอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็ได้มั้ง " คนตรงหน้ายกกาแฟขึ้นดื่ม

“ นายมองเค้าในแง่ลบเกินไปนะฉันว่า "

“ แล้วฉันก็มองว่านายมองเค้าในแง่บวกเกินไป " อีกคนบอกผมก็ถอนหายใจออกมา " แต่ถึงจะเป็นอย่างงั้น ถึงเค้าจะพลาดในการตรวจงานนายไปจริงๆ ฉันก็ไม่เห็นว่ามันจะแปลกตรงไหน ก็มันเป็นหน้าที่ของหัวหน้าที่ต้องทำอะไรแบบนั้นอยู่แล้ว มันคือหน้าที่ของเค้าที่ต้องเชื่อเราในฐานะที่ว่าเราเป็นลูกน้องคนนึงของเค้าคีย์ " มองหน้าอีกคนที่กำลังมองผมด้วยสายตาที่เหมือนกำลังเดาออก

“ นั่นสินะ " จะว่าไปสิ่งที่ที่อีกคนพูดก็ถูก

“ แต่นายที่เคยชอบเค้าก็ไม่แปลกหรอกที่จะประทับใจเค้าเป็นพิเศษ แต่อย่าลืมนะว่า ตอนนี้นายก็มีใครอยู่อีกคนนึงแล้ว อย่าให้ความประทับใจแค่หนเดียวมาทำลายความรู้สึกทั้งหมดที่ใครคนพยายามทำมันมาตลอดก็แล้วกัน "

“ ฉันไม่ได้รู้สึกอะไรขนาดนั้นสักหน่อย " ไม่ได้รู้สึกประทับใจจนเอาไปเปรียบเทียบกับฟาน ว่าเค้าดีกว่าหรือแย่กว่า ไม่ได้รู้สึกอะไรขนาดนั้น ที่ประทับใจก็แค่ประทับใจในตัวเค้าก็แค่นั้น ไม่ได้เอาไปเปรียบเทียบกับใคร

    ร่างงานใหม่ที่รับมาอยู่หน้าจออย่างรู้สึกตันทางความคิด ไม่รู้จะเขียนอะไร คิดไม่ออกเลยสักนิดทั้งๆที่งานนี้ไม่ได้ยากเลยด้วยซ้ำแล้วก่อนหน้านี้ก็คิดออกแล้วแท้ๆว่าจะออกแบบมายังไง เพราะเรื่องนั้นแท้ๆ ผมผ่อนลมหายใจออกมาตอนที่พิงตัวเองเก้าอี้แล้วเงยหน้ามองเพดานของออฟฟิศ หลับตาลงสักพักก่อนจะลืมตาขึ้นแล้วต้องสะดุ้งกับคนคุ้นตาที่มายืนก้มหน้าลงจ้องผมอยู่ ใบหน้าหล่อเหลาที่ชวนให้ใจเต้นนั้นผมรีบเด้งตัวเองขึ้นมา

“ หัวหน้า "

“ เป็นอะไร เครียด ? คิดงานไม่ออกเหรอ " เค้าถามก่อนจะดึงตัวเองก้มลงมามองหน้าจอที่ผมขีดๆเขียนๆงานไว้อยู่

“ ก็นิดหน่อยครับ "

“ เพราะเรื่องนั้นสินะ " พยักหน้ารับอีกคนช้าๆเค้าก็หลุดยิ้มออกมาก่อนจะยกมือขึ้นตบหัวผมเบาๆ " ไม่ต้องคิดมากหรอก เชื่อฉันสิว่ามันจะผ่านไปด้วยดีแน่นอน "

“ ทำไมถึงคิดแบบนั้นละครับ " ทั้งๆที่ผมเองก็ยังกลัว กลัวว่าทางนู้นจะเถียงหัวฟัดหัวเหวี่ยงไม่ยอมกันง่ายๆ ดื้อดึงว่าไม่ใช่ความผิดของตัวเองแล้วให้เรารับผิดชอบทุกอย่าง โดยเฉพาะผมที่ต้องรับผิดว่าตัวเองลอกงานคนอื่นไปโดยปริยาย

“ คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตายไม่ใช่เหรอ " หัวหน้าบอกก่อนจะเอียงหน้ามามองผม ใบหน้าที่ใกล้กันกันของเราเค้าที่ดึงตัวเองขึ้นยืนเต็มความสูง " ฉันมีนายที่มั่นใจในตัวเอง ส่วนนายก็มีฉันที่มั่นใจในตัวนายก็คงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง อย่าคิดถึงอนาคตที่ยังมาไม่ถึงสิ ใจเย็นๆ ทำวันนี้ให้ดีที่สุดก่อน "

“ ครับๆ " ผมตอบรับมือหนาก็ยื่นมาตบไหล่ให้กำลังใจ

“ ยังไงก็ผ่านไปได้แน่นอน นายอย่าลืมทำข้อมูลอธิบายลูกค้าละ ยังไงงานออกแบบอันใหม่นี่ค่อยทำก็ได้ ทำเอกสารที่ต้องอธิบายลูกค้าวันพรุ่งนี้ก่อนก็แล้วทำให้ละเอียดเลยนะ ทำเสร็จแล้วก็ส่งเข้าเมล์ฉัน เดี๋ยวจะตรวจให้อีกที " พยักหน้ารับคำสั่งของอีกคนก่อนหัวหน้าจะเดินออกไป สายตาที่มองตามเค้าอยู่นานจนได้สติที่ว่าไม่ควรทำอะไรแบบนั้นก็ต้องก้มหน้าลงทำงานของตัวเองต่อก่อนจะให้เหตุผลที่เอาแต่จ้องมองเค้าอยู่แบบนั้นด้วยใจที่พองโตแค่ว่า ' ก็แค่ประทับใจที่เค้าช่วยเหลือน่า ไม่ได้คิดอะไรมากกว่านั้นสักหน่อย '

   เอกสารทั้งหมดถูกทำออกมาเสร็จเรียบร้อยในช่วงเกือบทุ่ม มือที่กำลังขยับเม้าส์จัดส่งงานไปให้อีกคนตรวจแต่ทว่าเค้ากลับเดินมาที่โต๊ะผม พร้อมกับกระเป๋าของตัวเองแทนเหมือนคล้ายจะเตรียมตัวกลับบ้าน " คีย์ ฉันขอตรวจงานนายก่อนได้มั้ย "

“ ได้สิครับ เสร็จพอดีเลย หัวหน้าจะกลับบ้านแล้วเหรอ "

“ ใช่ ฉันจะกลับบ้านแล้ว " ร่างสูงพูดขึ้นเราก็หันไปยิ้มให้กัน เปิดไฟล์งานทั้งหมดที่ทำเป็นเอกสารไว้ระหว่างที่รอโหลดขึ้นมาผมเหลือบมองพนักงานหลายๆคนที่เหมือนกำลังออกจากที่ทำงานไป

“ ผมกลับแล้วนะครับ หัวหน้า " เสียงของรุ่นน้องที่ชื่อเนย์ทักหัวหน้าก่อนจะก้มหน้าให้ผม สีหน้าแววตาที่ดูเหมือนไม่ค่อยพอใจกันเท่าไหร่นัก

“ อื้ม แล้วเจอกันนะ " หัวหน้าที่หันไปตอบกลับเค้าที่พยักหน้ารับแล้วเดินออกไป ก่อนจะก้มลงมามองหน้าจอคอมของผมเค้าเลื่อนเม้าส์ไปมาก่อนจะอ่านรายละเอียดพวกนั้นคร่าวๆ " โอเคเลย อ่านคร่าวๆแล้วก็เข้าใจดีอะนะ "

“ เหรอครับ "

“ ไม่ใส่เหตุผลของตัวเองมากไป แต่เลือกอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ก็ดีนะ เพราะเหตุผลพวกนั้นเราไว้อธิบายเค้าเองดีกว่า ในนี้มีแค่เนื้อหางานของเรา กับ คำสั่งของเค้าก็พอ "

“ ครับ " พยักหน้าคำสั่งของหัวหน้าผมกดเซฟงานทั้งหมดเอาไว้ก่อนจะปริ้นท์ออกมาจัดใส่แฟ้ม

“ งั้นผมกลับก่อนนะ วันนี้พอดีมีธุระต่อ "

“ ครับ เจอกันพรุ่งนี้ " ผมบอกก่อนจะลุกขึ้นเดินไปเอาเอกสารที่ส่งปริ้นไว้ แต่ขาที่ชะงักอยู่แบบนั้นเพราะร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างหน้ายังไม่ไปไหน หัวหน้าหลุดยิ้มออกมาตอนที่ร่างของเราใกล้กันแบบนั้น ผมก้มหน้าคงอีกคนก็เอื้อมมือไปลูบหัวผมเบาๆ

" อย่าคิดมากละ กลับบ้านไปก็รีบนอนให้เต็มอิ่มจะได้มาสู้ศึกพรุ่งนี้ "

“ อย่าพูดแบบนั้นสิครับ " ผมก้มหน้าลงยิ้ม " จะกลัวก็เพราะหัวหน้าพูดแบบนั้นแหละ "

“ ซะงั้นไป ฮ่าๆ โอเคฉันไปพูดละ ไปก่อนนะ "

“ ครับ " ผมพยักหน้ารับ

“ กลับแล้วนะลิป "

“ ครับผม เจอกันครับหัวหน้า " อีกคนที่หันหน้ามาพยักหน้ารับช้าๆ หัวหน้าก็เดินออกไป ผมเดินไปที่เครื่องปริ้นท์ของออฟฟิศก่อนจะเดินมาจัดเอกสารเข้าแฟ้มจนเสร็จเรียบร้อย มองดูเอกสารที่ต้องอธิบายพวกนั้นก็ได้แต่ถอนหายใจเครียดออกมาแบบนั้น " ไม่ต้องเครียดหรอกคีย์ ฉันคิดว่านายต้องผ่านมันไปได้แน่นอน "

“ เหรอ " หันไปหาลิปที่พยักหน้ารับ

“ นายเป็นคนตั้งใจทำงาน สำหรับเรื่องงาน นายเป็นคนหัวแข็งในสิ่งที่ตัวเองคิด ไม่อ่อนลงให้ใครง่ายๆ แต่ก็มีเหตุผลในการพูด ฉันคิดว่านายต้องผ่านไปได้แน่ๆ "

“ ขอบคุณนะลิป "

“ ตอนนี้กลับไปหาไอ้ลูกหมาของนายเถอะ กลับไปพักผ่อนกับเค้าสักหน่อย " คำพูดของอีกคนที่ทำให้ผมหลุดยิ้ม

“ แต่ฉันไม่คิดว่า ฉันจะได้พักผ่อนกับเด็กคนนั้นหรอก ฟานยังเด็กคงไม่เข้าใจเรื่องแบบนี้หรอก ถ้ามีแฟนเป็นผู้ใหญ่ก็ว่าไป " ก้มหน้าลงเช็คงานทั้งหมดตอนที่ปิดคอมลง ผมก็หันไปหาคนที่กำลังจ้องผมอยู่ " ทำไมเหรอลิป "

“ ฉันว่าสิ่งที่นายคิดมันผิดนะ ยังไม่ได้ปรึกษากับฟานเลยรู้ได้ยังไงว่าเค้าจะให้คำปรึกษาไม่ได้ละ "

“ ก็.. เค้ายังเด็ก " แค่เด็กมหาลัยปีหนึ่งผมว่าชีวิตเค้ายังไม่ต้องมีเจอปัญหาแบบนี้ อีกอย่างพูดไปก็คงไม่เข้าใจ งั้นจะพูดทำไม

“ เอาจริงๆนะ นายกำลังมองว่ามีแฟนเป็นผู้ใหญ่มันดีกว่ารึเปล่า "

“ จะพูดแบบนั้นก็ใช่ อย่างน้อยๆก็เวลามีปัญหา "

“ แต่ฉันว่ามันก็เหมือนกันนั่นแหละ จะผู้ใหญ่จะเด็ก อย่างฉันเองถ้ามีปัญหาเดียวกับนาย คุณเมษคงช่วยอะไรฉันไม่ได้หรอกอย่างมากก็แค่ปลอบ คนที่จะช่วยฉันได้ก็คงมีแค่หัวหน้าเท่านั้น แต่ดูเหมือนในความคิดนาย ผู้ใหญ่ที่ว่า คือหัวหน้าคนเดียวรึเปล่าคนที่ช่วยนายได้น่ะ "

“ ทำไมนายต้องพูดเหมือนฉันกลับไปชอบเค้า นายพูดเหมือนฉันกำลังใจนอกใจฟานอย่างงั้นแหละ ทั้งๆที่ฉันเองก็แค่รู้สึกดี โล่งใจที่มีคนช่วยเหลือฉันมันก็เท่านั้น "

“ ไม่รู้สิ การกระทำของนายมันเปลี่ยนไปมั้ง ขนาดเค้าถึงเนื้อถึงตัวนายยังเฉยเลย มันต่างกันนะกับตอนที่นายเคยบอกว่าเค้าเหมือนจะคุกคามทางเพศนายน่ะ "

“ ลิป หัวหน้าเข้ามาช่วยฉันไว้นะ จะไม่ให้ฉันรู้สึกดีกับเค้าได้ไง "

“ ยังไม่ได้ช่วยเลยคีย์ เค้าแค่บอกว่า เค้าจะอยู่ข้างนายก็เท่านั้น ฉันยังบอกว่าจะอยู่ข้างนายเลย และแน่นอนว่าถ้านายไปเล่าฟาน ฟานก็ต้องบอกว่า เค้าจะอยู่ข้างๆนายเหมือนกัน " อีกคนยิ้มออกมา ก่อนจะหยิบกระเป๋าในลิ้นชักออกมาสะพายไหล่ " ฉันจะไม่ยุ่งเรื่องของนายก็แล้วกัน  เพราะฉันก็คงไม่รู้ความรู้สึกของนายทั้งหมด ถ้าคิดว่าดีก็ทำไปเถอะ เอาที่สบายใจ "

“ ลิป..”

“ ฉันขอโทษนะ ที่มองอะไรก็ดูแย่ไปหมด คล้ายคนอคติ นิดๆหน่อยๆก็เป็นเรื่องเป็นราว ฉันแค่คิดถึงฟานมากไปหน่อย ฉันแค่เอาความรู้สึกของฟานมาผูกกับความรู้สึกของฉัน มากเกินไปหน่อย แค่คิดนะ.. ว่าถ้าฉันเป็นฟานฉันจะรู้สึกยังไง " เค้าบอกก่อนจะยกยิ้มขึ้น " กลับบ้านเถอะ อย่างที่หัวหน้าบอก พรุ่งนี้นายต้องรับศึกหนัก ต้องพักผ่อนให้เต็มที่นะ "

“ อื้ม " พยักหน้ารับอีกคนอย่างไม่รู้จะพูดอะไร เราเดินออกจากออฟฟิศเงียบๆ

    ผมกำลังหาคำตอบให้ตัวเองว่า การรู้สึกดีกับการกับโดนช่วยเหลือมันผิดเหรอวะ มันแปลกเหรอที่จะรู้สึกอุ่นใจในช่วงเวลาแบบนี้ ก็แค่ประทับใจไม่ได้หมายความว่าจะชอบสักหน่อย แต่ลิปก็เป็นคนแบบนี้ เป็นเพื่อนที่หวังดี แถมพูดอะไรตรงๆ รู้สึกอะไรก็พูดออกมาแบบนั้น แต่ที่เค้าพูดออกมากับท่าทางที่ดูหงุดหงิดตอนที่ผมใกล้ชิดหัวหน้า เค้ารู้สึกอะไรกันแน่นะ รู้สึกว่า สายตาที่เรามองหัวหน้ามันเปลี่ยนไปแล้ว หรือแค่รู้สึกกลัวว่าจะเปลี่ยนไปกัน

   กดกริ่งหน้าประตูห้องของตัวเอง รออยู่ไม่นานคนที่อยู่ในนั้นก็เปิดประตูให้  ผมเดินผ่านร่างสูงที่ยิ้มรับอย่างไม่ใส่ใจ " กลับมาแล้วเหรอครับ "

“ อื้ม " ตอบเค้าสั้นๆก่อนจะพาตัวเองไปที่โซฟาแล้วล้มตัวลงนอนบนนั้น ทั้งเรื่องงาน เรื่องชีวิตส่วนตัว ความรู้สึกที่เหมือนแยกแยะอะไรไม่ออกทำได้เพียงผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆอย่างไม่รู้จะทำอะไรก่อนเป็นอันดับแรก ทำไมมนุษย์ถึงได้อ่อนไหวขนาดนั้นวะ ทำไมต้องแคร์คำพูดของคนอื่นขนาดนั้นวะ แค่เพื่อนพูดก็เก็บเอามาคิดเล็กคิดน้อย ' ใช่เหรอ ? เรากำลังกลับไปชอบหัวหน้าเหรอ งั้นก็ไม่ดีใช่มั้ย เพราะตอนนี้ก็เหมือนมีใครอีกคนนึงอยู่แล้ว เราเองคบกับคนคนนี้ก็ดีอยู่แล้ว จะกลับไปสู่วงเวียนของความรักที่ไม่ใช่ของเราอีกทำไม ถ้ากูกลับไป กูจะเลวใช่มั้ย แต่กับแค่กูประทับใจเค้า กูต้องเป็นคนเลวคนนึงเลยเหรอวะ บ้าวะ นี่มันไม่ใช่ '

“ คุณคีย์ ไม่สบายเหรอ " มือหนายื่นมือมาจับที่หน้าผากของผม เบือนหน้าหนีก่อนจะพลิกตัวไปอีกฝั่ง

“ อย่าเพิ่งมายุ่งกับฉันได้มั้ย "

“ ก็ถ้าไม่สบายจะได้เอายาให้กินไงครับ "

“ ฉันสบายดี " ผมบอก " แต่ขออยู่เงียบๆคนเดียวสักพักได้มั้ย "

“ ก็ได้ครับ " เสียงตอบรับที่มาพร้อมกับจมูกคมที่ก้มลงมาหอมแก้มผมเสียเต็มฟอด

“ นี่ ! " ถอนหายใจออกมาแบบรำคาญก่อนจะลุกขึ้นนั่งมองอีกคนที่ก็ยังคงค่อมตัวผมอยู่ ส่งสายตาเชิงโมโหไปอีกคนก็ค่อยๆนั่งลงช้าๆที่ปลายโซฟาอีกฝั่ง " ฉันบอกว่าอย่าเพิ่งมายุ่งไม่เข้าใจรึไง "

“ ก็แค่หอมแก้มเอง "

“ ถึงจะแค่นั้นแต่มันก็น่ารำคาญ นี่ อย่าทำตัวเหมือนเด็กๆที่ไม่รู้จักเวล่ำเวลาสิ ฉันก็บอกนายแล้วไงว่าฉันอยากจะอยู่ก็คนเดียว ขอเวลาให้ฉันได้อยู่คนเดียวอย่างที่ฉันขอ ไม่ได้เลยรึไง ทำไมนายต้องยุ่ง ต้องเข้ามารุ่มร่าม " ไม่รู้ทำไมถึงต้องหงุดหงิดขนาดนั้นเหมือนกัน ผมมองหน้าคนที่ไม่เข้าใจอารมณ์ของผม ฟานที่ไม่รู้จะพูดอะไรออกมาในตอนที่เค้าได้แต่ผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆแล้วเอ่ยขอโทษผมสั้นๆ

“ ขอโทษครับ "

“ ฉันแค่เครียดเรื่องงานน่ะ งานฉันมันมีปัญหา " ผมบอกเหตุผลกับร่างสูงตรงหน้าที่พยักหน้าเข้าใจ

“ ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเข้าใจว่าคุณคงเครียดจริงๆ "

“ อื้ม " พยักหน้ารับก่อนจะขยับตัวเองนั่งพิงกับพนักพิงของโซฟา ฟานที่หันมามองยิ้มจางๆก่อนจะถาม

“ แล้วคุณคีย์เครียดเรื่องอะไรเหรอ " มือหนาเอื้อมมือจับแก้มเบือนหน้าหนีเค้าก่อนจะถอนหายใจออกมา " ถอนหายใจออกมามากๆ เดี๋ยวก็ตายเร็วหรอกคุณ "

“ ไอ้เรื่องหลอกเด็กที่บอกว่า ถอนหายใจหนนึงจะตายเร็วหนึ่งวินาทีน่ะเหรอ ฉันไม่เชื่อเรื่องอะไรไร้สาระหรอกน่า ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ ฉันตายไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว วันๆนึงฉันถอนหายใจมากกว่าสิบรอบซะอีก "

“  งั้นก็เลิกถอนหายใจสิครับ ไม่อยากจะอยู่กับผมเหรอ "

“ ไร้สาระ "

“ ว่าไงล่ะครับ เครียดเรื่องอะไรละ บอกผมได้นะ "

“ บอกนายไปแล้วนายช่วยอะไรฉันได้ " เอ่ยถามอีกคนที่มองหน้าผม เค้าที่ยิ้มออกมาก่อนจะส่ายหน้าไปมา " เห็นมั้ยพูดไปนายก็ช่วยอะไรฉันไม่ได้ พูดไปมันก็เท่านั้นแหละ "

“ แต่ว่าผมช่วยรับฟังได้นะ " มือหนาที่ดึงผมเข้าไปกอด " ถ้าคุณเครียดผมจะเครียดไปพร้อมกับคุณเอง จะรับฟังปัญหาของคุณ ถึงจะช่วยไม่ได้แต่มันก็ดีกว่าเก็บไว้คนเดียวไม่ใช่เหรอ เรื่องบางเรื่องคุณอาจจะร้องไห้กับใครไม่ได้ แต่คุณร้องไห้กับผมได้นะ จะร้องหนักแค่ไหนก็ได้ ถ้าอยู่กับผม คุณไม่จำเป็นต้องเข้มแข็งเลย เพราะผมจะเข้มแข็งเพื่อเป็นที่พักให้คุณเอง "

“ ฟาน " เอ่ยเรียกชื่อเค้าตอนที่อีกคนกำลังกอดผมไว้แน่น ผมก้มหน้าลงซบกับไหล่ของเค้า ทั้งๆที่ไม่ได้อยากจะร้องไห้เลย ตัวผมไม่ใช่คนอ่อนแออะไรขนาดนั้น แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันเหมือนสลับกัน น้ำตาของผมที่ไหลออกมาซึมลงบนเสื้อของเค้าอย่างไม่ขาดสาย สองมือที่กอดเค้าไว้แน่น

“ ฉันไม่ได้ลอกงานของใครเลยสักนิด แต่ลูกค้ากลับมาบอกว่าฉันลอกงานของคนอื่นทั้งๆที่ฉันทำงานตามที่เค้าบอกแท้ๆ ฉันทำตามความต้องการของเค้า ฉันไม่อยากให้ใครบอกว่าฉันลอก ฉันไม่ได้ลอกใครนิ ทำไมต้องรับผิดชอบด้วย พรุ่งนี้เค้าจะเข้ามาคุยกับฉัน  ถ้ามันออกมาไม่ดีแล้วฉันต้องรับผิดชอบ ฉันอาจจะต้องรับผิดชอบด้วยการลาออกก็ได้ อึก แล้ว แล้วถ้าเป็นแบบนั้นน่ะ ฉันจะไปหางานที่ไหนได้ ถ้าฉันต้องออกไปเพราะการลอกงานคนอื่น ใครจะให้โอกาสฉัน ทั้งๆที่ฉันไม่ผิดเลย ฉันไม่รู้จะทำยังไง ถึงหัวหน้าจะบอกว่าเค้าจะช่วยพูดให้ แต่ฟาน ถ้าเค้าไม่ฟังหัวหน้าละ ถ้าเค้ายังโยนความผิดให้ฉันด้วยการบอกว่า เค้าจะเอางานที่จ้างบริษัทเราทั้งหมดออก แบบนั้นทางบริษัทจะเลือกฉันเหรอ เค้าต้องเลือกลูกค้าถูกมั้ยละ อึก แล้วแบบนั้นฉันจะทำยังไงละ ฮือๆ " ผมที่ร้องไห้ออกมาเสียงดังพูดในสิ่งที่ตัวเองอยากพูด คำพูดที่พูดกับคนอื่นไม่ได้ ความกังวลที่เอาแต่เก็บไว้ในใจ " ฟานฉันจะทำยังไงดีละ ฉันจะทำยังไงดีละ "

“ ใจเย็นๆมัน มันอาจจะไม่เป็นอย่างที่คุณคิดก็ได้ ผมรู้ครับว่าคุณกำลังวิตกถึงมัน แต่ผมเชื่อว่า มันต้องผ่านไปได้แน่ๆ "

“ แล้วถ้ามันไม่ผ่านไปละ " เงยหน้ามองเค้าทั้งๆที่น้ำตายังคงนองหน้า รอยยิ้มของฟานที่ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาให้ผม " ถ้ามันไม่ผ่านไปละฟาน ฉันจะทำยังไง ต้องยอมรับว่าตัวเองเป็นคนลอกงานคนอื่นอย่างงั้นเหรอ "

“ อย่าคิดอะไรไปในทางที่แย่แล้วบั่นทอนตัวเองสิครับ มันไม่ดีกว่าเหรอถ้าคุณจะเลิกคิดแล้ว ตั้งสติกับมัน พรุ่งนี้ค่อยๆพูดอธิบายให้เค้าเข้าใจ ว่าความจริงมันเป็นยังไง "

“ ลูกค้าไม่มีทางรับผิดในสิ่งที่ตัวผิดหรอก "

“ ผมจะอยู่ข้างๆคอยให้กำลังใจคุณเอง " เค้าบอกก่อนจะยิ้มให้ผม " ไม่ว่าจะเป็นยังไง พรุ่งนี้คุยก็ยังมีผม แล้วเราค่อยมาคิดกันว่าจะทำยังไงต่อดีมั้ย ตอนนี้มันยังไม่เกิดขึ้น คิดอะไรไปในแง่ลบก็ทำให้รู้สึกแย่เสียเปล่าๆ "

“ ก็มันรู้สึกแย่ "

“ เลิกคิดสิครับ " สองมือยกขึ้นดึงแก้มผมก่อนจะยิ้ม เบือนหน้าหนีจากมืออีกคนก่อนจะซบเค้าอยู่แบบนั้น " อาบน้ำสักหน่อยมั้ยครับจะได้รู้สึกดีขึ้น "

“ อยากอยู่แบบนี้สักพัก "

“ แบบนี้นะเหรอ " เค้าถามย้ำก่อนจะกอดผมแน่นขึ้น หลับตาลงพยายามไม่คิดอะไรแต่สุดท้ายมันก็ต้องคิดอยู่ดี ความกังวลที่เหมือนวนอยู่ในสมองซ้ำๆ คืนนี้ดูท่าทางว่าคงต้องกินยานอนหลับซะแล้วละมั้ง เพราะขืนยังมัวคิดมากแบบนี้ พรุ่งนี้คงเบลอจนเถียงกับลูกค้าไม่ไหวแน่ๆ " ไม่ต้องกังวลหรอกครับ ผมจะอยู่ข้างๆคุณเอง "

“ อื้ม " พยักหน้ารับเค้าช้าๆ มันให้ความรู้สึกต่างกันนะ แม้จะเป็นคำพูดเดียวกัน ' อยู่ข้างๆ ' ของฟานทำให้ผมรู้สึกรับรู้ว่ามีเค้าแต่ไม่ได้หายเครียด ไม่ได้หายกังวลทั้งๆที่เค้าเป็นคนพิเศษของเราแท้ๆ  แต่น่าแปลกคำว่า 'อยู่ข้างๆ' ของหัวหน้ากลับทำให้ผมรู้สึก ปลดความกังวลลงไป เหมือนว่า เค้าจะช่วยเราได้จริงๆ ไม่ใช่แค่พูดให้เลิกคิดมาก หรือว่าแค่ให้กำลังใจอย่างเดียว

   นี่คงเป็นความรู้สึกแตกต่างระหว่าง การมีแฟนเด็ก กับการมีแฟนเป็นผู้ใหญ่ละมั้ง แฟนที่เด็กกว่าจะทำได้แค่ให้กำลังใจ แต่ไม่ใช่แฟนที่เป็นผู้ใหญ่กว่า ที่จะช่วยเราแก้ปัญหาได้

   ในที่สุดก็เจอแล้ว .. คำตอบที่ว่าทำไมตัวผมถึงชอบผู้ใหญ่มากกว่าเด็กเพราะความรู้สึกในช่วงที่ต้องการที่พึ่งพานี่เอง
 
................................................

   ถอนหายใจออกมาในเช้าวันใหม่ที่อยากให้ทุกอย่างมันผ่านไปเร็วๆ เมื่อคืนแม้จะกินยานอนหลับเข้าไปแต่เหมือนร่างกายที่ยังกังวลก็ไม่ชวนให้หลับลึกเท่าไหร่ แต่งตัวเรียบร้อยอาหารที่เคยน่ากินวันนี้ ผมไม่อยากจะกินอะไรสักอย่าง คว้าช้อนตักเข้าไปปากไปแค่คำสองคำก่อนจะวางช้อนแล้วดื่มกาแฟเข้มๆไปอีกแก้ว

“ ไปทำงานก่อนนะ " ผมบอกคนที่ยืนอยู่ข้างหลังตอนที่จะเดินออกไป ฟานกลับใส่รองเท้าเหมือนจะเตียมตัวออกไปข้างนอกด้วย

“ วันนี้ผมจะไปส่งครับ "

“ ไปส่ง ? “ ทวนคำพูดของเค้าก่อนจะขมวดคิ้วงงๆ " ไปทำไม ไม่ต้องไปก็ได้ "

“ ผมอยากจะไปส่งคุณถึงที่ทำงาน เป็นห่วงน่ะครับ " อีกคนบอกผมก็ผ่อนลมหายใจออกมาก่อนจะพยักหน้ารับ มือหนาสอดเข้ากับมือผมแล้วจับไว้แน่น " ไปกันเถอะครับ " ฟานคงรู้สึกห่วงผมไม่ต่างอะไรจากที่ผมกำลังเครียดละมั้ง เพราะเห็นว่ากินน้อย พูดก็น้อยก็เลยไม่เซ้าซี้แต่ก็คอยมาอยู่ข้างๆแทน " เย็นนี้อยากจะกินอะไรเป็นพิเศษมั้ยครับ "

“ ไม่อะ ตอนนี้ไม่อยากจะทำอะไร อยากให้ผ่านการประชุมไปเร็วๆมากกว่า "

“ ต้องผ่านไปได้ด้วยดีแน่ๆ " เค้าบอกก่อนจะยิ้มแล้วจับมือผมแน่นขึ้น พยักหน้ารับเค้าอีกครั้งเราเดินทางด้วยรถไฟเงียบๆมาถึงสถานที่ทำงานของผม ตรงหน้าบริษัทที่ทำให้ได้แต่ถอนหายใจออกมา หัวใจที่เริ่มสั่น ความกังวลทำให้หัวใจผมเต้นเร็วขึ้น มือไม้ก็ชาไปหมด " คุณคีย์ครับ "

“ หื้ม ? " หันหน้าไปมองเค้าอีกคนที่ดึงเป้ของตัวเองขึ้นเหมือนบังผู้คนจากฝั่งที่มีคนเดินเข้าออกฟุกฟ่าน ใบหน้าคมที่ก้มลงมาจูบผม

“ ขอให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดีนะ ผมจะคอยให้กำลังใจคุณอยู่ตรงนี้ โชคดีนะครับ "

“ ขอบคุณนะฟาน " บอกอีกคนตอนที่สูดลมหายใจเข้าปอดแล้วเดินเข้าไปในบริษัท หน้าลิฟต์ที่มีคนเยอะแยะกำลังรออยู่ผมหันไปมองร่างสูงที่มาส่งผม แต่ตอนนี้เค้าไม่ได้ยืนอยู่ที่เดิมแล้ว ฟานที่เหมือนเดินไปข้างๆบริษัท ศาลของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู่ตรงนั้น เค้ายกมือไหว้ด้วยความตั้งใจ ในช่วงเวลาที่ทำให้ผมได้แต่ยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้ อย่างน้อยก็ยังมีคนนึงที่ทุกข์ร้อนเป็นเพื่อนเราทั้งๆที่ไม่ใช่เรื่องของเค้าเลยสักนิด แล้วก็ยังพยายามทำทุกอย่างที่ตัวเค้าสามารถทำได้ ไม่ว่าจะเป็นทางไหนก็ตาม ' ขอบคุณนะฟาน ขอบคุณจริงๆ '

............................................................

พี่คีย์ตะคอกใส่น้องฟานอะ
 :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:
ทำใจไม่ได้ #เอาไปโอบกอดน้องฟาน  :ling1:
แต่หนมมี่ขอบวกคะแนนให้พี่ลิป สิบคะแนน
ฝากแท็ก #ฟานคีย์ นทวิตด้วยนะคะ
สุดท้ายนี้
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์
เจอกันตอนหน้าค่าา

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
ตอนนี้ไม่ชอบพี่คีย์เลยอ่ะ

ออฟไลน์ tiew93

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
อย่าเอียงไปหาหัวหน้าสิคีย์ สงสารฟานนน  :katai1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ tkaekaa

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 329
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
คีย์ทำไมคิดแบบนี้อะ ไม่เอาไม่ดีนะ มีปห.ใช่ว่าจะไม่มีทางแก้ มาเกี่ยวอะไรกับฟาน

ออฟไลน์ minmin96

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 435
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
คือขนาดลิปเป็นเพื่อนยังรับคีย์ไม่ได้...เพราะอะไรคีย์ถึงอยากมีแฟนเป็นผู้ใหญ่??ก้อเพราะว่าคีย์นะทำตัวเป็นเด็ก...
ต้องคอยให้มาช่วย..มาโอ๋..ทำตัวอ่อนแอไปวันๆ..อิหัวหน้ามันมีเมียมีลูก..คือเค้าทำดีด้วยก้ออ่อนระทวย..คนใจโลเลแบบคีย์นะแย่..มีปัญหาเข้ามาแค่นี้ไปมองว่า..ฟานไม่เข้าใจ..ตั้งป้อมเลยว่า..เพราะฟานเด็กกว่า...
อย่างที่ลิปบอกเอาที่สบายใจ!!
สุดท้ายจะดูว่าใครกันแน่ที่แก่แต่อายุ แต่วุฒิภาวะต่ำติดดินกันแน่!!
#ทีมน้องฟาน :katai3:

ออฟไลน์ mareya.no7

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
มันยากขนาดนั้นถ้าจะรักเด็กอย่างฟานก็หาผัวใหม่ซะเลยคีย์ เอาหัวหน้านั่นแหละเหมาะกันละ ขนาดลิปเพื่อนแท้ๆยังไม่เห็นด้วย เหอะ เกลียดนายเอกนิสัยแบบนี้ว่ะ ใครดีด้วยหน่อยก็หวั่นไหว เอาที่สบายใจนั่นแหละ เปลี่ยนผัวซะ ส่วนฟานก็อย่าเป็นของตายให้มันมาก น่ารำคาญ เม้นนี้อารมณ์ล้วนๆ ขออภัยด้วย  :katai1:

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
คีย์แม่งงงง
โอ้ยย หงุดหงิดดด
อยากให้ฟานโกดแล้วหนีไปเลยจิงๆ
ิชิส์

กดไลค์ลิปแรงๆๆๆๆเลยยย
ทำไมถึงดีขนาดนี้
แต่ความดื้ของคีย์ก้นะ ชิส์

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
คีย์เป็นคนโลเลสูงจริงๆ
ถ้ายังมองผูชายที่มีเมียแล้วๆ ยังมาอ่อยคนอื่น ผชที่กินเด็กในที่ืำงานไปแล้วก็ยังมาอ่อยว่าดีอีก ...ก็เลิกกับฟานไปคบกันเลย...ปล่อยฟานไปเถอะ สงสารฟานนะ

ออฟไลน์ LovEYouOnLy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 439
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
ทำไมถึงทำกับฟานแบบนี้ ลิปพูดถูก แต่แน่ใจแล้วหรอว่าคีย์คิดแค่นั้นจริงๆ

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
ลิปเป็นเพื่อนที่ดีมาก  คอยให้คำแนะนำให้กำลังใจและช่วยชี้แนะคีย์ในหลายๆเรื่อง  การที่ลิปพูดแบบนี้คีย์น่าจะฟังเพื่อนบ้างอย่าเอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่นัก  ถ้าไม่ใช่เพนาะรักเพราะห่วงลิปคงไม่พูด

คีย์โคตรโลเลเลย  สงสารฟานว่ะ  ถ้าฟานต้องเสียใจเพราะคีย์เราคงเสียใจร้องไห้งอแง แล้วยุให้มีใครสักคนที่จริงใจ รักและดูแลฟานให้มารับช่วงต่อ...สงสารฟาน  คีย์ทั้งปากไม่ตรงกะใจ ไว้ตัว แถมโเล

ปล. อินจัดเพราะรักฟานมาก  ถึงเป็นไปได้อยากขอมาดูแลเอง 555

ออฟไลน์ alien.aiiwz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
มองเห็นดราม่ามาแต่ไกลๆ
ฮืออออออ
 :hao7:
ทำไมคีย์ต้องพาลใส่น้อง
น้องแค่เด็กกว่าน้องผิดอะไร
ที่ต่างกันเพราะแค่เรื่องงานเอง
พองานมีปัญหาและหัวหน้าบอกว่าจะอยู่ข้างๆ
คีย์ก็โอนเอนล่ะอ่ะ ลืมไปเลยว่าหัวหน้าเคยทำตัวแย่ๆ
นี่เห็นด้วยกับลิปนะ ลิปพูดถูกทุกอย่างเลย
ตอนนี้ให้คะแนนลิปสิบบวกบวกบวกกกกก
รอตอนต่อไปนะคะ
 :call: :call: :call:

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
สำหรับเรื่องหัวหน้า เราแค่คิดว่าเขาใช้โอกาสที่คีย์พลาดมาทำดีหาประโยชน์ให้ตัวเอง
แต่ลิปกับคิดขั้นกว่า หัวหน้าวางแผนให้เป็นแบบนี้ จริงอ่ะ ระดับนี้เนี่ยนะ เพลียๆๆๆ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :z3: เราหวั่นไหวกับตอนนี้มาก สงสารน้องฟาน  เรามองว่าฟานเหมือนหมาน้อยที่นั่งรอเจ้าของกลับมาบ้าน มันดีใจสุดชีวิตที่คนที่เรารอคอยกลับมาให้เห็นหน้าสักที อยากเล่นด้วย อยากปลอบโยนไม่ว่าเจ้านายไปออกจากบ้านไปเจอเรื่องอะไรมา แต่เจ้านายกลับดุเรา ตะคอกเรา ไม่เล่นกับเราไม่พอนะยังมาปั้นปึ่งใส่อีก   :hao7:  อย่างไรก็ตาม คีย์จงจำเวลาที่ดอกฟานซบฟานร้องไห้ไว้ให้ดี ถ้าเลือกทางผิดน้ำตาจะเช็ดหัวเข่านะยะ
ลิปอะมองอออกเพราะเขาได้รับการปฏิบัติอีกแบบจากเจ้านายไง ลิปพูดถูกแล้วและหวังดีกับคีย์จริงๆ เอาที่สบายใจแล้วกันนะถ้าอยากเป็นเมียเก็บก็ปล่อยฟานไป ชิ ก็เห็นด้วยกับเม้นท์บนๆนะ คนที่ทำตัวเป็นเด็กอะ ใครกันแน่ ชิ
เราอ่านเกมเจ้านายออกนะ ตั้งใจสร้างสถานการณ์แล้วพาไปกินเหล้าปลอบใจสองต่อสองอะดิ เสร็จแล้วก้อจบที่คำว่าเรื่องนี้เรารู้กันแค่สองคนนะแล้วก็เอาไปแดกลับๆ ถุ๊ยยย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ me12inzy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
เอาเลยคีย์ อยากได้ผัวแก่นักก็ไปหาหัวหน้าสิ ไปเล้ย มาพูดทำไมว่าชอบผู้ใหญ่ ถ้าไม่ใช่นายเอกนี่ด่าต.แหลแล้วอะ ชอบนักไม่ใช่เหรอคนมีลูกมีเมียแล้วอะ ไปสิ มันเข้าใจมากกว่านี่ ไอ้คนไม่ได้ทำอะไรผิด รออยู่บ้านเฉยๆดันผิดมากมาย มันอยู่ที่ความคิดเธอ เป็นลิปนี่จะด่ามากกว่านี้อีก ควบสองเลยมั้ย เอาทั้งเด็กที่แก่ สะใจดีนี่ หรี่จริงๆ

โดนอิผช.ชั่วหลอกเอาละเป็นเมียน้อยเมียเก็บไม่ต้องกลับมานะ

ออฟไลน์ beerby-witch

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
อ่านตอนนี้แล้วแบบ โอ้โหววววว ฟานดีเกินไปสำหรับคีย์จริงๆ มาคบกับพี่ดีกว่าลูกพี่ชอบเด็ก

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
กลับมาอ่านต่อ 6 ตอนรวดยาวๆ(27-32)  :katai2-1: //ลิปนึกว่าจะโดนเคสแบบไหน โด่ววววว เคสแผนไอ้เด็กจินโรคจิตนี่เอง มันบ้า ระรานไม่เลิก สมควรโดนเมษต่อย ปากดี นี้ถ้าไม่ห้ามจะกระทืบซ้ำนะเนี้ย ถุย!!ลำไย 5555 /แต่ก็ดีอ่ะ ใช้เป็นข้อเรียกร้องให้ลิปสัญญาว่าจะไม่ดื้อกับเมษอีก 55555 อื้ออหื้อออออออออออเมษทำตรูเลือดพุ่ง  :pighaun: :oo1: เร่าร้อนแรงมากกกกก เชรดดดดดดด ลิปเซ็กซี่โคตร ชอบภาพที่ถ่ายตอนออนท็อป ดูอีโรติกไปอิ๊ก (มโนได้ขนาดนั้นนะเออ คิดภาพตามไง อินๆ) 55555 แต่อย่าให้ภาพทำความเดือนร้อนเลยนะ ภาพสวยเก็บไว้ดูสองคนพอ//ในที่สุดความปรารถนาละตั้งใจก็มาถึง ดีใจด้วยฟานนนนนนนนน ที่ได้เสียบสด 555  :oo1: :jul1: :haun4: โคตรรจะเสียวละฟินตามอ่ะ อ๊างงงงงงงงงง  :impress2: 55555555 รอมานานขอจัดหนักๆสัก2วันเต็มเห๊อออออ 555555 ความสุขช่างผ่านไปเร็วซะจริง //ใครว่ะสปายในบริษัท ไม่งั้นจะเกิดเหตุการณ์นี้ได้ไง มันต้องมีคนมาก๊อบงานไปที่คีย์ลืมปิดคอมอ่ะ อย่าว่าหัวหน้าวางแผนเถอะ ไม่ม้างงงงง มันดูเลวไป 555555 //ฟานนนนนนนนนนนนนนโคตรจะใจเย็น ตอนที่คีย์เหวี่ยงบอกไม่ต้องมายุ่ง ถ้าเป็นตรูนี่คือเดินหนีไปละ ปล่อยให้อยู่คนเดียวสักพัก แต่พอเห็นฟานทำแบบนั้น นั่งต่อละบอกให้ระบายมา เลยคิดได้ว่าเออหว่ะ มันควรทำแบบนี้นะ คือดีไปอี๊ก ฟานนนนนนนนนนนนนนน //ว่าแต่คีย์(หวังว่า)คงไม่คิดอะไรมากมั้งกับหัวหน้า อารมณ์ประมาณพระเอกขี่ม้าขาว อาจจะเพราะว่าหัวหน้าไปอธิบายงานด้วยไง นั่งอยู่ข้างๆเลยหายกังวล นี่พยายามแถจนสีข้างจะถลอกละ 555555 ชอบบลิป ลิปพูดทุกอย่างทุกเรื่อง เห็นด้วยกับลิปตั้งแต่ตอนแรกยันตอนนี้ คือมันใช่อ่ะละใช่ที่สุด //ฟานไม่โง่นะ แกฉลาดมาตลอด ดูคนออก ถ้าว่าคีย์อารมณ์แบบจะรู้สึกรำคาญ ขวางหูขวางตา หรือตัวอยู่นี้ใจคิดถึงหัวหน้าเงี้ยะ แกพอจะจับได้อารมณ์นะว่าคีย์เริ่มเปลี่ยน ถ้าสงสัยหรืออะไรยังไง ปิดเทอมพอดี จับให้ได้คาหนังคาเขา สมมติถ้ามันเป็นแบบนั้นนะฟาน เอาดิลองให้คีย์คบกับคนตามสเปคตัวเองดูไหม จะได้รู้ๆกันไปเลย เพราะนี้คีย์ก็ยังไม่คบกับสเปคตัวเอง แต่ถ้าไม่มีไรคิดมากก็หวานกันต่อไป //ส่วนตัวแอบอยากให้คีย์พลาดอยู่นะ แบบเห็นแล้วรู้เลยว่าไม่ใช่ลูกน้องหัวหน้า ไม่ว่าตอนนั้นจะอยู่ในอารมณ์ไหนก็ตาม ละฟานมาเจอ โอ๊ยยยยยยยยยยยยยย อยากรู้ฟานจะทำไง คิดไว้แล้วว่าถ้าฟานทำงี้ ตัวเองจะถูกใจรัวๆ แต่ถ้าฟานทำแบบนี้จะไม่โอเคเลย คิดไปไกลขนาดนั้นนะเออ อ่านจบยังมานั่งคิดต่ออ่ะ อินมากบอกเลย 55555555555555 สนุกมากกกกกกกกกกกกกกกคร้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา ชอบบบบบบบบบบบบค่ะชอบบบบบ รออ่านตอนหน้าไม่ไหวแล้ว รีเฟรช F5 รัวๆที่ชั่วโมง 555 แต่ขอบคุณนะค่ะที่มาอัพให้อ่านได้เรื่อยๆ ดีมากๆค่ะ สู้ตอนต่อไปนะค่ะ ฮึบๆ  :katai4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-09-2016 01:04:20 โดย blove »

ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
โอยยยยยย
ต้องไปหาแฟนดีๆจากนี้ได้ที่ไหน

ออฟไลน์ Yukisho

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 เหมือนคีย์หาข้ออ้างให้ตัวเองไงก็ไม่รู้สิ
ถ้าไงก็บอก ๆ ฟานไปเลยว่าไม่ชอบเด็กกว่าตัวเอง
ทำไงมันก็เปลี่ยนความยึดมั่นถือมั่น ในการที่ชอบแฟนแก่กว่าไม่ได้
คิดว่าฟานเข้าใจอยู่แล้ว ถ้าบอกกันตรง ๆ (แล้วจับฟานมาเข้าฮาเร็มตัวเอง  :hao6: )
เอาเถอะอย่างที่ลิปบอกเลย เอาที่สบายใจนะ  :angry2:

 ส่งเนย์ไปกระโดดตบคีย์จะผิดไหม  :beat: ก๊ากกกกกกกกกกก

 :pig4: :3123: :katai2-1:

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
เราว่าหาแฟนใหม่ให้ฟานเถอะ อ่านๆมาเหมือนคีย์ก็แค่คนเห็นแก่ตัวเท่านั้นล่ะ เหมือนไม่รักไม่แคร์ฟานเท่าไรเลยด้วยซ้ำ

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
กำลังสวีทกันดีๆ คีย์เจอเรื่องซะงั้น
คีย์ต้องใจเย็นๆนะคะ ฟานอยู่ข้างๆ

คือรองหัวหน้าน่ะ ต้องการอะไร

ฟานน่ารัก ทำคีย์เปิดใจเยอะเลย

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27

ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง
ตอนที่ 33
' จุดเริ่มต้น '

   หย่อนตัวเองลงนั่งที่เก้าอี้สำนักงานสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะเปิดคอมพิวเตอร์ของตัวเอง นั่งรอมองดูคนอื่นที่เข้างานมาเรื่อยๆ ก่อนจะยิ้มให้ลิปที่เดินเข้ามาทัก

“ วันนี้แฟนมาส่งเหรอ "

“ รู้ได้ไงน่ะ " ผมถามก่อนจะขมวดคิ้วมองเค้า

“ ก็ฉันเห็นฟานที่หน้าบริษัทกำลังยืนไหว้ศาลพ่อตาเจ้าที่อย่างตั้งใจเลย ฉันเลยเข้าไปบอกเค้าว่า บนเยอะๆ เดี๋ยวนายก็โดนลูกค้าแอบปิ้งเข้าหรอก เค้าก็หัวเราะใหญ่ " หลุดยิ้มออกมาตอนที่อีกคนพูดแบบนั้น

“ ติ๊งต๊อง เป็นเด็กเป็นเล็กเชื่อเรื่องไม่มีจริงแบบนั้นด้วย "

“ เค้าต้องพูดว่า เราก็ต้องทำทุกอย่างที่พอมีทางทำได้ ไม่ว่าจะด้วยสมองหรือด้วยเล่ห์กลก็ตาม น่ารักดีออก เค้าดูห่วงนายมากเลยนะ "

“ อื้ม ฉันรู้ " ฟานที่ไม่ได้นอนทั้งคืนก็เพราะกอดผมไว้แน่น เค้าที่พูดปลอบผมวกไปวนมาด้วยเรื่องซ้ำๆ สีหน้าท่าทางที่ดูออกทั้งหมดว่ากำลังกังวลแทนตัวผมขนาดไหน

“ แฟนนายน่ารักชะมัด ถึงเค้าจะเด็ก แล้วก็ช่วยแก้ปัญหาอะไรไม่ได้ แต่ก็ดูเดือดร้อนแทนมากเลยนะ ขอให้โชคดีละ " ลิปจับไหล่ของผม " ฉันเองก็จะเป็นกำลังใจให้นาย สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ พูดในสิ่งที่นายคิด นายไม่ผิดก็ต้องยืนยันในสิ่งนั้น แล้วก็ยอมรับในส่วนที่ผิดจริงๆ นายทำได้ เดี๋ยวมันก็ผ่านไป "

“ ขอบคุณนะลิป "

“ ฉันอยู่ข้างนายเอง ถ้ามันกดดันให้นายรับผิดชอบด้วยการลาออก ฉันจะให้คุณเมษรับนายเป็นโฮสเองนะ "

“ ลิป..”

“ ถ้าฟานไม่มาฉีกอกฉันก่อนละก็นะ "  เสียงหัวเราะของอีกคนที่ดังขึ้นมาก่อนที่เราจะแยกย้ายไปทำงาน ผมมองดูเวลาที่ค่อยๆผ่านไปเรื่อยๆ ขีดๆเขียนๆงานออกแบบที่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก ก่อนจะมีเสียงนึงเรียกผมขึ้นมา เสียงของหัวหน้า

“ คีย์ ไปกันเถอะ ลูกค้ามาแล้วละ รออยู่ที่ห้องประชุมชั้นล่าง "

“ ครับ " ลุกขึ้นยืนจากโต๊ะที่ทำงานผมคว้าเอาแฟ้มเอกสารที่เตรียมไว้ เดินตามร่างสูงและรองหัวหน้าออกไปจากออฟฟิศ ก่อนจะหันไปมองหน้าลิปที่มองผมแล้วก็ยิ้มให้ เค้ากำมือให้กำลังใจผมก็ยิ้มรับ

   ผ่อนลมหายใจออกมาตอนที่ลงลิฟต์ลงมา ในตู้สี่เหลี่ยมที่รู้สึกอึดอัดนั่นหัวหน้าก็ถาม " ตื่นเต้นเหรอ "

“ ก็ครับ..กลัวว่าจะตื่นเต้นจนพูดอะไรไม่ออก "

“ ถ้าเป็นฉัน ฉันก็คงตื่นเต้นเหมือนกันนะ "

“ ครับ " พยักหน้ารับอีกคน ลิฟต์ที่เปิดออกหัวใจของผมก็เต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ ถึงเวลาขึ้นเขียงโดยสมบูรณ์แล้ว รองหัวหน้าเดินออกไปก่อนในตอนนั้นผมที่จะเดินตามออกไปต้องหยุดชะงักกับมือหนาของหัวหน้าที่เดินเข้ามาอยู่ข้างหลังพร้อมกับจับเอวของผมไว้ ใบหน้าคมที่ก้มลงมากระซิบข้างๆหู

“ ต้องผ่านไปได้ด้วยดีแน่ๆ ไม่เป็นไรหรอก ฉันจะช่วยนาย แล้วอยู่ข้างหลังนายเอง ไม่ทิ้งนายไปไหนแน่นอน "

“ หัวหน้า " แก้มแดงๆของผม พยักหน้ารับอีกคนที่เดินนำออกไป แผ่นหลังหนาที่เหมือนปกป้องเราได้นั่น ในตอนนี้ไม่มีอะไรที่ทำให้รู้สึกอุ่นใจไปมากกว่านี้อีกแล้ว

“ ขออนุญาติครับ " ประตูที่ถูกเลื่อนออกลมแอร์เย็นๆที่ปะทะเข้าใบหน้า ผมสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆก่อนจะพูดให้กำลังใจตัวเองในใจ ' เราต้องทำได้ ทำให้ดีที่สุดคีย์ ไม่ว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิดแหละ '

“ สวัสดีครับ " ทักทายลูกค้าวัยกลางคนที่ก็ลุกขึ้นทักทายเราเช่นกัน รูปร่างท้วมที่ไม่คุ้นตาของเค้าจำได้ว่าตอนที่เสนอผลงาน ไม่ใช่คนคนนี้ที่มานั่งฟังแล้วตอบรับให้สิ่งที่เราออกแบบ จำได้ว่าตอนนั้นเป็นผู้ชายที่ดูหนุ่มกว่านี้ไม่ได้แก่ขนาดนี้ แล้วก็ไม่ได้ลงพุงด้วยในขณะที่กำลังนิ่งสงสัย ตอนนั้นรองหัวหน้าก็ผายมือแนะนำตัวผมพอดี

“ นี่เป็นพนักงาน ที่ออกแบบงานของคุณนะคะ ชื่อ ณาศิส อัครภานุวัตน์ "

“ ณาศิสครับ  "

“ คนนี้น่ะเหรอที่ ลอกงานคนอื่นมาส่งผม "

“ ผมไม่ได้ลอกนะครับ " ผมพูดตอบรับอีกคนไปคนทั้งห้องก็หันมามองแม้แต่หัวหน้าเอง

“ ใจเย็นคีย์ นั่งลงก่อน " หัวหน้าบอกก่อนจะดึงมือผมให้นั่งลงใกล้ๆตัวเค้า ก้มหน้าลงขอโทษอีกฝ่ายที่ก็ยกยิ้มมองมา ท่าทางหาเรื่องของเค้าวันนี้ไม่รู้จะจบด้วยดีรึเปล่า แต่ที่แน่ๆ เหมือนเค้าจะไม่ยอมแน่ๆ ถ้าเกิดว่าเราบอกความจริงไปว่า ฝ่ายเค้านั่นแหละที่ผิด 

“ ถ้าไม่ได้ลอก งั้นคุณบอกผมได้มั้ยละว่าทำไมงานของคุณกับคู่แข่งของเราถึงเหมือนกันขนาดนั้น "

“ บอกได้ครับ เพราะผมทำตามรายละเอียด " เปิดเอกสารออกมาก่อนจะแจกจ่ายให้กับทั้งลูกค้า และทุกคนที่อยู่ในที่ประชุม " เอกสารที่ผมแจกไปคือรายละเอียดทั้งหมดที่ลูกค้าต้องการครับ จะเห็นว่า ส่วนของวงกลมในโลโก้มันเหมือนกันกับหน้าตาของอีกผลิตภัณฑ์นึง ซึ่งที่มันเหมือน ก็เพราะลูกค้าเจาะจงรายละเอียดมากับทางเราว่า จะเอาวางกลมสีเหลืองที่ทับซ้อนกับวงกลมสีส้ม ลูกค้ากำหนดขนาดของตัวหนังสือ สี ทุกอย่าง ทำให้มันมีความเหมือนกัน เพราะเป็นรายละเอียดที่ลูกค้าต้องการ ผมก็เลยต้องออกแบบไปตามที่ลูกค้าสั่ง "

“ แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น ทำไมคุณถึงไม่เปลี่ยนมันละ ถ้ารู้อยู่แล้วว่าความต้องการของผมมันเหมือนกันกับอีกฝ่าย คุณละเลยที่จะช่วยเหลือ และขาดความรับผิดชอบในการออกแบบนิอย่างงี้นะ เรียกว่างานชุ่ยนะคุณ "

“ งานทำตามความต้องการของลูกค้าที่กำหนดว่าต้องเป็นอย่างไร ได้ตรงตามเป้าหมาย คุณเรียกมันว่างานชุ่ยเหรอครับ " หัวหน้าเอ่ยถามอีกฝ่าย " แต่นั่นคือสิ่งที่เราปฎิบัติกันมานานแล้วนะครับ คือ เราต้องออกแบบงานให้ตรงตามความต้องการของลูกค้า ถ้าเราเปิดบริษัทออกแบบ แต่เรากลับออกแบบตามความคิดของเราแต่ไม่ตรงตามความต้องการของลูกค้าแบบนั้นจะได้เหรอครับ ผมว่ามันไม่น่าจะใช่นะครับ "

“ แต่คุณก็ต้องรู้ด้วยสิ ว่าทางนู้นเค้าออกแบบเป็นยังไง คุณก็น่าจะทำออกมาให้มันต่างกัน บริษัทคุณเป็นบริษัทออกแบบที่ออกแบบตามใจลูกค้าโดยไม่สนใจใช่มั้ยว่าหลังจากที่งานออกไปแล้ว ลูกค้าจะโดนกล่าวหาว่าลอกงานใครรึเปล่า "

“ ก่อนหน้าที่เราจะส่งงานให้กลับลูกค้า เราจะส่งงานกลับไปให้ลูกค้าตรวจถึงความพึงพอใจในการออกแบบ และสอบถามถึงการแก้ไขที่อยากจะเปลี่ยนแปลงแล้ว แต่กลับไม่มีผลตอบกลับการแก้ไขอะไร แบบนั้นทางเราก็คิดว่า ลูกค้าก็พึงพอใจแล้วและลูกค้าก็น่าจะรู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอครับว่างานของอีกฝ่ายเป็นแบบไหน ทำไมตอนนั้นไม่แก้ไขละครับ "

“ คุณกำลังจะบอกว่า ผมจงใจจะให้รายละเอียดพวกนั้นเพื่อออกแบบแพ็คเก็จสินค้ามาแข่งกับคู่แข่งงั้นเหรอ คุณจงใจจะบอกว่าเราตั้งใจลอกของของเค้าโดยสมัครใจ เพราะเราไม่เปลี่ยนแปลงอะไรในรูปแบบงานของพวกคุณ เราเอาความผิดมาโยนให้คุณเพียงเพราะโดนอีกฝั่งโจมตีว่าเหมือนอย่างงั้นเหรอ "

' ใช่ อย่างงั้นแหละ ' ผมตอบอีกฝ่ายในใจคุณคงจงใจให้มันเป็นแบบนั้นแหละ ตั้งใจจะออกแบบให้ผู้บริโภคสับสนทางแพ็คเก็จที่ดูคล้ายคลึงกัน แต่สุดท้ายพอเปิดตัวรูปลักษณ์ไปกลับโดนสังคมของอีกฝ่ายโจมตีถึงความเหมือน พอทุกอย่างออกมาเป็นแบบนั้นก็เลยโยนความผิดมาให้คนอออกแบบ ไม่ใส่ใจบ้างละ เราลอกงานอีกฝ่ายบ้างละ น่ารังเกียจจริงๆไอ้พวกที่คิดว่าลูกค้าคือพระเจ้าจะทำอะไรก็ได้

“ ถ้าคุณคิดอย่างงั้นเราก็คงไม่ต้องทำงานร่วมกันอีก งานที่ผมจ้างบริษัทคุณออกแบบทั้งหมด ทางผมจะขอยกเลิก "

“ เดี๋ยวก่อนสิค่ะท่าน อย่าเพิ่งใจร้อน เรามาหาทางแก้ไขมันไม่ดีกว่าเหรอ " รองหัวหน้าของผมพูดขัด เธอที่หันหน้ามามองหัวหน้าก่่อนจะพูดกระซิบ " ทำอะไรสักอย่างสิบค่ะหัวหน้า ถ้าเค้ายกเลิกงานของเรา เราซวยนะ งานที่เค้าจ้างไม่ได้มีแค่แผนกเรานะ มันมีตั้งหลายอย่างเป็นล้านเลยนะคะ  คุณอาจจะต้องโดนไล่ออกเลยนะ ให้คีย์รับผิดชอบไปเถอะค่ะ คีย์ยอมๆเค้าไปเถอะ " รองหัวหน้าที่หันมาพูดกับผม " อย่าทำให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่เลย คราวนี้โดนเรียกถึงระดับผู้บริหารแน่ๆ "

“ ทำไมต้องยอมละ ก็เราไม่ได้ทำผิด " หัวหน้าที่หันไปพูดกับรองหัวหน้าที่ผ่อนลมหายใจออกมา ก่อนจะบ่นเบาๆ

“ ปกป้องกันซะจริง "

“ ฉันเป็นหัวหน้าของคีย์ จะไม่ให้ปกป้องลูกน้องที่ไม่ได้ทำความผิดอะไรแต่ต้องมารับผลกรรมแทนมันใช่เหรอ "

“ หัวหน้า " คำพูดเบาๆของผมที่เอ่ยออกไป ในตอนที่เค้าหันมามองผมสักพักแล้วหันไปตอบคำถามของอีกฝ่าย

“ ถ้าเกิดว่าคุณไม่พอใจเราล้มงานชิ้นนี้กันมั้ยครับ "

“ หมายความว่าไง " ฝ่ายลูกค้าถาม " แค่ยอมรับว่าตัวเองลอกงานของคนอื่น มันไม่ตายหรอกมั้ง แล้วยังไงละฉันเป็นลูกค้านะ ปีๆนึงเสียให้บริษัทนี้ไปตั้งเท่าไหร่ คิดดีแล้วเหรอที่จะปกป้องลูกน้องที่ตัวเองต้องจ่ายเงินเดือน แถมยังหาใหม่เมื่อไหร่ก็ได้ เด็กจบใหม่ก็เยอะแยะ กับเงินเป็นล้านที่ทางผมจ่ายให้พวกคุณทำงานน่ะ "

“ คุณพูดแบบนั้นก็ไม่ถูกนะครับ ลูกน้องถึงจะแค่คนเดียวแต่เค้าไม่ต้องกินไม่ต้องใช้ ไม่ต้องมีเงินเหรอครับ ไม่มีสิ่งที่เค้าต้องรับผิดชอบเหรอครับ คุณทำความผิดแต่กลับยกความผิดของตัวเองไปให้คนอื่น ผมว่าถ้าเพียงแค่บอกว่ามีเงินแล้วจะทำอะไรก็ได้ มันไม่ใจร้ายกับคนอื่นไปหน่อยเหรอครับ คุณเอาตัวรอดเพราะคุณมีเงิน แล้วลูกน้องผมละ ต้องมีความผิดทั้งๆที่ไม่ได้ทำความผิดน่ะเหรอ " หัวหน้าที่ลุกขึ้นพูดกับอีกฝ่ายด้วยสายตาจริงจัง คำพูดที่เอ่ยปกป้องผมทั้งๆที่อีกฝ่ายเป็นลูกค้าคนสำคัญของบริษัท " ขอโทษนะครับ ผมคงรับข้อเสนอแบบนั้นของคุณไม่ได้ "

“ หัวหน้า " รองหัวหน้าเงยหน้ามองอีกคนแบบไม่เชื่อสายตาเท่าไหร่ " นี่ ไม่ได้นะคะ "

“ แต่ผมจะทำงานออกแบบผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้ให้คุณใหม่ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และจะทำให้เสร็จทันเวลา เพราะทางเราก็ไม่อยากจะเสียลูกค้าคนสำคัญไปเช่นกัน เราเห็นความสำคัญของคุณครับ แต่การที่คุณจะให้เราบีบลูกน้องที่ไม่ทำความผิดคนนึงออก เพื่อรับผิดชอบรายละเอียดงานที่เป็นความต้องการของลูกค้าเอง เราคงทำแบบนั้นไม่ได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นทางเดียวที่เราจะทำได้ตอนนี้ คือ ทำงานให้คุณใหม่ เหมือนเดินมาคนละครึ่งทางแบบนั้นจะโอเคมั้ยครับ "

“ แล้วใครจะเป็นคนออกแบบ "

“ ผมเองครับ ผมจะเป็นคนทำให้เอง " หัวหน้าบอกอีกคนก็ทำท่าคิดอยู่สักพักแล้วก็พยักหน้ายินยอมไปในที่สุด
 
“ ตกลงตามนั้นก็ได้ แต่ว่างานต้องเสร็จภายในวันนี้นะ เพราะเป็นงานที่ฉันต้องทำให้ทันกับวันเปิดตัวผลิตภัณฑ์ "

“ ได้สิครับ ไม่มีปัญหา " สิ้นเสียงตอบตกลงของหัวหน้า ลูกค้าก็ดูพึงพอใจอยู่มากแน่นอนว่านอกจากไม่ต้องเสียเงินเพิ่มแล้วยังได้รูปแบบการออกแบบใหม่อีก หนำซ้ำยังได้คนเก่งๆออกแบบให้ มีแต่ได้กับได้ แต่ว่าผมที่ทำให้เค้าต้องรับงานหนักเพิ่มขึ้นแบบนั้นก็ไม่ได้ทำให้ผมสบายใจเท่าไหร่เลย ที่เรื่องนี้ผ่านพ้นออกจากตัวเองไปได้

“ แม่ง ผู้ชายบ้าอะไรวะ โคตรประสาท น่ารังเกียจชะมัด " รองหัวหน้าพูดขึ้นก่อนจะถอนหายใจออกมา " แต่ก็ดีนะคะที่เค้าไม่ยกเลิกงานของเราทั้งหมดน่ะ แล้วแบบนี้จะทำยังไงละ งานก็ท่วมหัวอยู่แล้วนะหัวหน้าน่ะ "

“ จิ๊บๆ อย่างผม แปปเดียวก็เสร็จ "

“ อย่ามาทำเป็นคุยหน่อยเลยค่ะ งานที่ค้างๆเอาไว้ช่วยทำให้เสร็จก่อนเถอะ ฉันสุดจะจี้งานคุณแล้วนะ " รองหัวหน้าว่าบ่นๆก่อนจะเดินออกไปจากห้องทิ้งไว้แค่ผมกับหัวหน้าที่อยู่ในห้องประชุมนั้นสองคนไม่ออกไปไหน

“ หัวหน้าครับ " ผมเอ่ยเรียกเค้า

“ ว่าไง " ใบหน้าคมที่หันมามองก้มหน้าลงยิ้มก่อนจะยกมือขึ้นขยี้หัวผม " ยังไงมันก็ผ่านไปแล้ว ไม่เป็นไรแล้วนะ นายไม่ได้ผิดอะไรแล้วละ "

“ แต่ดูเหมือนคุณต้องมารับผิดชอบงานทั้งหมดก็เพราะผม " รู้สึกผิดชะมัดแม้อีกคนจะบอกว่าไม่เป็นไรก็เถอะ

“ คิดมากน่า ฉันเต็มใจทำมันเพื่อนายอยู่แล้ว " เงยหน้าสบสายตาของอีกคนที่จ้องมองมา ก่อนที่เค้าจะหลบตาแล้วพูดแก้คำพูดไปอีกทาง " นายเป็นลูกน้องที่ทำงานดี ใครจะยอมเสียไปละ "

“ ขอบคุณนะครับที่ช่วยเหลือผม "

“ ถ้ารู้สึกผิดมากๆ ก็ช่วยไปกินข้าวกับฉันสักมื้อสิ แค่นั้นก็พอแล้ว " ก้มหน้าหลบเค้าอีกคนก็หัวเราะออกมา " แต่ถ้ายังไม่อยากไปก็ไม่ต้องไปก็ได้ ฉันไม่บังคับหรอก "

“ งั้นไว้เสร็จงานแล้วเราหาวันว่างๆไปกันก็แล้วกันครับ " หันไปยิ้มรับตอบตกลงคำชวนของเค้าไปในที่สุด ก็แค่กินข้าวคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง ก็หัวหน้าช่วยเราไว้ ถ้าไม่ไปก็คงดูน่าเกลียด

“ เยส!!! นายสัญญากับฉันแล้วนะว่าจะไปน่ะ " อีกคนทำท่าดีใจเหมือนเด็กผมก็หลุดยิ้มออกมา " ฉันจะส่งเมล์ไปบอกแล้วกัน ว่าวันไหน หรืออาจจะเป็นพรุ่งนี้ นายอยากจะกินอะไรละ "

“ อะไรก็ได้ครับ กินได้ทั้งนั้นแหละ "

“ โอเค ไว้ยังไงฉันจองร้านอร่อยๆแล้วจะบอกแล้วกัน "

“ โอเคครับ " พยักหน้ารับเค้าตอนที่จะเดินออกไปจากห้องประชุมอีกคนก็เรียกผมไว้

“ คีย์ "

“ ครับ " หันไปหาเค้าที่ยิ้มจางๆให้ผม

“ นายน่ะ เป็นลูกน้องคนพิเศษของฉันนะ นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไม ฉันถึงปกป้องนายทั้งๆที่ไม่เคยทำให้ใครมาก่อน เพราะนายพิเศษมากกว่าใครๆ " ใบหน้าคมที่ก้มลงก่อนจะถอนหายใจออกมา " ฉันรู้สึกแบบนั้น แม้ว่ามันจะไม่ควรคิดก็เถอะ " หัวใจที่เต้นแรงของผมเหมือนทุกอย่างจะควบคุมไว้ไม่อยู่แล้ว เค้าที่ไม่เคยปกป้องใครแต่เลือกที่จะปกป้องเรา คนที่เห็นแก่ตัวและเกลียดความผิดพลาดคนนั้น

    กลับยื่นมือเข้ามาช่วยเราไว้ในช่วงเวลาที่เราลำบาก ทั้งๆที่เลือกที่จะไม่ทำ แล้วเลือกที่จะทำตามที่รองหัวหน้าพูดก็ได้ ความรู้สึกประทับใจที่แสนอบอุ่นนี้ ผมรู้สึกเหมือนตัวเองกลับมายืนตรงที่เดิมอีกครั้ง ตรงที่ที่เคยรู้สึกดีกับเค้า เหมือนกำลังกลับมาชอบเค้าอีกครั้ง ถึงแม้ในตอนนี้จะไม่ควรรู้สึกแบบนั้นเลยก็ตาม

..................................................................

   หย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้ก่อนถอนหายใจออกมา เพื่อนร่วมงานที่กำลังทำงานวางเม้าส์ปากกาที่กำลังถือแล้วหันมาสนใจตัวผมทันที ลิปเลื่อนเก้าอี้มาใกล้ก่อนจะถามไถ่

“ เป็นยังไงบ้างคีย์ โอเคมั้ย " คำพูดที่ทำให้ผมพยักหน้ารับ

“ ก็โอเค ไม่โดนไล่ออก ไม่โดนตีตราหน้าว่าลอกใคร "

“ ค่อยยังชั่ว ฉันนั่งใจระส่ำไปพร้อมกับนายเลยเนี้ย ยังไม่ได้เริ่มทำอะไรเลย เป็นห่วงนาย " อีกคนบอกก่อนจะยื่นมือมาตบไหล่ " ดีแล้วละ ดีแล้วที่ผ่านไปได้ก็ดี "

“ แต่ว่า หัวหน้าต้องมารับผิดชอบงานนั้นแทนฉัน "

“ หมายความว่าไง "

“ ลูกค้าไม่ยอมแล้วก็บีบบังคับเรา ว่าเค้าจะยกเลิกงานทั้งหมดที่จ้างเรา เค้าบอกด้วยนะว่า ลูกน้องที่ต้องจ่ายเงินให้อย่างฉันจะไปแคร์ทำไม ทำไมไม่แคร์เค้าที่จ่ายเงินให้ทางบริษัท แล้วตอนนั้นหัวหน้าเค้าก็ลุกขึ้นอธิบายแล้วก็ปกป้องฉันไว้ แล้วเค้าก็บอกกับลูกค้าไปว่า จะออกแบบงานอันนั้นใหม่ให้ลูกค้าเอง ลูกค้าก็เลยยอม "

“ อย่างงั้นเหรอ "

“ อื้ม " พยักหน้ารับอีกคนก่อนจะหันไปมองหัวหน้างานตัวเองที่ก็ก้มหน้าก้มตาทำงานของตัวเองอยู่ที่โต๊ะ เค้าที่ต้องทำงานมากขึ้น รับผิดชอบงานเยอะขึ้น " ฉันเหมือนทำให้หัวหน้าต้องลำบากที่ต้องมาปกป้องฉันเลย "

“ คิดมากน่า หัวหน้าก็มีหน้าที่ที่ต้องปกป้องลูกน้องที่ไม่ได้ทำผิดสิ "

“ แต่ลิป คนแบบเค้าที่ไม่แคร์ใคร แล้วเกลียดความผิดพลาดอะไรพวกนั้น กลับยื่นมือมาปกป้องฉันไว้ ฉัน..” ผมหยุดคำที่จะพูดกับอีกคนไว้ ทั้งๆที่จะหลุดออกไปแล้วว่า ' ฉันประทับใจในตัวเค้ามากเลย '

“ นายทำไม "

“ เปล่าหรอก ฉันแค่รู้สึกตัวเองเหมือนเป็นภาระให้เค้าน่ะ ทั้งๆที่งานของเค้าก็เยอะอยู่แล้วยังจะต้องมาแก้งานให้ฉันอีก เกรงใจน่ะ "

“ เหรอ " อีกคนพยักหน้ารับก่อนจะยิ้มเจื่อนๆออกมา สีหน้าที่อยากจะพูดคำพูดแรงๆของเค้า ผมรับรู้ได้แต่ที่ไม่พูดเพราะเค้าคงคิดว่าตัวเองไม่สมควรพูดหรือเข้ามายุ่งเรื่องส่วนตัวอะไรของผม และไม่ควรคิดแทนใครอีกคน โดยเฉพาะ ฟาน " ก็ถ้าเค้าทำแบบนั้น มันคงไม่แปลกที่นายจะประทับใจเค้า "

“ อื้ม ฉันแค่ไม่คิดว่าเค้่าจะทำแบบนั้น ทั้งๆที่รองหัวหน้าเองก็พูดเหมือนกันว่า รักษาลูกค้าไว้จะดีกว่า "

“ รองหัวหน้าก็เกินไปนะ รายนั้นก็คิดถึงแต่เงิน บีบใครก็บีบออก หน้าเนื้อใจเสือชัดๆ " ลิปบอกก่อนจะถอนหายใจออกมา " แต่มันผ่านไปก็ดีแล้วละ ตอนนี้นายก็ทำงานของนายให้เต็มที่ก็แล้วกัน "

“ อื้ม "

“ แต่มันก็น่าแปลกนะ "

“ แปลกยังไง " ผมหันไปถามอีกฝ่าย

“ หัวหน้าน่ะ ตั้งแต่เราทำงานด้วยกันมาไม่เคยมีครั้งไหนที่จะไม่ตรวจงานลูกค้าก่อนให้เราส่งเลยไม่ใช่เหรอ ไม่ว่าจะงานเล็กงานใหญ่ พอมาคิดว่าลูกค้ารายนี้เป็นลูกค้ารายใหญ่ตัวเค้าก็ต้องระวังเป็นพิเศษอยู่แล้ว เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด นายไม่คิดว่ามันไม่แปลกเหรอที่อยู่ๆ งานของนายก็ถูกละเลยจากเค้า แล้วเค้าก็เข้ามาช่วยเหลือนายเอาไว้ "

“ อาจจะเพราะช่วงนี้งานเค้ายุ่งมากจนละเลยจุดเล็กๆก็ได้ " ผมบอก อีกคนก็ยังคงส่ายหน้าไปมาด้วยความไม่เข้าใจ ลิปที่เลื่อนเก้าอี้ไปทำงานต่อ

“ ถึงจะพูดอย่างงั้นแต่ฉันว่ามันก็ยังแปลกอยู่ดีนั่นแหละ แต่ก็นะ ฉันมองเค้าให้แง่ลบอยู่แล้ว มันก็ไม่แปลกไม่หรอกที่จะบอกว่า นั่นคือแผนที่จะไม่ตรวจงานของเค้า เพื่อสร้างความประทับใจให้กับนายมากกว่า "

“ แล้วเค้าจะทำแบบนั้นทำไม " ผมถามแต่อีกคนก็หันมายิ้มก่อนจะส่ายหน้า

“ ไม่รู้สิ แต่ถ้าเป็นแบบนั้น ฉันว่ามันก็ได้ผลดีด้วยนะ อาจจะดีกว่าที่เค้าคาดด้วยละมั้ง " ผ่อนลมหายใจกับคำพูดของอีกคนก่อนจะมองไปที่โต๊ะของหัวหน้าอีกคน ผู้ชายที่กำลังขมักเขม้นทำงานที่ต้องรับผิดชอบต่อจากผม ในตอนนั้นตัวผมที่ลุดขึ้นยืนก็ตัดสินใจเดินตรงไปหาเค้า

“ หัวหน้าครับ "

“ ว่าไงคีย์ " เค้าที่เงยหน้าขึ้นมามองผม

“ คือ มีอะไรให้ผมช่วยมั้ยครับ "

“ งานนายเสร็จแล้วเหรอ " คำถามที่ทำให้ผมส่ายหน้าก่อนจะยิ้มแห้งๆให้เค้า

“ แต่ว่าผมทำให้หัวหน้าลำบาก ต้องมารับผิดชอบงานของผม ผมก็อยากจะช่วยอะไรหัวหน้าบ้าง "

“ แต่ฉันไม่ได้มองว่ามันเป็นความผิดของนายเลยนะ " อีกคนบอกก่อนจะหมุนเก้าอี้มามองหน้าผม " นายบอกเองไม่ใช่เหรอว่าไม่ได้ลอก แค่ทำตามรายละเอียดของงาน "

“ แต่ว่า..”

“ ฉันที่ทำงานใหม่ให้เค้า ก็เพราะว่าเค้าเป็นลูกค้าที่บริษัทเราทำงานด้วยมานานแล้วมันก็แค่นั้นแหละ ฉันไม่อยากจะเสียเงินหลายๆล้านไป ก็เท่านั้นเอง ตัดความรำคาญของผู้บริหารด้วย เรื่องจะได้ไม่ต้องถึงหูเค้า "

“ แต่ว่า..”

“ คิดมาก ไปทำงานของนายได้แล้วไป ทำออกมาให้ดี ฉันใช้เวลาทำงานไอ้แพ็คเก็จนี่ไม่นานหรอก ตอนที่นั่งฟังในห้องประชุมก็ร่างๆไว้แล้ว " เค้าพูดเชิงปลอบก่อนจะยื่นกระดาษมาให้ดู มันเป็นกระดาษที่ผมแจกเพื่ออธิบายลูกค้า ส่วนล่างที่มีพื้นที่ว่างมันเหมือนถูกวาดเอาไว้เป็นแบบร่างเล็กๆ " คิดไว้แล้วทำแปปเดียวก็เสร็จ เอาเป็นว่าถ้าเกิดว่ามีอะไรให้ช่วยฉันจะเรียกแล้วกัน "

“ โอเคครับ " พยักหน้ารับอีกคน ผมก็เดินกลับมานั่งที่เดิม เปิดงานตัวเองขึ้นมาทำขีดๆเขียนๆร่างแบบ ตั้งใจทำงานของตัวเองแบบที่อีกคนบอกด้วยความตั้งใจ จนงานที่ทำนั้นมันเสร็จลง ก็ล่วงเลยเวลาถึงช่วงดึกเสียแล้ว

“ คีย์งานเสร็จรึยัง กลับบ้านกันเถอะ "

“ เสร็จแล้วละ " ผมหันไปบอกลิป เซฟงานเรียบร้อยก่อนจะส่งเข้าไปในเมล์หัวหน้าปิดจอคอมพิวเตอร์ของตัวเองก่อนจะเก็บกระเป๋าของตัวเอง ในตอนนั้นมือมันก็หยิบมือถือขึ้นมาเช็ค มีข้อความนึงที่ส่งมาจากฟานมันเป็นข้อความไลน์ ข้อความสั้นๆที่ขึ้นมาบนหน้าจอ ' เป็นยังไงบ้างครับ โอเคมั้ย '

“ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อะไร ใครส่งข้อความมาให้รีบกลับเหรอ "

“ เปล่าหรอก " ส่ายหน้าบอกอีกคน " แค่ไอ้ลูกหมาตัวนึงน่ะ "

“ งั้นก็กลับบ้านกัน "

“ อื้ม "

“ กลับก่อนนะครับ หัวหน้า " เราสองคนหันไปทักหัวหน้าที่เหมือนจะยังคงทำงานอยู่คนเดียวในออฟฟิศตอนนี้

“ อื้ม โชคดีละ พรุ่งนี้เจอกัน " เค้าบอกก่อนจะก้มหน้าทำงานของตัวเองต่อแบบไม่สนใจเท่าไหร่นัก ความรู้สึกในอกที่ถูกบีบรัดของผม เราที่เหมือนสร้างความเดือดร้อนให้เค้า แต่กับกลับบ้านไปก่อนหน้าเค้าทั้งๆที่เค้าต้องกลับดึกเพราะแบกรับงานของเราเอาไว้ทั้งๆที่ไม่จำเป็นน่ะเหรอ

“ คีย์ คีย์ กลับบ้านกัน " ลิปยื่นมือมาเขย่าแขนผมที่หันไปพยักหน้าเค้า เราก็เดินออกไปจากออฟฟิศด้วยกัน ลงลิฟต์ลงมาทีชั้นล่างในตอนที่กำลังจะข้ามถนนไปขึ้นรถไฟอยู่ๆขาผมมันก็หยุด
 
“ ลิป นายกลับบ้านไปก่อนเถอะ "

“ อ้าวทำไมละ นายไม่รีบกลับไปหาฟานเหรอ "

“ ฉันรู้สึกว่าตัวเองยังมีงานที่ต้องทำอีกนิดหน่อยน่ะ นายไปก่อนเถอะนะ ไว้พรุ่งนี้เจอกัน " เดินถอยหลังวิ่งเข้าตึกไป อีกคนก็ตะโกนไล่หลังมา

“ นี่!! นายมีคนที่คอยฟังข่าวดีของนายด้วยความเป็นห่วงอยู่ที่บ้านนะเว้ย "

   เรื่องนั้นผมรู้แล้ว ว่าฟานคอยอยู่ แต่ว่า ตัวผมคงบอกเค้าด้วยความรู้สึกมีความสุขไม่ได้เต็มๆหรอก ถ้ายังคงทิ้งให้อีกคนต้องทำงานที่รับผิดชอบแทนผมอยู่คนเดียวในตึกนี้ ถึงจะไม่ใช่ความผิดอะไรของผมแต่เค้าที่ต้องมารับผิดชอบลูกค้าแทนผมก็ไม่ใช่กงการอะไรของเค้าเหมือนกัน เพราะงั้นถ้าเค้าไม่ได้กลับไปพัก ผมเองก็คงกลับไปพักไม่ได้หรอก ไม่ใช่คนที่จะไม่รู้สึกอะไรแบบนั้น  หัวหน้าที่ใจดีกับผมคนนั้นจะทิ้งเค้าให้ต้องลำบากคนเดียวได้ยังไงกัน

........................................................

ไม่รู้จะพูดอะไร ..
ต่อจากนี้คิดว่าคงเขียนทอล์คไม่ออก ไปเรื่อยๆ
ถ้ามองว่าลิปมองโลกในแง่ร้ายมั้ย ก็ร้ายอยู่นะ แต่คีย์ก้มองโลกในแง่ดีมากไปอีก
คือมันก็ไม่ผิดหรอก ถ้าคีย์จะรู้สึกดีที่มีคนช่วยเหลือแต่เราก็เห็นด้วยกับลิปที่ว่า
มันคือหน้าที่ของหัวหน้าอยู่แล้ว ที่ต้องช่วยเหลือลูกน้อง
สุดท้ายนี้ สงสารน้องฟานเหลือเกินค่ะคุณ

ฝากแท็ก #ฟานคีย์ ในทวิต
ฝากแชร์ในเฟส
สามารถด่าได้ตามสะดวก ระบายความรู้สึกพวกนั้นออกมา

เจอกันตอนหน้า
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์  :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:

ออฟไลน์ AdLy

  • ไม่ได้ Korea Fever แค่รัก ดงบังและเอสเจ เท่านั้น
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 555
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
อย่าทำแบบนี้นะคีย์ คือเราเห็นด้วยกับลิปทุกอย่างเลยอะ

ออฟไลน์ me12inzy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
คห.แรงค่ะ มีความอินมากกก

โอ้ยยย เกลียดอิคีย์แล้ว พอ ฉันพอกับคนหลายใจแบบหล่อนแล้ว อยากได้ผัวแก่นักก้ไปเอากับมันเลยไป๊ ถ้ามันดีนักหนะ อีคนที่รอที่บ้านก็ทิ้งแม่งไปเลยดิ ไม่มีดีสักอย่างเลยหนิ ชอบนักเนาะเป็นเมียน้อยเค้า ที่เค้ามีเมียอยู่แล้วอะ สำส่อน เกลียดคนแบบนี้  :beat:
หัวหน้าเป็นคนดีจัง รับผิดแทนดั้วะ พระเอกสุดๆ ผัวในอุดมคติมั่กๆอะ แก่กว่า เป็นผู้ใหญ่ ปกป้องหล่อนได้ด้วย

ว้าว ดีเนอะ ไปรักกันเลยสิ ไป ชิ่วๆ
คือหวั่นไหวกับผช.เห้ๆคนเดิมไม่เท่าไหร่ คือเมิงมีแฟนอยู่แล้วนะ แฟนที่ยอมให้เมิงทุกอย่าง แฟนเด็กที่สมองน่าจะโตกว่าหล่อนด้วยซ้ำ มีแค่หล่อนที่งอแงฝ่ายเดียว ที่อยากได้ผัวแก่เพราะหล่อนทำตัวเด็กๆเองไง ปัญญาอ่อน

เกิดอะไรเห้ๆขึ้นมากับตัวก็ไม่ต้องนั่งเสียใจนะ ไม่ต้องกลับไปหาฟานด้วย

หล่อนเลือกเอง  :z6:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด