ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง
ตอนที่ 34
' สิ่งที่ไม่ควรรู้สึก '
แก้วกาแฟอุ่นของร้านดัง ผมตั้งลงตรงหน้าของอีกคนที่เงยหน้าขึ้นมองมันทันที ส่งยิ้มให้หัวหน้างานของตัวเองที่ก็ยิ้มตามก่อนจะเอ่ยถาม " ไหนบอกว่ากลับไปแล้วไง "
“ ก็คิดว่าหัวหน้าทำงานคนเดียวคงง่วงก็เลย ถือโอกาสซื้อกาแฟอร่อยๆมาฝากน่ะครับ " ตอบอีกคนผมก็ผ่อนลมหายใจออกมาก่อนจะถาม " หัวหน้าทำงานใกล้เสร็จรึยังครับ "
“ ใกล้แล้วละ อีกหนึ่งชั่วโมงคงเสร็จ " เค้าตอบก่อนจะเอื้อมมือไปคว้าเอาแก้วกาแฟนั้นขึ้นมาจิบก่อนจะยิ้ม " แล้วนายละ กลับมาอีกทำไม จะกลับมาทำงานต่อเหรอ "
“ ก็ใช่นะครับ " พยักหน้ารับเค้า " ก็เผื่อหัวหน้ามีอะไรให้ช่วย "
“ ไม่มีอะไรหรอก อีกชั่วโมงนึงเสร็จแล้วฉันก็คงกลับเหมือนกัน ขอบคุณสำหรับกาแฟนะ "
“ ไม่เป็นไรครับ " พยักหน้ารับเค้าก่อนจะเดินกลับมาที่โต๊ะทำงานของตัวเอง
“ นี่ คีย์ จะไม่กลับจริงๆเหรอ "
“ ถ้าผมกลับไป ผมคงรู้สึกไม่ดี "
“ รู้สึกไม่ดี ? " อีกคนทวนคำพูดนั้นก่อนจะยกคิ้วสูง " หมายความว่าไงที่บอกว่ารู้สึกไม่ดี อย่าบอกนะว่ายังเครียดเรื่องงานที่ฉันนั่งทำอยู่นี่อีก "
“ ก็...” ผมเม้มริมฝีปากก่อนจะพยักหน้ารับอีกคนเค้าก็หัวเราะ
“ เด็กบ้า บอกว่าให้เลิกคิดฉันไม่ได้ซีเรียสอะไรแบบนั้น นายทำส่วนของนายเสร็จแล้ว นี่มันเป็นส่วนของฉัน เลิกคิดมากได้แล้วเอาเวลาไปนอนเถอะไป " เค้าพูดก่อนจะหลุดหัวเราะออกมา
“ ไม่รู้สิครับ กลับไปก็คงรู้สึกไม่ดี ก็ผมได้กลับไปพักแล้วทั้งๆที่คุณยังทำงานอยู่เลย เอาเป็นว่าผมจะกลับบ้านพร้อมหัวหน้านะ เดี๋ยวไปนั่งทำงานของตัวเองต่อแล้วกัน " ผมบอกเค้าก่อนจะเดินไปเปิดคอมพิวเตอร์ของตัวเองทั้งๆที่งานเสร็จแล้ว ถึงแม้มันจะไม่มีอะไรทำแต่ว่ามันก็สบายใจมากกว่าที่กลับบ้านไปแบบสบายใจๆ แบบนั้น
“ คีย์มานี่หน่อยสิ "
“ มีอะไรเหรอครับ " ผมถามตอนที่ลุกเดินไปหาเค้า
“ ไอ้อักษรตัวนี้ นายใช้ฟอนต์อะไรน่ะ "
“ ไม่ได้ใช้ครับ ผมวาดเอง "
“ เหรอ " เค้าพยักหน้ารับ
“ ทำไมเหรอครับ "
“ สวยดี มาวาดให้หน่อยสิ " หัวหน้าบอกก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่ตัวเองนั่ง เชิดหน้าไปทางเก้าอี้ตัวนั้นของเค้าเองก่อนจะบอกผม " นั่งลงสิแล้ววาดให้หน่อย "
“ ส่งไปในเมล์ก็ได้ครับเดี๋ยวผมวาดให้ "
“ ส่งทำไมละ เสียเวลา อยู่ด้วยกันสองคนไม่น่าเกลียดหรอก แค่ทำอักษรก็เสร็จแล้ว "
“ โอเคครับ " นั่งลงที่โต๊ะทำงานของเค้า จับเม้าส์ปากกาขึ้นมาร่างในงานแผ่นใหม่ ตัวอักษรภาษาอังกฤษแค่สี่ตัวที่ผมเขียนเอง หัวหน้าก็ยื่นหน้ามาใกล้กันก่อนจะชม
“ สวยนิ นายน่าจะทำฟอนต์ตัวนี้ขายนะ "
“ คงไม่ได้เงินหรอกครับ "
“ ดูถูกฝีมือตัวเองอีก " เค้าบอกก่อนดึงหน้าเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆ แก้มเราที่เกือบจะใกล้กัน สายตาที่เค้ามองจอไม่ได้มองผม แต่ว่าความรู้สึกในอกตอนนี้ก็เต้นแรงเกินกว่าจะต้านทานสำหรับความใกล้ชิดนั่น " คีย์..”
“ หัวหน้าขยับไปหน่อยได้มั้ยครับ ผมหายใจไม่ออก "
“ โอเคๆ ขอโทษๆพอดีอยากจะอยู่ใกล้นายมากไปหน่อย " กลืนน้ำลายกับคำพูดนั้นข่มแก้มแดงๆของตัวเอง และก้มหน้าลงขีดๆเขียนๆงานจนเสร็จ ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้อีกคนก็ยิ้ม " เสร็จแล้วเหรอ "
“ ครับ ลากมาใช้ในงานได้เลย "
“ ขอบใจมากนะคีย์ "
“ ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมมากกว่าที่ต้องขอบคุณหัวหน้าที่ช่วยผมไว้ " ยิ้มให้เค้าตอนที่อีกคนนั่งลงบนเก้าอี้ตัวเองแล้วจัดอักษรของผมที่วาดไว้มาวางให้เข้าที่ งานแก้เสร็จสิ้นแล้วเค้าที่ถอนหายใจออกมาก่อนจะเซฟงานนั้นไว้
“ เท่านี้ก็เสร็จแล้ว " อีกคนบอกก่อนจะหันมายิ้ม " นายติดหนี้ไปกินข้าวกับฉันมื้อนึงนะ จำไว้ "
“ ครับผม ทราบแล้ว "
“ อยากจะกินอะไรดีละ " เค้าที่หันมาถามเอียงหน้ามองผมที่ยืนอยู่ก่อนจะคิด " อาหารอิตาเลี่ยน อาหารญี่ปุ่นหรือว่าอยากจะกินอาหารไทย "
“ ร้านไหนก็ได้ครับ เอาที่หัวหน้าอยากกินก็แล้ว "
“ เอาเป็นร้านซูิที่วันก่อนฉันชวนนายไปกินแล้วนายปฎิเสธก็แล้วกัน " พยักหน้ารับอีกคนที่หัวเราะออกมา เค้าที่หันหน้าไปที่หน้าจอคอมตัวเองอีกครั้ง ปิดโปรแกรมต่างๆก่อนจะปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ของตัวเอง " ตั้งใจว่าจะชวนนายไปกินก็อยากจะให้นายไปกินด้วยกันจริงๆนะ "
“ อร่อยขนาดนั้นเลยเหรอครับ "
“ แค่อยากจะชวนนายไปกินก็เท่านั้นแหละ ฉันเป็นพวกไม่ยอมแพ้น่ะอยากจะพาไปก็ต้องพาไปให้ได้ ตอนนั้นที่ถูกปฎิเสธก็คิดนะว่า เสียดายอะ อยากจะให้มากินด้วยกัน แต่คราวนี้ถ้าฉันจองแล้วนายจะไปใช่มั้ย " อีกคนที่ก้มหน้าลงถามใกล้ๆ รอยยิ้มของเค้ามาพร้อมกับแววตาที่สบมองผม
“ ไปสิครับ "
“ งั้นพรุ่งนี้ตอนเย็น อย่าเบี้ยวฉันละ " มือหนายกขึ้นวางบนหัวผมก่อนจะขยี้เบาๆ
“ ห่วงจังนะครับว่าจะเบี้ยว ไม่เบี้ยวหรอก "
“ ก็นายเคยเบี้ยวฉันแล้วนิ ฉันจะกลัวมันก็ไม่แปลก "
“ ก็ตอนนั้นคุณชวนกะทันหัน " ผมตอบอีกคนที่หลุดหัวเราะออกมา
“ ไม่ใช่เพราะว่าจะไปซื้อของกับแฟนของนายรึไง "
“ ก็..จะพูดอย่างงั้นก็ได้ แต่ผมมีนัดแล้ว ผมไม่ยกเลิกนัดแรกหรอก คนที่เค้าตั้งใจจะไปด้วยกันเค้าก็คอยนะครับ "
“ งั้นต่อไปนี้ถ้าฉันชวนนายไปกินข้าว ไปเที่ยว ขอแค่นัดก่อนใครๆนายจะไปกับฉันถูกต้องมั้ย " สองแขนของเค้าค้ำลงกับโต๊ะที่ผมยืนพิงอยู่กั้นทางหนีไม่ให้ผมขยับหนีไปไหน ใบหน้าของเค้าก้มลงมาใกล้
“ ไม่ทราบครับ " ผมตอบ " แต่หัวหน้าช่วยหลบหน่อยเถอะครับ ผมว่ามัน..”
“ ทำไมเหรอ ใกล้เกินไปเหรอ "
“ ครับ ใกล้เกินไปแล้ว " เอียงหน้าหลบใบหน้าคมของอีกคนที่หลุดยิ้มออกมา " ผมมีแฟนแล้วนะครับ ถอยออกไปเถอะ "
“ ฉันเองก็มีภรรยาแล้ว "
“ แบบนั้นก็ยิ่งต้องถอยออกไปครับ เพราะคุณไม่ได้มีแค่ภรรยา แต่คุณมีลูกแล้วด้วย " คำพูดที่ทำให้อีกคนนิ่งถอนหายใจก่อนจะก้มหน้าลงไปสักพักแล้วเงยหน้าขึ้นมามองผม
“ คีย์..ฉันน่ะนะ ไม่อยากให้นายเอาข้อจำกัดพวกนั้นมาปิดกั้นความรู้สึกของฉันเลย ฉันเคยบอกนายไปแล้วว่าฉันขอแค่ให้ลูกชายชั้นโตกว่านี้ เข้าใจทุกอย่างมากกว่านี้ ฉันจะหย่าขาดกับภรรยาของฉัน "
“ แต่ในความเป็นพ่อคุณยังต้องดูแลเค้านะ คุณหย่ากับภรรยาได้แต่คุณหย่าออกจากความเป็นพ่อไม่ได้หรอก "
“ บางทีฉันอาจจะขอมากไป เพราะฉันมันแค่ผู้ชายที่มีตำหนิ " เค้าที่ยกยิ้มออกมาก่อนจะก้มหน้าลงต่ำ " หงุดหงิดชะมัดว่ามั้ย ที่ต้องมาแพ้เพราะเรื่องในอดีตของตัวเอง "
“ ผมอยากจะให้คุณคิดดีๆนะ สำหรับความรู้สึกของคุณ ไม่ใช่แค่เฉพาะกับผม แต่หมายถึงกับคนอื่นๆด้วย ลูกคุณจะรับได้เหรอถ้าต้องรู้ว่า พ่อของตัวเองหย่าขาดกับแม่แล้วมามีคนใหม่เป็นคนที่เป็นเพศเดียวกับพ่อ "
“ เพราะแบบนั้น ฉันเลยอยากจะหาคนที่เข้าใจชีวิตของฉัน คนที่พร้อมจะยอมรับฟังและแก้ไขปัญหาพวกนั้นไปกับฉัน " สายตาที่มีความหมายจ้องมองมา คำตอบของคำถามพวกนั้นอยู่ตรงหน้านี้แล้ว คนที่พร้อมรับฟังและแก้ไขปัญหาในความคิดเค้าตอนนี้ ก็คือคนที่อยู่ในแววตาเค้าตอนนี้ ก็คือผม " คีย์..ฉันไม่อยากให้นายต้องคิดเรื่องอื่น ฉันอยากจะให้นายคิดแค่เรื่องของเราเท่านั้น ถ้าเรามีความสุขกับการที่ทำอะไรแบบนี้ด้วยกัน ไม่ว่าอะไรก็ตาม ทำไมเราถึงไม่ทำละ เราจะยอมหักห้ามใจเพียงแค่อีกฝ่ายมีเจ้าของแล้วอย่างงั้นเหรอ แต่สำหรับฉัน ฉันไม่คิดแบบนั้นหรอกนะ ต่อให้ตอนนี้นายเป็นคนที่มีเจ้าของอยู่แล้วก็เถอะ ” หัวหน้ายกมือข้างนึงของเค้าขึ้นประคองใบหน้าของผม ใบหน้าคมที่ก้มลงมาเรื่อยๆในตอนนั้นริมฝีปากที่เผยอออกของผมรอรับจูบของเค้า ต้องรีบขบเม้มห้ามมันทันทีกับความรู้สึกแบบนั้น รีบเบือนหน้าหนีอีกคนด้วยความเร็วมือที่ผลักเค้าออกแล้วดึงตัวเองออกห่าง
“ ผมว่า ผมกลับบ้านก่อนดีกว่าครับ แฟนผมรออยู่ งานของคุณก็เสร็จเรียบร้อยแล้วด้วย " เดินถอยหลังไปเรื่อยๆก่อนจะหันหลังวิ่งไปเอาของที่โต๊ะตัวเองผมก้มหน้าลาเค้าอย่างไม่ให้อีกคนได้ตั้งตัวอะไร " งั้นเจอกันพรุ่งนี้นะครับหัวหน้า "
“ คีย์ ให้ฉันไปส่งก็ได้ "
“ ไม่เป็นไรครับ ผมกลับเองได้ สะดวกกว่าด้วย ลาแล้วนะครับ " รีบพูดแล้วก็รีบออกจากห้องนั้นมา เอื้อมมือกดลิฟต์ที่ว่างก่อนจะเดินเข้าไปข้างในแล้วรีบปิดมันซะ ผ่อนลมหายใจออกมาด้วยความตื่นเต้นกลัวว่าเค้าจะตามมา
พิงตัวเองกับตัวลิฟต์น่ากลัวชะมัด ผมมองเงาสะท้อนของตัวเองที่ฉายอยู่ตรงหน้า คนที่น่ากลัวตอนนี้ไม่ใช่หัวหน้าที่เข้าใกล้แต่ผมรู้สึกว่ามันกลับเป็นตัวของผมเอง เพียงเพราะเค้าเข้ามาช่วยเหลือก็เอนเอียงไปกับความรู้สึกพวกนั้นแล้วเหรอวะ ใจง่ายชะมัด
' ถ้าเรามีความสุขกับการที่ทำอะไรแบบนี้ด้วยกัน ไม่ว่าอะไรก็ตาม ทำไมเราถึงไม่ทำละ เราจะยอมหักห้ามใจเพียงแค่อีกฝ่ายมีเจ้าของแล้วอย่างงั้นเหรอ ทั้งๆที่คำพูดพวกนั้นทั้งน่าเกลียดแล้วก็เห็นแก่ตัวแต่ทำไมแค่เค้าเข้าใกล้ ริมฝีปากที่น่าจะเบือนหนีมันกลับเผยอขึ้นเหมือนจะตอบรับและอยากจะได้รับรสจูบนั่นกัน
หัวใจที่เต้นแรงเหมือนความรู้สึกพวกนั้นแหละที่รอคอย ผมหลับตาตัวเองลงอยากจะตบหน้ามันแรงๆสักครั้งจริงๆกับตัวเองตอนนี้ ทั้งที่มีคนที่แสนดีแล้วกำลังรอเราอยู่ที่บ้านแท้ๆ แต่กลับมาเอนเอียงกับผู้ชายที่เข้ามาช่วยเหลือเราไว้แค่ครั้งเดียวทั้งๆที่ก็รู้ว่าเค้าทั้งนิสัยน่าเกลียดและเห็นแก่ตัว
ทั้งๆที่เคยคิดว่าเค้าเป็นแบบนั้นแท้ๆ แต่ทำไมตอนนี้เหมือนทุกอย่างมันถูกลบไปหมด จะเหลือแค่ความดี ความอบอุ่น แล้วคิดในใจลึกๆแค่ว่า ' นั่นสินะ มีเจ้าของแล้วทำไมละถ้าเรารักกันทำไมเราจะรักกันไม่ได้ วันไนท์สแตนด์สักครั้งจะเป็นอะไรไป เมื่อก่อนก็เคยทำมาแล้ว ' เป็นความคิดที่เหี้ยที่สุดตั้งแต่ที่เคยคิดมาเลย ใจที่หวนคิดถึงหน้าฟานแล้วคิดแค่ว่า ' ตอนนี้ถ้าไม่มีเค้าก็ดี จะได้ทำอะไรตามใจตัวเองมากกว่านี้ '
“ ถ้านายคิดจะทิ้งฟานแล้วมาคบกับหัวหน้า นายจะเป็นคนที่โง่ที่สุดในโลกคีย์ "
ออกจากที่ทำงานมาขึ้นรถไฟเที่ยวสุดท้ายได้ทันเวลาพอดี ผมคว้าโทรศัพท์มือถือที่ปิดเสียงของตัวเองขึ้นมาดู ก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมากับข้อความจากใครบางคน ฟานส่งข้อความมาให้ผมเป็นสติกเกอร์หมีที่เหมือนโผล่มาดูอะไรอย่าง คล้ายจะถามว่ามีคนอยู่ในนี้มั้ย
“ ส่งอะไรกลับไปดี " พูดกับตัวเองก่อนจะกดส่งสติกเกอร์กระต่ายที่ทำท่าทางเหนื่อยๆไปให้เค้า แล้วไม่นานมันก็ถูกตอบกลับด้วยสติกเกอร์อีกเหมือนกันแต่คราวนี้มันคือ สติกเกอร์ที่หมีกอดกระต่ายเอาไว้ เอามือถือใส่ลงไปในกระเป๋าตอนที่เดินลงจากรถไฟ แล้วเดินต่อเข้าไปในคอนโด ผมกดกริ่งคอนโดตัวเองแล้วไม่นานเสียงเท้าที่ดูรีบร้อนก็วิ่งออกมาพร้อมกับประตูที่เปิดออก
“ คุณคีย์กลับมาแล้วเหรอครับ "
“ อื้ม กลับมาแล้ว " ผมตอบรับก่อนจะก้าวขาเข้าไปในห้องแต่ยังไม่ทันจะถอดรองเท้าหรืออะไร ก็กลับโดนอีกคนคว้าเข้าไปกอดเสียก่อน " ฟาน.. “
“ เป็นยังไงบ้างครับ งานโอเคมั้ย แล้วคุณโอเครึเปล่า เค้าว่าอะไรคุณมั้ย ไม่เป็นไรนะครับ ผมว่าถ้าคุณอยากจะออกจากงานมาทำฟรีแล้นซ์ก็ได้ถ้ามันหนักไป เรื่องค่าใช้จ่ายผมจะเป็นคนออกทั้งหมดเอง คุณไม่ต้องห่วงนะ ยังไงคุณก็มีผมอยู่ " คำถามห่วงใยหลายๆคำที่พูดออกมาแบบชนิดที่ฟังแทบไม่ทัน เหมือนมันถูกอัดอยูในใจของเค้าแล้วพอเจอผม มันก็ถูกระเบิดออกมา ในขณะที่เรามัวแต่ทำงาน ห่วงคนอื่น หรือแม้แต่ลังเลกับความรู้สึกลึกๆพวกนั้น คิดถึงแต่ว่าถ้าไม่มีเค้าก็คงดี แล้วก็สารพันความคิดเหี้ยๆมากมายที่คิดอยู่ แต่กลับมีใครคนนึงที่คอยห่วงผมอยู่ คนที่จะคอยคิดแต่เรื่องของผมเสมอ ...ส่วนผมที่คิดถึงแต่ใครอีกคน คิดจะจูบกับใครอีกคน
“ ฉันไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย งานผ่านไปได้ด้วยดี หัวหน้าแก้งานส่งให้ฉันเรียบร้อย ไม่มีปัญหาอะไรทั้งนั้น "
“ เหรอครับ " เค้าผละตัวเองก่อนจะจ้องหน้าผมแล้วถอนหายใจ " ค่อยยังชั่ว ผมก็เอาแต่คิดนู้นคิดนี่ กลัวว่าคุณต้องออกจากงาน แล้วคุณจะเครียด "
“ ไม่หรอก ออกจากงานต้องสบายใจสิ จะเครียดทำไมละ "
“ แล้วเมื่อวานใครร้องไห้ฟูมฟายละครับ โอ๊ย ผมเจ็บนะ ตีผมทำไมเนี้ย "
“ ฉันไม่ได้ร้องไห้ฟูมฟายสักหน่อยไอ้เด็กบ้า " ตีเค้าเข้าที่ท่อนแขนอีกคนก็หัวเราะออกมา ฟานกอดรัดผมแน่นขึ้น
“ แค่รู้ว่าคุณไม่เป็นไร ผมก็โอเคแล้วละ คุณโอเคใช่มั้ย "
“ ฉันโอเค " ยิ้มให้อีกคนที่ก็ยิ้มตามผม ยกมือขึ้นจับหน้าเค้าใบหน้าคมที่กำลังมองผมด้วยแววตาอบอุ่น " ฟาน นายเป็นห่วงฉันมากขนาดนี้เลยเหรอ "
“ ห่วงสิครับ คุณที่ร้องไห้ขนาดนั้นจะไม่ให้ผมเป็นห่วงได้ยังไง ต้องห่วงสิ คุณเป็นแฟนผมนะ "
“ นั่นสินะ " ฉันเป็นแฟนนาย เป็นคนที่มีเจ้าของอยู่แล้ว แต่พอมาคิดว่าวันนี้ตัวเองกลับรู้สึกประทับใจใครคนอื่นที่เคยชอบเอามากๆ เพียงแค่เค้าเข้ามาช่วยเอาไว้ โดยไม่ได้คิดถึงเลยว่าตอนนี้เราเองก็กำลังมีใครคนนึงที่คอยห่วงอยู่เหมือนกัน แต่มันต่างกันแค่ หัวหน้าช่วยผมไว้ แต่ฟานทำได้แค่ห่วงแล้วก็ให้กำลังใจเท่านั้น เพราะช่วยอะไรไม่ได้ หรืออาจจะจริงที่ลิปบอก มันคือหน้าที่ของหัวหน้าอยู่แล้วในทางกลับกันถ้าเป็นลิปที่เจอเรื่องแบบนี้ ก็คงเป็นหัวหน้าที่ช่วยได้ คุณเมษก็คงช่วยไม่ได้เหมือนกัน ตกลงว่า ผู้ใหญ่แบบที่เราชอบ มันครอบคลุมถึงคนที่อายุมากกว่าเราทุกคนหรือแค่เฉพาะ หัวหน้ากันนะ
“ คุณคีย์ คิดอะไรอยู่เหรอครับ "
“ เปล่าหรอก เปล่า " ผมส่ายหน้าก่อนจะยิ้มให้อีกคนที่ก็ส่งยิ้มกลับมา ฟานที่ผละอ้อมกอดออกเค้าก้มหน้าลงมาจ้องตาผม
“ คุณดูเหนื่อยๆนะ อยากจะกินอะไรรึเปล่า ผมทำให้กินมั้ย หรือว่าอยากจะอาบน้ำก่อนดีครับ "
“ ทำไมนายถึงดีกับฉันนักนะ " หลุดปากพูดออกไปอีกคนก็หัวเราะ ความดีที่เหมือนหนามแหลมๆปักลงตามร่างจนอยากจะร้องไห้ออกมา คนแสนดีที่รักเราอยู่ตรงนี้ ทำไมถึงยังไปลังเลกับผู้เห็นแก่ตัวที่อยากจะให้เราไปเป็นเมียน้อยคนนั้นวะ ทั้งๆที่คนคนนี้คือคนที่จะเดินจูงมือเราไปในทุกที่แท้ๆ คนที่ไม่เคยอายที่จะมีเราอยู่ข้างๆ แต่กลับไปหวั่นไหวกับคนอยากจะให้เราต้องคอยหลบซ่อนอยู่ในที่ลับๆ แล้วไม่ให้คนอื่นเห็นว่าเราเป็นอะไรกัน ทำไมถึงเป็นคนแบบนี้ ทำไมถึงได้มีความคิดโง่ๆแบบนั้น
“ ก็เพราะผมรักคุณ ไม่เห็นแปลกเลยนี่ครับ มันเป็นสิ่งที่ตัวผมต้องทำอยู่แล้ว ไปอาบน้ำเถอะครับ จะได้สดชื่น "
“ จูบฉันหน่อยได้มั้ย " สบสายตาของเค้าอีกฝ่ายที่นิ่งไป ผมก็เอื้อมมือไปกอดคอเค้าเอาไว้ เขย่งฝ่าเท้าขึ้นสูงจูบลงบนริมฝีปากนั้นก่อนอย่างไม่ค่อยได้ทำเท่าไหร่ จูบดูดดื่มที่ค่อยๆเพิ่มขึ้นด้วยความต้องการของเรา มือที่จับอยู่ที่เอวของฟานเลื่อนเข้ามาในเสื้อของผม ลูบไล้ผิวกายตอนที่ผละออกผมจูบลงที่ข้างแก้มของเค้า " ฟาน ช่วยย้ำกับฉันหน่อย ว่าฉันเป็นของนาย ทำให้ฉันรู้ทีว่าฉันมีนายอยู่ข้างๆ"
“ คุณคีย์ " เค้าที่เอ่ยเรียกชื่อผม คงสงสัยอยู่ไม่น้อยกับความรู้สึกของผมในตอนนี้แต่ก็ไม่ถามอะไรออกมาทั้งนั้น จูบดูดดื่มที่ตอบรับกันอย่างถึงรส เสียงน้ำลายเหนียวที่กอดเกี่ยวกันในโพรงปากดูดดื่มจนแทบหายใจไม่ทัน เค้าที่ผละริมฝีปากออกพลางจูบไปที่ซอกคอแล้วปลดกระดุมเสื้อของผมออกจนหมด " ทำไมวันนี้อ้อนผมจัง "
“ ฉันเหนื่อย " ผมบอกเค้าแบบนั้น ตอนที่ผละมือลูบเข้าไปใต้เสื้อของเค้า " ฉันอยากจะปลดปล่อยอะไรสักอย่าง ที่ทำให้ฉันมีความสุข นายจะทำให้ฉันมีความสุขใช่มั้ย "
“ พูดแบบนี้เดี๋ยวคืนนี้ก็ไม่ได้นอนหรอก " ดึงผมเข้าไปกอดไว้อีกครั้งเค้าที่ก้มลงมาจูบ ผมมองแววตาที่กำลังเจ้าเล่ห์นั้นพลางยิ้มออกมา
“ เคยกลัวที่ไหนกันล่ะ " จูบแรงๆที่ดูดดึงริมฝีปาก ผละออกแล้วไล้ลงต่ำจนถึงยอดอกของผม เค้าจูบมันแรงก่อนจะดันให้ตัวผมเดินเข้าไปห้องนอน ตรงกระจกบานสูงที่เห็นเราได้ทั้งตัวนั้น เค้าดึงตัวผมให้เผชิญหน้า ดันให้แผ่นหลังโน้มตัวลงไปข้างหน้าก่อนจะใส่ถุงยางแล้วดันส่วนกลางนั้นเข้ามา แรงสอดใส่ที่ค่อยๆเพิ่มขึ้น ทุกอย่างฉายชัดอยู่ที่หน้ากระจกนั้น
สองแขนที่กอดรัดผม ส่วนกลางที่กำลังสอดใส่อยู่ภายในร่างกายของผม จูบที่กำลังไล้จูบอยู่บนเรือนร่างของผม ทุกส่วนสัด ทุกอย่างมันเป็นของคนข้างหลังนั้น เป็นของฟาน เป็นของเค้าทั้งหมด
“ ฟาน " ถูกดึงขาให้ยกขึ้นสูงขานึง แรงกระแทกที่ดันเข้ามาจนสุด ผมเม้มริมฝีปากของตัวเองมองภาพของร่างกายผอมบาง ยอดหน้าอก และส่วนกลางที่กำลังชูชัน ไม่ต่างอะไรกับช่างทางหลังที่กำลังกระหมิบถี่ๆตอดรับของของฟานที่สอดใส่เข้ามา " อ๊าา ตรงนั้น แรงอีก อ๊าา ฟาน ฉัน " เอ่ยชื่อเรียกเค้าอย่างไม่อาย ร่างที่ถูกดันลงไปข้างหน้า ผมคว้าจับที่กำแพงห้องเค้าก็ดันส่วนกลางเข้ามาแบบเป็นจังหวะและสุดแรง เสียงกระทบกันดังก้องหูแรงกระแทกที่สุดท้ายก็ดันเข้ามาจนสุดแล้วผมกับเค้าก็ปลดปล่อยมันออกมา
ส่วนกลางถูกดึงออกผมที่หันหน้าไปเผชิญหน้ากับเค้า เราที่กำลังจูบกันทำไมมันถึงรู้สึกไม่พอก็ไม่รู้ อยากจะได้มากกว่านี้ ย้ำลงไปอีกสิ สำหรับความรู้สึกพวกนั้น บอกกับฉันให้ฉันจำ ว่าฉันเป็นของนาย แล้วไม่ควรจะคิดถึงใครหน้าไหนทั้งนั้น ไม่ว่าอะไรจะเกิดอะไรขึ้นก็ต้องคิดถึงแต่นาย แค่นายคนเดียวเท่านั้น
“ ฟาน "
“ อีกสักรอบนะครับ " เค้าบอกผมก็ยิ้มก่อนจะผยักหน้ารับ ถุงยางที่ถูกดึงออกถูกผูกถุงแล้วโยนอยู่ตรงนั้น ก่อนที่สองแขนจะอุ้มร่างของผมให้ขึ้นมาบนเตียงขนาดใหญ่ สบสายตาที่กำลังเคลือบคลานเข้ามาพร้อมกับส่วนกลางที่ถูกใส่ถุงยางอันใหม่ กิจกรรมรักที่ร้อนแรงเริ่มขึ้นอีกครั้งแรงโหมกายของอีกคนที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง
“ คุณคีย์ครับ ผมรักคุณ " คำพูดเบาๆที่พูดอยู่ข้างหูของเค้า ผมหลับตาลงแน่นตอนที่เอื้อมมือกอดเค้าไว้ ในใจมันก็ถามตัวเอง ยังต้องการอะไรอีก ยังจะอยากได้อย่างอื่นไปทำไม นี่ไงของของเรา นี่ไงคนของเรา ยังอยากจะได้อย่างอื่นอีกเหรอ ยังจะลังเลกับความรู้สึกพวกนั้นอีกเหรอ คิดดีแล้วเหรอ ที่จะทำร้ายความรู้สึกของเค้าคนนี้ อยากจะโง่รึไง ทำไมถึงได้รู้สึกแบบนั้นกับเค้า คนของเราก็กำลังตอกย้ำความเป็นเจ้าของอยู่นี่ไง
“ ฟาน "
“ ผมรักคุณครับ "
“ ทำไมถึงได้พูดอออกมาง่ายกันนะ คำว่ารักนั่นนะ ” มองหน้าอีกคนที่กำลังยิ้มแล้วกอดผมไว้ แก่นกายที่อยู่ในร่างขยับเข้าออกช้าๆราวกับประวิงเวลาในการพูดคุย
“ ก็ผมรักคุณ ก็แค่บอกว่ารักคุณ "
“ ฉัน..”
“ จะบอกผมแล้วเหรอ " หน้าตาที่กำลังดีใจของเด็กผู้ชายที่อยู่ข้างบน ทำเอาผมเบือนหน้าหนี
“ ไม่บอกแล้วดีกว่า "
“ ใจร้ายจังนะครับ " ใบหน้าคมก้มลงมาจูบที่คอ ขบเม้มเบาๆก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองหน้ากันอีกครั้ง " พรุ่งนี้ตอนเย็นหลังจากที่คุณเลิกงาน ไปหาอะไรอร่อยๆกินกันมั้ยครับ ฉลองที่งานของคุณผ่านไปได้ด้วยดี ผมเลี้ยงเอง "
“ พรุ่งนี้เหรอ "
“ ครับ คุณอยากจะกินอะไรละ หรือว่าจะทำกินกันในห้องก็ได้นะ สุกี้ดีมั้ยครับ ชาบู หรือว่าปิ้งย่าง อะไรก็ได้ที่คุณคีย์อยากจะกิน พรุ่งนี้ผมน่ะจะออกไปรอ..”
“ พรุ่งนี้ตอนเย็นฉันมีนัดแล้วละ " ทุกอย่างที่เงียบไป ผมยิ้มจางๆให้เค้า ก่อนจะยกมือลูบแก้มอีกคนที่ก็หดยิ้มลงทันที " อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ ฉันนัดกับที่ทำงานเอาไว้ว่าจะไปกินข้าวด้วยกันน่ะ "
“ งั้นเหรอครับ " เค้าพูดออกมาก่อนจะพยักหน้ารับ " คงจะเป็นการฉลองให้คุณ งั้นคุณก็ไปเถอะ กับผมไว้คราวหน้าก็ได้ "
“ อื้ม ขอโทษทีนะ "
“ ไม่เป็นไรครับ ตอนนี้ก็เหมือนกับกำลังฉลองกับผมอยู่ เพราะงั้นเรื่องกินของอร่อยๆไว้คราวหน้าก็ได้ คราวนี้ผมเองก็จะกินคุณให้อร่อยเหมือนกัน " จังหวะรักที่เริ่มแรงขึ้น เค้าที่ก้มลงมากอดผมแล้วสอดใส่ส่วนนั้นเข้ามา สองแขนของผมกอดเค้าแน่นขึ้นถ้ารู้ว่าพรุ่งนี้นัดตอนเย็นของเค้าคือ มื้อเย็นที่ต้องออกไปกับหัวหน้าสองต่อสอง ไม่รู้ว่าคนที่กำลังบอกว่าไม่เป็นไรตอนนี้ จะยังบอกว่าไม่เป็นไรอยู่มั้ย ถ้าขืนว่ารู้ความจริงเข้า
เพราะฟานรักผมมาก ทั้งรักทั้งทุ่มเท ผมเลยคิดไม่ออกเลยว่า เค้าจะเป็นยังไงถ้าเกิดว่า คนที่เค้าทั้งรักทั้งทุ่มเทอย่างผม ทำให้เค้าเสียใจ จะยังรักกันอยู่ หรืออยู่ในสถานะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกก็ไม่รู้
................................................................
เดี๋ยวพี่คีย์ก็ได้รู้คำตอบนั้นเองแหละค่ะ ..ถ้ายังมึนๆงงๆกับความรู้สึกของตัวเองแบบนี้
หนมก็เข้าใจคีย์ หัวหน้าคือคนที่เคยชอบ แต่.. แต่ตอนนี้ คีย์มีฟานแล้วนะ
มันเหมือนว่า เราอยากจะกินผลไม้ลูกนึงที่อยู่สูงมาก เรามอง ปีนไปเอาก็ไม่ได้ แม่งของป้าข้างบ้าน
จนวันนึง เราก็ได้ผลไม้เมืองนอกมาลูกนึง แม่งแพงมาก แต่อยู่ๆไอ้ผลไม้ลูกที่เล็งมาตลอด คันตกลงมาในรั้วบ้านเรา
อยากกินนะ ก็มองมานานแล้ว แต่ถ้ากินผ้าข้างบ้านต้องจัดการแน่ แล้วไอ้ผลไม้ลูกแพงๆที่เราได้มานี่ละ
มันกลืนไม่เข้าคายไม่ออก รู้ผิดชอบชั่วดีทุกอย่างแหละ
แต่นั่นแหละ นั่นแหละนะ..
เจอกันตอนหน้า มีคนสงสัยว่า ถ้าฟานรู้ ฟานจะเป็นยังไง
รออ่านค่ะ รับรองเลยว่า... #ยิ้มอ่อน
ฝากแท็ก #ฟานคีย์ ในทวิตด้วยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้า