ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง{ตอนพิเศษที่ 2 UP - 10.2.60}หน้า 42 (จบเรื่อง+รวมเล่ม)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง{ตอนพิเศษที่ 2 UP - 10.2.60}หน้า 42 (จบเรื่อง+รวมเล่ม)  (อ่าน 323433 ครั้ง)

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4

ออฟไลน์ beerby-witch

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
เอาไงดีอ่ะ เหมือนคีย์ไม่เคยรักฟานเลย ทั่งการกระทำและคำพูดแทบไม่เคยแสดงออกอะไรเลย คือถ้าไม่คิดจะจริงจังก็ปล่อยเขาไปดีกว่ามั้ย สงสารน้องฟานที่ต้องคอยรองรับอารมณ์ทุกอย่างของนางอ่ะ อันนี้คือส่วนของเม้นในตอน33ค่ะ  :hao5:

ออฟไลน์ beerby-witch

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
อห พูดไม่ออก ไม่มีความมั่นคงอะไรในใจคีย์เลยค่ะ เปลี่ยนนายเอกมั้ยคะ ให้น้องฟานไปเจอคนดีๆที่รักน้องจริงๆเถอะค่ะ น้องยังเด็กน่าจะยังได้เจออะไรในชีวิตอีกเยอะ ถ้าตอนจบไม่ได้กันนี่เราก็โอเคอ่ะค่ะ ขนาดอ่านข้ามๆมาแล้วนะ เจอแบบนี้หลายเรื่องเหมือนกันนะ อยากรู้เหตุผลที่ฟานรักคีย์จัง นี่ยังหาไม่เจอเลย โอ้ยยยยยยย ขึ้น

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
เค้าว่าฟานมันก็รู้สึกแหละว่าคีย์มีเรื่องปิดบัง
ยังไม่เม้นท์ไรมาก รอดูยาวๆค่ะ

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง
ตอนที่ 35
' คนเห็นแก่ตัว '

   ช่วงเวลาพักเที่ยงของที่ทำงาน พนักงานหลายๆคนที่เดินออกไปจากหน้าคอมพิวเตอร์ลงสู่ชั้นล่างก็ทำให้ผมผละสายตาออกไปได้ไม่ยาก เงยหน้าขึ้นมองคนอื่นในตอนนั้นก็สบสายตาเข้ากับหัวหน้าพอดี เค้าที่ยิ้มออกมาก่อนจะชี้นิ้วที่นาฬิกาของตัวเองคล้ายจะบอกว่า พักเที่ยงแล้วนะ ผมพยักหน้ารับเค้า ก่อนหัวหน้าจะพูดไม่ออกเสียงออกมา ' เย็นนี้เจอกันนะ '  พยักหน้ารับไปอีกครั้งผมก็หันไปหาลิปที่คิดว่ายังคงทำงานอยู่ แต่เปล่าเค้ากำลังมองผมอยู่ตังหาก

“ เอ่อ... ลิป ไปกินข้าวกันมั้ย "

“ ไปสิ หิวพอดีเลย แต่ว่ารอให้คนออกไปน้อยกว่านี้ก็แล้วกัน จะได้ไม่ลงลิฟต์แบบเบียดๆ "

“ อื้ม ก็ดี " หันกลับมาทำงานของตัวเอง มือที่ลากเม้าส์ไปเรื่อยๆพยายามไม่หันไปสบสายตากับคนที่กำลังจ้องผมอยู่

“ เหมือนนายยังมีเรื่องอะไรบางอย่างที่ยังไม่ได้บอกฉันนะ "

“ เรื่องอะไรเหรอ " หันไปถามเค้าอีกคนก็ยกยิ้ม

“ ฉันจะถือว่านายไม่อยากจะบอกก็แล้วกัน งั้นเราไปกินข้าวกันได้แล้ว " ผ่อนลมหายใจหนักใจออกไปก่อนจะหยักหน้ารับอีกคนที่ก็เดินข้างกันลงไปที่ร้านแซนวิชร้านเดิม เราอยากย้ายกันสั่งอาหารก่อนจะมานั่งกินที่โต๊ะข้างๆกัน ลิปที่กินแซนวิชของตัวเองเงียบๆ จนผมต้องเป็นคนพูดออกไป

“ คือเย็นนี้ หัวหน้าชวนฉันไปกินข้าวด้วย แล้วฉันก็เห็นว่า เค้าก็อุตส่าห์ช่วยฉันไว้ ก็เลยตกลงไปกับเค้า "

“ อย่างงั้นเหรอ "

“ ไม่ได้มีเจตนาที่จะไม่บอกนายหรอกนะ แต่ว่า..” ผมที่เม้มริมฝีปากอย่างไม่รู้จะพูดอะไรดี

“ แต่ว่าเพราะฉันไม่ชอบเค้า นายเลยไม่อยากจะพูดเรื่องของเค้า เพราะไม่ว่ายังไงฉันเองก็มองเค้าให้แง่ร้ายอยู่แล้ว นายก็กลัวว่าฉันจะมองนายในแง่ร้ายไปด้วย "

“ ก็ไม่เชิงขนาดนั้นหรอก "

“ แต่นายก็คิดแบบนั้น " อีกคนบอกก่อนจะยกแซนวิชขึ้นกิน ลิปที่ถอนหายใจออกมา

“ ไม่รู้สิ เรื่องนี้มันก็พูดยากนะคีย์ ถ้าเป็นฉัน ฉันเองก็อาจจะไปละมั้ง ก็เหมือนอย่างที่นายบอก เค้าก็ช่วยเราไว้ถึงจะมองว่ามันเป็นหน้าที่ยังไงแต่ยังไงเค้าก็ช่วยพูดให้อะนะ แล้วเค้าที่ชวนเราไปกินข้าวก็ยากที่จะปฎิเสธซะด้วยสิ "

“ อื้ม ฉันก็คิดอย่างงั้นแหละ " พยักหน้าบอกเค้า

“ นายโตแล้วคีย์ นายมีความคิดเป็นของนาย จะถูก จะผิด ฉันมองว่านายแยกแยะออกได้ นายจะทำอะไรก็เรื่องของนาย สำหรับฉันคงทำได้แค่เตือน " อีกคนยิ้มบอกผม " หัวหน้าน่ะ ไม่ใช่คนที่เราจะวางใจได้หรอกนะ นายเองก็น่าจะรู้ดีกว่าใคร เพราะนายก็เคยชอบเค้ามาก่อน แล้วนายก็มีเหตุผลที่ค่อยๆเลิกชอบเค้าด้วย ฉันว่านายเห็นข้อเสียของเค้ามามากกว่าฉันซะอีก เพราะงั้นอยากจะทำอะไรก็ทำเถอะ ฉันไม่อยากจะยุ่ง อีกอย่างเราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันแบบนี้ แล้วคอยให้คำปรึกษากันดีกว่าอย่ามาผิดใจกันเพราะฉันรู้สึกเกลียดหมอนั่นแล้วนายชอบเค้าเลย "

“ ลิป หัวหน้าน่ะ ฉันว่าเค้าก็ไม่ได้ร้ายอะไรขนาดที่นายคิด "

“ ฉันรู้ แต่ว่า พอดีฉันอยู่ฝ่ายฟานน่ะ "

“ ก็แค่หนเดียวที่ไปกินข้าวด้วยกัน คงไม่เป็นไรหรอก ก็แค่ในฐานะหัวหน้ากับลูกน้อง " ผมบอก ในสิ่งที่ตัวเองพยายามคิดให้เป็นแบบนั้น คิดว่าแค่หนนี้หนเดียว ไปเถอะให้มันจบๆไป แล้วต่อไปเค้าชวนไปไหนก็จะไม่ไปอีก

“ แล้วนายบอกฟานว่าอะไรละ วันนี้กลับบ้านดึก ไปกินข้าวกับหัวหน้าเหรอ "

“ ก็เปล่า " ผมบอกเค้า " บอกไปว่า กินข้าวกับเพื่อนที่บริษัท "

“ ขนาดใจของนายเอง ยังรู้สึกเลยว่า การไปกินข้าวหนนี้มันไม่ได้มีแค่ความรู้สึกของหัวหน้าและลูกน้อง แต่ก็ช่างเถอะ ไปๆให้มันสิ้นเรื่องก็ดี แม้ฉันจะไม่คิดว่าหัวหน้าจะหยุดแค่มื้อนี้ก็เถอะ "

“ หมายความว่าไงอะ "

“ หมายความว่าหลังจากนี้ นายจะไม่ได้มานั่งกินแซนวิชกับฉันแบบนี้แล้วนะสิ " แซนวิชที่ถูกยัดเข้าไปในปาก ผมมองแซนวิชในมือตัวเองก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมา

“ ฉันไปดีมั้ย นายว่า "

“ มาถามอะไรเอาตอนที่เค้านัดนายแล้ว แล้วนายก็ตกลงไปแล้วกันละ "

“ ถ้าเป็นนาย นายจะไปมั้ย "

“ คงไม่อะ ถ้าฉันไม่มีใจให้เค้า " ลิปบอกก่อนจะยิ้ม " แต่ถ้าฉันมีใจ ฉันจะไป เพราะฉันรู้ตัวอยู่แล้วว่าเค้าอาจจะทำอะไรฉันบ้างไม่มากก็น้อยละนะ "

“ อาจจะทำอะไร นี่ยังไง "

“ ไม่รู้สิ " อีกคนส่ายหน้า " ก็อาจจะอย่างเช่น จูบ กอด ไม่ก็ลูบคลำ คนที่จ้องจะงาบเราอยู่แล้วจะปล่อยให้ช่วงเวลาแบบนั้นผ่านไปโดยไม่ทำอะไรสักอย่างเหรอ คงยาก แล้วดูจากท่าทางหัวหน้าที่อยากจะกลืนกินตัวนายแล้วด้วยละก็ ระวังอย่าไปเผลอดื่มเบียร์จนเมาก็แล้วกัน "

“ เค้าอาจจะไม่ทำอะไรแบบนั้นก็ได้ นายคิดมากไปรึเปล่า "

“ นายคิดน้อยไปตังหาก " ลิปบอก " ระวังเถอะสักวันนายจะเสียฟานไปเพราะคำที่นายคิดแล้วชอบพูดว่า ' คิดมากไปรึเปล่า' นี่แหละ คนอย่างหัวหน้า ไม่สิ คนทุกคนแหละ เวลานายมองคนอื่นก็ควรมองในแง่ลบบ้าง คาดสถานการณ์ในแง่ลบบ้าง ไม่มีอะไรออกมาในแง่บวกทั้งหมดหรอก หรือไม่งั้นก็หัดคิดถึงฟานบ้าง ว่าถ้านายเผลอไปมีอะไรกับหัวหน้า ฟานจะรู้สึกยังไง "

“ นายกำลังพูดให้ฉันกลัวนะ "

“ ดีแล้วละ ที่นายจะกลัว " อีกคนบอกก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมา " แต่ก็นะ มันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้ เค้าอาจจะทำตัวเป็นสุภาพบุรุษกับนายมากๆ เป็นคนอบอุ่นแบบที่นายชอบก็ได้ เค้าฉลาดจะตายไป จะอดเปรี้ยวไว้กินหวานก็คงไม่แปลกหรอก "

“ นายนี่นะ "

“ มองเค้าให้แง่ร้ายอีกละสิ " ลิปทำปากแบะๆเหมือนกำลังหมั่นไส้ความรู้สึกของผมอยู่ไม่น้อย " ฉันละน้อยใจแทนฟานชะมัด กว่าจะทำให้นายยอมรับได้ว่ารัก ก็แม่งแทบจะถวายหัวให้อยู่ละ ทุ่มเทให้ทุกอย่างแล้วนี่คือเหี้ยไรวะ นายกลับไปอ่อนไหวกับมุมอบอุ่นของหัวหน้าจอมบริ้นปล้นอะนะ กูเป็นฟานก็จะเลวให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย ทำดีไปเท่านั้นยังไงเค้าก็ชอบคนเลวๆ "

“ ลิป "

“ ฉัน หงุดหงิดวะ " คนข้างๆผมที่ก้มหน้าลงพูดออกไปในที่สุด " นายดูเค้าไม่ออกจริงๆเหรอ หรือความรักมันบังตากันวะ ทำไมถึงเป็นฉันที่รู้สึกกับเค้าในแง่ลบไปหมด เพราะรู้สึกว่าสิ่งที่เค้าทำ มันเป็นแบบนั้น มันเหมือนสามารถมองไปในแง่ร้ายได้ตลอด พอมาคิดว่าเค้าคิดอะไรแบบนั้นกับนาย ก็รู้สึกสงสารฟานขึ้นมา ทั้งๆที่ดีขนาดนั้นแต่กลับโดนทำแบบนี้ "

“ ฉันจะไปกับเค้าแค่หนนี้หนเดียวเท่านั้นแหละ " ผมตัดสินใจบอกเค้าไป " ฉันเองก็รู้สึกไม่ดีนักหรอกที่ต้องปิดบังฟาน อีกอย่างเค้าดีกับฉันมาก ฉันคิดนอกใจเค้าไม่ลงหรอก "

“  ความรู้สึก มันยากจะหยั่งถึงนะ ว่าเป็นยังไง นายอาจจะบอกว่าไม่เป็นไร นายควบคุมความรู้สึกตัวเองได้ แต่อย่าลืมนะว่าแม้ขนาดนายเองยังตกหลุมรักฟานได้ง่ายๆเลย ทั้งๆที่ไม่ใช่คนที่ชอบ แล้วกลับคนที่นายชอบอยู่แล้วละ มั่นใจได้แค่ไหนกันคีย์ ว่านายจะไม่ตกหลุมรักเค้าอีกครั้ง เวลาที่คนเรารักใครมันไม่ได้บอกหรอกว่า กำลังจะตกหลุมรัก มารู้ตัวอีกทีก็นตอนรักไปแล้วทั้งนั้นแหละ "

   ' คีย์ ฉันจองร้านอาหารไว้แล้วนะตอนทุ่มนึง เดี๋ยวหกโมงเย็นเราออกจากออฟฟิศ นายลงไปรอฉันที่ใต้ห้างข้างๆนะ ฉันจะขับรถไปรับนายเอง ' ผมอ่านข้อความจากอีเมล์ของตัวเองที่อีกคนส่งมาให้ ก่อนจะขมวดคิ้วงงๆแล้วจะตั้งคำถามออกไปว่า

“ แล้วทำไมเราไม่ออกไปพร้อมกันวะ " นั่นคือสิ่งที่ผมสงสัย ก็ออกไปกินข้าวด้วยกันแบบไม่คิดอะไร ทำไมต้องหลบ กดตอบรับอีเมล์ของอีกคนก่อนจะคิดประโยคที่อยากจะพิมพ์ออกไป

' แล้วทำไมเราไม่ออกไปพร้อมกันเลยละครับ หัวหน้าเองจะได้ไม่ต้องขับรถวกไปวนมาให้เสียเวลา ' อ่านประโยคนั้นทบทวนอยู่นานก่อนจะผ่อนลมหายใจแล้วกดลบมันไปทั้งหมด " รู้ว่าเค้าหวงหน้าตาของตัวเองแค่ไหนแล้วยังจะไปถามอีกเหรอวะ เหตุผลก็เดิมๆอย่างที่รู้นั่นแหละ มันน่าเกลียดที่เราจะออกไปพร้อมกันสองคน " ผ่อนลมหายใจออกมาก่อนจะกดส่งไปแค่คำว่า

' รับทราบแล้วครับ ' ไม่ต่างอะไรจากเมียน้อยเลยคีย์ สิ่งที่นายกำลังทำอยู่

   เหลือบมองเวลาที่กำลังใกล้หกโมงเย็น สำหรับเวลานัดที่นัดอีกคนเอาไว้ ใจที่ตื่นเต้นจนระส่ำคาดคะเนคิดไปต่างๆนานา ทั้งเรื่องที่ลิปเตือนแล้วก็เรื่องที่ตัวเองเหมือนกำลังทำความผิดนอกใจแฟนตัวเองอยู่ ผมปิดคอมของตัวเองลงก่อนจะหันไปมองลิปที่ยังคงทำงานของตัวเองแบบไม่สนใจอะไร

“ ลิป " ผมเอ่ยเรียกอีกคนที่หันมามองหน้า " ฉันกลับบ้านก่อนนะ "

“ โชคดีนะ ขอให้ปลอดภัย ฟานคุ้มครองละ "

“ ขอบคุณนะ " ยิ้มบอกก่อนคนที่ก็ส่งยิ้มกลับมาให้ " เจอกันพรุ่งนี้ "

   

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
คว้ากระเป๋าเดินออกไปจากออฟฟิศตรงชั้นจอดรถใต้ดินของห้างใกล้ๆ เหลือบมองไปรอบๆเพราะรู้สึกเหมือนมีใครบางคนมองอยู่แต่ก็ไม่เห็นว่าจะมีใคร " คิดไปเองละมั้ง " ผมที่บอกตัวเองแบบนั้นยืนรออยู่ไม่นานสักพักรถคันหรูก็ขับเข้ามาจอดตรงหน้า กระจกรถเลื่อนลงหัวหน้าส่งยิ้มมาให้

“ คีย์ ขึ้นมาสิ "

“ ครับ " พยักหน้ารับเค้า ก่อนจะเดินขึ้นไปนั่งบนรถคันหรู ใบหน้าคมที่ส่งยิ้มมาให้หัวใจของผมเต้นแรงตอนที่มองไปรอบๆรถคันนี้ มันเป็นรถที่ผมเคยคิดว่าอยากจะนั่งมาตลอด ที่นั่งข้างๆของผู้ชายคนนี้ที่เคยใฝ่ฝัน แต่ว่าตอนนี้ความรู้สึกมันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว หลากหลายความรู้สึกเข้ามาแทนที่ ตอนนี้มีแค่ความรู้สึกที่อยากจะให้มันจบไป แค่ให้ช่วงเวลานี้ผ่านไปเร็วๆเท่านั้นเราจะได้ไม่ต้องเจอกับเค้าอีก ใช่..คิดแบบนี้เอาไว้นะคีย์ นายมีเจ้าของแล้ว นายมีฟานอยู่แล้ว

“ ร้านอาหารวันนี้เป็นร้านซูชินะ ที่หนก่อนฉันชวนนายแต่นายไม่ได้ไปไง " หัวหน้าที่หันมาชวนผมคุยระหว่างรอรถติดในช่วงเวลาที่กำลังเลิกงาน

“ เหรอครับ "

“ อร่อยมากเลยนะ นายกินตับห่านรึเปล่า "

“ ก็กินได้นะครับ "

“ ที่นี่อร่อยมากเลย " เค้าบอกก่อนจะหันมายิ้มให้ผม ที่ก็พยักหน้าตอบรับเค้าช้าๆ " แล้วก็แซลม่อนก็สดมากๆ ปลาไหลก็อร่อย ข้าวหน้าปลาไหลก็อร่อย " เผลอเม้มริมฝีปากตอนที่อีกคนพูดถึงข้าวหน้าปลาไหลขึ้นมา จำได้ว่าวันนั้นที่ไปกินซูซิด้วยกันกับฟาน เค้าก็บอกเหมือนกันว่าเค้าชอบกินข้าวหน้าปลาไหลเอามากๆ

“ เหรอครับ " ทำไมรู้สึกผิดแบบนี้วะ เพียงแค่ใครอีกคนพูดถึงข้าวปลาไหลขึ้นมา ก็รู้สึกขึ้นมาลึกๆเลยว่า ไม่น่าจะมาด้วยเลย ก็ถ้าฟานรู้..

“ นี่ คีย์ " มือหนาคว้าจับที่ไหล่ผมก็สะดุ้งแล้วดึงตัวเองออกห่างด้วยความตกใจ ท่าทางที่ทำให้อีกฝ่ายหยุดนิ่งก่อนจะหลุดหัวเราะออกมา " เป็นอะไรทำไมทำหน้าตกใจขนาดนั้น "

“ ก็ เปล่าหรอกครับ ผมแค่กำลังคิดอะไรเพลินๆ ก็เท่านั้น "

“ กลัวอะไรอยู่รึเปล่า " หันมองหน้าเค้าที่หลุดยิ้มออกมา " กลัวฉันเหรอ "

“ ทำไมหัวหน้าคิดแบบนั้นละครับ "

“ ก็ท่าทางนายมันบอกว่ากำลังคิดแบบนั้น นายกำลังกลัวฉัน กลัวฉันทำไม กลัวว่าฉันจะทำอะไรนายรึไง " เค้าถามพลางดึงหน้าตัวเองเข้ามาใกล้ผม

“ หัวหน้า "

“ หึ " เค้ายกยิ้มก่อนจะดึงตัวเองกลับไปกุมพวงมาลัยอย่างเดิม " ฉันไม่ทำอะไรนายหรอกน่า ฉันไม่ใช่คนที่จะบังคับคนอื่นนะ ฉันชอบคนที่สมยอม เพราะงั้นนายไม่ต้องกลัวอะไรแบบนั้นหรอก "

“ ผมไม่ได้กลัวอะไรแบบนั้นสักหน่อย "

“ เหรอ " เค้าหันมาถามล้อๆก่อนจะยิ้ม " แต่แค่ฉันจับไหล่แค่นั้น นายก็สะดุ้งซะสุดตัวเลยนะ "

“ ก็.. ก็คุณเล่นเข้ามาใกล้กันขนาดนั้น ผมไม่ทันระวังก็ต้องตกใจเป็นธรรมดาสิครับ "

“ ฉันว่า นายฟังลิปมากไปนะบางที " แววตาของผมลุกลนตอนที่เค้าพูดออกมาแบบนั้น " ฉันก็รู้ว่าลิปเค้าไม่ได้ชอบฉันเท่าไหร่ แต่นายมีอะไรก็บอกหมอนั่นแล้วสุดท้ายมันก็ได้รับแต่ความคิดเห็นแย่ๆทั้งนั้น ก็กลายเป็นว่าต่อให้ฉันทำดีกับนายแค่ไหน นายก็ฟังแค่เพื่อนจนเหมือนสร้างกำแพงกั้นฉันเอาไว้ แต่ก็นะ ฉันมันไม่ได้ดีอยู่แล้วจะพูดอะไรมันก็ชวนคิดไปในทางแย่ๆหมดนั่นแหละ "

“ นี่อย่าบอกนะครับ ว่ากำลังน้อยใจ "

“ แล้วมันน่าน้อยใจมั้ยละ " หันไปมองเค้าที่กำลังมองไปยังถนนข้างหน้า " กับแค่มีเมียแล้วก็กำลังจะหย่าจะหาคนใหม่ไม่ได้เลยรึไงวะ ไม่ได้คิดจะเก็บใครไว้เป็นเมียน้อยสักหน่อย ก็บอกอยู่ตลอดว่า ขอเวลาให้ลูกโต แต่ช่างเถอะ คนที่มีครอบครัวแล้วแบบฉันจะพูดจะอธิบายอะไรมันก็คงยาก "

“ น้อยใจใหญ่แล้วครับ พอเถอะ พูดเรื่องอื่นดีกว่านะ " หันไปยิ้มให้เค้า อีกคนก็ถอนหายใจออกมาก่อนจะหันมามองผม

“ น่าหงุดหงิด "

“ แล้วทำไมต้องหงุดหงิดกันเล่า "

“ ก็ฉันชอบนายแล้วพยายามจีบนายอยู่ จะไม่ให้ฉันหงุดหงิดได้ไงละ เป็นนาย นายจะไม่หงุดหงิดรึไง ที่ยิ่งทำให้เค้าชอบเท่าไหร่พยายามแค่ไหน ทุกอย่างก็เท่ากับศูนย์ ไม่มีค่าอะไรเลย "  ทุกอย่างเงียบไปหมดตอนที่เค้าพูดออกมาแบบนั้น แม้แต่รอยยิ้มของผมที่กำลังยิ้มอยู่ก็ค่อยๆหดลงจนเหลือแค่ใบหน้านิ่งเฉยที่ได้แต่เบือนหน้าหนีเค้า ' ฉันชอบนาย ' คำสั้นๆจากประโยคยาวๆที่กำลังหมุนอยู่ในหัวของผม

   ผ่อนลมหายใจที่กำลังเต้นแรงมองออกไปนอกหน้าต่างรถอย่างไม่รู้จะเอ่ยอะไรทั้งนั้น ทำไมคำว่า ' ชอบ ' จากเค้าถึงได้ทำให้รู้สึกดีอะไรขนาดนั้น คนที่แอบชอบมานานอยู่ๆก็บอกความรู้สึกที่อยากจะฟังมาตลอดในช่วงเวลาที่ยังชอบเค้า แม้ตอนนี้จะมีใครอยู่แล้วแต่แก้มแดงๆของผมที่กำลังเขินก็อดไม่ได้เลยที่จะแสดงความรู้สึกลึกๆนั่นออกมา

   หัวใจที่เต้นแรงตอนนี้ ผมพยายามข่มมันให้สงบลงอย่างยากลำบากเสียเหลือเกิน ช่วงเวลาเงียบเงียบที่ได้แต่นั่งนิ่งๆในรถที่แล่นไปช้าๆก่อนที่มันจะจอดลงที่ร้านอาหารหรูแห่งหนึ่ง  " ถึงแล้วละ "

“ ร้านนี้เหรอครับ " ผมหันไปถามอีกคนก็พยักหน้ารับ สวนที่จัดแบบญี่ปุ่นเป็นสวนเล็กๆรับกับร้านอาหารที่จัดทรงอาคารออกมาเป็นแบบแนวญี่ปุ่นอย่างชัดเจน เดินตามร่างสูงเข้าไปในร้านพนักงานที่ก้มหน้าทักทายเรา

“ จองไว้แล้วครับ ชื่อธีร์ สองที่ "

“ ค่ะ เชิญทางนี้เลยค่ะ " พนักงานสาว ผายมือออกเดินนำให้เราสองคนไปที่ห้องพิเศษห้องนึง ประตูเลื่อนแบบญี่ปุ่นถูกเลื่อนออก ภายในเป็นห้องอาหารที่ถูกจัดไว้เป็นส่วนตัววิวที่ติดกับสวนเล็กๆผมนั่งลงบนฟูกแบบญี่ปุ่นก่อนจะมองไปรอบๆ

“ บรรยากาศดีจัง "

“ ไม่ใช่บรรยากาศดีอย่างเดียวนะ อาหารที่นี่ก็อร่อยมากๆด้วย แบบสไตส์ญี่ปุ่นแท้ๆเลย "

“ ท่าทางจะมาบ่อยนะครับหัวหน้า ดูเชี่ยวชาญ " ผมแซวอีกคนก็ยิ้ม เมนูอาหารถูกยกมาให้ หัวหน้าที่เปิดออกดูเค้าก็เอ่ยบอกผม
“ จะสั่งอะไรก็สั่งเลยนะ มื้อนี้ผมเลี้ยงเอง นานๆทีคนสวยๆจะมากินข้าวด้วย "

“ พูดอะไรน่ะหัวหน้า อายเค้า " ผมหันมองพนักงานที่หลุดยิ้มออกมา ก้มหน้าลงมองดูเมนูอาหารและราคาที่ไม่ค่อยสัมพันธ์กันเท่าไหร่ ซูซิบ้าอะไรแพงหูฉี่ขนาดนี้ " ซูซิปลาแซลม่อน สองคำ "

“ เอาแบบเซ็ตมาเลยดีกว่ามั้ย "

" ก็ได้นะครับ "

" งั้นเอาเซ็ตนี้แล้วกัน " หัวหน้าเป็นคนสั่งก่อนจะชี้ที่เมนู มันเป็นเซ็ตราคาสูงที่ค่อนข้างแพงแต่มีหลายๆอย่างเพราะดูท่าทางแล้วผมเกรงใจเค้ามาจนไม่กล้าจะสั่งอะไรเท่าไหร่

“ เยอะขนาดนั้นจะกินกันหมดเหรอครับ "

“ หมดสิ เดี๋ยวพอได้กิน นายจะบอกว่าอร่อยมาก แล้วกินจนหมดเองละ " เค้าบอกก่อนจะยื่นเมนูกลับไปให้พนักงาน

“ แล้วเครื่องดื่มจะรับเป็นอะไรดีค่ะ "

“ ชาเขียวเย็นครับ " ผมบอก

“ ไม่กินเบียร์เหรอคีย์ " ส่ายหน้าบอกเค้าอีกคนก็หัวเราะ " งั้นของผมขอเป็นเบียร์แล้วกัน " พนักงานสาวก้มหน้ารับก่อนจะเดินออกไปจากห้องอาหารของเรา " น่าแปลกวันนี้นายไม่กินเบียร์ ฉันจะบอกให้นะว่าเบียร์ที่นี่รสชาติดีนะจะบอกให้ "

“ ไม่ละครับ ผมรู้สึกไม่ค่อยอยากจะกินเท่าไหร่ "

“ กลัวเมาเหมือนวันนั้นรึไง " เค้าแซวผมก็ยิ้มก่อนจะเอียงหน้าไปทางอื่น " แล้วตอนนี้เป็นยังไง สบายใจกับเรื่องนั้นขึ้นมาบ้างรึยัง เรื่องลูกค้าคนนั้น "

“ ก็สบายใจขึ้นมากแล้วละครับ ก็มันผ่านไปแล้วนี่น่า ผมเองก็ต้องขอบคุณหัวหน้ามากๆเลยที่ช่วยผมไว้ ถ้าไม่มีหัวหน้าวันนั้นคงต้องรับผิดชอบโดนกล่าวหาว่าลอกงานคนอื่นแน่ๆ เพราะรองหัวหน้าคงไม่ใช่คนที่จะช่วยเหลืออะไรผมทั้งนั้น " ยิ้มให้อีกคนก่อนจะก้มหน้าลง

“ ก็เพราะว่าฉันชอบนายแล้วก็ไม่สามารถเสียนายไปได้ นั่นคือเหตุผลที่ว่า ทำไมฉันถึงช่วยนายไว้ " เงยหน้าสบแววตาตาคมที่พูดออกมา " นายคงรู้ว่าฉันเป็นคนยังไง ฉันน่ะ ทั้งเห็นแก่ตัวแล้วก็ไม่ยอมให้ใครมามองฉันในแง่แย่ๆหรอก แต่ที่ฉันยอมลูกค้าคนนั้น ก็เพราะว่าชอบนายมาก จนคิดว่า ถ้าเกิดว่านายต้องออกไปจากบริษัท ฉันก็คงไม่ได้เห็นนายอีก พอคิดแบบนั้นก็เลยช่วยนายไว้ ฉันไม่ใช่คนดีหรอกคีย์ เพราะถ้าเป็นคนอื่น ฉันก็คงบีบให้ออกเหมือนกัน แต่คราวนี้มันเป็นนายไง ฉันเสียไปไม่ได้ "

“ หัวหน้า..”

“ น่ารังเกียจใช่มั้ยความรู้สึกของฉันน่ะ ความรู้สึกที่แอบชอบลูกน้องของตัวเอง " ผมเม้มริมฝีปากแน่นไม่รู้จะตอบอะไรอีกคนดีก็เลยได้แต่นิ่งอยู่อย่างงั้น " ฉันรู้คีย์ ว่าฉันมาช้าเกินไป ตอนนี้นายมีแฟนแล้ว แต่ว่า .. ฉันเองพยายามมาตั้งนาน ฉันแอบชอบนายอยู่ตรงนี้แล้วจะให้ทิ้งความพยายามทั้งหมดไปเพราะเหตุผลแบบนั้น ไม่รู้สิ ฮ่าๆ " คนตรงหน้าหลุดหัวเราะแห้งๆออกมา " ฉันรู้สึกเสียดายชะมัด เสียดายที่ต้องหยุดชอบนายไว้แค่ตรงนี้ เพราะงั้น ฉันบอกนายไว้ก่อนเลยว่า ฉันจะไม่หยุดเพราะเหตุผลนั่นหรอก แล้วฉันก็จะคิดมันในแง่ดีด้วย "

“ คิดมันในแง่ดี ? “ ผมทวนคำพูดของอีกคนที่ยกยิ้มขึ้นมา

“ ตอนนี้นายมีแฟน ฉันเองก็มีภรรยาอยู่ ถ้าเราชอบกันจริงๆ มันก็แฟร์นิ สำหรับรักที่ไม่ผูกมัดอะไร นายก็ไม่ต้องเลิกกับแฟน ฉันก็ไม่ต้องใส่ใจหรือห่วงเรื่องภรรยาหรือลูกของตัวเอง ถ้าเราอยากจะอยู่ด้วยกัน เราก็แค่มาหากัน ฉันว่าแบบนั้นก็ดีนะ ฉันคิดแบบนั้นก็เลยตัดสินใจจีบนายต่อ " คำพูดที่เห็นแก่ตัวที่สุดของเค้าถูกสารภาพออกมา จากที่ฟังก็ไม่ได้ต่างอะไรกับการลักกินขโมยกินที่เค้าพยายามชัดจูงผมให้เดินตามเกมส์ของเค้า คำพูดกรอกหูที่สรุปได้สั้นๆว่า ' ชอบฉันอยู่แล้วนิ ไม่ต้องเลิกกับแฟนก็ได้นะ เราคบกันได้ แอบคบกันสิ ทั้งฉันทั้งนาย '

“ หัวหน้าครับ คือว่า..”

“ ฉันไม่ได้พานายมาเลี้ยงข้าวเพื่อให้นายปฎิเสธฉันนะ " เค้าพูดขัด " นายจะคิดยังไงนั่นมันเรื่องของนายไม่เกี่ยวกับฉัน นายจะคิดว่าฉันแย่ เห็นแก่ตัว ก็เรื่องของนาย แต่ฉันคิดแบบนี้ แบบคนเห็นแก่ตัวที่ชอบนายมากๆจนไม่อยากจะเสียไปคิดก็เท่านั้น แล้วฉันจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้นายหันมาสนใจฉันแม้ในหัวใจนายจะมีใครคนอื่นอยู่แล้วก็ตาม "

“ ก็เลยชวนให้ผมนอกใจแฟนเหรอครับ "

“ ใช่ เพราะมันเป็นทางเดียวที่เราจะสามารถแสดงความรู้สึกจริงๆออกไปได้ นายชอบฉันไม่ใช่เหรอคีย์ แต่ก็ไม่อยากจะเลิกกับแฟนไม่ใช่เหรอ "

“ อย่าทำให้ลำบากใจกันเลยครับ " ยิ้มแห้งๆบอกอีกคนที่กำลังมองหน้าผมตอนนี้ " คุณกำลังทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนไม่ดีที่มากินข้าวกับคุณตอนนี้ เหมือนว่าผมกำลังนอกใจแฟนของตัวเอง "

“ นายไม่ผิดนะ " เค้าบอก " นายจะผิดได้ยังไง นายไม่ได้รู้สึกอะไรกับฉัน "

“ ที่บอกผมไม่ได้รู้สึกอะไร คุณคิดอย่างงั้นจริงๆเหรอ " ใบหน้าคมที่ยกยิ้มแน่นอนว่าเค้าไม่ได้คิดอย่างที่พูดบอก คำพูดที่บอกว่าผมไม่ได้รู้สึกอะไรกัน " แน่ใจเหรอครับ ไม่ใช่ว่ารู้อยู่แล้วเหรอว่าผมรู้สึกยังไงกับคุณ คุณเลยยังดึงดันที่จะเข้ามาอยู่แบบนี้ ยื่นข้อเสนอต่างๆนานา ทั้งๆที่ก็น่าจะหยุดเรื่องนี้ได้แล้ว หยุดทำให้ผมหวั่นไหวได้แล้ว เลิกเอาขนมมาล่อผมสักที แฟนผมดีก็จริง แต่เค้าไม่ได้โง่นะครับ  ไม่ได้โง่ที่จะทนให้ผม มาเอากับคุณในเวลาที่คุณต้องการ แล้วถ้าไม่ต้องการก็อยู่ที่บ้านเพื่อนเอากับเค้า เลิกทำแบบนี้เถอะ ถ้าจะทำอะไรแบบนี้ เราหยุดเสียตรงนี้ดีกว่า อย่าเริ่มเรื่องเลวๆแบบนั้นเลย " บอกเค้าออกไปตรงๆอีกคนก็ผ่อนลมหายใจออกมา ปากที่กำลังเอ่ยอธิบายเรียกชื่อของผม

“ คีย์ "

“ ขออนุญาติค่ะ " เสียงจากหน้าประตูดังขัดเรา ประตูเลื่อนออกมาพร้อมกับอาหารที่ชุดใหญ่ที่ถูกยกเข้ามาให้ สีสันของอาหารสดที่ถูกทะยอยวางลงบนโต๊ะ

“ กินอาหารกันเถอะครับ ผมอยากจะรีบกลับบ้าน " ผมบอกอีกคนที่ถอนหายใจออกมาก่อนจะยกตะเกียบขึ้นคีบ ปลาแซลม่อนมาวางไว้บนจานของผม

“ ขอโทษ ฉันจะไม่พูดอะไรแบบนั้นแล้วก็ได้ อะนี่..ปลาแซลม่อนที่นี่อร่อยมากเลยนะ ลองกินดูสิ "

“ ขอบคุณครับ " คีบปลาแซลม่อนในจานขึ้นมากินเงียบๆ อีกคนก็คีบของที่ตัวเองอยากจะกินขึ้นมากินเช่นกัน  เคี้ยวรสชาติปลาสดๆในปาก มันก็อร่อยอยู่นะ แต่ทำไมมันถึงรู้สึกไม่อยากกินเลยวะ

“ อร่อยมั้ย "

“ อร่อยมากครับ "

“ ปลาไหลก็อร่อยนะ "

“ ผมไม่ชอบกินปลาไหลครับ " พูดสั้นๆแค่นั้นอีกคนก็ชะงักมือที่กำลังจะคีบอาหารให้ผม เปลี่ยนมาเป็นวางอาหารลงในจานของตัวเองเสียแทน มองดูปลาไหลพวกนั้นแล้วก้มหน้าลงต่ำ เป็นอะไรไปไม่รู้ จะบอกว่ารู้สึกผิดเหรอวะ ทั้งๆที่ตอนนี้ก็มานั่งให้เค้าสารภาพรักที่ทำให้ใจเต้นสะร่ำทั้งๆที่มีคนที่เป็นเจ้าของอยู่แล้ว ความรู้สึกที่ถูกจับจองเมื่อคืนไม่ได้ช่วยอะไรเลยเหรอ ร่องรอยที่ตีตราจองเอาไว้พวกนั้น ทำไมถึงได้หวั่นไหวขนาดนี้ ทั้งๆที่คนตรงหน้า ทั้งน่ารังเกลียดแล้วเห็นแก่ตัวขนาดนี้ แต่ทำไมกลับมีเสี้ยวนึงที่คิดว่า ' อย่างงั้นก็อาจจะดีก็ได้  ' 

ตอนนี้  แม้ขนาดเป็นแค่ความคิด ก็ยังน่ารังเกียจเลย คีย์..

   นั่งกินซูชิมาเรื่อยๆ เรื่องสนทนาก็ถูกเปลี่ยนไปพูดเกี่ยวกับเรื่องงานในบริษัทบ้าง ส่วนตัวบ้างจนสุดท้ายอาหารบนโต๊ะก็หมดลง เรายกน้ำขึ้นดื่ม เรียกเก็บเงิน ก่อนจะเดินกลับมาขึ้นรถแล้วเค้าก็ขับออกมาส่งผมที่คอนโด

   มองออกไปนอกหน้าต่าง ผ่อนลมหายใจออกมา สิ้นสุดสักทีสำหรับความเกรงใจที่ต้องมาสำหรับอาหารมื้อนี้ หวังว่าคงไม่ต้องมาอีกไม่ต้องมารับฟังอะไรเห็นแก่ตัวพวกนั้นอีกแล้ว ไม่ต้องมาหวั่นไหวกับคำชักจูงพวกนั้น คำชักจูงที่จะทำให้เราต้องเสียฟานไป เพียงเพราะแค่อารมณ์ อยากจะได้ชั่ววูบ กับเหตุผลที่ไม่น่าจะเป็นเหตุผลที่ว่า ' ก็เพราะชอบเค้ามานานแล้ว ' คนที่น่ารังเกียจแม้กระทั้งความคิดอย่างผม คนที่หวั่นไหวง่ายๆอย่างผม ตอนนี้ควรถอยออกไปให้ห่างคนคนนี้มากที่สุด เพราะไม่รู้ว่าหนหน้าจะข่มใจไม่หวั่นไหวกับคำสารภาพที่ทำให้ใจเต้นแรงพวกนั้นได้รึเปล่า

   รถขับไปเรื่อยๆจนมาถึงคอนโด ล้อรถที่จอดสนิท ในตอนนั้นผมก็เอียงหน้าไปมองเค้าก่อนจะอ้าปากเอ่ยขอบคุณแต่ก็เหมือนโดนอีกฝ่่ายพูดขัดขึ้นมาเสียก่อน

“ หวังว่าจะได้พานายมากินของอร่อยๆแบบนี้อีกนะคีย์ "

“ ครับ ไว้ถ้าผมว่างนะ " พูดไปตามมารยาทอีกคนก็ก้มหน้าลงก่อนจะยิ้ม

“ คงตอบไปตามมารยาทสินะ "

“ หัวหน้า "

“ นาย เรียกฉันว่าพี่ธีร์ได้มั้ย " เค้าถามก่อนจะยิ้มให้ผม " เวลาที่เราอยู่ด้วยกันสองคน นายเรียกฉันว่าพี่ธีร์ได้มั้ย แค่พี่ธีร์ "

“ แต่ว่า..”

“ ฉันอยากจะให้นายเรียกฉันแบบนั้น อย่างน้อยก็ตอบแทนฉันที่ ฉันเลี้ยงข้าวนายก็ได้ " แววตาเว้าวอนที่มองมา ราวกับกำลังอ้อนให้ผมอ่อนไหวแล้วมันก็ดูเหมือนจะได้ผลดีอย่างน่าประหลาด หัวใจที่โอนอ่อนไปหมดตอนนี้ชวนให้ปากมันเอ่ยออกไป

“ พี่ธีร์ "

“ คีย์ " มือหนาผละจากพวงมาลัยรถแล้วเอื้อมมาประคองแก้มของผม นิ้วโป้งเกลี่ยเบาๆที่แก้มผมก็ก้มหน้าก่อนผละหน้าตัวเองออกจากฝ่ามืออุ่นนั้นแต่อีกคนก็ดึงดันที่จะเข้ามาหา

“ อย่าทำแบบนั้นเลยครับ ไม่ว่าคุณจะคิดอะไรอยู่ ผมอยากจะให้มันหยุดไว้แค่นั้น "

“ เพราะอะไร " เค้าถาม " ทั้งๆที่ฉันไม่อยากจะหยุดความรู้สึกนี้ ทั้งๆที่ฉันก็สารภาพกับนายไปแล้วว่า ไม่อยากจะหยุดความรู้สึกนี้ นายเองจะบอกว่าไม่ได้รู้สึกอะไรกับฉันงั้นเหรอ ก็ไม่ใช่ใช่มั้ยละ นายเองก็รู้สึกกับฉันเหมือนที่ฉันรู้สึกกับนาย แล้วทำไมละคีย์ ทำไมเราถึงไม่แสดงความรู้สึกดีๆนั่นออกมา ฉันที่ยอมรับความรู้สึกนั่นแล้ว แต่ทำไมนายถึงไม่ยอมรับมันละ ทั้งๆที่นายเองก็เห็นด้วย นายเองก็หวั่นไหว "

“ เพราะผมมีเจ้าของอยู่แล้ว " ปลดกระดุมเสื้อด้านบนของตัวเองออก ก่อนจะดึงให้ออกโชว์รอยประทับแดงๆจากริมฝีปากของอีกคนที่ทำไว้เมื่อคืนตรงช่วงไหล่ " คุณคงรู้ว่ามันคืออะไร แล้วมันก็ไม่ได้มีแค่ที่เดียว มันมีทั่วทั้งเรือนร่างของผม แม้แต่ส่วนลับนั่นก็ด้วย มันคือเครื่องหมายที่บอกผมว่า ต่อให้รู้สึกอะไร ก็ไม่ควรกลับไปรู้สึกอย่างที่เคยรู้สึกไม่ได้ เพราะผมมีเจ้าของอยู่แล้ว ขอตัวนะครับ " ผ่อนลมหายใจออกยาวๆ นั่นคือสิ่งที่สมควรทำ มือที่เปิดประตูออกแต่ยังไม่ทันจะก้าวลงไปอีกคนก็คว้ามือของผมเอาไว้ เค้าที่นิ่งอยู่แบบนั้น ก้มใบหน้าคมลงเหมือนจะพูดอะไรสักอย่างผมก็รอฟัง

“ เพราะมันเคยเป็นของฉันมาก่อน .. ที่ตรงนั้นในหัวใจนาย ฉะนั้นฉันจะเอามันคืนมา และไม่ยอมหยุดแค่นี้แน่ "

“ หัวหน้า "

“ เพราะนายที่หวั่นไหวนั่นคือจุดอ่อนที่บอกกับฉันว่า ฉันมีโอกาสจะชนะคนปัจจุบันของนายแน่นอนแม้มันจะเป็นแค่หนึ่งเปอร์เซ็นต์ก็เถอะ ฉันก็จะลองดู จะต้องทำให้นายกลับมารักฉันให้ได้ แม้ใครจะมองว่าเห็นแก่ตัวก็ตาม "

..........................................................................

หัวหน้าก็ทำให้หวั่นไหวเข้าไป
คีย์ก็ยิ่งหวั่นไหวหนักไปอีก คีย์ตอนนี้เหมือนรู้อยู่ว่าไม่ดี ไม่ควรทำ สะกดจิตใจตัวเอง
แต่เหมือนจะไม่ไหวแล้ว บอกว่าไม่.. แต่ว่าใจนี่แบบ..

#มองฟ้า  :z6:

เจอกันตอนหน้า นะคะ
ฝากแท็ก #ฟานคีย์ ด้วยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์
ป.ล. สำหรับคนที่อ่านข้ามๆ ตอนที่แล้ว พี่คีย์ยังไม่ได้จูบกับหัวหน้านะ ผละออกมาก่อน
 :กอด1: :L2: :3123: :L1:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
หัวหน้าแม่ง. สงสารลูกเมียจริงๆหวะ.  :z6:   
ส่วนคีย์ก็ เปิดโอกาสเองนะ ระวังเหอะ ถ้าเขารุกจริงขึ้นมาจะหวั่นไหวอีกรึเปล่า

ออฟไลน์ me12inzy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
อ่านละขยะแขยงผช.แบบนี้มากก คันคะเยอไปทั้งตัว เมียกับลูกที่บ้านนางน่าสงสารนะ มีหัวหน้าครอบครัวหน้าฮี๋แบบนี้

ส่วนนางอ่อนไหว จะเคลิ้มจะใจเต้นอะไรก็เรื่องของเธอ เทนางเอกเรื่องนี้ละ

ถ้านี่เป็นลิปจะไม่จบแค่เบะปากใส่อะ หมั่นหน้ามาก

#ทีมฟานonly.

ออฟไลน์ tkaekaa

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 329
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
 :z6: ขาคู่ใส่อิหัวหน้า
คีย์คงไม่หวั่นไหวชิมิ เจอแบบนี้

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
บอกได้คำเดียวว่าแย่ แค่คีย์ยอมเรียกชื่อก็แย่ละ นี่หรอที่จะตัด

อยากให้ฟานรู้แล้วหายไป ให้คีย์ได้รู้จักรักฟานด้วยใจสักที

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
โอ้ยยยยเลววมากกก
อีหัวหน้า แล้วอีคู่ขาอีกคนหละ น้องใหม่ ชื่ออะไรนะ เนยหรอ
แต่นังนั้นแต่นอนที่ตามมา

โอ้ยยย คีย์ คิดได้แล้วก้ถอยไม๊ แต่ก้อย่างที่อีหัวหน้าพูด
ถ้าคีย์ยังหวั่นไหว เขาก้จะทำต่อไป
ในเมื่อคีย์เองก้ไม่มั่นคงในความรู้สึกของตัวเอง

สงสารฟานเน้อออ เรื่องในรถ ฟานจะเห็นไม๊
แล้วคีย์ก้บอกเอง ว่าฟานไม่ได้โง่ เขาไม่ได้โง่จริงๆนะ
โอ้ยยย ไม่อยากให้ฟานเจ็บปวดเลย
อยากให้คีย์เจ็บมากกว่าฟาน อยากให้ฟานทำแบบที่ลิปบอก
ให้เลวบ้างเลย ชิส์

หนมมม ไหนบอกว่าไม่ดราม่าไง ใสๆ นี่อะไรรรโมโหมากกกกกกก
 :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:

มาต่อเลย ขอตอนฟานเอาคืนบ้างงง ถึงจะทำได้ไม่มาก แต่ของฟานเอาคืนหน่อยย
เหมือนตอนลิปกับพี่เมษอะ
ที่ไปเป็นโฮสอะ
ขอนะนขอนะขอนะ

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
อยากให้ฟานมาเห็นตอนนี้  เห็นตอนที่คีย์เริ่มหวั่นไหวตอนที่คีย์กำลังลังเลแบบนี้ละ แล้วฟานก็แค่ถอยออกมาถ้าคนที่เขาลังเลแสดงว่าเขาไม่ได้ให้ใจอย฿ต่อไปก็เหมือนรู้ว่ามีแผลแต่ไม่ยอมใส่ยาจนแผลมันอักเสบ กลัวว่าถ้าถึงจุดนั้น..จุดที่ฟานโดนคีย์หักหลังแบบไม่ลังเลฟานจะเจ็บจนเกินทนพิษไหว ตลอดชีวิตฟานเหมือนเป็นส่วนเกินที่ใครไม่ต้องการมาตลอดแล้วยังจะมาโดนคนที่คิดจะมอบใจทำแบบนี้ตอบอีก...สงสารฟานวะ กลัวว่าถึงจุดนั้น จุดที่โดนกีดกัน จุเที่ต้องกลายเป็นส่วนเกิน เรากลัวว่าหานจะปิดใจจนกลับกลายเป็นฟานคนใหม่ที่ไร้ความดี คว่าน่ารักแลลนี้ไป.....งื้อออ  อินหนักมาก  อยากเข้าไปตบกระชากเรียกสติคีย์ ว่าคีย์กำลังจะปล่อยมือและพลักฟานออกไปจากชีวิตแล้ว

ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
โอยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
อึ :z6:
ขอดอกหนึ่ง

ออฟไลน์ เจเจจัง

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
เรานี่สายอวยเคะนะ แต่อ่านมาถึงตอนนี้ หมั่นไส้คีย์มาก ได้ผู้หล่อแซ่บ แสนดีแบบฟาน ยังจะโลเลหวั่นไหวอีก อยากให้คีย์รู้แล้วทิ้งเสียจิง ๆ นางจะได้เป็นเมียน้อยสมใจอยาก

ออฟไลน์ LovEYouOnLy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 439
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
ณ จุดๆนี้ ถึงลิปจะพูดอะไรออกไป คีย์ก็ไม่มีทางเชื่อ

หวังว่าฟานจะไม่ถอดใจง่ายๆหรอกนะ ก็นะ รักมากขนาดนั้นไปแล้วหนิ

ออฟไลน์ Yukisho

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 ได้แต่...เฮ้อ เฮ้อ เฮ้อ  :เฮ้อ: :เฮ้อ: ไม่รู้จะพูดไงดี
คีย์เหมือนสะกดจิตตัวเองโนะ เหมือนย้ำคิดอยู่นั่นล่ะ ว่าตัวเองมีเจ้าของแล้ว เพราะเหมือนจะทนใจอ่อนกับหัวหน้าแทบไม่ไหว

เอาจริงอยากให้ตอนนี้คีย์โดนหัวหน้ากระชากไปจูบหรือนัวกันอยู่อะไรก็ได้ แล้วฟานผ่านมาเห็นพอดี  แต่เอาแบบที่ฟานเห็นอยู่ฝ่ายเดียวนะ อยากจะรู้ในส่วนของฟานเหมือนกันว่าจะทำยังไง แตถ้าเป็นนี่นะ จะขอให้ฟานหันหลังให้กับคีย์ไปเลย ไหน ๆ ก็ไม่มีใครรัก(?)ใครสนใจอยู่แล้ว แค่ตัดคีย์ออกไปอีกคนจะเป็นไรไป 

ขอให้นางสมหวังกับหัวหน้ายอมใจอ่อนไว ๆ ละกัน  โอ้ยยยยเกลียดนายเอกแบบเน้~ (ก๊ากกกกอินเบอร์แรงมาก)

รอตอนต่อไปค้าบ  :L2: :3123: :pig4:

ออฟไลน์ alien.aiiwz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ถ้าคีย์รักฟานสักนิด คีย์จะไม่มีทางหวั่นไหวกับหัวหน้า...
เหมือนความรู้สึกที่คีย์มีให้หัวหน้ามันมากกว่ามีให้ฟานอีก
เพราะเรียกฟานว่า "แฟน" ถึงได้รู้สึกผิด แค่นั้น???
รู้ทั้งรู้ว่ายังไงหัวหน้าก็ไม่ยอมหยุดง่ายๆ
แต่คีย์ก็ไม่ได้ตัดขาดให้ชัดเจน
ไม่พอยังเหมือนเติมเชื้อไฟให้เขาได้ใจอีก
เพราะความหวั่นไหวคือจุดอ่อนจริงๆ
สงสารฟานมากๆ
อยากให้เลิกกันไปเลย นี่ทีมฟานอ่ะ

 :z6:
อีโมนี้ให้หัวหน้านะ
อยากจะขาคู่ใส่ให้สำนึก

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
คีย์  :fcuk: สักทีดีมั๊ย

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
อินี่รอสงสารฟานล่วงหน้าเลยได้ไหม (T_T)

ออฟไลน์ aunszMT

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
ปกตินี่สายอวยเคะนะ แต่คีย์นี่แบบไม่ไหววะ ทีมฟานสงสารน้องนะ ไม่รักแต่ยื้อเค่าไว้ ขอให้ฟานทิ้งแม่มม ขนาดเพื่อนเตือนยังไม่ฟัง เกลียดดดด ขอโทษนะคะตนเขียนเราอินมากกก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
#หัวหน้า ขอปรบมือให้รัวๆ คิดยังไงทำไปเพื่อใครมีจุดประสงค์อะไรหวังแบบไหนและจะทำอะไรต่อไป - ชัดเจน มีจุดยืน ตรงๆ ให้กับทั้งสองทาง >> เมียเมื่อไม่รักก็บอกจะหย่า ไม่รักก็คือไม่รัก บอกกันตรงๆ คิดจะกิ๊กกับคีย์ไม่ว่าเลยนะ  แต่คีย์สิ หึหึ!! //โอเค ลิป เป็นเพื่อนที่ดีม๊าก ปรึกษารับฟังตักเตือนแต่ละเรื่องโคตรจะใช่ แต่คิดว่าควรพอก่อนไหม ตักเตือนมาครอบคลุมทุกเรื่องละ ให้คีย์ ได้คิด ได้เจอ ตัดสินใจด้วยตัวเองเถอะ ลิปก็เห็นแล้วหนิ พูดแก้ต่างให้ซะขนาดนั้น ถึงได้บอกไม่อยากทะเลาะผิดใจกัน พอๆ 555 รู้สึกว่ามันเป็นการกดหรือเบรคความอารมณ์ชั่ววูบของคีย์ไม่ให้ปะทุขึ้นมาอ่ะ ไม่รู้ว่าเพราะคำพูดลิปหรือคีย์ยังดีกว่าที่คิด ความรู้สึกนั้นถึงได้มาเร็ว คิดว่ากินข้าวมื้อนี้ คีย์จะมัวหลงระเริงหัวใจสั่นรัวไปกับคำว่า.....จากหัวหน้าจนลืมใครอะไรไปจนหมด แต่นี้ไม่ ในความหวั่นไหวมันยังมีความรู้สึกผิดแฝงอยู่ หึหึ!! เกินคาดแหะ แต่ก็นั่นละ มันทำให้คีย์กดความอยากไว้ ในใจลึกๆนี้แบบ อยากปะทุออกมาเต็มที เพราะงั้นอย่าให้มีอะไรมาเป็นตัวควบคุมจิตนอกใจคีย์ไว้เลยนะ ปะทุออกมา 5555 ตราบใดที่คีย์ยังพยามซ่อนเก็บกดมันไว้ในใจ ความชั่ววูบปรารถนาหัวหน้ามันจะไม่หายไป หลอกใจตัวเองมันหลอกไม่ได้หรอก ยิ่งพยายามคนใกล้ตัวยิ่งมองออก //ขณะที่หัวหน้ากำลังจะรุก ลิปพูดเตือนน้อยลง คีย์ก็จะเผลอใจไป ................. หึหึหึ!!55555 ฟานนนนนนช่วงนี้กำลังดี เหมาะที่จะควรได้รู้ได้เห็น รักมากมายเกินไปจริงๆ แต่ก็ต้อง....ได้เช่นกันเพราะงั้นยังเชื่อมั่นในตัวฟาน ความมีสติที่จะทำอะไรลงไป อย่ายึดติดว่ารักเขาถ้าเขา.......ไม่ก็คือไม่ เสียใจเสียการทรงตัวได้แต่อย่านานนะ เป็นห่วงอ่ะ 55555555 //อ๊ากกกกกกกกสนุกกกกกกกกก ไม่รู้จะคิดต่อไงละ ไรท์รีบมาต่อนะค่ะ จะอะไรยังไงต่อไป อยากรู๊วววววววว ฟานจะพูดอะไร เพราะฟานเป็นคนพูดตรงๆ แล้วท่าแบบนี้นะ คือกดดันให้คีย์พูดตามใจตัวเองออกมา หึหึหึ!!! 55555555 คิดไม่ออกเลยว่าหน้าฟานตอนนั้นจะ....ขนาดไหน เสียการทรงตัวแพร่บ คึ!! แล้วเราก็มองดูความรู้สึกผิดของคีย์ ความมือสั่น ความกลัวการสูญเสียที่มากขึ้น อ่าาาาาชอบอ่ะ 555555555555 //ขอให้มันสายเกินไปนะคีย์ อิอิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-09-2016 15:51:15 โดย blove »

ออฟไลน์ mareya.no7

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ร่านๆ แบบนี้ก็อ้าขาให้เขาเถอะคีย์ รำคาญว่ะ ทำไรก็ทำให้มันสุดๆ มัวแต่ลังเลยื้อไปยื้อมาอยู่ได้ คนโน้นก็รู้สึกผิด คนนี้ก็อยากได้อยากโดน มึงก็ให้มันเยอซะ มันอยากได้ของคนอื่นนักล่ะก็ ถ้ามึงคิดว่าคนแบบนี้เป็นคนดีก็ถวายรูให้จบๆ ส่วนฟานปล่อยให้ไปเจอคนที่ดีกว่าเถอะ เชื่อว่ามีดีว่ามึงเยอะอีคีย์  ปอลิง.ขอประทานโทษในความหยาบมา ณ.ที่นี้ เราอินจัดน่ะ

ออฟไลน์ ooomukooo

  • AngieAngel
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
    • AngieAngel
สวยค่ะ อีคีย์ สวยมากกกกก (แบะปาก)
เกลียดคนร่านแบบหลบในแบบนี้
(จริงๆชอบรับร่าน แต่แบบเปิดเผยน่ะ โรคจิตอ่ะ)
ถ้าจะร่านก็ร่านซะ
อย่ามาทำ ปญอ ทำตัวเป็นแม่พระ
คือเกลียดคนโลเลอย่างนี้จริงๆน่ะ

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง
ตอนที่ 36
' คนที่ควรแคร์ '

 
“ กลับมาแล้วเหรอครับ " เสียงที่เอ่ยทักผมก่อนจะพยักหน้ารับอีกคนแบบชะงักเล็กน้อย มองหน้าฟานที่ยิ้มจางๆให้ผม เด็กผู้ชายที่กำลังดูการ์ตูนเรื่องโปรดของตัวเองอยู่ในตอนนั้น " ทำไมมองหน้าผมนานจัง " อาจเพราะเอาแต่จ้องอีกคนก็เลยถามออกมาแบบนั้น ผมเบือนหน้าหนีไปทางอื่นอีกคนก็หัวเราะออกมา ก่อนจะลุกจากโซฟาแล้วเดินมาหา สองแขนที่กอดผมเอาไว้ เค้าก้มหน้าลงหอมแก้มผม  " เหนื่อยมั้ย " คำพูดห่วงใยของเค้า อยากจะร้องไห้ออกมาเสียเฉยๆ อย่างไม่มีเหตุผลอะไรทั้งนั้น มึงกำลังทำอะไรอยู่ว่ะคีย์ มึงกำลังคิดอะไรอยู่ คิดที่จะทิ้งคนที่รักมึงขนาดนี้ไปหาคนที่เห็นแก่ตัวแบบนั้นนะเหรอ ไอ้โง่ โง่ซะเหลือเกิน

“ ไม่เหนื่อยหรอก " ผมบอกเค้าก่อนจะพิงร่างอีกคนอยู่แบบนั้น

“ เมาเหรอครับ "

“ ไม่ได้เมาสักหน่อย " เงยหน้ามองเค้าที่ก้มลงมาจูบผม ตอบรับเกลียวลิ้นนั้นอย่างไม่เกี่ยงงอนเราจูบกันเนิ่นนานจนฟานผละออกแล้วหอมแก้มผม

“ น่ารักจัง ไม่เมาด้วย "

“ ฟานเคยสั่งไว้ว่าห้ามเมา ถ้าฟานไม่อนุญาติ "

“ เด็กดีนะเนี้ย "
 
“ ใครกันแน่ที่เป็นเด็ก " อายุน้อยกว่าก็เท่านั้นยังมาหาว่าคนอื่นเค้าเป็นเด็กอีก

“ คุณอายุมากกว่าผมแต่ตัวแค่นี้เองเหรอออ ทำไมตัวแค่นี้อะ " หน้าตาล้อๆของเค้าทำเอาผมขมวดคิ้วก่อนจะผลักอีกคนให้ออกห่างตัว เสียงหัวเราะของฟานที่ยังดึงดันจะกอดผมไว้เค้าเอ่ยถาม " ไม่แกล้งก็ได้ แล้ววันนี้เป็นยังไงบ้างครับ ไปกินข้าวกับเพื่อนที่ทำงาน " ชะงักนิดหน่อยตอนที่อีกคนถามออกมา เค้าที่ก้มหน้าลงมาถาม " คุณคีย์ครับ "

“ ก็ดีนี่ อร่อยดี "

“ กินอะไรกันละครับ "

“ ซูซิน่ะ "

“ เหรอครับ พอพูดถึงซูซิแล้วอยากจะกินข้าวหน้าปลาไหลมากเลย นี่คุณคีย์ครับ ผมมีร้านร้านนึงที่เคยไปกินมาเป็นร้านหรูสไตส์ญี่ปุ่นแท้ๆเลย ไว้วันไหนเราไปกินกันมั้ย "

“ ไม่ไป! " เผลอหลุดพูดออกไปแบบนั้น ผละตัวเองออกจากอ้อมกอดของฟาน  ที่ก็เลิกคิ้วงงๆ ก่อนจะยิ้มจางๆสงสัย " คะ คือ คือฉันหมายถึงว่า  กินร้านธรรมดาๆก็พอ  ไม่ต้องถึงขั้นหรูหรานั้นหรอกน่า ฉันไม่ได้อินกับอาหารญี่ปุ่นอะไรขนาดนั้น  "

“ อย่างงั้นเหรอครับ " ฟานพยักหน้าเข้าใจ

“ แต่ถ้านายชอบไว้เราหาร้านอร่อยๆไปกินกันมั้ย เอาร้านที่ไม่แพงมากแต่อร่อยไง มันก็มีเยอะแยะไม่ใช่เหรอ ฉันเคยเห็นรีวิวในเน็ต " ทำไมยิ่งพูดก็เหมือนยิ่งงง ยิ่งสับสนกันนะ เหมือนพยายามเบี่ยงเบน แต่ก็เหมือนชวนเค้าพูดวกเข้าเรื่องนั้นอยู่ " ฉัน ขอตัวไปอาบน้ำก่อน เหมือนจะเหนื่อยๆ "

“ ครับ "
   ถอนหายใจออกมาตอนที่เดินเข้ามาในห้องตัวเองแล้วปิดประตูลง ทำไมมันอึดอัดขนาดนี้ก็ไม่รู้ สมองที่เหมือนเอาแต่คิดเรื่องของหัวหน้าเสียจนวุ่นวายไปหมด คำพูดที่พูดออกมาพวกนั้น คำพูดที่ชวนให้เราหวั่นไหว  ' เพราะนายที่หวั่นไหวนั่นคือจุดอ่อนที่บอกกับฉันว่า ฉันมีโอกาสจะชนะคนปัจจุบันของนายแน่นอนแม้มันจะแค่หนึ่งเปอร์เซ็นต์ก็เถอะ ฉันก็จะลองดู จะต้องทำให้นายกลับมารักฉันให้ได้ แม้ใครจะมองว่าเห็นแก่ตัวก็ตาม ' ทั้งที่ความเห็นแก่ตัวแบบนี้ เราน่าจะรังเกียจแล้วหนีไปให้พ้นๆ แต่ทำไมถึงแม้ปากจะพูดออกไปว่า อย่าทำ แต่ใจมันกลับไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลยสักนิด ใจที่ร้อนรนอยากจะตอบรับเค้า เพราะรอเค้ามานานงั้นเหรอ เพราะว่านั่นคือคนที่แอบชอบมานานเหรอ แล้วฟานละ.. ตอนนี้ความรู้สึกที่เรามีต่อเด็กคนนั้นคืออะไรว่ะ

   อาบน้ำเรียบร้อยตอนที่เดินออกมาจากห้องน้ำผมพบว่าคนที่ควรจะดูการ์ตูน หรือหนังอยู่ในเวลานี้กลับมานอนเล่นมือถืออยู่บนเตียงเตรียมตัวจะนอนแล้ว ฟานหันมองผมก่อนจะขยับตัวไปนอนฝั่งตัวเอง มือที่ตบลงบนเตียงเหมือนเชื้อเชิญให้ไปนั่งตรงนั้น

“ ทำไมวันนี้นายนอนเร็วจัง "

“ พอดีผมสมัครงานไว้ได้น่ะครับ เริ่มทำวันพรุ่งนี้ วันนี้เลยจะรีบนอน " อีกคนบอกก่อนจะเลื่อนตัวเองมาหนุนตักผมที่นั่งอยู่บนเตียง

“ นี่ ถอยออกมาไปน่า มาหนุนตักฉันทำไมเล่า " ดันหัวไอ้เด็กดื้อออกแต่ฟานไม่ยอมแพ้กลับกอดเอวผมไว้แน่นแล้วซุกหน้าเข้ากับท้องก่อนจะถอนหายใจออกมา " เป็นอะไร เครียดเหรอจะได้ทำงาน ตื่นเต้นรึไง  "

“ เปล่า แค่รู้สึกอยากจะกอดคุณคีย์เฉยๆ อยากอ้อนนะครับ "

“ อะไรของนาย อ้อนอะไรเล่า" หลุดยิ้มออกมาตอนที่หันหน้าไปมองทางอื่น เผลอถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ยังไงเค้าก็แพ้ทางไอ้เด็กคนนี้อยู่ดีสินะ ไอ้ท่าทางลูกหมาๆแบบนี้น่ะ

“ อ้อนแบบนี้ไง คุณคีย์ครับ คุณคีย์ของผม " ใบหน้าคมที่เงยหน้าขึ้นมามองส่งสายตาน่ารักมาให้ก่อนจะดึงตัวเองขึ้นมาหอมแก้มผม " คุณคีย์ครับ "

“ จะเอาอะไร เรียกอยู่ได้ "

“ ไม่เอาอะไรทั้งนั้น อยากจะแค่กอด " เค้ากอดผมแน่นขึ้น " อยากจะแค่หอมแก้ม " แล้วเค้าก็หอมแก้มผม " อยากจะแค่จูบ " ริมฝีปากที่จูบผม ผ่อนลมหายใจออกมาก่อนจะหลุดยิ้ม ให้ตายสิ ทำไมต้องมาแพ้ลูกอ้อนของไอ้เด็กคนนี้ด้วยขนาดนี้ด้วย หัวใจเต้นแรงไปหมดแล้ว

“ ถ้าแบบนั้นก็ไม่ได้เรียกว่า ไม่เอาอะไรทั้งนั้นหรอก เรียกว่าอยากจะกอด อยากหอมแล้วก็อยากจะจูบแล้วละ  "

“ เหรอ งั้นอยากให้คุณเป็นของผม คุณเป็นของผมได้มั้ยละครับ "

“ แล้วตอนนี้ฉันไม่ได้เป็นของนายหรอกเหรอ " ก้มหน้าลงถามเค้า ฟานก็ลุกขึ้นจากตักของผมขึ้นมานั่งมองหน้ากัน สบสายตาคมของเค้าอยู่สักพักก่อนที่เค้าก้มลงมาจูบผม มือที่จับมือของผมไว้ยิ้มจางๆให้กัน

“ ไม่รู้สิ ไม่แน่ใจ เพราะงั้นช่วยทบทวนความจำให้หน่อยสิ "

“ ไอ้เด็กเจ้าเล่ห์ " หลุดปากออกไปเบาๆ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายหยุดการเข้าหาผมลง เค้าที่จูบริมฝีปากพร้อมกับอ้อมกอดที่กอดรัดแล้วดันให้ลงนอนราบกับพื้นเตียง ช่วงเวลาที่ไม่ต้องเดาว่าจะเกิดอะไรขึ้น หลังจากนี้คงต้องกลายร่างเป็นของเคี้ยวเล่นให้ไอ้ลูกหมาอีกแล้ว แค่ไม่รู้ว่าจะนานเท่าไหร่สำหรับค่ำคืนนี้มันก็เท่านั้น แต่แบบนี้ก็ดีอย่างน้อยก็ได้ย้ำว่า ตัวเรานั้นเป็นของใครแล้วก็เลิกคิดสักสักทีสำหรับเรื่องของผู้ชายเห็นแก่ตัวคนนั้น

   เดินออกจากคอนโดพร้อมกันในช่วงเวลาเช้าของวันต่อมา ในรถไฟที่ค่อนข้างอึดอัดผมที่ยืนอยู่ในอ้อมกอดของเค้าที่พยายามกันไม่ให้ใครเข้ามาใกล้ผม ทั้งๆที่นี่ก็เป็นรถสาธารณะในช่วงเวลานี้มันก็ต้องเบียดกันอยู่แล้ว ใบหน้าหงุดหงิดของเค้ามองซ้ายดูขวาเหมือนขู่ทุกคนที่พยายามเข้ามาใกล้

“ นี่ นายจะไปแยกเขี้ยวใส่คนอื่นทำไม "

“ ก็เค้าเข้ามาใกล้เกินไป " ฟานบอกผมก็ถอนหายใจ ร่างที่อยู่ติดผนังโบกี้โดนอีกคนกางแขนกั้นทุกคนที่เดินมายืนข้างๆ แต่มันก็ไม่ได้ผลหรอก ช่วงเวลานี้ใครๆก็อยากจะไปทำงานให้ทันกันทั้งนั้น ทุกคนก็พยายามดันตัวเองเข้ามานั่นแหละ

“ นายจะบ้ารึไง นี่มันรถไฟนะ ทุกคนเค้าก็รีบไปทำงานกันทั้งนั้นอะ "

“ ถ้าโดนจริงๆ คุณคีย์ไม่กลัวโดนเหรอ "

“ โดนอะไร " เอียงหน้ามองเค้าอีกคนก็เอื้อมมือมาจับตูดผมก่อนจะบีบเบาๆ " นี่ ไอ้ฟาน อยากตายรึไง " ถลึงตาใส่เค้าที่หัวเราะออกมา

“ โดนแบบนี้ไม่กลัวเหรอ "

“ ไม่กลัวเว้ย เพราะไม่มีใครเค้าคิดอัคกุศลเหมือนนายหรอก "

“ น้อยไปน่ะสิครับ " เค้าพูดแค่นั้น ก่อนจะเบือนหน้าไปอีกทาง " ถ้าผมเรียนจบเตรียมตัวออกจากงานได้เลยคุณน่ะ ผมจะไม่ให้คุณทำงานอะไรแบบนี้หรอก จะให้คุณทำแค่พรีแล็นซ์แล้วใช้ชีวิตอยู่กับผมทั้งวัน "

“ ตลก ฉันก็มีหนี้มีสินของฉันที่ต้องทำงานชดใช้เหมือนกันนะนาย "

“ ไม่เป็นไร เดี๋ยวทำงานจ่ายให้ก็ได้ หรือจะจ่ายตอนนี้เลยก็ได้ "

“ จ้าๆ พ่อคนรวย นายเขยิบหน่อยสถานีหน้าฉันจะลงแล้ว "

“ ผมก็ลงสถานีหน้าเหมือนกัน " ฟานบอกก่อนจะคว้ามือผมแล้วดึงให้ออกมาจากรถไฟตอนที่จอดลงที่สถานีใกล้ที่ทำงานของผม ผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆ ยังไงก็ไม่ชอบเลยจริงๆไอ้ช่วงเวลาเบียดคนมาทำงานในตอนเช้านี่น่ะ ถ้าทำได้อยากจะมาทำงานสายสักหน่อยเพราะยังไงก็กลับช้าอยู่แล้ว

“ แล้วตกลงนายได้งานอะไร ยังไม่เห็นเล่าฉันเลย "

“ ไว้ตอนเย็นผมจะมาเล่านะ ตอนนี้ดูเหมือนผมเกือบจะสายแล้วละ " ท่าทางรีบร้อนของเค้า ตอนที่ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูแล้วรีบวิ่งออกไปแต่ยังไม่ทันพ้นสายตาผมเท่าไหร่ เค้าก็วิ่งกลับมาก่อนจะหอมแก้มผมอย่างรวดเร็ว " วันนี้แค่นี้ก่อนนะครับ พอดีลืมทำตอนออกจากบ้าน "

“ ไอ้.. ไอ้บ้า ไม่จำเป็นต้องทำก็ได้คนเยอะแยะ ไอ้เด็กนี่นิ " ตะโกนด่าเค้าไปแต่ถึงอย่างงั้นก็หลุดยิ้มออกมาอยู่ดี ฝ่ามือหนาที่โบกมือลาผม ผมเองที่โบกมือลาเค้าก่อนที่ฟานจะหายเข้าไปในห้างใกล้ๆ

“ หวานกันตั้งแต่เช้าเชียวน้าาา " หันไปหาต้นเสียงที่เอ่ยแซวกันอย่างไม่ให้สุ่มให้เสียงอะไร  ตกใจกับใบหน้าของเพื่อนร่วมงานอย่างลิปที่ยืนอยู่ข้างหลังกับยิ้มล้อๆ

“ ตกใจหมดนายนี่ อยู่ๆก็เข้ามาทัก "

“ คิดว่าฉันเป็นหัวหน้ารึไง "

“ เปล่าสักหน่อย " เบือนหน้าหนีเค้าก่อนจะเดินเข้าไปในอาคาร ลิปก็หัวเราะ

“ แล้วฟานมาทำอะไรแถวนี้เหรอ กลัวนายนอกใจถึงขั้นมาส่งกันแล้วเหรอเดี๋ยวน่ะ "

“ นี่ ลิป " ผมหยุดเดินแล้วหันไปมองอีกคนก็ยิ้มออกมาจางๆ เหมือนรู้ตัวแล้วละว่ากำลังทำให้ผมโกรธ " เลิกพูดแบบนั้นสักทีได้มั้ย ฉันไม่ได้นอกใจฟาน แล้วหยุดสักทีเถอะ ไอ้คำพูดประชดประชันแบบนั้นของนายน่ะ เอาตรงๆนะ มันไม่ใช่แล้วอะ แรกๆมันก็โอเคแต่ตอนนี้มันมากไปแล้ว " หลายครั้งแล้วกับคำพูดเชิงประชดที่ทำให้ผมต้องเจ็บปวด หลายครั้งแล้วที่คำพูดพวกนั้นทำให้ผมดูเป็นคนไม่ดี คนเลว คำพูดที่ทำให้ต้องจิตตก

“ ขอโทษ " อีกคนพูดเสียงเบาๆ

“ ฉันไม่ได้โกรธที่นายเตือนฉันเรื่องนั้น แต่ฉันแค่เหนื่อย บางทีนายที่ประชดประชันฉันมันทำให้ฉันคิด "

“ คิดว่า ตัวเองกำลังทำแบบนั้นจริงๆใช่มั้ย "

“ อื้ม "

" ฉันคงทำได้แค่เตือนนายคีย์ สิ่งที่ฉันคิดฉันยอมรับว่า เล่นบ้าง จริงบ้าง แต่โดยรวมแล้วก็แค่อยากจะเตือนสตินาย ไม่ให้ลุ่มหลงไปกับคำพูดของหัวหน้า ฉันไม่อยากให้นายต้องมาเสียใจทีหลัง "

“ เสียใจทีหลัง ? “ ผมทวนคำพูดอีกคนก็ยกยิ้ม

“ ตอนที่รู้ว่าจริงๆแล้วหัวหน้าไม่ได้ดีอย่างที่นายคิด เป็นแค่ผู้ชายคนนึงที่ใส่หน้ากากน่ารังเกียจ แล้วก็ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่เค้าต้องการ แต่ว่าตอนที่นายรู้ความจริงฉันกลัวว่ามันคงสายไปแล้ว เพราะตอนนั้นฟานอาจจะไม่ได้อยู่กับนายแล้วก็ได้ "

“ หัวหน้าน่ะนะ ไม่ใช่คนใส่หน้ากากอะไรหรอกลิป เมื่อวานเค้ายังพูดตรงๆกับฉันเลย " เถียงอีกคนไปแบบนั้น ลิปก็พยักหน้ารับ
“ อย่างงั้นเหรอ "

“ อย่างที่หัวหน้าบอกจริงๆ นายมองเค้าในแง่ร้าย "

“ นี่ฉันไปอยู่ในวงสนทนาของนายกับเค้าด้วยเหรอไง " ลิปหัวเราะ " แสดงว่าฉันก็เป็นคนสำคัญนะเนี้ย หรือว่าจะกีดกันความรักของเค้ากับนาย จนเค้าดูออกกัน "

“ ลิป "

“ ไม่ว่านายจะพูดยังไง ฉันก็มองเค้าเหมือนเดิมนั่นแหละ ฉันให้ความเคารพเค้าในฐานะของลูกน้องคนนึง เพราะเค้าเป็นคนเก่ง และเป็นหัวหน้า แต่ในฐานะที่เค้าเข้ามาจีบนายที่มีเจ้าของอยู่แล้วด้วยท่าทางด้านๆที่ทำให้รู้สึกเท่ห์ในสายตาของนาย ฉันก็มองเค้าเป็นแค่ คนน่ารังเกียจคนนึง ที่ยอมรับออกมาตรงๆว่ากำลังขโมยของของคนอื่นกินอย่างหน้าด้านๆก็เท่านั้น แต่ไม่สิ..ไม่น่าจะเรียกว่าขโมยของคนอื่นกินหรอก เพราะเรื่องแบบนี้ ปรบมือข้างเดียวมันไม่ดังหรอก "

“ ลิป ฉันไม่ได้ "

“ นายคงรู้ดีแก่ใจว่าทำอะไรอยู่ ฉันคงเตือนนายได้แค่นี้ ระวังไว้ก็แล้วกัน ระวังความรู้สึกชอบของนาย มันจะระเบิดออกมานะ "

“ สวัสดีครับ คุณลิป คุณคีย์ คุยอะไรกันอยู่เหรอ หน้าตาเคร่งเครียด ไม่เข้าทำงานรึไง " เสียงทุ้มที่ทำให้เราหันไปมองต้นเสียงนั้นพร้อมๆกัน ผมก้มหน้าลงตอนที่เจอเค้าในตอนนั้น แต่ลิปกลับยกยิ้มขึ้นมาพร้อมกับสีหน้าไม่พอใจเล็กๆ หัวหน้าวันนี้ใส่สูทผูกไทค์อย่างดี เค้ายิ้มขึ้นมาก่อนจะชวนคุยต่อ " ทำไมทำหน้าตึงเครียดกันขนาดนั้น เงินเดือนไม่พอใช้เหรอไง "

“ เปล่าหรอกครับ แค่กำลังถามคีย์ว่าเมื่อวาน รสชาติอาหารเยี่ยมรึเปล่า "

“ อร่อยมากเลยแหละ ไว้วันไหนนายก็ไปด้วยกันสิลิป " หัวหน้าชวนอีกคนก็ส่ายหน้า

“ ไม่ดีกว่า เชิญไปกันสองคนเถอะครับ "

“ อย่างงั้นเหรอ เออ นี่คีย์ เที่ยงนี้ไปกินข้าวกัน " หัวหน้าหันมาบอกผมที่ก็เหลือบมองลิปน้อยๆ ก็ทุกวันกินข้าวกลางวันด้วยกันมาตลอด แล้วอีกอย่างผมว่า ผมเองไม่สมควรจะไปแล้ว ไม่สมควรจะใกล้ชิดกับหัวหน้าอีกแล้ว

“ คือว่า..”

“ นายบอกฉันเองนะว่า ถ้านัดนายก่อนคนอื่น นายจะไป "

“ คือ " ท่าทางเก้ๆกังๆของผมที่เหมือนกำลังจะปฎิเสธเค้า

“ ลิปก็ไปด้วยกันสิ ไปด้วยกันสองคนเลย "

“ แหม ฉลาดจัง พออีกคนเหมือนจะไม่ไปก็มาชวนเรา " เค้าพูดเบาๆแต่หัวหน้าก็คงได้ยินอยู่แล้ว ร่างสูงที่ยิ้มแห้งๆออกมาก่อนจะมองผม

“ เท่านี้คีย์ก็คงสบายใจที่จะไปกับฉันมากขึ้นแล้วใช่มั้ย "

“ ผมยังไม่ได้ตกลงอะไรเลยนะ " ลิปหันไปถามหัวหน้าที่ยิ้มออกมา " ไปหน่อยเถอะน่า เดี๋ยวเลี้ยง "

“ ทำได้ทุกอย่างเลยนะครับ จะแย่งเมียชาวบ้านเนี้ย "

“ ลิป " ผมปรามอีกคนที่ก็หันมาจ้องหน้าผม

“ แต่ไม่เป็นไรหรอกครับ เมียเค้าเล่นด้วย " ประโยคที่มาพร้อมกับรอยยิ้มหวานๆของลิปที่เดินจากเราไป ผ่อนลมหายใจออกมาตอนที่มองแผ่นหลังเพื่อนเดินออกไป หัวหน้าก็หันมาถาม

“ นายโอเครึเปล่า คีย์ "

“ โอเคครับ ผมไม่ได้คิดมากอะไรหรอก มันไม่จริงสักหน่อย " ตอบเค้าแบบนั้นก่อนจะก้มหน้าลง ขอตัวเดินเข้าไปในอาคารแต่ทว่าอีกฝ่ายก็คว้าข้อมือของผมไว้

“ นี่ ฉันเป็นห่วงนายนะ "

“ ถ้าเป็นห่วงกันจริงๆ ก็ช่วยอยู่ห่างๆกันหน่อยได้มั้ยครับ  "

“ คีย์ " เสียงทุ้มที่เรียก ผมดึงมือตัวเองออกจากการจับกุมของเค้าก่อนจะเดินเข้าไปในบริษัทเข้าแถวขึ้นลิฟต์ หัวหน้าที่เดินมาต่อคิวอยู่หลังผม เราเข้าไปในลิฟต์ตัวเดียวกัน

   ภายในห้องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ที่อัดแน่นผู้คนขึ้นไปส่งตามชั้นต่างๆของแต่ละแผนก ร่างสูงของหัวหน้าที่ยืนช้อนหลังของผม ผ่อนลมหายใจสม่ำเสมออาจเพราะเค้าสูงกว่าผมมากก็เลยกลายเป็นว่าเค้าคือกำแพงที่กั้นผมออกจากใครๆ ประตูลิฟต์ถูกเปิดออก พนักงานอีกชั้นที่ไหลเข้ามา ในตู้ก็ยิ่งอึดอัด ร่างของผมเบียดเข้ากับเค้ารับรู้ถึงเสียงหัวใจที่เต้นแรงของเค้าในความใกล้ชิดของเรา จนกระทั่งถึงแผนก

“ อึดอัดชะมัดเลย " เค้าบ่นออกมา ผมก็หันไปยิ้มจางๆให้

“ วันนี้หัวหน้ามาเร็วนะครับ ปกติมาสายไม่ใช่เหรอ "

“ ทำไมถึงพูดแบบนั้นละ มันทำให้ฉันดูเป็นคนไม่ดีนะคีย์ " มือหนาเอื้อมมาเขกหัวผมเหมือนจะทำโทษ " ว่าฉัน เดี๋ยวเถอะ "

“ ก็มันจริงนี่น่า ปกติคุณมาสายจะตาย " ยิ้มล้อเค้าก่อนอีกคนจะเงียบไป สบสายตาเค้าที่เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่

“ ถ้าลิปโกรธนายก็ไม่เป็นหรอกนะ ยังไงก็ยังมีฉันอยู่นะ " มือยกขึ้นลูบหัวผมเค้าที่กำลังจะเดินเข้าไปในแผนก " การที่เรารู้สึกดีต่อกันไม่ใช่เรื่องผิดอะไรหรอก "

“ แม้ว่าทั้งคุณ ทั้งผม จะมีคนที่ตัวเองรักอยู่แล้วอย่างงั้นเหรอ "

“ ใช่ เพราะสำหรับฉันถ้าเลือกนายได้ตั้งแต่แรก ฉันคงเลือกนายไปแล้ว ไม่เลือกเธอหรอก ฉันแค่เจอนายช้าไปก็เท่านั้นแหละ" หันมองแผ่นหลังที่เดินเข้าไปในแผนก ผมผ่อนลมหายใจออกมาก่อนจะตั้งคำถามนึงกับตัวเอง

' แล้วเราล่ะ ฟานไม่ใช่คนในแบบที่ชอบ มาทีหลังแต่แสนดี กับหัวหน้าที่เป็นคนในสเป็ค ชอบมานานแต่เค้าเห็นแก่ตัว เราจะเลือกใคร '

   ผ่อนลมหายใจออกมากับความรู้สึกที่คิดไม่ออก ไม่อยากจะคิดอะไรอีกแล้ว มันเหนื่อยกับความรู้สึกทุกอย่างที่กำลังประดังประเดเข้ามาในชีิวิต ผิดรึเปล่าที่เรากำลังรู้สึกหวั่นไหวไปกับเค้า

   ใช่ แน่นอนมันผิดอยู่แล้ว คนที่มีเจ้าของแล้วไม่ควรหวั่นไหวกับคนอื่น โดยเฉพาะคนที่เป็นรักเก่า แต่ถึงอย่างงั้นที่เราต้องมาหวั่นไหวแบบนี้ มันเพราะอะไรวะ เพราะหัวหน้าทำดีกับเรา เพราะเราไม่ได้รักฟานมากพอ หรือที่ผ่านมาเพราะไม่เคยขาดเค้าไป เราแค่รู้สึกดีกับเค้าแต่ไม่ได้พิเศษอะไร เลยบอกคำว่า ชอบออกไปไม่ได้สักที แต่การที่ให้เค้าจับจองเป็นเจ้าของมันก็ไม่ใช่สิ่งที่จะมาบอกว่าไม่รู้สึกอะไรหรอกนะ

   ฟานเป็นคนพิเศษ แต่ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเป็นแบบนี้ หรือเพราะไม่เคยเสียเค้าไป เพราะว่ารู้ว่ายังไงเค้าก็ยังอยู่ ฟานไม่ทิ้งเค้าหรอก ฟานรักเค้าจะตาย

   ' ความคิดที่เหมือนเห็นเค้าเป็นของตาย ' ทำไมความรู้สึกสับสนแบบนี้ต้องมาเกิดขึ้นเพียงเพราะคำพูดของหัวหน้าที่หันมาบอกว่าชอบเราแบบจริงจังด้วยนะ .. ทำไมถึงรู้สึกว่า อยากจะตอบรับรักกับเค้าจัง อยากจะลองดูว่ามันจะเป็นยังไง จะต้องใช้ชีวิตแบบไหน  ถ้าไม่ติดว่ามีฟานอยู่ ตอนนี้คงตอบรับรักไปแล้ว เพราะสำหรับผมเรื่องวันไนท์สแตนอะไรพวกนั้นก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรสักหน่อย พอคิดว่านี่คือความรู้สึกลึกๆของตัวเองก็รู้สึกว่าตัวเอง น่ารังเกียจที่สุดเลย

อยากจะเป็นเมียน้อยเค้าจนตัวสั่นไปหมดแล้วคีย์
น่ารังเกียจชะมัด แม้มันจะเป็นแค่ความคิดเลวๆที่มีความคิดดีๆคอยรั้งไว้ก็เถอะแต่นั่นก็น่ารังเกียจเหลือเกิน


“ ลิป " ผมหันไปเรียกคนข้างกายที่หันมายิ้มให้อย่างเช่นทุกที " มีอะไรเหรอ " เค้าถามออกมาเพราะเห็นว่าผมไม่ยอมพูดอะไรออกมาสักที

“ เปล่า แต่ฉันคิดว่า ฉันควรขอโทษนาย "

“ เรื่อง ? “

“ เรื่องที่บอกว่านายยุ่งวุ่นวายเรื่องของฉันมากเกินไป คือ หมายถึงที่นายชอบพูดประชด "

“ ไม่ต้องซีเรียส ฉันมองว่านั่นมันก็จริง ฉันชอบพูดประชดมากเกินไปจริงๆ " เค้าบอกก่อนจะยิ้ม " ฉันเองควรจะคิดได้ว่า ตัวเองก็มีแฟนเป็นโฮสที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะเลิกกันเหมือนกัน ทั้งๆที่นายเองก็ห้ามฉันอยู่ว่าอย่าเล่นกับไฟ แต่ฉันก็ด้านที่จะเล่นมันอยู่ในตอนนี้ ฉันเลยมานั่งคิดๆว่า ชีวิตใครก็ชีวิตมันอะนะ ทำตามใจตัวเองเถอะ "

“ แต่ฉันคิดว่า ที่นายพูดมันก็ไม่ผิดหรอก แต่ที่ฉันบอกนายไปแบบนั้นอาจจะเป็นเพราะว่า ช่วงนี้คำพูดประชดของนายมันโดนใจไปหน่อยก็เท่านั้น เหมือนคนกำลังหลอกตัวเองว่าไม่ใช่น่ะ พอนายพูดอะไรที่ตรงใจฉัน แม้จะประชดออกมาเล่นๆ ฉันก็รู้สึกเหมือนของขึ้นน่ะ ขอโทษนะ "

“ ช่างมันเถอะ ฉันไม่ซีเรียสหรอก แต่ฉันคงทำได้แค่เตือนเท่าไหร่แหละ เพราะยังไงสุดท้ายแล้วมันก็แล้วแต่นายจะคิดละนะ "  พยักหน้ารับเค้าอีกครั้ง ผมที่หันกลับมาทำงานของตัวเอง แต่ยังไม่ทันที่จะทำอะไรอยู่ๆก็มีเมล์ฉบับนึงส่งเข้ามา เมล์จากหัวหน้า

' เที่ยงนี้ไปกินข้าวกันเถอะ ร้านอาหารอิตาเลี่ยนใกล้ๆบริษัทอร่อยมากเลย ฉันอยากจะไปกินกับนายสองคน แต่ว่าถ้าไม่สะดวกใจจะชวนลิปไปด้วยก็ได้นะ ถ้าเค้าอยากจะไปละก็ ฉันตามใจนาย แล้วเจอกันครับ ' ถอนหายใจออกมาตอนที่อ่านอีเมล์ฉบับนั้น ผมเม้นริมฝีปากตัวเองกำลังคิดว่าจะตอบอะไรเค้าออกไปดี

' วันนี้คงไม่สะดวกที่จะไปด้วยหรอกครับ ไว้โอกาสนะครับ ' ผมกดตอบกลับไปหาเค้าสักพักอีเมล์ฉบับใหม่มันก็เด้งกลับขึ้นมาอีก

' แย่ชะมัด วันนี้ไม่มีใครไปกินข้าวเป็นเพื่อนฉันเลย ฉันที่อยู่ข้างๆนายมาตลอดตอนที่นายมีปัญหา ตอนนี้ฉันมีปัญหาไม่มีคนไปกินข้าวด้วย จะไม่ช่วยฉันหน่อยเหรอคีย์ ไม่อยากกินข้าวคนเดียวนี่น่า ' คำพูดติดอ้อนที่ส่งมาผมหลุดยิ้มออกมาก่อนจะผ่อนหายใจออกมาเบาๆ

“ ช่างอ้างให้จนมุมจริงๆ"

“ นายพูดกับฉันเหรอคีย์ " ลิปที่หันมาถาม ผมก็ส่ายหน้าไปมาก่อนจะยิ้มให้อีกคน

“ คือ.. ฉันพูดคนเดียวน่ะ "

“ อะ..หนักนะนาย พักผ่อนบ้าง " คนข้างๆที่แซวเค้าที่หันไปทำงานต่อ ผมก็ถามขึ้น

“ นี่ลิป.. จะเป็นอะไรมั้ยถ้าเที่ยงนี้ นายช่วยไปเป็นเพื่อนฉัน ไปกินข้าวกับหัวหน้าหน่อย "

“ ไม่ไปอะ นายไปเถอะ เผื่ออยากจะคุยเรื่องส่วนตัวฉัน มีฉันไปเป็นก้างมันคงไม่ดีหรอก " อีกคนที่ส่ายหน้าปฎิเสธผมก็ผ่อนลมหายใจออกมา เลื่อนเก้าอี้เข้าไปใกล้เค้าอีกคนก็ถอนหายใจหนัก " นี่ ไม่ต้องคิดเข้ามาอ้อนฉันเลย ฉันไม่ไปหรอก นายไปเถอะ ฉันเกลียดหัวหน้าจะตาย นายก็รู้ ฉันไม่อยากจะทำให้ช่วงเวลาพักที่แสนมีค่าของฉันต้องเอาไปอยู่กับคนแบบหมอนั่นหรอก "

“ แต่หัวหน้าเลี้ยงนะ "

“ แล้วยังไงกันเล่า ฉันเองก็มีเงิน นายเถอะ ไม่รู้จักปฎิเสธเค้าละ ถ้าไม่อยากจะไปละก็ "

“ ฉันปฎิเสธไม่ได้ " เม้มริมฝีปากบอกอีกคนไป ไม่ใช่ว่าไม่อยากจะปฎิเสธหรอก แต่พอเค้าอ้างเรื่องนั้นออกมามันก็ชวนให้น้ำท่วมปากแล้วก็ปฎิเสธไม่ออกเพราะรู้สึกผิดไปซะทุกที

“ ทำไมถึงปฎิเสธไม่ได้ นายปฎิเสธไม่ได้หรือไม่คิดจะทำมันมากกกว่า "

“ ฉันปฎิเสธเค้าไปแล้ว " ผมบอก " แต่เค้าก็ตอบกลับมาแล้วก็ อ้างเรื่องนั้น เรื่องที่บอกว่าเค้าช่วยฉันไว้แล้วก็ถามว่าพอทีเค้าไม่มีเพื่อนกินข้าวทำไมฉันไม่ช่วยเค้า "

“ ถามจริงๆเถอะคีย์ เค้าทำแบบนี้ เอาเรื่องนั้นมาคอยอ้างกับนาย นายยังมองว่าเค้าดีอยู่อีกเหรอ นี่มันทำบุญหวังผลชัดๆไม่ใช่รึไง เค้าน่ะ น่ารังเกียจแถมยังเห็นแก่ตัวขนาดนี้ นายยังรู้สึกว่าเค้าดีได้ยังไง "

“ ฉัน..”

“ นายกำลังเหมือนคนมีความรักที่กำลังมองแง่เหี้ยๆ เป็นแง่ดีไปหมด ฉันเตือนนายแล้วนะ ระวังจะเสียฟานไป ฉันเตือนนายแล้ว " สบตาอีกคนที่ถอนหายใจออกมา " ฉันจะไปเป็นเพื่อนแล้วกัน แต่แค่หนนี้นะ หนหน้าฉันจะไม่ไปเป็นเพื่อนนายแล้ว ถ้านายยังไม่รู้จักหัดปฎิเสธเค้าซะบ้าง "

“ แล้วนายจะพูดกับเค้าว่ายังไง ถ้าเป็นนาย นายก็จนมุม "

“ ถ้าเป็นฉัน ฉันจะพูดว่า หน้าที่ของหัวหน้าคือการช่วยลูกน้องอยู่แล้ว แต่หน้าที่ของลูกน้องไม่ได้มีความจำเป็นต้องไปกินข้าวกับหัวหน้าสักหน่อย ถ้าไม่อยากจะไป "

“ ความเป็นจริงเราพูดไม่ได้หรอก คำพูดพวกนั้นน่ะ มันแรงเกินไป "

“ นายมีร้อยวิธีที่จะปฎิเสธ จำไว้ ยกเว้นที่จะไม่ปฎิเสธ แล้วใจอ่อนไปกับคำพูดอ้อนๆของเค้า " ลิปบอก " ช่างเถอะเลิกพูดถึงไอ้ผู้ชายคนนั้นน่าจะดีกว่า เอาเป็นว่าฉันจะไปกับนายก็แล้ว แต่ครั้งหน้าฉันจะไม่ไปแล้วนะ เพราะงั้นถ้านายไม่คิดจะหาคำปฎิเสธเค้า นายคงต้องไปคนเดียว "

“ อื้ม ขอบคุณนะ "

“ นายไม่จำเป็นต้องแคร์เค้าขนาดนั้นคีย์ คนที่นายควรแคร์ คือฟานตังหากจำไว้ "

คนที่ควรแคร์ แต่ตอนนี้ผมกลับไม่ได้แคร์เค้าเลย

......................................................

ฉันไม่ชอบพี่คีย์เลยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย  :katai4:
ทำไมฉันต้องเขียนอะไรออกมาแบบนี้!!!!!!!!!!!!!!!!! #ทึ่งหัวตัวเองด้วยความก้าวร้าว
ยืมร่างพี่ลิป เข้าตัวเองเข้าสิงพี่ลิปไป
มันก็เป็นพล๊อตที่เราวางมาตั้งแต่แรกว่า นี่คือดราม่านะ
แต่ทำไมพอเขียนแล้วแบบ แบะปากไปมองไปวะ  :z3:
แต่สัญญากับตัวเองแล้ว ว่าจะไปให้สุด จะไปให้สุดตามที่ตั้งไว้อย่างไม่ไหวหวั่น  :katai1:

ฝากแท็ก #ฟานคีย์ ด้วยนะคะ
หนมอยากจะเข้าไปรี จะให้เชิญชวนคนอื่นมาอ่านด้วยกัน เอิ้กกกกกก
ฝากแชร์ในเฟสด้วยนะคะ ขอบคุณค่าา

มันส์อย่างต่อเนื่อง หมั่นไส้ไม่มีสิ้นสุด รอวันถึงจุดจบ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์
เจอกันตอนหน้าค่า

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
คีย์จะคิดได้ทัน ใจแข็งพอก่อนที่ทุกอย่างจะสายไปไหม

ไปให้สุดของไรท์จะเป็นมาม่ารสอะไรนะ


 :katai4:  :katai4:    :katai4:  :katai4:

....


ออฟไลน์ PREMIUM_ALMOND

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
พออ่านความคิดที่คีย์รู้สึกแล้ว ไม่สงสารคีย์สักนิดเลยที่โดนลิปว่า

สู้สึกรังเกียจหัวหน้ามากกกก

ออฟไลน์ ่jjay

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 454
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-0
คีย์เมื่อไหร่คีย์จะคิดได้คะ โอ่ยยยยยย อ่านแล้วหงุดหงิดแทนลิปเลย :เฮ้อ: อินมาก

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
เกลียดอะ. นี่แหละหนทางของคนมีชู้.  ไม่เลือกสักทาง
ชอบหลบๆซ่อนๆเหรอ. ชอบคาราคาซังเหรอ. ถ้าลำบากใจนักก้อลาออกสิ
หมั่นไส้. มันจะอดตายให้รู้ไปสิ. ยังไงก้อขอให้ตอนหน้าเคลียร์ลงนะคะ. เราว่าคีย์ชักจะยืดเยื้อมากไปแล้ว

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
เปลี่ยนนายเอกได้ไหมคะ  แบบว่าขออาสาเองเลย  สงสารฟานอะ  โอ้ยยยย...บีบคั้นหัวใจ


พี่ลิปไม่น่ามีแฟนไปก่อนเลย คนดีๆแบบฟานนะจะได้คนที่ดี มีความคิดและเข้าใจโลกแบบลิปนี่

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด