ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง{ตอนพิเศษที่ 2 UP - 10.2.60}หน้า 42 (จบเรื่อง+รวมเล่ม)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง{ตอนพิเศษที่ 2 UP - 10.2.60}หน้า 42 (จบเรื่อง+รวมเล่ม)  (อ่าน 323481 ครั้ง)

ออฟไลน์ BChampa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ถ้ามีสติและความดีก็จะรู้ทางออก แต่นี่ความดีไม่มี สติก็หาย ทางออกทุกอย่างเลยตันไปหมด

ถ้าอ่านไม่ครบทุกตอนมาอ่านเอา2ตอนล่าสุดยังไงหัวหน้าก็ผิด คีย์ก็ดูกลายเป็นนางเอก
แต่ทุกคนอ่านทุกตอนนะคะ ถึงจะไม่ชอบนางแต่ก็อ่านแล้วผลคือ มันไม่เมคเซ้นเลย คีย์ปัดสวะ ปัดความผิดออกจากตัว พร้อมโย้นความผิดทุกอย่างให้หัวหน้าว่าเข้ามาทำลายชีวิตตนเองให้ป่นปี้ ทั้งๆที่ตัวคีย์เองเป็นคนเลือกอ่อย เลือกเล่นกับเขาเอง สองตอนล่าสุดถึงคนจะด่าหัวหน้า อ่านแล้วเกลียด(ที่จริงเกลียดมาตั้งแต่ต้นแหละ) แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า "หัวหน้าแม่งคนจริง" หัวหน้าใจมาก ทิ้งทุกอย่าง ยอมรับผลการกระทำของตัวเองทั้งที่ตัวเองก็ถูกเพ่งเล็ง แต่กูเลือกแล้ว กูจะเอาคนนี้
กลับกลายเป็นคีย์ที่บอกว่า "ผมไม่ได้คิดอะไรกับหัวหน้าเลย แค่หวั่นไหว" อีดอกกกกกกก หวั่นไหวอะไรของมึงคะ เค้าเรียกชอบแล้ว การกระทำที่ผ่านมา ทั้งลิปที่เตือนจนจะกลายเป็นจงใจเขียนให้ลิปด่าเอามันตามกระแสฟีดแบ็คด้วยซ้ำคีย์ยังไม่ฟังเลย หลอกทั้งฟาน แก้ตัวให้พ้นไปวันๆ วันต่อมาก็ไปอีกแล้วมาตีหน้าเศร้า คือตอแหลอ่ะ การกระทำก่อนเรื่องจะแดงไม่รู้ว่าคนเขียนจะจงใจหรือคนเขียนไม่รู้ นั่นคือพฤติกรรมของคนไม่รักแล้ว ไม่เคยรักด้วยซ้ำ แล้วการที่คีย์กลับลำมาแบบนี้มันควรมีประโยคหรือการกระทำอะไรของฟานมากระทบมากกว่านี้ คำพูดของคีย์ออกมามากกว่านี้ถึงจะรู้สึกว่าคีย์รักฟานและหัวหน้าจะทำชีวิตเขาป่นปี้จริงๆไม่ใช่การโยนความผิดให้คนอื่น ยังไงก็ตามสิ่งที่คีย์เป็นตอนนี้เราเห็นแค่ หมาหวงก้าง
ตอนแรกลิปด่า(แซะจนแทบจะหมดความเป็นเพื่อนละ) ตอนนี้คนรอบข้างด่า ขอโทษนะแต่ขอแสดงความเห็นหน่อยว่าด่าตามกระแสรึเปล่า เพราะตอนลิปเตือนคือสะใจคนอ่านจริงแต่แซะแรงมากจริงๆ ทุกเม็ดทุกหน่วยไม่พลาด จนเราเองเริ่มคิดว่า พอแล้วมั้ย เตือนไม่ฟังก็ปล่อยมันเถอะ ตอนนี้คนนอกด่าก็เก็บทุกเม็ดเหมือนกัน ลิปกลับมาปกป้องเหมือนคนไม่เคยเตือนแรงๆเลย พูดแค่ว่า ฉันเตือนนายแล้วว่าอย่าเล่นกับไฟ เบาไปรึเปล่า? และลิปอีกเช่นเคยที่สงสัยว่าหัวหน้าอาจจะเป็นคนทำเรื่องทั้งหมด คือตอนนี้เหมือนกำลังฟอกสีคีย์ให้ขาวแล้วสาดความผิดทั้งหมดไปที่หัวหน้า
เราจะดูตอนต่อไป ทางแก้มีนะสำหรับเรื่องสัมนา2คน ทางแก้มีจริงๆ บอกฟานให้ไปด้วยก็สิ้นเรื่อง ถือว่าไปเที่ยวด้วยยังไงฟานก็มีเงิน ลางาน ขาดเรียนวันสองวัน มันไม่ใช่เวลาที่จะพิสูจน์ความเชื่อใจแล้วว่า คุณไปสิผมเชื่อคุณ ถ้าคุณบริสุทธิ์ใจมันจะไม่มีอะไรคุณไปเถอะ เวลานั้นมันหมดแล้ว ถ้าอยากจะแก้ปัญหากันฟานโกรธและกันหัวหน้าเข้าหา เอาฟานไปด้วย แต่เราอยากดูว่าคีย์จะเห็นทางนั้นมั้ย หรือเลือกที่จะโง่และทำร้ายฟานต่อไป 

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
เอาจริงๆนะ ถ้าเรื่องมันไม่แดงขึ้นมา แล้วฟานรู้ Eคีย์มันก็ไม่หยุดหรอก!!
ตอแหล!!!


ออฟไลน์ moobarpalang

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +185/-6
ลำคาญทั้งคีย์ ทั้งหัวหน้า

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
คือ เราเกลียดนายเอกตอแหลอะค่ะ คนไม่จริงใจสมควรได้พระเอกดีๆแบบฟานเหรอคะ
ถ้าจบให้นางได้นี่เราไม่่โอเคจริงๆนะ ถึงจะมาสำนึกอะไรตอนหลังก็เถอะ ใช้กรรมไปสิวะ อีโลกสวย

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
คืออีหัวหน้านั่นจะเลิกก็ต่อเมื่อได้นังคีย์แล้วใช่ม่ะ แบบได้แล้วทิ้งประมาณนั้น
แต่เห็นด้วยอย่างนะ ไอ้ที่ว่ามันก็ผิดที่นังแรดนั่นไปเล่นกับเขาด้วย แล้วไงสมน้ำหน้าหล่อนแล้ว
เห็นด้วยกับลิป เรื่องมากแม่งก็ลาออกไปเลยสิ ถ้าไม่คิดจะกลับไปหากันอีก จะกลัวอะไร เหอๆๆๆๆ

ออฟไลน์ →Yakuza★

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1829
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-0
แฮทแท็ค คีย์ฟานไม่ลง จะอ้วก เสียของจริงๆ ฟานควรเจอคนดีๆ ละให้ฟานรู้ความจริงเอาความจริงที่อีคีย์ตอแหลทั้งหมดทั้งมวลมาตบหน้าเหอะ ไม่เคยรู้สึกเลยว่าคีย์รักรึจริงใจกับฟาน มีแต่ความเห็นแก่ตัว นึกถึงแต่ตัวเอง ด้านใส่เพื่อน ด้านใส่แฟนไปวันๆ ละจะให้รู้สึกว่าอินว่าจะกลับมารักกันหวานชื่น ถุยยยย สงสารฟาน 

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง
ตอนที่ 45
' ทางที่เลือกไม่ได้ '


   เดินออกจากที่ทำงานตอนเวลาหนึ่งทุ่มพอดี ผมเดินทอดน่องไปตามทางช้าๆไม่ได้สนใจใครคนอื่นที่มองมา คำนินทาพวกนั้นที่ใครๆก็ต่างชี้ชวนให้มองมาทางผม คำพูดเดิมๆที่ได้ยิน

' นั่นไงๆ เมียน้อยหัวหน้าแผนกออกแบบน่ะ '
' หน้าตาก็ดีไม่น่าเลยนะ '

   ทุกอย่างมันเป็นเพราะผมอย่างที่หัวหน้าบอก จริงๆ เค้าอาจจะผิดที่ชอบผมแต่ ผมเองก็ผิดที่เข้าไปเล่นด้วยกับเค้าก่อน ทุกอย่างมันผิดที่ผม ที่ผมคนเดียวไม่ใช่ที่หัวหน้าหรือใครๆหรอก

“ อ๊ะ! " เดินชนกับใครสักคนที่เดินตรงมาอย่างไม่ระวัง ผมก้มหน้าลงก่อนจะเงยหน้าแล้วเอ่ยขอโทษเค้า " ขอโทษครับ อ้าว ฟาน..”

“ ถึงจะเหม่อแต่ก็ช่วยดูทางข้างหน้าด้วยสิครับ " เค้าที่ก้มหน้าลงมาพูด ใบหน้าคมที่คิดถึงตอนนั้นสองแขนของผมก็ดึงตัวเองเข้าไปกอดเค้าไว้แน่นทันทีอย่างไม่ทันให้อีกคนตั้งตัว การกระทำที่ไม่เคยทำมาก่อนในที่สาธารณะแบบนี้

“ คุณคีย์ " อาจเพราะผมไม่เคยทำอะไรแบบนี้ อีกคนก็เลยนิ่งไปสักพักก่อนจะเอื้อมมือมากอดผมตอบ เค้าที่กอดผมไว้แน่น " หนักหนาเกินไปเหรอครับสำหรับวันนี้  ไหวรึเปล่า "

' ไม่ไหว ' ผมอยากจะตอบเค้าไปแบบนี้แต่ก็ทำได้แค่เงียบอยู่แบบนั้น กลิ่นกายอุ่นๆของเค้าแม้จะทำงานมาเหนื่อยๆก็ยังรู้สึกอุ่นอยู่ดี ไม่ใช่กลิ่นเหงื่อเหม็นๆแต่กลับเป็นกลิ่นที่ทำให้รู้สึกอยากจะสูดดมลึกๆไม่อยากจะให้กลิ่นนี้หายไปไหนเลย " กลับบ้านไปทำอะไรกินกันมั้ย หรือว่าดูหนังกัน ฉันอยากจะอยู่กับฟานสองต่อสอง "

“ งั้นกลับบ้านไปหาอะไรทำกันดีมั้ย "

“ อื้ม กลับบ้านกันเถอะ " ฟานคว้ามือผมไปจับไว้แน่น เค้าที่เดินจูงมือผมออกไปท่ามกลางสายตาของใครๆที่มองมาทางเรา คนที่เอาแต่ซุบซิบนินทาสนใจในความสัมพันธ์ของพวกเราสองคน

' เฮ้ย นั่นเด็กผู้ชายคนนั้นที่หล่อๆ ที่อยู่ร้านส่งน้ำไง แล้วเค้าเป็นอะไรกับเมียน้อยหัวหน้าแผนกออกแบบล่ะ ทำไมมาเดินจูงกัน '

' แฟนมั้ง แต่ฉันว่าน่าจะเป็นเด็กที่ถูกจ้างมากลบข่าวคาวๆของเค้ามากกว่าละมั้ง " ดึงมือตัวเองออกจากการจับกุมของฟานช้าๆ มันคงไม่ดีเท่าไหร่ถ้าคนข้างๆต้องมาถูกนินทาไปด้วยโดยที่ตัวเค้าไม่ได้ทำอะไรผิด

“ ฟาน " มือหนาคว้ามือของผมกุมไว้แน่น เค้าที่กระชับมันไว้ก่อนจะหันมาพูดกับผม

“ ผมเป็นแฟนคุณ ไม่ใช่เด็กที่คุณจ้างมาอย่างที่เค้าว่าสักหน่อย แคร์อะไรละ "

“ ฉันแค่ไม่อยากให้นายต้องมาโดนนินทาไปด้วย "

“ แล้วปล่อยให้แฟนผมต้องโดนนินทาคนเดียวนะเหรอ " เงยหน้ามองเค้าที่ก็ยิ้มออกมา " มีผมโดนนินทาเป็นเพื่อนอย่างน้อยก็ไม่รู้สึกเหงานะ " เผลอยิ้มออกมากับความคิดเด็กๆของเค้า การนินทามันต้องมีเพื่อนด้วยรึไงวะ เราเดินไปเรื่อยๆตามทางจนถึงรถไฟ ยืนรอที่สถานีสักพักสายตาของผมก็หันไปเห็นเก้าอี้ที่วันนั้นลงรถไฟหลังจากโดนลวมลามแล้วหัวหน้าก็มานั่งปลอบ พอคิดถึงใบหน้าของหัวหน้าแล้วความสุขที่มีกับคนข้างๆมันก็ค่อยๆหายไปช้าๆ

   เงยหน้ามองฟานที่ยืนข้างกันผมจับมือเค้าไว้แน่นอย่างไม่รู้เหตุผล จะทำยังไงฟานถึงยังจับมือเค้าไว้แบบนี้ จะทำยังไงดีให้คนคนนี้เข้าใจ ตอนนี้ผมเสียฟานคนที่เชื่อใจผมไปแล้ว ไม่อยากจะเสียอะไรไปมากกว่านี้อีก คล้ายคนเห็นแก่ตัวที่แม้ทำผิดก็ยังอยากได้รับการให้อภัย เหมือนทำแก้วแตกไปแล้วแต่หวังยังอยากให้มันสวยเหมือนเดิม ทั้งๆที่ในความจริงเรารู้อยู่แล้วว่า ไม่ว่าต่อยังไงมันก็ต้องมีรอยร้าว

“ อยากจะกินอะไรเป็นพิเศษมั้ยครับ " เสียงที่พูดอยู่ข้างๆในช่วงเวลาที่ผมกำลังเหม่อ " คุณคีย์ "

“ หื้ม ? “

“ อยากกินอะไรเป็นพิเศษมั้ย "

“ ไม่อะ ไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ " จะว่าไปวันนี้ยังไม่ได้กินอะไรเลยสักอย่าง มันไม่อยากจะกินอะไรทั้งนั้น แค่คิดว่าต้องเคี้ยวอะไรเข้าไปสักอย่างก็อยากจะอ้วกออกมาแล้ว

“ ยังไม่ได้กินอะไรเลยไม่ใช่เหรอ " ผมหันไปมองอีกคนที่เอ่ยขึ้นมา

“ รู้ได้ยังไงน่ะ "

“ คุณลิปส่งข้อความมาบอกผมว่าให้หาอะไรให้คุณกินสักหน่อยเพราะวันนี้คุณเครียดมากจนกินอะไรไม่ค่อยลง "

“ นี่มีเบอร์ติดต่อกันตั้งแต่เมื่อไหร่ "

“ นานแล้วครับ คุณลิปให้ไว้ " ร่างสูงบอกผมก็พยักหน้ารับ แอบมองหน้าจอมือถือของอีกคนแบบห่างๆ ไม่รู้นอกจากเรื่องของผมแล้วยังคุยเรื่องอื่นอีกมั้ย ไม่ได้ว่าไม่เชื่อใจฟานหรอกนะ แต่ฟานก็ชอบคนเป็นผู้ใหญ่กว่าแล้วลิปก็ชอบคนที่เด็กกว่าด้วยถึงแม้ว่าจะมีแฟนแล้วทั้งคู่ แต่เรื่องแบบนี้มันก็.. " อยากจะเช็คมือถือผมมั้ย "

“ ไม่อะ " ผมเด้งตัวส่ายหน้าตอนที่อีกคนยื่นมือถือมาให้ดู คงเพราะเห็นว่าผมจ้องมันอยู่นานแล้ว " ฉันไม่ได้อยากดูสักหน่อย ฉันเชื่อใจนายอยู่แล้ว "

“ ดูเหมือนใจไม่ได้รู้สึกอย่างที่พูดเลยนะ " มือหนากอดคอผมก่อนจะดึงเข้ามาไปใกล้ มือถือเครื่องนั้นอยู่ตรงหน้าฟานเปิดข้อความไลน์ให้ผมดู ตรงหน้าจอแชทหลักไม่มีอะไรมาก นอกจากกลุ่มเพื่อนแล้วก็มีผมกับลิปแค่สองคน นิ้วหนากดเข้าไปที่ไลน์ของลิปก่อนจะเลื่อนขึ้นไปที่ข้อความบนสุด ตั้งแต่ที่ทักทายครั้งแรกจนถึงตอนนี้ก็ไม่มีข้อความอะไรทั้งนั้น เหมือนแค่คุยปกติเรื่องส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องของผมทั้งนั้น " อยากดูของคนอื่นด้วยมั้ยครับ "

“ ไม่ละ " ผมส่ายหน้าก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองอีกคน " ฉันไม่ได้ไม่เชื่อใจฟานนะ "

“ ผมรู้ครับ " เค้าบอก " ก็แค่อยากจะให้คุณสบายใจ เพราะผมเองก็ไม่มีอะไรปิดบังอยู่แล้ว " พยักหน้ารับอีกคนแบบนั้นตอนที่เดินขึ้นรถไฟที่เข้ามาเทียบชานชาลา  เราเดินทางกลับบ้านกันเงียบๆ ฟานแวะซื้ออะไรนิดหน่อยไม่กี่อย่างที่ร้านสะดวกซื้อก่อนจะเดินขึ้นคอนโด ดูคล้ายๆว่าน่าจะเป็นอาหารที่ต้องพยายามยัดให้ผมกินคืนนี้แน่ๆ

   หย่อนตัวเองลงนั่งที่โซฟาในห้องตอนที่ล้มตัวลงนอนฟานก็เดินเข้ามาใกล้พร้อมกับช็อคโกเล็ตบาร์ชิ้นนึง เค้าที่นั่งลงข้างๆ ก่อนจะแกะแล้วยื่นมันมาจ่อที่ปากผม " กินสักหน่อยนะครับ "

“ ถ้าฉันไม่กินจะเป็นยังไง " คงไม่ลดมือลง หรือไม่ก็.. ยังทันจะหยุดความคิด อีกคนที่กัดช็อคโกเล็ตบาร์ในมือของตัวเองก่อนจะเลื่อนตัวเข้ามาใกล้ผม ริมฝีปากที่แนบกันของเรา เค้าดันช็อคโกเล็ตแท่งนั้นเข้ามาในปาก ตอนที่เลื่อนออกมาฟานก็บอก

“ ยังไงก็จะทำให้คุณคีย์กินให้ได้ครับ "

“ ประสาท " จับริมฝีปากของตัวเองแล้วหันไปเคี้ยวทางอื่นอีกคนก็ยิ้ม

“ กินอีกสิครับอะ " เค้ายื่นมาให้ผมกินอีก ตอนที่รับแท่งช็อคโกเล็ตนั่นไว้ ฟานก็มองหน้าผม

“ มองอะไร "

“ เปล่าหรอกครับ แค่รู้สึกว่าช่วงนี้ดูคุณผอมลงไปรึเปล่า " มือหนาเอื้อมมาจับเอวของผม ตอนที่ดึงขึ้นเข้ามากอดเค้าก็ถอนหายใจ " ผอมลงจริงๆด้วย "

“ วัดแค่นี้ก็รู้แล้วเหรอ "

“ รู้สิครับ ก็ผมกอดคุณทุกวัน " หลุดยิ้มออกมากับคำพูดของอีกคน

“ ฉันแค่ไม่ค่อยหิวน่ะ เลยไม่ได้กินอะไรเข้าไปเท่าไหร่ แต่ก็สบายดีนะ ไม่ได้เจ็บป่วยอะไร "

“ ไม่ได้เจ็บป่วยอะไรละ การคิดมากก็เป็นอาการเจ็บป่วยอย่างนึงไม่ใช่รึไง "

“ เหรอ ถ้าอย่างงั้นก็คงใช่ละมั้งนะ " ยิ้มจางๆให้อีกคนที่ถอนหายใจออกมา คงกำลังคิดถึงเรื่องภาพหลุดนั่นละมั้ง " นี่ฟาน "

“ ครับ " เค้าหันมาหาผม ตอนที่ลุกขึ้นไปนั่งค่อมตัวของเค้าไว้อีกคนก็ขมวดคิ้ว " คุณคีย์ "

“ สารภาพกับฉันมาหน่อยได้มั้ย ฉันอยากจะถามอะไรกับนายสักอย่าง "

“ ถามอะไรครับ " เอื้อมมือไปกอดคอเค้าตอนที่ก้มลงมองหน้าก็สบสายตาคมนั่นพอดี

“ นายเองก็ยังไม่เชื่อใช่มั้ย เรื่องภาพพวกนั้น นายไม่ได้คิดว่าฉันโกหกแต่นายก็ไม่ได้เชื่อมันทั้งหมดในสิ่งที่ฉันพูด " ไม่มีเสียงตอบรับในคำถามนั้น แต่ผมก็รู้ดีว่าคำตอบนั้นมันคืออะไร ก้มลงซบที่ไหล่ของอีกคนไม่รู้จะพูดอะไรออกมาทำได้แต่กอดเค้าไว้อยู่แบบนั้น

“ ผม.."

“ ดีแล้วที่ไม่โกหกกัน แต่ถึงนายจะโกหกให้ฉันสบายใจ ฉันก็รู้ดีแหละ ว่านายไม่ได้รู้สึกอะไรแบบนั้น " ท่าทางอึกอักของเค้าทำให้ผมตัดสินใจพูดมันออกมาก่อน มันเชื่อยากในเมื่อเราเองก็เลือกที่จะโกหกไปแล้วก่อนหน้านั้น ถ้าบอกไปตรงๆตอนนั้นว่าไปกับหัวหน้า วันนี้อะไรๆก็คงไม่เป็นแบบนี้ ตอนนี้เราอาจจะไม่ได้โกรธกัน เรื่องคงง่ายกว่านี้ แต่ไม่ทันแล้ว... อดีตกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว

   ก้มลงจูบริมฝีปากหนาของอีกคนเบาๆ ตอนที่ใช้ลิ้นลุกล้ำเข้าไปในริมฝีปากนั้นช้าๆอีกคนก็ตอบรับ พร้อมกับมือที่กอดรอบเอวของผมไว้ จูบดูดดื่มของกันและกันในตอนที่เราผละออกผมผ่อนหายใจออกมาแรงๆ กัดริมฝีปากตอนที่เค้าค่อยๆเอียงหน้าลงจูบไปที่คอ ไล่ลงต่ำมาที่คอเสื้อ มือหนาปลดกระดุมที่ผมใส่ทีละเม็ดแล้วไล่ลงมาเรื่อยๆ เสื้อเชิ้ตถูกปลดออกมากองอยู่ที่ตรงข้อแขน ฟานที่ก้มลงจูบเนินหน้าอกก่อนจะขบเม้มยอดอกนั่นเบาๆ

“ ฟาน " ก้มหน้าลงมองริมฝีปากของเค้าที่กำลังจูบหน้าอกของผมก็ทำได้แต่เม้มริมฝีปากไว้แน่น เอื้อมมือประคองใบหน้านั้นให้ขึ้นมาสบตากัน คงต้องบอกเรื่องนั้นออกไปแล้ว เรื่องงานสัมมนาที่จะต้องไปต่างจังหวัด ปากที่กำลังจะเอ่ยออกไปแต่ทว่าอีกคนที่สบตากันอยู่กลับพูดขึ้นมา

“ คุณคีย์ ผมรักคุณครับ " เผลอก้มหน้าลงยิ้มกับอีกคนที่ยืดตัวขึ้นมาหอมแก้ม  " มีอะไรที่ทำให้ผมทำให้คุณสบายใจบ้างมั้ย อะไรก็ได้ ผมจะทำให้ "

“ แค่กอดฉัน จูบฉัน แล้วอยู่ข้างๆกันก็พอ " ฟานยกยิ้มขึ้นมาตอนที่หอมลงบนแก้ม เค้าเลื่อนมาจูบที่ริมฝีปากสองแขนที่กอดผมไว้แน่นในตอนนั้น กลายเป็นว่าในที่สุดก็ไม่กล้าจะพูดออกไปจริงๆ ความรู้สึกทั้งหมดนั้น ความรู้สึกที่ว่า เรารู้อยู่แล้วว่าจะทำให้เค้าเสียใจ แม้ในใจก็คิดว่าอย่าพยายามดื้อดึงอะไร จะช้าเร็วเค้าก็ต้องรู้ แต่ว่าในช่วงเวลาแบบนี้  ปากที่ได้แต่เงียบนิ่งอยู่แบบนี้ ไม่อยากจะเสียไปเลย ไม่อยากจะเสียบรรยากาศแบบนี้ไปเลย  บรรยากาศที่เรากอดกันและกันไว้แน่น ช่วงเวลาที่มีความสุขพวกนั้น" ฉันอยากจะให้นายอยู่ข้างฉัน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น อยู่ข้างๆฉันนะ ไม่ว่าตอนนี้หรือหลังจากนี้ก็ได้โปรดอยู่ข้างๆฉันนะ "

“ ผมอยู่ข้างๆคุณครับ แต่ถ้าคุณไม่โอเคอีก เดี๋ยวผมจะเข้าไปอยู่ข้างในตัวคุณก็ได้ " ขมวดคิ้วกับคำพูดของอีกคน แต่พอก้มลงมองส่วนกลางโปร่งพองที่ตัวเองนั่งทับอยู่ก็เข้าใจทุกอย่างได้ในทันที

“ ไอ้เด็กหื่น นิสัยเสีย " เอื้อมมือไปหยิกปลายจมูกคมที่สะบัดหน้าหนีก่อนจะหอมแก้มผมแล้วจูบผมอีกครั้ง เค้าที่จูบไล้ลงมาบนคอ รู้สึกหวาบวามจนใจเต้นแรงได้แต่เม้มริมฝีปากของตัวเองไว้แน่น ก่อนที่ผมจะก้มลงไปกระซิบเค้าที่ข้างหู " เข้ามาในตัวฉันสิฟาน "

“ แล้วมาว่าคนอื่นหื่น แบบนี้ใครกันแน่ละครับ ที่ยั่ว "

“ จะไม่เข้ามางั้นเหรอ " จ้องตาเค้าถามอีกคนก็ดึงตัวเองขึ้นมากระซิบที่ข้างหู

“ ใส่สดนะครับ "

“ ก็ตามใจสิ "
.........................................................

“ อะไร นี่ยังไม่ได้บอกอีกเหรอ " ลิปชะงักแซนวิชที่กำลังถืออยู่ในมือ ตอนที่ถามไถ่ผมเกี่ยวกับเรื่องงานไปสัมมนาที่หัวหินว่าได้บอกฟานแล้วรึยัง แต่คำตอบที่ได้รับจากผมคือ ' ไม่ ยังไม่ได้บอก ' เค้าที่ผ่อนลมหายใจออกมาตอนที่มองหน้าผมที่ได้แต่นิ่ง " จะรอไปถึงเมื่อไหร่วะ จะบอกตอนเช้าของวันไปเลยรึไง "

" ฉันไม่กล้าบอกวะ " สารภาพออกไปตามตรงกับคนตรงหน้าที่ก็เงียบไป " ฉันรู้ว่าถ้าบอกออกไปมันจะเกิดอะไรขึ้น ถึงแม้จะคิดในแง่ดีว่าเค้าจะเข้าใจฉัน  แต่มันก็แทบเป็นไปไม่ได้เลย นายจะยอมให้คุณเมษไปค้างคืนกับคุณมาเรียสองต่อสองที่ต่างจังหวัดมั้ย "

" ก็คงไม่ " เค้าที่ส่ายหน้าออกมา  อาหารตรงหน้าผมถือค้างมันอยู่แบบนั้นเหมือนไม่อยากจะกินเท่าไหร่ กินอะไรไม่ลงมาหลายวันแล้วแม้จะเป็นอาหารสุดโปรดฝีมือของฟานก็ตาม ราวกับว่าทุกวันนี้ความสุขที่มีมันแสนฉาบฉวย เราที่กอดกันจูบกันหรือมีอะไรกัน ความสัมพันธ์ที่แสนจะดูดดื่มและมีความสุข แต่ในใจผมก็รู้ว่า พอถึงวันที่เค้ารู้  ทุกอย่างมันก็ต้องเปลี่ยนไป

“ แต่ยังไงก็ต้องบอกเค้านะ "

“ อื้ม ฉันรู้ "

“ คีย์ "

“ ฉันอยากจะหายไปวะ หายไปจากวันนี้ แล้วก็ค่อยโผล่กลับมาอีกทีวันจันทร์ ฉันไม่อยากถูกไล่ออกจากงานเพราะถ้าไม่มีงานก็ไม่มีกิน ไม่ได้อยากจะย้ายไปไหน แม้จะมีเรื่องวุ่นวายแบบนี้แต่ฉันก็อยากจะทำงานที่นี่ เงินเดือนมันดี สวัสดิการก็ดี อีกอย่างฉันเกลียดการเปลี่ยนแปลง ไม่อยากจะต้องเข้าไปปรับเปลี่ยนตัวเองอีก แต่ถ้าหันไปทำฟรีแล๊นซ์วันไหนวันนึงที่ฟานทิ้งฉันไป ฉันจะเอาเงินที่ไหนกินวะ ถ้ารายได้มันดีอย่างที่ทำงานบริษัทก็ดีนะสิ แต่ถ้าไม่ละ มันบอกไม่ได้ไม่ใช่เหรอว่าจะดีหรือแย่ แต่ละเดือนก็ไม่เหมือนกัน ใครๆก็รู้ว่ามันไม่มั่นคง "

“ ก็จริงของนายนะ ฟรีแล๊นซ์เป็นงานที่ไม่มั่นคงจริงๆ จะเยอะจะน้อยก็ขึ้นอยู่กับลูกค้า แล้วเรามันก็แค่ระดับลูกน้อง ฐานลูกค้าก็น้อยเพราะทำมาไม่กี่ปีเอง "

“ อื้ม " พยักหน้ารับอีกคน ผมถอนหายใจออกมามองแซนวิชในมืออย่างไม่รู้จะหันสายตาไปมองอะไร " ฉันไม่ได้กลัวว่าฟานจะทิ้ง แต่ในโลกใบนี้มันไม่มีอะไรแน่นอนเลย ดูอย่างฉันสิ อยู่ๆหัวหน้าที่เคยแอบชอบมาสามปีกลับเข้ามาสนใจฉัน แต่ในขณะที่ฉันพยายามจะตัดเค้าออกตอนที่รู้สึกว่า ชิบหายแล้วเราจะคบเค้าไม่ได้ถ้าคบต้องเสียฟานไปแน่ เค้ากลับจับมือฉันไว้แล้วบีบแน่นจนไม่ปล่อยไปไหน ฉันที่ไม่เคยคิดจะชอบคนอายุเด็กกว่าเลย แต่วันนี้กลับกลัวแม้จะบอกความจริงกับเค้า กลัวที่จะเสียเค้าไป กลัวว่าจะกลายเป็นคนที่ถูกทิ้ง " น้ำตาของผมไหลออกมาจากดวงตาช้าๆ " ทุกวันฉันมีความสุขที่ได้อยู่กับเค้า แต่เป็นความสุขที่ไม่เคยสุดเลยสักวัน เพราะฉันปิดบังเรื่องพวกนี้อยู่ ปิดบังเรื่องงานสัมมนางี่เง่านี่ เรื่องความรู้สึกจริงๆของฉัน ฉันไม่เคยบอกฟานเลยว่าฉันหวั่นไหวไปกับหัวหน้า โกหกไปตลอดว่า ไม่ได้คิดอะไร เพื่อเอาตัวรอดให้เค้าอยู่ใกล้ๆ แต่มันก็ไม่เคยมีความสุข ใจฉันรู้ดี ว่าเรื่องมันเป็นยังไง อย่างที่นายบอกไงลิป ฉันโกหกคนอื่นได้ แต่ฉันคงโกหกตัวเองไม่ได้หรอก "

“ ไม่รู้เมื่อไหร่มันจะสิ้นสุดสักทีนะ " ลิปบอก เค้าที่ก้มลงมามอง ในแววตาที่กำลังสงสารผมนั้น เราทำได้แค่เงียบให้กันอย่างไม่รู้จะพูดอะไรออกมา

   เดินกลับขึ้นมาในแผนกนั่งลงที่โต๊ะทำงานของตัวเองแต่ยังไม่ทันได้เริ่มทำงาน หัวหน้าที่นั่งอยู่ที่โต๊ะก็ลุกเดินเข้ามาหาผม เค้าที่เอ่ยเรียกชื่อทำเอาคนทั้งแผนกหันมามอง " คีย์ "

“ ครับ "

“ พรุ่งนี้ เจ็ดโมงฉันจะไปรับนายที่คอนโดนะ จะได้ไปสัมมนาที่หัวหินพร้อมกัน "

“ ผมไปเองได้ครับ ไม่เป็นไรหรอก " หันไปบอกเค้าแบบนั้นอีกคนก็ถอนหายใจออกมา

“ จะไปเองได้ยังไง โรงแรมอยู่ที่ไหนนายรู้รึยังไง แล้วนายจะเดินทางยังไงนายไม่มีรถ โรงแรมมันอยู่ไกลออกไปมากนะ ไม่ใช่จะนั่งรถสาธารณะได้เสักหน่อย "

“ ผมเดินทางคนเดียวได้ครับ ไม่มีปัญหาหรอก "

“ เค้าให้ทุกแผนกไปถึงพร้อมๆกันนะ ถ้าเดินทางรถสาธารณะมันก็ต้องเสียเวลา ไปกับฉันนั่นแหละ "

“ ไม่เป็นไรจริงๆครับ ผมจะไปให้ทันตามเวลานัดหมายเลย จะไปถึงก่อนเวลาอีกด้วย เดี๋ยวผมไปเอง ไม่เป็นไรครับ "

“ ฉันบอกว่าให้ไปกับฉัน!! " หัวหน้าพูดเสียงดังออกมาด้วยความรู้สึกโกรธที่ไม่อยากจะถกเถียงอะไรกับผมอีกแล้ว " อย่าเอาเรื่องส่วนตัวมาปะปนกับเรื่องงานสิ นี่เราไปสัมมนากันนะ ช่วยให้ความร่วมมือกับทางบริษัทหน่อย นี่มันเรื่องงาน! " เค้าอธิบายเสียงแข็งด้วยใบหน้าหงุดหงิดที่เหมือนกำลังตัดคำปฎิเสธทั้งหมดไปแล้วเหลือเพียงแค่การจำยอมที่ต้องยอมรับไปอย่างเลี่ยงไม่ได้  ผมที่นิ่งมองเค้า " พรุ่งนี้ทุกแผนกจะเดินทางไปกันเอง นัดถึงที่หมาย 10 โมงถ้านายเดินทางเองนายก็จะถึงช้ากว่าคนอื่น แน่นอนไม่มีทางจะถึงก่อนหรอกแล้วแบบนั้น แผนกเราก็จะดูไม่ดี เพราะงั้นพรุ่งนี้เจ็ดโมงฉันจะไปรับนายที่ใต้คอนโด ตรงเวลาด้วยละ นี่คือคำสั่งของหัวหน้า " ร่างสูงที่เดินออกไปทำให้ผมได้แต่นั่งนิ่งๆอยู่แบบนั้น เสียงกระซิบของพนักงานที่ได้ยินดังขึ้น เสียงที่ไม่ได้ต่างอะไรกับมีดคมๆที่กรีดซ้ำลงบนร่างกายของผมให้เจ็บมากขึ้นกว่าเก่า

“ อย่าเอาเรื่องส่วนตัวไปปนกับเรื่องงานสิ โถ.. พ่อคุณคนดี ไอ้ที่ไปกันสองคนนี่ก็เรื่องส่วนตัวชัดๆอะคะ จะไปกกเมียน้อยแล้วเอางานมาอ้าง ทำเป็นบอกว่าเพื่องาน เอาจริงๆคงอึ้บกันตั้งแต่ในรถแล้วมั้ง ทนความคิดถึงที่มีต่อกันไม่ไหว เค้ารู้กันหมดละ ยังมาปั้นเรื่องทำเป็นไม่อยากจะไปกันอีก โถ่...ช่างน่าสงสาร "

“ เมียน้อยเขินไงพี่ ต้องทำท่าทางว่าไม่กล้าจะไปด้วย จะได้ดูมีข้ออ้างไงแบบ จริงๆก็ไม่อยากจะไปด้วยนะ แต่ในใจคงอยากจะไปจนตัวสั่นละ แต่นะเดี๋ยวโดนว่าใส่ร้ายนางอีก เพราะไม่มีใครไปถามนางว่าจริงๆเรื่องเป็นไง "

“ แกก็ไปถามมันสิว่าจริงมั้ยที่ไม่อยากไป "

“ ไม่เอาอะ สงสารเค้าเดี๋ยวเค้าต้องตอแหลอีก แล้วพอไม่เนียนทางเราจะเสียความรู้สึกได้นะ "

“ นั่นนะสินะ ฮ่าๆ "   เสียงหัวเราะที่พูดคุยกันอย่างมีความสุข แม้จะเป็นเรื่องที่ทุกข์ใจของคนอื่นแต่กลับบอกเล่ากันอย่างสนุกปากเหมือนเป็นเรื่องตลกขำขันกัน ไม่ได้รู้สึกเห็นใจหรือรู้สึกอะไรถึงคนอื่นทั้งนั้น เหมือนพอเห็นคนล้มแทนที่จะช่วยกันพยุงกลับวิ่งมาเหยียบซ้ำๆเหมือนอยากจะให้ตายกันไปข้างถึงจะพอใจ

“ คีย์ " อาจจะเห็นผมเหม่ออยู่คนทำงานโต๊ะข้างๆอย่างลิปเลยเรียกผมไว้  " วันนี้ให้ฉันไปกับนายมั้ย อยากจะให้ฉันไปช่วยอธิบายอะไรฟานรึเปล่า "

“ ไม่เป็นไรหรอก ฉันอยากจะคุยกับเค้าสองต่อสองมากกว่า "

“ เหรอ " เค้าพยักหน้ารับ " งั้นถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกนะ "

“ อื้ม ขอบใจนะ "

   เงยหน้ามองนาฬิกาบอกเวลาเป็นช่วงเวลาหนึ่งทุ่มพอดี ผมปิดคอมพิวเตอร์ของตัวเองตอนที่ลุกขึ้นจากที่นั่งเก็บเก้าอี้เรียบร้อย เตรียมจะกลับบ้านเสียงของหัวหน้าก็พูดทักขึ้น

“ เจอกันพรุ่งนี้นะคีย์ อย่าสายละ " รอยยิ้มใจดีของเค้าที่ส่งมา ตอนนั้นผมทำได้แต่มองมันนิ่งๆเค้าก็ค่อยๆคลายยิ้มนั้นแล้วหันไปทำงานของตัวเองต่อ ผมไม่ได้ตอบอะไรเค้าแต่กลับหันไปหาลิปแทน

“ ลิป ฉันกลับบ้านก่อนนะ "

“ อื้ม ไว้จะโทรหานะ "

“ อื้ม " พยักหน้ารับ ก่อนจะเดินออกมาจากแผนกโดยไม่ได้บอกลาใครคนอื่นทั้งนั้น กดลิฟต์ลงไปชั้นล่างทั้งๆที่มีผู้คนรอบข้างมากมายแต่มันกลับดูเหมือนไม่มีใครเลย ทุกอย่างดูเงียบเหงาแล้วก็ว่างเปล่า เหมือนรอบตัวมันเงียบไปหมด เหลือเพียงแค่ตัวผม ตัวผมที่สิ้นหวังลงไปทุกวินาที

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27


“ คุณคีย์ครับ " เงยหน้ามองเสียงเรียกคุ้นๆของร่างสูงที่ยิ้มให้ก่อนจะวิ่งมาหาจากถนนฝั่งตรงข้ามห้าง ใบหน้าหล่อเหลาที่แม้แต่กระทั้งตอนที่วิ่งเข้ามาหาผม " เลิกงานพร้อมกันเลย "

“ อื้ม " พยักหน้ารับเค้า อีกคนก็ก้มลงมามองดู

“ หน้าตาคุณดูไม่ดีเลยไหวรึเปล่า อยากจะกินอะไรก่อนที่เราจะกลับบ้านมั้ย "

“ ไม่ล่ะ ฉันไม่อยากจะกินอะไร กลับบ้านกันเถอะ " ผมบอกเค้าเราที่เดินไปขึ้นรถไฟกันเงียบๆ พอเดินทางมาถึงคอนโดฟานก็รีบเข้าไปในครัวทันที

“ ผมจะทำข้าวปลาแซลม่อนให้คุณกินนะ กินอะไรสักหน่อยนะ "

“ ฉันไม่ค่อยหิวนะ " หันหน้าไปบอกเค้า ฟานที่จัดการเตรียมทุกอย่างอยู่ในครัวก็เดินออกมาหาผมที่นั่งอยู่บนโซฟา ร่างสูงย่อตัวลงตรงหน้าก่อนจะเอื้อมมือมากุมมือของผมเอาไว้

“ กินอะไรเข้าไปสักหน่อยเถอะครับนะ ถึงคนอื่นเค้าจะพูดทำร้ายคุณยังไง แต่คุณก็ไม่จำเป็นต้องทำร้ายตัวเองไปด้วยนี่ "

“ ฟาน " ผมเอ่ยเรียกชื่อเค้า พลางจ้องแววตาห่วงใยที่ส่งมาให้ผม " ฉันมีอะไรจะบอกฟานนะ คือ พรุ่งนี้ฉันจะไปสัมมนางานที่ต่างจังหวัดสองวันกับหัวหน้านะ " ทุกอย่างเงียบแววตาห่วงใยที่เปลี่ยนไปของเค้า เหมือนคนฟังไม่เข้าใจเท่าไหร่เค้าที่ขมวดคิ้วน้อยๆก่อนจะถามซ้ำ

“ อะไรนะ.. ไปสัมมนางานต่างจังหวัดกับหัวหน้า  "

“ อื้ม ไปสัมมนางานต่างจังหวัด ไปหัวหินน่ะ ไปสองวันหนึ่งคืน "

“ แล้วที่บอกว่าไปกับหัวหน้า คือ ไอ้เหี้ยนั่นเหรอ "

“ อื้ม ใช่ " ผมพยักหน้ารับ

“ แล้วแค่สองคนเหรอ "

“ อื้ม " ก้มหน้ารับอีกครั้งผมที่กำมือเค้าไว้แน่น แววตาที่หันมาจ้องผมทั้งเด็ดเดี่ยวและมั่นคงเสียงเข้มๆที่เอ่ยออกมา

“ ไม่ให้ไป ผมไม่ให้คุณไป "

“ ฉันไม่ได้มาขอให้นายอนุญาติหรือไม่อนุญาติ ฉันแค่มาบอกว่า ฉันต้องไปสัมมนางานกับหัวหน้า " ใบหน้าคมขมวดคิ้วก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงของตัวเอง ความรู้สึกโกรธที่กำลังจะระเบิดออกมาเต็มที่

“ เดี๋ยวนะ นี่มันเรื่องเหี้ยอะไรกันน่ะ คุณจะไปสัมมนางานสองวันหนึ่งคืนกับไอ้เหี้ยนั่นสองต่อสองที่ต่างจังหวัด แล้วมาบอกผมเพื่อให้ผมไม่ได้รู้สึกอะไรแต่แค่รับรู้ไว้ ว่าคุณจะไปอย่างงั้นเหรอ บ้ารึเปล่า การยินยอมให้เมียตัวเองไปเป็นเมียคนอื่น มึงคิดว่ากูจะยอมให้มึงไปเหรอ "

“ ฟาน ฉันไม่ได้ไปกับเค้าสองคนแบบนั้น คือฟังก่อนนะ ในแผนกฉันไปกับเค้าสองคนก็จริง แต่มันยังมีคนอื่นๆ ในแผนกอื่นๆอีกทีเค้าก็ไปด้วยไม่ใช่การไปสัมมนากันสองคนแบบนั้น เราแค่ต้องไปด้วยกันมันก็แค่นั้น เราเป็นตัวแทนของแผนก "

“ ตัวแทนของแผนก แล้วทำไมต้องเป็นมึงด้วยวะ ในแผนกมีมึงกันสองคนรึไงวะ " เค้าถามก่อนจะหลุดหัวเราะออกมา "  ช่างเลือกดีนะ เลือกคนที่ได้ชื่อว่ากำลังเป็นชู้กัน ให้ไปงานแบบค้างคืนด้วยกัน ถามจริงๆเถอะ ทั้งแผนกเค้าเสนอชื่อมึง หรือจริงๆตัวมึงอยากจะไปกกกับมันโดยเสนอชื่อตัวเองกันแน่ "

“ ฉันไม่ได้อยากไปนะ ! " ผมเถียงกลับ " แล้วการที่นายบอกว่าฉันเสนอชื่อตัวเองคืออะไร นายคิดว่าฉันอยากจะไปงานนี้รึไง ฉันไม่ได้อยากจะไปเลย ไม่อยาก "

“ ไม่ได้อยากไปก็ปฎิเสธเค้าไปสิวะ แล้วจะไปทำไม " 

“ ฉันปฎิเสธจนไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ฉันทำทุกวิถีทางแล้ว แต่เพราะเรื่องมันเป็นแบบนี้ เพราะใครๆคิดว่าฉันเป็นเมียน้อยเค้า ทุกคนเลยโยนมาให้ฉันไป ให้ฉันไปคู่กับเค้า ทั้งๆที่ความจริงฉันไม่ได้อยากจะไปเลย ฉันปฎิเสธแล้ว ปฎิเสธมาเยอะมากแล้ว ปฎิเสธมาตลอด แต่มันก็ไม่มีใครฟังฉันเลย ไม่มีเลย ทุกคนต่างยัดเยียดบอกให้ฉันไป ให้ฉันไปกับเค้า เพราะคิดว่าฉันเป็นเมียน้อยหัวหน้า "
“ แบบนั้นก็เลยตกลงไป " ผมพยักหน้ารับอีกคนก็ก้มลงมามอง " แต่ถ้ามึงไปนะ มึงได้เป็นเมียน้อยมันแน่ๆ มันไม่มีทางปล่อยมึงออกมาหรอก เพราะมันจ้องจะเอามึงอยู่แล้ว เรื่องที่กูไม่รู้ก็มีแค่ว่า มันจะเอามึงแบบไหนก็เท่านั้นแหละ ระวังไว้เถอะ ยิ่งมึงดื่มเหล้า มันคงเอามึงทั้งคืนอะ "

“ ฟาน!! อย่ามาประชดได้มั้ย มันไม่ใช่เวลาที่นายจะมาทำนิสัยเด็กๆของนายนะ "

“ กูไม่ได้ประชด! กูพูดจริงๆ! “ เค้าคว้าแขนของผมมันจับไว้แน่น ใบหน้าคมที่ก้มลงมาจ้อง " ฟังนะ ถ้ามึงไป มึงไปเลย แล้วพอมึงกลับแล้วมึงก็ไม่ต้องกลับมาเจอกูอีก ไม่ว่ามึงจะกลับมาแบบไม่ได้เอากับมันซึ่งแม่งมีเปอร์เซ็นที่น้อยมากๆ หรือกลับมาแบบที่โดนมันเอาจนยับมึงก็ไม่ต้องมาเจอกูอีก เพราะกูบอกมึงแล้ว  ว่าอย่ายุ่งกับไอ้เหี้ยนี่ กูบอกมึงแล้วว่าอย่าไป แต่ถ้ามึงดึงดันที่จะไปเป็นเมียมัน มึงก็ไป  "

“ ฟาน แต่นี่มันเป็นงานนะ งานที่ฉันต้องทำ ต้องไป ถ้าไม่ไปก็โดนไล่ออก แล้วจะให้จะทำยังไง ต้องให้ลาออกเลยเหรอไง "

“ ไม่มีปัญหาลาออกสิ กูพร้อมเลี้ยงมึงอยู่แล้ว เพราะตอนนี้สิ่งที่กูหวังที่สุดคือ กูอยากให้มึงลาออกจากบริษัทเหี้ยๆนี่สักที ใครมันอยากจะให้เมียตัวเองไปทำงานอยู่กับผู้ชายที่ไม่รู้ว่าวันไหนมันจะงาบมึงไปวะ มึงจะรู้ตัวเหรอไง ถ้าเผลอไปแดกน้ำที่มันให้เข้าไป มึงก็หมดสติจะโดนเค้าเอาท่าไหนมึงก็ไม่รู้ตัวแล้ว ไม่ต้องพูดถึงเวลาเมาเหล้า มึงอยากมากนี่ ไม่ชอบใส่ถุงยางด้วย ให้มันเล่นสดดีๆละ ระวังติดเอดส์ก็แล้วกัน ! “

“ เพี๊ยะ! “ เสียงตบแรงๆที่ผมฟาดลงไปบนหน้าของเค้าเหลืออดแล้วกับคำพูดของอีกฝ่ายที่พูดจาไม่ฟังอะไรทั้งนั้น ซ้ำยังเอาแต่อารมณ์และความรู้สึกของตัวเอง พูดแค่เรื่องอย่างว่าตอกย้ำกันซ้ำๆว่าจะไปจากกันให้ได้ ผมเอ่ยออกไปทั้งน้ำตา " พูดแต่เรื่องแบบนั้นอยู่นั่นแหละ กูไม่เคยคิดจะไปเอากับใครทั้งนั้น ทุกวันนี้ก็คิดจะมีอะไรกับมึงแค่คนเดียว แต่มึงยังมาคิดว่ากูจะไปเอากับเค้าอยู่ได้มันใช่เหรอวะฟาน มันใช่เหรอสิ่งที่มึงกำลังพูดอยู่ สิ่งที่มึงกำลังตอกย้ำกูน่ะ  กูแค่ไปงานสัมมนาของบริษัทไม่ได้ไปงานสัมมนาฟรีเซ็กส์ ทำไมมึงต้องคิดอะไรแต่เรื่องแบบนั้น มันอาจจะไม่มีก็ได้ กูแค่ไปทำงาน  "

“ คนแบบมึงนี่แหละ คือคนที่จะมีผัวไม่รู้ตัว เพราะมึงไม่คิดเหี้ยอะไรเลยไง มึงจะโลกสวยไปไหนวะ มึงคิดว่าคนที่เค้าชอบมึง ได้นอนห้องเดียวกับมึงเค้าจะไม่คิดปล้ำมึงงั้นเหรอ ถ้ามีโอกาส มึงคิดว่าคนที่มึงสะบัดรักไปจากมึงแต่เค้ายังรักมึงอยู่ จะไม่คว้าโอกาสทำอะไรแบบที่อยากทำงั้นเหรอ มึงมองหัวหน้ามึงเป็นสุภาพบุรุษมากเลยสินะ รอให้มันเอาก่อนมั้ย มึงถึงจะรู้ตัว "

“ ฟาน.. "

“ ถ้ามึงรักกู กูขอ..” เค้าเว้นเสียงก่อนจะถอนหายใจออกมาหนักๆ " อย่าไป อย่าไปกับมันเพราะมันจะเล่นไม่ซื่อกับมึงแน่ๆ ลาออกจากงานนี่ซะเถอะ  ถ้ามึงไม่มีเงินใช้กูจะเลี้ยงมึงเองอยากได้เท่าไหร่กูก็จะให้  กูเลี้ยงมึงได้ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว แต่ออกจากงานนี้เถอะ มึงเชื่อกู อย่าเสี่ยงเลยไม่คุ้มหรอก "

“ แล้วถ้ามึงทิ้งกูไปละ กูจะใช้ชีวิตยังไง ถ้าวันไหนวันนึงมึงทิ้งกูไป กูจะทำยังไงกับรายจ่ายของตัวเองละ มึงยังจะเสียให้กูรึไง "

“ กูไม่ทิ้งมึงหรอก "

“ มึงพูดตอนนี้มึงก็พูดได้ง่ายๆดิวะ ก็มึงไม่อยากให้กูไป มึงพูดเหมือนว่ามึงรู้อนาคต มึงพูดเหมือนว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นมึงก็จะไม่ทิ้งกู แต่ความเป็นจริงมึงไม่มีทางรู้หรอกว่าอะไรมันจะเกิดขึ้น "

“ กูไม่เคยคิดจะทิ้งมึง ไม่เคย " เค้าบอก " ตั้งแต่ที่มีมึงเข้ามาในชีวิตก็คิดอยู่ตลอดว่าจะรักตลอดไป กูถึงได้พยายามทุกอย่างเพื่อให้มึงชอบไง กูเลยทุ่มเทให้มึงคนเดียวไง ทำไมกูถึงมั่นใจนัก เพราะไม่ว่าจะเจอใครกูก็จะไม่รักเค้า นอกจากมึงไง กูทำอย่างที่กูพูด และกูรู้สึกอย่างที่กูบอก บอกว่ารักมึงคนเดียวก็คือรักมึงคนเดียว ไม่เคยหวั่นไหวกับใคร ถ้ามึงไม่มั่นใจ กูขอท้าจะทำสัญญากันก็ได้ ถ้ากูนอกใจมึงเอาไปเลยสิบล้าน เพราะกูไม่มีวันจะได้จ่ายมึงแน่ๆ เพราะกูจะไม่มีวันเปลี่ยนไป ตราบใดที่มึงไม่เปลี่ยนไปก่อน "

“ แต่กูเคยเปลี่ยนไปนะ " เงยหน้ามองหน้าเค้าอีกคนก็นิ่ง " ที่เคยบอกว่าหัวหน้าเข้ามาจีบ แล้วบอกว่ากูไม่รู้สึกอะไร ตอนนั้นกูโกหกเพื่ออยากจะรักษามึงไว้ แต่จริงๆ กูรู้สึกนะ กูหวั่นไหว กูหวั่นไหวไปกับเค้า ไปกับความรู้สึกดีๆที่เค้าให้มา กูเผลอเล่นด้วย วันที่ไปกินข้าวกับเค้าตอนที่มึงเห็น วันนั้นกูสมัครใจไปเอง กูตั้งใจจะไปกับเค้าเองเพราะกูอยากจะลองทำตามใจตัวเองบ้าง กูชอบเค้ามานานกูก็อยากจะลองดูว่าเป็นยังไง ถ้าได้อยู่.."

“ นี่มึง..” สองแขนปล่อยออกจากตัวผม ฟานที่ได้แต่อึ้งกับคำสารภาพของผม

“ ถ้ากูได้อยู่ใกล้เค้ากูจะเป็นยังไงกูอยากรู้ แต่ว่ามึงก็ดันมาเห็นซะก่อน กูเลยมีสติแล้วคิดได้ว่ากูมีแฟนแล้ว กูกลัวมึงโกรธ กลัวมึงไปหวั่นไหวกับคนอื่นที่ไม่ใช่กู พอเป็นแบบนั้นก็เลยไม่เข้าไปยุ่งกับเค้าอีก เพราะกูรู้ตัวแล้วว่า กับหัวหน้ากูแค่เล่นๆไม่จริงจังแต่กับมึงมันไม่ใช่ กับมึงกูจริงจัง แล้วกูก็ไม่อยากจะเสียมึงไป แต่มันไม่ได้มีอะไรเกินเลยนะ กูแค่หวั่นไหว "

“ มันไม่ใช่แค่หวั่นไหว แต่มันคือการนอกใจ จะมากจะน้อยเท่าไหร่ นอกใจก็คือนอกใจ "

“ แต่ตอนนี้กูไม่ได้รู้สึกอะไรแล้ว ไม่ได้รู้สึกอะไรกับเค้าเลยสักนิดเดียว " ผมเถียงออกไปเสียงสั่น ฟานก็เบือนหน้าหนี น้ำตาของเค้าที่ไหลออกมาพร้อมกับคำพูดที่พูดออกมาทั้งน้ำตา

" ทั้งๆที่กู รักมึงมากขนาดนี้แท้ๆ ทั้งๆที่กูเชื่อใจมึง ว่ามึงพูดจริงๆ แล้วนี่คือสิ่งที่มึงให้กูเหรอวะ นี่คือสิ่งที่มึงตอบแทนกูที่รักมึงงั้นเหรอ การนอกใจนี่อะนะ แล้วก็ยังมาโกหกกู มึงนี่มัน.. “

” แต่พอกูเลิกยุ่งกับเค้า เค้ากลับไม่เลิกกับกู ยังบังคับให้กูไปสัมมนากับเค้า ทั้งๆที่กูไปขอรองหัวหน้าให้ไปแทนแล้ว แต่เค้าก็ไม่ยอม ยังไงก็จะให้กูไป ฟานขอโทษ ขอโทษจริงๆที่รู้สึกแบบนั้นกับคนอื่นกูขอโทษฟาน ขอโทษจริงๆ " ผมก้มหน้าร้องไห้ตอนที่สารภาพทุกอย่างกับเค้าไป คว้ามืออีกคนมาจับไว้แน่น สบสายตาที่สั่นไหวเพราะความจริงที่ตัวเองรับรู้ ความจริงที่ผมปิดบังเค้าไว้ตลอด อีสองมือของผมกอดเค้าไว้แน่นแล้วพร่ำขอโทษออกมา " ฉันขอโทษฟาน ขอโทษ ขอโทษจริงๆ "

“ แล้วแบบนี้มึงยังไม่รู้อีกเหรอ ว่าแม่งต้องการอะไรจากมึง ที่มันบังคับให้มึงไปแค่มึงเท่านั้นที่ต้องไป มึงยังไม่รู้อีกเหรอว่าเพราะอะไร ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอว่ามันจะทำอะไรมึง  แล้วยังมีหน้ามาบอกกู ให้กูแค่รับรู้ว่ามึงจะไปโดยไม่ให้กูออกความเห็นเหี้ยอะไร จะให้กูบอกว่าไปเถอะ ไปกับเค้าเถอะ มึงจะให้กูบอกแบบนั้นเหรอ บอกอนุญาติให้เมียตัวเองไปนอนเอากับคนอื่นอย่างงั้นเหรอวะ มึงบ้ารึเปล่าวะ! มันจะเอามึงดูแค่นี้ก็รู้แล้ว มึงเองก็รู้แล้วยังจะไปเหรอวะ “ เค้าจ้องหน้าที่ไม่ได้ตอบอะไรออกมา ผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆ " ถามจริงๆเถอะ ที่จะไปน่ะ เพราะรู้อยู่แล้วใช่มั้ยว่าจะโดนเค้าเอาก็เลยตัดสินใจจะไป เพราะอยากจะเป็นของเค้าอยู่แล้วก็เลยจะไปถูกต้องมั้ย "

" ไม่จริงนะ! ฉันไม่เคยคิดเรื่องแบบนั้นกับเค้าเลย ฉันเป็นของฟานเป็นของฟานแค่คนเดียว แล้วอยากจะเป็นแค่ของนาย ไม่อยากจะเป็นของของคนอื่น ฟาน ได้โปรดเชื่อฉันเถอะนะ ฉันผิดไปแล้วเรื่องนั้นฉันรู้แต่ที่ต้องโกหกก็เพราะว่าไม่อยากจะเสียนายไป ฟาน.."

“ เรื่องที่มึงหวั่นไหวกับเค้า กูจะถือว่ามันผ่านไปแล้วก็ได้ แต่เรื่องนี้ขอก็แล้วกัน อย่าไปงานสัมมนานั่น ถ้ามันบังคับยังไงก็ต้องไป ลาออกซะไม่ต้องทำ ถ้ามึงไม่มีเงินกูจะให้ กูจะให้ทุกอย่าง แค่ออกมาห่างมาจากไอ้เหี้ยนั่นก็พอ ตกลงนะ อย่าไปเลย มึงไม่รอดหรอก "

“ ฟาน ฉันไม่อยากจะใช้ชีวิตอยู่แบบไม่มีค่า ไม่อยากจะใช้ชีวิตเครียดๆแบบที่ว่า ไม่รู้ว่าจะมีเงินเข้ามาเมื่อไหร่ เมื่อไหร่ที่เค้าจะจ้างงาน ฉันไม่อยากจะรู้สึกแบบนั้น ไม่อยากใช้ชีวิตแบบที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่นายจะทิ้งฉัน ไม่อยากจะใช้ชีวิตแบบนั้น "

“ เลยอยากจะไปเป็นเมียน้อยเค้ามากกว่าถูกมั้ย " เค้าจ้องหน้าผมก่อนจะพูดออกมา " กูขอถามมึงอีกแค่คำถามเดียวแล้วกัน ถ้ากูคุกเข่าขอร้องมึงจะไปมั้ย ถ้าบอกว่าอย่าไปกับไอ้เหี้ยนั่นวันพรุ่งนี้ ถ้ากูร้องไห้ แล้วกูขอร้องมึง ถ้ากูกราบมึง บอกมึงว่า อย่าไปเลยนะ อย่าไปกับเค้า อยู่กับกูเถอะนะ อย่าไป มึงจะฟังกูมั้ย " น้ำตาของอีกคนไหลออกมา ก่อนที่เค้าจะคุกเข่าลงแล้วกอดเอวผมไว้ " คุณคีย์ อย่าไปเลยครับ ถ้าคุณไปคุณจะไม่ใช่ของของผมแล้วนะ อย่าทำร้ายผมถึงขนาดนั้น อย่าทำร้ายผมด้วยการเอาร่างกายของคุณ เอาหัวใจของคุณไปให้เค้าเลย อย่าทำแบบนั้นเลยนะ ผมสัญญาว่าผมจะดูแลคุณเอง ได้โปรดเถอะ อย่าไปเลยนะ คุณคีย์ครับ ผมรักคุณ " ก้มหน้าลงมองหน้าเค้าที่เงยหน้ามองผม ทุกอย่างเงียบไปในตอนนั้นผมที่หลบตาปฎิเสธความต้องการของอีกคนเป็นคำตอบที่ไม่ต้องพูดอะไรออกมาทั้งนั้น  ท่าทางที่อีกคนก็เข้าใจมันได้ทันทีก่อนจะเอ่ยขึ้นมา " ขนาดขอร้องขนาดนี้แล้วก็ยังตัดสินใจจะไปใช่มั้ย ถามจริงๆเถอะ ที่บอกว่าไม่ได้รู้สึกอะไรกับเค้าแล้ว ที่บอกว่าเลิกหวั่นไหวไปแล้ว จริงๆแล้วโกหกอีกแล้วใช่มั้ย ที่ผมพยายามทำมาทุกอย่างสิ่งที่ผมได้เป็นเจ้าของของคุณ คงเป็นแค่ร่างกายสินะ แต่หัวใจผมไม่เคยได้เลย ยังไงก็ยังชอบเค้าอยู่ดีสินะ หัวหน้าของคุณคนเป็นเป็นผู้ใหญ่คนนั้นน่ะ แบบนั้นก็เลยอยากจะเอาไปให้เค้าสินะ ร่างกายนี่นะ เพราะหัวใจคุณคงให้เค้าไปนานแล้ว "

“ ฟานมันไม่ใข่ ฉันก็บอกแล้วไง ว่าไม่ได้รู้สึกอะไรแค่ไม่อยากจะออกจากงาน "

“ อื้ม งานที่สำคัญกว่าความรู้สึกของผม " เค้าพยักหน้ารับ “ งั้นก็ไปเถอะ ไปซะ ไปหาคนที่คุณที่รักเถอะ ไม่ต้องฝืนหรอก อย่าฝืนอยู่กับผมเลย " เค้าลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แต่มือของผมก็รีบคว้าเค้าเอาไว้ " แล้วจำเอาไว้นะว่าน้ำตาของกูที่ไหลออกมา คือเพราะว่าไม่ว่าจะพยายามจะทำเท่าไหร่ สุดท้ายมึงก็เลือกที่จะไปกับเค้า แล้วจำเอาไว้อีกอย่างคือ ไปแล้วอย่ากลับมา "

“ ฟาน " กอดเค้าเอาไว้แน่นผมที่ซบลงไปบนแผ่นหลังของเค้า " อย่าพูดแบบนั้นสิฉันไม่ได้รู้สึกอะไรกับเค้านะ ที่ฉันมาบอกฟานเพราะไม่อยากจะโกหกอะไรฟานอีกแล้ว ไม่อยากจะให้ฟานเสียใจเพราะฉันโกหกฟาน ฉันไม่ได้รู้สึกอะไรกับเค้าแล้ว ตอนนี้ฉันมีฟานแค่คนเดียว ฉันแค่ฟานคนเดียว แค่คนเดียวจริงๆนะ "

“ มึงมีกูคนเดียวแต่มึงก็แคร์มันมากกว่ากู แคร์งานของตัวเองมากกว่ากู ทั้งๆที่กูบอกมึงอยู่ตรงนี้ว่าจะให้มึงทุกอย่าง แต่มึงก็ยังดึงดันที่จะเลือกเค้า แล้วมึงก็มาบอกกูว่า มึงมีแค่กูคนเดียว มึงแคร์กูคนเดียว " ปลดมือของผมที่กอดเค้าลง ฟานที่หันหน้ามาหาผมเค้าที่ถอนหายใจออกมา ฝ่ามือหนาเอื้อมขึ้นมาเช็ดน้ำตาให้ผม " อย่าฝืนเลยครับ คุณตอแหลไม่เก่งหรอก ไปเถอะ ไปกับเค้าเถอะ อย่าเอางานมาอ้างเลยสุดท้ายแล้วคุณก็แค่อยากจะไปกับเค้ามันก็เท่านั้น "

“ ไม่ใช่นะ! " ตะโกนออกไปไล่หลังคนที่กำลังเดินเข้าไปในห้องนอนของผม ผมที่เดินตามเค้าเข้าไปอธิบาย แต่ฟานกลับหยิบกระเป๋าเดินทางใบเล็กของผมออกมา เค้าที่จัดการเปิดตู้เสื้อผ้าเอาชุดของผมมาวางไว้บนเตียง แล้วพับใส่กระเป๋าไว้ให้ น้ำตาที่ไหลออกมาผมเดินไปหาเค้าที่ยังเลือกเสื้อผ้าแล้วพับใส่ให้ " ฟาน "

“ ผมจะจัดเสื้อผ้าให้ อยากจะใส่ชุดไหนเป็นพิเศษมั้ย " ผมเงียบไม่ตอบเค้าก็จัดไปเรื่อยๆ มองดูเสื้อผ้าที่เค้าจัดก็ได้แต่นิ่งเงียบ คนตรงหน้าที่นิ่งเงียบเหมือนกำลังผลักให้ผมออกไปทำให้สิ่งที่ผมต้องการ เหมือนทุกอย่างมันจบแล้วนี่คือสิ่งที่ผมต้องการเค้าเองก็จะทำให้ ถ้าอยากไปก็จะจัดการของให้ ให้ไปกับเค้าคนนั้น ทั้งๆที่ตอนนี้มันไม่ใช่ ผมไม่ได้อยากไป แต่ที่ต้องเพราะมันเป็นงาน งานที่ต้องรับผิดชอบ

“ ฉันไม่อยากออกจากงาน เพราะไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง ไม่อยากจะเป็นคนไร้ค่าที่ได้อยู่บ้านรอให้นายเลิกเรียนมาหา ทั้งๆที่เรียนจบมีงานทำแล้วแต่กลับมาเกาะเด็กยังเรียนไม่จบกิน ฉันไม่อยากจะเป็นแบบนั้น ฉันมีคอนโดที่ต้องผ่อน ฉันยังอยากจะสร้างฐานลูกค้าของตัวเองก่อน แต่ตอนนี้ฉันยังไม่มีอะไร ฉันเลยต้องไปเพราะถ้าไม่ไปคงโดนไล่ออก ฉันรู้ว่าหัวหน้าคิดอะไรอยู่แต่ฉันจะระวังตัว ถ้าเค้าให้ฉันนอนห้องเดียวกับหัวหน้า ฉันจะจ่ายเงินส่วนของฉันเองแยกห้องออกไป ฉันจะระวังตัวเอง จะไม่ให้เกิดปัญหา ฉันจะโทรหาฟานทุกวัน ฟาน..”

" เสร็จแล้วครับ " ซิปกระเป๋าถูกรูดปิด ผมร้องไห้ออกมาตอนที่กอดเค้าไว้จากด้านหลัง

" มันหมายความว่ายังไงอะ แบบนี้มันหมายความว่ายังไง อย่าเฉยชากันแบบนี้สิ ทำแบบนี้หมายความว่าไงน่ะ จะทิ้งฉันไปแล้วเหรอ จะผลักฉันออกไปเหรอ "

" อาบน้ำนอนได้แล้วพรุ่งนี้ต้องไปงานสัมมนา "  เค้าบอกแค่นั้น ตอนที่ดึงแขนของผมออกจากรอบแอวของตัวเอง ก่อนจะเดินออกไปข้างนอกห้อง

    ประตูห้องนอนถูกปิดลงผมที่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นทำได้แค่ร้องไห้ออกมาพร้อมกับอีกคนที่ก็คงร้องไห้ออกมาไม่ต่างกันที่ตรงนอกห้องนั่น ขาของผมเอื้อมไปเปิดประตูห้องของตัวเอง ตอนที่พยายามดันมันออก แต่ทว่ามันเหมือนถูกดันไว้ไม่ให้เปิดจากข้างนอก เสียงร้องไห้ของเค้าแม้จะเบาแต่ก็ได้ยินชัด

“ ฟาน ..” ทุกอย่างนิ่งเงียบ ผมไม่รู้จะพูดอะไรทั้งนั้น ทำได้แค่ทรุดลงที่หน้าประตูตรงนั้น ร้องไห้อย่างหนักกับความรู้สึกทุกอย่างที่กำลังเปลี่ยนไป ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว ความรักและคนรักอย่างก่อนหน้านี้ที่เคยมีมาทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะตัวผม แค่ผมคนเดียวเท่านั้น

   แสงแดดลอดส่องเข้ามาในเช้าวันรุ่งขึ้นผมที่ยังอยู่ในชุดของเมื่อวานลืมตามองแสงแดดอ่อนๆดูเวลาที่กำลังจะถึงเวลานัด ประตูที่เปิดไม่ออกเมื่อคืน ถูกเปิดออกมาพร้อมกับใครอีกคนที่ก้มลงมาแล้วดึงให้ผมลุกขึ้นยืน ฟานที่คว้ากระเป๋าที่ตั้งอยู่บนเตียงมาถือก่อนจะหันมาพูดกับผมสั้นๆ " เค้ามาแล้วครับ "

“ ฉัน.. ฉันไม่ไปแล้ว " หลุดปากพูดออกไป ฟานที่ชะงักไปสักพัก ผมที่กอดเค้าไว้ซบหน้าลงกับแผ่นหลังของเค้า " ฉันไม่ไปแล้วฟาน ฉันไม่ไปแล้ว ฉันจะไปบอกหัวหน้า ว่าฉันจะขอลาออก ไม่ไปแล้ว "

“ ไปเถอะ อย่าฝืนเลยครับ ถ้าอยากจะไปก็ไป " เค้าก้าวไปหยิบมือถือของผมที่ตั้งอยู่บนโต๊ะมาพร้อมกับกระเป๋าเป้ทำงานหัวหน้าคงส่งข้อความมาเค้าเลยรู้ว่าอีกคนถึงแล้ว

“ ก็บอกว่าจะไปไม่แล้วไง " คำพูดที่ไม่มีเสียงตอบรับยกเว้นแรงดันที่ดึงให้ผมออกไปจากห้อง เค้าดึงแขนผมมาที่หน้าห้องคว้ารองเท้าผ้าใบของผมขึ้นมา ก่อนจะก้มลงยัดเท้าของผมใส่ลงไปในรองเท้าคู่นั้นให้ เชือกที่ผูกให้จนแน่น " ฟาน "

“ ไปซะเถอะ อยากไปก็ไปซะ อย่าฝืนที่จะอยู่ที่นี่ อย่าฝืนที่จะเลือกผมเลย เพราะตอนนี้สำหรับเรามันก็ไม่มีอะไรเหมือนเดิมแล้ว " ร่างของผมถูกดึงออกมาจากห้อง เราที่กดลิฟต์ลงไปชั้นล่างด้วยมือของร่างสูงที่จับผมไว้แน่น

    น้ำตาของผมที่ไหลออกมา กระเป๋าเดินทางที่เค้ากระชับไว้แน่นนั้นยื้อแย่งจะไม่ไปยังไงเค้าก็ไม่ยอมปล่อย  เรามาถึงชั้นล่างของตึกที่มีรถของหัวหน้าจอดรออยู่แล้วที่ด้านหน้า

    ขาที่พาผมเดินตรงไปตรงนั้น ท่ามกลางสายตาตกใจไม่น้อยของหัวหน้า ฟานยกยิ้มขึ้นมา ก่อนจะเปิดประตูรถข้างคนขับ แล้วดันผมเข้าไปนั่งข้างใน เค้าโยนกระเป๋าลงมาใส่ผมอย่างแรง ก่อนจะจ้องหน้าผมด้วยสายตาที่ทั้งโกรธและเกลียด ผมที่กำลังร้องไห้อย่างหนัก ขาที่พยายามจะออกไปจากรถรั้งเค้าไว้ แต่ฟานก็ดันไม่ให้ออกมาเค้าที่ก้มหน้าลงพูด  " กูเอาของที่มึงอยากได้มาให้แล้ว อีร่านนี่ใช่มั้ย อยากได้ก็เอาไปเลย กูไม่เอามันแล้ว " เค้าบอกแบบนั้นก่อนจะโยนถุงยางอนามัยที่ยังไม่ใช้จำนวนนึงใส่หน้าเราสองคนที่ก็ได้แต่สะดุ้ง  " เอาไปใช้ด้วยละ แต่ก็มันส์ดีนะ ถ้าใส่สด "

...............................................................

มันส์ที่สุดในเรื่องแล้วค่ะ ..
หลังจากนี้จะเป็นพาสที่ เรียกว่าทุกคนรอคอยรึเปล่าไม่รู้
เพราะเป็นช่วงชีวิตที่จะต้องชดใช้กรรม ( ควรเรียกแบบนี้ ) ของพี่คีย์เค้า
สรุปตอนสุดท้าย จะได้กันมั้ย เราไม่อยากจะให้คนอ่านคิดไปถึงตอนนั้น
อยากจะให้อ่านไปเรื่อยๆมากกว่า คือ นิยายเรื่องนี้มันมีข้อเสียของบุคคลทุกตัวละครที่ซ่อนอยู่
มากน้อยก็ ต่างกันไป ตอนนี้เราเสนอด้านพี่คีย์ออกมาชัดสุด โดยใช้ความเห็นแก่ตัวหัวหน้าร่วมด้วย ฟานที่ไม่แสดงอาการอะไรมาตลอดก็แสนดี เพราะงั้น เราเลยอยากจะให้อ่านไปก่อน
แล้วค่อยๆ ตัดสินใจไปทีละนิด
ทุกคนผิดพลาดกันได้ มันอยู่ที่ว่าความผิดนั้นมันคืออะไร แล้วแก้ไขให้กลับมาได้มั้ย
บางทีก็ได้ และ แน่นอนว่า บางทีก็ไม่ได้
โดยส่วนตัว อันนี้หนมก็เข้าใจพี่คีย์นิดนึงตรงเรื่องงานว่า ถ้าบอกว่าจะออก ไม่ใช่ว่าจะออกได้เลยตอนนี้
การทำงานมันต้องใช้เวลา ยื่นใบลาออก แล้วเคลียร์งานถึงออกได้
แต่ก็เข้าใจน้องฟาน ใครมันอยากจะให้เมียตัวเองไปกับคนที่รู้อยู่แล้วว่าจะทำอะไร

ยังไงก็ฝากติดตามกันต่อไปนะคะ เนื้อเรื่องจะเข้มข้นและมันส์ยิ่งกว่านี้ค่ะ
ฝากแท็ก #ฟานคีย์ ในทวิตด้วยนะจ๊ะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้า  :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:

ออฟไลน์ iAlexiajang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
แอร๊ยยยยยย วีคนี้มันส์พ่ะย่ะค่ะ!!! ไปอ่าน กราฟสุดท้ายมาล่ะ ได้แต่ เอาล่ะเว้ยยยยยยย


*อดใจไว้ไปอ่านวันอาทิตย์ทีเดียว* #กัดฟันแน่น!!!!

ออฟไลน์ HanTwoH

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ cheezett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
แหม่ๆ พอคิดได้ว่าจะเสียเขาไปจริงๆ นางรีบกลับลำค่ะ ไม่ไปแล้วๆ คือมีเวลาให้นางคิดนะไม่ใช่ไม่มี ไม่อยากเป็นคนไร้ค่าให้พระเอกเลี้ยง ขอโทษนะตัวมึงตอนนี้มีค่าอะไร ละนางมีหน้าไประแวงเพื่อนนางจ้าา โคตรตลก อย่าคิดว่าทุกคนจะเหมือนมึงสิจ้ะอิร่าน ยิ่งตอนนี้ยิ่งเห็นได้ชัดโคตรไม่อินกับคู่ฟานคีย์

ออฟไลน์ mareya.no7

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
เราจะไม่เม้นท์อะไรมากนะตอนนี้ เราได้รู้ความจริงจากเรื่องราวที่อ่านมาทั้งหมดเข้าใจแล้วว่า คีย์ นายเอกเรื่องนี้รักแค่ตัวเอง คิดถึงแค่ตัวเอง

นางต้องเรียนรู้ที่จะรักคนอื่นอย่างแท้จริง และเจ็บปวดจากความรักอย่างแสนสาหัส มันถูกต้องที่สุดแล้ว

สำหรับฟานเราไม่ได้มองว่าสิ่งที่ทำมันแรงนะ แต่กลับมองว่าเสียเวลามากไปด้วยซ้ำ

สู้ๆ นะคับคนเขียน เราจะติดตามจนถึงบทสุดท้าย

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
มันส์พระยะค่ะ

ยังไงยังไง
เอาไงดีนุ้งคีย์
ลงจากรถเองมะ
หรือตีกับหัวหน้าอีกคน

กลับมาก้ไม่เจอฟาน
55555

เราว่าสิ่งที่ฟานทำไม่ใช่เรื่องผิดพลาดนะ ในเมื่อความเชื่อใจที่เคยมี มันพัง พังไปหมดแล้วเลย เพราะคีย์พึ่งมาบอกความจริง
ซึ่งคีย์ก้ทำเอง

ถ้าไปสัมมนากลับมา ยังไม่เป็นเมียน้อยแบบสมบูรณ์แบบ
ก้คงถึงเวลา ที่คีย์จะวิ่งตามฟานบ้าง
555555

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
เกลียดการนอกใจ เกลียดจริงๆ
สงสารฟานมาก อยากให้ตัดใจได้เร็วๆ
แล้วเริ่มต้นใหม่กับใครซักคนที่เขารักเราจริงๆ

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
มันคือผลของการกระทำที่ตัวนางทำเองทั้งนั้น เพื่อนเตือนก็ไม่ฟังอยากได้เขาจนตัวสั่น พอแฟนรู้ก็โกหกๆๆๆๆๆๆๆๆ จนจับได้ พอให้หยุดก็ไม่ยอมหยุด จนพอจะเสียเขามากลับตัวก็ไม่ทันแล้ววว
ฟานทำถูกแล้ว โดยส่วนตัวเรายึดถือคำว่าความซื่อสัตย์ที่สุด เจอแบบนี้บอกตรงๆ เชียร์ให้หาฟานใหม่ให้แฟนมานานล่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-11-2016 23:29:35 โดย arij-iris »

ออฟไลน์ me12inzy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
เสนอตัวเป็นเมียน้องฟานค่ะ จน พร้อมให้น้องฟานเปย์เต็มที่  :hao6:

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
ตอนนี้คือแบบได้ใจสุดๆ ฟานคนจริงยิ่งกว่าอะไรใดๆ  งานนี้ก็รอดูผลกรรมของคีย์อะน่ะ

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
รำคาญนิสัยนายเอก สมควรมาก ๆ

ออฟไลน์ Yukisho

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่คิดที่จะสงสารนางนะ หึหึ แต่ประโยคสุดท้าย ฟานเอาใจไปเต็ม ๆ เลย  o13
 
ขอบคุณคนเขียนค้าบบบบที่ทำให้เราอินได้ขนาดนี้ รออินตอนต่อไป  :katai3:  :3123:  :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ LovEYouOnLy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 439
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
เรื่องนี้เป็นเรื่อง ฟานคีย์ จริงๆดิ แต่มีสิ่งหนึ่งที่อยากรู้มากที่สุดคือจบแบบต่างคนต่างมีชีวิตเป็นของตัวเอง ส่วนอดีตก็เป็นเรื่องที่สอนการใช้ชีวิต แบบนั้นหรือป่าว ถ้าใช่บอกเลยว่าคงอ่านไม่จบแน่ๆ เพราะว่าไม่อยากอ่านเรื่องที่มันไม่สมหวังสักเท่าไร ก็แค่อยากให้มันเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เราสมหวังได้แค่นั้นพอ(เอาความรู้สึกจริงๆมาใส่ในนิยาย) คงบ้าแน่ๆเรา  :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ alien.aiiwz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เลิกกันได้สักทีก็ดี
คนนึงก็ทุ่มสุดๆ อีกคนก็กลัวนั่นนี่
มีเหตุผลร้อยพันมาแย้งได้ตลอด
คนพยายามมาตลอดมันก็เหนื่อย จนสุดท้ายมันก็ต้องหยุดอ่ะเนอะ
 :เฮ้อ: :เฮ้อ:
 :pig4:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ฟานไม่เห็นต้องทำถึงขนาดนั้นเลยอะ ที่จริงแค่เดินจากไปสวยๆก้อพอแล้วอะ 555
ตัวเสนียดจัญไรเนี่ยยิ่งหายใจร่วมด้วยก็ตกต่ำแล้วอะ

ออฟไลน์ moobarpalang

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +185/-6
ลำคาญคีย์ แค่ลาออกจะอ้างเหี้ยไรนักหนา
อ้างนู้นอ้างนี้ก็เลิกกันไป ไปเป็นเมีนร้อยหัวหน้าไปจบ
ไม่ต้องแต่งต่อ มีผัวใหม่ดีสุด จบปิ้ง

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
สมใจกันแล้วใช่ไหม หัวหน้า

สงสารฟาน

คีย์ต้องผ่านมันไปให้ได้นะ ด้วยตัวคีย์เอง

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
ถึงตอนนี้ได้เห็นแล้วพูดได้เลยว่าสิ่งที่คาดหวัง(ความเป็นผู้ใหญ่)ในตัวฟานนั้นสูงไป และความรักทำให้คนตาบอดมันใช้ได้จริงๆเพราะว่ารักเขามากมาย มากมายเกินไปจริงๆ //คาดหวังว่าจะให้รับรู้ความรู้สึกที่เปลี่ยนไปตอนเขาหวั่นไหวได้บ้างไม่มากก็น้อย เขาเองก็แสดงออกมามาก แต่ก็ไม่เลย มามั่นใจว่าเขามีคนใหม่ก็ตอนที่เขาพูด ถ้าไม่พูดก็ไม่รู้จริงๆสินะ อาาาา!! (ก็มึงเป็นคนอ่านมึงก็รู้ดิว่าคีย์มันนอกใจจะให้ฟานรู้ได้ไง : ไม่เห็นด้วยเลยอ่าาข้อนี้เพราะมันควรจะดูออกจริงๆ ยิ่งคนรักมากแบบนี้ยิ่งจับสิ่งที่เปลี่ยนไปได้ง่ายในช่วงแรกที่หวั่นไหว ความรู้สึกอึดอัดความกลัวใจตัวเองเผลอ จนต้องย้ำให้ตัวเองรู้ว่าเป็นของใคร แล้วไหนความที่จะหลบเลี่ยงพูดกับเรา อาการมันไม่เก็บได้ขนาดนั้นสายตาท่าทาง มันควรจะดูออกบ้างประกอบกับเคยเห็นกับตาแล้วยังมีข่าวมาอีก ควรจะทบทวนคิดมาบ้างก่อนแล้ว พอรู้ความจริงจะไม่ได้สติแตกมากแบบนี้ มันไม่ใช่ต้องมาร้องไห้อีกเพราะร้องไปแล้ว ร้องไห้ซ้ำๆ มันควรต้องยิ้มเยาะตัวเอง จริงด้วยสินะ! อ่าาาเป็นแบบนี้นี่เอง!!เพราะงี้ใช่ไหม! หึ!สุดท้ายก็พูดออกมา! )

แล้วการที่เอาแต่พูดว่าเขาจะเอาเขาจะฟันถ้าไปเสร็จเขาแน่ๆ อยากเป็นเมียน้อยนักหรือไงพูดย้ำๆซ้ำๆ ยกเป็นเหตุผลรั้งเขาไว้ไม่ให้ไป มันเป็นอะไรที่แบบ เฮ้ย!!ถ้าเขาไม่ทำละ เสียงานเลยนะ ให้ลาออกจะเลี้ยงเอง มันใช่ทางออกแล้วจริงๆหรอ ละก็นะถึงแม้ห้ามยังไงถ้ายังหวั่นไหวไปอยู่ที่ไหนกับใคร ใจก็อยู่กับเขา โอเคตอนนี้คีย์ไม่มีหวั่นไหวแล้วจริงๆ บอกจะไม่พลาดแน่นอน ก็สายไปแล้ว แต่ก็ดีพอโกรธโมโหมาก ทำให้เขาสารภาพพูดยอมรับออกมาสักที ถือว่าโอเค แต่ก็ไม่ควรจะรั้งเพราะกลัวเขาจะเสร็จ กลัวทำไม ถ้าเขาไม่ไปคือจะให้อภัยไม่คิดไรกับสิ่งที่ผ่านมาเลยใช่ไหม แน่นอนก็พีคสุดตอนที่บอกว่า **เรื่องที่มึงหวั่นไหวกับเค้า กูจะถือว่ามันผ่านไปแล้วก็ได้ แต่เรื่องนี้ขอก็แล้วกัน อย่าไปงานสัมมนานั่น** เฮ้ยยยยยยยยยแบบ คือให้มันผ่านไปแล้วได้ยังไงกัน ประเด็นตรงนี้มันสำคัญกว่าที่เขาจะไปสัมมนาอีกนะ ตรูว่า!!!! ก็เลยแบบงุนงง แดกจุดไปหลายนาทีเลยกู 555555555 เหตุผลที่สมควรเอามาเลิกกันห่างกันสักพักจริงๆคือมันต้องข้อนี้ดิ **การหวั่นไหว การนอกใจ** ไม่ใช่หรอหว่ะ????? เพราะงั้นเขาจะอยู่จะไปมันมีความหมายไร ให้เขาไปดิไม่เสียงานด้วย แต่แกมาคิดว่าถ้าจะไปเสร็จแน่ๆสำคัญกว่าการนอกใจ ก็ เอิ่มมม............. แดกจุดจ๊ะ 55555

สุดท้ายระเบิดอารมณ์เต็มๆ พูดเหมือนไม่เคยรักมากมายมาก่อน ก็สะใจดีอะนะ ยับยั้งอารมณ์ไม่ได้เลย แต่ก็ อืมมมม เอาเถอะ กลับไปตั้งสติคิดทบทวนก่อนเหอะว่ะ และที่ให้ของแถมไปด้วย เขาไม่มีอารมณ์จะทำแล้วละ เป็นขนาดนี้ สัมมนาไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำ ไม่รู้จะเข้าทางหัวหน้าพอดีหรือป่าวนะ เสียใจมา กำลังอ่อนแอ ปลอบใจไปหน่อย ประกอบกับย้ำดีนักใช่ไหมว่าเขาจะเอาจะฟัน ยุให้เป็นเมียน้อยกันมากนักใช่ไหม คิดไ้ดัดังนั้นมาถึงขั้นนี้ก็เอาให้แม่งรู้ไปเลย แต่อารมณ์ตอนเอาคงไม่มีหวั่นไหวเคลิ้มหลงแน่นอน เอาเพราะโดนตอกย้ำ เอาเพราะจิตอ่อนแอ ไม่รู้จะเสร็จหรือป่าวนะ หรือจะยับยั้งได้ ก็รอดูคิคิ!!

**แล้วถ้ามึงเป็นฟานละ จะทำยังไงไหนว่ามาดิ? (คาดหวังว่าฟานจะเป็นแบบนี้) >> ในกรณีที่ไม่เอะใจไรมาก่อนแบบฟานนี้เลยนะ โอเค ช็อค ร้องไห้ได้เหมือนกัน จากนั้นตั้งสติ สูดลมหายใจเต็มปอด 3 เฮือก แล้วบอก "โอเค งั้นไปสัมมนานะ กลับมาแล้วค่อยคุยกัน จะไม่ไปไหน จะรออยู่ตรงนี้ อย่ากังวล จะรอ" พอเขาไปปุปกลับมานั่งโซฟาคิดทบทวนสิ่งที่ผ่านมา เขาเป็นไงบ้าง กูพลาดไปตรงไหนถึงไม่เคยรู้เลย พอคิดได้ตั้งสติแล้ว ควรทำไรต่อไปก็ทำซะ จากนั้นพอวันเขากลับมา ก็ทำอาหารมื้อพิเศษสุดๆรอ ถ้าเขาระแวงก็แค่บอกว่าเห็นว่าเหนื่อยก็อยากทำให้ทาน จะพูดไรก็ให้เขาได้กินก่อน เดี๋ยวเขากินไม่ลง หึหึ!! เสร็จ จากนั้นก็ "เราเลิกกันเถอะ" ถ้าเขาถามว่าทำไมไหนบอกจะอยู่ข้างกันละ บอกไปดิ นี้ไงอยู่แล้ว แต่ตอนนี้หมดเวลา สมใจเขาแล้วหนิอย่างที่เขาบอก เผื่อวันหนึ่งนายเลิกกับฉัน ฉันจะได้ไม่เสียงาน ยังมีงานทำอยู่ (ทั้งๆที่กูรักมึงมากมึงยังคิดเผื่อไปซะ ทำให้สมใจแม่งเลย) นี้ไง เลิกแล้วเขาก็ไม่เสียงาน ในขณะที่เขาน้ำตานองหน้าถ้าเขาสังเกตุดูดีๆก็จะเห็นว่าของบางส่วนได้หายไปจากห้อง หึหึหึ!!!!

อีกกรณีถ้าพอจะรู้เค้ารางมาก่อนแล้ว ก็จะไม่ร้องไห้เพราะทำใจมาบ้างแล้ว พอรู้ความจริงจากปากก็คงจะยิ้มเยาะสมเพชตัวเองอ่ะ ว่าแล้วเชียว หึ!ยกยิ้มมุมปาก! พอกันที ตีหน้าซื่อบอกเขาให้ไปสัมมนา รอกลับมาบอกเลิก

ถ้าจะเม้นยาวขนาดนี้แต่งเองเหอะ ป่าวแต่งไม่ได้ไปไม่เป็น 55555 อยากจะบอกไรท์เก่งมาก อินนนนกับบท มันก็ดีนะ หลังอ่านจบเราก็คาดหวังว่าจะเป็นยังงี้ยังงั้นแบบนั้นหรือป่าวสมมติเราเป็นคนนั้น ในตอนต่อๆไป จะเป็นอย่างที่เราคิดม่ะ ยังไง ลุ้นดี เอาอีกค่ะเอาอีก สนุกมากๆ

ออฟไลน์ Peterpanmama

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
มันเหี้ยยยยยยมากกกกกก.   นังคีย์นังคนเห็นแก่ตัวมัน.พอฟานไม่เอาแล้วมันจะเป็นจะตายไม่ใช่เพราะมันรักฟานหรอก แต่มันกลัวไง กลัวว่าสิ่งที่ฟานทำให้ทุกอย่างจะหายไป กับหัวหน้ามันก็แค่ความอยาถ้าจะคบกันจริงๆก็คงไปกันไม่รอด สงสารฟาน สวนหัวหน้าไม่โทษเธอนะ ตบมือข้างเดียวมันไม่ดัง ส่วนนังคีย์มันเหี้ยยยมากกกกกก

ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
อินเนอร์เเรงจริงเรื่องนี้
แต่เห็นด้วยกับฟานนะ

สรุป คือ มึงรักกูมั้ย มึงเลือกงาน? ไม่ได้เลือกกู
กูบอกกูจะเลี้ยง  ถ้ามึงไม่ชอบก้อไม่หางานใหม่ไง
ไม่โดนด่าว่าเป็นเมียน้อยด้วย

จริงๆแล้วลึกในใจมึงก็อยากไปกับบักหัวหน้านั่นแหละคีย์
ตามใจจ๊ะ
ทีมฟาน

ออฟไลน์ BChampa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ตอนนี้ผิดหวังกับฟาน พูดเลย ที่จริงในโลกนี้มีคนยอมให้อภัยเยอะแยะก็จริงแต่กรณีนี้มันไม่น่าให้อภัยแล้ว ถ้าเป็นตอนก่อนเรื่องจะแดงฉาวโฉ่ขึ้นมาฟานจะรั้ง จะรัก ไม่ว่าเลย แต่อันนี้มันยับเยินป่นปี้ทั้งที่ทำตัวเองแล้วกลับมาหามึงเหมือนมึงเป็นของตาย ยิ่งรั้ง ยิ่งบอกรัก ยิ่งอ้อนวอนมันยิ่งตอกย้ำว่าฟานจะไม่ไปไหนแน่นอน ทีนี้ก็เข้าทาง คนรักฉันยังอยู่
ฉันรักนาย ฉันเป็นของนายคนเดียว ฉันไม่หวั่นไหว...แต่ฉันไม่อยากออกจากงาน ฉันไม่อยากเปลี่ยนอะไรเลย นี่ก็แสดงชัดแล้วว่าคีย์เลือกตัวเอง ไม่ได้เลือกฟาน ถ้าคีย์คิดจะกลับต้องกลับตั้งแต่ทีแรกแล้ว คิดจะปฏิเสธต้องปฏิเสธตั้งแต่ทีแรกแล้ว ไม่ใช่รอให้เรื่องมันอื้อฉาวขึ้นมา ฟานจ๊ะ"ผัวไม่ใช่พ่อแม่ที่บ้าน ไม่ต้องรอมันก็ได้ถ้ามันไม่คิดจะกลับมา"

แล้วอีกอย่างนะ เป็นทางเลือกให้ ชีวิตคู่แบบนี้เห็นมานักต่อนักแล้วถึงตอนนี้จะไปกันรอด แต่เมื่อความเชื่อใจมันหายไป ยังไงก็ไปไม่รอด อยากย้อนถามว่าฟานไม่มีสิทธิเจอคนดีกว่านี้แล้วเหรอ พระเอกเรื่องอื่นโชคดีที่เลิกคนรักเก่าที่อาจจะเป็นเหมือนคีย์ไปแล้วไปเจอนายเอกที่รักด้วยสติและสมองกว่าเดิม แต่ฟานจะไม่มีโอกาสนั้นแล้วเหรอ
คีย์อาจจะเลิกแล้วทบทวนตัวเองว่ารักที่ผ่านมาตัวเองทำลายอะไรไปบ้าง นิสัยยังไง ความผิดพลาดข้อไหนที่ทำให้เสียรักครั้งนี้ไป แล้วพอไปเจอคนใหม่ก็คิดให้มากกว่านี้ ทำตัวเองให้ดีกว่าเดิม แบบเนี้ย
ให้รักครั้งนี้เป็นบทเรียนซะแล้วเริ่มต้นใหม่ต่างคนอาจจะเจอรักที่เป็นผู้ใหญ่ขึ้น มีสติคิดมากขึ้น เลิกเหอะพูดจริง

ตอนนี้อ่านดูยังไงคนเขียนก็เขียนให้คีย์ชนะแน่ๆ สุดท้ายฟานกลับไปแน่ๆ มันจะเป็นอะไรที่เฟลในความรู้สึกมาก นิสัยนึงของคีย์ที่ไม่ชอบคือ คนพูดอะไรเถียงตลอด พูดความจริงก็เถียง สวนมาสี่ห้าบรรทัด มีเหตุผลยาวเป็นกิโล แต่พอให้พูดความจริงกลับมีเพียงนิดเดียว
ก็ไม่รู้ว่าคนเขียนแต่งจบรึยังหรือรอฟีดแบ็คแล้วค่ะแต่งบทต่อไป ไหลตามน้ำมากไปก็ไม่ดีตอนก่อนแฉนี่เห็นชัดๆว่าลิปด่าตามน้ำ ถ้าตอนนี้แต่งจบแล้วมันจะไม่ไขว้เขวง่ายๆ เราก็อยากรอดูเหตุผลที่ฟานจะกลับมาหรือไม่กลับมา อยากรู้บทสรุปในแบบของคุณ

คือความจริงเราก็ไม่ชอบการไหลตามน้ำนะ แต่ถ้าไหลตามน้ำให้ตอนจบเลิกกันอย่างที่เราและคนอื่นว่ามันก็ดี
 

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด