เข็มนาฬิกาบอกเวลาเลิกงานผมลุกออกจากโต๊ะ ปิดคอมพิวเตอร์ ก่อนจะหันไปลาลิปแล้วขอตัวออกมาก่อน วันนี้หัวหน้าไม่มาทำงานเหตุเพราะเรื่องงานสัมมนาเลยทำให้เค้าต้องถูกพักงานไปก่อนจนกว่าจะรู้ความจริงทั้งหมดของเรื่องที่เกิดขึ้น และเพราะเป็นแบบนั้น เรื่องที่ทุกคนคิดว่าเป็นข่าวลือก็ไม่ใช่ข่าวลืออีกต่อไป แต่ผมก็ไม่มีเวลามาสนใจเรื่องแบบนั้นแล้ว ต่อให้ใครจะนินทาก็นินทาไป เราไปอธิบายให้ทุกคนฟังแล้วเข้าใจเราทั้งหมดไม่ได้หรอก เพราะงั้นก็เลือกไว้เฉพาะแค่คนสำคัญก็พอ
เรียกแท็กซี่ที่หน้าบริษัทให้ไปส่งตามจุดหมายปลายทางที่ค่อนข้างไกลจากตัวเมือง แท็กซี่คันแล้วคันเล่าปฎิเสธที่จะไปจนกระทั้งมีคนตอบตกลงว่าจะไปส่ง ผมนั่งเงียบๆไปตลอดทางจนถึงหน้ามหาลัยที่คุ้นตา ผมให้เค้าจอดก่อนจะเดินเข้าไปในซอยหอพักเอง เพราะจำไม่ได้แล้วว่าเค้าอยู่ที่ไหน แต่คิดว่าถ้าเดินช้าๆ ค่อยๆหา ก็คงต้องเจอแน่ๆ เพราะมันเป็นภาพที่อยู่ในความทรงจำแต่ระบุออกมาเป็นสถานที่ไม่ได้
นักศึกษามากหน้าหลายตาเดินผ่านสวนทางกับผม ในซอยที่คึกคื้นอยู่ตลอดเวลามีทั้งร้านเหล้าแล้วก็ร้านอาหารตลอดทาง หอพักมากมายที่ผมเดินผ่านพยายามตั้งใจมองมันก่อนจะเจอเข้ากับหอพักสูงที่คุ้นตาที่สุด จำได้ว่าที่นี่แหละที่เคยมาพักหนนั้น ผมเดินเข้าไปในตัวตึก
“ ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่า มาหาใครครับ " เสียงทักของยามที่เอ่ยถาม อาจเพราะท่าทางไม่คุ้นชิน หน้าตาก็ไม่คุ้นก็เลยถามไถ่กัน
“ เอ่อ ผมมาหาน้องชายที่อยู่หอพักนี้นะครับ " ผมบอกเค้า
“ แล้วน้องชายพักอยู่ห้องไหนครับ " คำถามที่ทำให้ผมเงียบ ก็เพราะไม่รู้คำตอบที่จะตอบอีกคนเลยได้แต่เงียบ
“ เอ่อ.. ผมไม่ทราบครับ พอดีไม่ได้มาหาบ่อยๆ แต่ว่าเค้าชื่อ ฟานครับ "
“ อ๋ออ น้องฟาน คงต้องนั่งรอนะครับ เพราะว่าทางหอพักพึ่งออกกฏใหม่ ห้ามให้คนนอกเข้าถ้าจะเข้าต้องให้เจ้าของห้องเป็นคนพาขึ้นไปครับ " ผมผ่อนลมหายใจออกมาอย่างหมดหวัง เพิ่งรู้สึกว่าตัวผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวฟานด้วยซ้ำ ไม่รู้ด้วยว่าวันนี้ เจ้าตัวมีเรียนรึเปล่า ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้เปิดเทอมรึยัง ไม่รู้ว่าตอนนี้เค้าอยู่ที่ไหน ถ้าอยู่บนหอคงจบ เพราะมือถือก็ติดต่ออีกคนไม่ได้
“ คุณคีย์..” เสียงไม่คุ้นเรียกชื่อผม ตอนที่หันไปมองก็พบเด็กผู้ชายที่คลับคล้ายคลับคลาว่าจะเป็นเพื่อนในกลุ่มของเค้า จำได้ว่าเป็นคนคนเดียวกันแน่ๆที่วันนั้นฟานแนะนำให้รู้จัก รู้สึกว่าจะชื่อ.. ทาม
“ เอ่อ..คือฉันมาหาฟานนะ แต่ฉันติดต่อเค้าไม่ได้เลย นายรู้มั้ยว่าเค้าอยู่ไหน " ท่าทางที่เหมือนไม่ค่อยอยากจะช่วยของเค้าก็คงพอเดาออกว่า อีกฝ่ายคงรู้เรื่องอะไรของเรามาบ้าง
“ ผม.. “
" ขอร้องละ ฉันติดต่อเค้าไม่ได้เลย แต่ฉันอยากจะคุยกับเค้า ฉันอยากจะอธิบายหลายๆเรื่องที่เราเข้าใจผิดกัน ได้โปรดเถอะนะ ถ้านายรู้ว่าเค้าอยู่ที่ไหน ช่วยพาฉันไปหน่อย "
“ มันอยู่บนหอครับ วันนี้ไม่มีเรียน " เค้าตอบเสียงสั้นๆ ผมก็เหลือบไปมองยามที่มองเราอยู่ " คุณคงขึ้นไปไม่ได้สินะ "
“ นายพาฉันขึ้นไปได้มั้ย "
“ แล้วถ้ามันเกิดอะไรขึ้นกับคุณละ " ผมสะกิดใจกับคำพูดเตือนของเค้า แต่ในวินาทีนั้นตัวเองก็ส่ายหน้าไปมาด้วยความมั่นใจ
“ ไม่เป็นไรหรอก ฉันอยากจะเจอเค้าจริงๆ ช่วยหน่อยเถอะนะ "
“ งั้นก็ได้ " เค้าเดินนำผมไปขึ้นลิฟต์ยามที่ห้ามก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เราเดินไปขึ้นลิฟต์ด้วยกันเงียบๆตอนที่มาถึงชั้นที่หมายเค้าเดินนำผมไปที่ห้อง เงยหน้ามองเลขหน้าห้อง ' 513 ' “ ห้องนี้แหละครับ " ทามมือที่เอื้อมไปเคาะประตูสักพักเจ้าห้องก็เปิดประตูออกมา หัวใจของผมเต้นแรงดีใจตอนที่ได้เห็นหน้าเค้าจนตัวผมเผลอยิ้มออกมา " มีคนมาหามึงอะ " พอเพื่อนเชิดหน้ามาทางผมเค้าก็นิ่ง
“ ฟาน "
“ กลับไปซะ " เค้าพูดเสียงนิ่งๆก่อนจะปิดประตูกลับ แต่ผมก็ดึงตัวเองไปขวางประตูที่กำลังปิดลงอีกครั้ง
“ เดี๋ยวสิ! เรายังไม่ได้คุยกันเลยนะ ฟาน คุณกับฉันก่อนสิ "
“ กูไม่มีอะไรจะคุยกับมึง กลับไปซะ แล้วอย่ามายุ่งกับกูอีก "
“ ไอ้ฟาน พูดกับเค้าดีๆสิว่ะ คนเค้าอุตส่าห์มาง้อ "
“ แล้วมึงเสือกเหี้ยไรด้วย ถึงต้องไปพามันมา ต้องไปช่วยเหลือมัน " เค้าหันไปด่าเพื่อนตัวเองที่ถอนหายใจออกมา " ทีหลังมึงไม่ต้องเสือกเลยนะไอ้ทาม "
“ เออๆ กูรู้ว่าไม่ควรเสือกเรื่องของมึงแต่เข้าไปคุยกันข้างในไม่ดีหว่าเหรอวะ คุยกันตรงนี้ เดี๋ยวก็มีใครมาเห็น มันน่าเกลียด "
“ ช่างหัวมันสิ ก็มันอยากมาหากูเอง กูไม่ได้บอกให้มันมาสักหน่อย ไปแล้วมึงก็ไปเลยสิวะ กลับมาทำไม " เค้าบอกก่อนจะหันมามองหน้าผม แววตาโกรธที่กำลังหงุดหงิดและเสียใจในแววตาที่กำลังสั่นไหวนั้น " ทำไม เค้าไม่เอามึงเหรอหรือยังไง หรือเค้าเอาเสร็จแล้ว หายเงี่ยนจากไอ้เหี้ยนั่นแล้วมึงถึงกลับมา กลับมาเพื่ออะไร จะให้กูเอาต่องี้เหรอ "
เพี๊ยะ! ผมฟาดแรงมือลงไปบนหน้าอีกคนที่หันไปตามแรงฟาด เสียงผ่อนลมหายใจของเค้าซัดสายตามองผมด้วยความโกรธที่พุ่งมากขึ้น ส่วนผมเองที่มองเค้าทั้งน้ำตาราวกับว่าคนตรงหน้าเป็นคนที่ผมไม่เคยรู้จักมาก่อน เหมือนไม่ใช่คนที่เคยรักกันถึงได้ดูถูกกันออกมาอย่างงั้น " ฉันมาที่นี่ เพื่อที่จะมาง้อนาย มาอธิบายว่ามันเกิดอะไรขึ้น ฉันไม่ได้ทำเรื่องอย่างว่ากับเค้าสักหน่อย! ฉันโดนทำร้ายมาด้วยซ้ำ แล้วนายก็ยังจะมาพูดแบบนี้กับฉันอีก ทั้งๆที่ฉันมาง้อนายแท้ๆ "
“ แล้วใครขอร้องให้มึงมา กูเหรอ ? ก็เปล่า มึงมาเองถูกมั้ย แล้วมึงจะมาเรียกร้องอะไร เสียใจที่กูพูดแรงๆเหรอ " เค้าถาม " หรือว่าเจ็บที่กูพูดความจริง "
“ ไม่ใช่!!! ฉันแค่อยากจะให้นายฟัง ฟังฉันสักหน่อยไม่ได้รึไง !! "
“ เอ่อ..กูว่าเข้าไปข้างเถอะ มันเริ่มเสียงดังขึ้นมาเรื่อยๆแล้ววะ " คำเตือนที่ทำให้เรามองไปรอบๆตัว ผู้คนที่เดินกันขึ้นหอพักมาต่างหันมามองเราที่กำลังเถียงกัน มือหนาดึงมือผมให้เดินเข้ามาในห้องของเค้า ประตูที่ปิดลงเสียงดังจนผมสะดุ้ง
“ เผื่อจะจำไม่ได้ กูบอกมึงไปแล้วใช่มั้ย ว่าถ้าไปแล้ว อย่ากลับมา กลับไปซะแล้วอย่ามาให้กูเห็นหน้าอีก "
“ ฟาน " ผมที่พยายามใจเย็น สูดลมหายใจเข้าปอดก่อนจะเอื้อมมือไปจับมืออีกคนไว้แน่นคนที่กำลังโกรธและเสียใจ คนที่ตอนนี้เหมือนไม่ได้ฟังอะไรทั้งนั้น คนที่คิดแต่จะไม่ฟัง คนที่กำลังผลักผมออกไป " ฟังฉันหน่อยได้มั้ย ฉันแค่อยากจะอธิบายว่าเรื่องราวของฉันกับเค้ามันไม่มีอะไร ฉันอธิบายนายไปหมดแล้ว และทุกอย่างก็คือเรื่องจริง ฉันยอมรับว่าเคยหวั่นไหวไปกับเค้าแต่ฉันเลิกรู้สึกไปนานแล้วเพราะว่านาย ฉันไม่อยากจะเสียนายไป ฉันเลยตัดใจจากความรู้สึกพวกนั้นไป นายเองก็รู้ดี ว่าฉันเลิกแล้ว เลิกก่อนที่ฉันจะไปงานสัมมนานั่นด้วยซ้ำไป " ฟานเงียบเค้าที่ถอนหายใจออกราวกับเบื่อหน่ายที่ต้องฟัง
" ฉันรู้ ฉันผิดไปแล้วฉันยอมรับว่าฉันเคยพลาดแต่ตอนนี้ฉันมีแต่นายคนเดียวนะ ฉันไปสัมมนากับเค้าก็จริงแต่เรานอนคนละห้องกันนะ แทบจะไม่ได้ใกล้กันเลยสักนิดเดียว นายจะไปถามใครก็ได้ที่ไปสัมมนาร่วมกันกับฉัน ฉันแทบไม่ได้ยุ่งอะไรกับเค้าเลย ฉันพยายามติดต่อนายมาตลอดสองวัน พยายามทำให้นายรู้ว่า ฉันไมไ่ด้ยุ่งอะไรกับเค้าแล้วจริงๆ แต่ฉันติดต่อนายไม่ได้เลย ฉันแค่อยากจะอธิบาย มันไม่ได้มีอะไรอย่างที่นายคิด ไม่ได้มีเลย ฉันไม่ได้รู้สึกอะไรกับเค้าแล้ว ไม่ได้รู้สึก "
“ จะพูดแค่นี้ใช่มั้ย "
“ ฟาน "
“ ถ้าพูดเสร็จแล้ว ก็กลับไปได้แล้ว " เค้าเชิดหน้าไปทางประตูผมก็ผ่อนลมหายใจออกมา " อะไร ? มึงจะเอาอะไรอีก อยากจะให้กูฟัง กูก็ฟังแล้วไง ยังจะเอาอะไรอีก "
“ ฉัน..”
“ กลับไปซะเถอะ เรากลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้หรอก "
“ ฟานแต่ฉัน อยากให้เรากลับไปเป็นเหมือนเดิม " สารภาพความรู้สึกของตัวเองออกไปต่อเค้าตรงๆ มือของผมที่กำมือของเค้าแน่นขึ้น " ฉันขอโทษ ฉันรู้ว่าสิ่งที่ฉันทำมันไม่น่าให้อภัย แล้วฉันก็รู้ว่าการที่พูดว่าขอโทษหรืออธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นมันไม่ได้ช่วยให้ทุกอย่างกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้ แต่ฉันก็หวังว่ามันจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม ฉันสัญญาว่าทุกอย่างมันจะดีกว่าเดิม ฉันจะไม่ทำเรื่องแบบนั้นอีก ถ้านายอยากจะให้ฉันทำอะไรฉันก็จะทำ ฟาน เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมเถอะนะ อย่าโกรธกันเลย นายคือคนสำคัญของฉัน ตลอดเวลาที่นายไม่อยู่ ฉันรู้แล้ว รู้แล้วว่านายสำคัญ ฟาน "
“ มึงไม่คิดว่าคำพูดพวกนั้น มันสายไปแล้วเหรอ " เค้าถาม " ขอโทษนะครับ แต่ผมตายไปแล้วละ ไอ้ฟานคนที่โง่ๆคนนั้นน่ะ มันตายไปแล้ว ตายไปตั้งแต่วันที่มึงดึงดันจะไปเป็นเมียน้อยไอ้เหี้ยนั่นไง " เค้าดึงมือที่ผมกำลังจับอยู่นั่นออกก่อนจะผลักผมไปชนประตูเสียเต็มแรง แววตาที่กำลังสั่นของเค้าไม่ต่างอะไรไปจากผมที่กำลังร้องไห้ออกมาอย่างหนัก " กลับไปซะ แล้วอย่ากลับมาที่ีนี่อีก ให้คิดซะว่ากูตายไปแล้ว กูตายไปจากมึงแล้ว "
“ ฉันคิดแบบนั้นไม่ได้หรอก จะให้คิดแบบนั้นได้ยังไง ในเมื่อนายยังยืนอยู่ตรงนี้ จะให้ฉันคิดว่านายตายไปแล้วได้ยังไง ก็นายยืนอยู่ตรงหน้าฉัน สิ่งที่ฉันทำได้ตอนนี้คือพยายามพูดทุกอย่างเพื่อให้นายเข้าใจฉัน ฉันผิดไปแล้ว ผิดไปแล้วจริงๆ แต่ฉันก็มีเหตุผลของฉัน ฉันไม่อยากออกจากงาน ไม่ใช่ว่ากลัวว่าฟานจะทิ้งไป แต่ทุกอย่างมันเกิดขึ้นได้ไม่ใช่เหรอ นายโกรธฉัน ที่ฉันไม่รับข้อเสนอของนาย วันนี้นายพูดว่านายรัก นายจะไม่ทิ้งไป นายสาบาน แต่ถ้าถึงวันนึงที่นายไม่ได้รักแล้วละ ทุกอย่างมันจะเป็นยังไง "
“ นี่ฟังนะ! " เค้าเอื้อมสองมือมาจับไหล่ผม " ถ้ามึงยังพอจำวันนั้นได้ กูขอร้อง กูอ้อนวอน กูบอกมึงว่า อย่าไปได้มั้ย อยู่กับกู อย่าไปเลยถ้าไปมึงก็คงไม่รอด กูหวง หูห่วง มึงเป็นของของกู กูทำทุกอย่าง กูรั้งมึงไว้ กูให้มึงทุกๆอย่าง แต่มึงก็ยังดึงดันที่จะไปกับมัน ไปกับไอ้เหี้ยนั่นที่หวังจะเอามึงทำเมีย มึงเองก็รู้อยู่แล้วว่ามันจะเอามึงทำเมียแต่มึงก็ไป กูที่ร้องไห้ยังไงมึงไม่สน ขอร้องยังไงมึงไม่สน แล้ววันนี้ มึงกลับมา กลับมาบอกกับกูว่า ให้กูฟังมึง ให้กูเข้าใจมึง กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้มั้ย มันไม่ง่ายไปหน่อยเหรอวะ กูที่เสียใจไปแล้วมันคืนเหี้ยอะไรกลับมาไม่ได้แล้ว กูตายไปแล้ว ไอ้เหี้ยฟานที่เคยรักมึงมากๆคนนั้นมันตายไปแล้วเข้าใจมั้ย มันตายไปแล้วมันตายไปแล้วเว้ย กูตายจากมึงไปแล้ว " แรงบีบที่เขย่าไหล่ของผมไปมาตามแรงประโยคที่ตะโกนกลับมาใส่หน้าเค้าที่ร้องไห้ออกมา ก่อนจะผลักผมให้ชนประตูอีกครั้งก่อนที่เค้าจะถอนหายใจออกมา " กลับไปซะเถอะ อย่ามาเพื่ออธิบายอะไรอีกเลย มึงเปลี่ยนความเสียใจของกูไม่ได้หรอก กูเสียใจไปแล้ว อย่ากลับมาย้ำกูให้กูต้องรู้สึกอีกเลย "
“ ฟาน " น้ำตาของผมไหลออกมา หลับตาแน่นก่อนจะเอื้อมมือไปจับมือเค้าไว้อย่างไม่ยอมแพ้ เพราะเค้าเป็นคนสำคัญไม่ว่ายังไงก็อยากจะอธิบายกันให้รู้เรื่อง “ วันนั้นที่ฉันเลือกงาน นายรู้มั้ยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับฉัน ฉันเกือบโดนหัวหน้าข่มขืนแต่มีคนช่วยไว้ทัน " เค้าเงียบไปสักพักตอนที่ได้ฟังก่อนจะถอนหายใจออกมา
“ น่าเสียดายนะ ที่มีคนช่วยไว้ทัน ไม่งั้นคงสมใจมึงแล้วละ ก็ที่มึงไป เพราะอยากจะให้เค้าทำแบบนั้นอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ "
“ ฟาน!! นายไม่เข้าใจเลยรึไงวะ ก็บอกว่าไม่ได้อยากจะไป แล้วก็ไม่ได้อยากจะเป็นเมียน้อยใครด้วย เข้าใจกันบ้างสิวะ เข้าใจฉันบ้างว่ะ ว่าต้องไปเพราะอะไร บอกอยู่ว่าไม่ได้อยากไป ไม่ได้อยากไป ก็พูดว่าฉันอยากจะไปอยู่นั่นแหละ ทั้งๆที่นายเองก็รู้ว่าฉันไม่ได้อยากไป ก็บอกอยู่ว่าไปเพราะงาน ต่อให้ลาออกวันนั้นก็ยังต้องไปเพราะอะไร เพราะว่างานน่ะ ไม่ได้บอกว่า ขอลาออกแล้วออกได้เลยวันนั้น ฉันต้องทำเรื่องลาออกอีกเป็นเดือนก่อนจะออกได้ไม่ใช่ว่าจะออกได้เลยตามใจเหมือนเด็กๆ " เงยหน้ามองเค้าทั้งน้ำตาอีกคนก็นิ่ง " ฉันที่โดนทำร้ายหวังแค่ว่าอยากจะนายกอดปลอบฉันสักนิด แล้วบอกฉันเหมือนทุกทีว่า ฉันจะไม่เป็นอะไร นายจะยังอยู่ข้างๆฉัน แต่นี่เหรอ คือสิ่งที่ฉันได้รับหลังจากที่บอกความจริงไป ฉันไม่ใช่คนรักของนายเหรอ หรือแม้แต่คนที่เคยรัก แค่สองวันมันเปลี่ยนได้ขนาดนี้เลยเหรอวะ ความรักของนายทั้งหมดที่ให้ฉัน นี่มันเพิ่งแค่สองวันเองนะ อึก ฮือๆ นายไม่รักฉันแล้วจริงๆนะเหรอ ไม่มีฉันในใจแล้วจริงๆนะเหรอ อึก ฟาน ฉันรักนายนะ ฉันรักนาย ได้โปรดเถอะ อย่าทำแบบนี้กับฉันเลย " ดึงตัวเองเข้าไปกอดอีกคนไว้แน่นผมที่เงยหน้ามองหน้าเค้าทั้งน้ำตาทั้งๆที่อีกฝ่ายก็ได้แต่นิ่งมองผมอย่างคนไม่รู้สึกอะไร " ฉันรักนายน่ะฟาน ฉันรักนายมาก ได้โปรดอย่าทำแบบนี้กับฉันเลยนะ อย่าทำกันแบบนี้เลย อย่าผลักฉันออกไปเลยนะ กลับมารักกันเถอะ กลับมารักฉันเถอะนะ ฉันรักนาย ฉันผิดไปแล้ว ฉันขอโทษ ฉันรักนายจริงๆ ฟาน "
“ มาพูดอะไรตอนนี้ คำว่ารักที่พูดออกมาตอนนี้ มันสายไปแล้วละ " เค้าบอกเสียงนิ่งๆ " มันไม่มีค่าอะไรแล้ว ผมไม่ได้อยากจะฟังมันอีกแล้ว "
“ ฟาน "
“ กลับไปเถอะ กลับไปอยู่ในทางที่คุณเลือก กับคนในแบบที่คุณชอบ ส่วนผม ผมก็จะใช้ชีวิตของผม "
“ แต่ฉันรักนายน่ะ ฉันรักนายจริงๆนะ "
“ รักของเรามันจบไปแล้ว ทุกอย่างที่คุณพูดออกมา มันไม่มีค่าอะไรแล้ว คำว่ารักมันไม่มีค่าอะไรแล้วครับ เพราะถ้ามีคำพูดอะไรสักคำที่อยากจะฟัง ก็คือคำที่มึงพูดว่า มึงจะไม่กลับมาให้กูเห็นหน้าอีก " ประตูที่เปิดออก เค้าดึงตัวผมให้ออกไปจากห้อง " กลับไปซะ แล้วอย่ากลับมาอีก เพราะต่อจากนี้ กูไม่ได้รักมึงอีกแล้ว "
ประตูที่ปิดลงเสียงดังผมทรุดลงตรงนั้นก่อนจะร้องไห้ออกอย่างหนัก เอื้อมคว้าลูกบิดประตูของห้องเค้า เขย่ามันไปมาเหมือนคนทำใจไม่ได้กับคำพูดนั้นที่ได้ยินจากปากของคนที่รัก ' กูไม่ได้รักมึงอีกแล้ว ' มือที่พยายามจะเปิดห้องนั้น หัวใจของผมมันกำลังร้องเรียก " ฟาน ฟังฉันก่อนสิ ฟานฟังฉันก่อน อย่าทำแบบสิ อย่าทำกับฉันแบบนี้ ฉันรักนายนะ ฟาน " มือของผมทุบประตูซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนคนห้องข้างๆออกมาดูแต่ผมก็ไม่สนใจ เพราะคนที่ผมสนใจคือคนในห้องนี้ คนที่ผมรักแต่ตอนนี้เค้ากลับไม่ได้รักผมแล้ว
.................................................................
ไม่อยากเขียนทอล์คเลย
เขียนไม่ค่อยออก
คนเรามันมีหลายด้าน รักแรงเกลียดแรง ทั้งรักทั้งเกลียด ก็มีให้เราเห็นๆกันอยู่
ฟานรักมาก แน่นอนว่าต้องเจ็บมาก แล้วฟานจะทำยังไงต่อไป แล้วพี่คีย์จะยังกลับมาง้อมั้ย
โปรดติตตามอ่านต่อไป
ขอบคุณสำหรับการติดตามเข้ามาอ่าน และ คอมเม้นท์นะคะ
ฝากแท็ก #ฟานคีย์ ด้วยนะคะ
ขอบคุณมากค่าา
