ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง{ตอนพิเศษที่ 2 UP - 10.2.60}หน้า 42 (จบเรื่อง+รวมเล่ม)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง{ตอนพิเศษที่ 2 UP - 10.2.60}หน้า 42 (จบเรื่อง+รวมเล่ม)  (อ่าน 323449 ครั้ง)

ออฟไลน์ reverofjs

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ไม่คิดว่าฟานจะเป็นได้ถึงขนาดนี้ เฮ้อออ  :m31:
คีย์ปล่อยไปก็ดีแล้ว หันกลับมารักตัวเองบ้างก็ดีนะ

ออฟไลน์ HanTwoH

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
ปล่อย เพื่อ ทางเดินของแต่ละคน ..

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
ว่าจะไม่เมนท์แล้วนะ

ฟานนี่เหมือนกับไทแฟนเก่าปิงเลย   คือทำเลวมาโคตรๆแต่ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองผิดเลยสักนิด  คนแบบนี้ต่อให้พ้นจากคีย์ไปก็ไม่น่ามีความสุขหรอกจนกว่าจะเข้าใจในสิ่งที่ตัวเองทำ  เหมือนกับไทจากเรื่องนั้นเมือนกัน   ไม่ผิดที่จะโกรธคีย์แต่สมควรไหมที่จะทำร้ายคนอื่นแบบนี้?  ตามกฏหมายแล้วนี่คือผิด ตามศีลธรรมแล้วนี่ก็คือบาป   ปัญหาของฟานคือฟานเอาความหวังที่ไม่ได้จากครอบครัวมากลงที่คีย์หมด  เรารู้สึกว่าการที่ฟานทำลงไปนั้นส่วนลึกๆก็ไม่ใช่แค่ความรักอย่างเดียว นี่เป็นการทดแทนสิ่งที่ขาดไปในชีวิต หวังว่าตัวเองจะสามารถเติมเต็มจากความรักของคีย์ถ้าหากว่าตนพยายามอย่างที่สุดจนไม่เหลือพื้นที่ให้ความผิดหวังเลย  ลืมไปว่าคนที่ไม่ใช่ยังไงมันก็ไม่ใช่  เหมือนที่สำหรับครอบครัวตัวเองยังไงฟานก็ไม่ใช่ ในอนาคตต่อให้ฟานมีแฟนอีกกี่คนก็ช่าง ถ้าหากว่าแฟนรู้ว่าฟานแคยสั่งจ้างคนให้ทำแบบนี้กับแฟนที่เลิกกันไป ต่อให้รักยังไงก็ตามจุดด่างตรงนี้จะไม่มีวันหายหมอง  บาปจะติดอยู่ที่ปูมหลังขอฟานตลอดไป เพราะไม่ใช่แค่คีย์ที่รู้  ลิป  เพื่อน รุ่นพี่ คนที่จ้าง ยังไงเรื่องก็มีทางแพร่อยู่แล้ว  ไม่มีการรับผิดชอบอะไรเลยสักอย่างแม้กระทั่งความรู้สึก

คีย์นั้นสำหรับเราเหมือนตัวแทนคนทั่วไป  เห็นแก่ตัว ลังเล จับปลาสองมือ แตุ่คงคีย์จะเลวยังไงก็ตามเราไม่คิดว่าคีย์สมควรที่เจอเหมือนกับสิ่งที่เจอ ไม่ว่าจะหัวหน้า หรือ ฟาน  ส่วนตัวแล้วคิดว่าแค่คีย์เสียฟานไปก็พอแล้ว ส่วนอิหัวหน้านั้นเลวเกินมนุษย์ทั่วไปก็ไม่น่าลงเองด้วยดี ชั่วชีวิตคีย์อาจจะทรมาณจนไม่สามารถที่จะมีแฟนได้อีก ต้องอยู่คนเดียว ส่วนตัวแล้วไม่คิดว่านั่นเป็นสิ่งที่คีย์ควรลงเอย  คนเราทำผิดก็ควรได้รับโอกาสเมื่อสำนึกตัว  ณ ตอนนี้คีย์กำลังทุกข์ รับเอาความผิดทุกอย่างมาลงที่ตัวเอง  ตัดฟานได้ แล้วก็เดินหน้าต่อไปเถอะคีย์ ผิดวันนี้แค่เพราะโลเล แต่คีย์ก็ยังไม่ได้ให้ร้ายใครเหมือนที่ฟานกับอิหัวหน้าทำ  มาตอนนี้คีย์ท่าจะลาออกจากบริษัทมารับงานนอกเอง

ลิปการเตือนของลิปนั้นในบางส่วนเราคิดว่าลิปพูดเกินไป  การเป็นเพื่อนที่ดีอย่างหนึ่งที่ควรรู้ก็คือว่าควรขีดเส้นตรงไหน  หลายๆครั้งเรามีความรู้สึกว่าเหมือนลิปด่าคีย์สนองนี๊ดตัวเองมากเกินไป   การเป็นเพื่อนคือการบอกตามจริงและอยู่คอยซัพพอร์ทเพื่อนในวันที่เพื่อนทุกข์ที่สุดหรือสุขที่สุด

บางทีนะเรารู้สึกว่าคนอ่านก็คล้ายกับคนที่บริษัทของคีย์ประมาณหนึ่งเลยทีเดียว

สำรับนข เราขอติงตรงที่ไดอะล็อคการคุยของตัวละครว่ายาวแล้วดูเป็นบทเขียนมากกว่าบทสนทนา

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง
ตอนที่ 54
' ความรู้สึกที่ไม่เข้าใจ '

“ ต่อให้เรากลับมารักกัน เราก็กลับมารักกันแบบเดิมไม่ได้หรอก เพราะความรู้สึกที่เสียไปมันเอากลับมาไม่ได้แล้ว "

“ ใช่ อย่างที่ฉันกำลังพยายามเอามันกลับมา ทั้งๆที่ก็รู้ดีว่า ฉันเอากลับมาไม่ได้แล้ว แล้วตอนนี้ก็คงต้องปล่อยมันไปจริงๆ  " คำพูดสุดท้ายที่ผมพูดกับอีกคนที่กำลังมองผมด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก  ผมไม่เข้าใจความรู้สึกของฟาน บางทีก็เหมือนเป็นห่วงในสิ่งที่ตัวเองทำลงไป รู้สึกผิดกับเรื่องราวตรงนั้นที่ทำกับผม แต่เหมือนอีกใจเค้าก็คิดว่า ดีแล้ว ที่ทุกอย่างมันเกิดขึ้น มันสมควรแล้วที่ผมได้รับมัน สายตาเกลียดชังที่มองมา บางทีก็เป็นสายตาห่วงใย ทุกอย่างสลับสับสนภายในไม่กี่นาที เหมือนในใจของเค้าเองก็ยังไม่แน่ชัดว่ารู้สึกยังไง แล้วบางทีก็เหมือนเค้ากำลังดื้อดึงที่จะไม่รู้สึกอะไรบางอย่างอยู่

   ผมเดินเข้ามาในห้องของตัวเอง ปิดประตูก่อนจะทิ้งตัวเองลงนั่งบนเตียงด้วยความรู้สึกเหนื่อยกับการกระทำของตัวเองที่เหมือนคนหน้าด้านที่กำลังร้องขอทุกอย่าง แต่สุดท้ายมันก็เท่านั้น

   มาถึงตอนนี้เค้าคิดว่าตัวเองคงต้องยอมรับความจริงได้แล้ว  อย่างที่ใครๆเคยบอก ' ไม่รักคือไม่รัก ความรู้สึกนั้นมันฝืนกันไม่ได้ ' แล้วตัวผมเองก็คงต้องยอมรับมันให้ได้สักทีแล้ว ว่าเชือกที่ผมพยายามฝืนดึงอยู่ ยิ่งดึงคนที่เจ็บก็คือผม ทั้งทรมานและทุกข์ทนกับทุกสิ่งทุกอย่างที่จากไปแล้ว จากการกระทำของคนที่ไม่รัก จากคำพูด และท่าทางของเค้า ถ้านี่คือบาปกรรมที่ทำไว้กับฟานความทรมานทั้งหมดที่ต้องเจอตอนนี้ก็ขอให้มันถูกชดใช้ไปให้หมดเถอะ

   ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“ อยากจะกินอะไรหน่อยมั้ย จะลงไปซื้อมาให้ " คำถามดังมาจากหน้าห้อง เสียงของคนที่ผมคิดว่ากลับไปแล้ว แต่ทว่าเค้ายังอยู่
“ ไม่เป็นไรหรอก ฉันโทรสั่งเอาก็แล้วกัน " ผมตอบกลับไปเสียงเรียบๆ บานประตูห้องนอนก็ถูกเปิดออกมา ร่างสูงที่กำลังแสดงท่าทางหงุดหงิดอยู่หน้าห้อง ผมขมวดคิ้วมองเค้า " มีอะไรรึเปล่า "

“ จะไม่กินอะไรหน่อยรึยังไง "

“ เดี๋ยวฉันโทรสั่งเอง "

“ อยากจะกินอะไรเดี๋ยวโทรสั่งให้ " คำถามที่ทำให้ผมจ้องหน้าเค้าแต่ฟานไม่ตอบอะไร ก่อนจะถามเค้าด้วยความสงสัย
 
“ นายมีอะไรรึเปล่า "

“ ทำไมต้องมีอะไรด้วย " ไม่รู้จะพูดตอบคนที่ถามแบบนั้นออกไปยังไง คือถ้าถามออกไปตรงๆว่า ทำไมยังไม่กลับไปอีกทั้งๆที่ท่าทางก็ดูรังเกียจแล้วไม่อยากจะเข้ามาใกล้ ปากก็บอกว่าไม่อยากจะเห็นหน้ากัน  เมื่อกี้ตอนที่เราพูดกัน ผมก็เข้าใจกันแล้วไง ว่าต่างฝ่ายก็ต่างไปเถอะ ประโยคที่พูดก็น่าจะแปลความหมายได้ตามนั้นแต่ทำไมถึงยังไม่กลับไป

“ นายกำลังกังวลเรื่องความรู้สึกของฉันรึเปล่า " อีกฝ่ายชะงักตอนที่ผมถาม ปากที่กำลังอ้าเถียงของเค้า " ฉันหมายความถึงเรื่องที่นายสั่งให้คนมาทำแบบนั้นกับฉัน กังวลเรื่องของความรู้สึกของฉันกับเรื่องนั้นรึเปล่า ถ้าใช่นายไม่ต้องกังวลหรอก "

“ ทำไม "

“ นายบอกว่าไม่อยากจะเห็นหน้าฉัน นายเกลียดฉัน ถ้าเมื่อคืนฉันไม่ไปหานาย นายก็คงไม่ทำแบบนั้น ฉันว่ามันไม่ใช่ความผิดของนายคนเดียวหรอก มันเป็นความผิดของฉันด้วย ถ้าฉันไม่ไปเรื่องนี้ก็คงไม่เกิด อีกอย่างอย่าฝืนที่จะมาอยู่ข้างๆฉันเลย ฉันเข้าใจดีแล้วว่านายรู้สึกยังไงกับฉัน "

“ แล้วฉันรู้สึกยังไง "

“ รู้สึกว่า ไม่รักแล้ว เกลียด ไม่อยากจะเห็นหน้า แต่ที่ต้องมายืนอยู่ตรงนี้ก็แค่ดูแลรับผิดชอบเรื่องที่ตัวเองทำให้ฉันกลัว " เค้าเงียบ " แล้วที่ฉันอยากจะบอกคือ ไม่ต้องหรอกนะ ไม่ต้องมารับผิดชอบอะไรหรอก ฉันรับผิดชอบตัวเองได้ ฉันต้องรับผลในสิ่งที่ทำกับนายเอาไว้มันก็เท่านั้น ฉันทำให้นายทรมานมามาก คราวนี้ก็เป็นหน้าที่ฉันที่ต้องทรมานบ้าง "

“ อย่ามาทำตัวน่าสงสารได้มั้ย ไอ้ที่พูดมาทั้งหมด มันก็ดูเหมือนยกความผิดให้ฉันเลยนะ "

“ ยกความผิดอะไร " ผมถาม " ฉันไปยกความผิดอะไรให้นายอีก พอฉันไม่ยอมรับว่านายจะไม่กลับมา นายก็บอกว่า น่ารำคาญไปให้พ้น พอฉันยอมรับ พอฉันหยุด ฉันพูดให้นายสบายใจว่า เออ มึงไปเถอะ มึงไม่ต้องมารับผิดชอบมารู้สึกผิดอะไรกับกูทั้งนั้นคิดซะว่า ก็กูทำมึงก่อน กูสมควรโดนแล้ว แล้วกูยังบอกอีกว่า เออ ไม่เอาผิดกับมึงนะ มึงก็มาบอกอีก ว่ากูทำตัวน่าสงสาร คราวนี้มึงจะเอาไงกับกูวะ จะเอาอะไรอีก ต้องการอะไร " เค้าเงียบตอนที่ผมพูดอธิบายอีกฝ่ายถอนหายใจก่อนจะหันหน้าไปทางอื่น ผมเองก็สูดลมหายใจตั้งสติพูดกับเค้าอีกครั้ง " ตอนนั้นฉันพยายามหมดทุกทางแล้วที่จะเอานายกลับมา แต่ในเมื่อสุดความพยายามแล้วมันไม่ได้ ตัวฉันเองก็คงต้องต้องยอมรับความจริงว่ามันไม่ได้ นั่นก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว เพราะถ้าฝืนพยายามต่อไปจากนี้ นายคงจ้างคนมาฆ่าฉันแล้วละ เพราะงั้นฉันควรหยุดดีกว่าไม่ใช่เหรอ "

" ฉันยังรู้สึกค้างคาใจ "

" เรื่องอะไรอีก "

" ฉันทำเรื่องที่มันเกินกว่าเหตุ ฉันมีความรู้สึกว่า สักวันฉันก็คงไม่มีเหลือนายไว้ให้จำแล้ว คงลืมไปหมด แต่นายคงไม่ใช่ มันไม่ง่ายขนาดนั้น "

“ ไม่เป็นไรหรอก เพราะนายเองก็คงไว้ใจใครคนคนใหม่ไม่ง่ายเหมือนกัน มันก็สมควรแล้วละ ที่เรื่องนั้นจะเกิดขึ้นกับฉัน ต่อจากนี้ถ้านายมีแฟน นายอาจจะไม่ไว้ใจเธอเลยก็ได้ เพราะฉันทำลายความเชื่อใจของนายไปแล้ว "

“ แต่ฉันก็ทำลายนายไปแล้วเหมือนกัน "

“ ถ้าเราไม่ต้องติดค้างอะไรแบบนั้นก็ดีนะ ฉันหมายถึงว่า ฉันทำนายเจ็บ แล้ว นายก็ทำให้ฉันเจ็บ เราที่ทำร้ายกันและกันแล้ว ไม่ติดค้างอะไรแล้ว ต่อจากนี้ถ้าไม่มีอะไรติดค้างกันมันก็คงดี " พอพูดมาถึงตรงนี้สายตาที่จ้องมองผมของฟานก็เปลี่ยนไป เค้าที่เหมือนหงุดหงิดกับคำพูดของเค้า แววตาที่กำลังโกรธนั้นจ้องมองมา ราวกับว่าผมพูดอะไรสักอย่างผิดไป

“ มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก ความรู้สึกของฉันที่เสียใจ ลบไม่ออกง่ายขนาดนั้นหรอก อีกอย่างเรามันคนละคนกัน ความเจ็บปวดของเรามันทดแทนกันไม่ได้หรอก ต่อให้ตอนนี้นายเจ็บมากแค่ไหน ฉันก็ยังไม่หายเจ็บอยู่ดี " เค้าพูดเสียงเรียบๆ " นายเองก็เหมือนกันความเจ็บปวดของนายมันทดแทนด้วยอะไรไม่ได้หรอก "

" ฉันรู้ดี แต่จะให้ทำยังไง จะให้อคติแล้วโกรธ เกลียดกันไปแบบนี้เหรอ อโหสิให้กันดีกว่า อโหสิที่หมายถึงว่าไม่แค้นเคืองอะไรกัน แต่ก็ไม่ใช่ในความหมายที่ดีกันแล้วเราจะกลับมารักกันเหมือนเดิมไม่ใช่แบบนั้น " ผมอธิบายเพราะคิดว่าเค้าคงเข้าใจผิดคิดว่าอยากจะให้เรากลับมาคืนดีกัน จริงๆผมก็แค่หวัง หวังว่าเราจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ในอนาคตถ้าเจอหน้ากัน เราก็ยังยิ้มให้กัน

“ อโหสิเพื่ออะไร เพื่อให้ชาติหน้าจะได้ไม่ต้องเจอกันอีกอย่างงั้นเหรอ " เสียงสั่นๆที่หลุดออกมาจากปากเค้า " ไม่ต้องถึงชาติหน้าหรอก แม้แต่ตอนนี้ถ้าเกิดฉันบอกว่า ฉันให้อภัยนาย เราก็คงไม่ต้องมาเจอกันอีก แต่แบบนั้น ฉันน่าจะดีใจมั้ยวะที่จะได้ไม่ต้องเจอคนอย่างนาย  แต่ทำไมถึงรู้สึกแปลกๆ รู้สึกเหมือนถูกผลักออกไปแล้วจริงๆ ทั้งๆที่ฉันเองก็พยายามผลักนายออกไปตลอด ก็น่าจะดีใจปะวะ ทำไมตอนนี้มันถึง.. " เค้าเลือกจะเงียบแต่ผมก็เข้าใจอยู่ว่า มันหมายถึงอะไร ความรักมันไม่ได้ติดกันง่ายๆ ความเกลียดที่มีบางทีมันเหมือนกับแค่ว่า ต้องเกลียดเพราะทำกันให้เจ็บ ต้องเกลียดให้มากๆ เพราะเค้าทำให้เจ็บมากๆ

“ ฟาน..”

" ฉันไม่น่าทำแบบนั้นกับนายเลย ไม่น่าสิ้นคิดสั่งคนไปทำแบบนั้นเลย ถ้าฉันฟังคำเตือนของพี่คอมเค้าสักหน่อย วันนี้ฉันก็ไม่ต้องมายืนอยู่ตรงนี้แล้ว ไม่ต้องเห็นหน้าคนที่มันทำให้ฉันเจ็บจนอยากจะตายๆไป ไม่ต้องมานั่งคิดว่า นายจะใช้ชีวิตอยู่ยังไงเพราะการกระทำของฉัน ฉันที่ทำลายชีวิตนายไปแล้ว ไม่ต้องมานั่งคิดเป็นห่วงทั้งๆ สมองมันสั่งให้เกลียดขนาดนี้ ไม่น่าเลยว่ะ ฉันไม่น่าเลย "  ประโยคยาวๆที่จบลงผมไม่ได้ตอบอะไรเค้า ความเงียบที่ทำให้อีกคนผ่อนถอนหายใจทิ้ง สายตาคมที่กำลังร้องไห้ ฟานเดินออกไปจากห้องของผม เสียงประตูคอนโดที่ปิดลงบอกถึงใครอีกคนที่เดินจากไปแล้ว

   ผมผ่อนลมหายใจออกมา เม้มริมฝีปากแน่นก่อนจะทำได้แค่นั่งลงบนเตียงก่อนจะเอนหลังดึงตัวเองลงนอน เพดานขาวที่ไม่มีอะไรอยู่ตรงนั้น ทั้งหมดก็จริงอย่างที่เค้าพูด ใช่..ก็จริงของเค้า ต่อให้ผมเจ็บมากแค่ไหนก็ทดแทนและทำให้เค้าหายเจ็บไม่ได้ ความเจ็บปวดของใครก็ของมัน ทดแทนกันไม่ได้หรอก และต่อให้ผมต้องเจ็บปวดมากกว่านี้ หรือตายไปก็ไม่สามารถทำให้ฟานหายเจ็บปวดได้อยู่ดี เพราะที่เค้าเจ็บ มันเป็นเพราะเค้ายังรักอยู่ ไม่ได้เกลียดอย่างที่ปากพูดออกไป

..................................................................



ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
' วันนี้ฉันจะไปรับที่คอนโดนะ  เราไปทำงานพร้อมกัน ' ผมอ่านข้อความที่ส่งมาตั้งแต่เช้าของลิปผ่อนลมหายใจออกมาก่อนจะยิ้มจางๆให้ความห่วงใยที่ส่งมาถึงแม้จะมาในรูปแบบของข้อความก็ตาม

   ลุกขึ้นอาบน้ำเมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็พึ่งยานอนหลับแถมยังเปิดไฟไว้ตลอดคืน เป็นความรู้สึกทรมานที่เผลอคิดมาน้ำตามันก็ไหล จะหลับตาลงก็กลัว จะลืมตาตื่นมาก็เจอ ไม่มีทางเลือกสักอย่าง ราวกับรอบตัวมีแต่คนหน้าตาแบบคนที่ทำร้ายผมรายล้อมไปหมด ราวกับมีคนจ้องมองอยู่ตลอดเวลา  ผมมองตัวเองผ่านกระจก ร่างเปลือยเปล่าถูกเช็ดด้วยผ้าขนหนูเบาๆไปตามผิวหลังการอาบน้ำ เงาสะท้อนของตัวเองที่เห็นอยู่ในขณะนั้น ราวกับมีมือหนาใหญ่ๆโอบมาจากด้านหลัง มือที่กำลังลูบไล้ร่างกายของผม มือที่ค่อยๆไล้ลงต่ำลงไปข้างล่าง

" ไม่!" ตะโกนออกไปตอนที่ก้มหน้าลงต่ำแล้วเงยหน้ามองตัวเองอีกครั้งก็พบว่า ก็ไม่มีใครทั้งนั้นที่อยู่ที่นี่ ในห้องที่เงียบเชียบผมผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆ แม้แต่กระจกเงาก็ชวนให้รู้สึกว่ามีคนมองอยู่ตลอดเวลา ผมเหลือบมองมันอีกครั้งก่อนจะตัดสินใจเอาผ้าขนหนูของตัวเองขึ้นไปคลุมมันไว้ แล้วจัดการแต่งตัวให้เรียบร้อยเตรียมตัวออกจากห้อง

   ล๊อคประตูกระชับกระเป๋าของตัวเองเดินไปกดลิฟต์ รออยู่สักพักลิฟต์ตัวที่รอก็มาถึง ประตูที่เปิดออกในนั้นมีผู้ชายสองคนกำลังจะลงไปชั้นล่างพอดี ฝ่าเท้าของผมชะงัก คนในนั้นก็เหมือนจะสงสัย

“ คุณครับ "

“ ไม่ไปครับ ชะ เชิญ เชิญไปก่อนได้เลย พอดีผม ลืมของ " ผมกดปิดประตูลิฟต์ด้วยความรวดเร็ว หัวใจที่เต้นแรงของตัวเองผมผ่อนลมหายใจหอบออกมาเร็วๆด้วยความตื่นกลัว จนกระทั้งมีผู้หญิงคนนึงที่อยู่ในชั้นเดียวกัน เดินมารอลิฟค์อยู่ข้างๆ ผมก็ถอนหายใจโล่งออกมา คราวนี้รอบหน้านี้คงได้ไปแล้วอย่างน้อยก็ยังมีเพื่อนไปด้วยไม่ได้มีแต่เราแค่คนเดียวที่จะเข้าไปในลิฟต์นั่นคนเดียว

   ในลิฟต์รอบสองที่ว่างเปล่า ผมลงมาถึงชั้นล่างพร้อมกับคนในชั้นเดียวกัน ลิปที่รออยู่ข้างนอกผมเดินออกไปหาเค้าอีกคนก็ยิ้มจางๆ ก่อนจะเม้มริมฝีปากเสียสนิทเหมือนกับมีอะไรจะพูดกับผมแต่ก็พูดออกไปไม่ได้

“ ลิป "

“ ไปทำงานกันเถอะ " เค้าพูดสั้นๆในแววตาที่กำลังเศร้าของอีกคน แม้จะยิ้มแต่ก็ดูเป็นยิ้มที่ฝืนเสียเหลือเกิน

“ เป็นอะไร มีอะไรรึเปล่า "

“ เปล่า ฉันไม่เป็นอะไร " ส่ายหน้าไปมาแรงๆ มือที่เอื้อมมือมาจับมือผม ดูก็รู้ว่าอีกคนคงรู้เรื่องราวทั้งหมดนั่นอยู่แล้วโดยที่ผมไม่ต้องอธิบายอะไร ลิปก้มหน้าลง " คีย์ฉันขอโทษ มันเป็นเพราะฉันเอง "

“ ทำไมถึงคิดแบบนั้น ไม่ใช่เพราะนายสักหน่อย "

“ มันก็เป็นเพราะฉันด้วยเหมือนกันถ้าวันนั้นฉันไม่ให้นายไปง้อไอ้เหี้ยนั่น เรื่องมันคงไม่เกิดขึ้น ฉันขอโทษคีย์ ฉันขอโทษ "

“ ไม่เกี่ยวกับนายเลยลิป จำได้มั้ยวันนั้นนายห้ามฉันแล้ว แต่ก็เป็นฉันเองที่ดื้อดึงจะไปเอง อย่าโทษตัวเองเลย คนที่ผิดที่สุดคือฉันที่ดึงดันจะไปมากกว่า " ผมลูบหลังเค้า อีกคนก็พยักหน้ารับ

“ แต่ว่า..”

“ อย่าพูดถึงมันเลยนะ ฉันไม่อยากจะนึกถึง "

“ งั้นฉันจะอยู่เป็นเพื่อนนายเองนะ เย็นนี้ฉันจะมาส่งนายที่บ้านเอง แล้วก็ค่อยออกไปตอนที่คุณเมษเค้าเลิกงาน "

“ แบบนั้นฉันไม่โดนคุณเมษเขม่นตายเหรอวะ แฟนเค้ามาใส่ใจฉันขนาดนี้ " ผมถามอีกก็หัวเราะ

“ ก็งอนอยู่ แต่ฉันก็ไม่สนใจหรอก คุณเมษบอกว่า เป็นห่วงนายขนาดนั้นเค้าชักสงสัยแล้วว่า ฉันแอบรักนายรึเปล่า " คราวนี้ก็เป็นผมที่หลุดยิ้มออกมาบ้าง " แต่ฉันก็บอกเค้าไปละนะ ว่า ฉันไม่ได้เป็นเบี้ยน แล้วเค้าก็หัวเราะใหญ่เลย ฮ่าๆ "

“ นี่ลิป ขอบใจนะ " เอ่ยบอกอีกคนที่ก็จ้องหน้าผมก่อนจะพยักหน้ารับ " ฉันขอบใจ ขอบคุณ สำหรับทุกๆอย่างที่นายทำเพื่อฉัน นายที่เตือนฉัน นายที่เป็นห่วงฉัน ถึงแม้ว่าฉันจะดื้อแล้วไม่ฟังอะไรนายเลย แต่สุดท้ายนายก็อยู่ข้างๆฉันมาตลอด " ผมขอบคุณในความเป็นเพื่อนของเค้า เพื่อนที่ไม่ทิ้งกันไปไหน ลิปเป็นคนเดียวที่ทำให้ผมรู้สึกว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเลวร้ายแค่ไหน ก็ยังจะมีเค้าอยู่ข้างๆเสมอ มันทำให้รู้ว่ารอบตัวผมยังมีคนที่ดีกับผมจริงๆ หลงเหลืออยู่ 

“ ขอบคุณทำไม มันเป็นหน้าที่ของเพื่อนอยู่แล้ว เอาจริงๆ ฉันก็สมน้ำหน้านายนะสำหรับเรื่องของฟานที่นายโดนเค้าทิ้ง เพราะฉันเตือนแล้ว แต่นายไม่ฟัง แต่ในความเป็นเพื่อนแล้ว สมน้ำหน้ายังไงก็ยังต้องอยู่ข้างๆนั่นแหละ  ก็เราเป็นเพื่อนกันนิ แล้วอีกอย่างฉันว่าเรื่องนั้น มันก็เหี้ยเกินไป เกินว่ามนุษย์จะทำได้ " เค้าว่าพลางก้มหน้าลงก่อนจะเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้ผม " เอาเป็นว่าเราอย่าพูดถึงมันเลยดีกว่า รกสมองไปทำงานกันเถอะนะ "

   รถไฟขบวนเช้าแน่นขนัดเหมือนทุกวัน ผมผ่อนลมหายใจออกมาก่อนจะมองคนรอบตัวที่ต่อคิวกันยาวเพื่อขึ้นรถไฟขบวนนี้ ผมเม้มริมฝีปากแน่น รู้สึกราวกับภายในท้องมันปั่นป่วนไปหมด ผู้คนรอบข้างที่เบียดเข้ามาผมเผลอคิดถึงช่วงเวลาที่เคยโดนลวนลานบนรถไฟก่อนหน้านี้ มือหยาบกร้านที่สัมผัสร่างกายของผม ผิวที่โดนลูบไปทั่ว

“ คีย์ ทำไมหน้าซีดแบบนั้น ไหวมั้ย "

“ ฉันแค่รู้สึกหายใจไม่ออกน่ะ ฉัน ฉันว่าเราขึ้นรถแท็กซี่ไปทำงานกันมั้ย "

“ แต่รถไฟมาแล้วนะ " ลิปบอกก่อจะเชิดหน้าออกไปที่ราง " ไม่เป็นไรหรอก นายมีฉันอยู่ ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวสักหน่อย ใครมันจะกล้ามาทำอะไรนาย "

“ แต่..”

" มาเถอะน่า " เค้าคว้ามือผม

" อื้ม " รับคำเค้าด้วยการพยักหน้าลงช้าๆอย่างจนใจ เรื่องมากไปก็ไม่ได้เพื่อนอุตส่าห์มารับแล้ว รถไฟเข้ามาเทียบชานชาลา ผมก้าวขาเข้าไปในข้างในที่มีผู้คนยืนอยู่แล้ว ลิปดึงผมให้ไปยืนพิงผนังฝั่งที่ว่าง ก่อนจะยกมือกอดตัวเองไว้คนที่ยืนข้างๆก็หันมามอง ลิปยิ้มจางๆมือที่คว้ามือผมมาจับไว้เค้าก็เริ่มชวนผมคุย

“ แล้วเมื่อวานไอ้ฟานมันกลับไปตอนไหน "

“ ก็ช่วงเช้าที่คุยกันเสร็จ เค้าก็ออกไปเลย เราเลิกกันแล้วละ " นึกถึงใบหน้าคมที่มองหน้าผมในช่วงเวลานั้น ผมก้มหน้าลงมันพาลจะร้องไห้ออกมาอีกแล้ว น้ำตาที่รื้นขึ้นมายามที่คิดถึงเค้า คิดถึงคำพูดที่รังเกียจกัน การกระทำของเค้า หรือแม้ประโยคตัดพ้อทุกอย่างดูเหมือนไม่ชัดเจนสำหรับความรู้สึกจริงๆ แต่ถึงอย่างงั้นก็อาจจะพอสรุปได้ว่าเค้าได้จากไปแล้ว

" คิดว่าดีแล้ว ก็แล้วกันนะ " ลิปบอก " ไม่รู้สิ ในความคิดของฉัน ฟานน่ากลัวเกินกว่าจะให้กลับมา เค้าดูเป็นคนที่จะทำอะไรได้แบบคาดไม่ถึง ยากจะหยั่งถึงในจิตใจ  เป็นคนอันตราย ที่ตอนดีก็ดีใจหาย ตอนเลวก็แทบจะไม่มีความเป็นคนเลย "

“ แล้วมันเป็นเพราะใครละที่ทำให้เค้าต้องเลวจนแทบไม่เป็นคนแบบนั้น "

“ คีย์ มันไม่เกี่ยวกันนะเว้ย สิ่งที่ฟานทำน่ะ "

“ อย่าโทษเค้าเลย ให้ทุกอย่างจบแล้วเอาความผิดทั้งหมด มาลงที่ฉันดีกว่า เพราะต้นเหตุทั้งหมด มันเกิดจากฉันทั้งนั้น " ผมยิ้มจางๆให้อีกคน " ไม่ใช่ว่าฉันพยายามเป็นคนดีอะไรหรอก แต่ถ้านายคิดดูให้ดี ทุกอย่างมันเป็นเพราะฉันทั้งหมดนะ ถ้าฉันไม่นอกใจเค้า ทุกวันนี้เค้าก็ยังเป็นคนแสนดีเหมือนเดิมนั่นแหละ "

“ แต่ยังไงซะ ฉันก็ไม่เห็นว่าเค้าต้องทำร้ายนายถึงขนาดนั้น มันกลายเป็น นายแค่นอกใจเอง แต่มันที่สั่งให้.. " ลิปผ่อนลมหายใจออกมา ตอนที่มองไปทางอื่น " เลิกพูดถึงเรื่องนี้เถอะ ฉันขอโทษที่ถามถึงมัน "

“ อื้ม " รถไฟเลื่อนขบวนมาจนถึงสถานีใกล้ที่ทำงาน เราเดินคุยกันมาเรื่อยๆจนเข้ามาภายในตึกที่ทำงานรอลิฟต์ขึ้นไปที่แผนกตอนที่มาถึง ทุกอย่างที่นี่ดูเงียบแม้จะมีคนมาถึงแล้วเกือบครึ่งแผนก

“ บรรยากาศแปลกๆนะวันนี้ " ลิปทัก " อรุณสวัสดิ์ครับทุกคน "

“ อื้ม อรุณสวัสดิ์ " รุ่นพี่ทำงานทัก เราเดินไปนั่งที่โต๊ะของตัวเอง เปิดคอมพิวเตอร์ขึ้นมาในตอนนั้นเมล์เข้าใหม่ก็ถูกส่งเข้ามา เป็นเมล์แปลก

“ มีเมล์แปลกส่งเข้ามาว่ะ " ลิปพูดเสียงเบาๆ " คีย์ นายได้รับมั้ย "

“ ได้รับ " ผมบอกเค้าสั้นๆ คิดถึงตอนที่มันเคยมีเมล์แบบนี้ส่งเข้ามา แต่พอเปิดออกมาก็ภาพของผมกับหัวหน้า ภาพที่หัวหน้าเป็นคนจงใจปล่อยออกมาเอง ภาพที่ทำลายชีวิตของผมให้ย่อยยับตั้งวันนั้นจนมาถึงวันนี้

“ คือ.. ทุกคนได้รับเมล์กันมั้ย "

“ ได้รับ " เสียงตอบสั้นๆของทุกคนในแผนกว่าแบบนั้น ก่อนรุ่นพี่ในที่ทำงานจะบอก " ก็นี่ไงกำลังยืนดูกันอยู่ พวกนายก็ดูสิ " ผมเลื่อนเก้าอี้เข้าไปใกล้ลิป อีกคนที่กดเปิดเมล์นั่นก่อนจะพบว่าในนั้น ไม่ได้มีภาพ หรือข้อความอะไร แต่กลับมีคลิป

“ เป็นคลิปเลยเหรอวะ  " ลิปบอกก่อนจะหันมาทางผม

“ คงไม่ฉันหรอก เพราะฉันไม่เคย แล้วกับฟานก็ไม่เคยถ่ายอะไรแบบนี้กันด้วย “

“ ฉันไม่คิดว่าเป็นนายสักหน่อย “ ลิปบอก " เราใส่หูฟังกันดีกว่า " หยิบหูฟังมาใส่คนละข้างก่อนจะกดปุ่มเล่น ภาพในจอที่กำลังฉายนั้นทำให้ผมเบิกตากว้างขึ้นมา มันเป็นคลิปการมีเซ็กส์ระหว่างผู้ชายสองคน เซ็กส์เร้าร้อนที่ทำให้ผมกลืนน้ำลายแล้วก็ได้แต่เอามือปิดปากตัวเอง จ้องคนที่อยู่ในนั้นก่อนจะพูดออกมาเสียงเบาๆ

“ นั่นมันหัวหน้ากับ เนย์นิ " ผมพูดออกมาเบาๆ ลิปที่กำลังดูอยู่ก็นิ่ง

   เนย์ เป็นรุ่นน้องที่เพิ่งเข้ามาทำงานในบริษัทเราได้ไม่นาน เป็นเด็กผู้ชายหน้าตาน่ารัก ครั้งนึงผมเคยเจอเค้าขึ้นรถไปกับหัวหน้า พอเอามาบอกลิปอีกคนก็ไม่เชื่อ แถมยังหาว่าผมจำคนผิดแต่วันนี้ภาพคลิปที่เห็นมันทำให้ผมรู้เลยว่า มันไม่ผิดจากที่ผมเห็นแล้วที่ผมคิดเท่าไหร่ นอกจากผมแล้ว หัวหน้ายังแอบทำแบบเดียวกันกับคนอื่น แต่ก็คงแตกต่างกันไปตามการตอบสนองของอีกฝ่าย ของผมมีแต่ภาพที่แอบถ่ายเพราะเรายังไม่เคยมีอะไรที่ลึกซึ้งกันขนาดนั้น โชคดี ผมคิดว่าผมโชคดีที่วันนั้นหนีออกมาทัน โชคดีที่มีคนช่วยผมไว้ เพราะไม่อย่างงั้นคลิปที่เห็นอยู่ตอนนี้ คนแสดงอาจจะเป็นผมก็ได้

   ร่างกายเปลือยเปล่าของคนในคลิป ท่าทางที่กำลังร่วมรักกันนั้นชวนให้ผมขมวดคิ้วแล้วกลั้นหายใจเอาไว้ มันไม่ใช่การมีเซ็กส์กันแบบธรรมดาแต่เป็นแบบที่ ทั้งทรมานและใช้อุปกรณ์แปลกๆ มือบางๆของเด็กคนนั้นถูกรัดด้วยผ้าสีดำ ช่องทางหลังที่ถูกใส่อุปกรณ์อยู่ แอ่นหน้าอกรับลิ้นของหัวหน้าที่กำลังดูดคลึง ก่อนจะดึงอุปกรณ์ออกแล้วแทนที่ด้วยแก่นกายของเค้า กระแทกแรงหนักๆเข้าออก เสียงร้องครางแบบทรมานดังเข้ามาในหูของผมเค้าที่บอกว่าให้หยุด เสียงที่บอกว่าตัวเค้านั้นไม่ไหวแล้ว แต่แรงพวกนั้นก็ยังกระแทกกระทั้นเข้ามามาไม่หยุดหย่น มือหนาฟาดลงไปที่ก้น ก่อนจะเอื้อมมือไปบิดหัวนม ผมถอดหูฟังที่ตัวเองกำลังฟังอยู่ออก ลิปก็พูดขึ้น

“ รสนิยมเซ็กส์เค้าเป็นพวกชอบความรุนแรงเหรอวะ " 

“ คงจะอย่างงั้น "

“ ดีนะ ที่วันนั้นนายรอดมาได้ " ผมพยักหน้ารับ แค่คิดว่าถ้าวันนั้นผมรอดมาไม่ได้ ถ้าวันนั้นผมต้องกินยานั้นเข้าไป ทุกอย่างก็คงต้องจบลงตรงนั้น ยิ่งกว่าการตกนรกขุมไหนๆ คือการที่ต้องทนอยู่แบบนั้นแล้วสิ่งเดียวที่ทำให้รอดพ้นได้คือความตายเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

“ นี่มันอะไรกันเนี้ย " เสียงของรองหัวหน้าดังขึ้นมาที่โต๊ะ ทุกคนที่เงยมองหน้าเธอที่ก็ลุกขึ้นมองหน้าเราทุกคน " ใครเป็นคนส่งเมล์นี้มา "

“ ไม่มีใครรู้หรอกค่ะ รองหัวหน้า "

“ หัวหน้ารึเปล่า " เสียงของเพื่อนร่วมงานคนนึงดังขึ้น " ก็ขนาดภาพของคีย์เอง เค้ายังเป็นคนปล่อยออกมาเลย "  ทุกคนเงียบพลางหันมามองทางผม

“ แต่เรื่องนี้ผมไม่ทราบหรอกครับ ไม่รู้เหมือนกันว่าเค้าทำรึเปล่า แต่ที่ผมรู้คือ เพราะเราไม่รู้เรื่องราวมันเป็นยังไง ก็อย่าไปพูดให้น้องเค้าต้องรู้สึกไม่ดีเลย "

" ต่อให้ไม่พูด แต่มันเห็นชัดขนาดนี้แล้วจะให้รู้สึกดีอะไรอีกวะ ไม่มีใครรู้สึกดีที่ได้เป็นนายเอกหนังโป๊หรอกน่า แล้วยังจะต้องให้หาความจริงอะไรอีกคีย์ " รุ่นพี่ที่เคยด่ากระแทกผมถาม " เอากันขนาดนี้ คงไม่ใช่เรื่องเข้าใจผิดหรอกมั้ง นี่เค้าแอบคั่วคนทั้งแผนกเลยรึไง วันก่อนก็จีบคีย์จะเอาทำเมียให้ได้ถึงขั้นจ้างคนไปตามถ่ายภาพแบล็คเมล์กัน วันนี้ก็มาเด็กเนย์นี่อีก นี่ยังมีใครอีก ที่ผู้ชายคนนี้ไปมั่วด้วย ลิปนายด้วยรึเปล่าเนี้ย  "

“ อย่าพูดหมาๆแบบนั้นสิ ไม่เคยเว้ย ผมมีผัวแล้ว รักกันมากด้วยไม่เล่นด้วยกับผู้ชายพันนั้นหรอก " อีกคนบอกเสียงหงุดหงิด " แต่ฉันเห็นด้วยกับคีย์นะ บางทีเค้าอาจจะโดนบังคับก็ได้ อย่าเพิ่งพูดอะไรเลย เรายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครปล่อยคลิปนี้ออกมา " ลิปเสริม

" นี่ได้ดูตั้งแต่ทีแรกรึเปล่า ฉากแรกเข้ามาพอหัวหน้ากอด เค้าก็กอดกลับ แบบนั้นมันจะโดนบังคับได้ไง หลงเอ็นดูมาตั้งนานสุดท้ายก็ร้ายลึก แอบไปอ่อยหัวหน้าจนได้เป็นเมียน้อยเค้า แล้วสุดท้ายก็โดนเค้าแฉ ไม่ก็เมียเค้าแฉแน่ๆ ส่วนนายก็โชคดีแล้วนะคีย์ " เธอหันมามองหน้าผม " ถ้าตอนนั้นนายยอมตกร่องป่องชิ้นกับเค้าเพียงเพราะภาพหลุดพวกนั้น นั่นต้องชิบหายแน่ๆ ดีแล้วละ โชคดีแล้ว คิดว่าฟาดเคราะห์แล้วกันนะ ตอนเป็นขี้ปากชาวบ้านเรื่องเมียน้อยหัวหน้าน่ะ ตอนนี้เมียน้อยตัวจริงโผล่มาละ " ทั้งๆที่เธอเป็นตัวตั้งตัวตีคอยว่าผมอยู่ตลอดแท้ๆ แต่สุดท้ายพอเรื่องพลิกกลับเธอกลับมาอยู่ข้างผมแล้วหันกลับไปถล่มเด็กคนนั้นซะงั้น ทั้งๆที่ยังไม่ได้ฟังเลยว่า เรื่องมันเป็นมายังไง แทนที่จะถามเจ้าตัวก่อนเพื่อไม่ให้ซ้ำรอยเรื่องของผม แต่ก็เปล่า กลับขึ้นไปซ้ำเติมอีกฝ่ายเหมือนอย่างที่เคยทำมาตลอด

" ฉันอยากจะให้ทุกคนเก็บเรื่องนี้ไว้แค่ในแผนกเราเท่านั้น ขอร้อง อย่า เอา ไป แชร์ อีกนะ " รองหัวหน้าย้ำเเน่นทีละคำ แต่ผมก็ไม่เชื่อหรอกว่ามันจะไม่ถูกแชร์ สังเกตเห็นโต๊ะเยื้องกันก็โหลดคลิปเก็บไว้กันแทบทุกคน วันนี้ตอนเย็นก็คงจะดังไปทั่วบริษัท " เราไม่รู้ว่าเรื่องเป็นยังไง เหมือนเรื่องของคีย์ตอนนั้นนั่นแหละ ทุกคนก็เอาแต่ว่าเค้า สุดท้ายแล้วก็เกือบทำให้เค้าต้องเป็นอันตราย ฉันก็ยังไม่เห็นว่าใครจะไปขอโทษคีย์สักคน ทั้งๆที่ทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่าเรื่องจริงมันเป็นยังไง ใครเป็นคนทำเรื่องนี้ ก็เอาแต่เงียบไม่เห็นปากดีเหมือนตอนที่ด่าเค้าเลย ไม่มีใครขอโทษที่พูดไม่ดีกับคีย์เค้าสักคำ " รองหัวหน้ามองหน้าพี่คนนั้นที่เคยว่าผม " ฉันเห็นคนที่ว่าเค้าเมื่อกี้ทำมาเป็นพูดเหยียบคนอื่นแล้วยกเค้าขึ้นมาทำเหมือนที่ผ่านมาตัวเองไม่ได้พูดอะไร เอาบทเรียนพวกนั้นมาใช้บ้างเถอะ มันสมควรแล้วเหรอที่เธอจะแชร์เรื่องที่เธอไม่รู้มันจริงๆ " ทุกคนเงียบตอนที่รองหัวหน้าพูดออกแบบนั้น ไม่มีใครเถียงออกมาจนสุดท้ายเธอก็พูดทิ้งท้ายไว้ก่อนจะกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงาน " ลบเมล์พวกนั้น แล้วกลับไปตั้งใจทำงานเถอะ เสือกเรื่องชาวบ้านมันไม่ได้เงินเดือนหรอกนะ "

“ จะห้ามได้เหรอ โหลดกันทุกคนขนาดนั้น " ลิปบอกก่อนจะนั่งลงที่ทำงานของตัวเอง ประตูแผนกเราถูกเปิดออก เนย์ที่มาทำงานตามปกติเค้าทักทายทุกคน

“ สวัสดีตอนเช้าครับทุกคน " แต่ทุกอย่างกลับเงียบ เค้าเดินไปนั่งที่โต๊ะของตัวเองเปิดงานขึ้นมาแล้วในตอนนั้นเมล์เข้าใหม่มันก็เด้งขึ้น ทุกคนต่างมองดูปฎิกิริยาของเค้าที่จะตอบสนองกับเรื่องนี้ เด็กผู้ชายคนนั้นนั่งนิ่งเค้าที่ปิดคลิปลงเพียงแค่เห็นมันไม่นานก่อนจะเงยหน้ามองคนรอบตัว

" นั่นมัน ..ไม่ใช่ผมนะ ไม่ใช่ผม ก็แค่คนหน้าคล้าย " เค้าพูด ก่อนจะส่ายหน้าไปมา น้ำตาที่ไหลออกมาของเค้ามองดูผู้คนที่ไม่พูดอะไรแต่กลับจ้องเค้าเหมือนไม่เชื่อ แล้วในวินาทีต่อมานั้นเค้าก็วิ่งออกไปนอกแผนกทันที  ผมเข้าใจความรู้สึกของเค้าแม้จะไม่ทั้งหมดแต่ก็เข้าใจ ไม่มีใครอยากจะเอาเรื่องตัวเองในด้านแย่ๆมาให้คนอื่นพูดถึงหรอก ยิ่งเป็นเรื่องความสัมพันธ์ของคนที่มีเจ้าของแล้ว ต่อให้เรื่องนั้นจะจริงหรือไม่จริง มันเหมือนการทำลายชีวิต ทำลายอนาคต ทำลายทุกๆอย่าง คำพูดของผู้คน สายตาของผู้คน ไม่ต่างอะไรกับการตกนรกทั้งเป็น

   ในตอนนั้นของผมยังเป็นแค่ภาพ ยังโดนรังเกียจแล้วโดนต่อว่านินทาขนาดนั้น แล้วเด็กคนนั้นที่ออกมาเป็นคลิป จะต้องใช้ชีวิตต่อไปยังไง ผมเองยังนึกภาพไม่ออกเลย

“ ไม่ใช่ยังไง ปฎิเสธออกมาได้หน้าด้านๆ ก็ตัวเองอยู่ในคลิปแท้ๆ " รุ่นพี่ในแผนกบอก ทุกคนที่เริ่มนินทากันถึงคลิปนั้นอย่างออกรส ผมหย่อนตัวลงนั่งที่เก้าอี้ของตัวเอง

“ คีย์ ฉันจำได้ว่านายเคยบอกว่าเห็นเนย์ไปกินข้าวเที่ยงกับหัวหน้าข้างนอก "

“ อื้ม " ผมพยักหน้ารับ

“ แสดงว่าก็คงได้กันมาสักพักแล้วสินะ ก่อนจะมาสนใจนายจริงจัง " ลิปทำท่าคิด " สงสารชะมัดเพิ่งเรียจบแท้ๆ อนาคตมาดับเพราะผู้ชายแบบนั้น คอยดูว่าคลิปนี้สุดท้ายก็ต้องไปตกอยู่ตามเว็บหนังโป๊แน่ๆ เฮ้ออ " เค้าถอนหายใจ " ไม่รู้ว่าใครจะตกเป็นเหยื่อบ้างนะว่ามั้ย แล้วเหตุผลอะไรกันวะ ที่เค้าต้องทำแบบนี้ ต้องทำลายคนอื่นแบบนี้ เพราะอะไรวะ "

“ นั่นนะสิ ฉันเองก็อยากรู้ ว่าทำไม "

“ คีย์ " รองหัวหน้าเดินมาหาผม เธอที่ผ่อนลมหายใจออกมา รอยยิ้มจางๆตอนที่มองหน้า " หลักฐานเรื่องของนายกับหัวหน้าออกมาแล้วนะ วันนี้แผนกบุคคลจะสอบสวนเรื่องนี้ให้นาย แล้วตอนนี้หัวหน้าก็มาถึงที่นี่แล้วด้วย เค้ากำลังรอนายอยู่ที่แผนกบุคคล "
“ ครับ " ตอบรับสั้นๆกับรองหัวหน้าแผนก เธอที่เอื้อมมือมาจับไหล่ผมไว้ ราวกับกำลังให้กำลังใจกัน ลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ที่นั่งแต่รู้สึกว่าอยู่ๆขามันก็แข็งไปหมด หัวใจของผมเหมือนกับจะหยุดเต้นไป

   ในวินาทีนั้นผมคิดถึงผลลัพธ์ที่ร้ายแรงที่สุดที่จะเกิดขึ้น ผลของยานั่นไม่มีอะไรอยู่ในนั้น ขวดนั้นไม่ใช่ขวดยาจริงๆ เป็นแค่ขยะชิ้นนึงที่ตกอยู่ตามหาดทั่วไป แล้วสุดท้ายผมก็ถูกไล่ออกแล้วไม่ว่าจะไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีใครรับ เพราะใส่ร้ายทำให้หัวหน้าแผนกเสื่อมเสียชื่อเสียง

" คีย์ " เสียงที่เรียกผมอีกครั้ง แต่ผมไม่รู้เลยในตอนนั้นว่ามันเป็นเสียงใคร หวนคิดถึงฟานตอนที่เค้าเดินไปยืนไหว้ศาลเจ้าที่หน้าบริษัทขอให้เค้าช่วยคุ้มครองผม ให้ผมผ่านพ้นเรื่องราวไม่ดีไปให้ได้ แต่ตอนนี้ผมไม่มีใครที่จะไปขอพรให้แล้ว ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะตัวผมเองทั้งหมด แล้วตอนนี้ก็ต้องรับผิดชอบมันทั้งหมด " ไปกันเถอะ "

" ครับ " พยักหน้ารับคนที่ตบไหล่ ตอนที่ก้าวเดินออกไป ผมคิดว่านานเหลือเกิน กับความทรมานทั้งหมดนี้ นานจนแทบจะ ไม่รู้เลยว่า เมื่อไหร่กันที่จะถึงจุดจบของมันสักที

..............................................................

ตอนหน้ามาลุ้นกัน ว่าเรื่องของคีย์ และหัวหน้าจะเป็นอย่างไร  :เฮ้อ:
สงสารชีเนย์

จากที่นั่งอ่านเม้นท์หลายๆ เม้นท์ของคนอ่าน
เรื่องที่ว่า ตัวละครนิสัยไม่นิ่ง เหมือนเรื่องอื่น คือจริงๆ เราก็วางให้ฟานเป็นคนที่ดีมากๆ แต่เวลาร้ายก็ร้ายๆมากๆนะ
เช่น ตอนที่หึงคีย์ แล้วจับคีย์ไปมีอะไรด้วยบนตึกของอาคารเรียนอะ ฟานในความคิดเราคือ เด็กวัยรุ่นที่ยังมีสภาวะอารมณ์ไม่คงที่อะ ไม่รู้จะจัดการกับความรู้สึกเสียใจมากๆนี่ยังไงดี เป็นคนรักแรงเกลียดแรง แต่เราคงเขียนให้งงอยู่หน่อยๆละมั้ง คือไม่เจาะจงให้เห็นชัดๆ
ส่วนคีย์ เราเขียนให้เป็นคนที่มีความเป็นผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ในแบบที่ เรียกว่าไงดี เขียนเป็นคำพูดออกมาไม่ถูก กล้าได้กล้าเสียเหรอวะ ( ในเรื่องที่กล้านอกใจฟาน คือเรามองว่านางกล้ามากนะ แบบไม่แคร์ไรเลยอะ ) เป็นคนที่ถ้าคิดจะทำอะไรแล้วต้องทำให้สำเร็จ ( ในส่วนของเรื่องง้อฟาน ) เป็นคนคนนึงที่ไม่ได้มีนิสัยเด่นชัดอะไรด้วยซ้ำไป แต่ส่วนใหญ่คนอ่านคงมองว่า คีย์เป็นคนซึนๆ ปากแข็งในช่วงแรก และดื้อเงียบด้วย

ส่วนบทสนทนาที่ยาวเกินไป จนเหมือนคำอธิบาย ไม่ใช่บทสนทนาแล้วนั้น
เหตุผลเพราะ เราคงอินเกินไปค่ะ เหือนเวลาเราเขียน เราชอบมีอินเนอร์กับตัวละคร ประดุจเป็นคีย์ที่มีฟานยืนอยู่ข้างหน้า
คือจริงๆ บทเดียวไม่เพียงพอ มันเหมือน นึกขึ้นมาได้ว่า ฟานเคยพูดแบบนั้นนี่ เออ งั้นตอบนี้ เออ ฟานพูดนี่ด้วย งั้นตอบนี้ไปด้วย อะไรแบบนั้นอะ  :laugh:

บางทีเหมือนเรารู้สึกว่า บางบท ฝ่ายตรงข้ามมันไม่ต้องตอบอะ
คือฟังแล้วไม่อยากจะตอบ ฟังแล้วบางประโยคทำได้แค่กรอกตามองบน ตัวละครอีกตัวก็เอาแต่พูด
กลายเป็นว่า.. ยาวไป

ยังไงจะปรับปรุงในส่วนนี้นะ

ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์นะคะ
คอมเม้นท์เมามันส์มาก หนมจะเก็บคอมเม้นท์ไปเพิ่มเติมในงานเขียน ในส่วนที่คนสงสัยจะได้คลี่คลาย

สุดท้ายนี้ ฝากแท็ก #ฟานคีย์ ทวิต
และขอบคุรที่เข้ามาอ่านคอมเม้นท์ค่ะ
ป.ล. เมื่อวานทำโพล ถามว่า นิยายที่เราแต่งเรื่องไหน ดราม่าสุด สุดท้าย " รักที่ต้องเลือก ชนะไปค่ะ "
แสดงว่าเรื่องนี้ยังไม่ดราม่า ยังไม่ต่อได้อีก  :z1:
 :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:

ออฟไลน์ LovEYouOnLy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 439
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
เอาเป็นว่าเราให้กำลังใจคนเขียนต่อไปดีกว่า เพราะบางทีเราก็อยากอ่านอะไรที่มันดราม่าๆมากๆ ขอบคุณหลายๆเน้อ

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :L1: :pig4:

ไม่รู้แล้วเอาไปพูด หรือแชร์ นี่เป็นเรื่องที่รุนแรงจริงๆ
ทำชีวิตคนพังได้เลย

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
รอดู #คีย์ฟาน กันต่อปายยยยยย คีย์ส่งไม้วิ่งผลัดให้เนย์วิ่งไปต่อ ขอบใจที่มารับส่งต่อนะ 55555

ออฟไลน์ Natsuki-ChaN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 219
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
แอบสงสาร เนย์ เบา คาดว่านางน่าจะโดนหลอกมุกเดียวกับคีย แต่นางยังเด็ก ยังใสๆ ตามหัวหน้าไม่ทัน เหอะๆ เลยเสร็จไปตามระเบียบ
รอตอนต่อไปคะ ว่าอิหัวหน้ามันจะทำไงงง :katai4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
จัดไป 2 ตอนรวดดดด
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

เรื่องฟานคงต้องปล่อยให้ไปจัดการความรู้สึกตัวเองมาก่อน
ส่วนคีย์ ก้คงต้องคิดแบบนั้นจริงๆ แต่ก้สงสาร
เรื่องหัวหน้า ขอให้ออกมาดี นางโดนไล่ออกเองละกันนะ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
รอดูจุดสิ้นสุดของแต่ละคนกันต่อไป

แต่ที่ไรท์เขียนเราว่ามันคือธรรมชาติของคนนี่ล่ะ สีเทากันไปปปป

ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2

ออฟไลน์ เจเจจัง

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
ลิปพูดได้โดนใจอีกแล้ว ที่ว่าคีย์น่ากลัวไม่เหมาะที่จะกลับไปคบด้วย คือต่อให้ดีแค่ไหน แต่ถ้าผิดหวังเสียใจหรือโกรธแล้วนิสัยเปลี่ยนจนเลวขนาดนี้ คบเป็นแฟนแล้วห่วงชีวิตตัวเองอ่ะ คีย์ไม่โกรธแถมอยากคบต่อได้งัย


หมั่นไส้คีย์อีกแล้วที่แก้ตัวแทนฟาน แหมที่ฟานเลวเพราะโดนแกทำก่อน ที่ฟานเลวขนาดนี้มันมาจากสันดานด้วยแหละ ไม่งั้นไม่ทำขนาดนี้หรอก

ออฟไลน์ HanTwoH

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ขอให้คีย์ชนะ เจอเรื่องดีๆบ้างช่วงนี้หลายอย่างเหลือเกิน555

ออฟไลน์ p^tarn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 93
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-4
เลิกกับฟานแล้ว ขอให้เจอคนดีๆนะคีย์

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
ขอให้มีเรื่องดีๆเข้ามาบ้างเถอะ ช่วงนี้ชีวิตคีย์หดหู่เกิ๊นนนนน

ออฟไลน์ tkaekaa

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 329
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ฟานเอ้ย เด็กน้อย
อิหัวหน้านี่เลวสุดติ่งจริงๆ

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ลูกกุญแจ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-2
เอาจริงๆคือเข้าใจอารมณ์เด็กอายุ19 20ของฟานนะ
มันไม่เคลียร์สักอย่าง ด่วนตัดสินใจเกินไปอารมณ์ประชดประชนเจ้าคิดเจ้าแค้นมาเต็ม
คือคีย์ทำผิดก็ควรฟังที่นางจะไปบอกให้ละเอียดแล้วก็จบๆไม่ใช่ไปทำอะไรแบบนั่น สุดท้ายคนที่อ่อนแอสุดก็คือฟานนะ

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ที่ฟานทำ ไ้ด้ผลนะ เลิกแล้ว พอแล้ว แต่ฟานทำคีย์เป็นโรคระแวง หลอน หวาดกลัว
แลกไม่ได้กับที่ฟานแค่เจ็บเพราะถูกหลอกเลย

ลิปเป็นเพื่อนที่ดี อย่างน้อยคีย์ก็ยังมีคนคอยอยู่ข้างๆ

หัวหน้าเป็นโรคจิตหรอ ไบโพล่าหรอ

สงสารเนย์ ตอนไปก็ตั้งใจแหละ แต่ตอนโดนแบบนั้น ใครจะเต็มใจ

เรื่องคนอื่น สนุกปาก เรื่องตัวเองเหยียบให้มิดเลย คนเรา

ออฟไลน์ nottto

  • MaxNuzz
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0

ออฟไลน์ MENTA

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 77
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ขอให้คีย์ชนะคดี ขอให้คีย์เจอแต่เรื่องดีๆบ้าง แล้วหลังจากนี้ก็ทำแต่สิ่งดีๆ เพื่อชดเชยเรื่องที่ไม่ดีของตัวเองที่ผ่านมา คีย์โดนมาหนักแล้ว หนักมากเกินไปสำหรับคนคนนึง ส่วนฟานยังอยากให้กลับมารักกันเหมือนเดิม ปรับความเข้าใจใจกันซะ ปมอะไรที่มีอยู่ในใจก็ช่วยกันคลี่คาย เอาใจช่วยนะ  :กอด1:

ออฟไลน์ reverofjs

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เลิกแล้วต่อกันนะฟาน แค่นี้คีย์ก็น่าสงสารเกินไปแล้ว อยากให้ต่อไปนี้มีแต่สิ่งดีๆเข้ามาหาคีย์ซักที  :monkeysad:

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง
ตอนที่ 55
' อย่า!!! '

   ประตูลิฟต์เปิดออกเมื่อลงมาถึงชั้นแผนกบุคคล ผมผงะเล็กน้อยตอนที่เห็นหัวหน้ายืนอยู่ที่หน้าห้องตรงนั้น เค้าที่กำลังยืนนิ่งอยู่คนเดียวเงยหน้ามองผมก่อนจะยกยิ้มให้

“ เป็นไง สบายดีมั้ย ไม่ได้เจอกันตั้งนาน " ผมไม่ตอบพยายามเดินเลี่ยงเข้าไปในห้องประชูมแต่กลับโดนมือหนาคว้าแขนเอาไว้ เค้าที่ดึงผมเข้าไปหาเพราะไม่ทันตั้งตัวในตอนนั้น ผมสะดุ้งสุดตัวด้วยความตกใจแล้วปกป้องกันตัวเองด้วยการผลักเค้าออกห่างตัวเสียเต็มแรง แผ่นหลังที่ถูกผลักไปชนกำแพง เค้าร้องโวยวาย " โอ๊ย! ฉันเจ็บนะเว้ยเป็นบ้าอะไรของนาย คนแค่ทัก ”

“ คีย์ เป็นอะไร ทำไมต้องผลักหัวหน้าขนาดนั้น " รองหัวหน้าถาม ผมก็ส่ายหน้าแรงๆ ก่อนจะถอยหลังออกห่าง

“ คือผม ขอโทษครับ ผมแค่ตกใจ " เหลือบมองคนที่มองถอนหายใจมองมา " ก็อยู่ๆหัวหน้าดันมาจับแขนผม ผมก็ตกใจสิ "

“ ขวัญอ่อนจังนะ "

“ แล้วมันเพราะการกระทำเหี้ยๆของใครละ " เค้ายกยิ้มตอนที่ผมพูดแบบนั้น หัวหน้าเดินเข้ามาใกล้ ผมที่ตอนนั้นเดินถอยหลังหลบไม่ให้ตัวเองเข้าไปใกล้เค้าอีกคนก็พูดเสียงไม่เบานัก

“ ถ้าอยากจะทำให้หายกลัวก็มีทางเดียว คือลองเป็นของฉันจริงๆเลยเป็นไง ฉันจะได้ลบความโหดร้ายแล้วเติมเต็มสิ่งดีๆให้ไง "

“ หัวหน้า คุณพูดแบบนั้นออกมาได้ไงน่ะ ทุเรศ! " รองหัวหน้าพูดขึ้น อีกคนก็ยกยิ้มขึ้นมา เค้าที่ดูไม่สนใจอะไรแปลก และ แตกต่างไปจากหัวหน้าที่ผมเคยรู้จัก " ความคิดต่ำๆแบบนี้ยังกับไม่ใช่คุณเลย หรือจริงๆแล้วมันคือสันดานแท้ๆของคุณ สันดานที่เพิ่งออกมาให้คนอื่นรู้ "

“ แล้วเธอละ ปกติก็เห็นแก่ตัวไม่ใช่เหรอ เอาความผิดให้คนอื่นประจำ " หัวหน้าว่าเสียงเบาๆตอนที่มองหน้ารองหัวหน้าที่ก็เหลือบตาไปมองทางอื่น " ง่ายๆก็ดูอย่างตอนงานคีย์เค้ามีปัญหาสิ ก็เธอไม่ใช่เหรอ ที่บอกให้ฉันไล่คีย์ออกบ้างละ บอกให้คีย์รับความผิดบ้างละ แล้วนี่อะไร พอฉันใกล้จะถูกไล่ออกตัวเธอเองก็คงถูกเลื่อนมาเป็นหัวหน้า ก็เลยพยายามทำดีกับลูกน้อง.. ไม่สายไปเหรอ คุณว่าที่หัวหน้าแผนกออกแบบ "

“ แต่ยังไงซะ ฉันก็คิดว่าความเลวของฉันมันก็ยังไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร อย่างเช่นพวก อยากปล้ำลูกน้องในแผนก แอบคิดแผนทำเรื่องเลวๆ พวกไม่ตรวจงาน แล้วพยายามบีบบังคับเค้าด้วยการถ่ายรูปแบล็คเมล์แล้วส่งไปในบริษัท จากนั้นก็บังคับจะข่มขืนลูกน้อง ส่วนบางคนที่มันเล่นด้วย พอตอนจะไปมีอะไรกันก็แอบถ่ายคลิปไว้ " หัวหน้านิ่ง รองหัวหน้าก็ถาม " คลิปของเนย์น่ะ คุณเป็นคนปล่อยออกมาใช่มั้ย "  เค้าไม่ตอบแค่จ้องมองอีกคนด้วยสายตาที่ไม่ตกใจอะไร แค่นิ่งมองแล้วในตอนนั้นประตูฝ่ายบุคคลก็ถูกเปิดออกมา

“ คุณธีร์ .. อ้าว คีย์ มาแล้วเหรอ " ผมก้มหน้าทักเธออีกคนก็ยิ้ม " เข้ามาสิ คุณธีร์เองก็เข้ามาได้แล้วนะคะ " หัวหน้าเดินตามคำที่พูดแบบนั้นเข้าไปในห้อง ผมมองรองหัวหน้าแผนกตัวเองที่ก็พยักหน้าลงก่อนจะตบไหล่

“ เข้าไปกันเถอะคีย์ "

“ รองหัวหน้า  คุณคิดรึเปล่าว่าคลิปนั่นของเนย์หัวหน้าจะเป็นคนปล่อย "

“ คิดสิ " เค้าพูดก่อนจะยิ้ม " คนที่ไม่ได้ปล่อยฟังครั้งแรกมันต้องตกใจไม่ใช่เหรอ แต่นี่ไม่ เพราะงั้นถ้าไม่ใช่เค้าจะเป็นใครละ น่ากลัวชะมัด ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนที่ดีขนาดนั้นพอเลวแล้วจะเลวได้ขนาดนี้ "

" นั่นสินะครับ " ผมเดินเข้าไปด้านในห้องของฝ่ายบุคคล ตรงไปที่ห้องประชุมที่อยู่อีกฝั่ง เปิดประตูเข้าไปภายในนั้นมีบุคคลหลายฝ่าย ผมเลือกนั่งเก้าอี้ใกล้กับหัวหน้าแผนกบุคคล ก่อนที่การประชุมจะเริ่มขึ้น

“ อย่างที่ทุกคนรู้วันนี้หัวข้อการประชุมของเราก็คือ สรุปเหตุการณ์ของคีย์กับหัวหน้าแผนกนั่นก็คือคุณธีร์นะคะ วันนี้เรามีคนของทางโรงแรมมาด้วย คุณชัด "

“ สวัสดีครับ " เค้าลุกขึ้นแนะนำตัวเอง " ผมเป็นหัวหน้าแผนกความปลอดภัยที่โรงแรมครับ "

“ เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า ไม่ต้องให้เสียเวลา ผลของนิติวิทยาศาสตร์ ถูกส่งมาให้เมื่อวานนะคะ ผลของทางโรงแรมที่ส่งไปก็ถูกส่งมาให้แล้วเช่นกัน "

“ แล้วก็ยังมีภาพจากวงจรปิดด้วยครับ " ซีดีแผ่นเล็กถูกวางลงบนโต๊ะ ผมเงยหน้ามองหัวหน้าที่ยังมีสีหน้าเรียบเฉย ราวกับคนที่ไม่ได้รู้สึกกลัวหรือ ตกใจอะไร " จากน้ำยาที่เหลืออยู่ในขวดที่ทางโรงแรมส่งไปตรวจนั้น พบว่ามีสารระเหยในกลุ่มไนไตรท์อยู่ครับ ซึ่งสารนี้เป็นสารที่เป็นส่วนผสมของยาปลุกเซ็กส์  "

“ ของทางบริษัท เราได้ตรวจทั้งยาแล้วก็รอยนิ้วมือ ผมก็ออกมาว่ายาที่อยู่ในขวดก็พบสารระเหยในกลุ่มไนไตรท์เหมือนกันค่ะ แล้วรอยนิ้วที่พบก็ตรงกับของคุณธีร์ " หัวหน้าแผนกบุคคลบอกก่อนจะมองหน้าร่างสูงที่ยังคงนั่งนิ่ง " คุณธีร์ค่ะ .. มีอะไรจะพูดมั้ย "

“ ไม่มี " เค้าตอบสั้นๆ " ทำไมต้องมีละ ในเมื่อผลมันออกมาเป็นแบบนี้ เถียงไปก็เท่านั้น ถ้าผมจะพูดความจริง นั่นก็คือ คีย์เองก็มีใจให้ผม  เราที่ชวนกันออกไปเดินเล่นแล้วผมก็ชวนเค้าเล่นพิเรนทร์ เพราะปกติเราก็ชอบใช้ยาปลุกเซ็กส์กันอยู่แล้ว แต่ติดที่ว่าตอนนั้นเค้าอยากจะเลิกกับผมอยู่ ก็เลยสร้างสถานการณ์ใส่ร้ายผม เพื่ออยากจะให้ผมไปไกลๆ ก็แค่นั้น "

“ ไม่จริงครับ " ผมบอก อีกคนก็ถอนหายใจออกมา

“ คีย์ นายควรจะยอมรับความจริงได้แล้ว ถ้าอยากจะบอกเลิกฉัน นายก็บอกมาตรงๆเลยสิ ทำไมต้องสร้างสถานการณ์แบบนี้ด้วย การที่นายทำทีบอกฉันว่าอยากจะได้ประสบการณ์พิเศษ อยากจะมีเซ็กส์หน้าโรงแรมที่บนหาด อยากได้ความรู้สึกแบบพวกโดนข่มขืนแบบนั้น  แต่สุดท้ายก็ตะหลบหลังฉันบอกว่า ฉันทำร้ายนายซะงั้น "

“ คุณคิดแบบนั้นได้ยังไงน่ะ คุณบอกว่าผมมีใจให้คุณ โอเค ผมยอมรับว่าผมเคยมี แต่การที่บอกว่า ผมอยากจะทำเรื่องแบบนั้นกับคุณ อยากจะเปลี่ยนบรรยากาศอะไรนั่น ถามจริงๆเถอะ ว่าคิดนานรึเปล่า กว่าจะได้เหตุผลนี้ ถามจริงๆเถอะ ว่าเอาสมองส่วนไหนคิดกว่าจะได้มันออกเป็นเหตุผลแบบนี้ คุณมันไม่ใช่คน คุณรู้ตัวมั้ย คุณเหมือนสัตว์เดรัจฉานที่มาจากนรก คุณแม่ง.. ผมไม่มีคำพูดไหนจะสรรหาคำพูดมาด่าคุณได้เลย เพราะดูคำพูดไหนแม่งก็ดูดีไปหมดพอมาเจอกับความเลวของคุณ "

“ คีย์ " หัวหน้าแผนกบุคคลคว้ามือผมเหมือนจะให้สงบสติลงหน่อย เพราะความโกรธที่ได้ยินอีกคนพูดมันกำลังทำให้ปากของสั่น น้ำตาที่ไหลออกมาของผม

“ คุณอย่าเลวไปมากกว่านี้เลย มันทำให้ผมรู้สึกเจ็บ เจ็บที่เคยมองว่า คนแบบนี้เป็นคนดีไปได้ยังไง เคยรู้สึกชอบคนน่ารังเกียจคนนี้ไปได้ยังไง เคยนอกใจแฟนผมมารู้สึกดีกับคุณที่ชั่วช้าและต่ำตมแบบนี้ได้ยังไง คือ.. คือทุกอย่างมันเหี้ยมาก มันเลว มันต่ำช้า มันไม่อยากจะนึกถึงเลยว่าคุณคือคนที่ทำมันทั้งหมด อยากได้พนักงานในออฟฟิศตัวเองเป็นเมีย ก็ทำดีกับเค้า สร้างปัญหางาน แก้ปัญหาให้ คล้ายว่าจะอยู่ข้างๆ ทำให้หวั่นไหว ทำให้ชอบ พอใครตกร่องป่องชิ้นด้วย ก็มีเซ็กส์กัน จากนั้นก็แอบถ่ายคลิปเอาไว้ ส่วนใครที่ไม่ยอมก็จ้างคนไปถ่ายภาพแบล็คเมล์ บีบบังคับทุกอย่างแม้แต่การข่มขืน "

“ แอบถ่ายคลิปเอาไว้ ? "

“ วันนี้มีคลิปส่งมาในเมล์ของทุกคนในแผนกอีกแล้ว เป็นคลิปของหัวหน้ากับเนย์เด็กใหม่ในแผนกนะคะ " รองหัวหน้าแผนกผมบอก หัวหน้าฝ่ายบุคคลก็หันไปเบิกตากว้างตกใจกับคำพูดนั้น แล้วเช่นกันหัวหน้าก็ด้วย เค้าที่พูดขึ้นเสียงดัง

“ อะไรนะ! คลิปของผมกับเนย์อย่างงั้นเหรอ “

“ ตกใจอะไรคะ เมื่อกี้ตอนฉันบอกคุณ ก็ไม่เห็นว่าคุณจะตกใจอะไรเลยนี่ " รองหัวหน้าบอกหัวหน้าที่พูดออกไปด้วยความตกใจ

“ ฉันไม่เคยได้ยินนะ ทำไมมันมีหลุดออกมาละ ใครเป็นคนส่ง "

“ ก็คุณไม่ใช่เหรอ " ผมถาม อีกคนก็ส่ายหน้า

“ เปล่านะคีย์ ฉันรักนายคนเดียว ตลอดเวลาก็รักนายคนเดียวมาตลอด ไม่เคยคิดนอกใจเลย "

“ เลิกพูดแบบนั้นสักทีจะได้มั้ย คุณจะป่วนประสาทผมไปถึงไหน แค่นี้มันยังไม่พออีกรึไง! “ ผมตะโกนออกไปอีกคนก็ยกยิ้มน้อยๆก่อนจะพิงหลังตัวเองเข้ากับโซฟาตัวที่นั่งอยู่

“ ทำไม ฉันไปทำอะไรให้นาย ชีวิตนายมันพังเหรอตอนนี้น่ะ " เค้าถาม " ก็แล้วไงละ ชีวิตฉันมันก็พังเหมือนกัน ทั้งๆที่ฉันทุ่มเททุกอย่างให้นายมาตลอด แต่นายก็ไม่เคยเห็นค่าฉันเลย ฉันยอมเป็นขี้ปากคนในบริษัท เปิดเผยภาพพวกนั้น เพราะอยากให้นายมีรู้สึกถูกรังเกียจแล้วก็ไม่มีใครเข้าใจ จนสุดท้ายก็มีแค่ฉันที่ยังอยู่ข้างๆ แต่นายก็ไม่เคยหันมาเหลียวมองมัน ฉันที่พยายามทำให้นายมีความสุขถ้าลองมีอะไรกับฉันแล้ว นายอาจจะติดใจแล้วกลับมา แต่ก็ดันมีคนมาช่วยนายไว้  แต่นายเองก็ชอบฉันไม่ใช่เหรอคีย์ทำไมละ ทั้งๆที่ก็นอกใจไอ้เด็กนั่นอยู่ตั้งหลายวัน ทำไมอยู่ๆถึงมาคิดได้ นายจะคิดได้ทำไม นายจะรู้สึกทำไม ความรู้สึกรักมันไม่ผิดนะ มีเจ้าของแล้วยังไง ใครมันแคร์ รักก็คือรักเราจอยกันได้นี่ ไม่ได้มาเอากันแบบสามคนสักหน่อย "

“ พอเถอะค่ะ ฉันฟังแล้วฉันจะอ้วกออกมา " หัวหน้าแผนกบุคคลบอก " คุณยอมรับมาเถอะ คุณธีร์ ว่าเรื่องทั้งหมดที่คีย์เล่าวันนั้นมันคือความจริง คุณจะข่มขืนเค้า จะใช้ยาปลุกเซ็กส์กับเค้า ยอมรับมาเถอะ อย่าให้เรื่องมันต้องใหญ่ไปมากกว่านี้เลย "

“ ทำไมผมต้องยอมรับ "

“ ทั้งๆที่พูดออกมาทั้งหมดด้วยปากของตัวเองแล้ว ว่าเป็นคนปล่อยภาพ ทำให้คีย์เสียชื่อเสียง ยอมรับออกมาแล้วว่าจะทำเรื่องไม่ดีกับเค้า ยอมรับมาเถอะเพราะถ้าคุณไม่ยอมรับ ฉันคงต้องเปิดซีดีนี่ ภาพจากกล้องวงจรปิดหน้าหาดในวันนั้น วันที่คุณจะทำร้ายคีย์ ทางโรงแรมได้ตัดแล้วบันทึกมาให้ทางเราหมดแล้ว "

“ แล้วถ้าผมยอมรับ มันจะเกิดอะไรขึ้นกับผมละ สุดท้ายพวกคุณก็ไล่ผมออก ทั้งๆที่ตลอดมาผมทำงานดีๆให้บริษัทมาตลอด ใครๆก็รู้ว่าแผนกออกแบบที่ผมเป็นหัวหน้า เป็นแผนกที่สร้างชื่อเสียงให้กับบริษัท แล้วนี่เหรอ สิ่งที่ฝ่ายแผนกบุคคลทำกับผม คนที่ทำงานดีมาตลอด เรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นเรื่องส่วนตัวของผมกับคีย์ แล้วก็เนย์ ไม่ใช่รึไง ไม่เกี่ยวอะไรกับบริษัท "

“ เกี่ยวสิ ทำไมจะไม่เกี่ยว การสัมมนางานจัดขึ้นภายในองค์กรของเรา แม้ช่วงเวลานั้นจะเป็นช่วงเวลาพักแต่การที่คีย์ต้องมาตกอยู่ในอันตรายก็เกิดจากต้องมางานสัมมนาที่จัดขึ้นภายใน ทำไมจะไม่เกี่ยวละ อีกอย่างคุณทำให้บริษัทเสื่อมเสียเชื่อเสียงด้วยการที่เอาเมล์ของบริษัททำเรื่องแบบนั้น นั่นก็ทำให้บริษัทได้รับความเสียหายแล้ว ไม่นับว่าคุณยังละเลยการตรวจงานซึ่งนำมาซึ่งปัญหา และนั่นมันก็ ผิดต่อกฏของบริษัทเหมือนกัน เพราะฉะนั้น ฉันจึงต้องขอไล่คุณออกตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แล้วก็ให้รองหัวหน้าของแผนกออกแบบ ขึ้นมาเป็นหัวหน้าแทน "

“ กะแล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ " ร่างสูงว่าก่อนจะถอนหายใจออกมา เค้าที่พิงร่างตัวเองกับเก้าอี้ตัวที่นั่งอยู่ จ้องหน้าผมด้วยสายตาคมที่ไม่ละไปไหน แววตาที่ทั้งความโกรธและความเกลียด " เพราะนายคนเดียวคีย์ ที่ทำให้ชีวิตฉันต้องเป็นแบบนี้ "

“ กรุณาอย่าพูดข่มขู่แบบนั้นนะคะ เพราะไม่เช่นนั้น ฉันจะแจ้งความโทษฐานที่คุณข่มขู่อีกฝ่าย "

“ หึ เข้าข้างกันดีนัก บริษัทบ้าอะไรวะ ทำงานหนักมาให้ตั้งหลายปี สุดท้ายเกิดเรื่องแค่นี้ก็ไล่ออกเหมือนหมู เหมือนหมา เห็นพนักงานตัวเล็กๆที่ไม่ได้ทำประโยชน์อะไรมากมายให้กับบริษัทมากกว่า หัวหน้างานที่ทำงานมาให้หลายปี K! " เค้าสถบก่อนจะลุกขึ้นจากที่นั่ง " ฉันไม่น่ามาจมปรักทำงานอยู่ที่นี่เลย โง่ตั้งนาน "

“ งั้นตอนนี้ก็ได้เวลาที่จะหายโง่แล้วละคะ เพราะตอนนี้ทางบริษัทก็ได้เชิญคุณออกไปแล้ว " ร่างสูงที่ลุกขึ้นยืนทันทีหลังจากได้ยินแบบนั้น รอยยิ้มร้ายๆของเค้ามองหน้าหัวหน้าแผนกบุคคลด้วยสายตาแค้นๆ ตวัดสายตามามองผมกับรองหัวหน้าเค้าเดินออกไปทั้งๆที่ไม่ได้พูดอะไรออกมาทั้งนั้น

   ผมผ่อนลมหายใจออกมา ในตอนนั้นหัวหน้าแผนกบุคคลก็หันมาพูดกับผม " ฉันขอโทษนะคีย์ ที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับนาย แต่ต่อจากนี้ไปมันจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นแล้วนะ "

“ ครับ ขอบคุณมากครับที่ตลอดมาคุณช่วยเหลือ และเห็นใจผมมาตลอด "

“ ฉันต้องเข้าข้างคนถูกอยู่แล้ว จะไปเข้าข้างคนผิดได้ยังไง " พยักหน้ารับกับเธออีกคนก็ตบหลังผมเบาๆ " ถ้าอยากจะได้วันลาพักร้อนสักหน่อยก็บอกฉันได้นะ ฉันจะจัดการให้ บางทีฉันว่านายควรจะได้พักผ่อนสักพักบ้าง "

“ นั่นนะสิ นายควรไปพักผ่อนบ้างนะ นายผอมมากแล้วหน้าตาก็อิดโรยมากเลยนะ ตอนนี้น่ะ " รองหัวหน้าแผนกผมเสริม  ก้มหน้ารับความใจดีของคนทั้งคู่

“ ขอบคุณมากครับ แต่ตอนนี้ผมไม่อยากจะอยู่คนเดียวก็เลยตักสินใจมาทำงานดีกว่า" ผมก้มหน้าลงยิ้มให้เธอ กับคนที่อยู่ในห้อง ตอนที่เดินออกมาจากห้องฝ่ายบุคคลนั้น มันน่าแปลกอยู่อย่างนึงคือ ผมไม่ได้รู้สึกดีใจอะไรมากมาย แค่รู้สึกว่าก็ยังมีเรื่องดีๆอยู่ ในที่สุดผมก็แก้ต่างให้ตัวเองได้ว่า ผมไม่ได้พูดโกหก หัวหน้าทำแบบนั้นจริงๆ และผมไม่ได้เป็นอย่างที่เค้าพูด ไม่ได้สมยอมเค้า เป็นความโล่งอกที่ตัวเองถูกพิสูจน์ได้ว่า บริสุทธิ์ แต่ก็ไม่ได้ดีใจอะไรมากมาย อาจเพราะว่า ไม่ว่าเรื่องราวนี้สรุปออกมาว่าผมเป็นฝ่ายถูกหรือผิด จะเสียหายยังไง เค้าก็ไม่กลับ.. ไม่ว่ายังไง ฟานก็ไม่มีวันกลับมารักผมเหมือนเดิมอีก

   ลงลิฟต์กลับมาที่แผนกตัวเองผมกับรองหัวหน้า ขาที่กำลังก้าวออกจากลิฟต์แต่กลับต้องผงะถอยหลังกับคนที่กำลังเดินตรงเข้ามาเหมือนกัน

" หัวหน้า " ผมเผลอหลุดปากเรียกเค้า ร่างสูงที่ถือกล่องใบโตเอาไว้เหมือนเป็นของใช้ส่วนตัวที่ก็ต้องมาเก็บออกไป หลังจากมีคำสั่งย้ายออก ผมก้มหน้าลงไม่สนใจตอนที่กำลังเดินเข้าไปในแผนกมือหนาก็คว้ามือผมเอาไว้

" จำไว้นะ ว่าชีวิตฉันมีวันนี้ได้ก็เพราะนาย "

" ไม่เกี่ยวอะไรกับผม คุณทำตัวของคุณเองทั้งนั้น " ผมบอก อีกคนก็ยกยิ้ม

" สักวันฉันจะทำให้ชีวิตของนาย จบลงแบบไอ้เด็กเนย์นั่น เพราะนายกล้าที่จะปฎิเสธคนแบบฉัน " ยืนนิ่งมองเค้าที่พูดออกมาด้วยสายตาโกรธ " ฉันบอกว่าแล้วว่าอย่าขัดใจฉัน เพราะไม่งั้นเราจะได้เห็นดีกัน แล้วนั่นก็คือผลที่เด็กนั่นขัดใจฉัน "

“ คุณเป็นคำปล่อยคลิปพวกนั้นออกมาจริงๆสินะ " รองหัวหน้าที่ยืนข้างผมพูด

“ แล้วทำไม ฉันต้องตกต่ำไปคนเดียวละ อย่าหวังว่าจะมีความสุขอยู่ในบริษัทนี้ได้เลย " เค้าบอกก่อนจะหันมาจ้องหน้าผม " นายเองก็ด้วยคีย์ .. สำหรับนาย จำไว้ว่าอะไรที่ฉันต้องได้ ฉันก็จะไปเอามันมา  " สายตาคมมองผมตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าก่อนจะยกยิ้ม " ระวังตัวไว้ก็แล้ว "

“ เลิกพูดจาข่มขู่คนอื่นก่อนจะที่ฉันจะแจ้งความจับคุณ "

“ หึ.. “ หัวหน้ายกยิ้ม " ผมไปก็ได้ แล้วเจอกันนะ คีย์ " คำพูดทิ้งทายที่ทำให้ผมนิ่งค้างไป แววตาของที่ไม่สั่นไหวของผม ทุกอย่างในร่างกายมันชาไปหมด คล้ายกับโลกทั้งใบนี้ได้หยุดหมุนไป ภาพที่หน้าโรงแรมนั่นหวนกลับมาในตาของผม เสียงกรีดร้องของผม ใบหน้าคมที่พยายามเข้ามาใกล้ แรงที่พยายามดึงรั้งให้ผมหยุดนิ่ง มือที่กำตรงข้อมือไว้แน่น ผมคิดถึงมือสากไที่ลูบไล้ไปทั่วร่างกาย

“ คีย์ "

“ อย่านะ!!!” ผมตะโกนออกไปเสียงดัง ตอนที่เด้งตัวออกห่างคนที่เอ่ยทัก รองหัวหน้าแผนกเบิกตาน้อยๆ ก่อนจะผ่อนลงช้าแล้วเอ่ยพูดกับผม

“ นี่ฉันเอง โทษที ทำให้ตกใจใช่มั้ย "

“ รองหัวหน้า ขะ ขอโทษครับ " ผมก้มหน้าบอกเค้า สายตาสั่นไหวที่กำลังกลัวของผม น้ำตาที่ไหลออกมา เธอเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะกอดไหล่ผมไว้ ฝ่ามือที่ลูบหลังปลอบๆ

“ ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรนะ ไม่ต้องคิดมาก ไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้น นิ่งซะไม่ต้องร้อง  เค้าจะไม่มีวันทำอะไรนายได้หรอก เค้าไม่กล้าหรอก " เค้ากล้า เค้าทำแน่ๆ ผมรู้สึกแบบนั้น มั่นใจในแววตาของเค้าที่มองมาที่ผม " คีย์ กลับเข้าไปนั่งข้างในเถอะ ไปนั่งพักสักหน่อยนะ "

“ ครับ " ผมตอบรับเธอเสียงเบาๆ ตอนที่ยกมือขึ้นเช็ดน้ำแล้วเดินเข้าไปนั่งที่ที่นั่งของตัวเอง ลิปก็หันมามองไม่มีเสียงถามอะไร เค้าที่ยื่นมือมาจับมือผมไว้

“ ไว้ตอนเย็นหาอะไรอร่อยๆกิน แล้วฉันจะพานายไปส่งบ้านนะ วันนี้เลิกงานสักหกโมงเย็นเป็นไง ดีมั้ย "

“ ก็ได้นะ "

“ หัวหน้าถูกไล่ออกแล้วสินะ "

“ อื้ม " พยักหน้ารับอีกคน

“ เมื่อกี้ตอนเค้าเข้ามาเก็บของ ในแผนกเงียบมาก ไม่มีใครพูดกับเค้าเลย เค้าเองก็เก็บของเงียบๆ แล้วก็พูดออกมาว่า เพราะที่นี่ก็เลยทำให้เค้าต้องตกต่ำแบบนี้ เค้าไม่น่ามาอยู่ที่นี่ ไม่น่ามาอยู่กับคนแบบพวกเราเลย " ลิปบอกก่อนจะยกยิ้ม " มันตลกน่ะว่ามั้ย ทั้งๆที่เค้าทำตัวเองแต่ไม่มีเลยสักเสี้ยววินาทีเดียว ที่เค้าจะคิดว่าตัวเองผิด ก็ยังบอกว่าคนอื่นผิดทั้งนั้น น่าสมเพช "

“ เค้าบอกด้วยนะ เมื่อกี้ตอนที่เดินออกไป เค้าเจอฉัน เค้าบอกฉันว่า ให้ฉันระวังตัวเองไว้ให้ดี เพราะอะไรที่เค้าต้องได้ เค้าต้องได้ เค้าบอกแบบนั้น "

“ คีย์ "

“ ฉันกลัวลิป " ผมร้องไห้ออกมาตอนที่หันมองเพื่อนตัวเองที่เลื่อนเก้าอี้เข้ามาใกล้ " ฉันกลัวมากๆเลย อึก กลัวมากๆ ฉัน อึก ฮือๆ ฉันจะทำยังไงดี ถ้าว่ามันเกิดขึ้นละ   ฉันยังจำวันนั้น วันที่เค้าทำแบบนั้นกับฉัน วันที่ฟานสั่งให้คนของเค้ามาทำแบบนั้นกับฉัน " มือของผมจับกันแน่นบีบจบฝ่ามือขาวกลายเป็นสีแดง

" อย่าไปคิดถึงมันเลยคีย์ " ยาซุยเอื้อมมือมาจับมือผม " ถ้าเราระวังตัวเองดีๆ ไม่มีทางที่เรื่องร้ายแบบนั้นจะเกิดขึ้นกับเราหรอก ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนนายเอง ไม่ต้องกลัว  " มองแววตาของคนที่กำลังปลอบอยู่ในตอนนั้นก็ได้แต่นิ่ง ผมพยักหน้าลงแม้จะไม่มั่นใจอะไรเลยก็ตาม 

   ตั้งแต่เกิดเรื่องแบบนั้น ทุกอย่างมันบอกกับผมว่า อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ ต่อให้ระวังตัวหรือไม่ระวังตัว ขนาดวันนั้นเดินอยู่ในที่ที่คนเยอะๆก็ยังโดนเลย นับภาษาอะไรกับการเดินกันแค่สองคน ถ้ามากันมากกว่าสองคนก็จบแล้ว อีกอย่างพอลิปมาส่งผม ผมเองก็ต้องเป็นห่วงเค้าอีกในตอนที่เค้าเดินกลับไป หัวหน้าไม่ชอบลิปบางทีอาจจะคิดแค้นแล้วมาทำอะไรเพื่อนผมก็ได้  " ทำงานกันดีกว่านะ เดี๋ยวไม่เสร็จ " ผมยิ้มให้อีกคนตอนที่เค้าดันตัวเองกลับไปทำงาน ผมเองก็กลับมาทำงานบ้าง แม้จิตใจจะคิดแต่เรื่องของอีกคน คิดถึงแววตาและคำขู่พวกนั้นก็เถอะ

   ช่วงเวลาใกล้เลิกงาน ผมที่จดจ่อกับงานก่อนจะหันมองคนข้างๆที่เหมือนกำลังตึงเครียดอะไรสักอย่างกับปลายสายของตัวเอง ลิปที่ถอนหายใจออกมา ก่อนจะหันมามองผมแล้วลุกขึ้นออกไปโทรศัพท์นอกแผนก เค้าคุยอยู่นานด้วยสายตาเคร่งเครียดก่อนจะเดินกลับมานั่งที่เดิม

“ มีเรื่องให้เครียดอีกแล้วเหรอ " ผมแซว อีกคนก็พยักหน้ารับหน่ายๆ " ทำไม แฟนงอนเหรอ "

“ คุณเมษไม่สบายน่ะ นอนซมอยู่ที่บ้าน ก็เลยบอกให้ฉันกลับบ้านเร็วหน่อย ฉันเลยบอกไปว่า จะไปส่งนายก่อน แต่ดูเหมือนเค้าจะไม่เข้าใจในสิ่งที่ฉันพูดสักเท่าไหร่ ก็เลยประชดว่า ปล่อยให้แฟนแบบเค้าตายไปได้ก็ดี " ผมหลุดหัวเราะออกมา คิดสภาพผู้ใหญ่ใจดีแบบนั้นมาทำท่าทางประชดแบบเด็กๆแล้วขำ " ตลกตรงไหนเนี้ยคีย์ "

“ ก็คิดภาพคนสุขุมๆแบบเค้างอนแล้วขำ "

“ เค้าไม่ใช่คนในแบบที่ใครๆเห็นหรอก เป็นแค่ไอ้แก่ตันหากลับคนนึงก็เท่านั้น "

“ ที่บอกว่าเค้าตันหากลับ นี่หมายถึงเรื่องแบบนั้นรึเปล่า " ผมเหล่มองอีกคนที่ก็ถอนหายใจออกมาแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร " ใช่แน่ๆ ทำไมอะ เค้าเป็นพวกยังไง "

“ ไม่อยากจะพูดถึง พอเถอะ "

“ ที่ไม่อยากจะพูดถึง เพราะคืนนี้ต้องดูแลคนป่วยแบบนั้นรึเปล่า "

“ อย่าพูดเหมือนว่าขำไปหน่อยเลย ฉันอยากจะไปส่งนายก่อนไปหาเค้านะ ยังไงฉันก็เป็นห่วงนาย "

“ ไม่เป็นไรหรอก ลิป นายไปเถอะ ฉันจัดการชีวิตตัวเองได้ เดี๋ยวฉันจะขึ้นแท็กซี่กลับบ้านเอง ไม่ขึ้นรถไฟฟ้าหรอก "

“ เหรอ " เค้าถามย้ำด้วยความเป็นห่วง

“ ไม่ต้องห่วงฉันหรอก ฉันดูแลตัวเองได้ นายกลับไปดูแลคุณเมษเถอะ เดี่ยวเค้าโกรธว่านายมัวเอาเวลามาดูแลฉัน เดี๋ยวสั่งให้ฉันเลิกคบกับนายพอดี "

“ แต่ว่า..”

“ ถ้าถึงคอนโดแล้ว ฉันจะโทรหานาย ไม่ต้องกลัวหรอก "

“ ขอโทษนะคีย์ แต่พรุ่งนี้ฉันจะไปส่งนายแน่ๆ ไม่ต้องห่วง แต่วันนี้ขอกลับไปเคลียร์กับไอ้แก่ก่อนนะ " ผมพยักหน้ารับอีกคน ตอนนั้นผมหันกลับมาทำงานของตัวเอง ในใจที่กลัวแต่ต้องฝืนเอาไว้ ผมไม่อยากจะให้เพื่อนลำบาก ยังไงชีวิตใครก็ชีวิตมันอยู่แล้ว ถ้าต้องให้เพื่อนช่วยเหลือตลอดเวลา ก็ต้องช่วยกันอยู่ตลอดไป

   นาฬิกาบอกเวลาเลิกงาน ผมเก็บของเปิดคอมพิวเตอร์ก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวที่นั่ง ลิปที่ลุกขึ้นตามในตอนนั้นผมสังเกตเห็นเนย์ ที่ยังนั่งทำงานอยู่ไม่ไปไหน คิดถึงคลิปหลุดของเค้าที่วันนี้ข่าวก็แพร่ไปทั่วทั้งบริษัท คลิปที่ถูกส่งต่อ ทำให้มีแต่คนพูดถึงเรื่องนี้ตลอดพักเที่ยง ร่างที่ไม่ขยับไปไหนตลอดวันเค้าที่เอาแต่นั่งทำงานข้าวปลาไม่กิน ผมถอนหายใจออกมาก่อนจะชวนเค้ากลับบ้านด้วยกัน

“ เนย์ กลับบ้านกันมั้ย " คำถามที่ทำให้เด็กผู้ชายหันมามองหน้าผม ก่อนจะส่ายหน้า

“ ไม่ครับ ขอบคุณครับพี่คีย์ " เค้าบอกผมก็พยักหน้ารับ ลิปหันมามองหน้าผม เราเดินออกไปจากแผนกด้วยกัน ในตอนนั้นเค้าก็พูด

“ วันนี้ทั้งวัน เนย์ไม่ได้คุยกับใครเลย เอาแต่ทำงาน น่าสงสารเหมือนกันนะ "

“ อื้ม พรุ่งนี้เราชวนเค้าไปกินข้าวด้วยกันดีกว่ามั้ย มันคงมีคนมองแต่ฉันคิดว่า ตอนนั้นถ้านายไม่อยู่ข้างๆฉัน ฉันคงไม่เข้มแข้งถึงตอนนี้หรอก "

“ ได้สิ พรุ่งนี้นะ " ลิปตอบรับ เราลงลิฟต์มาถึงหน้าตึก เค้าที่แยกย้ายกลับไปผมก็ถอนหายใจกระชับกระเป๋าก่อนจะเดินไปเรียกแท็กซี่ที่อยู่ข้างหน้า รถที่จอดอยู่ผมเปิดประตูตอนที่จะเอ่ยถาม ผมผงะกับคนขับหน้าเข้มที่ก็หันมามองด้วยสายตานิ่งเฉย ทุกอย่างนิ่ง หัวใจของผมเต้นแรงขึ้นมา เผลอคิดถึงเรื่องนั้นอีกแล้ว เรื่องของผู้ชายสองคนนั้น ผู้ชายคนที่ลูบไล้ร่างกายของผม

“ คุณครับ "

“ ขอโทษครับ คือ.. ผมไม่ไปแล้วครับ " ปิดประตูคืนรถตอนที่วิ่งให้ออกห่างแท็กซี่คันนั้น ผมตัดสินใจวิ่งไปที่สถานีรถไฟที่คนค่อนข้างพลุกพล่าน ผ่อนลมหายใจหอบช้าๆ มองดูคนที่กำลังต่อคิวกันกลับบ้าน ผมเดินไปนั่งรอตรงที่นั่ง รอจนกว่าคนจะเบาบางลงสักหน่อย แล้วค่อยขึ้นไปต่อคิวขึ้นรถไฟกลับบ้าน

   รถที่เคลื่อนตัวไปช้าๆ ผมมองออกไปนอกหน้าต่างโบกี้ ทุกอย่างก็เหมือนเดิม แต่สำหรับผมมันไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีก ทุกอย่างเปลี่ยนไปช้าๆ รอบตัวดูน่ากลัวไปหมด ไม่ว่าจะเป็นสถานที่หรือผู้คน ความหวาดกลัวที่คอยเอาแต่ระแวงทุกอย่างทำได้แค่หลับตาลงช้าๆ ต้องใช้ชีวิตต่อไปไม่ว่าจะเป็นยังไงก็ตาม ผมคิดแบบนั้น สักวันก็ต้องหายกลัวแล้วก็กลับมาเป็นคนเดิมได้ในที่สุด

   ลงรถไฟที่สถานีของคอนโดตัวเอง คนเบาบางกับอากาศช่วงตะวันลับขอบฟ้าทำให้ทุกอย่างดูสลัวเป็นสีส้มไปหมด ผมก้มหน้าก้าวเท้าเดินด้วยความเร็ว เหลือบมองคนรอบข้างด้วยความระวัง แผ่นหลังของผมเย็นวาบรู้สึกเหมือนมีใครบางคนจับจ้องมาตลอดเวลา แต่ผมไม่กล้าจะเหลือบมอง กลัวจนแม้แต่กระดูกที่คอก็ไม่สามารถหันไปมองได้ทั้งๆที่ใจอยากรู้ว่าเป็นใคร จะได้ระวังตัวได้ทัน  ผมที่ได้แต่เร่งฝีเท้า คิดถึงคำพูดของหัวหน้า คำที่หัวหน้าพูดกับผม  '  จำไว้ว่าอะไรที่ฉันต้องได้ ฉันก็จะไปเอามันมา ' ความคิดที่ทำให้ฝีเท้าเร่งขึ้นจนเกือบจะกลายเป็นวิ่ง แต่เงาข้างหลังก็ยังจะก้าวเท้าให้เร็มขึ้นตามมาอย่างไม่ลดละ

   เหตุการณ์ตอนนั้นที่ยังอยู่ในใจของผม เสียงร้องขอความช่วยเหลือที่ตะโกนออกไป เป็นช่วงเวลาที่ทั้งทรมานและโหดร้าย ไม่อยากจะเกิดเรื่องแบบนั้นอีก เพราะหนนี้อาจจะไม่ได้โชคดีเหมือนหนนั้น คำพูดของหัวหน้าดังเข้ามาในหูของผมอีกครั้ง แววตาของเค้าที่ผมยังจดจำได้ดีก่อนที่เค้าจะพูดคำนั้น ' แล้วเจอกันนะคีย์ '
' ไม่ ต้องไม่ใช่เค้า ต้องไม่ใช่ ' ในใจของผมคิด ขาของผมเร่งขึ้นอีกแล้วตอนนั้นมือหนาของคนที่เดินตามก็เอื้อมมือมาคว้าผมไว้หยุดชะงัก แววตาของผมเบิกกว้างในตอนนั้นปากก็ส่งเสียงร้องออกไปด้วยความกลัวอย่างสุดขีด

“ อย่า!!!!!!!!!! “

.................................................................

สงสารคีย์ ทั้งเรื่องของฟาน และก็เรื่องของหัวหน้า
อีหัวหน้าเลวมาก เกลียดมัน  :m31:
ช่วงนี้เราเบลอมากเพราะมัวแต่เขียนนิยายชีวิต ขอทอล็คแค่นี้นะคะ
ยังไง ฝากเม้นท์ ฝากแชร์ในเฟส และ ฝากแท็ก #ฟานคีย์ ในทวิตเตอร์ด้วยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้า  :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
เรากลัวน้องเนย์คิดสั้นจังเลย :katai1:

ออฟไลน์ MENTA

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 77
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ค้างงงงงงงงงงงงงง  :ling1:

ออฟไลน์ ่jjay

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 454
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-0
สงสารคีย์จังเลย ต่อไปจะมีชิวิตแบบคนปกติได้ยังไง :hao5:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด