ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง{ตอนพิเศษที่ 2 UP - 10.2.60}หน้า 42 (จบเรื่อง+รวมเล่ม)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง{ตอนพิเศษที่ 2 UP - 10.2.60}หน้า 42 (จบเรื่อง+รวมเล่ม)  (อ่าน 323460 ครั้ง)

ออฟไลน์ Mynun

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
โอ้ย มันเริ่มไม่สนุกละ
เราขอไม่อ่านเรื่องนี้ต่อน่ะ
เหตุผลก็รู้ๆกันเนอะ ขอไม่อธิบาย
เพราะมันเห็นๆกันอยู่แล้วในเนื้อเรื่อง

ออฟไลน์ nottto

  • MaxNuzz
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0

ออฟไลน์ mareya.no7

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
เรายังคิดเหมือนเดิม ตัวหลักของเรื่องดูจิตๆ เป็นพวกสุดโต่งสุดกู่ คืออารมณ์ของคนปกติเค้าไม่เป็นกัน ยิ่งไอ้หัวหน้ายิ่งแล้วใหญ่ ไร้ซึ่งความยับยั้งชั่งใจแบบสุดๆ เอาจู๋นำทุกอย่าง เหอๆ ลิปเองตอนแรกก็เหมือนพูดถูกไปหมด (เราเองก็เคยเข้าใจอย่างนั้น) แต่มองดีๆ เราว่าเหมือนสนองความต้องการของตัวเองมากกว่า เอาความสะใจตัวเองเป็นหลัก เอาไปเอามาก็เหมือนพวกบ่างช่างยุ คอยว่าคอยยุแต่ไม่เห็นช่วยอะไรคีย์จริงๆ ซักอย่าง

อันนี้คือความเห็นส่วนตัวนะคับ ไม่ใช่ไม่ดี เรามองคนเขียนถ่ายทอดออกมาได้ดีเลยล่ะ รักโลภโกรธหลง เห็นได้อย่างชัดเจน สะท้อนออกมาให้เห็นว่าไม่ใครสมบูรณ์แบบไปหมด สนุกมากคับ ติดตามจนจบแน่นอน และขอเป็นกำลังใจให้คุณหนมเขียนนิยายดีๆ ออกมาเยอะๆ นะคับ สู้ๆ

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4

ออฟไลน์ เอมมี่

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 572
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
อยากให้คีย์เจอคนที่ดีกว่า ไม่อยากให้รีเทริ์นกับฟาน 
เพราะฟานนิสัยยังเด็กเกินไป ไม่มีเหตุผลบ้าบอคอแตก

ออฟไลน์ ลูกกุญแจ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-2
รอดูจุดที่จะมาเชื่อมอีกครั้งหรือเปล่า????
ฟานนี่น่าตบปากนะ5555

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
รับฟัง และ ยอมเข้าใจกัน ทั้ง 2 ฝ่าย ..

ออฟไลน์ reverofjs

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ฟานนี่ดูสับสนตัวเองนะ มาวอแวคีย์อยู่ได้ :m16: :m16: :m16:

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ตอนนี้สงสารทุกคน ที่ต้องเจอเรื่องแบบนี้ ไม่จบสิ้นสักที
อยู่กับความแค้น และการหลอกลวง ทำร้ายกัน

ที่ฟานจะกลับมา เพราะห่วงคีย์ใช่ไหม

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง
ตอนที่ 57
' ทั้งเกลียดทั้งรัก '

    ' อย่าคิดฆ่าตัวตายนะ ช่วยอยู่ทรมานเหมือนฉันเถอะ ถึงฉันจะเกลียดนายแต่ก็ไม่ได้อยากจะให้หายไปไหนหรอก " มีแต่อ้อมกอดที่รัดตัวผมไว้แน่น ไม่เข้าใจความรู้สึกที่เกิดขึ้นตอนนี้เลย ผมไม่เข้าใจคนตรงหน้านี้เลยด้วยซ้ำว่ากำลังคิดอะไรอยู่ แต่อ้อมกอดที่กอดเค้าไว้ตอนนี้ กลิ่นที่คุ้นชินนี้ ทำให้ผมได้แค่หลับตาลงแล้วสูดมันเข้าไปเสียเต็มปอด มันเป็นความคิดถึง คิดถึงเสียเหลือเกินกับสัมผัสแบบนี้ น้ำตาของผมไหลออกมาตอนที่ซบลงไปบนไหล่ของเค้า " ถ้ามันยากนักกับการมีชีวิตอยู่ที่ต้องกลัวแบบนี้ ฉันจะมาอยู่กับนายเอง ฉันจะไม่มีวันให้นายมีโอกาสรอดไปฆ่าตัวตายที่ไหนหรอก ฉันจะให้นายอยู่ข้างฉัน ให้นายทรมานเพราะฉันทำให้นายทรมาน ดีกว่าให้นายตายแล้วพ้นจากความทุกข์นี้ไปคนเดียว ความทุกข์ที่จะมีแค่ฉันที่ยังจมอยู่กับมัน ถ้าเป็นแบบนั้นฉันจะขอรับข้อเสนอของนายดีกว่า ข้อเสนอที่นายบอกว่า ให้เรากลับมารักกันแล้วนายจะทำทุกอย่างเพื่อพิสูจน์ให้ฉันเห็นว่า นายรักฉันจริงๆ  เพราะฉันจะไม่ยอมให้นายตายไปจากฉันเด็ดขาด ไม่มีวันยอมให้นายพ้นจากความทุกข์นี้ไปคนเดียวหรอก ไม่มีวัน  '

“ หมายความยังไง " ผมเอ่ยถามเค้าที่ยังคงกอดผมไว้ " ที่บอกว่าจะกลับมารักกัน มาอยู่ด้วยกัน มันหมายความว่ายังไง "

“ อย่าคิดที่จะฆ่าตัวตายเลยนะ "

“ ไม่ต้องกลัวถึงฉันตาย ฉันก็ไม่หลอกนายหรอกน่า " พูดติดตลกออกไปแต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ได้ขำ

“ ไม่ตลก " ฟานพูดสั้นๆ ก่อนจะผละตัวเองมาจ้องหน้าผม " อย่าคิด หรือพูดว่าอยากจะตายอีก เข้าใจมั้ย "

“ รู้แล้วน่า ฉันก็พูดไป ไม่ได้คิดว่าจะฆ่าตัวตายจริงๆหรอก " ผมบอกเค้าก่อนจะยิ้มแล้วเบือนหน้าหนีไปทำอย่างอื่น ขาที่เดินเข้าไปในครัวกดน้ำจากตู้เย็นออกมาก่อนจะดื่ม

   ไม่ใช่ว่าไม่เคยคิดหรอก แต่ว่าคิดมาตลอดตังหาก ตั้งแต่ตอนที่มีเรื่องโดนนินทาก็รู้สึกว่าถูกกดดันด้วยสายตาจากคนอื่นๆมาตลอด คำพูดเสียดสีพวกนั้น ผมเคยมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วรู้สึกว่า ถ้าดิ่งตัวเองลงมาจากดาดฟ้าสูงก็คงดี อยากจะให้คนที่คอยเอาแต่ด่าว่า รู้บ้างว่าตัวเค้ากำลังทำอะไรอยู่ รู้บ้างว่าการพูดถึงคนอื่นในสิ่งที่ตัวเองไม่รู้จริงมันเป็นยังไง แล้วคำพูดพวกนั้นมันสร้างความเจ็บปวดมากแค่ไหน อยากจะให้รับรู้ความรู้สึกว่า เพราะคำพูดของตัวเองทำให้ใครคนนึงต้องจบชีวิตลง แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้ตัดสินใจทำอะไรลงไป ทำได้แค่คิดเท่านั้น อาจเพราะตัวผมมีทั้งฟาน และมีลิปอยู่เป็นกำลังใจก็เลยไม่คิดว่าจะจบชีวิตลงเพื่อคนไร้ค่าพวกนั้น

   แต่ทุกอย่างที่ค่อยๆเปลี่ยนไปอีกครั้งตั้งแต่ครั้งงานสัมมนา ตอนที่โดนหัวหน้าทำร้าย ตอนที่โดยผู้ชายสองคนนั้นฉุดไปแล้วล่วงละเมิดทางเพศ ภาพทุกอย่างในวันนั้นยังคงหลอกหลอนแล้วอยู่ในสายตา ทุกอย่างที่ฝังลึกลงไปในความรู้สึก สัมผัสที่ยังคงแจ่มชัดในใจ มันยากเกินจะลืมเลือนไปในเวลาสั้นๆ

   บางทีก็ไม่กล้าที่จะลงลิฟต์คนเดียว ไม่กล้าขึ้นรถไฟที่มีผู้คนเบียดกันเยอะๆ กลัวการที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ข้างนอกคนเดียว แล้วตอนนี้ก็ต้องมากลัวกับคำพูดข่มขู่ของหัวหน้าที่ยังคงจำได้ดี ว่าเค้าต้องการอะไร ทุกอย่างที่ค่อยๆบีบบังคับให้อยากตายไปทีละนิด บีบบังคับให้ทางรอดสุดท้ายที่มีคือการตายจากไปเท่านั้น สำหรับผมตอนนี้ราวกับว่าโลกใบนี้มีแค่สีดำ มองไปทางไหนก็มืดไปหมด สว่างอยู่แค่ทางเดียว คือตายจากเรื่องนี้ไปซะ 

“ ไม่จริงหรอก นายคิดจะฆ่าตัวตายจริงๆใช่มั้ยละ " คำพูดของฟานที่ทำให้ผมหันไปมองเค้า ไม่มีคำตอบออกจากปากผมยกแก้วเปล่าขึ้น เพื่อเปลี่ยนคำถาม

“ นายอยากจะกินอะไรหน่อยมั้ย "

“ ตอบฉันสิ! " เค้าบอกก่อนจะถอนหายใจแล้วเดินเข้ามาใกล้ผม สายตาคมที่จ้องมองมา " สัญญากับฉันก็ได้ ว่าจะไม่ฆ่าตัวตายไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น " ผมเงียบเป็นคำตอบให้เค้า เป็นคำถามที่ผมไม่มั่นใจในคำตอบ เพราะไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็เลยไม่มั่นใจที่จะตอบ ถ้าเกิดว่าผมโดนหัวหน้าฉุดไปข่มขืนจริงๆก็คงอยากตายมากกว่าจะมีชีวิตอยู่ให้เค้าข่มขู่แล้วเป็นทาสกามของเค้า " สัญญากับฉันมาสิ " เค้าคว้ามือผมไปจับเขย่าและบีบรัดแน่น " ฉันบอกว่าให้ตอบออกมา ตอบฉันสิ ตอบ!”

“ ฟาน ฉันเจ็บนะ "

“ เจ็บก็ตอบออกมาสิ พูด! สัญญากับฉัน! ว่านายจะไม่ฆ่าตัวตาย นายจะอยู่ จะอยู่ให้ฉันเห็นหน้านายไปแบบนี้ หน้าของคนเลวๆที่นอกใจฉัน สัญญาสิ "

“ ฉันสัญญาไม่ได้หรอก ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับฉันบ้าง แต่ฉันสัญญานะ ว่าตอนนี้ฉันจะยังอยู่ ยังไม่ไปไหนหรอก ฉันไม่มีความคิดจะจบชีวิตตัวเองเพราะคำขู่ที่ยังไม่เกิดขึ้นหรอก ไม่ต้องกลัว " ผมบอกเค้าก่อนจะมองสายตาที่กำลังหลุบลงต่ำ " อย่ากลัวไปเลยฟาน คนเราเกิดมาก็ต้องตายทั้งนั้น จะช้าจะเร็ว ก็ต้องตายอยู่ดี  " เอื้อมมือขึ้นประคองหน้าของอีกคนไว้ " แต่ตอนนี้ฉันก็ยังไม่ไปไหนหรอก ยังอยู่ให้นายเกลียดขี้หน้าไปอีกนาน เป็นคนเลวๆที่เคยทำร้ายนายอยู่แบบนี้แหละ คราวนี้ก็สบายใจได้แล้ว ถ้านายคิดแล้วกังวลเรื่องนั้นละก็ ฉันไม่ทำแบบนั้นหรอก "

“ จริงนะ "

“ อื้ม จริงสิ แต่ก็แปลกดีเหมือนกันนะ ที่นายมาห้ามให้ฉันไม่ตายแบบนี้ ทั้งๆที่นายเองก็ฆ่าให้ฉันตายทั้งเป็นด้วยการให้ไอ้ผู้ชายสองคนนั้นมันมาทำร้ายฉัน นายที่เหมือนฆ่าให้ตายไปแล้ว กลับมาขอร้องว่าไม่อยากจะให้ตาย แปลกดีเหมือนกัน " ผมหลุดยิ้มออกมาก่อนจะหันไปบอกเค้า " คราวนี้ก็กลับบ้านไปได้แล้ว ถ้ากลับดึกกว่านี้ เดี๋ยวไม่มีรถแท็กซี่เข้าไปในซอยหอนะ "

“ ฉันขอโทษเรื่องนั้น ขอโทษเรื่องที่ไม่ดีกับนาย ขอโทษที่ทำร้ายนายขนาดนั้น ขอโทษ มันเป็นเพราะฉัน ฉันก็มีส่วนทำให้นายอยากจะฆ่าตัวตาย ฉันขอโทษ "

" ฟาน "

" แต่ฉันพูดจริงๆนะ เรื่องนั้นน่ะ " ฟานเงยหน้าขึ้นบอก " เรื่องที่บอกว่าจะกลับมาอยู่ที่นี่ เพื่อให้นายพิสูจน์เรื่องนั้น เรื่องที่นายเคยบอกว่า นายรักฉันจริงๆ แล้วอยากจะแก้ตัว อยากจะทำให้ฉันรู้ว่านายรักฉัน "

“ ฟาน พอเถอะนายไม่เชื่อคนอย่างฉันหรอก ถ้านายคิดจะเชื่อ นายเชื่อไปนานแล้วไม่ใช่จะพยายามมาเชื่อเพราะรู้สึกว่าฉันกำลังจะฆ่าตัวตาย ถามจริงๆนายจะเชื่อฉันได้เหรอ ตอนนี้นายคิดเรื่องของฉันเป็นแบบไหนกัน ถ้าเอาตามที่ฉันคิด ตอนนี้นายคงคิดว่า ตอนที่สัมมนาคราวนั้นฉันคงมีอะไรกับหัวหน้าแล้ว แล้วนายก็ปักใจเชื่ออย่างงั้นโดยไม่ฟังอะไร  นายยังคิด แล้วคิดอยู่ตลอดว่าฉันชอบเค้า ทั้งๆที่ฉัน บอกนายมาตลอดเหมือนกันว่าฉันไม่ได้ชอบเค้าแล้ว ถ้านายคิดว่าจะอยู่กับฉันที่นี่ เพื่อรั้งไว้ให้ฉันไม่ฆ่าตัวตายแล้วละก็ อย่าห่วงเลย ฉันไม่ฆ่าตัวตายหรอก ถ้าฉันจะฆ่าตัวตายละก็ คงมีเหตุผลอะไรที่หนักหนามากสักอย่างที่จะจบชีวิตลง แต่มันก็คงไม่เกี่ยวอะไรกับนาย "

“ ถ้าฉันไม่เปิดใจ นายก็ทำให้ฉันเปิดใจสิ ไหนบอกว่าอยากจะพิสูจน์ไง นี่ไงก็เสนอข้อเสนอให้พิสูจน์แล้วไง ทำไมไม่รับไว้ละ แค่รับไว้มันไม่ได้รึไง ยังจะต้องมีอะไรอีก "

“ ไม่มีอะไรที่ฉันต้องการแล้วฟาน ก็จริงอยู่ที่ฉันอยากจะให้นายให้โอกาสฉันแต่ฟานมันต้องไม่ใช่แบบนี้สิ การเปิดใจรับฟังน่ะ มันต้องรู้สึกอยากจะเปิดใจไม่ใช่เอาเรื่องนี้มาอ้างแต่จริงๆไม่ได้เปิดใจจะรับฟังอะไร ถ้าไม่รู้สึกจะเปิดใจตั้งแต่แรกก็ไม่ต้องหรอก มันเสียเวลา ต่างคนต่างอยู่กันดีกว่า ฉันรู้ดีว่าฉันเปลี่ยนใจนายไม่ได้หรอก นายที่มีอคติกับเรื่องของฉันขนาดนั้นน่ะ "

“ แต่..”

“ ตลอดมาฉันก็พยายามจะทำให้นายเชื่อ ฉันอธิบาย แต่มันก็บอกฉันอยู่ ว่าไม่ว่าจะยังไง ฉันก็เปลี่ยนความคิดนายไม่ได้ " ผมก้มหน้าลงก่อนจะหลุดยิ้ม " แต่มันก็ถูกแล้วที่ทุกอย่างมันเป็นแบบนี้ ฉันทำให้นายเสียใจมามาก ทั้งหลอกลวง นอกใจ แล้วก็อะไรๆอีกหลายอย่าง มันไม่คุ้มกับที่นายทุ่มเทให้เลย ฉันไม่อยากจะปฎิเสธหรอกข้อเสนอของนายน่ะ ฉันอยากจะให้นายมาอยู่กับฉัน มารักฉันเหมือนเดิมอยู่แล้วแต่มันก็ไม่ใช่การเสียดายฟานคนเก่าที่แสนดีอะไรนั่นอย่างที่นายคิดหรอก ฉันแค่อยากจะให้เราได้คบกันในแบบที่ ทั้งฉันและนายเรารักกันไม่ใช่ความรู้สึกของฉันแบบเมื่อก่อน ไม่ใช่ความรู้สึกที่ก็รักแต่ไม่แสดงออกแบบนั้น แต่ตอนนี้สิ่งที่ฉันคิดอยู่ มันแทบเป็นไปไม่ได้เลย ฉัน..”

“ แล้วทำไมทีแรกถึงคิดว่าทำได้  แต่ตอนนี้ทำไมถึงคิดว่าทำไม่ได้ " อีกคนเถียงออกมา " ฉันให้โอกาสแล้ว รีบรับไว้สิ อยากจะได้ไม่ใช่เหรอ นายไม่ได้รักฉันจริงๆอย่างที่พูดรึเปล่า ทำไมตอนนั้นถึงพูดออกมาได้ว่าจะพิสูจน์ แล้วตอนนี้ทำไมถึงเงียบไป นายเคยร้องไห้จะเป็นจะตายขอร้องฉัน บอกว่าจะทำ จะทำให้ได้ จะพยายาม ไม่เป็นคนเดิมก็ได้ แต่ขอให้ได้อยู่ใกล้ๆ นายจะทำให้ฉันรู้ว่า นายรักฉัน แล้วตอนนี้ เป็นอะไรถึงไม่มั่นใจขึ้นมา ความมั่นใจมันหายไปไหนหมด เพราะไม่ได้รักฉันจริงๆใช่มั้ย  ตอนนั้นเพิ่งเลิกอยู่ไม่ได้เลยพูดรั้งออกไป แต่ตอนนี้ผ่านมาสักระยะแล้วทำใจได้แล้วก็เลยไม่ได้แคร์คำพูดพวกนั้นที่พูดออกไปถูกต้องมั้ย พอหมดความรู้สึกตอนนั้น มันก็จบกันแล้วใช่รึเปล่า "

" ไม่ใช่หรอก " ผมไม่รู้จะอธิบายคนที่กำลังคิดอะไรแต่ในแง่ลบให้เข้าใจยังไง อยากจะบอกว่าตอนนี้มันไม่ใช่ความรู้สึกที่เค้าจะเปิดใจเพื่อให้ผมพิสูจน์อย่างที่ผมอยากได้ อย่างที่ผมอยากจะแสดงให้เค้าเห็น  สำหรับผมไม่ต้องให้อภัยกันทั้งหมดก็ได้ ไม่ต้องเปิดใจทั้งหมด ขอแค่สักนิดจากความรู้สึกติดลบพวกนั้น ขอให้ผมได้ทำ ได้ทำอย่างที่อยากจะทำ ผมรักเค้า อยากจะทำให้เค้ารู้ แต่การเติมน้ำที่เต็มแก้วด้วยความรู้สึกติดลบแบบที่เป็นตอนนี้ เติมเท่าไหร่ก็คงเท่านั้น ล้นออกมาอยู่ดี คล้ายกับการวิ่งบนลู่วิ่งเท่าไหร่ก็ไม่ถึงเส้นชัยหรอก นอกจากปิดเครื่องวิ่งหลังจากยอมรับกับมันว่า เราเหนื่อยแล้ว ก็เท่านั้น

   ฟานไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้เค้าแค่อยากจะมาอยู่เฝ้าผม ไม่ให้ผมทำอะไรอย่างที่เค้ากลัวนั่นก็คือการฆ่าตัวตาย แต่จะให้อยู่ๆ เค้าดื้อดึงเข้ามาเองก็ดูแปลก เค้าเลยหาเหตุผล เหตุผลที่ดูไม่เข้ากันสำหรับคนที่พูดมาตลอดว่าเกลียดกัน ไม่อยากจะเห็นหน้า คนที่เคยเอานำแข็งสาดหน้า ไล่เหมือนหมูเหมือนหมา แถมยังเกลียดถึงขั้นสั่งให้คนมาทำลายชีวิตทั้งชีวิต

“ ฉันยอมรับ...  ฉันไม่อยากให้นายตาย ฉันกลัวว่านายจะตาย “ เค้าพูดออกมาตอนที่ถอนหายใจราวกับจะยอมรับความรู้สึกทั้งหมดของตัวเองในตอนนี้ “ ตอนที่นายบอกว่าจะถอย จะไม่มายุ่งกับฉัน ตอนนั้นฉันคิดอยู่สองอย่าง คือ ง่ายเกินไป กับ ก็ดีแล้ว ง่ายเกินไปคือฉันคิดว่า แม่งจะได้รับผลกรรมที่มันทำให้กูเจ็บแค่นี้เหรอวะ กูอยากจะให้มึงรักใครมากๆแล้วเค้าทำให้มึงเจ็บด้วยการนอกใจแบบที่มึงทำกับกู อยากจะให้มึงร้องไห้ ทรมาน จะเป็นจะตายเหมือนกูสักที อยากให้มึงรู้ว่ามันเจ็บแค่ไหน แต่อีกใจกูก็คิดว่า ว่าพอแล้ว ต่อไปนี้มึงคงใช้ชีวิตเหมือนคนปกติไม่ได้ ต้องคิดระวังตัวเองตลอดเวลา กลัวคนรอบข้าง แล้วรักใครไม่ได้อีก นั่นก็พอแล้ว กูเองก็ควรหยุดได้แล้ว เพราะยังไงก็อยากจะเลิกยุ่งกับมึง.. แต่สุดท้ายกูก็พาตัวเองมาดูมึงว่ามึงเป็นยังไงบ้าง " เค้าเงยหน้ามองผมในตอนนั้นเค้าหลบตาราวกับกำลังโกหกความรู้สึกตัวเองอีกแล้ว

 " มึงจะกลัวคนอื่นจริงๆอย่างที่กูรู้สึกว่าต้องเป็นรึเปล่า มึงได้รับผลกรรมของตัวเองมั้ย แล้วสุดท้ายก็เป็นแบบนั้น มึงกลัวทุกอย่างแม้กระทั้งคนเดินตามหลัง พอเรามาคุยกันเมื่อกี้ มึงเล่าเรื่องรุ่นน้องที่ทำงาน ในตามึงตอนที่เล่าเหมือนบอกกูว่า ถ้าเป็นมึง มึงคงฆ่าตัวตาย แล้วมันทำให้กูรู้สึกว่า มึงคงทำจริงๆถ้ามันเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น " ฟานยกยิ้มขึ้นมา" แต่การตายมันคือสิ่งที่กูไม่อยากจะให้มันเกิดขึ้น มันง่ายไปที่มึงจะเป็นแบบนั้น มึงที่จะไปสบาย ไม่ต้องเจ็บปวด ไม่ต้องทรมาน มันง่ายไปวะ ไม่สมกับที่มึงทำกับกูเลย กูที่ยังอยู่ ต้องเจ็บปวดแล้วคิดถึงแต่เรื่องที่มึงทำ เริ่มต้นใหม่ก็ไว้ใจใครไม่ได้กลัวเป็นแบบมึง ระแวงไปหมด แม่งโคตรไม่แฟร์เลยมึงว่ามั้ยละ  มึงไปตายแล้วเกิดใหม่ ส่วนกูยังวนเวียนอยู่กับทุกข์ที่มึงทำ โดยที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะจบเหมือนคนตกนรกทั้งเป็น และคนที่สมควรตกนรกทั้งเป็นคือมึงมากกว่า ไม่ใช่กู "

" ตอนนี้นายรู้สึกยังไงกับฉันเหรอ " มันเป็นคำถามที่ผมอยากจะรู้ " รู้มั้ยบางทีคำพูดที่นายพูดมาทั้งหมดก็เหมือนกำลังประชดกัน พูดให้ดูรุนแรง ให้เจ็บ บางทีนายดูเหมือนเกลียดฉันมากจนอยากจะให้ตายแบบทรมานด้วยซ้ำ แต่บางทีก็ดูเป็นห่วง มันทำให้ฉันสับสนว่าตกลง นายรู้สึกยังไงกันแน่  คำพูดของนายที่พูดออกมาแบบนั้น นายรู้สึกยังไงกับฉันกันแน่ "

" ฉันน่ะเหรอ " เค้าทวนถาม

“ ช่วยบอกความรู้สึกจริงๆกับฉันแบบไม่ต้องประชดประชัน แบบที่ใจตัวเองรู้สึก ไม่ต้องดัดคำพูดให้ดูรุนแรงแค่เพราะอยากจะให้ฉันเจ็บ แต่ช่วยพูดออกมาจากใจจริงๆ ใจที่นายรู้สึกสักครั้งจะได้มั้ย ฉันอยากรู้ " เค้าเงียบไปตอนที่ผมถามก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองหน้าแล้วตอบผม

“ ทั้งเกลียดแล้วก็รัก  กูเกลียดขี้หน้ามึงอยากจะให้ตายไปพ้นๆ เกลียดทุกอย่างที่มันเคยเกิดขึ้นกับกู แต่อีกใจกูก็ไม่อยากให้มึงไปไหน อยากจะให้มึงอยู่ ถึงจะเกลียดแค่ไหนก็ยังอยากจะให้มีชีวิตอยู่ มึงรู้มั้ยกูเกลียดตัวเองนะ ที่ทำร้ายมึง ที่ทำให้มึงเจ็บ กูเกลียดจนกูไม่อยากจะมองหน้าตัวเอง ว่ากูทำเรื่องเลวๆแบบนั้นไปได้ไง แล้วบางทีกูนึกเชื่อคำพูดของมึงที่มึงอธิบายออกมา แต่บางทีก็มีอีกใจที่ขัดขึ้นว่า คนตอแหลแบบนี้เชื่อเหี้ยอะไรไม่ได้ทั้งนั้น กูเองก็น่าจะรู้อยู่เพราะถูกหลอกมาหลายครั้งแล้วก็น่าจะจำสักที  ทุกอย่างแม่งสับสนไปหมด อยากให้มึงตายไปแท้ๆ แต่ทำไมพอบอกว่าเคยคิดว่าจะฆ่าตัวตาย มือกูมันกลับดึงมึงมากอดไว้ ไม่อยากจะตายไปไหน ไม่อยากจะให้จากกันไปไหน กูแม่ง โคตรโง่เลย ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วยวะ ทำไมต้องช่วยกูน่าจะดีใจไม่ใช่เหรอ ที่มึงจะโดนไอ้หัวหน้านั่นทำร้าย มึงที่เคยทำร้ายกู มึงต้องเจ็บสิ เจ็บอย่างที่กูเจ็บ ทรมานอย่างที่กูทรมาน มึงอยากจะได้ไอ้เหี้ยนั่นนิ นั่นไง ของที่อยากได้ เป็นไงละไอ้สัด มันเป็นอย่างที่มึงอยากได้เลยสินะ ชอบความรุนแรง นิสัยเลว อย่างที่มึงคิดไว้เลยสินะ ไอ้ผู้ชายแก่ๆที่อบอุ่นคนนั้นนะ กูน่ะ น่าจะปล่อยให้มึงไปตกนรกกับมันด้วยซ้ำ แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้ สุดท้ายกูก็ต้องเป็นคนที่ดึงมึงขึ้นมา  สุดท้ายก็ยังเป็นมึงอยู่ดี มันเหี้ยมากๆที่กูยังคิดอยู่แบบนี้ เหี้ยมากจริงๆ "

“ ฟาน " ผมเรียกเค้า " แล้วถ้าฉันตอบตกลงฉันจะเจ็บปวดอีกรึเปล่า "

“ ไม่รู้สิ " เค้าบอก " แต่เคยบอกเองไม่ใช่เหรอ ว่าไม่ว่าจะเป็นยังไง ก็อยากจะพิสูจน์ให้ฉันเห็น "

“ ก็ใช่ ฉันเคยบอก "

“ ฉันจะให้นายพิสูจน์ ทำให้ได้ก็แล้วกัน ทำให้ฉันกลับมารักนายเหมือนเดิม ฉันที่ตอนนี้กลายเป็นคนที่ทั้งรักแล้วก็เกลียดนาย "

............................................................

“ นายว่าอะไรนะคีย์ วันนี้ฉันไม่ต้องไปรับงั้นเหรอ แล้วนั่นจะมากับใคร " คำพูดของลิปที่กรอกเสียงผ่านสายมาในช่วงเช้า ผมผ่อนลมหายใจออกมาเผลอเม้มริมฝีปากตัวเองแน่นเพราะไม่กล้าบอกอีกคนเท่าไหร่ ถ้าลิปรู้ว่าเช้านี้ฟานจะไปส่งผมแล้วต่อจากนี้หน้าที่ไปรับไปส่งผมจะเป็นหน้าที่ของเค้าไปตลอด

   เมื่อคืนเค้าก็นอนที่คอนโดของผม แม้จะนอนอยู่ที่หน้าห้องตรงโซฟาในห้องนั่งเล่น ไม่ได้เข้ามานอนในห้องหรอก แต่นั่นก็ดี เพราะระหว่างเราเป็นอะไรที่ทั้งอึดอัดและเขม่นกันอยู่ตลอดเวลา การพูดคุยด้วยเรื่องธรรมดาก็กระอักกระอ่วนจนยากที่จะพูดออกมา กลายเป็นว่าคนนึงว่าไงอีกคนก็แค่ยอมรับแล้วว่าไปตามนั้น เรื่องที่เค้าจะไปส่งผมก็เช่นกัน
 
“ คือ..ฟานน่ะ "

“ อะไรนะ !!! " คิดแล้วไม่มีผิดว่าต้องได้ยินเค้าพูดแบบนี้ " นี่นาย..”

“ ลิปคือค่อยคุยกันได้มั้ย ฉันจะอธิบายนายเมื่อไปถึงที่ทำงานเลยนะ แต่ตอนนี้ฉันพูดลำบากน่ะ " ผมบอกเค้าเสียงเบาๆเพราะดูเหมือนว่าคนที่ถูกพาดพิงจะมองมาไม่วางตา

“ อื้ม งั้นเจอกันแล้วกัน " ถอนหายใจโล่งออกมาตอนที่ได้รับเสียงตอบกลับแบบนั้น ผมกดวางสายเก็บของเข้ากระเป๋าตัวเองก่อนจะเดินไปที่ห้องครัว ชงกาแฟแบบที่กินทุกวัน ก่อนจะหันมองอีกคนที่ก็นั่งกินขนมปังแผ่นกับนมอยู่ที่โต๊ะ ข่าวในทีวีที่กำลังดังอยู่ผมหย่นตัวลงนั่งตรงข้ามถุงขนมปังก็ถูกโยนมาให้

“ กินสิ จะได้ออกไปสักที "

“ อื้ม " หยิบขนมปังแผ่นขึ้นมากิน กินกาแฟจนหมดแล้วจัดการล้างแก้วเรียบร้อยสะพายกระเป๋าขึ้นบ่า " ไปกันเถอะ เดี๋ยวสาย "

“ อื้ม " ฟานตอบรับสั้นๆ เค้าลุกจากเก้าอี้ปิดทีวีเรียบร้อย ก่อนจะเดินนำผมออกไปข้างนอกห้อง 

   บรรยากาศเกร็งๆรอบตัวระหว่างที่เรากำลังเดินทาง ทุกอย่างดำเนินไปด้วยความเงียบไม่มีการพูดจาอะไรจนมาถึงสถานี ระหว่างที่ยืนรอรถไฟ ผมเหลือบมองเค้าที่ก็เอาแต่เล่นโทรศัพท์ นิ้วที่กำลังจิ้มไปบนเครื่องด้วยความถนัด

“ มองอะไร " เสียงทุ้มที่เอ่ยถามผมก็ส่ายหน้า

“ ก็เปล่า "

“ ก็เห็นอยู่ว่ามอง จะเสือกเรื่องฉันรึไง ถ้าไม่มีอะไรมองก็เอามือถือตัวเองมาเล่นสิ "  ก็แบบนี้ทุกที ผมถอนหายใจออกมาตอนที่ได้ฟังเค้าพูด ได้คุยกันทีไรมีอันต้องเสียอารมณ์กันทุกที ปากคอเราะร้ายไม่รู้ว่าเพราะมันเป็นอยู่แล้วแต่อาการเพิ่งออกมา หรือว่าเพิ่งมาหัดเป็นตอนนี้ก็เพราะอยากจะพูดจาแรงๆใส่ผม

“ เออนี่ ฟานฉันมีอะไรจะให้ อะ " ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าทำงานผมหยิบพวงกุญแจเอลโม่สีแดงที่แขวนกุญแจห้องและคีย์การ์ดไว้ในนั้น

“ ให้ฉันทำไม "

“ ก็ต่อไปนายจะเข้ามาอยู่ที่คอนโดฉัน เผื่อวันไหนนายมีเรียนกลับก่อนจะได้เข้าไปพักผ่อนเลย "

“ ไม่ต้องใช้หรอก ยังไงฉันก็ต้องไปรับนายที่ทำงานก่อนอยู่แล้ว หรือว่านายอยากจะไอ้หัวหน้านั่นมาดักข่มขืนกัน "

“ เผื่อว่าวันไหน นายไม่มีเรียนแล้วจะเข้าออกห้อง ถ้ามีมันก็จะได้ไม่ลำบากไง " ผมเบี่ยงประเด็นไม่อยากจะเถียงกับเค้าด้วยเรื่องไร้สาระแบบนั้น  ไม่อยากจะทะเลาะด้วย

“ งั้นก็ค่อยใช้วันนั้นก็แล้วกัน เพราะว่ายังไงซะ ฉันต้องมารับมาส่งนายทุกวันอยู่แล้ว "

“ นี่นายคิดจะมาส่งฉันทุกวันจริงๆนะเหรอ " ผมถามอีกคนที่ก็เงยหน้าขึ้นจากมือถือแล้วหันมามองหน้าผม

" ถ้ามึงโดนฉุดไปปล้ำ มึงคงฆ่าตัวตายอะ แล้วแผนกูก็ล้มไม่เป็นท่าพอดี แบบนั้นต้องดูแลมึงให้ดีหน่อยละนะ "

“ แผน ? แผนอะไร "
“ บอกไปมันจะใช่แผนมั้ยละ " เค้าบอกก่อนจะเชิดหน้าไปที่รถไฟที่เคลื่อนขบวนเข้ามาพอดี " รถไฟมาแล้ว "

“ ฉันแค่ถามเพราะจะได้เตรียมรับมือก็เท่านั้น "

“ รู้อะไรมั้ย วันที่กูรู้ว่ามึงนอกใจกูมันก็เป็นธรรมดาๆแบบนี้แหละ กูไปทำงานพิเศษที่ร้านน้ำด้วยรถไฟ เล่นเกมส์ตอนเช้าฆ่าเวลา ทุกอย่างก็ปกติ ไม่มีอะไรเป็นลางบอกเหตุมาก่อนเลยว่า เย็นวันนั้นคือวันที่จะต้องเสียใจ ไม่มีใครมาบอกเลยว่า วันนั้นจะเป็นวันที่กูต้องรู้ว่า แฟนที่กูรักมากนอกใจกู " ผมเงียบตอนที่เค้าพูดออกมาแบบนั้น ร่างสูงคนข้างๆหันมามองผมก่อนจะยกยิ้ม " แล้วทำไมวันนี้กูต้องบอกให้มึงเตรียมใจด้วยละ "

“ นั่นนะสินะ " ผมตอบเค้าออกไปแค่นั้น รู้สึกขำตัวเองเหมือนกันที่ถามเค้าออกไปแบบนั้น อยากจะเตรียมใจไว้ก่อน เตรียมใจอะไรกันตอนที่ทำร้ายเค้าก็ไม่เคยเห็นว่าผมจะไปบอกให้เค้าเตรียมใจเลยสักครั้ง แต่กลับทำออกไปหน้าด้านๆแบบที่ไม่เคยคิดว่าตัวเค้าจะรู้สึกเสียใจ และถึงแม้บางทีก็รู้อยู่ว่าเสียใจ แต่ก็ทำลงไปโดยที่ไม่ใส่ใจด้วยซ้ำ

   รถไฟจอดที่สถานทีของที่ทำงานของผม เราเดินลงจากสถานีพร้อมกัน ทั้งๆที่ก็บอกแล้วว่าให้เค้าไปเรียนได้เลย ' คนเยอะแยะแบบนี้ไม่มีใครกล้าจะทำอะไรหรอก ' แต่เค้าก็ไม่ยอมยังคงดึงดันจะมาส่งผมให้ถึงมือของลิปอยู่ดี

“ นั่นไงลิป " ผมชี้ไปที่เพื่อนตัวเล็กที่กำลังยืนรออยู่หน้าบริษัท  " ลิป " เดินเข้าไปทักอีกคนก็พยักหน้ารับก่อนจะเหลือบมองคนข้างๆผมด้วยสายตารังเกียจ

“ สวัสดีครับคุณลิป "

“ สวัสดี " อีกคนตอบแบบขอไปทีก่อนจะหันไปมองทางอื่นไม่สนใจ ฟานก็หลุดหัวเราะ " หัวเราะอะไร "

“ ก็หัวเราะคุณลิปนั่นแหละ เป็นอะไรครับ เกลียดขี้หน้าผมเหรอ "

“ ใช่ "

“ เกลียดเพราะผมทำให้เพื่อนคุณต้องเจ็บสินะ " อีกคนไม่ตอบอะไร เหตุผลอะไรเราทั้งหมดก็รู้มันดีอยู่แล้ว " งั้นก็ช่วยเกลียดเพื่อนคุณที่ทำให้ผมเจ็บบ้างสิ "

“ ฉันไม่ชอบใจที่คีย์ทำให้นายต้องเสียใจอยู่แล้ว แต่ที่นายทำมันเกินที่ฉันจะรับไหวในฐานมนุษย์คนนึงด้วยซ้ำ "

“ งั้นคุณก็ช่วยดูแลเพื่อนคุณให้ดีในระหว่างทำงานด้วยก็แล้วกัน อย่าให้คาดสายตาไปไหนเลยละ เพราะมันมีเศษมนุษย์กำลังคิดจะคอยดักปล้ำเพื่อนคุณอยู่ "

“ ฟาน " ผมพูดขัดอีกคนที่กำลังพูดทุกอย่างออกมา

“ แล้วเมื่อวานเพื่อนคุณเค้าก็บอกผมด้วย เค้าจะฆ่าตัวตาย "

“ ฟานพอเถอะน่า ฉันก็บอกแล้วว่าแค่เคยคิด นายเองก็เอาไปยึดติดว่าฉันจะทำอยู่นั่นแหละ " ผมเถียงอีกคนก่อนจะหันไปมองลิปที่็มองผมอยู่ " นายอย่าไปคิดมากตามที่ฟานพูดเลยลิป "

“ ฝากดูแลเค้าด้วยนะ อย่าให้ไปฆ่าตัวตายที่ไหนละ ตอนเย็นผมจะมารับเอง "

“ อื้ม " ลิปพยักหน้ารับอีกคนที่เดินออกไปห่างจากตัวเรา ผมถอนหายใจออกมาตอนที่คนข้างๆหันมองผม " คีย์ "

“ อย่าฟังที่ฟานพูดมากนักเลยลิป " ผมบอกเค้าแต่อีกคนก็ยังคงส่งสายตาที่ไม่เชื่อมาให้ " คือเมื่อวานเค้าช่วยฉันจากหัวหน้าไว้น่ะ "

“ หัวหน้าไปหานายที่คอนโดอย่างงั้นเหรอ "

“ อื้ม ไปดักอยู่ที่ลานจอดรถของคอนโด แต่โชคดีที่ฟานเค้าเข้ามาช่วยไว้นะ "

“ แล้วทำไมหมอนั่นมันถึงกลัวว่านายจะฆ่าตัวตาย "

“ เพราะว่าเราคุยกันน่ะ คือเรื่องมันเป็นแบบนี้นะ " ผมเริ่มเล่าลิปในระหว่างที่เราเดินเข้าตึกไปเรื่อยๆทั้งเรื่องที่ตอนเจอหัวหน้าแล้วก็เรื่องตอนที่ผมคุยกับฟาน  เรื่องที่เค้ากลับมาอยู่กับผม

“ ชีวิตนายนี่มัน " ลิปถอนหายใจออกมาราวกับคนที่ไม่รู้จะพูดอะไร " ฉันไม่รู้จะพูดอะไรวะ หัวหน้าที่ทำแบบนั้นมันก็ดีแล้วที่ฟานจะคอยอยู่เฝ้าดูนาย ฉันก็หมดห่วงนะ เพราะคนอย่างหมอนั่นมันคงไม่ปล่อยให้นายเป็นอันตรายหรอก แต่ถ้าจะเป็น ก็เป็นเพราะหมอนั่นแหละที่ทำให้มันเป็น แต่คีย์ ฉันถามจริงๆเถอะ คิดดีแล้วเหรอ ที่จะให้เค้ากลับมาทั้งๆที่นายเองก็รู้ดีว่า ตัดใจไปตั้งแต่ตอนนี้มันก็คงดีกว่า ดีกว่าที่จะเค้ากลับมาแล้วทำให้นายเสียใจ "

“ มันมีคนสองประเภทนะลิป คนประเภทแรกคือ กลัวที่จะเจ็บกับความรักแล้วไม่ลงมือทำอะไรเลย ปล่อยทุกอย่างทิ้งไป คนพวกนี้จะไม่เจ็บปวดอีกก็จริง แต่ถ้าสุดท้ายถ้าเรากลับมารักกันได้ คนแบบนี้จะไม่ได้กลับไปเพราะไม่กล้าจะทำมันตั้งแต่ทีแรก ส่วนอีกประเภท คือเจ็บแล้วไม่จำยังกล้าลองดี ข้อดีคือถ้าเค้าเจ็บจนสุดท้ายได้รักกันมันก็ดีไป สมที่อดทน แต่ถ้าสุดท้ายไม่ว่าทำยังไงก็ไม่มีทางรักได้ เราก็กลายเป็นคนเจ็บฟรีๆ เป็นเหมือนคนโง่คนนึง "

" นายจะบอกว่า นายเป็นคนประเภทหลังงั้นสินะ "

" มันก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลยไม่ใช่เหรอ เพราะฉันได้ฟานมาง่ายเกินไปมั้งลิป ตอนนี้พออยากจะได้เค้ากลับมา อะไรๆมันก็ดูยากไปหมด "

" ถ้านายพูดแบบนั้น ฉันว่าฟานเค้าก็ได้นายไปง่ายๆเหมือนกันนะ " เค้าถอนหายใจ " เอาจริงๆก็ง่ายทั้งคู่นั้นแหละ นายนี่โง่จัง "

“ ฉันก็เป็นคนโง่มาตลอดนั่นแหละ " ผมก้มหน้ารับคำพูดของอีกคน

“ แล้วถามจริงๆเถอะ ว่าให้อภัยเค้าได้เหรอ เรื่องที่เค้าทำกับนายน่ะ นั่นแย่มากเลยนะ “

“ ในตอนที่เราอยู่ด้วยกัน ตราบใดที่ฉันยังคิดถึงเรื่องพวกนั้นอยู่ ฉันไม่คิดว่าเค้าจะได้รับการให้อภัยจากฉันหรอก เพราะเค้ายังคงต้องทรมานจากสิ่งที่เค้าทำกับฉันไปอีกนาน เป็นความทรมานที่อยู่ในใจของเค้า มันจะทำให้เค้าเจ็บเอง ทรมานเอง โดยที่ฉันไม่ต้องทำอะไรเลยด้วยซ้ำ แล้วนั่นก็คงพอแล้ว ฉันก็ทรมาน เค้าก็ทรมาน ฉันไม่คิดว่ามันจะไม่แฟร์หรอกนะ  "

“ คีย์ "

“ คิดซะว่า ว่ามันเป็นบทพิสูจน์ของฉันต่อจากนี้ก็แล้วกัน ดูโง่ แล้วก็บ้า แต่นี่แหละ ความรัก "

" รู้อะไรมั้ย นายเหมือนคนกำลังเตรียมใจที่จะเจ็บปวดเลย "

" คิดซะว่า ทุกวันนี้ก็ไม่ได้มีความสุขอยู่แล้ว จะไปแคร์อะไรละ จริงมั้ย " ความรักของผมมันก็มีเท่านี้ ไม่หยุด ก็เดินหน้าต่อไป แต่สำหรับผม ผมขอเดินต่อไปดีกว่า เดินหน้าต่อไปเพื่อพิสูจน์ว่าสิ่งที่ได้มาง่ายเกินไปอย่างเราทั้งคู่ มันจะเป็นยังไงเมื่อถึงตอนจบ ดีกว่าปล่อยทุกอย่างทิ้งไปตอนนี้ โดยที่ไม่คิดแก้ไขอะไร แล้วยอมรับกับคำพูดของใครๆที่พูดว่า เพราะเรารักมันง่ายเกินไป ทุกอย่างเลยเป็นแบบนี้

.......................................................

มัวนั่งแก้ เลยลงไปสักหน่อย  :katai4: :katai4: :katai4:
คิดเห็นยังไงกับตอนนี้ 
ฝากเม้นท์ ฝากแท็ก #ฟานคีย์ ในทวิตด้วยนะคะ
ในเฟสก็เช่นกัน
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์ จ้า  :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ toeyy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 34
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
พอแล้วฟานนนนน
ไม่ต้องมีผงมีแผนอะไรแล้ว  รักกันดีๆเถอะ
อ่านแล้วเจ็บแทน  ฮืออออ :o12:

ออฟไลน์ เจเจจัง

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
เอาตรงๆนะ ผิดหวังคีย์มาก. ฟานให้คนมาแกล้งข่มขืนจนเกือบบ้า นอกจากไม่โกรธยังโง่งมงายรักมันอยู่อีก ที่สำคัญมันบอกว่ามีแผนคีย์ยังจะทนคบ ต่อ

ฟานทำร้ายคีย์มากกว่าที่คีย์ทำร้ายฟานอีกนะ นอกจากฟานไม่สำนึกยังมีแผนทำร้ายคีย์อีก สรุปนิยายเรื่องนี้มันแปลกไปไหม

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
ทำไมรู้สึกว่าที่ผ่านมามันแค่แผ่นดินหว ที่กำลังจะตามมาคือซึนามิลูกใหญ่   โอ้ยยยย....ลุ้น

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
ฟานนนนนนนนนนน แผนอะไรแะ แหนะๆๆๆๆๆ
แผนแกล้งคีย์อะเดะ

แต่ความรักก้แค่นั้นอะนะคีย์ ยอมเสี่ยงไม๊
เสี่ยงก้รู้ว่า 50/50 แต่ก้ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย
อาจจะจริงอย่างที่นางบอกตอนจบ ว่ามันแย่อยู่แล้ว มันคงไม่แย่ไปกว่านี้
มีฟาน อย่างน้อยก้กันหัวหน้าได้

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ HanTwoH

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1

ออฟไลน์ LovEYouOnLy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 439
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
ตอนนี้เหมือนกับวิธีการสอนให้เรารักเป็น รู้จักว่าถ้ารักมันจะต้องเจอกับอะไร จะทุกข์หรือสุขมันอยู่ที่ตรงไหน ต้องทำยังไงเมื่อเจอเหตุการณ์ที่เลวร้ายในชีวิต มันจะแย่หรือดีเราก็ยังคงต้องเดินต่อไป ^^

ออฟไลน์ nottto

  • MaxNuzz
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0

ออฟไลน์ Abella

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เฮ้อ ยังไงจ๊ะ แล้วไงต่อน่าลุ้นจัง

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
ดูบ้าดีนะทั้งคีย์ทั้งฟาน สรุปแล้วเรื่องนี้ตัวละครนิยมมาโซใช่ม่ะเนี่ย!!!!!

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ tkaekaa

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 329
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
 :katai1: ฟานเอ้ย รักคีย์แต่ก็ยีงไม่ละความโกธร สับสนในตัวเองแล้วไปกดดันคีย์ จะดีขึ้นมั้ยนี่

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
มันรู้สึกเหมือน ไม่มีใครยอมใคร ..

ออฟไลน์ ลูกกุญแจ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-2
ฟานจะหลอกให้คีย์รักอีกรอบแล้วก็จะทิ้งและนอกใจ
เพื่อแก้แค้น

ออฟไลน์ allmysecret

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง
ตอนที่ 58
' ชีวิตที่ถูกทำลาย '

“ เอาน่าๆ อย่าคิดมาก ไปทำงานกันดีกว่า ทำงานหาเงินยังไงก็เป็นสิ่งที่แน่นอนที่สุดแล้ว เพราะไม่มีผัวก็ยังมีเงิน นะ! " ลิปตบไหล่ของผมเบาๆคำพูดเล่นๆเชิงปลอบพวกนั้นทำให้ผมหลุดยิ้มออกมา   " ชีวิตของนาย นายต้องเลือกเองนั่นมันก็ถูกแล้ว แต่ไม่ว่านายจะเลือกทางไหนฉันก็ยืนอยู่ข้างนายอยู่แล้วไม่ต้องห่วง ยังไงเราก็เพื่อนกัน "

“ ขอบคุณนะ " หันไปยิ้มให้คนข้างๆ มันก็จริงอย่างที่อีกคนบอก ' ฉันก็ยืนอยู่ข้างนายอยู่แล้วไม่ต้องห่วง ' เค้าที่เตือนผมตอนที่ผมเดินทางผิด แล้วให้กำลังใจในสิ่งที่ตัดสินใจทำอะไรลงไปสักอย่างเสมอ อยู่ข้างกันเสมออย่างที่บอกจริงๆ " ฉันว่า ฉันโชคดีที่มีนายเป็นเพื่อน "

" เขินน้าาา ไม่เอา ไม่พูดแบบนี้เค้าเขิน " มือบางยกมือขึ้นปิดหน้าตัวเองก่อนจะฉีกนิ้วมองผม ผ่านซอกฝ่ามือนั้น " พูดซึ้งๆแบบนี้เดี๋ยวเค้าก็หาว่าเรามีใจให้กันนะ "

" ไม่เอาอะ เดี๋ยวคุณเมษจะฆ่าฉันเอา แล้วเป็นยังไงบ้างละ เค้าสบายดีขึ้นยัง "

" จะสบายดีขึ้นยังไง ไม่ได้ ไม่สบายเลยตังหาก เค้าก็แค่ไข้การเมืองอะ " ลิปบอกผมก็ขมวดคิ้ว " แค่อาการของคนโรคจิตที่คิดว่าแฟนตัวเองใส่ใจเพื่อนมากเกินไปแล้ว ก็เลยมีไข้การเมืองนิดหน่อย พอฉันโวยวาย เค้าก็พูดว่า เพราะแบบนี้เลยต้องโกหกฉันถึงจะเห็นความสำคัญของเค้า พวกคนแก่ขี้น้อยใจอะนะ "

" ฉันทำให้ นายกับคุณเมษทะเลาะกันรึเปล่าวะ "

" ไม่หรอก เพราะฉันกับไอ้แก่นั่นทะเลาะกันไม่นานหรอก สุดท้ายมันก็จบแบบเดิมทุกที วิธีเดิมๆที่ฉันแพ้เค้าตลอดนั่นแหละ "

“ วิธีอะไร " ผมถามอีกคนที่หันไปทางอื่น แก้มลิปแดงนิดหน่อย

“ ก็แค่ หอมแก้ม แล้วก็กอดฉันไว้จากด้านหลัง ลูบไล้กันนิดหน่อย พูดจาง้อกันดีๆ สุดท้ายก็จบลงที่เตียง " เค้าว่าก่อนจะถอนหายใจ " ฉันน่ะ มันพวกแพ้ทางแบบนี้กับไอ้แก่นั่นด้วยนะสิ ก็เลยโกรธไม่ลงทุกที "

“ ที่โกรธไม่ลง ไม่ใช่เพราะว่า กำลังทำเรื่องแบบนั้นอยู่แล้วถ้าเราโกรธกันมันก็ดูแปลกๆที่นายจะร้องบอกเค้าว่า ตรงนั้น แรงกว่านี้อีกสิ หรือว่า แรงเกินไปแล้ว อะไรพวกนั้นสินะ " ผมมองเค้าล้อๆคนที่เขินก็หันไปมองอย่างอื่น ราวกับกำลังหาอะไรสักอย่างมาพูดเบี่ยงประเด็น

“ ไปทำงานกันเถอะน่า มัวพูดอยู่กันอยู่ตรงนี้สายพอดี ไปๆ " ลิปคว้ามือของผมเดินเข้าไปด้านใน ท่าทางที่เหมือนไม่รู้เรื่องอะไรของเค้าทำให้ผมหลุดหัวเราะ

“ แสดงว่าจริงสินะ นายคิดแบบนั้นจริงๆ "

“ ฉันไม่พูดกับนายเล่าคีย์ เงียบไปเลย " คิ้วที่ขมวดกันผมเอียงหน้ามองเค้า " มองอะไรวะ "

“ เปล่านี่ แค่รู้สึกว่า นายก็เซ็กส์จัดเหมือนกันนะ ดูภายนอกคิดว่าเป็นพวกไม่ชอบอะไรแบบนี้ซะอีก "

“ น้อยไปนะสิสำหรับฉันน่ะ แต่ฉันว่ามันก็แล้วแต่บุคคล ถ้าเปนคนที่รักยังไงก็ชอบอยู่แล้ว แม้ว่าเค้าจะเป็นยังไงก็เถอะ "

“ แล้วคุณเมษเค้าเป็นยังไง "

“ เค้าเก่งเรื่องแบบนี้อะ เรียกว่าเซ็กส์จัดเลยก็ว่าได้ " อีกคนบอกก่อนจะถอนหายใจออกมา " ยังจำที่หัวหน้าถ่ายวิดีโอตอนเค้ามีอะไรกับเนย์ได้มั้ย "

“ เค้าเซ็กส์จัดถึงขั้นชอบความเจ็บปวดเลยเหรอวะ " ผมถามอีกคนก็ส่ายหน้า

“ ไม่ถึงขั้นนั้น แต่ครั้งแรกที่เรามีอะไรกัน เค้าถ่ายรูปฉันไว้ด้วย แต่ตอนนั้นฉันก็บอกให้เค้าลบไปอะนะ แล้วฉันก็เห็นว่าเค้าลบออกไปจริงๆ เมื่อวานตอนที่เห็นคลิปที่หลุดออกมาของเนย์ฉันคิดถึงตัวฉันเลย ถ้าเกิดว่าเค้าไม่ลบให้ฉันเห็นวันนั้น ฉันคงไม่สบายใจหรอกเพราะคิดว่าถ้าสักวันที่เราเลิกกัน ถ้าเค้าทำอย่างที่หัวหน้าทำกับเนย์ ฉันจะมีชีวิตอยู่ยังไงวะ "

“ นั่นนะสิ ก็โชคดีแล้วที่นายบอกให้เค้าลบ ไม่มีอะ ดีแล้ว เพราะสุดท้ายเราไม่รู้หรอกว่าอะไรจะเกิดขึ้น "

" นั่นนะสิ พอคิดถึงเรื่องเมื่อวานขนาดไม่มีฉันยังคิดมากเลย คิดว่าเค้าลบจริงๆรึเปล่า มีไฟล์สำรองอะไรมั้ย กลัวไปเลยวะ "

" จะไปว่าก็สงสารเนย์นะ ไม่รู้ว่าเด็กนั่นจะคิดอะไรอยู่ตอนนี้ "

" เห็นว่าไม่มีใครคุยด้วยเลย พอเค้าชวนกลุ่มของเค้าคุยก็เหมือนมีแต่คนตีตัวออกห่าง แล้วตอนนี้นะคลิปก็ถูกส่งต่อออกไปเยอะเลยด้วย เมื่อวานพี่ที่ฉันรู้จักที่แผนกบัญชีก็ยังไลน์มาถามว่าฉันมีคลิปอะไรนี่รึเปล่า ขอหน่อยได้มั้ย "

" มันไม่มีทางที่จะหยุดอยู่แค่รองหัวหน้าสั่งหรอก " ผมบอก " เพราะเรื่องแบบนี้ไม่ใช่เหรอ ที่น่าพูดถึงมากที่สุด เรื่องของชาวบ้าน แถมยังมีคลิปออกมาแบบนี้แล้ว ก็หลักฐานชั้นดีเลยแหละ ดูอย่างของฉันสิ ยังพูดต่อๆกันได้โดยที่ไม่ได้รู้เลยว่าเรื่องที่พูดมันจริงรึไม่จริงคนพูดก็สักแต่พูดให้มีความสุข ออกรสชาติเท่านั้น ไม่ได้สนใจความรู้สึกของคนที่ถูกพูดถึงหรอก ว่ามันจะเป็นยังไง "

" แต่ตอนนี้ก็ไม่มีใครพูดถึงเรื่องนายแล้วนะ เพราะความจริงที่หัวหน้าถูกไล่ออกเป็นไงทุกคนก็รู้อยู่ แต่เนย์น่ะสิ คลิปออกมาชัดขนาดนั้นแถมยังไม่มีการปัดป้องอะไรด้วยซ้ำจะบอกว่าไม่สมยอมคนก็คงไม่เชื่อ เจอหนักกว่านายหลายเท่าเลย ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นเค้าอยู่ในกลุ่มที่คอยเอาแต่นินทานายแท้ๆ "

“ เรื่องราวพิสูจน์คน เพื่อนกันจริงมั้ยก็รู้ตอนที่มีปัญหานี่แหละ " ผมหันไปยิ้มให้ลิปที่ก็พยักหน้ารับ เราเดินมายืนต่อคิวที่ลิฟต์ขึ้นตึกเงียบๆ พนักงานมากมายที่กำลังต่อคิวกันอยู่ ผมได้ยินเสียงซุบซิบเหมือนกำลังชี้ชวนให้ดูอะไรสักอย่าง

“ คีย์ เนย์ยืนอยู่หน้านาย " ลิปกระซิบผมที่ก็เอียงมองคนตรงหน้า ก่อนจะมองคนโดยรอบที่มองมา ทุกคนมองก่อนจะหันไปซุบซิบกับเพื่อนที่ยืนอยู่ข้างๆ บ้างก็กำลังกดโทรศัพท์ราวกับกำลังพูดถึงกันแต่เรื่องของเค้า

“ นั่นไง คนในคลิป " เสียงเบาๆของผู้หญิงขี้นินทาดังขึ้นข้างหลังผมกับลิป " เมียน้อยหัวหน้าแผนกตัวจริงที่มีคลิปหลุดตอนเอากันออกมาไง "

“ คลิปทุเรศ วิปริต "

“ นี่ฉันได้ข่าวว่ามีคนหาเมล์เค้าให้ทั่วเลยนะ "

“ หาทำไมวะ "

“ ก็พวกที่ชอบอะไรแบบนั้นก็หาเมล์ ติดต่อเค้า ชวนไปทำเรื่องแบบนั้นกันไง ทั้งเบอร์ ทั้งไลน์ ตอนนี้มีความต้องการกันสุดๆ แต่คนเค้าก็ส่งกันแบบแอบๆอะนะ ก็อย่างว่าละน้า ใครอยากจะเปิดตัวว่าตัวเองเป็นเกย์ที่ชอบเรื่องแบบนั้นกัน ดูจิตไม่ปกติออก "

“ เนย์ " ผมเอ่ยเรียกคนตรงหน้า ตอนที่เอื้อมมือไปจับไหล่เค้าอีกคนก็สะดุ้งก่อนจะหันมามองด้วยสายตาตกใจ

“ พี่คีย์ "

“ กินข้าวรึยัง "

“ กิน กินแล้วครับ " เค้าพูดเสียงเบาๆก่อนจะยิ้ม 

“ แล้วงานช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง โอเคมั้ย ยากรึเปล่า "

“ ก็ไม่ค่อยยากหรอกครับ " อีกคนตอบสั้นๆ แล้วหันกลับไปยื่นนิ่งเหมือนเดิม ผมอยากจะเอ่ยถามอะไรเค้าต่ออีกหน่อยเห็นเค้าแล้วก็คิดถึงตัวเอง ตอนที่ไม่มีใคร ตอนที่รอบข้างมีแต่คนนินทา ตอนนั้นในใจของผมอยากจะให้คนพวกนั้นหยุดแม้จะรู้ดีว่าเราห้ามปากใครไม่ได้ก็ตาม และบางทีก็อยากจะมีใครสักคนมาอยู่ใกล้ๆ ใครสักคนที่ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกว่า เราอยู่คนเดียว

“ นี่ " ลิปดึงผมเข้ากระซิบลงข้างหู " เค้าไม่ได้อยากให้นายไปอยู่ข้างๆเลยนะ ท่าทางน่ะ ระวังใจดีผิดคนนะฉันจะบอกให้ " ผมผ่อนลมหายใจออกมากับคำเตือนของเพื่อน

   ตัดสินใจยืนรอเงียบๆจนกระทั้งขึ้นลิฟต์ไปถึงแผนก ผมมองเนย์ที่เดินเข้าไปข้างใน เค้าที่เอ่ยทักทุกคนที่ก็แค่พยักหน้ารับอย่างเสียไม่ได้แต่ก็ไม่ได้คุยอะไรกับเค้าเหมือนอย่างปกติ ลิปที่ยืนอยู่ข้างๆผ่อนลมหายใจออกมาก่อนจะพูด " ชีวิตนายก็ทุกข์มากพอแล้วนะฉันว่า อย่าไปเอาชีวิตของใครมาใส่สมองเลยน่า สัตว์สังคมน่ะใครที่พลาดก็เป็นเหยื่อให้ทุกคนรุมด่าอยู่แล้วเหมือนว่าถ้าไม่ได้พูดเรื่องนี้เราจะกลายเป็นคนเชยๆไม่ตามสังคมก็เลยยอมด่าตามๆกันไปทั้งๆที่ไม่ได้รู้ความจริงอะไรหรอก นายอย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับเค้าเลย ตอนนั้นนายรู้สึกแย่ ตอนนี้นายไม่อยากจะให้เค้ารู้สึกแบบนั้น เรื่องอะไรพวกนั้นน่ะ มันเป็นไปไม่ได้หรอก ชีวิตใครชีวิตมัน "

" ก็จริงของนายนะ เค้าดูไม่ได้อยากจะให้ฉันเข้าไปยุ่งด้วยสักหน่อย " ท่าทางถามคำตอบคำแบบนั้นก็บอกกันอยู่

" คนที่เค้าอยากจะให้สนใจเค้าคือคนในกลุ่มเค้าตังหาก ที่ตอนนี้ก็ขับไล่เค้าออกจากกลุ่มเหมือนไม่ได้รู้จักกันเลยสักนิด แล้วฉันจะบอกอะไรให้อีกอย่าง เนย์เค้าไม่ได้ชอบนายหรอก "

“ ฉันไปทำอะไรให้เค้าวะ " ผมหันไปถามอีกคนงงๆ

“ แย่งผัวเค้าไง หรือไม่ก็เป็นคนที่ผัวเค้าต้องการมากกว่าเค้า " ลิปอธิบาย " นายไปลืมไปเหรอว่าเค้าเป็นเมียน้อยหัวหน้าน่ะ แล้วการที่นายโดนหัวหน้าให้ความสนใจมากกว่าเค้า แน่นอนว่าเค้าต้องไม่ชอบหรอก ฉันว่าที่ตอนนั้นคนในกลุ่มเค้าเกลียดนายมาก เพราะเค้าคงเสี้ยมเรื่องนายสุดๆ เพราะว่าเกลียดนายอยู่แล้ว ตอนนี้พอเรื่องพลิกกลับ เค้าก็รู้สึกอีกว่าตัวเองเหมือนแพะรับบาปเรื่องของนาย ใจดีให้มันถูกคนเถอะนะ แม่นางเอก "

“ แต่เค้าก็น่าสงสารนะ "

“ เรื่องนั้นฉันก็ไม่เถียงหรอก แต่เราไม่ใช่เพื่อนเค้า ไม่ใช่คนที่เค้าต้องการ ทำได้มากสุดก็คงแค่ไม่พูดถึงเรื่องของเค้า ก็เท่านั้นแหละ "

“ ก็จริงของนาย "

   เราเดินกลับมานั่งทำงานของตัวเองที่โต๊ะ ในแผนกที่ไม่ถึงกับเงียบแต่ก็ไม่ได้มีเสียงโวยวายอะไร ผมออกแบบงานของตัวเองจนเสร็จตั้งแต่ช่วงก่อนพักเที่ยงของวัน ผละสายตาออกจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ของตัวเองก่อนจะลุกเดินไปในห้องน้ำหน้าแผนก
   เปิดประตูเข้าไปเบาๆ แต่ยังไม่ทันจะเปิดก๊อกล้างมือเสียงนึงก็ดังขึ้นก่อน เสียงของคนที่กำลังร้องไห้และพูดคุยกับใครบางคนผ่านสายโทรศัพท์ อยู่ในห้องน้ำห้องนึง

“ ทำไมคุณต้องเอาเรื่องแบบนั้นมาบีบบังคับผม ผมไม่อยากจะทำเรื่องแบบนั้นกับคุณอีกแล้ว รู้มั้ย ว่าคุณทำลายชีวิตของผมไปมากแค่ไหน แล้วยังเอาเรื่องนี้มาบีบบังคับผมอีกอย่างงั้นเหรอ คุณต้องการอะไรกันแน่ ชีวิตของผมรึเปล่า ทำไมผมต้องคอยตามใจคุณ ต้องคอยเป็นทาสกามให้คุณ ทั้งๆที่คลิปมันก็หลุดออกมาแล้ว ผมเสียหายไปแล้ว ผมจะไม่เชื่อคุณอีก คุณทำลายชีวิตผม " เค้าพูดออกมาแบบนั้นด้วยเสียงที่ทั้งโกรธและสั่น     " คุณจะปล่อยคลิปอะไรอีก! จะทำร้ายผมไปถึงไหน เมื่อไหร่จะหยุดสักที จะให้ผมตายไปเลยรึไง คุณถึงจะพอใจ ผม.. ไม่เหลืออะไรในชีวิตแล้ว ได้โปรดหยุดเถอะนะ.. ทุกวันนี้ผมไม่กล้าแม้ที่จะกลับบ้านเพราะผมกลัว กลัวว่าพ่อแม่ผมเค้าจะรู้แล้วว่าเรื่องมันเป็นยังไง  ผมไม่กล้าโทรหาเพื่อนเพราะกลัวว่าเพื่อนจะรู้แล้วเหมือนกัน ผมไม่มีอะไรแล้ว ไม่มีเลย คุณได้ทุกอย่างจากผมไปแล้ว ผมไม่ขอมันคืนหรอกแต่อย่าทำร้่ายผมอีกเลย ผมขอร้อง หยุดเถอะ อย่าปล่อยคลิปของผมเลย หัวหน้า ได้โปรดเถอะครับ "           ผมเบิกตาตอนที่รู้แน่ชัดแล้วว่าคนในห้องน้ำตอนนี้มีใครกำลังพูดอยู่แล้วกำลังพูดอยู่กับใคร             " งั้นถ้าคุณอยากจะให้ผมไปนัก ผมไปก็ได้นะ เจอกันก็แล้วกัน " คำพูดตัดสายนั่นที่ได้ยิน ผมเดินไปเปิดน้ำล้างมือทันที ทำเหมือนกับว่าตัวเองเพิ่งเข้ามาในห้องน้ำแล้วก็ไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น เนย์ชะงักเล็กน้อยตอนที่เดินออกมา เค้าเดินออกมาล้างมือ ผมที่มองเค้าผ่านกระจกอีกคนก็ยิ้ม

" พี่คีย์ "

" หื้ม ? “

“ เพิ่งเข้ามาเหรอครับ "

“ อื้ม มีอะไรรึเปล่า ทำไมตาแดงๆ มีอะไรปรึกษา.."

" พี่โชคดีนะ พี่รู้ตัวมั้ย ว่าพี่น่ะ โชคดีแล้วละ โชคดีที่วันนั้นมีคนช่วยพี่ไว้ " ผมอยากจะถามเค้าว่า หมายความว่ายังไงแต่เหมือนว่าทุกอย่างนั้นผมเองก็รู้อยู่แล้วว่ามีอะไรเกิดขึ้น หัวหน้าคงบังคับให้เนย์ออกไปหาเค้าคืนนี้ โดยการเอาคลิปมาเป็นตัวแบล็คเมล์ ถ้าไม่ออกมาเจอ มามีอะไรกับเค้า เค้าจะส่งคลิปพวกนั้นไปที่เมล์ของพนักงานในแผนก อย่างที่เค้าเคยขู่กับผมว่าเค้าจะทำแบบนั้น " เพราะวันนี้ มันไม่มีใครช่วยผมไว้ได้เลย แม้แต่ตัวผมเอง ผมก็ช่วยตัวเองไม่ได้ ทุกอย่างเพราะผมแค่คิดว่าก็เซ็กส์ธรรมดาไม่มีมีอะไรหรอก แต่ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า เค้าจะถ่ายคลิปพวกนั้นไว้ในทุกๆครั้งที่เรามีอะไรกัน "

" เนย์ "

" ผมโง่เองที่หลงรักคนแบบนั้น หลงเชื่อคนแบบนั้น เชื่อว่าเค้าจะมีใจให้ผมจริงๆ ผมโง่เอง วันนี้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันก็เพราะตัวของผมเอง " เค้าพูดก่อนจะเดินออกไปยังไม่ทันให้ผมได้พูดปลอบอะไรเค้าสักคำ ผมที่ได้แต่ผ่อนลมหายใจออกมา หันมองตัวเองที่หน้ากระจกผมรู้สึกว่าตัวเองมีปัญหาเยอะแยะ ทั้งเรื่องรูปถ่ายที่ถูกปล่อยออกมา ต้องเลิกกับแฟนที่รักผมมาก ต้องโดนทำร้ายหลายครั้ง จนรู้สึกแย่และกลัวกับการมีชีวิตอยู่ ผมไม่รู้ว่าเรื่องของผม กับเรื่องของเนย์ที่กำลังตกอยู่ในสภาพนั้นใครจะโหดร้ายกว่ากัน ผมไม่อยากจะเปรียบเทียบ แต่ถ้าเค้ามีใครสักคนที่ดีกับเค้าอย่างที่ผมมีลิปนั่นก็คงดี

“ คีย์ เที่ยงแล้วไปกินข้าวกัน " รุ่นพี่ในแผนกเอ่ยถามผมตอนที่เปิดประตูเข้าไปในแผนกแล้วสวนทางกับเธอพอดี ผมส่ายหน้าให้เธอพลางยิ้ม

“ ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมาก เดี๋ยวผมรอไปกินพร้อมลิปนะ "

“ งั้นพวกพี่ไปนะ "

“ ครับ " ผมเดินกลับมานั่งที่โต๊ะ ลิปที่กำลังขยันทำงานเค้าละมือที่กำลังขยับเม้าส์ปากกาหันมาพูดกับผม

“ อีก สิบนาทีนะคีย์ "

“ ตามสบายเถอะ " บอกแบบนั้น ก่อนที่ผมจะหยิบมือถือตัวเองขึ้นมาดู เปิดไลน์ของฟานที่ไม่มีข้อความอะไร ผมตัดสินใจส่งข้อความไปให้เค้า ' อย่าลืมกินข้าวเที่ยงนะฟาน ' ยิ้มกับหน้าจอที่คงไม่มีการตอบกลับก่อนจะเลื่อนเก้าอี้ไปหาลิป

“ นายเสร็จงานแล้วเหรอ "

“ อื้ม เสร็จเรียบร้อยแล้วละ "

“ โชคดีจริงๆเลยน้าาาา " ลิปบอกก่อนจะเหลือบมองไปรอบๆ เค้าหันมากระซิบผม " มีอะไรจะเล่าให้ฟัง "

“ นินทาคนที่อยู่ในห้องนี้แน่ๆ ถ้าพูดเสียงเบาขนาดนี้น่ะ " อีกคนหลุดยิ้มตอนที่ผมพูดออกไป ลิปมองซ้ายขวาก่อนจะพูดกับผมเสียงเบาๆ

“ เมื่อกี้น่ะ อีเจ๊กลุ่มเนย์ไม่ยอมชวนเนย์ออกไปกินข้าว คืออยู่ๆ กลุ่มนางก็ลุกขึ้นเลยแล้วเดินออกไปเลยไม่ได้ชวนสักนิด พอน้องมันถามว่าผมไปกินข้าวด้วยได้มั้ย อีเจ๊ก็บอกว่า วันนี้มันแยกกินกันไม่ได้ไปด้วยกันหรอก ทั้งๆที่เดินออกไปพร้อมกันอะ โคตรน่าเกลียดเลยแบบนั้นใครมันก็ต้องรู้ตัวเปล่าวะ ว่าโดนเขี่ยออกจากกลุ่ม "

" งั้นเราชวนเค้าไปกินข้าวสิ " ผมบอก ลิปก็ขมวดคิ้ว

" นี่เดี๋ยวนะ นายหมายความว่าไงอะ ปกติเราก็กินข้าวกันสองคนอยู่แล้ว ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลยถ้าไม่ชวนน่ะ "

" สงสารเค้าน่า "

" คิดถึงตัวเองอีกแล้วละสิท่า " อีกคนบอก ผมก็พยักหน้ารับ " ตามใจนายแล้วกัน โดนนินทาว่าเมียน้อยด้วยกันทั้งคู่ก็เลยเข้าใจกัน อย่าหาว่าฉันไม่เตือนก็แล้วกัน " ลุกขึ้นจากที่นั่งพร้อมกันหลังจากลิปพูดจบ ผมมองไปรอบๆไม่มีใครอยู่ในแผนกแล้วมีแค่ผมกับลิปสองคนแล้วก็ เนย์ที่ก็ยังนั่งเขียนอะไรสักอย่างลงไปในกระดาษ

" เนย์ "

" ครับ " เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมามองผมตอนที่เอ่ยเรียกเค้าออกไป

" ไปกินข้าวกันมั้ย ยังไม่ได้กินอะไรเลยไม่ใช่เหรอ "

" ผมไม่หิวครับ พี่คีย์กับพี่ลิปไปกินข้าวกันเถอะ พอดีผมมีอะไรที่จะต้องทำนิดหน่อยน่ะครับ "

" อย่างงั้นเหรอ แล้วจะให้พี่ซื้อแซนวิชมาให้มั้ย "

" ไม่เป็นไรครับ ผมคงไม่กินแล้วละ ขอบคุณมาก " เค้าบอกก่อนยิ้มให้ผมแล้วก็ก้มหน้าลงไปเขียนอะไรสักอย่างในกระดาษต่อ ผมพยักหน้ารับก่อนจะเดินออกมาจากแผนกโดยไม่เซ้าซี้เค้าอีก

“ น่าสงสารเหมือนกันนะ เค้าก็อยู่กลุ่มอีเจ๊นั่นมาตั้งแต่เริ่มทำงาน พอมาโดนเทออกจากกลุ่มแบบนี้ก็ลำบากอยู่เหมือนกัน แล้วด้วยสภาพจิตใจของเค้าที่โดนแบบนั้นด้วยแล้ว ฉันว่าตอนนี้เด็กนั่นต้องรู้สึกแย่มากแน่ๆ "

“ อย่าพูดเลย " ผมบอก ยิ่งคิดก็ยิ่งสงสารแล้วยิ่งทำอะไรไม่ได้แบบนี้มันก็ยิ่งอึดอัด มันเหมือนผมรู้ว่าในช่วงเวลานี้เค้าต้องการใครแต่มันไม่ใช่ทุกคนที่เค้าต้องการ เค้าต้องการให้คนของเค้าเข้าใจเค้า แต่มันกลับไม่มีใครเข้าใจเลย ไม่มีคนปลอบเหมือนกำลังอยู่ในที่มืดที่มองไม่เห็นแม้แต่ตัวเอง

“ น่าๆ อย่าคิดมากเราก็ทำเต็มที่แล้ว เราไม่ได้นิ่งดูดายปล่อยเค้าไปสักหน่อย ไปกินข้าวกันดีกว่าเดี๋ยวหมดเวลาพักเที่ยงนะ "

" อื้ม "

" นี่ๆ วันนี้หลังจากกินแซนวิชกันเสร็จ เราไปหากาแฟอร่อยๆกินกัน ฉันอยากจะกินชาเย็นอร่อยๆสักแก้ว ร่างกายต้องการความหวาน " เราเดินลงลิฟต์ไปที่ชั้นล่าง แม้ลิปจะชวนพูดเรื่องอื่นมากมายแต่สมองของผมก็ยังคิดถึง เรื่องของเด็กคนนั้นที่ตัวเองได้ยินมาตอนที่เดินเข้าไปในห้องน้ำ " คีย์ นี่ "

“ ห๊ะ อะไร "

“ นายจะเหม่อไปไหน จะเดินผ่านร้านแซนวิชแล้วนะ " ลิปทักยิ้มๆ เราเดินเข้าไปในร้านกินแซนวิช พูดคุยกันตามปกติก่อนจะเดินออกจากร้านไปซื้อน้ำในห้าง ชาเย็นสองแก้วกับขนมอีกนิดหน่อยที่เราเดินถือกันเดินออกมาจากห้าง รอบข้างมีคนเดินกันไปมาเพราะเป็นช่วงพักเที่ยง

“ ชาเย็นร้านนี้กินอร่อยนะ ขนมก็อร่อย " ผมหันไปบอกลิปตอนที่กัดมันฝรั่งทอดเข้าไปในปาก " แต่ถ้ากินแล้วนั่งทุกวันต้องอ้วนแน่เลยวะ "

“ ให้มันอ้วนขึ้นมาบ้างเถ๊อะ นายอะ ผอมแบบถ้าเปิดพัดลมเบอร์สามนายคงปลิวอะ "

“ เว่อร์ไป ฉันหมายถึงว่ามันอาจจะลงพุงเพราะเราเอาแต่นั่งเว้ย อ้วนแค่พุงอะ เข้าใจมั้ย "

“ ทำไมคนมามุงตรงนั้นเยอะแยะ มีอะไรกันวะ " ลิปพูดออกมาตอนที่มองไปทางหน้าตึกของบริษัท เราเดินเข้าไปใกล้มองตามคนที่มองขึ้นไปบนยอดตึกนั่นก่อนจะมีเสียงของยามดังขึ้น

“ คนจะกระโดดตึกฆ่าตัวเองตาย เรียกตำรวจเร็ว! เรียกหน่วยกู้ภัยมาด้วย! "

“ เนย์.. " ผมหลุดเรียกชื่อของคนที่อยู่บนยอดตึกนั่นออกมา ขาของผมนิ่ง มันก้าวไม่ออก หัวใจของผมสั่นแรงจนยากจะควบคุมให้หยุดลงได้ สายตาของผมเงยมองอยู่แบบนั้น ผมไม่ได้ยินเสียงของใครคนอื่นแม้แต่เสียงของลิปที่กำลังร้อนรนแล้วดูเหมือนว่ากำลังโทรหารองหัวหน้า

   ผมคิดถึงคำพูดของเค้าที่ผมได้ยินวันนี้ คำพูดที่เค้าบอกกับปลายสายถึงความทุกข์ทรมานของตัวเค้าที่กำลังเผชิญอยู่ ผมได้ยินถ้อยคำที่ถูกบีบบังคับจากใครอีกคน เสียงร้องไห้ที่พูดว่ารอบข้างไม่มีใคร ความทุกข์ทรมานพวกนั้นทำให้ขาของผมก้าวออกไปในสมองผมคิด คิดว่าผมอยากจะไปห้าม ห้ามเค้าไว้ไม่ให้จบชีวิตลงแบบนั้น ถ้าเค้าไม่มีใครผมจะเป็นเพื่อนเค้าเอง แต่อย่าทำลายตัวเองแบบนั้น อย่าทำลายตัวเองเพราะคนที่ทำร้ายเราถึงขนาดนั้น

“ คีย์! “

“ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแผดร้องที่ดังออกมาของผู้หญิงทั่วบริเวณ ผมเงยขึ้นมองยอดตึกที่ตอนนี้มีร่างนึงลอยออกมาจากตึกสูงและตกกระทบพื้นล่างด้วยความรวดเร็ว " แผละ! “ สะดุ้งเฮือกกับเสียงที่ได้ยินและภาพที่ได้เห็น ร่างบางของคนที่เพิ่งได้พูดคุยกันนอนแน่นิ่งอยู่ตรงนั้น เลือดสีแดงไหลนองออกจากร่างกายขยายเป็นวงกว้างไปเรื่อยๆ ชิ้นส่วนของร่างกายที่เหมือนจะหลุดออก

    ภาพที่ผมเห็นชวนให้ลมหายใจของผมอ่อนลง ขาที่เคยมีแรงนั่นก็ด้วย มองดูศพด้วยสายตาสั่นไหวราวกับคนควบคุมไม่ได้ ร่างที่มีเลือดไหลนอง  ทุกอย่างในร่างกายของผมสั่นไปหมด สั่นจนทำได้แค่นั่งลงช้าๆบนพื้นที่ตอนนี้ทุกคนถูกกันออกนอกพื้นที่ เสียงรถพยาบาลที่แล่นเข้ามาใกล้ แต่ทุกอย่างเหมือนไม่ได้อยู่ในสายตาของผม ผมยังคงจดจำแค่ภาพของเนย์ เสียงร้องไห้ของเค้า และความทุกข์ทรมานทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับเค้า

“ คีย์ " เสียงที่เอ่ยเรียกผม ลิปนั่งลงข้างๆ เราไม่ได้พูดอะไรเหมือนรู้ดีอยู่แล้วว่าอีกฝ่ายรู้สึกยังไง เพราะคงเป็นความรู้สึกที่ไม่ต่างกัน น้องในแผนกที่เราเพิ่งคุยกันไม่นาน ผ่านไปไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงกลับเป็นร่างที่ตอนนี้จะไม่มีวันกลับมานั่งพูดคุยกับเราได้อีกแล้ว

   ผ้าสีฟ้าถูกปิดคลุมตรงที่เกิดเหตุเป็นวงกว้าง พนักงานทุกคนถูกไล่ให้ออกจากพื้นที่และขึ้นไปบนตึก นักข่าวที่มาทำข่าวต่างยื่นไมค์สอบถามผู้อยู่ในเหตุการณ์ รถพยาบาล หน่วยเคลื่อนศพ ตำรวจ ทุกอย่างอยู่ในความวุ่นวาย ลิปที่ดูมีสติในตอนนั้นดึงผมให้ลุกขึ้นยืน

“ ขึ้นไปบนตึกกันเถอะ ถ้าอยู่ตรงนี้มีหวังได้ออกทีวีแน่ แถมยังเป็นคนในแผนกอีก พูดอะไรออกไปตอนนี้ไม่ดีหรอก ไปเถอะ " ผมไม่ได้ขานรับแต่ก็ลุกขึ้นยืนเดินไปตามที่อีกคนบอก เราขึ้นตึกมาที่แผนกที่มีแต่ความวุ่นวายทุกคนที่กำลังยืนอยู่ในนั้นด้วยความระส่ำระส่ายและจิตตก เสียงโทรศัพท์ที่ดังไม่หยุดของรองหัวหน้า เด็กผู้ชายในแผนกที่นั่งอยู่ข้างโต๊ะของเนย์หันพบอะไรบางอย่างที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ เค้ายืนพิจารณามันอยู่สักพักก่อนพูดขึ้น

“ เอ่อคือว่า.. นี่น่ะ จดหมายลาตายรึเปล่าครับ " คำพูดที่ทำให้ทุกคนสนใจแล้วลุกขึ้นไปมุงที่โต๊ะทำงานของเนย์พี่คนนึงที่เหมือนจะเอื้อมมือไปจับมันขึ้นมาอ่านโดนรองหัวหน้าตะโกนห้ามไว้

“ อย่าหยิบนะ! “ เธอถอนหายใจ ก่อนจะเดินมาอ่านแล้วพูดออกมาเสียงเบา " ให้ตำรวจเค้ามาจัดการ ตอนนี้ห้ามแตะต้องของอะไรบนโต๊ะของเนย์ทั้งนั้น " ทุกอย่างเงียบไปหลังจากที่รองหัวหน้าพูดออกมา เธอเดินกลับไปก่อนจะทรุดลงนั่งบนเก้าอี้ที่โต๊ะของตัวเองเลื่อนเก้าอี้เบือนหน้าหนีพวกเราพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมา

   บรรยากาศที่ยิ่งชวนในทุกอย่างเงียบลงไปไม่มีอะไรเคลื่อนไหวทั้งนั้น เสียงพูดคุยหรือแม้แต่เสียงมือที่สัมผัสกับแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์ที่ได้ยินบ่อยๆ ตัวผมที่ตอนนั้นได้ยินแต่เสียงของนาฬิกา เข็มวินาทีที่เคลื่อนไปช้าๆ แต่ทว่าในที่นี่กลับไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ เหมือนว่าผมฝันไป แล้วเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกิดขึ้นมาก่อน เสียงของเค้าที่กำลังร้องไห้อยู่ในตอนนั้นถ้าผมพูดออกไปมันคงดี พูดบอกกับเค้าไปว่าผมได้ยิน แล้วให้กำลังใจเค้า อธิบายเค้า ถ้าเมื่อกี้ผมคะยั้นคะยอให้เค้าไปกินข้าวด้วย แต่ทุกอย่างมันเกิดขึ้นแล้ว  ไม่มีคำว่า ถ้า... ผมหวนกลับไปแก้ไขไม่ได้แล้ว และเช่นกันเค้าที่จากไปแล้ว และก็ไม่มีวันกลับมาอีกแล้ว .. 

................................................................

ไปดีนะน้องเนย์ หมดทุกข์หมดโศกสักที
การตายคือการพ้นทุกข์ อย่างนึง สำหรับน้องเนย์หนมเขียนในด้านของ
มนุษย์ที่มีสภาวะจิตใจอ่อนไหว คือ ด้วยความเป็นเด็ก ถูกมองข้าม โดนกระทำซ้ำ ข่มขู่ แล้วโดนดูถูก
ไม่มีคนคอยอยู่ข้างๆ ( อันนี้จะขยายความทุกอย่างในตอนถัดไปนะคะ )
อยากจะเขียนให้แนวมันฉีกไปจากเดิมนิดหน่อย เพราะคนเรามีการจัดการกับความเศร้าและแรงกดดันไม่เหมือนกัน
เลือกวิธีต่างกัน  และ สุดท้าย หัวหน้ามีจุดจบของนางแน่นอนค่ะ

ฝากแท็ก #ฟานคีย์ ในทวิต และ เฟส
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์
เจอกันตอนหน้าจ้า  :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-12-2016 22:38:29 โดย patwo »

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
น่าสงสารเนย์นะคะ สำหรับหลายๆเรื่องที่เจอ และน่าจับนังหัวเน่านั้นมาทรมานให้สาสมกับความเลวของมัน เหมือนมันไม่แฟร์อ่ะ ทำไมมันไม่โดนอะไรบ้างละ มันควรโดนหนักๆ เซ่!!!!!!!!!!!!!!!!!

ออฟไลน์ ่jjay

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 454
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-0
คีย์โชคดีที่มีลิปคอยเป็นกำลังใจตอนมีปัญหา แต่เนย์ไม่มีใครเลยยยย   :เฮ้อ:

ออฟไลน์ yymomo

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-3
 :katai1:  คนที่สมควรได้รับผลกรรม  รองจากไอ้ชั่วหัวหน้าคือ คนในออฟฟิต  เสือกแม้แต่ตอนที่เขาตายไปแล้ว  ขอให้เนย์ตามไปหลอกหลอนพวกมันด้วย 

ทั้งลิปและคีย์ควรลาออกที่สุด  เพราะออฟฟิตนี้ไม่มีคำว่าเพื่อนอยู่เลย  สังคมแบบนี้มีอยู่จริง แต่แบบนี้มันเกินคำว่า ควรอยู่ไปแล้ว   น่าขยะแขยงเป็นบ้า  ขนาดแค่อ่านยังอยากจะอ้วกแทน   

ปล.ทำงานออฟฟิตเหมือนกัน  โหดประมานนี้แหละ  แต่เรามันสายโหดไง  ทำมาทำกลับ ไม่โกง  จากใสๆกลายเป็นพวกโฉดชั่วที่พร้อมสวนทุกคน

ออฟไลน์ konjingjai

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +226/-4
ความคิดเพียงชั่ววูบ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด