ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง
ตอนที่ 62
' คำสารภาพผิด '
เสียงสะอื้นที่ค่อยๆนิ่งลงจนหยุด ผมพาร่างบางที่ดวงตายังแดงเพราะร้องไห้อย่างหนักมานั่งลงบนเตียง ผ้าขนหนูผืนหนาที่คุมร่างของเค้าไว้ ผมจัดการเดินไปหยิบชุดนอนออกมาให้แม้อีกคนจะบอกว่าไม่เป็นไรแล้วขอจัดการตัวเองก็ตาม เปิดประตูตู้เสื้อผ้า ผมหยิบชุดนอนของอีกคนขึ้นมา ก่อนจะผ่อนลมหายใจอีกครั้งเพราะภาพของเค้ายังคงติดอยู่ในตาของผม เค้าที่กำลังร้องไห้ ขยี้ร่างกายตัวเองราวกับเกลียดและขยะแขยงมันเสียเหลือเกิน
ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะผม ไม่มีข้ออ้างอื่น เพิ่งมารู้ตัวตอนนี้ ตอนที่ได้มาเห็นทุกอย่างด้วยตาตัวเอง ว่าความเจ็บปวดในตอนนั้น ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะทำร้ายคนอื่นแบบนั้น ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เคยปากดีเพราะว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นเพราะเค้าทำให้ผมต้องเจ็บปวดก่อน เค้าเข้ามายุ่งกับผม ไล่เท่าไหร่ก็ไม่ไปก่อน ก็เลยต้องลงมือทำร้าย แต่ตอนนี้พอมาย้อนคิดไปกลับคิดว่าสิ่งที่ทำนั้นมันไม่ใช่ ถ้าย้อนไปได้ ผมจะไม่ทำมัน จะไม่ปากดีว่าเค้า จะไม่แม้ที่จะคิดอะไรสั้นๆแบบนั้นเพราะความโมโหของตัวเองอีก
ทั้งๆที่เคยคิดว่าความเจ็บปวด ตอนที่ถูกนอกใจ มันเจ็บมากแล้ว แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ ถ้าเทียบกับตอนนี้นั่นอาจจะแค่ความเสียใจ แต่ตอนนี้ ตอนที่ผมเห็นคนที่ผมรักต้องเป็นแบบนั้น ต้องทรมานเพราะสิ่งที่ผมทำ ก็ยิ่งทำให้ทุกอย่างในใจผมมันชัดมากขึ้น จากเคยไม่แคร์เพราะคิดว่าเดี๋ยวก็หาย แต่ตอนนี้ผมรู้สึกว่าทุกอย่างที่คิดมันสวนทางกัน ทุกอย่างไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ความทรงจำที่โหดร้ายไม่ได้ถูกลบออกง่ายขนาดนั้น ทั้งเรื่องที่เค้าไม่กล้าเข้าใกล้คนอื่น ทั้งเรื่องที่เอาแต่จดจำเรื่องราวเหล่านั้นเวลาที่ไปสะกิดต่อมความทรงจำเข้า ก็เหมือนไปสะกิดโดยแผลของเค้า แผลที่เค้าทั้งเจ็บปวดและทรมาน
มารู้ก็ตอนนี้ ว่าไม่ควร มารู้ก็ตอนที่สายไปแล้ว มารู้ว่าความเสียใจที่รู้สึกตอนที่ถูกใจ นอกใจ หรือโดนทิ้ง นั่นอาจจะเรียกแค่ว่าความเสียใจเท่านั้นเพราะตอนนี้สิ่งที่ผมรู้สึกมันคือทั้งเสียใจและเจ็บปวด ทรมาน
“ ฟาน " เสียงที่เรียกดังมาจากห้องนอน ผมสะดุ้งหยุดสิ่งที่คิดก่อนจะหยิบชุดที่ใส่ง่ายๆ ออกมาให้เค้า เป็นแค่เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้น
“ มีอะไร " ผมออกมาจากห้องแต่งตัวแล้วเอ่ยถาม ยื่นเสื้อผ้าให้เค้าอีกคนก็ส่ายหน้า
“ แค่เห็นเข้าไปนาน ก็เลยสงสัย "
“ หาเสื้อผ้าให้นายอยู่น่ะ เลือกไม่ถูกว่า นายจะใส่อะไรดี "
“ แค่ชุดนอน ใส่ได้ทั้งนั้นแหละ " อีกคนบอกก่อนจะยิ้มให้ รอยยิ้มที่ยิ่งทำให้ผมรู้สึกแย่มากขึ้นไปอีก คนคนนึงจะยิ้มให้คนที่เคยทำร้ายตัวเองได้ยังไงกัน ต้องใช้ความรู้สึกแบบไหนที่ทำแบบนี้ ทำไมเค้ายังกล้าที่จะยิ้มให้คนที่ทำให้ตัวเองต้องเป็นแบบนั้นได้ยังไง ยังใจดี ยังบอกว่าไม่เป็นไร ได้ยังไง ทำไมไม่ผลัก ไม่ตบ ไม่ตี ทำไมไม่ทำแบบนั้น ทำไมไม่รู้สึกโกรธผมบ้าง ในสิ่งที่ผมทำกับเค้า ทำไมไม่ทำร้ายผมเหมือนกับผมที่ทำเค้าตอนที่โกรธเค้า " ฟาน ร้องไห้ทำไม "
" หื้ม ? " คำถามที่เหมือนเรียกสติ ไม่รู้เลยว่าตัวเองร้องไห้ ผมหัวเราะออกมาตอนที่ยกมือขึ้นปาดน้ำตาตัวเอง " อ้าว. ฉันร้องไห้เหรอเนี้ย ฉันร้องไห้ทำไมวะ "
“ มีอะไรรึเปล่า คิดอะไรอยู่ " เค้าถามก่อนจะเอียงหน้ามองผม " คิดเรื่องของฉันเหรอ สงสารฉันเหรอ " คำถามที่ทำให้ผมเงียบ ไม่ได้ตอบอะไรเค้าทั้งนั้น คีย์ที่ยังยิ้มเค้าหัวเราะออกมาเบาๆ " ไม่ต้องสงสารฉันหรอก ตอนที่ฉันทำร้ายนาย ฉันยังไม่เคยคิดสงสารนายเลยนะ ยังคงนอกใจนายโดยไม่คิดถึงหัวใจของนายเลยสักนิด "
“ ฉันว่านายไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ นายทำร้ายฉันหรอก " ผมบอก " ฉันไม่อยากฟังมัน เลิกพูดเรื่องนั้นได้แล้ว ถ้าอยากจะให้ฉันลืม ก็เลิกพูดมันเถอะ ฉันจะได้ลืมมันสักที " เพราะถ้ายิ่งพูดผมก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองแย่ ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองทุเรศจนแทบไม่น่าจะอยู่ตรงนี้ด้วยซ้ำ มันมีคำถามมากมายอยู่ในหัวผม ' เจ็บปวดเหรอมึง ตอนที่เห็นเค้าชอบคนอื่น เจ็บปวดมากสินะ ถึงต้องให้คนไปทำกับเค้าแบบนั้น ถึงต้องไปทำลายชีวิตเค้าแบบนั้น '
ทุกอย่างวนเวียนเหมือนวงกลมที่ไม่มีที่สิ้นสุด ตอนนี้ทุกครั้งที่คิดถึงความเจ็บปวดของตัวเอง ก็จะคิดถึงตอนที่แค้นเค้าจนต้องทำร้ายเค้า คิดถึงสีหน้าตอนที่เค้ากรีดร้อง คิดถึงท่าทางตลอดสองสามวันที่ผมเห็น คิดถึงคนที่พูดเรื่องความตายด้วยสีหน้า ยิ้มๆแบบไม่รู้สึกอะไร ราวกับจะเตรียมตัวตายอยู่แล้ว เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมของมัน
“ ฟาน "
“ ทำไม ไม่อยากจะทำร้ายฉันบ้าง ตบฉัน ผลักฉัน หลังจากวันที่นายรู้ว่าฉันเป็นคนทำ ทำไมถึงไม่คิดทำให้ฉันเจ็บบ้าง " ผมเงยหน้าถามเค้า สบสายตาที่ชวนให้น้ำตาไหล
มันรู้สึกอึดอัด อึดอัดที่เค้าไม่รู้สึกอยากจะทำร้ายอะไรผมทั้งนั้น ทั้งๆที่ผมทำร้ายเค้าถึงขนาดนั้นแต่เค้าก็ยังถามแค่สั้นๆว่า ' นายเกลียดฉันขนาดนั้นเลยเหรอ ' แล้วคำตอบของผมในวันนั้นคือ ' ใช่ ฉันเกลียดนาย ' เกลียดที่ทำให้ต้องเสียใจขนาดนี้ เกลียดที่ต้องร้องไห้ให้กับคนที่ทุ่มเทให้ทุกอย่าง ทั้งๆที่พยายามรั้งยังไง เค้าก็ไป เหมือนไม่เคยเห็นค่าความรู้สึกรักทุ่มเทที่ให้กันเลย แล้วพอคิดว่า เค้ารัก และ หลอกเราอยู่นาน ตลอดเวลาที่อยู่กับเรา ก็กำลังรักคนอื่นอยู่ ตอนนั้นก็ยิ่งเกลียด เกลียดคนที่หักหลังกันคนนี้ เกลียดที่สุด .. เกลียดจนทำได้ทุกอย่างเพื่อไม่ให้เห็นหน้าเค้า เกลียดจนทำเรื่องแบบนั้นลงไป
" ฉันก็ทำให้นายเจ็บแล้วนี่ ยังจะต้องทำอีกเหรอ ฉันไม่คิดว่าฉันต้องทำหรอก ตบไป ตีไป ก็เจ็บมือเปล่าๆ ส่วนคนที่โดนตบโดนตีพรุ่งนี้เดี๋ยวก็หาย แต่ฉันไม่ได้หายไปด้วยนี่ ใจก็ยังคิดอยู่ ยังนึกถึงอยู่ แบบนั้นจะตบจะตีไปทำไม อีกอย่าง นายเองก็เจ็บมากไม่ใช่เหรอ ฉันว่าคนอย่างนายคงไม่ทำร้ายฉันหรอก ถ้านายไม่เจ็บมากแล้วแค้นมากละก็ นายคงไม่.. " เค้าถอนหายใจออกมา
" ฉันนอกใจนายทั้งๆที่ตลอดเวลานายทั้งแสนดี ดูแล เอาใจใส่ แต่ฉันก็ยังนอกใจนาย ไปหาใครอีกคน ทั้งๆที่ก็รู้ว่านายเป็นคนยังไง รู้ว่าชีวิตของนายตอนเด็กๆเป็นยังไง เกลียดการโดนทิ้งแล้วโดนหักหลังมากแค่ไหนแต่ฉันก็ยังทำ ยังทำให้นายเจ็บ " เค้ายิ้มก่อนจะก้มหน้าลง " แล้วตอนนี้คนที่ยังดูแลฉัน ก็ยังคงเป็นนาย นายเข้ามาดูแลฉันเพื่อให้ฉันรอดพ้นจากคนคนนั้น คนที่ครั้งนึงฉันเคยนอกใจนายไปหาเค้า รู้มั้ยบางทีฉันอยากจะถามนายเหมือนกันว่า เวลาฉันเห็นกับเค้าอยู่ใกล้กัน ไม่ว่าจะเถียงหรืออะไรก็แล้วแต่ นายยังรู้สึกเจ็บบ้างรึเปล่า คิดอยู่ตลอดเวลาใช่มั้ย เวลาที่ฉันมองเค้า นายเองก็ยังเจ็บใช่มั้ย "
" อื้ม ก็ยังเจ็บอยู่ " เจ็บที่เห็นเค้า แล้วคิดถึงว่าเมื่อก่อนเค้าเคยมีความรู้สึกยังไงต่อกัน เค้ากอดกัน จูบกันบ้างมั้ย เค้าเคยมีอะไรกันรึเปล่า เคยมีความสุขตอนที่ได้อยู่ด้วยกัน เคยมีความสุขมากกว่าตอนที่อยู่กับผมใช่มั้ย ตอนนั้นสมองก็เอาแต่คิดเรื่องแบบนั้น มันไม่ได้คิดอะไรในแง่ดีเลย คิดแต่เรื่องแง่ร้ายไปหมด
" นายเลิกเถอะ ความคิดว่า ความเจ็บปวดของฉันมันเยอะกว่า หรือที่นายทำมันไม่ใช่คน ทุกอย่างมันเกิดขึ้นแล้วฟาน เรากลับไปแก้ไข หรือนั่งเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้แล้ว เพราะถ้ากลับไปแก้ไขได้ ฉันคงจะกลับไปแก้ไขมันนานแล้วละ แก้ไขไม่ให้ตัวเองนอกใจนาย ถ้าย้อนกลับไปได้ ฉันจะไม่มีวันทำร้ายนาย แล้วทุกเรื่องทุกอย่างที่มันเกิดขึ้นตอนนี้ มันก็จะไม่มีวันเกิดขึ้น เราจะยังรักกันเหมือนเดิม ตอนเช้านายก็ยังทำอาหารให้ฉันกินเหมือนเดิม เรายังคงมีความสุขกับเสาร์อาทิตย์ที่ฉันว่าง ตอนเย็นเราคงได้ออกไปกินของอร่อยๆ ดูหนังด้วยกัน หรือว่าทำเรื่องที่คนเป็นแฟนเค้าทำกัน มีความสุขในแบบของเรา " เค้าก้มหน้าลง ผมก็ดึงตัวเองไปกอดเค้าไว้ คีย์ร้องไห้ เค้าก้มหน้าซบลงที่ไหล่ผมแล้วร้องไห้ออกมา " สำหรับฉันแล้วถ้ามีเรื่องอะไรสักอย่างที่ทำให้เราโกรธกัน ตอนนั้นคงเป็นแค่เรื่องที่ฉันไม่ยอมออกไปเที่ยววันอาทิตย์กับนาย หรือว่ากินข้าวที่นายทำไม่หมดมันก็เท่านั้น คงไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นหรอก "
" คีย์..”
" เสียใจกับมันไปก็เท่านั้น คิดว่าไม่น่าทำลงไปเลยมันก็เท่านั้น เพราะทุกอย่างมันเกิดขึ้นแล้ว เราแค่ต้องปรับตัวยอมรับกับสิ่งที่มันเกิดขึ้น แก้ไขสิ่งที่ทำลงไปแล้ว และตั้งสติต่อจากนี้ว่า จะไม่ทำมันผิดซ้ำสองอีก "
" ผมขอโทษ " ผมกอดเค้าไว้แน่น แล้วพูดออกมาจากความรู้สึกผิดของตัวเองที่อยู่ในใจ มันไม่มีคำพูดอะไรที่ต้องพูดออกไปยกเว้นคำพูดนี้ที่พูดออกไปพร้อมน้ำตา" ผมขอโทษครับ ผมขอโทษ ผมขอโทษ " น้ำตาของผมไหลตอนนี้ ก็เหมือนพูดได้แต่คำนี้เท่านั้น " ฉันผิดไปแล้ว ผิดไปแล้วจริงๆ ฉันมันคนสิ้นคิด ฉันไม่น่าทำแบบนั้น ไม่น่าคิดทำแบบนั้น ฉันมันเลว เลวจริงๆ ขอโทษ คีย์ ฉันขอโทษนะ ตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองก็พูดได้แค่นี้ ทั้งๆที่นายตอนนี้ต้องเป็นแบบนี้มันก็เป็นเพราะฉัน แต่ฉันก็ยังพูดมันได้แค่นี้ พูดได้แค่คำว่าขอโทษ ขอโทษนะ ฉันมันผิดเอง ผิดที่คิดว่าจะแค่ไล่นายไปไกลๆ ผิดที่คิดอะไรง่ายๆ ผิดที่ไม่ได้คิดถึงความรู้สึกของนายเลย ฉันขอโทษ "
“ ฟาน แต่ว่าฉันเองก็เคยทำให้นายเจ็บ "
“ มันไม่เท่ากันหรอก! นายก็รู้ดีว่าไม่เท่ากัน เพราะงั้นนายไม่ต้องพูดแบบนั้นหรอก สิ่งที่ฉันทำมันไม่ได้ทำให้นายเจ็บอย่างเดียว แต่มันเหมือนกับว่าฉันฆ่านาย ฉันฆ่านายไปแล้ว ฉันขอโทษ ฉันมันงี่เง่า ฉันขอโทษคีย์ ฉันขอโทษ "
“ ฟาน.. "
“ ทั้งๆที่ฉันเคยรักนายขนาดนั้น แต่ฉันกลับทำให้นายต้องเป็นแบบนี้ ทั้งๆที่ควรสำนึกผิด แล้วพูดขอโทษนายไปตั้งนานแล้วแต่เพราะเอาแต่คิดถึงเรื่องที่นายนอกใจ คิดถึงแต่เรื่องที่นายทำร้ายฉัน ฉันก็เอาแต่ปากแข็งไม่พูดออกมา ทั้งๆที่ฉัน ควรพูดขอโทษนายตั้งนานแล้ว ควรพูดออกไปตรงๆว่าขอโทษ แต่ฉันก็ปล่อยให้มันยืดยาวมาจนถึงตอนนี้ ใช้ข้ออ้างสารพัดมาอยู่กับนายทั้งๆที่ความจริง ฉันก็แค่กลัวว่าจะนายตายจากฉันไป กลัวนายหายไปจากฉัน ฉันไม่อยากจะให้ตาย ฉันอยากจะให้นายอยู่กับฉัน อยู่ใกล้ๆฉัน ฉันขอโทษ คีย์ ฉันขอโทษ ขอโทษที่ฉันทำแบบนั้นกับนาย ขอโทษที่ทำร้ายนาย ฉันขอโทษ " ผมร้องไห้ มันคือทุกอย่างที่ออกจากใจของผม ทุกอย่างออกมาหมดแล้ว และมันมีแค่นั้น คือขอโทษและเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป ผมแก้ไขมันไม่ได้ ผมย้อนเวลากลับไปก็ไม่ได้ ตอนนี้ที่ทำได้ คือรับผิดชอบในสิ่งที่ทำลงไปกับเค้า
“ ฉันไม่รู้ว่าจะตอบนายยังไง ฉัน พูดความรู้สึกของตัวเองออกมาไม่ถูก " เค้าบอกก่อนจะถอนหายใจออกมา ผมผละตัวเองที่กอดเค้าไว้จ้องใบหน้าที่ยิ้มจางๆมาให้ มือบางเอื้อมมือขึ้นประคองแก้มของผม " ฉันเสียใจที่นายทำให้ฉันต้องเป็นแบบนี้ เสียใจที่คนที่รักฉันมากๆคนนั้นทำร้ายฉันขนาดนี้ แต่พอคิดอีกที มันก็เป็นเพราะฉันด้วยส่วนนึงที่ทำให้นายต้องมาเป็นแบบนี้ ถ้าจะบอกว่าไม่ได้เป็นเพราะฉันเลยนั้นก็ไม่ใช่ แต่จะบอกว่าไม่โกรธ ไม่ถือโทษก็คงดูเหมือนโกหก แต่นายที่ขอโทษออกมาจากใจที่รู้สึกผิดจริงๆตอนนี้ ฉันก็โอเคแล้วละ อย่างน้อย นายก็ยังคิดที่จะขอโทษจริงๆกับสิ่งที่ทำลงไป "
“ ฉันทำได้แค่ขอโทษ ฉันแก้ไขอะไรไม่ได้เลย เคยมีคนบอกว่าคนนิสัยเด็กน่ะ คือคนประเภทที่ว่าทำผิดก็ได้แต่ขอโทษแล้วบอกว่าผิดไปแล้ว จะไม่ทำอีก นั่นคือเด็ก ฉันก็เป็นอยย่างงั้น รู้แล้วละว่า ตัวเองก็เป็นแค่คนแบบนั้น คนนิสัยเด็ก รู้แล้วละว่าตลอดมาที่นายไม่ชอบฉันก็คงเพราะฉันมันนิสัยอย่างนี้เอง เป็นเด็กที่คิดว่าตัวเองผู้ใหญ่แล้ว ทั้งๆที่จริงๆฉันเองยังจัดการกับอารมณ์ตัวเองไม่ได้เลย "
“ เลิกพูดถึงอดีตเถอะ ฉันไม่เคยมองว่านายเป็นผู้ใหญ่หรอก ฉันมองว่านายเป็นนาย เป็นฟานคนนี้ ฉันมองนายแบบนั้นมาตั้งนานแล้ว " เค้าที่ยิ้มให้ผม " ฉันบอกแล้วไง ว่าเราย้อนกลับไปแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดไม่ได้ แต่ทำวันนี้ให้ดีขึ้นได้ แล้วก็ใช้เรื่องพวกนั้นเป็นบทเรียนไม่ได้ทำผิดอีก "
“ ฉัน... ฉันขอรับผิดชอบในสิ่งที่ฉันทำลงไปได้มั้ย " ผมมองหน้าเค้าที่เลิกคิ้วสงสัยอยู่ไม่น้อย " ฉันรู้ว่านายคงคิดไม่ไว้ใจฉัน แต่ฉันอยากจะกลับมารับผิดชอบเรื่องที่ตัวเองทำไว้กับนาย อยากจะกลับมาดูแลนาย มันอาจจะไม่เป็นเหมือนเดิม แต่มันจะไม่แย่กว่าที่เป็นอยู่ ฉันอยากจะดูแลนายแก้ไขในสิ่งที่ตัวเองทำผิดไป ให้ฉันได้ดูแลนายได้มั้ย ขอให้ฉันได้ดูแลนายเถอะนะ "
" ฉัน..”
" ฉันจะพยายามทำให้นายลืมเรื่องพวกนั้นไปให้ได้ ฉันจะทำให้นายกลับมาเป็นเหมือนเดิม ฉันจะทำให้นายมีชีวิตที่มีความสุขเหมือนเดิม ขอโอกาสให้ฉันได้ดูแลนายเถอะนะคีย์ ฉันขอละ ได้มั้ย มันเหมือนเป็นทางเดียวที่ทำให้ฉันไถ่โทษในสิ่งที่ฉันทำลงไป ทางเดียวคือ ฉันต้องดูแลนาย " เค้าถอนหายใจออกมา
“ ยังมีอีกทางนะ "
“ ทางที่ฉันต้องไปให้ไกลจากนาย " ผมบอกอีกคนก็หลบตาลง " ฉันไม่อยากจะทำแบบนั้น ถ้าฉันไปนายคิดว่านายจะลืมมันเหรอ นายจะไม่หวาดกลัวเหรอ เรื่องของหัวหน้าอีกละ ขอให้ฉันอยู่เถอะ ถ้ายังมีฉันอยู่ ถึงจะไม่ได้อยากจะให้อยู่แต่ฉันก็ปกป้องนายจากเค้าได้นะ ปกป้องนายจากสิ่งที่นายกลัวได้นะ " มองหน้าเค้าที่ยังไม่ตอบอะไรอีกคนที่นิ่งไป " ความคิดฉันมันคงเห็นแก่ตัวสินะ..นายคงไม่อยากจะให้คนที่เคยทำร้ายนายกลับมาดูนายหรอก " ผมถอดใจก่อนจะยิ้มให้เค้า " โทษที "
" กลับมาดูแลฉันได้มั้ย งั้นเหรอ " เค้าทวนคำพูดของผม " แล้วนายจะให้ฉันตอบว่า ไม่ได้ ได้ยังไง ก็นายเคยบอกกับฉันไว้ ฉันไม่มีสิทธิ์ตอบอย่างอื่นยกเว้นตกลง ตอนนั้นนายก็พูดไปประมานนี้แล้วก็กลับมาอยู่กับฉันนี่ แล้วตอนนี้นายก็อยู่ที่นี่แล้ว จะให้ตอบอะไรอีก "
" นั่นนะสินะ " ผมยิ้มกว้างออกมา ก่อนจะหลุดหัวเราะ " ตอนนี้ฉันก็อยู่ดูแลนายที่นี่แล้วนี่หน่า " นึกถึงเรื่องที่เคยบังคับขอให้ตัวผมเค้ามาอยู่ที่นี่แบบข้างๆคูๆก็ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆมองหน้าเค้า คีย์หลุดหัวเราะออกมา
“ อย่าบอกนะ ว่ากำลังรู้สึกผิด ที่วันนั้น ขู่บังคับฉันฉันตกลงให้นายมาอยู่ที่นี่ "
“ ก็ อื้มนะ " ผมพยักหน้ารับ เค้าก็ถอนหายใจออกมา
“ ดีแล้วที่รู้สึกผิด นายก็กำลังเป็นผู้ใหญ่จริงๆแล้วนี่ ก็ผู้ใหญ่ที่ดีจริงๆน่ะ เค้าต้องรู้สึกผิดในสิ่งที่ทำผิดลงไป แล้วแก้ไข ขอโทษในสิ่งที่ทำผิด ตอนนี้นายก็ทำมันหมดแล้ว ฉันจะพยายามมันนะฟาน แต่ไม่ใช่เพื่อนายที่รู้สึกผิดหรอกนะ แต่เพราะตัวฉันเอง ฉันจะทำเพื่อตัวฉัน "
“ ฉันจะช่วยนายอยู่ข้างๆเอง " ผมบอกตอนที่กอดเค้าไว้อีกครั้ง ถอนหายใจโล่งออกมา แค่นี้ก็ดีแล้ว ถือเป็นจุดเริ่มที่ดี ผมดีใจที่ผมได้ขอโทษเค้า ได้ขอโทษเค้าจริงๆออกมาจากใจของผม ได้ทำในสิ่งที่ควรทำ และอยากจะทำ “ นายใส่เสื้อผ้าเถอะ ฉันจะไปอาบน้ำ "
“ อื้ม "
เดินเข้าไปในห้องน้ำ ผมจัดการอาบน้ำก่อนจะเดินออกมาแล้วพบว่าใครอีกคน กำลังนอนนิ่งๆบนเตียงไม่ขยับตัวไปไหน ทีวีที่เปิดเสียงดังอยู่นั้น พอเค้าเห็นผม รีโมตก็ถูกเบาเสียงลง
“ ฉันคิดว่านายหลับแล้ว "
“ ฉันนอนไม่หลับหรอกตอนนี้น่ะ ต้องดึกกว่านี้ " อีกคนบอกก่อนจะลุกขึ้นจากเตียง
“ แล้วนั่นจะไปไหน "
“ ไปกิน.. น้ำน่ะ " คำพูดที่เว้นช่วงไป ผมขมวดคิ้วก่อนจะมองหน้าเค้าที่เหมือนรู้ว่าผมไม่เชื่อเท่าไหร่ " ไปกินยา ฉันนอนไม่ค่อยหลับเลยต้องใช้ยาช่วย "
“ ไม่ต้องกินหรอก ถ้ากินบ่อยๆ นายจะเป็นคนที่หลับเองไม่ลงนะ "
“ แต่ฉัน " เค้ากลืนน้ำลายก่อนจะหันไปทางอื่น " ถ้าฉันไม่กิน ฉันจะคิดถึงแต่เรื่องพวกนั้น แล้วมันทำให้ระแวงจนนอนไม่หลับ "
“ ไม่เป็นไร ฉันจะนอนอยู่ข้างๆเอง นอนเป็นเพื่อนกัน ไม่มีใครทำอะไรนายได้หรอก " ผมพูดเชิงปลอบอีกคนที่นิ่งเหมือนฟัง ลังเลอยู่ไม่น้อยที่จะเดินออกไป ผมคว้าแขนเค้าไว้ดึงให้กลับมานั่งที่เตียง " นอนลงได้แล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้นายก็ไปทำงานสายหรอก "
“ รู้แล้วน่า " ร่างบางนอนลงอย่างว่าง่ายแต่ก็แอบถอนหายใจเหมือนไม่ค่อยมั่นใจว่าตัวเองจะหลับลงได้ยังไงในคืนนี้ เค้านอนมองเพดาน ผมเดินออกไปปิดไฟเช็คห้องเรียบร้อยก็เดินกลับมานอนข้างๆเค้า หันมองคนที่มองแต่เพดานไม่ยอมหลับ
“ หลับตาลงสิ ไม่งั้นมันจะหลับได้ไง "
“ ฉันไม่กล้าหลับตา " เค้าบอกเสียงนิ่งๆ " เพราะฉันมักเห็นมันเวลาที่ฉันหลับตา ก็เลยต้องลืมตาอยู่แบบนี้ ปกติ ฉันจะกินยาแล้วก็นอนลืมตาแบบนี้จนกว่าจะหลับไปเอง "
“ ไม่มีใครหรอกที่นี่น่ะ มันมีแค่ฉันแล้วก็นาย " ผมบอกตอนที่ขยับเข้าไปหาเค้าคีย์สะดุ้งนิดหน่อยก่อนจะนิ่ง " ขยับเข้าเข้ามานี่ มานอนใกล้ๆฉัน " คว้าเอวร่างบางให้เข้ามาอยู่ในอ้อมกอดแล้วกอดเค้าไว้แน่น จ้องใบหน้าของเค้าที่ผมมาบังหน้า ผมเอื้อมมือไปจัดทรงผมให้เข้าที่อีกคนก็ก้มหน้างุด แก้มแดงๆที่ชวนให้ผมยิ้ม " จ้องหน้าฉันจนกว่านายจะหลับไปก็แล้วกัน "
“ ใครมันจะไปหลับลงวะ " เค้าพูดเสียงเบาๆแต่ก็ยอมนอนจ้องหน้าผม เราจ้องมองกัน สายตาหวานที่มองผม ค่อยๆหลับลงช้าๆแต่ก็ลืมตาขึ้นมาเหมือนกับยังรู้สึกตัวอยู่ เค้าทำแบบนี้อยู่หลายครั้งจนกระทั้งว่าหลับสนิทลงไปจริงๆ ผมผ่อนลมหายใจออกมาดึงผ้าห่มคลุมตัวเค้าไว้ จัดการปิดไฟแล้วกอดเค้าไว้แน่น หลังจากนั้น เราก็หลับไปพร้อมๆกัน
................................................................
ตื่นเช้าขึ้นมาจัดการทุกอย่างก่อนจะออกไปทำงานกันตามปกติ รู้สึกว่าทุกอย่างรอบตัวมันแปลกไปเสียหน่อยอาจเพราะเมื่อเช้าตอนที่ลืมตาตื่นขึ้นมาผมกลับพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในอ้อมกอดของฟานที่ก็กอดผมไว้แน่นไม่ปล่อยเลย แอบกังวลก่อนนอนอยู่หน่อยๆว่าจะตื่นขึ้นมากลางดึกแล้วจะกลัวจนนอนต่อไม่หลับรึเปล่าเพราะอีกคนหลับไปแล้ว แต่ก็ไม่มีอาการแบบนั้น ทั้งๆที่ไม่ได้กินยานอนหลับแต่ก็หลับสนิทอย่างน่าเหลือเชื่อ อาจเพราะใจของผมมันค่อนข้างสบายใจที่ได้อยู่ใกล้ๆเค้าละมั้ง เป็นความสบายใจที่ว่า ยังไงซะ ผมตอนนี้ก็ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว
เมื่อคืนได้ฟังคำสารภาพของเค้า คำขอโทษทุกอย่าง มันเหมือนชีวิตได้เดินก้าวขึ้นไปอีกก้าวนึง ผมดีใจที่เค้า ขอโทษแล้วรู้สึกผิดในสิ่งที่เค้าทำ จากแววตาแล้วการกระทำทั้งหมดที่บอกว่ารู้สึกผิดพวกนั้น ผมรู้สึกว่ามันโอเคแล้วที่เป็นแบบนั้น อย่างน้อยเค้าก็ยังรู้สึกผิดในสิ่งที่ทำ มีสามัญสำนึก ไม่ใช่เด็กที่เอาแต่เถียงเรื่องความรู้สึกตัวเองแล้วก็ไม่ยอมรับอะไร
“ กินขนมปังหน่อยมั้ย " เสียงที่เอ่ยถามผม ตอนที่เดินออกไปจากห้อง กาแฟหอมๆถูกชงวางไว้แล้ว ขนมปังเป็นแพ็คก็มีให้เลือกอยู่หลายแบบ " กินสักหน่อย จะได้ออกไปทำงาน "
“ อื้ม แล้ววันนี้นายไม่มีเรียนเหรอ " เพราะว่าเค้าไม่มีประเป๋าอยู่ข้างตัวก็เลยสงสัย
“ ไม่มี " เค้าตอบสั้นๆ มือก็ไถข้อความในหน้าจอตัวเองไปเรื่อย
“ แล้ววันนี้จะไปไหนบ้างละ " คำถามที่ทำให้อีกคนเงยหน้าขึ้นมามองผม ไม่รู้ว่าละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวเกินไปรึเปล่า " คือ ฉันหมายถึงว่า ถ้านายไม่มีเรียนแล้วจะอยู่บ้าน ฉันจะได้ให้กุญแจไว้ แต่ถ้าไม่ก็จะได้รู้ว่าไม่ต้องให้ไป ก็เท่านั้น คือไม่ได้คิดจะละลาบละล้วงเรื่องของนาย "
“ ฉันไม่ได้คิดว่ามันละลาบละล้วงอะไรสักหน่อย " เค้าบอก ก่อนจะหัวเราะแล้วก้มหน้าลงอ่านข้อความในมือถือต่อ " แต่ยังไม่ได้คิดว่าจะไปไหนมันก็เท่านั้น คงดูหนังอยู่ในห้องแล้วเที่ยงๆก็ออกไปหาอะไรกินมั้ง หรือว่าดูหนังรอนายเลิกงานอยู่ที่ห้างแถวๆที่ทำงานาย ไม่รู้อะ ยังไม่ได้คิด "
“ งั้นก็เอากุญแจไปก่อนแล้วกัน " ผมยื่นกุญแจที่เคยเป็นของเค้า ให้เค้าไปอีกคนรับใส่กระเป๋าไว้ ผมหยิบกาแฟขึ้นมากิน พร้อมกับขนมปัง เก็บแก้วไปล้างที่ล้างจาน กินน้ำก่อนจะคว้ากระเป๋า
“ เสร็จแล้วเหรอ ง้ั้นก็ไปกัน "
“ ไม่มีเรียนก็จะไปส่งเหรอ " อีกคนก็พยักหน้ารับ
“ ก็ใช่นะสิ เผื่อว่ามันมาดักทำร้ายนาย จะทำยังไงละ ระวังตัวไว้น่ะดีที่สุดแล้ว "
“ นั่นนะสินะ " จะว่าไปก็จริงอย่างที่ฟานบอก ระวังตัวไว้ดีที่สุดแล้วอย่าคิดว่าจะไม่เกิดขึ้น เพราะเวลาที่มันเกิดขึ้นเราจะย้อนกลับมาระวังตัวไม่ได้แล้ว " จริงๆ วันนี้ฉันไม่แน่ใจว่า ตอนเย็นหลังเลิกงานฉันต้องไปงานศพของเนย์รึเปล่า ไม่รู้ทางบริษัทจะเป็นเจ้าภาพให้วันไหน "
“ ไปถามพ่อแม่เค้าแล้วรึไง ว่าจะให้ทางบริษัทเป็นเจ้าภาพน่ะ " ฟานถาม
“ ทำไมนายถามแบบนั้น พนักงานกระโดดตึกตาย ทางบริษัทก็ต้องแสดงความอาลัยสิ ขนาดญาติของพนักงานเค้ายังส่งพวงหรีดไปเลย "
“ ก็ในจดหมายลาตาย เค้าเขียนว่า เค้ากดดันจากเพื่อนร่วมงาน แล้วนายคิดว่าพ่อแม่เค้า จะอยากจะเห็นหน้ากลุ่มคนที่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ลูกเค้าต้องตายเหรอ ฉันไม่คิดว่าอย่างงั้นอะ "
“ แต่ว่าฉันไม่ได้..”
“ ปลาตัวเดียวตายในเข่ง มันเน่าทั้งเข่งนะ " ผมถอนหายใจออกมาตอนที่เค้าบอกแบบนั้น " เอาเป็นว่า ถ้านายไปฉันจะไปด้วยแล้วกัน ยังไงวันนี้ก็ว่างทั้งวันอยู่แล้ว "
“ เหรอ งั้นถ้าจะไป ไม่ไป ฉันจะโทรมาบอกนะ "
“ อื้ม " ฟานพยักหน้ารับ เราเดินออกไปจากคอนโด ขึ้นรถไฟไปด้วยกันจนถึงสถานีที่ทำงานของผม
“ นายไม่ต้องออกจาสถานีหรอก ตรงนี้คนเยอะแยะ ไม่มีใครทำอะไรฉันหรอก นายจะกลับไปเลยก็ได้ "
“ ไม่อะ " เค้าปฎิเสธ " จะคนเยอะ คนน้อย ฉันก็ไม่ไว้ใจทั้งนั้นอะ ฉันอยากจะให้เห็นกับตาว่านายถึงบริษัทแล้ว เจอเพื่อนแล้ว ฉันถึงจะวางใจ "
“ ฟาน " ถึงจะดูน่าอึดอัดแต่ความเป็นห่วงของเค้าที่มีต่อผมมันล้นออกมาจากแม้แต่ตัวผมเองคนทีไ่ด้รับความห่วงใยนั้นยังรู้สึกอุ่นใจจนรู้สึกตื้นตันไปด้วย ที่เค้าเป็นห่วงกันมากถึงขนาดนี้ ผมผ่อนลมหายใจออกมาตอนที่ต่อแถวแตะการ์ดที่เครื่องตรวจเดินออกจากสถานีเค้าก็เดินตามมาข้างๆ
“ คุณลิปยังไม่มาอีกเหรอ "
“ คงยังมั้ง " ผมมองไปรอบๆ ก่อนจะมองเค้าที่ก็มองไปรอบๆเหมือนกำลังมองหาเพื่อนผม " นี่ ฟาน"
“ อะไร " เค้าหันมามองหน้าผม ตอนที่เอ่ยเรียกชื่อเค้า
“ ฉันอาจจะหวังมากไปที่เราอาจจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่ฉันหวังได้ใช่มั้ย ว่าความรู้สึกของเรามันจะดีขึ้นกว่าเดิม "
“ ได้สิ ถ้าเรื่องความรู้สึก ฉันก็หวังว่าให้มันดีขึ้นกว่าเดิมเหมือนกัน " ผมยิ้มออกมาตอนที่เค้าตอบออกมาแบบนั้น ไม่ต้องเหมือนเดิมหรอก ผมรู้ดีว่ามันยากที่จะทำให้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิม แค่ขอให้มันดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ก็พอ “ คุณลิปมานู้นแล้ว งั้นตอนเย็นผมมารับนะ "
“ อื้ม ตอนเย็นเจอกัน " ผมบอกลาเค้า อีกคนก็หันมามองเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง " มีอะไรรึเปล่า "
“ คือฉันไม่ได้หวังแค่ว่า ความรู้สึกของเรามันจะดีขึ้นหลังจากนี้นะ ฉันหวังด้วยว่า ทุกอย่างมันจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม "
“ ฟาน..” ผมยิ้มให้อีกคน เค้าที่เดินออกไปก่อนจะหยุดยิ้มแล้วพูดออกมา
“ รอดูต่อไปแล้วกัน เดี๋ยวเวลามันก็พิสูจน์ทุกอย่างให้เอง "
จริงที่อย่างที่เค้าบอก เรื่องของเราก็คงต้องรอดูต่อไป พูดอะไรตอนนี้มากไม่ได้หรอก ไอ้เรื่องที่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมอะไรนั่น เพราะงั้นก็ปล่อยให้เวลามันพิสูจน์ไปก็แล้วกัน เราก็แค่ต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังและทำให้มันดีขึ้นในทุกๆวัน
............................................................
สวัสดีปีใหม่ค่าาาาาา ทุกคนนนนนนนนนนน #วิ่งมากอด
ขอให้ปีนี้เป็นปีที่ดีขึ้นจาก ปีที่แล้ว คิดสิ่งใด หวังสิ่งใดของสมปรารถ รวยๆ สวยๆ นะคะ
จบการอวยพรก็มาเข้าเรื่องกัน ตอนนี้ ฟานนางก็ได้คิดได้แล้ว ( หลังจากความโกรธแค้นบังตามานาน กว่าจะคิดได้ )
เอาเถอะคนมันเจ็บ ใช่ว่า บุ๊ปปั๊ปสวิตซ์ไฟถึงจะรับรู้ผิดชอบชั่วดีได้แบบรวดเร็วทั้งๆที่เจ็บแค้นเค้าขนาดนั้น
เดี๋ยวต้องมีคนหงุดหงิดพออ่านแล้ว " ทำไมคีย์แม่งง ถึงยังโทษตัวเองวะ แม่งงง ฟานทำร้ายมึงนะ "
แต่ในความคิดหนม หนมว่า มันก็เกิดขึ้นจากคีย์ที่นอกใจฟานก่อนนะ คือโอเค สิ่งที่ฟานทำเลวร้ายผิดมนุษย์มาก
แต่ไม่ได้หมายความว่า สิ่งที่คีย์ทำ มันจะไม่ผิดเลย ไม่ผิดอีกแล้ว ไม่ใช่เนอะ
คีย์มีเรื่องที่คีย์ผิด ฟานมีเรื่องที่ฟานผิด
ต่างฝ่ายต่างมีข้อเสีย มีความผิดพลาด ไม่ได้มีคนใด คนนึงที่แสนดี วิเศษ โอเคนะตัวเองงง
สุดท้ายนี้ น้องฝากแท็ก #ฟานคีย์ ในทวิต ฝากแชร์ในเฟส
เผื่อมี เพื่อนของเพื่อนเห็นแล้ว แบบ เฮ้ยย ไรอะ อ่านแปป แล้วเค้าก็ตามมาอ่านนะ ช่วยกัน
จะได้มีคนมาเครียด มาดราม่าลงตับพร้อมๆกับเรา

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์
เจอกันตอนหน้า หนมมี่ค่าาาา