ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง{ตอนพิเศษที่ 2 UP - 10.2.60}หน้า 42 (จบเรื่อง+รวมเล่ม)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง{ตอนพิเศษที่ 2 UP - 10.2.60}หน้า 42 (จบเรื่อง+รวมเล่ม)  (อ่าน 323451 ครั้ง)

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
ทุกอย่างจะผ่านไป ..

ออฟไลน์ เอมมี่

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 572
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
ไม่อยากให้คีย์ลงเอยกับฟาน เพราะฟานเป็นคนที่ไม่ฟังเหตุผลอะไรทั้งนั้น
ยึดติดแค่ความคิดของตัวเอง  ไม่รู้ว่าในอนาคตจะเกิดขึ้นอีกเมื่อไรถ้าไปทำให้ไม่พอใจ
สงสารคีย์จังงงงงง เบื่อฟานมากๆ ย้ำแต่เรื่องเดิมๆ

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
รอวันหัวหน้าได้รับผลกรรม  :fcuk: :fcuk:

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
ควรไปปรึกษาจิตแพทย์ด้วยกัน ให้ผู้เชียวชาญดูแล

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ arjinn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-1

ทั้งคู่ ต้องสู้ไปด้วยกันนะ


ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
ผลตอบแทนการทำโดนไร้สติคิดแต่จะทำร้ายกันสุดท้ายก็เจ็บทั้งคู่

รอให้นังหัวเน่านั้นรับกรรมที่มันทำโดยเร็วววว


ปล.สวัสดีปีใหม่จ้าาาาาาาาา

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
สงสารคีย์  งื้ออออออ


เผลอใจครั้งเดียวตายทั้งเป็นตลอดชาติ

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง
ตอนที่ 62
' คำสารภาพผิด '

   เสียงสะอื้นที่ค่อยๆนิ่งลงจนหยุด ผมพาร่างบางที่ดวงตายังแดงเพราะร้องไห้อย่างหนักมานั่งลงบนเตียง ผ้าขนหนูผืนหนาที่คุมร่างของเค้าไว้ ผมจัดการเดินไปหยิบชุดนอนออกมาให้แม้อีกคนจะบอกว่าไม่เป็นไรแล้วขอจัดการตัวเองก็ตาม เปิดประตูตู้เสื้อผ้า ผมหยิบชุดนอนของอีกคนขึ้นมา ก่อนจะผ่อนลมหายใจอีกครั้งเพราะภาพของเค้ายังคงติดอยู่ในตาของผม เค้าที่กำลังร้องไห้ ขยี้ร่างกายตัวเองราวกับเกลียดและขยะแขยงมันเสียเหลือเกิน

   ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะผม ไม่มีข้ออ้างอื่น เพิ่งมารู้ตัวตอนนี้ ตอนที่ได้มาเห็นทุกอย่างด้วยตาตัวเอง ว่าความเจ็บปวดในตอนนั้น ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะทำร้ายคนอื่นแบบนั้น ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เคยปากดีเพราะว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นเพราะเค้าทำให้ผมต้องเจ็บปวดก่อน เค้าเข้ามายุ่งกับผม ไล่เท่าไหร่ก็ไม่ไปก่อน ก็เลยต้องลงมือทำร้าย แต่ตอนนี้พอมาย้อนคิดไปกลับคิดว่าสิ่งที่ทำนั้นมันไม่ใช่ ถ้าย้อนไปได้ ผมจะไม่ทำมัน จะไม่ปากดีว่าเค้า จะไม่แม้ที่จะคิดอะไรสั้นๆแบบนั้นเพราะความโมโหของตัวเองอีก
 
   ทั้งๆที่เคยคิดว่าความเจ็บปวด ตอนที่ถูกนอกใจ มันเจ็บมากแล้ว แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ ถ้าเทียบกับตอนนี้นั่นอาจจะแค่ความเสียใจ แต่ตอนนี้ ตอนที่ผมเห็นคนที่ผมรักต้องเป็นแบบนั้น ต้องทรมานเพราะสิ่งที่ผมทำ ก็ยิ่งทำให้ทุกอย่างในใจผมมันชัดมากขึ้น จากเคยไม่แคร์เพราะคิดว่าเดี๋ยวก็หาย แต่ตอนนี้ผมรู้สึกว่าทุกอย่างที่คิดมันสวนทางกัน ทุกอย่างไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ความทรงจำที่โหดร้ายไม่ได้ถูกลบออกง่ายขนาดนั้น ทั้งเรื่องที่เค้าไม่กล้าเข้าใกล้คนอื่น ทั้งเรื่องที่เอาแต่จดจำเรื่องราวเหล่านั้นเวลาที่ไปสะกิดต่อมความทรงจำเข้า ก็เหมือนไปสะกิดโดยแผลของเค้า แผลที่เค้าทั้งเจ็บปวดและทรมาน

   มารู้ก็ตอนนี้ ว่าไม่ควร มารู้ก็ตอนที่สายไปแล้ว มารู้ว่าความเสียใจที่รู้สึกตอนที่ถูกใจ นอกใจ หรือโดนทิ้ง นั่นอาจจะเรียกแค่ว่าความเสียใจเท่านั้นเพราะตอนนี้สิ่งที่ผมรู้สึกมันคือทั้งเสียใจและเจ็บปวด ทรมาน 

“ ฟาน " เสียงที่เรียกดังมาจากห้องนอน ผมสะดุ้งหยุดสิ่งที่คิดก่อนจะหยิบชุดที่ใส่ง่ายๆ ออกมาให้เค้า เป็นแค่เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้น

“ มีอะไร " ผมออกมาจากห้องแต่งตัวแล้วเอ่ยถาม ยื่นเสื้อผ้าให้เค้าอีกคนก็ส่ายหน้า

“ แค่เห็นเข้าไปนาน ก็เลยสงสัย "

“ หาเสื้อผ้าให้นายอยู่น่ะ เลือกไม่ถูกว่า นายจะใส่อะไรดี "

“ แค่ชุดนอน ใส่ได้ทั้งนั้นแหละ " อีกคนบอกก่อนจะยิ้มให้  รอยยิ้มที่ยิ่งทำให้ผมรู้สึกแย่มากขึ้นไปอีก คนคนนึงจะยิ้มให้คนที่เคยทำร้ายตัวเองได้ยังไงกัน ต้องใช้ความรู้สึกแบบไหนที่ทำแบบนี้ ทำไมเค้ายังกล้าที่จะยิ้มให้คนที่ทำให้ตัวเองต้องเป็นแบบนั้นได้ยังไง ยังใจดี ยังบอกว่าไม่เป็นไร ได้ยังไง ทำไมไม่ผลัก ไม่ตบ ไม่ตี ทำไมไม่ทำแบบนั้น ทำไมไม่รู้สึกโกรธผมบ้าง ในสิ่งที่ผมทำกับเค้า ทำไมไม่ทำร้ายผมเหมือนกับผมที่ทำเค้าตอนที่โกรธเค้า " ฟาน ร้องไห้ทำไม "

" หื้ม ?  " คำถามที่เหมือนเรียกสติ ไม่รู้เลยว่าตัวเองร้องไห้ ผมหัวเราะออกมาตอนที่ยกมือขึ้นปาดน้ำตาตัวเอง " อ้าว. ฉันร้องไห้เหรอเนี้ย ฉันร้องไห้ทำไมวะ "

“ มีอะไรรึเปล่า คิดอะไรอยู่ " เค้าถามก่อนจะเอียงหน้ามองผม " คิดเรื่องของฉันเหรอ สงสารฉันเหรอ " คำถามที่ทำให้ผมเงียบ ไม่ได้ตอบอะไรเค้าทั้งนั้น คีย์ที่ยังยิ้มเค้าหัวเราะออกมาเบาๆ "  ไม่ต้องสงสารฉันหรอก ตอนที่ฉันทำร้ายนาย ฉันยังไม่เคยคิดสงสารนายเลยนะ ยังคงนอกใจนายโดยไม่คิดถึงหัวใจของนายเลยสักนิด "

“ ฉันว่านายไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ นายทำร้ายฉันหรอก " ผมบอก " ฉันไม่อยากฟังมัน เลิกพูดเรื่องนั้นได้แล้ว ถ้าอยากจะให้ฉันลืม ก็เลิกพูดมันเถอะ ฉันจะได้ลืมมันสักที " เพราะถ้ายิ่งพูดผมก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองแย่ ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองทุเรศจนแทบไม่น่าจะอยู่ตรงนี้ด้วยซ้ำ มันมีคำถามมากมายอยู่ในหัวผม ' เจ็บปวดเหรอมึง ตอนที่เห็นเค้าชอบคนอื่น เจ็บปวดมากสินะ ถึงต้องให้คนไปทำกับเค้าแบบนั้น ถึงต้องไปทำลายชีวิตเค้าแบบนั้น '

   ทุกอย่างวนเวียนเหมือนวงกลมที่ไม่มีที่สิ้นสุด ตอนนี้ทุกครั้งที่คิดถึงความเจ็บปวดของตัวเอง ก็จะคิดถึงตอนที่แค้นเค้าจนต้องทำร้ายเค้า คิดถึงสีหน้าตอนที่เค้ากรีดร้อง คิดถึงท่าทางตลอดสองสามวันที่ผมเห็น คิดถึงคนที่พูดเรื่องความตายด้วยสีหน้า ยิ้มๆแบบไม่รู้สึกอะไร ราวกับจะเตรียมตัวตายอยู่แล้ว เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมของมัน

“ ฟาน "

“ ทำไม ไม่อยากจะทำร้ายฉันบ้าง ตบฉัน ผลักฉัน หลังจากวันที่นายรู้ว่าฉันเป็นคนทำ ทำไมถึงไม่คิดทำให้ฉันเจ็บบ้าง " ผมเงยหน้าถามเค้า สบสายตาที่ชวนให้น้ำตาไหล

   มันรู้สึกอึดอัด อึดอัดที่เค้าไม่รู้สึกอยากจะทำร้ายอะไรผมทั้งนั้น ทั้งๆที่ผมทำร้ายเค้าถึงขนาดนั้นแต่เค้าก็ยังถามแค่สั้นๆว่า ' นายเกลียดฉันขนาดนั้นเลยเหรอ ' แล้วคำตอบของผมในวันนั้นคือ ' ใช่ ฉันเกลียดนาย ' เกลียดที่ทำให้ต้องเสียใจขนาดนี้ เกลียดที่ต้องร้องไห้ให้กับคนที่ทุ่มเทให้ทุกอย่าง ทั้งๆที่พยายามรั้งยังไง เค้าก็ไป เหมือนไม่เคยเห็นค่าความรู้สึกรักทุ่มเทที่ให้กันเลย แล้วพอคิดว่า เค้ารัก และ หลอกเราอยู่นาน ตลอดเวลาที่อยู่กับเรา ก็กำลังรักคนอื่นอยู่ ตอนนั้นก็ยิ่งเกลียด เกลียดคนที่หักหลังกันคนนี้ เกลียดที่สุด .. เกลียดจนทำได้ทุกอย่างเพื่อไม่ให้เห็นหน้าเค้า เกลียดจนทำเรื่องแบบนั้นลงไป


" ฉันก็ทำให้นายเจ็บแล้วนี่ ยังจะต้องทำอีกเหรอ ฉันไม่คิดว่าฉันต้องทำหรอก ตบไป ตีไป ก็เจ็บมือเปล่าๆ ส่วนคนที่โดนตบโดนตีพรุ่งนี้เดี๋ยวก็หาย แต่ฉันไม่ได้หายไปด้วยนี่ ใจก็ยังคิดอยู่ ยังนึกถึงอยู่ แบบนั้นจะตบจะตีไปทำไม อีกอย่าง นายเองก็เจ็บมากไม่ใช่เหรอ ฉันว่าคนอย่างนายคงไม่ทำร้ายฉันหรอก ถ้านายไม่เจ็บมากแล้วแค้นมากละก็ นายคงไม่.. " เค้าถอนหายใจออกมา
   " ฉันนอกใจนายทั้งๆที่ตลอดเวลานายทั้งแสนดี ดูแล เอาใจใส่ แต่ฉันก็ยังนอกใจนาย ไปหาใครอีกคน ทั้งๆที่ก็รู้ว่านายเป็นคนยังไง รู้ว่าชีวิตของนายตอนเด็กๆเป็นยังไง เกลียดการโดนทิ้งแล้วโดนหักหลังมากแค่ไหนแต่ฉันก็ยังทำ ยังทำให้นายเจ็บ " เค้ายิ้มก่อนจะก้มหน้าลง " แล้วตอนนี้คนที่ยังดูแลฉัน ก็ยังคงเป็นนาย นายเข้ามาดูแลฉันเพื่อให้ฉันรอดพ้นจากคนคนนั้น คนที่ครั้งนึงฉันเคยนอกใจนายไปหาเค้า รู้มั้ยบางทีฉันอยากจะถามนายเหมือนกันว่า เวลาฉันเห็นกับเค้าอยู่ใกล้กัน ไม่ว่าจะเถียงหรืออะไรก็แล้วแต่  นายยังรู้สึกเจ็บบ้างรึเปล่า คิดอยู่ตลอดเวลาใช่มั้ย เวลาที่ฉันมองเค้า  นายเองก็ยังเจ็บใช่มั้ย "

" อื้ม ก็ยังเจ็บอยู่ " เจ็บที่เห็นเค้า แล้วคิดถึงว่าเมื่อก่อนเค้าเคยมีความรู้สึกยังไงต่อกัน เค้ากอดกัน จูบกันบ้างมั้ย เค้าเคยมีอะไรกันรึเปล่า เคยมีความสุขตอนที่ได้อยู่ด้วยกัน เคยมีความสุขมากกว่าตอนที่อยู่กับผมใช่มั้ย ตอนนั้นสมองก็เอาแต่คิดเรื่องแบบนั้น มันไม่ได้คิดอะไรในแง่ดีเลย คิดแต่เรื่องแง่ร้ายไปหมด

" นายเลิกเถอะ ความคิดว่า ความเจ็บปวดของฉันมันเยอะกว่า หรือที่นายทำมันไม่ใช่คน ทุกอย่างมันเกิดขึ้นแล้วฟาน เรากลับไปแก้ไข หรือนั่งเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้แล้ว เพราะถ้ากลับไปแก้ไขได้ ฉันคงจะกลับไปแก้ไขมันนานแล้วละ แก้ไขไม่ให้ตัวเองนอกใจนาย ถ้าย้อนกลับไปได้ ฉันจะไม่มีวันทำร้ายนาย แล้วทุกเรื่องทุกอย่างที่มันเกิดขึ้นตอนนี้ มันก็จะไม่มีวันเกิดขึ้น เราจะยังรักกันเหมือนเดิม ตอนเช้านายก็ยังทำอาหารให้ฉันกินเหมือนเดิม เรายังคงมีความสุขกับเสาร์อาทิตย์ที่ฉันว่าง ตอนเย็นเราคงได้ออกไปกินของอร่อยๆ ดูหนังด้วยกัน หรือว่าทำเรื่องที่คนเป็นแฟนเค้าทำกัน มีความสุขในแบบของเรา " เค้าก้มหน้าลง ผมก็ดึงตัวเองไปกอดเค้าไว้ คีย์ร้องไห้ เค้าก้มหน้าซบลงที่ไหล่ผมแล้วร้องไห้ออกมา " สำหรับฉันแล้วถ้ามีเรื่องอะไรสักอย่างที่ทำให้เราโกรธกัน ตอนนั้นคงเป็นแค่เรื่องที่ฉันไม่ยอมออกไปเที่ยววันอาทิตย์กับนาย หรือว่ากินข้าวที่นายทำไม่หมดมันก็เท่านั้น  คงไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นหรอก "

" คีย์..”

" เสียใจกับมันไปก็เท่านั้น คิดว่าไม่น่าทำลงไปเลยมันก็เท่านั้น เพราะทุกอย่างมันเกิดขึ้นแล้ว เราแค่ต้องปรับตัวยอมรับกับสิ่งที่มันเกิดขึ้น แก้ไขสิ่งที่ทำลงไปแล้ว และตั้งสติต่อจากนี้ว่า จะไม่ทำมันผิดซ้ำสองอีก "

" ผมขอโทษ " ผมกอดเค้าไว้แน่น แล้วพูดออกมาจากความรู้สึกผิดของตัวเองที่อยู่ในใจ มันไม่มีคำพูดอะไรที่ต้องพูดออกไปยกเว้นคำพูดนี้ที่พูดออกไปพร้อมน้ำตา" ผมขอโทษครับ ผมขอโทษ ผมขอโทษ " น้ำตาของผมไหลตอนนี้ ก็เหมือนพูดได้แต่คำนี้เท่านั้น " ฉันผิดไปแล้ว ผิดไปแล้วจริงๆ ฉันมันคนสิ้นคิด ฉันไม่น่าทำแบบนั้น ไม่น่าคิดทำแบบนั้น ฉันมันเลว เลวจริงๆ ขอโทษ คีย์ ฉันขอโทษนะ ตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองก็พูดได้แค่นี้ ทั้งๆที่นายตอนนี้ต้องเป็นแบบนี้มันก็เป็นเพราะฉัน แต่ฉันก็ยังพูดมันได้แค่นี้ พูดได้แค่คำว่าขอโทษ ขอโทษนะ ฉันมันผิดเอง ผิดที่คิดว่าจะแค่ไล่นายไปไกลๆ ผิดที่คิดอะไรง่ายๆ ผิดที่ไม่ได้คิดถึงความรู้สึกของนายเลย ฉันขอโทษ "

“ ฟาน แต่ว่าฉันเองก็เคยทำให้นายเจ็บ "

“ มันไม่เท่ากันหรอก! นายก็รู้ดีว่าไม่เท่ากัน เพราะงั้นนายไม่ต้องพูดแบบนั้นหรอก สิ่งที่ฉันทำมันไม่ได้ทำให้นายเจ็บอย่างเดียว แต่มันเหมือนกับว่าฉันฆ่านาย ฉันฆ่านายไปแล้ว ฉันขอโทษ ฉันมันงี่เง่า ฉันขอโทษคีย์ ฉันขอโทษ "

“ ฟาน.. "

“ ทั้งๆที่ฉันเคยรักนายขนาดนั้น แต่ฉันกลับทำให้นายต้องเป็นแบบนี้ ทั้งๆที่ควรสำนึกผิด แล้วพูดขอโทษนายไปตั้งนานแล้วแต่เพราะเอาแต่คิดถึงเรื่องที่นายนอกใจ คิดถึงแต่เรื่องที่นายทำร้ายฉัน ฉันก็เอาแต่ปากแข็งไม่พูดออกมา ทั้งๆที่ฉัน ควรพูดขอโทษนายตั้งนานแล้ว ควรพูดออกไปตรงๆว่าขอโทษ แต่ฉันก็ปล่อยให้มันยืดยาวมาจนถึงตอนนี้ ใช้ข้ออ้างสารพัดมาอยู่กับนายทั้งๆที่ความจริง ฉันก็แค่กลัวว่าจะนายตายจากฉันไป กลัวนายหายไปจากฉัน ฉันไม่อยากจะให้ตาย ฉันอยากจะให้นายอยู่กับฉัน อยู่ใกล้ๆฉัน ฉันขอโทษ คีย์ ฉันขอโทษ ขอโทษที่ฉันทำแบบนั้นกับนาย ขอโทษที่ทำร้ายนาย ฉันขอโทษ " ผมร้องไห้ มันคือทุกอย่างที่ออกจากใจของผม ทุกอย่างออกมาหมดแล้ว และมันมีแค่นั้น คือขอโทษและเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป ผมแก้ไขมันไม่ได้ ผมย้อนเวลากลับไปก็ไม่ได้ ตอนนี้ที่ทำได้ คือรับผิดชอบในสิ่งที่ทำลงไปกับเค้า

“ ฉันไม่รู้ว่าจะตอบนายยังไง ฉัน พูดความรู้สึกของตัวเองออกมาไม่ถูก " เค้าบอกก่อนจะถอนหายใจออกมา ผมผละตัวเองที่กอดเค้าไว้จ้องใบหน้าที่ยิ้มจางๆมาให้ มือบางเอื้อมมือขึ้นประคองแก้มของผม " ฉันเสียใจที่นายทำให้ฉันต้องเป็นแบบนี้ เสียใจที่คนที่รักฉันมากๆคนนั้นทำร้ายฉันขนาดนี้ แต่พอคิดอีกที มันก็เป็นเพราะฉันด้วยส่วนนึงที่ทำให้นายต้องมาเป็นแบบนี้  ถ้าจะบอกว่าไม่ได้เป็นเพราะฉันเลยนั้นก็ไม่ใช่ แต่จะบอกว่าไม่โกรธ ไม่ถือโทษก็คงดูเหมือนโกหก แต่นายที่ขอโทษออกมาจากใจที่รู้สึกผิดจริงๆตอนนี้ ฉันก็โอเคแล้วละ อย่างน้อย นายก็ยังคิดที่จะขอโทษจริงๆกับสิ่งที่ทำลงไป "

“ ฉันทำได้แค่ขอโทษ ฉันแก้ไขอะไรไม่ได้เลย เคยมีคนบอกว่าคนนิสัยเด็กน่ะ คือคนประเภทที่ว่าทำผิดก็ได้แต่ขอโทษแล้วบอกว่าผิดไปแล้ว จะไม่ทำอีก นั่นคือเด็ก ฉันก็เป็นอยย่างงั้น รู้แล้วละว่า ตัวเองก็เป็นแค่คนแบบนั้น คนนิสัยเด็ก รู้แล้วละว่าตลอดมาที่นายไม่ชอบฉันก็คงเพราะฉันมันนิสัยอย่างนี้เอง เป็นเด็กที่คิดว่าตัวเองผู้ใหญ่แล้ว ทั้งๆที่จริงๆฉันเองยังจัดการกับอารมณ์ตัวเองไม่ได้เลย "

“ เลิกพูดถึงอดีตเถอะ ฉันไม่เคยมองว่านายเป็นผู้ใหญ่หรอก ฉันมองว่านายเป็นนาย เป็นฟานคนนี้ ฉันมองนายแบบนั้นมาตั้งนานแล้ว " เค้าที่ยิ้มให้ผม " ฉันบอกแล้วไง ว่าเราย้อนกลับไปแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดไม่ได้ แต่ทำวันนี้ให้ดีขึ้นได้ แล้วก็ใช้เรื่องพวกนั้นเป็นบทเรียนไม่ได้ทำผิดอีก "

“ ฉัน... ฉันขอรับผิดชอบในสิ่งที่ฉันทำลงไปได้มั้ย " ผมมองหน้าเค้าที่เลิกคิ้วสงสัยอยู่ไม่น้อย " ฉันรู้ว่านายคงคิดไม่ไว้ใจฉัน แต่ฉันอยากจะกลับมารับผิดชอบเรื่องที่ตัวเองทำไว้กับนาย อยากจะกลับมาดูแลนาย มันอาจจะไม่เป็นเหมือนเดิม แต่มันจะไม่แย่กว่าที่เป็นอยู่ ฉันอยากจะดูแลนายแก้ไขในสิ่งที่ตัวเองทำผิดไป ให้ฉันได้ดูแลนายได้มั้ย ขอให้ฉันได้ดูแลนายเถอะนะ "

" ฉัน..”

" ฉันจะพยายามทำให้นายลืมเรื่องพวกนั้นไปให้ได้ ฉันจะทำให้นายกลับมาเป็นเหมือนเดิม ฉันจะทำให้นายมีชีวิตที่มีความสุขเหมือนเดิม ขอโอกาสให้ฉันได้ดูแลนายเถอะนะคีย์ ฉันขอละ ได้มั้ย มันเหมือนเป็นทางเดียวที่ทำให้ฉันไถ่โทษในสิ่งที่ฉันทำลงไป ทางเดียวคือ ฉันต้องดูแลนาย " เค้าถอนหายใจออกมา

“ ยังมีอีกทางนะ "

“ ทางที่ฉันต้องไปให้ไกลจากนาย " ผมบอกอีกคนก็หลบตาลง " ฉันไม่อยากจะทำแบบนั้น ถ้าฉันไปนายคิดว่านายจะลืมมันเหรอ นายจะไม่หวาดกลัวเหรอ เรื่องของหัวหน้าอีกละ ขอให้ฉันอยู่เถอะ ถ้ายังมีฉันอยู่ ถึงจะไม่ได้อยากจะให้อยู่แต่ฉันก็ปกป้องนายจากเค้าได้นะ ปกป้องนายจากสิ่งที่นายกลัวได้นะ " มองหน้าเค้าที่ยังไม่ตอบอะไรอีกคนที่นิ่งไป " ความคิดฉันมันคงเห็นแก่ตัวสินะ..นายคงไม่อยากจะให้คนที่เคยทำร้ายนายกลับมาดูนายหรอก " ผมถอดใจก่อนจะยิ้มให้เค้า " โทษที  "

" กลับมาดูแลฉันได้มั้ย งั้นเหรอ " เค้าทวนคำพูดของผม " แล้วนายจะให้ฉันตอบว่า ไม่ได้ ได้ยังไง ก็นายเคยบอกกับฉันไว้ ฉันไม่มีสิทธิ์ตอบอย่างอื่นยกเว้นตกลง ตอนนั้นนายก็พูดไปประมานนี้แล้วก็กลับมาอยู่กับฉันนี่ แล้วตอนนี้นายก็อยู่ที่นี่แล้ว จะให้ตอบอะไรอีก "

" นั่นนะสินะ " ผมยิ้มกว้างออกมา ก่อนจะหลุดหัวเราะ " ตอนนี้ฉันก็อยู่ดูแลนายที่นี่แล้วนี่หน่า " นึกถึงเรื่องที่เคยบังคับขอให้ตัวผมเค้ามาอยู่ที่นี่แบบข้างๆคูๆก็ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆมองหน้าเค้า คีย์หลุดหัวเราะออกมา

“ อย่าบอกนะ ว่ากำลังรู้สึกผิด ที่วันนั้น ขู่บังคับฉันฉันตกลงให้นายมาอยู่ที่นี่ "

“ ก็ อื้มนะ " ผมพยักหน้ารับ เค้าก็ถอนหายใจออกมา

“ ดีแล้วที่รู้สึกผิด นายก็กำลังเป็นผู้ใหญ่จริงๆแล้วนี่ ก็ผู้ใหญ่ที่ดีจริงๆน่ะ เค้าต้องรู้สึกผิดในสิ่งที่ทำผิดลงไป แล้วแก้ไข ขอโทษในสิ่งที่ทำผิด ตอนนี้นายก็ทำมันหมดแล้ว ฉันจะพยายามมันนะฟาน แต่ไม่ใช่เพื่อนายที่รู้สึกผิดหรอกนะ แต่เพราะตัวฉันเอง ฉันจะทำเพื่อตัวฉัน "

“ ฉันจะช่วยนายอยู่ข้างๆเอง " ผมบอกตอนที่กอดเค้าไว้อีกครั้ง ถอนหายใจโล่งออกมา แค่นี้ก็ดีแล้ว ถือเป็นจุดเริ่มที่ดี ผมดีใจที่ผมได้ขอโทษเค้า ได้ขอโทษเค้าจริงๆออกมาจากใจของผม ได้ทำในสิ่งที่ควรทำ และอยากจะทำ “ นายใส่เสื้อผ้าเถอะ ฉันจะไปอาบน้ำ "

“ อื้ม " 

   เดินเข้าไปในห้องน้ำ ผมจัดการอาบน้ำก่อนจะเดินออกมาแล้วพบว่าใครอีกคน กำลังนอนนิ่งๆบนเตียงไม่ขยับตัวไปไหน ทีวีที่เปิดเสียงดังอยู่นั้น พอเค้าเห็นผม รีโมตก็ถูกเบาเสียงลง

“ ฉันคิดว่านายหลับแล้ว "

“ ฉันนอนไม่หลับหรอกตอนนี้น่ะ ต้องดึกกว่านี้ " อีกคนบอกก่อนจะลุกขึ้นจากเตียง

“ แล้วนั่นจะไปไหน "

“ ไปกิน.. น้ำน่ะ " คำพูดที่เว้นช่วงไป ผมขมวดคิ้วก่อนจะมองหน้าเค้าที่เหมือนรู้ว่าผมไม่เชื่อเท่าไหร่ " ไปกินยา ฉันนอนไม่ค่อยหลับเลยต้องใช้ยาช่วย "

“ ไม่ต้องกินหรอก ถ้ากินบ่อยๆ นายจะเป็นคนที่หลับเองไม่ลงนะ "

“ แต่ฉัน " เค้ากลืนน้ำลายก่อนจะหันไปทางอื่น  " ถ้าฉันไม่กิน ฉันจะคิดถึงแต่เรื่องพวกนั้น แล้วมันทำให้ระแวงจนนอนไม่หลับ "

“ ไม่เป็นไร ฉันจะนอนอยู่ข้างๆเอง นอนเป็นเพื่อนกัน ไม่มีใครทำอะไรนายได้หรอก " ผมพูดเชิงปลอบอีกคนที่นิ่งเหมือนฟัง ลังเลอยู่ไม่น้อยที่จะเดินออกไป ผมคว้าแขนเค้าไว้ดึงให้กลับมานั่งที่เตียง " นอนลงได้แล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้นายก็ไปทำงานสายหรอก "

“ รู้แล้วน่า " ร่างบางนอนลงอย่างว่าง่ายแต่ก็แอบถอนหายใจเหมือนไม่ค่อยมั่นใจว่าตัวเองจะหลับลงได้ยังไงในคืนนี้ เค้านอนมองเพดาน ผมเดินออกไปปิดไฟเช็คห้องเรียบร้อยก็เดินกลับมานอนข้างๆเค้า หันมองคนที่มองแต่เพดานไม่ยอมหลับ

“ หลับตาลงสิ ไม่งั้นมันจะหลับได้ไง "

“ ฉันไม่กล้าหลับตา " เค้าบอกเสียงนิ่งๆ " เพราะฉันมักเห็นมันเวลาที่ฉันหลับตา ก็เลยต้องลืมตาอยู่แบบนี้ ปกติ ฉันจะกินยาแล้วก็นอนลืมตาแบบนี้จนกว่าจะหลับไปเอง "

“ ไม่มีใครหรอกที่นี่น่ะ มันมีแค่ฉันแล้วก็นาย " ผมบอกตอนที่ขยับเข้าไปหาเค้าคีย์สะดุ้งนิดหน่อยก่อนจะนิ่ง " ขยับเข้าเข้ามานี่ มานอนใกล้ๆฉัน " คว้าเอวร่างบางให้เข้ามาอยู่ในอ้อมกอดแล้วกอดเค้าไว้แน่น จ้องใบหน้าของเค้าที่ผมมาบังหน้า ผมเอื้อมมือไปจัดทรงผมให้เข้าที่อีกคนก็ก้มหน้างุด แก้มแดงๆที่ชวนให้ผมยิ้ม " จ้องหน้าฉันจนกว่านายจะหลับไปก็แล้วกัน "

“ ใครมันจะไปหลับลงวะ " เค้าพูดเสียงเบาๆแต่ก็ยอมนอนจ้องหน้าผม เราจ้องมองกัน สายตาหวานที่มองผม ค่อยๆหลับลงช้าๆแต่ก็ลืมตาขึ้นมาเหมือนกับยังรู้สึกตัวอยู่ เค้าทำแบบนี้อยู่หลายครั้งจนกระทั้งว่าหลับสนิทลงไปจริงๆ ผมผ่อนลมหายใจออกมาดึงผ้าห่มคลุมตัวเค้าไว้ จัดการปิดไฟแล้วกอดเค้าไว้แน่น หลังจากนั้น เราก็หลับไปพร้อมๆกัน

................................................................

   ตื่นเช้าขึ้นมาจัดการทุกอย่างก่อนจะออกไปทำงานกันตามปกติ รู้สึกว่าทุกอย่างรอบตัวมันแปลกไปเสียหน่อยอาจเพราะเมื่อเช้าตอนที่ลืมตาตื่นขึ้นมาผมกลับพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในอ้อมกอดของฟานที่ก็กอดผมไว้แน่นไม่ปล่อยเลย แอบกังวลก่อนนอนอยู่หน่อยๆว่าจะตื่นขึ้นมากลางดึกแล้วจะกลัวจนนอนต่อไม่หลับรึเปล่าเพราะอีกคนหลับไปแล้ว แต่ก็ไม่มีอาการแบบนั้น ทั้งๆที่ไม่ได้กินยานอนหลับแต่ก็หลับสนิทอย่างน่าเหลือเชื่อ อาจเพราะใจของผมมันค่อนข้างสบายใจที่ได้อยู่ใกล้ๆเค้าละมั้ง เป็นความสบายใจที่ว่า ยังไงซะ ผมตอนนี้ก็ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว

   เมื่อคืนได้ฟังคำสารภาพของเค้า คำขอโทษทุกอย่าง มันเหมือนชีวิตได้เดินก้าวขึ้นไปอีกก้าวนึง ผมดีใจที่เค้า ขอโทษแล้วรู้สึกผิดในสิ่งที่เค้าทำ จากแววตาแล้วการกระทำทั้งหมดที่บอกว่ารู้สึกผิดพวกนั้น ผมรู้สึกว่ามันโอเคแล้วที่เป็นแบบนั้น อย่างน้อยเค้าก็ยังรู้สึกผิดในสิ่งที่ทำ มีสามัญสำนึก ไม่ใช่เด็กที่เอาแต่เถียงเรื่องความรู้สึกตัวเองแล้วก็ไม่ยอมรับอะไร

“ กินขนมปังหน่อยมั้ย " เสียงที่เอ่ยถามผม ตอนที่เดินออกไปจากห้อง กาแฟหอมๆถูกชงวางไว้แล้ว ขนมปังเป็นแพ็คก็มีให้เลือกอยู่หลายแบบ " กินสักหน่อย จะได้ออกไปทำงาน "

“ อื้ม แล้ววันนี้นายไม่มีเรียนเหรอ " เพราะว่าเค้าไม่มีประเป๋าอยู่ข้างตัวก็เลยสงสัย

“ ไม่มี " เค้าตอบสั้นๆ มือก็ไถข้อความในหน้าจอตัวเองไปเรื่อย

“ แล้ววันนี้จะไปไหนบ้างละ " คำถามที่ทำให้อีกคนเงยหน้าขึ้นมามองผม ไม่รู้ว่าละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวเกินไปรึเปล่า " คือ ฉันหมายถึงว่า ถ้านายไม่มีเรียนแล้วจะอยู่บ้าน ฉันจะได้ให้กุญแจไว้ แต่ถ้าไม่ก็จะได้รู้ว่าไม่ต้องให้ไป ก็เท่านั้น คือไม่ได้คิดจะละลาบละล้วงเรื่องของนาย "

“ ฉันไม่ได้คิดว่ามันละลาบละล้วงอะไรสักหน่อย " เค้าบอก ก่อนจะหัวเราะแล้วก้มหน้าลงอ่านข้อความในมือถือต่อ " แต่ยังไม่ได้คิดว่าจะไปไหนมันก็เท่านั้น คงดูหนังอยู่ในห้องแล้วเที่ยงๆก็ออกไปหาอะไรกินมั้ง หรือว่าดูหนังรอนายเลิกงานอยู่ที่ห้างแถวๆที่ทำงานาย ไม่รู้อะ ยังไม่ได้คิด "

“ งั้นก็เอากุญแจไปก่อนแล้วกัน " ผมยื่นกุญแจที่เคยเป็นของเค้า ให้เค้าไปอีกคนรับใส่กระเป๋าไว้ ผมหยิบกาแฟขึ้นมากิน พร้อมกับขนมปัง เก็บแก้วไปล้างที่ล้างจาน กินน้ำก่อนจะคว้ากระเป๋า

“ เสร็จแล้วเหรอ ง้ั้นก็ไปกัน "

“ ไม่มีเรียนก็จะไปส่งเหรอ "  อีกคนก็พยักหน้ารับ

“ ก็ใช่นะสิ เผื่อว่ามันมาดักทำร้ายนาย จะทำยังไงละ ระวังตัวไว้น่ะดีที่สุดแล้ว "

“ นั่นนะสินะ "  จะว่าไปก็จริงอย่างที่ฟานบอก ระวังตัวไว้ดีที่สุดแล้วอย่าคิดว่าจะไม่เกิดขึ้น เพราะเวลาที่มันเกิดขึ้นเราจะย้อนกลับมาระวังตัวไม่ได้แล้ว " จริงๆ วันนี้ฉันไม่แน่ใจว่า ตอนเย็นหลังเลิกงานฉันต้องไปงานศพของเนย์รึเปล่า ไม่รู้ทางบริษัทจะเป็นเจ้าภาพให้วันไหน "

“ ไปถามพ่อแม่เค้าแล้วรึไง ว่าจะให้ทางบริษัทเป็นเจ้าภาพน่ะ " ฟานถาม

“ ทำไมนายถามแบบนั้น พนักงานกระโดดตึกตาย ทางบริษัทก็ต้องแสดงความอาลัยสิ ขนาดญาติของพนักงานเค้ายังส่งพวงหรีดไปเลย "

“ ก็ในจดหมายลาตาย เค้าเขียนว่า เค้ากดดันจากเพื่อนร่วมงาน แล้วนายคิดว่าพ่อแม่เค้า จะอยากจะเห็นหน้ากลุ่มคนที่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ลูกเค้าต้องตายเหรอ ฉันไม่คิดว่าอย่างงั้นอะ "

“ แต่ว่าฉันไม่ได้..”

“ ปลาตัวเดียวตายในเข่ง มันเน่าทั้งเข่งนะ " ผมถอนหายใจออกมาตอนที่เค้าบอกแบบนั้น " เอาเป็นว่า ถ้านายไปฉันจะไปด้วยแล้วกัน ยังไงวันนี้ก็ว่างทั้งวันอยู่แล้ว "

“ เหรอ งั้นถ้าจะไป ไม่ไป ฉันจะโทรมาบอกนะ "

“ อื้ม " ฟานพยักหน้ารับ เราเดินออกไปจากคอนโด ขึ้นรถไฟไปด้วยกันจนถึงสถานีที่ทำงานของผม

“ นายไม่ต้องออกจาสถานีหรอก ตรงนี้คนเยอะแยะ ไม่มีใครทำอะไรฉันหรอก นายจะกลับไปเลยก็ได้ "

“ ไม่อะ " เค้าปฎิเสธ " จะคนเยอะ คนน้อย ฉันก็ไม่ไว้ใจทั้งนั้นอะ ฉันอยากจะให้เห็นกับตาว่านายถึงบริษัทแล้ว เจอเพื่อนแล้ว ฉันถึงจะวางใจ "

“ ฟาน " ถึงจะดูน่าอึดอัดแต่ความเป็นห่วงของเค้าที่มีต่อผมมันล้นออกมาจากแม้แต่ตัวผมเองคนทีไ่ด้รับความห่วงใยนั้นยังรู้สึกอุ่นใจจนรู้สึกตื้นตันไปด้วย ที่เค้าเป็นห่วงกันมากถึงขนาดนี้  ผมผ่อนลมหายใจออกมาตอนที่ต่อแถวแตะการ์ดที่เครื่องตรวจเดินออกจากสถานีเค้าก็เดินตามมาข้างๆ 

“ คุณลิปยังไม่มาอีกเหรอ "

“ คงยังมั้ง " ผมมองไปรอบๆ ก่อนจะมองเค้าที่ก็มองไปรอบๆเหมือนกำลังมองหาเพื่อนผม " นี่ ฟาน"

“ อะไร " เค้าหันมามองหน้าผม ตอนที่เอ่ยเรียกชื่อเค้า

“ ฉันอาจจะหวังมากไปที่เราอาจจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่ฉันหวังได้ใช่มั้ย ว่าความรู้สึกของเรามันจะดีขึ้นกว่าเดิม "

“ ได้สิ ถ้าเรื่องความรู้สึก ฉันก็หวังว่าให้มันดีขึ้นกว่าเดิมเหมือนกัน " ผมยิ้มออกมาตอนที่เค้าตอบออกมาแบบนั้น ไม่ต้องเหมือนเดิมหรอก ผมรู้ดีว่ามันยากที่จะทำให้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิม แค่ขอให้มันดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ก็พอ “ คุณลิปมานู้นแล้ว งั้นตอนเย็นผมมารับนะ "

“ อื้ม ตอนเย็นเจอกัน " ผมบอกลาเค้า อีกคนก็หันมามองเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง " มีอะไรรึเปล่า "

“ คือฉันไม่ได้หวังแค่ว่า ความรู้สึกของเรามันจะดีขึ้นหลังจากนี้นะ ฉันหวังด้วยว่า ทุกอย่างมันจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม "

“ ฟาน..” ผมยิ้มให้อีกคน เค้าที่เดินออกไปก่อนจะหยุดยิ้มแล้วพูดออกมา

“ รอดูต่อไปแล้วกัน เดี๋ยวเวลามันก็พิสูจน์ทุกอย่างให้เอง "

   จริงที่อย่างที่เค้าบอก เรื่องของเราก็คงต้องรอดูต่อไป พูดอะไรตอนนี้มากไม่ได้หรอก ไอ้เรื่องที่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมอะไรนั่น เพราะงั้นก็ปล่อยให้เวลามันพิสูจน์ไปก็แล้วกัน  เราก็แค่ต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังและทำให้มันดีขึ้นในทุกๆวัน

............................................................

สวัสดีปีใหม่ค่าาาาาา ทุกคนนนนนนนนนนน #วิ่งมากอด
ขอให้ปีนี้เป็นปีที่ดีขึ้นจาก ปีที่แล้ว คิดสิ่งใด หวังสิ่งใดของสมปรารถ รวยๆ สวยๆ นะคะ

จบการอวยพรก็มาเข้าเรื่องกัน ตอนนี้ ฟานนางก็ได้คิดได้แล้ว ( หลังจากความโกรธแค้นบังตามานาน กว่าจะคิดได้ )
เอาเถอะคนมันเจ็บ ใช่ว่า บุ๊ปปั๊ปสวิตซ์ไฟถึงจะรับรู้ผิดชอบชั่วดีได้แบบรวดเร็วทั้งๆที่เจ็บแค้นเค้าขนาดนั้น
เดี๋ยวต้องมีคนหงุดหงิดพออ่านแล้ว " ทำไมคีย์แม่งง ถึงยังโทษตัวเองวะ แม่งงง ฟานทำร้ายมึงนะ "
แต่ในความคิดหนม หนมว่า มันก็เกิดขึ้นจากคีย์ที่นอกใจฟานก่อนนะ คือโอเค สิ่งที่ฟานทำเลวร้ายผิดมนุษย์มาก
แต่ไม่ได้หมายความว่า สิ่งที่คีย์ทำ มันจะไม่ผิดเลย ไม่ผิดอีกแล้ว ไม่ใช่เนอะ
คีย์มีเรื่องที่คีย์ผิด ฟานมีเรื่องที่ฟานผิด
ต่างฝ่ายต่างมีข้อเสีย มีความผิดพลาด ไม่ได้มีคนใด คนนึงที่แสนดี วิเศษ โอเคนะตัวเองงง

สุดท้ายนี้ น้องฝากแท็ก #ฟานคีย์ ในทวิต ฝากแชร์ในเฟส
เผื่อมี เพื่อนของเพื่อนเห็นแล้ว แบบ เฮ้ยย ไรอะ อ่านแปป แล้วเค้าก็ตามมาอ่านนะ ช่วยกัน
จะได้มีคนมาเครียด มาดราม่าลงตับพร้อมๆกับเรา  :o8:
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์
เจอกันตอนหน้า หนมมี่ค่าาาา  :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ loyal_mook

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
หมดทุกข์หมดโศกสักทีเนาะ55555555

สวัสดีปีใหม่น้าหนมมี่ ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆมาให้อ่านนะคะ
 :กอด1:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
ดีแล้วดีแล้วดีแล้ว
กำลังดีขึ้นเรื่อยๆๆๆๆๆ
เหลือแค่รออีหัวหน้ารับกรรม เย้ๆ

ออฟไลน์ tkaekaa

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 329
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
 :katai2-1: กำลังจะดีขึ้นแล้ว ฟานพยายามเข้า

ออฟไลน์ konjingjai

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +226/-4
น่าจะจับไปบำบัดทางจิตทั้งคู่นะเหมือนจะโทษตัวเอง

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :m20: :L2: :pig4:ชอบการขายของหนมอะ มามามาปวดตับกันเพื่อนๆ

ออฟไลน์ ่jjay

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 454
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-0
สวัสดีปีใหม่หนมมี่ ปีใหม่แล้วดราม่าไม่ต้องเยอะก็ได้นะ 5555


ฟานสำนึกได้แล้วแบบจริงจังและจริงใจ  :katai2-1:  ดูแลคีย์ให้ดีนะ :mew2:

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5

ออฟไลน์ ลูกกุญแจ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-2
เอาจริงๆก็คือผัวเมียทะเลาะกันอะแหละ
แต่ทะเลาะกันแรงไปหน่อย 5555

สวัสดีปีใหม่ครับ

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
ปีใหม่ก็เริ่มต้นใหม่อ่ะเน อะ  ดีจัง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ MENTA

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 77
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยย
วันที่รอคอยยยย

สวัสดีปีใหม่คร้าาา

ออฟไลน์ LovEYouOnLy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 439
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
ความเข้มข้นของมาม่าเริ่มน้อยลง หวังว่ามันจะกลับมาปรกติเร็วๆนะ แต่ก็ยังมีเรื่องของหัวหน้าอยู่อีกที่ยังไม่กระจ่าง

#สุดท้ายไม่ท้ายสุด Happy New Year2017 นะ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ DESZCZ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
สวัสดีปีใหม่ค่าาาา
ดีใจที่อะไรๆมันดีขึ้นเรื่อยๆ หวังแต่ว่ามันจะกลับไปอยู่ใจจุดเดิม และดีกว่าเดิมนะ

ออฟไลน์ nottto

  • MaxNuzz
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
การทะเลาะกัน ทำให้คนรักกันมากขึ้น มั้ง 5555

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง
ตอนที่ 63
' ผู้หญิงคนนั้น '

“ สวีทกันตั้งแต่เช้าเลยนะจ๊ะ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เลย " เสียงลิปแซวผมตอนที่เดินเข้ามาใกล้ ปากที่ได้แต่หลุดยิ้มออกมาก่อนจะหันหน้าไปทางอื่นอย่างไม่รู้จะพูดอะไรตอบอีกคน พอเป็นแบบนั้นลิปก็เดินมาหยุดอยู่ข้างหน้าเอียงหน้ามองผม " มีเรื่องดีๆอะไรละสิ สวีทกันตั้งแต่เช้าเลย "

“ ก็มีเรื่องดีๆนิดหน่อยละมั้ง " ผมบอก

“ ไม่หน่อยละมั้ง ก็เล่นคุณคีย์ยิ้มกว้างแบบนี้ทั้งๆที่ช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นกันเลยแบบนี้น่ะ ท่าทางจะเป็นข่าวดีเอามากๆเลย "

“ ก็แบบว่า..” ผมเล่าเรื่องเมื่อคืนให้ลิปฟัง เรื่องที่ฟานขอโทษผม เรื่องที่เค้าสำนึกผิดในสิ่งที่เค้าทำ ผมเล่าให้อีกคนฟังจนหมดแต่คนฟังไม่ได้ตอบหรือแสดงความคิดเห็นอะไรแค่ยิ้มแย้มไปตามเรื่องเล่าของผม ก่อนที่เค้าจะตอบออกมาสั้นๆแค่ว่า

“ นายมีความสุขที่เรื่องมันเป็นแบบนั้น นั่นก็ดีแล้ว ชีวิตที่มีความสุขคือสิ่งที่ดีที่สุดอยู่แล้วละ "

“ แล้วนายคิดว่าไง " ผมถามเค้า " คิดว่ามันดีแล้วมั้ยที่ฟานสารภาพผิดแล้วขอโทษฉัน แล้วฉันที่ยอมรับคำขอโทษของเค้า มันดีแล้วรึเปล่า "

“ มันต้องดีอยู่แล้วสิ กับการที่เค้ามาสารภาพผิด และรู้สึกผิดจริงๆกับเรื่องที่เค้าทำกับนาย แต่ฉันบอกไม่ได้หรอกว่าตอนนี้ สิ่งที่นายตัดสินใจไปว่าให้เค้ากลับมาอยู่ด้วยแล้วทำให้ชีวิตมันดีขึ้นกว่าเดิม มันจะดีขึ้นจริงๆมั้ย แต่ถ้านายมีความสุขไปกับมัน สำหรับฉัน นั่นก็คงพอแล้ว อนาคตเป็นสิ่งที่เราไม่รู้ อยู่กับปัจจุบันที่ตอนนี้นายโอเคกับมันเถอะ "

“ นั่นนะสินะ " ผมบอกเค้าก่อนจะพยักหน้ารับยิ้มๆ

“ เลิกคิดเรื่องความรักหนักสมองเถอะ ขึ้นไปทำงานกันดีกว่า อนาคตเรื่องรักมันไม่แน่แต่อนาคตที่สิ้นเดือนนี้นายยังมีหนี้บัตรเครดิตรอนายอยู่ นั่นคือความจริงนะ " ลิปบอกยิ้มๆเค้า ก่อนที่เราสองคนจะเข้าตึกไปพร้อมกัน ในระหว่างที่รอลิฟต์เค้าก็หันมาถาม " คีย์ นายว่าวันนี้รองหัวหน้าจะพาพวกเราไปงานศพเนย์รึเปล่า "

“ ไม่รู้สิ แต่ฉันคิดว่า คงพูดเรื่องงานศพเนย์วันนี้แหละ ถ้าจะไปก็คงต้องไปกันตั้งแต่วันแรกๆ "

“ ไม่อยากจะไปเลยวะ " ลิปพูดเสียงเบาๆ " พอคิดว่าต้องไปเห็นสายตาพ่อแม่ที่อาฆาตเราเหมือนเราเป็นคนทำให้ลูกเค้าตายแบบนั้น ฉันก็ไม่อยากจะไปแล้ว ทำไมต้องเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นด้วยวะ "

“ เหมือนอย่างที่ฟานบอกเลยสินะ " ผมเผลอพูดออกไปอีกคนก็หันมาถาม

“ ฟานบอกอะไรนาย "

“ ฉันคุยกับเค้าว่า วันนี้หลังเลิกงานไม่แน่ฉันต้องไปงานศพน่ะ แล้วเค้าก็พูดขึ้นเหมือนนายนั่นแหละ คือพ่อแม่เค้าคงไม่ได้ยินดีให้เราไปร่วมหรอก เราที่ทำให้ลูกค้าต้องตายน่ะ ต่อให้ฉันหรือนายไม่ใช่คนที่ทำ แต่ฟานก็บอกว่า มันก็เหมือนกับ ปลาตัวเดียวตายในเข่ง มันเน่าทั้งเข่ง "

“ อ่า ใช่ เข้าใจเปรียบเทียบ ตอนนี้พวกเราเป็นแบบนั้นแหละ " ลิปถอนหายใจออกมา " แล้วคอยดูนะว่า พวกอีเจ๊กลุ่มเนย์ต้องสละสิทธิ์ไม่ไปกันทั้งหมดแน่ๆ แล้วสุดท้ายคนที่ไปก็คงต้องเป็นพวกเราอย่างช่วยไม่ได้ ให้ฉันเดาเลยนะคือพอไปถึงงานร้ายหน่อย ก็โดนไล่ ถูกโยนพวงหรีดออกนอกงาน แล้วบอกว่าไม่ต้องเข้างาน หรือไม่ก็เขย่าถามว่า พวกนายเป็นคนฆ่าลูกชายฉัน ทำไมไม่ช่วยเหลือเค้า เด็กคนนั้นต้องตายไปเพราะพวกนาย ส่วนดีหน่อยก็คงเป็นแนวที่ว่า มีญาติมาตอนรับเราอย่างเสียไม่ได้ แต่พ่อแม่เค้าก็มองเราเหมือนจะฆ่า ถ้าทำได้คงลุกขึ้นมาตบ แต่ก็อดใจไว้ และเราคงโดนมองแรงตลอดทั้งงาน "

" นายดูหนังมากเกินไปรึเปล่า นี่ไม่ใช่ละครนะเว้ย "

" คนที่ตายเป็นลูกเค้านะคีย์ ไม่ใช่ลูกหมา " เค้าหันมาบอกผมก่อนจะถอนหายใจ " คนที่เป็นพ่อแม่คนน่ะ ไม่มีความทุกข์ไหนยิ่งใหญ่ไปกว่า คนที่เป็นลูกมาตายไปก่อนตัวเองหรอก นั่นน่ะ เป็นความทุกข์ที่สุดสำหรับคนเป็นพ่อแม่แล้ว "

“ ถ้าพูดแบบนั้น มันก็จริงของนาย อีกอย่างจดหมายนั่นที่เค้าเขียน มันก็บอกอยู่แล้วว่า ส่วนนึงมาจากเพื่อนร่วมงาน "

“ นั่นนะสิ " ผมถอนหายใจออกมาพร้อมกัน ก่อนจะเดินเข้าไปในลิฟต์ที่ก็เป็นคิวของพวกเราพอดี

   ประตูลิฟต์เปิดตอนที่มามาถึงชั้นแผนกของตัวเอง เราเดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะทำงานประจำที่ตัวเอง ผมมองไปรอบแผนกที่เหมือนวันนี้พนักงานจะหายไปหลายคนโดยเฉพาะคนในกลุ่มของเนย์ทั้งๆที่อีกไม่กี่นาทีก็ใกล้ถึงเวลางานแล้ว

“ วันนี้ทำไมคนมาทำงานน้อยจังวะ " ผมเผลอหลุดปากพูดออกไป ลิปก็มองซ้ายมองขวาก่อนจะหันมาตอบรับคำพูดของผม

“ นั่นนะสิ คนน้อยจังนะวันนี้ไปไหนกันหมดเลยวะ นี่ก็ใกล้เวลางานแล้วนะ มาสายกันเหรอ "

“ ลาน่ะค่ะ แล้วก็ป่วย พักร้อนก็มีนะคะ " น้องผู้หญิงที่นั่งทำงานอยู่ข้างหน้าผมหันมาบอก

“ ทั้งกลุ่มของเนย์เลยนี่อะนะ " ลิปถาม เธอก็ยิ้มเจื่อนๆค่ะแล้วพยักหน้ารับ

“ ค่ะ ใช่แล้ว เห็นบอกว่า มีธุระบ้าง ป่วยบ้าง ส่วนหัวหน้ากลุ่มเค้า ลาพักร้อนน่ะค่ะ เห็นว่าไปต่างประเทศ "

“ แหม จองตั๋วเร็วจังนะ จองเหมือนรู้ว่าน้องในกลุ่มตัวเองจะตายเพราะปากตัวเอง " ลิปบอกผมก็หันไปมองหน้าเค้าบอกใบ้ด้วยแววตาให้เงียบเสียงลงหน่อยสำหรับคำพูดพวกนั้น

“ ก็คงเพราะว่า พวกเค้าคิดกันว่าวันนี้ทางบริษัทคงไปงานศพของเนย์กันนะคะเพราะมันเป็นวันแรก หนูว่าเพราะพวกเค้าไม่อยากไปก็เลย ลา แล้วก็ไปพักร้อนกันหมด "

" ก็น่ะ เค้าบอกนิ ว่าเค้าเป็นคนแบบที่เรียกว่า รักตัวเองก็ต้องปกป้องตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก " ผมยกยิ้มให้ลิปตอนที่คิดถึงคำพูดของหัวหน้ากลุ่มเนย์ที่เถียงผมออกมาด้วยคำพูดหน้าด้านๆของเธอ แบบที่ผลักปัญหาออกไปให้พ้นตัวก็เท่านั้น เธอบอกว่าเพราะเรื่องของเนย์มันฉาวโฉ่เค้าเลยต้องปกป้องตัวเองไม่ให้โดนนินทาไปด้วย โดยการเขี่ยเด็กคนนั้นออกจากกลุ่มของเค้าซะ จนทำให้เกิดเรื่องน่าเศร้าแบบนี้ แต่สุดท้ายพวกเธอเองก็กลัวและรับไม่ได้ที่จะยอมรับความจริงนี้ ความจริงที่ว่าได้ฆ่าเด็กคนนึงทิ้งไป เพราะการกระทำที่เธอบอกเสมอว่า เธอนั้น แค่รักตัวเอง

" เอาจริงๆฉันว่า คำว่ารักตัวเองในกรณีนี้ เป็นแค่คำพูดสุภาพของคำว่าเห็นแก่ตัวเท่านั้นแหละ "

" ฉันก็ว่างั้น "

" ลางานกันหมดเลยนะวันนี้ " รองหัวหน้าเดินเข้ามาก่อนจะถอนหายใจออกมาเสียเฮือกใหญ่ " กลัวว่าฉันจะจับพาไปงานศพเนย์กันละสิท่า ลากันเกลี้ยงไม่มีเหลือ แถมตัวแม่ยังพักร้อนยาวอีก "

“ สงสัยเค้าคงจะไปปฎิบัติธรรมมั้งคะ คิดในแง่ดี " พนักงานคนนึงพูดขำๆก่อนที่น้องพนักงงานที่นั่งอยู่หน้าผมเค้าจะถามขึ้น

“ แล้วตกลงวันนี้เราจะไปงานศพเนย์กันมั้ยคะ รองหัวหน้า "

“ พนักงานในแผนกไม่ต้องไปหรอก แต่ฝ่ายบุคคลกับฉันจะเป็นคนไปเอง พวกเธอแค่ร่วมทำบุญก็พอแล้ว "

“ แบบนั้นจะดีเหรอครับ หัวหน้า " ผมถาม

“ ดีแล้วละ ทางฝ่ายพ่อแม่เค้าไม่ได้พอใจเท่าไหร่หรอก สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นแม้เราจะอธิบายออกไปแล้ว แต่เค้าก็ยังเสียใจอยู่ดี แต่ถ้าทางเราไม่ไปมันก็ดูน่าเกลียด ฉันเลยปรึกษากับหัวหน้าแผนกบุคคลดู เรามาคิดกันว่า ไปให้น้อยที่สุดแล้วไปแค่เฉพาะคนที่อธิบายเรื่องของเนย์ให้พวกท่านฟังวันที่คุยกับตำรวจก็พอ นั่นก็คือฉัน หัวหน้าแผนกบุคคล แล้วก็รองหัวหน้าแผนกบุคคล เพราะถ้าเรายกกันไปทั้งแผนก ฉันไม่คิดว่าพ่อแม่เค้าจะมองพวกนายในแง่ดีหรอก อีกอย่างเราไม่รู้ด้วยว่า มันจะเกิดอะไรขึ้น แม้จะเป็นงานโศกเศร้าแบบนี้ก็เถอะ "

“ นั่นนะสินะ " ลิปพูดออกมาเสียงเบาๆ รองหัวหน้าเองก็ถอนหายใจ

“ ยังไงก็รวบรวมเงินใส่ซองกันมาแล้วกันนะ เดี๋ยววันนี้ฉันจะเป็นคนเอาไปให้พ่อแม่เนย์เอง " ทุกคนแยกย้ายกันไปทำงานหลังจากที่หัวหน้าพูดแบบนั้น ผมรู้สึกแปลกๆอยู่นิดหน่อยที่ไม่ได้ไปแสดงความเสียใจกับรุ่นน้องในแผนกตัวเอง แต่รองหัวหน้ากับแผนกบุคคลคงคิดมาอย่างดีแล้วสำหรับทางออกของเรื่องนี้ อย่างที่รองหัวหน้าบอกมันก็พอเข้าใจได้ พ่อแม่เค้ารู้ว่าลูกเค้าต้องตายเพราะหนึ่งคือโดนกดดันจากคลิปและสองเพื่อนร่วมงานที่ตีตัวออกจากแต่พ่อแม่เค้าก็ไม่รู้หรอกว่า เพื่อนร่วมงานพวกนั้นเป็นใคร ยังไงเค้าก็เหมารวมกลุ่ม เผลอๆเข้ามาทำร้ายเราขึ้นมาอย่างที่ลิปพูดจริงๆ แบบนั้นคงแย่ไปใหญ่

“ รู้สึกแย่รึเปล่า ที่ไม่ได้ไป งานศพของเนย์น่ะ " ลิปหันมาพร้อมผมก็ยิ้มเจื่อนๆ

“ นิดหน่อยอะ ฉันแค่อยากจะไปบอกลาเค้า อย่างน้อยก็เพื่อนร่วมงานกัน "

“ นั่นนะสินะ "

   ทุกอย่างกลับมาสู่ความเงียบอีกครั้ง ผมเปิดหน้าจอคอพิวเตอร์ทำงาน ก่อนจะคิดขึ้นมาได้ว่า มีคนรอฟังคำตอบของผมที่ว่าจะไปงานศพช่วงเย็นรึเปล่า ผมหยิบมือถือขึ้นมาพิมพ์ข้อความส่งไปหาเค้า

' ฟาน วันนี้ฉันไม่ไปงานศพของเนย์นะ กลับตามเวลาปกติ '

' อื้ม ' เค้าตอบกลับมาสั้นๆแค่นั้น ผมก็ล็อคมือถือแล้ววางไว้บนโต๊ะ ก่อนที่เสียงสั่นๆจะดังขึ้นเหมือนมีข้อความตอบกลับมาอีก ' แล้วทำไมถึงไม่ได้ไป '

' ก็พอดี หัวหน้าบอกว่า พ่อแม่เค้าไม่ค่อยโอเคกับพนักงานในแผนกที่มีส่วนทำให้ลูกของเค้าต้องเสียชีวิตน่ะ หัวหน้าก็เลยห่วงความปลอดภัย ก็เลยไม่ให้ไป ให้แค่ทำบุญด้วยเงินฝากเค้าไปแทน '

' อย่างงั้นก็ดีแล้ว แล้วนายโอเครึเปล่าละ '

' ถามเหมือนลิปเลย ' ผมหลุดยิ้มออกมาตอนที่เห็นข้อความนั้น 

' ก็เมื่อวานนายร้องไห้ฟูมฟายเรื่องที่เค้าคนนั้นเสียไป ฉันก็คิดว่า นายคงอยากจะไปบอกลาเค้าครั้งสุดท้ายอะไรทำนองนั้น '

' ก็เสียใจอยู่หน่อยๆแหละ แต่จะให้ทำไงได้ละ '

' เค้าคงรับรู้ความรู้สึกของนายแหละ ไม่ต้องห่วงหรอก '

' ถ้าเป็นอย่างที่นายพูดมันคงดี ' ผมถอนหายใจออกมา  เผลอคิดถึงตอนที่เค้ายังอยู่ คิดถึงใบหน้าของเค้าแล้วแววตาเศร้าๆนั่นอีกแล้ว

' อย่าคิดมากนะ ไม่เป็นไรหรอก เค้าคงไม่ถือโทษโกรธนายที่ยื่นมือเข้ามาช่วยหรอก '

' อื้ม '

' พูดว่า อื้ม แล้ว ก็ทำให้ได้ด้วย  ไม่ใช่พูดว่าพูด อื้มแล้ว ก็ไม่ทำตามที่พูด '

' ครับๆ ทราบแล้ว ' เค้าบอกผมก็หลุดยิ้ม

' งั้นตอนเย็นเจอกัน ไว้ไปกินข้าวด้วยกันนะ '

' อื้ม ได้สิ ' ผมกดปิดหน้าจอโทรศัพท์ ตอนที่มองมันอยู่สักพักแล้วแต่ไม่มีข้อความจากอีกคนตอบกลับมา ผมเริ่มทำงานของตัวเองตั้งแต่เช้าจนถึงพักเที่ยง มองดูเวลาที่เลยเวลาพักเที่ยงไปเกือบสิบนาทีแล้ว คนข้างๆอย่างลิปก็ลุกขึ้นจากที่นั่งมายืนช้อนเก้าอี้ผมอยู่ข้างหลัง

“ ไปกินข้าวกันเถอะ คีย์ หิวแล้ว "

“ แปปนึง ฉันขอเซฟงานตรงนี้ " ผมบอกเค้าตอนที่เคลื่อนปากกาไปกดเซฟงานลิปก็เอ่ยชม

“ กล่องอะไรอะ น่ารักจัง "

“ กล่องใส่บราวนี่น่ะ น่ารักเนอะ ฉันยังชอบเลย "

“ อวยงานตัวเองก็เป็นวะ คนเรา "

“ ฮ่าๆ ก็มันน่ารักนี่ ลูกค้าบอกว่า อยากจะได้แบบที่บอกส่วนผสม วิธีการทำ กล่องออกแนวน่ารัก น่าเก็บ แบบอยากจะให้คนทั่วไปเห็นแล้วด้วยความน่ารักของมันก็อยากจะซื้อไปลองชิม ฉันก็เลยออกแบบด้วยภาพวาดแนวการ์ตูนแบบนี้มันน่ารักดี " เป็นงานที่ไม่ค่อยเครียดเท่าไหร่ เหมือนวาดภาพการ์ตูนเล็กประถมสมัยเรียน ผมชอบงานแบบนี้ พอได้วาดอะไรแบบนี้แล้วก็รู้สึกผ่อนคลาย 

“ น่ารักดี อยากกินขึ้นมาเลย "

“ นายคงหิวมากแล้วละ " ผมหันไปบอกอีกคน ตอนที่ลุกขึ้นจากเก้าอี้ในสำนักงาน

“ เออ หิวมากกกก หิวจนจะกินนายเข้าไปด้วยแล้ว " ลิปคว้ามือผมให้เดินตามเค้าออกไปที่ลิฟต์ ร้านแซนวิชที่ปกติเราจะแวะเข้าใจวันนี้อีกคนเดินผ่าน  " วันนี้เรากินอย่างอื่นกันเถอะนะ ฉันเริ่มเบื่อแล้ววะ "

“ ได้สิ แล้วจะกินอะไร "

“ เดี๋ยวขึ้นไปดูบนห้าง ร้านไหนว่างก็กินร้านนั้นแหละ อะไรก็ได้ ที่ไม่ใช่แซนวิชอะ เปลี่ยนบรรยากาศ "

“ ก็ดีเหมือนกัน " จริงๆก็รู้สึกเบื่อๆเหมือนกัน กินทุกวันเอาที่ง่ายๆมากไปหน่อยแล้ว จริงๆอยากจะลองไปกิน ข้าว บะหมี่ หรืออะไรสักอย่าง แต่ทุกทีที่มีความคิดแบบนั้น เราพากันเดินเข้าห้างแล้วเห็นทุกร้านเต็มไปด้วยพนักงานออฟฟิศ มันทำให้เราหยุดนิ่ง แล้วสุดท้ายก็กลับมากินข้าวร้านเดิม เพราะนิสัยที่ไม่ชอบเบียดกับใครด้วยกันทั้งคู่

“ วันนี้ฉันจะอดทน แล้วกินข้าวอย่างอื่น นอกจากแซนวิชให้ได้!” ลิปบอกตอนที่สูดลมหายใจกับภาพตรงหน้า ภาพของร้านอาหารในห้างที่มีผู้คนมากมายและดูเหมือนจะเต็มไปหมดเสียทุกร้าน

“ ราเมงร้านนั้นไม่มีคนวะ " ผมชี้ไปที่ราเมงร้านที่ไม่ค่อยมีคน ลิปเบิกตาแล้วในจังหวะนั้นเค้าก็คว้ามือผม แล้วพุ่งตรงเข้าไปในร้านทันที เรานั่งกันอยู่ที่โต๊ะ เปิดเมนูที่ดูน่ากินไปหมดทุกอย่าง ลิปสั่งทั้งราเมงถ้วยเล็ก และข้าวหน้าหมูชาชู ไม่นับของกินเล่นอีกเยอะแยะ " ลิป นายกินหมดเหรอ "

“ หมดน่า หิวจะตายอยู่แล้วเนี้ย นานๆออกมากินข้าวข้างนอกตอนเที่ยงทั้งที ต้องจัดหนัก จัดเต็ม " เดี๋ยวท่าทางว่าต้องมีคนร้องขอให้ช่วยกินแน่ๆ เพราะยัดทั้งหมดนั่นไม่ไหว ผมสั่งราเมงแต่ในใจก็แอบอยากจะกินข้าวก็เลยสั่ง ข้าวแบบที่ลิปสั่งมาด้วย เรานั่งกินกันไปเรื่อยๆด้วยความอร่อยจนสุดท้ายก็ยัดมันเข้าไปจัดหมดทั้งคู่ ทั้งราเมงและก็ข้าว ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าทั้งๆที่ไม่กินเยอะมานานแต่วันนี้มันกลับหมดลงอย่างง่ายดายแล้วไม่มีเสียงร้องขอให้ช่วยกินแต่อย่างใด จากปากของอีกคน

" นายท้องเหรอ ลิป นายกินเยอะมากอะ "

" อึก แค่กๆ ไอ้บ้า พูดอะไรวะ " อีกคนทีี่กำลังกินน้ำ สำลักทันทีผมก็แอบขำ " ฉันมีมดลูกที่ไหน ท้องอะไรกัน ท้องก็ลูกคอมพิวเตอร์เล่า จ้องหน้ากับมันทุกวันขนาดนั้น "

" ไม่ใช่คุณเมษเหรอ " ผมแซวอีกคนก็ เบือนหน้าหนีเขินๆ

" ไม่ท้องหรอกน่า กับคนแบบนั้นต่อให้ฉันท้องได้ ฉันก็ไม่เอามาเป็นพ่อของลูกฉันหรอก "

" ให้มันจริงเถอะ นายน่ะชอบว่าเค้า ไม่โอเคแบบนั้นแบบนี้ แต่จริงๆก็รักเค้าจะตายไป "

" ก็นายชอบแซวกันนี่ จะให้ฉันตอบว่าอะไรวะ ใช่ ฉันท้องอย่างง้ั้นเหรอ บ้า "

" แล้วความรักของนายตอนนี้เป็นยังไงบ้าง " ผมถามอีกคนก็นิ่งไปสักพักก่อนจะพูดออกมาเสียงเบาๆ

" เรื่อยๆ ไม่มีอะไรหวือหวา น่าตื่นเต้นหรอก เค้าก็ยังทำงานของเค้า ทั้งสองงานแหละ ทั้งถ่ายแบบนางแบบสวยๆ โป๊ๆ แล้วก็เป็นโฮสรับคำปรึกษา " เค้าบอกก่อนจะถอนหายใจ สีหน้าที่ไม่ดีของของลิป ผมยิ้มจางๆก่อนจะบอกเค้า

" ถ้ามีอะไร ปรึกษาฉันได้นะ "

" อื้ม ถ้ามีละก็จะปรึกษาทันทีเลย แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรหรอก ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะถึงถ้ามีก็คงเป็นแค่ ฉันอยากจะให้เค้าออกจากงานทั้งสองอย่างนั้นของเค้า แต่นั่นก็คงจะเป็นไปไม่ได้ละนะ " อีกคนว่าก่อนจะถอนหายใจ " นั่นมันงาน มันเงินของเค้า ถ้าฉันไปบอกให้หยุดทำ เค้าจะเอาเงินที่ไหนเลี้ยงชีพ อีกอย่างความสัมพันธ์ในแบบของเราก็ไม่รู้จะไปได้ยืนยาวเท่าไหร่กัน ถามตัวฉันเองฉันเองยังไม่มั่นใจเลย ก็ได้แต่บอกว่า ก็ลองคบกันไปเรื่อยๆ แต่พอเป็นแบบนั้นแล้ว ยิ่งนานไปใจฉันมันก็เหมือนอยากจะผูกมัดเค้าไว้ให้เป็นของฉัน " ลิปก้มหน้าลง " ไม่รู้สิคีย์ ฉันก็คิดไม่ออกเหมือนกันว่า ตัวเองจะทำยังไงต่อไป รักเรื่อยๆไม่มีการวางแผนมันไม่ดีหรอก แต่ว่า ฉันก็กลัวว่าในอนาคตเราจะไปด้วยกันไม่รอด เหมือนอย่างที่ฉันเคยไปด้วยกันไม่รอดกับคนอื่นๆ "

" คำถามฉันทำให้นายเครียดรึเปล่าวะ "

" เปล่าหรอก เรื่องของฉันกับคุณเมษมันจะเรียกว่าไงดีวะ เราไม่ได้มีปัญหากันนะ ทุกอย่างดำเนินไปด้วยดี ด้วยความเข้าใจของฉัน เข้าใจว่าเค้าต้องทำงานอะไร เกี่ยวข้องกับอะไร แต่บางทีคนเรามันก็คิดถึงอนาคตรึเปล่าวะ ฉันไม่อยากจะคบแล้วเลิกอีกแล้ว อยากจะคบกับใครก็อยากจะคบไปนานๆ พอคิดแบบนั้นมันทำให้ฉันรู้สึกว่า ฉันจะเข้าใจเค้าไปได้อีกนานแค่ไหน ทั้งๆที่ทั้งหมดที่ฉันเข้าใจอยู่ตอนนี้ ฉันแทบไม่เข้าใจมันเลย "

" ลิป " ผมถอนหายใจออกมาตอนที่อีกคนบอก ผมเข้าใจความรู้สึกของเค้าดี ไม่มีใครอยากจะให้แฟนตัวเองทำงานเกี่ยวข้องกับผู้หญิงที่นุ่งน้อยห่มน้อยแบบนั้นหรอกเพราะไม่รู้ว่าพวกเธอจะคิดยังไงเวลาได้มองตากันผ่านเลนส์อีกอย่างคุณเมษก็ไม่ได้เป็นเกย์สักหน่อย จากที่ฟังก็เหมือนจะชายก็ได้หญิงก็ได้ซะมากกว่า อีกอย่างเค้ามีงานที่ต้องเกี่ยวข้องกับการเอาใจผู้คนอะไรนั่นอีก ลูกค้าของเค้าเราเองก็ไม่รู้เลยว่าเค้าจะคิดยังไงกับคนรักของเรา

" งานของคุณเมษน่ะต้องเอาใจผู้หญิงมากหน้าหลายตา บางคนก็ชอบเค้าซื้อเค้าไปเดินซื้อของด้วยกันบ่อยๆจนบางทีก็ดูเหมือนแฟนกันไปแล้ว นี่ยังไม่นับว่ายังมีผู้หญิงมาขอเค้านอนด้วยอีกนะ "

" มีแบบนั้นด้วยเหรอ "

" มีสิ ก็ผู้หญิงบางคนคิดว่าเค้าเป็นโฮสแบบนั้นด้วย ถ้าจ่ายมากพอ " ผมยิ้มเจื่อนๆ " แล้วยังมีงานถ่ายแบบพวกนางแบบเซ็กซี่ที่ก็อีกนิดก็จะแก้ผ้าให้ถ่ายรูปแล้ว ฉันไม่รู้วะ ฉันรักเค้านะ ฉันพยายามจะเข้าใจเค้า แต่ว่าฉันที่รักเค้ามากขึ้นไปทุกทีแบบนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าความเข้าใจที่ฉันพยายามอยู่ มันจะพอทำให้ เรารักกันได้นานรึเปล่า มันเป็นเรื่องของอนาคตจริงๆ สำหรับเรื่องของฉัน "

“ นั่นนะสินะ เรื่องของอนาคตเราบอกไม่ได้หรอกว่ามันจะเป็นยังไง "

“ ฉันเลยกับนายไงว่า ถ้าปัจจุบันนายมีความสุขกับการใช้ชีวิตยังไง ก็ให้ทำไปเถอะ อย่างเรื่องของฟานเค้าที่ทำร้ายนาย ถ้าเป็นคนอื่นเค้าอาจจะหนีห่างไปให้ไกลจากผู้ชายคนนี้แล้วก็ได้ แต่ถ้าการหนีห่างไปทำให้นายทุกข์ แล้วก็กลัวหัวหน้า จมอยู่กับความทรงจำ ฉันก็เห็นว่านายควรจะเลือกที่จะอยู่กับเค้าดีกว่าละมั้ง ในเมื่อเค้าเองก็บอก ว่าจะปรับตัว จะแก้ไข ก็ลองให้โอกาสเค้าอีกครั้งเถอะ "

“ อื้ม " ผมพยักหน้ารับ " เห้ออ... ฉันว่าเราเลิกพูดเรื่องนี้แล้วไปหา อะไรอร่อยๆกินกันดีกว่า พวกชาเย็น โกโก้ หรือไม่ก็ขนมหวานสักชิ้น "

“ แล้วก็บอกว่าฉันท้องนะคีย์ นายเองมากกว่ามั้ง ฉันว่าน่ะ " ลิปพูดแซว เราลุกขึ้นจากที่นั่งในระหว่างที่กำลังเดินออกไปจากตัวห้างผมแวะซื้อโกโก้ที่ร้านประจำกับขนมคุ๊กกี้กล่องนึงตรงลานหน้าตึกที่เชื่อมกับที่ทำงาน ผู้คนเริ่มทะยอยเดินออกจากห้างมาอยู่ตรงบริเวณนั้นเพราะมันใกล้เวลาเข้างานช่วงบ่ายแล้ว ผมที่กำลังเดินเข้าตึกแต่อยู่ๆลิปก็พูดขึ้น

“ คีย์ ฉันอยากจะกินชาเย็นวะ  นายรอตรงนี้นะ ถือโกโก้จากร้านอื่นเข้าไปต่อคิวเดี๋ยวคนขายจะจิตตกว่าชงโกโก้ไม่อร่อยถึงต้องไปซื้อร้านอื่นมากิน "

“ ได้สิ " ผมหลุดยิ้มกับความคิดของอีกคน ลิปเดินออกไป ผมก็หยิบมือถือขึ้นมาเล่นฆ่าเวลา ส่งภาพอาหารวันนี้ทั้งหมดไปให้ฟานแต่ทว่ากลับไม่มีใครอ่าน ผมปิดหน้าจอมือถือเอามือใส่กระเป๋าก่อนจะมองไปรอบๆ ก่อนจะเจอกับคนคนนึงที่คุ้นตาเอามากๆ กับผู้หญิงคนนึงที่เหมือนกำลังฉุดกระชากลากถูกันอยู่ เหมือนว่ามีปัญหาและกำลังทะเลาะกัน

“ ฟาน " ผมเอ่ยเรียกชื่อเค้า ตอนที่เห็นว่าอีกคนถอนหายใจออกมาแล้วหยุดฟังผู้หญิงคนนั้นที่กำลังอธิบายอะไรสักอย่างกับเค้าอยู่ที่ถนนหน้าห้าง ผู้หญิงคนนั้นดูสะสวยแล้วก็ดูมีเงินเมื่อมองเสื้อผ้ากับข้าวของที่ใช้เป็นเครื่องประดับ ดูดีสมวัยที่น่าจะอยู่ไม่ม.ปลายก็น่าจะ มหาลัยแล้ว เธอคว้ามือของเค้ามาจับ พูดอะไรอยู่สักพัก ฟานก็เดินตามเธอไป

“ คีย์.. นั่นฟานกับใครวะ "

“ ไม่รู้เหมือนกัน ฉันก็เพิ่งเคยเห็นเธอ พร้อมๆกับนายนี่แหละ "

..............................................................

#แวะอ่านตรงนี้นิดนึง
ตอนนี้ไม่มีอะไร เป็นแค่การปูทาง เพราะมันมีตอนหน้า  :katai4:
เอาจริงๆ ตอนนี้ อยากจะเขียน แทนความรู้สึกของความเชื่อใจ
คือ เราจะเชื่อฟานได้มั้ย กับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นคำขอโทษ และ ต่างๆ
ถ้าเราเป็นคีย์ เราเจอฟาน เราจะคิดไปในแง่ดีมั้ย ว่า เพื่อน พี่ น้อง  หรือกำลังนอกใจกัน

ฝากแท็ก #ฟานคีย์ ในทวิต ฝากแชร์ในเฟส ด้วยนะจ๊ะ
จุ๊บๆ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์
หนมมี่จ้า  :กอด1: :3123: :L1: :pig4:


ออฟไลน์ LovEYouOnLy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 439
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
เรื่องเก่าเรียบร้อยแล้วหรอเอาเรื่องใหม่มามันจะทำให้เราคนอ่านหนักใจตามคีย์ไปอีกหรือป่าว เพราะเรานั้นอินไปกับตัวละครและ

ออฟไลน์ MENTA

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 77
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ผู้หญิงคนนั้น เป็นใครกัน

ออฟไลน์ nottto

  • MaxNuzz
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
รออออออออออออออออ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด