ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง{ตอนพิเศษที่ 2 UP - 10.2.60}หน้า 42 (จบเรื่อง+รวมเล่ม)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง{ตอนพิเศษที่ 2 UP - 10.2.60}หน้า 42 (จบเรื่อง+รวมเล่ม)  (อ่าน 323490 ครั้ง)

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง
ตอนที่ 65
' โลกแคบ '
    ผมเซฟงานหลังจากที่นั่งคิดงานไม่ออกอยู่นานจนมันถึงช่วงเวลากลับบ้าน ถอนหายใจออกมาในสมองของผมตอนนี้มีแต่ภาพของ ฟานที่เดินอยู่ข้างๆผู้หญิงคนนั้นที่ผมไม่รู้จัก ผมอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไม ทำไมเค้าถึงมาอยู่ที่นี่ ทำไมเค้าถึงมากับเธอ เธอเป็นใคร แต่ผมก็คงถามอะไรออกไปไม่ได้ เพราะมันคงทำให้เค้ารู้สึกแย่ไปใหญ่ถ้ารู้ว่าที่ผมรู้สึกกังวลอยู่ตอนนี้ มันมีเหตุผลที่ว่า ' เพราะเคยนอกใจเค้ามาก่อนก็เลยกังวลว่า ตอนนี้ฟานกำลังนอกใจผมอยู่รึเปล่า '

“ คีย์กลับบ้านกันเถอะ "

“ อื้ม " ผมพยักหน้ารับ ปิดหน้าจอคอมของตัวเองคนที่ยืนข้างๆก็เอียงหน้ามองเหมือนรับรู้ถึงความไม่สบายใจของผม

“ ถ้านายอยากจะรู้ว่าเธอคนนั้นเป็นใครก็ถามเค้าออกไปตรงๆเลย จะได้ไม่ต้องมายืนทำหน้าเศร้าแบบนี้ แค่ถามออกไปตรงๆ มันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้ "

“ แต่ถ้ามันมีละ " ผมถาม " ถ้าเค้าโกหกฉันละ ฉันจะทำยังไง " ถ้ารู้ว่าเค้านอกใจผมต้องทำยังไงต่อมันเป็นคำถามที่ผมตั้งขึ้นมาเล่นๆในใจ ถ้าฟานนอกใจผมจับได้แล้ว ผมจะบอกว่าเค้าให้เลิกกับผู้หญิงคนนั้นซะ ผมไม่ชอบอย่าไปยุ่ง แล้วถ้าเกิดขึ้นว่าฟานเถียงขึ้นมาว่าแค่เพื่อนในคณะเราทำงานกลุ่มด้วยกันไม่มีอะไรทั้งนั้น ผมจะทำยังไงต่อ จะเชื่อเค้าอย่างที่เค้าเคยเชื่อผมมั้ย แล้วถ้าผมไม่เชื่อเค้าตอบผมว่าอะไร ' อย่าเอาอดีตของคุณมาตัดสินผมสิ ผมไม่ได้เป็นเหมือนคุณสักหน่อย ผมไม่ได้แอบนอกใจแฟนแล้วไปกินข้าวกับคนอื่นแบบคุณหรอก ' และถ้าฟานเถียงออกมาแบบนี้แล้วผมจะพูดอะไรกับเค้าต่อ

“ ถึงมันจะมี นายก็จะได้รู้ไปเลยว่ามันกำลังเอาคืนนายที่นายเคยนอกใจมัน ไม่ใช่ตอนนี้ที่นายไม่รู้อะไร แล้วก็กำลังเดาไปมั่วๆจากนั้นก็รู้สึกเครียดและคิดมากไปเอง เค้านอกใจฉัน เค้านอกใจ เค้าต้องชอบเด็กผู้หญิงคนนั้นแน่ๆ เค้าอาจจะทะเลาะกันแล้วก็คืนดีกัน หรือไม่เค้าก็กำลังหวั่นไหว หวั่นไหวเหมือนที่ฉันทำกับเค้า " ผมถอนหายใจออกมาตอนที่ฟังอีกคนพูด " ถามคีย์ ถามออกไปตรงๆเลย วันนี้ฉันเห็นนาย ตอนเที่ยงกับผู้หญิงคนนึง ใครเหรอ จบ แล้วนายจะได้รู้ "

“ ในความเป็นจริง มันถามได้ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอวะ เรื่องแบบนี้นะ " โดยเฉพาะคนแบบผมแล้ว สามารถถามได้ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอวะ 

“ งั้นก็กลับบ้านกันเถอะ " ลิปบอกก่อนจะตบไหล่ผม " เดี๋ยวนายอยากรู้มากๆ ก็คงถามเค้าออกไปเองละมั้ง "

   เดินลงมาจากชั้นบนคนที่มารับก็รออยู่ที่หน้าบริษัท ผมถอนหายใจออกมาตอนที่เห็นหน้าเค้าที่ยังคงใส่ชุดเดิมในตอนเที่ยงยิ่งทำให้มั่นใจขึ้นไปอีกว่า นั่นคือเค้าแน่ๆ ผมไม่ได้จำคนผิดแต่อย่างใด ก้าวขาเดินเข้าไปใกล้ ลิปที่อยู่ข้างๆก็เอ่ยทักฟาน

“ ฉันพาแฟนนายมาส่งให้ละ "

“ ขอบคุณมากครับ " เค้าพยักหน้ารับก่อนจะยิ้มให้อีกคนที่ก็หันมากระซิบผม

“ อย่าลืมถามซะละ ถามซะจะได้สบายใจ "

“ อื้ม " ผมตอบรับอีกคนก็เดินออกไป

“ ฉันกลับบ้านละ พรุ่งนี้เจอกัน "

“ เจอกัน "

“ เราไปหาอะไรกินกันก่อนกลับบ้านมั้ย " ฟานถามตอนที่ลิปเดินห่างจากเราออกไป " วันนี้ฉันยังไม่ได้กินอะไรเลย กินก็นิดนึงยังไม่ทันอิ่ม " เค้าบอกผมก็ขมวดคิ้วสงสัย ไม่ได้กินตั้งแต่เที่ยงกับผู้หญิงคนนั้นหรอกเหรอวะ

“ ได้สิ นายอยากจะกินอะไรละ "

“ วันนี้นายกินราเมงแล้วสินะ จริงๆฉันกินอาหารอิตาเลี่ยนไปนิดหน่อยอะนะวันนี้ " ฟานทำท่าคิดผมที่มองจ้องเค้า อยากจะถามออกไปว่าวันนี้ไปกินอาหารอิตาเลี่ยนที่ไหนมาละ  ร้านตรงนั้นที่อยู่ใต้ห้างรึเปล่า แล้วมากับใคร ฉันเห็นนะผู้หญิงคนนั้น เพื่อนเหรอ
 " คีย์ ? "

" หื้ม ? " ผมเอียงหน้าก่อนจะยิ้มให้เค้าที่เหมือนจะสงสัยในท่าทางเหม่อๆของผม " นายว่าอะไรนะ "

" ฉันถามว่าไปกินส้มตำกันมั้ย  ไม่ได้ยินหรอกเหรอ "

" โทษทีฉันคิดอะไรเพลินไปหน่อย " ผมยิ้มแห้งๆ " เอาสิ ส้มตำก็ดีเหมือนกันฉันอยากจะกินอะไรที่มันแซ่บๆ " ผมบอกก่อนจะคว้ามือเค้าแล้วเดินเข้าไปในห้าง เพื่อเบี่ยงเบนไม่ให้อีกคนจับพิรุธได้แม้ว่าเค้าจะกำลังสงสัยเรื่องของผมอยู่ก็ตาม

“ มีอะไรรึเปล่า " คำถามของคนที่จับมือผมให้หยุดเดินด้วยสีหน้าเป็นห่วง " ยังไม่สบายใจเรื่องที่ไม่ได้ไปงานศพของรุ่นน้องในแผนกอยู่เหรอ "

“ ปะ เปล่า ไม่ใช่เรื่องนั้นหรอก " ผมส่ายหน้า

“ แล้วเรื่องอะไร นายดูเหม่อแปลกๆนะ "

“ คือฉันมีเรื่องงานให้คิดนิดหน่อยน่ะ " บอกเค้าไปแบบนั้น ฟานก็ขมวดคิ้วก่อนจะก้มหน้าลงมามองเหมือนไม่เชื่อกันเท่าไหร่ แต่ก็ปล่อยผมผ่านไปไม่ได้ถามต่อ จะมีก็แค่อาการงอนนิดหน่อยที่หลุดออกมาจากปากของเค้า

“ ไม่อยากจะบอก ก็ไม่ต้องบอกก็ได้ นายคงไม่อยากจะบอกฉัน " เค้าหันหน้าไปทางอื่นผมก็หลุดยิ้มออกมา

" ท่าทางแบบนี้ อย่าบอกนะว่างอนฉัน " ผมเอียงหน้ามองเค้า ฟานก็ส่ายหน้า

" ใช่ที่ไหน " ขนาดพูดคำว่าใช่ที่ไหนยังทำหน้าไม่พอใจเลย แล้วก็ยังจะมาบอกว่าไม่ได้งอนอีก

" ฉันเครียดเรื่องงานจริงๆ มันหลายเรื่องน่ะ ทั้งงานที่ทำ ชีวิตที่เป็นอยู่ สิ่งแวดล้อม " ผมบอกเค้าอีกคนก็เดินจูงมือผมเข้าห้างไม่ได้ถามอะไรอีก ราวกับว่าเข้าใจดีอยู่แล้วถึงความรู้สึกของผม ถ้าผมพูดออกมาแบบนั้นเค้าเองก็เข้าใจดีอยู่แล้วว่า เรื่องที่ผมกังวลมันคือเรื่องอะไร

" งั้นก็ไปหาอะไรกินกัน ฉันหิวแล้ว "

" อื้ม " ผมพยักหน้ารับ มองแผ่นหลังที่เดินจูงมือผมไป ข้างในใจผมตอนนี้มันก็มีความรู้สึกหลายแบบ จะเป็นยังไงถ้าความจริงที่ผมอยากจะรู้มันเป็นอย่างที่ผมคิด ฟานกำลังนอกใจ เค้าที่แก้แค้นผมที่เคยนอกใจเค้าให้รู้สึกเหมือนกัน แบบนั้นถ้าเป็นแบบนั้น ตัวผมจะยอมรับได้รึเปล่า จะยอมเสียใจไปกับการกระทำของเค้าที่ครั้งนึงผมเคยทำมันมั้ย " นี่ไง ร้านนี้ ที่ฉันบอกว่าอร่อย "

    เราเดินเข้าไปในร้านจับจองที่นั่งว่าง ก่อนจะรับเมนูอาหาร เราสั่งทุกอย่างที่อยากจะกินเมนูที่เหมาะกับการมาสามคนมากกว่าสองคน

“ ฉันว่าเราสั่งเยอะไปมั้ย " ผมถามฟานที่ก็ส่ายหน้าไปมา

“ ไม่นี่ ก็ฉันอยากจะกิน ของแบบนี้สั่งมาเยอะก็จริงแต่พอกินไปเรื่อยๆคุยไปเรื่อยๆมันก็หมดไม่ใช่เหรอ "

“ เหรอ ไม่รู้เหมือนกัน ขนาดขาเม้าส์อย่างลิปเวลากินกับฉันเรายังสั่งกันน้อยกว่านี้เลย "

“ ช่างมันเถอะน่า สั่งไปแล้ว กินไม่หมดเหลืออะไรเอากลับได้ก็ค่อยเอากลับ " ฟานบอกปัดเค้าพิงตัวเองกับที่นั่งก่อนจะมองซ้ายขวาแล้วหยิบมือถือขึ้นมาเล่น

“ วันนี้นายมารับฉันเร็วจังนะ "

“ เหรอ ? ฉันว่ามันออกจากสายไปด้วยซ้ำ ฉันคำนวนเวลาดูหนังผิด "

“ นายไปดูหนังมาเหรอ "

“ อื้ม ตั้งสองเรื่อง " เค้าบอก " รอบตอนเที่ยงเรื่องนึง พอออกมายังเหลือเวลาอีก ก็เลยดูอีกเรื่อง "

“ นี่นาย..มาที่นี่ตั้งแต่เที่ยงแล้วสินะ " ฟานเงยหน้ามองผม " ละ แล้ว หนังเป็นไงสนุกมั้ย "

“ เรื่องแรกไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่ เรื่องสองสนุกดี "

“ เหรอ แล้วตอนเที่ยง มาแวะกินอะไรละ นายบอกว่าอาหารอิลาเลี่ยนนี่ แล้วมันอร่อยมั้ย "

" ก็ไม่ค่อยอร่อยหรอก แดกแทบไม่ลง " เค้าบอกก่อนจะวางมือถือไว้ข้างตัวกอดอกแล้วมองหน้าผม " จะถามอะไรอีกมั้ย "
" ละ แล้วนายกินสปาเก็ตตี้อะไร "

" จะถามด้วยรึเปล่าว่ามากินกับใคร " อีกคนยิ้มตอนที่ยกน้ำขึ้นกินแล้วยักคิ้วให้ผม " เรื่องนี้สินะที่ทำให้นายเหม่อๆ แล้วถามฉันเป็นต่อยหอยแบบนี้ "

" เอ่อ..”

" เห็นละสิ ฉันกับผู้หญิงคนนั้นตอนเที่ยง " ผมผ่อนลมหายใจออกมา พยักหน้ารับอีกคนแบบว่าง่ายก่อนจะเหลือบมองอีกคนที่ก็ยังจ้องผมอยู่

" ฉันไม่ได้ ไม่เชื่อใจฟานหรอกนะ แต่ว่าตอนเที่ยงฉันดันเห็นนายกับผู้หญิงคนนั้น เหมือนกำลังทะเลาะกัน แล้วอยู่ๆนายก็เดินตามเค้าเข้าไปในห้าง " ก้มหน้าลงผมเม้นริมฝีปากตอนที่เงยหน้ามองเค้า ผมถามคำถามที่ผมอยากจะรู้ " ใครเหรอ "

“ ฮ่าๆ " ฟานที่หลุดขำออกมา เค้าก้มหน้าลงขำราวกับว่ามันเป็นเรื่องที่ตลกเอามากๆ " ฮ่าๆ นาย นายน่าจะได้เห็นหน้าตัวเองตอนนี้นะ นายดูเครียดมากอะ ฉันจะบอกให้ ฮ่าๆ "

“ มันน่าตลกมากนักรึไงที่ฉันกลัวว่านายจะนอกใจฉันน่ะ!! " ผมถามด้วยแววตาและเสียงโกรธๆ เค้าก็หยุดหัวเราะก่อนจะถอนหายใจออกมา

“ ถ้าฉันบอกว่า แฟนใหม่ นายจะทำยังไง " ผมเงียบ ฟานก็เลิกคิ้วมอง " ถ้าฉันบอกว่าฉันนอกใจนาย นายจะทำยังไง  "

“ ฉัน.. “ ไม่รู้สิ แม้มันจะดูโง่แต่ตอนนี้ในสมองมันก็มีแค่คำพูดนี้ ไม่รู้สิ ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน ไม่อยากจะปล่อยไปแต่ถ้าทนอยู่ในสภาพที่ให้เค้านอกใจแบบนี้ไปเรื่อยๆ มันก็เหมือนของตายซึ่งก็เป็นความรู้สึกในอนาคตที่ผมเองก็คงไม่ชอบ แต่ถ้าบอกว่า รับไม่ได้และขอเลิกกันไป ผมเองก็ต้องเสียใจเหมือนกัน เรื่องแบบนี้มันไม่ใช่ประโยคที่จะตอบได้ตอนนี้ซะเมื่อไหร่

“ น้องสาวฉันนะ " เค้าบอก " ไม่ต้องคิดมากหรอก แค่น้องสาวฉัน "

“ แต่ว่าครอบครัวนาย เค้าไม่..”

“ ใช่ เค้าไม่ได้ติดต่อฉันมานานมากแล้ว ก็เพิ่งติดต่อกันมาวันนี้ละ " เท่าที่ผมรู้ ครอบครัวของฟานเป็นครอบครัวที่ค่อนข้างแปลกแล้วดูแย่เอามากๆในความรู้สึกของผม พ่อแม่ทำธุรกิจใหญ่โตแต่กลับมีความเชื่อเรื่องดวง เชื่อคำพูดของคนที่ไม่ได้เป็นญาติพี่น้องเชื่อทั้งๆที่เค้าบอกว่าให้ทิ้งลูกชายตัวเองไป เชื่อทั้งๆที่เค้าบอกว่า ให้เอาลูกชายไปอยู่ที่อื่น ไม่ให้เอามาเป็นลูก ฟานที่ถูกทิ้งให้อยู่กับตากับยายตั้งแต่เด็กๆ ไม่ได้รับการเหลียวแลจากที่บ้านเลยเพราะพวกเค้าเชื่อว่า ถ้าเกิดมายุ่งเกี่ยวกับเด็กคนนี้จะทำให้ชีวิตต้องเกิดเรื่องไม่ดี

“ แล้วทำไมเค้าถึงติดต่อมาละ "

“ ถ้าพูดออกไป นายจะคิดมากมั้ยละ " ผมเลิกคิ้วตอนที่อีกคนพูดแบบนั้น อาหารที่ถูกทยอยมาเสิร์ฟฟานก็เล่าเรื่องที่เค้าเจอวันนี้ให้ผมฟัง เรื่องของน้องสาวตัวเองที่นัดมาเจอกัน เพื่อที่จะให้กลับไปเป็นครอบครัวเดียวกันและหมั้นหมายแต่งงานกับคู่ค้าของธุรกิจของพ่อแม่ ผมฟังเรื่องราวพวกนั้นด้วยความรู้สึกชา มองหน้าคนที่เล่ามันด้วยความรู้สึกเจ็บปวด

   ครอบครัวที่ไม่ได้เจอกันนาน ไม่เคยสนใจและเหลียวแล อยู่ๆก็ติดต่อมา เพราะเห็นว่าเค้ามีประโยชน์ทางการเงินและธุรกิจที่ต้องเติมโตขึ้นไป ทั้งๆที่ฟานเองก็ไม่ได้เป็นคนในครอบครัวนั้นแล้วด้วยซ้ำ เงินทองที่เค้าใช้ตอนนี้เท่าที่ผมรู้คือสมบัติที่ตากับยายเค้าทิ้งไว้ให้ เป็นที่ทางมากมายที่ถูกเช่าทำสัญญาหลายสิบปี ทั้งๆที่เค้าไม่เคยถูกเรียกว่า คนในครอบครัวเลยแต่วันนี้กลับถูกเรียกว่าคนในครอบครัว เพียงเพราะตัวเองมีประโยชน์ก็เท่านั้น


" แล้วนายคิดว่ายังไงละ "

" คิดว่ายังไงน่ะเหรอ ก็ไม่ทำอยู่แล้ว ฉันบอกปัดไปแล้วก็ฝากข้อความไปบอก คนสองคนนั้นแล้วด้วย " เค้าถอนหายใจออกมา " ความรู้สึกที่อยากมีพ่อแม่น่ะก็เป็นแค่ตอนประถมที่โรงเรียนจัดงานวันพ่อวันแม่ก็เท่านั้นแหละ ส่วนตอนนี้ฉันไม่จำเป็นต้องมีหรอก เท่าที่ฉันมีมันก็พอแล้ว "

" ไม่เป็นไรหรอกนะ " ผมเอื้อมมือไปจับมือเค้าไว้ มาหวนคิดดูว่า เมื่อก่อนผมก็เป็นของสำคัญที่เค้าให้ความสำคัญมากๆ เป็นเหมือนคนคนเดียวในชีวิตของเค้า เป็นครอบครัวของเค้า แต่สิ่งที่ผมทำคือการนอกใจเค้าไปรู้สึกดีกับคนอื่น ทิ้งเค้าทำร้ายเค้าไม่ต่างอะไรกับพ่อแม่ที่เป็นครอบครัวเค้าที่ทิ้งและทำร้ายเค้าเลยสักนิด

“ ฉันไม่เป็นไรหรอก เรื่องของบ้านนั้นมันไม่เกี่ยวอะไรกับฉันแล้วก็ไม่ได้ทำให้ฉันเสียความรู้สึกอะไรทั้งนั้น แค่รู้สึกตลก ตลกความเห็นแก่ตัวของคนบ้านนั้น ตลกความหน้าด้าน ที่คิดว่าแค่มาหลอกฉันว่าจะให้กลับไปเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วฉันจะเชื่อ ตลกที่เค้ายังคิดว่า ฉันยังอยากจะกลับไปเป็นครอบครับเดียวกับเค้า ทั้งๆที่ตลอดมา ฉันไม่เคยคิด ความรู้สึกที่ฉันเป็นลูกของคนบ้านนั้น มันตายไปนานแล้ว " เค้าพูดก่อนจะยกยิ้ม " แต่ถ้านายรู้สึกว่าฉันยังเสียใจแล้วอยากจะปลอบฉันจริงๆละก็ นายจูบฉันสักครั้ง ฉันก็หายแล้วละ ความรู้สึกที่ไม่ดีพวกนั้นนะ "

" บ้า ใครจะทำ กลางร้านอาหารนะ " ผมดึงมือออกจากมือเค้าบ่นเสียงเบาๆก่อนจะหันมาสนใจอาหารในจานตรงหน้า " คนอุตส่าห์เป็นห่วงยังมาหื่นใส่อีก "

" เอ้า ! ก็ฉันเห็นหน้านายเศร้า ก็คิดว่าอยากจะปลอบใจ ฉันก็เลยบอกไง ว่าทางที่จะปลอบใจฉันน่ะ มันคือทางไหน "

" ใครจะทำ คนเยอะแยะ "

“ ถ้าอยู่กันสองคนจะทำงั้นสิ " ฟานบอกก่อนจะคิด " งั้นหลังจากกินข้าวเสร็จนายจูบฉันนะ "

“ จะให้ฉันจูบนายทั้งๆที่มื้ออาหารที่เรากินมันคือ ส้มตำนี่อะนะ.. นายคิดดีแล้วเหรอ คิดใหม่ได้นะฟาน " ผมถามอีกคนก็หัวเราะออกมาลั่นร้าน  เรานั่งกินอาหารกันไปเรื่อยๆ ถามไถ่เรื่องต่างๆของงานในวันนี้

   ความรู้สึกในใจของผมตอนนี้ มันเปลี่ยนจากหลายนาทีก่อนที่เอาแต่คิดวุ่นวายถึงผู้หญิงคนนั้นว่าเค้าเป็นใคร เหมือนยกภูเขาทั้งลูกออกจากอก แต่การที่เค้ามาบอกว่า ต้องการให้ฟานกลับไปเป็นครอบครัวและอยากจะให้หมั้นหมายกับคู่ค้าของธุรกิจ แม้ฟานจะปฎิเสธไปแล้วแต่ผมไม่คิดว่าทุกอย่างจะลงง่ายแบบนั้นหรอก

   เงินทองไม่ใช่บ้านสองบาท เป็นพันพันล้าน  ถ้าฟานเป็นความหวังเดียวของเค้าแล้วละก็ เค้าคงไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่ายๆ แล้วคนที่ไม่เคยเห็นค่าความความรู้สึกของคนอื่นเลย อย่างพ่อแม่ของเค้า คงไม่แคร์อะไรกับความรู้สึกของลูกชายของพวกเค้า ขนาดทิ้งลูกชายตัวเองยังทำได้ขอแค่ได้ตรงตามเป้าหมาย ไม่ว่าอะไรผมก็คิดว่า คนแบบนั้นคงไม่แคร์

“ พรุ่งนี้ไปเที่ยวไหนกันดี " ฟานหันมาถามผมหลังจากที่เรากินข้าวเสร็จแล้วเดินกลับมาขึ้นรถไฟเพื่อกลับบ้าน

“ พรุ่งนี้วันหยุดเหรอ " ลืมไปเลยว่าวันหยุดถ้าฟานไม่บอกผมคงออกไปทำงานเหมือนทุกวันเพราะลืมวันลืมคืนไปแล้ว ผมยกมือถือที่ถืออยู่ขึ้นมาดู " วันเสาร์เหรอ ปกตินายชอบชวนฉันไปเที่ยววันอาทิตย์ไม่ใช่เหรอ "

“ ก็ใช่อยู่ แต่ว่าพรุ่งนี้อยากจะออกไปเดินซื้อของในห้างสักหน่อย ช่วยไปเป็นเพื่อนหน่อย "

“ ได้สิ "

“ ฉันอยากจะซื้อเสื้อผ้าใหม่ แล้วก็ของใช้ส่วนตัวสักหน่อย ไปด้วยกันนะ " 

..............................................................

   ตื่นนอนในเช้าวันเสาร์ที่สายกว่าปกติบิดขี้เกียจน้อยๆ คนที่กอดผมไว้บนเตียงกว้างก็ดึงผมเข้าไปกอด ใบหน้าคมที่ยังคงหลับสนิท ผมเงยหน้ามองเค้า ก่อนจะคิดถึงเรื่องเมื่อคืนที่เราพูดกัน เรื่องของครอบครัวเค้าที่อยู่ๆก็ติดต่อมา คิดถึงแววตาเจ็บปวดแต่พอปลอบหน่อยเค้าก็บอกว่า เค้าไม่ได้รู้สึกอะไรแบบนั้น คำพูดหื่นๆกลบเกลื่อนของเค้าที่บอกว่า ช่วยจูบเค้าหน่อยถ้าอยากจะให้หายเศร้า ผมหลุดยิ้มออกมาตอนที่คิดถึงคำพูดนั้นเอื้อมมือกอดร่างสูงที่นอนอยู่ข้างกัน ผมรู้ดีว่าคนอย่างฟานคงไม่คิดจะยอมรับความรู้สึกเสียใจในใจลึกๆของตัวเองหรอก ไม่ยอมรับ และทำเป็นไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น

   ผ่อนลมหายใจออกมาตอนที่คิดแบบนั้น ผมขยับตัวแล้วจูบเค้าที่ริมฝีปาก ก่อนจะหลับตาลงตอนที่อีกคนขยับตัวกอดผมไว้แน่น เสียงทุ้มที่กระซิบลงข้างหู " แอบจูบฉันตั้งแต่เช้าเลยนะคีย์ " ผมเงียบแสร้งทำเป็นว่าตัวเองกำลังหลับอยู่ อีกฝ่ายที่หัวเราะในลำคอคงรู้อยู่แล้วว่าผมแกล้งหลับ " ไม่ยอมรับสินะ ว่าจูบฉัน "

   ร่างสูงเงียบไปก่อน มือที่กอดผมไว้จะย้ายมาสอดเข้าไปใต้เสื้อของผมที่ใส่อยู่ ผมที่หลับตาอยู่ในตอนนั้น สัมผัสมือที่เลื่อนขึ้นมาเลื่อนๆ ภาพความทรงจำเดิมมันก็ผุดขึ้นมาในสมองอีกครั้ง มือหยาบกร้านที่ทำให้ขวัญผวาอยู่ตลอดเวลา มือที่ค่อยๆเลื่อนขึ้นมา

“ อย่านะ!! “ ผมสะดุ้งตัวตื่นผลักร่างที่กำลังนอนกอดกันให้ออกห่างจากตัว ลมหายใจที่หายใจเข้าออกแรงๆ ผมกอดตัวเองไว้ก่อนที่ฟานจะลุกขึ้นจากเตียงช้าๆ มือหนาที่เอื้อมมือจับไหล่ผมไว้

“ ฉันขอโทษ "

“ ไม่เป็นไร " บอกเค้าแบบนั้นผมเบือนหน้าหนีเค้าลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำทันที ทั้งๆที่ทุกอย่างมันกำลังเป็นไปได้ดีแต่ไม่ว่ายังไง เรื่องราวพวกนั้นมันก็ยังคงฝังอยู่ในใจของผม และถูกปลุกขึ้นมาทุกครั้งที่หลับตาลง ถูกปลุกขึ้นมาทุกครั้งที่เริ่มทำเรื่องแบบนั้นแม้จะเป็นกับคนที่ผมรักอย่างฟานก็ตาม

   เงยหน้ามองตัวเองในกระจก น้ำตาที่เริ่มไหลอาบแก้มผมเกลียดภาพพวกนั้น ภาพที่บางทีก็ฉายขึ้นมาในกระจกเงาตรงหน้าผม ภาพที่คนพวกนั้นกระทำกับร่างกายของผมด้วยความน่ารังเกียจ ขาของผมเริ่มถอยหลังด้วยความกลัว แววตาสั่นๆของผมมือเอื้อมคว้าเอาที่ใส่ของที่ตั้งอยู่หน้ากระจกไว้แน่น ง้างมือจะขว้างให้ภาพพวกนั้นมันหายไป แต่ทว่าในตอนนั้นเองฟานก็เดินเข้ามาในห้องน้ำนั้นเสียก่อน เค้าเดินมากอดผมไว้จากด้านหลัง ค้ำหน้าลงบนไหล่ก่อนจะหอมแก้ม ภาพตรงหน้ากระจกนั้นเปลี่ยนไป มันเป็นไปมีแค่เค้ากับผมเท่านั้น ฟานหยิบของออกจากมือ

“ คีย์ " เสียงทุ้มที่เอ่ยเรียก ผมก็ผ่อนลมหายใจออกมา

“ ขอโทษที ฉัน ..”

“ ไม่ต้องพูดหรอก " ยิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกแล้วเค้าเองก็ต้องรู้สึก อย่าที่ผมเคยบอกเรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่อยู่ในใจของฟานไปตลอดเหมือนตราบาปของเค้าที่ทำไว้กับผม เป็นเรื่องที่ผมเองไม่ต้องทำอะไรเค้าก็เหมือนได้รับผลจากสิ่งที่เค้าทำอยู่แล้ว ยิ่งผมอยู่ใกล้ๆ ยิ่งเค้าอยากจะให้ผมกลับมาเป็นเหมือนเดิมเท่าไหร่เค้าก็ยิ่งเจ็บปวดเท่านั้น เจ็บโดยที่ผมไม่ได้ทำอะไรเลย .. แต่ถึงอย่างงั้น ทั้งผมทั้งเค้าเราก็เจ็บมันไปด้วยกันทั้งคู่ 

   เค้ามองผมผ่านทางกระจกบานที่กำลังฉายร่างของเราที่กำลังกอดกันอยู่ ผมยิ้มจางๆ " อาบน้ำแล้วไปข้างนอกกันดีกว่า วันนี้นายสัญญากับฉันแล้วนะว่าจะไปด้วยกัน "

“ อื้ม " ผมพยักหน้ารับฟานก็ปล่อยมือจากเอวของผม เค้าเอื้อมมือไปหยิบแปรงสีฟันแล้วบีบยาสีฟันส่งมาให้ผม ก่อนจะจัดการของตัวเอง เราแปรงฟันพร้อมๆกัน ตรงหน้ากระจกที่ตอนนี้ก็เห็นเพียงแค่เค้า

   น้ำตาของผมไหลออกมา ไม่รู้ทำไม แต่หยุดน้ำตาของตัวเองให้ไหลไม่ได้เลยทั้งๆที่ทุกอย่างกำลังไปได้ดีแล้วแท้ๆแต่ผมกลับยังคงคิดถึงแต่เรื่องพวกนั้น เรื่องที่ไม่อยากจะคิดถึงอีก

“ ไม่ต้องร้องไห้ ไม่เป็นไร ฉันจะอยู่ข้างๆนาย จนกว่านายจะลืมสิ่งที่ฉันทำ ฉันจะรับผิดชอบมัน ฉันจะอยู่กับนายจะไม่ทิ้งนายไม่ไหน " เค้าบอกก่อนจะเอื้อมมือมาเช็ดน้ำตาให้ผม ฟานก้มลงบ้วนปาก แล้วผมเองก็ป้วนตาม

“ ฉันรู้สึกว่าว่า ฉันมันสกปรก " ผมบอกแบบนั้นฟานก็มองก่อนจะเอื้อมมือหยิบผ้าขนหนูมาเช็ดปากตัวเองก่อนจะเช็ดให้ผม เค้าที่ก้มลงมาจูบเบาๆก่อนจะผละริมฝีปากออก

“ อย่าพูดแบบนี้ นายไม่ได้สกปรกอะไร " เค้ายิ้ม " แค่เหม็นนิดหน่อย แต่ถ้าอาบน้ำแล้วก็คงหอมเหมือนเดิม " ผมหลุดยิ้มออกมาฟานยิ้มจางๆก่อนจะยกมือขึ้นทัดหูผม " ขอโทษนะคีย์ ขอโทษนะฉันทำมันอีกแล้ว ฉันไม่น่าเลย ทั้งๆที่ฉันต้องทำให้นายลืม แต่มันเป็นเพราะฉันทุกครั้งที่ทำให้นายต้องคิดขึ้นมา "

“ เราแค่ต้องผ่านมันไปด้วยกัน " มือของผมประคองหน้าเค้า ใบหน้าที่กำลังเศร้านั้น ผมเองก็ไม่รู้ว่าเราจะตกอยู่ในความรู้สึกแบบนี้อีกนานเท่าไหร่ ความรู้สึกที่เราทั้งคู่ก็อยากจะลืมมันไป และมีทางเดียวที่ทำได้คือการพยายามไม่พูดถึงและไม่ยืดเยื้อกับความรู้สึกเศร้าๆแบบนี้อีกต่อไป เมื่อคิดถึงก็คือคิดถึงแต่ก็ต้องพยายามลืมให้เร็วที่สุดเพื่อตัวผมเอง " นายออกไปข้างนอกก่อน ฉันจะได้อาบน้ำ จะได้หอมๆไง "

“ แล้วนายจะไม่..”

“ ฉันโอเค ฉันต้องพยายามที่จะลืมแล้วอยู่กับมันให้ได้สิ ต้องเผชิญหน้ากับมัน " ผมยิ้มให้เค้า ฟานที่เดินนิ่งอยู่สักพักเค้าที่ยังไม่เดินไปไหนเพราะคงยังกังวลเรื่องความรู้สึกของผม " นายออกไปได้แล้ว ฉันจะอาบน้ำเราจะได้ออกไปซื้อของกันไง " คำพูดที่ทำให้อีกฝ่ายพยักหน้ารับ ฟานออกไปจากห้องน้ำแต่โดยดี ผมเองก็ผ่อนลมหายใจออกมาเหลือบมองกระจกเงาที่ก็มีแต่ตัวเองอยู่ในนั้น พยายามหลับตาไม่มองภาพที่ค่อยๆฉายความน่ากลัวนั่นออก  พยายามลืมแล้วเบี่ยงเบนตัวเองให้คิดเรื่องอื่นและเริ่มอาบน้ำให้เร็วที่สุด

   เราสองคนออกจากคอนโดตอนเกือบเที่ยงวัน ห้างใหญ่ใจกลางเมืองมีผู้คนเยอะแยะในวันหยุดอย่างที่ผมนึกจินตนาการเอาไว้ ร้านอาหารที่เต็มทุกร้านเพราะติดช่วงเที่ยง เราออกมาเดินซื้อของกันก่อนฆ่าเวลารอให้คนในร้านอาหารว่างกว่านี้เสียหน่อย ของที่ฟานพาผมมาซื้อวันนี้ผิดไปจากคาดที่คิดว่าน่าจะเป็นเสื้อผ้า แต่เปล่าเลย ฟานมาซื้อน้ำหอม น่าแปลก ผมคิดว่าฟานไม่่ใช้น้ำหอม คิดว่ากลิ่นตัวอุ่นๆที่ชอบกอดเป็นกลิ่นประจำตัวของอีกคนอยู่แล้วซะอีก

“ นายว่ากลิ่นไหนหอม "

“ ฉันไม่ค่อยมีความเห็นเรื่องกลิ่นของน้ำหอมหรอก " ผมบอก " ปกติฉันไม่ใช้ แล้วก็ไม่ชอบน้ำหอมกลิ่นแรงๆด้วย " ปกติเป็นคนไม่ใช่น้ำหอมอยู่แล้ว ได้กลิ่นน้ำหอมฉุนๆที่ไรก็รู้สึกหายใจไม่ออกทุกที " นายใช้น้ำหอมกลิ่นเดิมก็ดีนะ ฉันว่ามันก็หอมดี ไม่ฉุนมาก "

“ ก็คิดว่างั้นแค่อยากเปลี่ยนบ้าง นายไม่มีกลิ่นที่นายชอบบ้างรึไง "

“ นายใช้แล้วมันเกี่ยวอะไรกับที่ฉันชอบละเนี้ย " ผมบอกก่อนจะยื่นมือไปรับเทสเตอร์ของพนักงานที่ยื่นน้ำหอมกลิ่นนึงมาให้ดม มันเป็นกลิ่นหอมอ่อนๆ คล้ายๆกับกลิ่นที่ฟานใช้ " กลิ่นนี้หอมดี แต่คงคล้ายๆกับของนาย " ผมยื่นเทสเตอร์สะบัดไปมาตรงปลายจมูกอีกคนฟานซี่ก็ยกยิ้ม

“ ไม่คล้ายได้ไง นี่เป็นกลิ่นที่ฉันใช้ตอนนี้ " ขมวดคิ้วดมอีกทีเหมือนในมือมันจะหอมกว่าหน่อยๆ " น้ำหอมพอมันผสมกับกลิ่นตัวคนมันจะเป็นอีกกลิ่นนึง "

" เหรอ งั้นก็เป็นขวดเดิมก็ดีนะ ดมแล้วสบายใจดี " ผมยิ้มให้เค้าอีกคนก็หันไปสั่งพนักงานแล้วยื่นบัตรเครดิตไปให้ กลิ่นของฟานสำหรับผมมันเป็นกลิ่นที่ดมแล้วอบอุ่น อุ่นใจ เป็นความรู้สึกหลายๆอย่างที่อบอวลอยู่ในความรู้สึกเหมือนพอได้กลิ่นนี้จากเค้าตอนที่อยู่ใกล้ๆก็รู้สึกสบายใจอย่างประหลาด แต่เป็นแบบนี้มานานแล้ว

" นายจะใช้สักขวดมั้ย ฉันซื้อให้ "

" ไม่เอาอะ ฉันไม่ชอใช้น้ำหอมเท่าไหร่ " ผมส่ายหน้าบอก แต่อีกคนก็ยังดึงดันให้เดินไปดูน้ำหอมเค้าเตอร์แบรนด์ของผู้หญิงข้างๆ ฟานกระซิบ " วันก่อนฉันได้ดมเทสเตอร์ของมัน หอมดี “ เทสเตอร์น้ำหอมตัวที่อีกคนชอบ ถูกส่งมาให้ผมที่ก็พอดมดูแล้วก็หอมดีนะ เหมือนขนมหวานผสมดอกไม้ที่หอมอ่อนๆ " หอมมั้ย "

" ก็หอมดี แต่ฉันไม่ใช่น้ำหอม ครีมอาบน้ำที่ใช้อยู่มันก็หอมติดผิวอยู่แล้ว "

" ฉันซื้อให้เอาเถอะน่า ขวดนึงครับ " ประโยคหลังเค้าบอกพนักงานที่ก็พนักหน้ารับ

" คะยั้นคะยอกันจริงๆเขียว "

" ฉันชอบ ฉันอยากจะให้กลิ่นแบบนี้มันติดอยู่ที่ตัวนาย " เค้าบอกก่อนจะหันมายิ้มให้ผม " รู้สึกน่ากินดี "

" น่าเกลียด " ผมเหลือบมองซ้ายขวาโชคดีที่ไม่มีใครอยู่แถวนี้ ฟานที่หลุดหัวเราะออกมาเสียงดังเค้าเดินไปดูน้ำหอมขวดอื่น ผมเองก็หยิบนู้นนี่ทำเป็นไม่สนใจ ทำเป็นไม่รู้จักก่อนจะถูกดันไหล่แซวๆ รอยยิ้มของเราทั้งคู่ที่กำลังหัวเราะก่อนจะเสียงของผู้หญิงคนนึงจะเรียกฟานขึ้นมา เสียงที่ผมไม่คุ้น แต่พอหันไปมองดูก็ชวนให้รอยยิ้มที่เคยยิ้มกว้างกลับค่อยๆหดหายไปด้วยความตกใจไม่น้อยที่เจอ

" ฟาน.. " เธอเอ่ยคำพูดออกมา ร่างสูงที่ยืนข้างผมก็หดยิ้มลงพลางถอนหายใจออกมา

" พี่ฟิล์ม " ชื่อของคนคนนั้นหลุดออกมาจากปากเค้า " โลกเชี้ย ทำไมมันแคบจัง " เค้าบอกก่อนจะหันมาสนใจอย่างอื่น ผมในตอนนั้นถอยห่างออกไปจากเค้าไปดูของอย่างอื่นเพราะไม่อยากจะให้ผู้หญิงคนนั้นเห็น ผู้หญิงที่ผมยังคงจำได้ดี ผู้หญิงที่ครั้งนึงผมเคยอิจฉาเค้า อิจฉาที่เค้าทั้งสวย ดูดี และที่สำคัญเค้าเป็นเจ้าของคนที่ผมแอบชอบ ผู้หญิงที่เป็นภรรยาของหัวหน้า ' คุณฟิล์ม '

...............................................................

บางที จุดเริ่มต้นของบางอย่างก็เป็นจุดจบของบางสิ่ง
มีคนหลายคนถามว่า คีย์เป็นแบบนี้ไม่ไปหาหมอเหรอ
หมอรักษาไม่ได้ทุกโรคนะ การเยียวยาต้องใช้เวลา ถ้าความรู้สึกดีๆมันลบได้ง่ายๆ เหมือนดินสอที่มียางลบแล้วละก็
ตอนนี้คงไม่มีเรื่องเศร้าแล้วละ ใช่มั้ยละ
ฝากเรื่องนี้ไว้ในใจทุกคนด้วยนะคะ
ตอนนี้กำลังเร่งเขียนให้จบอยู่
ยังไงฝากแท็ก #ฟานคีย์ ในทวิตด้วยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์  :กอด1: :L2: :3123: :L1:

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
เหมือนโลกจะกลมเกินไปนะบางทึ สงสารฟาน ต้องทนเจ็บช้ำกับคนพวกนี้ไปอีกเท่าไหร่

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
อย่าบอกนะว่านางคือพี่สาวของฟานอ่ะ  งานเข้าอีกละ  ดราม่าเรื่องงนี้ไม่จบไม่สิ้น

ออฟไลน์ MENTA

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 77
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ดราม่าให้สุด เราคิดว่าเรายังไหว  :z6:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :katai1:

ไอ้หัวหน้าใช่ไหมมมมม

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
มันนนกำลังจะดีแล้ววว
ทำไมมมมทำไมมม
โลกแม่งแคบจิงๆด้วย
ม้ายยยยยยยย

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
โห โลกกลมมากกกกก

ออฟไลน์ nottto

  • MaxNuzz
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
ปมใหม่มาแล้ววว

ออฟไลน์ allmysecret

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ผู้ชายเหี้ยๆคนนั้น คือพี่เขยฟาน
น่ารังเกียจไปหมด

ออฟไลน์ LovEYouOnLy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 439
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
ฟานบอกว่าโลกแคบ แบบนี้มันยิ่งกว่าแคบอีกนะ  มันเหี้ยเลยล่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ alien.aiiwz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
โลกกลมพรหมลิขิตอะไรเบอร์นี้
พี่ของฟานก็คือภรรยาของอีตาหัวหน้า
โอ้โหมากเลย
นี่ว่าเรื่องครอบครัวฟานไม่จบง่ายๆแน่
นี่พี่ก็โผล่มาอีกล่ะ
เอาใจช่วย สู้เน้อ
 :กอด1:

ออฟไลน์ ่jjay

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 454
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-0
เอ๋า โลกแคบสมกับชื่อตอนจริงๆ  :katai1:

ฟานคีย์ต้องผ่านมันไปได้ :mew6:

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
บรรยากาศดี ต่างคนต่างเปิดใจมากขึ้น

ฟานทำได้ดี ไม่โกหก แถมมีแซวนะ
คีย์ก็น่ารัก พยายามได้ดี แอบมีนอยด์นิดๆ

เอิ่มมม แล้วฟานจะรู้ไหมว่า คนนั้นเป็นพี่เขย แต่ที่แน่ๆ คีย์รู้แล้ว โลกแคบจริงๆค่ะ

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5

ออฟไลน์ konjingjai

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +226/-4
โลกมันกลมเกินไป

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27

ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง
ตอนที่ 66
' ภรรยาหัวหน้า '

   รอยยิ้มของเราทั้งคู่ที่กำลังหัวเราะก่อนจะมีเสียงของผู้หญิงคนนึงเรียกฟานขึ้นมา เสียงที่ผมไม่คุ้น แต่พอหันไปมองดูก็ชวนให้รอยยิ้มที่เคยยิ้มกว้างกลับค่อยๆหดหายไปด้วยความตกใจไม่น้อยที่ได้เจอ

" ฟาน.. " เธอเอ่ยชื่อเรียกอีกคนออกมา ร่างสูงที่ยืนข้างผมก็หดยิ้มลงพลางถอนหายใจออกมา

" พี่ฟิล์ม " ชื่อของคนคนนั้นหลุดออกมาจากปากเค้า " โลกเชี้ย ทำไมมันแคบจัง " เค้าบอกก่อนจะหันมาสนใจอย่างอื่น ผมในตอนนั้นถอยห่างออกไปจากเค้าไปดูของอย่างอื่นเพราะไม่อยากจะให้ผู้หญิงคนนั้นเห็น ผู้หญิงที่ผมยังคงจำได้ดี ผู้หญิงที่ครั้งนึงผมเคยอิจฉาเค้า อิจฉาที่เค้าทั้งสวย ดูดี และที่สำคัญเค้าเป็นเจ้าของคนที่ผมแอบชอบ ผู้หญิงที่เป็นภรรยาของหัวหน้า ' คุณฟิล์ม '

“ ฉันได้ข่าวว่า เมื่อวานนายฝากข้อความผ่านเฟิร์นไปให้พ่อกับแม่เหรอ " เธอถามอีกคนก็ไม่ตอบ " มันเป็นคำพูดที่ดูไม่ดีเอาซะเลยนะ ไม่เป็นผู้ใหญ่เลย " ฟานเงียบไปตอบอะไร เธอก็ถอนหายใจออกมาก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ " ยังไงเค้าก็เป็นพ่อแม่ของนายพ่อให้กระทำการแบบไหนที่เธอไม่ชอบเค้าก็คือพ่อแม่นาย คนที่เกิดนายมา เค้ามีบุญคุณแล้วช่วยชุบเลี้ยงให้เธอมีเงินกินเงินใช้อยู่ในทุกวันนี้ "

“ เมื่อวานฉันบอกเฟิร์นไปว่า ฉันไม่ได้ขอร้องให้เค้าเกิดฉันออกมา " ร่างสูงหันไปบอก " แล้วที่เธอควรรู้ไว้ เงินทุกบาททุกสตางค์ตั้งแต่ที่ฉันถูกส่งให้มาอยู่กับตากับยาย เงินที่เลี้ยงดูฉัน ส่งฉันเรียนหนังสือ มันคือเงินของตากับยาย เค้าไม่ได้ส่งเงินมาให้ฉันแม้สักบาทเดียว " เธอเงียบไป " ธุระของบ้านนั้นมันไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน พวกเธอไม่เคยสนใจแล้วไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตของฉันตั้งนานแล้วทำไมพอมีปัญหาถึงมาคิดถึงตัวซวยอย่างฉันละ ไม่กลัวเหรอ ไม่กลัวว่าพอฉันกลับเข้าไปจะยิ่งแย่เหรอ แล้วเลิกติดต่อฉันสักทีเถอะ เลิกมาวุ่นวายกับชีิวิตฉันสักที ทำอย่างที่เคยทำสิ ชีวิตใครก็ชีวิตมันทิ้งแล้ว ตัดแล้ว ก็ตัดให้ขาดไป ทำให้ได้อย่างที่เคยทำสิ ไม่ใช่พอลำบากแล้วหน้าด้านมาขอความช่วยเหลือ ฉันไม่ให้ มันไม่ใช่ธุระของฉันเหมือนกัน "

   ประโยคสนทนาที่ทำให้ผมยิ่งรู้สึกมั่นใจเข้าไปอีกว่า ภรรยาหัวหน้าคงไม่ใช่แค่คนที่ฟานรู้จักทั่วไปหรอก แต่คงเป็นพี่สาว พี่สาวแท้ๆของฟานเอง แต่ที่น่าแปลก ถ้าเป็นแบบนั้นฟานเองก็เคยเจอหัวหน้าแล้ว แต่ทำไมเค้าถึงดูเหมือนไม่รู้จักหัวหน้ามาก่อนเลย เหมือนไม่รู้ว่า ผู้ชายคนนี้เป็นพี่เขยของตัวเอง

“ นายว่่าฉัน เหมือนวันนี้ฉันตั้งใจมาหานายเลยนะ " เธอบอก " ฉันไม่ได้ตั้งใจมาหานายสักหน่อย ก็แค่บังเอิญมาซื้อของกับครอบครัวแล้วเจอ ก็เลยทักก็แค่นั้น" คำพูดที่ทำให้ผมรีบมองซ้ายมองขวาเสียทันทีแต่ทว่าตัวเองก็ไม่พบกับหัวหน้าในบริเวณใกล้ๆที่ได้เห็น " แล้วนายมากับใคร คนเดียวเหรอ "

“ เปล่า มากับแฟน แต่ว่าจะกลับละ ไปกินข้าวที่อื่นดีกว่า เดี๋ยวถ้านั่งกินอยู่แล้วเจอพี่ผมคงต้องอ้วกออกมาแน่ๆ " ฟานบอกก่อนจะหันมองซ้ายขวาเหมือนหาตัวผมว่าอยู่ไหน ผมที่หลบอยู่หลังเค้าเตอร์เครื่องสำอางอีกฝั่งทำเป็นไม่เห็น มองดูนู้นนี่นั่นไปเรื่อยเหมือนกำลังเลือกซื้อของ

“ แล้วจะไม่คิดแนะนำ แฟนให้พี่รู้จักเลยรึไง "

“ คิดว่าไม่จำเป็น เพราะเราคงไม่เกี่ยวข้องอะไรกันอยู่แล้ว " ร่างสูงว่าเค้าเดินตรงเข้ามาหาผม มือที่คว้าเข้าที่แขนตอนที่กำลังจะเดินออกไป เธอก็เอยเรียกชื่อผม

“ คีย์ " เหมือนทุกอย่างถูกสั่งนิ่งแม้แต่ฟานที่กำลังดึงให้ผมเดินไปเค้าก็หยุดนิ่งก่อนจะหันมามองพี่สาวตัวเองที่เอ่ยเรียกชื่อผม ร่างสูงหันมองผมที่ก็มองเค้า ก่อนจะถอนหายใจแล้วหันไปมองคนที่เอ่ยเรียก ไม่ว่าจะหลบซ่อนยังไงก็ต้องเห็น เธอก้าวขาเดินเข้ามาใกล้เรา " คีย์ คีย์เป็นแฟนนายเหรอฟาน "

“ พี่รู้จักแฟนผมได้ยังไง " เค้าถามเธอก่อนจะหันมามองผม " นายรู้จักพี่สาวฉันด้วยเหรอ "

“ อื้ม " ผมพยักหน้ารับ " เธอเป็นภรรยาของหัวหน้า "

“ ภรรยาของหัวหน้า หัวหน้านายน่ะเหรอ " ฟานถามอีกครั้ง

“ ใช่.. คนที่แฟนนายชอบแล้วก็เอาแต่เล่นหูเล่นตายั่วยวนเค้าในที่ทำงานไง " พี่สาวของฟานเสริมผมก็มองหน้าเธอ ที่ก็ยกยิ้มแล้วหันไปมองหน้าน้องชายตัวเอง " ฉันหวังว่านายคงตาสว่างแล้วรู้อยู่แล้วละนะ ว่าผู้ชายคนนี้เค้าเคยนอกใจนายมายุ่งกับหัวหน้าตัวเอง แต่นายคงไม่รู้สินะ ว่าเค้าเป็นสามีฉัน "

“ ผมไม่เคยยั่วยวนสามีคุณ " ผมบอกเธอก็ยกยิ้มก่อนจะหันไปอื่น

“ สามีฉันบอกความจริงกับฉันหมดแล้วเรื่องภาพนั่น แล้วก็บอกว่าด้วยว่าทำไมตัวเค้าถึงถูกไล่ออก " เธอเหลือบมองน้องชายของตัวเองท่าทางที่ดูเหมือนว่าเธอรู้ทุกอย่างและรู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่าผม ที่ในความคิดเธอ เธอคงเห็นว่าผมกรุข่าวต่างๆนานาหลอกฟานไว้ " แต่ดูท่าว่ามันคงจะเป็นคนละเรื่องกันละมั้ง ไม่อย่างงั้นฟานคงไม่โง่คบกับนายอยู่หรอก จะให้บอกความจริงนายมั้ยละ "

“ ผมไม่รู้ว่าคุณรู้อะไร เพราะไม่รู้ว่าหัวหน้าบอกอะไรคุณเกี่ยวกับตัวผม เกี่ยวกับภาพที่คุณคงเห็น เค้าก็ต้องอธิบายคุณ แต่ผมไม่ได้โกหก ฟานเค้ารู้ดีอยู่แล้ว ว่าผมทำอะไรแล้วก็ผิดยังไง ผมบริสุทธิ์ใจเพราะผมพูดความจริง และไม่กลัวเรื่องที่คุณจะเล่าให้เค้าฟังด้วย " บอกเธอไปแบบนั้นอีกคนที่จ้องมองผมตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า

“ เป็นเกย์ก็ว่าแย่แล้วนะฟาน แบบนี้ถ้าพ่อแม่รู้คงไม่ได้อยากจะเอาแกกลับไปอยู่เป็นครบอครัวเดียวกันแล้วละ เพราะเราคงอายมากที่มีหนึ่งในครอบครัวเป็นแบบนี้ หนำซ้ำคนที่ได้ชื่อได้ว่าเป็นแฟนของนาย ยังสมัครใจมาเป็นเมียน้อยของผัวฉันอีก ฉันไม่วันยอมหรอก "

“ เออ งั้นก็ดีจะได้เลิกยุ่งกันสักที รำคาญ " ร่างสูงบอกก่อนจะคว้ามือผมให้หันหลังจะเดินหนีพี่สาวของเค้าเอง แต่ยังไม่ทันเดินไป คุณธีร์สามีของพี่สาวฟานก็เดินตรงเข้ามาก่อน เค้าชะงักตอนที่เห็นผม ใบหน้าที่ตกใจของเค้าฟานยกยิ้มก่อนจะหันไปบอกพี่สาวตัวเอง

“ นี่น่ะเหรอ สามีเธอ " เค้าเชิดหน้าไปทางหัวหน้าที่ก็รีบเดินสาวเท้าเข้ามาใกล้ " ขอโทษด้วยนะตอนที่แต่งงานเมื่อสี่ปีก่อนฉันไม่ได้ไปร่วมแสดงความยินดีน่ะ พอดี ฝ่ายเจ้าสาวเห็นว่าลูกชายคนนี้มันเป็นตัวซวยก็เลยไม่ถูกชวนนะ แต่โลกกลมจังเลยนะว่ามั้ย " เค้าหัวเราะก่อนจะก้มลงกระซิบอะไรสักอย่างกับพี่สาวของเค้า " แล้วไว้ฉันค่อยเล่าให้ฟังต่อนะ "

“ เล่าอะไร!! “ หัวหน้าตะโกนขึ้นมาด้วยความตกใจ " พวกมันเล่าอะไรคุณ แล้วคุณไปฟังอะไรเค้า คุณเชื่อพวกมันมากกว่าผมเหรอ คุณเชื่อเรื่องอะไร คุณต้องเชื่อผมสิ ผมพูดความจริงกับคุณนะ " เค้าที่เลิกลั่กเกิดกว่าเหตุทำให้ภรรยาของเค้าเองมองเค้าแบบไม่เชื่อสายตาเท่าไหร่ หัวหน้าหันมาหาเรา " พวกมึงเล่าอะไร!!!”

“ ตกใจอะไรวะ ยังไม่ได้เล่าอะไรเลย " ฟานบอก ก่อนจะหัวเราะในคอ " ปิดบังอะไรอยู่เหรอ หลอกอะไรเมียละ เป็นวัวสันหลังแหวะรึไงน่ะ แปลกจังนะ แฟนผมที่พี่บอกว่ากรุเรื่องขึ้นมา เค้ายังไม่กลัวเวลาที่พี่พูดขู่ออกมาแบบนั้นเลย แต่ทำไมผัวพี่ ที่พี่บอกว่าพูดความจริง ถึงกลัว ขนาดนี้น้า .. หรือว่าเรื่องที่พูดมันจะไม่ใช่ความจริง "

" มึง!!” หัวหน้านิ่งเค้าถลึงตาใส่เราก่อนจะมองภรรยาตัวเองสลับกับพวกเรา  ฟานเอียงหน้าพูดกับพี่สาวของเค้าด้วยรอยยิ้มก่อนที่เราจะเดินออกมา

" แต่ถ้าอยากฟังว่าทำไม ผัวพี่ถึงกลัวพวกผมจะพูดขนาดนี้ ก็โทรไปนะเดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง เพราะคีย์น่ะเค้าไม่กลัวเรื่องที่พี่จะเล่าอยู่แล้ว "

“ มันโกหก เธอไม่ต้องไปฟังมัน มันจะใส่ร้ายฉัน มันจะทำให้รักของเราพัง มันจะทำให้ครอบครัวของเราพัง " เค้าบอกกับภรรยาของเค้าแบบนั้น เธอที่มองเราอยู่ก็ตะโกนบอก

“ ฟาน! คิดว่าคบกับคนคนนั้นมันดีแล้วเหรอ เค้านอกใจนายนะ! เค้าโกหกนาย! "

“ ผมมั่นใจว่าคีย์ไม่ได้โกหกผม " ฟานหยุดเดินก่อนจะหันไปตอบ " แล้วพี่ละ มั่นใจรึเปล่าว่าผัวพี่เค้าจะไม่ได้โกหกพี่ "

   เราเดินห่างออกมาจากพวกเค้า ผมหันมองหน้าคนที่ไม่แสดงความรู้สึกอะไร ฟานได้แต่นิ่งแล้วเดินออกมาให้ไกลจากตร
งนั้น เราเดินออกจากห้างไม่ได้แวะกินอาหารกลางวันอย่างที่ตั้งใจกันเอาไว้ตั้งแต่ทีแรก

“ ไปกินข้าวที่อื่นกันดีกว่า " เค้าบอกผมสั้นๆ เราก็เดินขึ้นรถไฟฟ้าที่อยู่ตรงหน้าห้าง เดินทางมาอีกห้างนึงที่อยู่ไม่ไกลกันนัก

“ ฟาน " ผมดึงมือเค้าให้หันหน้ามาเผชิญหน้ากับผม แววตาที่ไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไร ผมไม่รู้ว่าเค้าคิดอะไรอยู่ ไม่รู้ว่าเค้าคิดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนั้น เรื่องที่อยู่ๆผมก็กลายเป็นคนที่เคยนอกใจไปกับพี่เขยเค้าแล้วทำให้พี่สาวเค้าต้องเสียใจ " ฉัน..”

“ รู้สึกผิดเหรอ " เค้าถาม " นายรู้สึกผิดเหรอ ที่อยู่ๆหัวหน้าที่นายเคยนอกใจฉันไปชอบกับเค้า กลายมาเปนพี่เขยฉันซะงั้น "
“ อื้ม " สารภาพเค้าออกไปตามตรงอีกคนก็ยกยิ้ม

“ ฉันไม่ได้เห็นเค้าสำคัญอะไรหรอก ไม่ต้องกังวล ความเจ็บยังเท่าเดิมนั่นแหละ ไม่ได้เพิ่มขึ้น " ฟานมองหน้าผม " ไม่ต้องคิดมากหรอกฉันไม่ได้เห็นเค้าเป็นพี่เขยอยู่แล้ว และฉันก็ไม่ได้เห็นว่าเธอคนนั้นเป็นพี่สาวอะไร ฉันไม่แคร์หรอกว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเธอ เพราะถ้ามีใครสักคนที่แคร์ ฉันแคร์นายที่คิดมากอยู่ตอนนี้มากกว่า "

“ ฟาน " ผมยิ้มให้เค้าอีกคนก็เอื้อมมือมาลูบหัว

“ ไม่ต้องคิดมาก ฉันไม่รู้สึกอะไรหรอก " ฟานบอก แววตาที่จ้องมองผมเหมือนกับเสียใจอยู่ลึกๆ ทุกครั้งที่เค้าเห็นผู้ชายคนนั้นเค้าก็ยังคงคิดถึงเรื่องราวพวกนั้น เรื่องที่ผมเคยนอกใจเค้า แม้ปากจะบอกว่าเค้าไม่ได้เจ็บเพิ่มขึ้นจากสิ่งที่รู้วันนี้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเค้าจะไม่เจ็บกับสิ่งที่มันเป็นอยู่แล้ว  " ไปกินข้าวเถอะ ฉันหิวละ "

“ อื้ม แล้วนายอยากจะกินอะไรละ " 

“ อยากกินพิชซ่า แฮมเบอเกอร์ แล้วก็ตบด้วยเป็ปซี่ซ่าส์ๆแก้วใหญ่ๆ " คำพูดที่เหมือนจินตนาการฟานดึงมือผมให้เดินตามเค้าไป " ไปกินกันเถอะ "

   ร้านอาหารที่อยู่ตรงโซนชั้นบนของห้าง เราเดินเข้าไปนั่งตรงมุมในสุดของร้านที่เป็นโซฟากลมที่ทำให้เราได้นั่งอยู่ข้างๆกัน ฟานสั่งอาหารที่เค้าอยากจะกิน เป็นพิซซ่าถาดกลางที่มีสองหน้าคือซีฟู๊ดของเค้าและชีสของผม แฮมเบอร์เกอร์หมูชิ้นโต แล้วก็แป็ปซี่ พนักงานร้านรับรายการอาหารก่อนจะเดินออกไป  ผมมองไปรอบๆก่อนจะมีมือนึงเอื้อมมาจับมือผมเอาไว้ฟานที่กำลังเล่นมือถือทำเป็นไม่สนใจอะไร ผมยิ้มก่อนจะบีบมือเค้าเบาๆตอบรับการจับนั้น

“ นานแล้วเหมือนกันนะ ที่เราไม่ได้นั่งข้างกันแบบนี้ "

“ อื้ม นานแล้ว " ตั้งแต่ที่ฉันนอกใจนายไปหวั่นไหวกับคนอื่น ตั้งแต่ตอนนั้น

   เอาจริงๆผมเองก็อยากจะลืมเรื่องราวตรงนี้ไป ลืมว่าตัวเองเคยนอกใจเค้า เพราะการที่เรามัวแต่คิดถึงสิ่งที่ผิดพลาดไปแล้วนั่นไม่ใช่สิ่งที่ดีอะไร ถ้าอยากจะเดินหน้าใหม่ก็ไม่ควรไปคิดถึงมัน แต่ก็เหมือนผมจะทำไม่ได้ ผมนอกใจเค้านั่นคือเรื่องจริง แล้วเพราะการนอกใจทำให้เป็นต้นเหตุของการเกิดปัญหานั่นก็คือเรื่องจริง

    ครืน ครืน

   เสียงโทรศัพท์มือถือของผมดัง หยิบมันออกมาดูก็พบว่าเป็นข้อความจากเบอร์โทรศัพท์ของคนที่ไม่คิดว่าเค้าจะส่งข้อความมา " หัวหน้า " ผมพูดเสียงเบาๆกับตัวเองก่อนจะเปิดล็อคหน้าจอดูข้อความพวกนั้นที่ส่งเข้ามา " ฟาน "

“ หื้ม ? “

“ หัวหน้าส่งข้อความมาให้ฉัน ดูสิ " ผมยื่นมือถือไปให้อีกคนดู ฟานยกยิ้มก่อนจะสถบออกมา

“ ไอ้เชี้ย " ข้อความที่ไม่ยืดยาวอะไร เค้าบอกเพียงแค่ว่า ' ถ้านายอยากจะมีชีวิตอยู่กับผู้ชายคนนั้นอย่างสงบสุขก็อย่ามายุ่งกับเรื่องของฉัน ฉันจะเลิกยุ่งกับนายถ้านายเลิกยุ่งกับฉัน อย่าคิดพูดอะไรกับภรรยาของฉัน เพราะถ้านายพูดฉันจะทำให้ชีวิตของนายต้องล้มจม อย่างที่คาดไม่ถึงเลยละ '

“ ฉันควรทำยังไงดี "

“ ก็ทำอย่างที่เค้าบอก " ฟานบอก คิ้วที่ขมวดกันของเค้าเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่สักอย่าง " นี่แสดงว่ามันคงโกหกพี่สาวฉันไว้เยอะเลยสินะ เกี่ยวกับเรื่องภาพหลุดพวกนั้น เรื่องที่ทำให้ตัวเองต้องโดนลาออกจากงาน แต่ฉันว่าพี่สาวฉันคงไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับคลิปหลุด มันก็เลยกลัว "

“ นายไม่คิดจะบอกพี่สาวนายจริงๆเหรอ " ผมถามเค้า " คือต่อให้เป็นยังไง ฉันว่านั่นก็พี่สาวนาย "

“ บอกเพื่อให้นายมีปัญหาน่ะเหรอ " เค้าถาม " ถ้าการเป็นคนดีแล้วต้องทำให้เราต้องเดือดร้อน นายจะเป็นคนดีไปทำไม "

“ แต่ ฉันก็แค่สงสารเธอ "

“ อย่าเสี่ยงอันตรายเพราะคนที่เค้าไม่ได้รักเราเลย นายมีความสุขมากเหรอไงทุกวันนี้น่ะ ถึงจะเอาความทุกข์ความกังวลมาแขวนคออีก "

“ แล้วนายจะให้ฉันตอบเค้าว่าอะไรละ " ฟานแคบหน้าจอมือถือที่มีข้อความของผม ส่งเข้ามือถือของเค้า

“ ไม่ต้องตอบ ปล่อยมันไปอย่างงั้น ทำเหมือนไม่ได้รับข้อความอะไร "

“ ขออนุญาติเสิร์ฟอาหารค่ะ " เมนูอาหารที่่สั่งถูกทยอยเอาเข้ามาเสิร์ฟ กลิ่นอาหารโชยขึ้นชวนให้กินแต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกอยากจะกินอะไรแล้ว

   ในความรู้สึกตอนนี้คือก็อยากบอกเค้าว่าเค้ากำลังถูกหลอก แต่ก็เห็นด้วยกับฟาน ทุกวันนี้ไม่ได้มีความสุขมากที่จะเอาความทุกข์มาแขวนคอหรอก ชีวิตที่เพิ่งผ่านเรื่องร้ายๆยังไม่ทันจะได้พักก็เหมือนจะต้องมาคอยระแวงชีวิตเพราะทำตัวเป็นคนดี อีกอย่างผมเองยังไม่รู้เลยว่าถึงจะบอกเธอไป เธอจะเชื่อรึเปล่า เดี๋ยวก็หาว่าผมใส่ร้ายสามีผู้แสนดีของเธออีก

" น่าหงุดหงิดชะมัด คนจะกินให้อร่อยยังเสือกมาทำให้กูหงุดหงิดอีก " ฟานบ่น เค้าเอื้อมมือไปหยิบพิซซ่ามางับเข้าไปเต็มคำ " แต่เอาจริงๆฉันก็อยากจะบอกนะ แต่ไม่ใช่เพราะฉันหวังดีกับพี่สาวฉันหรืออะไรพวกนั้นหรอก ฉันก็แค่ไม่ชอบตอนที่เธอเห็นนายแล้วพูดว่าทำไมฉันมาคบกับคนแบบนี้มากกว่า ฉันก็เลยบอกความจริงเค้า แต่ไอ้เหี้ยนั่นก็ดันเสือกส่งข้อความมาขู่ซะก่อน ลำพังฉันมันไม่เท่าไหร่หรอก แต่นายนี่สิ ถ้าต้องให้นายต้องอยู่แบบกลัวๆอีก ฉันก็ไม่อยากจะให้มันเป็นแบบนั้นแล้ว มันพอแล้วสำหรับนาย อย่าไปสนใจเลย เราอยู่แบบนี้แล้วทำตัวให้มีความสุขดีกว่า " ผมยิ้มออกมาตอนที่เค้าพูดออกมาแบบนั้น

“ ฟาน " ผมหยิบทิชชู่เช็ดปากให้เค้าก่อนจะจูบลงไปลงริมฝีปากอีกคนก็นิ่งก่อนจะหลุดยิ้มออกมา " ขอบคุณนะ ที่คิดถึงฉัน "

“ ฉันจะพยายามปกป้องนาย แล้วดูแลนาย ทดแทนที่ฉันเคยทำ..."

“ อื้ม ฉันรู้ กินกันเถอะ ไม่ต้องพูดแล้ว " ผมห้ามเค้าไว้ ไม่ต้องพูดก็รู้ว่าอีกคนจะพูดเรื่องอะไร

   เราไม่ได้ลืม ไม่ได้คิดว่าความผิดที่ก่อขึ้นมันจะถูกลบล้างได้ง่ายๆ แต่ทุกวันนี้สิ่งที่ทำได้คือพยายามทำให้ทุกอย่างมันดีขึ้น ดีขึ้นจากแต่ก่อนที่เคยเป็น ผมรู้ว่าผมดูโง่ ที่ให้โอกาสคนคนนี้เข้ามายุ่งเกี่ยวในชีวิตอีก และถ้าวันนึงเกิดทำอะไรให้เค้าไม่พอใจขึ้นมาอีก ผมก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะเป็นยังไง มันดูเสี่ยง โง่ คงไม่มีคนฉลาดที่ไหนเค้าทำ แต่ทั้งๆที่รู้ว่าความคิดของตัวเองมันโง่ ก็ไม่ยอมตัดใจไปหาคนใหม่

   อาจเพราะผมไม่ได้อยากจะได้คนอื่น ไม่ได้รักคนอื่น แต่ผมรักคนคนนี้แค่ฟาน เท่านั้น แม้ตอนทุกข์จะเจ็บเจียนตาย แต่ตอนที่สุขมากๆมันก็มี ใครๆอาจจะคิดว่าได้ไม่คุ้มเสีย สุขไม่คุ้มกับทุกข์ที่เจอ แต่สำหรับผมมันคุ้มนะ เพราะผมรักเค้า อาจจะดูโง่ที่มีเหตุผลแค่นั้น แต่ถึงแม้จะกลายเป็นคนที่ดูโง่ที่สุด ก็ยังรักเค้าอยู่ดี

“ เดี๋ยวกินเสร็จแล้ว ไปกินน้ำแข็งใสกันเถอะ " ผมบอกฟานที่ก็พยักหน้ารับ " เมื่อวานฉันเห็นลิปแชร์มาในเฟสบุ๊ค มันน่ากินมากเลย เราไปกินกันนะ "

“ ได้สิ " ฟานพยักหน้ารับ เรากินอาหารตรงหน้าจนเกือบหมด เหลือพิซซ่าครึ่งถอดให้ห่อกลับบ้าน ท้องที่กำลังตึงเราเดินออกไปจากร้านตอนที่กำลังเดินไปที่ร้านน้ำแข็งใสอยู่ๆ คนข้างๆผมก็หยุดเดิน

“ มีอะไรรึเปล่าฟาน "

“ พี่สาวฉัน ส่งข้อความมา " เค้าบอก ผมก็ยื่นหน้าเข้าไปดูข้อความที่ส่งเข้ามามันเป็นข้อความสั้นๆ ที่บอกว่า ' ฉันอยากจะรู้เรื่องราวทั้งหมดที่นายบอกว่าสามีของฉันโกหก ช่วยบอกฉันหน่อยได้มั้ย นัดวันที่ว่างมาได้เลยฉันจะไปหา ' ฟานปิดหน้าจอโทรศัพท์เค้าเอามือถือใส่กระเป๋าก่อนจะมองหน้าผม " เราจะไม่ยุ่ง เรื่องของเค้า "

“ อื้ม ถ้านายว่ายังไง ฉันก็ว่าอย่างงั้นละ "

“ ผู้ชายคนนั้นน่ะ น่ากลัว ถ้าพี่สาวฉันรู้ความจริงแล้วขอเลิกรากับเค้าขึ้นมา เค้าคงสรรหาทุกวิธีเพื่อมาทำร้ายนาย แล้วไม่แน่ก็อาจจะทำร้ายพี่สาวฉันด้วย " ร่างสูงว่าพลางถอนหายใจ " แต่เราอย่าไปยุ่งเลยนั่นมันครอบครัวเค้า เราอยู่ของเราไปแบบนี้ดีกว่า " สายตาที่ดูเหมือนจะไม่ได้เป็นไปอย่างปากพูดเท่าไหร่นัก ผมรู้สึกเค้าเหมือนจะเป็นห่วงพี่สาวเค้าอยู่นิดหน่อย แม้จะบอกว่าไม่สนใจก็เถอะ

“ แต่ฟาน มันดีแล้วเหรอ ที่เราจะปล่อยเค้าไปแบบนั้นทั้งๆที่เรารู้อยู่แล้วอาจจะเกิดอะไรขึ้นกับเค้า "

“ แล้วมันดีแล้วหเรอ ที่เรารู้ว่าอันตรายจะเกิดขึ้นกับเรา แต่เรายังไปเสี่ยง " ผมเงียบอีกคนก็ยกคิ้วมองผม " ฉันรู้ว่านายคงรู้สึกว่าฉันเป็นห่วงพี่สาวฉัน ก็ใช่ ฉันเป็นห่วงเพราะรู้ว่าผู้ชายคนนั้นเค้าเป็นคนยังไง แต่ถึงอย่างงั้นฉันก็เป็นห่วงนายมากกว่า อยากจะใช้ชีวิตแบบที่กลัวคนรอบข้างไปหมดเหรอคีย์ อยากจะใช้ชีวิตแบบที่ต้องระวังตัวตลอดเวลาเหรอไง แค่นี้มันยังไม่พออีกเหรอ ฝันร้ายของนายน่ะ " ผมเงียบเค้าก็ถอนหายใจ " เราจะไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก ถ้าพี่ฉันติดต่อมาอีก ฉันจะเป็นคนจัดการกับเค้าเอง "

“ อื้ม โอเค เราจะไม่พูดกันถึงเรื่องนี้อีก " ผมบอกเค้า " ไปกินน้ำแข็งใสกันเถอะ "

“ อื้ม " ผมพาเค้าเดินไปร้านน้ำแข็งใสที่อยู่ในชั้นโรงหนัง ร้านดังที่วันนี้คนมานั่งกินที่สาขาน้อยเกินคาด " น้ำแข็งใสอะไรนี่มันบิงซู "

“ เหมือนๆกันนั่นแหละน่า มันก็เย็นๆ ปั่นมาจากน้ำแข็งเหมือนกัน "

“ นายพูดเหมือนน้ำแข็งใสถ้วยสิบบาทใส่ของเชื่อมแล้วราดน้ำแดงกับนมข้นหวานอย่างงั้นอะ "

“ เอาน่า พูดมาก ไปนั่งที่โต๊ะที่ว่างฉันจะสั่งให้ นายอยากจะกินน้ำอะไรมั้ย "

“ ไม่อะ เอาน้ำเปล่าก็พอ "

“ โอเค " ผมพยักหน้ารับก่อนจะเดินไปสั่งบิงซูงแบบราดซอสสตอเบอรี่หนึ่งถ้วย แล้วก็พ่วงด้วยขนมชิ้นเล็กๆอีกชิ้น จ่ายเงินเรียบร้อยก็เดินเอาป้ายมาตั้งที่โต๊ะ " เรียบร้อย ฉันสั่งขนมมาด้วย "

“ นี่ยังไม่อิ่มอีกเหรอ "

“ ก็อิ่มแล้ว แต่ว่าฉันมีกระเพาะสำหรับของหวานน่ะ มันแยกจากกัน "

“ เพิ่งเคยได้ยินครั้งแรก ก็จากที่นายพูดนี่แหละ ว่ามนุษย์มีสองกระเพาะ" ฟานบอกก่อนจะก้มหน้าลงเลื่อนมือถือเล่นไปเรื่อย " นี่คีย์ "

“ หื้ม อะไร "

“ เมื่อไหร่นายจะขอวันหยุดยาว ลาพักร้อนได้สักทีละ "

“ ตอนนี้ฉันก็ลาได้นะ ทำไมเหรอ " ผมถามอีกคนก็เงยหน้าขึ้นมายิ้มๆ

" สักสิบวันนายลาได้มั้ย  ฉันว่าเราน่าจะไปเที่ยวพักผ่อนกันบ้าง "

" ไปเที่ยวเหรอ " ผมทวนคำพูดอีกคนก็พยักหน้ารับ

" ใช่  ไปเที่ยวฮอกไกโดกันมั้ย " คำถามที่ชวนให้ผมยิ้ม ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกดีขนาดนี้ แต่แค่รู้สึกมีความสุข มีความสุขที่เค้าจะชวนไปเที่ยวแล้วก็มีความสุขที่เราจะได้ไปเที่ยวด้วยกัน

“ ไปสิ " ไม่มีคำตอบอื่น ผมหยิบมือถือขึ้นมาเลื่อนดูวันที่ตัวเองจะลาได้ เพื่อวางแผนไปเที่ยวด้วยกันกับฟาน " เราจะไปวันไหนกันดีละ เดือนหน้า หรืออีกสองเดือนดี ถ้าไปฮอกไกโดฉันอยากจะไปช่วงที่มีหิมะน่ะ ฉันอยากจะไปเล่นหิมะที่ฮอกไกโด งั้นอีกเดือนนึงเราไปกันเลยมั้ย แต่ว่าฉันต้องขอลาพักร้อนก่อน แล้วก็ต้องบอกลิปด้วย เผื่อลิปอยากจะลาพร้อมกันกับฉัน " เสียงตื่นเต้นของผมทำให้ฟานหลุดยิ้ม

“ ไปสักปลายเดือนหน้าก็แล้วกัน มันมีตั๋วโปรอยู่พอดี นายไปขอลางานมา พอได้วันลา ฉันจะได้จองตั๋วบิน โอเคมั้ย "

“ โอเคเลย " บิงซูถูกวางลงตรงหน้า ผมหยิบช้อนขึ้นมาอีกคนก็บอก

“ ถ่ายรูปก่อน อะ ยิ้ม "  ผมยิ้มให้เค้า ฟานก็หัวเราะ " ฉันไปซื้อเลนส์กล้องใหม่ดีกว่า จะได้ถ่ายรูปออกมาสวยๆ ซื้อโกโปรมั้ย เราจะได้ถ่ายรูปด้วยกันมันเล็กดีด้วย ถ่ายในน้ำก็ได้ "

“ แล้วแต่ ได้ทั้งนั้นอะ แต่นายอย่าพูดเลยฟาน ฉันตื่นเต้น ฉันอยากจะไปแล้วเนี้ย "

“ ฮ่าๆ โอเคๆ ไปหาวันลามาซะนะ "

“ อื้อออ รู้แล้ว " ผมพยักหน้ารับก่่อนจะก้มกินบิงซูที่อยู่ตรงหน้า มือหนาตั้งมือถือไว้บนโต๊ะ ผมคว้ามันขึ้นมาก่อนจะกดปลดล๊อคด้วยรหัสที่ผมรู้อยู่แล้ว " ขอดูภาพเมื่อกี้หน่อย " กดเข้าไปที่ภาพแต่ยังไม่ทันดูภาพ ก็มีข้อความนึงส่งเข้ามาก่อน ฟานเหลือบมองท่าทางทีของผม ผมเองก็เงยหน้ามองเค้า " มีข้อความน่ะ จากพี่สาวนาย "

“ ว่าอะไรละ " เค้าถาม ผมก็เปิดอ่าน

   ข้อความที่ก่อนหน้านี้ฟานส่งตอบเธอไปเพราะเธอเอาแต่รัวข้อความเดิมๆมาไม่หยุด เค้าตอบเธอไปว่า ' มันไม่ใช่เรื่องของฉัน ฉันไม่จำเป็นต้องบอกหรอก ' แล้วเธอก็ส่งข้อความตอบกลับมา ' เพราะนายเองก็กลัวที่จะต้องรู้ว่า แฟนตัวเองโกหกละสิ กลัวว่าคนของฉันจะพูดความจริง ขี้ขลาดเหรอฟาน ' ผมอ่านข้อความให้อีกคนฟัง เค้าก็ถอนหายใจออกมา

“ ไม่ต้องตอบ ปล่อยมันไปแบบนั้นแหละ "

' ไอ้คนขี้ขลาด '

“ เธอส่งมาอีกว่า ' ไอ้คนขี้ขลาด ' “ ผมบอกเค้าอีกคนก็พยักหน้ารับ " ฟาน"

“ เค้าส่งมาอีกเหรอ "

“ อื้ม " ผมพยักหน้ารับ อีกคนก็ดึงมือถือของตัวเองไปดู ฟานอ่าน

' ไม่ใช่นายคนเดียวหรอกที่รู้เรื่องราวทั้งหมดว่าเป็นไง ฉันไม่จำเป็นต้องฟังคำโกหกของแฟนนายก็ได้ ฉันจะไปถามคนอื่น '

“ เธอจะไปถามคนอื่นอย่างงั้นเหรอ "

“ ก็คงใช่ " ร่างสูงบอก " ถ้าอย่างงั้นก็คงช่วยไม่ได้แล้วละ เราไม่ได้พูด งั้นก็อย่าสนใจเลย ไม่มีใครเอาผิดเราได้ทั้งนั้นแหละ "

" เหรอ นายคิดงั้นเหรอ " แต่ทำไมผมรู้สึกมันไม่ใช่อย่างงั้น ยิ่งเธอไปถามคนอื่นแล้วรู้ความจริงทั้งหมด จนทำให้ต้องเลิกกัน หัวหน้าจะไม่หาว่า คนที่บอกความจริงเป็นพวกผมเหรอ ก็เค้าคงไม่คิดหรอก ว่าเมียเค้าจะไปสืบจากคนอื่น ทั้งๆที่ฟานเองก็เป็นถึงน้องชายแท้ๆ ยังไงเค้าก็ต้องคิดว่าฟานเป็นคนบอกเองอยู่แล้ว และถ้ามันเป็นแบบนั้น ถ้าเค้าเข้าใจไปในแบบนั้น ยังไงเราก็โดนเค้าหมายหัวอยู่ดี

" คีย์ คิดอะไรอยู่ "

“ คิดว่า ที่นายบอกว่าเค้าเอาผิดเราไม่ได้ เราไม่ได้พูด เรื่องนั้นคงไม่จริงหรอก ฉันว่า แค่เค้าเข้าใจผิด ว่าเราเป็นคนพูด นั่นก็หมายถึงว่า เรื่องนั้นมันเกี่ยวข้องกับตัวเราแล้ว "

..................................................................

มีคนถามว่า เมื่อไหร่ดราม่าจะจบ
เอาจริงๆ เราอยากให้เรียกว่า ความเมามันส์ของเนื้อเรื่องที่เข้มข้น มากกว่า #รู้สึกไม่ต่างกัน
ถ้าถามว่าเมื่อไหร่จะจบ เอาเป็นว่า อร่อยจนหยดสุดท้าย แน่นอนค่ะ สู้ๆนะคะทุกคน
อีกสองอาทิตย์ จะจบแล้วววววววว เราต้องจับมือกันข้ามผ่านวันคืนนี้ไปด้วยกันนะคะ

ยังไงหนมฝากแท็ก #ฟานคีย์ ในทวิต และแชร์ในเฟสด้วย
เพื่อการโปรโมตให้คนเข้ามาร่วมดราม่าเบาๆกับเรา

เจอกันตอนหน้า
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ๊ะ  :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:

ออฟไลน์ MENTA

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 77
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ข้ามไปฮอกไกโดเลยได้มั้ย เผื่อจะมีรอยยิ้มบ้างงงงงง  :sad4:

ออฟไลน์ nottto

  • MaxNuzz
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
ยังจบไม่ได้!!! ถ้าอีหัวเน่ายังไม่ตายยนน 5555 #โหดไปไหมมม? :katai1: :fire:

ออฟไลน์ mareya.no7

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
บทเรียนของการนอกใจแพงโคตรๆ จะสิ้นสุดที่ตรงไหน? และจะสุขได้จนสุดหัวใจได้อีกจริงเหรอคีย์?

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
เราชอบช่วงนี้นะ อย่างน้อยฟานคีย์เขาก็จับมือกันสู้กับปัญหา คือปัญหาจากภายนอกจะดราม่าเท่าไหร่เราไม่หวั่นขอแค่อย่าตีกันเองมันก็ไม่ดราม่าละ อิอิ   รอดูครอบครัวของพ่อแม่พี่สาวของฟานได้รับผลกรรมที่เคยทอดทิ้งเด็กชายผู้ที่เขาอ้างว่าเป็นตัวซวย.....แหม๋ งานนี้จะว่าฟานก็ไม่ได่ ว่าฟานเป็นตัวซวยไหงตัวเองเอาตัวมายุ่งเกี่ยวจนชิปหายกันหมดเลยย

ออฟไลน์ LovEYouOnLy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 439
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
ที่ว่าอีก2อาทิตย์จะจบนี่คือจะมาต่อแบบทุกวันๆหรือป่าว :mew1: มีอีกเรื่องอยากจะบอกคือถ้าเอาจริงๆเบื่อครอบครัวของฟานมากๆ ทำไมถึงมีแต่คนเห็นแก่ตัวอย่างนี้ตั้งแต่พ่อแม่ น้องสาว นี่ยังจะมีพี่สาวร่วมด้วยอีกคนหรอ อยากเห็นพ่อแม่พี่และน้องของฟานเจอความลำบากบ้าง น่าจะเอาให้เจ็บ เจ็บกว่าที่ฟานเจอมาอีก

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
นี่ไรท์ยังจะต้มมาม่ารอไว้อีกหรอคะเนี่ยยยยยยยย

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4:


 :heavenสู้ต่อไปปปปปปป

ออฟไลน์ tkaekaa

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 329
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
เกลียดอิหัวเน่ายีงไม่ตายอีกรึนี่ โลกกลมชะมัด

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
จนาดแว๊บๆมาอ่านก็ยังเครียดอยู่
ยิ่งอ่านยิ่ง.... :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
อ่าว จะจบแล้วหรอ
ไม่น้าาาาาาาาา

จุดจบของหัวหน้าจะเปนยังไนเี่ยย

ขอไปฮอกไกโดด้วยได้ไมี

ออฟไลน์ ่KEI_jry

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 207
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
ชอบตอนนี้จัง รู้สึกว่าทั้งสองคนคุยกันและรับฟังความคิดของอีกคน ไม่ใช้อารมณ์

เริ่มเป็นผู้ใหญ่แล้วนะฟาน

 :katai2-1:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ ่jjay

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 454
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-0
มีเข้ามาได้เรื่อยๆเลยนะคะคุญปัญหา แต่อย่างน้อยก็ไม่ได้สู้อยุ่คนเดียวเนอะ  :katai1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด