ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง
ตอนที่ 68
' ยังไม่พร้อม '
“ คีย์ ฉันขอโทษนะ " รุ่นพี่ที่ทำงานเอ่ยบอกผมเสียงเศร้า จากเรื่องที่ชวนเม้าส์สนุกปากของเธอกลายเป็นเรื่องเศร้าของทุกคนเพียงแค่ผมเล่าความจริงพวกนั้นออกมา เธอก้มหน้าลงมือที่จับผมไว้ " ฉันขอโทษ ฉันไม่คิดว่ามันเป็นแบบนี้ ถ้าฉันรู้ ฉันจะไม่บอกเค้าเลย ฉันขอโทษ "
“ ไม่เป็นไรหรอก ผมเข้าใจ " เค้าไม่รู้ และ พูดความจริงไปโดยไม่รู้ " พี่ไม่ผิดหรอก ผมรู้ว่าพี่ไม่อยากจะให้ผมโดนเข้าใจผิด อยากจะให้เมียหัวหน้าเค้ารู้ความจริง "
“ แล้วนายจะทำยังไงละ เค้าจะทำอะไรนายละ "
“ ผมไม่รู้ " ไม่รู้เลยว่าถ้าเค้ารู้ เค้าจะทำอะไรผม ไม่รู้เลยว่าเค้าจะเล่นไม้ไหนอีก " แต่ก็ดีนะที่พี่บอกผม ผมจะได้ระวังตัวไง "
“ ฉันรู้สึกผิดวะ ฉันเหมือนทำให้แกต้องลำบาก อีกแล้ว " เธอก้มหน้าลงก่อนจะถอนหายใจ น้ำตาที่คลอเบ้าของเธอ " ฉันขอโทษ ขอโทษจริงๆ "
“ ไม่เป็นไรพี่ พี่ไม่รู้ ผมไม่โทษพี่หรอก ผมไม่คิดว่าเธอจะมาถามพี่เหมือนกัน มันเป็นเรื่องที่เราไม่รู้ และไม่คาดคิด พี่เองก็ไม่รู้ ไม่ต้องโทษตัวเองหรอก อย่าโทษตัวเองเลยนะ "
“ ฉันขอโทษจริงๆ " เธอบอกผมก็พยักหน้ารับ เธอเดินออกไปจากเก้าอี้ที่นั่งกลับไปที่โต๊ะทำงานของเธอ ลิปก็ถอนหายใจออกมา
“ คีย์.. ฉันไม่รู้จะพูดอะไรเลยจริงๆวะ ทำไม ชีวิตของนายมันถึง..”
“ ซวยแบบนี้ ก็ไม่รู้นะ " ผมหลุดยิ้ม " เคราะห์ซ้ำกรรมซัดเหมือนว่าชีวิตฉันจะทุกข์แค่ตอนนี้ตอนเดียวแล้วหลังจากนี้มันจะไม่ทุกข์อีกแล้วอย่างงั้นแหละ เหมือนว่าต้องชดใช้กรรมทั้งหมดในตอนนี้ "
“ ไม่รู้เค้าจะมาไม้ไหนนะ ไม่รู้ว่าพอรู้ความจริงแล้ว เค้าจะเป็นยังไงบ้าง "
“ นั่นสิ " ผมถอนหายใจออกมา แต่ถึงอย่างงั้นผมก็หวังให้มันเกิดเรื่องดีๆขึ้น เรื่องที่ว่าเค้าจะเข้าใจกันและรับกันได้ในความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเพราะนั่นก็หมายความว่า ผมจะไม่โดนหมายหัวและรอดพ้นจากเรื่องนี้ไปสักที แต่นั่นก็แทบเป็นไปไม่ได้เลย เค้าที่ได้รู้ว่าสามีเค้าทั้งโกหกเค้า แสร้งเป็นคนดีรักครอบครัว ดักข่มขืนลูกน้อง แถมยังถ่ายคลิปวิดีโอประจานจนต้องทำให้ลูกน้องต้องฆ่าตัวตาย ไม่มีใครรับเรื่องจริงแบบนี้ได้หรอก เป็นใครก็อยากจะอยู่ให้ไกลจากคนแบบนี้ทั้งนั้น
“ แล้วนายจะทำยังไงต่อไปคีย์ "
“ ไม่รู้สิ คงต้องบอกฟานเอาไว้ก่อนเป็นอย่างแรกแหละ " ผมยิ้มให้ลิปก็ถอนหายใจออกมาก่อนจะคว้ามือผมไปจับ มืออุ่นๆที่บีบมือของผม
“ ฉันขอให้มันผ่านไปได้ด้วยดีนะ แล้วก็ขอให้ชีวิตของนายมีความสุขสักที "
“ ขอบใจนะลิป " ผมเลื่อนเก้าอี้กลับมานั่งที่ทำงานของตัวเอง ครุ่นคิดถึงเรื่องราวต่างๆมากมายที่มันยังไม่เกิดขึ้นจนได้แต่ส่ายหน้าไปมา ' ไม่คิดมาก ไม่เอา มันเป็นเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น อาจจะไม่ได้แย่อย่างที่คิดเอาไว้ก็ได้ ' บอกตัวเองแบบนั้นก่อนจะเริ่มตั้งใจตั้งงานของวันนี้ให้เสร็จไป กังวลไปก็ไม่มีประโยชน์เครียดซะเปล่าๆ ทางที่ดี คือควรระวังตัวเองไว้ แล้วอย่ากังวลอะไรไปในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง
เดินออกจากที่ตึกที่ทำงานหลังเลิกงาน ผมมองไปรอบๆก็เห็นผู้ชายคุ้นตากำลังยืนดูดน้ำอะไรสักอย่างอยู่ไม่ไกล ในมือที่กำลังเล่นถือโทรศัพท์เล่นเกมส์อะไรสักอย่าง ผมหลุดยิ้มออกมา ลิปก็แซว
“ นู้นนน แฟนมารับแล้ว " เค้าบอก " ฉันชักอิจฉานายแล้วนะเนี้ย มีแฟนมาคอยรับ คอยส่งทุกวันเลยเว้ย "
“ อิจฉาอ๋อวะ ชีวิตที่เค้าต้องคอยรับส่งเพราะกลัวจะเกิดเรื่องร้ายขึ้นน่ะ " ผมหันไปแซวอีกคนก็เบิกตาก่อนจะส่ายหน้าไปมา
“ เออ กูไม่อิจฉาก็ได้ " หลุดหัวเราะออกมา ผมเดินเข้าไปใกล้เค้า นั่งลงข้างๆอีกคนก็หันมามอง
“ เลิกงานแล้วเหรอ " ฟานถามผมก็พยักหน้ารับ
“ งั้นฉันกลับบ้านก่อนนะ ไว้เจอกัน " ลิปเดินออกไปหลังจากที่บอกลาผม ฟานที่กำลังจะลุกผมคว้าเค้าไว้ให้นั่งอยู่ตรงนี้ก่อน อีกคนที่หันมามองหน้าผมก็ถอนหายใจออกมาก่อนจะยิ้มจางๆให้เค้า
“ มีอะไร เหนื่อยเหรอ " คำถามที่มาพร้อมกับมือหนาที่ลูบผมของผมเบาๆ จมูกที่ก้มลงมาดมที่ผม ฟานทำจมูกฟุตฟิตก่อนจะแซว " ผมนายเหม็นนะ วันนี้สระได้แล้ว "
“ ฟานฉันมีเรื่องอะไรจะบอก เป็นทั้งข่าวดีแล้วก็ข่าวร้าย จะฟังอะไรก่อน "
“ ทำไมต้องเลือกด้วยวะ " เค้าบ่นออกมาก่อนจะเอียงหน้ามองผมก่อนจะคิด " ฉันฟังข่าวร้ายก่อนดีกว่า เพราะร้ายของนาย ฉันไม่มั่นใจเลย ว่าจะเป็นร้ายแค่ไหน "
“ ทำไมคนเราถึงชอบฟังข่าวร้ายก่อนวะ "
“ ก็เพราะว่าพอฟังข่าวร้ายเสร็จ ข่าวดีมันอาจจะช่วยให้บรรเทาข่าวร้ายนั่นละมั้ง "
“ ข่าวร้ายคือ พี่สาวนายรู้ความจริงเรื่องของหัวหน้าแล้วนะ " ผมบอกก่อนจะก็นิ่งไป ผมหันมองฟานที่ถอนหายใจออกมาใบหน้าเคร่งเครียดของเค้าปรากฏขึ้นอย่างเห็นได้ชัดว่าอีกคนก็กังวลไม่ต่างจากผม " วันนี้เค้านัดรุ่นพี่ที่ทำงานฉันไปกินข้าวด้วย แล้วรุ่นพี่ที่ทำงานก็เล่าความจริงเค้าทุกอย่างเลย "
“ อย่างงั้นเหรอ " เค้าพูดเสียงเบาๆ " เค้าไม่เชื่อฉันสินะ "
“ ไม่เชื่อนาย ? “ ผมทวนคำพูดของเค้า " หมายความว่ายังไงที่บอกว่าเค้าไม่เชื่อนาย "
“ วันนี้ฉันไปหาเค้ามา เพราะมานั่งคิดๆดูแล้วว่าถ้าเกิดเราทำเป็นเงียบเค้าต้องไปสืบจากคนอื่นแน่ๆ แล้วแบบนั้นเค้าก็คงรู้ความจริงอยู่ดี ฉันก็เลยไปหาเค้ามา ไปนั่งฟังเรื่องที่สามีเค้าเล่าให้เค้าฟัง ว่านายไปอ่อยผัวเค้าอย่างงั้นอย่างงี้ แล้วเค้าก็ถามฉันว่ามันจริงรึเปล่า เรื่องที่เกิดขึ้น แล้วก็ฉันก็บอกว่า จริง ฉันทำเป็นไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับเรื่องที่เค้าเล่า ทำเป็นว่าฟังเรื่องมาคนละแบบกัน ฉันคิดว่าเธอจะเชื่อนะ แต่ไม่คิดว่าเธอจะไม่เชื่อแล้วมาถามเพื่อนร่วมงานนายอีก "
“ เพื่อนฉันบอกว่าตอนที่เค้ารู้ความจริงเค้านิ่งไปเลย เค้าร้องไห้แล้วเดินออกจากร้านไปเลย " ผมก้มหน้าลง " ไม่รู้ว่าเธอจะจัดการเรื่องนี้ยังไงนะ "
“ เลิกกับผัวมั้ง แต่ก่อนอื่นก็คงโดนผัวซ้อมก่อน " ฟานบอก " วันนี้ตอนที่ฉันเจอเธอ ที่ปากที่รอยโดยตบด้วย เธอคงโดนตบมาเพราะต้องเอาแต่เซ้าซี้เรื่องของผัวกับนายแน่ๆ "
“ น่าสงสารจัง "
“ สงสารตัวเองมั้ย ต่อจากนี้น่ะ ต้องมานั่งกังวลกันแบบละสายตาไม่ได้น่ะ สงสารตัวเองก่อนมั้ย " ฟานบอกผมก็ถอนหายใจออกมา
“ นั่นสินะ "
“ แล้วข่าวดีละ ข่าวดีของนายคืออะไร "
“ ข่าวดีคือ ฉันขอลางานได้แล้ว ได้ก่อนวันหยุดยาวเลยด้วย " ผมหันไปบอกเค้ายิ้มๆ " เพราะงั้นนะ ฉันจะได้ลาพักร้อนพ่วงด้วยวันหยุดยาวเลยแหละ "
“ ก็ดี อย่างงั้นคืนนี้เราก็จัดการจองตั๋วเครื่องบินแล้วก็ที่พักกันเลยดีมั้ย "
“ ดี! งั้นก็กลับบ้านกันเถอะ " ผมลุกขึ้นยืนคว้ามือฟานขึ้นมาจับเค้าก็ลุกขึ้นก่อนจะดึงผมเข้ามากอดไว้อย่างไม่ทันตั้งตัว " ฟาน..”
“ กลัวรึเปล่า กังวลมั้ยกับเรื่องนั้นน่ะ "
“ กลัวสิ " ผมซบไปบนอกของเค้า " แต่จะทำยังไงได้ มันเกิดขึ้นแล้ว ก็ต้องเผชิญหน้ากับมัน "
“ ฉันจะอยู่ข้างๆนะ จะไม่ไปไหน ฉันจะคอยดูแลนายอยู่ข้างๆแบบนี้ไม่ให้คาดสายตาเลย " อ้อมกอดที่กอดรัดแน่นขึ้นเหมือนคำสัญญาที่เค้าบอกกับผมไว้
“ อื้ม เราจะผ่านมันไปด้วยกัน " ผมกอดเค้าตอบซบไออุ่นจากร่างกายแล้วยิ้มอยู่แบบนั้น ก่อนอีกคนจะผละออกแล้วดึงร่างของผมให้ออกมายืนข้างตัวเค้า เราที่ก้าวเดินออกไปพร้อมๆกันเค้าที่เดินอยู่ข้างๆผม อุ่นใจยังไงก็ไม่รู้ " ฟานกินอะไรแล้วรึยัง "
“ ยัง แต่ไม่ค่อยหิวหรอก แต่ว่าฉันอยากจะกินไก่เกาหลีนะ " เค้าหยิบมือถือขึ้นมา " เมื่อกี้นั่งแล้วแล้วเห็นว่ามีบริการส่งไก่เกาหลีจากร้านดังถึงบ้าน ก็เลยว่าจะลองสั่งดู ลองกินดูกันมั้ย "
“ เอาสิ เดี๋ยวพอไปถึงห้องแล้วก็ค่อยสั่งแล้วกัน "
เดินทางกลับมาถึงคอนโดผมวางกระเป๋าลงที่โซฟา หย่นตัวลงนั่งหลบตาลงพักผ่อนสายตาก่อนจะรู้สึกถึงไอเย็นจัดที่แนบลงมาบนแก้มจนทำให้ต้องถอยหนี
“ น้ำเย็นๆสักหน่อยมั้ย "
“ ขอบคุณนะ " เอื้อมมือไปหยิบน้ำจากอีกคนขึ้นมากิน ฟานนั่งลงข้างๆก่อนจะเปิดมือถือของเค้าเล่นเกมส์ไปเรื่อย " ฉันไปอาบน้ำหน่อยดีกว่า "
“ อย่าลืมสระผมนะ " อีกคนเตือนผมก็ชะงักขาที่กำลังจะลุกขึ้นยืน
“ มันเหม็นมากเหรอ " ผมถาม ฟานก็ละสายตาจากหน้าจอมือถือตัวเองมามองผม
“ นี่ถามจริงๆ หรือเล่นมุขกัน "
“ ก็ถามจริงๆ ฉันยังไม่อยากสระอะ " ไม่อยากจะอยู่ในห้องน้ำนานๆ เดี๋ยวนี้เวลาอาบน้ำก็รีบๆอาบไปก็เท่านั้นไม่ได้ใส่ใจความสะอาดเท่าไหร่นักหรอก เพราะรู้สึกไม่ค่อยชอบอยู่ในที่ที่มีกระจกเยอะๆ รู้สึกกลัว มันกลัวอยู่ในจินตนาการของตัวเองที่คิดถึงขึ้นมาเอง อยากจะคิดก็คิด กำหนดไม่ได้ว่าให้หยุดคิด หรือแม้แต่บอกตัวเองว่า ให้คิดเรื่องอื่นแทน ยังไงก็ต้องเป็นเรื่องพวกนั้น
“ ก็เหม็นนะ สระเถอะ " เค้าบอกผมก็ถอนหายใจ
“ สระก็สระ " ลุกขึ้นจากโซฟาที่นั่งแบบเซ็งๆ ผมเดินเข้าไปในห้องน้ำมองดูรอบๆห้องน้ำ แต่ยังไม่ทันจะเดินเข้าไปแผ่นหลังหนาที่คิดว่านั่งเล่นเกมส์อยู่ก็เดินเข้ามาใกล้ เค้าดึงตัวเองเข้าไปในห้องน้ำ ตรงไปเปิดน้ำที่อ่างน้ำ " นายจะอาบก่อนเหรอ "
“ ฉันจะสระผมให้ " ผมเงียบอีกคนก็หันมายิ้ม " ไม่อยากจะอาบน้ำนานๆคนเดียวละสิ "
“ ก็นะ ..” เหลือบไปมองทางอื่น ในระหว่างที่ฟานเดินไปหยิบสบู่ที่ใช้สำหรับตีฟองในอ่างมาใช้ " ไม่ต้องแช่น้ำก็ได้มั้ง แค่สระผมเฉยๆก็พอ "
“ ปกตินายชอบแช่นิ แต่เพราะอยู่ในห้องน้ำนานๆไม่ได้ ตอนนี้ก็เลยไม่ได้แช่เลย แต่ไม่เป็นไรเดี๋ยวฉันจะอยู่เป็นเพื่อน อาบน้ำให้มันสะอาดหน่อยละกันนะ "
“ นายกำลังบอกว่า ปกติฉันอาบน้ำไม่สะอาดเหรอ "
“ รู้ตัวนี่ " ผ่อนลมหายใจออกมาพอได้ยินคำตอบของอีกคน ผมเดินไปหยิบผ้าขนหนูแล้วกลับมายืนดูอีกคนกำลังวุ่นวายอยู่ในห้องน้ำเพื่อแค่จะสระผมให้ผม ตั้งแต่รู้จักกันมาบางทีก็เหมือนจะแต่ฟานเท่านั้นที่คอยเอาแต่ดูแลผมกับเรื่องเล็กๆพวกนั้น เค้าช่างสังเกต และเหมือนจะล่วงรู้ทุกความคิดของผมแม้ว่าจะไม่พูดก็ตาม " เสร็จแล้ว ถอดเสื้อผ้าสิ "
“ อะ อื้ม แปปนึง " เดินมาหลบมุมถอดเสื้อผ้าก่อนจะเดินเข้าไปข้างใน เค้าที่มองดูอยู่ " นายหันไปทางอื่นก่อนสิ ฉันจะได้ลงอ่าง "
“ ทำเหมือนฉันไม่เคยเห็นไปได้ " อีกคนบอก ฟานหันหลังผมก็รีบเดินลงไปนั่งในอ่าง น้ำอุ่นๆที่ชวนให้ผ่อนคลายตอนที่แช่ตัวนั้นชวนให้เลือดทั่วร่างนั้นแล่นไปได้ด้วยดี " นี่ นายลืมล้างตัวก่อนลงอ่างรึเปล่าคีย์ "
“ ช่างมันเถอะน่า ลงอ่างก็เจอน้ำเหมือนกัน ได้ล้างตัวเหมือนกันละน่า " ผมบอกปัดอีกคนก็หัวเราะ ขยับตัวไปให้หลังชนขอบอ่างที่มีฟานนั่งอยู่ " ฟานสระผม "
“ ครับๆ " น้ำอุ่นๆถูกเปิดจะฝักบัวขึ้นรดผมจนชุ่มก่อนที่แชมพูสระผมจะถูกชะโลมบนหัวแล้วฟานก็เริ่มขยี้มันเบาๆ " สรุปว่าเราจะไปฮอกไกโดกันวันไหนดี "
“ อื้ม เดี๋ยวนะฉันของคิดก่อน ฉันหยุด 15 วัน รวมหยุดวันพิเศษของบริษัทด้วยแล้วเราไปสัก 9 วันมั้ย ไปแล้วก็ไปให้ทั่วเลย เที่ยวให้ทั่วหัวเมืองหลักของที่นั่นเลยเป็นไง ฟุกุโอกะ โตเกียว โอซาก้า เมืองใหญ่ๆน่ะ " ผมหันไปบอกอีกคนที่ก็พยักหน้ารับ " ไปหลังจากที่ฉันหยุดสองวันแล้วก็ได้ สองวันนั้นเราจะได้จัดการแพ็คของไปเที่ยวให้เรียบร้อยไม่ต้องรีบร้อน กลับมาก็ได้พักผ่อนอีกสี่วันเต็มๆ เป็นไงดีมั้ย "
“ นายว่าดีฉันก็ว่าดี ได้ทั้งนั้นแหละ "
“ ฟานน่ารักจังตามใจกันสุดๆไหนมาให้จุ๊บที " ผมพูดแซวอีกคนเล่นๆ แต่ทว่าใบหน้าคมนั้นกลับก้มลงมาใกล้จริงๆ " อ๊ะ..”
“ จุ๊บสิ "
“ พูดเล่นๆเฟ้ย!!”
“ แต่ฉันเอาจริงนะ ไหน จุ๊บสิ " ผ่อนลมหายใจออกมา ลืมไปเลยว่าไอ้หมอนี่มันไม่รู้จักการพูดเล่นๆหรอกถ้าเรื่องแบบนี้น่ะ ผมหอมแก้มเค้าอีกคนก็หัวเราะในคอ " ไว้ฉันจะจองตั๋วเครื่องบิน เอาแบบธรรมดาหรือว่าชั้นธุรกิจดีละ "
“ ธรรมดาก็พอมั้ง ต้องต่อเครื่องอีกละ นั่งธรรมดาก็พอเอาเงินไปทำอย่างอื่น ยังมีค่าโรงแรมอีก " ผมบอก " ฉันจะเริ่มเลือกซื้อเสื้อโค๊ชแล้วนะ แล้วก็พวกเสื้อไหมพรม เดี๋ยวถ้าเจอแบบสวยๆฉันจะซื้อมาเผื่อนายนะ เดี๋ยวจะสั่งจากในเน็ตให้ " ยิ่งจินตานาการถึงทริปที่จะได้ไปนอนกลิ้งดูหิมะตกนอกหน้าต่าง วิ่งไปเล่นหิมะที่ขาวโพลนสุดลูกหูลูกตาก็อดจะมีความสุขไม่ได้ " ตื่นเต้นจังฟาน ฉันอยากจะไปเที่ยวแล้วเนี้ย ไม่อยากจะทำงานแล้ว "
“ นายมีความสุขฉันก็ดีใจ เดี๋ยวอาบน้ำเสร็จเรามานั่งเลือกโรงแรมแล้วก็วางแพลนคร่าวๆกันนะ ว่าจะไปไหนบ้าง อยู่กี่วัน การเดินทาง ดีมั้ย หาข้อมูลกัน "
“ ดีๆ หาไปเรื่อยๆ ทำไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ ถ้าเราไม่ทำเลยนะ พอเราไปถึงเราก็ไม่รู้จะทำอะไร ฉันน่ะนะ อยากจะกินของอร่อยๆให้ทั่วเลย ของที่เค้าบอกว่า มาถึงแล้วต้องไปกินนะ อะไรแบบนี้น่ะ ฉันจะกินให้หมดเลย "
“ ระวังอ้วกแตกเข้าโรงพยาบาลก็แล้วกัน "
“ นายก็พูดเว่อร์ไป "
“ เงยหน้าขึ้นหน่อยจะล้างผมให้ " ผมเงยหน้ามองอีกคนที่กำลังตั้งใจล้างแชมพูออกจากผมให้ด้วยความตั้งใจ มือที่ประคองไม่ให้แชมพูไหลเข้าตานั้น มันเป็นภาพที่ชวนให้ผมหลุดยิ้มออกมา " ยิ้มอะไร "
“ นายเหมือนกับตอนที่เราคบกันแรกๆเลย "
“ จะบอกว่าก่อนหน้านี้ไม่เหมือนงั้นเหรอ " เค้าถาม แต่ยังไม่ทันจะได้ตอบอะไรอีกคนก็ยิ้มก่อนจะตอบขึ้นมาก่อน " ก็ไม่ค่อยเหมือนเท่าไหร่หรอกใช่มั้ย "
“ ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองได้รู้จักตัวตนจริงๆของฟานเลย "
“ ยังไง "
“ เมื่อก่อนตอนที่เราคบกันแรกๆ ฉันรู้สึกว่านายน่ะเป็นคนดีชนิดที่ว่า ในโลกใบนี้มันยังมีคนดีขนาดนี้อยู่อีกเหรอ "
“ แต่พอนานไป นายก็ได้รู้ว่า มัจจุราชมันแฝงอยู่ในร่างกายฉันอีกคน " ฟานหัวเราะบอก ผมก็ถอนหายใจออกมา
“ ฉันว่า ฉันไม่ควรพูดเรื่องนี้เลยเนอะ ฮ่าๆ " ผมว่าขำๆก่อนจะหันไปมองเค้าที่ก็กำลังบีบครีมนวดผมใส่มือ " คือที่ฉันจะบอกคือว่า คนเรามันมีดีมีเลว นั่นคือสิ่งที่ฉันจะพูด นาย..คิดมากรึเปล่า "
“ ไม่หรอก ฉันรู้ดีว่าตัวเองเป็นยังไง " อีกคนบอกก่อนจะชโลมครีมนวดผมลงไปบนหัวของผม รู้สึกตัวเองเป็นคนที่ทำให้บรรยากาศในห้องน้ำที่เคยดีดูอึมครึมไปหมดแล้ว เหมือนไปสะกิดแผลของอีกคนขึ้นมาอีก
“ โทษที ฉันว่า ฉันไม่น่าพูด "
“ ไม่เห็นจะเป็นอะไร นายก็แค่อยากจะพูดว่า ฉันไม่ได้แสนดีจนดูเหมือนไม่มีจริงแต่ฉันเป็นแค่คนธรรมดาๆคนนึงที่มี รัก โลภ โกรธ แล้วก็หลง เหมือนคนธรรมดาทั่วไป แต่ฉันว่าฉันมันเกิดธรรมดาเวลาโกรธแล้วก็โมโหนะ "
“ จะว่าแบบนั้นมันก็ใช่อยู่หรอก " ผมว่าเสียงเบาๆ " แต่.. ขอโทษ ฉันว่าฉันไม่น่าพูดจริงๆ นายลืมมันเถอะนะ ฉันปากไม่ดีเอง " ยกมือขึ้นปิดปากตัวเองทั้งที่แค่อยากจะบอกว่า ผมรู้จักเค้าดีขึ้นและรู้สึกว่าผมเห็นทุกด้านของเค้าแล้ว มันเป็นเรื่องดีที่พอรักกันแล้วเห็นกันทุกๆด้าน ด้านที่แย่สุดและดีสุด แต่เหมือนผมจะลำดับประโยคได้แย่ไปสักหน่อยความหมายเลยผิดเพี้ยนไป ก้มหน้าลงก่อนจะเหลือบมองคนที่นวดครีมนวดไปบนหัวให้ผม
“ คิดมาก ฉันไม่เอาเรื่องพวกนั้นมาเป็นสาระหรอก ฉันรู้ตัวอยู่แล้วว่าตัวเองเป็นยังไง นายเองก็ด้วยถูกมั้ย "
“ ก็จริง.... “ ผมเว้นเสียงก่อนจะยิ้มให้อีกคน " ฉันว่า.. เลิกพูดเรื่องนี้เถอะ ฟานจะอาบน้ำรึยัง "
“ เดี๋ยวฉันจะออกไปสั่งไก่ก่อน นายจะกินด้วยมั้ย "
“ กิน อยากจะกินไก่กับแป็ปซี่สักแก้ว สั่งเผื่อด้วยนะ "
“ โอเค " ฟานบอกก่อนจะล้างผมให้ผมจนเสร็จเรียบร้อย เค้าลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่นั่ง " เสร็จละ ลุกขึ้นมาอาบน้ำได้แล้ว และก็.." ใบหน้าคมก้มลงมากระซิบข้างหู " อย่าคิดมากเรื่องที่พูดไปเมื่อกี้ด้วยละ " จมูกคมจูบที่ข้างแก้ม เค้าเดินออกไปจากห้องน้ำ ผมก็ลุกขึ้นจากที่นั่งล้างตัว อาบน้ำเรียบร้อยก็ออกมาแต่งตัวจัดการทาครีมทาแป้งไปตามเนื้อตัวให้หอมก่อนจะออกมานั่งข้างๆอีกคนที่โต๊ะอาหาร
“ เสร็จแล้ว นายทำอะไรอยู่ "
“ กำลังกดดูที่พัก นายลองเลือกดูว่าสนใจอันไหนนะ แล้วพอสนใจก็กดหัวใจอันนี้ไว้ มันจะบันทึก เราจะได้มาเลือกกันอีกที " ผมพยักหน้ารับ " ฉันไปอาบน้ำก่อนเดี๋ยวมา "
“ อื้อ " เลื่อนดูหน้าจอไปเรื่อยๆ ผมนั่งอ่านรีวิวแล้วก็สภาพห้องโรงแรม เพลินจนไม่รู้ว่าเวลามันผ่านไปเท่าไหร่ ฟานเดินออกมาจากห้องน้ำ เค้าลงไปเอาไก่ทอดเกาหลีที่สั่งเอาไว้ เรานั่งกินกันเรื่อยๆดูโรงแรมไปพลาง อ่านรีวิวท่องเที่ยวแล้วนั่งจดกันไปตามประสา “ ฉันอยากจะลองพักที่พักแบบเรียวกังอะ ที่มีน้ำร้อนให้แช่ในห้องพัก "
“ อื้ม น่าสนใจ เราจะได้นั่งแช่กันสองคนใช่มั้ย "
“ บ้า ไม่ใช่เว้ย ไม่ได้หมายถึงแบบนั้น " ผมเถียงอีกคนก็ยิ้ม
“ แต่ฉันหมายถึงแบบนั้นแหละ เพราะฉันจะจองแบบนั้นให้นาย แบบว่าตอนกลางคืนเราแช่น้ำด้วยกัน กอดกันในน้ำแล้วหลังจากนั้น....” เอื้อมมือไปปิดปากเค้า อีกคนก็หลุดหัวเราะออกมา
“ ไอ้โรคจิต ฉันจะไปดื่มด่ำกับประสบการณ์พิเศษ ไม่ได้จะทำเรื่องแบบนั้นสักหน่อย "
“ แต่มันน่าทำออก เพราะคงหาโอกาสที่จะทำนี่นี่ไม่ได้ " ฟานยักคิ้วให้ผม เค้าเลื่อนตัวเข้ามาใกล้ก่อนจะดึงมือผมที่ปิดปากเค้าลงแล้วกระซิบ " เราจะยืนทำกันในน้ำ ฉันจะให้นายหันหลังนะ แล้วฉันก็จะเข้าไปตรงนั้น..”
“ พอเลย ฉันไม่ไปแล้วเว้ย " ผมเถียงอีกคนก็ยิ้ม " ฉันไม่อยากพักที่พักแบบนี้แล้ว เราไปพักที่อื่นเถอะ ฉันไปอาบน้ำบ่อรวมก็ได้ ไม่ต้องเป็นส่วนตัวหรอก "
“ แต่ถ้าไปพักบ่อรวม นายต้องไปแช่รวมกับคนอื่นๆ นายแน่ใจเหรอว่ามันจะดี นายจะไปแก้ผ้าให้คนอื่นดู หึ ฉันไม่มีวันให้คนอื่นมันมาเห็นหรอก " ผมคิดตามอีกคน ฟานก็ยักคิ้วเชิงถามว่ามั่นใจกับสิ่งที่ตัดสินใจไปมั้ย
“ งั้นเราก็ไม่ต้องไปเที่ยวแบบ เรียวกังหรือแช่บ่อน้ำร้อนอะไรนี่หรอก เราไปเที่ยวธรรมดาๆก็ได้ "
“ แล้วนายแน่ใจเหรอ ว่าธรรมดาๆนี่นายว่า นายจะรอดจากฉันน่ะ " เค้ามองผมก่อนจะเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ สบสายตาที่ก็ต้องหลบลงตอนที่อีกคนยิ้มแล้วหอมแก้มผม มือหนาเลื่อนมากอดเอวเค้าจูบที่ริมฝีปากเบาๆ ก่อนจะย้ายไปข้างแก้มอีกฝั่ง ลมหายใจอุ่นๆรดใบหน้าของผม มันบอกถึงอารมณ์ความรู้สึกความต้องการของอีกคนได้เป็นอย่างดี " คีย์...”
“ ฉันยังไม่พร้อม ฟาน " ผมตัดสินใจบอกเค้าก่อนจะเงยหน้าขึ้นมอง อีกคนที่ก็หยุดชะงักไป " ฉันรู้ว่านายต้องการอะไร ฉันก็อยากจะให้มันนะ แต่ฉันไม่พร้อมจริงๆ ฉันกลัวฟาน ฉันยังคิดถึงมันอยู่ "
“ ไม่เป็นไร ฉันขอโทษที รู้สึกไม่ดีรึเปล่า " ผมส่ายหน้าไปมา
“ ตอนนี้ยังหรอก แต่ฉันไม่อยากจะคิดถึงมันอีกแล้ว หยุดไว้ก่อนเถอะนะ "
“ อื้ม โทษทีนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ " เค้ากอดผมตอนที่พูดก่อนจะถอนหายใจออกมา " อารมณ์มันพาไปน่ะ "
“ ช่างมันเถอะ ไว้พร้อมเมื่อไหร่เราค่อยทำกันนะ " ร่างสูงผละอ้อมกอดมามองตามผม ฟานยิ้ม
“ ถ้าพูดแบบนี้ นายต้องรับผิดชอบคำพูดของตัวเองด้วยนะ อย่าลืมซะละ "
“ ไม่ลืมหรอกน่า " เอื้อมมือไปกอดคอเค้าผมยิ้มให้ " นายคิดว่า นายมีความต้องการคนเดียวรึไง "
“ คีย์ อย่ายั่วฉันน่า " ฟานเอียงหน้าบอกเซงๆ " ได้เมื่อไหร่ฉันจะทบต้นทบดอกเลยคอยดู "
“ ถ้าเป็นอย่างงั้น ฉันก็คงต้องรีบกลับมาเป็นเหมือนเดิมเร็วๆซะแล้วสิ เพราะกลัวว่าการทบต้นทบดอกนี่แหละ "
“ ร้ายนักนะ " เค้าที่กอดผมไว้ ซบกลิ่นไออุ่นยามที่เราใกล้กัน ผมอยากจะมีอะไรกับเค้านะ คิดถึงความรู้สึกที่ความสุขแบบนั้นเหมือนกัน แต่ก็พอคิดว่าต้องคิดถึงเรื่องราวทรมานที่ยังอยู่ในใจ เรื่องราวความโหดร้ายพวกนั้น ทุกอย่างก็บอกกับผมว่าอย่าเข้าไปใกล้เลย
ถ้ายังทำใจลืมมันไปไม่ได้จริงๆ ก็อย่าไปฝืน เพราะช่วงเวลาที่ต้องคิดถึงเรื่องราวพวกนั้น มันยังคงเจ็บปวด และเจ็บปวดมาก ถึงแม้ว่าคนตรงหน้าจะเป็นคนที่รักและอยากจะให้แสดงความรักต่อกันก็ตาม
.......................................................................
คลายความเครียดกันสักหน่อย ผ่อนคลาย ใสๆ เบาๆ
อาทิตย์หน้า จบแล้ว เราจะเขียนแบบ เอาม้วนเดียวจบไปเลยนะ

ยังไงขอฝากนิยายไว้ในอ้อมใจของทุกคน
อาทิตย์หน้าจบแล้ว อยากให้มาอ่านตอนจบกันเยอะๆ ค่ะ
ฝากแท็ก #ฟานคีย์ ในทวิตด้วยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์ค่ะ
