ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง{ตอนพิเศษที่ 2 UP - 10.2.60}หน้า 42 (จบเรื่อง+รวมเล่ม)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง{ตอนพิเศษที่ 2 UP - 10.2.60}หน้า 42 (จบเรื่อง+รวมเล่ม)  (อ่าน 323432 ครั้ง)

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ ่jjay

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 454
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-0
ได้แต่คิดว่าจะจบยังไงน้าาาาาาา :mew2:

ออฟไลน์ DraCo_SLa13

  • I swear that, will love Super Junior forever..........
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +314/-3
ชีวิตคีย์ แม่ม ไม่ง่ายเลย

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง
ตอนที่ 69
' ช่วงเวลาที่เลวร้าย '

   อาทิตย์ของการหยุดพักร้อนใกล้เข้ามาแล้ว อีกไม่กี่วันหลังจากนี้ช่วงเวลาที่ผมรอคอยมาเกือบทั้งเดือนก็จะมาถึง มือที่กำลังเร่งทำงานให้เสร็จภายในวันนี้ก่อนเที่ยง คิดเอาไว้ว่าจะได้ใช้ช่วงเวลาบ่ายที่ไม่มีงาน นั่งดูรูป อ่านรีวิวสถานที่ท่องเที่ยว แล้วก็ร้านอาหารดังๆในญี่ปุ่นเพิ่มเติม จากแผนที่วางเอาไว้ จะได้ใช้ในเวลาจำเป็น เพราะอีกไม่กี่วันเราก็ต้องเดินทางแล้ว

" ตื่นเต้นจังเลยนะ " ผมบ่นกับตัวเองออกมาเบาๆ กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ผมกำลังทำงานอยู่ กระเป๋าเดินทางของเราถูกสั่งซื้อมาแล้วเมื่อหลายวันก่อน กระเป๋าสองใบที่จัดเตรียมไว้ เสื้อผ้าสำหรับฤดูหนาวของที่นู้นก็ถูกจัดเตรียมไว้หมดแล้ว ผมเป็นคนเลือกซื้อมันทั้งหมด ทั้งของตัวเองแล้วก็ของฟาน เพราะเห็นว่าฟานจ่ายค่าทริปเดินทางครั้งนี้ไปเยอะมากแล้ว ทั้งค่าเดินทาง โรงแรม หรือแม้แต่ตั๋วเครื่องบิน และดูท่าทางว่า อาหารการกินเค้าก็จะเป็นคนออกเองอีก

   ทั้งๆที่ผมเองก็บอกแล้วว่าจะช่วยออก แต่เหมือนอีกฝ่ายจะไม่ยอม สุดท้ายก็เลยต้องมานั่งจัดการเสื้อผ้าให้แบบลับๆ แต่ถึงอย่างงั้นราคาเสื้อผ้าสำหรับหน้าหนาวเก้าวัน ก็ไม่ใช่ราคาเล่นๆเลย " เสร็จสักที " ผมผ่อนลมหายใจออกมา ตอนที่ดันเก้าอี้ให้ออกห่างโต๊ะแล้วบิดขี้เกียจน้อยๆ คนที่นั่งข้างกันก็หันมามอง

“ งานเสร็จแล้วเหรอ คีย์ "

“ เสร็จแล้ว " ผมบอก " นายเสร็จแล้วเหรอ "

“ เสร็จสักพักแล้วละ นี่ก็เลยมานั่งดูรีวิวทริปยุโรปไง " ลิปกับคุณเมษจะไปเที่ยวยุโรปเพราะคุณเมษไม่ค่อยได้หยุดพักผ่อน พอได้หยุดนานๆเค้าก็เลยตัดสินใจไปเที่ยวที่ที่อยากจะไปที่สุดนั่นก็คือฝั่งยุโรป  " แต่ไปๆมาๆ ไม่ได้ดูวะ มัวนั่งเม้าส์กับเพื่อนเนี้ย "

“ เหรอ "

“ นายยังจำเพื่อนฉันที่เคยเล่าให้ฟังว่า เป็นเพื่อนที่เรียนมหาลัยเดียวกันแล้วได้ทำงานบริษัทออกแบบ อีกบริษัทนึงได้ม่ะ " อีกคนท้าวความผมก็เอียงหน้าคิด " จำไม่ได้เหรอ ช่างมันไม่สำคัญหรอก เรื่องสำคัญคือนางเล่าให้ฉันฟังว่า หัวหน้าเราไปสมัครงานที่บริษัทนางจ้า ในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายออกแบบ "

“ เหรอ " ผมไม่ได้ยินชื่อของหัวหน้ามาหลายอาทิตย์แล้วตั้งแต่วันนั้น วันที่พี่สาวของฟานรู้เรื่องความจริงทุกอย่างจากปากเพื่อนร่วมงานของผม จากที่ต้องคอยกังวลกันสุดๆ ฟานก็มารับส่งเช้าเย็น ลิปก็แทบจะไม่ปล่อยให้ผมคาดสายตาไปไหน แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะเจอหัวหน้าที่ขู่ไว้ว่าจะมาทำร้ายเลยสักนิด ผมคิดว่าเค้าคงเคลียร์กับภรรยาโอเคแล้ว เพราะไม่อย่างงั้นเค้าคงทำตามที่เค้าขู่ผมไว้ หรือไม่ก็อาจจะปลง หรือคิดขึ้นได้ว่า เค้าควรหยุดการกระทำพวกนี้ซะ " แล้วเป็นไง เค้าได้งานมั้ย "

“ ไม่ได้วะ " ลิปส่ายหน้า " เพื่อนฉันบอกว่าไม่ผ่านตั้งแต่ฝ่ายบุคคลแล้ว เพราะว่าเรื่องที่เค้าทำไว้นั่นแหละ "

“ ฝ่ายบุคคลของที่นู้นคงจะโทรมาถามฝ่ายบุคคลของเราเกี่ยวกับการทำงานของเค้าที่นี่สินะ "

“ ช่ายยยย ทั้งเรื่องเม้าส์ๆ ทั้งเรื่องานที่ขาดความรับผิดชอบ เรื่องรักๆในออฟฟิศอีก มันก็ไม่แปลกหรอกที่จะไม่ได้งาน " ลิปว่าก่อนจะถอนหายใจ " ทั้งๆที่ฝีมือก็ดี มีความรับผิดชอบสูงแต่กลับต้องมาตกงานเพราะเรื่องเซ็กส์แล้วก็ความต้องการของตัวเอง นี่ถ้าเค้าอยู่เป็น ใช้ชีวิตให้เป็น มันคงไม่เป็นแบบนี้หรอก เค้าอยู่ที่นี่เงินเดือนสูงจะตาย ฆ่าตัวเองชัดๆ "

“ นั่นนะสินะ " ผมพยักหน้ารับเห็นด้วยกับลิป มันก็เหมือนกับที่อีกคนบอก

“ ถ้าเค้าชอบเรื่องแบบนั้น เค้าก็ซื้อคอนโดไว้สักห้องแล้วก็เอาเมียเล็ก เมียน้อย จะชายจะหญิงจะสวิงกิ้งกันยังไงก็ได้ ก็ทำไปเถอะ หน้าตาดีแบบเค้า รวยแบบเค้า คนที่สมยอมด้วยมันก็มีตั้งเยอะแยะ อย่างเนย์เองก็ไม่ใช่ว่าไม่ชอบเค้าสักหน่อย น้องมันก็มีใจพูดดีๆ เข้าใจกัน น้องมันก็ยอมนั่นแหละ แต่นี่บังคับเค้า ขู่เค้า แถมกับคนที่ไม่ได้เล่นด้วยก็ยังจะเอาไม่ยอมปลง ใช้กำลังบังคับ พอจะเอาก็จะเอาให้ได้ ทำเหมือนชีวิตคนอื่นเป็นแค่ตุ๊กตาเซ็กส์ทอยสนองความใคร่ก็เท่านั้น เค้าน่ะใช้ชีวิตไม่เป็นเอง ฉันจะบอกให้ " ผมถอนหายใจออกมาตอนที่อีกคนพูด 

   หวนคิดถึงว่าเค้าเคยเป็นทั้งคนที่เก่งแล้วก็น่าหลงใหลมากแค่ไหน ตอนสมัยที่เข้ามาทำงานใหม่ๆ มีปัญหาก็ได้หัวหน้าช่วยเอาไว้ ทั้งสอนงานแล้วแก้ไขงานให้ เป็นทั้งคนที่ใจดีแล้วก็เก่ง จนไม่อยากจะเชื่อเลยว่า อีกด้านของเค้าจะเป็นคนที่น่ากลัวอย่างที่คาดไม่ถึงขนาดนี้  เผลอคิดไปว่าผมเองถ้าไม่ได้เจอฟานตอนนี้จะใช้ชีวิตยังไง ยังชอบเค้าอยู่ หรือว่าจะมีชีวิตเป็นแบบเนย์ที่ต้องเป็นทาสกามให้เค้าไปตลอด แล้วสุดท้ายก็จบลงด้วยการฆ่าตัวตายรึเปล่า

“ แล้วนี่เค้ามาดักหาเรื่องนายที่ใต้คอนโดรึเปล่า " ผมส่ายหน้าอีกคนก็ถอนหายใจโล่ง " ดีแล้วละ ฉันว่า เค้าคงปรับความเข้าใจกับเมียได้แล้วละมั้ง ไม่ก็ปลงเรื่องที่เกิดกับตัวเองได้แล้ว "

“ ฉันก็หวังว่ามันจะเป็นแบบนั้นเหมือนกัน " ผมก็หวังว่าให้เรื่องดีๆเกิดขึ้นกับเค้า เค้าจะได้ไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวอะไรกับผมอีก  " เลิกพูดเรื่องนี้เถอะ  วันนี้ฉันจะเลิกงานเร็วหน่อยนะ นายจะกลับบ้านพร้อมฉันมั้ย พอดีฉันนัดกับฟานว่าเราจะไปซื้อของเข้าบ้านด้วยกันน่ะ "

“ สวีทหวานจริงๆเลยนะ ช่วงนี้น่ะ มีแฟนมารับมาส่งทุกวัน ไปชอปปิ้ง ไปกินข้าว นี่ข้างนอกยังหวานขนาดนี้ แล้วถ้าอยู่ด้วยกันสองคนจะหวานกันขนาดไหนละจ๊ะ " เสียงแซวที่ทำให้ผมส่ายหน้าไปมาก่อนจะดึงตัวเองกลับมานั่งที่หน้าจอคอมของตัวเอง

   ไม่อยากจะบอกเลยว่าดูภายนอกมันก็ดูหวานกันดีอยู่หรอก ไอ้โมเม้นท์ที่ว่า มารับมาส่งทุกวันนั่นน่ะ แต่ความจริงเวลาอยู่ด้วยกันสองคนก็ไม่ได้สวีทหวานอย่างที่ใครๆคิดหรอก เราก็ใช้ชีวิตกันตามปกติออกจะเกร็งๆกันในบางทีด้วยซ้ำไป อาจเพราะเรื่องราวที่เกิดขึ้นเลยทำให้ชีวิตมันไม่ได้ มีความสุขมากอย่างที่เคยเป็นแต่ก็ไม่ได้แย่หรอก เราก็ต้องปรับเปลี่ยนกันไป

   เข็มนาฬิกาบอกเวลาหลังเลิกงาน ผมจัดเตรียมกระเป๋าของตัวเองปิดคอมพิวเตอร์ของตัวเองเรียบร้อยด้วยความเงียบ ท่ามกลางเสียงพูดคุยของเพื่อนร่วมงานคนอื่นที่ก็เตรียมตัวกลับบ้านเหมือนกัน

" นี่แก วันนี้เมื่อตอนเที่ยงฉันเหมือนจะเจอหัวหน้าด้วยแหละ "

" หัวหน้าเหรอ " อีกคนบอกก่อนจะเชิดไปที่รองหัวหน้าที่ตอนนี้ย้ายขึ้นมาเป็นหัวหน้าแล้ว " ก็ต้องเจอสิ เค้าก็ต้องไปกินข้าวแปลกอะไร "

" ไม่ใช่สิ คนที่ฉันเจอน่ะ คือหัวหน้าคนเก่าตังหาก "

" เหรอ แล้วเค้ามาทำอะไรแถวนี้วะ "

" ไม่รู้เหมือนกัน แต่ได้ข่าวแผนกบุคคลบอกว่าเค้ามาสมัครงานจ้า "

" บริษัทเราอะนะ "

" อื้ม ใช่นะสิ ก็แหมเค้ารู้จักกับคนใหญ่คนโตตั้งเยอะ คงเส้นสาย "

" แต่ก่อเรื่องขนาดนั้น ไม่ว่าเส้นไหนก็คงเอาไม่อยู่หรอกมั้ง แล้วหัวหน้าตอนนี้เองก็คงไม่ลดขั้นตัวเองลงเป็นรองหัวหน้าอีกครั้งหรอกน่า จริงมั้ย "

" นั่นก็จริง "

" อย่าใส่ใจเลยน่า ยังไงเค้าก็ไม่ได้กลับมาทำงานที่นี่หรอก "

" กลับบ้านแล้วเหรอคีย์ " รุ่นพี่ที่ทำงานทักผมขึ้นมา หันไปยิ้มแห้งๆให้เธอที่ก็ยิ้มแซว “ แฟนมารับแล้วอีกแล้วละสิท่า สวีทจังนะคีย์ " ผมเบิกตาน้อยๆกับคำแซวพวกนั้นก่อนจะยิ้มเขินๆ แล้วพยักหน้ารับ " คีย์คบกับน้องฟานมานานแล้วเหรอ "

“ ก็นานแล้วครับ " บอกไปแบบนั้นลิปก็เสริม

“ เค้าคบกันก่อนที่ฟานจะมาส่งน้ำให้พวกเธอเห็นอีกจ้า "

“ งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ " ก้มหน้าบอกลาทุกคนในแผนก เดินลงลิฟต์มาพร้อมกับลิป ตอนที่ลงมาถึงหน้าตึกผมมองไปรอบๆก่อนจะเจอเข้ากับฟานที่ก็เดินเข้ามาใกล้กัน

“ แฟนนายเนี้ยไม่เคยมาสายเลยนะ "

“ แล้วคุณเมษนัดเจอนายที่ไหน "

“ นัดเจอกันที่คอนโดน่ะ " ลิปบอก " งั้นฉันกลับก่อนนะ พรุ่งนี้เจอกัน "

“ พรุ่งนี้เจอกัน " ผมโบกมือลาลิปที่ก็เดินสวนทางกับฟานที่ก็เดินเข้ามาหา

   ผมที่ยิ้มให้คนที่มารับในตอนนั้น  ก่อนจะรู้สึกถึงใครบางคนที่วิ่งเข้ามายืนช้อนหลังด้วยความรวดเร็วแบบไม่ทันตั้งตัวพร้อมกับปลายแท่งเหล็กกลมๆที่จ่ออยู่ที่แผ่นหลัง รอยยิ้มของผมหดลงทันทีในตอนนั้นแววตาที่เบิกกว้างกับร่างกายที่แข็งทื่อไปนั้น ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครที่กำลังยืนช้อนหลังผมและสิ่งที่เค้ากำลังถือขู่อยู่นั่นคืออะไร  มันคือปืน ผมรู้สึกเลยว่ามันต้องเป็นแบบนั้น

“ ไม่เจอกันนานนะ คีย์ "  เสียงทุ้มของหัวหน้าที่ผมคุ้นเอ่ยบอก เค้าขยับปลายกระบอกปืนนั้นเข้าใกล้หลังของผมอีกนิด ฟานวิ่งเข้ามาใกล้แต่ยังไม่ทันพูดอะไรหัวหน้าก็คว้าตัวผมหันให้อีกคนดู ปลายประบอกปืนที่กำลังจ่อหลังผมอยู่นั้น ทำให้ให้ฟานนิ่งค้างไป " เป็นไง.. ไม่ได้เจอกันนานนะ คุณน้องอดีตภรรยา "

“ ปล่อยคีย์ซะ " เค้าบอก " ถ้ามึงไม่ปล่อยคีย์กูจะตะโกนให้คนช่วย " คำขู่ที่ชวนให้หัวหน้าหัวเราะ

“ หึ งั้นมาลองดูกันมั้ย ว่าเสียงของมึง กับ เสียงจากปืนของกู ใครมันจะเร็วกว่ากัน "

“ อย่านะ!! มึงจะทำอะไรน่ะ "

“ ทำอะไรเหรอ " อีกคนถามก่อนจะมองไปรอบๆ " ถ้ามึงไม่อยากจะให้คีย์ตายก็เงียบๆไว้ กูจะขึ้นตึกไปที่ดาดฟ้า ถ้ามีคนจับกูได้กูจะยิงคีย์ทิ้งทันที "

“ แล้วจะขึ้นตึกไปบนดาดฟ้าทำไม "

“ มึงเงียบน่า  อยากจะตายรึไง " เค้าดันปืนจ่อผมให้ใกล้ขึ้น ฟานมองหน้าผมเค้าถอนหายใจออกมาก่อนจะมองไปที่ประตูบริษัท

“ เดินเข้าไปตอนนี้แหละ ยามไม่อยู่แล้ว " มันเป็นช่วงเวลาที่ยามหน้าตึกเดินออกไปคุยกับพนักงานคนนึงพอดี

   ผมมองฟานที่พยักหน้ารับเหมือนกำลังให้กำลังใจผมผ่านแววตาว่ามันจะไม่เป็นอะไร เพราะเค้าจะยืนอยู่ข้างๆตรงนี้ ผมมองไปรอบๆทั่วบริเวนที่ไม่มีใครคนไหนหันมาสนใจพวกเรา แผ่นหลังของลิปที่กำลังยืนรอข้ามถนนอยู่นั้น เค้าที่เหมือนกำลังจะหันกลับมา ผมจ้องเค้าเพื่อพยายามจะบอกถึงภัยอันตรายของตัวเองแต่ทว่าเค้าก็ไม่มีทีท่าว่าจะหันมา

' ลิป หันมาสิ ลิป ลิป ลิปหันมา ' คำพูดที่พูดได้อยู่ในใจแต่เอ่ยอะไรออกไปไม่ได้ หัวหน้าดึงผมให้เดินเข้ามาในตึก เค้าสาวเท้าเดินผ่านผู้คนที่เริ่มบางตาเข้าไปข้างใน ผ่านยามที่มัวแต่คุยกับคนอื่นโดยที่ไม่รู้เลยว่าตอนนี้มีเหตุร้ายเกิดขึ้นกับคนในบริษัท

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27

    ภายในลิฟต์ที่มีแค่เราสามคนทุกอย่างเงียบจนได้ยินแต่เสียงของลมหายใจ หัวหน้าดึงตัวผมให้พิงตัวเค้าเอาไว้ สายตาที่สบมองกับฟานที่ได้แต่ยืนมองนิ่งๆ เค้าที่เหมือนกำลังคิดหาทางอะไรสักอย่างในตอนนั้น ชวนให้หัวหน้าหัวเราะขึ้นมา " นายกำลังคิดสินะ ว่าจะทำยังไงดี ถึงจะช่วยแฟนของนายได้ หึ  แต่ที่ฉันอยากจะบอกคือ อย่าพยายามเลย เพราะเพียงแค่ครั้งเดียวที่นายไม่ทำตามคำพูดของฉัน ฉันจะให้คีย์เป็นแค่คนที่เหลือแค่ชื่อเท่านั้น จำไว้ "

" อย่าคิดที่จะทำอะไรเค้านะ "

" มันอยู่ที่นายมากกว่า ว่าจะทำตามฉันรึเปล่า "

" จะให้ทำอะไร "  ลิฟต์พาพวกเรามาที่ชั้นบนสุด หัวหน้าเชิดหน้าบอกใบ้ให้ฟานเดินออกไป

" เดินออกไป แล้วขึ้นบันไดไปที่ดาดฟ้า " หัวหน้าล๊อคตัวผมจากด้านหลังเข้าไปชิดกับลำตัวของเค้า เราเดินตามฟานขึ้นไปชั้นบนสุดของดาดฟ้า ในช่วงเวลายามเย็นที่ท้องฟ้ายังไม่ทันมืดครึ้มลมแรงๆที่พัดมา

“ มึงต้องการอะไร " ฟานถามอีกคนก็คิด

“ ต้องการอะไรงั้นเหรอ " เค้าพูดก่อนจะก้มลงมามองผม ลมหายใจอุ่นๆที่รดผิวหน้า ร่างกายของผมแข็งทื่อราวกับจะหยุดหายใจไปขั่วขณะทำได้แต่หลับตาลงด้วยความกลัว " คีย์ดีมั้ย มึงรักมันมากนิ ถ้ากูบอกว่าให้มึงอยู่นิ่งๆแล้วกูจะเอาเมียมึงโชว์มึง แบบนั้นมึงจะโอเคมั้ย "

“ อย่าคิดทำอะไรเหี้ยๆแบบนั้นกับคีย์นะ ! “ ร่างสูงตะโกนก่อนจะก้าวขาเดินเข้ามาใกล้แต่ทว่าก็หยุดลงตอนที่ปืนย้ายจากหน้าหลังมาจ่อเข้าที่หัวของผม ฟานหยุดนิ่งหัวหน้าก็หัวเราะ  " ปล่อยคีย์ แล้วมึงจะทำอะไรกับกูก็เชิญ "

“ จะทำอะไรก็ได้งั้นเหรอ " เค้าทำท่าคิด " กูอยากจะยิงมึงสักสองนัด มึงให้กูยิงมึงได้มั้ยละ "

“ ไม่ได้นะ !!! “ ผมตะโกนออกไป " อย่าทำอะไรฟานนะ! คุณต้องการอะไรแน่ คุณทำแบบนี้ทำไม แค่นี้ชีวิตคุณมันยังแย่ไม่พออีกเหรอ ทำไมคุณไม่ปรับตัวเอง ทำไมคุณไม่..”

“ ก็เพราะพวกมึงนั่นแหละที่ทำให้ชีวิตกูต้องเป็นแบบนี้!! “ เค้าตะโกนออกมา " เพราะว่าพวกมึงเอาความจริงไปบอกเมียกู เค้าเลยบอกเลิก ฟ้องหย่ากับกู แล้วไม่ว่ากูพยายามกลับไปเท่าไหร่ ขอคืนดีเท่าไหร่ เค้าก็ไม่ยอมรับฟังอะไรกู ทั้งหมดนี้มันเป็นเพราะพวกมึงเอาความจริงของกูไปพูด! ทั้งๆที่กูบอกพวกมึงแล้ว ว่าอย่าพูด! ไม่อย่างงั้น กูจะทำลายชีวิตมึง เพราะพวกมึง ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นเพราะพวกมึง "

“ พวกเราไม่ได้พูด ผมไม่ได้พูด ฟานก็ไม่ได้พูด " ผมบอก " เรื่องความจริงของคุณ ภรรยาของคุณมาถามคนที่แผนกเอง ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับกับพวกเราเลย เราไม่ได้พูด "

“ กูไม่เชื่อ!! ถ้าไม่ใช่พวกมึงที่อยากจะทำลายชีวิตกูแล้วมันจะใคร ยังจะมีใครอีกที่อยากจะทำลายชีวิตกู มึงคงแค้นกูสินะที่กูทำแบบนั้นกับคีย์ มึงเลยไปบอกพี่สาวมึงไอ้ฟาน ”

“ กูไม่ได้พูด! ทุกสิ่งทุกอย่างที่มันเกิดขึ้น มันเป็นเพราะการกระทำของมึง มึงทำร้ายคีย์ มึงทำร้ายเนย์ มึงทำตัวของมึงเอง มันไม่ใช่มีแค่กูกับคีย์แค่สองคนหรอกที่รู้ถึงความระยำของมึง คนทั้งบริษัทเค้าก็รู้ แล้วมึงไม่คิดบ้างเหรอ ว่าเมียมึงเค้าจะมาถามคนในบริษัทมึงที่เค้ารู้จัก ทุกอย่างมันไม่ได้เกิดขึ้นเพราะพวกกูอย่างเดียว มันเป็นเพราะมึง เพราะสิ่งที่มึงทำไว้กับคนอื่น "

" มันไม่ได้เป็นเพราะกู!! " เค้าดันปืนที่หัวเข้ามาใกล้ผม " มันเป็นเพราะไอ้เหี้ยนี่ตังหาก มันเป็นเพราะคีย์! เพราะคีย์ไม่ตอบรับรักกู เพราะคีย์ไม่ยอมนอกใจมึงมาคบกับกู ไม่ยอมเป็นเมียน้อยกู เรื่องมันเลยต้องมาเป็นแบบนี้ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นตอนนี้มันเป็นคีย์ เพราะมึงคีย์ เพราะมึงคนเดียว มึงตาย!! "

" อย่าทำอะไรคีย์นะ!! " ฟานตะโกนออกมา ตอนที่เห็นว่าอีกฝ่ายกำลังโมโหแบบสุดขีดและกำลังไม่ได้สติอะไร  " ทุกอย่างมันเป็นเพราะกู เพราะกูขู่เค้า เค้าเลยไม่ยอมตอบรับความรู้สึกของมึง ถ้ามึงโกรธแล้วอยากจะแก้แค้นละก็ มาทำกับกู แล้วปล่อยคีย์ไป คีย์ไม่เกี่ยว คีย์ไม่เกี่ยวเลย "

“ ฟาน " ผมเรียกอีกคนก่อนจะส่ายหน้าไปมา ผมไม่อยากจะให้เค้าเสี่ยง ไม่อยากจะให้เค้าเสี่ยงเพื่อผมแบบนั้น

“ แล้วกูจะมั่นใจได้ยังไง ว่าถ้ากูปล่อยคีย์ไปแล้ว มึงจะไม่หนีตามมันไปด้วย " ฟานเงียบไปคำตอบอีกคนก็ยกยิ้ม " งั้นให้กูยิงมึงสองนัด แล้วกูจะปล่อยคีย์ไป "

“ ไม่นะ!! อย่ายิงฟานนะ ไม่เอา "

“ ตกลง "

“ ไม่!!! ฟานไม่ได้นะ  ไม่อย่ายิงเค้านะ อย่ายิงเค้า ไม่นะ!! " ผมที่ยิ่งดิ้นอีกคนก็จับแขนผมไว้แน่น

“ อยู่นิ่งๆ ไม่งั้นกูจะเป่ามึงคนแรกเลย "

“ งั้นก็ยิงกูเลย!! “ ผมตะโกนบอก " มึงแค้นกูไม่ใช่เหรอ มึงก็ฆ่ากูเลยสิ "

“ อย่า!! คีย์! มึงอย่ายิงคีย์นะ " ฟานตะโกนกลับมา ผมที่หันมองเค้าฟานก็ส่ายหน้าไปมาเหมือนบอกให้ผมหยุดพูดแบบนั้น " อย่าพูดแบบนั้น ไม่เป็นไร แค่นายปลอดภัยสำหรับฉันนั่นก็พอแล้ว "

“ ไม่ มันไม่พอสำหรับฉัน แล้วฉันจะอยู่ยังไงถ้าไม่นายละฟาน อึก ฮือๆ ได้โปรดอย่าทำเราเลยนะ หัวหน้าผมไหว้ละ อย่าทำเราเลย ปล่อยเราไปเถอะ " ผมยกมือไหว้เค้า " เราไม่ได้เป็นคนบอกภรรยาของคุณจริงๆ ผมจะไม่เอาเรื่องคุณด้วย แค่คุณปล่อยเราไป ปล่อยเราไปเถอะนะ ผมไหว้ละ "

“ แหมม ความรักช่างหอมหวาน  แต่ละคนก็ปกป้องคนที่ตัวเองรัก ฟังแล้วอยากจะอ้วก " เค้าดึงผมให้เงยหน้าขึ้นมา " มึงรักมันมากเหรอ ไอ้เด็กนั่นนะ งั้นดูไว้นะ นี่แหละคือสิ่งที่เกิดขึ้นจากการที่มึงไม่ยอมตกลงเป็นของกู นี่แหละคือผลของการตัดสินใจของมึงที่ไม่ยอมเป็นเมียน้อยกู "

“ อย่าทำอะไรฟานเลย ผมขอร้องละ อย่าทำเค้าเลยนะ อึก ฮือๆ อย่าทำ อย่าทำเค้า " น้ำตาที่ไหลออกมาอย่างหนัก ดวงตาของผมมันพร่ามัวไปหมดจนมองไม่เห็นแม้ร่างสูงตรงหน้าที่กำลังยืนอยู่นิ่งๆ ปลายกระบอกที่เปลี่ยนทิศไปยังฟาน หัวหน้าพูดเสียงนิ่งๆ

" ดูอะไรนี่น่ะ นี่แหละคือผลที่มึงปฎิเสธกู "

" อย่านะ!!”

" ปัง!” เสียงร้องของผมพร้อมกับเสียงปืนที่ดังออกไป ผมกรีดร้องออกไปเสียงดังตอนที่เห็นฟานล้มลงเพราะกระสุนปืนที่ยิงเข้าที่ขา " ไม่!!!!!! ฟาน!!!" ร่างที่ถูกมือหนารัดเอาไว้ไม่ว่าจะดิ้นเท่าไหร่หรือร้องไห้ยังไงมันก็ยังรัดแน่นอยู่แบบนั้น " ฟาน !..อึก ฟาน! "

" อยู่นิ่งๆ มึงอยากจะเห็นมันโดนยิงอีกนัดรึไง " ผมหยุดดิ้นลงทันที มองดูคนที่โดนยิงที่จับขาตัวเองไว้แล้วมองมาที่ผม เค้ายิ้มก่อนจะส่ายหน้าไปมา ราวกับจะบอกว่าตัวเค้าไม่ได้เป็นอะไร

" นิ่งซะนะคีย์ ฉันไม่ได้เป็นอะไร " คำพูดที่กำลังปลอบผม

" ฟาน... อย่าทำฟาน อึก ได้โปรดเถอะ พอเถอะนะ อย่าทำเค้าเลย หัวหน้าผมขอร้อง ปล่อยเค้าไปเถอะ อึก เค้า ไม่เกี่ยวหรอก ไม่เกี่ยวกับเรื่องของเราเลย ถ้าคุณโกรธมาลงที่ผมเถอะ อย่าทำเค้าเลย ผมขอร้อง "

" มาลงที่นายอย่างงั้นเหรอ " หัวหน้าก้มลงถามผมก่อนจะยิ้ม " เป็นครั้งแรกเลยนะที่นายพูดเชิญชวนฉันแบบนี้ "

" คีย์อย่านะ! ”

" เงียบ! ไม่งั้นกูจะเป่าหัวเมียมึงซะ กูจะฟังเมียสุดที่รักของมึงพูดให้ท่ากูสักหน่อย " เค้าตะโกนบอกฟาน " ไหนนายว่ายังไง นายจะยอมเป็นเมียฉันมั้ยละ ถ้านายยอมฉันจะปล่อยไอ้ฟานไปก็ได้นะ "

" อย่านะคีย์! อย่าไปยอมมัน “

" กูบอกว่าให้เงียบ! ปัง!” เสียงปืนดังขึ้นอีกครั้ง ผมหันไปดูร่างสูงที่ถูกยิงเข้าที่แขน

" ฟาน!! “ ผมตะโกนออกมาก่อนจะหันมามองอีกคน " อึก อย่าทำฟาน พอแล้ว ผมยอมแล้ว ผมยอมคุณแล้วพอเถอะ อย่ายิงฟานอีกเลย ผมขอร้อง อย่าทำเค้า พอแล้ว พอเถอะนะ ผมยอมคุณแล้วก็ได้ แต่ปล่อยฟานไป "

" คีย์อย่าไปยอมมันนะ ฉันยอมตายดีกว่าที่จะต้องเห็น แล้วจะต้องได้ยินอะไรแบบนั้น อย่าลดตัวเองเพื่อคนอย่างฉัน ฉันก็เคยทำร้ายนาย มันไม่คุ้มกันหรอก อย่าเลย อย่านะ "

" แต่ฉันก็เห็นฟานตายไปต่อหน้าต่อตาฉันไม่ได้เหมือนกันนะ ฉันเห็นฟานจากฉันไปไม่ได้เหมือนกันนะ อึก ฮือๆ "  ผมก้มหน้าร้องไห้ออกมา ก่อนจะเงยขึ้นมองหัวหน้าที่ยังคงยกยิ้มอยู่ " ผมยอมคุณแล้ว คุณอยากจะให้ผมทำอะไร ผมก็ยอม แต่ได้โปรดปล่อยฟานเค้าไปเถอะครับ "

" ฉันจะมั่นใจได้ไงว่านายจะยอมฉันอย่างที่พูดจริงๆ แล้วจะไม่กลับไปหาไอ้เด็กนั่นอีก " เค้าเอียงหน้าทำท่าคิด " งั้นนายช่วยย่ำยีจิตใจไอ้เด็กนั่นต่อหน้าฉันสิ แล้วฉันจะเชื่อ " ผมเงียบด้วยสายตาหวาดกลัว " สำเร็จความใคร่ให้ฉันด้วยปาก ต่อหน้ามันแล้วฉันจะปล่อยมันไป "

" อย่านะคีย์!!! “ ฟานตะโกนขึ้นมาขาที่กำลังขยับเดินมาหาผมทั้งๆที่เจ็บไปทั้งตัวจนได้แต่ทรุด เค้าก็ยังคลานเข้ามา " ไหนมึงบอกว่า ถ้ากูให้มึงยิง มึงจะปล่อยคีย์เป็นไง กูก็ให้มึงยิงกูแล้ว ก็ปล่อยคีย์ไปสิวะ "

" อ้อ เหรอ กูพูดแบบนั้นเหรอ "   

“ ไอ้เหี้ย! มึงนี่มัน " เค้ายกยิ้มขึ้นมาตอนที่ฟานสถบ ก่อนจะดึงผมให้นั่งลงตรงหน้า

" แต่เรื่องที่ฉันพูดกับนาย ฉันพูดจริงนะคีย์ เร็วสิ ไม่งั้นฉันจะยิงฟานอีกนัดนะ " ผมหันมองฟานที่กำลังส่ายหน้าไปมา

“ ให้มันฆ่าฉันเถอะ " เค้าพูด " ให้ตายดีกว่าต้องทนเห็นนายตกอยู่ในสภาพแบบนั้น เพราะถ้านายทำ นายก็เหมือนฆ่าฉันไปแล้ว อย่ารักษาชีวิตฉันเลยนะ ให้ฉันตายไปจากโลกนี้โดยการที่เห็นนายยังรักฉันอยู่แบบนี้มันยังดีกว่า อย่าเลยนะ ได้โปรดอย่าทำกับฉันถึงขนาดนั้นเลย " ผมนิ่งฟังที่เค้าพูด มันก็จริงอย่างที่เค้าพูดเราจะมีชีวิตอยู่ไปทำไมถ้าต้องทำเรื่องแบบนั้น การกระทำที่เหมือนตายไปแล้วทั้งเป็นแบบนั้น เราจะมีชีวิตอยู่ไปทำไม " อย่าคีย์ อย่าลดตัวเอง ปล่อยให้มันฆ่าฉัน "

“ เชี้ย มึงนี่มันพูดมากชะมัด " หัวหน้าสลบออกมาด้วยความหัวเสียตอนที่เห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของผม เค้าคว้ามือของผมไว้ก่อนจะย่อตัวลงมาตรงหน้าแล้วดึงร่างของผมให้นอนลงด้วยความรวดเร็ว ปืนที่จ่ออยู่ที่หัวด้วยมืออีกข้าง ส่วนอีกข้างก็คว้ามือของผมทั้งสองข้างไว้เหนือหัว " พอ! มึงไม่ต้องทำอะไรแล้วคีย์ เพราะกูนี่แหละจะปล้ำมึงต่อหน้าผัวมึงเอง "
 
" ไม่นะ!! " ผมตะโกนออกไปก่อนดิ้นให้หลุดออกจากการจับกุมที่ไม่แน่นหนาเหมือนทีแรก ขยับตัวเองหนีออกมามือเดียวที่มีแรงไม่มากพอจะมัดผมให้นอนไว้ได้ ผมที่ดิ้นรนเอาชีวิตรอดจนแทบจะขาดสติ ขยับตัวเองถอยหลังหนี รู้แค่อย่างเดียวว่าจะไม่ยอมให้มันทำอะไรทั้งนั้น ปลายด้ามปืนตบลงอย่างแรงบนหน้าผมจากอีกคนเพราะอยากจะหยุดลง แต่ผมก็ไม่หยุด

" หยุด ! กูบอกให้หยุด "

" กูจะไม่หยุด! ต่อให้วินาทีเดียวต่อจากนี้ กูก็จะไม่หยุด จะไม่หยุด จะไม่ยอมเป็นของมึง กูจะไม่มีวันทำให้ฟานต้องเสียใจอีก เพราะงั้นต่อให้กูต้องตายกูก็จะไม่หยุดจำไว้!! เพี๊ยะ! “ ด้ามปืนตบเข้าที่หน้าผมอีกครั้งแต่ผมก็ยังไม่หยุดที่จะดิ้นหนี เค้าคว้ามือผมอีกครั้ง ผมก็สะบัดจนหลุด ผลักเค้าให้ออกห่างก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้ว เตะเข้าไปเต็มแรงที่หน้า ปืนไถลออกไปฟานจะตะโกนขึ้นมา

" คีย์วิ่ง! หนีไป รีบวิ่งไปคีย์ หนีไป!! “

" มึง " เสียงหัวหน้าพูดกัดฟัน  ผมหันมองฟานที่กำลังคลานเข้ามาเพื่อบอกให้ผมหนีไป ผมวิ่งเข้าไปช่วยเค้า

" ไป วิิ่งไปซะ หนีไป ไม่ต้องช่วยฉัน หนีไป หนีไปซะ "

" แต่ฟาน “

" หนีไป เร็วเข้าสิ ฉันเอาตัวรอดได้ นายไปสิ ไปซะ!! " ร่างที่ยืนนิ่งอยู่แบบนั้นผมตัดสินใจวิ่งเข้าไปหาคนที่บอกว่าให้ผมหนี ดึงเค้าที่บาดเจ็บให้ลุกขึ้นมา " มันเสียเวลาคีย์ ไปซะ! " เค้าผลักผม

" ไม่ ถ้าไม่มีนายฉันก็ไม่ไปไหนทั้งนั้น จะให้ฉันทิ้งนายไว้ที่นี่ได้ยังไงกัน เราต้องไปด้วยกันสิ " ผมจะไม่เอาตัวรอดคนเดียวเด็ดขาด จะไม่นึกจินตนาการว่าเค้าจะเป็นยังไงต่อจากนี้ ถ้าจะตายก็ตายด้วยกัน ถ้าจะรอดก็ต้องรอดด้วยกัน

" พวกมึงไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น นั่นแหละ! " เสียงทุ้มที่ดังขึ้นหันไปอีกทีผมเห็นปลายกระบอกปืนที่ยื่นตรงมาทางเรา แล้วเสียงดังปัง! ก็ดังขึ้นในวินาทีถัดมานั้น

   ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วจนแทบจะตั้งตัวไม่ทัน เสียงสุดท้ายที่ผมได้ยิน นอกจากเสียงปืนคือเสียงของฟานที่ลุกขึ้นจากพื้นแล้วมากอดผมไว้ด้วยแรงเฮือกสุดท้ายที่เค้ามี เค้าที่หันหลังของเค้าบังมาร่างของผมเอาไว้

" คีย์ ระวัง! " เค้าพูดแบบนั้นตอนที่กอดผมไว้แน่นจนแทบจะหายใจไม่ออก แต่ก็ค่อยๆคลายมันออกมาตอนที่ผมเงยหน้าขึ้นมองเค้า เค้าก็ทำได้แค่ยิ้ม ก่อนร่างที่กอดผมนั้นจะค่อยๆทรุดล้มลงตรงหน้า

" ฟาน!!! " แววตาที่เบิกกว้างของผมกับเลือดจำนวนมากที่ไหลออกมาจากร่างกายของเค้า เสียงหวีดร้องที่ดังออกมาจากสติในตอนนั้น ผมทรุดลงนั่งแล้วคว้าร่างของเค้ามากอดไว้ ร่างที่เอาตัวเองมาบังผมไว้จากกระสุนปืนที่หมายจะยิงผม  " ไม่จริง ฟาน อย่าเพิ่งเป็นอะไรนะฟาน ไม่นะ ไม่ๆ ฟาน ไม่นะ ไม่นะ ไม่ "

" หนีไป คีย์ " เค้าพูดออกมาเสียงเบาๆ " หนีไปซะ หนีไป "

" ไม่ เราต้องไปด้วยกันสิ เราต้องไปด้วยกันนะ ฉันจะพานายไปหาหมอ เราจะไปโรงพยาบาล ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร " ผมกอดเค้าไว้ในตอนนั้นไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น แม้แต่เสียงฝีเท้ามากมายที่วิ่งขึ้นมาจากที่ไกลๆ ก่อนประตูชั้นดาดฟ้าจะเปิดออกกว้างพร้อมกับเสียงของคนที่ไม่คุ้นจะตะโกนขึ้นมา

" หยุด! นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจวางอาวุธปืนลงซะ!  "  เสียงอาวุธปืนที่ถูกโยนลงบนพื้น

" ฉันไม่ได้ทำ ฉันไม่ได้ยิงพวกมันนะ เป็นแค่ป้องกันตัว ไปจับพวกมันสิ พวกมันจะฆ่าฉัน " เสียงหัวหน้าระล่ำพูดดังขึ้นมาผมหันมองเค้าที่กำลังอะลาวาดที่ตัวเองกำลังโดนจับกุม เท้าที่เตะต่อยและดิ้นหนี เสียงที่หันมาด่าทอพวกเรา " เพราะพวกนาย เพราะพวกนายทำให้ชีวิตฉันต้องเป็นแบบนี้ " ผมกอดฟานที่บรือตามองผมไว้ในตอนนั้น เค้าที่ยิ้มออกมา 

" มีคนมาช่วยแล้ว ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไรแล้ว ไม่ต้องกลัว "

" ฟาน ไม่นะ นายต้องไม่เป็นไรอะไรนะ ฉันจะพานายไปหาหมอ นายจะต้องปลอดภัย เราจะไปเที่ยวด้วยกันไง เรากำลังจะได้ไปเที่ยวด้วยกันนะ นายรอฉันอยู่ตรงนี้ ฉันจะไปบอกคุณตำรวจ "

" คีย์.. "

" มีคนบาดเจ็บครับ ช่วยด้วย ช่วยเค้าด้วย ได้โปรดช่วยเค้าที ฟานโดนยิง ช่วยเค้าด้วย ช่วยเค้าครับคุณตำรวจ  "  เสียงตะโกนของผมพูดออกมาไม่ขาดสาย ผมพูดจาวนไปมาเหมือนกำลังจะขาดใจและไม่ได้สติอยู่ตรงนั้น

" มีคนบาดเจ็บ! รีบนำส่งเร็วเข้า!! " เสียงของตำรวจที่ตะโกนออกไป หน่วยกู้ภัยเคลื่อนที่ก็รีบวิ่งขึ้นมานำร่างของฟานขึ้นไปบนเตียงสีส้ม เค้าที่มองหน้าผมเหมือนจะพูดอะไร มือหนาที่คว้ามือผมไว้ฟานยิ้ม

" คีย์ "

" หื้ม ? อะไร เจ็บเหรอ ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็จะหาย เดี๋ยวจะหายนะ เค้าจะฟานไปหาหมอนะ " ผมลูบหัวเค้าตอนที่ก้มหน้าลงไปกอดอีกคนก็พูด

" ฉันรักนายนะ " เค้าบอกแบบนั้น น้ำตาก็ไหลออกมา " ฉันขอโทษนะที่ทำร้ายนาย " ผมส่ายหน้าไปมา

" ไม่ต้องพูด ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ฉันให้อภัยนายแล้ว นายจะไม่เป็นไรนะ " ผมจับมือเค้าไว้ " เดี๋ยวนายก็จะหาย เราจะได้ไปเที่ยวกัน เราจะได้อยู่ด้วยกันเหมือนเดิมไงนะ เค้าจะพานายไปหาหมอ ไปรักษา ไม่เป็นไรนะฟาน ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร "

" คีย์.. ขอโทษนะ ขอโทษจริงๆทั้งๆที่วันนั้นฉันควรจะปกป้องนายเหมือนอย่างวันนี้แท้ๆ  แต่ฉันกลับทำร้ายนาย  ฉัน. " เสียงของค้าที่หยุดไป ผมคว้ามือเค้าไว้ก่อนจะเขย่า

“ ฟาน ไม่นะ ฟาน ไม่ๆ ทำเงียบไปละ ตื่นสิ ฟื้นขึ้นมา ฉันให้อภัยนาย ไม่เป็นไร ฉันไม่โกรธ ฟานฟื้นสิ ฉันไม่โกรธนายหรอกนะ แต่นายต้องอยู่กับฉันสิ ถ้านายไม่อยู่ ฉันจะอยู่กับใคร ไหนบอกว่าจะดูแลฉันไง พูดไว้แล้วไง ฟาน! หมอ ช่วยด้วยครับ ช่วยด้วย "

“ ผู้บาดเจ็บหัวใจเต้นอ่อนมาก รีบเคลื่อนย้าย " เสียงของหน่วยกู้ภัยบอกก่อนที่เค้าจะเคลื่อนย้ายแปลสีส้มที่มีร่างของอีกคนออกไป
 
“ ฟาน ฟาน!  ฟานอย่าเป็นอะไรนะ "

“ คีย์ ใจเย็นๆ นะ นายเป็นยังไงบ้าง เป็นอะไรมั้ย "  เสียงที่วิ่งเข้ามาทักผมพร้อมอ้อมกอดที่เข้ามากอดผมไว้ ลิปลูบหลังผมปลอบๆ " ไม่เป็นไรนะคีย์ ใจเย็นๆ ฟานจะปลอดภัย แต่นายอย่าเพิ่งเข้าไปกวนเจ้าหน้าที่เลยนะ "

“ ลิป ฟานเค้า ฟาน.. " เสียงที่พูดไม่เป็นคำเพราะน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างหนัก แต่ลิปก็พยักหน้าเข้าใจ 

“ ไม่เป็นไร เค้าจะปลอดภัยแน่ๆ ไม่เป็นไรนะ คีย์ "

“ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันฉันไม่ได้เป็นคนทำ คีย์มันบีบบังคับให้ฉันต้องทำแบบนี้  แล้วที่ฉันต้องยิงไอเด็กนั่นจะตายนั่นก็เพราะว่าคีย์มันบีบบังคับให้ฉันทำ  แล้วที่ฉันต้องมาเป็นแบบนี้นั่นมันก็เพราะคีย์อีกนั่นแหละ นายบีบบังคับให้ฉันต้องทำแบบนี้ " เสียงคำอธิบายของหัวหน้าดังขึ้นมาเค้าที่ตอนนี้ถูกจับกุมอยู่พยายามพูดกับตำรวจแล้วดึงตัวเองให้หลุดออกจากการจับกุม ผมหันไปมองเค้าอีกครั้งมองคนที่กำลังพูดไม่หยุดปาก คำพูดที่กำลังกล่าวโทษแค่ผมกับฟานกล่าวว่า เราผิด กล่าวว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเพราะเรา  ผมเดินเข้าไปใกล้เค้าอีกคนก็เงียบ

   มือที่กำแน่นของผมแม้จะเอื้อมไปต่อยเค้าสักหมัด หรือตบแรงๆ ก็ยังรู้สึกรังเกียจที่ต้องทำให้มือตัวเองไปสัมผัสกับผิวกายของคนชั่วช้าแบบนั้น ผมมองเค้าด้วยสายตาสั่นๆ แววตาแดงที่น้ำตามันไหลไม่หยุด ทั้งโกรธ ทั้งแค้นแล้วอยากจะฆ่าให้ตายคามือตรงนี้

“ หยุด! โทษคนอื่นเถอะ ไม่ใช่คนอื่นหรอกที่ทำให้มึงต้องเป็นแบบนี้แต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นเพราะตัวมึงเองนั่นแหละ มึงกล่าวโทษทุกคนยกเว้นตัวมึงเอง แต่ตัวมึงเองนั่นแหละ ที่มึงควรกล่าวโทษที่สุด ที่มึงต้องมาเป็นแบบนี้ มันก็เพราะความไม่เคยพอ ความอยากมีอยากได้ ความเจ้าคิดเจ้าแค้น ทั้งๆที่เรื่องที่เกิดขึ้นมันก็เกิดจากตัวมึงทั้งนั้น ,มึงอยู่ในจุดที่สุงสุดก็เพราะตัวมึง แล้วที่มึงตกต่ำอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็เป็นเพราะมึงที่มักมากเอง  ไม่มีใครหน้าไหนมันทำมึงทั้งนั้น  มึงมันทำตัวเอง! “ ผมผ่อนหายใจออกมาตอนที่จ้องหน้าคนคนนั้นที่ก็จ้องมองผม " ถ้ามีใครสักคนที่มึงควรโทษ มึงควรโทษตัวเองที่สุด แล้วจำไว้นะ! ถ้าคนที่กูรักต้องเป็นอะไรไป กูจะจองล้างจองเวร ให้มึงต้องชดใช้บาปกรรมทั้งชีวิต!!  “

...................................................................

หลังจากอ่านคอมเม้นท์ ทุกคนคิดว่า ตอนนี้คือ ตอนจบ
ซึ่งมัน.. ไม่ใช่ ยังไม่จบบบ จบวันอาทิตย์นี้ค่าาาาาา ใจเย็นๆเนอะ
มีคนบอกว่า จบยังไง ลุ้น จะแฮปปี้มั้ย จะดูเบียดๆ อึดอัดมั้ย
เท่าที่แต่งจบแล้ว หนมคิดว่าไม่นะคะ เป็นการสรุปที่พอดี และ เข้าใจ
เพราะงั้นต้องมาอ่านตอนจบวันอาทิตย์นี้นะคะ  =3= =3=
ฝากแท็ก #ฟานคีย์ ในทวิตด้วยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้า เจอกันตอนจบเด้ออออ  :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:

ออฟไลน์ ฟุยุโกะ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ฟานจะเป็นอะไรมากไหม เมื่อไหร่คีย์จะหมดเคราะห์หมดโศกซะทีเนี่ย :katai1:

ออฟไลน์ oilzaza001

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ตำรวจมาตอนจบตามสูตรเป๊ะๆ...

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
หวังว่าฟานจะทรหดพอ รอดชีวิตมาได้นะ

ออฟไลน์ mareya.no7

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
เราคิดถึงตอนแรกๆ ของเรื่องนี้ ทุกคนกลายเป็นคนละคนไปหมดณ.จุดนี้ ไม่น่าเชื่อเลยนะ คีย์จากหนุ่มออฟฟิศธรรมดามีคนที่แอบปลื้ม เหมือนๆ คนในสังคมทั่วไป หัวหน้าจากคนที่ดูอบอุ่น เป็นผู้ใหญ่พึ่งพาได้ แลดูไอดอลเหมาะแก่การแอบปลื้ม ถ้ามันมีแค่นี้มันคงเป็นเรื่องรักที่feelgoodจริงไหม?

แต่เพราะมันไม่ใช่ไง คีย์คงไม่นึกว่าหัวหน้าที่ตัวเองหลงไหลมานานสองนานจะชั่วช้าถึงขนาดนี้ ไม่คิดว่าคนที่ตัวเองรู้สึกดีถึงขนาดจะนอกใจแฟนมาเล่นด้วยจะกลายเป็นความรู้สึกเกลียดชังถึงขนาดสาปส่งไม่ให้ได้ผุดได้เกิดแบบนี้...

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ใจคนยากแท้หยั่งถึงและก็ไอ้คนที่ขึ้นชื่อว่าคนนี่แหละ น่ากลัวที่สุดจริงๆ ขอบคุณคับ

ปอลิง. คุณหนมคับ เรามาถึงจุดๆ นี้ กันได้อย่างไร 5555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ nottto

  • MaxNuzz
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0

ออฟไลน์ LovEYouOnLy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 439
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
แม้แต่ในนิยายย ตำรวจไทยยังมาช้าเสมอเลย ชิส์

ฟานไม่เปนอะไรเน้ออออ
ต้องไปญี่ปุ่นด้วยกันเน้ออออ

แต่หัวหน้าโดนแบบนี้ไม่สะใจเลย น่าจะต้องหนักกว่านี้อะ

ออฟไลน์ MENTA

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 77
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
คีย์จ๋า สู้ๆนะ
ฟาน อย่างเป็นอะไรนะ ฮอกไกโด รออยู่ไง

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
 มันน่าจะมีฉากปืนลั่นใส่พวงกระเจี๊ยวหัวหน้าเนาะ มันจะได้ไปทำชั่วกับใครไม่ได้อีก :m16:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-01-2017 03:01:32 โดย twinmonkey0311 »

ออฟไลน์ ่jjay

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 454
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-0
อย่าตายนะฟานนนน ทริปญี่ปุ่นรออยู่วววววววว :katai1:

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ทำใจตั้งแต่อ่านชื่อตอน แต่พอมาอ่านก็ยังหน่วงใจยุ่ดี อะไรมันจะเลวร้ายไปหมดขนาดนี้
ฟานจะเป็นไรมั้ย อ่านแล้วเครียดเลย
แถมต้องมาลุ้นอีกว่ามันจะจบแบบไหน โอ้ย ปวดใจ  :ling3:

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
โอ๊ยยยย บีบหัวใจค่ะ เมื่อไหร่จะมีความสุขกันจริงๆสักที

ฟานคีย์ก็พยายามปรับตัวปรับใจกันแล้ว

ปากคนเรา พาจนจริงๆค่ะ มันประจวบเหมาะไปหมด

แล้วคนไม่ดีแล้วยังไม่สำนึกอีก ก็ไม่แปลกเลยที่จะกล้าทำร้ายคนอื่นอีก แถมมีปัญหาทางจิตอีก เป็นหนัก
คิดการใหญ่มากค่ะ กะจะให้ตายกันไปเลยหรอ

ฟานต้องปลอดภัยนะ คีย์รออยู่


ออฟไลน์ madxsound

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เป็นตอนที่อ่านไปพูดไปว่า "ฟานอย่าเป็นไรเลยนะ" แล้วแบบร้องไห้ออกมา ฟานจะเป็นไรมั้ยอ่ะ ไม่นะอย่าจากคีย์ไปอย่างงี้นะ TT
 :sad4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง
ตอนที่ 70
' ความรักที่เข้ากันได้ดี '

   โรงพยาบาลเอกชนใกล้ที่ทำงาน ฟานถูกนำส่งมาก่อนหน้านี้ด้วยรถของโรงพยาบาลจากจุดเกิดเหตุ ส่วนผมคุณเมษเป็นคนขับรถพาผมมาส่งที่นี่พร้อมกับลิปที่นั่งลูบหลังปลอบกันมาตลอดทาง

   ขาของผมวิ่งตรงไปที่ห้องฉุกเฉินทันทีตอนที่มาถึง ไฟหน้าห้องที่บอกว่าเจ้าหน้าที่กำลังปฎิบัติงานอยู่นั้นสว่างจ้า ผมยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นน้ำตาที่ไหลออกมา สองมือของผมมันบีบเข้าหากันแน่น ความรู้สึกในอกนี้ผมได้แต่ภาวนาขอให้ทุกอย่างปลอดภัย ขอให้เค้าปลอดภัย ขอให้ทุกอย่างมันผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ขอให้เค้ามีชีวิตอยู่ต่อไป อยู่กับผม อยู่ใกล้ๆผม

“ คีย์ ฟานถึงมือของหมอแล้ว เค้าต้องปลอดภัยแน่ๆ มานั่งเถอะ " ลิปเดินเข้ามาใกล้ผม เค้าที่ดึงตัวผมให้มานั่งที่เก้าอี้หน้าห้องผ่าตัดนั้น มือที่ลูบให้กำลังใจกันไม่มีสักวินาทีเลยที่ผมจะหยุดร้องไห้

   น้ำตาที่ไหลออกมานั้น ผมคิดถึงช่วงเวลาที่ผ่านมาทั้งหมด เค้าที่ไล่บอกว่าให้ผมไป ให้หนีไปโดยไม่คิดถึงชีวิตของตัวเอง เสียงพูดที่ยังคงคิดถึงความผิดของตัวเองที่เคยทำไว้กับผม ความดีมันทดแทนสิ่งแย่ๆที่ทำไว้ไม่ได้นั่นก็จริงอยู่ แต่ที่แน่ๆเค้าเองก็พยายามที่จะทำให้ทุกอย่างมันดีขึ้น พยายามปกป้องผมเอาไว้เพราะเค้าคงคิดมาตลอดมาว่า ครั้งนั้นที่เคยทำร้าย ครั้งนี้ก็จะขอปกป้องเอาไว้ให้สุดความสามารถที่สุด " คีย์หยุดร้องได้แล้ว พอแล้วนะ เลิกร้องไห้เถอะ " มือที่เอื้อมมาเช็ดน้ำตาให้ผมลิปถอนหายใจออกมา

“ ถ้าฉันพูดว่าฉันรักเค้า มันจะเป็นอะไรมั้ยลิป คนที่ครั้งนึงเคยทำร้ายฉันให้ต้องทรมาน ถ้าฉันบอกว่า ฉันรักผู้ชายที่ทำร้ายฉันคนนั้น จะได้รึเปล่าลิป ฉันจะดูโง่มั้ยที่บอกว่ารักเค้า แล้วไม่อยากจะให้เค้าจากฉันไปไหน ฉันที่ขอร้องให้เค้าอยู่ แล้วยกโทษให้เค้าทั้งหมด ฉันดูโง่มากรึเปล่าที่ยังรักเค้า "

“ คีย์ "

“ แต่ฉันรักเค้านะ แม้ว่าจะเป็นยังไง ฉันก็ยังรักเค้านะ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นฉันอยากจะให้อภัยเค้าทั้งหมด อยากให้เราเริ่มต้นใหม่ด้วยกัน ฉันจะไม่นอกใจเค้าอีก เค้าจะไม่ทำร้ายฉันอีก จะไม่มีเรื่องราวพวกนั้นเกิดขึ้นอีก เรากำลังจะเริ่มต้นใหม่ เค้าจะปลอดภัยใช่มั้ย อึก ฮือๆ เค้าจะปลอดภัยแล้วกลับมาเริ่มต้นใหม่กับฉันใช่มั้ย ใช่มั้ยลิป อึก ฮือๆ  "

“ ใช่ เค้าจะปลอดภัย ต้องปลอดภัยแน่ๆ ฟานจะต้องกลับมาดูแลนาย เพราะนายคือคนที่เค้ารักเหมือนกัน เค้าจะทิ้งนายไปได้ยังไงจริงมั้ย " เสียงลิปที่ปลอบผม ไม่ได้ช่วยให้น้ำตาทั้งหมดที่ยังคงไหลออกมามันหยุดไป มือที่เอื้อมขึ้นมาลูบหัวเบาๆนั้น " คีย์ นายไม่ได้ดูโง่หรอกที่รักคนคนนั้น ไม่ต้องสนใจคำพูดของคนอื่น ไม่ต้องสนสายตาของใครๆ ในสายตาคนอื่นเค้าอาจจะดูแย่ เลว แต่สำหรับนาย  นายไม่ได้มองเห็นเค้าแค่ด้านนั้น นายยังเห็นด้านดีๆของเค้า นายรู้ว่าเค้าเป็นยังไงมากกว่าคนอื่นๆ อย่าฟังคำของคนอื่นที่เพราะเค้าไม่ได้เห็นทุกด้านเหมือนนาย ไม่ได้มีความทรงจำมากมายเหมือนนายและไม่ได้เป็นนาย " เค้าถอนหายใจออกมาก่อนจะพูดต่อ

" ถ้านายจะดูโง่เรื่องไหนสักเรื่องแล้วละก็ ฉันว่านายคงดูโง่มาก ที่ทั้งๆที่นายรักเค้าแต่กลับบอกว่าไม่รักแล้วเลิกกับเค้าไปเพราะคำพูดของคนอื่นๆที่บอกว่า อย่ารัก  อย่ารักคนคนนี้ตังหาก " หันหน้ามองลิปที่ยิ้มให้ผม " นายรู้จักฟานดีที่สุด นายเห็นเค้าในตอนที่ดีที่สุดและแย่ที่สุดนายเผชิญทุกอย่างมันมากับเค้าทั้งหมด จะเดินต่อ หรือ หยุด มันคือชีวิตของนาย อย่าฟังเสียงคนอื่น ฟังเสียงหัวใจตัวเอง ไม่ต้องถามว่า จะพูดว่ารักเค้าได้รึเปล่า จะดูโง่มั้ยถ้านายรักเค้า  ไม่ต้องถาม รักคือรัก นี่คือหัวใจของนาย "

   ผมมองออกไปที่ห้องฉุกเฉิน ผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆ ก่อนจะลุกขึ้นทันทีตอนที่คุณหมอเดินออกมาจากห้องนั้น  ผมเอ่ยถามอาการของอีกฝ่ายด้วยใจร้อนรน " คุณหมอ ฟานเป็นยังไงบ้างครับ เค้าเป็นยังไงบ้าง ปลอดภัยแล้วใช่มั้ย "

“ ตอนนี้ผู้บาดเจ็บปลอดภัยแล้วครับ บาดแผลทั้งสามแห่งที่แขนและขาโดนยิงไม่สาหัสนักกระสุนแค่ถากผ่านไป ส่วนที่ท้องเป็นแผลลึกแต่ไม่โดนส่วนอันตรายตอนนี้นำกระสุนออกมาเรียบร้อยแล้วครับ " ผมผ่อนลมหายใจออกมาแทบจะทรุดลงนั่งบนพื้น " อีกสักครู่เราจะทำการย้ายผู้ป่วยไปห้องพักพิเศษครับ "

“ ขอบคุณมากครับหมอ ขอบคุณมากครับ " ผมก้มหน้าลงขอบคุณเค้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า ลิปที่เดินมาใกล้กอดไหล่ที่กำลังสั่นไว้ก่อนที่ผมก็ดึงตัวเค้าเข้ามากอดเค้า " ลิป ฟานปลอดภัยแล้ว เค้าปลอดภัยแล้วลิป เค้าปลอดภัยแล้ว "

“ โล่งอกไปทีนะคีย์ เฮ้ออ หมดทุกข์หมดโศกกับเค้าสักที "  มือที่ตบหลังผมก่อนจะผละออกตอนที่นางพยาบาลเดินเข้ามาใกล้ เธอยิ้มแห้งๆเพราะเหมือนต้องเข้ามาขัดจังหวะของเราที่กำลังปลอบใจกันอยู่

“ ขอโทษนะคะ ดิฉันขอแจ้งให้ทราบว่าตอนนี้ห้องของผู้ป่วยได้ถูกจัดไว้เรียบร้อยแล้ว ญาติผู้ป่วยสามารถเข้าไปพักผ่อนที่นั่นก่อนได้เลยนะคะ "

“ แล้วเมื่อไหร่ ฟาน.. คือ เมื่อไหร่ผู้ป่วยจะได้ออกมาจากห้องฉุกเฉินเหรอครับ "

“ คุณหมอจะขอรอดูอาการอีกสักครู่นะคะ ถ้าไม่มีอาการแทรกซ้อนอะไร อีกสักพักก็คงจะย้ายออกไปได้ค่ะ " ผมพยักหน้ารับ  ก่อนจะเดินตามพยาบาลไปที่ห้องพักเดี่ยวของอีกคนที่ถูกจัดเตรียมไว้ให้

“ คีย์ นายจะกินอะไรหน่อยรึเปล่า ฉันจะไปซื้อมาให้ "

“ ไม่เป็นไร ฉันไม่ค่อยหิวน่ะ " ผมบอกก่อนจะหันไปยิ้มจางๆให้คุณเมษ " ขอบคุณคุณเมษมากเลยครับที่ขับรถมาส่งผมที่นี่ "

“ ไม่เป็นไรครับ " อีกคนว่าก่อนจะยิ้ม " แต่หมอนี่ตอนที่รู้ว่าคุณโดนจับตัวไปก็ระส่ำโทรแจ้งหาคนนู้นคนนี้เต็มไปหมด จนตำรวจแทบจะมากันทุกส.น.”

“ นายเป็นคนแจ้งตำรวจเหรอลิป " ผมถามอีกคนที่ก็ถอนหายใจก่อนจะพยักหน้ารับ

“ ฉันห่วงนายมากเลยรู้มั้ยคีย์ " อีกคนบอกก่อนจะคว้ามือผมไปจับไว้ " ฉันหันมาเห็นน่ะ ตอนที่หัวหน้าจับนายแล้วก็บังคับขึ้นไปข้างบนตึกพร้อมฟาน ตอนนัั้นฉันหันกลับมามองพอดี แล้วก็เกิดสงสัยว่าทำไมนายกับฟานถึงเข้าไปในบริษัทพร้อมกันอีก จะบอกว่าลืมของก็คงจะไม่ใช่ ถ้ามีมีธุระอะไรเค้าก็ไม่ให้คนนอกขึ้นไปอยู่แล้ว ฉันก็เลยลองเดินเข้ามาดูใกล้ๆช่วงที่พวกนายรอลิฟต์อยู่ ฉันก็เห็นหน้าหัวหน้า ตอนนั้นจำได้ว่าตกใจมาก ฉันก็เลยวิ่งไปแจ้งยาม แต่ท่าทางเค้าเหมือนไม่เชื่อฉัน  เค้าบอกว่าเค้าเฝ้าอยู่ตลอดถ้าหัวหน้าเข้าไปเค้าต้องเห็นทั้งๆที่ตอนนั้นเค้ายืนหันหลังให้ประตูแล้วกำลังคุยกับเพื่อนด้วยซ้ำ  พอเห็นเป็นแบบนั้นฉันก็โทรแจ้งตำรวจแต่ก็ช้ามากกว่าเดินทางมาถึง พอตำรวจมาเค้าก็เลยตรวจสอบกล้องวงจรปิดในลิฟต์แล้วก็เห็น หัวหน้ากำลังขู่นายด้วยปืน " ลิปก้มหน้าลงก่อนจะถอนหายใจออกมา " ตอนนั้นน่ะ  ฉันได้ยินเสียงปืน มันดังใกล้กันมาก สองนัด ฉันคิดว่าเป็นนาย ฉันได้แต่ภาวนาว่าไม่ใช่ ขอให้ไม่มีใครบาดเจ็บ ฉันกลัวคีย์ ฉันกลัวนายเป็นอะไรไป "

“ ลิป ขอบใจนะ แต่ฉันไม่ได้เป็นอะไรหรอก " ผมก้มหน้าลงตอนที่คิดถึงช่วงเวลานั้น " ฟานไม่ยอมให้ฉันเป็นอะไรไปหรอก เค้ายอมให้หัวหน้ายิงตัวเองเพื่อที่จะให้เค้าปล่อยฉันไปน่ะ "

“ แบบนี้ต้องจัดการให้หนักนะอย่ายอมความ " คุณเมษบอก " เค้าคงโดนข้อหาพยายามฆ่าอยู่แล้วละ เพราะมันเป็นการกระทำที่ถูกไตร่ตรองมาก่อน " ผมถอนหายใจออกมามือที่จับมือของผมอย่างลิปก็พยักหน้ารับ

“ ตำรวจคงกำลังสอบสวนเค้าอยู่ แล้วอีกไม่นานคงมาสอบสวนนาย แล้วก็หาหลักฐานมัดตัวคนผิดอย่างเค้า เข้าคุกไป ฉันเชื่อว่าจุดจบของคนอย่างเค้าคงไม่ได้ตายดีหรอก "

“ อื้ม " ผมพยักหน้ารับอีกคนก่อนที่ประตูห้องจะถูกเคาะสองสามครั้ง

   ก๊อก ก๊อก ก๊อก

   เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินเข้ามาหาผมหลังจากที่ลิปเพิ่งพูดถึงได้ไม่นาน ท่าทางเคร่งเครียดนั้นผมทำได้แค่สูดลมหายใจเข้าไปเต็มปอด การสอบสวนเกิดขึ้นในห้องนั้น ผมเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดและทุกอย่าง ทั้งเรื่องที่เคยถูกข่มขู่ และ ทำร้ายร่างกาย แสดงหลักฐานเท่าที่ผมมีนั่นคือข้อความที่หัวหน้าเคยส่งมาข่มขู่ผม คุณตำรวจที่ฟังความจดบันทึกเหตุการณ์ทุกอย่างไว้

   ขั้นตอนต่อไปของเค้าก็คงเป็นการการหาหลักฐานในที่เกิดเหตุ กล้องวงจรปิด และส่งฟ้องศาลก่อนที่จะยื่นเรื่องดำเนินคดี ซึ่งเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะดำเนินการต่อไป

“ ทางเราจะดำเนินเรื่องให้เร็วที่สุดครับ "

“ แล้วในระหว่างนี้เค้าจะได้ประกันตัวออกมามั้ยครับ "

“ เรื่องนั้นศาลจะเป็นฝ่ายพิจารณาครับแต่ในระหว่างที่รอคำสั่งศาลก็คงต้องถูกคุมขังไว้ก่อน ยังไงทางเราจะติดต่อมานะครับ ถ้าหากว่ามีความคืบหน้า หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมอะไร "

“ ขอบคุณมากครับ " ผมก้มหน้าลงขอบคุณพวกเค้าที่ก็ก้มหน้ารับก่อนจะเดินออกจากห้องไป ถอนหายใจออกมาเบาๆ ลิปก็พูดขึ้น

“ โล่งใจไปทีนะ ยังไงตอนนี้เค้าก็ถูกคุมขังอยู่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ " ผมพยักหน้ารับ " นายอยากจะกินอะไรหน่อยมั้ยคีย์ ฉันจะลงไปซื้อมาให้กับคุณเมษ "

“ ไม่ละ นายไปเถอะ ฉันว่านายกลับไปพักผ่อนได้แล้ว พรุ่งนี้ยังจะต้องไปทำงานอีกนะ " ผมบอกก่อนจะถอนหายใจออกมา " ฉันก็ไม่มีวันลาเหลือแล้วเหมือนกัน พรุ่งนี้ก็คงต้องไปทำงาน "

“ ฉันว่านายไม่ต้องไปหรอก อีกสักพักหัวหน้ากับฝ่ายบุคคลคงเดินทางมาเยี่ยมนายอยู่แล้ว เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เค้าให้นายไปทำงานมันก็คงจะเกินไปหน่อยมั้ง ลูกจ้างเพิ่งพ้นจากเหตุการณ์ที่เกือบจะเอาชีวิตไม่รอดมานะจะให้ไปทำงานได้ไง " ผมหันไปยิ้มให้อีกคนลิปก็ตบไหล่เบาๆ " ยังไงเดี๋ยวฉันลงไปหาอะไรให้นายกินหน่อยดีกว่า ตอนนี้ไม่หิวเผื่อดึกๆ นายหิวขึ้นมา "  เค้าเดินออกไปพร้อมกับคุณเเมษ ผมก็นั่งนิ่งอยู่แบบนั้น จนกระทั่งเตียงของผู้ป่วยถูกเครื่องย้ายเข้ามา

   ผมลุกขึ้นยืนทันทีตอนที่ร่างนั้นถูกย้ายจากเตียงนึงมาอีกเตียงนึง ถุงน้ำเกลือถูกแขวนไว้ในที่ของมัน ฟานมีใบหน้าซีดที่ต่างไปจากเดิม เครื่องช่วยหายใจถูกติดไว้ ผมเดินเข้ามาใกล้เค้าในตอนที่พยาบาลกำลังจัดเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยเธอยิ้มให้ผมก่อนจะเดินออกไป

   นั่งลงที่เก้าอี้ข้างเตียงนั้นอีกครั้งเอื้อมมือจับมือข้างที่ว่างขึ้นมาแนบแก้มน้ำตาที่ไหลเอ่อออกมา ภาพตรงหน้ามันบีบรัดหัวใจของผมแน่นจนแทบจะหายไม่ออก ภาพที่เค้าต้องนอนนิ่งด้วยสีหน้าซีดเซียว ทั้งๆเมื่อเช้าเรายังมีความสุขกับอาหารเช้าที่ทำกันแบบง่ายๆ เราที่หัวเราะด้วยกันตอนที่เค้าเอ่ยเล่าเรื่องของเพื่อนที่มหาลัยให้ผมฟัง เราที่พูดคุยกับถึงทริปที่กำลังจะเกิดขึ้น ความสุขที่กำลังจะเกิดขึ้นของเรา

“ ฟานเจ็บมั้ย ฉันขอโทษนะ ที่ฉันทำให้นายเจ็บเพราะผู้ชายคนนั้นอีกแล้ว " ผมบอกเค้าก่อนจะเอื้อมมือไปเช็ดแก้มของเค้าเบาๆ " ขอโทษนะฟาน ฉันขอโทษนะ ขอโทษจริงๆ แต่อีกเดี๋ยวนายก็จะไม่เจ็บปวดแล้วนะ นายจะหายดี แล้วเราก็จะได้ไปเริ่มต้นด้วยกันใหม่ เราจะมีความสุขอย่างที่เราพูดกันไว้ไง  ตื่นขึ้นมาได้แล้วนะ ฉันรอฟานอยู่นะ รู้มั้ย "

   ก๊อก ก๊อก ก๊อก

   เงยหน้าขึ้นมองบานประตูที่มีคนใหม่เข้ามาผมเช็ดน้ำตาของตัวเอง ประตูที่เปิดออก ผมพบว่าคนที่มาคือหัวหน้าแผนกแล้วก็หัวหน้าฝ่ายบุคคลที่วิ่งกระหืดกระหอบกันเข้ามา

“ คีย์เป็นยังไงบ้าง "

“ หัวหน้า สวัสดีครับ " ผมเอ่ยชื่อเรียกเค้าก่อนจะก้มหน้าลงทักพวกเธอ " ผมไม่เป็นไรครับ ปลอดภัยดีครับแฟนผมช่วยผมไว้น่ะ " พวกเธอถอนหายใจโล่งอกออกมาทันทีตอนที่ได้ยินแบบนั้น ขาที่เดินเข้ามาใกล้เตียงมองดูฟานก่อนจะหันมองผม

“ แล้วตอนนี้เค้าเป็นยังไงบ้างละ "

“ หมอบอกว่า ตอนนี้ปลอดภัยแล้วครับ แต่ผมกำลังรอให้เค้าฟื้น " หันไปมองฟานที่กำลังหลับอยู่ ผมถอนหายใจออกมาก่อนจะยิ้มให้คนที่เอ่ยถาม " ขอบคุณที่มาเยี่ยมนะครับ "

“ จะไม่มาได้ยังไง เรื่องมาถึงขั้นนี้ ฉันหัวใจแทบวายตอนที่รู้ว่าคุณธีร์จับนายขึ้นไปจะทำร้ายบนดาดฟ้าตึก " หัวหน้าแผนกบุคคลบอก " แถมตอนที่ฉันรู้ ตอนนั้นยังมีข่าวลือออกมาว่ามีคนโดนยิงอีก ฉันก็ยิ่งตกใจเพราะคิดว่าเป็นนาย "

“ นี่พวกฉันก็รีบจนไม่ได้ซื้อแม้แต่ของเยี่ยมเนี้ย " หัวหน้าแผนกของผมเสริม

“ ของเยี่ยมไม่ต้องหรอกครับ ตอนนี้น่ะ ผมไม่ได้ต้องการอะไรทั้งนั้น ผมแค่อยากจะให้เค้าฟื้นขึ้นมาก็เท่านั้นแหละครับ "

“ คีย์ " หัวหน้าเอื้อมมือมาบีบมือผม " ไม่ต้องคิดมาก เค้าปลอดภัยแล้วละอยู่กับหมอแล้ว ไม่เป็นอะไรแล้วนะ ต่อจากนี้ไปนายเองก็จะได้เริ่มต้นใหม่ คิดซะว่าเรื่องร้ายๆพวกนี้ผ่านพ้นไปแล้วต่อไปนี้ก็จะมีแต่เรื่องดีๆเข้ามานะ "

“ ขอบคุณครับ ผมก็หวังว่ามันจะเป็นแบบนั้นเหมือนกันครับ "

“ ฉันละพูดอะไรไม่ออกเลย  ทั้งๆที่กำลังจะได้หยุดพักไปเที่ยวแล้วแท้ๆ แต่ยังมาเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก "

“ หัวหน้าครับ คือ..จริงๆผมต้องไปทำงานพรุ่งนี้อีกวันก่อนจะหยุดพักร้อนที่ขอไว้ แต่ว่าถ้าผมขอหยุดตั้งแต่พรุ่งนี้ไปจะได้มั้ยครับ หักเงินเดือนผมก็ได้ แต่ขอให้ผมได้หยุดดูแลเค้าได้มั้ยครับ คือ ผมเป็นห่วงแฟนผม..ผม "

“ ได้สิคีย์ ทำไมจะไม่ได้ละ งานของนายก็เสร็จหมดแล้วนี่ หยุดตั้งแต่วันพรุ่งนี้เลยก็ได้ ฉันไม่คิดว่าอยากจะให้นายไปทำงานหลังจากผ่านเรื่องร้ายๆแบบนั้นมาหรอกนะ พวกฉันก็ไม่ใช่คนใจดำขนาดนั้น "

“ ขอบคุณมากครับ "

“ แล้วนี่ทางตำรวจว่าไง เค้ามาสอบสวนนายรึยัง "

“ เรียบร้อยแล้วครับ ตอนนี้กำลังรวบรวมหลักฐานส่งฟ้องศาลให้พิจารณาคดีอยู่ " ผมบอก หัวหน้าแผนกบุคคลก็พยักหน้าเข้าใจ

“ เดี๋ยวฉันจะเป็นคนรวบรวมหลักฐานส่งทางตำรวจให้เอง ทั้งกล้องวงจรปิดในลิฟต์แล้วก็ที่ดาดฟ้า นายวางใจได้เลยนะ บริษัทจะเอาเรื่องเค้าจนถึงที่สุด ฉันจะไม่ปล่อยเค้าให้มาทำร้าย ทำอันตรายกับใครได้อีก "

“ ขอบคุณมากครับหัวหน้า " ผมก้มหน้าลงขอบคุณเค้า   หัวหน้าแผนกของผมก็พูดขึ้น

“ เฮ้อ.. ฉันไม่รู้จะพูดอะไรเลย กับเรื่องที่นายต้องเจอคีย์ ฉันพูดไม่ออกจริงๆ ทั้งๆที่จะได้เที่ยวไปพักผ่อนแท้ๆยังจะมาเกิดเรื่องแย่ๆแบบนี้อีก แล้วแบบนี้ทริปของนายที่จะไปเที่ยวไม่ต้องถูกพับเก็บไปด้วยรึไง "

“ มันไม่สำคัญหรอกครับเรื่องเที่ยวน่ะ สำหรับผมตอนนี้ขอแค่เค้าฟื้นขึ้นมาแล้วปลอดภัย ผมก็ไม่ได้ต้องการอะไรอีก " ผมหันมองใบหน้าของร่างสูงที่กำลังหลับ เอื้อมมือจับมือเค้าไว้แน่นสำหรับความรู้สึกที่อยู่ในใจตอนนี้ " เพราะถ้ายังมีเค้าอยู่ เราจะไปเที่ยวเมื่อไหร่ก็ได้ ตอนนี้ขอแค่เค้าฟื้นขึ้นมา แล้วมีชีวิตอยู่อย่างปลอดภัยก็พอ "

   ในเวลาดึกที่ท้องฟ้าข้างนอกมืดมิด ทุกอย่างในห้องนี้ดูเงียบงันไปหมด หัวหน้าทั้งสองคนกลับออกไปนานแล้ว ลิปกับคุณเมษก็กลับขึ้นมาเอาขนมมาให้แล้วกลับไปแล้วเหมือนกัน ตอนนี้เหลือเพียงแค่ผมที่ยังคงนั่งจับมือฟานอยู่แบบนี้ จับมืออยู่ข้างๆเค้าไม่ไปไหน ผมไม่อยากจะละสายตาไปไหนไกลจากเค้าเลยแม้สักวินาที กลัวว่าถ้าเผลอไปไหนแล้วเค้าตื่นขึ้นมาจะไม่เห็นใครอยู่ข้างๆเค้า

   เสียงนาฬิกาที่เดินไปเรื่อยๆผมฆ่าเวลาว่างเปล่านั้นด้วยการเอ่ยพูดกับเค้าแม้จะไม่มีเสียงตอบรับอะไรกลับมาเลยก็ตาม
“ นี่ ฟาน นายยังจำครั้งแรกที่เราเจอกันได้รึเปล่า " ผมยิ้มตอนที่เอื้อมมือไปลูบหน้าอีกคนแล้วพิงแก้มเข้ากับมือของเค้า " ตอนนั้นน่ะ ฉันไม่ชอบนายเอาซะเลยจริงๆนะ มีอย่างที่ไหนกัน ทำตัวเหมือนโฮสขายเรื่องแบบนั้นแล้วชวนฉันไปกินเหล้าด้วย แต่แล้วสุดท้ายฉันก็ตกร่องป่องชิ้นไปกับนายจนได้ มาคิดตอนนี้รักเราก็เกิดขึ้นได้ง่ายๆเหมือนกันนะ ฉันไม่คิดเลยด้วยซ้ำว่ามันจะเป็นรักที่จริงจังอะไรนายเองก็คงรู้ ก็เลยพยายามจริงจังแล้วแสดงให้ฉันเห็นอยู่ตลอด นี่ๆยังจำครั้งแรกที่เราไปเที่ยวด้วยกันได้รึเปล่า ภาพพวกนั้น นายยังเก็บไว้อยู่มั้ย ฉันว่าเราควรไปอัดมาใส่กรอบแล้ววางไว้ในห้องนะ จะว่าไปมันมีรูปคู่ด้วยนิ ถ้ายังอยู่เดี๋ยวนายฟื้นขึ้นมาเราอัดใส่กรอบกันนะ ไปเลือกกรอบสวยๆในห้างแล้วทำรูปใส่กัน แต่ถ้าไม่มีนายลบไปแล้ว เราก็ถ่ายด้วยกันใหม่ดีมั้ย วันก่อนฉันดูข่าวเค้ามีตลาดกลางคืนมาเปิดใหม่นะ ไว้ว่างๆเราไปด้วยกันนะ " ผมยิ้มบอกฟานแบบนั้น

   จ้องดูหน้าเค้าที่กำลังหลับพร้อมเครื่องช่วยหายใจนั่น ผมแค่อยากจะให้เค้าตื่นขึ้นมาตอนนี้เลย ตื่นขึ้นมาแล้วพูดคุยกับผม เพราะในความรู้สึกที่มองเห็นเค้าหลับอยู่ตอนนี้คือเค้ายังไม่ได้ปลอดภัยยังไม่ได้หายดี ผมเลยอยากจะให้เค้าตื่น ตื่นขึ้นมาคุยกับผม " ฟาน ฉันอยากจะกินข้าวปลาแซลม่อนย่างกับข้าวห้าสี ตื่นขึ้นมาทำให้ฉันหน่อยสิ หิวแล้วนะ " ก้มหน้าลงร้องไห้กับมือหนาที่กอดไว้แน่นไม่ยอมปล่อย

   แค่นาทีเดียวก็รู้สึกนานเป็นชั่วโมงยามที่เค้าหลับไป น้ำตาที่ไหลออกมาของผมหลับตาแน่นคิดถึงเรื่องราวทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้นกับเรา ครั้งแรกที่เจอกัน ตอนทีไปเที่ยวตลอดวันอาทิตย์ด้วยกัน เรื่องตลกของเรา หรือแม้แต่ตอนที่ทะเลาะกันครั้งแรก ยิ่งคิดน้ำตาก็ยิ่งไหล อ่อนเพลียจนร่างกายของผมเองก็ค่อยๆหลับลงไปช้าๆ อย่างไม่ทันตั้งตัวอะไร

    แรงขยับน้อยๆจากมือที่ผมกุมไว้อยู่เริ่มขยับ ผมที่ได้สติเหมือนกับมีใครมาสะกิดก็สะดุ้งตัวเองขึ้น ก่อนจะมองไปรอบๆแล้วพบว่าร่างสูงที่กำลังรอให้ตื่นขยับตัวเคลื่อนไหวแล้ว

“ ฟาน.. " ผมลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วจ้องมองเค้าที่ค่อยๆลืมตาขึ้นมองผม ดวงตาคมเปิดขึ้นมาช้าๆและกระพริบลงสองสามครั้งก่อนที่เค้าจะถอนหายใจแล้วเอื้อมมือดึงหน้ากากช่วยหายใจออก

" คีย์ "

" ฟาน! " ผมก้มลงไปกอดเค้าไว้แน่นในตอนที่อีกฝ่ายเอ่ยชื่อเรียกผม น้ำตาที่เพิ่งหยุดไหลไปจากการนอนหลับไหลออกมาอีกครั้งหลังจากที่เห็นเค้าลืมตาตื่นขึ้นมา " นายฟื้นแล้ว นายฟื้นแล้ว อึก ฮือๆ ฟาน นายฟื้นแล้ว ขอโทษนะ ขอโทษที่ทำให้เจ็บมากขนาดนี้ ฉันขอโทษ "

" นายเป็นยังไงบ้าง " นี่คือคำถามแรกที่เค้าถามผม " เจ็บตรงไหนมั้ย "

" ไม่เจ็บ ไม่เจ็บอะไรเลย ฉันไม่เป็นไร " ผมบอกเค้า " แล้วนายละ นายเจ็บรึเปล่า ยังเจ็บแผลอยู่มั้ย ฉันจะเรียกพยาบาลนะ ให้เค้ามาดูนาย นายฟื้นแล้ว " ท่าทางตื่นเต้นของผมที่กำลังจะเดินออกไปแต่อีกคนก็คว้ามือผมไว้ หันไปมองดูเค้าที่เหมือนจะพูดอะไรสักอย่างผมก้มหน้าลงไปมอง " มีอะไรรึเปล่า เจ็บแผลมากเหรอ หรือว่าอยากจะได้อะไร "

" ฉันขอโทษนะคีย์ " ขมวดคิ้วมองเค้าที่ยิ้มจางๆให้ผม " ขอโทษที่ฉันทำให้นายต้องอดไปเที่ยวฮอกไกโดเลย " ผมหลุดยิ้มออกมาตอนที่อีกคนบอกแบบนั้น หน้าที่ส่ายไปมาของผม เอื้อมตัวไปกอดเค้าไว้แน่นจนอีกคนได้แต่นิ่งไป

“ ไม่เป็นไร  มันไม่สำคัญหรอกเรื่องอื่นน่ะแค่มีฟานอยู่ข้างๆฉัน ฉันก็ไม่ต้องการอะไรแล้ว ขอแค่มีฟานก็พอ "

“ คีย์ " มือของเค้าเอื้อมมากอดตัวผมไว้ น้ำตาที่ไหลออกมานั่นคือความรู้สึกของผมทั้งหมดที่มี เค้าปลอดภัยแล้วและตอนนี้ฟานก็อยู่กับผม อยู่ข้างๆผม

“ ไม่ต้องไปไหนก็ได้ จะอยู่แต่บ้านก็ไม่เป็นไร แค่ยังมีฟานอยู่กับฉันก็พอ เพราะการที่นายยังอยู่ข้างๆฉัน นั่นคือความสุขของฉัน และเป็นสิ่งที่ฉันต้องการมากที่สุดแล้ว " 

“ ขอโทษนะ " ผมผละตัวเองออกก่อนจะมองเค้า " ขอโทษที่ฉันทำร้ายนายทั้งๆที่ฉัน ควรจะเป็นคนปกป้องนายไว้ แต่มันกลับเป็นฉันที่ทำให้นายต้องเจ็บปวด "

“ เลิกพูดขอโทษฉันได้แล้ว ต่อจากนี้เราจะมาเริ่มต้นใหม่กันใหม่นะทั้งฉันแล้วก็นาย เราจะเติมเต็มสิ่งที่ขาดที่หายไปให้กัน ตกลงมั้ย ให้อดีตพวกนั้นเป็นบทเรียน อย่าพูดถึงมันอีกเลย ฉันให้อภัยนายแล้ว แล้วนายละให้อภัยฉันได้มั้ย "

" ฉันอภัยนาย " เค้าพูดสั้นๆก่อนจะยิ้ม " เราจะเริ่มต้นกันใหม่นะ "

" อื้ม " พยักหน้ารับเค้าตอนที่ก้มลงไปกอดอีกคนไว้แน่นอีกครั้ง ผมผ่อนลมหายใจของตัวเองออกมาไม่สนใจความรู้สึกที่เคยเกิดขึ้นอะไรทั้งนั้น

    ถ้าเราพยายามปรับปรุงตัวและเริ่มต้นใหม่ให้อดีตที่ผ่านมาเป็นบทเรียนว่าจะไม่ทำผิดมันอีกครั้ง เค้าไม่ใช่คนที่แย่ แค่เคยทำผิดพลาดในเรื่องที่ไม่น่าให้อภัย แต่ผมเองก็เป็นแบบนั้น ผมเองก็เคยทำเรื่องที่ไม่น่าให้อภัยเหมือนกัน คนเราทุกคนคบกันก็ต้องเห็นด้านที่แย่ที่สุด เห็นเพื่อที่จะได้ตัดสินใจว่า เราอยากจะคบคนคนนี้ต่อไปรึเปล่า แล้วผมก็ได้คำตอบแล้ว  ผมอยากจะคบเค้าต่อ.. ฟานคือคนที่ผมเลือก และผมเองก็เป็นคนที่ฟานก็เลือกเหมือนกัน  “ เดี๋ยวฉันไปเรียกพยาบาลมาดูนายนะ "

“ อื้ม "

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
คุณหมอและพยาบาลเข้ามาตรวจเช็คอาการเบื้องต้นของเค้าหลังจากที่ตื่นขึ้นมา ผมมองดูนาฬิกาที่กำลังเข้าสู่เช้าวันใหม่ก็ได้แต่ถอนหายใจ แดดของอีกวันค่อยๆส่องเข้ามาในห้อง เป็นความรู้สึกที่เหมือนหลังจากนี้ชีวิตของผมจะได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้งนึง เริ่มต้นขึ้นอีกครั้งหลังจากผ่านเรื่องราวร้ายๆมา

“ ตอนนี้คนไข้ปลอดภัยแล้วนะครับ แต่หมอขอให้นอนดูอาการที่โรงพยาบาลอีกสักสามวัน ถ้าไม่มีอะไรก็คงกลับบ้านได้ "

“ ขอบคุณ คุณหมอมากครับ " ผมก้มหน้าบอกอีกคนที่ก็พยักหน้ารับแล้วเดินออกไป ผมเดินเข้ามานั่งบนเตียงที่มีฟานนั่งอยู่ มองดูแผลที่อยู่ใต้ชุดคนป่วยที่เค้าสวมใส่ " เจ็บแผลมั้ย "

“ ไม่เจ็บหรอก แต่เราอดเที่ยวเลยนี่สิ จ่ายค่าตั๋วค่าโรงแรมไปแล้วตั้งเยอะ " ผมหลุดยิ้มออกมาตอนที่อีกคนเริ่มบ่น

“ คิดว่าฟาดเคราะห์ นายปลอดภัยก็ดีแล้ว ไปเที่ยวน่ะเมื่อไหร่ก็ได้ ไว้ปีหน้าฉันจะขอลางานให้ใหม่ "

“ ก็อีกตั้งปีหน้า รู้เศร้าใจชะมัด " เค้าที่ถอนหายใจพลางมองหน้าผม " นี่คีย์ เยียวยาฉันหน่อยสิ "

“ เยียวยา ? เยียวยาอะไร "

“ ขยับเข้ามาใกล้ๆนี่ แล้วจะบอกให้ " มือหนากวักมือเรียกผมให้เข้าไปใกล้

   ดึงตัวเองเข้าไปใกล้เค้าแต่ยังไม่ทันจะถามอะไรคนป่วยที่คิดว่าไม่มีแรงอะไรก็จูบเข้าที่ริมฝีปากของผมแบบไม่ทันให้ตั้งตัว

" อื้อ.." เบิกตาขึ้นน้อยๆก่อนจะหลับตาลงยิ้มช้าๆตอนที่เข้าใจแล้วว่าการเยียวยาที่ว่่านั่นคืออะไร เผยอปากน้อยๆตอบรับลิ้นร้อนที่เคลื่อนตัวเข้ามาใกล้  สองแขนหนากอดเอวผมไว้ มันเป็นจูบดูดดื่มที่ยาวนานที่สุดของเราในช่วงนี้ ผมผละตัวเองออกก่อนจะโดนจูบซ้ำลงอีกครั้ง

" เป็นจูบที่โอเครึเปล่า " คำถามของเค้าคงหมายความว่าผมคิดถึงเรื่องราวพวกนั้นรึเปล่าตอนที่จูบกับเค้า ยังคงคิดถึงเรื่องที่ไม่อยากจะคิดถึงอยู่มั้ย

“ เป็นจูบที่ดีที่สุดแล้วในช่วงนี้ " ผมก้มหน้าบอกก่อนจะเหลือบมองอีกคนที่ยิ้มออกมา

“ ไม่คิดถึงเรื่องพวกนั้นแล้วนะ "

“ ไม่รู้สิ จูบอีกครั้งให้ฉันมั่นใจได้รึเปล่าละ " ฟานยิ้มออกมาตอนที่ผมบอก   เราจูบกันอีกครั้งเป็นจูบที่ดูดดื่มที่สุดและอบอุ่นที่สุด ใจที่เต้นแรงแทบไม่เป็นจังหวะของผม มีความสุขจนอธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ 

   ผมหลับตาลงในภาพที่ดำมืดนั้นมันแค่เพียงแค่คนตรงหน้าที่จูบผมอยู่ เค้าที่กอดผมไว้ ทุกอย่างมีเพียงแค่เค้าเท่านั้นที่ต่อจากนี้จะอยู่ข้างๆผม  ไม่มีใครคนอื่น และไม่มีความน่ากลัวใดๆ หลงเหลืออยู่แล้ว

“ เฮ้ยย ฟานนน พวกกูมาเยี่ยมแล้ววววว " เสียงดังจากประตูหน้าห้องที่ทำให้เราผละออกจากกันแทบจะทันที เหล่ากลุ่มเด็กผู้ชายที่มาใหม่หยุดอยู่ที่หน้าประตูนั้นก่อนจะปิดมันอีกครั้งราวกับว่ารู้ตัวเองดีว่า เข้ามาขัดจังหวะเราสองคน

“ เข้ามาแล้ว พวกมึงก็เข้ามาเถอะน่า " ฟานบอกประตูนั่นก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง

“ คุณคีย์สวัสดีครับ "

“ สวัสดีครับ " ผมเลื่อนตัวเเองไปนั่งที่เก้าอี้ ปล่อยให้เพื่อนที่มาเยี่ยมทยอยเข้ามาทีละคนรวมทั้งผู้หญิงคนนั้นด้วย ผู้หญิงคนที่เคยเสนอตัวเองให้ฟาน คนที่เคยพูดจาดูถูกผมในผับคราวก่อน คนที่ชอบเค้ามากจนยอมทำได้ทุกอย่าง เธอที่เดินเข้ามาด้วยสายตาบวมแดงที่ดูก็รู้ว่าคงร้องไห้มาอย่างหนัก

“ ปลอดภัยแล้วเหรอ "

“ ปลอดภัยแล้วละ ขอบคุณที่เยี่ยมนะ " ฟานบอกเธอก็พยักหน้ารับ

“ ฉันเป็นห่วงนายแทบแย่ เราเพิ่งรู้ข่าวเมื่อกี้เอง "

“ พวกกูดูข่าวแล้วก็เห็นว่ามันเป็นตึกที่ทำงานของคุณคีย์ พวกเราก็เลยพยายามติดต่อมึงแต่ติดต่อไม่ได้ พอโทรไปถามเจ้าหน้าที่ช่วยมึงไว้ เค้าก็บอกโรงพยาบาลที่มาส่ง แล้วพอกูเช็คก็เป็นชื่อมึง เท่านั้นแหละอีเหี้ย! ก็แทบจะติดเทอร์โบเครื่องยนต์บินกันมา "

“ ขอบใจพวกมึงนะ กูเองก็เพิ่งฟื้น โทษที ที่ทำให้เป็นห่วง "

“ แล้วคืนดีกันแล้วเหรอ นายกับคุณคีย์ " เธอถามเหมือนผมไม่ได้นั่งอยู่ตรงนั้น ผู้หญิงคนนั้นหันมามองผมที่ก็ไม่ได้ตอบอะไร แต่เป็นฟานที่ตอบแทนออกไป

“ ใช่ เรากลับมาคืนดีกันแล้ว " เสียงถอนหายใจที่ได้ฟัง เธอเบือนหน้าหนีผมก่อนจะมองหน้าฟานอยู่สักพัก

" แต่ยังไงนายก็เป็นคนที่ฉันชอบอยู่ดีนั่นแหละ มันน่าหงุดหงิดชะมัดที่ไม่ว่าทำยังไงนายก็ไม่เคยหันมามองฉันเลย แต่ถ้านายมีความสุขที่จะคบกับเค้า ก็คบเถอะ ฉันปล่อยก็ได้ " เธอบอกก่อนจะหันมามองผม " อย่าเลิกกันก็แล้วกัน ไม่งั้นฉันจะมาเอานายกลับไปแน่นอน "

“ อุดมการณ์เด็ดเดี่ยวจัง " ทามบอกก่อนจะหัวเราะออกมาพร้อมกับทุกคน

" นายไม่เป็นไรก็ดีแล้ว มีชีวิตยืนยาวน่ะดีมี่สุด " เธอบอกก่อนจะมองผม " แล้วก็มีคนที่รักคอยดูแล "

" พูดอะไรให้มันออกมาจากใจหน่อย ประโยคฟังดูเหมือนประชดประชัน ดูไปมองแรงใส่คุณคีย์เค้า " ทามบอกเพื่อนสาวตัวเองที่ก็ถอนหายใจออกมา

" อิจฉามีไรปะ "

" ไม่มีหรอกจ้า ไม่กล้ามี " เสียงหัวเราะที่ดังขึ้นมาของทุกคน ผมมองฟานที่หันเราะอยู่ก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา อย่างน้อยเค้าก็ยิ้มแล้วก็หัวเราะได้แล้ว " มึงปลอดภัยแล้ว พวกกูก็เบาใจ เรื่องเรียนไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวกูไปทำเรื่องลากับอาจารย์ให้ "

" ขอบใจนะมึง "

" ปลายภาคให้กูลอดข้อสอบก็พอ " เสียงหัวเราะที่ดังขึ้นมาอีกครั้ง ห้องพักดูมีชีวิตชีวาขึ้นทันตา เพื่อนๆนั่งคุยกับฟานอยู่สักพัก ก่อนจะขอตัวกลับไปเรียน 

“ แล้วเดี๋ยวพวกกูมาเยี่ยมใหม่ "

“ เออ เจอกัน "

“ กลับแล้วครับ คุณคีย์ "

“ ขอบคุณที่มาเยี่ยมนะ "

   ความเงียบกลับเข้ามาให้ห้องพักอีกครั้งหลังจากที่ประตูนั้นปิดลงไป ก่อนที่เสียงเคาะประตูจะดังขึ้นอีกพร้อมกับอาหารมื้อแรกจะถูกยกมาให้ หน้าตาที่ดูไม่ได้แย่เมื่อเทียบกับอาหารโรงพยาบาลทั่วไป พยาบาลส่งยาหลังอาหารมาให้ ผมก็เลื่อนโต๊ะให้เค้า " กินข้าวนะ จะได้กินยาแล้วพักผ่อน "

“ ป้อนหน่อยสิ " อีกคนบอกแบบเอาแต่ใจผมก็ยิ้ม แม้ไม่ได้เอ่ยตกลงอะไรแต่ก็ยอมยกช้อนขึ้นมาเป่าข้าวต้มร้อนๆแล้วยื่นไปจ่อปากเค้า " แล้วตกลงหัวหน้านายเค้าเป็นยังไง "

“ โดนจับเข้าคุกไปแล้วน่ะ รอให้ศาลพิจารณาคดีว่าจะทำยังไง แต่ฉันไม่รู้ว่าเค้าจะถูกประกันตัวออกมารึยังตอนนี้ "

“ อย่างงั้นเหรอ " ฟานบอกก่อนจะพยักหน้ารับแล้วกินข้าวที่ผมป้อนเข้าไป

   ก๊อก ก๊อก ก๊อก 

“ สวัสดีครับ " เสียงทักจากหน้าประตูทำให้มือที่กำลังป้อนอาหารของผมชะงักลง เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินเข้ามาในห้องเราสองก็พยักหน้ารับ

“ สวัสดีครับ"

“ พวกผมมีบางอย่างที่ต้องแจ้งให้พวกคุณสองคนทราบครับ " ท่าทางเคร่งเครียดของเค้าผ่อนลมหายใจออกมาก่อนจะเอ่ย " ผู้ต้องหาที่เราจับกุมเมื่อวานในคดีพยายามฆ่า เค้าผูกคอตายเสียชีวิตในคุกแล้วครับ " ผมเบิกตากว้างตอนที่ได้ฟังคำพูดนั้น  ช้อนที่ถืออยู่ล่วงหล่นลงในถ้วยแทบจะทันทีด้วยความตกใจ " เมื่อคืนเค้าทะเลาะกับผู้ถูกคุมขังคนอื่นเลยเกิดการทะเลาะวิวาททางเจ้าหน้าที่ก็เลยจับขังแยกจากคนอื่น ในตอนนั้นเค้าก็พยายามติดต่อญาติพี่น้องของเค้ารวมทั้งภรรยาให้มาประกันตัวแต่ว่าไม่มีใครมา อาจเพราะความเครียดสะสมในความผิดที่ตัวเองก่อ แล้วคงเครียดจากการหวั่นวิตกที่โดนข่มขู่จากผู้ร่วมขังคนอื่นที่จะทำร้าย ก็เลยเป็นเหตุจูงใจให้เค้าผูกคอตายหนีความผิดครับ "

“ โดนข่มขู่ จากผู้ร่วมขังคนอื่นๆ " ผมทวนคำพูดของคุณตำรวจที่อธิบายเพิ่มเติม

“ เค้าโดนข่มขู่ว่า ความผิดของเค้าอาจจะต้องติดคุกนานหลายสิบปี แล้วก็โดนขู่เรื่องสภาพแวดล้อมในคุก ชีวิตที่ต้องอยู่ในคุก ผมคิดว่าเค้าคงกลัว ก็เลยฆ่าตัวตายก่อน "

“ อย่างงั้นเหรอครับ แล้วตอนนี้ศพของเค้า " ฟานถาม

“ ตอนนี้ทางญาติได้รับเรื่องและมาดำเนินการให้แบบเงียบๆแล้วครับ เพราะเหตุนี้คดีความของพวกคุณทางเราจึงไม่สามารถที่เอาผิดกับผู้กระทำผิดได้อีกจึงขอมาแจ้งให้ทราบไว้ครับ "

“ ขอบคุณมากครับ " ผมบอกกับทางเจ้าหน้าที่ก็ก้มหน้าลงแล้วเดินออกไปจากห้องเมื่อแจ้งเรื่องราวพวกนั้นเสร็จ

   ผมหันมองหน้าฟานที่ก็ถอนหายใจออกมา มือหนาที่คว้ามือผมมาจับไว้เค้าคงรู้ว่าผมคงรู้สึกไม่ดีเท่าไหร่ที่ได้ยินเรื่องการตายของคนคนนั้น ผมไม่รู้สึกว่ามันสมควรตายแล้วหรืออะไร แต่คิดว่ามันเร็วเกินไป เร็วจนเหมือนอีกคนอาจจะไม่ทันสำนึกในความผิดที่ตัวเองได้ก่อไว้

   สำหรับหัวหน้าเค้าไม่ใส่ใจความผิดที่ทำไว้กับคนอื่นเลย ไม่เคยคิดว่าคนที่ถูกเค้ากระทำจะรู้สึกยังไง ทั้งการข่มขู่ ทำร้าย แต่พอถึงทีตัวเองได้รับกรรมบ้าง ก็กลับแต่โทษคนอื่น แล้วสุดท้าย ก็ฆ่าตัวตายหนีความทุกข์นั้น สุดท้ายชีวิตเค้าก็เหมือนกับที่เค้าทำไว้กับเนย์ โดนข่มขู่จนต้องฆ่าตัวตาย

“ ไว้เราไปทำบุญให้เค้ากันนะ อหสิกรรมให้ไป จะไม่ได้ต้องเจอกับคนแบบนั้นอีกในชาติหน้า นายเองก็จะได้สบายใจด้วย "

“ ดีเหมือนกัน " ผมพยักหน้ารับ ก่อนจะป้อนข้าวต้มที่ผ่านการเป่าจนอุ่นให้อีกคนกิน

   ความทุกข์มันถูกกำจัดได้ง่ายเสียเหลือเกินสำหรับคนที่ไม่คิดจะต่อสู้และเรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน ชีวิตเหมือนไม่มีค่าอะไรเลยสักนิด เกิด เจ็บ ยังไม่ทันแก่ บางทีก็ตายไป ตายไปด้วยการกระทำที่ทำลายชีวิตของตัวเอง ทั้งๆที่มีชีวิตที่ดีอยู่แล้วแต่กลับทำให้ทุกอย่างตกต่ำลงด้วยตัวเอง ด้วยความต้องการที่ไม่ยอมปลงของตัวเอง

   ความโกรธ ความแค้น ที่เอาแต่โทษคนอื่นและไม่เคยคิดมองความผิดของตัวเอง การตายบางทีก็ง่ายเกินไปสำหรับเค้า แต่การมีชีวิตอยู่ก็ไม่สมควรเหมือนกัน เพราะงั้นตายไปชดใช้กรรมที่ก่อไว้ นั่นก็คงดีกว่าจะมีชีวิตอยู่เพื่อแก้ไขที่ไม่รู้เลยว่า คนอย่างเค้าจะแก้ไขอะไรได้อีก
................................................

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปแล้วสำหรับเรื่องราววุ่นวายและน่าเศร้าที่เกิดขึ้น พิธีงานศพของหัวหน้าถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายและรวดเร็ว ลิปเล่าให้ฟังว่าภรรยาของเค้าไม่ได้เป็นคนมาจัดการงานศพ เป็นพ่อแม่ของเค้าเท่านั้นที่จัดการให้และจัดกันแบบเงียบๆเฉพาะในครอบครัว จัดแค่วันเดียว สวดแค่คืนเดียวแล้วก็จัดการเผาเลย เพราะครอบครัวของคุณธีร์เองเป็นคนระดับสูง ค่อนข้างอายกับการกระทำที่เกิดขึ้นจากวีรกรรมทั้งของลูกชาย

   ทางเค้าขอโทษและขออโหสิกรรมมากับผมเรียบร้อย หนำซ้ำยังค่าค่ารักษาพยาบาลให้กับเราอีก แต่ถึงแบบนั้นเราก็ขอปฎิเสธเพราะไม่อยากจะไปยุ่งเกี่ยวหรือให้มารับผิดชอบอะไรทั้งนั้นแต่เค้าก็ยังดึงดันที่จะจ่าย ผมกับฟานเลยตัดสินใจเอาเงินพวกนั้นไปบริจาคให้กับเด็ก สุนัขแล้วก็คนชรา เป็นการทำบุญสะเดาะเคาระห์ไม่ให้ต้องมาเจอกับคนแบบนี้ไปด้วยในตัว

   ตอนนี้ ผมกับฟานนั่งอยู่บนรถเท็กซี่เคลื่อนผ่านเข้ามาจอดในวัดใหญ่ที่ร่มรื่นและสวยงาม วัดนี้เป็นวัดสุดท้ายจากเก้าวัดที่ผมวางแผนไว้ว่าจะมาทำบุญหลังจากที่ฟานออกจากโรงพยาบาล ผมเปิดประตูรถก่อนจะลงไปรับอีกคนที่ยังคงใช้ไม้พยุงข้างนึงเพื่อพยุงตัวเองในการเดินเหินไปมาเพราะแผลที่ขายังคงเจ็บอยู่ ตอนนี้ฟานเองก็ยังคงต้องไปล้างแผลที่โรงพยาบาลแทบทุกวัน แม้จะงอแงแล้วบอกว่าไม่อยากจะไปแค่ไหน ผมก็มีหน้าที่ที่ต้องดูแล และลากเค้าไปให้ได้ แม้จะต้องหลอกล่อด้วยวิธีแบบเด็กๆก็ตาม

“ วัดนี้ร่มรื่นจังนะ " ฟานเอ่ยทักผมก็พยักหน้ารับ วัดสุดท้ายที่เดินทางมาเป็นวัดที่ลิป ที่ตอนนี้กำลังท่องยุโรปอย่างมีความสุขกับคนรักแนะนำผมมา วัดที่ค่อนข้างสงบแล้วก็บรรยากาศดี เป็นวัดเล็กๆที่อยู่ติดกับแม่น้ำสายหลัก วันนี้ผมจ้างเท็กซี่แบบเหมาวันมาวันนึงเพื่อขับรถมาทำบุญ ก่อนหน้านี้เราแวะซื้อปลาดุกตัวเป็นๆที่ตลาดมาหนึ่งกะละมังใหญ่ใส่ถุงมาเพื่อตั้งใจจะเอามาปล่อยที่นี่ เท็กซี่ที่บริการเราอย่างดีเป็นคนช่วยหอบหิ้วมาจนถึงท่าน้ำ

“ โอเครึเปล่า " ผมถามอีกคนที่ก็พยักหน้ารับผมดึงให้เค้านั่งลงข้างๆ ปลาทั้งหมดที่เราไถ่ชีวิตมาถูกปล่อยลงไปในคลอง เพื่อให้มันมีชีวิตใหม่อย่างที่เรากำลังมีชีวิตใหม่อยู่ตอนนี้ " ว่ายไปให้ไกลๆแล้วอย่าเผลอไปให้ใครเค้าจับได้อีกนะ " ผมบอกฟานก็หัวเราะ

“ ดูเค้าทำ พูดเหมือนปลามันฟังรู้เรื่อง  "

“ ก็ต้องบอกมันสิ เดี๋ยวก็เผลอไปให้เค้าจับอีก อุตส่าห์ได้มีชีวิตใหม่แล้วก็ต้องทำตัวเองใหม่นะ "

“ มันจะรู้เรื่องมั้ยละ "

“ อาจจะรู้เรื่องก็ได้ " ผมบอกอีกคนก่อนจะพยุงให้เค้าลุกขึ้น " เข้าไปถวายสังฆทานกันเถอะ " ชุดห่อสีทองที่ผมจัดการซื้อเองจากห้างแล้วใส่จัดใส่ตะกร้าสีเหลืองเพื่อนำมาถวายวัด เพราะคิดว่าถ้าซื้อสำเร็จคงได้แต่ของที่ดูไม่มีอะไร ซื้อเองยังไงก็มั่นใจว่าเราจะได้ของเต็มจำนวนจากเงินที่ซื้อ

   ฟานย่อตัวลงข้างๆด้วยท่าทางที่ดูทุลักทุเล เราถวายสังฆทานด้วยกันก่อนจะกรวดน้ำให้กับทุกชีวิตที่ล่วงลับไปแล้ว ทั้งเนย์แล้วก็คุณธีร์ ขอให้เราได้อโหสิกรรมที่ทำร่วมกันทั้งชาติที่แล้วชาตินี้ไม่ต้องต้องมาโกรธแค้นกันอีกในชาติหน้า  แล้วผมก็ขอให้พวกเค้าได้ไปเกิดในภพภูมิที่ดีที่ที่เราจะไม่มีความโกรธแค้นใดๆต่อกัน

   เดินออกจากุฎิที่ถวายสังฆทานของหลวงพ่อที่ให้น้ำมนต์เราเสียชุ่ม เดินไปเรื่อยๆตามทางร่มรื่นก่อนที่ผมจะหันไปเจอเด็กตัวเล็กที่กำลังขายอาหารปลาอยู่ เดินเข้าไปใกล้เค้าก่อนจะเอ่ยถาม " ซื้ออาหารปลาสองถุงครับ ขายยังไงเอ่ย "

“ นี่ครับ สี่สิบบาท " เด็กชายคนนั้นบอกผมก็ยื่นแบงค์ร้อยให้ เค้าที่กุลีกุจอหาเงินทอนให้ผม

“ ไม่ต้องทอนหรอก เก็บไว้นะพี่ให้กินหนม "

“ เหรอครับ ขอบคุณมากครับพี่สาวคนสวย " ท่าทางดีใจของเค้าที่แอบแลกตังค์ก่อนจะเก็บเอาใส่กระเป๋ากางเกงเอาไว้ แต่ผมกลับขมวดคิ้วน้อยๆกับคำเรียกนั้น

“ พี่สาวคนสวยเหรอวะ " ผมพูดออกมาเสียงเบาๆฟานก็หัวเราะ

“ พี่คนสวยขออาหารถุงนึงนะครับ ไปกันเถอะฮ่ะพี่สาว " เค้าดึงอาหารไปจากผมก่อนจะเดินไปที่สะพานที่ให้อาหารปลา " ยืนงงอยู่ทำไมละพี่สาว มาสิครับ มาเร็ว ให้อาหารปลากับน้องฟานกันนะ "

“ ไอ้บ้า เดี๋ยวก็เควี้ยงด้วยอาหารทั้งถุงเลย " ผมบอกก่อนจะเดินไปยืนข้างอีกคนที่ก็ยังคงเอ่ยเรียกผมไม่หยุดปากด้วยความถูกใจ

“ พี่สาวครับ "

“ เลิกเรียกแบบนั้นเถอะน่า เด็กมันดูไม่ออกรึไง ใครผู้ชาย ใครผู้หญิง "

“ หน้านายเหมือนผู้หญิงไงก็ไม่แปลกหรอกที่น้องจะรู้สึกสับสน " อีกคนบอกผมก็ปาอาหารปาใส่ " แล้วมาปาอาหารปลาใส่ฉันทำไมเล่า "

“ ฉันเป็นผู้ชายเว้ย "

“ ก็รู้แล้ว หงุดหงิดอะไรละ แทนที่จะดีใจที่มีคนชมว่าตัวเองสวย ดันมาหงุดหงิดซะได้ ฉันออกจะภูมิใจ ฉันมีแฟนสวย " ฟานบอกผม ผมก็เงียบก่อนจะโยนอาหารปลาไปเรื่อยๆ " ได้มาทำบุญก็มีความสุขไปอีกแบบนะ "

“ อื้ม " ผมพยักหน้ารับคำพูดของคน " นี่ฟาน เราอโหสิกรรมให้คุณธีร์กันเถอะนะ ฉันคิดว่าถึงมันจะน่าแค้นมาก แต่ก็อย่าคิดแค้นเค้าเลย เค้าจะได้ไปเกิด ไปชดใช้กรรมของเค้าต่อไป เราเองก็ได้บุญด้วย ได้บุญจากการอโหสิกรรมให้เค้า  "

“ ฉันไม่คิดแค้นเค้าหรอก คนที่ตายไปแล้วคิดแค้นไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร อีกอย่างเราจะเริ่มชีวิตด้วยกันใหม่ถ้ายังยึดติดกับอดีตนั่นก็ไม่ใช่การเริ่มต้นใหม่ "

“ นั่นนะสินะ " พยักหน้ารับอีกคน มือหนาที่ดึงผมเข้าไปกอดไว้ก่อนจะก้มลงมาพูดกับผม

“ ต่อจากไปนี้เรามาเริ่มต้นกันใหม่นะ ทั้งนายแล้วก็ฉัน เรามาเริ่มต้นกันใหม่นะครับคุณคีย์ " ท่าทางจริงจังของเค้าผมหลุดหัวเราะออกมาเสียงดังกับคำสุดท้ายที่อีกคนพูด

“ อึก ฮ่าๆ "

“ หัวเราะอะไรอะ นี่ฉันกำลังชวนซึ้งนะ " ฟานถามผมก็เอียงหน้ามองเค้า
 
" ฉันอยากรู้ว่าคำว่า คีย์ กับ คุณคีย์ ที่นายเรียกฉันอะไรที่นายดูเป็นตัวเองมากกว่ากัน "

“ ก็เรียกได้ทั้งคู่ เรียกคุณคีย์ก็ดูเป็นเด็กแบ๋วๆใสๆ เรียกคีย์ก็ออกแนวแบดๆเป็นผู้ใหญ่  นายอยากได้แฟนแบบไหนละ น่ารักใสๆ หรือแบดๆดีละ "

“ แล้วตัวตนของนายที่อยากจะเรียกฉันมันเป็นแบบไหน "

“ แค่คีย์ละมั้ง " อีกคนบอก " มันรู้สึกใกล้ชิดกันดี "

“ งั้นก็เรียกแค่คีย์ " ผมบอก " เพราะฉันก็รู้สึกว่า คำว่า คีย์ มันดูสนิทดีกว่าคำว่าคุณคีย์เหมือนกัน " ฟานยิ้มออกมาผมก็ยิ้มตาม " จะว่าไปรักของเรามันไม่ง่ายเลยนะว่ามั้ย กว่าจะมาอยู่ตรงนี้ได้ฉันรู้สึกว่ามันไม่ง่ายเลย "

“ มันไม่มีความรักไหนที่ได้มาง่ายๆหรอก ถึงได้มาง่ายก็ต้องมีบทพิสูจน์ยากๆรอเราอยู่ดี " เค้าบอกผมก็พยักหน้ารับ " คีย์..”

“ หื้ม ? “ ผมเอียงหน้ามองเค้า ฟานที่ยิ้มให้ผม ดึงตัวผมเข้าไปกอดเค้าไว้อีกครั้ง

“ ฉันรักนาย ฉันรักคีย์นะ "

“ ฉันเอง...ก็รักฟานเหมือนกัน " เค้ายิ้มตอนที่ได้ฟังผมพูดใบหน้าคมที่ซบลงมาบนไหล่ของผม

“ ต่อจากนี้และตลอดไปฉันก็จะรักและดูแลนายไปตลอด " ผมยิ้มให้สองมือที่กอดเค้าไว้แน่น หัวใจที่พองโตของผมเราที่ยืนอยู่ข้างกันนั้นไม่มีอะไรที่เราอยากจะได้อีก เหมือนแค่มีกันและกันอยู่อย่างงี้ก็พอ

“ งั้นฉัน..ก็ขอฝากตัวกับหัวใจของฉันไว้ที่ฟานด้วยนะ " ฉันขอฝากมันไว้ที่นาย ฝากมันไว้ให้อยู่กับนายตลอดไป เหมือนอย่างที่นายเองก็ฝากมันไว้กับฉันเช่นกัน 

   มาถึงตอนนี้  ผมรู้สึกว่าความรักนั้นเกิดขึ้น 'ง่าย' แต่การเรียนรู้ที่จะอยู่ด้วยกันให้ได้นั้น 'ยาก' เพราะการที่จะอยู่ด้วยกันได้ต้องใช้ความรู้สึกหลายๆอย่าง ทั้งความเข้าใจในข้อดีและข้อเสียของกันและกัน การให้อภัยในสิ่งที่ผิดพลาดของกันและกัน กว่าที่เราจะก้าวข้ามผ่านสิ่งเหล่านี้ไปได้ กว่าที่เราจะเข้าใจว่า ความรักของเรา คนรักของเรา เป็นยังไง มันต้องใช้เวลา และความอดทน และตอนนี้เราสองคนก็ก้าวข้ามผ่านมันมาแล้ว  บทพิสูจน์ของความรักที่ต่อจากนี้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป เพราะเราก็จะยังอยู่ด้วยกันแบบนี้ อยู่ด้วยกัน ตลอดไป

....................................................

ในที่สุดก็มาถึงบทสุดท้ายของนิยาย " ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง " แล้ว
ก่อนอื่นขอพูดถึงเนื้อเรื่องในตอนนี้ก่อนนะคะ ทุกคนอาจจะขัดใจ " อะไรวะ ทำไมหัวหน้าแค่ตายเอง ทำไมดูเหมือนง่าย ไม่ได้เคราะห์กรรมที่ทำกับคนอื่นเลย ดูไม่สาสม " เราคิดว่าถ้าเขียนพาสหัวหน้าได้รับการไต่สวนคดี สู้ความ คือเราว่าจะยืดยาวเกินไปและรู้สึกว่าไม่น่าเขียนเลย อีกอย่างลักษณะนิสัยของหัวหน้าแล้ว ต้องไม่ยอม ต้องหน้าด้าน แล้วคนอ่านต้องมาหัวเสียกับอะไรแบบนี้เหรอวะ  อีกอย่างคนแบบนี้ปรับเปลี่ยนอะไรไม่ได้ สู้ตายไปเลยดีกว่า ตายไปพร้อมกับความรู้สึกที่เคยทำกับ เนย์ไว้ นั่นคือการโดนข่มขู่ อีกอย่างเราไม่คิดว่าการ ด่าให้เจ็บที่สุด หรือ ทำร้ายเค้าให้เจ็บ มันจะได้ผลดียังไง เหมือนแค่สะใจเท่านั้น คนแบบนี้มันเสียเวลาเปล่า ถ้าต้องทำอะไรสักอย่างด้วย เราเลยคิดว่า ปล่อยให้ผลแห่งกรรมจัดการเถอะ และฟานคีย์เอง ก็ควรไม่ถือโทษเค้า ปล่อยเค้าไป ไม่งั้น ใจที่แค้นอยู่ก็ยังเจ็บอยู่

   สำหรับคนอ่านที่อ่านมาตั้งแต่เริ่มต้น จนถึง ตอนนี้ ตั้งแต่นิยายหวาน น่ารัก ใสๆ ของคนที่ไม่ชอบเด็กแต่ได้เด็กเป็นแฟน จนถึงดราม่าที่หนักหน่วง และความเข้าใจกัน ขอบคุณสำหรับการติตดามที่ไม่ทิ้งกันไปไหนนะคะ ขอบคุณที่ติดตามอ่านเรื่องราวของ ชีวิต หลากหลายรูปแบบในเรื่องนี้ มันอาจจะไม่ได้เหมือนชีวิตจริงเรียลร้อยเปอร์เซ็นต์อะไร แต่ มันคือความรักในรูปแบบนึง ที่ใช้อารมณ์ของตัวเองกระทำสิ่งต่างๆ ร้ายแรง น่ากลัว แสนดี หนมว่าคนเรามีความรู้สึกพวกนี้ในตัว แต่จะแสดงออกมาในรูปแบบไหน ก็เท่านั้น
   ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน ติดตาม ไม่ว่านิยายไปทิศทางไหน ก็ยังติดตามจนถึงบทสุดท้าย ขอบคุณมากจริงๆค่ะ และหวังว่า นิยายเรื่องต่อไป หนมจะได้รับการติดตามที่อบอุ่นแบบนี้เสมอ
   หนมจะพยายามปรับปรุงตัวเอง พัฒนาฝีมือต่อไปเรื่อยๆ ยังไงก็ขอฝากนิยายเรื่องใหม่ที่กำลังจะมีในไม่ช้านี้ด้วยนะคะ
และสุดท้าย ..

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์กันเสมอค่ะ
ยังไงฝากแท็ก #ฟานคีย์ ในทวิต และ แชร์ในเฟสด้วยนะคะ
หนมมี่ผู้ใสซื่อ

ป.ล. รายละเอียดจองนิยายอยู่ที่ด้านล่าง



ประกาศรวมเล่มหนังสือ " ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง " #ฟานคีย์

มาแล้วจ้าาาาาาาา
#เปิดจองตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม – 1 มีนาคม 2017
( หนังสือจะได้ช่วงกลางเดือนมีนาคมโดยประมาณค่ะ  )

#รายละเอียดของหนังสือ
   หนังสือขนาด A5 จำนวน 1000+ ( เนื้อหาหลัก 70 ตอน + ตอนพิเศษอีก 15 ตอน )
   หนังสือมี 3 เล่มจบ ( เล่มละ 350+ )
   ราคาหนังสืออยู่ที่ 1180 บาท ( ราคานี้รวมค่าส่ง EMS  แล้ว )
   *หนังสือหนัก มากกว่า 2 kg ส่งลงทะเบียนไม่ได้ค่ะ
      #ตัวอย่างหน้าปก มีมาให้ชม ตอนกลางเดือน กุมพา นะคะ

#รายละเอียดของเนื้อหาตอนพิเศษ
   เนื้อหาตอนพิเศษ 15 ตอน จะเป็นเนื้อหาต่อจาก ตอนจบ ตอนที่ 70 ค่ะ เป็นเนื้อเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากผ่านเหตุการณ์ร้ายๆไปแล้ว เนื้อหาจะออกแนว น่ารัก ความรัก ความเข้าใจ การปรับตัวหลังจากเกิดเรื่องนั้นขึ้น ส่วนใครที่ชอบคู่รองเมษลิป ก็มีเนื้อหาส่วนของเมษลิปอยู่ด้วยค่ะ  ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไงเป็นนิยายชีวิตที่มีความน่ารักของความรักแฝงอยู่ด้วย ถ้าได้อ่านตั้งแต่ต้นจนจบตอนพิเศษ จะเป็นอะไรดีมากกกกกก #มีความขายของระดับสิบ 55555555555555 

#ของแถม
ปฎิทินก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง ขนาดโปสการ์ด
ที่คั่น 3 ชิ้น
ปลอกสวมหนังสือแบบบาง
( ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเป็นอะไรคะ ) 55555555555555

#ขั้นตอนการสั่งซื้อ
1. โอนเงินมาที่บัญชี ธ.ไทยพานิชย์ สาขา บางจาก
      เลขที่บัญชี 0892649044
      ชื่อบัญชี นางสาวอรชา ภูมิมาตร
2. เมื่อโอนเงินเรียบร้อย ถ่ายภาพสลิปเป็นหลักฐานการโอน ( กรุณาถ่ายภาพสลิปเถอะนะคะ ได้โปรดคนดี )
3. ส่งเข้ามาที่ " กล่องข้อความ เพจหนมมี่ผู้ใสซื่อ " เท่านั้น
โดยกรอกข้อความดังนี้ให้ครบถ้วน
 ชื่อ นามสกุล
        ที่อยู่โดยละเอียด
 พร้อมแนบภาพถ่ายสลิปการโอน 
**เมื่อได้รับข้อความตอบกลับจะถือว่า การสั่งจองเสร็จสิ้น

                  *** ทั้งนี้การตอบอาจจะมีความล่าช้า แต่จะตอบภายใน 3 วัน

   หากมีขอสงสัย สามารถสอบถามได้ที่
   Twitter :: @realkanom
   Facebook :: เพจ หนมมี่ผู้ใสซื่อ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-01-2017 20:47:44 โดย patwo »

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ nottto

  • MaxNuzz
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
นิยายสนุกมากครับ ขอบคุณที่แต่งเรื่องดี ๆ ให้อ่านนะครับ แม้ว่าตอนดราม่าจะหนักเกินไปจนแอบลำคาญ 555555  :hao7: แต่ก็อ่านมาจนจบ แต่ดราม่าน้อยกว่านี้สักนิดจะดีมาก ๆ 55555 รู้สึกเครียดไปกะคีย์มากไป  :katai3:

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
เกลียดนิยายของหนมมี่ 555  แทนที่วันหยุดจะได้ใช้เวลาอย่างเชื่องช้าแต่มันทำเราติดจนต้องเผลอเร่งวันเร่งคืนให้ถึงเวลาอัพเร็วๆ แถมนิยายของเธอยังทำเราสับสนเพราะทั้งอยากอ่านและไม่อยากอ่านไปพร้อมกน 555   แต่ถึงยังไงก็ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆที่เพิ่งจบ และกำลังมาใสเวลาต่อจากนี้ด้วย อิอิ

ออฟไลน์ konjingjai

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +226/-4

ออฟไลน์ mareya.no7

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ขอบคุณค้าบบบบบบ เฮ้อ เหนื่อยเลยกว่าจะผ่านพ้นกันมาได้ ทั้งด่า ทั้งแช่ง สารพัด(คีย์) แต่ก็ตามติดตลอด ลงเอยแบบนี้ก็ดีแล้วคับ (แอบใจหายนิดๆ คงคิดถึงฟาน-คีย์ แน่ๆเลย) ^_^

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8

ออฟไลน์ tkaekaa

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 329
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
 :katai2-1: แฮปปี้เอนดิ้งสวยงาม อิผจก.นี่ใจเสาะจริงๆ
อื่นใดไม่สำคัญฟานกะคีย์รักกัน เข้าใจกันก็พอ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด