-->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ หลังแต่งงาน [03/07/2562]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ หลังแต่งงาน [03/07/2562]  (อ่าน 203124 ครั้ง)

ออฟไลน์ anntonies

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 847
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
สนุกมากเลยค่ะ อ่านรวดเดียวมาถึงตอนนี้
ส่วนตัวยังไม่รู้สึกดีกับพระเอกมาก แต่พอเข้าใจเหตุผล หวังว่าอนาคตคุณเล็กจะชนะใจเราและคุณไอได้นะคะ
แต่แค่ตอนนี้ยังไม่ได้ เทใจไปหาพี่ภัทรก่อน เพราะรู้สึกระทวยเหลือเกิน 555555 :ling3:
เอาใจช่วยนะคะคุณตัวแสบ

ออฟไลน์ Onlylyn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ไม่ใช่เวรกรรมนะพี่ไอ
มันคือพรหมลิขิต ขีดเขี่ย ให้เหี .... /โดนคุณเล็กถีบ  :z6:

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
สนุกครับ
อ่านแล้วติดเลย

ออฟไลน์ Honeyhoney

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
 :ling1: สนุกมากกกกกกกก.  ชอบมากเลยค่ะ ชอบนายเอกแบบนี้ หนึ่งร้ายอะอนาคตจะโผล่มาสร้างเรื่องเยอะแยะไหมเนี้ย

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
รู้สึกสงสารตัวร้ายแทน TvT หนึ่งเอ้ยยยยย

ออฟไลน์ Honeyhoney

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
 :mew3:  คิดถึงไอจัง

ออฟไลน์ ละอองฝน

  • แมวดำ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 261
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +398/-2




บทที่ 11








   เสียงฉะฉานของสาวสวยตัวแทนจากโรงแรมปางปาลีกำลังอธิบายข้อเสนอที่จะร่วมงานกับ I promise ภายในห้องทำงานที่อุณหภูมิเย็นเฉียบ กมลและตัวแทนจากฝ่ายต่างๆ นั่งฟังเงื่อนไขและโปรเจคต่างๆ ของทางโรงแรมจนจบ ก่อนซักถามรายละเอียดต่างๆ จนกระทั่งพอใจ ถึงหันมาปรึกษากันเองในองค์กร



   “เรื่องที่ต้องการร่วมงานกับ I promise ของเรา ทางผมและทุกคนมีความยินดีอย่างยิ่งครับ แต่การตัดสินใจว่าจะตกลงหรือไม่ ผมคงต้องขอประชุมกันก่อนอีกครั้ง เพราะเรามีแผนงานอยู่พอสมควร กลัวว่าถ้ารับข้อเสนอทันที อาจทำให้มีปัญหาได้ในภายหลัง” กมลเอ่ยกับตัวแทนของโรงแรมปางปาลี



เขาเองคิดว่าโปรเจคของทางนั้นน่าสนใจ หากก็คงต้องปรึกษากับทุกฝ่ายเสียก่อน เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่จะรับไปได้ในทันที



   “ไม่เป็นไรค่ะ ดิฉันทราบว่าการตัดสินใจต้องผ่านกระบวนการหลายอย่าง เอาเป็นว่าถ้าคุณไอและทาง I promise สนใจจะร่วมงานกับทางปางปาลีของเรา สามารถติดต่อกลับมาที่ดิฉันได้โดยตรงนะคะ แล้วเราค่อยนัดคุยกันอีกครั้ง” หญิงสาวว่าอย่างนอบน้อม

   “ได้เลยครับ ขอบคุณมากๆ ที่ให้ความสนใจในบริษัทของเรานะครับ”

   “แหม ทางเราสิคะ ต้องขอบคุณที่คุณไอสนใจโปรเจคที่เสนอไป” เธอกล่าวยิ้มแย้ม ก่อนจะจัดเก็บเอกสารและลุกขึ้น “วันนี้ดิฉันต้องขอตัวกลับก่อน หวังว่าเราจะได้ร่วมงานกันนะคะ”

   “ผมก็หวังแบบนั้นเช่นกันครับ”



   กมลเดินไปส่งคนของปางปาลีที่รถ ก่อนจะบอกลากันด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม จากนั้นเขาจึงกลับมาที่ห้องทำงานอีกครั้งเพื่อสะสางงานที่คั่งค้างเอาไว้ และแจ้งให้ทุกฝ่ายเตรียมประชุมกันในวันรุ่งขึ้น









   ปางปาลีเป็นโรงแรม 5 ดาว ที่กำลังจะสร้างเสร็จ ตั้งอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับหาดพันวา นอกจากจะสร้างขึ้นมาเป็นที่พักให้แก่นักท่องเที่ยวแล้ว โรงแรมปางปาลียังสามารถรับกรุ๊ปทัวร์ใหญ่ๆ จัดงานสมนาต่างๆ และงานแต่งงานได้อีกด้วย เพราะตัวโรงแรมค่อนข้างกว้างขวาง



   ดังนั้นเพื่อเป็นการโปรโมทโรงแรมน้องใหม่แห่งนี้ ทางผู้บริหารจึงอยากร่วมมือกับทาง I promise Tower เพื่อจัดโปรโมชั่นให้แก่คู่บ่าวสาวที่สนใจจะถ่ายพรีเวดดิ้งหรือจัดงานวิวาห์ในปางปาลี โดยมีทีมงานของ I promise เป็นผู้รับผิดชอบจัดการดูแล



   ซึ่งแพคเกจที่ได้ก็คือ นอกจากจะได้จัดงานวิวาห์อย่างครบวงจรกับ I promise แล้ว ค่าใช้จ่ายในส่วนของสถานที่ก็ยังลดราคาให้เป็นกรณีพิเศษอีกด้วย เพราะฉะนั้น ไม่ใช่แค่ปางปาลีจะได้ประโยชน์ในการโปรโมทโรงแรม แต่ I promise ยังมีสิทธิ์ขาดในการเป็นบริษัทเดียวที่ได้จัดการงานแต่งงานให้กับคู่บ่าวสาวที่สนใจจะจัดในโรงแรมนี้อีกด้วย



   ตัวกมลที่คอยมองหาโปรเจคใหม่ๆ เสมอรู้สึกค่อนข้างชอบใจกับข้อเสนอนี้ เพราะนอกจากจะได้ลูกค้ามากขึ้นแล้ว บริษัทของเขายังได้คอนเนคชั่นกับโรงแรมที่อาจจะมีชื่อเสียงต่อไปในอนาคต เพราะปางปาลีเป็นโรงแรมในเครือของเอ็นพีกรุ๊ป บริษัทยักษ์ใหญ่ระดับแนวหน้าของประเทศ ดังนั้นหากได้ทำงานร่วมกันและผลตอบรับเป็นไปได้ด้วยดี มันย่อมส่งผลดีต่อ I promise Tower ในอนาคตอย่างแน่นอน








   วันรุ่งขึ้นหลังจากเริ่มประชุมกันกับหัวหน้าฝ่ายต่างๆ ในบริษัท กมลก็ได้ข้อสรุปที่เป็นเอกฉันท์ นั่นคือทุกคนเห็นด้วยที่จะทำงานร่วมกับปางปาลี แม้ว่าอาจจะต้องทำงานหนักเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว แต่บริษัทก็จะเป็นที่รู้จักและเติบโตขึ้นอีกก้าว ซึ่งไม่แน่ว่าอาจเป็นก้าวสำคัญเลยทีเดียว



   “ถ้าทุกคนเห็นด้วยตามนี้ ผมก็จะให้อ้ายติดต่อกับทางปางปาลี เพื่อจะได้นัดเจรจาและตกลงกันถึงสัญญาต่างๆ หลังจากนี้คงมีอะไรให้ทำเพิ่มมากขึ้น แต่ผมก็ยังไม่มีนโยบายจะรับพนักงานเพิ่มในปีนี้ คงต้องรอประเมินสถานการณ์ตอนสิ้นปีอีกครั้ง ถ้าการคอนเนคชั่นกับปางปาลีไปได้ดีอย่างที่เราหวังกัน ทุกคนคงต้องช่วยกันหาน้องใหม่เพิ่มในแผนก” กมลกล่าวสรุปกับที่ประชุม


   “ว่าแต่ว่า สิ้นปีนี้…เอ่อ” รุ้งนภาฝ่ายห้องเสื้ออ้ำอึ้ง อยากจะถามถึงโบนัสจะแย่ แต่ก็แอบเกรงใจ

   “จะทวงโบนัสผมเหรอพี่รุ้ง”

   “แฮร่ๆ ใช่ค่ะ” เธอหัวเราะเจื่อนๆ “แต่แหม ปีนี้แผนกเราปักเลื่อมกันตาแทบบอดเลยนะคะคุณไอ”

   “ทำงานหนักขึ้น ผลประกอบการโตขึ้น ส่วนจำนวนคนเท่าเดิม คิดว่าผมจะใจร้ายกับทุกคนได้ลงคอเหรอครับ เอาเป็นว่าพอฝ่ายบัญชีสรุปยอดไตรมาสหน้า ผมค่อยประกาศแล้วกันว่าจะให้กี่เท่า แต่ไม่น้อยกว่าปีที่แล้วหรอกนะ” กมลว่าอย่างติดตลก

   “คุณไอของบ่าว ดีที่หนึ่งเลยเจ้าค่ะ” รุ้งนภายิ้มยินดี ทั้งยังหยอดคำหวานขำๆ ไปอีกประโยค เรียกเสียงหัวเราะให้กับทุกๆ คนในห้องประชุมได้เป็นอย่างดี

   “ไม่ดีได้หรือครับ เดี๋ยวพี่รุ้งขนเด็กๆ ไปปักเลื่อมให้เจ้าอื่นกันหมด ผมก็แย่เลยทีนี้”



   แม้แต่ละฝ่ายใน I promise Tower จะถูกแบ่งเป็นสัดส่วน การทำงานก็ค่อนข้างเป็นระบบต่างกับตอนรุ่นที่พ่อและแม่บริหาร หากกมลก็ยังคงบรรยากาศเป็นกันเอง ทำให้พนักงานทุกคนรู้สึกว่าร่วมงานกับพี่น้องหรือเพื่อนๆ เป็นดั่งครอบครัวเดียวกัน



   “ใครจะไปทิ้งคุณไอลงล่ะคะ” เธอยิ้มตาหยี ก่อนจะนึกบางเรื่องขึ้นได้ “อ้อ แบบชุดใหม่ที่คัดมาให้คราวที่แล้ว รุ้งตัดเสร็จแล้วนะคะ เสร็จจากตรงนี้คุณไอจะไปดูไหม”

   “ได้ครับ ผมว่างพอดี” ผู้บริหารหน้าหวานตกลง ก่อนหันไปหาน้องสาว “เดี๋ยวพี่ฝากอ้ายติดต่อไปทางปางปาลีด้วยนะ เผื่อจะนัดคุยกันเร็วๆ นี้ พวกเราจะได้ประชุมวางแผนงานอีกที”

   “ได้ค่ะพี่ไอ”







   
   หลังจากวันที่ประชุมกัน กมลได้นัดพบกับตัวแทนของปางปาลีเพื่อตกลงเกี่ยวกับสัญญาต่างๆ ซึ่งก็สามารถผ่านไปได้ด้วยดี จนกระทั่งถึงกำหนดการที่ต้องเดินทางไปดูสถานที่ กมลได้ตกลงกับทางนั้นว่าจะเดินทางไปด้วยตัวเอง เพราะนอกจากจะมีทีมช่างภาพกับครีเอทีฟไปช่วยกันดูแล้ว ตัวเขาเองก็อยากเห็นสถานที่จริงด้วยเช่นกัน เพราะต่อไปจะได้คุยและนำเสนอกับลูกค้าได้ถูก



   กำหนดการเดินทางของกมลคือ 2 สองวัน 1 คืน ที่ต้องค้างก็เพราะเขาต้องการให้ช่างภาพเก็บภาพบรรยากาศในตอนกลางคืนด้วย ดังนั้นกมลจึงตัดสินใจนอนที่นั่นหนึ่งคืน ซึ่งคนของทางโรงแรมยินดีเป็นอย่างยิ่ง



   คณะของ I promise Tower เดินทางด้วยกัน 3 คน มี กมล นายกลองที่เป็นช่างภาพ และนิดาจากฝ่ายครีเอทีฟ ทันทีที่ลงเครื่องที่สนามบินภูเก็ต ทางโรงแรมปางปาลีก็ส่งคนมารอรับอยู่แล้ว พวกเขาเดินทางต่ออีกไม่นานก็ถึงที่หมาย



เมื่อถึงตัวโรงแรมกมลก็เกิดความประทับใจในสถานที่ทันที เพราะไม่ใช่แค่ตัวอาคารที่สวยทันสมัย ทว่าการตกแต่งโดยรอบ รวมถึงทิวทัศน์ และการบริการก็ดีเยี่ยม



พวกเขาถูกผู้จัดการพาไปที่ห้องพักก่อนเริ่มงาน เพราะต้องเก็บกระเป๋าและเตรียมกล้องให้พร้อม อีกทั้งยังอยากให้คณะของกมลได้พักเหนื่อยจากการเดินทาง



“ขอบคุณนะครับคุณวิมล” กมลกล่าวขอบคุณผู้จัดการของโรงแรมที่ออกมาดูแลเขาด้วยตัวเอง

“ไม่เป็นไรครับ ผมต้องดูแลคุณไอให้ดีที่สุดอยู่แล้ว ว่าแต่ห้องพักของคุณไอไม่ใช่ที่นี่นะครับ สองห้องนี้เป็นของทั้งสองท่านผู้ติดตามครับ” วิมลแจ้ง

“อ้าว หรือครับ” กมลทำหน้าเหรอหรา เขาเองก็คิดว่าทางโรงแรมจะจัดให้นอนห้องเดียวกับกลอง ไม่คิดว่าจะจัดแยกอีกห้อง

“ต้องขอประทานโทษด้วยที่ผมไม่ได้แจ้งก่อน เชิญคุณไอทางนี้เลยครับ”

“เอ…แต่ผมพักกับคนของผมก็ได้นะครับ อยู่กันสองคน ห้องก็กว้างขวางด้วย” หนุ่มหน้าหวานว่าอย่างเกรงใจ เพราะดูท่าห้องที่เปิดให้พวกเขาพักจะเป็นห้องระดับพรีเมี่ยม เพราะขนาดห้องและการตกแต่งดูไม่ใช่ห้องระดับธรรมดา

“ทางเราได้จัดที่พักอีกที่ให้คุณไอแล้ว อย่าปฏิเสธเลยนะครับ ไม่งั้นผมจะโดนเจ้านายเอาเรื่องได้” วิมลอ้าง ก่อนจะหว่านล้อมอีกคำ “อีกอย่าง คุณไอจะได้ดูห้องพักอีกแบบของเราด้วย พอดีว่าส่วนที่ผมจัดให้คุณไอพัก เป็นส่วนที่เราเพิ่งเพิ่มเข้ามาทีหลัง มันเป็นบ้านพักส่วนตัว มีอยู่แค่ 9 หลังเท่านั้น น่าจะเหมาะกับการเสริมแพคเกจฮันนีมูนนะครับ”

“อ๋อ ถ้าอย่างนั้นก็ได้ครับ” เมื่อได้ยินดังนั้นกมลจึงตามวิมลออกมา และนัดเจอกับคนของตัวเองในเวลาเที่ยง



ที่พักที่ถูกจัดให้อยู่ห่างจากตัวโรงแรมไม่มากนัก ระหว่างทางมีส่วนที่เป็นพื้นที่ส่วนกลางจำพวกบริการสปานวดแผนไทย ยิม และส่วนของห้องนันทนาการของเด็ก กมลนึกชื่นชมเจ้าของโรงแรมอยู่ในใจระหว่างนั่งรถผ่าน ว่าเขาคิดอะไรได้ครอบคลุมทุกอย่าง เพราะโรงแรมนี้ค่อนข้างตอบโจทย์กับลูกค้าหลายรูปแบบ ทั้งแบบที่มาเป็นครอบครัว มากับกลุ่มเพื่อน มากันเป็นหมู่คณะ และเฉพาะคู่รัก



บ้านพักของกมลเป็นพูลวิลล่าสไตล์ทรอปิคอลร่วมสมัย ตั้งอยู่บนเนินที่สามารถมองออกไปเห็นวิวทะเลได้อย่างชัดเจน ทั้งยังมีสระว่ายน้ำสุดสวยส่วนตัวอีกต่างหาก



“วิวสวยมาก ห้องก็สวย เหมาะกับการมาฮันนีมูนจริงๆ ครับ” กมลเอ่ยปากชม

“ใช่ไหมครับ เจ้านายผมท่านคิดไว้แล้วว่าคุณไอต้องชอบใจแน่ๆ”

“ครับ ประทับใจมากๆ เลย แล้วก็พอจะนึกไอเดียดีๆ ออกแล้วด้วยครับ” กมลว่ายิ้มๆ

“เอาไว้เดี๋ยวเราค่อยคิดกันตอนที่ไปทานข้าวกลางวันดีกว่านะครับ ตอนนี้เชิญคุณไอพักผ่อนก่อนดีกว่า ยังไงทางผมจะให้คนรถมารับเมื่อถึงเวลาอาหารกลางวันครับ”

“ขอบคุณมากนะครับคุณวิมล คุณดูแลพวกเราดีมากๆ จนผมเกรงใจไปหมดเลย” เขารู้สึกเกรงใจจริงๆ ทั้งๆ ที่โรงแรมยังไม่เปิดให้บริการด้วยซ้ำ แต่วันนี้พนักงานก็ออกมาต้อนรับพวกเขาพร้อมหน้า ทำราวกับไม่ใช่หุ้นส่วนทางธุรกิจ

“เป็นหน้าที่ของพวกเราอยู่แล้วครับ ที่ต้องดูแลคุณไอกับคณะจาก I promise ให้ดีที่สุด” เพราะเจ้านายเขากำชับมานักหนา ว่าหากมีใครทำให้คนคนนี้ขุ่นเคืองใจแม้แต่น้อย ต้องโดนเล่นงานสถานหนัก ตัวของวิมลเองก็ต้องทำตามอย่างเคร่งครัด เพราะไม่อยากถูกเด้งออกจากโรงแรมตั้งแต่ยังไม่เปิดให้บริการ

“ขอบคุณอีกครั้งครับ ทางเราเองก็จะทำงานในหน้าที่ให้ดีที่สุดเหมือนกัน” คนพูดยิ้มหวานจริงใจให้อีกฝ่าย ก่อนจะขอตัวเข้าห้องพักของตน



   ชายหนุ่มมองกระเป๋าที่ถูกนำมาเก็บไว้ให้ก่อนหน้ายิ้มๆ ก่อนจะยกไปจัดใส่ตู้เสื้อผ้าให้เรียบร้อย จากนั้นก็ไปล้างหน้าล้างตาให้สดชื่อ แล้วเดินสำรวจรอบๆ บริเวณห้องพักพร้อมกับเก็บรูป



   ในตอนแรกที่ดูผาดๆ เขารู้สึกว่าห้องนี้วิวดีและสวยมาก แต่เมื่อสำรวจดูให้ละเอียด ดูเหมือนว่าห้องที่เขาได้พักจะเป็นห้องที่วิวดีที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะมันยื่นล้ำออกมาจากวิลล่าอื่นๆ พอสมควร จึงไม่ถูกบดบังทัศนียภาพ กล่าวคือสามารถมองเห็นทะเลและท้องฟ้าสีครามได้เกือบ 180 องศา



    “สวยจัง” หนุ่มหน้าหวานครางออกมาเบาๆ ขณะยืนชมวิว



   ไม่รู้ว่าถ้าจะเข้าพักในวิลล่าหลังนี้สักคืนต้องใช้เงินเท่าไหร่ เขารู้สึกว่าตัวเองโชคดีเอามากๆ หากว่าพวกหลานๆ มาเห็น คงจะตาลุกวาวกันหน้าดู คิดถึงตรงนี้กมลก็หยิบโทรศัพท์ออกมาเฟสไทม์หาน้องสาว และเอาภาพให้หล่อนกับลูกๆ ดูเป็นขวัญตา



   เด็กๆ ร้องครวญด้วยความอิจฉากันยกใหญ่ ก่อนจะอ้อนวอนขอให้กมลพาไปในครั้งหน้า



   “ไม่รู้ว่าพักคืนนึงจะถึงแสนหรือเปล่า เอาเป็นว่าถ้าไม่แพงมาก คราวหลังลุงจะพามานะ”



   เขาคุยกับน้องสาวและเด็กๆ อยู่พักใหญ่ ก่อนจะกดวางสายไปเพราะสองแฝดต้องไปเรียนว่ายน้ำต่อ ซึ่งก็เป็นเวลาพอดีกับที่มีคนมารับกมลที่ห้อง เพื่อพาไปทานอาหารกลางวันและคุยงานกับทางเจ้าของโรงแรม รวมทั้งผู้บริหารคนอื่นๆ

















   ครั้นมาถึงกมลก็เห็นกลองกับนิดามองหน้าเขาแปลกๆ ชายหนุ่มเดินเข้าไปหาทั้งสอง กำลังจะถามว่ามีเรื่องอะไรกัน สายตาของเขาก็ถูกหยุดเอาไว้ที่ใครคนหนึ่งเสียก่อน



   ดวงตาเจ้าเล่ห์กับรอยยิ้มที่แสนคุ้นตาทำให้กมลเกือบถอนหายใจออกมาแรงๆ แต่ดีที่หนุ่มหน้าหวานยั้งตัวเองเอาไว้ได้เสียก่อน



   คนคนนั้นเดินเข้ามาใกล้ ก่อนยิ้มกว้างขึ้นอีกนิด แล้วเอ่ยออกมาด้วยท่าทางมั่นใจไม่เปลี่ยน



   “สวัสดีครับคุณไอ”

   “สวัสดีครับ คุณณธิป”

   “การเดินทางเป็นยังไงบ้างครับ ราบรื่นดีใช่ไหม”

   “ครับ”

   “แล้ววิลล่าที่ผมจัดไว้ให้ล่ะ คุณชอบหรือเปล่า” อีกฝ่ายถามด้วยความกระตือรือร้น

   “ครับ มันสวยมาก” กมลพูดความจริง ทว่ารอยยิ้มที่มอบให้กลับเป็นรอยยิ้มตามมารยาทเท่านั้น

   “ดีแล้วครับที่คุณชอบ คุณจะได้เอาไปโปรโมทกับลูกค้าได้ถูก เห็นว่าคราวนี้พาช่างภาพมือหนึ่งของ I promise มาด้วย หวังว่าผมคงได้เห็นภาพสวยๆ นะครับ”

   “ครับ” กมลพยักหน้ารับ ก่อนแนะนำให้ณธิปได้รู้จักกับกลองและนิดา เมื่อแนะนำตัวกันเรียบร้อย เจ้าของโรงแรมก็เอ่ยชวนทุกคนไปทานอาหาร

   “เอาล่ะครับ อย่าเสียเวลายืนคุยเลย ไปทานอาหารกันดีกว่า พวกคุณจะได้เริ่มงานกัน เห็นว่าวันนี้จะมีพายุเข้าด้วย ผมกลัวว่าแสงหมดแล้วจะทำงานลำบาก อีกอย่างจะถ่ายภาพข้างนอกไม่ได้ด้วย”

   “ครับ”



   กมลได้แต่ตอบรับและไม่ได้ต่อความอะไร อันที่จริงเขาแอบประหลาดใจกับท่าทีที่ดูเปลี่ยนไปของณธิปเล็กน้อย เพราะดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้จ้องกะลิ้มกะเหลี่ยเขาเหมือนทุกทีที่พบกัน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีแล้ว



   ระหว่างมื้ออาหารพวกเขาคุยเกี่ยวกับงานที่ต้องทำร่วมกันเสียส่วนใหญ่ มีบ้างที่ณธิปถามกมลเกี่ยวกับปางปาลี เพราะต้องการนำความคิดเห็นของคนอื่นๆ ไปใช้ปรับปรุงเพิ่มเติมก่อนเปิดให้บริการจริง



   กมลรู้สึกพลาดนิดหน่อย ตรงที่ไม่ได้นึกถึงว่าณธิปจะเป็นผู้บริหารงานโรงแรมสาขานี้ ด้วยความที่เอ็นพีกรุ๊ปค่อนข้างใหญ่ เขาจึงเดาเอาว่าพวกผู้บริหารระดับสูงเช่นเจ้าของอย่างณธิปหรือคุณณภัทรจะไม่ได้ลงมาดูงานเองทั้งหมด ทว่าเมื่อไตร่ตรองดูดีๆ แม้เขาจะไม่ค่อยอยากพบเจอคนคนนี้เท่าไหร่นัก แต่ถ้ามันเป็นเรื่องงาน กมลคิดว่าอีกฝ่ายน่าจะมีความรับผิดชอบพอ ไม่เช่นนั้นคงไม่ดำรงตำแหน่งสูงๆ ในกลุ่มผู้บริหารได้แม้ว่าจะเป็นหุ้นส่วนหลักก็ตาม เพราะสมัยนี้ใช่ว่าแค่มีเงินก็ซื้อได้ทุกอย่าง หากไม่เก่งจริง คงไม่สามารถพาธุรกิจไปรอดได้



   และจากการพูดคุยและการวางตัวต่อหน้าทุกคน ณธิปทำให้กมลวางใจไปได้หลายส่วน กระทั่งตอนที่เจ้าตัวรวมถึงผู้จัดการพากมลไปชมรอบๆ โรงแรม และจัดการให้คนมาช่วยกลองถ่ายภาพ ณธิปก็พูดคุยกับเขาแค่เรื่องงานเท่านั้น



   “ฝนจะตกแล้ว ผมว่าคุณไอบอกให้กลองเขาพอแค่นี้ดีกว่านะครับ วันนี้ถ่ายพระอาทิตย์ตกดินไม่ได้ พรุ่งนี้ค่อยตื่นเช้าๆ มาถ่ายตอนพระอาทิตย์ขึ้นแทน” ณธิปเสนอ

   “ก็ดีเหมือนกันครับ เพราะจุดที่สามารถใช้จัดงานนอกอาคารกลองเขาก็เก็บภาพไว้หมดแล้ว”



   คนหน้าหวานเดินไปบอกคนของตนก่อนจะพากันเข้าอาคาร จากนั้นจึงขอตัวไปดูรูปกับกลองที่ห้องพัก แต่ช่างภาพหนุ่มกลับบอกให้กมลกลับไปพักผ่อนที่ห้อง เพราะเขาต้องการเช็คและปรับด้วยตัวเองเสียก่อน กมลจึงต้องแยกกลับที่พักของตนเอง



   ทว่าระหว่างที่เดินไปขึ้นรถกอล์ฟที่ทางโรงแรมเตรียมไว้ ณธิปกลับเดินตามเขามา ในทีแรกกมลคิดว่าอีกฝ่ายคงแค่มาส่งที่รถตามมารยาท ทว่าเมื่อได้ยินเสียงทุ้มสั่งให้พนักงานลงจากรถและขอกุญแจเอาไว้เอง กมลก็รีบทักท้วงทันที




   “คุณจะไปส่งผมหรือครับ”

   “ใช่ครับ ขึ้นมาสิ” ไม่ว่าเปล่า ณธิปยังตีลูกมึนเดินไปนั่งบนรถเสียอย่างนั้น

   “ไม่เป็นไรครับ ผมเกรงใจ” หากกมลเองก็ไม่ยอมง่ายๆ เช่นกัน

   “ฝนจะตกแล้วนะคุณไอ ขึ้นมาเถอะครับ”

   “แต่ผมกลับเองได้ครับ”

   “ผมมีเรื่องงานจะคุยกับคุณ”

   “เราไว้คุยกันพรุ่งนี้ก็ได้นี่ครับ”

   “แต่ผมต้องถามตอนนี้ครับ”

   “ผมไม่สะดวก…”


   ครืน!


   ยังไม่ทันจบประโยค เสียงฟ้าคำรามก็ดังก้องไปทั่ว ณธิปจึงได้ทีมัดมือชก


   “ถ้าคุณไม่ขึ้นมา เราต้องเปียกแน่ๆ” ณธิปว่า ก่อนพยักพเยิดไปที่พนักงานขับรถที่ยืนมอง ให้รู้ว่าพวกเขาตกเป็นเป้าสายตาของคนอื่นอยู่




   กมลมองฟ้า มองพนักงานคนนั้น ก่อนจะหันกลับมามองตาของคนมากแผนการ สุดท้ายจึงจำใจขึ้นไปนั่งบนรถอย่างไม่มีทางเลือก



   “คุณนี่ดื้อเหมือนกันนะ” ณธิปว่ายิ้มๆ ก่อนออกรถ

   “คุณก็เหมือนกันนั่นแหละ”

   “หึ”



   อีกฝ่ายไม่ได้เถียงอะไรกลับมา ได้แต่หัวเราะเบาๆ ทำให้กมลคิดเสียใจที่ยั้งปากไว้ไม่ทัน ความจริงแล้วกับคนคนนี้ เขาไม่ควรต่อล้อต่อเถียงด้วยเลยสักนิด



   พวกเขาขับรถไปตามทาง แม้ไม่ไกลมากเท่าไหร่ แต่ก้อนเมฆสีเทาก็ไม่อาจทนรับน้ำหนักของหยดน้ำได้ไหว สุดท้ายฝนก็ตกลงมาระหว่างทาง ตอนอยู่บนรถนั้นไม่เปียกเท่าไหร่ แต่ตอนที่วิ่งจากรถไปยังวิลล่าไม่กี่ก้าว พวกเขากลับตัวเปียกชุ่มไปหมด



   กมลรีบไขกุญแจเปิดห้องเร็วๆ แล้วถอดรองเท้าเข้าไปด้านใน ณธิปรีบก้าวตามเข้าไปและปิดทันที และเสียงล็อคประตูก็ทำให้คนหน้าหวานหันกลับมาตามสัญชาตญาณ



   ทั้งคู่จ้องหน้ากันครู่หนึ่ง เหมือนต่างฝ่ายต่างกำลังคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี



   “ข้างนอกฝนยังตกหนัก…” ระหว่างที่ณธิปกำลังหาข้ออ้างเพื่อจะได้มีโอกาสอยู่กับอีกฝ่ายสองต่อสอง กมลก็เอ่ยสิ่งที่ทำให้คนเจ้าเล่ห์ต้องยิ้มออกมาจนหน้าบาน

   “คุณรออยู่ตรงนี้ก่อน ผมจะไปเอาผ้าขนหนูมาให้”

   “คุณให้ผมอยู่ที่นี่กับคุณไอได้หรือครับ”

   “ได้สิ จนกว่าฝนจะหยุด คงไม่นานหรอกใช่ไหมล่ะครับ” กมลรีบเอ่ยข้อแม้ขึ้นมาป้องกันตัวเอง

   “ขอบคุณนะ”



   กมลปล่อยให้อีกฝ่ายยืนยิ้มอยู่ตรงนั้น ก่อนผละเข้าไปหาผ้าเช็ดตัวมาให้ตัวเองและณธิป โดยที่ไม่รู้เลยว่าคนที่เขายอมให้อยู่ด้วยกำลังนึกลิงโลดอยู่ในใจ



   เพราะคุณไอคงไม่รู้ว่าเมื่อเกิดพายุปลายฤดู ฝนของที่นี่มักตกนาน และบางที…อาจใช้เวลาถึงเช้าเลยก็ได้









++++++++++++++++++++++++++++





มาต่อแล้ววววว
ตอนนี้ก็ อะแฮ่มๆ พระเอกมีความเล่นใหญ่  :hao7:
แต่นางก็ทำงานด้วยน้า ไม่ใช้แค่จะจีบหนุ่มอย่างเดียว
เอาเป็นว่าไม่พูดมาก มารอดูตอนต่อไปกันเนอะ
ตอนที่แล้วเริ่มมีนักอ่านหน้าใหม่มาอ่านมากขึ้น
ยินดีต้อนรับนะค้าาา


เจอกันตอนหน้าค่ะ


ละอองฝน.





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-10-2016 01:19:58 โดย ละอองฝน »

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
รออ่านตอนหน้าใจจดจ่อมาก  :hao3:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
แผนช่างล้ำลึก หนูไอจะหลงกลไหมเนี่ย 555555  :hao7:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
 :z6: ยังคงไม่ชอบหน้าเหมือนเดิม

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
ไอสู้ๆอย่าไปยอมนะ

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :L1: :pig4:

ไอออออออ มาแล้ว ใจดีตลอดอะ

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
พี่ไอ ระวังตัวด้วยนะ



อย่าใว้ใจไอ้คุณเล็กเด็ดขาด



ดูๆแล้วคุณเล็กมีแผนร้ายอยูาในใจแน่ๆ



พี่ไอ ต้องฉลาดและรู้ทันให้มาก

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
ไม่ชอบคุณเล็กนะ ริสัยไม่ดี ไออย่าใจอ่อนนะ

ออฟไลน์ ละอองฝน

  • แมวดำ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 261
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +398/-2







บทที่ 12









   กมลเลื่อนดูรูปในคอมพิวเตอร์ที่กลองเพิ่งส่งอีเมลล์มาให้เมื่อครู่อย่างไม่ค่อยมีสมาธิเท่าใดนัก เพราะในหัวคิดเรื่องของคนที่กำลังร้องเพลงอย่างสบายอารมณ์อยู่ในห้องน้ำ เมื่อครู่ต่างฝ่ายต่างก็เปียกมะลอกมะแลก ดังนั้นกมลจึงตัดสินใจอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน และอนุญาตให้ณธิปอาบบ้างเป็นลำดับถัดไป



   เขาพยายามคิดว่านี่คือเหตุสุดวิสัย และก็คงไม่อาจทำตัวใจไม้ไส้ระกำกับหุ้นส่วนทางธุรกิจได้ จึงได้ตัดสินใจเช่นนั้น แต่เมื่อลองคิดๆ ดูจากประสบการณ์ที่เคยผ่านมา กมลก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกระแวงอีกฝ่ายอยู่บ้างเหมือนกัน เขาถอนหายใจออกมาเบาๆ รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังก้าวเข้าไปติดกับดักอย่างไรอย่างนั้น



   แต่เอาเถอะ คนคนนั้นคงไม่กล้าทำอะไรอุกอาจ อย่างมากก็คงแค่พูดเหมือนหมาหยอกไก่แบบทุกทีเท่านั้น ชายหนุ่มคิด ก่อนจะหันไปมองลมพายุด้านนอกว่ามีท่าทีจะสงบลงบ้างหรือยัง ซึ่งเป็นจังหวะที่ณธิปออกมาจากห้องน้ำพอดี



   “ขอบคุณสำหรับเสื้อนะครับ ใส่ได้พอดีเลย”




มองแค่หน้าหวานๆ ณธิปก็เผลอคิดไปว่าคุณไอคงตัวบางๆ น่าทะนุถนอม แต่พอลองใส่เสื้อและประเมินจากส่วนขาที่โผล่ออกมาจากกางเกงนอน เขาก็รู้ได้ทันทีว่าผู้ชายหน้าหวานคนนี้เป็นคนมีกล้ามเนื้อพอสมควรทีเดียว



   “ดีแล้วครับ” โชคดีที่กมลหยิบเสื้อนอนติดมาสองตัว จึงมีให้ณธิปยืมเปลี่ยนได้ก่อน ส่วนขนาดก็ไม่ได้เล็กมากเกินไปจนดูน่าเกลียด

   “คุณไอทำอะไรอยู่ครับ”

“ดูรูปที่กลองส่งมาให้ครับ”

“ส่งมาให้แล้วเหรอ ทำงานเร็วดีจริง ผมขอดูด้วยสิครับ”



ครั้นณธิปเดินเข้ามาใกล้ กมลก็ผุดลุกขึ้น ก่อนจะเดินไปค้นเอาสายชาร์จแบตเตอรี่มาถือ และหอบคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คไว้ในอ้อมแขน



“เราออกไปนั่งที่โต๊ะด้านนอกดีกว่าครับ ผมว่าคงสะดวกกว่า”

“ได้ครับ” ณธิปพยักหน้ารับ ก่อนเดินตามอีกฝ่ายออกไปจากส่วนของห้องนอน



กมลหาทางเลี่ยงที่จะนั่งอยู่ในห้องนอนกับอีกฝ่ายได้อย่างแนบเนียน ไม่ใช่ว่าเขาป้องกันตัวเองไม่ได้ หรือระแวงจนขี้ขึ้นสมอง แต่ชายหนุ่มรู้สึกว่ามันไม่เหมาะนัก อีกอย่างเขากับณธิปก็ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้นด้วย



เมื่อมาถึงโต๊ะทานอาหารด้านนอก หนุ่มหน้าหวานก็เสียบสายชาร์จแล้วนั่งดูรูปข้างๆ กับณธิป ระว่างที่เลื่อนรูปไปเรื่อยๆ พวกเขาไม่ได้พูดคุยกันมากนัก กระทั่งถึงไฟล์สุดท้าย ณธิปจึงเริ่มเอ่ยก่อน



“กลองเขาถ่ายรูปสวยนะครับ ผมอยากซื้อไฟล์เอาไว้โปรโมตลงในเว็บไซด์ของโรงแรมเลย”

“ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เดี๋ยวผมส่งให้ก็ได้ คุณมีอีเมลล์หรือเปล่า”

“มีสิ” เจ้าของดวงตารีเรียวพยักหน้ารับ “ว่าแต่คุณไอนี่ใจดีจังนะครับ ไม่คิดเงินด้วย”

“ไม่หรอกครับ เรื่องเท่านี้เอง อีกอย่างเราก็ทำธุรกิจร่วมกัน”

“แบบนี้ก็ดีแล้วครับ ผมจะได้เซฟงบด้วย คุณรู้ไหมกว่าปางปาลีจะเสร็จ งบบานปลายจนผมถูกทางบอร์ดบริหารติงมาเหมือนกัน”

“เป็นธรรมดาครับ ตอนผมปรับภูมิทัศน์ที่บริษัทงบก็ค่อนข้างบานปลายเหมือนกัน เพราะอยากทำให้มันออกมาดีที่สุด แต่ก็ต้องคอยตบให้อยู่กับร่องกับรอยด้วย”

“นั่นสิ ยิ่งปางปาลีนี่ถือเป็นลูกคนแรกของผม ก็เลยเห่อมากไปหน่อย กว่าจะจัดสรรลงตัวจนเปิดให้บริการได้ ทำเอาปวดหัวน่าดู”



นึกๆ ดูแล้วณธิปก็ขำตัวเอง ตอนที่จบมาใหม่ๆ เขาก็มีโอกาสได้จับโปรเจคใหญ่ทันที นั่นคือคุมโครงการก่อสร้างรวมทั้งบริหารโรงแรมที่ภูเก็ต ตอนนั้นเขาแบกความคาดหวังจากหลายๆ คนเอาไว้มาก แต่ถึงตอนนี้มันก็ผ่านมาได้ด้วยดี แม้ต้องศึกษาและลองผิดลองถูกอยู่นานก็ตาม



“ลูกคนแรกหมายถึง…” กมลถามต่อ เพราะเมื่อหัวข้อสนทนาอยู่ที่เรื่องงาน มันก็ดึงความสนใจของเขาได้อยู่หมัด

“ก็ตอนเริ่มเข้ามาช่วยงานที่บ้าน ผมได้จับโครงการนี้โครงการแรก แถมพี่ภัทรยังเสนอให้ทำอย่างเต็มตัวด้วย” ณธิปขยายความ

“อ๋อ แล้วตอนนี้คุณมีโครงการอื่นที่ดูแลอยู่ด้วยหรือเปล่าครับ”

“ตอนแรกดูที่นี่ที่เดียวก็หัวหมุนแล้วล่ะ แต่พอลงตัวก็ไปช่วยดูที่สาธรกับโครงการใหม่ที่หัวหินด้วย เพราะพี่ภัทรต้องไปลงเวลาให้กับสายการบินเต็มตัวน่ะครับ"

“ที่หัวหินเป็นโรงแรมเหมือนกันหรือครับ”

“ไม่ใช่หรอกครับ เป็นโครงการบ้านพักตากอากาศน่ะ แต่ไม่ได้มีหลายยูนิตนักหรอก เป็นโครงการขนาดกลางน่ะครับ”

“อ๋อ” กมลพยักหน้ารับ นึกชื่นชมคนคนนี้อยู่ในใจอีกหนึ่งข้อ “คงจะเหนื่อยน่าดูเลยนะครับ รับผิดชอบตั้งมากขนาดนั้น”

“ก็พอสมควรเลยล่ะ” ชายหนุ่มยอมรับตามตรงแบบไม่วางฟอร์ม

“แต่ก็เก่งนะครับ อายุเท่านี้ ทำได้ขนาดนี้ อย่างผมแค่ดูแลงานที่บริษัทอย่างเดียวก็แทบแย่แล้ว” หนุ่มหน้าหวานเอ่ยออกมาอย่างจริงใจ

“ขอบคุณครับ” คนเจ้าเล่ห์กระตุกยิ้ม ก่อนจะทำตาพราวระยับแล้วหยอกอีกฝ่ายไปประโยคหนึ่ง “แต่ผมไม่ได้เก่งแค่เรื่องงานอย่างเดียวนะ”

“อ้อ…” จากเรื่องงานเปลี่ยนมาเป็นคำพูดที่แฝงนัยได้ในประโยคเดียว กมลจึงเกือบจะตั้งตัวไม่ติด

“คุณไอไม่อยากรู้เหรอว่าผมเก่งเรื่องอะไร” ครั้นเห็นอีกฝ่ายชะงัก ณธิปยิ่งนึกสนุก

“ไม่ล่ะครับ สำหรับผม รู้แค่เรื่องงานเรื่องเดียวก็พอแล้วล่ะ” เห็นคนตอบ ตอบหน้าตาย คนที่แกล้งเย้าเอาไว้ก็เผลอหลุดขำออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่
   
“ให้ตายสิ คุณนี่เป็นคนที่สุดยอดจริงๆ นะ” ณธิปเอียงหน้าแล้วเท้าคางจ้องกมลยิ้มๆ “ไม่เหมือนคนในแบบที่ผมคุ้นเคยเลยรู้ไหม”
   
“เหรอครับ” กมลยังคงสีหน้าเฉยสนิทเอาไว้ แล้วเบนสายตาไปมองจอคอมพิวเตอร์แทนหน้าตากรุ้มกริ่มของคนที่นั่งข้างๆ

“อืม ไม่เหมือนเลย”
   



ดวงตาเรียวมองสำรวจใบหน้าของอีกฝ่ายตั้งแต่ปลายคาง ริมฝีปาก จมูก ดวงตา คิ้ว หน้าผาก ไปจนถึงปลายเส้นผม ทุกสิ่งทุกอย่างถูกจัดสรรอย่างลงตัว และเหมือนที่เคยเห็นก่อนหน้าไม่เปลี่ยน ทว่าความรู้สึกที่มีต่อเจ้าของใบหน้านี้กลับค่อยๆ เปลี่ยนไปในทุกครั้งที่มอง
   


เขาคิดว่ามันคงไม่ใช่เพราะรูปลักษณ์ภายนอก แต่เป็นอะไรสักอย่างที่อยู่ภายในตัวคนคนนี้ ที่มันดึงดูดความสนใจของเขาได้อยู่หมัด



   ความรู้สึกอึดอัดของกมลแผ่ขยายมากขึ้น เขาเริ่มทำตัวไม่ถูกเมื่ออีกฝ่ายเอาแต่จ้องหน้าไม่ลดละ จนในที่สุดเขาก็ไม่มีสมาธิมองอีเมลล์ของลูกค้าที่เพิ่งส่งมาให้อ่านเมื่อครู่



   กมลหันหน้ากลับมามองเจ้าของโรงแรมหนุ่มตาขวาง คิ้วที่ขมวดเล็กๆ ตรงกลางหน้าผากไม่ได้ทำให้ณธิปรู้สึกเกรงกลัวเลยสักนิด แต่เขากลับยิ่งรู้สึกตื่นเต้นที่ทำให้อีกฝ่ายเปลี่ยนสีหน้าได้



   “จะมองให้ทะลุไปเห็นหูอีกข้างของผมด้วยไหมครับ”



   คำประชดประชันที่ได้ยินทำให้ณธิประเบิดเสียงหัวเราะออกมาอีกรอบ และเสียงหัวเราะนั่นก็ทำให้กมลหงุดหงิดมากขึ้น ทว่าก่อนจะพูดอะไรออกมาอีกคำ คนเจ้าเล่ห์ก็ขยับโน้มตัวเข้าไปใกล้ คล้ายจะโอบคนหน้าหวานกลายๆ



   “ทำยังไงดีล่ะคุณไอ”


   “อะไร?”

   “ผมว่า ผมชักจะชอบคุณจริงๆ เสียแล้วสิ
   










   เมื่อคืนกว่าณธิปจะกลับไปนอนที่ห้องของตัวเองได้ก็ดึกพอสมควร เพราะพอฝนซา คนคนนั้นก็โทรศัพท์สั่งให้คนนำอาหารมาให้ทานมื้อดึก ทั้งๆ ที่กมลก็ปฏิเสธไปแล้ว แต่เจ้าตัวก็ไม่ยอมท่าเดียว สุดท้ายหนุ่มหน้าหวานจึงยอมทำตามใจ เพื่อตัดปัญหาไม่ให้อีกฝ่ายยื้อเวลาอยู่ต่อนานมากกว่าเดิมอีก



   ครั้งเมื่อทานกันเสร็จเรียบร้อย ณธิปก็ยอมกลับไปง่ายๆ หากยังทิ้งข้อความให้กมลต้องขบคิดว่าอีกฝ่ายยังมีแผนอะไรซ่อนเอาไว้อยู่หรือไม่



   “พอผมกลับก็รีบเข้านอนเลยนะครับ พรุ่งนี้ตื่นมาทำงานแต่เช้า ถ้าเสร็จเร็วผมจะได้พาไปดูอะไรดีๆ”



   และกมลก็ยังเดาไม่ออกว่า อะไรดีๆ ที่อีกฝ่ายบอกไว้ คืออะไรกันแน่



   “เฮ้อ~”



หนุ่มหน้าหวานสลัดความคิดที่วนเวียนอยู่กับคำพูดและการกระทำของณธิปทิ้ง ก่อนจะสำรวจเครื่องแต่งกายให้เรียบร้อยแล้วออกจากห้อง เพื่อไปพบกับทีมงานที่รออยู่ที่ล็อบบี้โรงแรม



   อาจเป็นเพราะเมื่อคืนฝนตก เช้าวันนี้อากาศจึงแจ่มใสเป็นพิเศษ ทีมงานทุกคนมาทันเวลาพระอาทิตย์ขึ้นพอดี จึงสามารถเก็บภาพสวยๆ เอาไว้ได้พอสมควร



   กระทั่งเดินเก็บภาพตามจุดต่างๆ ที่ถ่ายค้างเอาไว้เมื่อวานจนเสร็จ ผู้จัดการวิมลก็พาพวกเขาไปรับประทานอาหารเช้าที่จัดไว้ให้ ระหว่างทานอาหารทุกคนก็ได้พูดคุยถึงงานที่เรียบร้อยก่อนเวลาที่กำหนดไว้



   “งานเสร็จเร็วแบบนี้ คุณไอจะเลื่อนไฟล์กลับไหมคะ”

   “อืม” คนถูกถามหยุดคิดเล็กน้อย ก่อนตอบ “เดี๋ยวขอดูเที่ยวบินก่อนนะ เพราะเลื่อนไฟล์กะทันหันแบบนี้ ไม่รู้จะมีที่นั่งหรือเปล่า”

   “คุณไอจองไฟล์กลับกรุงเทพตอนกี่โมงครับ” เป็นวิมลที่ถามบ้าง

   “คืนนี้ตอนสองทุ่มครึ่งครับ แต่เราเสร็จงานกันแต่เช้าเลย เมื่อวานก็คุยรายละเอียดต่างๆ กับคุณณธิปไปหมดแล้ว เพราะฉะนั้นวันนี้ก็ไม่น่าจะมีอะไรอีก”

   “เอ…แต่เห็นคุณณธิปว่าคุณไอยังมีโปรแกรมอยู่กับเราทั้งวันนี่ครับ”

   “โปรแกรมอะไรกันครับ”

   “ล่องเรือไงครับ นี่ผมก็เตรียมการไว้หมดแล้ว ท่านว่าตกลงกับคุณไอแล้วเมื่อคืน อีกอย่างป่านนี้ก็คงไปรอที่เรือแล้วด้วย” วิมลเฉลย “พอพูดแล้วผมก็เพิ่งนึกขึ้นได้ ประเดี๋ยวผมไปสั่งให้คนเตรียมรถก่อนดีกว่า เดี๋ยวทุกท่านทานอาหารเสร็จได้เดินทางไปที่ท่าเรือของเราเลย จะได้ไม่เสียเวลารอ” พูดจบวิมลก็ขอตัวออกไปประสานงานกับคนรถ ทิ้งให้ทีมงานจาก I promise ทุกคนนั่งงงเป็นไก่ตาแตก

   “ล่องเรืออะไรกันคะคุณไอ” นิดาหันมาถามด้วยความตื่นเต้น

   “เอ่อ…” กมลเองก็ไม่รู้ เพราะเมื่อคืนเขาไม่ได้ตกลงอะไรไว้กับคนเจ้าเล่ห์สักนิด “พี่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน คุณณธิปไม่ได้บอกรายละเอียดพี่ไว้ด้วย ยังไงเดี๋ยวไปดูก็คงจะรู้ ว่าแต่พวกเราสองคนมีใครเมาเรือไหม” ผู้เป็นหัวหน้าถามลูกน้องสองคนด้วยความเป็นห่วง

   “ไม่ครับ”

   “นิดาก็ไม่เมาค่ะ ว่ายน้ำเก่งด้วย ดีจังที่เราได้เที่ยวก่อนกลับ” หญิงสาวบอกอย่างร่าเริง ก่อนจะขอตัวไปหยิบหมวกสานที่ห้องเพื่อนำติดตัวไปด้วย

   “คุณณธิปนี่เขาดูแลเราดีเกินไปหรือเปล่าครับ เหมือนไม่ได้มาทำงานเลย” นายกลองตั้งข้อสังเกตขณะเช็คเลนส์กล้อง

   “อืม นั่นสิ” กมลเองก็คิดเช่นเดียวกับช่างภาพหนุ่ม “แต่ก็ดีแล้วไม่ใช่หรือไง มาทำงานด้วย มาเที่ยวด้วยแบบนี้”

   “สำหรับผมก็ดีนะครับ สนุกดี” ชายหนุ่มเว้นวรรค ก่อนหันมามองหน้าเจ้านายตัวเอง “แต่กลัวว่าคุณไอจะไม่สนุกน่ะสิ”

   “ทำไมล่ะ”

   “ก็เขาดูวอแวกับคุณไอยังไงก็ไม่รู้ ยังไงถ้าอึดอัดก็บอกผมได้นะ ผมจะช่วยกันๆ ให้”



   กมลมองหน้าลูกน้องคนสนิทที่ทำงานด้วยกันมานานอย่างอึ้งๆ ด้วยไม่คิดว่ากลองเองก็สังเกตเห็น ก่อนยิ้มอย่างอ่อนโยนให้อีกฝ่าย



“ขอบใจนะกลอง”

“ไม่เป็นไรครับ แต่สิ้นปีนี้ผมขอโบนัสเพิ่มมากกว่าคนอื่นหน่อยจะดีมาก”

“เดี๋ยวเถอะ ไอ้เราก็นึกว่าอยากช่วยจริงๆ”

“หึ ผมอยากช่วย แต่ถ้ามีข้อแลกเปลี่ยนด้วยก็ดีครับ เพราะดูท่าผู้ชายคนนั้นจะไม่ธรรมดานะ มองดูก็รู้ว่าอยู่ในระดับที่ทำให้คุณไอของพวกเราปวดหัวได้แน่ๆ จริงไหมครับ”



กมลไม่ได้ตอบ แม้คำพูดของกลองค่อนข้างจะตรงกับความจริงทุกประการก็ตาม เพราะไม่ว่าจะพบกันกี่ครา ณธิปก็สามารถทำให้เขาปวดเศียรเวียนเกล้าได้ทุกครั้งไป











   ช่วงสายของวันกมลและทีมงานถูกพานั่งรถมาที่ท่าเรือซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวโรงแรมเท่าไหร่นัก ที่นั่นมีเรือยอร์ชจอดเทียบท่าอยู่ละลานตาไปหมด วิมลเดินนำพวกเขาไปยังเรือ Catamaran สุดหรู ลำที่เตรียมพร้อมจะออก และที่นั่นกมลก็ได้พบกับณธิปซึ่งรออยู่ก่อนแล้ว



   “มีใครเมาเรือกันหรือเปล่าครับ”

   “ไม่มีครับ” กมลตอบแทนทุกคน

   “ถ้าอย่างนั้นก็ดีเลย เดี๋ยวจะหมดสนุกเสียก่อน เชิญครับ เรือของเราพร้อมออกเดินทางแล้ว” ณธิปว่าอย่างยิ้มแย้ม พร้อมผายมือเชิญให้ทุกคนขึ้นมาบนเรือ



   การเดินทางคราวนี้คนที่ดูจะตื่นเต้นที่สุดก็เห็นจะเป็นหญิงสาวคนเดียวของคณะ เพราะหลังจากทานอาหารเช้าเรียบร้อย นิดาก็ขอตัวขึ้นไปเตรียมข้าวของและกลับมาพร้อมกับเสื้อผ้าสวยๆ ชุดใหม่



   ส่วนกมลนั้นก็แต่งตัวง่ายๆ ไม่ได้เตรียมอะไรมากมาย เขาสวมชุดเดิมที่สวมเมื่อเช้า รับเครื่องดื่มเย็นๆ มาจากบริกร ก่อนเดินไปนั่งรับลม ปล่อยให้พนักงานทั้งสองเดินถ่ายรูปตามมุมต่างๆ ขณะที่เรือแล่นไปยังจุดหมายแรก



   “คุณชอบไหม” เจ้าของเสียงถามเดินมาหยุดอยู่ใกล้ๆ ก่อนนั่งลงข้างๆ กมล

   “ก็ดีครับ คู่แต่งงานหลายๆ คู่คงชอบแบบนี้ มันค่อนข้างโรแมนติกดี ผมว่าใส่โปรแกรมนี้ลงไปด้วยก็ดีนะครับ นอกจากจะเสียค่าเช่าสถานที่แล้วได้รับบริการห้องพัก ถ้าเป็นแพคเกจแบบพรีเมี่ยมขึ้นไปอีก ก็มีโปรแกรมล่องเรือแถมไปด้วย” 

   “ผมไม่ได้หมายถึงเรื่องงานสักหน่อย แล้วมันแค่ก็ดีเองเหรอ อุตส่าห์คิดว่าคุณจะตื่นเต้นเสียอีก นี่ผมไม่เคยพาใครมาแบบนี้เลยนะ” ชายหนุ่มแสร้งทำเสียงน้อยใจนิดๆ เขาสู้อุตส่าห์ทำให้อีกฝ่ายประทับใจ แต่คุณไอกลับไม่สนเรื่องพวกนั้นเลย

   “พูดอย่างนี้หมายความว่าไงครับ” คนหน้าหวานเลิกมองท้องฟ้าและผืนน้ำ เปลี่ยนมาดูหน้าคนข้างๆ แทน “จะบอกว่าปฏิบัติกับผมพิเศษกว่าใครเหรอ”

   “จะว่าอย่างนั้นก็ได้ครับ” ณธิปยิ้ม เมื่ออีกฝ่ายเข้าใจสิ่งที่เขาอยากจะสื่อตั้งแต่แรก

   “อืม…” กมลเม้มปากราวกับใช้ความคิด ก่อนจะตัดสินใจถามออกมาตรงๆ “ที่เขาว่าคนเจ้าชู้มักจะคารมดี เป็นแบบนี้เองสินะครับ”

   “ผมไม่ได้เจ้าชู้สักหน่อยนะ” ณธิปรีบบอก

   “เหรอครับ” กมลพยักหน้ารับราวกับว่าเพิ่งรู้สิ่งที่ไม่น่าเชื่อ

   “ดูทำหน้าเข้า จริงๆ นะ เวลาคบใครจริงจัง ผมคบทีละคน” ชายหนุ่มแก้ต่างให้ตัวเอง

   “แปลว่าที่ผมเคยเห็นคือไม่จริงจังใช่ไหม”

   “เคยเห็นด้วยเหรอครับ แหม…งั้นแปลว่าที่ผ่านมาผมอยู่ในสายตาของคุณไอตลอดเลยน่ะสิ ดีใจจัง” คนเจ้าเล่ห์ว่าพลางยิ้มระรื่น ทำเอากมลเกือบกรอกตาใส่ให้รู้แล้วรู้รอด



   ความจริงอย่างที่เขาเคยวิเคราะห์ผู้ชายคนนี้ไว้ก็คงจะถูกแล้ว ณธิปเป็นคนหน้าตาดี หน้าที่การงานเด่น แต่เจ้าชู้มาก ซ้ำยังมีชั้นเชิงในการเข้าหาคนที่สนใจหลากหลายวิธี คนแบบนี้กมลไม่เคยคิดอยากยุ่งด้วยเลยสักนิด และไม่รู้สึกประทับใจในสิ่งที่อีกฝ่ายทำให้ มีแต่อยากถอยให้ห่าง


   และอย่างเช่นตอนนี้ ตอนที่ณธิปกำลังขยับเข้ามาหาเขาอย่างแนบเนียน พร้อมกับวางมือไว้ข้างหลังเหมือนจะโอบกลายๆ คนหน้าหวานยิ่งอยากจะถอยห่างให้ไกล


   “ผมแค่หยอกเล่นนิดเดียว ทำหน้าเบื่อหน่ายใส่ผมอีกแล้วนะครับ” พอเห็นสถานการณ์ไม่ดีณธิปก็ถอยออกมานั่งที่เดิม ก่อนจะชวนกมลคุยเรื่องอื่นแทน “คุณชอบทะเลไหม”

   “ก็ชอบนะครับ”

   “แล้วได้เที่ยวบ่อยหรือเปล่า”

   “ก็บ่อยนะ แต่ไม่ได้เที่ยวหรอกครับ ส่วนใหญ่ไปทำงาน”

   “อ๋อ ก็คล้ายๆ กันนะ ผมน่ะไม่ค่อยได้มาทะเลหรอก ส่วนใหญ่จะอยู่เหนือมากกว่า มีที่ได้มาบ่อยๆ ก็ตอนดูแลปางปาลีนี่แหละ”

   “เอ็นพีกรุ๊ปมีโรงแรมทางเหนือด้วยเหรอครับ” กมลถามด้วยความสนใจ

   “ก็มีครับ แต่ผมไม่ได้ไปดูหรอก ตรงนั้นหุ้นส่วนของเราดูแลอยู่”

   “งั้นแปลว่าคุณชอบเที่ยวภูเขา”

   “ก็ไม่ใช่อีกแหละครับ แต่ผมโตที่โน้น ก็เลยชอบกลับไปหาคุณย่าบ่อยๆ”

   “อ๋อ”



   แม้จะคุยกันได้เรื่อยๆ แต่กมลก็ยังเว้นระยะห่างระหว่างตัวเองกับณธิปอยู่ กระทั่งเรือเดินทางมาถึงที่สำหรับให้ดำน้ำดูปะการังได้ นิดาจึงมาเรียกให้เขาไปลงน้ำด้วยกัน


   “นิลงคนเดียวมันแปลกๆ น่ะค่ะ”

   “แต่ผมไม่ได้เตรียมชุดมาน่ะสินิดา ขอนั่งให้กำลังใจอยู่บนเรือได้ไหม จะคอยให้กลองถ่ายรูปสวยๆ ให้ด้วย” กมลว่าอย่างลำบากใจ เพราะเขาไม่ได้เตรียมชุดมาผลัดเปลี่ยนจริงๆ

   “งั้นก็ได้ค่ะ รู้อย่างนี้ชวนพวกตัวแสบในแผนกมาด้วยดีกว่า เป็นหญิงสาวคนเดียวมันเปล่าเปลี่ยวหัวใจค่ะ” เธอบ่นกระปอดกระแปด ก่อนจะเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วลงเล่นน้ำ



   กมลนั่งอยู่ตรงโซนที่สามารถมองเห็นนิดาเล่นน้ำได้ชัดเจน แต่ก็คุยกับณธิปไปด้วย ส่วนกลองนั้นเดินถ่ายรูปวิวทิวทัศน์ไปไม่ได้สนใจอะไรมากเท่าที่ควร



   ผ่านไปสักระยะ ขณะที่ณธิปกำลังชวนให้กมลไปมาที่โรงแรมอีกครั้งในวันเปิดตัว ชายหนุ่มก็สังเกตเห็นว่าหญิงสาวเพียงคนเดียวที่กำลังว่ายน้ำอยู่ทีท่าทีแปลกๆ คล้ายกับว่าจะจมน้ำอย่างไรอย่างนั้น เขาจึงรีบวางแก้วลงแล้วเดินไปดูให้แน่ใจ และก็เป็นจริงดังที่คาด



   “นิดา!!” ชายหนุ่มรีบกระโดดลงไปในน้ำ ก่อนว่ายตรงเข้าไปช่วยเธอ ท่ามกลางความตกใจของทุกคนบนเรือ



   เขาพานิดากลับขึ้นเรือได้ในเวลาต่อมา เธอเป็นตะคริว และไม่ยอมสวมเสื้อชูชีพที่ทางเจ้าหน้าที่จัดให้ เพราะคิดว่าแค่ว่ายอยู่ใกล้ๆ เท่านั้น นับว่าเป็นโชคดีที่เธอว่ายน้ำเก่ง จึงสามารถพยุงตัวอยู่ได้นานกว่าที่คิด



   กมลตกใจจนหน้าเสียเช่นเดียวกันกับคนอื่นๆ ทว่ามีเพียงณธิปคนเดียวเท่านั้นที่มีสติที่สุด เจ้าของดวงตารีตวัดหันกลับมามองกมล ก่อนออกเสียงสั่งอย่างลืมตัว



   “ขอผ้าเช็ดตัวให้เธอหน่อย”

   “ครับๆ”



   ระหว่างที่กมลรีบรับผ้าเช็ดตัวจากพนักงานในเรือมาห่อตัวหญิงสาวไว้ ณธิปก็ช่วยปฐมพยาบาลขั้นต้นให้กับนิดา รอจนกล้ามเนื้อที่แข็งตัวคลายลงสีหน้าของหญิงสาวจึงดีขึ้น



   “ขอบคุณนะคะคุณณธิป” นิดายกมือไหว้ชายหนุ่ม ด้วยน้ำตาคลอหน่วย

   “ไม่เป็นไรครับ” ณธิปทำหน้าเครียด ก่อนจะหันไปหาลูกน้องของตัวเอง แล้วเรียกให้ทุกคนลงไปที่ห้องใต้ท้องเรือเพื่อตำหนิที่ปล่อยให้หญิงสาวลงเล่นน้ำโดยไม่สวมเสื้อชูชีพ



   กมลเองก็รู้สึกไม่ดีอย่างมาก เขาขอโทษนิดาที่ไม่ได้จับตาดูเธอเหมือนที่สัญญา แต่หญิงสาวก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะเธอมีส่วนผิดเต็มๆ ที่ประมาทเกินไป



   บ่ายนั้นณธิปจึงให้เรือกลับเข้าฝั่งทันที ไม่ได้ไปเที่ยวต่อตามที่ตั้งใจไว้แต่แรก เพราะต้องพาหญิงสาวส่งโรงพยาบาลเพื่อตรวจเช็คร่างกาย



   หลังจากเข้าฝั่งและพานิดาไปโรงพยาบาลเรียบร้อย กมลก็กลับมาเก็บของที่ห้องเพื่อเตรียมตัวกลับกรุงเทพฯ เขาเองยังรู้สึกผิดและยอมรับว่ารู้สึกไม่ดีเท่าไหร่ แม้ว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจะผ่านพ้นไปด้วยดีแล้วก็ตาม เช่นเดียวกันกับณธิปที่ยังรู้สึกว่าการดูแลของพนักงานยังหละหลวม เหตุการณ์นี้ยังถือว่าโชคดี แต่ถ้าเกิดเรื่องทำนองนี้กับลูกค้าจริงๆ พวกเขาอาจไม่โชคดีเช่นนี้



   ดังนั้นก่อนจากกัน สีหน้าของทั้งสองหนุ่มจึงไม่ค่อยดีเท่าที่ควร


   “ขอบคุณสำหรับเรื่องวันนี้มาก ถ้าไม่ได้คุณ พวกผมคงแย่” กมลเอ่ยกับคนที่ยืนยันจะมาส่งถึงสนามบินด้วยความรู้สึกขอบคุณจากใจจริง

   “ไม่ต้องขอบคุณหรอก ผมสิต้องขอโทษ มันเป็นความสะเพร่าของทางเราเอง โชคดีที่คุณนิดาไม่เป็นอะไรมาก” ณธิปว่า

   “ยังไงก็ต้องขอบคุณครับ”

   “ถ้าอย่างนั้นผมก็จะรับเอาไว้นะ” เห็นกมลดื้อและเอาแต่จะขอบคุณท่าเดียว สุดท้ายณธิปจึงต้องยอม

   “ยังไงวันนี้ผมขอตัวก่อนนะครับ แล้วพบกันตอนคราวหน้าตอนที่ผมนำงานเข้าไปเสนอ”

   “ได้ครับ ถ้าทางคุณเรียบร้อยแล้วก็ติดต่อมาก่อน เพราะหลังจากนี้ผมคงไปๆ มาๆ ระหว่างกรุงเทพกับภูเก็ต”

   “แล้วยังไงผมจะโทรไปนัดล่วงหน้าครับ แต่ความคืบหน้าต่างๆ แล้วก็ไฟล์รูปที่คุณขอ ผมจะส่งไปให้ทางอีเมลล์” กมลว่า

   “ได้ครับ” ณธิปยิ้มออกเมื่อได้ยินประโยคที่เป็นต้นเหตุให้เขาต้องลงทุนทำทั้งหมดนี้ตั้งแต่แรก “ผมจะรอโทรศัพท์จากคุณนะ

   “ครับ แล้วผมจะโทรไป”


กมลไม่ได้ย้ำว่าเฉพาะเรื่องงานเท่านั้น เพราะคิดว่าณธิปคงรู้ดีอยู่แล้ว เมื่อบอกลากันเรียบร้อยเขาก็เดินเข้าเกตมาพร้อมกับพนักงานสองคนที่รออยู่ ตอนที่กมลกำลังจะเลี้ยวไปอีกด้าน หางตาของเขายังเห็นว่าผู้ชายคนนั้นยืนมองมาจากจุดเดิม



เขารู้ว่าตัวเองไม่ได้หวั่นไหวกับสิ่งที่ณธิปทำ และยังให้อีกฝ่ายได้แค่ฐานะผู้ที่ร่วมงานกันเช่นเก่า ทว่าความเป็นคนเอางานเอาการ และเหตุการณ์ที่เข้ามาช่วยนิดา รวมทั้งขอโทษเรื่องอุบัติเหตุทั้งที่ไม่ใช่ความผิดของตัวเอง ทำให้ ณ ตอนนี้กมลมองณธิปในแง่ดีขึ้นเล็กน้อย









++++++++++++++++++++++++++++++++++++





แอบมาลงดึกมากกกก คือไฟกำลังติดแล้วมีเวลาว่างจากงานหลวงค่ะ :katai4:
ตอนนี้คุณไอบวกคะแนนให้คุณเล็กมานิดนึง แต่หนทางข้างหน้าก็ยังอีกยาวไกล
นี่ปาเข้าไป 12 ตอนแล้ว คนดีของบ่าวเพิ่งจะมองพระเอกดีบ้าง
สู้ต่อไปนะคุณเล็กสายเปย์ 55555 :hao7:

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ

เจอกันตอนหน้าน้า

ละอองฝน.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-10-2016 03:30:17 โดย ละอองฝน »

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ตามมาอ่านตอนจะตีสี่

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :L1: :pig4:

หนทางยังอีกไกล ความดีคนต้องทำอีกเยอะอะ เลวมามาก 55 จนคนดูสับสนว่านี่พระเอกหรออออ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
ดูดีในสายตาไอมานิดนึงอะนะ

ออฟไลน์ monkey_saru

  • ทำไมหัวใจถึงเอียงซ้าย...*
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :katai1: :katai1: :katai1:

รู้สึกสงสารคุณไอ 55555555 คุณเล็กนี่มันคุณเล็กจริงๆเลย

ออฟไลน์ Honeyhoney

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
 :hao7: ชอบมาก ๆๆๆๆๆ. อยากจะรู้มากเลยพระเอกจะทำยังไงให้นายเอกหลงรักได้ รอตอนต่อไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
ผู้ชายเจ้าชู้นี่นะ ไม่เชียร์ๆๆๆ คุณไอคงให้ +  ยากๆหน่อยนะ อิอิ

ออฟไลน์ XVIII.88

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
    • XVIII.88
พิสูจน์ว่าเลิกเจ้าชู้ได้จะให้ 10 เต็มนะคุณเล็ก

 o18

ออฟไลน์ Onlylyn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ตอนโผล่ในจงรักคุณเล็กเหมือนเสือร้าย แบดๆ
พอมาเรื่องนี้ เป็นพ่อบ้านใจกล้า 55555
 เอาใจช่วยนะคะ

ออฟไลน์ Honeyhoney

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
 :katai4: คิดถึงแล้วนะคะ

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ ละอองฝน

  • แมวดำ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 261
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +398/-2










บทที่ 13








   การทำงานร่วมกันของ I promise และปางปาลีในขั้นต้นนั้นเป็นไปได้ด้วยดี โปรโมชั่นและสิทธิพิเศษที่จัดเตรียมไว้เพื่อลูกค้าของทั้งสองฝ่ายพร้อมเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว ที่เหลือก็แค่โปรโมตหลังจากงานเปิดตัวโรงแรมปางปาลีเท่านั้นเป็นอันเรียบร้อย



   กมลไม่ได้พบณธิปบ่อยนักหลังกลับจากภูเก็ต เพราะตัวเขามีงานหลายอย่างที่ต้องสะสาง ณธิปเองก็งานรัดตัวเช่นเดียวกัน เวลาที่นัดประชุมกันแต่ละครั้งทางโน้นจึงส่งทีมงานมาพูดคุย ส่วนตัวณธิปกลับโทรหาเอาตอนค่ำๆ หลังเลิกงานแทน



   แรกๆ ที่ณธิปโทรมามักถามไถ่เกี่ยวกับเรื่องงาน ซึ่งกมลก็ไม่ได้ขัดข้องที่ต้องรับสาย กระทั่งกว่าจะรู้ตัวอีกที กลับกลายเป็นว่าอีกฝ่ายเริ่มโทรบ่อยขึ้น ซ้ำยังถามโน่นถามนี่ชวนคุยอยู่หลายนาทีจนเป็นเรื่องเคยชินไปเสียแล้ว



   วันนี้ก็เช่นกัน ในขณะที่หนุ่มหน้าสวยกำลังล้วงหากุญแจห้องอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นพอดี



   “สวัสดีครับ กมลพูดสายครับ”

   [คุณไอ] น้ำเสียงทักทายที่คุ้นเคยในระยะนี้ ฟังดูกระตือรือร้นเป็นพิเศษกว่าทุกวัน

   “ครับคุณณธิป” กมลใช้ไหล่หนีบโทรศัพท์เอาไว้ขณะไขกุญแจเข้าห้อง เพราะมือเต็มไปด้วยข้าวของและกระเป๋าเอกสาร

   [คุณอยู่คอนโดหรือเปล่า]

   “ใช่ครับ ว่าแต่คุณรู้ได้ยังไง”

   [หึๆ ก็ผมเห็นรถคุณจอดอยู่นี่ไง] คนพูดเว้นช่วงไปนิด ก่อนเอ่ยชวน [กินอะไรหรือยังครับ ไปหามื้อดึกกินกันไหม]

   “ไม่ดีกว่า…” ยังไม่ทันปฏิเสธจนจบประโยคดี คนปลายสายก็รีบแทรกเข้ามาก่อน

   [นี่คุณเพิ่งเลิกงานใช่ไหม]

   “ใช่ครับ” กมลตอบกลับไปแบบงงๆ

   [คิดว่าคงยังไม่ได้กินมื้อเย็นใช่ไหมล่ะ ปรกติคุณชอบทำงานเพลินไม่ยอมกินมื้อเย็นนี่ เดี๋ยวป่วยนะ ออกไปหาอะไรกินกับผมเถอะ]

   “คุณรู้ได้ไงว่าผมไม่ค่อยกินมื้อเย็น” กมลนึกสงสัยขึ้นมาทันที เพราะณธิปไม่ได้อยู่กับเขาทุกวัน มิหนำซ้ำตอนโทรคุยกันก็ไม่ได้บอกเรื่องนี้สักหน่อย แล้วเจ้าตัวรู้ได้อย่างไร

   [เอาเป็นว่าผมรู้ก็แล้วกัน อย่าสนใจเลย วันนี้ออกไปด้วยกันเถอะ ผมอยากคุยเรื่องงานเปิดตัวปางปาลีพอดี จะเอาบัตรเชิญให้คุณด้วยน่ะ ช่วงนี้ผมไม่ค่อยว่าง จะเอาเข้าไปให้ที่ I promise ก็ไม่มีเวลา]

   “ก็ฝากคนอื่นมาให้สิครับ ไม่เห็นจำเป็นต้องมาด้วยตัวเองเลยนี่นา”

   [ได้ยังไง หุ้นส่วนคนสำคัญผมต้องมอบให้เองกับมือสิ มาเถอะนะครับ ไม่นานหรอก ให้คุณเลิกร้านเองก็ได้] ครั้นได้ยินข้อเสนอ กมลจึงชั่งใจสักพัก สุดท้ายจึงใจอ่อนยอมตกลงในที่สุด

   “ก็ได้ครับ คุณอยู่ตรงไหน”

   [ผมอยู่หน้าลิฟต์ชั้น 1]

   “งั้นเดี๋ยวผมลงไปหา”



   กมลเอาข้าวของที่หอบหิ้วหลับมาไปวางไว้ในห้อง หยิบแค่กระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์มือถือและกุญแจรถติดตัวมา ระหว่างลงไปชั้นล่าง ในหัวก็คิดว่าตัวเองอาจตัดสินใจพลาดที่ยอมไปทานมื้อดึกกับณธิป



   “เฮ้อ…”



ชายหนุ่มถอนหายใจทิ้ง พยายามสลัดความกังวนเหล่านั้นทิ้งไปด้วย เพราะอย่างไรเสียเขาก็เลือกให้มันเป็นเช่นนี้เอง อีกทั้งที่ผ่านมาณธิปก็ไม่ได้แสดงท่าทีรุ่มร่ามเหมือนก่อน ฉะนั้นคงไม่มีอะไรต้องห่วงนัก



   ติ้ง!



   ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออก คนหน้าตาดีก็ยิ้มบาดใจสว่างไสวมาให้ทีหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยทักด้วยประโยคที่ดูเป็นห่วงมากกว่าเพื่อนร่วมงานไปสักหน่อย ทั้งยังเดินมาแตะข้อศอกเพื่อมองสำรวจร่างกายของกมลอย่างหน้าตาเฉย



   “ดูผอมลงจริงๆ ด้วยนะครับ นี่ไม่ค่อยได้กินอะไรอย่างที่ผมได้ยินมาจริงๆ ใช่ไหม”

   “ผมกินปรกติครับ ว่าแต่คุณยังไม่บอกว่าใครที่เล่าให้คุณฟัง” หนุ่มหน้าสวยว่าพลางดึงข้อศอกคืนอย่างแนบเนียน รู้สึกงงงวยไม่น้อยว่าพวกเขาสนิทสนมกันขนาดนี้เชียวหรือ

   “สายสืบของผมน่ะ” ณธิปว่าพลางยิ้มเจ้าเล่ห์

“สายสืบงั้นหรือ”



เมื่อเห็นว่าคิ้วของคนถามกำลังขมวดมุ่นอย่างไม่พอใจ ณธิปจึงรีบชวนเปลี่ยนเรื่องทันที ราวกับว่านั่นจะหยุดความสงสัยของกมลได้



“ไปที่รถเถอะครับ ผมหิวจะแย่แล้ว”



เมื่อถึงลานจอดรถก็เกิดปัญหาขึ้นมาอีกข้อ เพราะต่างฝ่ายต่างมีความเห็นไม่ตรงกัน กมลยืนอยู่ระหว่างรถของตัวเองกับรถหรูของผู้บริหารหนุ่ม ขณะบอกความประสงค์ของตัวเอง
   


“คุณขับตามผมนะ เดี๋ยวผมแชร์โลเคชั่นให้”

   “ขับตามกันทำไมให้วุ่นวาย คุณไอไปรถผมดีกว่า เผื่อรถติดด้วย”
   


กมลไม่อยากไปรถของณธิป ก้มมองนาฬิกาก็รู้ว่าเวลานี้รถไม่น่าติดแล้ว ทว่าเมื่อนึกดูดีๆ ร้านที่จะไปอาจไม่มีที่จอดรถเพียงพอ ดังนั้นจึงตัดสินใจบอกกับอีกฝ่าย




   “ถ้างั้นไปรถผม ผมรู้ทาง ขับเองสะดวกกว่า” เห็นณธิปชะงักไปนิด กมลจึงเอ่ยเสริม “ก็คุณว่าให้ผมเลือกร้าน”

   “งั้นก็ได้ครับ แล้วแต่คุณไอเลย”



   ณธิปถอนลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ เพราะคนหน้าหวานไม่ยอมเปิดช่องว่างให้เขาสักนิดเดียว แผนที่คิดว่าหลังจากทานข้าวแล้วจะมัดมือชกให้อีกฝ่ายไปฟังเพลงเพราะๆ พร้อมกับนั่งดื่มด้วยกันในบรรยากาศดีๆ ก็เป็นอันต้องตกไป นี่ถ้าเป็นคนอื่นๆ ที่เคยจีบล่ะก็ เพียงแค่เห็นรถของเขาก็ตาลุกวาวแล้วด้วยซ้ำ ทว่าพอเป็นกมลแล้ว ดวงตาสวยๆ คู่นั้นกลับไม่เหลือบแลลูกรักของเขาเลยสักนิด



   หลังกลับจากภูเก็ต แม้ณธิปไม่มีเวลา แต่ก็พยายามสรรหาของกำนัลราคาแพงที่คิดว่าใครๆ ก็น่าจะชอบส่งไปให้ ไม่เว้นแม้กระทั่งขนมนมเนยหรือดอกไม้ที่ใช้ได้เฉพาะกับผู้หญิง แต่กมลก็ปฏิเสธทุกคราไป สิ่งเดียวที่รับไว้คือข้อเสนอในการร่วมงานกัน และยอมรับโทรศัพท์กับข้อความของเขาเพื่อคุยเรื่องงานเท่านั้น เล่นเอาไอ้เสืออย่างณธิปแทบหมดมุข ทั้งยังเสียความมั่นใจไปมากเลยทีเดียว



   คนอะไรจีบยากจีบเย็น ชายหนุ่มคิดขณะที่นั่งลงตรงตำแหน่งข้างๆ คนขับ



   ท่ามกลางความเงียบหลังออกรถได้ไม่นาน ณธิปก็เริ่มมองสำรวจภายในตัวรถของอีกฝ่ายไปด้วย รถคันนี้ดูไม่ได้มีอะไรพิเศษมากนัก คล้ายกับรถบ้านทั่วๆ ไป ซ้ำยังรกผิดคาด ที่ด้านหน้านั้นไม่เท่าไหร่ แต่เบาะหลังกลับมีทั้งหุ่นยนต์ตัวเล็กๆ กับที่นอนปิกนิกลายยีราฟและเพนกวินวางระเกะระกะ



   “ของหลานผมน่ะ” เห็นสายตาสอดรู้ของผู้โดยสารมองสำรวจไปทั่ว กมลจึงอธิบายให้ฟัง

   “อ๋อ” ณธิปพยักหน้าเข้าใจ ก่อนถามต่อ “ปรกติคุณไม่ได้อยู่ที่คอนโดหรือครับ เห็นโทรไปทีไรก็อยู่บ้านตลอด”

   “ครับ ทุกทีก็นอนที่บ้าน”

   “แล้ววันนี้ทำไมถึงมาคอนโดล่ะ”

   “พวกเด็กๆ กับน้องสาวผมไม่อยู่ ก็เลยมานอนคอนโด มันค่อนข้างสะดวกดี”

   “อืม ว่าแต่คุณไอพักอยู่ห้องไหน” พอได้ยินคำถาม กมลก็หันมามองตาขวางแวบหนึ่ง

   “ถามทำไมครับ”

   “นี่อย่ามองผมอย่างนั้นสิ ไม่ได้คิดจะทำอะไรหรอกน่า แค่อยากรู้เฉยๆ เผื่อมีปัญหาอะไรจะได้ช่วยเหลือกันได้ไง ผมไม่รู้จักใครเลยด้วย มีเพื่อนก็อุ่นใจกว่า ถึงจะเพิ่งย้ายมา แต่ผมอยู่ที่นี่บ่อยกว่าที่บ้าน” คนร้อนตัวรีบแสดงความบริสุทธิ์ใจ

   “คุณอยู่ห้องไหน”

   “จะไปหาผมเองเลยหรือครับ” ณธิปแสร้งทำตาโตล้อเลียน แต่กมลไม่เล่นด้วย จึงรีบบอก “909 ครับ ชั้น 9”

   “ผมอยู่ชั้น 7 ห้อง 703”

   “ยอมบอกนี่แปลว่าถ้าผมมีปัญหา ผมไปหาคุณไอได้ใช่ไหม”

   “ถ้ามีปัญหาจริงๆ ก็ได้ครับ แต่ผมไม่ค่อยอยู่หรอกนะ ทางที่ดีถ้าคุณมีปัญหา ลงไปติดต่อที่รีเซ็ปชั่นดีกว่า”



คำแนะนำแบบจริงจังของกมลทำให้ณธิปยิ้มอ่อนใจ เขารู้ว่าเจ้าของใบหน้าหวานๆ นี่รู้สิ่งที่เขาอยากสื่อ แต่เจ้าตัวก็ปฏิเสธอย่างแนบเนียนได้ทุกที ทำราวกับมองไม่เห็น ทั้งที่เห็นเต็มชัดสองตา



   “มีอะไรที่คุณณธิปกินไม่ได้ไหม” กมลถามขึ้น ปัดความคิดที่กำลังวิเคราะห์อยู่ในหัวของณธิปให้กระจายหายไปทันตา

   “ผมแพ้พวกสัตว์มีเปลือก กุ้ง ปู อะไรเทือกๆ นั้น”

   “นอกนั้นกินได้หมดนะครับ”

   “ครับ”

   “งั้นร้านนี้ก็กินได้หายห่วง”



   พูดจบคนหน้าหวานก็เทียบจอดต่อกับรถคันอื่นๆ ที่อยู่ข้างฟุตปาท จากนั้นก็หันมาบอกด้วยใบหน้ายิ้มๆ ตามแบบฉบับ



   “กลับไปต้องทำงานต่อ กินอะไรแซ่บๆ จะได้ตื่น คุณณธิปกินได้นะครับ”



   ณธิปหันไปมองร้านที่เป็นคูหาเล็กๆ มีโต๊ะเรียงยาวจากในร้านล้นออกมาบนฟุตปาท คนที่นั่งกินก็เต็มไปหมด บางคนซื้อกลับบ้านก็ยืนรอเป็นแถวเต็มหน้าร้าน ป้ายเสียบหลอดไฟที่ตั้งเอาไว้ปรากฏชื่อ



   ต้มขาไก่ซุปเปอร์แซ่บ



   เห็นแค่นั้นชายหนุ่มก็ถึงกับกลืนน้ำลายดังเอือก ไม่ใช่เพราะหิว แต่รู้สึกหวาดเสียวต่างหาก อันที่จริงมีบางเรื่องที่เขาไม่ได้บอกกมลไปเมื่อครู่ ตอนที่เจ้าตัวถามว่าอะไรที่กินไม่ได้บ้าง นั่นคือ



   ณธิปไม่กินเผ็ด



   และขาไก่ที่ว่าเขาก็ไม่เคยกิน แค่นึกภาพง่ามแง่งๆ ผิวย่นๆ กับเล็บแหลมยาวที่ไก่พวกนั้นใช้คุ้ยลงไปในดินท่าทางสกปรก ณธิปก็คลื่นไส้แล้ว ไม่ต้องพูดถึงร้านที่ดูไม่มีมาตรฐานความสะอาดนี่ด้วยซ้ำ



   แวบแรกที่เขาคิดได้ต่อจากนั้นคือ งานนี้ต้องโดนกมลเอาคืนเข้าแล้วแน่ๆ เพราะเขาเป็นคนตามตื้ออีกฝ่ายให้มากินข้าวด้วย ทั้งที่เจ้าตัวไม่อยากมาสักนิด



   “คุณไอ…” ยังไม่ทันได้ตอบว่าเขากินไม่ได้ คนที่เคยนั่งอยู่ข้างๆ ก็โดดลงไปจากรถแล้ว



   เห็นคนหน้าหวานยืนรออยู่บนฟุตปาทด้วยใบหน้าแสนสงสัย สุดท้ายณธิปจึงทำใจดีสู้เสือ ยอมลงจากรถตามไปหาที่นั่งด้วยเช่นกัน



   จะแกล้งก็แกล้ง เขาจะลองดูสักตั้งว่ามันขนาดไหนกันเชียว



   “เป็นอะไรหรือเปล่าครับ สีหน้าดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลย” กมลถามหลังจากได้ที่นั่งเรียบร้อยแล้ว

   “ไม่เป็นไรครับ” ณธิปตอบพลางเอี้ยวหลบพนักงานตัวเล็กแกร็น หน้ามันแผลบที่เอาแก้วน้ำสแตนเลสใส่น้ำแข็งสองสามก้อนพร้อมปักหลอดสีสดมาวางให้

   “เอาไรพี่” เด็กรับออเดอร์คนนั้นยกกระดาษปากกาขึ้นมาถือและมองณธิปอย่างกดดัน คล้ายจะบอกว่าให้สั่งเสียที



   คนที่ไม่เคยแม้แต่จะชายตาแลร้านอาหารริมทางเช่นนี้ได้แต่มองหาเมนูที่เขียนติดอยู่ไกลๆ ในร้าน ทว่าตัวหนังสือเล่านั้นก็เลือนรางเหลือเกิน สุดท้ายเมื่อสั่งไม่ได้ เขาจึงหันไปเพิ่งคนที่พามาด้วย



   “คุณไอสั่งก่อนเลยครับ”

   “แล้วคุณล่ะ”

   “ผมก็กินเหมือนคุณนั่นแหละ สั่งเลยไม่ต้องเกรงใจ”

“อ๋อ งั้นก็ได้ครับ” เมื่อได้ยินคำอนุญาต กมลก็หันมาสั่งอย่างที่ไม่เกรงใจจริงๆ “ต้มซุปเปอร์เผ็ดๆ พิเศษเพิ่มข้อไก่ ผัดคะน้าปลาเค็ม ผัดเกี่ยมฉ่ายกระเพาะหมู หมูกรอบพิเศษ แล้วก็ข้าวต้มสองถ้วย”

“รอแปปนะพี่” จดเสร็จเด็กคนนั้นก็เดินไปติดส่งกระดาษให้เจ้าของร้านที่ควงตะหลิวพร้อมกับตะโกนโฉงเฉงให้เด็กเสิร์ฟยกอาหารไปให้ลูกค้า



เจ้าของดวงตารีเรียวที่มองตามไปลอบกลืนน้ำลายเงียบๆ อีกครั้ง ในใจอดคิดไม่ได้ว่า พ่อครัวคนนั้นจะเผลอทำน้ำลายกระเด็นใส่กระทะไปบ้างหรือเปล่า



เมื่อคิดเรื่องน่าขนลุก ริมฝีปากบางๆ ก็เกือบเผลอเบ้ออกมาอย่างนึกรังเกียจ โชคดีที่กมลเรียกสติของชายหนุ่มเสียก่อน ณธิปจึงไม่แสดงพฤติกรรมเช่นนั้นออกมา



“ถ้าไม่พอค่อยสั่งเพิ่มก็ได้ครับ”

“ไม่พอหรือครับ” ณธิปถึงกับงงไปชั่วขณะ สั่งไปมากขนาดนั้น ซ้ำยังกินกันอยู่แค่สองคนอาหารจะไม่พอได้อย่างไร “ปรกติคุณสั่งแบบนี้ประจำหรือเปล่า”

“ก็ประมาณนี้แหละครับ แต่คราวนี้เพิ่มหมูกรอบ ต้มซุปเปอร์ก็สั่งแบบพิเศษ คิดว่าน่าจะพอ”

“ครับ ผมว่าพอเหลือเฟือ คุณไอเองก็ไม่ค่อยหิวไม่ใช่หรือครับ” ที่พูดออกไปเช่นนั้นเพราะณธิปรู้ว่าเขาคงกินได้ไม่มากเท่าไหร่ แล้วผู้ชายที่ตัวไม่ได้ใหญ่โตมากแบบกมลก็คงกินไม่จุกว่าอาหารทั้งหมดนั่นเช่นกัน แต่ณธิปเพิ่งได้รู้ในตอนหลังว่าตัวเองนั้นคิดผิด

“ตอนแรกก็คิดว่าไม่หิว แต่พอได้กลิ่นน้ำซุปตอนลงรถมา ท้องมันก็ร้องโครกครากเลย น่าอายสุดๆ” คำพูดที่ดูจะเป็นกันเองมากขึ้นเพราะกมลลดเกราะป้องกันตัวลง เนื่องจากได้อยู่ในสถานที่ที่ตนเองคุ้นเคย ทำให้ณธิปปัดความคิดที่ว่าคนหน้าหวานพาเขามาที่นี่เพราะอยากแกล้งออกไปส่วนหนึ่ง



พวกเขาสองคนไม่ค่อยได้พูดคุยอะไรกันมากนัก หนึ่งเพราะกมลไม่ชวนคุย สองเพราะณธิปเองก็ไม่ชวนคุยเช่นกัน ผู้บริหารของเอ็นพีกรุ๊ปคอยระแวดระวังคนที่เดินผ่านมาบนฟุตปาทไม่ให้ชนแขนและไหล่กว้างๆ ของตนเองขณะเดินผ่านหน้าร้านแคบๆ



ซ้ำยังต้องคอยโบกคอเสื้อให้ลมผ่านเนื่องจากอาการค่อนข้างร้อน ไหนจะควันจากอาหารกับรถราริมถนนก็ผสมปนเปกันไปหมดอีกด้วย



นึกแล้วก็อยากถอดใจ คนอย่าง ณธิป โชติตระกูล ไหนเลยจะคิดว่าตัวเองต้องมาลงทุนทำอะไรขนาดนี้เพียงแค่จีบผู้ชายคนหนึ่ง เขาไม่จำเป็นต้องมาคลุกฝุ่นอยู่ริมถนนเลยสักนิด ทั้งที่มีอาหารดีๆ ให้ทานในภัตตาคารของโรงแรมระดับห้าดาว



อยู่ดีไม่ว่าดีแท้ๆ








   ไม่นานเด็กเสิร์ฟก็ยกอาหารที่สั่งมาวางให้จนเต็มโต๊ะ ณธิปมองถ้วยข้าวต้มตรงหน้าของตัวเอง ก่อนจะมองข้ามไปยังถ้วยของกมลที่บัดนี้มีเกี่ยมฉ่ายวางแหมะอยู่บนนั้นแล้วด้วย



   “ลองทานดูครับ ร้านนี้อร่อย คุณน่าจะชอบ” กมลว่าพลางตักขาไก่ในน้ำแกงแดงเดือดให้ณธิป ก่อนก้มหน้าก้มตากินอาหารตรงหน้าของตนเองอย่างเอร็ดอร่อย



   ณธิปมองของที่อยู่ในถ้วยแล้วเกิดความรู้สึกขนลุก แต่ก็ต้องจำใจหยิบช้อนขึ้นมาตักข้าวต้มเข้าปาก เพราะไม่อยากให้คนตักให้เสียน้ำใจ ทั้งยังกลัวเสียฟอร์มถ้ากมลรู้ว่าเขากินเผ็ดไม่ได้อีกต่างหาก



   ตลอดมื้ออาหารพวกเขาคุยกันเรื่องงานนิดหน่อย ที่เหลือก็เป็นช่วงเวลาที่หนุ่มหน้าหวานเพลิดเพลินกับอาหาร ส่วนณธิปนั้นทรมานแทบแย่ ขนาดว่าเขาแทะขาไก่ชิ้นนั้นส่งๆ ยังเผ็ดจนต้องกลั้นใจดื่มน้ำในแก้วสแตนเลสนั่นถึงสองแก้ว



ส่วนอาหารที่ตักทานได้ก็มีแต่หมูกรอบ เพราะเขาไม่ชอบเครื่องใน ผัดเกี่ยมฉ่ายใส่กระเพาะจึงต้องงด ทั้งยังไม่ชอบปลาเค็มในผัดผักคะน้าเนื่องจากมันเหม็น แถมยังกินแล้วคันยุบยิบในปากอีกด้วย



มื้ออาหารมื้อแรกที่กมลตอบรับคำชวนและยอมออกมากินด้วยกันดีๆ สำหรับณธิปแล้วมันเละไม่เป็นท่า ที่ยังทนนั่งอยู่ก็เพราะเห็นคนตรงหน้ากินด้วยท่าทางมีความสุข แม้แก้มขาวๆ จะแดงก่ำเพราะเผ็ดสุดๆ ก็ยังไม่หยุดง่ายๆ นี่ถือเป็นอีกเรื่องที่ณธิปนับถือกมลเลยจริงๆ



คนอะไรกินเผ็ดเก่งชะมัด
















เมื่อมื้อดึกริมทางผ่านพ้นไป ทั้งคู่ก็ตรงกลับคอนโดทันที ไม่มีการแวะร้านไหนเพื่อจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ฟังเพลงเพราะๆ ปลอบใจณธิปทั้งนั้น อันที่จริง ณ ตอนนี้ณธิปก็ไม่มีอารมณ์แบบนั้นแล้วด้วย เนื่องจากร้อนจนเสื้อตัวในเปียกชุ่มไปหมด ยามนี้เขาอยากอาบน้ำ จิบไวน์แดงกับเห็ดแชมปิญอง แล้วนอนตากแอร์สิบแปดองศาเป็นที่สุด



ครั้นถึงคอนโด ณธิปก็เอาบัตรเชิญไปงานเปิดตัวโรงแรมปางปาลีจากในรถให้กมล ก่อนทั้งคู่จะเดินไปขึ้นลิฟต์พร้อมกัน



ทันทีที่มาถึงชั้นเจ็ด กมลก็เดินออกไปยืนนอกลิฟต์ ก่อนหันกลับมากดปุ่มด้านนอกเพื่อรั้งไม่ให้ประตูปิดลงเร็วนัก แล้วจะเอ่ย



“ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อนี้นะครับ แล้วก็ขอบคุณที่ไปนั่งกินเป็นเพื่อนแม้ว่าจะไม่ชอบ”



กมลไม่ได้จะแกล้งณธิปแม้แต่น้อย ทว่าเมื่อเขาเห็นสีหน้าตอนอีกฝ่ายอยู่ที่ร้าน และเห็นว่าณธิปกินข้าวไปน้อยขนาดไหน ชายหนุ่มก็อดรู้สึกผิดนิดๆ ไม่ได้ หากในความรู้สึกผิดนั้น กมลก็ยังรู้สึกขำด้วย



“ผมไม่ได้ไม่ชอบ” ณธิปรีบบอกทันที ก่อนจะนึกได้ว่าท่าทางของเขากับคำปฏิเสธพวกนั้นดูไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกันเท่าไหร่ สุดท้ายจึงพูดไปตามตรง “อันที่จริงก็ไม่ชอบนั่นแหละ ร้านอาหารมีตั้งเยอะ คุณเลือกไปนั่งร้านอย่างนั้นได้ยังไง นอกจากบรรยากาศจะไม่น่านั่งแล้ว กับข้าวที่สั่งผมก็กินไม่ได้เลยด้วย”

“ฮ่าๆๆ” กมลเผลอหลุดหัวเราะออกมาในที่สุด ยิ่งเห็นอีกฝ่ายทำหน้าไม่พอใจเหมือนเด็กๆ ยิ่งทำให้นึกถึงหลานๆ ฝาแฝดของตัวเองสุดๆ

“นี่อย่าบอกนะว่าคุณแกล้งผมน่ะคุณไอ” ณธิปถามคิ้วกระตุก

“ผมเปล่านะครับ ผมอยากกินจริงๆ แต่ใครจะรู้ว่าคุณไม่ชอบ ก็คุณไม่บอกนี่นา ผมถามคุณแล้วนะจำไม่ได้หรือไง”

“โอเค คราวนี้ผมพลาดเอง แต่คราวหน้าผมไม่ยอมแล้วนะ”

“เอาไว้ให้ถึงคราวหน้าก่อนแล้วกันครับ” คนหน้าหวานว่า ก่อนจะยิ้มกว้างแบบที่ไม่ค่อยยิ้มให้กับณธิปทีหนึ่ง ซึ่งนั่นทำให้ชายหนุ่มนิ่งไปครู่ คล้ายกับว่าหัวใจกำลังถูกโจมตีอีกครั้ง



เมื่อประตูลิฟต์ปิดสนิทจนมองไม่เห็นคนที่ยืนส่งอยู่ด้านนอก ณธิปก็ยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว เขาคิดกับตัวเองว่า แม้เดทมื้อดึกของเขากับกมลจะค่อนข้างห่วย แต่ก็ใช่ว่ามันจะมีแต่เรื่องแย่ๆ เสียเมื่อไหร่



อย่างน้อยมันก็ทำให้เขาได้รับรอยยิ้มหายากแบบนั้นล่ะนะ
   


ส่วนกมลที่ยืนอยู่อีกด้านของประตู ก็กำลังคิดเช่นกันว่า ความจริงผู้ชายที่ชื่อ ณธิป โชติตระกูล อาจไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เขากลัวก็เป็นได้…









++++++++++++++++++++++++++++








/คลานเข่าเข้ามาให้ลงหวาย

เรากลับมาแล้วค่ะ

ตอนนี้ก็นะ เขียนไปหิวไปมากๆ

อยากกินต้มซุปเปอร์มากกกกก

หิวตอนดึกด้วย ฮืออออ

อะแฮ่ม เอาเป็นว่าไปหาไรกินก่อนค่ะ

เจอกันตอนหน้า ไม่ทิ้งนานแล้ว จริงๆ




ละอองฝน.


ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Varsator

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
คุณพระ.... อ่านตอนนี้แล้วหิวค่ะ
พลาดมาก /ทีมนอนเช้า

เหนือสิ่งอื่นใด เกราะคุณไอเริ่มร้าวแล้วค่ะ แม่ขาาา
ใจหนึ่งอยากหวังให้คุณไอคลูบิวตี้ต่อไป.... แต่อีกใจก็อยากเห็นคนหลงเมีย
/เดี๋ยวๆ

ดีใจที่มาต่อมามากๆ นะคะ
รอติดตามค่ะ

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
คุณเล็กนี่ลูกคุณหนูจริงๆนะ 5555

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ใจแข็งไปนานๆนะไอ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด