-->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ หลังแต่งงาน [03/07/2562]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ หลังแต่งงาน [03/07/2562]  (อ่าน 203120 ครั้ง)

ออฟไลน์ ละอองฝน

  • แมวดำ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 261
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +398/-2







คุณคือความรัก บทที่ 16









   หลังจากพาหลานๆ ไปเล่นน้ำทะเลและก่อปราสาททรายจนบ่ายคล้อย กมลก็ชวนครอบครัวกลับเข้าที่พัก เพราะเขาต้องอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปร่วมงานเปิดตัวโรงแรมปางปาลีที่จะจัดขึ้นในค่ำนี้ ส่วนทายาทคนโตของโรงแรมอย่างณภัทรก็เห็นว่าสมควรแก่เวลาแล้วเช่นกัน เขาจึงแยกกับครอบครัวของกมลที่ชายหาดเพื่อไปเตรียมตัว



   ระหว่างทางกลับที่พัก หยินกับหยางออกอาการงอแงนิดหน่อยเพราะยังรู้สึกสนุกกับการเล่นอยู่ ทั้งแม่และลุงจึงต้องช่วยกันหว่านล้อมอยู่หลายประโยค กว่าที่พวกเด็กๆ จะยอมสงบแต่โดยดี



   ครั้งมาถึงห้อง กมลช่วยน้องสาวอาบน้ำล้างตัวให้หลานๆ ก่อน จากนั้นก็โทรสั่งอาหารเย็นมาให้ แล้วจึงค่อยอาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปงานเลี้ยง



   เสื้อผ้าที่เตรียมมาเป็นชุดสูทสีเทาเข้มกระดุมเดี่ยวเข้ากับรูปร่าง เมื่อสวมสูทและเซ็ทผมเก็บหน้าม้ายาวๆ ขึ้นไปให้เรียบร้อย ความหวานของใบหน้าก็ถูกลดทอนลงไปมากโข ยามนี้เขาจึงกลายเป็นหนุ่มที่มีลุคดูภูมิฐานแปลกตาทีเดียว



   ที่กมลค่อนข้างพิถีพิถันแต่งกายเป็นพิเศษในคืนนี้ เป็นเพราะรู้ว่าแขกเหรื่อในงานส่วนใหญ่คงไม่ใช่คนธรรมดาอย่างงานทั่วไป แม้คาดว่าตนเองคงไม่รู้จักนักธุรกิจที่มาร่วมงานมากเท่าไหร่ แต่ก็ต้องรักษาภาพลักษณ์โดยรวมจากการแต่งกายให้ดูดีไว้ก่อน



   เมื่อแต่งตัวเรียบร้อย ชายหนุ่มจึงออกมาหาน้องสาวกับหลานๆ ที่โต๊ะกินข้าว ซึ่งนอกจากอาหารที่สั่งมาแล้ว บนโต๊ะยังมีกระเช้าดอกลิลลี่สีขาวแซมกล้วยไม้แวนด้าสีม่วงวางอยู่



   กมลได้รับความช่วยเหลือจากลูกพี่ลูกน้องอย่างจงรักในการสั่งดอกไม้สดกระเช้านี้ให้ เดิมทีเขาเปรยๆ ว่าอยากให้จงรักจัดดอกไม้ให้ แต่ด้วยความยุ่งยากในการเดินทางรวมทั้งสัมภาระที่มากอยู่แล้ว จงรักจึงช่วยเป็นธุระโทรประสานกับร้านของคนรู้จักในภูเก็ตให้จัดดอกไม้มาส่งกมลที่โรงแรมปางปาลีด้วย ซึ่งนั่นก็ถือว่าเป็นความโชคดีของกมลที่ไม่ต้องวุ่นวายหาร้านด้วยตัวเอง



   “ลุงไอจะไปไหนครับ ไม่อยู่กินข้าวเย็นกับพวกเราเหรอ” หยินเงยหน้าจากจานอาหารเย็นขึ้นมาเห็นคุณลุงคนดีสวมชุดแปลกตา จึงส่งเสียงถามออกมาด้วยความสงสัย




   “ลุงต้องไปทำงานครับ” กมลว่าพลางเดินยิ้มเข้ามาหา ก่อนลูบหัวหลานชายเบาๆ


   “ไปนานไหมครับ” เด็กน้อยถามต่อ


   “ไม่นานครับ ดึกๆ ก็กลับแล้ว พี่หยินเป็นเด็กดี อยู่กับแม่อ้ายแล้วก็น้องหยางได้ไหมครับ”


   “ได้ครับ” เด็กชายพยักหน้ารับ


   “เก่งมาก งั้นเดี๋ยวลุงไปก่อนนะ”


   “กลับเร็วๆ นะครับ ลุงไอ” คราวนี้เป็นน้องหยางที่พูดกับคุณลุงบ้าง


   “ครับ แล้วลุงจะรีบกลับนะ” ชายหนุ่มให้สัญญา “พี่เอามือถือไปด้วย มีอะไรก็โทรเข้ามาได้เลยนะอ้าย แต่คิดว่าพี่คงอยู่ในงานไม่นานหรอก”


   “ค่ะ พี่ไอไม่ต้องเป็นห่วงนะ”


   “อืม พี่ไปก่อนนะ”




   ว่าจบกมลก็ยกกระเช้าดอกไม้ขึ้นมาถือไว้ จากนั้นก็ออกไปขึ้นรถที่มารอรับอยู่ก่อนแล้ว เขารู้สึกแปลกใจนิดหน่อย จึงได้ถามพนักงานขับรถไป ได้ใจความว่า ถูกณธิปสั่งให้มารอกมลที่หน้าวิลล่าตั้งแต่ช่วงเย็นแล้ว



   อันที่จริงวิลล่าหลังอื่นก็สามารถโทรเรียกรถมารับได้เหมือนๆ กัน เนื่องจากเป็นบริการที่ทางโรงแรมจัดไว้เพื่ออำนวยความสะดวกอยู่แล้ว แต่กมลก็ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกระอักกระอ่วนใจอยู่ดี เพราะเขายังไม่ทันโทรไปเอง แต่กลับได้รับอภิสิทธ์จากคำสั่งของเจ้าของโรงแรมโดยตรง



   ยามเมื่อรถแล่นไปตามทาง สายลมก็พัดเอากลิ่นหอมหวานของดอกลิลลี่ที่ถือเอาไว้เข้าจมูก คนหน้าสวยก้มมองดอกไม้ในมือ ก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ พอนึกถึงเจ้าของงานแล้วก็อ่อนใจ ไม่รู้หลังจากนี้ณธิปจะคิดทำอะไรอีก ถ้าเขาไม่แสดงท่าทีว่าเล่นด้วย คนคนนั้นจะเบื่อและเลิกสนใจไปในที่สุดไหม หรือจะยังตามวอแวต่อไปเรื่อยๆ กัน



   หลังจากได้รู้จักกันมาสักระยะ ในสายตาเขา ณธิปไม่ใช่คนเลวร้ายมากมายอะไรขนาดนั้น แต่ความคิดและวิธีการเข้าหาคนอื่นของชายหนุ่ม เป็นอะไรที่ไม่ใช่แบบที่เขาชอบเท่าไหร่



   การเอาอกเอาใจ ไปรับไปส่ง ทำตัวเป็นพ่อบุญทุ่มมันก็ดี แต่ความรักสำหรับกมลมันมีอะไรมากกว่านั้น อย่างน้อยขั้นแรกก็ต้องมีความจริงใจเป็นสำคัญ หากเขายังสัมผัสถึงความจริงใจจากณธิปไม่ได้เลย รู้สึกแต่ว่าอีกฝ่ายเข้าหา เพื่อต้องการบางอย่างที่ไม่ใช่ความรู้สึกดีๆ จากเขา ทั้งยังรู้สึกถึงอารมณ์อยากเอาชนะของอีกฝ่ายอย่างเข้มข้น แล้วแบบนี้จะให้เขายอมอ่อนให้ได้หรือ



   “เฮ้อ~” ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ในขณะที่คิดว่าจำเป็นต้องหาโอกาสพูดกับณธิปให้ชัดเจนไปเลยหลังจากงานนี้ รถที่นั่งก็พากมลมาถึงที่หมายพอดี











   พื้นที่จัดงานเปิดตัวปางปาลีในค่ำคืนนี้กินเนื้อที่เชื่อมต่อกันสองส่วน คือส่วนในตัวอาคารและพื้นที่เปิดโล่งออกมาด้านนอกติดกับชายหาด



กมลเข้างานตามหลังแขกกลุ่มหนึ่ง เมื่อก้าวเท้าเข้าสู่สถานที่ที่ถูกจัดเตรียมไว้ เขาก็สามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของโรงแรมติดชายทะเล ขณะเดียวกันตีมและองค์ประกอบต่างๆ ของงานก็ยังไม่ทิ้งความหรูหรา ซึ่งทำให้แขกที่มาร่วมงานรู้สึกว่าที่แห่งนี้จะสามารถมอบความพิเศษในระดับพรีเมี่ยมได้ยามเมื่อกลับมาเยือนอีกครั้ง



แม้งานจะเพิ่งเริ่มได้ไม่นาน แต่กมลก็คาดว่ามันต้องไปได้สวยและได้รับเสียงตอบรับที่ดีแน่นอนหลังงานจบ และต้องยกความดีความชอบให้กับคนที่บริหารจัดการทุกอย่างด้วยตัวเองอย่างณธิป กมลไม่รู้สึกแปลกใจเลยที่อีกฝ่ายทำหน้าที่ได้ดีขนาดนี้ เพราะเขารู้อยู่แล้วว่าณธิปทำงานเก่ง



ขณะที่กำลังนึกถึง คนคนนั้นก็ปรากฏตัวให้เห็นพอดี ทั้งยังแหวกผู้คนเดินเข้ามาหากมลอีกด้วย



ณธิป โชติตระกูล ดูเปล่งประกายจากคนอื่นๆ มากพอสมควร ด้วยองค์ประกอบหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นใบหน้าที่หล่อเหลา บุคลิกที่มั่นใจ และรอยยิ้มที่ทรงเสน่ห์เหลือร้ายนั่น ยิ่งได้สูทเนี๊ยบๆ แบบทันสมัยสีเบอร์กันดีสวม ก็ยิ่งขับก็ทำให้โดดเด่นจนใครๆ ความสนใจชายหนุ่มกันทุกคน




“คุณมาช้า” พอมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า กมลก็ถูกตั้งข้อกล่าวหาทันที “ผมมองหาคุณตั้งนานแล้วรู้หรือเปล่า”


“ขอโทษครับ” ครั้นได้ยินกมลกล่าวขอโทษออกมาตรงๆ คนเจ้าเล่ห์ก็ยิ้มพราวราวกับไม่ถือสา ก่อนจะขยับเข้าหาแล้วเอื้อมมือไปแตะที่หลังของกมลเบาๆ


“ไปถ่ายรูปด้วยกันที่แบ็คดรอปดีกว่า อีกเดี๋ยวจะได้แนะนำให้คุณรู้จักเพื่อนๆ ของผมด้วย”




เพราะมีสายตาของคนอื่นจ้องมองมามากมาย กมลจึงได้แต่เออออตามไปถ่ายรูปและมอบกระเช้าดอกไม้ให้อีกฝ่ายที่แบ็คดรอปก่อน



ท่าทางที่ณธิปแสดงออกมาอย่างชัดเจนว่าสนิทสนมกับหนุ่มหน้าสวยเป็นพิเศษ ทำให้เหยี่ยวข่าวจากหลายๆ สำนักที่ถูกเชิญมา รัวกดชัตเตอร์กันมือเป็นระวิง เพราะนอกเหนือจากข่าวเปิดตัวโรงแรมดังแล้ว ตัวเจ้าของโรงแรมเองก็ถือว่าเป็นคนที่อยู่ในความสนใจของสังคมไม่น้อย ด้วยวีรกรรมต่างๆ ที่เคยผ่านมา ถ้าหากวันดีคืนดีจะควงใครสักคนเปิดตัวล่ะก็ ย่อมต้องได้รับความสนใจอย่างมากเป็นแน่



กมลอยากหนีไปซ่อนอยู่ตรงมุมเงียบๆ ของงานเลี้ยงแทบแย่ หากไม่ติดว่าณธิปมัดมือชกพาเขาไปคุยกับเพื่อนนักธุรกิจไม่หยุดหย่อน อยากมองในแง่ดีว่าแค่คุยกันเรื่องธุรกิจเท่านั้น ไม่มีหัวข้อไหนรุกล้ำเกินเลยไปเรื่องความสัมพันธ์คลุมเครือที่เจ้าของงานเป็นคนสร้างขึ้น แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสายตาของแขกเหรื่อหลายๆ คนที่มองมายังกมลนั้น ไม่ได้หยุดคิดแค่เรื่องธุรกิจ



กระทั่งในที่สุดกมลก็ได้โอกาสแยกตัวจากณธิป เพราะคนเจ้าเล่ห์ต้องขึ้นไปพูดบนเวที หนุ่มหน้าหวานจึงแอบหนีไปอยู่ในโซนที่ค่อนข้างห่างไกล



ระหว่างที่ยืนดูผู้บริหารอายุน้อยแสดงวิสัยทัศน์น่าสนใจอยู่บนเวที จู่ๆ ก็มีมือของใครคนหนึ่งสะกิดไหล่เขาจากด้านหลัง



“มายืนหลบมุมทำไมตรงนี้ครับคุณไอ”


“คุณภัทร!”


ครั้นเห็นกมลสะดุ้งจนตัวโยน ณภัทรจึงรีบขอโทษขอโพยทันที “ผมทำให้ตกใจเหรอ ขอโทษนะครับ”


“ไม่เป็นไรครับ” กมลยิ้มให้อย่างไม่ถือสา


“ว่าแต่ทำไมมาหลบอยู่ตรงนี้ครับ ทำไมไม่เข้าไปฟังข้างใน”


“ข้างในคนเยอะครับ ผมก็เลยเดินออกมาสูดอากาศข้างนอกสักหน่อย”


“หรือครับ” ณภัทรพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ ทว่า… “ผมคิดว่าคุณแอบหนีเจ้าเล็กออกมาเสียอีก เห็นเมื่อครู่มันพาเดินไปแนะนำคนนั้นคนนี้ไม่หยุด”


“เอ่อ…เปล่าหรอกครับ”


“ถ้าอึดอัดก็บอกเจ้าเล็กมันได้นี่ครับ คนเยอะ แถมไม่ค่อยรู้จักทั้งนั้นเลยใช่ไหมล่ะ”


“อ่า…ครับ” กมลได้แต่พยักหน้ารับอย่างจำใจ หากจะให้อธิบาย ก็ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน


“งั้นไปหาอะไรดื่มไหมครับ ผมอยากถามเรื่องรายละเอียดงานที่คุณทำร่วมกับปางปาลีสักหน่อย”


“ได้ครับ” ชายหนุ่มคิดว่า อย่างน้อยก็ดีกว่าถูกณธิปพาไปคุยกับคนนั้นคนนี้ในงานก็แล้วกัน











หลังลงจากเวที ณธิปก็มองหาหนุ่มหน้าหวานที่อยู่ด้วยกันเมื่อครู่ ทว่ากลับหาไม่พบ ขณะที่กำลังจะเดินออกไปดูส่วนจัดงานด้านนอก ชายหนุ่มก็ถูกแขกสำคัญในงานรั้งตัวเอาไว้ เขาจึงยอมละเรื่องของกมลไว้ก่อน



กว่าผู้บริหารหนุ่มจะสามารถปลีกตัวมาอยู่ตามลำพังได้ แขกหลายๆ ท่านก็เริ่มทยอยกลับกันแล้ว ณธิปคุยกับผู้จัดการเรื่องส่งแขกและถามถึงความเรียบร้อยสักพัก จึงเอ่ยถามถึงคนที่ไม่เห็นมาตั้งแต่เย็น




“คุณวิมล”


“ครับคุณเล็ก”


“พี่ภัทรล่ะ” เพราะรู้ว่าเย็นวันพรุ่งนี้พี่ชายมีกำหนดการต้องเข้าประชุมกับบอร์ดบริหารที่กรุงเทพฯ เขาจึงคิดว่าณภัทรอาจจะกลับไปพักผ่อนแล้ว


“ผมเห็นคุณภัทรคุยกับเพื่อนๆ ของท่านที่เลานจ์น่ะครับ”


“อย่างนั้นหรือ ไอ้เราก็นึกว่าหายไปไหน” แม้งานนี้ณภัทรจะไม่ออกหน้าและช่วยรับรองแต่เพื่อนๆ ของพวกเขา เพราะไม่อยากแย่งความสนใจของน้อง แต่แขกผู้ใหญ่ในงานหลายๆ ท่านก็ยังถามหาเจ้าตัวอยู่ไม่น้อย


“แล้วคุณเล็กจะขึ้นที่พักเลยหรือเปล่าครับ หรือจะอยู่จนงานเลิกก่อน” เพราะเห็นเจ้านายตรากตรำมาหลายวัน วิมลจึงค่อนข้างเป็นห่วง


“ต้องอยู่จนเลิกสิ เห็นเจี๊ยบบอกว่ามีสื่อเจ้าหนึ่งขอสัมภาษณ์ด้วย”


“อ้อ เมื่อครู่เลขาของคุณเล็กบอกว่าเธอขอเลื่อนให้เป็นพรุ่งนี้เที่ยงแทนครับ เพราะกว่างานจะเลิกก็คงดึก”


“ทางนั้นเขามีปัญหาหรือเปล่า”


“ไม่ครับ เห็นว่าจะทำสกู๊ปแนะนำด้วย ถ้าเป็นพรุ่งนี้คงจะพร้อมกว่า”


“ถ้าอย่างนั้นก็เอาเถอะ เดี๋ยวฉันไปหาพี่ภัทรสักหน่อย” ก่อนที่จะเดินไปหาพี่ชายที่เลานจ์ ณธิปก็รีบหันกลับไปหาวิมลอีกรอบ “วิมล”


“ครับคุณเล็ก”


“เห็นคุณไอบ้างไหม หรือว่ากลับไปแล้ว”


“อ้อ คุณไออยู่กลับคุณภัทรตั้งแต่คุณเล็กขึ้นเวทีแล้วครับ ตอนนี้ก็น่าจะคุยอยู่กับเพื่อนๆ ของท่านที่เลานจ์”


“อยู่กับพี่ภัทรเหรอ” ชายหนุ่มถามเสียงแข็ง


“ครับ”


เมื่อเห็นวิมลพยักหน้ายืนยัน ณธิปก็หันหลังกลับและมุ่งหน้าไปที่เลานจ์ทันที











เดิมทีกมลก็คุยเรื่องโครงการต่างๆ อยู่กับณภัทรสองคน แต่หลังจากเดินไปหาเครื่องดื่มที่เลานจ์ พวกเขาก็ได้พบกับกลุ่มเพื่อนสนิทของณธิปอยู่ที่นั่นด้วย แรกเริ่มกมลก็ปั้นหน้ายิ้มเกร็งๆ พูดบ้าง ฟังบ้าง ทว่าผ่านไปสักพักก็พบว่าเพื่อนๆ ของณธิปทุกคนดูจะวางตัวสบายๆ พูดคุยอย่างเพื่อนรุ่นเดียวกันมากกว่า เขาจึงผ่อนคลายและสนุกกับบทสนทนาไปด้วย กว่าจะรู้ตัวอีกที เวลาก็ผ่านไปเกือบงานเลิก แขกเหรื่อคนสำคัญทยอยกลับกันหลายท่าน ชายหนุ่มจึงขอตัวกลับบ้าง


“เดี๋ยวผมไปส่งคุณไอที่รถดีกว่า”


“ไม่เป็นไรครับคุณภัทร ผมไปเองได้ แค่นี้เอง” กมลรีบปฏิเสธเพราะเกรงใจ อีกทั้งยังรู้สึกแปลกๆ กับสายตาของเพื่อนณธิปที่มองพวกเขาทั้งคู่ด้วย


“ไม่เป็นไรครับ ไม่รู้ตอนนี้รถจะพอไหม คนทยอยกลับวิลล่ากันก็มาก ถ้ารถไม่พอ ผมจะได้เดินไปเป็นเพื่อน”


“ลำบากเปล่าๆ ครับคุณภัทร ผมเกรงใจ” กมลรู้ว่าณภัทรเป็นคนดีมีน้ำใจ แต่ก็ใช่ว่าเขาจะชอบที่อีกฝ่ายดูแลราวกับเขาเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ


“ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ” ณภัทรว่า ก่อนจะหันไปหาสองหนุ่มที่นั่งหน้าสลอนอยู่ที่โซฟา “เดี๋ยวพี่มานะตฤณ เชษฐ์”


“ครับพี่” ดังตฤณพยักหน้ารับ ส่วนพิเชษฐ์หันมายิ้มให้กมลแทน


“แล้วเจอกันครับคุณไอ”


“แล้วเจอกันครับคุณเชษฐ์ คุณตฤณ”




แต่เมื่อปฏิเสธไม่ได้ กมลก็จำใจเดินตามณภัทรออกไป นึกในใจว่า ณภัทรเองก็มีมุมเผด็จการเล็กๆ ไม่ต่างจากน้องชายเหมือนกัน



พอกมลเดินลับหลังไปไม่นาน ผู้บริหารหนุ่มที่เป็นเจ้าของงานก็เดินมาหาเพื่อนสนิทที่เลานจ์ด้วยสีหน้าบูดบึ้ง ครั้นมาถึงก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง สอดสายส่ายตาหาเป้าหมายทันที




“คุณไอล่ะ”


“แหม…มาถึงก็ถามหาเลยนะ ห่างกันสักนิดไม่ได้เลย กลัวใครจะมาแย่งไปหรือไง” พ่อดาราดังเอ่ยค่อนขอดเพื่อน


“ตอบมาดีๆ ไอ้เชษฐ์ คุณไอไปไหน”


“นี่ตกลงว่าเป็นอะไรๆ กันแล้วใช่ไหม เพื่อนๆ จะได้วางตัวถูก” พิเชษฐ์เฉไฉไม่ตอบ ซ้ำยังตั้งคำถามที่ค้างคาใจตั้งแต่เห็นเพื่อนพากมลเดินร่อนทั่วงานเมื่อหัวค่ำ




ทว่าณธิปกลับไม่ตอบ ซ้ำยังทำหน้าบึ้ง คิ้วขมวดมากกว่าเก่า ดังตฤณที่นั่งเงียบอยู่นานจึงเฉลยขึ้นมาก่อนที่เพื่อนตัวดีจะอาละวาด




“คุณไอกลับไปเมื่อกี้”


“กลับไปแล้ว?”


“ใช่ พี่ภัทรเพิ่งจะออกไปส่ง เมื่อกี้นี่เอง”


“พี่ภัทรอีกแล้วหรือ!”




ครานี้ไม่ต้องรอให้เพื่อนตอบ ชายหนุ่มก็รีบวิ่งตามออกไปทันที ทิ้งให้เพื่อนสนิททั้งสองนั่งมองหน้ากันด้วยความหวั่นใจระคนสงสัย



“แกว่าจะเกิดศึกสายเลือดไหมวะตฤณ”


“ไม่รู้สิ” ดังตฤณเองก็ไม่อาจล่วงรู้ได้ว่าจะมีเรื่องอย่างที่พิเชษฐ์ถามหรือไม่ แต่ถ้าเป็นไปได้ เขาก็หวังว่าอย่าให้เกิดศึกสายเลือดอย่างที่ว่านั่นเลยจะดีกว่า











<><><><><><><><><><><><>><<>><<>>><><><><>><><>




เรากลับมาแล้ว
กลับมาพร้อมแรงอาฆาตของคุณเล็ก /ไม่ใช่ละ 5555


เหมือนจะจบค้างใช่ไหมคะ แต่อย่าเพิ่งว่ากันนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้มาต่อค่ะ

ชื่อตอนหน้า ศึกสายเลือด!! เอาให้เลือดสาดน้ำกระเซ็นกันไปเลย 55555



เจอกันตอนหน้าค่ะ  :katai4:


ละอองฝน.

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1809
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
ศึกสายเลือดกำลังจะมาาาา

ติดตามต่อไปปป :mew1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
รออีกๆ

ออฟไลน์ โอ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
 :mc4:มาต่อแล้วดีใจจังรออ่านค่ะ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
คุณไอลำเอียง
เลือกปฏิบัติ ถ้าเป็นคุณเล็กคงปฏิเสธเด็ดขาด
แต่พอเป็นคุณภัทรก็เกรงใจ งี้คุณเล็กก็แย่ดิ
ฮือออออ ร้องไห้ เข้าใจพระเอกเสมอ รอตอนห
ดีใจมาต่อแล้ว แอบไปถามหาในเฟสมาด้วย คึคึ

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ ละอองฝน

  • แมวดำ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 261
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +398/-2










คุณคือความรัก บทที่ 17







   เมื่อเดินมาถึงฟร้อนด้านหน้าตึก พนักงานของโรงแรมก็รีบกุลีกุจอเข้ามารับหน้านายใหญ่ ณภัทรจึงเอ่ยปากถามถึงรถที่ใช้บริการรับส่งแขกกับเข้าที่พักทันที



   “มีรถหรือเปล่า”


“มีครับท่าน”


   “งั้นไปเอามาส่งคุณเขาคันหนึ่ง”


   “ครับท่าน” พนักงานคนนั้นโค้งให้นายใหญ่อย่างสุภาพ ก่อนจะเร่งไปบอกให้คนนำรถมารับกมลตามคำสั่ง



   พอรถมาถึง กมลก็เดินออกไปขึ้นด้านหน้า  ทว่าก่อนจะก้าวขึ้นไป หนุ่มหน้าหวานก็หันมายิ้มขอบคุณให้กับความมีน้ำใจของณภัทร



   “ขอบคุณคุณภัทรมากนะครับที่มาส่ง แล้วก็อยู่เป็นเพื่อนคุยเสียนานเลย”


   “ไม่เป็นไรครับ” ณภัทรยิ้มใจดี “ว่าแต่พรุ่งนี้คุณไอกับครอบครัวกลับกี่โมงครับ เผื่อกลับไฟล์ทเช้า จะได้เดินทางไปสนามบินด้วยกันเลย”


   “ผมกลับบ่ายครับ ต้องพาเด็กๆ ไปดูพื้นที่บริการโซนครอบครัวสักหน่อย จะได้ไปคอมเม้นกับคุณณธิปได้ถูก” แม้จะพาครอบครัวมาเที่ยว แต่ก็กมลก็ไม่ลืมงานอีกอย่างที่เขารับปากณธิปว่าจะช่วยทำให้


   “อ๋อ งั้นหรือครับ น่าเสียดาย ผมเลยไม่ได้เจอเด็กๆ แต่ไม่เป็นไร เอาไว้ว่างๆ ผมจะโทรไปคอนเฟิร์มนัดอีกทีก็แล้วกัน”


   คนหน้าหวานทำหน้างง ด้วยจำไม่ได้ว่าตัวเองเคยนัดอะไรไว้กับณภัทร “นัดหรือครับ? ขอโทษนะคุณภัทร แต่ผมจำไม่ได้ว่าเรานัดกันไว้ตอนไหน”


   “ผมนัดกับเด็กๆ ไว้น่ะครับ ตอนที่เล่นน้ำที่ชายหาดด้วยกัน ว่ากลับกรุงเทพฯ แล้วจะพาไปทานไอศกรีมอร่อยๆ”


   “อ้อ…” กมลนึกออกทันที คงจะเป็นตอนที่น้องหยางคุณกับณภัทรเรื่องของหวานในโรงแรม และเจ้าตัวเล็กก็ตัดพ้อว่าอยากกินไอศกรีม แต่ตอนนั้นกมลไม่ได้สนใจสิ่งที่พวกเขาตกลงกัน เนื่องจากคอยดูหลานชายอีกคนอยู่ “ความจริงคุณภัทรไม่ต้องลำบากขนาดนั้นก็ได้ครับ เด็กๆ เขาก็พูดไปเรื่อยเปื่อย อีกเดี๋ยวก็ลืมแล้ว”


   “ไม่ได้สิครับ ผมไม่ชอบผิดสัญญาเสียด้วย”


   “แต่ผมเกรงใจ” เพราะกมลรู้ว่าณภัทรมีงานล้นมือรออยู่ คงจะเป็นการรบกวนมากๆ หากจะเจียดเวลาอันมีค่ามาให้พวกเขา อีกอย่าง แม้เขาทั้งคู่จะคุยกันถูกคอ แต่ก็ไม่ได้สนิทถึงขั้นที่จะยอมให้พาครอบครัวไปนั่นมานี่ด้วย


   “ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ ผมเต็มใจ”


   “เอ่อ…” กมลอยากตอบปฏิเสธเต็มแก่ แต่ก็หักหาญน้ำใจของคนดีๆ อย่างณภัทรไม่ลง จึงได้แต่พยักหน้าแกนๆ ตอนรับกลับไป “ก็ได้ครับ เอาไว้ถ้าว่างตรงกัน เราค่อยนัดกันอีกที”


   “ดีครับ” ณภัทรยิ้มกว้างอีกครั้ง


   ทว่ายังไม่ทันที่จะพูดสิ่งที่ตั้งใจจะพูดแต่แรก เสียงเย็นๆ ของน้องชายตัวดีก็ดังขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน


   “นัดกันไปไหนหรือครับ ขอผมไปด้วยได้หรือเปล่า”


   “เล็ก” ณภัทรหันกลับไปหาน้องในขณะที่ใบหน้ายังคงเปื้อนยิ้ม “ข้างในเป็นไงบ้าง แขกทยอยกลับกันมากแล้วล่ะสิ เราถึงออกมานี่ได้”


   “ครับ” ณธิปพยักหน้ารับ “ว่าแต่เมื่อกี้ยังไม่ตอบเลยนะ นัดกันไปไหนหรือครับ”


   “อ้อ พี่ขออนุญาตพาหลานๆ ของคุณไอไปทานไอศกรีมน่ะ พอดีสัญญากับเด็กๆ ไว้เมื่อบ่าย”


   “อืม…ไปสนิทกันได้ยังไงครับเนี่ย”


   “ก็เมื่อบ่ายนั่นแหละ พี่ออกไปเจอเด็กๆ เข้าเล่นกันอยู่ที่หาด ก็เลยเข้าไปร่วมด้วยน่ะ หลานๆ คุณไอเขาน่ารัก”


   “เป็นพี่ภัทรนี่ดีจริง กับใครก็สนิทด้วยไปหมด ไม่ว่าจะเด็ก หรือผู้ใหญ่” ตอนเอ่ยคำสุดท้ายนั้น สายตาของณธิปมองเลยไปหาคนที่ยืนอยู่ด้านหลังพี่ชายอย่างจงใจ



   วินาทีนั้น ณภัทรก็สัมผัสได้ทันทีว่าเขาอาจทำให้น้องชายไม่พอใจเข้าให้แล้ว จึงขยับตัวห่างกมลออกมาเล็กน้อย ส่วนคนหน้าสวยเองก็รู้สึกได้ว่าณธิปดูแปลกไปเช่นกัน แต่เขาก็ไม่ได้อยากรู้นักว่าคำพูดประชดประชันกับบรรยากาศอึมครึมที่ณธิปสร้างขึ้นมาเกิดจากสาเหตุอะไร กมลจึงเอ่ยขึ้นท่ามกลางความอึดอัด



   “ถ้างั้นผมขอกลับที่พักก่อนนะครับ ให้คนขับรถรอนานแล้ว”


   “กลับดีๆ ครับคุณไอ” ณภัทรยิ้มส่งอีกครั้ง


   ทว่าณธิปกลับ…


   “ผมจะไปส่ง” ไม่ว่าเปล่า ชายหนุ่มยังเดินอ้อมไปยืนกดดันให้คนขับลงมา และขึ้นนั่งแทนที่


   “แล้วงานข้างในล่ะเล็ก” ณภัทรถาม


   “ผมสั่งวิมลไว้แล้ว อีกอย่างคนก็กลับกันไปเกือบหมดแล้วด้วย”


   “อย่างนั่นก็แล้วไปเถอะ” ครั้นไม่เห็นว่าติดขัดอะไร ณภัทรก็ไม่ว่า แต่กลับเป็นกมลที่รู้สึกไม่เห็นด้วย


   “ไม่รบกวนดีกว่าครับ คุณณธิปมีงานตั้งมาก ผมเกรง…” ยังไม่ทันพูดจบ กมลก็ถูกแทรกขึ้นก่อน


   “ไม่ต้องเกรงใจหรอก”


   “แต่มัน…”


   “ผมอยากไปส่งคุณ ถ้ากลัวว่าผมจะเสียเวลา คุณก็รีบขึ้นมาสิครับ คุณไอ”




   กมลจ้องดวงตารีเรียวคู่นั้นเขม็งราวกับกำลังวัดใจกัน แต่เขาก็รู้ว่าในสถานการณ์เช่นนี้ หากปฏิเสธไปก็มีแต่จะต้องเถียงกันไม่จบไม่สิ้น จึงได้แต่ถอนหายใจทิ้งเบาๆ แล้วก้าวขึ้นรถ



   ไม่รู้ทำไม สองพี่น้องคู่นี้ถึงชอบบังคับเขานัก แล้วแต่ละสถานการณ์ที่เจอก็ไม่สามารถปฏิเสธได้เสียด้วย กมลนึกหงุดหงิดในใจ




   หลังจากที่หนุ่มหน้าสวยขึ้นมานั่งข้างๆ แล้ว ณธิปก็ออกรถทันที ทิ้งให้ณภัทรยืนส่ายหัวอยู่ด้านหลัง ด้วยเพิ่งระลึกได้ว่าเมื่อครู่ อาจจะเผลอทำให้สองคนนั้นเข้าใจผิดกันก็ได้




   “พี่ภัทร!” ลับหลังณธิปกับกมล ดังตฤณกับพิเชษฐ์ก็ออกมาหาณภัทรที่หน้าโรงแรม


   “ว่าไงตฤณ เชษฐ์”


   “ไอ้เล็กกับคุณไอล่ะครับ” พิเชษฐ์ถาม หน้าตาตื่น


   “เจ้าเล็กพาคุณไอไปส่งแล้ว” ณภัทรตอบ


   “แล้วมันกับพี่ไม่ได้มีเรื่องอะไรกันใช่ไหมครับ”


   “ไม่นี่” ชายหนุ่มส่ายหน้า ทว่าแอบเก็บข้อมูลไว้ในใจ เพื่อสนับสนุนความคิดของตนเอง


   “ไม่มีอะไรก็ดีแล้วครับ ผมล่ะกลัวไอ้เล็กมันจะอาละวาดใส่พี่ เมื่อกี้ตอนรู้ว่าคุณไอมากับพี่นะ ทำหน้าอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อคนอื่นให้ได้ พวกผมล่ะกลัวใจมันกันหมด” พิเชษฐ์ว่าอย่างโล่งอก เพราะเบาใจที่ไม่เกิดศึกสายเลือดระหว่างพี่กับน้องอย่างที่กังวล


   “เล็กกับคุณไอเป็นอะไรกัน” ครั้นได้ยินคำถามของณภัทร เพื่อนสนิททั้งสองคนของณธิปก็เงียบไปชั่วอึดใจ ก่อนดังตฤณจะถามกลับ


   “นี่พี่ภัทรไม่รู้เรื่องของเล็กมันหรือครับ”


   “ก็ไม่รู้น่ะสิ แค่สงสัยเท่านั้นว่ากำลังคบกันอยู่หรือเปล่า แล้วตกลงว่าสองคนนั้นเป็นอะไรกัน”


   “ตายล่ะ…” พิเชษฐ์สบถออกมาเบาๆ เพราะไม่รู้ว่าเรื่องของคุณไอกับเจ้าตัวถูกเก็บไว้เป็นความลับจากพี่ชายแสนเพอร์เฟคคนนี้


“ว่ายังไง นี่ไม่คิดจะมีใครบอกพี่เลยหรือ”




ดังตฤณสบสายตาขอความช่วยเหลือจากเพื่อนแล้วลอบถอนใจออกมา ก่อนจะเอ่ยปากเฉลยเสียเอง ด้วยคิดว่าถึงขั้นนี้ คงไม่มีประโยชน์ที่ต้องปิดบัง ซ้ำอาจจะเป็นเรื่องดี เพราะถ้าหากว่าณภัทรรู้ว่าน้องชายตามจีบคุณไออยู่ จะได้เลิกเข้ามาแทรกกลาง



“เล็กมันกำลังตามจีบคุณไออยู่ครับ ยังไม่ได้คบกันหรอก เพราะดูท่าคุณไอจะไม่ค่อยชอบมันเท่าไหร่”


“แล้วเมื่อกี้ก็คงไม่พอใจที่พี่ภัทรเทคแคร์คุณไอแทนมันน่ะครับ พี่ก็รู้ว่าไอ้เล็กมันขี้อิจฉาจะตาย” นิสัยเด็กๆ อย่างการชอบอิจฉาพี่และน้อยใจพ่อกับแม่ของณธิปมีมานานแล้ว และทั้งเพื่อนสนิทรวมถึงณภัทรเองก็รู้ดี


“เฮ้อ…เล็กเอ้ย” ณภัทรส่ายหัวอย่างอ่อนใจ


“ว่าแต่พี่ภัทรเถอะครับ”


“ทำไม”


“พี่สนใจคุณไอเขาด้วยหรือเปล่า” พิเชษฐ์ถามตรงประเด็นเสียจนถูกเพื่อนถลึงตาใส่


“สนใจ…”


“ห๊ะ!/อะไรนะ” ครานี้สองหนุ่มต่างอุทานขึ้นมาพร้อมกัน


“ฟังใจจบก่อนสิ รีบตีโพยตีพายเชียว” ผู้บริหารหนุ่มว่า “จะว่าสนใจก็ไม่ผิดนักหรอก แต่ไม่ได้สนใจในเชิงชู้สาว แค่สนใจเพราะเขาเป็นคนมีความคิดดี แล้วก็สงสัยเรื่องเจ้าเล็กด้วย เลยอยากรู้จักให้มากขึ้น”




ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แต่หลายครั้งแล้วที่ณภัทรเห็นว่ากมลมีเรื่องเกี่ยวพันกับณธิป ทั้งตอนที่น้องชายของเขาถูกทำร้าย หรือเรื่องณธิปเจาะจงใช้บริษัทของกมลในการทำงานร่วมกัน ไหนจะไปรับจากสนามบิน ไปกินข้าวด้วยอีกล่ะ หลายๆ อย่างมันชี้ชัดว่าเจ้าตัวดีสนใจผู้ชายหน้าหวานคนนั้นมากกว่าคนรู้จักทั่วไปเป็นแน่



ซ้ำช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา ณธิปยังไปเที่ยวหรืออกงานสังสรรค์น้อยลง ถ้าเกิดว่าเหตุผลที่มีคนคนหนึ่งเข้ามาในชีวิตแล้วทำให้เสือร้ายอย่างน้องชายของเขาเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีได้ เขาก็สนใจและอยากรู้จักคนคนนั้นให้มากขึ้นเป็นธรรมดา



“งั้นก็ดีแล้วครับ มาอยู่ทีมรอดูไอ้เล็กมันจีบคุณไอดีกว่า แต่ผมว่ารายนี้คงไม่ง่ายหรอก” พิเชษฐ์คาดเดา


“ก็คุณไอเขาเป็นคนมีความคิด” ดังตฤณเอ่ยลอยๆ


“นี่แกหลอกด่าเพื่อนหรือเปล่าวะตฤณ” ดาราหนุ่มขมวดคิ้วแล้วมองเพื่อนตาขวาง


“หลอกด่าอะไรกัน ฉันว่ากระทบมันตรงๆ นี่แหละ” ดังตฤณตอกกลับ



“เอาเถอะๆ จะเป็นยังไงก็รอดูกันต่อไปดีกว่า พี่เองก็อยากจะรู้ ว่าทั้งเจ้าเล็กแล้วก็คุณไอจะทำยังไงกันต่อเหมือนกัน”


สองเพื่อนสนิทของณธิปพยักหน้าเห็นด้วย ในที่นี้จึงไม่ได้มีแต่ณภัทรเท่านั้นที่อยากรู้เรื่องราวในอนาคตของณธิป ว่าสุดท้ายแล้วจะออกหัวหรือก้อยกันแน่













เส้นทางระหว่างตัวโรงแรมกับวิลล่าไม่ได้ไกลกันมากนัก แต่ณธิปกลับขับช้าจนคนนั่งรู้สึกหงุดหงิด หากก็ยังควบคุมตัวเองให้นั่งเงียบๆ ไม่พูดไม่จามาได้ตลอดทาง



ทว่าก็มีเรื่องที่ทำให้กมลต้องละสายตาจากทิวทัศน์ยามค่ำคืนข้างทาง กลับมาสนใจคนที่อยู่ข้างๆ ตัวเองแทน เพราะอยู่ๆ สารถีคนสำคัญกลับจอดรถดื้อๆ กลางทางเสียอย่างนั้น



“จอดรถทำไมครับ ยังไม่ถึงเลยนี่”


“แต่ผมมีเรื่องอยากคุยกับคุณก่อน”


“เรื่องสำคัญอะไรครับ ผมว่าเอาไว้ก่อนดีกว่า เพราะคุณยังมีธุระต้องกลับไปจัดการอีกมากไม่ใช่หรือ” กมลยังคงบ่ายเบี่ยง เพราะเขาไม่รู้สึกอยากพูดคุยกับณธิปสักนิด



อันที่จริงวันนี้คนตรงหน้าทำให้เขาไม่พอใจอยู่เรื่องหนึ่ง นั่นคือเรื่องที่พยายามทำตัวราวกับประกาศให้ใครต่อใครเข้าใจว่าพวกเขามีความสัมพันธ์มากกว่าเพื่อนร่วมงาน แค่เรื่องแรกก็ดูจะเป็นอะไรที่หนักหนาพอควรแล้ว นี่ยังทำท่าราวกับหวงกางใส่พี่ชายของตัวเองเมื่อครู่อีก ไม่รู้ว่าคราวนี้คนอื่นจะเข้าใจไปถึงไหน เพราะเชื้อไฟจากเล่ห์เหลี่ยมที่ณธิปสุม มันมากพอที่จะลุกลามไปใหญ่โตทีเดียว



“ดูคุณจะอยากให้ผมไปเหลือเกินนะ ทำไมทีกับพี่ภัทรไม่เห็นคุณจะปฏิเสธบ้าง”


“คุณต้องการจะพูดอะไรกันแน่”



เรียวคิ้วของกมลกระตุกไปนิดๆ เมื่อถูกณธิปพูดใส่แบบนั้น เขาพยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเองอย่างที่สุด และท่องในใจว่าจะไม่หลุดเพราะคนคนนี้อีก แต่ไม่รู้ทำไมณธิปกลับชอบทำให้เขาหงุดหงิดจนอยากโต้ตอบกลับไปนัก



“พวกคุณดูสนิทสนมกันดีนี่”


“แล้วยังไงครับ” ดวงหน้าหวานนิ่งขึง ด้วยเริ่มเดาได้ว่าอีกฝ่ายต้องการสื่ออะไร


“คุณเองก็คงชอบแบบนั้นสินะ ประเภทคนแสนดี” ชายหนุ่มเอ่ยออกมาพร้อมกับผุดรอยยิ้มเยาะ ไม่ใช่เย้ยกมล หากแต่ยิ้มเหยียดตัวเองมากกว่า


“แล้วมีใครไม่ชอบคนดีบ้างล่ะคุณณธิป” กมลยกมือขึ้นกอดอกระหว่างตอบ ซึ่งเป็นท่าที่มักจะทำโดยไม่รู้ตัวเวลาที่ดุหลานๆ “ใครๆ ก็ชอบคนดีทั้งนั้น ยิ่งถูกทำดีด้วย มันก็ยิ่งดีเข้าไปใหญ่ไม่ใช่หรือ”


“หึ…”


“หัวเราะทำไม”


“ผมเปล่า”


ทั้งที่เห็นตำตา แต่อีกฝ่ายก็ยังกล้าปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ “หรือคุณชอบคนเลว ชอบให้คนอื่นร้ายใจใส่กัน”


“ไม่รู้สิ บางทีผมอาจเป็นอย่างนั้นก็ได้ เพราะคนที่ผมชอบอยู่ตอนนี้ เขาใจร้ายกับผมมาก แต่กับคนอื่นกลับดีแสนดี”


“เฮ้อ…” กมลถอนหายใจออกมาอีกครั้ง เพราะมองดวงตาขวางๆ เมื่อครู่เปลี่ยนเป็นพราวระยับ เขาก็รู้ได้ทันทีว่าณธิปหมายถึงใคร


“ว่ายังไงล่ะคุณไอ เมื่อไร่จะเลิกใจร้ายกับผมสักที คุณก็เห็น ว่าผมตามจีบคุณมาเป็นเดือนๆ แล้วนะ”


“ผมว่าบางทีเราคงต้องคุยเรื่องนี้กันให้รู้เรื่องสักที” เว้นไปนิด กมลก็ตัดสินใจพูดออกมาทั้งหมด “ผมว่าคุณเลิกเทียวไล้เทียวขื่อผมดีกว่านะ มันไม่มีประโยชน์หรอก”


“นี่…คุณจะปฏิเสธผมหรือไง ทำไมล่ะ ที่ผ่านมามันก็ดีขึ้นไม่ใช่เหรอ”


“ผมว่ามันดีขึ้นในแง่ของเพื่อนมากกว่า ผมไม่สามารถให้ในสิ่งที่คุณต้องการได้หรอก คุณเองก็ให้ในสิ่งที่ผมต้องการไม่ได้เหมือนกัน”



ตอนที่เอ่ยประโยคนี้ กมลไม่ได้เอ่ยออกมาเพื่อตัดรำคาญ แต่เขาคิดทบทวนหลายครั้งหลายครา ณ ตอนนี้ เขาว่าตัวเองมองคนแบบณธิปออก และรู้ว่าอีกฝ่ายต้องการแค่เอาชนะเท่านั้น ไม่ได้คิดที่จะผูกสัมพันธ์หรือมีความจริงใจให้ในแบบที่เขาต้องการ


“มีอะไรที่ผมยังให้คุณไม่ได้อีก คุณลองบอกมาสิ คุณต้องการอะไร ผมจะหามาให้”


“ขอโทษนะคุณณธิป ผมว่าคุณในตอนนี้ ให้สิ่งที่ผมต้องการไม่ได้จริงๆ”


ทว่าสุดท้าย ณธิปก็ไม่เข้าใจในสิ่งที่กมลต้องการจะบอกจริงๆ “คุณชอบผู้หญิงเหรอ”


“มันไม่เกี่ยวกับผู้หญิงหรือผู้ชายหรอก ไม่ว่าคุณจะเพศไหน ถ้าเป็นในตอนนี้ ผมก็ไม่สามารถคิดกับคุณแบบนั้นได้ ขอโทษด้วยนะครับ”



คนถูกปฏิเสธนิ่งไปชั่วครู่ เพราะไม่คิดว่าตนจะโดนหักหาญน้ำใจอย่างรุนแรงและตรงไปตรงมาเช่นนี้ ทั้งที่คิดว่าที่ผ่านมาเขาพยายามมากแล้ว และความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาทั้งสองก็ดีขึ้นตามลำดับ แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่อย่างที่เข้าใจเลย



หรือจะเป็นเพราะเขายังไม่ใช่คนในแบบที่กมลต้องการ แล้วแบบไหนกันล่ะที่ผู้ชายหน้าหวานคนนี้จะเลือก พอคิดถึงตรงนี้ ใบหน้ายิ้มแย้มของกมลเมื่อยู่กับใครคนหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในห้วงความคิด



พี่ภัทร…


“หรือคุณชอบพี่ภัทร”


“ผมว่า คุณอย่าพูดถึงคุณภัทรจะดีกว่านะ” ที่ไม่อยากให้พูดถึง เพราะกมลรู้ดีแก่ใจว่าณภัทรไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ แต่ณธิปกลับไม่คิดแบบนั้น


“ทำไมล่ะ ที่พูดถึงไม่ได้ เพราะมันจริงใช่ไหม”


“ถ้าคุณจะคิดแบบนั้น ผมก็คงไม่มีอะไรจะพูดกับคุณแล้วล่ะ…เพราะที่บอกไปนั่น คุณก็น่าจะเข้าใจหมดแล้ว” กมลก้าวขาลงจากรถกอล์ฟของโรงแรม เพราะดูท่า ถ้าเขายังรอต่อไป คืนนี้ก็คงไม่ได้กลับง่ายๆ นี่ก็ไม่ไกลจากที่พักของเขาเท่าไหร่ เดินไปเดี๋ยวเดียวก็ถึง


“เดี๋ยวคุณไอ!”




ณธิปรีบกระโดดลงจากรถแล้วตามคนหน้าหวานไป แต่เรียกแล้วกมลก็ไม่หยุด เพราะคิดว่าถ้าต้องหยุดและพูดอะไรกันไปมากกว่านี้ เขาอาจจะระเบิดใส่อีกฝ่ายขึ้นมาจริงๆ ก็ได้



“หยุดก่อน!” อุ้งมือใหญ่คว้าต้นแขนของกมล ก่อนจะดึงให้หันมาเผชิญหน้ากัน


“อะไรของคุณ”


“อย่าเดินหนีผม ผมไม่ชอบ” ณธิปเอ่ยอย่างหงุดหงิด เพราะไม่เคยมีใครกล้าหันหลังให้เขามาก่อน


“แล้วที่คุณทำอยู่นี่ คิดว่าผมชอบหรือไง มีตรงไหนที่ผมพูดไม่ชัดเจนอีก ผมรู้ว่าคุณคงไม่พอใจที่ถูกปฏิเสธ แต่จะให้พูดแบบที่คุณพอใจก็คงไม่ได้หรอก” ทุกคำที่พรั่งพรูออกมาล้วนมาจากสิ่งที่เก็บไว้ในใจทั้งนั้น


“ผมไม่ได้ต้องการให้คุณพูดในสิ่งที่ผมพอใจ” ณธิปโต้


กมลจึงถามกลับ “แล้วคุณอยากได้ยินอะไรจากผมกันล่ะ”


“คุณชอบพี่ภัทรหรือเปล่า”


“มันเกี่ยวอะไรกับเรื่องคุณภัทร”


“ผมถามว่าชอบหรือเปล่า!” คนเอาแต่ใจเผลอขึ้นเสียงใส่ กมลจึงตะคอกกลับ เพราะตอนนี้เขาชักควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว


“ก็ถ้าชอบแล้วจะทำไม!” กมลไม่ได้ชอบ แต่กลับสงสัยว่าถ้าเขาชอบณภัทรอย่างที่คนตรงหน้ายัดเยียดให้จริงๆ อีกฝ่ายจะว่ายังไง “คุณมีปัญหาอะไรกับเรื่องคุณภัทร—อื้อ!”



ต้นแขนที่ถูกจับไว้ถูกปล่อยให้เป็นอิสระ ทว่ามือหนาทั้งสองข้างกลับล็อควงหน้าของกมลไว้แน่น พร้อมกับที่ริมฝีปากร้ายของคนนิสัยไม่ดีนั้นพุ่งเข้ามาประทับที่ริมฝีปากของกมล ก่อนจะบดจูบด้วยอารมณ์รุนแรง



กมลชะงักไปด้วยความตกตะลึง และแค่เสี้ยววินาทีที่ตกใจอยู่นั้น ก็เป็นช่วงเวลาที่ถูกณธิปล่วงเกิน รุกล้ำ และช่วงชิงเอาความหวานล้ำจากริมฝีปากได้อย่างหยามใจ รู้สึกตัวอีกที ความโกรธก็พุ่งทะยานเหนือเหตุผลและสติไปเสียแล้ว



ชายหนุ่มลืมตาจ้องใบหน้าที่แนบชิดอยู่ติดกัน ก่อนจะออกแรงกัดเข้าที่ริมฝีปากของณธิปเต็มแรง จมูกได้กลิ่นคาวเลือดเจือขึ้นมาในวินาทีนั้น ก่อนจะตามมาด้วยเสียงร้องเจ็บปวดของคนที่ถูกกัด



ณธิปรีบผละออกจากหนุ่มหน้าหวานทันที มือที่บังคับจับล็อคหน้ากมลเอาไว้ยามนี้ต้องเปลี่ยนไปกุมปากตัวเองแทน


 “ก็เพราะคุณเป็นแบบนี้ไง ผมถึงบอกว่าคุณไม่ใช่สำหรับผม ที่ผ่านมาผมพยายามรักษาน้ำใจของคุณมากนะ แต่ทำแบบนี้ถือว่าไม่ให้เกียรติกันเลย” กมลหยุดหอบหายใจด้วยความโมโห ก่อนจะว่า “ต่อไปเราอย่ายุ่งกันอีกเลยดีกว่า ต่างคนต่างอยู่ ต่างใช้ชีวิตของตัวเอง”


ใบหน้าเรียบนิ่งกับดวงตาเฉยชาของกมล ทำให้ณธิปสะอึก


อย่าได้คิดทำแบบนี้กับผมอีก


เมื่อประกาศกร้าวจบกมลก็เร่งฝีเท้าเดินหนีไปท่ามกลางความตกใจของณธิป



ณธิปยืนอึ้งอยู่ที่เดิม พอรู้ตัวอีกทีกมลก็ก้าวฉับๆ ไปจนถึงที่พักแล้ว ชายหนุ่มจึงเดินคอตกกลับไปที่รถกอล์ฟ นั่งเป็นคนบื้อใบ้อยู่บนนั้น ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรต่อไป



เสียงคลื่นซักเข้าหาฝั่งดังแว่วมาให้ได้ยิน ทว่าเมื่อมองไปกลับเห็นเพียงความมืดมิด



อารมณ์หลากหลายตีมวนอยู่ในหัวจนไม่สามรถบอกได้ว่ายามนี้รู้สึกอย่างไร เพราะมันมีทั้งตกใจ ไม่พอใจ ขัดใจ หงุดหงิด และที่สำคัญคือ ณธิปรู้สึกได้รางๆ ว่าในอกนั้นเจ็บแปลบอย่างน่าประหลาด



นี่เขารู้สึกเจ็บเพราะแววตาเฉยชาว่างเปล่าคู่นั้นหรือ ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่อยากเชื่อตัวเอง



ณธิปไม่เคยเป็นแบบนี้ และไม่เคยมีใครทำให้เขารู้สึกเช่นนี้เหมือนกัน



ไม่ได้การล่ะ เขาจะปล่อยให้คนคนหนึ่งมีอิทธิพลเหนือตัวเองขนาดนี้ไม่ได้ ไหนไหนก็ถูกตัดรอนขนาดนั้น ก็เลิกยุ่งไปเสีย หันกลับมาใช้ชีวิตอย่างปรกติ และสนใจแค่คนที่พร้อมจะเดินเข้ามาหาเขาด้วยความเต็มใจคงดีกว่า ชายหนุ่มได้แต่บอกตัวเองเช่นนั้น ก่อนจะสลัดความเจ็บหน่วงที่เกิดขึ้นในใจไว้ แล้วสตาร์ทรถขับกลับโรงแรม









<><><><><<><><><><><><><><><><<>><><><



มาแล้วค่าา
ตอนนี้ดุเดือดเลือดพล่านมากๆ 555555
เขียนไปก็อินไป หงุดหงิดอิคุณเล็กแรง อยากให้โดนหนักกว่านี้
แต่คุณไอบอกไม่ไหวละ ไม่อยากเห็นหน้ามัน  :z6:

เขียนเรื่องนี้ เคยคิดเหมือนกันว่าคนแบบนี้ไม่น่าจะคู่กันได้
แต่ในเมื่อคุณไอจับสลากได้คุณเล็กเป็นพระเอกแล้ว เราจะต้องเขียนให้รักกันได้
ขนาดคลื่นชีวิต กว่าจะรักกันยังค่อนเรื่องแหน่ะ (มีความติดละคร 555)
คุณคือความรักยังไม่ครึ่งเรื่องเลย ตามกันไปยาวๆ 555


ฝากด้วยนะคะ จะพยายามมาบ่อยๆ  ค่ะ


ปล. พระเอกฝากบอกว่า ด่าได้ แต่อย่าแรงมาก เพราะ...เล็กเจ็บ ทุกการกระทำ ที่ทำให้เธอเสียใจ~ /ร้องเพลง  :hao7:



ละอองฝน.



ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
 :laugh: สะใจ

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1809
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
คุณเล็กกกก ทำไมทำแบบนี้~

รอลุ้นรอติดตามต่อไปปป :mew1:

ออฟไลน์ angelhani

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ถถถ เอ็นดูคุณเล็ก o18

ออฟไลน์ โอ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
คือจะกลับไปมั่วเหมือนเดิมมีไรกับคนอื่นไปทั่วแล้วพอถึงเวลาก็เอาตัวเองที่แสนโสโครกกลับมาหาไม่ไหวอะขยะขแยงแทนไอเลย :katai1:

ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
คุณไอจับสลากได้เหรอ 555
มือหมานเสียจริงพ่อคุณ
แต่ว่าคุณเล็กไม่ผิด ชั้นเชียร์เค้า
คุณไอนั่นแหละยั่วโมโห ชิส์

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
ถึงจะแอบเชียร์อิคุณเล็กก็เถอะนะ แต่อยากให้คุณไอเล่นหนักๆดัดนิสัยอิคุณเล็กมันอีกหน่อย
 :hao3:

ออฟไลน์ fyfh34

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
จะคอยติดตามนะคะ

ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
มารอ
คิดถึงคุณเล็กจุงเบย

ออฟไลน์ anuyasha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
คุณไอนี่ก็นะ พูดจาคลุมเครือ ไม่ชอบก็ไม่ชอบสิคะ จะถามทำไมว่าถ้าชอบแล้วจะทำไม ยุให้เค้าโกรธนี่นา
คุณเล็กก็ต้องถอยออกมาบ้างนะ จริงๆคนนี่เค้าไม่ชอบเราแบบนี้ ตื้อนานๆก็เหนื่อยนะ เข้าใจ /อินเฉน
ทำใจให้สบาย พร้อมตื้อต่อเมื่อไหร่ก็กลับมานาจา ปรับกลวิธีหน่อยนะ สู้ๆ #ทีมพระเอก

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ดูแค่วัน (17/.../...)ไม่ทันได้ดูเดือน นึกว่าตอนใหม่มาแล้ว ดีใจเก้อเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
รู้หรอกนะว่า พรเอก แต่แบบนี้ก็สมควรแช้วที่จะโดนดัดนิสัยแรงๆบ้าง เอะอะอะไรก็ใช้ความรุนแรง คุณเล็กนี่นิสัยไม่ดีเลย

ออฟไลน์ ละอองฝน

  • แมวดำ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 261
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +398/-2






คุณคือความรัก บทที่ 18










   ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมาสำหรับณธิป เวลาเคลื่อนผ่านไปอย่างรวดเร็ว ทว่าในบางจังหวะหนึ่งของเวลา มันก็ดูเชื่องช้าอย่างน่าใจหาย



   ณธิปกลับมาเป็นณธิปคนเดิม คนที่สนใจแต่เรื่องงานกับความสุขฉาบฉวยในชีวิตดั่งที่เคยเป็นมาตลอด เขาทำงานอย่างหนัก ทั้งขึ้นเหนือล่องใต้ เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการช่วยดูแลกิจการของเอ็นพีกรุ๊ปได้มากไม่ต่างจากพี่ชายคนโต หากในขณะเดียวกัน ณธิปก็ออกงานสังสรรค์และปาร์ตี้อย่างหนักจนแม้กระทั่งคุณย่ายังรู้สึกไม่สบายใจ



   คนนอกที่ไม่รู้เรื่องราวและเห็นเพียงข่าวคราวของชายหนุ่มตามหน้าสื่อต่างๆ ก็อาจคิดว่านี่ดูเป็นชีวิตปรกติของเจ้าตัว มีเพียงคนใกล้ชิดสนิทสนมเท่านั้นที่มองออกว่าณธิปมีบางอย่างที่แปลกไป



ตัวณธิปเองก็รู้สึกว่ามีบางอย่างที่แปลกไปจริงๆ ทว่าเขากลับพยายามมองข้ามมัน ไม่สนใจ และบอกกับตัวเองว่าเขาไม่เป็นไร ตอนนี้ในตัวเขาคล้ายกับมีเสี้ยนเล็กๆ ทิ่มตำอยู่ในเนื้อเท่านั้น พอมันหลุดไป รอยแผลเล็กๆ นั่นก็จะสมาน เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะ ทุกอย่างจะกลับไปเป็นอย่างเดิม



   “เล็ก”

   “คุณแม่!”



   หลังออกจากห้องประชุม ผู้บริหารหนุ่มก็พบว่ามารดาซึ่งไม่เจอหน้ากันมาร่วมอาทิตย์ กำลังนั่งรอเขาอยู่ในห้องทำงานด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก ชายหนุ่มปรายตามองเลขาคนสนิทด้วยสายตาตำหนิเล็กน้อย เหตุเพราะไม่แจ้งเขาก่อนว่ามีใครรอยู่ ก่อนจะเดินเข้าไปสวมกอดและทักทายมารดา



   “จะเข้ามาทำไมไม่โทรหาผมก่อนละครับ” วันนี้มีวาระการประชุมหลายเรื่องด้วยกัน หากเขารู้ว่าประภัสสรจะมา จะได้สั่งให้ลดทอนและยื้อไปต่อวันพรุ่งนี้ได้ เพื่อไม่ให้ผู้เป็นแม่รอนาน

   “เดี๋ยวนี้จะเข้าหาลูกชาย แม่ต้องแจ้งกับเลขาหน้าห้องรออนุญาตก่อนแล้วหรือ” ประภัสสรถามลูกชายด้วยท่าทางแง่งอน

   “ไม่ใช่อย่างนั้นครับ”


   “แล้วมันอย่างไหน” เธอกอดอกตั้งป้อมรอฟังคำตอบ ใจหนึ่งก็รู้สึกเป็นห่วงและคิดถึง เพราะไม่ได้เห็นหน้าค่าตาลูกชายคนเล็กมาหลายวัน ส่วนอีกใจก็หงุดหงิดเพราะรู้ข่าวว่าที่ ลูกไม่ยอมกลับบ้านเนื่องจากลับไปตะลุยปาร์ตี้หนักเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว


   “วันนี้มีประชุมหลายเรื่อง ถ้ารู้ว่าคุณแม่จะมา ผมจะได้เลื่อนบางวาระออกไปต่อวันพรุ่งนี้ คุณแม่จะได้ไม่รอนานไงครับ”



แม้ว่าลูกชายคนเล็กจะชอบทำให้เธอเป็นห่วงบ่อยครั้ง แต่ณธิปก็มีลูกอ้อนที่ใช้กับประภัสสรได้ผลเสมอ พอเจ้าตัวเข้าไปคลอเคลียหน่อย ผู้เป็นแม่ก็เสียงอ่อนลงไปหลายส่วน



   “งั้นก็แล้วไป” เธอเว้นไปนิด ก่อนจะสำรวจใบหน้าหล่อเหลาของเจ้าตัวดี “ไม่เจอกันอาทิตย์กว่า นี่เล็กผอมลงไปอีกแล้วนะลูก ได้กินอาหารดีๆ บ้างมื้อสักไหม”

   “โถ่คุณแม่ ลูกชายของคุณแม่เป็นระดับผู้บริหารนะครับ จะไม่ได้กินอาหารดีๆ ได้ยังไง”

   “แม่ไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น แต่หมายถึงได้กินครบสามมื้อหรือเปล่า พักผ่อนเพียงพอไหม เล็กดูซูบลงไปเยอะเลยนะลูก นี่ไม่ใช่ว่าโหมงานหนัก พอเลิกงานก็ไปเที่ยวตะลอนๆ ทุกคืนเหมือนในข่าวหรอกนะ”

   “ก็มีเข้าสังคมบ้างครับ แต่ไม่ได้ไปทุกคืนหรอก ถ้าไปจริง ผมคงไม่มีแรงทำงานพอดี ข่าวพวกนั้นก็เขียนเอาสนุก เขียนแย่ๆ ให้ขายได้ คุณแม่อย่าไปเชื่อมากนักเลยครับ”

   “งั้นก็ดี เพราะไม่ใช่แค่แม่นะ คุณพ่อท่านก็เป็นห่วงเล็กมาก ยิ่งคุณย่านะ โทรมากำชับให้แม่มาดูเล็กให้ได้ พอรู้ว่าลูกไม่ได้กลับบ้านเลย” ใจหนึ่งประภัสสรก็เป็นห่วงลูกชายไม่น้อยกว่าใคร แต่อีกใจก็คิดว่าลูกโตแล้ว จึงปล่อยๆ ตามใจณธิปบ้าง ทว่าเป็นคุณหญิงนฤมลผู้เป็นแม่ของสามีต่างหากที่ต่อสายตรงมาหาเธอ และสั่งว่า

   [รีบแต่งตัวแล้วไปหาเจ้าเล็กที่ทำงานเดี๋ยวนี้เลยนะแม่สร] ด้วยเหตุนี้คุณหญิงประภัสสรจึงต้องบุกมาหาลูกชายถึงที่ทำงาน

   “ถ้าอย่างนั้นวันนี้ผมจะโทรไปหาคุณย่าเองครับ ท่านจะได้สบายใจ” ครั้นเอ่ยถึงคุณย่า ผู้ที่เลี้ยงดูประคบประหงมชายหนุ่มมาแต่อ้อนแต่ออก ณธิปก็เอ่ยด้วยท่าทางจริงจังขึ้นทันที เพราะเขาไม่อยากให้ย่าต้องเป็นห่วง เนื่องจากรู้ว่าย่ารักและเป็นห่วงเขามากกว่าใคร

   “ดีแล้วลูก”



เธอลูบหัวลูกชายเบาๆ จากนั้นสองแม่ลูกก็ไถ่ถามสารุกข์สุขดิบกันไปเรื่อยเปื่อย มีบ้างที่ณธิปคุยเรื่องงานให้แม่ฟัง แต่ไม่มีสักคำที่ชายหนุ่มจะเอ่ยถามถึงผู้เป็นพ่อ ที่แม้กระทั่งจะผ่านไปหลายเดือนแล้ว แต่ทั้งสองคนยังคงตั้งแง่และมึนตึงใส่กันอยู่



ครั้นผ่านไปพักใหญ่ คุณหญิงประภัสสรก็เห็นว่าสมควรแก่เวลาแล้ว จึงเอ่ยถามลูกชายอีกครั้ง

   “ว่าแต่ตกลงวันนี้เราจะไม่กลับบ้านกับแม่จริงๆ หรือ”

   “ผมมีนัดแล้วน่ะครับ ขอโทษนะครับคุณแม่” ณธิปว่า

   “นัดกับใคร ใช่แม่สาวๆ หรือหนุ่มๆ ที่เป็นข่าวด้วยหรือเปล่า” คนเป็นแม่จ้องหน้าลูกชายอย่างจับผิด

   “ไม่ใช่หรอกครับ ครั้งนี้ผมนัดกับเจ้าเชษฐ์ไว้ วันนี้วันเกิดมัน”

   “อ้อ ถ้าอย่างนั้นก็ฝากลูกอวยพรวันเกิดพิเชษฐ์แทนแม่ด้วยนะ” ทั้งที่รู้ว่าเพื่อนดาราคนนี้ก็เพลย์บอยไม่ต่างกับลูกชายคนดีของเธอ แต่ด้วยความที่สนิทกันมาตั้งแต่เล็กๆ จึงทำให้คุณหญิงรู้ว่าพิเชษฐ์ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรนัก

   “แล้วผมจะบอกมันให้ครับคุณแม่”



   เมื่อตอบรับเรียบร้อยณธิปก็เดินไปส่งมารดาที่รถ อันที่จริงเขาคิดจะไปส่งถึงบ้านเหมือนกัน แต่คุณหญิงประภัสสรมีคนขับรถมาด้วย สองคนแม่ลูกจึงบอกลากันที่หน้าโรงแรม



   “อาทิตย์นี้กลับบ้านด้วยนะเล็ก แม่อยากกินข้าวพร้อมลูก”

   “ได้ครับ สุดสัปดาห์นี้ผมจะเทคิวให้คุณแม่หมดเลย”

   “ดีจ้ะ” ประภัสสรยิ้มอ่อนใจ พลางคิดว่า ท้ายที่สุดแล้ว เธอเองก็ต้องจองคิวเพื่อจะได้กินข้าวกับลูกชายคนเล็กจริงๆ

   “แล้วเจอกันวันเสาร์ครับคุณแม่”



   ณธิปยืนส่งมารดาจนรถเคลื่อนออกไปลับสายตา จากนั้นจึงขึ้นไปเคลียร์งานที่คั่งค้างจนเรียบร้อย แล้วค่อยเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เตรียมเอาไว้ก่อนออกไปปาร์ตี้วันเกิดของเพื่อนสนิท










   งานปาร์ตี้สังสรรค์นี้ก็ไม่ต่างจากทุกครั้งนัก ณธิปดื่มอวยพรท่ามกลางเสียงดนตรีและแสงไฟวูบวาบ และเพราะพิเชษฐ์เป็นดารา คนที่มาร่วมงานจึงมากมายคับคั่ง



   ระหว่างที่กำลังสนุกได้ที่ ก็มีหนุ่มหน้าสวยคนหนึ่ง ที่รูปร่างและบุคลิกคล้ายกับใครบางคนที่ณธิปพยายามจะลืมและทำเป็นไม่สนใจมาแรมเดือนปรากฏตัวขึ้น ณธิปจ้องมองชายคนนั้นนิ่งงัน ด้วยแววตาพินิจพิเคราะห์ ก่อนตัดสินใจลุกเข้าไปหาทันทีเมื่อหนุ่มหน้าสวยเองก็ส่งสายตาเชื้อเชิญมาให้เช่นเดียวกัน



   แค่เอ่ยปากพูดคุยไม่นาน ณธิปก็รู้สึกถูกใจและเข้ากันได้กับคนๆ นี้อย่างรวดเร็ว พอเริ่มเมาในได้ที่ พวกเขาจึงตามกันออกไปที่ลานจอดรถ โดยมีจุดมุ่งหมายคือรถหรูของณธิปนั่นเอง



   บรรยากาศภายในรถร้อนแรงขึ้นทันทีที่ประตูถูกปิดลง เรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นก็เป็นไปตามครรลองของมัน ณธิปปล่อยตัวปล่อยใจไปกับหนุ่มหน้าสวยและคล้ายคลึงกับใครคนนั้นตรงหน้า และถ้าให้นับกันจริงๆ นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาหิ้วใครสักคนมาทำเรื่องอย่างว่าหลังจากถูกปฏิเสธในคืนนั้น



   ในขณะที่ณธิปกำลังจะถึงจุดเข้าได้เข้าเข็ม เสียงสั่นพร่าและเรียกร้องของคนใต้ร่างก็ดังขึ้นท่ามกลางเสียงหอบหายใจ



   “ทำสักทีสิครับคุณเล็ก คิวไม่ไหวแล้ว…”

   คิวอย่างนั้นหรือ



   ชื่อเดียวที่เอ่ยออกมาทำให้ณธิปชะงักกึก ดวงตารีเรียวเคลื่อนมาสบกับดวงตาพร่าพรายเต็มไปด้วยแรงปรารถนาของเจ้าของประโยคร้องขอสุดเร่าร้อนนั่น และเพียงแค่สบตาเท่านั้นณธิปก็รู้สึกเหมือนถูกค้อนทุบที่หัวเต็มแรง



   นี่คือ คิว ไม่ใช่คนคนนั้น



   ชายหนุ่มผุดลุกขึ้นนั่ง ผละจากร่างปวกเปียกที่ยอมทอดกายให้อย่างเต็มใจ เขาตัวชา ใจเต้นแรง เพราะเพิ่งรู้สึกถึงเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่ง



   คนที่เขาอยากกอด อยากจูบ และอยากผูกสัมพันธ์…คือคุณไอ



เพราะเขาเอาแต่มองหาใครที่เหมือนกับคนใจร้ายคนนั้น คิดถึงคนคนนั้นอยู่ตลอด แม้ตนเองพยายามปฏิเสธ หากก็รู้ว่าหนีความรู้สึกในใจไม่พ้น



   ความรู้สึกโหยหาเข้าเกาะกุมจิตใจของณธิปอย่างรุนแรง เขารู้แล้ว ตลอดเวลาที่ปฏิเสธว่าไม่เอา ไม่สนใจก็ได้ หากในใจกลับต้องการมากยิ่งขึ้น และความรู้สึกนี้ก็ทำให้ชายหนุ่มตัวสั่นด้วยความกลัว



   กลัวว่ามันคือความรัก



   และถ้าหากว่ามันคือความรักจริงๆ เขาควรจะทำอย่างไรต่อไปดี นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่คนอย่างณธิป โชติตระกูล รู้สึกสับสนได้ขนาดนี้








   หลังจากเซ็กกับหนุ่มแปลกหน้าเหลวเละไม่เป็นท่า ณธิปผละหนีมาจากรถของตัวเอง คราแรกตั้งใจจะเดินกลับเข้าไปในงาน แต่เสียงเพลงดังกระหึ่มที่ยิ่งกระตุ้นให้ว้าวุ่นใจมากยิ่งขึ้นทำให้ณธิปตัดสินใจเดินเลี่ยงออกมานั่งริมสระน้ำด้านนอกของร้าน โดยทิ้งให้คนหน้าหวานที่ชื่อคิวคนนั้นเอาไว้โดยไม่สนใจใยดีสักนิด



   “เล็ก” เสียงคุ้นหูเรียกชื่อของชายหนุ่มดังขึ้นจากด้านหลัง ณธิปจึงหันกลับไปมองว่าใครที่เรียก

   “หื้ม?”

   ดังตฤณเดินเข้าไปหยุดใกล้ๆ ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ข้างกัน “มานั่งทำหน้าซังกะตายอะไรตรงนี้ เมื่อกี้เห็นว่าพาหนุ่มออกไปด้วยไม่ใช่หรือไง”

   “ใช่”

   “แล้วเขาไปไหนเสียล่ะ แกถึงมานั่งเป็นพระเอกเอ็มวีอยู่นี่”

   “ป่านนี้คงไปแล้ว” ณธิปตอบด้วยน้ำเสียงซังกะตาย

   “เป็นอะไรหรือเปล่า แกดูแปลกๆ นะ” และเพราะบรรยากาศรอบกายของเพื่อนดูต่างไปจากเดิมมาก ดังตฤณจึงนึกเอะใจขึ้นมา

   “แกคิดว่าฉันดูแปลกหรือ”

   “ก็ใช่น่ะสิ ดูซึมๆ นะ มีอะไรหรือเปล่า”

   “ไม่รู้สิ ฉัน…” ดวงตารีเรียวคู่นั้นเหลือบมองเพื่อนด้วยแววสับสน ก่อนจะเคลื่อนกลับไปมองระลอกคลื่นน้อยๆ ในสระน้ำดังเดิม



   ณธิปรู้สึกอับอายหากจะมานั่งเล่าให้ใครฟังว่าตัวเองสับสนและไม่แน่ใจในเรื่องของความรัก เพราะคิดว่ามันน่าขำที่คนอย่างเขาซึ่งเคยปรามาสและไม่เชื่อถือในรักมาก่อน วันนี้กลับกำลังไม่แน่ใจว่าเกิดรู้สึกดีๆ กับใครคนหนึ่งเข้า หากจะให้เอ่ยปากพูดเรื่องน่าอายแบบนี้ แม้จะเป็นเพื่อนสนิท ชายหนุ่มก็ยังรู้สึกกระดากใจ



   “พูดมาเถอะน่า ฉันไม่บอกใครหรอก”



   มองท่าทางเหมือนคนโง่งมของณธิป เพื่อนที่คบกันมาเป็นสิบๆ ปีอย่างดังตฤณก็พอจะเดาออกว่าคงไม่พ้นเรื่องหัวใจ แม้เพื่อนคนนี้ของเขาจะแสดงออกว่าเฉยชาและไม่เคยมอบความรักจริงใจให้ใครคนใดมาก่อนก็ตาม แต่ก็ใช่ว่าณธิปจะนึกรักไม่เป็นเสียเมื่อไหร่



   “ฉันไม่รู้จะเริ่มยังไง”

   “ถ้างั้นแกก็สมมติเอาก็ได้” ดังตฤณว่า

   “ยังไง” ณธิปถาม

   “สมมติว่าไม่ใช่แก แต่เป็นคนอื่นอะไรเทือกๆ นั้น”

   “ทำไมต้องทำแบบนั้นให้ยุ่งยากด้วย”

   “งั้นก็รีบๆ เล่ามา!” อัยการหนุ่มว่าอย่างเหลืออด เรื่องอื่นล่ะฉลาดนัก แต่เรื่องนี้ทำไมเงอะงะนักก็ไม่รู้ เขาคิดในใจ

   “คือ…มีคนคนหนึ่งที่ฉันเคยพยายามจีบ แต่เขาปฏิเสธ เราเลิกติดต่อกันมาสักระยะแล้ว”

   ครั้นได้ยินเท่านี้ อัยการหนุ่มก็สรุปได้ทันที “ที่แท้ก็คุณไอนี่เอง แล้วไงต่อ”

   “นี่แกรู้ได้ไง!” ณธิปถามอย่างไม่อยากเชื่อ

   “แล้วใช่คนนี้ไหมล่ะ” ดังตฤณไม่ตอบ แต่ย้อนถาม

   “ใช่ แต่แกรู้ได้ไง”

   “แกเป็นเพื่อนฉันมานานแค่ไหนแล้วล่ะ ทำไมแค่นี้จะดูไม่ออก เอาเถอะ อย่าสนใจเรื่องที่ว่าฉันรู้ได้ยังไงเลย แกเล่าเรื่องของแกต่อสิ ตกลงว่าเลิกติดต่อกันแล้ว แล้วยังไงอีก”


   “ก็เลิกติดต่อกัน ฉันหงุดหงิดนะ เพราะฉันพยายามทุ่มจีบเขาทุกวิธีเท่าที่ฉันทำได้ แต่ก่อนไม่ว่าใครก็ยอมฉันทั้งนั้น แต่กับคุณไอน่ะไม่ใช่เลย เขาเล่นแง่ ตั้งป้อมไม่สนใจ แต่ก็ไม่ได้รังเกียจ เขาทำเหมือนฉันเป็นแค่คนคนหนึ่งบนโลก ที่เขาทำดีด้วยแค่นิดหน่อย แต่ไม่ยอมให้ฉันเข้าไปในพื้นที่ที่เขาขีดไว้ ไม่ยอมเปิดใจรับฉันสักนิด แต่พอเป็นพี่ภัทรเขากลับยอมยิ้มหวานให้ง่ายๆ” พอได้พูด ณธิปก็พรั่งพรูสิ่งที่อัดอั้นออกมาอย่างรวดเร็ว จนต้องหยุดเพื่อพักหายใจ


   “อะ” คนที่ทำตัวเป็นเพื่อนที่ดีส่งแก้ววิสกี้ที่ถือติดมือมาให้ดื่มดับกระหาย พอเห็นณธิปกระดกหมดแก้วในคราเดียวเรียบร้อย จึงกระตุ้นให้เล่าต่อ “แล้วไงต่อ”

“ทั้งที่ฉันไม่เคยถูกใครปฏิเสธมาก่อนเลยด้วยซ้ำ แต่เขากล้าดียังไง” ยิ่งพูดก็ยิ่งหงุดหงิด ยิ่งหงุดหงิดก็ยิ่งคิดถึงดวงหน้าหวานๆ ที่มองเขาด้วยแววตาเฉยชานั่น “จากนั้นฉันก็ตั้งใจว่าจะไม่เอาแล้ว เลิกยุ่งก็คือเลิกยุ่ง”

“แล้วเขาปฏิเสธแกตอนไหน”

“ก็วันเปิดตัวปางปาลีนั่นแหละ”

“เป็นเดือนแล้วนี่ แล้วแกมีเรื่องอะไร ทำไมอยู่ๆ มาพูดถึงเขาอีกล่ะ”

“ก็เพราะ…เพราะ” ณธิปอึกอักอยู่ครู่ พยายามตั้งสติและคิดให้มากท่ามกลางสติเลอะเลือนเพราะน้ำเมาที่ดื่มเข้าไป และไม่ว่าจะคิดอย่างไร คำตอบก็มีข้อเดียว

“เพราะอะไร”


“เพราะฉันคิดถึงเขา” ชายหนุ่มเอ่ยออกมาก่อนสูดลมหายใจลึก “คิดถึงทั้งที่ไม่ควรคิดถึง คิดถึงทั้งที่เขาไม่สนใจฉันสักนิด ขนาดกำลังจะมีอะไรกับคนอื่นๆ ที่ไม่ใช่เขา ฉันก็ยังทำไม่ได้ พอนึกได้ว่าคนที่เลือก ก็เลือกเพราะคนคนนั้นมีส่วนคล้ายเขา แต่ไม่ใช่เขา ฉันปวดหัวไปหมดแล้ว” ณธิปนั่งกุมหัวรู้สึกทรมานอย่างที่อธิบายออกมาไม่ถูก



ดังตฤณอึ้งไปครู่หนึ่ง เพราะตกใจในสิ่งที่เพื่อนสารภาพออกมาจนหมดเปลือก มันคงเป็นเพราะแอลกอฮอล์ และความรู้สึกข้างในที่กดเอาไว้นานนับเดือน จึงทำให้ณธิประเบิดออกมา



“ฉันไม่รู้ว่าตัวเองจะชอบเขาจริงจังขนาดนี้”

“แกไม่ได้ชอบเขาหรอกเล็ก”

“แกหมายความว่าไง…” ณธิปเงยหน้าขึ้นมามองเพื่อน หัวใจเต้นตุบตับอย่างควบคุมไม่ได้ เพราะกลัวว่าดังตฤณจะเอ่ยคำนั้นออกมา คำที่เขากลัว

“ฉันว่าแกไม่ได้แค่ชอบเขาหรอก แต่แกหลงรักคุณไอเข้าแล้ว”

“รักหรือ”

“อืม”

“อย่างฉันเนี่ยนะ…คือรักจริงๆ หรือ”

“ฉันก็แค่คิดว่าใช่ แต่คนที่รู้ดีที่สุดคือตัวแกเองนั่นแหละเล็ก”



คำพูดและสีหน้าจริงจังของเพื่อนสนิททำให้ณธิปรู้ว่านี่ไม่ใช่ความฝันหรือเรื่องล้อเล่น แต่เขาเองก็ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรต่อไปดี ถ้าหากว่าหลงรักคนใจร้ายคนนั้นเข้าจริงๆ



“แล้วฉันต้องทำไง”

“มีแค่ปล่อยกับพยายามคว้าไว้ แกก็เลือกเอาแล้วกัน ว่าจะทำแบบไหน ถ้าปล่อย แกก็ไม่ต้องทำอะไร ตอนนี้อาจทรมานหน่อย แต่เดี๋ยวก็ผ่านไปเอง คงต้องใช้เวลาน่ะ”

“แล้วถ้าคว้าไว้ล่ะ” ชายหนุ่มถามเสียงงึมงำ

“แกก็ต้องพยายามเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า เพราะจากที่เล่า เขาไม่ได้วางแกไว้ในโซนนั้นเลย ต้องพยายามมากหน่อยถึงจะเอาชนะใจเขาได้” ดังตฤณบอกแนวทางให้เพื่อน แต่อันที่จริงเขาก็ไม่ใช่คนมีประสบการณ์ในความรักมากนัก แต่คิดว่าตัวเองพอเดาออกว่าคนแบบคุณไอต้องการอะไร และณธิปต้องทำอย่างไร

“พยายามหรือ ยังไงล่ะ แกก็พูดง่าย ฉันทำแทบตายเขาไม่แลสักนิด” ณธิปนึกถึงความพยายามที่ทำไปอย่างสูญเปล่าแล้วปวดหนึบในใจ

“แกก็รู้ใช่ไหมว่าคุณไอเขาไม่เหมือนคนที่แกเคยคบมา เพราะฉะนั้นแกจะเขาหาเขาเหมือนคนก่อนๆ ไม่ได้”

“ดอกไม้ไม่ชอบ ของขวัญ ของมีราคาไม่ใช่ โน้นไม่ชอบ นี่ไม่ชอบ แล้วแกว่าฉันต้องใช้อะไรมาสู้ล่ะ เขาถึงจะพอใจ”

“ความจริงใจของแกไง อยากได้ใจเขา ก็เอาหัวใจไปแลกมา”

   “ความจริงใจกับหัวใจงั้นหรือ” ณธิปทำสีหน้าปั้นยากเมื่อฟังคำเพื่อน

   “อาจจะฟังดูเหมือนละคร หรือนิยายน้ำเน่า แต่คนอย่างคุณไอน่ะ ถ้าไม่เห็นว่าแกรักเขาจริงๆ เขาไม่เอาด้วยหรอก ฉันรู้ว่าเดิมพันมันสูง ทุ่มหัวใจสุดๆ ถ้าเขาไม่รับมันก็เจ็บ แต่นอกจากนี้ฉันก็คิดวิธีอื่นไม่ออกแล้ว”

“แล้วฉันต้องเลือกแบบไหนดีตฤณ” คำถามโง่ๆ ถูกเอ่ยออกมาด้วยความสับสนอีกครั้ง



ดังตฤณหยุดและมองหน้าเพื่อน ก่อนจะเอ่ยประโยคสุดท้าย


“อยู่ที่แกแล้วล่ะว่าจะเลือกทางไหน จะหยุดหรือจะไปต่อ ลองชั่งใจดู เพราะสุดท้ายคนที่หลงรักเขาคือแก ไม่ใช่ฉัน”








<><><><><><><><><><><><><><><><><><><>






มาต่อแล้วค่าาา


นี่แหละ คุณคือความรัก กว่าจะมาถึงตอนนี้ เกือบยี่สิบตอนแหนะ
อาจจะอืดอาดไปหน่อย แต่ต่อไปก็จะไม่กัดกันแง่งๆ เท่าไหร่แล้วค่ะ


เม้นชื่อสมัครเป็นแฟนคลับพ่อบ้านใจกล้าคนใหม่ได้เลย 55555


ละอองฝน.

ออฟไลน์ maekkun

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1809
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
สมัครเป็นแฟนคลับด้วยค่าาา 555

ลุยเลยสิ ลุยเลยยยย  :mew1:

ออฟไลน์ B_SRIKHUNLA

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
หมั่นไส้เล็กนะแต่ก็อยากให้สมหวังกับไอสักที

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
คุณเล็กล่ะก็ อย่าลืมว่า มีคดีติดตัวขนาดนี้คุณต้องใช้ความจริงใจนานๆเลยล่ะ

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด