-->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ หลังแต่งงาน [03/07/2562]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ หลังแต่งงาน [03/07/2562]  (อ่าน 203176 ครั้ง)

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ยังอยู่ทีมคุณไอนะ ไม่รักไม่ชอบและไม่เปลี่ยนใจง่ายๆหรอกนะ

ออฟไลน์ larynx

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 821
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
สู้เขาคุณเล็กหนูเชื่อใจในความคารมดีไหลเป็นน้ำของพี่ พี่ต้องยัดเยียดตัวเองเข้าไปในชีวิตคุณไอได้อีกรอบแน่นอน แต่คราวนี้ต้องจริงใจมากๆแล้วนะ 

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ ละอองฝน

  • แมวดำ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 261
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +398/-2







คุณคือความรัก บทที่ 19








   หลังจากงานเปิดตัวโรงแรมปางปาลีผ่านพ้นไป กมลก็ไม่ได้พบหรือติดต่อโดยตรงกับณธิปอีก ขนาดเรื่องที่เคยถูกขอให้คอมเม้นเกี่ยวกับพื้นที่ส่วนกลางของโรงแรม ณธิปยังให้ตัวแทนของทางโรงแรมคอยประสานงานให้ พวกเขาทั้งสองไม่มีปฏิสัมพันธ์กันเรื่องส่วนตัว มีก็เพียงการติดต่อเรื่องงานผ่านคนกลางเท่านั้น



กมลคิดว่าอันที่จริงเป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เขาจะได้ไม่ต้องคอยระวังความสัมพันธ์ที่มันกำลังจะล้ำเส้น ไม่ต้องคอยระแวงว่าอีกฝ่ายจะเข้าหาแบบไหน และไม่ต้องอึดอัดใจกันสิ่งที่ถูกยัดเยียดให้โดยไม่เคยร้องขอ เพราะเขารู้สึกว่าการมีคนอย่างณธิป โชติตระกูลวนเวียนอยู่ข้างกาย เป็นอะไรที่ค่อนข้างวางตัวลำบากพอสมควร



ไม่ใช่แค่ลูกตื้อ การเข้าหาและอารมณ์แปรปรวนของอีกฝ่ายที่ทำให้ชายหนุ่มปวดเศียรเวียนเกล้าจนสติหลุดจากการควบคุมอยู่หลายครั้ง แต่ความเป็นคนมีชื่อเสียงและชื่อเสียในแวดวงสังคมก็พลอยทำให้กมลถูกจับตามองไปด้วย



ยกตัวอย่างเช่นตอนงานเลี้ยงที่ปางปาลี หลังจากกลับมาชื่อของกมลก็มีโอกาสได้ขึ้นไปติดบนหน้าสื่อบันเทิงอยู่หลายเจ้า จากที่เป็นแค่นักธุรกิจธรรมดา พอมีข่าวกับไฮโซดัง ประวัติก็ถูกขุดคุ้ยออกมาให้คนในโซเชียลรับรู้ราวกับชีวิตส่วนตัวของเขามันสร้างความบันเทิงหนักหนา



กว่าข่าวที่ว่าณธิปเล่นใหญ่ เปิดตัวคบหนุ่มนักธุรกิจหน้าหวานจะซาไป ก็เล่นเอากมลต้องนั่งตอบคำถามคนรอบข้างและลูกค้าอยู่หลายรอบ เพราะฉะนั้นจึงสรุปได้ว่า การไม่ได้พบ ไม่ได้คุยกันเช่นนี้ ก็ทำให้ชีวิตของกมลสงบสุขดีแล้ว



“คืนนี้พี่จะไปดูเด็กๆ คุมงานแต่งคุณรัลกับคุณเก๋ที่ฝั่งธนฯ เสร็จแล้วคงจะนอนค้างที่คอนโดเลย อ้ายไม่ต้องรอเปิดบ้านให้พี่นะ พาเด็กๆ เข้านอนได้เลย” กมลบอกกับน้องสาวขณะที่เธอเข้ามาลาไปรับลูกชายฝาแฝดหลังเลิกเรียน

“ได้ค่ะ ว่าแต่พี่ไอพอมีเวลาไหมคะ จะไปเลยหรือเปล่า”

“ประมาณสี่โมงก็ว่าจะออกแล้ว พี่กลัวว่ารถจะติดเอาน่ะ วันนี้วันศุกร์สิ้นเดือนเสียด้วย” เขาเงยหน้าขึ้นมาประสานมือไว้ใต้คาง แล้วยิ้มให้กับน้องสาว “อ้ายมีอะไรหรือเปล่า”

“คืออ้ายจะให้พี่ไอช่วยดูโครงการที่เราจะไปทำบุญปีใหม่ที่ลำพูนน่ะค่ะ อ้ายไม่แน่ใจว่าเราต้องจะเอากฐินเข้าวัดอย่างเดียวหรือเปล่า”

“ทำไม มีปัญหาอะไรหรือ”

“พี่ไอดูนี่ค่ะ” เธอวางแฟ้มข้อมูลตรงหน้าพี่ชาย ก่อนเริ่มอธิบาย “คือพอดีตอนที่เราติดต่อไปหาทางวัดเรื่องกฐินบูรณะหลังคาโบสถ์ ทางโน้นเขาเล่าให้ฟังว่าใกล้ๆ กันมีโรงเรียนเล็กๆ อยู่ โรงเรียนนั้นค่อนข้างทรุดโทรมพอสมควร อ้ายก็เลยคิดว่าเราน่าจะบริจาคเงินซ่อมแซมอาคารเรียนให้เด็กๆ ด้วยน่ะค่ะ”

“มีนักเรียนประมาณกี่คน” กมลเปิดดูข้อมูลที่น้องสาวหามาให้ พร้อมกับถามรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆ ไปด้วย

“70 กว่าคนได้ค่ะ มีอาคารเรียนหลังเดียว กับโรงอาหารเล็กๆ” หทัยตอบ



กมลหยุดคิดและคำนวณยอดเงินที่ตั้งเป้าไว้ก่อนหน้า จากนั้นจึงปิดแฟ้มเอกสารหลังตัดสินใจได้แล้ว “อย่างนั้นอ้ายลองติดต่อทางโรงเรียนดูว่าต้องการจะรับการสนับสนุนของทางเราไหม ถ้าหากจะเข้าไปช่วยพัฒนา”



“ได้ค่ะ เดี๋ยวอ้ายจะประสานให้” หญิงสาวยิ้มออกมาอย่างยินดี เธอคิดอยู่แล้วว่าพี่ชายต้องเห็นด้วย เพราะรู้ว่ากมลค่อนข้างอ่อนไหวกับเรื่องของเด็กเล็กๆ เหมือนกับเธอ

“มีเท่านี้ใช่ไหม”

“ใช่ค่ะ”

“หมดเรื่องแล้วก็ไปรับเด็กๆ เถอะ เดี๋ยวหยินกับหยางจะรอนาน”

“ค่ะ”



หลังจากน้องสาวออกจากห้องทำงานไปเรียบร้อยแล้ว กมลก็โทรเช็คคิวกับพนักงานที่ส่งให้ไปดูแลงานแต่งงานของลูกค้า ต่อมาก็ตรวจสอบตารางงานวิวาห์ที่กำลังจะมีขึ้นต่อไปอีกสักพัก ก็ได้เวลาที่ตั้งใจจะออกเดินทางพอดี











กว่างานจะเสร็จ เวลาก็ล่วงเข้าสู่วันใหม่ไปกว่าครึ่งช่วงโมงแล้ว กมลรู้สึกล้ามาก อยากจะทิ้งตัวลงเตียงนอนแล้วหลับไปโดยที่ไม่อาบน้ำ แต่เพราะวิ่งรอกไปมาทั้งวัน คนรักสะอาดอย่างเขาก็คงทนทำเช่นนั้นไม่ได้



ขณะขับรถกลับคอนโด ชายหนุ่มคิดวางแผนในใจว่าจะรีบอาบน้ำแล้วพุ่งตัวลงที่นอนให้เร็วที่สุด แม้จะรู้สึกหิวนิดๆ แต่คงเก็บท้องไว้รอกินมื้อเช้าดีกว่า เพื่อให้ไม่เสียเวลานอน



ถนนยามเที่ยงคืนเกือบตีหนึ่งนั้นรถราค่อนข้างบางตา เหยียบคันเร่งแรงสักหน่อยก็ถึงที่หมายแล้ว พอจอดรถเรียบร้อยชายหนุ่มก็หอบกระเป๋าเอกสาร คว้าสูทพาดแขน คลายเนคไทด์ ก่อนจะเดินลิ่วเข้าตัวตึก ชายหนุ่มแจกยิ้มทักทายเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเล็ก แล้วจึงเดินไปกดลิฟต์



ครั้นเมื่อลิฟต์เคลื่อนลงมา กมลก็ก้าวขาเข้าไปยืนด้านใน เขากดตัวเลขที่แผงควบคุมไปยังชั้นของตัวเอง จังหวะที่ประตูลิฟต์กำลังจะปิด กมลเหลือบตามองนาฬิกาข้อมือเล็กน้อย ยามนี้ตีหนึ่งสิบนาที เขามีเวลานอนน้อยลงไปอีกนิดแล้ว หรือว่าควรจะนอนโดยไม่อาบน้ำดีนะ คนหน้าหวานได้แต่คิดในใจ



และในขณะนั้นเอง ประตูลิฟต์ที่ปิดสนิทเพียงเสี้ยววินาทีก็พลันเปิดออกอีกครั้ง กมลละจากความคิดเรื่องของตัวเอง แล้วเงยหน้าขึ้นสบตากับผู้โดยสารที่เพิ่งมาถึงอีกคน



ไม่ว่าจะเป็นคนที่อยู่ด้านนอกหรือด้านในต่างก็ชะงักไปทั้งคู่ พวกเขามองหน้ากัน ไร้ซึ่งคำพูด แต่เอ่อล้นไปด้วยความรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ กว่าจะดึงสติกลับมาได้ ประตูก็คล้ายจะปิดลงอีกรอบ และคนที่มีสติดีกว่าอย่างกมลก็เป็นคนกดปุ่มให้ประตูเปิดค้างเอาไว้อย่างมีน้ำใจ ชายหนุ่มอีกคนที่เพิ่งรู้สึกตัวจึงได้เดินเข้าไปข้างใน และเอื้อมไปกดชั้นที่เป็นจุดหมายของตนเอง



บางทีโลกใบนี้อาจจะเต็มไปด้วยเรื่องบังเอิญ



นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาเจอกันหน้าลิฟต์ด้วยความไม่ตั้งใจเช่นนี้ แม้ว่ามันจะไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้พบ หากเป็นครั้งแรกที่ณธิปรู้สึกกระอักกระอ่วนจนมือไม้เกะกะไปหมด



เมื่อไม่ถึงชั่วโมงที่ผ่านมา ณธิปยังพูดถึงกมลกับเพื่อนสนิทของตัวเอง ยังสับสนเพราะคนคนนี้ และคิดถึงแทบแย่ ทว่าเพียงเข็มนาฬิกาหมุนไปแค่ไม่กี่องศา กลับได้พบคนที่ทำให้รู้สึกมากมายขนาดนั้นอยู่ข้างๆ แม้พวกเขาจะยืนเงียบๆ เว้นระยะห่างพอเหมาะ ไม่ใกล้และไม่ไกลเกินไป ใบหน้ามองตรงไปยังทางออก ไม่มีปฏิสัมพันธ์พูดคุยหรือสบตา หากมันก็ไม่อาจลบเลือนเรื่องที่ว่ายามนี้ กมลอยู่ใกล้ๆ เขาอีกครั้ง



แล้วแวบหนึ่งเขาก็คิดถึงคำพูดของดังตฤณที่บอกว่ามีทางเลือกสองทาง คือปล่อยไปกับคว้าไว้ ณธิปยังไม่ทันรู้ว่าตัวเองควรเลือกอะไร คนที่เป็นประเด็นในหัวใจก็ปรากฏขึ้นชวนให้ว้าวุ่น ทุกครั้งที่ตัวเลขเปลี่ยน ลิฟต์เคลื่อนขึ้นไปเรื่อยๆ หัวใจของณธิปก็ปั่นป่วน ความรู้สึกตีม้วนหมุนวนจนไม่อาจบอกได้ว่าต้องทำเช่นไร



ใจหนึ่งก็คิด เขาควรจะปล่อยความรู้สึกบ้าๆ นี่ไปเสีย อย่าสนใจอะไรอีก เพราะอีกฝ่ายก็ทำเหมือนเขาไม่มีตัวตนเช่นกัน เหตุใดเขาต้องมานั่งคิดนั่งแคร์ให้ปวดสมองด้วย



ทว่าอีกใจกลับดิ้นรน โหยหา อยากมีความกล้าที่จะหันไปมองหน้า อยากเห็นรอยยิ้ม อยากได้ยินเสียงอีกครั้ง



นี่เขาเป็นเอามากจริงๆ หรือเขาแค่เมากันแน่นะ ณธิปคิด



ช่วงเวลาที่คิดโน้นคิดนี่ ดูคล้ายจะเนิ่นนาน แต่ก็เร็วจนน่าใจหาย แค่พริบตาเดียวห้องโดยสายสี่เหลี่ยมก็เคลื่อนที่พาพวกเขามาส่งที่ชั้นของกมลแล้ว พอประตูเปิดคนใจร้ายก็เดินออกไปโดยไม่หันกลับมาเหลือบแล เดินหลังตรงเหมือนคนหยิ่งผยองว่าฉันนี่แหละคือผู้ชนะในสังเวียนนี้ ผู้ชนะที่สามารถปลุกปั่นให้ณธิปหัวหมุนได้



ดวงตารีเรียวมองแผ่นหลังของกมลไปจนประตูปิดลงอีกครั้ง ก่อนลิฟต์จะเคลื่อนตัวพาเขาขึ้นไปยังที่ของตนเอง หัวใจของชายหนุ่มลีบแบนเหมือลูกโป่งถูกปล่อยลม



นี่ฉันเลือกที่จะปล่อยหรือ เขาได้แต่ร้องถามตนเองในใจ จนประตูลิฟต์เปิดอีกครั้ง และทางเดินนั้นว่างเปล่า มืดสลัว เสมือนกับหัวใจของณธิปยามเมื่อคิดว่าจะปล่อยคนคนนั้นไป หัวใจเขาวูบโหวง และที่สุดแล้ว เขารับรู้ว่ามันไม่ดีเลย มันไม่ใช่ทางเลือกที่เขาต้องการ



คิดได้ดังนั้นมือก็พลันกดไปที่ชั้นซึ่งคนคนนั้นอยู่ ณธิปรู้สึกเหมือนสารบางอย่างในตัวของเขาหลั่งออกมา ความรู้สึกหน่วงๆ และมึนๆ ในสมองหายไป ทันทีที่ตัดสินใจว่าอย่างไรวันนี้ก็ต้องพูด มีแค่ตอนนี้เท่านั้น หากปล่อยให้นานไปกว่านี้ เขาคงไม่มีโอกาสแล้ว



ตอนที่ณธิปลงมาถึงชั้นซึ่งเป็นที่ตั้งห้องของกมล ตรงทางเดินไม่ได้ว่างเปล่า เพราะว่าหนุ่มหน้าหวานยังอยู่ที่ประตู และรื้อหาอะไรบางอย่างจากกระเป๋า ณธิปใช้โอกาสนี้รีบเดินเข้าไปใกล้ ราวกับกลัวว่าถ้าช้าอีกนิด คนตรงหน้าจะหายวับไป



กมลที่สังเกตเห็นเช่นนั้นจึงผงะไปเล็กน้อย ดวงตารูปเม็ดอัลมอลมองมาทางณธิปด้วยแววประหลาดใจและไม่ไว้วางใจ ต่อมาเสียงกังวานจึงดังขึ้น



“คุณมีธุระอะไรหรือเปล่าครับ”

“มีสิ…มี” ณธิปอึกอักเล็กน้อย

“สำคัญหรือครับ คือถ้าเป็นเรื่องงาน ผมว่าไว้ค่อยคุยกันพรุ่งนี้ดีกว่าไหม นี่ดึกแล้ว และคุณก็ดื่มมาด้วย” กลิ่นแอลกอฮอล์ที่โชยมาตั้งแต่ในลิฟต์ทำให้กมลรู้ทันทีว่าณธิปไม่มีสติครบถ้วนพอจะคุยธุระสำคัญใดๆ ให้รู้เรื่องได้ตอนนี้ และเขาก็เพลียเกินกว่าจะต่อกรกับอีกฝ่ายด้วย


“ผมขอเวลาเดี๋ยวเดียว”

“แต่ห้องผมไม่สะดวกเท่าไหร่” จากวีรกรรมที่เคยประสบมา และท่าทางแปลกๆ ที่แสดงออกยามนี้ กมลบอกได้เลยว่า เขาไม่ไว้ใจอีกฝ่ายเลยสักนิด ทว่าณธิปกลับทำให้ต้องแปลกใจ

“ผมไม่เข้าไปในห้องคุณหรอก ขอเวลาพูดเดี๋ยวเดียว ตอนที่คุณยังหากุญแจห้องไม่เจอก็ได้” นี่มันเสียศักดิ์ศรีสุดๆ แต่อะไรบางอย่างบอกกับณธิปว่า ยามนี้ไม่ใช่เวลาจะสนเรื่องศักดิ์ศรีบ้าบออะไรนั่น

“เอ่อ…” ณธิปดูแปลกไปจริงๆ กมลคิด และด้วยท่าทาง กับแววตามุ่งมั่นแบบที่ไม่เคยเห็นจากอีกฝ่าย ทำให้สุดท้ายแล้วชายหนุ่มจึงยอมพยักหน้าตกลง “คุณมีอะไรก็พูดเลยครับ ผมรอฟังอยู่”

“เรื่องคืนนั้น ที่ผมล่วงเกิน ทำตัวน่าอายใส่คุณ ผมขอโทษนะ” ณธิปเปิดฉาก



นี่ไม่ใช่สิ่งที่กมลคิดมาก่อนว่าจะได้ยินจากอีกฝ่าย เขาเบิกตากว้างด้วยความตกใจเล็กน้อย จากนั้นความรู้สึกบางๆ ระหว่างโกรธกับเฉยชาก็ค่อยๆ ละลายลง


“ช่างมันเถอะครับ ผมเองก็…ไม่ได้ติดใจเอาความอะไร”

“คุณจะยอมยกโทษให้ผมง่ายๆ อย่างนี้เลยหรือ”

“ก็เรื่องมันผ่านไปแล้ว คุณเองก็สำนึกผิดแล้วนี่ ใช่ไหมครับ ดังนั้นคงไม่มีเหตุการณ์แบบนั้นอีก”

“ครับ” ณธิปพยักหน้ารัวๆ “ผมจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นอีก”



จากคนที่เคยทำตัวหยิ่งยโส ไม่เห็นหัวใคร ยามนี้กลับดูเงอะงะคล้ายเด็กชายตัวเล็กๆ ที่สำนึกในความผิดของตนเอง เพราะชายหนุ่มไม่ได้เตรียมคำพูดพวกนี้ไว้ เพราะไม่รู้ว่าจะได้พบกันเร็วขนาดนี้ ทุกอย่างจึงออกมาจากใจล้วนๆ



“ในเมื่อคุณขอโทษแล้ว ถือว่าเลิกแล้วต่อกันไป ผมก็ไม่ติดใจเอาความอะไร ให้มันจบเท่านี้เถอะ ยังไงผมขอตัวเข้าห้องก่อนนะครับ” กมลชูกุญแจห้องให้อีกฝ่ายเห็น และตั้งใจจะไขเข้าไปพักผ่อนเสียที



ทว่าณธิปกลับรั้งเขาเอาไว้อีก… “เดี๋ยวครับ!”

“ครับ?” กมลหันมา

“ผมมีอีกเรื่อง”

“ว่ามาสิครับ” ถ้าจะบอกว่าไม่ให้พูด ก็คงจะห้ามไม่ได้ กมลจึงยอมให้อีกฝ่ายบอกออกมา จะได้จบๆ กันไป

“คือผมมีอะไรบางอย่างอยากขอคุณ”

“อะไรครับ”



เจ้าของดวงตารีเรียวสูดลมหายใจลึก จากนั้นจึงมองสบตาของกมลตรงๆ แล้วเอ่ยออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ ราวกับคนมีสติสัมปชัญญะครบถ้วน ไม่ได้เมาอย่างที่หนุ่มหน้าหวานเข้าใจ



“ไอครับ ผมว่าผมหลงรักคุณเข้าแล้วจริงๆ” มือที่อยู่ข้างลำตัวถูกกำไว้แน่นเพราะประหม่า “คุณจะให้โอกาสผมจีบคุณอีกครั้งได้ไหม”

“คือ…ผมว่าพวกเราไม่--”

“อย่าเพิ่งปฏิเสธเลยนะ ผมน่ะ…มีบางอย่างที่เปลี่ยนไปแล้ว ดังนั้นขอให้ผมได้ลองพยายามอีกครั้ง แล้วถ้าเกิดว่ามันไม่ทำให้คุณหวั่นไหวได้เลยสักนิด ผมจะถอยเอง” ณธิปเอื้อมมือไป ตั้งใจจะจับมือคู่นั้นของกมลไว้ แต่แล้วก็ชะงัก เพราะคิดได้ว่า นี่อาจล้ำเส้นและทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจ

“คุณพูดแบบนี้ ผมลำบากใจนะรู้ไหม”



ณธิปบอกว่าตัวเองเปลี่ยนไปแล้ว กมลเองก็ไม่อาจตัดสินได้ในทันทีว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นจริงหรือไม่ แต่พอได้ยินประโยคที่ไม่คิดว่าคนอย่างณธิปจะพูดออกมา ประโยคขอร้องพร้อมกับท่าทางและแววตาที่ดูเหมือนจริงใจนั่น กมลก็ไม่อาจปฏิเสธออกมาได้เต็มเสียง แต่ที่ว่าลำบากใจนั้น เขารู้สึกจริงๆ


“ขอโทษ” ณธิปขอโทษเป็นครั้งที่สองแล้วในคืนนี้ แต่ถ้าเขาเป็นสาเหตุให้กมลต้องลำบากใจ เขาก็อยากขอโทษ

“ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ”



บรรยากาศที่รายล้อมรอบกายนั้นน่าอึดอัดเหลือจะกล่าว ทางเดินเงียบเชียบที่ไม่มีเสียงใดเล็ดรอดออกมาเลย มีเพียงเสียงหายใจแผ่วๆ ของคนทั้งคู่ ทำให้กมลไม่รู้จะเบี่ยงเบนความสนใจไปหาอะไรได้ นอกจากการคิดไต่ตรองดูว่า เขาควรให้คำตอบอย่างไรกับอีกฝ่ายดี



ถ้าตอบรับ ก็ไม่รู้ว่าต่อไปจะมีเรื่องยุ่งยากอะไรเข้ามาอีก แต่ถ้าไม่รับล่ะ กมลมองแววตาทรงเสน่ห์ที่เคยทำเจ้าชู้ใส่ทุกครั้งที่พบเจอ บัดนี้กลับดูไม่ออกเลยว่ามันมันเคยเป็นเช่นนั้นมาก่อน เพราะมันดูจริงใจ เหมือนเด็ก…



ทำไมเขาถึงมองว่าณธิปเหมือนเด็กได้นะ กมลหงุดหงิดตัวเอง เพราะเขามักแพ้และใจอ่อนให้อะไรแบบนี้



“ว่ายังไงครับ ให้โอกาสผมได้หรือเปล่า”

“คือว่า…”

“นะครับ ผมสัญญาว่าจะไม่ล้ำเส้น ถ้าคุณไม่อนุญาต”

“ก็ได้ครับ” สุดท้ายกมลก็ตัดสินใจพยักหน้ารับ ซึ่งเขายังไม่แน่ใจเลยว่าตัวเองตัดสินใจถูกไหม

“ขอบคุณครับ!” ณธิปเอ่ยขอบคุณด้วยตาเป็นประกาย ท่าทางดีใจจนแทบกระโดดโลดเต้น ทำให้กมลรู้สึกแปลกใจอีกรอบ ว่าสรุปแล้วตัวตนของณธิปเป็นเช่นไร



ระหว่าง ผู้ชายเจ้าเล่ห์มากรัก หรือ ผู้ชายที่เหมือนเด็กชอบเอาชนะคนหนึ่ง



“ระหว่างนี้ก็รักษาสัญญาของคุณด้วย กรุณาอย่าล้ำเส้น” กมลย้ำ

“ได้ครับ”

“ถ้าเกิดว่าผมรู้สึกว่าไม่ใช่จริงๆ คุณต้องถอยอย่างที่บอกนะ เอาจริงๆ ผมก็ไม่อยากให้คุณมาเสียเวลากับผมหรอก เพราะผมคิดว่าตัวเองไม่น่าใกล้เคียงกับคนในแบบที่คุณชอบเลยสักนิด”

“รู้ไหม ที่ผ่านมาผมไม่รู้เลยว่าตัวเองชอบแบบไหน จนกระทั่งมาเจอคุณ” ณธิปว่า พร้อมกับยิ้มกว้าง



กมลยิ้มแหย ด้วยไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะหยอดมาแบบนี้ เพราะถึงแม้จะดูว่าเป็นคำพูดจริงใจมากกว่าคำหวานที่ใช้สัพยอกเหมือนทุกที แต่กมลก็ยังอดรู้สึกแปลกๆ ไม่ได้อยู่ดี



“เอ่อ…คุณหมดเรื่องที่จะบอกแล้วใช่ไหมครับ”

“ครับ วันนี้ที่จะพูดก็มีเท่านี้”

“งั้นผมขอตัวเข้าห้องก่อนนะ ผมง่วง” ชายหนุ่มง่วงจริงๆ เหมือนกับวันนี้เขาใช้พลังงานหมดแล้ว แถมยังต้องมาตุ้มๆ ต๋อมๆ กับณธิปรอบดึกอีก

“อะ…ครับ ขอโทษที่กวนเวลาพักผ่อนของคุณ” ณธิปถอยห่างออกมาเล็กน้อย ให้กมลได้ไขประตูเข้าห้อง และก่อนที่อีกฝ่ายจะหายลับไป ชายหนุ่มก็เอ่ยออกไปอีกคำ “คุณไอ”

“ครับ?” กมลหันหลังกลับมาหา

“คุณปลดบล็อคด้วยนะ ผมจะได้ส่งข้อความหาได้”

“อ่า…” เพราะหลังกลับมาจากปางปาลี กมลก็บล็อกไอดีทั้งไลน์และเฟสบุ๊คของณธิป ทำให้อีกฝ่ายไม่รู้ความเคลื่อนไหว และไม่สามารถส่งข้อความอะไรให้ได้ดังเดิมอีก “ครับ” คนหน้าหวานตอบรับพลางพยักหน้า

“ขอบคุณนะ”

“อืม”



ณธิปได้ยินเสียงงึมงำตอบรับเท่านั้น อีกฝ่ายก็หนีเข้าห้องไปทันที เขาไม่รู้ว่าการบุกจู่โจมนี้จะได้ผลแค่ไหน มันอาจจะเป็นแค่การกระทำโง่ๆ บางทีกมลอาจจะตอบรับเขาส่งๆ ไปแบบนั้นเพื่อตัดรำคาญก็เป็นได้ แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ความรู้สึกหน่วงๆ ที่มีตลอดเดือนที่ผ่านมาถูกปัดหลิวให้หายไป และเขาเองที่เป็นคนบอกว่าจะพยายาม ดังนั้นก็คงต้องพยายามเอาชนะใจคนหน้าสวยแต่ใจร้ายคนนั้นดูอีกสักครั้ง



โดยครั้งนี้ณธิปจะใช้หัวใจเป็นเดิมพัน








<><><><><><><><><><><><><><><><><><>



มาต่อเร็วเฉยเลย อิอิ

ตอนนี้เล็กเมามาก พูดจาเลอะเทอะมาก ไม่ไหวๆ เสียฟอร์มหมดเลย /เสยผมขรึมๆ
ส่วนไอก็ง่วงมาก เค้าให้ทำอะไรก็เออๆ ออๆ ไม่ได้ตั้งใจจะใจอ่อนจริงจริ๊ง /ยิ้มอ่อน

รู้สึกว่าตอนที่แล้วคนอ่านเพิ่มขึ้น ดีใจมากเลย ยังไงก็ฝากด้วยนะคะ เราจะไม่ดองแล้ว /นี่ก็พูดงี้ตลอดอ่ะะ

เจอกันตอนหน้าค่ะ 55555




ละอองฝน.


ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ larynx

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 821
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
อ้างถึง
“รู้ไหม ที่ผ่านมาผมไม่รู้เลยว่าตัวเองชอบแบบไหน จนกระทั่งมาเจอคุณ”
จะไม่อะไรเลยถ้านี่ไม่ใช่คำพูดจากปากผู้ชายที่ผ่านคนมาเยอะทั้งผู้ชายและผู้หญิงอย่างคุณเล็ก ฮื่ออออ สู้เขานะคะ หนูทีมคุณเล็กค่ะ  :impress2: :man1:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
แปลกใจจจจจจจ
 :L2: :pig4:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
จะเชียร์คุณเล็กก็มีคดีเก่าอยู่ กลัวคุณไอเจ็บ พิสูจน์ซะนะ คุณเล็ก แล้วจะย้ายทีม #ทีมคุณไอ

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1809
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
มาเร็วจริงๆ

เดินหน้าจีบคุณไอเลยนะณธิป o13 :mew1:

ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
+เป็ดรัวๆ ฮืออออ
ณธิปน่ารักมากกกกกก
แบบว่าเด็กน้อยสุดอะไรสุด
เอาจริงๆเราก็อึ้งไปเหมือนกันที่กล้าเล่าให้เพื่อนฟัง
ยอมรับแบบหงอๆเลยว่า เออ แม่งคงชอบไปแล้ว
ฮือออ แล้วก็อยากได้ก็พยายามอ่ะ เก่งมากเลย
เชียร์อยู่วววว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
งานหนักหน่อยนะ

ออฟไลน์ pigarea

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
เราชอบเรื่องนี้จัง รวมไปถึง น้องรักกับพี่เฆม
นิยายส่วนใหญ่ จะเป็นไปในลักษณะแอบรักกันและกัน หรือไม่ก็อีกฝ่ายแอบรัก แต่พอจีบก็โอเคกันได้ง่ายดาย
แต่เรื่องนี้มันทำให้เห็นถึงความเป็นจริงในชีวิตที่ว่า ไม่มีใครที่จะจีบแล้วได้พบกับรักแท้ หรือได้รับการตอบรับ
ต้องมีเศร้าบ้าง เสียใจบ้าง ผิดหวังบ้าง ต้องมีความพยายามในการคว้าหาความรักมาเป็นของตัวเอง

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
คราวนี้ก็จีบเขาดีๆล่ะคุณเล็กกกก  :katai2-1:

ออฟไลน์ ละอองฝน

  • แมวดำ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 261
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +398/-2
คุณคือความรัก บทที่ 20

   ก่อนออกไปทำงาน สายสืบลับๆ ใน I promise Tower ที่คอยทำงานเล็กๆ น้อยๆ ได้ส่งข่าวมาบอกณธิปว่า พรุ่งนี้เป็นวันเกิดของกมล ข่าวที่เพิ่งรู้ทำให้ชายหนุ่มกระวนกระวายพอควร เนื่องจากยังไม่รู้เลยว่าจะทำอะไรให้อีกฝ่ายได้บ้าง เพราะถ้าเป็นคนที่เขาเคยคั่วเคยคบมาก่อน ณธิปก็คงเลือกเสื้อผ้า ของมีค่า ของแบรนด์เนม หรือเซอร์ไพร์สโดยการไปดินเนอร์สุดหรูในที่ที่โรแมนติกสักแห่ง



   ทว่ากับคนคนนั้น ณธิปไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรอีกฝ่ายจึงจะพอใจ เพราะตั้งแต่เริ่มกลับมาจีบอีกครั้ง จนผ่านมาเดือนหนึ่งแล้ว อีกฝ่ายก็ไม่มีทีท่าว่าต้องการหรือชอบอะไรเป็นพิเศษ มิหนำซ้ำเขายังพบกันไม่บ่อย ได้แต่โทรหาเช้าเย็นกับส่งข้อความไปคุยบ้างบางคราว ชายหนุ่มจึงจนปัญญาและมืดแปดด้านไปหมด ดังนั้นเขาจึงลองโทรปรึกษาใครสักคนดู เผื่อว่าจะมีความคิดดีๆ ในการเตรียมของขวัญที่กมลชอบได้



   คนแรกคือดังตฤณ เพื่อนสนิทที่ช่วยแก้ไขปัญหาหัวใจของเขาในวันนั้น ทว่านี่เป็นเวลาเช้า คนที่ทำงานราชการจึงไม่มีเวลาให้คำแนะนำอะไรมากนัก ได้แต่บอกว่าควรเป็นของที่ไม่หวือหวาและอวดร่ำอวดรวยเกินไป เพราะดูก็รู้ว่ากมลไม่ชอบคนประเภทป๋าเปย์



   ไม่แพงเกินไป ณธิปจดไว้ในใจข้อแรก



   คนที่สองที่เขาโทรหา ก็ไม่ใช่ใครอื่น นอกเสียจากเพื่อนสนิทอีกคนที่เป็นที่หนึ่งและเก่งเรื่องการเลือกเฟ้นหาของกำนัลให้ใครต่อใคร เขาคนนั้นคือดาราหนุ่มฮอตอย่าง พิเชษฐ์



   หากณธิปก็ต้องผิดหวัง เมื่อโทรไปไม่รู้กี่สายต่อกี่สาย อีกฝ่ายก็ไม่ยอมรับโทรศัพท์เลยสักครั้ง ไม่รู้ว่าติดถ่ายงาน หรือยังไม่ตื่นนอนก็ไม่ทราบ



   “ไอ้เชษฐ์นะไอ้เชษฐ์ ถึงเวลาสำคัญทีไร ก็หายจ้อยไม่ทุกทีสิน่า” ณธิปบ่นกระปอดกระแปดอย่างหัวเสีย ก่อนเสียงเคาะประตูหน้าห้องจะดังขึ้น บอกให้รู้ว่าคนขับรถที่เรียกให้มารับเดินทางมาถึงแล้ว



   วันนี้ณธิปต้องเดินทางไปดูการก่อสร้างโครงการบ้านพักตากอากาศที่หัวหิน  ดังนั้นจึงต้องเรียกให้คนขับรถมารับ เพราะระหว่างทางจะได้ทำงานอื่นไปด้วยได้



   “คุณเล็กมีสัมภาระอื่นๆ อีกไหมครับ” นายเชิด คนขับรถประจำตัวของณธิปถาม

   “ไม่มี ฉันไม่ได้ค้าง”

   “ครับ” เชิดรับคำ ก่อนเดินนำไปกดลิฟต์รอด้วยความนอบน้อม



   ครั้นมาถึงที่รถ ณธิปก็พบเลขาฯ ส่วนตัวของเขารอท่าอยู่ก่อนแล้ว เธอเตรียมอาหารเช้าง่ายๆ กับกาแฟดำมาให้เขาดื่มระหว่างเดินทาง จากนั้นเธอจึงเริ่มรายงานความคืบหน้าของงานที่ทางวิศวกรและผู้ดูแลโครงการส่งมาบอกทางอีเมลล์




   “นอกจากตรวจดูโครงการ ฉันก็ไม่มีกำหนดการต้องไปพบใครหรือทำอะไรอีกใช่ไหม” ณธิปถามขึ้นเมื่อเลขาฯ สาวรายงานจบ

   “ไม่มีแล้วค่ะคุณเล็ก”

   “ถ้าอย่างนั้นก็คงกลับถึงกรุงเทพฯ ช่วงบ่ายๆ สินะ”

   “ประมาณบ่ายแก่ๆ ค่ะ”

   “ถ้าอย่างนั้น เธอช่วยสั่งคนเอารถไปจอดไว้ให้ฉันที่โรงแรมด้วยนะ”

   “ได้ค่ะคุณเล็ก”

   “ส่วยนายเชิด เสร็จงานแล้วส่งฉันที่โรงแรม ฝากกลับไปบอกคุณแม่อีกทีด้วยว่า ฉันจะเข้าไปหาวันเสาร์แน่นอน”

   “ครับคุณเล็ก” สารถีส่วนตัวรับคำ หลังจากนั้นในรถก็เงียบลง



   ณธิปอ่านเอกสารต่างๆ ที่สั่งให้เลขาหอบมาฆ่าเวลา ระหว่างนั้นพักสายตาก็เพียรติดต่อไปหาเพื่อนรัก แต่พิเชษฐ์กลับไม่ยอมรับสายเสียที



   ชายหนุ่มค่อนข้างกระวนกระวายใจ ไม่รู้ว่าจะหาอะไรเป็นของขวัญให้กับกมล จึงได้แต่คิดว่าหลังเลิกงานจะขับรถไปเลือกดูด้วยตัวเอง สงสัยว่างานนี้ต้องใช้เซ้นส์ของตัวเองเลือกเอา แทนที่จะพึ่งคนอื่นเสียแล้ว












   เมื่อกลับถึงกรุงเทพฯ ในเวลาเย็น ณธิปก็ขับรถตรงไปยังห้างสรรพสินค้าดังใจกลางเมืองทันที เขาไม่ได้มาที่นี่นานมากแล้ว ทั้งที่แต่ก่อนตอนที่ยังควงคนนั้นควงคนนี้ เขาก็พาคู่ขามาละลายทรัพย์บ่อยพอดู



   ณธิปเดินเข้าร้านนั้น ออกร้านนี้ พยายามนึกถึงสิ่งที่ดังตฤณบอก แต่ก็ยังหาของที่ต้องการไม่ได้สักที ก็ร้านแบรนด์เนมพวกนี้มีของราคาธรรมดาเสียที่ไหน ส่วนใหญ่ก็เพียงหูฉี่ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเสื้อผ้า รองเท้า นาฬิกา ไปจนถึงเนคไทด์ เขาไม่รู้เลยว่าแบบไหนถึงจะพอดี



   ลองๆ นึกดูว่ากมลแต่งตัวแบบไหน เขาเองก็พอนึกออก แต่จะซื้ออะไรที่โดนใจ ของที่มอบให้แล้วเป็นที่จดจำหรือทำให้อีกฝ่ายยิ้มได้เมื่อเห็น นี่สิที่เขายังนึกไม่ออก บางทีเขาก็อยากให้กมลเป็นพวกเห็นของราคาแพงแล้วตาลุกวาวเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องลำบากแบบนี้



   ณธิปเดินดูของจนขาลาก สุดท้ายก็เดินเข้าไปจบในในร้านเครื่องแต่งกายสุภาพบุรุษหรูหราร้านโปรดของตนเอง พนักงานท่าทางเป็นมิตรและดูเหมือนจะรู้ว่าเขาเป็นใครจึงเดินเข้ามาสอบถาม และครั้งนี้ณธิปก็คร้านจะปฏิเสธความช่วยเหลืออีก เพราะจนปัญญาที่จะเลือกแล้ว



   “ยินดีต้อนรับค่ะคุณณธิป ไม่ทราบว่ากำลังมองหาอะไรอยู่คะ ทางXXXของเรายินดีให้คำแนะนำค่ะ”

   “ผมอยากได้ของขวัญที่ดูไม่เว่อร์มากแต่ดูดี จะว่ายังไงดีล่ะ”

   “ใช้เนื่องในโอกาสไหนคะ”

   “อยากให้ใช้ในชีวิตประจำวันได้ จะให้ของขวัญวันเกิดน่ะครับ”

   “ถ้าอย่างนั้นลองดูเป็นน้ำหอมดีไหมคะ”

   “มีอย่างอื่นอีกไหม”

   “เข็มติดเนคไทด์สวยๆ ก็มีค่ะ หรือจะเป็นคัฟลิงค์ดีไหมคะ ชิ้นเล็กๆ แต่สามารถใส่ได้ทุกวัน ตอนนี้มีคอลเลคชั่นใหม่เข้ามา ใช้ได้กับท่านสุภาพบุรุษทุกวัยและทุกโอกาสเลยค่ะ เพราะเป็นแบบเรียบหรู”

   “งั้นขอดูคัฟลิงค์แล้วกัน” ภาพของกมลที่ณธิปเห็นจนชินตาคือ ภาพหนุ่มหน้าหวานสวมเสื้อเชิ้ต ทรงทันสมัยแต่ก็ดูเรียบร้อย กมลมักไม่ค่อยใส่สูทให้เห็นหากไม่ใช่งานเป็นทางการ ไทด์ก็ไม่ค่อยค่อยผูก



   ณธิปเลือกดูเจ้ากระดุมข้อมือเม็ดเล็กที่เรียงอยู่ในตู้กระจกอย่างพิจารณา เขาว่ามันเป็นของที่ดูธรรมดา ถ้าเป็นปรกติเขาคงไม่เลือกซื้อของแบบนี้ให้เป็นของขวัญใคร แต่บางแบบก็ดูน่ารักใช้ได้ ยิ่งถ้ากมลสวมเสื้อแขนยาวสีอ่อน บนร่างกายไม่มีเครื่องประดับชิ้นใด ยกเว้นเพียงแต่ข้อมือที่มีกระดุมเม็ดเล็กๆ ประดับอยู่ มันคงดูดีไม่หยอก



ทว่า เครื่องแต่งกายชิ้นเล็กๆ ที่ดูไม่ค่อยมีใครนึกถึงแบบนี้ มันจะทำให้คนรับรู้สึกดีไหมนะ ขณะที่กำลังคิด คนที่ชายหนุ่มเพียรโทรหาตั้งแต่เช้าก็ติดต่อกลับมา ณธิปจึงชี้คัฟลิงค์คู่หนึ่งในตู้ ก่อนจะบอกให้พนักงานนำไปคิดเงิน จากนั้นจึงกดรับสาย



“เพิ่งจะโทรกลับมาได้นะ”

[รับสายปุ๊บก็เหวี่ยงเลยนะคุณชาย กระผมก็เป็นคนมีงานมีการทำนะครับ] พิเชษฐ์เรียกเขาด้วยสรรพนามที่ชอบใช้ล้อเลียนบ่อยๆ เวลาจะกวน ประสาท

“อ้อ นี่ทำงานหรือ ฉันนึกว่าเมาค้างก็เลยเพิ่งตื่น”

[ฮ่าๆๆ รู้ทันอีก] พิเชษฐ์ว่าพลางหัวเราะชอบใจที่เพื่อนมักรู้ทัน ก่อนจะถามกลับ [ว่าแต่มีอะไรให้เพื่อนรับใช้ล่ะ]

“ก็ว่าจะถามอะไรสักหน่อย แต่ดูเหมือนตอนนี้คงไม่ต้องแล้ว”

[เอ้า! ได้ไง ไหนๆ ก็อุตส่าห์โทรมาแล้ว อย่างน้อยก็เล่าให้เพื่อนฟังหน่อยสิ ว่ามีอะไร] พิเชษฐ์ว่าอย่างไม่ยอมง่ายๆ

“ก็ไม่มีอะไรมากหรอก แค่จะให้ช่วยเลือกของขวัญวันเกิด”

[ให้ใคร]

“คุณไอ”

[อ้อ คุณไอคนสวยนี่เอง ถึงว่าทำเพื่อนเล็กร้อนรนโทรมาเป็นสิบๆ สาย] ดาราหนุ่มว่าสัพยอก ก่อนถาม [ว่าแต่เลือกได้แล้วหรือ]

“อืม” ณธิปตอบรับ พลางเซ็นบัตรเครดิตจ่ายเงินเรียบร้อย

[ซื้ออะไรให้น่ะ]

“คัฟลิงค์”

[ห๊ะ!! คัฟลิงค์เนี่ยนะ]

“ทำไมต้องทำเสียงตกใจขนาดนั้น คัฟลิงค์ของฉันไม่ดีตรงไหน” ณธิปรู้สึกหัวเสียนิดๆ

[นั่นคนที่แกตั้งใจจะจีบจริงจังนะเพื่อน อย่างน้อยต้องเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ ไม่ก็เป็นที่จดจำกว่านี้สิ ขืนเดินไปยื่นกล่องเล็กๆ พอเปิดมาเป็นกระดุมสองเม็ด แกไม่รู้สึกว่ามันน้อยไปนิดหรือเพื่อนรัก]

คำพูดของพิเชษฐ์ทำให้ณธิปขาดความมั่นใจอย่างรุนแรง ซึ่งเดิมทีมันก็มีน้อยอยู่แล้ว “แล้วฉันต้องให้อะไรเล่า แกเก่งนักก็ลองบอกมาสิ”

[อะไรก็ได้ ที่ไม่ใช่กระดุมน่ะ เอาจริงๆ นะเล็ก แกหอบเค้กสักก้อนไปให้เขาเป่า หรือไม่ก็หิ้วตุ๊กตาตัวโตๆ ไปให้เขาสักตัว ยังดีกว่ากระดุมที่แกซื้อตั้งเยอะ]

ณธิปคิ้วกระตุก “เค้กกับตุ๊กตาเนี่ยนะ มันไม่เด็กไปหน่อยหรือไง”

[แต่มันก็ยังน่าจดจำกว่าหรือเปล่า] พิเชษฐ์ถามกลับ

“คุณไออายุไม่น้อยแล้วนะ และก็ไม่ใช่ผู้หญิง เขาไม่น่าจะเล่นตุ๊กตากับกินของหวานหรอก” ณธิปค่อนขอดกับความไร้รสนิยมของเพื่อน เพราะขนาดพวกผู้หญิงที่เขาเคยควงมาก่อนหน้า ยังไม่มีใครร้องให้เขาพาไปซื้อตุ๊กตาสักคน

[แต่คุณไอไม่เหมือนคนอื่นนะ อีกอย่างเขามีหลาน อาจจะชอบอะไรน่ารักๆ ก็ได้ เห็นแกเคยบอกว่าเขาไม่ชอบของราคาแพงนี่ ดูอย่างพวกแฟนคลับของฉันสิ ตอนวันเกิดของฉันนะ มีหอบเค้ก หอบลูกโป่งมาทำเซอร์ไพร์สให้ถึงกองถ่าย โรแมนติกจะตายไป]




เสียงปลายสายดูจริงจัง ทว่าก็แฝงไปด้วยแววสนุกสนานเสียเต็มประดา ราวกับว่ากำลังคิดแผนการให้เพื่อนมัธยมไปทำเซอร์ไพร์สสาวอย่างไรอย่างนั้น




“ฉันว่ามันงี่เง่าแล้วก็น่าอายจะตาย ให้ไปยืนถือเค้ก หอบตุ๊กตาแบบแกตอนม. 5 ฉันไม่เอาด้วยหรอก ใครเห็นเข้าเขาจะคิดยังไง” เพราะภาพลักษณ์ของณธิปไม่ใช่แบบนั้น และไม่เหมาะกับไอเดียที่ถูกเสนอเอามากๆ แค่เขาคิดภาพตัวเองยืนอุ้มตุ๊กตา เขาก็รู้สึกอับอายขายหน้าจะแย่แล้ว

[งั้นก็ตามใจคุณชายแล้วกัน จะให้แค่กระดุมก็ตามใจ แต่อย่าลืมนะว่า พรุ่งนี้ไม่ใช่แค่วันเกิด แต่ยังเป็นวันวาเลนไทน์ด้วย]

“จริงด้วย ฉันลืมเรื่องนี้ไปสนิทเลย พรุ่งนี้ 14 กุมภานี่นะ”

[ใช่ เพราะฉะนั้น ฉันว่าความคิดของฉันเข้าท่า--] ดาราหนุ่มชะงักไปครู่ ก่อนหันไปคุยกับผู้จัดการส่วนตัว [เล็ก ถึงคิวฉันถ่ายต่อแล้ว เท่านี้ก่อนนะ ได้ผลเป็นยังไงก็บอกกันด้วยแล้วกัน]

“อืม ขอบใจสำหรับคำแนะนำ”



พอกดวางสาย พนักงานก็ส่งถุงของขวัญที่ห่อไว้อย่างเรียบร้อยมาให้ณธิป ชายหนุ่มก้มลงมองกล่องน้อยๆ ที่นอนนิ่งอยู่ในถุงกระดาษ ก่อนถอนหายใจออกมาเบาๆ



คืนนี้เขาจะโทรไปนัดกมลทานดินเนอร์ แล้วก็ให้ของขวัญธรรมดากล่องนี้แทน ส่วนไอเดียตุ๊กตากับเค้กที่พิเชษฐ์แนะนำนั้น คงจะรับไว้ได้แต่ความมีน้ำใจที่ช่วยคิด หากไม่หยิบไปใช้จริงแน่นอน ก็เรื่องน่าอายเช่นนั้น ใครจะไปกล้าทำกัน











ชายหนุ่มร่างรูปร่างสูงสง่า หน้าตาดีจัดจนแว่นดำไม่อาจปกปิดใบหน้าหล่อเหลาได้ เดินหิ้วกล่องเค้กกล่องเล็กๆ ออกมาจากร้านเบเกอรี่ชื่อดัง ความดูดีของเขาทำให้หลายๆ คนเผลอมองตามตาเป็นมัน แต่สำหรับณธิปแล้ว สายตาเหล่านั้นเป็นอะไรที่ทำให้เขายิ่งรู้สึกประหม่าและวางตัวไม่ถูก จนต้องรีบเดินออกจากร้านให้เร็วที่สุด



ครั้นมาถึงรถ ณธิปก็วางกล่องเค้กกล่องเล็กไว้บนที่นั่งข้างคนขับอย่างเบามือ ก่อนหันไปมองกล่องของขวัญกล่องโตและกล่องเล็กซึ่งอยู่เคียงข้างกัน แน่นอนว่ากล่องเล็กคือกระดุมธรรมดาตามที่พิเชษฐ์ปรามาสไว้เมื่อวานอย่างไม่ต้องสงสัย ส่วนกล่องใหญ่ต่างหากที่ทำให้ณธิปหนักใจ



ไม่รู้เขาสติไม่ดีไปแล้วหรือเปล่า ถึงได้กล้าทำตามไอเดียบ้าๆ ที่เพื่อนดาราคนสนิทแนะนำ แล้วซื้อเอาตุ๊กตากระต่ายหน้าโง่สีคาราเมลมาจากห้างสรรพสินค้า ถึงมันจะตัวไม่ใหญ่นักอย่างที่พิเชษฐ์บอกก็เถอะ



เขาเป็นบ้าไปแล้วจริงๆ ณธิปกุมศีรษะแล้วอุทานในใจ ทำไมเขาถึงเป็นไปได้ขนาดนี้นะ



หลังจากด่าตัวเองเงียบๆ เสร็จแล้ว ชายหนุ่มจึงค่อยๆ ตั้งสติ แล้วสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ คิดทบทวนถึงสิ่งที่ต้องทำต่อไปในวันนี้ทีละข้อ



เมื่อวานเขาโทรไปหากมล แต่อีกฝ่ายไม่รับ ไม่อ่านข้อความด้วย สายสืบที่ I promise บอกเขาว่ากมลยุ่งมาก เนื่องจากวันต่อมาจะหยุดพักผ่อนเพราะจากเป็นวันเกิด ดังนั้นจึงคิดว่าเจ้าตัวเลยไม่ว่างรับโทรศัพท์เพราะต้องเตรียมงานต่างๆ ไว้ก่อนหยุด แผนการที่จะชวนไปดินเนอร์ล่วงหน้าก็มีอันต้องล้มไปก่อน แต่ณธิปขอหยุดงาน 1 วัน ซ้ำยังจองร้านอาหารไว้ เพราะคิดว่าในวันนี้จะหากมลให้เจอ และพาไปฉลองด้วยกันให้ได้



เขาจึงแต่งตัวหล่อออกจากบ้านมาสั่งเค้กที่ร้านซึ่งเลขาฯ ของเขาบอกว่าอร่อยสุดๆ เตรียมของขวัญให้พร้อมพรัก และวางแผนไปบุกรับกมลที่ห้อง



ณธิปกลับมาที่คอนโด ก่อนไปหาอีกฝ่ายที่ห้อง เขาเตรียมคำพูดที่จะหว่านล้อมและชวนกมลให้ไปทานข้าวด้วยกัน ไม่ว่าทางนั้นจะเอาอะไรมาอ้าง เขาก็พยายามคิดแผนการต่างๆ เผื่อไว้ จากนั้นจึงลองโทรหาคนหน้าหวานดูอีกที ทว่ากมลก็ยังไม่รับสาย ซ้ำข้อความก็ไม่ยอมอ่านด้วย



ณธิปทำใจเย็นอยู่สักพักใหญ่ เพราะไม่อยากล้ำเส้นมากไป คิดว่าอีกฝ่ายอาจยังไม่ตื่น จากนั้นก็พยายามโทรไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ กระทั่งในที่สุด จากเวลาสายมาเที่ยง เที่ยงมาบ่าย ณธิปจึงตัดสินใจขึ้นไปถึงหน้าห้อง หอบเอาข้าวของพะรุงพะรัง ทั้งกล่องเค้ก กล่องของขวัญ ไปกดกริ่งเรียก



แต่ในห้องกลับไร้วี่แววของคนที่ณธิปตั้งใจมาหา



ชายหนุ่มพยายามโทรหากมลทั้งวัน แต่อีกฝ่ายก็ไม่รับสายหรือยอมอ่านข้อความเลย จนเขารู้สึกท้อและหงุดหงิดไปหมด ด้วยไม่รู้จะทำอย่างไร ต้องร้องขอให้ใครช่วยอีก หรือนี่คือบททดสอบให้เขารู้จักพยายามและรู้จักรอคอยด้วยตัวเอง



ถ้าอย่างนั้นณธิปก็จะคอย ให้มันรู้ไปว่าวันนี้เขาจะไม่ได้เจอคนใจร้ายคนนั้น













ทว่ารอแล้วรอเล่า ณธิปก็ยิ่งรู้สึกเหมือนคนโง่มากขึ้นทุกที เพราะถึงแม้เขาจะรอได้ แต่เวลามันรอไม่ได้ เนื่องจากอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าก็จะขึ้นวันใหม่แล้ว เป็นวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ซึ่งจะไม่ใช่วันเกิดของกมลอีกต่อไป



หรือเขาต้องรออีกปีหนึ่ง



ดวงตารีเรียวมองของขวัญกับเค้กที่ป่านนี้ไม่รู้จะยังอร่อยอยู่ไหม ในใจพลันรู้สึกปวดแปลบ เขาไม่เคยต้องทำให้ใครแบบนี้เลย ทั้งที่ทำตั้งขนาดนี้ แต่ก็ดูเหมือนจะไม่มีความหมายสักนิด หรือเขาต้องพยายามมากกว่านี้กันนะ ชายหนุ่มได้แต่คิดในใจ



และเมื่อคิดได้ดังนั้น ณธิปก็กดโทรศัพท์หาคนคนนั้นอีกรอบ เพราะถ้าช้ากว่านี้ คงไม่ทันเที่ยงคืน



และราวกับคนบนฟ้าเห็นใจ ในที่สุดกมลก็รับสายณธิป [สวัสดีครับ]
   

“คุณไอ ผมณธิปนะ”
   
[ครับ คุณมีอะไรหรือเปล่า] เสียงปลายสายดูเหนื่อยๆ จนณธิปต้องลดความดีใจของตนลง

   “ขอโทษที่กวน แต่คุณอยู่ที่ไหน”
   
[ผมกำลังจะนอนแล้ว]

   “นอนหรือ คุณนอนที่ไหน” คำตอบที่ได้ยินทำให้ณธิปยิ่งแปลกใจมากขึ้น

   [นอนในห้องของผมสิครับ คุณมีอะไร]

   “แต่ผมอยู่หน้าห้องคุณมาทั้งวัน มันไม่เหมือนว่าคุณอยู่เลย ผมเคาะเรียกคุณตั้งหลายครั้ง” ถ้ากมลอยู่ ก็ต้องได้ยินเขาสิ ณธิปคิด

   [นี่คุณอยู่หน้าห้องของผมหรือ]

   “ใช่”

   [ที่คอนโด?]

   “ใช่ แล้วคุณอยู่ไหน”

   [อยู่…บ้าน] หนุ่มหน้าหวานอึกอัก [ว่าแต่คุณไปทำอะไรที่หน้าห้องของผมกันล่ะ]



   เขามันโง่! โง่จริงๆ นั่นแหละ ดันลืมคิดไปได้ยังไงว่ากมลอาจจะอยู่ที่บ้านน้องสาว พอรู้ตัวว่ามาอยู่ผิดที่ผิดทางตั้งแต่แรก ณธิปจึงไม่รู้จะพูดอย่างไรต่อไป



“ผม…เอ่อ…ผมมีธุระกับคุณ”

   [สำคัญมากเลยหรือครับ ถึงขนาดว่าคุณต้องไปหาผมที่ห้องน่ะ]

   “สำคัญสิ สำคัญมาก” ชายหนุ่มตอบเสียงหนักแน่น พลางมองข้าวของในมือ

   [งั้นก็พูดมาเลยครับ]

   “ไม่ ไม่ได้” เพราะถ้าไม่ได้มอบของขวัญทั้งหมดนี้ให้ ก็ไม่มีความหมายน่ะสิ

   [ทำไม] กมลถาม

   “ผมต้องเจอคุณ ต้องพูดต่อหน้าคุณ”

   [แต่ผมอยู่บ้าน และกำลังจะเข้านอนแล้ว ผมคงพบคุณตอนนี้ไม่ได้ เอาไว้พรุ่งนี้ หรือมะรืนนี้ได้ไหมครับ ผมจะโทรไปนัดอีกที แต่ต้องเป็นธุระสำคัญจริงๆ นะครับ]

   “ไม่ได้ ต้องวันนี้เท่านั้น บ้านคุณอยู่ไหน ผมจะขับรถไปหาเอง”

   [นั่นไม่ได้หรอก มันจะรบกวนน้องสาวและหลานๆ ของผม]

   “ไม่รบกวนหรอก ผมขอเจอคุณเดี๋ยวเดียวเท่านั้น นะครับคุณไอ ผมรอคุณอยู่นี่มาตั้งแต่เช้าแล้ว ขอเวลาแค่นิดเดียวจริงๆ” พอเห็นว่ากมลจะไม่ยอมอ่อนให้ ณธิปจึงเริ่มอ้อนวอน

   [เฮ้อ…]

   “นะครับคุณไอ ให้ผมได้เจอคุณเถอะ”

   [งั้นก็ได้ครับ เดี๋ยวผมจะไปหาคุณที่นั่น รอสักครู่]

   “ไม่ให้ผมไปหาที่บ้านคุณหรือ ทำแบบนี้คุณจะลำบากน่ะสิ”

   [ไม่เป็นไร ผมไปเองดีกว่า ไม่สะดวกให้มาที่นี่น่ะ]

   “ครับๆ ยังไงก็ได้ครับ ผมจะรอนะ” ณธิปตอบด้วยน้ำเสียงดีใจก่อนวางสายไป ในที่สุดมันก็ไม่สูญเปล่า











   ตอนที่กมลออกจากลิฟต์ ณธิปกำลังยืนพิงกำแพงแถวๆ หน้าห้องของอีกฝ่าย ในมือมีของหิ้วพะรุงพะรัง ทั้งถุงทั้งกล่องเต็มสองมือ พอดวงตารีคู่นั้นหันมาเห็นกมล เจ้าตัวก็ยิ้มกว้างออกมาอย่างยินดี



   “คุณมีอะไร” กมลถามเมื่อเดินมาหยุดตรงหน้าคนตัวสูง

   “เข้าห้องก่อนสิครับ”

   “ไม่ครับ” หนุ่มหน้าหวานปฏิเสธชัดเจน

   “ได้ยังไงล่ะ ก็ผมเตรียม…”

   “คุณบอกว่าขอเวลานิดเดียว ดังนั้นพูดเรื่องสำคัญของคุณมาเถอะ ผมง่วง”

   “…” พอเห็นว่ากมลไม่ยอมจริงๆ ณธิปจึงคว้าข้อมือของอีกฝ่ายไว้ แล้วสวมหูของถุงกระดาษใบใหญ่เข้าไปคล้อง จากนั้นก็หยิบกล่องใบเล็กอีกกล่องขึ้นมาวางบนสองมือของกมล ก่อนสั่ง “ช่วยผมถือหน่อย แล้วก็ยกขึ้นสูงๆ นิดนึงครับ”



   กมลยกกล่องขึ้นตามที่ณธิปบอก แล้วรอดูว่าชายหนุ่มกำลังจะทำอะไร เมื่อกล่องเค้กถูกยกขึ้นมาในระดับพอดี ณธิปก็แกะฝากล่องให้เปิด จากนั้นจึงหยิบเทียนเล่มเล็กที่เตรียมเอาไว้มาปักบนหน้าของเค้กชิ้นเล็กในนั้นแล้วจุดไฟ



   “อะไรกันคุณณธิป”

   “เค้กวันเกิดไง” ณธิปตอบ

   “ผมรู้แต่—“ และพอกมลจะแย้ง อีกฝ่ายก็ดันขัดขึ้น พร้อมกับเริ่มต้นร้องเพลงอวยพรที่หลานๆ ร้องให้เขาฟังมาสดๆ ร้อนๆ วันนี้

   “อย่าเพิ่งพูดสิ ฟังก่อน…” เจ้าของดวงตาทรงเสน่ห์กระเอมเล็กน้อย ก่อนเริ่มร้องเพลงด้วยเสียงเพี้ยนน้อยๆ แต่เอาเถอะ เพี้ยนนิดก็คงไม่เป็นไร ไหนๆ คุณไอก็เห็นเขาในสภาพน่าอายขนาดนี้แล้ว ชายหนุ่มคิด “Happy birthday to you, Happy birthday to you, Happy birthday Happy birthday Happy birthday to you.”



   หนุ่มหน้าหวานอึ้งไปเพราะไม่คิดว่าณธิปจะทำอะไรแบบนี้ สองมือถือเค้กค้างไว้เช่นนั้น ไม่ยอมก้มหน้าลงไปเป่าเทียนเหมือนที่คนตัวสูงคิด



   “อธิษฐานแล้วก็เป่าสิคุณ ถึงจะเลยวันเกิดมาแล้ว แต่แค่ไม่กี่นาทีก็คงไม่เป็นไร” ณธิปสั่ง และสถานการณ์ที่เผชิญอยู่ก็บีบให้กมลต้องยอมทำตามอย่างช่วยไม่ได้

   “อืม” กมลรับคำแล้วก็เป่าเทียนทันที ไม่ได้อธิษฐานอะไรทั้งนั้น และนั่นทำให้ณธิปรู้สึกเสียดายนิดหน่อย

   “สุขสันต์วันเกิดนะ”

   “ขอบคุณครับ” กมลเงยหน้ามองอีกฝ่ายแล้วขอบคุณเบาๆ และถ้ามองไม่ผิด ณธิปเห็นว่ามุมปากของอีกฝ่ายนั้นยกขึ้นนิดๆ

   “ไม่เป็นไรครับ ผมเต็มใจ ในถุงนั่นของขวัญ ผมไม่รู้คุณจะชอบไหม แต่อย่าทิ้งมันนะ” ถึงมันจะเห่ยไปนิด น่าอายไปหน่อย แต่เขาตัดสินใจซื้อมาแล้ว ดังนั้นจึงไม่อยากให้กมลทิ้งอะไรสักอย่างเดียว แม้แต่กระต่ายหน้าโง่ตัวนั้นด้วย

   “ผมไม่เคยทิ้งของที่คนอื่นตั้งใจให้หรอกครับ” กมลว่า

   “อืม…แค่นี้ก็ดีแล้วล่ะ” ชายหนุ่มยิ้มออกมาอีกครั้งเมื่อได้ยินคำตอบ ก่อนหุบยิ้มเมื่อถูกตัดบท

   “คุณหมดธุระของคุณแล้วใช่ไหม”

   “อื้ม”

   “ถ้าอย่างนั้นก็กลับเถอะ ผมจะเข้าห้องแล้ว พรุ่งนี้ต้องไปทำงานแต่เช้า ขอบคุณอีกครั้งนะครับ”

   “ไม่เป็นไร งั้นผมไปล่ะ” ณธิปพูดหง่อยๆ แค่นั้นก่อนเดินไปที่ลิฟต์ กมลไม่ได้รอส่ง เพราะทันทีที่เขาหันหลัง คนคนนั้นก็ไขกุญแจเข้าห้องไป



   ใจร้ายจริง ณธิปคิด



   แต่ถึงอย่างนั้น แม้ว่าอีกฝ่ายจะทำเฉยชากับเขาไปบ้าง ทว่าเมื่อคิดว่าตนเองได้รับรอยยิ้มเล็กๆ ตอบแทน หัวใจของณธิปก็พองโตจนไม่อาจหยุดยิ้มได้แล้ว



   “เอาเถอะ ต่อไปผมจะทำให้คุณยิ้มกว้างกว่านี้อีก คุณคอยดูนะ” ณธิปตั้งปณิธานกับตนเอง ก่อนกลับไปพักผ่อนบ้างเช่นกัน











   เช้าวันนี้กมลตื่นเร็วเป็นพิเศษ อาจเป็นเพราะเมื่อคืนเขานอนหลับๆ ตื่นๆ บ่อยครั้ง ชายหนุ่มจึงลุกขึ้นมาและลงไปออกกำลังกายที่ฟิตเนส กระตุ้นให้ตัวเองกระปรี้กระเปร่า เรียบร้อยแล้วจึงขึ้นมาอาบน้ำอาบท่าเตรียมตัวไปทำงาน ทว่าก่อนที่จะออกจากห้อง เขาก็อุ่นอาหารแช่แข็งง่ายๆ ทานรองท้องก่อนไป



   ระหว่างนั้นไม่รู้อะไรดลใจ ชายหนุ่มจึงเดินไปหยิบถุงของขวัญที่ได้รับเมื่อวานมาเปิดดู กล่องสองกล่องในถุงเดียวทำให้กมลรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย



   ทำไมจึงมีสองชิ้นกัน



   แต่ณธิปก็ไม่มีโน้ตเขียนอธิบายไว้สักนิด เขาจึงต้องลงมือเปิดดูว่าอะไรกันที่อีกฝ่ายตั้งใจซื้อมาให้ ของกล่องแรกเป็นคัฟลิงค์รูปทรงเรียบๆ แต่เป็นสไตล์แบบที่กมลชอบพอดี เขายิ้มนิดๆ กับของชิ้นเล็ก ก่อนเลื่อนมาเปิดกล่องใหญ่



   แกะกระดาษไปกินอาหารเช้าไป กระทั่งเปิดฝากล่องออก สิ่งที่ซ่อนตัวอยู่ด้านในนั้นนอนจ้องกมลเขม็งจากก้นกล่อง และแววตาใสซื่อกับขนปุกปุยสีน้ำตาลก็ทำให้อาหารเช้าเกือบจะพุงทะลักออกมาจากปาก



   ตุ๊กตา! คนอย่างณธิป โชติตระกูล ซื้อตุ๊กตาให้เขา!



   “ฮะ…ฮะ ฮ่าๆๆๆ”



ทีแรกแค่หลุดหัวเราะออกมาเบาๆ หากหลังจากที่จ้องเจ้ากระต่ายหน้าตาใสซื่ออีกรอบ กมลก็หลุดหัวเราะออกมาเสียงดังแบบไม่อาจกลั้น เขาไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้ณธิปซื้อมันมาให้เขา แต่เห็นทีว่าต่อไปกมลคงต้องมองณธิปใหม่เสียแล้ว




เพราะผู้ชายคนนั้นน่ะ…น่ารักกว่าที่เขาคิดเยอะเลยนี่นะ







<><><><><><><><><><><><><><><><><><><>




ตอนนี้ต้องอ่านตอนขยายในตอนพิเศษ วันเกิด ค่ะ จะรับรู้อะไรในมุมมองคุณไอมากขึ้น
คือคนน่ารักมักใจร้ายอ่ะนะ 555555555
ตาเล็กก็ต้องพยายามต่อไป นี่ยังจิ๊บๆ

คืออาจจะสงสัยว่าทำไมเล็กเปลี่ยนไปขนาดนี้
ไม่รู้จะอธิบายยังไง ประมาณคนไม่เคยรักใคร พอรักแล้วก็อยากได้เขามาก
ไม่อยากผิดหวัง กลัวเจ็บ คุณเขามีปมของเขา
พฤติกรรมหลายๆ อย่างเหมือนเด็กบ้าง ปนๆ กันไป นี่แหละคุณเล็กล่ะ

ยังไงก็ฝากด้วยนะคะ

เจอกันตอนหน้าน้าาา


ปล.
มีรูปTimeline เรื่องนี้ให้ดูในเพจค่ะ เวลาในเรื่องคือผ่านมาปีกว่าแล้วที่พระ-นายรู้จักกัน
ใครอยากทบทวน หรืออยากรู้ว่าช่วงไหนเกิดอะไรขึ้นบ้างคร่าวๆ  ลองไปดูได้ค่ะ



ละอองฝน.


   

ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
ฮืออออออ
ุคุณเล็กกกกกกก โอ้ยยย
พ่อเจ้าประคุณ น่าสงสารเหลือเกิน
เชื่อเถอะว่านี่เป็นผลกรรมจากการแช่งของคู่ควงทุกคน ถถถถถ
เอานะ พยายามเข้าไปมากๆ อย่างน้อยวันนี้คุไอก็หัวเราะแล้วน้าาา ^_____^

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1809
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
สรุปก็ทำตามที่เพื่อนแนะนำสินะคุณเล็ก  :hao3:

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
คุณไอ น่ารักจริง เหมาะกับตุ๊กตาซะด้วย ช่างเลือกดีมาก คุณเล็ก

ออฟไลน์ larynx

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 821
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
กราบขอบพระคุณพี่พิเชษฐ์มา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ 55555555555  :laugh: :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
แต่ก็แอบสงสารคุณเล็ก ตอนนี้ยังไม่มีวี่แววจะมีใจเลย  :z3:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
อย่างน้อยความพยายามครั้งนี้ก็ทำให้คุณไอหัวเราะได้นะ

ออฟไลน์ mkianit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-3
โอ้ยใจแข็งสุดๆแต่ก็นะของดีย่อมได้มายากคุณเล็กกสู้เค้าาา ทุ่มสุดใจยังไงนุ้งไอต้องเห็นใจ5555555555555555555ในเมื่อจับฉลากได้แล้ว ย่อมคู่กัน อิอิ :hao7:

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
เชียร์เล็กนะ อยากเห็นโมเม้นหวานๆ
แต่เกิดเป็นแฟนกันจริงๆ คงสนุกน่าดูเพราะคงเจอกัยพี่เมฆบ่อยขึ้น
ปวดหัวแน่ๆ

ออฟไลน์ ละอองฝน

  • แมวดำ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 261
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +398/-2








คุณคือความรัก บทที่ 21










   วันเกิดของกมลล่วงเลยมากว่าสองอาทิตย์ แต่ณธิปกลับไม่มีโอกาสได้ทำแต้มเพิ่มมากนัก เนื่องจากงานของเขายุ่งเกินกว่าจะไปพบเจอกมลเหมือนดั่งใจคิด ขนาดที่ว่าบางวันเขาแทบไม่มีเวลาโทรไปหาอีกฝ่ายด้วยซ้ำ ได้แต่เพียรส่งข้อความหาก่อนเข้านอนหรือทักทายตอนเช้าเท่านั้น



   แต่หลังจากเคลียร์โปรเจกต์เร่งด่วนจนสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ณธิปก็คิดว่าเป็นโอกาสดีที่จะลองโทรไปนัดหนุ่มหน้าหวานทานข้าวดูสักที



   เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาอีกฝ่าย ในใจก็ภาวนาให้กมลไม่ติดงานและยอมรับสาย ซึ่งดูเหมือนว่าครานี้คำอธิษฐานของเขาจะได้ผล


   [สวัสดีครับ]


   “ยุ่งอยู่หรือเปล่าครับคุณไอ”


   [ไม่ยุ่งครับ คุณณธิปมีอะไรหรือเปล่า]


   ฟังจากน้ำเสียงที่ไม่ได้เย็นชาเหมือนกับที่แล้วๆ มาของคนปลายสาย ชายหนุ่มจึงรีบฉวยโอกาสทันที “เย็นนี้คุณว่างไหม”


   [มีเข้าไปคูความเรียบร้อยในงานให้ลูกค้านิดหน่อยครับ ทำไมหรือ]



   คำตอบที่ได้ยินทำให้ณธิปรู้สึกห่อเหี่ยวลงไปหลายส่วน แต่ด้วยความรู้สึกคิดถึงชายหนุ่มจึงลองดึงดันดูอีกนิด เผื่อจะมีโอกาสได้พบกัน



   “เลิกดึกหรือเปล่าครับ ผมว่าจะชวนคุณทานมื้อเย็น”


   [อืม…ก็คงจะดึกสักหน่อย เอาไว้โอกาสหน้าได้ไหม] กมลปฏิเสธตามคาด


   “งั้นผมให้คุณนัดดีกว่า คุณไอว่างวันไหน อย่าบอกว่าไม่ว่างเลยสักวันนะ ผมจะบุกไปที่ I promise จริงๆ ด้วย” ณธิปทำทีว่าพูดติดตลก แต่ความจริงแล้วเขาคิดทำเช่นนั้นจริงๆ เพราะถ้าไม่ได้พบหน้ากมลนานเข้า เขาคงจะหมดความอดทนแน่ๆ


   [ขอดูตารางเดี๋ยวนะครับ] ปลายสายบอกเช่นนั้น ก่อนเงียบหายไปสักครู่ [วันอาทิตย์คุณว่างไหม]


   “ว่างครับ”



คนรอรีบตอบไปทันทีโดยยังไม่ทันได้เช็คว่าตนเองมีคิวหรือเปล่า แต่เพราะณธิปคือณธิป แม้ว่าในวันนั้นเขาจะมีนัดกับใครไว้ ชายหนุ่มก็สามารถทำให้มันขยับเลื่อนออกไปได้เพื่อรอพบกมล



   [งั้นเป็นช่วงบ่ายวันอาทิตย์นะครับ ส่วนเรื่องสถานที่คุณช่วยเลือกแล้วกัน]


   “ให้ผมไปรับที่บ้านไหม หรือคุณค้างคอนโด เราจะได้ไปด้วยกันเลย”


   [ผมมีธุระก่อนนิดหน่อย เอาเป็นว่าเราเจอกันที่ร้านเลยดีกว่าครับ]


   “เอางั้นก็ได้ครับ ยังไงผมจะแชร์โลเคชั่นไปให้นะ”


   [ครับ]


   “แล้วเจอกันครับ”


   [ครับ]



   ครั้นวางสายแล้วเลขาฯ หน้าห้องของผู้บริหารใหญ่ก็หอบแฟ้มเอกสารเข้ามา พร้อมกับแจกแจงรายละเอียดของงานแต่ละชิ้น



   “วันนี้ผมมีกำหนดการอะไรเร่งด่วนอีกหรือเปล่าเจี๊ยบ”


   “มีแค่เอกสารให้พิจารณาเท่านี้ค่ะ” หญิงสาวรายงาน


   “ไม่ได้มีนัดสำคัญกับใครไว้นะ”


   “ใช่ค่ะ” เธอพยักหน้ารับก่อนขณะค่อยๆ ส่งแฟ้มเอกสารให้ณธิปทีละแฟ้ม รอกระทั่งเรียบร้อยดีหญิงสาวจึงกลับออกไป ทิ้งให้ณธิปนั่งอยู่เพียงลำพังในห้อง



วันนี้ไม่มีงานเร่งด่วนที่ต้องสะสาง ทั้งยังไม่มีนัดที่ไหนอีก ชายหนุ่มจึงตัดสินใจว่าจะกลับไปพักผ่อน เนื่องจากอ่อนล้าจากการโหมงานหนักมาหลายวัน



ณธิปบอกเลขาฯ ไว้ว่าจะกลับ และสั่งให้คนขับรถมารับ สักพักจึงออกจากห้องทำงาน ทว่าระหว่างที่ลงลิฟต์มาชั้นล่าง ชายหนุ่มก็ได้พบกับเพื่อนนักแสดงของตนเองโดยบังเอิญ



“แกมาทำอะไรที่นี่เชษฐ์”


“แล้วแกกำลังจะไปไหนน่ะเล็ก” ทั้งสองถามขึ้นพร้อมๆ กัน ทว่าณธิปเลือกที่จะตอบก่อน


“ฉันกำลังจะกลับ”


“ผู้บริหารมันสบายอย่างที่เขาว่าจริงๆ สินะ กลับบ้านแต่หัววันเลย” พิเชษฐ์สัพยอกเพื่อน


“สบายอะไรล่ะ เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว นี่เพิ่งตกลงเรื่องส่วนต่อขยายที่เชียงใหม่เรียบร้อย ก็เลยมีเวลาหายใจหายคอบ้าง” ณธิปตอกกลับทันที เพราะนาทีนี้หากใครว่าเป็นผู้บริหารแล้วสบายเหมือนในละครหลังข่าว เขาจะเถียงให้หัวชนฝาทีเดียว


“เอาน่าอย่าโมโหสิ ไม่ได้เจอกันตั้งนาน ทำเกรี้ยวกราดใส่เพื่อนไปได้”


“เฮ้อ…” ณธิปถอนหายใจกับท่าทางเล่นหูเล่นตาของพ่อนักแสดงหนุ่ม ก่อนจะถามอีกครั้ง “แล้วตกลงว่ามาทำอะไรที่นี่ ว่างหรือไง”



ในแวดวงการบันเทิงไทย พิเชษฐ์ถือเป็นดาราที่ดังพอสมควร งานจึงค่อนข้างชุก ดังนั้นจึงหาได้ยากที่ชายหนุ่มจะว่างในช่วงที่มีถ่ายละครเช่นนี้ แต่เพราะนี่เป็นงานของน้องชายผู้จัดการส่วนตัวคนสนิท พิเชษฐ์จึงต้องปลีกตัวมาอย่างเสียมิได้



“มางานแต่งน้องชายพี่อ๋อมน่ะ แต่กว่างานจะเริ่มก็เย็นๆ ฉันเลยกะว่าจะขึ้นไปคุยกับแกก่อน ไม่คิดว่าจะกำลังกลับ แล้วนี่ฉันจะอยู่กับใครล่ะ”


“’งั้นไปนั่งที่เลานจ์ด้วยกันก่อน” ถึงจะอยากพัก แต่แค่นั่งคุยกับเพื่อนสักชั่วโมงสองชั่วโมงก็คงไม่เป็นไร ณธิปคิดก่อนเดินนำพิเชษฐ์ไปยังเลาจน์ของโรงแรม
   


พวกเขาเลือกที่นั่งที่เป็นส่วนตัว ก่อนจะสั่งเครื่องดื่มมาจิบแล้วคุยเรื่องสัพเพเหระไปเรื่อย กระทั่งได้เวลา ผู้จัดการของพิเชษฐ์จึงโทรมาหาเพื่อเรียกให้เข้าไปร่วมงาน
   


ณธิปเดินไปส่งเพื่อนที่ห้องบอลรูมเพื่อดูภาพรวมการบริหารของโรงแรมตนเองนิดหน่อย จากนั้นก็ตั้งใจว่าจะกลับ ทว่าก็เกิดเรื่องบังเอิญขึ้นอีกครั้ง และครั้งนี้ชายหนุ่มก็อดคิดไม่ได้แล้วว่า



   หรือนี่จะเป็นสิ่งที่เขาเรียกกันว่า พรหมลิขิต



   บุคคลที่ต่อให้มองเพียงด้านหลังก็จำได้ไม่ลืม ยืนอยู่ท่ามกลางแขกเรื่อในงาน แม้จะกลมกลืน แต่สายตาของณธิปกลับเห็นว่าคนคนนี้ช่างโดดเด่นเสียจนไม่อาจละสายตาไปได้



   ดวงตารีเรียวจ้องแผ่นหลังของใครคนนั้นอยู่เนิ่นนาน กระทั่งเขาหันหน้ามาและสายตาปะทะกัน ณธิปจึงรู้สึกตัวว่านาทีนั้นเขาดูเหมือนคนซื่อบื้อมากแค่ไหน



   เขาไม่รู้ว่าตนเองทำหน้าอย่างไร แต่กลับรู้สึกว่าก้อนเนื้อที่ซ่อนอยู่ในอกกำลังเต้นด้วยความยินดี



   กมลยิ้มทักทายตามมารยาท หากดวงตากลับมีแววสงสัยระริกอยู่วูบหนึ่ง ก่อนเจ้าตัวจะถูกใครบางคนเรียกให้หันกลับไป และเดินหายไปท่านกลางฝูงชนในที่สุด



   “ตกลงจะกลับ หรือจะอยู่ต่อกับฉันในงาน” พิเชษฐ์เอ่ยขึ้นหลังจากที่ยืนดูเพื่อนตกอยู่ในภวังค์แห่งรักมาสักพัก


   “เจ้าภาพเขาไม่ได้เชิญฉัน จะดูน่าเกลียดหรือเปล่า” อันที่จริงเขาก็ถามไปอย่างนั้น เพราะในใจมันตอบตั้งแต่แรกแล้วว่ายังไงก็ต้องอยู่ต่อ


   “เขาจะไปว่าอะไรล่ะ แกเป็นเพื่อนฉัน ใครๆ ก็รู้” พิเชษฐ์ว่า ก่อนจะพาเพื่อนไปถ่ายรูปกับบ่าวสาวที่แบล็คดร็อป
   










   งานวิวาห์นี้จัดการได้ดี ลำดับพิธีการเป็นระบบ คนไม่มากเท่าไหร่ ส่วนใหญ่มีแต่ญาติๆ และเพื่อนสนิท บรรยากาศจึงดูอบอุ่น ไม่ได้น่าเบื่อเลยสักนิด ทว่ากับคนที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบ่าวสาวอย่างณธิป เขาสารภาพตามตรงว่าค่อนข้างเบื่อนิดหน่อย ดีที่ยังมีคนให้คอยมองหาบ้าง



   กระทั่งเวลาผ่านไปจนถึงช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ คนที่ทำให้ณธิปยอมหน้าทนเข้ามานั่งในงานแบบเนียนๆ ก็ทำท่าคล้ายจะกลับ ผู้บริหารใหญ่ของโรงแรมจึงลุกตามไปด้วย หากไม่ลืมล่ำลาเพื่อนก่อนออกจากงาน



   พิเชษฐ์ไม่ได้รั้งเพื่อนสนิทไว้ เพราะรู้ว่าณธิปมาที่นี่ด้วยจุดประสงค์อะไร ทั้งยังสนุกกับงานเกินกว่าจะวุ่นวายกับเรื่องของเพื่อน ณธิปจึงไม่เสียเวลามากในการตามกมลไป



   ขณะที่ย่ำเท้าผ่านโถงทางเดินอยู่นั้น ชั่วแวบหนึ่งณธิปก็มีความคิดว่าเขาดูน่ารำคาญเกินไปหรือเปล่านะ แต่ด้วยความรู้สึกบางอย่างข้างในมันเรียกร้อง ชายหนุ่มจึงผลักความคิดนั้นไปเก็บไว้ข้างๆ ก่อน เพราะขอแค่ตอนนี้ได้มีเวลาสักอึดใจในการเดินไปส่งกมลที่รถ แม้จะถูกหาว่าน่ารำคาญไปสักหน่อยก็นับว่าคุ้มค่า



   ดูเหมือนฟ้าข้างบนจะเป็นใจให้ฝนเทกระหน่ำลงมาอย่างหนัก ซ้ำกมลก็ทำท่าเหมือนจอดรถไว้ด้านนอกเสียด้วย ณธิปจึงรีบฉวยโอกาสล้ำค่านี้เอาไว้ทันที



   ณธิปส่งสายตาหยุดพนักงานของโรงแรมไม่ให้ถือร่มและเดินเข้ามาหากมลในตอนนี้ ก่อนเป็นตัวเองที่เดินเข้าไปหยุดอยู่ด้านหลังของกมลแทน


“คุณไอ”


กมลหันมาหาตามเสียงเรียก “คุณณธิป”


“จอดรถไว้ข้างนอกหรือครับ” ณธิปถามยิ้มๆ ทั้งที่คาดไว้อยู่แล้ว


“ครับ” คนหน้าหวานพยักหน้ารับ พร้อมกับบ่นเบาๆ “แต่ดันลืมร่มไว้ในรถเสียได้ ทั้งที่อุตส่าห์ติดมาด้วยทุกครั้งแท้ๆ”


“ร่มเอาไม่อยู่หรอกครับ รอให้ฝนซาก่อนค่อยไปดีไหม”


“เอ่อ…” กมลอึกอัก “ไม่ดีกว่าครับ ผมอยากกลับไปพักผ่อน”


“ถ้างั้นคุณอยู่ตรงนี้กับผมก่อน เดี๋ยวผมจะให้คนไปเอารถของคุณมาให้”


“อย่าลำบากคนอื่นเลยครับ ผมขอยืมร่มของโรงแรมหน่อย พอจะมีไหมครับ”


“หึๆ ก็ต้องมีสิครับ” ณธิปคิดไว้อยู่แล้วว่ากมลต้องปฏิเสธที่จะอยู่ต่อ เขาหันไปมองพนักงานของตนแวบหนึ่ง พนักงานคนนั้นจึงรีกุลีกุจอเอาร่มคันใหญ่มาให้ทันที


“ขอบคุณมากครับ แล้วผมจะเอามาคืน--” ยังไม่ทันพูดจบ ณธิปก็ยื่นมือไปฉกร่มคันใหญ่ต่อหน้า ก่อนจะเอ่ย


“ผมจะไปส่ง”


“ไม่ต้องลำบากหรอกครับ ผมไปเองได้” กมลเอื้อมแขนไปตั้งใจดึงร่มมาไว้ในมือ ทว่าณธิปกลับไวกว่า


“ผมอยากเดินไปส่งคุณ”


“แต่ฝนมันตกนะครับ ร่มคันแค่นี้ เดี๋ยวก็เปียกพอดี”


“คุณดูสิ” คนเจ้าเล่ห์ชี้ออกไปด้านนอก “ฝนเริ่มซาลงกว่าเมื่อครู่นิดหน่อยแล้วนะ ผมว่าเรารีบไปกันเถอะ”


“เดี๋ยวคุณ!”



เหมือนกับเสียงประท้วงของกมลไม่มีความหมาย เพราะทันทีที่ร้องออกไป คนหน้ามึนก็จับต้นแขนแล้วดึงเบาๆ ให้เขาออกจากล็อบบี้ กมลไม่อยากสะบัดหรือปัดป้องจนทำให้เป็นเป้าสายตาของใครจึงได้แต่ยอมเดินตามไปทั้งอย่างนั้น



เสียงฝนตกกระทบร่มคันใหญ่ดังเปาะแปะ แม้มันจะซาลงเล็กน้อยอย่างที่ณธิปบอกเมื่อครู่จริงๆ แต่ก็ยังไม่น้อยพอ เพราะพวกเขายังต้องเดินเบียดกันใต้ร่มอยู่ดี



กมลรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย ทว่าณธิปกลับรู้สึกรื่นรมย์สุดๆ เขาอยากให้ทางไปลานจอดรถกลางแจ้งอยู่ไกลอีกสักหน่อย



“ทำไมคุณถึงชอบบังคับนักนะ” คนหน้าหวานอดไม่ได้ที่จะบ่นออกมาเบาๆ



ทั้งที่ตอนนั้นยังบอกว่าจะยอมทำตามที่เขาบอกทุกอย่าง หากเขาลำบากใจก็จะไม่บังคับ แต่ทำได้ไม่นาน นิสัยเผด็จการก็กลับมาอีกครั้ง



“ผมเปล่านะ” ณธิปรีบปฏิเสธทันที เขาไม่ได้บังคับ แต่นี่เป็นสิ่งที่เขาจำเป็นต้องทำอยู่แล้วมิใช่หรือ


“ที่ไหนกันล่ะครับ ดูสิ ไม่เห็นจำเป็นต้องตามมาส่งผมเลย”


“จำเป็นสิ มันเป็นหน้าที่อยู่แล้ว”


“ไมใช่หน้าที่สักหน่อย ผมดูแลตัวเองได้ครับ”


“แต่ผมอยากดูแลคุณ”


“…” กมลไม่รู้ว่าประโยคนี้จริงใจแค่ไหน แต่คำนี้ที่ออกมาจากปากณธิปมันก็ทำให้เขาถึงกับแย้งไม่ได้


“อันที่จริงอยากขับรถไปส่งที่บ้านด้วยซ้ำ” จอมเผด็จการยังคงเอ่ยต่อ


“ผมกลับเองได้ครับ รถก็เอามา…”


“ก็นั่นไง เพราะคุณต้องบอกแบบนี้ ผมถึงเดินมาส่ง”


“เฮ้อ…” ถึงจะเถียงไปจนถึงรถ กมลก็คิดว่าเขาไม่มีทางชนะ ดังนั้นจึงได้แค่ถอนหายใจออกมาเบาๆ


“คุณรำคาญผมหรือเปล่า”


“…”


ไม่ทันตอบ ณธิปก็พูดต่อ “อันที่จริงผมแค่อยากใช้เวลากับคุณเพิ่มอีกนิด เราไม่เจอกันหลายวันแล้วนะ”


“เดี๋ยววันอาทิตย์เราก็ได้เจอกันแล้ว”


“ตั้งวันอาทิตย์”


“แค่วันอาทิตย์เอง ไม่กี่วันก็ถึงแล้ว”


“นี่ก็ไม่กี่นาทีเอง ที่ผมเดินมาส่งคุณ” ชายหนุ่มเงียบไปอึดใจหนึ่ง “แค่ไม่กี่นาที อย่ารำคาญเลยนะไอ



อีกไม่กี่ก้าวก็ถึงรถแล้ว แต่หลังจากที่ณธิปพูดประโยคเมื่อกี้ กมลก็ไม่ตอบอะไรออกมาสักคำเดียว เงียบไปจนคนพูดใจหาย เขาไม่รู้ว่าตัวเองควรตีความกับความเงียบของอีกฝ่ายว่าอย่างไร



กมลจะเข้าใจแล้วอ่อนลง หรือ รำคาญจนหมดคำพูดกันแน่ ณธิปได้แต่เก็บความสงสัยไว้เท่านั้น เพราะกลัวว่าถ้าถามออกไป คำตอบอาจไม่เป็นอย่างที่เขาหวังก็ได้



ครั้นมาถึงรถ กมลก็เปิดประตูเข้าไปนั่ง โดยมีผู้บริหารหนุ่มยืนกางร่มให้จนประตูปิดสนิทอีกครั้ง เขาถูกละอองฝนสาดนิดหน่อยเสื้อผ้าจึงชื้นน้อยๆ ทว่าเมื่อมองไปยังคนที่ยืนอยู่ข้างรถ กมลกลับต้องเม้มปากแน่น เพราะร่างกายแถบหนึ่งของณธิปดูเปียกชุ่มไปหมด แม้แต่เส้นผมด้านนั้นยังมีหยดน้ำเกาะจนลู่และเสียทรง
   


นิ้วเรียวกดปุ่มให้กระจกเลื่อนลง กมลมองสบตาของณธิป ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนลง และเรียกชื่อที่ไม่เคยใช้เรียกอีกฝ่าย
   


“ตัวเปียกไปหมดแล้ว รีบกลับเถอะดีกว่านะ ขอบคุณที่มาส่งครับคุณเล็ก
   

เสียงฝนกระทบหลังคารถทำให้ณธิปได้ยินไม่ชัด แต่อะไรบางอย่างบอกณธิปว่าเมื่อครู่คุณไอเปลี่ยนคำที่ใช้เรียกเขาแน่ๆ “หะ…หื้ม?”


   “เจอกันวันอาทิตย์นะครับ”


   “ครับ” หากจะทักท้วงก็ไม่ทันเสียแล้ว เพราะอีกฝ่ายรีบตัดบทแล้วเลื่อนกระจกรถปิด ก่อนสตาร์ทเครื่องออกไป ทิ้งให้ณธิปยืนงงว่า หรือเมื่อครู่เขาหูฝาดไปเองกัน



   แต่เอาเถอะ ถ้ามีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งที่สอง และครั้งหน้ามันจะต้องได้ยินชัดจนหัวใจเขาเต้นดังกว่านี้แน่ๆ    









<><><><><><><><><><><><><>




/คลานเข่า

มาต่อแล้วค่าาาาา

ช่วงนี้ฝนค่อนข้างยุ่งมากหน่อย ขอโทษที่หายไปนานนะคะ



ส่วนตอนนี้มีเพลงมาให้คุณเล็ก 1 ท่อน

"อย่ารำคาญกันเลย นะเธอจ๋าาาา"  :laugh:

มีใครเริ่มหันมาเชียร์คุณเล็กนิดหน่อย ลงชื่อไว้เลยค่ะ เล็กจะตามไปกางร่มให้ /ผิด 55555


เจอกันตอนหน้าค่ะ


ละอองฝน.

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ได้แต่หวังว่าคงไม่ดีแตกนะ ถ้ารักจริงหวังแต่งก็พยายามต่อไปละกัน

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
อะ. มีเรียกชื่อเล่นด้วย

ออฟไลน์ pigarea

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ใจแข็งมากๆ เลย แอบสงสารคุณเล็ก

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1809
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
เริ่มจะใจอ่อนแล้วสิคุณไอ~

สู้ต่อไปคุณเล็ก :mew1: o13

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด