-->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ หลังแต่งงาน [03/07/2562]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ หลังแต่งงาน [03/07/2562]  (อ่าน 203194 ครั้ง)

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ตอนแรกก็เกลียดอิตาเล็กนี่มากเลย แต่ตอนนี้สงสาร เลยเชียร์ซะหน่อย
แต่ถึงยังไงก็ชอบไอมากกว่า เป็นนายเอกที่เก่ง เป็นตัวของตัวเอง เหนือกว่าเห็น ๆ

ออฟไลน์ khwanruen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-3
หวั่นไหวบ้างแล้วใช่มั้ยคะคุณไอ  o18

ออฟไลน์ Onlylyn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
คิดถึงเรื่องนี้มากเลยค่ะ แอบเชียร์คุณเล็กอยู่ห่างๆ อยากให้พี่ไอใจอ่อน แต่อีกใจนึงก็อยากให้ใจแข็งแบบนี้แหละ 5555 ชอบเวลาคุณเล็กหงอยหมดท่าเพราะหวั่นไหวอยู่ฝ่ายเดียว
รอตอนต่อไปนะคะ :L2:

ออฟไลน์ arnis

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
มาตามอ่านรวดเดียว 23ตอนเลย มาต่อเร็วๆนะ

ออฟไลน์ ละอองฝน

  • แมวดำ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 261
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +398/-2








คุณคือความรัก บทที่ 24




   หลังจากพบกับดังตฤณคราวนั้น ตอนนี้ผ่านไปเดือนกว่าแล้ว กมลที่หัวหมุนกับการทำงาน จึงไม่ได้ตามเรื่องที่ดินที่วานให้ดังตฤณช่วยเลย จนกระทั่งเช้าวันนี้มีข่าวแจ้งเข้ามาว่า ทินกร พนักงานบริษัทคนสำคัญที่เคยขอร้องให้กมลช่วยเหลือเรื่องหมู่บ้านถูกรุกล้ำที่ดิน ได้ขอลากลับบ้าน เนื่องจากผู้เป็นพ่อที่มีศักดิ์เป็นผู้ใหญ่บ้าน เข้าโรงพยาบาลกะทันหัน



   “ทินเขาว่ายังบ้าง พ่อเป็นอะไรมากหรือเปล่า” กมลถามน้องสาวด้วยความร้อนใจ

   “ทินไม่ได้บอกราบละเอียดอะไรมากค่ะพี่ไอ แค่บอกว่าขอลาเพราะพ่อเข้าโรงพยาบาล พออ้ายอนุมัติ เขาก็ขอบคุณแล้วไปทันที” หทัยว่า ก่อนตั้งข้อสังเกต “เอ…พี่ไอว่ามันจะเกี่ยวกับเรื่องที่ดินหรือเปล่าคะ”

   “พี่ก็ไม่แน่ใจ แต่สังหรณ์ใจไม่ดีเท่าไหร่ เดี๋ยวพี่วานให้อ้ายลองโทรหาทินดูหน่อยแล้วกัน”

   “ลองโทรแล้วค่ะ แต่เขาปิดเครื่อง” หทัยรายงาน

   “อย่างนั้นหรือ…” กมลเงียบไปอย่างใช้ความคิด ก่อนจะบอกให้น้องสาวออกไปทำงานในหน้าที่ของตนเองต่อ เพราะเขาเองก็จะเคลียร์เอกสารด้วยเหมือนกัน

   “อ้ายจะลองติดต่อน้องดูเรื่อยๆ นะคะ ถ้ามีข่าวคราวความคืบหน้า อ้ายจะรีบเข้ามาบอก”

   “อืม” กมลพยักหน้ารับ ก่อนจะหันมาทำงานต่อ แม้ในใจจะยังรู้สึกพะวงเรื่องทินกรอยู่ก็ตาม








   เมื่อมองออกไปนอกหน้าต่าง กมลเห็นท้องฟ้ามืดสลัว เมฆสีหม่นลอยต่ำจับกลุ่มกันไม่ห่างจากยอดตึก ต่อจากนั้นเพียงครู่เดียวท้องฟ้าก็สว่างวาบเป็นระยะๆ และหยาดฝนก็เทกระหน่ำลงมา


   ดีนะที่เช็คดูพยากรณ์อากาศไว้ก่อน กมลคิด เพราะวันนี้ I Promise  ดูแลงานเลี้ยงตอนเย็นของงานแต่งงานให้บ่าวสาวคู่หนึ่ง ทีแรกที่ตกลงกันไว้คืองานนอกสถานที่ในสวน ด้วยช่วงนี้เป็นฤดูร้อนจึงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่เมื่อกมลดูพยากรณ์อากาศแล้วพบว่าจะมีพายุฤดูร้อนพัดเข้ามา เขาจึงแจ้งและปรับเปลี่ยนสถานที่กันตามความเหมาะสม



   ชายหนุ่มคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยระหว่างรอแม่บ้านเอาอาหารเย็นมาให้ ทีแรกตั้งใจจะโทรไปเช็คงาน แต่กลับมีคนโทรเข้ามาเสียก่อน


   “กมลพูดสายครับ”

   [คุณไอครับ ผมทินกรนะ]

   “ทิน คุณพ่อเป็นยังไงบ้าง”

   [ดีขึ้นแล้วครับ]

   “แล้วท่านเป็นอะไร อยู่โรงพยาบาลไหน”

   [อยู่โรงพยาบาลในตัวอำเภอครับ] ทินกรเว้นวรรคไปครู่หนึ่ง เพราะไม่แน่ใจว่าควรบอกเรื่องนี้กับกมลดีไหม แต่เมื่อคิดดูดีๆ เขาก็นึกไม่ออกแล้วว่าจะขอให้ใครช่วย นอกจากกมล [คุณไอครับ พ่อของผมถูกทำร้าย คุณไอช่วยพวกเราด้วยนะครับ ผมไม่รู้จะพึ่งใครแล้วจริงๆ]

   “ถูกทำร้ายหรือ!” กมลถามด้วยความตกใจ “เรื่องมันเป็นมายังไง ไหนเล่าให้ผมฟังซิ”


   ทินกรบอกว่า หลังจากกมลช่วยส่งเรื่องร้องเรียนให้ ก็ไม่มีนายทุนคนไหนเข้ามาในพื้นที่ กระทั่งผ่านไปเกือบเดือน เรื่องราวที่ดูเหมือนจะสงบ กลับไม่สงบ เพราะมีคนเข้ามาถากถางที่ดินใกล้เชิงเขา ซึ่งเป็นที่ป่า ไม่มีใครจับจองมาก่อน จากนั้นก็ล้อมรั้วเป็นเขตห้ามคนเข้า ทั้งยังส่งคนมาเสนอซื้อที่ดินบริเวณใกล้เคียงของชาวบ้านในราคาที่สูงขึ้นกว่าเดิมถึงสองเท่า


พ่อของทินกรซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้าน จึงช่วยกันปลุกระดม ทั้งหว่านล้อมไม่ให้ชาวบ้านหลงเชื่อพวกนายทุนหน้าเลือดที่เข้ามาวุ่นวายด้วยหวังกอบโกยผลประโยชน์และรุกล้ำพื้นที่ป่า


แต่หลังจากมีการประท้วงจากชาวบ้านได้เพียงสองวัน พ่อของทินกรก็ถูกรถไม่มีป้ายทะเบียนเฉี่ยว ขณะที่กำลังจะไปในตัวอำเภอ


[ตอนนี้ชาวบ้านขวัญเสียกันมาก ผมกลัวว่าพวกเขาจะยอมขายที่ให้ไอ้พวกนั้น เพราะกลัวจะถูกทำร้ายเหมือนพ่อ]

“เราต้องทำอะไรสักอย่างแล้วล่ะ ทินแจ้งตำรวจเรื่องพ่อหรือยัง”

[แจ้งแล้วครับ แต่ยังไม่คืบหน้าเท่าไหร่ เพราะรถไม่มีป้ายทะเบียน ส่วนเรื่องบุกรุกป่า ผมก็แจ้งแล้ว แค่ไม่เห็นมีใครเข้ามาสำรวจอะไร เรื่องนี้คงเกี่ยวข้องกับพวกมีสีด้วย]

“เอาเถอะ ทินดูแลพ่อให้ดี ดูแลตัวเองด้วย ยังไงผมจะลองทำอะไรสักอย่างดู แล้วจะติดต่อไปเร็วๆ นี้”

[ขอบคุณครับคุณไอ]



หลังจากวางสายไปแล้ว กมลก็ถึงกับต้องนั่งกุมขมับ เรื่องนี้ดูจะใหญ่เกินกำลังของเขาไปมากจริงๆ แม้ไม่อยากยุ่งเกี่ยว ทว่าเขาก็ทำใจร้ายใส่คนที่เข้ามาของความช่วยเหลือไม่ได้


กระนั้น กมลก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองต้องช่วยเหลือทางไหนได้บ้าง


ขณะที่กำลังคิดไม่ตก อยู่ๆ ก็มีเสียงเคาะประตูห้อง ก่อนพนักงานคนหนึ่งจะก้าวเข้ามา


“คุณไอคะ มีแขกมาขอพบค่ะ”

“ใครหรือ…”

ไม่ทันได้คำตอบจากปากหญิงสาว แขกที่ว่าก็แทรกตัวเข้ามาในห้องเสียก่อน “ผมเอง”

“คุณเล็ก” กมลเอ่ยเรียกอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ “มาได้ยังไงครับ ไหนว่าไปภูเก็ตกลับวันเสาร์”

“ขอบคุณนะครับ” ณธิปหันไปขอบคุณพนักงานสาวที่นำทางมา ก่อนปิดประตูส่งเธอ แล้วจึงหันมาตอบกมล “งานผมเสร็จเร็ว เลยกลับมาก่อนกำหนด”

“อ้อ…แล้วคุณเล็กมีธุระอะไรกับผมหรือเปล่า จึงได้มาหาถึงที่นี่”

“ไม่มีหรอก แค่อยากเจอคุณ ถึงได้แวะมาหา คุณงานยุ่งหรือเปล่า” เมื่อลงจากเครื่องบิน ณธิปก็ตรงมาที่ I promise Tower ทันที เขาตั้งใจแค่แวะมาหาเหมือนที่บอกจริงๆ เพราะไม่ได้พบหน้ากมลมาหลายวันแล้ว ด้วยต่างคนต่างยุ่งกับการทำงานทั้งคู่

“ตอนนี้…” กมลชั่งใจครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบไปตามตรง “ไม่ยุ่งครับ กำลังจะกลับบ้าน”

“จริงหรือ โชคดีจัง” ประโยคหลังเหมือนชายหนุ่มจะพูดกับตนเองมากกว่า

“…ครับ” กมลพยักหน้ารับเบาๆ “คุณว่าแวะมาหา แปลว่าคุณว่างใช่ไหม”

“ว่างสิ ผมถึงได้มาหาคุณนี่ไง”

“ถ้าอย่างนั้น ออกไปทานข้าวด้วยกันไหมครับ” กมลไม่คิดว่าตัวเองจะวันที่เอ่ยประโยคนี้กับคนตรงหน้า ทว่าตอนนี้ เขากลับต้องพูดออกมาจนได้

ณธิปเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ จากนั้นก็รีบตอบจนลิ้นแทบพันกัน ทำเอากมลเกือบหลุดหัวเราะออกมา “ไปครับ ไปๆ”

อะไรจะตื่นเต้นขนาดนั้น

   ถ้าอย่างนั้นรอผมเดี๋ยวเดียว ขอเก็บของก่อน”
   
“ไม่ต้องรีบนะ ผมรอได้” คนพูด พูดพลางยิ้มหน้าบาน แม้รู้ว่าตัวเองเสียจริตมากจนเก็บอาการไม่อยู่ แต่ชายหนุ่มก็อดยิ้มไม่ได้จริงๆ
   

กมลแอบเหลือบตามองอีกฝ่ายนิดๆ ขณะก้มเก็บสัมภาระของตัวเอง ณธิปมาได้จังหวะพอดีกับที่หนุ่มหน้าหวานต้องการเอาเรื่องหนักใจปรึกษาใครสักคน ทั้งณธิปก็เป็นคนหนึ่งที่รู้เรื่องพวกนั้นดี ดังนั้นก็คงไม่แปลกหากเขาจะพูดคุยและขอคำปรึกษา


ทว่าเมื่อมองรอยยิ้มดีใจขนาดนั้น กมลก็ชักลังเลใจว่าตัวเองคิดถูกหรือไม่ที่ชวนคนคนนี้ไปทานข้าวด้วย หากก็ได้ทำลงไปแล้ว คงจะกลับลำไม่ทัน


แค่ไปกินข้าวแล้วก็คุยเรื่องที่ดิน คงไม่เป็นอะไรหรอก กมลได้แต่คิดในใจ และเมื่อเก็บของเสร็จเรียบร้อย พวกเขาก็ออกไปที่ลานจอดรถด้วยกัน ท่านกลางสายตาของพนักงานหลายคนซึ่งมองมาด้วยความสงสัยระคนประหลาดใจ







ครั้นถึงลานจอดรถ กมลก็พบปัญหาใหญ่เข้าให้ เนื่องจากชายหนุ่มลืมไปเสียสนิทว่า รถของหทัยนำไปตรวจเช็คสภาพ วันนี้พวกเขาพี่น้องจึงมาทำงานพร้อมกัน และตอนนี้ หันก็นำรถของเขาไปรับหลานๆ ที่โรงเรียน



“มีอะไรหรือเปล่าคุณ” ณธิปหันมาถามขณะกำลังจะเดินแยกไปที่รถของตัวเอง เพราะคิดว่าอย่างไร กมลก็คงปฏิเสธที่จะนั่งรถไปกับเขาเหมือนเช่นทุกที

“ผมให้อ้ายเอารถไปรับหลาน…” เขาอยากจะขอให้รอน้องสาวกลับมาก่อน เพราะไม่อยากให้ณธิปต้องไปรับไปส่ง แต่ก็รู้ดีว่ามันเสียเวลามากเกินไป

“ถ้าอย่างนั้นก็ไปรถผมสิ”

“คงต้องเป็นแบบนั้น” กมลพยักหน้ารับ “ขอโทษที่รบกวนนะครับ ทั้งที่ผมเป็นคนชวนคุณแท้ๆ”

“รบกวนอะไรกัน อย่าคิดมาก ไปที่รถเถอะ วันนี้ผมมีคนขับรถมาด้วย คุณอยากไปที่ไหนก็บอกกับเขาแล้วกัน” ณธิปคิดว่าตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่เขาเทียวไล้เทียวขื่อกมล เขารู้จักนิสัยของอีกฝ่ายดีในระดับหนึ่ง ยามนี้คนหน้าหวานคงนึกเกรงใจเขาจริงๆ แต่เป็นเพียงเหตุผลข้อหนึ่งเท่านั้น หากส่วนที่กมลกังวลจริงๆ น่าจะเป็นการนั่งรถไปไหนต่อไหนกับเขาสองคนมากกว่า

“ครับ” ยิ่งเห็นกมลทำหน้าโล่งใจที่ได้ยิน ณธิปยิ่งมั่นใจ

ขี้ระแวงจริงๆ


แม้ใจหนึ่งจะรู้สึกเจ็บนิดๆ ที่อีกฝ่ายไม่ยอมไว้ใจเขาเสียที แต่อีกใจก็คิดว่าเพราะกมลเป็นแบบนี้ เขาถึงชอบไม่ใช่หรือ


ไม่หรอก…ความจริงไม่ว่าคุณไอจะเป็นอย่างไร เขาก็ชอบ นี่สิถึงจะถูก


ณธิปเผลอยิ้ม เมื่อเห็นคนหน้าหวานเดินไปที่รถของเขา แล้วเอ่ยขอบคุณทันทีที่คนขับเปิดประตูรถให้


กมลทำให้ณธิปยิ้มบ่อยขึ้น ยิ้มให้กับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ จนบางทีก็นึกสงสัย ว่าทำไมจึงเป็นได้ถึงขนาดนี้ ทำไมจึงค่อยๆ เปลี่ยนไปจากณธิปคนเดิม เพราะอะไรกัน…


แต่แล้วชายหนุ่มก็หยุดหาคำตอบ เพราะไม่ว่ากมลจะทำให้เขาเปลี่ยน หรือความรักทำให้เขาเปลี่ยน อะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับว่า เขามีความสุขที่เป็นแบบนี้
   

เมื่อนั่งประจำที่เรียบร้อย คนขับรถจึงถามอย่างสุภาพ ว่าเจ้านายต้องการให้พาไปที่ไหน
   

ณธิปจึงหันมาถามคนข้างๆ ต่ออีกทอด “คนชวนว่ายังไงครับ”
   

“อืม…ไม่รู้เหมือนกัน คุณอยากกินอะไรไหม ผมให้คุณเลือกบ้างแล้วกัน” เพราะทุกครั้งที่ได้ไปทานข้าวกัน กมลจะเป็นฝ่ายตัดสินใจตลอดว่าจะกินอะไร ครั้งนี้จึงผลัดให้ณธิปคิดบ้างจะได้เท่าเทียมกัน

   “ให้ผมเลือกหรือ” เจ้าของดวงตาทรงเสน่ห์ทวงซ้ำ
   
“ครับ คุณเลือกสิ”
   
“วันนี้คุณใจดีผิดปรกติเลยนะเนี่ย” ณธิปว่า
   
“เร็วสิ คนรถรออยู่นะครับ” กมลกระตุ้น และทำไม่สนใจสายตายพราวระยับที่จับจ้องอย่างยินดี
   
ผู้บริหารหนุ่มคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะโพล่งออกมา “อยากกินส้มตำ”
   
“หา…ส้มตำหรือครับ” กมลทวงซ้ำ ราวกับได้ยินไม่ชัดพอ
   
“ครับ ผมอยากกินส้มตำกับไก่ทอด”
   
“คุณไม่ชอบไม่ใช่หรือ” ที่ถามออกไปเช่นนั้น เพราะกมลจำได้ว่าเมื่อวันเกิดหลานๆ ที่ผ่านมา ณธิปแทบไม่แตะต้องเมนูนี้เลยด้วยซ้ำ
      
“ใครว่าผมไม่ชอบ”
   
“ก็คราวก่อนคุณไม่ค่อยกิน”
   
“คุณไอแอบสังเกตผมหรือครับ ถึงได้รู้ว่าผมไม่กิน”
   
“ก็…” กมลชะงักไปเมื่อได้ยินคำถาม
   
นี่คุณเล็กกำลังไล่ต้อนเขาอยู่หรือ หนุ่มหน้าหวานได้คิด
   
“ก็อะไรครับ” ณธิปถามซ้ำ ราวกับจะยืนยันความคิดของกมล
   
“ช่างเถอะครับ ว่าแต่ คุณจะกินจริงๆ ใช่ไหม” เมื่อรู้ตัวว่าถูกต้อน กมลก็ไม่ปล่อยให้ตัวเองเป็นรอง เขารีบเสเปลี่ยนเรื่อง
   
“ครับ” คนเจ้าเล่ห์ยิ้มอย่างรู้ทัน แต่ก็ไม่ได้รุกไล่อะไรอีก ด้วยสิ่งที่เขาต้องการมันต่อจากนี้ต่างหาก
   
“ถ้าอย่างนั้นก็ตามใจ มีพอรู้จักร้านอร่อนอยู่เหมือนกัน” ขณะที่กมลกำลังจะบอกเส้นทางแก่คนขับรถที่ทำตัวราวอากาศธาตุมาพักใหญ่ ณธิปกลับแรกขึ้นมาเสียก่อน
   
“ไม่ต้องไปที่ร้านหรอก”
   
“ทำไมล่ะ”
   
“ผมอยากกินฝีมือคุณมากกว่า ทำให้กินหน่อยได้ไหมครับ”
   
คำขอที่ได้ยิน ทำเอากมลเกือบร้อง ‘ห๊ะ!’ ออกมา ทว่าเขาเกือบอาการได้เสียก่อน
   
“เราจะไปทำที่ไหน”
   
“บ้านคุณไง แต่ถ้าไม่สะดวก ที่คอนโดก็ได้นะ ห้องของผมมีอุปกรณ์ครบทุกอย่าง” คนเจ้าเล่ห์แสร้งทำหน้าซื่อตาใส ก่อนจะกล่าวเสริมคำพูดให้ดูน่าเชื่อถือมากขึ้น “ผมอยากกินจริงๆ นะ วันนั้นได้ชิมไปนิดเดียว มันอร่อยมาก ไม่เคยกินส้มตำแบบนี้ที่ไหนมาก่อน เสียแต่มันค่อนข้างเผ็ด แถมใส่กุ้งแห้ง ปลาร้า แล้วก็ปูดอง เป็นของที่ผมแพ้แทบทั้งนั้นเลย คุณช่วยทำให้ผมกินอีกครั้งไม่ได้หรือครับ”
   

คนขับรถที่อดทนนั่งนิ่งๆ มาโดยตลอด เกือบหลุดหัวเราะเพราะท่าทางออดอ้อนของเจ้านายเสียแล้ว แต่ก็ต้องพยายามกลั้นเอาไว้ เพราะกลัวจะทำให้แผนของเจ้านายเสีย

   “ผมไม่สะดวกเท่าไหร่” กมลปฏิเสธตามตรง ซึ่งนี่ก็เป็นเรื่องที่ณธิปคาดไว้อยู่แล้ว

   “คิดแล้วว่าคุณต้องพูดแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นก็ตามใจคุณเถอะครับ คุณเป็นคนชวน ผมกินได้หมด เพราะนอกจากส้มตำฝีมือคุณ ผมก็นึกไม่ออกแล้วว่าอยากกินอะไร” ชายหนุ่มว่าพลางหันหน้ากลับไปมองตรง ไหล่ลู่ ทำหน้าหงอยๆ เหมือนเด็กโดนขัดใจไม่มีผิด

   “เอ่อ…”


ให้อีกฝ่ายทำหน้าขัดใจ ฮึดฮัด หรือหัวเสีย ยังดีกว่าทำหน้าหงอยๆ แบบนี้ เพราะกมลไม่รู้จะรับมืออย่างไร จริงอยู่ที่เขาเป็นคนชวน ซ้ำยังไม่ต้องทำตามที่ณธิปต้องการก็ได้ แต่ท่าทางน้อยอกน้อยใจเหมือนเด็กๆ นั่น ก็ทำให้กมลนึกใจอ่อน และเมื่อคิดถึงวันเกิดหลานๆ กมลก็รู้สึกผิดกับณธิปขึ้นมานิดหน่อย ที่ทำให้ณธิปดูเหมือนเป็นส่วนเกิน ทั้งที่อีกฝ่ายตั้งใจมาอวยพรให้เด็กๆ
   

“ตกลงว่าจะให้ผมไปร้านไหนดีครับ” สถานการณ์ในห้องโดยสารตึงเครียดเสียจนคนขับต้องเอ่ยปาก
   
“ไปคอนโด XXX ของคุณเล็กครับ อ้อ…แต่ช่วยแวะซุปเปอร์มาร์เก็ตที่อยู่ข้างๆ คอนโดด้วยนะครับ ผมต้องซื้อของ”

   “ครับ” คนขับรถยิ้มออกทันที เพราะแผนของเจ้านายสำเร็จดังใจ
   

ส่วนคนที่มารยามากก็เผยยิ้มออกมาเช่นเดียวกัน
   

“ขอบคุณนะไอ”
   
“ไม่เป็นไรครับ ก็ผมชวนคุณเองนี่นะ อีกอย่าง ไปทำที่ห้องผมดีกว่า ผมถนัดใช้ครัวห้องตัวเองมากกว่า”
   
“ได้สิ แบบนั้นยิ่งดีเลย” คนเจ้าเล่ห์ว่า ก่อนจะหันกลับมา โน้มตัวเข้าไปสบตาในระยะประชิด แล้วเอ่ยด้วยเสียงเบาๆ ราวกับกระซิบให้ฟังกันสองคน “ก็เพราะใจดีแบบนี้ แล้วจะไม่ให้หลงรักยังไงไหว”
   

คำก็หลง คำก็รัก แม้กมลจะยังไม่เชื่อใจอีกฝ่ายนัก ทว่ากมลก็ยังเป็นมนุษย์ มีความรู้สึก มีหวั่นไหวได้เหมือนปุถุชนทั่วไป ยิ่งระยะห่างของความสัมพันธ์ที่สั้นลง ความคุ้นเคยสนิทสนมก็ทำให้บางครั้ง หัวใจอาจมีเผลอไผลไปบ้าง


   แม้จะชั่วขณะหนึ่ง ก็ต้องยอมรับว่าก้อนเนื้อในอกของเขา เต้นผิดจังหวะเพราะคนเจ้าเล่ห์คนนี้จริงๆ





<><><><><><><><><><><><><><><><><>



อย่าลืมจุดประสงค์ที่แท้จริงสิคะ
เราจะเลี้ยงข้าวเพราะคุยธุระกับเค้า
คุณไอของบ่าวต้องเข้มแข็งไว้ 555555


หายไปนานเลย ขอโทษด้วยนะคะ
ฝากตอนนี้ด้วยค่ะ


ละอองฝน.

ออฟไลน์ khwanruen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-3
คุณไอกลับมาแล้ว คิดถึง  :mew1:
หวั่นไหวอีกแล้วนะคุณไอ คุณเล็กก็เจ้าเล่ห์ไม่เบา  :katai2-1:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
เรื่องของไอเป็นปัญหาใหญ่ก็ต้องทุ่มทุนกันหน่อยสิ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
มาแล้ว

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
อนาคตต้องฝ่าฝันอุปสรรคที่โหดสุดๆแน่ๆมีเรื่องกะคนมีอิทธิพล

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
คุณเล็กแผนสูงมว๊าก..กกกกกกกกกก    :hao3: :hao3: :hao3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ MNIMD

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
  คุณเล็กของบ่าว อ่านแล้วชอบคุณเล็กมากๆเลยค่ะ  ถ้าไอเล่นตัวอีกนิดจะไปลากคุณเล็กมาเป็นของตัวเองแล้ว ตอนแรกนึกว่าคุณเล็กจะเป็นผู้ชายที่ร้ายกาจกว่านี้ เพราะอ่านเรื่องโปรดจงรักแล้วคิดว่าคุณเล็กร้าย แต่ความจริงคือคุณเล็กเป็นเด็กที่แค่คิดว่าพ่อไม่รักตัวเอง พี่ชายตัวเองดีกว่าตัวเองเสมอ คุณพ่อก็ไม่น่าปากหนักเลยทั้งๆที่รักลูกและก็พร้อมให้อภัยลูกขนาดนี้ ปัญหาในอนาคตคาดว่าคุณพ่อน่าจะช่วยไอกับคุณเล็กแก้ปัญหาแน่ๆ
  คุณเล็กในตอนแรกเหมือนเด็กอยากเอาชนะ อยากให้คุณพ่อสนใจ อยากดีเทียบเท่าพี่ชาย อ่านแล้วสงสารคุณเล็ก เลยทีมคุณเล็กแต่แรกเป็นต้นมา แต่เรื่องคุณเกษเข้าใจเล็กนะว่าอยากให้คุณพ่อมองตัวเองให้ดีขึ้น แต่ดันเมาเลยล่ม แต่ดีแล้วค่ะที่ล่มถึงแม้จะได้แลกหมัดของไอมาก็ตาม คุณไอใจแข็งมากๆ จนน้ำแข็งหิมาลัยยังต้องยอม ชอบตรงที่คุณเล็กจีบไอไม่ถูกวิธีแล้วอกหัก ปรึกษาคนนู้นคนนี้แล้วใช้วิธีจริงใจเข้าหา
  นี่สงสารคุณเล็กตอนหิ้วเค้กไปให้ไอในวันเกิด ทำไมคะทำไมคุณไอไม่กินกับคุณเล็ก
คุณเล็กนี่รักใครทุ่มสุดตัวเลยจริงๆ ถึงแม้ตอนแรกจะโกรธที่ไปมีอะไรกับคิว แต่ก็เหมือนพอนอนแล้วเห็นดวงตาธรรมว่าต่อให้กี่คนที่เหมือนไอแต่ก็ไม่ใช่ไอ ก็พอให้อภัยได้ค่ะ
  แอบกรี๊ดตอนพี่เมฆมางานวันเกิดหยินหยาง มาเจอกับศัตรูหัวใจคนเก่า แอบสงสัยเล็กๆว่าพี่ภัทรมาจีบอ้ายหรือเปล่า
  กลัวดราม่าเรื่องที่ดินจะเกิดขึ้นจัง อยากให้ทั้งคู่ผ่านมันไปได้ พ่อของคุณเกษนี่คือที่สุดแล้ว เป็นคุณเกษคงทนไม่ได้ บีบบังคับตัวเองเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง มันไม่ใช่วิถีของคนเป็นพ่อนะคะพ่อ แล้วยังจะมาบุกรุกที่ดินอีก
  ชอบนิยายคุณละอองฝนมากๆค่ะ รวมเล่มเมื่อไหร่จะไม่พลาดแน่ๆค่ะ (///▽///)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-10-2017 10:35:25 โดย MNIMD »

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
แงงงงงง โคตรเจ้าเล่ห์ ฮืออ
คุณเล็กของพรี่ ทำไมน่ารักขนาดนี้
คุณไอคงค่อยๆใจอ่อนอ่ะนะ
อ่านมา 23 ตอน ตกใจมากที่นายเอกเพิ่งหวั่นไหว 5555
แบบว่า ยู้ววว เอางัยดี
เดาว่าคุณไอน่าจะเอาเรื่องลำบากใจมาให้คุณเล็กอีกแล้ว

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
เสือก็คือเสือวันยังค่ำ

ออฟไลน์ ละอองฝน

  • แมวดำ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 261
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +398/-2






คุณคือความรัก ตอนพิเศษ ลอยกระทง







   ลอยกระทง เป็นประเพณีไทยที่สืบทอดมาอย่างยาว เป็นเทศกาลที่คนออกมาสนุกสนานรื่นเริง แต่สำหรับณธิปแล้ว ลอยกระทงก็ถือเป็นวันธรรมดาวันหนึ่งที่เขายังต้องตื่นแต่เช้าไปทำงาน ถึงจะมีกินดื่มบ้างตามประสา ทว่าไม่ใช่เพราะเป็นเทศกาลนี้


   ด้วยตั้งแต่เรียนจบณธิปก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับวันนี้อีก เขาไม่ใช่เด็กเล็กๆ ที่จะรบเร้าขอให้คุณย่าพาเที่ยวงาน ปล่อยโคม เล่มประทัด หรือพาไปลอยกระทงริมน้ำแม่ปิง ความสำคัญของมันจึงเลื่อนหายไปตามวัยและภาระหน้าที่


   ทว่าเทศกาลลอยกระทงปีนี้ต่างออกไปจากหลายปีที่ผ่านมา เพราะเขาได้รับข้อความจากกมลว่า ที่ I promise มีจัดงานลอยกระทงในช่วงเย็น ถ้าณธิปว่างจะมาเที่ยวก็ได้


   ความจริงหลังจากคุยกันมาสักระยะ การที่กมลจะส่งข้อความมาหาก่อนก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องแปลกอะไร ซ้ำนี่ก็คงส่งมาตามมารยาทเช่นทุกที แต่ทุกครั้งที่ได้รับคำเชื้อเชิญก่อน ณธิปก็มักจะดีใจจนหุบยิ้มไม่ได้ เพราะอย่างน้อยเขาก็เป็นคนหนึ่งที่กมลยังคิดถึงบ้าง


   ตามปรกติ แม้จะเหลวไหลแค่ไหน แต่ถ้าเป็นเรื่องงาน ณธิปจะให้ความสำคัญเต็มที่ ทว่าวันนี้ วันที่ได้รับคำเชิญจากคนหน้าหวาน เขาก็ยอมแหกกฎของตัวเอง แล้วสั่งให้เลื่อนงานช่วงบ่ายไปก่อนทันที ซึ่งโชคดีที่งานที่นั่นไม่ได้สำคัญมากจนส่งผลเสียหายร้ายแรงอะไร


   ดังนั้นหลังทานมื้อเที่ยงกับผู้ร่วมลงทุนคนสำคัญเรียบร้อย ชายหนุ่มก็รีบบึ่งรถไปที่ I promise Tower ทันที ด้วยหวังใจว่าจะมีโอกาสอยู่ใกล้ชิดกมลให้นานที่สุด ให้สมกับไม่ได้พบกันมาร่วมอาทิตย์


   แต่เมื่อมาถึง ณธิปก็มีเรื่องให้หงุดหงิดใจขึ้นมาเรื่องหนึ่ง เพราะก่อนที่จะได้เจอกับกมล เขาดันพบเข้ากับศัตรูเก่า ที่ยังชอบส่งสายตาอาฆาตไม่เลิกรา ทั้งที่ความแค้นซึ่งมีต่อกันมันผ่านมานานมากแล้ว


   “ไม่คิดว่าจะได้เจอนายที่นี่” ณธิปทักขึ้นมาด้วยน้ำเสียงยียวนอันเป็นเอกลักษณ์ หนุ่มหน้าดุที่กำลังกำลังหิ้วของตามหลังคนรักจึงชะงัก และมองมาด้วยสายตาเชือดเฉือน

   “ผมต่างหากที่ต้องบอกว่า ไม่คิดว่าจะได้เจอคุณที่นี่” เมฆาว่า “ใครเชิญมาล่ะ”

   “จะใครล่ะ ถ้าไม่ใช่เจ้าของงานน่ะ” ณธิปยิ้มอวดราวกับเป็นเด็กๆ

   “เขาเชิญตามมารยาทหรือเปล่า ไม่ใช่ว่ามาแล้วเป็นส่วนเกินแบบคราวที่แล้วนะ” ก่อนจะโต้กลับด้วยน้ำเสียงเย็นชาเจือเยาะเย้ยน้อยๆ และนั่นทำให้ณธิปหวนนึกไปถึงงานวันเกิดของหยินและหยาง วันที่เขาถูกกันให้เป็นส่วนเกินโดยสมบูรณ์


   คิดแล้วชายหนุ่มก็หน้าตึงทันที ทว่ายังไม่ทันโต้กลับ เสียงของใครอีกคนก็ดังแทรกขึ้นมาขัดจังหวะเสียก่อน


   “พี่เมฆครับ ไปกันเถอะ”


จงรักเดินย้อนกลับมาเพราะหันมาเห็นว่าคนรักของตนเองกำลังทำท่าแง่งๆ อยู่กับผู้บริหารหนุ่ม แต่เมื่อเห็นว่าเมฆายังยืนปักหลักทำหน้าเหมือนคนที่เหนือกว่าใส่ณธิป หนุ่มตัวเล็กจึงพยายามคลี่คลายสถานการณ์ ด้วยไม่อยากให้บรรยากาศของงานรื่นเริงเริ่มแย่ตั้งแต่ยังไม่เริ่ม


“คุณเล็กก็เข้าไปในงานเถอะครับ พี่ไอคงรออยู่”

“ขอบคุณครับ คุณนี่น่ารักจริงนะ” ณธิปยิ้มหวานให้จงรัก ใจหนึ่งก็นึกขอบคุณ อีกใจก็อยากกวนประสาทเมฆาด้วย

“…ขอบคุณครับ” เห็นณธิปยิ้มหวาน ทำตาวาววับใส่ทีเล่นทีจริง จงรักก็ได้แต่ตอบขอบคุณอึกๆ อักๆ

“รัก” เมฆาเรียกคนรักเสียงเย็น

“ครับ…”

”ไหนเมื่อกี้ว่าจะเข้าไปข้างในไง ไปได้แล้ว” ครั้นพูดจบเขาก็ถลึงตาใส่ณธิปไปที ก่อนจะจับมือและดึงให้หนุ่มตัวเล็กเดินตามเข้าไปในตัวตึกทันที

“เฮ้อ~” ณธิปถอนหายใจ พลางส่ายหัวเบาๆ


เขาไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับคนรักคนนี้ของเมฆา เพราะทั้งใจมีเพียงแต่คนใจร้ายคนนั้นที่ครอบครอง แต่พอเห็นเมฆาทีไร มันก็อดไม่ได้ที่จะแกล้งสัพยอกอีกฝ่าย เพื่อดูสีหน้าเย็นชานั่นเปลี่ยนไปร้อนรน และหงุดหงิดหัวฟัดหัวเหวี่ยง


หากใครจะว่าเขาโรคจิต เขาก็ไม่ปฏิเสธหรอก


ณธิปปัดเรื่องไร้สาระออกจากหัว ก่อนเดินเข้าตึกสำนักงานของกมล ทันทีที่ผ่านซุ้มประตูเข้าไป เขาก็พบกับพนักงานหลายคนกำลังวิ่งวุ่นเพื่อจัดสถานที่จัดงานลอยกระทงในตอนค่ำ


ชายหนุ่มหยุดยืนเพื่อมองหากมล ทว่าในโถงทางเดินด้านหน้านั้นไม่มีคนที่เขาตามหาอยู่ มีเพียงชายหนุ่มหน้าตากวนประสาทคนหนึ่งซึ่งมองมาทางณธิปอยู่ก่อนแล้ว


ครั้นณธิปยิ้มให้ อีกฝ่ายก็เดินเข้ามาหาเขาทันที


“พี่เล็ก มาเที่ยวงานลอยกระทงที่นี่เหมือนกันหรือครับ”

“อืม” ณธิปพยักหน้า “วุ่นวายกันน่าดูเลยนะ ฉันคิดว่าเป็นงานเล็กๆ ในบริษัทเสียอีก”

“ก็งานเล็กๆ นั่นแหละครับ แต่ก็นะ ถึงจะเป็นงานเล็กงานน้อยยังไง คุณไอเขาก็เต็มที่ตลอดอยู่แล้ว พวกพนักงานเองก็สนุกไปด้วยอีกต่างหาก เพราะมีประกวดโน้นนี่ มีรางวัลให้ด้วย เหมือนช่วยกันจัดปาร์ตี้ อะไรทำนองนั้น”


   ณธิปฟังแล้วมองภาพ เขาเองก็รู้สึกว่าทุกคนดูสนุกกับงานจริงๆ แม้ต้องเหนื่อยก็ตาม เขาค่อนข้างชอบที่กมลให้ความสำคัญกับพวกพนักงาน แม้ที่นี่จะใหญ่โตพอควร แต่ก็อยู่กันเหมือนระบบครอบครัวจริงๆ


   “ว่าแต่คุณไออยู่ไหนล่ะ”

   “เอ้…อยู่ไหนนะ” คนถูกถามยิ้มกวนประสาท

   “ไอ้กลอง บอกมาดีๆ”

   “อยู่ที่สวนด้านหลังครับ กำลังรอทำกระทงกันอยู่ แต่จงรักมาเมื่อกี้ ป่านนี้คงเริ่มทำกันแล้ว”

   “งั้นฉันไปล่ะ”

   “โถ่…ไม่อยู่คุยกับผมอีกหน่อยเหรอพี่ นานๆ จะเจอพี่รหัสกับเขาสักที”

   “ฉันอยากเจอแกตายล่ะ ไปแล้วนะ เสียเวลา”

   “ครับๆ” กลองโบกมือให้พี่รหัสพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทางชอบใจที่ได้แกล้งอีกฝ่าย


   โลกนี้มันกลมกว่าที่ณธิปคิดไว้มาก เขาเพิ่งรู้เมื่อไม่นานมานี้ว่าน้องรหัสของตนเองทำงานเป็นลุกจ้างอยู่ที่ I promise Tower ดังนั้นณธิปจึงใช้ความเป็นพี่ให้เป็นประโยชน์ โดยการใช้น้องสายรหัสของตนเองคอยสืบข่าวคราวความเป็นไปของกมลให้ โดยมีค่าตอบแทนเล็กๆ น้อยๆ ให้ด้วย


   เมื่อเดินหลุดออกมาจากตัวอาคาร ด้านหลังตึกก็ปรากฏให้เห็นสระน้ำธรรมชาติขนาดย่อมๆ ภูมิทัศน์ที่ถูกสรรสร้างโดยฝีมือมนุษย์ ดูสวยสมจริงจนไม่น่าเชื่อว่ากำลังยืนอยู่ใจกลางกรุงเทพ


   และที่เต้นท์สีขาวริมสระมีผู้คนนั่งล้อมวงกันอยู่เป็นจำนวนมาก ณธิปมองไล่สายตาหาหนึ่งในบรรดาผู้คนที่ก้มหน้าก้มตาทำงานฝีมือจากใบตอง เพียงครู่เดียวเขาก็พบหนุ่มหน้าหวานนั่งโดดเด่นอยู่ไม่ใกล้จากคนรักของเมฆานัก


   เห็นดังนั้นณธิปจึงเดินเข้าไปหาเป้าหมายทันที


   ทันทีที่เดินเข้าไปใกล้ พนักงานหลายๆ คนก็หันมามองทางณธิปเป็นตาเดียว แล้วต่อจากนั้นทุกคนก็พากันขยับเพื่อหลีกทางให้ชายหนุ่มเดินไปหาเจ้านายของตนโดยไม่ได้นัดหมาย พอกมลเห็นความเคลื่อนไหวนั้น เขาจึงเงยหน้าขึ้นมองคนที่เพิ่งมาใหม่


   “มาเร็วนะครับ เสร็จงานแล้วหรือ” กมลทัก

   “เรียบร้อยแล้วล่ะ แต่ถึงยังไม่เสร็จ ก็รอก่อนได้ แต่ที่จะมาหาคุณ ผมรอไม่ได้”


พนักงานแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งน้อยใหญ่ ต่างก็มองหน้ากันด้วยท่าทางอิหลักอิเหลื่อ เพราะไม่คิดว่าณธิปจะหยอดเจ้านายตนซึ่งๆ หน้า ทั้งที่คนนั่งกันเยอะเช่นนี้ แต่คุณไอของทุกคนก็ไม่มีท่าทีหวั่นไหว ได้แต่ยิ้มบางๆ ตามวิสัย แล้วขยับที่ให้ณธิปนั่งด้วย


“ทำกระทงด้วยกันสิครับ จงรักกำลังสอนพอดี” กมลชักชวน

“ผมไม่ค่อยเก่งงานฝีมือน่ะ ลอยกระทงเดียวกับคุณไม่ได้เหรอ” ณธิปว่า

“กระทงใครกระทงมันสิคุณ ผมก็ไม่เก่งเหมือนกัน”

“งั้นเราช่วยกันทำกันก็ได้” ณธิปเสนอ ทว่าก่อนที่กมลจะตอบอะไร เสียงของใครคนหนึ่งก็เอ่ยขึ้นมาลอยๆ

“ไม่มีน้ำยา”

“พี่เมฆครับ” จงรักรีบปรามคนรักของตนเอง ที่วันนี้ดูเหมือนจะเกเรกว่าทุกวัน

“ว่าไงครับ” เมฆาก้มลงมองน้อง

“ตั้งใจทำของตัวเองสิครับ” จงรักอยากบอกพี่เมฆาว่าอย่าหาเรื่องณธิปเลย เพราะกลัวพี่ชายลำบากใจ ด้วยไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองคนเป็นอย่างไร

“พี่ก็ตั้งใจทำอยู่นี่ครับ” เมฆาบอกพลางยื่นกลีบใบตองเบี้ยวๆ ที่เพิ่งพับให้คนรักดู

“หึ…ขนาดตั้งใจแล้วนะ” ณธิปแอบเหน็บ

“ก็ดีกว่าคนที่ไม่รู้จักพยายามแล้วกัน”

“ใครว่าฉันไม่รู้จัก”

“ถ้างั้นก็ลองทำดูเองสิ”

“ได้ งั้นก็ลองดูว่าใครจะทำสวยกว่ากัน” ณธิปท้า

“เอาสิ” และคนที่เคยนิ่งๆ อย่างเมฆาก็รับคำท้าเสียด้วย พาให้คนทั้งเต้นท์ลอบกลืนน้ำลายกับศึกใหญ่หลวงไปตามๆ กัน มีเพียงกมลกับจงรักที่ลอบมองกันด้วยแววตาเหนื่อยใจ








หลังจากผ่านไปกว่าสองชั่วโมง ณธิปก็เริ่มรู้สึกว่าเขาไม่น่าปากไวรีบส่งสารท้ารบให้แก่ศัตรูก่อนเลย เพราะการทำกระทงมันยากกว่าที่คิดมาก แม้จะได้คุณไอช่วยบ้าง หรือมีจงรักแวะเวียนเข้ามาปรับให้นิดหน่อย แต่โดยรวมแล้วก็ยังดูเหมือนกระทงที่เด็กประถมทำอยู่ดี


สงสัยงานนี้จะแพ้เสียแล้ว…ณธิปคิดเช่นนั้น จนกระทั่งได้เห็นกระทงรูปร่างประหลาดของเมฆา ชายหนุ่มก็ลอบถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เพราะสภาพก็ไม่ต่างจากกระทงของเขามากนัก


“ยิ้มอะไรครับ” กมลถาม เมื่อเห็นคนเจ้าเล่ห์ผุดยิ้มร้าย

“กำลังตลกคนอวดเก่ง” ณธิปว่า

“คุณว่าตัวเองหรือ” กมลตอบกลับหน้าตาย

“นี่คุณว่าผมหรือไอ เดี๋ยวเถอะ ถ้าผมจีบติดเมื่อไหร่ คุณโดนทำโทษแน่” ชายหนุ่มเอ่ยอย่างนึกหมั่นเขี้ยว หมายมั่นปั้นมือว่า ถ้าวันนั้นมาถึงเมื่อใด เขาจะเอาคืนให้สมใจทีเดียว แต่กมลกลับไม่สะทกสะท้าน ทั้งยังตอกกลับนิ่งๆ

“ยังมีหน้ามาขู่คนอื่นอีกนะ จีบให้ติดก่อนเถอะ”

“คอยดูเถอะ ผม…” ยังไม่ทันที่ณธิปจะเอ่ยจบ เสียงของเด็กแสบสองคนก็ดังขัดขึ้นเสียก่อน

“ลุงไอ!~”

“พี่หยิน น้องหยาง” กมลปัดไม้ปัดมือ ก่อนจะอ้าแขนกอด ต้อนรับเด็กทั้งคู่ เด็กๆ หอมแก้มของคุณลุงใจดีคนละฟอด ก่อนจะหันมาสวัสดีทุกคนในเต้นท์รอบสารทิศ รวมทั้งณธิปด้วย


แล้วเจ้าแฝดคนเล็กก็ตาดี เห็นกระทงที่อยู่ในมือของณธิปเข้า เขาจึงเอ่ยทักขึ้น


“อาเล็กทำกระทงเหรอครับ”

“ครับ” ณธิปพยักหน้า “กระทงของอาสวยไหมครับ”

“สวยครับ ดอกไม้เย้อะเยอะ” หยางว่า เขาชอบกระทงของณธิป เพราะมีดอกไม้สีสันสวยงามประดับเต็มกระทง แม้จะบิดเบี้ยว แต่เด็กน้อยก็ไม่ใคร่ใส่ใจ

“ของพ่อเมฆก็สวยนะหยาง” แฝดคนพี่ว่า พลางชี้ชวนให้แฝดน้องมองตาม

“ขอบคุณครับน้องหยิน” เมฆายิ้มรับคำชมของเด็กน้อย

ได้ยินเด็กสองคนเอ่ยชมเช่นนั้น กมลก็นึกไอเดียหนึ่งขึ้นมาได้ และคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ และอาจลดความขัดแย้งของสองหนุ่มได้อีกด้วย

“เด็กๆ ครับ”

“ครับลุงไอ” เด็กสองคนประสานเสียงตอบลุง

“พวกหนูช่วยลุงไอเป็นกรรมการทีได้ไหมครับ”

“กรรมการเหรอครับ” หยินเอียงคอสงสัย

“ครับ” กมลพยักหน้า

“กรรมการอะไรครับลุงไอ” หยางถามต่อ

“ก็เป็นกรรมการตัดสิน ว่ากระทงของใครสวยกว่ากัน ระหว่างพ่อเมฆกับอาเล็ก”


เด็กสองคนหันมองหน้ากัน แล้วพยักหน้าอย่างรู้ใจ ก่อนจะตะโกนออกมาอย่างนึกสนุก


“พวกเราจะเป็นกรรมการให้ครับ!”


ทุกคนลอบยิ้มออกมาทันที ทั้งยังโล่งใจที่ไม่ต้องนั่งตัดสินศึกระหว่างสองหนุ่ม มีเพียงณธิปกับเมฆาเท่านั้นที่นึกหวั่นๆ เพราะเดาใจเด็กๆ ไม่ได้ ซ้ำยังกลัวว่าจะแพ้ฝ่ายตรงข้ามด้วย


เมื่อกระทงเสร็จแล้วทั้งคู่ พวกเขาก็เอามาวางข้างกันเพื่อให้เด็กน้อยได้ดูจนพอใจ จะได้ตัดสินว่าของใครที่เหนือกว่า เดินวนดูอยู่ครู่หนึ่ง เด็กๆ ก็ซุบซิบหารือว่าควรตัดสินอย่างไร ทว่าอยู่ๆ เจ้าแฝดคนน้องก็ร้องโวยวายขึ้นมาเสียก่อน


“หยางชอบดอกไม้มากกว่า” น้องหยางประกาศ

“แต่ของพ่อเมฆมันมีสามชั้น สวยจะตาย” หยินว่า

“แต่ของพ่อเมฆมีดอกไม้นิดเดียว สีไม่สวย” คนนั้นส่ายหน้าพลางวิจารณ์

“แต่ของอาเล็กมีกลีบชั้นเดียว พี่ว่าไม่แข็งแรง” หยินวิจารณ์บ้าง

“แล้วตกลงพี่หยินจะเลือกอันไหน”

“พี่เลือกของพ่อเมฆ” หยินตอบอกย่างมั่นใจ

“แต่หยางชอบของอาเล็ก พี่หยินต้องเลือกของอาเล็กกับหยางสิ”

“ใครชอบอันไหนก็เลือกอันนั้น น้องหยางอย่าเอาแต่ใจ” คนพี่พูดอย่างมีเหตุผล แต่ดูเหมือนคนน้องจะไม่ยอม พลางงอแงไม่เลิกอีกด้วย

“แต่ถ้าเลือกคนละอัน ก็ไม่มีใครชนะสิ แข่งแล้วต้องมีคนชนะ”

“หยางเอาแต่ใจ”

“พี่หยินก็เอาแต่ใจ อย่าว่าน้องนะ!” เจ้าตัวดีฮึดฮัด


   ดูเหมือนการละเล่นสนุกๆ ของผู้ใหญ่ จะทำให้เด็กไม่รู้เรื่องรู้ราวของคนทะเลาะกันเสียแล้ว ดังนั้นผู้ใหญ่จึงต้องออกโรงก่อนเรื่องราวจะลุกลาม


   “ไม่ต้องทะเลาะกันแล้วนะครับ พวกเราเสมอกันก็ได้” เมฆาเข้ามาหาเด็กๆ เจ้าหยินจึงกระโดดกอดขาชายหนุ่มไว้

   “นั่นสิ เด็กๆ ให้คนละหนึ่งคะแนนนี่นะ เสมอกัน” ณธิปเข้ามาอุ้มน้องหยางที่ทำหน้าเบี้ยวด้วยความขัดใจ

“หยางไม่อยากให้เสมอ เดี๋ยวไม่มีคนได้รางวัล” เจ้าตัวเล็กพูดกับณธิป

“เสมอกัน ก็เหมือนชนะทั้งคู่ ได้รางวัลทั้งสองคนเลย แบบนี้ดีไหม”

“แล้วคนให้คะแนนได้รางวัลด้วยไหมครับ” หยางถามเบาๆ

“เจ้าเล่ห์นี่นา” ณธิปหัวเราะออกมาเสียงดัง เด็กคนนี้เหมือนเขาตอนเด็กๆ ไม่มีผิด “วันนี้อาไม่มีของรางวัลเลย อามีแต่กระทงอันเดียว”

“หยางอยากได้กระทงของอาเล็ก หยางจะลอยกระทง”

“แล้วกระทงขนมปังนี่ล่ะคะลูก” หทัยยกกระทงขนมปังที่เจ้าตัวดีได้มาจากโรงเรียนให้ดู

“กระทงขนมปังเอาไว้ไปลอยที่วัด ที่มีปลาเยอะๆ” เด็กน้อยว่า “วันนี้ขอหยางลอยกระทงดอกไม้ของอาเล็กนะครับ”

ณธิปยิ้มออกมาจนเต็มแก้ม เพราะไม่คิดว่าจะมีคนชอบกระทงเบี้ยวๆ ที่เขาประดิษฐ์ “ได้สิครับ อายกให้นะ”
“ถ้าอย่างนั้นหยินขอของพ่อเมฆนะครับ” เห็นน้องได้กระทงใบตอง ความอยากลอยกระทงขนมปังของแฝดพี่ก็หมดลง

“ครับ” เมฆาพยักหน้ารับ

“เย้ๆ”


เมื่อเด็กทั้งสองได้สิ่งที่พอใจแล้ว ทั้งคู่ก็กลับมาดีกันเหมือนเก่า ราวกับเมื่อครู่ไม่ได้ตั้งท่าเลาะกัน เห็นดังนั้นเมฆากับณธิปกับเผลอหันมายิ้มให้กันอย่างโล่งใจ ด้วยไม่ต้องเป็นสาเหตุให้เด็กๆ งอแง แต่พอนึกขึ้นได้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนที่ไม่ชอบขี้หน้า สองหนุ่มก็แสร้งเบือนหน้าหนีไปคนละทาง ท่ามกลางสายตาขบขันของกมลและจงรัก








   งานลอนกระทงที่ I promise สนุกกว่าที่ณธิปคิด แม้จะวุ่นวายและหลังขดหลังแข็งเพราะนั่งทำงานฝีมือตั้งแต่บ่าย แต่พอตกเย็นก็มีเลี้ยงอาหารและประกวดนางนพมาศกันสนุกสนาน กว่าจะได้ลอยจริงๆ ก็ปาเข้าไปเกือบสามทุ่ม


   เนื่องจากกระทงที่ทำแข่งก่อนหน้าให้หลานๆ ของกมลไปแล้ว ณธิปก็หันมาเรียกร้องเอารางวัลจากคนคิดเกมแทน ครั้นเห็นกมลเดินไปทำท่าจะลอยกระทงเหมือนคนอื่นๆ ชายหนุ่มก็ลุกจากเก้าอี้และเดินตามไปที่สระน้ำ


   “ให้ผมลอยด้วยสิ” เจ้าของดวงตารีเรียวว่า

   “ได้ยังไง นี่ของผมนะ” กมลบอก

   “แต่ผมยกของตัวเองให้น้องหยางไปแล้วนี่” ชายหนุ่มอ้าง “แถมยังไม่ได้รางวัลเลยด้วย ที่แข่งกับนายเมฆน่ะ”

   “ผมไม่ได้บอกว่าจะให้รางวัลสักหน่อย” คนหน้าหวานค้าน เพราะเขาไม่ได้บอกจริงๆ

   “โถ่…อย่าใจร้ายสิครับ ดูนายคนนั้นยังไปลอยกระทงเดียวกับจงรักได้เลย” ณธิปบุ้ยใบ้ไปทางจงรักกับเมฆา ที่กำลังช่วยกันวักน้ำส่งกระทงที่ริมสระด้านหนึ่ง

   “ก็เขาเป็นคนรักกัน” กมลตอบ

   “คุณไอก็เป็นคนรักของผมเหมือนกัน” คนเจ้าเล่ห์บอกหน้าทะเล้น ก่อนจะว่าต่อ “ผมแค่กำลังรอให้คุณรับผมเป็นคนรักเท่านั้นเอง”

   กมลมองคนหน้าไม่อาย ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ “งั้นก็รอไปก่อนครับ”

   “ใจร้าย” ณธิปบ่นเมื่อเห็นอีกฝ่ายพูดจาเย็นชา ทั้งยังเดินไปที่ริมน้ำโดยไม่รอเขา


   ทว่าก่อนที่กมลจะนั่งลงอธิษฐานและลอยกระทง คนใจร้ายก็หันมาปรายตามองณธิปด้วยสีหน้าอ่านไม่ออก ก่อนจะเอ่ย


   “ถ้าจะลอยด้วยกันก็รีบมาสิครับ”


   ครั้นได้ยินณธิปก็ยิ้มกว้างออกมา ก่อนจะรีบเดินไปทรุดนั่งข้างๆ อีกฝ่ายทันที


มองกระทงค่อยๆ เคลื่อนไกลออกไป แสงประทีปสว่างไสวท่ามกลางแสงจันทร์เฉิดฉัน เมื่อครู่ ก่อนที่จะลอยกระทง ณธิปอธิษฐานไปข้อหนึ่ง เขาไม่ได้ขอให้กมลรัก แต่ขอให้คนใจร้าย ใจดีกับเขาทุกๆ วัน เท่านั้นก็พอใจแล้ว…







<><><><><><><><><><><><><><><><><><>




มาแล้วค่าาา

แต่มาเป็นตอนพิเศษนะคะ
ตอนนี้มี feat.กับโปรดจงรัก ด้วยล่ะ
ถ้าจะพูดถึงเรื่องช่วงเวลาในเรื่องแล้ว ตอนนี้ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องหลักนะคะ
แค่อยากเขียนออกมาเป็นโมเม้นพิเศษเฉยๆ
ส่วนตอนหลักจะลงให้อ่านไม่เกินวันอาทิตย์ค่ะ


ฝากด้วยนะคะ


ละอองฝน.

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ pigarea

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
คุณเล็กทำไมมักน้อยจัง 555
โอ๊ย...หวานอ่ะ เราชอบจงรัก ชอบเรื่องนี้มาก ชอบทุกอย่างเลย

ออฟไลน์ kobyp_lu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 193
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
น่ารักกกกกก  ชอบแบบนี้ ค่อย ๆ เป็น ค่อยๆ ไป  ขอให้พี่ไอใจอ่อนกับคุณเล็กเร็ว ๆ นะคะ  คุณเล็กดูนิสัยดีขึ้นเลยอ่ะ  น่ารักกกกกกก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
เก็บออมความสุขไว้เยอะๆ คุณเล็ก

ออฟไลน์ panpang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 497
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
เมื่อไหร่อ้อยที่ปลูกไว้จะโตเสียที...ใจจิขาด   :hao5:

ออฟไลน์ khwanruen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-3
คุณเล็กน่ารักอีกแล้ว พี่เมฆก็น่ารัก  :mew1:

ออฟไลน์ AeAng11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ชอบเรื่องของคุณฝนมากๆค่ะมันละมุนละไมดีจริงๆรอติดตามตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ myapril

  • Tomorrow
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1436
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-3
น่ารักดีค่ะ ถึงจะยังหมั่นไส้คุณเล็ก
แต่บางทีก้อสงสารนะ^^

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
เจอคนใจเย็นและเด็ดขาดแบบพี่ไอ นายเล็กก็ร้องเพลงรอไปเรื่อย ๆ ก็แล้วกัน

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ ละอองฝน

  • แมวดำ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 261
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +398/-2




คุณคือความรัก บทที่ 25






   เกือบสามสิบปีที่ณธิปลืมตาเกิดมาดูโลก ชายหนุ่มมีโอกาสเข้ามาเลือกซื้อของด้วยตัวเองในซุปเปอร์มาเก็ตน้อยเสียจนนับครั้งได้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเข้ามาแบบรีบๆ หรือด้วยสถานการณ์ฉุกละหุกแทบทั้งสิ้น ดังนั้นการมาซื้อวัตถุดิบทำอาหารกับกมลในครั้งนี้ จึงถือเป็นประสบการณ์ใหม่ที่น่าสนใจมากทีเดียว


   ระหว่างที่กมลกำลังเลือกซื้อมะละกอดิบ โดยมีณธิปคอยวุ่นวายถามโน้นถามนี่อยู่ข้างๆ นายอุดม พนักงานขับรถประจำตำแหน่งของผู้บริหารเอ็นพีกรุ๊ปก็คอยเข็นรถเข็นตามหลังไปด้วย


   มีหลายครั้งที่อุดมต้องคอยดูแลและบริการคนของเจ้านายตามคำสั่ง ซึ่งคนเหล่านั้นมีตั้งแต่ดารา นักร้อง คุณหนูไฮโซ และชายหญิงหน้าตาดีมากมาย แต่อุดมไม่เคยเห็นว่ามีคนไหนที่พาณธิปมาเลือกซื้ออาหารไปทำกินที่บ้าน ทั้งยังรักษาระยะห่าง ไม่ฉอเลาะเอาใจเจ้านายของเขาเพื่อหวังปลอกลอกเหมือนกับหนุ่มหน้าสวยจาก I promise คนนี้


   ในทางกลับกัน ผู้ชายคนนี้ดันมาทำให้เจ้านายเปลี่ยนสีหน้าไปมา ประเดี๋ยวยิ้มแย้ม บึ้งตึง หรือแม้กระทั่งทำตาละห้อยอย่างหมดท่ายามที่ถูกปฏิเสธน้ำใจ


   ผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ…อุดมคิด


   ขณะที่อุดมกำลังลอบมองปฏิกิริยาของกมลเวลาที่อยู่กับณธิป อยู่ๆ เจ้านายก็หันกับมาหาเขา พร้อมกับล้วงธนบัตรสีเทาออกมาให้ใบหนึ่ง


   “นั่งแท็กซี่กลับบ้านไปเลยนะอุดม เดี๋ยวฉันจะขับรถเอง ฝากบอกคุณแม่ด้วยว่าคืนนี้ฉันนอนที่คอนโด” เจ้านายหนุ่มรูปหล่อสั่ง

   “ครับ” อุดมรับธนบัตรใบนั้นมาไว้ในมือ แล้วหยิบกุญแจรถให้เจ้านาย


   ทว่าก่อนที่เขาจะเดินทางกลับบ้านโชติตระกูล เสียงของคนที่เลือกซื้อมะละกอก็เอ่ยขึ้นเรียบๆ และดูท่าว่าจะไม่ค่อยพอใจเท่าไรด้วย


   “ทำไมให้เขากลับล่ะครับ”

   “คืนนี้ผมจะนอนที่คอนโด” ณธิปตอบ ทว่าเมื่อเห็นสายตาไม่ไว้ใจของกมล เจ้านายของอุดมก็รีบแก้ตัวเป็นพัลวัน “ผมกลับไปนอนที่ของผมห้องน่าไอ อย่าทำหน้าเหมือนไม่ไว้ใจกันสิ ผมไม่ทำอะไรคุณหรอกถ้าคุณไม่ยอม ที่ผ่านมาผมก็ไม่เคยล้ำเส้นนี่…จริงไหมครับ”


   อุดมรู้สึกตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน เขาไม่อยากเชื่อว่าเจ้านายจะยอมปล่อยให้คนที่หมายตารอดมือมาได้นานขนาดนี้ เพราะเท่าที่จำได้ เขาเห็นณธิปเทียวไปเทียวมาหากมลได้หลายเดือนแล้ว ซ้ำพักหลังๆ มานี้ก็ไม่เที่ยวเตร็ดเตร่ให้คุณพ่อคุณแม่เป็นห่วงอีกด้วย


   ความจริงอันน่าตกใจทำให้อุดมแทบอดไม่ไหวและอยากโทรไปรายงานคุณท่านที่เชียงใหม่เสียเดี๋ยวนี้…


   “ก็จริง” กมลตอบรับ “แต่เตือนไว้ก่อนนะ ถ้าคุณล้ำเส้น…”

   “ผมไม่ทำหรอก สัญญา” ณธิปยกนิ้วก้อยขึ้นมา ราวกับจะเกี้ยวก้อยสัญญากับหนุ่มหน้าสวย ทว่ากมลกลับเบือนหน้าหนีแล้วหันมาหาอุดมแทน “ขอบคุณที่ช่วยขับรถให้นะครับ”

   “ครับ” อุดมถูกยิ้มหวานๆ พุ่งเข้าหาจนตาพร่าไปหมด เขาไม่แปลกใจเลยที่เจ้านายจะหลงผู้ชายคนนี้หัวปักหัวปำ เพราะขนาดเขาอายุปูนนี้ยังรู้สึกประทับใจทันทีที่ได้รับคำขอบคุณอย่างจริงใจนั่น

   “ไปได้แล้วอุดม” นายน้อยคนดีของอุดมส่งสายตาไม่พอใจนิดๆ มาให้ เพราะชายหนุ่มถูกเมิน ซ้ำกมลยังส่งยิ้มให้เขาอีกด้วย


   ครั้นรู้ตัวว่าชักทำให้นายไม่พอใจ อุดมก็ก้มหัวและถอยฉากออกมา ระหว่างเดินไปขึ้นรถแท็กซี่ เขาก็อดไม่ได้ที่จะหวังลึกๆ ในใจ ให้หนุ่มหน้าหวานคนนั้นเป็นตัวจริงของณธิปเสียที







   หลังจากสั่งให้คนขับรถกลับบ้านแล้ว ณธิปก็ทำหน้าที่เข็นรถตามหลังคนใจร้ายแทน แรกๆ ดูเหมือนกมลจะไม่ค่อยสนใจเขาเท่าไร ทว่าพอผ่านไปสักพัก อีกฝ่ายก็หันมาถามเรื่องเมนูอาหารกับวัตถุดิบนิดหน่อย ด้วยอาหารที่ทำ ต้องทำให้เขากินนั่นเอง


   “คุณกินกุ้งกับปูไม่ได้ใช่ไหม”

   “อืม” ณธิปพยักหน้า

   “ถ้าอย่างนั้นเป็นตำผลไม้ดีไหม ทำง่ายด้วย ไม่ต้องสับเส้นมะละกอ เพราะผมเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าไม่มีมีดขูดเส้นที่บ้าน”

   “ได้สิ” ณธิปพยักหน้ารับ ถ้าเป็นส้มตำผลไม้ก็คงไม่ต่างกับสลัดเท่าไหร่ แบบนี้น่าจะกินง่ายกว่า


   คนหน้าหวานเลือกแอปเปิ้ลแดงและเขียวมาอย่างละลูก แครอทหนึ่งหัว องุ่นแดงครึ่งกิโล ฝรั่ง และข้าวโพดที่ต้มสุกแล้ว ก่อนเดินนำมาถึงจุดขายเนื้อสัตว์ แล้วสั่งเนื้อไก่ส่วนปีกครึ่งกิโลกรัม เพราะคิดว่ากินกันแค่สองคน ซื้อมามากเกินไปก็คงจะเหลือ


   “คุณจะกินแค่ส้มตำกับไก่ทอดใช่ไหมครับ”

   “แค่นั้นก็พอแล้ว คุณจะได้ไม่ต้องทำเยอะ” ถึงแม้ณธิปจะคิดแผนการมาเพื่อให้มีโอกาสอยู่กันตามลำพังสองคน แต่เขาก็ไม่ได้อยากให้กมลวุ่นวายและลำบากกับการทำอาหารมากเกินไป

   “เดี๋ยวเราซื้อข้าวเหนียวสำเร็จรูปไปเลย จะได้ไม่ต้องนึ่งให้เสียเวลา”

   “ก็ได้ครับ”


   ครั้นตกลงกันเรียบร้อย พวกเขาก็หยิบเครื่องดื่มติดมือมาอีกนิดหน่อย ก่อนนำข้าวของทั้งหมดไปจ่ายเงิน ซึ่งกมลปฏิเสธทันทีเมื่อเห็นณธิปหยิบบัตรเครดิตสีดำแวววาวออกมาจากกระเป๋า


   “มื้อนี้ผมเลี้ยงเอง”

   “แต่คุณเป็นคนทำแล้ว ผมจ่ายเองดีกว่า”

   “เอาไว้ครั้งหน้านะครับ” กมลยังคงปฏิเสธเหมือนเดิม ก่อนจะเบี่ยงเบนความสนใจโดยการใช้งานอีกฝ่ายแทน “วานคุณไปซื้อข้าวเหนียวในศูนย์อาหารให้ผมที จ่ายเงินเสร็จแล้วเราจะได้กลับกัน ผมจ่ายเสร็จแล้วจะไปรอคุณที่รถ”

   “แต่ของคุณเยอะ จะถือไปยังไงหมด”

   “ไม่เยอะหรอก อย่างมากก็ไม่เกินสามถุง ผมถือได้ครับ” กมลยิ้มบางๆ แม้ใบหน้าและภาพลักษณ์ของคนคนนี้จะสวยงามและดูอ่อนโยน แต่เมื่อมองตาของอีกฝ่าย ณธิปก็รู้ได้ทันทีว่า กมลกำลังบอกเขาว่าตนเองไม่ใช่คนอ่อนแอที่ต้องให้ใครคอยประคบประหงมอยู่ตลอดเวลา

   “เอางั้นก็ได้” สุดท้ายณธิปก็ไม่อาจปฏิเสธกมลได้


   ทั้งที่เขาอยากดูแลอีกฝ่ายให้มากกว่านี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงิน หรือแม้กระทั่งเรื่องที่ช่วยถือของให้ แต่ณธิปก็ได้เรียนรู้ว่า ถ้าคิดจะรักคนคนนี้ เขาควรปล่อยให้อีกฝ่ายได้ทำอะไรด้วยตัวเองบ้าง เพราะกมลมีความภาคภูมิใจในแบบของตนเอง


   เอาไว้ความรู้สึกของเขาซึมเข้าหัวใจของคนใจร้ายเมื่อใด เขาค่อยพูดเรื่องนี้กับกมลอีกครั้งก็ยังไม่สาย








   “ห้องผมรกนิดหน่อย คุณไปนั่งรอที่เคาน์เตอร์ในครัวดีกว่า” เมื่อก้าวเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของกมล ณธิปก็ถูกสั่งให้เดินตามเข้าไปนั่งในครัวทันที


ดวงตารีกวาดมองสำรวจไปรอบๆ ห้องของกมลตกแต่งด้วยโทนสีอบอุ่น แบ่งเป็นสัดส่วนคล้ายๆ กับห้องของเขาที่อยู่ชั้นบน เพียงแต่มีขนาดเล็กกว่า โต๊ะกลางหน้าทีวีมีกองเอกสารระเกะระกะกับคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค มองแล้วสภาพห้องไม่ได้เรียบร้อยเท่าที่คาดการณ์สักเท่าไร แต่ก็ดูเป็นห้องที่เหมือนมีคนใช้ชีวิตอยู่จริงๆ ไม่เรียบกริบราวกับห้องตัวอย่าง


   “คุณไม่ได้จ้างแม่บ้านหรือ” ณธิปถามขณะวางถุงผลไม้ไว้บนเคาน์เตอร์ ก่อนจะนั่งลงตรงเก้าอี้ทรงสูง

   “ไม่ครับ ความจริงผมไม่ค่อยได้อยู่ห้องนี้นานนัก ส่วนใหญ่เอาไว้นอน หรือไม่ก็มาเวลาที่ต้องการปลีกวิเวกมาคิดงาน”

   “ไม่ค่อยได้อยู่ แต่เฟอร์นิเจอร์ก็ครบนี่ เครื่องครัวด้วย” มองครัวขนาดเล็กที่มีอุปกรณ์ครบครัน ณธิปก็อดสงสัยไม่ได้

   “อืม…แต่ก่อนผมเคยอยู่ที่นี่เป็นหลัก แต่พออ้ายเลิกกับสามี ผมก็เลยย้ายกลับไปอยู่ที่บ้านเดิม เพราะต้องช่วยดูแลหลานๆ อาทิตย์หนึ่งจะมาค้างที่คอนโดสักที เพราะมาทำความสะอาด และหากวันไหนกลับดึก ผมจะได้ไม่ขับรถไกล”

   “อ๋อ แบบนี้ก็ดีนะ เพราะคอนโดนี้ใกล้ที่ทำงานของคุณมากกว่า” ชายหนุ่มพยักหน้าอย่างเข้าใจ ก่อนจะเล่าเรื่องตัวเองบ้าง ในขณะที่กมลสวมผ้ากันเปื้อนและเริ่มทำอาหาร “ผมเองก็ซื้อคอนโดนี้เพราะไม่ไกลจากที่ทำงานเหมือนกัน อีกอย่างก็เพราะอยากมีพื้นที่ส่วนตัวบ้างละมั้ง”

   “เพราะพาสาวๆ กลับบ้านไม่สะดวกหรือเปล่าครับ” กมลถามหน้านิ่ง ทว่าเมื่อฟังจากน้ำเสียง ณธิปรู้สึกว่าเขากำลังถูกกระแนะกระแหนนิดๆ แต่ก็ไม่แปลกที่กมลจะพูดแบบนี้ เนื่องจากอีกฝ่ายเคยเห็นเขาควงผู้หญิงขึ้นคอนโดจริงๆ

   “โธ่…คุณ เกือบปีแล้วนะครับนั่น ยังจำได้อยู่อีกหรือ”

   “จำได้สิครับ ก็วันนั้นผมเผลอต่อยคุณนี่” กมลหันมายิ้ม ในมือก็ถือมีดฝานเข้าโพดไปด้วย

   “แต่ตอนนี้ผมไม่พาใครมาแล้วนะ ไม่ได้ขึ้นห้องใครด้วย” คนเจ้าเสน่ห์พูดอย่างภูมิใจ “ที่เคยควงไม่ซ้ำหน้า ตอนนี้ก็เลิกหมด”

   “ทำไมล่ะ” ครั้นพอถามออกมาแล้ว กมลก็นึกเสียใจนิดๆ ที่ตัวเองปากไวไปหน่อย

   “ก็ผมกลัวคุณเข้าใจผิดนี่ เดี๋ยวคิดว่าผมยังเจ้าชู้เหมือนเดิม จะพานตัดโอกาสไม่ให้จีบอีก”

   “ความจริงถ้าคุณอยากมีไลฟ์สไตล์แบบเดิม ผมก็ไม่ได้ว่านะ” คนหน้าหวานบอก เพราะเขาเองก็ไม่อยากทำเหมือนตัวเองเป็นเจ้าโลก ที่มีสิทธิ์ไปบังคับกะเกณฑ์หรือเปลี่ยนแปลงใคร

   “คุณจะว่าหรือไม่ว่าก็ช่าง แต่เอาเป็นว่าผมไม่ทำแบบนั้นก็แล้วกัน ตอนนี้ผมมีแต่งาน แล้วก็คุณเท่านั้นแหละ”


ณธิปเอ่ยยิ้มๆ แม้จะดูเหมือนเป็นการหยอดคำหวาน แต่เขาก็พูดออกมาจากใจจริง เพราะเมื่อเว้นว่างจากภาระหน้าที่แล้ว เขาก็มีแค่กมลให้คิดถึงคนเดียวเท่านั้น


   กมลชะงักมือไปนิด แต่เขาก็ไม่ได้หันไปมองหน้าคนข้างหลัง ไม่ได้คิดอยากพิสูจน์คำพูดนั้นด้วยการจ้องตาอีกฝ่ายตรงๆ ด้วยรู้สึกว่าคำพูดมันสุ่มเสี่ยงและมีผลกับอัตราการเต้นของหัวใจมากเกินไปหน่อย ชายหนุ่มจึงพยายามควบคุมตัวเอง และก้มหน้าก้มตาทำอาหารเงียบๆ ไม่ตอบโต้อะไรอีก








ณธิปนั่งเท้าคางมองกมลหมักไก่ หั่นนั่นหันนี่ ยืนหมุนไปหมุนมาในครัวเล็กโดยไม่รู้สึกเบื่อ ทั้งที่ไม่ได้พูดคุยอะไรกันเลยสักประโยค


กมลดึงดูดสายตาเขาได้อยู่หมัด ไม่ว่าอีกฝ่ายจะหยิบจับหรือทำอะไร ณธิปก็คิดว่ามันน่ามองไปเสียหมด สีหน้าตั้งอกตั้งใจกับงานที่ทำอยู่ตรงหน้าก็น่ามองจนไม่อยากคลาดสายตา


ทำไมเขาถึงหลงคุณไอได้มากขนาดนี้นะ…ณธิปได้แต่นึกสงสัย


ทว่าระหว่างที่คิดไปมองไปเรื่อยเปื่อย อยู่ๆ น้ำมันในกระทะก็ปะทุจนกระเด็นขึ้นมาถูกแขน คนที่อยู่หน้าเตาจึงเผลอร้องโอ๊ยขึ้นมาคำหนึ่ง


ณธิปผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันที ก่อนจะอ้อมเคาน์เตอร์แล้วรุดเข้าไปจับข้อมือของอีกฝ่ายตามสัญชาตญาณ ไม่ทันร้องห้าม กมลก็ถูกพามาที่อ่างล้างจานเสียแล้ว


ณธิปเปิดก๊อกให้น้ำไหลผ่านแผล ความเย็นจึงช่วยลดอาการแสบร้อนไปได้มากโข ผ่านไปครู่หนึ่ง ความรู้สึกอุ่นๆ ซึ่งโอบล้อมรอบกายก็ทำให้คนถูกดูแลจึงเพิ่งสังเกตเห็นว่า ตัวเองคล้ายโดนโอบกอดจากด้านหลัง กมลเอี้ยวหน้ามองเจ้าของคางที่วางเกยไหล่ตนอย่างถือวิสาสะ


เขาเห็นคิ้วพาดเฉียงนั่นขมวดมุ่น ดวงตาที่เคยวิบวับเจ้าเล่ห์มองไปยังแผลถูกน้ำมันร้อน ปลายนิ้วหนาหากแต่นุ่มนิ่มอย่างคนไม่เคยทำทำงานหนักค่อยๆ ลูบมือกมลเบาๆ ราวกับปลอบประโลม


เวลาที่ผ่านไปเพียงชั่วขณะหนึ่งนั้น เป็นช่วงเวลาที่กมลไม่อาจปฏิเสธความหวังดี หรือเอ่ยอะไรออกมาได้แม้แต่คำเดียว…


ทว่าสุดท้ายกมลก็ต้องเตือนตัวเองไม่ให้โอนอ่อนไปง่ายๆ ด้วยไม่รู้ว่านี่เป็นหนึ่งในแผนการของคนเจ้าเล่ห์หรือไม่ เขาขยับตัวน้อยๆ เตือนให้ชายหนุ่มรู้ ณธิปจึงยอมขยับห่าง หากมือก็ยังถูกจับไว้ไม่ปล่อย


“เป็นไงบ้างไอ คุณดีขึ้นหรือยัง”

“ผมไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก โดนนิดเดียวเอง คุณตื่นตูมเกินไป” กมลว่า

“นิดเดียวอะไร ดูสิ แดงเป็นปื้นเลย” ณธิปยกให้เห็นรอยชัดๆ “ที่คุณซื้อของมาเมื่อกี้ มีแตงกวาไหม”

“มีสิ ผมล้างแล้วเอาไปแช่ไว้ในตู้เย็นเมื่อกี้”

“งั้นคุณไปนั่งรอก่อน”

 “ผมกำลังทอดไก่นะ” กมลชี้ไปที่กระทะ

“มันยังไม่สุกหรอก หรี่ไฟไว้ก่อน แล้วไปนั่งเร็วเข้า” ณธิปสั่ง แม้จะดูเผด็จการไปนิด ทว่าน้ำเสียงที่ใช้กลับตรงกันข้าม

“คุณจะเอาไปทำอะไร”

“เอาเถอะน่า”

“อืม” เห็นณธิปรบเร้าถึงขนาดนั้น กมลจึงยอมอ่อนให้ เพราะใจหนึ่งก็อยากรู้ว่าคนเจ้าเล่ห์จะทำอะไรเช่นกัน


คนตัวสูงเดินไปเปิดตู้เย็นแล้วหยิบแตงกวาออกมา เขาล้างเขียงกับมีดลวกๆ ด้วยน้ำเปล่า ก่อนจะหั่นแตงเป็นชิ้นบางๆ กมลมองทักษะการใช้มีดของณธิปแล้วหวาดเสียว เกือบจะเอ่ยถามอยู่แล้วเชียวว่าให้ช่วยไหม อีกฝ่ายก็ได้แตงกวาหั่นเป็นแว่นตามที่ต้องการพอดี


“ขอมือหน่อยครับ”

“อะไรของคุณ” คนหน้าหวานถาม แต่ก็ยอมยื่นมือให้


ครั้นวางมือบนอุ้งมือใหญ่กว่าเรียบร้อย ณธิปก็ว่าชิ้นแตงกวาลงบนรอยแผลจากน้ำมันกระเด็นใส่ทันที ความเย็นซ่านที่สัมผัสผิวช่วยให้อาการแสบร้อนที่ยังคงหลงเหลือคลายลงอย่างรวดเร็ว


“แปะไว้ก่อนสักพักนะ มันจะได้ไม่เป็นแผลพุพอง” เสียงทุ้มเข้มว่า


กมลมองคนตรงหน้าทึ่งๆ ไม่คิดว่าชายหนุ่มจะรู้จักวิธีปฐมพยาบาลอะไรแบบนี้กับเขาด้วย พอเจ้าของดวงตารีเงยเหลือบขึ้นมาเห็นเข้า เขาจึงเอ่ยออกไปทันที


“คุณทำหน้าอย่างนั้นทำไม ประหลาดใจมากหรือ”

“ก็นิดหน่อย” กมลยอมรับ “ไม่คิดว่าคุณจะทำอะไรแบบนี้ได้ด้วย”

“หึๆ” ณธิปหัวเราะเบาๆ “แต่ก่อนผมเคยซนอยู่ข้างๆ เตาตอนคุณย่าทำทองพลุให้ทาน แล้วน้ำมันกระเด็นมาโดน คุณย่าท่านก็เลยเอาแตงกวามาหั่นๆ วางบนแผลให้ ผมก็เลยรู้”

“คุณย่าคุณเก่งนะ หยิบเอาของรอบตัวมาใช้ประโยชน์ได้” กมลเอ่ยอย่างชื่นชม

“ท่านเก่งและใจดีมากเลยล่ะ เอาไว้ถ้ามีโอกาสผมจะพาคุณไปเยี่ยมท่านนะ รับรองว่าคุณต้องชอบท่านมากแน่ๆ” ดวงตาของณธิปทอประกายอ่อนโยนยามเมื่อเอ่ยถึงผู้เป็นที่รัก ซึ่งมันเป็นแววตาแบบที่กมลไม่เคยเห็นมาก่อน


กมลค่อยๆ พบว่าที่ผ่านมาเขามองเห็นณธิปเพียงด้านเดียว เป็นด้านแย่ๆ ไม่น่าอภิรมย์นัก เขาจึงตัดสินชายหนุ่มจากการมองเพียงแค่นั้น แต่พอได้ลองรู้จักตัวตนของคนคนนี้มากขึ้นแล้ว มันก็ทำให้เขาต้องกลับไปคิดใหม่ ว่าการตัดสินคนจากการรู้จักเพียงผ่านๆ นั้น มันถูกต้องแล้วหรือ


เห็นกมลมองเหม่อ ณธิปจึงถามซ้ำ


“ว่ายังไง คุณจะไปพบคุณย่ากับผมไหม”

ได้ยินอีกฝ่ายถาม หนุ่มหน้าหวานจึงหลุดจากภวังค์ “ถ้ามีโอกาสนะครับ”

“รับรองว่ามีโอกาสแน่ๆ” ณธิปยิ้มเมื่อได้ยินคำอนุญาต ทว่าชายหนุ่มก็ต้องหุบยิ้ม เมื่อได้กลิ่นไหม้ๆ ของอะไรบางอย่าง “คุณไอ…”

“ครับ?”

“ผมว่าก่อนจะถึงตอนนั้น ตอนนี้คุณช่วยอะไรผมสักอย่างก่อนได้ไหม”

“อะไร”

“ช่วยจัดการกับไก่ในกระทะหน่อย ผมทอดไม่เป็น”

“ตายล่ะ!” กมลลุกพรวดจนชิ้นแตงกวากระเด็นหลุดจากหลังมือ ทว่าเมื่อไปถึงเตา ภาพไก่ทอดที่ดำเป็นตอตะโกก็ปรากฏแก่สายตา เขาช้อนไก่ขึ้นมาวางในจานที่เตรียมไว้ ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างแสนเสียดาย “นี่เป็นครั้งแรกเลยนะ ที่ผมทอดไก่ไหม้ขนาดนี้ เสียดายชะมัดเลย”


ณธิปมองคนทำหน้าหงอยเพราะเสียดาย ก่อนจะมองไปที่ก้อนเนื้อสีดำนั่น เขาเองก็เพิ่งเคยเห็นเพอร์เฟคชั่นนิสต์อย่างไอทำอะไรผิดพลาดเป็นครั้งแรกเหมือนกัน


“หึๆๆ” ณธิปพยายามกลั้นหัวเราะ

“นี่คุณ! อย่าหัวเราะกันสิ” กมลหันมาทำหน้ายู่อย่างหลุดมาด และนั่นก็ทำให้ณธิปกลั้นขำไม่ได้อีกต่อไป

“ฮ่าๆๆ”

“บอกว่าอย่าหัวเราะไง”

“ก็มันขำนี่ ฮ่าๆ ดำปี๋เลย”


เห็นณธิปยืนหัวเราะร่วน กมลก็ยิ่งฉุน แต่เมื่อมองกลับมาที่ไก่ดำๆ ของตนเอง ชายหนุ่มก็นึกขำจนอดหัวเราะออกมาไม่ได้เหมือนกัน


เป็นครั้งแรกที่ทั้งคู่หัวเราะออกมาด้วยกัน บรรยายกาศที่ฝ่ายหนึ่งคอยระแวดระวัง ฝ่ายหนึ่งมุ่งมั่นที่จะหาโอกาสรุกเข้าหาจึงค่อยๆ ผ่อนคลายลงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน






<><><><><><><><><><><><><><>




มาต่อแล้วค่าาา

ไหนใครว่าคุณไอเป็นน้ำแข็งหิมาลัยคะ
ตอนนี้น้ำแข็งเริ่มละลายแล้วน้า /เหลือบมองเลขตอน
มาถึงตรงนี้ ทีมของคุณเล็กเริ่มอบอุ่นขึ้นแล้ว สมาชิกเริ่มเยอะแล้ว
ใครชอบพี่เมฆแบทเทิลคุณเล็ก รับรองว่าได้เจออีกแน่ๆ ค่ะ 555

ฝากด้วยนะคะ


ละอองฝน.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-11-2017 22:13:41 โดย ละอองฝน »

ออฟไลน์ kong6336

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
เดี๋ยวนี้คุณเล็กทำตัวน่ารักขึ้นเยอะมากๆเลย

คุณไอก็รีบๆใจอ่อนบ้างก็ดีนะ อยากเห็นฉากหวานๆๆเยอะๆๆ :hao7: :hao7:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด