[END]「มนุษย์แฟนเด็ก」แจ้งข่าวรวมเล่ม P.1
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [END]「มนุษย์แฟนเด็ก」แจ้งข่าวรวมเล่ม P.1  (อ่าน 556203 ครั้ง)

ออฟไลน์ Melonlove

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
ลูกหมูน่าล๊ากกก :mew1:  ขอจันทร์เจ้ามาเลี้ยงสักวันจิ  จาฟัดให้น่วมรุย :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
ดีใจที่นักเขียนกลับมา ^^
ชอบนิสัยจันทร์เอ๋ยจันทร์เจ้า กับทิวา
จะลงบ่อยแค่ไหนนะ  :L2: :pig4:

ออฟไลน์ HEARTBREAKER

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +418/-3
มนุษย์แฟนเด็ก
3
มีความอยากกุมขมับ



   “ทิว้าาาาา!!” ขายาวหยุดชะงักหลังจากได้ยินเสียงเรียกที่ค่อนข้างเสียดแก้วหู พอหันไปมองที่ต้นเสียงก็เห็นว่าเป็นเด็กมาร์ชเมลโลว์ที่ยืนอยู่ที่อีกฟากของถนน

   “ดีจังที่เจอ” พอข้ามมาแล้วก็ยิ้มจนตาหายไปหมด “พี่ต้น พี่มิค พี่รถถัง สวัสดีครับ”

   “ดีครับ” ห่าต้นแม่งทำหน้าฟินไปละ โดนทักคนแรกด้วยนั่นอ่ะ

   “ไม่สวัสดีกู?”

   “สวัสดีครับพี่กาล” เด็กกวนประสาทยกมือขึ้นท่วมหัว และยิ้มซน ๆ ส่งไปให้พร้อมกับยักคิ้ว ความน่าหมั่นไส้ของมันทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะส่งมือไปเขกหัวกลม ๆ นั่น

   “มีอะไร?”

   “อ๋อ! เราซื้อนี่มาให้!” เด็กนั่นคุ้ยกระเป๋าสักพักแล้วส่งนมพาสเจอร์ไรส์แบบขวดรสสตรอว์เบอร์รี่มาให้

   แบ๊วมากไหมไอ้สัด!

   “เพื่อ?!”

   “แทนคำขอบคุณที่ช่วยติวให้เรากับเพื่อนไง จริง ๆ เราจะให้ตั้งแต่เมื่อวาน แต่เมื่อวานเราไม่เจอทิวาเลย”

   “ไอ้ห่า นมโง่ ๆ เนี่ยนะ!” ไอ้เพื่อนเชี่ยสามตัวนั่นของเขากลั้นขำจนไหล่สั่น

   “ว่าไมอะ รู้ว่าเปล่าจะเสียใจเนี่ย โอ๋ ๆ” จันทร์เจ้าลูบขวดนมเหมือนปลอบเด็กร้องไห้ ทิวากาลมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าแล้วสูดหายใจเข้าลึก กูจะบ้า ขอตบหน้าผากตัวเองได้ไหมเนี่ย

   “เก็บไว้กินเองเหอะ”

   “หูย ไรอ่ะ เราตั้งใจซื้อมาให้เลยนะ ทำไมทิวาใจร้ายแบบนี้อ่ะ ไม่เห็นความตั้งใจของเราเลยใช่ไหม เราเสียใจอ่ะ ถ้าเราเสียใจเราจะต้องไม่มีสมาธิทำอะไรแน่เลย แล้วจากนั้นเราก็จะเหม่อ แล้วพอเข้าเรียนเราก็จะโดนอาจารย์---”

   “พอ!!!!” มันทำหน้าหงอย และทำปากเหมือนเป็ด ทิวากาลถอนหายใจแรง ๆ แล้วคว้านมนั่นมาถือ นมสตรอว์เบอร์รี่นี่เข้ากับกูมากมั้ง ห่า!

   “ดื่มด้วยสิ” แนะ มีบังคับกูอีก

   “ยังไม่อยากกิน”

   “ทิวาไม่ชอบเหรอ งั้นเอาคืนเรามาก็ได้...” เสียงหงอยขนาดนั้นคิดว่ากูจะทำยังไงล่ะ

   ฉีกฝาด้านบนออกแล้วดื่มรวดเดียวหมดไง เหอะ!

   “พอใจยัง?”

   แก้มกลมสั่นหัวและเงยหน้ามองทิวากาลพร้อมแววตาสำนึกผิด “เราเหมือนบังคับทิวาเลยอ่ะ เราขอโทษนะ”

   “อะไรของมึงอีกละ?” ตอนนี้เพื่อนของทิวากาลทั้งสามไปแล้ว เลยเหลือแค่เขากับเด็กประหลาด

   “งื่อ... เพราะนมมันมีประโยชน์ไง เราเลยซื้อนมมาให้ เหมือนตอนนั้นที่ทิวาซื้อนมมาให้เราอ่ะ ถึงทิวาจะบอกว่าซื้อมาเกินกินไม่หมดก็เถอะ แต่เรารู้ว่าทิวาตั้งใจซื้อมาให้เรา แล้วแบบ... เราขอโทษอ่ะ ทั้งที่ทิวาแสดงออกว่าไม่ชอบแต่เราก็บังคับให้ทิวาดื่มนมโง่ ๆ นั่น เรา...”

   เขาจะทำยังไงกับไอ้เด็กเข้าใจยากนี้ดี ที่มันพูดมานี่ต้องการสื่ออะไรวะ เขาคิดว่าข้อสอบไฟนอล ยังเข้าใจง่ายกว่าเด็กมาร์ชเมลโลว์นี่อีกด้วยซ้ำ ความย้อนแย้งนี้คืออะไร? คะยั้นคะยอให้เขาดื่มนมโง่ ๆ นั่นในตอนแรก พอเขาดื่มเข้าไปแล้วก็มาทำหน้ารู้สึกผิดว่าให้เขาดื่มทั้งที่ไม่อยากดื่ม คือ?!!!

   ทิวากาลไม่รู้ว่าสิ่งที่เจ้าเด็กนี่พูดมันคือความใสซื่อจริง ๆ หรือแค่ความกวนตีนที่มีความซื่อเป็นฉากกั้น กวนตีนแบบใส ๆ งี้

   ประสาทจะแดก!

   “ช่างมันเหอะ กูก็แดกไปแล้วไง แล้วให้ทำไง อ้วกออกมาไหม?”

   “ฮื่อ...”

   “เลิก พอ หยุด! เพื่อนมึงไปไหน? ทำไมยังไม่กลับบ้าน?”

   “เพื่อนเรากลับไปแล้ว เรารอน้องมารับอยู่...”

   “น้องมึงจะมาเมื่อไหร่?”

   “ไม่มาแล้ว” สูดหายใจเข้าลึก ๆ ควบคุมสติอารมณ์ไม่ให้ลั่นตบกะโหลกเด็กเปรตนี่ไป ความกวนตีนนี้มึงไปได้จากไหนมา หา!!!!!

   “...”

   “อ๋อ เรารอเพื่อน นัดไปกินบุฟเฟต์!”

   “เหรอ กูไปละ” ก่อนที่จะประสาทแดกไปมากกว่านี้...

   “เง่ออออ เดี๋ยวสิ อยู่เป็นเพื่อนเราได้เปล่า?”

   “แล้วทำไมมึงไม่ไปหาเพื่อน”

   “ก็...”

   “ไปไม่ถูก?” เด็กมาร์ชเมลโลว์พยักหน้าหงึกหงักแทนคำตอบ


   “ขอบคุณทิวามากเลยน้าที่มาส่งเรา”

   “รีบลงไปได้ละ”

   “ไล่เราอ่ะ เราจะเสียใจ”

   “เรื่องของมึง ลงไป!”

   “ฮี่ฮี่ ไปก็ได้ แล้วก็ไม่ต้องไปแอบคิดถึงเรานะ โอ๊ย!” เขกหัวเด็กกวนประสาทไปหนึ่งที

   “ไปได้แล้วไป”

   “อือ ๆ ขับรถดี ๆ นะ เราไปละ บั๊บบัย!” มันยิ้มแฉ่งใส่เขาแม้เมื่อไม่กี่วินาทีก่อนจะหน้าบึ้งมากขนาดนั้น มือเล็ก ๆ ขาว ๆ โบกหยอย ๆ ให้ก่อนจะหันหลังวิ่งเข้าไปในตึก

   ทิวากาลส่ายหน้าเบา ๆ ไล่ความคิดตัวเอง จริง ๆ เด็กนั่นมันก็น่ารัก ถ้าไม่ติดว่ากวนตีนและเข้าใจยากไปหน่อยอะนะ...



   “ต๊ายยยยยยย ฝนจะตกหรือจะแล้งกันปีนี้ ลูกชายฉันกลับบ้านล่ะป้าบัว” เสียงของหญิงวัยกลางคนเอ่ยค่อนแขวะลูกชาย ทิวากาลจึงต้องรีบกอดและหอมแก้มเอาใจเสียยกใจ เหตุเพราะไม่โผล่หน้ามาให้เห็นนานเกินไป

   “โธ่ แม่ครับ”

   “ลมอะไรหอบมายะ?!”

   “ลมคิดถึงครับ” คนเป็นแม่หรี่ตามองด้วยว่าไม่เชื่อสักเท่าไหร่ ร่างสูงยิ้มกว้าง ๆ และจูบหลังมือของแม่เบา ๆ แต่ท่านก็ยังมองค้อนเขาอยู่ ป้าบัวซึ่งเป็นหัวหน้าแม่บ้านและยังเป็นแม่นมของเขาด้วยหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะขอตัวไปดูแลงานในครัว

   หลังจากที่ส่งเด็กมาร์ชเมลโลว์ไปหาเพื่อนของเจ้าตัว เขาก็ขับรถไปเรื่อย ๆ เพราะไม่รู้จะไปไหน คอนโดก็ไม่อยากกลับ ไปหาเพื่อนก็ไม่อยากไป กับสาว ๆ ยิ่งแล้วใหญ่ จึงตัดสินใจกลับบ้าน อีกอย่างทิวากาลก็ไม่ได้กลับบ้านตั้งแต่เปิดเทอมแล้ว จริง ๆ ก็ตั้งแต่ก่อนหน้านั้น กลับมาหาแม่บ้างก็ดี เดี๋ยวท่านจะน้อยใจเอา

   “พ่อกับพี่ยังไม่กลับหรอครับ?”

   “เห็นไหมล่ะ?”

   “เอ๋า…” เขามองคุณนายที่ยังคงค้อนไม่เลิกด้วยความอ่อนใจ เอาเถอะ ยอมให้ก็ได้

   ทิวากาลไม่ใช่ลูกคนเดียว ครอบครัวเขามีพี่น้องสี่คน มีพี่คนโต เป็นผู้หญิง ซึ่งแต่งงานแล้ว ย้ายไปอยู่บ้านสามีและมีลูกแล้วหนึ่งคน ถัดมาก็พี่คนรอง คนนี้พี่ชาย ห่างกับคนตัวสูงสามปี พวกเราค่อนข้างสนิทกันพอสมควร ทิวากาลเป็นลูกคนที่สาม และมีน้องสาวอีกคน กำลังเรียนแฟชั่นดีไซน์ปีสอง คนละมหาวิทยาลัย

   “เฮ้อ…” ร่างสูงถอนหายใจ ขยับไปนอนหนุนตักของแม่ เธอลูบผมลูกชายเบา ๆ ความอบอุ่นที่ได้รับทำให้ชายหนุ่มยิ้มออกมาทั้งที่ยังหลับตา มือหนาจับมือของแม่ไปแนบที่แก้ม

   บางที… เขาก็อยากจะอ้อนแม่เหมือนตอนเด็ก ๆ

   “แล้วนี่เรามาคนเดียวหรอ?”

   “จะให้มากับใครล่ะครับ? พาสาวเข้าบ้านแม่ได้เอาค้อนทุบผมน่ะสิ”

   “สาวที่แม่ไม่ปลื้มน่ะโดนแน่ ๆ” ทิวากาลหัวเราะ ถ้าไม่ใช่คนที่จริงจังด้วยเขาไม่พาเข้าบ้านแน่นอน “น้องชมพู่บอกแม่ว่าช่วงนี้ทิวาไม่ค่อยยุ่งกับใครแล้ว จริงหรือเปล่า?”

   “โห แม่ใช้ไอ้พู่เป็นสายให้หรอครับ?”

   “ตอบแม่มาสิ!”

   “ก็… ตามนั้นแหละครับ บางทีผมอาจจะเบื่อความสัมพันธ์แบบนี้แล้วก็ได้”

   “ดี เราก็โตแล้ว หัดจริงจังกับชีวิตเสียบ้าง จะคบใครก็ดูดี ๆ นะทิวา”

   เขายิ้มให้กับผู้เป็นแม่ ท่านคงเอ็นดู(ที่รู้สึกจะค่อนไปทางหมั่นไส้เสียมากกว่า)เลยบีบแก้มเขาซะแรง แต่สุดท้ายก็ก้มลงไปหอมแก้มลูกชายฟอดใหญ่ ไอ้ทิวากาลนี่ยิ้มกว้างเลย หึหึ

   แม่ของเขาค่อนข้างปล่อย แต่พ่อเป็นคนเคร่งครัด ระเบียบจัด หากพ่อตึง แม่นี่แหละที่หย่อน เขาต้องทำตัวให้ดีในแทบทุกเรื่อง จะเที่ยวหรือเล่นก็ห้ามทิ้งการเรียน เรื่องเรียนต้องดี แบ่งเวลาให้เป็น นอกจากเรียนแล้วเขาก็ต้องจัดเวลาเพื่อไปเรียนรู้งานของครอบครัวด้วย เป็นแบบนี้ตั้งแต่มัธยมแล้วล่ะ ไม่ใช่แค่ทิวาหรอก เราสี่พี่น้องต้องทำเหมือนกันหมด แต่น้องสาวคนเล็กมันค่อนข้างดื้อ จึงกระโดดข้ามเส้นที่พ่อขีดไว้ไปเรียนแฟชั่นเสียอย่างนั้น หึหึ

   ก็นั่นแหละ… เขาจึงต้องทำตรงนี้ให้ดี ไม่ใช่อะไรหรอก เพราะจะใช้ตรงนี้ไว้เป็นข้อต่อรองในการที่พ่อกับแม่ไม่ยัดเยียดคู่ครองให้ แต่ถึงอย่างนั้นก็มีหลายครั้งที่ต้องไปดูตัวกับคนที่ท่านหามาให้อยู่ดี

   น่าเบื่อ…




   คนตัวขาวเดินเตาะแตะเข้ามาในร้านบุฟเฟต์ที่เป็นสถานที่นัดหมายกับพี่มีนและรามินทร์ มองหาอยู่ไม่นานก็เจอไต้ฝุ่นกับเวฟ เพิ่มตัวแถมอย่างเจนิซมาอีกคน

   “เฮลโหล!~~”

   “อ้วนขึ้นป่ะวะ?”

   “ตบปากตัวเองเดี๋ยวนี้!” จันทร์เจ้าชี้หน้าเวฟ มันหัวเราะสะใจที่แกล้งเพื่อนตัวจิ๋วได้

   ฮึ่ย! นิสัยไม่ดีเลยอ่ะ

   “ถ้าอยากได้อะไรก็สั่งเพิ่มแล้วกัน” ไต้ฝุ่นบอก แต่ที่อยู่บนโต๊ะก็เยอะแล้ว มีของชอบเราเพียบเลย! รู้ใจกันอย่างนี้ไม่เสียแรงที่คบกันมาหลายปี คึคึ

   “เจนิซอย่างแย่งของพี่!”

   “แต่นี้เจนซ์จ้องไว้นานแล้วนะ!”

   “ไม่ได้นะ! พี่เป็นคนคีบใส่เตากับมือนะ!”

   “มีตั้งเยอะจะแย่งกันทำไม!?”

   “พี่ไม่เข้าใจอ่ะ เฮ้ย!! พี่จันทร์เจ้า!!”

   “อ๊าาาาา อาหย่อยยยยยย” ลูกหมูทำหน้าเคลิบเคลิ้มแล้วเคี้ยวเนื้อหมูที่ถูกย่างจนสุก กลิ่นไหม้นิด ๆ ทำให้อร่อยยิ่งขึ้น ก็… ระหว่างที่เจนิซหันไปไฟท์กับไต้ฝุ่นเราก็รีบฉกมาเลย ของแบบนี้คนฉลาดเท่านั้นถึงจะอยู่รอด!!!

   ถึงจะเป็นพี่น้องก็ตัดขาดกันได้เพราะเรื่องกิน อิอิ

   “มึงยังไม่เลิกกับไอ้มีนอีกหรอ?” เวฟเป็นคนถาม พี่มีนชะงักนิดหน่อย แววตาส่งค้อนวงโตให้เพื่อนที่คบกันมาตั้งแต่มัธยม รามินทร์เองก็มองตาขุ่น ไม่สบอารมณ์เล็กน้อย

   “ถามว่าเวฟจะมีแฟนหรือเปล่ายังตอบง่ายกว่าอีก”

   “อ้าว ไอ้น้องจิ๋ว พูดแบบนี้หมายความว่าไงครับ”

   “หมายความว่าชาตินี้พี่เวฟคงหาแฟนไม่ได้อ่ะ” เจนิซพูดตอบกลับไป แล้วแท็กมือกับจันทร์เจ้า ปล่อยให้เวฟได้ฟึดฟัดไม่พอใจไปคนเดียว

   “กูแค่ไม่รีบโว้ย! ใครจะไปไวไฟเหมือนพวกมึง รีบมีแฟนกันละ อายุแค่นี้ แย่ ๆ”

   “ไม่รีบหรือไม่มีใครเอา” รามินทร์พูดขึ้นมานิ่ง ๆ แต่พังทุกอย่างที่เวฟสร้างมา ทำเอาพวกเราหัวเราะสะใจ เวฟจิปาก สะบัดหน้าราวกับสาวน้อยที่งอนแฟนหนุ่ม อี๋! สยองอ่ะ!

   “น้องจิ๋วของเราก็มีคนมาจีบนะเว้ย ไม่ธรรมดา”

   “มีที่ไหน! อย่ามามั่วนะไอ้เวฟ”

   “ไม่ได้จีบหรอก”

   “เนอะพี่มีน!” เจ้าลูกหมูยิ้มแฉ่งเมื่อพี่มีนเข้าข้าง ทว่าหาได้รู้ไม่... ว่าจะโดนพี่คนดีหักหลัง

   “แค่ซื้อนมมาให้ทุกวันจะเรียกว่าจีบได้ยังไง เนอะน้องจิ๋ว เนอะ!”

   “ก็แค่ซื้อนมอ่ะ ไม่ได้จีบสักหน่อย พี่มีนอ่ะ อย่ามาสร้างความเข้าใจผิดสิ!”

   “ใครอ่ะพี่ เล่าบ้างดิ อยากรู้”

   “ยุ่งไรกับเขา” เจนิซเบะปากหลังจากโดนไต้ฝุ่นตบหัว มองพี่มีนตาปริบ ๆ เพื่อที่จะขอร้องให้เล่า แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือรอยยิ้มหวาน ๆ กับเนื้อย่างชิ้นโต

   คิดจะเอาเนื้อปิดปากเหรอ!!! พี่คิดถูกแล้ว!!!

   “อ๋อ... คนที่เรียกว่ามีนา ‘มิลค์บอย’ น่ะเหรอ? ที่วันนี้ก็ไปส่งที่ตึกมีนอะนะ?” เพราะลูกหมูเล่าให้พี่มีนฟังว่าทิวาชอบมาแกล้งแต่ก็ชอบซื้อนมมาให้ พี่มีนจึงเรียกทิวาว่า ‘มิลค์บอย’ เลย

   “เหยดดดดดดด!” คู่รักประหลาด ไต้ฝุ่น เจนิซ ร้องขึ้นมาพร้อมกัน “มีตั้งฉายาให้ด้วย ทำเป็นเล่นไป”

   “โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยย!! เราโป้งทุกคนเลย!!”

   “5555555555555555555555555”

   เชอะ! ทิวาไม่ได้จีบเราสักหน่อย มีแต่มาแกล้งนั่นแหละ ที่ดีหน่อยก็ที่ตรงซื้อนมมาให้แค่นั้นเอง ฮือ!

   ระหว่างที่ทานกันไปเราก็คุยกันไปด้วย ทั้งเรื่องเล่น เรื่องเรียน แต่ประเด็นส่วนใหญ่ก็ไม่พ้นเรื่องรับน้อง และประเด็นมิลค์บอยที่บรรดาเพื่อนที่ดีทั้งหลายก็พากันเสี้ยมให้ได้ซึ้งสุด ๆ จนอยากจะโบกกะโหลกตอบแทนคนละทีสองที เจ้ามักเกิ้ลพวกนี้ชักจะเหิมเกริมกันใหญ่!!

   ไม่น่าเล่าให้ฟังเลยไอ้คนพวกนี้!!


   เวลายี่สิบนาฬิกาโดยประมาณ...

   “กลับมาแล้วครับ!!” จันทร์เจ้าส่งเสียงออกไปแม้จะเพิ่งเดินเข้ามาถึงประตูบ้าน ถอดรองเท้าผ้าใบออกแล้วสวมสลิปเปอร์คุณมิกกี้เมาส์คู่โปรดแล้ววิ่งไปที่ห้องนั่งเล่น ยกมือสวัสดีแล้วไล่หอมแก้มทุกคน เว้นจริงใจเด็กปีศาจไว้คนหนึ่ง แบร่!!

   “กลับค่ำจังเลยลูก”

   “คุยกันเพลินไปหน่อยครับ”

   “แล้วนี่หนูกลับมายังไง?” กอดแขน เอียงหัวซบป่าป่ะ

   “ไต้ฝุ่นมาส่งฮะ”

   “ภาระคนอื่นอีกละ” ถลึงตาใส่คนพูด ซึ่งนั่นก็คือจริงใจ น้องชายสุดที่ร้ากกกกกกกก (หันไปเบ้ปากใส่กล้องสอง) “รถตัวเองมีก็ไม่รู้จักเอาไปใช้”

   “นั่นสิ เอารถไปใช้เถอะลูกหมู”

   “หนูไม่อยากขับ จริงใจก็ไปรับได้นี่นา…”

   “เดี๋ยวหนูก็เรียนหนักขึ้น เลิกก็ไม่เป็นเวลา บางวันเร็ว บางวันช้า น้องก็ขี่มอเตอร์ไซด์ อันตราย” ลูกหมูเริ่มหน้าบึ้งเมื่อทุกคนเอาแต่เห็นด้วยกับเจ้าเด็กผี ก็บอกว่าไม่อยากขับรถไง...

   “หรือจะอยู่หอ”

   “ไม่เอา! หนูไม่ออยู่หอ ฮือออออ”

   “บ้านเรากับมหา’ลัยหนูก็ไม่ใช่ใกล้ ๆ อยู่หอก็ดีนะลูก”

   “แต่…” มันก็กึ่ง ๆ ง่ะ อยู่หอมันก็สะดวกในหลาย ๆ อย่าง แต่ต้องไปอยู่คนเดียวก็ไม่โอเค ยังไงอยู่บ้านก็ดีที่สุดอยู่แล้วนี่นา

   “ถ้าไม่อยู่หอก็เอารถไปใช้”

   ฮืออออออออออออออออออออ!!

   “หนูขอตัวไปอาบน้ำดีกว่า” ทุกแสยะยิ้มราวกับรู้ทัน แต่จันทร์เจ้าก็ยังตีหน้ามึน “อ๋อ วันศุกร์นี้หนูต้องไปรับน้องที่ต่างจังหวัดนะครับ”



   “ของกูสีอะไร?”

   “ชมพูครับพี่” ไอ้โก๋มันบอกหลังจากที่ทิวากาลถามเรื่องริบบิ้นผูกข้อมือ แล้วดูคำตอบที่ได้จากรุ่นน้องสายรหัสทำเอาเขาแทบจะหนีกลับบ้าน สีชมพู... ส้นตีนเหอะ

   “ทำไมกูได้สีชมพู”

   “ไม่รู้ครับ ผมไม่ได้เป็นคนจัด” แล้วไอ้โก๋ก็ยิ้มหน้าซื่อใส่รุ่นพี่ที่เคารพ โบกหัวสักทีดีไหมวะ ว่าแล้วก็ขอสักที สนิทกันพอสมควรเล่นหัวได้ไม่มีปัญหา

   “พี่กาล!”

   “ครับ?”

   “ไม่คิดว่าพี่กาลจะไปทริปนี้ด้วย” คนมาใหม่พูดพร้อมรอยยิ้มและเข้ามาเกาะแขนแกร่ง

   “ชมพู่บังคับ”

   “พี่ชมพู่ยังชอบบังคับพี่กาลอีกหรอคะเนี่ย”

   “...”

   “พี่กาลได้ริบบิ้นสีอะไรหรอคะ? ฟางได้สีเหลืองมา” หญิงสาวบอกเสียงใสและก็ชูแขนของเธอขึ้นมาด้วย

   “ชมพูครับ”

   “หว้า! นึกว่าเราจะได้อยู่ด้วยกันนะคะเนี่ย ขอเปลี่ยนได้ไหมคะ ฟางอยากอยู่กับพี่กาล”

   แต่พี่ไม่อยากอยู่กับฟางครับ...

   จะตอบไปแบบนั้นก็ไม่ได้ ทิวากาลยิ้มแห้ง ๆ ราวกับลำบากใจหนักหนา ไอ้ชมพู่ไปไหนวะ ทำไมไม่มากันซีนให้เขาเลย

   “สวัสดีครับพี่กาล”

   “หือ?” เจ้าของชื่อเลิกคิ้วมองคนที่เพิ่งวิ่งเข้ามา เด็กตัวขาวยิ้มกว้าง ๆ จนตาหายไปหมด “อะไร?”

   “เราเอานี่มาให้” ว่าแล้วก็ส่งชูขนมปังมีไส้ที่เรียกว่าแซนด์วิชขึ้นมาหนึ่งกล่อง

   “ใครหรอคะพี่กาล?”

   “ปีหนึ่งครับ ชื่อจันทร์เจ้า” เด็กแก้มกลมแย่งเขาตอบไปก่อน ซึ่งนั่นก็ดีเหมือนกัน “ทิวาเอาไปเร็ว~”

   “บังคับกูหรอ?”

   “เปล่า... งั้นก็ไม่ต้องเอา เบสท์เตรียมจกแล้วด้วยอ่ะ”

   “หึ” ทิวากาลยังไม่รับมา ปล่อยให้เด็กมันหน้างอไปก่อน “เห็นไอ้พู่ไหม พวกไอ้ต้นล่ะ?”

   “เห็น!”

   “พาไปหาพวกมันหน่อยดิ” พูดแล้วก็ดันไหล่เล็กให้ออกเดิน โดนทำเป็นลืมไปว่ามีอีกหนึ่งชีวิตที่อยู่ด้านหลัง นึกขอบคุณเด็กมาร์ชเมลโลว์ที่เข้ามาได้ตรงเวลาพอดี

   “ทิวาเอาไส้อะไร?”

   “มีอะไรบ้าง?”

   “ปูอัด ทูน่า แล้วก็ไข่ดาว”

   “ปูอัดแล้วกัน”

   “นี่~” จันทร์เจ้าหยิบแซนด์วิชไส้ปูอัดออกมาจากกล่องหลังจากงมแกะอยู่นานให้กับรุ่นพี่ตัวสูง ลูกหมูฉีกยิ้มกว้างและรับนมรสเมล่อนจากทิวากาล ฮือ มิลค์บอยนี่มันมิลค์บอยจริง ๆ ไม่เสียแรงที่พี่มีนตั้งฉายาให้ คึคึ

   “อร่อยหนิ ทำเองหรอ?”

   “เปล่า คุณแม่เราทำ” พูดจบก็ยักคิ้ว และทำเนียนหยิบจากในกล่องไปหนึ่งชิ้นด้วย ทิวากาลหรี่ตามองอย่างนึกขำ แต่ก็ไม่ได้เอ่ยทักท้วงแต่อย่างใด


   เดินมาไม่นานก็มาถึงสถานที่ที่พวกห่านี่สิงอยู่ พวกมันสี่ตัว(รวมไอ้ชมพู่)กำลังเม้าท์กันอย่างออกรส และบนโต๊ะม้าหินนั่นก็มีกล่องแซนด์วิชวางอยู่ด้วย ทิวากาลเดาะลิ้น รู้สึกฝืดคอขึ้นมาทันที

   ไม่ได้เอามาให้กูแค่คนเดียวหรอวะ...

   “อร่อยเนอะ!” เด็กแก้มกลมพูดด้วยใบหน้ายิ้ม ๆ หลังจากยัดแซนด์วิชใส่ปากของเพื่อนมัน น้องเบสท์ชี้หน้าและอ้าปาก เขาเดาว่าน่าจะด่าเจ้าเด็กเตี้ยนี่แน่ ๆ ก็... ถือเป็นการแก้ปัญหาที่ดี หึหึ

   “มึงอยากตายใช่ไหมอีหมูอ้วน!”

   “ปล่อยให้เราแก่ตายเถอะนะ ; _ ; ”

   “อย่างมึงต้องตายก่อนเวลาอ่ะสัด กวนตีน ไม่ต้องมาแบ๊ว ไม่น่ารักโว้ย!”

   “ใคร ๆ ก็บอกว่าเราน่ารัก เนอะ”

   มึงเนอะกับใคร....

   “มึงช่วยกันฟางให้กูด้วยดิ” ชมพู่หัวเราะเสียงดังเมื่อได้ยินเพื่อนสนิทบอกไปแบบนั้น

   “มาเกาะแกะมึงแล้วหรอ?”

   “เออดิ พอดีแก้มกลมเอาแซนด์วิชไปให้กู เลยให้มันพาเนียนหนีออกมา”

   “5555555555555555555 น่าสงสารไปอี๊กกกกกก”

   “มึงจะช่วยกูป่ะเนี่ย?”

   “เลี้ยงข้าวกูแล้วกัน”

   “เออ”

   “ดีมาก ไป ๆ ขึ้นรถ”

   “นั่งตรงไหนวะ?”

   “เบาะหลังสุดเลยค่ะสุดหล่อ”

   ขอถีบมันสักทีได้ไหมครับ...


   “ว้าย! นั่งคนเดียว น่าสงสารจุง” จันทร์เจ้ากลอกตา เบสท์กับฟินน์ทิ้งเราอ่ะ! มันผิดที่เรามีกันสามคนใช่ไหม!

   ทีแรกก็กะจะนั่งที่เบาะหลังสุดกันนะ แต่พอขึ้นมาบนรถบัสแล้วปรากฏว่าที่เบาะหลังนั้นมีคนจองแล้ว ด้วยการเอากระเป๋าวางไว้ เซ็งเลยอ่ะ เราเลยแก้ปัญหาด้วยการนั่งเบาะคู่แถวหลังสุดนั่นแหละ เบสท์กับฟินน์ก็แยกกันไปสองคน เหลือจันทร์เจ้าคนเดียวไง... เปลี่ยวใจเหลือเกิน โดยที่จันทร์เจ้านั่งคนเดียวที่คู่หลังสุด และฟินน์เบสท์นั่งที่เบาะคู่ด้านหน้าจันทร์เจ้า

   “บอกว่าสงสารแต่ก็หัวเราะสะใจกันมากอ่ะ”

   “โฮะ ๆ”

   “เราเป็นเพื่อนหรือเป็นศัตรูกันอ่ะ”

   “55555555555555555555555”

   เกลียดเสียงหัวเราะพวกเขาจังเลย ฮือออออออ! ชอบรังแกเรา ใจร้ายที่สุดเลย!

   “อ้าว...” คนตัวขาวมองคนที่เพิ่งทิ้งตัวลงนั่งเบาะข้าง ๆ อย่างงุนงง

   “มองไม? ไม่เคยเห็นคนหล่อเหรอ?”

   “แหวะ... ฮื่อ!” เอียงหน้าหลบมือหนาที่ยื่นมาบีบแก้ม “ทำไมมานั่งนี่” ถามก่อนจะมองกลับไปที่เบาะหลัง โหย! คนที่จองแถวหลังคือกลุ่มของทิวานี่เองอ่ะ!

   “นั่งไม่ได้?”

   “เปล่า... แต่เพื่อนของทิวานั่งอยู่ด้านหลังนี่”

   “แล้ว?”

   “วุ้ย! ไม่คุยด้วยแล้ว”

   ครืด!
   คุณได้รับข้อความใหม่

   06:22 TheBest นังหมูโดนพี่กาลอีกแล้ว
   06:22 TheBest หสายใสยสดแบไยฝยสยบหบย
   06:22 Finn นางเงียบ ๆ ฟาดเรียบนะคะ
   06:23 นี่จันทร์เจ้าเอง อะไรง่า
   

   จันทร์เจ้ายังมองข้อความที่พูดทั้งฟินน์และเบสท์ส่งเข้ามาให้ห้องแชทกลุ่มที่มีชื่อว่า BFJ. ด้วยความไม่รู้จะอธิบายยังไง ร้อยทั้งร้อยก็หวีดเรื่องที่ทิวามานั่งข้างเรานั่นแหละ โธ่ ไม่ได้ขอสักหน่อย เขามาเองอ่ะ

   ปึก!

   “ฮื่อ” เพราะมัวแต่พิมพ์ข้อความโต้ตอบกับฟินน์และเบสท์ ทำให้ไม่ทันระวังตัว เมื่อรถบัสเริ่มเคลื่อนที่ หัวของเจ้าลูกหมูก็โขกกับเบาะด้านหน้าอย่างจัง เล่นเอาหลาย ๆ คนหันมามองเลย...

   “เป็นอะไรหมูอ้วน!” เสียงของเบสท์และฟินน์ตะโกนมา

   “เจ็บง่ะ...” ตอบพลางลูบหน้าผากป้อย ๆ

   “ไหน ดูดิ” หันหน้าไปหาทิวาอย่างว่าง่าย คนตัวสูงเปิดผมด้านหน้าของจันทร์เจ้าขึ้นแล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้ อ่า... ทำไมถึงกลั้นหายใจก็ไม่รู้ แอบเหลือบตาขึ้นมองนิดหน่อย คิ้วเข้ม ๆ ของทิวาขมวดเข้าหากันเล็กน้อย “แค่แดง”

   “ไม่โนใช่เปล่า?”

   “อือ ไม่โน”

   จันทร์เจ้ากะพริบตา เผลอจ้องหน้าของทิวาอยู่นาน จนกระทั่งอีกคนหลุบตามาสบกันพอดีถึงได้รู้ตัวว่าไม่ควร ร่างเล็กพึมพำขอบคุณเบา ๆ แล้วเอียงหน้าเข้าหากระจก ปล่อยให้โทรศัพท์บนตักสั่นครืดโดยไม่สนใจ แอบโหม่งหัวกับกระจกเมื่อดันคิดไปว่าวันนี้ทิวาหล่อกว่าทุกวัน ทั้งที่ไม่ได้ต่างอะไรกันมากมาย กลิ่นน้ำหอมของเขาก็รู้สึกจะหอมเป็นพิเศษ อ่า... ต้องเป็นเพราะนั่งใกล้กันแบบนี้แน่ ๆ ก็เลยได้กลิ่นชัดเจน งื่อออ เรารู้สึกแปลก ๆ อ่ะ ไม่ชอบเลย!

   “พี่กาล ทำไมนั่งตรงนี้คะ?” น้ำเสียงเล็กแหลมของผู้หญิงทำให้จันทร์เจ้าหลุดจากความคิดแสนประหลาด

   ผู้หญิงที่อยู่กับทิวาเมื่อเช้านี่เอง...

   “น้องมันนั่งคนเดียว ฟางมีอะไร?”

   “ฟางก็นั่งคนเดียว พี่กาลไปนั่งกับฟางได้ไหมคะ?”

   “ขอโทษทีครับ พี่อยากนั่งใกล้เพื่อนด้วย” หญิงสาวชักสีหน้าเล็กน้อยและปรับเป็นยิ้มหวานอย่างรวดเร็ว

   “เสียดายจังเลยค่ะ งั้นน้อง...” เธอชะโงกหน้ามาดูป้ายชื่อบนคอจันทร์เจ้า “น้องจันทร์เจ้าเปลี่ยนที่กับพี่ได้ไหมคะ?”

   “พี่นั่งตรงไหนหรอครับ?” ลูกหมูแอบมุ่ยหน้าเมื่อทิวาเตะขาเบา ๆ นี่จะให้เราปฏิเสธหรือตอบตกลงกันแน่ แต่ดูจากสายตาคงเป็นอย่างแรก โอเค ๆ เพราะถูกสอนมาเกิดเป็นมนุษย์ต้องรู้จักช่วยเหลือเพื่อนร่วมโลก เพราะฉะนั้นเราจะช่วยทิวาก็ได้

   “ข้างหน้าน่ะจ้ะ”

   “แย่จังเลยครับ เราไม่ชอบนั่งด้านหน้าอ่ะ”

   “มันก็ไม่เชิงหน้าหรอกจ้ะ”

   “ต้องขอโทษพี่ด้วยนะฮะ เราคงเปลี่ยนที่ให้ไม่ได้” ปิดประโยคด้วยการส่งยิ้มซื่ออีกที ทิวากาลยกกำลังปั้นขึ้นปิดมุมปากที่กำลังยกยิ้ม เด็กแสบเอ๊ย!

   “แย่จริง ๆ ด้วย งั้นเดียวฟางมาหาพี่กาลบ่อย ๆ นะคะ”

   “ไม่ต้องลำบากหรอกครับ”

   “ฟางจะเชื่อพี่กาลก็ได้ค่ะ เพราะพี่กาลเป็นห่วงฟาง” จันทร์เจ้าแอบเบ้ปากและเหลือบมองทิวานิดหน่อย เจ้าตัวยิ้มแห้ง และปั้นหน้าไม่ถูก พี่สาวคนนั้นยิ้มยั่วให้ทิวาแล้วก็เดินกลับที่นั่งไป

   “มโนสัด ๆ” เผลอพยักหน้าไปทีหนึ่งหลังจากได้ยินเสียงพี่ชมพู่จากเบาะหลัง

   “แฟนทิวาหรอ?”

   “เปล่า”

   “พี่เขาชอบทิวา?”

   “แน่ดิ กูหล่อขนาดนี้”

   “หลงตัวเองอ่ะ ฟินน์เบสท์! กินหนมเปล่า?” เลิกสนใจคนหลงตัวเองแล้วยืดตัว เกยคางกับเบาะข้างหน้าที่เบสท์และฟินน์นั่งอยู่ คนถูกถามไม่ตอบ แต่กระชากห่อขนมจากมือจันทร์เจ้าไปเลย... เยี่ยม! แต่ใม่เป็นไร ระดับลูกหมูอันดับหนึ่งแล้ว ไม่มีทางเตรียมขนมมาแค่ห่อเดียวหรอก เราเอามาเต็มกระเป๋าเลย เย้!!!

   ทิวากาลหันมองสิ่งมีชีวิตสีขาวที่กำลังหลับตาพริ้ม ศีรษะทุยของเอนซบที่ไหล่ของเขาโดยที่เจ้าของไม่รู้ตัว ร่างสูงยกยิ้มเล็กน้อย ใช้มือประคองศีรษะของคนอายุน้อยกว่าให้พิงไหล่เขาได้สบายขึ้น แขนยาวเอื้อมไปปิดม่านเมื่อพบว่ามีแสงแดดสาดส่องเข้ามารบกวนคนหลับ เพราะต้องยืดตัวเล็กน้อยทำให้ปลายจมูกโด่งฝังเข้ากับกลุ่มผมนุ่ม ทิวากาลเผลอสูดดมกลิ่นหอมจากจันทร์เจ้าอย่างไม่รู้ตัว อยู่ใกล้กันก็บ่อยแต่เขากลับไม่เคยจะรู้สึกเลยว่าเจ้าเด็กเข้าใจยากคนนี้มีกลิ่นหอมแบบนี้ ไหนจะกลิ่นแป้งเด็กหอมกรุ่นอ่อน ๆ จากผิวแก้มขาวนั่นอีก...

   ตอนนี้เขา... รู้สึกสดชื่นและปลอดโปร่งอย่างบอกไม่ถูก





TBC
มาแล้วจ้าาาาา คึคึ
ในส่วนของตอนนี้ก็ไม่มีอะไรมาก มีแค่ความมึนของลูกหมู 5555555555555555555
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ หลังจากตอนนี้อาจจะอัพช้าหน่อย เดี๋ยวขอไปตบตีกับเพลิงฟ้าก่อนคับ ; _ ;
ไว้เจอกันค่ะ บั๊บบัย ♥
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-06-2016 18:41:31 โดย HEARTBREAKER »

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
น้องมึนได้น่าย๊ากกก มากก

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
บอกได้แค่ว่า มีความอยากได้จันทร์เจ้า :กอด1: :กอด1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
ลูกหมูนี่แสบจริงๆ

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
หวายๆ เขาเริ่มอะไรยังไงกันแล้วนะคะเนี่ย

ชอบความมึนของจันทร์เจ้าจริงๆ ฮาาาาา

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1600
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
น้องจิ๋วที่หนึ่งในใจ ตัลล้ากกกกก  :-[ :-[ :-[ :-[ :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ 205arr

  • เราคงอยู่ไกลกันเป็นพันหมื่นลี้
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
โอ๊ย พี่กาลแอบหอมลูกหมูแล้ว
ถึงจะแค่ผมก็เถอะ
มาต่อไวๆ นะคะ คิดถึงลูกหมู :-[ :o8:

ออฟไลน์ wonderbe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
โอ้ยยยน่าร้ากกกกก :-[

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
พี่ทิวาชอบน้องก็รีบจีบค่ะ
อย่ามาท่ามากอยู่น้องยิ่งอึนๆมึนๆอยู่  :hao7:

ออฟไลน์ Chise

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
หมูจิ๋วทั้งกวนทั้งมึน มันน่าจับฟัดจริงๆ


ออฟไลน์ rainiefonnie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-2
ลูกหมูน่ารักเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือความกวนตีน   ส่วนชะนีนี่ลำใยรุงรังมีความพูดไม่รู้เรื่องมีความมโนสูงเบื่อชะนี :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ tkaido

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1340
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
ลูกหมูนี่มันร่างอวตารของเพลิงฟ้าชัดๆ 555

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1586
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
จันทร์เจ้า คือ สิ่งที่น่ารัก



คือสิ่งที่แบ้ว แต่ ฉลาดคิด ฉลาดเอาตัวรอดแบบมึนๆ



เหมือนไม่ทันคน  แต่ ไม่โง่นะ เพียงแค่น้องจิ๊ว ไม่ยู๊เยื่อง ฮ่าๆๆ



ที่สุดของคำว่าสายแบ๊ว คือหนูจันทร์

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
พี่กาล น้องออกจะน่ารักขนาดนี้ อย่าช้า รีบๆ จีบ รีบๆ เป็นแฟนกันด่วนๆๆเลย

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
หนูจิ๋ว ใครๆก็ชอบแกล้ง

ออฟไลน์ Wereena

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
    • facebook
ฮี่ๆๆ มีความน่ารักขั้นรุนแรง :haun4: :haun4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2067
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
รู้สึกอบอุ่นในความเป็นผู้ชายแบบทิวา

ชอบจริงใจ เด็กแสบ

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ lemonpreaw

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
ลูกหมูน่ารักชะมัด

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ cinpetals

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 452
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
มีความต๊องนะแต่ละคน 5555

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
ลูกหมูน่ารักกกก

ออฟไลน์ momonuke

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ตะมุตะมิมากค่ะะะ  :-[ :-[

ออฟไลน์ HEARTBREAKER

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +418/-3
มนุษย์แฟนเด็ก
4
มีความโดนเมิน



   “โก๋”

   “ครับพี่พู่?”

   “ขอกล้องแป๊บดิ” นายโก๋ส่งกล้องถ่ายรูปบนคอให้รุ่นพี่สาวคนสนิท ชมพู่ยิ้มรับอย่างพอใจก่อนเอ่ยขอบคุณ

   กล้องตัวนี้ถูกใช้เพื่อบันทึกภาพกิจกรรมการรับน้องครั้งนี้ ร่างผอมเพรียวค่อย ๆ เดินตามทางเดินของรสบัส แล้วหยุดที่เบาะคู่แถวหลังสุด ยกกล้องถ่ายรูปขึ้นในระดับสายตา หมุนเลนส์เพื่อปรับระยาการโฟกัส ก่อนจะกดชัตเตอร์เมื่อได้มุมที่ต้องการโดยไม่ลืมปิดแฟลช ไม่อย่างนั้นคนที่เธอแอบถ่ายอยู่ได้ตื่นขึ้นมาแน่นอน หญิงสาวง่วนอยู่กับการแอบถ่ายรูปของเพื่อนสนิทและเด็กหน้าใสปีหนึ่งอยู่นานหลายนาที ยกยิ้มพอใจกับภาพที่ได้ แค่นี้ก็พอแล้ว หึหึ ดีกับใจอีช้อยนัก

   “โก๋ ส่งรูปไอ้กาลทั้งหมดให้พี่ด้วยนะ เอาลงเพจแค่รูปสองรูปก็พอ”

   “ได้ครับ” โก๋รับปาก “ว่าแต่… พี่กาลกับน้องคนนั้นมีซัมติงอะไรกันป่ะพี่?”

   “ไม่รู้ดิ”

   โก๋ทำหน้าฉงนที่ไม่ได้รับคำตอบที่พอให้กระจ่าง มองดูรูปในกล้องแล้วก็ขมวดคิ้ว พี่รหัสไอ้โก๋เคยเป็นแบบนี้ที่ไหนเล่า

   เดินผ่านมาอีกก็อดไม่ได้ คืนกล้องเขาไปแล้วจึงเอามือถือตัวเองขึ้นมา ถ่ายรูปของเด็กหนุ่มหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูที่กำลังหลับตาพริ้มโดยเอียงศีรษะซบไหล่ของทิวากาลแถมมือเล็ก ๆ นั้นยังกำนิ้วของทิวากาลเอาไว้อีกด้วย แก้มขาวนุ่มนิ่มนั่นน่าบีบเป็นบ้าเลย… ย้ายสายตามาที่เพื่อนสนิท ทิวากาลเองก็หลับไม่รู้เรื่อง มันจั๊กจี้หัวใจตรงที่มันเองก็เอียงหัวพิงศีรษะน้องอีกทีนั่นแหละ ความสูงต่างกันไม่เป็นอุปสรรคเลยจริง ๆ ช่างรุนแรงกับใจเหลือเกิน

   “มึงเป็นบ้าเหรอ?” ชมพู่จิกตามองคนพูด สาวเจ้าเดินไปนั่งที่เบาะ ชี้นิ้วไปที่คนที่หลับอยู่ให้รถถังดู

   “มึงว่ามันแปลกไหม?”

   “อะไรวะ?” เพราะอยู่ด้านหลังเขาจึงไม่เห็นว่าสิ่งที่หญิงสาวต้องการให้ดูคืออะไร ชมพู่จิปาก ก่อนจะเอาโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วเปิดรูปภาพล่าสุดให้รถถังดู

   “เข้!”

   “มึงว่าไง?”

   “เจนสัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่างค่ะคุณกิตติ” นึกอยากจะฟาดกะโหลกมันสักที…

   “สัมผัสอะไรได้บอกผมสิครับคุณเจน” ที่ไม่ฟาดเพราะดันเล่นกับมันนี่แหละ…

   “ฟรุ้งฟริ้ง” พูดพร้อมกับทำมือไปด้วยแล้วหัวเราะเอง “ไอ้ห่า อย่างกับแฟนกัน”

   “ใช่มะ!! ไอ้กาลยอมให้คนอื่นอิงแอบแนบซบแบบนี้ได้ยังไง!”

   “เรื่องนี้ต้องทีเงี่ยนงำ”

   “เงื่อนพอ!” และคราวนี้เธอก็ได้ฟาดกะโหลกของมันจริง ๆ

   ประเด็นสนทนายังคงเป็นเรื่องของทิวากาลและรุ่นน้องแก้มยุ้ยอย่างจันทร์เจ้า ตั้งแต่รู้จักกับมันมาทั้งชีวิตเนี่ย นี่นับว่าเป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ ที่เห็น ๆ ว่ามันเฟรนด์ลี่ เป็นมิตรน่ะจอมปลอมทั้งนั้น ความจริงแล้วทิวากาลโลกส่วนตัวสูงพอสมควร

   ทิวากาลไม่ชอบให้คนอื่นแตะต้องโดนตัว แต่ยอมให้จันทร์เจ้าใช้ไหล่หนุนนอน

   ทิวากาลไม่ชอบวุ่นวายกับใคร แต่เมื่อเห็นจันทร์เจ้าก็เข้าไปหาแทบทุกที

   ทิวากาลแทบจะไม่สนใจอะไร แต่เผลอเมื่อไหร่ก็เอาแต่คอยมองหาใครสักคน

   อีกประเด็นสำคัญนั่นคือชื่อ… หมอนั่นยอมให้คนอื่นเรียกว่า ‘ทิวา’ ที่ไหนกัน คนที่เรียกได้ก็มีแค่คนในครอบครัวเท่านั้น นอกจากไม่แสดงท่าทีไม่พอใจหรือหงุดหงิดแล้วยังดูเหมือนจะชอบเสียอีก หลงเสน่ห์เด็กไม่รู้ตัวแล้วมึงเอ๊ย


   กริ๊ง! กริ๊ง! กริ๊ง!

   แรงสั่นสะเทือนจากเครื่องมือสื่อสารในกระเป๋ากางเกงทำให้ทิวากาลปรือตาขึ้น เขามองไปรอบ ๆ มีหลายคนที่ตื่นแล้ว และก็ยังมีคนที่ยังไม่ตื่น เช่น คนที่กำลังพิงไหล่เขาอยู่ตอนนี้ เขายกยิ้มเล็กน้อย แอบจิ้มนิ้วบนแก้มนวลเนียนเบา ๆ แก้มกลม ๆ กำลังซบไหล่เขานั้นยุ้ยตุ่ยดูน่าบีบ  ขยับนิ้วเมื่อรู้สึกว่ามันชา นั่นทำให้ทิวากาลเห็นว่ามีมือเล็กกำนิ้วของเขาอยู่ โธ่ กำไว้ได้แค่สามนิ้วเองเหรอวะ

   กริ๊ง!

   ลืมไปเลยว่าเพราะอะไรถึงได้ตื่น มือหนาล้วงเอาโทรศัพท์มือถือออกมา

   Charissa ได้แท็กคุณในรูปภาพ
   Charissa, Thachat และ 24 คนอื่น ๆ ได้แสดงความเห็นในรูปภาพที่มีคุณ
   Charissa, Thachat และ 967 คนอื่น ๆ ได้ถูกใจรูปภาพที่มีคุณ

   นี่มันเหี้ยอะไรกัน…

   ทิวากาลเอี้ยวไปมองเบาะหลังซึ่งเป็นที่สิ่งสถิตของเพื่อนของเขา ร่างสูงเขย่าโทรศัพท์มือถือไปมา แต่ไอ้พวกนั้นกลับทำเป็นไม่รู้เรื่อง ให้มันได้อย่างนี้! แอบถ่ายรูปเขาไปตอนไหนวะ ทิวากาลขมวดคิ้วมองรูปถ่ายบนจอสมาร์ทโฟน เขาเม้มปาก เหลือบมองอีกคนที่อยู่ในรูปภาพเหมือนเขา ถอนหายใจออกมา ถึงจะบอกให้มันลบยังไงมันก็ไม่ลบแน่นอน สำหรับเขามันไม่เป็นอะไร แต่กับเด็กมาร์ชเมลโลว์นี่ล่ะ? ไม่ได้หลงตัวเองหรอกนะ ถ้าเกิดกลุ่มคนที่ชื่นชอบเขาโจมตีเด็กนี่ เขาคงรู้สึกไม่ดี คิดแล้วก็ถอนหายใจออกมาอีกครั้ง มือหนาเสยผมตัวเองขึ้น จ้องมองภายในจอนิ่ง ๆ แล้วมองตัวจริงที่กำลังหลับตาพริ้ม หายใจเข้าออกสม่ำเสมอ

   “กูมีหลายรูป ถ้าอยากได้ขายให้ถูก ๆ รูปละสองร้อย” เสียงของชมพู่ดังมาจากเบาะหลัง เขาไม่พูดอะไร เพียงแค่ยกนิ้วกลางขึ้น



   “พี่จะให้แจกกุญแจห้องพักให้น้อง ๆ นะครับ ใครที่ได้เพื่อนร่วมห้องแล้วก็มารับกุญแจและเขียนชื่อกับพี่ฝ้าย พี่บิ๊ก พี่นุ่น ได้เลย แยกชายหญิงนะครับ! แล้วแต่ละห้องจะมีรุ่นพี่พักอยู่ด้วย เผื่อมีอะไรจะได้ช่วยเหลือกัน”

   ระหว่างที่ยืนฟังรุ่นพี่อยู่นั้น จันทร์เจ้ากับเบสท์ก็จับมือกันหมับทันที ฟินน์ที่ยืนอยู่ด้วยกันก็เบ้ปากเพราะต้องแยกกับเพื่อน แล้วนั่น ไอ้สองตัวนั้นเดินไปรับกุญแจแล้วทิ้งเธอไว้คนเดียวเฉยเลย เด็กสาวเกาหัวแกรก ๆ มองซ้าย มองขวาหาคนที่จะมาเป็นรูมเมทของตน ดวงตาเรียวรีสะดุดเข้ากับคนคนหนึ่งที่ยืนเอ๋ออยู่ท่ามกลางความวุ่นวาย ฟินน์ดีดนิ้วเป๊าะ แล้วเข้าไปคว้าแขนของสาวแว่นท่าทางแก่เรียนคนนั้นเอาไว้

   “พี่ให้เวลาเก็บของและพักผ่อนจนถึงสิบเอ็ดโมงนะครับ  แล้วกลับมารวมตัวกันที่นี่อีกครั้งพร้อมกับชุดทำกิจกรรมและอย่าลืมป้ายชื่อกับริบบิ้นนะครับ!!”


   จากตอนนี้ไปถึงสิบเอ็ดโมงก็มีเวลาประมาณชั่วโมงกว่า ๆ อย่างนี้ก็มีเวลานอนน่ะสิ! เมื่อเปิดประตูเข้าในห้องพักแล้วคู่เพื่อนไซส์มินิก็รีบตรงดิ่งไปที่เตียงทันที  อ๊า!!!! เตียงนุ่มมาก ๆ เลย!!!! เรามองหน้ากันแล้วยิ้มกว้าง ๆ เด้งตัวดึ๋ง ๆ บนเตียงสักพักก็จัดของใส่ตู้ เรามาทำกิจกรรมรับน้องที่นี่กันเป็นเวลาสามวันสองคืน ก็ไม่รู้ว่าจะได้ทำอะไรบ้าง น่าตื่นเต้นดีเนอะ!

   “ทำอะไรอีอ้วน เก็บของเสร็จแล้วหรือไง!?” เสียงเบสท์ลอยเข้ามากระแทกแก้วหูระหว่างที่จันทร์เจ้ากำลังง่วนกับการพิมพ์ข้อความส่งในให้ในครอบครัวรับรู้ว่าเขามาถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพแล้ว

   “ส่งข้อความหาที่บ้านน่ะ”

   “โทรบอกง่ายกว่าไหมวะ?”

   “ก็ง่าย… แต่เวลานี้ทุกคนทำงานกันอยู่ไง เรามีมารยาท”

   “มึงว่ากูไม่มีมารยาทหรอ!?”

   จันทร์เจ้าเงยหน้ามองเบสท์ เบสท์กำลังเท้าเอวทำหน้ายักษ์ใส่ ลูกหมูเอียงคอสงสัย เราไปบอกว่าเบสท์ไม่มีมารยาทตอนไหนเหรอ? สุดท้ายเบสท์ก็ได้แต่ทึ้งหัวตัวเอง เห็นหน้าโง่ ๆ ของมันแล้วอยากจะจับโขกกับกำแพงห้อง แต่อีกใจหนึ่งก็ทำไม่ลงเพราะหน้าโง่ ๆ ของมันอีกเช่นกัน

   “เราง่วงจังเลยอ่ะเบสท์” จันทร์เจ้าพูดขึ้นมาหลังจากไปเปลี่ยนชุดสำหรับทำกิจกรรมมาเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวชุดนักศึกษาเรายับ ฮี่ฮี่

   “ง่วงหอยอะไร บนรถก็หลับตั้งแต่ขึ้น” นึกถึงเรื่องบนรถแล้วก็ยุบยิบหัวใจ เบสท์ขึ้นไปนั่งขัดสมาธิบนเตียงกับจันทร์เจ้า ก่อนจะพูดในสิ่งที่อยากพูดแต่ไม่มีเวลา “ทำไมมึงถึงไปนอนพิงไหล่พี่กาลของกู?”

   “หือ?” ลูกหมูเลิกคิ้วสูง “เราพิงไหล่ทิวาเหรอ”

   “เออสิวะ”

   “ไมเห็นรู้ตัวเลยอ่ะ” ตอนแรกก็นอนดี ๆ แล้วนะ มั่นใจด้วยว่าไม่ไปเบียดเบียนทิวาแน่นอน และจันทร์เจ้าก็คิดแบบนั้นมาตลอด อีกทั้งตอนตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองนั่งอยู่คนเดียว ทิวาอาจจะรำคาญเลยย้ายไปนั่งกับเพื่อนที่เบาะหลัง

   “โง่อะไรเบอร์นี้วะ”

   “เรานอนพิงไหล่ทิวาจริง ๆ เหรอ?”

   “เออ!! ไม่เชื่อมึงก็เข้าไปดูในเพจของคณะดิ มีรูปอยู่โว้ย!”

   จันทร์เจ้ารีบกดสมาร์ทโฟนเข้าไปตามที่เบสท์พูดทันที เลื่อนดูรูปไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งมาถึงรูปที่มีตัวเองอยู่ ตาโตเบิกกว้างตามสภาวะอารมณ์ มันคือรูปที่ตัวเขานอนพิงไหล่ของทิวาจริง ๆ แม่เจ้า!! เขาจะโดนแฟนทิวาตามมาแหกอกไหม! แล้วดูสิ ทั้งจำนวนคนถูกใจ คนที่กดแชร์และความคิดเห็นมากมายเกี่ยวกับรูปภาพ มันยิ่งทำให้ลูกหมูมือสั่น

   “นอกจากอิงแอบแนบซบแล้วมึงยังจับมือพี่กาลด้วยนะนังเด๋อ!” เบสท์จิ้มนิ้วไปกลางหน้าผากนูนแรง ๆ หมั่นไส้มัน มีแต่ผู้งานดีมารุมล้อม กูเซ็ง!

   “ทำไงดีอ่า…” ล็อกโทรศัพท์มือถือแล้วโยนมันไปราวกับนั่นคือของร้อน จันทร์เจ้าล้มตัวนอน ซุกหน้ากับหมอนใบโตพร้อมกับสะบัดไปมาจนผมหนานุ่มกระจาย ตอนนี้ในหัวของเรามันมีอะไรไม่รู้เยอะแยะไปหมดเลย ไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองจะไปทำอย่างนั้นกับคนที่เพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน โฮ ทั้งซบไหล่และไหนจะจับมืออีก นึกเกลียดตัวเองที่มีนิสัยเวลานอนต้องมีอะไรให้จับ หากอยู่บ้านก็นอนกอดตุ๊กตาคุณหมีไปแล้ว คิดแล้วน้ำตาจะไหล รูปรูปนั้นยังเด่นชัดในความคิด หัวใจเต้นแรงด้วยความตกใจ ใบหน้าร้อนผ่าวด้วยความอับอาย

   เอ๋… แต่จะแน่ใจได้ยังไงว่าใจเต้นแรงเพราะตกใจ หรือหน้าร้อนเพราะอับอาย…


   ก๊อก ก๊อก

   เรามองหน้ากันและแล้วจันทร์เจ้าก็เป็นคนโดนใช้ให้ไปเปิดประตู ทว่าในจังหวะนั้นโทรศัพท์ของเจ้าลูกหมูก็ดังขึ้นมาเสียงก่อน จันทร์เจ้ายิ้มแฉ่ง ฉกสมาร์ทโฟนขึ้นมาชูแล้วหมุนตัวไปรับสายของพี่ฟ้าสุดที่รัก ให้เบสท์เป็นคนไปเปิดเอง คึคึ

   “เฮือก!” อกอีแป้นจะแตก เด็กหนุ่มไซส์มินิเบิกตาโปนเมื่อเห็นว่าใครเป็นคนมาเคาะประตู หัวใจเบสท์โดนโจมตีรุนแรง เห็นหน้าหล่อ ๆ ของพี่กาลแล้วน้ำลายสอ ซี้ด แต่อีกคนมาทำไมไม่ทราบ!

   “อ้าว” มิคเป็นคนที่ร้องขึ้นมาคนแรก ในขณะที่ทิวากาลยังทำหน้านิ่ง ทำไมต่างจากตอนอยู่กับอีหมูจังเลยวะ…

   “มะ มีอะไรเหรอครับ?”

   “พวกพี่พักห้องนี้”

   “ฮะ!!?” ตายแล้วววววววว แบบนี้จะนอนหลับไหมเนี่ย! เบสท์เบี่ยงตัวหลบให้รุ่นพี่เข้ามาในห้อง ก็เห็นอยู่ว่ามีเตียงอีกเตียงและห้องก็ยังใหญ่มาก แต่ไม่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร ดีนะที่พวกเขาปู้ยี่ปู้ยำแค่เตียงเดียว


   “งื่อ… พี่ฟ้าอย่าพูดอย่างนั้นสิ … อย่ามาหลอก หนูไม่โง่นะ! … โป้งแล้ว ไม่มีหรอก ไม่มี้!!! … ถ้าพี่ฟ้าไม่หยุดหนูจะหากิ๊กให้น้าเจ้า … คิคิ พี่ฟ้าจ๋า หนูอยากกินขนมตาลจังเลย พี่ฟ้าทำให้หนูกินหน่อยน้า~~” การพูดคุยกับพี่ฟ้าหยุดชะงักเมื่อไหล่เล็กถูกสะกิด

   “ทำไม…” จันทร์เจ้าเม้มริมฝีปาก เมื่อตั้งสติได้ก็ผุดตัวขึ้นนั่งและพุ่มมือไหว้รุ่นพี่ทั้งสองคน รุ่นพี่ที่พวกเขาต้องพักด้วยเป็นทิวากับพี่มิคสินะ… พอเห็นหน้าทิวาแล้วก็นึกถึงเรื่องที่คุยกับเบสท์ พาลให้เสมองหลบเมื่อเผลอสบตากับรุ่นพี่ตัวสูง

   ทิวามองคนที่ทำหน้าเหรอหราอยู่บนเตียงแล้วนึกขำ เขากำลังจะกวนอีกฝ่ายแต่ก็ต้องเก้อเพราะเจ้าเด็กตัวขาวเสหน้ามองไปทางอื่น แถมพอคว้าโทรศัพท์ได้ก็หลบไปอีกทาง ได้ยินเสียงแว่ว ๆ แล้วก็พาลหงุดหงิด

   “วันกลับพี่ฟ้ามารับหนูได้เปล่า? … เย้! จริง ๆ นะ แล้ววันนั้นหนูไปนอนกับพี่ฟ้านะ … หนูจะไปวอแวน้าเจ้า คึคึ … โอเค บั๊บบัยฮะ หนูรักพี่ฟ้าที่สุดในโลก จุ๊บ ๆ”

   “มึงจะนอนไหมหมู?” ลูกหมูทำท่าคิดแล้วจึงส่ายหน้า เดินเข้าไปคุ้ยกระเป๋าเป้เพื่อหาสายชาร์จแบตเตอร์รี่ ชาร์จแบตเตอร์รี่ไว้ก่อนก็แล้วกัน

   “เบสท์จะนอนก็นอนเลย เดี๋ยวเราปลุกเอง” ลูกหมูน้อยโดนเบสท์จิกตาใส่หลังจากที่ยื่นมือไปลูบหัวกล่อม เราก็แค่หวังดีอ่ะ…



   “ไอ้กาล! กาล!”

   “มีอะไร?”

   “สิบเอ็ดโมงกว่าแล้วไอ้สัด” ทิวากาลขมวดคิ้วลุกจากเตียงแล้วเข้าไปล้างหน้าและเปลี่ยนชุด

   “เด็กละ?”

   “ออกไปตั้งแต่ยังไม่สิบเอ็ดโมงแล้ว” ทิวากาลพยักหน้า ในห้องเหลืออยู่แค่สองคน หากไม่เห็นก็แปลว่าไม่อยู่สิวะ ถามไม่คิด

   “ทำไมมึงมาช้าวะ!?”

   “หลับ” เขาตอบชมพู่ จากที่คิดว่าจะแค่พักสายตาเฉย ๆ แต่ดันหลับไปจริง ๆ ซะงั้น “กูไปตักอาหารนะ”

   อาหารเที่ยงวันนี้เรากินกันที่รีสอร์ท ดูเหมือนพวกมันจะสั่งให้ทางรีสอร์ทจัดเตรียมอาหารเฉพาะไว้ให้ รวยมากหรือไงวะ ถึงกับปิดรีสอร์ทเพื่อรับน้องเนี่ย

   “พี่กาลคะ?”

   “ครับ?”

   “พี่กาลไปอยู่ไหนมาหรอคะ? ตั้งแต่มาถึงฟางก็ไม่เจอเลย” หญิงสาวเอ่ยถามพลางยิ้มหวานหยดและขยับเข้าไปใกล้ ทิวากาลตัวออกห่างด้วยการเดินไปตักอาหารที่อยู่อีกฝั่ง แต่ฟางก็ยังเดินตามเขาไปอยู่ดี

   “พี่นอนอยู่ที่ห้องน่ะ”

   “พี่กาลพักห้องไหนคะ ฟางไปหาได้ไหมเอ่ย?”

   “อย่าเลย อยู่หลายคนครับ”

   “งั้น... เราก็มาเจอกันข้างนอกก็ได้นี่คะ” ทิวากาลแสยะยิ้มก่อนจะขอตัวกลับไปที่โต๊ะ ระหว่างนั้นเขาเดินผ่านโต๊ะที่กลุ่มของเด็กมาร์ชเมลโลว์นั่งอยู่ เห็นว่าเด็กนั่นยิ้มให้แต่เขาแค่มองนิ่ง ๆ และเมินหน้าไปทางอื่น ไม่ได้เข้าไปวอแว กวนประสาท หรือแม้แต่จะยิ้มตอบเหมือนปกติ

   แล้ว... นี่เขาไม่ปกติตรงไหนกันล่ะ?


   หลังจากทานอาหารเที่ยงเสร็จเรียบร้อยรุ่นพี่ก็ให้น้องปีหนึ่งมารวมตัวกันเพื่อที่จะทำกิจกรรมรับน้องตามที่เคยบอกเอาไว้ จันทร์เจ้ายืนอยู่ข้างหน้าเบสท์ ส่วนข้าง ๆ เบสท์ก็เป็นฟินน์ เพราะว่าเข้าแถวตามสีริบบิ้น และชายหญิงจัดแถวสลับกัน ได้ยินเบสท์กับฟินน์คุยกับเบา ๆ แต่จันทร์เจ้าไม่ได้เข้าไปร่วมคุยด้วย ดวงตาโตกวาดมองไปรอบ ๆ เพื่อหาใครบางคน คนที่ดูเหมือนว่าจะทำตัวแปลกไป คิ้วบางขมวดเข้ามากันเล็กน้อย จันทร์เจ้าไม่เข้าใจว่าทิวาเป็นอะไรไป อาจจะคิดเข้าข้างตัวเองมากเกินไปที่สมองมันดันคิดไปว่าโดนทิวาเมิน... แล้วจะไม่ให้คิดอย่างนั้นได้ยังไงเล่า! เมื่อตอนกลางวันเขายิ้มให้ทิวาก็ไม่ยิ้มตอบ ไหนจะไม่มองหน้ากันอีก ตอนอยู่ในห้องพักก็เหมือนกัน คนตัวสูงนั่นน่ะ... เอาไปแต่นอนหลับตา ไม่คุยกับใครเลย ปกติจะเข้ามาวอแวเราแล้วไม่ใช่เหรอ มิลค์บอยเป็นอะไรไป...?

   “เฮ้อ...” ถอนหายใจแผ่วถอน ดึงสายฮู้ดจนย่นติดกับใบหน้าแล้วผูกเชือกเป็นโบว์ชิดใต้คาง ตอนนี้จันทร์เจ้าอยู่ในชุดวอร์มยี่ห้อดังขายาว แขนยาว พี่ฟ้าจัดกระเป๋าให้ด้วยแหละ #อวด เมื่อนึกถึงพี่ฟ้าแล้วก็ยิ้มออกมา ลืมเรื่องขุ่นใจไปชั่วครู่

   “ต่อไปพี่จะให้น้อง ๆ แต่ละสีได้เล่นเกมกันนะครับ โดยให้แต่ละสีนั้นไปตามฐานต่าง ๆ และทำภารกิจที่รุ่นพี่ประจำฐานมอบให้ให้สำเร็จ ทีมไหนไม่ผ่านจะต้องได้รับบทลงโทษนะครับ!” สิ้นเสียงรุ่นพี่ จันทร์เจ้า เบสท์ ฟินน์ ก็ยื่นมือออกไปจับกันโดยอัตโนมัติ เราไม่มีทางแยกจากกันแน่ ๆ ต่อให้เอาช้างมาฉุดก็ไม่ยอม!!

   “พี่สีแต่ละสีดูแลน้องด้วยนะคะ!!”

   “อีดอก พี่กาล ๆ พี่กาลลลล” เสียงสาว ๆ ในกลุ่มกรี๊ดกร๊าดกันทำให้จันทร์เจ้าต้องหันหลังไปมอง คนที่เดินเข้ามาคืนทิวากับพี่มิค มองเพื่อนตัวเองบ้าง เบสท์กับฟินน์จิกมือกันอยู่ ดูท่าจะฟินมาก... ในส่วนของผู้ชายก็พากันโห่เล็กน้อย ไม่จริงจัง

   “สวัสดีครับ”

   “สวัสดีค่า~”

   “สวัสดีครับ!!”

   “สวัสดีครับ! / ค่ะ!”

   “แนะนำตัวให้พี่รู้จักหน่อยครับ” พี่มิคเป็นคนบอก และแต่ละคนก็เริ่มแนะนำตัวโดยบอกแค่ชื่อเล่นจนครบทุกคน พี่มิคบอกต่ออีกว่าให้ทำตัวสบาย ๆ ไม่ต้องเกร็ง และเพราะความเป็นกันเองของพี่มิคให้ทำน้อง ๆ ผ่อนคลายลง จะยกเว้นก็แต่ทิวากาลที่ทำหน้านิ่ง ไม่สบอารมณ์ จนทุกคนไม่กล้าคุยด้วย แม้แต่จันทร์เจ้าเอง... แต่ว่านอกจากทิวากาลกับมิคแล้วยังมีพี่คนอื่น ๆ ให้รุ่นน้องได้พึ่งพาอีกด้วย

   “พี่กาลของกูเป็นอะไรวะ?” เบสท์ใช้ศอกกระแทกไหล่จันทร์เจ้าเบา ๆ แล้วกระซิบถาม

   “เราไม่รู้”

   “มึงไปทำอะไรให้พี่กาลของกูไม่พอใจหรือเปล่านังหมู”

   “เราเปล่าสักหน่อย เบสท์ก็พูดไม่คิดเลย”

   “เอ๋า อีนี่”

   “สวัสดีค่ะ น้อง ๆ สีชมพู ฐานนี้ชื่อว่า ‘อะไรเอ่ย?’ นะคะ โดนวิธีเล่นจะให้น้อง ๆ แต่ละคนออกมา ปิดตาแล้วก็ล้วงลงไปในกล่องด้านหน้านี้ มีเวลาให้คนละ 10 วินาทีนะคะ และทายว่าสิ่งที่อยู่ในกล่องคืนอะไร มีอยู่ทั้งหมดห้ากล่อง น้อง ๆ ต้องทายให้ถูกไม่ต่ำกว่าสามข้อ ไม่งั้นจะต้องถูกลงโทษนะคะ” พี่ผู้หญิงพูดอธิบายและผายมือไปที่กล่องสีทึบห้ากล่องที่ตั้งเรียงกันโดยเว้นระยะห่างที่พอดี

   พวกเรามองหน้ากันด้วยความหวาดหวั่น คิดไปต่าง ๆ นานาว่าสิ่งที่อยู่ในกล่องนั่นมันคืออะไร หน้าตารุ่นพี่ก็ไม่น่าไว้ใจเสียด้วยสิ...

   “ส่งตัวแทนออกมาเลยจ้า ห้าคนนะ ห้าคน”

   “ปรึกษากันเลยว่าจะให้ใครออกมา เลือกดี ๆ นะครับ งานนี้ก็ใช้การเดาล้วน ๆ อ่ะครับ เมื่อกี้สีส้มตอบไม่ถูกเลยนะครับ” แนะ... รุ่นพี่ก็เสี้ยมจังเลย

   “ใครจะไปวะ?”

   “ใครคิดว่าจะทายถูกก็ออกไปเลย กูขอผ่านว่ะฐานนี้ เซนส์กูแย่มากครับ”

   “เราไปได้ไหม?” จันทร์เจ้าพูดและยกมือขึ้นไม่สูงมาก เพื่อนทั้งกลุ่มหันมองหน้า ประมาณว่า มึงแน่ใจเหรอ? ลูกหมูพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม “น่าสนุกดี”

   “ตามใจ งั้นได้จันทร์เจ้า ใครอีกวะ อีกสี่คน” เมื่อมีคนแรกอาสา คนต่อ ๆ ไปก็จะเริ่มมา จนกระทั่งครบห้าคน และห้าคนที่เป็นตัวแทนก็ลุกออกไปหารุ่นพี่ที่ด้านหน้า โดยมีเพื่อนที่นั่งรออยู่ให้กำลังใจ

   “ไม่กลัวเหรอ?”

   “หึ” จันทร์เจ้าสั่นหัว ตอบคนถาม “ตะวันกลัวเหรอ?”

   “เฉย ๆ นะ” ตะวันบอก ลูกหมูพยักหน้าหงึก ๆ ก่อนจะดันไหล่เพื่อนใหม่เบา ๆ เมื่อถึงคิวแล้ว จันทร์เจ้าสูดลมหายใจเรียกสติ หัวใจเต้นแรงเพราะความตื่นเต้นแต่ก็ยังยิ้มอยู่ตลอดเวลา ขยิบตาให้เบสท์กับฟินน์ที่นั่งลุ้นอยู่ ทั้งสองก็ตะโกนกลับมาบอกว่าสู้ ๆ มองเห็นทิวายืนอยู่ไม่ไกล รุ่นพี่ตัวโตทำหน้านิ่งไม่บ่งบอกอารมณ์ ทำไมจันทร์เจ้าไม่กล้ายิ้มให้ สะบัดหัวเล็กน้อยแล้วกลับมาโฟกัสที่หน้าที่ของตน

   จันทร์เจ้าอยู่เป็นคนสุดท้ายเพราะขอเองเพื่อความตื่นเต้น แต่หลังจากได้ยินเสียงกรีดร้อง สบถ ก่นด่าของเพื่อนแต่ละคนแล้วยิ่งคิดว่ามันน่าสนุก... ลูกหมูดึงแขนขึ้น ดึงผ้าปิดตาที่คาดอยู่บนหัวลงมา จากนั้นก็มีรุ่นพี่ประจำฐานมาพาเดินไปที่กล่อง แขนขาวล้วงมือลงไปในกล่องสีดำทึบ คิ้วขมวดเข้าหากันเล็กน้อยขณะที่แตะปลายนิ้วสัมผัสกับวัตถุที่อยู่ภายใน มันดึ๋ง ๆ จังเลยอ่ะ จั๊กจี้ชะมัด

   “โอ๊ะ!” อุทานเสียงไม่ดังหนัก จันทร์เจ้าชักมือกลับ กะพริบตาปริบ ๆ หันซ้ายหันขวาทั้งที่มีผ้าปิดตาปิดอยู่

   “ล้วงต่อไหมครับ ยังมีเวลา ถ้าไม่ก็เชิญเลย” ลูกหมูค่อย ๆ สอดมือเข้าในกล่องอีกครั้ง ไอ้กล่องสุดท้ายคงจะพีคสุดแล้วมั้ง เพราะเพื่อนคนอื่น ๆ ก่อนหน้านั้นก็กรีดร้องกับกล่องนี้กันสุด

   “อู้หูย!!” ความสัมผัสลื่น ๆ นิ่ม ๆ นี้มันคืออะไรกันนะ ทั้งยังชื้นแฉะอีกต่างหาก ทว่าเหมือนเราจะคุ้นกับสัมผัสแบบนี้แหะ… เหมือนที่เคย… อ๊ะ!! จันทร์เจ้าดีดนิ้ว ระบายยิ้มกว้าง ดึงมือออกจากกล่องแล้วดึงผ้าปิดตาออก ก่อนไปยืนรวมกลุ่มกับเพื่อน

   “พี่ให้เวลาคิดห้านาทีนะคะ เริ่มได้!” สิ้นเสียงรุ่นพี่การปรึกษากันของกลุ่มสีชมพูก็เริ่มขึ้น

   “กล่องแรกมันนิ่ม ๆ ดึ๋ง ๆ เราว่าน่าจะเป็นพวกเจลลี่ หรือเฉาก๊วยไม่ก็เต้าหู้” ผู้หญิงที่เป็นหนึ่งในผู้อาสาพูดขึ้น

   “กล่องสองนี่เป็นสัตว์แน่ ๆ แมลงห่าอะไรสักอย่าง กัดกูด้วยอีเหี้ย”

   “กล่องสาม ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตนะ เพราะนิ่งมาก แต่เดาไม่ออก หรือมันจะตายวะ”

   “กล่องที่สี่คิดว่าน่าจะเป็นหนอนไม่ก็พวกดักแด้ แต่กล่องสุดท้ายนี่…” ทั้งสี่คนมองหน้ากันแล้วส่ายหัว แต่ละคนขมวดคิ้วเครียดอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาแทบจะไม่ได้สัมผัสกับสิ่งที่อยู่ในกล่องสุดท้ายเลยด้วยซ้ำ เพราะเพียงแค่ปลายนิ้วแตะกับวัตถุลื่น ๆ ในกล่องก็พากันแตกตื่นจนยึกยักอยู่ไม่ยอมจับอีกรอบจนเวลาหมด เพื่อนคนอื่น ๆ ที่ไม่ได้ออกไปก็ไม่รู้จะช่วยยังไงเพราะไม่ได้ไปสัมผัสเองก็คงเดากันไม่ถูก

   “ปลาไหล” จันทร์เจ้าพูดขึ้นมาอย่างมั่นใจในขณะที่เพื่อน ๆ กำลังทำหน้าฉงน

   “ฮะ?”

   “กล่องที่ห้าคือปลาไหล” ลูกหมูย้ำอีกครั้ง แต่สิ่งที่ได้กลับมาก็คือสีหน้าแบบเดิมของเพื่อน ๆ

   “จันทร์เจ้าแน่ใจได้ยังไง” คนถูกถามยกยิ้มก่อนจะเริ่มบอก

   “ความรู้สึกมันเหมือนตอนที่เราจับงู” คนฟังทำหน้าแหยงให้ทำให้ลูกหมูตลกไม่น้อย “งูที่เพื่อนเลี้ยงไว้น่ะ มันลื่น นิ่ม แถมลำตัวยังยาวด้วย รุ่นพี่คงไม่เอางูมาใส่หรอก ถ้าจะคล้ายกับงูก็ปลาไหล เราคิดว่านะ…”

   “โอเค งั้นเอาตามนี้ก็แล้วกัน”

   “หมดเวลา!! ตอบมาเลยครับว่าสิ่งที่พวกคุณสัมผัสนั้นคืออะไร? เริ่มจากกล่องแรกทางด้านขวามือเลยครับ”

   “กล่องแรกเฉาก๊วยค่ะ!”
   “กล่องที่สองจิ้งหรีดครับ!”
   “กล่องที่สามสาหร่ายครับ!”
   “กล่องที่สี่หนอนค่ะ!”
   “กล่องที่ห้าคือปลาไหลครับ!”

   ถึงเวลาเฉลย มีรุ่นพี่หนึ่งคนออกมา พี่เขาค่อย ๆ เลื่อนฝากล่องด้านหน้าขึ้นเพื่อให้เห็นสิ่งที่อยู่ด้านใน แต่ละคนจิกมือลุ้นจนเล็กจะฝังเข้าไปในเนื้ออยู่แล้ว รุ่นพี่ก็ช้าจริงเลย แต่ก็เพื่อความสนุก เสียงร้องดีใจดังสลับกับเสียงโห่และเสียงกรี๊ด ในขณะที่พวกรุ่นพี่หัวเราะชอบใจ โอ๊ยยย สรรหามาแต่ละอย่างนี่นะ…

   “สีชมพูนะครับ ตอบถูกไปสี่ข้อ ผ่าน!!!”

   “เย้!!!!!” น่าเสียดายที่ผิดไปข้อหนึ่ง แต่ไม่เป็นไร ถ้าตอบถูกทั้งหมดก็คงจะเก่งเกินไป อ๋อ ปลาไหลน่ะ… เราตอบถูกนะ ต้องขอบคุณเจ้าบาร์นาบี้ งูของวินเซนต์นะเนี่ยที่ทำให้จันทร์เจ้าตอบข้อนั้นถูก แบบนี้ต้องซื้อหนูแช่แข็งไปเซ่นเสียแล้วล่ะ คึคึ

   กิจกรรมดำเนินไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงตอนเย็น บอกเลยว่าสภาพแต่ละคนนั้นเละเทะมาก ๆ ร่างแทบพังแนะ แต่ก็สนุกมากเช่นเดียวกัน… แล้วก็… จนถึงตอนนี้ทิวาก็ยังไม่คุยกับเราเลยแหละ ไม่รู้ว่าไปทำอะไรให้โกรธ ทิวาบ้าบอสุด ๆ เลย! โป้ง!




TBC

ออฟไลน์ harumi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +156/-33

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
โป้งทิวาด้วย ทำแบบนี้กับลูกหมูน้อยตัวจริงได้ไงเนี่ย...เนอะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด